องค์ประกอบภายในแฟ้ม
1. แบบอนุมัตขิ อใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรู้
2. คำอธบิ ายรายวชิ า
3. โครงสร้าง/หน่วยการเรยี นรรู้ ายวิชา
4. แบบบันทกึ ารใช้แผนทส่ี อดคลอ้ งกับหน่วยการจดั การเรยี นรู้
5. แบบวเิ คราะห์คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคแ์ ละการอา่ นคดิ
วเิ คราะหท์ ส่ี อดคล้องกบั หนว่ ยการเรียนรู้
6. แผนการจดั การเรยี นรู้ ท่ี 1-18
7. บนั ทกึ หลังสอน แผนท่ี 1-18
8. เครอื่ งมอื ประเมิน
คำอธิบำยรำยวชิ ำ
รหสั วชิ ำ ว31108 วชิ ำ กำรออกแบบและเทคโนโลยี
สำระกำรเรยี นรูเ้ ทคโนโลยี (พนื้ ฐำน) ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 4-6
กล่มุ สำระกำรเรียนรูว้ ทิ ยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี จำนวน 1 หน่วยกิต
เวลำเรียน 40 ช่วั โมง/ภำคเรยี น นำ้ หนกั คะแนน 80:20
---------------------------------------------------------------------
ศึกษำและวิเครำะห์แนวคิดหลักของเทคโนโลยี กำรเปลี่ยนแปลงและผลกระทบของเทคโนโลยี
ที่เกิดขึ้น และควำมสัมพันธ์ของเทคโนโลยีกับศำสตร์อ่ืน ศึกษำและวิเครำะห์สถำนกำรณ์หรือควำมต้องกำร
ทค่ี ำนงึ ถงึ ผใู้ ชด้ ว้ ยกำรคิดเชงิ ออกแบบ และควำมรูท้ ำงดำ้ นวทิ ยำศำสตร์ คณติ ศำสตร์ และศำสตรอ์ นื่ ๆ เพ่ือทำควำมเขำ้ ใจ
ปัญหำอย่ำงลึกซึง้ และรอบด้ำน เพ่ือพัฒนำวิธีกำรแก้ปัญหำที่ตรงควำมต้องกำร ศึกษำกำรพัฒนำผลงำน กำรสรำ้ ง
ประโยชนจ์ ำกผลงำนและกำรคมุ้ ครองทรพั ยส์ ินทำงปัญญำ
ออกแบบ สร้ำง หรือพฒั นำผลงำนสำหรบั แก้ปัญหำท่ีคำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมในประเด็นที่เก่ียวขอ้ งกบั
สขุ ภำพและกำรบรกิ ำร หรือ พฒั นำโครงงำนเพือ่ แกป้ ัญหำจำกสถำนกำรณท์ ่ตี นเองสนใจโดยใชก้ ระบวนกำรออกแบบเชิง
วิศวกรรม ซึ่งใชค้ วำมรู้ ทักษะและเลือกใชว้ ัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ กลไก ไฟฟ้ำและอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อแก้ปัญหำไดอ้ ย่ำง
ถกู ตอ้ ง เหมำะสม ปลอดภยั มีกำรใชซ้ อฟตแ์ วรช์ ่วยในกำรออกแบบและนำเสนอผลงำน
เพื่อนำควำมรูไ้ ปประยกุ ตใ์ ชใ้ นกำรพฒั นำหรือสรำ้ งประโยชนจ์ ำกผลงำนของตนเอง และเผยแพรป่ ระชำสัมพนั ธ์
หรือนำเสนอผลงำนของตนเองใหเ้ ป็นท่ีรูจ้ ักและก่อให้เกิดประโยชน์ มีทักษะกำรทำงำนกลุ่ม และมีคุณลกั ษณะอันพึง
ประสงค์
ตวั ชีว้ ดั ว 4.1 เทคโนโลยี (กำรออกแบบและเทคโนโลยี)
1. วิเครำะหแ์ นวคิดหลักของเทคโนโลยี ควำมสัมพนั ธก์ ับศำสตรอ์ ื่นโดยเฉพำะวิทยำศำสตร์ หรือ คณิตศำสตร์
รวมทงั้ ประเมนิ ผลกระทบท่ีจะเกดิ ขนึ้ ต่อมนุษย์ สงั คม เศรษฐกิจ และสง่ิ แวดลอ้ ม เพื่อเป็นแนวทำงในกำรพฒั นำเทคโนโลยี
(ม.4)
2. ระบุปัญหำหรือควำมตอ้ งกำรที่มีผลกระทบต่อสังคม รวบรวม วิเครำะห์ขอ้ มูลและแนวคิดท่ีเก่ียวข้องกบั
ปัญหำทีม่ คี วำมซบั ซอ้ นเพอื่ สงั เครำะหว์ ิธีกำร เทคนิคในกำรแกป้ ัญหำ โดยคำนึงถงึ ควำมถกู ตอ้ ง ดำ้ นทรพั ยส์ ินทำงปัญญำ
(ม.4)
3. ออกแบบวิธีกำรแก้ปัญหำ โดยวิเครำะหเ์ ปรียบเทียบ และตดั สินใจเลือกขอ้ มูลท่ีจำเป็นภำยใตเ้ งื่อนไข และ
ทรพั ยำกรที่มีอยู่ นำเสนอแนวทำงกำรแกป้ ัญหำใหผ้ อู้ น่ื เขำ้ ใจดว้ ยเทคนคิ หรอื วิธีกำรท่หี ลำกหลำย โดยใชซ้ อฟตแ์ วรช์ ่วยใน
กำรออกแบบ วำงแผนขน้ั ตอนกำรทำงำนและดำเนินกำรแกป้ ัญหำ (ม.4)
4. ทดสอบ ประเมินผล วิเครำะห์และใหเ้ หตุผลของปัญหำหรือขอ้ บกพร่องที่เกิดขึน้ ภำยใตก้ รอบเง่ือนไข หำ
แนวทำงกำรปรบั ปรุงแกไ้ ข และนำเสนอผลกำรแกป้ ัญหำ พรอ้ มทง้ั เสนอแนวทำงกำรพฒั นำตอ่ ยอด (ม.4)
5. ใช้ควำมรู้และทักษะเก่ียวกับวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ กลไก ไฟฟ้ำและอิเล็กทรอนิกส์ และเทคโนโลยี
ท่ีซบั ซอ้ นในกำรแกป้ ัญหำหรือพฒั นำงำนไดอ้ ย่ำงถกู ตอ้ ง เหมำะสมและปลอดภยั (ม.4)
6. ประยกุ ต ใช ควำมรู และทกั ษะจำกศำสตร ต ำงๆ รวมทง้ั ทรพั ยำกร ในกำรทำโครงงำนเพ่อื แก ป
ญหำหรือพฒั นำงำน (ม.5)
รวม 6 ตวั ชีว้ ดั
โครงสรำ้ งรำยวชิ ำ (Course Syllabus)
รหสั วชิ ำ ว31108 วิชำ กำรออกแบบและเทคโนโลยี
สำระกำรเรียนรูเ้ ทคโนโลยี (พนื้ ฐำน) ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 4
กลมุ่ สำระกำรเรียนรูว้ ิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี จำนวน 1 หนว่ ยกิต
เวลำเรยี น 40 ช่วั โมง/ภำคเรียน นำ้ หนกั คะแนน 80:20
หนว่ ย ช่ือหนว่ ย/สาระการเรยี นรู้ ตัวชว้ี ัด/ผลการเรยี นรู้ เวลา นำ้ หนัก
ท่ี คะแนน
1 เทคโนโลยนี า่ รู้ 6 20
1.1 ระบบทางเทคโนโลยีท่ี ม.4/1 วิเคราะห์แนวคิดหลักของเทคโนโลยี
ซบั ซ้อน ความสัมพันธ์กับศาสตร์อื่นโดยเฉพาะ
1.2 การเปลยี่ นแปลงของ วิทยาศาสตร์ หรือ คณิตศาสตร์ รวมท้ัง
เทคโนโลยี ประเมินผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อมนุษย์
1.3 ผลกระทบของ สังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็น
เทคโนโลยี แนวทางในการพัฒนาเทคโนโลยี
2 ความรู้และทกั ษะพืน้ ฐานเฉพาะด้าน 12 20
2.1 วสั ดุ ม.4/5 ใช้ความรู้และทักษะเกี่ยวกับวัสดุ
2.2 เครื่องมือพ้นื ฐาน อุปกรณ์ เครื่องมือ กลไก ไฟฟ้าและ
2.3 การตดั ตอ่ และข้นึ รปู อิเล็กทรอนิกส์ และเทคโนโลยี ที่ซับซ้อนใน
2.4 กลไก การแก้ปัญหาหรือพัฒนางานได้อย่างถูกต้อง
2.5 ไฟฟา้ และอเิ ลก็ ทรอนิกส์ เหมาะสมและปลอดภยั (ม.4)
2.6 แผงควบคมุ ขนาดเลก็
สอบกลางภาค ตัวช้ีวัดที่ 1,5 2 10
หน่วย ชือ่ หน่วย/สาระการเรยี นรู้ ตัวชว้ี ัด/ผลการเรยี นรู้ เวลา นำ้ หนัก
ท่ี คะแนน
3 โครงงานกับการแกป้ ัญหาโดยใช้กระบวนการเชงิ วิศวกรรม 12 20
3.1 กระบวนการออกแบบ ม.4/2 ระบุปัญหาหรือความต้องการที่มี
เชิงวิศวกรรม ผลกระทบต่อ สังคม รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูล
3.2 กรณศี ึกษาการแกป้ ัญหาตาม และแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับปัญหาที่มีความ
กระบวนการออกแบบเชงิ ซับซ้อน เพื่อสังเคราะห์วธิ ีการ เทคนิคในการ
วศิ วกรรม แก้ปัญหา โดยคำนึงถึงความถูกต้องด้าน
3.3 การคิดเชิงออกแบบเพื่อการ ทรัพยส์ ินทางปัญญา
แกป้ ัญหา ม.4/3 ออกแบบวิธีการแก้ปัญหา โดย
3.4 โครงงานกบั การแก้ปญั หา วิเคราะห์เปรียบเทียบและตัดสินใจเลือก
3.5 ซอฟต์แวรช์ ่วยในการ ข้อมลู ทีจ่ ําเป็นภายใต้เง่ือนไขและทรัพยากรท่ี
ออกแบบ มีอยู่ นําเสนอแนวทางการแก้ปัญหาให้ผู้อ่ืน
3.6 การสรา้ งสรรคผ์ ลงาน เข้าใจด้วยเทคนิคหรือวิธีการที่หลากหลาย
โดยใช้ซอฟตแ์ วร์ชว่ ยในการออกแบบวางแผน
ข้ันตอนการทาํ งานและดาํ เนินการแกป้ ัญหา
ม.4/4 ทดสอบ ประเมินผล วิเคราะห์และให้
เหตผุ ลของปญั หาหรอื ขอ้ บกพร่องทเี่ กดิ ขึ้น
ภายใต้กรอบเง่ือนไข หาแนวทางการปรับปรุง
แก้ไข และนาํ เสนอผลการแก้ปญั หา พร้อมท้ัง
เสนอแนวทางการพฒั นาตอ่ ยอด
ม.5/1 ประยุกตใชความรูและทกั ษะจาก
ศาสตรตาง ๆ รวมท้ังทรพั ยากร ในการทาํ
โครงงานเพื่อแกปญหาหรือพัฒนางาน
4 การสรา้ งประโยชนจ์ ากผลงาน 6 10
4.1 การสร้างประโยชน์ สิทธแิ ละ ม.5/1 ประยุกต์ใช้ความรู้และทักษะจาก
การคมุ้ ครองผลงาน ศาสตร์ต่าง ๆ รวมทั้งทรัพยากรในการทำ
4.2 ซอฟต์แวร์ช่วยในการนำเสนอ โครงงานเพ่ือแก้ปัญหา หรอื พฒั นางาน (ม.5)
4.3 การนำเสนอผลงาน
สอบปลายภาค ตัวชี้วัดท่ี 3,4,5,6 2 20
รวมเวลาเรยี น/นำ้ หนักคะแนน 20 100
แบบบันทกึ ารใชแ้ ผนท่สี อดคลอ้ งกับหนว่ ยการจดั การเรียนรู้
ช่อื -นามสกลุ ผสู้ อน นางสาวเรวดี เกษตรเจริญ รายวิชา การออกแบบและเทคโนโลยี รหัสวชิ า ว31108
ระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 4
หน่ว ชอ่ื แผนกา ชือ่ แผนการจัดการเรยี นรู้ คะแนน KPA คะแนน
ยท่ี หนว่ ยการเรียนรู้ รเรยี นรู้ ในแตล่ ะ หน่วย
การ
ที่ แผนการจดั การ เรยี นรู้
เรียนรู้
KPA
1 เทคโนโลยนี า่ รู้ 1 1.1 ปฐมนเิ ทศ
2 1.2 ระบบทางเทคโนโลยีที่ซบั ซ้อน 18 2 - 10
3 1.3 การเปล่ยี นแปลงของเทคโนโลยี
4 1.4 ผลกระทบของเทคโนโลยี
2 ความรแู้ ละทักษะ 5 2.1 วัสดุ
เฉพาะด้าน 6 2.2 เครือ่ งมือ
7 2.3 การตัดต่อและการขึ้นรปู วัสดุ 18 1 1 20
8 2.4 กลไก
9 2.5 อุปกรณไ์ ฟฟ้าและอิเล็กทรอนกิ ส์
10 2.6 แผงควบคมุ ขนาดเล็ก
3 โครงงานกับการ 11 3.1 กระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม
แก้ปญั หาโดยใช้ 12 3.2 กรณีศกึ ษาการแก้ปญั หาตามประบวน
กระบวนการเชิง การเชงิ วิศวกรรม
วิศวกรรม 13 3.3 ความรูแ้ ละการคิดเชิงออกแบบเพอื่ การ 4 15 1 20
แก้ปญั หา
14 3.4 โครงงานกบั การแก้ปญั หา 1
15 3.5 โครงงานกบั การแก้ปญั หา 2
4 การสรา้ งประโยชน์ 16 4.1 การสร้างประโยชน์
จากผลงาน 17 4.2 สทิ ธิและการค้มุ ครองผลงาน 10 - - 10
18 4.3 การนำเสนอผลงาน
รวมคะแนน KPA 50 18 2 70
สอบกลางภาค 10 - - 10
สอบปลายภาค 20 - - 20
รวมนำ้ หนกั คะแนน 80 17 3 100
แบบวเิ คราะห์คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์และการอ่านคดิ วเิ คราะหท์ ส่ี อดคลอ้ งกบั หนว่ ยการเรียนรู้
รายวชิ า การออกแบบและเทคโนโลยี รหสั วิชา ว31108 ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 4
แผน ชอื่ หนว่ ย/ชอื่ แผนการจดั การเรยี นรู้ คุณลักษณะอนั พงึ การอา่ น คิดวิเคราะห์ เขียน
ท่ี ประสงค์ (A)
หน่วยท่ี 1 เทคโนโลยนี า่ รู้
1 1.1 ระบบทางเทคโนโลยีที่ซับซ้อน 1. รักชาติ ศาสน์ 1. สามารถอา่ นเพ่ือการศกึ ษา
2 1.2 การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี กษตั รยิ ์ คน้ คว้า เพมิ่ พูนความรปู้ ระสบการณ์
3 1.3 ผลกระทบของเทคโนโลยี 2. รักความเป็นไทย และการประยกุ ตใ์ ช้ ในชีวติ ประจำวนั
หนว่ ยที่ 2 ความรแู้ ละทักษะเฉพาะดา้ น
4 2.1 วสั ดุ 3. มีวินยั 2. สามารถจับประเด็นสำคญั ลำดบั
5 2.2 เครอื่ งมอื พ้นื ฐาน 4. ใฝ่เรยี นรู้ เหตกุ ารณจ์ ากการอา่ นสื่อทีม่ ีความ
6 2.3 การตัด ตอ่ และขึ้นรปู วัสดุ ซับซอ้ น
7 2.4 กลไก
8 2.5 ไฟฟา้ และอิเลก็ ทรอนิกส์
9 2.5 แผงควบคุม
หนว่ ยที่ 3 โครงงานกับการแก้ปัญหาโดยใช้
กระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม
10 3.1 กระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม 5. อย่อู ย่างพอเพยี ง 3.สามารถวเิ คราะห์ส่งิ ทผี่ เู้ ขียน
11 3.2 กรณศี ึกษาการแกป้ ญั หาตาม 6. ม่งุ มนั่ ในการทำงาน ตอ้ งการส่อื สารกบั ผู้อา่ น และ
กระบวนการเชงิ วศิ วกรรม สามารถวพิ ากษ์ ใหข้ ้อเสนอแนะใน
12 3.3 ความรูแ้ ละการคดิ เชิงออกแบบเพ่อื การ แง่มมุ ตา่ ง ๆ
แกป้ ัญหา
13 3.4 โครงงานกบั การแกป้ ญั หา
14 3.5 ซอฟต์แวร์ชว่ ยในการนำเสนอ
15 3.6 สร้างสรรค์ผลงาน
หนว่ ยท่ี 4 การสร้างประโยชน์จากผลงาน
16 4.1 การสร้างประโยชนจ์ ากผลงาน 7. ซ่อื สตั ยส์ ุจริต 4. สามารถประเมนิ ความน่าเชอื่ ถือ
17 4.2 ซอฟต์แวรช์ ว่ ยในการนำเสนอ 8. มจี ติ สาธารณะ คณุ ค่า แนวคดิ ทไ่ี ด้จากส่ิงทอี่ ่านอย่าง
18 4.3 การนำเสนอ หลากหลาย
5. สามารถเขียนแสดงความคิดเหน็
โตแ้ ยง้ สรปุ โดยมีขอ้ มูลอธิบาย
สนบั สนนุ อย่างเพยี งพอและ
สมเหตุสมผล
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1 [ แผนการสอนแบบ ONLINE ]
รหสั วชิ า ว31108 ช่ือวชิ า การออกแบบและเทคโนโลยี สาระการเรยี นรู้พื้นฐาน
หน่วยท่ี 1 เรอ่ื ง เทคโนโลยีน่ารู้ เวลาเรยี นรวม 6 คาบ
แผนการสอนที่ 1 เร่ือง ระบบทางเทคโนโลยีท่ซี บั ซ้อน เวลาเรียน 2 คาบ
ครผู ูส้ อน นางสาวเรวดี เกษตรเจรญิ ตำแหน่ง ครชู ำนาญการพเิ ศษ โรงเรียนสตรียะลา
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวดั
สาระท่ี 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.1 เขา้ ใจแนวคิดหลกั ของเทคโนโลยเี พ่อื การดำรงชีวิตในสังคมท่ีมีการเปลยี่ นแปลงอยา่ งรวดเร็ว ใช้ความรู้
และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนางาน อย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วย
กระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม เลอื กใช้เทคโนโลยอี ย่างเหมาะสมโดยคำนงึ ถึงผลกระทบต่อชวี ติ สงั คม และสิง่ แวดล้อม
ตัวชี้วัด ม.4/1 วิเคราะห์แนวคิดหลักของเทคโนโลยี ความสัมพันธ์กับศาสตร์อื่นโดยเฉพาะ วิทยาศาสตร์ หรือ
คณิตศาสตร์ รวมทั้งประเมินผลกระทบที่ จะเกิดขึ้นต่อมนุษย์ สังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนา
เทคโนโลยี
2. สาระการเรียนรู้
ระบบทางเทคโนโลยี เป็นกลุ่มของส่วนต่างๆ ตั้งแต่สองส่วนขึ้นไปประกอบเข้าด้วยกันและทำงานร่วมกันเพื่อให้บรรลุ
วัตถุประสงค์ โดยในการทำงานของระบบทางเทคโนโลยีจะประกอบไปด้วย ตัวป้อน (input) กระบวนการ (process) และผลผลิต
