The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

“ความพิการที่เหมือนจะทำให้ชีวิตพลิกผันนี้กลับทำให้เธอได้พบโลกใหม่ที่สวยงามกว่าเดิม”
“หลังฝนโปรย” เรื่องราวชีวิตของเด็กหญิงคนหนึ่งที่เปลี่ยนไปเพราะต้อง กลายเป็นเด็กพิการในชั่วข้ามคืน สิ่งนี้ทำให้เธอเอาแต่มองโลกในแง่ร้าย และปิดกั้นตัวเองจากโลกภายนอก จนกระทั่งวันหนึ่งที่เธอได้ย้ายกลับมาอยู่ บ้านเกิดที่ต่างจังหวัด และได้พบกับลูกพี่ลูกน้องที่รู้สึกไม่ชอบหน้าตั้งแต่ ครั้งแรกที่เจอ แต่ไป ๆ มา ๆ เขากลับกลายเป็นคนที่ค่อย ๆ พาเธอออก ไปสู่โลกกว้าง และเรียนรู้อะไรมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความรักความเข้าใจใน ครอบครัว มิตรภาพระหว่างเพื่อน หรือการใช้ชีวิต
...และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงในชีวิตเด็กหญิงอีกครั้ง

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Sasaporn Kaewphakwaen, 2022-06-16 10:33:27

หลังฝนโปรย

“ความพิการที่เหมือนจะทำให้ชีวิตพลิกผันนี้กลับทำให้เธอได้พบโลกใหม่ที่สวยงามกว่าเดิม”
“หลังฝนโปรย” เรื่องราวชีวิตของเด็กหญิงคนหนึ่งที่เปลี่ยนไปเพราะต้อง กลายเป็นเด็กพิการในชั่วข้ามคืน สิ่งนี้ทำให้เธอเอาแต่มองโลกในแง่ร้าย และปิดกั้นตัวเองจากโลกภายนอก จนกระทั่งวันหนึ่งที่เธอได้ย้ายกลับมาอยู่ บ้านเกิดที่ต่างจังหวัด และได้พบกับลูกพี่ลูกน้องที่รู้สึกไม่ชอบหน้าตั้งแต่ ครั้งแรกที่เจอ แต่ไป ๆ มา ๆ เขากลับกลายเป็นคนที่ค่อย ๆ พาเธอออก ไปสู่โลกกว้าง และเรียนรู้อะไรมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความรักความเข้าใจใน ครอบครัว มิตรภาพระหว่างเพื่อน หรือการใช้ชีวิต
...และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงในชีวิตเด็กหญิงอีกครั้ง

Keywords: วรรณกรรม,คนพิการ,เด็ก

เวลาผ่านไปสักพักโดยที่ยายไม่ได้เร่งเด็กหญิงเลยแม้แต่น้อย จนเธอ
ช่วยแกะปลาโดยไม่มีก้างติดได้สำเร็จ จึงทำให้ยายตำน้ำพริกได้เสร็จพร้อม ๆ
กับแกงอ่อมหมูของแม่ซึ่งส่งกลิ่นหอมของใบผักที่เธอมารู้ชื่อของมันในทีหลังว่า
คือผกั ชีลาวกบั ใบแมงลกั ลอยฟุ้งไปทัว่ บ้าน

บีเห็นลุงหงาเดนิ สูดจมูกตามกลิ่นอาหารเข้ามา ก่อนจะโยนต้นหอมกำ
ใหญ่ลงกระจาดหวายจนเศษดินที่ติดมากับรากมากมายฟุ้งกระจายออกมาเลอะ
พนื้

“เฮ็ดหยังกันอยู่ หอมไกลไปถึงหน้าบ้านเลย”

“แกงออ่ มจะ้ พี่ ไม่ได้กินมานานแลว้ ฉนั เลยวา่ จะทำให้ลูกลองกินด้วย”

แมต่ อบแลว้ หันไปพลิกปลาในกระทะทลี ะตวั แล้วพดู ตอ่ ว่า

“มีปลานิลกับไข่เจียวด้วยนะพี่ ฉันจำได้ว่าเจ้ากบมันชอบกินแกงอ่อม
กบั ปลานิลเลยกะจะทำไวใ้ ห้ ว่าแตห่ ลานกลบั วนั น้ใี ชม่ ้ัย”

“ใช่! เดย๋ี วสาย ๆ ก็มาแลว้ ”

“ดเี ลย กลบั มาต้ังสามวนั แล้วจะได้เจอหนา้ หลานสักที”

บีไม่ได้สนใจฟังในสิ่งที่แม่กับลุงคุยกันสักเท่าไร แต่ก็พอจะจับประเด็น
ได้บ้างว่าทั้งสองกำลังพูดถึงใครคนหนึ่ง ซึ่งใครคนนั้นก็คงหนีไม่พ้น ‘เด็กชาย
กบ’ ลูกพี่ลูกน้องตัวแสบที่ชอบแกล้งเธอเกือบจะทุกครั้งที่มีโอกาสได้กลับมา
เย่ียมยายทีบ่ ้านน้ี

๕๐ | หลังฝนโปรย

เด็กหญิงยังจำได้ไม่ลืมว่าครั้งหนึ่งเคยถูกลูกพี่ลูกน้องคนนี้ปีนขึ้นไป
ขย่มตน้ มะยมจนลูกและก่ิงของมันหักรว่ งลงมากระแทกตามหวั และตัวของเธอจน
เกดิ รอยช้ำไปหมด เธอทงั้ โกรธและเจบ็ ใจท่แี ม่ไมย่ อมลงโทษเด็กนั่น นอกจากจะ
เพยี งแค่ตักเตือนเทา่ นน้ั เอง

“โอ๊ย…ตัวมันก็เท่าเดิม หน้าก็ไม่เห็นเปลี่ยน ไม่ได้ดูโตขึ้นเลย” ลุงหงา
พูดไปหัวเราะไป ในขณะทย่ี ายอดไม่ไหวรีบสำทับขนึ้ วา่

“มอี ยา่ งเดยี วทีเ่ พ่มิ ข้นึ กค็ ือขดี้ ้อื นีแ่ หละ”

ขนาดยายที่ขี้หลงขี้ลืมยังจำได้ว่าเด็กนั่นดื้อขึน้ แค่ไหน บีไม่อยากจะคิด
ว่าถ้าได้เจอกันอีกครั้งจะถูกแกล้งอะไรอีกหรือไม่ เธอไม่อยากเจอลูกพ่ีลูกน้อง
คนนีเ้ ลยจริง ๆ เด็กหญงิ คิดในใจ

หลังอาหารมื้อเช้าที่บีนั่งกินอย่างเงียบ ๆ ผ่านไป ทุกคนก็ยังคงนั่งคุยเรื่อง
สพั เพเหระกนั ตอ่ หน่งึ ในนั้นกม็ เี รอื่ งของกบทีล่ ุงหงาเลา่ ใหฟ้ ังว่า กอ่ นท่ีเธอกบั แม่
จะกลับมาที่นี่ได้หนึ่งอาทิตย์ มีเพื่อนบ้านคุ้มลาวหรือกลุ่มคนท่ีอาศัยอยู่ฝั่งถนน
ตรงข้ามกันได้มาชวนกบให้ไปช่วยกันดำนาและอยู่กินที่บ้านนั้นจนกระทั่งดำนา
เสรจ็ ถงึ จะกลบั บา้ น โดยมคี า่ ขนมเลก็ ๆ นอ้ ย ๆ ให้เปน็ สนิ นำ้ ใจ

ครั้งแรกเด็กหญิงฟังแล้วไม่ค่อยเข้าใจว่าคุ้มลาวคืออะไร แม่จึงช่วย
อธิบายเพิ่มว่า ที่หมู่บ้านของเรานี้มีผู้คนอาศัยอยู่ด้วยกันสองกลุ่มโดยแบ่งแยก
กันเองจากการกินข้าวแบบใดเป็นอาหารหลัก หากคนกลุ่มไหนกินข้าวเจ้าเป็น
หลักจะถูกเรียกว่า ‘คนคุ้มไทย’ แต่ถ้ากินข้าวเหนียวเป็นหลักก็จะถูกเรียกว่า

ศศพร แกว้ ผักแวน่ | ๕๑

‘คนคุ้มลาว’ ซึ่งบ้านของเธอแม้จะกินข้าวเหนียวแต่ก็ไม่ได้กินเป็นอาหารหลัก
เหมอื นขา้ วเจ้า จงึ จัดว่าเปน็ คนคุม้ ไทย

บีนั่งฟังแม่อธิบายไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งมีเพื่อนบ้านซึ่งเป็นหญิงวัย
กลางคนคนหนึ่งเดินเข้ามาทักทายแม่ และเลยมาทักทายเธอด้วยเสียงแหลม
แสบหู

“ไมพ่ ้อกันปีกว่า ตวั ขก้ี ้างแท้นอ้ งบี”

เด็กหญิงหน้านิ่งยกมือไหว้คนตรงหน้าแบบขอไปทีเมื่อถูกทักว่าผอม
แหง้ ลงมากจากท่ไี ม่ได้พบกนั เพียงปีกว่า ในขณะที่แมก่ ร็ ีบเสไปพูดเรอื่ งอน่ื แทน

“ฉันไดย้ ินอ้ายหงาเพิ่นว่าลูกคนโตของเจา้ เรยี นจบแลว้ แม่นบ่”

“แมน่ ! ฉันสิดใี จหลาย”

เพ่ือนบา้ นที่บีเพิง่ นึกออกวา่ คือปา้ อ้อยยิม้ กวา้ งตอบ

“ดใี จนำเด้อ”

“ขอบคุณหลาย ๆ จา้ ”

ป้าอ้อยพูดแค่นั้นแล้วก็วกกลับมาที่เรื่องของบีจนเธอทนฟังไม่ไหวรีบขอ
ตัวเข้าไปอ่านหนังสือในห้อง ซึ่งนาทีนั้นเองที่ทำให้บีรู้สึกได้ว่าในใจของเธอ
เหมอื นมแี ผลอยนู่ ับร้อยท่หี ากถกู สะกิดเม่ือใดกพ็ ร้อมจะอักเสบขึ้นมาได้ทกุ เมื่อ

“อ้าว! ไปซะแล้ว” ป้าอ้อยพูดอย่างเสียดายก่อนจะหันมาคุยกับแม่ของ
เธอตอ่ ว่า “สงสารลกู เจา้ แท้ อยู่ดี ๆ บน่ า่ เป็นง่อยเลย”

๕๒ | หลังฝนโปรย

น่นั คือประโยคสุดท้ายทบี่ ีได้ยินคำพูดซ่ึงเสียดแทงหวั ใจของเธอเข้าจัง ๆ
เด็กหญิงรู้สึกเจ็บจนน้ำตาคลอเบ้าอีกแล้ว เธอทั้งโกรธและรําคาญกับคำพูดของ
ป้าอ้อย มีใครบ้างที่อยากจะเป็นง่อยให้คนมาเห็นใจ หรือถูกมองเหมือนเป็นตัว
ประหลาด ทง้ั ๆ ทเ่ี ธอก็เป็นคนเหมอื นกัน

แม้ว่าเธอจะพยายามช่วยเหลือตัวเองได้มากแค่ไหน สุดท้ายก็คงจะถูก
มองว่าเป็นตัวภาระอย่างที่ครูแอนเคยพูดไว้อยู่วันยังค่ำ บีสูดหายใจเข้าลึก ๆ
กลั้นสะอื้นไม่ให้น้ำตาไหลออกมาเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าหนัก ๆ ของใครสักคน
กำลังเดนิ เขา้ มาใกล้

“โกรธป้าออ้ ยหรอื ลูก”

แม่นนั่ เอง!

เมื่อรู้ว่าคนที่เดินเข้ามาหาเป็นใคร บีจึงเงยหน้าขึ้นแล้วพยักหน้าแรง ๆ
แทนการตอบ

“อย่าโกรธให้ใจเราเจบ็ เลย ป้าเขาคงไม่ไดม้ ีเจตนาอะไรไมด่ ีหรอกลกู ”

“หนูไมช่ อบ” บีบอกเสยี งดัง

“ถ้าไมช่ อบหนกู ็แคท่ ำเป็นไมไ่ ด้ยนิ ก็ได้น่ี”

“แต่หูหนไู ม่ไดห้ นวก ยังไงก็ตอ้ งไดย้ ินอยดู่ ี”

แม่ยิ้มให้กับคำพูดซื่อ ๆ ของบี ก่อนจะเขยิบเข้าไปใกล้แล้วลูบหัวของ
เธอเบา ๆ

ศศพร แก้วผกั แวน่ | ๕๓

“เด็กดี หนูรู้อะไรมั้ย แม้ว่าหูของเราจะปกติดี ได้ยินทุกอย่างชัดเจน แต่
เราก็เลือกที่จะเก็บหรือไม่เก็บมาใส่ใจได้นะลูก สิ่งไหนฟังแล้วดีก็เก็บไว้ สิ่งไหน
ฟังแล้วไม่ดีระคายหูก็ปล่อยให้มันลอยผ่านไป อย่าได้เก็บเอามาใส่ใจจนพาลจะ
ทำให้เราอารมณ์ไม่ดีไปเปลา่ ๆ”

บเี อยี งคอคดิ ตาม กอ่ นจะตอบแม่วา่ “มนั ทำยากนะคะ”
“แต่ก็ใชว่ ่าจะทำไมไ่ ด้น…ี่ จรงิ มย้ั !”
เดก็ หญงิ ไม่ตอบ แม่จึงชวนเปล่ียนเรื่องโดยการถามอย่างอน่ื แทน
“เด๋ยี วแมจ่ ะไปเก็บผักทน่ี าของยาย หนอู ยากไปด้วยกนั มย้ั ”
“หนูไม่อยากไป”
“กไ็ ด้จะ้ ง้ันแม่จะรบี ไปรบี กลับนะ”
แม่ลูบหัวบีต่ออีกสองสามทีแล้วเดินออกจากห้องไป โดยมีเสียงแว่ว ๆ
เหมือนกำลังคุยกบั ใครสักคนซึ่งบีคิดว่าน่าจะเปน็ ลุงหงาเล็ดลอดเขา้ มาให้เธอได้
ยนิ บ้างเล็กน้อย
“เปน็ ไงบ้าง”
“ก็โกรธอยู่แต่เดีย๋ วก็คงดขี ้ึน”
“ดีแล้ว…ปลอ่ ยเขาไว้ก่อน ทกุ อยา่ งต้องใช้เวลาทั้งนนั้ ”
“จ้ะพี่…นนั่ เจ้ากบมาโน่นแลว้ !”

