การจัดค่ายนันทนาการ

การด�ำ เนนิ การขณะอยู่คา่ ยนนั ทนาการ

การดำ�เนนิ งานขณะอยคู่ ่ายนนั ทนาการ โดยทั่วไปมักเริ่มตน้ จากการเปิด
คา่ ยนนั ทนาการ การด�ำ เนนิ กจิ กรรมในคา่ ยนนั ทนาการ และการปดิ คา่ ยนนั ทนาการ
โดยในแตล่ ะชว่ งควรมรี ูปแบบ และวิธกี ารในการดำ�เนนิ การ ดังนี้
๑. การเปิดคา่ ยนันทนาการ
ช่วงแรกของค่ายนันทนาการ โดยปกติจะเริ่มต้นด้วยพิธีเปิด
คา่ ยนนั ทนาการ หรอื ในบางโอกาสอาจเรมิ่ ตน้ ดว้ ยกจิ กรรมตอ้ นรบั สมาชกิ ชาวคา่ ย
โดยในพธิ เี ปิดคา่ ยนันทนาการ พึงประกอบดว้ ย
๑.๑ พิธีการทางศาสนา เช่น การบชู าพระรตั นตรัย การนมสั การพระเจ้า
ของครสิ เตยี น เปน็ ต้น
๑.๒ การกล่าวรายงานวตั ถุประสงคก์ ารจดั คา่ ย
๑.๓ การกล่าวเปิดค่าย กล่าวต้อนรับ และให้โอวาทของประธาน
ในพธิ ีเปิด



บทที่ ๓ การจดั ค่ายนนั ทนาการ 96

ก า ร กำ � ห น ด รู ป แ บ บ พิ ธี เ ปิ ด ค่ า ย นั น ท น า ก า ร ท่ี มี ค ว า ม เ ห ม า ะ ส ม
กบั สมาชกิ ชาวคา่ ย จะชว่ ยใหก้ ารเรม่ิ ตน้ คา่ ยนนั ทนาการดดู ี และหากมกี ารเสรมิ ดว้ ย
การจัดรายการที่แปลกใหม่ และน่าสนใจ ก็จะช่วยสร้างความประทับใจ
ใหส้ มาชิกชาวค่ายไดเ้ ปน็ อย่างดี นอกจากน้ีพิธเี ปิดคา่ ยนันทนาการที่สมบรู ณ์แบบ
ยังเป็นการกระตุ้นให้สมาชิกชาวค่ายเกิดความสนใจ และอยากทำ�กิจกรรม
ตลอดการอยู่ค่ายนันทนาการ โดยปกติหลังจากพิธีเปิดค่ายนันทนาการเสร็จสิ้น
จะมี “การปฐมนิเทศชาวค่าย” ซ่ึงเป็นการชี้แจงรายละเอียดในการอยู่ค่าย
นันทนาการ โดยหวั ขอ้ ในการปฐมนเิ ทศชาวคา่ ย มีดงั น้ี
(๑) กำ�หนดการ หรอื ตารางเวลาในการอยู่คา่ ยนันทนาการ
(๒) กฎ ระเบียบในการอยูค่ า่ ยนันทนาการ โดยควรให้สมาชิกชาวคา่ ย
ได้รว่ มกันกำ�หนดขึ้น
(๓) แนะนำ�คณะบุคลากรในค่ายนันทนาการ
(๔) แนะนำ� สถานทต่ี ่างๆ ภายในคา่ ย
(๕) การติดต่อ ประสานงาน เม่อื ต้องการความชว่ ยเหลือ
ทั้งน้ี สามารถเพิ่มเติม ปรับเปล่ียน หัวข้อการปฐมนิเทศชาวค่าย
ได้ตามความเหมาะสม เพ่ือให้สมาชิกชาวค่ายได้รับทราบข้อมูลท่ีจำ�เป็น
ในการอยคู่ า่ ยนันทนาการมากท่สี ุด
๒. การด�ำ เนินกิจกรรมในคา่ ยนนั ทนาการ
การดำ�เนินกิจกรรมในค่ายนันทนาการ จัดเป็นส่วนประกอบที่สำ�คัญ
ของค่ายนันทนาการ ถือได้ว่าเป็นหัวใจสำ�คัญที่สุดของค่ายนันทนาการ
ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อท่ีจะให้สมาชิกชาวค่ายเกิดการเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ
และเกิดความสนุกสนาน เพลิดเพลินตามความมุ่งหมายของค่ายนันทนาการ
โดยกจิ กรรมพนื้ ฐานของค่ายนันทนาการ ประกอบดว้ ย
๒.๑ กิจกรรมกลุ่มสัมพนั ธ์
เป็นกิจกรรมท่ีสร้างความสัมพันธ์ของกลุ่ม เนื่องจากสมาชิกชาวค่าย
แต่ละคน มีพ้ืนฐานความรู้ สังคม วัฒนธรรม ที่แตกต่างกันในเร่ืองใดเรื่องหน่ึง

97 บทที่ ๓ การจดั คา่ ยนันทนาการ

ดงั น้ัน ในช่วงแรกของการจัดคา่ ยนันทนาการ ผู้น�ำ ค่ายจะใชก้ ิจกรรมกลมุ่ สมั พนั ธ ์
เพอ่ื ทลายก�ำ แพงแหง่ ตวั ตนของสมาชกิ ชาวคา่ ยแตล่ ะคน ลดความเครยี ดของสมาชกิ
ชาวค่าย เปน็ กจิ กรรมทกี่ อ่ ใหเ้ กดิ ความสนุกสนาน สรา้ งความสนทิ สนมกนั ระหวา่ ง
สมาชิกชาวค่าย ได้แก่ กิจกรรมประเภทเพลง หรือเกม หรือเป็นกิจกรรม
ท่ีต้องลงมือทำ�ร่วมกัน ในขณะเดียวกันผู้นำ�ค่ายก็จะได้มีโอกาสสังเกตพฤติกรรม
การแสดงออกของสมาชิกชาวคา่ ยแต่ละคนอกี ด้วย



๒.๒ กิจกรรมนันทนาการ
ในคา่ ยน้นั มีกิจกรรมนนั ทนาการต่างๆ มากมาย เชน่ กิจกรรมเกม กีฬา
ดนตรี ศิลปหัตถกรรม วรรณกรรมกิจกรรมทางสังคม กิจกรรมพิเศษ กิจกรรม
บริการอาสาสมัคร โดยกิจกรรมนันทนาการต่างๆ ที่จัดขึ้นนั้น จะมีวัตถุประสงค์
ทีแ่ ตกต่างกันออกไป
๒.๓ กจิ กรรมธรรมชาติศกึ ษา
เป็นกิจกรรมที่สร้างความเข้าใจถึงความสัมพันธ์ของมนุษย์
และสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ รวมท้ังการสร้างความตระหนักในความสำ�คัญ
ของธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม การเรียนรู้จะเกิดข้ึนจากประสบการณ์ตรง
ท่ีสมาชกิ ชาวค่ายไดเ้ ล่นเกม ทดลอง และการปฏบิ ตั จิ ริง

บทท่ี ๓ การจดั คา่ ยนนั ทนาการ 98

๒.๔ กจิ กรรมการแสดง
ในช่วงเวลาของการอยู่ค่ายนันทนาการน้ัน จะมีการแสดง
ของสมาชิกชาวค่ายแต่ละกลุ่ม เป็นการแสดงโดยไม่เน้นอุปกรณ์
หรือเครื่องแต่งกายมากนัก แต่จะเน้นที่การได้มีส่วนร่วมในการแสดงออก
ข อ ง ส ม า ชิ ก ช า ว ค่ า ย แ ต่ ล ะ ค น ม า ก ก ว่ า ก า ร แ ส ด ง เ ป็ น ก า ร เ ปิ ด โ อ ก า ส
ใหส้ มาชกิ ชาวคา่ ย ไดแ้ สดงความคดิ ความเหน็ และไดแ้ สดงความสามารถของตนเอง
อยา่ งเตม็ ที่ มกี ารปรกึ ษาหารอื มกี ารแบง่ งานกนั ท�ำ สงิ่ ทส่ี �ำ คญั คอื สมาชกิ ชาวคา่ ย
ทุกคนได้มีโอกาส ได้มีส่วนร่วมในการแสดงออกภายใต้แรงกระตุ้น และผลักดัน
ของเพ่ือนๆ ในกลมุ่

๒.๕ กจิ กรรมการศกึ ษา
เป็นการจัดการเรียนรู้โดยตรงผ่านการสอน การอบรม การบรรยาย
การสัมมนาเชิงปฏิบัติการ (Workshop) จากวิทยากรผู้มีความรู้ และเชี่ยวชาญ
โดยมีการสอดแทรกกิจกรรมต่างๆ เพื่อส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้
เช่น ทักษะการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ การปฏิบัติตนให้ห่างไกลยาเสพติด
เป็นต้น

99 บทที่ ๓ การจดั คา่ ยนนั ทนาการ

๒.๖ กจิ กรรมสถานการณจ์ ำ�ลอง
เป็นการจำ�ลองสถานการณ์ต่างๆ ให้มีความใกล้เคียงกับความเป็นจริง
มากที่สุด เพื่อให้สมาชิกชาวค่ายดำ�เนินชีวิต และทำ�กิจกรรม ภายในสถานการณ์
ที่ได้สร้างข้ึนมา โดยระหว่างดำ�เนินกิจกรรมอาจมีการเพิ่มเติมสถานการณ์ข้ึนได้
เพอ่ื สงั เกตพฤตกิ รรม และปฏกิ ริ ยิ าตอบสนองของสมาชกิ ชาวคา่ ยทมี่ ตี อ่ สถานการณ ์
เมื่อจบกิจกรรมจะมีการสรุปสถานการณ์ท่ีเกิดข้ึน พร้อมให้แง่คิด
และการนำ�ไปประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ติ ประจ�ำ วนั
๒.๗ กิจกรรมประจำ�วนั ต่างๆ
เน่ืองจากการจัดค่ายนันทนาการนั้น สมาชิกชาวค่ายต้องใช้ชีวิต
อยู่รว่ มกันเป็นเวลาหลายวัน จึงมีกจิ กรรมทเ่ี ป็นกจิ วตั รอยมู่ าก ซ่ึงสมาชกิ ชาวค่าย
ต้องมีส่วนร่วม และมีหน้าที่รับผิดชอบ เพื่อให้เกิดการปรึกษาหารือ
การแบ่งงานกนั ทำ� รบั ผดิ ชอบรว่ มกนั เช่น
(๑) เวรออกกำ�ลังกาย สมาชิกชาวค่ายแต่ละกลุ่มต้องเป็นผู้นำ�
การออกกำ�ลังกาย ในแต่ละเช้าของทุกวัน โดยท่ีสมาชิกชาวค่ายภายในกลุ่ม
ตอ้ งมสี ว่ นรว่ มทกุ คน

บทที่ ๓ การจดั ค่ายนนั ทนาการ 100

(๒) เวรกลอนกอ่ นรบั ประทานอาหาร จดุ มงุ่ หมายกเ็ พอ่ื ใหส้ มาชกิ ชาวคา่ ย
ไดต้ ระหนกั ถึงคณุ คา่ ของอาหารทีเ่ รารบั ประทาน และให้ทานให้หมด

101 บทที่ ๓ การจดั คา่ ยนนั ทนาการ

(๓) เวรพิธีการเคารพธงชาติ ให้ข้อคิดประจำ�วัน ซ่ึงสมาชิกชาวค่าย
จะตอ้ งมอบข้อคดิ ดๆี ใหก้ บั เพ่อื นๆ ในตอนเชา้ โดยสมาชกิ ชาวคา่ ยในกลุม่ บางคน
หรือหลายๆ คนกไ็ ด้
๓. กจิ กรรมปิดค่ายนันทนาการ
เป็นช่วงสุดท้ายของการจัดค่ายนันทนาการ โดยทั่วไปจะเป็นกิจกรรม
การร้องเพลงอำ�ลา การแลกของท่ีระลึก การบอกลากันเป็นคร้ังสุดท้าย
หรอื อาจเปน็ กจิ กรรมพเิ ศษสง่ ทา้ ยรว่ มกนั เชน่ กจิ กรรมปลกู ตน้ ไมแ้ หง่ ความทรงจ�ำ
กจิ กรรมสายใยพันผูก เปน็ ตน้ ซงึ่ รูปแบบของกจิ กรรมปิดค่ายนันทนาการ

บทท่ี ๓ การจดั คา่ ยนันทนาการ 102

ควรเน้นการสร้างความประทับใจให้แก่สมาชิกชาวค่าย ให้ได้รับความรัก
ความอบอุ่น และสัมผัสบรรยากาศแห่งมิตรภาพกิจกรรมปิดค่ายนันทนาการ
ที่สมบูรณ์แบบจะเป็นภาพแห่งความประทับใจ และตราตรึงอยู่ในความทรงจำ�
ของสมาชิกชาวคา่ ยตราบนานเท่านาน

การดำ�เนนิ การหลงั ปิดค่ายนันทนาการ

การดำ�เนนิ การหลังปดิ คา่ ยนันทนาการ โดยทวั่ ไปมดี งั นี้
๑. ประเมนิ ผลการจัดคา่ ยนันทนาการ
หลังจากปิดค่ายนันทนาการแล้ว สิ่งที่ต้องรีบดำ�เนินการประเมินผล
การด�ำ เนินงานคา่ ยนนั ทนาการ ซง่ึ แบ่งเป็น
๑.๑ ประเมินผลการดำ�เนินงานของทีมงาน เป็นการประเมินผล
ท้ังข้อดี ข้อเสีย และสิ่งท่ีทีมงานต้องปรับปรุงในการดำ�เนินงาน โดยเก็บข้อมูล
เพอ่ื การประเมินผลไดจ้ ากการสังเกต และจดบันทึก แบบสอบถามสมาชิกชาวคา่ ย
และนำ�ข้อมูลที่ได้มาสรุปผล และนำ�เสนอในการประชุมสรุปผลการดำ�เนินงาน
ของคณะกรรมการค่ายนนั ทนาการ
๑.๒ ประเมินผลสัมฤทธิ์ของสมาชิกชาวค่าย เป็นการประเมินผลว่า
สมาชกิ ชาวคา่ ยไดร้ บั ความรู้ ความเขา้ ใจ และการพฒั นาจากการอยคู่ า่ ยนนั ทนาการ
มากน้อยเพียงใด โดยเก็บข้อมูลได้จากแบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ แบบสังเกต
หรือแบบทดสอบ และนำ�ข้อมูลที่ได้มาสรุปผล และนำ�เสนอในการประชุม
สรปุ ผลการดำ�เนนิ งานของคณะกรรมการค่ายนนั ทนาการ

ประเดน็ ในการประเมนิ ผลการจัดค่ายนนั ทนาการ
การประเมนิ ผลทคี่ รอบคลมุ กระบวนการจดั คา่ ยนนั ทนาการ และสามารถ
นำ�ข้อมูล ท่ีได้มาตัดสินความสำ�เร็จในการจัดค่ายนันทนาการได้นั้น ควรมี
องค์ประกอบในการประเมินผล ๕ ดา้ น ดงั นี้

