ประกาศโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอปุ ถมั ภ์)
เร่อื ง ใหใ้ ช้หลกั สูตรโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอุปถมั ภ์) พุทธศักราช 2565
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พุทธศักราช 2560)
………………………………….
ตามที่โรงเรียนนาจะหลวย (กรป.กลางอุปถัมภ์) ได้ประกาศใช้หลักสูตรโรงเรียนนาจะหลวย
(กรป.กลางอุปถัมภ์) พุทธศักราช 2553 โดยเริ่มใช้หลักสูตรดังกล่าวกับนักเรียนทุกระดับช้ันในปีการศึกษา
2553 ต่อมาในปีการศึกษา 2558 โรงเรียนนาจะหลวย (กรป.กลางอุปถัมภ์) ได้เพิ่มรายวิชาเพิ่มเติมเพื่อให้
สอดคล้องรับกับนโยบายเร่งด่วนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อให้ผู้เรียนพัฒนาทักษะ
กระบวนการคิด วิเคราะห์ มีเวลาในการทากิจกรรมเพ่ือพัฒนาความรู้ ความสามารถและทักษะ การปลูกฝัง
คุณธรรมจริยธรรม การสร้างวินัย การมีจิตสานึกรับผิดชอบต่อสังคม ยึดมั่นในสถาบันชาติศาสนา
พระมหากษัตริย์ และมีความภาคภูมิใจในความเป็นไทย ตลอดจน การเรียนการสอนในวิชาประวัติศาสตร์และ
หน้าท่ีพลเมือง รวมถึงการสอนศีลธรรมแก่นักเรียน โรงเรียนนาจะหลวย (กรป.กลางอุปถัมภ์) ได้ดาเนินการ
ปรับปรุงพฒั นา หลกั สตู รสถานศึกษาเป็นหลักสูตรโรงเรียนนาจะหลวย (กรป.กลางอุปถัมภ์) พุทธศักราช 2565 ตาม
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2560) สอดคล้องตามประกาศ
กระทรวงศึกษาธิการ เร่ืองการบริหารจัดการเวลาเรียนและปรับมาตรฐานและตัวช้ีวัด สอดคล้องกับคาสั่งสพฐ.ท่ี
1239/60 และประกาศ สพฐ. ลงวันที่ 8 มกราคม 2561 เปน็ ที่เรยี บร้อยแล้ว
ทั้งน้ี หลักสูตรโรงเรียนได้รับความเห็นชอบจาก คณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพื้นฐาน เม่ือ
วนั ที่ 11 เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2565 จงึ ประกาศให้ใช้หลกั สูตรโรงเรยี นตงั้ แตบ่ ัดนเ้ี ป็นตน้ ไป
ประกาศ วันท่ี 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2565
(นายบุญถิน่ พิมพ์โพธ์ิ) (นางสาวศิรพิ ร ถาวร)
ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้อานวยการโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอุปถัมภ)์
โรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอปุ ถัมภ)์
หลักสตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอุปถัมภ)์ พุทธศกั ราช 2565 ก
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศักราช 2560)
คานา
ก ร ะ ท ร ว ง ศึ ก ษ า ธิ ก า ร มี ค า ส่ั ง ใ ห้ ใ ช้ ม า ต ร ฐ า น ก า ร เ รี ย น รู้ แ ล ะ ตั ว ช้ี วั ด ก ลุ่ ม ส า ร ะ ก า ร เ รี ย น รู้
คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) เม่ือวันท่ี 7 สิงหาคม 2560 และสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานมี
คาส่ังให้ เปล่ียนแปลงมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดกลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์
(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ลงวันท่ี 5 มกราคม 2561 รวมท้ังประกาศเร่ืองการบริหารจัดการหลักสูตร
สถานศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ .ศ. 2560) ตามหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ลงวันท่ี 8 มกราคม 2561 โรงเรียนนาจะหลวย (กรป.
กลางอปุ ถัมภ์) จงึ ไดท้ าการปรบั ปรงุ หลักสูตรสถานศึกษาในกลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และ
สาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ใช้ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงช้ัน
ประถมศกึ ษาปีที่ 6 เพือ่ นาไปใชป้ ระโยชน์และเป็นกรอบในการวางแผนและพัฒนาหลักสูตรของสถานศึกษาและ
จัดการเรียนการสอน อีกท้ังในปีการศึกษา 2565 โรงเรียนนาจะหลวย (กรป.กลางอุปถัมภ์)ได้จัดการเรียนการ
สอนโดยเน้นให้ผู้เรียนเกิดความรู้ มีคุณธรรมและเสริมสร้างทักษะอาชีพ โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพ
ผูเ้ รยี น ให้มีกระบวนการนาหลกั สูตรไปสู่การปฏิบตั ิ โดยมกี ารกาหนดวสิ ยั ทัศน์ จุดหมาย สมรรถนะสาคัญของ
ผเู้ รียน คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ มาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวัด โครงสร้างเวลาเรียน ตลอดจนเกณฑ์การ
วัดประเมินผล ให้มีความสอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรียนรู้ เปดิ โอกาสใหโ้ รงเรยี นสามารถกาหนดทิศทางในการ
จดั ทาหลักสตู รการเรียนการสอนในแต่ละระดบั ตามความพร้อมและจุดเน้น โดยมีกรอบแกนกลางเป็นแนวทางที่
ชัดเจนเพื่อตอบสนองนโยบายไทยแลนด์ 4.0 มีความพร้อมในการก้าวสู่สังคมคุณภาพ มีความรู้อย่างแท้จริง
และมที ักษะในศตวรรษที่ 21 การจดั หลักสูตรการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐานจะประสบความสาเร็จตามเป้าหมายท่ีคาดหวัง
ได้ ทุกฝา่ ยท่ีเก่ียวข้องท้ังระดับชาติ ชุมชน ครอบครัว และบุคคลต้องร่วมรับผิดชอบ โดยร่วมกันทางานอย่าง
เป็นระบบ และต่อเนื่องในการวางแผน ดาเนินการ ส่งเสรมิ สนบั สนุน ตรวจสอบ ตลอดจนปรับปรงุ แก้ไข เพ่ือ
พฒั นาเยาวชนของชาติไปสู่คุณภาพตามมาตรฐานการเรยี นรู้ทีก่ าหนดไว้
(นางสาวศริ พิ ร ถาวร)
ผอู้ านวยการโรงเรียนนาจะหลวย (กรป.กลางอุปถัมภ์)
หลกั สตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอปุ ถัมภ์) พทุ ธศักราช 2565 ข
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช 2560)
สารบญั หนา้
ก
เร่ือง ข
ประกาศโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอุปถัมภ)์ ค
คานา 1
สารบัญ 1
1. สว่ นนา 1
1
ความนา 2
วสิ ัยทศั น์โรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอุปถมั ภ)์ 4
สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน 5
คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 5
2. โครงสรา้ งเวลาเรียน 6
โครงสรา้ งเวลาเรียนระดับประถมศกึ ษา 7
โครงสรา้ งเวลาเรยี นระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 1 8
โครงสรา้ งเวลาเรียนระดับช้ันประถมศึกษาปที ่ี 2 9
โครงสรา้ งเวลาเรยี นระดับชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 3 10
โครงสร้างเวลาเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 11
โครงสร้างเวลาเรียนระดบั ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 11
โครงสรา้ งเวลาเรยี นระดับชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 6 18
3. คาอธิบายรายวิชา 26
คาอธิบายรายวชิ ากล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย 45
คาอธิบายรายวชิ ากลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ 64
คาอธิบายรายวชิ ากลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 72
คาอธิบายรายวชิ ากลุ่มสาระการเรยี นรสู้ งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม 83
คาอธบิ ายรายกลุ่มสาระการเรยี นรู้สขุ ศึกษาและพลศึกษา 90
คาอธบิ ายรายกลุ่มสาระการเรยี นรูศ้ ลิ ปะ 97
คาอธิบายรายกลมุ่ สาระการเรยี นรูก้ ารงานอาชพี 98
คาอธิบายรายกล่มุ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ
4. กิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น 100
5. การจดั การเรยี นรู้ 101
6. สื่อการเรยี นรู้ 104
7. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ 104
8. เกณฑ์การจบการศึกษา 105
9. การบริหารจัดการหลักสูตร 106
บรรณานุกรม 107
ภาคผนวก 112
คาสง่ั โรงเรียน ค
คาส่งั /ประกาศ ระเบียบราชการทีเ่ กย่ี วข้อง
หลักสตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอุปถมั ภ)์ พุทธศกั ราช 2565
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พทุ ธศักราช 2560)
1. สว่ นนำ
1.1 ควำมนำ
หลักสูตรโรงเรียนนาจะหลวย (กรป.กลางอุปถัมภ์) พุทธศักราช 2565 ตามหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2560) เป็นแผนหรือ
แนวทางหรอื ขอ้ กาหนดของการจัดการศกึ ษาของโรงเรียนนาจะหลวย (กรป.กลางอุปถัมภ์)ท่ีจะใช้เป็น
แนวทางในการจัดการเรยี นการสอน เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานที่กาหนด มุ่งพัฒนา
ผู้เรียนให้เป็นคนดี คนเก่ง อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข มีศักยภาพในการศึกษาต่อและประกอบ
อาชีพโดยมุ่งหวังให้มีความสมบูรณ์ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา อีกทั้ง มีความรู้และทักษะท่ี
จาเป็นสาหรับการดารงชีวิต และมีคุณภาพได้มาตรฐานสากลเพ่ือการแข่งขันในยุคปัจจุบัน ดังน้ัน
หลักสูตรโรงเรียนนาจะหลวย (กรป.กลางอุปถัมภ์) พุทธศักราช 2565 ตามหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2560) จึงประกอบด้วยวิสัยทัศน์
ของโรงเรียนนาจะหลวย (กรป.กลางอุปถัมภ์) สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์
โครงสร้างหลกั สูตร คาอธบิ ายรายวิชา กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น และเกณฑก์ ารจบการศกึ ษา
1.2 วสิ ยั ทัศน์โรงเรียนนำจะหลวย (กรป.กลำงอุปถัมภ)์
ภายในปีการศึกษา 2567 โรงเรียนนาจะหลวย(กรป.กลางอุปถัมภ์) จะเป็นโรงเรียน
คุณภาพระดับอาเภอ ท่ีมีสภาพแวดล้อมท่ีดี พัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี คนเก่ง มีความสุข มุ่งพัฒนา
บุคลากรสคู่ รูมืออาชีพ ผบู้ รหิ ารมอื อาชพี ภายใต้การมสี ่วนร่วมท่ียงั่ ยืน
1.3 สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น
หลักสูตรโรงเรียนนาจะหลวย (กรป.กลางอุปถัมภ์) พุทธศักราช 2565 ตามหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2560) มุ่งให้ผู้เรียน
เกิดสมรรถนะสาคญั 5 ประการ ดังนี้
1) ควำมสำมำรถในกำรสอื่ สำร ม่งุ ให้ผเู้ รยี นเปน็ ผูท้ ่ีมีความสามารถในการรับ และส่ง
สาร มวี ฒั นธรรมในการใช้ภาษาถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเขา้ ใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเอง
เพ่ือแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม
รวมท้ังการเจรจาต่อรองเพื่อขจัดและลดปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูล
ข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและความถูกต้อง ตลอดจนการเลือกใช้วิธีการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพโดย
คานึงถงึ ผลกระทบท่มี ีตอ่ ตนเองและสงั คม
2) ควำมสำมำรถในกำรคิด มุ่งให้ผู้เรียนเป็นผู้มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์
การคิดสังเคราะห์ การคิดอย่างสร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพื่อ
นาไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือสารสนเทศ เพ่ือการตัดสินใจเก่ียวกับตนเองและสังคมได้ อย่าง
เหมาะสม
หลักสตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอปุ ถัมภ)์ พุทธศกั ราช 2565 1
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช 2560)
3) ควำมสำมำรถในกำรแก้ปัญหำ มุ่งใหผ้ ูเ้ รียนเป็นผ้มู ีความสามารถในการแก้ปัญหา
และอุปสรรคต่าง ๆ ที่เผชิญได้อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพ้ืนฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูล
สารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธ์และการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้
ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหา และมีการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพโดยคานึงถึง
ผลกระทบท่เี กิดขึน้ ตอ่ ตนเอง สังคม และสิ่งแวดล้อม
4) ควำมสำมำรถในกำรใช้ทักษะชีวิต มุ่งให้ผู้เรียนเป็นผู้มีความสามารถในการนา
กระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการดาเนินชีวิตประจาวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเน่ือง
การทางานและการอยู่ร่วมกันในสังคมด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการ
ปัญหาและความขัดแย้งต่าง ๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปล่ียนแปลงของสังคม และ
สภาพแวดลอ้ ม และการรจู้ กั หลีกเลย่ี งพฤตกิ รรมไมพ่ ึงประสงค์ท่สี ง่ ผลกระทบต่อตนเองและผู้อน่ื
5) ควำมสำมำรถในกำรใช้เทคโนโลยี มุ่งให้ผู้เรียนเป็นผู้มีความสามารถในการเลือก
และใช้เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคม
ในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การทางาน การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ถูกต้อง เหมาะสม
และมคี ุณธรรม
1.4 คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
หลักสูตรโรงเรียนนาจะหลวย (กรป.กลางอุปถัมภ์) พุทธศักราช 2565 ตามหลักสูตร
แกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พุทธศักราช 2560) มุ่งพัฒนาผู้เรียน
ให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข ในฐานะเป็น
พลเมืองไทยและพลโลก ดังน้ี
1) รักชำติ ศำสน์ กษัตริย์ ผู้เรียนมีคุณลักษณะที่แสดงออกถึงการเป็นพลเมืองดีของ
ชาติ ธารงไว้ซึง่ ความเป็นชาติไทย ศรัทธา ยึดม่ันในศาสนา และเคารพเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์
ปฏิบัติตนตามหลักศาสนาที่ตนนับถือ และแสดงความจงรักภกั ดตี ่อสถาบนั พระมหากษัตรยิ ์
2) ซื่อสัตย์สุจริต ผู้เรียนมีคุณลักษณะที่แสดงออกถึงการยึดมั่นในความถูกต้อง
ประพฤตติ รงตามความเปน็ จริงตอ่ ตนเองและผอู้ ่นื ท้งั ทางกาย วาจา ใจ ประพฤติตรงตามความเป็นจริง
ท้ังทางกาย วาจา ใจ และยึดหลักความจริง ความถูกต้องในการดาเนินชีวิต มีความละอาย และเกรง
กลวั ต่อการกระทาผดิ
3) มีวินัย ผู้เรียนมีคุณลักษณะที่แสดงออกถึงการยึดม่ันในข้อตกลง กฎเกณฑ์และ
ระเบียบข้อบังคับของครอบครัว โรงเรียน และสังคม ปฏิบัติตนตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ
ขอ้ บังคับของครอบครวั โรงเรยี น และสังคมเป็นปกติวิสัย ไมล่ ะเมิดสิทธิของผอู้ ่ืน
หลักสตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอุปถมั ภ)์ พทุ ธศักราช 2565 2
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พุทธศกั ราช 2560)
4) ใฝเ่ รยี นรู้ ผู้เรยี นมคี ุณลักษณะท่แี สดงออกถึงความตงั้ ใจ เพยี รพยายามในการเรียน
แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ท้ังภายในและภายนอกโรงเรียน มีความต้ังใจ เพียรพยายาม ในการ
เรียน และเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ท้ังภายใน และภายนอก
