. .
ประสบการณ์ชีวิตเหล่านี้ล้วนจารึกในความทรงจำ�ของลูกหลาน และได้เป็น “มหาวิทยาลัย
ชีวิต” ที่มีคุณค่าต่อลูกหลานและทุกคน
ข้อเขียนจากลูกหลานและเหลน ต่างสะท้อนความทรงจำ�ถึงท่านผู้หญิงสุมาลีในบ้านยุกตะเสวี
วรฤทธิ์ ยุกตะเสวี ลูกชายของพันโท สริ เทพ ยุกตะเสวี วทิ ยาศาสตรบณั ฑิต เกยี รตินยิ มจาก
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บรรยายความรู้สึกบางตอนว่า
“ทุกสัปดาห์ในวันอาทิตย์เมื่อครั้งยังเด็ก ผมเข้าใจว่าการไปทานอาหารที่บ้านยุกตะเสวีนั้น
คือการได้ไปเล่นกับญาติ ๆ พี่น้องเท่านั้น
แต่เมื่อโตมาจึงเข้าใจว่าการได้ไปยังบ้านยุกตะเสวี คือการได้ไปพบปะ “ครอบครัว”
ซึ่งครอบครัวในที่นี้ ไม่ใช่เพียงพ่อแม่ลูกเท่านั้น
แต่ยังหมายถึง ทุกคนที่ได้มานั่งทานข้าวร่วมกันในทุก ๆ วันอาทิตย์ ซึ่งสิ่งนี้จะเป็น
ความทรงจำ�ที่คุณย่าหญิงมอบให้กับครอบครัวทุกคน และทำ�ให้เข้าใจว่าครอบครัวเป็นสิ่งสำ�คัญ
ของชีวิตมากแค่ไหน
ผมขอขอบพระคุณความทรงจำ�ที่ได้ร่วมเล่น Scrabble และทานข้าวกับคุณย่าหญิงครับ
เป็นความทรงจำ�ที่อบอุ่นที่ผมจะไม่ลืมครับ”
ความทรงจำ�อีกตอนหนึ่งของอคิรา อาทรไผท หนุ่มน้อยวัย ๑๕ ปี ที่กำ�ลังจะไปเรียนต่อ
ที่ Deerfield Academy
“The memories I made with Khun Ya Ying will be forever embedded in my mind.
From summer holidays on a tropical island to family reunions at her house,
Khun Ya Ying has always been the centerpiece of every family meetup. She has
played a vital role in keeping our household proud and as closely-knit as it is
today; therefore I will deeply miss her as the heart of our family.
A life without Khun Ya Ying will be drastically different, and I write this with
great sorrow due to her passing. She will always be dearly missed and a world
without her warmth and astounding leadership skills will be a challenge that we
will have to face. Her legacy shall live on as we celebrate her life and mourn
her passing.”
โซดา (นภกร วรวรรณ ณ อยุธยา) เหลนคนโตวัย ๑๒ ปี ที่เติบโตในบ้านยุกตะเสวี และ
ได้ซึมซับเรื่องการตกแต่งดูแลบ้านให้เรียบร้อยสวยงามจากคุณชวด
“ตั้งแต่ฉันจําความได้ ฉันมักจะไปบ้านคุณชวดอยู่เสมอ คุณชวดเป็นคนใจดี ฉันและน้อง
จึงมีความสุขเมื่อได้ไป เราไปทานข้าวและไปวิ่งเล่นที่นั้นเพราะบ้านคุณชวดมีสนามกว้าง ฉันยังจํา
ตอนที่คุณชวดนั่งที่ม้านั่งหน้าสนามดูนก มองฉันและน้องวิ่งเล่นกัน มันเป็นช่วงเวลาที่ดี
. 103 .
. .
คุณชวดเป็นคนที่มีระเบียบมาก ทุกอย่างในห้องของท่านจะถูกจัดวางไว้อย่างเรียบร้อย
ถึงฉันจะเป็นคนที่ไม่เรียบร้อย คุณชวดก็ไม่เคยดุแต่จะใช้วิธีสอนแทน โดยเฉพาะเรื่องมารยาท
บนโต๊ะอาหาร ฉันเคยวางศอกบนโต๊ะทานข้าว คุณชวดจึงสอนว่าไม่ให้วางศอกบนโต๊ะอาหาร
นอกจากนั้น ก็ยังมีเรื่องไม่ให้วิ่งในห้องอาหารอีก ฉันเรียนรู้เรื่องมารยาท และเห็นว่ามันเป็น
สิ่งสําคัญ แม้ตอนนี้จะไม่มีคุณชวดแล้วแต่ฉันก็ยังจําได้ดี”
. 104 .
. .
เซน (กฤดา วรวรรณ ณ อยุธยา) อายุ ๑๐ ขวบ เหลนผู้ถอดนิสัยช่างซักช่างถามจาก
คุณชวด จำ�ได้ว่า
“GRANDMA
My great grandma is very nice I remember when me and my family came
to her house and she always smiles at me which makes me very delighted.
My great grandma is very kind towards me, she always makes me want to smile.
And, every time I go visit her for dinner she would be sitting and waiting for
us on the table with my grandma.”
ซานะ (วีรินทร์ วรวรรณ ณ อยุธยา) เหลนวัย ๗ ขวบ ผู้มีมารยาทเรียบร้อย จนได้รับค�ำ ชม
อยู่เนือง ๆ
. 105 .
. .
ธุรกิจบนพื้นฐานของความไว้เนื้อเชื่อใจ
คนทั่วไปมักจะรู้จักคุณแม่ในฐานะนักสังคมสงเคราะห์ นักพัฒนาสตรี และผู้ระดมทุน
เพือ่ การกศุ ล แตน่ อ้ ยคนจะทราบวา่ คณุ แมเ่ ปน็ ผูท้ ีส่ รา้ งความเปน็ ปกึ แผน่ ใหแ้ กค่ รอบครวั ดว้ ยเทคนคิ
และวิธีการที่ไม่เหมือนใคร
คุณแม่คงจะได้เรียนรู้เรื่องธุรกิจตั้งแต่เล็กจากคุณตาคุณยายที่เปิดบริษัทออกแบบทาง
วิศวกรรม คุณแม่เล่าว่าตอนเล็ก ๆ ได้ช่วยต้อนรับแขกผู้มาขอคำ�ปรึกษา ทั้งยังได้เห็นการทำ�งาน
ออกแบบ และประดิษฐ์ค้นคว้าของคุณตาทุกขั้นตอนที่มักเริ่มจากการทดลองที่บ้าน เช่น การหล่อ
กระเบื้องมุงหลังคาบ้านซอยปรีดาที่มีลูก ๆ เป็นลูกมือ แต่ความทรงจำ�ที่ฝังใจคุณแม่มากที่สุด
ดูจะเป็นความหนักเอาเบาสู้ของคุณยาย ผู้เป็นสุภาพสตรีที่แบบบาง แต่งตัวสวย พูดจาไพเราะ
และมีฝีมือในการประดิษฐ์ที่ประณีตงดงาม แต่ยามคุณตามีงานก่อสร้าง สุภาพสตรีผู้อ่อนหวาน
ท่านนี้ก็สามารถขี่จักรยานกางร่มไปคุมงานแทนคุณตาได้อย่างทะมัดทะแมง
ต่อมา คุณตาได้ตั้งบริษัท ยุกตะเสวีการช่าง จำ�กัด โดยมีน้องชายของคุณแม่สองคน
เปน็ สถาปนกิ และวศิ วกรประจ�ำ คณุ แมไ่ ดร้ บั ต�ำ แหนง่ ผูจ้ ดั การ บรษิ ทั มผี ลงานทีป่ ระสบความส�ำ เรจ็
หลายโครงการ โดยเฉพาะการประมูลอาคารคณะแพทยศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
และด้วยฝีมือในการบริหารจัดการและมนุษยสัมพันธ์ที่เป็นเลิศ คุณแม่สามารถบริหารงานชิ้นนั้น
ลุล่วงไป แต่ต่อมาบริษัทจำ�ต้องล้มเลิกกิจการ เพราะคุณน้าทั้งสองต่างมีงานประจำ�ไม่สามารถ
มาช่วยงานได้ คุณแม่จึงหันมาเสริมรายได้ของครอบครัวด้านอสังหาริมทรัพย์ด้วยการสร้าง
อะพาร์ตเมนต์รุ่นแรก ๆ ของกรุงเทพฯ และซื้อที่ดินด้วยคำ�แนะนำ�ของคุณศักดิ์ ไทยวัฒน์
เพื่อนบ้านผู้สนิทเสมือนญาติ และคุณแสงสุนี ลิ้มพงษ์ เพื่อนสนิทที่พากัน “ขี่ม้าลงเรือ”
ไปดูที่ดินบริเวณชานเมือง ปัจจุบันสินทรัพย์เหล่านี้ได้พัฒนาเป็นรายได้หลักของครอบครัว
เมื่อดิฉันเกษียณอายุราชการและได้รับสานต่องานจากคุณแม่จึงได้เรียนรู้เคล็ดลับของ
ความเจริญงอกงามที่คุณแม่ได้สร้างไว้ เช่น
. 106 .
. .
การไม่ใช้เงินเกินหน้าตัก
ในครอบครัวของเรามักจะมีเรื่องล้อเลียนกันอยู่เสมอว่าคุณพ่อเป็นจอมขี้เหนียวและคุณแม่
เป็นคนชอบใช้เงิน เวลามีงานแต่งแฟนซีในบ้าน ท่านทั้งสองก็มักแต่งตัวยํ้าภาพลักษณ์เป็นเศรษฐี
และกระยาจกคู่กันอยู่เนือง ๆ
แต่ในความเป็นจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น คุณพ่อคุณแม่เป็นคนฉลาดในการใช้เงินมากกว่าตระหนี่
ถี่เหนียว เมื่อดิฉันเป็นเด็ก บ้านเราจะใช้รถมือสอง ไม่ใช้ของแบรนด์เนม หากมีงานเลี้ยง
กจ็ ะจัดที่บ้าน เนน้ การทอ่ งเที่ยวในประเทศและสงวนรายไดไ้ ว้เพือ่ การศึกษาและการลงทุนเป็นหลัก
. 107 .
. .
ในขณะเดียวกัน คุณแม่จะมีความกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว ในการตัดสินใจเพื่อการลงทุน เช่น
การตัดสินใจซื้อที่ดินข้างบ้านซอยแสนสำ�ราญ เพราะมีสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมสำ�หรับลูกสาว
ที่กำ�ลังเติบโต การกู้เงินสร้างอะพาร์ตเมนต์ การตัดสินใจขายบ้านแสนรักที่ซอยแสนสำ�ราญ
เมื่อมีข้อเสนอซื้อที่ดี และนำ�เงินไปลงทุนในที่ดินอีกแปลง ซึ่งต่อมาได้ช่วยแก้ปัญหาวิกฤติ
ของครอบครัว
การลงทุนบนพื้นฐานของข้อมูลและความรู้
คุณแม่สนใจหาข่าวสารข้อมูลด้านธุรกิจเป็นพิเศษ แม้จะวางมือให้ลูกบริหารงานของ
ครอบครัวแทน บ่อยครั้งจะตัดข่าวสารมาวางไว้ให้อ่าน นอกจากนี้ คุณแม่ยังเน้นการเรียนรู้
จากผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ เช่น เรื่องกฎหมาย จะไม่ตัดสินใจเรื่องใดโดยไม่ปรึกษาคุณสุนทร
โภคาชัยพัฒน์ ทนายความผู้มีความเชี่ยวชาญและมีความปรารถนาดีช่วยเหลือดูแลคุณแม่ต่อเนื่อง
มากว่า ๔๐ ปี
. 108 .
. .
เมื่อครอบครัวของลูกสาวคิดจะเปิดร้านอาหารควบคู่กับการสร้างอะพาร์ตเมนต์ในซอยต้นสน
คุณแม่สนับสนุนการสร้างอะพาร์ตเมนต์และชื่นชมฝีมือการออกแบบของวินหลานชาย พร้อมระบบ
บริหารจัดการของนิกหลานสะใภ้อย่างเต็มที่ แต่ไม่เห็นด้วยกับการทำ�ร้านอาหารเพราะทราบดีว่า
เรายังอ่อนด้อยประสบการณ์ จึงท้วงติงและตั้งประเด็นให้เราไปคิดอย่างรอบคอบมากมาย แต่เมื่อ
เห็นความเอาจริงเอาจังของนิก ประกอบกับคำ�แนะนำ�ช่วยเหลือจากมืออาชีพและมือสมัครเล่นจาก
ทุกสารทิศ คุณแม่ก็คลายกังวล กลายเป็นผู้สนับสนุนคนสำ�คัญ เป็นทั้งที่ปรึกษาคอยติชมรสอาหาร
แบ่งปันเมนูประจำ�บ้าน ส่งอาหาร (บางครั้งแม่ครัว) จากบ้านยุกตะเสวีมาเสริม เป็นลูกค้ารายใหญ่
มาอุดหนุนเป็นประจำ� และร่วมชื่นชมยินดีเมื่อร้านดำ�เนินงานครบ ๑๒ ปี เมื่อ พ.ศ. ๒๕๖๔
. 109 .
. .
ความรอบคอบในการวิเคราะห์ประเด็น
ระบบบันทึกและเก็บเอกสารที่ละเอียดถี่ถ้วน
ทรัพย์สินที่ดิฉันได้รับมาดำ�เนินการต่อหลังจากคุณแม่เริ่มสูงวัย ล้วนก่อสร้างมากว่า ๕๐ ปี
หลายเรือ่ ง คณุ แมจ่ �ำ รายละเอยี ดไมไ่ ดแ้ ลว้ หากเกดิ ขอ้ สงสยั เรือ่ งใด จงึ ตอ้ งคน้ เอกสารหลายสบิ แฟม้
ต้องโทรศัพท์ถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในอดีตนับสิบ ๆ รายทั้งที่หาตัวไม่พบหรือเสียชีวิตไปแล้ว บรรดา
ท่านที่ได้พบก็มักจะลืมเรื่องราวไปแล้วเสียอีก แต่ได้อาศัยบันทึกด้วยลายมือบรรจงของคุณแม่
ที่จดรายละเอียดของทุกเหตุการณ์และเอกสารสำ�คัญทุกชิ้นไว้อย่างครบถ้วน ทำ�ให้ช่วยคลี่คลาย
สถานการณ์ มีเรื่องหนึ่งที่คุณแม่สามารถพิสูจน์ความเป็นเจ้าของที่ดินติดถนนหลายสิบปีให้หลัง
ด้วยเอกสารที่เคยขอให้ผู้ขายยืนยันว่าที่ดินแปลงนั้นติดถนนตั้งแต่วันที่มีการซื้อขายที่ดินกัน
ออ้ น (สริ วิ รรณ ลิม้ มณวี จิ ติ ร) เปน็ หลานสาวทีไ่ ดเ้ รยี นรูเ้ รือ่ งการจดบนั ทกึ การท�ำ บญั ชรี บั จา่ ย
อย่างเป็นระบบ จนสามารถช่วยหน่องบริหารกิจการในครอบครัวให้เจริญรุ่งเรือง และสามารถเป็น
เหรัญญิกรับผิดชอบงานของคุณป้าได้ดี เล่าความทรงจำ�ไว้ดังนี้
“ช่วงเวลาหนึ่งที่ได้มีโอกาสทำ�งานและอยู่กับคุณป้า ได้รับประสบการณ์ ความรู้ และทักษะ
เป็นแบบอย่างที่ดีมากมาย จำ�ได้ว่าในการทำ�งานจะต้องมีสมุดจดข้อมูลทุกอย่างไว้เพื่อที่จะหามาใช้
ภายหลังได้ การใช้คำ�ในจดหมายที่สละสลวย รวมทั้งคำ�เริ่มต้นลงท้ายที่ถูกต้องทั้งภาษาไทย
และภาษาองั กฤษ การประสานงานตา่ ง ๆ การตดิ ตอ่ บคุ คลตอ้ งเลอื กวนั เวลาทีเ่ หมาะสม การจดั สง่
เอกสารจะต้องมีสำ�เนาเก็บและให้คนลงนามรับเพื่อตามเรื่องต่อได้สะดวก ในการจัดประชุม
เตรียมงานเตรียมสถานที่ จะจดรายการของที่ต้องใช้ทั้งหมดและคนดูแล เพื่อตรวจเช็ก
และมอบหมายค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จะลงรายละเอียดและจัดใส่ซอง เขียนหน้าซองและแยกประเภท
เตรยี มไว้ คณุ ปา้ จะจดั ทกุ อยา่ งไวล้ ว่ งหนา้ ทัง้ หมด มอบหมายหนา้ ทีใ่ หค้ นทีเ่ หมาะสม และพยายาม
ให้ทุกคนได้มีส่วนร่วม”
. 110 .