๕๔ | หลงั ฝนโปรย

เสียงคุยของแม่เงียบไปแล้ว บีจึงได้กลับมาอยู่กับตัวเองอีกครั้งจนเกิด
คำถามในใจเรื่องหนึ่งว่าหากทุกอย่างต้องใช้เวลา แล้วมันต้องใช้กี่วัน กี่เดือน กี่
ปี หรืออีกนานแค่ไหนทุกอย่างถึงจะดีขึ้นได้ แต่แล้วเสียงหนึ่งในใจของเธอก็
สะท้อนกลับมาว่า ‘หรือบางทีเวลาอาจจะช่วยอะไรไม่ได้เลยก็ได้ เพราะถ้ามัน
ชว่ ยได้จริงหมอคงไมบ่ อกวา่ เธอตอ้ งกลายเป็นคนพิการไปตลอดชีวติ หรอก…’

ศศพร แกว้ ผกั แวน่ | ๕๕


แผนลอ่ เสือออกจากถำ้

มื้อค่ำวันนี้ไม่เงียบเหงาเหมือนหลายวันที่ผ่านมา เพราะเป็นมื้อที่สมาชิกใน
ครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้า และดูจะคึกคักเป็นพิเศษเมื่อสมาชิกคนหนึ่งขยันเล่า
เรือ่ งต่าง ๆ ไมห่ ยุด ซึง่ สร้างรอยยิม้ และเสียงหวั เราะมากมายให้เกิดขน้ึ ในวงข้าว

“เดาซ!ิ ว่าไผชนะ”

กบต้ังคำถามขึ้นทันทีหลังจากที่เขาไดเ้ ล่าให้ทุกคนฟังวา่ ในวันแรกของ
การไปช่วยทิดบุญหรือเพื่อนบ้านคุ้มลาวดำนา ที่นั่นได้มีการจัดให้เด็ก ๆ แข่งขัน
ดำนาวิบากกัน เพื่อสร้างสีสันและความฮึกเหิมให้แก่ทุกคน โดยกบได้เป็นหนึ่ง
ในผู้เข้าแขง่ ขันจากเด็กทั้งหมดหกคน แตล่ ะคนจะตอ้ งเป่าแปง้ กนิ ขนมและผลไม้
ก่อนลงมือปักดำต้นกล้าให้เต็มแปลงนาที่มีขนาดสามคูณสิบเมตร ซึ่งใครที่ทำ
ได้เร็วที่สดุ จะถือวา่ เปน็ ผูช้ นะ

“อืม…บกั แต้แมน่ บ”่

๕๖ | หลังฝนโปรย

“บแ่ ม่น! เดาใหม่ ๆ” กบทำเสยี งจิ๊จ๊ะเมือ่ ไม่ได้คำตอบทถี่ กู ตอ้ ง

“ง้นั กบ็ ักโหนง่ ตัวมนั ใหญน่ ่าจะไวทส่ี ดุ ”

กบนั่งกอดอกหน้าตูมหันหน้าหนีแล้วตัดพ้อพ่อที่ไม่ยอมทายว่าเขาเป็น
ผูช้ นะบา้ ง “บ่แม่นอีกแลว้ เปน็ หยังพ่อบ่เดาว่าเป็นผมบา้ ง”

“โว๊ะ! ก็เอง็ ให้เดาพอ่ ก็เดาอยา่ งทค่ี ดิ สิวะ”

บีที่นั่งกินข้าวอย่างเงียบ ๆ อยู่ข้างแม่ เงยหน้าขึ้นมองสงครามขนาด
ย่อมระหว่างพ่อกับลูกท่ีเริม่ เถียงกันไปมาในเรื่องที่เธอคิดว่า ‘ไร้สาระ’ ก่อนส่าย
หน้าอย่างเอือม ๆ ขณะตักข้าวคำสุดท้ายเข้าปากพลางมองสองพ่อลูกอีกครั้งที่จู่
ๆ ก็พากนั หวั เราะจนหน้าดำหนา้ แดงอย่างไม่ทราบสาเหตุ จนหลายวินาทผี ่านไป
เธอก็ไดเ้ ห็นถึงสิ่งที่ทำให้ศึกเลก็ ๆ สงบลงและกลายเป็นเสียงหวั เราะได้ นั่นก็คือ
การที่จานข้าวของทั้งสองคนไม่เหลือข้าวติดเลยสักเม็ด เพราะมันถูกเคลื่อนย้าย
ไปอยู่ในกะละมังข้าวของเจ้าสีหมอกสุนัขพันธุ์ไทยหลังอานที่เลี้ยงไว้แทนด้วย
ฝมี อื ของยาย

“ข้าจะไปรู้เรอะ เห็นคุยกันเอ็ดตะโรก็นึกว่าอิ่มแล้ว” ยายบอกพร้อม
คลุกข้าวในกะละมังที่เพิ่งจะแกะเนื้อปลานิลใส่ลงไปก่อนจะเคาะเรีย กอยู่สอง
สามทเี จา้ สีหมอกก็วงิ่ ดอ๊ กแด๊กเข้ามาหายายอย่างดีใจ

“ทีงี้ล่ะหูดีเชียวนะแม่” ลุงหงาอดกระเซ้าเรื่องหูของยายไม่ได้ เหมือน
ทุกทีเมื่อเวลาที่มีเรื่องสำคัญ ๆ ทีไรยายมักจะไม่ค่อยได้ยินเสมอ แต่พอเวลาพดู
เร่อื งไมเ่ ป็นเร่อื งกลับได้ยินชดั นัก จนบางทบี ีกน็ ึกสงสัยตามว่า ‘อาการหูไม่ดีของ
ยายจะเปน็ เฉพาะเวลาท่ีมีเรอ่ื งจรงิ จงั หรอื เปล่านะ’

ศศพร แกว้ ผักแว่น | ๕๗

เด็กหญิงยักไหล่เล็กน้อยให้กับความคิดของตัวเอง ในขณะที่
ลูกพี่ลูกน้องอย่างกบกลับเอามือกุมท้องแล้วหัวเราะจนตัวงอเมื่อทัพพีที่ใช้เคาะ
เรียกเจา้ สีหมอกเมื่อครถู่ กู ยา้ ยมาตีเบา ๆ ท่ตี น้ แขนของลุงหงาแทน

“ไม่แก่บ้างก็ใหม้ นั รู้ไป”

ยายตัดพ้อลุงหงาเสร็จก็เดินนำเจ้าสีหมอกไปยังใต้ต้นมะม่วงต้นใหญ่
เพื่อให้มันกินข้าวตรงนั้น ส่วนลุงหงาก็เอาแต่ลูบหัวป้อย ๆ เพราะรู้สึกเจ็บ ๆ คัน
ๆ ตรงที่ถกู ทัพพีเคาะ กอ่ นจะหนั มาถามบางอย่างกบั บีเมอ่ื นึกอะไรขนึ้ ได้

“อ้อ! พรุ่งนี้อยากออกไปเล่นข้างนอกบ้างมั้ย ให้เจ้ากบมันพาไป” กบ
พยักหน้าหงึก ๆ สำทับคำพูดของพ่อว่าเขาเต็มใจที่จะพาเธอออกไปเล่น แต่เมื่อ
เห็นเดก็ หญิงปฏิเสธหน้าของเขาก็หงอยลงทนั ที

“หนูไม่อยากออกไปไหน” บีตอบเสียงเบา “อยากอ่านหนังสือ
มากกว่า”

เมื่อบียังยืนกรานคำเดิมว่าจะไม่ออกไปไหน ลุงหงาจึงไม่ได้เซ้าซี้อะไร
ตอ่ อาหารม้ือค่ำของวนั นี้จงึ จบลงท่ที กุ คนต่างแยกย้ายเขา้ บ้านไปอาบน้ำนอน

สายลมยามค่ำคืนพัดกลิ่นหอมของต้นโมกจากบ้านข้าง ๆ โชยมาแตะ
จมูกสองพ่อลูกซึ่งนั่งเหม่อมองท้องฟ้าสีเข้มอยู่ตรงชานไม้หลังบ้านที่ไม่มีหลังคา
คลมุ บรรยากาศรอบข้างเงยี บสงบจนไดย้ ินเสียงใบไม้พลว้ิ ไหวตามสายลมไปมา
เด็กชายละสายตาจากดาวบนฟา้ มาจ้องเสย้ี วหน้าด้านข้างของพอ่ ตาไม่กระพริบ

“เบิง่ ความหล่อของพอ่ พอหรอื ยงั ”

๕๘ | หลงั ฝนโปรย

“หลงตัวเองแท้…” กบแกล้งกลอกตาไปข้างบนอย่างคนเหนื่อยใจ “ว่า
แต่…พอ่ เรยี กผมมามหี ยังบ่”

สิ้นคำถามของกบ พ่อก็บิดขี้เกียจไปมาแล้วตบเจ้ายุงตัวใหญ่ที่เกาะอยู่
บนหนา้ ไปหนึง่ ที

“มีนิดหน่อย” พ่อกระอ้อมกระแอ้มบอก “ช่วงนี้พ่ออยากให้เอ็งช่วยอยู่
เปน็ เพอ่ื นพี่บหี น่อยไดบ้ ่ จะชวนคยุ ชวนเลน่ อะไรก็ได้”

“โอ๊ย! ยากนะพอ่ เพิ่นไม่คอ่ ยชอบหนา้ ผม”
“ก็เอง็ ชอบไปแกลง้ เพ่ิน เอาน่าถอื ว่าช่วย ๆ กนั ”
ไดย้ ินแบบนน้ั เด็กชายก็คร่นุ คดิ อยู่พักหน่ึงแลว้ จงึ ตอบตกลง
“กไ็ ด้…แตเ่ พิ่นจะยอมเล่นกับผมหรอื เปล่าก็ไม่รูเ้ ดอ้ ”
พ่อมองกบอยา่ งเอน็ ดู “เอ็งเฮด็ ไดอ้ ยแู่ ลว้ ลกู พอ่ เกง่ จะตาย”
เดก็ ชายยมิ้ ร่าเมอ่ื ไดร้ ับคำชม จนพอ่ ถึงกับตอ้ งเอ้อื มมือมาขยี้หัวทุยของ
เขาด้วยความหมั่นเขี้ยวจนผมยุ่ง เล่นเอากบต้องยกมือขึ้นปัดป้องเป็นพัลวัน
ก่อนท่ที ้งั สองคนจะพรอ้ มใจกนั เปลง่ เสียงหัวเราะออกมา

ตั้งแต่รับปากพ่อในวันนั้น กบก็มักจะแวะเวียนมาเล่นอยู่รอบตัวของบีบ่อย ๆ จน
เด็กหญิงแปลกใจและเริ่มรู้สึกรำคาญ เพราะเขาทั้งพูดมากและหน้าทน ซึ่งไล่
เทา่ ไรกไ็ มย่ อมไปไหนเสยี ที เธอพยายามทำเหมือนเขาเปน็ เพยี งอากาศธาตุไม่มี

ศศพร แกว้ ผกั แวน่ | ๕๙

ตัวตนในสายตากแ็ ลว้ เขากย็ ังคงนงั่ หน้าสลอนแลว้ พูดโนน่ พดู นี่คนเดียวอย่างไม่
รู้จักเหนื่อย บางวันเขาก็ทำให้เธอหงุดหงิดแทบตายเมื่อหอบหิ้วอะไรเข้ามาเล่น
ในห้องมากมายจนทำให้สมาธิในการอ่านหนงั สือของเธอกระเจิดกระเจงิ ไปหมด

ยิ่งนานวันเข้าบีก็ยิ่งคิดว่าเด็กชายเหมือนศัตรูตัวร้ายที่จ้องจะเข้ามา
ทำลายความเงียบสงบในชีวิต จนทำให้ในหัวตอนนี้คิดวนเวียนอยู่แต่กับวิธีที่จะ
ทำให้เขาเลิกย่งุ กับเธอให้ได้

ทำอยา่ งไรดีนะ

บีก้มมองหนังสติ๊กไม้สีน้ำตาลกับหินก้อนเล็กก้อนใหญ่ที่วาง
ระเกะระกะอยู่เต็มพื้น โดยไม่รู้ว่าเจ้าของเอามาวางทิ้งไว้ตั้งแต่เมื่อไรอย่างใช้
ความคดิ

โยนท้งิ ไปเลยหรอื ว่าเอาไปซ่อนดี เขาจะไดอ้ อกไปหาอะไรเลน่ ข้างนอก
แทน บคี ิดวา่ วธิ นี ้ดี เู ขา้ ท่าอยู่บ้างเพราะเมือ่ ไมม่ ขี องเล่น เขาก็จะไม่มอี ะไรมาเล่น
รบกวนเธอได้

แลว้ ถ้าเขาหาอยา่ งอืน่ มาเลน่ แทนละ่

เสียงหนึ่งในหัวของบีดังแทรกขึ้นมาคล้ายกับจะถามเพื่อให้เธอฉุกคิด
ตาม

บีนิ่งอึ้งไปพักหนึ่งเพราะเริ่มคล้อยตามกับคำถามนั้นจนต้องมานั่งคิด
หาวิธีใหม่ซึ่งคิดเท่าไรก็คิดไม่ออกสักทาง เนื่องจากหลาย ๆ วิธีที่เคยลองมาแลว้
นนั้ ล้วนใช้ไม่ไดผ้ ลกบั คนอยา่ งเดก็ ชายกบเอาเสยี เลย

๖๐ | หลังฝนโปรย

อย่างเมื่อวันก่อนที่เธอใช้วิธี ‘หูทวนลม’ แกล้งไม่ได้ยินทุกอย่างท่ี
เด็กชายพดู หรอื ถามเพอ่ื หวังให้เขาเหนอื่ ยและเลกิ ลาไปเอง แต่สง่ิ ทีค่ ิดกลบั ไม่ได้
เป็นอย่างนั้นเลย เพราะนอกจากว่าเขาจะไม่ยอมไปไหนแล้วยังคอยแต่ชวนเธอ
ให้ร้องเพลงจากนิทานสุภาษิตที่ตนเรียนมา แถมยังร้องเนื้อเพลงผิดจนเธอเผลอ
ร้องแก้ใหใ้ หมอ่ ย่างไม่รตู้ วั อกี ด้วย “ร้องอย่างนี้ตา่ งหาก!”

