100
แต่ถ้าเราใซ้ไม่เป็น ควบคุมการใช้งานไม่ได้ ติด
เทคโนโลยีเหล่านี้งอมแงม เราจะตกเป็นทาสเทคโนโลยี
เสียเวลา เสียเงิน และเสียอารมณ์ รวมทั้งเสียการงานและ
สัมพนธภาพที่ดีกับบุคคลรอบช้างด้วย
รจีทอนีทอพร ทยนฟินจๆทยาทาsaaaUm I
เมื่อพูดถึงเรื่องของดิจิทัล หรือสังคมที่ต้องใช้สมาร์ต-
โฟนกับแท็บเล็ตกันมากขึ้น ถ้าติดตามโซเชียลมเดีย (Social
Media) ต่าง ๆ จะพบว่า มีเรื่อง "ภาวะที่เกิดความกังวล
ว่าจะตกซ่าว" คือ เรากลัวว่าจะติดตามเรื่องนั้นเรื่องนี้ของ
คนอื่น ๆ ไม่ทัน ต่าง ๆ เหล่านี้ก็เลยทำให้เราติดโทรศัพท์
มือถือนั่นเอง แต่ปัจจุทันเกิดแนวนิยมใหม่คือ "ติจทัล-
ดท็อกซ"
ติจิทัลดีท็อกซ์ แนวนิยมใหม่ที่เกิดขึ้นนั้น เนื่องจาก
ปีญหาของการใช้แท็บเลตและสมาร์ตโฟน ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้
www.kalyanamitra.org
tot
ไม่ได้เหมือนกับหนังสือที่เราอ่าน แต่เป็นอุปกรณ์ทสร้าง
ภาพออกมาจากแผงวงจร และมืจอ LCD เปล่งรังสีออกมา
ทำ ให้มืรังสีและแสงเข้าตาเรา
รังสีสีนํ้าเงินที่ออกมาจากสมาร์ตโฟนกัมแที่'บเล็ตนัใ^
จากการสีกษาพบว่า มันไปกระทบกระเทือนการสร้างเมลา-
โทนิน (Melatonin) ที่บริเวณสมองล่วนกลางของคนเรา ขึ่ง
สมองจะผลิตเมลาโทนินออกมา เพื่อที่จะทำให้ร่างกายเราได้
ซ่อมแซมตนเองในช่วงเวลา'พักผ่อม เสริมสร้างให้ร่างกายมื
ภูมิด้านทานที่ดีขึ้น
เพราะฉะนั้น ถ้าเราใข้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้
มาก ๆ อยู่กับมันวันหนึ่งหลาย ๆ ชั่วโมง ก็จะส่งผลกระทบ
ต่อการสร้างเมลาโทนินในตอนกลางคืน ทำ ให้เรานอนหลับ
ไม่สนิท ตื่นขึ้นมาไม่สดซื่น ภูมิด้านทานร่างกายตำลง และ
เป็นโรคมะเร็งได้ง่ายขึ้นด้วย
พิษจากเทคโนโลยีเหล่านี้จะทำให้เรา "แก'ง่าย ตาย
เร็ว" ด้งนั้น จึงมืแนวนิยมใหม่ที่เรียกว่าดิจิทัลดีที่อกซ่เกิดขึ้น
โดยมืกลุ่มคนที่เริ่มพยายานงตการเ^อนตํ®ลันห้น^^ห้^
ปิ ดโทรศัพท์มือถือ ปิดแที่บเล็ต ใส่ตู้ล็อกกุญแจเอาไร้
www.kalyanamitra.org
ไ02
อย่างน้อย ๆ ก็ใซ้มันในช่วงเวลาที่สั้นที่สุดสัก 24 ชั่วโมง
และช่วงที่ยาวก็คือ 7 วัน 7 คืน
โรงแรมหลาย ๆ แห่งอย่างที่ประเทศดูไบก็มีโ•บร-
แกรมดิจิทัลดีท็อกช่ โดยให้ทุกคนนำอุปกรณ์ดิจิทัลทั้งหลาย
ใส่เซฟล็อกไวัเลย ไม่เปิดใช้งานตลอดช่วงเข้าพัก
ไม่ใช่เฉพาะกับเครื่องมือสื่อสารหรูหราราคาแพง
เท่านั้น โทรศัพท์มือถือราคาถูก ๆ เราก็ทำได้ เช่น ไปปฏิบัติ
ธรรม 7 วัน เราก็ไม่ต้องนำโทรศัพท์มือถือไป เป็นด้น
ขณะนี้มืการรวมกลุ่มจัดตั้ง "ดิจิทัลดีท็อกซ์" ขึ้น
เป็นองค์กรเป็นเรื่องเป็นราวฃึนมา โดยกระแสนี้มืมาสักพัก
แล้ว เราเคยเห็นโฆษณาของค่ายโทรศัพท์มือถือใช่ไหม ที่
รณรงค์ให้คนมองหน้ากันบัาง ไปร้านอาหารก็ดูแต่จอ ต่าง