. .
การเปลี่ยนความสัมพันธ์จากคู่ค้าสู่ความสัมพันธ์ฉันญาติมิตร
พี่ฝุ่ยเคยเล่าให้ฟังว่า เวลาร่วมมือกับคุณแม่ทำ�ธุรกิจอะไรก็ดูคล่องตัวไปหมด เพราะทุกฝ่าย
จะให้ความเชื่อถือและเกรงใจ หลังจากมารับงานต่อจากคุณแม่ได้พบว่า ไม่เพียงแต่ผู้อื่นให้เกียรติ
คุณแม่ แต่คุณแม่จะถือว่าทุกคนที่มาทำ�ธุรกิจด้วยเป็นเสมือนญาติมิตรที่ต้องให้เกียรติ ดูแลต้อนรับ
ที่บ้าน เป็นห่วงเป็นใย รักษาคำ�มั่นในสัญญา ไม่มีการเอาเปรียบใด ๆ และพร้อมให้ความสนับสนุน
ในทุกกรณี ส่วนเงื่อนไขทางธุรกิจ ท่านจะออกตัวว่าไม่ชำ�นาญขอให้เป็นหน้าที่ของสำ�นักงาน
กฎหมาย แทบทุกสัญญาที่คุณแม่เคยทำ�ไว้จึงลุล่วงด้วยดี หากสัญญาใดมีปัญหา คุณสุนทรก็จะ
กรุณาดำ�เนินการให้เป็นไปตามข้อตกลง จวบจนท่านอายุล่วง ๙๐ ปี คุณแม่ก็ยังมีความสุขใจ
ที่จะมาเป็นประธานในการลงนามในสัญญาและอวยพรให้กิจการเจริญด้วยดี
ทุกครั้งที่ขับรถผ่านกิจการที่เรามีส่วนร่วม ไม่ว่าจะน้อยนิดเพียงใด ท่านจะชี้ชวนให้ดู
ด้วยความภูมิใจ เช่น ตึก QH Lumpini ที่หัวมุมถนนสาทร ซึ่งเรามีส่วนให้เช่าที่ดินมรดกของคุณปู่
แปลงที่คุณแม่เคยเห็นคุณปู่นั่งเก็บค่าผ่านทาง เมื่ออายุ ๑๖ ปี ท่านจะยิ้มและชมเชยว่า
“ตึกใส่มงกุฎ สวยงามมาก”
ตัวอย่างความสัมพันธ์ฉันครอบครัวที่ชัดเจนที่สุด คงจะเป็นคุณจ๋า (ศิริอำ�ไพ ศิริวิโรจน์)
แห่ง Cicada ผู้เช่าและต่อมาซื้อที่ดินบ้านศรีถนอมที่หัวหิน เปิดสวนอาหารและตลาดงานศิลปะ
คุณแม่ตื่นเต้นภาคภูมิใจเป็นที่สุด จะประชาสัมพันธ์ เชียร์ทุกคนให้ไปอุดหนุนและแวะไปเยี่ยมชม
ทุกครั้งที่ไปหัวหิน คุณจ๋ายังได้เล่าให้ฟังว่า “ยี่สิบปีก่อนเมื่อเริ่มกิจการใหม่ ๆ คุณแม่จะชวนมา
ทานข้าวที่บ้าน และ “แนะนำ�” เรื่องต่าง ๆ ครั้งละหลายชั่วโมง เสมือนเป็นลูกหลาน” คุณจ๋า
จึงมีความซาบซึ้งในความห่วงใยและเคารพรักคุณแม่เสมือนญาติผู้ใหญ่
ความสัมพันธ์ที่คุณแม่มีต่อผู้ทำ�ธุรกิจเกือบทุกรายจึงวางอยู่บนพื้นฐานของความไว้เนื้อเชื่อใจ
และการเปลี่ยนความสัมพันธ์จากคู่ค้าไปสู่ความเป็นญาติมิตรอย่างแท้จริง
ที่มาของภาพ : Facebook ของ Cicada Market .
. 111
. .
ชีวิตที่เป่ ียมด้วยพลังศรัทธา
ในความทรงจำ�ของพวกเรา คุณแม่เป็นแบบอย่างของผู้ที่มีความศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธ-
ศาสนาอย่างสูงยิ่ง และได้น้อมนำ�วิถีพุทธเข้าสู่บ้านและชีวิตของพวกเราในทุกมิติอย่างเป็นธรรมชาติ
ก่อนส่งลูกสาวคนเดียวไปเข้าโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย ซึ่งเป็นโรงเรียนเก่าที่ท่านมีความผูกพัน
และอยู่ในเครือคริสตจักร ท่านได้ส่งให้ไปเรียนอนุบาลที่โรงเรียนสัมมาชีวศิลป์ คุณแม่ชื่นชม
ที่ลูกสาวสามารถจำ�พุทธโอวาทได้จากโรงเรียนสัมมาชีวศิลป์หนึ่งบท คือ อต̣ตา หิ อต̣ตโน นาโถ
ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน และคงจะภาคภูมิใจยิ่งขึ้น หากได้ทราบว่าพุทธโอวาทองค์นั้นได้เป็น
ข้อเตือนสติให้ลูกสาวตลอดมา
ลูกหลานยังได้เรียนรู้จากการประพฤติปฏิบัติของคุณแม่ เช่น การสวดมนต์ทุกคืน ฝึกสอน
ให้หลานเล็ก ๆ พับดอกบัว หรือร้อยมะลิถวายพระ กราบพระสวย ๆ และพาทำ�บุญตักบาตร
ไปเวียนเทียนและร่วมกิจกรรมที่วัดอย่างสมํ่าเสมอ
ทันตแพทย์หญิงธฤษวรรณ ลิ้มมณีวิจิตร รำ�ลึกถึงความรัก ความอบอุ่นที่ได้จากคุณยาย
“คณุ ยายสอนใหน้ อ้ งออนมคี วามกตญั ญู ความออ่ นนอ้ มถอ่ มตน มกี าลเทศะ และมคี วามละเอยี ดออ่ น
ครั้งหนึ่งได้เข้าไปดูคุณยายจัดห้องเตรียมงานทำ�บุญ คุณยายเห็นพู่ระบายรอบ ๆ พรมพันกัน
ไม่เรียบร้อย คุณยายก็สอนให้นำ�หวีมาหวี ให้ด้ายแต่ละพู่เรียงกันอย่างสวยงาม ทำ�ให้ห้องพิธี
ดูเรียบร้อยและเพื่อฝึกสมาธิและความประณีตไปในตัว”
. 112 .
. .
. 113 .
. .
แม้นท่านจะอิ่มเอิบใจทุกครั้งที่ไปวัด แต่ท่านจะมีความสุขใจที่สุดหากได้นิมนต์พระมา
เจริญพระพุทธมนต์ และถวายภัตตาหารเพลที่บ้าน ทำ�ให้ลูกหลานตั้งแต่เล็กแต่น้อยต่างคุ้นชินกับ
พระภิกษุ เมื่อวินอายุ ๒ ขวบ และตามพ่อแม่ไปสหรัฐอเมริกา มีเพื่อนชาวไทยมาเยี่ยมครอบครัว
ท่านมีร่างสูงใหญ่ มีผิวคลํ้า และมีผมน้อย วินก้มตัวลงกราบทันที และหันมาเตือนพ่อแม่ว่า
“กราบพระดำ�” ต่อมาเมื่ออยู่ในมหาวิทยาลัย วินได้ขอบวชเองโดยไม่มีใครชักจูงหรือเกลี้ยกล่อม
ยังความปลาบปลื้มใจให้แก่คุณแม่ยิ่งนัก
. 114 .
. .
หากเรียนถามท่านว่าจะฉลองวันเกิดด้วยวิธีใด ท่านจะเลือกการทำ�บุญเป็นลำ�ดับแรก
เมื่อฉลองอายุครบ ๖ รอบ ท่านประสงค์จะทำ�บุญเลี้ยงพระ ๗๙ รูป เราจึงได้ไปจัดที่มหามกุฏ
ราชวทิ ยาลยั ส�ำ หรบั งานฉลองอายคุ รบ ๗ รอบ ทา่ นก�ำ หนดใหท้ �ำ บญุ ทีบ่ า้ น เชน่ เดยี วกบั งานฉลอง
อายุ ๙๐ ปี แตน่ า่ เสยี ดายทตี่ อ้ งเลอื่ นไปดว้ ยสถานการณโ์ ควดิ อยา่ งไรกด็ ี ทา่ นผหู้ ญงิ ไดม้ โี อกาสท�ำ บญุ
ที่บ้านครั้งสุดท้าย ในช่วงเดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๖๔ เพื่อฉลองการอุปสมบทพระ หลานพิชญเทพ
ยุกตะเสวี ลูกชายของวิรเทพ ยุกตะเสวี เป็นงานที่คุณแม่อิ่มเอิบใจเป็นที่สุด ตลอดชีวิตของท่าน
ได้จัดงานฉลองพระอุปสมบทใหม่ที่บ้านยุกตะเสวีถึง ๔ ครั้ง คือ อู๋ วิน กัปตัน และพิชญ์
. 115 .
. .
ในการไปวดั และท�ำ บญุ ทบี่ า้ นแตล่ ะครงั้ คณุ แมจ่ ะตระเตรยี มดว้ ยความประณตี พถิ พี ถิ นั เรมิ่ จาก
ปัจจัยที่จะถวาย ท่านผู้หญิงวิวรรณ เศรษฐบุตร เคยกล่าวชื่นชมว่าตาลปัตรและเครื่องไทยธรรม
ที่คุณแม่เตรียมเพื่อถวายพระในแต่ละโอกาสงดงามเป็นที่สุด
ผู้ที่ทราบดีว่าคุณแม่ทุ่มเทเตรียมการเพื่อการนี้เพียงใดคงจะเป็นคุณสุพัฒนา อาทรไผท
น้องสาวผู้สืบทอดพรสวรรค์ในเรื่องฝีมือประดิษฐ์จากคุณยาย และคุณพรเพ็ญ พรสีมา ทีมงาน
ลูกสาวที่ทำ�งานได้เข้าตาและถูกใจคุณแม่มากที่สุด ได้ถ่ายทอดประสบการณ์ไว้ว่า “นับเป็นช่วงเวลา
ทีม่ คี ณุ คา่ ในชวี ติ ทีท่ า่ นผูห้ ญงิ ไดส้ อนงานเพือ่ เตรยี มปจั จยั ถวายพระในโอกาสตา่ ง ๆ ทา่ นจะออกแบบ
ดว้ ยตนเองตัง้ แตก่ ารเลอื กตาลปตั ร ยา่ ม ดอกไม้ ตลอดจนของขวญั ทีม่ อบแทนค�ำ ขอบคณุ ทัง้ รปู แบบ
โทนสี พระประจำ�วันเกิด หรือสัญลักษณ์ของกลุ่ม เช่น ผึ้งที่แสดงความรักและความขยัน นับเป็น
โจทย์ที่ท้าทายมาก แต่ทุกครั้งเสมือนมีโชคช่วยให้สำ�เร็จด้วยดี เพราะทุกคนที่ทราบว่าเป็นงาน
ที่ท่านผู้หญิงออกแบบจะช่วยกันสร้างสรรค์อย่างสุดฝีมือจนผลงานออกมาสวยงามประณีต เรียบหรู
สะท้อนความเป็นท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช ที่ผู้รับจะระลึกในความทรงจำ�มิรู้ลืม
ในแตล่ ะครัง้ ทา่ นผูห้ ญงิ จะกรณุ าเชญิ ผูเ้ ชีย่ วชาญแตล่ ะดา้ นมาชว่ ยใหค้ �ำ ปรกึ ษา ชีแ้ นะเพิม่ เตมิ
รวมทั้งการเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพและคุ้มค่า ที่สำ�คัญ ท่านจะช่วยเติมพลังและต่อยอดความคิด
เป็นระยะ ๆ ด้วยรอยยิ้มอันแสนอบอุ่นจนงานสำ�เร็จลุล่วง”
. 116 .
. .
ในวันงาน คุณแม่จะแต่งกายสุภาพ เรียบร้อย สง่างามด้วยซิ่นยาว เสื้อแขนยาว คอปิด
แม้นแต่ผ้าลูกไม้ก็ไม่ใช้เพราะถือว่าไม่เรียบร้อย ในระยะหลังเมื่อมีความนิยมใส่ชุดขาวไปร่วมงาน
ที่วัด พวกเราได้จัดหาให้คุณแม่ แต่ท่านมักจะเลือกสีสุภาพเป็นหลัก
ขณะรว่ มพธิ ที างศาสนา ทา่ นจะมวี ตั รปฏบิ ตั ทิ ีส่ �ำ รวม สงา่ งาม ไมพ่ ดู คยุ นัง่ ประนมมอื ตวั ตรง
ตลอดพิธีไม่ว่าจะนานเพียงใด พวกเราจะไม่เคยเห็นภาพท่านไม่สำ�รวมในพิธีสงฆ์ในโอกาสใดเลย
แม้นในช่วงที่ท่านอายุใกล้ ๙๐ ปีแล้ว ท่านยังไปร่วมงานเจริญพระพุทธมนต์ข้ามปีและนั่ง
อย่างสงบนิ่งเป็นเวลาหลายชั่วโมง
. 117 .
. .
คุณแม่จะร่วมทำ�บุญเพื่อบำ�รุงพระศาสนาตามที่มีผู้เชิญชวน โดยเฉพาะการรับเป็นประธาน
ทอดผ้าป่าการศึกษาของโรงเรียนต่าง ๆ แต่มักไม่เป็นเจ้าภาพเอง คุณแม่จะเป็นเจ้าภาพงานกฐิน
และทอดผา้ ปา่ เพยี ง ๒ ครัง้ คอื งานทอดผา้ ปา่ สามคั คที ีว่ ดั พทุ ธนมิ ติ อ�ำ เภอตาคลี จงั หวดั นครสวรรค์
จากการบอกบุญของพระราชวรญาณโสภณ (ชุบ เขมงฺกโร) พระเถระที่ได้ให้ความเมตตา
แก่ครอบครัวตลอดมา และครั้งที่สองจากการขอร้องของลูกสาวให้ท่านช่วยรับเป็นเจ้าภาพผ้าป่า
เพื่อการศึกษาที่วัดภุมรินทร์ จังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อนำ�เงินมาปรับปรุงอาคารเรียนเก่าในพื้นที่
วัดให้เป็นบ้านดนตรี ที่ปัจจุบันได้เป็นแหล่งเรียนรู้ดนตรีไทยและหุ่นกระบอกของจังหวัด
อย่างไรก็ดี คุณแม่พร้อมเสมอที่จะเป็นแม่งานช่วยวัดหาทุนเพื่อบำ�รุงพระศาสนา เช่น ท่าน
ได้ทุ่มเทสนับสนุนการดำ�เนินงานโครงการปลูกรากแก้วศาสนทายาทที่วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก
และการสนับสนุนวัดอื่น ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
การทำ�บุญที่บ้านถือเป็นแหล่งฝึกงานที่สำ�คัญของพวกเราทุกคน คุณแม่จะเป็นผู้บัญชาการ
ให้ทุกอย่างดำ�เนินไปด้วยความเรียบร้อยงดงาม พร้อมตารางกำ�หนดหน้าที่ความรับผิดชอบ
ที่ละเอียดยิบ และจะติดตามดูแลแก้ปัญหาให้กำ�ลังใจแก่น้อง ๆ ลูกหลาน และผู้ปฏิบัติงานทุกคน
คุณแม่คงจะปลาบปลื้มใจหากได้ทราบว่าลูกหลานที่ได้รับการถ่ายทอดจากศิษย์รุ่นแรกคือ
น้อง ๆ ของคุณแม่ ได้นำ�ความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับการส่งต่อมา ช่วยกันจัดงานบำ�เพ็ญกุศล
ให้คุณแม่ในครั้งนี้ โดยมีหลานเล็ก ๆ และเหลนเข้ารับการฝึกงานเป็นรุ่นต่อไป
หน่อง (สถิตย์ ลิ้มมณีวิจิตร) หลานเขยคนโปรดเป็นผู้รับผิดชอบพิธีทางศาสนาและตำ�แหน่ง
ผู้อาราธนาศีลทุกรายการ ภูมิใจเป็นที่สุดเมื่อท่านอานันท์ ปันยารชุน ผู้กรุณามาเป็นประธานในพิธี
สวดพระอภิธรรมที่บ้านยุกตะเสวีสอบถามว่า ได้เคยบวชมากี่ปี หน่องได้เรียนท่านว่า ไม่เคยบวช
แต่ได้เรียนที่โรงเรียนพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ พร้อมกับมาสารภาพภายหลังว่า เริ่มต้นจาก
. 118 .