(output) ที่สัมพันธ์กัน นอกจากนี้ระบบทางเทคโนโลยี อาจมีข้อมูลย้อนกลับ (feedback) เพื่อใช้ปรับปรุงการทำงานได้ตาม
วัตถุประสงค์ โดยระบบทางเทคโนโลยี อาจมีระบบย่อยหลายระบบ (subsystems) ที่ทำงานสัมพันธ์กันอยู่ และหากระบบย่อยใด
ทำงานผิดพลาด จะสง่ ผลต่อการทำงานของระบบอืน่ ดว้ ย
3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
K: วเิ คราะหร์ ะบบทางเทคโนโลยีและระบบย่อยของเทคโนโลยแี ละอธิบายความสมั พนั ธ์ของระบบย่อย
K: วเิ คราะห์ระบบทางเทคโนโลยีท่ีซับซอ้ น
4. คุณลกั ษณะผู้เรียน
ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์
1) รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์
2) ซื่อสัตยส์ จุ รติ
ด้านการอ่าน คิดวิเคราะห์ เขียน
การอา่ น : สามารถอา่ นเพ่อื ศึกษาคน้ ควา้ เพม่ิ พูนความรู้ประสบการณแ์ ละการประยุกต์ใชใ้ น
ชวี ิตประจำวัน
ดา้ นสมรรถนะสำคญั
1) ความสามารถในการส่อื สาร
2) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
ด้านทกั ษะกระบวนการที่เปน็ จดุ เนน้
1) ทักษะการคิดเชงิ ระบบ
2) ทกั ษะการคดิ วิเคราะห์
3) ทักษะการสอ่ื สาร
4) ทักษะการทำ งานรว่ มกับผอู้ ่นื
5. ความรูเ้ ดมิ ทผี่ เู้ รียนต้องมี
ผู้เรียนตอ้ งมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเทคโนโลยี ความหมายของเทคโนโลยที ่ีหมายถึงสิ่งที่มนุษย์สร้างหรือพัฒนาข้ึน ซึ่ง
อาจเป็นได้ทงั้ ช้ินงานหรือวิธีการ เพ่อื ใช้แก้ปัญหาหรือเพ่ิมความสามารถในการทำงานของมนษุ ย์ ความสัมพนั ธ์ของเทคโนโลยีกับ
ศาสตร์อื่น โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์ ระบบทางเทคโนโลยีพื้นฐาน ที่ประกอบด้วย
ตัวป้อน (input) กระบวนการ (process) และผลผลิต (output) และบางระบบอาจมีข้อมูลย้อนกลบั (feedback) การเข้าใจการทำงาน
ของระบบทางเทคโนโลยีมคี วามจำเป็นต่อการใชง้ านหรอื การแกไ้ ขขอ้ ผิดพลาดเพอ่ื ใหท้ ำงานได้ตามวัตถุประสงค์
6. สาระสำคญั
ร ะ บ บ ท า ง เ ท ค โ น โ ล ย ี ป ร ะ ก อ บ ด ้ ว ย ต ั ว ป ้ อ น ( input) ก ร ะ บ ว น ก า ร ( process) แ ล ะ ผ ล ผ ล ิ ต ( output)
แล ะ ใ นบ างร ะบ บอ าจ มี ข้อ ม ูลย้ อนก ลั บ ( feedback) เพื ่ อ ช ่ วยป รับ ปรุ งห รือ แก้ ไ ขการท ำงานขอ งระบบให้มี
ความสมบูรณ์ตามต้องการ เทคโนโลยีบางอย่างอาจประกอบไปด้วยระบบย่อย ( subsystems) ตั้งแต่สองระบบ
ขึ้นไปทำงานร่วมกนั เรียกว่า ระบบทางเทคโนโลยีที่ซับซอ้ น หากระบบย่อยใดทำงานผิดพลาด จะส่งผลต่อการทำงานของระบบ
ใหญ่ทำให้เทคโนโลยีทำงานไม่ได้หรือได้ไม่สมบูรณ์ การเรียนรู้ระบบทาง เทคโนโลยีทำให้เข้าใจ
การทำงานของเทคโนโลยแี ละสามารถแก้ไขปญั หาหรือซ่อมบำรุง รวมทง้ั นำไปสู่ การพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีได้
7. หัวข้อการเรยี นรู้
1) ระบบคืออะไร
2) ระบบทางเทคโนโลยี
3) ระบบทางเทคโนโลยที ีซ่ ับซอ้ น
4) การทำงานท่ีผิดพลาดของระบบ
8. ภาระงาน/ชนิ้ งาน
กิจกรรมระดมความคิด
9. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขั้นเตรยี มความพรอ้ ม (10)
1) ครูกลา่ วทักทายพรอ้ มกบั แจง้ ขอ้ ตกลงและแนวปฏบิ ตั ิในการเรียน
2) ครูตรวจสอบรายชอื่ นักเรยี นและจำนวนนกั เรยี นทเี่ ขา้ เรยี น
3) ใหน้ กั เรยี นเขา้ หอ้ งเรียนออนไลน์ Google Classroom ตามรหัสท่ีแจ้งไว้ และครตู รวจสอบ
จำนวนนักเรยี นทีเ่ ขา้ หอ้ งเรยี นออนไลน์ หากนักเรยี นยงั ไมม่ ี gmail ใหเ้ วลานกั เรียนสมัคร
สมาชกิ และเขา้ ห้องเรียนออนไลน์ จนครบทกุ คน
ขั้นสรา้ งความสนใจ (20 นาที)
4) ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สนทนาสถานการณป์ จั จุบันแล้วเชือ่ มโยงเขา้ สู่เน้อื หา
5) ครเู รมิ่ ต้นบทเรยี นด้วยการใช้คำถามนำให้นักเรียนได้คิดเก่ยี วกบั คำว่า ระบบ โดยใช้คำถาม
ว่า นักเรียนเคยได้ยินคำว่า “ระบบ” ในเรื่องใดบ้าง และคำว่า “ระบบ” ในบริบทนั้นมี
ลักษณะเป็นอยา่ งไร โดยให้นักเรยี นตอบในกระดานออนไลน์ www.padlet.com
6) ใหน้ ักเรียนดคู ลิปวดิ ีโอ เร่ือง ระบบคอื อะไร ในห้องเรยี นออนไลน์
7) นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับหัวข้อเรื่อง ระบบคืออะไร โดยครูเปิดประเด็น
คำถาม นำวา่ ระบบท่ไี ดศ้ กึ ษาไปนน้ั มีอะไรบ้างทเ่ี กดิ ข้ึนเองตามธรรมชาติ และมีอะไรท่ีเกิด
จากการสร้างสรรค์ของมนุษย์ พร้อมอธิบายว่าระบบนั้นประกอบไปด้วยอะไรบ้าง มี
ประโยชน์อย่างไร หรือให้สังเกตการตอบคำถามบนกระดาน padlet แล้วอาจจะแยกเป็น
ระบบทเี่ กิดขน้ึ ตามธรรมชาตหิ รอื ระบบท่มี นุษยส์ รา้ งขึ้น
8) ครูใช้คำถามชวนคิด ดังนี้ “นักเรียนลองถอดชิ้นส่วนของปากกาหรือดินสอแบบกด แล้ว
ศึกษา หน้าที่ของแต่ละชิ้นส่วนที่ทำให้ปากกาหรือดินสอนั้นมีกลไกการทำงานได้ตาม
ต้องการ” จากนนั้ ใหน้ กั เรียนศึกษาองค์ประกอบของปากกาหรือดนิ สอกดว่ามีส่วนประกอบ
สำคัญอะไรบา้ ง และมีหนา้ ทที่ ำงานร่วมกนั อยา่ งไร พร้อมกบั อภปิ รายสรปุ ร่วมกัน
9) ครูอธิบายเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับความหมายของระบบทางเทคโนโลยี โดยเชื่อมโยงกับ
คำถาม ชวนคิด เรอ่ื ง องคป์ ระกอบและหน้าทข่ี องปากกาหรือดินสอกดว่า ระบบการทำงาน
ของปากกาหรือดินสอกด เรยี กได้ว่าเป็น ระบบทางเทคโนโลยี ซง่ึ หมายถงึ กลุ่มของส่วนต่าง
ๆ ต้ังแต่สองสว่ นขึน้ ไปประกอบเข้าดว้ ยกนั และทำงานร่วมกนั เพ่ือให้บรรลวุ ัตถุประสงค์ โดย
ในการทำงานของระบบทางเทคโนโลยีจะประกอบไปด้วย ตัวป้อน (input) กระบวนการ
(process) และผลผลิต (output) ท่สี มั พนั ธก์ นั นอกจากน้ีระบบทางเทคโนโลยีอาจมีข้อมูล
ย้อนกลับ (feedback) เพื่อใช้ปรับปรุงการทำงานได้ตามวัตถุประสงค์ พร้อมยกตัวอย่าง
ระบบทางเทคโนโลยขี องหม้อหุงข้าว
ขั้นสำรวจและค้นหา (30 นาท)ี
10) ให้นกั เรียนศึกษา เร่ือง ระบบทางเทคโนโลยีท่ีซับซอ้ น จากหนงั สอื เรียนหรอื คลิปวิดีโอ
ในหอ้ งเรียนออนไลน์
11) นักเรียนและครรู ว่ มกันสรปุ แนวคิดหลักของระบบทางเทคโนโลยขี องเคร่อื งปรับอากาศ และ
ระบบย่อยของเครื่องปรับอากาศว่ามีอะไรบ้าง และมีการทำงานร่วมกันอย่างไร แล้วให้
นกั เรียนร่วมกนั อภปิ รายสรปุ จากนนั้ ผูส้ อนเพ่ิมความรูเ้ กี่ยวกับการพัฒนาเครอ่ื งปรับอากาศ
ในปัจจบุ ัน ซ่ึงมีการคำนึงถงึ ประเดน็ การประหยัดไฟ และอำนวยความสะดวกใหก้ บั มนุษย์
12) ใหน้ กั เรียนศึกษา เรื่อง การทำงานผดิ พลาดของระบบ (system failure) จากหนังสือเรียน
หรือคลิปวิดีโอในห้องเรียนออนไลน์ เพื่อศึกษาตัวอย่างการทำงานที่ผิดพลาดของระบบ
เครื่องปรับอากาศว่าหากเกิดปัญหาการทำงานของระบบขึ้นจะมีแนวทางการตรวจสอบ
เบื้องต้น ก่อนนำไปสู่การแก้ไขได้อย่างไร ทั้งนี้การสืบค้นข้อมูลจากเว็บไซต์ ครูควรแนะนำ
นักเรียนเก่ียวกับการใชค้ ำสำคัญ (keyword) เพื่อการสบื คน้ เชน่ system failure
13) นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายสรุปเกี่ยวกับแนวคิดสำคัญของการทำงานผิดพลาดของ
ระบบ คือ เทคโนโลยีบางอย่างอาจประกอบด้วยระบบย่อยหลายระบบทำงานร่วมกัน โดย
หากระบบย่อยใดทำงานผดิ พลาดอาจส่งผลต่อการทำงานของเทคโนโลยีนั้น ทำใหเ้ ทคโนโลยี
ทำงานไม่ได้ หรือทำงานได้ไม่สมบูรณ์ และสามารถตรวจสอบข้อผิดพลาดของระบบและ
แก้ไขเบื้องตน้ ได้หากไม่มีความซับซอ้ นหรือยากเกินไป
ขัน้ อธบิ ายและลงขอ้ สรุป (10 นาท)ี
14) นกั เรียนและครูรว่ มกันสรุปแนวคดิ สำคญั ของบทเรียน เรื่อง ระบบทางเทคโนโลยีท่ีซับซ้อน
โดยมีประเด็นสำคัญ คือ ระบบทางเทคโนโลยีท่ีซับซ้อนจะประกอบไปด้วยระบบย่อยต้งั แต่
สองระบบขึน้ ไปทำงานรว่ มกัน หากระบบย่อยใดทำงานผิดพลาดจะสง่ ผลตอ่ การทำงานของ
ระบบใหญท่ ่อี าจทำให้เทคโนโลยี ทำงานไม่ได้ หรอื ทำงานได้ไม่สมบรู ณ์ และการแกไ้ ขปัญหา
ที่เกิดขึ้นเบื้องต้นของความผิดพลาดในการทำงานของระบบอาจทำได้ด้วยการตรวจสอบ
ระบบย่อยที่เกี่ยวข้องเพื่อหาสาเหตุของปญั หาก่อน จากนั้นจึงดำเนินการแก้ไขในส่วนของ
ระบบย่อยนน้ั ซ่งึ การแกป้ ัญหาโดยแนวทางน้เี ปน็ อกี วิธกี ารหนึ่งที่ชว่ ยให้เกิดการแกไ้ ขได้ตรง
จดุ ของปญั หาอีกด้วย
ขน้ั ขยายความรู้ (10 นาท)ี
15) ใหน้ ักเรียนรว่ มแสดงความคดิ เห็นผ่านกระดานสนทนา หัวข้อ ระบบทางเทคโนโลยที ่ี
ซับซ้อนมีความสำคัญกับเราอย่างไร พรอ้ มยกตัวอยา่ งการทำงานท่ีผิดพลาดของระบบและ
แนวทางแก้ไขปัญหาความผิดพลาดของระบบ
ขนั้ ประเมิน (10 นาท)ี
16) ตรวจการทำแบบทดสอบหลังเรียน
17) สังเกตพฤติกรรมการมสี ว่ นรว่ ม
18) มอบหมายใหน้ กั เรยี นทำความสะอาดตามทีไ่ ด้รับมอบหมาย
10. สื่อการเรียนร/ู้ แหลง่ การเรียนรู้
1) หนังสือเรยี นการออกแบบและเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4
2) หอ้ งเรยี นออนไลน์วิชา การออกแบบและเทคโนโลยี ใน Google Classroom
3) เวบ็ ไซต์ https://proj14.ipst.ac.th/m4-6-dt/m4-dt/ คลิปวิดีโอ เรื่อง ระบบทางเทคโนโลยที ี่
ซบั ซ้อน
4) พาวเวอร์พอยท์สรปุ เรือ่ ง ระบบทางเทคโนโลยีทซ่ี ับซอ้ น
5) แอปพลิเคชั่น หรอื เวบ็ ไซต์เวบ็ ไซต์
www.padlet.com https://wordwall.net https://wheelofnames.com/
หรอื https://www.mentimeter.com/
11. การวัดและประเมินผล วธิ กี ารประเมิน เครอ่ื งมอื การ เกณฑก์ ารประเมนิ ผปู้ ระเมิน
ประเมิน
รายการประเมิน
ทดสอบหลงั เรยี น ข้อสอบหลังเรยี น นักเรยี นสามารถทำ ครผู ู้สอน
K: วิเคราะหร์ ะบบทาง ขอ้ สอบผ่านเกณฑ์
เทคโนโลยีและระบบยอ่ ย ร้อยละ 50 ขึ้นไป
ของเทคโนโลยีและอธบิ าย
ความสัมพนั ธข์ องระบบย่อย สังเกต แบบประเมนิ นักเรยี นได้ระดับ ครูผสู้ อน
K: วิเคราะหร์ ะบบทาง คณุ ภาพ พอใช้ ข้ึน
เทคโนโลยที ่ีซบั ซ้อน ไป ถอื ว่าผา่ น
A: คณุ ลกั ษณะ
1) รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์
2) ซ่ือสัตย์สุจริต
เกณฑ์การประเมิน 3 (ดีมาก) ระดบั คณุ ภาพ/ระดบั คะแนน 0 (ปรบั ปรงุ )
ทำข้อสอบหลงั 2 (ปานกลาง) 1 (นอ้ ย) ทำข้อสอบไม่
ประเด็นการประเมนิ เรียนผ่านเกณฑ์ ทำข้อสอบหลัง ทำขอ้ สอบหลัง ผ่านเกณฑ์
ร้อยละ 70 ขน้ึ ไป เรยี นผา่ นเกณฑ์ เรยี นผ่านเกณฑ์ หรือไม่ไดส้ อบ
K: วเิ คราะหร์ ะบบทาง รอ้ ยละ 60 ร้อยละ 50
เทคโนโลยีและระบบยอ่ ยของ ปฏบิ ัตหิ รือ
เทคโนโลยแี ละอธบิ าย ปฏบิ ัติหรอื แสดง ปฏบิ ัติหรือแสดง ปฏบิ ตั หิ รือแสดง แสดง
ความสัมพนั ธข์ องระบบยอ่ ย พฤตกิ รรม พฤตกิ รรม
K: วเิ คราะห์ระบบทาง สม่ำเสมอ พฤตกิ รรม พฤตกิ รรม นอ้ ยครัง้
เทคโนโลยที ี่ซับซ้อน หรือไมป่ ฏิบัติ
A: คุณลักษณะ บ่อยครัง้ บางอย่าง เลย
1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
2) ซอ่ื สตั ย์สุจรติ
ลงชื่อ ครูผสู้ อน
(นางสาวเรวดี เกษตรเจริญ
ตำแหนง่ ครู ชำนาญการพเิ ศษ
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2
รหัสวิชา ว31108 ชอื่ วิชา การออกแบบและเทคโนโลยี สาระการเรียนรพู้ ้ืนฐาน
หน่วยท่ี 1 เรอ่ื ง เทคโนโลยีน่ารู้ เวลาเรียนรวม 6 คาบ
แผนการสอนท่ี 2 เรอ่ื ง การเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยี เวลาเรียน 2 คาบ
ครผู สู้ อน นางสาวเรวดี เกษตรเจริญ ตำแหนง่ ครชู ำนาญการพเิ ศษ โรงเรียนสตรียะลา
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ดั
สาระที่ 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลกั ของเทคโนโลยีเพ่อื การดำรงชีวติ ในสังคมทมี่ ีการเปล่ียนแปลงอย่างรวดเรว็ ใช้ความรู้
และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนางาน อย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วย
กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสมโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อชีวิต สังคม และสิ่งแวดล้อม
ตัวชี้วัด ม.4/1 วิเคราะห์แนวคิดหลักของเทคโนโลยี ความสัมพันธ์กับศาสตร์อื่นโดยเฉพาะ วิทยาศาสตร์ หรือ
คณิตศาสตร์ รวมทั้งประเมินผลกระทบที่ จะเกิดขึ้นต่อมนุษย์ สังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนา
เทคโนโลยี
2. สาระการเรียนรู้
เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีสาเหตุหรือปัจจัยมาจากหลายด้าน เช่น ปัญหา
ความตอ้ งการ ความก้าวหน้าของศาสตรต์ ่าง ๆ เศรษฐกิจ สังคม วฒั นธรรมและ ส่ิงแวดล้อม
3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
K: วเิ คราะห์สาเหตหุ รือปจั จัยทีท่ ำใหเ้ กิดการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี
4. คุณลกั ษณะผู้เรยี น
ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
3) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
