The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

น้ำตกในอุทยานแห่งชาติ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ..., 2021-06-10 10:04:55

น้ำตกในอุทยานแห่งชาติ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

น้ำตกในอุทยานแห่งชาติ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ลักษณะ : เป็นนํ้าตกท่ีอยู่ชิดติดเขตที่ทำ�กินของชาวบ้าน
พอดี โดยเป็นลำ�ธารเล็ก ๆ ท่ีไหลตกลงมาตามซอกหิน
ไล่ลงมาตามช้ันน้ําตกท่มี ีเพยี งช้ันเดียว สงู ประมาณ 4 เมตร
ตกลงยงั แอง่ น้ําลกึ เบ้ืองล่าง แล้วไหลออกมาอกี ราว 15 เมตร
สมทบกบั ลำ�หว้ ยราง
ที่นี่มีการจัดท่องเที่ยวแบบชุมชนบ้านคีรีวงกต โดย
การนั่งรถอีซ่ิง (รถการเกษตรมีที่บรรทุกท้ังหน้าและหลัง
สำ�หรบั บรรทกุ พชื ไร่) แล่นมาตามลำ�หว้ ยรางมาถึงนาํ้ ตก โดย
การสนับสนุนของอุทยานแหง่ ชาตนิ ายงู - นาํ้ โสม เพ่อื ให้ชาว
บ้านมีส่วนร่วมในการดูแลทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ร่วม
กบั ทางอุทยานแห่งชาติ

151

นำ�้ ตกคอกมา้

ท่ีตั้ง : บ้านนาโม้ ต.หาดคมั ภรี ์ อ.ปากชม จ.เลย
พิกัด : 48Q 185991E 1997882N
การเข้าถึง : จากแยกบา้ นครี ีวงกต ใช้ทางหลวงหมายเลข
2348 ไปทางทิศเหนือ ทางจะข้ึนเขาสงู คดเคย้ี วไปมาจนลง
สู่เขตจงั หวดั เลย ถึงบ้านนาโม้ (ถ้าเลยสามแยกบ้านนาโม้ ไป
6 กิโลเมตร จะไปถงึ บ้านปากม่งั รมิ ทางหลวงหมายเลข 211
เลยี บแมน่ ้าํ โขง) เล้ียวซ้ายเขา้ ไปตามทาง ราว 6.5 กโิ ลเมตร
จนไปสุดทาง แล้วเดินเท้าไปตามลำ�ห้วยราว 1.3 กิโลเมตร
เจอสามแยกที่หว้ ยสองสายมาบรรจบกนั ไปตามลำ�ห้วยทาง
ซ้ายอีก 800 เมตร ถึงนา้ํ ตก
ลักษณะ : เป็นน้ําตกที่ตกลงมาจากหน้าผาหินชั้นเดียว
สูงราว 18 เมตร ด้านล่างเป็นแอ่งน้ํากวา้ ง สองฝงั่ เป็นหนา้ ผา
หินสงู ล้อมเหมือนเป็นคอก น้าํ ใสสะอาด บรรยากาศรม่ ร่นื

152

นำ้�ตกโปงทอง

ท่ีต้ัง : หมู่ 8 บ้านนาบอน ต.นาง้ิว อ.สงั คม จ.หนองคาย
พิกัด : 48Q 196314E 1996447N
การเข้าถึง : จากที่ทำ�การอุทยานแห่งชาติออกมาที่บ้านสว่าง
เล้ียวขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 2376 เลยบ้านปากราง (ทาง
แยกไปวดั ปา่ ภกู ้อน) ไปตามทางจนถึงบา้ นเชียงดี มที างแยกซา้ ยมอื
เข้าไปตามทางหลวงหมายเลข 3026 เป็นระยะทาง 12 กิโลเมตร
เขตบ้านนาบอน เห็นป้ายเข้านํ้าตกทางซ้ายมือ เข้าไปตามทาง
ลำ�ลอง เจอทางแยกเล้ียวซ้ายไปจนพอจะข้ามห้วยจะมีทางแยก
เลย้ี วขวา เขา้ ไป 1.5 กโิ ลเมตร จอดรถในสวนยางรมิ ลำ�ธาร แล้วเดนิ
ขา้ มลำ�ธารไปมา เดนิ เลียบลำ�ธารเปน็ ระยะทาง ราว 500 เมตร ถึง
แอ่งน้ําตกช้นั ล่าง

153

ลักษณะ : นํ้าตกมีท้ังหมด 4 ช้ัน ช้ัน
ล่างสุดเป็นทางนํ้าไหลลงมาจากแก่ง
หนิ เอียงราว 30 องศา ลาดลงมายาว 5
เมตร มีแอ่งน้ํากว้างข้างล่าง ถ้าปีนขึ้น
มาจะเจอแอ่งนํ้าของชั้นสอง เดินเลียบ
อ่างน้ําไปราว 12 เมตร ถึงช้ันหินต่าง
ระดับสูงประมาณ 4 เมตร เอียงลาด
ไหลลงมาเปน็ ทางยาวราว 6 เมตร แลว้
จะเปน็ แอ่งนา้ํ กวา้ ง ประมาณ 25 เมตร
แล้วจะพบนํ้าตกอีกสองช้ันตกลงมาจาก
ช้ันหิน เกือบต่อเน่ืองกันท้ิงระยะราว 2
เมตร แตล่ ะชั้นสงู ราว 1.5 เมตร นํา้ ตก
มนี ้าํ ตลอดปี

154

อุทยานแห่งชาติ หนิ ชา้ งสี

นําพอง
พน้ื ท่ี 197 ตารางกโิ ลเมตร
ทต่ี ง้ั ทท่ี �ำ การอทุ ยานแหง่ ชาติ : ต.บา้ นผอื อ.หนองเรือ จ.ขอนแกน่
การเดินทาง : จากจังหวัดขอนแก่นใช้ทางหลวงหมายเลข 2 มุ่งหน้าจังหวัดอุดรธานี
ไปจนถงึ ตำ�บลมว่ งหวาน มที างแยกซา้ ยมอื เขา้ อำ�เภออบุ ลรตั น ์ ตามทางหลวงหมายเลข 2109
ไปจนถงึ อำ�เภออบุ ลรตั น์ เลยท่ที ำ�การไปรษณีย์ไปเล็กน้อย จะมที างเลย้ี วซา้ ย เขา้ ไปตามทาง
เลยี บอา่ งเกบ็ นา้ํ ทางหลวงหมายเลข 4063 ทางจะผ่านบ้านท่าเรือ – บางแสน 2 ไปราว 20
กโิ ลเมตร จะถึงทีท่ ำ�การอทุ ยานอุทยานแห่งชาติ ระยะทาง 65 กม.

155

หรือจากขอนแก่น ใช้ทางหลวงหมายเลข 12 (ขอนแกน่ - ชุมแพ) ถึงกโิ ลเมตรท่ี 30 กลับรถ แลว้ จะมแี ยกเลีย้ วซ้าย (บ้านดอนด)ู่ ไป
ตามทางหลวงหมายเลข ขก.2015 มาอกี ประมาณ 5 กิโลเมตร จะมีสามแยก (หนองแสง) เลีย้ วขวาไปเขอ่ื นอุบลรตั น์ตามทางหลวงหมายเลข
ขก.4014 ผา่ นบา้ นหนองผอื และบ้านดอนกอก จนถงึ ที่ทำ�การอทุ ยานแห่งชาติ ระยะทาง 45 กโิ ลเมตร

กว่าจะเป็ นอุทยานแห่งชาติ
30 มนี าคม 2538 จงั หวดั ขอนแกน่ ไดม้ หี นงั สอื ขอใหก้ รมปา่ ไมพ้ จิ ารณากำ�หนดพน้ื ทป่ี า่ อนรุ กั ษ์ ปา่ สงวนแหง่ ชาตปิ า่ ภเู มง็ ปา่ โคกหลวง
ป่าโคกหลวงแปลงที่สาม ในท้องที่จังหวัดขอนแก่น ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ ซึ่งเป็นป่าอนุรักษ์ตามมติคณะรัฐมนตรีเม่ือวันท่ี 10 และ 17
มนี าคม 2535 เป็นป่าตน้ น้ําลำ�ธาร มที วิ ทศั นแ์ ละจดุ เดน่ ท่สี วยงาม โดยจงั หวดั ขอนแกน่ ได้แต่งตงั้ คณะกรรมการทำ�การสำ�รวจปรบั ปรุงแนว
เขตให้ยอมรบั กนั ทกุ ฝ่าย
กรมป่าไม้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปดำ�เนินการสำ�รวจพื้นที่ป่าดังกล่าวปรากฏว่า พื้นที่ป่ายังมีความสมบูรณ์ มีลักษณะสัณฐานธรณี

156

หนิ แมวน้�ำ ท่ีหนิ ช้างส ี อ่างเกบ็ นำ้�เขือ่ นอุบลรัตนม์ องจากจดุ ชมววิ หนิ ช้างสี

หนิ ช้างสี

เป็นภูเขาหินทราย มีทิวเขาที่สำ�คัญ ๆ ได้แก่ ทิวเขาภูพานคำ� ภูเม็ง และภูผาดำ�ภูผาแดง มีความสูงจากระดับทะเลปานกลางโดยเฉล่ีย
ประมาณ 200 - 600 เมตร หลงั ปา้ นคล้ายกบั เทือกเขาทั่ว ๆ ไปของภาคตะวันออกเฉียงเหนอื ซึง่ เทอื กเขาเหลา่ นที้ อดตวั เปน็ แนวยาวจากทิศ
เหนอื สทู่ ศิ ใต้ ขนานไปกับอ่างเก็บนา้ํ เขอ่ื นอุบลรตั น์ เป็นแหลง่ กำ�เนดิ ต้นนํา้ ลำ�ธารสว่ นหนึง่ ของลำ�น้าํ ทสี่ ำ�คัญหลายสาย เช่น ลำ�นํา้ พอง ลำ�นํ้า
เชญิ ลำ�นํ้าชี พ้นื ทแ่ี บง่ ออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนทีอ่ ย่ใู นทิวเขาภูพานคำ�ทางด้านทศิ เหนือ สว่ นดา้ นทศิ ใตอ้ ยใู่ นทวิ เขาภเู มง็ และภูผาดำ�ภผู า
แดง สว่ นพ้นื ที่ด้านทศิ ตะวนั ตกมสี ภาพลาดชันสลบั กบั หน้าผาในบางช่วงลงไปจนจรดทร่ี าบอา่ งเกบ็ น้ําด้านลา่ ง สว่ นพื้นที่ดา้ นทิศตะวนั ออก
เปน็ ทีร่ าบเชงิ เขา
ชอ่ื อุทยานแหง่ ชาตินา้ํ พอง เปน็ ช่อื เรียกตามตน้ กำ�เนดิ ลำ�น้ําพองทไี่ หลมารวมกับอา่ งเก็บนา้ํ เขือ่ นอบุ ลรตั น์ (เดมิ ช่ืออา่ งเกบ็ นํา้ นาํ้ พอง
เปน็ อุทยานแห่งชาตทิ จี่ ดั ต้ังขึน้ ตามขอ้ เสนอของจังหวดั ขอนแกน่ แต่เดิมมชี อื่ เรยี กว่า “นํ้าพอง - ภูเมง็ ” เพราะมพี นื้ ทบี่ างส่วนอยใู่ นเทอื ก
เขาภูเมง็ ครอบคลมุ พ้ืนทป่ี ่าสงวนแหง่ ชาติ ป่าโสกแต้ ป่าภูเม็ง ปา่ โคกหลวง ปา่ โคกหลวงแปลงท่ีสาม ป่าภผู าดำ� ปา่ ภผู าแดง ในเขตอำ�เภอ
อบุ ลรัตน์ อำ�เภอบ้านฝาง อำ�เภอหนองเรอื อำ�เภอมญั จาคีรี และ กง่ิ อำ�เภอโคกโพธิไ์ ชย จังหวัดขอนแก่น รวมทง้ั พื้นท่ีบางสว่ นของ อำ�เภอ
บ้านแท่น อำ�เภอแกง้ คร้อ จังหวดั ชัยภมู ิ มเี นอ้ื ที่ประมาณ 197 ตารางกโิ ลเมตร ประกาศเป็นอุทยานแหง่ ชาติ ในราชกจิ จานุเบกษา เลม่ 117
ตอนท่ี 105ก ลงวนั ที่ 15 พฤศจิกายน 2543 เปน็ อทุ ยานแห่งชาตลิ ำ�ดับที่ 100 ของไทย