. .
การที่คุณแม่กำ�หนดให้ลูกหลานต้องเป็นผู้อาราธนาศีลในงานทำ�บุญที่บ้านและคนที่พอจะ
มีหน่วยก้านคนเดียวในขณะนั้น คือ หน่อง
แต่สามสัปดาห์ต่อมา เมื่ออู๋ (ศิริวงศ์ ยุกตะเสวี) หลานชาย ที่ทำ�งานเป็นวิศวกรเครื่องบิน
ที่สหรัฐอเมริกา เดินทางกลับมาเพื่อร่วมงานทำ�บุญ เราได้พบว่า “เหนือฟ้า ยังมีฟ้า” เพราะ
อู๋ตกปากรับคำ�ที่จะเป็นผู้อาราธนาศีลและอาราธนาพระปริตรในวันนั้นโดยไม่เกี่ยงงอน หลังจาก
ไม่ได้ทำ�มา ๓๐ ปี เพราะคุณหญิงถนอมศรีได้เคยฝึกไว้ตั้งแต่เล็ก ๆ
ความเข้าใจธรรม ประพฤติธรรมของคุณแม่ที่พวกเราสัมผัสมาโดยตลอดมา คือการที่คุณแม่
เป็นแบบอย่างของผู้ที่เปี่ยมด้วยความเมตตากรุณา พร้อมให้อภัย ไม่ถือโทษโกรธใคร มีสติที่จะ
แก้ปัญหาด้วยความสงบงาม พวกเรานอกจากจะไม่สามารถทำ�ได้เช่นท่านแล้ว บ่อยครั้งยังแอบ
ไปยุด้วยความหงุดหงิดแทนท่าน แต่ท่านยังรักษาจิตใจที่เป็นอุเบกขาไว้ได้อย่างมั่นคง
ด้วยเหตุที่คุณแม่มีวิถีปฏิบัติที่ต่างจากภาพลักษณ์ของผู้เคร่งในธรรมะ เราจึงไม่แน่ชัด
ว่าจะประมวลภาพแห่งความเป็นอุบาสิกาที่ธำ�รงพระพุทธศาสนาของคุณแม่ได้อย่างไร จนเกิด
ความกระจ่างชัดเมื่อได้รับฟังพระธรรมเทศนา ปัญญาพลกถา ที่พระเดชพระคุณพระเทพญาณวิศิษฐ์
(ชัยทวี คุตฺตจิตโต) วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร ได้แสดงในการบำ�เพ็ญกุศลปัญญาสมวาร วันที่
๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๕ ใจความตอนหนึ่งว่า
“ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช เป็นอุบาสิกาผู้ศรัทธามั่นคงในพระรัตนตรัยเลื่อมใสยิ่ง
ในพระบวรพุทธศาสนา มีวัตรปฏิบัติที่งดงามตามพระบรมพุทโธวาท ได้ถวายการอุปัฏฐาก
พระภิกษุสามเณรด้วยปัจจัยทั้งสี่เป็นนิจ ทั้งได้อุทิศสรรพกำ�ลังเพื่อทำ�นุบำ�รุงพระศาสนานานัปการ
โดยเฉพาะด้านการศึกษาของพระภิกษุสามเณรและการเผยแผ่พระศาสนาทั้งภายในและต่างประเทศ
ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช มีชีวิตอุดมด้วยปัญญาทั้ง ๒ ทาง คือ ปัญญาทางโลก
และปัญญาทางธรรม จึงงดงามด้วยความคิดและความประพฤติ เรียกว่า “งามทั้งรอยกายรอยใจ”
มีพลังปัญญาสามารถบำ�เพ็ญประโยชน์ได้มากมายอเนกประการ”
. 119 .
. .
ผู้สูงวัยในฝนั
หลังเกษียณอายุด้วยการลาออกจากราชการเมื่ออายุหกสิบปีบริบูรณ์ ดิฉันได้มีโอกาสใช้ชีวิต
ร่วมกับคุณแม่มากกว่าช่วงใดของชีวิต ซึ่งดูจะเป็นเรื่องแปลกสำ�หรับลูกสาวคนเดียวของครอบครัว
แต่เมื่อมองย้อนหลังเชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่ตั้งใจที่จะสร้างความเข้มแข็งให้ดูแลและพึ่งตนเองได้
จึงให้ไปอยู่โรงเรียนประจำ�ตั้งแต่สิบขวบ ส่งไปเรียนต่างประเทศเมื่ออายุสิบหก เมื่อกลับมา
และแต่งงานก็ยินยอมให้แยกครอบครัว ทั้งยังสนับสนุนให้รับราชการที่ต้องเดินทางไปพื้นที่ต่าง ๆ
ทั่วประเทศแทนการทำ�งานการกุศลเหมือนคุณแม่ หรือดูแลธุรกิจของครอบครัว การเกษียณอายุ
จึงนับเป็นโอกาสทองแห่งการเรียนรู้ เพราะในสิบสามปีที่ผ่านมา ดิฉันได้รับประสบการณ์เรียนรู้
ที่มีคุณค่ายิ่งจากคุณแม่ ไม่เพียงแต่การเตรียมพร้อมเพื่อรับภาระของครอบครัวที่ต้องสืบทอด
แตร่ วมถงึ การเปลยี่ นผา่ นสภู่ าวะผสู้ งู วยั จนสามารถสรปุ ไดด้ ว้ ยความมนั่ ใจวา่ คณุ แมเ่ ปน็ ผสู้ งู วยั ในฝนั
ที่ลูกหลานทุกคนพึงปรารถนา และพึงเรียนรู้เป็นแบบอย่าง
ในวัยหกสิบถึงเจ็ดสิบกว่าปี คุณแม่เป็นสุภาพสตรีสูงวัยต้นถึงกลางที่มหัศจรรย์ สวย เก๋ เท่
ด้วยสไตล์ “It’s chic to be gray” มีชีวิตชีวา มีพลังความคิดและทำ�อะไรทั้งเรื่องเล็กและใหญ่
อย่างไม่หยุดยั้ง ด้วยความสุขและเปี่ยมด้วยศรัทธาในทุกงานที่ทำ�
งานที่โดดเด่นทั้งในประเทศและเวทีสากล รวมทั้งการเจรจาธุรกิจสำ�คัญของครอบครัว
ดูจะเกิดขึ้นในช่วงนี้ทั้งสิ้น แม้จะต้องเข้ารับการผ่าตัดหลอดเลือดหัวใจเมื่ออายุ ๗๓ ปี คุณแม่ก็ใช้
เวลาพกั ฟืน้ ไมน่ านนกั และสามารถกลบั มาสานตอ่ และรเิ ริม่ งานใหม่ ๆ ไดใ้ นทนั ท ี เมือ่ พวกเราเขา้ สู่
วยั เดยี วกบั คณุ แม่ แตไ่ มม่ เี รีย่ วแรงทีจ่ ะท�ำ อะไรไดเ้ สมอเหมอื น ยิง่ ท�ำ ใหเ้ กดิ ความเคารพในความเปน็
ผู้สูงวัยผู้ทรงคุณค่าและทรงพลังของคุณแม่อย่างแท้จริง
. 120 .
. .
เมื่อคุณแม่เข้าสู่วัยเจ็ดสิบปีตอนปลาย ๆ คุณแม่เริ่มผ่อนภาระทางสังคมลงบ้าง แต่ยัง
กระฉับกระเฉงมีชีวิตชีวา พร้อมร่วมกิจกรรมทุกประเภท ทั้งการเดินทาง การประชุม การพบปะ
กับเพื่อนฝูง รวมทั้งการช่วยดูแลเหลนเล็ก ๆ ที่เกิดตามกันมา ภาพคุณชวดและเหลนอ่านหนังสือ
วาดรูปเล่น ประดิษฐ์สิ่งของ เล่นมอญซ่อนผ้า และต่อสู้แบบซูเปอร์ฮีโร่เป็นที่คุ้นตาทุกคน
อาการหลงลืมของคุณแม่คงจะเกิดขึ้นก่อนอายุ ๘๐ ปี โดยพวกเราไม่ได้สังเกตในขณะนั้น
แต่ได้อ่านพบในสมุดบันทึกของท่านภายหลังว่า ท่านได้สังเกตตนเองว่าจำ�อะไรบางอย่างไม่ได้
ท่านเริ่มมีความกังวล มักปรารภว่า “แม่เป็นคนมีความจำ�ดีที่สุดในห้อง (พวกเราจะช่วยเติมให้ท่าน
ด้วยว่าและในบ้าน) ทำ�ไมจึงจำ�เรื่องนี้ไม่ได้” ท่านจึงได้เริ่มไปพบแพทย์เมื่ออายุแปดสิบปี
จากนัน้ ทา่ นไดเ้ ริม่ ทยอยลาออกจากกรรมการคณะตา่ ง ๆ คณุ แมไ่ ดเ้ ลา่ ใหค้ ณุ หมอประดษิ ฐ์
ประทปี ะวณชิ ฟงั วา่ ไดล้ าออกจากกรรมการพรอ้ มกนั ทเี ดยี ว ๓๔ คณะ คงเหลอื แตค่ ณะทีค่ ณุ แมต่ ัง้ ใจ
จะสนองงานตลอดชีวิต ในช่วงเดียวกันนี้คุณแม่ยังได้ยกร่างประวัติการทำ�งานในองค์กรต่าง ๆ
ด้วยตนเอง ซึ่งลูกหลานได้นำ�มาใช้เป็นหลักในการจัดทำ�หนังสือที่ระลึกให้แก่ท่าน
. 121 .
. .
แต่ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงไหนของอายุ คุณแม่จะไม่เคยละทิ้งจุดเด่นของท่านเลย โดยเฉพาะ
การมองโลกเชิงบวก
สิ่งที่มหัศจรรย์ที่สุดในความเป็นผู้สูงวัยของคุณแม่คือ การรักษาอารมณ์ขัน การมองโลก
ด้วยความรื่นรมย์ การโต้ตอบด้วยมุกที่แพรวพราว การไม่แสดงอารมณ์หงุดหงิดใด ๆ ไม่โกรธ
ยอมรับในการเปลี่ยนแปลงของตนที่เกิดขึ้น ตลอดจนข้อจำ�กัดและความแตกต่างระหว่างบุคคล
และการให้อภัย
ตอ๊ ด (ฆรนี เทยี นไทย) เพือ่ นทีเ่ คยไปพกั ทีบ่ า้ นหวั หนิ เมือ่ ตอนอายุ ๘ - ๙ ขวบ เคยชืน่ ชมวา่
“คุณน้าอ๊อดเล่นกับเราเหมือนเพื่อน สนุกกันทั้งวัน จำ�ได้ว่าแผดเสียงหยอกล้อกับแดงเสียงดัง
น้าอ๊อดก็ยิ้มหัวเราะ ไม่เคยดุใคร แม้แต่หน้าบึ้งก็ยังดูไม่ออก เวลาเห็นอะไรไม่เป็นไปตามคาดหวัง
ก็เห็นเป็นเรื่องตลก มีมุกมาผ่อนคลายเสมอ ทำ�ให้รู้สึกว่า เราอยากเป็นแบบนี้ตอนโต” หกสิบปี
ให้หลัง เราสามคนได้นั่งรถไปงานปลูกป่าชายเลนที่อ่าวคุ้งกระเบนด้วยกัน ไม่ว่ารถจะขับหลงทาง
คดเคีย้ วไปเพยี งใด คณุ แมก่ ไ็ มห่ งดุ หงดิ (ตา่ งจากลกู สาว) แตส่ นกุ กบั การรอ้ งเพลงเชยี รข์ องชาวแกลง
ที่ยังฝังใจตั้งแต่เด็ก ๆ ให้ต๊อดฟัง
ดูเหมือนคุณแม่จะมีเทคนิคในการเลือกจำ�สิ่งที่ให้ความสุข ในช่วงหลังแม้คุณแม่จะหลงลืม
อะไรไปพอสมควร แต่สิ่งที่ไม่ลืมเลยคือ โรงเรียนวัฒนาฯ คุณแม่จะถามถึงเพื่อนวัฒนาฯ ชวนมา
ทานข้าวและเมื่อพบกันก็แย่งกันพูดเหมือนตอนสาว ๆ ป้าแสงเพื่อนสนิทคุณแม่เล่าว่า ครั้งสุดท้าย
ที่นั่งรถไปด้วยกัน คุณแม่ไม่ค่อยพูดคุยเหมือนเดิม จึงแกล้งถามว่า มาด้วยหรือไม่ คุณแม่ตอบ
ทันทีว่า “มาสิ ต้องมานั่งฟัง ไม่ให้พวกเธอนินทาฉัน”
. 122 .
. .
บรรยากาศเมื่อเพื่อนวัฒนาฯ วัย ๘๐ ปีได้พบกัน
เพลงจากโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัยเป็นความสุขที่ฝังใจคุณแม่ ในบางช่วงคุณแม่จะร้องเพลง
โอ้วัฒนากลางดึกเกือบทุกคืน และเมื่อมีพี่เลี้ยงเป็นสาวชาวกะเหรี่ยงคริสต์ จะดวลเพลงคริสต์มาส
เป็นภาษาไทย อังกฤษ และกะเหรี่ยงกันอย่างครื้นเครง
. 123 .
. .
