โคราช เ ืมอง ิศลปะ102
งานตีเหลก็ บา้ นมะคา่
การตีเหล็กบ้านมะค่าเป็นภูมิปัญญาและงานช่างฝีมือพ้ืนบ้านที่มีมายาวนาน
กว่า ๑๐๐ ปี ถา่ ยทอดจากบรรพบุรษุ ผลิตข้นึ เพอื่ ใช้ประโยชนท์ างการเกษตร ครวั เรือน
มที ้ังการตมี ีด เคียว ขวาน ดาบ พร้า จอบ และเสียม กรรมวิธใี นการตมี ีดและหล่อโลหะ
ยังใช้วิธีการพื้นบ้าน ซึ่งยังได้ผลเป็นอย่างดี โดยวิธีการคัดเลือกเหล็กตามชนิดที่ต้องการ
แล้วน�ำมาเผาไฟด้วยเตาเผาจนเหล็กร้อนแดงได้ท่ี น�ำมาตัดให้ได้ขนาด เผาไฟอีกครั้ง
จนแดงได้ท่ี ช่างจะท�ำการตีโดยใช้ค้อนตีสลับกับค้อนพะเนิน สลับกับเผาไฟให้ร้อน
ประมาณ ๔ - ๕ ครง้ั จึงจะไดร้ ูปรา่ งทีต่ อ้ งการ นกั ท่องเท่ียวสามารถเยี่ยมชมวธิ กี ารผลิต
แบบดั้งเดิม และซื้อผลิตภัณฑ์ได้ท่ี องค์การบริหารส่วนต�ำบลบ้านโพธ์ิ ต�ำบลบ้านโพธ์ิ
อ�ำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ปัจจุบันการตีเหล็กที่บ้านมะค่าสามารถ
สร้างรายได้ให้กับชุมชนปีละกว่า ๒๐ ล้านบาท ผู้คนในชุมชนจึงยังคงช่วยกันอนุรักษ์
สบื สานงานตเี หล็กให้คงอยู่สืบไป
103 โคราช เมืองศลิ ปะ
105 โคราช เมืองศลิ ปะ
ขนบธรรมเนยี มประเพณี และเทศกาล
ชาวจังหวัดนครราชสีมายังคงยึดถือประเพณี ความเชื่อท่ีปฏิบัติสืบทอดกันมา
แตโ่ บราณเป็นประจำ� ทกุ เดอื นเชน่ เดียวกับชาวอีสานในจังหวดั อืน่ ๆ เรยี กว่า ฮตี สบิ สอง
เรยี งลำ� ดบั ตงั้ แตเ่ ดอื นอา้ ยถงึ เดอื น ๑๒ ไดแ้ ก่ บญุ เขา้ กรรม บญุ คณู ลาน บญุ ขา้ วจี่ บญุ ผะเหวด
บุญสงกรานต์ บุญบ้ังไฟ บุญซ�ำฮะ บุญเข้าพรรษา บุญข้าวประดับดิน บุญข้าวสาก
บญุ ออกพรรษา บญุ กฐนิ และดว้ ยจงั หวดั นครราชสมี าประกอบดว้ ยกลมุ่ ชาตพิ นั ธห์ุ ลากหลาย
ท�ำให้ประเพณีและวัฒนธรรมอาจแตกต่างกันไปตามเอกลกั ษณเ์ ฉพาะกลุม่ อย่างไรก็ตาม
ชาวนครราชสีมาส่วนใหญ่ยังคงยึดถือประเพณีบางอย่างท่ีคงความส�ำคัญเป็นสัญลักษณ์
คเู่ มอื ง และบางอยา่ งอาจเกดิ จากความกา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยี และขอ้ จำ� กดั ในการดำ� เนนิ
ชีวิต ขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมอาจปรับเปลี่ยนบ้าง แต่ยังคงความเป็น
อัตลักษณ์ของชาวนครราชสีมาไว้อย่างเหนียวแน่น ประเพณีและเทศกาลที่ส�ำคัญ
ได้แก่
โคราช เ ืมอง ิศลปะ106
งานฉลองวนั แหง่ ชยั ชนะของ
ท้าวสรุ นารี
งานประจ�ำปีท่ีย่ิงใหญ่ของจังหวัดนครราชสีมา ก�ำหนดจัดระหว่างวันท่ี ๒๓
มีนาคม ถึงวันท่ี ๓ เมษายนของทุกปี เป็นเวลา ๑๒ วัน ๑๒ คืน ถือกันว่าเป็นวันที่
ท้าวสุรนารี (คุณหญิงโม) ได้รับชัยชนะจากเจ้าอนุวงศ์แห่งเวียงจันทน์ ณ ทุ่งสัมฤทธิ์
แขวงเมอื งนครราชสมี า เมื่อวนั ท่ี ๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๓๖๙
ในงานมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมและกิจกรรมต่าง ๆ เพ่ือร�ำลึกถึงวีรกรรมของ
คุณหญงิ โม รปู แบบการจดั งานมีการแสดงมหรสพ และอนื่ ๆ อาทิ ขบวนสกั การะ ขบวน
ร�ำบวงสรวง การว่ิงคบไฟและจุดพลุในวันเปิดงาน การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน
ของดเี มอื งโคราช การจัดนทิ รรศการ การออกรา้ นของสว่ นราชการ หนว่ ยงานรัฐวสิ าหกิจ
สถานศกึ ษาและองคก์ รเอกชน การแสดงและจำ� หนา่ ยสนิ คา้ ผลติ ภณั ฑช์ มุ ชน อาหารพนื้ เมอื ง
การแสดงดนตรี นอกจากน้ียังมีการแข่งขันกีฬา การประกวดนางสาวนครราชสีมา
การประกวดร้องเพลง ประกวดสุขภาพเด็ก ประกวดวาดภาพโดยเด็กและเยาวชน
ประกวดผลผลิตทางการเกษตร ประกวดแมวโคราช และการฉายภาพยนตร์บน
กำ� แพงเมอื ง เปน็ ตน้ กจิ กรรมภายในงานอาจมกี ารปรบั เปลย่ี นไปบา้ งเพอื่ ใหส้ อดคลอ้ งกบั
สภาพการณ์ปจั จุบันในแต่ละปี
107 โคราช เมืองศลิ ปะ
โคราช เ ืมอง ิศลปะ108
การแข่งเรือยาวประเพณี
เทศกาลเทย่ี วพมิ าย
เดมิ ชอ่ื ว่า ประเพณแี ข่งเรอื พมิ าย เป็นงานประเพณีทีส่ บื ทอดตอ่ กนั มายาวนาน
กวา่ ๑๐๐ ปี ณ ลำ� นำ�้ จกั ราช อำ� เภอพิมาย ต่อมาได้มีการจดั การแข่งขนั โดยมีเรอื จาก
ตา่ งอำ� เภอมารว่ มแขง่ ขนั ดว้ ย จน พ.ศ. ๒๕๓๒ การทอ่ งเทย่ี วแหง่ ประเทศไทย กรมศลิ ปากร
และจงั หวดั นครราชสมี า ไดก้ ำ� หนดใหม้ กี ารจดั งานประจำ� ปี ภายใตช้ อื่ เทศกาลเทย่ี วพมิ าย
โดยมกี จิ กรรมแสง สี เสยี ง ณ บริเวณอทุ ยานประวัตศิ าสตร์ พมิ าย มีกจิ กรรมตา่ ง ๆ เชน่
การประกวดแมวโคราช การประกวดผดั หมพี่ มิ าย การประกวดตำ� สม้ ตำ� การจำ� ลองตลาด
ยอ้ นยคุ การจดั แสดงนทิ รรศการ เปน็ ตน้ และไดบ้ รรจกุ ารแขง่ เรอื พมิ ายเขา้ ไปเปน็ สว่ นหนงึ่
ของงานเทศกาลเทยี่ วพมิ ายดว้ ย ตอ่ มาไดพ้ ฒั นาโดยมเี รอื จากตา่ งประเทศรว่ มแขง่ ขนั ดว้ ย
และไดป้ รับเปล่ยี นชอื่ งานเปน็ การแขง่ ขันเรอื ยาวประเพณี เทศกาลเทย่ี วพิมาย จงั หวัด
นครราชสมี า จนถึงปัจจบุ ัน กำ� หนดจดั ในเดอื นพฤศจกิ ายนของทกุ ปี การแข่งขันเรือยาว
แบง่ เปน็ ประเภทเรือพายชาย เรือพายหญงิ และเรอื อีโปง และแบง่ เปน็ รุ่นใหญ่ รนุ่ กลาง
และรุ่นเล็ก ตามจ�ำนวนฝีพาย งานนี้ถือเป็นงานส�ำคัญระดับจังหวัด มีชาวจังหวัดและ
คนไทยในจงั หวัดอ่ืน ๆ เขา้ รว่ มงานด้วยจำ� นวนมาก
109
โคราช เ ืมอง ิศลปะ110
งานเบญจมาศบานในม่านหมอก
จัดขนึ้ ในช่วงเดอื นมกราคม - กุมภาพันธข์ องทกุ ปี ณ บรเิ วณสนามหนา้ ท่ีท�ำการ
องค์การบริหารส่วนต�ำบลไทยสามัคคี อ�ำเภอวังน้�ำเขียว ภายในงานจัดให้มีการประกวด
และจำ� หนา่ ย “ดอกเบญจมาศ” แปลงสาธติ ดอกเบญจมาศหลากสายพนั ธ์ุ ประตมิ ากรรม
ต้นไม้และสวนดอกไม้นานาพรรณโดยการจัดสวนหย่อม ตกแต่งภูมิทัศน์ การแสดงและ
จำ� หนา่ ยสนิ คา้ ผกั เมอื งหนาว สาธติ การเพาะเหด็ หอม เรยี นรเู้ คลด็ ลบั การทำ� เกษตรอนิ ทรยี ์