103 บทที่ ๓ การจดั คา่ ยนนั ทนาการ

๑. ดา้ นกระบวนการจัดคา่ ยนนั ทนาการ
การประเมินผลด้านกระบวนการจัดค่ายนันทนาการ เป็นการรวบรวม
ความคิดเห็นเกี่ยวกับการดำ�เนินงานของคณะกรรมการค่ายนันทนาการว่ามีข้อดี
ข้อควรปรับปรุงอะไรบ้าง ซึ่งหัวข้อในการประเมินผลด้านกระบวนการ
จดั คา่ ยนันทนาการ โดยทวั่ ไปมีดังนี้
๑.๑ ความเหมาะสมของเน้อื หา
๑.๒ ความเหมาะสมของวิทยากร การนำ�เสนอ เอกสารประกอบ
และสือ่ วสั ดุ อุปกรณท์ ใ่ี ช้
๑.๓ ระยะเวลาในการจดั คา่ ยนันทนาการ และระยะเวลาที่ใช้ในแตล่ ะ
กจิ กรรม
๑.๔ การประชาสมั พันธ์
๑.๕ ระบบการจดั การควบคุมคา่ ยนันทนาการ
๑.๖ ระบบการจัดท่ีพัก และบริเวณโดยรอบ
๑.๗ ระบบการรบั สมคั รเข้ารว่ มค่ายนันทนาการ
๑.๘ ความเหมาะสมของอาหาร นำ้� ด่มื และอาหารว่าง
๑.๙ การรักษาความปลอดภัยภายในค่ายนันทนาการ
๑.๑๐ การบรกิ ารด้านการปฐมพยาบาล
๑.๑๑ การอ�ำ นวยความสะดวก และการใหค้ วามช่วยเหลอื
สมาชกิ ชาวคา่ ย
๑.๑๒ เรื่องอ่ืนทีเ่ ก่ียวข้องกบั กระบวนการจดั ค่ายนนั ทนาการ

๒. ด้านบุคลากรในการจดั คา่ ยนันทนาการ
การประเมนิ ผลดา้ นบุคลากรในการจดั คา่ ยนนั ทนาการ เปน็ การประเมิน
ผลการปฏบิ ตั หิ นา้ ทข่ี องทมี งานคา่ ยนนั ทนาการวา่ มขี อ้ ดี ขอ้ ควรปรบั ปรงุ อะไรบา้ ง
ซง่ึ หวั ขอ้ ในการประเมนิ ผลดา้ นบคุ ลากรในการจดั คา่ ยนนั ทนาการ โดยทวั่ ไปมดี งั น ี้
๒.๑ ความสามารถ ความเหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากร

บทท่ี ๓ การจดั คา่ ยนันทนาการ 104

ในการจดั คา่ ยนันทนาการ
๒.๒ อัธยาศัยไมตรี การต้อนรับ และความเป็นกันเองของบุคลากร
ในการจดั คา่ ยนันทนาการ
๒.๓ จำ�นวนบุคลากรในการจัดค่ายนันทนาการ เมื่อเปรียบเทียบ
กบั จำ�นวนของสมาชกิ ชาวคา่ ย
๒.๔ เรื่องอน่ื ๆ ที่เก่ียวข้องกบั บุคลากรในการจัดคา่ ยนันทนาการ

๓. ดา้ นกจิ กรรมที่จดั ในคา่ ยนนั ทนาการ
เป็นการประเมินผลคุณภาพของกิจกรรมที่จัดในค่ายนันทนาการ
รวมท้ังบรรลุวัตถุประสงค์ของการจัดค่ายนันทนาการมากน้อยเพียงใด
ซ่งึ หัวข้อในการประเมินผลดา้ นกิจกรรมทจี่ ัดในค่ายนนั ทนาการ โดยทั่วไปมดี งั น้ี
๓.๑ คุณภาพ และความเหมาะสมของแต่ละกิจกรรมท่ีจัด
ในคา่ ยนันทนาการ
๓.๒ ความรู้ และประโยชน์ที่ไดร้ ับจากกิจกรรมที่จดั ในคา่ ยนนั ทนาการ
๓.๓ ความประทับใจจากกิจกรรมที่จัดในค่ายนันทนาการ
๓.๔ เรอื่ งอื่นๆ ทีเ่ กีย่ วข้องกบั กิจกรรมท่ีจัดในคา่ ยนันทนาการ

๔. ด้านสถานที่ และส่ิงอ�ำ นวยความสะดวกในค่ายนันทนาการ
การประเมนิ ผลดา้ นสถานที่ และสง่ิ อ�ำ นวยความสะดวกในคา่ ยนนั ทนาการ
เป็นการรวบรวมความคิดเหน็ ในเร่ืองของคุณภาพ และความเหมาะสมของสถานที ่
และส่ิงอำ�นวยความสะดวกในค่ายนันทนาการ ซ่ึงหัวข้อในการประเมินผล
ด้านสถานท่ี และสิ่งอำ�นวยความสะดวก ในคา่ ยนนั ทนาการ โดยทั่วไปมดี ังนี้
๔.๑ คุณภาพ และความเหมาะสมของสถานที่ที่ใช้ประกอบกิจกรรม
ห้องพกั หอ้ งน�ำ้
๔.๒ คณุ ภาพของสถานท่โี ดยรอบ สิง่ แวดลอ้ ม และบรรยากาศ
๔.๓ คุณภาพ และความเหมาะสมของสิ่งอำ�นวยความสะดวก

105 บทที่ ๓ การจัดค่ายนันทนาการ

ในการจัดคา่ ยนนั ทนาการ
๔.๔ คณุ ภาพ และความเหมาะสมของอุปกรณ์ เทคโนโลยี ส่ือโสตทศั น์
ระบบแสง และเสียงในค่ายนนั ทนาการ
๔.๕ ความพร้อมของยา และเวชภัณฑ์ในการปฐมพยาบาล
๔.๖ เร่ืองอ่ืนๆ ที่เก่ียวข้องกับสถานที่ และสิ่งอำ�นวยความสะดวก
ในค่ายนนั ทนาการ
๕. ดา้ นผลของการจดั คา่ ยนนั ทนาการท่มี ผี ลต่อสมาชิกชาวค่าย
เป็นการประเมินผลว่า สมาชิกชาวค่ายได้รับการพัฒนาจากการอยู่ค่าย
นันทนาการมากน้อยเพียงใด รวมท้ังบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำ�หนดไว้หรือไม่
ซึ่งหัวข้อในการประเมินผลด้านผลของการจัดค่ายนันทนาการที่มีผลต่อสมาชิก
ชาวค่ายขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการจัดค่ายนันทนาการ ทั้งนี้ การประเมินผล
ดา้ นผลของการจดั คา่ ยนนั ทนาการทม่ี ผี ลตอ่ สมาชกิ ชาวคา่ ย สามารถด�ำ เนนิ การได ้
๒ ลักษณะ ดงั นี้
๕.๑ ประเมินผลหลังจบกิจกรรม เป็นการประเมินผลทันทีหลังเสร็จสิ้น
ในแตล่ ะกิจกรรม
๕.๒ ป ร ะ เ มิ น ผ ล ใ น วั น สุ ด ท้ า ย ข อ ง ก า ร จั ด ค่ า ย นั น ท น า ก า ร
การประเมินผลด้านผลของการจัดค่ายนันทนาการที่มีผลต่อ
สมาชิกชาวค่ายมีความสำ�คัญอย่างย่ิง เพราะเป็นตัวชี้วัดสำ�คัญ ในการ
สรุปประโยชน์จากการดำ�เนินงาน และเป็นข้อมูลเสริมในการพิจารณาดำ�เนินการ
คา่ ยนันทนาการในคร้ังต่อไป

บทท่ี ๓ การจดั คา่ ยนนั ทนาการ 106

๒. ประชมุ ประเมินผลการจดั ค่ายนนั ทนาการ
การประชุมประเมินผลการจัดค่ายนันทนาการ ควรดำ�เนินการหลังจาก
จัดค่ายนันทนาการเสร็จส้ิน ไม่เกิน ๑ สัปดาห์ เพื่อที่คณะกรรมค่ายนันทนาการ
และทีมงาน จะได้ไม่ลืมรายละเอียดในการจัดค่ายนันทนาการ และนำ�ผลท่ีได้
เป็นข้อมูลในการพิจารณาจัดค่ายนันทนาการครั้งตอ่ ไป ซ่ึงการประชมุ ประเมนิ ผล
การจดั คา่ ยนนั ทนาการ ควรว่าด้วยเรื่องตา่ งๆ ดงั ต่อไปน้ี
๒.๑ สรปุ ผลการจดั ค่ายนันทนาการ
๒.๒ ประเมินผลการด�ำ เนินงานของคณะกรรมการค่ายนันทนาการ
และทีมงาน
๒.๓ สรปุ งบประมาณที่ใช้ดำ�เนินการ
๒.๔ เรือ่ งอ่ืนๆ ทีเ่ กย่ี วขอ้ ง

๓. รายงานสรุปผลการจัดคา่ ยนนั ทนาการ
การจัดค่ายนันทนาการ จะเสร็จสมบูรณ์ก็ต่อเม่ือได้ทำ�รายงานสรุปผล
การจัดค่ายนันทนาการส่งไปยังผู้บังคับบัญชา และผู้ท่ีเกี่ยวข้องกับ
การจัดค่ายนันทนาการทุกฝ่ายเพ่ือท่ีจะได้ทราบว่าการจัดค่ายนันทนาการ
ประสบความสำ�เร็จมากน้อยเพียงใด มีข้อดี ข้อควรปรับปรุงอะไรบ้าง
ซึ่งในรายงานสรุปผลการจัดคา่ ยนันทนาการควรประกอบไปดว้ ยหวั ขอ้ ต่างๆ ดงั นี้
๓.๑ ข้อมูลในการจัดค่ายนันทนาการ วัน เวลา สถานท่ี วัตถุประสงค์
ในการจดั
๓.๒ ข้อมูลเก่ียวกับสมาชิกชาวค่าย เช่น จำ�นวน อายุ เพศ การศึกษา
สถานภาพ เปน็ ตน้
๓.๓ งบประมาณทใี่ ช้ในการด�ำ เนนิ การ
๓.๔ สรปุ ผลจากการประเมนิ ผล
๓.๕ อุปสรรค และข้อเสนอแนะในการดำ�เนินงานคร้ังต่อไป
(เป็นส่วนท่ีมีความสำ�คัญมาก เพราะใช้เป็นข้อมูลในการพัฒนาปรับปรุง

107 บทที่ ๓ การจดั คา่ ยนันทนาการ

การจดั คา่ ยนนั ทนาการ ในโอกาสตอ่ ไป)
๓.๖ ขอ้ มลู สว่ นอ่ืนๆ ท่เี กยี่ วขอ้ ง

ข้อพงึ ระวงั ในการจดั คา่ ยนนั ทนาการ

ปญั หาและอุปสรรคท่พี บบอ่ ยคร้ัง และเปน็ สาเหตสุ ำ�คัญที่ไมอ่ าจท�ำ ให้
การจดั ค่ายนันทนาการประสบความส�ำ เรจ็ สงู สดุ ได้แก่
๑. ขาดผู้นำ�ค่ายนันทนาการ และทีมงานที่มีความรู้ ความสามารถ
และมที ักษะเฉพาะทาง เช่น พเ่ี ลีย้ ง ผ้นู ำ�นันทนาการ
๒. จำ�นวนคณะกรรมการค่ายนันทนาการไมเ่ พียงพอ
๓. ปัญหาความสัมพันธ์ของคณะกรรมการค่ายนันทนาการ
อันอาจเน่ืองมาจากการบริหารจัดการท่ีไม่มีความยุติธรรม หรือมีความบกพร่อง
ในการท�ำ งาน หรอื ปญั หาอนั เกดิ จากผรู้ ว่ มงานมคี วามกระดา้ งกระเดอื่ ง ไมเ่ หน็ ดว้ ย
กบั วธิ คี ิด และวิธีดำ�เนนิ การ ไม่ยอมรับกฎเกณฑ์ ข้อบงั คบั ไมพ่ อใจผูน้ �ำ
๔. ปญั หาพฤตกิ รรมของคณะกรรมการคา่ ยนันทนาการทไ่ี มเ่ หมาะสม
เช่น ชูส้ าว เกียจคร้าน ดื่มสุรา เปน็ ตน้
๕. ขาดการประสานงาน และการตดิ ตอ่ สอ่ื สารทด่ี ี ทง้ั ภายใน และภายนอก
๖. การดำ�เนินงานท่ีไม่สอดคล้องกับความต้องการ และความสนใจ
ของสมาชิกชาวค่าย และไม่เป็นไปตามวตั ถปุ ระสงค์
๗. การขาดแคลนงบประมาณ และวสั ดุ อปุ กรณท์ ีเ่ หมาะสม
๘. ปัญหาที่เกิดจากสมาชิกชาวค่ายเอง เช่น ไม่ชอบใช้ชีวิตชาวค่าย
เปน็ โรคคิดถึงบา้ น ไมม่ ีความต้งั ใจ เหน็ แกต่ วั ชอบโอ้อวด เปน็ ตน้
๙. ปั ญ ห า อุ บั ติ เ ห ตุ แ ล ะ ส่ิ ง ต่ า ง ๆ ที่ เ กิ ด ขึ้ น อ ย่ า ง ไ ม่ ค า ด คิ ด
เชน่ ภยั ทเ่ี กดิ จากธรรมชาติ ภยั จากสตั วร์ า้ ย อบุ ตั เิ หตทุ เ่ี กดิ จากการประกอบกจิ กรรม
การเจบ็ ปว่ ยอย่างกะทนั หันของสมาชิกชาวคา่ ย เป็นต้น

บทท่ี ๓ การจดั คา่ ยนันทนาการ 108

บทสรุป

การจัดค่ายนันทนาการ เป็นการจัดกระบวนการเรียนรู้
ให้แก่สมาชิกชาวค่าย หากการจัดค่ายนันทนาการเป็นไป
ด้วยระบบและหลักการจัดค่ายนันทนาการดังกล่าวข้างต้น
ค่ายนันทนาการจะเป็นกิจกรรมที่เพียบพร้อมไปด้วยคุณประโยชน์
อันอเนกอนันต์สำ�หรับสมาชิกชาวค่าย และเป็นการพัฒนา
ทุนมนุษย์ ซึ่งเป็นทรัพยากรที่สำ�คัญท่ีสุดของประเทศชาติ
ได้อย่างแท้จริง ผู้จัดค่ายนันทนาการจึงจะต้องพยายามทุกวิถีทาง
ใหเ้ ปา้ หมายของคา่ ยนนั ทนาการสมั ฤทธผ์ิ ลดว้ ยการใหก้ ลมุ่ และสมาชกิ
ชาวค่ายได้มีการพัฒนาข้ึน ผู้จัดค่ายนันทนาการจะต้องเป็นผู้ที่มี
บทบาทในการเสริมสร้างความสามารถของสมาชิกชาวค่ายทุกคน
ให้มีบทบาท และหน้าที่รับผิดชอบอย่างเต็มทีในงานของตนเอง
เจ้าหน้าท่ีค่ายนันทนาการจะต้องเตรียมอุปกรณ์ทุกอย่างให้พร้อม
รวมท้ังจัดเตรียมสถานท่ี และส่ิงอำ�นวยความสะดวก
พร้อมรับผิดชอบ แก้ไขปัญหา ขจัดข้อจำ�กัดต่างๆ ท่ีอาจเกิดขึ้น
ในการบริหารงานค่ายนันทนาการต้องใช้เทคนิคการบริหารจัดการ
ที่ทันสมัย และเหมาะสมได้มาตรฐาน และผู้จัดค่ายนันทนาการ
จะต้องพยายามพัฒนาวิถีชีวิตตามระบอบประชาธิปไตยให้เกิดข้ึน
ในค่ายนันทนาการด้วย นอกจากนี้การจัดการค่ายนันทนาการ
จะสมบรู ณแ์ บบไปมไิ ด้ หากผจู้ ดั คา่ ยนนั ทนาการละเลยหรอื มองขา้ ม
สิ่งท่ีสำ�คัญที่สุดเหนือส่ิงอื่นใดในการจัดค่ายนันทนาการ น่ันคือ
ความปลอดภัยในการจัดคา่ ยนนั ทนาการ