โรงเรียนอย่างสม่าเสมอด้วยการเลือกใช้สื่ออย่างเหมาะสม บันทึกความรู้ วิเคราะห์ สรุปเป็นองค์
ความรู้ แลกเปลย่ี นเรียนรู้ ถา่ ยทอด เผยแพร่ และนาไปใช้ในชีวิตประจาวันได้
5) อยู่อย่ำงพอเพียง ผู้เรียนมีคุณลักษณะที่แสดงออกถึงการดาเนินชีวิต อย่าง
พอประมาณ มีเหตผุ ล รอบคอบ มีคุณธรรม มีภมู คิ มุ้ กันในตัวท่ีดี และปรับตัวเพื่ออยู่ในสังคมได้อย่างมี
ความสุข ดาเนินชีวิตอย่างประมาณตน มีเหตุผล รอบคอบ ระมัดระวัง อยู่ร่วมกับผู้อ่ืนด้วยความ
รับผิดชอบ ไม่เบียดเบียนผู้อื่น เห็นคุณค่าของทรัพยากรต่าง ๆ มีการวางแผนป้องกัน ความเสี่ยงและ
พรอ้ มรับการเปลีย่ นแปลง
6) มงุ่ ม่นั ในกำรทำงำน ผู้เรยี นมีคุณลกั ษณะทแี่ สดงออกถึงความต้ังใจและรับผิดชอบ
ในการทาหน้าที่การงานด้วยความเพียรพยายาม อดทน เพื่อให้งานสาเร็จตามเป้าหมายมีความต้ังใจ
ปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายด้วยความเพียรพยายาม ทุ่มเทกาลังกาย กาลังใจ การปฏิบัติกิจกรรม
ตา่ ง ๆ ใหส้ าเรจ็ ลุลว่ งตามเปา้ หมายท่กี าหนดดว้ ยความรบั ผิดชอบ และมคี วามภาคภมู ิใจในผลงาน
7) รักควำมเป็นไทย ผู้เรียนมีคุณลักษณะที่แสดงออกถึงความภาคภูมิใจ เห็นคุณค่า
ร่วมอนุรักษ์ สืบทอดภูมิปัญญาไทย ขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะและวัฒนธรรม ใช้ภาษาไทย ใน
การส่ือสารได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม มีความภาคภูมิใจ เห็นคุณค่า ช่ืนชม มีส่วนร่วม ในการ
อนุรักษ์ สืบทอด เผยแพร่ภูมิปัญญาไทย ขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะและวัฒนธรรมไทย มีความ
กตัญญกู ตเวที ใชภ้ าษาไทยในการสอื่ สารอย่างถูกต้องเหมาะสม
8) มจี ติ สำธำรณะ ผู้เรยี นมีคณุ ลกั ษณะทแ่ี สดงออกถงึ การมีส่วนรว่ มในกจิ กรรม
หรือสถานการณ์ที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้อ่ืน ชุมชน และสังคมด้วยความเต็มใจ กระตือรือร้น โดยไม่
หวังผลตอบแทน มีลักษณะเป็นผู้ให้และช่วยเหลือผู้อื่น แบ่งปันความสุขส่วนตน เพ่ือทาประโยชน์แก่
ส่วนรวม เข้าใจเห็นใจผู้ท่ีมีความเดือดร้อน อาสาช่วยเหลือสังคม อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ด้วยแรงกาย
สตปิ ัญญา ลงมอื ปฏบิ ตั เิ พ่ือแก้ปัญหา หรือร่วมสร้างสรรค์ส่ิงท่ีดีงามให้เกิดในชุมชน โดยไม่หวังส่ิงตอบ
แทน
หลักสตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอปุ ถัมภ์) พทุ ธศักราช 2565 3
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พุทธศักราช 2560)
2. โครงสร้ำงเวลำเรยี น
โครงสรำ้ งเวลำเรียน หลักสูตรโรงเรียนนำจะหลวย (กรป.กลำงอุปถมั ภ์) พทุ ธศักรำช 2565
สานักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาประถมศึกษาอบุ ลราชธานี เขต 5
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศักราช 2560)
เวลำเรียน
กล่มุ สำระกำรเรยี นร/ู้ กจิ กรรม ระดับประถมศกึ ษำ
ป.1 ป.2 ป.3 ป.4 ป.5 ป.6
กล่มุ สำระกำรเรยี นรู้
ภาษาไทย 200 200 200 200 200 200
คณิตศาสตร์ 200 200 200 200 200 200
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 120 120 120 120 120 120
สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม 40 40 40 40 40 40
ประวตั ิศาสตร์ 40 40 40 40 40 40
สุขศึกษาและพลศึกษา 40 40 40 40 40 40
ศลิ ปะ 40 40 80 80 80 80
การงานอาชพี 40 40 40 40 40 40
ภาษาตา่ งประเทศ 200 200 200 200 200 200
รวมเวลำเรยี น (พื้นฐำน) 920 920 960 960 960 960
รำยวิชำเพม่ิ เติม
เทคโนโลยี 40 40 40 40 40 40
รวมเวลำเรียน (เพิม่ เตมิ ) 40 40 40 40 40 40
กจิ กรรมพฒั นำผเู้ รยี น
กจิ กรรมแนะแนว 40 40 40 40 40 40
กิจกรรมนักเรยี น 40 40 40 40 40 40
- ลกู เสือ เนตรนารี
กจิ กรรมเพือ่ สังคมและ 40 40 40 40 40 40
สาธารณประโยชน์ 120 120 120 120 120 120
- อบรมคณุ ธรรมจรยิ ธรรม
รวมกจิ กรรมพัฒนำผเู้ รียน
รวมเวลำท้งั หมด 1,080 ชั่วโมง 1,120 ช่ัวโมง
หมำยเหตุ
1. วชิ าการป้องกันการทุจรติ จดั การเรยี นการสอนโดย บรู ณาการเรยี นรู้ในกลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา
ศาสนา และวัฒนธรรม
2. วชิ าหน้าทพี่ ลเมือง จดั การเรยี นการสอน โดยบรู ณาการกับการเรยี นรใู้ นกลุม่ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษา
ศาสนา และวัฒนธรรม
3. วชิ าสิ่งแวดลอ้ มศกึ ษา จดั การเรียนการสอนโดย บูรณาการเรียนร้ใู นกล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี
3. กจิ กรรมลดเวลาเรยี นเพมิ่ เวลารู้ จานวน 120 ชั่วโมง จัดเปน็ กิจกรรมชุมนมุ ตามความสนใจของผเู้ รียน
หลกั สตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอุปถมั ภ์) พุทธศกั ราช 2565 4
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พุทธศักราช 2560)
โครงสรำ้ งเวลำเรยี นระดับประถมศกึ ษำ เวลำเรยี น
โครงสรำ้ งเวลำเรยี น ระดับช้ันประถมศกึ ษำปีที่ 1 (ชม./ปี)
ช้ันประถมศึกษำปีที่ 1 200
200
รำยวชิ ำ/กิจกรรม 120
40
รำยวิชำพื้นฐำน 920 40
ท11101 ภาษาไทย 1 40
ค11101 คณิตศาสตร์ 1 40
ว11101 วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 1 40
ส11101 สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม 1 200
ส11102 ประวตั ศิ าสตร์ 1
พ11101 สุขศกึ ษาและพลศึกษา 1 40
ศ11101 ศิลปะ 1 120
ง11101 การงานอาชพี 1 40
อ11101 ภาษาองั กฤษ 1 40
รำยวชิ ำเพมิ่ เติม 40 40
ว11201 เทคโนโลยี 1
1,080
กจิ กรรมพัฒนำผู้เรียน
กิจกรรมแนะแนว
กจิ กรรมนักเรยี น
- ลกู เสือ เนตรนารี 1
กิจกรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์
- อบรมคณุ ธรรมจริยธรรม
รวมเวลำเรียนทงั้ หมด
หลกั สตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอุปถมั ภ์) พทุ ธศกั ราช 2565 5
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พุทธศกั ราช 2560)
โครงสร้ำงเวลำเรยี น ระดับช้ันประถมศึกษำปีที่ 2 เวลำเรยี น
(ชม./ปี)
ชั้นประถมศึกษำปีท่ี 2
200
รำยวชิ ำ/กิจกรรม 200
120
รำยวชิ ำพน้ื ฐำน 920 40
ท12101 ภาษาไทย 2 40
ค12101 คณติ ศาสตร์ 2 40
ว12101 วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2 40
ส12101 สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม 2 40
ส12102 ประวตั ิศาสตร์ 2 200
พ12101 สุขศึกษาและพลศึกษา 2 40
ศ12101 ศิลปะ 2 40
ง12101 การงานอาชพี 2 120
อ12101 ภาษาอังกฤษ 2 40
40
รำยวิชำเพิ่มเติม
ว12202 เทคโนโลยี 2 40
กิจกรรมพัฒนำผเู้ รยี น 1,080
กจิ กรรมแนะแนว
กจิ กรรมนกั เรียน
- ลกู เสือ เนตรนารี 2
กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์
- อบรมคุณธรรมจรยิ ธรรม
รวมเวลำเรียนท้ังหมด
หลกั สตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอุปถัมภ)์ พุทธศกั ราช 2565 6
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พุทธศกั ราช 2560)
โครงสรำ้ งเวลำเรยี น ระดับช้ันประถมศึกษำปีที่ 3 เวลำเรยี น
(ชม./ปี)
ชน้ั ประถมศกึ ษำปีที่ 3
200
รำยวชิ ำ/กจิ กรรม 200
120
รำยวชิ ำพน้ื ฐำน 960 40
ท13101 ภาษาไทย 3 40
ค13101 คณติ ศาสตร์ 3 40
ว13101 วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 3 80
ส13101 สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม 3 40
ส13102 ประวัติศาสตร์ 3 200
พ13101 สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา 3
ศ13101 ศิลปะ 3 40
ง13101 การงานอาชพี 3 120
อ13101 ภาษาอังกฤษ 3 40
40
รำยวิชำเพิม่ เติม 40
ว13203 เทคโนโลยี 3 40
กิจกรรมพฒั นำผู้เรียน 1,120
กจิ กรรมแนะแนว
กจิ กรรมนักเรยี น
- ลกู เสือ เนตรนารี 3
กิจกรรมเพ่อื สังคมและสาธารณประโยชน์
- อบรมคุณธรรมจริยธรรม
รวมเวลำเรยี นทง้ั หมด
หลกั สตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอปุ ถัมภ)์ พุทธศักราช 2565 7
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช 2560)
โครงสร้ำงเวลำเรียน ระดบั ชั้นประถมศกึ ษำปีท่ี 4
ชนั้ ประถมศกึ ษำปีที่ 4
รำยวชิ ำ/กิจกรรม เวลำเรียน
(ชม./ป)ี
รำยวชิ ำพนื้ ฐำน 960
200
ท14101 ภาษาไทย 4 200
120
ค14101 คณิตศาสตร์ 4 40
40
ว14101 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 4 40
80
ส14101 สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม 4 40
200
ส14102 ประวตั ศิ าสตร์ 4
40
พ14101 สขุ ศึกษาและพลศึกษา 4 120
40
ศ14101 ศลิ ปะ 4 40
ง14101 การงานอาชีพ 4 40
อ14101 ภาษาองั กฤษ 4 1,120
รำยวชิ ำเพิม่ เติม 40
ว14204 เทคโนโลยี 4
กจิ กรรมพฒั นำผู้เรยี น
กิจกรรมแนะแนว
กจิ กรรมนกั เรียน
- ลูกเสอื เนตรนารี 4
กิจกรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์
- อบรมคณุ ธรรมจรยิ ธรรม
รวมเวลำเรยี นท้ังหมด
หลักสตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอปุ ถมั ภ)์ พทุ ธศกั ราช 2565 8
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พุทธศกั ราช 2560)
โครงสร้ำงเวลำเรียน ระดบั ชั้นประถมศกึ ษำปีท่ี 5
ชนั้ ประถมศกึ ษำปีที่ 5
รำยวชิ ำ/กิจกรรม เวลำเรียน
(ชม./ป)ี
รำยวชิ ำพนื้ ฐำน 960
200
ท15101 ภาษาไทย 5 200
120
ค15101 คณิตศาสตร์ 5 40
40
ว15101 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 5 40
80
ส15101 สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม 5 40
200
ส15102 ประวตั ศิ าสตร์ 5
40
พ15101 สขุ ศึกษาและพลศึกษา 5 120
40
ศ15101 ศิลปะ 5 40
ง15101 การงานอาชีพ 5 40
อ15101 ภาษาองั กฤษ 5 1,120
รำยวชิ ำเพิม่ เติม 40
ว15205 เทคโนโลยี 5
กจิ กรรมพฒั นำผู้เรยี น
กิจกรรมแนะแนว
กจิ กรรมนกั เรียน
- ลูกเสอื เนตรนารี 5
กิจกรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์
- อบรมคณุ ธรรมจรยิ ธรรม
รวมเวลำเรยี นท้ังหมด
หลักสตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอปุ ถมั ภ)์ พทุ ธศกั ราช 2565 9
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พุทธศกั ราช 2560)
โครงสร้ำงเวลำเรียน ระดบั ช้ันประถมศกึ ษำปที ่ี 6
ชน้ั ประถมศกึ ษำปที ี่ 6
รำยวชิ ำ / กิจกรรม เวลำเรยี น
(ชม./ปี)
รำยวชิ ำพืน้ ฐำน 960
200
ท16101 ภาษาไทย 6 200
120
ค16101 คณติ ศาสตร์ 6 40
40
ว16101 วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 6 40
80
ส16101 สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม 6 40
200
ส16102 ประวัติศาสตร์ 6 40
40
พ16101 สุขศกึ ษาและพลศึกษา 6 120
40
ศ16101 ศลิ ปะ 6 40
ง16101 การงานอาชพี 6 40
อ16101 ภาษาองั กฤษ 6 1,120
รำยวชิ ำเพม่ิ เติม
ว16206 เทคโนโลยี 6
กจิ กรรมพฒั นำผ้เู รยี น
กิจกรรมแนะแนว
กจิ กรรมนักเรียน
- ลูกเสอื เนตรนารี 6
กิจกรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์
- อบรมคุณธรรมจรยิ ธรรม
รวมเวลำเรยี นทัง้ หมด
หลักสตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอปุ ถมั ภ)์ พุทธศกั ราช 2565 10
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พทุ ธศกั ราช 2560)
3. คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ
รำยวิชำพืน้ ฐำน กลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย
ระดับชัน้ ประถมศึกษำ
รำยวชิ ำพ้ืนฐำน จานวน 200 ช่วั โมง
ท11101 ภาษาไทย 1 จานวน 200 ชว่ั โมง
ท12101 ภาษาไทย 2 จานวน 200 ชัว่ โมง
ท13101 ภาษาไทย 3 จานวน 200 ชั่วโมง
ท14101 ภาษาไทย 4 จานวน 200 ชว่ั โมง
ท15101 ภาษาไทย 5 จานวน 200 ชวั่ โมง
ท16101 ภาษาไทย 6
หลกั สตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอปุ ถัมภ)์ พุทธศักราช 2565 11
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พทุ ธศกั ราช 2560)
คำอธิบำยรำยวชิ ำพนื้ ฐำน
ท11101 ภำษำไทย 1 กลมุ่ สำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย
ช้นั ประถมศึกษำปีที่ 1 เวลำ 200 ชั่วโมง
.............................................................................................................................................................
อำ่ นออกเสียงคำ คำคล้องจอง และข้อความส้ัน ๆ บอกความหมายของคา และข้อความ
ทอ่ี า่ น ตอบคาถามเกีย่ วกบั เรื่องท่อี า่ น เลา่ เรอ่ื งย่อจากเร่ืองที่อ่าน คาดคะเนเหตุการณ์จากเรื่อง ที่อ่าน
อ่านหนังสือตามสนใจอย่างสม่าเสมอ และนาเสนอเรื่องท่ีอ่าน บอกความหมายของเครื่องหมายหรือ
สัญลักษณ์สาคัญท่ีพบเห็นในชีวิตประจาวัน มีมารยาทในการอ่าน คัดลายมือ ตัวบรรจงเต็มบรรทัด
เขียนส่ือสารด้วยคาและประโยคง่าย ๆ มีมารยาทในการเขียน ฟังคาแนะนา คาสั่งง่าย ๆ และปฏิบัติ
ตาม ตอบคาถาม เล่าเร่ืองท่ีฟังและดูทั้งท่ีเป็นความรู้ ความบันเทิง พูดแสดงความคิดเห็น และ
ความรสู้ ึกจากเร่ืองที่ฟังและดู พูดส่ือสารได้ตามวัตถุประสงค์ มีมารยาทในการฟัง การดู การพูด บอก
และเขยี นพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ เลขไทย เขียนสะกดคา และบอกความหมายของคา เรียบเรียงคา
เป็นประโยคง่าย ๆ ต่อคาคล้องจองง่าย ๆ บอกข้อคิดที่ได้จาก การอ่านหรือการฟังวรรณกรรมร้อย
แก้ว ร้อยกรองสาหรับเด็ก ท่องจาบทอาขยานตามท่ีกาหนด และบทร้อยกรองตามความสนใจ โดยใช้
กระบวนการคิด ทักษะการส่อื สาร สรปุ วเิ คราะห์ข้อมูล จากเร่ืองและสื่อต่าง ๆ ท่ีอ่านฟังและดูเพ่ือให้
เกิดความรู้ ความเข้าใจสามารถสื่อสารส่ิงที่เรียนรู้ มีความสามารถในการแยกแยะ ตัดสินใจนาไปใช้
ชีวิตประจาวันได้อย่างภาคภูมิใจ รักความเป็นไทย ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่ือสัตย์ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่
อย่างพอเพียง มุ่งมัน่ ทางานและมีจิตสาธารณะ
รหัสตัวช้วี ัด
ท 1.1 ป.1/1, ป.1/2, ป.1/3, ป.1/4, ป.1/5, ป.1/6, ป.1/7, ป.1/8
ท 2.1 ป.1/1, ป.1/2, ป.1/3
ท 3.1 ป.1/1, ป.1/2, ป.1/3, ป.1/4, ป.1/5
ท 4.1 ป.1/1, ป.1/2, ป.1/3, ป.1/4
ท 5.1 ป.1/1, ป.1/2
รวมท้งั หมด 22 ตวั ชี้วดั
หลกั สตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอุปถัมภ)์ พุทธศกั ราช 2565 12
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2560)
คำอธิบำยรำยวชิ ำพ้นื ฐำน
ท12101 ภำษำไทย 2 กลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย
ชน้ั ประถมศกึ ษำปที ี่ 2 เวลำ 200 ชั่วโมง
.............................................................................................................................................................