เดนิ ปา่ ศกึ ษาธรรมชาติ การออกรา้ นแสดงผลติ ภัณฑช์ ุมชน สินคา้ OTOP การแสดงของ
นกั เรียน กลุม่ องค์กรต่าง ๆ การแสดงของวงดนตรี และกิจกรรมอน่ื ๆ อีกมากมาย รวมทง้ั
กิจกรรมการข่ีจักรยานท่องเที่ยวรับสายหมอกและลมหนาวของอ�ำเภอวังน�้ำเขียว เพื่อ
ส่งเสรมิ การทอ่ งเท่ียวของอำ� เภอวงั นำ้� เขียวอกี ด้วย
111 โคราช เมืองศลิ ปะ
โคราช เ ืมอง ิศลปะ112
ประเพณแี ห่เทยี นโคราช
ตามวดั ตา่ ง ๆ ในจงั หวดั นครราชสมี ามกั จดั งานบญุ เขา้ พรรษา โดยการหลอ่ เทยี น
และแหเ่ ทยี นจำ� นำ� พรรษา ทำ� พธิ ีใหญ่บ้างเล็กบา้ งตามอพั ภาพของวัดในแต่ละพืน้ ที่ แต่ที่
เป็นงานบุญยิ่งใหญ่ประจ�ำปีในระดับจังหวัดแสดงถึงความศรัทธาในพระพุทธศาสนา
คือ งานประเพณีแห่เทียนโคราช จัดข้ึน
ในชว่ งเดอื นกรกฎาคมของทกุ ปี ณ บรเิ วณ
สวนเมืองทอง สวนสุรนารี สวนอนุสรณ์
สถานฯ และลานอนสุ าวรยี ท์ า้ วสรุ นารี เพอ่ื
เปน็ การสง่ เสรมิ และอนรุ กั ษว์ ฒั นธรรมไทย
ใหค้ งอยสู่ บื ไป และเปน็ การกระตนุ้ เศรษฐกจิ
และการทอ่ งเทยี่ วของจงั หวดั
ประเพณแี หเ่ ทยี นนสี้ บื เนอื่ งและ
ปฏิบัติกันมาแต่ครั้งพระเจ้าบรมวงศ์เธอ
กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ ข้าหลวง
ต่างพระองค์ส�ำเร็จราชการมณฑลอีสาน
ทรงรเิ รม่ิ จดั ใหม้ ขี น้ึ รปู แบบการจดั กจิ กรรม
ในประเพณีเข้าพรรษาของมณฑลอีสาน
ดังกล่าว เป็นต้นแบบที่ปฏิบัติกันสืบมา
การจัดงานแห่เทียนโคราชในปัจจุบัน มีความย่ิงใหญ่อลังการไม่แพ้ในอดีต ภายในงาน
มีการประกวดขบวนแห่เทียน การประกวดต้นเทียนพรรษา พิธีเจริญพระพุทธมนต์
เพื่อสืบสานประเพณีแห่เทียนพรรษา เป็นการส่งเสริมการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย มีการ
แสดงศลิ ปวฒั นธรรม สนิ คา้ OTOP อาหารพน้ื เมอื ง การแสดง แสง สี เสยี ง และนทิ รรศการ
ต่าง ๆ
113 โคราช เมืองศลิ ปะ
โคราช เ ืมอง ิศลปะ114
งานกนิ เข่าคำ่�
ของดีเมืองสงู เนนิ จังหวัดนครราชสมี า
จัดขึ้นในสัปดาห์ท่ีสองของเดือนมีนาคมของทุกปี ณ บริเวณปราสาทเมืองแขก
บา้ นกกกอก ต�ำบลโคราช อำ� เภอสงู เนนิ เปน็ การรับประทานอาหารเย็นรว่ มกัน ภาษาถ่นิ
ของโคราช เรียกการรับประทานอาหารเย็นว่า “กินเข่าค่�ำ” จุดเด่นของการจัดงานเพ่ือ
แสดงออกถงึ ความสามคั คี ความภาคภมู ใิ จในความเปน็ ดนิ แดนแหง่ อารยธรรมและถน่ิ เดมิ
ของชาวโคราช จัดครั้งแรกเม่อื พ.ศ. ๒๕๓๘ ครั้งนน้ั จัดแบบเรยี บง่าย โดยการเชญิ ชวน
สว่ นราชการ องคก์ รปกครองท้องถ่ิน ภาครฐั และกล่มุ พลงั มวลชน กลมุ่ สตรแี มบ่ า้ น จัด
เตรยี มอาหารมารบั ประทานรว่ มกนั ณ บรเิ วณปราสาทเมอื งแขก และมกี ารแสดงพนื้ บา้ น
ต่อมา พ.ศ. ๒๕๔๒ การท่องเท่ียวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับอ�ำเภอสูงเนิน และ
จังหวัดนครราชสีมา จัดงานประเพณีกินเข่าค่�ำ ของดีเมืองสูงเนิน เฉลิมฉลอง ๑๐๑ ปี
อ�ำเภอสูงเนิน เพื่อสืบสานประเพณีของท้องถ่ินให้คงอยู่ต่อไป ทั้งได้เปล่ียนชื่องานจาก
“กินเข่าค่�ำ ปราสาทเมืองแขก” เป็น “งานกินเข่าค่�ำ ของดีเมืองสูงเนิน” โดยปรับปรุง
รปู แบบให้ทนั สมัย เพ่ิมการแสดงจนิ ตภาพ ประกอบแสง สี เสียง ชุด “ศรจี นาศะปุระ”
แสดงเก่ียวกับต�ำนานของเมืองสูงเนิน ความเจริญรุ่งเรืองของดินแดนแห่งประวัติศาสตร์
อารยธรรมในสมยั กอ่ นประวตั ศิ าสตร์ สมยั ประวตั ศิ าสตรใ์ นวฒั นธรรมทวารวดี วฒั นธรรม
แบบเขมรโบราณ และปรับปรุงการรับประทานอาหารให้เป็นแบบนั่งล้อมวงรับประทาน
แบบพ้ืนถนิ่ ชาวโคราช ทา่ มกลางบรรยากาศแบบอารยธรรมโบราณ
การจดั งานดงั กลา่ วดงึ ดดู ความสนใจจากนกั ทอ่ งเทยี่ วเปน็ จำ� นวนมาก ทำ� ใหเ้ กดิ
การพัฒนาด้านการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ ในงานมีกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ การประกวด
ผลผลิตทางการเกษตร การออกร้านจ�ำหน่ายสินค้าของดีอ�ำเภอสูงเนิน สินค้า OTOP
การประกวดนางงามสม้ โอหวานสงู เนิน การประกวดรอ้ งเพลง การแสดงพืน้ บา้ น ดนตรี
มหรสพ ประกวดธิดากนิ เข่าคำ่� เปน็ ตน้
115
โคราช เ ืมอง ิศลปะ116
การประกวดแมวโคราช
แมวโคราช (Korat Cat) เปน็ แมวไทยท่มี ชี ื่อเสยี งและนิยมเลยี้ งกนั มาตัง้ แตอ่ ดีต
มลี ักษณะสวยสงา่ โดดเดน่ เฉพาะตวั มถี ิ่นกำ� เนดิ ท่อี ำ� เภอพมิ าย จังหวัดนครราชสมี า และ
ยังมชี อื่ เรยี กอกี หลายชือ่ ไดแ้ ก่ แมวมาเลศ แมวดอกเลาหรือแมวสีสวาด (Silver blue)
มีหลักฐานบันทึกเกี่ยวกับแมวโคราชในสมุดข่อยเม่ือประมาณ พ.ศ. ๑๘๙๓ - ๒๓๑๐
กล่าวถึงแมวที่ให้โชคลาภที่ดี ๑๗ ตัวของไทย รวมถึงแมวโคราชด้วย รวมทั้งแมวโคราช
ยังได้เข้าร่วมในพระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียร งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
เมื่อวันท่ี ๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๓ ชื่อแมวโคราช เป็นช่ือที่ได้รับพระราชทานจาก
พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลศิ หลา้ นภาลยั โดยใชแ้ หลง่ กำ� เนดิ ของแมวเปน็ ชอ่ื เรยี กพนั ธแ์ุ มว
ลกั ษณะเด่น คือ ขนส้ัน สีเทาอมฟ้าทั่วท้ังตวั สว่ นหัวเป็นรปู หัวใจ หน้าผากใหญ่แบน หตู ้ัง
นัยน์ตาสีเขียวหรือเหลืองสดใส หางยาว ปลายแหลมช้ีตรงแมวเพศผู้มีสีเหมือนดอกเลา
โดยจะตอ้ งมีขนเรียบ ทโ่ี คนขนจะมสี ขี นุ่ ๆ เทา ในขณะที่สว่ นปลายมสี ีเงิน เป็นประกาย
คล้ายหยดนำ�้ ค้างบนใบบัว หรือเหมอื นคนผมหงอก
แมวโคราช เคยไดร้ างวลั ชนะเลศิ จากการประกวดทสี่ หรฐั อเมรกิ า เมอื่ พ.ศ. ๒๕๐๓
จนเปน็ ทน่ี ิยมของชาวต่างประเทศ ใน พ.ศ. ๒๕๐๘ ไดม้ ีการกอ่ ต้ังสมาคมผ้เู ล้ียงแมวไทย
พันธุ์โคราชข้ึนในสหรัฐอเมริกา และมีการจดทะเบียนเป็นสัตว์ประจ�ำชาติไทย ใน พ.ศ.