109 บทท่ี ๓ การจดั ค่ายนันทนาการ

บทที่ ๔
ความปลอดภยั ในการจัดคา่ ยนันทนาการ

ความปลอดภัยเป็นส่ิงที่สำ�คัญที่สุดที่จะต้องคำ�นึงถึงอยู่เสมอ
ในการจัดค่ายนันทนาการ ผู้จัดค่ายนันทนาการจะต้องให้ความสำ�คัญ
และหาวิธีป้องกัน และหนทางที่ปลอดภัยที่สุดที่จะทำ�ให้สมาชิกชาวค่ายได้ใช้ชีวิต
อยู่ในค่ายนันทนาการอย่างมีความสุข โดยปราศจากอันตราย ภัยพิบัติ
และอุบัติภัย เพื่อให้การจัดค่ายนันทนาการได้บรรลุความสำ�เร็จอย่างสูงสุด
และหลงั จากการอยคู่ า่ ยนนั ทนาการแลว้ สมาชกิ ชาวคา่ ยยงั สามารถน�ำ ความรเู้ กย่ี วกบั
ความปลอดภัยไปใช้ประโยชน์ได้ ผู้จัดค่ายนันทนาการจะต้องไม่มองว่าอุบัติภัย
เป็นเรื่องของชะตากรรม โดยไม่พยายามคิดหาสาเหตุ และวิธีป้องกัน
อบุ ัติภยั นน้ั ๆ เพราะอุบตั ิภยั ไม่ใช่ส่ิงท่ีสดุ วสิ ัยจนป้องกันไม่ไดเ้ สยี เลย

สาเหตุของอบุ ัตภิ ัยในค่ายนนั ทนาการ

อบุ ตั ภิ ยั ในคา่ ยนันทนาการ เป็นเหตกุ ารณท์ ีเ่ กิดข้ึนในค่ายนนั ทนาการ
โดยมไิ ด้ตงั้ ใจ ไม่คาดคิดมากอ่ น เปน็ ส่งิ ทม่ี องไม่เหน็ ไม่ไดย้ นิ และหลีกเล่ียงไมท่ นั
อุบัติภัยที่เกิดขึ้นอาจส่งผลทำ�ให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สิน เป็นอันตราย
แกร่ ่างกายและจิตใจ และอาจรนุ แรงถึงขัน้ สูญเสียชีวติ ได้ โดยอุบตั ิภัยอาจเกดิ ขนึ้
ไดก้ บั สมาชกิ ชาวคา่ ยทกุ เพศ ทกุ วยั ทกุ เวลา และทกุ สถานท่ี หากไมม่ กี ารปอ้ งกนั ทด่ี ี
ซึ่งส่วนใหญ่อุบัติภัยที่อาจเกิดขึ้นในค่ายนันทนาการแบ่งเป็น ๒ ประเภท
และมีสาเหตมุ าจากปัจจัยดงั ตอ่ ไปนี้

๑. อุบัติภัยท่ีเกดิ ข้นึ จากการประกอบกจิ กรรม
กิจกรรมในคา่ ยนนั ทนาการ สร้างความสุข สนกุ สนาน เพลดิ เพลนิ ใหแ้ ก่
สมาชิกชาวค่าย แต่ในบางโอกาสหากประมาท ก็อาจก่อให้เกิดอุบัติภัยข้ึนได้

บทท่ี ๔ ความปลอดภัยในการจดั คา่ ยนันทนาการ 110

ตลอดเวลา และส่งผลกระทบต่อร่างกาย และจิตใจ ซึ่งอุบัติภัยท่ีเกิดข้ึน
จากการประกอบกิจกรรมนันทนาการ โดยส่วนใหญม่ สี าเหตปุ ัจจยั มาจาก
๑.๑ สถานท่ี วัสดุ อุปกรณ์ และสภาพแวดล้อม อุบัติภัยที่เกิดจาก
การประกอบกิจกรรมอันเนื่องมาจากสถานที่ วัสดุ อุปกรณ์ และสภาพแวดล้อม
เช่น สถานท่ีประกอบกิจกรรมมีพ้ืนผิวท่ีลื่น หรือขรุขระ ขนาดของพ้ืนท่ี
แคบเกินไป มีส่ิงกีดขวาง แสงสว่างไม่เพียงพอ การระบายอากาศไม่ดี
วสั ดอุ ปุ กรณ์เกา่ ชำ�รดุ ไมม่ ีเคร่อื งป้องกนั เป็นต้น
๑.๒ กิจกรรม เช่น ความไม่เหมาะสมของกิจกรรมกับสมาชิกชาวค่าย
ความยากของกจิ กรรม ความท้าทายท่ีมคี วามเส่ยี งสงู เป็นตน้
๑.๓. ผู้นำ�กิจกรรม ได้แก่ การขาดประสบการณ์ และความชำ�นาญ
ในการน�ำ กจิ กรรม ซง่ึ จะสง่ ผลตอ่ การแกไ้ ขปญั หาเฉพาะหนา้ ระหวา่ งน�ำ กจิ กรรมได ้
๑.๔ สมาชิกชาวค่าย ได้แก่ อายุ และสภาพการเคลื่อนไหว
และพฤติกรรมเสี่ยง ของสมาชิกชาวค่าย เช่น การล่ืน พลัดตกหกล้ม วิ่งชนกัน
การอดุ ตนั ของทางเดนิ หายใจ ไม่เช่ือฟงั กฎขอ้ บงั คับเพอื่ ความปลอดภยั คึกคะนอง
ประมาท ขาดทกั ษะท่ดี ี

๒. อบุ ตั ิภยั ท่ัวไป
อุบัติภัยท่ัวไป คือ อุบัติเหตุท่ีอาจเกิดขึ้นนอกเหนือจากการจัดกิจกรรม
เช่น อุบัติภัยท่ีเกิดขณะเดินทาง การลื่นล้มในห้องน้�ำ น�้ำร้อนลวกขณะตักอาหาร
ซึ่งโดยส่วนใหญ่มักมีสาเหตุมาจากความประมาท ไม่มีการประเมินสถานการณ ์
และเตรียมการปอ้ งกันไวล้ ่วงหนา้

การปอ้ งกันอุบตั ภิ ัยในคา่ ยนันทนาการ

จากสาเหตุของการเกิดอุบัติภัยในค่ายนันทนาการข้างต้น ทำ�ให้
ผู้จัดค่ายนันทนาการจำ�เป็นที่จะต้องคิดหาวิธีในการป้องกันอุบัติภัยที่อาจเกิดข้ึน

111 บทท่ี ๔ ความปลอดภัยในการจดั ค่ายนันทนาการ

ในค่ายนันทนาการไว้ตลอดเวลา โดยอาศัย การสังเกต และการประเมิน
จากประสบการณ์ที่ผ่านมา แล้วนำ�มาคิดคาดการณ์ล่วงหน้าเพื่อหาวิธีป้องกัน
อบุ ัตภิ ัยทอ่ี าจเกดิ ขึ้น ซ่ึงมีประเดน็ ท่คี วรคำ�นึงถึงในการป้องกัน ๓ ประการ ดงั นี้
๑. เกย่ี วกบั สถานท่ี วสั ดุ อปุ กรณ์ และสภาพแวดลอ้ ม ไดแ้ ก่ สง่ิ แวดลอ้ ม
และสถานท่ีจัดค่ายนันทนาการทั้งหมด เช่น สภาพพ้ืนดินท่ีแฉะ หรือแห้งมาก
อาจส่งผลให้เกิดการลื่นล้ม ขนาดของพ้ืนที่ประกอบกิจกรรมที่ไม่เหมาะสมกับ
จำ�นวนสมาชิกชาวค่าย อาจทำ�ให้เกิดการว่ิงชนกัน เป็นต้น ส่วนอุปกรณ์ต่างๆ
จำ�เป็นต้องอย่ใู นสภาพดี และมกี ารปอ้ งกนั อันตรายที่อาจกับสมาชิกชาวคา่ ยได้
แนวทางป้องกัน ควรมีการสำ�รวจ และตรวจสภาพความพร้อม
และความปลอดภัยในเร่ืองดังกล่าวก่อนเพ่ือวางแผนในการดำ�เนินการ
ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ปลอดภยั หรอื หากมคี วามจ�ำ เปน็ ตอ้ งใชก้ ค็ วรมกี ารวางกฎระเบยี บ
ปรับวิธีเล่นให้สามารถควบคุมความปลอดภัยได้ เช่น หากสภาพสนามล่ืน
ก็ควรปรับวิธีเล่น จากว่ิงเป็นเดิน มีร้ัวลวดหนามก็ควรนำ�ผ้ากระสอบป่าน
มาปิดบังคมไว้
๒. เก่ียวกับกิจกรรมที่จัด นอกจากหลักในการเลือกกิจกรรม
ในค่ายนันทนาการที่ได้กล่าวไว้ในบทท่ี ๓ แล้ว ผู้จัดค่ายนันทนาการ
จะตอ้ งใหค้ วามส�ำ คญั กบั ความปลอดภยั และทรงไวซ้ งึ่ ความไมป่ ระมาทเสมอ ดงั นน้ั
ผู้จัดค่ายนันทนาการจึงควรมีหลักในการเลือกกิจกรรมในค่ายนันทนาการ
เพื่อเปน็ การปอ้ งกันอันตรายจากการประกอบกจิ กรรม ดังนี้
๒.๑ เลือกกิจกรรมให้เหมาะกับวัย และสภาพร่างกายของสมาชิก
ชาวค่าย คือการเลือกกิจกรรมให้สอดคล้องกับสภาพจริงของสมาชิกชาวค่าย
โดยไม่ยากเกินไปจนสมาชิกชาวค่ายต้องเสี่ยงต่อการพลาดพล้ังหรือไม่ต้องใช้
พละก�ำ ลงั มากในการประกอบกจิ กรรม ส�ำ หรบั สมาชกิ ชาวคา่ ยทป่ี ว่ ยเปน็ โรคหวั ใจ
ลมชัก หรือมีความพิการบางอย่าง เช่น การไต่ หรือปีนในท่ีลาดชันเกินไป

บทท่ี ๔ ความปลอดภยั ในการจัดคา่ ยนนั ทนาการ 112

การปิดตาวิ่งแขง่ กนั ซึ่งอาจเกิดการกระทบกระท่งั กันได้อย่างรุนแรงโดยไม่ระวงั
แนวทางปอ้ งกนั ผจู้ ดั คา่ ยนนั ทนาการควรส�ำ รวจ และศกึ ษารายละเอยี ด
เกย่ี วกบั สมาชกิ ชาวคา่ ยทกุ คน เพอ่ื จะไดเ้ ลอื กสรรกจิ กรรม ใหม้ คี วามสอดคลอ้ งกบั
วัยและสภาพรา่ งกายของสมาชกิ ชาวค่าย
๒.๒ เลือกกิจกรรมให้เหมาะกับเพศ เช่น สมาชิกชาวค่าย
ท่ีเป็นผู้ชายส่วนใหญ่ มักประกอบกิจกรรมด้วยความโลดโผน และประมาท
จึงต้องระวังการประกอบกิจกรรมท่ีรุนแรงเกินกว่าเหตุ สำ�หรับสมาชิกชาวค่าย
ท่ีเป็นผู้หญิง มักประกอบกิจกรรมด้วยความนุ่มนวล ซึ่งอันตรายมักเกิด
จากการลม้ การลนื่ การเคล่ือนไหวอย่างผดิ จงั หวะ
แนวทางป้องกัน ในการเลือกกิจกรรมสำ�หรับสมาชิกชาวค่ายที่มีทั้งชาย
และหญิงควรเลือกกิจกรรมท่ีต้องใช้ความคิด และพละกำ�ลังควบคู่กัน
โดยควรแบ่งสัดส่วนของชาย และหญิงในแต่ละกลุ่มให้เท่าๆ กันจะได้มีโอกาส
แสดงออกตามความถนัด และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ท่ีสำ�คัญหากเป็นกิจกรรม
ท่ีต้องมีการเคลื่อนที่ หรือปะทะเป็นกลุ่ม ไม่ควรจัดให้ผู้หญิงอยู่ด้านหน้า
ในกรณีเคลื่อนที่ไปข้างหน้า เพราะอาจเกิดการบาดเจ็บจากแรงปะทะ
หรอื เกดิ การลม้ ทบั ได้ เนอ่ื งจากผชู้ ายมคี วามเรว็ และแรงมากกวา่ ในท�ำ นองเดยี วกนั
หากเป็นการเคล่ือนท่ีไปด้านหลัง ก็ไม่ควรจัดให้ผู้หญิงอยู่กลาง หรือด้านหลัง
เช่น กิจกรรมชกั คะเย่อ เป็นตน้
๓. เกี่ยวกับผู้นำ�กิจกรรม ผู้นำ�กิจกรรมเป็นหัวใจสำ�คัญในการควบคุม
ความปลอดภัยท่ีสำ�คัญที่สุด และเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง จึงจำ�เป็นต้องมีความรู้
ความเข้าใจ และมีประสบการณ์เก่ียวกับการรักษาความปลอดภัยเป็นส่ิงสำ�คัญ
ซงึ่ ผนู้ �ำ กจิ กรรมจะตอ้ งมคี วามสามารถในการคาดการณส์ ภาพจรงิ ของการประกอบ
กจิ กรรมวา่ จะหนัก เบา หรืออาจเกิดอันตรายในรปู แบบใดได้บ้าง
แนวทางป้องกัน ผู้นำ�กิจกรรมควรจะต้องเตรียมวางกฎระเบียบ
ในการประกอบกิจกรรมให้เหมาะสม เพ่ือป้องกันอุบัติภัยที่อาจเกิดข้ึน

113 บทท่ี ๔ ความปลอดภัยในการจดั คา่ ยนนั ทนาการ

และจะต้องชี้ข้อควรระวังให้สมาชิกชาวค่ายเข้าใจ ตลอดจนจัดเตรียม
การปฐมพยาบาลไว้ล่วงหน้า ท้ังนี้ผู้นำ�กิจกรรมจะต้องเฉียบขาด
ในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ตลอดเวลา เช่น การให้สัญญาณยุติกิจกรรมทันที
หากเหน็ ว่าอาจเกดิ อนั ตรายแก่สมาชิกชาวค่ายได้
๔. เกี่ยวกับสมาชิกชาวค่าย สมาชิกชาวค่ายจะเป็นกลุ่มที่จะ
ได้รับอนั ตรายได้ หากเกดิ การประมาท เชน่ จากอารมณข์ องความสนกุ ความสะใจ
หรือจากการอยากเอาชนะ ขณะประกอบกิจกรรมต่างๆ
แนวทางป้องกัน ผนู้ �ำ กจิ กรรมจะต้องทำ�ความเขา้ ใจกบั สมาชกิ ชาวคา่ ย
เกี่ยวกับเป้าหมายในการประกอบกิจกรรมให้ดี และเข้าใจถึงจุดอันตราย
กับการควบคุมอารมณ์ของสมาชิกชาวค่าย ในการประกอบกิจกรรม
และควรมีการเตรียมการป้องกันอันตรายที่อาจเกดิ ข้นึ ไวต้ ลอดเวลา
นอกจากนี้ เพื่อความไม่ประมาท ผู้จัดค่ายนันทนาการควรมีมาตรการ
ปอ้ งปราม โดยอาจกำ�หนดเปน็ กฎความปลอดภยั ในคา่ ยนันทนาการเพมิ่ เตมิ ด้วย