คนต่างดูหน้าจอของตนเอง ไปเดินริมขายหาดก็ดูจอ สุน้ชุ)
ที่จูงไปยังไม่รู้เลยว่ามาด้วยกันหรือเปล่า
www.kalyanamitra.org
ไ03
mi(kiim0Uii!0vv)<iyห"
ผลดีในการเฃ้าโปรแกรมดิจิฟ้'ลสี'^0^ไ'*^2''^^'1^'''3®"^
โดยหลักการของดิจิทัลดีท็อกซ์คือ หยุดการเซื่อมต่อกั'บทุก
อย่างที่เป็นเทคโนโลยีด้านการสื่อ?''ไ'3 โทรศัพท์มือถือ
สมาร์ตโฟน แท็บเล็ต โซเชียลเน็ตเวิร์กต่าง ๆ
เนื่องจากการไซ้งานสิ่งต่าง ๆ เหล่านีส่งผลต่อสุขก'ไพ
กายและใจ เพราะเราจะจมอยู่กับโลกของตนเ'อง แล้วคิดไป
ว่าตนเองมืลังคมที่กว้างขวาง
www.kalyanamitra.org
m
ตอนที่เราอยู่กับหน้าจอแท็บเล็ต หรือสมาร์ตโฟน
เรารู้สึกเหมือนกับตนเองได้ท่อง'[ลท รู้หมดทุกสิ่งทุกอย่าง
แต่เรากลับลืมคนทีอยู่ข้าง ๆ เรา ขาดลัมพันธภาพกับคน
ทอยู่รอบตัว เราจะไม่ใส่ใจว่าเขาด้องการอะไร หรือเขามื
เรื่องในใจอะไรที่อยากคุยกับเรา สิ่งที่เขาเห็นเป็นเพียงภาพที่
เรามัวแต่ก้มหน้ามองจอโทรศัพท์ จึงไม่ได้พูดคุยกัน ต่างคน
ต่างเก็บทุกอย่างเอาไว้ สุดท้ายไม่สามารถสื่อสารกันได้
ส่วนป็ญหาเรื่องของสุขภาพนั้น ปกติการดูแท็บเล็ต
หรอสมาร์ตโฟนที่จอมืขนาดเล็กจนด้องหรื่ตาดู ก็เกิดป็ญหา
เรืองของรังสี เรื่องสายตา เรื่องความเสื่อมของจอตาและ
ม่านตาต่าง ๆ และยังมืผลกระทบต่อสมองจากคลื่นที่ออท
มาจากหน้าจอ
รังสีสึนํ้าเงินมีปัญหาต่อสุขภาพค่อนข้างมาท และยัง
มีปัญหาเรื่องของการไข้มือและนิ้วมือที่เกิดปัญหาจาทการใข้
งานชำ ๆ คลิกเยอะ ๆ จนทำให้เกิดปัญหาที่นิ้วมือ ข้อมือ
และกระดูกคอ เกิดอาการตึงของกล้ามเนิ้อเรื่อยไปจนทำให้
กระดูกคอเลื่อมก่อนวัยอันควร
www.kalyanamitra.org
พร
inpMKVsnffvfDiisiliyns'jfiifl
[imnfimnmmp^ ๅ 1ก'1ป
www.kalyanamitra.org
toe
สมัยนี้คนอายุ 30 กว่าส่วนใหญ่มีภาวะกระดูกคอ
เสื่อมแล้ว เพราะพวกเขานั่งก้มหน้าดูสมาร์ตโฟนทั้งวัน แม้
กระทั่งช่วงเข้าห้องนํ้า ช่วงรอขึ้นรถไฟฟ้า ให้เราลองสังเกต
ดูคนรอบข้างได้
ผู้เชี่ยวชาญโปรแกรมดิจิทัลดีท็อกช่กล่าวว่า การ
หักดิบเป็นเรื่องที่ดี แต่บางครั้งการหักดิบเป็นเรื่องที่อาจจะ
ทำ ให้เราเกิดความกระวนกระวายใจ บางคนทิ้งโทรศัพทํไว้แค'
3-4 ชั่วโมง ก็รู้สีกกังวลแล้ว กสัวว่าจะมีใครส่งข้อความ
มาถามอะไรตนเองหรือเปล่า กังวลว่าไลน้ (Line) ของเรา
จะเด้งมากี่รอบแล้ว
เพราะฉะนั้น ผู้เชี่ยวชาญโปรแกรมดิจิทัลดีท็อกช่จึง
มีเทคนิคที่เรืยกว่า "ขั้นตอนการเตรืยมความพร้อม" หรือ
อย่างน้อยที่สุดก็เป็นการ "สลัดเราให้มีระยะห่าง" คือ ทิ้ง
ระยะห่างระหว่างตัวเรา ชีวิตเรา กับชีวิตชองคนรอบข้าง
ของเรา กับดิจิทัลชองเรา โดยเรื่มทิ้งระยะห่างเป็นช่วง ๆ
ก่อนที่เราจะไปเข้าโปรแกรมดิจิทัลดีท็อกซ์
www.kalyanamitra.org
พ?
