40 ขั้นตอนการส ารองข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย 1. ก ำหนดไดเร็กทรอรี่ส ำหรับกำรส ำรองข้อมูล 2. ตรวจสอบพื้นที่ว่ำงส ำหรับกำรส ำรองข้อมูลต่ำงๆ พื้นที่ว่ำงใน Hard Disk 3. ตรวจสอบอุปกรณ์ต่อพ่วงว่ำสำมำรถท ำกำรส ำรองได้หรือไม่ เช่น เครื่องบันทึกเทป, เครื่อง Hard Disk ชนิดภำยนอก และ ภำยใน 4. ก ำหนดกำรส ำรองเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ำยให้บริกำร (Application Server) ส ำรองข้อมูลโปรแกรมที่ให้บริกำร (Application Backup) ส ำรองข้อมูลเอกสำรไฟล์แนบ (Image Backup) 5. ก ำหนดกำรส ำรองเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ำยจัดกำรฐำนข้อมูล ส ำรองฐำนข้อมูล (Database Backup) 6. ตรวจสอบข้อมูลที่ได้ท ำกำรส ำรอง 3.3.2 การน าข้อมูลงานวิจัยกลับมาใช้ใหม่ (System Recovery) ขั้นตอนกระบวนการกู้คืนข้อมูลไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย 1. ตรวจสอบรำยกำร Backup ที่ท ำไว้พร้อมทั้งท ำกำรเลือกไฟล์ที่จะใช้ Recovery ทั้งเครื่อง คอมพิวเตอร์แม่ข่ำยให้บริกำร (Application Server) และ เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ำยจัดกำร ฐำนข้อมูล (Database Server) 2. ติดตั้งระบบ Microsoft Windows Server 2008 และ Software OS Windows Server 2008 Enterprise Edition + Service Pack ล่ำสุด + IIS 7.0 Software Database SQL Server 2008 Standard Edition + Service Pack ล่ำสุด Anti Virus 3. ปรับแต่งค่ำกำรใช้งำน (Configuration) ระบบเครือข่ำยประจ ำเครื่อง (Network) ระบบต่ำงๆ ของ System เช่น ชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ำย, ชุด IP Address เป็นต้น 4. กำรกู้คืนของข้อมูล (Recovery) กู้คืนข้อมูลโปรแกรมที่ให้บริกำร (Application Backup) กู้คืนข้อมูลเอกสำรไฟล์แนบ (Image Backup)
41 กู้คืนฐำนข้อมูล (Database Backup) 5. ทดสอบระบบ 6. ส ำรองข้อมูล ส ำรองข้อมูลโปรแกรมที่ให้บริกำร (Application Backup) ส ำรองข้อมูลเอกสำรไฟล์แนบ (Image Backup) ส ำรองฐำนข้อมูล (Database Backup) ส ารองข้อมูล (Backup) กำรส ำรองข้อมูล คือ สิ่งที่ควรท ำเป็นประจ ำ โดยเฉพำะใน ยุคที่อำชญำกรรมไซเบอร์มีให้เห็นเป็นบ่อยๆ แบบนี้ เพรำะจะช่วยให้เรำมั่นใจได้ว่ำข้อมูลจะปลอดภัย โดยเทคนิคที่นิยมใช้กัน คือ กฎ 3-2-1 Backup Rule ตำมภำพประกอบที่ 3.16 ภำพที่ 3.16 กำรส ำรองข้อมูลตำมกฎ 3-2-1 ที่มำของภำพ : https://blog.cloudhm.co.th/3-2-1-backup-rule/ ข้อควรระวัง และ สิ่งที่ควรค านึงในการปฏิบัติงาน
42 1) ให้มีกำรเก็บข้อมูลส ำคัญเอำไว้ 3 ชุดเป็นอย่ำงน้อย ได้แก่ข้อมูลหลักต้นฉบับ 1 ชุด และข้อมูลส ำรองอีก 2 ชุด (จะได้กระจำยข้อมูลไปเก็บหลำยๆ อุปกรณ์ได้) 2) ควรเก็บไฟล์เหล่ำนั้นเอำไว้บนอุปกรณ์ที่แยกขำดจำกกัน 2 ประเภทเป็นอย่ำง น้อย (หำกอุปกรณ์หนึ่งเสีย อีกอุปกรณ์จะได้ยังคงไม่เสียไปด้วยปัจจัยเดียวกัน) 3) ข้อมูลส ำรองชุดหนึ่ง ควรน ำไปเก็บไว้ที่ต่ำงสำขำ หรือส ำรองเอำไว้แบบ Offline เป็นอย่ำงน้อย (หำกเกิดเหตุใดๆ ขึ้นกับสถำนที่หนึ่ง จะได้ยังคงมีข้อมูลส ำรองที่ปลอดภัยจำกเหตุนั้นๆ 3.4 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง การระบบสารสนเทศงานวิจัย เมทิกำ พ่วงแสง และ วิสุตำ วรรณห้วย, 2562 (วำรสำรเทคโนโลยีสื่อสำรมวลชน มทร.พระ นคร Vol. 4 No. 1 (2562): มกรำคม-มิถุนำยน) ได้ศึกษำวิจัย กำรพัฒนำระบบสำรสนเทศส ำหรับกำร จัดกำรข้อมูลงำนวิจัยในยุคดิจิทัล มหำวิทยำลัยเทคโนโลยีรำชมงคลพระนคร เพื่อศึกษำแนวทำงกำร จัดกำรข้อมูลงำนวิจัยในยุคดิจิทัลและพัฒนำระบบสำรสนเทศเพื่อจัดกำรข้อมูลงำนวิจัยเตรียมควำม พร้อมส ำหรับกำรเป็นมหำวิทยำลัยดิจิทัลและศึกษำควำมพึงพอใจประสิทธิภำพระบบสำรสนเทศ ส ำหรับกำรจัดกำรข้อมูลงำนวิจัยของมหำวิทยำลัยเทคโนโลยีรำชมงคลพระนคร โดยจัดท ำในรูปแบบ ของเว็บแอพพลิเคชั่น (Web Application) และจัดเก็บข้อมูลด้วยฐำนข้อมูลมำยเอสคิวแอล (MySQL) โดยระบบสำมำรถจัดกำรข้อมูลงำนวิจัย กำรน ำเข้ำ กำรบันทึก แก้ไข ลบข้อมูล กำรเพิ่มเติม และกำร สืบค้นข้อมูลได้ ผลปรำกฏว่ำระบบระบบสำรสนเทศส ำหรับงำนวิจัย มหำวิทยำลัยเทคโนโลยีรำชมงคล พระนคร มีประสิทธิภำพอยู่ในระดับดี การเพิ่มคุณภาพบริการด้วยระบบสารสนเทศ วุทธิชัย ลิ้มอรุโณทัย และ ธีระวัฒน์ จันทึก (วำรสำร Veridian E-Journal ,Silpakorn University ฉบับภำษำไทย สำขำมนุษยศำสตร์ สังคมศำสตร์ และศิลปะ ปีที่ 9 ฉบับที่ 1 เดือน มกรำคม – เมษำยน 2559) ได้ศึกษำวิจัย กำรน ำระบบสำรสนเทศมำใช้เพื่อเพิ่มคุณภำพกำรบริกำร การท า Backup ตาม 3-2-1 Backup Rule “ต้อง Backup อย่ำงน้อยจ ำนวน 3 Copy” “เก็บ Backup จ ำนวน 2 Copy ไว้ที่อุปกรณ์แตกต่ำงกัน” “เก็บ Backup อย่ำงน้อย 1 Copy ที่ Offsite”
43 ของที่พักอำศัย:คอนโดมิเนียม ปรำกฏว่ำ ระบบสำรสนเทศมีบทบำทส ำคัญในกำรเพิ่มคุณภำพกำร บริกำร มีส่วนช่วยท ำให้องค์กรทำงำนได้อย่ำงสะดวก รวดเร็ว และประสิทธิภำพ มีส่วนช่วยให้เกิดกำร ติดต่อสื่อสำรผ่ำนเครือข่ำยสังคมออนไลน์ได้อย่ำงเป็นระบบ ระบบสำรสนเทศจึงถือเป็นระบบที่ช่วย ท ำให้เกิดคุณภำพกำรบริกำรของที่พักอำศัยประเภทคอนโดมิเนียมดียิ่งขึ้น ดังนั้นถ้ำเรำน ำระบบ สำรสนเทศมำใช้จะท ำให้ผู้รับบริกำรได้รับกำรบริกำรที่มีคุณภำพเพิ่มขึ้น บทควำมนี้จัดทำขึ้นโดยมี วัตถุประสงค์ส ำคัญคือ 1) เพื่อให้ทรำบถึงบทบำทและควำมส ำคัญของเทคโนโลยีสำรสนเทศที่มีต่อที่ พักอำศัยประเภทคอนโดมิเนียม ทำให้ผู้ประกอบกำร และเจ้ำของห้องพักในคอนโดมิเนียมได้ผลักดัน ให้เกิดกำรพัฒนำระบบสำรสนเทศมำใช้ในกำรจัดด้ำนกำรบริกำร สำหรับนิติบุคคลเจ้ำของร่วมและผู้ พักอำศัยได้อย่ำงมีประสิทธิภำพ 2) เพื่อนำเสนอแนวทำงในกำรนำระบบสำรสนเทศมำใช้เพื่อเพิ่ม คุณภำพกำรบริกำร สำหรับนักพัฒนำระบบสำรสนเทศนำไปใช้เป็นแนวทำงในกำรพัฒนำระบบ สำรสนเทศเพื่อผู้พักอำศัยในคอนโดมิเนียมต่อไป โดยแนวทำงระบบสำรสนเทศต้องมีพื้นที่เพื่อให้เกิด กำรบริกำรเหล่ำนี้ผ่ำนจอออนไลน์ประกอบด้วย มีพื้นที่กำรแจ้งข้อมูลข่ำวสำร มีคู่มือกำรใช้งำน กำร แจ้งเหตุฉุกเฉิน มีพื้นที่ร้องเรียนมีพื้นที่กิจกรรม มีพื้นทีแสดงควำมคิดเห็น วรินทร ซอกหอม และนครินทร์ ชัยแก้ว (วำรสำร Mahidol R2R e-Journal ปีที่8 ฉบับที่1 ประจ ำเดือนมกรำคม-เมษำยน 2564) ได้วิจัย กำรพัฒนำเว็บไซต์คณะเทคโนโลยีสำรสนเทศและกำร สื่อสำร มหำวิทยำลัยพะเยำ พบว่ำ มำตรฐำนเว็บไซต์ภำครัฐ เวอร์ชั่น 2.0 และควำมต้องกำรของ ผู้บริหำร ด้ำนเครื่องมือกำรด ำเนินงำนได้ใช้กรอบกำรจัดกำรเนื้อหำ ส ำเร็จรูป (Cascade style sheets) ด้วย Bootstrap CSS Framework ภำษำ PHP(Personal Home Page) ในกำรพัฒนำ โดย ได้น ำเครื่องมือพัฒนำส ำเร็จรูป (Laravel Framework) และจัดเก็บข้อมูลที่ใช้ในระบบสำรสนเทศใน รูปแบบของฐำนข้อมูลควำมสัมพันธ์ (Database Relationship) ด้วยหลักกำรวงจรกำรพัฒนำ ซอฟต์แวร์ (SDLC : System Develop Life