The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pradipatt62, 2022-10-20 17:09:38

pdf24_merged (2) (1)

pdf24_merged (2) (1)

ออกแบบการสอน
ด้ ว ย รู ป แ บ บ

ADDIE MODEL

านเขยี น เรยี นภระดบั ชนั ประถมศกึ ษ
่อ าปที ๒าษาไทย

จัดทาํ โดย

น.ส.กุลธิดา นครเนียม รหัสนิสิต ๖๒๔๑๐๓๖๔
น.ส.จิตรลดา
น.ส.ชลธิชา วาุยุบุตร รหัสนิสิต ๖๒๔๑๐๖๘๕
น.ส.ทิพากร
น.ส.นพวรรณ คาํ ยะอุ่น รหัสนิสิต ๖๒๔๑๑๐๑๙
น.ส.นริศรา
นายประดิพัทธ์ พันธ์เดิมวงษ์ รหัสนิสิต ๖๒๔๑๑๖๖๘

ร า ย ง า น นี เ ป น ส่ ว น ห นึ ง ข อ ง วิ ช า ทรัพย์ขาํ รหัสนิสิต ๖๒๔๑๒๐๐๙

๓๘๔๔๐๒ การออกแบบบทเรียน ฟุ ง สุ ข รหัสนิสิต ๖๒๔๑๒๐๒๓
แ ล ะ สื อ ส า ห รั บ ก า ร ส อ น ภ า ษ า ไ ท ย
ตะระสอน รหัสนิสิต ๖๒๔๑๒๓๗๕

คณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาภาษาไทย ชันปที ๔
เสนอ

อาจารย์ราชการ สังขวดี



ออกแบบการสอน
ด้ ว ย รู ป แ บ บ

ADDIE MODEL

านเขยี น เรยี นภระดบั ชนั ประถมศกึ ษ
่อ าปที ๒าษาไทย

จัดทาํ โดย

น.ส.กุลธิดา นครเนียม รหัสนิสิต ๖๒๔๑๐๓๖๔
น.ส.จิตรลดา
น.ส.ชลธิชา วาุยุบุตร รหัสนิสิต ๖๒๔๑๐๖๘๕
น.ส.ทิพากร
น.ส.นพวรรณ คาํ ยะอุ่น รหัสนิสิต ๖๒๔๑๑๐๑๙
น.ส.นริศรา
นายประดิพัทธ์ พันธ์เดิมวงษ์ รหัสนิสิต ๖๒๔๑๑๖๖๘

ร า ย ง า น นี เ ป น ส่ ว น ห นึ ง ข อ ง วิ ช า ทรัพย์ขาํ รหัสนิสิต ๖๒๔๑๒๐๐๙

๓๘๔๔๐๒ การออกแบบบทเรียน ฟุ ง สุ ข รหัสนิสิต ๖๒๔๑๒๐๒๓
แ ล ะ สื อ ส า ห รั บ ก า ร ส อ น ภ า ษ า ไ ท ย
ตะระสอน รหัสนิสิต ๖๒๔๑๒๓๗๕

คณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาภาษาไทย ชันปที ๔
เสนอ

อาจารย์ราชการ สังขวดี



คํานํา

รายงานหนงั สือเสริมทักษะอ่านเขียน เรยี นภาษาไทย เปนหนงั สอื เพือพฒั นาทักษะการอ่าน

อยา่ งมวี ิจารณญาณในกล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชนั ประถมศึกษาปที ๒ ซงึ ออกแบบการสอน

โดยใช้ Addie Model เล่มนี จัดทําขนึ เพือออกแบบการเรียนการสอนโดยใช้ Addie Model

ออกแบบสือการสอนต่าง ๆ ให้รองรับกับการเรยี นสอนทังแบบในห้องและแบบออนไลน์ และ

รายงานเล่มนไี ด้รวบรวมข้อมูลเกียวกับเนอื หาในบทเรยี นรายวิชาภาษาไทยทังหมด ๘ บท ซงึ ได้แก่

๑) อักษรไทย อะไรเอ่ย ๒) สะกดคํา จําขนึ ใจ ๓) แปดมาตรา พาเพลิน

๔)สนุกกับการผนั วรรณยุกต์ ๕) ควบกลา อักษรนาํ จําไมย่ าก ๖) เรียนรู้ รร และตัวการนั ต์

๗) ความหมายตรงข้าม ๘) คล้องจอง คล้องใจ ภาษาไทย ภาษาถิน

รวมทังใบงาน และแบบทดสอบหลังเรยี นในแต่ละบท คณะผู้จัดทําจึงเหน็ ความสําคัญและจัดทํา

รายงานเล่มนมี าเพอื ใหผ้ เู้ รียนหรอื ผู้ทีสนใจทีจะศึกษาได้มคี วามรู้ และทําความเข้าใจในเนือหา

ภาษาไทยมากยงิ ขนึ

คณะผ้จู ัดทําหวังเปนอยา่ งยงิ ว่ารายงานเล่มนี จะเปนประโยชน์แก่ผูเ้ รยี น และผู้ทีสนใจ

จะศกึ ษาไมม่ ากก็นอ้ ย หากมขี ้อผดิ พลาดประการใด คณะผ้จู ัดทําก็ขออภัยมา ณ ทีนดี ้วย

คณะผู้จัดทํา

สารบัญ

เรอื ง

หน้า

บทที ๑ บทนํา ๑๑
๑. ทีมาและความสาํ คัญ.......................................................................................................๒
๒. วัตถปุ ระสงค์....................................................................................................................๓
๓. ขอบเขตของการวิจัย.........…...........................................................................................๔

๔. ประโยชน์ทีคาดว่าจะได้รบั ..............................................................................................

บทที ๒ เอกสารทเี กยี วขอ้ ง ๕๕

ทฤษฎีทีใชใ้ นการจัดการเรยี นการสอน.................................................................…..............๕

๒.๑ การจัดการเรยี นรูโ้ ดยใช้การเรียนรู้ของกาเย่ (Gagne’s Instructional Model).........๑. ๑

๒.๒ การเรียนรู้แบบแบง่ ผลสัมฤทธิ (Student Team Achievement Division : STAD)....๑๓

๒.๓ บทความวิชาการคณะมนุษยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎสงขลา...

เรอื ง การใชร้ ูปแบบการสอน ADDIE Model เพอื การปรบั ปรุงและพัฒนาการเรียน

การสอนภาษาจีน ใหส้ อดคล้องกับศตวรรษที ๒๑ ๑๕

๒.๔ สือและการประยุกต์ใชใ้ นการสอน........................................................................... ๑๕

๒.๔.๑ การจัดทําสือวิดีโอในรูปแบบ Animation โดยใช้โปรแกรม Animaker......... ๒๐

๒.๔.๒ การจัดทําสอื วิดีโอในรูปแบบ Animation โดยใชโ้ ปรแกรม Plotagon..........๒๑

๒.๔.๓ การจัดทําสอื วิดีโอในรูปแบบ Animation โดยใชเ้ กม The sims 4................ ๒๓

๒.๔.๔ การตัดต่อวิดีโอ โดยใช้แอปพลิเคชัน Capcut.............................................. ๒๔

๒.๔.๕ การตัดต่อวิดีโอ โดยใชแ้ อปพลิเคชนั Vollo ................................................ ๒๕

๒.๔.๖ Microsoft team หรอื Ms team................................................................. ๒๗

๒.๔.๗ แพลตฟอร์ม Canva....................................................................................๒๙

๒.๔.๘ Google Forms........................................................................................... ๓๑

๒.๔.๙ Kahoot!....................................................................................…………......๓๓

๒.๔.๑๐ Blooket………………………………..…………………………………………….…………..๓๔

๒.๔.๑๑ Wordwall................................................................................................ ๓๖

๒.๔.๑๒ Google Forms.........................................................................................๓๗

๒.๔.๑๓ การทําแบบฝกหดั ออนไลน์ โดยใช้โปรแกรม Liveworksheets.....…..........๓๘

๒.๔.๑๔ เว็บไซต์..............................................................................................…… ๓๙

๒.๔.๑๕ โปรแกรม Spatial.....................................................................................๔๐

๒.๕ หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั พืนฐาน...............................................................

บทที ๓ วิธกี ารดําเนินงาน ๔๑

การจัดการเรียนสอนในชนั เรียนและการจัดการเรยี นการสอนแบบออนไลนโ์ ดยใช.้ ….………
หลักการออกแบบกระบวนการเรยี นรู้ของ ADDIE Model

บทที ๔ ผลการวิเคราะหข์ อ้ มลู ๕๘

บทที ๕ สรุป อภิปรายผล และขอ้ เสนอแนะ ๖๖

ภาคผนวก

บทที ๑ บทนาํ ๑

บทที ๑
บทนํา

ทีมาและความสาํ คั ญ

ภาษาไทยเปนเอกลักษณ์ของชาติ เปนสมบัติทางวัฒนธรรมก่อให้เกิดความเปนเอกภาพ
เปนเครอื งมือทีใชใ้ นการติดต่อสือสารเพอื ถ่ายทอดความรู้สกึ นึกคิดของมนษุ ย์ สรา้ งความเขา้ ใจและ
สรา้ งสัมพันธท์ ีดีต่อกัน ทําใหส้ ามารถประกอบธุรกิจการงานและดํารงชีวิตในสงั คมได้อยา่ งสันติสุข
อีกทังยงั เปนเครืองมือในการแสวงหาความรูป้ ระสบการณแ์ ละข้อมลู สารสนเทศเพอื พฒั นาความรู้
ความคิดวิเคราะห์ วิจารณ์ และสรา้ งสรรค์ใหท้ ันต่อการเปลียนแปลงในสงั คมและความก้าวหนา้
ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และเศรษฐกิจ ตลอดจนการนาํ ไปใช้พัฒนาอาชีพใหม้ คี วามมนั คง
นอกจากนียังเปนสงิ ทีแสดงภมู ปิ ญญาของบรรพบุรุษด้านวัฒนธรรม ประเพณี ชวี ทัศน์ โลกทัศน์
และสุนทรียภาพ โดยบันทึกเปนลายลักษณ์อักษร เชน่ ศลิ าจารกึ หนังสือใบลาน พงศาวดาร
จดหมายเหตุ ตลอดจนวรรณคดีและวรรณกรรมอันลาค่าการใช้ภาษาเปนทักษะทีผู้ใช้ต้องฝกฝน
ให้เกิดความชํานาญ ไมว่ ่าจะเปน การอ่าน การเขยี น การพูด การฟง และการดู ควรใช้ใหถ้ ูกต้อง
ตามหลักเกณฑ์ทางภาษาเพือให้เกิดการสือสารอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ใช้ภาษาอยา่ งคล่องแคล่ว
มีวิจารณญาณ และมคี ณุ ธรรม ภาษาไทยจึงเปนสมบัติของชาติควรแก่การเรยี นรู้เพอื อนรุ กั ษ์ และ
สบื สานใหค้ งอยูค่ ู่ชาติตลอดไป(กระทรวงศกึ ษาธิการ, ๒๕๕๑ : ๓๗)

จากขอ้ ความดังกล่าว จะเหน็ ได้ว่าหัวใจสําคัญของการเรยี นวิชาภาษาไทย คือเพอื ใหผ้ ูเ้ รยี นมที ักษะ
ในการสือสารได้อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ กล่าวคือ สามารถอ่านเพือทําความเขา้ ใจสารทีรับรู้
มาจากผู้อืน และสามารถเขียนสงิ ทีต้องการสือให้ผอู้ ืนรบั รู้ได้อยา่ งถกู ต้อง ทักษะการเขยี นและ
ทักษะการอ่านจึงเปนทักษะทีสําคัญและจําเปนอยา่ งยิงในการดํารงชีวิตของคน เพราะในชวี ิต
ประจําวันของยอ่ มมกี ารสือสารกับผู้คนในสงั คม ทังในด้านการเรียนและการทํางาน และเพือให้สามารถ
สือสารกับผ้อู ืนได้อยา่ งถกู ต้องและเข้าใจกันอยา่ งรวดเรว็ จึงจําเปนอยา่ งยงิ ทีจะต้องพฒั นาทักษะการ
อ่านและการเขยี น นอกจากการใชภ้ าษาไทยใหถ้ กู จะชว่ ยในการสือสารกับผูอ้ ืนได้เข้าใจ
แล้วนนั ยังรักษาวัฒนธรรมทางภาษาทีดีงามซงึ เปนเอกลักษณ์ของชาติให้คงอยูต่ ่อไป

ในสังคมปจจุบนั พบว่าผู้เรยี นให้ความสําคัญในการเขยี นนอ้ ยลง ซงึ มสี าเหตมุ าจากผู้เรยี น
บางสว่ นขาดทักษะ เพราะทักษะการเขยี นเปนทักษะทีมีความยากและซบั ซอ้ น สุรจิต เพียรชอบ
(๒๕๓๙) กล่าวว่า ทักษะการเขียนเปนทักษะทีมีความสลับซบั ซอ้ นยากกว่าทักษะการฟง การพูด และ
การอ่าน เพราะผเู้ ขยี นจะต้องมคี วามรู้ดี รูจ้ ักคํามาก มคี วามสามารถในการสงั เคราะห์เรียบเรยี งถ้อยคํา

๒ บทที ๑ บทนาํ

ผกู ประโยคให้ถกู ต้อง และสอื ความหมายได้ชัดเจนตามทีผู้เขยี นต้องการ แต่ปจจุบนั ปรากฏว่าผ้คู น
ไมใ่ ครม่ ีความสามารถในการเขียน ไมว่ ่าจะเปนผใู้ หญ่ หรือเยาวชน ไมว่ ่าจะยุคใด สมัยใด การเขียน
ก็ยังคงเปนปญหาทีสําคัญในการสือสาร ไกรวุฒิ จันทร์รัตน์ (๒๕๒๙) กล่าวว่า เยาวชนในชาติ
เขียนหนังสอื ผดิ กันนนั ถือว่าทําให้อักษรบกพรอ่ ง ซึงเปนผลทําให้ภาษาวิบตั ิ และอาจทําให้
ขาดเอกลักษณท์ างภาษาของชาติได้ด้วย เพราะการเขยี นนนั มอี ิทธิพลต่อการใช้ภาษาด้านอืน ๆ
และนอกจากนี ไพรฑูรย์ สินลารตั น์ (๒๕๓๓) ก็ได้แสดงความคิดเหน็ เกียวกับการเขยี นหนังสอื ผดิ
ซึงพอจะสรุปความเหน็ ได้ว่า การเขียนหนงั สือผิด สืบเนืองมากจากนกั เรยี นขาดความสนใจ และ
ไมเ่ ห็นความสาํ คัญของภาษาไทย ทําให้นกั เรียนเขยี นหนงั สอื ผดิ มาก

การจัดการเรยี นการสอนวิชาภาษาไทยในปจจุบนั ยงั ประสบปญหามาก เพราะนักเรียนสว่ นใหญม่ ี
ปญหาในด้านการอ่าน ไมว่ ่าจะเปนการสะกดคํา การเว้นวรรคตอน หรอื การใชภ้ าษาไมเ่ หมาะสม
กับกาลเทศะและบุคคล โดยเฉพาะการอ่าน หรอื ฟงจับใจความไมไ่ ด้ ล้วนแต่ขาดทักษะในการอ่าน
ทังสนิ จึงทําใหก้ ารสอื สารไมส่ ัมฤทธผิ ลตามจุดมงุ่ หมาย สง่ ผลให้เกิดวิกฤติคุณภาพทางการศกึ ษา
(พรมิ เพราวดี หันตรา, ๒๕๔๑ : ๗๙)

จากข้อความทังหมดขา้ งต้น ทางคณะผู้จัดทําพบว่าการอ่านและการเขยี นภาษาไทยเปนทักษะพืน
ฐานทีสําคัญต่อการเรยี นรูท้ ังในการเรียนระดับพืนฐานและในระดับสงู ทังนกี ารเรยี นในระดับพนื ฐาน
จะเน้นในด้านการอ่าน การเขยี นใหถ้ ูกต้องมคี วามแมน่ ยาํ ในหลักเกณฑ์ภาษา ซงึ เปนเรอื งสาํ คัญ และ
จําเปนอยา่ งยิงของนกั เรยี นทกุ คน ทางคณะผูจ้ ัดทําจึงแก้ไขปญหาเหล่านีโดยการจัดทําหนังสือสง่ เสรมิ
ความรูท้ ักษะการอ่านและการเขียนเพือแก้ไขปญหาขา้ งต้น เนอื หามอี งค์ความรู้ในเรืองหลักและ
กฎเกณฑ์ทางภาษาไทย อันได้แก่ อักษรไทย การประสมคํา การสะกดคํา มาตราตัวสะกด การผนั เสยี ง
วรรณยุกต์ คําควบกลา อักษรนํา ตัวการันต์ รร (ร หนั ) คําทีมคี วามหมายตรงขา้ ม คําคล้องจอง และ
ภาษาถิน เพอื แก้ไขพฒั นาทักษะการอ่านและการเขยี นรวมทังปญหาการอ่านไมอ่ อกเขียนไมไ่ ด้ให้
ผเู้ รียนอีกด้วย

