คาํ ถาม-ตอบวนิ ยั ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวิทย์ เปร่อื งการ รวบรวมโดยนิติกรพร เทศบาลตําบลบะหวา้ จังหวัดสกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
คำถำม-ตอบ โดยทำ่ น อำจำรย์ประวิทย์ เปรอื่ งกำร ประจำปี 2561
********************
คาํ ถาม ๒/๕/๖๑
เพือ่ นหนูฝากถามว่า ตวั เขาถูกนายกกับปลดั กลน่ั แกลง้ ตง้ั สอบวนิ ัยรา้ ยแรง ตอ่ มาไดข้ า่ ววา่ จะถูกลงโทษ
ปลดออก หาวา่ เพื่อนหนไู ม่ดูแลปลอ่ ยใหล้ กู นอ้ งนําเงินภาษไี ปใช้ก่อน แตเ่ ขาเอาเงินมาคืนครบแลว้ เลยไม่ตงั้
สอบวินัย เพียงแต่มกี ารเรียกมาว่ากล่าวเทา่ นน้ั เขาจะเลน่ งานเพ่อื นหนูถงึ ปลดออก จะทําอยา่ งไรดคี ะอาจารย์
ตอบ
ปญั หาของเพอื่ น..ควรใหเ้ พอื่ นถาม เพราะบางคร้ังตอ้ งการขอ้ มูลเพม่ิ เตมิ เพ่ือคาํ ตอบที่ถกู ตอ้ งสมบรู ณ์
มีข้อสังเกตในการทํางานดา้ นวนิ ัยมากวา่ ๒๐ ปี พบวา่ ผู้ถามบางรายจะเลอื กใหข้ ้อมลู เฉพาะทเี่ ปน็ ประโยชน์
"ปกปิดข้อความท่คี วรตอ้ งเล่า" ทําใหก้ ารตอบคลาดเคลอ่ื นไป "เพราะขอ้ มลู ไม่ครบ" แลว้ มกั นําไปอา้ งว่า "ผนู้ ี้
ตอบอยา่ งนี้ ผนู้ ้ันว่าอย่างนั้น" อันอาจเกิดการเข้าใจผิดและเสียหายได้ โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงควรงด "การตัดต่อ
ถอ้ ยคํา" หรอื "คลปิ เสียง" เพียงบางช่วงบางตอน เพอื่ นาํ ไปใช้ แต่อย่างไรก็ตามเมอื่ จาํ เป็นต้องตอบในเรือ่ งท่ี
ข้อมลู ไมค่ รบ มักใช้คาํ ว่า "หาก..." หรอื "ถ้า..." ซงึ่ เปน็ เพียง "การช้ีทาง" หรือตอบตามหลักการเทา่ นั้น ดังน้นั
เม่ือจะนาํ ไปใชจ้ รงิ ตอ้ งศกึ ษากฎหมาย กฎ ระเบียบ ประกาศ มติ หรือหนงั สอื ที่เกีย่ วข้องประกอบดว้ ย ไมค่ วร
อา้ งตวั บคุ คลโดยละเลยการตรวจสอบจากข้อมูลปฐมภูมดิ งั กลา่ ว
ตามคาํ ถาม มี ๒ ประเด็น คือ
๑. นายก อปท.กลั่นแกล้งตง้ั สอบวินยั ร้ายแรงไดห้ รอื ไม่ อย่างไร
๒. ว่ากลา่ วตวั การสาํ คญั แต่ปลดผกู้ าํ กบั ดูแล ได้หรอื ไม่
สรุปสัน้
(หลกั การ)
๑. กล่ันแกล้งตั้งไมไ่ ด้
๒. ตวั การสาํ คญั ตอ้ งถกู ลงโทษหนกั กว่าผกู้ าํ กบั ดูแล
ขยายความ
๑. หลกั เกณฑ์และเงือ่ นไขในการสอบสวน การลงโทษทางวนิ ัย (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) ขอ้ ๒๔ วรรคส่ี
กาํ หนดวา่ "เมอื่ ปรากฏกรณมี มี ลู ทีค่ วรกลา่ วหาว่า..ผู้ใดกระทําผดิ วนิ ัย โดยมีพยานหลกั ฐานในเบอื้ งต้นอยู่แลว้
ให้นายก อปท.ดาํ เนินการทางวินยั ทันท"ี
มลู กรณีตง้ั กรรมการสอบสวนวินยั อาจเกิดจาก
(๑) ผลการสอบขอ้ เทจ็ จรงิ (ข้อ ๒๔ วรรคห้า)
(๒) การสง่ เรอ่ื งจากหนว่ ยตรวจสอบ (ป.ป.ช., ป.ป.ท.,สตง.)