4) ซื่อสตั ยส์ ุจริต
ดา้ นการอ่าน คิดวเิ คราะห์ เขียน
การอ่าน : สามารถอ่านเพ่ือศึกษาคน้ คว้า เพ่ิมพูนความรู้ประสบการณ์และการประยกุ ต์ใชใ้ น
ชวี ติ ประจำวัน
ด้านสมรรถนะสำคัญ
1) ความสามารถในการสอื่ สาร
2) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
ด้านทกั ษะและกระบวนการท่ีเป็นจุดเนน้
1) ทักษะการคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ
2) ทักษะการสอื่ สาร
3) ทักษะการทำ งานรว่ มกบั ผู้อน่ื
5. ความรู้เดิมท่นี ักเรียนต้องมี
ผู้เรียนควรมีความรู้เดิมในเรื่องความหมายของเทคโนโลยีซึ่งหมายถึงสิ่งของเครื่องใช้หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ใน
ชวี ิตประจำวันทีม่ นุษย์สร้างข้ึนท้งั ในสมยั อดีต ปัจจุบนั และจะเกดิ ขึ้นในอนาคต เพอ่ื แก้ปญั หาหรือสนองความตอ้ งการ ส่วนระบบ
ทางเทคโนโลยมี ที ง้ั ระบบทางเทคโนโลยีอย่างง่ายและระบบทางเทคโนโลยีท่ซี บั ซ้อน เทคโนโลยีที่พบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน เช่น
โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีด้านการแพทย์ในปัจจุบันที่มีประสิทธิภาพมากกว่าในอดีต ซึ่งมนุษย์เป็นผู้สร้างหรือ
พฒั นาขน้ึ เม่อื ประสบกับปญั หา ในการดำรงชีวิต หรอื เม่อื มคี วามต้องการเทคโนโลยที ช่ี ่วยอำนวยความสะดวก
6. สาระสำคัญ
มนุษยส์ รา้ งหรือพัฒนาเทคโนโลยีข้ึนมาเพอ่ื แก้ปัญหาหรือสนองความต้องการ ซึ่งเทคโนโลยที ถี่ ูกสร้างขึ้นจะมีประโยชน์
ณ ช่วงเวลาใดเวลาหนง่ึ เม่อื เวลาผ่านไป มนษุ ยอ์ าจพบปัญหาหรือสถานการณ์ใหม่ ทำให้ต้องสรา้ งหรือพัฒนาเทคโนโลยีข้ึนมาเพื่อ
ใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ท่ีเปลีย่ นไป ปัจจัยที่ส่งผลต่อ การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีสาเหตุมาจาก
หลายดา้ น เช่น ปัญหา ความตอ้ งการ ความก้าวหนา้ ของศาสตร์ตา่ งๆ สภาพเศรษฐกจิ สังคม วัฒนธรรมและสง่ิ แวดล้อม ซึ่งความ
เข้าใจเกี่ยวกับ ปัจจัยทส่ี ง่ ผลตอ่ การเปลีย่ นแปลงของเทคโนโลยเี หล่านี้ สามารถใชเ้ ป็นแนวทางเพ่ือการพฒั นาต่อยอด เทคโนโลยีให้
มีประสิทธภิ าพและทนั สมัย ตลอดจนสามารถคาดการณเ์ ทคโนโลยีทีอ่ าจเกิดขน้ึ ในอนาคตได้
7. หวั ขอ้ การเรียนรู้
1) สาเหตหุ รือปัจจยั การเปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยี
2) ตัวอยา่ งการเปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยี
8. ภาระงาน/ชิ้นงาน
1) กจิ กรรมระดมความคดิ
2) แบบทดสอบหลงั เรยี น
9. กจิ กรรมการเรียนรู้
ขนั้ สร้างความสนใจ (10 นาที)
19) ครกู ลา่ วทักทาย ตรวจสอบรายชือ่ นกั เรียนและเช็คจำนวนนกั เรยี น
20) ครูชืน่ ชมใหก้ ำลงั ใจนักเรียนในการกจิ กรรมในคาบทีผ่ ่านมา พร้อมสรปุ ทบทวนเร่ือง ระบบ
ทางเทคโนโลยีทีซ่ ับซอ้ น
21) ครูสนทนากบั นกั เรยี นเกย่ี วกับสถานการณป์ จั จุบัน แลว้ เชอ่ื มโยงเข้าสูเ่ นือ้ หา
22) ครูนำเขา้ ส่บู ทเรยี นดว้ ยการยกตัวอย่างเทคโนโลยีรอบตัวทมี่ ีการเปลี่ยนแปลงท่ีเห็นได้อย่าง
ชัดเจน เช่น โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ บรรจุภัณฑ์รักษ์สิ่งแวดล้อม ด้วยการใช้ตัวอย่าง
จริง ใชภ้ าพนิง่ หรือวีดิทัศน์ แสดงเร่ืองราวการเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยดี ังกลา่ วตัง้ แต่อดีต
จนถึงปัจจุบันว่าเทคโนโลยีแต่ละชนิด มีรูปร่าง การใช้งาน ความปลอดภัย ความแข็งแรง
ราคา แตกต่างกันอยา่ งไร
23) นักเรียนและครรู ว่ มสนทนาแลกเปลย่ี นความคิดเห็นเพิ่มเติมเกยี่ วกบั เทคโนโลยีชนิดต่างๆ
ในอดีต เชน่ โทรศพั ท์มือถอื คอมพิวเตอร์ เคยมีขนาดใหญ่และต้องใช้ระยะเวลาประมวลผล
นาน ปจั จบุ ันมีรูปแบบและการใชง้ านท่ีเปล่ียนไปอย่างมาก
ขน้ั สำรวจและค้นหา (30 นาท)ี
4) ให้นักเรียนศึกษาเนื้อหาจากหนังสือเรียนบทที่ 2 เรื่อง สาเหตุหรือปัจจัยของการ
เปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี หรือจากคลิปวิดีโอในห้องเรียออนไลน์ แล้วร่วมกันอภิปราย
เพ่อื ให้ได้ข้อสรปุ ความรูเ้ ก่ียวกับสาเหตหุ รือปจั จยั ทท่ี ำให้เกิดการเปล่ยี นแปลง ได้แก่ ปัญหา
หรือความต้องการ องคค์ วามรูแ้ ละความกา้ วหน้าของศาสตร์ต่างๆ โดยเฉพาะ วิทยาศาสตร์
และคณิตศาสตร์ ปจั จัยจากสภาพเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และส่งิ แวดลอ้ ม
5) ให้นักเรียนวิเคราะห์สาเหตุหรือปัจจัยของการเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยใี นชีวิตประจำวนั
นำเสนอผ่านกระดานสนทนา แลว้ อภปิ รายสรุปร่วมกนั
ขน้ั อธิบายและลงข้อสรปุ (20 นาท)ี
6) ครูใช้คำถามชวนคิดเก่ียวกับเทคโนโลยเี ปลี่ยนโลกว่า “เทคโนโลยีเหล่านั้นมีอะไรบ้าง และ
ทำใหเ้ กิดการเปลยี่ นแปลงดังกล่าวไดอ้ ยา่ งไร”
7) ใหน้ ักเรยี นศึกษาจากบทเรียน หรอื สบื คน้ จากแหลง่ เรียนรูอ้ ่นื ๆ เชน่ วารสารในห้องสมดุ
เว็บไซต์ แล้วนำข้อมลู ท่ไี ดม้ าอภิปรายสรุปรว่ มกัน
8) ใหน้ กั เรยี นเลอื กศึกษาตวั อยา่ งการเปล่ียนแปลงของเทคโนโลบี หวั ข้อต่อไปน้ี แลว้ แสดง
ความคดิ เหน็ ผ่านกระดานสนทนา เช่น อปุ กรณ์ชว่ ยลดปญั หาเกีย่ วกบั การนอน หฟู งั แพทย์
บรรจุภัณฑร์ กั ษส์ ง่ิ แวดล้อม เปน็ ต้น
ขน้ั ขยายความรู้ (20 นาท)ี
9) ใหน้ กั เรยี นแสดงความคิดเหน็ หวั ขอ้ การเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยมี ีผลกระทบต่อชีวิตเรา
อย่างไร ผ่านกระดานสนทนา
ข้ันประเมิน (10 นาท)ี
10) ตรวจการทำแบบทดสอบหลงั เรยี น
11) สงั เกตพฤติกรรมการมสี ่วนร่วม
12) มอบหมายให้นกั เรยี นทำความสะอาดตามทีไ่ ด้รับมอบหมาย
10. ส่อื /แหล่งเรียนรู้
1) หนังสือเรียนการออกแบบและเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4
2) หอ้ งเรียนออนไลน์วชิ า การออกแบบและเทคโนโลยี ใน Google Classroom
3) เวบ็ ไซต์ https://proj14.ipst.ac.th/m4-6-dt/m4-dt/ คลปิ วดิ โี อ เรื่อง การเปล่ียนแปลงของ
เทคโนโลยี
4) พาวเวอรพ์ อยท์สรปุ เร่อื ง การเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยี
5) แอปพลิเคช่นั หรือเว็บไซต์เว็บไซต์
www.padlet.com https://wordwall.net https://wheelofnames.com/
หรือ https://www.mentimeter.com/
11. การวดั และประเมนิ ผล วธิ ีการประเมนิ เคร่อื งมอื การ เกณฑก์ ารประเมนิ ผปู้ ระเมนิ
ประเมนิ
รายการประเมิน
ทดสอบหลังเรียน ข้อสอบหลงั เรยี น นักเรยี นสามารถทำ ครูผสู้ อน
K: วิเคราะหส์ าเหตหุ รอื ข้อสอบผ่านเกณฑ์ ครูผ้สู อน
ปจั จยั ที่ทำใหเ้ กิดการ สงั เกต แบบสงั เกต รอ้ ยละ 50 ข้นึ ไป
เปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี นักเรยี นไดร้ ะดบั
A: คณุ ลักษณะ คุณภาพ พอใช้ ข้ึน
1) รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ไป ถือวา่ ผ่าน
2) ซอื่ สัตยส์ ุจริต
เกณฑ์การประเมนิ ระดับคุณภาพ/ระดับคะแนน
ประเด็นการประเมิน 3 (ดมี าก) 2 (ปานกลาง) 1 (นอ้ ย) 0 (ปรับปรุง)
ทำขอ้ สอบหลงั ทำข้อสอบไม่
K: วิเคราะห์สาเหตุหรือ เรยี นผา่ นเกณฑ์ ทำข้อสอบหลงั ทำข้อสอบหลงั ผ่านเกณฑห์ รือ
ปัจจัยที่ทำให้เกดิ การ รอ้ ยละ 70 ขึ้นไป ไมไ่ ด้สอบ
เปลีย่ นแปลงของเทคโนโลยี ปฏิบัติหรือแสดง เรยี นผ่านเกณฑ์ เรยี นผ่านเกณฑ์ ปฏิบัตหิ รือแสดง
A: คณุ ลักษณะ พฤตกิ รรม พฤติกรรมน้อย
1) รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ สมำ่ เสมอ รอ้ ยละ 60 รอ้ ยละ 50 คร้ังหรือไม่ปฏิบัติ
2) ซื่อสัตยส์ ุจรติ เลย
ปฏิบตั หิ รือแสดง ปฏิบตั หิ รอื แสดง
พฤติกรรม พฤติกรรม
บอ่ ยครง้ั บางอยา่ ง
ลงช่ือ ครผู สู้ อน
(นางสาวเรวดี เกษตรเจรญิ
ตำแหน่ง ครู ชำนาญการพเิ ศษ
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 3
รหัสวชิ า ว31108 ชอ่ื วชิ า การออกแบบและเทคโนโลยี สาระการเรยี นรพู้ ้นื ฐาน
หนว่ ยที่ 1 เรอื่ ง เทคโนโลยนี ่ารู้ เวลาเรียนรวม 6 คาบ
แผนการสอนที่ 3 เร่อื ง ผลกระทบของเทคโนโลยี เวลาเรยี น 2 คาบ
ครผู สู้ อน นางสาวเรวดี เกษตรเจริญ ตำแหน่ง ครชู ำนาญการพเิ ศษ โรงเรยี นสตรียะลา
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วดั
สาระท่ี 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.1 เขา้ ใจแนวคดิ หลกั ของเทคโนโลยีเพือ่ การดำรงชีวติ ในสังคมท่ีมกี ารเปลี่ยนแปลงอยา่ งรวดเร็ว ใช้ความรู้
และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนางาน อย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วย
กระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยอี ย่างเหมาะสมโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อชีวิต สังคม และส่งิ แวดลอ้ ม
ตัวชี้วัด ม.4/1 วิเคราะห์แนวคิดหลักของเทคโนโลยี ความสัมพันธ์กับศาสตร์อื่นโดยเฉพาะ วิทยาศาสตร์ หรือ
คณิตศาสตร์ รวมทั้งประเมินผลกระทบท่ี จะเกิดขึ้นต่อมนุษย์ สังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนา
เทคโนโลยี
2. สาระการเรียนรู้
เทคโนโลยีมีการเปลีย่ นแปลงตลอดเวลาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจบุ ัน ซึ่งมีสาเหตุหรือปัจจัยมาจากหลายด้าน เช่น ปัญหา
ความตอ้ งการ ความกา้ วหนา้ ของศาสตรต์ า่ งๆ เศรษฐกจิ สังคม วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม
3 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
K: วเิ คราะหผ์ ลกรทบของเทคโนโลยที ง้ั ด้านบวกและดา้ นลบทสี่ ง่ ผลตอ่ มนษุ ย์ สงั คม เศรษฐกิจ และสง่ิ แวดล้อม
K: เสนอแนวทางในการปอ้ งกนั และแก้ไขปัญหาทีเ่ กดิ จากผลกระทบของเทคโนโลยี
4. คุณลักษณะผเู้ รยี น
ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
5) รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์
6) ซ่ือสัตยส์ ุจรติ
ด้านการอ่าน คดิ วิเคราะห์ เขยี น
การอา่ น : สามารถอา่ นเพอ่ื ศึกษาค้นคว้า เพิม่ พูนความรู้ประสบการณ์และการประยุกต์ใช้ใน
ชีวิตประจำวนั
ดา้ นสมรรถนะสำคญั
1) ความสามารถในการสอ่ื สาร
2) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
ด้านทักษะและกระบวนการที่เปน็ จุดเน้น
1) ทักษะการคดิ เชิงระบบ
2) ทักษะการคิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณ
3) ทกั ษะการส่อื สาร
5. ความรู้เดิมท่นี ักเรยี นต้องมี
ผู้เรียนมีความรู้เดิมเกีย่ วกับเทคโนโลยีที่ซับซ้อนและการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่เกิดขึน้ เมื่อมีปัจจยั เช่น ปัญหา
และความต้องการของมนุษย์ สังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม ความก้าวหน้าของศาสตร์ตา่ งๆ เข้ามาเกี่ยวขอ้ ง ซึ่งการเปลี่ยนแปลง
ทางเทคโนโลยีอาจเป็นการพัฒนาประสิทธิภาพของเทคโนโลยีที่มีอยู่เดิม หรือการสร้างเทคโนโลยีขึ้นมาใหม่ให้เหมาะสมกับ
สถานการณ์ปจั จุบนั
6. สาระสำคญั
การเลือกใช้เทคโนโลยี ผู้ใช้ ผู้พัฒนา และผู้สร้างเทคโนโลยีจำเป็นต้องมีการคำนึงและวิเคราะห์
ถงึ ผลกระทบของเทคโนโลยีทั้งในทางดา้ นบวกและดา้ นลบทส่ี ง่ ผลต่อมนุษย์ สงั คม เศรษฐกจิ และส่ิงแวดล้อม รวมทง้ั การเสนอแนว
ทางการป้องกันและแกไ้ ขปัญหา ซ่งึ ปัญหานน้ั อาจเกิดขึ้นแล้วหรือคาดการณ์วา่ จะเกิดข้ึนในอนาคตจากการใช้เทคโนโลยี เพื่อเป็น
การสร้างความตระหนกั ใหเ้ กดิ ขน้ึ แก่ผ้ใู ช้ ผพู้ ฒั นา และผู้สร้างเทคโนโลยีทส่ี ่งผลต่อการพัฒนาประเทศอย่างย่ังยนื
7. หวั ขอ้ การเรียนรู้
1) ผลกระทบของเทคโนโลยีตอ่ มนุษย์ และสังคม
2) ผลกระทบของเทคโนโลยตี อ่ เศรษฐกจิ
3) ผลกระทบของเทคโนโลยตี ่อส่งิ แวดล้อม
4) ตัวอย่างการวเิ คราะห์ผลกระทบของเทคโนโลยี
8. ภาระงาน/ชนิ้ งาน
1) กจิ กรรมระดมความคดิ
2) แบบทดสอบหลงั เรยี น
9. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ข้นั สร้างความสนใจ (10 นาที)
24) ครูกลา่ วทักทาย ตรวจสอบรายชื่อนกั เรยี นและเช็คจำนวนนักเรียน
25) ครูชื่นชมใหก้ ำลังใจนกั เรียนในการทำกิจกรรมในคาบที่ผ่านมา พร้อมสรปุ ทบทวน เรื่อง การ
เปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยี โดยสังเขป
26) ครูและนกั เรยี นรว่ มกันสนทนาสถานการณ์ปจั จบุ ัน เพอ่ื เชอื่ มโยงเข้าสู่เนอื้ หา
27) ครูกระต้นุ ความสนใจนักเรียนด้วยการเปิดวดี ิทศั น์ เร่ือง ผลกระทบของเทคโนโลยีทั้งด้าน
บวกและด้านลบ จากน้ันให้นกั เรยี นร่วมกนั อภิปรายโดยใช้คำ ถามวา่ “นักเรยี นคดิ วา่ การใช้
เทคโนโลยีของมนุษยไ์ มว่ ่าจะเป็น เทคโนโลยีทางการคมนาคม เทคโนโลยีทางการแพทย์
เทคโนโลยีการส่ือสาร สง่ ผลกระทบตอ่ มนษุ ยอ์ ย่างไร”
ขั้นสำรวจและค้นหา (30 นาที)