วัตถปุ ระสงค์

๑. เพือพฒั นาผลสัมฤทธทิ างการเรียนและความสามารถในการอ่านและการเขียนภาษาไทยของ
นักเรยี นระดับชนั ประถมศกึ ษาปที ๒

๒. เพอื เปรยี บเทียบทักษะการอ่าน การเขียนและความรู้เรืองหลักภาษาไทยระหว่างก่อนเรียนและ
หลังเรียนของนักเรียนระดับชนั ประถมศึกษาปที ๒

๓. เพือสรา้ งและพฒั นาสอื การเรียนรู้เพอื สนองการเรียนรูข้ องนกั เรยี นระดับชนั ประถมศึกษาปที ๒
ทังการเรยี นรู้ในชนั เรียน(On-site)และการเรียนรูแ้ บบออนไลน(์ Online)

บทที ๑ บทนํา ๓

ขอบเขตของการวิจัย

ขอบเขตด้านประชากรและกล่มุ ตัวอยา่ ง
๑. ประชากรทีใช้ในการวิจัยครงั นี เปนนักเรยี นชนั ประถมศึกษาปที ๒ ภาคเรยี นที ๑ ปการศึกษา ๒๕๖๕

จํานวน ๑ ห้อง จํานวน ๒๑ คน โรงเรียนวัดคุ้งวารี (อําพันอุปถัมภ์) จังหวัดพษิ ณุโลก
๒. กลุ่มตัวอยา่ งทีใชใ้ นการวิจัยครงั นี เปนนักเรยี นชนั ประถมศึกษาปที ๒ ภาคเรียนที ๑ ปการศกึ ษา ๒๕๖๕

โรงเรียนวัดคุ้งวารี (อําพนั อุปถัมภ์) จังหวัดพิษณโุ ลก ๑ หอ้ งเรยี น คือ หอ้ ง ป.๒/๒ จํานวน ๒๑ คน
(ได้มาด้วยวิธีการเลือกกล่มุ ตัวอยา่ งแบบเจาะจง Purposive sampling )

ตัวแปรต้น
การจัดการเรยี นการสอนโดยใช้หนังสือเสรมิ ทักษะ อ่านเขยี นเรียนภาษาไทย เพือแก้ปญหา

การอ่านและการเขียนคําในภาษาไทยทีไมถ่ ูกต้อง สําหรับนกั เรียนชนั ประถมศึกษาปที ๒

ตัวแปรตาม
ความสามารถในการอ่านและเขยี นคําในภาษาไทยของนกั เรยี นชนั ประถมศึกษาปที ๒

โรงเรียนวัดค้งุ วารี (อําพันอุปถัมภ์)

ระยะเวลา

ภาคเรยี นที ๑ ปการศกึ ษา ๒๕๖๕ ระหว่างวันที ๒๒ สงิ หาคม ๒๕๖ค ถึง วันที ๓๐ ตุลาคม ๒๕๖๕

เนือหา

เนือหาทีใชใ้ นการวิจัยนี เปนเนอื หาเกียวกับการการอ่านและการเขียนคําในภาษาไทย ได้แก่
อักษรไทย การสะกดคําทีไมม่ ีมาตราตัวสะกดและมีมาตราตัวสะกด การประสมคํา มาตราตัวสะกด
๘ มาตรา วรรณยุกต์และการผนั วรรณยุกต์ คําควบกลา อักษรนํา คําทีมี ร หนั ตัวการนั ต์
คําทีมคี วามหมายตรงข้าม คําคล้องจอง และภาษาถิน

๔ บทที ๑ บทนํา

ประโยชน์ทคี าดว่าจะได้รบั

๑. นกั เรียนมีทักษะในการอ่าน การเขียน และมีความรู้เรอื งหลักภาษาไทยเพมิ มากขนึ และนาํ ไปใช้
เปนพืนฐานในการเรยี นวิชาภาษาไทย

๒. นกั เรยี นนาํ ความรู้เรอื งหลักภาษาไทยทีได้เรียนรูไ้ ปเสรมิ สรา้ งทักษะความสามารถในการอ่าน
ภาษาไทย

๓. ครูมีความสามารถในการสรา้ งสือการเรยี นรูท้ ังสือการเรยี นรูท้ ีใช้ในชนั เรียน(On-site) และ
การเรยี นรูใ้ นรูปแบบออนไลน(์ Online) และสามารถนาํ ทักษะนไี ปใชใ้ นการเรียนการสอน
กลุ่มสาระภาษาไทย และกลุ่มสาระอืน ๆ

๔. นกั เรยี นมที ักษะในการใช้เทคโนโลยแี ละใช้ทักษะทางเทคโนโลยีเพอื พัฒนาการเรยี นรู้
๕. ครูเกิดทักษะในการจัดการเรียนรู้ภายในชนั เรียน(On-site)และการจัดการเรยี นรูท้ าง

ออนไลน(์ Online) และสามารถนาํ แนวทางนีไปปรับใช้หรอื พัฒนาการเรียนการสอนใน
กลุ่มสาระภาษาไทยหรอื กล่มุ สาระอืน ๆ ต่อไปได้

บทที ๒ เอกสารทีเกียวขอ้ ง ๕

บทที ๒

เอกสารทีเกยี วข้อง

ในการศกึ ษาค้นคว้าเอกสารทเี กยี วขอ้ ง กับเรอื งการประยุกต์ใช้รูปแบบการสอน

ADDIE Model และ E-Learnning ในการจัดการเรียนการสอนวิชาภาษาไทย ได้ศึกษาค้นคว้า รวบรวม

เนอื หา และการใช้ทฤษฎีต่าง ๆ ดังนี

๒.๑ การจัดการเรยี นรูโ้ ดยใชก้ ารเรยี นรูข้ องกาเย่ (Gagne’s Instructional Model)

โรเบริ ต์ กาเย่ (Robert Gagne) เปนนักปรชั ญาและจิตวิทยาการศกึ ษาชาวอเมรกิ า (๑๙๑๖-๒๐๐๒)

ได้เสนอแนวความคิดเกียวกับการสอนคือทฤษฎีเงือนไขการเรยี นรู(้ Condition of Learning)โดยทฤษฎี
การเรยี นรู้ของกาเย่ จัดอยูใ่ นกล่มุ ผสมผสาน (Gagne’s eclecticism) ซงึ เชือ่ ว่าความรู้มีหลายประเภท
บาง ประเภทสามารถเข้าใจได้อยา่ งรวดเรว็ ไมต่ ้องใช้ความคิดที่ลึกซึ้ง บางประเภทมีความซบั ซ้อน

จําเปนต้องใช้ ความสามารถในขนั สูง ทฤษฎีการเรียนรูข้ องกาเย่ อธิบายว่าการเรยี นรู้มอี งค์ประกอบ

๓ สว่ น คือ

ก. หลักการและแนวคิด
๑) ผลการเรียนรู้หรือความสามารถด้านต่าง ๆ ของมนษุ ย์ ซงึ มีอยู่ ๕ ประเภท คือ
- ทักษะทางปญญา (Intellectual skill) ซงึ ประกอบด้วยการจําแนกแยกแยะ การสรา้ งความคิด
รวบยอด การสรา้ งกฎ การสรา้ งกระบวนการหรือกฎชนั สงู
- กลวิธใี นการเรียนรู้ (Cognitive strategy)
- ภาษาหรอื คําพูด (verbal information)
- ทักษะการเคลือนไหว (motor skills)
- และเจตคติ (attitude)
๒) กระบวนการเรยี นรูแ้ ละจดจําของมนษุ ย์ มนุษยม์ ีกระบวนการจัดกระทําขอ้ มูลในสมอง ซงึ มนษุ ยจ์ ะ
อาศยั ข้อมลู ทีสะสมไว้มาพิจารณาเลือกจัดกระทําสงิ ใดสงิ หนงึ และในขณะทีกระบวนการจัดกระทํา
ข้อมูลภายในสมองกําลังเกิดขนึ เหตกุ ารณภ์ ายนอกรา่ งกายมนษุ ย์มีอิทธิพลต่อการสง่ เสริมหรือการ
ยบั ยังการเรียนรู้ทีเกิดขนึ ภายในได้ ดังนนั ในการจัดการเรยี นการสอน กาเยจ่ ึงได้เสนอแนะว่าควรมกี าร
จัดสภาพการเรยี นการสอนให้เหมาะสมกับการเรียนรูแ้ ต่ละประเภท ซงึ มลี ักษณะเฉพาะทีแตกต่างกัน
และสง่ เสริมกระบวนการเรียนรู้ภายในสมอง โดยการจัดสภาพภายนอกใหเ้ อือต่อกระบวนการเรยี นรู้
ภายในของผูเ้ รยี น

ข. วัตถปุ ระสงค์
เพือชว่ ยให้ผูเ้ รยี นสามารถเรยี นรู้เนือหาสาระต่าง ๆ ได้อยา่ งดี รวดเรว็ และสามารถจดจําสงิ

ทีเรียนได้นาน

ค. กระบวนการเรยี นการสอน
กาเย่ ได้นําเอาแนวความคิดมาใช้ในการเรยี นการสอนโดยยดึ หลักการนําเสนอเนอื หาและจัด

กิจกรรม การเรียนรูจ้ ากการมปี ฏิสมั พันธ์ หลักการสอน ๙ ประการ ได้แก่ ๑) เรง่ เร้าความสนใจ (Gain
Attention) ๒) บอกวัตถุประสงค์ (Specify Objective) ๓) ทบทวนความรู้เดิม (Activate Prior
Knowledge) ๔) นาํ เสนอเนือหาใหม่ (Present New Information) ๕) ชีแนะแนวทางการเรียนรู้
(Guide Learning) ๖) กระตุ้นการตอบสนองบทเรยี น (Elicit Response) ๗) ให้ข้อมลู ยอ้ นกลับ
(Provide Feedback) ๘) ทดสอบ ความรู้ใหม่ (Assess Performance) และ ๙) สรุปและนาํ ไปใช้
(Review and Transfer) รายละเอียดแต่ละ ขนั ตอน มีดังนี

๖ บทที ๒ เอกสารทีเกียวขอ้ ง

๑. เรง่ เรา้ ความสนใจ(GainAttention)
กระต้นุ หรือเรา้ ให้ผเู้ รียนเกิดความสนใจกับบทเรยี นและเนือหาทีจะเรียนการเรา้ ความสนใจผเู้ รียนนี
อาจทําได้โดย การจัดสภาพแวดล้อมใหด้ ึงดูดความสนใจ เชน่ การใชภ้ าพกราฟก ภาพเคลือนไหว และ/
หรอื การใชเ้ สียงประกอบบทเรยี นในสว่ นบทนํา

๒. บอกวัตถปุ ระสงค์(SpecifyObjective)
การบอกใหผ้ เู้ รียนทราบถึงจุดประสงค์ของบทเรยี นนมี คี วามสําคัญเปนอยา่ งยงิ โดยเฉพาะการเรียน
การสอนบนเว็บทีผู้เรียนสามารถควบคุมการเรียนของตนเองได้โดย การเลือกศึกษาเนอื หาทีต้องการ
ศึกษาได้เอง ดังนนั การทีผู้เรียนได้ทราบถึงจุดประสงค์ของบทเรยี นล่วงหนา้ ทําใหผ้ ู้เรียนสามารถ
มงุ่ ความสนใจไปทีเนอื หาบทเรยี นทีเกียวขอ้ ง อีกทังยงั สามารถเลือกศกึ ษาเนือหาเฉพาะทีตนยงั ขาด
ความเขา้ ใจทีจะชว่ ยทําให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถตรงตามจุดประสงค์ของบทเรยี นทีได้กําหนดไว้

๓. ทบทวนความรูเ้ ดิม (Activate Prior Knowledge)
การทบทวนความรู้เดิมชว่ ยกระตุ้นใหผ้ เู้ รียนสามารถเรียนรู้เนือหาใหมไ่ ด้รวดเร็วยงิ ขนึ รูปแบบ

การทบทวนความรูเ้ ดิมในบทเรียนบนเว็บทําได้หลายวิธี เชน่ กิจกรรมการถาม-ตอบคําถาม หรือการ
แบง่ กล่มุ ใหผ้ ้เู รยี นอภิปรายหรอื สรุปเนือหาทีได้เคยเรยี นมาแล้ว เปนต้น

๔. นําเสนอเนือหาใหม(่ PresentNewInformation)
การนาํ เสนอบทเรียนบนเว็บสามารถทําได้หลายรูปแบบด้วยกัน คือ การนาํ เสนอด้วยข้อความ

รูปภาพ เสียง หรอื แมก้ ระทังวีดิทัศน์ อยา่ งไรก็ตามสงิ สําคัญทีผูส้ อนควรให้ความสําคัญก็คือผเู้ รยี น
ผ้สู อนควรพิจารณาลักษณะของผูเ้ รยี นเปนสําคัญเพือให้การนาํ เสนอบทเรียนเหมาะสมกับผเู้ รียนมาก
ทีสดุ

๕. ชแี นะแนวทางการเรยี นรู้ (Guide Learning)
การชีแนวทางการเรยี นรู้ หมายถึง การชีแนะให้ผเู้ รียนสามารถนําความรู้ทีได้เรยี นใหม่ ผสมผสาน

กับความรูเ้ ก่าทีเคยได้เรียนไปแล้ว เพือใหผ้ ูเ้ รียนเกิดการเรียนรูท้ ีรวดเรว็ และมคี วามแมน่ ยาํ มากยิงขนึ

๖. กระต้นุ การตอบสนองบทเรยี น (Elicit Response)
นกั การศกึ ษาต่างทราบดีว่าการเรียนรู้เกิดขนึ จากการทีผ้เู รยี นได้มโี อกาสมสี ว่ นรว่ มใน

กระบวนการเรยี นการสอนโดยตรง ดังนนั ในการจัดการเรยี นการสอนบนเว็บจึงควรเปดโอกาสให้
ผเู้ รยี นมสี ว่ นรว่ มในกิจกรรมการเรียน ซงึ อาจทําได้โดยการจัดกิจกรรมการสนทนาออนไลนร์ ูปแบบ
Synchronous หรือ การแลกเปลียนความคิดเหน็ ผา่ นเว็บบอรด์ ในรูปแบบ Asynchronous เปนต้น

๗. ใหข้ อ้ มลู ยอ้ นกลับ(ProvideFeedback)
ลักษณะเด่นประการหนงึ ของการเรียนการสอนบนเว็บก็คือการทีผู้สอนสามารถติดต่อสือสารกับ

ผูเ้ รียนได้โดยตรงอยา่ งใกล้ชดิ เนืองจากบทบาทของผูส้ อนนนั เปลียนจากการเปนผู้ถ่ายทอดความรูแ้ ต่
เพียงผู้เดียวมาเปนผู้ให้คําแนะนาํ และชว่ ยกํากับการเรยี นของผู้เรียนรายบุคคล และด้วยความสามารถ
ของอินเทอร์เนต็ ทีทําให้ผู้เรยี นและผสู้ อนสามารถติดต่อกันได้ตลอดเวลา ทําใหผ้ ู้สอนสามารถติดตาม
ความก้าวหนา้ และสามารถใหผ้ ลยอ้ นกลับแก่ผเู้ รียนแต่ละคนได้ด้วยความสะดวก

บทที ๒ เอกสารทีเกียวขอ้ ง ๗

๘. ทดสอบความรูใ้ หม(่ AssessPerformance)
การทดสอบความรูค้ วามสามารถผเู้ รยี นเปนขนั ตอนทีสําคัญอีกขนั ตอนหนึง เพราะทําใหท้ ัง

ผเู้ รียนและผ้สู อนได้ทราบถึงระดับความรูค้ วามเข้าใจทีผเู้ รียนมตี ่อเนือหาในบทเรยี นนัน ๆ การทดสอบ
ความรู้ในบทเรียนบนเว็บสามารถทําได้หลายรูปแบบ ไมว่ ่าจะเปนขอ้ สอบแบบปรนัยหรืออัตนัย
การจัดทํากิจกรรม การอภิปรายกล่มุ ใหญห่ รอื กลุ่มยอ่ ยเปนต้น ซงึ การทดสอบนีผู้เรยี นสามารถทําการ
ทดสอบบนเว็บผา่ นระบบเครอื ขา่ ยได้

๙. สรุปและนําไปใช้(ReviewandTransfer)
การสรุปและนําไปใช้ จัดว่าเปนสว่ นสําคัญในขนั ตอนสดุ ท้ายทีบทเรยี นจะต้องสรุปมโนคติของ เนือหา
เฉพาะประเด็นสาํ คัญ ๆ รวมทังข้อเสนอแนะต่าง ๆ เพือเปดโอกาสให้ผูเ้ รยี นได้มีโอกาสทบทวน ความรู้
ของตนเองหลังจากศกึ ษาเนือหาผา่ นมาแล้ว ในขณะเดียวกันบทเรยี นต้องชีแนะเนอื หาทีเกียวข้องหรือ
ใหข้ อ้ มูลอ้างอิงเพิมเติม เพอื แนะแนวทางใหผ้ ู้เรยี นได้ศึกษาต่อในบทเรียนถัดไปหรอื นาํ ไปประยุกต์ใช้
กับงานอืนต่อไป