(๓) การชีม้ ลู จากหนว่ ยราชการ (สตง., อําเภอ, จังหวดั , กรม, กระทรวง, ศนู ย์ดาํ รงธรรม ฯลฯ)
รวบรวมโดย นิตกิ รพร หนา้ 1
คาํ ถาม-ตอบวินยั ปี 2561 โดยอาจารย์ประวทิ ย์ เปรอ่ื งการ รวบรวมโดยนติ ิกรพร เทศบาลตําบลบะหวา้ จังหวดั สกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
(๔) การแจง้ กรณตี ้องหาคดีอาญาจากตํารวจ และ
(๕) ผ้บู งั คับบญั ชาตรวจพบหลกั ฐานชีช้ ดั วา่ กระทําผดิ เป็นต้น
หากไม่เข้าประเดน็ ข้างต้น ผ้ถู กู ตั้งกรรมการสอบสวน อาจใชส้ ทิ ธิร์ อ้ งทุกขต์ อ่ ก.จังหวดั เพื่อใหม้ มี ติให้
นายก อปท.ยกเลกิ คําสัง่ แตง่ ต้ังกรรมการสอบสวนนัน้ เสยี ตามขอ้ ๒๗ วรรคหนึง่ ประกอบขอ้ ๓๒ และข้อ ๓๓
หลกั เกณฑแ์ ละเง่ือนไขในการอทุ ธรณ์ และการรอ้ งทกุ ข์ (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) เพราะการแตง่ ต้งั กรรมการข้นึ
ทาํ การสอบสวนในเรอื่ งใดไปแล้ว จะแตง่ ตัง้ กรรมการสอบสวนในเรื่องนั้นอกี มไิ ด้ (หลักเกณฑ์เดมิ ใช้คาํ วา่ "จะ
ยกเลกิ มิได"้ หมายถึง หา้ มนายก อปท.ยกเลกิ เอง) ตามข้อ ๗๕ วรรคส่ี หลกั เกณฑแ์ ละเง่ือนไขในการสอบสวน
การลงโทษทางวินัยฯ
กรณีหากเปน็ การกลน่ั แกล้งจรงิ ผ้ใู ชอ้ าํ นาจอาจต้องรับผิดตามกฎหมาย
๒. ตวั การสําคัญ คอื ผู้นาํ เงินภาษีไปใชก้ ่อน ถือเปน็ การทจุ ริตตอ่ หนา้ ทร่ี าชการ ตามขอ้ ๗ วรรคสาม
ของหลกั เกณฑ์และเง่อื นไขในการสอบสวนฯ ต้องลงโทษ "ไล่ออกจากราชการ" สถานเดยี ว "การนาํ เงนิ ทที่ จุ ริต
ไปแลว้ มาคนื หรือมเี หตุอันควรปรานอี ่นื ใด ไมเ่ ป็นเหตลุ ดหย่อนโทษเหลือเปน็ ปลดออกจากราชการ ตามมติ
ครม.เมอ่ื ๒๑ ธนั วาคม ๒๕๓๖ ดงั น้นั การทน่ี ายก อปท.เพยี งวา่ กลา่ วตักเตือน โดยละเลยไม่แต่งตง้ั
คณะกรรมการสอบสวนวนิ ยั อยา่ งร้ายแรง (เปน็ การทาํ ผดิ กฎหมายอาญา) จงึ ไม่ชอบดว้ ยกฎหมาย
สาํ หรับตวั ผบู้ งั คบั บญั ชาทม่ี หี น้าทก่ี าํ กบั ดแู ล หากจะถกู แตง่ ตง้ั คณะกรรมการสอบสวนวินยั อยา่ ง
ร้ายแรง กส็ ามารถทําได้ แต่ตามปกตติ อ้ งลงสถานโทษทเ่ี บากว่าตัวการสําคญั กรณีนย้ี งั สอบสวนไมแ่ ลว้ เสรจ็
แต่มีขา่ วว่าจะปลดออกจากราชการ (เป็นความลบั รู้ได้อย่างไร) ถา้ เป็นจรงิ จะเป็นการสอบทมี่ ีธงคาํ ตอบ จงึ ไม่
เปน็ ไปตามขอ้ ๘๖ วรรคหนง่ึ ที่ว่า "...ต้องสง่ั ลงโทษใหเ้ หมาะสมกบั ความผดิ และมใิ หเ้ ปน็ ไปโดยพยาบาท โดย
อคติ หรือโดยโทสจรติ ..." และเรื่องนม้ี กี ารบรรเทาความเสยี หาย ดว้ ยการนําเงนิ มาคนื ครบแล้ว อาจถอื เปน็
เหตลุ ดหยอ่ นโทษ ซ่งึ อาจเป็นวินยั อยา่ งไม่ร้ายแรงก็ได้ ทงั้ น้ี อย่ทู ผี่ ลการสอบสวน
หากกรณีข้อเทจ็ จรงิ เปน็ อนั ยตุ ิว่ากลนั่ แกลง้ มวี ิธีการอีกหลายชอ่ งทางทจี่ ะพสิ จู น์ตวั เอง
ขอบคณุ ทุก ๆ โพสต์ ดว้ ยครับ
**********************
คําถาม ๓๐/๓/๖๑
รบกวนสอบถามค่ะท่านอาจารย์
กรณี ก.มมี ติให้ดําเนินการสอบสวนทางวินัยใหมใ่ ห้ถูกตอ้ งตามขอ้ 89 ของประกาศฯ...กลา่ วคือ ให้
สอบสวนตามประกาศใหม่ปี 2558 ปรบั บทลงโทษตามประกาศฯเกา่ ปี 2545 (ในขณะกระทําความผิด)
อยากทราบวา่ การดาํ เนนิ การใหมท่ ่วี ่าน้ี หมายถงึ อย่างไร
1. ต้องแก้ไขคาํ สง่ั ใหม่ด้วยหรอื ไม่
2. แกไ้ ขเฉพาะ สว.6 สรุปสํานวนสอบสวน (ลงวันทปี ัจจบุ ัน ใชไ่ หมคะ) หรอื
3. ก.นา่ จะมีอาํ นาจทจ่ี ะแก้ไขไดเ้ ลยหรอื ไมค่ ะ่ ...การสอบสวนดําเนินการถูกต้องตามประกาศใหมแ่ ลว้
เพียงแต่ลงโทษโดยปรบั บทลงโทษประกาศฯ ใหม่ (ซงึ่ ต้องลงโทษตามประกาศขณะกระทาํ ผดิ )
รวบรวมโดย นติ ิกรพร หนา้ 2