^\ msiaSsนคชพ 'I
วิธีนี้สามารถกลับไปทำเองได้ที่บ้าน ซึ่งเรากำลังทำ
แบบทดสอบอยู่ โดยมีกติกา เซ่น ไม่ว่าอะไรจะเกิดฃึนเราจะ
ไม่หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาในช่วงระยะเจล'าที่กํ'ไห'ด
เป็นต้น ซึ่งปกติคนเราจะหยิบโทรศัพท์มือถือฃึนมาเซ็ก
อย่างน้อยที่สุดทุก ๆ 15 นาที เพื่อดูว่ามืใครส่งข้อความ
อะไรมาบ้าง
ปกติถ้าเราตั้งใจจะลดอาการติดโซเซ็ยลเน็ตเวิร์ล
(Social Network) เราก็ต้องใส่ความมุ่งมั่นตั้งใจเข้าไปด้วย
ว่า เรากำลังทำแบบทดสอบหรือกำลังเส่นเกมอยู่ โดยต่อ
ไปนี้เราจะไม่เซ็กเฟซบ้ก (Facebook) ไม่เซ็กไลน์ (Line)
ภายในช่วงเวลาใดถืงซ่วงเวลาใด จริง ๆ ก็เหมือนกับเรา
เข้ากะ วันหนึ่งสัก 3 กะพอประมาณ
www.kalyanamitra.org
พร
'L1 fi'isnswfi^wvjsmiijmwn 2
เราสามารถแบ่งเวลาปลอดดิจิทัลเป็นช่วงสั้น ๆ ได้
เช่น ปิดโทรศัพทํในช่วงเวลาใดก็แล้วแต่ วันละอย่างน้อย 4
ชั่วโมง ถือว่าเป็นช่วงที่เราไม่ติดต่อกับใครในช่องทางเหล่านี้
เลย โดยเราด้องสงบนิ่งอยู่กับตนเองและคนรอบข้างที่เป็น
ตัวตนจริง ๆ
ถัดมาก็ใข้ช่วงเวลาสั้น ๆ เช่น ช่วงเวลาที่ไปทาน
ข้าวกับเพื่อน ก็ให้ตั้งใจไว้เลยว่าจะไม่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
เด็ดขาดตังแต่นัดเจอกัน เห็นหน้ากัน คุยกันจนจบ เคยมี
ใครทำได้อย่างนี้บ้างไหม เพราะทุกครั้งที่เราไปนั่งทานข้าว
กับเพื่อนก็มักหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเป็นอย่างแรก ถ่ายรูป
โพสต่สเตตัสไปแล้ว ถืงจะวางโทรศัพทได้ เพื่ออะไร...เพื่อ
กิน พอกินเสร็จแล้วก็มาเซ็กสเตตัสว่ามีใครกดไลค์บ้าง
เท่านั้นเอง แล้วมันเหมีอนเป็นโรคติดต่อ ถ้าคนหนึ่งหยิบ
โทรศัพท์ขึ้นมา คนอื่น ๆ ที่เหลือก็จะหยิบขึ้นมาหมด
เพราะฉะนั้น ประกาศกับตัวเองไปเลยว่าเราจะมี
ช่วงเวลาปลอดดิจิทัล แล้วเราจะได้สนุกสนานกับบรรยากาศ
จริง ๆ มากขึ้น
www.kalyanamitra.org
t09
in I or I พ'
ปี0ฒ1ปทพ^1flfyniwiim
{ปทwmmใง
^ rnsiasBU^awwiouiiJaau'n 3
หันมาใส่ใจคนรอบข้างเพื่อมิตรภาพที่แน่นแฟัน ใส่ใจ
กับคนที่เป็นคนจริง ๆ ใม่ใซ่เป็นแค่ตัวหนังสือกับรูปภาพที่
ได้รับการตกแต่ง ซึ่งไม่ใช่รูปภาพที่แท้จริง
เคยมีเหตุการณ์ที่ชายหญิงนัดเจอกันหลังจากที่พบกัน
ในโซเชียลเน็ตเวิรัก เขาซื่นซอบกันมากถึงขั้นนัดพบกัน แต่
พอเจอหนัากัน ฝ่ายซายกระโดดลงมาจากในห้างแล้วก็ตาย
คาที่เพราะรับไม่ได้ เขาเสืยใจที่เขาไม่ได้เจอคนที่อยู่ในภาพ
ฝันของเขา เพราะที่ผ่านมาเขาได้เห็นแต่ภาพที่ใข้โปรแกรม
ง่าย ๆ ตกแต่งรูปจนสวยงาม เพราะฉํะนั้น เราควรหันมา
ใส่ใจคนจริง ๆ ดีกว่า เพราะคนจริง ๆ มีอะไรมากกว่าที่
เราเห็นในภาพนั้นเยอะแยะ
www.kalyanamitra.org
no
คนจริง ๆ มีผลต่อความทุกข์ความสุขของเราจริง ๆ
อย่างในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก เราจะทุกข์จะสุขเขาก็แค่มาให้
กำ ลังใจด้วยการกดไลค์ แต่คนจริง ๆ นั้นสามารถปลอบโยน
เราและดูแลเราจริง ๆ เวลาปวยใฃ้ใด้
'^]- ก่ๆร!uSmtiawusQMiuQaiiH4
ใส่ใจประสบการณ์จริงของตนเองให้มากกว่าการ
ติดตามข่าวสารในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กให้ทัน การเดินทาง
เป็นการเปิดโลกกว้างด้วยประสบการณ์ที่เราใด้รับโดยตรง
แต่ปรากฏว่าขณะที่เราเดินทางอยู่นั้น เรากลับโม่มองสอง
ข้างทาง เรามองแต่จอโทรด้พท์มีอถือของตนเอง แล้วเราก็