ใน พ.ศ. ๒๕๕๘ เมื่อคุณแม่อายุ ๘๔ ปี ได้ทำ� Bypass เส้นเลือดหัวใจครั้งที่สองและพัก
อยูท่ ีโ่ รงพยาบาลศริ ริ าชหลายสปั ดาห ์ เมือ่ ออกจากโรงพยาบาลแลว้ ทา่ นจ�ำ การผา่ ตดั ครัง้ ใหมไ่ มไ่ ด ้
แต่กลับถามพวกเราว่าแม่ไปไหนมา จำ�ได้แต่เพียงว่าได้รับดอกไม้สวยมากมายและได้ไปชมวิว
ริมแม่นํ้า
ชว่ งหลงั ปใี หมท่ ีผ่ า่ นมา ๔ เดอื นกอ่ นทา่ นจะจากไป คณุ แมก่ ลบั มามอี าการสดชืน่ แจม่ ใสขึน้
หลังจากป่วยด้วยอาการปวดท้องและท้องเสียต่อเนื่อง ระยะหลังท่านเริ่มยอมทานอาหารเบา ๆ
อยากออกไปนั่งรถเล่น ไปนั่งเล่นในสนาม และเมื่อสถานการณ์โควิดเริ่มผ่อนคลายในช่วงนั้น
ได้เชิญชวนญาติสนิทกลุ่มเล็ก ๆ มาที่บ้าน กลุ่มแรกที่มาเยือน คือ วรกมล ลูกสาวของเอ๋ สิรเทพ
ยกุ ตะเสวี ผูท้ �ำ งานเปน็ นกั จติ วทิ ยาทีอ่ อสเตรเลยี คณุ แมม่ คี วามสขุ มาก ฟงั การพดู คยุ ดว้ ยความสนใจ
ไม่ขอขึ้นนอนเร็ว แต่จะรอส่งคนมาเยี่ยมที่หน้าประตูจนลับตา ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของท่าน
ตลอดมา บางครั้งที่ขอขึ้นนอนก่อนลูกหลานกลับ เมื่อหลาน ๆ ไปยืนส่งหน้าลิฟต์แก้วโบราณ
ของเรา คุณแม่ก็จะโปรยดอกไม้ที่เก็บมาจากสวนให้แทนคำ�อำ�ลา เป็นภาพความสุขที่คุณแม่
มอบให้ทุกคนที่พวกเราคงจำ�ได้ตลอดไป
. 124 .
. .
การไม่หยุดยั้งที่จะเรียนรู้และถ่ายทอดความรู้
คุณแม่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ที่ได้พัฒนาตนเองจาก “มหาวิทยาลัยชีวิต” จนมีความรู้
ความสามารถดูแลครอบครัวและทำ�ประโยชน์ให้แก่สังคม
ดร.ปิ๋ม (ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.มาลียา เครือตราชู) จำ�ได้ดีว่า “เมื่อเข้าทำ�งานใหม่ ๆ
ไดต้ ดิ ตามคณุ แม่ คณุ หญงิ บญุ เลือ่ น เครอื ตราชู ไปประชมุ ทีส่ งิ คโปรเ์ กีย่ วกบั งานพฒั นาสตรี มผี ูแ้ ทน
จากประเทศต่าง ๆ มากมาย ท่านผู้หญิงเป็นวิทยากรคนหนึ่ง พูดเก่ง นำ�เสนอได้เป็นที่ประทับใจ
ของที่ประชุม คุณแม่ดิฉันในฐานะครูเก่าของท่านที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ชื่นชมมากว่า
ท่านออกจากโรงเรียนไปแต่งงานตอนอยู่ ม. ๘ แต่ได้พัฒนาตนเองจนสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ดี
และท�ำ หนา้ ทีผ่ ูน้ �ำ องคก์ รสตรขี องประเทศไดอ้ ยา่ งเยีย่ มยอด นอกจากความสามารถทางวชิ าการแลว้
ดิฉันยังชื่นชมว่าท่านแต่งกายสวยเหมาะสมกับกาลเทศะ คุยสนุก ทั้งจัดเวลาให้เราได้ทำ�งาน
และช้อปปิ้งอย่างลงตัว ทำ�ให้การเดินทางครั้งนั้นสนุกสนานและได้รับประโยชน์ยิ่ง”
ภาพจำ�ของ ดร.บิ๋ม เมื่อ ๔๐ กว่าปีก่อน ยังเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เมื่อคุณแม่เข้าสู่วัยสูงอายุ
ตลอดชีวิตของคุณแม่ ท่านยังคงดำ�รงความสนใจใฝ่รู้สูงสุด ช่างสังเกต ช่างตั้งคำ�ถาม
เพียรพยายามแสวงหาคำ�ตอบในทุกเรื่อง ทั้งสามารถจดจำ� นำ�ไปทดลองประยุกต์ใช้และพร้อมที่จะ
เผื่อแผ่เจือจานไปยังผู้อื่น ใครมีคำ�ถามอะไร มาถามคุณแม่จะให้คำ�ตอบทั้งที่เป็นสาระและความเห็น
ของคุณแม่ประกอบกันอย่างชัดเจนเสมอ แม้นในยุคมีอินเทอร์เน็ต พวกเราก็ยังรอมาถามคุณแม่
จะได้ความกระจ่างชัดเจนกว่า ที่สำ�คัญคุณแม่มีความสุขที่จะเล่าเรื่อง อธิบาย และทำ�ความเข้าใจกับ
ผูอ้ ืน่ คณุ แมเ่ คยวจิ ารณต์ วั เองวา่ “พเิ ภกในรามเกยี รติป์ ระกาศวา่ หาก (พระรามพระลกั ษณ)์ ไมถ่ าม
ถงึ รูก้ จ็ ะไมบ่ อก” แตค่ ณุ แมถ่ อื คตวิ า่ แมน้ ไมถ่ ามกจ็ ะบอก เซน เหลนชายจงึ เปน็ คนทีค่ ณุ ชวดเอน็ ดู
เป็นพิเศษ เพราะจะตั้งคำ�ถามทุก ๕ นาทีจนเกินความสามารถและความอดทนของคนรอบข้าง
มีแต่คุณชวดเท่านั้นที่พร้อมจะตอบคำ�ถามทุกเรื่องด้วยความเต็มใจ
คณุ แมม่ วี ธิ กี ารเรยี นรูท้ ีม่ ปี ระสทิ ธภิ าพทัง้ จากการอา่ นหนงั สอื และเอกสารทกุ ประเภท คณุ แม่
จะอ่านหนังสือพิมพ์ทุกเช้า อ่านป้ายประกาศระหว่างทางที่นั่งรถผ่าน หยิบหนังสือทุกเล่มที่เห็น
มาอา่ น เมือ่ ฟงั โทรทศั น์ (ทา่ นมกั จะประทว้ งวา่ พธิ กี รและคนอา่ นขา่ วพดู เรว็ มาก) ไมถ่ นดั ไดย้ นิ ไมช่ ดั
คุณแม่ก็จะอ่านข้อความใต้ภาพแทน
. 125 .
. .
นอกจากนี้ คุณแม่ยังชอบกิจกรรมลับสมองทุกประเภท เมื่อสาว ๆ จะเล่นเกมต่าง ๆ
โดยเฉพาะ Crossword Puzzle และ Scrabble เมื่อสูงวัยยังคงมีความเพลิดเพลินกับ
เกม Scrabble สามารถเล่นได้ต่อเนื่องทีละหลายเกม แม้คลังคำ�จะลดลงบ้าง แต่ก็ยังเอาชนะ
พวกเราได้สบาย และทักท้วงหากมีใครนำ�คำ�ต้องสงสัยมาใช้
ในวัยสาว คุณแม่จะกระตือรือร้นที่จะเรียนพิเศษ และเข้ารับการอบรมในหลักสูตรต่าง ๆ
ได้เคยตั้งกลุ่มเรียนทั้งภาษาฝรั่งเศส ภาษาจีน หลังจากพิชิตภาษาอังกฤษมาแล้ว
แต่เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ คุณแม่จะเปลี่ยนมาตั้งคำ�ถามกับพวกเราแทน เพราะได้ลืมสิ่งที่เคย
ทราบในอดีต แต่ยังเปี่ยมด้วยความสนใจใฝ่รู้ การรับประทานอาหารร่วมกันในแต่ละคืน พวกเรา
ตอ้ งมโี ทรศพั ทม์ อื ถอื ขา้ งกายเพือ่ เปดิ หาค�ำ ตอบ เชน่ โควดิ เกดิ ไดอ้ ยา่ งไร ตดิ ตอ่ กนั ทางไหน ตน้ มงั คดุ
หน้าตาเป็นอย่างไร เปิดรูปให้ดูก็ยังไม่จุใจ ทำ�ให้เราถือโอกาสพาคุณแม่ไปสวนผลไม้ของ
ดร.สมบตั ิ สวุ รรณพทิ กั ษ์ ทีจ่ งั หวดั ระยอง และใหล้ งมอื สอยมงั คดุ ดว้ ยตนเอง เมือ่ มคี �ำ ถามครัง้ ตอ่ ไป
ก็จะเปิดรูปให้ดูจนเป็นที่พอใจ
บอ่ ยครัง้ ค�ำ ถามของคณุ แมท่ �ำ ใหเ้ ราไดเ้ รยี นรูส้ ิง่ ไมเ่ คยสงั เกตมากอ่ น และบางครัง้ กจ็ นปญั ญา
หาคำ�ตอบ เช่น พาไปรับประทานอาหารทะเล มีปูนํ้าลึกที่นึ่งแล้ว ยังเป็นสีขาวอยู่ คุณแม่ฉงน
สนเท่ห์เป็นที่สุด อยากจะรู้เหตุผลที่ปูสุกแล้วไม่เป็นสีชมพู ซึ่งเราก็ยังหาคำ�ตอบไม่ได้จนบัดนี้
และไม่กล้าพาคุณแม่ไปทานปูนํ้าลึกอีกเลย
. 126 .
. .
เรียนรู้จากการเดินทาง
คณุ แมส่ นกุ กบั การเรยี นรูผ้ า่ นการเดนิ ทาง แตจ่ ะเปน็ การเดนิ ทางเพือ่ แสวงหาความรู้ ประชมุ
หรือสร้างเครือขา่ ย เมื่อน้องชาย ๒ คน ของคุณแม่เรียนต่างประเทศ คุณแม่เป็นผู้แทนครอบครัว
ไปเยี่ยมเยียนพร้อมพาไปชมพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ จนน้าอั๋น (ร้อยโท สุเทพ ยุกตะเสวี) ประท้วงว่า
“คณุ ออ๊ ดมาลอนดอนทไี รกช็ วนดแู ตส่ ตั วต์ าย (โครงกระดกู ไดโนเสารใ์ น Natural History Museum)”
เมื่อลูกสาวยังเรียนที่ต่างประเทศ คุณแม่จะชวนไปทัศนศึกษาเมืองต่าง ๆ ที่เป็นแหล่ง
ประวัติศาสตร์และอารยธรรม เช่น อียิปต์ อิหร่าน ตุรกี เบรุต เพียงสองคนแม่ลูก (เพราะไม่มีใคร
ยอมไปด้วย) นับเป็นสิ่งแปลกตาในสมัยนั้น
รูปแม่ลูกขี่อูฐที่อียิปต์ได้สูญหายไปจากอัลบั้มครอบครัว
แต่ได้รับความกรุณาจากคุณสุมัณฑนา โมกขะเวช ส่งมาเตือนความจำ�
สมัยยังดำ�รงตำ�แหน่งประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ คุณแม่ได้พาคณะผู้แทนเข้าร่วมประชุม
และเยือนประเทศพันธมิตรต่าง ๆ ตั้งแต่จีน รัสเซีย ยุโรปตะวันออก และเคนยา เป็นการเดินทาง
ที่สร้างความประทับใจเพราะได้ทั้งมิตรภาพและความรู้ ท่านผู้หญิงยศวดี อัมพรไพศาล ได้บันทึก
การเดินทางครั้งนั้นเป็นบทกวี ความว่า
. 127 .
. .
“สภาสตรีศรีสยาม ได้พากเพียรพยายามอย่างอาจหาญ
จัดนำ�เที่ยวเจ็ดประเทศเป็นการงาน ตะวันออกเริ่มประสานผูกไมตรี
กำ�หนดการผ่านเริ่มแรกประเทศกรีซ แล้วตามติดบัลกาเรียโซเฟียศรี
โรมาเนีย ยูโกสลาเวียงดงามดี ถัดต่อมาฮังการีที่น่าชม
เช็กโกสโลวาเกียถัดต่อมา โปแลนด์กล้าแหล่งสุดท้ายช่างเหมาะสม
กำ�หนดเวลาสามอาทิตย์ได้เที่ยวชม ประเทศสังคมนิยมเปรียบเทียบดู
ท่านผู้หญิงสุมาลีเป็นตัวแทน สภาสตรีนำ�แฟนล้วนงามหรู
เพื่อเยี่ยมเยียนสภาสตรีที่มีอยู่ ได้ฟื้นฟูไมตรีทั่วโลกา”
ประสบการณ์จากการเดินทางเหล่านี้ยังฝังอยู่ในความทรงจำ�ของคุณแม่แม้นจะลืมเลือน
เรื่องอื่นไปมากแล้ว เมื่อทราบว่า ไต๋ (ชัญญ พหลโยธิน ยุกตะเสวี) หลานชายกำ�ลังเรียนการทูต
ที่รัสเซีย คุณแม่มักจะชวนคุยถึงความหลังครั้งกระโน้น ไต๋เล่าเรื่องนี้ไว้ว่า
“เมือ่ ปี ’๖๑ ขณะทีก่ �ำ ลงั เรยี นปรญิ ญาโทอยูท่ ีร่ สั เซยี ไตม๋ โี อกาสรว่ มทรปิ กบั คณุ ยาย ปา้ แดง
และลงุ ชาย ไปเทีย่ วเรอื Cruise ตระเวนยโุ รป เปน็ ทรปิ ตา่ งประเทศกบั คณุ ยายครัง้ แรกและครัง้ เดยี ว
ที่เต็มไปด้วยความทรงจำ�ดี ๆ สิ่งที่ประทับใจที่สุดสำ�หรับการไปเที่ยวครั้งนั้นคือการได้เห็นคุณยาย
แฮปปี้กับทุกที่ที่ไปเยือนและมีโอกาสได้ดูแลคุณยายอย่างใกล้ชิดตลอดการเดินทาง ขณะเดียวกัน
คุณยายเองก็พยายามดูแลเราเช่นกัน
ระหว่างการเดินทาง คุณยายมักจะชวนคุยเกี่ยวกับรัสเซียที่เราไปเรียนต่อ คุณยายเล่าว่า
เคยไปเยอื นรสั เซยี สมยั ทยี่ งั เปน็ สหภาพโซเวยี ต ไดเ้ จอกบั Valentina Tereshkova นกั บนิ อวกาศหญงิ
คนแรกของโลกชาวโซเวียต และมีภาษารัสเซียหนึ่งคำ�ที่คุณยายจำ�ได้ขึ้นใจคือคำ�ว่า “สปาซิบา”
แปลว่า “ขอบคุณ” นี่เองก็เป็นหนึ่งในคำ�ที่คุณยายสอนให้เรารู้จักพูดกับคนอื่นเสมอตั้งแต่ยังเล็ก
พอโตขึ้นมาก็เข้าใจเป็นอย่างดีว่า ถึงจะเป็นคำ�ง่าย ๆ แต่มีความหมายต่อคนที่ได้รับอย่างมาก
หลังจากนี้ก็อยากลองพูดคำ�ว่าขอบคุณให้ได้หลาย ๆ ภาษาไว้ใช้กับคนที่มีนํ้าใจกับเราในทุกที่ที่ไป”
. 128 .
. .
เมื่อคุณแม่เกษียณอายุแล้ว ได้มีโอกาสพาคุณแม่เดินทางมากขึ้น อัลบั้มรูปครอบครัว
ในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมาจะเต็มไปด้วยภาพคุณชวดและเหลนที่หัวหิน พัทยา เชียงใหม่ น่าน
ระยอง จันทบุรี แรก ๆ ให้คุณแม่เลือกเองว่าอยากจะไปที่ใด แต่หลัง ๆ ใครจะไปที่ใดคุณแม่
ก็พร้อมจะไปด้วยเสมอ แม้อยู่ในกรุงเทพฯ คุณแม่ก็จะกระตือรือร้น แต่งตัวไปนั่งรถเล่นทุกวัน
สำ�หรับการไปต่างประเทศในช่วงสูงวัย คุณแม่เลือกในลำ�ดับแรกว่าอยากไป Chelsea
Flower Show คิดว่าเป็นอิทธิพลมาจากคุณอารัมภา จาติกวณิช ที่เคยเล่าเรื่องความตื่นตาตื่นใจ
ของงาน เมอื่ ครงั้ เราไปพ�ำ นกั ทบี่ า้ นคณุ อาไกรศรที ี่ Wimbledon เมอื่ หา้ สบิ ปกี อ่ น ดว้ ยความอนเุ คราะห์
. 129 .