คําถาม-ตอบวนิ ัย ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวิทย์ เปรือ่ งการ รวบรวมโดยนติ กิ รพร เทศบาลตาํ บลบะหวา้ จงั หวดั สกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
ขอคําแนะดว้ ยคะ่ ท่านอาจารย์
ตอบ
คลา้ ยกับคําถาม ๒๘/๓/๖๑ (กอ่ นหน้าน้ี)
คอื "ใหด้ ําเนนิ การสอบสวนทางวนิ ัยใหมใ่ ห้ถกู ตอ้ ง" โดยไม่มรี ายละเอียดวา่ "การดาํ เนินการทางวินัยคร้ังท่แี ลว้
อปท.ดาํ เนนิ การผิดประเดน็ ไหน อย่างไร เพราะเหตใุ ดจงึ ตอ้ งแก้ไข เชน่ คําสั่งแตง่ ตัง้ คณะกรรมการสอบสวน
เสยี ไปอันเนอ่ื งมาจากคณุ สมบัติของกรรมการสอบสวนไม่ถกู ตอ้ ง เม่อื เป็นช่วงทม่ี ีการประกาศใชห้ ลกั เกณฑ์
และเงอ่ื นไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัยฯ ฉบบั ใหม่ (ต้งั แต่ ๑ มกราคม ๒๕๕๙) จึงจาํ เปน็ ต้องใช้ข้อ
๘๙ ซ่ึงเปน็ เสมอื นบทเฉพาะกาล แตห่ ากข้อเทจ็ จริงปรากฏวา่ ได้มคี ําสัง่ แต่งตัง้ กรรมการสอบสวนหลงั วนั ที่ ๑
มกราคม ๒๕๕๙ กไ็ มค่ วรอ้างข้อ ๘๙ วรรคสอง (จะเกิดความสบั สนได้ เพราะไมใ่ ชป่ ระเด็นหลักท่ที าํ ให้ตอ้ ง
ดําเนนิ การสอบสวนทางวนิ ัยใหม)่
จากคาํ ถาม (ทีม่ รี ายละเอยี ดเทา่ ทเ่ี หน็ ) คงเปน็ ไปไดว้ า่ คําส่งั แต่งตง้ั กรรมการสอบสวนไมถ่ ูกต้องใน
สาระสาํ คัญ ก.จงั หวดั จงึ มมี ตใิ ห้ อปท.ไปดาํ เนินการสอบสวนทางวินัยใหม่ให้ถูกต้อง ตามข้อ ๘๙ เท่ากบั ยังไม่
เคยมกี ารสอบสวนเรอื่ งนั้นมาก่อนเลย (ต้องนบั หนึ่งใหม่) คําถามทัง้ ๓ ประเดน็ จงึ ไมจ่ าํ เปน็ ต้องตอบ
อย่างไรก็ตาม หากไมเ่ กีย่ วกับคุณสมบัติกรรมการสอบสวน คําสัง่ ดงั กล่าวยังมผี ลตามกฎหมาย ไม่
จําเป็นตอ้ งแก้ไข จึงไม่อาจทราบได้วา่ จุดประสงคข์ อง ก.จงั หวัดคืออะไร นอกเหนอื จากคาํ ว่า "ให้ไป
ดําเนินการสอบสวนทางวนิ ยั ใหม่ให้ถกู ตอ้ ง"
ดงั น้นั หากตอ้ งการคาํ ตอบทสี่ ามารถนาํ ไปปฏบิ ตั ิไดจ้ รงิ ขอ้ มลู เก่ยี วกับมติ ก.จังหวัดตอ้ งครบถว้ น
ชดั เจนในประเด็นดว้ ย ถามแบบงง ๆ เลยตอบแบบงง ๆ
หมายเหตุ
เรอื่ งลกั ษณะนฝ้ี าุ ยเลขานุการ ก.จงั หวัด คงมรี ายละเอยี ดแห่งประเดน็ เสนอ ก.จังหวัด ครบถว้ นแล้ววา่
ใหไ้ ปดําเนินการใหม่ เพราะเหตใุ ด ๑..๒..๓..๔ แน่นอน หรือไมเ่ ปน็ อยา่ งนั้น..!
ขอบคุณครับ
***********************
ตอบ ๒๘/๓/๖๑ และ ๓๐/๓/๖๑ (เพ่ิมเตมิ )
ในกรณีท่ี อปท.ดําเนินการสอบสวนพิจารณาแลว้ รายงานการดาํ เนนิ การทางวินยั ไปยงั ก.จงั หวัด ตาม
ขอ้ ๘๔ หรอื ๘๕ ของหลักเกณฑแ์ ละเงอื่ นไขในการสอบสวน การลงโทษทางวนิ ัย (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙)
แลว้ แต่กรณี ทป่ี รากฏอยูใ่ นขอ้ ๘๗ นน้ั
เมือ่ เทยี บเคียงขอ้ ๘๘ วรรคหนงึ่ จะเหน็ วา่ หากอนวุ ินัยหรือ ก.จังหวดั แล้วแต่กรณี เห็นเปน็ การ
สมควรทจ่ี ะตอ้ งสอบสวน (เพ่มิ เตมิ )...กใ็ ห้ "กําหนดประเด็นหรือข้อสําคัญ.." ไปให้นายก อปท.เพื่อใหก้ รรมการ
สอบสวนท่ตี ัง้ ไว้เดิมทําการสอบสวน..
ดังนัน้ ทงั้ ๒ คําถามท่ีว่า "ให้ดาํ เนนิ การใหม่" เช่อื วา่ ก.จังหวดั ตอ้ ง "กําหนดประเด็นหรอื หวั ขอ้ สําคญั "
ไว้แล้ว เพยี งแตม่ ิได้มีการระบใุ นหนงั สอื แจง้ เท่าน้ัน เม่ือยงั ไม่ชดั เจน จงึ ไม่ควรดาํ เนนิ การใด ๆ ต่อ จะเปน็ การ
ผดิ ซา้ํ ซาก เสยี เวลาเปล่า ให้ อปท.มีหนงั สือถึงท่านประธานอนวุ นิ ยั /ท่านประธาน ก.จังหวัด แล้วแต่กรณี ถาม
วา่ "ประเดน็ หรอื หวั ขอ้ สําคัญ" ทจ่ี ะให้ อปท.ดาํ เนินการใหมน่ น้ั คอื อะไร
ตอ้ งชดั เจนทุกฝุายครับ เพอื่ ความยุตธิ รรม..