157

ไปหนองบัวลำพ� ไปอำเภอโนนสัง

2146

อำเภอภเู ว�ยง อำเภออบุ ลรัตน ไป จ.อดุ รธานี
เขอ่�อา‹นงอเกุบบ็ลนรตั้ำน อำเภอนำ้ พอง
2133
2
จด� ชมทวิ ทศั นห ินชŒางสี หนว‹ ยพท� ักษ 2109
เมือง
อุทยานแห‹งชาติ (ชั่วคราว) ขอนแกน‹
ที่ทำการอุทยาน ท่ี นพ.2 (หินชŒางสี)

4238 แห‹งชาตินำ้ พอง

ไปอำเภอชุมแพ

อำเภอหนองเรอ� อำเภอบาŒ นฝาง

12

อำเภอบาŒ นแทน‹ ไปเชยี งยนื , กาฬสินธุ

2187

ไปภเู ขย� ว น้ำตกหวŒ ยเข
หนว‹ ยพ�ทักษ
อุทยานแหง‹ ชาติ (ชว่ั คราว) อ.พระยนื
ท่ี นพ.3(น้ำตกหวŒ ยเข)
2

หนว‹ ยพท� กั ษ
อทุ ยานแห‹งชาติท่ี นพ.1
ไปแกŒงครŒอ 2388 (หนองสองหอŒ ง)

2062

201 อำเภอมญั จาคีร�
201 229 อชำนเบภทอ

ไปคอนสวรรค ไปอำเภอบรบอื มหาสารคาม

อำเภอบŒานไผ‹

ไปอำเภอพล, นครราชสมี า

158

นำ�้ ตกหว้ ยเข

ท่ีตั้ง : หนว่ ยพทิ ักษอ์ ุทยานแหง่ ชาตทิ ี่ นพ.4 (นํ้าตกหว้ ยเข)
หมู่ 5 บา้ นคำ�ปากดาว ต.คำ�แคน อ.มญั จาครี ี จ.ขอนแก่น
พิกัด : 48Q 229453E 1807167N
การเข้าถึง : จากตัวอำ�เภอมัญจาคีรี ไปตามทางหลวง
หมายเลข 2062 ระยะทาง 15 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าสู่
ทางหลวงหมายเลข 3315 อกี 10 กโิ ลเมตร แลว้ เล้ียวขวา
ไปทาง องค์การบริหารส่วนตำ�บลคำ�แคน ใช้ระยะทางอีก
ประมาณ 5 กโิ ลเมตร จงึ ถงึ นา้ํ ตกห้วยเข จากนั้นเดนิ เท้าไป
ตามทางเลยี บลำ�ธารน้ํา ราว 50 เมตร
ลักษณะ : นาํ้ ตกแหง่ นีเ้ กิดจากลำ�หว้ ยยางนอ้ ยและลำ�หว้ ยกุดบากไหลมารวมกันเป็นลำ�ห้วยเข บนทิวเขาภเู ม็ง แล้วไหลลงมายงั พืน้ ลา่ ง มี 5
ช้นั เปน็ ชั้นเล็ก ๆ เป็นแกง่ หนิ และลานหิน ชั้นบนสดุ ช่ือ “นา้ํ ตกตาดโตนใหญ่” เป็นหนา้ ผาสูงประมาณ 4 เมตร ตกลาดลงมา โดยส่วนมาก
ผู้มาท่องเทีย่ วจะนิยมเลน่ นํา้ ตกชน้ั ท่ี 1 ท่มี ีชื่อเรยี กวา่ “แจ้งวงั ไฮ” มีลกั ษณะเป็นแอง่ นา้ํ มีต้นไทรร่มร่ืน เหมาะสำ�หรบั เลน่ นาํ้ จากนํ้าตกช้ัน
ท่ี 1 ถึงน้าํ ตกชนั้ ท่ี 5 เปน็ เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาตริ ะยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร มีนํา้ เฉพาะในหน้าฝนเทา่ นั้น

159

อุทยานแห่งชาติ

ป่ าหินงาม
พืน้ ที่ 99.90 ตารางกิโลเมตร

ทต่ี งั้ ทท่ี �ำ การอทุ ยานแหง่ ชาติ : หมู่ 9 บา้ นหนองใหญ่ ต.บา้ นไร่ อ.เทพสถิต จ.ชยั ภมู ิ
การเดนิ ทาง : จากสามแยกอำ�เภอเทพสถิต ใช้ทางหลวงหมายเลข 2354 ผ่านหน้า
โรงพยาบาลเทพสถิตย์และข้ามทางรถไฟ ไปตามทางระยะทางประมาณ 17 กิโลเมตร
ถึงสามแยกบ้านไร่แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปตามถนนลาดยางระยะทางประมาณ 13 กิโลเมตร
ก็จะถึงที่ทำ�การอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม

160

กว่าจะเป็ นอทุ ยานแห่งชาติ
เดิมน้ันในบริเวณลานหินงามเป็นท่ีรู้จักเฉพาะราษฎรในท้องถ่ิน ต่อมาเมื่อ พ.ศ.2528 พระจากวัดเขาประตูชุมพลมานั่งปฏิบัติ
ธรรม ต่อมานายอำ�เภอเทพสถิต และป่าไม้อำ�เภอเทพสถิต จึงได้ออกตรวจพื้นท่ีและพบกับลานหินธรรมชาติท่ีมีรูปร่างสวยงามมีคุณค่า
ควรอนุรักษ์ไว้เป็นสถานที่ท่องเท่ียวและพักผ่อนของบุคคลท่ัวไป จึงเสนอเร่ืองไปยังกรมป่าไม้ผ่านทางจังหวัดชัยภูมิ ในช้ันต้นกรมป่าไม้ได้
ประกาศเป็นวนอทุ ยานป่าหินงาม เม่ือวันท่ี 10 ตลุ าคม 2529 ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 10 ตารางกโิ ลเมตร
ต่อมาเมอ่ื พ.ศ.2536 กรมปา่ ไมไ้ ด้ทำ�การสำ�รวจพ้ืนทใี่ กลเ้ คียงอย่างละเอียดและพบวา่ ยงั มีพน้ื ทปี่ ่าไมอ้ ุดมสมบรู ณ์ เมื่อรวบรวมพน้ื ที่
แล้วมีประมาณ 112 ตารางกิโลเมตร โดยพ้ืนท่ีดังกล่าวได้กันหมู่บ้านออกจากพื้นท่ีเรียบร้อยแล้วโดยการปฏิรูปท่ีดิน อีกทั้งพ้ืนท่ีเตรียมจัด
ต้งั นมี้ คี วามโดดเดน่ ทางธรณวี ทิ ยา มลี านหนิ ทม่ี รี ปู ลกั ษณส์ วยงามแปลกตา มดี อกกระเจยี วซง่ึ เปน็ พนั ธไ์ุ มล้ ม้ ลกุ ประจำ�ถน่ิ ทม่ี ดี อกสชี มพอู มมว่ ง
ชดู อกสะพรัง่ ในชว่ งตน้ ฤดูฝน มนี ํ้าตกท่ีสวยงาม สมควรท่จี ะอนรุ ักษ์ไว้ในรปู แบบของอุทยานแหง่ ชาติ
ต่อมากรมปา่ ไม้มคี ำ�ส่ังที่ 1642/2537 ให้ นายววิ ัฒน์ จนั ทรเ์ ผือก นักวิชาการปา่ ไม้ 5 จากอุทยานแห่งชาติรามคำ�แหง จงั หวดั สุโขทยั
ไปดำ�เนินการจัดตั้งพ้ืนที่ป่าดังกล่าวให้เป็นอุทยานแห่งชาติตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 และให้ทำ�หน้าท่ีเป็นหัวหน้า
อทุ ยานแห่งชาตปิ า่ หนิ งามแหง่ นี้ดว้ ย

