The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรสุขศึกษาและพล มีโครงสร้าง 65

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by autthacha, 2022-09-06 00:40:10

หลักสูตรสุขศึกษาและพล มีโครงสร้าง 65

หลักสูตรสุขศึกษาและพล มีโครงสร้าง 65

๑๓๕

รายวิชา สขุ ศกึ ษา 4 โครงสรา้ งรายวชิ า
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5
รหสั พ 32102
กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา

จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ เวลา 40 ชวั่ โมง/ปี

หนว่ ย ชื่อหนว่ ยการเรยี นรู้ มาตรฐาน สาระสำคญั เวลา สดั สว่ น
ที่ การเรยี นร/ู้ (ชว่ั โมง) คะแนน

ตวั ชว้ี ดั

1 ระบบหายใจและระบบ พ 1.1 ม ระบบหายใจและระบบไหลเวียนเลอื ด 3 5

ไหลเวยี นเลือด 4-6/1

2 ระบบยอ่ ยอาหารและ พ 1.1 ม ระบบย่อยอาหารและระบบขบั ถ่าย 35

ระบบขับถ่ายปัสสาวะ 4-6/1 ปสั สาวะ

3 วางแผนดีชีวติ มสี ุข พ 1.1 ม การวางแผนดแู ลสขุ ภาพของตนเองและ 3 4

4-6/2 ครอบครวั การวางแผนดแู ลสขุ ภาพของ

วยั ต่างๆ

4 ค่านยิ มเรื่องเพศใน พ 2.1 ม คา่ นยิ มในเรือ่ งเพศ สังคมพหุวฒั นธรรม 3 3

สังคมไทยและพหุ 4-6/2 พฤติกรรมทางเพศ

วฒั นธรรม

5 รจู้ ักสิทธผิ ้บู ริโภค พ 4.1 ม สทิ ธผิ บู้ รโิ ภค การปกป้องสทิ ธิของตนเอง 3 4

4-6/3

6 ร้ทู ันสื่อโฆษณา พ 4.1 ม สื่อโฆษณาเกีย่ วกับสุขภาพ ค่านิยมใน 3 3

4-6/2 การใช้สินคา้ และบริการ

7 การส่งเสรมิ และพัฒนา พ 4.1 ม การสง่ เสริมและพฒั นาสขุ ภาพในชมุ ชน 3 5

สุขภาพในชมุ ชน 4-6/1,4,6 พฤติกรรมเสย่ี งตอ่ สุขภาพ สุขภาพจิต

และการเจบ็ ปว่ ย

8 การสร้างเสรมิ ความ พ 5.1 ม อุบัตเิ หตุ การป้องกนั และหลกี เลี่ยง 25

ปลอดภัยในชมุ ชน 4-6/4,6 อุบัตเิ หตุ สร้างเสรมิ ความปลอดภยั

9 สารเสพติด พ 5.1 ม สารเสพติด การป้องกันพฤตกิ รรมเสยี่ ง 3 5

4-6/2 ต่อการใชส้ ารเสพตดิ บทลงโทษทาง

กฎหมาย

10 หลกี เลย่ี งความรนุ แรง พ 5.1 ม ความรุนแรง แนวทางการปอ้ งกนั และ 3 5

4-6/3,6 เลอื กใช้ทักษะการตดั สนิ ใจแกป้ ัญหาใน

สถานการณ์เสย่ี งต่อความรนุ แรง

11 การชว่ ยฟืน้ คืนชีพพ้ืนฐาน พ 5.1 ม การชว่ ยฟน้ื คืนชีพ ภาวะหัวใจหยดุ เตน้ 4 3

4-6/7 หรอื หยุดหายใจ

12 การทดสอบสมรรถภาพ พ 4.1 ม สมรรถภาพทางกาย การมสี ุขภาพทด่ี ี ๑๓๖
4-6/7 และความสมบรู ณ์ของรา่ งกาย
รวมคะแนนระหวา่ งเรยี น 33

คะแนนสอบกลางภาค 50
คะแนนทดสอบปลายภาค 20
30
รวมทงั้ หมด 100

๑๓๗

ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๔-๖

สาระ มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชวี้ ดั ช่วงชนั้

สาระที่ ๑ การเจรญิ เตบิ โตและพฒั นาการของมนษุ ย์

มาตรฐาน พ ๑.๑ เขา้ ใจธรรมชาตขิ องการเจรญิ เตบิ โตและพฒั นาการของมนษุ ย์

ชน้ั ตัวชี้วัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง

ม.๔-๖ ๑.อธบิ ายกระบวนการสรา้ งเสรมิ และ  กระบวนการสร้างเสริมและดำรง
ดำรงประสิทธิภาพการทำงาน ของ
ระบบอวัยวะต่าง ๆ ประสทิ ธภิ าพการทำงานของระบบอวัยวะ
๒.วางแผนดแู ลสุขภาพตามภาวะการ
เจริญเตบิ โตและพฒั นาการของตนเอง ตา่ ง ๆ
และบคุ คลในครอบครัว
- การทำงานของระบบอวัยวะต่างๆ
- การสร้างเสรมิ และดำรงประสิทธภิ าพของ
อวยั วะต่างๆ (อาหาร การออกกำลงั กาย
นันทนาการ การตรวจสุขภาพ ฯลฯ)
 การวางแผนดแู ลสุขภาพของตนเองและ
บคุ คลในครอบครัว

๑๓๘

สาระท่ี ๒ ชวี ติ และครอบครวั

มาตรฐาน พ ๒.๑ เขา้ ใจและเหน็ คณุ คา่ ตนเอง ครอบครวั เพศศกึ ษา และมที กั ษะในการดำเนนิ ชวี ติ

ช้ัน ตวั ชวี้ ดั สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง

ม.๔-๖ ๑.วเิ คราะหอ์ ิทธิพลของครอบครวั  อิทธิพลของครอบครวั เพื่อน สังคม และ

เพือ่ น สังคม และวฒั นธรรมทีม่ ผี ลตอ่ วัฒนธรรมท่มี ีต่อพฤติกรรมทางเพศ และการ

พฤติกรรมทางเพศและการดำเนินชีวติ ดำเนนิ ชวี ติ

๒.วิเคราะห์ค่านิยมในเร่อื งเพศ ตาม  คา่ นยิ มในเร่ืองเพศตามวัฒนธรรมไทย
วัฒนธรรมไทยและวัฒนธรรม อนื่ ๆ และวัฒนธรรมอนื่ ๆ
๓.เลือกใช้ทักษะทเ่ี หมาะสมในการ
ปอ้ งกนั ลดความขัดแย้งและแก้ปญั หา  แนวทางในการเลือกใช้ทักษะตา่ ง ๆ ในการ
เรอ่ื งเพศและครอบครวั ปอ้ งกัน ลดความขดั แยง้ และแกป้ ญั หาเรอ่ื งเพศ
๔.วเิ คราะห์สาเหตแุ ละผลของความ และครอบครวั
ขัดแย้งท่อี าจเกิดขนึ้ ระหว่างนกั เรยี น - ทกั ษะการสื่อสารและสรา้ งสมั พันธภาพ

หรอื เยาวชนในชุมชน และเสนอแนว - ทกั ษะการตอ่ รอง

ทางแกไ้ ขปัญหา - ทักษะการปฏิเสธ

- ทกั ษะการคิดวิเคราะห์

- ทักษะการตดั สนิ ใจ และแกไ้ ขปัญหา

ฯลฯ
 ความขัดแย้งที่อาจเกิดขึน้ ระหว่างนักเรยี น

หรือเยาวชนในชมุ ชน

- สาเหตุของความขัดแย้ง
- ผลกระทบทีเ่ กดิ จากความขดั แย้งระหว่าง

นักเรียน หรอื เยาวชนในชุมชน
- แนวทางในการแกป้ ัญหาทอี่ าจเกดิ จากความ

ขัดแย้งของนกั เรียนหรือเยาวชนในชมุ ชน

๑๓๙

สาระที่ ๔ การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ สมรรถภาพและการปอ้ งกนั โรค

มาตรฐาน พ ๔.๑ เหน็ คณุ คา่ และมที กั ษะในการสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ การดำรงสขุ ภาพ การปอ้ งกนั โรค
และการสรา้ งเสรมิ สมรรถภาพเพอื่ สขุ ภาพ

ช้ัน ตวั ชวี้ ดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง

ม.๔-๖ ๑. วเิ คราะหบ์ ทบาทและความ  บทบาทและความรับผิดชอบของบคุ คล
รบั ผิดชอบของบุคคลที่มตี อ่ การสร้างเสรมิ
สขุ ภาพและการป้องกันโรคในชุมชน ท่มี ตี ่อการสรา้ งเสรมิ สุขภาพและการปอ้ งกนั โรค
๒. วิเคราะห์ อิทธพิ ลของสอ่ื โฆษณา
เกีย่ วกับสุขภาพเพ่อื การเลอื กบริโภค ในชุมชน
๓. ปฏบิ ตั ิตนตามสิทธขิ องผู้บรโิ ภค  อทิ ธพิ ลของส่ือโฆษณาเกีย่ วกบั สขุ ภาพ
๔. วิเคราะห์สาเหตุและเสนอแนวทาง  แนวทางการเลอื กบรโิ ภคอยา่ งฉลาดและ
การปอ้ งกันการเจ็บปว่ ยและการตาย
ปลอดภัย
ของคนไทย  สิทธิพน้ื ฐานของผ้บู รโิ ภคและกฎหมายท่ี
๕.วางแผนและปฏิบัตติ ามแผนการ
เกยี่ วข้องกบั การคุ้มครองผบู้ ริโภค
พัฒนาสุขภาพของตนเองและครอบครัว  สาเหตขุ องการเจ็บปว่ ยและการตายของคนไทย
๖.มสี ่วนร่วมในการส่งเสรมิ และพัฒนา
สขุ ภาพของบคุ คลในชุมชน เช่น โรคจากการประกอบอาชีพ โรคทาง

๗.วางแผนและปฏบิ ัติตามแผนการ พนั ธกุ รรม
พฒั นาสมรรถภาพกายและสมรรถภาพ  แนวทางการป้องกนั การเจบ็ ป่วย
 การวางแผนการพัฒนาสุขภาพของตนเอง
กลไก
ครอบครัว
 การมสี ่วนรว่ มในการส่งเสรมิ และพัฒนา

สุขภาพของบุคคลในชมุ ชน

 การวางแผนพฒั นาสมรรถภาพทางกาย

และสมรรถภาพกลไก

๑๔๐

สาระที่ ๕ ความปลอดภยั ในชวี ติ

มาตรฐาน พ ๕.๑ ปอ้ งกนั และหลกี เลย่ี งปจั จยั เสยี่ ง พฤตกิ รรมเสย่ี งตอ่ สขุ ภาพ อบุ ตั เิ หตุ การใชย้ า

สารเสพติด และความรนุ แรง

ชัน้ ตวั ชวี้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

ม.๔-๖ ๑. มสี ่วนร่วมในการปอ้ งกันความเสยี่ ง  การจดั กิจกรรมป้องกนั ความเส่ียงต่อการ
ต่อการใชย้ า การใช้สารเสพตดิ และ
ความรนุ แรง เพอ่ื สขุ ภาพของตนเอง ใช้ยา สารเสพตดิ และความรนุ แรง
ครอบครัว และสังคม  การวเิ คราะห์ผลกระทบทีเ่ กดิ จากการ
๒. วเิ คราะห์ผลกระทบทเ่ี กิดจากการ
ครอบครอง การใช้และการจำหนา่ ย ครอบครอง การใช้และการจำหนา่ ยสารเสพติด
สารเสพติด
๓. วเิ คราะห์ปัจจยั ทมี่ ีผลตอ่ สุขภาพ (ตนเอง ครอบครัว เศรษฐกิจ สงั คม)
หรอื ความรุนแรงของคนไทยและเสนอ  โทษทางกฎหมายที่เกิดจากการครอบครอง

แนวทางป้องกัน การใช้และการจำหนา่ ยสารเสพติด
๔. วางแผน กำหนดแนวทางลด  ปจั จัยที่มีผลต่อสขุ ภาพของคนไทยและ

อุบตั เิ หตุ และสรา้ งเสริมความปลอดภยั เสนอแนวทางป้องกัน
ในชุมชน  การวางแผน กำหนดแนวทางลดอบุ ัติเหตุ
๕. มสี ่วนรว่ มในการสร้างเสริมความ
และสร้างเสริมความปลอดภยั ในชมุ ชน
ปลอดภัยในชมุ ชน  กิจกรรมการสรา้ งเสริมความปลอดภัย
๖. ใช้ทกั ษะการตดั สินใจแกป้ ญั หาใน
ในชุมชน
สถานการณ์ที่เสี่ยงตอ่ สุขภาพและความ  ทกั ษะการตดั สนิ ใจแก้ปัญหาในสถานการณ์

ท่ีเสย่ี งต่อสุขภาพ
 วธิ ีการชว่ ยฟน้ื คืนชพี อย่างถกู วิธี

รุนแรง

๗. แสดงวธิ กี ารช่วยฟื้นคนื ชีพอย่างถูก

วธิ ี

๑๔๑

คำอธบิ ายรายวชิ าพื้นฐาน

ชื่อรายวชิ าสุขศึกษา ๕ รหสั วิชา พ ๓๓๑๐๑

กล่มุ สาระการเรียนรสู้ ขุ ศึกษาและพลศึกษา ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๖ ภาคเรยี นที่ ๑

เวลา ๑ ช่วั โมง/สัปดาห์ จำนวน ๐.๕ หน่วยกติ

ศกึ ษาเรอ่ื งการเจรญิ เติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ กระบวนการสร้างเสริม ดำรง
ประสิทธภิ าพการทำงาน ของระบบประสาท / ระบบสืบพันธ์ ระบบไร้ท่อ / วางแผนดูแลสุขภาพ
ตามภาวะการเจริญเตบิ โตและพฒั นาการของตนเอง ครอบครัวและชุมชน วิเคราะหส์ าเหตุและผล
ของความขัดแยง้ ระหว่างนักเรียนหรอื เยาวชนในชมุ ชนพร้อมทง้ั เสนอแนวทางการแกไ้ ขใช้ทักษะ
การคิดวิเคราะห์ ทักษะการตัดสินใจและแกไ้ ขปญั หาในการป้องกนั ลดความขดั แย้ง และแกป้ ัญหา
เร่อื งเพศและครอบครวั

ฝึกให้เรียนรูก้ ารทำงานรว่ มกนั เรียนรเู้ รอ่ื งการวิเคราะหใ์ ช้เหตุผลในการแก้ปญั หา ยอมรับ
ฟังความคิดเหน็ ของผอู้ ื่น การฝกึ ปฏบิ ัติจริง อาทิ การหาขอ้ มูล การสบื ค้นทางอินเตอรเ์ นต็ การ
แสดงบทบาทสมมตุ ิ การจำลองสถานการณ์ การศกึ ษานอกสถานที่ การรายงาน การนำเสนอ
นกั เรยี นนำผลงานกระบวนการการเรยี นรปู้ รับใช้ในชวี ิตได้อยา่ งมีคณุ ค่า มคี วามรบั ผดิ ชอบ ม่งุ ม่นั ใน
การทำงาน
มีวนิ ยั ยอมรบั การตดั สินใจของหมู่คณะอย่างมีเหตุผล

รหัสตวั ชี้วัด

พ ๑.๑ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๒

พ ๒.๑ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๒

รวมท้งั หมด ๔ ตัวชว้ี ัด

๑๔๒

รายวิชา สขุ ศกึ ษา 5 โครงสรา้ งรายวชิ า
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6 รหสั พ 33101

จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา

เวลา 40 ชวั่ โมง/ปี

หนว่ ย ช่ือหนว่ ยการเรยี นรู้ มาตรฐาน สาระสำคญั เวลา สดั สว่ น
ที่ การเรยี นร/ู้ (ชวั่ โมง) คะแนน

ตวั ชว้ี ดั

1 ระบบการทำงานของ พ 1.1 ม ระบบประสาท ระบบสืบพนั ธุ์ ระบบต่อม 4 5

อวัยวะ 4-6/1 ไรท้ ่อ

2 การแกป้ ญั หาความขัดแยง้ พ 2.1 ม ความขดั แยง้ ทกั ษะท่ีเหมาะสมใน 45

4-6/3,4 การปอ้ งกัน ลดความขดั แยง้ และแกไ้ ข

ปัญหา

3 เพศวถิ ีศึกษา พ 2.1 ม เพศวิถศี กึ ษา การดูแลสขุ ภาพและ 44

4-6/3 พัฒนาการ พฤติกรรมทางเพศที่

ปลอดภัย

4 สขุ ภาพดีสร้างได้ พ 4.1 ม การสร้างเสริมสขุ ภาพและการปอ้ งกัน 2 3

4-6/1,6 โรค ปญั หาดา้ นสุขภาพ บทบาทและ

ความรบั ผิดชอบตอ่ การสร้างเสริม

สุขภาพและการป้องกนั โรคในชมุ ชน

5 สิทธผิ ูบ้ รโิ ภค พ 4.1 ม สิทธผิ ูบ้ รโิ ภค แนวทางการป้องกนั สทิ ธิ 2 4

4-6/3 ผบู้ รโิ ภค กฎหมายเกยี่ วกบั การคมุ้ ครอง

ผบู้ รโิ ภค

6 สิง่ แวดลอ้ มดีชีวมี ีสุข พ 4.1 ม กฎบัตรออตตาวาเพอ่ื การสรา้ งเสริม 43

4-6/1,6 สุขภาพ สถานการณ์มลพิษในประเทศ

ไทย

7 โรคทีถ่ า่ ยทอดทาง พ 4.1 ม โรคธาลัสซเี มีย โรคตาบอดสี 45

พนั ธุกรรม 4-6/4 โรคเบาหวาน โรคดกั แด้ โรคฮีโมฟีเลีย

โรคลคู เี มยี

8 ปัจจยั ที่มีผลต่อสขุ ภาพ พ 5.1 ม สถานการณแ์ ละแนวโนม้ สขุ ภาพของคน 2 5

และความรุนแรง 4-6/3 ไทย

9 ชมุ ชนปลอดภยั พ 5.1 ม การมีสว่ นร่วม วางแผน กำหนดแนวทาง 2 5

4-6/4 ลดอุบตั เิ หตุ สรา้ งเสริมความปลอดภัยใน

ชมุ ชน

๑๔๓

10 ผลกระทบจากสารเสพตดิ พ 5.1 ม ปญั หาสารเสพติด ผลกระทบจากการ 4 5

4-6/2 ครอบครอง การใช้ และการจำหน่ายสาร 2 3
2 3
เสพตดิ โทษทางกฎหมาย
50
11 การช่วยฟืน้ คนื ชีพพ้ืนฐาน พ 5.1 ม ความสำคัญของการชว่ ยฟนื้ คนื ชพี (ใน 20
30
(ในเด็ก) 4-6/7 เดก็ ) 100

12 การสรา้ งเสรมิ สมรรถภาพ พ 4.1 ม การออกกำลังกายเพอื่ พฒั นาสมรรถภาพ

ทางกายและสมรรถภาพ 4-6/7 ทางกาย การวางแผนการฝึกใหเ้ หมาะสม

ทางกลไก กบั ตนเอง

รวมคะแนนระหวา่ งเรยี น

คะแนนสอบกลางภาค

คะแนนทดสอบปลายภาค

รวมทง้ั หมด

๑๔๔

ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๔-๖

สาระ มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชวี้ ดั ช่วงชนั้

สาระที่ ๑ การเจรญิ เตบิ โตและพฒั นาการของมนษุ ย์

มาตรฐาน พ ๑.๑ เขา้ ใจธรรมชาตขิ องการเจรญิ เตบิ โตและพฒั นาการของมนษุ ย์

ชน้ั ตัวชว้ี ัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง

ม.๔-๖ ๑.อธิบายกระบวนการสรา้ งเสริมและ  กระบวนการสรา้ งเสรมิ และดำรง
ดำรงประสิทธิภาพการทำงาน ของ
ระบบอวัยวะต่าง ๆ ประสทิ ธภิ าพการทำงานของระบบอวัยวะ
๒.วางแผนดูแลสุขภาพตามภาวะการ
เจรญิ เติบโตและพฒั นาการของตนเอง ตา่ ง ๆ
และบคุ คลในครอบครัว
- การทำงานของระบบอวัยวะตา่ งๆ
- การสรา้ งเสรมิ และดำรงประสิทธิภาพของ
อวยั วะตา่ งๆ (อาหาร การออกกำลงั กาย
นันทนาการ การตรวจสุขภาพ ฯลฯ)
 การวางแผนดแู ลสุขภาพของตนเองและ
บคุ คลในครอบครัว

๑๔๕

สาระท่ี ๒ ชวี ติ และครอบครวั

มาตรฐาน พ ๒.๑ เขา้ ใจและเหน็ คณุ คา่ ตนเอง ครอบครวั เพศศกึ ษา และมที กั ษะในการดำเนนิ ชวี ติ

ช้ัน ตวั ชวี้ ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง

ม.๔-๖ ๑.วเิ คราะหอ์ ิทธิพลของครอบครัว  อิทธิพลของครอบครัว เพื่อน สังคม และ

เพือ่ น สังคม และวฒั นธรรมทีม่ ผี ลตอ่ วฒั นธรรมท่มี ีต่อพฤติกรรมทางเพศ และการ

พฤติกรรมทางเพศและการดำเนินชีวติ ดำเนนิ ชวี ติ

๒.วิเคราะห์ค่านิยมในเร่อื งเพศ ตาม  คา่ นยิ มในเร่ืองเพศตามวัฒนธรรมไทย
วัฒนธรรมไทยและวัฒนธรรม อนื่ ๆ และวัฒนธรรมอนื่ ๆ
๓.เลือกใช้ทักษะทเ่ี หมาะสมในการ
ปอ้ งกนั ลดความขัดแย้งและแก้ปญั หา  แนวทางในการเลือกใช้ทักษะตา่ ง ๆ ในการ
เรอ่ื งเพศและครอบครวั ปอ้ งกัน ลดความขดั แยง้ และแกป้ ญั หาเรอ่ื งเพศ
๔.วเิ คราะห์สาเหตแุ ละผลของความ และครอบครวั
ขัดแย้งท่ีอาจเกิดขนึ้ ระหว่างนกั เรยี น - ทกั ษะการสื่อสารและสรา้ งสมั พันธภาพ

หรอื เยาวชนในชุมชน และเสนอแนว - ทักษะการตอ่ รอง

ทางแกไ้ ขปัญหา - ทักษะการปฏิเสธ

- ทกั ษะการคิดวิเคราะห์

- ทกั ษะการตดั สนิ ใจ และแกไ้ ขปัญหา

ฯลฯ
 ความขัดแย้งที่อาจเกิดขนึ้ ระหว่างนักเรยี น

หรือเยาวชนในชมุ ชน

- สาเหตุของความขัดแยง้
- ผลกระทบทีเ่ กดิ จากความขดั แย้งระหว่าง

นักเรียน หรอื เยาวชนในชุมชน
- แนวทางในการแกป้ ัญหาทอี่ าจเกดิ จากความ

ขดั แย้งของนกั เรียนหรือเยาวชนในชมุ ชน

๑๔๖

สาระที่ ๔ การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ สมรรถภาพและการปอ้ งกนั โรค

มาตรฐาน พ ๔.๑ เหน็ คณุ คา่ และมที กั ษะในการสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ การดำรงสขุ ภาพ การปอ้ งกนั โรค
และการสรา้ งเสรมิ สมรรถภาพเพอ่ื สขุ ภาพ

ช้ัน ตัวช้ีวัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง

ม.๔-๖ ๑. วิเคราะห์บทบาทและความ  บทบาทและความรับผดิ ชอบของบคุ คล
รบั ผิดชอบของบุคคลทีม่ ีต่อการสรา้ งเสรมิ ทม่ี ตี ่อการสรา้ งเสริมสุขภาพและการปอ้ งกนั โรค
สขุ ภาพและการปอ้ งกนั โรคในชุมชน ในชมุ ชน
๒. วเิ คราะห์ อทิ ธิพลของสอ่ื โฆษณา  อิทธพิ ลของส่อื โฆษณาเกีย่ วกบั สขุ ภาพ
เกีย่ วกับสุขภาพเพือ่ การเลอื กบริโภค  แนวทางการเลือกบรโิ ภคอยา่ งฉลาดและ
๓. ปฏบิ ัติตนตามสิทธิของผู้บรโิ ภค
๔. วเิ คราะหส์ าเหตแุ ละเสนอแนวทาง ปลอดภัย
การป้องกันการเจบ็ ป่วยและการตาย  สิทธิพน้ื ฐานของผ้บู ริโภคและกฎหมายที่

ของคนไทย เกยี่ วขอ้ งกบั การคมุ้ ครองผูบ้ ริโภค
๕.วางแผนและปฏบิ ัติตามแผนการ  สาเหตขุ องการเจ็บปว่ ยและการตายของคนไทย

พัฒนาสขุ ภาพของตนเองและครอบครัว เช่น โรคจากการประกอบอาชีพ โรคทาง
๖.มีส่วนรว่ มในการสง่ เสริมและพัฒนา
สขุ ภาพของบคุ คลในชุมชน พนั ธุกรรม
 แนวทางการปอ้ งกนั การเจบ็ ป่วย
๗.วางแผนและปฏิบัติตามแผนการ  การวางแผนการพัฒนาสุขภาพของตนเอง
พฒั นาสมรรถภาพกายและสมรรถภาพ
ครอบครัว
กลไก  การมสี ่วนรว่ มในการส่งเสรมิ และพัฒนา

สขุ ภาพของบุคคลในชุมชน

 การวางแผนพฒั นาสมรรถภาพทางกาย

และสมรรถภาพกลไก

๑๔๗

สาระท่ี ๕ ความปลอดภยั ในชวี ติ

มาตรฐาน พ ๕.๑ ปอ้ งกนั และหลกี เลย่ี งปจั จยั เสยี่ ง พฤตกิ รรมเสยี่ งตอ่ สขุ ภาพ อบุ ัตเิ หตุ การใชย้ า

สารเสพติด และความรนุ แรง

ชั้น ตวั ช้วี ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

ม.๔-๖ ๑. มีส่วนร่วมในการปอ้ งกันความเสี่ยง  การจดั กิจกรรมป้องกนั ความเส่ยี งตอ่ การ
ต่อการใช้ยา การใช้สารเสพตดิ และ
ความรนุ แรง เพ่อื สขุ ภาพของตนเอง ใชย้ า สารเสพติด และความรุนแรง
ครอบครวั และสังคม  การวเิ คราะห์ผลกระทบที่เกดิ จากการ
๒. วเิ คราะห์ผลกระทบทีเ่ กิดจากการ
ครอบครอง การใช้และการจำหนา่ ย ครอบครอง การใชแ้ ละการจำหน่ายสารเสพติด
สารเสพติด
๓. วิเคราะหป์ จั จัยทม่ี ผี ลต่อสุขภาพ (ตนเอง ครอบครวั เศรษฐกจิ สังคม)
หรอื ความรุนแรงของคนไทยและเสนอ  โทษทางกฎหมายทเี่ กดิ จากการครอบครอง

แนวทางป้องกนั การใช้และการจำหนา่ ยสารเสพตดิ
๔. วางแผน กำหนดแนวทางลด  ปัจจัยท่มี ีผลตอ่ สขุ ภาพของคนไทยและ

อบุ ัตเิ หตุ และสรา้ งเสรมิ ความปลอดภยั เสนอแนวทางปอ้ งกัน
ในชมุ ชน  การวางแผน กำหนดแนวทางลดอุบัตเิ หตุ
๕. มสี ว่ นร่วมในการสร้างเสริมความ
และสรา้ งเสรมิ ความปลอดภัยในชมุ ชน
ปลอดภัยในชมุ ชน  กิจกรรมการสร้างเสริมความปลอดภัย
๖. ใช้ทกั ษะการตดั สินใจแก้ปัญหาใน
ในชุมชน
สถานการณ์ท่ีเส่ยี งต่อสุขภาพและความ  ทักษะการตัดสินใจแก้ปัญหาในสถานการณ์

ทเ่ี สี่ยงตอ่ สุขภาพ
 วิธกี ารช่วยฟืน้ คืนชพี อยา่ งถูกวธิ ี

รุนแรง

๗. แสดงวิธีการช่วยฟนื้ คืนชีพอยา่ งถูก

วธิ ี

๑๔๘

คำอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน

ชอื่ รายวชิ าสขุ ศกึ ษา ๖ รหัสวิชา พ ๓๓๑๐๒

กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ขุ ศึกษาและพลศึกษา ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๖ ภาคเรยี นท่ี ๒

เวลา ๑ ชวั่ โมง/สัปดาห์ จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต

ศกึ ษาและมสี ่วนร่วมในการการสรา้ งเสริมพัฒนาสขุ ภาพ สมรรถภาพและปอ้ งกนั โรค ของ
บุคคลในครอบครวั และชุมชน มีการวางแผน และปฏิบัติตามแผน การพฒั นาสมรรถภาพทางกาย
และสมรรถภาพกลไก วางแผน กำหนดแนวทางลดอุบตั ิเหตุ ตลอดจนมีส่วนรว่ มในการสร้างเสรมิ
ความปลอดภยั ในชมุ ชน ใช้ทักษะการการตัดสนิ ใจแก้ปัญหา ในสถานการณ์ทีเ่ สีย่ งต่อสุขภาพและ
ความรุนแรงและสามารถแสดงวธิ ีการช่วยฟ้ืนคนื ชีพไดอ้ ย่างถกู วิธี

ฝึกให้เรียนรกู้ ารทำงานร่วมกนั เรียนรู้เรือ่ งการวิเคราะห์ ใช้เหตผุ ลในการแกไ้ ขปญั หา
ยอมรับฟงั ความคิดเห็นของผู้อ่นื การฝึกปฏิบัติจริง อาทิ การหาขอ้ มลู การสบื คน้ ทางอนิ เตอร์เนต็
การแสดงบทบาทสมมุติ การจำลองสถานการณ์ การศกึ ษานอกสถานท่ี รายงาน เกม การนำเสนอ
นกั เรียนนำผลงานกระบวนการการเรียนรปู้ รับใชใ้ นชวี ิตไดอ้ ยา่ งมีคุณค่า อยู่ในสังคมได้อยา่ งมี
ความสุข มีความรับผิดชอบ มงุ่ ม่ันในการทำงาน มวี นิ ัยยอมรับการตัดสินใจของหมู่คณะอยา่ งมี
เหตุผล ขจัดพฤติกรรมทไ่ี ม่พึงประสงคท์ ่ีมีผลกระทบตอ่ ตนเองและผอู้ ่นื

รหสั ตวั ช้ีวัด

พ ๔.๑ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๒

พ ๕.๑ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๓

รวมทั้งหมด ๕ ตัวชว้ี ัด

๑๔๙

รายวชิ า สขุ ศกึ ษา 6 โครงสรา้ งรายวชิ า
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6
จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ รหสั พ 33102
กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา

เวลา 40 ชว่ั โมง/ปี

หนว่ ย ชอ่ื หนว่ ยการเรยี นรู้ มาตรฐาน สาระสำคญั เวลา สดั สว่ น
ท่ี การเรยี นร/ู้ (ชวั่ โมง) คะแนน

ตวั ชวี้ ดั

1 ระบบการทำงานของ พ 1.1 ม ระบบประสาท ระบบสบื พนั ธุ์ ระบบตอ่ ม 4 5

อวยั วะ 4-6/1 ไร้ท่อ

2 การแกป้ ัญหาความขดั แย้ง พ 2.1 ม ความขดั แยง้ ทักษะท่ีเหมาะสมใน 45

4-6/3,4 การปอ้ งกนั ลดความขดั แย้งและแก้ไข

ปัญหา

3 เพศวิถีศกึ ษา พ 2.1 ม เพศวิถศี ึกษา การดูแลสขุ ภาพและ 44

4-6/3 พัฒนาการ พฤตกิ รรมทางเพศที่

ปลอดภยั

4 สขุ ภาพดีสร้างได้ พ 4.1 ม การสร้างเสรมิ สุขภาพและการป้องกัน 2 3

4-6/1,6 โรค ปัญหาดา้ นสุขภาพ บทบาทและ

ความรับผดิ ชอบต่อการสร้างเสรมิ

สขุ ภาพและการปอ้ งกันโรคในชุมชน

5 สิทธผิ ู้บริโภค พ 4.1 ม สิทธิผบู้ รโิ ภค แนวทางการป้องกนั สทิ ธิ 2 4

4-6/3 ผู้บริโภค กฎหมายเกีย่ วกบั การคมุ้ ครอง

ผู้บรโิ ภค

6 ส่ิงแวดลอ้ มดชี ีวมี ีสุข พ 4.1 ม กฎบตั รออตตาวาเพ่ือการสรา้ งเสริม 43

4-6/1,6 สขุ ภาพ สถานการณม์ ลพษิ ในประเทศ

ไทย

7 โรคทถ่ี ่ายทอดทาง พ 4.1 ม โรคธาลัสซีเมยี โรคตาบอดสี 45

พนั ธกุ รรม 4-6/4 โรคเบาหวาน โรคดกั แด้ โรคฮีโมฟีเลีย

โรคลูคีเมยี

8 ปัจจัยที่มีผลตอ่ สุขภาพ พ 5.1 ม สถานการณแ์ ละแนวโน้มสุขภาพของคน 2 5

และความรุนแรง 4-6/3 ไทย

9 ชมุ ชนปลอดภัย พ 5.1 ม การมีส่วนรว่ ม วางแผน กำหนดแนวทาง 2 5

4-6/4 ลดอบุ ตั เิ หตุ สรา้ งเสริมความปลอดภยั ใน

ชมุ ชน

10 ผลกระทบจากสารเสพติด พ 5.1 ม ปัญหาสารเสพติด ผลกระทบจากการ 4 5

4-6/2 ครอบครอง การใช้ และการจำหน่ายสาร

เสพตดิ โทษทางกฎหมาย

๑๕๐

11 การชว่ ยฟืน้ คนื ชพี พน้ื ฐาน พ 5.1 ม ความสำคัญของการช่วยฟื้นคืนชีพ(ใน 2 3
2
(ในเดก็ ) 4-6/7 เดก็ ) 3

12 การสรา้ งเสริมสมรรถภาพ พ 4.1 ม การออกกำลงั กายเพ่ือพฒั นาสมรรถภาพ 50
20
ทางกายและสมรรถภาพ 4-6/7 ทางกาย การวางแผนการฝึกให้เหมาะสม 30
100
ทางกลไก กบั ตนเอง

รวมคะแนนระหวา่ งเรยี น

คะแนนสอบกลางภาค

คะแนนทดสอบปลายภาค

รวมทง้ั หมด

๑๕๑

ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๔-๖

สาระ มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชวี้ ดั ช่วงชน้ั

สาระที่ ๓ การเคลอ่ื นไหว การออกกำลงั กาย การเลน่ เกม กฬี าไทย และกฬี าสากล

มาตรฐาน พ ๓.๑ เขา้ ใจ มที กั ษะในการเคลอื่ นไหว กจิ กรรมทางกาย การเลน่ เกม และกฬี า

ชนั้ ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

ม.๔-๖ ๑. ๑.วิเคราะหค์ วามคดิ รวบยอด  ความคิดรวบยอดเกย่ี วกับการเคลอ่ื นไหว

เกีย่ วกบั การเคล่อื นไหวรูปแบบตา่ งๆ รปู แบบตา่ ง ๆ ในการเลน่ กฬี า

ในการเลน่ กีฬา  การวเิ คราะห์ความคดิ รวบยอดเกย่ี วกบั การ

๒.ใชค้ วามสามารถของตน เพือ่ เพมิ่ เคลื่อนไหวรูปแบบต่างๆ ในการเล่นกฬี า
 การใช้ความสามารถของตนในการเล่นกีฬา
ศักยภาพของทีม คำนงึ ถงึ ผลทเ่ี กดิ ตอ่ เพอื่ เพ่มิ ศักยภาพของทมี โดยคำนงึ ถึง ผลที่เกิด
ผ้อู น่ื และสังคม
๓.เล่นกฬี าไทย กีฬาสากลประเภท ต่อผอู้ น่ื และสังคม
บคุ คล/คู่ กีฬาประเภททมี ได้อย่างนอ้ ย  กฬี าประเภทบคุ คล / คู่ ประเภททมี เชน่
ฟตุ ซอล รักบฟี้ ตุ บอล ยิมนาสติก ลีลาศ
๑ ชนิด ซอฟทบ์ อล เทนนิส เซปกั ตะกรอ้ มวยไทย
๔.แสดงการเคลอื่ นไหวไดอ้ ย่าง
กระบก่ี ระบอง พลอง ง้าว
สรา้ งสรรค์
 การเคลือ่ นไหวทสี่ รา้ งสรรค์ เช่น กิจกรรม
๕. เขา้ ร่วมกิจกรรมนันทนาการนอก เขา้ จังหวะ เชยี ร์ลดี เดอร์
โรงเรียน และนำหลักการแนวคดิ ไป  การนำหลกั การและแนวคดิ ของกิจกรรม
ปรับปรงุ และพฒั นาคุณภาพชีวติ ของตน นนั ทนาการไปปรับปรุงและพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ
และสังคม
ของตนและสงั คม

๑๕๒

มาตรฐาน พ ๓.๒ รกั การออกกำลงั กาย การเลน่ เกม และการเลน่ กฬี า ปฏบิ ตั ิเปน็ ประจำอยา่ ง
สมำ่ เสมอ มวี นิ ยั เคารพสทิ ธิ กฎ กตกิ า มนี ำ้ ใจนกั กฬี า มจี ติ วญิ ญาณ

ในการแขง่ ขนั และชน่ื ชมในสนุ ทรยี ภาพของการกฬี า

ชั้น ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
๑. ออกกำลังกายและเล่นกฬี า
ม.๔-๖ ที่เหมาะสมกบั ตนเองอยา่ งสม่ำเสมอ  การออกกำลงั กายดว้ ยวิธที ช่ี อบ เช่น
ฝึกกายบริหารแบบตา่ งๆ ขี่จักรยาน
และใชค้ วามสามารถของตนเองเพมิ่ การออกกำลงั กายจากการทำงาน
ศกั ยภาพของทมี ลดความเปน็ ตัวตน
คำนึงถึงผลทเ่ี กิดต่อสงั คม ในชีวติ ประจำวนั การรำกระบอง รำมวยจนี
๒.อธิบายและปฏิบตั เิ กย่ี วกบั สิทธิ กฎ  การเลน่ กีฬาประเภทบุคคล และประเภท
กติกา กลวิธตี ่างๆ ในระหวา่ งการเล่น ทมี
การแข่งขนั กีฬากบั ผ้อู ื่นและนำไปสรุป  การใช้ความสามารถของตนในการเพ่ิม
เปน็ แนวปฏบิ ัตแิ ละใช้ในชีวิตประจำวนั ศกั ยภาพของทมี ในการเล่นกีฬาและการเล่นโดย
อยา่ งตอ่ เนือ่ ง
คำนึงถึงประโยชน์ต่อสังคม
๓.แสดงออกถงึ การมีมารยาทในการดู  การวางแผนกำหนดกจิ กรรมการออกกำลงั -
การเล่นและการแขง่ ขนั กีฬา ดว้ ยความ กายและเล่นกีฬา
มีนำ้ ใจนกั กฬี า และนำไปใชป้ ฏิบตั ิทุก  สิทธิ กฎ กติกาการเลน่ กีฬา
โอกาส จนเป็นบุคลกิ ภาพที่ดี
 กลวิธี หลักการรุก การปอ้ งกนั อย่าง
๔.รว่ มกจิ กรรมทางกายและเลน่ กฬี า สร้างสรรค์ในการเล่นและแข่งขันกีฬา
อยา่ งมีความสุข ช่นื ชมในคุณค่าและ  การนำประสบการณ์จากการเลน่ กีฬาไปใช้
ความงามของการกีฬา
ในชวี ติ ประจำวัน

 การปฏบิ ตั ิตนในเรื่องมารยาทในการดู การ

เลน่ การแขง่ ขนั ความมนี ้ำใจนกั กฬี า

 บคุ ลกิ ภาพท่ีดี

 ความสุขท่ีได้จากการเขา้ ร่วมกจิ กรรมทาง

กาย และเล่นกีฬา

 คุณคา่ และความงามของการกฬี า

๑๕๓

คำอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเติม แผน GP

ชอื่ รายวิชาพลศกึ ษา ๑ (วอลเล่ย์บอล) รหัสวิชา พ ๓๐๒๐๑

กล่มุ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๔ ภาคเรียนที่ ๑

เวลา ๒ ชั่วโมง/สปั ดาห์ จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ

ศกึ ษาหลกั การออกกำลงั กาย วิทยาศาสตร์การกฬี าที่เกย่ี วกับการเคลอื่ นไหวแบบตา่ งๆ กฎ
กตกิ า ในการเล่น แข่งขัน กลวธิ ีการรุก การปอ้ งกัน ความรว่ มมือในการเล่นและการทำงานเป็น
ทมี
ฝกึ ปฏิบัตกิ ารเคลอ่ื นไหวในรปู แบบตา่ งๆ ออกกำลงั กายและเล่นเกม หรือกฬี าวอลเล่ยบ์ อล ตาม
ความถนัดและสนใจ รวมถงึ ประยุกต์สร้างรูปแบบกลวธิ กี ารรุก การป้องกัน การทำงานเปน็ ทมี
เพอื่ ใหผ้ ูเ้ รยี นรกั การออกกำลงั กาย เอาใจใส่ต่อสุขภาพ มีนำ้ ใจเป็นนกั กฬี า มคี วามรบั ผดิ ชอบ
เคารพในกฎ กตกิ า เห็นคุณค่าของการทำงานเป็นทมี และสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นอย่างมี
ความสุข

ผลการเรียนรู้

๑. ออกกำลังกายและเลน่ กฬี า ท่ีเหมาะสมกับตนเอง อยา่ งสม่ำเสมอ
๒. ปฏบิ ตั ิตาม กฎ กตกิ าในระหวา่ งการเล่น การแขง่ ขนั กับผ้อู ่นื
๓. แสดงมารยาทในการดู การเลน่ และแขง่ ขันดว้ ยน้ำใจนกั กฬี า และนำไปใช้ได้
๔. เข้าร่วมกิจกรรมทางกายและเล่นกฬี าอย่างมีความสุข
๕. เล่นกีฬาประเภทบุคคล และประเภททีม ทัง้ กฬี าไทยและกฬี าสากล

รวมทงั้ ทง้ั หมด 5 ผลการเรยี นรู้

๑๕๔

โครงสรา้ งรายวชิ า พลศกึ ษา 1 (วอลเลยบ์ อล) แผน GP

รายวชิ า พลศกึ ษา 1 (วอลเลยบ์ อล) รหสั วชิ า พ 30201

กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 1

เวลาเรยี น 40 ชวั่ โมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ

หนว่ ย ชื่อหนว่ ย มาตรฐาน สาระสำคญั เวลา สดั สว่ น
ท่ี การเรยี นรู้ (ชวั่ โมง) คะแนน
การเรยี นร/ู้
ตวั ชวี้ ดั

1. ความรทู้ ่วั ไป พ 3.1 ม.1/1 พ - ประวัติและพัฒนาการกฬี า 2 10

เกยี่ วกับกีฬา 3.2 ม. วอลเลย์บอล

วอลเลย์บอล 1/1,1/2,1/3,1 - ประโยชนข์ องการเล่นกฬี า

/4,1/5,1/6 วอลเลยบ์ อล

- มารยาทของผูเ้ ล่นและผู้ชมกฬี า

วอลเลย์บอล

- หลกั ความปลอดภัย

2. - สถานท่ี พ 3.1 ม.1/1 พ - สถานทแ่ี ละอุปกรณ์กฬี า 3 10

อปุ กรณ์กฬี า 3.2 ม. วอลเลย์บอล การเลอื ก

วอลเลย์บอล 1/1,1/2,1/3,1 ซ้ืออุปกรณ์กีฬาวอลเลย์บอลวิธี

- การเลือก /4,1/5,1/6 การรักษาอปุ กรณ์

ซอ้ื กฬี าวอลเลย์บอล

อุปกรณ์และ -การอบอุ่นรา่ งกายเพอ่ื การฝึก

วธิ ีการดูแล กีฬาวอลเลย์บอล

รักษาอุปกรณ์

3. ทักษะ พ 3.1 ม.1/1 พ การจบั มือในการเล่นเป็นทักษะ 2 10

พ้ืนฐาน 3.2 ม. เบอ้ื งต้นของการฝกึ หดั และ

1/1,1/2,1/3,1 การแตะชลู ูกวอลเลยบ์ อล

/4,1/5,1/6

4. การรบั ลกู พ 3.1 ม.1/1 พ การรับลกู หรอื รองลกู มีประโยชน์ 2 10

วอลเลยบ์ อล 3.2 ม. ในการเล่นเกมมาก เพราะจะทำ

1/1,1/2,1/3,1 ให้สามารถควบคุมลูกได้โดยไม่

/4,1/5,1/6 ต้องคำนึงวา่ ลกู จะหมุนมาอยา่ งไร

5. การสง่ ลูก พ 3.1 ม.1/1 พ การส่งลูกทดี่ ีจะเป็นสื่อนำใหผ้ ู้ 3 10

วอลเลย์บอล 3.2 ม. เล่นเปน็ ผู้บกุ หรอื เปน็ ฝ่ายจูโ่ จมได้

1/1,1/2,1/3,1 กอ่ น

/4,1/5,1/6

๑๕๕

6. การเสิรฟ์ ลูก พ 3.1 ม.1/1 พ การเลน่ วอลเลย์บอลอาศยั 2 10

วอลเลยบ์ อล 3.2 ม. ความเร็วและความแรง

1/1,1/2,1/3,1 ในการตี และปจั จยั ทมี่ ีผลตอ่ การ

/4,1/5,1/6 เสิร์ฟคือ การหมุนของลูกๆจะ

หมนุ มากหรือน้อยข้นึ อยกู่ ับ

ลักษณะของการตี

7. การแขง่ ขัน พ 3.1 ม.1/1 พ การเลน่ ประเภททีม การแขง่ ขัน 4 10
3.2 ม. การตดั สิน
1/1,1/2,1/3,1

/4,1/5,1/6

รวมคะแนนระหวา่ งเรยี น 70
คะแนนสอบกลางภาค 10
คะแนนทดสอบปลายภาค 20
100
รวมทงั้ หมด