***********************
คาํ ถาม ๒/๔/๖๑
รวบรวมโดย นติ กิ รพร หนา้ 3
คาํ ถาม-ตอบวนิ ัย ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวิทย์ เปรอ่ื งการ รวบรวมโดยนิติกรพร เทศบาลตําบลบะหว้า จังหวดั สกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
ท่านคะ หนูเปน็ ข้าราชการ อบต.บรรจใุ หมจ่ ากบญั ชกี รมฯ ปี ๖๐ ในตําแหน่งวเิ คราะห์ฯ มปี ญั หาเรยี นถาม
คอื มเี หตุการณเ์ กิดขนึ้ ท่ี อบต.หนเู ป็นประจํา ทกุ วนั ที่ ๑ และ ๑๖ ของเดือน ในช่วงเช้า จนท.บนสาํ นกั งานจะ
ซอื้ หวยใต้ดินสง่ เสยี งดังโหวกเหวก ไมส่ นใจเร่อื งงานกันเลย ซง่ึ ประชาชนทม่ี าติดตอ่ ก็ได้ยินกันทั้งนั้น จนท.บาง
รายเปน็ คนเดนิ โพยอยา่ งโจง่ แจง้ ตกบา่ ยสามสโ่ี มงพากันทง้ิ โต๊ะทาํ งานมาน่ังเฝาู หนา้ จอทีวดี กู ารออกสลากกนิ
แบง่ รฐั บาล พอเลขท้าย 2 ตัว หรอื รางวลั ที่ 1 ออก กเ็ ฮกนั ลั่น บางทที า่ นนายกฯ กเ็ ฮกับเขาดว้ ย หนูอาย
ชาวบา้ นเจา้ ของภาษีมากเลย ทา่ นชว่ ยแนะนาํ ใหห้ นหู น่อยวา่ หนคู วรทาํ อยา่ งไรดคี ะ ขอบพระคณุ ท่านมากคะ่
ตอบ
ประเทศไทยเป็น "นติ ริ ัฐ" ทกุ คนต้องอยภู่ ายใต้กฎหมายท่ถี ูกสงั่ จากข้างบน กฎหมายจาํ นวนไมน่ ้อยท่ี
ไมเ่ อ้ือตอ่ บรบิ ทหรือวิถขี องผูอ้ ยูภ่ ายใต้บังคับของกฎหมาย เช่น การพนันทีอ่ ยูใ่ นสายเลอื ดของผูค้ นมาชา้ นาน
รัฏฐาธิปตั ยต์ รากฎหมายห้ามเล่นการพนันบางชนดิ แตห่ ลายครั้งที่ไมอ่ าจบงั คบั ใชก้ ฎหมายได้ เหมือนกบั กรณี
ทถ่ี าม
ในปี ๒๔๗๘ ได้มี พ.ร.บ.การพนนั หา้ มข้าราชการเล่นการพนันหลายชนดิ ปี ๒๔๙๖ มหี นังสอื กรม
เลขาธิการ ครม.ท่ี นว ๒๐๘/๒๔๘๖ ลง ๓ กันยายน ๒๔๙๖ กําหนดระดบั โทษสําหรับผเู้ ลน่ การพนนั บาง
ประเภทถงึ ข้ันไล่ออก ปี ๒๔๙๘ กม็ ีหนงั สอื กรมสารบญั ครม.ท่ี นว ๒๘๐/๒๔๙๘ ลง ๒๙ ธันวาคม ๒๔๙๘
กําชับมาอกี จากน้นั กม็ หี นงั สอื สงั่ การออกมาเป็นระยะ กระท่ังล่าสุดกระทรวงมหาดไทย ได้ออกหนงั สือท่ี มท
๐๘๐๙.๖/ว ๓๗๖๖ ลงวนั ท่ี ๓๑ ตลุ าคม ๒๕๕๗ กาํ ชับเรอื่ งนมี้ าอกี ครงั้
เร่ืองการพนนั มันอยู่ในสายเลอื ดของคนไทยส่วนหนง่ึ ไปแลว้ หากไมม่ กี ารกวดขันอย่างจรงิ จังกจ็ ะเปน็
อย่างท่เี ห็น
วิธีจัดการมมี ากมายหลายอย่าง แตค่ วรเอาตัวใหร้ อดกอ่ น อยา่ ไปยงุ่ กบั เขา เด๋ยี วมีคนจดั ใหเ้ อง ปล่อย
วาง ตั้งใจทํางาน เพราะหนคู ือ "คนเลือดใหม"่ ครับ
***********************
คาํ ถาม ๔/๔/๖๑
ขออนุญาตสอบถามอาจารย์ครบั กรณี สตง.ช้ีมูลความผดิ นายกและพนกั งาน อบต.ว่ากระทําการผิด
ระเบยี บการเบกิ จ่าย และใหอ้ ําเภอดําเนินการสอบสวนตามกรณีตามอํานาจหนา้ ทขี่ องอาํ เภอ ไม่ได้บอกอะไร
นอกจากน้ี สตง.กส็ ่งเอกสารทไ่ี ดส้ อบสวนไปแลว้ อย่างละเอยี ดมาด้วยครับ ปญั หาคืออําเภอได้ออกคาํ สัง่ แต่งตง้ั
ผมรองปลัดกบั นติ ิกร อบต.ร่วมเปน็ กรรมการสอบข้อเทจ็ จรงิ นายกและสอบวนิ ยั พนักงานทม่ี สี ว่ นเกยี่ วขอ้ ง แต่
มไิ ดร้ ะบุไปวา่ ใคร คาํ สง่ั ออกมาลอย ๆ ว่าสอบข้อเท็จจรงิ นายกและวนิ ัยพนักงานสว่ นตาํ บล ผมก็เลยงงวา่ จะ
สามารถดําเนนิ การไดโ้ ดยชอบหรอื ไม่ เพราะอาํ เภอไมไ่ ด้ขอตัวผมกบั นอ้ งนติ กิ รใหร้ ว่ มเป็นกรรมการสอบเลย
และการสอบผบู้ รหิ าร นา่ จะใช้ระเบียบ มท.วา่ ดว้ ยการสอบผู้บริหาร อาํ เภออา้ งเฉพาะเร่อื งการกาํ กบั ดแู ล เลย
แจง้ ทา่ น ป.ท่อี ําเภอวา่ ขอให้ดําเนนิ การใหม่ อย่างนีถ้ ูกตอ้ งหรอื ไม่ครบั ทางอาํ เภอก็คลา้ ยมาว่างานสอบไม่
คบื หน้า ประมานนั้น ครบั
ตอบ
ประเด็นคาํ ถามมีเพยี งว่า นายอาํ เภอออกคําส่งั แตง่ ตง้ั รองปลัดและนิติกรของ อปท.เป็นกรรมการ
สอบสวนนายกฯ และพนกั งานส่วนตาํ บล โดยไม่ไดข้ อความยนิ ยอมจากตน้ สงั กัดก่อน คําส่งั ชอบหรือไม่
ประเด็นทเี่ กิดคําถามตามมา ก็คือ การสอบสวนดงั กล่าว เป็นการสอบสวนตามกฎหมายจัดตงั้ อบต.
มาตรา ๙๐ หรือเป็นการสอบสวนตามระเบียบ มท.ว่าดว้ ยการสอบสวนผู้บรหิ ารท้องถ่ินฯ พ.ศ.๒๕๕๔
สําหรบั การสอบละเมดิ (ถา้ มี) นายอําเภอในฐานะผกู้ าํ กับดูแล อบต.จะเป็นผดู้ ําเนนิ การ
รวบรวมโดย นติ ิกรพร หน้า 4
คาํ ถาม-ตอบวินยั ปี 2561 โดยอาจารย์ประวทิ ย์ เปรอื่ งการ รวบรวมโดยนิติกรพร เทศบาลตําบลบะหวา้ จงั หวัดสกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
สว่ นคดีอาญา (ถ้าม)ี ตอ้ งไปแจ้งความที่ สภ.