161

ต่อมาในปี 2550 ได้มีพระราชกฤษฎีกากำ�หนดบริเวณที่ดิน หินงาม..งามอยา่ งไร
ป่านายางกลกั ในทอ้ งทต่ี ำ�บลโป่งนก ตำ�บลนายางกลกั ตำ�บลบ้านไร่
ตำ�บลวะตะแบก อำ�เภอเทพสถิต และตำ�บลซับใหญ่ กิ่งอำ�เภอ บริเวณทเี่ รยี กวา่ ป่าหินงาม ของอุทยานแหง่ ชาติ
ซับใหญ่ อำ�เภอจตุรัส จังหวัดชัยภูมิ ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ ซึ่ง ป่าหินงามนั้น มีพื้นที่ประมาณ 200 ไร่ หินส่วนใหญ่ที่
ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 124 ตอนท่ี 26 ก ลงวันที่ 6 พบในบริเวณนี้เป็นหินทรายในหมวดหินพระวิหาร มี
มิถุนายน 2550 จัดเป็นอุทยานแห่งชาติลำ�ดับท่ี 105 ของประเทศ ลักษณะเป็นหน้าผาสูงชัน วางตัวต่อเน่ืองอยู่บนหมวด
มีเน้ือท่ีประมาณ 99.90 ตารางกิโลเมตร ต้ังอยู่อยู่ในท้องท่ีอำ�เภอ หินภูกระดึง มีความลาดเอียงไปทางทิศตะวันออก ด้วย
เทพสถิต และอำ�เภอซับใหญ่ จังหวัดชัยภูมิ มีสภาพป่าสมบูรณ์ มมุ เอียงเทประมาณ 10 องศา ประกอบด้วย ชั้นหนิ ทราย
เป็นแหล่งต้นน้ําลำ�ธารของลุ่มน้ําชีและแม่น้ําป่าสักมีจุดเด่นทาง เน้ือควอรตซ์ (Quartzitic sandstone) หินทราย และ
ธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่งโดยเฉพาะทุ่งดอกกระเจียวและป่า หินทรายปนกรวด (Conglomeratic sandstone) สลับ
เตง็ รังบนลานหนิ ท่ที ำ�ให้รปู ทรงต้นไม้เหมือนไมด้ ดั ขนาดใหญ่ กบั หินทรายแปง้
พ้ืนท่ีของอุทยานแห่งชาติป่าหินงามเป็นส่วนหนึ่งของแนวทิว ประติมากรรมหินเหล่าน้ี เป็นกระบวนการผุพัง
เขาพังเหย ท่ีเป็นลักษณะเด่นทางธรณีท่ีแผ่นดินเกิดการยกตัวเป็น ตามธรรมชาติของช้ันหินทราย ที่เกิดจากการกัดเซาะ
แนวยาวจนกลายเป็นแผ่นดินท่ีราบสูงโคราช แบ่งภาคกลางและ ของนํ้า ลม และแสงแดด มผี ลทำ�ให้เน้อื หนิ ผกุ ร่อน แตก
แผน่ ดินภาคอสี านอยา่ งชดั เจน มคี วามสูงราว 200 - 800 เมตร ใน หลุด และถูกนำ�พาออกไปจากช้ันหิน ทำ�ให้หินส่วนที่
ทางธรณีวิทยาถือว่า พื้นท่ีนี้เป็นหมวดหินภูพานหมวดหินพระวิหาร เหลือ ซ่ึงมีความคงทนกว่า มีรูปร่างแตกต่างกันออกไป
และหมวดหินภูกระดงึ มีอายรุ าว 180 - 230 ล้านปี ยคุ จแู รสสิกและ ตามลักษณะของความคงทนต่อการกัดกร่อนท่ีไม่เหมือน
ไทรแอสสิก เป็นแหล่งต้นน้ําของแม่นํ้าชี ลำ�น้ําสนธิซ่ึงจะไหลไปลง กนั นอกจากนี้ ลักษณะของโครงสรา้ ง รอยแตก รอยแยก
แม่นา้ํ ป่าสักอกี ที รากพืชทีช่ อนไชเขา้ ไปตามรอยแตกรอยแยกของหนิ รวม
ท้ังซากพชื ท่ีเนา่ เปอ่ื ย ก็เปน็ ตัวเร่งใหเ้ กดิ การผพุ งั ของหนิ
มากขน้ึ และมีรูปร่างต่าง ๆ กนั ออกไปมากยิ่งขน้ึ
(ขอ้ มูลจาก http://www.dmr.go.th/main.php?-

filename=ne07)

162

ผาสุดแผ‹นดนิ

ปา† หินงาม สะพานปูน น้ำตกเทพพนา

ทีท่ ำการอุทยานแหง‹ ชาติปา† หินงาม
วัดเขาประตชู มุ พล

บาŒ นซับสะเลเต

บŒานหนองใหญ‹
น้ำตกเทพประทาน

บŒานไร‹พฒั นา ไปซบั ใหญ‹
อบต.
บาŒ นไร‹

2354 ไปอำเภอบำเหน็จณรงค

อำเภอเทพสถิต

205

ไปอำเภอชัยบาดาล

163

น�ำ้ ตกเทพประทาน

ท่ีต้ัง : หมู่ 11 บา้ นไรพ่ ฒั นา ต.บา้ นไร่ อ.เทพสถิต จ.ชยั ภมู ิ
พิกัด : X0759078 Y1721478
การเขา้ ถงึ : เมอ่ื เลย้ี วเขา้ มาจากทางหลวงหมายเลข 2354 เขา้ มายงั อทุ ยานแหง่ ชาติ
ป่าหินงาม จะผ่าน อบต.บ้านไร่ทางขวามือ เข้ามาเรื่อย ๆ ราว 4 กิโลเมตร จาก
ทางแยกทางหลวงหมายเลข 2354 จะถึงบ้านไร่พัฒนา มีป้ายทางขวามือเข้าน้ําตก
เทพประทาน จะเป็นทางปูนเข้าไปเจอแยกแล้วเล้ียวขวาไปตามทางจนถึงลานจอด
รถริมห้วย รวมระยะทางราว 2 กิโลเมตรจากแยกหมู่บ้าน แล้วเดินไปตามทางเดิน
ราว 30 เมตร เจอช้นั บนของนํ้าตก
ลักษณะ : เปน็ นา้ํ ตกขนาดเลก็ ดา้ นบนเปน็ แก่งน้าํ กวา้ ง กอ่ นที่สายนาํ้ สว่ นใหญจ่ ะ
ไหลตกไปทางตน้ ไทรใหญ่ ทเ่ี ปน็ ชัน้ หนิ ต่อเน่อื งกัน 2 ช้ัน รวมสูงราว 4 เมตร กอ่ น
จะไหลลงไปตามลำ�ห้วยที่มหี ินระเกะระกะเตม็ ลำ�ห้วย บรรยากาศโดยท่วั ไปรม่ ร่ืน

164

น�้ำ ตกเทพพนา

ท่ีตั้ง : หมู่ 10 บา้ นเทพพนา ต.บ้านไร่ อ.เทพสถิต จ.ชยั ภมู ิ
พิกัด : X0760398 Y1731409
การเขา้ ถึง : จากบา้ นไรพ่ ัฒนาทีเ่ ลี้ยวไปน้ําตกเทพประทาน
นั้นให้ไปตามทางเรื่อย ๆ ราว 8 กิโลเมตร จะถงึ บา้ นหนองใหญ่
ไปจนถึงหน้าโรงเรียนหนองใหญ่ (ซับสะเลเต) จะมีทางเล้ียว
ขวา ไปตามทางอกี ราว 5 กโิ ลเมตร มีสะพานปูนแลว้ มที างเลย้ี ว
ขวาตรงหวั สะพานปนู เขา้ ไปตามทางอีกราว 1.5 กิโลเมตร ถึง
ลานจอดรถ แลว้ เดินเทา้ ไปราว 100 เมตร ถงึ นํ้าตก
ลักษณะ : เกิดจากลำ�ห้วยกระจวนไหลผา่ นลานหินทรายต่าง
ระดบั 2 ชัน้ ทท่ี ้งิ ระยะกนั ราว 15 เมตร โดยชัน้ บนจะเปน็ ลาน
หินกวา้ ง มธี ารน้าํ ไหลตกลงจากผาหินสูงราว 3 เมตร แลว้ ลง
มาในแอง่ ก่อนจะไหลมาอีกราว 10 - 15 เมตร แล้วจึงตกลง
ไปอีกชั้นหนง่ึ สงู 4 เมตร ก่อนจะไหลไปเปน็ แกง่ น้ําแลว้ ไหลไป
ในปา่ ดงอีกทีหนึง่
นอกจากน้ีในเขตอุทยานแห่งชาติยังมีน้ําตกเทพทองคำ�
อกี ทหี่ นงึ่ ด้วย

165

อุทยานแห่งชาติ

ผาแต้ม
พนื้ ที่ 340 ตารางกโิ ลเมตร

ทต่ี งั้ ทท่ี �ำ การอทุ ยานแหง่ ชาติ : หมู่ 7 บ้านหนองผือน้อย ต.ห้วยไผ่ อ.โขงเจียม
จ.อุบลราชธานี
การเดินทาง :จากจังหวัดอุบลราชธานีใช้ทางหลวงหมายเลข 217 ไปอำ�เภอ
พิบูลมังสาหาร ข้ามสะพานแม่น้าํ มูล ไปเจอส่แี ยกใกล้สะพาน เล้ยี วซ้ายไปตามทางหลวง
หมายเลข 222 ไปยังอำ�เภอโขงเจียม ระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร ถึงแยกอำ�เภอ
โขงเจยี มเลย้ี วซา้ ย ไปตามถนน 2134 ไมไ่ กลมากนกั จะเจอสามแยกขวามอื ไปตามทางหลวง
หมายเลข 2112 เขา้ ไปตามทางเรอ่ื ย ๆ จนถงึ เขตบา้ นหนองผอื นอ้ ย จะมที างเลย้ี วขวาเขา้
ทางหลวงหมายเลข 2268 เขา้ ไปตามทางจนถงึ ดา่ นเกบ็ คา่ บรกิ ารผา่ นเขา้ อทุ ยานแหง่ ชาติ แลว้ จงึ พบเสาเฉลยี งและทท่ี ำ�การอทุ ยานแหง่ ชาติ
ทางเขา้ ลานกางเตน็ ท์ ถา้ จะไปศนู ยบ์ รกิ ารนกั ทอ่ งเทย่ี วทอ่ี ยทู่ ผ่ี าขาม และจดุ ชมทวิ ทศั นผ์ าแตม้ ใหไ้ ปจนสดุ ทางถนน

166

ภาพวาดโบราณทเ่ี พิงผาบนภสู ะมุย เสาเฉลยี งใหญบ่ ้านผาชัน

เดินปา่ ในอทุ ยานแหง่ ชาติ ผาแตม้

กว่าจะเป็ นอทุ ยานแห่งชาติ
เดิมผู้คนในย่านนี้ไม่มีใครกล้าเข้ามาในบริเวณป่าดงพงภู ด้วยเชื่อกันว่าเป็นพื้นที่ท่ีมีผีป่าคอยดูแลอยู่ จนกระท่ังมีอาจารย์และ
นักศึกษาจากภาควิชามานุษวิทยา มหาวิทยาลัยศิลปากร เข้ามาสำ�รวจสำ�รวจและค้นพบภาพเขียนสีก่อนประวัตศาสตร์ ในท้องท่ีบ้าน
หนองผือน้อย ตำ�บลหว้ ยไผ่ อำ�เภอโขงเจียม จงึ ได้ทำ�หนงั สอื บันทึกจากภาควชิ ามานษุ ยวิทยา ลงวนั ท่ี 26 พฤษภาคม 2524 ถงึ กรมป่าไม้
ให้จัดตั้งพ้ืนท่ีป่าและภูผาบริเวณผาแต้มให้เป็นอุทยานแห่งชาติ เพ่ือเป็นการสงวนและป้องกันภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ที่ทรงคุณค่า
ให้ปลอดภัยจากการถูกทำ�ลาย

