The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หน่วยที่ 3 ทศนิยม และการบวก การลบ การคูณ การหารทศนิยม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Sorfeeyah Uma, 2022-01-22 06:20:05

หน่วยที่ 3 ทศนิยม และการบวก การลบ การคูณ การหารทศนิยม

หน่วยที่ 3 ทศนิยม และการบวก การลบ การคูณ การหารทศนิยม

แผนการจัดการเรียนรู้

กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6

หนว่ ย ท ศ นิ ย ม แ ล ะ ก า ร บ ว ก
3การเรียนรูท้ ่ี
การลบ การคูณ การหาร

ท ศ นิ ย ม

นางสาวซอฟียะห์ อมู ะ

ครผู สู้ อน

โ ร ง เ รี ย น บ้ า น บ า โ ง ก า เ ซ า ะ
สังกดั สานกั งานเขตพืน้ ที่การศกึ ษาประถมศกึ ษาปัตตานี เขต 1

โครงสรา้ งหน่วยการเรียนรู้

หนว่ ยท่ี ๓ ทศนิยม และการบวก การลบ การคูณ การหารทศนิยม
กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖

การเขยี นเศษสว่ น การหารทศนิยม
ในรูปทศนิยม (๕ ช่ัวโมง)
(๒ ช่ัวโมง)

หน่วยท่ี ๓

ทศนยิ ม และการบวก
การลบ การคณู การหารทศนยิ ม

(๑๓ ช่ัวโมง)

การนำ�ความรู้เกยี่ วกบั การแกโ้ จทย์ปัญหา
ทศนยิ มไปใช้ การบวก การลบ
(๑ ช่วั โมง) การคณู การหารทศนยิ ม

(๕ ชว่ั โมง)

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครูผสู้ อน) กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ 7

มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตัวชี้วัดของหน่วยการเรียนรู้

หน่วยที่ ๓ ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคณู การหารทศนิยม
กลุ่มสาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖

สาระท่ี ๑ จ�ำ นวนและพีชคณติ
มาตรฐาน ค ๑.๑ เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจ�ำ นวนระบบจำ�นวน การด�ำ เนนิ การของ
จ�ำ นวน ผลทเ่ี กิดข้ึนจากการด�ำ เนนิ การ สมบตั ิของการด�ำ เนนิ การและน�ำ ไปใช้
ตวั ชี้วัด

ค ๑.๑ ป.๖/๙ หาผลหารของทศนิยมท่ีตวั หารและผลหารเปน็ ทศนิยมไม่เกิน ๓ ตำ�แหน่ง
ค ๑.๑ ป.๖/๑๐ แสดงวิธหี าคำ�ตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคูณ การหารทศนิยม
๓ ข้ันตอน



ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์

1. การแกป้ ญั หา
2. การใหเ้ หตุผล
3. การสอื่ สารและการส่อื ความหมายทางคณติ ศาสตร์
4. การเชอ่ื มโยง

8 ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๖

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๖ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๑

แนวการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้

ข้นั นำ� ทบทวนการเขียนเศษส่วนในรูปทศนยิ ม ทีเ่ ศษส่วนเปน็ ตวั ประกอบของ 10 100 หรอื 1,000
และการเขยี นทศนยิ ม 1 ต�ำ แหน่ง 2 ตำ�แหน่ง หรอื 3 ต�ำ แหน่ง ในรปู เศษสว่ น

ขน้ั สอน เขียนเศษสว่ นในรปู ทศนิยมที่เศษสว่ นไมเ่ ปน็ ตัวประกอบของ 10 100 หรือ 1,000
ข้นั สรุป และเขียนทศนิยม 1 ต�ำ แหนง่ 2 ต�ำ แหนง่ หรอื 3 ต�ำ แหนง่ ในรปู เศษส่วนที่เป็นเศษสว่ นอยา่ งตำ่�
การวัดและประเมนิ ผล
ท�ำ แบบฝกึ หดั 3.1
ครใู ช้การถามตอบจนนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ เกีย่ วกบั การเขียนเศษสว่ นในรูปทศนิยม ท่เี ศษส่วนไมเ่ ปน็

ตัวประกอบของ 10 100 หรือ 1,000 และเขยี นทศนิยมไมเ่ กนิ 3 ต�ำ แหน่ง
ในรปู เศษสว่ นท่ีเป็นเศษส่วนอย่างตำ�่

- ประเมนิ จากการตอบค�ำ ถาม และการท�ำ แบบฝึกหัด
- ประเมนิ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ด้านการใหเ้ หตผุ ล และการสอ่ื สารและส่ือความ
หมายทางคณิตศาสตร์

9

10 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๑ ชน้ั ป. ๖
เวลา ๑ ชว่ั โมง
กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์
หนว่ ยท่ี ๓ เรื่อง ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคูณ การหารทศนิยม

ขอบเขตเน้ือหา กจิ กรรมการเรียนรู้ ส่อื /แหล่งเรยี นรู้
ขนั้ น�ำ
การเขียนเศษสว่ นในรปู 1. ทบทวนการเขยี นเศษสว่ นในรปู ทศนยิ มทเ่ี ศษสว่ นมตี วั สว่ นเปน็ ตวั ประกอบ 10 100 หรอื 1,000 แบบฝกึ หัด 3.1
ทศนิยมด้วยการทำ�เศษส่วน โดยครูและนักเรียนรว่ มกนั อภปิ ราย ซกั ถามโดยการตอบค�ำ ถาม ดงั นี้
ให้เปน็ เศษส่วน อยา่ งตำ�่ และ 1) 1) 35ครูเ ขยี น 35 บนกร2ะ)ดา 27น5 แ ล้วซัก ถาม 3) 18 การประเมนิ
ตัวสว่ นเป็นตวั ประกอบของ
10 100 หรอื 1,000 และ - 5 เป็นตวั ประกอบของ 10 หรือไม่ เพราะเหตใุ ด (เป็น เพราะ 5 × 2 = 10) 1. วธิ ีการ
การเขียนทศนิยมในรูป - 35 เขยี นในรปู ทศนิยมไดอ้ ยา่ งไร (น�ำ 2 คณู ท้ังตวั เศษและตวั ส่วนได้ 53 = 53××22 = 160 =0.6) 1.1 สังเกตพฤติกรรมการ
เศษส่วน หรอื นักเรยี นตอบดงั น้ี เรียนรู้
2เพ) ร (านเะขำ�เยีห2นต0ใุ 2ด2ค5ูณ(บเปทนน็ง้ักตรเัวะพเดศราาษนะแแล2ละ5ว้ต×ถวั าส4มว่ น=นกั ไ1เดร0้ยี 053นวแ=า่ละ2355××2225เป00×น็ ต=4วั106ป000ร=ะ=ก1อ0,0บ.60ข00อ))ง 100 และ 1,000 หรอื ไม่
สาระสำ�คญั 3- ) เข27ย5ี นเข18ยี นบในนกรูประทดศานนิยแมลไว้ดถอ้ ายม่านงกไั รเร(ยี น ว27า่5××844เป=น็ ต120วั 80ปร=ะ0ก.อ2บ8ขอหงรอื1,02705×0×44ห00รอ=ื ไ1ม20่8เ00พ0รา=ะเ0ห.2ต8ใุ ด) 1.2 ตรวจผลงานจากแบบ
(เปน็ เพราะ 8 × 125 = 1,000) ฝึกหัด
1. การเขียนเศษสว่ นทม่ี ตี วั - 81 เขยี นในรูปทศนิยมได้อยา่ งไร ( 81××112255 = 1102050 =0.125 )
สว่ นไมเ่ ป็นตวั ประกอบของ 2. เครือ่ งมอื
10 100 หรือ 1,000 ในรูป
ทศนิยม ใหท้ ำ�เศษสว่ นนั้น 2.1 แบบฝึกหัด 3.1
เป็นเศษสว่ นอย่างต�ำ่ ที่มีตัว 2.2 แบบประเมนิ ทกั ษะ
สว่ นเป็นตวั ประกอบของ และกระบวนการทาง
10 100 หรอื 1,000 แล้ว คณิตศาสตร์
นำ�จำ�นวนนบั มาคณู ทั้งตัว
เศษและตัวส่วน เพอื่ ให้ได้ 2. นักเรยี นชว่ ยกันเขยี นทศนยิ มในรปู เศษส่วน ดงั น้ี
1) 0.8 เขยี นเป็นเศษส่วนไดเ้ ทา่ ไร ( 180 )

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑ ชัน้ ป. ๖
เวลา ๑ ชัว่ โมง
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์
หนว่ ยท่ี ๓ เรอื่ ง ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคูณ การหารทศนิยม 3. เกณฑ์
3.1 ผลงานมคี วามถูกต้อง
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๖ เศษสว่ นทม่ี ีตัวสว่ นเป็น 10 2) 0.25 เขียนเปน็ เศษสว่ นได้เทา่ ไร ( (11207050050) ) ไมน่ ้อยกว่ารอ้ ยละ 80
100 หรอื 1,000 แลว้ เขียน 3) 0.075 เขยี นเป็นเศษส่วนได้เท่าไร
ในรปู ทศนิยม 1 ตำ�แหน่ง 2 3.2 คะแนนรวมดา้ น
ต�ำ แหน่ง หรือ 3 ตำ�แหนง่ ข้ันสอน ทักษะและกระบวนการ
ตามลำ�ดับ ทางคณิตศาสตร์ไมน่ อ้ ย
2. การเขียนทศนยิ มในรูป 3. ครูใชก้ ารถาม – ตอบ โดยครูเขียน 195 61205 และ 2106 บนกระดาน แล้วซกั ถามนักเรียน กว่ารอ้ ยละ 60
เศษส่วน ทศนยิ ม 1 ตำ�แหน่ง ดงั น้ี
2 ต�ำ แหน่ง หรอื 3 ตำ�แหน่ง น�ำ 3 -1ห) า1ร95ท195ง้ั เตปนัว็นกัเศเเศรษยีษนแสลจ่วะะนเตอขวั ยยี ส่าน่วงในตนไ่�ำ รดหูป)้ รทือศไนม่ยิ เมพไรดา้อะยเห่าตงไใุ รด((อยางั จไมมนีเ่ ปกั น็ เรเศยี ษนตส่วอนบอไดย้แา่ งลตะำ่�ตอเพบรไามะไ่ ดส้)ามารถ
มตี ัวส่วนเปน็ 10 100 หรอื ดจ-จ--2ะะัง ) 11นไไ99655 ดด1 6ัน้2 10้้250เเ5ขข1เยีีย9ป55335นเนข็น ใเีย==น==เปศนร ็นษ0ปูใ35 เ1น.สท53××9ศ65รว่22ศษูปนน หสทอยิ===ว่รมยศนือ่าไนอ35 ด1ง60ิย××ย00ห้ต0.ม220า่.6ร่�ำ600ไงอื ห0ดตไรมเ้่�ำ ทือ===ไ่หทยดา่ ร�ไำงั้อ531อืรไ6××ย0ด(0ย22(0่าอ้00อ0000ังงย.า.00)ไ66า่รจท0ง0มไ (�ำ0รนี ให1(กั 9ซ5=้เเง่ึรปีย5น็=0นเเ.ศตป61ษ9นอ0็ 5÷0สบต÷3ว่วั3ไดปนแ้รอ=ะลยกะา่ 53อตงบตอข)่ำ�บไอไดงม้อ่ไ1ยด0า่)้ ง1ไ0ร0(แนล�ำ ะ51ห,0า0ร0
1,000 ตามลำ�ดับ แลว้ เขียน ทงั้ ตวั เศษ และตวั สว่ น)
ในรปู เศษส่วนอยา่ งต�ำ่