Cycle) ในกระบวนกำรของ กำรวิเครำะห์ควำมต้องกำร ออกแบบ พัฒนำ น ำไปใช้งำน และประเมินผลมำใช้เป็นแนวทำงกำรพัฒนำระบบ สำรสนเทศโดยน ำ โมเดลกำรตรวจสอบกำรด ำเนินงำนแบบวนซ้ ำ (Iterative Model) ไปใช้ในด้ำนออกแบบและพัฒนำ อีกทั้งยังรองรับกำรแสดงผลในรูปแบบ Responsive Design ซึ่งสำมำรถเป็นควำมสำมำรถที่รองรับ กำรแสดงผลได้บนโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต นำรีรัตน์ โสติถิมำนนท์2556 ได้วิจัย เรื่อง กำรศึกษำแนวทำงเพื่อพัฒนำเว็บไซต์ใน กำรประชำสัมพันธ์ ของส ำนักงำนคณะกรรมกำรกำรอุดมศึกษำ กล่ำวไว้ว่ำ แนวทำงที่สำมำรถน ำมำ พัฒนำเว็บไซต์ในกำรประชำสัมพันธ์ได้อย่ำงชัดเจน คือ ด้านเนื้อหา จำกกำรสอบถำมและสัมภำษณ์ ให้ควำมส ำคัญในส่วนของ เนื้อหำที่ต้องกำรประชำสัมพันธ์จะต้องครบถ้วน ถูกต้อง กระชับ เข้ำใจง่ำย มีกำรจัดล ำดับเนี้อหำที่ น่ำสนใจ รวมทั้งมีกำรน ำเสนอที่เข้ำใจง่ำย รวมทั้งมีกำรใช้รูปภำพที่สอดคล้องกับเนื้อหำมำ ประกอบ เพื่อท ำให้เข้ำใจง่ำย ในกำรน ำเสนอเนื้อหำในเรื่องต่ำงๆจะต้องมีควำมน่ำสนใจและเป็น เรื่องที่ตรงกับ
44 ควำมต้องกำรของผู้ใช้บริกำรซึ่งในกำรน ำเสนอเนื้อหำนั้นจะต้องมีควำมต่อเนื่องไปใน ทิศทำงเดียวกัน และปริมำณเนื้อหำในแต่ละหน้ำเว็บเพจมีควำมสั้น-ยำวเหมำะสมในแต่ละ ประเด็น และควรใช้ ขนำด ของตัวอักษรที่ชัดเจน อ่ำนง่ำย มีควำมแตกต่ำงกันเพื่อล ำดับควำมส ำคัญ
45 บทที่ 4 เทคนิคในการปฏิบัติงาน บทนี้เป็นการอธิบายเกี่ยวกับการวางแผนในการปฏิบัติงานของการจัดการและการใช้งานระบบ สารสนเทศงาน (RISS) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย รวมถึงขั้นตอนและเทคนิคของการปฏิบัติงานใน แต่ขั้นตอน ข้อควรระวังและสิ่งที่ควรค านึงในการปฏิบัติงาน 4.1 แผนปฏิบัติงาน การจัดการและการใช้งานระบบสารสนเทศงาน (RISS) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย มี ผู้ปฏิบัติงานหลักที่เกี่ยวข้องต่อการใช้งานระบบจ านวน 3 กลุ่ม คือ 1) ผู้จัดการระบบ (Administrator) 2) เจ้าหน้าที่วิจัย (Staff) และ 3) นักวิจัย (Researcher) จ าเป็นต้องเข้าใจขั้นตอน วิธีการ การจัดการและการใช้งาน ระบบเพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง เกิดผลสัมฤทธิ์และมีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถวิเคราะห์แบ่ง กระบวนการเป็นแผนปฏิบัติงานเป็น 3 ขั้นตอนหลัก ดังตารางที่ 4.1 ตารางที่ 4.1 แผนปฏิบัติงาน 4.2 ขั้นตอนการปฏิบัติงาน ส าหรับขั้นตอนการจัดการและการใช้งานระบบสารสนเทศงานวิจัย (RISS) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราช มงคลศรีวิชัย ผู้ปฏิบัติงานได้แบ่งขั้นตอนการปฏิบัติดังภาพที่ 4.1 ขั้นตอน ระยะเวลาด าเนินการ (สัปดาห์) หมายเหตุ 1 2 3 1. การเตรียมความพร้อมระบบ ใช้เวลา 1 สัปดาห์ 2. การใช้งานระบบและแนะน าการใช้งาน ใ ช้ เ ว ล า 30 น าที/ 1 รายการ (Record) 3. การรักษาข้อมูลและน าข้อมูลกลับมาใช้ใหม่ ใ ช้ เ ว ล าไ ม่ เ กิ น > 1 สัปดาห์ รวมระยะเวลาด าเนินการ < 3 สัปดาห์
4 ขั้นตอนที่1 : การเตรียมความพร้อมระบบ (Pre-implement Processing) (Pre-implement Processing) เริ่มต้ Step2 เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย มีคุณสมบัติไม่ตรง กับความต้องการของระบบ การเตรียมความพร้อมเครื่อง คอมพิวเตอร์แม่ข่าย Step1 การเตรียมความพร้อมชุดโปรแกรม และโครงสร้างฐานข้อมูล การติดตั้งระบบ เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายมี คุณสมบัติตรงกับความต้องการของ ระบบ ส่งข้อมูลเพิ่มเติม การก าหนดค่าพื้นฐานระบบ ขั้นตอนที่2: การใช้ระบบแล (On Implement Proces การบริหารจัดการข้อมูลนั การบริหารจัดการข้อ การบริหารจัดการ ผลงานวิจัยในวาร การบริหารจัดการ ผลงานวิจัยในเวทีก การบริหารจัดการข้อมู ทรัพย์สินท ให้ค าปรึกษา/แนะน าก การบริหารจัดการข้อมูลการผล ภาพที่ 4.1 กระบวนการจัดการและใช้งานระบบสารสนเทศงานวิจัย ( ตรวจสอบ คุณสมบัติเครื่อง คอมพิวเตอร์แม่ ข่าย
6 ขั้นตอนที่3: การรักษาระบบและน าข้อมูลกลับมาใช้ใหม่ (Post Implement Processing) ้น 2 Step3 ละแนะน าการใช้งาน sing & Introduce) นักวิจัยและสมาชิก อมูลงานวิจัย ข้อมูลการเผยแพร่ รสารเชิงวิชาการ ข้อมูลการเผยแพร่ การประชุมวิชาการ มูลงานวิจัยที่ก่อให้เกิด ทางปัญญา การใช้งาน ลิตหนังสือ/ต ารา ฐานข้อมูล และระบบที่ ส ารองล่าสุด ระบบและฐานข้อมูล เกิดความเสียหาย ไม่พร้อมใช้งาน ระบบและฐานข้อมูล พร้อมใช้งานไม่ได้รับ ความเสียหาย (RISS) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีชัย สิ้นสุด การส ารองระบบและฐานข้อมูลงานวิจัย การปรับปรุงค่าระบบ การรับข้อเสนอแนะเพื่อการปรับปรุงระบบใหม่ การน าข้อมูลและระบบกลับมาใช่ใหม่ การประเมินผลความพึงพอใจระบบ ตรวจสอบความ พร้อมเครื่อง คอมพิวเตอร์แม่ข่าย ตรวจสอบความ พร้อมใช้งานของ ฐานข้อมูลและระบบ เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย พร้อมใช้งาน เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย ไม่พร้อมใช้งาน แจ้งผู้ดูแลเครื่อง คอมพิวเตอร์ แม่ข่าย
47 4.2.1 ขั้นตอนที่1 : การเตรียมความพร้อมระบบ (Pre-implement Processing) มีขั้นตอน ด าเนินการ ดังภาพที่ 4.2 ภาพที่ 4.2 Flowchart แสดงขั้นตอนการเตรียมความพร้อมระบบ(Pre-implement Processing) 2.การเตรียมความพร้อมเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ ข่าย เริ่มต้น 1.การเตรียมความพร้อมชุดโปรแกรม และโครงสร้างฐานข้อมูล 4.ติดตั้งระบบ (System Installation) 3.ตรวจสอบ คุณสมบัติเครื่องแม่ ข่าย เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายมี คุณสมบัติตรงกับความ ต้องการของระบบ ส่งข้อมูลเพิ่มเติม 5.ก าหนดค่าพื้นฐานระบบ (RISS Configuration) สิ้นสุด เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย มีคุณสมบัติไม่ตรง กับความต้องการของระบบ
48 1. การเตรียมความพร้อมชุดโปรแกรมและโครงสร้างฐานข้อมูล ล าดับ ผังกระบวนการ รายละเอียดงาน ผู้รับผิดชอบ เอกสารที่ เกี่ยวข้อง ระยะเวลา หมาย เหตุ 1. ผู้จัดการระบบสร้าง Folder เพื่อจัดเก็บเตรียม ไฟล์ชุดโปรแกรม ผู้จัดการระบบ 3 นาที 2. น าเข้าไฟล์ชุดโปรแกรม ระบบโดยการใช้วิธีการ คัดลอก (Copy) หลังจาก นั้น แปะวาง (Paste) ใน Folder ที่ได้สร้างไว้ ผู้จัดการระบบ ไฟล์ชุด โปรแกรม จ านวน 17 ไฟล์ 30 นาที เริ่มต้น 1.สร้าง Folder เพื่อ จัดเก็บไฟล์ชุดโปแกรม และไฟล์โครงสร้าง ฐานข้อมูล 2. น าเข้า ไฟล์ชุด โปรแกรมไป ยัง Folder 2 11
49 1. การเตรียมความพร้อมชุดโปรแกรมและโครงสร้างฐานข้อมูล (ต่อ) ล าดับ ผังกระบวนการ รายละเอียดงาน ผู้รับผิดชอบ เอกสารที่ เกี่ยวข้อง ระยะเวลา หมาย เหตุ 3. ท าการตรวจสอบความ ถูกต้องของชุดไฟล์ โปรแกรมที่ได้คัดลอกมาให้ ถูกต้องครบถ้วน ประกอบด้วย 17 folder และ 3 ไฟล์ตามเอกสารที่ เกี่ยวข้อง ผู้จัดการระบบ ชุดไฟล์ โปรแกรม 30 นาที 4. น าเข้าไฟล์โครงสร้าง ฐานข้อมูลด้วยวิธีการ คัดลอก (Copy) หลังจาก นั้น แปะวาง (Paste) ใน Folder ที่ได้สร้างไว้ ผู้จัดการระบบ ไฟล์โครงสร้าง ฐานข้อมูลชนิด (Type) .sql 3 นาที 4.น าเข้าไฟล์ โครงสร้าง ฐานข้อมูล ไปยัง Folder 2 3. ตรวจสอบ ความถูก ต้องไฟล์ชุด โปรแกรม ไม่ถูกต้อง ถูกต้อง 3 11 11