๘ บทที ๒ เอกสารทีเกียวขอ้ ง

แบบการเรยี นรูข้ องกาเย่

กาเย่ (Gagne) ได้เสนอหลักทีสําคัญเกียวกับการเรยี นรูว้ ่า ไมม่ ที ฤษฎีหนงึ หรอื ทฤษฎีใดสามารถ

อธิบายการเรียนรู้ของบุคคลได้สมบูรณ์ ดังนนั กาเยจ่ ึงได้นาํ ทฤษฎีการเรียนรู้แบบสงิ เร้าและการ

ตอบสนอง (S-R Theory) กับทฤษฎีความรู้ (Cognitive Field Theory) มาผสมผสานกันในลักษณะ

ของการจัดลําดับการเรียนรูด้ ังนี

๑. การเรียนรู้แบบสัญญาณ (Signal Learning) เปนการเรยี นรู้แบบการวางเงือนไข เกิดจากความ

ใกล้ชิดของสงิ เร้าและการกระทําซาผูเ้ รยี นไมส่ ามารถควบคุมพฤติกรรมของตนเอง

๒. การเรยี นรู้แบบการตอบสนอง (S-R Learning) คือการเรยี นรู้ทีผู้เรียนสามารถควบคุมพฤติกรรม

นันได้การตอบสนองเปนผลจากการเสริมแรงกับโอกาสการกระทําซา หรอื ฝกฝน

๓. การเรียนรู้แบบลกู โซ่ (Chaining Learning) คือการเรยี นรูอ้ ันเนอื งมาจากการเชอื มโยงสงิ เรา้ กับ

การตอบสนองติดต่อกันเปนกิจกรรมต่อเนืองโดยเปนพฤติกรรมทีเกียวกับการเคลือนไหว เชน่

การขับรถ การใช้เครืองมอื

๔. การเรียนรู้แบบภาษาสัมพันธ์ (Verbol Association Learning) มีลักษณะเชน่ เดียวกับการเรยี น

รูแ้ บบลกู โซ่ หากแต่ใช้ภาษา หรอื สญั ญลักษณ์แทน

๕. การเรียนรู้แบบการจําแนก (Discrimination Learning) ได้แก่การเรียนรูท้ ีผู้เรยี นสามารถ

มองเหน็ ความแตกต่าง สามารถเลือกตอบสนองได้

๖. การเรยี นรู้มโนทัศน์ (Concept Learning) ได้แก่การเรียนรู้อันเนืองมาจากความสามารถในการ

ตอบสนองสิงต่าง ๆ ในลักษณะทีเปนสว่ นรวมของสงิ นนั เชน่ วงกลมประกอบด้วยมโนทัศนย์ อ่ ยที

เกียวกับ สว่ นโค้ง ระยะทาง ศนู ย์กลาง เปนต้น

๗. การเรยี นรูก้ ฏ (Principle Learning) เกิดจากความสามารถเชอื มโยงมโนทัศน์ เขา้ ด้วยกัน

สามารถนาํ ไปตังเปนกฎเกณฑ์ได้

๘. การเรยี นรู้แบบปญหา (Problem Solving) ได้แก่ การเรยี นรู้ในระดับที ผเู้ รยี นสามารถรวมกฎ

เกณฑ์ รู้จักการแสวงหาความรู้ รูจ้ ักสรา้ งสรรค์ นําความรู้ไปแก้ปญหาในสถานการณ์ต่างๆ ได้จากลําดับ

การเรยี นรู้นแี สดงให้เหน็ ว่า พฤติกรรมการเรียนรูแ้ บบต้นๆ จะเปนพืนฐานของการเรียนรู้ระดับสูง

การประยุกต์ใช้ทฤษฎกี ารเรยี นรู้
ทฤษฎีการเรียนรู้ต่าง ๆ สามารถนําไปประยุกต์ใชเ้ ปนหลักในการจัดการเรียนการสอนได้ใน

ลักษณะต่างๆ เชน่ การจัดสภาพทีเหมาะสมสําหรบั การเรียนการสอน การจูงใจ การรับรู้ การเสริมแรง
การถ่ายโยงการเรยี นรู้ ฯลฯ

การจัดสภาพทีเอือต่อการเรยี นรู้ การจัดการเรียนการสอน ทีสอดคล้องกับทฤษฎีการเรียนรู้
เพอื เกิดประสิทธิภาพสูงสุดนนั จะต้องคํานึงถึงหลักการทีสําคัญอยู่ ๔ ประการคือ

๑. ใหผ้ เู้ รียนมสี ว่ นรว่ มในการเรยี นอยา่ งกระฉบั กระเฉง เชน่ การให้เรียนด้วยการลงมือปฏิบัติ
ประกอบกิจกรรม และเสาะแสวงหาความรู้เอง ไมเ่ พยี งแต่จะทําใหผ้ ู้เรยี นมคี วามสนใจสงู ขนึ เท่านนั
แต่ยังทําให้ผเู้ รียนต้องตังใจสังเกตและติดตามด้วยการสงั เกต คิด และใครค่ รวญตาม ซงึ จะมีผลต่อการ
เพิมพูนความรู้

๒. ให้ทราบผลยอ้ นกลับทันที เมือใหผ้ ้เู รยี นลงมือปฏิบัติหรอื ตัดสนิ ใจทําอะไรลงไป ก็จะมีผล
สะท้อนกลับใหท้ ราบว่านกั เรยี นตัดสนิ ใจถกู หรอื ผิด โดยทันท่วงที

๓. ใหไ้ ด้ประสบการณแ์ หง่ ความสําเรจ็ โดยใช้การเสริมแรง เมือผู้เรียนแสดงพฤติกรรมทีพึง
ประสงค์หรอื ถูกต้อง ก็จะมรี างวัลให้ เพอื ให้เกิดความภาคภมู ใิ จ และแสดงพฤติกรรมนนั อีก

๔. การให้เรียนไปทีละน้อยตามลําดับขนั ต้องใหผ้ เู้ รยี นต้องเรยี นทีละนอ้ ยตามลําดับขนั ทีพอ
เหมาะกับความสนใจและความสามารถของผู้เรยี นโดยคํานงึ ถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลเปนสาํ คัญ
จะทําให้ประสบความสาํ เรจ็ ในการเรียน และเกิดการเรยี นรูท้ ีมนั คงถาวรขนึ

บทที ๒ เอกสารทีเกียวขอ้ ง ๙

ทฤษฎพี ฒั นาการทางสติปญญาของกาเย่
แม้กาเย่ จะมิใชน่ ักจิตวิทยากล่มุ พุทธนิ ิยมโดยตรง แต่ผลงานของเขาสว่ นใหญไ่ ด้เน้นใหเ้ ห็นถึง

ความเชอื และแนวคิดของกลุ่มพุทธินยิ ม กาเยใ่ ชโ้ มเดลการเรยี นรูส้ ะสมเปนตัวอธบิ ายความเจรญิ ทาง
สติปญญาและพฒั นาการของความสามารถใหมๆ่ ทีมีผลมาจากการเรยี นรู้

จากทัศนะของกาเย่ เด็กพฒั นาเนอื งจากว่า เขาได้เรียนรูก้ ฎเกณฑ์ทีซับซ้อนขึนเรอื ยๆ พฤติกรรมที
อาศยั กฎทีซับซ้อนเกิดขึนเพราะเด็กได้มกี ฎง่ายๆ ทีจําเปนมาก่อน ในระยะเรมิ แรกเด็กจะได้รับนสิ ยั
ง่าย ๆ ทีชว่ ยทําหน้าทีเปนจุดเรมิ ต้น เพอื ให้ได้มาซงึ กลไกพืนฐาน และการตอบสนองทางคําพูด ต่อมาก็
จะเปนการจําแนกความคิดรวบยอดเปนกฎง่ายๆ และในทีสุดก็จะเปนกฎทีซับซ้อน

การพัฒนาทางสติปญญา จึงได้แก่การสรา้ งความสามารถในการเรยี นรูส้ งิ ทีซับซอ้ นเพิมขนึ เรอื ยๆ
ระยะหรือขันของการพฒั นาการดูเหมอื นว่าจะสมั พนั ธก์ ับอายุของเด็ก เนืองจากการเรยี นรู้ต้องใชเ้ วลา
มขี ้อจํากัดทางสังคมเปนตัวกําหนด หรอื กฎเกณฑ์เกียวกับอัตราความเร็วในการใหค้ วามรู้และขา่ วสาร
แก่เด็ก สําหรับกาเยแ่ ล้ว ความสามารถในการเรียนรู้อาจต้องรอการฝกฝนทีเหมาะสม

การถ่ายทอดในแนวตังและแนวนอน
กาเยไ่ ด้แบง่ วิธกี ารทีประสบการณเ์ ดิมถ่ายโอนผลของมันไปสพู่ ฤติกรรมในอนาคตเปน ๒ วิธี
๑. การถ่ายโอนในแนวนอน ซึงได้แก่ ปฏิสมั พนั ธ์ของเนอื หาทีเรยี นรูจ้ ากสาขาหนงึ กับวิธีการใหมๆ่ ทีใช้
กับสาระในสาขาวิชาทีสมั พันธ์กัน ยกตัวอยา่ งเชน่ นกั ปรัชญาทีคุ้นเคยกับการนาํ ไปสูค่ วามไมม่ เี หตุผล
(Reduction to Absurdity) ในลักษณะทีเปนสือในการพิสจู นข์ ้อความต่างๆ (ว่าไมถ่ ูกต้อง) สามารถทีจะ
นําความรูน้ ีไปใชก้ ับการพสิ จู น์ทางคณติ ศาสตรท์ ีเขาเผชิญได้
๒. การถ่ายโอนในแนวตัง ได้แก่ การเรยี นความรูบ้ างอยา่ งมาก่อนทีมคี วามจําเปนต่อการเรยี นความรู้
อืนๆ ในสาขาวิชาเดียวกัน ยกตัวอยา่ งเชน่ การจะเรยี นการคูณโดยไมม่ คี วามรู้ในเรอื งการบวกมาก่อนจะ
ยากมาก
กาเย่ มคี วามเชือว่าความสามารถในการเรยี นรู้ของมนษุ ย์มี ๕ ด้าน คือ
๑) ลักษณะด้านสติปญญา (Intellectual Skills) ประกอบด้วยทักษะยอ่ ย ๔ ประการคือ

๑. การจําแนกแยกแยะ (Discriminaitons) หมายถึง ความสามารถในการแยกแยะคุณสมบตั ิทาง
กายภาพของวัตถตุ ่างๆทีรับรูเ้ ขา้ มาว่าเหมอื นหรือไมเ่ หมือน

๒. การสรา้ งความคิดรวบยอด (Concepts) หมายถึง ความสามารถในการจัดกล่มุ วัตถหุ รอื สิงต่างๆ
โดยระบุคุณสมบัติรว่ มกันของวัตถหุ รือสงิ นันๆ แบง่ เปน ๒ ระดับยอ่ ยๆ คือ

o ความคิดรวบยอดระดับรูปธรรม (concrete Concerpts)
o ความคิดรวบยอดระดับนามธรรมทีกําหนดขนึ ในสงั คมหรือวัฒนธรรมต่างๆ (Defined Concepts)
๓. การสร้างกฎ (Rules) หมายถึง ความสามารถในการนําความคิดรวบยอดต่างๆ มารวมเปนกลุ่ม
ตังเปนกฎเกณฑ์ขึน เพอื ใหส้ ามารถสรุปอ้างอิง และตอบสนองต่อสิงเร้าต่างๆ ได้อยา่ งถูกต้อง
๔. การสรา้ งกระบวนการหรือกฎชนั สงู (Procedures of Higher Order Rules) หมายถึง
ความสามารถในการนํากฎหลายๆ ข้อทีสัมพันธ์กันมาประมวลเขา้ ด้วยกัน ซงึ นาํ ไปสคู่ วามเข้าใจที
ซบั ซอ้ นยิงขนึ
๒) กลยุทธท์ างความคิด (Cognitive Strategies) หมายถึง กระบวนการทีมนษุ ย์ใชใ้ นการชว่ ยใหต้ นได้รับ
ขอ้ มลู และจัดกระทํากับข้อมลู จนเกิดการเรียนรูต้ ามทีตนต้องการ ประกอบด้วย
- กลวิธเี กียวกับการใสใ่ จ (Attending)
- กลวิธีเกียวกับการทําความเขา้ ใจความคิดรวบยอด (Encoding)
- กลวิธีเกียวกับการระลึกถึงสงิ ทีอยูใ่ นความทรงจํา (Retrieval)
- กลวิธีเกียวกับการแก้ปญหา (Problem Solving)
- กลวิธีเกียวกับการคิด (Thinking)

๑๐ บทที ๒ เอกสารทีเกียวขอ้ ง

๓) ขา่ วสารจากคําพูด (Verbal Information)
- คําพูดทีเปนชือของสงิ ต่างๆ (Names or Labels)
- คําพูดทีเปนข้อความ/ขอ้ เท็จจริง (Facts)
๔) ทักษะทางกลไก (Motor Skills)
๕) เจตคติ (Attitudes)

กาเย่ มคี วามเชือต่อไปอีกว่า การเรียนรู้และความจําทีเกิดขึนในโครงสร้างของสมองมนุษย์
เปรยี บเทียบได้หรอื อธบิ ายได้โดยทฤษฎีการจัดระบบข้อมลู (Information-Processing Theories)
กล่าวคือ เมือเราได้รับขอ้ มลู จากภายนอก สมองของเราก็จะรบั รู้และบนั ทึกเอาไว้ บางเรอื งก็เก็บเอาไว้
ในความทรงจําระยะสนั ถ้าเรืองนนั ๆ มีความสําคัญสมองก็จะบันทึกไว้ในความทรงจําระยะยาว เปรียบ
เสมอื นสว่ นทีเก็บบันทึกขอ้ มูลของเครืองสมองกล เมือถึงคราวทีจะใช้ข้อมูลทีบนั ทึกไว้นี สมองก็จะสง่
ข้อมลู ออกมาในรูปของความจํา หรอื การระลึกได้ แล้วนําขอ้ มลู นนั ๆ ไปใช้ตามทีต้องการ

การนําไปใช้ในการจัดการศกึ ษา / การสอน
ความคิดของกาเยใ่ นเรอื งนมี แี นวปฏิบัติโดยตรงต่อการศึกษาในโรงเรยี นหลายประการ การศกึ ษา

ในโรงเรียนไมเ่ พยี งแต่จะสามารถทําให้เกิดผลด้านอัตราการพฒั นาสติปญญาเท่านนั แต่จะต้องแสดง
บทบาททีสรา้ งอิทธพิ ลในเรืองนอี ยา่ งชัดเจน หมายความว่า เด็กๆ จะต้องพฒั นาให้เร็วทีสดุ ทันทีทีเรา
สามารถสอนเขาได้

จากรูปแบบการเรียนรู้สะสมของกาเย่ ความพรอ้ มในการเรยี นของนกั เรียนมิได้ขนึ อยูก่ ับ
องค์ประกอบภายในทางชีววิทยาเท่านนั แต่ขึนอยูก่ ับการจัดให้งานด้านทักษะมคี วามเหมาะสม และ
นสิ ัยทีจําเปนสําหรับการเรยี นทักษะใหม่ ๆ ทีซบั ซ้อนมากขนึ ตามทีเราต้องการจะพฒั นา นอกจากนีถ้า
เด็กไมส่ ามารถจะเรยี นรูท้ ักษะเฉพาะบางอยา่ ง เชน่ การอ่าน ก็จะมีการกําหนดใหค้ รูตรวจสอบขันตอน
ยอ้ นหลัง เพอื หาสิงทีจําเปนต้องเรียนรู้มาก่อนการเรียนรูส้ งิ เหล่านนั แล้วเรมิ สอนอ่านใหม่

วิธขี องกาเยอ่ าจจะขดั กับแบบรูปของเพียเจต์ ซงึ ครูมหี นา้ ทีคอยดูว่าเด็กมีความสามารถทางด้าน
ใดเมือไร แล้วเตรียมการใหเ้ ด็กได้เรยี นรู้และมปี ระสบการณ์ในเรอื งนนั ๆ เพอื ใหส้ อดคล้องกับความ
สามารถของเขาในแต่ละระยะ และนาํ ไปสพู่ ฒั นาการทีสูงขนึ ในทางการใช้ความคิดและสติปญญา
ตามนัยของกาเยค่ รูสามารถสอนการคงทีของปริมาณ (Conservation) หรอื การอ่าน หรอื นามธรรมที
ต้องใช้ความคิด โดยการกําหนดลําดับขนั ตอนของประสบการณก์ ารเรยี นเรยี นรู้ทีจะนําไปสูพ่ ัฒนาการ
ทางสติปญญาของเด็ก

บทที ๒ เอกสารทีเกียวขอ้ ง ๑๑

๒.๒ การเรยี นรูแ้ บบแบง่ ผลสมั ฤทธิ (Student Team Achievement Division : STAD)