๒๕๕๒ ต่อมาแมวโคราชที่เป็นพันธุ์แท้ลดจ�ำนวนลงมาก จึงมีการรวมกลุ่มตั้งเป็นชมรม
อนรุ กั ษแ์ มวโคราชเมอื งพมิ ายขนึ้ เมอื่ พ.ศ. ๒๕๔๐ เพอ่ื อนรุ กั ษแ์ มวโคราชพนั ธแ์ุ ท้ รวมทง้ั
พฒั นาสายพนั ธใ์ุ หเ้ ปน็ พนั ธแ์ุ ทต้ ามทร่ี ะบใุ นตำ� ราสมดุ ขอ่ ยโบราณ โดยไดร้ บั การสนบั สนนุ
จากหนว่ ยงานตา่ ง ๆ ในจงั หวดั นครราชสมี า ดงั นนั้ ทางจงั หวดั จงึ สนบั สนนุ ใหม้ กี ารประกวด
แมวโคราชขน้ึ ในโอกาสตา่ ง ๆ ทัง้ ยงั เปน็ หนึง่ ในแมวไทยทไี่ ด้รบั การประกาศข้ึนบัญชเี ป็น
มรดกภูมิปญั ญาทางวัฒนธรรมของชาติ ประจ�ำปพี ุทธศักราช ๒๕๕๗ ด้วย
117
โคราช เมืองศลิ ปะ 118
119 โคราช เมืองศลิ ปะ
ภาษา วรรณกรรมพน้ื ถ่นิ
ภาษา เป็นเคร่ืองมือสื่อสารในวิถีชีวิตของแต่ละกลุ่มชน ซึ่งสะท้อนโลกทัศน์
ภมู ปิ ัญญาและวัฒนธรรมของแต่ละกลุ่มชนท้งั เสยี งพูด ตวั อักษรหรอื สัญลักษณ์ เนื่องจาก
ความหลากหลายของชาติพนั ธใ์ุ นจังหวัดนครราชสีมา ภาษาในจงั หวดั จงึ แบง่ เป็น ๒ กล่มุ
ใหญ่ คอื ภาษาไทยโคราช และภาษาไทยอสี าน สว่ นวรรณกรรมพืน้ บ้าน เป็นเรื่องราวท่ี
ถา่ ยทอดอยใู่ นวถิ ชี วี ติ รวบรวมความคดิ คตคิ วามเชอ่ื ความรสู้ กึ นกึ คดิ ทม่ี ตี อ่ ปรากฏการณ์
ทางธรรมชาติ ขนบธรรมเนียมประเพณี และสภาพสังคม แสดงออกด้วยวิธีตา่ ง ๆ ในรปู
ของภาษา อาทิ การบอกเล่า เขยี นเปน็ ลายลกั ษณ์ บทรอ้ ง บทสวด และส�ำนวน ภาษิต
ปรศิ นาคำ� ทาย เป็นต้น
โคราช เ ืมอง ิศลปะ120
ภาษาไทยโคราช
พลวตั ทางภาษาศาสตร์
จังหวดั นครราชสมี าเป็นจังหวัดท่ีมกี ล่มุ ชาตพิ นั ธห์ุ ลากหลาย แต่ไทยโคราชเป็น
กลุ่มชาติพันธุ์กลุ่มใหญ่ และใช้ภาษาไทยโคราชในชีวิตประจ�ำวัน บางคร้ังอาจเรียก
กลมุ่ ชาติพนั ธ์ุนวี้ ่า ไทยเบง้ิ
ภาษาไทยโคราช เปน็ ภาษาไทยถนิ่ หนงึ่ ในภาษาตระกลู ไท มสี ำ� เนยี งการพดู ทเี่ ปน็
เอกลกั ษณไ์ มเ่ หมอื นภาษาอสี าน เปน็ ภาษาซงึ่ คลา้ ยคลงึ ภาษาไทยกลาง แตส่ ำ� เนยี งเพยี้ น
เหน่อ หว้ นสัน้ บางส่วนคลา้ ยคลึงกับภาษาไทยถ่ินอีสาน ตลอดจนมคี �ำศพั ทภ์ าษาเขมร
ปะปนบา้ ง กลมุ่ คนทพี่ ดู ภาษาไทยโคราชสว่ นใหญอ่ าศยั อยใู่ นจงั หวดั นครราชสมี า ยกเวน้
อำ� เภอบัวใหญ่ และอำ� เภอปักธงชยั ซ่งึ ใชภ้ าษาไทยถนิ่ อีสาน และบางอำ� เภอของจังหวัด
ที่มีเขตตดิ ตอ่ กับจงั หวัดนครราชสมี า ได้แก่ ชยั ภูมิ บุรรี มั ย์ บางส่วนในจังหวัดปราจีนบรุ ี
รวมทง้ั กลมุ่ คนทย่ี า้ ยถน่ิ ฐานจากจงั หวดั นครราชสมี าไปอาศยั ในจงั หวดั ลพบรุ ี สระบรุ ี และ
สุรินทร์ อย่างไรก็ตามส�ำเนียงภาษาไทยโคราชในแต่ละอ�ำเภอของจังหวัดนครราชสีมา
กย็ งั มคี วามแตกต่างกนั ออกไปอกี ด้วย
ลกั ษณะของภาษาไทยโคราชมี ๒ ประเภท คือ ค�ำศพั ท์ที่มาจากภาษาไทยกลาง
มาปรบั เสยี งวรรณยุกตใ์ หเ้ ปน็ สำ� เนียงโคราช และค�ำศพั ทภ์ าษาโคราช เปน็ ค�ำศพั ทเ์ ฉพาะ
ซ่ึงอาจยมื มาจากภาษาเขมร ภาษาอสี าน มาปะปนกัน
ภาษาไทยโคราชหรือไทเบ้ิง ได้รับการประกาศข้ึนบัญชีเป็นมรดกภูมิปัญญา
ทางวฒั นธรรมของชาติ ประจ�ำปีพทุ ธศกั ราช ๒๕๕๖
สามารถดคู ลปิ วีดิโอไดจ้ าก QR Code
121 โคราช เมืองศลิ ปะ
โคราช เ ืมอง ิศลปะ122
เพลงโคราช
เพลงพืน้ บา้ นเอกลกั ษณ์ทางภาษา
เพลงโคราช เปน็ เพลงพน้ื บา้ นของจงั หวดั นครราชสมี า สนั นษิ ฐานวา่ เพลงโคราช
ก�ำเนิดขึ้นในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ มีลักษณะเป็นเพลง “ปฏิพากย์” หรือการร้อง
เก้ียวพาราสีระหว่างชายหญิง ไม่มีเครื่องดนตรีประกอบในการเล่น คนร้องจึงต้องตบมือ
ให้จังหวะ ถือเป็นเพลงพื้นบ้านที่มีลักษณะเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ต้องอาศัยไหวพริบ
ปฏิภาณของผู้เล่น มีท่วงท�ำนองการขับร้อง สัมผัสเป็นภาษาพ้ืนบ้าน (ไทยโคราช) และ
ลีลาท่าร�ำประกอบท้ังร�ำช้าและร�ำเร็ว เน่ืองจากเพลงโคราชไม่มีเคร่ืองดนตรีประกอบ
ตอ้ งใชภ้ มู ปิ ญั ญาทางดา้ นภาษา แตก่ ส็ ามารถทำ� ใหผ้ เู้ ลน่ ผชู้ ม ผฟู้ งั สนกุ สนานไดด้ ว้ ยจงั หวะ
ลำ� น�ำของเพลงแตล่ ะชนิด หมอเพลงโคราชจึงนับเป็นปราชญท์ างภาษา สามารถเลอื กคำ�
เสียง ส�ำนวนมาใช้ในเพลงได้อย่างเหมาะสมกับฉันทลักษณ์ท้องถิ่นซึ่งมีลักษณะเฉพาะ
ไม่เหมือนเพลงพื้นบ้านชนิดใด เนื้อหาของเพลงโคราชขึ้นอยู่กับโอกาสท่ีจะเล่น และ
บางครง้ั กแ็ ลว้ แตเ่ จา้ ภาพทห่ี าเพลงโคราชไปเลน่ เปน็ ผกู้ ำ� หนดวา่ จะใหเ้ ลน่ เรอื่ งอะไร โอกาส
การเล่นเพลงเล่นไดท้ กุ เทศกาล ทัง้ งานมงคลและอวมงคล ในสมยั กอ่ นเพลงโคราชเป็นที่
นิยมมาก ปจั จุบนั คา่ นยิ มของผู้ฟังเพลงโคราชเปลี่ยนแปลงไปมากทง้ั ดา้ นเนอื้ หา รปู แบบ
การแสดงและความนิยม แต่ในยุคปัจจุบันมีความเชื่อว่าท้าวสุรนารีสมัยท่ียังมีชีวิตอยู่
ชอบเพลงโคราชมาก จงึ มผี นู้ ยิ มหาเพลงโคราชไปเลน่ แกบ้ น ณ บรเิ วณอนสุ าวรยี ท์ า้ วสรุ นาร ี
และวดั ศาลาลอย จงึ เปน็ ปจั จยั หนง่ึ ทที่ ำ� ใหเ้ พลงโคราชยงั คงอยู่ และหมอเพลงยงั คงสามารถ
ประกอบอาชีพได้ นับได้ว่าเพลงโคราชเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่ที่สะท้อนให้
เหน็ ถงึ ขนบธรรมเนยี มประเพณี วฒั นธรรมใหอ้ นชุ นรนุ่ หลังได้อนรุ กั ษ์และสืบสานต่อไป
เพลงโคราช ได้รับการประกาศขึ้นบัญชีเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม
ชองชาติ ประจ�ำปีพทุ ธศกั ราช ๒๕๕๒
สามารถดูคลปิ วีดิโอไดจ้ าก QR Code
123 โคราช เมืองศลิ ปะ
125 โคราช เมืองศลิ ปะ
อาหารเอกลักษณท์ ้องถน่ิ
อาหารการกินของชาวนครราชสีมา เป็นอาหารท่ีคิดค้นข้ึนตามสภาพแวดล้อม