คิดว่าโลกของเรากว้างกว่า จนเราไม่ใด้สัมผัสเลยว่าทั้งสอง
ข้างทางนั้นมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง
เพราะฉะนั้น บางครั้งให้เราลองใส่ใจประสบการณ์
ที่อยู่รอบข้าง ให้มากกว่าภาพที่ขึ้นอยู่หน้าจอสืเหลี่ยม
เล็ก ๆ แล้วมุมมองของเราจะเปลี่ยนไป
www.kalyanamitra.org
m
ฝืกสมาธิและลองใช้ชีวิตแบบเซื่องช้าดูบ้าง ช้อนี้ได้
ผลจริง ๆ เพราะเมื่อ'ฝืกสมาธิ เราต้องหลับตา จะไปดูโซเชียล-
เน็ตเวิร์กต่าง ๆ ไม่ได้เลย
mmaSmBปีiWMiS&uiiiimufi ร
สิ่งที่เราได้รับที่แท้จริงจากคนจริง ๆ จากสิ่งแวดล้อม
จริง ๆ จากหนังสือที่สัมผัสได้จริง หรือจากอะไรต่าง ๆ ที่
เราสัมผัสได้จริงไนชีวิตประจำวัน มากไปกว่าที่นันเป็นเพียง
สัมผัสแบบดิจิทัล แทนที่เราจะเห็นแต่สติ๊กเกอร์หัวเราะและ
เลข "555..." เราก็จะได้ยินเสืยงเพื่อน ๆ ของเราหัวเราะ
จริง ๆ ด้วย
m3^a3อms)ๆmSQuiแaQll^^ 7
เมื่อเรารัว่าถึงเวลาแล้วที่เราจะดิจิท้ลดีท็อกซ์ตนเอง
เราก็ด้องไส่ความมุ่งมั่นตั้งไจลงไป จัดแบ่งเวลาไห้เหมาะสม
แล้วไช้ชีวิตอย่างสมดุล และมั่นไม่ได้หมายความว่าเราจะหนี
เช้าป่า ตัดทุกสิ่งทุกอย่างจากโลกภายนอก แต่มันคือการ
www.kalyanamitra.org
m
liio'!iilmuo::foa
เทmm■ทนvsinnoni])]
im แพ^^ v7o ตขี่
ii'!i^^vm)%lotiiK'^0yglianlMS)!f!i}แทน
www.kalyanamitra.org
ท3
จัดสรรเวลาที่เหมาะสม เซ่น พอถึงเวลาปฏิบัติธรรม เราก็
ต้องปฏิบัติธรรม พอถึงเวลาเซ็กสมาร์ตโฟน เราก็เซ็กสมาร์ต-
โฟน พอถึงเวลาอยู่กับเพื่อน เราก็ต้องอยู่กับเพื่อน พอถึง
เวลาอยู่กับครอบครัว เราก็ใช้เวลาอยู่กับครอบครัว
ใช้เวลาให้มีจังหวะชีวิต ไม่ใซ่เสพติดอะไรจนกลืน
เวลาทั้งหมดของชีวิตไป แล้วเราจะมีชีวิตที่เปียมสุข และมี
เวลาในชีวิตเหลือพอให้เราไต้จัดสรรมากขึ้น
คนที่ติดอะไรงอมแงมเป็นเพราะว่า เขาไม่ไต้โฟกัส
เบัาหมายชีวิตของตนเองว่าเขาต้องการอะไร จริง ๆ เขา
อาจจะเคยมีเบัาหมายชีวิตแต่ลืมไปแล้ว เพราะมัวแต่เสพติด
สิงใดสิงหนึ่ง สิ่งนั้นจึงดึงซ่วงเวลาในชีวิตไป ไม่ได้เอาเวลา
ไปใช้กับการทำเบัาหมายให้บรรลุอย่างแห้จริง ทั้ง ๆ ที่ล้า
เราเสพสื่อหลัก ๆ ไม่ว่าจะเป็นวิทยุ หนังสือพิมพ์ หรือ
โทรทัศน์ เราก็จะไต้ซ่าวสารที่จำเป็นเพียงพอต่อการดำรง
ชีวิตอยู่แล้ว
www.kalyanamitra.org
m
"ดิจิทัลดีท็อกซ์" เป็นศัพท์ใหม่ที่ถูกคิดขึ้นอย่าง
รวดเร็ว ขนาดที่ว่าพจนานุกรมอ๊อกซฟอร์ด (Oxford) ได้
บรรจุศัพท์คำว่า "ดิจิทัลดีท็อกท์" ลงในพจนานุกรมฉบับ
ใหม่เรียบร้อยแล้ว
ความหมายจริง ๆ ของดิจิทัลดีท็อกซ์คือ การที่เรา
หยุดใช้เครื่องมือดิจิทัลทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ตโฟน
แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ ปฏิเสธการเช้าไปในโลกออนไลน์
ทั้งหลาย หยุดจากการใช้สิ่งเหล่านี้ขั่วคราว และให้ความ
สำ คัญกับผู้คนรอบช้าง ก้าวออกจากโลกเสมือนจริง หรือเรา
เรียกว่า "ไซเบอร์สเปซ" (Cyberspace) แล้วกลับเช้ามา
อยู่ในโลกของความเป็นจริง แต่ล้าจะให้คำจำกัดความสั้น ๆ
ลงไปกว่านั้นอีกก็เหมือนกับว่าเป็นการ "ถอนพิษจากอาการ
ติดดิจิทัล" นั่นเอง
www.kalyanamitra.org
US
จริง ๆ แล้วอาการจมหายไปในโลกดิจิทัลเกิดขึ้นกับ
คนเรามาจริง ๆ ประมาณซ'วง 7 - 8 ปีที่ผ'านมานี้เอง ใน
สมัยก่อนมีอินเทอร์เน็ตที่เราใฃ้ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ
ตลอดจนโน้ตบุ๊ก ซึ่งเป็นช่วงสั้น ๆ เพราะว่าเราไม่สามารถ
นั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวันได้
เราขึ้นรถลงเรืออย่างมากก็เอาโน้ตบุ๊กไปด้วย แต่
การที่จะเปิดโน้ตบุ๊กมันต้องเป็นเรื่องที่ตั้งใจ เปิดขึ้นมาเป็น
กิจจะลักษณะ ต้องเปิดเครื่อง ต้องเข้าโปรแกรมคอมพิวเตอร์
รู้สึกว่าอะไรมันยังค่อนข้างยุ่งยากพอสมควรคือ ต้องมีธุระ
จำ เป็นจริง ๆ เราสึงจะเปิดมันขึ้นมา
www.kalyanamitra.org
m
แต่อาการติดดิจิทัลของคนเราได้เกิดขึ้นมาเต็มที่
เมื่อมีสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ดเกิดขึ้น เพราะเราสามารถนำ
สมาร์ตโฟนกับแท็บเล็ด ติดตัวไปไหนมาไหนได้ตลอดเวลา
และไซ้งานได้สะดวกรวดเร็วเหมีอนโทรศัพท์มีอถือ
ถึงคราวก็มีไลนํส่งมาบ้าง มีเฟซบุ๊กส่งมาบ้าง มี
อินสตาแกรมส่งมาบ้าง มีวอทแอพส่งมาบ้าง มีแอปพลิเคซ้น
ใหม่ ๆ.มากมายที่ใซ้เป็นเครื่องมีอการสื่อสารสารพัดชนิดอยู่
ในสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ด
พอเสียงเตือนด้งขึ้นป็บก็มีซ้อมูลส่งมา'ซ๊บ เราก็รู้สีก
อดไม่ได้ที่ต้องหยิบขึ้นมาดูสิว่าใครส่งซ้อความอะไรมาใ'ท้เรา
พอเปิดดูสักพักก็อดไม่ไต้ว่าต้องตอบกลับไป ทำ ไปทำมาก็ซิน
จนกระทั่งเกิดเป็นโรคขาดดิจิทัลไม่ได้'มั่นเอง
บางคนวางสมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ดไว้ซ้างหมอนเลย
นอนหลับไปกับเครื่องมีอดิจิทัลมั่นแหละ ดูมันจนกระทั่ง
เคลิ้มหลับไป ตื่นมางัวเงีย ๆ ยังไม่ทันเซ้าห้อง'นาก็หยิบ
เครื่องมีอ,ดิจิทัลมาเปิดดูอีก
www.kalyanamitra.org
ฬ 1 เฬไ??ญ/) ท?
สิ
เด็กอังกฤษอายุตํ่ากว่า 8 ปี มีสมาร์ตโฟนเป็นของ
ตัวเองมากกว่า 3,500,000 คน ซึ่งเป็นจำนวนที่มากทีเดียว
ปรากฏว่าส่งผลให้เกิดคลินิกดีจิทัลขึ้นเต็มไปหมด เชื่อหรือ
ไม่ว่า เด็กอายุน้อยสุดที่เข้ารับการรักษาโรคติดดีจิห้ลมีอายุ
เพียง 4 ปี
ปัญหาที่เกิดขึ้นกับเด็กคือ เมื่อคุณแม่หยิบแทบเลต
ออกไปจากมือของเขา เขาจะมีอาการอาเจียนทันที เขารู้สึก
ว่าขาดเครื่องมีอติจิทัลไม่ได้เลย ไม่เฉพาะกับเด็ก ผู้ใหญ่เอง
ก็เป็นโรคติดดิจิทัลจำนวนไม่น้อยเหมือนกัน ขึงจรืง ๆ แล้ว
มันรบกวนชีวิตของเรามากทีเดียว
www.kalyanamitra.org
m
อาตมภาพนึกถึงสมัยเรียนหนังสือที่ญี่ปุน มีเพื่อน
รุ่นพื่ที่เป็นพระเกาหลี ท่านบอกว่าตอนท่านเขียนวิทยานิพนร์
ปริญญาเอก ท่านต้องถอดสายโทรศัพท์บ้านทิ้งเลย เพราะ
ประมาณ 10 กว่าปีที่แล้ว ในสมัยนั้นยังไม่มีสมาร์ตโฟน มี
แต่โทรศัพท์บ้าน
ท่านบอกว่ามีโทรศัพท์เข้ามาวันหนึ่งประมาณ 3
ครั้ง ท่านเขียนวิทยานิพนธไม่ไต้เพราะเลียสมาริ รู้สึกว่าถูก
รบกวน กว่าจะเขียนต้องตั้งหลักมาก ๆ พออารมณ์กำลัง
ต่อเนึองเสียงโทรศัพท์ก็แทรกเข้ามา ต้องรับสายคุยเรื่องอื่น
5 -10 นาที พอกลับมาต่อไม่ติดแล้ว เพราะฉะนั้น ทางออก
ของท่านคือถอดสายโทรศัพท์ทิ้งไปเลย เพราะงานการเขียน
วิทยานิพนธ์ต้องการสมาริอย่างสูง
www.kalyanamitra.org
m
ถ้าเราทำงานอย่างอื่น ถึงแม้อาจจะไม่ต้องการสมาริ
และความต่อเนื่องเท่ากับการเขียนาทยานิพนธ์ แต่กลามารถ
สะท้อนเปรียบเทียบไต้ว่า การที่เรากำลังคิดเรื่องงานอยู่ หรีอ
กำ ลังประชุม กำ ลังทำกิจใด ๆ ระหว่างทำงานอยู่ เดียวกม
เสิยงลัญญาณเข้ามาแลัวเราเปีดดู อีกลัก 5 บาที 10 บาที
เสียงเรียกติ๊ด ๆ เข้ามาก็ต้องเปิดดูอีกแล้ว เท่ากับมีเรอง
แทรกที่ทำให้เราเสียสมาริ'ชั่วโมงหบึงต้งา''^ายก^'^ วันหนึง