167

ทะเลหมอกผาชะนะได ต่อมากองอุทยานแห่งชาติ ได้ส่งนายเสง่ยี ม จันทร์แจ่ม นักวิชาการป่าไม้ 4
พกั แรมท่ผี าแต้มรับวันปีใหม่ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติป่าดงหินกอง (ต่อมาไม่นานได้เปล่ียนช่ือเป็นอุทยานแห่งชาติ
แก่งตะนะ) มาทำ�การสำ�รวจข้อมูลเพ่ิมเติมพบว่าพื้นท่ีที่ถูกขอให้จัดต้ังอุทยานแหง่ ชาติ
นน้ั ไมเ่ คยถกู ทำ�ลายมากอ่ นและมคี วามโดดเดน่ ทางธรรมชาตสิ วยงามหลายแหง่ สมควร
ที่ผนวกพื้นที่ดังกล่าวเข้าเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติดงหินกอง ต่อมา กรมป่าไม้
จึงมีคำ�ส่ังท่ี 116/2524 ลงวันท่ี 13 กันยายน 2524 ให้นายเสง่ียม จันทร์แจ่ม
นกั วชิ าการปา่ ไม้ 4 หวั หนา้ อทุ ยานแกง่ ตะนะ ไปดำ�เนินการดแู ลพนื้ ทป่ี ่าภผู าแตม้ โดยให้
พิจารณาผนวกขึ้นกับอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ โดยได้ประกาศรวมกับป่าใกล้เคียง
ให้เปน็ ปา่ สงวนแหง่ ชาตปิ า่ ดงภูโหล่น และประกาศในราชกจิ จานุเบกษา เล่มที่ 90 ตอน
ที่ 153 ลงวนั ที่ 26 พฤศจิกายน2526
ต่อมากรมป่าไม้เห็นว่าพ้ืนท่ีดังกล่าว เป็นพ้ืนท่ีคนละส่วนและอยู่ห่างไกลกับ
อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ ตลอดจนมีอาณาเขตกว้างขวาง เกรงว่าอุทยานแห่งชาติ
แกง่ ตะนะจะดแู ลไมท่ ว่ั ถงึ และเพอ่ื เปน็ การสนบั สนนุ นโยบายรฐั บาลตามนโนบายอสี าน
เขยี ว และเพอ่ื พฒั นาใหเ้ ปน็ แหลง่ ทอ่ งเทย่ี ว เปน็ แหลง่ ศกึ ษาหาความรขู้ องประชาชน จงึ
มคี ำ�สง่ั กรมปา่ ไมท้ ่ี 991/2532 ลงวนั ท่ี 26 มถิ นุ ายน 2532 ใหน้ ายวรพล รตั นสบุ รรณ
นักวิชาการป่าไม้ 5 กองอุทยานแห่งชาติ ไปดำ�เนินการสำ�รวจป่าสงวนป่าดงภูโหล่น

168

จดุ ชมทิวทศั น์ภดู งนา ภาพวาดทผี่ าหมอน

เสาเฉลยี งพญาครฑุ ทางไปผาชะนะได หินเต่าชมจันทร์

ท้องที่อำ�เภอโขงเจียม อำ�เภอศรีเมืองใหม่ และอำ�เภอโพธิ์ไทร จังหวัด.อุบลราชธานี จัดตั้งให้เป็นอุทยานแห่งชาติ โดยมีพระราชกฤษฎีกา
กำ�หนดทีด่ ินป่าภโู หล่น ในทอ้ งทีต่ ำ�บลสำ�โรง อำ�เภอโพธิไ์ ทร ตำ�บลหนามแท่ง อำ�เภอศรีเมอื งใหม่ ตำ�บลนาโพธิ์กลาง ตำ�บลหว้ ยยาง ตำ�บล
ห้วยไผ่ อำ�เภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานีเป็นอุทยานแห่งชาติผาแต้ม ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 108 ตอน 245 ลงวันท่ี 31
ธนั วาคม 2534 เป็นอทุ ยานแห่งชาตลิ ำ�ดับท่ี 74 ของประเทศไทย มีเนื้อที่ 340 ตารางกิโลเมตร
พื้นท่ใี นอุทยานแห่งชาติผาแต้มมีลักษณะเปน็ ทิวเขาตดิ ตอ่ กนั เป็นพน้ื ที่สูงตํา่ สลับกันไปทัว่ สงู 100 - 600 เมตร จากระดบั ทะเล
แนวเขตด้านตะวันออกใช้เสน้ แบง่ แดนประเทศทเี่ ปน็ แม่น้าํ โขง ติดกับประเทศลาว เป็นระยะทาง 63 กิโลเมตร เปน็ หน้าผาหินสูง เป็นลาน
หนิ และป่าเตง็ รัง มีภผู าท่สี ำ�คัญอย่าง ภผู าขาม ภูผาเมย ภูผาเจก๊ ภูผาสร้อย ภยู า่ แพะ ภชู ะนะได ภนู าทาม ภูโลง ภปู งั ภจู นั ทร์แดง ภูหลวง
ภสู ะมยุ และภกู ะบอ มีลำ�หว้ ยลำ�ธารท่ีเกดิ ในพื้นที่ เชน่ หว้ ยภูโลง ห้วยฮงุ หว้ ยลาน ห้วยเพราะ ห้วยแยะ ห้วยกวย ห้วยกะอาก ห้วยใหญ่
หว้ ยสูง และห้วยหละหลอย
พ้ืนท่ีป่าถือว่าสมบูรณ์มากแม้จะเป็นลานหินและป่าเต็งรังก็ตาม มีนกยูงจากฝั่งลาวบินข้ามมาหากิน ผลัดขนท้ิงขนไว้ เดิมเคยมี
ชาวบ้านมาเก็บหาขนนกยูงไปขาย อีกท้ังในพื้นที่ท่ีมีเพิงผาหินหลายแห่ง ท่ีมีภาพวาดฝ่ามือแดงอยู่ตามเพิงผาน้อยใหญ่มากมาย เป็นภาพ
รว่ มสมยั กบั ท่ผี าแตม้

169

ไป อ.โพธิ์ไทร ไป สามพันโบก- เขมราฐ บŒานผาชัน บาŒ นดงนา
เสาเฉลียงใหญ‹ ภูโลง วดั ผานางคอย
2337
ภสู ะมุย ภกู ะบอ

แม‹น้ำโขง

หน‹วยพท� กั ษอุทยานแห‹งชาติที่ ผต.2 (หุง‹ หลวง) บาŒ นปากลา

2112 หน‹วยพ�ทักษอ ุทยานแหง‹ ชาติที่ ผต.5 (ดงนาทาม) น้ำตก
หน‹วยพท� ักษอ ทุ ยานแห‹งชาตทิ ี่ ผต.4 หวŒ ยพอก

(หŒวยทราย) ผาชะนะได

แมน‹ ้ำโขง

ไปอำเภอศรเ� มืองใหม‹ 2135 บŒานซะซอม สปป.ลาว
บŒานนาโพธ์ิ

กลาง

บŒานนาโพธ์ิใตŒ บาŒ น
หนว‹ ยพ�ทักษ คันท‹าเกว�ยน
อุทยานแห‹งชาตทิ ี่ ผต.3
(คันทา‹ เกวย� น)

บŒานนาเมอื ง

ทุง‹ นน้ำาตเมกอื ง
น้ำตกลงรู
(น้ำตกแสงจันทร)

บŒานหนองผือ

หนว‹ ยพ�ทกั ษอ ุทยานแห‹งชาติที่ ผต.1 น้ำตก
(สรŒอยสวรรค) สรอŒ ยสวรรค

บาŒ น เสาเฉลียง ลานกางเต็นท นำ้ ตกผาโสก
หนองผือ อุทยทผาี่ทานำแแกตหามŒง‹ รชาติ
นำ้ ตกขวั นางนี บาŒ นทา‹ ลัง
นŒอย ผาหมอน ผาเจกŒ
ไปอำเภอโขงเจย� ม ผาเมย

ผาแตมŒ

ศูนยบ ร�การ บาŒ นตามยุ
นักทอ‹ งเท่ยี ว

170

น้�ำ ตกขัวนางนี

ท่ีตั้ง : หมู่ 7 บ้านหนองผอื น้อย ต.หว้ ยไผ่ อ.โขงเจยี ม จ.อุบลราชธานี
พิกัด : 554509E 1703274N
การเข้าถึง : จากที่ทำ�การอุทยานแห่งชาติ มุ่งหน้าไปทางอาคารศูนย์บริการนักท่องเท่ียวผาแต้ม ราว 500 เมตร จะมีทางแยกซ้ายมือ
เข้าไปราว 100 เมตร จะเหน็ ทางเดินลงไปตามลานหิน ราว 150 เมตรถงึ นาํ้ ตก
ลักษณะ : เปน็ ชนั้ นํา้ ตกหินทรายเลก็ ๆ สงู ประมาณ 4 เมตร ตกลงมาชั้นเดยี ว ลงในร่องหนิ ทถ่ี ูกนํา้ กัดเซาะ เนื่องจากพื้นทต่ี ้นนํ้ามพี นื้ ท่ีไม่
มากนักและสว่ นใหญ่เปน็ ลานหนิ จึงมีน้ําเฉพาะฤดูฝนทีฝ่ นตกชุกเทา่ นนั้

171

น�ำ้ ตกสรอ้ ยสวรรคจ์ ากหว้ ยสนม

น�ำ้ ตกสร้อยสวรรค์

ท่ีตั้ง : หมู่ 4 บ้านหนองผือ ต.นาโพธก์ิ ลาง อ.โขงเจียม จ.อบุ ลราชธานี
พิกัด : 562017E 1709280N
การเข้าถึง : จากท่ีทำ�การอุทยานแห่งชาติผาแต้ม เลี้ยวขวาไปตามทางหลวงหมายเลข
2112 ไปราว 15 กโิ ลเมตร ถึงบา้ นหนองผอื เลยี้ วขวาเข้าไปในหมู่บา้ น ไปตามทางหลัก แลว้
ตรงไปราว 2 กิโลเมตร ถึงลานจอดรถ เสียค่าบริการแล้วเดินเท้าไปราว 800 เมตร ผ่าน
ท่ีทำ�การหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ผต.1 (สร้อยสวรรค์) แล้วถึงหัวน้ําตกสร้อยสวรรค์
(ห้วยสนม) ถ้าจะไปนํ้าตกสร้อยสวรรค์ฝ่ังห้วยสร้อยหรือทุ่งดอกไม้หรือจุดชมทิวทัศน์ จะมี
ทางเดนิ ไปแลว้ ข้ามลำ�ธาร ระยะทางราว 200 เมตร
ลักษณะ : บริเวณที่เรียกว่า น้ําตกสร้อยสวรรค์น้ี จะเป็นลำ�ธารนํ้าตกสองสายไหลมา
บรรจบกันคือ
น้ําตกสร้อยสวรรค์จากห้วยสนม นํ้าตกน้ีจะตกลงมาจากหน้าผาสูงราว 30 เมตร
ตกลงมาชนั้ เดียว ด้านลา่ ง (มีทางเดนิ ลงไปราว 100 เมตร) เปน็ ลานหนิ และเป็นกุมภลกั ษณ์