๑๕๖

ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๔-๖

สาระ มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชวี้ ดั ช่วงชน้ั

สาระที่ ๓ การเคลอ่ื นไหว การออกกำลงั กาย การเลน่ เกม กฬี าไทย และกฬี าสากล

มาตรฐาน พ ๓.๑ เขา้ ใจ มที กั ษะในการเคลอื่ นไหว กจิ กรรมทางกาย การเลน่ เกม และกฬี า

ชนั้ ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

ม.๔-๖ ๒. ๑.วิเคราะหค์ วามคดิ รวบยอด  ความคิดรวบยอดเกย่ี วกับการเคลอ่ื นไหว

เกีย่ วกบั การเคล่อื นไหวรูปแบบตา่ งๆ รปู แบบตา่ ง ๆ ในการเลน่ กฬี า

ในการเลน่ กีฬา  การวเิ คราะห์ความคดิ รวบยอดเก่ียวกบั การ

๒.ใชค้ วามสามารถของตน เพือ่ เพมิ่ เคลื่อนไหวรูปแบบต่างๆ ในการเล่นกฬี า
 การใช้ความสามารถของตนในการเล่นกีฬา
ศักยภาพของทีม คำนงึ ถงึ ผลทเ่ี กดิ ตอ่ เพอื่ เพ่มิ ศักยภาพของทมี โดยคำนงึ ถงึ ผลที่เกิด
ผ้อู น่ื และสังคม
๓.เล่นกฬี าไทย กีฬาสากลประเภท ต่อผอู้ น่ื และสังคม
บคุ คล/คู่ กีฬาประเภททมี ได้อย่างนอ้ ย  กฬี าประเภทบคุ คล / คู่ ประเภททมี เชน่
ฟตุ ซอล รักบฟี้ ตุ บอล ยิมนาสติก ลีลาศ
๑ ชนดิ ซอฟท์บอล เทนนิส เซปกั ตะกรอ้ มวยไทย
๔.แสดงการเคลอื่ นไหวไดอ้ ย่าง
กระบก่ี ระบอง พลอง ง้าว
สรา้ งสรรค์
 การเคลือ่ นไหวทสี่ รา้ งสรรค์ เช่น กิจกรรม
๕. เขา้ ร่วมกิจกรรมนันทนาการนอก เขา้ จังหวะ เชยี ร์ลดี เดอร์
โรงเรียน และนำหลักการแนวคดิ ไป  การนำหลกั การและแนวคิดของกิจกรรม
ปรับปรงุ และพฒั นาคุณภาพชีวติ ของตน นนั ทนาการไปปรับปรุงและพฒั นาคุณภาพชวี ติ
และสังคม
ของตนและสงั คม

๑๕๗

มาตรฐาน พ ๓.๒ รกั การออกกำลงั กาย การเลน่ เกม และการเลน่ กฬี า ปฏบิ ตั ิเปน็ ประจำอย่าง
สมำ่ เสมอ มวี นิ ยั เคารพสทิ ธิ กฎ กตกิ า มนี ำ้ ใจนกั กฬี า มจี ติ วญิ ญาณ

ในการแขง่ ขนั และชน่ื ชมในสนุ ทรยี ภาพของการกฬี า

ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
๑. ออกกำลงั กายและเล่นกฬี า
ม.๔-๖ ที่เหมาะสมกบั ตนเองอยา่ งสมำ่ เสมอ  การออกกำลงั กายดว้ ยวิธที ช่ี อบ เช่น
ฝึกกายบริหารแบบตา่ งๆ ขี่จักรยาน
และใชค้ วามสามารถของตนเองเพม่ิ การออกกำลงั กายจากการทำงาน
ศกั ยภาพของทีม ลดความเป็นตวั ตน
คำนึงถึงผลท่เี กิดต่อสงั คม ในชวี ติ ประจำวนั การรำกระบอง รำมวยจนี
๒.อธิบายและปฏบิ ตั ิเกย่ี วกบั สทิ ธิ กฎ  การเลน่ กีฬาประเภทบุคคล และประเภท
กติกา กลวธิ ีต่างๆ ในระหว่างการเล่น ทมี
การแข่งขันกีฬากับผูอ้ ื่นและนำไปสรุป  การใช้ความสามารถของตนในการเพ่ิม
เปน็ แนวปฏิบตั แิ ละใช้ในชีวิตประจำวนั ศกั ยภาพของทมี ในการเล่นกีฬาและการเล่นโดย
อย่างต่อเนอ่ื ง
คำนึงถึงประโยชน์ต่อสงั คม
๓.แสดงออกถงึ การมมี ารยาทในการดู  การวางแผนกำหนดกจิ กรรมการออกกำลงั -
การเล่นและการแข่งขนั กีฬา ดว้ ยความ กายและเล่นกีฬา
มีนำ้ ใจนกั กีฬา และนำไปใชป้ ฏิบัติทุก  สิทธิ กฎ กติกาการเลน่ กีฬา
โอกาส จนเป็นบุคลกิ ภาพที่ดี
 กลวิธี หลักการรกุ การป้องกนั อย่าง
๔.รว่ มกจิ กรรมทางกายและเล่นกีฬา สร้างสรรค์ในการเล่นและแข่งขันกีฬา
อยา่ งมีความสุข ชื่นชมในคุณคา่ และ  การนำประสบการณ์จากการเลน่ กีฬาไปใช้
ความงามของการกีฬา
ในชีวติ ประจำวัน

 การปฏบิ ตั ิตนในเรื่องมารยาทในการดู การ

เลน่ การแขง่ ขนั ความมนี ้ำใจนกั กฬี า

 บคุ ลกิ ภาพท่ีดี

 ความสุขท่ีได้จากการเขา้ ร่วมกจิ กรรมทาง

กาย และเล่นกีฬา

 คุณคา่ และความงามของการกฬี า

๑๕๘

คำอธิบายรายวชิ าเพ่มิ เตมิ แผน GP

ชือ่ รายวชิ าพลศกึ ษา ๒ (แฮนดบ์ อล) รหัสวิชา พ ๓๐๒๐๒

กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๔ ภาคเรียนที่ ๒

เวลา ๒ ชั่วโมง/สัปดาห์ จำนวน ๑.๐ หน่วยกิต

ศกึ ษาวิเคราะห์ เก่ียวกบั ความร้เู บอ้ื งต้นของการบรกิ ารกาย เพอ่ื เตรยี มความพรอ้ มใน
การเลน่ กีฬาแฮนดบ์ อล การฝกึ ใชส้ ว่ นตา่ งๆ ของร่างกายในการเล่นกีฬาแฮนด์บอล ความรเู้ บ้ืองตน้
และทกั ษะการเลน่ ขั้นพืน้ ฐานกตกิ าที่สำคัญ และการจดั การแขง่ ขนั กีฬาแฮนด์บอล ประวตั คิ วาม
เป็นมาของกีฬาแฮนด์บอลในประเทศไทย

โดยการใช้กระบวนการ สรา้ งความรู้ความเขา้ ใจ การคิด วเิ คราะห์ สืบคน้ ข้อมลู
กระบวนการการจดั การเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง กระบวนการกลุ่มและการฝึกปฏบิ ตั ิ กระบวนการเรียนรู้
แบบบูรณาการ และกระบวนการสรา้ งเสริมคุณลกั ษณะท่ีพึงประสงค์

เพ่อื ใหเ้ กดิ ความรคู้ วามเข้าใจ ในกฎกตกิ าการเล่น และมที ักษะพื้นฐานของกฬี าแฮนด์บอล
เปน็ ผ้มู นี ำ้ ใจเปน็ นักกฬี า มีความสนใจในการเล่นกีฬาเพอื่ พัฒนาสุขภาพ และสามารถใชก้ ีฬาเป็นสอ่ื
ในการสรา้ งความสัมพันธ์ทีด่ กี บั บุคคลอื่นได้

ผลการเรียนรู้

๑. ออกกำลงั กายและเลน่ กฬี า ทเ่ี หมาะสมกบั ตนเอง อย่างสม่ำเสมอ
๒. ปฏบิ ตั ิตาม กฎ กตกิ าในระหว่างการเล่น การแข่งขันกบั ผู้อ่นื
๓. แสดงมารยาทในการดู การเลน่ และแข่งขนั ด้วยน้ำใจนักกีฬา และนำไปใช้ได้
๔. เขา้ ร่วมกิจกรรมทางกายและเลน่ กฬี าอย่างมีความสุข
๕. เล่นกฬี าประเภทบคุ คล และประเภททีม ท้งั กฬี าไทยและกฬี าสากล

รวมทง้ั หมด 5 ผลการเรยี นรู้

๑๕๙

ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๔-๖

สาระ มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชวี้ ัดชว่ งชนั้

สาระที่ ๓ การเคลอ่ื นไหว การออกกำลงั กาย การเลน่ เกม กฬี าไทย และกฬี าสากล

มาตรฐาน พ ๓.๑ เขา้ ใจ มที กั ษะในการเคลอื่ นไหว กจิ กรรมทางกาย การเลน่ เกม และกฬี า

ชนั้ ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง

ม.๔-๖ ๓. ๑.วิเคราะหค์ วามคดิ รวบยอด  ความคิดรวบยอดเก่ียวกับการเคล่อื นไหว

เกีย่ วกบั การเคล่อื นไหวรูปแบบตา่ งๆ รปู แบบตา่ ง ๆ ในการเลน่ กฬี า

ในการเลน่ กีฬา  การวเิ คราะห์ความคดิ รวบยอดเกีย่ วกบั การ

๒.ใชค้ วามสามารถของตน เพือ่ เพมิ่ เคลื่อนไหวรูปแบบต่างๆ ในการเล่นกฬี า
ศักยภาพของทีม คำนึงถงึ ผลทเ่ี กดิ ตอ่  การใช้ความสามารถของตนในการเล่นกีฬา
ผ้อู น่ื และสังคม
๓.เล่นกฬี าไทย กีฬาสากลประเภท เพอื่ เพ่มิ ศักยภาพของทีม โดยคำนึงถงึ ผลที่เกิด
บคุ คล/คู่ กฬี าประเภททมี ได้อย่างนอ้ ย
ต่อผอู้ น่ื และสงั คม
 กฬี าประเภทบคุ คล / คู่ ประเภททมี เชน่

ฟตุ ซอล รักบ้ฟี ตุ บอล ยิมนาสติก ลีลาศ
๑ ชนดิ ซอฟทบ์ อล เทนนิส เซปักตะกรอ้ มวยไทย
๔.แสดงการเคลอื่ นไหวไดอ้ ย่าง
กระบก่ี ระบอง พลอง ง้าว
สรา้ งสรรค์
 การเคลือ่ นไหวท่สี ร้างสรรค์ เชน่ กิจกรรม
๕. เขา้ ร่วมกิจกรรมนนั ทนาการนอก เขา้ จังหวะ เชยี ร์ลีดเดอร์
โรงเรียน และนำหลักการแนวคดิ ไป  การนำหลกั การและแนวคิดของกจิ กรรม
ปรับปรงุ และพฒั นาคุณภาพชีวติ ของตน นนั ทนาการไปปรับปรุงและพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ
และสังคม
ของตนและสงั คม

๑๖๐

มาตรฐาน พ ๓.๒ รกั การออกกำลงั กาย การเลน่ เกม และการเลน่ กฬี า ปฏบิ ตั เิ ปน็ ประจำอย่าง
สมำ่ เสมอ มวี นิ ยั เคารพสทิ ธิ กฎ กตกิ า มนี ำ้ ใจนกั กฬี า มจี ติ วญิ ญาณ

ในการแขง่ ขนั และชน่ื ชมในสนุ ทรยี ภาพของการกฬี า

ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง
๑. ออกกำลงั กายและเล่นกีฬา
ม.๔-๖ ที่เหมาะสมกบั ตนเองอยา่ งสม่ำเสมอ  การออกกำลังกายดว้ ยวธิ ที ่ชี อบ เช่น
ฝึกกายบริหารแบบต่างๆ ขี่จักรยาน
และใชค้ วามสามารถของตนเองเพ่มิ การออกกำลังกายจากการทำงาน
ศกั ยภาพของทีม ลดความเป็นตัวตน
คำนึงถึงผลท่เี กิดต่อสงั คม ในชวี ิตประจำวัน การรำกระบอง รำมวยจนี
๒.อธิบายและปฏบิ ตั ิเกย่ี วกับสทิ ธิ กฎ  การเล่นกีฬาประเภทบคุ คล และประเภท
กติกา กลวธิ ีต่างๆ ในระหวา่ งการเลน่ ทีม
การแข่งขันกีฬากับผูอ้ ่ืนและนำไปสรุป  การใช้ความสามารถของตนในการเพ่ิม
เปน็ แนวปฏิบตั แิ ละใช้ในชีวิตประจำวนั ศักยภาพของทมี ในการเลน่ กีฬาและการเล่นโดย
อย่างต่อเนอ่ื ง
คำนงึ ถงึ ประโยชนต์ อ่ สงั คม
๓.แสดงออกถงึ การมมี ารยาทในการดู  การวางแผนกำหนดกิจกรรมการออกกำลงั -
การเล่นและการแข่งขนั กีฬา ดว้ ยความ กายและเล่นกฬี า
มีนำ้ ใจนกั กีฬา และนำไปใชป้ ฏิบตั ิทุก  สิทธิ กฎ กติกาการเลน่ กีฬา
โอกาส จนเป็นบุคลกิ ภาพทด่ี ี
 กลวิธี หลักการรุก การป้องกนั อยา่ ง
๔.รว่ มกจิ กรรมทางกายและเล่นกีฬา สรา้ งสรรคใ์ นการเล่นและแขง่ ขันกีฬา
อยา่ งมีความสุข ชื่นชมในคุณคา่ และ  การนำประสบการณ์จากการเลน่ กีฬาไปใช้
ความงามของการกีฬา
ในชีวติ ประจำวนั

 การปฏบิ ัติตนในเรอ่ื งมารยาทในการดู การ

เลน่ การแขง่ ขัน ความมนี ำ้ ใจนักกีฬา

 บคุ ลกิ ภาพท่ีดี

 ความสุขทไ่ี ด้จากการเข้าร่วมกจิ กรรมทาง

กาย และเล่นกฬี า

 คุณคา่ และความงามของการกฬี า

๑๖๑

คำอธิบายรายวชิ าเพม่ิ เติม แผน GP

ชอ่ื รายวิชาพลศกึ ษา ๓ (แบดมินตัน) รหัสวิชา พ ๓๐๒๐๓

กลมุ่ สาระการเรยี นร้สู ขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรยี นท่ี ๑

เวลา ๒ ชว่ั โมง/สัปดาห์ จำนวน ๐.๕ หน่วยกติ

ศึกษาวิเคราะห์ เกี่ยวกับความรเู้ บ้ืองตน้ ของการบริการกาย เพอ่ื เตรียมความพร้อมใน
การเล่นกีฬาแบดมนิ ตัน การฝึกใชส้ ่วนตา่ งๆ ของรา่ งกายในการเลน่ กีฬาแบดมินตัน ความรู้เบ้ืองตน้
และทักษะการเลน่ ขน้ั พน้ื ฐานกติกาท่ีสำคญั และการจัดการแข่งขนั กีฬาแบดมินตัน ประวัตคิ วาม
เปน็ มาของกฬี าแบดมนิ ตนั ในประเทศไทย

โดยการใช้กระบวนการ สรา้ งความรู้ความเข้าใจ การคิด วิเคราะห์ สบื คน้ ขอ้ มูล กระบวนการ
การจัดการเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง กระบวนการกลุ่มและการฝึกปฏิบัติ กระบวนการเรียนร้แู บบบรู ณาการ
และกระบวนการสร้างเสริมคณุ ลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์