50 1. การเตรียมความพร้อมชุดโปรแกรมและโครงสร้างฐานข้อมูล (ต่อ) ล าดับ ผังกระบวนการ รายละเอียดงาน ผู้รับผิดชอบ เอกสารที่ เกี่ยวข้อง ระยะเวลา หมาย เหตุ 3. ท าการตรวจสอบความ ถูกต้องของไฟล์โครงสร้าง ฐานข้อมูลที่คัดลอกมาให้ ถูกต้องครบถ้วน ชนิดไฟล์ (Type) เป็น .sql ชื่อ rdi_riss.sql ตามเอกสารที่ เกี่ยวข้อง ผู้จัดการระบบ ไฟล์โครงสร้าง ฐานข้อมูล 30 นาที 3 3.ตรวจสอบ ความถูกต้อง ไฟล์ โครงสร้าง ฐานข้อมูล ไม่ถูกต้อง ถูกต้อง สิ้นสุด
51 2. การเตรียมความพร้อมเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย ล าดับ ผังกระบวนการ รายละเอียดงาน ผู้รับผิดชอบ เอกสารที่ เกี่ยวข้อง ระยะเวลา หมาย เหตุ 1. กรอกรายละเอียดลงใน แบบฟอร์มการขอ website ภายใต้ Domain โดยระบุ 1.ชื่อหน่อยงาน 2.พื้นที่จัดท า Website 3.Service ที่ต้องการใช้ งาน 4.ผู้รับผิดชอบ ผู้จัดการระบบ 1. แบบฟอร์ม การขอ website ภายใต้ Domain 10 นาที 2. จัดท าหนังสือบันทึก ข้อความร้องขอโดเมน (Domain name) พื้นที่ จัดเก็บและติดตั้งไฟล์ โปรแกรม (Web Server) และพื้นที่จัดเก็บและ จัดการฐานข้อมูล (Database Server) เสนอ ผู้บังคับบัญชาลงนามและ จัดส่งหนังสือราชการเพื่อ ร้องขออนุญาตใช้งาน เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย (Server) ภายใต้โดเมนของ มหาวิทยาลัยไปยังส านัก วิทยบริการและเทคโนโลยี สารสนเทศเรียน ผู้อ านวยการส านักวิทย บริการและเทคโนโลยี สารสนเทศ 1.เจ้าหน้างาน สารบรรณ 1.บันทึก ข้อความขอขอ website ภายใต้ Domain ภายใต้โดเมน ของ มหาวิทยาลัยฯ 10 นาที เริ่มต้น 1.กรอกรายละเอียด ความต้องการพื้นฐาน ของระบบต่อเครื่อง คอมพิวเตอร์แม่ข่าย 2.บันทึกข้อความขอขอ website ภายใต้ Domain ภายใต้โดเมน ของมหาวิทยาลัยฯ 2 21
52 ไม่ถูกต้อง ถูกต้อง 2. การเตรียมความพร้อมเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย (ต่อ) ล าดับ ผังกระบวนการ รายละเอียดงาน ผู้รับผิดชอบ เอกสารที่ เกี่ยวข้อง ระยะเวลา หมาย เหตุ 3. ส านักวิทยบริการและ เทคโนโลยีสารสนเทศ โดย เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลเครื่อง คอมพิวเตอร์แม่ข่ายแจ้ง ข้อมูลเกี่ยวกับการเข้าใช้ งานเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ ข่ายผ่านทาง Email 1. ชื่อ Domain 1. Username และ Password ส าหรับเข้าสู่ เครื่อง Web server และ Database server 1. เจ้าหน้าที่ ผู้ดูแลเครื่อง คอมพิวเตอร์แม่ ข่าย 2.ผู้จัดการระบบ 15 วัน 4. หลังจากได้ข้อมูล เกี่ยวกับเครื่อง คอมพิวเตอร์แม่ข่าย ผู้จัดการระบบท าการ ตรวจสอบความถูกต้อง ด้านความพร้อมของเครื่อง คอมพิวเตอร์แม่ข่าย ถูกต้องตรงตามความ ต้องการใช้งานของระบบ หรือไม่โดยสร้างชุดรหัส ค าสั่งไปติดตั้งบนเครื่อง คอมพิวเตอร์แม่ข่ายและ วิเคราะห์ผล ผู้จัดการระบบ 30 นาที 2 3. รับข้อมูล Domain ที่ ร้องขอทาง Email 4.ตรวจสอบ ความถูกต้อง เครื่อง คอมพิวเตอร์ แม่ข่าย สิ้นสุด 21
53 3. ติดตั้งระบบ (System Installation) ล าดับ ผังกระบวนการ รายละเอียดงาน ผู้รับผิดชอบ เอกสารที่ เกี่ยวข้อง ระยะเวลา หมาย เหตุ 1. การติดตั้งโครงสร้าง ฐานข้อมูลระบบเพื่อท า หน้าที่ในการจัดเก็บ ปรับปรุงและแสดงผล ข้อมูลงานวิจัย โดยการใช้ โปรแกรม Browser ท า การ Login เข้าสู่เครื่อง จัดการฐาน ข้อมูลคอมพิวเตอร์แม่ข่าย (Database Server) โดย ระบุ Username และ Password ผ่าน URL http://203.158.177.175 /phpmyadmin/ เพื่อน า โครงสร้างฐานข้อมูลระบบ ไปติดตั้งบนเครื่อง คอมพิวเตอร์แม่ข่าย ผู้จัดการระบบ ไฟล์โครงสร้าง ฐานข้อมูล 120 นาที 2. เป็นขั้นตอนของการ ปรับปรุงค่า Config ชุดรหัส ค าสั่งและน าไฟล์ชุด โปรแกรมไปติดตั้งบนเครื่อง คอมพิวเตอร์แม่ข่ายโดยใช้ โปรแกรม File Transfer Program (FTP) ท าการ เชื่อมต่อระหว่างเครื่อง คอมพิวเตอร์ที่จัดเก็บไฟล์ชุด โปรแกรมกับเครื่อง คอมพิวเตอร์แม่ข่ายที่ท า หน้าที่แสดงผลระบบ (Web Server) ผู้จัดการระบบ 1. ไฟล์ชุด โปรแกรม ระบบ 48 ชั่วโมง เริ่มต้น 1.ติดตั้งโครงสร้าง ฐานข้อมูลระบบ 2.ติดตั้งโปรแกรมระบบ สิ้นสุด 31
54 4. ก าหนดค่าพื้นฐานระบบ (RISS Configuration) ล าดับ ผังกระบวนการ รายละเอียดงาน ผู้รับผิดชอบ เอกสารที่ เกี่ยวข้อง ระยะเวลา หมาย เหตุ ใช้โปรแกรม Browser เปิด ระบบและท าการ Login เช้าใช้งาน โดยใช้ Username และ Password ของผู้จัดการ ระบบเท่านั้น ผู้จัดการระบบ 120 นาที ท าการก าหนดข้อมูล พื้นฐานของระบบเพื่อ บริหารจัดการข้อมูล ดังนี้ 2.1 ข้อมูลส่วนบุคคล 2.2 ข้อมูลมหาวิทยาลัย 2.3 องค์กรภายนอก 2.4 เงินทุนวิจัย 2.5 เขตพื้นที่ 2.6 บทความ 2.7 สิทธิบัตร 2.8 ประเทศต่างๆ 2.9 การศึกษา 2.10 หนังสือ 2.11 โครงการ ผู้จัดการระบบ 8 ชั่วโมง เริ่มต้น 1. Login เข้าสู่ระบบ 2. ก าหนดค่าระบบ สิ้นสุด 41
55 4.2.2 ขั้นตอนที่2 : การใช้ระบบและแนะน าการใช้งาน (On Implement Processing & Introduce) มีขั้นตอนด าเนินการ ตามภาพประกอบที่ 4.3 ภาพที่ 4.3 Flowchart แสดงขั้นตอนการใช้ระบบและแนะน าการใช้งาน (On Implement Processing & Introduce) การบริหารจัดการข้อมูลนักวิจัยและสมาชิก การบริหารจัดการข้อมูลงานวิจัย การบริหารจัดการข้อมูลการเผยแพร่ผลงานวิจัย ในวารสารเชิงวิชาการ การบริหารจัดการข้อมูลการเผยแพร่ผลงานวิจัย ในเวทีการประชุมวิชาการ การบริหารจัดการข้อมูลงานวิจัยที่ก่อให้เกิด ทรัพย์สินทางปัญญา ให้ค าปรึกษา/แนะน าการใช้งาน การบริหารจัดการข้อมูลการผลิตหนังสือ/ต ารา สิ้นสุด เริ่มต้น
56 1. การบริหารจัดการข้อมูลนักวิจัยและสมาชิก ล าดับ ผังกระบวนการ รายละเอียดงาน ผู้รับผิดชอบ เอกสารที่ เกี่ยวข้อง ระยะเวลา หมาย เหตุ 1. การลงทะเบียนเข้าใช้ งานระบบเป็นขั้นตอนแรก ก่อนที่นักวิจัยจะสามารถ เข้าใช้งานระบบได้สามารถ ด าเนินการได้โดย 1. ผู้จัดการระบบ 2. เจ้าหน้าที่วิจัย 3. นักวิจัย กรณีที่”นักวิจัยลงทะเบียน ด้วยตนเองจะยังไม่สามารถ เข้าใช้งานระบบได้จนกว่า จะได้รับอนุญาตให้เข้าใช้ จาก “ผู้จัดการระบบ” หรือ “เจ้าหน้าที่วิจัย” แต่ในกรณีที่“ผู้จัดการ ระบบ” หรือ “เจ้าหน้าที่ วิจัย” ลงทะเบียนให้ สามารถเข้าใช้งานได้โดย อัตโนมัติ 1. ผู้จัดการ ระบบ 2. เจ้าหน้าที่ วิจัย 3. นักวิจัย 5 นาที/ 1 User 2. ขั้นตอนการเข้าใช้งาน ระบบเป็นกระบวนการ รักษาความปลอดภัยข้อมูล ตามสิทธิ์ของกลุ่มที่เข้าใช้ งานโดย ระบุ 1.ชื่อเข้าใช้ (Username) 2.และรหัสผ่าน (Password) เพื่อจ าแนกสิทธิ์ตามกลุ่ม 1. ผู้จัดการ ระบบ 2. เจ้าหน้าที่ วิจัย 3. นักวิจัย <= 10 วินาที / 1 user เริ่มต้น 1.ลงทะเบียนเข้าใช้งาน ระบบ 2. เข้าใช้งานระบบ 2 11