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
ด้านความรู้

เพ่ือใหน้ ักเรยี นสามารถ
1. เขียนเศษส่วนทตี่ ัวส่วนไม่
เปน็ ตวั ประกอบของ 10 100
หรือ 1,000 ในรูปทศนิยมไม่
เกิน 3 ต�ำ แหน่ง

11

12 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี ๑ ชั้น ป. ๖
เวลา ๑ ชัว่ โมง
กลุม่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์
หนว่ ยท่ี ๓ เรือ่ ง ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคณู การหารทศนยิ ม

2. เขยี นทศนยิ มในรปู เศษสว่ น ครูเขยี นวิธีคดิ ตามทน่ี ักเรียนบอกบนกระดาน ดังนี้
ทีเ่ ปน็ เศษส่วนอย่างต�ำ่ จะ ได ้ 66 11220055 = 1611122201022×55÷065÷×80585 = 1225
ด้านทักษะและกระบวนการ =
ทางคณติ ศาสตร์ =
=
เพ่อื ใหน้ กั เรยี นสามารถ = 0.016
1. ให้เหตุผล ดงั 3-น) นั้ 1122606061 205เเขปยี็น=นเศใน0ษ.รส0ูปว่1ทน6ศอนย่าิยงมตไ�่ำดหเ้ ทรา่อื ไยรัง(อ(ยาังจ)มทนี ำ�ักใหเรเ้ียศนษตสอว่ บนไอดย้แ่าลงะตต่ำ�อไดบอ้ ไยมา่ไ่ ดงไ้)ร (น�ำ 4 หารทั้ง
2. ส่อื สาร และสือ่ ความ ตัวเศษ และตวั ส่วน)
หมายทางคณติ ศาสตร์

ครูเขียนวธิ คี ดิ ตามท่นี ักเรียนบอกบนกระดาน ดังนี้
จะได ้ 12120660 = 1141250254××0650÷÷225445 = 54
=
=
=
= 1.25
ดงั นนั้ 12 06 = 1.25

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ ๑ ชนั้ ป. ๖
เวลา ๑ ชั่วโมง
กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์
หนว่ ยที่ ๓ เรอื่ ง ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคูณ การหารทศนยิ ม 162

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๖ 4. ครูแบ่งนักเรยี นออกเปน็ กลุ่ม กลุม่ ละ 3-4 คน ให้แตล่ ะกล่มุ เขยี นเศษสว่ นในรปู ทศนยิ ม
โดยจับฉลากกลมุ่ ละ 1 ข้อ เม่ือทำ�เสรจ็ แลว้ ส่งตัวแทนเสนอผลงาน
1)ค ร16 แู2 ละนกั เร2ยี )น ช78่ว15 ยกันตรวจส3อ)บคว1า31ม625ถูกตอ้ ง ดังน้ี
1) ว ิธ16ที2�ำ
162 ==== 161212512××÷ 0÷5656



= 0.5
ตอบ ๐.๕
2) 7851
วิธีท�ำ 7851 = 7228112271550075÷×÷×084334
=
=
=
= 1.08
ตอบ ๑.๐๘

13

14 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๑ ชน้ั ป. ๖
เวลา ๑ ชัว่ โมง
กล่มุ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์
หน่วยท่ี ๓ เรอ่ื ง ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคณู การหารทศนยิ ม

3) 113265 131265 = 1111133024426220×555÷0×8÷989
=
วธิ ที �ำ =
=


= 0.032
ตอบ ๐.๐๓๒

5. ครูและนักเรยี นร่วมกนั อภปิ ราย การเขียนทศนยิ มในรปู เศษสว่ น ดังน้ี
- 0.124 เขียนในรปู เศษส่วนไดอ้ ย่างไร เพราะเหตุใด (0.124 = 1102040 เพราะทศนิยม
3 ตำ�แหน่งมตี วั ส่วนเปน็ 1,000)
ดจ- ะังนไ11ด0้นั 2 ้040 ทำ�1เ 1ป020็น040.เ÷1÷ศ424ษ4สว่ น==อ ย112่า0325ง0140ต0ำ่�ไ=ด้เ2ท35่า10ไร (น�ำ 4 หารทง้ั ตัวเศษและตัวส่วน



6. ครใู ห้นักเรียนทำ�แบบฝึกหดั 3.1 เป็นการบ้าน

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี ๑ ชั้น ป. ๖
เวลา ๑ ชัว่ โมง
กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๖ หน่วยที่ ๓ เร่อื ง ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคูณ การหารทศนิยม

ขัน้ สรปุ

7. ครสู นทนาซกั ถามนักเรียนเกยี่ วกับการเขยี นเศษสว่ นในรปู ทศนยิ ม และการเขยี นทศนยิ มใน
รูปเศษสว่ น ดังน้ี
- การเขียนเศษสว่ นที่ตัวสว่ นไมเ่ ป็นตวั ประกอบของ 10 100 หรอื 1,000 ทำ�ไดอ้ ยา่ งไร
(เศษสว่ นทต่ี ัวส่วนไม่เปน็ ตวั ประกอบ 10 100 หรือ 1,000 ใหส้ งั เกตวา่ เศษสว่ นนั้นเป็นเศษส่วน
อยา่ งต�ำ่ หรอื ไม่ ถ้ายังไมเ่ ป็นเศษส่วนอยา่ งต่ำ� ให้ทำ�เปน็ เศษสว่ นอยา่ งตำ่� แล้วท�ำ เศษส่วน
ให้ตัวส่วนเปน็ ตวั ประกอบของ 10 100 หรอื 1,000 โดยหาจำ�นวนนับมาคณู ทั้งตัวเศษและ
ตวั สว่ น ที่มตี วั ส่วนเปน็ 10 100 หรือ 1,000 แลว้ เขียนในรูปทศนิยม 1 ต�ำ แหน่ง 2 ต�ำ แหน่ง
หรือ 3 ตำ�แหนง่ ตามล�ำ ดบั )
- การเขียนทศนยิ มในรปู เศษส่วนทำ�ได้อย่างไร
(ทศนยิ ม 1 ต�ำ แหนง่ 2 ต�ำ แหนง่ หรอื 3 ต�ำ แหนง่ มตี วั สว่ นเปน็ 10 100 หรอื 1,000 ตามล�ำ ดบั
แล้วหาจำ�นวนนับมาหารทงั้ ตวั เศษและตัวส่วน เพ่ือใหไ้ ดเ้ ศษสว่ นทีเ่ ป็นเศษสว่ นอย่างต�ำ่ )

15

16 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ ๒

แนวการจดั กิจกรรมการเรียนรู้

ทบทวนการเขียนจ�ำ นวนคละทเี่ ศษส่วนแท้มตี ัวสว่ นเป็น
ขน้ั น�ำ ตวั ประกอบของ 10 100 หรือ 1,000 ในรูปทศนยิ ม

และการเขียนทศนยิ ม 1 ต�ำ แหน่ง 2 ตำ�แหนง่ หรอื 3 ต�ำ แหน่ง ในรปู เศษสว่ น

ข้นั สอน เขียนจ�ำ นวนคละทเี่ ศษส่วนแทม้ ีตัวสว่ นไมเ่ ป็นตัวประกอบของ 10 100 หรอื 1,000
ขั้นสรปุ ในรปู ทศนิยมและการเขยี นทศนยิ มไม่เกนิ 3 ต�ำ แหน่ง ในรปู จำ�นวนคละ
การวัดและประเมนิ ผล ท�ำ แบบฝึกหดั 3.2
ครใู ชก้ ารถามตอบจนนักเรียนรว่ มกนั สรปุ การเขียนจำ�นวนคละที่ตัวส่วน
ไม่เปน็ ตัวประกอบของ 10 100 หรือ 1,000
ในรูปทศนิยม และการเขียนทศนยิ มไมเ่ กิน 3 ต�ำ แหน่ง ในรูปจำ�นวนคละ

- ประเมินจากการตอบคำ�ถาม และการท�ำ แบบฝกึ หัด
- ประเมนิ ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ดา้ นการให้เหตผุ ล และการสื่อสารและสือ่ ความ
หมายทางคณติ ศาสตร์