ตั้งหลายสิบครั้ง ประสิทริภาพในการทำงานของเราก็ลดสง
ไปมาก แล้วสะสมเป็นความเครียด
เนื่องจากใจคนเราเปลี่ยนไปเรื่องโน้บทีเรื่องบี้ที
กำ ลังจะจดจ่อกับเรื่องใดเรื่องหนื่งก็ถูกดึงออกไม่อีกแส้ว
ต้องรวบรวมสมาริกลับมาใหม่ ไม่นานก็ถูกดึงไม่อีกแส้ว
จึงเกิดเป็นความเครียดสะสมอยู่ในใจ แล้วก็ส่งผลออกมา
เป็นอาการป่วย บางคนมีอาการเหม่อลอยบ้าง ซึมเศร้าบ้าง
ประสิทริภาพในการทำงานลดลงบ้าง นอนไม่หลับบ้าง
จนกระทั่งต้องไปพบจิตแพทย่เพื่อรับกา-รร้กบา
www.kalyanamitra.org
120
เพราะฉะนั้น ในยุคสมัยนี้จีงมีคำว่า "ดิจิทัลดีท็อกซ์"
เกิดขึ้น เพื่อเป็นการหยุดไซ้สิงเหล่านี้ไว้ชั่วคราว โดยโรงแรม
ไนแคริบเบียนเริ่มเรื่องนี้ขึ้นมาก่อน
โรงแรมซึ่งตั้งอยู่ไนหมู่เคาะกลางแคริ'บเบียนทล้า
ทดลองว่า ถ้าพื้นที่ไนโรงแรมปลอดดิจิ'คัล ไม่มีสัญญาณ
อินเทอร์เน็ตแล้ว จะได้ผลตอบรับจากลูกค้าดีหรือไม่
เขาคิดว่าลูกค้าน่าจะต้องการมาพักผ่อนอย่างสบายไจ
และรู้สึกอิสระเสรื แต่ถ้าสัญญาณอินเทอร์เ'น็ตเซ้าถึงพื้นที่ ไน
มีอยังมีโทรศัพท์มีอถือหรือแท็บเล็ด ผู้คนก็ยังคงถูกรบกวน
ก็ไม่ต่างอะไรกับตอนอยู่ไนเมืองเลย ไม่ว่าที่ไดไนโลกถ้ามื
สัญญาณเครือข่ายดิจิทัล สิ่งเหล่านี้ก็ยังมาถึงได้ตลอดเวลา
ปรากฏว่าโรงแรมได้รับความนิยมฮิตติดตลาด มืลูกค้ามา
เซ้าพักมากกว่าเก่า เพราะพวกเขารู้สึกขอบที่ชีวิตโปร่งโล่ง
และรู้สึกมืความสุขจริง ๆ
www.kalyanamitra.org
เมื่อโรงแรมนี้มีนโยบายปลอดสัญญาณอินเทอร์เ■น็ต
ผู้เข'าพักไม่ได้ติดต่อกับโคร ถึงคราวมีใครถาม กมีเหตุผล
ตอบเขาได้ว่า เผอิญไปพักที่โรงแรมนันแล้วไม่มีสัญญ'าณ
อินเทอร์เน็ตเลย ลูกด้าที่เข้าพักก็ชอบใจ
พอประสบความสำเร็จ โรงแรมอื่น ๆ จึงทำตามบ้าง
รวมถึงโรงแรมในตัวเมืองในย่านธุรกิจล็มีทลวย ๆ แท่'^ น'^
แห่งไม่ถึงขนาดตัดขาด แต่จูงใจลูกค้าว่าล้าใครนำโทรคัทท์
มือถือหรือแท็บเล็ดฝากไข้ที่เคาน์เตอร์โวแวมจ"'^ล้^นบ้^'^
กำ นัล เมื่อซื้อสินค้าก็มีส่วนลดให้เทือเป็นการจูงใจ เกิดเปน
กระแสฮิตไปทั่วโลก
www.kalyanamitra.org
122
บางคนบอกว่ามันยากมากที่จะออทห่างจากโลกดิจิทัล
ความจริงไม่ได้ยากเกินโปเลย เพราะว่าสิ่งเหล่านี้เพิ่งเกิดกับ
มนุษย์มาแค' 7 ปี เท่านั้น ก่อนหน้านี้ 7 ปี ชีวิตเราไม่มี
สมาร์ตโฟน ไม่มีแท็บเล็ต เราก็อยู่ไดไม่เดือดร้อนอะไร
ความเคยชีนเป็นของใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นมาจริงจังแด่ 7 ปี
เท่านั้น ถ้าจะแก้กันจริง ๆ ก็แก้ได้ ขอให้ตัดใจจากสิ่งเหล่านี้
จริง ๆ เท่านั้นเอง
บางคนบอกว่าเป็นห่วงงาน ถ้าปิดการสื่อสารไปไม่ได้
ติดต่อพูดคุยกับใคร เขาอาจจะมีเรื่องงานสำคัญ ๆ ติดต่อ
มาก็ได้ ถ้าเราคิดอย่างนี้แล้วในสมัยก่อนไม่ยิ่งแย่กว่าหรือ
อย่าว่าแต่สมาร์ตโฟนเลย โหรศัพท์มีอถือก็ยังไม่มี มีแต่
โทรศัพท์บ้านจะติดต่อกับใครก็ต้องรอคํ่า ๆ ให้เขากลับมา
บ้านก่อนแล้วด่อยโทรศัพท์คุยกัน เราก็ยังใข้ชีวิตอย่ได้ หรือ
ยุคก่อนหน้านั้นที่มนุษย์ยังไม่มีโทรศัพท์ใช้ จะติดต่อทางไกล
ก็ด้องใข้โทรเลข หรือเชียนจดหมาย 2 - 3 วัน กว่าจะถืง
แล้วกว่าผู้รับจะตอบกลับมาอีกใช้เวลาเป็นอาทิตย์ เราก็ยัง
ใช้ชีวิตอยู่กันได้
www.kalyanamitra.org
www.kalyanamitra.org
m
สมัยพุทธกาล มีพระราซาองค์หนึ่งทรงพระนามว่า
"พระมหากัปอนะ" ทรงเป็นพระราซาครองราชย์สมบัติ
บางซวงพระองคเสดจออกตรวจเยียมป'ฐะชาชม เพื่อดว่า