บทที่ ๔ ความปลอดภยั ในการจัดค่ายนันทนาการ 114

บทสรปุ

การระวงั ปอ้ งกนั อนั ตรายทอี่ าจเกดิ ขน้ึ ในคา่ ยนนั ทนาการ
จ ะ มี ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ เ พี ย ง ใ ด ย่ อ ม ขึ้ น อ ยู่ กั บ ก า ร ค า ด ก า ร ณ์
และประเมินสถานการณ์ท่ีอาจเกิดอันตราย ซ่ึงเกิดจากการสั่งสม
ประสบการณ์ และความรู้ ความสามารถ เปน็ บรรทัดฐาน ในการ
วิเคราะห์ของผู้จัดค่ายนันทนาการ ดังน้ันผู้จัดค่ายนันทนาการ
จึงพึงระลึกเสมอว่า ความปลอดภัยในค่ายนันทนาการ
ถือเป็นหัวใจสำ�คัญของการจัดค่ายนันทนาการ ค่ายนันทนาการ
มิอาจจะประสบความสำ�เร็จ และมิอาจฝากความประทับใจ
และความทรงจำ�ดีๆ แก่สมาชิกชาวค่ายได้เลย หากเกิดเหตุ
ไมค่ าดฝันขน้ึ ในค่ายนนั ทนาการ ดังน้นั ผจู้ ดั ค่ายนนั ทนาการจึงควร
ให้ความสำ�คัญกับความปลอดภัย และหาวิธีป้องกันอันตราย
ท่ีอาจเกิดข้ึนกับสมาชิกชาวค่ายในทุกวิถีทางเพ่ือความสัมฤทธ์ิผล
ในการจดั ค่ายนันทนาการอย่างสงู สดุ

115 บทที่ ๔ ความปลอดภยั ในการจัดค่ายนนั ทนาการ

บทท่ี ๕
แผนกจิ กรรมค่ายนันทนาการ

ส่วนสำ�คัญที่จะช่วยให้การจัดค่ายนันทนาการ บรรลุวัตถุประสงค์
ท่ีกำ�หนดไว้ นั่นคือ “แผนกิจกรรมค่ายนันทนาการ” เพราะภายในแผนกิจกรรม
ค่ายนันทนาการจะบรรจุกิจกรรมต่างๆ ซ่ึงเปรียบเสมือนเคร่ืองมือที่ช่วย
ในการเปลย่ี นแปลงพฤตกิ รรม และพฒั นาสมาชกิ ชาวคา่ ยใหเ้ ปน็ ไป ตามวตั ถปุ ระสงค ์
ของคา่ ยท่ไี ดก้ ำ�หนดไว้
การก�ำ หนดแผนกจิ กรรมคา่ ยนนั ทนาการ เปน็ การแปลงวตั ถปุ ระสงคข์ องคา่ ย
ออกมาเป็นกิจกรรม และนำ�ไปปฏิบัติให้บังเกิดผล ซ่ึงต้องใช้ความละเอียด
รอบคอบเป็นพิเศษ เพราะหากกำ�หนดแผนกิจกรรมไม่ดี จะส่งผลให้
การจดั คา่ ยนันทนาการไม่ประสบผลส�ำ เร็จตามทค่ี าดหวังไว้

องคป์ ระกอบท่ีส�ำ คัญในการพิจารณา
ก�ำ หนดแผนกิจกรรมค่ายนันทนาการ มีดงั นี้

๑. วัตถุประสงค์ในการจัดค่ายนันทนาการ ก่อนกำ�หนดแผนกิจกรรม
ค่ายนันทนาการจะต้องพิจารณา และทำ�ความเข้าใจในวัตถุประสงค์
ในการจัดค่ายนันทนาการให้กระจ่างเสียก่อน มิเช่นน้ันการกำ�หนดแผนกิจกรรม
ค่ายนันทนาการอาจผิดพลาด หรือขาดความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์
ในการจดั ค่ายนันทนาการได้
๒. กลมุ่ สมาชิกชาวคา่ ย สมาชิกชาวคา่ ยแต่ละกล่มุ มีลกั ษณะ ความชอบ
ความสนใจที่แตกตา่ งกัน เม่ือจะกำ�หนดแผนกจิ กรรมค่ายนันทนาการ ควรจะตอ้ ง
พจิ ารณาปัจจยั ตา่ งๆ ดังตอ่ ไปน้ี
๒.๑ เพศ
๒.๒ วัย (พจิ ารณาตามหลักจติ วทิ ยาพฒั นาการ)

บทท่ี ๕ แผนกจิ กรรมค่ายนันทนาการ 116

๒.๓ สถานภาพ
๒.๔ กลมุ่ อาชีพ
๒.๕ พ้ืนฐานการศึกษา / ประสบการณ์ / ทักษะพน้ื ฐาน
๒.๖ ความสนใจของสมาชิกชาวคา่ ย
๓. จ�ำ นวนสมาชกิ ชาวคา่ ย กจิ กรรมแตล่ ะประเภทจะมกี ารก�ำ หนดจ�ำ นวน
ผู้เข้าร่วมกจิ กรรมทเ่ี หมาะสมในการประกอบกิจกรรม จงึ ควรพิจารณาว่ากิจกรรม
ท่ีจะบรรจุลงในแผนกิจกรรมค่ายนันทนาการมีความเหมาะสมกับจำ�นวนสมาชิก
ชาวคา่ ยหรอื ไม่
๔. ความเหมาะสมของสถานที่ และส่ิงอำ�นวยความสะดวก กิจกรรม
แต่ละประเภท จะใช้สถานท่ีในการประกอบกิจกรรมไม่เหมือนกัน ดังน้ันจึงต้อง
พิจารณาให้ดีว่ากิจกรรมท่ีจะบรรจุในแผนกิจกรรมค่ายนันทนาการแต่ละกิจกรรม
เหมาะสมกบั สถานที่จัดค่ายนนั ทนาการเพยี งใด
๕. ความเหมาะสมของชว่ งเวลา แผนกจิ กรรมคา่ ยนนั ทนาการ โดยปกต ิ
จะแบ่งเป็น ๓ ช่วง คือ ช่วงเช้าถึงเที่ยง ช่วงบ่ายถึงเย็น และช่วงกลางคืน
จึงมีความจำ�เป็นที่จะต้องกำ�หนดกิจกรรมให้เหมาะสมกับช่วงเวลาต่างๆ โดยมี
หลักในการพจิ ารณา ดงั นี้
๕.๑ ช่วงเช้าถึงเที่ยง เป็นช่วงเวลาที่อากาศดี อุณหภูมิไม่สูงมาก
สมองกำ�ลงั ปลอดโปรง่ ควรจัดกจิ กรรมประเภทส่งเสรมิ การเรยี นรู้ การระดมสมอง
เป็นต้น
๕.๒ ช่ ว ง บ่ า ย ถึ ง เ ย็ น เ ป็ น ช่ ว ง เว ล า ที่ อุ ณ ห ภู มิ เริ่ ม สู ง ข้ึ น
สมาชิกชาวค่ายมักเร่ิมง่วงนอน ดังนั้นจึงควรจัดกิจกรรมท่ีเน้นการเคล่ือนไหว
หรอื ความสนกุ สนาน นอกจากนค้ี วรจดั ใหม้ ชี ว่ งเวลาอสิ ระ (Free Time) เพอื่ ใหส้ มาชกิ
ชาวค่ายได้พักผ่อน ดื่มด่ำ�กับทัศนียภาพธรรมชาติ และทำ�กิจกรรมนันทนาการ
ท่ีตนเองชนื่ ชอบ
๕.๓ ช่วงกลางคืน เป็นช่วงที่มีบรรยากาศที่ดี ควรจัดกิจกรรม
ที่สร้างสีสนั และความประทับใจใหแ้ กส่ มาชกิ ชาวค่าย

117 บทท่ี ๕ แผนกจิ กรรมคา่ ยนันทนาการ

๖. อยู่ในขอบเขตศีลธรรมอันดี กิจกรรมที่จะบรรจุในแผนกิจกรรม
คา่ ยนนั ทนาการ จะตอ้ งอยใู่ นขอบเขตศลี ธรรมอนั ดงี าม แมว้ า่ จะสนกุ เรา้ ใจ ตน่ื เตน้
ท้าทายเพียงใด หากกิจกรรมน้ันไม่อยู่ในขอบเขตศีลธรรมอันดีงามก็ไม่ควร
นำ�มาบรรจุในแผนกิจกรรมค่ายนันทนาการ เพราะสมาชิกชาวค่าย
ควรได้รับส่ิงดีงามจากการอยู่ค่ายนันทนาการ และนำ�สิ่งดีงามนั้นไปใช้ประโยชน์
ในชีวิตประจำ�วัน ดังน้ัน กิจกรรมท่ีไม่อยู่ในขอบเขตศีลธรรมอันดีงาม ลามก
ไมส่ ภุ าพ และสรา้ งความเสอื่ มเสยี อบั อายแกผ่ หู้ นงึ่ ผใู้ ด ไมค่ วรบรรจใุ นแผนกจิ กรรม
ค่ายนันทนาการเด็ดขาด
๗. ความประหยัด การกำ�หนดแผนกิจกรรมค่ายนันทนาการจะต้อง
คำ�นึงถึงความประหยัดในการเตรียมงาน รวมถึงค่าอุปกรณ์ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ
ทจี่ ะเกดิ ขนึ้ ดว้ ย และเพอ่ื ความประหยดั หากเปน็ กจิ กรรมทส่ี ามารถน�ำ วสั ดเุ หลอื ใช ้
หรอื น�ำ ทรพั ยากรทมี่ อี ดยใู่ นทอ้ งถนิ่ มาประยกุ ตใ์ ชไ้ ด้ กจ็ ะชว่ ยประหยดั งบประมาณ
ได้มาก
๘. ความปลอดภัย การกำ�หนดแผนกิจกรรมในค่ายนันทนาการจะต้อง
คำ�นึงถึงความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของสมาชิกชาวค่ายเป็นสำ�คัญ
กิจกรรมใดท่ีมีความเส่ียงสูง และไม่มีความพร้อมในการดูแลความปลอดภัย
ก็ไมค่ วรบรรจใุ นแผนกิจกรรมค่ายนันทนาการเด็ดขาด
๙. กำ�หนดกิจกรรมสำ�รองไว้ การจัดค่ายนันทนาการ อาจมี
ปัจจัยแทรกซ้อน ทำ�ให้ไม่สามารถดำ�เนินการได้ตามแผนกิจกรรมท่ีกำ�หนดไว้
เชน่ สภาพดนิ ฟา้ อากาศ ความไมพ่ รอ้ มของสมาชกิ ชาวคา่ ย หรอื สาเหตอุ น่ื ๆ ดงั นน้ั
จึงควรมีการวางแผนกำ�หนดกิจกรรมสำ�รองไว้ เพื่อรองรับปัญหาท่ีอาจเกิดข้ึนได้
โดยกิจกรรมสำ�รองจะต้องสามารถรองรับแผนกิจกรรมหลักได้ถึง ๘๐ เปอร์เซ็นต์
คือ สามารถดำ�เนินกิจกรรมเดิมได้ถึง ๘๐ เปอร์เซ็นต์ แต่ปรับเปลี่ยนเพื่อแก้ไข
สถานการณ์เพยี งแค่ ๒๐ เปอร์เซน็ ต์ เพราะหากต้องมกี ารเปล่ียนแปลงมากกวา่ น ี้
จะทำ�ให้เสียเวลาในการเตรียมการ และยุ่งยากมากข้ึน เม่ือต้องใช้กิจกรรมสำ�รอง
เพอื่ แกไ้ ขสถานการณ์

บทที่ ๕ แผนกิจกรรมคา่ ยนนั ทนาการ 118

ตวั อย่างแผนกจิ กรรมคา่ ยนนั ทนาการ

เ พื่ อ ใ ห้ เ กิ ด ค ว า ม เข้ า ใ จ แ ล ะ ส า ม า ร ถ นำ � ไ ป ป ร ะ ยุ ก ต์ ใช้
ในการจัดคา่ ยนนั ทนาการ ในทน่ี ข้ี อนำ�เสนอตัวอย่างแผนกิจกรรมค่ายนันทนาการ
เพอ่ื พฒั นาคณุ ภาพชวี ติ ซงึ่ มวี ตั ถปุ ระสงคห์ ลกั เพอื่ สง่ เสรมิ ใหส้ มาชกิ ชาวคา่ ยมคี วามร ู้
ความเข้าใจ เห็นคุณค่าของกิจกรรมนันทนาการ และนำ�กิจกรรมนันทนาการ
ไปใช้เป็นเคร่ืองมือในการพัฒนาคุณภาพชีวิต ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง
ครอบครัว และสังคม

แผนกจิ กรรมค่ายนนั ทนาการเพอื่ พัฒนาคณุ ภาพชวี ติ

หลกั การใช้แผน
๑. คณุ สมบัตขิ องสมาชกิ ชาวคา่ ย
๑.๑ เดก็ (อายุตง้ั แต่ ๘-๑๒ ปี) สำ�หรบั ค่ายกลางวัน (Day camp)
(๕ วัน)
๑.๒ เยาวชน (อายตุ ง้ั แต่ ๑๕-๒๐ ปี) สำ�หรับค่ายค้างคนื
(Overnight camp) (๒ คืน ๓ วัน)
๒. การผา่ นเกณฑ์
ผู้ผ่านเกณฑ์ต้องมีระยะเวลาในการอยู่ค่าย ไม่น้อยกว่า ๘๐%
ของระยะเวลาการจดั ค่ายทัง้ หมด
๓. เทคนิควิธีการจัดกิจกรรม
ในการจดั กิจกรรมค่ายนันทนาการเพือ่ พฒั นาคุณภาพชวี ิต อาจใชว้ ิธีหน่ึง
หรอื หลายวิธี ควบคกู่ ันไป ดงั นี้
๓.๑ การบรรยาย
๓.๒ การฝึกปฏิบตั ิ
๓.๓ การอภปิ ราย
๓.๔ การสัมมนาเชงิ ปฏบิ ตั ิการ

119 บทท่ี ๕ แผนกิจกรรมคา่ ยนนั ทนาการ

๓.๕ กรณีศึกษา
๔. วิธกี ารประเมนิ ผล
๔.๑ สงั เกต
๔.๒ แบบสอบถาม
๔.๓ อภปิ รายซักถาม
๔.๔ ตรวจผลการปฏบิ ตั งิ าน
๕. ผลทค่ี าดว่าจะไดร้ บั
สมาชกิ ชาวคา่ ยมคี วามรู้ ความเข้าใจ เหน็ คุณค่าของกจิ กรรมนนั ทนาการ
และนำ�กิจกรรมนันทนาการไปใช้เป็นเคร่ืองมือในการพัฒนาคุณภาพชีวิต
กอ่ ใหเ้ กิดประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว และสงั คม

บทท่ี ๕ แผนกจิ กรรมคา่ ยนันทนาการ 120

121 บทท่ี ๕ แผนกจิ กรรมคา่ ยนันทนาการ ตารางกจิ กรรมคา่ ยนนั ทนาการเพอื่ พัฒนาคุณภาพชวี ติ (ค่ายกลางวัน Day Camp)

วนั / ๐๗.๐๐- ๐๘.๓๐-๑๐.๓๐ น. ๑๐.๓๐- ๑๐.๔๕-๑๒.๐๐ น. ๑๒.๐๐- ๑๓.๐๐-๑๕.๐๐ น. ๑๕.๐๐- ๑๕.๑๕-๑๖.๓๐ น. ๑๖.๓๐ น.
เวลา ๐๘.๓๐ น. ๑๐.๔๕ น. ๑๓.๐๐ น. ๑๕.๑๕ น.

