เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 100
บนั ทกึ ผลหลงั การจัดการเรยี นรู้
1 สรุปผลหลงั การจัดการเรยี นรู้
1.1 นกั เรยี นจำนวน..................คน
ผ่านจดุ ประสงค์การเรียนรู้......................คน คดิ เปน็ ร้อยละ..................
ไมผ่ ่านจดุ ประสงคก์ ารเรยี นร้.ู .................คน คิดเป็นร้อยละ..................
นักเรยี นนไี่ มผ่ ่าน มีดงั น้ี
1............................................................ 2............................................................
3............................................................ 4............................................................
5............................................................ 6............................................................
สรปุ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
1.2 นักเรยี นมคี วามรู้ความเข้าใจ (K) รกั ษช์ าติ ศาสน์ กษตั ริย์ อยูอ่ ย่างพอเพียง
..........................................................................................
.......................................................................................... ซือ่ สตั ย์สุจริต มงุ่ มั่นในการทำงาน
.........................................................................................
1.3 นักเรยี นมคี วามรู้เกดิ ทักษะ (P) มวี นิ ัย รักความเปน็ ไทย
..........................................................................................
.......................................................................................... ใฝเ่ รียนรู้ มจี ิตเปน็ สาธารณะ
.........................................................................................
1.4 นักเรียนมเี จตคติ ค่านิยม คณุ ธรรมจริยธรรม (A) สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
.......................................................................................... การสื่อสาร
.......................................................................................... การคิด
.......................................................................................... การแก้ปญั หา
................................................ การใช้ทักษะชวี ติ
การใช้เทคโนโลยี
2. ปัญหา อุปสรรค และแนวทางแก้ไข
………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ข้อเสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
ลงช่ือ....................................................
(นางสาวพชั รมยั อนิ อ่อน)
ตำแหนง่ ครู.คศ 1
โรงเรยี นวัดชินวราราม(เจริญผลวิทยาเวศม)์
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 101
ความเห็นของหัวหน้าสถานศึกษา/ผู้ทีไ่ ด้รับมอบหมาย
ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรยี นรู้ของ นางสาวพชั รมยั อินอ่อน แล้วมีความเหน็ ดงั นี้
1.เปน็ แผนการจัดการเรียนรู้ที่
ดมี าก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรุง
2.การจัดกจิ กรรมได้นำเอากระบวนการเรียนรู้
เนน้ ผเู้ รยี นเปน็ สำคัญมาใชใ้ นการสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
ยังไมเ่ นน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรงุ พฒั นาต่อไป
3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่
นำไปใชไ้ ดจ้ รงิ
ควรปรับปรงุ ก่อนนำไปใช้
4.ขอ้ เสนอแนะอื่นๆ
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
........................................................................................... ...........................................................................
.......................................................................................................................................................... ............
ลงชอื่ .........................................................
( นางฉัฐอติพา แชม่ ชมดาว )
ตำแหนง่ ผอู้ ำนวยการโรงเรียนวัดชินวราราม(เจรญิ ผลวิทยาเวศม์)
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 102
บันทกึ แผนการจดั การเรียนรู้
กลมุ่ สาระการเรียนรศู้ ลิ ปะ รายวิชา นาฏศลิ ป์ รหัสวชิ า ศ11101
ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 1 ภาคเรียนที่ 1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง การแสดงนาฏศิลป์ไทย เวลา 7 ชั่วโมง
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 13 เร่ือง การแสดงนาฏศิลป์ไทย : ฟอ้ น เวลา 1 ชว่ั โมง
**********************************************************************************************
มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้ีวัด
มาตรฐานการเรยี นรู้
ศ 3.1 เข้าใจและแสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่า
นาฏศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดอย่างอิสระ ชื่นชม และประยุกต์ใช้ใน
ชวี ติ ประจำวนั
ตวั ชวี้ ดั
ศ 3.1 ป.1/3 บอกสิ่งท่ีตนเองชอบจากการดูหรอื ร่วมแสดง
มาตรฐานการเรยี นรู้
ศ 3.2 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างนาฏศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่าของ
นาฏศิลป์ทเ่ี ป็นมรดกทางวฒั นธรรม ภูมิปัญญาท้องถ่นิ ภูมปิ ญั ญาไทยและสากล
ตวั ชี้วัด
ศ 3.2 ป.1/2 บอกส่ิงที่ตนเองชอบในการแสดงนาฏศิลป์ไทย
จดุ ประสงค์การเรียนรู้สู่ตัวชี้วดั
1. อธิบายเก่ยี วกับการฟ้อนได้ (K)
2. จำแนกความสัมพนั ธ์ระหว่างการฟ้อนกบั ภมู ภิ าค (P)
3. ชน่ื ชมการฟอ้ น (A)
สาระสำคัญ
ฟ้อนเป็นการแสดงนาฏศิลป์ไทยท่ีเน้นความสวยงามของท่ารำ เป็นศิลปะทางภาคเหนือและ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดนตรีที่ใช้ประกอบการแสดงมีจังหวะและทำนองค่อนข้างช้า ทำให้ผู้ชมเกิด
ความรสู้ กึ ออ่ นหวาน นมุ่ นวลและประทับใจเมอื่ ได้ชม
สาระการเรียนรู้
ฟ้อน
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 103
คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
รกั ความเป็นไทย
ตวั ชี้วัดที่ 7.1 ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนยี มประเพณี ศลิ ปะ วัฒนธรรมไทย และมีความกตัญญู
กตเวที
สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน
ความสามารถในการคิด
ชิน้ งานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน รอ่ งรอยแสดงความร)ู้
- แผนภาพความคิดการฟ้อน
คำถามท้าทาย
- การฟอ้ นมีความสำคัญต่อท้องถิน่ ภาคเหนือและภาคตะวนั ออกเฉียงเหนืออย่างไร
การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
1. ครูนำภาพการฟอ้ นเลบ็ ให้นกั เรียนดูแล้วใช้คำถามเพื่อให้นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น
ดงั นี้
- ภาพที่นักเรยี นเห็นคือภาพอะไร (ตัวอยา่ งคำตอบ ภาพการฟ้อนเลบ็ )
- การฟอ้ นเล็บเป็นการฟ้อนของคนในภูมภิ าคใด (ตัวอย่างคำตอบ ภาคเหนือ)
- นกั เรยี นเคยมีประสบการณเ์ หมอื นในภาพหรือไม่ (เคย/ไมเ่ คย)
- นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไรต่อการรำในภาพ (ตัวอยา่ งคำตอบ ชน่ื ชม)
2. ครูนำบัตรคำ ฟ้อน มาตดิ ไวบ้ นกระดานแล้วใชค้ ำถามเพอ่ื ใหน้ ักเรยี นรว่ มกนั แสดง
ความคิดเห็นดงั น้ี
- นักเรยี นรู้จักการฟ้อนหรือไม่ อยา่ งไร (ตวั อย่างคำตอบ รู้จัก เชน่ การฟ้อนเลบ็ )
- การฟ้อนเป็นศิลปะการแสดงนาฏศลิ ปข์ องภูมภิ าคใด (ตัวอยา่ งคำตอบ ภาคเหนือและ
ภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื )
- นักเรียนเคยมีประสบการณ์การฟ้อนหรอื ไม่ อย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ เคย โดยเคยฟอ้ น
สาวไหม)
- ในท้องถนิ่ ของนักเรียนมีการฟ้อนหรือไม่ อย่างไร (ตวั อยา่ งคำตอบ มี คือการฟอ้ นผูไ้ ทย
(ภูไท))
จากน้ันครอู ธิบายเก่ียวกับการฟ้อนให้นักเรียนฟังวา่ “ฟ้อนเป็นการแสดงนาฏศิลป์ไทยที่
เน้น ความสวยงามของท่ารำ เป็นศิลปะทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดนตรีที่ใช้
ประกอบการแสดง มีจังหวะและทำนองค่อนข้างช้า ทำให้ผู้ชมเกิดความรู้สึกอ่อนหวาน นุ่มนวล
และประทบั ใจเม่ือไดช้ ม”
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 104
3. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 4 กลุ่ม แล้วให้แต่ละกลุ่มส่งผู้แทนกลุ่มออกมาจับสลากเพ่ือ
เลอื กหวั ข้อไปศึกษาเพิ่มเตมิ ดังน้ี
- ฟ้อนเทยี น
- ฟ้อนเลบ็
- ฟ้อนสาวไหม
- ฟ้อนผู้ไทย (ภูไท)
เม่ือแต่ละกลุ่มได้หัวข้อท่ีรับผิดชอบแล้วให้ไปศึกษาเพิ่มเติม แล้วนำข้อมูลท่ีได้มารายงานให้
ครูและเพื่อนกลุ่มอื่น ๆ ฟังทีละกลุ่มจนครบทุกกลุ่ม หากพบข้อมูลที่ผิดพลาดให้ครูให้คำแนะนำแก้ไข
แลว้ นำขอ้ มูลทงั้ หมดมาเขียนสรุปลงในแผนภาพบนกระดานดงั ตัวอย่างต่อไปนี้
4. ให้ครูและนักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับแนวทางการอนุรักษ์การฟ้อนโดยครูใช้
คำถามดังนี้
- การฟ้อนมีความสำคัญต่อการแสดงนาฏศิลป์ไทยอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ เป็นมรดก
ทางนาฏศลิ ปไ์ ทยที่ควรค่าแกก่ ารอนุรักษ)์
- นักเรียนจะมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์การฟ้อนได้อย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ ศึกษาความรู้
เกี่ยวกับการฟ้อนเพ่มิ เตมิ ฝึกปฏิบตั ิการฟ้อนจนสามารถทำไดถ้ กู ตอ้ งสวยงาม)
5. ใหน้ กั เรยี นและครรู ่วมกันสรปุ ความรู้ ดงั น้ี
- ฟ้อนเป็นการแสดงนาฏศิลป์ไทยที่เน้นความสวยงามของท่ารำ เป็นศิลปะทางภาคเหนือ
และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดนตรีที่ใช้ประกอบการแสดงมีจังหวะและทำนองค่อนข้างช้า ทำให้ผู้ชม
เกดิ ความรสู้ กึ ออ่ นหวาน นุม่ นวล และประทับใจเม่อื ได้ชม
6. ให้นักเรยี นร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใช้คำถามท้าทาย ดังนี้
- การฟอ้ นมคี วามสำคญั ตอ่ ทอ้ งถิน่ ภาคเหนอื และภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนืออยา่ งไร
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 105
การจัดบรรยากาศเชิงบวก
- ใหน้ ักเรียนรว่ มกันแสดงความคดิ เห็นอยา่ งมีอสิ ระ
สื่อการเรยี นรู้
1. ภาพการฟ้อนเลบ็
2. บัตรคำ
3. สลาก
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
1. วธิ กี ารวดั และประเมินผล
1.1 สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในการเข้าร่วมกจิ กรรม
1.2 สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุม่
2. เคร่อื งมือ
2.1 แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรม
2.2 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม
3. เกณฑ์การประเมิน
3.1 การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกิจกรรม
ผา่ นตง้ั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผา่ น
ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไมผ่ า่ น
3.2 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม
คะแนน 9-10 ระดบั ดีมาก
คะแนน 7-8 ระดับ ดี
คะแนน 5-6 ระดบั พอใช้
คะแนน 0-4 ระดับ ควรปรบั ปรุง
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 106
บนั ทึกผลหลงั การจัดการเรียนรู้
1 สรุปผลหลงั การจัดการเรยี นรู้
1.1 นักเรยี นจำนวน..................คน
ผ่านจดุ ประสงค์การเรียนรู.้ .....................คน คิดเปน็ ร้อยละ..................