. .
ของคณุ รชั นี บณั ฑรวรรณ คณุ แมข่ องนกิ ลกู สะใภ้ เราไดต้ ัว๋ เขา้ งานทีแ่ สนหายากมาสามใบ ฝา่ ยชาย
คือคุณชายและวินต่างขอถอนตัวอย่างพร้อมเพรียงกัน ร้อนถึงหมู (สายสัมพันธ์ ฮิลตัน) เพื่อนผู้มี
นิวาสถานอยู่ในลอนดอนขณะนั้นต้องช่วยพาไปแม้นจะเคยไปมาหลายครั้งแล้ว คุณแม่ชื่นชมกับ
ความยิ่งใหญ่ของงานมาก โดยเฉพาะดอกไม้นานาพันธุ์ที่นำ�เสนออย่างอลังการ และแม้นท่านจะมี
อายุเกือบแปดสิบปีในขณะนั้น หมู สายสัมพันธ์ก็ยังจำ�ได้ดีว่าเราใช้เวลาในงานหลายชั่วโมงทีเดียว
หลงั จากนัน้ คณุ แมไ่ ดไ้ ปทศั นาจรเมอื งประวตั ศิ าสตรห์ ลายแหง่ เชน่ นครจ�ำ ปาสกั หลีผ่ ที ีล่ าว
นครวัดที่กัมพูชา ซีอานที่จีน และพุกามที่เมียนมา ได้จัดให้คุณแม่เดินทางด้วยเรือ Oriental
River Cruise เพื่ออำ�นวยความสะดวกในการเดินทาง
. 130 .
. .
ทุกแห่งที่ไป คุณแม่จะสดชื่นสนุกสนาน รับประทานด้วยความเอร็ดอร่อยทุกมื้อ ไม่เคย
บ่นเหนื่อย พร้อมลุยทุกสถานการณ์ สร้างความอัศจรรย์ใจให้แก่ผู้ร่วมเดินทาง เช่น การซ้อน
มอเตอร์ไซค์เพื่อไปนมัสการพระธาตุ ที่เพื่อนร่วมเดินทาง เช่น หนู ภาวิไล และต๋อย (วิลาวัลย์
ศรศิลป์) ยังจำ�ได้จนทุกวันนี้ หนู ภาวิไลเล่าว่า
“ตอนไปเที่ยวลาวใต้กัน คุณแม่ ๘๐ ปี ได้แล้ว พวกเราต้องเดินขึ้นเนินเขาสัก ๒ กิโลเมตร
เพื่อไปนมัสการพระธาตุเขาพู ขณะที่ขบวนของเราคืบคลานเดินขึ้นเขา ทันใดนั้นเราได้เห็น
หญิงคนหนึ่งซ้อนมอเตอร์ไซค์แซงฉิวไปข้างหน้าอย่างว่องไว พวกเราพากันร้องอย่างตกใจว่า
คุณแม่กล้าจริง ๆ ทำ�ให้ได้ทราบว่านอกจากท่านจะใจดีแล้ว ยังใจถึงอีกด้วย”
ส่วนต๋อย วิลาวัลย์ ได้แอบไปถ่ายรูปและสัมภาษณ์เหตุการณ์น่าระทึกใจนี้ และรายงานว่า
“คุณแม่ (ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช): นั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์ ทำ�อย่างไร
ทีมงาน: นั่งได้ ๒ แบบค่ะ แบบแรกขึ้นนั่งบนเบาะหลังคนขับ หย่อนขาทั้งสองข้าง
ไปทางเดยี วกนั แบบที่ ๒ นงั่ ครอ่ มหลงั คนขบั (เหมอื นนงั่ บนหลงั มา้ ) โดยทมี งานอกี คนสาธติ วธิ กี ารนงั่
คุณแม่: แม่เลือกแบบนั่งคร่อมดีกว่า ดูน่าจะมั่นคงไม่หล่นจากเบาะ ว่าแล้วคุณแม่อายุ
กว่า ๘๐ ปี ก็ก้าวขึ้นนั่งคร่อมเบาะมอเตอร์ไซค์หลังคนขับอย่างทะมัดทะแมง
ระยะทางเกือบ ๒ กิโลเมตร ถึงที่หมาย พร้อม ๆ กับทีมงานที่เดินเร็วเหมือนวิ่ง รับคุณแม่
ลงจากหลังมอเตอร์ไซค์ด้วยความห่วงใย
คุณแม่: เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้นั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์ สนุกดี แล้วท่านบอกขอบคุณคนขับ
(เจ้าของทัวร์) และกองเชียร์ทั้งหลาย ด้วยความเป็นกันเอง”
. 131 .
. .
หลังกลับมาจากเมียนมา คุณแม่เริ่มจะจำ�รายละเอียดไม่ค่อยได้ บอกเพียงว่าไปล่องเรือมา
คล้าย ๆ เพชรบุรีเพราะมีต้นตาลมาก อาการนี้ทำ�ให้เราเป็นกังวลเพราะปกติคุณแม่จะจำ�
ทุกรายละเอียดได้มากกว่าพวกเราทุกคนรวมกัน จึงได้หารือคุณหมอประดิษฐ์ ประทีปะวณิช
ผู้ที่ครอบครัวมอบความไว้วางใจหารือทุกเรื่องว่า เราควรพาคุณแม่ไปท่องเที่ยวต่อไปอีกหรือไม่
หากท่านเริ่มจำ�ความได้ไม่ดีนัก คุณหมอแนะนำ�ว่า ผู้ใหญ่ในวัยนี้จะ Live for the Moment
ขอเพยี งทา่ นไดม้ คี วามสขุ ความพอใจกบั สิง่ ทีไ่ ดพ้ บเหน็ ในขณะนัน้ อยา่ ไปคาดหวงั ใหม้ คี วามทรงจ�ำ
ที่ยาวนาน
คำ�แนะนำ�นี้ถือว่ามีคุณค่าต่อการตัดสินใจในระยะต่อมา เพราะเราก็ยังคงพาท่านท่องเที่ยว
ต่อไป
. 132 .
. .
การเดินทางแต่ละครั้ง ท่านจะไม่เป็นภาระ
ให้ใคร แต่จะมีความสุขในสิ่งที่พบเห็น ลองลิ้ม
รสอาหารแปลก ๆ ใหม่ ๆ พรอ้ มดืม่ และชนแกว้ ไวน์
กับคุณชาย และพร้อมร่วมทุกกิจกรรม
ทริปสุดท้ายที่ท่านได้ไปต่างประเทศ ได้พา
ทา่ นลอ่ งเรอื ส�ำ ราญพรอ้ มเพอื่ น ๆ คณุ แมจ่ ะตรวจสอบ
โปรแกรมการแสดงบนเรือ และการท่องเที่ยว
เมื่อถึงท่าเรือ โดยไม่ยอมพลาดสักรายการเดียว
แมว้ า่ บางครงั้ ไปชมกลบั มาแลว้ จะลมื และบน่ เสยี ดาย
ที่ไม่ได้ไปชม หรือไปเที่ยวมาทั้งวัน พอถึงห้อง
ก็จะปรารภว่าวันนี้อยู่ในห้องทั้งวันไม่ได้ไปไหนเลย
บางครั้งความจำ�ก็กลับคืนมาอย่างน่าอัศจรรย์ หน่องและอ้อน ไกด์กิตติมศักดิ์ที่ช่วยพา
ผู้สูงวัย ๓ คน ไปญี่ปุ่น เล่าว่า
“พฤษภาคม ๒๕๕๙ พีแ่ ดงอยากพาคณุ ปา้ ไปชมสวนดอกไมท้ ีญ่ ีป่ ุน่ เราไดม้ โี อกาสตดิ ตามไป
พี่อู๋ก็ได้บินจากอเมริกาไปเจอด้วย คุณป้าแข็งแรง เดินเก่ง คุณป้ามีมุกตลก คุณป้ายิ้มรับ
ทกุ สถานการณ์ สามารถคดิ ในแงม่ มุ ดี ๆ ไดเ้ สมอ คณุ ปา้ มคี วามสขุ มากเวลาไดช้ มดอกไมน้ านาพนั ธุ์
ในสวนสวย ๆ แม้บางแห่งร่วงโรยไปแล้ว เหลือเพียงเล็กน้อย คุณป้าก็ยังชื่นชม
อีกแห่งที่คุณป้าชอบมากคือภูเขาไฟฟูจิ โรงแรม
ที่พักอยู่ใกล้ บวกกับสภาพอากาศดี ทำ�ให้มองเห็น
ชดั มาก โดยเฉพาะตอนทานอาหารเชา้ คณุ ปา้ จะนัง่ มอง
อยา่ งชืน่ ชม เวลานัง่ รถมองเหน็ คณุ ปา้ จะบอกวา่ สวยจรงิ
ภูเขาตามเราไปทุกที่ หันไปทางไหนก็เจอ”
หลังจากกลับจากญี่ปุ่นแล้วหลายเดือน วันหนึ่ง
ท่านปรารภขึ้นว่า “เราไปไหนกันมาหรือ ทำ�ไม
แม่เห็นภาพภูเขาไฟฟูจิชัดเจนเหมือนได้ไปมา ทำ�ให้รู้สึก
สบายใจ” ทกุ คนฟงั แลว้ ขนลกุ ดว้ ยความปตี วิ า่ ทา่ นจ�ำ ได้
ทั้งเหตุการณ์และความสุขใจที่ได้รับครั้งนั้น
ก า ร เ ดิ น ท า ง จึ ง ไ ด้ ช่ ว ย ใ ห้ คุ ณ แ ม่ มี ค ว า ม สุ ข
กระตือรือร้น ที่จะได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ มีโอกาส
ทบทวนความทรงจำ� (บ่อยครั้งเมื่อไปในที่ไม่ค่อยคุ้นเคย
ท่านจะนั่งพินิจพิจารณา และถามในแต่ละวันว่าเราอยู่ที่สิงคโปร์ใช่ไหม ลอนดอนใช่ไหม
ปารีสใช่ไหม) ทั้งยังสามารถรำ�ลึกถึงความสุขใจในบางเหตุการณ์ได้นานกว่าที่เราคาดคิด
. 133 .
. .
Soft Power สไตล์ท่านผู้หญิงสุมาลี
คุณแม่มักจะเล่าเสมอ ๆ ว่ารู้ตัวว่าเป็นคนไม่สวย จึงตั้งใจตั้งแต่เด็กที่จะเป็นคนดีและเป็น
คนเก่ง เพื่อเสริมคุณค่าของตนเอง แต่ในความเป็นจริง คุณแม่ได้รับคำ�ยกย่องว่าเป็นผู้งดงาม
ตามวัยมาโดยตลอด และน้านี๊ดก็ยืนยันว่าคุณยายบอกเสมอว่า คุณแม่เป็นลูกสาวที่สวยที่สุด
ความงามของคุณแม่อาจมิใช่ความสวยแบบนางสาวไทย แต่น่าจะประมวลได้ว่าเป็นเสน่ห์
เฉพาะตัวของท่านที่ลอกเลียนได้ยาก ทั้งยังไม่ลดน้อยแต่กลับเพิ่มพูนตามกาลเวลา โดยจะขอ
ยกตัวอย่างบางเรื่อง
คณุ แมม่ คี วามงามทีเ่ ปน็ ธรรมชาต ิ ผสมผสานระหวา่ งกาย วาจา ใจ และสมองทีป่ ราดเปรือ่ ง
อย่างสอดคล้องลงตัว และต่อเนื่องจนสูงวัย ดูภาพคุณแม่ในช่วงชีวิตใดก็โดดเด่นทุกภาพทุกมุม
เริ่มจากการมีสุขภาพที่ดี การแต่งกายที่เหมาะสมกับตนเองและตามกาลเทศะ กิริยามารยาท
ที่สง่างามทุกอิริยาบถ การใช้วาจาที่สุภาพ มีสาระ และมีพลัง จิตใจที่เมตตากรุณา เห็นอกเห็นใจ
พร้อมให้ และสติปัญญาที่เฉียบแหลมพร้อมเรียนรู้อย่างไม่หยุดยั้ง จนมีความเพียบพร้อมของ
กุลสตรีไทยที่ได้รับการยอมรับให้เป็นผู้นำ�ในเวทีโลก
งามกาย คุณตุ๊ก (เตือนใจ พูนศิริวงศ์) เจ้าของกิจการเสริมความงามที่ดูแลคุณแม่หลายสิบปี
เคยเล่าให้ฟังว่า มีลูกค้ามาถามอยู่เนือง ๆ ว่า คุณแม่ทำ�ศัลยกรรมตกแต่งที่ใด ในความเป็นจริง
คุณแม่เป็นภรรยาศัลยแพทย์ที่ไม่เคยใช้มีดหมอเพื่อความงาม แต่จะให้ความสำ�คัญกับการรักษา
สขุ ภาพ การออกก�ำ ลงั กาย และความพถิ พี ถิ นั ในการดแู ลความสะอาดรา่ งกายอยา่ งไมข่ าดตกบกพรอ่ ง
ในบรรดาเพื่อน ๆ วัยเดียวกัน คุณแม่น่าจะเป็นคนแรก ๆ ที่ปล่อยให้ผมขาว แต่สามารถดูแล
ให้งามสง่าสะดุดตา จนเชื่อว่าได้จูงใจให้สุภาพสตรีวัยหกสิบปีขึ้นไปจำ�นวนไม่น้อยให้เลิกย้อมผมดำ�
และปล่อยสีผมให้เป็นธรรมชาติ
. 134 .
. .
