The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by รัญชิดา บัวแย้ม, 2023-09-07 05:07:20

เคมี ม.6 เทอม 1

เคมี ม.6 เทอม 1

100 สารพิจารณาได้จากความมีขั้วของตัวละลายและ ตัวทำละลาย โดยสารสามารถละลายได้ในตัวทำ ละลายที่มีขั้วใกล้เคียงกัน 4. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด สารประกอบเอไมด์เป็นสารประกอบอินทรีย์ที่ประกอบด้วยธาตุคาร์บอน ไฮโดรเจน ออกซิเจนและ ไนโตรเจน เกิดจากหมู่อะมิโนเข้าไปแทนที่หมู่คาร์บอกซิลในกรดคาร์บอกซิลิก ดังนั้นเอไมด์จึงจัดเป็นอนุพันธ์ ของกรดคาร์บอกซิลิก เอไมด์แบ่งได้ 3 ชนิด คือ เอไมด์ปฐมภูมิ เอไมด์ทุติยภูมิ เอไมด์ตติยภูมิ 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการสังเกต 2) ทักษะสำรวจค้นหา 3) ทักษะการลงความเห็นจากข้อมูล 4) ทักษะการตีความหมายข้อมูลและการลง ข้อสรุป 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 6. กิจกรรมการเรียนรู้ แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : 5Es Instructional Model กระตุ้นความสนใจ (Engage) 1. ครูทบทวนความรู้เดิมของนักเรียนเกี่ยวกับสารประกอบเอมีนว่ามีโครงสร้าง หรือมีหมู่ฟังก์ชันอย่างไร 2. ครูให้นักเรียนดูโครงสร้างของกรดคาร์บอกซิลิกและเอมีน แล้วให้นักเรียนพิจารณาว่า ถ้าหมู่อะมิโนในเอมีน เข้าแทนที่หมู่ไฮดรอกซิล ในกรดคาร์บอกซิลิก จะมีลักษณะอย่างไร ขั้นนำ ชั่วโมงที่ 1


101 (แนวตอบ เมื่อหมู่อะมิโนของเอมีนเข้าแทนที่หมู่ไฮดรอกซิลในกรดคาร์บอกซิลิก จะทำให้ได้หมู่ฟังก์ชัน เอไมด์ เกิดเป็นสารประกอบเอไมด์) 3. ครูถามคำถาม Key Question ว่า สารประกอบเอไมด์เตรียมได้จากปฏิกิริยาใด (แนวตอบ สารประกอบเอไมด์เตรียมได้จากปฏิกิริยาระหว่างกรดคาร์บอกซิลิกกับแอมโมเนียหรือเอมีน ที่ อุณหภูมิสูง ) สำรวจค้นหา (Explore) 1. นักเรียนศึกษาเกี่ยวกับสมบัติทางกายภาพ และการเกิดปฏิกิริยาของเอไมด์จากหนังสือเรียนรายวิชา เพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เคมี ม.6 เล่ม 1 2. ครูเตรียมภาพโครงสร้างของสารประกอบเอไมด์หลาย ๆ ชนิด แล้วให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5-6 คน ให้ แต่ละกลุ่มเลือกกลุ่มละ 1 ชนิด แล้วนำมาพิจารณาร่วมกันตามหัวข้อต่อไปนี้ - การเรียกชื่อตามระบบ IUPAC - สมบัติทางกายภาพ - การเกิดปฏิกิริยา พร้อมทั้งนำสารประกอบเอไมด์ของกลุ่มตนเองไปเปรียบเทียบกับกลุ่มอื่นว่า มีสมบัติแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร โดยทำการเปรียบเทียบสมบัติการละลายน้ำ จุดเดือด และสภาพขั้ว 3. นักเรียนร่วมกันตอบคำถาม Concept Question ในหนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี เคมี ม.6 เล่ม 1 หน้า 79 ว่า ให้เขียนสมการแสดงปฏิกิริยาไฮโดรลิซิสของเอทานาไมด์ในสภาวะ เบส (แนวตอบ CH3CONH2 + NaOH ⇌ CH3COONa + NH3 ) อธิบายความรู้(Explain) 4. นักเรียนจับคู่เพื่อนที่นั่งข้างกัน ทำการศึกษาตัวอย่างของเอไมด์ที่พบในชีวิตประจำวัน ในหนังสือเรียน รายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เคมี ม.6 เล่ม 1 หน้า 80 และทำการสืบค้นเพิ่มเติมจากหนังสือ ขั้นสอน ชั่วโมงที่ 2 H2O


102 ในห้องสมุด หรือจากอินเทอร์เน็ต แล้วเลือกสารประกอบเอไมด์ที่นักเรียนสนใจที่ไม่ใช่ตัวอย่างในหนังสือ เรียน มา 1 ชนิด แล้วนำเสนอข้อมูลที่ได้ออกมาในรูปแบบของแผ่นพับ ขยายความเข้าใจ (Elaborate) 5. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5-6 คน แล้วร่วมกันตั้งคำถามเกี่ยวกับเอไมด์ แล้วให้กลุ่มอื่นตอบคำถาม แล้ว ร่วมกันเฉลยคำตอบ โดยต้องได้คำตอบที่ถูกต้องและมีความเข้าใจที่ตรงกัน 6. นักเรียนทำแบบฝึกหัดในแบบฝึกหัดรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เคมี ม.6 เล่ม 1 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. นักเรียนสรุปสาระสำคัญของเอไมด์ในรูปแบบของผังมโนทัศน์ ลงกระดาษ A4 ส่งครูผู้สอน 2. นักเรียนตอบคำถาม Topic Questions ในหนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เคมี ม.6 เล่ม 1 หน้า 80 โดยทำลงในสมุดบันทึกของนักเรียน 1. ครูประเมินความรู้เรื่องเอไมด์โดยสังเกตพฤติกรรมการตอบคำถาม การทำแบบฝึกหัด และการทำใบงาน เรื่อง เอไมด์ 2. ครูประเมินทักษะและกระบวนการ โดยการสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล พฤติกรรมการทำงานกลุ่มจากการ ทำกิจกรรมสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับสารประกอบเอไมด์ในชีวิตประจำวัน 3. ครูประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในการตั้งใจเรียนรู้และแสวงหาความรู้โดยการสังเกตพฤติกรรมของ นักเรียน 7. การวัดและประเมินผล รายการวัด วิธีวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 7.1 ประเมินระหว่าง การจัดกิจกรรม การเรียนรู้ 1) เอไมด์ - ตรวจใบงานที่ 1.10 - ตรวจผังมโนทัศน์ - ตรวจ Topic Questions - ใบงานที่ 1.10 - แบบประเมิน ผังมโนทัศน์ - สมุดบันทึกของ นักเรียน - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ระดับคุณภาพดี ผ่านเกณฑ์ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ขั้นประเมิน ขั้นสรุป


103 รายการวัด วิธีวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน - ตรวจแบบฝึกหัด - แบบฝึกหัด - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2) พฤติกรรม การทำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล - แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล - ระดับคุณภาพดี ผ่านเกณฑ์ 3) พฤติกรรม การทำงานกลุ่ม - สังเกตพฤติกรรม การทำงานกลุ่ม - แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานกลุ่ม - ระดับคุณภาพดี ผ่านเกณฑ์ 4) คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - สังเกตการตั้งใจ เรียนรู้และแสวงหา ความรู้ - แบบประเมิน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ระดับคุณภาพดี ผ่านเกณฑ์ 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เคมี ม.6 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เคมี อินทรีย์ 2) แบบฝึกหัดรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เคมี ม.6 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เคมี อินทรีย์ 3) ใบงานที่ 1.10 เรื่อง เอไมด์ 4) PowerPoint เรื่อง สารประกอบอินทรีย์ 8.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) ห้องเรียน 2) ห้องสมุด 3) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ


104 ใบงานที่ 1.10 เรื่อง เอไมด์ คำชี้แจง : ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้ 1. สารประกอบเอมีนและสารประกอบเอไมด์แตกต่างกันอย่างไร 2. เพราะเหตุใดสารละลายเอไมด์จึงมีสมบัติเป็นกลาง 3. เขียนผลิตภัณฑ์ที่ได้จากปฏิกิริยาการเตรียมเอไมด์และปฏิกิริยาไฮโดรลิซิสของเอไมด์ต่อไปนี้ ............................................................................................................................. ...................................... ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... .................................................................................................................................................... ............... ............................................................................................................................. ...................................... ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... .................................................................................................................................................... ............... HCONH2 + H2O ⇌ CH3CH2COOH + NH3 ⇌ CH3CH2CH2CONH2 + NH3 ⇌


105 ใบงานที่ 1.10 เฉลย เรื่อง เอไมด์ คำชี้แจง : ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้ 1. สารประกอบเอมีนและสารประกอบเอไมด์แตกต่างกันอย่างไร 2. เพราะเหตุใดสารละลายเอไมด์จึงมีสมบัติเป็นกลาง 3. เขียนผลิตภัณฑ์ที่ได้จากปฏิกิริยาการเตรียมเอไมด์และปฏิกิริยาไฮโดรลิซิสของเอไมด์ต่อไปนี้ ............................................................................................................................. ...................................... ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... .................................................................................................................................................... ............... ............................................................................................................................. ...................................... ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... .................................................................................................................................................... ............... HCONH2 + H2O ⇌ CH3CH2COOH + NH3 ⇌ CH3CH2CH2CONH2 + NaOH ⇌ สารประกอบเอมีนเกิดจากหมู่แอลคิลหรือหมู่แอริลเข้าแทนที่ไฮโดรเจนในโมเลกุลของแอมโมเนีย สารประกอบเอไมด์เกิดจากหมู่อะมิโนเข้าแทนที่หมู่ไฮดรอกซิลในกรดคาร์บอกซิลิก เนื่องจากอะตอมของออกซิเจนในหมู่คาร์บอนิลจะดึงดูดอิเล็กตรอนจากอะตอมของไนโตรเจนในหมู่ อะมิโน ส่งผลให้ไนโตรเจนมีสภาพขั้วไฟฟ้าลดลงจนไม่สามารถรับโปรตอนได้ จึงทำให้สารละลายเอไมด์ มีสมบัติเป็นกลาง HCOOH + NH3 CH3CH2CONH2 + H2O CH3CH2CH2COONa + NH3


106 บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ 1. ผลการจัดการเรียนรู้ ด้านความรู้(K) : ทักษะ/กระบวนการ (P) : ด้านคุณลักษณะ (A) : 2. ปัญหา/สาเหตุ (บุคคล/อาการ/สาเหตุ) 3. แนวทางแก้ไข (วิธีการ/ผลลัพธ์) วิธีการแก้ ผลลัพธ์ ลงชื่อ……………………………………………………ครูผู้สอน (นางสาวรัญชิดา บัวแย้ม ) ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย