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๒ ช้ัน ป. ๖
เวลา ๑ ชว่ั โมง
กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ สอื่ /แหลง่ เรียนรู้
หน่วยท่ี ๓ เรอื่ ง ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคณู การหารทศนยิ ม
แบบฝกึ หัด 3.2
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๖ ขอบเขตเนอื้ หา กจิ กรรมการเรียนรู้
ขนั้ นำ� การประเมิน
การเขยี นจำ�นวนคละใน 1. ทบทวนการเขยี นจ�ำ นวนคละทเ่ี ศษสว่ นแทม้ ตี วั สว่ นเปน็ ตวั ประกอบของ 10 100 หรอื 1,000
รปู ทศนิยมท่เี ศษสว่ นแท้ โดยใช้การซักถามนักเรียน 1. วธิ กี าร
สามารถทำ�ใหเ้ ป็นเศษส่วน ครเู ขยี น 721 บนกระดาน แลว้ ถามนักเรยี นวา่ 721 มวี ิธีการเขยี นในรปู ทศนยิ มไดอ้ ยา่ งไร 1.1 สงั เกตพฤติกรรมการ
อยา่ งต่ำ�และเศษสว่ นอยา่ งต�ำ่ ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั อภปิ รายไดข้ ้อสรุปดงั น้ี เรยี นรู้
น้นั มีตัวสว่ นเป็นตัวประกอบ วธิ ีท่ี 1 เขียนจ�ำ นวนคละในรปู เศษเกนิ 1.2 ตรวจผลงานจาก
ของ 10 100 หรอื 1,000 - เขยี นในรปู เศษเกินไดอ้ ยา่ งไร 7 12 = 22(712×522+)×122 + 22 + 22 + 22 + 22 + 22 + 12 แบบฝกึ หัด
และการเขยี นทศนยิ มในรูป = 2. เครอื่ งมือ
เศษส่วน =
จากนัน้ ครถู ามนักเรียนว่า เขยี นในรปู ทศนยิ มได้อย่างไร นักเรียนแสดงวธิ ีคิดได้อยา่ งไร 2.1 แบบฝึกหดั 3.2
สาระส�ำ คญั (ได โ้ ดนยเำ�ขคด5ยี ังรนนูถคจา้ันณู �ำมนทนว้ังกั ตนเรวัค7ียเลศนะ12ษตใแนอ่ =ลรไปะปู 7ตว.5จ่าวั �ำส7น่ว12วนนเไขนดยี บั ้ นดบใงั วนนกรี้ กปู ับทเศศ12นษ5ิยส=ม่วดน้ว1)25ยค××ว5ร5ธิ แู อี ลน่ื =ะไนด17กั อ้ 50เีกรห=ียนรอืช7ไ่ว.5มย่ กทนั ำ�เไขดยี อ้ นย่า7ง12ไร 2.2 แบบประเมินทักษะ
เป็นทศนิยมในรปู จำ�นวนนับบวกกับเศษสว่ น ได้ดังนี้ และกระบวนการทาง
1. การเขยี นจำ�นวนคละ คณิตศาสตร์
ในรูปทศนิยม อาจเขียน
17 จำ�นวนคละในรปู เศษเกนิ
ก่อน ทำ�เศษเกนิ นนั้ ให้ตัว
สว่ นเป็นตัวประกอบของ
10 100 หรือ 1,000 แลว้ จงึ
เขียนเศษส่วนในรปู ทศนยิ ม
1 ตำ�แหน่ง 2 ตำ�แหน่ง หรอื

18 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๒ ช้ัน ป. ๖
เวลา ๑ ชว่ั โมง
กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์
หนว่ ยท่ี ๓ เร่ือง ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคณู การหารทศนิยม

3 ตำ�แหนง่ หรืออาจเขียน วธิ ีที่ 2 เขยี นจ�ำ นวนคละในรปู จ�ำ นวนนับบวกกบั เศษสว่ น 3. เกณฑ์
จ�ำ นวนคละในรูปผลบวกของ 7 21 = 7 + 121152xx055 3.1 ผลงานมคี วามถกู ต้อง
จ�ำ นวนนับกับเศษส่วน = 7 + ไม่น้อยกวา่ ร้อยละ 80
ทำ�เศษสว่ นใหต้ ัวส่วนเป็น = 7 +
ตวั ประกอบของ 10 100 = 7 + 0.5 3.2 คะแนนรวมด้าน
หรอื 1,000 แลว้ จงึ เขยี น = 7.5 ทกั ษะและกระบวนการ
เศษสว่ นในรูปทศนิยม ดงั น้ัน 7 21 = 7.5 ทางคณิตศาสตร์ไมน่ อ้ ย
1 ต�ำ แหนง่ 2 ตำ�แหนง่ หรอื กว่ารอ้ ยละ 60
3 ต�ำ แหน่ง โดยนำ�ไปบวก
กบั จ�ำ นวนนบั ขนั้ สอน
2. การเขยี นทศนยิ มในรูป
เศษส่วน ซ่งึ ทศนยิ ม 2. ครใู ช้การถาม-ตอบ การเขยี นจำ�นวนคละในรูปทศนยิ ม ดังน้ี
1 ตำ�แหนง่ 2 ตำ�แหน่ง หรือ 1) ครูเขียน 21345 บนกระดาน แลว้ ถามนักเรียนว่าเขยี นในรูปทศนยิ มได้อยา่ งไร และมวี ิธีการ
3 ตำ�แหน่ง มีตัวส่วนเปน็ 10 อยา่ งไรบ้าง
100 หรือ 1,000 ตามล�ำ ดับ (- เขยี นจำ�นวนคละในรปู เศษเกินแล้วท�ำ เศษเกนิ ให้มตี ัวส่วนเป็น 10 100 หรอื 1,000
แลว้ เขยี นเศษส่วนที่ไดใ้ นรปู - เขยี นจ�ำ นวนคละในรปู จ�ำ นวนนบั บวกเศษสว่ น แลว้ ท�ำ เศษสว่ นใหม้ ตี วั สว่ นเปน็ 10 100 หรอื
เศษสว่ นอยา่ งต�ำ่ ถา้ เศษท่ไี ด้ 1,000)
เปน็ เศษเกนิ ให้ท�ำ เศษส่วน จากนั้นครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั อภปิ ราย และเขียนตามที่นกั เรยี นบอก ดงั นี้
อย่างต�ำ่ นน้ั เปน็ จำ�นวนคละ

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๒ ชั้น ป. ๖
เวลา ๑ ชัว่ โมง
กลมุ่ สาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์
หน่วยท่ี ๓ เรื่อง ทศนิยม และการบวก การลบ การคณู การหารทศนิยม

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๖ หรอื เขยี นทศนิยมในรปู การ วิธีที่ 1 เขยี นจ�ำ นวนคละในรปู เศษเกนิ
กระจายก่อนแล้วเขยี นเปน็ 2 13 45 ====== 113821(8355220454254×××÷÷232 377 55)+14 หรอื 2 3154 = 2(11252152522××40×5522)+2
จำ�นวนนับบวกเศษสว่ น = 2.4
หากเศษสว่ นน้นั ท�ำ ใหเ้ ป็น =
เศษสว่ นอยา่ งต่ำ�ไดใ้ หท้ �ำ =
เศษสว่ นเปน็ เศษสว่ นอย่าง =
ต�ำ่ = 2.4 =

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ดงั น้ัน 2 1354 = 2.4 ดังนั้น 21354 = 2.4

ด้านความรู้ วิธีท่ี 2 เขียนจำ�นวนคละในรปู จ�ำ นวนนับบวกกับเศษส่วน
เพอ่ื ใหน้ กั เรียนสามารถ 2 1354 = 2222++++31521542540××22
=
1. เขยี นจำ�นวนคละทต่ี วั =
สว่ นไม่เป็นตัวประกอบของ =
10 100 หรือ 1000 ในรูป = 2 + 0.4
ทศนิยม = 2.
2. เขียนทศนยิ มไมเ่ กิน 3 ดงั นัน้ 2 3154 = 2.4
ตำ�แหน่ง ในรปู จ�ำ นวนคละ

19

20 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๒ ชั้น ป. ๖
เวลา ๑ ชัว่ โมง
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์
หน่วยที่ ๓ เร่อื ง ทศนิยม และการบวก การลบ การคูณ การหารทศนยิ ม

ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ 3. ครูแบง่ นักเรยี นออกเป็นกลุม่ กลมุ่ ละ 3 - 4 คน ให้นักเรยี นแต่ละกล่มุ จบั ฉลากกลุม่ ละ 1 ขอ้
ทางคณิตศาสตร์ โดยเขยี นจำ�นวนคละท่ตี วั ส่วนไมเ่ ปน็ ตัวประกอบของ 10 100 หรือ 1,000 ในรปู ทศนยิ ม ลงใน
กระดาษทคี่ รูแจก
เพอ่ื ให้นักเรยี นสามารถ 1) 3 1 5162 2) 4 38 2 3) 5 3975 4) 10 1106
1. ให้เหตผุ ล เม่ือแต่ละกลุม่ เขยี นจ�ำ นวนคละในรูปทศนยิ มเสรจ็ แลว้ ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ติดกระดาษผลงาน
2. สื่อสาร และสือ่ ความ บนกระดาน ครซู กั ถาม แล้วรว่ มกนั อภิปราย ดังน้ี
หมายทางคณติ ศาสตร์ 1) 3 151362 15162
วธิ ที �ำ
===== 313 7272(05213xx ×55 22)+1 หรอื ว ธิ ีท�ำ 3 15162 = 333+++121215xx055
= 3 + 0.5
= 3.5
=
= 3.5 ตอบ ๓.๕ =

ตอบ ๓.๕

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๒ ชั้น ป. ๖
เวลา ๑ ชัว่ โมง
กลุม่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์
หนว่ ยท่ี ๓ เรอ่ื ง ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคณู การหารทศนิยม

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๖ 2) 4 382 43 82 ====== (4144414120×7 .4×2750×444125 ) 2+5 5 1 หรือ วต ธิอีทบำ� 4 382 = 4+ 411241××0522055
วธิ ที �ำ ๔.๒๕ = 4+
= 4+
= 4+0.25
= 4.25

ตอบ ๔.๒๕

3) วิธ5ีท�ำ37955 3795 ====== (555×61615122 .1122100085228523202 ××55 5044)88 + 3 หรือ วต ิธอที บ�ำ ๕5.๐ 3๒795๔ = 5+ 3117932025×504×808
= 5+
= 5+
= 5+0.024
= 5.024

ตอบ ๕.๐๒๔

21

22 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี ๒ ชัน้ ป. ๖
เวลา ๑ ชัว่ โมง
กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์
หนว่ ยท่ี ๓ เร่อื ง ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคณู การหารทศนยิ ม

4) 10 111600 1160 ===== (1188100518×08 ××0585681 081220)25+5 55 หรอื ว ิธีท�ำ 10 1106 = 10 + 5815860××2011502255
วธิ ีท�ำ = 10 +
= 10 +
= 10 + 0.625
= 10.625
= 10.625 ตอบ ๑๐.๖๒๕
ตอบ ๑๐.๖๒๕
4. ครูและนักเรยี นร่วมกันอภปิ ราย และแสดงวธิ ีการเขยี นทศนยิ มในรปู จำ�นวนคละ ดังนี้
1) 2.85 เขยี นในรปู เศษสว่ น ไดอ้ ยา่ งไร นกั เรยี นชว่ ยกนั เขยี น 2.85 ในรปู เศษสว่ นอยา่ งงา่ ยได้ ดงั น้ี
2.85 = 12522222122180007008 ++05122150+ 1077021÷÷22+705500 12+702107
=
=
=
=
=
=
ดังน้นั 2.85 =

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๒ ชน้ั ป. ๖
เวลา ๑ ชว่ั โมง
กล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์
หนว่ ยที่ ๓ เรอ่ื ง ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคูณ การหารทศนิยม

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๖ -- คดห11ังร ร09นูเือ50ข้นั ีย เนข ีย1น22.9..เ88ป555น็ ค จรำ�ูถน====าวมนนคัก2222ลเ++ระ2121ยี17070ไ8120ดน5070อ้วย่าจา่ ะงไเรขีย(น1ใ1น1890ร0550ปู0=เศ) ษ21แ70ลสะ่วในนไรดูปอ้ อยยา่ งา่ ไงรง่า(ย11ไ09ด50อ้ )ย่างไร