ไมผ่ ่านจดุ ประสงคก์ ารเรยี นร้.ู .................คน คดิ เป็นร้อยละ..................
นกั เรยี นนไี่ มผ่ ่าน มีดงั นี้
1............................................................ 2............................................................
3............................................................ 4............................................................
5............................................................ 6............................................................
สรุป คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1.2 นักเรยี นมคี วามรู้ความเข้าใจ (K) รักษช์ าติ ศาสน์ กษตั ริย์ อยูอ่ ย่างพอเพียง
..........................................................................................
.......................................................................................... ซื่อสตั ย์สุจริต มงุ่ มั่นในการทำงาน
.........................................................................................
1.3 นกั เรียนมคี วามรู้เกดิ ทักษะ (P) มวี นิ ยั รักความเปน็ ไทย
..........................................................................................
.......................................................................................... ใฝ่เรียนรู้ มจี ิตเปน็ สาธารณะ
.........................................................................................
1.4 นกั เรยี นมเี จตคติ ค่านิยม คณุ ธรรมจริยธรรม (A) สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
.......................................................................................... การสื่อสาร
.......................................................................................... การคิด
.......................................................................................... การแก้ปญั หา
................................................ การใช้ทักษะชวี ติ
การใช้เทคโนโลยี
2. ปญั หา อุปสรรค และแนวทางแก้ไข
………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
ลงชอ่ื ....................................................
(นางสาวพชั รมยั อนิ อ่อน)
ตำแหนง่ ครู.คศ 1
โรงเรียนวดั ชนิ วราราม(เจริญผลวิทยาเวศม)์
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 107
ความเห็นของหัวหน้าสถานศกึ ษา/ผู้ทีไ่ ด้รับมอบหมาย
ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรยี นรู้ของ นางสาวพชั รมยั อินอ่อน แล้วมีความเหน็ ดงั นี้
1.เปน็ แผนการจัดการเรียนรู้ที่
ดมี าก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรุง
2.การจดั กิจกรรมได้นำเอากระบวนการเรียนรู้
เนน้ ผเู้ รยี นเปน็ สำคัญมาใชใ้ นการสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
ยังไมเ่ นน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรงุ พฒั นาต่อไป
3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่
นำไปใช้ไดจ้ ริง
ควรปรับปรงุ กอ่ นนำไปใช้
4.ขอ้ เสนอแนะอื่นๆ
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
........................................................................................... ...........................................................................
.......................................................................................................................................................... ............
ลงชอื่ .........................................................
( นางฉัฐอติพา แช่มชมดาว )
ตำแหน่ง ผอู้ ำนวยการโรงเรียนวัดชนิ วราราม(เจรญิ ผลวิทยาเวศม์)
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 108
บันทกึ แผนการจัดการเรียนรู้
กลมุ่ สาระการเรียนร้ศู ลิ ปะ รายวิชา นาฏศลิ ป์ รหัสวิชา ศ11101
ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 ภาคเรียนที่ 1
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 3 เร่ือง การแสดงนาฏศลิ ป์ไทย เวลา 7 ชวั่ โมง
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 14 เร่ือง การแสดงนาฏศิลป์ไทย : โขน เวลา 1 ชวั่ โมง
**********************************************************************************************
มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชี้วดั
มาตรฐานการเรียนรู้
ศ 3.1 เข้าใจและแสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่า
นาฏศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดอย่างอิสระ ชื่นชม และประยุกต์ใช้ใน
ชีวติ ประจำวัน
ตัวชว้ี ัด
ศ 3.1 ป.1/3 บอกสง่ิ ที่ตนเองชอบจากการดหู รอื รว่ มแสดง
มาตรฐานการเรียนรู้
ศ 3.2 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างนาฏศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่าของ
นาฏศลิ ปท์ ี่เปน็ มรดกทางวฒั นธรรม ภูมปิ ัญญาท้องถนิ่ ภูมิปัญญาไทยและสากล
ตวั ช้วี ดั
ศ 3.2 ป.1/2 บอกสง่ิ ท่ีตนเองชอบในการแสดงนาฏศลิ ปไ์ ทย
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรูส้ ูต่ ัวช้ีวัด
1. อธบิ ายเก่ียวกับการแสดงโขน (K)
2. จำแนกประเภทของโขน (P)
3. ชน่ื ชมการแสดงโขน (A)
สาระสำคัญ
โขนเป็นนาฏศิลปช์ ัน้ สงู ของไทย เปน็ การแสดงท่ารำทา่ เตน้ ออกท่าทางเข้ากบั ดนตรี โดยผ้แู สดง
จะตอ้ งสวมศีรษะโขน และเปน็ มรดกทางนาฏศลิ ปไ์ ทยทีค่ วรคา่ แก่การอนุรักษ์ไวใ้ ห้คงอยู่คู่สังคมไทย
ตลอดไป
สาระการเรยี นรู้
โขน
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 109
คุณลักษณะอันพึงประสงค์
รกั ความเป็นไทย
ตวั ชีว้ ดั ที่ 7.1 ภาคภมู ิใจในขนบธรรมเนยี มประเพณี ศลิ ปะ วัฒนธรรมไทย และมีความกตัญญู
กตเวที
สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
ความสามารถในการคิด
ช้นิ งานหรือภาระงาน (หลักฐาน รอ่ งรอยแสดงความรู้)
- แผนภาพการแสดงโขน
คำถามทา้ ทาย
- การแสดงโขนมปี ระโยชน์ต่อนาฏศิลปไ์ ทยอยา่ งไร
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้
1. ครนู ำบัตรคำ โขน มาติดไว้บนกระดาน แล้วพานักเรียนอ่านจำนวน 1 รอบ จากน้ัน
ครูใชค้ ำถามเพ่ือใหน้ ักเรียนรว่ มกนั แสดงความคิดเหน็ ดังน้ี
- นักเรียนเคยได้ยินคำวา่ “โขน” หรือไม่ (เคย/ไมเ่ คย)
- นกั เรยี นเคยชมการแสดงโขนหรือไม่ อยา่ งไร (ตัวอยา่ งคำตอบ เคย โดยเคยชมใน
โทรทัศน)์
- เมือ่ ไดช้ มการแสดงโขนนักเรียนรู้สึกอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ ตน่ื เต้นมีความสขุ )
2. ครูอธิบายเกี่ยวกับโขนให้นักเรียนฟังว่า โขนคือนาฏศิลป์ช้ันสูงของไทย เป็นการแสดงท่ารำ
ท่าเต้นออกท่าทางเข้ากับดนตรี และผู้แสดงจะต้องสวมศีรษะโขนก่อนทำการแสดง ซ่ึงการแสดงโขนมีอยู่
5 ประเภท ไดแ้ ก่
1. โขนกลางแปลง คอื โขนที่ใช้ธรรมชาติจรงิ เป็นฉากในการแสดง
2. โขนนั่งราว คือ โขนทีน่ ำไม้กระบอกพาดยาวเพ่อื ให้ผ้แู สดงนง่ั แทนเตียง
3. โขนฉาก คอื โขนท่ีมกี ารเปลีย่ นฉากไปตามการดำเนินเร่ือง
4. โขนหน้าจอ คือ โขน ที่มีการก้ันฉากด้วยผ้าโปร่งสีขาวด้านซ้ายของเวทีเป็นภาพ
ปราสาทราชวงั
5. โขนโรงใน คอื โขน ที่มีการนำการขบั รอ้ งและการร่ายรำของละครมาใชใ้ นการแสดง
เราชาวไทยทุกคนควรร่วมมือกันในการอนุรกั ษ์สืบสานมรดกทางนาฏศิลป์ไทยนี้ให้คงอยู่เป็น
เอกลกั ษณ์ของสงั คมไทยตลอดไป
3. ครใู หน้ ักเรยี นเลน่ เกมจบั คู่ใหห้ นูหนอ่ ย โดยมวี ธิ ีการเลน่ และขน้ั ตอนการเล่น ดังน้ี
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 110
- ครนู ำบัตรคำและแถบประโยคตอ่ ไปน้มี าตดิ ไวบ้ นกระดานแลว้ พานักเรียนอ่านจำนวน 1
รอบ จากนัน้ คว่ำบัตรคำและสลบั ใหเ้ รียบรอ้ ย
โขนกลางแปลง นำการขบั รอ้ งและการรา่ ยรำของละครมาใชใ้ นการแสดง
โขนน่ังราว เปลย่ี นฉากไปตามการดำเนนิ เรือ่ ง
โขนโรงใน ใช้ธรรมชาตจิ ริงเป็นฉากในการแสดง
โขนหนา้ จอ นำไม้กระบอกพาดยาวเพ่อื ให้ผูแ้ สดงน่ังแทนเตยี ง
โขนฉาก กั้นฉากด้วยผ้าโปร่งสขี าวดา้ นซ้ายของเวทีเป็นภาพปราสาทราชวงั
- ให้นกั เรยี นแบง่ กลุ่มออกเปน็ 5 กลมุ่ ๆ ละเท่า ๆ กัน
- ครแู จกป้ายวงกลมสแี ดง สีเขยี ว สีเหลือง สชี มพู และสีฟา้ ให้แต่ละกล่มุ กลุ่มละ 1 สี
- ให้นกั เรยี นร่วมกนั ร้องเพลงที่ทุกคนร้องได้ จากน้ันครเู ป่านกหวดี ให้สัญญาณหยดุ
- ครูออกคำสงั่ ยกป้าย “กลุ่มใดยกปา้ ยก่อนให้ออกมาพลิกบัตรคำและแถบประโยคท่ีคว่ำไว้
หาก
พลกิ ออกมาแล้วเปน็ คู่กันจะได้ 1 คะแนน หากพลกิ ออกมาไม่ใช่คูก่ นั ให้กลุม่ อนื่ ๆ เลน่ เกมต่อไป” โดย
ทุกครั้งที่พลิกบตั รคำ และแถบประโยคให้ทุกคนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง
- กลุม่ ใดไดค้ ะแนนมากท่ีสุดเป็นฝา่ ยชนะ
จากนัน้ ครูนำบัตรคำและแถบประโยคมาเขียนสรุปเปน็ แผนภาพบนกระดานดังตัวอย่างตอ่ ไปนี้
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 111
4. ครูและนักเรยี นรว่ มกันสนทนาเกีย่ วกับแนวทางการอนรุ กั ษ์โขนโดยครูใช้คำถาม ดังน้ี
- ถ้านักเรียนได้แสดงโขนจะเลือกแสดงเป็นตัวละครใด (ตัวอย่างคำตอบ เลือกแสดงเป็น
หนุมาน เพราะเปน็ ผ้มู คี วามสามารถและมีเครือ่ งแต่งกายสวยงาม)
- การเล่นโขนมีความสำคัญต่อสังคมไทยอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ ทำให้สังคมไทยมี
เอกลกั ษณท์ างศิลปะการแสดงที่โดดเดน่ เป็นทช่ี นื่ ชมของผู้ที่พบเห็น)
- นักเรียนจะมีแนวทางในการร่วมอนุรักษ์และสืบสานการเล่นโขนได้อย่างไร (ตัวอย่าง
คำตอบ ศึกษาเกย่ี วกบั เรือ่ งโขนและนำไปเผยแพร่ เรยี นเกี่ยวกับการแสดงโขน)
5. ครอู ธิบายเพ่มิ เติมความรูเ้ กีย่ วกับอาเซียน ดงั น้ี
รามเกียรต์ิ เป็นมรดกร่วมทางวัฒนธรรมของอาเซียนท่ีได้รับอิทธิพลมาจากอินเดีย จน
กลายเป็นวรรณคดีประจำชาติของหลายประเทศในอาเซยี น เชน่ ลาว พมา่ กมั พูชา มาเลเซีย อินโดนีเซีย
6. ใหน้ กั เรยี นและครรู ว่ มกันสรปุ ความรู้ ดงั นี้
- โขนเป็นนาฏศิลป์ชั้นสูงของไทย เป็นการแสดงท่ารำ ท่าเต้นออกท่าทางเข้ากับดนตรี
โดยผู้แสดงจะต้องสวมศีรษะโขน และเป็นมรดกทางนาฏศิลป์ไทยที่ควรค่า แก่การอนุรักษ์ไว้ให้คงอยู่คู่
สงั คมไทยตลอดไป
7. ให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเหน็ โดยครใู ช้คำถามทา้ ทาย ดังนี้
- การแสดงโขนมปี ระโยชนต์ ่อนาฏศิลป์ไทยอยา่ งไร
การจดั บรรยากาศเชงิ บวก
- ใหน้ กั เรียนรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ อยา่ งมีอิสระ
สือ่ การเรียนรู้
1. บัตรคำ
2. เกมจับคู่ให้หนูหน่อย
3. แถบประโยค
4. ป้ายวงกลมสแี ดง สเี ขยี ว สีเหลือง สชี มพู และสีฟา้
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 112
การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้
1. วธิ กี ารวัดและประเมนิ ผล
1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในการเขา้ ร่วมกิจกรรม
1.2 สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุม่
2. เครอ่ื งมือ
2.1 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกิจกรรม
2.2 แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม
3. เกณฑก์ ารประเมิน
3.1 การประเมินพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรม
ผ่านตัง้ แต่ 2 รายการ ถือว่า ผ่าน
ผา่ น 1 รายการ ถอื ว่า ไม่ผ่าน
3.2 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลมุ่
คะแนน 9-10 ระดับ ดีมาก
คะแนน 7-8 ระดบั ดี
คะแนน 5-6 ระดบั พอใช้
คะแนน 0-4 ระดบั ควรปรบั ปรุง
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 113
บนั ทกึ ผลหลงั การจดั การเรยี นรู้
1 สรปุ ผลหลังการจัดการเรียนรู้
1.1 นกั เรียนจำนวน..................คน
ผ่านจดุ ประสงค์การเรียนรู.้ .....................คน คิดเปน็ ร้อยละ..................