107 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 11 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา เคมี 6 (ว33225) หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เคมีอินทรีย์ เวลา 40 ชั่วโมง เรื่อง การใช้ประโยชน์ของสารประกอบอินทรีย์ เวลา 4 ชั่วโมง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้สอน นางสาวรัญชิดา บัวแย้ม สอนวันที่ เดือน พ.ศ 1. ผลการเรียนรู้ 10. สืบค้นข้อมูล และนำเสนอตัวอย่างการนำสารประกอบอินทรีย์ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันและ อุตสาหกรรม 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. สืบค้นข้อมูล และนำเสนอตัวอย่างการนำสารประกอบอินทรีย์ไปใช้ประโยชน์ได้ (K) 2. สร้างแบบจำลองการนำสารประกอบอินทรีย์ไปใช้ประโยชน์(P) 3. ตั้งใจเรียนรู้และแสวงหาความรู้ (A) 3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น - สารประกอบอินทรีย์สามารถนำไปใช้ประโยชน์ ได้มากมายในชีวิตประจำวัน รวมทั้งนำไปใช้เป็น สารตั้งต้นและตัวทำละลายในอุตสาหกรรมด้าน ต่าง ๆ เช่น อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงและพลังงาน อุตสาหกรรมอาหารและยา อุตสาหกรรมเกษตร พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา 4. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด สารประกอบอินทรีย์สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้มากมาย เช่น แก๊สปิโตรเลียม นำไปใช้เป็น เชื้อเพลิง ทำแก๊สหุงต้ม น้ำมันเบนซิน นำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงในยานยนต์ แก๊สธรรมชาติก็ถูกนำไปใช้เป็น เชื้อเพลิงสำหรับยานยนต์ และสารประกอบไฮโดรคาร์บอนที่ได้จากการกลั่นน้ำมันดิบยังนำไปเป็นวัตถุดิบ ในการผลิตมอนอเมอร์หรือพอลิเมอร์ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี


108 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการสังเกต 2) ทักษะสำรวจค้นหา 3) ทักษะการลงความเห็นจากข้อมูล 4) ทักษะการตีความหมายข้อมูลและการลงข้อสรุป 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 6. กิจกรรมการเรียนรู้ แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : แบบเน้นมโนทัศน์ (Concept Based Teaching) การใช้ความรู้เดิม เชื่อมโยงความรู้ใหม่ (Prior Knowledge) 1. นักเรียนทบทวนความรู้เดิมของนักเรียนเกี่ยวกับสารประกอบอินทรีย์ชนิดต่าง ๆ โดยให้นักเรียนจับคู่ โครงสร้าง ของสารกับชื่อหมู่ฟังก์ชัน 2. ถามคำถาม Key Question จากหนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เคมี ม.6 เล่ม 1 เพื่อนำเข้าสู่บทเรียน ว่า เราพบสารประกอบอินทรีย์ในชีวิตประจำวันอย่างไรบ้าง (แนวตอบ สารประกอบอินทรีย์ คือ สารที่มีธาตุคาร์บอนเป็นองค์ประกอบ สามารถพบได้ในธรรมชาติ หรือ เกิดจากการสังเคราะห์ เช่น น้ำมันดิบประกอบด้วยสารประกอบไฮโดรคาร์บอน กรดอะมิโนเป็นหน่วยที่เล็ก ที่สุดของโปรตีน โครงสร้างของกรดอะมิโนประกอบด้วยหมู่ฟังก์ชันอะมิโนและหมู่ฟังก์ชันคาร์บอกซิล ) รู้ (Knowing) 1. นักเรียนศึกษาวิดีทัศน์เกี่ยวกับการกลั่นลำดับส่วนน้ำมันดิบจาก YouTube เช่น An Overview of the Refining Process (https://www.youtube.com/watch?v=GYRwWyG3Qqw) ขั้นนำ ขั้นสอน ชั่วโมงที่ 1 ชั่วโมงที่ 2-3


109 2. นักเรียนศึกษาวิดีทัศน์ที่ครูเตรียมให้ แล้วร่วมกันตั้งคำถามจากการดูวิดีทัศน์คนละ 5 คำถาม 3. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5-6 คน ร่วมกันศึกษาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกระบวนการกลั่นลำดับส่วน น้ำมันดิบ แล้วให้แต่ละกลุ่มนำข้อมูลที่ได้จากการศึกษามาออกแบบ นำเสนอข้อมูลในรูปแบบ ของ แบบจำลอง 4. เมื่อนักเรียนศึกษาเกี่ยวกับการกลั่นลำดับส่วนน้ำมันดิบแล้ว ให้นำความรู้ที่ได้มาตอบคำถามที่ตนเองตั้ง คำถามไว้ 5. ครูถามคำถามนักเรียนว่า ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกระบวนการกลั่นลำดับส่วนน้ำมันดิบมีอะไรบ้าง (แนวตอบ ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกระบวนการกลั่นลำดับส่วนน้ำมันดิบ ได้แก่ แก๊สปิโตรเลียม แนฟทาหนัก แนฟทาเบา น้ำมันก๊าด น้ำมันดีเซล น้ำมันหล่อลื่น ไข น้ำมันเตา บิทูเมน) 6. ครูถามต่อว่า ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นลำดับส่วนน้ำมันดิบแต่ละชนิดมีความแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างไร (แนวตอบ ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นน้ำมันดิบแต่ละชนิดจะมีจำนวนอะตอมของคาร์บอนแตกต่างกัน เช่น แก๊สปิโตรเลียม จำนวนคาร์บอน 1-4 อะตอม น้ำมันก๊าด จำนวนคาร์บอน 10-14 อะตอม ผลิตภัณฑ์แต่ละ ชนิดสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ เช่น แก๊สปิโตรเลียมนำไปใช้เชื้อเพลิง แก๊สหุงต้ม น้ำมันดีเซล นำไปใช้ทำ เชื้อเพลิงในเครื่องยนต์ดีเซล) 7. ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นลำดับส่วนน้ำมันดิบที่ถูกนำมาใช้มากที่สุด คือ ผลิตภัณฑ์ประเภทเชื้อเพลิง ไม่ว่า จะเป็น แก๊สปิโตรเลียม ใช้เป็นแก๊สหุงต้ม น้ำมันเบนซิน นำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์เบนซิน น้ำมันก๊าด ถูกนำไปใช้ในเครื่องยนต์ไอพ่น น้ำมันดีเซล นำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์ดีเซล ครูถาม คำถามกับนักเรียนว่า ปัจจุบันมีการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่เพิ่มสูงขึ้น ผลจากการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่มากขึ้น นั้น ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมหรือไม่ อย่างไร (แนวตอบ การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์จะเกิดการเผาไหม้ ซึ่งการเผาไหม้แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ การเผาไหม้สมบูรณ์ จะทำให้เกิดแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ และการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ จะทำให้เกิดแก๊ส คาร์บอนมอนอกไซด์และเขม่า เมื่อมีการใช้เชื้อเพลิงในปริมาณที่มาก ทำให้มีแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์มาก ซึ่งแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์เป็นแก๊สที่ทำให้เกิดสภาวะเรือนกระจก ส่งผลให้โลกมีอุณหภูมิที่สูงขึ้น) 8. ครูถามคำถามนักเรียนว่า จากผลกระทบการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในปริมาณมาก นักเรียนจะมีแนวทางในการ ช่วยลดปัญหาดังกล่าวอย่างไร (แนวตอบ ลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล ใช้รถสาธารณะ หรือใช้พลังงานทดแทน เช่น น้ำมันแก๊สโซฮอล์ น้ำมันไบโอดีเซล แก๊สธรรมชาติ(คำตอบขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของครูผู้สอน)) 9. จากการศึกษาเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ของสารประกอบอินทรีย์ ครูให้นักเรียนนำความรู้ที่ได้มาเรียบเรียง แล้วเชื่อมโยงความรู้ที่ได้ออกมาเป็นแผนผังความคิด โดยใช้หัวข้อว่า ปิโตรเคมีภัณฑ์ 10.นักเรียนทำใบงานที่ 1.11 11.นักเรียนตอบคำถาม Topic Question ในหนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เคมี ม.6 เล่ม 1 หน้า 86 โดยทำลงในสมุดบันทึกของนักเรียน


110 เข้าใจ (Understanding) 11.นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5-6 คน ให้แต่ละกลุ่มศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับเคมีอินทรีย์ 12.นักเรียนศึกษา Summary เคมีอินทรีย์ในหนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เคมี ม.6 เล่ม 1 หน้า 88-92 13.นักเรียนทำแบบฝึกหัดในแบบฝึกหัดรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เคมี ม.6 เล่ม 1 ลงมือทำ (Doing) 14.นักเรียนจับคู่กับเพื่อนที่นั่งข้างกัน แล้วทำกิจกรรม Apply Your Knowledge ในหนังสือเรียนรายวิชา เพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เคมี ม.6 เล่ม 1 หน้า 93 โดยทำการศึกษาสถานการณ์ที่กำหนดให้ ต่อไปนี้ “นักเรียนพบสารอินทรีย์ 5 ชนิด ที่มีลักษณะเป็นของเหลวใส ไม่มีสี ซึ่งฉลากติดสารได้หลุดหายไป จึงทำให้ไม่ทราบว่าสารอินทรีย์นั้น ๆ เป็นสารประเภทใด” จากนั้นร่วมกันออกแบบการทดลองเพื่อให้ สามารถระบุได้ว่า สารอินทรีย์แต่ละชนิดคือสารอินทรีย์ประเภทใด โดยใช้วัสดุและอุปกรณ์ที่หาได้ง่าย รวมทั้งต้องคำนึงถึงความปลอดภัยในการทำการทดลองด้วย 15.นักเรียนตรวจสอบความเข้าใจของตนเองโดยการตอบคำถาม Self Check ในหนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เคมี ม.6 เล่ม 1 หน้า 93 1. นักเรียนแต่ละคนนำข้อสรุปที่ได้จากการร่วมสรุปกับครูมาเขียนเรียบเรียงเป็นองค์ความรู้ของตนเองพร้อม ยกตัวอย่างประกอบองค์ความรู้นั้น 2. นักเรียนทำ Unit Questions ในหนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เคมี ม.6 เล่ม 1 หน้า 94-96 3. เมื่อนักเรียนทำ Unit Questions เสร็จแล้ว ครูให้นักเรียนทบทวนความรู้โดยการทำแบบทดสอบ Test For U เพื่อเป็นการทบทวนความรู้และเตรียมความพร้อมในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย 1. ครูประเมินความรู้เรื่องประโยชน์ของสารประกอบอินทรีย์โดยสังเกตพฤติกรรมการตอบคำถาม การทำ แบบฝึกหัด และการทำใบงานเรื่อง ประโยชน์ของสารประกอบอินทรีย์ 2. ครูประเมินทักษะและกระบวนการ โดยการสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล พฤติกรรมการทำงานกลุ่มจากการ ทำแบบจำลองผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นลำดับส่วนน้ำมันดิบ ขั้นสรุป ขั้นประเมิน ชั่วโมงที่ 4