172

นำ้�ตกสร้อยสวรรค์ จากหว้ ยสร้อย นำ้�ตกสร้อยสวรรค์จากหว้ ยสนม

ล�ำ หว้ ยสนมดา้ นบน ทุง่ ดอกไม้ในชว่ งหน้าฝน

ขนาดใหญ่ ก่อนจะไหลลงไปรวมกับน้ําท่ีมาจากฝ่ังห้วยสร้อย ไหลลงเป็นแซไผ่ แล้วลงแม่นํ้าโขง จากด้านล่างนี้สามารถเดินต่อเนื่องไปถึง
นา้ํ ตกท่ีมาจากห้วยสร้อยไดด้ ว้ ย
น้ําตกสร้อยสวรรค์ท่ีมาจากลำ�ห้วยสร้อย จะเกิดจากลำ�ธารน้ําท่ีไหลกัดเซาะหินทรายจนเป็นร่องห้วย เป็นทางยาวมาจนถึงปลาย
ลำ�ห้วยทนี่ ้ําจะไหลลาดตกลงมาตามหน้าหินทรายทเี่ อียงลาดและเปน็ โคง้ เวา้ วดั ตามทางลาดหน้านา้ํ ตกราว 20 เมตร สงู ไม่มาก ราว 7 เมตร
แต่หนา้ ผาสองฝัง่ หว้ ยสูงราว 25 เมตร แสดงว่าสายนาํ้ ใชเ้ วลายาวนานนบั แสนนบั ล้านปี กดั เซาะหินทรายลงมาจนลกึ ขนาดนี้
หินบรเิ วณนีเ้ ปน็ หินทรายสีเทาอมแดง มีกรวดปนและควอตซข์ นาดเล็ก ช้ันผาหินนาํ้ ตกแสดงแนวการวางตัว (bedding) ชดั เจน เปน็
หมวดหินภพู าน อายุประมาณ 110 ลา้ นปี แสดงช้ันเฉียงระดับ หนาประมาณ 70 เซ็นตเิ มตร อย่างชัดเจน
ในช่วงเดือนกันยายนไปจนถึงเดือนมกราคม จะมีดอกไม้ดินผลัดเปล่ียนหมุนเวียนกันออกดอกบานสะพร่ัง ลานดอกไม้ดินเบ่งบาน
ตามเส้นทางเดนิ ศึกษาธรรมชาติ ซงึ่ สามารถไปจนถงึ จดุ ชมทิวทศั น์ที่จะเห็นสายน้าํ ตกจากสองลำ�ห้วย ไหลตกลงในหุบผาหินดา้ นล่าง

173

น�้ำ ตกผาโสก

ท่ีตั้ง : หมู่ 5 บ้านท่าล้ง ต.ห้วยไผ่ อ.โขงเจียม
จ.อบุ ลราชธานี
พิกัด : 48P 561228E 1704613N
การเขา้ ถงึ : ใชก้ ารเดนิ ทางเดยี วกนั กบั ทไ่ี ปนา้ํ ตกสรอ้ ย-
สวรรค์ เพียงแต่เม่อื ออกจากบ้านหนองผือ ม่งุ หน้าน้าํ ตก
สรอ้ ยสวรรคแ์ ลว้ กอ่ นถงึ ลานจอดรถนา้ํ ตกสรอ้ ยสวรรคร์ าว
1.5 กโิ ลเมตร จะมที างเลย้ี วขวามอื เขา้ ไปตามเสน้ ทางลำ�ลอง
ในปา่ ทางคอ่ นขา้ งแคบ เขา้ ไปตามทางราว 7.3 กโิ ลเมตร
ไปจอดรถบนลานหนิ แลว้ เดนิ เทา้ ลงหนา้ ผาไป 500 เมตร
ถงึ นา้ํ ตก หรอื เดนิ เทา้ ขน้ึ มาจากบา้ นทา่ ลง้ ซง่ึ เปน็ หมบู่ า้ นรมิ
แมน่ า้ํ โขงดา้ นลา่ งขน้ึ มาบนหนา้ ผา ระยะทาง 3 กโิ ลเมตร

174

ลักษณะ : เป็นนํ้าตกทีต่ กลงจากหน้าผาสงู แบบแนวดง่ิ
สงู ราว 40 เมตร ตกลงยงั เบอ้ื งล่าง สายนํ้ามาจากลานหิน
และป่าเต็งรังบนหน้าผาหินไหลรวมกันค่อย ๆ กัดเซาะ
หนิ ทรายจนเป็นร่องลึก มีการมาก่อฝายปนู กนั้ นํ้าในภาย
หลังจึงทำ�ให้กลายเป็นแอ่งนํ้ากลางหน้าผา ใกล้กันเป็น
ผาทา่ ลง้ จุดชมทวิ ทศั น์ทส่ี วยงาม
หมายเหตุ : นํ้าตกนี้มีนํ้าเฉพาะในฤดูฝนราวเดือน
กรกฏาคา - ตุลาคม นักท่องเที่ยวสามารถมาตั้งแคมป์
พักแรมได้ แต่ต้องได้รับอนุญาตจากอุทยานแห่งชาติ
ผาแต้มเสียก่อน

175

น้ำ�ตกแสงจนั ทร์หรือน�้ำ ตกลงรู

ท่ีต้ัง : หมู่ 6 บ้านทุ่งนาเมือง ต.นาโพธ์ิกลาง อ.โขงเจียม
จ.อุบลราชธานี
พิกัด : 563249E 1715479N
การเข้าถึง : ออกจากท่ีทำ�การอุทยานแห่งชาติมาเจอสาม
แยกทางหลวงหมายเลข 2112 เลี้ยวขวา จะมีช่วงที่ลงเนิน
เขาไปราว 3 กิโลเมตร จะมที างเลย้ี วขวาเข้าบา้ นนาโพธกิ์ ลาง
กลางหมู่บ้านจะมีแยกเล้ียวขวา (มีป้ายบอก) ไปบ้านนาเมือง
ไปตามทางเร่ือย ๆ จนถึงบ้านนาเมือง แล่นเลยส่ีแยกใหญ่
กลางหมู่บ้านไปไม่นานจะมีทางเล้ียวขวาเข้านํ้าตกลงรูหรือ

176

น้าํ ตกแสงจันทร์ ราว 2 กิโลเมตร จากแยกถึงท่ีจอดรถบนลานจอด รวมระยะทางจากท่ที ำ�การอทุ ยานแห่งชาต ิ 30 กิโลเมตร แลว้ เดนิ เทา้
ลงนํา้ ตกราว 50 เมตร
ลักษณะ : จากด้านบนใกลล้ านจอดรถ จะเหน็ มลี ำ�ธารนํา้ ไหลมาบนรอ่ งธารท่ีเปน็ พนื้ หิน แลว้ ไหลตกลงไปในรูหนิ ทรายที่มีเส้นผ่าศนู ย์กลาง
ราว 1.5 เมตร ครน้ั เดนิ ลงไปดา้ นลา่ ง จงึ เหน็ วา่ เปน็ เวง้ิ ผากวา้ งใหญ่ นา้ํ ตกทไ่ี หลลอดรหู นิ ลงมาตกลงยงั พน้ื เบอ้ื งลา่ งสงู ราว 10 เมตร ดา้ นลา่ ง
เป็นแอง่ เล็ก ๆ และเป็นไม้ชายนํ้าขนึ้ กนั ตามรมิ ลำ�ธาร
นา้ํ ตกแห่งน้ีเป็นหนิ ทรายในหมวดหินภูพาน อายปุ ระมาณ 110 ลา้ นป ี สันนิษฐานวา่ รทู ี่นา้ํ ลอดลงน้นี ่าจะเปน็ กุมภลักษณ์ใกลห้ นา้ ผา
มากอ่ น ครั้นนานวนั เข้ากุมภลกั ษณ์ถูกกรวดหนิ ขัดสีจนทะลนุ า้ํ จึงไหลลงรแู ละมกี ารขนายขนาดรขู น้ึ เรื่อย ๆ

177

น้ำ�ตกทุง่ นาเมอื ง

ท่ีตั้ง : หมู่ 6 บา้ นทงุ่ นาเมอื ง ต.นาโพธ์กิ ลาง อ.โขงเจยี ม จ.อบุ ลราชธานี
พิกัด : 563984E 1717333N
การเขา้ ถงึ : จากนา้ํ ตกแสงจนั ทร์ ยอ้ นออกมาทบ่ี า้ นนาเมอื งพอเจอสามแยก
ใหเ้ ลี้ยวขวา ไปราว 2 กิโลเมตร เจอหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ผต.4
(คันท่าเกวียน) จอดรถหน้าหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแล้วเดินข้ามฝั่ง
มาทางบ้านพักเจ้าหน้าท่ี แล้วเดินลงไปตามทางซ่ึงจะชันท้ายที่จะลงน้ําตก
ระยะทางราว 100 เมตร ถงึ นํา้ ตก
ลักษณะ : เปน็ นาํ้ ตกทต่ี กลงมาจากหนา้ ผาหินช้ันเดียวในแนวดิ่ง สูงราว 25
เมตร ดา้ นล่างเปน็ กองหินขนาดใหญ่ทถ่ี ลม่ ลงมา บรรยากาศโดยรอบรม่ ร่นื
ทน่ี า่ สนใจคอื ดา้ นบนของนา้ํ ตกทเ่ี ราตอ้ งขบั รถยอ้ นออกไปหา่ งหนว่ ยราว 50 เมตร จะมที างเลย้ี วลงไปในลานหนิ จอดชดิ ลำ�ธารนา้ํ ตก
เพราะจะเปน็ กมุ ภลกั ษณน์ อ้ ยใหญใ่ นลำ�ธาร สายนา้ํ กดั เซาะจนบางชว่ งเปน็ เพงิ หนิ ทน่ี า้ํ ไหลลอดลงไป กอ่ นสายนา้ํ จะไหลกดั เซาะหนิ ทรายไหล
ลงไปเปน็ นา้ํ ตกทงุ่ นาเมอื งนน่ั เอง อกี ทง้ั ในชว่ งเดอื นตลุ าคมจะมบี รรดาดอกไมด้ นิ สารพดั ชนดิ ออกดอกผลบิ านตามชายนา้ํ มากมาย

178

ในยุคครีเทเชียสตอนปลาย (ประมาณ 97 - 65 ล้านปีก่อน) กระบวนการทางธรณีสัณฐานประเภทนํ้าตกทำ�ให้เกิดเป็นหน้าผาและ
กุมภลักษณ์ (hothole) โดยหนา้ ผาเกิดจากการยกตวั ของเปลือกโลกหลงั ตะกอนแข็งตวั เปน็ หนิ เป็นเหตใุ ห้หินมรี อยแตก จงึ เป็นช่องใหน้ ํ้า
ไหลผ่าน น้ําไหลผ่านก็กัดเซาะหินจนหินเกิดการผุกร่อน เกิดเป็นโพรงเป็นหลุมเว้า ก้อนกรวดที่ถูกน้ําพัดพามาก็จะขัดหลุมให้มีขนาดใหญ่
และลึกขนึ้ จนเปน็ ภุมภลกั ษณ์ดงั ท่ปี รากฏ

179

น�ำ้ ตกห้วยพอก

ท่ีตั้ง : หมู่ 7 บ้านซะซอม ต.นาโพธ์ิกลาง อ.โขงเจียม
จ.อุบลราชธานี
พิกัด : 565652E 1727529N
การเข้าถึง : นํ้าตกนอ้ี ยบู่ ริเวณเดยี วกบั ผาชะนะได ผาสน โดย
เร่ิมต้นจากสี่แยกใหญ่บ้านนาเมือง มุ่งหน้าไปทางหน่วยพิทักษ์
อุทยานแห่งชาติที่ ผต.4 (คันท่าเกวียน) เม่ือถึงบ้านนาโพธิ์ใต้
จะมีทางแยกซา้ ยมอื เขา้ ปา่ ดงนาทาม จะผา่ นบา้ นซะซอม ไปวัด
ถา้ํ ปาฏหิ ารยิ ์ เขา้ ไปตามทางเรอ่ื ย ๆ จนถงึ วดั ถา้ํ ปาฏหิ ารยิ ์ จะพบ
ด่านเก็บค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติ ซึ่งทางเข้าดงนาทามจะ
เปน็ ทางราดยางอยา่ งดีแต่แคบ เพอ่ื ป้องกันอบุ ัตเิ หตจุ งึ มีการจดั
เวลาสลบั ขน้ึ ลงวนั ละสองชว่ งเวลาคอื ขาขน้ึ เวลา 04.30 - 07.00 น.