เพือ่ ให้เกิด ความรู้ความเขา้ ใจ ในกฎกติกาการเลน่ และมที ักษะพนื้ ฐานของกีฬาแบดมนิ ตัน
เปน็ ผมู้ ีน้ำใจเปน็ นักกฬี า มีความสนใจในการเล่นกฬี าเพอ่ื พัฒนาสุขภาพ และสามารถใชก้ ฬี าเปน็ ส่ือ
ใน
การสร้างความสมั พนั ธ์ท่ดี ีกับบุคคลอน่ื ได้

ผลการเรยี นรู้

๑. ออกกำลังกายและเลน่ กีฬา ท่เี หมาะสมกบั ตนเอง อยา่ งสม่ำเสมอ
๒. ปฏบิ ัติตาม กฎ กตกิ าในระหว่างการเลน่ การแข่งขนั กบั ผอู้ ่นื
๓. แสดงมารยาทในการดู การเล่น และแข่งขันดว้ ยนำ้ ใจนักกีฬา และนำไปใชไ้ ด้
๔. เข้าร่วมกิจกรรมทางกายและเลน่ กีฬาอยา่ งมีความสขุ
๕. เล่นกีฬาประเภทบุคคล และประเภททมี ท้งั กีฬาไทยและกีฬาสากล

รวมทง้ั หมด 5 ผลการเรยี นรู้

๑๖๒

โครงสรา้ งรายวชิ า พลศกึ ษา 3 (แบดมนิ ตนั ) แผน GP

รายวิชา พลศกึ ษา 3 (แบดมนิ ตนั ) รหสั วชิ า พ 30203

กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5 ภาคเรยี นท่ี 1

เวลาเรยี น 40 ชวั่ โมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ

หนว่ ย ช่ือหนว่ ย มาตรฐาน สาระสำคญั เวลา สดั สว่ น
ที่ การเรยี นรู้ (ชว่ั โมง) คะแนน
การเรยี นร/ู้
ตวั ชว้ี ดั

1. ความร้ทู ่วั ไป พ 3.1 ม.1/1 พ ความรู้ ความเข้าใจ และเหน็ 15

เกยี่ วกับกีฬา 3.2 ม. คุณค่า ของการออกกำลังกาย

แบดมนิ ตัน 1/1,1/2,1/3,1 และการเล่นกีฬา แบดมินตันเปน็

/4,1/5,1/6 ประจำ

2. การบรหิ าร พ 3.1 ม.1/1 พ มีความรู้ ความเข้าใจ มที ักษะ 25

ร่างกาย 3.2 ม. ปฏบิ ตั ใิ นการและการเคลือ่ นไหว

1/1,1/2,1/3,1 บริหารร่างกายและการ

/4,1/5,1/6 เคลือ่ นไหวเชิง สรา้ งสรรค์ แบบ

อยู่กับที่ แบบเคลอ่ื นที่ และการ

เคลือ่ นไหวประกอบอุปกรณ์ของ

กฬี าแบดมนิ ตนั

3. วิธกี ารจับไม้ พ 3.1 ม.1/1 พ มคี วามรู้ ความเข้าใจ เหน็ คุณคา่ 1 5

3.2 ม. และมีทกั ษะปฏบิ ตั ใิ นการจบั ไม้

1/1,1/2,1/3,1 ของกีฬาแบดมนิ ตัน

/4,1/5,1/6

4. วิธกี ารจบั ลกู พ 3.1 ม.1/1 พ มีความรู้ ความเข้าใจ เห็นคุณค่า 3 10

แบดมนิ ตัน 3.2 ม. และการจบั ลกู แบดมินตนั มี

1/1,1/2,1/3,1 ทักษะปฏบิ ตั ใิ นการจบั ท่หี วั ไม้

/4,1/5,1/6 คอรก์ ของลกู การจับที่ปลายขน

ไก่ด้านในของลกู การจบั โดยการ

วางลกู อย่บู นฝ่ามอื

5. การส่งลกู เข้า พ 3.1 ม.1/1 พ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ เห็นคุณค่า 2 5

เลน่ 3.2 ม. และมที ักษะปฏบิ ัตใิ นการส่งลกู

1/1,1/2,1/3,1 หนา้ มือและหลังมอื

/4,1/5,1/6

6. รู้จกั พ 3.1 ม.1/1 พ ความรู้ ความเขา้ ใจ เหน็ คุณค่า 1 5

แหลง่ ทมี่ า 3.2 ม. และ มีทกั ษะปฏบิ ตั ิการตีลกู จาก

ของแรงตลี ูก 1/1,1/2,1/3,1 แรงที่เกิดจากการถา่ ยเปลยี่ น

ฟุตเวิร์คกับ /4,1/5,1/6 น้ำหนักตวั จากเท้าหลงั ไปสู่เท้า

หนา้ แรงทเ่ี กดิ จากการเหวยี่ ง

จงั หวะของ ของลำแขน แรงที่เกิดจากการ ๑๖๓

การตีลูก ตวดั และการสะบัดอยา่ งแรงของ 10

ข้อมือ 15

7. ทกั ษะการตี พ 3.1 ม.1/1 พ มีความรู้ ความเข้าใจ เหน็ คุณคา่ 3 10
4
ลูก 3.2 ม. และมุ่งสู่การรุก มีทักษะปฏบิ ัตใิ น 3 70
10
1/1,1/2,1/3,1 การตีลกู โยนหน้ามอื (Forehand 20
100
/4,1/5,1/6 Clear) การตลี ูกโยนหลังมอื

(Backhand Clear) การตีลกู งัด

โยน (Underhand Clear)

8. การตลี ูกตบ พ 3.1 ม.1/1 พ มคี วามรู้ ความเข้าใจ เห็นคุณค่า

(Smash) 3.2 ม. และมีทกั ษะในการตบลูกหา่ งตัว

1/1,1/2,1/3,1 ผู้รบั มที กั ษะในการตบลูกพุง่ เขา้

/4,1/5,1/6 หาตวั ผ้รู บั มีทกั ษะในการลูกดาด

(Drive) มีทักษะในการลูกหยอด

(Drop)

9. การเล่นเดยี่ ว พ 3.1 ม.1/1 พ มคี วามรู้ ความเข้าใจ เหน็ คุณค่า

และคู่ 3.2 ม. และมีทกั ษะในการเล่นเดย่ี วและ

1/1,1/2,1/3,1 คู่

/4,1/5,1/6

รวมคะแนนระหวา่ งเรยี น

คะแนนสอบกลางภาค

คะแนนทดสอบปลายภาค

รวมทง้ั หมด

๑๖๔

ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๔-๖

สาระ มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชวี้ ดั ช่วงชน้ั

สาระที่ ๓ การเคลอ่ื นไหว การออกกำลงั กาย การเลน่ เกม กฬี าไทย และกฬี าสากล

มาตรฐาน พ ๓.๑ เขา้ ใจ มที กั ษะในการเคลอื่ นไหว กจิ กรรมทางกาย การเลน่ เกม และกฬี า

ชนั้ ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

ม.๔-๖ ๔. ๑.วิเคราะหค์ วามคดิ รวบยอด  ความคิดรวบยอดเกี่ยวกับการเคลอ่ื นไหว

เกีย่ วกบั การเคล่อื นไหวรูปแบบตา่ งๆ รปู แบบตา่ ง ๆ ในการเลน่ กีฬา

ในการเลน่ กีฬา  การวเิ คราะห์ความคดิ รวบยอดเกย่ี วกบั การ

๒.ใชค้ วามสามารถของตน เพือ่ เพมิ่ เคลื่อนไหวรูปแบบต่างๆ ในการเล่นกฬี า
 การใช้ความสามารถของตนในการเล่นกีฬา
ศักยภาพของทีม คำนงึ ถงึ ผลทเ่ี กดิ ตอ่ เพอื่ เพ่มิ ศักยภาพของทมี โดยคำนงึ ถึง ผลที่เกิด
ผ้อู น่ื และสังคม
๓.เล่นกฬี าไทย กีฬาสากลประเภท ต่อผอู้ น่ื และสังคม
บคุ คล/คู่ กีฬาประเภททมี ได้อย่างนอ้ ย  กฬี าประเภทบคุ คล / คู่ ประเภททมี เชน่
ฟตุ ซอล รักบฟี้ ตุ บอล ยมิ นาสติก ลีลาศ
๑ ชนดิ ซอฟทบ์ อล เทนนิส เซปกั ตะกรอ้ มวยไทย
๔.แสดงการเคลอื่ นไหวไดอ้ ย่าง
กระบก่ี ระบอง พลอง ง้าว
สรา้ งสรรค์
 การเคลือ่ นไหวทีส่ รา้ งสรรค์ เช่น กิจกรรม
๕. เขา้ ร่วมกจิ กรรมนันทนาการนอก เขา้ จังหวะ เชยี ร์ลดี เดอร์
โรงเรียน และนำหลักการแนวคดิ ไป  การนำหลกั การและแนวคิดของกิจกรรม
ปรับปรงุ และพฒั นาคุณภาพชีวติ ของตน นนั ทนาการไปปรับปรุงและพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ
และสังคม
ของตนและสงั คม

๑๖๕

มาตรฐาน พ ๓.๒ รกั การออกกำลงั กาย การเลน่ เกม และการเลน่ กฬี า ปฏบิ ตั เิ ปน็ ประจำอยา่ ง
สมำ่ เสมอ มวี นิ ยั เคารพสทิ ธิ กฎ กตกิ า มนี ำ้ ใจนกั กฬี า มจี ิตวญิ ญาณ

ในการแขง่ ขนั และชน่ื ชมในสนุ ทรยี ภาพของการกฬี า

ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง
๑. ออกกำลงั กายและเล่นกฬี า
ม.๔-๖ ท่เี หมาะสมกบั ตนเองอยา่ งสม่ำเสมอ  การออกกำลังกายดว้ ยวธิ ที ่ชี อบ เช่น
ฝึกกายบริหารแบบต่างๆ ขี่จักรยาน
และใชค้ วามสามารถของตนเองเพิ่ม การออกกำลงั กายจากการทำงาน
ศกั ยภาพของทีม ลดความเป็นตวั ตน
คำนึงถึงผลท่เี กิดต่อสงั คม ในชวี ิตประจำวนั การรำกระบอง รำมวยจนี
๒.อธิบายและปฏบิ ตั ิเกย่ี วกบั สทิ ธิ กฎ  การเล่นกีฬาประเภทบคุ คล และประเภท
กติกา กลวธิ ีต่างๆ ในระหว่างการเล่น ทมี
การแข่งขันกีฬากับผูอ้ ่ืนและนำไปสรุป  การใช้ความสามารถของตนในการเพ่ิม
เปน็ แนวปฏิบตั แิ ละใช้ในชีวิตประจำวนั ศกั ยภาพของทีมในการเลน่ กีฬาและการเล่นโดย
อย่างต่อเนอ่ื ง
คำนงึ ถงึ ประโยชนต์ อ่ สงั คม
๓.แสดงออกถงึ การมมี ารยาทในการดู  การวางแผนกำหนดกิจกรรมการออกกำลงั -
การเล่นและการแข่งขนั กีฬา ดว้ ยความ กายและเล่นกีฬา
มีนำ้ ใจนกั กีฬา และนำไปใชป้ ฏิบตั ิทุก  สิทธิ กฎ กติกาการเลน่ กีฬา
โอกาส จนเป็นบุคลกิ ภาพที่ดี
 กลวธิ ี หลักการรุก การป้องกนั อย่าง
๔.รว่ มกจิ กรรมทางกายและเล่นกีฬา สร้างสรรคใ์ นการเล่นและแขง่ ขันกีฬา
อยา่ งมีความสุข ชื่นชมในคุณคา่ และ  การนำประสบการณ์จากการเล่นกีฬาไปใช้
ความงามของการกีฬา
ในชวี ิตประจำวัน

 การปฏบิ ัติตนในเรือ่ งมารยาทในการดู การ

เลน่ การแขง่ ขนั ความมนี ำ้ ใจนกั กฬี า

 บคุ ลิกภาพท่ีดี

 ความสุขทไ่ี ด้จากการเขา้ ร่วมกิจกรรมทาง

กาย และเล่นกฬี า

 คุณคา่ และความงามของการกีฬา

๑๖๖

คำอธบิ ายรายวชิ าเพมิ่ เตมิ แผน GP

ชอ่ื รายวชิ าพลศกึ ษา ๔ (เทเบลิ เทนนสิ ) รหสั วชิ า พ ๓๐๒๐๔

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๕ ภาคเรยี นที่ ๒

เวลา 2 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ

ศกึ ษาวเิ คราะห์ เก่ียวกับความรู้เบอื้ งต้นของการบริการกาย เพ่อื เตรยี มความพรอ้ มในการเลน่
กฬี าเทเบลิ เทนนสิ การฝกึ ใช้สว่ นต่างๆ ของรา่ งกายในการเลน่ กีฬาเทเบิลเทนนสิ ความรูเ้ บอื้ งต้นและ
ทกั ษะการเล่นข้นั พ้นื ฐานกติกาท่ีสำคญั และการจดั การแข่งขนั กีฬาเทเบิลเทนนสิ ประวัติความเป็นมา
ของกีฬาเทเบลิ เทนนสิ ในประเทศไทย

โดยการใชก้ ระบวนการ สรา้ งความรู้ความเขา้ ใจ การคดิ วิเคราะห์ สบื คน้ ขอ้ มลู กระบวนการ
การจดั การเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง กระบวนการกลุ่มและการฝึกปฏบิ ตั ิ กระบวนการเรียนรแู้ บบบรู ณาการ
และกระบวนการสร้างเสรมิ คณุ ลักษณะท่ีพงึ ประสงค์เพื่อใหเ้ กดิ ความรคู้ วามเข้าใจ ในกฎกตกิ าการ
เล่น และมีทักษะพื้นฐานของกฬี าเทเบิลเทนนสิ เปน็ ผู้มีน้ำใจเปน็ นกั กฬี า มีความสนใจในการเลน่ กฬี า
เพอ่ื พฒั นาสขุ ภาพ และสามารถใช้กฬี าเปน็ สื่อในการสรา้ งความสัมพนั ธท์ ่ดี ีกบั บุคคลอนื่ ได้

ผลการเรียนรู้

๑. ออกกำลังกายและเล่นกีฬา ท่เี หมาะสมกบั ตนเอง อย่างสมำ่ เสมอ
๒. ปฏบิ ตั ติ าม กฎ กติกาในระหว่างการเลน่ การแขง่ ขนั กบั ผู้อ่ืน
๓. แสดงมารยาทในการดู การเลน่ และแข่งขันดว้ ยน้ำใจนักกีฬา และนำไปใช้ได้
๔. เขา้ ร่วมกิจกรรมทางกายและเล่นกฬี าอย่างมีความสขุ
๕. เล่นกีฬาประเภทบคุ คล และประเภททีม ทง้ั กฬี าไทยและกีฬาสากล

รวมทงั้ หมด 5 ผลการเรยี นรู้

๑๖๗

โครงสรา้ งรายวชิ า พลศกึ ษา 4 (เทเบลิ เทนนสิ ) แผน GP

รายวชิ า พลศกึ ษา 4 (เทเบลิ เทนนสิ ) รหสั วชิ า พ 30204

กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรยี นที่ 2

เวลาเรยี น 40 ชว่ั โมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ

หนว่ ย ช่ือหนว่ ย มาตรฐาน สาระสำคญั เวลา สดั สว่ น
ที่ การเรยี นรู้ การเรยี นร/ู้ (ชว่ั โมง) คะแนน
1 สมรรถภาพ 1. การเสรมิ สร้างสมรรถภาพ
ทางกาย ตวั ชวี้ ดั ทางกาย 2 5