28) ให้นกั เรยี นศกึ ษาเน้ือหาจากคลปิ วิดโี อ เร่ือง ผลกระทบของเทคโนโลยี จากน้ัน ใชค้ ำถาม
ชวนคดิ “นกั เรียนมีการใช้เทคโนโลยีอยตู่ ลอดเวลาในชีวติ ประจำ วัน เชน่ รถยนต์
เครื่องปรบั อากาศ เคร่อื งถ่ายเอกสาร โทรศพั ท์ พดั ลม โทรทศั น์ นกั เรยี นบอกไดห้ รอื ไมว่ า่
เทคโนโลยีท่ีนกั เรยี นสนใจนนั้ เกดิ ผลกระทบในด้านบวกและดา้ นลบอย่างไร”
29) ใหน้ ักเรียนเลอื กประเดน็ ตอ่ ไปน้ี แลว้ แสดงความเหน็ รว่ มกันผ่านกระดานสนทนา
(1) ผลกระทบของเทคโนโลยีต่อมนุษยแ์ ละสังคม
(2) ผลกระทบของเทคโนโลยตี ่อ เศรษฐกิจ
(3) ผลกระทบของเทคโนโลยีต่อสงิ่ แวดลอ้ ม
ขั้นอธิบายและลงข้อสรปุ (20 นาท)ี
30) ให้นักเรียนศึกษาตัวอย่างการวิเคราะห์ผลกระทบของเทคโนโลยีและแนวทางการป้องกัน
และแกไ้ ขกรณศี กึ ษาต่อไปน้ี
(1) โครงการแกลง้ ดนิ
(2) การสร้างสนามบิน
31) นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับผลกระทบต่อมนุษย์และสังคม ผลกระทบต่อ
เศรษฐกจิ และผลกระทบต่อสงิ่ แวดล้อม ในกรณดี งั กล่าว
ขั้นขยายความรู้ (30 นาที)
32) ให้นักเรียนร่วมแสดงความคดิ เห็นผ่านกระดานสนทนา หวั ขอ้ ผลกระทบของเทคโนโลยดี ้าน
บวกและดา้ นลบของเทคโนโลยีท่ีสนใจในชุมชน เชน่ ระบบไฟฟา้ แสงสว่าง การจดั การขยะ
หรือการจัดการน้ำ พร้อทั้งเสนอแนวทางการป้องกันและท่เี กดิ ขนึ้ แล้วหรือคาดการณ์ว่าจะ
เกดิ ขน้ึ
ขนั้ ประเมิน (20 นาท)ี
33) ตรวจการทำแบบทดสอบหลงั เรยี น
34) สงั เกตพฤติกรรมการมีสว่ นร่วม
35) มอบหมายให้นักเรียนทำความสะอาดตามท่ไี ด้รบั มอบหมาย
10. ส่ือการเรยี นร้/ู แหลง่ การเรยี นรู้
1) หนังสือเรยี นการออกแบบและเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4
2) หอ้ งเรียนออนไลน์วชิ า การออกแบบและเทคโนโลยี ใน Google Classroom
3) เวบ็ ไซต์ https://proj14.ipst.ac.th/m4-6-dt/m4-dt/ คลปิ วดิ โี อ เรอื่ ง ผลกระทบของเทคโนโลยี
4) พาวเวอร์พอยท์สรุป เรอ่ื ง ผลกระทบของเทคโนโลยี
5) แอปพลิเคช่นั หรอื เวบ็ ไซต์เวบ็ ไซต์
www.padlet.com https://wordwall.net https://wheelofnames.com/
หรอื https://www.mentimeter.com/
11. การวดั และประเมนิ ผล วิธีการประเมิน เครื่องมือการ เกณฑก์ ารประเมิน ผูป้ ระเมิน
ประเมิน
รายการประเมิน
ทดสอบหลงั เรยี น ขอ้ สอบหลังเรียน นกั เรียนสามารถทำ ครผู ู้สอน
K: วิเคราะหผ์ ลกรทบของ ขอ้ สอบผ่านเกณฑ์
เทคโนโลยที ง้ั ด้านบวกและ รอ้ ยละ 50 ขนึ้ ไป
ดา้ นลบที่ส่งผลตอ่ มนษุ ย์
รายการประเมิน วธิ ีการประเมิน เคร่ืองมอื การ เกณฑ์การประเมิน ผปู้ ระเมิน
ประเมิน
สงั คม เศรษฐกิจ และ
สงิ่ แวดลอ้ ม สังเกต แบบสงั เกต นกั เรยี นได้ระดบั ครูผูส้ อน
K: เสนอแนวทางในการ คุณภาพ พอใช้ ข้ึน
ป้องกันและแก้ไขปัญหาที่ ไป ถอื ว่าผ่าน
เกิดจากผลกระทบของ
เทคโนโลยี
A: คุณลกั ษณะ
1) รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์
2) ซ่ือสัตยส์ ุจรติ
เกณฑก์ ารประเมนิ
ประเด็นการประเมิน 3 (ดมี าก) ระดับคุณภาพ/ระดบั คะแนน 0 (ปรบั ปรงุ )
2 (ปานกลาง) 1 (น้อย) ทำขอ้ สอบไม่
K: วิเคราะห์ผลกรทบของ ทำขอ้ สอบหลัง ทำข้อสอบหลัง ทำขอ้ สอบหลงั ผา่ นเกณฑ์หรอื
เรียนผ่านเกณฑ์ เรียนผ่านเกณฑ์ ไม่ไดส้ อบ
เทคโนโลยที ัง้ ด้านบวกและด้าน เรยี นผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 60 ร้อยละ 50
ปฏิบัตหิ รอื
ลบท่ีสง่ ผลตอ่ มนษุ ย์ สงั คม ร้อยละ 70 ข้ึนไป แสดง
พฤตกิ รรมนอ้ ย
เศรษฐกิจ และส่ิงแวดล้อม คร้งั หรอื ไม่
ปฏิบตั เิ ลย
K: เสนอแนวทางในการปอ้ งกนั
และแก้ไขปญั หาทเี่ กดิ จาก
ผลกระทบของเทคโนโลยี
A: คุณลกั ษณะ ปฏิบัติหรือแสดง ปฏิบัติหรือแสดง ปฏบิ ตั หิ รือแสดง
1) รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ พฤตกิ รรม พฤตกิ รรม พฤตกิ รรม
2) ซอ่ื สัตยส์ ุจรติ สม่ำเสมอ บ่อยคร้งั บางอย่าง
ลงช่ือ ครผู สู้ อน
(นางสาวเรวดี เกษตรเจริญ
ตำแหน่ง ครู ชำนาญการพเิ ศษ
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 4
รหัสวชิ า ว31108 ช่ือวิชา การออกแบบและเทคโนโลยี สาระการเรียนรพู้ ้ืนฐาน
หนว่ ยท่ี 2 เรอื่ ง ความรู้และทักษะเฉพาะดา้ น เวลาเรียนรวม 10 คาบ
แผนการสอนท่ี 4 เรื่อง วสั ดุ เวลาเรียน 2 คาบ
ครผู ูส้ อน นางสาวเรวดี เกษตรเจริญ ตำแหน่ง ครชู ำนาญการพเิ ศษ โรงเรยี นสตรยี ะลา
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชวี้ ัด
สาระท่ี 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.1 เขา้ ใจแนวคดิ หลกั ของเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชวี ิตในสงั คมทมี่ กี ารเปลยี่ นแปลงอย่างรวดเร็ว ใชค้ วามรู้
และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนางาน อย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วย
กระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม เลอื กใชเ้ ทคโนโลยีอย่างเหมาะสมโดยคำนึงถงึ ผลกระทบต่อชวี ติ สงั คม และสิ่งแวดลอ้ ม
ตัวชี้วัด ม.4/5 ใช้ความรู้และทักษะเกี่ยวกับวัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือ กลไก ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และเทคโนโลยีท่ี
ซบั ซอ้ นในการแกป้ ญั หาหรอื พัฒนางานไดอ้ ย่างถกู ต้อง เหมาะสม และปลอดภัย
2. สาระการเรยี นรู้
1) วัสดุแต่ละประเภทมีสมบัตแิ ตกต่างกัน เชน่ ไมส้ ังเคราะห์ โลหะ จงึ ตอ้ งมกี ารวเิ คราะหส์ มบัติ เพอ่ื เลอื กใชใ้ ห้เหมาะสม
กับลักษณะของงาน
2) อุปกรณ์และเครื่องมือในการสร้างชิ้นงาน หรือพัฒนาวิธีการมีหลายประเภท ต้องเลือกใชใ้ ห้ ถูกต้อง เหมาะสม และ
ปลอดภยั รวมท้ังร้จู ักเก็บรักษา
3 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
K: วเิ คราะหส์ มบัติของวสั ดุ เพ่ือนำ ไปใช้ในการสรา้ งหรือพัฒนาชิน้ งานได้อยา่ งถูกต้อง และเหมาะสม
K: วเิ คราะหแ์ ละเลือกเครือ่ งมอื พ้นื ฐาน เพ่ือนำ ไปใชใ้ นการสร้างหรอื พัฒนาชิ้นงานไดอ้ ย่าง ถกู ต้อง เหมาะสม และ
ปลอดภยั
4. คณุ ลักษณะผเู้ รียน
ด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
7) มีวนิ ยั
8) ใฝเ่ รียนรู้
ด้านการอา่ น คิดวเิ คราะห์ เขียน
การอา่ น : สามารถจับประเดน็ สำคญั ลำดบั เหตุการณ์จากการอ่านสื่อทม่ี คี วามซับซ้อน
ด้านสมรรถนะสำคญั
1) ความสามารถในการส่ือสาร
2) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
ดา้ นทกั ษะและกระบวนการท่เี ป็นจุดเนน้
1) ทกั ษะการคิดเชิงระบบ
2) ทักษะการคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ
3) ทักษะการทำ งานร่วมกบั ผูอ้ ่ืน
4) ทักษะการสอื่ สาร
5. ความรเู้ ดมิ ที่นกั เรียนตอ้ งมี
ผู้เรียนต้องมีความรู้เกี่ยวกับวัสดุพื้นฐานว่ามีหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทอาจมีสมบัติที่เหมือนหรือแตกต่างกัน
รวมทั้งเคร่ืองมือพ้ืนฐานที่ใชใ้ นการสร้างหรือพฒั นาชิ้นงานก็จะมีความแตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกวัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมอื
ต่างๆ มาใช้ในการสร้างหรือพฒั นาชิ้นงาน ต้องพิจารณาจากสมบัติของวัสดุ ลักษณะของอุปกรณ์ และประเภทของเครื่องมอื ให้
เหมาะสมกบั การใช้งาน เพ่อื ให้เกิดความปลอดภัยในการทำงาน
6. หัวข้อการเรียนรู้
1) สมบัติของวัสดุ
2) วสั ดุน่ารู้
7. ภาระงาน/ชิ้นงาน
กจิ กรรมระดมความคิด
8. กิจกรรมการเรียนรู้
ขัน้ สร้างความสนใจ (10 นาที)
36) ครกู ล่าวทักทาย ตรวจสอบรายช่อื นกั เรยี นและเช็คจำนวนนักเรยี น
37) ครูช่ืนชมให้กำลังใจนกั เรียนในการทำกิจกรรมในคาบท่ผี ่านมา
38) ครูและนกั เรยี นร่วมกันสนทนาสถานการณป์ จั จุบัน เพ่ือเช่ือมโยงเขา้ สู่เนือ้ หา
ขั้นสำรวจและคน้ หา (20 นาที)
39) ครูแสดงตวั อย่างวสั ดหุ รอื อุปกรณ์ เช่น พดั ลม กระทะ โดยตัง้ ประเด็นคำถามว่า อุปกรณ์
เหลา่ น้ปี ระกอบด้วยชน้ิ สว่ นอะไรบา้ ง ให้เวลานกั เรียนมีส่วนรว่ มในการตอบคำถาม
40) ให้นกั เรียนอภปิ รายเกี่ยวกบั วัสดุ อปุ กรณ์ ในประเด็นดังต่อไปนี้ “อปุ กรณ์เหล่านี้มีช้ินส่วน
อะไรบา้ ง แต่ละชิ้นส่วนทำจากวสั ดุอะไร วสั ดุดงั กลา่ วมีสมบัติอยา่ งไร”
แนวคำตอบ
1. พัดลม ประกอบด้วยใบพัด มอเตอร์ สวิตช์กลไกการเปิด-ปิด และปรับระดับความแรง
ของพัดลมและตัวเคร่ือง ซึ่งวัสดุสว่ นมากที่นำมาผลิตเป็นพัดลม คือ พลาสติกทีม่ คี วาม
หนาแน่นสูง เพราะ สามารถรบั แรงกระแทกได้ดี น้ำหนักเบา
2. กระทะ ประกอบด้วยตัวกระทะ และดา้ มจับ โดยตัวกระทะทำจากเหลก็ สเตนเลส หรอื
อะลูมิเนียม ซึ่งนำความร้อนได้ดี ทำให้อาหารสุกได้ทั่วถึง ในขณะที่ด้านจับทำ จาก
ฉนวนความรอ้ น เพ่ือปอ้ งกนั ความร้อนมาส่มู อื ผใู้ ช้งาน
ข้ันอธิบายและลงขอ้ สรปุ (20 นาที)
41) ครใู ชค้ ำถามชวนคิดเพอื่ ให้นักเรียนรว่ มกันอภิปราย ดังน้ี “ควรใช้วัสดุประเภทใดที่สามารถ
นำ มาผลติ เปน็ ผลิตภัณฑท์ ่ีสามารถปอ้ งกันความรอ้ น เพื่อป้องกนั ความร้อนจากวัสดุมาสู่มือ
และเพราะเหตุใดจงึ เลือกวัสดุประเภทนั้น”
แนวคำตอบ ผลติ ภัณฑท์ ีส่ ามารถป้องกันความรอ้ นได้ ควรเป็นผลติ ภัณฑ์ท่ผี ลติ มาจากวัสดุ
ประเภท กระเบ้อื ง แก้ว ไม้ ผา้ หรือพลาสติก เพราะเป็นวสั ดุทน่ี ำความรอ้ นไดไ้ มด่ ี หรอื
เรียกว่า ฉนวนความรอ้ น
42) ใหน้ กั เรียนศกึ ษาวัสดุนา่ รู้ในหนังสอื เรียนหรอื จากคลิปวดิ โี อในหอ้ งเรียนออนไลน์ ในหวั ข้อ
ต่อไปน้ี 1) โลหะ 2) ไม้ 3) เซรามกิ 4) วัสดผุ สม และ 5) วสั ดุสมยั ใหม่ จากนน้ั ให้นำเสนอ
องคค์ วามร้ทู ไ่ี ด้จากการศกึ ษา มาร่วมกันอภิปรายสรปุ ในประเดน็ ของสมบตั ิของวสั ดุ (ความ
แข็งแรง สภาพยืดหยนุ่ การนำความร้อน เปน็ ตน้ ) และการนำไปใช้งาน
43) ให้นกั เรยี นรว่ มกนั ระดมความคิด เรอื่ ง วเิ คราะห์ประเภทและอธบิ ายสมบตั ิของวัสดใุ น
สง่ิ ของเครื่องใช้ โดยยกตวั อยา่ งอุปกรณแ์ ละเครอ่ื งมอื ทางการแพทยห์ รือที่นักเรยี นสนใต
อยา่ งนอ้ ย 1 ประเภท แล้ววเิ คราะหป์ ระเภทของวัสดุ สมบตั ิของวัสดุ และเหตุผลทีใ่ ชว้ ัสดุ
ประเภทนนั้ ” ผา่ นแอปพลิเคชันหรอื เว็บไซต์ เช่น www.padlet.com
ขนั้ ขยายความรู้ (30 นาที)
44) ใหน้ กั เรียนและครูรว่ มกันอภิปรายสรุปเก่ยี วกับสมบัติของวัสดุท่ถี กู นำมาสรา้ งอุปกรณแ์ ละ
เคร่ืองมือทางการแพทย์ว่าตอ้ งมสี มบตั อิ ย่างไร
แนวคำตอบ สมบัติของวสั ดุ อปุ กรณแ์ ละเครือ่ งมือทางการแพทย์ ควรมีลกั ษณะดงั นี้
1. สามารถนำไปใชง้ านกับรา่ งกายได้ โดยไมเ่ กิดอาการแพ้ หรอื เปน็ โทษตอ่ ร่างกาย
2. ต้องคำนึงถงึ สมบัติของวัสดทุ ีน่ ำมาผลิตเป็นเครื่องมือแต่ละชนิด เชน่ ความแข็งแรง ไม่
เกดิ สนิม สภาพยดื หยนุ่
3. สามารถผลติ ขึ้นได้โดยกระบวนการผลิตทีไ่ ม่ยุง่ ยากซับซ้อน
4. วสั ดุท่นี ำมาผลิตสามารถทำการฆ่าเชอื้ ได้โดยไมส่ ่งผลกระทบต่อสมบตั ขิ องวสั ดุ
5. ก่อนนำอุปกรณ์หรอื เครอื่ งมือมาใช้ ตอ้ งผา่ นการทดสอบประสิทธภิ าพ เพือ่ ความ
ปลอดภยั ในการใช้งาน
ขั้นประเมิน (10 นาที)
10) ตรวจการทำแบบทดสอบหลังเรยี น
11) สงั เกตพฤตกิ รรมการมีส่วนร่วม
12) มอบหมายให้นักเรยี นทำความสะอาดตามที่ได้รับมอบหมาย
10. ส่อื การเรียนร้/ู แหล่งการเรยี นรู้
1) หนงั สือเรียนการออกแบบและเทคโนโลยี ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4
2) หอ้ งเรยี นออนไลน์วชิ า การออกแบบและเทคโนโลยี ใน Google Classroom
3) เวบ็ ไซต์ https://proj14.ipst.ac.th/m4-6-dt/m4-dt/ คลปิ วดิ โี อ เรื่อง วสั ดุ
4) พาวเวอรพ์ อยท์สรปุ เรื่อง วัสดุ
5) แอปพลิเคช่ัน หรือเว็บไซต์เวบ็ ไซต์
www.padlet.com https://wordwall.net https://wheelofnames.com/
หรือ https://www.mentimeter.com/
11. การวดั และประเมนิ ผล
รายการประเมิน วิธีการประเมิน เครอ่ื งมือการ เกณฑ์การประเมนิ ผปู้ ระเมิน
ประเมนิ นักเรยี นสามารถทำ ครผู ูส้ อน
ขอ้ สอบผ่านเกณฑ์
K: วิเคราะห์สมบัติของวสั ดุ เพอื่ ทดสอบหลัง ขอ้ สอบหลังเรยี น รอ้ ยละ 50 ข้นึ ไป ครูผู้สอน
นำ ไปใช้ในการสร้างหรือพัฒนา เรียน นกั เรยี นไดร้ ะดับ
คณุ ภาพ พอใช้ ขนึ้
ชิ้นงานไดอ้ ย่างถูกต้อง และ ไป ถือว่าผ่าน
เหมาะสม
K: วเิ คราะหแ์ ละเลอื กเครอ่ื งมือ
พน้ื ฐาน เพ่ือนำ ไปใช้ในการสร้าง
หรอื พฒั นาชิน้ งานได้อยา่ ง
ถูกตอ้ ง เหมาะสม และปลอดภัย
A: คณุ ลกั ษณะ สังเกต แบบสังเกต
1) มีวินัย
2) ใฝ่เรียนรู้
เกณฑ์การประเมนิ
ประเดน็ การประเมิน ระดับคุณภาพ/ระดบั คะแนน
3 (ดีมาก) 2 (ปานกลาง) 1 (นอ้ ย) 0 (ปรบั ปรงุ )
K: วิเคราะหส์ มบัตขิ องวัสดุ เพ่ือนำ ไป ทำข้อสอบ ทำข้อสอบหลงั ทำข้อสอบหลงั ทำข้อสอบไม่
