กว่าจะเป็ นอุทยานแห่งชาติ
นายไมตรี อนุกูลเรืองกิตติ เจ้าพนักงานป่าไม้ 3 กองอุทยานแห่งชาติได้บันทึกเสนอผู้อำ�นวยการกองอุทยานแห่งชาติ ตามหนังสือ
ลงวันท่ี 27 เมษายน 2527 พรอ้ มสง่ รายงานการสำ�รวจพน้ื ทบ่ี รเิ วณปา่ ภลู งั กา ทอ้ งทอ่ี ำ�เภอบา้ นแพง จงั หวดั นครพนม ตามคำ�สง่ั กรมปา่ ไม้
ท่ี 55/2527 ลงวันท่ี 12 มกราคม 2527 ท่ีให้ออกไปสำ�รวจจัดต้ังเป็นวนอุทยาน โดยนายไมตรี ได้รายงานเสนอความเห็นว่ามีสภาพที่
เหมาะสม สมควรจัดตั้งเป็นวนอุทยาน ฝ่ายจัดการวนอุทยานได้พิจารณาแล้วเห็นว่า บริเวณป่าภูลังกาที่ทำ�การสำ�รวจมีพื้นที่ประมาณ 50
ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นทีอ่ ำ�เภอบ้านแพง จังหวดั นครพนม และอำ�เภอเซกา จงั หวดั หนองคาย สภาพป่าโดยทวั่ ไปเป็นปา่ ดิบเขา ปา่
เบญจพรรณที่สมบูรณ์ มีสัตว์ป่าอาศัย เป็นต้นกำ�เนิดของลำ�ห้วยหลายสาย มีลักษณะเป็นภูเขาเรียงซ้อนกันตามแนวแม่นํ้าโขง คือ ภูลังกา
เหนือ ภลู ังกากลาง และภูลงั กาใต้ ทอดยาวตามแนวทศิ เหนือกบั ทศิ ใตแ้ ละสลับด้วยทิวเขาขนาดเลก็ หลายลกู สลบั ซับซอ้ น พร้อมทง้ั ทอดยาว
ตามแนวลำ�น้าํ โขง จดุ สูงสุดบนภลู งั กาเหนือ สงู 563 เมตร จากระดับทะเล สภาพโดยทวั่ ไปของพน้ื ทเี่ ป็นภูเขาหินทราย ลานหนิ โดยแบ่งชน้ั
หินท่ีสำ�คญั ออกเปน็ 3 หมวด คอื หมวดหินโคราช หมวดหนิ ภพู าน และหมวดหินภกู ระดงึ ลักษณะดนิ จะเปน็ ดินทรายมีการพังทลายปาน
กลาง เป็นต้นกำ�เนิดของหว้ ยต่าง ๆ หลายสาย เช่น ห้วยทรายเหนอื ห้วยซา่ น ห้วยยางนกเหาะ ห้วยลังกา ห้วยขาม และห้วยทรายใต้ ซง่ึ
มีความสำ�คญั มากสำ�หรับราษฎรในทร่ี าบท่ีอยูร่ อบ ๆ ในการทำ�การเกษตรกรรม แล้วไหลลงสู่แมน่ าํ้ โขง ทอ่ี ำ�เภอบ้านแพง จงั หวดั นครพนม
ทัง้ มีจุดเดน่ ทางธรรมชาติ เช่น หน้าผา ถา้ํ นาํ้ ตกอยู่หลายแห่ง ซึ่งอยู่ในหลักเกณฑ์ท่สี ามารถจัดต้งั เป็นอทุ ยานแหง่ ชาติได้ ท้งั เปน็ การสนอง
นโยบายของรัฐบาล ในการอนุรกั ษ์พนื้ ท่ปี ่าไม้ไวใ้ นรปู แบบอทุ ยานแหง่ ชาติ จึงเหน็ สมควรจัดต้งั บรเิ วณปา่
301
เจดยี ศ์ รีบุญเนา
ภูลังกา ท้องท่ีอำ�เภอบ้านแพง จังหวัดนครพนมและอำ�เภอเซกา
จังหวัด หนองคายให้เป็นอุทยานแห่งชาติ และเห็นสมควรพิจารณา
จัดหาเจ้าหน้าที่ออกไปทำ�หน้าที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ เม่ือดำ�เนิน
การใหม้ ปี ระสทิ ธิภาพต่อไป
กรมปา่ ไม้ ได้มีคำ�สง่ั ท่ี 642/2539 เร่อื งใหข้ า้ ราชการไปปฏบิ ัติ
ราชการ ลงวนั ท่ี 1 เมษายน 2539 ใหน้ ายวชั รนิ ทร์ ปยิ ะสทุ ธิ เจา้ พนกั งาน
ป่าไม้ 5 ส่วนอทุ ยานแห่งชาติ สำ�นักอนุรกั ษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ไปทำ�
หน้าท่ีหัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูลังกา และสำ�รวจเพ่ิมเติมเพื่อจัดต้ัง
อุทยานแห่งชาติภูลังกา เพ่ือกำ�หนดพื้นท่ีบริเวณดังกล่าวเป็นอุทยาน
แห่งชาติตามนัยมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.
2504 โดยบริเวณดังกล่าวเปน็ พ้นื ท่ปี า่ สงวนแหง่ ชาติภูลังกา ออกตาม
ความในพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 พื้นท่ีประมาณ
70.45 ตารางกิโลเมตร มีอาณาเขตครอบคลุมพ้ืนท่ีในตำ�บลดงบัง
ตำ�บลโพธ์ิหมากแขง้ อำ�เภอบึงโขงโหลง จังหวัดบึงกาฬ ตำ�บลไผล่ อ้ ม
ตำ�บลนางัว ตำ�บลโพนทอง อ.บ้านแพง ตำ�บลหนองซน อำ�เภอนาทม
จงั หวดั นครพนม
กรมป่าไม้พิจารณาแล้ว เพื่อเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้
และทิวทัศน์ธรรมชาติท่ีสวยงามเพื่อรักษาสมดุลทางธรรมชาติของ
ระบบนิเวศน์ของพื้นท่ดี งั กล่าว ใหค้ งไวใ้ นรปู ของอทุ ยานแห่งชาติ เพ่อื
ประโยชน์แก่การศึกษาและรื่นรมย์ของประชาชนสืบไป จึงเห็นควร
กำ�หนดพื้นท่ีบริเวณดังกล่าวเป็นอุทยานแห่งชาติตามนัยมาตรา 6
แหง่ พระราชบญั ญตั ิอุทยานแหง่ ชาติ พ.ศ.2504 ประกาศเป็นอทุ ยาน
แห่งชาตเิ มื่อ 23 ธ.ค.2552 เปน็ ลำ�ดับที่ 117 ของประเทศ
302
ถ้ำ�นาคา
อุทยานแห่งชาตภิ ลู งั กา มีเส้นทางเดินขนึ้ ภูไปยงั เจดียศ์ รีบุญเนา เร่ิมเดินทางที่ทำ�การอุทยานแห่งชาติ ขน้ึ ยังภลู งั กากลาง ระยะทาง 4
กิโลเมตร ระหวา่ งทางจะเหน็ ดอกไมน้ านาชนดิ และลานหนิ อนั กวา้ งใหญ่ ทม่ี หี นา้ ผาชมทวิ ทศั นไ์ ดท้ ง้ั ทางฝง่ั แมน่ า้ํ โขงและทางดา้ นบงึ โขงโหลง
โดยดอกไมน้ านาชนิดจะบานในช่วงสิงหาคม - กนั ยายน นับเป็นพืน้ ท่ีท่มี คี วามสวยงามตามธรรมชาตอิ ย่างมาก
เน่อื งจากพ้นื ท่รี บั น้าํ สว่ นใหญอ่ ย่บู นภลู งั กาซง่ึ เปน็ ลานหนิ ทราย น้าํ จึงมักมใี นฤดูฝนและจะเร่มิ ลดปริมาณตง้ั แตเ่ ดือนตุลาคมเป็นตน้ ไป
โดยมนี าํ้ ตกตา่ ง ๆ ดงั นี.้ ..
303
ไปจังหวัดบงึ กาฬ
2026
บา นโนนชมพ� สปป.ลาว
อำเภอบึงโขงหลง นำ้ ตก ผานสำ้ วตรกรค นำ้ ตกบานนาโพธ์ิ แมน ำ้ โขงอำเภอบานแพง
ตาดวม� านทพิ ย ตาดโพธิ์
ไปภทู อก
ถ้ำนาคา อทุ ยทภา่ที ูลนำงัแกกหาางรชาติ
นำ้ ตกกินร� 212
3039
เจดียศรบ� ญุ เนาว
บานชยั ชนะ
น้ำตกหว ยทรายทอง น้ำตกตาดขาม
ไปบรรจบทางหลวงหมายเลขถนน 212 ได หนว ยพ�ทักษ
อุทยานแหงชาติที่ ภก.1
(นำ้ ตกตาดขาม)
ไปจังหวดั นครพนม
304
น้ำ�ตกตาดโพธิ์
ท่ีต้ัง : หมู่ 3 บ้านนาโพธ์ิ ต.ไผ่ล้อม
อ.บ้านแพง จ.นครพนม
พิกัด : 408979E 1988677N
การเข้าถึง : เริ่มเดินเท้าจากท่ีทำ�การ
อทุ ยานแหง่ ชาตไิ ปราว 500 เมตร ถงึ นา้ํ ตก
ตาดโพธ์ ิ ช้ันลา่ งสุด
ลักษณะ : น้ําตกตาดโพธ์ิ ชั้นล่างสุด
(ชนั้ ที่ 1) เปน็ น้ําตกท่สี ูงราว 8 เมตร ไหล
ลาดลงมาต่อเน่ืองกันเป็นสามช้ันใหญ่ ๆ
ระหวา่ งนน้ั จะเป็นน้ําตกช้นั เล็ก ๆ แบบข้นั
บันไดต่อเนื่องกัน หน้านํ้าตกไหลลาดยาว
ราว 15 เมตร
305
306
น�้ำ ตกผาสวรรค์หรอื นำ้�ตกตาดโพธชิ์ ั้น 4
ท่ีตั้ง : หมู่ 3 บ้านนาโพธ์ิ ต.ไผ่ล้อม อ.บา้ นแพง จ.นครพนม
พิกัด : -
การเขา้ ถงึ : เดินเลาะไปตามทางเลยี บลำ�หว้ ยตาดโพธ์ิ ราว 200 เมตร จะเจอนํ้าตกอีกชนั้ หนงึ่ แลว้ ต่อไปอีก 500 เมตร เจออีกชนั้ และ
ห่างไป 200 เมตร จะพบอกี ช้นั ที่ 4
ลักษณะ : อันทจี่ รงิ เป็นลำ�ห้วยเดยี วกบั นาํ้ ตกตาดโพธิ์ แต่ในช้ันถดั ๆ มามกี ารติดป้ายเปน็ นํ้าตกผาสวรรค์ โดยนํ้าตกชน้ั แรกจะเป็นน้ําตกผา