ไมผ่ า่ นจุดประสงค์การเรยี นรู.้ .................คน คดิ เป็นร้อยละ..................
นกั เรียนน่ีไมผ่ า่ น มีดงั นี้
1............................................................ 2............................................................
3............................................................ 4............................................................
5............................................................ 6............................................................
สรุป คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
1.2 นักเรยี นมคี วามรู้ความเข้าใจ (K) รักษช์ าติ ศาสน์ กษตั ริย์ อยอู่ ย่างพอเพียง
..........................................................................................
.......................................................................................... ซื่อสตั ย์สุจริต มงุ่ มั่นในการทำงาน
.........................................................................................
1.3 นักเรียนมคี วามรู้เกดิ ทักษะ (P) มวี นิ ยั รักความเปน็ ไทย
..........................................................................................
.......................................................................................... ใฝ่เรียนรู้ มจี ิตเปน็ สาธารณะ
.........................................................................................
1.4 นกั เรียนมเี จตคติ ค่านยิ ม คณุ ธรรมจรยิ ธรรม (A) สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
.......................................................................................... การสื่อสาร
.......................................................................................... การคิด
.......................................................................................... การแก้ปญั หา
................................................ การใช้ทักษะชวี ติ
การใช้เทคโนโลยี
2. ปัญหา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข
………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
ลงชอ่ื ....................................................
(นางสาวพชั รมยั อนิ อ่อน)
ตำแหนง่ ครู.คศ 1
โรงเรียนวดั ชนิ วราราม(เจริญผลวิทยาเวศม)์
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 114
ความเหน็ ของหัวหน้าสถานศึกษา/ผทู้ ่ไี ดร้ ับมอบหมาย
ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรยี นรขู้ อง นางสาวพชั รมยั อินอ่อน แล้วมคี วามเหน็ ดังนี้
1.เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี
ดมี าก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรุง
2.การจดั กิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้
เน้นผู้เรียนเปน็ สำคญั มาใช้ในการสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
ยงั ไมเ่ นน้ ผเู้ รียนเปน็ สำคัญ ควรปรับปรงุ พัฒนาต่อไป
3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่
นำไปใชไ้ ด้จรงิ
ควรปรบั ปรุงก่อนนำไปใช้
4.ข้อเสนอแนะอ่นื ๆ
......................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................... ................
........................................................................................... ...........................................................................
.......................................................................................................................................................... ............
ลงชื่อ.........................................................
( นางฉัฐอติพา แชม่ ชมดาว )
ตำแหนง่ ผู้อำนวยการโรงเรียนวดั ชนิ วราราม(เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์)
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 115
บันทึกแผนการจัดการเรยี นรู้
กลมุ่ สาระการเรียนรูศ้ ิลปะ รายวิชา นาฏศิลป์ รหัสวิชา ศ11101
ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 1 ภาคเรียนท่ี 1
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 3 เร่ือง การแสดงนาฏศิลปไ์ ทย เวลา 7 ชวั่ โมง
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 15 เรื่อง การแสดงนาฏศลิ ป์ไทย : ละคร เวลา 1 ชั่วโมง
**********************************************************************************************
มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ชี้วดั
มาตรฐานการเรยี นรู้
ศ 3.1 เข้าใจและแสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่า
นาฏศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดอย่างอิสระ ช่ืนชม และประยุกต์ใช้ใน
ชวี ิตประจำวนั
ตัวชี้วดั
ศ 3.1 ป.1/3 บอกสงิ่ ที่ตนเองชอบจากการดูหรือรว่ มแสดง
มาตรฐานการเรยี นรู้
ศ 3.2 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างนาฏศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่าของ
นาฏศลิ ปท์ เ่ี ป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภมู ิปัญญาท้องถนิ่ ภมู ิปัญญาไทยและสากล
ตัวชีว้ ัด
ศ 3.2 ป.1/2 บอกสิ่งที่ตนเองชอบในการแสดงนาฏศลิ ปไ์ ทย
จุดประสงค์การเรียนรู้ส่ตู วั ช้ีวดั
1. อธบิ ายเกี่ยวกับละคร (K)
2. แสดงละครตามเร่ืองท่ีแต่งขึน้ เอง (P)
3. ช่นื ชมการแสดงนาฏศิลปไ์ ทย (A)
สาระสำคญั
ละครเป็นการแสดงท่ีผูกเป็นเร่ืองราว และสร้างสรรค์เพื่อความสนุกสนานต ามธรรมชาติ
วัฒนธรรมและสังคม และเป็นการแสดงท่ีสะท้อนให้เห็นถึงแง่คิดท่ีผู้ชมควรพิจารณาและนำไปปรับใช้ใน
ชีวิตประจำวัน
สาระการเรียนรู้
ละคร
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 116
คุณลักษณะอันพึงประสงค์
รักความเป็นไทย
ตัวช้ีวดั ที่ 7.1 ภาคภมู ิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศลิ ปะ วฒั นธรรมไทย และมีความกตญั ญู
กตเวที
สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน
ความสามารถในการคิด
ช้นิ งานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน รอ่ งรอยแสดงความร)ู้
- แผนภาพความคดิ เกี่ยวกับละคร
คำถามท้าทาย
- การดูละครเปน็ ประจำมีผลตอ่ การดำเนนิ ชีวติ ของคนเราอยา่ งไร
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้
1. ครูนำบัตรคำ ละคร มาตดิ ไวบ้ นกระดาน แล้วพานักเรียนอา่ นจำนวน 1 รอบ และใช้
คำถามเพื่อใหน้ ักเรียนรว่ มกันสนทนา ดังนี้
- นักเรียนเคยดลู ะครหรอื ไม่ อย่างไร (ตวั อย่างคำตอบ เคยดู โดยเคยดูในโทรทศั น์)
- เม่อื ไดด้ ูละครแล้วนกั เรียนรู้สึกอย่างไร (ตวั อย่างคำตอบ สนกุ สนานเพลดิ เพลนิ )
- นักเรียนอยากเป็นเหมือนตัวละครใด เพราะอะไร (ตัวอย่างคำตอบ อยากเป็นพระสังข์
จากเรอ่ื งสังข์ทอง เพราะมอี ทิ ธิฤทธเิ์ ก่งกลา้ )
2. ครูอธิบายเกี่ยวกับละครให้นักเรียนฟังว่า ละครเป็นการแสดงท่ีผูกเรื่องราวสร้างสรรค์เพื่อ
ความสนุกสนานตามธรรมชาติ วัฒนธรรม สังคม และให้แง่คิดที่ผู้ชมสามารถนำไปปรับใช้ใน
ชีวิตประจำวันได้ เรื่องราวท่ีนิยมนำมาจัดแสดงละคร เช่น สังข์ทอง อิเหนา ไกรทอง ขุนช้าง
ขุนแผน จากน้ันครูและนักเรียนนำข้อมูลดังกล่าวมาเขียนสรุปลงในแผนภาพบนกระดานดังตัวอย่าง
ตอ่ ไปน้ี
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 117
3. ใหน้ กั เรียนแบ่งกล่มุ ออกเปน็ 5 กลุ่ม กลมุ่ ละเท่า ๆ กนั แลว้ ให้แต่ละกล่มุ แตง่ บทละครสนั้ ๆ ที่แฝง
แง่คิดให้ผู้ชมแล้วฝกึ แสดงละครตามเรื่องทแ่ี ต่งข้ึนจนชำนาญ แล้วให้แต่ละกล่มุ ออกมาทำการแสดงละคร
ดังกล่าวกล่มุ ละประมาณ 5-7 นาที ทลี ะกลุ่มจนครบทกุ กล่มุ โดยเม่ือแต่ละกลุ่มแสดงละครจบ ให้เพื่อน
และครูคอยให้คำแนะนำเพิ่มเติม และกล่าวคำช่ืนชมเมื่อนักเรียนสามารถแสดงละครได้ดี เพ่ือเป็น
กำลังใจ และเป็นแนวทางในการปรบั ปรงุ ผลงานการแสดงละครของกลมุ่ นั้น ๆ ใหด้ ีขน้ึ ในโอกาสต่อไป
4. ครูคัดเลือกผู้แทนนักเรียนจำนวน 5 คน ออกมาเล่าการแสดงนาฏศิลป์ไทยที่ตนเองช่ืนชอบ
1 การแสดงพร้อมท้ังอธิบายเหตุผลท่ีชอบทีละคนจนครบทุกคน จากน้ันครูใช้คำถามเพื่อให้นักเรียน
ร่วมกนั แสดงความคิดเหน็ ดังน้ี
- นกั เรยี นชอบการแสดงนาฏศิลปไ์ ทยเหมือนผู้แทนนักเรียนทั้ง 5 คนหรอื ไม่ (ชอบ/ไมช่ อบ,
เหมือน/ไม่เหมือน)
- ถ้านักเรียนไม่ชอบเหมือนผู้แทนนักเรียนท้ัง 5 คน นักเรียนชอบการแสดงนาฏศิลป์ไทย
แบบใด (ตวั อย่างคำตอบ ลิเก เซงิ้ กระติบข้าว)
- เพราะเหตุใดนักเรียนจึงชอบการแสดงนาฏศิลป์ไทยดังกล่าว (ตัวอย่างคำตอบ เพราะ
เปน็ การแสดงที่สนุกสนาน มกี ารแต่งกายทส่ี วยงาม)
5. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกับแนวทางการอนุรักษ์ละครให้อยู่คู่สังคมไทย โดยครูใช้
คำถาม ดงั นี้
- การแสดงละครตามนิทานพื้นบ้านของไทยมีความสำคัญต่อสังคมไทยอย่างไร (ตัวอย่าง
คำตอบ ทำใหส้ งั คมไทยมเี อกลกั ษณ์ด้านการแสดงท่นี า่ ชน่ื ชม)
- นักเรียนจะมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์การแสดงละครได้อย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ ศึกษา
ค้นควา้ เพ่มิ เตมิ เกี่ยวกบั ละคร ฝกึ การแสดงละครทช่ี นื่ ชอบ)
6. ใหน้ กั เรยี นและครูร่วมกนั สรปุ ความรู้ ดงั นี้
- ละครเป็นการแสดงที่ผูกเป็นเร่ืองราวและสร้างสรรค์เพื่อความสนุกสนานตามธรรมชาติ
วัฒนธรรม สังคม และเป็นการแสดงท่ีสะท้อนให้เห็นถึงแง่คิดที่ผู้ชมควรพิจารณาและนำไปปรับใช้ใน
ชีวิตประจำวัน
7. ให้นกั เรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็น โดยครูใช้คำถามทา้ ทาย ดงั นี้
- การดลู ะครเป็นประจำมีผลตอ่ การดำเนนิ ชีวิตของคนเราอย่างไร
การจดั บรรยากาศเชงิ บวก
- ใหน้ ักเรยี นรว่ มกันแสดงความคิดเหน็ อย่างมีอิสระ
สอื่ การเรยี นรู้
1. บตั รคำ
2. บทละครท่ีนักเรยี นแตง่ ข้ึนเอง
3. การแสดงละคร
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 118
การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้
1. วธิ กี ารวัดและประเมินผล
1.1 สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเขา้ ร่วมกิจกรรม
1.2 สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุม่
2. เครือ่ งมือ
2.1 แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรม
2.2 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่ม
3. เกณฑ์การประเมนิ
3.1 การประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรม
ผา่ นตั้งแต่ 2 รายการ ถือว่า ผ่าน
ผ่าน 1 รายการ ถอื ว่า ไม่ผ่าน
3.2 การประเมินพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่
คะแนน 9-10 ระดบั ดมี าก
คะแนน 7-8 ระดับ ดี
คะแนน 5-6 ระดบั พอใช้
คะแนน 0-4 ระดบั ควรปรบั ปรุง
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 119
บนั ทกึ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้
1 สรปุ ผลหลงั การจัดการเรยี นรู้
1.1 นักเรียนจำนวน..................คน
ผ่านจดุ ประสงค์การเรียนรู้......................คน คิดเปน็ ร้อยละ..................