อา่ นออกเสียงคา คาคล้องจอง ข้อความและบทร้อยกรองง่าย ๆ อธิบายของคา และข้อความ
ที่อ่าน ต้ังคาถามและตอบคาถามเก่ียวกับเร่ืองท่ีอ่าน ระบุใจความสาคัญ และรายละเอียดจากเรื่องท่ี
อ่าน แสดงความคิดเหน็ และคาดคะเนเหตุการณ์จากเรื่องท่ีอา่ น
อา่ นหนงั สอื ตามความสนใจอย่างสมา่ เสมอและนาเสนอเรอื่ งที่อ่าน อ่านขอ้ เขยี นเชิงอธบิ าย
และปฏบิ ัตติ ามคาสงั่ หรือข้อแนะนา มมี ารยาทในการอ่าน
คดั ลายมอื ตัวบรรจงเตม็ บรรทดั เขียนเรื่องสัน้ ๆ เก่ียวกับประสบการณ์ เขียนเรอื่ งส้นั ๆ
ตามจินตนาการ มมี ารยาทในการเขียน
ฟังคาแนะนาคาสั่งที่ซับซ้อนและปฏิบัติตาม เล่าเร่ืองที่ฟังและดูท้ังที่เป็นความรู้ และความ
บันเทิง บอกสาระสาคัญของเรื่องท่ีฟังและดู ตั้งคาถามและตอบคาถามเก่ียวกับเร่ืองท่ีฟังและดู พูด
แสดงความคิดเห็น และความรู้สึกจากเรื่องท่ีฟังและดู พูดส่ือสารได้ชัดเจนตรงตามวัตถุประสงค์ มี
มารยาทในการฟงั การดู การพูด
บอกและเขียนพยญั ชนะ สระ วรรณยุกตแ์ ละเลขไทย เขียนสะกดคาและบอกความหมายของ
คา เรยี บเรยี งคาเปน็ ประโยคตรงตามเจตนาของการส่อื สาร บอกลักษณะคาคล้องจอง
เลือกใชภ้ าษาไทยมาตรฐาน และภาษาถนิ่ ไดเ้ หมาะสมกับกาลเทศะ
ระบุข้อคิดที่ได้จากการอ่านหรือการฟังวรรณกรรมสาหรับเด็ก เพื่อนาไปใช้ในชีวิตประจาวัน
ร้องบทร้อยกรองเล่นสาหรับเด็กในท้องถ่ิน ท่องจาบทอาขยานตามท่ีกาหนด และบทร้อยกรอง ที่มี
คุณคา่ ตามความสนใจ โดยใชก้ ระบวนการคิด ทักษะการส่ือสาร สรุป วิเคราะห์ข้อมูลจากเร่ืองและส่ือ
ต่าง ๆ ท่ีอ่านฟังและดูเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจสามารถสื่อสารสิ่งท่ีเรียนรู้ มีความสามารถในการ
แยกแยะ ตัดสินใจนาไปใช้ชีวิตประจาวันได้อย่างภาคภูมิใจ รักความเป็นไทย ชาติ ศาสน์ กษัตริย์
ซอื่ สตั ย์มวี นิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมน่ั ทางาน และมจี ิตสาธารณะ
รหสั ตวั ชี้วดั
ท 1.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4, ป.2/5, ป.2/6, ป.2/7, ป.2/8
ท 2.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4
ท 3.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4, ป.2/5, ป.2/6, ป.2/7
ท 4.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4, ป.2/5
ท 5.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3
รวมทั้งหมด 27 ตัวชี้วัด
หลกั สตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอุปถมั ภ)์ พุทธศักราช 2565 13
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช 2560)
คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพน้ื ฐำน
ท13101 ภำษำไทย 3 กลุ่มสำระกำรเรียนร้ภู ำษำไทย
ช้ันประถมศึกษำปีที่ 3 เวลำ 200 ช่วั โมง
.............................................................................................................................................................
อ่านออกเสียงคา ข้อความ เรื่องส้ัน ๆ และบทร้อยกรองอย่างง่ายได้คล่องแคล่ว อธิบาย
ความหมายของคาและข้อความที่อ่าน ตั้งคาถามและตอบคาถามเชิงเหตุผลเก่ียวกับเร่ืองท่ีอ่าน ลาดับ
เหตกุ ารณ์และคาดคะเนเหตุการณ์จากเรอ่ื งท่ีอ่าน โดยระบุเหตุผลประกอบ สรุปความรู้และข้อคิดจาก
เรื่องท่ีอ่านเพ่ือนาไปใช้ในอ่านหนังสือตามความสนใจอย่างสม่าเสมอและนาเสนอเร่ืองที่อ่าน อ่าน
ข้อเขียนเชิงอธิบายและปฏิบัติตามคาส่ังหรือข้อแนะนา อธิบายความหมายของข้อมูลจากแผนภาพ
แผนที่ แผนภูมิ มมี ารยาทในการอ่าน
คัดลายมือตังบรรจงเต็มบรรทัด เขียนบรรยายเก่ียวกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้อย่างชัดเจน เขียน
บนั ทึกประจาวนั เขยี นจดหมายลาครู เขียนเรอ่ื งตามจินตนาการ มมี ารยาทในการเขยี น
เลา่ รายละเอียดเก่ยี วกบั เรื่องทีฟ่ ังและดูท้ังท่ีเป็นความรู้และบันเทิง บอกสาระสาคัญ จากการ
ฟัง การดู ต้ังคาถาม และตอบคาถามเก่ียวกับเร่ืองที่ฟังและดู พูดแสดงความคิดเห็น และความรู้สึก
จากเรือ่ งที่ฟงั และดพู ูดส่อื สารได้ชัดเจนตรงตามวตั ถุประสงค์ มีมารยาทในการฟัง การดู การพดู
เขียนสะกดคาและบอกความหมายของคา ระบุชนิดและหน้าที่ของคาในประโยค ใช้
พจนานกุ รมค้นหาความหมายของคา แต่งประโยคง่าย ๆ แตง่ คาคลอ้ งจองและคาขวัญ
เลือกใชภ้ าษาไทยมาตรฐานและภาษาถนิ่ ไดเ้ หมาะสมกบั กาลเทศะ
ระบุข้อคิดที่ได้จากการอ่านฟังวรรณกรรม เพื่อนาไปใช้ในชีวิตประจาวัน รู้จักเพลงพื้นบ้าน
และเพลงกล่อมเด็กเพ่ือปลูกฝังความช่ืนชมวัฒนธรรมท้องถิ่น แสดงความคิดเห็นเก่ียวกับวรรณคดี ท่ี
อ่าน ทอ่ งจาบทอาขยานตามท่ีกาหนดและบทร้อยกรองท่ีมีคุณค่าตามความสนใจ โดยใช้กระบวนการ
คิด ทักษะการสื่อสาร สรุป วิเคราะห์ข้อมูลจากเร่ืองและสื่อต่าง ๆ ท่ีอ่านฟังและดูเพื่อให้เกิดความรู้
ความเข้าใจสามารถสื่อสารส่ิงทเี่ รยี นรู้ มีความสามารถในการแยกแยะ ตัดสินใจนาไปใช้ชีวิตประจาวัน
ได้อย่างภาคภูมิใจ รักความเป็นไทย ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่ือสัตย์มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง
มุ่งม่นั ทางานและมจี ิตสาธารณะ
รหสั ตวั ช้ีวดั
ท 1.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4, ป.3/5, ป.3/6, ป.3/7, ป.3/8, ป.3/9
ท 2.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4, ป.3/5, ป.3/6
ท 3.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4, ป.3/5, ป.3/6
ท 4.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4, ป.3/5, ป.3/6
ท 5.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4
รวมทง้ั สิน้ 31 ตัวชี้วัด
หลกั สตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอุปถัมภ์) พทุ ธศักราช 2565 14
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พทุ ธศักราช 2560)
คำอธิบำยรำยวชิ ำพื้นฐำน
ท14101 ภำษำไทย 4 กลมุ่ สำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย
ชั้นประถมศึกษำปที ี่ 4 เวลำ 200 ชวั่ โมง
.............................................................................................................................................................
อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง อธิบายความหมายของคา ประโยคและสานวน
อ่านเร่ืองสั้นตามเวลาที่กาหนดและตอบคาถามจากเร่ืองท่ีอ่าน แยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น
คาดคะเนเหตกุ ารณ์จากเร่ืองท่ีอ่านโดยระบเุ หตุผลประกอบ สรปุ ความรู้และข้อคิดจากเรื่องท่ีอ่าน เพ่ือ
นาไปใช้ในชวี ติ ประจาวนั อ่านหนงั สอื ทีม่ คี ุณค่าตามความสนใจอยา่ งสม่าเสมอ และแสดง ความคิดเห็น
เกีย่ วกบั เรื่องท่อี ่าน มีมารยาทในการอ่าน
คัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัดและคร่ึงบรรทัด เขียนส่ือสารโดยใช้คาได้ถูกต้องชัดเจน และ
เหมาะสม เขียนแผนภาพโครงเรื่องและแผนภาพความคิดเพื่อใช้พัฒนางานเขียน เขียนย่อความจาก
เรื่องสน้ั ๆ เขยี นจดหมายถึงเพื่อนและบิดามารดา เขียนบันทึกและเขียนรายงานจากการศึกษาค้นคว้า
เขยี นเรอ่ื งตามจินตนาการ มมี ารยาทในการเขยี น
จาแนกขอ้ เท็จจรงิ และข้อคดิ เหน็ จากเรอื่ งท่ฟี ังและดู พูดสรุปความ ต้ังคาถามและตอบคาถาม
เชิงเหตุผลจากเร่ืองท่ีฟังและดู รายงานเรื่องหรือประเด็นท่ีศึกษาค้นคว้าจากการฟัง การดู และการ
สนทนามีมารยาทในการฟัง การดู และการพดู สะกดคา และบอกความหมายของคา ในบรบิ ทต่าง ๆ
ระบุชนดิ และหน้าทข่ี องคาในประโยคใช้พจนานกุ รมคน้ หาความหมายของคา แต่งประโยค ได้
ถูกต้องตามหลักภาษาแต่งบทร้อยกรองและคาขวัญ บอกความหมายของสานวนเปรียบเทียบ
ภาษาไทยมาตรฐานกบั ภาษาถ่ิน
ระบุข้อคิดจากนิทานพ้ืนบ้านหรือนิทานคติธรรม อธิบายข้อคิดจากการอ่านเพ่ือนาไปใช้ ใน
ชีวิตจริง ร้องเพลงพื้นบ้าน ท่องจาบทอาขยานตามที่กาหนด และบทร้อยกรองที่มีคุณค่า ตามความ
สนใจ โดยใช้กระบวนการคดิ ทกั ษะการสื่อสาร สรปุ วเิ คราะห์ข้อมูลจากเร่ืองและสื่อ ต่าง ๆ ท่ีอ่านฟัง
และดูเพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจสามารถส่ือสารส่ิงท่ีเรียนรู้ มีความสามารถ ในการแยกแยะ
ตัดสนิ ใจนาไปใช้ชวี ิตประจาวนั ไดอ้ ย่างภาคภูมิใจ รักความเป็นไทย ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่ือสัตย์มีวินัย
ใฝ่เรยี นรู้ อย่อู ยา่ งพอเพยี ง มงุ่ มั่นทางานและมจี ิตสาธารณะ
รหัสตวั ชว้ี ัด
ท 1.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4, ป.4/5, ป.4/6, ป.4/7, ป.4/8
ท 2.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4, ป.4/5, ป.4/6, ป.4/7, ป.4/8
ท 3.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4, ป.4/5, ป.4/6
ท 4.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4, ป.4/5, ป.4/6, ป.4/7
ท 5.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4
รวมทงั้ หมด 33 ตัวชีว้ ดั
หลักสตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอปุ ถมั ภ)์ พทุ ธศกั ราช 2565 15
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พุทธศักราช 2560)
คำอธบิ ำยรำยวิชำพืน้ ฐำน
ท15101 ภำษำไทย 5 กลุม่ สำระกำรเรยี นรู้ภำษำไทย
ชนั้ ประถมศึกษำปที ่ี 5 เวลำ 200 ช่วั โมง
.............................................................................................................................................................
การอ่านเสียงบทร้อยแกว้ และบทร้อยกรองได้ถูกต้อง อธิบายความหมายของคา ประโยคและ
ข้อความท่ีเป็นการบรรยาย และการพรรณนา อธิบายความหมายโดยนัยจากเร่ืองท่ีอ่าน อย่าง
หลากหลาย แยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นจากเร่ืองที่อ่าน วิเคราะห์และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ
เร่ืองท่ีอ่านเพื่อนาไปใช้ในการดาเนินชีวิต อ่านงานเขียนเชิงอธิบาย คาส่ัง ข้อแนะนา และปฏิบัติตาม
อ่านหนังสอื ท่ีมีคณุ คา่ ตามความสนใจและแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับเร่ืองที่อ่าน และมีมารยาทในการ
อา่ น
คดั ลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัดและคร่ึงบรรทัด เขียนสื่อสารโดยใช้คาได้ถูกต้อง ชัดเจน และ
เหมาะสม เขียนแผนภาพโครงเร่ืองและแผนภาพความคิดเพ่ือใช้พัฒนางานเขียน เขียนย่อความจาก
เรื่องท่ีอ่าน เขียนจดหมายถึงผู้ปกครองและญาติ เขียนแสดงความรู้สึกและความคิดเห็นได้ ตรงตาม
เจตนา กรอกแบบรายการตา่ ง ๆ เขยี นเรอ่ื งตามจนิ ตนาการ มมี ารยาทในการเขียน
พดู แสดงความรู้ความคิดเห็นและความร้สู กึ จากเรื่องท่ีฟังและดู ต้ังคาถามและตอบคาถามเชิง
เหตผุ ลจากเร่ืองท่ีฟงั และดูวิเคราะห์ความน่าเช่ือถือจากเรื่องท่ีฟังและดูอย่างมีเหตุผล พูดรายงานเรื่อง
หรือประเด็นที่ศกึ ษาค้นควา้ จากการฟัง การดู และการสนทนา มมี ารยาทในการฟัง การดู และการพดู
บอกและเขยี นพยัญชนะ สระ วรรณยุกตแ์ ละเลขไทย เขียนสะกดคาและบอกความหมายของ
คา เขียนเรียงความเป็นประโยคง่าย ๆ ต่อคาคล้องจองง่าย ๆ สรุปเร่ืองจากคาพังเพย สุภาษิตใน
ทอ้ งถน่ิ และวรรณคดีหรอื วรรณกรรมทีอ่ ่าน
ระบุความรู้และข้อคิดจากการอ่าน วรรณคดี และวรรณกรรมที่สามารถนาไปใช้ในชีวิตจริง
อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรม ท่องจาบทอาขยานตามที่กาหนดและบทร้อยกรอง ที่มี
คุณค่าตามความสนใจโดยใช้กระบวนการคิด ทักษะการส่ือสาร สรุปวิเคราะห์ข้อมูลจากเร่ือง และส่ือ
ต่าง ๆ ที่อ่านฟังและดูเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจสามารถส่ือสารส่ิงท่ีเรียนรู้ มีความสามารถในการ
แยกแยะ ตัดสินใจนาไปใช้ในชีวิตประจาวันได้อย่างภาคภูมิใจ รักความเป็นไทย ชาติ ศาสน์ กษัตริย์
ซ่อื สตั ย์ มีวนิ ยั ใฝ่เรียนรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง มงุ่ ม่ันทางาน และมจี ติ สาธารณะ
รหสั ตัวชี้วัด
ท 1.1 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4, ป.5/5, ป.5/6, ป.5/7, ป.5/8
ท 2.1 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4, ป.5/5, ป.5/6, ป.5/7, ป.5/8, ป.5/9
ท 3.1 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4, ป.5/5
ท 4.1 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4, ป.5/5, ป.5/6, ป.5/7
ท 5.1 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4
รวมทัง้ หมด 33 ตวั ช้วี ัด
หลักสตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอุปถมั ภ)์ พุทธศกั ราช 2565 16
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศักราช 2560)
คำอธบิ ำยรำยวิชำพน้ื ฐำน
ท16101 ภำษำไทย 6 กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ภำษำไทย
ช้นั ประถมศกึ ษำปที ่ี 6 เวลำ 200 ชั่วโมง
.............................................................................................................................................................