ประเด็นต่อเนอื่ ง
๑. นายอาํ เภอตั้งกรรมการสอบวินยั ขรก.หรอื พนักงานสว่ นทอ้ งถน่ิ ได้หรอื ไม่
๒. คาํ สง่ั แตง่ ตง้ั กรรมการสอบวินยั ไมร่ ะบุช่ือผ้ถู กู กลา่ วหา ไดห้ รือไม่
๓. หากคําสัง่ ของอําเภอไมช่ อบ ต้องดาํ เนนิ การอยา่ งไร
สรุปส้นั
ถา้ สอบตามระเบยี บ มท.คําสง่ั ของอําเภอไม่ชอบ และหากสอบตามกฎหมายจัดตง้ั กไ็ ม่ควร
๑. นายอาํ เภอตัง้ สอบวนิ ยั ขรก.ทอ้ งถนิ่ ไม่ได้
๒. คําส่งั ตอ้ งระบชุ ือ่ ผู้ถูกกลา่ วหา
๓. เม่ือคําสง่ั ไม่ชอบ อาํ เภอต้องยกเลกิ คาํ สง่ั เดมิ แลว้ ยอ้ นกลบั มาเริม่ ใหมเ่ ฉพาะในส่วนของนายก อบต.
ความเหน็ ของทา่ นถกู ตอ้ งแลว้
ขยายความ
กรณกี ารสอบสวนนายก อบต.และพนกั งานส่วนตําบลดังกลา่ ว น่าจะเกิดจากความเข้าใจคลาดเคลื่อน
ของผเู้ ก่ยี วข้อง โดยด่วนสรปุ จากการช้ีมลู ของ สตง.ทมี่ มี ายงั นายอําเภอในฐานะผู้กาํ กบั ดูแล อบต.วา่ ให้
ดาํ เนนิ การ (ทง้ั ทางอาญา ละเมดิ วนิ ยั ) กบั ผู้เกย่ี วขอ้ ง ซึ่งมกั จะชี้มลู ลกั ษณะเหมารวมทงั้ ผบู้ ริหารท้องถิน่ และ
พนกั งานสว่ นทอ้ งถิ่นมาพรอ้ มกนั
ซึง่ กรณนี ้ีอาํ เภออาจวนิ จิ ฉยั ว่า ต้องสอบข้อเท็จจรงิ กอ่ น ตาม พ.ร.บ.สภาตาํ บลและองค์การบรหิ าร
ส่วนตําบล พ.ศ.๒๕๓๗ มาตรา ๙๐ แล้วนาํ เอาถอ้ ยคาํ ในหนงั สือ สตง.มาใสใ่ นคาํ สงั่ ทั้งหมด ทําใหเ้ ข้าใจผดิ แต่
เรอื่ งนีไ้ มต่ อ้ งสอบขอ้ เทจ็ จริงอีกแล้ว สงั เกตได้จากคําวา่ ใหส้ อบวนิ ัยน่ันเอง อนงึ่ ถงึ จะเปน็ การสอบข้อเทจ็ จรงิ ก็
ตาม หากอาํ เภอจะนาํ ชอ่ื ขรก.หรอื พนกั งานสว่ นท้องถน่ิ มาตง้ั เปน็ กรรมการก็ "ควรแจง้ " ให้ผบู้ ังคบั บญั ชาของ
ผูน้ ัน้ ทราบกอ่ น เพราะตามระเบียบบริหารราชการแผน่ ดนิ นายอําเภอไมอ่ ยูใ่ นฐานะเป็นผบู้ ังคบั บัญชาของ
ขรก.หรอื พนกั งานสว่ นทอ้ งถน่ิ แตอ่ ยใู่ นฐานะเป็นผกู้ ํากบั ดูแล อปท.ตามกฎหมายจดั ต้งั (cr.ผอ.สญั จติ พวง
นาค กองกฎหมายฯ สถ.)
อันทีจ่ ริงหนงั สือ สตง.ในลักษณะนี้ ต้องแยกดาํ เนินการเปน็ ๒ กระบวนการ คอื
(๑) อาํ เภอตอ้ งสอบสวนนายก อบต.ตามระเบยี บ มท.ว่าดว้ ยการสอบสวนผู้บริหารทอ้ งถิน่ ฯ พ.ศ.