หนิ ทหี่ กั ตกลงมาในแนวดิง่ ชนั้ เดยี วสงู ราว 6 เมตร ส่วนชัน้ ตอ่ ไปท่หี ่างออกไปราว 500 เมตร จะเปน็ นา้ํ ตกช้ันที่ 2 เป็นหนา้ ผาหนิ เรียบ กวา้ ง
ราว 25 เมตร สูงราว 6 เมตร เอียงราว 75 องศา สายนาํ้ จะไหลเร่ยี มากับหน้าผาหนิ เอยี งนนั้ แลว้ ตกลงไปยงั แอง่ ด้านล่าง ในขณะทถ่ี า้ เดิน
ตอ่ ขึน้ ไปดา้ นบน จะเหน็ ลำ�ธารสายนํา้ ตกช้ันท่ี 3 ทตี่ กลงมาจากหน้าผาสูงราว 80 เมตร ตกลงมาชน้ั เดียว ในหน้าน้ําสายนา้ํ จะพุ่งลงสวยงาม
มาก แต่การเข้าไปยังภาคพนื้ ดนิ คอ่ นข้างลำ�บาก แมจ้ ะห่างช้ันเอยี งลาดนีไ้ ปราว 200 เมตรกต็ าม ในชว่ งเดือนสงิ หาคม - กนั ยายน จะมดี อก
ไมร้ ิมธาร เชน่ ลิน้ มังกร ดอกเข้าพรรษา ดอกเทียน เออื้ งนวลจนั ทร์ ผลิดอกบานรมิ ลำ�ธารสวยงามมาก
307
นำ�้ ตกตาดขาม
ท่ีตั้ง:บา้ นดอนบากต.นางัวอ.บา้ นแพง
จ.นครพนม
พิกัด : 418058E 1985078N
การเข้าถึง : อยู่ท่ีตั้งเดียวกับหน่วย
พทิ ักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ภก.1 (นํ้าตก
ตาดขาม) โดยเม่ือออกจากอำ�เภอ
บ้ า น แ พ ง ม า จ ะ พ บ สี่ แ ย ก ที่ ตั ด กับ
ทางหลวงหมายเลข 212 ขวางไว้ ใหข้ า้ ม
แยกแลว้ เขา้ ถนนตรงขา้ ม เขา้ ไปตามทาง
ราว 5 กโิ ลเมตร ถงึ หนว่ ยพทิ กั ษอ์ ทุ ยาน-
แหง่ ชาติ นํา้ ตกอยู่ตดิ ลานจอดรถ
ลักษณะ : เกิดจากลำ�ธารหลายสาย
308
บนยอดภูลงั กากลางและภูลงั กาใต้ ไหลมาบรรจบกันเปน็ ลำ�หว้ ยขาม แล้วไหลลาดลงมาระยะ
หนึ่ง แลว้ จึงลาดลงในแนวเกอื บด่ิง สูงราว 5 เมตร ลงมายงั แอ่งนา้ํ เบือ้ งล่างทเ่ี หมาะกับการ
เลน่ นา้ํ อย่างมาก จึงเป็นท่นี ิยมของคนทว่ั ไป
309
นำ้�ตกตาดวมิ านทพิ ย์
ท่ีต้ัง : บา้ นตาดวมิ านทพิ ย์ ต.โพธห์ิ มากแขง้ อ.บงึ โขงโหลง จ.บงึ กาฬ
พิกัด : 0405590E 1984501N
การเขา้ ถงึ : จากตวั อำ�เภอบงึ โขงโหลง ใชท้ างหลวงหมายเลข 2026 มงุ่ หนา้ ขน้ึ ทางเหนอื ไปราว 5 กโิ ลเมตรถงึ บา้ นโนนชมพมู ที างเลย้ี วขวา
เขา้ ไป (มปี า้ ยบอกเขา้ วดั ถา้ํ พวง) เขา้ ไปราว 4 กโิ ลเมตร พบสแ่ี ยก มปี า้ ยบอกเขา้ ถา้ํ นาคาหรอื ตาดวมิ านทพิ ย์ เลย้ี วซา้ ยเขา้ ไป 1 กโิ ลเมตร ถงึ บา้ น
ตาดวมิ าณทพิ ย์ มแี ยกซา้ ยมอื เขา้ ไปราวอกี 500 เมตรถงึ สำ�นกั สงฆต์ าดวมิ านทพิ ย ์ ไปจอดรถในลานจอดรถ แลว้ เดนิ เทา้ ตอ่ ไปราว 300 เมตร ถงึ
นา้ํ ตกชน้ั ท ่ี 1 ชว่ งการเดนิ เทา้ จะเดนิ ทางราบราว 100 เมตร จากนน้ั จะเปน็ การปา่ ยปนี กอ้ นหนิ นอ้ ยใหญข่ น้ึ เขาไปเรอ่ื ย ๆ บางชว่ งมเี ชอื กใหส้ าว
ตวั ขน้ึ ไป หรอื มบี นั ไดเหลก็ ถา้ ไปชว่ งหนา้ ฝนจะลน่ื มาก ตอ้ งเตรยี มตวั โดยเฉพาะรองเทา้ จะมชี น้ั นา้ํ ตกขน้ึ ไปเรอ่ื ย ๆ จนถงึ ชน้ั 8 ซง่ึ เปน็ ชน้ั สงู สดุ
จะใชเ้ วลา (เทย่ี วชมดว้ ย) ไปกลบั ราว 4 - 5 ชว่ั โมง
ลักษณะ : เปน็ นา้ํ ตกหนิ ทรายขนาดใหญ่ ทม่ี ที ง้ั หมด 8 ชน้ั ชน้ั 1 - 2 จะเปน็ ชน้ั ทต่ี กตอ่ เนอ่ื งกนั สงู ชน้ั ละราว 4 เมตร แตถ่ า้ ปนี ตอ่ ไปชน้ั ท่ี 3 จะ
เปน็ ชน้ั ใหญ่ ตกลงมาจากหนา้ ผาในแนวดง่ิ สงู ราว 40 เมตร ครน้ั ไตห่ นิ ขน้ึ ไปดา้ นบนจะเปน็ นา้ํ ตกชน้ั 4 - 7 ทบ่ี างชน้ั เปน็ หนา้ ผากวา้ งสงู ราว 5 - 6
เมตร บางชน้ั เปน็ แกง่ นา้ํ ไมส่ งู นกั แตก่ วา้ ง ในฤดฝู นมดี อกไมพ้ วกลน้ิ มงั กร ดอกเขา้ พรรษา เทยี นนอ้ ยขน้ึ ตามกอ้ นหนิ ชว่ งนจ้ี ะเดนิ ตามลำ�ธารขน้ึ
ไปเรอ่ื ย ๆ สว่ นชน้ั 8 จะเปน็ ชน้ั สงู สดุ เปน็ นา้ํ ตกทต่ี กลงมาจากรอ่ งเขา เปน็ ชอ่ งเลก็ ๆ ตกลงมาจากหนา้ ผาในแนวดง่ิ สงู ราว 30 เมตร ชน้ั เดยี ว
310
นำ้�ตกกินรหี รือตาดกนิ รี
ท่ีตั้ง : บา้ นนาอา่ ง ต.โพธห์ิ มากแขง้ อ.บงึ โขงโหลง จ.บงึ กาฬ
พิกัด : 0407886E 1984382N
การเขา้ ถงึ : จากบา้ นตาดวมิ านทพิ ย์ ใหต้ รงไปตามทางราว 6 กโิ ลเมตร ถงึ บา้ นนาอา่ ง เลย้ี วซา้ ยตรงทางแยกกลางหมบู่ า้ น ไปทางวดั ปา่ ตาด
กนิ นรี ไปอกี ราว 3 กโิ ลเมตร ถนนจะไปสดุ ทว่ี ดั ปา่ ตาดกนิ รี มบี งึ นา้ํ ใหญ่ แลว้ เดนิ ขา้ มสะพานไปจะเจอแยก ถา้ ไปนา้ํ ตกตาดเตา่ ใหต้ รงไปอกี ราว
100 เมตร เปน็ ชน้ั ลา่ งของนา้ํ ตกกนิ รี จะตอ้ งปนี กอ้ นหนิ ไป ในฤดฝู นหนิ เหลา่ นจ้ี ะลน่ื มาก ตอ้ งใชค้ วามระมดั ระวงั อยา่ งสงู แตถ่ า้ ไปนา้ํ ตกกนิ รี
ขา้ มสะพานแลว้ ใหเ้ ลย้ี วซา้ ยเดนิ ขน้ึ ไปตามทางขน้ึ เขาราว 300 เมตร
ลักษณะ : นา้ํ ตกตาดเตา่ ซง่ึ เปน็ ชน้ั ลา่ งของตาดกนิ รี เปน็ นา้ํ ตกผาหนิ สงู ราว 5 เมตร ตกดง่ิ ลงมา จากลานหนา้ ผากวา้ ง ดา้ นหนา้ เปน็ กองหนิ
ขนาดใหญ่ มพี ชื เลก็ ๆ ขน้ึ คลมุ สว่ นตาดกนิ รเี ปน็ แกง่ นา้ํ หนิ ทรายสแี ดง กวา้ ง แตส่ งู ไมม่ ากนกั ไหลลาดลงมา ในฤดฝู นจะมดี อกไมท้ ข่ี น้ึ บนกอ้ น
หนิ ทราย เชน่ เทยี นนอ้ ย ดอกเขา้ พรรษา ออกดอกสวยงามมาก ปลายลำ�หว้ ยสายนไ้ี หลลงสระนา้ํ ทส่ี ำ�นกั สงฆน์ า้ํ ตกกนิ รสี ดุ ทางถนนนน่ั เอง
บรเิ วณนา้ํ ตกเปน็ หนิ ทรายสนี า้ํ ตาลแดง เนอ้ื ละเอยี ด ในเนอ้ื หนิ มโี ครงสรา้ งเปน็ ลอนคลน่ื แสดงถงึ การสะสมตวั และตกตะกอนจากแมน่ า้ํ ท่ี
พดั พาตะกอนมาสะสมตวั เปน็ ครง้ั คราว สลบั การพดั พาของลมในสภาพอากาศกง่ึ แหง้ แลง้ ถงึ แหง้ แลง้ จากลำ�ดบั ชน้ั หนิ พบวา่ เกดิ การสะสมตวั ใน
ยคุ ครเี ทเชยี สตอนบน (ประมาณ 97 - 65 ลา้ นปกี อ่ น) หนา้ ผานา้ํ ตกเกดิ จากนา้ํ ทก่ี ดั เซาะไปตามรอยแตกของเนอ้ื หนิ ในบรเิ วณยงั พบหนิ ทม่ี ผี วิ รปู
รา่ งคลา้ ยสมอง อนั เกดิ จากการผพุ งั โดยธรรมชาตติ ามรอยแตกในเนอ้ื หนิ ดว้ ย
น�ำ้ ตกตาดเตา่
311
น�ำ้ ตกหว้ ยทรายทอง
ท่ีตั้ง : บา้ นโคกกระแซ-ชยั ชนะ ต.หนองซน อ.นาทม จ.นครพนม
พิกัด : -
การเขา้ ถงึ : จากตวั อำ�เภอบงึ โขงโหลง ใชท้ างหลวงหมาบเลข 2026 มงุ่ หนา้ ขน้ึ ทางเหนอื ไปราว 5 กม.ถงึ บา้ นโนนชมพมู ที างเลย้ี วขวา ทาง
เดยี วกบั ทจ่ี ะไปถา้ํ นาคาหรอื ตาดวมิ านทพิ ย์ แตใ่ หเ้ ลยแยก ตรงไปจนถงึ บา้ นชยั ชนะ กอ่ นเขา้ หมบู่ า้ น จะเลยทางเขา้ สำ�นกั ปฏบิ ตั ธิ รรมเทพมงคล