( 1 1290 ) 19050 = 1209

- 1.95 เขียนในรปู อย่างง่ายได้อยา่ งไร ( 1 2190 )
ดงั นัน้ 1.95 = 1 2109
- นักเรียนมวี ิธีการเขียน 1.95 ในรปู เศษส่วนวิธีอน่ื หรอื ไม่ จากนนั้ ครูและนกั เรียนชว่ ยกนั
เขยี นในรูปเศษส่วน ไดด้ งั นี้
1.95 = 1+0.95
= 1 21111 09++2109192109050
= 19050 = 1209
=
ดงั นั้น 1.95 =

23

24 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๒ ชั้น ป. ๖
เวลา ๑ ชัว่ โมง
กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์
หน่วยที่ ๓ เรอื่ ง ทศนิยม และการบวก การลบ การคูณ การหารทศนิยม

จากนน้ั ครใู ห้นกั เรียนแตล่ ะกลุม่ ชว่ ยกันเขยี น 3.036 ในรปู จำ�นวนเฉพาะ ครูตรวจสอบความถูก
ตอ้ ง ดงั นี้
3.036 = 31000306 = 3332++59 12003956000
=
=
ตอบ 3 2950
หรอื 3.036 = 3 + 0.036
= 33 +2951 030600
=
3 2950
ตอบ
5. ครูให้นักเรียนทำ�แบบฝึกหดั 3.2 เป็นการบ้าน

ข้ันสรุป

6. ครูให้นกั เรียนรว่ มกันตอบคำ�ถามเก่ียวกับการเขยี นจำ�นวนคละทต่ี ัวสว่ นไมเ่ ปน็ ตวั ประกอบ
ของ 10 100 หรอื 1,000 ในรูปทศนิยม และการเขียนทศนิยมในรูปจำ�นวนคละ ได้ข้อสรปุ ดงั น้ี
- การเขียนจำ�นวนคละทเ่ี ศษส่วนไม่เปน็ ตวั ประกอบของ 10 100 หรือ 1,000 ในรูปทศนยิ ม
ท�ำ ได้อยา่ งไร
(การเขียนจำ�นวนคละทตี่ ัวสว่ นไม่เปน็ ตัวประกอบของ 10 100 หรือ 1,000 ทำ�ได้โดยเขยี น
จ�ำ นวนคละในรูปเศษส่วนกอ่ น แล้วท�ำ ตวั ส่วนใหเ้ ปน็ ตัวประกอบของ 10 100 หรือ 1,000 จาก

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๒ ชั้น ป. ๖
เวลา ๑ ชัว่ โมง
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๖ หนว่ ยที่ ๓ เรอ่ื ง ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคณู การหารทศนยิ ม

นนั้ จงึ เขียนเศษสว่ นในรูปทศนิยม 1 ต�ำ แหนง่ 2 ต�ำ แหน่ง หรอื 3 ตำ�แหนง่ ตามลำ�ดับ หรอื อาจ
เขยี นจำ�นวนคละในรปู ผลบวกของจ�ำ นวนนบั กับเศษส่วน โดยท�ำ ตัวสว่ นให้เป็นตวั ประกอบของ
10 100 หรอื 1,000 แล้วจงึ เขยี นเศษสว่ นในรปู ทศนิยม 1 ต�ำ แหน่ง 2 ต�ำ แหนง่ หรือ 3 ต�ำ แหนง่
แลว้ น�ำ ไปบวกกบั จำ�นวนนับ)
- การเขยี นทศนยิ มไม่เกิน 3 ตำ�แหนง่ ในรปู จ�ำ นวนคละอย่างไร
(การเขียนทศนยิ มในรูปเศษส่วน ทศนิยม 1 ตำ�แหนง่ 2 ต�ำ แหนง่ หรือ 3 ต�ำ แหน่ง มีตัวสว่ น
เปน็ 10 100 หรอื 1,000 ตามลำ�ดับ แล้วเขยี นเศษสว่ นท่ีไดใ้ นรูปเศษส่วนอยา่ งตำ่� จากนน้ั ท�ำ
เศษสว่ นอย่างตำ�่ ให้เปน็ จ�ำ นวนคละ หรอื เขยี นในรูปการกระจายทศนิยมก่อนแลว้ เขียนจ�ำ นวนนับ
บวกเศษส่วน แล้วท�ำ เศษสว่ นเปน็ เศษส่วนอย่างต�่ำ )

25

26 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี ๓

แนวการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้

ข้นั น�ำ ทบทวนการหารเศษสว่ น

ข้ันสอน หารทศนยิ มหรอื จำ�นวนนับดว้ ยทศนยิ ม 1 ตำ�แหนง่ 2 ต�ำ แหนง่ หรือ 3 ต�ำ แหนง่
ข้นั สรุป โดยใชค้ วามสมั พนั ธข์ องทศนยิ มกบั เศษส่วน
การวัดและประเมินผล ทำ�แบบฝกึ หัด 3.3

ครูใชก้ ารถามตอบจนนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ เก่ยี วกบั
การหารทศนยิ มหรอื จ�ำ นวนนบั ดว้ ยทศนยิ ม 1 ตำ�แหนง่ 2 ตำ�แหนง่ หรือ 3 ต�ำ แหนง่
- ประเมนิ จากการตอบคำ�ถาม และการท�ำ แบบฝึกหดั
- ประเมินทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ดา้ นการใหเ้ หตผุ ล และการสือ่ สารและสื่อความ
หมายทางคณติ ศาสตร์

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๓ ช้ัน ป. ๖
เวลา ๑ ช่วั โมง
กลุ่มสาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์ สื่อ/แหล่งเรียนรู้
หนว่ ยที่ ๓ เรอ่ื ง ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคูณ การหารทศนิยม
แบบฝกึ หดั 3.3
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๖ ขอบเขตเนือ้ หา กจิ กรรมการเรียนรู้
ขน้ั น�ำ การประเมิน
การหารทศนยิ มหรือ 1. ทบทวนการหาผลหารของเศษสว่ นด้วยเศษสว่ น โดยการซกั ถามนกั เรยี น ดงั นี้
จ�ำ นวนนบั ดว้ ยทศนิยม 180 ÷ 120 = 1. วธิ กี าร
1 ตำ�แหนง่ 2 ต�ำ แหน่ง นกั เรยี นหาผลหารของ ÷ 120 ไดอ้ ย่างไร ใชค้ วามสัมพนั ธข์ องการคูณการหารได้หรือไม่ (ได้) 1.1 สังเกตพฤตกิ รรม
หรือ 3 ตำ�แหนง่ โดยใช้ 180
ความสมั พนั ธข์ องทศนยิ มกบั ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันอภปิ ราย แลว้ แสดงการหาผลหาร การเรยี นรู้
เศษสว่ น จดแแ�ำสลัง นนะด วนั้เงนนว ่ือ า่ใ ดงจค า111ูณ888ก000ก÷÷=บั 1 80112210020×= ×=1=20118 2004(=1840 1.2 ตรวจผลงานจาก
เพราะ 4 × 120 = 180 ) แบบฝกึ หดั
สาระส�ำ คัญ 4 ส่วนกลับของ
× 120 120 2. เครือ่ งมือ
การหารทศนยิ มหรอื
จ�ำ นวนนบั ดว้ ยทศนยิ ม =4 2.1 แบบฝึกหัด 3.3
1 ต�ำ แหนง่ 2 ตำ�แหน่ง หรือ จากน้นั นักเรียนช่วยกันสรปุ การหารเศษส่วนหาผลหารโดยนำ�สว่ นกลบั ของตัวหารคณู กบั ตัวตั้ง 2.2 แบบประเมนิ ทักษะ
3 ตำ�แหนง่ อาจทำ�ไดโ้ ดย ขน้ั สอน และกระบวนการทาง
เขยี นทศนิยมในรูปเศษสว่ น 2. ครเู ขียนโจทยก์ ารหารทศนิยม 1.2 ÷ 0.4 ใหน้ ักเรียนหาผลหาร โดยใชค้ วามสัมพนั ธ์ของ คณติ ศาสตร์
แลว้ หาผลหาร จากนั้นเขยี น
ผลหารในรปู ทศนยิ ม ทศนิยมกบั เศษสว่ น พร้อมทง้ั ตรวจสอบค�ำ ตอบ โดยครซู ักถามนกั เรยี น ดังน้ี
- 1.2 ÷ 0.4 เขียนในรูปการหารเศษสว่ นไดอ้ ยา่ งไร (11×20140÷)140)
-- 11110220 ÷ เขยี นในรูปการคณู เศษส่วนไดอ้ ย่างไร ( 1120
27 × 114400 เทา่ กับเทา่ ไร ( 3 )

28 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓ ชัน้ ป. ๖
เวลา ๑ ช่ัวโมง
กล่มุ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ 3. เกณฑ์
หนว่ ยท่ี ๓ เรื่อง ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคณู การหารทศนิยม
3.1 ผลงานมีความถูกตอ้ ง
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ดงั นั้น 1.2 ÷ 0.4 = 3 ไมน่ ้อยกว่ารอ้ ยละ 80
- นักเรียนตรวจสอบคำ�ตอบไดอ้ ยา่ งไร (นำ�ผลหารคูณกบั ตวั หาร เท่ากบั ตวั ตงั้ จะได้ 3.2 คะแนนรวมดา้ น
ด้านความรู้ 3 × 0.4 = 1.2 ) ทกั ษะและกระบวนการ
เพอ่ื ใหน้ กั เรียนสามารถ 3. ครูเขยี นโจทย์การหารทศนยิ ม 3.08 ÷ 0.7 ให้นกั เรยี นหาผลหาร โดยใช้ความสมั พันธ์ของ ทางคณิตศาสตร์ไมน่ อ้ ย
ทศนิยมกับเศษสว่ น พร้อมทง้ั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง โดยการถาม-ตอบ ดังน้ี กวา่ รอ้ ยละ 60
หาผลหารทศนยิ มหรอื - 3.08 ÷ 0.7 เขียนในรูปการหารเศษสว่ นได้อย่างไร ( 133100000808×÷ 117700 )
จำ�นวนนบั ดว้ ยทศนิยม - ด131341งั000004น8008ัน้×÷เข11377ยี00.0น8เเเปขท÷็นียา่ นทก0ใับศ.7นนเ=รทยิ ูปา่ 4มกไ.ไร4าดร้เคท(ูณ่า41ไเ40รศษ()4ส.่ว4น)ได้อยา่ งไร ( )
1 ตำ�แหน่ง 2 ต�ำ แหนง่ หรอื -
3 ต�ำ แหน่ง โดยใช้ความ -
สมั พนั ธ์ของทศนยิ มกบั
เศษสว่ น - นักเรยี นตรวจสอบคำ�ตอบ ดังนี้ (4.4 × 0.7 = 3.08)
ด้านทกั ษะและกระบวนการ 4. ครเู ขยี นโจทย์การหารทศนิยม 5 ÷ 0.125 ใหน้ ักเรียนหาผลหาร โดยใช้ความสัมพันธข์ อง
ทางคณติ ศาสตร์ ทศนยิ มกบั เศษส่วน พรอ้ มทงั้ ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง โดยการถาม-ตอบ ดังน้ี
- 55ดงั ÷÷น้นั 011.012055205÷เข0เขยี.1ยีน2นใ5นในร=รปู ูป4ก0กา ารรคหูณาเรศเษศสษ่วสน่วไนดไอ้ดย้อ่ายงา่ ไงรไรแล(5ะเ÷ท1า่10ก20บั50เท) ่าไร
เพื่อให้นักเรยี นสามารถ - ( 5 × 1102050 = 40 )
1. ใหเ้ หตุผล
2. สื่อสาร และส่อื ความ - นกั เรียนช่วยกันตรวจสอบค�ำ ตอบ
หมายทางคณิตศาสตร์