111 3. ครูประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในการตั้งใจเรียนรู้และแสวงหาความรู้โดยการสังเกตพฤติกรรมของ นักเรียน 7. การวัดและประเมินผล รายการวัด วิธีวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 7.1 ประเมินระหว่าง การจัดกิจกรรม การเรียนรู้ 1) การใช้ประโยชน์ ของสารประกอบ อินทรีย์ - ตรวจใบงานที่ 1.11 - ตรวจ Topic Questions - ตรวจแบบจำลอง ผลิตภัณฑ์การกลั่น ลำดับส่วนน้ำมันดิบ - ตรวจแบบฝึกหัด - ใบงานที่ 1.11 - สมุดบันทึกของ นักเรียน - แบบจำลอง ผลิตภัณฑ์ จากการกลั่นลำดับ ส่วนน้ำมันดิบ - แบบฝึกหัด - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ระดับคุณภาพดี ผ่านเกณฑ์ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2) พฤติกรรม การทำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล - แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล - ระดับคุณภาพดี ผ่านเกณฑ์ 3) พฤติกรรม การทำงานกลุ่ม - สังเกตพฤติกรรม การทำงานกลุ่ม - แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานกลุ่ม - ระดับคุณภาพดี ผ่านเกณฑ์ 4) คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - สังเกตการตั้งใจ เรียนรู้ และแสวงหา ความรู้ - แบบประเมิน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ระดับคุณภาพดี ผ่านเกณฑ์ 7.2 ประเมินหลังเรียน - Test for U หน่วยการเรียนรู้ ที่ 1 - แบบทดสอบหลัง เรียนหน่วยการ เรียนรู้ที่ 1 - ตรวจ Test for U - ตรวจแบบทดสอบ หลังเรียน - Test for U - แบบทดสอบหลัง เรียน - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ประเมินตามสภาพ จริง


112 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เคมี ม.6 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เคมี อินทรีย์ 2) แบบฝึกหัดเคมีรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เคมีม.6 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เคมีอินทรีย์ 3) แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เคมีอินทรีย์ 4) ใบงานที่ 1.11 เรื่อง การใช้ประโยชน์ของสารประกอบอินทรีย์ 5) PowerPoint เรื่อง สารประกอบอินทรีย์ 8.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) ห้องเรียน 2) ห้องสมุด 3) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ


113 ใบงานที่ 1.11 เรื่อง การใช้ประโยชน์ของสารประกอบอินทรีย์ คำชี้แจง : ให้นักเรียนบรรยายความสัมพันธ์ของภาพต่อไปนี้ ............................................................................................................................. .......................................... ....................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................... ........................................................................................................................................ ............................... ....................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .................................... ........................................................................................................................................................ ............... .................................................................................................................... ................................................... ............................................................................................................................. .......................................... ................................................................................................................................................................... .... ............................................................................................................................. .......................................... ................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .......................................... ....................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................... ........................................................................................................................................ ............................... ....................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .................................... ...................................................................................................................................................................... (1) (2) (3)


114 ใบงานที่ 1.11 เฉลย เรื่อง ประโยชน์ของสารประกอบอินทรีย์ คำชี้แจง : : ให้นักเรียนบรรยายความสัมพันธ์ของภาพต่อไปนี้ ............................................................................................................................. .......................................... ....................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................... ........................................................................................................................................ ............................... ....................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .................................... ........................................................................................................................................................ ............... .................................................................................................................... ................................................... ............................................................................................................................. .......................................... ................................................................................................................................................................... .... ............................................................................................................................. .......................................... ................................................................................................................................................................. ....................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................... ............................................................................................................................. .......................................... ....................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................... ............................................................................................................................. .................................... ...................................................................................................................................................................... ภาพที่ 1 เป็นการขุดเจาะปิโตรเลียม ซึ่งปิโตรเลียมแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิดตามสถานะ คือ น้ำมันดิบ และ แก๊สธรรมชาติ น้ำมันดิบจะมีสถานะเป็นของเหลว ประกอบไปด้วยสารประกอบไฮโดรคาร์บอนชนิด ระเหยง่ายเป็นส่วนใหญ่ ส่วนแก๊สธรรมชาติมีสถานะเป็นแก๊ส ณ อุณหภูมิและความกดดันที่ผิวโลก ประกอบด้วยสารประกอบไฮโดรคาร์บอนเป็นหลัก แก๊สธรรมชาติจะมีแก๊สมีเทนซึ่งเป็นแก๊สที่น้ำหนักเบา ที่สุด แต่ปิโตรเลียมที่ได้จากการขุดเจาะมานั้นยังไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้โดยตรง ต้องนำไปผ่าน กระบวนการแยกสารออกจากกันก่อน โดยน้ำมันดิบจะใช้กระบวนการกลั่นลำดับส่วน ดังภาพที่ 2 การ กลั่นลำดับส่วนจะอาศัยหลักการที่ส่วนประกอบต่าง ๆ ในน้ำมันดิบมีจุดเดือดและจุดควบแน่นที่แตกต่าง กันตามจำนวนของคาร์บอน สารประกอบที่มีจำนวนคาร์บอนน้อยจะระเหยขึ้นไปและควบแน่นเป็น ของเหลวในส่วนบนของหอกลั่น ส่วนสารประกอบที่มีจำนวนคาร์บอนมากและมีจุดเดือดสูงกว่าจะ ควบแน่นอยู่ในชั้นล่างของหอกลั่น ส่วนแก๊สธรรมชาติก็ต้องผ่านกระบวนการแยกแก๊สธรรมชาติด้วยเช่นกัน โดยแก๊สธรรมชาติต้องเริ่มจากการแยกสารประกอบที่ไม่ใช่สารประกอบไฮโดรคาร์บอนออกไปก่อน แล้วจึง นำเข้าสู่หอกลั่นลำดับส่วน เพื่อแยกองค์ประกอบของสารประกอบไฮโดรคาร์บอนต่อไป สารประกอบ ไฮโดรคาร์บอนที่ได้จากกระบวนการกลั่นลำดับส่วน เช่น อีเทน หรือเอทิลีน จะถูกนำไปใช้ใน อุตสาหกรรมปิโตรเคมี ในการผลิตขวดพลาสติก ดังภาพที่ 3 (คำตอบอาจจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของครูผู้สอน) (1) (2) (3)


115 บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ 1. ผลการจัดการเรียนรู้ ด้านความรู้(K) : ทักษะ/กระบวนการ (P) : ด้านคุณลักษณะ (A) : 2. ปัญหา/สาเหตุ (บุคคล/อาการ/สาเหตุ) 3. แนวทางแก้ไข (วิธีการ/ผลลัพธ์) วิธีการแก้ ผลลัพธ์ ลงชื่อ……………………………………………………ครูผู้สอน (นางสาวรัญชิดา บัวแย้ม ) ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย


116 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 พอลิเมอร์ เวลา 20 ชั่วโมง 1. ผลการเรียนรู้ เข้าใจโครงสร้างอะตอม การจัดเรียงธาตุในตารางธาตุ สมบัติของธาตุ พันธะเคมีและสมบัติของสาร แก๊สและสมบัติของแก๊ส ประเภทและสมบัติของสารประกอบอินทรีย์และพอลิเมอร์ รวมทั้งการนำความรู้ไป ใช้ประโยชน์ 11. ระบุประเภทของปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์จากโครงสร้างของมอนอเมอร์หรือพอลิเมอร์ 12. วิเคราะห์ และอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างโครงสร้างและสมบัติของพอลิเมอร์ รวมทั้งการนำไปใช้ ประโยชน์ 13. ทดสอบ และระบุประเภทของพลาสติกและผลิตภัณฑ์ยาง รวมทั้งการนำไปใช้ประโยชน์ 14. อธิบายผลของการปรับเปลี่ยนโครงสร้าง และการสังเคราะห์พอลิเมอร์ที่มีต่อสมบัติของพอลิเมอร์ 15. สืบค้นข้อมูล และนำเสนอตัวอย่างผลกระทบจากการใช้และการกำจัดผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์และ แนวทางแก้ไข 2. สาระการเรียนรู้ 2.1 สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม 1) พอลิเมอร์เป็นสารที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ ซึ่งประกอบด้วยหน่วยย่อยที่เรียกว่า มอนอเมอร์ เชื่อมต่อ กันด้วยพันธะโคเวเลนต์ โดยมีทั้งพอลิเมอร์ธรรมชาติและพอลิเมอร์สังเคราะห์ ปฏิกิริยาการเกิด พอลิเมอร์อาจเป็นปฏิกิริยาแบบควบแน่นหรือปฏิกิริยาแบบเติม ขึ้นอยู่กับหมู่ฟังก์ชันและ โครงสร้างของมอนอเมอร์ 2) พอลิเมอร์มีโครงสร้างต่างกันอาจเป็นโครงสร้างแบบเส้น แบบกิ่ง หรือแบบร่างแห ขึ้นอยู่กับชนิด ของมอนอเมอร์และภาวะของปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์ ซึ่งโครงสร้างของพอลิเมอร์ส่งผลต่อ จุดหลอมเหลว ความหนาแน่น ความเปราะ ความเหนียว ความยืดหยุ่น จึงสามารถนำไป ประยุกต์ใช้ได้อย่างหลากหลาย 3) พอลิเมอร์ที่ให้ความร้อนแล้วสามารถนำกลับมาขึ้นรูปใหม่ได้ เรียกว่า พอลิเมอร์เทอร์มอพลาสติก ส่วนใหญ่มีโครงสร้างแบบเส้นและแบบกิ่ง ส่วนพอลิเมอร์ที่ให้ความร้อนแล้วไม่อ่อนตัวจึงไม่ สามารถนำกลับมาขึ้นรูปใหม่ได้ เรียกว่า พอลิเมอร์เทอร์มอเซต มีโครงสร้างแบบร่างแหพลาสติกมี ทั้งที่เป็นพอลิเมอร์เทอร์มอพลาสติกและพอลิเมอร์เทอร์มอเซต ผลิตภัณฑ์ยางเป็นพอลิเมอร์- เทอร์มอเซต ซึ่งทำให้มีสมบัติและการนำไปใช้ประโยชน์ต่างกัน