แกว้ มณี จะมที างแยกมปี า้ ยบอกทางเขา้ นา้ํ ตกหว้ ยทรายทอง เขา้ ไปจนสดุ ทาง จอดรถแลว้ เดนิ ราว 50 เมตร ถงึ นา้ํ ตกชน้ั ท่ี 1
ลักษณะ : เปน็ นา้ํ ตกทไ่ี หลมาตามลานหนิ ทรายลงในรอ่ งหนิ แลว้ ตกลงมาจากหนา้ ผาหนิ ทรายเปน็ ชน้ั ๆ มที ง้ั หมด 4 ชน้ั แตล่ ะชน้ั จะหา่ งกนั
ประมาณ 200 - 300 เมตร โดยจะมที างเดนิ เลยี บลำ�หว้ ยไป โดยชน้ั ทห่ี นง่ึ เปน็ นา้ํ ตกสงู ราว 6 เมตร ลงมาจากผาหนิ กวา้ งตกลงชน้ั เดยี ว ดา้ นหนา้
เปน็ กองหนิ ขนาดใหญ่ ดา้ นลา่ งมเี พงิ หนิ สามารถลอดเขา้ ไปดนู า้ํ ตกจากเพงิ ดา้ นในได้ เดนิ ตอ่ ไปจะเปน็ ชน้ั ทส่ี อง เปน็ นา้ํ ตกเตย้ี ๆ สองชน้ั สงู ชน้ั ละ
2 - 3 เมตร ทง้ิ ระยะกนั ราว 7 เมตร ชน้ั ทส่ี ามหา่ งออกไปอกี 250 เมตร จะเปน็ นา้ํ ตกสองชน้ั ทง้ิ ระยะกนั ไมม่ าก ชน้ั บนตกลงมาจากผาสงู ราว 2.5
เมตร แลว้ ไหลลาดแผก่ ระจายเตม็ ลานหนิ กวา้ งลงจากหนิ สงู ราว 3 เมตร สว่ นชน้ั ทส่ี ่ี จะเปน็ นา้ํ ตกทต่ี กลงมาจากหนา้ ผาหนิ สงู 12 เมตร ตกลงชน้ั
เดยี ว จากหนา้ ผากวา้ ง
นำ�้ ตกหว้ ยทรายทองชัน้ 4 312
ภาพ : เพจบึงกาฬพาเลาะ
น�้ำ ตกห้วยทรายทองช้ัน 3
ภาพ : เพจบงึ กาฬพาเลาะ
น้�ำ ตกห้วยทรายทองช้นั 1
ภาพ : เพจบงึ กาฬพาเลาะ
313
อุทยานแห่งชาติ
ภแู ลนคา
พน้ื ที่ 200.50 ตารางกิโลเมตร
ทต่ี ง้ั ทท่ี ำ�การอทุ ยานแหง่ ชาติ : ริมทางหลวงหมายเลข 2159 (ชัยภูมิ -
หนองบัวแดง) ต.หว้ ยต้อน อ.เมือง จ.ชัยภมู ิ
การเดนิ ทาง : จากจังหวัดชัยภมู ิ ใชท้ างหลวงหมายเลข 2051 (ชัยภูมิ - ตาดโตน)
ไปประมาณ 6 กโิ ลเมตร ถึงสี่แยกชอ่ ระกา เลย้ี วซา้ ยมือเขา้ ทางหลวงหมายเลข 2159
(ชัยภมู ิ - หนองบวั แดง) ไป 26 กโิ ลเมตร ถงึ หนา้ อทุ ยานแห่งชาติ
กว่าจะเป็ นอุทยานแห่งชาติ
เป็นพ้ืนท่ีป่าท่ีถูกกำ�หนดให้เป็นเขตป่าอนุรักษ์ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวัน
ที่ 7 และ 10 มีนาคม 2535 ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติภูแลนคาด้านทิศเหนือ
และป่าสงวนแห่งชาติภูแลนคาด้านทิศใต้ของท้องที่อำ�เภอเมือง อำ�เภอบ้านเขว้า
อำ�เภอหนองบัวแดง และอำ�เภอเกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ เนื่องจากยังมีสภาพ
ลานกางเตน็ ท์ลานสน
314
ปา่ ท่ีสมบูรณ์ มคี วามโดดเดน่ ทางธรรมชาติ เช่น หน้าผา สวนหิน ลำ�ธารนาํ้ ตก กรมปา่ ไม้จงึ ไดม้ ีคำ�สงั่ ใหน้ ายสุรชัย นาจำ�เรญิ เจา้ พนักงาน
ป่าไม้ 5 หัวหน้าอุทยานแห่งชาติตาดโตน ให้ไปสำ�รวจเบ้ืองต้นพื้นท่ีป่าสงวนดังกล่าว เพ่ือจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ ตามคำ�ส่ังกรมป่าไม้
ท่ี 2262/2539 ลงวันที่ 13 ธันวาคม 2539 โดยได้เข้าไปประสานงานกับทางจังหวัดชัยภูมิ และจากการสำ�รวจเจ้าหน้าท่ีได้ประสานงาน
กับหนว่ ยงาน ท้งั ภาครฐั และเอกชน องคก์ รต่าง ๆ ประชาชน และรวมถึงหนว่ ยงานป่าไม้ประจำ�จังหวดั ชยั ภมู ิ และป่าไม้เขตนครราชสมี าที่
เกย่ี วขอ้ ง
จากการสำ�รวจไดพ้ บว่าเป็นพ้ืนทปี่ า่ ท่ีสมบรู ณ์ มที ิวเขาน้อยใหญ่ เชน่ ทวิ เขาภแู ลนคา ภูเขยี ว ภคู ำ�นอ้ ย เป็นพ้ืนท่ีภูเขาและท่ีราบสูง
ซึ่งสงู จากระดับทะเลตัง้ แตป่ ระมาณ 200 - 1,038 เมตร มยี อดภูคี เป็นยอดเขาทส่ี งู สุด คือสงู ประมาณ 1,038 เมตร จากระดับทะเล พ้นื ท่ี
ทางดา้ นทศิ ใตจ้ ะเปน็ พ้นื ท่ีลาด ซงึ่ จะอยู่สงู จากระดบั ทะเลปานกลาง ประมาณ 200 - 700 เมตร และพ้นื ท่ีทางด้านทศิ เหนือจะเป็นพน้ื ท่ีลาด
ชันมาก มีหนา้ ผาหบุ เขาเปน็ สว่ นใหญ่
จงึ ไดส้ ง่ ขอ้ มลู ใหส้ ำ�นกั งานปา่ ไมจ้ งั หวดั ชยั ภมู ทิ ราบและพจิ ารณา ตามหนงั สอื อทุ ยานแหง่ ชาตติ าดโตน ท่ี กษ 0712.320/89 ลงวนั ท ่ี 21
กมุ ภาพนั ธ์ 2539 ซง่ึ สำ�นักงานป่าไม้จงั หวัดชยั ภมู ิไดพ้ จิ ารณาแลว้ มีความเหน็ พ้องกบั เจา้ หนา้ ทขี่ องอุทยานแห่งชาตติ าดโตน จึงไดน้ ำ�เร่อื ง
ราวเสนอคณะอนุกรรมการป้องกันการลักลอบทำ�ลายทรัพยากรป่าไม้ประจำ�จังหวัดชัยภูมิ เพ่ือพิจารณาต่อไป ตามหนังสือสำ�นักงานป่าไม้
จังหวัดชยั ภมู ิ ที่ ชย. 0009.2/720 ลงวันที่ 27 มิถนุ ายน 2539
คร้ังในการประชุมครั้งท่ี 1/2539 ลงวันที่ 23 กันยายน 2539 ของคณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการลักลอบทำ�ลาย
ทรัพยากรป่าไม้ พิจารณาเห็นชอบในการกำ�หนดประกาศพื้นท่ีป่าอนุรักษ์บางส่วน ในเขตพ้ืนท่ีป่าสงวนแห่งชาติป่าภูแลนคาด้านทิศเหนือ
และปา่ สงวนแห่งชาตปิ า่ ภแู ลนคาดา้ นทิศใต้ ซึง่ มเี น้ือท่ีประมาณ 48 ตารางกิโลเมตร เพือ่ จัดต้งั เปน็ อุทยานแห่งชาติ ตามหนงั สือกองอทุ ยาน
แห่งชาติ ที่ กษ. 0712/พิเศษ ลงวันท่ี 20 ธันวาคม 2539 ได้มีมติเห็นชอบและให้การสนับสนุนท่ีกรมป่าไม้จะประกาศพ้ืนที่ป่าอนุรักษ์
ดังกลา่ วใหเ้ ป็นอทุ ยานแห่งชาตโิ ดยเรว็ และมมี ตแิ นวความคิดเห็นตรงกนั โดยใหช้ อ่ื หนว่ ยงานใหม่น้วี า่ “อุทยานแหง่ ชาตภิ แู ลนคา” ดว้ ย
เหตุผลท่ีว่าแหล่งท่องเท่ียวต่าง ๆ ของอุทยานแห่งชาติแห่งใหม่น้ีตั้งอยู่ในทิวเขาภูแลนคา และเป็นท่ีรู้จักกันดีของประชาชนโดยท่ัวไป ซึ่ง
นายสถติ สวนิ ทร อธบิ ดีกรมปา่ ไม้ ไดอ้ นุมตั ิใหใ้ ชช้ ่ือ “อุทยานแห่งชาตภิ แู ลนคา” เมอื่ วันที่ 20 มกราคม 2540
ต่อมาในปี 2550 ได้มีพระราชกฤษฎีกากำ�หนดบริเวณที่ดินป่าภูแลนคาด้านทิศเหนือ และป่าภูแลนคาด้านทิศใต้ ในท้องท่ีตำ�บล
บ้านหัน ตำ�บลสระโพนทอง ตำ�บลโนนกอก ตำ�บลซับสีทอง ตำ�บลบ้านเด่ือ อำ�เภอเกษตรสมบูรณ์ ตำ�บลกุดชุมแสง ตำ�บลคูเมือง อำ�เภอ
หนองบัวแดง ตำ�บลทา่ มะไฟหวาน อำ�เภอแกง้ ค้อ ตำ�บลหว้ ยตอ้ น อำ�เภอเมอื งชยั ภมู ิ ตำ�บลภแู ลนคา อำ�เภอบ้านเขว้า จงั หวดั ชัยภมู ิ เนอ้ื ท่ี
315
ผาหงอนนาค
ประมาณ 200.50 ตารางกิโลเมตร ใหเ้ ป็นอุทยานแหง่ ชาติ ซึ่งประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา เลม่ 124 ตอนท่ี 37ก ลงวนั ที่ 27 กรกฎาคม
2550 เป็นอทุ ยานแห่งชาติลำ�ดับที่ 108 ของประเทศ
สง่ิ ท่ีเปน็ ที่รับรู้กันของอทุ ยานภแู ลนคาคือ จุดชมทวิ ทศั น์ภแู ลนคา มอหนิ ขาว กับผาหงอนนาค ซง่ึ เปน็ ชดุ ชมทิวทัศนท์ ่ีสวยงาม ทั้งใน
พ้ืนทีย่ งั มนี า้ํ ตกต่าง ๆ ไดแ้ ก่...