“กระต่ายขาวลูกนอ้ ย คอยเฝ้าประตไู ว้

หมาปา่ มนั มาใกล้ อยา่ ได้เปดิ ประตู

กระตา่ ยขาวลูกรัก เจ้าพักอยทู่ ไ่ี หน

หมาปา่ มันไปไกล จงได้เปิดประตู”*

เด็กหญิงร้องเพลงที่ถูกต้องให้กบฟังจนเห็นว่าเขายิ้มร่าอวดฟันขาวรอ
อยู่ก่อนแล้ว นาทีนั้นเองที่ทำให้เธอรู้ตัวว่าเผลอหลงกลพูดตอบโต้เขาจนได้ น่ัง
จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอหงุดหงิดและพยายามคิดหาวิธีนำความสงบของเธอ
กลบั คนื มา

*เนื้อเพลงจากนิทานสุภาษิตเรื่อง กระต่ายตื่นตูม ในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย
ชุดภาษาเพื่อชีวิต วรรณคดีลำนำ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยตาม
หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

ศศพร แก้วผักแวน่ | ๖๑

บีนั่งคิดไปพลางมองไปยังหน้าห้องอย่างไม่รู้ตัว พอนานเข้าเธอก็เผลอ
เหลือบมองของเลน่ ท่กี องระเกะระกะอยู่ข้างที่นอนครง้ั แล้วคร้งั เล่าจนอดนึกไม่ได้
ว่าเจ้าของของมันหายไปไหน เพราะตั้งแต่ตื่นนอนมาจนกระทั่งกินข้าวมื้อเช้า
ผา่ นไปเธอก็ยงั ไมเ่ ห็นเดก็ ชายแม้แตเ่ งาหรอื แมแ้ ต่เสียงกย็ ังไมม่ มี าใหร้ ะคายหู

ช่างส!ิ จะหายไปไหนก็เรอื่ งของเขา ดีเสยี อกี เราจะได้ไม่ต้องมานงั่ คิดวิธี
นน่ั นใ่ี หป้ วดหวั

เด็กหญิงบอกตัวเองอย่างนั้น แล้วหันไปหยิบสมุดวาดเขียนพร้อมด้วย
ดินสอและสีไม้ในลิ้นชักออกมาวางเรียงอยู่บนที่นอน เธอค่อย ๆ กางสมุดที่เพิ่ง
วาดเล่นไปหน้าเดียวออก บนแผ่นกระดาษสีขาวปรากฏภาพกระต่ายตัวอ้วน
กลมสองตัวนอนหลับอย่ใู นบา้ นที่ปดิ ประตไู ว้

“หรือจะเปิดประตูดี ไม่ได้มีหมาป่าอยู่ด้วยสักหน่อย อากาศจะได้เข้า
ออกสะดวก ๆ” บีพูดกับตัวเองแล้วลบเส้นดินสอที่วาดประตูออกจนเหลือแต่
ทางเข้าบ้านแบบโล่ง ๆ แต่เมื่อเธอนึกขึ้นได้ว่าบางทีอาจจะมีหมาป่าสักตัวซ่อน
ตวั อยู่แถวนกี้ เ็ ป็นได้ “งนั้ ปิดไวเ้ หมอื นเดมิ ดีกว่า”

เด็กหญิงร่างดินสอตามรอยเดิมเพื่อให้กระต่ายของเธอปลอดภัยจาก
หมาป่าดุร้าย แต่ยังไม่ทันที่จะวาดเสร็จเสียงของใครคนหนึ่งก็ดังลอยมาจากข้าง
หลงั จนบีสะดุ้งรีบหันไปมองทันที

“เปิดประตูน่ะดีแล้ว ไม่ต้องกลัวหมาป่าหรอก เพราะถ้ามันเข้ามาทำ
ร้ายเมื่อไรผมสจิ ะตอ่ ย ๆ มนั ให้หนกี ลับเข้าปา่ แทบไม่ทันเอง”

กบนนั่ เอง!

๖๒ | หลังฝนโปรย

เด็กชายทำท่ายืนต่อยอะไรบางอย่างในอากาศพร้อมทั้งยักคิ้วหลิ่วตา
ให้เธออยู่หน้าห้อง ก่อนจะเดินเข้ามาดูภาพวาดที่บีพยายามกางมือทั้งสองปิดไว้
ไม่ใหเ้ ขาเห็น

“กระตา่ ยอะไรคอื อ้วนแท้ กินแครร์ อตหมดทงั้ สวนบ่น่นั ”

“ใครใช้ใหด้ ู เสยี มารยาท”

บหี ันไปแหวคนทกี่ ลา้ มาว่ากระต่ายน้อยของเธอ

“กเ็ ปิดให้เห็นเอง บไ่ ด้แอบเบ่ิงสกั หนอ่ ย”

กบบน่ อบุ แลว้ เดินไปหยบิ หนงั สต๊กิ ขนึ้ มาถือพร้อมง้างสายของมันคา้ งไว้
ก่อนจะหนั มาแลบล้นิ ปลิน้ ตาใส่บี จนเธอหนา้ แดงเพราะความโมโหปนเขินอายที่
เขาล้อภาพวาดของเธอและยังมาทำหนา้ ทะเลน้ ใสอ่ กี

เมื่อไม่รู้จะทำอย่างไรกับเขาดี เธอก็ทำได้แค่หันหน้าหนีแล้วเก็บสมุด
กับของอนื่ ๆ เข้าล้ินชกั ตามเดิมเพราะไมอ่ ยากออกไปนอกห้องโดยไม่จำเป็น จึง
ตอ้ งทนอยูใ่ นหอ้ งนงั่ ดูเขายงิ หนังสตกิ๊ อย่างสนุกสนาน

“ออกไปเล่นข้างนอกไมเ่ ปน็ หรือไง น่ารำคาญ!”

“ใครกนั แนท่ ่ีออกไปเลน่ บเ่ ป็น” กบสวนกลบั อย่างกวน ๆ

“เอะ๊ !”

บีได้แต่ทำเสียงจิ๊จ๊ะเพราะหาคำพูดของตัวเองไม่เจอ จนเด็กชายเอ่ย
กระทบกระเทยี บตามมาอีกหนนน่ั ละ่ เธอถึงโตเ้ ขากลับได้

ศศพร แกว้ ผกั แว่น | ๖๓

“บก่ ลา้ ออกไปก็บอกมาเถอะ ใจ ๆ หน่อย”

“ทำไมจะไมก่ ล้า” บแี หวเสียงดงั

“ถ้าแน่จริงกต็ อ้ งออกไปใหเ้ หน็ สิ”

“ไม!่ เราไม่ออก เราชอบอยใู่ นหอ้ งมากกว่า”

“อย่างน้ลี ่ะ ท่เี รียกว่าบแ่ นจ่ รงิ ”

เด็กหญิงชะงักงัน พูดอะไรไม่ออก ในใจตอนนี้มีทั้งอารมณ์หงุดหงิด
เจ็บใจ และโมโหผสมปนเปกันไปหมด เพยี งแคค่ ำพดู ย่ัวยุไม่กค่ี ำของเขากใ็ ห้เธอ
เกิดเกิดอารมณ์มากมาย โดยเฉพาะความอยากเอาชนะที่ตีตื้นขึ้นมาจนเผลอ
พลั้งปากพูดในสิ่งที่ตรงข้ามกับใจออกไป “ก็ไปสิ! จะได้เห็นว่าเรากล้าหรือไม่
กลา้ ”

“อยากเห็นใจจะขาดแล้ว…” กบทำตาโตแกล้งลากเสียงยาว ๆ ชวนให้
หมัน่ ไส้ จนเดก็ หญงิ สะบัดหนา้ หนไี ปอีกทางอยา่ งไม่สบอารมณ์

บีคิดหนักว่าเธอควรออกไปข้างนอกกับเขาดีหรือไม่ ถ้าไปก็ไม่รู้ว่า
จะต้องไปเจอกับอะไรข้างนอกบ้าง แต่ถ้าไม่ไปก็คงจะถูกหัวเราะเยาะใส่ไปอีก
นาน

เด็กหญิงคิดแล้วคิดอีก จนในที่สุดเธอก็เลือกได้ว่าเมื่อพูดอะไรออกไป
แล้วก็ควรทำให้ได้ตามนั้น เพราะคำว่าศักดิ์ศรีมันค้ำคออยู่จะให้บอกเปลี่ยนใจ
ตอนนี้ก็คงจะเสยี หนา้ ไม่ใช่นอ้ ย

๖๔ | หลงั ฝนโปรย

กบเห็นว่าบียอมออกไปข้างนอกกับเขาก็ถึงกับร้องไชโยในใจที่แผน
‘ล่อเสือออกจากถ้ำ’ หรือพาพี่สาวออกไปเปิดหูเปิดตาอย่างที่ทุกคนในบ้างหวัง
ไว้สำเรจ็ จนได้ หลังจากทเ่ี ขาคอยเซ้าซ้ีเธออยนู่ านจนเกือบจะท้ออยเู่ หมือนกัน ซึ่ง
ทีแรกกบคิดว่าเขาแค่ทำตามในสิ่งที่พ่อให้ช่วยทำ แต่พอนานไปเขาก็รู้สึกอยาก
เอาชนะเธอขน้ึ มา

ไม่อยากพูดดว้ ยใชไ่ หม…เขากจ็ ะทำใหเ้ ธอพูดกบั เขาให้ได้
ไม่อยากเล่นด้วยใช่ไหม…เขาก็จะทำให้เธอเห็นว่าเวลาที่เขาเล่นสนุก
ขนาดไหน
และไม่อยากออกไปข้างนอกใช่ไหม…เขาก็จะต้องพาเธอออกไปให้จน
ได้
กบคิดอย่างนั้นเรื่อยมา จนกระทั่งในช่วงหลัง ๆ ที่เขาได้อยู่กับเธอมาก
ขึ้นความรู้สึกสงสารและเห็นใจกลับเข้ามาแทนที่ความอยากเอาชนะ เขาอยาก
เห็นเธอเล่น อยากเห็นเธอหัวเราะ ไม่ใช่เอาแต่ทำหน้าเบื่อและอุดอู้อยู่แต่ในหอ้ ง
จนแสงแดดเข้าไมถ่ งึ อยา่ งทีเ่ ปน็ อยูน่ ้ี

ศศพร แกว้ ผกั แว่น | ๖๕

เด็กชายเข็นรถพาบีออกมาหน้าบ้านอย่างดีใจที่วันนี้เขาสามารถพาเธอ
ออกไปตอ้ งแดดต้องลมได้ จนยายท่ีนัง่ ปลอกหัวหอมแดงตะโกนถามอย่างสงสัย

“จะไปไสกนั !”
“ไปเลน่ แถวนลี้ ะ่ ยาย” กบตะโกนบอก
“เออดี ๆ อยู่แต่ในบ้านน่าเบื่อจะตาย ข้ายังอยากจะออกไปหาเพื่อนหา
ฝงู บ้างเลย”
“มเี พือ่ นเหมือนคนอน่ื เขาด้วยหรอื แม่”
“ไอน้ !ี่ ใครจะเหมอื นเอง็ วะทีม่ แี ตผ่ เี ป็นเพ่อื น” วาจาเผด็ รอ้ นของยายทำ
ให้คนที่ถูกกล่าวหาว่ามีเพื่อนเป็นผีหัวเราะดังลั่น เนื่องจากงานที่เขาทำมักข้อง
เกีย่ วอยู่แตก่ ับคนทต่ี ายแลว้ ทัง้ นัน้
กบส่ายหนา้ ระอาให้คู่ปรับต่างวัยท่ีอยู่ด้วยกันทีไรเปน็ ตอ้ งปะทะคารม
กนั ทุกที ก่อนจะหนั หนา้ กลบั มาทำหน้าท่ขี องตนตามเดิมคอื ชว่ ยเข็นรถของบขี ึน้
จากทางต่างระดบั แล้วปลอ่ ยใหเ้ ธอไดเ้ ข็นรถไปตามถนนด้วยตัวเอง

๖๖ | หลังฝนโปรย


ท้องฟา้ เปลย่ี นสี

หลายวนั แลว้ ทีบ่ ียอมตามกบออกไปข้างนอกและนง่ั ทอดอารมณเ์ ลน่ อยู่รมิ บอ่ บวั
ครั้งแรกบียอมรับว่าเธอตามกบออกมาเพราะความอยากเอาชนะ แต่

พอได้ออกมาจริง ๆ กลบั ทำให้เธอเรมิ่ รู้สกึ ว่ามนั ก็ไมไ่ ด้แย่อย่างท่ีคิด หรืออาจจะ
เพราะยังไม่ค่อยได้เจอใครด้วย เนื่องจากว่าสถานที่ที่เขาพาไปเป็นบริเวณที่ดิน
ของยายจึงทำใหไ้ มค่ ่อยมีใครอ่ืนเข้ามายมุ่ ยา่ มแถวน้ี

วันนี้บียอมให้กบช่วยเข็นรถให้จึงทำให้เธอชื่นชมกับบรรยากาศสองข้าง
ทางได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเต็มไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่หลากหลายชนิด ระหว่างทางที่
ผา่ นมาน้นั มที ั้งต้นกล้วย มะม่วง ชมพู่ น้อยหนา่ และอื่น ๆ ทที่ ั้งรู้จกั และยงั ไม่รู้จัก
อีกมากมาย จนกบต้องคอยเป็นฝ่ายตอบคำถามเวลาเธอสงสัยและชี้ถามว่ามัน
คอื ต้นอะไรบา้ ง

ศศพร แก้วผกั แวน่ | ๖๗

“นี่ต้นอะไรน่ะ!” บีจับใบของมันที่โน้มลงมาต่ำมากจนสัมผัสได้ถึง
ความสากจากขนที่ปกคลุมไปทั่วใบสีเขียวและกิ่งอ่อน แถมตรงซอกใบยังมีลูก
กลม ๆ สีแดงและสีเขียวเต็มไปหมดอยา่ งนา่ ประหลาดใจ

“ออ๋ …ต้นตะขบ”
เด็กหญิงพยกั หน้า “แล้วกนิ เลยได้มั้ยหรือต้องเก็บเอาไปลา้ งก่อน”
“กินได้เลย! ต้นไม้แถวนี้ก็โตเองทั้งนั้นล่ะ” เขาเด็ดลูกตะขบสีแดงจาก
กิง่ อ่ืนแล้วยน่ื มาให้ “บม่ ีไผเอายามาฉีดหรอก…อ่ะลอง”
บีรับลูกตะขบมาแล้วนำเข้าปากอย่ากล้า ๆ กลัว ๆ ก่อนจะเริ่มเคี้ยวจน
นำ้ ที่อยูใ่ นเน้ือผลไหลออกมาให้รูร้ ส
“โอโ้ ฮ! หวานมาก”
เธอทำตาโตแล้วกลืนมันเข้าไปจนหมด แต่รสหวานปะแล่ม ๆ ปนฝาด
ยังคงติดอยทู่ ีป่ ลายลิน้ ไม่หายไปไหน
กบหลุดหัวเราะสีหน้าและท่าทางของบี ทำให้เธออายจนหูแดงแล้วรีบ
เข็นรถหนีเขา จนนำลิ่วไปถึงทางแยกเขา้ นาของยาย
“อยา่ รีบ บอ่ บวั บ่หนีไปไสหรอก”
กบตะโกนไล่หลงั
“ไมต่ ้องตามมาเลยนะ!”