ไมผ่ ่านจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้..................คน คดิ เป็นร้อยละ..................
นักเรียนนไ่ี มผ่ ่าน มีดังน้ี
1............................................................ 2............................................................
3............................................................ 4............................................................
5............................................................ 6............................................................
สรุป คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
1.2 นักเรยี นมคี วามรู้ความเข้าใจ (K) รักษช์ าติ ศาสน์ กษตั ริย์ อยูอ่ ย่างพอเพียง
..........................................................................................
.......................................................................................... ซื่อสตั ย์สุจริต มงุ่ มั่นในการทำงาน
.........................................................................................
1.3 นกั เรียนมคี วามรู้เกดิ ทักษะ (P) มวี นิ ยั รักความเปน็ ไทย
..........................................................................................
.......................................................................................... ใฝ่เรียนรู้ มจี ิตเปน็ สาธารณะ
.........................................................................................
1.4 นกั เรยี นมเี จตคติ ค่านิยม คุณธรรมจริยธรรม (A) สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
.......................................................................................... การสื่อสาร
.......................................................................................... การคิด
.......................................................................................... การแก้ปญั หา
................................................ การใช้ทักษะชวี ติ
การใช้เทคโนโลยี
2. ปัญหา อุปสรรค และแนวทางแก้ไข
………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ข้อเสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
ลงชอ่ื ....................................................
(นางสาวพชั รมยั อนิ อ่อน)
ตำแหนง่ ครู.คศ 1
โรงเรียนวดั ชนิ วราราม(เจริญผลวิทยาเวศม)์
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 120
ความเหน็ ของหัวหน้าสถานศึกษา/ผู้ทไี่ ดร้ ับมอบหมาย
ไดท้ ำการตรวจแผนการจดั การเรียนรขู้ อง นางสาวพชั รมยั อินอ่อน แล้วมีความเหน็ ดงั นี้
1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่
ดีมาก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรงุ
2.การจัดกิจกรรมได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้
เน้นผูเ้ รียนเป็นสำคญั มาใชใ้ นการสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
ยังไม่เน้นผ้เู รยี นเปน็ สำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป
3.เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ที่
นำไปใช้ไดจ้ รงิ
ควรปรบั ปรุงกอ่ นนำไปใช้
4.ข้อเสนอแนะอื่นๆ
......................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................... ................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
ลงชอื่ .........................................................
( นางฉัฐอติพา แช่มชมดาว )
ตำแหน่ง ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นวัดชินวราราม(เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์)
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 121
บนั ทึกแผนการจดั การเรียนรู้
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศิลปะ รายวิชา นาฏศลิ ป์ รหัสวชิ า ศ11101
ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 ภาคเรียนที่ 1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 เร่ือง การแสดงนาฏศลิ ปไ์ ทย เวลา 7 ชว่ั โมง
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 16 เรื่อง การเป็นผชู้ มท่ดี ี (1) เวลา 1 ชั่วโมง
**********************************************************************************************
มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้วี ดั
มาตรฐานการเรียนรู้
ศ 3.1 เข้าใจและแสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่า
นาฏศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดอย่างอิสระ ชื่นชม และประยุกต์ใช้ใน
ชีวิตประจำวนั
ตวั ชีว้ ดั
ศ 3.1 ป.1/3 บอกสิ่งท่ีตนเองชอบจากการดูหรอื ร่วมแสดง
มาตรฐานการเรียนรู้
ศ 3.2 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างนาฏศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่าของ
นาฏศิลปท์ ่ีเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภมู ปิ ญั ญาท้องถ่นิ ภูมิปญั ญาไทยและสากล
ตัวชว้ี ัด
ศ 3.2 ป.1/2 บอกสิ่งที่ตนเองชอบในการแสดงนาฏศลิ ป์ไทย
จุดประสงค์การเรยี นรู้สู่ตวั ช้ีวัด
1. อธบิ ายเกีย่ วกบั การเปน็ ผู้ชมท่ีดี (K)
2. จำแนกลักษณะของการเป็นผูช้ มท่ดี ี (P)
3. ชืน่ ชมการปฏบิ ัตเิ ปน็ ผู้ชมที่ดี (A)
สาระสำคญั
การมมี ารยาทที่ดีในการชมการแสดงจะส่งผลใหผ้ แู้ สดงมสี มาธิในการแสดงและผชู้ มการแสดงคน
อื่นได้รับความสขุ และความสนกุ สนานอยา่ งเตม็ ที่
สาระการเรยี นรู้
การเปน็ ผ้ชู มที่ดี
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 122
คุณลักษณะอันพึงประสงค์
รักความเปน็ ไทย
ตวั ชี้วดั ท่ี 7.1 ภาคภมู ิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะ วฒั นธรรมไทย และมีความกตัญญู
กตเวที
สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต
ช้ินงานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน รอ่ งรอยแสดงความร้)ู
- แผนภาพความคิดเกี่ยวกบั การเปน็ ผูช้ มที่ดี
คำถามท้าทาย
- การมมี ารยาทในการชมการแสดงทด่ี ีสง่ ผลตอ่ บรรยากาศในการชมการแสดงอย่างไร
การจดั กิจกรรมการเรียนรู้
1. ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาเก่ียวกับประสบการณ์การปฏิบัติตนเม่ือชมการแสดงของ
นกั เรียน โดยครูใช้คำถาม ดงั น้ี
- นักเรยี นเคยชมการแสดงตา่ ง ๆ หรอื ไม่ (เคย/ไม่เคย)
- ขณะชมการแสดง นักเรียนจะปฏิบัติตนอย่างไร (ตวั อย่างคำตอบ น่ังชมการแสดงอย่าง
สงบ)
- นักเรยี นรู้สึกอยา่ งไรถ้าผู้ที่นง่ั ชมการแสดงข้างนักเรียนวิจารณ์การแสดงอยู่ตลอดเวลาที่นั่ง
ชม การแสดงนั้น ๆ (ตวั อยา่ งคำตอบ รำคาญ)
2. ครูคัดเลือกผู้แทนนักเรียนที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการแสดงต่าง ๆ มา 2 คน แล้วให้ผู้แทน
นักเรียนออกมาเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับการเป็นผู้ชมท่ีดีและไม่ดีของตนเอง พร้อมท้ังผลท่ีเกิดข้ึนต่อ
ผ้ชู มการแสดงและผู้แสดงให้ครูและเพื่อน ๆ ฟัง โดยครูและเพ่ือน ๆ ร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ
ประสบการณด์ งั กลา่ วทลี ะคนจนครบท้งั สองคน
3. ครอู ธิบายเก่ียวกับการปฏิบัติตนเป็นผู้ชมท่ีดีให้นักเรียนฟังดังน้ี “เมื่อเราเข้าชมการแสดงต่าง
ๆ จะต้องปฏิบัติตนเป็นผู้ชมท่ีดีโดยไม่พูดเสียงดังหรือใช้โทรศัพท์รบกวนผู้อื่น ไม่เดินไปมาขณะผู้แสดง
กำลังทำการแสดง ชมการแสดงด้วยความต้ังใจ ไม่หยอกล้อกันและแต่งกายด้วยความสุภาพ การมี
มารยาทท่ีดีในการชมการแสดงจะส่งผลให้ผู้แสดงมีสมาธิในการแสดงและผู้ชมการแสดงคนอ่ืนได้รับ
ความสขุ ความสนุกสนานอย่างเต็มท”่ี
4. ครูนำภาพท่ีผู้ชมนั่งคุยกันขณะชมการแสดงมาให้นักเรียนดู แล้วใช้คำถามเพื่อให้นักเรียน
รว่ มกนั สนทนา ดังนี้
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 123
- คนที่นั่งชมการแสดงมีการกระทำทไ่ี ม่เหมาะสมอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ น่ังคุยกันขณะ
ชม การแสดง)
- ถ้านักเรียนนั่งชมการแสดงกับคนท่ีกระทำไม่เหมาะสมจะรู้สึกอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ
รำคาญ ไมพ่ อใจ)
- ถ้านักเรียนไปชมการแสดงจะปฏิบัติตนอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ ไม่คุยกันขณะชมการ
แสดง)
- การเป็นผู้มีมารยาทที่ดีในการชมการแสดงมีผลดีอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ ไม่เป็นท่ี
รำคาญของผู้อนื่ )
5. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 5 กลมุ่ ๆ ละเท่า ๆ กัน แล้วให้นักเรียนเล่นเกมมารยาทดีมีคน
รัก โดยมีวิธกี ารเล่นเกมตามขัน้ ตอน ดังนี้
- ครูนำแถบประโยคตอ่ ไปนม้ี าติดไว้บนกระดาน แล้วพานักเรียนอา่ นจำนวน 1 รอบ
รับประทานขนมขบเค้ียวในขณะชมการแสดง
ไม่หยอกล้อกับเพอื่ นหรือพูดคยุ เสียงดัง
ไม่เดนิ ไปมาขณะชมการแสดง
คุยโทรศพั ทต์ ลอดการชมการแสดง
สวมกระโปรงสั้นไปชมการแสดง
ชมการแสดงดว้ ยความต้งั ใจ
แตง่ กายดว้ ยความสุภาพเรยี บรอ้ ย
ไปกอ่ นเวลาการแสดงเริม่
- ครูแจกป้ายวงกลมสแี ดงและสเี ขยี ว ซึง่ มีความหมายดังนี้
๐ สีแดงให้ยกข้ึนเมื่อต้องการตอบวา่ เป็นการกระทำของผู้ชมท่ีไมม่ มี ารยาทในการชมการ
แสดง
๐ สีเขียวให้ยกขึ้นเมื่อต้องการตอบว่าเป็นการกระทำของผู้ชมที่มีมารยาทในการชมการ
แสดงที่ดี
- ครูอ่านแถบประโยคบนกระดานทีละประโยค เมื่ออ่านจบให้นักเรียนแต่ละกลุ่มยกป้าย
วงกลมตอบคำถาม กลุ่มใดตอบถูกได้ 1 คะแนน กลุ่มใดได้คะแนนมากทสี่ ุด เป็นฝ่ายชนะ