40 × 0.125 = 5.000
ดงั น้นั 5 ÷ 0.125 = 40 เปน็ ค�ำ ตอบทีถ่ ูกต้อง

แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี ๓ ชั้น ป. ๖
เวลา ๑ ชัว่ โมง
กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์
หน่วยที่ ๓ เร่อื ง ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคูณ การหารทศนยิ ม

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๖ 5. ครูแบง่ นกั เรียนออกเปน็ กล่มุ กลุม่ ละ 3 - 4 คน ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ แสดงวธิ ีหาผลหาร โดยใชค้ วาม
สัมพันธข์ องทศนยิ มกบั เศษสว่ น โดยการจบั ฉลากกลมุ่ ละ 2 ขอ้ เม่อื นักเรยี นท�ำ เสร็จแล้ว ให้สง่ ตวั
แทนน�ำ เสนอผลงาน ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกต้อง ดงั นี้ (นกั เรียนตรวจสอบโดย
ใชเ้ ครือ่ งคิดเลข)
1) 2.04 ÷ 0.3
2) 8.154 ÷ 0.02
3) 12 ÷ 0.012
4) 4.32 ÷ 0.24
1) 2.04 ÷ 0.3 2) 8.154 ÷ 0.02
วิธีท�ำ 2.04 ÷ 0.3 = 1212160000084040÷× 113300 วธิ ีท�ำ 8.154 ÷ 0.02 = 8811411001005507040407÷×11022000
= =
= =
= 6.8 = 407.7
6.8 x 0.3 = 2.04 407.7 x 0.02 = 8.154

หรอื 2.04 ÷ 0.3 = 6.8 หรือ 8.154 ÷ 0.02 = 407.7
ดงั นั้น 2.04 ÷ 0.3 = 6.8 ดงั นัน้ 8.154 ÷ 0.02 = 407.7

ตอบ ๖.๘ ตอบ ๔๐๗.๗

29

30 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๓ ชน้ั ป. ๖
เวลา ๑ ชัว่ โมง
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์
หน่วยท่ี ๓ เรอ่ื ง ทศนิยม และการบวก การลบ การคณู การหารทศนยิ ม

3) 12 ÷ 0.012 4) 4.32 ÷ 0.24 411430030220 1122004400
วธิ ีทำ� 12 ÷ 0.012 = 12 ÷ 111100020200 วธิ ที ำ� 4.32 ÷ 0.24 = ÷
= 12 × = ×
= 1,000 = 18

1000 x 0.012 = 12 18 x 0.24 = 4.32

หรือ 12 ÷ 0.012 = 1000 หรือ 4.32 ÷ 0.24 = 18
ดงั น้ัน 12 ÷ 0.012 = 1,000 ดังน้ัน 4.32 ÷ 0.24 = 18

ตอบ ๑,๐๐๐ ตอบ ๑๘

6. ครูใหน้ กั เรียนทำ�แบบฝึกหดั 3.3 เปน็ การบา้ น

ขน้ั สรุป

7. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันอภปิ ราย การหารทศนยิ มหรอื จำ�นวนนบั ดว้ ยทศนยิ ม 1 ต�ำ แหนง่ 2
ต�ำ แหนง่ หรือ 3 ต�ำ แหน่ง โดยใช้ความสัมพันธข์ องทศนยิ มกับเศษสว่ น จนได้ขอ้ สรปุ ว่า
การหารทศนยิ มหรือจำ�นวนนับด้วยทศนยิ ม หาผลหารโดยเขียนทศนิยมในรปู เศษสว่ น แลว้
เขียนการหารเศษส่วนในรปู การคูณเศษส่วนโดยน�ำ สว่ นกลับของตัวหารคณู กับตวั ต้งั แล้วจงึ หาคำ�
ตอบ

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๖ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๔

แนวการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้

ข้นั น�ำ ทบทวนทศนยิ มที่เท่ากัน และการหาผลหารทศนิยมดว้ ยจ�ำ นวนนับ
โดยใชค้ วามสมั พนั ธ์ของทศนิยมกบั เศษส่วน

ขนั้ สอน หาผลหารทศนิยมด้วยจ�ำ นวนนบั ผลหารเปน็ ทศนยิ มไม่เกิน 3 ตำ�แหนง่ ด้วยวิธีการต้งั หาร
ท�ำ แบบฝกึ หดั 3.4

ขั้นสรปุ ครูใช้การถามตอบจนนกั เรยี นร่วมกนั สรุป
การหาผลหารทศนิยมด้วยจ�ำ นวนนบั ผลหารเป็นทศนยิ มไมเ่ กนิ 3 ตำ�แหน่ง ดว้ ยวิธกี ารต้ังหาร

การวัดและประเมนิ ผล - ประเมนิ จากการตอบค�ำ ถาม และการท�ำ แบบฝกึ หัด
- ประเมินทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตรด์ ้านการให้เหตุผล และการสื่อสารและสือ่ ความ
หมายทางคณิตศาสตร์

31

32 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๔ ชน้ั ป. ๖
เวลา ๑ ชวั่ โมง
กล่มุ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ส่ือ/แหลง่ เรียนรู้
หนว่ ยที่ ๓ เรือ่ ง ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคูณ การหารทศนยิ ม
แบบฝกึ หดั 3.4
ขอบเขตเนอ้ื หา กิจกรรมการเรยี นรู้
การประเมิน
การหารทศนยิ มดว้ ยจ�ำ นวน ขน้ั น�ำ
นบั ผลหารเปน็ ทศนยิ มไมเ่ กนิ 1. วธิ กี าร
3 ต�ำ แหนง่ ดว้ ยวธิ กี ารตง้ั หาร 1. ทบทวนทศนิยมท่ีเทา่ กัน โดยใหน้ ักเรยี นพิจารณาภาพแสดง จำ�นวนนบั เท่ากับทศนิยม 1 1.1 สังเกตพฤติกรรมการ
ตำ�แหนง่ และ 2 ต�ำ แหน่ง ดังนี้ เรียนรู้
สาระส�ำ คญั 1.2 ตรวจผลงานจากแบบ
ภาพแสดง จ�ำ นวนนับเท่ากบั ทศนิยม 1 ตำ�แหน่ง ฝกึ หดั 3.4
การหารทศนยิ มดว้ ยจ�ำ นวน 1 1.0 2. เครอ่ื งมอื
นบั ผลหารเปน็ ทศนยิ มไมเ่ กนิ ครซู ักถามนกั เรยี นวา่ จากภาพ 1 เทา่ กับ 1.0 หรือไม่ เพราะเหตุใด (เทา่ กนั เพราะ สงิ่ ของ 2.1 แบบฝกึ หัด 3.4
3 ต�ำ แหนง่ อาจใชห้ ลกั การ ทง้ั หมดแบ่งเป็น 10 สว่ นเท่า ๆ กันแล้วตอ้ งการ 10 สว่ น ซึง่ เทา่ กับ 1) 2.2 แบบประเมินทกั ษะ
เดยี วกบั การหารจ�ำ นวนนบั จากน้นั ครใู ห้นักเรียนพจิ ารณาภาพแสดง จำ�นวนนับเทา่ กบั ทศนิยม 2 ต�ำ แหน่ง และกระบวนการทาง
ดว้ ยจ�ำ นวนนบั โดยเขยี น คณติ ศาสตร์
จดุ ทศนยิ มของผลหารใหต้ รง
กบั จดุ ทศนยิ มของตวั ตง้ั

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

ดา้ นความรู้
เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นสามารถ

หาผลหารทศนยิ มดว้ ยจ�ำ นวน

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๔ ชนั้ ป. ๖
เวลา ๑ ชว่ั โมง
กล่มุ สาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์ 3. เกณฑ์
หนว่ ยที่ ๓ เร่อื ง ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคณู การหารทศนยิ ม
3.1 ผลงานมคี วามถูกตอ้ ง
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๖ นบั ผลหารเปน็ ทศนยิ มไมเ่ กนิ ภาพแสดง จำ�นวนนับเทา่ กับทศนยิ ม 2 ตำ�แหนง่ ไมน่ ้อยกว่ารอ้ ยละ 80
3ต�ำ แหนง่ ดว้ ยวธิ กี ารตง้ั หาร 3.2 คะแนนรวมด้าน
ทกั ษะและกระบวนการ
ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ ทางคณิตศาสตรไ์ ม่นอ้ ย
ทางคณติ ศาสตร์ กว่ารอ้ ยละ 60

เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นสามารถ 1 1.00
1. ใหเ้ หตผุ ล ครซู กั ถามนกั เรยี นวา่ จากภาพ 1 เท่ากับ 1.00 หรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด (เท่ากนั เพราะ สง่ิ ของ
2. สอ่ื สาร และสอ่ื ความหมาย ท้ังหมดแบ่งเปน็ 100 สว่ นเทา่ ๆ กันแลว้ ตอ้ งการ 100 ส่วน ซ่ึงเท่ากบั 1)
ทางคณติ ศาสตร์ ครูและนกั เรียนรว่ มกันสรปุ จากภาพ 1 = 1.0 = 1.00
ครถู ามนกั เรียนต่อไปว่าถา้ ต้องการทำ�จำ�นวนนบั 1 ให้เป็นทศนิยม 3 ต�ำ แหน่ง จะทำ�อยา่ งไร
(โดยใส่จดุ ทศนยิ ม หลงั 1 แลว้ เตมิ 0 3 ตวั จะได้ 1 = 1.000)
ดงั นน้ั 1 = 1.0 = 1.00 = 1.000
จากนน้ั ให้นักเรยี น เขียน 0.3 เป็นทศนยิ ม 2 ตำ�แหนง่ และ 3 ตำ�แหน่ง
จะได้ 0.3 = 0.30 = 0.300
2. ทบทวนการหาผลหารทศนิยมด้วยจำ�นวนนับ โดยใช้ความสัมพันธข์ องทศนิยมกับเศษส่วน
ดว้ ยการซกั ถามนักเรยี น