180

และเวลา 13.00 - 15.30 น. หลงั จากนน้ั จะเป็นขาลงจากหน่วยพทิ กั ษอ์ ทุ ยานแหง่ ชาติท่ี ผต.5 (ดงนาทาม) เวลา 08.30 - 10.30 น. และ
เวลา 16.30 - 17.30 นา้ํ ตกอยู่หา่ งจากหน่วยพทิ ักษ์อุทยานแห่งชาติ ราว 200 เมตร
ลักษณะ : เป็นนํา้ ตกหินทราย ขนาดกลาง มีทงั้ หมด 4 ชัน้ ใหญ่ ๆ ชน้ั บนสุดตกลงมาจากความสงู ราว 1.5 เมตร แล้วทิ้งระยะห่างไปราว 4
เมตร จึงตกลงไปเปน็ ช้นั ท่ีสองสงู ราว 2 เมตร แลว้ ทงิ้ ระยะมาอกี 5 เมตร ตกลงอกี ชั้นสูงราว 2 เมตร แล้วท้งิ ระยะหา่ งไปราว 10 เมตร จึงตก
ช้ันเตีย้ ๆ สูงราว 1 เมตรอกี ชนั้ แลว้ จงึ ไหลไปเป็นแก่งน้าํ ไหลลงไปในร่องหว้ ยแล้วลงสแู่ มน่ า้ํ โขงอกี ทหี น่ึง
สว่ นการไปผาชะนะไดน้นั เดนิ เท้าจากหน่วยพทิ ักษ์อทุ ยานแหง่ ชาตทิ ี่ ผต. 5 (ดงนาทาม) ไปตามทางเดนิ ตามลานหนิ ราว 800 เมตร
หมายเหตุ : นอกจากนัน้ ยังมีนา้ํ ตกกวางโตน นา้ํ ตกกต๊ี และน้าํ ตกชะปนั เป็นน้าํ ตกในฤดฝู น อยู่ระหว่างทางเข้าป่าดงนาทาม ซึ่งทางแคบ
ถ้าผู้มาทอ่ งเท่ยี วจอดรถไปน้าํ ตกจะเลยเวลาท่รี ถขึน้ - ลง ทางอุทยานแหง่ ชาตผิ าแตม้ จึงปิดไมใ่ หท้ อ่ งเทย่ี วอีกทง้ั มีนาํ้ เฉพาะฤดฝู นเทา่ นั้น
ในพื้นท่ีอุทยานแห่งชาติผาแต้มมีเส้นทางเดินป่าหลายเส้นทาง ซึ่งในเส้นทางเดินป่าจะมีนํ้าตกขนาดใหญ่ ท่ีตกลงจากหน้าผาสูง
บางเส้นทางจะพบนํ้าตกขนาดเล็กและขนาดกลางอีกมากมาย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นน้ําตกในช่วงฤดูฝน สอบถามรายละเอียดได้จากอุทยาน-
แหง่ ชาตผิ าแต้ม

181

อุทยานแห่งชาติ

ภกู ระดึง
พนื้ ที่ 348.12 ตารางกิโลเมตร
ทต่ี ง้ั ทท่ี �ำ การอทุ ยานแหง่ ชาติ : หมู่ 1 บ้านศรีฐาน ต.ศรีฐาน อ.ภูกระดึง จ.เลย
การเดนิ ทาง : จากอำ�เภอชมุ แพ ใชท้ างหลวงหมายเลข 12 (ชุมแพ - หล่มสกั ) มงุ่ หนา้
หลม่ สัก จนถึงอำ�เภอคอนสาร จะมีทางแยกขวามือไปเมอื งเลย (ทางหลวงหมายเลข 201) ไป
ตามทางเร่ือย ๆ ผ่านภผู าม่าน จนถึงสี่แยกภูกระดึง เล้ยี วซ้ายเขา้ ไป จะผ่านอำ�เภอภูกระดึง
บา้ นศรฐี านและไปสนิ้ สดุ ทางท่ีอุทยานแห่งชาติ

182

ผานกแอ่น จุดชมพระอาทิตยข์ นึ้ (ภาพ: ชาย สามหยด)

กว่าจะเป็ นอุทยานแห่งชาติ
ภกู ระดงึ  เป็นที่รู้จักกันมานาน ตงั้ แตใ่ นสมัยสมเด็จพระมงกฏุ เกลา้ เจ้าอยหู่ ัวรัชกาลท่ี 6 สมหุ เทศาภบิ าล (พระเจ้าวรวงศเ์ ธอกรมหลวง
ประจักษศ์ ิลปาคม) ได้ทำ�รายงานสภาพภมู ศิ าสตรเ์ สนอตอ่ กระทรวงมหาดไทย และตอ่ มาในปี 2463 นายอำ�เภอวงั สะพงุ ซ่ึงปกครองท้องท่ี
เขตภูกระดึงในขณะนั้นได้ขึ้นไปสร้างพระพุทธรูปไว้บนยอดภูกระดึงองค์หน่ึง ในปี 2486 ทางราชการได้ออกพระราชกฤษฎีกากำ�หนดป่า
ภูกระดึงให้เป็นป่าสงวนแห่งชาติและกรมป่าไม้เร่ิมดำ�เนินการสำ�รวจ เพ่ือจัดตั้งอุทยานแห่งชาติขึ้นที่ภูกระดึง จังหวัดเลยเป็นแห่งแรก แต่
เนือ่ งจากขาดแคลนงบประมาณและเจ้าหนา้ ที่จงึ ใหด้ ำ�เนินการไปเพยี งเลก็ นอ้ ยเท่านนั้

183

      เมอ่ื วันท่ี 7 ตุลาคม พ.ศ. 2502 คณะรฐั มนตรีไดม้ ีมติให้กำ�หนดป่าในทอ้ งทจ่ี ังหวัดตา่ ง ๆ รวม 14 แหง่ เป็นอทุ ยานแหง่ ชาติเพอื่ อนุรักษ์
ทรัพยากรธรรมชาติเอาไว้เป็นการถาวรเพ่ือประโยชน์ส่วนรวม กรมป่าไม้จึงได้เสนอจัดต้ังป่าภูกระดึงให้เป็นอุทยานแห่งชาติตามความใน
มาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 โดยได้มีพระราชกฤษฎีกากำ�หนดป่าภูกระดึงในท้องท่ีตำ�บลศรีฐาน ก่ิงอำ�เภอ
ภูกระดึง อำ�เภอวังสะพุง จังหวัดเลย เป็นอุทยานแห่งชาติ มีเนื้อท่ีท้ังสิ้น 348.13 ตารางกิโลเมตร  นับเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งที่ 2 ของ
ประเทศ เมอื่ วนั ที่ 23 พฤศจกิ ายน 2505
ในวันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ.2520 คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ดำ�เนินการเพิกถอนเขตอุทยานแห่งชาติในบริเวณที่กองทัพอากาศขอใช้
ประโยชน์ตงั้ เป็นสถานถี ่ายทอดโทรคมนาคมเพื่อประโยชนใ์ นราชการทหารเน้ือท่ปี ระมาณ 0.01 ตารางกิโลเมตร ทางกรมป่าไม้จึงได้ดำ�เนนิ
การขอเพกิ ถอนพื้นทด่ี ินดังกล่าวในปี 2521 ปจั จบุ นั อุทยานแหง่ ชาติภกู ระดึงมีเน้อื ทอ่ี ยปู่ ระมาณ 348.12 ตารางกิโลเมตร
อทุ ยานแห่งชาติภกู ระดึง ต้งั อย่ใู นทอ้ งทีต่ ำ�บลศรีฐาน อำ�เภอภกู ระดงึ จงั หวัดเลย ลักษณะโดดเด่นทเี่ ป็นภเู ขาหนิ ทรายยอดตัด โดยมี
ทรี่ าบบนยอดภูกระดึงประมาณ 60 ตารางกิโลเมตร ความสูงอยูร่ ะหวา่ ง 400 – 1,200 เมตร จากระดบั ทะเลปานกลาง จุดสูงสดุ อยูท่ ี่บริเวณ
คอกเมย มคี วามสงู 1,316 เมตร จากระดบั ทะเล สภาพทว่ั ไปของภกู ระดงึ ประกอบไปดว้ ยทงุ่ หญา้ ปา่ สน พรรณไม้ หนา้ ผา ลำ�ธาร และนา้ํ ตก
ท้ังยังเป็นพื้นท่ีต้นนํ้าของลำ�นํ้าพองซ่ึงเป็นลำ�น้ําสายสำ�คัญสายหน่ึงของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และอากาศที่เย็นสบายตลอดปี ทำ�ให้
ภกู ระดึงเป็นจดุ หมายปลายทางของคนท่ตี ้องการใกล้ชิดธรรมชาติอยา่ งแท้จรงิ

184

ในหลวง ร.9 และสมเด็จพระราชนิ ี เสด็จภกู ระดึง

ในวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ.2498 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล
อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง (พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9)
ได้เสด็จพระราชดำ�เนินเยี่ยมเยียนราษฎรในพื้นที่จังหวัดเลยเป็นครั้งแรก ได้ประทับ
เฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง จากจังหวัดขอนแก่น เสด็จฯ ไปยังหลังแป อุทยานแห่งชาติ
ภูกระดึง ได้ประทับช้างที่กรมป่าไม้จัดถวาย เพื่อทอดพระเนตรทัศนียภาพบนยอด
ภูกระดึง ต่อจากน้ันทรงปลูกต้นสนสองใบ และสนสามใบ เพ่ือเป็นสิริมงคลแก่สถานที่
แห่งนี้ด้วย

การเกิดข้นึ ของ ชั้นหินยกตัวขึ้นเป็นภูเขาจากผล เกิดการกัดกร่อน
ภกู ระดึง การเคลื่อนที่ของเปลือกโลก ให้ภูมิประเทศราบเรียบ