57 1. การบริหารจัดการข้อมูลนักวิจัยและสมาชิก (ต่อ) ล าดับ ผังกระบวนการ รายละเอียดงาน ผู้รับผิดชอบ เอกสารที่ เกี่ยวข้อง ระยะเวลา หมาย เหตุ 3. เป็นการเพิ่มข้อมูลนักวิจัย หรือผู้เข้าใช้งานระบบ สามารถด าเนินการได้โดย 1.ผู้จัดการระบบ สามารถเพิ่มข้อมูลนักวิจัย หรือผู้เข้าใช้งานระบบให้แก่ ทุกหน่วยงานได้ 2.เจ้าหน้าที่วิจัย สามารถเพิ่มข้อมูลนักวิจัย หรือผู้เข้าใช้งานระบบให้แก่ นักวิจัยและผู้เข้าใช้งาน ระบบของหน่วยงานที่ตนเอง สังกัดอยู่เท่านั้น 1. ผู้จัดการ ระบบ 2. เจ้าหน้าที่ วิจัย 5 นาที / 1 user 4. การแก้ไขข้อมูลนักวิจัย หรือผู้เข้าใช้งานระบบเพื่อ ปรับเปลี่ยนข้อมูลส่วนตัว สามารถด าเนินการได้โดย 1.ผู้จัดการระบบ สามารถแก้ไขข้อมูลนักวิจัย หรือข้อมูลผู้เข้าใช้งานระบบ ได้ทั้งหมด 2.เจ้าหน้าที่วิจัย สามารถแก้ไขข้อมูลนักวิจัย หรือข้อมูลผู้เข้าใช้งานระบบ ได้เฉพาะ หน่วยงานที่ตนเองสังกัดอยู่ เท่านั้น 1. ผู้จัดการ ระบบ 2. เจ้าหน้าที่ วิจัย 3. นักวิจัย 2 3. เพิ่มข้อมูลนักวิจัย และสมาชิก 4. แก้ไขนักวิจัยและ สมาชิก 3 11
58 ล าดับ ผังกระบวนการ รายละเอียดงาน ผู้รับผิดชอบ เอกสารที่ เกี่ยวข้อง ระยะเวลา หมาย เหตุ 3. เป็นการลบข้อมูล นักวิจัยหรือผู้เข้าใช้งาน ระบบ สามารถด าเนินการ ได้โดย 1.ผู้จัดการระบบ สามารถลบข้อมูลนักวิจัย หรือผู้เข้าใช้งานระบบ ให้แก่ทุกหน่วยงานได้ 2.เจ้าหน้าที่วิจัย สามารถลบข้อมูลนักวิจัย หรือผู้เข้าใช้งานระบบ ให้แก่นักวิจัยและผู้เข้าใช้ งานระบบของหน่วยงานที่ ตนเองสังกัดอยู่เท่านั้น 1. ผู้จัดการ ระบบ 2. เจ้าหน้าที่ วิจัย 5 นาที / 1 user 1. การบริหารจัดการข้อมูลนักวิจัยและสมาชิก (ต่อ) 3 สิ้นสุด 5. ลบข้อมูลนักวิจัยและ สมาชิก 11
59 2. การบริหารจัดการข้อมูลงานวิจัย ล าดับ ผังกระบวนการ รายละเอียดงาน ผู้รับผิดชอบ เอกสารที่ เกี่ยวข้อง ระยะเวลา หมาย เหตุ 1. ขั้นตอนการเข้าใช้งาน ระบบเป็นกระบวนการ รักษาความปลอดภัยข้อมูล ตามสิทธิ์ในทุกระดับโดย การระบุ ชื่อเข้าใช้ (Username) และ รหัสผ่าน (Password) เพื่อจ าแนกสิทธิ์เข้าใช้ 1. ผู้จัดการ ระบบ 2. เจ้าหน้าที่ วิจัย 3. นักวิจัย ชื่อเข้าใช้ (Username) และรหัสผ่าน (Password) 2 นาที/ 1 user 2. การเพิ่ม (Add) ข้อมูล โครงการงานวิจัย เป็นการ น าเข้าข้อมูลโครงการวิจัยที่ ได้รับทุนวิจัยจากแหล่งทุน (PMU) ต่างๆ เข้าสู่ระบบมี ข้อมูลที่จ าเป็นต้องกรอกมี 3 ส่วน คือ 1. รายโครงการวิจัย 2. ทีมวิจัย 3. ไฟล์เอกสารส าหรับแนบ ว1ด. (โครงการเดี่ยว) และ ว1ช.ส าหรับโครงการชุด โดย 1. ผู้จัดการระบบ สามารถเพิ่มข้อมูล โครงการวิจัยให้แก่นักวิจัย ได้ทุกหน่วยงาน 2. เจ้าหน้าที่วิจัยสามารถ เพิ่มข้อมูลโครงการวิจัยที่ นักวิจัยในหน่วยงานที่ ตนเองสังกัดอยู่ได้รับทุน เท่านั้น 1. ผู้จัดการ ระบบ 2. เจ้าหน้าที่ วิจัย 3. นักวิจัย ข้อเสนอ โครงการวิจัย - ว1ด. (โครงการเดี่ยว) -ว1ช. (โครงการชุด) 40 นาที / 1 โครงการ เริ่มต้น 1. เข้าใช้งานระบบ 2. เพิ่มข้อมูลโครงการ งานวิจัย 2 21
60 2. การบริหารจัดการข้อมูลงานวิจัย (ต่อ) ล าดับ ผังกระบวนการ รายละเอียดงาน ผู้รับผิดชอบ เอกสารที่ เกี่ยวข้อง ระยะเวลา หมาย เหตุ 3. นักวิจัยสามารถเพิ่ม ข้อมูลโครงการวิจัยได้ เฉพาะข้อมูลโครงการวิจัย ที่ตนเองเป็นหัวหน้า โครงการวิจัยได้เท่านั้น 3. การแก้ไข (Edit) ข้อมูล โครงการงานวิจัย เป็นการ ปรับปรุงความถูกต้อง ข้อมูลโครงการวิจัยที่ได้ น าเข้าสู่ระบบเรียบร้อย แล้วส่วนรายละเอียดข้อมูล ที่แก้ไขข้อแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ 1. รายโครงการวิจัย 2. ทีมวิจัย 3. ไฟล์เอกสาร โดย 1. ผู้จัดการระบบ สามารถแก้ไขข้อมูล โครงการวิจัยให้แก่นักวิจัย ได้ทุกหน่วยงาน 2. เจ้าหน้าที่วิจัยสามารถ เพิ่มข้อมูลโครงการวิจัยที่ นักวิจัยในหน่วยงานที่ ตนเองสังกัดอยู่ได้รับทุน เท่านั้น 3. นักวิจัยสามารถแก้ไข ข้อมูลโครงการวิจัยที่ ตนเองได้รับทุนเท่านั้น 1. ผู้จัดการ ระบบ 2. เจ้าหน้าที่ วิจัย 3. นักวิจัย 30 นาที / 1 โครงการ 3 3. แก้ไขรายละเอียด โครงการวิจัย 1 2
61 2. การบริหารจัดการข้อมูลงานวิจัย (ต่อ) ล าดับ ผังกระบวนการ รายละเอียดงาน ผู้รับผิดชอบ เอกสารที่ เกี่ยวข้อง ระยะเวลา หมาย เหตุ 3. การปรับปรุงสถานะ โครงการวิจัย (Update) สถานะโครงการงานวิจัย เป็นการปรับปรุงความ ถูกต้องของสถานะ โครงการวิจัยประกอบด้วย 1.อยู่ระหว่างการพิจารณา 2.อยู่ระหว่างด าเนินการ 3.สิ้นสุดโครงการ(ส่งผล ผลิตเรียบร้อยแล้ว) 4.ชะลอโครงการ 5.ระงับโครงการ 6.ค้างส่ง 7.ขอขยายเวลาครั้งที่1 8.อยู่ในช่วงขยายเวลา 9.ท าสัญญาแล้ว 10.อยู่ระหว่างท าสัญญา โดย 1. ผู้จัดการระบบ สามารถปรับปรุงข้อมูล โครงการวิจัยให้แก่นักวิจัย ได้ทุกหน่วยงาน 2. เจ้าหน้าที่วิจัยสามารถ ปรับปรุงข้อมูล โครงการวิจัยที่นักวิจัยใน หน่วยงานที่ตนเองสังกัดอยู่ ได้รับทุนเท่านั้น 3. นักวิจัยสามารถปรับปรุง ข้อมูลโครงการวิจัยที่ ตนเองได้รับทุนเท่านั้น 1. ผู้จัดการ ระบบ 2. เจ้าหน้าที่ วิจัย 30 นาที / 1 โครงการ 4 4. ปรับปรุงสถานะ โครงการวิจัย 21
62 2. การบริหารจัดการข้อมูลงานวิจัย (ต่อ) ล าดับ ผังกระบวนการ รายละเอียดงาน ผู้รับผิดชอบ เอกสารที่ เกี่ยวข้อง ระยะเวลา หมาย เหตุ 3. การลบ (Delete) ข้อมูล โครงการงานวิจัย เป็นการ น าข้อมูลโครงการวิจัยออก จากระบบฐานข้อมูล โดย 1. ผู้จัดการระบบ สามารถลบข้อมูล โครงการวิจัยให้แก่นักวิจัย ได้ทุกหน่วยงาน 2. เจ้าหน้าที่วิจัยสามารถ ลบข้อมูลโครงการวิจัยของ นักวิจัยในหน่วยงานที่ ตนเองสังกัดอยู่ได้รับทุน เท่านั้น 3. นักวิจัยไม่สามารถลบ ข้อมูลโครงการวิจัยออก จากระบบได้ 1. ผู้จัดการ ระบบ 2. เจ้าหน้าที่ วิจัย 3. นักวิจัย 30 นาที / 1 โครงการ 5. ลบโครงการวิจัย 4 สิ้นสุด 21
63 2.1 การบริหารจัดการข้อมูลการเผยแพร่ผลงานวิจัยในวารสารเชิงวิชาการ ล าดับ ผังกระบวนการ รายละเอียดงาน ผู้รับผิดชอบ เอกสารที่ เกี่ยวข้อง ระยะเวลา หมาย เหตุ 1. ขั้นตอนการเข้าใช้งาน ระบบเป็นกระบวนการ รักษาความปลอดภัยข้อมูล ตามสิทธิ์ในทุกระดับโดย การระบุ ชื่อเข้าใช้ (Username) และ รหัสผ่าน (Password) เพื่อจ าแนกสิทธิ์เข้าใช้ 1. ผู้จัดการ ระบบ 2. เจ้าหน้าที่ วิจัย 3. นักวิจัย ชื่อเข้าใช้ (Username) และรหัสผ่าน (Password) 2 นาที/ 1 user 2. เลือกเมนูบทความ วารสารด้ายซ้ายมือ 1. ผู้จัดการ ระบบ 2. เจ้าหน้าที่ วิจัย 3. นักวิจัย <= 1 วินาที 3. การเพิ่ม (Add) ข้อมูล บทความวารสาร เป็นการ น าเข้าข้อมูลบทความ วารสารที่ได้รับการตีพิมพ์ เผยแพร่ในวารสารเชิง วิชาการทั้งระดับชาติและ นานาชาติเข้าสู่ระบบ โดย บทความวิจัยจะต้องเป็น บทความวิจัยจาก โครงการวิจัยที่มีอยู่ใน ฐานข้อมูลเท่านั้น โดย 1. ผู้จัดการระบบ สามารถเพิ่มข้อมูล บทความวิจัยให้แก่นักวิจัย ได้ทุกหน่วยงาน 1. ผู้จัดการ ระบบ 2. เจ้าหน้าที่ วิจัย 3. นักวิจัย เอกสารการ ตีพิมพ์บทความ วิจัย ประกอบด้วย 1.ปก 2. ทีมวิจารย์ บทความ ประจ าฉบับ (Peer review) 3.บทความวิจัย ที่ระบุเลขหน้า จากวารสาร เรียบร้อยแล้ว <= 30 นาที/1 บทความ เริ่มต้น 1. เข้าใช้งานระบบ 2. เลือกเมนูบทความ วารสาร 3. เพิ่มบทความวารสาร 2 2.11