33

34 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ ๔ ช้นั ป. ๖
เวลา ๑ ชัว่ โมง
กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์
หนว่ ยที่ ๓ เรื่อง ทศนิยม และการบวก การลบ การคณู การหารทศนิยม

ครูเขยี น 1.281 ÷ 7 บนกระดาน แลว้ ซกั ถามนักเรียนดงั น้ี
- 1.281 ÷ 7 เขียนในรปู การหารเศษส่วนได้อย่างไร (1111020280801010 ÷7 )
- 1111022088001010 ÷
- x 7 เขียนในรูปการคณู เศษสว่ นไดอ้ ย่างไร ( x 17 )
เท่ากับเทา่ ไร ( 1108030 = 0.183 )
71
- ตรวจสอบ โดยใช้ความสมั พนั ธ์ระหว่างการคูณกับการหาร จะได้
ผลหาร × ตวั หาร = ตวั ต้งั
0.183 x 7 = 1.281
ดังนัน้ 1.281 ÷ 7 = 0.183
ข้ันสอน
3. ครูและ นักเรียนช่วยกนั หาผลหาร 1.281 ÷ 7 ด้วยวิธตี ง้ั หาร ดังนี้
0.183
7 ) 1.281 7 × 0.1
0.7 7 × 0.08
7 × 0.003
0.58
0.56
0.021

0.021
0
ตรวจสอบ 0.183 x 7 = 1.281
หรอื 1.281 ÷ 7 = 0.183

แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี ๔ ชนั้ ป. ๖
เวลา ๑ ชว่ั โมง
กลุม่ สาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์
หนว่ ยที่ ๓ เร่อื ง ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคูณ การหารทศนิยม

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๖ ดงั น้ัน 1.281 ÷ 7 = 0.183
4. ครแู ละนกั เรียนชว่ ยกนั หาผลหาร 16.9 ÷ 4 ดว้ ยวิธีต้งั หาร ดังนี้
ครูถามนกั เรียน 16.9 เขียนเป็นทศนิยม 2 ตำ�แหนง่ และ 3 ต�ำ แหน่ง ไดเ้ ทา่ ไร
(16.9 = 16.90 = 16.900)

164..920205 4×4
4) 4 × 0.2
16 4 × 0.02
0.9 4 × 0.005
0.8
0.10
0.08
0.020
0.020
0

ตรวจสอบ 4.225 × 4 = 16.9
= 4.225
หรอื 16.9 ÷ 4

ดังนัน้ 16.9 ÷ 4 = 4.225

35

36 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ ๔ ชั้น ป. ๖
เวลา ๑ ชัว่ โมง
กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์
หนว่ ยที่ ๓ เรอ่ื ง ทศนิยม และการบวก การลบ การคูณ การหารทศนยิ ม

5. ครูแบง่ นักเรยี นออกเป็นกลุม่ กลมุ่ ละ 3-4 คน ใหแ้ ต่ละกลุ่ม จบั ฉลาก กลุม่ ละ 1 ขอ้ เขียน
แสดงวธิ หี าผลหาร 48.26 ÷ 38 และ 281.4 ÷ 8 โดยครแู จกกระดาษใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่
และเมอื่ นักเรียนแต่ละกลมุ่ ทำ�เสรจ็ แลว้ สง่ ตัวแทนน�ำ เสนอผลงาน
ครแู ละนักเรยี นชว่ ยกนั ตรวจสอบวธิ กี ารตัง้ หาร และผลหาร ดังนี้
48.26 ÷ 38

38 ) 481..2267 38 × 1
38 38 × 0.2
10.2 38 × 0.07
7.6
2.66
2.66
0
ตรวจสอบ 1.27 x 38 = 48.26

หรอื 48.26 ÷ 38 = 1.27

ดังนนั้ 48.26 ÷ 38 = 1.27
ตอบ ๑.๒๗

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๔ ช้นั ป. ๖
เวลา ๑ ชั่วโมง
กลมุ่ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์
หนว่ ยท่ี ๓ เรื่อง ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคณู การหารทศนยิ ม

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๖ 281.4 ÷ 8

- ครูซักถามนักเรียน 281.4 สามารถเขยี นเปน็ ทศนิยม 2 ตำ�แหนง่ หรือ 3 ต�ำ แหน่ง ได้อยา่ งไร
( 281.4 = 281.40 = 281.400 )
- นกั เรียนชว่ ยกันหารผลหาร ดว้ ยวธิ ีการต้ังหารได้ ดงั น้ี
วิธ ที �ำ 2 8 1 .4 ÷ 8
8 ) 35.175
22841.400
4401
01..84
00..6506
00..004400
0
ตรวจสอบ 35.175 x 8 = 281.4

หรือ 281.4 ÷ 8 = 35.175

ดังนนั้ 281.4 ÷ 8 = 35.175

37 ตอบ ๓๕.๑๗๕

38 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๔ ชน้ั ป. ๖
เวลา ๑ ชว่ั โมง
กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์
หนว่ ยท่ี ๓ เรอ่ื ง ทศนิยม และการบวก การลบ การคูณ การหารทศนยิ ม

6. ครใู ห้นกั เรยี นชว่ ยกันหาผลหาร ของ 18 ÷ 5
นักเรยี นร่วมกันอภปิ ราย 18 = 18.0 = 18.00 = 18.000
18 ÷ 5
วธิ ีทำ� 3.6
5 ) 18.0
15
3.0
3.0
0

ตรวจสอบ 3.6 x 5 = 18

หรือ 18 ÷ 5 = 3.6

ดงั น้นั 18 ÷ 5 = 3.6

ตอบ ๓.๖
7. ครใู หน้ ักเรียนทำ�แบบฝึกหดั 3.4 เปน็ การบ้าน

ขนั้ สรปุ

8. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันอภปิ รายสรุป การหารทศนิยมดว้ ยจ�ำ นวนนับ ผลหารเป็นทศนยิ มไม่
เกิน 3 ต�ำ แหนง่ ด้วยวธิ ีการตัง้ หาร จนไดข้ อ้ สรุปวา่

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๔ ชน้ั ป. ๖
เวลา ๑ ชว่ั โมง
กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๖ หนว่ ยท่ี ๓ เรอ่ื ง ทศนิยม และการบวก การลบ การคูณ การหารทศนิยม

การหารทศนยิ มด้วยจำ�นวนนบั ผลหารเป็นทศนยิ มไม่เกนิ 3 ต�ำ แหน่ง อาจใชห้ ลกั การเดยี วกับ
การหารจ�ำ นวนนับดว้ ยจ�ำ นวนนับ โดยเขียนจุดทศนยิ มของผลหารให้ตรงกับจดุ ทศนยิ มของตัวตั้ง
ถา้ หารไม่ลงตวั สามารถเตมิ 0 ทต่ี ัวตง้ั เพอ่ื ใหห้ ารไดล้ งตวั

39

40 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๕

แนวการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้

ข้ันนำ� ทบทวนการหาผลหารทศนยิ มดว้ ยทศนยิ ม 1 ต�ำ แหน่ง โดยวิธีการใช้ความสัมพนั ธ์ของทศนยิ มกับ
เศษส่วน และการหารทศนยิ มกับจ�ำ นวนนบั ดว้ ยวธิ ตี งั้ หาร

ขนั้ สอน หาผลหารทศนยิ มดว้ ยทศนิยม 1 ต�ำ แหนง่ ท่ีผลหารเป็นทศนยิ มไม่เกิน 3 ตำ�แหน่ง ดว้ ยวิธีตัง้ หาร
ทำ�แบบฝกึ หัด 3.5

ขนั้ สรุป ครใู ช้การถามตอบจนนักเรยี นรว่ มกันสรุป
การหาผลหารทศนยิ มด้วยทศนยิ ม 1 ต�ำ แหนง่ ทผี่ ลหารเปน็ ทศนยิ มไม่เกิน 3 ต�ำ แหน่ง ด้วยวธิ ตี งั้ หาร

การวัดและประเมินผล - ประเมินจากการตอบค�ำ ถาม และการท�ำ แบบฝกึ หัด
- ประเมินทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตรด์ า้ นการให้เหตผุ ล และการสอื่ สารและสอื่
ความหมายทางคณติ ศาสตร์

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๕ ชัน้ ป. ๖
เวลา ๑ ชัว่ โมง
กลุ่มสาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์ ส่อื /แหลง่ เรยี นรู้
หน่วยที่ ๓ เรือ่ ง ทศนิยม และการบวก การลบ การคณู การหารทศนยิ ม
แบบฝึกหัด 3.5
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๖ ขอบเขตเนือ้ หา กิจกรรมการเรยี นรู้
ข้นั นำ� การประเมนิ
การหารทศนยิ มดว้ ย 1. ทบทวนการหาผลหารทศนิยมด้วยทศนยิ ม 1 ตำ�แหนง่ โดยวิธีการใชค้ วามสมั พนั ธข์ อง
ทศนยิ ม 1 ต�ำ แหนง่ ผลหาร ทศนยิ มกับเศษส่วน โดยใช้การถามตอบ 8.25 ÷ 0.3 ดังนี้ 1. วธิ ีการ
เปน็ ทศนยิ มไมเ่ กนิ 3 ต�ำ แหนง่ ---- เขคค8ียร81.81รนูใ220ห02ูถใ55005าน้นม÷÷รกั ÷นูปเ0รัก1ก33ยี.0เ3านรรียเหเคขเทนขาณูีย่าวผียนกเา่ลนศใับคนใษ8เน1ูณรท2ส0รูป5่าว่ ปู กไนรก18×าไา02รดร50(หอ้31หาย2×า1ร7า่ ร0ทเ5งข1เ3ไศศ0ีย=รนษน2ิยส=ใ18น7ม่ว02.รนไ80551ดูป2ไ0้อด×5)กยอ้า1่า×ยร30งหา่ ไง31าร)ไรร(เ=ศ8(ษ22811ส.75200ว่505น÷=ไ÷ด32้อ17)30ย.5า่ ง)ไร ( 81205 ÷3 ) 1.1 สังเกตพฤตกิ รรมการ
ดว้ ยวธิ ีตงั้ หาร ดังน้ัน 8.25 ÷ 0.3 = 82.5 ÷ 3 = 27.5 เรยี นรู้