ภูกระดึงเกิดจากการยกตัวของแผ่นเปลือกโลก เกิดการกัดกร่อน การกัดกร่อนที่ยาวนาน
ภูมิประเทศโดยทางนํ้า ส่งผลให้เกิดลักษณะเขาโดด
เป็นภูเขายอดราบ (mesa) สูง 1,316 เมตร โดยมีช้ัน
หินทรายอายุต่าง ๆ วางซ้อนกัน 4 ช้ัน อายุประมาณ เกิดเป็นภูกระดึง
65 - 200 ล้านปี (ยุค Cretaceous - Jurassic) โดย แยกออกจากที่ราบสูงโคราช
ชั้นล่างสุดเป็นหมวดหินภูกระดึงท่ีแก่ที่สุดอยู่ด้านล่างสุด
ท่ีเชิงเขา ต่อมาเป็นหมวดหินพระวิหาร และหมวดหิน ภูมิประเทศ
เสาขัวอยู่ถัดขึ้นไป ส่วนช้ันบนสุดเป็นหมวดหินภูพานซ่ึง ยอดเขาภูกระดึง
มีอายุอ่อนที่สุดอยู่ท่ียอดเขา มีความสำ�คัญใช้อ้างอิงทาง
วิชาการด้านธรณีวิทยา เนื่องจากเป็นแหล่งลำ�ดับช้ันหิน มีลักษณะ
แบบฉบับ (type section) ของหมวดหินภกู ระดงึ คล้ายรูปหัวใจ
หลังแปของภูกระดึงจะลาดเทจากทิศตะวันออก
มายังทิศตะวันตก ทำ�ให้ลำ�ธารสายต่าง ๆ บนภูกระดึง
ไหลลงมารวมกันทางทิศตะวันตก ซึ่งสายนํ้าเหล่านี้
ก็จะค่อย ๆ กัดเซาะชั้นหินต่าง ๆ ให้ผุพังเสื่อมสลาย
ไปเรื่อย ๆ จึงเห็นแนวภูเขามีรอยเว้าเข้ามาทางด้าน
ตะวันตกนั่นเอง

(ขอ้ มูล : ธรณวี ิทยาจงั หวัดเลยและแหล่งอนรุ กั ษ์ธรณวี ทิ ยา : ส�ำ นกั ธรณี กรมทรพั ยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่งิ แวดล้อม)

185

ทางอุทยานแห่งชาตภิ กู ระดึง จะเปดิ ให้เดินเทา้ ข้ึนภกู ระดึง วนั ท่ี 1 ตุลาคม
- 31 พฤษภาคม และปิดในวนั ท่ี 1 มิถุนายน - 31 กันยายน ของทกุ ปี ในชว่ ง
ท่เี ปิดให้ต้งั แต่เวลา 07.00 - 14.00 น. เท่าน้นั และให้พักค้างคืนบนภูได้ไม่เกิน
3,500 คนตอ่ คนื ผทู้ ป่ี ระสงคจ์ ะเขา้ ไปทอ่ งเทย่ี วและพักแรมบนยอดภูกระดึง ขอ
ให้ติดต่อสอบถามหรือสำ�รองการเข้าไปใช้บริการล่วงหน้า ทั้งที่พักประเภทเต็นท์
ของอุทยานแห่งชาติและพ้ืนท่ีกางเต็นท์สำ�หรับนักท่องเท่ียวท่ีนำ�เต็นท์มาเองตาม
แผนผงั จดุ พักแรม ก่อนเดินทาง ไดโ้ ดยตรง ณ อุทยานแหง่ ชาตภิ ูกระดงึ
อุทยานแห่งชาติภูกระดึง มีนํ้าตกมากมาย ซึ่งนํ้าตกเหล่านี้เป็นนํ้าตกที่
เปิดให้เที่ยวชม เรียกว่าเส้นทางสายนํ้าตก และยังมีนํ้าตกอีกหลายแห่ง ที่อยู่ใน
พื้นที่ป่าปิดไม่เปิดให้ท่องเที่ยว ผู้มาท่องเที่ยวต้องเดินขึ้นไปถึงหลังแปก่อน จึง
จะเริ่มเที่ยวนํ้าตกต่าง ๆ ได้ โดยใช้บริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง เป็น
จุดเริ่มต้นเดินเที่ยว โดยนํ้าตกในอุทยานแห่งชาติภูกระดึงส่วนใหญ่จะอยู่บน
หลังแป มีเพียงนํ้าตกตาดฮ้องที่เดียวที่อยู่ด้านล่าง แบ่งเป็นกลุ่ม ๆ คือ.........

186

ภกู ระดึง

ผาส‹องโลก โหลน‹ ภ้ำพระ
โหล‹นเจดีย
แงง‹ ทดิ หา
โหลน‹ ฟา‡ โลมดิน

น้ำตกผาน้ำผา‹
นำ้ ตกเพ็ญพบใหม‹

นำ้ ตกข�นพอง นำ้ ตกถ้ำเกยี นำ้ ตกโผนพบ น้ำตกวังกวาง ลานวดั พระเเกวŒ
ผานกแอ‹น
กม. 0.5 กม.
ประตโู ขง
ถ้ำน้ำดงกหุ ลาบขาวน้ำ1ต.4กสกมอ.นเห้ำนตอื กสอใตดŒ อสนนวย้ำนาตสว3วก.รพ5รคกรสมะอร. งะอคโ นดาดดตออนน3มมกะนเมขน.อ� เำ้ ถ2นต.่อื 5ำ้กนนกตถำ้มก้ำต.ธใกหาเญรสพสร‹ญ็ วะแรพกรวŒบค ดอนตะไครŒ 2.5
ภกู ม‹ุ ขŒาว กม.

1.3 กม. 1.5
2.0 กม.
พอพ�ทงธรคระ ปู ศูนยบรก� าร 2.5
นักท‹องเที่ยว
กม.
2.0

3 กม. 2.3 กม. กม.
2.0 กม. 2.3 กม.
ทุ‹งนางงาม

4.6 กม. ผาหล‹มสกั 2.5 กม. 1.5 กม. สวนสดี า หลงั แป
2 กม. ผาหมากดูก 2.5 กม. ท5า,ง4ข3�น้0เขมา.
เสนŒ ทางท่ขี ้น� จาก ผาแดง ผาเหยียบเมฆ
บาŒ นฟองใตŒ ผานานŒอย ผาจำศีล ทีท่ ำการอทุ ยานแหง‹ ชาตภิ ูกระดงี

ต.วังกวาง อ.น้ำหนาว
จ.เพชรบรู ณ

187

กลุม่ น�้ำ ตกบนหลังแปภูกระดึง

ดอกหรดี

น�ำ้ ตกวังกวาง

ท่ีต้ัง : หมู่ 1 บ้านศรีฐาน ต.ศรีฐาน อ.ภูกระดึง จ.เลย
พิกัด : 796274E 1869787N
การเข้าถึง : เดินเท้าจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง
ไป ตามทาง 750 เมตร
ลักษณะ : เป็นน้ําตกหินทรายสูงราว 6 เมตร ตกลงมาจาก
ชะงอ่ นผาหนิ ชน้ั เดยี ว ยังแอ่งนา้ํ เบ้ืองลา่ ง ลกั ษณะธรณีบริเวณ
นเี้ ปน็ หนิ หมวดหนิ ภพู าน ประกอบดว้ ยหนิ ทราย และหนิ กรวดมน
สนี ํา้ ตาลแกมเหลอื ง สม้ ออ่ นเทา ชมพแู ละขาว เมด็ ขนาดปานกลาง
ถึงหยาบมาก บางชั้นหินมีกรวดปน ปรากฏรอยเฉียงระดับ
ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ หินกรวดเป็นแร่ควอตซ์และเชิร์ต
ขนาดใหญ่ถงึ 5 เซนตเิ มตร

188

น�้ำ ตกเพญ็ พบใหม่

ท่ีต้ัง : หมู่ 1 บา้ นศรีฐาน ต.ศรฐี าน อ.ภกู ระดงึ จ.เลย
พิกัด : 795587E 1870370N
การเข้าถึง : อยู่ทางทศิ เหนือของนา้ํ ตกวังกวาง 1.6 กโิ ลเมตร เดนิ ไปตามทาง จนถงึ นา้ํ ตก
ลกั ษณะ : เปน็ นา้ํ ตกทต่ี กลงจากเวง้ิ ผาหนิ ทม่ี ลี กั ษณะคลา้ ยหนิ ทพ่ี งั ลงมา ตกลงชน้ั เดยี ว สงู 7 เมตร ลงยงั กองหนิ และแอง่ นา้ํ ดา้ นลา่ ง ดา้ นบน
เปน็ ลานหินทีม่ กี มุ ภลักษณอ์ ยหู่ ลายแหง่ ใกล้กนั มีต้นเมเปิลข้นึ สองฝง่ั ผานํา้ ตก ชว่ งพฤศจิกายน - ธันวาคม ท่ใี บเมเปิ้ลสแี ดง จะรว่ งหล่นลอย
ตามผิวนํ้า และกองหินท่มี ีตะไครข่ นึ้ เขียว

189

นำ้�ตกโผนพบ

ท่ีตั้ง : หมู่ 1 บา้ นศรฐี าน ต.ศรีฐาน อ.ภูกระดึง จ.เลย
พิกัด : 795630E 1869886N
การเขา้ ถึง : เดนิ ลงมาต่อจากนา้ํ ตกเพ็ญพบใหมม่ าตามทางเดินในปา่ ราว 558 เมตร
ลักษณะ : เกิดจากสายน้ําวังกวาง เปน็ นา้ํ ตกทต่ี กลงมาจากชน้ั หนิ ต่างระดบั คล้ายช้ันบันได ตกต่อเนือ่ งกนั ไหลเปน็ ชน้ั ๆ 8 ชัน้ โดยทาง
ลาดหน้านา้ํ ตกยาวกว่า 20 เมตร สงู แนวด่ิงราว 10 เมตร นา้ํ ตกนี้ ต้งั ชอื่ เพอ่ื เปน็ เกยี รตแิ ก่ โผน กิ่งเพชร นกั มวยแชมปเ์ ป้ยี นโลกคนแรกของ
ประเทศไทย ทพ่ี บนํา้ ตกแหง่ นี้ เมอื่ ครั้งทขี่ น้ึ ไปซ้อมมวยบนภู เพื่อใหช้ นิ กับอากาศหนาว ก่อนเดนิ ทางไปชกตา่ งประเทศ

190

น�ำ้ ตกเพ็ญพบ

ท่ีต้ัง : หมู่ 1 บ้านศรีฐาน ต.ศรฐี าน อ.ภูกระดึง จ.เลย
พิกัด : 795466E 1869713N
การเข้าถึง : จากนํ้าตกโผนพบ เดนิ ลัดเลาะไปตามธารน้ําทางทศิ ใต้ ราว 300
เมตร
ลักษณะ : ดา้ นบนเปน็ ลานหนิ กว้าง สายนํา้ ไหลแผ่มาตามลานหิน ก่อนจะไหล
ตกจากผาหินตา่ งระดับในแนวคอ่ นข้างดิ่งเป็น 3 ช้ัน เลก็ ๆ สูงรวมราว 5 เมตร
กวา้ งราว 21 เมตร แลว้ จงึ ไหลลงธารน้ําตอ่ ไป