๖๘ | หลังฝนโปรย

กว่าทั้งสองจะมาถึงบ่อบัวก็จวนจะเที่ยงแล้ว กบพาบีไปหลบแดดอยู่ใต้
ต้นราชพฤกษ์ที่ยืนต้นซ้อนกันจนให้ร่มเงาขนาดใหญ่ โดยไม่ลืมที่จะหยิบเสื่อซ่ึง
เหนบ็ ไวแ้ ถวโคนตน้ ไมอ้ อกมาปูใหบ้ ีลงมานัง่ ดว้ ยกัน

ลมหอบใหญ่พัดพาความเย็นให้พอสดชื่นขึ้นท่ามกลางความร้อนระอุ
จากพระอาทติ ยด์ วงโต กบหยบิ กระตบิ ขา้ วเหนียวและป่ินโตเถาเล็กทแ่ี มข่ องบีจัด
มาให้ออกมาวางไว้ตรงกลางระหว่างเขากับเธอ ทั้งสองผลัดกันจกข้าวเหนียวกิน
กับปีกไก่ย่างและหมูสามชั้นทอดอย่างไม่รีบร้อน โดยไม่ได้พูดอะไรกันสักคำ
เพราะต่างคนต่างกิน และต่างก็มองบรรยากาศที่เงียบสงบรอบ ๆ ตัว ซึ่งมีแต่
ต้นไม้ใบหญ้าขึ้นสูงต่ำสลับกันไปล้อมรอบบ่อที่มีดอกบัวหลวงลอยอยู่เต็มไป
หมด แมลงนอ้ ยใหญ่พากันบินว่อนดอมดมอยู่ท่ัวดูสวยงาม ไม่ตา่ งจากบนต้นไม้
ที่มีฝูงนกมากมายยึดเกาะอยู่ตามกิ่งก้าน ราวกับถูกใครจับวางประดับไว้ให้น่า
ชมก็ไมป่ าน

บรรยากาศแบบนี้ตรึงใจของบีตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น เด็กหญิงจำได้ว่า
ก่อนที่เธอจะประสบอุบัติเหตุเคยได้มาที่นี่ครั้งหนึ่งกับพ่อ แต่ครั้งนั้นเป็นเพียงแค่
บ่อน้ำธรรมดาที่ยังไม่ได้มีดอกบัวขึ้นมากมายอย่างตอนนี้ พอกบพาเธอกลับมา
ที่นี่อีกครั้งก็ทำให้เธอเหมือนถูกความสวยงามของมันสะกดไว้อย่างจัง จนถึงกับ
ต้องเอ่ยปากขอให้เขาพามาชมอีกหลายครั้ง แม้ว่าในตอนแรกจะไม่ได้อยากมา
เพราะความเต็มใจก็ตาม

บีละสายตาจากความสวยงามตรงหน้ามามองคนที่นั่งอยู่ข้างกัน ซึ่ง
กำลังปั้นข้าวเหนียวเป็นกอ้ นกลม ๆ ก่อนจะส่งเข้าปากพร้อมหมูสามชั้นทอดแล้ว
เคี้ยวจนแก้มตุ่ยดูน่าอร่อย จนบีก็อดแปลกใจกับตัวเองไม่ได้ว่า เธอมองเขาต่าง

ศศพร แก้วผกั แวน่ | ๖๙

จากเดิมไปตั้งแต่เมื่อไร เพราะตั้งแต่จำความได้เธอก็รู้สึกไม่ค่อยชอบเขาเลย
แม้ว่าจะเป็นลูกพี่ลูกน้องกันก็ตาม แต่จากหลายวันที่ผ่านมาซึ่งได้มีเวลาอยู่
ด้วยกันมากกว่าปกติเนื่องจากว่าเธอหนีเขาไปไหนไม่ได้ดั่งใจเหมือนแต่ก่อนน้ัน
ทำให้เธอได้เห็นเขาในอีกมุมมองหนึ่งที่ไม่คิดว่าเขาจะมีนอกจากความขี้แกล้ง
และความกวนประสาทแล้วกค็ ือความน่ารักของเขาน่ลี ะ่

เดก็ หญงิ ไม่รวู้ า่ กบน่ารักในสายตาของเธอได้อย่างไรและเมอื่ ไร อาจจะ
เป็นตอนที่เขาเขินอายเพราะเผลอผายลมใส่เธอ หรือตอนที่เขาสะดุดล้มเพราะ
เกือบจะเหยียบขี้ของเจ้าสีหมอกหรือไม่ก็ไม่รู้ เพราะตอนนี้เธอรู้แต่เพียงว่าเขา
ไมไ่ ด้เปน็ หนง่ึ ในคนทเ่ี ธอไมช่ อบอกี แล้ว

“อมิ่ แลว้ บ่”

“อืม…”

บีรับคำสั้น ๆ แล้วทั้งสองก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีกเลยจนกระทั่งมีเสียง
เหยียบใบไม้ดังขึ้นมากจากทางด้านหลัง ก่อนที่ร่างอวบอ้วนของเจ้าสี่ขาตัวหน่ึง
จะค่อย ๆ ปรากฏขน้ึ

“ว้าย! หมาจะกัดเรา” เด็กหญิงตกใจร้องโวยวาย หัวใจเต้นตูมตาม
พลางยกมือทั้งสองข้างขึ้นปิดหนา้ แล้วหลับตาปีท๋ ันทีที่เจ้าสุนัขตัวอ้วนพุ่งกระโจน
เข้ามาหาเธอ

…มันกัดเราแล้วใช่ไหม แต่…ไม่เจ็บตรงไหนเลยแฮะ บีได้แต่ถามตัวเอง
ในใจเพราะไม่กล้าลมื ตา

“บี! พบ่ี ี เปน็ หยังคอื บล่ ืมตา”

๗๐ | หลงั ฝนโปรย

เสยี งกบ…เสยี งกบจริง ๆ ด้วย!
ได้ยินเช่นนั้นบีจึงพยายามลืมตาทั้งสองข้างขึ้น แต่ยังไม่ทันจะทำได้
สำเร็จกร็ ้สู กึ วา่ มอี ะไรเหนียว ๆ เปยี ก ๆ มาถไู ถบนหนา้ ของเธอเสียกอ่ น
“ไอถ้ ่าน! อย่าเลียหน้าเพิน่ ”

เด็กหญิงลืมตาโพลงขึ้นทันทีก็พบกับหน้าใหญ่เบ้อเริ่มของเจ้าสุนัขขนสี
ดำที่เริ่มห่างจากหน้าของเธอไปทีละน้อย เพราะถูกเด็กชายตัวอ้วนคนหน่ึง
พยายามล็อคคอของมันให้ถอยออกไป

“โอ๊ย…อยา่ ดนิ้ สิ ไอถ้ ่านหยดุ …บอกว่าอยา่ ดน้ิ ไง เดยี๋ วเถอะ!”
บียังคงเหนื่อยหอบจากอาการตกใจขณะมองเด็กชายที่เธอคิดว่าน่าจะ
เป็นเจ้าของสุนัขตัวนั้น ซึ่งกำลังวางมวยกับสัตว์เลี้ยงของตัวเองที่เอาแต่ดิ้นจะวิ่ง
เขา้ หาเธอท่าเดียว
เด็กหญิงเอีย้ วตัวหลบอยูข่ า้ งหลงั กบที่ลูบแขนเธอไปมาเหมือนพยายาม
จะชว่ ยปลอบให้เธอหายตกใจ “บ่ตอ้ งกลวั บต่ ้องกลัว ไอน้ ี่มนั บก่ ัดคนหรอก!”

ศศพร แกว้ ผักแว่น | ๗๑

“แม่น! มันบก่ ดั คนหรอกแค่ชอบหยอกเล่นเฉย ๆ”

เป็นการหยอกทีน่ า่ กลัวมาก…บีสวนกลับในใจ

เธอสูดหายใจลึกอยู่สองสามทีจนกลับมาหายใจได้ตามปกติ เมื่อเจ้า
สุนัขตัวใหญ่หยุดดิ้นและนอนหมอบอยู่ที่พื้นข้าง ๆ เจ้าของมัน บีจึงมีโอกาสลอบ
มองคนทก่ี บแนะนำวา่ เป็นเพื่อนของเขา เด็กชายคนนี้มชี ื่อว่า ‘โหนง่ ’ เป็นเด็กตัว
อ้วน มีผิวขาว ซึ่งต่างจากกบที่เป็นเด็กตัวเล็ก ผิวกระดำกระด่างอย่างคนออก
แดดบ่อย

“เอ็งมาทำอะไรแถวน้ี” กบถามโหน่งขณะย่อตัวป้อนหมูสามชั้นทอดที่
ยังเหลืออยู่เข้าปากสุนัขของเพื่อนที่จ้องหมูทอดของเขาตาละห้อย แถมน้ำลาย
ของมันยังไหลย้อยหยดลงพื้นดูนา่ สางสาร

“ข้าพามันมาเดินเล่น แต่มันคงได้กลิ่นหมูเข้าล่ะมั้งเลยวิ่งหน้าต้ังพุ่งใส่
พี่เอ็งแบบนั้น ตะกละแท้ไอ้ถ่าน” โหน่งว่าพลางตบเบา ๆ ที่หัวของเจ้าถ่านไป
หนึ่งทีแลว้ หันมาถามกบกลบั บ้าง “แลว้ เอง็ ละ่ มาทำอะไรที่น่ี”

สองพน่ี ้องมองหน้ากันก่อนกบจะเปน็ คนตอบ

“มาน่งั เล่นน่ะ พข่ี ้าชอบเบิง่ ดอกบัว”

“เบงิ่ เฉย ๆ บ่”

“แมน่ ! เบิง่ เฉย ๆ”

“บเ่ บอ่ื หรอื หาอยา่ งอ่นื เล่นกันดบี ่” โหน่งว่า

๗๒ | หลงั ฝนโปรย

คำถามของโหน่งกระแทกกลางใจของบีเข้าอย่างจัง เธอไม่เคยรู้สึกเลย
วา่ การมานัง่ ดดู อกบวั เงยี บ ๆ จะเป็นเร่อื งนา่ เบื่อ อาจจะเพราะเธอไมไ่ ด้วิ่งเล่นมา
นานจึงเริ่มชินกับการอยู่นิ่งและมองอะไรนาน ๆ ได้อย่างไม่รู้สึกเบื่อ แต่สำหรับ
กบ บีไม่รเู้ ลยว่าเขาคดิ หรือรู้สึกแบบเดียวกบั เธอหรือไม่

เด็กหญิงหน้าหมองลงจนกบสังเกตเห็น เขาจึงรีบบอกโหน่งว่าตนไม่ได้
รู้สึกเบื่ออะไรเลย แต่บีรู้ว่าเขาคงพูดไปเพื่อไม่ให้เธอคิดมาก ดังนั้นเธอจึงไม่
อยากใหก้ บตอ้ งมาหมดสนุกเพราะเธอ

“นายไปเล่นกับเพื่อนเถอะ เล่นเสร็จแล้วค่อยมารับเราก็ได้” บีบอก
เสียงเบา

“เปน็ หยังบไ่ ปเลน่ นำกนั ล่ะ”

ยังไม่ทันที่กบจะตอบอะไร โหน่งก็โพล่งถามขึ้นด้วยความสงสัยที่บีไม่
ยอมไปเลน่ ด้วยกนั จนกบต้องแอบกระซบิ บอกวา่ เพราะอะไร “เพน่ิ เดินบ่ได้”

“อ้าว…เล่นอยา่ งอน่ื แทนกไ็ ดน้ ี่” โหน่งกระซบิ ตอบ

“แลว้ สิเล่นอหี ยงั ล่ะ”

โหน่งเงียบไปพักหนึ่งแล้วชวนกบนั่งลงข้างบีตามเดิม พลางสอดส่อง
สายตาไปทั่วอย่างต้องการจะค้นหาอะไรบางอย่างที่เด็กหญิงจะเล่นด้วยกันได้
จนในที่สุดสายตาของเขาก็ไปสะดุดเข้ากับเหล่าดอกบัวที่ชูช่อสีขาว สีชมพูสลับ
กบั ฝกั บัวหลายขนาดทา่ มกลางใบบัวสเี ขยี วซึง่ ลอยอยู่เต็มบ่อ

“คิดออกแลว้ …โน่นไง”

ศศพร แก้วผกั แว่น | ๗๓

กบและบหี นั หน้าไปมองตามทิศทางทโ่ี หนง่ ช้ีชวนให้ดู

“ฝักบวั แม่นบ่” กบเลิกค้ิวถามเพอื่ ความแน่ใจวา่ ตนไม่ไดม้ องผิดไป แต่
เมื่อโหนง่ พยกั หนา้ ตอบเขาจึงถามตอ่ อยา่ งสงสัยวา่ “เอามาเล่นอหี ยัง”

“อีตัก!”