คณุ แม่เป็นคนชา่ งแต่งตวั ไม่เน้นของราคาแพงเท่ากับความเหมาะสมกับบคุ ลิกและกาลเทศะ
ท่านจะเตรียมการล่วงหน้าเพื่อจัดหาชุดและเครื่องประดับที่เหมาะสม โดยเฉพาะการเดินทาง
จะเตรียมชุดให้เหมาะสมกับฤดูกาลและกิจกรรม ทั้งยังมีเทคนิคจัดกระเป๋าที่ทำ�ให้เสื้อผ้าแต่ละชุด
ไม่ยับ เพียงสะบัดออกและแขวนไว้ก็สวมใส่ได้ในวันต่อมา แต่คุณแม่ต้องยอมแพ้ไต๋ หลานชาย
เมื่อเดินทางไปเรือสำ�ราญและนอนห้องนอนเชื่อมต่อกัน เพราะไต๋สามารถแขวนเสื้อเชิ้ตทุกตัวในตู้
บนเรือได้อย่างเรียบร้อยรวดเร็วสมเป็นนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย
คุณแม่โชคดีที่มีคุณพรศรี ชุตินทรานนท์ เป็นที่ปรึกษาคนสำ�คัญที่จะนั่งหารือกันเป็นชั่วโมง
คุณแม่จึงมีเสื้อผ้าจำ�นวนมากที่ใช้ผ้าไทย ตัดเย็บอย่างประณีตแบบคลาสสิกที่ท่านสามารถใช้ต่อเนื่อง
ได้หลายปีโดยไม่ตกยุค และยังส่งต่อให้ลูกหลานได้ใช้ด้วย เมื่อคุณแม่เริ่มสูงวัย ท่านจะคำ�นึงถึง
ความสะดวกสบายและความปลอดภัยมากขึ้น เช่น ใช้ผ้าฝ้ายทอมือที่นุ่มสบาย ใส่ชุดแซ็กที่ช่วยให้
เคลื่อนไหวสะดวก แม้นจะยังไม่ชอบรองเท้าไม่มีส้นและหัวไม่แหลม แต่ก็ยอมใส่โดยไม่ยอม
เลือกซื้อเองโดยเด็ดขาด สำ�หรับเครื่องประดับจะใช้เฉพาะชิ้นเล็ก ๆ ไม่เปลี่ยนรายวัน
งามวาจา คณุ แมม่ พี รสวรรคท์ ัง้ ในการพดู และเขยี น สามารถอธบิ าย โนม้ นา้ ว ตรงึ ความสนใจ
สร้างความสนุกสนานด้วยมุกและอารมณ์ขันที่ใคร ๆ ก็คาดไม่ถึง ทั้งยังมีพลังสร้างแรงบันดาลใจ
ได้ทุกกรณีเพราะท่านมีนํ้าเสียงที่ไพเราะ พูดจานิ่มนวล ไตร่ตรองอย่างรอบคอบให้สิ่งที่พูดตรง
ประเด็น และเกิดผลในทางบวก
ไอ๋ (พิมชยาภา พหลโยธิน) หลานสาวรู้สึกปลาบปลื้มใจเมื่อได้รับคำ�ชมและกำ�ลังใจ
จากคุณป้า
“ในเรื่องการทำ�อาหารอย่างเช่น คุกกี้เนย หรือเมนูเจ้าหญิงนพเก้าที่ตกทอดมาตั้งแต่
คุณยายหญิงสอนแม่และแม่สอนหนูต่ออีกที ซึ่งคุณยายหญิงมักชมและให้กำ�ลังใจหนูเสมอเวลา
หนูทำ�อาหารอะไรก็ตาม ไม่ว่าจะของว่างอย่างตับบดหรือแกงจืดลูกรอกและอื่น ๆ ไปทานกัน
ในทุกวันอาทิตย์
คุณยายหญิงมักชมว่าหนูสวยเสมอ แม้ว่าคนอื่นไม่ชมซึ่งหนูรู้สึกได้ถึงความเอ็นดูที่ท่าน
มีต่อหนูและหลาน ๆ ทุกคน”
คุณแม่เป็นผู้ใหญ่ที่ตั้งใจรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ไม่ขัดคอแต่อาจเตือนหรือแนะนำ�บ้าง
หากเห็นว่าจะเป็นประโยชน์ ในแวดวงวิชาการท่านได้รับการยกย่องว่า มีความสามารถสูง
ในการประสานความคิดเห็นที่หลากหลายเพื่อไปสู่ข้อสรุปที่ทุกฝ่ายยอมรับได้และปฏิบัติได้จริง
จุดเด่นของคุณแม่ที่หาใครเทียบเทียมได้ยากคือ การกล่าวในที่สาธารณะในโอกาสสำ�คัญ ๆ
ทัง้ ในภาษาไทยและองั กฤษ เปน็ ทีท่ ราบกนั ดวี า่ ทา่ นสามารถกลา่ วปราศรยั ในเวทวี ชิ าการและกลา่ ว
อวยพรในโอกาสส�ำ คญั ๆ ไดอ้ ยา่ งงดงาม แตส่ ิง่ ทีเ่ หนอื ความคาดหมายของคนสว่ นใหญค่ อื เมือ่ ทา่ น
อายุใกล้ ๙๐ ปี ความสามารถนี้ยังดำ�รงอยู่อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
. 135 .
. .
ชว่ งหลงั เมือ่ ทา่ นไปรว่ มกจิ กรรมกบั ลกู สาวและเพือ่ น ๆ นอกจากจะพรอ้ มรว่ มสนกุ ทกุ ประเภท
แลว้ กอ่ นเลกิ รา เพือ่ น ๆ มกั ขอใหท้ า่ นอวยชยั ใหพ้ รโดยไมบ่ อกกลา่ วลว่ งหนา้ และยงั ขอรอ้ งใหแ้ ถม
การให้กำ�ลังใจเป็นพิเศษเป็นรายกรณี เป็นที่น่าอัศจรรย์ที่ท่านสามารถสนองตอบคำ�ร้องขอได้อย่าง
ไพเราะและครอบคลุม ท่านประดิษฐ์ รสิตานนท์ อดีตรองเลขาธิการคณะกรรมการอาชีวศึกษา
เล่าว่า
“เมื่อเกษียณอายุราชการแล้ว คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา ได้ชวนให้ร่วมเป็น
สมาชิกหลายกลุ่ม เมื่อมีกิจกรรม คุณหญิงจะเชิญท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช เดินทางไปร่วมด้วย
เสมือนเป็นญาติผู้ใหญ่ของสมาชิกในกลุ่ม
. 136 .
. .
ประทบั ใจทา่ นผหู้ ญงิ สมุ าลี จาตกิ วนชิ ในการกลา่ วใหโ้ อวาทและแสดงความยนิ ดใี นวาระตา่ ง ๆ
เมื่อคุณหญิงได้เชิญให้ท่านผู้หญิงให้โอวาทหรือแสดงความยินดี ท่านจะลุกขึ้นพูดอย่างมีสาระ
ให้ข้อคิด และหยอดมุกตลกให้ได้หัวเราะกันเสมอ สร้างความประหลาดใจอย่างยิ่ง ที่ท่านผู้หญิง
พูดได้ประทับใจในทุกโอกาส มีข้อมูลทันสมัยอยู่เสมอ แสดงให้เห็นถึงอายุเป็นเพียงตัวเลขสำ�หรับ
ท่านจริง ๆ”
เพื่อน วปรอ. ๔๐๑๐ ดร.เจือจันทร์ จงสถิตอยู่ เล่าว่า “ในการจัดกิจกรรมสังสรรค์บ้านพัก
นักศึกษา เพื่อสร้างความสัมพันธ์และกระชับมิตร คุณหญิงแดงได้พาท่านผู้หญิงมาด้วย ท่านได้ให้
ความเป็นกันเอง เมื่อพวกเราเชิญท่านกล่าวให้กำ�ลังใจในความเป็นเพื่อนของพวกเรา ท่านไม่รีรอ
ลังเล ท่านลุกเดินมาถือไมค์ (ความเป็นมืออาชีพในการพูดต่อสาธารณะ) พูดแสดงความรู้สึกที่เห็น
พวกเรามีไมตรีต่อกัน ท่านพูดคุยกับพวกเราอย่างอารมณ์ดี คุยสนุกสนาน และอำ�นวยพรให้พวกเรา
มีความสุข สุขภาพดี”
คุณสมบัติเหล่านี้ได้รับการส่งต่อมายังลูกหลานโดยไม่รู้ตัว เมื่อหลานชาย วิน (หม่อมหลวง
วรุตม์ วรวรรณ) ผู้ชอบพูดจาหยอกเย้าคุณยาย เริ่มมีผลงานในแวดวงสถาปัตยกรรม ต้องไป
เจรจางาน บรรยายหรือกล่าวปราศรัย จะมีวิธีการพูดที่สุภาพ ถ่อมตัว พร้อมรับฟังความคิดเห็น
แต่ชัดเจนและมั่นคงในหลักการพร้อมอารมณ์ขันเช่นกัน คุณยายเคยได้ชมคลิปที่วินไปบรรยาย
แล้วกล่าวด้วยความทึ่งระคนแปลกใจว่า “วินหรือนี่”
คุณแม่มีความสามารถในการเขียนไม่ยิ่งหย่อนกว่าการพูด คุณแม่จะเขียนจดหมายน้อย
สื่อสารความห่วงใย คำ�ขอบคุณ แสดงความปรารถนาดี ไม่ว่าจะเขียนถึงผู้ใหญ่หรือผู้น้อย คุณแม่
จะเขียนด้วยลายมือที่บรรจงสวยงาม และใช้กระดาษที่น่ารัก เพื่อให้เกียรติผู้รับทุกคน
คุณประภา กิจจะนะ ผู้ร่วมงานกับคุณแม่มากว่า ๓๐ ปี บันทึกความทรงจำ�ไว้ว่า
“ท่านผู้หญิงเป็นนายกสมาคม สปอท. ท่านแรกและเป็นเจ้านายท่านแรกในชีวิตการทำ�งาน
ท่านเป็นแบบอย่างของนักสังคมสงเคราะห์ตัวจริง ท่านเป็นปูชนียบุคคลของวงการสังคมสงเคราะห์
ทุกครั้งที่พบปัญหาในการทำ�งาน ภาจะนำ�คำ�ชื่นชมที่ท่านผู้หญิงเขียนให้มาอ่าน ทำ�ให้
มีพลังในการสู้ต่อไป ท่านคือที่สุดของชีวิตการทำ�งาน ความรัก ความเมตตา ความกรุณา
ที่ท่านมอบให้จะจดจำ�ไว้ตลอดไป”
ลกู สาวผูไ้ ดร้ บั จดหมายจากคณุ แมท่ กุ วนั ตลอดระยะเวลา ๗ ปี ทีเ่ รยี นอยูต่ า่ งประเทศกต็ ดิ นสิ ยั
เขียนจดหมายน้อย เพื่อนข้าราชการที่ทำ�งานด้วยกัน มักจะได้รับจดหมายคนละหลายสิบฉบับ
ต่อสัปดาห์ แต่ได้ผลต่างจากคุณแม่ เพราะจดหมายน้อยของลูกสาวจะเป็นจดหมายทวงงาน
และเร่งรัดงานที่มักไม่มีใครปลื้มที่จะได้รับ
. 137 .
. .
คุณแม่มีพรสวรรค์ในเรื่องการเขียนเพราะได้อ่านและผ่านประสบการณ์ชีวิตมามาก
เมื่อลูกสาวยังรับราชการ ท่านจะช่วยแก้ไขปรับปรุงหนังสือกราบบังคมทูลทุกฉบับด้วยการแก้ไข
เพียงหนึ่งหรือสองประโยคจะทำ�ให้หนังสือฉบับนั้นมีความไพเราะขึ้นอีกหลายเท่าตัว
จดุ เดน่ ของคณุ แมท่ ีย่ งั ความชืน่ ใจ ภาคภมู ใิ จมาสูผ่ ูร้ บั คอื บทกวใี นโอกาสตา่ ง ๆ เชน่ การตัง้ ชือ่
หลานทแี่ ตล่ ะคนถอื เปน็ มงคลและถนอมรกั ษาไวด้ ว้ ยความหวงแหน หรอื บทรอ้ ยกรองแสดงความยนิ ดี
ในโอกาสพิเศษ ดังที่ได้มอบให้ท่านผู้อำ�นวยการ กัลยาณีย์ สินสกุล
. 138 .
. .
งามกิริยาและอัธยาศัย
คุณแม่เป็นแบบอย่างของผู้มีกิริยามารยาทงดงามแบบไทย แต่สามารถปรับประยุกต์
ให้เหมาะสมในสถานการณ์ที่เป็นสากล ไม่ว่าจะอยู่ในที่สาธารณะหรือในที่ส่วนตัว จะประพฤติ
ปฏิบัติไม่แตกต่างกัน ทั้งยังสามารถสงบสติอารมณ์ได้เมื่อเกิดสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน ดังเช่น
เมื่อเดินทางไปญี่ปุ่นและเผชิญเหตุแผ่นดินไหว หน่องผู้ร่วมเดินทางเล่าว่า
“ระหว่างรับประทานอาหารเย็น ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหว ๖.๒ ริคเตอร์ ที่รู้สึกได้ชัดเจน
พวกเราต่างตื่นเต้น ตกใจ และมีอากัปกิริยาต่างกัน พี่ชาย (หม่อมราชวงศ์ชาญวุฒิ วรวรรณ)
บอกวา่ สนกุ ดี พีแ่ ดงเรยี กเชก็ บลิ ทนั ที แตค่ ณุ ปา้ ทานอาหารตอ่ อยา่ งสงบนิง่ ” แตผ่ ูเ้ ขยี นไมไ่ ดเ้ ลา่ วา่
อ้อน ภรรยาตนเองรีบรับประทานอาหารที่สั่งมาด้วยความเสียดาย และหน่องเองบันทึกวีดิโอ
เพื่อส่งให้ญาติมิตรได้ชม
ข้อเขียนจากลูกหลานทุกคนต่างสะท้อนให้เห็นว่า ได้เห็นแบบอย่างและได้รับการฝึกอบรม
บ่มนิสัยเรื่องมารยาทจากคุณแม่เพียงใด แต่คนที่เขียนได้ละเอียดจนเห็นภาพคงไม่พ้น บี (อัษฎา
อาทรไผท) ที่เล่าว่า
“แต่ก็มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ผมจำ�ได้ไม่ลืมเลือน คือ ช่วงนั้นผมติดรถคุณป้าออกไปข้างนอก
ในรถเก๋งซดี าน ผมนัง่ ขา้ งหลังคูก่ บั คุณป้า ด้านหนา้ มีตาแพนเป็นคนขบั ระหวา่ งรถติดผมเกิดงว่ ง
เลยเอาหัวพิงพนักแล้วหลับตานอน คุณป้าเรียกให้ตื่นทันที พร้อมสอนให้ดูว่ารถเรามีแต่กระจก
ล้อมรอบ คนข้างนอกมองเข้ามา เห็นเรานั่งหลับดูไม่มีสง่าราศี ให้ดูคุณป้านั่งสวยไม่หลับเลย
จากนั้นผมก็สังเกตและพบว่าในรถคุณป้าจะนั่งหลังตรงดูสง่าเสมอ ใครผ่านไปมา มองเข้ามาเห็น
ก็รู้สึกเลื่อมใส ส่วนผมนอนอ้าปากนํ้าลายไหล ใครมาเห็นก็คงพากันหัวเราะเยาะ”
ถา้ ใครได้อ่านหนงั สือเพยี งหนึ่งทะเลชีวิต ทีเ่ ป็นประวัตขิ องคุณแมใ่ นช่วง ๖๐ ปีแรกของชวี ิต
คงจะพอจำ�ได้ว่า สิ่งที่คุณแม่ได้สอนบีในวันนั้น ท่านได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์ตรงจาก
หม่อมกอบแก้ว อาภากร ณ อยุธยา ผู้ได้รับการยกย่องในสังคมไทยว่ามีความงดงามเป็นเลิศ
ในทุกอิริยาบถ เมื่อครั้งได้ร่วมคณะผู้แทนสภากาชาดไทยเดินทางไปช่วยผู้ประสบภัยพิบัติจาก
ภูเขาไฟปะทุที่บาหลี ได้ร่วมห้องนอนเดียวกัน จึงมีโอกาสได้เห็นแบบอย่างของการดำ�รงชีวิต
ที่ได้นำ�มาพัฒนาตนเองและถ่ายทอดสู่ลูกหลาน
ในความงามด้วยอัธยาศัย เราได้เล่าถึงการสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นด้วยไมตรีจิตให้เกิดขึ้น
ในบ้าน ในที่ประชุมและองค์กรต่าง ๆ แล้ว แต่มีสิ่งหนึ่งที่คุณแม่มีความพิเศษไม่เหมือนใครคือ
การรับของและให้ของ ท่านจะปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่จะไม่รับของที่มีมูลค่าสูง บ้านเราจึง
อุดมบริบูรณ์ไปด้วยของฝากที่เป็นผลไม้และของรับประทานที่คัดสรรเป็นอย่างดี หากเป็นการรับ
ของขวัญในโอกาสพิเศษ คุณแม่จะสอนให้พวกเราเปิดดูทันที ซึ่งบางครั้งพวกเราก็เคยสงสัยว่า
ดูจะเป็นการแสดงความกระตือรือร้นเกินเหตุหรือไม่ แต่ก็มักถือปฏิบัติตามความเหมาะสมเป็นราย
. 139 .
. .