191

นำ้�ตกถ�ำ้ ใหญ่

ท่ีต้ัง : หมู่ 1 บา้ นศรีฐาน ต.ศรีฐาน อ.ภกู ระดงึ จ.เลย
พิกัด : 795764E 1868884N
การเข้าถึง : จากน้ําตกเพ็ญพบ เดินตามทางในป่าเลียบลำ�ห้วยมา บางช่วงมีสะพานข้ามห้วย ท่ามกลางความร่มร่ืนของพืชพันธ์ุไม้ ใน
ราวเดือนพฤศจกิ ายนท่เี มเปลิ จะมีใบเป็นสแี ดงและเร่ิมหล่น จะเห็นสีสนั ของใบเมเปิลที่ร่วงตามพนื้ หรอื ลงบนผิวนํ้า สวยงามตลอดเสน้ ทาง
ราว 1.5 กม. ถงึ น้าํ ตกถ้ําใหญ่
ลักษณะ : เป็นน้าํ ตก 2 ชั้นใหญ่ ชนั้ บนเปน็ นา้ํ ตกเลก็ ๆ ไหลต่อเน่ืองกนั แบบข้ันบันได สงู รวมราว 3 เมตร แลว้ จึงทิ้งระยะมาไม่ไกล ตกลง
จากเพงิ ผาหนิ ทราย ลงมาเบ้ืองลา่ งชั้นเดยี วสูงราว 8 เมตร กว้าง 8 เมตร กอ่ นจะตกไหลลงเปน็ ลำ�ธารนา้ํ ต่อไปบรรยากาศรม่ รน่ื มาก โดย
เฉพาะในชว่ งเมเปลิ แดง ลำ�ธารนํ้าด้านลา่ งของน้าํ ตกจะราวถกู ตกแต่งด้วยใบเมเปลิ ท่ีร่วงลงมา

192

น้ำ�ตกธารสวรรค์

ท่ีต้ัง : หมู่ 1 บ้านศรีฐาน ต.ศรีฐาน อ.ภกู ระดงึ จ.เลย
พิกัด : 795710E 1868685N
การเข้าถึง : จากนา้ํ ตกถํา้ ใหญ่ เดินขนึ้ เนนิ มาบนพืน้ ราบด้านบน แล้วเดินไปตามทาง (มปี า้ ยบอก) ราว 500 เมตร ถงึ นํา้ ตกธารสวรรค์
ลักษณะ : เปน็ ธารนา้ํ ตกเล็ก ๆ ทีต่ กลงจากช้ันหนิ ทรายท่แี ตกคาอยู่ น้าํ จะไหลลงจากความสูงราว 3 เมตร ด้านบนเปน็ ธารนา้ํ ใส ชายนํ้า
มีขา้ วตอกฤาษขี ึน้ กนั หนาแน่น

193

น้�ำ ตกถ้�ำ สอเหนอื

ท่ีตั้ง : หมู่ 1 บา้ นศรฐี าน ต.ศรฐี าน อ.ภูกระดึง จ.เลย
พิกัด : 792290E 1868113N
การเขา้ ถึง : น้าํ ตกนีอ้ ยู่ค่อนข้างไกล หา่ งผาหลม่ สกั ราว 4.5 กิโลเมตร โดยเริม่ จากศูนยบ์ รกิ ารนกั ทอ่ งเท่ียววงั กวาง เดินไปทางองค์พระ
แลว้ ไปสระอโนดาด จนถงึ นา้ํ ตกถํ้าสอเหนือ ระยะทางราว 6 - 7 กิโลเมตร หรอื จะเดินต่อจากน้ําตกธารสวรรคก์ ็ราว 5 กิโลเมตร
ลักษณะ : เปน็ น้ําตกท่ีตกลงจากเว้ิงผาหินทราย ตกลงช้ันเดยี ว สูงราว 10 เมตร ดา้ นลา่ งเป็นเพงิ ผาใต้นํ้าตก ในลำ�ธารมีกองหินขนาดใหญ่
ทห่ี ักตกลงมา

194

น้ำ�ตกถ�ำ้ สอใต้

ท่ีตั้ง : หมู่ 1 บา้ นศรฐี าน ต.ศรีฐาน อ.ภกู ระดงึ จ.เลย
พิกัด : -

195

ภาพ : วิภาส วเิ ชยี รศิลป์ ภาพ : วภิ าส วเิ ชยี รศลิ ป์

การเข้าถึง : เดินต่อจากนํ้าตกถ้ําสอเหนือไปตามทิศทางนํ้าไหล ราว 500
เมตร
ลักษณะ : เกดิ จากลำ�ห้วยเดียวกับนาํ้ ตกถํ้าสอเหนอื สายนํา้ ตกลงจากหนา้ ผา
หนิ ทรายทีห่ กั ตกลงมาจากหนา้ ผาหินสูงราว 25 เมตร กวา้ งกว่า 30 เมตร ตกลง
ช้ันเดยี ว ด้านลา่ งมีกองหินน้อยใหญ่ระเกะระกะ บรรยากาศรม่ รนื่
หมายเหตุ : นอกจากนี้ยังมีนํ้าตกพระองค์ อยู่ปลายลำ�ธารของสระอโนดาด
ลกั ษณะคลา้ ยนํ้าตกถ้ําใหญแ่ ต่เลก็ กว่า

196

กลุ่มน้ำ�ตกในเขตป่าปิด

นำ้�ตกหงส์ทองหรอื น้ำ�ตกถ�ำ้ อเี กีย

ท่ีตั้ง : หมู่ 1 บ้านศรีฐาน ต.ศรีฐาน อ.ภกู ระดึง จ.เลย
พิกัด : 47Q 0792862E 1870773N
การเข้าถึง : เดินเท้าจากศูนย์บริการวังกวาง เข้าเส้นทางป่าปิด ทางน่้ําตกธาร
สวรรค์ ช่วงแรกเป็นทุ่งหญ้าและป่าสน แล้วจึงเข้าป่าดงดิบ แล้วลัดเลาะไปตาม
ลำ�ห้วย มีหินก้อนใหญ่ ๆ ตอ้ งป่ายปนี ระยะทางราว 5 กิโลเมตร
ลักษณะ : เปน็ น่ํา้ ตกท่ีตกลงมาจากหนา้ ผาหินทราย ชน้ั ใหญ่สงู ราว 5 เมตร ตกลง
ยังแอ่งน่ํ้าเบื้องล่าง แล้วทิ้งระยะมาราว 20 เมตร จะเป็นช้ันเล็ก ๆ ที่ตกไหลลาด
ลดหลั่นลงมา สงู ราวเมตรเศษ อกี 1 ชั้น ทา่ มกลางกองหินระเกะระกะในลำ�ธาร

197

นำ�้ ตกขนุ พอง ภาพ : ไพศาล พันสนทิ

ท่ีตั้ง : หมู่ 1 บ้านศรีฐาน ต.ศรีฐาน อ.ภูกระดงึ จ.เลย
พิกัด : 47Q 0791852E 1871074N
การเข้าถึง : จากน้ําตกหงส์ทอง จะเดินตัดลัดเข้า
ป่าดิบ บางช่วงจะข้ึนเนินเขา เดินมาราว 2.5 กิโลเมตร
จะมาทะลอุ กี ลำ�หว้ ยหนง่ึ
หมายเหตุ : เปน็ นํ้าตกทีต่ กลงมาจากหนา้ ผาหนิ ทราย
สายนํ้าจะตกไหลระมากับหน้านํ้าตก ตกลงมาชั้นเดียว
บนความสูงราว 35 เมตร หน้าผานํ้าตกกว้างราว 40
เมตร ดา้ นลา่ งเป็นกองหินที่หักถลม่ ลงมาระเกะระกะ

198

น้ำ�ตกผานำ้�ผา่

ท่ีต้ัง : หมู่ 1 บ้านศรฐี าน ต.ศรีฐาน อ.ภกู ระดงึ จ.เลย
พิกัด : 47Q 0793867E 1870988N
การเข้าถึง : น้ําตกน้ีจะอยู่คนละร่องหุบของหลังแปกับนํ้าตกขุนพอง โดยเดินเท้าจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวางไปทางนํ้าตก
เพญ็ พบ - โผนพบ แล้วข้ามห้วยไปฝัง่ ตรงข้าม แล้วเดนิ ฝ่าทงุ่ เขา้ ป่าดงดิบระยะทางเกือบ 10 กโิ ลเมตร อยูใ่ นเสน้ ทางตรวจป่าของเจา้ หนา้ ที่
ท่ีเดินมาจากผาส่องโลก - โหล่นฟ้าโลมดนิ แล้วจึงเดินลงผาน้ําผ่าแลว้ กลับสู่ศูนยบ์ รกิ ารนกั ท่องเทยี่ ววังกวาง
ลกั ษณะ : เปน็ สายนา้ํ ทเ่ี กดิ จากทางทศิ เหนอื ของหลงั แป ตกลงมาจากเว้งิ หนา้ ผาหินทรายท่เี ปน็ เวิ้งโคง้ กวา้ ง สงู ราว 50 เมตร ตกลงมาสองชน้ั
ช้ันบนตกสูงราว 36 เมตร ลงมาพบช้ันหินท่ีค่อย ๆ ลาดไหลลงมาอีกช้ันหนึ่งสูงราว 4 เมตร เนื่องจากผาน้ําตกช้ันบนแบนเรียบเสมอกัน
สายน้ําท่ตี กลงมาจงึ เป็นแผน่ เรียบตกลงมายังพืน้ ล่างเหมอื นเปน็ ม่าน
หมายเหตุ : นอกจากนี้ยังมีน้ําตกรัตนา อยู่ใกล้ผาส่องโลก ลำ�ธารตอนเหนือของนํ้าตกผาน้ําผ่าในเขตป่าปิดชั้นใน เป็นน้ําตกและลำ�ธาร
เล็ก ๆ สงู ราว 1.5 เมตร นา้ํ ตกในปา่ ปดิ ชน้ั ในจะไมเ่ ปดิ เพอ่ื การทอ่ งเทย่ี ว สว่ นนา้ํ ตกในเขตปา่ ปดิ นน้ั จะมกี ารเปดิ เปน็ ชว่ งไมแ่ นน่ อนในแตล่ ะป ี
ต้องฟังประกาศจากอุทยานแห่งชาติภูกระดึงอีกคร้ังหนึ่ง โดยสอบถามจากศูนย์บริการนักท่องเท่ียววังกวาง ซ่ึงจะต้องมีเจ้าหน้าที่นำ�ทาง
เขา้ ไปเท่าน้ัน และน้าํ ตกตาดห้วยววั ซึ่งเปน็ แกง่ น้ําเลก็ ๆ แกง่ จะโผลช่ ดั เจนในฤดแู ล้ง อยูห่ า่ งจากนา้ํ ตกตาดฮ้องราว 6.5 กิโลเมตร หา่ งหนว่ ย
พิทกั ษ์อทุ ยานแห่งชาตทิ ี่ ภด.3 (นานอ้ ย) 4 กิโลเมตร

199

200


Click to View FlipBook Version