การจัดการเรียนรูแ้ บบแบง่ ผลสมั ฤทธิ (Student Team Achievement Division : STAD)
เปนการเรยี นแบบรว่ มมือทีถกู พฒั นาขนึ โดย Robert Slavin และคณะจากมหาวิทยาลัย John
Hopkins ซงึ สามารถใชไ้ ด้กับทุกเนอื หาวิชาทีมกี ารกําหนดวัตถุประสงค์ไว้อยา่ งชดั เจน และมคี ําตอบที
ถูกต้องเพียงคําตอบเดียว และใช้ได้กับนักเรียนตังแต่เกรด ๒ ขนึ ไป จนถึงระดับจนมหาวิทยาลัย โดยมี
วัตถปุ ระสงค์เพอื สง่ เสริมใหผ้ ้เู รียนศกึ ษาค้นคว้าหาความรู้ด้วยตนเอง และเพือสง่ เสริมให้ผู้เรยี นฝก
ทักษะกระบวนการทางสงั คม โดยมีหวั ใจสาํ คัญของการเรียนรู้ คือความรว่ มมอื กันระหว่างนักเรียนทีมี
ผลสมั ฤทธทิ างการเรยี นดี ปานกลาง และอ่อน ในการเรยี นรูร้ ว่ มกันอยา่ งมีประสิทธิภาพ

รูปแบบของการจัดการเรียนรู้แบบแบง่ ผลสมั ฤทธนิ ี จะเรมิ จากการกําหนดให้นักเรยี นทีมคี วาม
สามารถต่างกัน ได้จับกลุ่มทํางานรว่ มกัน กลุ่มละ ๔ คน โดยภายในกลุ่มนนั จะประกอบด้วย นกั เรียนที
มคี วามสามารถทางการเรียนสูง ๑ คน ปานกลาง ๒ คน และตา ๑ คน และนกั เรียนแต่ละคน จะมฐี าน
คะแนน ( Base score ) ของตัวเอง โดยครูผ้สู อนจะสอนบทเรยี นให้ทังชันเรยี น และกําหนดใหน้ กั เรียน
แต่ละกล่มุ รว่ มกันทํางานกล่มุ ตามทีครูผู้สอนกําหนด ซงึ ภายในกลุ่มจะมีการชว่ ยเหลือ อภิปรายซักถาม
และตรวจสอบซงึ กันและกัน จากนนั จึงทําการทดสอบเปนรายบุคคลแล้วนําคะแนนของแต่ละคนมา
รวมกันเปนคะแนนกล่มุ แล้วใหร้ างวัลกับกลุ่มทีมีคะแนนเฉลียถึงเกณฑ์ทีกําหนด

สําหรับขนั ตอนของการจัดการเรยี นรู้แบบแบง่ ผลสมั ฤทธนิ ัน มีขนั ตอนในการจัดการเรยี นรูด้ ัง
ต่อไปนี

ขันที ๑ ขนั เตรยี มเนือหา

สําหรับขันแรกครูผู้สอนจะต้องจัดเตรยี มเนอื หาสาระหรือเรืองราวทีจะสอน โดยจะต้องเปนเนอื หา
ทีเหมาะสมกับการเรยี นรูแ้ บบกลุ่ม นอกจากนยี ังต้องจัดเตรียมแบบทดสอบยอ่ ยสาํ หรับการทดสอบ
นักเรียนเปนรายบุคคล เพือใช้เปนผลคะแนนในการพิจารณาทังรายบุคคลและรายกลุ่มอีกด้วย

ขันที ๒ ขันจัดกล่มุ นักเรยี น

ขันนคี รูผู้สอนจะต้องจัดกล่มุ นกั เรียน โดยแบง่ ออกเปนกล่มุ ละ ๔ คน โดยแบง่ เปนนกั เรยี นทีมี
ความสามารถทางการเรยี นดี ปานกลาง และ ตา ในอัตรา ๑:๒:๑ โดยดูจากผลสมั ฤทธทิ างการเรยี น
ของนักเรยี นในชันเรยี นเปนหลัก ซงึ เมือใหน้ ักเรยี นจับกล่มุ แล้ว ครูผู้สอนจะต้องวางกติกาและกําชบั ให้
นกั เรยี นต้องรับผดิ ชอบและชว่ ยเหลือกันภายในกลุ่ม ซงึ จะมผี ลต่อการพิจารณาคะแนนของกลุ่ม

ขันที ๓ ขันการเรยี นรู้

ขันนจี ะเปนขนั ของการดําเนินการจัดการเรียนรู้ โดยครูผู้สอนจะแนะวิธีการเรยี นรูใ้ ห้กับนักเรยี น
ซึงนกั เรียนจะต้องชว่ ยเหลือเพือนในกล่มุ โดยแบง่ ภาระหน้าทีซงึ กันและกัน เพือให้กิจกรรมกล่มุ ดําเนิน
ไปได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ

๑๒ บทที ๒ เอกสารทีเกียวขอ้ ง

การเรยี นรูแ้ บบแบง่ ผลสมั ฤทธิ (Student Team Achievement Division : STAD)

ขันที ๔ ขันทดสอบยอ่ ย

หลังจากเรยี นผา่ นพ้นไปแล้วนักเรยี นจะต้องทําแบบทดสอบเปนรายบุคคล และไมอ่ นุญาตให้ชว่ ย
เหลือกัน ซึงเมือทดสอบเสร็จสนิ แล้ว ครูผู้สอนจะต้องจัดทําคะแนนการพัฒนา ทังรายสมาชกิ และราย
กล่มุ ด้วย

ขันที ๕ การรบั รองผลงานและเผยแพรช่ ือเสยี งของกล่มุ

คือ ขันของการนาํ คะแนนการพัฒนาของกลุ่มไปเทียบเกณฑ์ เพือหาระดับคณุ ภาพ และเปนการ
ประกาศผลงานของกลุ่มทีได้คะแนนสูง เพือรบั รองและยกยอ่ งชมเชยในรูปแบบต่าง ๆ

จากขันตอนทังหมดนี จะเห็นได้ว่าหลักการพืนฐานของการเรยี นรูร้ ูปแบบนี คือ การใหโ้ อกาสที
เท่าเทียมกันในการเรียนรูจ้ ากการทํากิจกรรมกลุ่มรว่ มกันรู้จักทํางานเปนกลุ่มและรับผดิ ชอบในงาน
ของตัวเอง เพราะถ้าคนใดคนหนงึ ภายในกล่มุ ไมร่ บั ผดิ ชอบ ก็อาจสง่ ผลกระทบต่อผลสัมฤทธโิ ดยรวม
ของกล่มุ ได้ และนอกจากนี การใหร้ างวัลสําหรับกลุ่มทีทําผลงานได้ดี ก็ยิงเปนการเสริมแรงใหน้ กั เรยี น
เรียนรู้ในรูปแบบกลุ่มได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพมากขนึ

สาํ หรับขอ้ ดีของการจัดการเรียนแบบแบง่ ผลสมั ฤทธนิ ี สว่ นหนงึ คือผเู้ รียนจะมีความเอาใจใสร่ ับผดิ
ชอบตนเองและภายในกล่มุ มากขนึ เพราะต้องทํางานรว่ มกับเพอื นสมาชิกคนอืน ๆ จึงต้องมีความ
เกรงใจและความรับผดิ ชอบ เพอื ไมใ่ ห้เกิดผลกระทบกับบุคคลอืน มคี วามตืนเต้นและสนกุ กับการเรยี น
รู้ นอกจากนียงั สง่ เสริมใหผ้ ูเ้ รียนทีมีความสามารถต่างกันได้รว่ มมือกันเรียนรูไ้ ด้อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
และเปนไปตามเกณฑ์คณุ ภาพทีได้ตังไว้ เปดโอกาสให้นกั เรยี นผลัดกันเปนผ้นู ําและผตู้ ามทีดี ซงึ เปน
สว่ นสําคัญในการฝกทักษะทางสงั คม

แต่อยา่ งไรก็ดี แมว้ ่าการเรยี นรู้รูปแบบนจี ะมขี อ้ ดีมากมาย แต่ก็มีขอ้ จํากัดทีต้องพจิ ารณา เพราะถ้า
นําไปใช้กับนักเรียนทีขาดความรบั ผิดชอบ การจัดกิจกรรมแบบกลุ่มก็จะไมป่ ระสบความสาํ เร็จ อีกทัง
รูปแบบการเรยี นรู้นี ยงั เปนรูปแบบการเรยี นรู้หนงึ ทีครูผู้สอนจะต้องใสใ่ จเปนพเิ ศษ และต้องใหง้ านกับ
นักเรยี นจํานวนมาก ซงึ อาจจะเพมิ ภาระใหน้ กั เรยี นได้

การจัดการเรียนรู้แบบแบง่ ผลสมั ฤทธนิ ัน เปนรูปแบบการเรยี นรู้รูปแบบหนึงทีนา่ สนใจ และ
สามารถประยุกต์ใช้ได้กับการเรยี นรูใ้ นหลากหลายวิชา และสามารถนําไปใช้ในชนั เรยี นได้ในหลาย ๆ
ระดับ ซงึ การใชก้ ิจกรรมกล่มุ มาออกแบบแนวการจัดการเรยี นรูน้ นั นบั ว่าเปนแนวทางอยา่ งหนงึ ของ
การจัดการเรียนรู้สมยั ใหมท่ ีจําเปนต้องให้นกั เรยี นได้มคี วามรว่ มมอื ระหว่างกัน ซงึ จะชว่ ยใหน้ กั เรียนมี
ทักษะความรว่ มมอื นเี พมิ ขนึ ซึงทักษะนีมีความจําเปนอยา่ งมากในการแขง่ ขันในศตวรรษนี ทําใหก้ าร
จัดการเรียนรูแ้ บบแบง่ ผลสมั ฤทธิ จึงนา่ จะเปนรูปแบบการเรียนรู้ทีเข้ากับยุคสมัยนไี ด้ดีทีเดียว

บทที ๒ เอกสารทีเกียวขอ้ ง ๑๓

๒.๓ บทความวิชาการคณะมนุษยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎ
สงขลา เรอื ง การใชร้ ูปแบบการสอน ADDIE Model เพือการปรบั ปรุงและพัฒนาการเรยี น
การสอนภาษาจนี ใหส้ อดคล้องกับศตวรรษที ๒๑

๑) บทความนี มวี ัตถปุ ระสงค์เพอื ศกึ ษารูปแบบการสอน ADDIE Model มาประยุกต์ใช้ในการ
ออกแบบการสอนออนไลน์

โดยใชว้ ิธกี ารออกแบบเอกสารประกอบการสอนใหเ้ ขา้ กับผู้เรยี น โดยใช้แอปพลิเคชันเขา้ มาชว่ ย
ออกแบบการสอน ให้ผู้เรยี นมีโลกทัศน์ทีกว้างขนึ ดังนนั การปรบั เปลียนวิธีการสอนและการสร้างเอกสาร
ประกอบการสอนทีเหมาะกับผเู้ รียนนนั นอกจากจะชว่ ยจูงใจผู้เรยี น ซงึ เปนสว่ นหนงึ ของการพัฒนาผู้
เรียนแล้วยงั สง่ เสริมทักษะความเปนผู้นําและการแก้ไขปญหาเฉพาะหนา้ สําหรับผ้สู อนอีกด้วย

แนวคิด ทฤษฎเี กยี วกับรูปแบบการสอน ADDIE (ADDIE Model) พจิ ิตรา ธงพานิช (๒๕๖๑)
ได้อธบิ ายและสรุปรูปแบบการสอน ADDIE ดังนี

ADDIE หรือ ADDIE Model เปนรูปแบบการสอนที ออกแบบขึนมา เพือใชใ้ นการออกแบบและ
พฒั นาระบบการเรยี นการสอน โดยอาศยั หลักของวิธีการระบบ (System Approach) ซงึ เปนทียอมรับกัน
โดยทัวไปว่าสามารถนาํ ไปใช้ออกแบบและพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ได้เปนอยา่ งดี ไมว่ ่าจะเปน CAI /
CBT, WBI / WBT หรอื e-Learning ก็ตาม เนอื งจากเปนขนั ตอนทีครอบคลมุ กระบวนการ ทังหมด และ
เปนระบบปด (Closed System) โดยพจิ ารณาจากผลลัพธใ์ นขนั ประเมินผลซงึ เปนขันสดุ ท้าย และนาํ
ข้อมลู ไปตรวจปรบั (Feedback) ขนั ตอนทีผา่ นมาทังหมด

การออกแบบการเรยี นการสอนตามรูปแบบแอดดี ( ADDIE model) ประกอบด้วยกิจกรรม ในการ
ดําเนนิ งาน ๕ กิจกรรม ได้แก่

การวิเคราะห์ (analyze)
การออกแบบ (design)
การพัฒนา (develop)
การนําไปใช้ (implement) และการประเมินผล (evaluate)
ซึงเมอื พิจารณาใหด้ ีแล้วมี ลักษณะคล้ายกระบวน การแก้ปญหาอยา่ งเปนระบบ เรมิ จากการวิเคราะห์
ปญหา (analyze) การนําเสนอ แนวทางการแก้ปญหา (design) การเตรียมการแก้ปญหา (develop) การ
ทดลองการแก้ปญหา (implement) และสุดท้ายประเมนิ แนวทาง การแก้ปญหาว่าประสบความสําเรจ็
หรือไม่ (evaluate) รูปแบบ ADDIE นี จึงเปนรูปแบบทีสามารถนาํ ไปประยุกต์ใช้ในการออกแบบการเรียน
การสอนในเรอื งต่าง ๆ ได้อยา่ งกว้างขวาง โดยเฉพาะมีผ้นู ยิ มนาํ ไปใช้ในการออกแบบสือ วัสดกุ ารเรยี น
การสอน เชน่ การออกแบบชุดการเรยี นการสอน การออกแบบบทเรียนแบบโปรแกรม เปนต้น ตลอดจน
นาํ ไปใช้ในการออกแบบการเรยี นการสอน คือ ระบบการศกึ ษาในชุมชนและการออกแบบการเรยี น
การสอน ในระดับหอ้ งเรยี น เพอื พัฒนาผลการเรยี นรูใ้ นด้านต่าง ๆ

๑๔ บทที ๒ เอกสารทีเกียวขอ้ ง

๒) ขอ้ ดี ADDIE Model
ทําให้ผสู้ อนสามารถสรา้ งสือทีหลากหลาย ใช้เทคโนโลยีเขา้ มาจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ทีเหมาะสม
กับสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคโควิด ๑๙ ซงึ ต้องจัดการเรยี นการสอนรูปแบบออนไลน์ การใช้
ทฤษฎี Addie model เพือการปรับปรุงและพฒั นาการเรยี นการสอนภาษาไทยใหส้ อดคล้องกับ
ศตวรรษที ๒๑ ทําให้ผู้เรยี นเกิดความกระตือรือร้น ความขยนั และความ พยายามในการเรียนภาษาจีน
มากกว่าเดิม เชน่ เขา้ เรยี นตรงต่อเวลา สง่ งานตามทีกําหนด มกี ารเตรียมตัวก่อนเรียน มคี วามพยายาม
ในการท่องศัพท์มากขนึ จึงทําให้ผู้เรียนมคี ะแนนเก็บระหว่างภาค คะแนนสอบกลางภาคและปลายภาค
เพิมมากขนึ เมอื สนิ สดุ ภาคการศกึ ษาผเู้ รียนจึงมผี ลการเรยี นทีนา่ พอใจมาก การเรียนภาษาไทยให้เกิด
ผลในระยะยาวนนั สามารถออกแบบกระบวนการเรยี นรูท้ ีหลากหลาย ซงึ ไมจ่ ําเปนต้องจํากัดอยูแ่ ค่ใน
ชนั เรยี น ครูผู้สอน ผูเ้ รยี น เอกสารประกอบการสอน กิจกรรมในการเรียนการสอน เปนสงิ ทีสมั พันธ์กัน
ผู้เรยี นสามารถปรบั ตนเองในด้านวิธีเรียน ผูเ้ รียนต้องรูจ้ ักปรบั ตัว ขวนขวาย ความรูจ้ ากนอกหอ้ งเรยี น
สว่ นด้านผ้สู อนปรบั ด้านวิธีการสอน นาํ ผู้เรียนออกไปเปดหเู ปดตา สรา้ งแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ทําใหม้ ี
ความสขุ ทังสองฝาย ผูเ้ รียนอยากเรียน ครูผสู้ อนก็อยากสอน

๓) ปรบั ประยุกต์ใชร้ ูปแบบการสอน ADDIE Model มาประยุกต์ใชใ้ นการออกแบบการสอน
ออนไลน์

เนืองจากปจจุบนั มกี ารแพรร่ ะบาดของโรคโควิด ๑๙ ซงึ สถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดยังคงมอี ยู่
อยา่ งต่อเนอื ง จนสง่ ผลกระทบให้ทกุ ภาคสว่ นทีต้องมีกิจกรรมรวมกลุ่มกันภายในสถานศึกษา ทําให้
โรงเรยี นหรอื สถานศึกษาไมส่ ามารถจัดการเรยี นการสอนในชนั เรยี นได้ บุคลากรทางการศกึ ษาจึงต้อง
ปรบั เปลียนรูปแบบการสอน จากทีเคยสอนในชนั เรียนก็เปลียนมาสอนสนรูปแบบการเรียนการสอน
แบบออนไลน์ การใช้สอื ออนไลนท์ ีหลากหลายและสรา้ งแรงจูงใจแก่ผูเ้ รยี นได้ควบค่ไู ปกับการเรียนรู้
ด้วยจึงเปนสงิ สําคัญ เพอื ให้นักเรยี นได้เรียนรู้อยา่ งเต็มทีทีสุด โดยการสรา้ งสือทีใช้ได้ทัง ๒ รูปแบบ คือ
การจัดการเรียนการสอนในชนั เรยี น และการจัดการเรยี นการสอนในรูปแบบออนไลน์ ดังนี