อา่ นออกเสยี งบทร้อยแก้ว ร้อยกรอง อธิบายความหมายของคา ประโยค และข้อความ
ทเี่ ปน็ โวหาร อา่ นเรือ่ งสัน้ ๆ อย่างหลากหลายโดยจับเวลาแล้วถามเกี่ยวกบั เรือ่ งทอ่ี ่าน
แยกข้อเทจ็ จรงิ ข้อคดิ เหน็ จากเรือ่ งท่ีอา่ น อธิบายการนาความรู้และความคิดจากเร่อื งที่อ่าน
ไปตัดสินใจแก้ปัญหาในการดาเนินชีวิต อ่านงานเขียนเชิงอธิบาย คาส่ัง ข้อแนะนา และปฏิบัติตาม
อธิบายความหมายของข้อมูลจากการอ่านแผนผัง แผนท่ี แผนภูมิ และกราฟ อ่านหนังสือตาม ความ
สนใจและอธิบายคุณค่าทีไ่ ดร้ บั และมีมารยาทในการอ่าน
คดั ลายมอื ตัวบรรจงเต็มบรรทัดและครึ่งบรรทัด เขียนส่ือสาร เขียนแผนภาพโครงเรื่อง เขียน
เรยี งความ เขียนยอ่ ความ เขียนจดหมายส่วนตัว กรอกแบบรายการต่าง ๆ เขียนตามจินตนาการ และ
มมี ารยาทในการเขียน
พูดแสดงความรู้ ความเข้าใจ ตั้งคาถาม ถามตอบเชิงเหตุผล วิเคราะห์ความน่าเชื่อถือ พูด
รายงานประเดน็ ทศ่ี ึกษาจากเรือ่ งท่ฟี ังและดู พดู พดู โนม้ น้าวอย่างมีเหตุผลและน่าเชื่อถือ มีมารยาทใน
การฟงั ดู และพูด
วเิ คราะห์ชนดิ และหนา้ ท่ขี องคา ใช้คาไดเ้ หมาะสมกับกาลเทศะ รวบรวม บอกความหมายของ
คาภาษาต่างประเทศที่ใช้ในภาษาไทย ระบุลักษณะของประโยค แต่งบทร้อยกรอง ลักษณะ ของ
ประโยคของภาษาถ่ิน วเิ คราะหเ์ ปรยี บเทียบสานวน สุภาษิต คาพังเพย
แสดงความคิดเห็นจากวรรณคดี วรรณกรรม เล่านิทานพื้นบ้านมาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง
ท่องจาบทอาขยานและบทร้อยกรองได้อย่างมีคุณค่า โดยใช้กระบวนการคิด ทักษะการสื่อสาร สรุป
วเิ คราะห์ขอ้ มูลจากเรื่องและส่ือต่าง ๆ ท่ีอ่าน ฟัง และดูเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ สามารถส่ือสาร
สิ่งท่ีเรียนรู้ มีความสามารถในการแยกแยะ ตัดสินใจนาไปใช้ในชีวิตประจาวันได้อย่างภาคภูมิใจ รัก
ความเป็นไทย ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่ือสัตย์ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งม่ันทางาน และมีจิต
สาธารณะ
รหสั ตวั ชว้ี ดั
ท 1.1 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4, ป.6/5, ป.6/6, ป.6/7, ป.6/8, ป.6/9
ท 2.1 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4, ป.6/5, ป.6/6, ป.6/7, ป.6/8, ป.6/9
ท 3.1 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4, ป.6/5, ป.6/6
ท 4.1 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4, ป.6/5, ป.6/6
ท 5.1 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4
รวมทง้ั หมด 34 ตัวชี้วดั
หลักสตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอปุ ถัมภ)์ พุทธศกั ราช 2565 17
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พทุ ธศักราช 2560)
รำยวชิ ำพนื้ ฐำน กลุ่มสำระกำรเรยี นรคู้ ณิตศำสตร์
ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษำ
รำยวชิ ำพืน้ ฐำน จานวน 200 ชั่วโมง
ค11101 คณติ ศาสตร์ 1 จานวน 200 ชวั่ โมง
ค12101 คณิตศาสตร์ 2 จานวน 200 ช่วั โมง
ค13101 คณติ ศาสตร์ 3 จานวน 200 ชว่ั โมง
ค14101 คณิตศาสตร์ 4 จานวน 200 ชัว่ โมง
ค15101 คณติ ศาสตร์ 5 จานวน 200 ชั่วโมง
ค16101 คณิตศาสตร์ 6
หลกั สตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอปุ ถัมภ)์ พทุ ธศกั ราช 2565 18
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พทุ ธศกั ราช 2560)
คำอธิบำยรำยวิชำพ้ืนฐำน
ค11101 คณิตศำสตร์ 1 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้คณติ ศำสตร์
ชน้ั ประถมศึกษำปที ่ี 1 เวลำ 200 ชว่ั โมง
.............................................................................................................................................................
ศึกษา ฝึกทักษะการคิดคานวณและฝึกแก้ปัญหา จานวนนับ 1 ถึง 100 และ 0 บอกและ
แสดงจานวนสิ่งต่าง ๆ ตามจานวนที่กาหนด อ่านและเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย การบอก
อันดับท่ีหลัก ค่าของเลขโดดในแต่ละหลัก และเขียนแสดงจานวนในรูปกระจาย เปรียบเทียบจานวน
นับไมเ่ กิน 100 และ 0 โดยใช้เคร่ืองหมาย = ≠ > < เรียงลาดับจานวนต้ังแต่ 3 ถึง 5 จานวน และหา
คา่ ของตวั ไมท่ ราบคา่ ในประโยคสญั ลักษณ์แสดงการบวก การลบ การแก้โจทย์ปัญหาการบวก การลบ
ของจานวนนับไม่เกิน 100 และ 0 ความยาวและน้าหนัก สร้างโจทย์ปัญหาพร้อมท้ังแสดงวิธีหา
คาตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การลบของจานวนนับไม่เกิน 100 และ 0 ระบุจานวนท่ีหายไปใน
แบบรูปของจานวนท่ีเพิ่มขึ้นหรือลดลงทีละ 1 ทีละ 10 รูปท่ีหายไป ในแบบรูปซ้าของรูปเรขาคณิต
และรูปอน่ื ๆ ท่ีสมาชกิ ในแตล่ ะชุดที่ซ้ามี 2 รปู
วัดและเปรียบเทียบความยาวเป็นเซนติเมตร เป็นเมตร น้าหนักเป็นกิโลกรัมเป็นขีด และใช้
หนว่ ยท่ีไม่ใชห่ นว่ ยมาตรฐาน จาแนกรูปสามเหลีย่ ม รปู สีเ่ หล่ียม วงกลม วงรี ทรงสี่เหล่ียมมุมฉาก ทรง
กลม ทรงกระบอก และกรวย ใช้ข้อมูลจากแผนภูมิรูปภาพในการหาคาตอบของโจทย์ปัญหา เมื่อ
กาหนดรปู 1 รปู แทน 1 หนว่ ย
ในการจัดการเรียนรู้ได้กาหนดสถานการณ์เพื่อให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้า ฝึกทักษะ โดยการ
ปฏิบัติจริง สรุปเนื้อหา มีเจตคติท่ีดีต่อคณิตศาสตร์ มีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาทักษะ และ
กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ของผ้เู รยี น และนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวันได้
รหัสตวั ช้ีวดั
ค 1.1 ป.1/1, ป.1/2, ป.1/3, ป.1/4, ป.1/5
ค 1.2 ป.1/1
ค 2.1 ป.1/1, ป.1/2
ค 2.2 ป.1/1
ค 3.1 ป.1/1
รวมทัง้ หมด 10 ตัวชวี้ ดั
หลกั สตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอุปถมั ภ)์ พุทธศกั ราช 2565 19
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พทุ ธศักราช 2560)
คำอธบิ ำยรำยวิชำพน้ื ฐำน
ค12101 คณิตศำสตร์ 2 กลุ่มสำระกำรเรียนรคู้ ณติ ศำสตร์
ชนั้ ประถมศกึ ษำปที ่ี 2 เวลำ 200 ชั่วโมง
.............................................................................................................................................................
ศึกษา ฝึกทักษะการคิดคานวณและฝึกแก้ปัญหา จานวนนับ 1 ถึง 1,000 และ 0 บอกและ
แสดงจานวนสิ่งต่าง ๆ ตามจานวนท่ีกาหนด อ่านและเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย การบอก
อันดับท่ีหลัก ค่าของเลขโดดในแต่ละหลัก และเขียนแสดงจานวนในรูปกระจาย เปรียบเทียบจานวน
นับไม่เกิน 1,000 และ 0 โดยใช้เคร่ืองหมาย = ≠ > < เรียงลาดับจานวนนับไม่เกิน 1,000 และ 0
ตั้งแต่ 3 ถึง 5 จานวน และหาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวก การลบ การ
แก้โจทย์ปัญหาการบวก การลบของจานวนนับไม่เกิน 1,000 และ 0 หาค่าของตัวไม่ทราบค่าใน
ประโยคสัญลักษณ์แสดงการคูณของจานวน 1 หลักกับจานวนไม่เกิน 2 หลัก และประโยคสัญลักษณ์
แสดงการหารท่ตี วั ตัง้ ไมเ่ กิน 2 หลัก ตัวหาร 1 หลัก โดยที่ผลหาร มี 1 หลกั ทัง้ หารลงตวั และหารไม่ลง
ตัว หาผลลัพธ์การบวก ลบ คูณ หารระคนของจานวนนับ ไม่เกิน 1,000 และ 0 แสดงวิธีหาคาตอบ
ของโจทย์ปัญหา 2 ขั้นตอนของจานวนนับไม่เกิน 1,000 และ 0 แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหา
เก่ียวกบั เวลาท่มี ีหนว่ ยเดยี่ วและเป็นหนว่ ยเดียว วัดและเปรียบเทยี บความยาวเปน็ เมตรและเซนติเมตร
พร้อมท้ังแสดงวิธีการหาคาตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การลบความยาวท่ีมีหน่วยเป็นเมตรและ
เซนตเิ มตร วัดและเปรยี บเทยี บนา้ หนกั เปน็ กโิ ลกรัมและกรัม กโิ ลกรัมและขีด พร้อมท้ังแสดงวิธีการหา
คาตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การลบเกี่ยวกับน้าหนักท่ีมีหน่วยเป็นกิโลกรัมและกรัม กิโลกรัมและ
ขดี วดั และเปรยี บเทยี บปริมาตรและความจเุ ปน็ ลิตร จาแนกและบอกลกั ษณะของรูปหลายเหลี่ยมและ
วงกลม ใช้ข้อมูลจากแผนภูมิรูปภาพในการหาคาตอบของโจทย์ปัญหา เม่ือกาหนดรูป 1 รูป แทน 2
หนว่ ย 5 หน่วย หรอื 10 หน่วย
ในการจัดการเรียนรู้ได้กาหนดสถานการณ์เพื่อให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้า ฝึกทักษะ โดยการ
ปฏิบัติจริง สรุปเนื้อหา มีเจตคติท่ีดีต่อคณิตศาสตร์ มีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ เพ่ือพัฒนาทักษะและ
กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ของผู้เรียน และนาไปใช้ในชวี ิตประจาวันได้
รหัสตวั ชวี้ ดั
ค 1.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4, ป.2/5, ป.2/6, ป.2/6, ป.2/7, ป.2/8
ค 2.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4, ป.2/5, ป.2/6
ค 2.2 ป.2/1
ค 3.1 ป.2/1
รวมทั้งหมด 16 ตัวช้ีวดั
หลกั สตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอปุ ถัมภ์) พุทธศักราช 2565 20
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พุทธศกั ราช 2560)
คำอธบิ ำยรำยวิชำพืน้ ฐำน
ค13101 คณติ ศำสตร์ 3 กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้คณติ ศำสตร์
ชัน้ ประถมศกึ ษำปีท่ี 3 เวลำ 200 ชัว่ โมง
.............................................................................................................................................................
อ่านและเขียน ตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดงจานวนนับไม่เกิน
100,000,000 และ 0 เปรยี บเทียบและเรียงลาดับจานวนนับไม่เกิน 100,000 และ 0 จากสถานการณ์
ต่าง ๆ บอก อ่านและเขียนเศษส่วนที่แสดงปริมาณส่ิงต่าง ๆ และแสดงส่ิงต่าง ๆ ตามเศษส่วน ที่
กาหนด เปรยี บเทียบเศษสว่ นทตี่ ัวเศษเทา่ กัน โดยท่ตี วั เศษน้อยกว่าหรอื เท่ากับตัวสว่ น
หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวกและการลบของจานวนนับไม่เกิน
100,000 และ 0 หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการคูณของจานวน 1 หลัก กับ
จานวนไมเ่ กนิ 4 หลัก และจานวน 2 หลักกับจานวน 2 หลัก หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์
แสดงการหารท่ีตัวตั้งไม่เกิน 4 หลัก ตัวหาร 1 หลัก และหาผลลัพธ์การบวก ลบ คูณ หารระคน และแสดง
วิธีการหาคาตอบของโจทย์ปญั หา 2 ขนั้ ตอนของจานวนนบั ไม่เกนิ 100,000 และ 0 หาผลบวกและแสดงวิธี
หาคาตอบของโจทย์ปัญหาการบวกของเศษส่วนที่มีตัวส่วนเท่ากัน และผลบวกไม่เกิน 1 และหาผลลบ
พรอ้ มท้ังแสดงวิธหี าคาตอบของโจทยป์ ญั หาการลบของเศษสว่ นทมี่ ตี วั สว่ นเท่ากนั
ระบุจานวนท่ีหายไปในแบบรูปของจานวนท่ีเพิ่มขึ้นหรือลดลงทีละเท่า ๆ กัน แสดงวิธีหา
คาตอบของโจทย์ปัญหาเก่ียวกับเงิน เวลา และระยะเวลา เลือกใช้เคร่ืองมือความยาวท่ีเหมาะสม วัด
และบอกความยาวของสิ่งต่าง ๆ เป็นเซนติเมตรและมิลลิเมตร เมตรและเซนติเมตร คาดคะเนความ
ยาวเป็นเมตรและเป็นเซนติเมตร เปรียบเทียบความยาวและแสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหา
เก่ียวกับระหว่างเซนติเมตรกับมิลลิเมตร เมตรกับเซนติเมตร กิโลเมตรกับเมตร จากสถานการณ์ ต่าง
ๆ เลือกใช้เคร่ืองชั่งท่ีเหมาะสม วัด และบอกน้าหนักเป็นกิโลกรัมและขีด กิโลกรัมและกรัม คาดคะเน
นา้ หนักเป็นกิโลกรัมและเป็นขีด เปรียบเทียบน้าหนักและแสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเก่ียวกับ
นา้ หนักทมี่ หี น่วยเปน็ กิโลกรมั กับกรมั เมตริกตนั กบั กิโลกรมั จากสถานการณ์ต่าง ๆ เลือกใช้เคร่ืองตวง
ท่ีเหมาะสม วัดและเปรียบเทียบปริมาตร ความจุเป็นลิตรและมิลลิลิตร คาดคะเนและแสดงวิธีหา
คาตอบของโจทยป์ ญั หาเกี่ยวกบั ปริมาตรและความจเุ ปน็ ลติ รและมิลลเิ มตร
ระบุรูปเรขาคณติ สองมติ ทิ ม่ี แี กนสมมาตรและจานวนแกนสมมาตร เขียนแผนภูมิรูปภาพ และ
ใช้ข้อมูลจากแผนภูมิรูปภาพในการหาคาตอบของโจทย์ปัญหา เขียนตารางทางเดียวจากข้อมูล ที่เป็น
จานวนนับ และใช้ขอ้ มูลจากตารางทางเดยี วในการหาคาตอบของโจทย์ปัญหา
ในการจัดการเรียนรู้ได้กาหนดสถานการณ์เพ่ือให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้า ฝึกทักษะ โดยการ
ปฏิบัติจริง สรุปเนื้อหา มีเจตคติท่ีดีต่อคณิตศาสตร์ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาทักษะและ
กระบวนการทางคณิตศาสตร์ของผเู้ รียน และนาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ได้
หลกั สตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอุปถมั ภ์) พุทธศกั ราช 2565 21
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช 2560)
รหสั ตัวช้วี ัด
ค 1.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4, ป.3/5, ป.3/6, ป.3/7, ป.3/8, ป.3/9, ป.3/10, ป.3/11
ค 1.2 ป.3/1
ค 2.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4, ป.3/5, ป.3/6, ป.3/7, ป.3/8, ป.3/9, ป.3/10, ป.3/11, ป.3/12, ป.3/13
ค 2.2 ป.3/1
ค 3.1 ป.3/1, ป.3/2
รวมทงั้ หมด 28 ตวั ช้วี ดั
หลักสตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอุปถัมภ์) พุทธศกั ราช 2565 22
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช 2560)
อธิบำยรำยวชิ ำพน้ื ฐำน
ค14101 คณิตศำสตร์ 4 กลุ่มสำระกำรเรยี นรคู้ ณิตศำสตร์
ชัน้ ประถมศึกษำปที ่ี 4 เวลำ 200 ชั่วโมง
.............................................................................................................................................................
ศึกษา ฝกึ ทักษะการอ่านและเขียนตวั เลขฮนิ ดอู ารบิก ตวั เลขไทย และตัวหนังสือแสดงจานวน
นับที่มากกว่า 100,000 พร้อมท้ังเปรียบเทียบและเรียงลาดับจานวนนับที่มากกว่า 100,000 จาก
สถานการณ์ต่าง ๆ บอก อ่านและเขียนเศษส่วน จานวนคละแสดงปริมาณสิ่งต่าง ๆ และแสดงสิ่งต่าง
ๆ ตามเศษส่วน จานวนคละท่ีกาหนด เปรียบเทียบ เรียงลาดับเศษส่วนและจานวนคละท่ีตัวส่วนตัว
หน่ึงเป็นพหูคูณของอีกตัวหน่ึง อ่านและเขียนทศนิยมไม่เกิน 3 ตาแหน่ง แสดงปริมาณ ของส่ิงต่าง ๆ
ตามทศนิยมที่กาหนด เปรียบเทียบและเรียงลาดับทศนิยมไม่เกิน 3 ตาแหน่ง และประมาณผลลัพธ์
ของการบวก การลบ การคูณ การหาร จากสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างสมเหตุสมผล หาค่าของตัวไม่
ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์ แสดงการบวก การลบของจานวนนับ ท่ีมากกว่า 100,000 และ 0
แสดงการคูณของจานวนหลายหลัก 2 จานวน ที่มีผลคูณไม่เกิน 6 หลัก และแสดงการหารที่ตัวตั้งไม่
เกิน 6 หลกั ตัวหารไมเ่ กิน 2 หลกั หาผลลพั ธ์การบวก ลบ คูณ หารระคนของจานวนนับ และ 0 แสดง
วธิ ีหาคาตอบของโจทย์ปัญหา 2 ข้ันตอนของจานวนนับที่มากกว่า 100,000 และ 0 สร้างโจทย์ปัญหา
2 ขั้นตอนของจานวนนับ และ 0 พร้อมท้ังหาคาตอบ หาคาตอบและแสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์
ปัญหาการบวก การลบของเศษส่วนและจานวนคละท่ีตัวส่วนตัวหนึ่งเป็นพหูคูณของอีกตัวหนึ่ง หา
ผลบวก ผลลบของทศนิยมไม่เกนิ 3 ตาแหนง่ และแสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การลบ
2 ขัน้ ตอนของทศนยิ มไมเ่ กนิ 3 ตาแหนง่
แสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเก่ยี วกับเวลา วัดและสร้างมุมโดยใช้โพรแทรกเตอร์ แสดง
วิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับความยาวรอบรูปและพ้ืนที่ของรูปสี่เหล่ียมมุมฉาก จาแนกชนิด
ของมุม บอกชื่อมุม ส่วนประกอบของมุมและเขียนสัญลักษณ์แสดงมุม สร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากเม่ือ
กาหนดความยาวของดา้ น และใช้ข้อมลู จากแผนภมู ิแท่ง ตารางสองทางในการหาคาตอบของโจทย์ปัญหา
ในการจัดการเรียนรู้ได้กาหนดสถานการณ์เพื่อให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้า ฝึกทักษะ โดยการ
ปฏิบัติจริง สรุปเน้ือหา มีเจตคติท่ีดีต่อคณิตศาสตร์ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เพ่ือพัฒนาทักษะและ
กระบวนการทางคณิตศาสตรข์ องผู้เรียน และนาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวันได้
รหัสตวั ช้วี ัด
ค 1.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4, ป.4/5, ป.4/6, ป.4/7, ป.4/8, ป.4/9, ป.4/10,
ป.4/11, ป.4/12, ป.4/13, ป.4/14, ป.4/15, ป.4/16
ค 2.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3
ค 2.2 ป.4/1, ป.4/2
ค 3.1 ป.4/1
รวมท้งั หมด 22 ตัวชีว้ ดั
หลักสตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอปุ ถมั ภ์) พทุ ธศกั ราช 2565 23
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พทุ ธศกั ราช 2560)
คำอธิบำยรำยวิชำพืน้ ฐำน
ค15101 คณติ ศำสตร์ 5 กลมุ่ สำระกำรเรยี นรูค้ ณิตศำสตร์
ชน้ั ประถมศึกษำปีท่ี 5 เวลำ 200 ช่ัวโมง
.............................................................................................................................................................