2 ทกั ษะ พ 3.1 ม.1/1 พ 1. การเคลอ่ื นที่ 6 20
พนื้ ฐาน 3.2 ม. - การใชม้ ือ, เท้า,
1/1,1/2,1/3,1
/4,1/5,1/6 สายตาในการเคลือ่ นไหว
- การจบั ไม้
พ 3.1 ม.1/1 พ - การเดาะลูก, ตลี ูก
3.2 ม.
1/1,1/2,1/3,1 2. ทกั ษะเบื้องต้นใน
/4,1/5,1/6 การเล่นเทเบิลเทนนิส

- การตลี ูกโฟร์
แฮนด์, แบค็ แฮนดก์ ระทบฝา
ผนงั

- การตลี ูกโฟร์แฮนด์
สลบั การตีแบค็ แฮนด์กระทบ
ฝาผนงั

3. ทกั ษะการตีลกู บนโต๊ะ
- การตีลกู โฟรแ์ ฮนด์

และแบ็คแฮนด์โดยการโต้คู่
- การตลี กู โฟร์แฮนด์

สลับการตีแบ็คแฮนดโ์ ดยการ
โตค้ ู่

- การตีลูกโฟรแ์ ฮนด์
และแบ็คแฮนด์ทะแยงโดย
การโต้คกู่ ารตีลกู โฟร์แฮนด์
สลบั การตีแบค็ แฮนด์ทะแยง
โดย
การโต้คู่

3 การเลน่ เท- พ 3.1 ม.1/1 พ 1. ทกั ษะการเสิรฟ์ ลูก ๑๖๘
6 20
เบลิ เทนนิส 3.2 ม. - การเสิรฟ์ ดว้ ยโฟร์
4 15
1/1,1/2,1/3,1 แฮนด์ 70
10
/4,1/5,1/6 - การเสิร์ฟดว้ ยแบ็ค 20
100
แฮนด์

- การกำหนดช่อง

เสิรฟ์ เพื่อบงั คบั ทิศทางของ

ลกู

2. ทกั ษะการตบลกู

- การตบลูกดว้ ยโฟร์

แฮนด์

- การตบด้วยแบค็

แฮนด์

3. ทักษะการตีลูกหมนุ

- การตลี ูกทอ็ ปสปลิ

- การตีลูกแบค็ สปิล

4 การแข่งขัน พ 3.1 ม.1/1 พ 1. ประเภทของการแขง่ ขนั

3.2 ม. - ประเภทเด่ยี ว

1/1,1/2,1/3,1

/4,1/5,1/6

รวมคะแนนระหวา่ งเรยี น

คะแนนสอบกลางภาค

คะแนนทดสอบปลายภาค

รวมทง้ั หมด

๑๖๙

ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๔-๖

สาระ มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชวี้ ดั ช่วงชน้ั

สาระที่ ๓ การเคลอ่ื นไหว การออกกำลงั กาย การเลน่ เกม กฬี าไทย และกฬี าสากล

มาตรฐาน พ ๓.๑ เขา้ ใจ มที กั ษะในการเคลอื่ นไหว กจิ กรรมทางกาย การเลน่ เกม และกฬี า

ชนั้ ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

ม.๔-๖ ๕. ๑.วิเคราะหค์ วามคดิ รวบยอด  ความคิดรวบยอดเกย่ี วกับการเคลอ่ื นไหว

เกีย่ วกบั การเคล่อื นไหวรูปแบบตา่ งๆ รปู แบบตา่ ง ๆ ในการเล่นกีฬา

ในการเลน่ กีฬา  การวเิ คราะห์ความคดิ รวบยอดเกย่ี วกบั การ

๒.ใชค้ วามสามารถของตน เพอื่ เพมิ่ เคลื่อนไหวรูปแบบต่างๆ ในการเล่นกฬี า
ศักยภาพของทีม คำนงึ ถงึ ผลทเี่ กดิ ตอ่  การใช้ความสามารถของตนในการเล่นกีฬา
ผ้อู น่ื และสังคม
๓.เล่นกฬี าไทย กีฬาสากลประเภท เพอื่ เพ่มิ ศักยภาพของทมี โดยคำนงึ ถึง ผลที่เกิด
บคุ คล/คู่ กฬี าประเภททมี ไดอ้ ยา่ งนอ้ ย
ต่อผอู้ น่ื และสังคม
 กฬี าประเภทบคุ คล / คู่ ประเภททมี เชน่

ฟตุ ซอล รักบฟี้ ตุ บอล ยมิ นาสติก ลีลาศ
๑ ชนดิ ซอฟทบ์ อล เทนนิส เซปกั ตะกรอ้ มวยไทย
๔.แสดงการเคลอื่ นไหวไดอ้ ย่าง
กระบก่ี ระบอง พลอง งา้ ว
สรา้ งสรรค์
 การเคลือ่ นไหวที่สร้างสรรค์ เชน่ กิจกรรม
๕. เขา้ ร่วมกิจกรรมนันทนาการนอก เขา้ จังหวะ เชยี ร์ลดี เดอร์
โรงเรียน และนำหลักการแนวคดิ ไป  การนำหลกั การและแนวคิดของกิจกรรม
ปรับปรงุ และพฒั นาคุณภาพชวี ติ ของตน นนั ทนาการไปปรับปรงุ และพฒั นาคุณภาพชวี ติ
และสังคม
ของตนและสงั คม

๑๗๐

มาตรฐาน พ ๓.๒ รกั การออกกำลงั กาย การเลน่ เกม และการเลน่ กฬี า ปฏบิ ตั เิ ปน็ ประจำอย่าง
สมำ่ เสมอ มวี นิ ยั เคารพสทิ ธิ กฎ กตกิ า มนี ำ้ ใจนกั กฬี า มจี ิตวญิ ญาณ

ในการแขง่ ขนั และชนื่ ชมในสนุ ทรยี ภาพของการกฬี า

ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง
๑. ออกกำลงั กายและเลน่ กฬี า
ม.๔-๖ ท่เี หมาะสมกบั ตนเองอยา่ งสม่ำเสมอ  การออกกำลงั กายดว้ ยวธิ ที ่ชี อบ เช่น
ฝึกกายบริหารแบบต่างๆ ขี่จักรยาน
และใชค้ วามสามารถของตนเองเพมิ่ การออกกำลงั กายจากการทำงาน
ศกั ยภาพของทีม ลดความเป็นตวั ตน
คำนึงถึงผลท่เี กิดต่อสงั คม ในชวี ติ ประจำวนั การรำกระบอง รำมวยจนี
๒.อธิบายและปฏบิ ตั ิเกย่ี วกบั สทิ ธิ กฎ  การเล่นกีฬาประเภทบคุ คล และประเภท
กติกา กลวธิ ีต่างๆ ในระหว่างการเล่น ทมี
การแข่งขันกีฬากับผูอ้ ่ืนและนำไปสรุป  การใช้ความสามารถของตนในการเพ่ิม
เปน็ แนวปฏิบตั แิ ละใช้ในชวี ิตประจำวนั ศกั ยภาพของทีมในการเลน่ กีฬาและการเล่นโดย
อย่างต่อเนอ่ื ง
คำนงึ ถึงประโยชนต์ อ่ สงั คม
๓.แสดงออกถงึ การมมี ารยาทในการดู  การวางแผนกำหนดกิจกรรมการออกกำลงั -
การเล่นและการแข่งขนั กฬี า ดว้ ยความ กายและเล่นกีฬา
มีนำ้ ใจนกั กีฬา และนำไปใชป้ ฏิบตั ิทุก  สิทธิ กฎ กติกาการเลน่ กีฬา
โอกาส จนเป็นบุคลกิ ภาพทด่ี ี
 กลวิธี หลักการรุก การป้องกันอย่าง
๔.รว่ มกิจกรรมทางกายและเล่นกีฬา สร้างสรรคใ์ นการเล่นและแขง่ ขันกีฬา
อยา่ งมีความสุข ชื่นชมในคุณคา่ และ  การนำประสบการณ์จากการเล่นกีฬาไปใช้
ความงามของการกีฬา
ในชวี ติ ประจำวัน

 การปฏบิ ัติตนในเรือ่ งมารยาทในการดู การ

เลน่ การแขง่ ขนั ความมนี ำ้ ใจนกั กฬี า

 บคุ ลิกภาพที่ดี

 ความสุขทไ่ี ด้จากการเขา้ ร่วมกิจกรรมทาง

กาย และเลน่ กฬี า

 คุณคา่ และความงามของการกีฬา

๑๗๑

คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเตมิ แผน GP

ชอ่ื รายวิชาพลศกึ ษา ๕ (ฟตุ ซอล) รหัสวิชา พ ๓๐๒๐๕

กล่มุ สาระการเรยี นรูส้ ุขศกึ ษาและพลศึกษา ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๖ ภาคเรยี นท่ี ๑

เวลา ๒ ชว่ั โมง/สัปดาห์ จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ

ศกึ ษาวิเคราะห์ เกี่ยวกบั ความรู้เบื้องต้นของการบรกิ ารกาย เพื่อเตรียมความพร้อมในการเล่น
กฬี าฟุตซอล การฝึกใช้ส่วนตา่ งๆ ของร่างกายในการเลน่ กฬี าฟตุ ซอล ความรู้เบอื้ งตน้ และทักษะ
การเลน่ ขัน้ พน้ื ฐานกตกิ าท่ีสำคญั และการจัดการแขง่ ขนั กฬี าฟตุ ซอล ประวัตคิ วามเป็นมาฟุตซอล
ในประเทศไทย

โดยการใชก้ ระบวนการ สรา้ งความรูค้ วามเข้าใจ การคดิ วเิ คราะห์ สบื ค้นข้อมลู กระบวนการ
การจัดการเรียนร้ดู ้วยตนเอง กระบวนการกลุม่ และการฝกึ ปฏิบตั ิ กระบวนการเรยี นรู้แบบบรู ณาการ
และกระบวนการสร้างเสรมิ คุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์เพ่อื ให้เกดิ ความรคู้ วามเข้าใจ ในกฎกติกาการ
เลน่ และมีทกั ษะพ้ืนฐานของกีฬาฟตุ ซอล เปน็ ผมู้ ีน้ำใจเปน็ นักกฬี า มีความสนใจในการเลน่ กฬี าเพอื่
พัฒนาสขุ ภาพ และสามารถใช้กฬี าเปน็ ส่ือในการสรา้ งความสัมพันธท์ ี่ดีกบั บคุ คลอื่นได้

ผลการเรยี นรู้

๑. ออกกำลงั กายและเลน่ กีฬา ท่เี หมาะสมกับตนเอง อย่างสม่ำเสมอ
๒. ปฏบิ ตั ติ าม กฎ กติกาในระหว่างการเลน่ การแขง่ ขันกบั ผ้อู ื่น
๓. แสดงมารยาทในการดู การเล่น และแข่งขนั ด้วยนำ้ ใจนักกีฬา และนำไปใชไ้ ด้
๔. เขา้ รว่ มกิจกรรมทางกายและเลน่ กีฬาอยา่ งมีความสขุ
๕. เล่นกีฬาประเภทบคุ คล และประเภททมี ทั้งกฬี าไทยและกีฬาสากล

รวมทงั้ หมด 5 ผลการเรยี นรู้

๑๗๒

โครงสรา้ งรายวชิ า พลศกึ ษา 5 (ฟตุ ซอล) แผน GP

รายวิชา พลศกึ ษา 5 (ฟตุ ซอล) รหสั วชิ า พ 30205

กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6 ภาคเรยี นที่ 1

เวลาเรยี น 40 ชวั่ โมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ

หนว่ ย ชื่อหนว่ ย มาตรฐาน เวลา สดั สว่ น
ท่ี การเรยี นรู้ (ชวั่ โมง) คะแนน
1. ความรทู้ ่ัวไป การเรยี นร/ู้ สาระสำคญั
กฬี าฟุตซอล 2 10
ตวั ชวี้ ดั
2. หลักการฝึก 4 10
กีฬาฟตุ ซอล พ 3.1 ม.1/1 การเรยี นกีฬาฟตุ ซอลใหถ้ ูกตอ้ ง
ด้วยความ 4 10
ปลอดภยั พ 3.2 ม. ตามหลกั การมีความสำคัญตอ่
20
3. การ 1/1,1/2,1/3,1 คณุ ภาพของผเู้ รยี น การศกึ ษา
เสรมิ สร้าง
สมรรถภาพ /4,1/5,1/6 เรื่องความรูท้ ่ัวไปของกฬี าฟุต
ทางกายใน
การเล่นกีฬา ซอล ทำให้เกดิ ความเขา้ ใจ
ฟตุ ซอล
เกย่ี วกับประวตั ิความเป็นมา
4. ทกั ษะการ
เล่นฟุตซอล ประโยชนม์ ารยาทในการเป็นผู้

เลน่ และผชู้ มกีฬา

พ 3.1 ม.1/1 หลักการฝกึ กฬี าฟตุ ซอลด้วย

พ 3.2 ม. ความปลอดภัยมีความสำคญั ต่อ

1/1,1/2,1/3,1 การฝกึ ปฏบิ ตั ิ การศกึ ษาเร่อื ง

/4,1/5,1/6 หลักการฝึกกีฬาฟตุ ซอลด้วย

ความปลอดภัย ทำใหเ้ กิด

ความเขา้ ใจเก่ยี วกับความ

ปลอดภัย การบาดเจ็บจากการ

เขา้ รว่ มกิจกรรมการเคล่อื นไหว

รูปแบบ

ตา่ ง ๆ ในการเล่นกีฬาและ

การปฐมพยาบาล

พ 3.1 ม.1/1 การมสี ขุ ภาพที่ดีขึน้ อยูก่ ับหลัก

พ 3.2 ม. การเสรมิ สร้างสมรรถภาพทาง

1/1,1/2,1/3,1 กาย การศึกษาเรือ่ งสมรรถภาพ

/4,1/5,1/6 ทางกาย ทำให้เกิดความรู้ความ

เข้าใจเก่ยี วกับวธิ ี การเสริมสร้าง

สมรรถภาพทางกายในการเลน่

กฬี าฟตุ ซอล

พ 3.1 ม.1/1 การเล่นกีฬาฟตุ ซอลให้เกดิ 5

พ 3.2 ม. ประสิทธิภาพ ผ้เู ลน่ ตอ้ งเรียนรูจ้ น

1/1,1/2,1/3,1 เกิดทกั ษะพืน้ ฐานหลายดา้ น เช่น

/4,1/5,1/6 การเคลอื่ นไหวเบอ้ื งตน้ การทำ

ความคนุ้ เคยกับลูกบอล การเดาะ ๑๗๓

ลูก การโหมง่ ลูก การเลย้ี งลูก 10

การยิงประตูรวมท้ังการเปน็ 10

ผู้รักษาประตซู ึง่ ทง้ั หลายเหล่านี้ 70
10
ตอ้ งอาศยั การฝึกฝนจนชำนาญ 20
100
และเป็นทกั ษะที่ต้องมีการพัฒนา

อย่างตอ่ เนือ่ ง

5. กติกา พ 3.1 ม.1/1 กฎ กตกิ าเปน็ กฎเกณฑ์สากล 2
3
การแข่งขัน พ 3.2 ม. หรือสหพันธฟ์ ุตบอลระหวา่ ง