ใครมีความเป็นอยู่อย่างไรบัาง
เมอทรงตรวจเยียมไปถึงชานเมือง ก็พบพ่อค้ามัาจาท
ต่างแดนเดินทางมาเป็นคาราวานค้าม้า จึงทรงเช้าไปทามว่า
"พวกท่านมาจากต่างแดนพอรู้ฃ่าๆคราๆพี่สำค้ญู
ไหม ช่วยเล่าให้เราฟังหน่อย" พ่อค้าม้าตอ'บกลับไปว่า
"บัดนี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเกิดขึ้นแล้วในโลทพระtจ้าค่ะ"
พอพ่อค้าม้าพูดคำว่า พระสัมมาลัมพุทธเจ้าเกิดขึ้น
แล้วในโลกเท่านั้นเอง พระมหากัปปินะฟังแล้วตะถึงชาไป
ทั้งตัวด้วยความปีดิ พอพระราชาหายตะถึง พ่อค้าม้าก็พูด
ต่อว่า "บัดนี้ พระธรรมเกิดขึ้นแล้วในโลก" สิ้นเสียงพ่อค้ามา
พระมหากัปปินะก็ตะถึงตัวซาอีกครั้ง
www.kalyanamitra.org
ไ25
จากนั้นพ่อค้าม้าก็พูดต่อไปอีกว่า "พระสงฆบังเกิด
ขึ้นแล้วในโลก" ฟังเสร็จพระราซาก็ตะลึงตัวซาอีกครั้ง นึก
ในใจว่า "พระรัฅนตรัยบังเกิดขึ้นแล้วในโลก" แล้วพระองค์
ก็ทรงดำริว่า...
"บัดนี้ เมื่อพระรัตนตรัยบังเกิดขึ้นแล้วในโลก เ^า
จะบวซ แต่ถ้าเรากลับไปสั๋'งเลึยภารกิจการงานต่าง ๆ ใน
เมืองหลวง เวลาก็จะเนิ่นนานออกไปอีก อย่ากระนั้นเลย
ท่านอำมาตย์ทังหลาย ให้นำแหวนซองเราไปใหพ'รั"นเนลึ
แล้วบอกว่าเรายกราชสมบัติให้เพราะเราจะออคน'3'ซ
จงให้แหวนนี้เป็นพยาน"
ifot..
www.kalyanamitra.org
m
เมื่อมุ่งจะไปพบพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพื่อ0อท-บว«ช
พระมหากัปปินะไม่ยอมเสียเวลา แม้กระทั่งการกลับเข้าเมือง
เพื่อสั่งเสีย เห็นไหมว่า "เราต้องตัดใจให้ได้" คนทั่วไปจะ
คิดห่วงทั่นห่วงนี่พะจ้าพะวงไม่จบสิ้น
ลองคิดดูว่า ถ้าเรากำลังห่วงเรื่องอะไรอยู่ แล้วเกิด
ขับรถซนจนเสียชีวิต เราจะไปขอร้องพญายมว่าขอเวลานอก
ก่อนสัก 3 วัน ขอไปสะสางงานที่ทำค้างไวิให้เลร็จก่อนค่อย
กลับมาตายนั้นทำไต้ไหม "ทำไม่ได้"
การผัดเพี้ยนต่อมัจจุราชผู้มีเสนาใหญ่ย่อมไม่มีแก่ไค■ริ
ถ้าใครคิดไค้อย่างนีแล้วก็จะตัดใจไค้ และรู้สึกว่าการที่เราจะ
ตัดใจวางสมาร์ตโฟน แห็บเล็ต หรือวางอุปกรณ์คิจิทัล
ทั้งหลายลง แล้วหาเวลาอยู่กับตนเองบ้าง อยู่กับคนรอบ
ข้างบ้างนั้นไม่ใช่เรื่องยากเกินไปเลย
www.kalyanamitra.org
127
เมื่อตัดใจได้เราจะพบว่า ชีวิ ตเรามีอิสระเสรีดีกว่า
ช่วงที่ผ่านมามากมายทีเดียว ยิ่งถ้าแสวงหาความสงบใจ และ
หาเวลามานั่งสมาธิให้เพิ่มขึ้น ชีวิตเราก็จะเปียมสุฃและสงบ
ร่มเย็นในโลกยุคดิจิทัลนี้ได้
www.kalyanamitra.org
www.kalyanamitra.org
rtdiucni^ oiamiLHrrssM
'-i-v'
riBmkgc'Sfi
ฉายา •ธานวุฑฺโฒ ภิกฺฃุ หรือ พระมหาสมซาย ฐานวุฑโฒ
นาฆ/คฆ •นายแพทย์สมขาย วัซรศรืโรจน์
ประวฅ๊ แพทยศาสตรบัณทิต รุ่นที่ 35 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
•เกิดวันพุธที่ 15พฤศจิกายนพ.ศ. 2504
ทารศกษา •ม.ศ.4 - ม.ศ.5 โรงเรียนเตรียมอุดมสืกษา
พญาไท กรุงเทพมหานคร
•ปริญญาตรืแพทยศาลตรบัณทิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
•ปริญญาโทและปริญญาเอกทางด้านทุทธ?'าลตร์ศีก'^'ไ
{BuddhistStudies)มหาวิทยาลัยโตเกียว ประเทศญี่ปุน
รางาศพ/ศษ •พ.ศ. 2522 ชนะเลิศการสอบแข่งขันทางฟิสิกส์และ
คณิตศาสตร์ ระหว่างนักเรียนมัธยมฟิก'ษาตอนปลายทั่า
ประเทศ จำ นวน 3.600 คน จัดสอบโดยคณะวิศวกรรมศาสตร์
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
•พ.ศ. 2522ชนะเลิศการสอบแข่งขันทางฟิสิกส์ จัดโดย
สถาบันฟิสิกส์เซ็นเตอร์