117 4) การปรับเปลี่ยนโครงสร้างหรือการสังเคราะห์พอลิเมอร์ เช่น วัลคาไนเซชัน การสังเคราะห์ โคพอลิเมอร์ การสังเคราะห์พอลิเมอร์นำไฟฟ้าเป็นการปรับปรุงคุณภาพของพอลิเมอร์ เพื่อให้ได้ ผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเหมาะสมและหลากหลายมากขึ้น 5) การใช้และการกำจัดผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์ อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม จึงควร ตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น และแนวทางแก้ไข 2.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น (พิจารณาตามหลักสูตรสถานศึกษา) 3. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด สารโมเลกุลเดี่ยวหรือ มอนอเมอร์ มาเชื่อมต่อกัน เป็นสารที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ เรียกว่า พอลิเมอร์ พอลิเมอร์แบ่งตามลักษณะการเกิด ได้ 2 ประเภท คือพอลิเมอร์ธรรมชาติและพอลิเมอร์สังเคราะห์ แบ่ง ตามชนิดของมอนอเมอร์ได้ 2 ประเภท คือ ฮอมอพอลิเมอร์และโคพอลิเมอร์ กระบวนการที่ทำให้เกิด พอลิเมอร์ เรียกว่า ปฏิกิริยาพอลิเมอไรเซชัน แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ ปฏิกิริยาพอลิเมอไรเซชันแบบเติม และปฏิกิริยาพอลิเมอไรเซชันแบบควบแน่น สมบัติของพอลิเมอร์จะขึ้นอยู่กับโครงสร้างของพอลิเมอร์ ซึ่งโครงสร้างของพอลิเมอร์แบ่งออกเป็น 3 แบบ คือ พอลิเมอร์แบบเส้น พอลิเมอร์แบบกิ่ง และพอลิเมอร์แบบร่างแห พลาสติกเป็นพอลิเมอร์ที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ สามารถแบ่งประเภทของพลาสติกตามสมบัติทางความ ร้อนได้ 2 ประเภทคือ เทอร์โมพลาสติก เป็นพลาสติกที่มีโครงสร้างแบบเส้นและแบบกิ่ง เมื่อได้รับความ ร้อนจะอ่อนตัวและเมื่อเย็นลงจะแข็งตัว เป็นพลาสติกที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ พลาสติกเทอร์โมเซต เป็น พลาสติกที่มีโครงสร้างแบบร่างแห สามารถหลอมเหลวและขึ้นรูปได้เพียงครั้งแรกเท่านั้น เป็นพลาสติกที่ไม่ สามารถนำไปรีไซเคิลได้ ยาง สามารถแบ่งออกได้ 2 ประเภท คือ ยางธรรมชาติและยางสังเคราะห์ โดยยางธรรมชาติ จะได้จาก ต้นยางพารา มีมอนอเมอร์คือไอโซพรีน มีสมบัติที่ทนต่อแรงดึง ทนต่อการขัดถู ทนต่อน้ำและน้ำมัน แต่ไม่ ทนต่อน้ำมันเบนซินและตัวทำละลายอินทรีย์ จึงมีกระบวนการปรับปรุงยาง โดยให้ยางทำปฏิกิรยากับ กำมะถันในปริมาณที่เหมาะสม จะทำให้ยางมีความยืดหยุ่น คงรูปได้ดีขึ้น ทนความร้อนและแสงได้ดีขึ้น เรียกว่า ปฏิกิริยาวัลคาไนเซชัน และยางอีกหนึ่งประเภทคือ ยางสังเคราะห์ ได้จากการสังเคราะห์โดยใช้สาร ตั้งต้นจากกระบวนการกลั่นปิโตรเลียม จะมีสมบัติที่ทนต่อการสึกกร่อน ทนต่อน้ำมันและตัวทำละลาย อินทรีย์ มีความเสถียรทางความร้อน เสื่อมสภาพได้ช้ากว่ายางธรรมชาติ การใช้ผลิตภัณฑ์จากพอลิเมอร์มีบทบาทในชีวิตประจำวันอย่างมาก เช่น การใช้ถุงพลาสติก บรรจุภัณฑ์อาหารจากพลาสติก เป็นที่นิยมและมีปริมาณการใช้งานที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผล กระทบต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจาก ผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์ส่วนใหญ่สลายตัวยาก ซึ่งใช้เวลาในการย่อยสลายตาม ธรรมชาติหลายสิบปี หรือหลายร้อยปี เมื่อมีปริมาณการใช้งานมาก ก็ทำให้มีปริมาณขยะที่มากขึ้น บางส่วน


118 ถูกทิ้งลงไปในแม่น้ำ ทะเล เกิดการเน่าเสียของน้ำ ส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำ หากนำไปเผาก็ก่อให้เกิดแก๊ส คาร์บอนไดออกไซด์และแก๊สพิษอื่น ๆ ซึ่งส่งผลเสียต่อบรรยากาศ หากนำไปฝังดิน อาจจะทำให้ดินบริเวณ นั้นเสื่อมสภาพ ปัจจุบันจึงมีการแนวทางในการแก้ปัญหา เช่น ลดการใช้ผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์สังเคราะห์ให้ น้อยลง นำผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์สังเคราะห์ที่ยังมีคุณภาพดีกลับมาใช้งานอีกครั้ง แปรรูปผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์ ที่ใช้แล้วเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการสังเกต 2) ทักษะการสำรวจค้นหา 3) ทักษะการวิเคราะห์ 4) ทักษะการทดลอง 5) ทักษะการลงความเห็นจากข้อมูล 6) ทักษะการตีความหมายและลงข้อสรุป 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 5. ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แผ่นพับเผยแพร่ความรู้ เรื่อง ปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์ รายงานการทดลอง เรื่อง การตรวจสอบสมบัติทางกายภาพบางประการของพลาสติก ผังมโนทัศน์ เรื่อง พลาสติก 6. การวัดและการประเมินผล รายการวัด วิธีวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 6.1 การประเมิน ชิ้นงาน/ภาระ งาน (รวบยอด) - แผ่นพับเผยแพร่ความรู้ เรื่อง ปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์ - รายงานการทดลอง เรื่อง การ ตรวจสอบสมบัติทาง กายภาพ บางประการของ พลาสติก - ผังมโนทัศน์ เรื่อง พลาสติก - แบบประเมิน ชิ้นงาน/ภาระงาน - แบบประเมินการ ปฏิบัติการ - แบบประเมิน ชิ้นงาน/ภาระงาน - ระดับคุณภาพดี ผ่านเกณฑ์ - ระดับคุณภาพดี ผ่านเกณฑ์ - ระดับคุณภาพดี ผ่านเกณฑ์


119 รายการวัด วิธีวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 6.2 การประเมิน ก่อนเรียน - แบบ ทดสอบ ก่อนเรียน หน่วยการ เรียนรู้ที่ 2 เรื่อง พอลิเมอร์ - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน - แบบทดสอบก่อน เรียน - ประเมินตาม สภาพ จริง 6.3 การประเมิน ระหว่างการจัด กิจกรรม 1) ปฏิกิริยา การเกิด พอลิเมอร์ - ตรวจใบงานที่ 2.1 - ตรวจใบงานที่ 2.2 - ตรวจ Topic Questions - ตรวจแบบฝึกหัด - ใบงานที่ 2.1 - ใบงานที่ 2.2 - สมุดบันทึกของ นักเรียน - แบบฝึกหัด - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2) โครงสร้าง และสมบัติ ของ พอลิเมอร์ - ตรวจใบงานที่ 2.3 - ตรวจ Topic Questions - ตรวจแบบฝึกหัด - ใบงานที่ 2.3 - สมุดบันทึกของ นักเรียน - แบบฝึกหัด - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3) พลาสติก - ตรวจใบงานที่ 2.4 - ตรวจแบบฝึกหัด - ใบงานที่ 2.4 - แบบฝึกหัด - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 4) ยาง - ตรวจใบงานที่ 2.5 - ใบงานที่ 2.5 - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์


120 รายการวัด วิธีวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน - ตรวจ Topic Questions - ตรวจแบบฝึกหัด - สมุดบันทึกของ นักเรียน - แบบฝึกหัด - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 5) ผลกระทบที่ เกิดจากการ ใช้และกำจัด ผลิตภัณฑ์ พอลิเมอร์ - ตรวจใบงานที่ 2.6 - ตรวจ Topic Questions - ตรวจแบบฝึกหัด - ใบงานที่ 2.6 - สมุดบันทึกของ นักเรียน - แบบฝึกหัด - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 6) การนำเสนอ ผลงาน - ประเมินการนำเสนอผลงาน - แบบประเมิน การนำเสนอผลงาน - ระดับคุณภาพดี ผ่านเกณฑ์ 7) พฤติกรรม การทำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล - แบบสังเกต พฤติกรรม การทำงาน รายบุคคล - ระดับคุณภาพดี ผ่านเกณฑ์ 8) พฤติกรรม การทำงาน กลุ่ม - สังเกตพฤติกรรม การทำงานกลุ่ม - แบบสังเกต พฤติกรรม การทำงานกลุ่ม - ระดับคุณภาพดี ผ่านเกณฑ์ 9) คุณลักษณะ อันพึง ประสงค์ - สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่น ในการ ทำงาน - แบบประเมิน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ระดับคุณภาพดี ผ่านเกณฑ์ 6.4 การประเมินหลัง เรียน 1) Test for U หน่วยการ เรียนรู้ที่ 2 - ตรวจ Test for U - สมุดบันทึกของ นักเรียน - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์


121 รายการวัด วิธีวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 2) แบบ ทดสอบหลัง เรียนหน่วย การเรียนรู้ ที่ 2 เรื่อง พอลิเมอร์ - ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน - แบบทดสอบหลัง เรียน - ประเมินตาม สภาพจริง 7. กิจกรรมการเรียนรู้ • แผนฯ ที่ 1 : ปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์ วิธีสอนแบบบรรยาย (Lecture Method) เวลา 3 ชั่วโมง • แผนฯ ที่ 2 : โครงสร้างและสมบัติของพอลิเมอร์ วิธีสอนแบบอุปนัย (Inductive Method) เวลา 4 ชั่วโมง • แผนฯ ที่ 3 : พลาสติก วิธีสอน 5Es Instructional Model เวลา 5 ชั่วโมง • แผนฯ ที่ 4 : ยาง วิธีสอนแบบนิรนัย (Deductive Method) เวลา 4 ชั่วโมง • แผนฯ ที่ 5 : ผลกระทบที่เกิดจากการใช้และกำจัดผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์ วิธีสอนแบบเน้นมโนทัศน์ (Concept-Based Teaching) เวลา 4 ชั่วโมง (รวมเวลา 20 ชั่วโมง) 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เคมี ม.6 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 พอลิเมอร์ 2) หนังสือแบบฝึกหัดรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เคมี ม.6 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ ที่ 2 พอลิเมอร์ 3) แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 พอลิเมอร์ 4) แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 พอลิเมอร์ 5) ใบงานที่ 2.1 เรื่อง ประเภทของพอลิเมอร์ 6) ใบงานที่ 2.2 เรื่อง ปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์ 7) ใบงานที่ 2.3 เรื่อง โครงสร้างและสมบัติของพอลิเมอร์