สาระส�ำ คัญ 1.2 ตรวจผลงานจาก
แบบฝึกหัด 3.5
การหารทศนิยมด้วย 2. เครอื่ งมอื
ทศนยิ ม 1 ต�ำ แหนง่ ผลหาร 2.1 แบบฝึกหดั 3.5
เปน็ ทศนยิ ม ไมเ่ กนิ 3 ต�ำ แหนง่ 2. นกั เรยี นร่วมกนั พิจารณา การหาผลหารของ 0.24 ÷ 0.6 16101660 2.2 แบบประเมินทักษะ
ดว้ ยวธิ ีต้ังหาร อาจท�ำ ตวั หาร 1) 0.24 ÷ 0.6 = 11 22100444000 ÷ 116600 2) 0.24 ÷ 0.6 = 12102214000440 ÷ และกระบวนการทาง
เป็นจำ�นวนนบั โดยน�ำ 10 มา = × = × คณิตศาสตร์
คูณทั้งตัวตงั้ และตัวหาร = = ×
แลว้ จงึ หาผลหาร ด้วยวธิ กี าร
หารยาว

= 0.4 = 2.4 ÷ 6 = 0.4
ดงั นน้ั 0.24 ÷ 0.6 = 2.4 ÷ 6 = 0.4

41

42 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๕ ช้ัน ป. ๖
เวลา ๑ ชัว่ โมง
กลุ่มสาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์
หนว่ ยท่ี ๓ เรือ่ ง ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคณู การหารทศนยิ ม

จุดประสงค์การเรยี นรู้ ขั้นสอน 3. เกณฑ์
3. ครใู หน้ ักเรียนชว่ ยกนั หาผลหารของ 7.35 ÷ 0.5 โดยรว่ มกนั อภิปรายซักถามดงั นี้ 3.1 ผลงานมคี วามถกู ตอ้ ง
ดา้ นความรู้ - 7.35 ÷ 0.5 = 73.5 ÷ 5 หรือไม่ (เทา่ กนั เพราะตวั ตง้ั และตวั หารเพ่ิมเป็น 10 เท่าของ ไม่นอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 80
เพอ่ื ใหน้ ักเรยี นสามารถหา จ�ำ นวนเดิม ซ่งึ ได้จาก และ
- 73.5 ÷ 5 = 14.7 ดงั น้นั 7.35 ÷ 0.5 = 14.7 3.2 คะแนนรวมดา้ น
ผลหารทศนยิ มดว้ ยทศนิยม จากนน้ั ครใู หน้ กั เรียนหาผลหารของ 0.162 ÷ 0.2 โดยใช้ความรู้ เรื่อง การหารทศนิยม ทักษะและกระบวนการ
1 ตำ�แหนง่ ที่ผลหารเป็น เมอ่ื ตวั หารเปน็ จำ�นวนนบั ได้ดังนี้ ทางคณิตศาสตรไ์ ม่นอ้ ย
ทศนิยมไม่เกนิ 3 ต�ำ แหน่ง - 0.162 ÷ 0.2 = 1.62 ÷ 2 หรอื ไม่ (เทา่ กนั เพราะตัวตงั้ และตัวหารเพม่ิ เป็น 10 เท่าของ กว่าร้อยละ 60
ด้วยวธิ ตี ้งั หาร
ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ จำ�นวนเดิม ซง่ึ ไดจ้ าก 0.162 × 10 = 1.62 และ 0.2 × 10 = 2.0 = 2)
ทางคณิตศาสตร์ - 1.62 ÷ 2 = 0.81 ดังนน้ั 0.162 ÷ 0.2 = 0.81
นักเรียนรว่ มกันสรุปการหารท่ีตัวหารเป็นทศนยิ ม 1 ตำ�แหน่ง ใหเ้ ปลยี่ นทศนยิ ม1 ต�ำ แหนง่
เพ่อื ให้นกั เรยี นสามารถ เปน็ จ�ำ นวนนับโดยน�ำ 10 ไปคณู ทงั้ ตัวต้งั และตวั หารแล้วจึงหาผลหาร
1. ใหเ้ หตุผล 4. ครใู หน้ ักเรยี นหาผลหาร 18.927 ÷ 0.9 โดยใชค้ วามรเู้ รือ่ ง การหารทศนยิ มเม่ือตัวหารเปน็
2. สื่อสาร และสื่อความ จ�ำ นวนนบั ดงั นี้
หมายทางคณติ ศาสตร์ เนื่องจาก 18.927 ÷ 0.9 = 18.927 ÷ 9119900=
= 18.927 ×
= 189.27 ÷ 18.927 ÷ 0.9
หรือ 18.927 ÷ 0.9 = (18.927 × 10) ÷ (0.9 × 10)
= 189.27 ÷ 9

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๕ ชัน้ ป. ๖
เวลา ๑ ชัว่ โมง
กลุม่ สาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์
หน่วยที่ ๓ เรื่อง ทศนิยม และการบวก การลบ การคูณ การหารทศนิยม

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๖ 9 ) 21.03
189.27
180 9 × 20
9 9×1
9 9 × 0.0
0.2 9 × 0.03
0.0
0.27
0.27
0

ตรวจสอบ 21.03 x 0.9 = 18.927

หรอื 18.927 ÷ 0.9 = 21.03

ดงั นน้ั 18.927 ÷ 0.9 = 21.03

ตอบ ๒๑.๐๓
5. ครแู บง่ กลุ่มนักเรียนออกเป็นกลุ่มละ 3-4 คน ใหแ้ ต่ละกล่มุ หาผลหาร โดยการจบั ฉลาก
กลมุ่ ละ 2 ขอ้ ให้แสดงการหาผลหารลงในกระดาษท่ีครูแจกให้ เมอ่ื นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ท�ำ เสรจ็ แลว้
ส่งตัวแทนน�ำ เสนอผลงาน
1) 2.44 ÷ 0.8 2) 9.6 ÷ 0.5

3) 12.084 ÷ 1.2 4) 75.9 ÷ 1.5

43

44 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๕ ชัน้ ป. ๖
เวลา ๑ ชว่ั โมง
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์
หน่วยท่ี ๓ เร่อื ง ทศนิยม และการบวก การลบ การคูณ การหารทศนยิ ม

ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ต้องดงั นี้
1) 2.44 ÷ 0.8
วิธที �ำ 2.44 ÷ 0.8 = (2.44 × 10) ÷ (0.8 × 10)
= 24.4 ÷ 8
3.05
8 ) 24.40
24
0.40
0.40
0

ตรวจสอบ 3.05 x 0.8 = 2.44

หรือ 2.44 ÷ 0.8 = 3.05

ดังนัน้ 2.44 ÷ 0.8 = 3.05

ตอบ ๓.๐๕

แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ ๕ ชัน้ ป. ๖
เวลา ๑ ชัว่ โมง
กลุม่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์
หนว่ ยที่ ๓ เรอ่ื ง ทศนิยม และการบวก การลบ การคูณ การหารทศนยิ ม

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๖ 2) 9.6 ÷ 0.5
วธิ ีทำ� 9.6 ÷ 0.5 = (9.6 × 10) ÷ (0.5 × 10)
= 96.0 ÷ 5
19.2
5 ) 96.0
5
46
45
1.0
1.0
0

ตรวจสอบ 19.2 x 0.5 = 9.6

หรือ 9.6 ÷ 0.5 = 19.2

ดงั นั้น 9.6 ÷ 0.5 = 19.2

ตอบ ๑๙.๒

45

46 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี ๕ ชน้ั ป. ๖
เวลา ๑ ชัว่ โมง
กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์
หน่วยที่ ๓ เรอื่ ง ทศนิยม และการบวก การลบ การคูณ การหารทศนิยม

3) 12.084 ÷ 1.2
วิธีทำ� 12.084 ÷ 1.2 = (12.084 × 10) ÷ (1.2 × 10)
= 120.840 ÷ 12
12 ) 12100..8047

12
00
0

0.8
0

0.84
0.84
0

ตรวจสอบ 10.07 x 1.2 = 12.084

หรอื 12.084 ÷ 1.2 = 10.07

ดังนน้ั 12.084 ÷ 1.2 = 10.07

ตอบ ๑๐.๐๗

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๕ ชั้น ป. ๖
เวลา ๑ ชัว่ โมง
กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์
หนว่ ยท่ี ๓ เรือ่ ง ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคณู การหารทศนยิ ม

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๖ 4) 75.9÷1.5
วิธีท�ำ 75.9 ÷ 1.5 = (75.9 × 10) ÷ (1.5 × 10)
= 759.0 ÷ 15
50.6
15 ) 759.0
75
09
0
9.0
9.0
0

ตรวจสอบ 50.6 x 1.5 = 75.9

หรอื 75.9 ÷ 1.5 = 50.6

ดังนน้ั 75.9 ÷ 1.5 = 50.6

ตอบ ๕๐.๖
6. ครูใหน้ ักเรียนทำ�แบบฝกึ หัด 3.5 เป็นการบ้าน

47

48 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ ๕ ชนั้ ป. ๖
เวลา ๑ ชัว่ โมง
กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์
หน่วยที่ ๓ เรอื่ ง ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคูณ การหารทศนิยม

ขนั้ สรุป

7. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายสรปุ การหารทศนยิ มด้วยทศนิยม 1 ตำ�แหน่ง ผลหารเปน็
ทศนยิ มไมเ่ กนิ 3 ต�ำ แหนง่ ด้วยวิธตี ง้ั หาร จนไดข้ อ้ สรุปวา่
การหารทศนยิ มด้วยทศนิยม 1 ตำ�แหนง่ ผลหารเปน็ ทศนยิ มไม่เกิน 3 ตำ�แหน่ง ดว้ ยวิธตี ั้งหาร
อาจท�ำ ตวั หารเปน็ จ�ำ นวนนบั โดยน�ำ 10 มาคูณทัง้ ตวั ต้งั และตวั หาร แลว้ จึงหาผลหาร
ดว้ ยวธิ ีการหารยาว

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๖ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๖

แนวการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้

ขัน้ น�ำ ทบทวนการหาผลหารทศนยิ มดว้ ยทศนยิ ม 2 ต�ำ แหนง่ โดยวธิ กี ารใชค้ วามสมั พนั ธข์ องทศนยิ มกบั เศษสว่ น

ข้ันสอน หาผลหารทศนิยมดว้ ยทศนิยม 2 ต�ำ แหนง่ ทีผ่ ลหารเปน็ ทศนิยมไม่เกนิ 3 ต�ำ แหนง่ ด้วยวิธตี ง้ั หาร
ขั้นสรปุ ท�ำ แบบฝกึ หัด 3.6
การวัดและประเมนิ ผล
ครูใช้การถามตอบจนนักเรียนรว่ มกนั สรุปไดว้ ่า
การหาผลหารทศนิยมดว้ ยทศนิยม 2 ต�ำ แหนง่ ท่ผี ลหารเปน็ ทศนยิ มไมเ่ กนิ 3 ต�ำ แหน่ง ดว้ ยวธิ ตี ้งั หาร
อาจทำ�ตวั หารเป็นจำ�นวนนับ โดยนำ� 100 มาคณู ทั้งตวั ต้ังและตวั หาร แลว้ จึงหาผลหารดว้ ยวธิ หี ารยาว
- ประเมินจากการตอบค�ำ ถาม และการท�ำ แบบฝึกหดั
- ประเมนิ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ดา้ นการใหเ้ หตุผล และการสื่อสาร สือ่ ความหมาย
ทางคณิตศาสตร์