- ลงทะเบียน/รายงานตัว - กจิ กรรมใหค้ วามรเู้ ก่ียวกับ - กิจกรรมใหค้ วามรู้เกย่ี วกบั
๑ - พธิ เี ปิดคา่ ย/ปฐมนเิ ทศ กจิ กรรมนนั ทนาการ กิจกรรมนนั ทนาการ (ต่อ)

- กิจกรรมกลุ่มสมั พันธ์
รายงาน ัตว / กิจกรรมเคารพธงชาติ / รับฟัง ้ขอคิดประจำ� ัวน
๒ อาหาร ่วาง- กิจกรรมอนรุ ักษ์ธรรมชาต ิ - กิจกรรมอนรุ ักษธ์ รรมชาต ิ - กิจกรรมตุก๊ ตาไขลาน - กจิ กรรมตุ๊กตาไขลาน
และสง่ิ แวดลอ้ ม และสิ่งแวดลอ้ ม (ต่อ) สืบสานวฒั นธรรม สบื สานวฒั นธรรม (ต่อ)
(บทกลอนประจำ� ้มือ) อาหารกลาง ัวน
๓ - กจิ กรรมแตง่ แต้ม เตมิ ฝัน อาหารว่าง- กิจกรรมแต่งแตม้ เตมิ ฝนั (ต่อ)- กิจกรรมเสรมิ สร้างความสามคั ค ี - กจิ กรรมเสริมสร้างความสามคั คี
และการอยู่รว่ มกนั อยา่ งมีความสุข และการอยรู่ ว่ มกัน
สรุป ิกจกรรมประ ำจ�วัน/ ันดหมาย/เ ิดนทางก ัลบ อยา่ งมคี วามสุข (ตอ่ )

๔ - กิจกรรมมหกรรมสวนสนกุ - กจิ กรรมมหกรรมสวนสนกุ (ตอ่ ) - กิจกรรมเดนิ ทางสำ�รวจและ - กจิ กรรมเดินทางส�ำ รวจและ
ทัศนศึกษาแหลง่ นันทนาการ ทศั นศึกษาแหลง่ นนั ทนาการ
ในท้องถนิ่ ในทอ้ งถน่ิ (ต่อ)

๕ - กิจกรรมระดมความคดิ - กจิ กรรมระดมความคิด - กจิ กรรมอำ�ลาสญั ญาใจ
(คุณภาพชวี ติ ต่อยอดความคดิ (คุณภาพชีวติ ต่อยอดความคดิ - กิจกรรมมอบเกยี รติบตั ร
ดว้ ยนันทนาการ) ด้วยนนั ทนาการ) (ตอ่ ) - พิธปี ิดคา่ ย

*หมายเหต*ุ ก�ำ หนดการนอี้ าจเปลยี่ นแปลงไดต้ ามความเหมาะสม

ตารางกิจกรรมค่ายนันทนาการเพ่อื พฒั นาคณุ ภาพชีวติ (ค่ายค้างคืน Overnight Camp)

วนั / ๐๖.๐๐- ๐๗.๐๐- ๐๗.๓๐- ๐๘.๐๐- ๐๘.๓๐-๑๐.๓๐ น. ๑๐.๓๐- ๑๐.๔๕-๑๒.๐๐ น. ๑๒.๐๐- ๑๓.๐๐-๑๕.๐๐ น. ๑๕.๐๐- ๑๕.๑๕-๑๗.๑๕ น. ๑๗.๑๕- ๑๘.๑๕- ๑๙.๐๐-๒๑.๐๐ น. ๒๑.๐๐-
เวลา ๐๗.๐๐ น. ๐๗.๓๐ น. ๐๘.๐๐ น. ๐๘.๓๐ น. ๑๐.๔๕ น. ๑๓.๐๐ น. ๑๕.๑๕ น. ๑๘.๑๕ น. ๑๙.๐๐ น. ๒๑.๑๕ น.

- รายงานตวั - กิจกรรม - กิจกรรม - กจิ กรรม
- พธิ เี ปดิ คา่ ย/ปฐมนิเทศ ให้ความร ู้ ใหค้ วามรู้ มหกรรม
- กิจกรรมกล่มุ สัมพันธ์ เกยี่ วกับกจิ กรรม เกยี่ วกับกจิ กรรม สวนสนุก
นนั ทนาการ นันทนาการ
๑ กิจกรรมออก ำก� ัลงกาย ัรบอ ุรณ
ป ิฏ ับติภาร ิกจส่วน ัตว
(ต่อ)
(บทกลอนประ ำจ� ้มือ) อาหารเช้า
กิจกรรมเคารพธงชาติ/รับฟังข้อ ิคดประ ำจ� ัวน- กิจกรรมอนรุ ักษ์- กิจกรรมอนุรกั ษ์- กิจกรรม - กิจกรรม - กิจกรรม
ธรรมชาติ ธรรมชาติ เสริมสรา้ ง เสริมสรา้ ง การแสดง
อาหารว่างและสง่ิ แวดลอ้ มและสิ่งแวดลอ้ ม ความสามัคคี ความสามัคคี นาฏกรรมชีวิต
๒ (บทกลอนประจำ�มื้อ) อาหารกลาง ัวน(ต่อ) และการอยรู่ ว่ มกนั และการอยรู่ ว่ มกนั
อาหาร ่วาง
บทท่ี ๕ แผนกจิ กรรมคา่ ยนนั ทนาการ 122 ปฏิ ับติภาร ิกจส่วนตัว / ิกจกรรมยาม ่วาง อย่างมคี วามสุข อยา่ งมคี วามสุข
(การประชุมคณะทำ�งาน ่คาย) (ตอ่ )
(บทกลอนประ ำจ� ้ืมอ)
อาหารเย็น- กิจกรรม - กจิ กรรม - กจิ กรรม - กิจกรรม
ศาสน ิกจ ่กอนนอน เดินทางสำ�รวจ เดนิ ทางส�ำ รวจ ระดมความคิด อ�ำ ลาสญั ญาใจ
และทศั นศึกษา และ ทศั นศึกษา (คุณภาพชวี ติ - กิจกรรม
แหลง่ นนั ทนาการ แหลง่ นนั ทนาการ ตอ่ ยอดความคดิ มอบเกยี รตบิ ตั ร
ในท้องถนิ่ ในทอ้ งถน่ิ (ตอ่ ) ด้วยนนั ทนาการ) - พิธปี ดิ คา่ ย
๓

*หมายเหตุ* ก�ำ หนดการนอี้ าจเปลย่ี นแปลงไดต้ ามความเหมาะสม

๑. การจัดกิจกรรมกลุ่มสมั พันธ์

วัตถปุ ระสงค์ของกจิ กรรม
๑. เพื่อเป็นการทำ�ลายกำ�แพง หรอื เกราะของสมาชิกชาวคา่ ยแต่ละคน
ให้เข้าหากันได้อย่างสนิทใจ
๒. เพอ่ื เปน็ การสร้างบรรยากาศของการไว้วางใจ สนทิ สนมเปน็ มติ รท่ดี ี
ตอ่ กัน
๓. เพือ่ เปน็ การสรา้ งบรรยากาศท่ีเอ้อื ตอ่ การแสดงออก เพอ่ื การเรียนร ู้
ร่วมกัน
๔. เพื่อเป็นการสร้างความตน่ื ตัว สนุกสนาน คกึ คัก

วิธีการเรยี นรู้
๑. ทกั ทาย
๒. สร้างบรรยากาศกอ่ นน�ำ เข้าสู่กจิ กรรม ดว้ ยกิจกรรมนันทนาการ
ประเภทเกม หรอื เพลง
๓. อธบิ ายวตั ถปุ ระสงค์ของกจิ กรรม
๔. ชี้แจงกตกิ า เงื่อนไข ข้อตกลงต่างๆ ท่ีกำ�หนดไว้
๕. เปดิ โอกาสใหส้ มาชิกชาวคา่ ยไดซ้ ักถาม หากมีขอ้ สงสยั
๖. ดำ�เนนิ กจิ กรรม โดยใชก้ ิจกรรมนันทนาการประเภทเกม หรือเพลง
เพ่ือแบ่งสมาชิกชาวคา่ ยออกเปน็ กลุ่ม คละกันและมีจำ�นวนเท่าๆ กนั
๗. ใหส้ มาชิกชาวค่ายเขยี นป้ายช่อื เล่น / ชอื่ กลมุ่
๘. การแสดงพลงั ของกลมุ่ / ตง้ั ชอ่ื กลมุ่ / ค�ำ ขวญั ประจ�ำ กลมุ่ / น�ำ ชอ่ื เลน่
ของสมาชกิ ชาวค่ายทกุ คนในกลุม่ มารอ้ ยเรยี งเปน็ เพลงประจ�ำ กลุ่ม
๙. การน�ำ เสนอผลงาน

ข้อค�ำ นงึ ในการจัดกิจกรรม พิจารณาจาก
๑. กลุ่มเปา้ หมาย

123 บทที่ ๕ แผนกิจกรรมค่ายนนั ทนาการ

๑.๑ เพศ อายุ
๑.๒ จำ�นวน
๑.๓ พนื้ ฐานความรู้ และประสบการณ์
๑.๔ ระดบั สัมพนั ธภาพของกลุม่
๒. วัตถุประสงค์ของการจัดโครงการ
๓. ระยะเวลา
๔. สถานที่
๕. อปุ กรณ์ สงิ่ อ�ำ นวยความสะดวก
๖. ผูช้ ว่ ยเหลือ ทีมงาน

บทที่ ๕ แผนกิจกรรมค่ายนนั ทนาการ 124

๒. การจัดกจิ กรรมให้ความรู้เก่ียวกับกิจกรรมนันทนาการ

วัตถุประสงค์ของกิจกรรม
๑. เพอื่ ใหส้ มาชิกชาวค่ายมคี วามรู้ ความเข้าใจ และตระหนกั ถึงคุณคา่
ของกจิ กรรมนนั ทนาการ
๒. เพอื่ ให้สมาชิกชาวคา่ ยสามารถนำ�กิจกรรมนันทนาการไปใช้
ในชวี ิตประจำ�วันให้เกิดประโยชน์ในการพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ

วิธกี ารเรียนรู้
๑. การน�ำ เข้าสูก่ จิ กรรม
๒. การอภปิ รายแสดงความคดิ เห็นร่วมกัน
๓. การวเิ คราะห์


ข้อมลู ความรเู้ ก่ียวกับกจิ กรรมนนั ทนาการ

ความส�ำ คัญของนันทนาการ

ทรัพยากรที่มีค่ามากท่ีสุด คือ “ทรัพยากรมนุษย์” ฉะนั้นการพัฒนา
ทรัพยากรมนุษย์ จึงเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่สามารถพัฒนาได้ในทุกๆด้าน
เพื่อให้ทรัพยากรมนุษย์มีความแข็งแรง สมบูรณ์ทั้งทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์
สติปัญญา ความรู้ ความคิด ความสามารถ คุณธรรม จริยธรรม วัฒนธรรม
และสังคม สามารถดำ�รงชีวิตประจำ�วันได้อย่างมีความสุข และประกอบอาชีพ
ตามความถนดั ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพในสังคมยุคโลกาภวิ ัฒน์
ในการพัฒนาประเทศ รัฐบาลได้ตระหนักถึงการเสริมสร้างคุณภาพชีวิต
ของประชาชนเป็นสำ�คัญ ซ่ึงหมายถึงการพัฒนาในทุกๆด้าน คุณภาพชีวิตที่ดี
ย่อมหมายถึง อาหารเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย มีที่อยู่อาศัย
อยใู่ นสง่ิ แวดลอ้ มทด่ี ี ประกอบอาชพี สจุ รติ มคี รอบครวั ทอ่ี บอนุ่ มคี วามปลอดภยั ในชวี ติ

125 บทท่ี ๕ แผนกิจกรรมคา่ ยนนั ทนาการ

และทรัพย์สิน รวมท้ังการมีสุขภาพพลานามัยท่ีดีด้วย ถึงแม้ว่าการเจ็บป่วย
จะได้รับการบำ�บัดรักษา และเป็นวิธีหน่ึงท่ีจะทำ�ให้ประชาชนมีอายุยืนยาว
แต่การสร้างเสรมิ สขุ ภาพใหร้ ่างกายแข็งแรง จะเปน็ อีกวิธีหนึ่งทจี่ ำ�เปน็ และสำ�คญั
ในการช่วยป้องกันไม่ให้ร่างกายเจ็บป่วยได้ง่าย การสร้างเสริมสุขภาพให้ร่างกาย
แข็งแรง ก็มิใช่เรื่องยากเกินความสามารถที่ทุกคนจะพึงปฏิบัติได้ เพียงแต่
ใหค้ วามสนใจตอ่ สขุ ภาพ โดยการออกก�ำ ลงั กาย เลน่ กฬี า หาเวลาวา่ งพกั ผอ่ นหยอ่ นใจ
เช่น ดูโทรทัศน์ เล่นอินเตอร์เน็ต ฟังวิทยุ อ่านหนังสือ ปลูกต้นไม้ ทำ�ครัว
สะสมแสตมป์ เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นกิจกรรมนันทนาการท่ีอยู่ในวิถีชีวิต
ประจำ�วันของแต่ละบุคคล แต่ละครอบครัว หรือการเข้าร่วมกิจกรรมนันทนาการ
ทางสังคมในสถานท่ีต่างๆ เช่น วัด มัสยิด โบสถ์ โรงทาน สวนสาธารณะ
ห้างสรรพสินคา้ เปน็ ต้น

ความหมายของนนั ทนาการ
นนั ทนาการ มาจากค�ำ ในภาษาองั กฤษวา่ Recreation แปลวา่ การท�ำ ให้
สนกุ สนาน รา่ เรงิ เปน็ การจดั กจิ กรรมใหบ้ คุ คลเขา้ รว่ มในเวลาวา่ ง ดว้ ยความสมคั รใจ
ได้รับความพึงพอใจ สนุกสนาน อันจะเป็นแรงจูงใจให้บุคคลเข้าร่วม
ในกจิ กรรมนนั ทนาการนน้ั ๆ
นันทนาการ (Recreation) เป็นศาสตร์ และศิลป์ที่ว่าด้วยการพัฒนา
คณุ ภาพชวี ติ ของบคุ คล และสงั คม โดยใช้เวลาวา่ ง หรอื เวลาอิสระเขา้ รว่ มกิจกรรม
ในรูปแบบทหี่ ลากหลายตามความสมัครใจ และสนใจ

ความมุ่งหมายของนนั ทนาการ
กิจกรรมใดๆก็ตาม จะก่อให้เกิดความสนุกสนาน และความพึงพอใจได้
ผนู้ �ำ กจิ กรรม และผเู้ ขา้ รว่ มกจิ กรรม จ�ำ เปน็ ตอ้ งมเี ปา้ หมายในการประกอบกจิ กรรม
ทีแ่ น่นอน โดยเฉพาะกิจกรรมนันทนาการ ผนู้ ำ�และผเู้ ขา้ ร่วมกจิ กรรมนันทนาการ