122 8) ใบงานที่ 2.4 เรื่อง พลาสติก 9) ใบงานที่ 2.5 เรื่อง ยางและเส้นใย 10) ใบงานที่ 2.6 เรื่อง ผลกระทบที่เกิดจากการใช้และกำจัดผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์ 11) PowerPoint เรื่อง พอลิเมอร์ 8.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) ห้องสมุด 2) ห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ 3) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ


123 แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่2 คำชี้แจง : ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. พอลิเมอร์ใดเกิดจากปฏิกิริยาพอลิเมอไรเซชันแบบ ควบแน่น 1. พอลิยูรีเทน 2. พอลิเอทิลีน 3. พอลิโพรพิลีน 4. พอลิไวนิลคลอไรด์ 5. พอลิอะคริโลไนไตรล์ 2. สารใดเป็นมอนอเมอร์ของพอลิโพรพิลีน 1. เอทิลีน 2. โพรพิลีน 3. ไวนิลคลอไรด์ 4. ยูเรียกับฟอร์มาลดีไฮด์ 5. เมลามีนกับฟอร์มาลดีไฮด์ 3. พอลิเอทิลีนชนิดความหนาแน่นต่ำมีโครงสร้างพอลิเมอร์ แบบใด 1. แบบกิ่ง 2. แบบเส้น 3. แบบร่างแห 4. แบบตาข่าย 5. แบบบล็อก 4. พอลิเมอร์ที่มีโครงสร้างแบบใด มีความแข็งมาก ไม่ ยืดหยุ่น และแตกหักได้ง่าย 1. แบบกิ่ง 2. แบบโซ่ 3. แบบเส้น 4. แบบบล็อก 5. แบบร่างแห 5. พลาสติกในข้อใดสามารถนำไปรีไซเคิล 1. ไนลอน 2. เมลามีน 3. อีพอกซี 4. เบเคอไลต์ 5. สเปรย์โฟม 6. ข้อใดคือสมบัติของพลาสติกเทอร์มอเซต 1. นำไปรีไซเคิลได้ 2. เปลี่ยนรูปร่างได้ 3. เมื่ออุณหภูมิลดลงจะแข็งตัว 4. ไม่อ่อนตัวเมื่อได้รับความร้อน 5. เมื่อได้รับความร้อนอีกครั้งสมบัติของพลาสติก ไม่ เปลี่ยนแปลง 7. ข้อใดเป็นมอนอเมอร์ของยางธรรมชาติ 1. เอทิลีน 2. โพรพิลีน 3. ไอโซพรีน 4. คลอโรพรีน 5. บิวทาไดอีน 8. ข้อใดคือกระบวนการวัลคาไนเซชัน 1. กระบวนการเพิ่มคุณภาพยางธรรมชาติ 2. กระบวนการเติมซิลิกาในยางธรรมชาติ 3. กระบวนการแทนที่อะตอมของคาร์บอนใน โมเลกุลของยางธรรมชาติ 4. กระบวนการแทนที่อะตอมของไนโตรเจนใน โมเลกุลของยางธรรมชาติ 5. กระบวนการที่ทำให้โมเลกุลในยางธรรมชาติ สลายตัวเป็นโมเลกุลเล็ก ๆ 9. ยางสังเคราะห์ในข้อใดมีสมบัติคล้ายยางธรรมชาติ 1. พอลิเอทิลีน 2. พอลิไอโซพรีน 3. พอลิบิวทาไดอีน 4. พอลิคลอโรพรีน 5. พอลิสไตรีนบิวทาไดอีน 10. จากภาพคือสัญลักษณ์ของพลาสติกประเภทใด 1. พอลิสไตรีน 2. พอลิโพรพิลีน 3. พอลิไวนิลคลอไรด์ 4. พอลิเอทิลีนเทเรฟทาเลต 5. พอลิเอทิลีนชนิดความหนาแน่นสูง เฉลย 1.1 2. 2 3. 1 4.5 5.1 6.4 7.3 8. 1 9. 2 10. 3


124 แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่2 คำชี้แจง : ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. พอลิเมอร์ใดเกิดจากปฏิกิริยาพอลิเมอไรเซชันแบบเติม 1. พอลิเอไมด์ 2. พอลิยูรีเทน 3. พอลิคาร์บอเนต 4. พอลิเมทิลเมทาคริเลต 5. พอลิฟีนอลฟอร์มาลดีไฮด์ 2. สารใดเป็นมอนอเมอร์ของเบเคอไลต์ 1. เอทิลีน 2. โพรพิลีน 3. ยูเรียกับฟอร์มาลดีไฮด์ 4. ฟีนอลกับฟอร์มาลดีไฮด์ 5. เมลามีนกับฟอร์มาลดีไฮด์ 3. พอลิสไตรีน เป็นพอลิเมอร์ที่มีความหนาแน่นสูง จุดเดือด และจุดหลอมเหลวสูง มีความแข็งและขุ่น พอลิสไตรีนมี โครงสร้างพอลิเมอร์แบบใด 1. แบบกิ่ง 2. แบบเส้น 3. แบบร่างแห 4. แบบตาข่าย 5. แบบบล็อก 4. พอลิเมอร์ในข้อใดมีความหนาแน่นมากที่สุด 1. ซิลิโคน 2. เมลามีน 3. เบเคอไลต์ 4. พอลิไวนิลคลอไรด์ 5. พอลิเอทิลีนชนิดความหนาแน่นต่ำ 5. ข้อใดไม่ใช่สมบัติของเทอร์มอพลาสติก 1. นำไปรีไซเคิลได้ 2. เปลี่ยนรูปร่างได้ 3. เมื่ออุณหภูมิลดลงจะแข็งตัว 4. ไม่อ่อนตัวเมื่อได้รับความร้อน 5. เมื่อได้รับความร้อนอีกครั้งสมบัติของพลาสติก ไม่ เปลี่ยนแปลง 6. ผลิตภัณฑ์ใดไม่สามารถนำไปรีไซเคิล 1. ถุงพลาสติก 2. ชามเมลามีน 3. เชือกไนลอน 4. ท่อน้ำประปา 5. ขวดน้ำพลาสติก 7. ข้อใดเป็นเส้นใยกึ่งสังเคราะห์ 1. ไหม 2. ฝ้าย 3. เรยอน 4. ไนลอน 5. ดาครอน 8. ข้อใดเป็นมอนอเมอร์ของยางธรรมชาติ 1. เอทิลีน 2. โพรพิลีน 3. ไอโซพรีน 4. คลอโรพรีน 5. บิวทาไดอีน 9. ข้อใดคือกระบวนการวัลคาไนเซชัน 1. กระบวนการเพิ่มคุณภาพยางธรรมชาติ 2. กระบวนการเติมซิลิกาในยางธรรมชาติ 3. กระบวนการแทนที่อะตอมของคาร์บอนใน โมเลกุลของยางธรรมชาติ 4. กระบวนการแทนที่อะตอมของไนโตรเจนใน โมเลกุลของยางธรรมชาติ 5. กระบวนการที่ทำให้โมเลกุลในยางธรรมชาติ สลายตัวเป็นโมเลกุลเล็กๆ 10. ยางสังเคราะห์ในข้อใดมีสมบัติคล้ายยางธรรมชาติ 1. พอลิเอทิลีน 2. พอลิไอโซพรีน 3. พอลิบิวทาไดอีน 4. พอลิคลอโรพรีน 5. พอลิสไตรีนบิวทาไดอีน เฉลย 1.4 2. 4 3. 2 4.4 5.4 6.2 7.3 8. 3 9. 1 10. 2


125 แบบประเมินการปฏิบัติการ แผนฯ ที่ 3 คำชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินการปฏิบัติการของนักเรียนตามรายการที่กำหนด แล้วขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกับ ระดับคะแนน ลำดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 4 3 2 1 1 การออกแบบการทดลอง 2 การดำเนินการทดลอง 3 การนำเสนอ รวม ลงชื่อ ................................................... ผู้ประเมิน ................./................/...............


126 เกณฑ์การประเมินการปฏิบัติการ ประเด็นที่ ประเมิน ระดับคะแนน 4 3 2 1 1. การออกแบบ การทดลอง เข้าใจปัญหาตั้งสมมติฐาน ได้สอดคล้องกับปัญหา ออกแบบการทดลองและ ใช้เทคนิควิธีถูกต้อง แสดงถึงความคิดริเริ่ม เข้าใจปัญหาตั้งสมมติฐาน ได้ถูกต้อง ออกแบบการ ทดลองและใช้เทคนิควิธี ถูกต้อง เข้าใจปัญหาตั้งสมมติฐาน ได้ถูกต้อง ออกแบบการ ทดลองและใช้เทคนิควิธี ยังไม่ถูกต้อง เข้าใจปัญหาตั้งสมมติฐาน ได้ถูกต้อง ต้องอาศัยการ แนะนำในการออกแบบ การทดลอง 2. การ ดำเนินการ ทดลอง การดำเนินการทดลอง มีขั้นตอนครบถ้วนถูกต้อง มีการทำซ้ำ และการเก็บ ข้อมูลได้ละเอียดรอบคอบ ครบถ้วนตามที่ต้องการ การดำเนินการทดลอง มีขั้นตอนครบถ้วนถูกต้อง แต่ไม่มีการทำซ้ำ และการ เก็บข้อมูลได้ครบถ้วน ตามที่ต้องการ การดำเนินการทดลอง มีขั้นตอนถูกต้องเป็นส่วน ใหญ่และการเก็บข้อมูล ได้ครบถ้วนตามที่ต้องการ การดำเนินการทดลอง ไม่ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ และการเก็บข้อมูล ไม่ครบถ้วน 3. การนำเสนอ เหมาะสมกับลักษณะของ ข้อมูล แสดงถึงความคิด สร้างสรรค์ในการนำเสนอ วิเคราะห์ข้อมูลได้ ครบถ้วนเหมาะสม สรุปผลการทดลองถูกต้อง มีการนำเหตุผลและ ความรู้มาอ้างอิง ประกอบการสรุป นำเสนอข้อมูลถูกต้อง ครบถ้วน วิเคราะห์ข้อมูล ได้ครบถ้วน สรุปผลการ ทดลองถูกต้อง มีการนำ เหตุผลและความรู้มา อ้างอิงประกอบการ สรุปผลการทดลอง นำเสนอข้อมูลถูกต้อง วิเคราะห์ข้อมูลได้ครบถ้วน นำเสนอผลการทดลอง ถูกต้อง นำเสนอข้อมูลถูกต้อง วิเคราะห์ข้อมูล ไม่ครบถ้วน สรุปผลการ ทดลองไม่ถูกต้อง เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 11-12 ดีมาก 9-10 ดี 6-8 พอใช้ ต่ำกว่า 6 ปรับปรุง