49

50 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี ๖ ชน้ั ป. ๖
เวลา ๑ ชวั่ โมง
กลมุ่ สาระการเรยี นรูค้ ณติ ศาสตร์ สือ่ /แหล่งเรียนรู้
หน่วยท่ี ๓ เรอ่ื ง ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคณู การหารทศนิยม
1. แบบฝกึ หัด 3.6
ขอบเขตเนื้อหา กจิ กรรมการเรียนรู้
ขั้นนำ� การประเมิน
การหารทศนยิ มดว้ ย 1. ทบทวนการหาผลหารทศนยิ มด้วยทศนยิ ม 2 ต�ำ แหน่ง โดยวิธกี ารใชค้ วามสัมพนั ธ์ของ
ทศนิยม 2 ตำ�แหน่ง ผลหาร ทศนยิ มกบั เศษสว่ นโดยใชก้ ารถาม - ตอบ 1. วิธีการ
เปน็ ทศนยิ ม ไมเ่ กิน ครูเขียน 0.126 ÷ 0.02 บนกระดาน แลว้ ถามนักเรียน ดงั น้ี 1.1 สังเกตพฤติกรรม
3 ต�ำ แหน่ง โดยวิธีตง้ั หาร ----คดจ างัร กน0ถู 11111 น.า1ั้น001222ม0ั้น0062660น00ค6.ัก1ร÷÷÷×เูใ2รห62ีย1้น1002น÷20ัก.เ00ว0ขเ0า่2รยี .เยี 0นเขทน2ยีใ11า่นชเน2=ข0ก่วร6ใียบัยูปนนกเ1×กรทใ2นัปูานา่.รสก612ไรหรังาปู ÷เารกกรค(เต2ขาทูณ1รีย1ศ=2หเน0นศ61า1ใ6ษิย0รน2×.0ม3สเ6ร0ศไ่วูปดษ21น×กอ้สไายด่ว=ร1า่นอ้ ห02งยไา0ได่าร16ร้อง03=ไ(ไดย=ร1า่้อ1612ง(ย210ไ.1.6่า306ร2ง06)(ไ÷0×ร×121(0211210)201620006÷)=÷126102030) ) การเรียนรู้
= 6.3
สาระส�ำ คญั 1.2 ตรวจผลงานจาก
แบบฝกึ หัด 3.6
การหารทศนิยมดว้ ย 2. เครอ่ื งมือ
ทศนยิ ม 2 ตำ�แหนง่ 2.1 แบบฝึกหดั 3.6
ผลหารเป็นทศนิยมไมเ่ กนิ 2.2 แบบประเมินทักษะ
3 ตำ�แหน่ง โดยวธิ ีตง้ั หาร และกระบวนการทาง
อาจทำ�ตวั หารเป็นจำ�นวนนับ 2. นกั เรียนรว่ มกนั พจิ ารณา การหาผลหารของ 12.5 ÷ 0.05 คณิตศาสตร์
โดยน�ำ 100 มาคณู ทัง้ ตัว 1) 12.5 ÷ 0.05 = 1111220055 ÷ 11505000 2) 12.5 ÷ 0.05 = 1111,2112220.055550××÷÷15105150005=00 250
ตั้ง และตวั หาร แลว้ จงึ หาผล = × =
หารโดยวิธหี ารยาว =
=
= 250

ดังน้นั 12.5 ÷ 0.05 = 1,250 ÷ 5 = 250

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ ๖ ชั้น ป. ๖
เวลา ๑ ช่ัวโมง
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์
หนว่ ยที่ ๓ เร่ือง ทศนิยม และการบวก การลบ การคณู การหารทศนิยม 3.เกณฑ์
3.1 ผลงานมีความถูก
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๖ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ขัน้ สอน ต้องไมน่ อ้ ยกวา่ ร้อยละ
3. ครเู ขยี น 0.104 ÷ 0.04 บนกระดาน ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั แสดงวธิ หี าผลหาร โดยการถามตอบ 80
ด้านความรู้ ดังนี ้ 3.2 นกั เรยี นไดค้ ะแนน
เพอ่ื ใหน้ ักเรียนสามารถหา - 0.104 ÷ 0.04 = 10.4 ÷ 4 หรอื ไม่ (เทา่ กนั เพราะตวั ต้งั และตัวหารเพิ่มเป็น 100 เท่า รวมทกั ษะและกระบวน
ของจ�ำ นวนเดิม ซึง่ ได้จาก 0.104 × 100 = 10.4 และ 0.04 × 100 = 4.00 = 4) การทางคณิตศาสตร์ไม ่
ผลหารทศนิยมด้วยทศนยิ ม - 10.4 ÷ 4 = 2.6 ดังนนั้ 0.104 ÷ 0.04 = 2.6 น้อยกวา่ ร้อยละ 60
2 ต�ำ แหน่ง ผลหารเป็น ครูถามนักเรียนวา่ 0.104 ÷ 0.04 ทำ�อย่างไรให้ไดผ้ ลหารไดง้ า่ ยทส่ี ุด (เปลยี่ นตัวหารเป็น
ทศนิยมไม่เกิน 3 ต�ำ แหน่ง จำ�นวนนับโดยน�ำ 100 ไปคูณทงั้ ตวั หารและตวั ตงั้ )
ด้วยวธิ ตี ั้งหาร จากน้นั ครใู ห้นักเรียนชว่ ยกันแสดงวิธีหาผลหาร โดยวิธตี ้งั หาร ดงั นี้
ด้านทักษะและกระบวนการ วิธีทำ�
ทางคณติ ศาสตร์ เน่ืองจาก 0.104 ÷ 0.04 = (0.104 × 100) ÷ (0.04 × 100)
= 10.4 ÷ 4
เพอ่ื ให้นกั เรยี นสามารถ 2.6
1. ให้เหตุผล 4 ) 10.4
2. สอ่ื สาร สื่อความหมาย 8
ทางคณติ ศาสตร์

2.4
2.4
0
ดงั นั้น 0.104 ÷ 0.04 = 2.6
ตอบ ๒.๖
51

52 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ ๖ ชัน้ ป. ๖
เวลา ๑ ชัว่ โมง
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์
หนว่ ยท่ี ๓ เรือ่ ง ทศนิยม และการบวก การลบ การคูณ การหารทศนิยม

ครใู ห้นักเรียนตรวจสอบโดยใชค้ วามสมั พนั ธข์ องการคณู และการหาร

หรือ 2.6 x 0.04 = 0.104
0.104 ÷ 0.04 = 2.6

4. ครูแบง่ นักเรยี นออกเป็นกล่มุ กลุ่มละ 3 – 4 คน ให้นักเรียนจบั ฉลาก แสดงวิธีหาผลหาร
ทศนิยม 2 ตำ�แหน่ง โดยวิธีตั้งหาร ลงในกระดาษที่ครแู จกให้ เมอื่ นกั เรียนท�ำ เสร็จแลว้ ส่งตัวแทน
ออกมานำ�เสนอผลงาน
1) 4.8÷0.12 2) 28.89÷0.27 3) 1.125÷0.15
ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง ดงั น้ี
1) 4.8 ÷ 0.12
วธิ ที ำ�
เน่อื งจาก 4.8 ÷ 0.12 = (4.8 × 100) ÷ (0.12 × 100)
= 480 ÷ 12
40
12 ) 480
48
0
ดังนน้ั 4.8 ÷ 0.12 = 40
ตอบ ๔๐

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๖ ชัน้ ป. ๖
เวลา ๑ ชัว่ โมง
กลุม่ สาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์
หน่วยท่ี ๓ เรอ่ื ง ทศนิยม และการบวก การลบ การคณู การหารทศนิยม

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๖ ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง

หรือ 40 x 0.12 = 4.8
4.8 ÷ 0.12 = 40

2) 28.89 ÷ 0.27
วิธที ำ�
เนอื่ งจาก 28.89 ÷ 0.27 = (28.89 × 100) ÷ (0.27 × 100)
= 2,889 ÷ 27
27 ) 2180879

27
18
00
189
189
0
ดงั นัน้ 28.89 ÷ 0.27 = 107
ตอบ ๑๐๗
ตรวจสอบความถูกตอ้ ง
53 หรอื 107 x 0.27 = 28.8

28.8 ÷ 0.27 = 107

54 ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี ๖ ชั้น ป. ๖
เวลา ๑ ชัว่ โมง
กลุม่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
หนว่ ยที่ ๓ เรอื่ ง ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคณู การหารทศนยิ ม

3) 1.125 ÷ 0.15
วธิ ที ำ�
เนื่องจาก 1.125 ÷ 0.15 = (1.125 × 100) ÷ (0.15 × 100)
= 112.5 ÷ 15
15 ) 1172..55

105
7.5
7.5
0
ดงั น้ัน 1.125 ÷ 0.15 = 7.5
ตอบ ๗.๕
ตรวจสอบความถูกตอ้ ง
หรอื 7.5 x 0.15 = 1.125
1.125 ÷ 0.15 = 7.5

5. ครใู ห้นักเรียนท�ำ แบบฝึกหดั 3.6 เปน็ การบ้าน

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๖ ชนั้ ป. ๖
เวลา ๑ ชว่ั โมง
กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (ส�ำ หรับครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๖ หน่วยที่ ๓ เร่อื ง ทศนยิ ม และการบวก การลบ การคูณ การหารทศนยิ ม

ขัน้ สรุป

6. ครูและนกั เรยี นร่วมกันสรุปการหารทศนยิ มดว้ ยทศนิยม 2 ตำ�แหนง่ ผลหารเป็นทศนยิ มไม่
เกิน 3 ตำ�แหนง่ ด้วยวธิ ีตงั้ หาร ไดข้ อ้ สรปุ วา่
การหารทศนยิ มด้วยทศนิยม 2 ต�ำ แหน่ง ผลหารเป็นทศนยิ มไมเ่ กิน 3 ต�ำ แหนง่ โดยวิธีตั้งหาร
อาจท�ำ ตวั หารเปน็ จ�ำ นวนนบั โดยน�ำ 100 มาคูณทัง้ ตวั ตง้ั และตวั ตง้ั หาร แล้วจงึ หาผลหารโดยวิธี
การหารยาว

55


Click to View FlipBook Version