ใชใ้ นการสร้างหรือพฒั นาชน้ิ งานได้ หลงั เรยี น เรียนผา่ นเกณฑ์ เรียนผา่ นเกณฑ์ ผ่านเกณฑ์หรือ
อย่างถูกต้อง และเหมาะสม ผา่ นเกณฑ์ ร้อยละ 60 ร้อยละ 50 ไม่ไดส้ อบ
K: วิเคราะห์และเลือกเครอื่ งมือพ้ืนฐาน ร้อยละ 70
เพ่อื นำ ไปใช้ในการสร้างหรือพฒั นา ข้นึ ไป
ช้นิ งานไดอ้ ยา่ ง ถกู ตอ้ ง เหมาะสม และ
ปลอดภัย
A: คณุ ลักษณะ ปฏบิ ัติหรอื ปฏิบตั หิ รือแสดง ปฏบิ ัติหรอื ปฏิบตั หิ รือ
1) มวี นิ ยั แสดง พฤติกรรม แสดงพฤติกรรม แสดง
2) ใฝ่เรียนรู้ พฤตกิ รรม บ่อยคร้ัง บางอยา่ ง พฤตกิ รรมน้อย
สมำ่ เสมอ ครั้งหรอื ไม่
ปฏบิ ัตเิ ลย
ลงชอ่ื ครูผู้สอน
(นางสาวเรวดี เกษตรเจริญ
ตำแหน่ง ครู ชำนาญการพิเศษ
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 5
รหัสวชิ า ว31108 ชื่อวิชา การออกแบบและเทคโนโลยี สาระการเรียนรพู้ ืน้ ฐาน
หน่วยท่ี 2 เรอ่ื ง ความรู้และทกั ษะเฉพาะดา้ น เวลาเรียนรวม 12 คาบ
แผนการสอนท่ี 5 เร่ือง เครอื่ งมอื พืน้ ฐาน เวลาเรยี น 2 คาบ
ครผู ู้สอน นางสาวเรวดี เกษตรเจริญ ตำแหนง่ ครูชำนาญการพเิ ศษ โรงเรียนสตรยี ะลา
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้วี ัด
สาระท่ี 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.1 เขา้ ใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพอื่ การดำรงชวี ิตในสังคมที่มกี ารเปลย่ี นแปลงอย่างรวดเรว็ ใช้ความรู้
และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนางาน อย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วย
กระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม เลอื กใช้เทคโนโลยอี ย่างเหมาะสมโดยคำนงึ ถงึ ผลกระทบตอ่ ชีวติ สงั คม และสง่ิ แวดลอ้ ม
ตัวชี้วัด ม.4/5 ใช้ความรู้และทักษะเกีย่ วกับวัสดุอปุ กรณ์ เครื่องมือ กลไก ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และเทคโนโลยีท่ี
ซบั ซอ้ นในการแกป้ ัญหาหรอื พัฒนางานได้อยา่ งถูกตอ้ ง เหมาะสม และปลอดภัย
2. สาระการเรยี นรู้
1) วสั ดุแตล่ ะประเภทมสี มบตั ิแตกต่างกัน เชน่ ไมส้ ังเคราะห์ โลหะ จึงต้องมีการวิเคราะห์สมบัติ เพือ่ เลอื กใช้ใหเ้ หมาะสม
กบั ลักษณะของงาน
2) อุปกรณ์และเครื่องมือในการสร้างชิ้นงาน หรือพัฒนาวิธีการมีหลายประเภท ต้องเลือกใช้ให้ ถูกต้อง เหมาะสม และ
ปลอดภัย รวมทงั้ รจู้ กั เกบ็ รักษา
3 จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
K: วิเคราะห์สมบตั ิของวสั ดุ เพ่อื นำไปใช้ในการสร้างหรือพฒั นาชิ้นงานไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง และเหมาะสม
K: วเิ คราะหแ์ ละเลอื กเครือ่ งมือพืน้ ฐาน เพื่อนำไปใช้ในการสรา้ งหรือพัฒนาชิน้ งานไดอ้ ยา่ ง ถูกตอ้ ง เหมาะสม และ
ปลอดภัย
4. คุณลกั ษณะผู้เรยี น
ด้านคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
9) มวี นิ ยั
10) ใฝ่เรียนรู้
ด้านการอา่ น คดิ วเิ คราะห์ เขียน
การอ่าน : สามารถจบั ประเดน็ สำคัญ ลำดับเหตุการณจ์ ากการอา่ นส่ือทม่ี ีความซบั ซ้อน
ดา้ นสมรรถนะสำคัญ
1) ความสามารถในการสอ่ื สาร
2) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
ดา้ นทกั ษะและกระบวนการท่ีเปน็ จดุ เนน้
1) ทกั ษะการคดิ เชงิ ระบบ
2) ทักษะการคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ
3) ทักษะการทำ งานรว่ มกบั ผ้อู ่ืน
4) ทักษะการสอ่ื สาร
5. ความรูเ้ ดมิ ท่นี กั เรียนตอ้ งมี
ผู้เรียนต้องมีความรู้เกี่ยวกับวัสดุพื้นฐานว่ามีหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทอาจมีสมบัติที่เหมือนหรือแตกต่างกัน
รวมทั้งเครื่องมือพ้ืนฐานที่ใช้ในการสร้างหรือพฒั นาชิ้นงานก็จะมีความแตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกวัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมอื
ต่างๆ มาใช้ในการสร้างหรือพัฒนาชิ้นงาน ต้องพิจารณาจากสมบัติของวัสดุ ลักษณะของอุปกรณ์ และประเภทของเครื่องมอื ให้
เหมาะสมกบั การใช้งาน เพื่อให้เกดิ ความปลอดภยั ในการทำงาน
6. สาระสำคญั
ในการสรา้ งชน้ิ งานตามแบบร่างที่ออกแบบไว้ใหเมีความถกู ต้องท้ังรูปร่าง มาตราส่วน และมีความสวยงามน้ัน นอกจาก
จะต้องเลอื กวัสดุที่เหมาะสมแล้ว จะตอ้ งเลอื กใช้เครอื่ งมือให้เหมาะสมกบั ชนิดของงานและวัสดดุ ้วย เพ่อื ใหเ้ กิดความปลอดภัยและ
ได้ชิ้นงานตามต้องการเครือ่ งมือที่ใช้ในการสรา้ งเครื่องมือพ้ืนฐานที่สำคัญ ได้แก่ เครื่องมือสำหรับการวดั ขนาด เครื่องมอื สำหรับ
การตัด และเครือ่ งมอื สำหรบั การเจาะ
7. หัวข้อการเรียนรู้
1) เครื่องมอื สำหรับการวดั ขนาด
2) เครือ่ งมือสำหรบั การตดั
3) เครอื่ งมอื สำหรับการเจาะ
8. ภาระงาน/ชน้ิ งาน
ระดมความคดิ เห็น
9. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั สรา้ งความสนใจ (10 นาที)
45) ครูกล่าวทกั ทาย ตรวจสอบรายชื่อนกั เรยี นและเช็คจำนวนนกั เรียน
46) ครชู ื่นชมใหก้ ำลงั ใจนักเรยี นในการทำกิจกรรมในคาบทผ่ี ่านมา
47) ครูและนักเรียนรว่ มกันสนทนาสถานการณป์ ัจจบุ ัน เพือ่ เชอ่ื มโยงเขา้ สูเ่ นื้อหา
ข้ันสำรวจและค้นหา (20 นาที)
48) ครูใช้คำถามชวนคิดดังนี้ “ให้นักเรียนยกตัวอย่างชิ้นงานที่ประกอบด้วยวัสดุประเภท
เดียวกันและชิ้นงานที่ประกอบด้วยวัสดุต่างประเภท ประเภทละ 1 ชิ้น และเราสามารถใช้
เครอ่ื งมือใดบา้ งในการสร้างชิน้ งานเหลา่ นั้น”
49) สุ่มตวั แทนนกั เรียนนำเสนอ และครนู ำอภปิ รายประเด็นในการสร้างชิ้นงานที่ครูได้เตรียมไว้
เช่น เกา้ อไ้ี ม้
แนวคำตอบ
ตวั อยา่ งช้นิ งาน เครอื่ งมือทใี่ ช้
เก้าอ้ไี ม้ ฉากเหล็ก ค้อน ตะปู สว่าน สกรู นอต เครื่องไสไม้
ไฟฟ้า ไม้บรรทดั เหลก็
ตัวอยา่ งชิ้นงาน เคร่ืองมือท่ใี ช้
เก้าอี้พนักพิงเป็นพลาสติก โดยขาเก้าอี้ทำ ด้วยสเตน ฉากเหล็ก สกรู นอต เครื่องเชื่อมโลหะ เครื่องบัดกรี
เลส เครอื่ งตัดโลหะ ไมบ้ รรทดั เหลก็
50) ให้นักเรยี นเลอื กศึกษาและและทดลองใชง้ านหรอื ดูคลปิ วิดโี อการใชเ้ ครอื่ งมอื พนื้ ฐานที่
นักเรยี นสนใจ ดงั นี้
- ชุดเครื่องมอื สำหรับการวดั ขนาด เช่น ใช้ไมโครมิเตอรว์ ัดความหนาของกระดาษ
- ชุดเครอื่ งมือสำหรับการตัด เชน่ ใชค้ ีมตัดลวด
- ชุดเครื่องมอื สำหรับการเจาะ เช่น ใชส้ วา่ นมือเจาะแผน่ ไม้
51) ส่มุ รายช่ือนักเรียนโดยการเรียกชือ่ หรือใชเ้ ว็บไซต์สำหรับส่มุ รายชือ่ นกั เรยี น เชน่
https://wheelofnames.com/
52) ใหน้ ักเรยี นนำสนอโดยใชเ้ ทคโนโลยีทเี่ หมาะสม เช่น โปรแกรมนำเสนอผา่ น Google meet
พร้อมสาธิตการใชเ้ คร่อื งมือหรือเปิดคลิปวดิ ีโอสาธิตการใชง้ านของชดุ เครื่องมือท่ีศกึ ษา
53) นักเรียนและครูรว่ มกนั อภิปรายวธิ ีการใชง้ านทถ่ี กู ตอ้ ง เหมาะสม และปลอดภัย
ข้ันอธิบายและลงขอ้ สรุป (20 นาที)
54) ครตู ัง้ คำถามชวนคิดใหน้ กั เรยี นตอบดงั น้ี “ให้นกั เรียนช่วยกันระดมความคดิ ว่านอกจาก
ตัวอย่างเคร่อื งมือพ้นื ฐานข้างตน้ แลว้ ยงั มเี ครอื่ งมอื ประเภทอืน่ อะไรบา้ ง สำหรับการวดั ขนาด
การตัด การเจาะ และ มีวิธีการใชง้ านอย่างไร ยกตัวอยา่ งมาอย่างละ 2 ประเภท” ผ่าน
เว็บไซต์
https://www.mentimeter.com/app
แนวคำตอบ
การใช้งาน ตวั อย่างเคร่อื งมอื และวิธีการใชง้ าน
เครอื่ งมอื สำหรบั ตลับเมตร ใชส้ ำหรับวัดขนาดวตั ถุและระยะระหวา่ งวัตถุ ตวั ตลับทำด้วยโลหะหรอื
การวดั พลาสตกิ สายวัดทำดว้ ยแผน่ โลหะบางเคลอื บสีปลายสายวดั มีขอเก่ยี วเล็ก ๆ สำหรับ
เกยี่ วใหต้ ดิ กับวัตถุทตี่ ้องการวัด สายวัดสามารถดึงออกจากตลับได้ง่าย และเมอื่ ปลอ่ ย
มือมันจะเลอ่ื นกลบั เข้าไปในตลบั
การใชง้ าน
1) ใช้ขอเกย่ี วที่ปลายสายวัดเกย่ี วไว้กับดา้ นหนงึ่ ของระยะหรอื ชิน้ งานท่ีตอ้ งการวดั
2) ดงึ ตลบั เพือ่ ดึงสายวัดออกมาจนกระทง่ั ถึงจดุ ท่ีตอ้ งการวัด (ต้องปรับสายวัดใหไ้ ด้
มุมฉากกบั รมิ ขอบของช้ินงานหรือระยะทตี่ ้องการวดั )
3) อ่านคา่ แลว้ จดระยะที่อยู่บนสายวดั ไว้
ฉากเหล็กหรือบรรทดั ฉาก ใชส้ ร้างมุมฉากและตรวจสอบว่ามมุ ไดฉ้ ากหรือไม่ ลกั ษณะ
เป็นแผ่นโลหะแบนรปู ตัว L หรือมีรปู รา่ งเป็นมุมฉาก ดา้ นทีส่ น้ั กวา่ และหนากว่า
เรยี กว่า ด้ามฉาก ด้านทย่ี าวกว่าแต่บางกวา่ เรยี กว่า ใบฉาก
การใชง้ าน
การใช้งาน ตัวอยา่ งเคร่อื งมือและวิธีการใชง้ าน
1) วางปลายด้านหนึ่งของฉากลงบนไมว้ ดั เพือ่ หาตำ แหน่งของมุม แลว้ ทำ เคร่อื งหมาย
เคร่อื งมอื สำหรับ ไว้
การตัด 2) วางฉากไว้บนไม้โดยใหด้ ้านหนาวางแนบกับขอบของไม้ เอยี งไปมาเพอื่ ใหด้ ้านหนา
แนบกบั งานจรงิ ๆ
เครอื่ งมอื สำหรบั 3) เลือ่ นฉากไปบนไม้จนกว่าดา้ นบางจะพบกบั เครื่องหมายท่ที ำ ไว้
การเจาะ 4) ลากเส้นไปตามด้านบาง
5) การตรวจความไดฉ้ ากของมมุ ให้วางฉากลงในมมุ หรือนอกมมุ ทีต่ ้องการตรวจ กด
ส่วนที่เป็นด้านหนาให้แนบด้านหนึง่ ของมุมท่ีต้องการตรวจ
6) ตรวจดคู วามสมั พนั ธร์ ะหวา่ งดา้ นบางของฉากกบั อกี ดา้ นหนึง่ ของมมุ ถา้ พอดกี ัน
แสดงวา่ มมุ ได้ฉาก
เล่อื ยมือ ใช้ตดั ไมใ้ หไ้ ด้ขนาดและรูปร่างตามตอ้ งการ มีลักษณะเป็นแผ่นเหล็กบาง ๆ
ยาว และ มปี ลายสอบ มีฟันอยู่ขอบด้านยาวด้านเดยี ว และมีมอื จบั อยูท่ ่ีขอบดา้ นท่ี
กว้างกว่าด้ามจับทำจากไม้หรือพลาสติก เลอ่ื ยมือมกี ารผลติ ออกมาโดยมีฟันสองแบบ
สำหรับการเลอื่ ยตามเสย้ี นไม้ และ
สำหรบั การเลอื่ ยขวางเส้ียนไม้
การใช้งาน
1) เลอื กใชเ้ ลอื่ ยให้ถกู กบั งาน
2) ขีดเส้นแนวเลื่อยลงบนช้นิ งาน
3) วางช้ินงานลงบนโต๊ะงาน เชน่ ม้ารองเลื่อย เพื่อใหแ้ นวเลือ่ ยยนื่ ออกไปพน้ โตะ๊ ท่ีรอง
อาจใช้ปากกาจับชนิ้ งานจับไมไ้ วไ้ ม่ให้ขยับ
4) ถอื เล่อื ยดว้ ยมอื ข้างท่ีถนดั หันฟันเลอื่ ยลงด้านล่าง แล้วลากเลอ่ื ยดว้ ยทา่ ท่ีถนัด วาง
ฟนั เล่อื ยลงท่ีขอบไม้ดา้ นที่อยหู่ า่ งออกไปตรงเส้นหรอื ตดิ ๆ กบั เส้นวางแนวแขนหรือ
ไหลใ่ หต้ รงกับแนวตัด
สวา่ นข้อเสือ ใช้เจาะรูท่ีไม้ หรือเจาะรูชว่ ยในการทำรูเดือย ลกั ษณะเปน็ ข้อเหวี่ยง
โลหะ ท่ปี ลายดา้ นหน่งึ ดูเหมอื นลูกบิดประตู ด้ามจับสามารถหมนุ ได้รอบตวั และด้าม
จับอกี ดา้ นหนึง่ จะอยู่รอบจดุ ศูนยก์ ลางของข้อเหว่ียง และปลาย อกี ด้านหนึง่ มตี ัวจบั
ดอกสว่าน
การใช้งาน
1) เลอื กขนาดของดอกสว่านให้เหมาะกับขนาดของรูทจ่ี ะเจาะ
2) คลายตัวจบั ดอกสว่านออกให้สามารถใส่ดอกสวา่ นเข้าไปได้ แลว้ ขนั ให้แน่น
3) ควรยึดชนิ้ งานกบั แทน่ ยดึ ทีม่ นั่ คง หาตำแหน่งของจดุ ศูนย์กลางของรู แลว้ ทำ หลมุ
เลก็ ๆ ไวเ้ พื่อนำศูนย์ (อาจใช้เหลก็ หมาดชว่ ย)
การใชง้ าน ตวั อยา่ งเคร่ืองมือและวธิ กี ารใชง้ าน
4) วางปลายของดอกสวา่ นลงตรงท่ที ำนำศนู ยไ์ ว้ แลว้ จบั ตวั สวา่ นให้ต้ังฉากกบั ผวิ ของ
งาน ใชม้ อื ข้างหนึ่งจบั สว่ นทด่ี คู ลา้ ยลกู บดิ ประตู ส่วนมืออกี ขา้ งหน่ึงจับที่จบั ของสว่ นท่ี
เปน็ ขอ้ เหวย่ี ง
5) กดลงไปยงั สว่ นทดี่ คู ล้ายกบั ลกู บิดประตใู นขณะที่หมนุ ข้อเหว่ียง ถา้ หมนุ ไปดา้ นหนง่ึ
จะเจาะ ลึกลงไปในงาน แตถ่ า้ หมนุ กลบั ดา้ นจะเป็นการถอนสว่านออกมา
เหล็กหมาด ใชต้ อกใหเ้ กิดรอยบุ๋มเลก็ ๆ สำหรับนำศูนยใ์ ห้
สกรูหรอื การตอกตะปู หรอื ใชท้ ำให้ เกิดรอยเพือ่ เปน็ จุดสงั เกตในการวดั หรอื การ
กำหนดตำแหน่ง โลหะทรงกระบอกทีม่ ีปลายแหลม ความยาวประมาณหนึ่งน้ิวที่ปลาย
แหลมของเหลก็ น้คี มมาก ส่วนดา้ นบนของดา้ มจับจะมปี ุม่ โลหะติดอยู่
การใช้งานเหล็กหมาด
1) วางปลายของเหล็กหมาดลงตรงจุดทต่ี อ้ งการ
2) จบั ตวั ก้านของเหล็กนำ ไวด้ ว้ ยมือขา้ งหนงึ่ และฝ่ามืออกี ขา้ งหนึง่ แลว้ กดเหล็กหมาด
เขา้ กบั ชน้ิ งานหรือผนงั เบา ๆ ถ้าวสั ดมุ ีความแข็ง ใหต้ อกเบา ๆ ดว้ ยค้อน
3) ดึงเหลก็ หมาดออกจากรู แล้วนำ ปลายตะปู หรอื สกรูมาที่รอยบมุ๋ ท่ที ำ ไว้ แลว้ ตอก
ตะปหู รอื สกรู
ข้ันขยายความรู้ (30 นาท)ี
13) ใหน้ ักเรียนทำกิจกรรม เรือ่ ง วิเคราะหเ์ ครอื่ งมือพืน้ ฐานในการสรา้ งสง่ิ ของเครื่องใช้ โดยสำ
รวสงิ่ ของเครื่องใช้ภายในโรงเรียนและเลือกส่ิงของเครอื่ งใชท้ ี่สนใจ คนละ 1 อยา่ ง จากนั้น
ศกึ ษาวา่ ใชอ้ ุปกรณ์ เครอ่ื งมอื ชนิดใดในการสรา้ งส่ิงของเคร่อื งใช้นั้น” โดยครูผสู้ อนต้อง
คำนงึ ถึงสิ่งของเครื่องใช้ทีน่ กั เรียนเลือก เพ่ือใหน้ กั เรียนสามารถวิเคราะหข์ ้อมูลเกย่ี วกับ
เครอ่ื งมอื อยา่ งงา่ ยที่นำมาใช้ในการสร้างส่ิงของเครอ่ื งใชไ้ ดถ้ กู ต้อง
14) ใหน้ กั เรยี นและครูผสู้ อนรว่ มกนั อภิปรายผลจากการทำกจิ กรรมวา่ นกั เรียนควรใช้อุปกรณ์
เคร่ืองมอื ใหเ้ หมาะสมกบั วัสดแุ ละลกั ษณะของการใช้งานให้เหมาะสมกับวัสดุและส่ิงของ
เครอื่ งใชท้ ีจ่ ะสร้างหรอื ผลิตข้ึน