๒๕๕๔ โดยขอความยนิ ยอมจากต้นสังกัดของ ขรก.หรือพนกั งานสว่ นทอ้ งถ่นิ ผทู้ ีจ่ ะขอตวั ก่อน ตามข้อ ๗ วรรค
สาม แล้วดาํ เนินการแตง่ ตง้ั /สอบสวนตามกระบวนการจนแล้วเสร็จ
(๒) การสอบสวนวินัยพนกั งานส่วนตาํ บล ให้ อบต.รายงานไปยงั ก.จังหวดั พร้อมเอกสารทั้งหมด
เพอ่ื ใหค้ วามปรากฏแก่ ก.จังหวดั วา่ "นายก อบต.ถูกกลา่ วหาวา่ กระทาํ ผิดร่วมกบั พนักงานส่วนตาํ บลผูถ้ ูก
กล่าวหา" เพอื่ ให้ ก.จงั หวดั คัดเลอื กกรรมการสอบสวนให้
สว่ นประเดน็ ตอ่ เนอ่ื ง
๑. อาํ นาจในการแต่งต้งั คณะกรรมการสอบสวนทางวนิ ัย ขรก.หรือพนกั งานส่วนทอ้ งถิน่ เปน็ อํานาจ
ของนายก อปท.ตามมาตรา ๑๕ วรรคหน่งึ แหง่ พ.ร.บ.ระเบยี บบริหารงานบคุ ลสว่ นท้องถิน่ พ.ศ.๒๕๔๒
ประกอบข้อ ๒๖ ของหลกั เกณฑแ์ ละเง่ือนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวนิ ัย (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) ดงั นน้ั
นายอาํ เภอจึงไมม่ อี าํ นาจแตง่ ตัง้ คณะกรรมการสอบสวนทางวินยั ขรก.หรอื พนักงานส่วนทอ้ งถิ่น
๒. คําส่ังแต่งตัง้ คณะกรรมการสอบสวนทางวินัย จะต้องระบุ
๑) ช่อื และตําแหน่งระดับของผ้ถู กู กล่าวหา
๒) เรอื่ งท่กี ลา่ วหา
รวบรวมโดย นติ กิ รพร หนา้ 5
คําถาม-ตอบวนิ ัย ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวทิ ย์ เปร่ืองการ รวบรวมโดยนิติกรพร เทศบาลตําบลบะหวา้ จังหวดั สกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
๓) ชอ่ื และตําแหนง่ ระดบั ของกรรมการสอบสวน
ตามขอ้ ๕๐ ของหลกั เกณฑ์และเง่อื นไขในการสอบสวนฯ หาไม่แล้วอาจทาํ ให้คําสงั่ แตง่ ตงั้ กรรมการ
สอบสวนเป็นคําส่งั ที่ไม่ชอบได้ (เพราะไมร่ ้วู า่ สอบใคร)
๓. อาํ เภอตอ้ งยกเลกิ คําสั่งเดิมเสยี แลว้ ใหเ้ รมิ่ ดําเนนิ การใหมด่ งั ได้อธบิ ายขา้ งตน้
ขอบคุณทา่ น ผอ.สัญจิต พวงนาค กองกฎหมายและระเบยี บท้องถ่นิ สถ. และสมาชกิ ทกุ ทา่ นสําหรับ
ทกุ โพสต์ ครับ
***********************
คาํ ถาม ๙/๔/๖๑
ทา่ นอาจารย์ครับ ปลัด อบต.ถกู ป.ป.ช.ชม้ี ลู ว่ารว่ มกบั นายกฯ ทีเ่ ดมิ จดั ซอ้ื จัดจา้ งผดิ กฎหมายฮ้ัว เป็นการ
ทุจริตตอ่ หนา้ ทรี่ าชการ ใหด้ ําเนนิ การทางวินยั อย่างร้ายแรง นายกฯ ทีใ่ หมร่ ายงาน ก.จงั หวดั ผา่ นนายอาํ เภอ
โดยไม่มคี วามเห็น เวลาผ่านไปเกือบเดอื น อําเภอขอเอกสารและใหช้ ี้แจงเพมิ่ เตมิ และ อบต.กาํ ลังทาํ หนงั สือ
ชี้แจงเพ่ิมเติม ถามวา่ เมอ่ื ครบกําหนด 30 วันตามที่ ป.ป.ช.ให้รายงานแล้ว ต้องดําเนินการอยา่ งไรครบั
ตอบ
คาํ ถามมี ๓ ประเดน็ คือ
๑. นายกฯ ไม่มคี วามเหน็ ได้หรอื ไม่
๒. ต้องเสนอผ่านอาํ เภอ หรอื ไม่
๓. เมอ่ื ครบ ๓๐ วนั ต้องทําอย่างไร
สรปุ ส้นั
๑. นายกฯ ไม่มีความเหน็ ไมไ่ ด้
๒. ต้องเสนอตรงไปที่ ก.จังหวัด
๓. แจ้งความคบื หน้าไปยัง ป.ป.ช.
ขยายความ
๑. กฎหมาย ป.ป.ช.มาตรา ๙๒ ใหน้ ายกฯ ถอื เอาสาํ นวนของ ป.ป.ช.เป็นสาํ นวนของกรรมการ
สอบสวนทางวนิ ัย โดยไม่ตอ้ งแต่งตง้ั กรรมการข้ึนมาอีก ประกอบข้อ ๗๗ วรรคหนง่ึ (๒) และวรรคสองว่า
"นายกฯ ตอ้ งแสดงความเห็นเปน็ หนังสือ.." (แมจ้ ะใช้ดุลพินจิ ไม่ได้ แต่ตอ้ งลงความเห็นใหไ้ ล่ออกจากราชการ
ฐานทุจรติ ) ก่อนรายงานไปยงั ก.จังหวดั เพื่อพจิ ารณา ตามขอ้ ๘๕ วรรคหนึง่ ของหลกั เกณฑแ์ ละเงื่อนไขใน
การสอบสวน การลงโทษทางวนิ ัย (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) ดังนั้น การทีน่ ายกฯ ไมม่ คี วามเหน็ จึงไมส่ ามารถ
กระทาํ ได้
๒. ตามขอ้ ๘๕ วรรคหน่ึง ของหลกั เกณฑแ์ ละเง่อื นไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัยฯ ดงั กลา่ ว
กําหนดว่า..ในกรณที น่ี ายกฯ เห็นวา่ ..ผูใ้ ดกระทําผดิ วินัยอยา่ งร้ายแรง (ต้องปลด/ไล่ออก) ใหน้ ายกฯ เสนอ ก.