64 2.1 การบริหารจัดการข้อมูลการเผยแพร่ผลงานวิจัยในวารสารเชิงวิชาการ (ต่อ) ล าดับ ผังกระบวนการ รายละเอียดงาน ผู้รับผิดชอบ เอกสารที่ เกี่ยวข้อง ระยะเวลา หมาย เหตุ 2. เจ้าหน้าที่วิจัยสามารถ เพิ่มข้อมูลบทความวิจัย ของนักวิจัยในหน่วยงานที่ ตนเองสังกัดอยู่เท่านั้น 3. นักวิจัยสามารถเพิ่ม ข้อมูลบทความวิจัยของ ตนเองเท่านั้น 1. ผู้จัดการ ระบบ 2. เจ้าหน้าที่ วิจัย 3. นักวิจัย 4. การแก้ไข (Edit) ข้อมูล บทความวิจัย เป็นการ ปรับปรุงความถูกต้อง ข้อมูลบทความวิจัยที่ได้ น าเข้าสู่ระบบเรียบร้อย แล้ว สามารถแก้ไขได้ 3 ส่วน คือ 1. รายละเอียดบทความ วารสาร 2. ทีมวิจัย 3. เอกสารประกอบ บทความวารสาร โดย 1. ผู้จัดการระบบ สามารถแก้ไขข้อมูล บทความวิจัยให้แก่นักวิจัย ได้ทุกหน่วยงาน 2. เจ้าหน้าที่วิจัยสามารถ แก้ไขข้อมูลบทความวิจัย ของนักวิจัยในหน่วยงานที่ ตนเองสังกัดอยู่เท่านั้น 3. นักวิจัยสามารถแก้ไข ข้อมูลบทความวิจัยของ ตนเองได้เท่านั้น 1. ผู้จัดการ ระบบ 2. เจ้าหน้าที่ วิจัย 3. นักวิจัย เอกสารการ ตีพิมพ์บทความ วิจัย ประกอบด้วย 1.ปก 2. ทีมวิจารย์ บทความ ประจ าฉบับ (Peer review) 3.บทความวิจัย ที่ระบุเลขหน้า จากวารสาร เรียบร้อยแล้ว <= 30 นาที/1 บทความ 2 4. แก้ไขรายละเอียด บทความวิจัย 3 2.11
65 2.1 การบริหารจัดการข้อมูลการเผยแพร่ผลงานวิจัยในวารสารเชิงวิชาการ (ต่อ) ล าดับ ผังกระบวนการ รายละเอียดงาน ผู้รับผิดชอบ เอกสารที่ เกี่ยวข้อง ระยะเวลา หมาย เหตุ 5. การลบ (Delete) ข้อมูล บทความวิจัย เป็นการน า ข้อมูลบทความวิจัยที่ได้ น าเข้าระบบแล้วออกจาก ระบบฐานข้อมูล โดย 1. ผู้จัดการระบบ สามารถลบข้อมูลบทความ วิจัยให้แก่นักวิจัยได้ทุก หน่วยงาน 2. เจ้าหน้าที่วิจัยสามารถ ลบข้อมูลบทความวิจัยของ นักวิจัยในหน่วยงานที่ ตนเองสังกัดอยู่เท่านั้น 3. นักวิจัยไม่สามารถลบ ข้อมูลบทความวิจัยออก จากระบบได้ 1. ผู้จัดการ ระบบ 2. เจ้าหน้าที่ วิจัย 3. นักวิจัย 30 นาที / 1 โครงการ 5. ลบข้อมูล บทความวิจัย 3 สิ้นสุด 2.11
66 2.2 การบริหารจัดการข้อมูลการเผยแพร่ผลงานวิจัยในเวทีการประชุมวิชาการ ล าดับ ผังกระบวนการ รายละเอียดงาน ผู้รับผิดชอบ เอกสารที่ เกี่ยวข้อง ระยะเวลา หมาย เหตุ 1. ขั้นตอนการเข้าใช้งาน ระบบเป็นกระบวนการ รักษาความปลอดภัยข้อมูล ตามสิทธิ์ในทุกระดับโดย การระบุ ชื่อเข้าใช้ (Username) และ รหัสผ่าน (Password) เพื่อจ าแนกสิทธิ์เข้าใช้ 1. ผู้จัดการ ระบบ 2. เจ้าหน้าที่ วิจัย 3. นักวิจัย ชื่อเข้าใช้ (Username) และรหัสผ่าน (Password) 2 นาที/ 1 user 2. เลือกเมนูบทความ ประชุมวิชาการด้ายซ้ายมือ ของระบบ 1. ผู้จัดการ ระบบ 2. เจ้าหน้าที่ วิจัย 3. นักวิจัย <= 1 วินาที 3. การเพิ่ม (Add) ข้อมูล บทความประชุมวิชาการ วารสาร เป็นการน าเข้า ข้อมูลบทความประชุม วิชาการที่ได้รับการตีพิมพ์ เผยแพร่ในงานประชุม วิชาการทั้งระดับชาติและ นานาชาติเข้าสู่ระบบ โดย บทความจะต้องเป็น บทความประชุมวิชาการ จากโครงการวิจัยที่มีอยู่ใน ฐานข้อมูลเท่านั้น โดย 1. ผู้จัดการระบบ สามารถเพิ่มข้อมูล บทความประชุมวิชาการ ให้แก่นักวิจัยได้ทุก หน่วยงาน 1. ผู้จัดการ ระบบ 2. เจ้าหน้าที่ วิจัย 3. นักวิจัย เอกสารการ ตีพิมพ์บทความ ประชุมวิชาการ ประกอบด้วย 1.ปก 2. ทีมวิจารย์ บทความในงาน ประชุมวิชาการ (Peer review) 3.บทความ ประชุมวิชาการ ที่ระบุเลขหน้า จากเล่ม Proceedingใน งานประชุม วิชาการ เรียบร้อยแล้ว <= 30 นาที/1 บทความ เริ่มต้น 1. เข้าใช้งานระบบ 2. เลือกเมนูบทความ ประชุมวิชาการ 3. เพิ่มบทความประชุม วิชาการ 2 2.21
67 2.2 การบริหารจัดการข้อมูลการเผยแพร่ผลงานวิจัยในเวทีการประชุมวิชาการ (ต่อ) ล าดับ ผังกระบวนการ รายละเอียดงาน ผู้รับผิดชอบ เอกสารที่ เกี่ยวข้อง ระยะเวลา หมาย เหตุ 2. เจ้าหน้าที่วิจัยสามารถ เพิ่มข้อมูลบทความประชุม วิชาการให้แก่นักวิจัยใน หน่วยงานที่ตนเองสังกัดอยู่ เท่านั้น 3. นักวิจัยสามารถเพิ่ม ข้อมูลบทความประชุม วิชาการของตนเองเท่านั้น 1. ผู้จัดการ ระบบ 2. เจ้าหน้าที่ วิจัย 3. นักวิจัย 4. การแก้ไข (Edit) ข้อมูล บทความประชุมวิชาการ เป็นการปรับปรุงความ ถูกต้องข้อมูลบทความที่ได้ น าเข้าสู่ระบบเรียบร้อย แล้ว สามารถแก้ไขได้ 3 ส่วน คือ 1. รายละเอียดบทความ ประชุมวิชาการ 2. ทีมวิจัย 3. เอกสารประกอบ บทความประชุมวิชาการ โดย 1. ผู้จัดการระบบ สามารถแก้ไขข้อมูล บทความประชุมวิชาการ ให้แก่นักวิจัยได้ทุก หน่วยงาน 2. เจ้าหน้าที่ วิจัยสามารถแก้ไขข้อมูล บทความประชุมวิชาการ ของนักวิจัยในหน่วยงานที่ ตนเองสังกัดอยู่เท่านั้น 3. นักวิจัยสามารถแก้ไข ข้อมูลบทความประชุม วิชาการของตนเองได้ เท่านั้น 1. ผู้จัดการ ระบบ 2. เจ้าหน้าที่ วิจัย 3. นักวิจัย เอกสารการ ตีพิมพ์บทความ ประชุมวิชาการ ประกอบด้วย 1.ปก 2. ทีมวิจารย์ บทความในงาน ประชุมวิชาการ (Peer review) 3.บทความ ประชุมวิชาการ ที่ระบุเลขหน้า จากเล่ม Proceedingใน งานประชุม วิชาการ เรียบร้อยแล้ว <= 30 นาที/1 บทความ 2 4. แก้ไขรายละเอียด บทความประชุม วิชาการ 3 2.21
68 2.2 การบริหารจัดการข้อมูลการเผยแพร่ผลงานวิจัยในเวทีการประชุมวิชาการ (ต่อ) ล าดับ ผังกระบวนการ รายละเอียดงาน ผู้รับผิดชอบ เอกสารที่ เกี่ยวข้อง ระยะเวลา หมาย เหตุ 5. การลบ (Delete) ข้อมูล บทความประชุมวิชาการ เป็นการน าข้อมูลบทความ ประชุมวิชาการที่ได้น าเข้า ระบบแล้วออกจากระบบ ฐานข้อมูล โดย 1. ผู้จัดการระบบ สามารถลบข้อมูลบทความ ประชุมวิชาการให้แก่ นักวิจัยได้ทุกหน่วยงาน 2. เจ้าหน้าที่วิจัยสามารถ ลบข้อมูลบทความประชุม วิชาการของนักวิจัยใน หน่วยงานที่ตนเองสังกัดอยู่ เท่านั้น 3. นักวิจัยไม่สามารถลบ ข้อมูลบทความประชุม วิชาการออกจากระบบได้ 1. ผู้จัดการ ระบบ 2. เจ้าหน้าที่ วิจัย <= 2 นาที / 1 บทความ 5. ลบข้อมูล บทความประชุม วิชาการ 3 สิ้นสุด 2.21
69 2.3 การบริหารจัดการข้อมูลงานวิจัยที่ก่อให้เกิดทรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual Property) ล าดับ ผังกระบวนการ รายละเอียดงาน ผู้รับผิดชอบ เอกสารที่ เกี่ยวข้อง ระยะเวลา หมาย เหตุ 1. ขั้นตอนการเข้าใช้งาน ระบบเป็นกระบวนการ รักษาความปลอดภัยข้อมูล ตามสิทธิ์ในทุกระดับโดย การระบุ ชื่อเข้าใช้ (Username) และ รหัสผ่าน (Password) เพื่อจ าแนกสิทธิ์เข้าใช้ 1. ผู้จัดการ ระบบ 2. เจ้าหน้าที่ วิจัย 3. นักวิจัย ชื่อเข้าใช้ (Username) และรหัสผ่าน (Password) 2 นาที/ 1 user 2. เลือกเมนูทรัพย์สินทาง ปัญญาด้านซ้ายมือ 1. ผู้จัดการ ระบบ 2. เจ้าหน้าที่ วิจัย 3. นักวิจัย <= 1 วินาที 3. การเพิ่ม (Add) ข้อมูล ทรัพย์สินทางปัญญา เป็น การน าเข้าข้อมูลทรัพย์สิน ทางปัญญา 3 ประเภท ทั้ง ในระดับชาติและนานาชาติ เข้าสู่ระบบ ประกอบด้วย 1. อนุสิทธิบัตร 2. สิทธิบัตร 3.ลิขสิทธ์ โดยต้องเป็นข้อมูล ทรัพย์สินทางปัญญาที่เกิด จากโครงการวิจัยที่ได้ น าเข้าระบบฐานข้อมูล เรียบร้อยแล้วเท่านั้น 1. ผู้จัดการ ระบบ 2. เจ้าหน้าที่ วิจัย 3. นักวิจัย เอกสารการ 1. รายละเอียด ทรัพย์สินทาง ปัญญา ประกอบด้วย 2. ข้อมูลทีม วิจัย 3. ไฟล์ คอมพิวเตอร์ นามสกุล .pdf ,JPG, PNG <= 30 นาที/1 เรื่อง เริ่มต้น 1. เข้าใช้งานระบบ 2. เลือกเมนูทรัพย์สิน ทางปัญญา 3. เพิ่มทรัพย์สินทาง ปัญญา 2 2.31