ตามภมู ิปัญญาของบรรพชนต่อเนอื่ งมา ส่วนใหญเ่ ปน็ อาหารที่ไดจ้ ากธรรมชาติทั้งพชื เช่น
หน่อไม้ หนอ่ รวก ผกั หวาน ผักแต้ว ผักสะเดา ผักบุ้ง ผักต�ำลงึ เห็ดต่าง ๆ และจากสตั ว์
เช่น กุง้ หอย ปู ปลา กบ เขียด แย้ ไขม่ ดแดง นก หนู ปลาไหล ฯลฯ โดยน�ำมาประกอบ
อาหารโดยตรงหรอื นำ� มาแปรรปู เพอื่ เปน็ การถนอมอาหาร ประเภทเนอื้ สตั ว์ ไดแ้ ก่ ปลารา้
จ่อม (หมำ่� ) น้ำ� ตับ ประเภทพืช มักนยิ มใช้วธิ ดี องมากกว่าวิธอี ืน่ ไดแ้ ก่ ผักกาดดอง กุ่มดอง
ผกั เส้ยี นดอง หน่อไม้ดอง เปน็ ต้น ภมู ิปัญญาการถนอมอาหารมีววิ ฒั นาการมาตามลำ� ดบั
และหลากหลายมากข้ึนเพือ่ เป็นของฝาก ของท่รี ะลกึ เชน่ กุนเชียง หมยู อ หมูสม้ ปลาส้ม
หมูหยอง หมูแผ่น เปน็ ตน้
อาหารที่ขึ้นช่ือและจัดว่าเป็นเอกลักษณ์มีหลายอย่าง แต่ที่ถือว่าเป็นภูมิปัญญา
และมวี วิ ฒั นาการจนโดดเด่นของจังหวัด ได้แก่
โคราช เ ืมอง ิศลปะ126
หมี่โคราช
ภูมิปัญญาคนโคราช
หม่ีโคราช เป็นหนึ่งในอาหารพ้ืนบ้านของจังหวัดนครราชสีมา เป็นวัฒนธรรม
ภูมิปัญญาพื้นถิ่นท่ีสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นนับร้อยปี เพราะในสมัยก่อนปลูกข้าวเจ้า
มาก จึงมีการดัดแปลงข้าวมาท�ำเป็นเส้นหม่ี และเพื่อเป็นการถนอมอาหารอีกรูปแบบ
หนง่ึ จากการนำ� เส้นหมไ่ี ปตากแห้ง แลว้ เก็บไว้ทานในมอื้ ต่อ ๆ ไป การทำ� เสน้ หมี่ มีวธิ กี าร
ทำ� ทส่ี บื ทอดภูมิปัญญาการพลกิ แพลงอาหารจากแป้งไดเ้ ปน็ อย่างด ี ลักษณะเป็นเสน้ ทใี่ ช้
กรรมวธิ แี บบการอบแหง้ เพอื่ เปน็ การยดื อายกุ ารเกบ็ รกั ษา กลา่ วกนั วา่ เสน้ หมข่ี องโคราชมี
ลักษณะพเิ ศษ คือ เส้นแห้งและเหนียว
ผัดหม่ีจึงเป็นอาหารที่นิยมรับประทานเป็นอาหารหลักประจ�ำม้ือ หรือเป็น
อาหารวา่ งของชาวนครราชสีมา มีรสชาตอิ รอ่ ยเป็นพิเศษ เนื่องจากใช้หมเ่ี สน้ ที่แหง้ สนิท
และเหนียวนุ่ม มีการพัฒนาการผลิตเส้นหม่ีโดยใช้กรรมวิธีจากเคร่ืองจักรแทนการผลิต
จากวิธีธรรมชาติ และพฒั นาเปน็ เสน้ หมพ่ี รอ้ มน้ำ� ปรุงสำ� เร็จรปู แหล่งผลิตท่ีส�ำคัญท�ำเป็น
อาชีพและมีจ�ำหน่ายทั่วไปตามร้านของฝากทั่วประเทศ สร้างช่ือเสียงและรายได้สู่ชุมชน
เป็นของฝากและเป็นสนิ ค้า OTOP ของจังหวัด ทโ่ี ดดเด่นและมชี อื่ เสียง ไดแ้ ก่ หมต่ี ะคุ
อำ� เภอปกั ธงชยั หมพ่ี มิ าย อำ� เภอพมิ าย หมกี่ ระโทก อำ� เภอโชคชยั หมก่ี ดุ จกิ อำ� เภอสงู เนนิ
และหมจ่ี กั ราช อำ� เภอจักราช เป็นตน้
127
โคราช เ ืมอง ิศลปะ128
ข้าวแผะ
อาหารทอ้ งถน่ิ โคราช
ข้าวแผะ หรือท่ีชาวนครราชสีมา เรียกว่า เข่าแผะ เป็นอาหารท่ีสืบทอด
ตอ่ กนั มา ถอื เปน็ อาหารทมี่ ปี ระโยชนแ์ ละมคี ณุ ภาพ เนอื่ งจากมสี ารอาหารครบทกุ ประเภท
มสี ว่ นประกอบทีส่ �ำคญั คอื ข้าวสาร เนื้อสตั ว์ท้ังหมู ไก่ ปลา อาหารทะเล ฯลฯ ผักต่าง ๆ
ท่ีหาได้ในพื้นถิ่น เช่น ฟักทอง บวบ เห็ดฟาง ข้าวโพดอ่อน บวบ หน่อไม้ ต�ำลึง
ใบแมงลัก เป็นตน้ โดยนำ� ข้าวไปตม้ ในนำ�้ กะทิ พรกิ แกง หรือน้�ำปลาร้า ใส่เนื้อสัตว์ และ
ผัก กล่าวกนั ว่าเป็นกศุ โลบายของคนทอ้ งถน่ิ ทจ่ี ะให้เดก็ ๆ กินผัก จงึ เอามาต้มรวมกนั เปน็
อาหารจานเดยี ว และยังเป็นอาหารที่ยอ่ ยง่าย อ่ิมท้อง และมรี สชาตอิ รอ่ ย เป็นเอกลกั ษณ์
อย่างหนึ่งของนครราชสีมา
129 โคราช เมืองศลิ ปะ
โคราช เ ืมอง ิศลปะ130
ขนมจนี ประโดก
อัตลกั ษณแ์ หง่ หมบู่ า้ น
ขนมจีนทม่ี ชี อ่ื เปน็ ทร่ี ้จู ักกัน คือ ขนมจนี ของ “บ้านประโดก” ซ่ึงอยใู นตวั เมือง
นครราชสมี า หา่ งจากจงั หวัดไปทางไทรงามพมิ าย ตามถนนสายมติ รภาพประมาณ ๕ - ๖
กโิ ลเมตร คนในหมบู่ า้ นนี้มอี าชพี ทำ� ขนมจนี มาต้งั แต่โบราณ ขนมจนี บา้ นประโดกได้ชอ่ื ว่า
เส้นเหนียว เน้ือนุ่ม และสีขาวไม่มีกล่ิน ชาวบ้านประโดกมีเคล็ดลับในการท�ำขนมจีน
มาตั้งแต่บรรพบุรุษถึงการเลือกใช้ข้าวเจ้า โดยมากมักใช้ข้าวตาแห้ง ท้ังมีขั้นตอนในการ
ผลิตหลายข้ันตอน ตั้งแต่น�ำข้าวมาแช่น้�ำ หมัก และบดให้ละเอียด กรองด้วยผ้าสะอาด
เพ่ือให้ได้แป้ง และต�ำแป้งข้าวเจ้าให้เหนียว ก่อนที่จะน�ำมาโรยเป็นเส้นในน�้ำเดือด และ
จบั เป็นเสน้ ขนมจนี รบั ประทานกับน้�ำยาปลา ซงึ่ มลี ักษณะพิเศษ คือ ตม้ เครอ่ื งแกงพรอ้ ม
ปลา เครอื่ งปรุงได้สดั สว่ น มปี ริมาณเน้อื ปลามากจนขน้
ปจั จบุ นั ในหมบู่ า้ นประโดก มรี า้ นขายขนมจนี นำ�้ ยา นำ�้ พรกิ แกงไก่ อยใู่ นหมบู่ า้ น
จ�ำนวนหลายร้าน ขายตั้งแต่เช้าจนถึงเย็น ขนมจีนบ้านประโดกจึงเป็นอาหารที่มีผู้นิยม
รับประทานและเปน็ อาหารข้ึนช่อื มากของจังหวัดท่อี ยากเชญิ ชวนให้ลม้ิ ลอง
131 โคราช เมืองศลิ ปะ
โคราช เ ืมอง ิศลปะ132
ไก่ย่างท่าช้าง
อกี หนึง่ ภูมปิ ัญญาชาวโคราช
อาหารโคราชทข่ี น้ึ ชอื่ อกี อยา่ ง คอื ไกย่ า่ ง เนอื่ งจากการยา่ งไกไ่ มเ่ หมอื นคนอสี าน
จังหวัดอื่น ๆ โดยย่างแบบธรรมชาติ คือ ใช้เกลือ พริกไทย สูตรไก่ย่างของโคราชจะใส่
เคร่ืองเทศจีน จ�ำพวกเคร่ืองพะโล้และผงผสมเคร่ืองยาจีน ท�ำให้แตกต่างไปจากไก่ย่าง
อสี านทวั่ ๆ ไป “ไกย่ า่ งทา่ ชา้ ง” มาจากชอ่ื กง่ิ อำ� เภอทา่ ชา้ ง ตอ่ มาเปลย่ี นเปน็ อำ� เภอจกั ราช
จึงเรียกชื่อใหม่ว่า “ไก่ย่างจักราช” และใน พ.ศ. ๒๕๓๙ แยกพื้นที่ส่วนหนึ่งในอ�ำเภอ
จักราช มาตง้ั เปน็ อ�ำเภอเฉลมิ พระเกยี รติ ไก่ยา่ งท่าช้าง เป็นอีกเมนูหนึ่งที่ต้องเชญิ ชวนให้
มาชิม และด้วยความมีช่ือเสียง รสชาติความอร่อย จึงปรากฏช่ือไก่ย่างท่าช้างในจังหวัด
อน่ื ๆ นอกเหนือจากจงั หวัดนครราชสีมา
133
เป็ดย่างพมิ าย โคราช เมืองศลิ ปะ