จังหวดั เพอ่ื สง่ เร่อื งใหอ้ นุวนิ ยั ..ทําความเห็นเสนอ..." ประกอบหนังสอื สํานกั งาน ก.กลาง ที่ มท ๐๘๐๙.๑/ว
๑๗๐๓ ลง ๓๐ ต.ค.๔๖ แจง้ มติ ก.กลาง สรปุ ว่า..การบรหิ ารงานบุคคลท้องถ่ินทุกประเภท เม่ือนายกฯ ใช้
อาํ นาจแล้ว ต้องรายงานไปยงั ก.จงั หวดั โดยตรง..(หลงั จากนน้ั อาจมีหนงั สือรายงานผู้กาํ กบั ดแู ลเพ่อื โปรด
ทราบได.้ .และหนังสอื ดังกลา่ วยังไม่มกี ารยกเลกิ ) ดังน้นั การรายงานผา่ นอาํ เภอ จงึ ไมช่ อบด้วยมติ ก.กลาง และ
เป็นกรณีท่อี าํ เภอไมต่ ้องรบั ผิดชอบในเหตุแหง่ ความล่าช้าแต่อยา่ งใด
รวบรวมโดย นิติกรพร หน้า 6
คาํ ถาม-ตอบวนิ ัย ปี 2561 โดยอาจารย์ประวทิ ย์ เปรอื่ งการ รวบรวมโดยนติ ิกรพร เทศบาลตาํ บลบะหวา้ จงั หวัดสกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
๓. ระยะเวลาตามมาตรา ๙๒ และ ๙๓ กฎหมาย ป.ป.ช.ปี ๒๕๔๒ เป็นระยะเวลาเรง่ รดั ตราบใดที่
กระบวนการทางกฎหมายยงั ดําเนนิ การไม่ครบถ้วน ตอ้ งแจง้ ความคืบหน้าไปยัง ป.ป.ช.เปน็ ระยะ แตต่ ้องไม่
ละเลยลา่ ช้า หรือเจตนาชว่ ยเหลอื ซึ่งอาจตอ้ งรบั ผดิ ชอบเอง
กรณี ป.ป.ช.ชี้มลู ดงั กล่าว ไม่ควรมกี ารชแี้ จงเพิม่ เตมิ (เพราะไมอ่ าจเปลย่ี นแปลงใด ๆ ได้) เวน้ แต่ในชน้ั
การพจิ ารณาอุทธรณ์โทษทางวนิ ัยของอนุอุทธรณห์ รือ ก.จงั หวดั แลว้ แตก่ รณี ในภายหนา้
ขอบคุณทกุ ความเห็นครบั
***********************
คาํ ถาม ๑๑/๔/๖๑
สวัสดีค่ะท่านอาจารยห์ นูรบกวนขอคาํ แนะนําด้วยคะ่ หนเู ปน็ ผอ.กองคลงั เทศบาล คือ มคี นไปรอ้ งเรยี น
นายกเทศมนตรีท่ี ป.ป.ช.กลาง กรณจี ัดโครงการทัศนศกึ ษาดงู านเม่อื ปี 2552 ป.ป.ช.ต้งั องค์คณะพนกั งานไต่
สวนเมอ่ื ปี 2556 ปรากฏว่ามีมลู ตอนน้ีไดแ้ จ้งข้อกล่าวหาใหพ้ วกหนูแล้วเม่ืออาทิตยท์ ผี่ า่ นมา แต่นายกฯ คนท่ี
ถูกร้องเสยี ชวี ติ เมอ่ื ปี 2555 หนูไมร่ ้จู ะแกข้ ้อกลา่ วหายังไง
เรื่องมอี ยูว่ า่ โครงการดงั กล่าวนายกเทศมนตรีเป็นคนจดั การเองทง้ั หมด โดยตดิ ตอ่ บ.ทัวรเ์ พอื่ นกนั
กาํ หนดวันไปดูงานตรงกบั วันที่นายกฯ รับปรญิ ญา ท่ีจงั หวัดใกลเ้ คยี งกับสถานท่ีไปศึกษาดูงานนั่นเอง และ
นายกฯ ส่ังใหห้ นูเดนิ ทางไปด้วย มีกลมุ่ เปาู หมาย 120 คน ท้ัง ส.อบต.ผใู้ หญบ่ า้ น ขา้ ราชการ และลูกจ้าง จา้ ง
รถบสั 3 คนั เดินทางไปดงู านทจ่ี งั หวัดใกล้เคยี งกับทีจ่ ะรบั ปริญญา 2 คัน สว่ นอกี 1 คนั เป็นรถกลมุ่ พฒั นาสตรี
ทีไ่ ปคนละจังหวัด ซึง่ นายกฯ สงั่ ไมใ่ หข้ ้าราชการและลูกจ้าง 37 คน ไปดูงานด้วย แตใ่ ห้กลมุ่ พัฒนาสตรไี ปแทน
เม่อื รบั ปริญญาแลว้ กม็ ีงานเลยี้ งฉลองรับปรญิ ญานายกฯ หนไู ม่รวู้ ่านายกฯ รบั ปริญญาวนั นัน้ และไม่รวู้ า่ รถบัส
ของกลมุ่ พฒั นาสตรอี กี คนั ก็ไปร่วมงานเลยี้ งรบั ปรญิ ญานายกฯ ดว้ ย หนเู ข้าใจวา่ บ.ทวั รพ์ าแวะทานขา้ วเย็น
ตามปกติ หนไู ม่มสี ว่ นรเู้ ห็นในการจัดโครงการในครงั้ นแี้ ละไม่ไดร้ ับผลประโยชนใ์ ด ๆ เลย สาํ นกั ปลดั เปน็
ผรู้ บั ผดิ ชอบโครงการ แตห่ นเู กย่ี วขอ้ งในการเบิกจา่ ยตามระเบียบการจ่ายเงิน โดยเซน็ รบั รองใบเสรจ็ ค่าโรงแรม
ค่าอาหาร ค่ารถบสั ทีเ่ บิกเงินเกนิ ไป เพราะกลบั มาถึงสาํ นักงานกอ่ นกาํ หนด 13 ช่ัวโมง ของวันเดยี วกัน
หนคู วรจะช้ีแจงแกข้ อ้ กล่าวหาตอ่ ป.ป.ช.อย่างไรดีคะ เครียดมาก ๆ เลย ขอบพระคณุ มากค่ะทา่ นอาจารย์
ตอบ
เปน็ คําถามทนี่ ่าเหน็ ใจอยา่ งยง่ิ สาํ หรบั เจ้าหนา้ ทผ่ี ู้ปฏิบัติ เพราะในห้วงหลายปที ผี่ า่ นมา ป.ป.ช.ทํา
หน้าที่ของตนอย่างขมีขมนั เลยดเู หมือนวา่ การตรวจสอบบางสาํ นวนยงั ไม่ได้มาตรฐานทางวนิ ยั ตามควร แต่ผล
ของการชม้ี ลู สว่ นใหญ่จะออกมาร้ายแรงนัก เกดิ ผลกระทบในวงกวา้ ง ประกอบกบั แนวนโยบายแหง่ รฐั ทแี่ ถลง
ต่อสภานติ บิ ัญญตั ิแห่งชาติ เมื่อวนั ท่ี ๑๒ กันยายน ๒๕๕๗ ขอ้ ๑๐ "เนน้ การปราบโกง" ทําใหเ้ หน็ รูปแบบ
สารพดั การทจุ รติ ในเวลาน้ี และหนว่ ยตรวจสอบซงึ่ รองรับงานนี้ท่โี ดดเดน่ ทส่ี ุด ก็คอื "ป.ป.ช."