70 2.3 การบริหารจัดการข้อมูลงานวิจัยที่ก่อให้เกิดทรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual Property) (ต่อ) ล าดับ ผังกระบวนการ รายละเอียดงาน ผู้รับผิดชอบ เอกสารที่ เกี่ยวข้อง ระยะเวลา หมาย เหตุ โดย 1. ผู้จัดการระบบ สามารถเพิ่มข้อมูล ทรัพย์สินทางปัญญาให้แก่ นักวิจัยได้ทุกหน่วยงาน 2. เจ้าหน้าที่วิจัยสามารถ เพิ่มข้อมูลทรัพย์สินทาง ปัญญาให้แก่นักวิจัยใน หน่วยงานที่ตนเองสังกัดอยู่ เท่านั้น 3. นักวิจัยสามารถเพิ่ม ข้อมูลทรัพย์สินทางปัญญา ของตนเองเท่านั้น 1. ผู้จัดการ ระบบ 2. เจ้าหน้าที่ วิจัย 3. นักวิจัย 4. การแก้ไข (Edit) ข้อมูล ทรัพย์สินทางปัญญา เป็น การปรับปรุงความถูกต้อง ข้อมูลบทความที่ได้น าเข้าสู่ ระบบเรียบร้อยแล้ว สามารถแก้ไขได้ 3 ส่วน คือ 1. รายละเอียดทรัพย์สิน ทางปัญญา 2. ทีมวิจัย 3. เอกสารประกอบ ทรัพย์สินทางปัญญา โดย 1. ผู้จัดการระบบ สามารถเพิ่มข้อมูล ทรัพย์สินทางปัญญาให้แก่ นักวิจัยได้ทุกหน่วยงาน 1. ผู้จัดการ ระบบ 2. เจ้าหน้าที่ วิจัย 3. นักวิจัย เอกสารการ 1. รายละเอียด ทรัพย์สินทาง ปัญญา ประกอบด้วย 2. ข้อมูลทีม วิจัย 3. ไฟล์ คอมพิวเตอร์ นามสกุล .pdf ,JPG, PNG <= 30 นาที/1 เรื่อง 2 4. แก้ไขรายละเอียด ทรัพย์สินทางปัญญา 3 2.31
71 2.3 การบริหารจัดการข้อมูลงานวิจัยที่ก่อให้เกิดทรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual Property) (ต่อ) ล าดับ ผังกระบวนการ รายละเอียดงาน ผู้รับผิดชอบ เอกสารที่ เกี่ยวข้อง ระยะเวลา หมาย เหตุ 2. เจ้าหน้าที่วิจัยสามารถ เพิ่มข้อมูลทรัพย์สินทาง ปัญญาให้แก่นักวิจัยใน หน่วยงานที่ตนเองสังกัดอยู่ เท่านั้น 3. นักวิจัยสามารถเพิ่ม ข้อมูลทรัพย์สินทางปัญญา ของตนเองเท่านั้น 5. การลบ (Delete) ข้อมูล ทรัพย์สินทางปัญญาเป็น การน าข้อมูลทรัพย์สินทาง ปัญญาที่ได้น าเข้าระบบ แล้วออกจากระบบ ฐานข้อมูล โดย 1. ผู้จัดการระบบ สามารถลบข้อมูลทรัพย์สิน ทางปัญญาให้แก่นักวิจัยได้ ทุกหน่วยงาน 2. เจ้าหน้าที่วิจัยสามารถ ลบข้อมูลทรัพย์สินทาง ปัญญาของนักวิจัยใน หน่วยงานที่ตนเองสังกัดอยู่ เท่านั้น 3. นักวิจัยไม่สามารถลบ ข้อมูลทรัพย์สินทางปัญญา ออกจากระบบได้ 1. ผู้จัดการ ระบบ 2. เจ้าหน้าที่ วิจัย <= 2 นาที / 1 บทความ 3 5. ลบข้อมูล บทความประชุม วิชาการ สิ้นสุด 2.31
72 3 การบริหารจัดการข้อมูลหนังสือและต ารา ล าดับ ผังกระบวนการ รายละเอียดงาน ผู้รับผิดชอบ เอกสารที่ เกี่ยวข้อง ระยะเวลา หมาย เหตุ 1. ขั้นตอนการเข้าใช้งาน ระบบเป็นกระบวนการ รักษาความปลอดภัยข้อมูล ตามสิทธิ์ในทุกระดับโดย การระบุ ชื่อเข้าใช้ (Username) และ รหัสผ่าน (Password) เพื่อจ าแนกสิทธิ์เข้าใช้ 1. ผู้จัดการ ระบบ 2. เจ้าหน้าที่ วิจัย 3. นักวิจัย ชื่อเข้าใช้ (Username) และรหัสผ่าน (Password) 2 นาที/ 1 user 2. เลือกเมนูหนังสือด้าน ซ้ายมือ 1. ผู้จัดการ ระบบ 2. เจ้าหน้าที่ วิจัย 3. นักวิจัย <= 1 วินาที 3. การเพิ่ม (Add) ข้อมูล หนังสือ เป็นการน าเข้า ข้อมูลหนังสือ/ต ารา ที่ นักวิจัยเป็นเจ้าของ เข้าสู่ ระบบฐานข้อมูล รายละเอียดที่ต้องน าเข้า ประกอบด้วย 4 ส่วนหลัก คือ 1.รายละเอียดเกี่ยวกับ หนังสือ/ต ารา 2.ผู้แต่ง 3.ข้อมูลการพิมพ์ 4.ไฟล์เอกสารประกอบ หนังสือ/ต ารา โดย 1. ผู้จัดการระบบ สามารถเพิ่มข้อมูลหนังสือ ให้แก่นักวิจัยได้ทุก หน่วยงาน 1. ผู้จัดการ ระบบ 2. เจ้าหน้าที่ วิจัย 3. นักวิจัย รายละเอียดที่ ต้องน าเข้า ประกอบด้วย 1.รายละเอียด เกี่ยวกับ หนังสือ/ต ารา 2.ผู้แต่ง 3.ข้อมูลการ พิมพ์ 4.ไฟล์เอกสาร ประกอบ หนังสือ/ต ารา นามสกุล .pdf ,JPG, PNG <= 30 นาที/1 เรื่อง 31 เริ่มต้น 1. เข้าใช้งานระบบ 2. เลือกเมนูหนังสือ 3. เพิ่มหนังสือ 2
73 3 การบริหารจัดการข้อมูลหนังสือและต ารา (ต่อ) ล าดับ ผังกระบวนการ รายละเอียดงาน ผู้รับผิดชอบ เอกสารที่ เกี่ยวข้อง ระยะเวลา หมาย เหตุ 2. เจ้าหน้าที่วิจัยสามารถ เพิ่มข้อมูลหนังสือ/ต ารา ให้แก่นักวิจัยในหน่วยงาน ที่ตนเองสังกัดอยู่เท่านั้น 3. นักวิจัยสามารถเพิ่ม ข้อมูลหนังสือ/ต าราของ ตนเองเท่านั้น 1. ผู้จัดการ ระบบ 2. เจ้าหน้าที่ วิจัย 3. นักวิจัย 4. การแก้ไข (Edit) ข้อมูล หนังสือ/ต ารา เป็นการ ปรับปรุงความถูกต้อง ข้อมูลหนังสือ/ต าราที่ได้ น าเข้าสู่ระบบเรียบร้อย แล้ว แก้ไขได้ 4 ส่วน คือ 1.รายละเอียดเกี่ยวกับ หนังสือ/ต ารา 2.ผู้แต่ง 3.ข้อมูลการพิมพ์ 4.ไฟล์เอกสารประกอบ หนังสือ/ต ารา โดย 1. ผู้จัดการระบบ สามารถแก้ไขข้อมูล หนังสือ/ต ารา แก่นักวิจัย ได้ทุกหน่วยงาน 2. เจ้าหน้าที่วิจัยสามารถ แก้ไขข้อมูลหนังสือ/ต ารา ให้แก่นักวิจัยในหน่วยงาน ที่ตนเองสังกัดอยู่เท่านั้น 3. นักวิจัยสามารถแก้ไข ข้อมูลหนังสือ/ต าราของ ตนเองเท่านั้น 1. ผู้จัดการ ระบบ 2. เจ้าหน้าที่ วิจัย 3. นักวิจัย เอกสารการ 1. รายละเอียด ทรัพย์สินทาง ปัญญา ประกอบด้วย 2. ข้อมูลทีม วิจัย 3. ไฟล์ คอมพิวเตอร์ นามสกุล .pdf ,JPG, PNG <= 30 นาที/1 เรื่อง 31 2 4. แก้ไขรายละเอียด หนังสือ/ต ารา 3
74 3 การบริหารจัดการข้อมูลหนังสือและต ารา (ต่อ) ล าดับ ผังกระบวนการ รายละเอียดงาน ผู้รับผิดชอบ เอกสารที่ เกี่ยวข้อง ระยะเวลา หมาย เหตุ 5. การลบ (Delete) ข้อมูล หนังสือ/ต ารา เป็นการน า ข้อมูลหนังสือ/ต าราที่ได้ น าเข้าระบบเรียบร้อยแล้ว ออกจากระบบฐานข้อมูล โดย 1. ผู้จัดการระบบ สามารถลบข้อมูลหนังสือ/ ต าราให้แก่นักวิจัยได้ทุก หน่วยงาน 2. เจ้าหน้าที่วิจัยสามารถ ลบข้อมูลหนังสือ/ต าราของ นักวิจัยในหน่วยงานที่ ตนเองสังกัดอยู่เท่านั้น 3. นักวิจัยไม่สามารถลบ ข้อมูลหนังสือ/ต าราออก จากระบบได้ 1. ผู้จัดการ ระบบ 2. เจ้าหน้าที่ วิจัย <= 2 นาที / 1 บทความ 31 5. ลบข้อมูล หนังสือ/ต ารา สิ้นสุด 3
75 4 ให้ค าปรึกษา/แนะน าการใช้งาน ล าดับ ผังกระบวนการ รายละเอียดงาน ผู้รับผิดชอบ เอกสารที่ เกี่ยวข้อง ระยะเวลา หมาย เหตุ 1. รับฟังข้อมูลหรือปัญหา การใช้งานระบบจาก นักวิจัย หรือ เจ้าหน้าที่ วิจัย ผ่าน 3 ช่องทาง 1. โทรศัพท์ 2. line 3. Email 1. ผู้จัดการ ระบบ 2. เจ้าหน้าที่ วิจัย 3. นักวิจัย <=30 นาที (หากเป็นเรื่อง ปกติสามารถ ให้บริการได้ ทันทีแต่หาก เรื่องมีความ ยุ่งยากซับซ้อน ใช้เวลา มากกว่าปกติ 2. ผู้จัดการระบบบันทึก ปัญหาและสื่อสารสอบถาม ข้อมูลกับผู้ขอรับค าปรึกษา เพื่อหาความต้องการ เพิ่มเติมเพื่อให้ได้ รายละเอียดไปสู่การ วิเคราะห์ปัญหา 1. ผู้จัดการ ระบบ 2. เจ้าหน้าที่ วิจัย 3. นักวิจัย แบบบันทึก การให้ ค าปรึกษาและ แก้ไข้ปัญหา ระบบ RISS <= 1 วินาที 3. ศึกษาและวิเคราะห์ ข้อมูลของปัญหาจาก ค าอธิบายปัญหาที่เกิดขึ้น และหลักฐานการเกิด ปัญหาที่แสดงในระบบ 1. ผู้จัดการ ระบบ 2. เจ้าหน้าที่ วิจัย 3. นักวิจัย 41 เริ่มต้น 1. รับค าขอปรึกษา/ ปัญหาการใช้งาน 2. บันทึกปัญหา/หา ความต้องการของผู้ ขอรับค าปรึกษา 2 3. วิเคราะห์ ปัญหาและ ความต้องการ ไม่ตรงกับประเด็นปัญหา