กรณ ี หากคณุ แมเ่ ปดิ ของขวญั เอง ทา่ นจะแกโ้ บทีผ่ กู และกระดาษหอ่ อยา่ งประณตี มว้ นและพบั เกบ็
อย่างเรียบร้อยเพื่อนำ�ไปใช้ในโอกาสต่อไป ท่านจะแสดงความชื่นชมในสิ่งของที่ได้รับ หากเป็น
ของรับประทาน อ้อนเล่าว่าคุณแม่จะให้จัดมารับประทานทันที
คุณแม่มีจิตใจที่เปี่ยมด้วยความเมตตาพร้อมจะ “ให้” เสมอ การให้ของคุณแม่มิใช่การให้
ด้วยการมอบเงินมอบสิ่งของเท่านั้น แต่เป็นวิธีการให้ สิ่งของที่ให้ และความรู้สึกของผู้ได้รับ
คุณแม่จะมีเทคนิคที่ทำ�ให้ผู้รับรู้สึกชื่นใจและตระหนักว่าคุณแม่ตั้งใจเพียงใดที่จะมอบของ
ชิน้ นัน้ บางครัง้ จะแตง่ กลอนหยอกเยา้ หรอื มคี วามหมายสง่ ไปพรอ้ มกบั ของขวญั เชน่ กลอนทีส่ ง่ ไป
พร้อมกับเป้ให้ป้าแสง (แสงสุนี ลิ้มพงษ์) เพื่อนรักที่คบกันมากว่าแปดสิบปี
อิน๊ (อนิ ท์ ลิม้ มณวี จิ ติ ร) ศลิ ปนิ นกั รอ้ งและบณั ทติ หนุม่ สาขาจติ วทิ ยา สรา้ งความประหลาดใจ
เมื่อนำ�เสนอภาพของขวัญที่ได้รับจากคุณป้าเมื่อเด็ก ๆ พร้อมข้อเขียนว่า
“ตั้งแต่ยังเด็ก คุณยายเป็นแบบอย่างให้ผมได้เห็นถึงการพูดในที่สาธารณะ การกินอยู่แบบ
เรียบง่าย ใช้เงินอย่างคุ้มค่า และการเป็นหัวหน้าครอบครัวที่มอบความรักให้กับทุกคนในครอบครัว
ได้อย่างครบถ้วน
. 140 .
. .
ครั้งหนึ่งคุณยายเคยมอบ “เงินม้วน” ที่คุณยายเรียกว่าดอกไม้ ให้เป็นของขวัญวันเกิด
ซึ่งเป็นธนบัตรหลากหลายแบบม้วนรวมกันเป็นจำ�นวน 500 บาท ที่คุณยายทำ�ขึ้นมาเอง เป็น
การสร้างสรรค์สิ่งที่พิเศษจากสิ่งธรรมดา และเป็นเงินขวัญถุงที่เก็บมาจนถึงทุกวันนี้”
หลานสาว ฟิล์ม (อัญจิฎา กรรณสูต) และแฟร์ (ภัทริณี กรรณสูต) สองนักธุรกิจสาวสวย
และโซดา (นภกร วรวรรณ ณ อยุธยา) เหลนสาว ต่างจำ�ความสุขเมื่อได้รับของขวัญจากคุณยาย
และคุณชวดได้ดี
“คุณยายหญิง เป็นที่เคารพรักของผู้คนมากมาย และเป็นต้นแบบให้กับลูก-หลานทุกคน
สำ�หรับฟิล์ม-แฟร์ คุณยายหญิงทำ�ให้เราเห็นความสำ�คัญของการ “ให้และแบ่งปัน”
นอกจากงานการกุศลต่าง ๆ ที่คุณยายได้ทำ�ไว้ และความรัก ความอบอุ่น ที่คุณยายมีให้ คุณยาย
ยังคอยให้ความรู้ เวลาคุณยายเล่าเรื่องหรือทำ�อะไรก็มักจะมีคำ�สอนแฝงอยู่ด้วยเสมอ ไม่ว่าจะเป็น
ความรู้ต่าง ๆ รวมไปถึงเรื่องกิริยามารยาท ซึ่งเป็นสิ่งสำ�คัญที่ฟิล์ม-แฟร์ ได้เรียนรู้จากคุณยาย
ตั้งแต่ยังเล็ก และนำ�มาปรับใช้ในชีวิตประจำ�วันมาจนถึงทุกวันนี้
. 141 .
. .
ตั้งแต่เล็ก ช่วงปิดเทอมหรือวันหยุด ฟิล์ม-แฟร์จะตื่นเต้นกับการไปเล่นที่บ้านเพชรบุรีทุกครั้ง
นอกจากจะไดเ้ ลน่ กบั นอ้ งออน นอ้ งเอนิ และไดท้ านอาหารอรอ่ ย ๆ แลว้ เรากจ็ ะดใี จทกุ ครัง้ ทีไ่ ดเ้ จอ
คุณยาย เพราะรู้ว่าคุณยายจะมีของขวัญในตู้ข้างเตียงให้ฟิล์ม แฟร์ ออน เอิน จับสลากเลือกเสมอ
อีกสิ่งที่สำ�คัญที่คุณยายได้ให้กับเราทั้งสองคนก็คือชื่อจริงที่คุณยายได้แต่งจากความรัก
และความตั้งใจของคุณยาย ความรักของคุณยายจะอยู่ในใจฟิล์ม-เเฟร์ตลอดไปค่ะ”
. 142 .
. .
ส่วนโซดาจะเล่าถึงความตื่นเต้นเมื่อเข้าไปในห้องคุณยายที่จัดไว้อย่างสวยงาม เป็นระเบียบ
โดยคุณแม่จะจัดของพิเศษไว้มอบให้ โซดายังจดจำ�ได้ไม่ลืมว่าเคยขอและได้รับขวดแก้วเจียระไน
สีแดงที่ดูมีค่ามากจากคุณชวด
ไอ๋ (พิมชยาภา พหลโยธิน) หลานสาวในแวดวงการแสดงและการบันเทิง เห็นคุณค่าของ
การ “ให้โอกาส” ของคุณยาย
“คุณยายหญิงเป็นผู้ใหญ่ที่เมตตาต่อทุก ๆ คน เป็นศูนย์รวมและความอุ่นใจของลูกหลาน
หลายสิ่งหลายอย่าง เช่น การไปดูโขนที่หนูก็ได้ไปดูกับคุณยายหญิงหลายต่อหลายครั้งจนชอบมาก
คุณยายหญิงทำ�ให้ลูกหลานมีกิจกรรมสนุก ๆ ร่วมกันเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการพบกันตามปกติ
ทุกวันอาทิตย์ หรือโอกาสพิเศษ เช่น สงกรานต์ ลอยกระทง ปีใหม่ ทำ�ให้ทุกคนในครอบครัวใหญ่
ได้ทำ�อะไรที่สนุกและสร้างสรรค์ด้วยกัน”
ส่วนต้นไทร (พหลพลพยุห พหลโยธิน) หลานชายเล่าถึงบรรยากาศการรับประทานอาหาร
ทีท่ ุกคนพดู กันเซ็งแซ่ แต่เมื่อใดคณุ แมเ่ คาะแกว้ เปน็ สัญญาณวา่ มเี รือ่ งส�ำ คญั จะประกาศต่อทีป่ ระชุม
ทุกคนจะหยุดฟัง ต้นไทรได้รับการประกาศเกียรติคุณในห้วงเวลาที่สำ�คัญนี้หลายครั้ง เมื่อสอบ
ได้ที่หนึ่ง หรือเมื่อชนะแข่งขันกีฬา แต่สิ่งที่ตามมาคือ การถูกเชิญให้กล่าวตอบ ต้นไทรเล่า
ความรู้สึกว่า
“When I got a glass knocked by Khun Yai Ying to share my experience with
everyone on the dinner table, I was shy and not good at public speaking in front of my
family members but she always cheered me up and helped me get through
the moment. These memories from her kindness and thoughtfulness keep
the Yuktasevi together.”
. 143 .
. .
ส่วนกัปตัน (อุปพร กรรณสูต) ผู้ใช้ชีวิตต่างประเทศตั้งแต่วัยเยาว์ กล่าวยกย่องคุณสมบัติ
พิเศษเหล่านี้ของคุณแม่ ด้วยความหวังว่าเป็นแบบอย่างให้ลูกสาวไว้ว่า
“You are kind and polite all the time, yet strong. You are definitely the role
model I wish for my daughters-quiet yet strong.”
เมื่อได้ยินเรื่อง Soft Power และมีผู้ให้ความหมายไว้ในหลายมิติ พอสรุปได้ว่า
เป็นความสามารถในการโนม้ นา้ วให้คนเปลี่ยนพฤตกิ รรมและเกดิ การมสี ว่ นรว่ มโดยไม่ตอ้ งบงั คับขูเ่ ขญ็
หรือให้อามิสสินจ้างใด ๆ ดิฉันนึกถึงเหตุการณ์หนึ่งเมื่อ ๖๐ ปีมาแล้วขึ้นได้ในทันที เมื่อคุณแม่
พาลกู สาววยั รุน่ ไปดฟู ตุ บอลทีส่ นามศภุ ชลาศยั วนั นัน้ มผี ูเ้ ขา้ ชมลน้ หลามจนเบยี ดเสยี ดกนั ระหวา่ ง
ที่ทุกคนเชียร์บอลอย่างเมามัน คุณแม่เป็นคนเดียวที่หันหลังให้สนามบอลเพื่อจัดระเบียบคนชมบอล
จำ�ไม่ได้ว่าคุณแม่พูดว่าอย่างไร แต่จำ�ได้ว่าความอายที่เกิดขึ้นในวูบแรก เปลี่ยนเป็นความทึ่ง
ที่ผู้คนที่นั่งอยู่รอบข้างยิ้มอย่างเอ็นดูปนขบขัน ยอมรับ และให้ความร่วมมือกับคุณแม่ด้วยดี
ปรากฏการณเ์ ชน่ นี้ เกดิ ขึน้ ใหเ้ หน็ ตลอดชวี ติ ทีผ่ า่ นมาทีค่ ณุ แมไ่ ดใ้ ชค้ วามสภุ าพ ความออ่ นโยน
ความจรงิ ใจ ความอดทน ความมุง่ มัน่ ตอ่ ประโยชนส์ ว่ นรวม ท�ำ งานทีย่ ากใหส้ �ำ เรจ็ ไดท้ ัง้ งาน ไดท้ ัง้ คน
ท�ำ ใหน้ กึ เสมอวา่ คณุ แม่ สภุ าพสตรไี ทยวยั ๙๐ ปขี องเรานา่ จะเปน็ ผูห้ นึง่ ทีม่ พี ลงั แฝง “Soft Power”
อยู่ในตัวในรูปแบบที่อาจอยู่นอกตำ�ราใด ๆ
ต่อเมื่อได้ฟังพระธรรมเทศนาของพระเดชพระคุณพระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมฺมจิตฺโต)
เมื่อวันที่ ๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ จึงเกิดความแจ้งประจักษ์ว่า คุณแม่ “ได้ดำ�เนินชีวิต
ตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา จึงมีภาวะผู้นำ�แบบธรรมวิชัย คือ จูงใจคนด้วยอำ�นาจนุ่ม
และสามารถบริหารชีวิตให้เป็นประโยชน์ไพศาลแก่ประเทศชาติ พระศาสนา และสถาบัน
พระมหากษัตริย์”
. 144 .
. .
เชื่อใจ ไว้วางใจคุณหมอ
โดยทัว่ ไปแลว้ คณุ แมเ่ ปน็ ผูม้ สี ขุ ภาพแขง็ แรง ไมม่ โี รคประจ�ำ ตวั ใด ๆ และเปน็ ทีพ่ ึง่ ของทกุ คน
ในบ้านยามเจ็บป่วย ทั้งการติดต่อแนะนำ�แพทย์ที่ควรไปพบ การเฝ้าไข้ และติดตามดูแลใกล้ชิด
น้านี๊ด (สุพัฒนา อาทรไผท) ระลึกถึงความห่วงใยที่ได้รับจากคุณแม่เมื่อไปผ่าตัดหลอดเลือดสมอง
“พีอ่ อ๊ ดจะไปเยีย่ มเฝา้ ดอู าการดว้ ยความหว่ งใย และยงั มอี าหารไปฝากคนเฝา้ ไขอ้ กี ดว้ ย ทัง้ ไดก้ ลา่ ว
กับสามีดิฉันว่า น้องสาวของพี่ จะทำ�ทุกอย่างให้น้องของพี่หายป่วย” น้านี๊ดเชื่อว่าความรัก
ความเอาใจใส่จากพี่สาวทำ�ให้ตนเองหายเป็นปกติในระยะต่อมา ส่วนวินหลานชายอบอุ่นใจ
เมื่อมีอาการเจ็บปวดหลังต้องรับการผ่าตัดว่าคุณยายมาเฝ้าที่โรงพยาบาลตามลำ�พังจนดึกดื่น
ระหว่างรอเข้าสแกน MRI
คณุ แมเ่ องเคยเจบ็ ปว่ ยอยา่ งนา่ หว่ งใยหลายครัง้ เชน่ เคยโดนแมงกะพรนุ ไฟทีห่ วั หนิ ถงึ สองครัง้
มีรอยแผลเป็นทางยาวพาดแขนและขา เคยเป็นงูสวัดที่เจ็บปวดทรมานหลายเดือน และเคยหกล้ม
ข้อเท้าหักหลังจากไปเยี่ยมโครงการต่างจังหวัด
คุณแม่เริ่มมีอาการโรคความดันโลหิตและไขมันในหลอดเลือดสูงเมื่ออายุหกสิบกว่าปี
และเข้ารับการรักษากับศาสตราจารย์ นายแพทย์ศุภชัย ไชยธีระพันธ์ เพื่อนร่วมงานของคุณพ่อ
ทีโ่ รงพยาบาลศิรริ าช ต่อมาใน พ.ศ. ๒๕๔๗ ระหว่างเป็นเจ้าภาพใหญเ่ ตรียมการจัดประชมุ คณุ แม่
มีอาการแน่นหน้าอกต้องรับเข้าผ่าตัดด้วยโรคหลอดเลือดหัวใจ หลังจากนั้นก็แข็งแรงดี แต่เริ่มมี
อาการหลงลืมอยู่บ้างจึงเข้ารับการรักษากับรองศาสตราจารย์ แพทย์หญิงวรพรรณ เสนาณรงค์
จวบจน พ.ศ. ๒๕๕๘ หลงั การฉลองอายคุ รบ ๘๔ ปี ไดเ้ พยี งเดอื นเดยี ว ทา่ นเกดิ อาการแนน่ หนา้ อก
อีกครั้ง ได้รับการตรวจวินิจฉัย โดยศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์ประดิษฐ์ ปัญจวีณิน
และได้รับการผ่าตัดหลอดเลือดหัวใจครั้งที่สอง หลังจากนั้น ก็สามารถใช้ชีวิตได้เป็นปกติ
. 145 .
. .