316
ไปอำเภอเกษตรสมบูรณ
บานโสกเชอื ก บานสระ นำ้ ตกตาดโตนนอ ย
จ�ดสกดั
ไปบา นโนนเหมา หนออำงบเภัวอแดง น้ำตกชอ งพนั ลำ บานบอ ทอง
บานกกคู
2037 มอหินขาว
หนวยพ�ทักษ บาน
ซับสที อง
อุทยานแหงชาตชิ ว่ั คราว
(ผาหงอนนาค) บานทา หนิ โงม
ไปอำเภอภักดีชมุ พล 2359 ท่ีทำการอทุ ยานแหง ชาติภูแลนคา ทท่ี ำการอทุ ยานแหง ชาตติ าดโตน
นำ้ ตกผาเอยี ง
หนวยพท� กั ษ นำ้ ตก
พานทอง บานชีลองเหนอื
อุทยานแหงชาติท่ี ภค.2 บานชีลองกลาง บรรจบถนน 201
(พานทอง) บานซับปลากาง
บา นวงั เดอื นหา โรงเรย� น
หว ยตอ น
พท� ยาคม ม.ราชภฎั ชัยภูมิ
2051
2159
แยกชอระกา บรรจบถนน 201
เ ขาชัย ูภ ิม
317
นำ�้ ตกตาดโตนนอ้ ย
ท่ีต้ัง : หมู่ 3 บา้ นโสกเชอื ก ต.โนนกอก อ.เกษตรสมบรู ณ์ จ.ชยั ภมู ิ
พิกัด : -
การเขา้ ถงึ : จากอำ�เภอหนองบวั แดง ใชถ้ นน 2037 ไปทางเกษตรสมบรู ณ์ ไปจนถงึ บา้ น
โสกเชอื ก มที างเลย้ี วซา้ ยเขา้ ทางหลวงหมายเลข 4021 ไปตามทางจนเลยบา้ นสระไปไมม่ าก
จะมที างเลย้ี วซา้ ย (ตรงไปจะพบจดุ สกดั ของอทุ ยานแหง่ ชาต)ิ เลย้ี วไปตามทางลำ�ลอง เขา้ ไป
ตามทางจนสดุ ทางในปา่ แลว้ เดนิ เทา้ เลาะไปตามทอ่ PVC ทต่ี อ่ มาจากนา้ํ ตก เดนิ ไปราว 150
เมตร ถงึ นา้ํ ตก
ลักษณะ : เปน็ นา้ํ ตกทม่ี าจากลำ�ธารนอ้ ยใหญจ่ ากทวิ เขาภเู กษตรไหลมารวมกนั ตกลงจาก
หนา้ ผาหนิ ทราย ตกลงมาชน้ั เดยี ว สงู ราว 15 เมตร ดา้ นลา่ งเปน็ กลมุ่ หนิ ถลม่ จงึ ไมม่ แี อง่ นา้ํ
นา้ํ จะไหลลอดใตห้ นิ
318
น้�ำ ตกตาดหนิ ดาดหรอื นำ้�ตกพานทอง
ท่ีตั้ง : หน่วยพทิ กั ษ์อทุ ยานแห่งชาติท่ี ภค.2 (พานทอง) ต.ภแู ลนคา อ.บ้านเขว้า
จ.ชัยภูมิ
พิกัด : X796514 Y1765493
การเขา้ ถึง : ใช้ทางหลวงหมายเลข 2159 (ชัยภมู ิ - หนองบวั แดง) มุง่ หนา้ อำ�เภอ
หนองบัวแดง จนถึงบ้านชีลองเหนือ จะมีทางแยกซ้ายมือ (ก่อนถึงทางเข้านํ้าตก
ผาเอียง มศี าลาหน้าปากทาง) เข้าไปตามทางจะผ่านบ้านชลี องกลาง เลยไปอกี 3.5
กิโลเมตร จะมีสามแยก (เลี้ยวซ้ายจะไปบ้านชีลองใต้และออกถนน 2159 ได้อีก)
ให้เลย้ี วขวา กจ็ ะผ่านบ้านสามพนั ตา - บา้ นวังเดอื นห้า แล้วจะข้ามสะพานปนู ไปอีก 3 กโิ ลเมตร จะถึงบา้ นซบั ปลาก้าง จะมีทางแยกขวามอื
เข้าไป 2 กิโลเมตร ถึงหนว่ ยพทิ กั ษ์อุทยานแห่งชาติ นํ้าตกอยตู่ ดิ หน่วยพทิ กั ษ์
ลักษณะ : เกิดจากลำ�หว้ ยหินดาด เดมิ ชาวบ้านเรยี กชอ่ื น้ําตกตามชอ่ื ลำ�หว้ ย ครัน้ ตอ่ มามกี ารมาตง้ั หนว่ ยพทิ ักษอ์ ทุ ยานแห่งชาติ โดยใช้ชื่อ
ว่าหน่วยพานทอง บางครัง้ เลยเรียกเป็นนาํ้ ตกพานทองตามชอื่ หนว่ ยบา้ ง เป็นแกง่ ท่นี าํ้ ไหลลาดมาตามลานหนิ กว้างที่เอยี งราว 30 องศา เปน็
ระยะทาง 50 เมตร ปลายแกง่ เป็นชั้นน้ําตกเลก็ ๆ สูงราว 1เมตร ตกลงไปก่อนจะไหลลงอา่ งเกบ็ นํา้ ของหมู่บา้ นต่อไปมนี ้ําเฉพาะชว่ งหนา้ ฝน
319
น�้ำ ตกช่องพันลำ�
ท่ีต้ัง : หมู่ 9 บ้านบ่อทองคำ� ต.ซับสีทอง อ.เมือง จ.ชัยภมู ิ
พิกัด : X182238 Y1792614
การเข้าถึง : ใชท้ างหลวงหมายเลข 2051 (ชยั ภูมิ - นาํ้ ตกตาดโตน) ถึงหนา้ ทางเข้าอทุ ยานแหง่ ชาตติ าดโตน เลีย้ วซา้ ยไปตามเสน้ ทางไป
มอหนิ ขาว จนถงึ วัดท่าหนิ โงมจะมที างเล้ยี วซา้ ยเข้ามอหนิ ขาว จะผ่านวัดแจง้ เจรญิ แลว้ เจอทางแยกขวา (ตรงไปจะไปมอหินขาว) เขา้ ไปตาม
ทางเรื่อย ๆ ผา่ นบา้ นหนองแวง เล้ยี วขวาไปบ้านกกผึง้ ผา่ นวัดบ้านกกผ้ึง แล้วถึงบ้านบอ่ ทอง จะเปน็ ทางลำ�ลองเขา้ ไปในสวนยางเก่าราว 500
เมตร ถงึ ลานจอดรถแลว้ เดินเท้าราว 100 เมตร จะมีทางลงไปในหุบหานา้ํ ตก ลงไปราว 30 เมตรถงึ นํ้าตก
ลักษณะ : เป็นนํ้าตกท่ีเกิดจากลำ�ห้วยช่องพันลำ� ตกจากหน้าผาแผ่นหินทรายที่ย่ืนออกมา ด้านล่างเป็นเวิ้งเข้าไป น้ําตกสูงประมาณ 10
เมตร ลงไปในรอ่ งหว้ ยด้านล่าง มีแก่งน้าํ เลก็ ๆ ตามร่องห้วยหลายแห่ง บรรยากาศรม่ ร่ืน
320
ภเู วยี งทอดตัวโดดเด่นเหน็ ได้อย่างชัดเจน
อุทยานแห่งชาติ
ภเู วียง
พนื้ ท่ี 325 ตารางกโิ ลเมตร
ทต่ี ง้ั ทท่ี �ำ การอทุ ยานแหง่ ชาติ : ต.ในเมือง อ.เวยี งเก่า จ.ขอนแก่น
การเดนิ ทาง : จากจงั หวดั ขอนแก่น ใชเ้ ส้นทางหลวงหมายเลข 12 (ขอนแกน่ - ชมุ แพ)
ผา่ นอำ�เภอบา้ นฝาง อำ�เภอหนองเรอื ถึงทางแยกไปอำ�เภอภูเวยี ง เขา้ ไประยะทางประมาณ
48 กิโลเมตร ถึงภูเวียง แล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 2038 ไปอำ�เภอเวียงเก่า และเข้าถึง
ที่ทำ�การอทุ ยานแห่งชาติ รวมระยะทางจากอำ�เภอภูเวียง ประมาณ 38 กโิ ลเมตร
321
เทือกภเู วยี งเด่นตระหงา่ น (มองจากอุทยานภผู ามา่ น)
ผาชมตะวนั บนยอดภเู วยี ง
กว่าจะเป็ นอทุ ยานแห่งชาติ
เดิมปา่ ภเู วยี งได้ประกาศเป็นปา่ สงวนแหง่ ชาติ ตามกฎกระทรวงฉบับท่ี 64 พ.ศ. 2508 ลงวนั ที่ 24 มถิ ุนายน 2508 และได้เปดิ การ
ทำ�ไมใ้ นพน้ื ทีด่ ังกล่าวตามเงอ่ื นไขของรัฐบาล โดยมบี ริษทั ขอนแกน่ ทำ�ไมเ้ ปน็ ผรู้ บั สัมปทาน จากการที่พลเอกหาญ ลนี านนท์ รัฐมนตรวี า่ การ
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เดินทางไปตรวจราชการและทำ�การบินตรวจสภาพป่าทางอากาศ เม่ือวันที่ 16 พฤษภาคม 2530 พบว่า
สภาพป่าบางส่วนมีสภาพสมบูรณ์ดี จึงดำ�ริให้สงวนป่าท่ีสมบูรณ์ไว้เป็นอุทยานแห่งชาติ และให้จัดเจ้าหน้าท่ีออกตรวจสอบและติดตาม
ผลการทำ�ไม้ตามเงื่อนไขสัมปทานในส่วนที่ได้ผ่านการทำ�ไม้แล้วและท่ีกำ�ลังดำ�เนินการทำ�ไม้อยู่ ผลการตรวจสอบโดยคณะเจ้าหน้าท่ีจาก
กอ.รมน.ภาค 2 และเจา้ หน้าทปี่ ่าไม้จงั หวัดขอนแก่น เมือ่ วันที่ 23 พฤษภาคม 2530 ปรากฏวา่ การทำ�ไม้ในปา่ สมั ปทานโครงการภูเวยี ง (ขก.
2) ตอน 7 แปลง 21 โดยบริษทั ขอนแกน่ ป่าไม้ ไดด้ ำ�เนินการทำ�ไมต้ ามระเบียบ นโยบาย และเง่อื นไขสัมปทาน เหลอื ไมท้ ่ีสงวนไว้พอประมาณ
ตามหนงั สอื รายงานของจงั หวดั ขอนแกน่ ที่ ขก 0009/21641 ลงวนั ที่ 3 มถิ นุ ายน 2530 ซงึ่ รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้
มบี นั ทกึ สงั่ การลงวนั ท่ี 16 มถิ ุนายน 2530 ใหก้ รมปา่ ไม้พิจารณาจัดต้ังเปน็ อทุ ยานแห่งชาติภูเวยี ง
วันท่ี 22 กรกฎาคม 2530 กองอุทยานแห่งชาติจึงได้ให้นายอุดม ยกฉวี เจ้าพนักงานป่าไม้ 4 ไปทำ�การสำ�รวจเบื้องต้นป่าภูเวียง
และบริเวณป่าใกล้เคียงเพ่ือจะจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ และได้รับรายงานว่าพื้นที่ป่าดังกล่าวและบริเวณใกล้เคียงมีแหล่งท่องเท่ียวและ
จุดเด่นทางธรรมชาติหลายแห่ง และมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ อุทยานแห่งชาติภูเวียง มีลักษณะภูมิประเทศโดยท่ัวไปเป็นทิวเขาล้อม
322
รอยตนี ไดโนเสาร์ เสาหนิ ใกล้ผานางคอย
เป็นวงอยู่ 2 ชั้น ตรงกลางเป็นแอ่งขนาดใหญ่คล้ายแอ่งกระทะซึ่งเป็นท่ีราบและลอนลาด ส่วนพื้นที่โดยรอบแอ่งมีลักษณะเป็นทิวเขาซึ่ง
มีมุมเทเข้าหาใจกลางแอ่ง ประกอบด้วยทิวเขาท่ีมีความลาดชันปานกลางถึงลาดชันสูง ทิวเขาชั้นนอกสุดมียอดเขาสูงสุด 844 เมตรจาก
ระดับทะเลปานกลาง บริเวณทิศตะวันตกเฉียงใต้ของพื้นที่ และทิวเขาช้ันในมียอดเขาสูงสุด 470 เมตรจากระดับทะเลปานกลาง บริเวณ