บทที่ ๕ แผนกิจกรรมค่ายนันทนาการ 126

ต้องเข้าใจก่อนว่า กิจกรรมนันทนาการนั้นๆ เน้นให้เกิดประโยชน์ทางด้านใด
เพื่อจะได้ร่วมสร้างสรรค์ไปในทิศทางเดียวกัน และบรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้
ซ่ึงกิจกรรมนันทนาการ มจี ดุ มุ่งหมาย ๔ ด้าน ดังตอ่ ไปน้ี
๑. เพื่อพัฒนาสขุ ภาพ (Health Development)
สุขภาพเป็นส่วนท่ีเกี่ยวข้องกับกิจกรรมนันทนาการมากเท่าๆกับ
การประกอบการงาน อากปั กริ ิยาทแี่ สดงออกในการประกอบกจิ กรรมนันทนาการ
เปน็ เครอ่ื งวัดได้อยา่ งดถี งึ คุณภาพของร่างกาย จิตใจ อารมณ์ กิจกรรมนันทนาการ
จะชว่ ยผอ่ นคลาย และปลดเปลอ้ื งความตงึ เครยี ดในการท�ำ งาน ท�ำ ใหล้ มื ปญั หาตา่ งๆ
จึงเป็นเครื่องส่งเสริมสุขภาพทางจิต และกิจกรรมนันทนาการทำ�ให้ผู้เข้าร่วม
ไดส้ นกุ สนาน รน่ื เรงิ บันเทิงใจ เป็นเครื่องส่งเสรมิ สุขภาพทางกาย
๒. เพอ่ื พฒั นามนษุ ยสมั พนั ธ์ (Human Relationship Development)
ในขณะท่ีบุคคลได้ร่วมเล่น ร่วมสังสรรค์ในกิจกรรมต่างๆ
เปน็ การสง่ เสรมิ มนษุ ยสมั พนั ธท์ ด่ี ี จะมโี อกาสไดพ้ บปะแลกเปลย่ี นความรู้ ความคดิ เหน็
ประสบการณ์การทำ�งานของกันและกัน นอกจากนี้ยังได้รู้จัก สนิทสนม คุ้นเคย
รจู้ กั นสิ ยั ใจคอ สรา้ งสมั พนั ธท์ ดี่ ตี อ่ กนั จะเปน็ การสง่ เสรมิ พฒั นาดา้ นมนษุ ยสมั พนั ธ ์
ทีด่ ี
๓. เพือ่ พัฒนาการเป็นพลเมืองทดี่ ี (Civic Development)
ในการสร้างคุณธรรมอันดีระหว่างสมาชิกของชุมชน ทุกคนมีโอกาส
เข้าร่วมกิจกรรมทุกอย่างท่ีจัด กิจกรรมนี้ทำ�ให้บุคคลได้พัฒนาไปในทางท่ีดี
ท�ำ ใหค้ นเปน็ พลเมอื งทดี่ มี คี ณุ ภาพ มีคุณค่า ตอ่ ตนเองและสงั คม มีความเคารพตอ่
กฎ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั หรอื กตกิ าตา่ งๆ ดว้ ยความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ ไมเ่ อารดั เอาเปรยี บ
ไม่เห็นแก่ตัว ย่อมเป็นคนมีระเบียบวินัยดี จะเป็นแนวทางของการเป็นพลเมืองดี
ต่อไป
๔. เพ่อื พฒั นาตนเอง (Self Development)
เป็นการช่วยส่งเสริมให้บุคคลเกิดทักษะในการเล่นกีฬาขั้นพื้นฐาน
และสามารถพัฒนาไปสู่การเป็นนักกีฬายอดเย่ียมในโอกาสต่อไป นอกจากน้ี

127 บทท่ี ๕ แผนกิจกรรมคา่ ยนันทนาการ

ยังได้รับสิ่งแปลกใหม่ท่ีไม่เคยได้เรียนรู้มาก่อน มีความสุข ความพึงพอใจ
ในสิ่งท่ีได้รับ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมนันทนาการทางด้านการพูด การเขียน ศิลปะ
ดนตรี กฬี า จะท�ำ ใหเ้ ขาเกดิ ทกั ษะ ความสามารถเพอ่ื พฒั นาตนเองสบื ตอ่ ไปไดด้ ขี น้ึ

ลักษณะสำ�คัญที่เป็นองคป์ ระกอบของนันทนาการ
กจิ กรรมนันทนาการ ประกอบดว้ ยลกั ษณะทีส่ ำ�คัญดงั ตอ่ ไปน้ี
๑. นันทนาการต้องเป็นกิจกรรม (Activity) คือ ต้องมีการเคล่ือนไหว
ร่างกาย กล้ามเน้ือ หรืออวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่ง (การนอนหลับ ถือว่าไม่เป็น
กจิ กรรมนนั ทนาการ เพราะการนอนไมถ่ อื วา่ เป็นกิจกรรม)
๒. การเข้าร่วมในกิจกรรมน้ัน ต้องเป็นการกระทำ�ด้วยความสมัครใจ
๓. กิจกรรมที่ทำ�นั้นต้องทำ�ในเวลาว่าง (Free Time) ได้แก่ เวลานอก
เหนือจากเวลานอนหลับเปน็ ประจำ� ในเวลากลางคืน เวลาท�ำ งานหรือเรียนหนังสอื
ชั่วโมงเรยี น เวลาจ�ำ เปน็ สว่ นตวั เชน่ รบั ประทานอาหาร เขา้ ห้องนำ้� ฯลฯ
๔. เป็นกิจกรรมที่พึงประสงค์ของสังคม ไม่เป็นไปในทางอบายมุข
และผดิ กฎหมาย
๕. กิจกรรมนั้น ต้องนำ�ความพึงพอใจในทันทีทันใด และโดยตรง
ต่อผู้เข้าร่วมกิจกรรม
๖. กจิ กรรมท่ีเลือกนัน้ ตอ้ งไมเ่ ป็นกจิ กรรมที่ท�ำ เป็นอาชีพ

ประโยชน์ของนนั ทนาการ

ตราบใดที่มนุษย์ยังต้องต่อสู้กับชีวิตจากการประกอบอาชีพท่ีมีลักษณะ
แตกต่างกันไป บางคนต้องทำ�งานหนักตลอดวัน และบางคนต้องทำ�งานทั้งวัน
ทั้งคืน ไม่มีเวลาว่างท่ีจะพักผ่อนหย่อนใจ และไม่มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรม
นันทนาการ ทำ�ให้ระบบสังคมสลับซับซ้อนมากข้ึน ดังนั้นบุคคลควรจะมองเห็น
ความสำ�คัญ และประโยชนข์ องนนั ทนาการ ซ่ึงจะชว่ ยขจดั ปญั หาต่างๆ ได้ดังนี้

บทท่ี ๕ แผนกจิ กรรมคา่ ยนนั ทนาการ 128

๑. ช่วยให้คนรู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ตามปกติคนมีเวลา
ทำ�งาน เวลานอน กิจวัตรประจำ�วันแล้วยังมีเวลาว่างเหลืออีกประมาณ
วันละ ๕ – ๗ ชั่วโมง เวลาว่างน้ีสามารถนำ�มาใช้ให้เกิดประโยชน์
ด้วยการร่วมกิจกรรมนันทนาการ จะได้ประโยชน์ต่อสังคมดีกว่าปล่อยเวลา
ให้เปล่าประโยชน์ หรือในทางอบายมขุ
๒. ช่วยให้บุคคลในอาชีพต่างๆ ได้พักผ่อน การมีโอกาสผ่อนคลาย
ความเหน็ดเหนื่อย มีเวลาร่วมสนุกสนานในกิจกรรมนันทนาการ ใช้เวลาอ่ืนๆ
ให้เป็นประโยชน์ และสร้างสรรค์
๓. ช่วยในทางสุขภาพจิต สังคมปัจจุบันซับซ้อน มีปัญหาต่างๆ
ในชวี ติ มากมาย สงิ่ เหลา่ นเ้ี ปน็ หนทางน�ำ ไปสสู่ ขุ ภาพจติ เสอื่ ม การประกอบกจิ กรรม
นนั ทนาการจะท�ำ ใหส้ ขุ ภาพดี แจม่ ใส ปราศจาก ความกงั วล ปญั หาตา่ งๆ กห็ มดไป
และยังช่วยแก้ไขสุขภาพจิตเสื่อมได้ด้วย
๔. ช่วยป้องกนั อาชญากรรม และความประพฤตเิ กเรของเดก็ ปจั จุบันน้ ี
ปัญหาวัยรุ่นท่ีเกิดข้ึนมีมากมาย ซ่ึงเนื่องมาจากวัยรุ่นเหล่าน้ีใช้เวลาว่าง
เหลา่ น้นั ไปในทางทผี่ ิด เชน่ ลักขโมย ก่ออาชญากรรม ฯลฯ
๕. ช่วยบำ�รุงขวัญ ความแข็งแรง และความอดทนของทหาร ตำ�รวจ
กิจกรรมนนั ทนาการ ทำ�ให้ทหาร ต�ำ รวจมรี า่ งกายแขง็ แรง และรืน่ เริง สนกุ สนาน
ไม่ว่าในยามสงบหรือในยามสงคราม เช่น มีนักร้องไปแสดงให้ความบันเทิง
แก่ทหาร ตำ�รวจ ซึ่งเป็นสิ่งท่ีช่วยบำ�รุงขวัญ บำ�รุงนำ้�ใจ ทำ�ให้มีกำ�ลังใจ
มีความแข็งแรง อดทนเพื่อหน้าท่ี
๖. ส่งเสริมให้เกิดความสุข ความพอใจ ผู้ท่ีจะเข้าร่วมในกิจกรรม
นันทนาการชนิดใดน้ัน ย่อมพอใจในกิจกรรมน้ัน ผลท่ีได้รับทำ�ให้เขามีความสุข
สดชน่ื เพลิดเพลนิ สนุกสนาน พอใจในชีวิต และสงั คม
๗. ช่วยให้ความปลอดภัยแก่สังคม ประชาชนในกรุงเทพฯ อยู่กันอย่าง
หนาแน่น จะหาท่ีว่าง ใช้สำ�หรับเล่น สำ�หรับพักผ่อน สนามเด็กเล่นมีไม่พอ
จะเห็นได้ว่าเด็กจำ�นวนมากวิ่งเล่นบนถนน หรือบนทางเท้า ซึ่งอาจจะ

129 บทที่ ๕ แผนกจิ กรรมคา่ ยนันทนาการ

เกิดอนั ตรายได้ ฉะนั้น เพ่ือความปลอดภยั แก่เดก็ ควรจดั สนามเด็กเล่น สนามกฬี า
ให้เพยี งพอ
๘. ช่วยเสริมความรกั ความอบอุน่ และความเขา้ ใจอนั ดี สมาชิกภายใน
ครอบครัวจะมีโอกาสพบกันเสมอ และได้แสดงความเห็นอกเห็นใจ โดยการใช้
กจิ กรรมนนั ทนาการรว่ มกนั เพอื่ สง่ เสรมิ ความเข้าใจอนั ดี
๙. ส่งเสริมความเป็นพลเมืองดี ประชาชนที่รู้จักบำ�รุงรักษาสุขภาพ
ใช้เวลาว่างในทางท่ีถูก ไม่สร้างความเดือดร้อนให้สังคม รักความยุติธรรม
ไม่เห็นแก่ตัว รักหมู่คณะ มีน้ำ�ใจ รักการให้บริการอาสาสมัครช่วยเหลือสังคม
สิง่ เหลา่ นนี้ บั วา่ เป็นพลเมอื งดี ซ่ึงสบื เน่ืองจากการเข้าร่วมกจิ กรรมนันทนาการ
๑๐. ส่งเสริมให้มีการสงวนทรัพยากรธรรมชาติของประเทศชาติ
นันทนาการมีนโยบาย ใหม้ ีการสงวนป่าไม้ เพื่อเปน็ วนอทุ ยาน เปน็ สวนพฤกษชาติ
เพื่อให้ประชาชนได้แสวงหาความสุข ความพอใจ และความเพลิดเพลิน
จากธรรมชาติที่สวยงาม ทำ�ให้ทรัพยากรธรรมชาติของประเทศยั่งยืนนาน
ไม่มีวันหมดส้นิ

บทท่ี ๕ แผนกิจกรรมคา่ ยนนั ทนาการ 130

ประเภทของกจิ กรรมนันทนาการ
กิจกรรมนันทนาการ สามารถจะแยกออกได้ตามลักษณะของกิจกรรม
และเพ่ือให้บรรลุตามความมุ่งหมายของการจัดของผู้เข้าร่วม และผู้รับผิดชอบ
จงึ แยกประเภทของกิจกรรมนันทนาการออกไดด้ งั ต่อไปนี้
๑. ศลิ ปหตั ถกรรม
เป็นกิจกรรมประเภทการป้ัน การวาดเขียน กิจกรรมต่างๆ ท่ีใช้มือ
ประดิษฐ์ส่ิงของขึ้นมา อันทำ�ให้เกิดความเพลิดเพลินบันเทิงใจ เป็นกิจกรรม
นันทนาการทัง้ สิ้น
๒. เกม และกีฬา
กิจกรรมประเภทเกม และกีฬาน้ี เป็นกิจกรรมท่ีนิยมกันแพร่หลาย
และเป็นกิจกรรมนันทนาการท่ใี หป้ ระโยชนม์ ากที่สุดแกผ่ ู้เข้ารว่ ม
๓. การดนตรแี ละรอ้ งเพลง
กจิ กรรมการดนตรแี ละรอ้ งเพลงทกุ ชนดิ เปน็ เครอ่ื งปลอบประโลมใจ
ให้เพลิดเพลิน สนุกสนาน และบันเทิงแก่ผู้เล่น และผู้ฟัง จะเป็นดนตรีสากล
ดนตรไี ทย ฯลฯ รวมถงึ การรอ้ งเพลงเดย่ี ว การรอ้ งเพลงหมู่ เพลงพนื้ บา้ น เพลงไทย
เพลงสากล เพลงร�ำ วง ลำ�ตดั เพลงฉอ่ ย ฯลฯ
๔. การเตน้ รำ�
การเต้นรำ� เป็นกิจกรรมการเคล่ือนไหวต่างๆ ที่ใช้จังหวะดนตรีนั้น
เป็นกิจกรรมท่ีให้ความสนุกสนาน ให้ชีวิตเพลิดเพลิน ซ่ึงถือว่าเป็นกิจกรรม
นนั ทนาการ เชน่ การเตน้ ร�ำ พนื้ เมอื ง ร�ำ โทน กจิ กรรมเขา้ จงั หวะ และลลี าศ เปน็ ตน้
๕. งานอดเิ รก
งานอดเิ รกเปน็ กจิ กรรมนันทนาการทสี่ ำ�คัญแขนงหน่งึ คือ เป็นส่ิงท ี่
ช่วยให้การดำ�เนินชีวิตประจำ�วันของคนมีความสุขเพลิดเพลิน สำ�หรับเด็ก
ควรได้รับการฝึกหัดให้รู้จักประกอบกิจกรรมนี้ ทั้งในโรงเรียน และทางบ้าน
งานอดเิ รกแบ่งได้ 3 แบบ คือ
๕.๑ แบบงานเกบ็ สะสม คอื ใชเ้ วลาวา่ งในการเกบ็ สะสมสง่ิ ของตา่ งๆ