โหน่งตอบสั้น ๆ แล้วเดินนำกบไปแถว ๆ ริมบ่อก่อนจะพากันเอื้อมเก็บ
ฝักบัวมาได้หลายฝัก แถมยังได้ดอกบัวทั้งแบบตูมและบานมาอีกอย่างละสอง
สามดอกตามทเี่ ด็กหญิงอ้อมแอ้มบอกให้ท้ังสองคนชว่ ยเก็บให้เธอหนอ่ ย

อันที่จริงบีอยากได้ดอกบัวตั้งแต่วันแรกที่กบพามาแล้ว แต่เธอไม่กล้า
บอกให้เขาลงไปเก็บให้เพราะกลัวว่าตัวเองจะกลายเป็นภาระ ดังนั้นเมื่อเห็นท้งั
กบและโหนง่ ลงไปเก็บฝกั บวั กอ็ ดไมไ่ ดท้ จี่ ะบอกให้พวกเขาเก็บดอกบัวขนึ้ มาด้วย

หลังจากได้ฝักบัวมาจำนวนหนึ่งจนเป็นที่พอใจแลว้ ทั้งสามคนก็ชว่ ยกัน
แกะเม็ดบัวออกมาวางรวมกันไว้และพากันเล่นอีตักอย่างที่โหน่งได้ชักชวน ซ่ึง
วิธีการเล่นอีตักของทั้งสามคนก็ไม่ได้แตกต่างจากที่คนทั่วไปเล่นเท่าไรนัก
เพียงแต่ใช้เม็ดบัวแทนเมล็ดมะขามอย่างที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้เล่นกัน โดยเวลา
เลน่ กจ็ ะหว่านเม็ดบวั ลงบนเสอ่ื แลว้ ใชใ้ บไม้ทพ่ี อหาได้แถว ๆ น้ีพบั เป็นกระทงไว้
สำหรับตักเม็ดบัว ซึ่งใครที่ตักเม็ดบัวได้มากที่สุดก็จะเปน็ ผู้ชนะ และผู้แพ้ก็จะถูก
ลงโทษด้วยการดีดมะกอกตามที่กบเป็นคนเสนอ เป็นเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ จนผลัด
กนั แพ้ผลดั กนั ชนะอยหู่ ลายคร้ัง

แรก ๆ บีกล้า ๆ กลัว ๆ ที่จะเล่นกับโหน่ง เพราะยังไม่ค่อยคุ้นเคยกับ
เขาเท่าไรนัก ขนาดกับกบยังต้องใช้เวลาอยู่หลายวันทีเดียวกว่าเธอจะยอมเล่น

๗๔ | หลงั ฝนโปรย

และพูดคุยกับเขาอย่างสบายใจได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปสักพักจนบีสัมผัสได้ว่า
โหน่งไมไ่ ดม้ พี ิษไมภ่ ยั สำหรบั เธอ จึงกลา้ ทจ่ี ะพดู คยุ กับเขามากข้ึน

“โหนง่ เลน่ เก่งจัง”

บีเริ่มเป็นฝ่ายชวนคุยบ้างเมื่อทั้งสามเลิกเล่นเม็ดบัวและหันมาแกะมนั
กินแทน โดยไม่ลืมที่จะเอาดีบัวหรือส่วนที่อยู่ข้างในเม็ดบัวซึ่งมีรสขมออกก่อน
แมว้ ่าผู้ใหญห่ ลายคนจะบอกวา่ มนั มปี ระโยชน์มากมายแค่ไหนก็ตาม

“บกี เ็ ล่นเก่งอย่เู ดอ้ ” โหน่งพดู อยา่ งเขนิ ๆ เม่ือถกู เด็กผู้หญงิ ชม

“ก็เล่นเกง่ กันหมดนล่ี ะ่ ”

กบพูดขัดอย่างหมั่นไส้ ก่อนที่เขากับโหน่งจะหันหน้ามองกันแล้วพากัน
หัวเราะเสียงดังอย่างไม่ได้นัดหมาย จนบีที่นั่งมองพวกเขาอยู่อดหัวเราะเบา ๆ
ตามไม่ได้ บ่อบัวของยายในวันนี้จึงดูครื้นเครงผิดจากวันก่อนๆ จนเหล่าดอกบัว
ในบ่อพากันเบ่งบานและพลิ้วไหวหยอกล้อกับสายลมอ่อน ๆ ที่พัดมาคลอเคลีย
ราวกับกำลังเปล่งเสียงหวั เราะแข่งกบั เดก็ ทัง้ สามอยู่

ดวงอาทิตย์เคลื่อนคล้อย สาดแสงสีส้มยามบ่ายแก่ ๆ ลงอาบไล้ทั่วบริเวณบ่อบัว
จนน้ำสีเขียวอมฟ้าในบ่อดูใสและสะท้อนแสงกลับเป็นประกายระยิบระยับ
ช่างเป็นภาพที่ชวนมองสำหรับบเี หลือเกิน แมแ้ ตก่ บั กบและโหน่งที่เคยมาเล่นที่น่ี
อย่างนับครั้งไม่ท้วนก็ยังไม่เคยรู้สึกว่าภาพบ่อบัวยามบ่ายคล้อยจะสวยชวนมอง
ได้เท่าวนั นี้มาก่อนเลย

ศศพร แก้วผักแว่น | ๗๕

เด็กทั้งสามต่างเก็บภาพสวยงามนี้ไว้ในใจจนกระทั่งถึงเวลาแยกย้าย
กลับบ้าน โดยที่บีไม่ลืมที่จะเก็บดอกบัวและฝักบัวที่เหลือกลับไปฝากคนที่บ้าน
ด้วย เด็กหญิงกอดดอกไม้ไว้แน่นเพราะวันนี้มีเด็กชายสองคนผลัดกันเป็นสารถี
คอยเข็นรถให้ แถมยังมีเจ้าถ่านเดินนำเหมือนเป็นสุนัขอารักขาไปตลอดทาง จน
บแี อบคิดเข้าขา้ งตวั เองไมไ่ ด้ว่าเธอดเู หมือนเจ้าหญงิ ตวั นอ้ ย ๆ อย่างไรอย่างนัน้

“ถึงตาขา้ เขน็ แล้ว” กบบอก
“เอ็งข้โี กงบ่ คือนบั ไวแท”้ โหนง่ บ่นอบุ เมื่อเขากบั กบตกลงกนั ว่าจะผลัด
กันนับเลขคนละหนง่ึ รอ้ ยตอนทอ่ี ีกฝ่ายเป็นคนเขน็
บีขำที่ทั้งสองแย่งกันเข็นรถให้เธอ ก่อนจะเหม่อมองท้องฟ้าในวันนี้ที่ดู
สดใสกว่าปกติแมใ้ กลจ้ ะเยน็ ยำ่ ซึง่ มันควรจะเรมิ่ เปลี่ยนเป็นสเี ข้มไดแ้ ล้ว
นานเท่าไรแล้วที่บีมองไม่เห็นความสดใสของท้องฟ้าเหมือนอย่างวันนี้
อาจจะตั้งแต่วันที่รู้ตัวว่าจะเดินไม่ได้ไปตลอดชีวิต หรือจะวันที่ทำให้เธอไม่อยาก
ไปโรงเรยี นอกี เด็กหญิงก็จำไมไ่ ด้แล้วและเธอกไ็ ม่อยากจะจำอีกต่อไป
…เพราะท้องฟ้าในวันนี้ดูน่ามองกว่าวันก่อน ๆ เป็นไหน ๆ และคงจะดี
ถ้ามันจะเปน็ เชน่ นี้…ตลอดไป

๗๖ | หลงั ฝนโปรย


เพียงหน่ึงย้ิม

นับตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่นี่ได้เกือบสองเดือน วันนี้เป็นวันแรกที่บีตื่นสายกว่าทุกวัน
และยังเป็นวันที่เธอออกมาจากห้องแล้วไม่พบใครสักคน แม้แต่ยายที่มักจะนอน
ดูทีวีอยู่กลางบ้านเป็นประจำกก็ ลับไม่เห็น ทั้งบ้านเงียบเชียบเกินจนบีเริ่มไม่คอ่ ย
คุ้นชิน เธอรีบไปที่หน้าประตูและชะเง้อมองไปนอกบ้านจนเห็นว่าแม่กำลังนั่งทำ
อะไรบางอย่างอยบู่ นแคร่ไม้ไผค่ นเดยี วก็เผลอถอนหายใจอย่างโลง่ อกออกมา

“ต่นื แล้วกไ็ ปอาบน้ำแปรงฟันนะ แล้วคอ่ ยมากินขา้ ว”

เมื่อเห็นว่าแม่ไม่ได้หายไปไหน เด็กหญิงจึงกลับเข้าห้องเพื่อเตรียมตัว
ไปอาบน้ำ เวลาผ่านไปร่วมชั่วโมงบีก็เข็นรถออกมาจากห้องน้ำท่มี ีการต่อเติมให้
กว้างขึ้นและแต่งตัวเสื้อผ้าชุดใหม่ ก่อนจะหยุดรถและลงมานั่งที่พื้นเมื่อถึงหน้า
หอ้ งของตวั เอง ซง่ึ ปกตแิ ล้วหากอยู่ในบ้านบจี ะใช้รถเข็นแคเ่ ฉพาะตอนเข้าห้องน้ำ
เท่านั้น เนื่องจากพื้นที่ภายในบ้านไม่ได้กว้างพอที่จะเข็นไปไหนมาไหนได้อย่าง

ศศพร แก้วผกั แวน่ | ๗๗

สะดวก ดังนั้นเธอจึงใช้วิธีคลานเข่าหรือค่อย ๆ กระเถิบตัวไปตามพื้นแทน ซ่ึง
ตอนนบ้ี กี ็กลับมานัง่ ทีห่ น้าประตูอกี ครงั้ เพอื่ รอใหแ้ มม่ าอมุ้ ไปน่งั บนแคร่ด้วยกัน

“เริ่มหนกั ขน้ึ แล้วนะเนย่ี ” แม่พูดเปรย ๆ ก่อนวางบีลง

เด็กหญิงกระเถิบตัวขึ้นนั่งบนหมอนรองนั่งที่แม่เตรียมไว้ให้แล้วจัด
ท่าทางของตัวเองให้นั่งให้สบายที่สุด บนแคร่มีถาดสังกะสีวางรวมกันอยู่สามใบ
แต่ละใบมีวัตถุดิบสำหรับทำขนมวางอยู่ ถาดใบแรกซึ่งอยู่ติดกับหัวเข่าของบีคือ
ข้าวสารเหนียวที่ทำความสะอาดแล้ว ส่วนถาดข้าง ๆ กันนั้นคือกล้วยน้ำว้าห่ัน
ครึ่งวางแยกอยูค่ นละฝั่งกับถั่วดำ และสุดท้ายเป็นเพียงแค่ถาดสังกะสีเปล่าที่เหน็
ลายดอกไม้สแี ดงสวยได้ชัดเพราะยงั ไม่มีสิง่ ใดมาวางทับ

แม่นั่งลงบนแคร่ วางใบตองที่ฉีกไว้สำหรับห่อขนมลง แล้วเอี้ยวตัวไป
หยิบชามขา้ วผดั ในฝาชีส่งใหบ้ ี “กินได้มยั้ ลูก หรอื จะให้แมอ่ ุน่ ให้ก่อน”

“ไม่ต้องหรอกค่ะ หนกู นิ ได้”

เด็กหญิงรับชามข้าวผัดซึ่งมีหมูอยู่เต็มชามมานั่งกินเงียบ ๆ ขณะท่ี
สายตาก็มองแม่ซึ่งนั่งทำขนมไปเรื่อย ๆ ดูน่าสนุก มือของแม่หยิบจับอันนู้นทีอัน
นี้ทีอย่างคล่องแคล่วราวกับเป็นมืออาชีพ ตั้งแต่เริ่มวางใบตองไว้บนฝ่ามือ และ
หยิบกล้วยทีผ่ า่ คร่ึงวางตรงกลางใบตอง จากนน้ั ตักข้าวสารเหนียวมาใส่พร้อมกับ
ถั่วดำ แล้วพับกลีบห่อให้เป็นระเบียบสวยงาม ก่อนจะนำมาวางเรียงในถาดอีก
ใบทยี่ งั ว่างอยไู่ ด้หลายกลีบ

๗๘ | หลงั ฝนโปรย

“อยากช่วยแม่ทำมั้ย” บีเงยหน้าสบตากับแม่แล้วรีบพยักหน้า เธอเลื่อน
ชามข้าวผัดที่เพิ่งกินเสร็จออกไปห่าง ๆ แล้วมองแม่ที่กำลังทำให้เธอดูเป็น
ตัวอยา่ งพร้อมอธิบายวิธที ำไปด้วยตาไมก่ ระพริบ จนแม่อดยม้ิ อยา่ งเอ็นดไู มไ่ ด้

“ทุกคนหายไปไหนกันหมดคะ” เด็กหญิงถามขึ้นขณะที่แม่เพิ่งสอนเธอ
ใชต้ อกมัดขนมสองกลบี เขา้ ดว้ ยกัน

“ไปวดั กันจ้ะ”

“ยายก็ไปด้วยหรือคะ ปกติหนเู หน็ ยายชอบดูแต่ทีวี”

แม่ชะงักมือแล้ววางขนมที่มัดด้วยตอกเสร็จแล้วลงบนถาด ก่อนจะยิ้ม
และบอกเธอว่า “เมื่อเช้ายายหลงอีกแล้วน่ะลูก คิดว่าตัวเองเป็นลูกลุงหงา เลย
ร้องจะตามเขาไปด้วยท่าเดียว สุดท้ายก็เลยต้องยอมให้ไป กบก็เลยตามไปช่วย
ดูแลด้วยน่ลี ่ะจ้ะ”

บีอดรู้สกึ สงสารยายไมไ่ ด้ เม่ือรวู้ ่ายายหลงลืมอกี แลว้ โดยเธอก็เพ่ิงจะรู้
จากแม่เมื่อไม่นานมานี้ว่ายายเริ่มหลงลืมก่อนที่เธอกับแม่จะย้ายมาอยู่แค่เพียง
เดือนกว่า ๆ เท่านั้น ซึ่งสาเหตุก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ามาจากอะไร แต่แม่คิดว่า
น่าจะเป็นอาการของคนสูงอายุทั่วไปที่เมื่ออายุมากขึ้นก็ย่อมหลงลืมไปบ้างเป็น
ธรรมดา

“แล้วจะกลับกันมาตอนไหนคะ”

“เดี๋ยวใกลเ้ ท่ียงกค็ งจะมากันแล้วจะ้ ”

ศศพร แกว้ ผกั แว่น | ๗๙

แม่บอกโดยไม่เงยหน้าขึ้นมองเธอ เพราะตอนนี้แม่กำลังวุ่นกับการนำ
ขนมที่มดั เปน็ ค่ไู วเ้ รยี บร้อยแลว้ ใส่ลงในหม้อลาวสำหรับน่งึ ข้าวเหนียวทรี่ องก้นไว้
ด้วยใบเตยเพื่อให้เวลานำไปนึ่งจะได้มีกลิ่นหอม จากนั้นแม่ก็หยิบใบตองปิดทับ
ตวั ขนมอีกทแี ล้วเทน้ำลงไปในหมอ้ กอ่ นจะนำไปวางนงึ่ บนเตาถา่ น

กลิ่นหอมของใบเตยอบอวลไปทั่วเมื่อนึ่งไปสักระยะหนึ่ง จนบีก็เพิ่งจะรู้
ว่าขนมที่เธอช่วยแม่ทำนั้นคือ ‘ข้าวต้มโค่น’ หรือข้าวต้มมัดแบบคนอีสาน ซึ่งจะ
ไม่ใส่น้ำตาลและกะทิอย่างข้าวต้มมัดทั่วไป เพื่อจะได้รสหวานธรรมชาติจาก
กล้วยนำ้ ว้าแทน