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 124
จากนั้นครูนำแถบประโยคดังกล่าวมาเขียนสรุปลงในแผนภาพการเป็นผู้ชมที่ดีบนกระดาน ดัง
ตัวอย่างต่อไปนี้
6. ให้นักเรยี นวาดภาพการแต่งกายที่เหมาะสมกับการไปชมการแสดงตามเพศของตนเอง พรอ้ ม
ท้ัง ระบายสีให้สวยงาม แล้วครูคัดเลือกผู้แทนนักเรียนจำนวน 5 คนออกมานำเสนอผลงานของตนเองให้
ครูและเพอื่ น ๆ ดูและฟังทลี ะคนจนครบทกุ คน
7. ใหน้ ักเรยี นและครรู ่วมกันสรุปความรู้ ดงั นี้
- การมีมารยาทที่ดีในการชมการแสดงจะส่งผลให้ผู้แสดงมีสมาธิในการแสดงและผู้ชมการแสดง
คนอน่ื ไดร้ บั ความสุข และความสนุกสนานอยา่ งเตม็ ที่
8. ให้นักเรียนรว่ มกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ ำถามทา้ ทาย ดงั นี้
- การมีมารยาทในการชมการแสดงทดี่ ีสง่ ผลต่อบรรยากาศในการชมการแสดงอย่างไร
การจัดบรรยากาศเชิงบวก
- ให้นักเรยี นร่วมกันแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับประสบการณก์ ารชมการแสดงอย่างมอี สิ ระ
ส่อื การเรยี นรู้
1. ประสบการณ์การชมการแสดงของนักเรียน
2. ภาพที่ผูช้ มนง่ั คุยกนั ขณะชมการแสดง
3. เกมมารยาทดีมีคนรัก
4. แถบประโยค
5. ป้ายวงกลมสแี ดงกับสเี ขยี ว
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 125
การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้
1. วธิ กี ารวัดและประเมินผล
1.1 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในการเขา้ รว่ มกิจกรรม
1.2 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุม่
2. เครือ่ งมือ
2.1 แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม
2.2 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลุม่
3. เกณฑ์การประเมนิ
3.1 การประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรม
ผ่านตั้งแต่ 2 รายการ ถือว่า ผ่าน
ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผ่าน
3.2 การประเมินพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม
คะแนน 9-10 ระดับ ดมี าก
คะแนน 7-8 ระดบั ดี
คะแนน 5-6 ระดบั พอใช้
คะแนน 0-4 ระดบั ควรปรบั ปรุง
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 126
บนั ทึกผลหลังการจดั การเรยี นรู้
1 สรุปผลหลังการจัดการเรยี นรู้
1.1 นักเรียนจำนวน..................คน
ผา่ นจดุ ประสงค์การเรียนรู.้ .....................คน คดิ เปน็ ร้อยละ..................
ไมผ่ า่ นจุดประสงคก์ ารเรยี นร้.ู .................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ..................
นกั เรยี นนไ่ี ม่ผ่าน มีดงั นี้
1............................................................ 2............................................................
3............................................................ 4............................................................
5............................................................ 6............................................................
สรุป คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1.2 นักเรยี นมคี วามรู้ความเข้าใจ (K) รกั ษช์ าติ ศาสน์ กษตั ริย์ อยูอ่ ยา่ งพอเพียง
..........................................................................................
.......................................................................................... ซ่อื สัตย์สุจริต มงุ่ มั่นในการทำงาน
.........................................................................................
1.3 นกั เรียนมคี วามรู้เกดิ ทักษะ (P) มวี ินยั รักความเปน็ ไทย
..........................................................................................
.......................................................................................... ใฝ่เรียนรู้ มจี ิตเปน็ สาธารณะ
.........................................................................................
1.4 นกั เรยี นมีเจตคติ คา่ นิยม คุณธรรมจรยิ ธรรม (A) สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
.......................................................................................... การสื่อสาร
.......................................................................................... การคิด
.......................................................................................... การแก้ปัญหา
................................................ การใช้ทักษะชวี ติ
การใช้เทคโนโลยี
2. ปญั หา อุปสรรค และแนวทางแก้ไข
………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
ลงชอื่ ....................................................
(นางสาวพชั รมยั อนิ อ่อน)
ตำแหน่ง ครู.คศ 1
โรงเรยี นวัดชินวราราม(เจรญิ ผลวิทยาเวศม)์
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 127
ความเห็นของหัวหน้าสถานศึกษา/ผู้ทีไ่ ด้รับมอบหมาย
ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรยี นรู้ของ นางสาวพชั รมยั อินอ่อน แล้วมีความเหน็ ดงั นี้
1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่
ดมี าก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรุง
2.การจัดกจิ กรรมได้นำเอากระบวนการเรียนรู้
เนน้ ผเู้ รยี นเปน็ สำคัญมาใชใ้ นการสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
ยังไมเ่ นน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรงุ พฒั นาต่อไป
3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่
นำไปใชไ้ ดจ้ รงิ
ควรปรับปรงุ ก่อนนำไปใช้
4.ข้อเสนอแนะอื่นๆ
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
........................................................................................... ...........................................................................
.......................................................................................................................................................... ............
ลงชอื่ .........................................................
( นางฉัฐอติพา แชม่ ชมดาว )
ตำแหน่ง ผอู้ ำนวยการโรงเรียนวัดชินวราราม(เจรญิ ผลวิทยาเวศม์)
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 128
บันทึกแผนการจดั การเรียนรู้
กลุ่มสาระการเรียนร้ศู ิลปะ รายวิชา นาฏศิลป์ รหัสวิชา ศ11101
ช้ันประถมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 เรื่อง การแสดงนาฏศลิ ปไ์ ทย เวลา 7 ชวั่ โมง
แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 17 เรื่อง การเป็นผู้ชมทดี่ ี (2) เวลา 1 ชั่วโมง
**********************************************************************************************
มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ช้วี ัด
มาตรฐานการเรียนรู้
ศ 3.1 เข้าใจและแสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่า
นาฏศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดอย่างอิสระ ชื่นชม และประยุกต์ใช้ใน
ชีวติ ประจำวัน
ตวั ชวี้ ัด
ศ 3.1 ป.1/3 บอกส่ิงท่ีตนเองชอบจากการดหู รือรว่ มแสดง
มาตรฐานการเรียนรู้
ศ 3.2 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างนาฏศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่าของ
นาฏศลิ ป์ที่เป็นมรดกทางวฒั นธรรม ภมู ิปญั ญาทอ้ งถิน่ ภูมิปญั ญาไทยและสากล
ตัวชี้วัด
ศ 3.2 ป.1/2 บอกส่ิงที่ตนเองชอบในการแสดงนาฏศลิ ปไ์ ทย
จดุ ประสงค์การเรยี นรสู้ ู่ตัวช้ีวัด
1. ระบเุ ก่ยี วกับการเป็นผชู้ มที่ดี (K)
2. ปฏิบตั ติ นเป็นผู้ชมที่ดี (P)
3. ชื่นชมการปฏิบัตเิ ปน็ ผ้ชู มทดี่ ี (A)
สาระสำคัญ
การมีมารยาททดี่ ีในการชมการแสดงจะสง่ ผลให้ผแู้ สดงมีสมาธิในการแสดงและผู้ชมการแสดงคน
อื่นได้รับความสขุ และความสนุกสนานอยา่ งเตม็ ที่
สาระการเรยี นรู้
การเปน็ ผ้ชู มทดี่ ี
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 129
รกั ความเปน็ ไทย
ตัวชี้วัดท่ี 7.1 ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรมไทย และมีความกตัญญู
กตเวที
สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น
ความสามารถในการคดิ
ชิน้ งานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน ร่องรอยแสดงความรู)้
1. แบบบันทึกผลการปฏิบัติตนเป็นผู้ชมทด่ี ี
2. แผนภาพความคดิ มารยาทในการเปน็ ผู้ชมที่ดี
คำถามทา้ ทาย
- การเป็นผชู้ มท่ีดีส่งผลตอ่ สัมพันธภาพระหวา่ งผชู้ มกับผู้แสดงอย่างไร
การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
1. ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับสถานการณ์การเป็นผชู้ มการแสดง โดยครเู ลา่
สถานการณ์ใหน้ ักเรยี นฟังและใชค้ ำถามเพ่ือสนทนา ดังน้ี
สถานการณ์ท่ี 1
สาวิกาวิจารณ์การแสดงของผแู้ สดงตลอดเวลาการชม
การแสดง
- การแสดงออกของสาวิกาเหมาะสมหรอื ไม่ เพราะอะไร (ตัวอยา่ งคำตอบ ไมเ่ หมาะสม
เพราะทำใหผ้ ูแ้ สดง และผูช้ มคนอ่ืน ๆ เสียสมาธ)ิ
สถานการณ์ท่ี 2
เขมนิจไปชมการแสดงก่อนเวลาเร่ิมการแสดง
- การแสดงออกของเขมนิจเหมาะสมหรือไม่ เพราะอะไร (ตัวย่างคำตอบ เหมาะสม
เพราะจะได้เตรียมความพร้อมในการชมการแสดง)
สถานการณ์ที่ 3
พชั ราภาพูดคุยกบั เพ่ือนในการชมการแสดงเป็นบางคร้ัง
- การแสดงออกของพัชราภาเหมาะสมหรอื ไม่ เพราะอะไร (ตัวอยา่ งคำตอบ ไม่เหมาะสม