127 แบบประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แผนฯ ที่ 1 และ 3 แบบประเมินผังมโนทัศน์/แผ่นพับ คำชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินชิ้นงาน/ภาระงานของนักเรียนตามรายการที่กำหนด แล้วขีด ✓ ลงในช่องที่ตรง กับระดับคะแนน ลำดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 4 3 2 1 1 ความสอดคล้องกับจุดประสงค์ 2 ความถูกต้องของเนื้อหา 3 ความคิดสร้างสรรค์ 4 ความตรงต่อเวลา รวม ลงชื่อ ................................................... ผู้ประเมิน ................./................../.................. เกณฑ์การประเมินผังมโนทัศน์/แผ่นพับ ประเด็นที่ประเมิน ระดับคะแนน 4 3 2 1 1. ความ สอดคล้องกับ จุดประสงค์ ผลงานสอดคล้องกับ จุดประสงค์ทุกประเด็น ผลงานสอดคล้องกับ จุดประสงค์เป็นส่วน ใหญ่ ผลงานสอดคล้องกับ จุดประสงค์บางประเด็น ผลงานไม่สอดคล้องกับ จุดประสงค์ 2. ความถูกต้อง ของเนื้อหา เนื้อหาสาระของผลงาน ถูกต้องครบถ้วน เนื้อหาสาระของผลงาน ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ เนื้อหาสาระของผลงาน ถูกต้องบางประเด็น เนื้อหาสาระของผลงาน ไม่ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ 3. ความคิด สร้างสรรค์ ผลงานแสดงถึงความคิด สร้างสรรค์ แปลกใหม่ และเป็นระบบ ผลงานแสดงถึงความคิด สร้างสรรค์ แปลกใหม่ แต่ยังไม่เป็นระบบ ผลงานมีความน่าสนใจ แต่ยังไม่มีแนวคิดแปลก ใหม่ ผลงานไม่มีความ น่าสนใจ และไม่แสดง ถึงแนวคิดแปลกใหม่ 4. ความตรงต่อ เวลา ส่งชิ้นงานภายในเวลาที่ กำหนด ส่งชิ้นงานช้ากว่าเวลาที่ กำหนด 1 วัน ส่งชิ้นงานช้ากว่าเวลาที่ กำหนด 2 วัน ส่งชิ้นงานช้ากว่าเวลาที่ กำหนด 3 วันขึ้นไป เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14-16 ดีมาก 11-13 ดี 8-10 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง


128 แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ลำดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 1 การแสดงความคิดเห็น 2 การยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น 3 การทำงานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 4 ความมีน้ำใจ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชื่อ ................................................... ผู้ประเมิน ............/.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14–15 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง


129 แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ลำดับที่ ชื่อ–สกุล ของนักเรียน การแสดง ความ คิดเห็น การยอมรับ ฟังคนอื่น การทำงาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย ความมี น้ำใจ การมี ส่วนร่วมใน การ ปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ ................................................... ผู้ประเมิน ............./.................../............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14–15 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง


130 แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ด้าน รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 1. รักชาติ ศาสน์กษัตริย์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาติได้ 1.2 เข้าร่วมกิจกรรมที่สร้างความสามัคคีปรองดอง และเป็นประโยชน์ ต่อโรงเรียน 1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนับถือ ปฏิบัติตามหลักศาสนา 1.4 เข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ตามที่โรงเรียนจัดขึ้น 2. ซื่อสัตย์ สุจริต 2.1 ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นจริง 2.2 ปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง 3. มีวินัย รับผิดชอบ 3.1 ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของครอบครัว มีความตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน 4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 รู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และนำไปปฏิบัติได้ 4.2 รู้จักจัดสรรเวลาให้เหมาะสม 4.3 เชื่อฟังคำสั่งสอนของบิดา-มารดา โดยไม่โต้แย้ง 4.4 ตั้งใจเรียน 5. อยู่อย่างพอเพียง 5.1 ใช้ทรัพย์สินและสิ่งของของโรงเรียนอย่างประหยัด 5.2 ใช้อุปกรณ์การเรียนอย่างประหยัดและรู้คุณค่า 5.3 ใช้จ่ายอย่างประหยัดและมีการเก็บออมเงิน 6. มุ่งมั่นในการทำงาน 6.1 มีความตั้งใจและพยายามในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไม่ท้อแท้ต่ออุปสรรคเพื่อให้งานสำเร็จ 7. รักความเป็นไทย 7.1 มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รู้จักช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูทำงาน 8.2 รู้จักการดูแลรักษาทรัพย์สมบัติและสิ่งแวดล้อมของห้องเรียนและโรงเรียน ลงชื่อ .................................................. ผู้ประเมิน ............/.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครั้ง ให้ 1 คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 51–60 ดีมาก 41–50 ดี 30–40 พอใช้ ต่ำกว่า 30 ปรับปรุง


131 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา เคมี 6 (ว33225) หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 พอลิเมอร์ เวลา 20 ชั่วโมง เรื่อง ปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์ เวลา 3 ชั่วโมง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้สอน นางสาวรัญชิดา บัวแย้ม สอนวันที่ เดือน พ.ศ 1. ผลการเรียนรู้ 11. ระบุประเภทของปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์จากโครงสร้างของมอนอเมอร์หรือพอลิเมอร์ 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายการเกิดพอลิเมอร์ และบอกความแตกต่างของปฏิกิริยาพอลิเมอไรเซชันแบบเติมและ ปฏิกิริยาพอลิเมอไรเซชันแบบควบแน่นได้ (K) 2. เขียนแสดงปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์แต่ละประเภทได้ (P) 3. ตั้งใจเรียนรู้และแสวงหาความรู้ (A) 3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น - พอลิเมอร์เป็นสารที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ ซึ่ง ประกอบด้วยหน่วยย่อยที่เรียกว่า มอนอเมอร์ เชื่อมต่อกันด้วยพันธะโคเวเลนต์ โดยมีทั้ง พอลิเมอร์ธรรมชาติและพอลิเมอร์สังเคราะห์ ปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์ อาจเป็นปฏิกิริยา แบบควบแน่นหรือปฏิกิริยาแบบเติม ขึ้นอยู่กับ หมู่ฟังก์ชันและโครงสร้างของมอนอเมอร์ พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา 4. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด สารโมเลกุลเดี่ยวหรือ มอนอเมอร์ มาเชื่อมต่อกัน เป็นสารที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ เรียกว่า พอลิเมอร์ พอลิเมอร์แบ่งตามลักษณะการเกิด ได้ 2 ประเภท คือพอลิเมอร์ธรรมชาติและพอลิเมอร์สังเคราะห์แบ่ง ตามชนิดของมอนอเมอร์ได้ 2 ประเภท คือ ฮอมอพอลิเมอร์และโคพอลิเมอร์ กระบวนการที่ทำให้เกิด


132 พอลิเมอร์ เรียกว่า ปฏิกิริยาพอลิเมอไรเซชัน แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ ปฏิกิริยาพอลิเมอไรเซชันแบบเติม และปฏิกิริยาพอลิเมอไรเซชันแบบควบแน่น 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการสังเกต 2) ทักษะสำรวจค้นหา 3) ทักษะการลงความเห็นจากข้อมูล 4) ทักษะการตีความหมายข้อมูลและการลง ข้อสรุป 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 6. กิจกรรมการเรียนรู้ แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : แบบบรรยาย (Lecture Method) การเตรียมการบรรยาย 1. นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 พอลิเมอร์ 2. นักเรียนทำ Check For Understanding จากหนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เคมี ม.6 เล่ม 1 เพื่อตรวจสอบความเข้าใจของตนเองก่อนเรียน 3. ครูทบทวนความรู้เดิมของนักเรียนเกี่ยวกับสารประกอบอินทรีย์ แล้วถามคำถามว่า สารประกอบอินทรีย์มี แหล่งกำเนิดจากสิ่งใด และนำไปใช้ประประโยชน์ได้อย่างไร (แนวตอบ สารประกอบอินทรีย์ คือ สารประกอบที่มีธาตุคาร์บอนเป็นองค์ประกอบ พบได้ในธรรมชาติ หรือเกิดจากการสังเคราะห์ เช่น สารประกอบไฮโดรคาร์บอนได้จากการกลั่นลำดับส่วน น้ำมันดิบ นำไปเป็นสารตั้งต้นในการผลิตพอลิเมอร์) 4. ครูถามคำถาม Big Question เพื่อกระตุ้นความสนใจของนักเรียน ว่า ขวดน้ำพลาสติก ยางรถยนต์ และ เสื้อผ้า ใช้วัสดุในการผลิตแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร (แนวตอบ แตกต่างกัน ขวดน้ำพลาสติก ผลิตจากพอลิเอทิลีน ยางรถยนต์ผลิตจากพอลิบิวทาไดอีน เสื้อผ้าผลิตจากเส้นใยสังเคราะห์ เช่น ดาครอน แต่วัสดุที่นำมาผลิตนั้น จะเรียกว่า พอลิเมอร์) ขั้นนำ ชั่วโมงที่ 1


133 5. ถามคำถาม Key Question จากหนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เคมี ม.6 เล่ม 1 เพื่อนำเข้าสู่บทเรียน ว่า พอลิเมอร์เกิดขึ้นได้อย่างไร (แนวตอบ พอลิเมอร์ เกิดจากปฏิกิริยาพอลิเมอไรเซชัน โดยการรวมตัวของสารโมเลกุลขนาดเล็กที่ เรียกว่า มอนอเมอร์) การบรรยาย 1. ครูเตรียมวิดีทัศน์เกี่ยวกับพอลิเมอร์จาก YouTube เช่น The Polymer Explosion: Crash Course Engineering #20 (https://www.youtube.com/watch?v=XjDDHnByfuo) แล้วให้นักเรียนสรุปสาระสำคัญจากการดูวิดีทัศน์ 2. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5-6 คน ให้แต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับประเภทของพอลิเมอร์ โดย ศึกษาตามหัวข้อต่อไปนี้ พร้อมทั้งยกตัวอย่างพอลิเมอร์ - ประเภทของพอลิเมอร์ตามชนิดของมอนอเมอร์ - ประเภทของพอลิเมอร์ตามลักษณะการเกิด 3. จากการศึกษาประเภทของพอลิเมอร์ตามชนิดของมอนอเมอร์ นักเรียนคิดว่า พอลิเมอร์แต่ละประเภทมี ปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์ที่แตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร (แนวตอบ ประเภทของพอลิเมอร์ตามชนิดของมอนอเมอร์เมื่อพิจารณาแล้ว จะเกิดจากปฏิกิริยา พอลิเมอร์ที่แตกต่างกัน เนื่องจากพอลิเมอร์แต่ละชนิดเกิดจากมอนอเมอร์ต่างชนิดกัน โดย ฮอมอพอลิเมอร์เกิดจากมอนอเมอร์ชนิดเดียวกัน โคพอลิเมอร์ เกิดจาก พอลิเมอร์ต่างชนิด กัน) 4. นักเรียนกลุ่มเดิมเลือกพอลิเมอร์มา 1 ตัวอย่าง ทำการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับพอลิเมอร์ที่เลือก แล้ว นำเสนอข้อมูลที่ได้ในรูปแบบของแผ่นพับ 5. นักเรียนทำใบงานที่ 2.1 เรื่อง ปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์ 1. นักเรียนสรุปสาระสำคัญ เรื่อง ปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์ ลงในกระดาษ A4 ส่งครูผู้สอน 2. นักเรียนตอบคำถาม Topic Questions ในหนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เคมี ม.6 เล่ม 1 หน้า 104 ทำลงในสมุดบันทึกของนักเรียน 3. นักเรียนทำแบบฝึกหัดรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เคมี ม.6 เล่ม 1 ขั้นสอน ขั้นสรุป ชั่วโมงที่ 2 ชั่วโมงที่ 3