131 บทที่ ๕ แผนกจิ กรรมคา่ ยนันทนาการ

เช่น สะสมแสตมป์ ใบไม้สี รูปภาพ ภาพวิว ภาพโบราณวัตถุ เหรียญที่ระลึก
ธนบัตรเกา่ ๆ เคร่อื งลายคราม ฯลฯ
๕.๒ แบบงานทำ�ประดิษฐ์ คือ ใช้เวลาว่างในการสร้างสรรค์
ประดษิ ฐส์ ่งิ ตา่ งๆ เช่น ทร่ี องจาน ดอกไม้ไฟ โปะ๊ ตะเกียง ฯลฯ
๕.๓ แบบงานกสิกรรมในครัวเรือน คือ เวลาว่างในการปลูก
พืชผกั สวนครวั เล้ียงกลว้ ยไม้ เลี้ยงสัตว์ ฯลฯ
งานอดิเรกถือเป็นเคร่ืองกล่อมเกลานิสัยให้บุคคล เป็นคนมี
ความละเอียดอ่อน สุขุมเยือกเย็น รู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง
ครอบครวั และสังคมอีกดว้ ย
๖. กจิ กรรมทางสงั คม
กิจกรรมนันทนาการทางสังคม ได้แก่ กิจกรรมนันทนาการ
หลายประเภททกี่ ลมุ่ คนไดร้ ว่ มกนั ประกอบขน้ึ โดยมจี ดุ มงุ่ หมายอยา่ งเดยี วกนั จงึ ได้
รว่ มประกอบกจิ กรรมนนั ทนาการชนดิ นนั้ เพอ่ื สงั คม เชน่ การประชมุ พบปะสงั สรรค ์
การสมาคมสโมสร การรบั ประทานเลีย้ งในโอกาสตา่ งๆ ฯลฯ
๗. การละคร
การแสดงตา่ งๆ ทเี่ ปน็ ไปในแบบของการละคร จะบนเวทหี รอื ไมก่ ต็ าม
ผู้เล่น และผู้ดูได้รับความเพลิดเพลินก็จัดว่าเป็นกิจกรรมนันทนาการ
เช่น ละครท่เี ล่นทกุ แหง่ ภาพยนตร์ โทรทศั น์ ละคร กรมศิลปากร โขน หนงั ตะลงุ
มโนราห์ ลเิ ก ห่นุ กระบอก การแต่งตวั แฟนซี ฯลฯ
๘. วรรณกรรม (อา่ น เขยี น พูด)
กิจกรรมการอ่าน เขียน พูด ในเวลาว่างทำ�ให้เกิดประโยชน์
ใหม้ คี วามรู้ ความเพลิดเพลิน สนกุ สนาน เช่น
๘.๑ กิจกรรมการพดู คุย สนทนา โตว้ าที การปาฐกถา ฯลฯ
๘.๒ กิจกรรมการอา่ น การอ่านหนงั สอื พิมพ์ หนังสอื ต่างๆ ฯลฯ
๘.๓ กจิ กรรมทางการฟงั ฟงั วิทยุ ฟังอภิปรายโต้วาที ฯลฯ
๘.๔ กิจกรรมทางการเขยี น เขียนบทความ นวนยิ าย นิทาน ฯลฯ

บทท่ี ๕ แผนกจิ กรรมค่ายนันทนาการ 132

๙. กิจกรรมกลางแจง้ /นอกเมอื ง
เน่ืองจากในเมืองมีคนอยู่หนาแน่น ที่พักผ่อนหย่อนใจไม่เพียงพอ
ฉะนั้นกิจกรรมกลางแจ้งนอกสถานท่ี ชมภูมิประเทศ ศึกษาธรรมชาติ ท�ำให้
มชี วี ติ ชวี ายงิ่ ขนึ้ และเปน็ การเพม่ิ ความรใู้ หแ้ กก่ จิ กรรมนี้ ไดแ้ ก่ ยงิ นก ตกปลา ลา่ สตั ว ์
วา่ ยน้ำ� เที่ยวชมป่าไม้ สัตวป์ ่า เท่ยี ววนอทุ ยาน เดนิ เล่น เดนิ ทางไกล ฯลฯ
๑๐. กิจกรรมพเิ ศษตามเทศกาลตา่ งๆ
กิจกรรมพิเศษตามเทศกาลต่างๆ ได้แก่ กิจกรรมที่มีการเล่น
เปน็ ครัง้ คราวแตเ่ ปน็ กจิ กรรมตามประเพณีของทอ้ งถิน่ ที่ประชาชนทวั่ ไปปฏบิ ัติกัน
เช่น งานวันข้ึนปีใหม่ งานวันตรุษ สงกรานต์ งานเทศกาลประจำ�ท้องถ่ิน
กิจกรรมทางศาสนา เช่น ทอดกฐิน ทอดผ้าป่า กิจกรรมพิเศษจัดให้มีขึ้น
เพื่อใหป้ ระชาชนในทอ้ งถ่ินได้พกั ผอ่ นหย่อนใจ สนกุ สนาน และท�ำ บญุ ดว้ ย
๑๑. การบรกิ ารอาสาสมคั ร
การบริการอาสาสมัคร ได้แก่ กิจกรรมท่ีบุคคลสมัครใจเข้าร่วม
ด้วยความสมัครใจ และเป็นกิจกรรมที่บริการอาสาสมัครแก่กลุ่มคนหรือชุมชน
เพ่ือประโยชน์ส่วนรวม เช่น กิจกรรม ค่ายอาสาสมัคร การบำ�เพ็ญ
ประโยชน์สาธารณะ การพัฒนาขดุ ลอกคคู ลอง การปลูกปา่ ฯลฯ

133 บทที่ ๕ แผนกิจกรรมคา่ ยนันทนาการ

๓. การจัดกจิ กรรมอนรุ ักษ์ธรรมชาติ และส่งิ แวดลอ้ ม

วตั ถุประสงค์ของกิจกรรม
๑. เพอ่ื ใหส้ มาชกิ ชาวคา่ ยตระหนกั ถงึ ความส�ำ คญั ของทรพั ยากรธรรมชาติ
และส่งิ แวดล้อมทีม่ ตี ่อคณุ ภาพชีวิต
๒. เพอื่ ปลกู จติ ส�ำ นกึ สมาชกิ ชาวค่ายให้รจู้ กั การอนุรกั ษ์
และรู้จักน�ำ ทรพั ยากร และสง่ิ แวดลอ้ มมาใชป้ ระโยชน์
ในการพฒั นาคุณภาพชีวิตอย่างคมุ้ ค่า
วธิ กี ารเรยี นรู้
๑. นำ�เขา้ สู่กจิ กรรม
๒. การประดิษฐ์สิ่งของจากเศษวัสดุเหลือใช้ (สมดุ ท�ำ มือ)
๓. การอภิปราย และการนำ�เสนอผลงาน

บทท่ี ๕ แผนกิจกรรมค่ายนันทนาการ 134

๔. การจดั กิจกรรมตุ๊กตาไขลาน สืบสานวัฒนธรรม

วตั ถปุ ระสงคข์ องกจิ กรรม
๑. เพอ่ื ให้สมาชกิ ชาวคา่ ยตระหนกั ถึงความส�ำ คัญของวัฒนธรรม
และประเพณีอันดงี ามของไทยท่มี ตี อ่ คุณภาพชวี ติ
๒. เพอ่ื ปลกู จติ ส�ำ นึกสมาชิกชาวคา่ ยใหร้ จู้ กั การอนุรกั ษ์ และธ�ำ รงไว้
ซ่งึ วฒั นธรรมและประเพณอี นั ดงี ามของไทย รู้จักนำ�มาใชป้ ระโยชน์
ในการพฒั นาคุณภาพชวี ิตอย่างคมุ้ ค่า
วธิ ีการเรยี นรู้
๑. นำ�เข้าสู่กิจกรรม
๒. ผนู้ �ำ กจิ กรรมอธิบาย พรอ้ มยกตัวอยา่ งการเต้นร�ำ พ้ืนเมอื ง เชน่ รำ�เซง้ิ
บ้ังไฟ เต้นกำ�รำ�เคยี ว ร�ำ มโนราห์ ร�ำ กลองยาว ร�ำ วง เปน็ ตน้
๓. ให้ผู้แทนสมาชิกแต่ละกล่มุ ออกมาจบั สลาก และให้เวลาสมาชกิ
แต่ละกลมุ่ ได้ฝึกซ้อมการรำ�พน้ื เมือง ตามที่จบั สลากไดใ้ ห้เข้าจงั หวะ
โดยจะตอ้ งทำ�ท่าเลยี นแบบตกุ๊ ตาไขลานให้สวยงาม
๔. จดั ใหม้ กี ารประกวด และมกี ารมอบรางวลั
๕. อภิปราย และสรุปภาพรวมของกิจกรรม
อปุ กรณ์ที่จ�ำ เปน็ ในการประกอบกจิ กรรม
๑. ซีดเี พลงท่ีใช้ประกอบการรำ�พนื้ เมือง
ตามหวั ขอ้ ทใ่ี หส้ มาชกิ ชาวคา่ ย
จับสลาก
๒. เคร่อื งเสยี ง พร้อมเคร่ืองเล่นซีดี
๓. สลาก


135 บทที่ ๕ แผนกิจกรรมค่ายนนั ทนาการ

๕. การจัดกิจกรรมแตง่ แต้ม เตมิ ฝนั

วัตถปุ ระสงคข์ องกิจกรรม
๑. เพื่อส่งเสริมจินตนาการของสมาชิกชาวค่าย ก่อเกิดความคิดริเริ่ม
สรา้ งสรรค์ และยอมรบั ความคิดเห็นของผอู้ ื่น
๒. เพื่อปลูกจิตสำ�นึกสมาชิกชาวค่ายให้เป็นผู้รักการอ่าน และนำ�มา
ใช้ประโยชน์ในการพฒั นาคณุ ภาพชีวติ ตนเอง
วิธีการเรียนรู้
๑. น�ำ เข้าสูก่ ิจกรรม โดยอธบิ ายวธิ กี ารแต่งนิทานอย่างง่าย
๒. ให้ผแู้ ทนแตล่ ะกลมุ่ ออกมาจบั สลากบทกลอน และใหส้ มาชิก
ในกลุม่ ชว่ ยกนั อ่านบทกลอน และทำ�ความเข้าใจ และน�ำ ตัวละคร
ในบทกลอนมาแตง่ เปน็ นทิ านให้สนุกสนาน พร้อมมคี ติสอนใจ
ความยาว ๔ หน้ากระดาษ A4
๓. เม่ือพรอ้ มทุกกลุ่ม ให้แตล่ ะกล่มุ น�ำ เสนอให้สมาชกิ ท้ังหมดฟงั
โดยผลดั เปลี่ยนกนั เล่านิทานที่แต่งขน้ึ
๔. อภปิ ราย และสรปุ ภาพรวมของกจิ กรรม


บทที่ ๕ แผนกิจกรรมคา่ ยนนั ทนาการ 136

ตวั อยา่ งบทกลอน
ผีเสอ้ื แสนสวย

ฉันคอื ผเี ส้ือนอ้ ยแสนงดงาม สวยอร่ามสีสันฉนั สดใส
ปีกบางเบาวาววบั จบั ดวงใจ ทรวดทรงไซรว้ ิไลดูงามตา
ตัวฉนั ชอบเต้นระบ�ำ และรำ�ฟอ้ น ชอบบนิ รอ่ นตอมดอกไมใ้ บพฤกษา
ดม่ื น้�ำหวานจากมวลไมด้ อกนานา คลกุ เคล้าเสน่หามาลีงาม

กระตา่ ยนอ้ ย
ตัวฉันคอื กระต่ายนอ้ ยแสนสวย หุ่นสำ�รวยขนฟูดนู า่ รกั
ตาแดงแดงสุกสกาวแวววาวนกั ชอบแหงนพกั ตรช์ มจนั ทรย์ ามคำ่� คนื
กระโดดเลน่ ในทงุ่ หญ้าอนั กว้างใหญ่ พบเพอื่ นใหมว่ ัยละออ่ นสดุ ชืน่ ม่นื
วิ่งไล่กันเหน่ือยอ่อนนอนตามพนื้ หัวเราะรื่นสขุ ใจสดใสเอย

ปลาทองแสนสวย
ตัวฉนั คือปลาทองสสี นั สวย รา่ งสำ�รวยกลมกลงึ หางพลิว้ ไหว
ช่างงดงามหลากสีสนั ต่างพันธุ์ไป แหวกว่ายในวารีตระการตา
ชวนกันวา่ ยน�้ำซ่อนตามซอกหิน จับลูกนำ�้ มากินเปน็ อาหาร
วา่ ยเล่นตามกนั ไปแสนเบิกบาน สดุ สราญหนักหนาปลาทองเอย

หุ่นไลก่ า
ตัวฉันเป็นหนุ่ ไลน่ กกา ยนื กางแขนกางขาช่างคล้ายคน
สวมเสอ้ื ผา้ กางเกงสหี มน่ หม่น ตอ้ งอดทนตร�ำ แดดกลา้ ท้าลมแรง
ตัวฉันมีคณุ ค่ามหาศาล นกมิหาญรุกรานกินพืชผล
เพอื่ นชาวนารกั ฉนั กนั ทุกคน ผลติ ผลมากลน้ ชุมชนรวย

ชมไพร
เมื่อพวกเราเดินเล่นในพงไพร สุขเพลนิ ใจชมชวี ิตในพนา
แกะ ลา มา้ เกง้ กวาง ชา้ ง เลยี งผา เดินเล็มหญา้ หากนิ ท่ัวเขตคาม
นก แมลงปอ ผเี สอ้ื ผ้งึ ภมร พากันบินโฉบรอ่ นทวั่ ฟ้าคราม
ดอกไมห้ ลากสีสนั พนั ธ์ุงดงาม เห็ดสวยตามขอนไม้มีให้ชม

137 บทท่ี ๕ แผนกจิ กรรมค่ายนันทนาการ

๖. การจัดกิจกรรมเสริมสรา้ งความสามคั คี และการอยูร่ ว่ มกัน
อย่างมคี วามสุข (Walk Rally)

วตั ถุประสงค์ของกจิ กรรม
๑. เพ่อื ใหส้ มาชิกชาวค่ายเกดิ ทักษะในการท�ำ งานร่วมกัน
๒. เพอ่ื ใหส้ มาชกิ ชาวคา่ ยเกดิ ทกั ษะในการเลอื กสรรกจิ กรรมนนั ทนาการ
ทีเ่ ปน็ ประโยชน์ตอ่ การพัฒนาคณุ ชวี ิต
๓. เพื่อให้สมาชิกชาวคา่ ยไดต้ ระหนกั ถึงคณุ ค่าของกิจกรรมนนั ทนาการ
ที่มีตอ่ หลักคุณธรรม จริยธรรม และสามารถน�ำ กิจกรรมนันทนาการ
ไปใชใ้ นการดำ�เนนิ ชวี ติ อยา่ งมคี ณุ ค่า

วธิ กี ารเรยี นรู้
๑. การน�ำ เขา้ สกู่ จิ กรรม โดยอธบิ ายความหมาย และวธิ กี ารรว่ มกจิ กรรม
Walk Rally
๒. การด�ำ เนนิ กจิ กรรม Walk Rally
๓. การบนั ทกึ กจิ กรรมแตล่ ะสถานี
๔. การให้สมาชกิ ชาวค่ายไดช้ ่วยกันสรุปกิจกรรม