หลังจากที่บีอดทนรอมานานในความรู้สึกของเธอ ข้าวต้มมัดร้อน ๆ ก็
นึ่งจนสุกเสียที แม่จึงใช้ที่คีบหนีบใบตองด้านบนออกจนไอร้อนพวยพุ่งออกมา
แล้วคีบข้าวต้มมัดทั้งหมดออกมาผึ่งใส่กระจาดเพื่อไม่ให้ตัวข้าวแฉะ ก่อนจะ
ค่อย ๆ หยิบข้าวต้มมัดขึ้นมาวางไว้บนถาดหนึ่งมัด และแกะตอกที่มัดไว้ก่อนจะ
คลใี่ บตองออก พรอ้ มป้อนใสป่ ากบีทอี่ ้ารอไว้อยู่ก่อนแลว้

เนื้อเหนียวหนึบกับความหวานอย่างเป็นธรรมชาติของกล้วยน้ำว้าผสม
กับความภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการทำ ส่งผลให้บีรู้สึกว่าข้าวต้มมัดคำนี้มี
รสชาตอิ รอ่ ยทสี่ ดุ เท่าที่เธอเคยกนิ ขนมหวานมาเลยกวา่ ได้

๘๐ | หลังฝนโปรย

แมม่ องบซี ง่ึ น่งั ย้ิมชน่ื ชมข้าวต้มมัดฝีมอื ตัวเองโดยท่ีเธอไม่รู้ตัวว่า ความ
สดใสที่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นเป็นน้ำหล่อเลี้ยงหัวใจให้คนเป็นแม่ได้มากขนาดไหน
นานเท่าไรแล้วที่รอยยิ้มจากใจจริง ๆ ไม่ใช่การฝืนยิ้มของลูกหายไป เมื่อวันนี้ที่
ได้เห็นอีกครั้ง แค่เพียงหนึ่งยิ้ม เพียงเท่านี้จริง ๆ ก็เปรียบเหมือนนิมิตหมายอันดี
แล้ว

กว่ายาย ลุงหงาและกบจะกลับมาถึงบ้านก็เกือบจะเย็นแล้ว วันนี้บีเลยไม่ได้
ออกไปเล่นที่ไหนไกล เธอและกบจึงพากันมาเก็บมะม่วงหลังบ้านซึ่งดกและผล
ใหญ่มากกวา่ ต้นท่ีอยหู่ นา้ บ้านแทน

“ขวาอีก…ไม่ใช่ลูกนนั้ …อีกลูกนึงท่ใี หญ่ ๆ นะ่ กบ เหน็ หรือยัง!”

บีตะโกนบอกคนที่ปีนอยู่บนต้นมะม่วงเปรี้ยวต้นใหญ่สุดเสียง จนใน
ที่สุดเขาก็เด็ดมะม่วงลูกที่เธอต้องการได้สำเร็จ เด็กหญิงทั้งปรบมือและส่งเสียง
ร้องอย่างดีใจเมื่อกบกระโดดลงมายืนที่พื้นและส่งมะม่วงลูกใหญ่กว่ามือของเธอ
มาให้

เธอรับมาถือไว้อย่างทะนุถนอม ในขณะที่กบปัดมดแดงตามตัวเป็น
พัลวัน เด็กชายหน้ามุ่ยที่ปัดมดออกไม่ทันและเผลอถูกกัดที่ง่ามนิ้วจนเกิดตุ่ม
แดง

“โอย๊ คัน!” กบเกาตุ่มที่ถกู มดแดงกดั จนแดงเปน็ ปื้นอย่างเหน็ ได้ชดั

“เป็นอะไรมากม้ยั ”

ศศพร แกว้ ผักแวน่ | ๘๑

“มดแดงกัด…คันหลาย!”
กบตอบแล้วเดินหายเข้าไปในบ้านก่อนจะออกมาพร้อมกับยาหม่องตา
ลงิ ขวดใหญ่ของยายทหี่ ยิบตดิ มือมาดว้ ย
“ส่งมา เดี๋ยวช่วยทา” บีวางมะม่วงลงบนตักแล้วรับยาหม่องจากกบมา
ช่วยทาแถว ๆ ต้นคอของเขาทเี่ พ่งิ รู้ตัววา่ ถูกมดกัดด้วยเหมือนกนั
อันที่จริงกบจะไม่ถูกมดกัดเลย ถ้าไม่ใช่เพราะบีอยากได้มะม่วงลูก
ใหญ่ลูกนี้ซึ่งอยู่สูงมากจนกบต้องปีนข้ึนไปเอามาให้ เด็กหญิงจึงรู้สึกผิดนิด ๆ ที่
ทำให้เขาเจ็บตัวอีกแล้ว อย่างคราวกอ่ นทีเ่ ขาเจ็บเท้าก็เพราะเธอเผลอถอยรถเขน็
ไปเหยียบเท้าเขาเข้าอย่างไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งโชคดีที่เขาชักเท้าออกทันจึงเจ็บเพียง
นวิ้ โปง้ นิดเดยี วเท่านน้ั แตไ่ มว่ า่ อยา่ งไรบีก็รู้สึกผิดอยดู่ ี
“ขอโทษนะ นายต้องเจบ็ ตวั เพราะเราอยเู่ ร่อื ยเลย” บีบอกเสยี งออ่ ย
“บ่เป็นหยงั หรอก พ่ีบไ่ ดต้ ั้งใจสกั หนอ่ ย…มาปอกบักมว่ งกนิ กนั ดีกว่า”
เท่านั้นเด็กหญิงจงึ เริ่มยิ้มได้ และทั้งสองจงึ พากันมานั่งกินมะม่วงซึ่งกบ
ปอกและห่ันเป็นชน้ิ พอดีคำเรียบรอ้ ยแลว้ ตรงแคร่ใต้ตน้ มะยม
“ทำเองหรอื ”
บีหมายถึงพรกิ เกลือท่ีกบเอามาพรอ้ มกบั มะม่วง
“แมน่ ! นัวบ่”

๘๒ | หลังฝนโปรย

“นัวคืออะไร” เด็กหญิงถามอย่างไม่เข้าใจเพราะยังมีภาษาอีสานอีก
หลายคำนกั ทเี่ ธอไม่ค่อยคนุ้ เคยหรอื ไมร่ จู้ กั เลยกม็ ี

“นัวก็คือ…” เขาตอบพร้อมหยิบมะม่วงจิ้มพริกเกลือแล้วกินให้ดูก่อนจะ
บอกวา่ “อร่อย” ด้วยเสยี งอ้อู ี้

“อ๋อ!” บีลากเสียงยาวอย่างคนที่เข้าใจแล้ว โดยไม่ลืมที่จะตอบคำถาม
ท่ีกบได้ถามไวก้ อ่ นหน้านี้ “นัวมากเลย”

ทั้งสองยังคงนั่งกินมะม่วงอย่างเพลิดเพลิน จนกระทั่งมีเด็กผู้หญิงสอง
คนซ่งึ มีหนา้ ตาละม้ายคล้ายกนั มายืนชะเง้อเกาะอยู่แถวรว้ั บ้าน “ทำไรกันน่ะ”

“ใช่ ๆ ทำไรกนั นะ่ ” เด็กผูห้ ญงิ อกี คนเอย่ สำทบั มาอีกรอบ

“กินบกั มว่ งอยู่ มากินนำกนั บ่”

กบเอย่ ชวนท้ังสองคนให้เขา้ มากนิ มะมว่ งด้วยกนั ซึง่ เขารจู้ กั สองแฝดคู่น้ี
ดีว่าเป็นใคร เนื่องจากว่าทั้งสองอยู่บ้านตรงข้ามกันนี้เอง แต่นาน ๆ จะมาเล่น
ด้วยกนั ทีเพราะสองแฝดไมค่ ่อยชอบเลน่ อะไรทโมน ๆ แบบเขาเทา่ ไรนกั

บีมองเด็กผู้หญิงผมสั้นที่กบแนะนำให้รู้จักว่าชื่อ ‘ต้นอ้อ’ เป็นแฝดพ่ี

ส่วนอีกคนที่มีผิวคล้ำกว่าเล็กน้อยและมีดวงตาที่ดูโตกว่า คือแฝดน้องชื่อว่า

‘สายขวัญ’ ทั้งสองเป็นลูกสาวของป้าอ้อยที่อยู่บ้านตรงข้ามกับฝั่งหลังบ้านของ

เธอเพียงถนนกั้น และกบยังกระซิบให้เธอฟังอีกว่าบ้านของทั้งสองเคยปลูกขนุน

อยู่ต้นหนึ่งแต่ดันออกลูกหล่นมาทับแปลงดอกไม้สุดรัก ก็เลยโค่นต้นทิ้งเพราะ

ความโมโห แต่กบกลับบอกเธอถึงสิ่งที่เขาคิดว่า ‘ดอกไม้ของป้าอ้อยจะบ่ตาย

เลยถา้ บเ่ อาไปปลูกอยูใ่ ต้ตน้ ขนุนต้งั แตแ่ รก’

ศศพร แก้วผักแวน่ | ๘๓

บีเห็นด้วยกับกบและแอบคิดว่าเรื่องนี้ก็น่าขำอยู่ไม่น้อย ก่อนจะหันไป
มองสองแฝดอกี คร้ังซงึ่ ตอนนี้ได้ลอดรั้วเขา้ มานงั่ กินมะมว่ งดว้ ยกนั แล้ว

หากเป็นสองเดือนที่แล้วบีคงกล้า ๆ กลัว ๆ ที่จะคุยกับคนที่เพิง่ รูจ้ ัก แต่
ตอนนี้เธอเริ่มสบายใจและกล้าที่จะเริ่มพูดเริ่มคุยกับคนอื่นที่ไม่ใช่คนใน
ครอบครัวมากขึ้น ซึ่งบีก็คิดว่าที่เป็นเช่นนี้อาจจะเพราะว่าเธอคงไม่ค่อยได้ใส่ใจ
กับสายตาที่แต่ละคนมองเธอเหมือนก่อน จึงทำให้ไม่เกิดความรู้สึกใด ๆ มา
บั่นทอนตัวเองก่อนจะที่ไดเ้ รม่ิ ทำสิง่ ใดอย่างท่ีผ่านมา

“พี่บีเปน็ พีส่ าวของพก่ี บหรือจ๊ะ” ต้นอ้อยม้ิ ถาม

“ใชจ่ ะ้ เราเปน็ ลูกพีล่ ูกน้องกนั น่ะ”

“ลกู พ่ลี ูกนอ้ งคอื อะไรจ๊ะ” สายขวัญทน่ี ัง่ ขา้ งแฝดพถ่ี ามดว้ ยดวงตาใสซ่ือ

พอเจอคำถามนี้บีก็ถึงกับเกาหัวเพราะไม่รู้จะอธิบายอย่างไรให้ทั้งสอง
คนเขา้ ใจดี แต่แล้วกบก็ชิงตอบแทนเธอเสียก่อน

“ลกู พล่ี ูกน้องกค็ อื ญาตทิ ี่เป็นลกู ของลุงป้านา้ อาของเราไงเข้าใจบ่”

“เข้าใจ ๆ” เด็กทั้งสองพยักหน้าพร้อมเพรียงสมกับที่เป็นแฝดกัน ก่อน
จะถามคำถามที่ทำให้กบถึงกับเผลอทำมะม่วงที่เพิ่งหยิบขึ้นมาหลุดมือ “แล้ว
ญาตคิ อื อะไรจะ๊ ”

บีเห็นกบทำหน้าเหลอหลาแล้วก็อดขำไม่ได้ จนเขาต้องกระแอมเบา ๆ
อย่างแก้เก้อเขิน ก่อนจะเริ่มทำท่ายืดอกพลางเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย แล้วพูดกับ
สองแฝดด้วยเสียงทุ้มอย่างคนมีความรู้ว่า “ญาติก็คือคนที่มีสายเลือดเดียวกัน

๘๔ | หลงั ฝนโปรย

อาจจะนับจากทางพ่อหรือทางแม่ก็ได้ อย่างอ้ายกับพี่บีสิเรียกว่าญาติกันก็กันได้
เพราะพ่อกับแม่เป็นพี่น้องกัน” จนได้รับเสียงปรบมือพร้อมคำพูดยกยอจากต้น
อ้อและสายขวัญแทนการขอบคุณสำหรับคำอธบิ าย

“พี่กบสุดยอด รหู้ มดทกุ เรื่องเลย”
กบยิม้ จนหน้าบานแล้วหนั มายกั ควิ้ อวดบหี นึ่งที
เด็กหญิงไม่รู้ว่าสิ่งที่กบอธิบายให้เด็กที่กำลังจะเข้าเรียนชั้นประถมในปี
หน้าเข้าใจนั้นถูกแล้วหรือไม่ แต่เธอรู้แค่เพียงว่าตอนนี้เธอไม่สามารถหยุด
หัวเราะตามเดก็ แฝดท้ังสองคนและยิ้มกว้างตามกบได้เลย…

ศศพร แกว้ ผกั แว่น | ๘๕


ฝนต้งั เคา้

ลานวัดในยามค่ำมักจะเงียบสงดั และวังเวงอยู่เสมอ หากแต่คืนนี้กลับคราครำ่ ไป
ด้วยผู้คน และอึกทึกครึกโครมไปด้วยเสียงดนตรี บีมองบรรยากาศของงานวัดท่ี
รายล้อมรอบตัวแล้วก็อดที่จะตื่นตะลึงนิด ๆ ไม่ได้ เมื่อเห็นเหล่าเครื่องเล่นต้ัง
เรียงรายอยู่เต็มลานวัดจนดูละลานตาไปหมด ทั้งบ้านลม ม้าหมุน และอีก
มากมายหลายชนิด แต่สิ่งที่เรียกความสนใจเธอได้มากที่สุดเห็นจะเป็นชิงช้า
สวรรค์ตัวใหญ่ที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางวัด ไม่ไกลกันเท่าไรนักมีซุ้มปาลูกโป่ง
และยังมีร้านค้าต่าง ๆ มากมาย ทั้งที่ขายเสื้อผ้า ของเล่น หรือของที่ระลึก แต่ท่ี
เห็นจะเยอะที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นบรรดาร้านขายของกิน ซึ่งไม่ว่าจะมองไปทาง
ไหนก็ล้วนแลว้ แต่มีอยู่เตม็ วัดไปหมด

กบเข็นรถพาบีเบียดเสียดกับผู้คนที่เดินขวักไขว่ไปมา หมายจะตรงไป
ยงั ซุ้มสอยดาวซึ่งเปน็ จดุ เดน่ ของงานในคืนน้ี

“คนเยอะจังเลย”

๘๖ | หลังฝนโปรย

บีมองซุ้มสอยดาวที่มีคนแน่นขนัดจนแทบไม่เห็นทางให้เดินก่อนเงย
หนา้ ข้นึ มองกบเพื่อขอความคดิ เหน็ “เอาไงดี”

“ไปหาของกนิ แทนดบี ่”

“เอาสิ!”