สรรคส์ ร้างอยา่ งมีเอกลกั ษณ์
เปด็ ย่างพิมาย นบั ว่าเป็นของดขี องจงั หวัดนครราชสมี าอกี ชนดิ หนึ่ง กลายเปน็
อาหารขน้ึ ชอื่ ประจำ� ทอ้ งถน่ิ ทสี่ รา้ งรายไดใ้ หก้ บั ชาวพมิ ายเปน็ อยา่ งมาก เปด็ ยา่ งมลี กั ษณะ
เด่นท่ีมีความกรอบทุกส่วนพร้อมมีกล่ินสมุนไพรท่ีมาจากน�้ำหมักสูตรพิเศษไว้ใช้ทาลง
บนเป็ดขณะท่ีย่าง เป็ดที่ย่างมักใช้เป็ดท่ีชาวอีสานเรียกว่า เป็ดก๊าบ เป็นเป็ดอ้วนตัวผู้
น�ำมาย่างให้มีความกรอบ โดยย่างบนเตาถ่าน ใช้เวลาในการย่างนานพอควรประมาณ
๒ ชั่วโมงตลอดจนต้องพิถีพิถันในการย่าง นับว่าเป็นเป็ดย่างท่ีแปลกและอร่อย ทั้งย่าง
โดยใช้เกลือสินเธาว์ ซ่ึงมีอยู่มากมายท่ัวอ�ำเภอพิมาย จึงท�ำให้เป็ดย่างมีรสเค็มแตกต่าง
ไปจากการย่างเป็ดท่ัว ๆ ไป ปัจจุบันมีร้านขายเป็ดย่างพิมายเปิดให้บริการหลายร้าน
เพื่อรองรับนกั ท่องเท่ยี วจ�ำนวนมาก
โคราช เมืองศลิ ปะ 134
135โคราช เมืองศลิ ปะ
บุคคลส�ำคัญของจังหวดั
ด้านศลิ ปะและวัฒนธรรม
จังหวัดนครราชสีมา เป็นจังหวัดท่ีมีปูชนียบุคคลทางด้านศิลปวัฒนธรรม
ซึ่งล้วนแต่มีความสามารถ และมีคุณูปการต่อจังหวัดจ�ำนวนมาก ท้ังได้รับการยกย่อง
จากหน่วยงาน สถาบนั องคก์ รต่าง ๆ ท้ังในระดับชาติ และระดบั ประเทศ ไดแ้ ก่ ศิลปนิ
แห่งชาติ รางวัลศิลปินศิลปาธร บุคคลผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรม รางวัลซีไรต์ และ
บูรพศลิ ปนิ เปน็ ต้น
โคราช เ ืมอง ิศลปะ136
ศิลปนิ แห่งชาติ
นายคำ� สิงห์ ศรีนอก หรอื ลาว คำ� หอม
ศิลปนิ แหง่ ชาติ สาขาวรรณศลิ ป์ พทุ ธศักราช ๒๕๓๕
เกิดเมื่อวันที่ ๒๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๓ ที่จังหวัดนครราชสีมา เป็นนักเขียน
เชงิ วจิ ารณส์ งั คมทม่ี ผี ลงานตอ่ เนือ่ ง และเป็นท่ยี อมรับในวงการวรรณศลิ ป์มากกวา่ ๓๐ ปี
ผลงานมที ้งั เรอ่ื งสัน้ นวนยิ าย บทความ และสารคดี งานเขยี นของ นายคำ� สงิ ห์ ศรีนอก
โดยเฉพาะรวมเรื่องส้ันชุด ฟ้าบ่ก้ัน แสดงถึงช้ันเชิงและความสามารถทางวรรณศิลป์
ในการถ่ายทอด ความส�ำนึกและความรับผิดชอบท่ีมีต่อสังคม สามารถเสนอภาพชีวิต
ชนบท ด้วยกลวิธีทางวรรณศิลป์ท่ีงดงาม เฉียบคมและแยบคาย แฝงไว้ด้วยอารมณ์ขัน
มวี ธิ ลี อ้ เลยี นชวี ติ อยา่ งมชี น้ั เชงิ ใหแ้ งค่ ดิ ทเ่ี สยี ดแทงใจ ผลงานจงึ เปน็ เสมอื น “คำ� รอ้ งทกุ ข”์
หรือ “ค�ำอุทธรณ์” ต่อมโนธรรม และจิตส�ำนึกของคนในสังคม ท�ำให้ต้องหยุดคิดและ
ตระหนักว่าชีวิตของคนชนบทซ่ึงต้องต่อสู้กับภัยรอบด้าน ท้ังท่ีเป็นภัยธรรมชาติและ
ภัยจากสังคมเมืองนั้น แท้ท่ีจริงแล้วก็เป็นชะตากรรมที่ทุกคนมีส่วนรับผิดชอบร่วมกัน
ทั้งยังได้รับการตีพิมพ์ซ้�ำหลายครั้ง และเป็นหนึ่งในหนังสือร้อยเล่มที่คนไทยควรอ่าน
งานวรรณกรรมของนายค�ำสิงห์ ศรีนอก นอกจากจะมีอิทธิพลต่อนักเขียนร่วมสมัยและ
นักเขียนรนุ่ หลงั ด้านความคดิ และกลวธิ ีการประพนั ธ์แล้ว ยงั ได้รับความสนใจจากวงการ
วิชาการทางวรรณกรรมและทางสังคมศาสตร์ทั้งไทยและต่างประเทศ เป็นศิลปินที่
สร้างสรรค์งานเพื่อให้ผู้อ่านตรวจสอบตัวเองและสังคมมากกว่ามุ่งเน้นในแง่บันเทิงศิลป์
เพยี งอยา่ งเดียว
137
โคราช เ ืมอง ิศลปะ138
นายชาติ กอบจติ ติ
ศิลปินแหง่ ชาติ สาขาวรรณศิลป์ พทุ ธศกั ราช ๒๕๔๗
ศลิ ปนิ ศิลปาธร สาขาวรรณศลิ ป์ พ.ศ. ๒๕๔๗ และรางวัลซไี รต์ ๒ สมัย (พ.ศ. ๒๕๒๕ และพ.ศ. ๒๕๓๗)
เกดิ เมอ่ื วนั ท่ี ๒๕ มถิ นุ ายน พ.ศ. ๒๔๙๗ ทจ่ี งั หวดั สมทุ รสาคร จบการศกึ ษาจากวทิ ยาลยั เพาะชา่ ง สาขาภาพพมิ พ์
เปน็ นกั เขยี นทส่ี รา้ งสรรค์งานวรรณศลิ ป์ ด้านนวนิยายและเร่ืองสน้ั อย่างตอ่ เน่อื งเปน็ เวลานานกวา่ ๒๕ ปี มคี วามใฝ่ฝัน
จะเป็นนกั เขยี นมาตงั้ แต่เดก็ ผลงานเรื่องสนั้ เรอื่ งแรกชือ่ นกั เรียนนักเลง ลงพิมพใ์ นหนังสอื อนุสรณป์ ทมุ คงคา ๒๕๑๒
จากนั้นได้พยายามฝึกฝนหาความรู้และประสบการณ์การเขียนด้วยตนเองอย่างต้ังใจและทุ่มเทตลอดเวลา จนกระทั่ง
เรื่องสั้นชื่อ ผู้แพ้ ลงพิมพ์ในโลกหนังสือได้รับรางวัล “ช่ือการะเกด” ของ สุชาติ สวัสดิ์ศรี และรางวัลชมเชยจากการ
คดั เลอื กเรื่องสน้ั ดีเด่น ประจำ� ปี ๒๕๓๗ นับเปน็ นักเขยี นคนแรกทีไ่ ด้รับรางวัลซีไรต์เป็นครง้ั ที่ ๒ แสดงให้เห็นว่าได้พัฒนา
งานก้าวไปอีกระดับหน่ึง ซึ่งมักจะทดลองใช้กลวิธีใหม่ ๆ ในการเล่าเรื่องโดยไม่ซ้�ำแบบกัน จนกล่าวได้ว่าเป็นนักเขียน
“นกั ทดลองทางรปู แบบทไี่ มเ่ คยหยดุ นงิ่ ” ผลงานหลายเรอ่ื งไดร้ บั การตพี มิ พซ์ ำ้� หลายครงั้ และแปลเปน็ ภาษาตา่ งประเทศ
หลายภาษา เผยแพรท่ ง้ั ในประเทศและตา่ งประเทศ แสดงให้เห็นถึงคณุ ภาพการสร้างสรรค์งานเป็นอย่างดี
นายชาติ กอบจิตติ เป็นนักเขียนร่วมสมัยผู้มีผลงานโดดเด่นด้านนวนิยายและเรื่องส้ัน ซ่ึงเปี่ยมด้วยคุณภาพ
ทั้งด้านแนวคิดที่แสดงส�ำนึกทางสังคมและด้านวรรณศิลป์ที่แสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมของการสร้างสรรค์เป็นแบบอย่าง
ท้ังแนวคิด แนวเขียนแก่นักเขียน นักอ่านร่วมสมัย เป็นผู้หน่ึงท่ีน�ำวงวรรณกรรมไทยก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดย้ัง
และอยู่ในกระแสวรรณกรรมโลกอยา่ งนา่ ภูมใิ จ นอกจากนี้ยงั ได้เปดิ บ้านพกั ในอำ� เภอปากช่อง จงั หวัดนครราชสมี า เปน็
“โรงเรยี นนกั เขยี น” สรา้ งสรรค์นักเขยี นรุ่นใหม่ และในชว่ งปดิ ภาคเรยี น ไดอ้ ุทศิ เวลาทำ� ประโยชน์ใหส้ งั คมด้วยการสอน
หนังสอื ใหเ้ ดก็ ๆ ท่ีโรงเรียนในหมู่บ้านด้วย นบั เปน็ บุคคลที่ทรงคณุ ค่าและมีคณุ ปู การตอ่ วงวรรณกรรมไทยเป็นอยา่ งย่ิง