ทิศเหนือของพื้นท่ีทวิ เขาช้นั ในนเ่ี องที่เป็นแหล่งฟอสซิลไดโนเสาร์ ส่วนระดับตา่ํ สดุ ของเชงิ เขาอยู่ระดับ 210 เมตรจากระดบั ทะเลปานกลาง
เป็นแหลง่ ตน้ นา้ํ ลำ�ธารของหว้ ยทรายขาวซง่ึ จะไหลลงลำ�นา้ํ พอง หว้ ยบง้ั ทง้ิ หว้ ยนา้ํ ไหล ซง่ึ จะไหลลงลำ�นา้ํ เชญิ หว้ ยเรอื หว้ ยขมุ ปนู หว้ ยนา้ํ บอง
และห้วยมะนาว ซ่ึงจะไหลลงห้วยบอง ทั้งลำ�นํ้าพอง หัวยบอง และลำ�นํ้าเชิญ จะไหลลงอ่างเก็บนํ้าอุบลรัตน์ พื้นที่มีความเหมาะสมที่จะ
ดำ�เนินการจดั ตง้ั เป็นอทุ ยานแหง่ ชาติ
กรมป่าไม้ได้นำ�เสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ซึ่งได้มีมติคราวประชุมครั้งท่ี 3/2532 เม่ือวันท่ี 3 ตุลาคม 2532 เห็นชอบให้
กำ�หนดพื้นท่ีดังกล่าวเป็นอุทยานแห่งชาติได้ โดยได้มีพระราชกฤษฎีกากำ�หนดบริเวณท่ีดินป่าภูเวียง ในท้องท่ีตำ�บลกุดธาตุ ตำ�บลในเมือง
ตำ�บลบ้านโคก ตำ�บลเขานอ้ ย ตำ�บลขนวน ตำ�บลบ้านเรือ ตำ�บลเมืองเกา่ พัฒนา ตำ�บลสงเปือย ตำ�บลนาชมุ แสง อำ�เภอภูเวียง ตำ�บลวงั เพม่ิ
ตำ�บลศรสี ขุ ตำ�บลนาจาน อำ�เภอสีชมพู และตำ�บลวงั หนิ ลาด ตำ�บลหนองเสาเล้า ตำ�บลหนองไผ่ และตำ�บลขวั เรยี ง อำ�เภอชุมแพ จังหวดั
ขอนแก่น พ้ืนท่ีประมาณ 325 ตารางกโิ ลเมตร เป็นอุทยานแห่งชาติ ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 108 ตอนที่ 215 ลงวนั ที่ 8
ธันวาคม 2534 นับเปน็ อุทยานแหง่ ชาติลำ�ดบั ที่ 71 ของประเทศ
323
พระพุทธไสยาสน์แกะสลกั บนหน้าผาหนิ ทรายบนยอดภเู วียง พลาญป่าชาด
รอยตนี ไดโนเสาร์ สวนหนิ ทีผ่ านางคอย
คำ�ว่า “ภูเวียง” เป็นท้องที่อำ�เภอท่ีเก่าแก่ของจังหวัดขอนแก่นอำ�เภอหนึ่ง และยังเป็นชื่อเรียกของทิวเขาซ่ึงปัจจุบันได้มีพระราช-
กฤษฎีกากำ�หนดพ้ืนท่ีป่าภูเวียงให้เป็นอุทยานแห่งชาติ อยู่ในท้องท่ีอำ�เภอภูเวียง อำ�เภอสีชมพู อำ�เภอชุมแพ อำ�เภอเวียงเก่า และอำ�เภอ
หนองนาคำ� จังหวัดขอนแก่น มีหลักฐานว่า ป่าภูเวียงเคยเป็นแหล่งชุมชนโบราณท่ีมีอารยธรรมเมื่อหลายพันปีล่วงมาแล้ว มีการขุดพบ
กระดูกมนษุ ยโ์ บราณ เคร่อื งมอื เครอื่ งใช้ โลหะสำ�ริด พระนอนสมัยทวาราวดี รวมท้งั ภาพเขียนสีสมัยก่อนประวัติศาสตรท์ ่ถี า้ํ (หลืบเงนิ ) บน
ทวิ เขาภูเวียง นอกจากน้ันเมื่อประมาณปี 2519 มีการค้นพบรอยตีนและซากกระดูกไดโนเสาร์ และสตั วโ์ ลกดึกดำ�บรรพอ์ ายเุ กือบ 200 ลา้ น
ปี ซ่ึงสมเด็จพระกนิษฐาธริ าชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงสนพระทัยและเสดจ็ ทอดพระเนตร เมอ่ื วนั ที่
3 พฤศจิกายน 2532
นา้ํ ตกในอทุ ยานแหง่ ชาตภิ เู วยี ง สว่ นใหญจ่ ะอยเู่ ปน็ กลมุ่ ในเสน้ ทางไปนา้ํ ตกตาดฟา้ จะมลี ำ�หว้ ยสายหลกั ซง่ึ ในลำ�หว้ ยเดยี วกนั จะมนี า้ํ ตก
ตา่ ง ๆ เกดิ ขน้ึ หรอื มลี ำ�หว้ ยสาขาทไ่ี หลมารวมกบั หว้ ยสายน ้ี (นา้ํ ตกจะอยทู่ างซา้ ยมอื ของถนนขน้ึ ยอดภเู วยี งทง้ั หมด) มเี พยี งนา้ํ ตกทบั พญาเสอื
นา้ํ ตกตาดโตน และน้าํ ตกคารวะ ทอี่ ยู่หา่ งออกมา นอกนัน้ จะอยทู่ างไปผาชมตะวัน ซง่ึ มรี อยตีนไดโนเสาร์ พลาญปา่ ชาดอยู่ด้วยนน่ั เอง
324
ไปอำเภอหนองนาคำ
นำ้ ตกตาดโตน อบต.กดุ ธาตุ ลานกางเต็นทต าดฟา ผาชมตะวนั
ลานจอดรถ
2133 นำ้ ตกแกง มวง
นำ้ ตกตาดฟา
กลุมนำ้ ตก นำ้ ตกตาดกลาง
น้ำตกตาดฮางร�น
ดานตรวจโคกสูง รอยตนี ไดโนเสาร
อ.ภเู วย� ง (พลาญปา ชาด)
นำ้ ตกทับพญาเสอื อำเภอเวย� งเกา
ผานางคอย นำ้ ตกวังสกั ส�วิ
ดานตรวจโคกสูง
ที่ทำการอทุ ยานแหง ชาตภิ ูเว�ยง
คลอง
เขาเว�ยงเกา
น้ำตกคารวะ หนวยพท� กั ษอุทยานแหงชาติท่ี ภว.2 (หวั ภูชน) 2038
เทศบาล บา นขามปอ ม
โคกสูงสมั พนั ธ นาสีนวน
ไปชมุ แพ ตลาดหนองแก
12
12
ไปขอนแกน
ไปอาจสามารถ
325
นำ�้ ตกตาดฮางริน
ท่ีตั้ง : หมู่ 14 บัานโนนสงู ต.ในเมอื ง อ.เวียงเกา่ จ.ขอนแกน่
พิกัด : 48Q 207832E 1851553N
การเขา้ ถึง : จากในตัวอำ�เภอเวยี งเก่า ใช้ทางหลวงชนบทไปทางบ้านโนนสะอาด เลยไปสักระยะจะมปี ้ายบอกขนึ้ นาํ้ ตกตาดฟ้า เลยี้ วซา้ ย
ขนึ้ ไปตามทางจนกระท่ังจะถึงดา่ นตรวจโคกสูง ของอุทยานแห่งชาติ จะมที างเล้ียวซา้ ยกอ่ นถงึ ด่านนดิ เดยี ว เป็นทางลำ�ลอง ข้ามคลองไปราว
400 เมตร ถึงนํ้าตก
ลักษณะ : เป็นแก่งน้ําตกหิน และลานหินกว้าง ท่ีไหลลาดลง เอียงไม่มากราว 30 องศา ลงมาตามลานหิน เป็นทางยาวราว 70 เมตร
บรรยากาศรม่ รื่น
คำ�ว่า ฮางรนิ มาจาก รางรนิ ซึ่งเป็นทางนํา้ ไหล โดยมีการตั้งชอื่ ตามภมู ิปญั ญาชาวบา้ นสมยั ก่อนทีม่ กี ารสร้างระบบชลประทานแบบ
ชาวบา้ น สืบทอดกันมาชา้ นาน ลกั ษณะเป็นรางไมไ้ ผ่ มเี สาคา้ํ ยนั และผกู โยงกบั ต้นไม้ รองรบั น้าํ จากธารนํา้ ตกไหลลงส่ลู ำ�คลองและไรน่ า
326
น้�ำ ตกวงั สักสิ่ว
ท่ีตั้ง : ทิศเหนือของทิวเขาภูเวยี ง หมู่ 14 บ้านโนนสงู ต.ในเมอื ง อ.เวียงเกา่ จ.ขอนแก่น
พิกัด : 48Q 209581E 1853115N
การเข้าถึง : ยอ้ นกลับออกมาทดี่ า่ นตรวจโคกสูง หลงั จากเสยี คา่ บรกิ ารแล้ว ขน้ึ ไปตามทางราว 1.5 กโิ ลเมตร จอดรถขา้ งทาง แล้วเดนิ ไป
ตามทางเดินลงห้วยราว 100 เมตร
ลักษณะ : เป็นแกง่ นาํ้ ลานหนิ ทีน่ ้าํ ไหลแผก่ วา้ ง ลาดลงมาเป็นทางยาวราว 40 เมตร แล้วจงึ ตกลงจากชน้ั หนิ ตา่ งระดบั สงู ราว 4 เมตร ลง
ยงั พน้ื เบื้องล่าง บรรยากาศโดยทวั่ ไปรม่ ร่นื น่าเลน่ นํ้าอยา่ งมาก
327
นำ้�ตกตาดกลาง
ท่ีตั้ง : หมู่ 14 บ้านโนนสูง ต.ในเมอื ง อ.เวยี งเกา่ จ.ขอนแกน่
พิกัด : 48Q 208914E 1855570N
การเข้าถึง : เป็นน้ําตกเดียวท่ีเดินเข้าไปค่อนข้างลำ�บากและไม่มีทางลงจากถนน ต้องเดินเลาะเลียบลำ�ห้วยจากวังสักสิ่วข้ึนไปในทิศทาง
ทวนนํา้ ขนึ้ ไปเปน็ ระยะทางราว 3 กโิ ลเมตร
ลักษณะ : ด้านบนเหนือน้ําตกเป็นลานหนิ กวา้ ง ที่นาํ้ ลาดไหลลงมาเปน็ ทางยาวเอียงราว 15 องศา ไหลลาดลงมากอ่ นจะตกลงไปเป็นชน้ั
นํ้าตกหินสูงราว 3 เมตร ตกแผก่ วา้ ง ด้านล่างเป็นแอ่งนาํ้ ตื้น ๆ และเป็นลานหิน
328
น้ำ�ตกตาดฟ้า
ท่ีตั้ง : หมู่ 14 บ้านโนนสงู ต.ในเมือง อ.เวยี งเกา่ จ.ขอนแกน่
พิกัด : 48Q 207001E 1858288N
การเข้าถึง : เลยจากทางลงวังสักส่ิวมาราว 3 กิโลเมตร (ระหว่างทาง
จะผา่ นพลาญปา่ ชาดซงึ่ มีรอยตีนไดโนเสาร์) มีป้ายบอกทางลง เดนิ ไปตาม
ทางราว 200 เมตร ทางจะลงสหู่ บุ เขา เบื้องลา่ ง จนถึงนํา้ ตก
ลักษณะ : เป็นน้ําตกที่สวยท่ีสุดของอุทยานแห่งชาติน้ี นํ้าตกตกลงมา
จากหน้าผาหินชัน้ เดยี ว สูงราว 25 เมตร ดา้ นลา่ งเปน็ แอ่งหนิ ทราย สแี ดง
รอบ ๆ บริเวณมีความรม่ รน่ื ดว้ ยร่มเงาไม้
329
บริเวณน้ีจะเป็นหินในหมวดหินพระวิหาร ชั้นหินเอียงเทจาก
แนวระนาบ ประกอบด้วยหินทรายสขี าว สีขาวแกมเหลือง ส่วนใหญ่
ประกอบด้วยแร่ควอตซ์ขนาดเม็ดละเอียด การคัดขนาดดี มีความ
กลมมนปานกลางถึงดี มีอายปุ ระมาณยคุ ครีเทเชยี ส (ประมาณ 140
ล้านปีล่วงมาแลว้
ในยุคจูแรสซิกถึงยุคครีเทเชียส ตะกอนท่ีสะสมตัวในสภาวะ
แวดล้อมทางนํ้าโบราณบนแผ่นดิน โดยการพัดพาตะกอนของแม่น้ํา
ประสานสายและแม่น้ําโค้งตวัด ตะกอนที่ทับถมและจมตัวลง ผ่าน
กระบวนการทางธรณีแล้วกลายเป็นหินชั้นหรือหินตะกอน (ส่วน