ขัน้ ประเมนิ (10 นาที)
15) ตรวจการทำแบบทดสอบหลังเรียน
16) สังเกตพฤตกิ รรมการมีสว่ นร่วม
17) มอบหมายให้นักเรยี นทำความสะอาดตามทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย
10. สือ่ การเรยี นรู/้ แหล่งการเรียนรู้
1) หนังสอื เรยี นการออกแบบและเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 4
2) หอ้ งเรียนออนไลน์วิชา การออกแบบและเทคโนโลยี ใน Google Classroom
3) เว็บไซต์ https://proj14.ipst.ac.th/m4-6-dt/m4-dt/ คลิปวิดีโอ เร่ือง เครื่องมอื พืน้ ฐาน
4) พาวเวอรพ์ อยทส์ รุป เรอ่ื ง เครือ่ งมือพื้นฐาน
5) แอปพลิเคชนั่ หรือเว็บไซต์เว็บไซต์
www.padlet.com https://wordwall.net https://wheelofnames.com/
หรือ https://www.mentimeter.com/
11. การวดั และประเมินผล วิธีการประเมนิ เครื่องมอื การประเมิน เกณฑ์การประเมนิ ผปู้ ระเมนิ
ทดสอบหลัง ขอ้ สอบหลงั เรยี น นกั เรยี นสามารถทำ ครผู ูส้ อน
รายการประเมิน เรียน ขอ้ สอบผ่านเกณฑ์
K: วิเคราะหส์ มบัติของวสั ดุ ครูผู้สอน
เพ่ือนำ ไปใชใ้ นการสรา้ งหรอื รอ้ ยละ 50 ข้นึ ไป
พฒั นาชิ้นงานไดอ้ ย่างถกู ต้อง
และเหมาะสม สงั เกต แบบสงั เกต นักเรยี นไดร้ ะดบั
K: วเิ คราะหแ์ ละเลือก คณุ ภาพ พอใช้ ข้นึ
เครื่องมือพ้นื ฐาน เพอ่ื นำ ไป ไป ถอื วา่ ผ่าน
ใช้ในการสร้างหรอื พฒั นา
ชน้ิ งานไดอ้ ยา่ ง ถูกตอ้ ง
เหมาะสม และปลอดภยั
A: คุณลกั ษณะ
1) มวี นิ ยั
2) ใฝ่เรยี นรู้
เกณฑ์การประเมิน
ประเด็นการประเมนิ ระดับคณุ ภาพ/ระดับคะแนน
3 (ดมี าก) 2 (ปานกลาง) 1 (น้อย) 0 (ปรับปรุง)
ทำข้อสอบไม่
K: วิเคราะหส์ มบัติของวัสดุ ทำข้อสอบหลัง ทำข้อสอบหลงั ทำขอ้ สอบหลัง ผ่านเกณฑห์ รือ
ไมไ่ ดส้ อบ
เพื่อนำ ไปใช้ในการสร้างหรอื เรียนผา่ นเกณฑ์ เรียนผา่ นเกณฑ์ เรียนผา่ นเกณฑ์
ปฏิบัติหรอื
พัฒนาช้ินงานไดอ้ ย่างถกู ต้อง ร้อยละ 70 ขน้ึ ไป ร้อยละ 60 ร้อยละ 50 แสดง
พฤติกรรมน้อย
และเหมาะสม
K: วิเคราะห์และเลือกเครื่องมือ
พ้ืนฐาน เพือ่ นำ ไปใชใ้ นการ
สร้างหรอื พัฒนาชิ้นงานได้
อยา่ ง ถูกตอ้ ง เหมาะสม และ
ปลอดภัย
A: คณุ ลักษณะ ปฏบิ ัตหิ รอื แสดง ปฏบิ ตั ิหรอื แสดง ปฏบิ ตั หิ รอื แสดง
1) มีวนิ ัย พฤติกรรม พฤตกิ รรม พฤตกิ รรม
2) ใฝ่เรียนรู้ สมำ่ เสมอ บอ่ ยครัง้ บางอย่าง
ประเดน็ การประเมนิ 3 (ดมี าก) ระดบั คุณภาพ/ระดับคะแนน 0 (ปรบั ปรุง)
2 (ปานกลาง) 1 (น้อย) คร้ังหรือไม่
ปฏิบตั ิเลย
ลงชอื่ ครูผ้สู อน
(นางสาวเรวดี เกษตรเจริญ
ตำแหน่ง ครู ชำนาญการพิเศษ
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 6
รหัสวชิ า ว31108 ช่อื วิชา การออกแบบและเทคโนโลยี สาระการเรียนรู้พื้นฐาน
หน่วยท่ี 2 เรอ่ื ง ความร้แู ละทกั ษะเฉพาะดา้ น เวลาเรียนรวม 12 คาบ
แผนการสอนท่ี 6 เรื่อง การตัดต่อ และการขน้ึ รูปวสั ดุ เวลาเรียน 2 คาบ
ครผู ูส้ อน นางสาวเรวดี เกษตรเจริญ ตำแหนง่ ครูชำนาญการพเิ ศษ โรงเรยี นสตรยี ะลา
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้วี ัด
สาระท่ี 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยเี พอื่ การดำรงชวี ิตในสงั คมทมี่ ีการเปล่ียนแปลงอย่างรวดเรว็ ใช้ความรู้
และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนางาน อย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วย
กระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม เลือกใชเ้ ทคโนโลยอี ยา่ งเหมาะสมโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อชวี ติ สงั คม และสิ่งแวดลอ้ ม
ตัวชี้วัด ม.4/5 ใช้ความรู้และทักษะเกี่ยวกับวัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือ กลไก ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และเทคโนโลยีท่ี
ซับซอ้ นในการแกป้ ญั หาหรอื พฒั นางานได้อย่างถกู ต้อง เหมาะสม และปลอดภยั
2. สาระการเรยี นรู้
1) วสั ดุแตล่ ะประเภทมสี มบัตแิ ตกตา่ งกัน เช่น ไม้สงั เคราะห์ โลหะ จงึ ต้องมีการวเิ คราะห์สมบตั ิ เพือ่ เลือกใชใ้ หเ้ หมาะสม
กบั ลกั ษณะของงาน
2) อุปกรณ์และเครื่องมือในการสร้างชิ้นงาน หรือพัฒนาวิธีการมีหลายประเภท ต้องเลือกใช้ให้ ถูกต้อง เหมาะสม และ
ปลอดภัย รวมทง้ั รูจ้ ักเก็บรักษา
3 จุดประสงค์การเรยี นรู้
K: วเิ คราะห์สมบัติของวสั ดุ เพื่อนำไปใชใ้ นการสรา้ งหรอื พฒั นาชนิ้ งานได้อยา่ งถกู ต้อง และเหมาะสม
K: วเิ คราะหแ์ ละเลือกเครอ่ื งมือพนื้ ฐาน เพ่ือนำไปใชใ้ นการสร้างหรอื พฒั นาช้นิ งานไดอ้ ย่าง ถกู ตอ้ ง เหมาะสม และ
ปลอดภัย
4. คุณลักษณะผู้เรียน
ด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์
11) มีวินัย
12) ใฝ่เรียนรู้
ด้านการอ่าน คดิ วิเคราะห์ เขยี น
การอ่าน : สามารถจบั ประเดน็ สำคัญ ลำดับเหตกุ ารณจ์ ากการอา่ นสือ่ ที่มคี วามซบั ซ้อน
ด้านสมรรถนะสำคัญ
1) ความสามารถในการสอ่ื สาร
2) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
ด้านทักษะและกระบวนการที่เป็นจดุ เนน้
1) ทกั ษะการคดิ เชิงระบบ
2) ทกั ษะการคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณ
3) ทกั ษะการทำ งานรว่ มกบั ผ้อู ่ืน
4) ทักษะการสอ่ื สาร
5. ความรเู้ ดมิ ที่นกั เรียนต้องมี
ผู้เรียนต้องมีความรู้เกี่ยวกับวัสดุพื้นฐานว่ามีหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทอาจมีสมบัติที่เหมือนหรือแตกต่างกัน
รวมทั้งเครื่องมือพ้ืนฐานที่ใชใ้ นการสร้างหรือพฒั นาชิน้ งานก็จะมีความแตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกวัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือ
ต่างๆ มาใช้ในการสร้างหรือพฒั นาชิ้นงาน ต้องพิจารณาจากสมบัติของวัสดุ ลักษณะของอุปกรณ์ และประเภทของเครื่องมอื ให้
เหมาะสมกับการใช้งาน เพือ่ ใหเ้ กดิ ความปลอดภัยในการทำงาน
6. สาระสำคัญ
ในการสร้างหรือซอ่ มแซมสง่ิ ของเครือ่ งใช้ จำเป็นต้องมคี วามรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกับเทคนิคตา่ งๆ ไม่ว่าจะเปน็ การตัด ต่อ
และขนึ้ รปู วัสดุ เนือ่ งจากวัสดุมีหลากหลายประเภท ซ่ึงแต่ละประเภทมีสมบตั ิแตกต่างกัน ผใู้ ช้จำเป็นตอ้ งเลือกเทคนิควิธีการสร้าง
หรอื ซอ่ มแซมสิ่งของเครือ่ งใช้ให้ถูกต้องและเหมาะสมกับชิน้ งานที่จะปฏิบัตงิ าน โดยนำความร้จู ากขอ้ มูลเกยี่ วกับวัสดุและอุปกรณ์
ขา้ งตน้ มาประกอบการตดั สนิ ใจ
7. สาระการเรียนรู้
1) การตดั
2) การต่อ
3) การขน้ึ รูป
8. ภาระงาน/ช้นิ งาน
1) กจิ กรรมระดมความคิดเหน็
2) ทดสอบหลงั เรียน
9. กิจกรรมการเรียนรู้
ข้ันสรา้ งความสนใจ (10 นาที)
55) ครูกลา่ วทกั ทาย ตรวจสอบรายชอื่ นกั เรียนและเช็คจำนวนนกั เรียน
56) ครชู นื่ ชมใหก้ ำลงั ใจนักเรียนในการทำกิจกรรมในคาบทีผ่ ่านมา
57) ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันสนทนาสถานการณป์ ัจจบุ ัน เพอ่ื เช่ือมโยงเขา้ สูเ่ นอ้ื หา
ข้ันสำรวจและค้นหา (20 นาท)ี
58) ครูใช้คำถามชวนคิดจากภาพ โดยตั้งประเด็นคำถามว่า “เก้าอี้มีวิธีการสร้างและประกอบ
ช้ินงานอยา่ งไร”
แนวคำตอบ
1. ตัดเหล็กตามความยาวที่ออกแบบไว้ โดยใช้เครื่องมือสำหรับตัดเหล็ก เช่น เลื่อย
เหลก็
2. นำเหลก็ แตล่ ะชิน้ มาตอ่ เขา้ ด้วยกนั ตามท่ีออกแบบไว้ โดยใช้เครื่องเชือ่ มโลหะ
3. ตดั ไม้ตามขนาดทีอ่ อกแบบไว้ โดยใชเ้ ล่ือยวงเดือน
4. พนกั พิงหลงั แผ่นไม้มีลักษณะโคง้ และเหลก็ งอ โดยใชเ้ ครื่องมอื สำหรบั การข้นึ รูป”
59) จากนนั้ ครตู ้ังประเดน็ คำถามตอ่ ไปว่า “เราจะประกอบแผ่นไมเ้ ข้ากบั โครงการเกา้ อ้ีได้อย่างไร
แนวคำตอบ
1. เราตอ้ งเจาะรทู ี่โครงเหลก็ โดยใช้สวา่ น
2. ประกอบแผน่ ไม้เข้ากับโครงเหลก็ ด้วยสกรู และไขควง
ขัน้ อธบิ ายและลงขอ้ สรปุ (20 นาท)ี
60) ครนู ำเสนอสอื่ เพาเวอร์พอยต์ เรื่อง การตดั อธิยายพร้อมยกตัวอย่างเคร่ืองมือในการตัดเปน็
แนวตรงและการตดั เป็นแนวโคง้ จากน้ันให้นกั เรียนดคู ลิปวดิ โี อการตัดแบบแนวตรงและแนว
โค้ง
61) ครูนำเสนอส่อื เพาเวอรพ์ อยต์ เรอื่ ง การต่อ พร้อมยกตวั อยา่ งเทคนิคและเครอื่ งมอื การตอ่
วสั ดุ เช่น การต่อโลหะ การบัดกรี การเช่ือมโลหะ แล้วใหด้ ูตวั อยา่ งการตอ่ ชน้ิ งาน เช่น การ
ต่อบานพับประตู การเขา้ ไม้ พร้อมตวั อยา่ งการเข้าไมแ้ บบตา่ งๆ
62) ครูนำเสนอสื่อเพาเวอรพ์ อยต์ เรอื่ ง การขน้ึ รปู เช่น การข้ึนโลหะรปู แบบร้อนและการขน้ึ
รูปแบบเยน็ พรอ้ มยกตัวอย่าง
ข้นั ขยายความรู้ (30 นาท)ี
63) ให้นกั เรียนออกแบบอปุ กรณ์ในห้องน้ำสำหรับผู้สูงอายุ โดยบอกแนวคิดในการออกแบบ
พรอ้ มบอกขนาดและสัดส่วนของชิน้ งาน โดยนำเสนอผ่านกระดานระดมความคดิ เห็น
www.padlet.com ในหวั ขอ้ ต่อไปน้ี ชอ่ื ชิน้ งานที่ออกแบบ แนวคดิ ในการออกแบบ
ภาพรา่ งชิ้นงานช่อื ชน้ิ ส่วน วสั ดุทีใ่ ช้ เหตุผลในการเลอื กใช้วัสดุ เครอ่ื งมอื เทคนิคในการต่อ
ข้นั ประเมนิ (10 นาที)
18) ตรวจการทำแบบทดสอบหลังเรยี น
19) สังเกตพฤตกิ รรมการมสี ว่ นร่วม
20) มอบหมายใหน้ กั เรียนทำความสะอาดตามท่ีไดร้ ับมอบหมาย
10. สือ่ การเรยี นรู้/แหล่งการเรยี นรู้
1) หนงั สือเรียนการออกแบบและเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 4
2) ห้องเรยี นออนไลน์วิชา การออกแบบและเทคโนโลยี ใน Google Classroom
3) เว็บไซต์ https://proj14.ipst.ac.th/m4-6-dt/m4-dt/ คลปิ วิดีโอ เรือ่ ง การตัดต่อและการขึ้นรปู วัสดุ
4) พาวเวอรพ์ อยท์สรปุ เรอื่ ง การตดั ตอ่ และการขนึ้ รปู วัสดุ
5) แอปพลิเคชัน่ หรือเว็บไซต์เว็บไซต์
www.padlet.com https://wordwall.net https://wheelofnames.com/
หรือ https://www.mentimeter.com/
11. การวดั และประเมนิ ผล
รายการประเมนิ วธิ ีการประเมิน เครอ่ื งมอื การ เกณฑก์ ารประเมิน ผูป้ ระเมิน
ประเมิน ครผู ู้สอน
K: วเิ คราะหส์ มบัติของวสั ดุ เพ่ือ ทดสอบหลังเรียน ขอ้ สอบหลงั เรียน นกั เรยี นสามารถทำ ครูผสู้ อน
นำไปใชใ้ นการสรา้ งหรอื พัฒนา ข้อสอบผ่านเกณฑ์
ช้นิ งานไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง และ รอ้ ยละ 50 ข้ึนไป
เหมาะสม
K: วิเคราะหแ์ ละเลือกเครอ่ื งมอื
พ้ืนฐาน เพอ่ื นำไปใช้ในการสร้าง
หรอื พฒั นาชิน้ งานได้อย่าง
ถูกตอ้ ง เหมาะสม และปลอดภัย
A: คณุ ลักษณะ สงั เกต แบบสงั เกต นักเรียนไดร้ ะดบั
คณุ ภาพ พอใช้ ขึน้
1) มีวินัย ไป ถือว่าผ่าน
2) ใฝ่เรยี นรู้
เกณฑก์ ารประเมิน ระดับคุณภาพ/ระดบั คะแนน 0 (ปรับปรงุ )
3 (ดีมาก) 2 (ปานกลาง) 1 (น้อย) ทำข้อสอบไม่
ประเด็นการประเมิน ทำข้อสอบ ทำข้อสอบหลงั ทำขอ้ สอบหลัง ผา่ นเกณฑ์หรอื
หลังเรยี นผ่าน เรยี นผา่ นเกณฑ์ เรยี นผ่านเกณฑ์ ไมไ่ ด้สอบ
K: วิเคราะหส์ มบัตขิ องวัสดุ เพือ่ นำ เกณฑ์รอ้ ยละ รอ้ ยละ 60 ร้อยละ 50
ไปใชใ้ นการสรา้ งหรอื พัฒนาชิน้ งาน 70 ขึน้ ไป ปฏิบัติหรอื
ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง และเหมาะสม แสดง
K: วเิ คราะห์และเลอื กเคร่ืองมือ ปฏิบัตหิ รอื ปฏิบัตหิ รือแสดง ปฏบิ ัติหรือแสดง พฤตกิ รรมนอ้ ย
พนื้ ฐาน เพ่อื นำ ไปใชใ้ นการสร้าง แสดง ครง้ั หรอื ไม่
หรอื พฒั นาชิน้ งานไดอ้ ยา่ ง ถูกตอ้ ง พฤตกิ รรม พฤตกิ รรม พฤตกิ รรม ปฏิบตั ิเลย
เหมาะสม และปลอดภยั สมำ่ เสมอ
A: คุณลกั ษณะ บอ่ ยคร้งั บางอยา่ ง
1) มีวนิ ัย
2) ใฝ่เรยี นรู้
ลงชื่อ ครผู ้สู อน
(นางสาวเรวดี เกษตรเจริญ
ตำแหนง่ ครู ชำนาญการพเิ ศษ
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 7
รหสั วิชา ว31108 ชอ่ื วชิ า การออกแบบและเทคโนโลยี สาระการเรยี นรพู้ น้ื ฐาน
หนว่ ยที่ 2 เรอื่ ง ความรู้และทักษะเฉพาะด้าน เวลาเรียนรวม 12 คาบ
แผนการสอนท่ี 7 เร่ือง กลไก เวลาเรยี น 2 คาบ
ครผู สู้ อน นางสาวเรวดี เกษตรเจริญ ตำแหนง่ ครูชำนาญการพเิ ศษ โรงเรียนสตรยี ะลา
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชว้ี ัด
สาระที่ 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.1 เขา้ ใจแนวคดิ หลกั ของเทคโนโลยเี พอื่ การดำรงชีวิตในสงั คมทีม่ ีการเปลี่ยนแปลงอยา่ งรวดเรว็ ใชค้ วามรู้
และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนางาน อย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วย
กระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยอี ย่างเหมาะสมโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อชวี ติ สังคม และส่ิงแวดล้อม
ตัวชี้วัด ม.4/5 ใช้ความรู้และทักษะเกี่ยวกับวัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือ กลไก ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และเทคโนโลยีท่ี