139 โคราช เมืองศลิ ปะ
โคราช เ ืมอง ิศลปะ140
นายทวี รชั นีกร
ศิลปินแหง่ ชาติ สาขาทศั นศิลป์ (จิตรกรรม) พทุ ธศักราช ๒๕๔๘
เกิดเม่ือวันท่ี ๑๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๗ ที่จังหวัดราชบุรี เป็นศิลปินอาวุโสที่ทุ่มเทในการสร้างสรรค์ผลงาน
ศิลปกรรมมาตงั้ แต่ พ.ศ. ๒๕๐๓ โดยการสร้างสรรคผ์ ลงานดา้ นจิตรกรรม ในระยะแรกได้แสดงออกให้เห็นความงามของ
ธรรมชาติท่ีผสมผสานความคิดจนเกิดรูปแบบที่มีลักษณะเฉพาะตัว ต่อมาได้เสนอภาพสะท้อนภาวะของสังคม วิถีชีวิต
ความเชอ่ื ความเปน็ ทอ้ งถน่ิ และเรอื่ งราวสะเทอื นใจทมี่ ตี อ่ ประชาชนโดยเสนอทศั นะตอ่ สงั คมใหต้ ระหนกั ถงึ ความยตุ ธิ รรม
และความจริงของมนุษย์ที่จะมอบให้แก่กันและกัน ในส่วนของกระบวนการแสดงออกยังได้น�ำเอาวัสดุพ้ืนบ้านอีสานมา
พฒั นาสู่การสร้างสรรค์ในระดับสากล และผลงานได้รับรางวัลและเกยี รตคิ ุณจากการแสดงศิลปกรรมแหง่ ชาตหิ ลายครง้ั
นอกจากน้ันยังเป็นผู้เผยแพร่ความรู้ทางทัศนศิลป์แก่นักศึกษาศิลปะในฐานะอาจารย์ต้ังแต่รับราชการจนกระท่ังเกษียณ
อายุ อกี ท้งั ยังเป็นผู้บกุ เบิกการสรา้ งงานเครื่องปน้ั ดินเผาดา่ นเกวียนใหแ้ ก่ศิลปนิ และวงวิชาการศกึ ษาทางด้านน้ี จนเกิด
การพฒั นารปู แบบมาถึงปจั จบุ นั นบั ไดว้ า่ ผลงานศลิ ปะและงานวชิ าการทางศิลปะต่างๆ ได้ก่อใหเ้ กิดประโยชน์ต่อสงั คม
และประเทศชาตเิ ปน็ อยา่ งมาก เปน็ ศลิ ปนิ ทดี่ ำ� รงชวี ติ ในการสรา้ งสรรคง์ านศลิ ปะอยา่ งมคี วามมน่ั คง และประกอบกจิ การ
งานด้วยคณุ ธรรม เป็นแบบอยา่ งทด่ี ีแกอ่ นุชนรุ่นหลัง
นายทวี รชั นีกร ได้กอ่ ต้งั หอศิลป์ ทวี รัชนกี ร ขึน้ เม่ือ พ.ศ. ๒๕๔๗ ในพ้นื ทก่ี ว่า ๒ ไร่ เพื่อจัดแสดงผลงานศลิ ปะ
แขนงต่างๆ ของศิลปินท้ังงานจิตรกรรม ประติมากรรม สอื่ ผสมและเทคนิคผสม รวมทงั้ เปน็ ท่จี ัดแสดงกจิ กรรมสำ� หรบั
เยาวชน นกั เรยี นและนสิ ิตนักศกึ ษา เพ่อื สง่ เสรมิ งานศลิ ปะใหม้ ่นั คงยัง่ ยืนสบื ไปอีกดว้ ย
141 โคราช เมืองศลิ ปะ
โคราช เ ืมอง ิศลปะ142
นายกรีพงศ์ เทยี มเศวต (สรพงศ์ ชาตร)ี
ศลิ ปินแหง่ ชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นกั แสดงภาพยนตร์และละครโทรทัศน์) พุทธศักราช ๒๕๕๑
เกิดเมื่อวนั ที่ ๘ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๔๙๒ ท่จี งั หวัดพระนครศรีอยุธยา ส�ำเรจ็ การศกึ ษาระดบั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔
และบรรพชาเป็นสามเณร ได้ศึกษาพระธรรมวินัยจนสอบได้นักธรรมเอก เนื่องจากมีความสนใจงานด้านการแสดง
ชอบดหู นังกลางแปลงมาตง้ั แต่เด็ก จึงสมคั รเปน็ นกั แสดงทที่ ีวชี ่อง ๗ สี ต่อมาจงึ ไดแ้ สดงเปน็ ตัวประกอบและแสดงเปน็
พระเอกในลำ� ดบั ตอ่ มา มผี ลงานการแสดงภาพยนตรแ์ ละละครจำ� นวนมาก แสดงเปน็ พระเอกในหลายบทบาท จนไดร้ บั ฉายา
พระเอกชน้ั ครู และพระเอกตลอดกาล นอกจากจะมคี วามสามารถในดา้ นการแสดงแลว้ ยงั มคี วามสามารถในการรอ้ งเพลง
พากยห์ นัง เปน็ ผู้ชว่ ยผกู้ �ำกับใหก้ ับหมอ่ มเจ้าชาตรีเฉลมิ ยคุ ล และก�ำกับละครให้กับบริษัทเวริ ค์ พอยท์ สอนการแสดงให้
กับนักแสดงหน้าใหม่จนมีช่ือเสียงหลายคน จากการใช้ความสามารถทางด้านภาพยนตร์เป็นอย่างสูง จึงเป็นดาราชาย
ผไู้ ด้รับรางวลั มากทีส่ ดุ ในวงการภาพยนตรไ์ ทย อาทิ รางวัลตุ๊กตาทอง ๕ รางวลั รางวัลสุพรรณหงสท์ องค�ำ ๒ รางวัล
รางวลั ดาราทอง รางวลั ดาราดาวรุ่งยอดเยยี่ ม ในการประกวดภาพยนตร์นานาชาติ รางวลั เพชรสยาม จากมหาวิทยาลัย
ราชภัฏจันทรเกษม รางวัลบันเทิงเทิดธรรม Nine Entertain Award 2008 ได้รบั ยกย่องเป็นพระเอกยอดนยิ มอันดับ ๑
ดาราชายยอดนิยมอันดับ ๑ เมื่ออายุมากขึ้นยังคงรับแสดงภาพยนตร์และละคร นอกจากน้ี ยังได้ท�ำคุณประโยชน์เพื่อ
สังคม โดยต้ังมูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของพุทธศาสนิกชน เป็นวิทยากร
พิเศษบรรยายให้ความรู้แก่สถาบันการศึกษา และหน่วยงานอื่น ๆ และเป็นประธานก่อสร้างอุทยานลานบุญมหาวิหาร
สมเดจ็ พุฒาจารย์ (โต พรหมรงั ส)ี ตัง้ อยูร่ ิมถนนมิตรภาพ อำ� เภอสีคว้ิ จังหวัดนครราชสมี า ชาวบ้านเรียกวา่ “วัดสรพงศ”์
จัดเป็นสถานท่ีท่องเท่ียวแห่งหน่ึงของอ�ำเภอสีค้ิว บรรยากาศร่มร่ืนเต็มไปด้วยต้นไม้ สวนหย่อม มีวิหารหลวงพ่อโต
ที่ใหญ่ที่สุด สวยงามและอลังการมาก และวิหารหลวงพ่อพระพุทธชินราช ให้นักท่องเท่ียวได้สักการะ อธิษฐานขอพร
เปน็ สิริมงคลตอ่ ชวี ิต
143 โคราช เมืองศลิ ปะ
อทุ ยานลานบญุ มหาวหิ ารสมเดจ็ พระพฒุ าจารย์ (โต พรหมรงั ส)ี
โคราช เ ืมอง ิศลปะ144
นายสมบรู ณ์สขุ นยิ มศริ ิ หรอื เป๊ียก โปสเตอร์
ศิลปินแหง่ ชาติ สาขาศลิ ปะการแสดง (ภาพยนตร์และละครโทรทัศน)์ พุทธศักราช ๒๕๕๘
เกดิ เมอ่ื วนั ท่ี ๑๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๕ ทีค่ ่ายกาวลิ ะ (คา่ ยทหารบก) อาํ เภอเมืองเชียงใหม่ จงั หวัดเชยี งใหม่
สาํ เรจ็ การศกึ ษาระดบั มธั ยมศกึ ษาจากโรงเรยี นวดั ราชาธวิ าส สาํ เรจ็ การศกึ ษาแผนกฝกึ หดั ครปู ระถมการชา่ ง จากโรงเรยี น
เพาะช่างและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ นายสมบูรณ์สุข นิยมศิริ เป็นศิลปินยอดเยี่ยมในด้านการ
สรา้ ง การกํากบั ภาพยนตรแ์ ละละครโทรทศั น์ เปน็ ผทู้ รงคุณค่าคนหน่ึงในวงการบนั เทงิ มีอารมณ์ศลิ ปะทอ่ี อ่ นโยน เขา้ ใจ
งานศิลปะอย่างลึกซึ้งโดยเริ่มจากความเป็นศิลปินวาดใบปิดภาพยนตร์คัทเอาท์ มีผลงานวาดใบปิดกว่า ๑,๐๐๐ เรื่อง