1/1,1/2,1/3,1 ประเทศไดก้ ำหนดข้นึ เปน็ หลัก

/4,1/5,1/6 ในการปฏบิ ตั ิ การศกึ ษาเรื่อง

กตกิ าการแขง่ ขันกฬี าฟตุ ซอล ทำ

ใหเ้ กดิ ความรู้

ความเขา้ ใจเก่ยี วกบั กฎเกณฑ์

หรอื ข้อตกลงกฬี าฟตุ ซอล

6. การเล่นเปน็ พ 3.1 ม.1/1 ตำแหนง่ การยนื หนา้ ทีข่ องผู้เลน่

ทมี พ 3.2 ม. ตำแหนง่ การยืน กลวธิ ใี นการเลน่

1/1,1/2,1/3,1 ฟุตซอล แบบฝกึ การเล่นฟุตซอล

/4,1/5,1/6 เปน็ ทมี การฝึกปฏิบัตทิ ถี่ ูกต้อง

ตามหลักการ มีความสำคญั ต่อ

การเคล่อื น ไหวร่างกายของ

ผู้เรียน การศึกษาเรอ่ื งตำแหนง่

การยนื หนา้ ท่ีของผู้เล่น ตำแหน่ง

การยนื กลวธิ ีในการเลน่ ฟตุ ซอล

แบบฝึกการเลน่ ฟตุ ซอลเป็นต้น

รวมคะแนนระหวา่ งเรยี น

คะแนนสอบกลางภาค

คะแนนทดสอบปลายภาค

รวมทงั้ หมด

๑๗๔

ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๔-๖

สาระ มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชวี้ ดั ช่วงชน้ั

สาระที่ ๓ การเคลอ่ื นไหว การออกกำลงั กาย การเลน่ เกม กฬี าไทย และกฬี าสากล

มาตรฐาน พ ๓.๑ เขา้ ใจ มที กั ษะในการเคลอื่ นไหว กจิ กรรมทางกาย การเลน่ เกม และกฬี า

ชนั้ ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

ม.๔-๖ ๖. ๑.วิเคราะหค์ วามคดิ รวบยอด  ความคิดรวบยอดเกย่ี วกับการเคลอ่ื นไหว

เกีย่ วกบั การเคล่อื นไหวรูปแบบตา่ งๆ รปู แบบตา่ ง ๆ ในการเล่นกีฬา

ในการเลน่ กีฬา  การวเิ คราะห์ความคดิ รวบยอดเกย่ี วกบั การ

๒.ใชค้ วามสามารถของตน เพอื่ เพมิ่ เคลื่อนไหวรูปแบบต่างๆ ในการเล่นกฬี า
 การใช้ความสามารถของตนในการเล่นกีฬา
ศักยภาพของทีม คำนงึ ถงึ ผลทเี่ กดิ ตอ่ เพอื่ เพ่ิมศักยภาพของทมี โดยคำนงึ ถึง ผลที่เกิด
ผ้อู น่ื และสังคม
๓.เล่นกฬี าไทย กีฬาสากลประเภท ต่อผอู้ น่ื และสังคม
บคุ คล/คู่ กีฬาประเภททมี ไดอ้ ยา่ งนอ้ ย  กฬี าประเภทบคุ คล / คู่ ประเภททมี เชน่
ฟตุ ซอล รักบฟี้ ตุ บอล ยมิ นาสติก ลีลาศ
๑ ชนดิ ซอฟทบ์ อล เทนนิส เซปกั ตะกรอ้ มวยไทย
๔.แสดงการเคลอื่ นไหวไดอ้ ย่าง
กระบก่ี ระบอง พลอง งา้ ว
สรา้ งสรรค์
 การเคลือ่ นไหวที่สร้างสรรค์ เชน่ กิจกรรม
๕. เขา้ ร่วมกิจกรรมนันทนาการนอก เขา้ จังหวะ เชยี ร์ลดี เดอร์
โรงเรียน และนำหลักการแนวคดิ ไป  การนำหลกั การและแนวคดิ ของกิจกรรม
ปรับปรงุ และพฒั นาคุณภาพชวี ติ ของตน นนั ทนาการไปปรับปรงุ และพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ
และสังคม
ของตนและสงั คม

๑๗๕

มาตรฐาน พ ๓.๒ รกั การออกกำลงั กาย การเลน่ เกม และการเลน่ กฬี า ปฏบิ ตั เิ ปน็ ประจำอย่าง
สมำ่ เสมอ มวี นิ ยั เคารพสทิ ธิ กฎ กตกิ า มนี ำ้ ใจนกั กฬี า มจี ติ วญิ ญาณ

ในการแขง่ ขนั และชนื่ ชมในสนุ ทรยี ภาพของการกฬี า

ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
๑. ออกกำลงั กายและเลน่ กฬี า
ม.๔-๖ ที่เหมาะสมกบั ตนเองอยา่ งสม่ำเสมอ  การออกกำลังกายดว้ ยวธิ ที ่ชี อบ เช่น
ฝึกกายบริหารแบบต่างๆ ข่ีจักรยาน
และใชค้ วามสามารถของตนเองเพ่มิ การออกกำลงั กายจากการทำงาน
ศกั ยภาพของทีม ลดความเป็นตัวตน
คำนึงถึงผลท่เี กิดต่อสงั คม ในชวี ิตประจำวนั การรำกระบอง รำมวยจนี
๒.อธิบายและปฏบิ ตั เิ กย่ี วกบั สทิ ธิ กฎ  การเล่นกีฬาประเภทบคุ คล และประเภท
กติกา กลวธิ ีต่างๆ ในระหว่างการเลน่ ทีม
การแข่งขันกีฬากับผูอ้ ่ืนและนำไปสรุป  การใช้ความสามารถของตนในการเพ่ิม
เปน็ แนวปฏิบตั ิและใช้ในชวี ิตประจำวนั ศักยภาพของทีมในการเลน่ กีฬาและการเล่นโดย
อย่างต่อเนอ่ื ง
คำนงึ ถงึ ประโยชนต์ อ่ สงั คม
๓.แสดงออกถึงการมมี ารยาทในการดู  การวางแผนกำหนดกิจกรรมการออกกำลงั -
การเล่นและการแข่งขนั กฬี า ดว้ ยความ กายและเล่นกีฬา
มีนำ้ ใจนกั กีฬา และนำไปใชป้ ฏิบตั ิทุก  สิทธิ กฎ กติกาการเล่นกีฬา
โอกาส จนเป็นบุคลกิ ภาพทด่ี ี
 กลวิธี หลักการรุก การป้องกันอย่าง
๔.รว่ มกจิ กรรมทางกายและเล่นกีฬา สรา้ งสรรคใ์ นการเล่นและแขง่ ขันกีฬา
อยา่ งมีความสขุ ชื่นชมในคุณคา่ และ  การนำประสบการณ์จากการเล่นกีฬาไปใช้
ความงามของการกีฬา
ในชีวติ ประจำวัน

 การปฏบิ ัติตนในเรือ่ งมารยาทในการดู การ

เลน่ การแขง่ ขนั ความมนี ำ้ ใจนกั กฬี า

 บคุ ลิกภาพท่ีดี

 ความสุขทไ่ี ด้จากการเขา้ ร่วมกิจกรรมทาง

กาย และเลน่ กฬี า

 คุณคา่ และความงามของการกีฬา

๑๗๖

คำอธบิ ายรายวชิ าเพม่ิ เติม แผน GP

ชื่อรายวิชาพลศกึ ษา ๖ (ฟุตบอล) รหัสวชิ า พ ๓๐๒๐๖

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ ๖ ภาคเรยี นที่ ๒

เวลา ๒ ช่ัวโมง/สปั ดาห์ จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกิต

ศกึ ษาวิเคราะห์ เก่ียวกับความรู้เบอื้ งต้นของการบริการกาย เพอื่ เตรียมความพรอ้ ม
ในการเล่นกฬี าฟตุ บอล การฝึกใช้ส่วนต่างๆ ของร่างกายในการเล่นกีฬาฟตุ บอล ความร้เู บอื้ งตน้ และ
ทกั ษะการเล่นข้ันพนื้ ฐานกตกิ าทีส่ ำคัญ และการจดั การแขง่ ขนั กฬี าฟตุ ซอล ประวัตคิ วามเป็นมา
ฟตุ บอล ในประเทศไทย

โดยการใชก้ ระบวนการ สรา้ งความรูค้ วามเขา้ ใจ การคดิ วเิ คราะห์ สืบค้นขอ้ มูล กระบวนการ
การจดั การเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง กระบวนการกลุ่มและการฝึกปฏิบัติ กระบวนการเรียนร้แู บบบรู ณาการ
และกระบวนการสรา้ งเสริมคณุ ลักษณะท่ีพึงประสงค์เพื่อให้เกดิ ความรคู้ วามเข้าใจ ในกฎกตกิ าการ
เล่น และมที ักษะพ้นื ฐานของกฬี าฟุตบอล เปน็ ผมู้ ีนำ้ ใจเปน็ นกั กฬี า มคี วามสนใจในการเล่นกฬี าเพือ่
พัฒนาสขุ ภาพ และสามารถใช้กีฬาเปน็ สอื่ ในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดกี ับบคุ คลอนื่ ได้

ผลการเรียนรู้

๑. ออกกำลงั กายและเลน่ กีฬา ท่ีเหมาะสมกับตนเอง อย่างสมำ่ เสมอ
๒. ปฏบิ ัติตาม กฎ กติกาในระหวา่ งการเลน่ การแข่งขนั กับผอู้ ่นื
๓. แสดงมารยาทในการดู การเลน่ และแขง่ ขนั ดว้ ยน้ำใจนักกีฬา และนำไปใชไ้ ด้
๔. เข้ารว่ มกิจกรรมทางกายและเลน่ กฬี าอย่างมีความสขุ
๕. เลน่ กฬี าประเภทบุคคล และประเภททีม ท้งั กฬี าไทยและกีฬาสากล

รวมทง้ั หมด 5 ผลการเรยี นรู้

๑๗๗

โครงสรา้ งรายวชิ า พลศกึ ษา 6 (ฟตุ บอล) แผน GP

รายวชิ า พลศกึ ษา 6 (ฟตุ บอล) รหสั วชิ า พ 30206

กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6 ภาคเรยี นท่ี 2

เวลาเรยี น 40 ชวั่ โมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ

หนว่ ย ช่ือหนว่ ย มาตรฐาน เวลา สดั สว่ น
ท่ี การเรยี นรู้ (ชว่ั โมง) คะแนน
1. ความร้ทู ่ัวไป การเรยี นร/ู้ สาระสำคญั
กฬี าฟตุ บอล 2 10
ตวั ชวี้ ดั
2. หลกั การฝกึ 4 10
กีฬาฟตุ บอล พ 3.1 ม.1/1 การเรียนกฬี าฟุตบอลใหถ้ ูกต้อง
ด้วยความ 4 10
ปลอดภัย พ 3.2 ม. ตามหลักการมคี วามสำคัญตอ่
5 20
3. การ 1/1,1/2,1/3,1 คณุ ภาพของผเู้ รียน การศึกษา
เสรมิ สร้าง
สมรรถภาพ /4,1/5,1/6 เรอ่ื งความรู้ทั่วไปของกฬี า
ทางกายใน
การเลน่ กีฬา ฟตุ บอล ทำใหเ้ กิดความเขา้ ใจ
ฟุตบอล
เกี่ยวกบั ประวัตคิ วามเปน็ มา
4. ทักษะการ
เลน่ ฟุตบอล ประโยชน์มารยาทในการเปน็ ผู้

เล่นและผูช้ มกีฬา

พ 3.1 ม.1/1 หลักการฝึกกฬี าฟตุ บอลดว้ ย

พ 3.2 ม. ความปลอดภัยมีความสำคัญต่อ

1/1,1/2,1/3,1 การฝึกปฏบิ ัติ การศึกษาเรื่อง

/4,1/5,1/6 หลักการฝกึ กฬี าฟตุ บอลดว้ ย

ความปลอดภยั ทำใหเ้ กดิ ความ

เขา้ ใจเก่ียวกบั ความปลอดภัย

การบาดเจ็บจากการเข้ารว่ ม

กจิ กรรมการเคลอื่ นไหวรปู แบบ

ตา่ ง ๆ ในการเล่นกฬี าและการ

ปฐมพยาบาล

พ 3.1 ม.1/1 การมสี ขุ ภาพทด่ี ีข้นึ อยกู่ ับ

พ 3.2 ม. หลกั การเสรมิ สรา้ งสมรรถภาพ

1/1,1/2,1/3,1 ทางกาย การศึกษาเรื่อง

/4,1/5,1/6 สมรรถภาพทางกาย ทำใหเ้ กิด

ความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับวธิ ี

การเสรมิ สรา้ งสมรรถภาพทาง

กายในการเลน่ กฬี าฟุตบอล

พ 3.1 ม.1/1 การเล่นกฬี าฟตุ บอลใหเ้ กิดประ

พ 3.2 ม. สทิ ธิ- ภาพ ผู้เล่นต้องเรียนรู้จน

1/1,1/2,1/3,1 เกิดทกั ษะพื้นฐานหลายด้าน เชน่

/4,1/5,1/6 การเคลื่อนไหวเบือ้ งต้น การทำ

ความ คนุ้ เคยกับลูกบอล การ

เดาะลูก การโหมง่ ลูก การเลีย้ ง ๑๗๘

ลกู การยงิ ประตูรวมทง้ั การเปน็ 10

ผู้รกั ษาประตซู ่งึ ทง้ั หลายเหล่าน้ี 10

ต้องอาศัยการฝึกฝนจนชำนาญ 70
10
และเป็นทกั ษะท่ีตอ้ งมกี ารพัฒนา 20
100
อย่างตอ่ เนื่อง

5. กตกิ าการ พ 3.1 ม.1/1 กฎ กตกิ าเป็นกฎเกณฑส์ ากล 2
3
แข่งขนั พ 3.2 ม. หรือสหพนั ธฟ์ ุตบอลระหว่าง

1/1,1/2,1/3,1 ประเทศไดก้ ไหนดขึ้น เป็นหลักใน

/4,1/5,1/6 การปฏบิ ัติ การศกึ ษาเร่อื งกตกิ า

การแข่งขันกฬี าฟตุ บอล ทำให้

เกดิ ความร้คู วามเข้าใจเกีย่ วกับ

กฎเกณฑห์ รอื ข้อตกลงกีฬา

ฟุตบอล

6. การเลน่ เปน็ พ 3.1 ม.1/1 ตำแหน่งการยืน หน้าที่ของผูเ้ ลน่

ทมี พ 3.2 ม. ตำแหน่งการยนื กลวธิ ใี นการเล่น

1/1,1/2,1/3,1 ฟตุ บอล แบบฝึกการเล่นฟตุ บอล

/4,1/5,1/6 เป็นทมี การฝึกปฏิบัตทิ ่ถี กู ตอ้ ง

ตามหลกั การ มีความสำคัญตอ่

การเคลอ่ื น ไหวร่างกายของ

ผเู้ รียน การศึกษาเรอ่ื งตำแหนง่

การยนื หน้าทข่ี องผ้เู ลน่ ตำแหน่ง

การยืน กลวิธใี นการเล่นฟุตบอล

แบบฝกึ การเลน่ ฟตุ บอลเป็น

รวมคะแนนระหวา่ งเรยี น

คะแนนสอบกลางภาค

คะแนนทดสอบปลายภาค

รวมทงั้ หมด

๑๗๙

ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๔-๖

สาระ มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชวี้ ดั ช่วงชน้ั

สาระที่ ๓ การเคลอ่ื นไหว การออกกำลงั กาย การเลน่ เกม กฬี าไทย และกฬี าสากล

มาตรฐาน พ ๓.๑ เขา้ ใจ มที กั ษะในการเคลอื่ นไหว กจิ กรรมทางกาย การเลน่ เกม และกฬี า

ชนั้ ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

ม.๔-๖ ๗. ๑.วิเคราะหค์ วามคดิ รวบยอด  ความคิดรวบยอดเกย่ี วกับการเคลอ่ื นไหว
เกีย่ วกบั การเคล่อื นไหวรูปแบบตา่ งๆ รปู แบบตา่ ง ๆ ในการเล่นกีฬา