76 4 ให้ค าปรึกษา/แนะน าการใช้งาน (ต่อ) ล าดับ ผังกระบวนการ รายละเอียดงาน ผู้รับผิดชอบ เอกสารที่ เกี่ยวข้อง ระยะเวลา หมาย เหตุ 4. ผู้จัดการระบบให้ ค าปรึกษาการใช้งาน หรือ วิธีแก้ไขปัญหา 1. ผู้จัดการ ระบบ <=30 นาที (หากเป็นเรื่อง ปกติสามารถ ให้บริการได้ ทันทีแต่หาก เรื่องมีความ ยุ่งยากซับซ้อน ใช้เวลา มากกว่าปกติ 5. ผู้รับค าปรึกษาพิจารณา ว่าตนเองมีความเข้าใจกับ ค าปรึกษา/ค าแนะน า ที่ได้รับหรือปัญหาถูกแก้ไข เรียบร้อยแล้วหรือไม่ หาก ไม่เข้าใจหรือปัญหายังไม่ ถูกแก้ไขต้องย้อน ไปสอบถามผู้จัดการระบบ เพื่อความเข้าใจหรือแก้ไข ปัญหาให้เรียบร้อยอีกครั้ง 1. ผู้จัดการ ระบบ 2. เจ้าหน้าที่ วิจัย 3. นักวิจัย <= 30 นาที/1 เรื่อง 6.ผู้รับค าปรึกษาน า ค าปรึกษา/ค าแนะน าไป แก้ปัญหา หรือ ปัญหาถูก แก้ไขเรียบร้อยโดยผู้จัดการ ระบบ 1. ผู้จัดการ ระบบ <=30 นาที (หากเป็นเรื่อง ปกติสามารถ ให้บริการได้ ทันทีแต่หาก เรื่องมีความ ยุ่งยากซับซ้อน ใช้เวลา มากกว่าปกติ 41 2 ตรงกับประเด็นปัญหา 4. ให้ค าปรึกษา หรือ แก้ไขปัญหา 5. ความเข้าใจ หรือปัญหาได้ ถูกแก้ไข ไม่เข้าใจ/ ปัญหายัง ไม่ถูก แก้ไข เข้าใจ/ ปัญหา ถูกแก้ไข 6. ให้ค าปรึกษา หรือ แก้ไขปัญหา สิ้นสุด
77 4.2.3 ขั้นตอนที่3 : การรักษาระบบและน าข้อมูลกลับมาใช้ใหม่ (Post Implement Processing) ตามภาพประกอบที่ 4.4 ภาพที่ 4.4 Flowchart แสดงขั้นตอนการรักษาระบบและน าข้อมูลกลับมาใช้ใหม่ (Post Implement Processing) สิ้นสุด ขั้นตอนที่3: การรักษาระบบและน าข้อมูลกลับมาใช้ใหม่ (Post Implement Processing) ฐานข้อมูล และระบบที่ ส ารองล่าสุด การส ารองระบบและฐานข้อมูลงานวิจัย การปรับปรุงค่าระบบ การรับข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนา การน าข้อมูลและระบบกลับมาใช่ใหม่ การประเมินผลความพึงพอใจระบบ ตรวจสอบความ พร้อมเครื่อง คอมพิวเตอร์แม่ข่าย ตรวจสอบความ พร้อมใช้งานของ ฐานข้อมูลและระบบ เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย ไม่พร้อมใช้งาน แจ้งผู้ดูแลเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย พร้อมใช้งาน ระบบและฐานข้อมูล พร้อมใช้งาน ระบบและฐานข้อมูล ไม่พร้อมใช้งาน ขั้นตอนที่1 : การเตรียมความพร้อมระบบ (Pre-implement Processing)
78 1. การปรับปรุงค่าระบบ ล าดับ ผังกระบวนการ รายละเอียดงาน ผู้รับผิดชอบ เอกสารที่ เกี่ยวข้อง ระยะเวลา หมาย เหตุ ใช้โปรแกรม Browser เปิด ระบบและท าการ Login เช้าใช้งาน โดยใช้ Username และ Password ของผู้จัดการ ระบบเท่านั้น ผู้จัดการระบบ 120 นาที ท าการปรับปรุงค่าระบบใน ส่วนที่ต้องการปรับปรุง ดังนี้ 2.1 ข้อมูลส่วนบุคคล 2.2 ข้อมูลมหาวิทยาลัย 2.3 องค์กรภายนอก 2.4 เงินทุนวิจัย 2.5 เขตพื้นที่ 2.6 บทความ 2.7 สิทธิบัตร 2.8 ประเทศต่างๆ 2.9 การศึกษา 2.10 หนังสือ 2.11 โครงการ ผู้จัดการระบบ 11 เริ่มต้น 1. Login เข้าสู่ระบบ 2. ก าหนดค่าระบบ สิ้นสุด
79 2. การรับข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาระบบ ล าดับ ผังกระบวนการ รายละเอียดงาน ผู้รับผิดชอบ เอกสารที่ เกี่ยวข้อง ระยะเวลา หมาย เหตุ 1. รับข้อเสนอแนะจากผู้มี ส่วนได้ส่วนเสียการใช้งาน ระบบ ผ่าน 4 ช่องทาง 1. โทรศัพท์ 2. line 3. Email 4. ส่วนตัว 1. ผู้จัดการ ระบบ <=30 นาที (หากเป็นเรื่อง ปกติสามารถ ให้บริการได้ ทันทีแต่หาก เรื่องมีความ ยุ่งยากซับซ้อน ใช้เวลา มากกว่าปกติ 2. ศึกษาและวิเคราะห์ ข้อเสนอแนะจากผู้ที่มีส่วน ได้ส่วนเสียการใช้งานระบบ โดยการสอบถาม รายละเอียดเพื่อให้ สอดคล้องกับความต้องการ 1. ผู้จัดการ ระบบ 3. ผู้จัดการระบบบันทึก ข้อเสนอแนะเพื่อเป็นข้อมูล ในการศึกษาความเป็นไป ได้ในการพัฒนาระบบ 1. ผู้จัดการ ระบบ เริ่มต้น 1. รับค าขอเสนอแนะ 2. วิเคราะห์ ข้อเสนอแนะ และ ความต้องการ ไม่ตรงกับประเด็น ที่เสนอแนะ 21 3. จดบันทึกขอ เสนอแนะ ตรงกับประเด็น ที่เสนอแนะ สิ้นสุด
80 3. การส ารองระบบ (System backup) ล าดับ ผังกระบวนการ รายละเอียดงาน ผู้รับผิดชอบ เอกสารที่ เกี่ยวข้อง ระยะเวลา หมาย เหตุ 1. ท าการสร้าง Folder ใน เครื่อง PC เพื่อเป็นพื้นที่ ส าหรับจัดเก็บไฟล์ระบบที่ ได้ส ารองมาจากเครื่อง คอมพิวเตอร์แม่ข่ายเว็บ เซิร์ฟเวอร์(Web Server) ผู้จัดการระบบ 5 นาที 2. เข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ แม่ข่าย เว็บเซิร์ฟเวอร์ (Web Server) ที่จัดเก็บ และเผยแพร่ไฟล์ระบบ ผ่านทางโปรแกรม FTP โดยระบุ Username และ Password ผู้จัดการระบบ 2 นาที 3. ท าการ Login เข้าสู่ เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย เว็บเซิร์ฟเวอร์ ผู้จัดการระบบ 2 นาที เลือกไฟล์และท าการ Copy โดย 1.ใช่ Mouse คลิกซ้าย 1 ครั้ง 2.เลือก Copy ผู้จัดการระบบ 1 นาที 31 เริ่มต้น 3. Login 1.สร้าง Folder ส าหรับจัดเก็บไฟล์ ระบบในเครื่อง PC 2.เชื่อมต่อเครื่อง คอมพิวเตอร์แม่ข่ายที่ จัดเก็บไฟล์ระบบ ไม่ส าเร็จ ส าเร็จ 4.เลือกไฟล์หรือFolder ในเครื่องคอมพิวเตอร์ แม่ข่ายที่ต้องการส ารอง 2
81 3. การส ารองระบบ (System backup) (ต่อ) ล าดับ ผังกระบวนการ รายละเอียดงาน ผู้รับผิดชอบ เอกสารที่ เกี่ยวข้อง ระยะเวลา หมาย เหตุ 4. เข้าไปยัง Folder ที่ สร้างไว้ใน ข้อที่1 และ Click ขวา และเลือกวาง เพื่อท าการถ่ายโอนและ จัดเก็บไฟล์ ผู้จัดการระบบ 30 นาที 5. ตรวจสอบความถูกต้อง ของไฟล์ที่ส ารองและ จัดเก็บในเครื่อง PC ผู้จัดการระบบ 2 นาที 6.ท าการตัดการเชื่อมต่อ ระหว่างคอมพิวเตอร์แม่ ข่ายเว็บเซิร์ฟเวอร์ ผู้จัดการระบบ 1 นาที 7. บันทึกประวัติการ ส ารองลงในแบบฟอร์มการ ดูแล บ ารุงรักษา การ ส ารองข้อมูล และ ส ารอง ไฟล์ไว้ในแหล่งจัดเก็บอื่นๆ เพื่อป้องกันไฟล์ส ารอง ต้นฉบับเกิดความเสียหาย มากกว่า 1 แหล่งจัดเก็บ เช่น Flash drive และ CD หรือ DVD ผู้จัดการระบบ 60 นาที 4. วางไฟล์ หรือ Folderในเครื่อง PC 6.ยกเลิกการเชื่อมต่อ 31 2 5.ตรวจสอบ ความ ครบถ้วนของ ไฟล์ ไม่ครบถ้วน ครบถ้วน 7.บันทึกประวัติการ ส ารองลงในแบบฟอร์ม และท าเนาไว้ในแหล่ง จัดเก็บอื่นๆ สิ้นสุด