ต่อมาเป็นผูส้ ร้างและผูก้ าํ กับภาพยนตรไ์ ทย ด้วยฝีมอื และความคิดสร้างสรรคก์ า้ วหนา้ ทนั สมัยอยู่เสมอ ไดท้ ุ่มเทแรงกาย
และความสามารถสร้างและกํากับภาพยนตร์ไทยไว้เป็นมรดกแก่สังคม อาทิ เร่ืองโทน ดวง ชู้ เขาสมิง มีนัดกับหัวใจ
ประสาท คู่หู เป็นต้น ด้วยความเป็นศิลปินนักวาดรูปท่ีมีความวิจิตรงดงามในใจและฝีมือยอดเยี่ยม ทําให้มีมุมมองที่
สวยงามแปลกตายงิ่ ใหญเ่ กนิ กวา่ แนวการสรา้ งภาพยนตรท์ วั่ ไป ภาพยนตรไ์ ทยเปน็ ทป่ี ระทบั ใจและตดิ ตามของประชาชน
ผู้ชมอย่างย่ิง นอกจากนี้ยังมีความสามารถสร้างภาพลักษณ์นักแสดงที่ไม่เน้นรูปร่างหน้าตา จนได้ชื่อว่านักปั้นดารา
รวมทั้งมีการเขียนบทเป็นสตอร่ีบอร์ดใช้มุมกล้องและองค์ประกอบภาพอย่างมีศิลปะ เป็นธรรมชาติสมจริง จากผลงาน
ยอดเยยี่ มดงั กล่าวจงึ ได้รบั รางวัลหลายรางวัล เช่น รางวัลพระราชทานพระสรุ ัสวดี ในฐานะผสู้ ร้างภาพยนตร์ยอดเยีย่ ม
รางวลั ภาพยนตร์แหง่ ชาติสุพรรณหงส์ ในฐานะผกู้ าํ กบั ยอดเยี่ยม ไดร้ บั ยกยอ่ งเชดิ ชูเกยี รตเิ ป็นผมู้ ผี ลงานดเี ด่นทางด้าน
วฒั นธรรม สาขาทัศนศิลป์ (ภาพโปสเตอรภ์ าพยนตร)์ จากคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ รางวัลชมรมวิจารณ์บันเทิง
ในฐานะนักแสดงประกอบชายยอดเยี่ยม นอกจากน้ียังเป็นครูสอนและวิทยากรเทคนิควิธีการสร้างสรรค์ภาพยนตร์
แก่บุคคลในวงการภาพยนตร์ท้ังที่บ้านพักและสถาบันการศึกษาต่าง ๆ จนเป็นท่ียอมรับและยกย่องให้เป็นปูชนียบุคคล
ของวงการภาพยนตร์ไทย ทุกคนในวงการภาพยนตร์ให้การเคารพอย่างสูงสุด นับเป็นบุคคลท่ีสร้างผลงานมีคุณูปการ
ต่อวงการภาพยนตร์และละครโทรทศั น์ ปจั จุบันใชช้ ีวิตอยกู่ ับธรรมชาติที่บ้านกลางขนุ เขาปากชอ่ ง จังหวดั นครราชสมี า
145 โคราช เมืองศลิ ปะ
โคราช เ ืมอง ิศลปะ146
นอกจากปูชนียบุคคลด้านศิลปวัฒนธรรมท่ีกล่าวนามมาข้างต้นแล้ว ยังมีปูชนียบุคคลที่ได้รับการยกย่องเป็น
ศิลปินแหง่ ชาติ สร้างชอ่ื เสยี งและความภาคภูมิใจให้แกช่ าวจังหวดั นครราชสมี า ปัจจบุ ันถึงแกก่ รรมแล้ว ได้แก่
นายสุเทพ วงศก์ �ำแหง
ศลิ ปนิ แหง่ ชาติ สาขาศลิ ปะการแสดง (เพลงไทยสากล – ขบั รอ้ ง) พุทธศกั ราช ๒๕๓๓
เกิดเมื่อวนั ที่ ๑๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๗ ท่จี ังหวดั นครราชสีมา เปน็ ศิลปินนกั ร้องเพลงไทยสากลท่มี ผี ลงาน
ดีเด่นทั้งในและนอกประเทศอย่างต่อเน่ือง มีผลงานขับร้องท่ีประจักษ์ในความสามารถ ได้พัฒนาวิธีการขับร้อง
เพลงไทยสากลอย่างไพเราะ และทวีความงดงามในศิลปะแขนงน้ีย่ิงขึ้นเป็นล�ำดับ เป็นผู้ตั้งใจท�ำงานจนปรากฏผลงาน
เพลงมากมาย เช่น ขับร้องเพลงประกอบในภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ เพลงไทยสากล เพลงพระราชนิพนธ์
เพลงอันเก่ียวด้วยศาสนา และจริยธรรม ตลอดจนได้ใช้ความสามารถในเชิงศิลปะสร้างสรรค์อ�ำนวยคุณประโยชน์
ให้แก่ประเทศชาติเสมอมา ทั้งได้ถ่ายทอดความรู้ความสามารถแก่ศิษย์เป็นจ�ำนวนมาก จากความสามารถส่งผลให้
ได้รับพระราชทานรางวัลแผ่นเสียงทองค�ำ รางวัลเสาอากาศทองค�ำ ในฐานะนักร้องยอดเย่ียม และรางวัลอ่ืน ๆ อีก
มากมาย นอกจากนย้ี งั บำ� เพญ็ สาธารณประโยชนใ์ หแ้ กป่ ระเทศชาติ ไดร้ บั เลอื กตง้ั เปน็ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรหลายสมยั
นายสุเทพ วงศ์ก�ำแหง ถึงแก่กรรมเน่ืองจากระบบหัวใจล้มเหลว ด้วยโรคชรา เม่ือวันท่ี ๒๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๓
สริ อิ ายุ ๘๖ ปี
147
นายใหญ่ วิเศษพลกรงั (พ่อใหญ่ เมอื งคง)
ศลิ ปนิ แห่งชาติ สาขาศลิ ปะการแสดง (เพลงพนื้ บา้ น - เพลงโคราช) พุทธศกั ราช ๒๕๓๙
เกิดเมอ่ื วนั ท่ี ๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๖๓ ท่ีจงั หวัดนครราชสมี า จบชน้ั ประถมปีที่ ๕ จากโรงเรียนวัดตะคร้อ
อ�ำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา ได้รับการยกย่องว่าเป็นหมอเพลงโคราชท่ีมีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานไม่เพียงแต่เป็นท่ี
ยอมรับจากชาวนครราชสีมาเท่านั้น แต่ยังเป็นท่ียอมรับของชาวจังหวัดภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคเหนืออีกด้วย
นายใหญ่ วิเศษพลกรัง เป็นหมอเพลงโคราชท่ีมีปฏิภาณไหวพริบที่สามารถว่าเพลงโต้ตอบกับหมอเพลงคู่ได้อย่าง
เฉียบแหลมคมคาย มีความไพเราะในเน้ือหาสาระตามแบบฉบบั ของเพลงโคราชจนได้รบั ฉายาว่า “ใหญ่เพลงงาม” หรือ
“ใหญเ่ มืองคงดำ� รงศิลป”์ ซึง่ ในช่วงที่มชี ่ือเสียงนนั้ ไดร้ ับความนิยมเป็นอยา่ งมาก รับงานแสดงมากท่ีสุด ตลอดระยะเวลา
ของการเป็นหมอเพลงโคราชได้ทุ่มเทชีวิตให้กับเพลงโคราชตลอดมา แม้ต่อมาจะยุติรับงานแสดงเม่ืออายุ ๖๖ ปี แต่
ด้วยความเป็นศิลปินท่ียิ่งใหญ่ยังสาธิตและถ่ายทอดความรู้ภูมิปัญญาท่ีส่ังสมมาอย่างยาวนานให้แก่ผู้สนใจใฝ่ศึกษามา
โดยตลอด ได้รับการยกย่องประกาศเกียรติคุณจากสถาบันต่าง ๆ ได้แก่ บุคคลผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรมพ้ืนบ้าน
อีสาน จากมหาวิทยาลัยศรนี ครินทรวโิ รฒ มหาสารคาม เม่ือ พ.ศ. ๒๕๓๖ ผ้อู นรุ ักษม์ รดกโคราช สาขาศิลปะการแสดง
(เพลงพ้ืนบ้าน) จากศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา เม่ือ พ.ศ. ๒๕๓๗ บูรพศิลปิน สาขาศิลปะการแสดง จาก
กระทรวงวฒั นธรรม เมอ่ื พ.ศ. ๒๕๕๘ นบั วา่ นายใหญ่ วเิ ศษพลกรงั เปน็ ศลิ ปนิ เพลงโคราชทอี่ นรุ กั ษส์ บื ทอดและสรา้ งสรรค์
เพลงพนื้ บ้านอสี าน ให้ดำ� รงความเปน็ เอกลกั ษณ์ไวใ้ หค้ นร่นุ หลังไดภ้ าคภมู ิใจสืบไป นายใหญ่ วเิ ศษพลกรงั ถงึ แกก่ รรม