เด็กหญิงแหงนหน้ามองของรางวัลมากมายที่ตั้งอยู่เต็มซุ้มอย่างแสน
เสียดาย ก่อนมองเลยไปยังจุดทำบุญไหว้พระซึ่งมีผู้คนเนืองแน่นอยู่ตลอดเวลา
และเมือ่ มองสูงขนึ้ ไปอีกก็จะเห็นธนบัตรหลายรอ้ ยใบเยบ็ ตดิ กบั สายรบิ บิ้นทผ่ี ูกไว้
กับหลังคาโบสถ์ยาวลงมาเกือบจรดพื้น ยิ่งช่วงจังหวะที่มีลมพัดมาธนบัตรแต่ละ
แถวก็จะพลิ้วไหวไปมาชวนมอง จนบีอดกระซิบถามกบไม่ได้ว่าสิ่งที่เธอเห็นอยู่นี้
เรียกวา่ อะไร

“ออ๋ …ผา้ ปา่ ลอยฟ้านะ่ ”

“ทำไมต้องลอยฟา้ ดว้ ยล่ะ” เดก็ หญิงเอยี งคอถามอย่างสงสยั

“บ่แน่ใจเด้อ แต่เคยได้ยินมาว่าการทำบุญในที่สูง ๆ จะเป็นการส่งแรง
บุญให้ไดบ้ ญุ หลาย ๆ อะไรทำนองนล้ี ่ะมง้ั ”

กบบอกเด็กหญิงที่ช่างถามน่นั ถามนอี่ ยูเ่ รื่อยอย่างใจเย็น ก่อนจะเข็นรถ
ไปยังจุดทำบุญผ้าป่าลอยฟ้าตามคำขอของเธอที่อยากจะลองทำบญุ เช่นนี้บ้างสัก
ครง้ั แลว้ ค่อยไปหาของอร่อยกินอย่างท่ตี กลงกนั ไวก้ ่อนหน้านี้

บีล้วงกระเป๋าเสื้อหยิบธนบัตรสีเขียวขึ้นมาใบหนึ่งแล้วพนมมืออธิษฐาน
อยูน่ านสองนานก่อนจะนำไปตดิ ในแถวทมี่ ีธนบตั รสีเดยี วกนั ดว้ ยตัวเอง

ศศพร แก้วผกั แวน่ | ๘๗

“ขอใหไ้ ดบ้ ญุ เยอะ ๆ ด้วยเถิด สาธ!ุ ”
เธอพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ขณะที่สายตาก็จดจ้องอยู่ที่ธนบัตรของตัวเอง
ซง่ึ ลอยขึ้นสงู ไปตามแรงลมดว้ ยความศรัทธา
เด็กหญิงหวังในใจลึก ๆ ว่าบุญที่ทำในครั้งนี้จะช่วยส่งไปถึงพ่อที่อยู่บน
ฟ้า ยิ่งลมพัดธนบัตรให้ลอยสูงขึ้นมากเท่าไรเธอก็ยิ่งพอใจเพราะคิดว่าความหวัง
ของตวั เองจะต้องเปน็ จริงอยา่ งแน่นอน
บีฉีกยิ้มกว้างเหม่อมองท้องฟ้ามืดสลัวที่มีพระจันทร์ดวงโตลอยเด่นอยู่
พลางครุ่นคิดในใจ ‘พอ่ จะไดร้ ับบญุ หรือยังนะ’
ทันใดนั้นเองก็คล้ายกับว่าบนท้องฟ้าจะได้ยินเสียงของเธอ เมื่อดาว
หลายดวงพากนั กระพริบจนเกดิ แสงระยบิ ระยับราวกบั กำลงั ตอบคำถามอยู่
‘คงไดแ้ ลว้ สนิ ะ’ เดก็ หญิงย้มิ อย่างมีความสุขท่ไี ดค้ ดิ เช่นนี้
…และเธอกค็ ดิ ว่าพอ่ คงจะมคี วามสุขเช่นกันหากท่านกำลงั มองเธออยู่

๘๘ | หลังฝนโปรย

“ไปกนั เถอะ คนเริ่มเยอะแลว้ เดย๋ี วจะไปลำบาก”

กบสะกิดบอกเด็กหญิงเมื่อเห็นว่ามีคนเริ่มทยอยเข้ามาทำบุญกันมาก
ข้ึน จากน้นั ทั้งสองจึงพากนั เข้าออกร้านนัน้ ทรี า้ นนี้ทจี นได้ของกินติดมือกันมาคน
ละสองสามอยา่ ง

“ลองกนิ ม้ัย อร่อยเดอ้ ”

บีรีบส่ายหน้ารัวเมื่อกบยื่นแมลงทอดที่เพิ่งไปต่อแถวซื้อให้เธอลองกิน
แตเ่ พยี งแคเ่ ห็นตอนท่ีพ่อคา้ กำลังทอดเธอกแ็ ทบจะอิ่มตื้อขึ้นมาทันที บีไม่รู้ว่าเขา
กล้ากนิ มนั เข้าไปไดอ้ ย่างไร

“กรอบ ๆ มนั ๆ บก่ ินแล้วจะเสียดาย”

“นายกินไปคนเดียวเถอะ!” เธอพูดพร้อมดันแมลงทอดกรอบทั้งตัวให้
ออกไปห่าง ๆ อยา่ งไม่นึกเสียดายท่ไี ม่ได้ลองกนิ ตามคำบ่นของกบเลยสักนิด

“งั้นกลับร้านกัน” กบเก็บไม้แหลมที่ใช้จิ้มแมลงทอดลงถุงแล้วเข็นรถ
พาบีกลับไปหายายและอาซึ่งเปดิ ซุม้ ขายหอยทอดอยูแ่ ถวทางเขา้ วดั

กว่าทั้งสองคนจะมาถึงก็ต้องเบียดเสียดกับผู้คนที่เดินเที่ยวในงานอยู่
นาน กบหอบหายใจแรงพลางปาดเหง่ือทซี่ ึมออกมาตามไรผมบริเวณหน้าผากท้ิง
เม่อื ตอ้ งแออดั อยู่ในทที่ คี่ นเยอะจนเริ่มรอ้ นอบอา้ ว ส่วนบกี ็เข็นรถเข้าไปหาแมเ่ อง

“เช็ดหน้ากันหน่อยนะลูก ดูสิเหงื่อเต็มไปหมดเลย” แม่บอกพร้อมนำ
ผ้าขนหนูเช็ดตามหน้าของกบและบีซึ่งชื้นเหงื่อไม่แพ้กัน กบจึงกล่าวขอบคุณ
เบา ๆ ในขณะที่บีฉีกยิ้มให้แม่แทนการตอบเพราะเธอรู้สึกเหนื่อยจนพูดไม่ออก

ศศพร แกว้ ผกั แว่น | ๘๙

แม้ว่าตนจะนั่งอยู่ตลอดเวลาที่กบคอยเป็นสารถีพาเข็นไปตรงโน้นตรงนั้นทีก็
ตาม

“ซอื้ อะไรกันมาเยอะแยะ หอยทอดเรากม็ นี ะ”

ยายซึ่งนั่งใช้พัดโบกลมเข้าหาตัวเองไปมาบ่นอุบเมื่อเห็นของกินที่กบ
นำมาวางอยู่เต็มโต๊ะ และยังคงทำท่าจะบ่นต่อหากไม่ใช่เพราะมีลูกค้ากลุ่มหนึ่ง
เข้ามาซื้อหอยทอดจนเบี่ยงเบนความสนใจของยายได้เสียก่อน “อ้าว! ลูกค้ามา
ขายของ ๆ”

เม่อื ลูกคา้ กลุม่ น้ีไป ลกู คา้ กลุ่มใหมก่ เ็ ขา้ มาแทน เปล่ยี นเวยี นเป็นเชน่ นี้
ไปเรื่อย ๆ จนแม่แทบไม่ได้หยุดพัก ส่วนยายที่เคยนั่งพัดเพื่อคลายร้อนก็ลุก
ขึ้นมาช่วยแม่อีกแรงอย่างคล่องแคล่วจนแทบไม่น่าเชื่อว่าจะอายุเกือบแปดสิบปี
แลว้

“คนเรมิ่ ไม่มีแลว้ เนอะ” บีเปรย ๆ ขนึ้ ขณะมองผคู้ นทเ่ี คยเดินผ่านไปมา
อยา่ งเนืองแนน่ เรม่ิ บางตาลง

“ดึกแล้วก็งี้ล่ะ งานยังจัดอีกตั้งหลายคืนค่อยมากันใหม่พรุ่งนี้ก็ยังได้”
กบพดู ไปช่วยเกบ็ ของไปเมื่อวนั นี้ขายดจี นหมดเกลี้ยง

ส่วนบีก็ไม่ได้นั่งมองเฉย ๆ เพราะเธอกำลังช่วยนับเงินซึ่งกองพูนจนล้น
ตะกร้าพลาสติกทแี่ ม่ใชส้ ำหรับเก็บเงนิ จากการขายหอยทอดในวันน้ี

เมื่อเห็นจำนวนธนบัตรมากมายหลายสีปะปนกันอยู่ เด็กหญิงก็อดดีใจ
แทนแม่ไม่ได้ที่ขายดีจนของหมดเกลี้ยงตั้งแต่งานวัดยังไม่เลิก เธอรู้ว่าวันนี้แม่

๙๐ | หลงั ฝนโปรย

เหนือ่ ยขนาดไหน เพราะต้งั แตเ่ ช้าแมก่ ็ว่ิงวุ่นเตรียมของสำหรับมาขายในงานคืนน้ี
แทบไม่ไดพ้ กั เลย

“พอแล้วล่ะจ้ะ…เดี๋ยวที่เหลือแม่จัดการเอง บีกับกบพายายกลับบ้านไป
ก่อนนะ” แม่หันมาบอกบีกับกบหลังจากที่นับเงินและเก็บใส่กระเป๋าเรียบร้อย
แล้ว

“เดยี๋ วแมก่ ลบั พรอ้ มลุงหงา รายน้ันอกี เด๋ยี วกค็ งมาแล้ว”

แม่รีบเอ่ยชื่อพีช่ ายของตัวเองขึ้นมาเพื่อใหบ้ ีที่ยืนยันจะอยู่เป็นเพื่อนหาย
หว่ งและพากันกลับบา้ นไปพกั ผ่อนได้

จากนั้นบี กบ และยายจึงช่วยทยอยเอาของที่พอถือไหวเก็บกลับไปด้วย
แม้ว่าแม่จะพยายามปฏิเสธเท่าไรก็ตาม ทั้งสามคนค่อย ๆ พากันลัดเลาะผู้คน
ออกมาถึงหน้าวัดที่มีหลอดไฟประดับตามเสาช่วยให้แสงสว่างอยู่ จึงทำให้
ทางเดินของคนื นไ้ี มม่ ืดจนเกินไป

“เดี๋ยว อย่าเพิ่งไป” ยายกวักมือเรียกกบให้หยุดเดิน ส่วนบีที่เข็นรถ
ตามมาก็หยุดอยู่ข้างยายซึ่งควานหาเหรียญในกระเป๋าเสื้อคอกระเช้าแล้วหย่อน
ลงในกระป๋องนมพรอ้ มวางกลอ่ งขา้ วทไี่ ด้มาฟรจี ากรา้ นข้าง ๆ ลงบนพ้ืน

บีมองลุงแก่ ๆ คนหนึ่งซึ่งมีขาอยู่ข้างเดียวยกมือขอบคุณยายแล้ว
ขอบคุณยายอกี อย่างน่าเวทนา เขารีบเก็บกล่องข้าวที่ยายใหใ้ ส่ไว้ในกระเป๋าย่าม
เกา่ ๆ ราวกับกลวั ว่าถา้ ไม่รีบเกบ็ ซอ่ นไวต้ อนน้ีมนั ก็อาจจะหายไปไดอ้ ย่างไรอย่าง
นั้น จนเธออดมองย้อนที่ขาทั้งสองข้างของตัวเองไม่ได้ว่ามันก็ไม่ได้ต่างจากลุง
คนนีเ้ ทา่ ไรนกั

ศศพร แก้วผกั แว่น | ๙๑

เด็กหญงิ ไมเ่ ขา้ ใจตัวเองท่จี ู่ ๆ ก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาเสยี อย่างน้ัน เมือ่
เหน็ คนทพ่ี ิการขาเหมอื นกันมานงั่ ขอทานรอผู้ท่ีมจี ิตใจดีมาเมตตา

แม้ว่าจะกลับถึงบ้านนานแล้วเธอก็ยังสลัดภาพลุงขอทานออกจากหัว
ของตวั เองไม่ไดเ้ สยี ที ทำให้คืนนี้บีหลับไม่ลงแมว้ า่ จะพยายามขม่ ตาหลบั เท่าไรก็
ตาม

เด็กหญิงลุกขึ้นนั่งมองขาของตัวเองในความมืด เธอค่อย ๆ ลูบขาที่ไร้
ความรู้สึกไปมา แต่มันกลับให้ความรู้สึกเจ็บแปลบที่ใจแทนเสียอย่างนั้น เมื่อ
ความคิดหนึ่งดังแทรกขึ้นมาในหัวว่า ‘ความพิการกับขอทานเป็นของคู่กัน’ แล้ว
เธอท่พี ิการขาเดินไมไ่ ด้เหมอื นลงุ คนนน้ั จะต้องกลายเป็นขอทานด้วยหรือไม่

“ฮอื …”
บีร้องไห้ทันทีที่นึกว่าตัวเองก็คงต้องกลายเป็นขอทาน เพราะเธอเริ่มคิด
วา่ คนพกิ ารจะทำอะไรไดน้ อกจากนัง่ ขอความชว่ ยเหลือจากคนอืน่
ยงิ่ คิดเช่นน้เี ธอกย็ ่ิงรอ้ งไหจ้ นเหน่ือยและผลอ็ ยหลับไปทง้ั นำ้ ตา
…แต่ในขณะท่ยี ังอยู่ในห้วงนิทราเด็กหญิงก็ยังคงเอาแต่เพ้อประโยคเดิม
วนไปวนมาเหมือนคนที่ย้ำคิดย้ำทำแต่เรื่องเดิม ๆ จนกระทั่งสะดุ้งตื่นขึ้นมาก็
ยังคงพูดประโยคนั้นอยู่
“เราไม่อยากเปน็ ขอทาน…”

๙๒ | หลงั ฝนโปรย

บีกอดตัวเองอย่างคนที่กำลังกลัวอะไรบางอย่างอยู่ ซึ่งอะไรบางอย่าง
ที่ว่าก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องที่ทำให้เธอเอาแต่บอกปฏิเสธกับตัวเองไปมาอย่าง
แน่นอน…