เขยี นเศษส่วนที่มีตัวส่วนเป็นตัวประกอบของ 10 หรือ 100 หรือ 1,000 ในรูปทศนิยม แสดง
วิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาโดยใช้บัญญัติไตรยางศ์ หาผลบวก ผลลบ ผลคูณ ผลหาร ของเศษส่วน
และจานวนคละ แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วน 2
ขั้นตอน หาผลคูณของทศนิยม ที่ผลคูณเป็นทศนิยมไม่เกิน 3 ตาแหน่ง หาผลหารที่ตัวต้ังเป็นจานวน
นับหรือทศนิยมไม่เกิน 3 ตาแหน่ง และตัวหารเป็นจานวนนับ ผลหารเป็นทศนิยมไม่เกิน 3 ตาแหน่ง
แสดงวธิ หี าคาตอบของโจทยป์ ัญหาการบวก การลบ การคณู การหารทศนิยม 2 ข้ันตอน และแสดงวิธี
หาคาตอบของโจทยป์ ญั หารอ้ ยละไมเ่ กิน 2 ขน้ั ตอน
แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับความยาว น้าหนัก ท่ีมีการเปล่ียนหน่วย และ
เขียนในรูปทศนิยม แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับปริมาตรของทรงส่ีเหลี่ยมมุมฉากและ
ความจุของภาชนะทรงสีเ่ หลย่ี มมมุ ฉาก ความยาวรอบรปู ของรูปส่ีเหลี่ยมและพื้นที่ของรูปส่ีเหล่ียมด้าน
ขนานและรูปสี่เหล่ียมขนมเปียกปูน สร้างเส้นตรงหรือส่วนของเส้นตรงให้ขนานกับเส้นตรงหรือส่วน
ของเส้นตรงท่ีกาหนดให้ จาแนกรูปสี่เหลี่ยมโดยพิจารณาจากสมบัติของรูป สร้างรูปสี่เหล่ียมชนิดต่าง
ๆ เม่ือกาหนดความยาวของด้านและขนาดของมุมหรือเม่ือกาหนดความยาว ของเส้นทแยงมุม และ
บอกลักษณะของปริซมึ
ใช้ข้อมูลจากกราฟเส้นในการหาคาตอบของโจทย์ปัญหา และเขียนแผนภูมิแท่งจากข้อมูล ท่ี
เป็นจานวนนับ
ในการจัดการเรียนรู้ได้กาหนดสถานการณ์เพื่อให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้า ฝึกทักษะ โดยการ
ปฏิบัติจริง สรุปเนื้อหา มีเจตคติท่ีดีต่อคณิตศาสตร์ มีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาทักษะและ
กระบวนการทางคณิตศาสตรข์ องผเู้ รยี น และนาไปใช้ในชีวิตประจาวนั ได้
รหสั ตัวชวี้ ัด
ค 1.1 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4, ป.5/5, ป.5/6, ป.5/7, ป.5/8, ป.5/9
ค 2.1 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4
ค 2.2 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4
ค 3.1 ป.5/1, ป.5/2,
รวมทัง้ หมด 19 ตวั ชว้ี ดั
หลกั สตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอปุ ถมั ภ)์ พทุ ธศกั ราช 2565 24
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พุทธศักราช 2560)
คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน
ค16101 คณิตศำสตร์ 6 กลุ่มสำระกำรเรียนรูค้ ณิตศำสตร์
ช้ันประถมศกึ ษำปที ี่ 6 เวลำ 200 ชว่ั โมง
.............................................................................................................................................................
เปรียบเทียบ เรียงลาดับ เศษส่วนและจานวนคละจากสถานการณ์ต่าง ๆ เขียนอัตราส่วน
แสดงการเปรียบเทียบปริมาณ ๒ ปริมาณจากข้อความหรือสถานการณ์ โดยที่ปริมาณแต่ละปริมาณ
เป็นจานวนนบั หาอตั ราสว่ นท่ีเทา่ กบั อัตราส่วนท่ีกาหนดให้ หา ห.ร.ม. และ ค.ร.น. ของจานวนนับ ไม่
เกิน ๓ จานวน แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาโดยใช้ความรู้เกี่ยวกับ ห.ร.ม. และ ค.ร.น. หา
ผลลัพธ์ของการบวก ลบ คูณ หารระคนของเศษส่วนและจานวนคละ แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์
ปญั หาเศษส่วนและจานวนคละ ๒-๓ ข้ันตอน หาผลหารของทศนิยมท่ีตัวหารและผลหารเป็นทศนิยม
ไม่เกิน ๓ ตาแหน่ง แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคูณ การหารทศนิยม ๓
ขนั้ ตอน แสดงวิธหี าคาตอบของโจทยป์ ัญหาอัตราส่วน ปญั หารอ้ ยละ ๒-๓ ข้ันตอน แสดงวิธีคิดและหา
คาตอบของปัญหาเกี่ยวกับแบบรูป แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับปริมาตรของรูป
เรขาคณิตสามมิติทป่ี ระกอบด้วยทรงสี่เหล่ียมมุมฉาก และแสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเก่ียวกับ
ความยาวรอบรูปและพ้ืนที่ของรูปหลายเหลี่ยม ความยาวรอบรูปและพื้นที่ของวงกลม จาแนกรูป
สามเหล่ียมโดยพิจารณาจากสมบัติของรูป สร้างรูปสามเหล่ียมเมื่อกาหนดความยาวของด้านและ
ขนาดของมุม บอกลักษณะของรูปเรขาคณิตสามมิติชนิดต่าง ๆ ระบุรูปเรขาคณิตสามมิติ ที่ประกอบ
จากรูปคลแ่ี ละระบรุ ปู คลขี่ องรปู เรขาคณิตสามมิติ ใชข้ ้อมลู จากแผนภูมิรปู วงกลมในการหาคาตอบของ
โจทย์ปัญหาในการจัดการเรียนรู้ไดก้ าหนดสถานการณ์
เพ่ือให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้า ฝึกทักษะโดยการปฏิบัติจริง สรุปเน้ือหา มีเจตคติท่ีดีต่อ
คณติ ศาสตร์ มีความคดิ ริเร่ิมสรา้ งสรรค์ เพื่อพัฒนาทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ของผู้เรียน
และนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวันได้
รหสั ตวั ช้ีวัด
ค 1.1 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4, ป.6/5, ป.6/6, ป.6/7, ป.6/8, ป.6/9, ป.6/10,
ป.6/11, ป.6/12
ค 1.2 ป.6/1
ค 2.1 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3
ค 2.2 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4
ค 3.1 ป.6/1
รวมทัง้ หมด 21 ตัวช้ีวดั
หลกั สตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอปุ ถมั ภ์) พุทธศกั ราช 2565 25
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช 2560)
รำยวิชำพ้นื ฐำนและรำยวชิ ำเพมิ่ เติม กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี
ระดับช้ันประถมศึกษำ
รำยวิชำพ้ืนฐำน จานวน 120 ชว่ั โมง
ว11101 วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 1 จานวน 120 ช่วั โมง
ว12101 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2 จานวน 120 ชว่ั โมง
ว13101 วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 3 จานวน 120 ชว่ั โมง
ว14101 วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 4 จานวน 120 ชั่วโมง
ว15101 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 5 จานวน 120 ชั่วโมง
ว16101 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 6
รำยวชิ ำเพม่ิ เตมิ จานวน 40 ชั่วโมง
ว11201 เทคโนโลยี 1 จานวน 40 ช่ัวโมง
ว12202 เทคโนโลยี 2 จานวน 40 ชว่ั โมง
ว13203 เทคโนโลยี 3 จานวน 40 ชว่ั โมง
ว14204 เทคโนโลยี 4 จานวน 40 ชั่วโมง
ว15205 เทคโนโลยี 5 จานวน 40 ชั่วโมง
ว16206 เทคโนโลยี 6
หลกั สตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอปุ ถัมภ)์ พทุ ธศกั ราช 2565 26
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พทุ ธศักราช 2560)
คำอธิบำยรำยวิชำพน้ื ฐำน
ว11101 วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี 1 กล่มุ สำระกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยี
ชัน้ ประถมศกึ ษำปที ่ี 1 เวลำ 120 ช่ัวโมง
.............................................................................................................................................................
ศึกษาการเรียนรู้แบบนักวิทยาศาสตร์ ลักษณะ หน้าที่และการดูแลรักษาส่วนต่าง ๆ ของ
ร่างกายมนุษย์ ลักษณะและหน้าท่ีของส่วนต่าง ๆ ของสัตว์และพืชรอบตัว และสภาพแวดล้อม ใน
บริเวณท่ีสัตว์และพืชอาศัยอยู่ ชนิดและสมบัติของวัสดุที่ใช้ทาวัตถุรอบตัว การเกิดเสียง และทิศ
ทางการเคล่ือนท่ีของเสียง ลักษณะของหิน และการมองเห็นดาวบนท้องฟ้าในเวลากลางวัน และ
กลางคืน การแก้ปัญหาโดยการลองผิดลองถูก การเปรียบเทียบ การเขียนโปรแกรมอย่างง่ายโดยใช้
ซอฟตแ์ วร์หรอื ส่อื การใชง้ านอุปกรณเ์ ทคโนโลยีเบื้องตน้ การใชง้ านซอฟต์แวรเ์ บื้องตน้
ใช้การสืบเสาะหาความรู้ สังเกต สารวจตรวจสอบโดยใช้เครื่องมืออย่างง่าย รวบรวมข้อมูล
บันทึก และอธิบายผลการสารวจตรวจสอบ เพ่ือให้เกิดความรู้ความเข้าใจ มีทักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์ข้ันพ้ืนฐานและมีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
และการส่อื สารเบอื้ งต้น สามารถส่ือสารสิ่งท่ีเรียนรู้ มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถทางานร่วมกับผู้อื่น
แสดงขั้นตอนการแก้ปัญหาอย่างง่าย เขียนโปรแกรมโดยใช้สื่อ สร้าง จัดเก็บและเรียกใช้ไฟล์ตาม
วตั ถปุ ระสงค์
ตระหนกั ถึงประโยชน์ของการใชค้ วามรแู้ ละกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการดารงชีวิต ใช้
เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภัย ปฏิบัติตามข้อตกลงในการใช้งาน ดูแลรักษาอุปกรณ์ และใช้งาน
เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งเหมาะสม มีจติ วิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และคา่ นยิ มที่เหมาะสม
รหัสตวั ช้ีวดั
ว 1.1 ป.1/1, ป.1/2
ว 1.2 ป.1/1, ป.1/2
ว 2.1 ป.1/1, ป.1/2
ว 2.3 ป.1/1
ว 3.1 ป.1/1, ป.1/2
ว 3.2 ป.1/1
ว 4.2 ป.1/1, ป.1/2, ป.1/3, ป.1/4, ป.1/5
รวมทัง้ หมด 15 ตัวชว้ี ดั
หลกั สตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอปุ ถมั ภ์) พทุ ธศกั ราช 2565 27
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2560)
ผลกำรเรยี นวชิ ำส่งิ แวดลอ้ มศึกษำ 5 ข้อ
1. มีความรู้ความเข้าใจเก่ยี วกับส่งิ แวดล้อมทางธรรมชาติ สังคม เศรษฐกิจและการเมือง
รวมถงึ ความสมั พนั ธร์ ะหว่างมนษุ ย์กบั สิง่ แวดล้อม
2. รับรู้และรู้สึกไวต่อปญั หาของสง่ิ แวดลอ้ ม ทจี่ ะสง่ ผลกระทบต่อคุณภาพชีวติ และทรพั ย์สิน
เห็นคณุ คา่ ของทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ้ ม ทัง้ ในระดับท้องถิน่ ระดบั ประเทศ ไปจนถงึ ระดับ
โลก
3. มีความเอ้ืออาทร ห่วงใยและรบั ผดิ ชอบต่อสงิ่ แวดลอ้ ม มีคา่ นยิ มท่ีถกู ต้องเหมาะสมในการ
ปฏบิ ัตติ ่อสิ่งแวดลอ้ ม
4. มีทกั ษะการช้ีบ่งปัญหา การแก้ปญั หา การป้องกนั ปญั หา การสื่อความหมายการตัดสินใจ
การประนปี ระนอม การสรา้ งความร่วมมือ การเรียนรู้ซงึ่ กนั และกัน
5. เกิดความรบั ผิดชอบและลงมอื ปฏิบตั เิ พอ่ื ส่ิงแวดล้อมทีด่ ีข้ึน และเพื่ออนาคตของคนรนุ่
ต่อไป
รวมผลการเรยี นวชิ าส่ิงแวดลอ้ มศึกษา 5 ขอ้
รวมทั้งหมด 20 ข้อ
หลกั สตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอปุ ถัมภ)์ พทุ ธศักราช 2565 28
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศักราช 2560)
คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพน้ื ฐำน
ว12101 วิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี 2 กลุม่ สำระกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยี
ชนั้ ประถมศึกษำปที ่ี 2 เวลำ 120 ชัว่ โมง
.............................................................................................................................................................
ศึกษาการเรียนรู้แบบนักวิทยาศาสตร์ ลักษณะของสิ่งมีชีวิตและส่ิงไม่มีชีวิต ความจาเป็นของ
แสง และน้าต่อการเจริญเติบโตของพืช วัฏจักรชีวิตของพืชดอก สมบัติการดูดซับน้าของวัสดุและการ
นาไปใช้ประโยชน์ สมบัติของวัสดุท่ีเกิดจากการนาวัสดุมาผสมกัน การเลือกวัสดุมาใช้ทาวัตถุตาม
สมบัติของวัสดุ การนาวสั ดทุ ใ่ี ชแ้ ล้วกลับมาใช้ใหม่ การเคล่ือนท่ีของแสง การมองเห็นวัตถุ การป้องกัน
อันตรายจากการมองวัตถุในบริเวณท่ีมีแสงสว่างไม่เหมาะสม ส่วนประกอบ และการจาแนกชนิดของ
ดิน การใช้ประโยชน์จากดิน การแสดงขั้นตอนการแก้ปัญหา การตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม
การใช้งานซอฟต์แวร์เบื้องต้น การจัดการไฟล์และโฟลเดอร์ การใช้งานและดูแลรักษาอุปกรณ์
คอมพิวเตอร์ เทคโนโลยใี นชีวติ ประจาวนั การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ อยา่ งปลอดภยั
ใช้การสืบเสาะหาความรู้ สังเกต จาแนกประเภท รวบรวมข้อมูล บันทึก และอธิบาย ผลการ
สารวจตรวจสอบ เพ่ือใหเ้ กิดความร้คู วามเขา้ ใจ มีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ข้ันพื้นฐานและ
มีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารเบ้ืองต้น
สามารถส่ือสารสิ่งท่ีเรียนรู้ มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถทางานร่วมกับผู้อ่ืน แสดงขั้นตอนการ
แก้ปัญหาอย่างง่าย เขียนโปรแกรมแบบมีเง่ือนไขโดยใช้บัตรคาส่ังและตรวจหาข้อผิดพลาด ใช้งาน
ซอฟตแ์ วร์ สร้าง จัดหมวดหมู่ไฟลแ์ ละโฟลเดอร์
ตระหนักถึงประโยชน์ของการใช้ความรู้และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการดารงชีวิต
ตระหนักถึงความสาคัญของการปกป้องข้อมูลส่วนตัว ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย ดูแล
รักษาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ มีจติ วิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และคา่ นิยมที่เหมาะสม
รหัสตัวช้วี ดั
ว 1.2 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3
ว 1.3 ป.2/1
ว 2.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4
ว 2.3 ป.2/1, ป.2/2
ว 3.2 ป.2/1, ป.2/2
ว 4.2 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4
รวมทั้งหมด 16 ตวั ชีว้ ัด
หลักสตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอุปถัมภ์) พทุ ธศักราช 2565 29
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช 2560)
ผลกำรเรยี นวชิ ำส่งิ แวดลอ้ มศึกษำ 5 ข้อ
1. มีความรู้ความเข้าใจเก่ยี วกับส่งิ แวดล้อมทางธรรมชาติ สงั คม เศรษฐกจิ และการเมือง
รวมถงึ ความสมั พนั ธร์ ะหว่างมนษุ ย์กบั สิง่ แวดล้อม
2. รับรู้และรู้สึกไวต่อปญั หาของสง่ิ แวดลอ้ ม ทจี่ ะสง่ ผลกระทบต่อคุณภาพชวี ิตและทรพั ย์สนิ
เห็นคณุ คา่ ของทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ้ ม ทัง้ ในระดับท้องถ่นิ ระดับประเทศ ไปจนถึงระดบั
โลก
3. มีความเอ้ืออาทร ห่วงใยและรบั ผดิ ชอบต่อสงิ่ แวดลอ้ ม มีคา่ นิยมท่ีถูกต้องเหมาะสมในการ
ปฏบิ ัตติ ่อสิ่งแวดลอ้ ม
4. มีทกั ษะการช้ีบ่งปัญหา การแก้ปญั หา การป้องกนั ปญั หา การส่อื ความหมายการตัดสนิ ใจ
การประนปี ระนอม การสรา้ งความร่วมมือ การเรียนรู้ซงึ่ กนั และกัน
5. เกิดความรบั ผิดชอบและลงมอื ปฏิบตั เิ พอ่ื ส่ิงแวดล้อมทีด่ ีข้ึน และเพื่ออนาคตของคนรุ่น
ต่อไป
รวมผลการเรยี นวชิ าส่ิงแวดลอ้ มศึกษา 5 ขอ้
รวมทั้งหมด 21 ข้อ
หลกั สตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอปุ ถัมภ)์ พทุ ธศักราช 2565 30
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช 2560)
คำอธิบำยรำยวชิ ำพื้นฐำน
ว13101 วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี 3 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี
ชั้นประถมศึกษำปีท่ี 3 เวลำ 120 ชั่วโมง
.............................................................................................................................................................