ซับซอ้ นในการแกป้ ัญหาหรือพัฒนางานได้อยา่ งถกู ต้อง เหมาะสม และปลอดภยั
2. สาระการเรียนรู้
1) การสรา้ งชน้ิ งานอาจใช้ความรู้ เร่ืองกลไก ไฟฟา้ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ เช่น LDR sensor เฟอื ง รอก คาน วงจรสำเร็จรปู
2) อุปกรณ์และเครื่องมือในการสร้างชิ้นงานหรือพัฒนาวิธีการมีหลายประเภท ต้องเลือกใช้ให้ถูกต้อง เหมาะสม และ
ปลอดภัย รวมทงั้ รจู้ ักเกบ็ รักษา
3 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
K: วเิ คราะห์กลไกและการทำงานของอุปกรณไ์ ฟฟา้ และอิเล็กทรอนิกส์
K: ออกแบบวธิ กี ารแก้ปัญหาหรอื พัฒนางาน โดยประยุกต์ใชค้ วามรเู้ ก่ียวกบั กลไก อุปกรณ์ไฟฟ้า และอปุ กรณ์
อเิ ลก็ ทรอนิกส์ได้อยา่ งถูกตอ้ ง และปลอดภยั
4. คณุ ลักษณะผเู้ รยี น
ดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์
13) มีวนิ ยั
14) ใฝเ่ รียนรู้
ด้านการอา่ น คิดวิเคราะห์ เขียน
การอ่าน : สามารถวเิ คราะหส์ ่ิงท่ีผู้เขียนตอ้ งการส่อื สารกบั ผอู้ ่าน และสามารถวพิ ากษ์ ให้
ข้อเสนอแนะในแง่มมุ ตา่ ง ๆ
ดา้ นสมรรถนะสำคัญ
1) ความสามารถในการส่ือสาร
2) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
ด้านทักษะและกระบวนการท่ีเป็นจุดเนน้
1) ทกั ษะการคดิ เชิงระบบ
2) ทักษะการคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ
3) ทกั ษะการคิดสรา้ งสรรค์
4) ทกั ษะการทำงานรว่ มกบั ผอู้ ืน่
5. ความรเู้ ดิมทนี่ ักเรียนต้องมี
ผู้เรียนมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับกลไกการทำงานของล้อและเพลา รอก คาน โดยกลไกพื้นฐานเหล่านี้ สามารถนำมา
ประยกุ ต์ใช้ในการสรา้ งสรรค์ชน้ิ งาน รวมทง้ั มคี วามรู้ด้านอปุ กรณ์ไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ท่ีใช้ เช่น มอเตอร์ LED บัซเซอร์
6. สาระสำคญั
กลไก อปุ กรณ์ไฟฟา้ และอเิ ล็กทรอนิกส์ เปน็ องค์ประกอบสำคัญทชี่ ว่ ยให้การทำงานของสิง่ ของเคร่ืองใชใ้ นชวี ิตประจำวนั
ของมนุษย์ให้มีประสิทธิภาพ หรือช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงาน หากสังเกตสิ่งของเครื่องใช้รอบตัว จะพบว่าสิ่งของ
เครื่องใช้เหล่านี้ได้รับการพัฒนาจนมีระบบการทำงานที่ซับซอ้ น และยังมีการใช้อปุ กรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์มาช่วยในการ
ทำงานใหเ้ ป็นระบบอตั โนมตั ิเพือ่ ตอบสนองความต้องการของมนุษย์ให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งข้นึ
7. หวั ข้อการเรยี นรู้
1) เฟอื ง
2) รอก
8. ภาระงาน/ช้นิ งาน
กจิ กรรมระดมความคิดเหน็
9. กิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นสรา้ งความสนใจ (10 นาที)
64) ครกู ล่าวทักทาย ตรวจสอบรายชอ่ื นกั เรียนและเช็คจำนวนนักเรยี น
65) ครูชื่นชมใหก้ ำลังใจนักเรียนในการทำกจิ กรรมในคาบท่ผี ่านมา
66) ครูและนกั เรียนรว่ มกันสนทนาสถานการณ์ปจั จุบัน เพื่อเชือ่ มโยงเข้าส่เู นือ้ หา
ขั้นสำรวจและค้นหา (20 นาที)
67) ครูกระตุ้นความสนใจของนักเรียนโดยการเปิดคลิปวีดิทัศน์เกี่ยวกับโดรนขนส่งเวชภัณฑ์
หรือขาเทียมอัจฉริยะ แล้วให้นักเรียนรว่ มกันอภิปรายเกี่ยวกับระบบการทำงาน กลไกและ
การใชอ้ ุปกรณ์ไฟฟ้า อเิ ลก็ ทรอนิกสใ์ นการสร้างหรือพัฒนาเทคโนโลยนี นั้ โดยใชค้ ำถาม ชวน
คิด “นักเรียนช่วยกันระดมความคิด เกี่ยวกับระบบการทำงานและการประยุกตใ์ ช้อุปกรณ์
ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการสร้างโดรน ขนส่งเวชภัณฑ์ หรือขาเทียมอัจฉริยะ
เพ่ือช่วยอำนวยความสะดวกในการดำรงชีวิตของมนุษย”์
แนวคำตอบ
อากาศยานไร้คนขบั หรือโดรน (drone) เปน็ ส่ิงประดิษฐ์ชนิดหนงึ่ ทเี่ รม่ิ มีการนำ มาใช้
ประโยชน์หลายอย่าง เช่น ความบันเทงิ การรักษาความปลอดภัยและความม่นั คง
การเกษตร การสำรวจ ซ่งึ การประดษิ ฐ์อากาศยานไรค้ นขบั ตอ้ งใชค้ วามรู้และทักษะหลาย
ด้าน ทงั้ ระบบการขับเคลอ่ื น การควบคมุ ทศิ ทาง การสง่ สัญญาณ ซง่ึ การสรา้ งหรือพฒั นา
ระบบเหล่านี้ จำเป็นตอ้ งมีความรู้เก่ียวกับกลไก ไฟฟา้ และอิเล็กทรอนกิ ส์ รวมถงึ ทักษะ
ทางด้านวิศวกรรม นอกจากนี้การเลอื กใช้วัสดุ อุปกรณ์และเครือ่ งมอื ในการสรา้ งโดรนต้อง
มีความเหมาะสมต่อการใชง้ าน มีประสิทธิภาพ รวมทง้ั ไมเ่ ปน็ อนั ตรายต่อผใู้ ช้
ขนั้ อธบิ ายและลงข้อสรุป (20 นาที)
68) ใหน้ ักเรยี นศกึ ษาเนอ้ื หาเกี่ยวกบั กลไกพื้นฐาน เรื่อง เฟือง และรอก ในหนงั สอื เรยี น หรอื
อาจศึกษาเพ่ิมเตมิ จากสอื่ ออนไลน์ แลว้ สรปุ แนวคิดสำคญั เพอ่ื อภิปรายแลกเปลี่ยนเรยี นรใู้ ห้
ได้ข้อสรุป เกี่ยวกับกลไกพ้ืนฐาน เรือ่ ง เฟอื งและรอก ในประเดน็ ดงั นี้
- ประเภทของเฟอื งและรอก
- หลกั การทำงาน
- การประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ ประจำวัน
ขั้นขยายความรู้ (30 นาท)ี
69) ครใู ชค้ ำถามเพ่ือกระต้นุ ให้นักเรียนคดิ วธิ กี ารในการแกป้ ัญหากรณีท่ีอปุ กรณท์ ่ีต้องการใชใ้ น
การทำงานไม่สามารถทำงานได้ โดยใช้คำถามชวนคิด “ถ้านักเรยี นไมส่ ามารถหารอก
สำเรจ็ รูปมาใช้งานได้ นกั เรยี นสามารถนำอปุ กรณ์ใดบา้ งมาทดแทนหรอื ประยกุ ตใ์ ช้ และ
อุปกรณ์ทดแทนนนั้ จะถกู ใชง้ านอยา่ งไร”
แนวคำตอบ
โครงล้อรถจกั รยานหรอื หลอดด้าย กระปอ๋ งโลหะทรงกระบอกที่แขง็ แรง เชน่ กระปอ๋ งสที า
บา้ น สามารถใช้ทดแทนรอกได้ โดยการนำอุปกรณด์ งั กลา่ วใช้แทนรอกในการขนสง่ สง่ิ ของ
ในแนวดง่ิ
70) ใหน้ ักเรยี นสำรวจสิง่ ตา่ งๆ รอบตัว เช่น พดั ลม ลฟิ ต์ รถยนต์ แลว้ วิเคราะหว์ า่ สง่ิ เหล่าน้นั มี
การใช้กลไกอะไรบา้ งเป็นส่วนประกอบในการทำงาน เพราะอะไร ผา่ นกระดานระดม
ความคิด www.padlet.com
แนวคำตอบ
ข้ันประเมิน (10 นาที)
21) ตรวจการทำแบบทดสอบหลงั เรียน
22) สังเกตพฤตกิ รรมการมสี ว่ นรว่ ม
23) มอบหมายให้นกั เรยี นทำความสะอาดตามท่ไี ด้รับมอบหมาย
10. สื่อการเรยี นรู้/แหลง่ การเรยี นรู้
1) หนงั สอื เรยี นการออกแบบและเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 4
2) ห้องเรียนออนไลน์วิชา การออกแบบและเทคโนโลยี ใน Google Classroom
3) เวบ็ ไซต์ https://proj14.ipst.ac.th/m4-6-dt/m4-dt/ คลิปวดิ ีโอ เรื่อง กลไก
4) พาวเวอรพ์ อยท์สรปุ เรื่อง กลไก
5) แอปพลเิ คชั่น หรอื เว็บไซต์เว็บไซต์
www.padlet.com https://wordwall.net https://wheelofnames.com/
หรอื https://www.mentimeter.com/
11. การวดั และประเมนิ ผล วิธีการประเมิน เครอ่ื งมือการประเมิน เกณฑ์การประเมิน ผู้ประเมนิ
ทดสอบหลัง ขอ้ สอบหลงั เรียน นกั เรยี นสามารถทำ ครผู สู้ อน
รายการประเมิน เรียน ข้อสอบผ่านเกณฑ์
K: วเิ คราะห์กลไกและการ ครูผ้สู อน
ทำงานของอปุ กรณ์ไฟฟา้ ร้อยละ 50 ขึ้นไป
และอเิ ลก็ ทรอนิกส์
K: ออกแบบวธิ กี าร สงั เกต แบบสังเกต นกั เรียนไดร้ ะดับ
แก้ปญั หาหรือพฒั นางาน คุณภาพ พอใช้ ขึน้
โดยประยกุ ต์ใช้ความรู้ ไป ถือวา่ ผา่ น
เกย่ี วกบั กลไก อปุ กรณไ์ ฟฟ้า
และอปุ กรณ์อิเลก็ ทรอนิกส์
ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง และ
ปลอดภัย
A: คณุ ลกั ษณะ
1) มีวนิ ัย
2) ใฝ่เรยี นรู้
เกณฑ์การประเมิน ระดบั คุณภาพ/ระดบั คะแนน
ประเด็นการประเมนิ 3 (ดีมาก) 2 (ปานกลาง) 1 (น้อย) 0 (ปรับปรุง)
ทำขอ้ สอบหลงั ทำข้อสอบไม่
K: วเิ คราะห์กลไกและการ เรยี นผ่านเกณฑ์ ทำข้อสอบหลัง ทำขอ้ สอบหลัง ผา่ นเกณฑห์ รือ
ทำงานของอปุ กรณไ์ ฟฟา้ และ ร้อยละ 70 ข้นึ ไม่ไดส้ อบ
อิเลก็ ทรอนิกส์ ไป เรียนผ่านเกณฑ์ เรยี นผา่ นเกณฑ์
รอ้ ยละ 60 รอ้ ยละ 50
ประเดน็ การประเมนิ 3 (ดีมาก) ระดบั คณุ ภาพ/ระดับคะแนน 0 (ปรับปรงุ )
2 (ปานกลาง) 1 (น้อย)
ปฏิบตั ิหรือ
K: ออกแบบวิธกี ารแกป้ ัญหา แสดง
พฤติกรรมนอ้ ย
หรือพฒั นางาน โดยประยุกต์ใช้ ครัง้ หรือไม่
ปฏบิ ตั ิเลย
ความรู้เก่ียวกบั กลไก อุปกรณ์
ไฟฟา้ และอปุ กรณ์
อิเลก็ ทรอนิกส์ไดอ้ ย่างถูกต้อง
และปลอดภัย
A: คุณลกั ษณะ ปฏบิ ัติหรอื แสดง ปฏิบัตหิ รอื แสดง ปฏิบัตหิ รือแสดง
1) มีวนิ ยั พฤติกรรม พฤติกรรม พฤตกิ รรม
2) ใฝ่เรียนรู้ สมำ่ เสมอ บอ่ ยคร้ัง บางอย่าง
ลงช่อื ครูผู้สอน
(นางสาวเรวดี เกษตรเจริญ
ตำแหน่ง ครู ชำนาญการพเิ ศษ
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 8
รหสั วชิ า ว31108 ชอื่ วชิ า การออกแบบและเทคโนโลยี สาระการเรยี นรพู้ นื้ ฐาน
หนว่ ยท่ี 2 เรอื่ ง ความร้แู ละทกั ษะเฉพาะดา้ น เวลาเรยี นรวม 10 คาบ
แผนการสอนที่ 8 เรอ่ื ง อปุ กรณ์ไฟฟา้ และอเิ ล็กทรอนิกส์ เวลาเรียน 2 คาบ
ครผู ู้สอน นางสาวเรวดี เกษตรเจรญิ ตำแหน่ง ครชู ำนาญการพเิ ศษ โรงเรียนสตรียะลา
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ช้วี ดั
สาระท่ี 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคดิ หลกั ของเทคโนโลยเี พือ่ การดำรงชีวิตในสังคมท่มี ีการเปลีย่ นแปลงอยา่ งรวดเรว็ ใช้ความรู้
และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนางาน อย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วย
กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใชเ้ ทคโนโลยอี ยา่ งเหมาะสมโดยคำนงึ ถึงผลกระทบตอ่ ชวี ติ สังคม และส่งิ แวดล้อม
ตัวชี้วัด ม.4/5 ใช้ความรูแ้ ละทักษะเกี่ยวกับวัสดุอุปกรณ์ เครื่องมอื กลไก ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และเทคโนโลยีท่ี
ซบั ซ้อนในการแกป้ ัญหาหรอื พัฒนางานได้อย่างถูกตอ้ ง เหมาะสม และปลอดภยั
2. สาระการเรยี นรู้
1) การสรา้ งช้ินงานอาจใช้ความรู้ เรือ่ งกลไก ไฟฟ้า อิเล็กทรอนกิ ส์ เช่น LDR sensor เฟอื ง รอก คาน วงจรสำเรจ็ รปู
2) อุปกรณ์และเครื่องมือในการสร้างชิ้นงานหรือพัฒนาวิธีการมีหลายประเภท ต้องเลือกใช้ให้ถูกต้อง เหมาะสม และ
ปลอดภยั รวมท้ังรูจ้ กั เก็บรักษา
3 จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
K: วเิ คราะหก์ ลไกและการทำงานของอปุ กรณไ์ ฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
K: ออกแบบวธิ กี ารแกป้ ญั หาหรอื พัฒนางาน โดยประยุกต์ใช้ความรเู้ กยี่ วกับกลไก อุปกรณ์ไฟฟา้ และอปุ กรณ์
อเิ ลก็ ทรอนิกสไ์ ด้อย่างถูกตอ้ ง และปลอดภัย
4. คุณลกั ษณะผเู้ รียน
ดา้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์
1) มีวินยั
2) ใฝ่เรยี นรู้
ด้านการอา่ น คิดวิเคราะห์ เขียน
การอ่าน : สามารถวเิ คราะหส์ ิ่งทีผ่ ู้เขยี นต้องการสือ่ สารกบั ผูอ้ า่ น และสามารถวพิ ากษ์ ให้
ขอ้ เสนอแนะในแงม่ มุ ต่าง ๆ
ด้านสมรรถนะสำคญั
1) ความสามารถในการสอื่ สาร
2) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
ด้านทกั ษะและกระบวนการทเ่ี ปน็ จดุ เนน้
5) ทักษะการคดิ เชงิ ระบบ
6) ทักษะการคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณ
7) ทกั ษะการคิดสรา้ งสรรค์
8) ทกั ษะการทำงานรว่ มกบั ผอู้ ่ืน
5. สาระสำคัญ
ปัจจุบันเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น โทรทัศน์ หม้อหุงข้าว เคื่องซักผ้า เตาไมโครเวฟ
มีส่วนประกอบของอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์หลายอยางทำงานร่วมกัน อีกทั้งการทำงานของเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าเหล่านี้ ต้อง
อาศัยการทำงานของเซ็นเซอร์ (Sensor) แผงควบคุมขนาดเลก็ (Microcontroller Board) และเคร่ืองจกั กลไฟฟา้ เชน่ มอเตอร์ อุปกรณ์
ไฟฟา้ และอิเล็กทรอนิกส์ทำงานร่วมกนั ตัวอยา่ งอุปกรณไ์ ฟฟา้ และเซ็นเซอร์
6. สาระการเรียนรู้
1) มอเตอร์
2) อปุ กรณอ์ ิเล็กทรอนกิ ส์
3) เซน็ เซอร์
6. ภาระงาน/ชน้ิ งาน
ระดมความคิดเห็น
7. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้ันสร้างความสนใจ (10 นาที)
71) ครูกล่าวทักทาย ตรวจสอบรายช่อื นกั เรยี นและเช็คจำนวนนักเรยี น
72) ครชู ่ืนชมให้กำลงั ใจนกั เรียนในการทำกิจกรรมในคาบทีผ่ ่านมา
73) ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาสถานการณ์ปจั จบุ ัน เพือ่ เชอื่ มโยงเขา้ สเู่ นอ้ื หา
ขนั้ สำรวจและค้นหา (20 นาท)ี
74) ให้นักเรียนยกตัวอย่างอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์คนละ 1 ประเภท ที่ใช้ใน
ชีวิตประจำวนั
75) ใหน้ ักเรยี นศกึ ษาเนอ้ื หาเก่ยี วกบั อุปกรณไ์ ฟฟ้า และอิเล็กทรอนกิ ส์ ในหนงั สือเรยี น หรอื อาจ
ศึกษาเพิ่มเติมจากสื่อห้องเรียนออนไลน์ แล้วสรุปแนวคิดสำคัญ เพื่ออภิปรายแลกเปลี่ยน
เรียนรู้ใหไ้ ดข้ ้อสรุปเกีย่ วกบั อปุ กรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนกิ ส์ ในประเด็น ดังน้ี
- หลักการทำงานของอุปกรณไ์ ฟฟา้ และอิเลก็ ทรอนิกส์แตล่ ะชนิด
- การนำไปใช้งานในชวี ิตประจำวนั