ใหญ่เป็นหินทราย) ต่อมาเกิดการเคลื่อนท่ีของแผ่นอนุทวีปชานไทย
ชนกับแผ่นอนุทวีปอินโดจีน ทำ�ให้ช้ันหินทรายบริเวณน้ีเกิดยกตัว
ขึ้นเป็นภูเขา เมื่อประมาณ 40 ล้านปีก่อน ทำ�ให้โครงสร้างของหิน
เกิดการคดโค้ง มีรอยแตก รอยเล่ือน ซึ่งเป็นช่องทางให้น้ําไหลผ่าน
พร้อมทั้งกัดเซาะหินทีละน้อย ๆ ส่วนท่ีถูกกัดเซาะนํ้าก็จะพัดพาไป
ทำ�ให้เกิดการพังทลายเป็นหน้าผาชัน เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดในช่วง
เวลายคุ ควอเทอรน์ ารี (ประมาณ 1.8 ล้านปีมาแล้ว - ปัจจบุ ัน)
330
นำ้�ตกแก่งม่วง
ท่ีต้ัง : ตอนบนของน้ําตกตาดฟ้า ต.ในเมือง อ.เวียงเก่า
จ.ขอนแก่น
การเขา้ ถึง : 48Q 207040E 1858523N
การเข้าถึง : ออกมาที่ถนน แล้วเลยจากทางลงไปนํ้าตก
ตาดฟ้าราว 200 เมตร จะมีทางเดนิ เล็ก ๆ เขา้ ไปในป่า เดิน
เข้าไปราว 100 เมตร ถงึ นํ้าตก
ลักษณะ : เปน็ นํา้ ตกเตีย้ ๆ สูงราว 3 เมตร แต่หน้าน้ําตก
กวา้ งราว 10 เมตร เปน็ ชั้นนา้ํ ตกทีเ่ งียบสงบ มผี มู้ าทอ่ งเทย่ี ว
น้อย ในช่วงหนา้ นา้ํ เปน็ แกง่ นาํ้ ท่ใี หญจ่ นข้ามน้ําตกไม่ได้
331
น�้ำ ตกทับพญาเสอื
ท่ีตั้ง : ทิศใตข้ องเทือกภูเวยี ง หมู่ 10 บ้านโนนสาวเอ้ ต.เมืองเกา่ พฒั นา อ.เวียงเก่า จ.ขอนแก่น
พิกัด : 48Q 203135E 1841019N
การเขา้ ถึง : เสน้ ทางนีต้ ้องใช้รถ 4 WD เพราะทางค่อนขา้ งยาก โดยเริ่มจากทีท่ ำ�การอทุ ยานแห่งชาติ ยอ้ นออกมาราว 200 เมตร จะมี
ทางเขา้ ไปยังจดุ ขุดค้นซากฟอสซลิ และลานกางเต็นท์ เข้าไปตามทางเร่อื ย ๆ จะเปน็ ทางลำ�ลอง ราว 5 กิโลเมตร จะเจอดา่ นตรวจหินรอ่ ง
ซึง่ ทน่ี จ่ี ะมีลานกางเต็นท์ มหี อ้ งนา้ํ ไว้บรกิ าร เป็นแหล่งจดั ค่ายลกู เสอื เลยหน่วยน้ไี ปไมไ่ กลจะเป็นสถานวี จิ ัยตน้ น้ําช ี แล้วไปตามทางอีกราว
5 กโิ ลเมตร จะเรม่ิ เปน็ ลานหนิ มถี ํา้ ฝา่ มอื แดง เป็นเพิงหินแคบ ๆ ใกล้กนั จะเปน็ เสาหนิ และจุดชมทิวทศั น์ผานางคอย ถ้ารถยนตไ์ ปตอ่ ไม่ได้
ให้เดนิ จากจดุ นีไ้ ป ราว 400 เมตร ถงึ น้ําตกทบั พญาเสอื แต่ถ้ารถเข้าได้ ก็เข้ามาจนถงึ ทางลงนํา้ ตก
ลักษณะ : นํา้ ตกเปน็ น้าํ ตกหินสูงราว 5 - 6 เมตร ตกหักลงมาค่อนขา้ งดิง่ ด้านลา่ งเป็นแอง่ น้ําเล็ก ๆ กอ่ นจะไหลลาดลงไปตามลำ�หว้ ยทีเ่ ปน็
หนิ แต่ท่ีโดดเด่นไม่แพ้กันคอื ลานหนิ ทก่ี ว้าง ลาดชนั้ ราว 30 องศา ยาวราว 300 เมตร ทใี่ นหนา้ นํ้าน้าํ จะไหลลาดลงมาเปน็ ทางยาวสวยงาม
มาก ด้านบนเป็นลานหนิ เรยี บ กวา้ ง มตี น้ ตะแบกขน้ึ เป็นปา่ ตะแบกเลก็ ๆ เปน็ จุดพักแรมของผูม้ าทอ่ งเท่ยี วที่ชอบเทย่ี วแบบพกั แรมในปา่
ในยุคจูแรสซิก ถึงยุคครีเทเชียส ตะกอนที่สะสมตัวในสภาวะแวดล้อมโบราณบนแผ่นดิน โดยการพัดพาตะกอนของแม่นํ้าประสาน
สายและแม่นํ้าโค้งตวัด ผ่านกระบวนทางธรณีจนเป็นหิน หิ้นชั้นหรือหินตะกอน (ส่วนใหญ่เป็นหินทราย) ต่อมาเกิดการเคล่ือนท่ีของแผ่น
332
อนุทวีปชานไทยชนกับแผ่นอนุทวีปอินโดจีน ทำ�ให้ช้ันหินทรายบริเวณน้ีเกิดยกตัวข้ึนเป็นภูเขา เม่ือประมาณ 40 ล้านปีก่อน เกิดเป็นลาน
หนิ ทรายทม่ี ีความลาดเอียงเล็กน้อย ช้นั หนิ เกดิ การคดโคง้ มรี อยแตก และรอยเลอ่ื น ซง่ึ เปน็ ชอ่ งทางใหน้ ำ้ �ไหลผา่ นพรอ้ มทง้ั กดั เซาะหินทลี ะ
นอ้ ย ๆ สว่ นท่ีถกู กดั เซาะนา้ํ ก็จะพัดพาไป ทำ�ใหห้ นิ เกดิ การพงั ทลายเปน็ หน้าผาขนาดเล็กบริเวณนํ้าตก เกิดเปน็ กระดานลื่นธรรมชาติขนาด
ใหญป่ รากฏเปน็ นา้ํ ตกสวยงาม บนลานหนิ มีหลุมกุมภลักษณ์มากมาย โดยการเกดิ กุมภลกั ษณ์ (pothole) เหล่าน้มี าจากในฤดูน้าํ หลาก นํา้
จะพัดพาเอากอ้ นกรวดและเมด็ ทรายมาหมนุ วนในแอง่ เลก็ ๆ บนผวิ หนา้ ของลานหนที่มคี วามลาดเอยี ง เกดิ การขัดสขี องเม็ดกรวด ทำ�ใหแ้ อ่ง
เดิมมีการขยายและลกึ เว้าขึ้นจนเปน็ หลมุ ปรากฏการณด์ ังกล่าวเกิดในยคุ ควอเทอร์นารี (ประมาณ 1.8 ลา้ นปีมาแล้ว - ปัจจบุ นั )
333
น�้ำ ตกซ�ำ จ�ำ ปาหรือน�ำ้ ตกคารวะ
ท่ีตั้ง : หน่วยพทิ ักษ์อทุ ยานแหง่ ชาตทิ ่ี ภว.2 (หวั ภูชน) บ.ขามป้อม ต.ขัวเรียง
อ.ชุมแพ จ.ขอนแกน่
พิกัด : 48Q 201611E 1834956N
การเขา้ ถึง : จากเมืองขอนแกน่ ใช้ทางหลวงหมายเลข 12 สายขอนแก่น -
ชุมแพ ไปราว 50 กิโลเมตร ถึงเทศบาลโคกสูงสัมพันธ์ เลี้ยวขวาเข้าไปทาง
บ้านนาสีนวน จนถึงบ้านนาสีนวน เลยไปอีก 1 กิโลเมตร จะเป็นบ้านขาม-
ป้อม ไปตามทางหลักท่ีเลี้ยวซ้ายในหมู่บ้าน ไปหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ
หรือนา้ํ ตกคารวะ อกี 3 กโิ ลเมตร จะเหน็ ทวิ เขาภเู วยี งเดน่ ตระหงา่ นทางซา้ ยมอื
และผา่ นอา่ งเกบ็ นา้ํ หวั ภชู น นา้ํ ตกอยตู่ ดิ ทท่ี ำ�การหนว่ ยพทิ ักษอ์ ทุ ยานแหง่ ชาติ
ลักษณะ : เป็นแก่งน้ําเล็ก ๆ ที่ไหลลาดหล่ันกันลงมาเป็นทางยาวนับร้อย
เมตร มพี ้ืนทหี่ ลายบรเิ วณที่เล่นน้าํ ได้ บรรยากาศร่มรืน่ โดยเฉพาะในฤดูฝน
334
นำ้�ตกตาดโตน
ท่ีต้ัง : บ้านกดุ นอ้ ย ต.กุดธาตุ อ.หนองนาคำ� จ.ขอนแก่น
พิกัด : 48Q 0206826E 1864798N
การเข้าถึง : เริ่มจากวงเวียนในอำ�เภอภูเวียง ใช้ทางหลวงหมายเลข 2133 มุ่งหน้าไปอำ�เภอหนองนาคำ� แล้วใช้ถนนเดิมไปทางอำ�เภอ
ภูเวยี ง จากอำ�เภอหนองนาคำ�ไปราว 10 กิโลเมตร ตรงหน้า อบต.กดุ จะมีทางเล้ยี วซ้ายเขา้ ไป 1 กโิ ลเมตรเขา้ ไปหมูบ่ า้ นหวั นาหม่อ แล้วใช้
ทางหัวนาหมอ่ - กดุ ธาตุนอ้ ย เขา้ ไปราว 10 กโิ ลเมตร ถงึ บ้านกดุ ธาตุนอ้ ย น้ําตกจะอยชู่ ายป่ากอ่ นถึงวัดกุดธาตนุ อ้ ย
ลักษณะ : เป็นน้าํ ตกทีต่ กลงมาจากลำ�ธารเล็ก ๆ ไหลตกเรี่ยมาตามหนา้ ผาหินที่สูงประมาณ 10 เมตร ทีช่ นั เกอื บแนวดง่ิ ลงมาช้นั เดียว แลว้
ไหลออกจากปา่ เขา้ เขตหมบู่ า้ น
335
อุทยานแห่งชาติ
ภสู วนทราย
พ้นื ที่ 117.16 ตารางกิโลเมตร
ทต่ี ง้ั ทท่ี �ำ การอทุ ยานแหง่ ชาติ : ต.แสงภา อ.นาแหว้ จ.เลย
การเดนิ ทาง : จากจังหวัดเลย ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 203 ระยะทาง 68 กิโลเมตร
ถึงแยกบ้านโคกงามเล้ียวขวาตามเส้นทางหลวงหมายเลข 203 ระยะทาง 12 กิโลเมตร ถึง
อำ�เภอด่านซ้าย เล้ียวขวาตามเสน้ ทางหลวงหมายเลข 2113 ไปอกี 32 กโิ ลเมตร ถึงอำ�เภอ
นาแห้ว ไปอีก 2 กิโลเมตร ถึงบา้ นเหมืองแพร่ เลี้ยวซา้ ยตามเสน้ ทางหลวงหมายเลข 1268
ผา่ นบ้านแสงภา อีกประมาณ 7 กิโลเมตร และเลย้ี วขวาตามทางหลวงหมายเลข 1268 เป็น
หลักกิโลเมตรที่ 0 เข้าไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร ถึงท่ีทำ�การอุทยานแห่งชาติภูสวนทราย
หรอื มาจากจังหวดั พษิ ณุโลก – อำ�เภอชาติตระการ – บา้ นบอภาค ถงึ กโิ ลเมตรท่ี 50 เลีย้ ว
ขวาทางหลวงหมายเลข 1268 ผา่ นบา้ นรม่ เกล้า ตำ�บลเหล่ากอหก อีกประมาณ 13 กโิ ลเมตร
ถึงหลกั กโิ ลเมตรท่ี 0 และเลี้ยวซา้ ยอกี ประมาณ 3 กิโลเมตร ถึงที่ทำ�การอุทยานแหง่ ชาติ
336
กว่าจะเป็ นอทุ ยานแห่งชาติ
ปา่ ผืนนีเ้ ปน็ สว่ นหนง่ึ ของป่าสงวนแหง่ ชาติป่าภเู ปือย ปา่ ภูขีเ้ ถา้ และป่าภเู รอื ตามกฎกระทรวงท่ี 1041 (พ.ศ. 2527) ออกตามความ
ในพระราชบญั ญัติ พ.ศ.2507 ประกาศในราชกิจจานเุ บกษา เล่มที่ 101 ตอนที่ 69 วนั ท่ี 30 พฤษภาคม 2527 เปน็ ป่าโครงการไม้กระยาเลย