ศึกษาวิเคราะห์ บรรยายส่ิงที่จาเป็นต่อการดารงชีวิต และการเจริญเติบโตของมนุษย์ และ
สัตว์ โดยใช้ข้อมูลที่รวบรวมได้ การสร้างแบบจาลองที่บรรยายวัฏจักรชีวิตของสัตว์ และ
เปรียบเทียบวฏั จกั รชีวิตของสตั วบ์ างชนิด การประกอบวัตถขุ นึ้ จากช้นิ ส่วนย่อย ๆ ซึง่ สามารถแยกออก
จากกนั ไดแ้ ละประกอบกนั เป็นวัตถชุ นิ้ ใหม่ได้ การเปลีย่ นแปลงของวัสดเุ ม่ือทาให้ร้อนข้ึนหรือทาให้เย็น
ลง โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ ผลของแรงที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงการเคล่ือนท่ี ของวัตถุจากแรง
สัมผัสและแรงไม่สัมผัสท่ีมีผลต่อการเคล่ือนที่ของวัตถุ การใช้การดึงดูดกับแม่เหล็ก ขั้วแม่เหล็ก ผลท่ี
เกิดขึ้นระหว่างขั้วแม่เหล็กเมื่อนามาเข้าใกล้กัน การเปลี่ยนพลังงานหน่ึงไปเป็นอีกพลังงานหนึ่ง การ
ทางานของเคร่อื งกาเนิดไฟฟ้า แหล่งพลังงานในการผลิตไฟฟ้า การขึ้นและตก ของดวงอาทิตย์ สาเหตุ
การเกิดปรากฏการณ์การข้ึนและตกของดวงอาทิตย์ การเกิดกลางวันกลางคืน และการกาหนดทิศ
ส่วนประกอบของอากาศ ความสาคัญของอากาศ และผลกระทบของมลพิษ ทางอากาศต่อส่ิงมีชีวิต
ประโยชน์และโทษของลม การเกิดลม ประโยชน์ของอาหาร น้า และอากาศ การดูแลตนเองและสัตว์
ให้ได้รับสิ่งเหล่านี้อย่างเหมาะสม คุณค่าของชีวิตสัตว์ โดยไม่ทาให้วัฏจักรชีวิตของสัตว์เปล่ียนแปลง
ประโยชนแ์ ละโทษของไฟฟ้า วิธีการใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัดและปลอดภัย ความสาคัญของดวงอาทิตย์
ประโยชน์ของดวงอาทิตย์ต่อสิ่งมีชีวิต ความสาคัญของอากาศ การปฏิบัติตนในการลดการเกิดมลพิษ
ทางอากาศ
ศึกษาวิเคราะห์ การแสดงอัลกอริทึมในการทางาน หรือการแก้ปัญหาอย่างง่ายโดยใช้ภาพ
สัญลักษณ์หรือข้อความ การเขียนโปรแกรมอย่างง่ายโดยใช้ซอฟต์แวร์หรือส่ือ และตรวจหา
ข้อผิดพลาดของโปรแกรม การใช้อินเทอร์เน็ตค้นหาความรู้ การรวบรวม การประมวลผล และการ
นาเสนอข้อมูลโดยใช้ซอฟ์แวร์ตามวัตถุประสงค์ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย ปฏิบัติ
ตามขอ้ ตกลงในการใช้
โดยใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ
การสบื คน้ ข้อมูล การระบุ การจาแนก การเปรียบเทียบ การพยากรณ์ แบบจาลอง การบรรยาย และ
การอภปิ รายเพ่ือใหเ้ กดิ ความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สามารถสอ่ื สารส่งิ ทีเ่ รียนรู้
มีความตระหนัก สามารถในการตัดสินใจ นาความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวัน มีจิต
วทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรมและค่านิยมทเี่ หมาะสม
หลกั สตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอุปถัมภ์) พุทธศกั ราช 2565 31
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พุทธศักราช 2560)
รหสั ตัวชี้วัด
ว 1.2 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4
ว 2.1 ป.3/1, ป.3/2
ว 2.2 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4
ว 2.3 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3
ว 3.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3
ว 3.2 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4
ว 4.2 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4, ป.3/5
รวมท้งั หมด 25 ตวั ช้ีวัด
ผลกำรเรยี นวิชำสิ่งแวดลอ้ มศึกษำ 5 ข้อ
1. มคี วามร้คู วามเข้าใจเกี่ยวกับส่งิ แวดล้อมทางธรรมชาติ สงั คม เศรษฐกจิ และการเมือง
รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับส่งิ แวดลอ้ ม
2. รบั รแู้ ละรสู้ ึกไวต่อปญั หาของสงิ่ แวดลอ้ ม ท่จี ะสง่ ผลกระทบต่อคณุ ภาพชวี ิตและทรพั ย์สนิ
เห็นคณุ ค่าของทรัพยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ้ ม ทง้ั ในระดับท้องถิ่น ระดบั ประเทศ ไปจนถึงระดบั
โลก
3. มคี วามเอ้ืออาทร ห่วงใยและรับผดิ ชอบต่อสง่ิ แวดลอ้ ม มีคา่ นิยมท่ีถูกต้องเหมาะสมในการ
ปฏบิ ตั ิตอ่ ส่ิงแวดล้อม
4. มีทกั ษะการชบี้ ง่ ปัญหา การแก้ปัญหา การป้องกันปญั หา การสอ่ื ความหมายการตัดสินใจ
การประนปี ระนอม การสร้างความรว่ มมือ การเรยี นรูซ้ งึ่ กนั และกนั
5. เกิดความรบั ผิดชอบและลงมือปฏิบตั ิเพื่อส่ิงแวดล้อมที่ดีขึ้น และเพื่ออนาคตของคนรุ่น
ต่อไป
รวมผลการเรียนวชิ าส่ิงแวดลอ้ มศึกษา 5 ข้อ
รวมท้ังหมด 30 ขอ้
หลกั สตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอปุ ถัมภ)์ พทุ ธศักราช 2565 32
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช 2560)
คำอธิบำยรำยวิชำพ้ืนฐำน
ว14101 วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี 4 กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี
ชัน้ ประถมศกึ ษำปที ่ี 4 เวลำ 120 ชัว่ โมง
.............................................................................................................................................................
ศึกษาการเรียนรู้แบบนักวิทยาศาสตร์ การจาแนกสิ่งมีชีวิตเป็นกลุ่มพืช กลุ่มสัตว์ และกลุ่มที่
ไม่ใช่พืชและสัตว์ การจาแนกพืชออกเป็นพืชดอกและพืชไม่มีดอก การจาแนกสัตว์ออกเป็นสัตว์ มี
กระดูกสันหลังและสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ลักษณะเฉพาะของสัตว์มีกระดูกสันหลังในกลุ่มปลา กลุ่ม
สตั วส์ ะเทินน้าสะเทินบก กลมุ่ สตั ว์เลื้อยคลาน กลุ่มนก และกลมุ่ สตั วเ์ ลยี้ งลูกด้วยน้านม หน้าท่ีของราก
ลาต้น ใบและดอกของพืชดอก สมบัติทางกายภาพ ด้านความแข็ง สภาพยืดหยุ่น การนาความร้อน
และการนาไฟฟ้าของวัสดุ การนาสมบัติทางกายภาพของวัสดุไปใช้ในชีวิตประจาวัน สมบัติของสสาร
ทั้ง 3 สถานะ ผลของแรงโน้มถ่วงท่ีมีต่อวัตถุ การวัดน้าหนักของวัตถุ มวลของวัตถุ ท่ีมีผลต่อการ
เปลี่ยนแปลงการเคล่ือนที่ของวัตถุ และตัวกลางของแสง การข้ึนและตกและรูปร่าง ดวงจันทร์ และ
องค์ประกอบของระบบสุริยะ การใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา การออกแบบและเขียน
โปรแกรมอย่างง่าย การตรวจหาข้อผิดพลาดในโปรแกรม การค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตและการใช้
คาคน้ การประเมินความน่าเชอ่ื ถอื ของข้อมูล การรวบรวม นาเสนอข้อมูลและสารสนเทศ
ใช้การสืบเสาะหาความรู้ ตั้งคาถาม คาดคะเนคาตอบหรือสร้างสมมติฐาน วางแผน และ
สารวจตรวจสอบโดยใช้เครื่องมืออุปกรณ์และเทคโนโลยีสารสนเทศท่ีเหมาะสม ประเมิน ความ
น่าเช่ือถือของข้อมูล รวมรวมข้อมูล ประมวลผลอย่างง่าย วิเคราะห์ข้อมูล วิเคราะห์ผล และสร้าง
ทางเลือก นาเสนอข้อมูล ลงความคิดเห็นและสรุปผลการสารวจตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความรู้ความ
เข้าใจ มีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และมีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ในด้านการใช้
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเบื้องต้น มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถทางานร่วมกับผู้อ่ืน ใช้
เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา และอธิบายการทางานหรือคาดการผลลัพธ์จากปัญหาอย่างง่าย
ออกแบบและเขียนโปรแกรม ตรวจหาข้อผดิ พลาดจากโปรแกรมของตนเองและผอู้ นื่
ตระหนักถึงคุณค่าของความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และใช้ความรู้ และ
กระบวนการทางวิทยาศาสตรใ์ นการดารงชวี ติ สามารถสื่อสารอย่างมมี ารยาทและรู้กาลเทศะ รู้จักการ
ปกปอ้ งขอ้ มลู ส่วนตวั มีจิตวทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และค่านิยมที่เหมาะสม
รหัสตวั ชว้ี ดั
ว 1.2 ป.4/1
ว 1.3 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4
ว 2.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4
ว 2.2 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3
ว 2.3 ป.4/1
ว 3.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3
ว 4.2 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4, ป.4/5
รวมทั้งหมด 21 ตัวชี้วัด
หลกั สตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอุปถัมภ์) พุทธศักราช 2565 33
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พุทธศักราช 2560)
ผลกำรเรยี นวชิ ำส่งิ แวดลอ้ มศึกษำ 5 ข้อ
1. มีความรู้ความเข้าใจเก่ยี วกับส่งิ แวดล้อมทางธรรมชาติ สังคม เศรษฐกิจและการเมือง
รวมถงึ ความสมั พนั ธร์ ะหว่างมนษุ ยก์ บั สิง่ แวดล้อม
2. รับรู้และรู้สึกไวต่อปญั หาของสง่ิ แวดลอ้ ม ทจี่ ะสง่ ผลกระทบตอ่ คุณภาพชีวติ และทรพั ย์สิน
เห็นคณุ คา่ ของทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ้ ม ทัง้ ในระดับท้องถิน่ ระดบั ประเทศ ไปจนถงึ ระดับ
โลก
3. มีความเอ้ืออาทร ห่วงใยและรบั ผดิ ชอบต่อสงิ่ แวดลอ้ ม มีคา่ นยิ มท่ีถกู ต้องเหมาะสมในการ
ปฏบิ ัตติ ่อสิ่งแวดลอ้ ม
4. มีทกั ษะการช้ีบ่งปัญหา การแก้ปญั หา การป้องกนั ปญั หา การสื่อความหมายการตัดสินใจ
การประนปี ระนอม การสรา้ งความร่วมมือ การเรียนรู้ซงึ่ กนั และกัน
5. เกิดความรบั ผิดชอบและลงมอื ปฏิบตั เิ พอ่ื ส่ิงแวดล้อมทีด่ ีข้ึน และเพื่ออนาคตของคนรนุ่
ต่อไป
รวมผลการเรยี นวชิ าส่ิงแวดลอ้ มศึกษา 5 ขอ้
รวมทั้งหมด 26 ข้อ
หลกั สตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอุปถัมภ)์ พทุ ธศักราช 2565 34
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศักราช 2560)
คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพน้ื ฐำน
ว15101 วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี 5 กล่มุ สำระกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยี
ช้ันประถมศึกษำปีท่ี 5 เวลำ 120 ช่ัวโมง
.............................................................................................................................................................
ศึกษาการเรียนรู้แบบนักวิทยาศาสตร์ โครงสร้างและลักษณะของสิ่งมีชีวิตที่เหมาะสม ในแต่
ละแหล่งที่อยู่ ความสัมพันธ์ระหว่างส่ิงมีชีวิตกับส่ิงมีชีวิตและความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับ
สิ่งไมม่ ชี ีวติ การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมของพืช สัตว์ และมนุษย์ การเปล่ียนสถานะของสสาร
การละลายของสารในน้า การเปล่ียนแปลงทางเคมี การเปลี่ยนแปลงท่ีผันกลับได้และผันกลับไม่ได้
แรงลัพธ์ แรงเสียดทาน การได้ยินเสียงผ่านตัวกลาง ลักษณะและการเกิดเสียงสูง เสียงต่า เสียงดัง
และเสียงค่อย ระดับเสยี งและมลพษิ ทางเสยี ง ความแตกตา่ งของดาวเคราะห์และดาวฤกษ์ การใช้แผน
ทีด่ าว แบบรูปเส้นทางการขึ้นและตกของกลุ่มดาวฤกษ์บนท้องฟ้าในรอบปี ปริมาณน้า ในแต่ละแหล่ง
ปริมาณน้าที่มนุษย์สามารถนามาใช้ได้ การใช้น้าอย่างประหยัดและการอนุรักษ์น้า วัฏจักรน้า
กระบวนการเกิดเมฆ หมอก น้าค้าง และน้าค้างแข็ง กระบวนการเกิดฝน หิมะ และลูกเห็บ การใช้
เหตผุ ลเชงิ ตรรกะในการแก้ปัญหา การเขียนรหัสลาลองเพื่อแสดงวิธีแก้ปัญหา การออกแบบ และการ
เขียนโปรแกรมแบบมีเงื่อนไขและการทางานแบบวนซ้า การใช้ซอฟต์แวร์ประมวลผลข้อมูล การ
ติดต่อสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ต การใช้อินเทอร์เน็ตค้นหาข้อมูลและ การประเมิน ความน่าเชื่อถือของ
ขอ้ มูล อนั ตรายจากการใชง้ านและอาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ นต็
ใช้การสืบเสาะหาความรู้ สังเกต รวบรวมข้อมูล จัดกระทาและสื่อความหมายข้อมูล สร้าง
แบบจาลอง และอธิบายผลการสารวจตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ มีทักษะกระบวนการ
ทางวทิ ยาศาสตร์ขัน้ พ้นื ฐานและทกั ษะการเรียนรใู้ นศตวรรษที่ 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
และการสือ่ สารเบอ้ื งต้น สามารถสื่อสารสิ่งท่ีเรียนรู้ มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถทางานร่วมกับผู้อ่ืน
แสดงวิธีแก้ปัญหาโดยใช้เหตุผลเชิงตรรกะ ใช้รหัสลาลองแสดงวิธีการแก้ปัญหาอย่างเป็นข้ันตอน
ออกแบบ และเขียนโปรแกรมแบบมีเงื่อนไขและการทางานแบบวนซ้า ตรวจหาข้อผิดพลาดของ
โปรแกรม ใช้ซอฟต์แวร์ช่วยในการแก้ปัญหา ใช้อินเทอร์เน็ตติดต่อส่ือสารและค้นหาข้อมูล แยกแยะ
ขอ้ เท็จจริงกับข้อคิดเหน็ ประเมนิ ความน่าเชอื่ ถอื ของขอ้ มูล
ตระหนักถึงคุณค่าของความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และใช้ความรู้ และ
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการดารงชีวิต ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย และมีมารยาท
มจี ิตวทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และคา่ นิยมท่ีเหมาะสม
หลักสตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอปุ ถมั ภ์) พุทธศกั ราช 2565 35
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พทุ ธศกั ราช 2560)
รหสั ตัวชว้ี ดั
ว 1.1 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4
ว 1.3 ป.5/1, ป.5/2
ว 2.1 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4
ว 2.2 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4, ป.5/5
ว 2.3 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4, ป.5/5
ว 3.1 ป.5/1, ป.5/2
ว 3.2 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4, ป.5/5
ว 4.2 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4, ป.5/5
รวมท้งั หมด 32 ตัวชวี้ ดั
ผลกำรเรียนวชิ ำสงิ่ แวดลอ้ มศึกษำ 5 ขอ้
1. มคี วามร้คู วามเขา้ ใจเกยี่ วกับสง่ิ แวดล้อมทางธรรมชาติ สงั คม เศรษฐกิจและการเมือง
รวมถึงความสัมพันธร์ ะหว่างมนุษยก์ ับสิ่งแวดล้อม
2. รบั รู้และรู้สึกไวต่อปัญหาของส่ิงแวดลอ้ ม ทีจ่ ะส่งผลกระทบตอ่ คุณภาพชีวิตและทรพั ย์สิน
เห็นคุณค่าของทรพั ยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดล้อม ท้งั ในระดบั ท้องถ่นิ ระดับประเทศ ไปจนถงึ ระดบั
โลก
3. มคี วามเอ้ืออาทร หว่ งใยและรบั ผดิ ชอบต่อสง่ิ แวดล้อม มีคา่ นิยมท่ีถูกต้องเหมาะสมในการ
ปฏิบตั ติ อ่ สิ่งแวดลอ้ ม
4. มีทกั ษะการช้ีบง่ ปัญหา การแก้ปญั หา การป้องกันปญั หา การสอื่ ความหมายการตัดสินใจ
การประนปี ระนอม การสรา้ งความร่วมมอื การเรยี นรูซ้ งึ่ กันและกนั
5. เกดิ ความรับผิดชอบและลงมือปฏบิ ตั เิ พอ่ื ส่งิ แวดล้อมทด่ี ีข้ึน และเพ่ืออนาคตของคนรนุ่
ต่อไป
รวมผลการเรยี นวิชาส่งิ แวดลอ้ มศึกษา 5 ข้อ
รวมทง้ั หมด 37 ข้อ
หลักสตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอปุ ถัมภ)์ พทุ ธศักราช 2565 36
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พทุ ธศักราช 2560)
คำอธบิ ำยรำยวิชำพ้ืนฐำน
ว16101 วทิ ยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี 6 กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี
ชนั้ ประถมศกึ ษำปีท่ี 6 เวลำ 120 ชวั่ โมง
.............................................................................................................................................................