•พ.ศ. 2523 ชนะเลิศการสอบแข่งขันทางวิทยาศาสตร์
จัดโดยคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยโดย
เป็นตัวแหนของคณะแพทยศาสตร์เขัาร่วนการแข่งขัน
•พ.ศ.2526 ได้รับการตัดเลือกเป็นนิสิตผู้มีความประพฤติดี
ของพุทธสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราซูปถัมภ์
เนื่องในวันวิสาชบูชา (26 พฤษภาคม พ.ศ. 2526)
www.kalyanamitra.org
•พ.ศ. 2553 ได้รับโล่รางวัลประกาคเกียรติคุaแป็นพระ
เถระผู้มีพุทธคุณูปการต่อพระพุทธศาสนา ระดับกาญจน
เกียรติคุณ โดยคณะกรรมาธิการการศาสนา ติลปะและ
วัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร
•พ.ศ. 2557 ได้รับรางวัลผู้นำพุทธโลก(World Buddhist
Outstanding Leader Award)โดยองค์การยุวพุทธ
ศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก (The World Fellowship of
Buddhist Youth)และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งซๆติ
•พ•ศ- 2557 ได้รับรางวัลพระราฃทานเสาเสมาธรรมจักร
งานวิสาฃบูขา ปี 2557สาขาแต่งหนังสือทางพระพุทธศาสนา
อปสมบท •2 นิลุนายน พ.ศ. 2528(วันวิสาขบูขา)
ณ อุโบสถวัดพระธรรมกาย
•พระอุปีชฌาย์ คือ พระธรรมปีญญาบติ (ช่วง วรปุณโณ)
วัดปากนำ ภาษีเจริญ (ษีจจุบันเป็นที่ สมเด็จพระมหารัช
มังคลาจารย์)
•พระกรรมวาจาจารย์ คือ พระอธิการไชยบูลย์ ธมมชโย
เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย (ปัจจุบันเป็นที่
พระเทพญาณมหามุนิ วิ.)
•พระอนุสาวนาจารย์ คือ พระเผด็จ ทดตฃีโว รองเจ้าอาวาส
วัดพระธรรมกาย(ปัจจุบันเป็นที่ พระราชภาวนาจๆรย์วิ.)
www.kalyanamitra.org
หน้าท •ผู้ข่วยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ดูแลงานการศึกษา
และเผยแผ่ธรรมะ
•อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมกาย แคสิฟอร์เนย
•ประธานสงฟ้วัดพระธรรมกาย ประเทศญี่ปุน
m?ฬำงาม •ประธานคณะทางานฝ่ายไทย ร่วมมือกับมหาวิทยาลัย
ปักกิ่ง ประเทศจีน ใบโครงการแปล พระไตรปิฎกบาลี
เป็นภาษาจีน
•ประธานคณะกรรมการโครงการพระไตรปิฎกคอมษิาเตรร์
ฉบับสมาคมบาลีปกรณ์(PaliTextSociety)ประเทศอังกฤษ
•ประธานคณะกรรมการโครงการพระไตรปิฎกฉบั'บธรรมขัย
•ประธานคณะทำงานโครงการอุปสมบทหมู่ 100,000 รูป
ทุกหมู่บ้านทั่วไทย
•ประธานคณะทำงานโครงการ■บวชอุบาสิกาแก้วหม่ออ่อม
1 ล้านคน
•ประธานอำนวยการสร้างวัดไทยหลายแห่งไบม่ระเหศญี่ปิบ
•ประธานอำนวยการสร้างศูนย์การศึกษาเขาแก้วเลต็ว
จังหวัดปราจีนบุรี
•มีผลงานหนังสือธรรมะ สื่อวิดีทัศน่ในรูปแบบ MP3,VCD
และ DVD รวมกว่า 200 รายการ รวมยอดการเผยแผ่
กว่า 3,000,000 เล่ม/ซิ้น
www.kalyanamitra.org
31ยนๆmillภาพ33นอQfnnนๆฤญ
สพฺพทานํ ธมุมทานํ ซินาติ
การให้ธรรมะ ชนะการให้ทั้งปวง
^iiirnij)ifiaaufTna(liiiriu
พระมงคลเทพมนี(หลวงปูสด จันทสโร)
พระเทพญาณมหามุนี วิ.(หลวงพ่อธัมมซโย)
พระราชภาวนาจารย์ วิ.(หลวงพ่อทัตตซีโว)
คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาทองสุข สำ แดงปีน
คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง
www.kalyanamitra.org
cXove Wyself"รักโนฅัวฅน"
"ใช้ทคาให้XJ-NHDะขจ๊ฅ 1ฝใช่1ศ^ฅคอะ1รจนกคน1จคาทั้งหมคธองปีฅบ
แคว(รา'?ะมขวฅหี่เปียมศฺข แคะน(วคาในชวฅ(HaOMOlHlfๆไคจัดสรรนากขึ้น..
iSON D;S«ld7B03M7
•"•fl iV oVSA vv>vw,dhammafoivrt»fUtcorn
www.kalyanamitra.org