บ้านนาทอ่ น - บา้ นบงุ่ (ลย.8) ตอนท่ี 7 และ 8 ผา่ นการคดั เลือกเพือ่ ให้ตดั ฟันไม้ออกแลว้ แตร่ าษฎรตำ�บลแสงภา ไดร้ วมตวั กนั เมื่อเดอื น
ธันวาคม 2530 - มกราคม 2531 คดั คา้ นมใิ หท้ ำ�ไมอ้ อกทางราชการไดพ้ จิ ารณาเกย่ี วกบั เรอ่ื งนแ้ี ลว้ เหน็ ชอบตามราษฎร จงึ ระงบั การทำ�ไมไ้ วก้ อ่ น
ตอ่ มาเมอื่ พ.ศ. 2532 ได้มีพระราชกฤษฎกี ายกเลิกการทำ�ไมต้ ามสัมปทานเสยี ทงั้ หมด จงึ เป็นการยุติการทำ�ไม้ออกตามสัมปทานโดยสน้ิ เชงิ
กองอำ�นวยการพัฒนาพ้ืนที่เพ่ือความมั่นคง อำ�เภอนาแห้ว ฝ่ายทหาร เริ่มแรกต้องการให้เป็นปอดของสมาชิกราษฎรอาสาป้องกัน
ชายแดน แต่เม่ือตระหนักถึงประโยชน์ในการพักผ่อน ใน
ลักษณะป่าเขาลำ�เนาไพรแล้ว เห็นว่าน่าจะอำ�นวยประโยชน์
แก่ราษฎรโดยทั่วกันอีกด้วย จึงตัดสินใจหาลู่ทางกำ�หนดให้ป่า
นาแห้วเป็นอุทยานแห่งชาติ ประกอบกับเนื่องในโอกาสครบ 3
รอบ หรอื 36 พระชนมพรรษาของสมเดจ็ พระขนษิ ฐาธริ าชเจ้า
กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า สยามบรมราชกุมารี ในวนั ที่ 2
เมษายน พ.ศ. 2534 ซึ่งกรมป่าไมเ้ ห็นชอบด้วยเปน็ อยา่ งยิง่ และ
ตอบสนองความต้องการอนุรักษป์ ่าผนื นอี้ ย่างจรงิ จงั
การสำ�รวจเบื้องต้นบนส่วนหนึ่งของพื้นที่จึงเริ่มขึ้น เพ่ือ
ให้ได้ข้อมูลต่าง ๆ มาประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการ
อุทยานแห่งชาติและคณะกรรมการชุดอ่ืน ๆ ท่ีเก่ียวข้องน้ัน
337
พบว่าพน้ื ที่ท่ีจะจดั ตั้งเปน็ อทุ ยานแหง่ ชาติน้ันอยู่ในเขตอำ�เภอนาแห้ว จงั หวัดเลย ครอบคลุมพน้ื ที่ 3 ตำ�บล ได้แก่ ตำ�บลนาแห้ว ตำ�บลแสงภา
ตำ�บลเหลา่ กอหก อำ�เภอนาแหว้ จังหวดั เลย มีเนือ้ ที่ประมาณ 117.16 ตารางกโิ ลเมตร เป็นทิวเขาสลับซบั ซ้อนตามแนวชายแดนไทย - ลาว
สนั เขามีลักษณะเป็นทร่ี าบสูง มีความลาดเท ตัง้ แต่ 2 เปอร์เซ็นต์ จนถงึ มากกวา่ 50 เปอรเ์ ซ็นต์ ด้านตะวนั ตกซ่ึงเป็นพื้นท่ีป่าผืนใหญ่ จะมี
ความลาดชนั มาก พื้นท่ีราบเชิงเขาเกอื บจะไม่มี ด้านตะวนั ออกจะมคี วามลาดชนั น้อย ลาดเทลงไปทางดา้ นตะวนั ออกมที ี่ราบเชงิ เขาอย่บู า้ ง
พน้ื ที่สงู จากระดบั ทะเลปานกลาง ตง้ั แต่ 600 - 1,408 เมตร มภี ตู นี สวนทรายเปน็ ยอดเขาสงู สดุ เปน็ แหลง่ ตน้ นา้ํ ลำ�ธารของแมน่ า้ํ เหอื ง แมน่ า้ํ
แพร่ และแม่นาํ้ ภา
ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติโดยพระราชกฤษฎีกากำ�หนดบริเวณท่ีดินป่าภูเปือย ป่าภูขี้เถ้า และป่าภูเรือ ในท้องท่ีตำ�บล
แสงภา ตำ�บลเหลา่ กอหก และตำ�บลนาแห้ว อำ�เภอนาแห้ว จังหวัดเลย ตามราชกิจจานุเบกษา เลม่ 111 ตอนท่ี 52ก หน้า 54-56 เมือ่ วันที่
23 พฤศจกิ ายน 2537 โดยใช้ชอื่ วา่ อทุ ยานแหง่ ชาตนิ าแหว้ นับเป็นอุทยานแหง่ ชาตลิ ำ�ดับที่ 79 ของประเทศ
ตอ่ มาเมอ่ื วนั ท่ี 31 พฤษภาคม พ.ศ.2549 กรมอทุ ยานแหง่ ชาติ สตั วป์ า่ และพนั ธพ์ุ ชื ไดพ้ จิ ารณาชอ่ื อทุ ยานแหง่ ชาตใิ หม้ คี วามเหมาะสม
สอดคลอ้ งกับจดุ เด่น และศักยภาพทส่ี ำ�คัญของพ้นื ทที่ จี่ ัดตง้ั เป็นอุทยานแหง่ ชาติ จึงเปล่ยี นช่อื อทุ ยานแห่งชาตนิ าแห้ว เปน็ อทุ ยานแหง่ ชาติ
ภสู วนทราย
ในอุทยานแหง่ ชาติภูสวนทราย มแี หล่งทอ่ งเทย่ี วหลายแหง่ ที่นา่ สนใจ เชน่ ชดุ ชมทวิ ทัศนภ์ ูหวั ฮ่อม ป่าตน้ คอ้ หรอื เส้นทางเดนิ ศึกษา
ธรรมชาตชิ มกระโถนฤาษ ี รวมทัง้ การเปน็ จดุ กางเต็นท์ท่สี ูงท่ีสุด เปน็ แหลง่ ดูนกท่มี นี ักดูนกแวะเวยี นมากนั เสมอ และทส่ี ำ�คญั มลี ำ�ธารนา้ํ ตก
มากมาย การเดนิ ทางเทีย่ วชมน้ําตกในอุทยานแหง่ ชาติภูสวนทราย น้ันสว่ นใหญจ่ ะอยรู่ ิมถนน บางแหง่ เดนิ ไปไมม่ าก บางแหง่ เข้าไปไกล แต่
สามารถไปตามทางหลวงหมายเลข 1268 จากอำ�เภอนาแหว้ แลว้ ไปเลี้ยวขวาเขา้ ท่ที ำ�การอุทยานแหง่ ชาติ มาตามทางหลวงหมายเลข 1328
ทางจะวนเปน็ วงกลม มาเชือ่ มกับทางหลวงหมายเลข 1268 อีกคร้งั
338
สปป.ลาว
น้ำตกตาดเหอื ง
ไปอำเภอชาติตระการ หนว ยพท� ักษอทุ ยานแหง ชาติท่ี สท.1
บานเหลากอหก (ภูหัวฮอ ม)
1328 1328
ทีท่ ำการ นำ้ ตกตาดพา
อทุ ยานแหงชาติภูสวนทราย
ไปอำเภอดา นซา ย
1268 วัดศรโ� พธชิ์ ัย ต.แสงภา
1268
วนงั ำ้ ตตากด ชนา ำ้ งตตกก นำ้ ตกคิ�ง
ชุมชนนาแหว
อำทเภี่วอานกาาแรหว
339
340
น�้ำ ตกตาดพา
ท่ีต้ัง : บา้ นแสงภา ต.แสงภา อ.นาแหว้ จ.เลย
พิกัด : 709805E 1936299N
การเข้าถึง : ใชท้ างหลวงหมายเลข 1268 จากอำ�เภอนาแห้ว มุ่งหน้าไปทาง
ตะวันตก ไปจนถึงบ้านแสงพา จะเห็นวัดศรีโพธ์ิชัย (วัดแห่ต้นดอกไม้) ทาง
ซ้ายมือ เลยไปไมถ่ งึ 50 เมตร จะมีทางเลีย้ วขวา ขนึ้ ไปพระธาตดุ นิ แทน เขา้ ไป
ราว 700 เมตร ถึงพระธาตุดินแทนแล้วจะมีทางลำ�ลองต่อเข้าไปอีก ราว 3
กิโลเมตร เปน็ ทางเข้าไร่เข้าปา่ ถงึ จุดจอดแลว้ เดนิ เท้าตอ่ อกี 1.5 กโิ ลเมตร ถงึ
น้าํ ตก
ลักษณะ : เกิดจากลำ�นาํ้ ภาไหลตกลงมาจากหน้าผาหิน แบบแนวด่ิง เปน็ 2
ชนั้ ต่อเนื่องกนั สงู ประมาณ 30 เมตร หน้าผากว้างราว 10 เมตร ท่ามกลางป่า
ท่ีสมบูรณใ์ นเขตป่าลกึ สภาพป่าและมคี วามเปน็ ธรรมชาติมาก เหมาะสำ�หรับ
ผมู้ าทอ่ งเท่ยี วทชี่ อบธรรมชาตอิ ยา่ งแท้จรงิ
341
น้�ำ ตกค้งิ
ท่ีตั้ง : ต.แสงภา อ.นาแห้ว จ.เลย
พิกัด : 47Q 0710141E 1932878N
การเข้าถึง : จากบา้ นแสงภา เดินทางด้วยทางหลวงหมายเลข 1268
(ตำ�บลแสงภา – ตำ�บลเหล่ากอหก) ทางจะขนึ้ เนนิ ไป ราว 3 กโิ ลเมตร
จะมีศาลาทางซา้ ยมอื จอดรถแล้วขา้ มฝ่ัง เดนิ ลงไปในหุบราว 20 เมตร
ถงึ นํ้าตก
ลักษณะ : อยูใ่ นลำ�นา้ํ แพร่ช้ันล่างสดุ กอ่ นจะไหลลงไปยังพ้ืนราบ เป็น
แกง่ หนิ 2 ชัน้ ไหลลาดหลั่นลงมา สงู ประมาณ 5 เมตร หน้านํ้าตกเปน็
ลานหนิ กว้างราว 25 เมตร ดา้ นลา่ งสดุ เป็นแอ่งนา้ํ ใหญ่เล่นนํา้ ได ้
อีกฝ่ังของลำ�ห้วยทางราชการได้ก่อสร้างเรือนประทับถวาย
สมเด็จพระกนษิ ฐาธิราชเจ้า กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดาฯ สยาม
บรมราชกุมารี ซง่ึ เสดจ็ มาเมอ่ื วันที่ 12 กมุ ภาพนั ธ์ 2534
342
น้�ำ ตกช้างตก
ท่ีตั้ง : ต.แสงภา อ.นาแหว้ จ.เลย
พิกัด : 709866E 1933006N
การเขา้ ถึง : อยู่ต่อจากนํา้ ตกคงิ้ ข้ึนมาด้านบนราว 500 เมตร จอดรถแล้วข้ามถนน เดินลงไปตามทางราว 30 เมตร ถงึ นํ้าตก
ลักษณะ : อยู่ในลำ�นํ้าแพรเ่ ชน่ กัน โดยเปน็ หนา้ ผาหนิ ท่โี ดยรวมดแู ลว้ เหมอื นตกดิ่ง แตจ่ ริง ๆ มีช้ันตอ่ เน่ืองกนั แบบขัน้ บนั ได เปน็ ช้ันเล็ก ๆ
ลงมา สงู ราว 7 เมตร ด้านบนเปน็ ลานหินกว้าง ด้านลา่ งเป็นแอง่ นา้ํ กว้าง เลา่ กนั ว่าเดมิ เคยมีชา้ งป่าเดินผา่ นนํา้ ตกสายน้ี แลว้ พลัดตกลงไป
เสียชีวติ จงึ กลายเปน็ ชื่อเรยี กนํา้ ตกชา้ งตก
343
นำ้�ตกวังตาด
ท่ีต้ัง : ต.แสงภา อ.นาแหว้ จ.เลย
พิกัด : 708409E 1933020N
การเขา้ ถึง : ยงั คงใช้ทางหลวงหมายเลข 1268
(ตำ�บลแสงภา – ตำ�บลเหลา่ กอหก) หา่ งจากน้าํ ตก
ช้างตกไปทางต้นน้ํา ราว 1 กิโลเมตร อยู่ริมทาง
เช่นเดมิ เดินลงไปราว 30 เมตร
ลักษณะ : อยใู่ นลำ�นาํ้ แพรเ่ ช่นเดยี วกัน เป็นลาน