ศึกษา ค้นคว้า สารอาหารและประโยชน์ของสารอาหารแต่ละประเภทจากอาหารที่ตนเอง
รับประทาน การเลือกรับประทานอาหารให้ได้สารอาหารครบถ้วนในสัดส่วนที่เหมาะสมกับเพศ และ
วัย รวมท้ัง ความปลอดภัยตอ่ สุขภาพ ความสาคัญของสารอาหาร โดยการเลือกรับประทานอาหารที่มี
สารอาหารครบถว้ นในสัดส่วนท่เี หมาะสมกบั เพศและวยั รวมท้งั ปลอดภยั ต่อสุขภาพ ระบบย่อยอาหาร
และหน้าที่ของอวัยวะในระบบย่อยอาหาร รวมทั้งอธิบายการย่อยอาหาร และการดูดซึมสารอาหาร
ความสาคญั ของระบบยอ่ ยอาหาร แนวทางในการดูแลรักษาอวัยวะ ในระบบย่อยอาหารให้ทางานเป็น
ปกติ
ศึกษา ค้นควา้ การแยกสารผสมโดยการหยิบออก การร่อน การใช้แม่เหล็กดึงดูด การรินออก
การกรอง และการตกตะกอน วิธแี ก้ปัญหาในชีวิตประจาวันเกี่ยวกับการแยกสาร การเกิด และผลของ
แรงไฟฟ้าซึ่งเกิดจากวัตถุที่ผ่านการขัดถู ส่วนประกอบของวงจรไฟฟ้าอย่างง่าย และต่อวงจรไฟฟ้า
อย่างงา่ ย การต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบอนกุ รม ประโยชน์การต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรมและการประยุกต์ใช้
ในชีวิตประจาวัน การต่อหลอดไฟฟ้าแบบอนุกรมและแบบขนาน ประโยชน์ ข้อจากัด และการ
ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวันของการต่อหลอดไฟฟ้าแบบอนุกรมและแบบขนาน การเกิดเงามืดเงามัว
รงั สขี องแสงแสดงการเกิดเงามืดเงามวั
ศกึ ษา คน้ ควา้ การเกิดและเปรยี บเทียบปรากฏการณ์สุริยุปราคาและจันทรุปราคาพัฒนาการ
ของเทคโนโลยีอวกาศ การนาเทคโนโลยีอวกาศมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวัน การเกิดหินอัคนี หิน
ตะกอน และหินแปร และวฏั จกั รหนิ การใช้ประโยชน์ของหินและแร่ในชีวิตประจาวัน การเกิดซากดึก
ดาบรรพ์และสภาพแวดล้อมในอดตี ของซากดึกดาบรรพ์ การเกิดลมบก ลมทะเล และมรสุม ผลที่มีต่อ
สิ่งมีชีวิตและส่ิงแวดล้อม ผลของมรสุมต่อการเกิดฤดูของประเทศไทย ผลกระทบของน้าท่วมการกัด
เซาะชายฝั่ง ดินถล่ม แผ่นดินไหว สึนามิผลกระทบของภัยธรรมชาติและธรณีพิบัติภัย แนวทางในการ
เฝ้าระวังและปฏิบัติตนให้ปลอดภัยจากภัยธรรมชาติและธรณีพิบัติภัยที่อาจเกิดในท้องถ่ิน การเกิด
ปรากฏการณ์เรือนกระจก และผลของปรากฏการณ์เรือนกระจก ต่อส่ิงมีชีวิต ผลกระทบของ
ปรากฏการณ์เรือนกระจก แนวทางการปฏบิ ัตติ นเพอ่ื ลดกจิ กรรม ทีก่ ่อใหเ้ กิดแกส๊ เรอื นกระจก
ศึกษา ค้นคว้า การใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการอธิบายและออกแบบวิธีการแก้ปัญหาท่ีพบ ใน
ชีวิตประจาวัน การออกแบบและเขียนโปรแกรมอย่างง่าย เพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจาวัน ตรวจหา
ข้อผิดพลาดของโปรแกรมและแก้ไขการใช้อินเทอร์เน็ตในการค้นหาข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ การใช้
เทคโนโลยีสารสนเทศทางานร่วมกันอย่างปลอดภัย เข้าใจสิทธิและหน้าที่ ของตน เคารพในสิทธิของ
ผู้อื่น แจง้ ผเู้ กย่ี วข้องเมอื่ พบขอ้ มลู หรือบุคคลท่ีไมเ่ หมาะสม
โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การออกแบบการทดลองและทดลอง การระบุ การ
สืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ การคาดคะเน การสืบค้นข้อมูล การสร้างแบบจาลอง การ
หลกั สตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอปุ ถัมภ์) พทุ ธศักราช 2565 37
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พุทธศักราช 2560)
อธบิ าย การเปรียบเทียบ การเขียนแผนภาพการบรรยายและการอภิปรายเพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด
ความเข้าใจ สามารถสอื่ สารสงิ่ ท่ีเรียนรู้
รหสั ตัวชีว้ ดั
ว 1.2 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4, ป.6/5, ป.6/6
ว 2.1 ป.6/1
ว 2.2 ป.6/1
ว 2.3 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4, ป.6/5, ป.6/6, ป.6/7, ป.6/8
ว 3.1 ป.6/1, ป.6/2
ว 3.2 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4, ป.6/5, ป.6/6, ป.6/7, ป.6/8, ป.6/9
รวมทง้ั หมด 30 ตัวชีว้ ัด
ผลกำรเรียนวชิ ำสงิ่ แวดล้อมศึกษำ 5 ข้อ
1. มีความรคู้ วามเขา้ ใจเกี่ยวกับสง่ิ แวดล้อมทางธรรมชาติ สงั คม เศรษฐกิจและการเมือง
รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษยก์ บั สิง่ แวดลอ้ ม
2. รบั รูแ้ ละรู้สกึ ไวตอ่ ปญั หาของสิง่ แวดลอ้ ม ทจ่ี ะสง่ ผลกระทบต่อคุณภาพชีวติ และทรัพย์สนิ
เหน็ คณุ คา่ ของทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม ทัง้ ในระดบั ท้องถ่นิ ระดบั ประเทศ ไปจนถงึ ระดบั
โลก
3. มคี วามเอื้ออาทร ห่วงใยและรบั ผดิ ชอบต่อสง่ิ แวดล้อม มีค่านยิ มท่ีถูกต้องเหมาะสมในการ
ปฏิบัตติ อ่ สิ่งแวดล้อม
4. มที ักษะการชบ้ี ง่ ปัญหา การแก้ปญั หา การป้องกนั ปญั หา การส่ือความหมายการตัดสนิ ใจ
การประนปี ระนอม การสรา้ งความรว่ มมอื การเรยี นรซู้ ่งึ กันและกนั
5. เกิดความรับผิดชอบและลงมอื ปฏบิ ัตเิ พื่อส่งิ แวดล้อมทด่ี ีขึ้น และเพ่ืออนาคตของคนรุ่น
ต่อไป
รวมผลการเรียนวชิ าสงิ่ แวดลอ้ มศึกษา 5 ขอ้
รวมท้ังหมด 35 ข้อ
หลักสตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอุปถมั ภ)์ พุทธศักราช 2565 38
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พุทธศกั ราช 2560)
คำอธิบำยรำยวิชำเพิ่มเติม
ว11201 เทคโนโลยี 1 กลมุ่ สำระกำรเรยี นรวู้ ทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยี
ชั้นประถมศึกษำปที ี่ 1 เวลำ 40 ชัว่ โมง
……………………………………………………………………………………………………………………………………………….
การแก้ปัญหาโดยการลองผิดลองถูก การเปรียบเทียบ การเขียนโปรแกรมอย่างง่ายโดยใช้
ซอฟต์แวร์หรือส่อื การใช้งานอุปกรณเ์ ทคโนโลยเี บ้อื งตน้ การใช้งานซอฟต์แวร์เบอื้ งตน้
ใช้การสืบเสาะหาความรู้ สังเกต สารวจตรวจสอบโดยใช้เครื่องมืออย่างง่าย รวบรวมข้อมูล
บันทึก และอธิบายผลการสารวจตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ มีทักษะกระบวนการ ทาง
วิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานและมีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
และการสื่อสารเบื้องต้น สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถทางานร่วมกับผู้อ่ืน
แสดงขั้นตอนการแก้ปัญหาอย่างง่าย เขียนโปรแกรมโดยใช้ส่ือ สร้าง จัดเก็บและเรียกใช้ไฟล์ตาม
วตั ถุประสงค์
ตระหนักถึงประโยชน์ของการใช้ความรู้และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการดารงชีวิต
ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย ปฏิบัติตามข้อตกลงในการใช้งาน ดูแลรักษาอุปกรณ์และใช้
งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างเหมาะสม มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมท่ี
เหมาะสม
ผลกำรเรียนรู้
1. รวบรวม ประมวลผล และนาเสนอข้อมูล โดยใชซ้ อฟแวรต์ ามวัตถปุ ระสงค์
2. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย ปฏิบัติตามข้อตกลงในการใช้คอมพิวเตอร์ร่วมกัน
ดูแลรกั ษาอปุ กรณ์เบอื้ งตน้
3. แก้ปญั หาอยา่ งงา่ ยโดยใช้การลองผดิ ลองถูก การเปรยี บเทียบ
4. แสดงลาดบั ข้ันตอนการทางานหรือการแกป้ ญั หาอย่างงา่ ยโดยใชภ้ าพ
5. เขียนโปรแกรมอยา่ งงา่ ยโดยใชซ้ อฟแวรห์ รือส่อื
6. ใช้เทคโนโลยใี นการสร้างจดั เก็บ เรยี กใชข้ ้อมลู ตามวัตถุประสงค์
รวมทง้ั หมด 6 ผลกำรเรียนรู้
หลักสตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอปุ ถัมภ)์ พทุ ธศกั ราช 2565 39
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พุทธศกั ราช 2560)
คำอธิบำยรำยวชิ ำเพ่ิมเติม
ว12202 เทคโนโลยี 2 กลุม่ สำระกำรเรยี นรูว้ ิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ชัน้ ประถมศึกษำปีที่ 2 เวลำ 40 ช่ัวโมง
……………………………………………………………………………………………………………………………………………….
การแสดงขนั้ ตอนการแก้ปัญหา การตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม การใช้งานซอฟต์แวร์
เบ้ืองต้น การจัดการไฟล์และโฟลเดอร์ การใช้งานและดูแลรักษาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีใน
ชวี ิตประจาวนั การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย
ใช้การสืบเสาะหาความรู้ สังเกต จาแนกประเภท รวบรวมข้อมูล บันทึก และอธิบายผลการ
สารวจตรวจสอบ เพ่ือใหเ้ กิดความรู้ความเขา้ ใจ มีทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ข้ันพ้ืนฐานและมี
ทักษะ การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเบ้ืองต้น
สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถทางานร่วมกับผู้อื่น แสดงข้ันตอนการ
แก้ปัญหาอย่างง่าย เขียนโปรแกรมแบบมีเงื่อนไขโดยใช้บัตรคาสั่งและตรวจหาข้อผิดพลาด ใช้งาน
ซอฟตแ์ วร์ สร้าง จัดหมวดหมไู่ ฟล์และโฟลเดอร์
ตระหนักถึงประโยชน์ของการใช้ความรู้และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการดารงชีวิต
ตระหนักถึงความสาคัญของการปกป้องข้อมูลส่วนตัว ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย ดูแล
รกั ษาอปุ กรณค์ อมพวิ เตอร์ มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และคา่ นยิ มทเี่ หมาะสม
ผลกำรเรยี นรู้
1. รวบรวม ประมวลผล และนาเสนอขอ้ มูล โดยใช้ซอฟแวรต์ ามวตั ถุประสงค์
2. ใชเ้ ทคโนโลยใี นการสรา้ ง จัดหมวดหมู่ ค้นหา จดั เกบ็ เรยี กใช้ข้อมลู ตามวตั ถุประสงค์
3. แสดงลาดับขัน้ ตอนการทางานหรอื การแกป้ ัญหาอยา่ งงา่ ยโดยใชภ้ าพ สัญลักษณ์ หรอื ขอ้ ความ
4. เขียนโปรแกรมอย่างง่ายโดยใช้ซอฟแวรห์ รือสื่อ และตรวจหาข้อผดิ พลาดของโปรแกรม
5. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย ปฏิบัติตามข้อตกลงในการใช้คอมพิวเตอร์ร่วมกัน ดูแล
รักษาอปุ กรณ์เบื้องตน้ ใชง้ านอยา่ งเหมาะสม
รวมทั้งหมด 5 ผลกำรเรยี นรู้
หลกั สตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอุปถัมภ)์ พทุ ธศกั ราช 2565 40
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พทุ ธศักราช 2560)
คำอธิบำยรำยวิชำเพ่ิมเติม
ว13203 เทคโนโลยี 3 กลมุ่ สำระกำรเรยี นรวู้ ิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี
ช้ันประถมศกึ ษำปที ี่ 3 เวลำ 40 ชัว่ โมง
……………………………………………………………………………………………………………………………………………….
การแสดงข้ันตอนการแก้ปัญหาโดยใช้เหตุผลเชิงตรรกะเบ้ืองต้น การเขียนโปรแกรมแบบวนซ้า
โดยใช้บัตรคาส่ังและการตรวจหาข้อผิดพลาด การใช้อินเทอร์เน็ต และข้อตกลงในการใช้งาน การ
รวบรวมข้อมูล การประมวลผลข้อมูลเบื้องต้น การนาเสนอข้อมูล เทคโนโลยี ในงานด้านต่าง ๆ ข้อดี
และขอ้ เสียในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร
ใช้การสืบเสาะหาความรู้ สังเกต รวบรวมข้อมูล จัดกระทาและส่ือความหมายข้อมูล สร้าง
แบบจาลอง และอธิบายผลการสารวจตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ มีทักษะกระบวนการ
ทางวิทยาศาสตร์ ข้ันพ้ืนฐานและมีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยี
สารสนเทศและการส่ือสารเบื้องต้น สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถทางาน
รว่ มกับผู้อ่นื แสดงขน้ั ตอนการแก้ปญั หา เขียนโปรแกรมแบบวนซ้าโดยใช้บัตรคาส่ัง ใช้อินเทอร์เน็ตใน
การคน้ หาความรู้ รวบรวม ประมวลผล และนาเสนอข้อมูลตามวตั ถุประสงค์
ตระหนักถึงประโยชน์ของการใช้ความรู้และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการดารงชีวิต
ตระหนักถึงการใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัยและอยู่ในการดูแลของครูหรือผู้ปกครอง มีจิต
วทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และค่านิยมที่เหมาะสม
ผลกำรเรียนรู้
1. ใช้อนิ เตอรเ์ นต็ ค้นหาความรู้
2. รวบรวมประมวลผลและนาเสนอขอ้ มลู โดยใช้ซอฟแวรต์ ามวัตถุประสงค์
3. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย ปฏิบัติตามข้อตกลงในการใช้คอมพิวเตอร์
ร่วมกัน ดูแลรกั ษาอุปกรณ์เบือ้ งตน้ ใช้งานอย่างเหมาะสม
4. แสดงอัลกอริทึมในการทางานหรือการแก้ปัญหาอย่างง่ายโดยใช้ภาพสัญลักษณ์ หรือ
ข้อความ
5. เขยี นโปรแกรมอยา่ งงา่ ยโดยใชซ้ อฟแวรห์ รอื สือ่ และตรวจหาข้อผดิ พลาดของโปรแกรม
6. ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั ปฏิบัติตามข้อตกลงในการใช้คอมพวิ เตอร์
รวมท้ังหมด 6 ผลกำรเรยี นรู้
หลักสตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอปุ ถมั ภ)์ พทุ ธศกั ราช 2565 41
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พทุ ธศกั ราช 2560)
คำอธิบำยรำยวชิ ำเพ่ิมเตมิ
ว14204 เทคโนโลยี 4 กลมุ่ สำระกำรเรยี นรวู้ ทิ ยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ชั้นประถมศึกษำปีท่ี 4 เวลำ 40 ชวั่ โมง
……………………………………………………………………………………………………………………………………………….
การใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา การออกแบบและเขียนโปรแกรมอย่างง่าย การ
ตรวจหาข้อผิดพลาดในโปรแกรม การค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตและการใช้คาค้น การประเมินความ
น่าเช่อื ถอื ของข้อมูล การรวบรวม นาเสนอข้อมูลและสารสนเทศ
ใช้การสืบเสาะหาความรู้ ตั้งคาถาม คาดคะเนคาตอบหรือสร้างสมมติฐาน วางแผนและ
สารวจตรวจสอบโดยใช้เคร่ืองมืออุปกรณ์และเทคโนโลยีสารสนเทศท่ีเหมาะสม ประเมินความ
น่าเชื่อถือ ของข้อมูล รวมรวมข้อมูล ประมวลผลอย่างง่าย วิเคราะห์ข้อมูล วิเคราะห์ผลและสร้าง
ทางเลือก นาเสนอข้อมูล ลงความคิดเห็นและสรุปผลการสารวจตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความรู้ความ
เข้าใจ มีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และมีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ในด้านการใช้
เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารเบื้องต้น มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถทางานร่วมกับผู้อ่ืน ใช้
เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา และอธิบายการทางานหรือคาดการผลลัพธ์จากปัญหาอย่างง่าย
ออกแบบและเขียนโปรแกรม ตรวจหาขอ้ ผดิ พลาดจากโปรแกรมของตนเองและผูอ้ นื่
ตระหนักถึงคุณค่าของความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และใช้ความรู้และ
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการดารงชวี ิต สามารถสอื่ สารอยา่ งมีมารยาทและรู้กาลเทศะ รู้จักการ
ปกป้องขอ้ มลู สว่ นตวั มีจติ วทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมทเี่ หมาะสม
ผลกำรเรยี นรู้
1. ใชเ้ ทคโนโลยใี นการสร้างจดั เก็บเรยี กใช้ข้อมลู ตามวตั ถปุ ระสงค์
2. อภิปรายองค์ประกอบและหลักการทางานของระบบคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีการ
สือ่ สาร เพอื่ ประยุกต์ใชง้ านหรอื แกป้ ัญหาเบือ้ งตน้
3. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัยเข้าใจสิทธิและหน้าที่ของตนเคารพในสิทธิของ
ผู้อนื่ แจ้งผู้เก่ียวข้องเม่ือพบข้อมูลหรือบุคคลท่ีไมเ่ หมาะสม
4. ใชเ้ ทคโนโลยใี นการสรา้ งจดั หมวดหมู่ ค้นหา จัดเก็บ เรียกใช้ขอ้ มลู ตามวัตถปุ ระสงค์
5. รวบรวม ประเมิน นาเสนอข้อมูลและสารสนเทศ โดยใช้ซอฟแวร์ท่ีหลากหลายเพื่อ
แกป้ ญั หาในชวี ิตประจาวัน
6. ใช้เหตุผลเชงิ ตรรกะในการแก้ปัญหา การอธิบายการทางานการคาดการณ์ผลลัพธ์ จากปัญหา
อย่างง่าย
7. ออกแบบและเขียนโปรแกรมอย่างง่าย โดยใช้ซอฟแวร์หรือส่ือ และตรวจหาข้อผิดพลาด
และแก้ไข
8. ใชอ้ นิ เตอร์เน็ตคน้ หาความรู้ และประเมินความนา่ เชอ่ื ถือของข้อมลู
รวมท้ังหมด 8 ผลกำรเรยี นรู้
หลกั สตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอุปถัมภ)์ พุทธศักราช 2565 42
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พุทธศกั ราช 2560)
คำอธิบำยรำยวชิ ำเพิ่มเติม
ว15205 เทคโนโลยี 5 กลุม่ สำระกำรเรียนรวู้ ิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี
ชนั้ ประถมศกึ ษำปีที่ 5 เวลำ 40 ชว่ั โมง
……………………………………………………………………………………………………………………………………………….
การใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา การเขียนรหัสลาลองเพื่อแสดงวิธีแก้ปัญหา การ
ออกแบบ และการเขียนโปรแกรมแบบมีเงื่อนไขและการทางานแบบวนซ้า การใช้ซอฟต์แวร์
ประมวลผลขอ้ มลู การติดต่อสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ต การใช้อินเทอร์เน็ตค้นหาข้อมูลและการประเมิน
ความน่าเชอ่ื ถอื ของขอ้ มูล อนั ตรายจากการใชง้ านและอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต
ใช้การสืบเสาะหาความรู้ สังเกต รวบรวมข้อมูล จัดกระทาและส่ือความหมายข้อมูล สร้าง
แบบจาลอง และอธิบายผลการสารวจตรวจสอบ เพ่ือให้เกิดความรู้ความเข้าใจ มีทักษะกระบวนการ
ทางวิทยาศาสตร์ ข้ันพื้นฐานและทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยี
สารสนเทศและการส่ือสารเบื้องต้น สามารถส่ือสารสิ่งท่ีเรียนรู้ มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถทางาน
ร่วมกบั ผอู้ นื่ แสดงวิธีแก้ปัญหาโดยใช้เหตุผลเชิงตรรกะ ใช้รหัสลาลองแสดงวิธีการแก้ปัญหาอย่างเป็น
ข้ันตอน ออกแบบ และเขียนโปรแกรมแบบมีเง่ือนไขและการทางานแบบวนซ้า ตรวจหาข้อผิดพลาด
ของโปรแกรม ใช้ซอฟต์แวร์ช่วยในการแก้ปัญหา ใช้อินเทอร์เน็ตติดต่อส่ือสารและค้นหาข้อมูล
แยกแยะข้อเทจ็ จรงิ กับขอ้ คิดเห็น ประเมินความน่าเชอ่ื ถอื ของข้อมูล
ตระหนักถึงคุณค่าของความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และใช้ความรู้และ
กระบวนการ ทางวทิ ยาศาสตร์ในการดารงชีวิต ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัยและมีมารยาท
มีจติ วทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และคา่ นิยมทเี่ หมาะสม
ผลกำรเรยี นรู้
1. ใช้อินเตอร์เน็ตค้นหาข้อมูลติดต่อส่ือสารและทางานร่วมกันประเมินความน่าเชื่อถือของ
ข้อมูล
2. รวบรวม ประเมนิ นาเสนอและสารสนเทศตามวัตถุประสงค์ โดยใช้ซอฟแวร์หรือบริการ
บนอินเทอร์เนต็ ทหี่ ลากหลายเพ่ือแกป้ ัญหาในชวี ติ ประจาวนั
3. ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา การอธิบายการทางานการคาดการณ์ผลลัพธ์ จาก
ปญั หาอย่างงา่ ย
4. ออกแบบและเขียนโปรแกรม ทีม่ กี ารใช้เหตุผลเชิงตรรกะอย่างง่าย ตรวจหาข้อผิดพลาด
และแกไ้ ข
5. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย มีมารยาท เข้าใจสิทธิและหน้าที่ของตน เคารพ
ในสิทธขิ องผู้อน่ื แจง้ ผเู้ กย่ี วขอ้ งเม่ือพบขอ้ มูลหรอื บุคคลที่ไม่เหมาะสม
รวมทง้ั หมด 5 ผลกำรเรยี นรู้
หลักสตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอปุ ถมั ภ)์ พทุ ธศักราช 2565 43
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พทุ ธศักราช 2560)
คำอธบิ ำยรำยวิชำเพ่ิมเตมิ
ว16206 เทคโนโลยี 6 กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี
ช้ันประถมศึกษำปีท่ี 6 เวลำ 40 ช่ัวโมง
……………………………………………………………………………………………………………………………………………….
การใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการอธิบายและออกแบบวิธีการแก้ปัญหา การออกแบบ การ
เขยี นโปรแกรมและการตรวจหาข้อผดิ พลาด การค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตอย่างมีประสิทธิภาพ การ
ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศในการทางานร่วมกนั
ใช้การสืบเสาะหาความรู้ สังเกต รวบรวมข้อมูล จัดกระทาและส่ือความหมายข้อมูล สร้าง
แบบจาลอง และอธิบายผลการสารวจตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ มีทักษะกระบวนการ
ทางวิทยาศาสตรข์ ้นั พนื้ ฐานและทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
และการส่ือสารเบ้ืองต้น สามารถสื่อสารสิ่งท่ีเรียนรู้ มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถทางานร่วมกับผู้อื่น
อธิบายและออกแบบวิธีการแก้ปัญหาโดยใช้เหตุผลเชิงตรรกะ เขียนโปรแกรมอย่างง่ายเพื่อแก้ปัญหา
และตรวจหาขอ้ ผิดพลาดของโปรแกรม ค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตอย่างมีประสิทธิภาพ ใช้เทคโนโลยี
สารสนเทศทางานรว่ มกนั
ตระหนักถึงคุณค่าของความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และใช้ความรู้และ
กระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์ในการดารงชีวิต ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศร่วมกันอย่างปลอดภัย เข้าใจ
สิทธิและหนา้ ทีข่ องตน เคารพในสิทธขิ องผอู้ ื่น มจี ติ วิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุ
ผลกำรเรยี นรู้
1. ออกแบบและเขียนโปรแกรมอยา่ งง่ายเพื่อแกป้ ัญหาในชวี ิตประจาวัน ตรวจหาข้อผิดพลาด
ของโปรแกรมและแก้ไข
2. ใช้อินเทอร์เนต็ ในการค้นหาข้อมลู อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ
3. รวบรวม ประเมนิ นาเสนอและสารสนเทศตามวตั ถปุ ระสงค์ โดยใช้ซอฟแวร์หรอื บริการบน
อนิ เทอร์เนต็ ทหี่ ลากหลายเพื่อแก้ปัญหาในชีวติ ประจาวนั
4. ใชเ้ หตผุ ลเชิงตรรกะในการอธบิ ายและออกแบบวธิ กี ารแกป้ ญั หาทพ่ี บในชวี ิตประจาวัน
5. ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศสารสนเทศทางานร่วมกันอย่างปลอดภัย เข้าใจสิทธิและหน้าที่ของ
ตน เคารพในสทิ ธขิ องผู้อ่ืน แจ้งผู้เก่ียวข้องเมอ่ื พบข้อมลู หรือบุคคลที่ไมเ่ หมาะสม
รวมท้ังหมด 5 ผลกำรเรยี นรู้
หลักสตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอปุ ถมั ภ์) พทุ ธศักราช 2565 44
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พุทธศักราช 2560)
รำยวิชำพ้นื ฐำน กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้สงั คมศึกษำ ศำสนำ และวัฒนธรรม
ระดับช้นั ประถมศกึ ษำ
รำยวิชำพื้นฐำน จานวน 40 ชว่ั โมง
ส11101 สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม 1 จานวน 40 ชัว่ โมง
ส11102 ประวตั ิศาสตร์ 1 จานวน 40 ชว่ั โมง
ส12101 สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม 2 จานวน 40 ชั่วโมง
ส12102 ประวัตศิ าสตร์ 2 จานวน 40 ชวั่ โมง
ส13101 สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม 3 จานวน 40 ชั่วโมง
ส13102 ประวตั ิศาสตร์ 3 จานวน 40 ชั่วโมง
ส14101 สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม 4 จานวน 40 ช่ัวโมง
ส14102 ประวตั ศิ าสตร์ 4 จานวน 40 ชวั่ โมง
ส15101 สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม 5 จานวน 40 ชว่ั โมง
ส15102 ประวัติศาสตร์ 5 จานวน 40 ช่ัวโมง
ส16101 สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม 6 จานวน 40 ชว่ั โมง
ส16102 ประวตั ศิ าสตร์ 6
หลกั สตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอปุ ถมั ภ์) พทุ ธศักราช 2565 45
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พทุ ธศักราช 2560)
คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพนื้ ฐำน
ส11101 สังคมศึกษำ ฯ 1 กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้สงั คมศกึ ษำ ศำสนำ และวัฒนธรรม
ช้ันประถมศึกษำปีท่ี 1 เวลำ 40 ชว่ั โมง
................................................................................................................................. ...............................
ศึกษา เกี่ยวกับประวัติความเป็นมา ความสาคัญ ศาสนา หลักธรรมของพุทธศาสนา พุทธ
ประวัติ พระรัตนตรัย พุทธศาสนสุภาษิต วันสาคัญ ประวัติสาวก ชาดก ฝึกสวดมนต์ แผ่เมตตา การ
ปฏิบัติตนเป็นของศาสนิกชนและศาสนาอื่น บุคคลตัวอย่างในท้องถิ่น ประเทศ ปฏิบัติตนตาม
หลักธรรม เพ่ืออยู่ร่วมกันอย่างสนั ตสิ ขุ
ศึกษา ปฏิบัติตนเป็นสมาชิกท่ีดีของครอบครัว ยกตัวอย่างความดีของตนเองและผู้อื่น
โครงสรา้ งบทบาทหน้าที่ของสมาชกิ มีส่วนรว่ มในการตัดสนิ ใจ
ศึกษา สารวจ เปรียบเทียบ สินค้าและบริการท่ีใช้อยู่ในชีวิตประจาวัน เช่น ดินสอ สมุด
กระดาษ เสื้อผ้า การได้มาโดยใชเ้ งนิ ซื้อ หรือได้มาโดยการบริจาค หรือได้มาโดยการแลกเปล่ียนสินค้า
หรอื บรกิ าร การใชป้ ระโยชนจ์ ากสินคา้ และบรกิ ารให้คุ้มค่า มีการวางแผนการใช้เงิน การประหยัดเก็บ
ออม การทางานอย่างสุจรติ เพอ่ื ให้ครอบครัวและสงั คมอยไู่ ด้อย่างเปน็ สุข
ศึกษา สารวจ ส่ิงต่าง ๆ ที่เกิดข้ึนเองตามธรรมชาติ และท่ีมนุษย์สร้างข้ึน ระบุความสัมพันธ์
ตาแหน่ง ระยะทิศทางของท่ีต้ัง แผนผังสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวในห้องเรียน สังเกตการณ์เปล่ียนแปลง
สภาพอากาศ บอกสิ่งที่เกิดข้ึนเองตามธรรมชาติที่ส่งผลต่อมนุษย์ เปรียบเทียบความเปลี่ยนแปลงของ
สภาพแวดล้อมที่อยู่รอบตัว ที่อยู่อาศัย อาหาร เครื่องแต่งกาย และมีส่วนร่วมในการจัดระเบียบ
สภาพแวดล้อมท่ีบ้านและชนั้ เรยี น
ศึกษา ความหมายของการแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม
ความละอายและความไมท่ นตอ่ การทุจริต STRONG : จติ พอเพียงตา้ นทุจริต และความรับผิดชอบ ต่อ
ตนเอง
โดยใชก้ ระบวนการสบื คน้ กระบวนการขดั เกลาทางสังคม กระบวนการทางจรยิ ธรรม
กระบวนการพฒั นาค่านยิ ม กระบวนการประชาธิปไตย กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการคิด
วิเคราะห์ กระบวนการทางภมู ิศาสตร์
เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ และปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดี เป็นผู้ละอายและไม่ทนต่อ การ
ทุจริตทุกรูปแบบ ปฏิบัติตนเป็นผู้ท่ี STRONG : จิตพอเพียงต้านทุจริต ปฏิบัติตนตามหน้าท่ีพลเมือง
และมีความรับผิดชอบต่อสังคม และเห็นความสาคัญของการต่อต้านทุจริตและป้องกัน การทุจริต นา
หลักธรรมทางศาสนาและหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงประยุกต์ใช้ในการดารงชีวิต อยู่ในสังคม
ร่วมกันอย่างสันติสุข เคารพในสิทธิของความเป็นมนุษย์ เห็นคุณค่า ช่ืนชม วัฒนธรรมประเพณีไทย
อนรุ ักษ์สืบสานภมู ปิ ญั ญาไทย ภมู ิปญั ญาท้องถน่ิ
หลักสตู รโรงเรยี นนาจะหลวย (กรป.กลางอุปถัมภ์) พุทธศกั ราช 2565 46
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศักราช 2560)