สอื ทใี ช้ในชนั เรยี น
ใบงาน
สไลด์ประกอบการสอน
อินเทอรเ์ น็ต
หนงั สอื เรียน

สอื ทใี ชใ้ นการเรยี นการสอนแบบออนไลน์
E-Book
สไลด์ประกอบการสอน
สือภาพนิงให้ความรู้
วิดีโออนิเมชนั
ขอ้ สอบ ในรูปแบบ Google form, Kahoot!, Blooket
แบบฝกหัดบนเว็บไซต์ Liveworksheets
อินเทอร์เนต็
MS Team
เว็บไซต์ โดยผา่ นโปรแกรม Google site
โปรแกรม spatial นําเสนอเนือหาแบบ Metaverse

บทที ๒ เอกสารทีเกียวขอ้ ง ๑๕

๒.๔ สอื และการประยุกต์ใชใ้ นการสอน

๒.๔.๑ การจัดทําสอื วิดโี อในรูปแบบ Animation โดยใชโ้ ปรแกรม Animaker

๑. ทําความรูจ้ ักกับ โปรแกรม Animaker
Animaker คือโปรแกรมสาํ หรบั การสรา้ งการต์ นู Animation หรอื Infographic Videos สาํ หรบั การ
ประชาสัมพันธ์การนําเสนองาน หรือการให้ความรูใ้ นเรืองต่าง ๆ ได้อยา่ งง่ายดาย โดยไมจ่ ําเปนต้องมี
ความรู้พนื ฐานในการทํางาน Animation ของโปรแกรม Adobe Flash หรือ Aftereffect ก็สามารถ
สร้าง Animation หรือ Infographic Videos ได้

๒.ขนั ตอนการสรา้ งวิดีโอ Animated Video โดย Animaker
เมอื Log in เขา้ ใชง้ านโปรแกรม Animaker เรยี บร้อยแล้ว จะปรากฏหนา้ ต่าง Create video และเลือก
รูปแบบการใชง้ านของคุณ เลือก All Templates เพือดู Templates

เมอื ปรากฏหนา้ ต่างดังภาพแล้วคลิกเลือก 2D

๑๖ บทที ๒ เอกสารทีเกียวขอ้ ง

สามารถดตู ัวอยา่ ง Template ทีต้องการได้โดยคลิกที Template ทีต้องการจะปรากฏปุม Review ทีมมุ
ซ้ายมอื ดังภาพ

จะปรากฏวิดีโอตัวอยา่ งของ Template นนั ๆ ดังภาพ

หากต้องการ Template แบบไหนคลิก Use เพือใช้งาน
๔. เมือเลือก Template แล้วจะเข้าหนา้ ต่างดังภาพ แนะนาํ การใชเ้ ครืองมอื
เครอื งมอื ที ๑ Asset Library สามารถเลือกตัวละคร ใสต่ ัวอักษร ใสภ่ าพพนื หลัง

บทที ๒ เอกสารทีเกียวขอ้ ง ๑๗

เครอื งมือที ๒ เปนพนื ทีการทํางานการสรา้ งวิดีโอของเราและอุปกรณก์ ารประกอบฉาก

เครอื งมือที ๓ icon สามารถสลับไปมาระหว่างภาพเคลือนไหววิดีโอและไทมไ์ ลนข์ องกล้องได้

เครอื งมือที ๔ Timeline สามารถปรับตําแหนง่ ของตัวละคร ระยะเวลาของวิดีโอและการเพมิ เสยี ง
พากยอ์ ืน ๆ
เครอื งมือที ๕ Preview video ดูตัวอยา่ งวิดีโอทีเราสรา้ ง
เครืองมอื ที ๖ Scene Controls เพมิ หรอื ลบฉากละสามารถเปลียนฉากได้ทีนี

๑๘ บทที ๒ เอกสารทีเกียวขอ้ ง

เครอื งมอื ที ๗ Switch mode to lite เปนเครืองมอื ทีใชส้ ลับระหว่างโหมดเต็มและโหมดไลต์
เครอื งมือที ๘ Publish ปุมเผยแพรแ่ ละดาวนโ์ หลดวิดิโอ
เครอื งมือที ๙ Share สามารถแชรว์ ิดีโอทํางานกับเพอื นรว่ มทีมได้
เครอื งมือที ๑๐ Tour icon สามารถดูตัวเลือกอืน ๆ ในการสํารวจแอปโดยใชท้ ัวร์ชม

บทที ๒ เอกสารทีเกียวขอ้ ง ๑๙

๕. เมือศึกษาเครอื งมอื เสร็จแล้วทํางานสรา้ งผลงานเปนอันเสรจ็

๓) วิธีการนํางานออกไปใช้
๑. คลิกทีปุม Publish

คลิกที Download Video

กดที Download และเมือดาวนโ์ หลดเสรจ็ สนิ จะขนึ หน้าตามรูปด้านขวา

๒๐ บทที ๒ เอกสารทีเกียวขอ้ ง

๔) ขอ้ ดขี องโปรแกรม Animaker
Animaker เปนโปรแกรมสําหรบั การชว่ ยสร้างการ์ตูนเอนิเมชนั หรอื กราฟกวิดีโอ เพือเนน้ ในเรอื ง

ของการประชาสมั พนั ธ์ การนําเสนองาน หรือการใหค้ วามรู้ในด้านต่าง ๆ แบบง่ายดาย ไมย่ ุง่ ยาก เปน
หลัก การใช้งานโปรแกรมนถี ือว่าเปนโปรแกรมทีใชง้ านค่อนขา้ งง่าย ผ้ทู ีจะทดลองใชง้ านไมจ่ ําเปนต้อง
มคี วามรู้พืนฐานเกียวกับเอนิเมชัน โปรแกรมจําพวก Adobe Flash, Aftereffect มาก่อนก็สามารถ
สร้างงานออกมาได้อยา่ งสวยสดงดงาม ได้เพยี งแค่มีความใสใ่ จในการจะลองศกึ ษาก็สามารถทําได้แบบ
ไมย่ ากเย็น ทีสําคัญ Animaker ยังชว่ ยให้คณุ สามารถบันทึกงานของตัวเองทังหมดเอาไว้บนเซริ ฟ์ เวอร์
ทีนา่ เชอื ถือในระบบของคลาวด์ได้อีกต่างหาก ซงึ การดาวน์โหลดหรอื ใช้งาน Animaker จําเปนต้องมี
การลงทะเบยี นสําหรับการใชง้ านก่อนเปนลําดับแรกจากนนั เราจึงจะสามารถสร้างวีดีโอออกมาได้ตาม
ความต้องการ เปนโปรแกรมทีสามารถสร้างงานเอนิเมชนั ได้ทังแบบ 2D, 3D, 5D, Handcraft,
Infographic หรือแมแ้ ต่ Typographic ซงึ เปนกราฟกแบบตัวอักษรก็ได้ด้วยอีกเชน่ เดียวกัน เปน
โปรแกรมทีสามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้แบบไมต่ ้องเสยี เงินค่าใชจ้ ่ายใด ๆ ทังสนิ หรอื บางคนอยาก
จะใช้รูปแบบเสยี เงินเพอื ใหไ้ ด้สงิ พิเศษ ๆ ทีติดมากับโปรแกรมก็ไมใ่ ชป่ ญหาเลยแมแ้ ต่นอ้ ย จัดว่าเปน
โปรแกรมด้านงานเอนเิ มชันอีกโปรแกรมทีนา่ สนใจไมน่ อ้ ยสําหรบั ทังมือใหมแ่ ละมือเก่าทีอยากลอง
เปลียนอะไรใหม่ ๆ ดูบา้ งการเลือกใชง้ าน Animaker ก็ถือว่าเปนอีกตัวเลือกทีดีทีจะชว่ ยใหง้ าน
เอนเิ มชนั ของทกุ ๆ คนออกมาสมบูรณแ์ บบทีสุด

๕) การปรบั ประยุกต์ใช้โปรแกรม Animaker
มีการปรับปรบั ประยุกต์ใชโ้ ปรแกรม Animaker โดยศกึ ษาจาก Youtube เพมิ เติม โดยการพิมพ์ค้นหา
ใน Youtube ว่า การสรา้ งวิดีโออนเิ มชนั ด้วยโปรแกรม Animaker ซงึ จากการศึกษาเพมิ เติมนนั ทําให้
เกิดความรู้ ความเข้าใจในการใช้โปรแกรมเปนอยา่ งมาก และสามารถปรบั ประยุกต์ใชโ้ ปรแกรมโดย
การคัดเลือกสงิ ทีนา่ สนใจภายในโปรแกรม ซงึ สงิ ทีนา่ สนใจในโปรแกรมมคี ่อนข้างมาก ทีสาํ คัญ คือ ไม่
ต้องเสยี ค่าใชจ้ ่ายในการใชโ้ ปรแกรม Animaker

๒.๔.๒ การจัดทําสอื วิดโี อในรูปแบบ Animation โดยใช้โปรแกรม Plotagon

Plotagon เปนโปรแกรมทีเอาไว้สาํ หรับสรา้ งแอนเิ มชันสามมติ ิ ได้ด้วยตนเอง โดยในโปรแกรมนีมา
พร้อมกับเครืองมอื ทีจะชว่ ยให้สามารถสร้างการต์ นู หรือภาพแอนิเมชนั ได้อยา่ งหลากหลาย ไมว่ ่าจะ
เปนวิดีโอสามมติ ิ หรอื สร้างรูปสามมิติอยา่ งธรรมดา และทีสาํ คัญโปรแกรมตัวนีไมว่ ่าใครก็สามารถ
ทําได้ เพราะทาง โปรแกรม Plotagon นนั ได้ถกู ออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้กับทุกคนแม้ว่าจะ
ไมม่ คี วามรู้เรืองของการสร้างรูปสามมติ ิหรือแอนิเมชันเลยก็ตาม ยกตัวอยา่ งเชน่ การสรา้ งเรอื งราว
ตัวการต์ นู สามมิติเหมือนในรูปภาพด้านบน ผสู้ รา้ งทําเปนวิดีโอพร้อมคําบรรยายภาพคล้ายสอื การสอน
สําหรบั เด็ก ซงึ ในขณะทีเราอ่านบทความเนอื เรอื งของการ์ตนู ไป วิดีโอสามมติ ิทีเราสร้างขนึ ก็จะเล่น
ตามไปด้วย ทําใหบ้ ทเรียนต่าง ๆ ดมู ีความนา่ สนใจมากยงิ ขนึ

บทที ๒ เอกสารทีเกียวขอ้ ง ๒๑

ข้อดขี องโปรแกรม Plotagon
สร้างภาพแอนเิ มชัน สามมิติได้อยา่ งง่าย ๆ
มาพร้อมเครอื งมืออํานวยความสะดวกมากมาย
โปรแกรมถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ ตัวการ์ตนู หรือรูปแบบต่างๆ

ในโปรแกรม มีลักษณะทีสวยงาม
มเี สอื ผ้า ทรงผม และ อุปกรณ์ตกแต่งต่าง ๆ มาใหต้ กแต่งตัวละครมากมาย
มเี สยี งประกอบ (Sound Effects) ในหลากหลายอารมณ์ใหเ้ ลือกมากมาย
ไมว่ ่าใครก็สามารถทําได้ ไมจ่ ําเปนต้องมคี วามรูพ้ ืนฐานเรอื งการสร้างแอนเิ มชันมากก่อน
สร้างได้ทังแอนิเมชันแบบวิดีโอ และแบบรูปภาพปกติ
สามารถขยายฉากต่างๆ เพือเพมิ เรอื งราวให้แอนิเมชนั ของคุณได้
สนบั สนุนรูปภาพ หรอื แมแ้ ต่ อนเิ มชนั ทีมคี วามคมชดั และ ความละเอียด สูงๆ (High Resolution
Supported)
ใช้งานง่าย เหมาะสําหรับทําสอื การเรยี นการสอนสําหรับเด็ก
มีการปรับปรุงทังความสามารถ ความเร็ว และ ประสทิ ธิภาพ ของโปรแกรมโดยรวมอยูต่ ลอดเวลา
สามารถพมิ พ์ข้อความประกอบวิดีโอลงไปได้
และความสามารถอืนๆ อีกมากมาย

๒.๔.๓ การจัดทําสอื วิดโี อในรูปแบบ Animation โดยใชเ้ กม The sims 4
เดอะซมิ ส์ 4 เปนเกมแนว simulator หรอื เกมรูปแบบจําลองการใชช้ วี ิตทีอยูเ่ หนือจินตนาการ ทีเปด
ใหเ้ ล่นแบบออฟไลน์ผเู้ ล่นเดียว ซงึ ผู้เล่นสามารถควบคุมตัวละครได้ด้วยตนเอง มฟี งก์ชันในการ
ออกแบบตัวละครไมว่ ่าจะเปนรูปรา่ ง หนา้ ตา หรือการแต่งกาย สามารถออกแบบโครงสรา้ งของบ้าน
ออกแบบการใชช้ ีวิตได้ด้วยตนเอง ซงึ ตัวละครทีสรา้ งผู้เล่นสามารถควบคมุ ให้ทําตามคําสงั นนั ๆ ได้
เชน่ กินขา้ ว ดูหนัง อ่านหนงั สือ ไปเทียวต่างเมอื ง และสามารถสานสัมพนั ธส์ มั พนั ธก์ ับเพอื นบ้านได้
เสมอื นในชวี ิตจริง

๒๒ บทที ๒ เอกสารทีเกียวขอ้ ง

ขอ้ ดขี องเกม The sims 4

ตัวละครทีสรา้ งมคี วามเปนการ์ตนู และดูสมจริง
สามารถสร้างตัวละออกมาในลักษณะใดก็ได้ตามทีต้องการ
เกมเล่นแบบออฟไลนแ์ ละไมใ่ ชเ่ กมแบบ open world ทําให้เกมโหลดไวขนึ
สรา้ งบ้านและสร้างฉากได้ตามจินตนาการและความต้องการ
สามารถควบคุมตัวละครให้ทําตามคําสงั ได้
เปนเกมทีเหมาะสมมากกับการนาํ มาทําเปนเรืองราวประกอบนิทานหรือเนอื หาในการสอน

บทที ๒ เอกสารทีเกียวขอ้ ง ๒๓

๒.๔.๔ การตัดต่อวิดโี อ โดยใช้แอปพลิเคชัน Capcut
Capcut เปนโปรแกรมตัดต่อทีเหมาะกับมือใหมห่ ัดตัดต่อวิดีโอในโทรศัพท์

เพราะ CapCut เปนเครืองมือที ครบ จบ ในโทรศัพท์เครืองเดียวเลย

วิธใี ชง้ าน CapCut เบอื งต้น
เปดแอปพลิเคชนั CapCut แล้วเลือก New project จากนนั เลือกคลิปวิดีโอ
ทีต้องการตัดต่อ (สามารถเลือกได้หลายคลิปพร้อมกัน)
หลังจากเลือกคลิปวิดีโอทีต้องการตัดต่อแล้ว ให้กด “เพมิ (Add)
ทําการตัดต่อคลิปวิดีโอ โดยสามารถทําได้ในเบืองต้น ดังนี
๑. หากต้องการให้การเปลยนี ผา่ น (transitions) ระหว่างคลิปวิดีโอมคี วามเรยี บรนื ให้กดตรง

ชอ่ งสีเหลียมสีขาว จะปรากฏเปนแถบเครืองมือด้านล่าง ซงึ สามารถ เลือกใช้รูปแบบได้ตามต้องการ
๒. หากต้องการตัดเสียง หรอื เพมิ เสียงทีอยูใ่ นคลิปวิดีโอ ให้กดทีคลิปวิดีโอ แล้วเลือกเครืองมอื

“Volume” จากนนั เลือนระดับเสียงได้ตามทีต้องการ
๓. หากต้องการเพมิ เพลงประกอบคลิปวิดีโอ ใหก้ ดทีคลิปวิดีโอ แล้วเลือก “Add Audio” จากนนั

กด “Sound” จะมีเพลงประกอบให้เลือกตาม ต้องการ
๔. หากต้องการเพมิ ขอ้ ความบรรยายลงบนคลิปวิดีโอ ให้เลือกเครืองมือ “Text” แล้วเลือก

“Add text” จากนนั พมิ พข์ อ้ ความและปรบั รูปแบบของข้อความได้ ตามทีต้องการ
๕. หากต้องการเพมิ effect ในคลิปวิดีโอ ใหเ้ ลือกเครืองมือ “Effects” แล้วเลือก “Video effects”