หินกว้าง ด้านบนสุดเป็นแก่งนํ้ากว้าง ใต้ร่มไม้
ร่มรน่ื หา่ งไปราว 7 เมตร จะเปน็ ชน้ั บนซง่ึ เปน็ นา้ํ ตก
344
ชั้นเลก็ ๆ ทิง้ ระยะกัน 2 - 3 เมตร 4 ชน้ั แล้วเลยไปอกี ราว 5 เมตร จะมชี นั้ สงู ทีต่ กลงไปในแนวดิ่ง สูงราว 10 เมตร ลงไปแลว้ ก็ไหลลาดลง
ไปแล้วตกเปน็ ช้นั เล็ก ๆ สูงราว 1 - 2 เมตรอีกสองชนั้ กอ่ นจะไหลลงไปในแอ่งน้าํ กว้างเบอ้ื งลา่ ง
345
346
นำ้�ตกตาดเหือง
ท่ีตั้ง : ต.แสงภา อ.นาแห้ว จ.เลย
พิกัด : 711742E 1932977N
การเข้าถึง : ใช้ทางหลวงหมายเลข 1268 ต่อจากนํ้าตกวังตาดไปจนถึงสามแยกป้ายเข้าอุทยานแห่งชาติ เลี้ยวขวาเข้าไปตามทางหลวง
หมายเลข 1328 จะผา่ นทท่ี ำ�การอุทยานแหง่ ชาติ ไปตามทางเรอ่ื ย ๆ ทางจะวนเป็นวงกลม ผา่ นปา่ หมู่บา้ นและทุ่งนาท่ีถกู กันออกนอกเขต
อุทยานแห่งชาติ ข้นึ เนนิ ลงหุบ เกอื บ 30 กิโลเมตร จะเห็นป้ายเขา้ นาํ้ ตกตาดเหอื งซ้ายมือ นำ�รถเขา้ ไปอกี 20 เมตร ถึงลานจอดรถ แล้วเดิน
ลงเขาไปตามบนั ไดปูน ราว 400 เมตร ทางค่อนขา้ งชนั ลงไปถึงลำ�หว้ ยแล้วเดินทวนน้าํ มาอกี ราว 70 เมตร ถึงน้าํ ตก
ลักษณะ : นาํ้ ตกนอ้ี ย่ใู นลำ�นํ้าเหอื ง ซ่งึ เปน็ เส้นแบง่ เขตแดนประเทศระหวา่ งไทยและประเทศลาว เปน็ นํา้ ตกขนาดใหญ่ ตกลงมาจากลาน
หินกวา้ ง 25 เมตร ตกเปน็ สามชน้ั ตอ่ เนอ่ื งกนั สงู ราว 20 เมตร ลงยงั แอง่ นา้ํ เบอ้ื งลา่ ง ปริมาณนาํ้ มากตลอดปี แตห่ นา้ แลง้ นา้ํ จะใส บรรยากาศรม่ รน่ื
หนิ บรเิ วณนเ้ี ปน็ หนิ ทรายตอนบนของหมวดหนิ เขายา่ ปกุ ประกอบดว้ ยชน้ั หนิ ทรายชน้ั หนา เมด็ หยาบ สแี ดงอฐิ มคี วามกลมมนดมี าก
การคดั ขนาดของเมด็ แรค่ อ่ นขา้ งดี หนิ ทรายแปง้ หนิ โคลน และหนิ กรวดมนสนี ํ้าตาลแดง สแี ดงปนมว่ ง พบชน้ั เฉยี งระดบั และรว้ิ รอยคลน่ื
347
อุทยานแห่งชาติ
ภหู ินจอมธาต-ุ ภพู ระบาท
พนื้ ท่ี 282.72 ตารางกโิ ลเมตร
ทต่ี งั้ ทท่ี �ำ การอทุ ยานแหง่ ชาติ : หมู่ 11 บา้ นหว้ ยยางคำ� ต.กุดจบั อ.กุดจบั จ.อดุ รธานี
การเดนิ ทาง : เดนิ ทางออกจากอำ�เภอเมืองอดุ รธานี มาทางเล่ียงเมอื งทางตะวนั ตก ถึง
ส่ีแยกวิทยาลัยพลศึกษา เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 2263 (อุดรธานี - กุดจับ)
ประมาณ 36 กิโลเมตร จนถึงสี่แยกอำ�เภอกุดจับ เล้ียวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข
2314 ประมาณ 13 กโิ ลเมตร ถึงบ้านดงบัง จะเป็นสามแยกท่ถี นนหลกั เปน็ ทางโคง้ ซ้ายมอื
ใหไ้ ปทางโคง้ ไปราว 3 กโิ ลเมตร ถงึ บา้ นดงธาตุ เล้ียวซา้ ยไปบา้ นห้วยยางคำ� 2 กิโลเมตร
เจอสามแยกถนนลาดยางเลี้ยวขวา 250 เมตร แล้วเล้ียวซ้ายตามถนนคอนกรีต 1.5
กโิ ลเมตร ถงึ ท่ีทำ�การอทุ ยานแหง่ ชาติ
348
กว่าจะเป็ นอทุ ยานแห่งชาติ
เปน็ การรวมพื้นท่วี นอทุ ยาน 3 แหง่ คือวนอุทยานหนิ จอมธาตุ วนอทุ ยานภูพระบาทบัวบก และวนอทุ ยานผาแดง จดั ตง้ั เป็นอุทยาน
แห่งชาติหินจอมธาตุ - ภูพระบาท โดยสำ�นักบริหารพ้ืนที่อนุรักษ์ท่ี 10 (อุดรธานี) ได้รับรายงานจากหัวหน้าโครงการพัฒนาป่าเก่ากลอย
นากลาง (2) จังหวัดหนองบวั ลำ�ภู เสนอความเหน็ ร่วมกบั หน่วยงานของกรมปา่ ไม้ในพ้นื ที่วา่ มีการตรวจยึดไม้สักในป่าสงวนแหง่ ชาติปา่ เกา่
กลอยและป่านากลาง จังหวัดหนองบัวลำ�ภู เห็นสมควรมีมาตรการ
ในการคุ้มครองพื้นที่ โดยการกำ�หนดพื้นที่ให้เป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่า
วนอุทยาน หรอื อุทยานแห่งชาตติ ามความเหมาะสมตอ่ ไป
ตอ่ มาสำ�นกั บริหารพนื้ ท่อี นุรกั ษท์ ี่ 10 ได้มีคำ�ส่งั สำ�นกั บริหาร
พน้ื ทีอ่ นรุ กั ษท์ ่ี 10 (อดุ รธาน)ี ที่ 214/2554 ลงวนั ที่ 31 พฤษภาคม
พ.ศ.2554 เร่ืองให้ข้าราชการออกสำ�รวจพ้ืนที่เพ่ือกำ�หนดให้เป็น
อทุ ยานแห่งชาติ โดยหมอบหมายให้ นายชัยวัตต์ หัสกรรจ์
นักวิชาการป่าไม้ชำ�นาญการ หัวหน้าวนอุทยานภูหินจอมธาตุ
จังหวัดอุดรธานี ออกไปดำ�เนินการสำ�รวจในพ้ืนที่ป่าสงวนแห่งชาติ
ปา่ เก่ากลอย - ปา่ นากลางและพ้ืนทบ่ี ริเวณใกลเ้ คียง เพือ่ เสนอกรม
อุทยานแห่งชาติ สัตวป์ า่ และพันธ์ุพชื ในการกำ�หนดเปน็ เขตอุทยาน
แห่งชาตติ ามระเบยี บตอ่ ไป
นายชัยวัตต์ หัสกรรจ์ หัวหน้าวนอุทยานภูหินจอมธาตุ
จึงได้จัดทำ�รายงานการสำ�รวจพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเก่ากลอย
และป่านากลาง และพ้ืนท่ีบริเวณใกล้เคียงจากการสำ�รวจพื้นที่พบ
ว่ามีลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาและเนินเขาสลับซับซ้อน เป็น
บริเวณกว้างมีความลาดชันค่อนข้างมากโดยเฉพาะอย่างย่ิงบริเวณ
พน้ื ทที่ ีม่ ภี เู ขาตัง้ อย่โู ดดเดน่ เพยี งลกู เดยี ว ไดแ้ ก่ ภผู ากูก ภผู ายา ภผู า
เวียง และภูรงั เปน็ ต้น มีความสงู จากระดบั ทะเลปานกลาง บริเวณ
พระพุทธบาทบวั บาน
จดุ ชมทวิ ทัศน์ผาจนั ได หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ภธ.1 ภาพเขยี นสถี ้ำ�สงิ ห์
349
ผาคู่รัก
ภูแปก 607 เมตร ภูรัง (ถ้ําเอราวัณ) 455 เมตร ภูซาง 569 เมตร ภูผาแดง 524 เมตร ดินเป็นดินร่วนปนทราย และดินลูกรัง สลับกับ
หนิ ทรายโผลก่ ระจัดกระจายทัว่ พื้นที่ ชนิดหนิ เปน็ หนิ ทราย ได้แก่ บรเิ วณภูพระบาทบัวบาน ภผู าแดง และภหู นิ จอมธาตุ เป็นต้น มีหนิ ปนู
โผล่กระจัดกระจายท่ัวพ้ืนท่ี คือภูผากกู (ถ้าํ สุวรรณคหู า) ภูผายา ภูผาเวียง และภรู ัง (ถา้ํ เอราวณั )
สำ�นักบรหิ ารพน้ื ที่อนรุ ักษท์ ี่ 10 (อดุ รธาน)ี จงึ ได้รายงานขอ้ มลู เบือ้ งต้นดงั กล่าวใหก้ รมอุทยานแห่งชาติ สตั วป์ ่า และพันธุพ์ ชื ทราบ
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์ุพืช ก็ได้แจ้งกรมป่าไม้เพ่ือพิจารณาให้ความเห็นชอบในการกำ�หนดพื้นท่ีเป็นอุทยานแห่งชาติ ซ่ึงต่อ
มากรมป่าไมก้ ใ็ หค้ วามเหน็ ชอบ กรมอทุ ยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์พุ ืช ดำ�เนินการกำ�หนดเขตพน้ื ท่ี ป่าสงวนแห่งชาติ ปา่ เขอื นํ้า อำ�เภอ
บ้านผอื จังหวดั อดุ รธานี เนอื้ ที่ 34.50 ตารางกิโลบเมตร ปา่ สงวนแห่งชาตปิ า่ กดุ จับ อำ�เภอกดุ จับ จังหวดั อดุ รธานี เน้ือท่ ี 27.68 ตาราง
กโิ ลเมตร ปา่ สงวนแห่งชาตปิ า่ เกา่ กลอย - นากลาง อำ�เภอนากลาง อำ�เภอนาวัง และอำ�เภอสวุ รรณคูหา จงั หวัดหนองบัวลำ�ภู เนือ้ ท ี่ 145.60
ตารางกโิ ลเมตร และป่าสงวนแหง่ ชาตปิ ่าโคกผาดำ� ปา่ โคกหนองขา่ และปา่ ภบู ่อบดิ อำ�เภอนาด้วง จังหวดั เลย เน้ือท่ี 74.88 ตารางกิโลมตร
รวมเน้ือท่ีท้ังส้ิน 282.72 ตารางกิโลเมตร ให้เป็นเขตอุทยานแห่งชาติ โดยขอให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กันเขตพ้ืนท่ีท่ี
กรมป่าไม้อนุญาต ให้ภาครัฐและเอกชนเข้าทำ�ประโยชน์พ้ืนที่ป่าสงวนแห่งชาติออกก่อนท่ีจะกำ�หนดเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ โดยประสาน
กับกรมทรัพยากรธรณีซึ่งได้มีการออกอาชญาบัตรสำ�รวจแร่ อาชญาบัตรพิเศษสำ�รวจแร่อยู่ก่อนแล้ว และกรมเช้ือเพลิงธรรมชาติเกี่ยวกับ
สัมปทานปิโตรเลียม ท้ังนี้ไม่ให้เกิดปัญหาและอุปสรรคในการบริหารจัดการอุทยานแห่งชาติในภายภาคหน้าต่อไป ตามหนังสือกรมป่าไม้
350