ใน พ.ศ. ๒๕๖๔ ซึ่งเป็นปีที่ท่านจะมีอายุครบ ๙๐ ปี ช่วงต้นปี ท่านยังพบปะญาติมิตร
หลายกลุ่มเพื่อถ่ายทำ�วีดิทัศน์ แต่ในเดือนเมษายน ท่านเริ่มมีอาการอ่อนแรง มักจะผ่อนลมหายใจ
ทางปาก เมื่อสอบถาม ท่านจะตอบว่าหายใจทางปากแล้วรู้สึกสบายดี จวบจนเดือนพฤษภาคม
เมื่อท่านเริ่มซึมและความดันโลหิตตํ่า ต้องเข้ารับวินิจฉัย และใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจที่โรงพยาบาล
ศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ตลอดปีนั้น ท่านมีอาการหลงลืมมากขึ้นและมีอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ
ที่ทำ�ให้ต้องเข้ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลเป็นระยะ ๆ
ไม่ว่าจะป่วยด้วยโรคอะไร คุณแม่จะมีความอดทน ไม่โวยวาย แต่จะเต็มใจและไม่รีรอ
ไปพบแพทย์ พร้อมทำ�ตามคำ�แนะนำ�โดยไม่เกี่ยงงอนต่อรองใด ๆ หากได้ไปพบผู้ที่คุ้นเคยระหว่าง
นั่งรอพบแพทย์ ก็จะอารมณ์ดีชวนคุยอย่างสนุกสนาน และบางครั้ง ตามคำ�บอกเล่าของคุณหญิง
ชวลี อมาตยกุล ชวนกันร้องเพลงในบริเวณพักคอยด้วยเหตุผลว่าเป็นการช่วยฟื้นฟูความทรงจำ�
เมื่อท่านเริ่มมีการสูญเสียการได้ยิน ท่านยินดีไปรับการตรวจรักษา และพร้อมใส่เครื่องช่วยฟังด้วยดี
จะมบี น่ บา้ งเมือ่ เหลน ๆ พาสนุ ขั มาเลน่ ทีบ่ า้ นและสง่ เสยี งดงั ท�ำ ใหเ้ สยี งกอ้ งในหู ตอ้ งปรบั ระดบั เสยี ง
ในเครื่องลง
เวลาอยู่บ้าน ท่านจะดูแลตัวเองอย่างดี วัดความดันด้วยตนเองและจดบันทึกอาการต่าง ๆ
อยา่ งละเอยี ดพรอ้ มเหตกุ ารณท์ ีเ่ กดิ ขึน้ ในแตล่ ะวนั ดว้ ยลายมอื บรรจงทีง่ ดงามในสมดุ บนั ทกึ ประจ�ำ ปี
ที่ได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ
สยามบรมราชกุมารีทั้งยังเฝ้าระวังสังเกตการเปลี่ยนแปลงในตัวเอง โดยเฉพาะความหลงลืมที่ท่าน
ค่อย ๆ ตระหนักโดยไม่ตระหนกว่ากำ�ลังเกิดขึ้น ปกติท่านจะสมัครใจเดินขึ้นลงบันไดในบ้าน
ซึ่งสูงชันพอสมควร แต่ยามรู้สึกไม่สบายจะเลือกลงลิฟต์โบราณที่ติดตั้งสมัยคุณพ่อป่วย
เวลาไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลศิริราช คุณแม่จะรู้สึกอบอุ่นใจและไว้วางใจเป็นพิเศษ
เพราะได้พบลูกศิษย์หรือเพื่อนร่วมงานของคุณพ่อที่ท่านคุ้นเคย แม้ระยะหลัง ท่านเหล่านั้น
จะเกษียณอายุราชการไปแล้วแต่ก็ยังสามารถเชื่อมโยงความไว้เนื้อเชื่อใจไปสู่รุ่นต่อ ๆ มา
เมื่อเตรียมการผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนหลอดเลือด พ.ศ. ๒๕๕๘ คุณหมอได้มาอธิบายให้ท่าน
ทราบว่าจะผ่าตัดอย่างไรโดยละเอียด เพื่อให้ท่านคลายกังวล คุณแม่ตอบเพียงสั้น ๆ ว่าดิฉัน
เป็นภรรยาหมอทำ�ตามที่คุณหมอเห็นควร
เมื่อเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล คุณแม่จะไม่จู้จี้ในเรื่องห้องพัก อาหาร หรือบริการใด ๆ
ทั้งพร้อมรับประทานอาหารและยาตามแพทย์สั่ง ก่อนสถานการณ์โควิด ท่านพอใจที่จะเข้าพัก
ในตึกทั่วไปของโรงพยาบาลศิริราช โดยไม่ขอห้องที่พิเศษไปจากปกติ ต่อเมื่อมีสถานการณ์โควิด
ทา่ นจงึ เขา้ รบั การรกั ษาทีโ่ รงพยาบาลศริ ริ าช ปยิ มหาราชการณุ ย ์ ระหวา่ งรกั ษาตวั ทา่ นจะใหเ้ กยี รติ
คุณหมอและพยาบาล พูดจาไพเราะ กล่าวคำ�ขอบคุณและให้ความร่วมมือด้วยดี ยกเว้นเมื่อร่างกาย
เข้าสู่ภาวะวิกฤติ ท่านจึงจะมีอาการกระสับกระส่ายอย่างชัดเจน
. 146 .
. .
.
ในช่วงหลังท่านมีอาการไม่อยากเคี้ยว
ไม่ยอมเปิดปากรับประทานอาหาร บางครั้ง
เมื่อต้องทานยาหลาย ๆ เม็ดพร้อมกัน จะต่อรอง
ไม่ทานยา โดยอ้างว่า “ยาเม็ดเล็กเท่าขี้ตาแมว”
และแอบซ่อนยาไว้ใต้ลิ้น นัยว่าไม่น่าจำ�เป็นเว้นบ้าง
ก็ได้ พี่เลี้ยงก็ยังสามารถเกลี้ยกล่อมให้ยอมดื่มนม
ทานอาหารเสริมและทานยาที่บดละเอียด
ระหว่างรักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช
ปิยมหาราชการุณย์รอบสุดท้าย เราไม่มีโอกาส
พบท่าน ได้แต่ส่งภาพและการ์ดไปเยี่ยมท่าน
ในช่วงแรกท่านยังยิ้มหัวเราะกับการ์ดและ
บทกวีที่ลูกหลานและเพื่อน ๆ ส่งไปเป็นกำ�ลังใจ
ให้ท่านและชมวิวแม่นํ้าจากห้องพัก เมื่อท่าน
ตอ้ งยา้ ยไปหอ้ ง ICU และ CCU เราจะไดร้ บั ขา่ วสาร
จากคุณหมอและพยาบาลทุกวัน บางครั้งมากกว่า
หนึ่งครั้ง ช่วงใดที่ท่านมีอาการดีขึ้น พวกเรา
จะดีใจ เตรียมต้อนรับท่านกลับบ้าน แต่ไม่ช้านาน
ก็ได้ข่าวภาวะแทรกซ้อนใหม่ ๆ และความพยายาม
ของแพทย์ที่จะแก้ปัญหาในสภาวะวิกฤติที่ถี่มากขึ้น
ในช่วงสัปดาห์สุดท้าย คุณหมอเริ่มให้เรา
เตรียมตัดสินใจบางประการที่ยากยิ่ง ลูกและหลาน
ต้องไปกราบขอคำ�แนะนำ�จากพระเดชพระคุณ
พระเทพญาณวิศิษฏ์ ซึ่งท่านได้ช่วยให้เข้าใจ
สภาวะความเป็นจริงและหาทางเลือกที่สมดุล
ระหว่างหลักวิชา ความประสงค์ของคุณแม่ และ
ความปรารถนาของพวกเราที่ปรารถนาให้คุณแม่
เจ็บปวดน้อยที่สุด
. 147
. .
สุดท้ายเมื่ออาการของท่านทรุดลงอย่างต่อเนื่อง คุณหมอจึงอนุญาตให้เข้าไปเตรียม
กราบอำ�ลาท่าน ลูกและหลานจึงได้เห็นท่านนอนสงบนิ่งพร้อมเครื่องช่วยทางการแพทย์รายล้อม
เราสองคนได้มีโอกาสประคองมือของท่านไว้และสวดมนต์ให้ท่านฟังแบบตะกุกตะกัก แต่คิดว่า
ท่านคงรับรู้บ้าง เพราะความดันโลหิตที่กำ�ลังลดลงตามลำ�ดับเริ่มกระเตื้องสูงขึ้นสักระยะ
และกลับลดลงจนไม่ขยับอีกต่อไป เป็นการจากไปด้วยความสงบงามตามวิถีของท่านผู้หญิงสุมาลี
จาติกวนิช อย่างแท้จริง
ความรู้สึกขณะนั้นมีทั้งความใจหาย โศกเศร้า และอาลัยที่สูญเสียผู้ที่เปรียบเสมือนดาวฤกษ์
ส่องแสงจรรโลงชีวิตของพวกเราตลอดมา ควบคู่ไปกับความรู้สึกผ่อนคลายที่ท่านไม่ต้องทนทุกข์
ทรมานอีกต่อไป เมื่อคุณพยาบาลถอดเครื่องช่วยชีวิตทั้งปวง และได้เห็นคุณแม่ในสภาพที่เรา
คุ้นชินตลอดชีวิต เราจึงเกิดความมั่นใจว่าท่านได้ไปสู่ความสงบสุขอย่างแท้จริงแล้ว
การเตรียมงานในระยะต่อมาค่อย ๆ กระจ่างชัดขึ้น แม้นคุณแม่จะไม่ได้สั่งอะไรไว้เลย
เราต่างทราบดีว่าท่านมีความประสงค์เช่นใด นั่นคือ งานที่งดงาม มีเกียรติ ไม่หรูหรา ฟุ่มเฟือย
เปิดโอกาสให้เพื่อนฝูงญาติมิตรได้รํ่าลาท่าน และท่านได้กลับบ้าน แม้นจะเป็นโจทย์ที่ยาก
ในสถานการณ์โควิด แต่เมื่อเหลียวมองรอบกาย ก็ได้เห็นแสงสว่างจากคุณป้า คุณน้าที่รู้ใจคุณแม่
ลูกหลาน ญาติสนิทมิตรสหาย ที่ได้เติบโตจากแสงแห่งดาวฤกษ์ของคุณแม่
คุณแม่ได้ทุ่มเททั้งชีวิตของท่านเพื่อเตรียมพวกเราให้เข้มแข็งพอที่จะพึ่งตนเอง ดูแลครอบครัว
และทำ�ประโยชน์แก่สังคม การจากไปของท่านได้ยํ้าเตือนให้เราเกิดความสำ�นึกว่าแสงแห่งความรัก
ความรู้ และความรบั ผดิ ชอบ ทีเ่ ราตา่ งไดร้ บั จากทา่ นนัน้ ตอ้ งสง่ ผา่ นตอ่ ไปยงั ลกู หลาน และรวมพลงั กนั
เพื่อสืบทอดและส่งต่อแสงแห่งดาวฤกษ์จากท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช ไปสู่สังคม ดังที่ท่าน
ได้ทำ�เป็นแบบอย่าง
. 148 .
. .
ไม่ว่าจะทิวาหรือราตรี
เหมือนแม้นมีดาวฤกษ์หนึ่งซึ่งแสงฉาย
เป็นแบบบทบันดาลใจใครมากมาย
กะพริบพรายเพื่อผองเราหลายเหย้าเรือน
ลูกหลานเหลนญาติสนิทชิดใกล้ห่าง
นภากว้างแสงส่องไกลหาใดเสมือน
สืบสานรักมิตรศรัทธามิราเลือน
กอปรธุรกิจจิตดุจเพื่อนร่วมแรมทาง
วารสูงวัยเป็นไปคล้ายวัยฝัน
กุศลการนานอนันต์สรรสะสาง
บารมีบ่มบุญหนุนละวาง
งามสงบสบสว่างกลางสรวงเทอญ
ปราณี ปราบริปู
ประพันธ์ในนามของลูก หลาน และเหลน
ของท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช
.
149 .
. .
. 150 .
. .
ด้วยความคิดถึง
. 151 .
. .
ด้วยความอาลัย
การถึงแก่อนิจกรรมของท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช มารดาของคุณหญิงกษมา วรวรรณ
ณ อยธุ ยา นบั เปน็ การสญู เสยี บคุ ลากรทีส่ �ำ คญั และมคี า่ ของประเทศ เพราะทา่ นไดท้ ุม่ เทและอทุ ศิ ตน
ทั้งกำ�ลังกาย สติปัญญา และทุนทรัพย์ เพื่อกิจการสาธารณประโยชน์มากมายทั้งในด้านสาธารณสุข
การศึกษา และการพัฒนาเด็ก เยาวชนและสตรี ตลอดช่วงชีวิต ทั้งทางตรงและผ่านมูลนิธิต่าง ๆ
ข่าวการถึงแก่อนิจกรรมของท่าน นอกจากจะสร้างความเศร้าสลดและเสียใจแก่บุตร หลาน เหลน
ญาติสนิทมิตรสหาย บุคคลทั่วไปแล้ว ยังสร้างความเศร้าเสียใจและอาดูรอาลัยของเพื่อน ๆ
ลูกชาว วปรอ. ๔๐๑๐ ต่อการจากไปของท่านสู่อีกภพภูมิ ไม่แพ้ญาติมิตรและบุคคลอื่น ๆ เช่นกัน
พวกเรา วปรอ. ๔๐๑๐ เป็นนักศึกษาร่วมรุ่นกับคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา
ธิดาคนเดียวของท่าน ทำ�ให้มีโอกาสใกล้ชิดสนิทสนมกับท่าน ซึ่งท่านได้ให้ความรัก ความเอ็นดู
ความเมตตาดั่งเป็นลูกหลานท่านด้วย เราได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ และมีความประทับใจจากการที่ท่าน
ได้เข้าร่วมกิจกรรมของเพื่อน ๆ ลูกรุ่น วปรอ. ๔๐๑๐ ในหลายโอกาส อาทิ
กิจกรรมการจัดทำ�ทำ�เนียบรุ่น วปรอ. ๔๐๑๐ ฉบับพกพา ที่มีคุณหญิงกษมา
(คณุ หญงิ แดง) เปน็ ประธานวชิ าการรบั ผดิ ชอบการด�ำ เนนิ การจดั ท�ำ และมคี ณะท�ำ งานทีอ่ าสาสมคั ร
มาช่วยงานจำ�นวนไม่น้อย คุณหญิงแดงได้เปิดบ้านทั้งที่ซอยต้นสนและบ้านของท่านผู้หญิงแม่
ที่ท่านอนุญาตให้ใช้เป็นสถานที่จัดประชุม ในการประชุมเพื่อดำ�เนินการ ท่านผู้หญิงมาคอย
ให้กำ�ลังใจ สร้างบรรยากาศแบบสบาย ๆ และอบอุ่นโดยไม่มีช่องว่างระหว่างวัย ทั้งให้ความเอ็นดู
พวกเราเหมือนลูกเหมือนหลาน และยังกรุณาจัดเลี้ยงอาหารอีกด้วย
ในการปิดเล่มทำ�เนียบรุ่นซึ่งต้องประชุมดำ�เนินการ พวกเราได้รับความอนุเคราะห์จาก
ดร.พรรณประภา อินทรวิทยนันท์ (ดร.แจ๋) เพื่อนร่วมรุ่น ให้ใช้สถานที่คลับเฮาส์และบ้านพัก
ทีส่ นามกอลฟ์ อโยธยา ลงิ ค์ สนามกอลฟ์ ทีม่ ชี ือ่ เสยี งตดิ อนั ดบั โลก ตัง้ อยูท่ ีจ่ งั หวดั พระนครศรอี ยธุ ยา
ซึ่ง ดร.แจ๋ เจ้าของสถานที่ได้ต้อนรับจัดอาหารเลี้ยงดูเป็นอย่างดีทั้งอาหารกลางวันและอาหารเย็น
มเี พอื่ นไปรว่ มกจิ กรรมจดั ท�ำ ท�ำ เนยี บรนุ่ มากหนา้ หลายตา รวมผสู้ มทบออกรอบ ในการนี้ คณุ หญงิ แดง
ไดเ้ ชญิ ชวนทา่ นผูห้ ญงิ แมไ่ ปรว่ มกจิ กรรม ซึง่ ทา่ นยนิ ดไี ปรว่ มดว้ ย ระหวา่ งประชมุ ท�ำ งาน ทา่ นไดน้ ัง่
เป็นกำ�ลังใจให้แก่ทีมงานตั้งแต่เช้าจนจรดเย็นอย่างอดทน ยิ้มแย้ม แจ่มใส เมื่อประชุมเสร็จสิ้น
ก่อนรับประทานอาหารเย็น เราได้มีโอกาสเดินชมบรรยากาศของสนามกอล์ฟ อโยธยา ลิงค์
อันเขียวชอุ่มใกล้ริมนํ้า ซึ่งเป็นสถานที่ที่เราได้สนุกสนานเฮฮากัน ทั้งนั่ง ทั้งนอน ทั้งกระโดด
โลดเต้นบนสนามที่น่าตื่นตา และที่ประทับใจอย่างยิ่งยวดคือ ท่านผู้หญิงได้ร่วมกิจกรรมนี้
อย่างสนุกสนานเบิกบาน เมื่อคณะตัดสินใจกระโดดสูงเพื่อจับภาพเคลื่อนไหว ท่านก็กระโดดด้วย
และสามารถกระโดดได้สูงกว่าหนุ่มสาวบางคนที่อายุน้อยกว่าท่าน แม้ว่าท่านจะมีอายุ ๘๐ ปี แล้ว
. 152 .