134 1. ครูประเมินความรู้เรื่องปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์โดยสังเกตพฤติกรรมการตอบคำถาม การทำแบบฝึกหัด และการทำใบงานเรื่อง ประเภทของพอลิเมอร์และใบงานเรื่อง ปฏิกิริยาของพอลิเมอร์ 2. ครูประเมินทักษะและกระบวนการ โดยการสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล พฤติกรรมการทำงานกลุ่มจากการ ทำแผ่นพับเกี่ยวกับปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์ 3. ครูประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในการตั้งใจเรียนรู้และแสวงหาความรู้โดยการสังเกตพฤติกรรมของ นักเรียน 7. การวัดและประเมินผล รายการวัด วิธีวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 7.1 การประเมินก่อนเรียน - แบบทดสอบ ก่อนเรียนหน่วยการ เรียนรู้ที่ 1 - ตรวจแบบทดสอบ ก่อนเรียน - แบบทดสอบ ก่อนเรียน - ประเมินตาม สภาพจริง 7.2 ประเมินระหว่าง การจัดกิจกรรม การเรียนรู้ 1) ปฏิกิริยาการเกิด พอลิเมอร์ - ตรวจใบงานที่ 2.1 - ตรวจใบงานที่ 2.2 - ตรวจ Topic Questions - ตรวจแบบฝึกหัด - ใบงานที่ 2.1 - ใบงานที่ 2.2 - สมุดบันทึกของ นักเรียน - แบบฝึกหัด - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2) พฤติกรรม การทำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล - แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล - ระดับคุณภาพดี ผ่านเกณฑ์ 3) พฤติกรรม การทำงานกลุ่ม - สังเกตพฤติกรรม การทำงานกลุ่ม - แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานกลุ่ม - ระดับคุณภาพดี ผ่านเกณฑ์ ขั้นประเมิน


135 รายการวัด วิธีวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 4) คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - สังเกตการตั้งใจ เรียนรู้และแสวงหา ความรู้ - แบบประเมิน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ระดับคุณภาพดี ผ่านเกณฑ์ 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เคมี ม.6 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 พอลิเมอร์ 2) แบบฝึกหัดเคมีรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.6 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 พอลิเมอร์ 3) แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 พอลิเมอร์ 4) ใบงานที่ 2.1 เรื่อง ประเภทของพอลิเมอร์ 5) ใบงานที่ 2.2 เรื่อง ปฏิกิริยาของพอลิเมอร์ 6) PowerPoint เรื่อง พอลิเมอร์ 8.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) ห้องเรียน 2) ห้องสมุด 3) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ


136 ใบงานที่ 2.1 เรื่อง ประเภทของพอลิเมอร์ คำชี้แจง : ให้นักเรียนบอกประเภทของพอลิเมอร์ ............................................................. .......................................................... เชือกไนลอน ............................................................. .......................................................... ถุงมือแพทย์ ............................................................. .......................................................... แป้ง ............................................................. .......................................................... ท่อน้ำประปา ............................................................. .......................................................... ยางรถยนต์ ............................................................. .......................................................... ถ้วยเมลามีน


137 ใบงานที่ 2.2 เรื่อง ปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์ คำชี้แจง :เขียนแสดงปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์ของมอนอเมอร์ต่อไปนี้ พร้อมทั้งบอกประเภทของปฏิกิริยา เมทิลเมทาคริเลต บิวทาไดอีน เอทิลีนไกลคอล + กรดเทเรฟทาลิก กรดอะดิปิก + เฮกซะเมทิลีนไดเอมีน ไวนิลคลอไรด์


138 ใบงานที่ 2.1 เฉลย เรื่อง ประเภทของพอลิเมอร์ คำชี้แจง : ให้นักเรียนบอกประเภทของพอลิเมอร์ ............................................................. .......................................................... เชือกไนลอน ............................................................. .......................................................... ถุงมือแพทย์ ............................................................. .......................................................... แป้ง ............................................................. .......................................................... ท่อน้ำประปา ............................................................. .......................................................... ยางรถยนต์ ............................................................. .......................................................... ถ้วยเมลามีน โคพอลิเมอร์ , พอลิเมอร์สังเคราะห์ ฮอมอพอลิเมอร์ ,พอลิเมอร์ธรรมชาติ ฮอมอพอลิเมอร์ ,พอลิเมอร์ธรรมชาติ ฮอมอพอลิเมอร์ ,พอลิเมอร์สังเคราะห์ โคพอลิเมอร์ ,พอลิเมอร์สังเคราะห์ โคพอลิเมอร์ ,พอลิเมอร์สังเคราะห์


139 ใบงานที่ 2.2 เฉลย เรื่อง ปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์ คำชี้แจง :เขียนแสดงปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์ของมอนอเมอร์ต่อไปนี้ พร้อมทั้งบอกประเภทของปฏิกิริยา เมทิลเมทาคริเลต บิวทาไดอีน เอทิลีนไกลคอล + กรดเทเรฟทาลิก กรดอะดิปิก + เฮกซะเมทิลีนไดเอมีน ไวนิลคลอไรด์ ( ) n เมทิลเมทาคริเลต พอลิเมทิลเมทาคริเลต n ( ) บิวทาไดอีน พอลิบิวทาไดอีน n n เอทิลีนไกลคอล กรดเทเรฟทาลิก พอลิเอทิลีนเทเรฟทาเลต กรดอะดิปิก เฮกซะเมทิลีนไดเอมีน ไนลอน 6,6 ไวนิลคลอไรด์ พอลิไวนิลคลอไรด์


140 บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ 1. ผลการจัดการเรียนรู้ ด้านความรู้(K) : ทักษะ/กระบวนการ (P) : ด้านคุณลักษณะ (A) : 2. ปัญหา/สาเหตุ (บุคคล/อาการ/สาเหตุ) 3. แนวทางแก้ไข (วิธีการ/ผลลัพธ์) วิธีการแก้ ผลลัพธ์ ลงชื่อ……………………………………………………ครูผู้สอน (นางสาวรัญชิดา บัวแย้ม ) ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย


141 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา เคมี 6 (ว33225) หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 พอลิเมอร์ เวลา 20 ชั่วโมง เรื่อง โครงสร้างและสมบัติของพอลิเมอร์ เวลา 4 ชั่วโมง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้สอน นางสาวรัญชิดา บัวแย้ม สอนวันที่ เดือน พ.ศ 1. ผลการเรียนรู้ 12. วิเคราะห์ และอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างโครงสร้างและสมบัติของพอลิเมอร์ รวมทั้งการนำไปใช้ ประโยชน์ 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกความสัมพันธ์ระหว่างโครงสร้างกับสมบัติของพอลิเมอร์ได้(K) 2. เขียนอธิบายโครงสร้างของพอลิเมอร์ได้ (P) 3. รับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย (A) 3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น - พอลิเมอร์มีโครงสร้างต่างกันอาจเป็นโครงสร้าง แบบเส้น แบบกิ่ง หรือแบบร่างแห ขึ้นอยู่กับชนิด ของมอนอเมอร์และภาวะของปฏิกิริยาการเกิด พอลิเมอร์ ซึ่งโครงสร้างของพอลิเมอร์ส่งผลต่อ จุดหลอมเหลว ความหนาแน่น ความเปราะ ความเหนียว ความยืดหยุ่น จึงสามารถนำไป ประยุกต์ใช้ได้อย่างหลากหลาย พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา 4. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด สมบัติของพอลิเมอร์จะขึ้นอยู่กับโครงสร้างของพอลิเมอร์ ซึ่งโครงสร้างของพอลิเมอร์แบ่งออกเป็น 3 แบบ คือ พอลิเมอร์แบบเส้น พอลิเมอร์แบบกิ่ง และพอลิเมอร์แบบร่างแห


142 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการสังเกต 2) ทักษะสำรวจค้นหา 3) ทักษะการลงความเห็นจากข้อมูล 4) ทักษะการตีความหมายข้อมูลและการลงข้อสรุป 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 6. กิจกรรมการเรียนรู้ แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : แบบอุปนัย (Inductive Method) เตรียมการ 1. นักเรียนทบทวนความรู้เดิมของนักเรียนว่า พอลิเมอร์มีปฏิกิริยาการเกิดอย่างไร (แนวตอบ พอลิเมอร์เกิดจากการรวมตัวของสารที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก เรียกว่า มอนอเมอร์) 2. ครูถามคำถามนักเรียนต่อว่า ท่อน้ำประปา ถุงเย็น ถ้วยเมลามีน มีสมบัติเหมือนหรือแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร (แนวตอบ ท่อน้ำประปา หรือท่อพีวีซี จะมีความแข็ง ถุงเย็น ไม่แข็ง แต่ยืดหยุ่นได้ ถ้วยเมลามีน แข็งแต่ เปราะ แตกหักง่าย ดังนั้น ท่อน้ำประปา ถุงเย็น และถ้วยเมลามีน มีสมบัติที่แตกต่างกัน) 3. ถามคำถาม Key Question ว่า โครงสร้างของพอลิเมอร์มีผลต่อสมบัติของพอลิเมอร์อย่างไร (แนวตอบ โครงสร้างของพอลิเมอร์จะมีผลต่อความหนาแน่น จุดเดือด จุดหลอมเหลว ความยืดหยุ่น) ชั่วโมงที่ 1 ขั้นนำ