หรอื “Facial effects” จากนนั เลือกรูปแบบได้ตามต้องการ
๖. หลังจากตัดต่อคลิปวิดีโอเรยี บร้อยแล้ว ก่อนทําการ export คลิปวิดีโอ ใหเ้ ลือก ความละเอียด

ตามทีต้องการ ตังแต่ 480p – 1080p โดยกดบรเิ วณมุมบน ด้านขวามอื ของจอภาพ
ทังนี ในการเลือกความละเอียดของคลิปวิดีโอ ควรคํานึงถึงความละเอียดของ

ไฟล์ต้นฉบับรว่ มด้วย เพอื ให้สามารถดูคลิปวิดีโอผา่ นอุปกรณ์ต่างๆ ได้อยา่ งชดั เจน ซึงวิทยากรได้
แนะนาํ หลักในการเลือกความละเอียด ดังนี

ความละเอียด480p>>เหมาะกับคลิปวิดีโอสนั ๆ ทีต้องการแชร์ผาน่ ทาง โซเชยี ลมีเดีย (Social
Media) แต่ความละเอียดของภาพไมค่ ่อยคมชดั เท่าทีควร
ความละเอียด 720p >> เหมาะกับคลิปวิดีโอทีต้องการอัพโหลดผา่ นเว็บ บราวเซอร์ เพอื แชรส์ ู่
สาธารณะ และสามารถดผู า่ นอุปกรณต์ ่าง ๆ ได้ค่อนข้าง คมชัด
ความละเอียด 1080p >> เปนขนาดทีมคี วามคมชัดสงู สุด แต่ไฟล์จะมี ขนาดใหญม่ าก จึงเปน
อุปสรรคต่อการเผยแพร
๗. ทําการ export คลิปวิดีโอ โดยกด “ลกู ศร” ทีมมุ บนด้านขวา แล้วรอจนครบ 100%จึงถือเปนอัน
เสรจ็สนิ โดยคลิปวิดีโอจะถกู บันทึกลงในโทรศัพท์อัตโนมัติ

๒๔ บทที ๒ เอกสารทีเกียวขอ้ ง

๒.๔.๕ การตัดต่อวิดโี อ โดยใชแ้ อปพลิเคชัน Vollo
สาํ หรับแอปพลิเคชัน VLLO เปนแอปพลิเคชันฟรีทีมฟี งก์ชันมากมาย
ไมม่ ีพนื ฐานการตัดต่อคลิปหรอื วิดีโอเลยก็สามารถฝกและเรยี นรู้ได้
๑) วิธกี ารใช้งานเบอื งต้น
เมือเปดเข้าสแู่ อปมาจะเจอกับหน้านี โดยเรากดไปที ‘Create Video’
เพอื เรมิ ต้นการตัดวิดีโอ

เมอื กด Create Video เขา้ มาแล้ว เราสามารถเลือกเฟรมหรือขนาดของวิดีโอได้ว่าอยากได้เท่าไหร่
ต่อไปกดเลือกไฟล์ทีเราต้องการ ทังรูปภาพ ไฟล์วิดีโอต่างๆ กดจํานวนเฟรมทีต้องการแล้ว Input
เข้ามา แถบเมนหู ลักๆ ก็จะมตี ังแต่ใส่ Audio / Sticker / Text / Filter
ตัดต่อและตกแต่งวิดีโอได้ตามใจชอบ
ตัดต่อคลิปจนพอใจแล้วก็สามารถ ‘Export’ ไฟล์หรือเซฟวิดีโอออกมาได้เลย
ข้อดขี องแอปพลิเคชัน Vollo

สามารถตัดต่อวิดีโอได้ง่ายด้วยโทรศพั ท์หรอื แท็บเลต
ไมเ่ สียค่าใชจ้ ่าย
มลี กู เล่นตกแต่งมากมาย
สามารถนาํ เข้าฟอนต์เองได้
เครืองมอื ใชง้ านง่าย ไมซ่ ับซอ้ น

บทที ๒ เอกสารทีเกียวขอ้ ง ๒๕

๒.๔.๖ Microsoft Teams หรอื MS team
Microsoft Teams คือบริการแพลตฟอร์มการประชุมออนไลน์ จากค่าย Microsoft ทีชว่ ย

ใหผ้ ใู้ ชส้ ามารถพดู คุยกันได้ผา่ นการแชทและวิดีโอคอล ทังยงั สามารถเปดแก้ไขไฟล์รว่ มกัน
ขณะประชุมได้แบบเรยี ลไทม์ ทําใหก้ ารทํางานรว่ มกันเปนไปอยา่ งราบรนื และรวดเร็ว หรอื หาก
ต้องการเชอื มต่อระบบเขา้ กับกําหนดการในปฏิทินและโนต๊ ต่าง ๆ ก็ทําได้เชน่ กัน เรยี กได้ว่า
เปนบริการทีสามารถใช้งานได้อยา่ งครอบคลมุ

๑) วิธกี ารใช้งาน Microsoft Teams
๑. กดแปนโลโก้ Windows แล้วพิมพท์ ีม Microsoft
๒. คณุ จะได้ยนิ : "ทีม Microsoft, แอปบนเดสก์ท็อป" เมอื ต้องการเปดแอปใหก้ ด Enter
๓. พิมพ์อีเมลโทรศัพท์หรอื ชอื Skype ของคณุ เมือโปรแกรมอ่านหนา้ จอของคณุ ขอให้คุณเข้าสรู่ ะบบ
๔. กดแปน Tab จนกว่าคณุ จะไปถึงปุมถัดไปแล้วกด Enter
๕. คณุ จะได้รับ Prompt ใหเ้ ลือกบญั ชีผ้ใู ช้และวิธีการลงชือเข้าใชท้ ีคณุ ต้องการใช้ กดแปน Tab จนกว่า
คณุ จะพบตัวเลือกทีคณุ ต้องการแล้วกด Enter
๖. ทังนขี นึ อยูก่ ับวิธีการลงชอื เขา้ ใชใ้ ห้ทําตาม Prompt เปนโปรแกรมอ่านหน้าจอของคณุ ตัวอยา่ งเชน่
พมิ พร์ หัสผา่ นของคุณหรือเลือกใบรบั รองสมารท์ การ์ดของคุณแล้วพมิ พร์ หสั PIN จากนนั กด Enter ถ้า
จําเปนให้กดแปน Tab จนกว่าคณุ จะไปถึงปุมลงชือเข้าใช้แล้วกด Enter

๒) วิธเี ปลยี นสถานะของคณุ
๑. กด Ctrl + E เพอื ไปยงั เขตขอ้ มลู การค้นหา
๒. เลือกทําอยา่ งใดอยา่ งหนงึ ต่อไปนี

- เมอื ต้องการตังค่าสถานะของคุณให้พร้อมใชง้ านใหพ้ ิมพ/์ availableแล้วกด Enter
- เมือต้องการตังค่าสถานะของคุณเปนไมอ่ ยูใ่ ห้พิมพ/์ awayแล้วกด Enter
- เมอื ต้องการตังค่าสถานะของคุณเปนไมว่ ่างใหพ้ ิมพ/์ busyแล้วกด Enter
- เมอื ต้องการตังค่าสถานะของคุณเปนห้ามรบกวนให้พิมพ/์ dnd แล้วกด Enter
๓) การเรมิ ต้นสนทนา
การสนทนาจะเกิดขนึ ในแชนเนลของทีมและผู้ใช้ทกุ คนในทีมนนั จะสามารถมองเห็นได้
๑. กด Ctrl + 3 เพือเปดมุมมองทีม คุณจะได้ยิน: "รายการทีมและแชนเนล"
๒. นําทางไปยงั แชนเนลทีคณุ ต้องการติดตามโดยใช้แปนลูกศรขนึ และลง เมือต้องการขยายหรือยุบ
รายการของแชนเนลของทีมให้กด Enter ขณะทีโฟกัสอยูบ่ นทีม
๓. หลังจากทีคณุ เข้าถึงแชนเนลทีถกู ต้องแล้วให้กด Enter โฟกัสจะยา้ ยไปยงั กล่องข้อความทีเขยี น
๔. พิมพข์ อ้ ความของคณุ แล้วกด Enter เพอื สง่ ไปยังแชนเนล
หมายเหต:ุ ถ้าคุณต้องการตอบกลับการสนทนาทีต่อเนืองแทนทีจะเรมิ ต้นใหมใ่ หด้ ทู ีการตอบกลับ
การสนทนา
๔) เข้ารว่ มการประชุม
๑. ใน Microsoft Teams ใหก้ ด Ctrl + 4 เพอื ไปทีมุมมองปฏิทิน โฟกัสจะอยูใ่ นตารางปฏิทิน
๒.กดแปน Tab หนงึ ครงั เพอื ย้ายโฟกัสไปยงั การประชุมครงั ถัดไปในปฏิทินของคณุ ถ้าไมใ่ ชก่ ารประชุม
ทีคณุ ต้องการเขา้ รว่ มให้กดแปน Tab จนกว่าคุณจะพบได้อยา่ งถูกต้อง โปรแกรมอ่านหน้าจอของคุณ
จะประกาศชือและเวลา กด Enter เพอื เปดรายละเอียดการประชุมแล้วกด Alt + Shift + J เพือเข้ารว่ ม
โฟกัสจะยา้ ยไปยงั ปุมเขา้ รว่ มทันที
๓. เมอื ต้องการเข้ารว่ มการประชุมด้วยการตังค่าเสียงและวิดีโอเรมิ ต้นใหก้ ด Spacebar คณุ จะเชือมต่อ
กับการประชุมและโฟกัสจะย้ายไปยังปุมปดเสียงไมโครโฟนในภูมิภาคตัวควบคุมการโทร

๒๖ บทที ๒ เอกสารทีเกียวขอ้ ง

๕) การแชรเ์ ดสก์ท็อปของคณุ ในการประชุม
๑. ขณะทีอยูใ่ นการประชุม Microsoft Teams ให้กดแปน Tab หรือ Shift + Tab จนกว่าคณุ จะไปถึง
ภมู ิภาคตัวควบคมุ การโทร
๒. ด้วยขากรรไกรกดแปน Tab หรอื Shift + Tab จนกว่าคณุ จะไปถึงปุมเปดใชง้ านถาดแชรแ์ ล้วกด
Enter ด้วย NVDA ใหส้ ลับไปยังโหมดโฟกัสโดยการกดแปน NVDA + Spacebar แล้วกดแปน Tab หรือ
Shift + Tab จนกว่าคณุ จะไปถึงปุมเปดการแชร์ถาดแล้วกด Enter
๓. เมอื ต้องการแชร์ตัวอยา่ งเชน่ เดสก์ท็อปของคณุ หน้าต่างโปรแกรมหรอื ไฟล์ให้เลือกทําอยา่ งใดอยา่ ง
หนึงต่อไปนี

- เมือต้องการแชร์ทังเดสก์ท็อปของคุณให้กดแปน Tab หนงึ ครงั แล้วกด Enter
- เมือต้องการแชรห์ นา้ ต่างโปรแกรมใหก้ ดแปน Tab สองครงั แล้วกดแปนลูกศรขวาจนกว่าคณุ จะ
ได้ยินโปรแกรมทีคุณต้องการแชร์แล้วกด Enter
- เมอื ต้องการเรียกดไู ฟล์เพมิ เติมใหก้ ดแปน Tab สามครงั คุณจะได้ยิน: "ปุมเรยี กดู" กด Enter กด
แปนลกู ศรลงหรอื ขนึ เพือนําทางไปยังตําแหนง่ ทีตังแล้วกด Enter เพือเลือก ค้นหาไฟล์ของคุณใน
ตําแหนง่ ทีตังทีเลือกแล้วกด Enter
- เมอื ต้องการแชรไ์ ฟล์จาก Microsoft Teams ใหก้ ดแปน Tab สคี รงั แล้วกดแปนลกู ศรขวา
จนกว่าคณุ จะได้ยนิ ไฟล์ทีคุณต้องการแชรแ์ ล้วกด Enter
๔. เมือต้องการหยุดการแชร์ให้กด Alt + Tab จากนนั กดแปน Tab ซาๆจนกว่าคุณจะไปถึงปุมหยุดการ
แชรแ์ ล้วกด Enter
๖) ขอ้ ดขี องการใช้ Microsoft Team
๑. สง่ ไฟล์หากันได้ โดยใช้ Microsoft Office ในการจัดการ
๒. ปลอดภัยจากการนังประชุมใกล้กันปองกันไวรัสโควิด 19
๓. ทําพนื หลังเบลอได้ ไมต่ ้องกังวลคนเหน็ ห้องหรือบ้านของคุณ
๔. แชทหากันได้ในกลุ่ม
๕. รว่ มประชุมได้ง่าย
๖. มีทังแอพพลิเคชนั ใน PC, Mobile
๗. มี Whiteboard ไว้แชร์ขอ้ มลู กันได้
๘. บนั ทึกการประชุมได้
๙. แจ้งเตือนได้เมอื มีประชุมหรือแชท
๑๐. ไมเ่ สยี ค่าใชจ้ ่าย

๗) ขอ้ เสยี ของ Microsoft Teams
๑. หน้าจอในการแสดงผลได้จํานวนนอ้ ยเห็นคนไมค่ รบ
๒. ระบบ Streaming ยังไมด่ ีพอ ไมล่ ืนไหล สู้ Zoom ไมไ่ ด้
๓. ภาพไมช่ ัดเจน คุณภาพไมด่ ี
๔. User interface ค่อนขา้ งใช้ยาก

๘) การปรบั ประยุกต์ใชก้ ารสอนกับโปรแกรม Microsotf Team
ในการจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ จะปรบั ประยุกต์ใช้มาเปนการสอนผา่ นทางโปรแกรม

Microsotf Team สว่ นในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน คือ กิจกรรมตอบปญหาบตั รคํา เราจะแบง่
กล่มุ หอ้ งผา่ นโปรแกรม Microsotf Team เชน่ กัน

บทที ๒ เอกสารทีเกียวขอ้ ง ๒๗

๒.๔.๗ แพลตฟอรม์ Canva
Canva คือ แพลตฟอร์มออกแบบกราฟก ไมว่ ่าจะเปนชนิ งานเพอื ใช้

ลง Social Media, Presentation, งานสิงพมิ พ์ รวมไปถึงภาพเคลือนไหว

๑) วิธกี ารใชแ้ พลตฟอรม์ Canva
๑. สมคั รสมาชิก Canva
สําหรับคนทีไมเ่ คยใช้ Canva ต้องสมัครสมาชิกก่อน ซงึ สมคั ร

เขา้ ใช้งานผา่ นการสมัครด้วย Facebook สมัครด้วย Google หรอื สมคั ร
ด้วยอีเมลสว่ นตัว

๒. เลือกการออกแบบ Canva ทีคณุ อยากได้
หลังจากทีสมัครสมาชกิ และได้เขา้ ทําการ login แล้ว สามารถกดตรงปุมทางด้านขวาบนว่า

Create a Design เพอื ทําการเลือกรูปแบบของการออกแบบทีเหมาะสาํ หรับงาน หรือจะเลือนลงไปดู
ก็ได้ว่าอยากได้ตัวอยา่ งอะไรบา้ ง เชน่ การออกแบบโพสอินสตาแกรม การออกแบบรูปแบบกระดาษ
A4 การสร้างโลโก้ หรือการสรา้ งแผน่ พับต่าง ๆ

๓. เลือก Template ทีเหมาะกับการใชง้ าน
หลังจากทีเลือกขนาด dimensions แล้ว ขนั ตอนต่อไปก็คือการเลือก Template ทีจะเรมิ ออกแบบ
ภาพในรูปแบบของคุณขึนมา หรอื เรมิ จากการออกแบบหนา้ ขาวก็ได้
๔. การออกแบบ ลบ เพมิ และเปลียนสี

สว่ นประกอบและฟเจอรต์ ่าง ๆ ของ Canva
ภาพ (Photo) หมายถึง ภาพ Stock Photo ที Canva มใี ห้เพอื ใชป้ ระกอบการออกแบบ มีทัง
ภาพแบบฟรแี ละแบบเสียเงิน หรือจะใชภ้ าพทีเตรียมมาจากชอ่ งทางอืน ๆ ก็ได้ นอกจากนนั หากคลิก
ทีภาพ Canva ก็จะมีฟเจอรใ์ ห้ตกแต่งเพมิ เติมได้ (Effect Filter Adjust Crop Flip) หากเปนการ
ตกแต่งง่าย ๆ สามารถทําด้วยฟเจอร์เหล่านไี ด้เลย
Element หมายถึง องค์ประกอบในการออกแบบอืนที Canva ใหม้ าเพือชว่ ยให้การออกแบบมี
สีสนั มากขนึ เชน่ รูปรา่ ง หรอื ไอคอนต่างๆ เชน่ กัน Element ก็มที ังแบบฟรีและก็เสยี เงิน และ
สามารถอัพโหลดสงิ เหล่านีมาใช้งานจากภายนอกได้ด้วย
Font หมายถึง ฟอนต์ทีใช้ในการพมิ พต์ ่าง ๆ ฟอนต์ภาษาอังกฤษมเี ยอะ แต่ภาษาไทยจะมอี ยู่
ไมก่ ีรูปแบบ สามารถใช้ฟอนต์ตัวเองได้หากปนสมาชกิ Canva Pro (แบบเสียเงินรายเดือน)
สี หมายถึง Element ที Canva ใหม้ า และฟอนต์ต่าง ๆ ทีใชส้ ามารถเปลียนสีได้ ในสว่ นนี Canva
จะมีการแนะนาํ สที ีเหมาะหรือคล้ายกับ Element อืน ๆ ทีใช้ เพือใหเ้ ราสามารถคุมโทนได้ง่ายขนึ
โดยรวมแล้วก็ถือว่าใชง้ านได้ง่ายและสะดวกมาก
๕. การเซฟ และ การเลือกชนิดของไฟล์
การเซฟภาพหรืองานจะอยูท่ ีด้านขวาบน อาจจะเปนคําว่า Download หรือเปนตัวลกู ศรชลี งก็ได้
การเซฟไฟล์ทีเห็นได้บอ่ ยก็คือ JPEG GIF และ PDF ซงึ จะเซฟหนงึ หน้าหรือทกุ หนา้ ก็ได้ อยา่ งไร
ก็ตามฟเจอร์การเซฟแบบภาพโปรง่ ใส (Transparent) ก็เปนฟเจอร์ทีจะต้องจ่ายเงิน