ขอ้ มลู เกยี่ วกบั กจิ กรรม Walk Rally
ความเป็นมาของกิจกรรม Walk Rally

ผู้ท่ีเร่ิมต้นในการจัดกิจกรรม Walk Rally คือ นายชิเกรุ โคบายาชิ
ผู้จัดการบรษิ ัท โซนี จำ�กดั ซง่ึ ตง้ั อยู่ที่เมืองอัสซกิ ิ ประเทศญ่ปี ุ่น โดยนำ�มาทดลอง
ใช้กับพนักงานในบริษัทของเขา ซึ่งมีปัญหาความขัดแย้ง กระทบกระทั่งกัน
อยู่บ่อยคร้ัง ขาดความสัมพันธ์อันดีในการทำ�งานร่วมกัน และเม่ือเขาได้ทดลอง
กบั กลมุ่ เลก็ ๆ แลว้ ปรากฏวา่ ไดผ้ ลดี จงึ ขยายผลไปจนครบทกุ คน ตอ่ มาบรษิ ทั ตา่ งๆ
ในญ่ปี ุ่นจงึ น�ำ ไปใช้กันอยา่ งแพร่หลาย

บทที่ ๕ แผนกิจกรรมค่ายนันทนาการ 138

ความสำ�คัญของกิจกรรม Walk Rally
๑. เป็นกิจกรรมที่เหมาะกับลักษณะสังคมในปัจจุบัน ที่สอนให้
ทกุ คนกลา้ คดิ กลา้ แสดงออก รจู้ กั การมองปญั หาในแงม่ มุ ตา่ งๆ และรจู้ กั การยอมรบั
ความคิดเหน็ ซ่ึงกันและกัน
๒. เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมการเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง
และยึดผูเ้ ข้าร่วมกจิ กรรมเปน็ ศนู ย์กลาง
๓. เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ในการทำ�งานร่วมกัน
เพ่ือให้ทีมไปสู่ความสำ�เร็จ ให้เห็นว่าทีมของตนกับทีมของผู้อ่ืนเหมือน
หรือแตกตา่ งกันอย่างไรบ้าง
๔. เป็นกิจกรรมท่ีสนุกสนาน ท้าทาย เพราะใช้เกมมาประกอบ
การเรียนรู้ และได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด อีกท้ังได้ออกกำ�ลังกาย
อย่างไม่รูต้ วั
๕. เป็นกิจกรรมท่ีทำ�ให้บุคคลเกิดการเปล่ียนแปลงพฤติกรรม
และไดเ้ ห็นศกั ยภาพทีแ่ ท้จรงิ ของสมาชิกชาวคา่ ยแต่ละคนในกล่มุ
ลักษณะของกจิ กรรม Walk Rally
๑. เป็นกิจกรรมท่ีเปิดโอกาสให้สมาชิกชาวค่ายทุกคนในกลุ่ม
รว่ มคดิ ร่วมตัดสินใจ ร่วมท�ำ รว่ มรบั ผดิ ชอบ
๒. เป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้สมาชิกชาวค่ายได้เป็นผู้นำ� ผู้ตาม
ผชู้ ่วยเหลอื ผสู้ นับสนุน และฝึกการยอมรบั ผอู้ ่นื
๓. เสริมสร้างสขุ ภาพ พลานามัยให้แก่สมาชิกชาวค่าย
๔. เน้นความสามัคคี การวางแผน การเสียสละ การสื่อสาร
การประสานงาน
๕. ให้รจู้ ักศักยภาพของตนเอง ผู้อ่นื และทมี งาน
๖. ส่งเสริมให้เกิดความความคิดสร้างสรรค์ การบริหารจัดการคน
ใหเ้ หมาะกับงาน และการสร้างความรักในกลุ่ม/ทีม

139 บทที่ ๕ แผนกิจกรรมค่ายนนั ทนาการ

องคป์ ระกอบของกจิ กรรม Walk Rally
๑. บริเวณพื้นท่ีในการจัดกิจกรรมควรจะเป็นธรรมชาติท่ีร่มรื่น
สวยงาม และควรกว้างขวาง เหมาะสมกบั จ�ำ นวนผู้เขา้ รว่ มกจิ กรรม
๒. สถานี หรือจุดท่ีใช้ทำ�กิจกรรม โดยทั่วไปจะมีจำ�นวนเท่ากับ
จ�ำ นวนกลุ่ม / ทมี ท่ีได้แบ่งไว้ (เพอ่ื ใหท้ ุกกลุ่ม/ทมี เขา้ ท�ำ กจิ กรรมไดพ้ ร้อมกัน)
๓. กิจกรรมที่จัด ควรจะตอบสนองกับวัตถุประสงค์ของโครงการ
เพ่ือใหเ้ กิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม และต้องสนกุ สนานดว้ ย
๔. บุ ค ล า ก ร โ ด ย ป ก ติ จ ะ ป ร ะ ก อ บ ไ ป ด้ ว ย ส ม า ชิ ก ช า ว ค่ า ย
ผนู้ ำ�กจิ กรรมและทมี งาน
๕. ก า ร ส รุ ป กิ จ ก ร ร ม ค ว ร ใ ห้ ผู้ เข้ า ร่ ว ม กิ จ ก ร ร ม ไ ด้ ร่ ว ม คิ ด
รว่ มวเิ คราะหถ์ งึ ประโยชน์ หรอื แงม่ มุ ตา่ งๆ จากการท�ำ กจิ กรรม และจดั ผแู้ ทนกลมุ่
นำ�เสนอ
วตั ถปุ ระสงค์ของกิจกรรม Walk Rally
๑. ฝกึ ใหเ้ ปน็ ผู้มีมนุษยสัมพันธท์ ่ดี ี
๒. ฝึกการทำ�งานเปน็ ทีม การเป็นผู้น�ำ ผูต้ ามทีด่ ี
๓. เพ่ือใหเ้ กิดความสนกุ สนานเพลดิ เพลนิ ในขณะการเรยี นรู้
๔. ฝึกการตัดสนิ ใจ และการแกป้ ญั หาเฉพาะหน้าร่วมกัน
๕. ฝึกการวางแผน การสัง่ งาน การมอบหมายงาน
๖. ใหร้ จู้ ักตนเอง และเพื่อนร่วมงาน รวมทัง้ คู่แขง่ ขนั อน่ื ๆ
๗. สง่ เสริมสุขภาพ พลานามยั และสมรรถภาพทางกาย
๘. ให้รูจ้ ักการสอ่ื สาร ความกลา้ แสดงออก และสรา้ งเสรมิ ความมั่นใจ
ในตนเอง
๙. ใหร้ จู้ กั อดทน อดกลน้ั เสยี สละ ความเปน็ ประชาธปิ ไตย การชว่ ยเหลอื
ซง่ึ กันและกนั
๑๐. สง่ เสริมให้รู้จกั ใชค้ วามคิดอยา่ งสร้างสรรค์

บทท่ี ๕ แผนกิจกรรมค่ายนนั ทนาการ 140

การจัดกจิ กรรมในแต่ละสถานี
๑. กจิ กรรมควรเหมาะสมกบั เพศ และวัยของสมาชิกชาวค่าย
๒. กจิ กรรมควรมที ง้ั ความสนกุ สนาน ไดใ้ ชท้ กั ษะ ไดใ้ ชค้ วามคดิ สลบั กนั ไป
ใหค้ รบถว้ น โดยเนน้ ให้สมาชิกชาวค่ายทกุ คนไดม้ สี ว่ นรว่ ม
๓. กจิ กรรมน้ันต้องมเี ป้าหมายท่มี ีสาระสอดคลอ้ งกับวตั ถปุ ระสงคข์ อง
โครงการ
๔. วธิ กี ารท�ำ กจิ กรรม ควรมหี ลากหลายวธิ ี เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความสนใจ ไมน่ า่ เบอ่ื
แต่ท้าทาย ใหล้ องปฏิบตั ิ
เทคนิคการดำ�เนนิ กจิ กรรม
๑. ควรจัดวางกิจกรรมแต่ละสถานีให้ห่างกันพอสมควร แต่อย่าให้
ไกลเกินไป เพราะถ้าเหนื่อยแล้วจะไม่เกิดการเรียนรู้ และจะไม่สนุก (แต่ไม่ควร
ใหม้ องเหน็ กนั ในขณะท่ีอยู่กันคนละสถานี)
๒. อาจจะให้ทุกสถานีเริ่มกิจกรรมพร้อมกัน แล้วหมุนไปพร้อมกัน
ทุกสถานี (แต่ทุกกิจกรรมต้องใช้เวลาในการปฏิบัติเท่ากัน จะได้ไม่ต้อง
มีการรอเขา้ สถานี หรือเห็นวิธีการปฏิบัตขิ องสถานีใหม)่
๓. อาจจะให้เข้าท่ีสถานีที่ ๑ เหมือนกันทุกกลุ่ม แล้ววนไป
หรอื เคลอื่ นไปจนครบทกุ สถานกี ไ็ ด้ แตก่ ลมุ่ ทย่ี งั ไมเ่ รมิ่ ปฏบิ ตั ใิ นสถานที ่ี ๑ วทิ ยากร
ต้องจัดกิจกรรมให้ทำ�ขณะที่ยังรอการเข้าสถานีแรก ส่วนกลุ่มที่ปฏิบัติกิจกรรม
ครบทุกสถานีแล้ว ผู้นำ�กิจกรรมก็ต้องจัดกิจกรรมเดียวกัน เพ่ือให้เกิด
ความเทา่ เทียมกนั และไมเ่ บื่อท่ีต้องรอ
๔. การแบ่งกลุ่ม และการวางสถานีในการทำ�กิจกรรมต้องให้
เหมาะสมกับเวลา
๕. ค ว ร ป ร ะ ก า ศ ผ ล ค ะ แ น น ใ ห้ เ ส ร็ จ ส้ิ น ห ลั ง จ า ก เ ส ร็ จ ส้ิ น
กิจกรรมท้ังหมดแล้ว อย่าปล่อยเวลาเนิ่นนานจนไม่เกิดความสนใจ หรือใส่ใจ
จะรู้ผลแล้ว

141 บทที่ ๕ แผนกจิ กรรมคา่ ยนนั ทนาการ

อุปกรณท์ จ่ี ำ�เปน็ ส�ำ หรับกจิ กรรม Walk Rally
๑. แผนทบี่ รเิ วณท่ีจัดกจิ กรรม
๒. แบบบันทกึ กิจกรรม
๓. แบบบันทกึ ของผู้ประจำ�สถานี
๔. ตารางสรุปผลคะแนนกิจกรรม
๕. นาฬิกาจบั เวลา
๖. กระดาษ และปากกา พรอ้ มแผน่ รองเขยี น
๗. ใบงาน หรอื กตกิ าของแตล่ ะสถานี
๘. สัญลกั ษณ์ประจำ�สถานี
๙. ผ้าสีส�ำ หรบั กลุ่ม/ทมี ตา่ งๆ
๑๐. เครือ่ งมือส่ือสารระหวา่ งสถานีต่างๆ
๑๑. อุปกรณ์ของแตล่ ะสถานี
๑๒. อุปกรณป์ ฐมพยาบาล
๑๓. ของรางวลั
๑๔. เครื่องขยายเสียงเคลอื่ นที่

การเตรียมตัวส�ำ หรบั สมาชิกชาวค่าย
๑. การแตง่ กาย ควรสวมกางเกงขายาว
และใส่รองเทา้ ผา้ ใบห้มุ ส้น
๒. ไม่ควรนำ�ของมีค่าติดตัวไป
ขณะประกอบกิจกรรม
เพราะอาจจะเกิดการสูญหายได้
๓. เมื่อเข้าสู่กิจกรรมให้ร่วมคิด
และแสดงออกอย่างเต็มที่
เต็มศักยภาพเพื่อความสำ�เร็จ
ของกลุ่ม

บทท่ี ๕ แผนกิจกรรมคา่ ยนนั ทนาการ 142

Walk Rally

......................... ............................................................... ................................................

.......................................................................................................................................................

()



..................................................................
..................................................................
................................................................
..................................................................................................................................................... ....................
...................................................................................................................................................... ....................
...................................................................................................................................................... ....................

......................... ........................................................................................................ ....................

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

.....................................................
(......................................................)

143 บทที่ ๕ แผนกิจกรรมคา่ ยนันทนาการ

๗. การจัดกิจกรรมมหกรรมสวนสนุก

กิจกรรมมหกรรมสวนสนุก เป็นรูปแบบการจัดกิจกรรมอีกรูปแบบหนึ่ง
ซ่ึงเป็นการนำ�วัฒนธรรมในท้องถ่ินแต่ละท่ี มาประยุกต์ใช้ โดยการจำ�ลองรูปแบบ
การจดั สวนสนุกในงานเทศกาลตามท้องถ่ิน ผนวกกบั การแสดงในรูปแบบตา่ งๆ

วัตถปุ ระสงคข์ องกจิ กรรม
๑. เพื่อฝึกการทำ�งานเป็นทมี อยา่ งเปน็ ระบบ
๒. เพ่อื ฝกึ การแก้ไขปัญหาเฉพาะหนา้ และการตัดสินใจรว่ มกัน
๓. เพอ่ื ฝึกการเหน็ แกป่ ระโยชนส์ ว่ นรวมมากกวา่ ประโยชนส์ ว่ นตัว
๔. เพ่อื ฝกึ การอุทิศตน และการเสยี สละเพ่อื สว่ นรวม

วิธกี ารเรียนรู้
๑. น�ำ เขา้ สูก่ จิ กรรม
๒. ให้แต่ละกลุ่มจับสลากว่าจะได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบ
ซุ้มเกมอะไร เช่น ปาเปา้ บงิ โก โยนห่วง เปน็ ตน้
๓. ผู้นำ�กิจกรรมจัดเตรียมอุปกรณ์ โดยแบ่งอุปกรณ์ออกเป็น
๓ ประเภท ดงั นี้
๓.๑ อุปกรณ์ในการดำ�เนินการซุ้มเกม เช่น ลูกดอก ลูกโป่ง
(ตามลกั ษณะของซมุ้ เกม)
๓.๒ อปุ กรณ์ทเี่ ป็นของรางวลั เชน่ ขนม ลกู อม เป็นต้น
๓.๓ อุปกรณ์ตกแต่งซุ้มเกม เช่น ธงราว กระดาษสี ปากกา
เป็นตน้
๔. หลงั จากทไ่ี ดร้ บั มอบหมายใหร้ บั ผดิ ชอบซมุ้ เกมใดแลว้ ใหด้ �ำ เนนิ การ
จัดตกแต่งซ้มุ เกมให้สวยงามนา่ สนใจ วางแผนการดำ�เนนิ การ
ซมุ้ เกมของตนเอง ก�ำ หนดเงื่อนไข รางวัล
๕. ด�ำ เนินกจิ กรรม แต่ละกลมุ่ เปดิ ดำ�เนนิ การซมุ้ เกมของตนเอง

บทที่ ๕ แผนกจิ กรรมค่ายนนั ทนาการ 144

ในเวลาทก่ี �ำ หนดให้ โดยใชค้ ปู องสที ไ่ี ดร้ บั แทนเงนิ และตอ้ งบรหิ ารจดั การ
ในกลุม่ ของตนเองในการที่จะท�ำ ให้ไดค้ ปู องจากกลุม่ อนื่ มากท่ีสุด
และขณะเดยี วกันตอ้ งพยายามใชค้ ปู องของกลุม่ ตนเองใหห้ มด
ในเวลาทก่ี ำ�หนด
๖. วธิ ีคดิ คะแนน
คะแนน = คปู องของกลมุ่ อนื่ ทไ่ี ดม้ า – คปู องของกลมุ่ ตวั เอง ทใ่ี ชไ้ มห่ มด
(คปู อง ๑ ใบ มคี า่ ๑ คะแนน)
๗. สรปุ กิจกรรม ให้แตล่ ะกลุ่มสง่ ผ้แู ทนสรปุ กจิ กรรม

145 บทที่ ๕ แผนกจิ กรรมค่ายนนั ทนาการ