เพราะเป็นการรบกวนสมาธิของผู้ชมท่านอื่น)
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 130
สถานการณ์ท่ี 4
ชนะพลสวมกางเกงขายาว เส้ือเชิ้ตไปชมการแสดง
- การแสดงออกของชนะพลเหมาะสมหรือไม่ เพราะอะไร (ตัวอย่างคำตอบ เหมาะสม
เพราะเปน็ การแตง่ กายสภุ าพ เปน็ การใหเ้ กียรตติ ่อสถานท่ีและผูแ้ สดง)
จากนนั้ ครใู หน้ ักเรยี นเลือกนำสถานการณ์ที่เหมาะสมไปปรับใช้กบั การเป็นผชู้ มทด่ี ีของตนเอง
2. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มตามความเหมาะสม แล้วให้แต่ละกลุ่มร่วมกันเตรียมการแสดงบทบาท
สมมุติเกี่ยวกับการเป็นผู้ชมที่ดี แล้วออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียน โดยให้เพื่อนกลุ่มท่ีเหลือได้ปฏิบัติตน
เปน็ ผชู้ มและบนั ทกึ ผลการปฏบิ ตั ติ นในการเปน็ ผ้ชู มตามแบบบันทกึ ผลนด้ี ว้ ยความซ่ือสตั ยส์ ุจริต
แบบบนั ทกึ ผลการปฏิบัตติ นเป็ นผู้ชมท่ีดี
3. ให้นกั เรยี นแบง่ กลุ่มออกเปน็ กลุม่ ๆ ละ 5 คน แล้วให้แต่ละกล่มุ เลอื กมารยาทในการเป็นผ้ชู ม
ท่ีดีมา 1 ข้อไม่ซ้ำกัน และร่วมกันแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับผลท่ีเกิดข้ึนต่อผู้ชมการแสดงและผลท่ี
เกิดข้ึนต่อผู้แสดงจากมารยาทข้อดังกล่าว เม่ือได้ข้อสรุปร่วมกันแล้วให้นำมาเขียนสรุปลงในแผนภาพดัง
ตวั อยา่ งตอ่ ไปนี้
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 131
จากนน้ั ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ สง่ ผู้แทนออกมานำเสนอทีห่ นา้ ชน้ั เรียนให้ครแู ละเพื่อน ๆ ฟังและดู
พร้อมทั้งตรวจสอบความถูกต้องของข้อมลู จนครบทุกกลมุ่
4. ครูและนกั เรยี นรว่ มกันแสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกับประโยชน์ของการเปน็ ผูช้ มทีด่ ีท่ีมีต่อตนเอง
และผู้อื่น โดยครใู ชค้ ำถามท้าทาย ดังน้ี
- การเป็นผมู้ ีมารยาทในการชมการแสดงทดี่ ีก่อให้เกดิ ประโยชนต์ ่อตนเองอย่างไร (ตัวอย่าง
คำตอบ ได้ชมการแสดงด้วยความสนกุ สนานและมีความสุข)
- การเป็นผู้มีมารยาทในการชมการแสดงท่ีดีก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้อื่นอย่างไร (ตัวอย่าง
คำตอบ ทำใหผ้ ้อู นื่ ชมการแสดงอยา่ งมคี วามสุข)
5. ให้นกั เรียนและครูร่วมกนั สรปุ ความรู้ ดงั น้ี
- การมีมารยาททด่ี ใี นการชมการแสดงจะสง่ ผลใหผ้ ู้แสดงมีสมาธิในการแสดง และผู้ชมการ
แสดงคนอน่ื ไดร้ ับความสขุ และความสนกุ สนานอย่างเตม็ ท่ี
6. ให้นกั เรยี นร่วมกันแสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ ำถามท้าทาย ดังนี้
- การเป็นผู้ชมทด่ี ีส่งผลตอ่ สัมพันธภาพระหว่างผู้ชมกบั ผ้แู สดงอยา่ งไร
การจัดบรรยากาศเชิงบวก
- ใหน้ ักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเหน็ อย่างอสิ ระ
สอ่ื การเรยี นรู้
1. สถานการณก์ ารเป็นผชู้ มการแสดง
2. การแสดงบทบาทสมมุติ
3. แบบบนั ทึกผลการปฏิบัติตนการเปน็ ผู้ชมที่ดี
การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้
1. วธิ กี ารวัดและประเมินผล
1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในการเขา้ ร่วมกจิ กรรม
1.2 สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเข้าร่วมกจิ กรรมกล่มุ
2. เครอื่ งมือ
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 132
2.1 แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรม
2.2 แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม
3. เกณฑ์การประเมิน
3.1 การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม
ผา่ นตั้งแต่ 2 รายการ ถือว่า ผ่าน
ผา่ น 1 รายการ ถอื วา่ ไม่ผ่าน
3.2 การประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกล่มุ
คะแนน 9-10 ระดับ ดีมาก
คะแนน 7-8 ระดับ ดี
คะแนน 5-6 ระดับ พอใช้
คะแนน 0-4 ระดับ ควรปรบั ปรุง
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 133
บนั ทกึ ผลหลงั การจดั การเรียนรู้
1 สรุปผลหลงั การจัดการเรียนรู้
1.1 นกั เรยี นจำนวน..................คน
ผ่านจดุ ประสงค์การเรียนร.ู้ .....................คน คิดเปน็ ร้อยละ..................
ไม่ผา่ นจุดประสงค์การเรียนร้.ู .................คน คดิ เป็นร้อยละ..................
นักเรียนน่ไี ม่ผ่าน มีดังนี้
1............................................................ 2............................................................
3............................................................ 4............................................................
5............................................................ 6............................................................
สรปุ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
1.2 นักเรียนมคี วามรู้ความเข้าใจ (K) รักษช์ าติ ศาสน์ กษตั ริย์ อยูอ่ ย่างพอเพียง
..........................................................................................
.......................................................................................... ซื่อสตั ย์สุจริต มงุ่ มั่นในการทำงาน
.........................................................................................
1.3 นักเรยี นมคี วามรู้เกดิ ทักษะ (P) มวี นิ ยั รักความเปน็ ไทย
..........................................................................................
.......................................................................................... ใฝ่เรียนรู้ มจี ิตเปน็ สาธารณะ
.........................................................................................
1.4 นักเรยี นมเี จตคติ ค่านิยม คณุ ธรรมจริยธรรม (A) สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
.......................................................................................... การสื่อสาร
.......................................................................................... การคิด
.......................................................................................... การแก้ปญั หา
................................................ การใช้ทักษะชวี ติ
การใชเ้ ทคโนโลยี
2. ปญั หา อุปสรรค และแนวทางแก้ไข
………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
ลงชอ่ื ....................................................
(นางสาวพชั รมยั อนิ อ่อน)
ตำแหนง่ ครู.คศ 1
โรงเรียนวดั ชนิ วราราม(เจริญผลวิทยาเวศม)์
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 134
ความเหน็ ของหัวหน้าสถานศึกษา/ผทู้ ่ไี ดร้ บั มอบหมาย
ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรยี นรขู้ อง นางสาวพชั รมยั อินอ่อน แล้วมคี วามเห็นดังนี้
1.เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี
ดมี าก
ดี
พอใช้
ควรปรับปรุง
2.การจดั กิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้
เน้นผู้เรียนเปน็ สำคญั มาใช้ในการสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
ยงั ไมเ่ นน้ ผเู้ รียนเปน็ สำคัญ ควรปรับปรงุ พฒั นาต่อไป
3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่
นำไปใชไ้ ด้จรงิ
ควรปรบั ปรงุ ก่อนนำไปใช้
4.ข้อเสนอแนะอ่นื ๆ
......................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................... ................
........................................................................................... ...........................................................................
.......................................................................................................................................................... ............
ลงชื่อ.........................................................
( นางฉัฐอติพา แช่มชมดาว )
ตำแหนง่ ผู้อำนวยการโรงเรียนวดั ชนิ วราราม(เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์)
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 135
บันทกึ หน่วยการจดั การเรียนรู้
กล่มุ สาระการเรยี นร้ศู ลิ ปะ รายวิชา นาฏศิลป์ รหัสวชิ า ศ11101
ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนท่ี 1
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 4 เรื่อง การละเล่นของเดก็ ไทย เวลา 3 ชั่วโมง
**********************************************************************************************
มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้วี ดั
มาตรฐานการเรียนรู้
ศ 3.2 เขา้ ใจความสมั พันธ์ระหว่างนาฏศิลป์ ประวตั ศิ าสตร์ และวัฒนธรรม เหน็ คุณค่าของ
นาฏศลิ ปท์ ่เี ปน็ มรดกทางวฒั นธรรม ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถิ่น ภมู ิปัญญาไทยและสากล
ตัวชว้ี ัด
ศ 3.2 ป.1/1 ระบแุ ละเลน่ การละเลน่ ของเด็กไทย
สาระสำคญั
การละเล่นของเด็กไทยมีความสนุกสนานและมีประโยชน์ ดังนั้นควรร่วมมือกันอนุรักษ์
การละเลน่ ของเด็กไทยใหค้ งอยู่สบื ไป
ความเขา้ ใจทค่ี งทน (Enduring Understanding)
การละเล่นของเด็กไทย เป็นการละเล่นที่สนุกสนาน เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติที่ควร
อนุรักษใ์ ห้คงอยสู่ ืบไป
สาระการเรยี นรู้
การละเลน่ ของเด็กไทย : งกู ินหาง รรี ีขา้ วสาร มอญซ่อนผา้
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
รักความเป็นไทย
ตัวช้วี ดั ท่ี 7.3 อนุรักษแ์ ละสืบทอดภมู ปิ ญั ญาไทย
สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน
ความสามารถในการคดิ
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 136
ชน้ิ งานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน รอ่ งรอยแสดงความรู้)
1. การบันทกึ ผลการละเล่นของเด็กไทย : งูกนิ หาง
2. การบนั ทึกผลการละเล่นของเด็กไทย : รีรีข้าวสาร
3. การบนั ทกึ ผลการละเล่นของเดก็ ไทย : มอญซ่อนผา้
การประเมินผล
1. การประเมนิ ผลตัวชีว้ ัด
1.1 การบันทกึ ผลการละเล่นของเด็กไทย : งกู นิ หาง
เกณฑ์การประเมิน 4 ระดับคะแนน 1
32
เล่นการละเลน่
เลน่ การละเล่นงกู นิ หาง เล่นการละเล่น เลน่ การละเล่น เล่นการละเลน่ งกู นิ หางได้แต่
ไม่ถกู ตอ้ งตามกติกา
งูกินหางได้ตาม งูกินหางไดต้ าม งูกนิ หางได้ตาม
กติกาและแนะนำ กตกิ าและมี กติกา
ใหผ้ ู้อื่นเล่นได้ เทคนคิ การเล่น
ของตนเอง
1.2 การบนั ทกึ ผลการละเลน่ ของเด็กไทย : รีรขี ้าวสาร
เกณฑก์ ารประเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1
32
เลน่ การละเลน่ รรี ขี ้าวสาร เล่นการละเล่น เล่นการละเลน่ เลน่ การละเล่น เลน่ การละเล่น
รรี ขี า้ วสารไดต้ าม รีรีขา้ วสารได้ตาม รีรีขา้ วสารไดต้ าม รรี ขี า้ วสารไดแ้ ต่ไม่
กตกิ าและแนะนำ กติกาและมี กติกา ถูกต้องตามกติกา
ให้ผอู้ ื่นเล่นได้ เทคนิคการเล่น
ของตนเอง
1.3 การบนั ทึกผลการละเล่นของเด็กไทย : มอญซ่อนผา้
เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1
32 เล่นการละเล่น
เล่นการละเล่นมอญซ่อนผา้ เลน่ การละเล่น เลน่ การละเลน่ เล่นการละเลน่
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 137
มอญซ่อนผ้าได้ มอญซ่อนผา้ ได้ มอญซ่อนผา้ ได้ มอญซ่อนผา้ ได้
ตามกติกาและ ตามกติกาและมี ตามกติกา แต่ไม่ถกู ต้องตาม
แนะนำใหผ้ ู้อ่นื เทคนิคการเล่น กตกิ า
เล่นได้ ของตนเอง
2. การประเมินผลคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
รักความเปน็ ไทย
ตวั ชีว้ ัดที่ 7.3 อนุรกั ษ์และสบื ทอดภูมปิ ัญญาไทย
พฤติกรรมบ่งช้ี ไมผ่ ่าน (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดเี ยีย่ ม (3)
7.3.1 นำภมู ปิ ญั ญาไทย ไม่สนใจ บอกชื่อภูมปิ ญั ญาไทยท่ี บอกชื่อภมู ปิ ญั ญาไทย บอกชื่อภูมิปญั ญาไทยที่
มาใช้ใหเ้ หมาะสม ภูมปิ ญั ญาไทย ใช้ในทอ้ งถนิ่ ทใี่ ช้ในท้องถ่ินของตน ใชใ้ นท้องถ่ินของตนเข้า
ในวถิ ชี วี ติ ของตนได้ เขา้ รว่ มกจิ กรรม ร่วมและชกั ชวน
7.3.2 ร่วมกิจกรรม ทีเ่ กี่ยวข้องกับ คนในครอบครัว
ทเี่ กี่ยวขอ้ งกบั ภูมิปญั ญาไทย หรอื เพ่ือนเขา้ ร่วม
ภมู ปิ ญั ญาไทย กิจกรรมท่ีเกย่ี วข้อง
7.3.3 แนะนำ มีสว่ นรว่ ม กับภูมปิ ัญญาไทย
ในการสืบทอด
ภมู ิปัญญาไทย
การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
1. รว่ มกนั สนทนาเก่ยี วกบั การละเล่นของเด็กไทย
2. ให้นักเรียนฝึกเลน่ งกู ินหาง แล้วบันทึกผลลงในแบบบนั ทกึ การละเลน่ ของเด็กไทย
3. ให้นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการละเล่นรรี ีขา้ วสารแล้วฝึกเล่น และบันทึกผล
ลงในแบบบันทกึ การละเล่นรีรีขา้ วสาร
4. ให้นักเรียนร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับการละเล่นมอญซ่อนผ้าแล้วฝึกเล่น และบันทึกลงในแบบ
บนั ทกึ การละเลน่ มอญซ่อนผ้า
5. ร่วมกันสนทนาเก่ียวกับแนวทางการอนุรักษ์การละเล่นของเด็กไทย และสรุปความรู้เก่ียวกับ
การละเลน่ ของเดก็ ไทย
6. นกั เรยี นและครรู ่วมกนั สรปุ ความรู้ ดังน้ี
- การละเล่นของเดก็ ไทย เปน็ การละเล่นที่สนกุ สนาน เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาตทิ ีค่ วร
อนุรกั ษใ์ หค้ งอย่สู ืบไป
สื่อการเรียนรู้
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 138
1. บตั รคำ
2. แผนภูมิเพลงประกอบการละเลน่ งกู ินหาง
3. แผนภมู เิ พลงประกอบการละเลน่ รีรขี ้าวสาร
4. แผนภูมิเพลงประกอบการละเลน่ มอญซ่อนผ้า
5. แบบบันทึกการละเลน่ งูกินหาง
6. แบบบันทึกการละเลน่ รีรีข้าวสาร
7. แบบบันทกึ การละเล่นมอญซอ่ นผ้า
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 139
แบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-Test)
ช่อื ______________________ นามสกุล_______________ เลขท_่ี _____ ชั้น ______ไ_ด.้ .....................
ให้ระบายคำตอบทถี่ กู ต้องลงในวงกลมตัวเลือกใหเ้ ต็มวง (ห้ามระบายนอกวง) คะแนน
1. การละเลน่ ของไทยมีประโยชนต์ อ่ ร่างกายอยา่ งไร คะแนนเตม็ 10 คะแนน
1 รา่ งกายซบู ผอม เคลื่อนไหวเช่อื งช้า
2 ร่างกายแขง็ แรง เคลื่อนไหวคล่องแคล่ว
3 ร่างกายอ่อนแอ เคลื่อนไหวเช่ืองช้า
2. การละเล่นมอญซอ่ นผ้า ผู้ท่เี ป็นมอญต้องทำอย่างไร
1 นำผา้ ไปซ่อนข้างหลงั ผเู้ ล่น
2 นำผ้าไล่ตีผเู้ ลน่ ทุกคน
3 นำผา้ ไปวางท่ีตกั ผู้เล่น
3. “กนิ น้ำบอ่ หนิ ” จากประโยคลกู งจู ะต้องตอบรบั แม่งอู ย่างไร
1 โยกไปกโ็ ยกมา
2 ย้ายไปกย็ ้ายมา
3 บนิ ไปกบ็ นิ มา
4. การละเลน่ ใดเคลื่อนไหวร่างกายน้อยทส่ี ดุ
1 หมากเก็บ
2 มอญซอ่ นผา้
3 งกู ินหาง
5. การรอ้ งเพลงประกอบการละเล่นมปี ระโยชนอ์ ย่างไร
1 ทำให้เกดิ ความเรยี บร้อย
2 ทำใหเ้ กดิ เสียงดัง
3 ทำใหเ้ กดิ ความสนุกสนาน
6. ส่งิ ใดใชป้ ระกอบการละเลน่ มอญซ่อนผ้า
1 กอ้ นหนิ
2 ผ้า
3 เชือก
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 140
7. ข้อใดไมใ่ ช่การละเลน่ ของเดก็ ไทย
1 ฟุตบอล
2 รีรขี ้าวสาร
3 จำ้ จ้ี
8. การละเล่นใดไม่มเี พลงประกอบ
1 ชักเยอ่
2 มอญซ่อนผา้
3 งูกนิ หาง
9. การละเล่นใดทม่ี ผี ูเ้ ลน่ ทเ่ี ป็นประตซู ุม้
1 มอญซอ่ นผ้า
2 งกู ินหาง
3 รีรีข้าวสาร
10. ในการเลน่ งูกินหาง ผูเ้ ล่นฝ่ายใดมจี ำนวนมากท่ีสดุ
1 แม่งู
2 ลูกงู
3 พ่องู
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 141
แบบทดสอบหลังเรียน (Post-Test)
ช่ือ ______________________ นามสกลุ _______________ เลขท_่ี _____ ชน้ั ______ไ_ด.้ .....................
ใหร้ ะบายคำตอบท่ีถกู ต้องลงในวงกลมตัวเลอื กใหเ้ ตม็ วง (หา้ มระบายนอกวง) คะแนน
1. การละเล่นใดไม่มีเพลงประกอบ คะแนนเตม็ 10 คะแนน
1 งูกินหาง
2 ชกั เยอ่
3 มอญซ่อนผ้า
2. ขอ้ ใดไมใ่ ช่การละเล่นของเด็กไทย
1 จำ้ จี้
2 ฟตุ บอล
3 รีรขี ้าวสาร
3. ในการเล่นงูกนิ หาง ผเู้ ล่นฝ่ายใดมจี ำนวนมากท่สี ดุ
1 พอ่ งู
2 แมง่ ู
3 ลูกงู
4. การละเลน่ ใดทมี่ ีผู้เล่นทเ่ี ป็นประตูซมุ้
1 งกู นิ หาง
2 รรี ีขา้ วสาร
3 มอญซ่อนผ้า
5. ส่ิงใดใชป้ ระกอบการละเลน่ มอญซ่อนผา้
1 ผา้
2 เชือก
3 ก้อนหิน
6. การละเลน่ มอญซอ่ นผ้า ผู้ทีเ่ ปน็ มอญตอ้ งทำอย่างไร
1 นำผ้าไลต่ ผี เู้ ล่นทุกคน
2 นำผา้ ไปวางทีต่ กั ผู้เล่น
3 นำผา้ ไปซ่อนข้างหลังผเู้ ลน่
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 142
7. การละเลน่ ใดเคลื่อนไหวร่างกายน้อยทีส่ ุด
1 งูกินหาง
2 หมากเก็บ
3 มอญซ่อนผา้
8. “กินนำ้ บอ่ หนิ ” จากประโยคลูกงูจะต้องตอบรบั แมง่ ูอย่างไร
1 บินไปกบ็ นิ มา
2 โยกไปกโ็ ยกมา
3 ย้ายไปก็ย้ายมา
9. การร้องเพลงประกอบการละเล่นมีประโยชน์อยา่ งไร
1 ทำใหเ้ กดิ ความสนุกสนาน
2 ทำให้เกิดความเรยี บร้อย
3 ทำให้เกดิ เสียงดัง
10. การละเลน่ ของไทยมปี ระโยชน์ต่อรา่ งกายอย่างไร
1 รา่ งกายออ่ นแอ เคล่ือนไหวเช่ืองชา้
2 ร่างกายซบู ผอม เคลื่อนไหวเชื่องชา้
3 รา่ งกายแขง็ แรง เคลอ่ื นไหวคล่องแคล่ว
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 143
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น (Pre-Test)
1. 2 2. 1 3. 3 4. 1 5. 1
6. 2 7. 1 8. 1 9. 3 10. 2
เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน (Post-Test)
1. 2 2. 2 3. 3 4. 2 5. 1
6. 3 7. 2 8. 1 9. 1 10. 3
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 144
แบบบนั ทึกสรุปผลการเรียนรสู้ ำหรบั ผู้เรียน
ช่อื -นามสกุล...................................... เลขที่ ............................................ ช้นั ..................................
วนั ท่ี ................................................ เดอื น ........................................................... พ.ศ . .....................
คำชแ้ี จง ให้นกั เรยี นบนั ทกึ สรุปผลการเรียนรู้จากหนว่ ยการเรยี นรู้นี้
นกั เรียนมีความรู้สึกอยา่ งไร
หลงั จากท่ีเรียนหน่วยการเรียนรู้
นกั เรียนยงั ไมเ่ ขา้ ใจเรื่องใด น้ีแลว้
อีกบา้ งที่เกี่ยวกบั หน่วยการเรียนรู้น้ี .................................................... นกั เรียนไดร้ ับความรู้เร่ืองใดบา้ ง
ซ่ึงตอ้ งการใหค้ รูอธิบายเพิม่ เติม .................................................... จากหน่วยการเรียนรู้น้ี
....................................................... .............. ....................................................
....................................................... ....................................................
....................................................... ....................................................
....................................................
หน่ วยการเรี ยน รู้ท่ี
.......
...............................
นกั เรียนจะสามารถนาความรู้ ............................... กิจกรรมท่ีนักเรียนชอบมากที่สุดใน
ความเขา้ ใจจากหน่วยการเรียนรู้น้ี ..... หน่วยการเรี ยนรู้น้ีคือกิจกรรมใด
ไปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวิตประจาวนั เพราะอะไร
ไดอ้ ยา่ งไรบา้ ง ผลงานท่ีนกั เรียนชอบและตอ้ งการ ...........................................................