ขน้ั อธบิ ายและลงข้อสรุป (20 นาที)
76) ครนู ำเสนอสอ่ื เพาวเวอรพ์ อยต์ เรื่อง อุปกรณไ์ ฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนิกส์ พรอ้ มอธบิ ายและ
ยกตัวอย่าง
77) ให้นักเรยี นยกตัวอย่างประสบการณ์ดา้ นเครอื่ งใช้ไฟฟ้าทปี่ ระกอบดว้ ยมอเตอร์ อุปกรณ์
อิเล็กทรอนกิ ส์ และเซ็นเซอร์ทมี่ ีอยใู่ นเครื่องใชไ้ ฟฟา้ ต่างๆ
ข้ันขยายความรู้ (30 นาท)ี
78) ใหน้ กั เรยี นสืบค้นหารปู ภาพอุปกรณ์ไฟฟา้ คนละ 1 ประเภท พรอ้ มอธบิ ายหลักการแลว้
วเิ คราะหอ์ ุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์ในสิ่งของเคร่อื งใช้ โดยระดมความคิดทางเวบ็ ไซต์
www.padlet.com ในหวั ข้อตอ่ ไปน้ี
- ชื่อเครือ่ งใช้ไฟฟา้
- อปุ กรณ์ไฟฟา้ และอเิ ล็กทรอนกิ สท์ ่ีใช้ในเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้า
- ความสัมพนั ธ์ของการทำงานกบั อุปกรณไ์ ฟฟา้ และอิเล็กทรอนิกส์
- ตัวอย่างการทำงานทีผ่ ิดพลาดของอุปกรณไ์ ฟฟา้ และอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์
แนวคำตอบ
1 เครือ่ งใช้ไฟฟา้ ทเ่ี ลือก คอื เครื่องซักผา้
2. อปุ กรณ์ไฟฟา้ และอเิ ล็กทรอนกิ สท์ ใ่ี ชใ้ นเครอ่ื งใช้ไฟฟา้ เครื่องซักผ้ามีองค์ประกอบ
หลายส่วนทำงานรว่ มกัน โดยมีองค์ประกอบหลัก เช่น ระบบเปดิ ปิดน้ำ มอเตอร์
สายพาน ระบบควบคมุ เวลา
3. ความสัมพันธข์ องการทำงานอปุ กรณไ์ ฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ระบบควบคมุ การเปดิ
ปิดน้ำ ทำหน้าท่ีในการควบคมุ การจา่ ยนำ้ เข้าสูต่ ัวเคร่ือง มอเตอร์ทำหนา้ ทใี่ ห้ตัวเคร่อื ง
สามารถหมุนปั่นผ้าเพ่อื การซกั และปน่ั ผา้ ให้เปียกน้ำน้อยลง สายพานทำหนา้ ท่เี ปน็
อุปกรณส์ ่งผ่านแรงระหว่างมอเตอรแ์ ต่ละตัว ระบบควบคมุ เวลาช่วยกำหนดระยะเวลาท่ี
ต้องการซักผ้าใหไ้ ด้ตามทผี่ ้ใู ชต้ ้องการ การทำงานของกลไกและอปุ กรณ์ตา่ ง ๆ ของ
เครื่องซักผ้าขา้ งต้นมคี วามสัมพนั ธก์ ัน เชน่ ระบบควบคุมการเปิดปดิ นำ้ จะเกีย่ วข้องกบั
ระยะเวลาท่คี วบคมุ การทำงานทต่ี ้ังค่าไว้ และยังสง่ ผลตอ่ ระยะเวลาการทำงานของ
มอเตอร์ด้วย
4. ตัวอย่างการทำงานผิดพลาดของอุปกรณไ์ ฟฟ้าและอเิ ล็กทรอนกิ ส์ หากการทำงาน
ของกลไกและอุปกรณ์ในเครือ่ งซกั ผ้าชน้ิ ใดเกดิ ทำงานผิดพลาดหรือเสยี หาย จะทำให้
ระบบการทำงานของเคร่ืองผิดพลาดได้ด้วย เชน่ หากมอเตอร์เสยี หายย่อมสง่ ผลต่อการ
หมนุ ปน่ั ผ้าของเคร่อื ง ทำให้ไมส่ ามารถซกั ผ้าไดต้ ามต้องการ หรือระบบการควบคุมการ
จ่ายน้ำเสียหายจะทำให้ไมส่ ามารถส่งน้ำเข้าออกตวั เครือ่ งได้
ขนั้ ประเมิน (10 นาที)
79) ตรวจการทำแบบทดสอบหลังเรียน
80) สงั เกตพฤตกิ รรมการมีสว่ นร่วม
81) มอบหมายให้นกั เรยี นทำความสะอาดตามท่ไี ด้รบั มอบหมาย
10. สื่อการเรยี นรู้/แหล่งการเรียนรู้
1) หนังสือเรยี นการออกแบบและเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4
2) หอ้ งเรยี นออนไลน์วิชา การออกแบบและเทคโนโลยี ใน Google Classroom
3) เวบ็ ไซต์ https://proj14.ipst.ac.th/m4-6-dt/m4-dt/ คลิปวิดโี อ เรอื่ ง อปุ กรณ์ไฟฟา้ และอเิ ล็กทรอนิกส์
4) พาวเวอรพ์ อยท์สรุป เรอื่ ง อุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนกิ ส์
5) แอปพลเิ คชัน่ หรอื เว็บไซต์เวบ็ ไซต์
www.padlet.com https://wordwall.net https://wheelofnames.com/
หรือ https://www.mentimeter.com/
11. การวดั และประเมินผล วธิ ีการประเมนิ เครอ่ื งมือการประเมนิ เกณฑก์ ารประเมิน ผปู้ ระเมนิ
ครผู ู้สอน
รายการประเมนิ ทดสอบหลัง ข้อสอบหลงั เรยี น เร่ือง นักเรียนสามารถทำ
K: วิเคราะหก์ ลไกและการ ครูผู้สอน
ทำงานของอุปกรณไ์ ฟฟา้ เรยี น เรอ่ื ง เคร่ืองมอื พ้นื ฐาน ขอ้ สอบผ่านเกณฑ์
และอเิ ลก็ ทรอนิกส์
K: ออกแบบวิธีการ เครอื่ งมอื ร้อยละ 50 ข้นึ ไป
แก้ปัญหาหรือพฒั นางาน
โดยประยุกต์ใช้ความรู้ พ้นื ฐาน
เกย่ี วกบั กลไก อุปกรณไ์ ฟฟา้
และอปุ กรณอ์ ิเลก็ ทรอนกิ ส์ สังเกต แบบสังเกต นักเรียนได้ระดบั
ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง และ คุณภาพ พอใช้ ขน้ึ
ปลอดภัย ไป ถือวา่ ผ่าน
A: คุณลกั ษณะ
1) มวี ินัย
2) ใฝ่เรียนรู้
เกณฑ์การประเมนิ
ประเด็นการประเมนิ ระดบั คุณภาพ/ระดบั คะแนน
3 (ดีมาก) 2 (ปานกลาง) 1 (นอ้ ย) 0 (ปรบั ปรงุ )
ทำข้อสอบไม่
K: วิเคราะหก์ ลไกและการ ทำขอ้ สอบหลงั ทำขอ้ สอบหลัง ทำข้อสอบหลงั ผา่ นเกณฑห์ รือ
ไม่ไดส้ อบ
ทำงานของอปุ กรณไ์ ฟฟ้าและ เรยี นผ่านเกณฑ์ เรยี นผ่านเกณฑ์ เรียนผ่านเกณฑ์
ปฏบิ ตั ิหรือ
อิเลก็ ทรอนกิ ส์ ร้อยละ 70 ขึ้นไป รอ้ ยละ 60 ร้อยละ 50 แสดง
พฤติกรรมน้อย
K: ออกแบบวิธีการแกป้ ัญหา
หรือพัฒนางาน โดยประยกุ ตใ์ ช้
ความรเู้ กยี่ วกับกลไก อุปกรณ์
ไฟฟา้ และอปุ กรณ์
อเิ ลก็ ทรอนิกสไ์ ดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
และปลอดภยั
A: คณุ ลกั ษณะ ปฏบิ ตั ิหรือแสดง ปฏิบัตหิ รือแสดง ปฏบิ ัติหรอื แสดง
1) มีวนิ ัย พฤตกิ รรม พฤตกิ รรม พฤตกิ รรม
2) ใฝ่เรยี นรู้ สม่ำเสมอ บ่อยครั้ง บางอยา่ ง
ประเดน็ การประเมนิ 3 (ดมี าก) ระดับคุณภาพ/ระดบั คะแนน 0 (ปรบั ปรงุ )
2 (ปานกลาง) 1 (น้อย) ครัง้ หรือไม่
ปฏิบัติเลย
ลงชอื่ ครูผูส้ อน
(นางสาวเรวดี เกษตรเจริญ
ตำแหน่ง ครู ชำนาญการพิเศษ
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 9
รหสั วชิ า ว31108 ชือ่ วิชา การออกแบบและเทคโนโลยี สาระการเรยี นรู้พน้ื ฐาน
หนว่ ยที่ 2 เรอ่ื ง ความรูแ้ ละทักษะพน้ื ฐานเฉพาะด้าน เวลาเรยี นรวม 12 คาบ
แผนการสอนท่ี 9 เรือ่ ง แผงควบคมุ ขนาดเลก็ เวลาเรียน 2 คาบ
ครผู สู้ อน นางสาวเรวดี เกษตรเจรญิ ตำแหนง่ ครูชำนาญการพเิ ศษ โรงเรียนสตรยี ะลา
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวช้วี ัด
สาระที่ 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคดิ หลักของเทคโนโลยีเพอื่ การดำรงชีวติ ในสังคมที่มีการเปลยี่ นแปลงอยา่ งรวดเร็ว ใช้ความรู้
และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนางาน อย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วย
กระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม เลอื กใช้เทคโนโลยีอยา่ งเหมาะสมโดยคำนึงถงึ ผลกระทบตอ่ ชวี ติ สงั คม และส่งิ แวดล้อม
ตัวชี้วัด ม.4/5 ใช้ความรู้และทักษะเกี่ยวกับวัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือ กลไก ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และเทคโนโลยีที่
ซบั ซอ้ นในการแก้ปญั หาหรือพัฒนางานได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม และปลอดภัย
2. สาระสำคญั
1) การสร้างช้นิ งานอาจใช้ความรู้ เรือ่ งกลไก ไฟฟา้ อเิ ล็กทรอนิกส์ เช่น LDR sensor เฟือง รอก คาน วงจรสำเร็จรูป
2) อุปกรณ์และเครื่องมือในการสร้างช้ินงานหรือพัฒนาวิธีการมีหลายประเภท ต้องเลือกใช้ให้ถูกต้อง เหมาะสม และ
ปลอดภยั รวมทง้ั รูจ้ กั เก็บรักษา
3 จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
K: วเิ คราะหก์ ลไกและการทำงานของอุปกรณไ์ ฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนกิ ส์
K: ออกแบบวิธีการแก้ปัญหาหรอื พฒั นางาน โดยประยกุ ต์ใช้ความรเู้ กยี่ วกับกลไก อปุ กรณไ์ ฟฟา้ และอปุ กรณ์
อเิ ลก็ ทรอนกิ สไ์ ดอ้ ย่างถูกต้องและปลอดภยั
4. คุณลักษณะผ้เู รียน
ดา้ นคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
15) มีวนิ ยั
16) ใฝ่เรยี นรู้
ด้านการอา่ น คดิ วเิ คราะห์ เขยี น
การอา่ น : สามารถวิเคราะห์สิ่งทีผ่ เู้ ขียนต้องการส่ือสารกบั ผอู้ ่าน และสามารถวิพากษ์ ให้
ข้อเสนอแนะในแง่มมุ ต่าง ๆ
ด้านสมรรถนะสำคัญ
1) ความสามารถในการส่อื สาร
2) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
ดา้ นทกั ษะและกระบวนการที่เปน็ จดุ เน้น
9) ทักษะการคิดเชิงระบบ
10) ทกั ษะการคิดอย่างมวี จิ ารณญาณ
11) ทกั ษะการคิดสรา้ งสรรค์
12) ทักษะการทำงานรว่ มกบั ผอู้ นื่
5. ความรู้เดมิ ทน่ี กั เรยี นต้องมี
ผู้เรียนมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับกลไกการทำงานของล้อและเพลา รอก คาน โดยกลไกพื้นฐานเหล่าน้ี สามารถนำมา
ประยุกต์ใชใ้ นการสรา้ งสรรคช์ นิ้ งาน รวมทั้งมีความรดู้ ้านอปุ กรณไ์ ฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ท่ีใช้ เช่น มอเตอร์ LED บซั เซอร์
6. สาระสำคญั
แผงควบคมุ ขนาดเล็ก หรือที่เรียกว่า ไมโครคอนโทรลเลอร์ (Microcontroller Board) ซึ่งบรรจุความสามารถท่คี ล้ายคลึง
กับระบบคอมพวิ เตอร์ โดยในไมโครคอนโทรลเลอร์ได้รวมเอา ซพี ียู, หน่วยความจำ และ
พอร์ต ซง่ึ เปน็ ส่วนประกอบหลกั สำคัญของระบบคอมพวิ เตอรเ์ ขา้ ไว้ดว้ ยกนั โดยทำการบรรจุเข้าไวใ้ นตัวถังเดยี วกัน
7. หัวขอ้ การเรยี นรู้
1) ประเภทของแผงควบคมุ ขนาดเล็ก
2) ตัวอยา่ งการนำไปประยกุ ตใ์ ช้งาน
8. ภาระงาน/ชิ้นงาน
1) กจิ กรรมระดมความคดิ เห็น
2) ทดสอบหลังเรยี น
9. กิจกรรมการเรียนรู้
ขน้ั สร้างความสนใจ (10 นาที)
82) ครกู ลา่ วทักทาย ตรวจสอบรายชือ่ นกั เรียนและเช็คจำนวนนกั เรยี น
83) ครูชน่ื ชมให้กำลังใจนักเรยี นในการทำกจิ กรรมในคาบทผ่ี ่านมา
84) ครูและนกั เรยี นร่วมกันสนทนาสถานการณ์ปจั จุบัน เพอ่ื เช่ือมโยงเข้าสเู่ นอ้ื หา
ขั้นสำรวจและคน้ หา (20 นาท)ี
85) ครูยกตวั อยา่ งแผงควบคุมขนาดเล็ก เชน่ โดรน หรอื โครงงาน
ขัน้ อธบิ ายและลงขอ้ สรปุ (20 นาท)ี
86) ครนู ำเสนอส่ือเพาวเวอร์พอยต์ เรอ่ื ง แผงควบคุมขนาดเลก็ พร้อมอธิบายและยกตัวอยา่ ง
IPST MicroboxSE และ kidbright
87) ให้นักเรยี นค้นหาแผงควบคมุ ขนาดเลก็ แบบอน่ื ๆ นอกเหนอื จากตัวอย่างทีค่ รูยกมา
ขน้ั ขยายความรู้ (30 นาที)
88) ครใู หน้ กั เรยี นสบื คน้ หาโครงงานที่ใชแ้ ผงควบคุมขนาดเล็ก โดยตอบประเดน็ คำถามตอ่ ไปน้ี
ผ่านเวบ็ ไซต์ www.padlet.com
- ชอ่ื โครงงาน
- ลกั ษณะการทำงานของโครงงาน
- ประโยชนข์ องโครงงาน
- แผงควบคมุ ขนาดเลก็ ที่ใช้ในโครงงาน
ขั้นประเมิน (10 นาท)ี
89) ตรวจการทำแบบทดสอบหลังเรยี น
90) สงั เกตพฤติกรรมการมสี ่วนรว่ ม
91) มอบหมายใหน้ กั เรยี นทำความสะอาดตามที่ได้รับมอบหมาย
10. ส่อื การเรียนร้/ู แหลง่ การเรยี นรู้
1) หนังสอื เรยี นการออกแบบและเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4
2) หอ้ งเรยี นออนไลน์วิชา การออกแบบและเทคโนโลยี ใน Google Classroom
3) เวบ็ ไซต์ https://proj14.ipst.ac.th/m4-6-dt/m4-dt/ คลปิ วิดโี อ เร่อื ง แผงควบคุมขนาดเล็ก
4) พาวเวอรพ์ อยทส์ รปุ เรื่อง แผงควบคุมขนาดเลก็
5) แอปพลเิ คชัน่ หรอื เว็บไซต์เวบ็ ไซต์
www.padlet.com https://wordwall.net https://wheelofnames.com/
หรือ https://www.mentimeter.com/
11. การวดั และประเมนิ ผล
รายการประเมนิ วิธกี ารประเมนิ เคร่อื งมือการ เกณฑก์ ารประเมิน ผู้ประเมิน
ประเมนิ ครผู ู้สอน
นกั เรยี นสามารถทำ
K: วิเคราะหก์ ลไกและการ ทดสอบหลัง ข้อสอบหลังเรียน ขอ้ สอบผ่านเกณฑ์
รอ้ ยละ 50 ขึ้นไป
ทำงานของอปุ กรณ์ไฟฟ้าและ เรยี น เรอ่ื ง
อิเลก็ ทรอนกิ ส์
K: ออกแบบวิธกี ารแกป้ ัญหา
หรือพัฒนางาน โดยประยกุ ตใ์ ช้
ความรู้เกยี่ วกบั กลไก อปุ กรณ์
ไฟฟ้า และอปุ กรณอ์ ิเล็กทรอนกิ ส์
ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง และปลอดภยั
รายการประเมนิ วธิ ีการประเมิน เครือ่ งมือการ เกณฑ์การประเมนิ ผู้ประเมิน
ประเมิน
A: คุณลกั ษณะ
1) มีวินยั สงั เกต แบบสังเกต นกั เรียนไดร้ ะดบั ครูผู้สอน
2) ใฝ่เรยี นรู้ คุณภาพ พอใช้ ข้ึน
ไป ถอื วา่ ผา่ น
เกณฑก์ ารประเมนิ
ประเด็นการประเมนิ 3 (ดีมาก) ระดับคณุ ภาพ/ระดับคะแนน 0 (ปรับปรงุ )
ทำขอ้ สอบหลงั 2 (ปานกลาง) 1 (นอ้ ย) ทำขอ้ สอบไม่ผา่ น
K: วิเคราะหก์ ลไกและการทำงาน เรียนผ่านเกณฑ์ ทำขอ้ สอบหลัง ทำขอ้ สอบหลัง เกณฑห์ รอื ไมไ่ ด้
ของอปุ กรณไ์ ฟฟ้าและ ร้อยละ 70 ขึ้นไป เรียนผ่านเกณฑ์ เรียนผ่านเกณฑ์ สอบ
อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ รอ้ ยละ 60 ร้อยละ 50
K: ออกแบบวธิ กี ารแก้ปญั หาหรอื ปฏบิ ัติหรือแสดง ปฏบิ ตั หิ รือแสดง
พฒั นางาน โดยประยุกต์ใชค้ วามรู้ พฤตกิ รรม ปฏบิ ัติหรอื แสดง ปฏบิ ัติหรือแสดง พฤตกิ รรมนอ้ ย
เกยี่ วกบั กลไก อปุ กรณไ์ ฟฟา้ และ สม่ำเสมอ ครัง้ หรือไมป่ ฏบิ ัติ
อปุ กรณอ์ เิ ลก็ ทรอนกิ สไ์ ด้อย่าง พฤติกรรม พฤติกรรม เลย
ถูกตอ้ ง และปลอดภยั
A: คุณลกั ษณะ บ่อยครั้ง บางอย่าง
1) มวี นิ ยั
2) ใฝ่เรยี นรู้
ลงชอื่ ครูผู้สอน
(นางสาวเรวดี เกษตรเจริญ
ตำแหนง่ ครู ชำนาญการพิเศษ