82 4. การส ารองฐานข้อมูล (Database backup) ล าดับ ผังกระบวนการ รายละเอียดงาน ผู้รับผิดชอบ เอกสารที่ เกี่ยวข้อง ระยะเวลา หมาย เหตุ 1. ท าการสร้าง Folder ใน เครื่อง PC เพื่อเป็นพื้นที่ ส าหรับจัดเก็บไฟล์ ฐานข้อมูล (Database file) ที่ได้ส ารองมาจาก เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย ฐานข้อมูล (Database server) ผู้จัดการระบบ 5 นาที 2. เชื่อมต่อเพื่อเข้าสู่เครื่อง คอมพิวเตอร์แม่ข่ายที่ จัดเก็บฐานข้อมูลผ่านทาง เบราว์เซอร์ (Browser) โดยการระบุหมายเลข เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย ตามด้วย phpMyadmin http:// xxx.xxx.xxx/phpMyAdm in และ ระบุ Username และ Password เพื่อเข้าสู่ คอมพิวเตอร์แม่ข่าย ผู้จัดการระบบ 2 นาที 3. ท าการ Login เข้าสู่ เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย เว็บเซิร์ฟเวอร์ ผู้จัดการระบบ 2 นาที 31 เริ่มต้น 3. Login 1.สร้าง Folder ส าหรับจัดเก็บไฟล์ ฐานข้อมูลในเครื่อง PC 2.เชื่อมต่อเครื่อง คอมพิวเตอร์แม่ข่ายที่ จัดเก็บฐานข้อมูล (Database server) ไม่ส าเร็จ ส าเร็จ 2
83 4. การส ารองฐานข้อมูล (Database backup) (ต่อ) ล าดับ ผังกระบวนการ รายละเอียดงาน ผู้รับผิดชอบ เอกสารที่ เกี่ยวข้อง ระยะเวลา หมาย เหตุ 4. เลือกฐานข้อมูลที่ ต้องการส ารองและท าการ Export เพื่อส่งออกมายัง เครื่องคอมพิวเตอร์ PC ผู้จัดการระบบ 30 นาที 5. ตรวจสอบความถูกต้อง ของไฟล์ฐานข้อมูลที่ส ารอง และจัดเก็บในเครื่อง PC ผู้จัดการระบบ 2 นาที 6.ท าการตัดการเชื่อมต่อ ระหว่างคอมพิวเตอร์แม่ ข่ายฐานข้อมูลกับเครื่อง คอมพิวเตอร์PC เพื่อป้อง การการเข้าถึงและท าให้ ฐานข้อมูลปลอดภัย ผู้จัดการระบบ 1 นาที 7. ท าการส ารองไฟล์ ฐานข้อมูลไว้ในแหล่ง จัดเก็บอื่นๆเพื่อป้องกัน ไฟล์ส ารองต้นฉบับเกิด ความเสียหายมากกว่า 1 แหล่งจัดเก็บ เช่น Flash drive และ CD หรือ DVD ผู้จัดการระบบ แบบฟอร์ม บันทึกการ ดูแล บ ารุงรักษา การส ารอง ข้อมูล 60 นาที 31 4. เลือกฐานข้อมูลที่ ต้องการส ารองและ ส่งออก 6.ยกเลิกการเชื่อมต่อ เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ ฐานข้อมูลกับ คอมพิวเตอร์ PC 2 5.ตรวจสอบ ความ ครบถ้วนของ ไฟล์ ไม่ครบถ้วน ครบถ้วน 7.ส ารองไฟล์ฐานข้อมูล ไว้ในแหล่งจัดเก็บอื่นๆ สิ้นสุด
84 4. การประเมินผลความพึงพอใจระบบ ล าดับ ผังกระบวนการ รายละเอียดงาน ผู้รับผิดชอบ เอกสารที่ เกี่ยวข้อง ระยะเวลา หมาย เหตุ 1.จัดท าแบบสอบถาม ความพึงพอใจต่อการใช้ งานระบบ RISS ให้เป็นไป ตามเกณฑ์มาตรฐาน รายงานการประเมินตนเอง (SAR) ในรูปแบบ Google Form ผู้จัดการระบบ 5 นาที 2. จัดท า 2 ครั้ง / ปี ตามปี การศึกษา ประกอบด้วย 5 ด้าน 1.ด้านข้อมูลสารสนเทศมี ความทันสมัย 2.ด้านข้อมูลสารสนเทศมี ความครบถ้วน ถูกต้อง ตรงกัน เชื่อถือได้ 3.ด้านข้อมูลตอบสนองตรง ตามความต้องการของผู้ใช้ 4.ด้านระบบสารสนเทศ เป็นประโยชน์ต่อการ ด าเนินงาน 5.ด้านความสะดวกและ ง่ายต่อการใช้งานระบบ ผู้จัดการระบบ 2 นาที 3. เผยแพร่และสร้าง เนื้อหาข่าวประชาสัมพันธ์ ผ่านหน้าเว็บไซต์ สวพ. เพื่อให้ผู้ใช้ที่มีส่วนได้ส่วน เสียกับการใช้งานระบบเข้า ประเมินความพึงพอใจ 1.นักวิจัย/อาจารย์ 2.เจ้าหน้าที่/ผู้บริหาร 3.บุคคลภายนอก ผู้จัดการระบบ 41 เริ่มต้น 1.จัดท าแบบสอบถาม ความพึงพอใจต่อการใช้ งานระบบ RISS 2 ฝ่าย SAR สวพ. ตรวจสอบ ตรงตามเกณฑ์ 3. สร้างเนื้อหา ประชาสัมพันธ์ผ่านหน้า เว็บไซต์ สวพ.และ ช่องทาง Line เพื่อ เผยแพร่ให้ผู้ใช้เข้า ประเมินความพึงพอใจ ไม่ตรงตามเกณฑ์
85 4. การประเมินผลความพึงพอใจระบบ ล าดับ ผังกระบวนการ รายละเอียดงาน ผู้รับผิดชอบ เอกสารที่ เกี่ยวข้อง ระยะเวลา หมาย เหตุ 4.วิเคราะห์ติดตามผลการ ประเมินความพึงพอใจใน ระบบออนไลน์มี ผู้รับบริการตอบ แบบสอบถามไมน้อยกว่า 80% ของจ านวนค่า เป้าหมายที่ก าหนดหรือไม่ ผู้จัดการระบบ 5 นาที 5. น าข้อมูลจากผลการ ประเมิน Online มา วิเคราะห์และสรุปผล ผู้จัดการระบบ 1 วัน 6.ส่งผลการประเมินความ พึงพอใจให้ฝ่ายประกัน คุณภาพ SAR ประจ า สวพ. เพื่อรายผลใน กระบวนการต่อไปยัง ผู้บริหารประจ า สวพ และ มหาวิทยาลัย ตามล าดับ 180 นาที 41 5.สรุปและบันทึกผล การประเมินความพึง พอใจเพื่อเป็นแนวทาง ปรับปรุงระบบ 4. วิเคราะห์/ติดตาม ผลการประเมินความ พึงพอใจ 2 < 80% > 80% 6. ส่งผลการประเมิน ความพึงพอใจให้ฝ่าย ประกันคุณภาพ SAR ประจ า สวพ. ต่อไป สิ้นสุด
86 5. การน าข้อมูลและระบบกลับมาใช่ใหม่ ล าดับ ผังกระบวนการ รายละเอียดงาน ผู้รับผิดชอบ เอกสารที่ เกี่ยวข้อง ระยะเวลา หมาย เหตุ 1.รับแจ้งปัญหาระบบ ขัดข้องไม่สามารถใช้งานได้ ผ่านทาง 3 ช่องทาง 1.โทรศัพท์ 2.Line 3.ส่วนตัว ผู้จัดการระบบ 10-15 นาที 2. สอบถามรายละเอียด ของปัญหาเพื่อน ามา วิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้น เกิดจากระบบขัดข้องหรือ เกิดจากความไม่เข้าใจใน การใช้งาน ผู้จัดการระบบ 10-15 นาที 3.ทดสอบเข้าใช้งานระบบ เพื่อตรวจสอบความพร้อม ของไฟล์ระบบและการ เชื่อมต่อกับฐานข้อมูลโดย 1.เรียกผ่านหน้า Index.php ของระบบ หากระบบแสดงผลหน้า แรกของระบบ 2. Login เข้าสู่ระบบ ทดสอบการเชื่อมต่อกับตัว ฐานข้อมูลของระบบ ผู้จัดการระบบ 10-15 นาที 51 เริ่มต้น 1.รับแจ้งปัญหาระบบ ขัดข้องไม่สามารถใช้ งานได้ 2 2.สอบถาม/ วิเคราะห์ปัญหา ที่เกิดขึ้น ระบบ ไม่มีปัญหา มีปัญหา ที่ระบบ พร้อมใช่ แจ้ง ผู้ดูแล เครื่อง คอมพิว เตอร์ แม่ข่าย สิ้นสุด 3.ตรวจสอบความ พร้อมของระบบ และฐานข้อมูล ไม่พร้อม ใช่
87 5. การน าข้อมูลและระบบกลับมาใช่ใหม่ (ต่อ) ล าดับ ผังกระบวนการ รายละเอียดงาน ผู้รับผิดชอบ เอกสารที่ เกี่ยวข้อง ระยะเวลา หมาย เหตุ 4.ใช้ค าสั่งจากคอมพิวเตอร์ ลูกข่ายตรวจสอบความ พร้อมใช้งานไปยัง คอมพิวเตอร์แม่ข่าย โดย การใช้ค าสั่ง Ping เพื่อ Check ว่าเครื่อง คอมพิวเตอร์แม่ข่ายพร้อม ใช้งานหรือไม่ ผู้จัดการระบบ 10-15 นาที 5. น าไฟล์ระบบและ ฐานข้อมูลที่ส ารองไว้ล่าสุด มาติดตั้งและก าหนดค่า ตรวจสอบการก าหนดค่า ใหม่เพื่อท าให้ระบบและ ข้อมูลเป็นปัจจุบันมากที่สุด ภายใน 3 วันท าการ ผู้จัดการระบบ 3 วันท าการ ฃ 51 5.น าระบบและ ฐานข้อมูลกลับมาใช่ ใหม่ พร้อมใช่งาน ไม่พร้อม ใช่งาน 2 4.ตรวจสอบความ พร้อมเครื่อง คอมพิวเตอร์แม่ข่าย สิ้นสุด
88 4.3 วิธีการและเทคนิคการปฏิบัติงาน 4.3.1 การเตรียมความพร้อมระบบ (Pre-implement Processing) 1. การเตรียมความพร้อมชุดโปรแกรมและโครงสร้างฐานข้อมูล 1.1 ชุดโปรแกรม 1.1.1 สร้าง Folder เพื่อเตรียมพื้นที่ส าหรับจัดเก็บไฟล์ชุดโปรแกรมภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ โดย 1. เลือกต าแหน่งภายในเครื่องที่จะสร้าง Folder 2. Click ขวาพื้นที่ว่าง 3. เลือกแทบ New 4. เลือกแทบ Folder 5. ตั้งชื่อ Folder ตามภาพประกอบที่ 4.5 ภาพที่4.5สร้าง Folder เพื่อเตรียมพื้นที่ส าหรับจัดเก็บไฟล์ชุดโปรแกรม 1.1.2 น าเข้าไฟล์ชุดโปรแกรมไปยัง Folder โดยการคัดลอกไฟล์ของชุดโปรแกรมทั้งหมดที่มี ความส าคัญเก็บไว้ใน Folder ที่สร้างเตรียมเอาไว้ในข้อ 1.1.1 โดย 1. เลือกทั้งหมด 2. Click ขวา 1 ครั้ง 3. เลือก Copy 4. ไปยังต าแหน่ง Folder ที่สร้างไว้ใน ข้อที่5 ของข้อ 1.1.1 5. Click ขวา 1 ครั้ง 6. เลือก Plate ตามภาพประกอบที่ 4.6 1 2 3 4 5