....................................................... คดั เลือกเป็นผลงานดีเด่นจากหน่วย ...........................................................
....................................................... การเรียนรู้น้ีคือผลงานใดบา้ ง ...........................................................
....................................................... ....................................................... ...........................................................
....................................................... ....................................................... .
.......................................................
หมายเหตุ ให้ครสู ำเนาแบบบันทกึ นีเ้ พอื่ ให้นกั เรยี นบนั ทกึ ทกุ หน่วยการเรยี นรู้
1. ครูสามารถนาแบบบนั ทึกน้ีไปใชเ้ ป็นหลกั ฐานและขอ้ มลู เพื่อปรับปรุง และพฒั นากระบวนการเรียนรู้ของผเู้ รียน
2. ครูสามารถนาแบบบนั ทึกน้ีไปใชป้ ระกอบการทาวิจยั ในช้นั เรียนเพ่ือเป็นผลงานประกอบการเล่ือนวทิ ยฐานะได้
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 145
บันทึกแผนการจัดการเรยี นรู้
กลุม่ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ รายวิชา นาฏศิลป์ รหัสวชิ า ศ11101
ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 1 ภาคเรียนท่ี 1
หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 4 เรื่อง การละเล่นของเด็กไทย เวลา 3 ชั่วโมง
แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 18 เร่ือง การละเลน่ ของเด็กไทย : งกู ินหาง เวลา 1 ชัว่ โมง
**********************************************************************************************
มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวช้ีวดั
มาตรฐานการเรยี นรู้
ศ 3.2 เขา้ ใจความสมั พันธ์ระหว่างนาฏศิลป์ ประวตั ิศาสตร์ และวฒั นธรรม เห็นคุณค่าของ
นาฏศลิ ปท์ เ่ี ปน็ มรดกทางวัฒนธรรม ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถิ่น ภูมิปัญญาไทยและสากล
ตัวช้วี ัด
ศ 3.2 ป.1/1 ระบแุ ละเล่นการละเล่นของเดก็ ไทย
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้สตู่ วั ช้ีวัด
1. อธิบายเก่ียวกับประโยชน์ของการละเลน่ งูกินหาง (K)
2. เล่นการละเล่นงูกินหาง (P)
3. ช่นื ชมการละเล่นงูกนิ หาง (A)
สาระสำคัญ
งูกินหางเป็นการละเล่นของเด็กไทยท่ีมีบทเพลงประกอบการละเล่น ทำให้เด็ก ๆได้รับความ
สนุกสนาน และเปน็ การใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ เป็นการออกกำลงั กายที่ดี ทำให้มีสุขภาพแขง็ แรง
สาระการเรยี นรู้
การละเล่นของเด็กไทย : งกู ินหาง
คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
รักความเป็นไทย
ตวั ช้ีวัดท่ี 7.3 อนรุ กั ษ์และสืบทอดภูมิปัญญาไทย
สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
ความสามารถในการคิด
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 146
ชน้ิ งานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน รอ่ งรอยแสดงความรู้)
1. แผนภาพความคิดการละเลน่ ของเด็กไทย
2. แบบบันทึกการละเล่นงูกินหาง
คำถามทา้ ทาย
- การละเลน่ งกู ินหางมปี ระโยชนต์ อ่ สุขภาพรา่ งกายอย่างไร
การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
1. ครนู ำบตั รคำ การละเล่นของเด็กไทย มาตดิ ไวบ้ นกระดาน แล้วใชค้ ำถามเพ่ือให้
นกั เรียนร่วมกนั สนทนา ดังน้ี
- นกั เรยี นรูจ้ ักการละเล่นของเดก็ ไทยหรือไม่ (รู้จกั /ไม่รูจ้ ัก)
- นักเรียนรู้จักการละเล่นของเด็กไทยอะไรบ้าง (ตัวอย่างคำตอบ หมากเก็บ ต่ีจับ งูกิน
หาง มอญซ่อนผ้า)
- เมือ่ ได้เล่นการละเลน่ ดงั กล่าวนักเรยี นรสู้ ึกอย่างไร (ตัวอยา่ งคำตอบ สนกุ สนาน)
2. ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาเพื่อรวบรวมชื่อการละเล่นของเด็กไทยท่ีนักเรียนรู้จัก แล้ว
เขยี นสรุปลงในแผนภาพบนกระดานดงั ตวั อย่างต่อไปนี้
จากนัน้ ครอู ธบิ ายเก่ยี วกับการละเล่นของเด็กไทยให้นกั เรียนฟงั เพิม่ เติม
3. ครูนำบัตรคำ งูกินหาง มาติดไวบ้ นกระดานแลว้ ร่วมกนั สนทนากบั นักเรยี น โดยครใู ช้
คำถาม ดังน้ี
- นกั เรยี นเคยเลน่ การละเล่นงูกนิ หางหรอื ไม่ (เคย/ไมเ่ คย)
- เมื่อเลน่ งกู ินหางแล้วนักเรียนรสู้ ึกอยา่ งไร (ตัวอย่างคำตอบ สนกุ สนาน)
- การเล่นงูกินหางมีประโยชน์ต่อผู้เล่นอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ ทำให้มีสุขภาพแข็งแรง
ใช้เวลาวา่ งใหเ้ ป็นประโยชน์)
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 147
จากนั้นครูนำแผนภูมิเพลงประกอบการเล่นงูกินหางมาติดไว้บนกระดานและปฏิบัติตาม
ข้นั ตอนตอ่ ไปน้ี
- นำนักเรียนอ่านแผนภมู ิเพลงทลี ะท่อนจนทกุ คนอา่ นไดถ้ ูกตอ้ ง
- นำนักเรยี นร้องเปน็ ทำนองเพลงประกอบจงั หวะทีละทอ่ นจนทุกคนสามารถร้องไดถ้ ูกตอ้ ง
- อธิบายวธิ เี ล่นและกติกาการเลน่ งูกินหางให้นักเรียนฟังจนเข้าใจ
- คัดเลือกผู้แทนนักเรียน 10 คน ออกมาหน้าชั้นเรียนแบ่งเป็น 3 ฝ่าย ได้แก่ ฝ่ายพ่องู
ฝ่ายแมง่ ู ฝา่ ยลูกงู เพ่ือสาธิตวิธกี ารเล่นงูกินหางใหน้ กั เรยี นดูจำนวน 1-2 รอบ
- ให้นกั เรียนเลน่ งกู ินหางและบนั ทึกผลการเลน่ ลงในแบบบนั ทกึ ดงั ตัวอยา่ งต่อไปน้ี
แบบบันทกึ การเล่นงูกนิ หาง
ชื่อ ________________ นามสกลุ _____________ ช้นั _____ เลขท่ี______
1. การละเล่นที่เลน่ _____________________________________________
2. ความรู้สึกที่มีตอ่ การละเลน่ งูกินหาง_________________________________
3. ความรู้สึกเม่ือไดเ้ ลน่ การละเลน่ ไทย_________________________________
4. ถา้ มีเวลาวา่ งจะนาการละเลน่ ไปเล่นกบั เพ่อื น
หรือไม่_______________________
5. ประโยชน์ท่ีไดร้ ับจากการละเลน่ งกู ินหาง______________________________
4. ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาเก่ียวกับแนวทางการอนุรักษ์การละเล่นงูกินหาง โดยครูใช้
คำถาม ดงั นี้
- นักเรียนจะมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์การละเล่นงูกินหางให้คงอยู่คู่สังคมไทยได้อย่างไร
(ตวั อย่างคำตอบ นำการละเลน่ งกู นิ หางมาเลน่ กับเพ่ือน ๆ อยเู่ สมอ)
5. ใหน้ กั เรยี นและครรู ว่ มกันสรุปความรู้ ดงั นี้
- งูกินหางเป็นการละเล่นของเด็กไทยท่ีมีบทเพลงประกอบการละเล่น ทำให้เด็ก ๆ ได้รับ
ความสนุกสนานและเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ เป็นการออกกำลังกายท่ีดี ทำให้มีสุขภาพ
แขง็ แรง
6. ให้นักเรียนรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ โดยครูใชค้ ำถามท้าทาย ดงั นี้
- การละเลน่ งกู ินหางมีประโยชนต์ อ่ สขุ ภาพร่างกายอยา่ งไร
การจดั บรรยากาศเชงิ บวก
- ใหน้ ักเรียนเล่นงูกนิ หางอย่างมีอิสระ
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 148
สื่อการเรยี นรู้
1. บตั รคำ
2. แผนภูมเิ พลงประกอบการละเลน่ งูกนิ หาง
3. แบบบันทึกการเล่นงูกินหาง
การวดั และประเมินผลการเรียนรู้
1. วิธกี ารวดั และประเมนิ ผล
1.1 สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเขา้ รว่ มกิจกรรม
1.2 สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในการเข้าร่วมกจิ กรรมกลมุ่
2. เครื่องมือ
2.1 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม
2.2 แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม
3. เกณฑก์ ารประเมิน
3.1 การประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรม
ผา่ นตง้ั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผา่ น
ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไมผ่ ่าน
3.2 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลมุ่
คะแนน 9-10 ระดบั ดมี าก
คะแนน 7-8 ระดับ ดี
คะแนน 5-6 ระดบั พอใช้
คะแนน 0-4 ระดบั ควรปรบั ปรุง
เอกสารบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรู้ : โรงเรยี นวดั ชนิ วราราม (เจรญิ ผลวทิ ยาเวศม์ 149
บนั ทึกผลหลังการจดั การเรียนรู้
1 สรุปผลหลังการจัดการเรียนรู้
1.1 นักเรียนจำนวน..................คน
ผา่ นจุดประสงค์การเรยี นรู้......................คน คิดเปน็ ร้อยละ..................
ไม่ผา่ นจุดประสงค์การเรียนร้.ู .................คน คดิ เป็นร้อยละ..................
นกั เรยี นน่ีไมผ่ า่ น มีดงั น้ี
1............................................................ 2............................................................
3............................................................ 4............................................................
5............................................................ 6............................................................
สรุป คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1.2 นักเรยี นมคี วามรู้ความเข้าใจ (K) รักษช์ าติ ศาสน์ กษตั ริย์ อยูอ่ ย่างพอเพียง
..........................................................................................
.......................................................................................... ซื่อสตั ย์สุจริต มงุ่ มั่นในการทำงาน
.........................................................................................
1.3 นกั เรียนมีความรู้เกิดทักษะ (P) มวี นิ ยั รักความเปน็ ไทย
..........................................................................................
.......................................................................................... ใฝ่เรียนรู้ มจี ิตเปน็ สาธารณะ
.........................................................................................
1.4 นกั เรียนมีเจตคติ คา่ นยิ ม คณุ ธรรมจริยธรรม (A) สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
.......................................................................................... การสื่อสาร
.......................................................................................... การคิด
.......................................................................................... การแก้ปญั หา
................................................ การใช้ทักษะชวี ติ
การใช้เทคโนโลยี
2. ปญั หา อุปสรรค และแนวทางแก้ไข
………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………….
ลงชอ่ื ....................................................
(นางสาวพชั รมยั อนิ อ่อน)
ตำแหนง่ ครู.คศ 1
โรงเรียนวดั ชนิ วราราม(เจริญผลวิทยาเวศม)์