ในการเลน่ กีฬา  การวเิ คราะห์ความคดิ รวบยอดเกีย่ วกบั การ

๒.ใชค้ วามสามารถของตน เพอื่ เพมิ่ เคลื่อนไหวรูปแบบต่างๆ ในการเล่นกฬี า
ศักยภาพของทีม คำนงึ ถงึ ผลทเี่ กดิ ตอ่  การใช้ความสามารถของตนในการเล่นกีฬา
ผ้อู น่ื และสังคม
๓.เล่นกฬี าไทย กีฬาสากลประเภท เพอื่ เพ่มิ ศักยภาพของทมี โดยคำนงึ ถงึ ผลที่เกิด
บคุ คล/คู่ กีฬาประเภททมี ไดอ้ ยา่ งนอ้ ย
ต่อผอู้ น่ื และสังคม
 กฬี าประเภทบคุ คล / คู่ ประเภททมี เชน่

ฟตุ ซอล รักบฟี้ ตุ บอล ยมิ นาสติก ลีลาศ
๑ ชนดิ ซอฟทบ์ อล เทนนิส เซปกั ตะกรอ้ มวยไทย
๔.แสดงการเคลอื่ นไหวไดอ้ ย่าง
กระบก่ี ระบอง พลอง ง้าว
สรา้ งสรรค์
 การเคลือ่ นไหวทีส่ ร้างสรรค์ เชน่ กิจกรรม
๕. เขา้ ร่วมกิจกรรมนันทนาการนอก เขา้ จังหวะ เชยี ร์ลดี เดอร์
โรงเรียน และนำหลักการแนวคดิ ไป  การนำหลกั การและแนวคดิ ของกิจกรรม
ปรับปรงุ และพฒั นาคุณภาพชวี ติ ของตน นนั ทนาการไปปรับปรุงและพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ
และสังคม
ของตนและสงั คม

๑๘๐

มาตรฐาน พ ๓.๒ รกั การออกกำลงั กาย การเลน่ เกม และการเลน่ กฬี า ปฏบิ ตั เิ ปน็ ประจำอยา่ ง
สมำ่ เสมอ มวี นิ ยั เคารพสทิ ธิ กฎ กตกิ า มนี ำ้ ใจนกั กฬี า มจี ิตวญิ ญาณ

ในการแขง่ ขนั และชน่ื ชมในสนุ ทรยี ภาพของการกฬี า

ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง
๑. ออกกำลงั กายและเลน่ กฬี า
ม.๔-๖ ที่เหมาะสมกบั ตนเองอย่างสม่ำเสมอ  การออกกำลังกายดว้ ยวธิ ที ่ชี อบ เช่น
ฝึกกายบริหารแบบต่างๆ ขี่จักรยาน
และใชค้ วามสามารถของตนเองเพมิ่ การออกกำลังกายจากการทำงาน
ศกั ยภาพของทีม ลดความเป็นตวั ตน
คำนึงถึงผลท่เี กิดต่อสงั คม ในชวี ติ ประจำวนั การรำกระบอง รำมวยจนี
๒.อธิบายและปฏบิ ตั เิ กย่ี วกบั สทิ ธิ กฎ  การเล่นกีฬาประเภทบคุ คล และประเภท
กติกา กลวธิ ีต่างๆ ในระหวา่ งการเลน่ ทมี
การแข่งขันกีฬากับผูอ้ ่ืนและนำไปสรุป  การใช้ความสามารถของตนในการเพ่ิม
เปน็ แนวปฏิบตั แิ ละใช้ในชีวิตประจำวนั ศกั ยภาพของทีมในการเลน่ กีฬาและการเล่นโดย
อย่างต่อเนอ่ื ง
คำนงึ ถึงประโยชนต์ อ่ สงั คม
๓.แสดงออกถงึ การมมี ารยาทในการดู  การวางแผนกำหนดกิจกรรมการออกกำลงั -
การเล่นและการแข่งขนั กฬี า ดว้ ยความ กายและเล่นกีฬา
มีนำ้ ใจนกั กีฬา และนำไปใชป้ ฏิบตั ิทุก  สิทธิ กฎ กติกาการเลน่ กีฬา
โอกาส จนเป็นบุคลกิ ภาพทีด่ ี
 กลวิธี หลักการรุก การป้องกนั อย่าง
๔.รว่ มกจิ กรรมทางกายและเล่นกีฬา สร้างสรรคใ์ นการเล่นและแขง่ ขันกีฬา
อยา่ งมีความสุข ชื่นชมในคุณคา่ และ  การนำประสบการณ์จากการเล่นกีฬาไปใช้
ความงามของการกีฬา
ในชวี ติ ประจำวัน

 การปฏบิ ัติตนในเรือ่ งมารยาทในการดู การ

เลน่ การแขง่ ขนั ความมนี ำ้ ใจนักกฬี า

 บคุ ลิกภาพท่ีดี

 ความสุขทไ่ี ด้จากการเขา้ ร่วมกจิ กรรมทาง

กาย และเล่นกฬี า

 คุณคา่ และความงามของการกฬี า

๑๘๑

คำอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเติม แผน SMA

ชอ่ื รายวิชาพลศึกษา ๔ (แบดมินตัน) รหัสวิชา พ ๓๒๒๐๒

กล่มุ สาระการเรยี นรสู้ ุขศึกษาและพลศกึ ษา ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๕ ภาคเรยี นท่ี ๒

เวลา ๑ ชัว่ โมง/สปั ดาห์ จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกติ

ศกึ ษาวเิ คราะห์ เก่ียวกับความรู้เบื้องตน้ ของการบริการกาย เพอื่ เตรียมความพร้อมใน
การเลน่ กฬี าแบดมนิ ตัน การฝกึ ใชส้ ว่ นต่างๆ ของร่างกายในการเล่นกฬี าแบดมนิ ตนั ความรู้เบื้องตน้
และทักษะการเล่นขั้นพ้นื ฐานกตกิ าทส่ี ำคัญ และการจัดการแข่งขันกีฬาแบดมินตัน ประวัตคิ วาม
เป็นมาของกีฬาแบดมนิ ตนั ในประเทศไทย

โดยการใช้กระบวนการ สรา้ งความรู้ความเข้าใจ การคิด วเิ คราะห์ สบื คน้ ข้อมลู กระบวนการ
การจดั การเรยี นร้ดู ว้ ยตนเอง กระบวนการกล่มุ และการฝึกปฏิบัติ กระบวนการเรียนรูแ้ บบบรู ณาการ
และกระบวนการสร้างเสรมิ คุณลักษณะทีพ่ งึ ประสงค์

เพ่อื ให้เกดิ ความรู้ความเขา้ ใจ ในกฎกติกาการเลน่ และมที กั ษะพืน้ ฐานของกฬี าแบดมนิ ตัน
เป็นผู้มีน้ำใจเปน็ นักกีฬา มคี วามสนใจในการเลน่ กฬี าเพื่อพฒั นาสขุ ภาพ และสามารถใช้กีฬาเปน็ ส่ือ
ใน
การสรา้ งความสมั พันธ์ทด่ี ีกับบุคคลอ่ืนได้

ผลการเรยี นรู้

๑. ออกกำลงั กายและเลน่ กีฬา ท่ีเหมาะสมกบั ตนเอง อยา่ งสมำ่ เสมอ
๒. ปฏบิ ตั ิตาม กฎ กตกิ าในระหวา่ งการเลน่ การแข่งขันกบั ผู้อน่ื
๓. แสดงมารยาทในการดู การเลน่ และแข่งขนั ด้วยน้ำใจนักกฬี า และนำไปใช้ได้
๔. เข้ารว่ มกิจกรรมทางกายและเลน่ กฬี าอย่างมีความสขุ
๕. เลน่ กีฬาประเภทบุคคล และประเภททีม ทงั้ กฬี าไทยและกีฬาสากล

รวมทง้ั หมด 5 ผลการเรยี นรู้

๑๘๒

โครงสรา้ งรายวชิ า พลศกึ ษา 4 (แบดมนิ ตนั )

รายวชิ า พลศกึ ษา 4 (แบดมนิ ตนั ) รหสั วชิ า พ 32202

กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5 ภาคเรยี นท่ี 2

เวลาเรยี น 20 ชว่ั โมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ

หนว่ ย ชอ่ื หนว่ ย มาตรฐาน สาระสำคญั เวลา สดั สว่ น
ที่ การเรยี นรู้ การเรยี นร/ู้ (ชว่ั โมง) คะแนน

ตวั ชว้ี ดั 15
25
1. ความรทู้ ่วั ไป พ 3.1 ม.1/1 พ ความรู้ ความเขา้ ใจ และเหน็
15
เกีย่ วกับกฬี า 3.2 ม. คณุ ค่า ของการออกกำลงั กาย 3 10

แบดมนิ ตนั 1/1,1/2,1/3,1 และการเลน่ กฬี าแบดมนิ ตนั เปน็ 25
15
/4,1/5,1/6 ประจำ

2. การบรหิ าร พ 3.1 ม.1/1 พ มีความรู้ ความเข้าใจ มที กั ษะ

ร่างกาย 3.2 ม. ปฏบิ ัติในการและการเคล่ือนไหว

1/1,1/2,1/3,1 บรหิ ารร่างกายและการ

/4,1/5,1/6 เคลอื่ นไหวเชิง สร้างสรรค์ แบบ

อย่กู ับที่ แบบเคลอื่ นท่ี และการ

เคลื่อนไหวประกอบอปุ กรณ์ของ

กีฬาแบดมินตนั

3. วธิ กี ารจับไม้ พ 3.1 ม.1/1 พ มีความรู้ ความเขา้ ใจ เห็นคุณค่า

3.2 ม. และมที กั ษะปฏิบตั ิในการจับไม้

1/1,1/2,1/3,1 ของกฬี าแบดมินตนั

/4,1/5,1/6

4. วธิ ีการจับลกู พ 3.1 ม.1/1 พ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ เห็นคุณคา่

แบดมนิ ตนั 3.2 ม. และการจบั ลกู แบดมนิ ตนั มี

1/1,1/2,1/3,1 ทักษะปฏบิ ัตใิ นการจับทีห่ วั ไม้

/4,1/5,1/6 คอร์กของลูก การจบั ทีป่ ลายขน

ไกด่ ้านในของลูก การจับโดยการ

วางลกู อยู่บนฝ่ามือ

5. การส่งลูกเขา้ พ 3.1 ม.1/1 พ มีความรู้ ความเข้าใจ เหน็ คุณคา่

เลน่ 3.2 ม. และมีทักษะปฏบิ ตั ิในการส่งลูก

1/1,1/2,1/3,1 หนา้ มอื และหลงั มือ

/4,1/5,1/6

6. รจู้ กั พ 3.1 ม.1/1 พ ความรู้ ความเข้าใจ เหน็ คุณค่า

แหล่งท่ีมา 3.2 ม. และ มีทกั ษะปฏบิ ัติการตีลูกจาก

ของแรงตลี ูก 1/1,1/2,1/3,1 แรงท่เี กดิ จากการถา่ ยเปลย่ี น

ฟุตเวริ ์คกบั /4,1/5,1/6 นำ้ หนกั ตัวจากเท้าหลังไปสเู่ ทา้

จังหวะของ หน้า แรงที่เกดิ จากการเหวี่ยง ๑๘๓

การตีลูก ของลำแขน แรงทเี่ กดิ จากการ 10

ตวัดและการสะบดั อยา่ งแรงของ 15

ข้อมือ 10
70
7. ทักษะการตี พ 3.1 ม.1/1 พ มีความรู้ ความเข้าใจ เห็นคุณค่า 3 10
4 20
ลกู 3.2 ม. และมุ่งสู่การรุก มีทักษะปฏิบัติใน 3 100

1/1,1/2,1/3,1 การตีลกู โยนหนา้ มอื (Forehand

/4,1/5,1/6 Clear) การตลี ูกโยนหลังมอื

(Backhand Clear) การตีลกู งดั

โยน (Underhand Clear)

8. การตลี ูกตบ พ 3.1 ม.1/1 พ มีความรู้ ความเข้าใจ เหน็ คุณคา่

(Smash) 3.2 ม. และมที ักษะในการตบลกู ห่างตวั

1/1,1/2,1/3,1 ผู้รบั มีทกั ษะในการตบลูกพุง่ เข้า

/4,1/5,1/6 หาตวั ผูร้ บั มีทกั ษะในการลูกดาด

(Drive) มีทักษะในการลกู หยอด

(Drop)

9. การเล่นเดีย่ ว พ 3.1 ม.1/1 พ มีความรู้ ความเขา้ ใจ เหน็ คุณคา่

และคู่ 3.2 ม. และมีทกั ษะในการเลน่ เดี่ยวและ

1/1,1/2,1/3,1 คู่

/4,1/5,1/6

รวมคะแนนระหวา่ งเรยี น

คะแนนสอบกลางภาค

คะแนนทดสอบปลายภาค

รวมทง้ั หมด

๑๘๔

ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๔-๖

สาระ มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชวี้ ดั ช่วงชน้ั

สาระที่ ๓ การเคลอ่ื นไหว การออกกำลงั กาย การเลน่ เกม กฬี าไทย และกฬี าสากล

มาตรฐาน พ ๓.๑ เขา้ ใจ มที กั ษะในการเคลอื่ นไหว กจิ กรรมทางกาย การเลน่ เกม และกฬี า

ชนั้ ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

ม.๔-๖ ๘. ๑.วิเคราะหค์ วามคดิ รวบยอด  ความคิดรวบยอดเกี่ยวกับการเคลอ่ื นไหว

เกีย่ วกบั การเคล่อื นไหวรูปแบบตา่ งๆ รปู แบบตา่ ง ๆ ในการเลน่ กีฬา

ในการเล่นกีฬา  การวเิ คราะห์ความคดิ รวบยอดเกย่ี วกบั การ

๒.ใชค้ วามสามารถของตน เพ่ือเพมิ่ เคลื่อนไหวรูปแบบต่างๆ ในการเล่นกฬี า
 การใช้ความสามารถของตนในการเล่นกีฬา
ศักยภาพของทีม คำนงึ ถงึ ผลทเ่ี กดิ ตอ่ เพอื่ เพ่มิ ศักยภาพของทมี โดยคำนงึ ถึง ผลที่เกิด
ผ้อู น่ื และสังคม
๓.เล่นกีฬาไทย กีฬาสากลประเภท ต่อผอู้ นื่ และสังคม
บคุ คล/คู่ กีฬาประเภททมี ไดอ้ ย่างนอ้ ย  กฬี าประเภทบคุ คล / คู่ ประเภททมี เชน่
ฟตุ ซอล รักบฟี้ ตุ บอล ยมิ นาสติก ลีลาศ
๑ ชนดิ ซอฟทบ์ อล เทนนิส เซปกั ตะกรอ้ มวยไทย
๔.แสดงการเคลอื่ นไหวไดอ้ ย่าง
กระบ่กี ระบอง พลอง ง้าว
สรา้ งสรรค์
 การเคลือ่ นไหวทีส่ รา้ งสรรค์ เช่น กิจกรรม
๕. เขา้ รว่ มกิจกรรมนันทนาการนอก เขา้ จังหวะ เชยี ร์ลดี เดอร์
โรงเรียน และนำหลักการแนวคดิ ไป  การนำหลักการและแนวคดิ ของกิจกรรม
ปรับปรงุ และพฒั นาคุณภาพชวี ติ ของตน นนั ทนาการไปปรับปรุงและพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ
และสังคม
ของตนและสงั คม


Click to View FlipBook Version