๒๘ บทที ๒ เอกสารทีเกียวขอ้ ง

๒) ข้อดขี องแพลตฟอรม์ Canva
๑. การใช้งานทีง่ายแบบ Drag & Drop สามารถสร้างภาพและ element ต่าง ๆ ทีใชใ้ นการออกแบบ
ทําให้การใชง้ านง่ายขนึ
๒. ฟรแี ละดี เปนโปรแกรมทีใช้งานง่าย
๓. การใช้งานมีหลากหลาย สามารถใช้ทําโฆษณาทํารายงาน ทํางานพรีเซน้ ต์ต่างๆ ได้
๔. มี Template สําหรับคนทีออกแบบไมเ่ ปนหรอื คนทีออกแบบงานไมค่ ่อยเก่ง สามารถเข้าหาต้นแบบ
สามารถทําให้ตอบโจทยไ์ ด้แนน่ อน
๕. ข้อมูลเชอื มกันทังในโทรศพั ท์และคอมพวิ เตอร์ ข้อมูลและภาพทีออกแบบสามารถเชือมโยงกันได้
๓) ข้อเสยี ของ Canva
๑. from ภาษาไทย แมแ่ บบ ของตกแต่งมีจํากัด
๒. มภี าพฟรแี ต่มจี ํากัด
๓. ไมม่ เี ครืองมือแก้ไขใหพ้ นื หลังของภาพโปรง่ ใส
๔. ไมส่ ามารถดาวน์โหลดเปน ppt ได้

๔) การปรบั ประยุกต์ใช้การสอนกับแพลตฟอรม์ Canva
สาํ หรบั การประยุกต์การจัดการเรียนการสอนของกล่มุ เรา เราประยุกต์การสอนกับแพลตฟอร์ม

Canva คือ จัดทําสไลด์ เปนสือประกอบการสอนเรอื งคําเปนคําตาย จัดทําภาพนิง และหนังสือ E-book
เพอื เปนสอื ประกอบความรู้และเปนสือให้ผ้เู รียนได้ศกึ ษาค้นคว้าเพมิ เติม

ตัวอยา่ งสไลด์ประกอบการสอน

บทที ๒ เอกสารทีเกียวขอ้ ง ๒๙

๒.๔.๘ Google Forms

Form ใน Google Drive เปนการสร้างแบบฟอร์มทีต้องการคําตอบจากผู้ตอบ เพราะการทํางาน
ของ Form นันเมอื เราทําการสง่ ไปถึงผรู้ ับ โดยใหผ้ รู้ ับตอบและสง่ คําตอบกลับมา เราจะสามารถรู้ว่าผ้ทู ี
ตอบแบบฟอรม์ ได้เลือกคําตอบ หรือตอบอะไรบ้าง แต่ผู้ทีตอบแบบสอบถามจะไมร่ ูว้ ่าคําตอบทีตัวเอง
ตอบนันผดิ หรอื ถูกซงึ ประโยชน์นีสามารถนาํ ไปใช้ได้กับการทําแบบสอบถามออนไลนใ์ นองค์กร
แบบสอบถาม ความพึงพอใจในองค์กร หรอื การทําข้อสอบออนไลนก์ ็สามารถทําได้เชน่ กัน ซงึ การเก็บ
ขอ้ มลู ทังหมดไมว่ ่าจะเปนคําถามและคําตอบของผตู้ อบ ทังหมดจะถกู เก็บไว้ที Drive ของเราโดย
อัตโนมัติและถูกจัดเก็บไว้ในไฟล์ Spreadsheet ซงึ การสร้างแบบสอบถามออนไลนส์ ามารถทําได้ดังนี

๑. Login เขา้ สรู่ ะบบ Google Apps Business ด้วย Username และ Password
๒. เลือกเมนู Drive เลือก "เพมิ เติม" > "Google ฟอร์ม"

๓. จากนนั จะแสดงหน้าต่างให้เราตังชือแบบ ฟอรม์ ใหต้ ังชือแบบ ฟอรม์ และเลือก ธมี ของ ฟอรม์
ทีเราต้องการ จากนนั กด "OK"

๔. ต่อไปจะแสดงหน้าต่างใหส้ รา้ งแบบฟอร์ม ซงึ จะมที ังหมด ๒ สว่ น ได้แก่
สว่ นเขียนคําถามในแบบฟอร์ม ก็จะให้เราใสค่ ําถามทีเราต้องการถาม
สว่ นยนื ยนั คือสว่ นทีให้เรากําหนดยืนยนั การบนั ทึกของขอ้ มูลหรอื การอนุญาติใหส้ ง่ ลิงค์ตอบกลับ

๕. จากนนั ในสว่ นของการสรา้ งคําถามจะประกอบด้วย หวั ข้อคําถาม คือ คําถามทีเราจะถาม
และ ประเภทคําถาม คือ รูปแบบคําตอบทีต้องการ ในสว่ นของ ประเภทคําถาม ก็มีให้เลือกหลายแบบ
ตามรูปแบบทีต้องการคําตอบ ในทีนขี อเลือกเปน "เลือกจากรายการ"

๓๐ บทที ๒ เอกสารทีเกียวขอ้ ง

๖. จากนนั ก็กด "เสร็จ" เพือเสรจ็ ในการสรา้ งคําถามในเเต่ละข้อ
๗. จากนนั เมอื เราจะสร้างคําถามต่อไปก็ใหเ้ ลือก เพมิ รายการ ก็จะปรากฏรูปแบบคําถามขนึ มา
ก็เลือกตามทีต้องการ
๘. ในสว่ นของขอ้ ความยนื ยัน คือสว่ นทีเราเขียนข้อความคําเชญิ ทีจะถกู สง่ ไป ยงั ผทู้ ีเราเชญิ ใหเ้ ข้า
มาตอบแบบฟอร์มของเรา เมอื เขียนเสรจ็ แล้วก็กด "สง่ ฟอรม์ ให้เราต้องการทีจะสง่ แบบ fromนไี ปให้

๙.จากนันจะแสดงหนา้ ต่างๆ ทีเราต้องการทีจะเผยแพร่ ซงึ จะเอาลิงค์นีไปใหค้ นใน องค์กรหรือ แชร์
ผา่ น Social Network หรือกําหนดบุคคลทีเราต้องการสง่ แบบฟอร์มนใี ห้ จากนนั กด " เสร็จ "

๑๐. ผูส้ อนสามารถดูผลจากการตอบคําถามได้ โดยเลือกว่าจะใหส้ ร้าง สเปรดชีตใหม่ หรอื สเปรดชตี
เดิมทีมีอยู่ แล้ว ซงึ ในทีนกี ็ใหเ้ ลือกเปน สเปรดชตี ใหม่ จากนนั ก็ตังชือของ สเปรดชีต เพอื นําคะแนนมา
ประเมนิ ในครงั ถัดไป

บทที ๒ เอกสารทีเกียวขอ้ ง ๓๑

๒.๔.๙ Kahoot!

Kahoot! คือแอปพลิเคชันทีสําหรบั สร้างคําถามและตอบคําถาม
โดยมรี ูปแบบทีผูต้ อบนนั ต้องอยูใ่ นสถานทีเดียวกับผถู้ ามจึงจะสามารถ
มองเห็นคําตอบได้ซงึ คําถามนนั มที ังรูปแบบของคําถามหลายตัวเลือก
แบบสอบถามความคิดเห็น และแบบ สาํ รวจ คู่มือการใช้งาน การใช้งานแบง่ เปน
๒ สว่ น คือ การใช้งานสําหรบั ผู้สร้างคําถามและการใช้งานสําหรบั ผูต้ อบ

เมือผู้สอนต้องการสร้างคําถามสามารถเขา้ ใชผ้ า่ นทาง https://getkahoot.com เมือเขา้ สเู่ ว็บไซต์
แล้วสมัครโดยกดทีปุม Sign Up For Free! โดยการสมคั รจะมีตัวเลือกหนา้ ทีโดยแบง่ เปน อาจารย์
นักเรียน นักธุรกิจ เปนต้น เมอื เข้าสรู่ ะบบแล้วจะปรากฏหน้าจอในการสร้างคําถาม โดยแยกรูปแบบ
ของคําถามออกเปน ๓ รูปแบบ
๑. คําถามหลายตัวเลือก (Quiz)
๒. แบบสอบถามความคิดเหน็ (Discussion)
๓. แบบสํารวจ(Survey)

เมอื สร้างหัวขอ้ ของคําถามแล้วจะปรากฏหนา้ สาํ หรับเพมิ คําถาม โดยกดทีปุม Add Question การ
สรา้ งคําถามจะมีเมนูต่าง ๆ ปรากฏบนหน้าจอดังนี
๑. ตังคําถาม เลือกเวลาในการตอบและเปด/ปดการนบั คะแนนในขอ้ นนั ๆ
๒. ใสร่ ูปภาพหรอื วีดีโอทีใช้ประกอบคําถาม โดยสามารถอัพโหลด จะใสห่ รือไมใ่ สก่ ็ได้
๓. ตัวเลือกคําตอบ อยา่ งน้อย ๒ ตัวเลือก และเลือกว่าจะให้คําตอบใดเปนคําตอบทีถกู ต้องโดยกดทีปุม
เครอื งหมายถกู

๓๒ บทที ๒ เอกสารทีเกียวขอ้ ง

เมอื สร้างชุดคําถามเรยี บร้อยแล้ว และผสู้ อนต้องการใช้งาน ในการเรมิ ใช้จะมีรหสั (PIN) เปน
รหัสทีใช้สาํ หรบั ให้ผตู้ อบใชเ้ พือเช้ารว่ มการตอบคําถามในหอ้ ง โดยผูเ้ รียนสามารถเข้าใชง้ านผา่ นทาง
https://kahoot.it หรอื แอปพลิเคชันบนสมารท์ โฟน กรอกรหสั หอ้ งและชอื ของผู้ตอบ เมือเรมิ การ
ถามคําถามผู้ตอบจะเหน็ เพียงคําถามโดยคําตอบจะอยูบ่ นหนา้ จอของผู้ถามเท่านนั (ด้านซา้ ยเปนหนา้
จอจากสมารท์ โฟนของผเู้ รยี น และด้านขาเปนหน้าจอคอมพิวเตอร์ทีขนึ คําถามของผู้สอน)

บทที ๒ เอกสารทีเกียวขอ้ ง ๓๓

หากผ้สู อนต้องการดูคะแนนของผ้เู รียนทกุ คน สามารถดไู ด้จาก Report เพอื นาํ คะแนนในการตอบ
คําถามของผู้เรียนมาใช้ในการประเมินต่อไป

ขอ้ ดีของการทีผสู้ อนใช้ Kahoot ทํากิจกรรมหรอื การวัดด้วยการสอบทีผู้เรียนต้องใชเ้ วลากับคําถาม
นัน ๆ ในเวลาเดียวกันโดยมีเวลาจํากัดในแต่ละขอ้ ทําใหย้ ากต่อการทุจริต ลดปญหาการแอบเปดเฉลย
ทางออนไลน์ แต่ในขณะเดียวกันก็มีขอ้ จํากัด นนั ก็คือ อินเทอร์เนต็ ของผเู้ รยี นต้องพรอ้ มทุกคน เพือ
ความเท่าเทียมในการสอบ

๒.๔.๑๐ Blooket
Blooket คือเว็บไซต์สรา้ งเกมเพิมความสนกุ เพียงสร้างข้อคําถามแค่ครงั เดียว สามารถเลือกโหมด

ในการเล่นเกมได้ เชน่ Gold Quest, Cafe, Factory, Battle Royale, Racing, Crazy Kingdom, Tower
of Doom หรอื แบบ Classic โดยแต่ละรูปแบบนันเมอื นักเรยี นกรอก Code ของห้องไปแล้วจะตังชือ
และเลือกตัวละคร

๓๔ บทที ๒ เอกสารทีเกียวขอ้ ง

๒.๔.๑๑ Wordwall
Wordwall คือ โปรแกรมสร้างสอื การเรียนการสอนยอดนยิ มในรูปแบบ ๔.๐ ซึงเหมาะกับการ

จัดการเรยี นการสอนรูปแบบออนไลน์ อีกทังยังมเี ทมเพลตใหใ้ ชง้ านฟรี ใหผ้ ู้สอนได้ใช้ทดแทนกิจกรรม
ในหอ้ งเรยี น ผเู้ รียนก็ไมไ่ ด้รว่ มทํากิจกรรมต่างๆกับเพอื นในห้อง หรอื กับโรงเรียน ดังนนั การใชส้ ือการ
สอนทีดึงดดู ความสนใจและสนุก และใช้วัดผลได้จึงเปนอีกทางออกสําหรับการจัดการเรียนใหไ้ มน่ า่ เบอื

Wordwall เปนเว็บไซต์หนงึ ทีมีกิจกรรมต่างๆ ใหน้ ักเรยี นได้รว่ มเล่น หรอื แขง่ ขนั กัน จะทําเปน
กิจกรรมการสอนก็ได้ โดยในเว็บไซต์วิธกี ารเขา้ ใช้ก็เพยี งแค่ เขา้ เว็บไซต์ สมัครสมาชกิ จากนันก็จะมี
เทมเพลตกิจกรรมใหเ้ ลือกมากมาย เชน่ แบบทดสอบ เปนคําถามและมีตัวเลือก, คําสลับอักษร ทีจะ
ต้องสลับตัวอักษรใหเ้ ปนคําทีถกู ต้อง และอืนๆ อีกมากมาย

วิธกี ารสรา้ งกิจกรรม
๑) เลือกเทมเพลตทีหน้าแรก

๒) สร้างคําถาม โดยต้องใสส่ ว่ นต่าง ๆ ดังนี
๑.ชือกิจกรรม
๒.คําถาม
๓.ตัวเลือก
๔.เลือกว่าตัวเลือกไหนถกู ผดิ
๕.เพมิ ขอ้ แล้วทําเหมอื นเดิม

บทที ๒ เอกสารทีเกียวขอ้ ง ๓๕

๓) กดเสรจ็ แล้ว
๔) ทดลองเล่น

หลังจากนนั ก็แชร์ลิงก์ใหน้ กั เรยี นได้เล่นได้เลย

๓๖ บทที ๒ เอกสารทีเกียวขอ้ ง

๒.๔.๑๒ การจัดทําแบบฝกหดั ออนไลน์ โดยใชโ้ ปรแกรม Liveworksheets
Liveworksheets คือ โปรแกรมทีชว่ ยใหส้ ามารถแปลงไฟล์แบบเดิมใหเ้ ปนแบบฝกหัดออนไลน์

ในลักษณะแบบโต้ตอบพรอ้ มการแก้ไขตัวเอง นกั เรยี นสามารถทําใบงานออนไลน์ และสง่ คําตอบใหค้ รู
ได้ สงิ นีเปนสิงทีเสริมแรงในทางบวกสาํ หรับนกั เรยี น สําหรับครู และเพือสงิ แวดล้อม

นอกจากนี แผน่ งานแบบตอบโต้ยงั ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยใี หม่ ๆ โดยสามารถปรบั ใช้การศกึ ษา
ได้อยา่ งเต็มที ไมว่ ่าจะเปนในเรอื งของ เสยี ง วิดีโอ แบบฝกหัดลากและวาง โยงเสน้ จับคู่ ตัวเลือกปรนัย
รวมถึงแม้แต่แบบฝกหัดการพดู ทีนักเรยี นต้องทําโดยใชไ้ มโครโฟน
วิธกี ารสรา้ งกิจกรรม
๑) กดทีเมนู Make interactive worksheets แล้วกด Get start เพืออัปโหลดใบงานไปทีโปรแกรม

๒) จัดทําแบบฝกหัดออนไลนโ์ ดยการสรา้ งกล่องข้อความ แล้วใสโ่ ค้ด

๓) กด save เพอื บนั ทึก
๔) เมอื สรา้ ง worksheet เสร็จทังหมดแล้ว สามารถรวบรวมแบบฝกหัดทังหมดเปน workbook