ศศพร แกว้ ผกั แวน่ | ๙๓

๑๐
ฝนโปรยอีกครัง้

ใกล้จะเที่ยงแล้ว แต่ท้องฟ้าในวันนี้กลับไม่สว่างสดใสเช่นที่ควรจะเป็นเพราะมี
เมฆหลายก้อนลอยตดิ กนั เปน็ แพคอยบดบงั พระอาทติ ยไ์ ม่ให้สาดแสงลงมา

กบและโหน่งพากันวิ่งข้ามลานวัดและลัดเลาะไปตามซอกกุฏิสงฆ์เพ่ือ
ตามจับเจ้าถ่านที่กำลังวิ่งไล่กัดไก่ชนของลุงชุ่มมัคนายกประจำวัด ปล่อยให้
เด็กผู้หญิงท้ังสามคนอย่างบี ต้นอ้อและสายขวญั นั่งคอยอยู่ใตต้ ้นหูกวางต้นใหญ่
ซึ่งเป็นท่ีประจำของเดก็ ๆ เวลามาเล่นแถวหลังวัด

๙๔ | หลังฝนโปรย

“อยากไปจับไอ้ถ่านด้วย” สายขวัญโอดครวญเมื่อถูกแฝดพี่รั้งไม่ให้
ตามกบกับโหนง่ ไป

“รออยนู่ ด่ี แี ล้ว” ตน้ ออ้ ว่า

“ก็นงั่ รอเฉย ๆ ไม่เห็นสนุกเลย”

“งั้นระหว่างรอมาหาอะไรเล่นกันมั้ย” ต้นอ้อบอกแล้วจึงหันมาถาม
“เลน่ อะไรดจี ะ๊ พ่ีบี”

บีที่นั่งเท้าคางอยู่บนรถเข็นส่ายหน้าตอบช้า ๆ เธอรู้สึกได้ว่าช่วงนี้ตน
มักจะหมดสนุกกับอะไรได้ง่ายเมื่อนึกถึงลุงพิการที่ได้เจอในคืนงานวัดเมื่อ
อาทิตย์ก่อนขึ้นมา ภาพของลุงตามรบกวนจิตใจของเธออยู่หลายครั้งจนไม่เป็น
อันทำอะไร แต่ยังดีที่มีกบคอยรับฟังและช่วยให้กำลังใจก็ทำให้เธอรู้สึกสบายใจ
ขึ้นมาได้บ้าง อย่างวันนี้เขาก็พาเธอออกมาเล่นกับทุกคนตั้งแต่เช้าจนลืมเรื่องที่
กำลงั กงั วลอยู่ เสียสนทิ

“ทำมงกุฎดอกไม้กนั ดีมัย้ ”

สายขวัญที่เงียบไปนานเงยหน้าบอกเมื่อไม่มีใครคดิ ออกว่าจะเล่นอะไร
กันดี

“ก็ดีนะ แถวนี้มีดอกไม้เยอะพอดี” ต้นอ้อลุกขึ้นยืนปัดกางเกงตัวเองจน
เศษใบไม้และก้อนกรวดเล็ก ๆ ร่วงเกลื่อนพื้นแล้วหันมาทางบี “ไปเก็บดอกไม้
กนั ”

ศศพร แกว้ ผกั แวน่ | ๙๕

“ไม่ล่ะ” บีบอก “ขอรอตรงนี้แล้วกัน ฝากเก็บดอกสวย ๆ มาเผื่อด้วย
นะ” ที่จริงเด็กหญิงก็อยากจะไปด้วย แต่พื้นที่แถวนี้มีแต่ก้อนหินและก้อนกรวด
ทำให้เข็นรถเองไม่ถนดั ซงึ่ จะใหส้ องแฝดชว่ ยเข็นก็ตัวเล็กเกนิ กว่าจะมีแรงช่วยพา
กนั ไปได้ ดงั นั้นการนงั่ รอจงึ ดจู ะเปน็ ทางเลอื กที่ดที สี่ ดุ ในตอนน้ี

ระหว่างต้นอ้อและสายขวัญเดินเก็บดอกไม้แถว ๆ นี้ บีก็มองสำรวจ
รอบ ๆ บริเวณที่เธอนั่งอยู่ซึ่งเป็นพืน้ ที่โล่ง ๆ หลังวัด แต่มีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาอยู่
หลายต้น ทำให้ที่นี่ไม่ค่อยร้อนจนเกินไปแม้ในวันที่มีแดดแรงก็ตาม เด็ก ๆ
หลายคน รวมถึงผู้ใหญ่บางกลุ่มจึงมักจะมานั่งผ่อนคลายและตกปลาในบ่อกัน
อย่เู ป็นประจำ

ครั้งก่อนกบก็เคยพาบีมาตกปลาที่นี่ แต่ทันทีที่เธอเห็นปลาซึ่งถูกตะขอ
เบ็ดเกี่ยวปากไว้ และความพยายามดน้ิ รนเพื่อเอาชีวติ รอดของมันก็ทำใหเ้ ธอรู้สึก
สงสารจับใจ ทั้งยังสั่นไปทั้งตัวเหมือนคนที่กำลังกลัวบาปเพราะเผลอกระทำใน
ส่งิ ท่ีไมด่ ลี งไป สุดทา้ ยเพอ่ื ความสบายใจในขณะนั้นเดก็ หญิงจงึ ต้องขอให้กบช่วย
ปลดเบ็ดออกจากปากปลาและปล่อยมันลงน้ำตามเดิม แต่ถึงจะทำอย่างนั้นแล้ว
บีกย็ งั รู้สึกผิดไม่หายจนไมก่ ลา้ กนิ ปลาไปหลายอาทติ ย์

สายลมพัดเอื่อยผ่านลานหลังวัดให้พอชื่นใจ ยอดไม้เอนไหวเบา ๆ แต่
ก็ทำให้ใบและดอกร่วงลงมาสู่พื้นด้านล่างได้ บีหันมองสองแฝดที่เก็บดอกไม้อยู่
คนละทาง ต้นอ้อเลือกเก็บดอกรักทีข่ ้ึนอยู่ริมกำแพง ส่วนสายขวัญนั่งยอง ๆ เก็บ
ตีนตุ๊กแกที่ทอดนอนไปตามพื้นแถวขอบบ่ออย่างไม่กลัวว่าจะเผลอตกลงไปใน
บ่อเอาเสียเลย

๙๖ | หลงั ฝนโปรย

บีส่ายหน้าอย่างระอาก่อนจะตะโกนบอกให้เด็กหญิงถอยออกมาแล้ว
เธอจึงหันกลับมาหยิบขวดน้ำที่วางอยู่ตรงซอกรถเข็นแล้วยกดื่ม ทันใดนั้นเองก็
พลนั มเี สยี ง “ตมู !” ดังขนึ้ จนเธอเผลอสำลกั น้ำทเ่ี พ่งิ ดม่ื ไป

“เสียงอะไรน่ะ” บีรีบหันขวับไปตามเสียงท่ีได้ยินซึ่งเป็นจุดที่สายขวัญ
เคยนั่งอยู่ แต่ตอนนี้กลับไม่เห็นแม้แต่เงาของเด็กหญิงจนบีคาดเดาเอาเองว่า
เสียงที่ได้ยินเมื่อครู่คงเป็นเสียงตกน้ำของสายขวัญอย่างแน่นอน เท่านั้นบีจึงรีบ
เขน็ รถไปยังตรงจดุ น้ันทนั ที

ภาพที่เห็นคือริมบ่อน้ำมีร่างเล็ก ๆ ของสายขวัญกำลังตะเกียกตะกาย
ผลบุ โผล่เหนอื น้ำด้วยความหวาดกลัว

“ช่วยดว้ ย ขวัญตกน้ำ…ช่วยดว้ ย!”

บีตะโกนร้องสุดเสียงที่มี หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวด้วยความหวาดหวั่น
เนือ้ ตวั ก็พลนั สน่ั อยา่ งควบคุมไม่อยู่ เพราะกำลงั หวาดกลัวในส่งิ ทกี่ ำลงั เกิดข้ึน

บีได้แต่ช่วยตะโกนขอความช่วยเหลือทั้งน้ำตา จนในที่สุดก็มีคน
กระโดดตูมลงบ่อเข้าไปช่วยสายขวัญได้ทัน ซึ่งคนที่ลงไปช่วยก็ไม่ใช่ใครที่ไหน
แต่เปน็ พ่ีสาวฝาแฝดของคนตกนำ้ นน่ั เอง

เด็กหญิงถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อสองแฝดขึ้นมาจากน้ำได้ เธอมอง
ต้นอ้อที่ช่วยตบหลังของสายขวัญเบา ๆ เพื่อให้สำลักน้ำออกมาจนหูตาแดงก่ำ
และหายใจหอบแฮก่ ๆ อย่างน่าสงสาร

“ปลอดภัยแล้ว ไม่เป็นไรแล้วนะ” ต้นอ้อพร่ำบอกและกอดแฝดของตน

อย่อู ยา่ งนน้ั

ศศพร แก้วผักแว่น | ๙๗

เหตุการณ์เมื่อสักครู่นี้ผ่านไปแล้ว สายขวัญก็ดูหายตกใจกลัวและ
กลับมาเป็นปกติเมื่อกลับถึงบ้าน และได้อาบน้ำเปลี่ยนชุดใหม่พร้อมกินของ
อรอ่ ยทแ่ี มข่ องเจา้ ตัวเตรียมไว้ให้ แตส่ ำหรับบแี มจ้ ะไม่ได้เป็นคนทต่ี กลงไปในบ่อ
น้ำ แต่การที่ต้องเห็นคนตกน้ำต่อหน้าต่อตากลับรู้สึกหวาดกลัวไม่แพ้กัน แม้ทกุ
อยา่ งจะผา่ นไปแลว้ แต่บไี ม่สามารถดึงตัวเองออกมาจากเหตุการณ์น้นั ไดเ้ ลย

เย็นวันนั้น ตั้งแต่กลับมาถึงบ้าน บีก็เอาแต่คิดว่าตัวเองช่างไม่มีประโยชน์เอา
เสียเลย ทั้ง ๆ ที่เธอเห็นคนร้องขอความช่วยเหลืออยู่ตรงหน้าแท้ ๆ แต่กลับทำ
อะไรไมไ่ ด้ นอกจากรอ้ งขอความช่วยเหลือจากคนอื่นเทา่ นั้น

เด็กหญิงกำมือแน่น น้ำตาคลอเบ้า นึกโกรธและเจ็บใจตัวเองท่ี
ช่วยเหลือใครไม่ได้ ยิ่งนึกถึงภาพของลุงขอทานเข้าด้วยแล้วยิ่งทำให้เสียใจหนัก
กว่าเดิม เหมอื นถกู ตอกยำ้ ว่าอนาคตขา้ งหน้าของเธอก็คงไมแ่ คล้วตอ้ งกลายเป็น
ขอทานเหมอื นกนั

แม้ว่าคนในครอบครัวจะช่วยกันปลอบเท่าไรเธอก็ไม่ได้รู้สึกดีขึ้นเลย บี
ยงั คงเอาแต่ร้องไหจ้ นน้ำตานองหน้า สุดท้ายกบจึงต้องพาออกไปสงบสติอารมณ์
และรับลมขา้ งนอกบา้ นแทนเพ่อื หวงั วา่ อาการของเธอจะดีขน้ึ

เด็กหญงิ สงั่ ให้กบไม่ตอ้ งตามเธอมาเพราะอยากอยู่คนเดียว แตม่ ีหรือที่
กบจะยอมทำตาม เขาคอยเดินตามอยู่ข้างหลังไม่ห่างจนบีรู้สึกหงุดหงิดที่ถูก
ขัดใจ

“เลิกตามสักที เราอยากอยคู่ นเดียว!”

๙๘ | หลงั ฝนโปรย

บีหันมาแหวแล้วเข็นรถต่อไปท่ามกลางความมืดที่เริ่มโรยตัวเมื่อกลุ่ม
เมฆหนารวมกนั เป็นก้อนใหญ่มหมึ าอยูเ่ หนือท้องฟ้า สายลมพัดแรงจนใบไมป้ ลิว
ว่อน เด็กหญิงหยุดรถขยี้ตาเมื่อเศษฝุ่นเล็ก ๆ ลอยเข้าตา ฉับพลันนั้นเธอก็เผลอ
สะด้งุ สุดตัวเม่ือได้ยนิ เสยี งเสยี งฟ้าคำรามดงั กอ้ งไปท่ัว

“เปน็ หยังบ่” กบรบี วิ่งเขา้ ไปหาบีทส่ี นั่ เท้มิ ดว้ ยความหวาดกลวั

เด็กหญิงลนลานรีบบอกให้เขาพากลับบ้านทันที แต่ยังไม่ทันที่ทั้งสอง
จะได้ขยับตัวไปไหน ฝนที่เพิ่งตั้งเค้าก็เทกระหน่ำลงมาราวกับฟ้ารั่วจนกบแทบจะ
ไม่ไดย้ นิ เสียงร้องโวยวายของบี

บรรยากาศรอบตัวเย็นเยียบขึ้น เสียงฝนยังคงโหมกระหน่ำอย่าง
ต่อเนื่อง บีกรีดร้องอย่างคนไร้สติเมื่อเสียงฝนตกกระทบพื้นที่ได้ยินแต่ละครั้งทำ
ให้เธอเหน็ ภาพบางอย่างแวบเขา้ มา

ท่ามกลางความมืดและเม็ดฝนที่โปรยปราย มีเพียงเสียงรถหักหลบชน
ต้นไม้ดังลั่นสนั่นไหวจนเด็กหญิงต้องรีบยกมือขึ้นปิดหู ในหัวของเธอก็เริ่ม
ปะติดปะต่อภาพเหตุการณ์ในวันนั้นจนเริ่มรู้สึกเจ็บไปตามเนื้อตามตัวเมื่อเห็น
ภาพที่ตัวเองกระเด็นตกลงมากระแทกพื้นหญ้า และเจ็บแปลบที่ใจเมื่อเห็นภาพ
ของพอ่ นอนควำ่ หนา้ อยขู่ า้ งรถมอเตอรไ์ ซค์คันโปรด

สองแขนเล็กโอบกอดตัวเองซึ่งสั่นเทิ้มจนตัวโยนด้วยความเจ็บปวดรวด
ร้าวทนั ทที ี่เหตุการณเ์ ลวร้ายไหลแลน่ หวนคืนเขา้ มาในความทรงจำ

ศศพร แกว้ ผกั แวน่ | ๙๙


Click to View FlipBook Version