143 เสนอตัวอย่าง 1. ครูเตรียมบัตรภาพโครงสร้างของพอลิเมอร์ 3 แบบ แล้วให้นักเรียนพิจารณาว่า โครงสร้างทั้ง 3 แบบ แตกต่างกันอย่างไร (แนวตอบ โครงสร้างแบบที่ 1 มีลักษณะเป็นเส้น เกิดจากมอนอเมอร์ต่อกันเป็นสายยาว โครงสร้างแบบ ที่ 2 มีกิ่งแยกออกมาจากสายโซ่หลัก โครงสร้างแบบที่ 3 สายโซ่เกิดการเชื่อมต่อเป็นร่างแห) 2. ครูถามนักเรียนต่อว่า นักเรียนคิดว่าโครงสร้างทั้ง 3 แบบส่งผลต่อสมบัติของพอลิเมอร์อย่างไร (แนวตอบ โครงสร้างแบบที่ 1 มีลักษณะเป็นเส้น สายโซ่พอลิเมอร์เรียงชิดกัน ทำให้มีแรงยึดเหนี่ยวสูง จึงมีความหนาแน่นและมีจุดหลอมเหลวสูง ยืดหยุ่นได้มาก มีความแข็ง เหนียว และขุ่น โครงสร้างแบบที่ 2 มีกิ่งแยกออกมาจากสายโซ่ทำให้โซ่หลักเรียงตัวห่างกัน จึงมีความ หนาแน่นและจุดหลอมเหลวต่ำ ยืดหยุ่นได้น้อย โครงสร้างแบบที่ 3 สายโซ่พอลิเมอร์มีการเชื่อมต่อกันเป็นร่างแห ส่งผลให้มีจุดหลอมเหลว สูง แข็ง แต่เปราะ ไม่ยืดหยุ่น แตกหักง่าย) เปรียบเทียบ 3. นักเรียนร่วมกันเปรียบเทียบสมบัติโครงสร้างของพอลิเมอร์ทั้ง 3 แบบ พร้อมทั้งบอกชื่อโครงสร้างของ พอลิเมอร์ทั้ง 3 แบบ (แนวตอบ โครงสร้างของ พอลิเมอร์ สมบัติ ความหนาแน่น จุดหลอมเหลว สมบัติทางกายภาพ แบบที่ 1 พอลิเมอร์แบบเส้น สูง สูง แข็ง เหนียวมากกว่า โครงสร้างอื่น ๆ เมื่อได้รับ ความร้อนจะอ่อนตัวและ แข็งตัวเมื่ออุณหภูมิต่ำ แบบที่ 2 พอลิเมอร์แบบกิ่ง ต่ำ ต่ำ ยืดหยุ่นได้ เมื่อได้รับความ ร้อนจะอ่อนตัวและแข็งตัว เมื่ออุณหภูมิต่ำ แบบที่ 3 พอลิเมอร์แบบร่างแห ต่ำ สูง แข็ง เปราะ ไม่ยืดหยุ่น แตกหักง่าย ขั้นสอน


144 กฎเกณฑ์ 4. ครูกำหนดโจทย์ต่อไปนี้ แล้วให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีโครงสร้างพอลิเมอร์แบบใด พร้อมทั้งนำเสนอตัวอย่างผลิตภัณฑ์ในชีวิตประจำวันที่มีโครงสร้างเช่นเดียวกับโจทย์ตัวอย่าง 1) ผลิตภัณฑ์นี้มีจุดหลอมเหลวสูง มีความแข็ง แต่ไม่มีความยืดหยุ่น 2) ผลิตภัณฑ์นี้มีจุดหลอมเหลวต่ำ ยืดหยุ่นได้ เมื่อหลอมเหลวแล้ว สามารถนำกลับมาขึ้นรูปใหม่ได้ อีก 3) ผลิตภัณฑ์นี้มีจุดหลอมเหลวสูง มีความแข็ง เหนียว และมีความใส (แนวตอบ ผลิตภัณฑ์ที่ 1 มีโครงสร้างแบบร่างแห ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ เช่น ภาชนะเมลามีน ผลิตภัณฑ์ที่ 2 มีโครงสร้างแบบกิ่ง ตัวอย่างผลิตภัณฑ์เช่น ถุงเย็น ถุงซิปล็อก ผลิตภัณฑ์ที่ 3 มีโครงสร้าง แบบเส้น ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ เช่น ท่อน้ำประปาหรือท่อพีวีซี โฟมบรรจุอาหาร) นำไปใช้ 5. ครูเตรียมบัตรภาพผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ แล้วให้นักเรียนพิจารณาว่าผลิตภัณฑ์ควรมีโครงสร้างพอลิเมอร์แบบใด (แนวตอบ สเปรย์โฟม มีโครงสร้างแบบร่างแห ชามเมลามีน มีโครงสร้างแบบร่างแห ถุงพลาสติก มีโครงสร้างแบบเส้น กล่องโฟมบรรจุอาหาร มีโครงสร้างแบบเส้น ขวดน้ำพลาสติก มีโครงสร้างแบบเส้น กระทะเทฟลอน มีโครงสร้างแบบเส้น) 6. นักเรียนทำใบงานที่ 2.3 เรื่อง โครงสร้างและสมบัติของพอลิเมอร์ 1. นักเรียนสรุปสาระสำคัญเรื่อง โครงสร้างและสมบัติของพอลิเมอร์ ลงในกระดาษ A4 ส่งครูผู้สอน 2. นักเรียนตอบคำถาม Topic Questions ในหนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เคมี ม.6 เล่ม 1 หน้า 106 ทำลงในสมุดบันทึกของนักเรียน 3. นักเรียนทำแบบฝึกหัดในหนังสือแบบฝึกหัดรายวิชาเพิ่มเติม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เคมี ม.6 เล่ม 1 1. ครูประเมินความรู้เรื่องโครงสร้างและสมบัติของพอลิเมอร์โดยสังเกตพฤติกรรมการตอบคำถาม การทำ แบบฝึกหัด และการทำใบงาน 2. ครูประเมินทักษะและกระบวนการ โดยการสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล พฤติกรรมการทำงานกลุ่มจาก กิจกรรม 3. ครูประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในการตั้งใจเรียนรู้และแสวงหาความรู้โดยการสังเกตพฤติกรรมของ นักเรียน ขั้นสรุป ขั้นประเมิน


145 7. การวัดและประเมินผล รายการวัด วิธีวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 7.1 ประเมินระหว่าง การจัดกิจกรรม การเรียนรู้ 1) โครงสร้างและ สมบัติของ พอลิเมอร์ - ตรวจใบงาน 2.3 - ตรวจ Topic Questions - ตรวจแบบฝึกหัด - ใบงาน 2.3 - สมุดบันทึกของ นักเรียน - แบบฝึกหัด - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2) พฤติกรรม การทำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล - แบบสังเกต พฤติกรรม การทำงานรายบุคคล - ระดับคุณภาพดี ผ่านเกณฑ์ 3) พฤติกรรม การทำงานกลุ่ม - สังเกตพฤติกรรม การทำงานกลุ่ม - แบบสังเกต พฤติกรรม การทำงานกลุ่ม - ระดับคุณภาพดี ผ่านเกณฑ์ 4) คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่น ในการทำงาน - แบบประเมิน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - ระดับคุณภาพดี ผ่านเกณฑ์ 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เคมี ม.6 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 พอลิเมอร์ 2) แบบฝึกหัดรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เคมี ม.6 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 พอลิเมอร์ 3) PowerPoint เรื่อง พอลิเมอร์ 4) บัตรภาพโครงสร้างต่าง ๆ 5) บัตรภาพผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ 8.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) ห้องเรียน 2) ห้องสมุด


146 3) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ บัตรภาพโครงสร้างต่าง ๆ แบบที่ 1 แบบที่ 2 แบบที่ 3


147 บัตรภาพผลิตภัณฑ์ต่างๆ ถุงพลาสติก สเปรย์โฟม ชามเมลามีน โฟมบรรจุอาหาร ขวดพลาสติก กระทะเทฟลอน


148 ใบงานที่ 2.3 เรื่อง โครงสร้างและสมบัติของพอลิเมอร์ คำชี้แจง : ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้ 1. เติมคำตอบลงในช่องว่างให้ถูกต้อง โครงสร้างพอลิเมอร์ สมบัติ วาดรูปลักษณะ โครงสร้าง ตัวอย่างของ พอลิเมอร์ พอลิเมอร์แบบเส้น พอลิเมอร์แบบกิ่ง พอลิเมอร์แบบร่างแห 2. พิจารณาข้อความต่อไปนี้ว่าถูกต้องหรือไม่ ข้อความ ถูก/ผิด 1. พอลิเมอร์แบบเส้น เป็นสายโซ่ที่เรียงชิดกันมากกว่าแบบ อื่น 2. พอลิเมอร์แบบกิ่งมีความหนาแน่นมากกว่าพอลิเมอร์แบบ เส้น 3. พอลิเมอร์แบบเส้นจะมีความแข็งมากกว่าพอลิเมอร์แบบ อื่น ๆ 4. พอลิเมอร์ที่มีโครงสร้างแบบร่างแหสามารถนำกลับมาใช้ ใหม่ได้ 5. ถุงใส่ของร้อน มีโครงสร้างแบบเส้น


149 เฉลย ใบงานที่ 2.3 เรื่อง โครงสร้างและสมบัติของพอลิเมอร์ คำชี้แจง : ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้ 1. เติมคำตอบลงในช่องว่างให้ถูกต้อง โครงสร้าง พอลิเมอร์ สมบัติ วาดรูปลักษณะ โครงสร้าง ตัวอย่างของ พอลิเมอร์ พอลิเมอร์แบบ เส้น ความหนาแน่นและจุดหลอมเหลวสูง ยืดหยุ่นได้มาก แข็ง เหนียว และขุ่นมากกว่า โครงสร้างแบบอื่นๆ เปลี่ยนรูปร่างกลับไปมา ได้ พอลิเอทิลีนชนิดความ หนาแน่นสูง พอลิไวนิลคลอไรด์ พอลิเมอร์แบบ กิ่ง ความหนาแน่นและจุดหลอมเหลวต่ำ ยืดหยุ่นได้น้อย เปลี่ยนรูปร่างกลับไปมาได้ พอลิเอทิลีนชนิดความ หนาแน่นต่ำ พอลิเมอร์แบบ ร่างแห จุดหลอมเหลวสูง แข็ง แต่เปราะ ไม่ยืดหยุ่น แตกหักง่าย ขึ้นรูปแล้วไม่สามารถเปลี่ยน รูปร่างได้ พอลิฟีนิลฟอร์มาลดีไฮด์ พอลิเมลามีน ฟอร์มาลดีไฮด์ 2. พิจารณาข้อความต่อไปนี้ว่าถูกต้องหรือไม่ ข้อความ ถูก/ผิด 1. พอลิเมอร์แบบเส้น เป็นสายโซ่ที่เรียงชิดกันมากกว่าแบบ อื่น ถูก 2. พอลิเมอร์แบบกิ่งมีความหนาแน่นมากกว่าพอลิเมอร์แบบ เส้น ผิด 3. พอลิเมอร์แบบเส้นจะมีความแข็งมากกว่าพอลิเมอร์แบบ อื่น ๆ ถูก 4. พอลิเมอร์ที่มีโครงสร้างแบบร่างแหสามารถนำกลับมาใช้ ใหม่ได้ ผิด 5. ถุงใส่ของร้อน มีโครงสร้างแบบเส้น ถูก


Click to View FlipBook Version