ดว้ ยโรคชรา เมอื่ วันท่ี ๓๐ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ สิริอายุ ๙๑ ปี
โคราช เ ืมอง ิศลปะ148
ศิลปนิ ศิลปาธร
นายนิมติ ร พพิ ิธกลุ
ศลิ ปินศลิ ปาธร สาขาศลิ ปะการแสดง พทุ ธศักราช ๒๕๕๐
เป็นชาวโคราช จบการศึกษาปริญญาตรี คณะศิลปศาสตร์ จากมหาวิทยาลัย
ธรรมศาสตร์ และปรญิ ญาโท คณะนิเทศศาสตร์ จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลยั เป็นผ้สู ืบสาน
ศลิ ปะการเชิดหนุ่ สายอยา่ งจริงจัง โดยก่อตั้ง คณะหนุ่ สายเสมา เพือ่ อนรุ ักษ์และชบุ ชวี ิต
ศิลปะแขนงน้ี โดยสร้างสรรค์และเผยแพร่ผลงานที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว การสร้างหุ่น
ออกแบบให้สอดคล้องกับลักษณะการเคล่ือนไหวของคนไทย เน้ือเร่ืองที่น�ำมาแสดงมี
ความซับซ้อนและให้แง่คิดทางปรัชญา สะท้อนแนวคิดเกี่ยวกับประเด็นปัญหาในสังคม
ร่วมสมัย ค�ำนึงถึงผู้ดูหลายกลุ่ม หลายช่วงวัยให้สามารถเข้าใจสาระท่ีต้องการน�ำเสนอ
นอกจากน้ียังได้น�ำหุ่นสายเผยแพร่แก่เด็กและเยาวชนให้รู้จักการท�ำหุ่นและการเชิด
มีผลงานทั้งการเขียนบทละคร ก�ำกับการแสดง และนักแสดง อาทิ ละครเวที เร่ือง
ผู้อภิวัฒน์ (ต้นฉบับ) กระโจมไฟ พิษฐานเอย ร่วมสร้างบทและก�ำกับการแสดง
ละครเวทีไทยเร่ืองแรกในเทศกาลละครโลก Edinburg Festival ประเทศอังกฤษ
ละครเพลงพระราชนิพนธ์ รุ้งหลังฝน เขียนบทและก�ำกับการแสดงรามายณะนานาชาติ
เร่ือง ปัจฉิมาร ละครหุ่นสาย เร่ือง มหาชนกชาดก เป็นต้น ได้รับรางวัลเกียรติยศ
จำ� นวนมาก ไดแ้ ก่ รางวัลศลิ ปนิ แห่งละครเวทีไทย สาขาก�ำกบั การแสดง ประจ�ำปี ๒๕๔๒
จากภัทราวดีเธียเตอร์ รางวัลละครส่งเสริมพระพุทธศาสนาดีเด่น ละครหุ่นสายเสมา
จากเทศกาลละครกรุงเทพ วุฒิบัตรภาพยนตร์ทดลอง Experimental Film จากสถาบัน
วัฒนธรรมไทย รางวัล The Most Poetic Creation of Puppet Art - Prague 2008
จากการแสดงละครหุ่นสายเร่ือง เจา้ เงาะ และรางวัล The Best Traditional Original
Performance of Puppet Art - Prague 2009 จากการแสดงละครหุ่นสายเรื่อง
ศกึ พรหมาสตร์ ในเทศกาลหุ่นโลก ณ กรงุ ปราก สาธารณรัฐเชก เมอ่ื พ.ศ. ๒๕๕๑ และ
พ.ศ. ๒๕๕๒ ตามลำ� ดบั นอกจากน้ียงั ได้รบั การเชิดชเู กยี รตจิ ากกรุงเทพมหานคร ให้เปน็
ผเู้ ผยแพร่ และสง่ เสรมิ ศลิ ปวฒั นธรรมไทยใหเ้ ปน็ ทปี่ รากฏ และรางวลั ศลิ ปะสอื่ สรา้ งสรรค์
ยอดเยย่ี ม (The best Artistic creation) ในงานเทศกาลหนุ่ โลก ปี ๒๕๕๖ ทกี่ รงุ จาการต์ า
ประเทศอินโดนีเซยี
149 โคราช เมืองศลิ ปะ
โคราช เ ืมอง ิศลปะ150
ศลิ ปนิ พื้นบ้าน
นายกำ� ปัน่ นิธวิ รไพบลู ย์ (ก�ำปน่ั บ้านแทน่ )
เกดิ เมอื่ วนั ท่ี ๑ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๔๙๔ ณ บา้ นแทน่ ตำ� บลโพนทอง อำ� เภอบวั ใหญ่
จงั หวดั นครราชสมี า สำ� เรจ็ การศกึ ษาระดบั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ จากโรงเรยี นบา้ นเสว อำ� เภอ
บวั ใหญ่ จงั หวดั นครราชสมี า หลงั จากนนั้ ไดศ้ กึ ษานกั ธรรมชนั้ เอก เปรยี ญธรรม ๓ ประโยค
จากวัดบวั ใหญ่ และส�ำเรจ็ การศึกษาระดบั ประถมศึกษาปที ี่ ๖ มธั ยมศึกษาตอนตน้ และ
มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย จากศนู ยก์ ารศกึ ษานอกโรงเรยี น อำ� เภอโชคชยั จงั หวดั นครราชสมี า
ไดร้ บั พระราชทานปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑติ กิตตมิ ศักด์ิ สาขาศลิ ปะการแสดง และ
ดนตรี จากมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา และได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักด์ิ
จากมหาวิทยาลัย World Peace Academy Cyberu Pakistan สาขาสถาบันศึกษา
สันติภาพโลก
เรมิ่ ศกึ ษาเพลงโคราชกบั ครดู ดั บา้ นแทน่ ครลู พ บา้ นแทน่ และเรยี นรเู้ พลงโคราช
เพม่ิ เตมิ กบั ครยู อดชาย หนองนำ�้ ขนุ่ อำ� เภอนางรอง จงั หวดั บรุ รี มั ย์ เรมิ่ เลน่ เพลงโคราชตงั้ แต่
พ.ศ. ๒๕๒๒ เปน็ ตน้ มา หลังจากน้ัน ได้เรียนรเู้ พลงโคราชกบั ครูลอยชาย แพรกกระโทก
ส�ำนักงานเพลงโคราชเกาะลอย ถนนสุรนารายณ์ ตำ� บลในเมือง อ�ำเภอเมอื งนครราชสมี า
เป็นหมอเพลงประจ�ำคณะเกาะลอย จนกระท่ังหัวหน้าคณะครูลอยชายถึงแก่กรรม
ตอ่ มาจงึ ไดต้ ง้ั คณะเพลงโคราชชอ่ื วา่ คณะกำ� ปน่ั บา้ นแทน่ กาเหวา่ โชคชยั เผยแพรค่ วามรู้
ดา้ นเพลงโคราชใหแ้ กน่ กั เรยี น นกั ศกึ ษา และผสู้ นใจ เปน็ อาจารยท์ ปี่ รกึ ษาในฐานะครเู พลง
โคราชแกบ่ ัณฑิตผ้ทู ่ีท�ำวจิ ยั เกยี่ วกบั เพลงโคราช และภาษาโคราช เป็นวิทยากรฝึกสอนใน
สถาบันการศึกษาต่าง ๆ ไดส้ บื สานการเลน่ เพลง ประดษิ ฐ์สร้างสรรค์การเลน่ เพลงโคราช
ให้เข้ากับยุคสมัย สร้างสรรค์ท�ำนองใหม่ จังหวะใหม่ และน�ำไปเผยแพร่จนเพลงโคราช
เปน็ ทร่ี จู้ กั ในวงกวา้ ง นอกจากนย้ี งั สรา้ งพพิ ธิ ภณั ฑศ์ นู ยก์ ารเรยี นรเู้ พลงโคราช เกบ็ รวบรวม
กลอนเพลงไว้เพ่ืออนุรักษ์และสืบทอดอย่างเป็นระบบ ส่งเสริมให้มีการผลิตส่ือเพ่ือ
การเรียนการสอนเพลงโคราช เป็นผู้ด�ำเนินรายการวิทยุและโทรทัศน์เพื่อส่งเสริมการ
เผยแพร่เพลงโคราช ศลิ ปวัฒนธรรมดา้ นเพลงพืน้ บา้ น และพระพทุ ธศาสนา ไดป้ ระพันธ์
เพลงโคราชไว้เป็นจ�ำนวนมาก มีทั้งเน้ือหาท่ีเกี่ยวข้องกับจังหวัดนครราชสีมา ผู้คนท่ีท�ำ
คุณประโยชนใ์ หจ้ ังหวดั นครราชสมี า พทุ ธประวตั ิ การส่งเสริมการทอ่ งเทย่ี ว การตอ่ ตา้ น
ยาเสพติด และการทุจริต ได้รับรางวัลและเกียรตปิ ระวตั ิ ดงั น้ี