บทที ๒ เอกสารทีเกียวขอ้ ง ๓๗

๒.๔.๑๓ เว็บไซต์
Google sites คืออะไร
กเู กิลไซต์ Google Sites ใหบ้ ริการครงั แรกเมือเดือนพฤษภาคม 2551 Google Sites คือโปรแกรมของ
Google ทีใหบ้ ริการสร้างเว็บไซต์ฟรีสามารถสรา้ งเว็บไซต์ได้ง่ายปรบั แต่งรูปลักษณ์ได้ สามารถ
รวบรวมความหลากหลายของขอ้ มูลไว้ในทีเดียวเชน่ วิดีโอ, ปฏิทิน, เอกสารอืน ๆ สามารถนาํ มาแทรก
ในหนา้ เว็บเพจได้ให้ได้ใชง้ านได้ง่ายทําให้ชว่ ยอํานวยความสะดวกได้เปนอยา่ งมาก

จุดเด่นของ Google Sites
ใหบ้ รกิ ารฟรไี มเ่ สียค่าใชจ้ ่าย
พืนทีจัดเก็บขอ้ มลู มีพนื ทีใหบ้ ริการ 10 GB.
มี Gadget มากมาย
สามารถเผยแพรข่ อ้ มลู ทีเปนประโยชน์ และเปนความรูห้ รือบทเรยี นอะไรอีกหลาย ๆ อยา่ งได้ใน
SITE ได้
เปนระบบทีครอบคลุมเอามาใช้ด้วยกันได้เลยเชน่ อีเมล์ (Gmail) ปฏิทิน (Calendar) เอกสาร
(Documents) ยูทูบ (YouTube) อัลบมั ภาพ (Picasa) แผนที (Map) ฯลฯ

ขอ้ เสียของ Google Sites
ใชเ้ ทมเพลตทีออกแบบเองไมไ่ ด้ไมส่ ามารถใชเ้ ปนเว็บฐานข้อมูลได้ ปรับแต่งได้เท่าทีกูเกิลไซต์มีให้
เว็บไซต์เปนของเราแต่อยูภ่ ายใต้การดแู ลของกเู กิลจึงทําให้ชอื ยาว
ใชง้ านรว่ มกับ CSS ทีออกแบบเองไมไ่ ด้ยงั มีปญหาเรอื งการใชง้ านรว่ มกับ script อืน ๆ
ทําได้เฉพาะเมือต่ออินเตอร์เนต็ เท่านนั

การนํามาประยุกต์ใช้ในการสอน

๓๘ บทที ๒ เอกสารทีเกียวขอ้ ง

๒.๔.๑๔ TikToK

TikToK คืออะไร
แอปพลิเคชัน “TikTok” คือ แอปพลิเคชันฮิตสญั ชาติจีน ทีเปนการสรา้ งและแชร์วิดีโอสนั ๆ กับ

เพอื นบนโลกออนไลน์ แอปพลิเคชัน “TikTok” (ติกต็อก) หรอื “Douyin” (เตาอิน) ทีเรยี กกันในจีนนนั
เปดตัวครงั แรกเมอื เดือนกันยายน ป ๑๐๑๖ และได้รับความนยิ มทัวโลกเมอื ป ๒๐๑๘ ทีได้รับการ
พฒั นามาจากบรษิ ัท ByteDance ซงึ TikTok เกิดจากไอเดียของวิศวกรซอฟต์แวรช์ าวจีน Zhang
Yiming ทีต้องการจะมีบริษัทซอฟต์แวรเ์ ปนของตัวเอง
จุดเด่นของ TikToK

TikTok ถือเปนแพลตฟอร์ม Social Media ทีมีจุดเด่นคือ การสร้างและแชรว์ ิดีโอสนั ๆ
ไมว่ ่าจะเปน

คลิปเต้นสันๆ
ลิปซิงค์เพลง
สรา้ งคอนเทนต์ตลก เฮฮา
การทํา Challenge ต่างๆ เปนต้น

การนํามาประยุกต์ใช้ในการสอน

บทที ๒ เอกสารทีเกียวขอ้ ง ๓๙

๒.๔.๑๕ โปรแกรม Spatial

โปรแกรม Spatial คือ โปรแกรม Meeting ชนดิ หนงึ คล้ายกับโปรแกรม Zoom
หรอื Google Meet แต่ภายในโปรแกรมจะมีการเพมิ ลูกเล่นตรงทีเราสามารถ
สรา้ ง Avatar เปนโมเดลสามมติ ิ เลือกชุด เลือกสผี วิ ได้เอง และยงั เลือกหอ้ งประชุม
ได้หลากหลายทังแบบ Outdoor, Auditorium เปนต้น ฟงก์ชนั การใชง้ านมที ัง
แชร์หน้าจอ วางรูป วางคลิป แปะโน้ต ฯลฯ

การนํามาประยุกต์ใช้ในการสอน

สามารถนาํ มาประยุกต์ใช้ได้โดยการนําสไลด์ประกอบการสอน
ในแต่ละเรอื งมาออกแบบห้องศูนย์การเรียนรู้ ให้สวยงาม นา่ สนใจ
ทําให้ผู้เรยี นเกิดความตืนเต้น สนใจ และอยากเรยี นรูม้ ากยงิ ขนึ

ตัวอยา่ ง

๔๐ บทที ๒ เอกสารทีเกียวขอ้ ง

๒.๕ หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั พนื ฐาน
หลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั พืนฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย

หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขันพืนฐาน กําหนดมาตรฐานการเรยี นรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้
ภาษาไทย จํานวน ๕ มาตรฐาน ดังนี
สาระที ๑ การอ่าน
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรูแ้ ละความคิด เพอื นําไปใช้ตัดสินใจแก้ปญหาในการ
ดําเนินชวี ิตและมีนสิ ัยรกั การอ่าน

สาระที ๒ การเขยี น
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขยี น เขยี นสือสาร เขยี นเรยี งความ ยอ่ ความ และเขียนเรอื งราวใน
รูปแบบต่าง ๆ เขียนรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอยา่ งมีประสิทธิภาพ

สาระที ๓ การฟง การดู และการพดู
มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟงและดอู ยา่ งมวี ิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด ความ
รูส้ ึกในโอกาสต่าง ๆ อยา่ งมีวิจารณญาณ และสร้างสรรค์

สาระที ๔ หลักการใช้ภาษาไทย
มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลียนแปลงของภาษาและพลัง
ของภาษา ภูมิปญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เปนสมบัติของชาติ

สาระที ๕ วรรณคดแี ละวรรณกรรม
มาตรฐาน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณว์ รรณคดี และวรรณกรรมไทย อยา่ งเห็น
คุณค่าและนาํ มาประยุกต์ใชใ้ นชวี ิตจริง

ทําไมต้องเรยี นภาษาไทย
ภาษาไทยเปนเอกลักษณ์ของชาติ เปนสมบตั ิทางวัฒนธรรม อันก่อใหเ้ กิดความเปนเอกภาพและ

เสรมิ สร้างบุคลิกภาพของคนในชาติใหม้ คี วามเปนไทย เปนเครืองมอื ในการติดต่อสือสารเพอื สร้าง
ความเขา้ ใจและความสมั พันธท์ ีดีต่อกัน ทําใหส้ ามารถประกอบกิจธุระ การงาน และดํารงชวี ิตรว่ มกัน
ในสงั คมประชาธปิ ไตยได้อยา่ งสนั ติสขุ และเปนเครอื งมือในการแสวงหาความรู้ ประสบการณ์จาก
แหล่งข้อมลู สารสนเทศต่าง ๆ เพอื พัฒนาความรู้ กระบวนการคิดวิเคราะห์ วิจารณ์ และสรา้ งสรรค์ ให้
ทันต่อการเปลียนแปลง ทางสงั คมและความก้าวหนา้ ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ตลอดจนนําไปใช้มน
การพฒั นาอาชพี ใหม้ คี วามมนั คงทางเศรษฐกิจ นอกจากนยี ังเปนสือแสดงภูมปิ ญญาของบรรพบุรุษ
ด้านวัฒนธรรม ประเพณี สุนทรยี ภาพ เปนสมบัติลาค่าควรแก่การเรียนรู้ อนรุ กั ษ์ และสืบสานใหค้ งอยู่
ค่ชู าติไทยตลอดไป

บทที ๓ วธิ กี ารดาํ เนนิ งาน ๔๑

บทที ๓

วิธีการดําเนนิ งาน

ในการจัดการเรยี นการสอน เรอื ง คําเปน คําตาย ชนั ประถมศึกษาปที ๔ ในสถานการณป์ กติ
ซึงมกี ารจัดการเรียนการสอนในชนั เรยี น แต่เนอื งจากปจจุบันมสี ถานการณก์ ารแพรร่ ะบาด
ของโรคโควิด ๑๙ อยา่ งรุนแรง จนสง่ ผลกระทบกับทุกภาคสว่ น ทกุ หนว่ ยงาน รวมไปถึงหนว่ ยงาน
ทางการศึกษา ทําให้หนว่ ยงานทางการศึกษาต้องปรับตัวเพือรบั มือกับสถานการณท์ ีเกิดขนึ
เพือให้การเรยี นการสอนดําเนินไปได้อยา่ งปกติ จึงมีการวางแผนในการจัดการเรยี นการสอน
ใหส้ อดคล้องกับสถานการณท์ ีเกิดขนึ คือการจัดการเรยี นการสอนในรูปแบบออนไลน์ควบคู่
ไปกับการออกแบบการสอนทีรองรบั การจัดการเรยี นการสอนในชนั เรยี น เพอื ความยดื หยุน่
ต่อสถานการณแ์ ละสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลทีมกี ารเปลียนแปลงอยูต่ ลอดเวลา
ทีเปนผลมาจากการแพรร่ ะบาดของโรคโควิด ๑๙ ดังนนั คณะผู้จัดทํารายงานจึงมวี ิธีดําเนนิ งาน
ตามขันตอนตามหลักการออกแบบกระบวนการเรยี นรู้ของ ADDIE Model โดยแบง่ การจัด
การเรยี นการสอนออกเปน ๒ รูปแบบ ดังต่อไปนี

๑. การจัดการเรยี นสอนในชนั เรยี น ๒. การจัดการเรยี นสอนแบบออนไลน์

โดยใชห้ ลักการออกแบบกระบวนการเรียนรูข้ อง ADDIE Model มีขันตอนดังนี

๔๒ บทที ๓ วธิ กี ารดาํ เนินงาน

ขนั ที ๑ การวิเคราะห์

(๑) การวิเคราะหป์ ญหาและความต้องการในการเรยี นการสอน

นักเรยี นชนั ประถมศกึ ษาปที ๒ ยังไมส่ ามารถอ่านคําและเขยี นคํา ในภาษาไทย
ได้อยา่ งถกู ต้อง เนอื งจากขาดความรูค้ วามเข้าใจในด้านเนือหา หลักภาษาไทย
ในเรืองต่าง ๆ ดังนนั คณะผูจ้ ัดทําจึงได้จัดทําหนงั สอื เสริมทักษะภาษาไทย ชนั ประถม
ศกึ ษาปที ๒ ขึนมา เพือเปนการพัฒนาทักษะด้านภาษาไทยใหแ้ ก่ ผเู้ รียนชนั ประถมศึกษาปที ๒
ให้มีความรูค้ วามสามารถในเรืองของการอ่าน และเขียนคําในภาษาไทยใหถ้ กู ต้อง

(๒) การวิเคราะหร์ ะบบ สงิ แวดล้อม และสภาพขององค์กร เพอื พจิ ารณาถึง
ทรพั ยากร และอุปสรรคต่าง ๆ

เนืองจากผเู้ รียนในระดับชนั ประถมศึกษาปที ๒ อยูใ่ นชว่ งวัยนมี ีความต้องการเรยี นรู้
สิงใหม่ ๆ จากประสบการณข์ องตนเองและของคนรอบขา้ ง จึงอาจทําให้ผูเ้ รียนขาดสมาธิ
ในการเรียน ผูเ้ รียนจึงมีการพูดคุยกันระหว่างเรยี นและให้ความสนใจเนอื หาทีผสู้ อนสอนอยู่
นอ้ ยลง

ดังนันผสู้ อนจึงต้องมีวิธีสร้างแรงจูงใจให้ผ้เู รียนสนใจในเนอื หาทีเรียน
โดยการนําสอื ทีดึงดูดความสนใจผู้เรียนเพมิ เขา้ มา อีกทังสถานศึกษาแต่ละแหง่
มีความพร้อมด้านอุปกรณ์แตกต่างกัน ดังนนั สือประกอบการเรียนการสอน
ทีต้องใชจ้ ึงต้องสอดคล้องต่อความพร้อมด้านทรัพยากรของสถานศึกษานนั

(๓) การศกึ ษาลักษณะของกล่มุ ประชากร

เนืองจากเนอื หาทีจะจัดทําขนึ เปนเนือหาหลักภาษาไทย ดังนนั จึงต้องศกึ ษา
หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขันพนื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ วิชาภาษาไทย
เพือพิจารณาเนอื หาว่า เรืองต่าง ๆ ทีนาํ มาออกแบบบทเรยี น อยูใ่ นมาตรฐาน
และตัวชวี ัดใด เพอื ใหเ้ นือหามคี วามสอดคล้องและเหมาะสมกับพฒั นาการของเด็กวัยนี

(4) การวิเคราะหเ์ ปาหมายและจุดประสงค์ว่าเปนการเรยี นรูใ้ นลักษณะใด

คณะผ้จู ัดทําจึงได้ชว่ ยกันออกแบบแผน การเรียนรู้แบบระดมสมอง
การจัดการเรียนรู้ โดยการจัดกระบวนการเรยี น

การสอนทีผู้เรยี นเปนสาํ คัญ

มสี ว่ นรว่ มในการเรียนการสอน ผูเ้ รยี นเรียนรูด้ ้วยตนเอง

บทที ๓ วธิ กี ารดาํ เนนิ งาน ๔๓

ขนั ที ๒ การออกแบบ

(๑) การกําหนดเปาหมาย จุดประสงค์
ทสี ามารถสงั เกตได้วัดได้

ซึงแต่ละบท คณะผจู้ ัดทําได้กําหนดจุดประสงค์
ไว้ในแผนการจัดการเรียนรู้อยา่ งชัดเจน

(๒) การจัดลําดับเปาหมายและจุดประสงค์
ใหง้ ่ายต่อการเรยี นและการปฏิบตั ิ

ในขันนคี ณะผู้จัดทําก็ออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอนโดยเรมิ สอน
จากวัตถุประสงค์ทีง่ายก่อน ค่อยนาํ ไปสเู่ นอื หาทียากขนึ ตามลําดับ

(๓) การวางแผนการสอน

ในขันนคี ณะผจู้ ัดทําก็ได้ออกแบบกิจกรรมการเรยี นการสอน รว่ มกัน
วางแผนจัดทําแผนการสอน หาสอื การเรยี นรู้ทีเหมาะสม และเนน้ กิจกรรม
ทีให้ผู้เรยี นได้สรา้ งองค์ความรูด้ ้วยตนเอง ซงึ ในขันการวางแผนการสอนนี
คณะผจู้ ัดทําก็ได้คํานึงถึงสภาพปญหาทีอาจจะเกิดขนึ อันเนืองมาจาก
การแพรร่ ะบาดของโรคโควิด ๑๙ ทําใหอ้ าจจะต้องมีการจัดการเรยี นการสอนแบบออนไลน์

ดังนันคณะผจู้ ัดทําจึงได้วางแผนออกแบบการจัดการเรยี นการสอน ให้หลากหลาย
เพือให้สามารถสอนผู้เรยี นได้ทังแบบออนไซต์และออนไลน์ ดังตัวอยา่ งต่อไปนี

๔๔ บทที ๓ วธิ กี ารดาํ เนนิ งาน

ตัวอยา่ งการออกแบบ

บทท่ี ๖ เรยี นรู้ รร (ร หนั ) และตัวการันต์

ส่ือเทคโนโลยที ใ่ี ชป้ ระกอบกจิ กรรมการเรียนการสอนแบบออนไซต์และออนไลน์
๑. สไลด์ประกอบการทาํ กจิ กรรมนาํ เข้าสูบ่ ทเรียน (CANVA)

บทท่ี ๖ เรียนรู้ รร (ร หัน) และตวั การนั ต์

สอ่ื เทคโนโลยีท่ีใชป้ ระกอบกจิ กรรมการเรียนการสอนแบบออนไซตแ์ ละออนไลน์

ตนกลา ภาพประกอบ อารี ฟาใส
ภาพตนกลา นั่งโตะ เรียนขางปรดี า ฟาใสนง่ั ขา งอารี

(4 คน นงั่ เรยี งแถวหนากระดาน)
ถัดจากน้นั ก็อาจจะเปนเด็กคนอืน่ ๆ กไ็ ด

ตอ แถวหลงั 4 คนนี้ไป
หรืออาจจะมีครูอยใู นเฟรมดว ยกไ็ ด
เอาเทา ทไ่ี ด แตห ลกั ๆ คือเดก็ 4 คน

ปรชี า

ตน กลา ปรดี า อารี ฟาใส


Click to View FlipBook Version