ส่ิงท่ียังพอใหเ้ ห็นแสงสว่างปลายอโุ มงคอ์ ยบู่ ้างในการปฏิบัตหิ นา้ ทีร่ าชการกค็ ือ "อย่าหลวม" ถงึ เวลาทํา
หน้าทตี่ อ้ ง "ตงั้ สติ ตง้ั มัน่ ตง้ั ใจ" หากเหน็ วา่ การปฏิบตั ติ ามคาํ ส่งั ของผู้บงั คับบญั ชา
๑. จะเกดิ ความเสียหายแกร่ าชการ
๒. จะเป็นการไมร่ ักษาประโยชน์ของทางราชการ
๓. เป็นคําสั่งทไ่ี ม่ชอบด้วยกฎหมาย (มเี ฉพาะ อปท.) (เพยี งข้อใดข้อหนงึ่ )
ตอ้ งเสนอความเห็นเป็นหนงั สอื ทันทีเพอ่ื ใหผ้ ้บู งั คับบญั ชาทบทวนคาํ สง่ั นั้น และรอจนกว่า
ผู้บังคบั บญั ชาจะยนื ยันเปน็ หนงั สอื จึงตอ้ งปฏบิ ัติ ตามขอ้ ๑๓ วรรคหน่งึ ของหลกั เกณฑแ์ ละเงอ่ื นไขในการ
สอบสวน การลงโทษทางวินัย (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) จะมโี อกาสรอดความผิดทางวินัย อย่าตามใจ
ผบู้ งั คบั บญั ชาจนต้องมา "ตายหมู่" กันทงั้ สํานกั งาน เรยี นใหท้ ่านทราบว่า "เรารอด ผูบ้ งั คบั บญั ชาเองก็รอด"
รวบรวมโดย นิติกรพร หน้า 7
คาํ ถาม-ตอบวนิ ัย ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวิทย์ เปรอื่ งการ รวบรวมโดยนิตกิ รพร เทศบาลตาํ บลบะหวา้ จังหวดั สกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
สาํ หรับคําถาม แสดงวา่ "คุณไม่รเู้ รือ่ งมาแตต่ ้น" จนกระทง่ั ทุกอย่างมันเกดิ ขึ้นและผา่ นไปแลว้ ถึงรู้ แต่
คณุ ก็เขา้ ไปเก่ียวข้องตอนร่วมเดนิ ทางไปดว้ ย และ "เบกิ จา่ ยตามระเบียบการจ่ายเงิน โดยเซน็ รบั รองใบเสรจ็ คา่
โรงแรม คา่ อาหาร ค่ารถบัส ทเ่ี บิกเงินเกินไป" เพราะเปน็ หนา้ ท่ี และมลี ายมือชอื่ ในโครงการนี้ อาจถูกโยงใน
ฐานะ "ผู้สนบั สนุน" การทจุ ริตได้
ดงั น้ัน "ความจรงิ เป็นสิง่ ไมต่ าย" คณุ และทุกคนทเ่ี กย่ี วข้องตอ้ งใหก้ ารแก้ขอ้ กลา่ วหาของ ป.ป.ช.ไปใน
ทิศทางเดยี วกนั (เท่าทแ่ี ตล่ ะคนร)ู้ ไม่ใชท่ ับถมหรือโยนความผิดให้คนตาย เพราะข้อเทจ็ จรงิ มันเปน็ เยี่ยงน้ัน
(หากทเ่ี ลา่ มาทงั้ หมดเปน็ ความจริง) ยังพอผอ่ นหนกั ใหเ้ ป็นเบาลงไดบ้ ้าง ขอคุณความดีจงคุ้มครอง ขอให้โชคดี
ขอบคณุ ทกุ โพสต์ ครับ
***********************
คาํ ถาม ๑๘/๔/๖๒
ขอรบกวนนิดครับ ถามว่าในกรณีพนกั งานเทศบาลถกู ตง้ั สอบสวนความผดิ วินัยรา้ ยแรง และ
คณะกรรมการไดส้ รปุ ผลการสอบสวนแล้วให้ปลดออก สง่ อนุกรรมการฯ และอนุกรรมการฯ ยังไมม่ ผี ลการ
ประชุมออกมา เทศบาลจะพจิ ารณาความดีความชอบใหพ้ นกั งานเทศบาลผนู้ ้นั ได้หรือไม่ ครับ
ตอบ
มเี พยี งประเดน็ เดยี ว คอื
อนุวนิ ยั ยังไม่ทาํ ความเหน็ เสนอ ก.จงั หวัด เลื่อนขั้นเงินเดือน ได้หรอื ไม่
สรปุ สน้ั
เลื่อนได้ (เลื่อนระดับได้ด้วย)
ขยายความ
เริ่มตัง้ แตก่ ารแต่งตงั้ คณะกรรมการสอบสวนทางวินยั จนถึงการสงั่ ลงโทษทางวนิ ัย (ทง้ั กระบวนการ)
รวมกนั เรยี กว่า "การสอบสวนพิจารณา" ตามหลกั เกณฑ์และเง่ือนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินยั
(พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) หมวด ๗ (กอ่ น ๑ ตลุ าคม ๒๕๕๓ ถา้ ตงั้ วินัยรา้ ยแรง เล่อื นขนั้ เงนิ เดอื นและระดบั ไมไ่ ด้
แต่ปจั จบุ ันเลอ่ื นได้)
กรณีดงั กลา่ ว นายกเทศมนตรไี ด้สอบสวนเสรจ็ แล้วและเสนอไปยงั ก.ท.จ.(กอ่ นเสนอ นายกฯ ต้อง
แสดงความเห็นเป็นหนงั สอื ตามขอ้ ๗๗ วรรคสองดว้ ย) เพอ่ื ส่งเรอื่ งใหอ้ นุวินยั แตก่ ารพจิ ารณาทําความเหน็
เพื่อเสนอ ก.ท.จ.ของอนุวินัยยังไมเ่ สรจ็ เม่อื เสนอและ ก.ท.จ.มีมติเปน็ ประการใด ให้นายกเทศมนตรสี งั่ หรอื
ปฏบิ ตั ิให้เป็นไปตามนัน้ (เพราะเป็นวนิ ัยอย่างร้ายแรง) ตามขอ้ ๘๕ วรรคหนงึ่ ของหลกั เกณฑ์และเงอื่ นไขใน
การสอบสวน การลงโทษทางวนิ ัย (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) ดังน้นั นายกเทศมนตรจี งึ ต้องรอความเห็นชอบของ
ก.ท.จ.เสียก่อน ในระหว่างนส้ี ามารถเลอื่ นข้ันเงนิ เดอื นได้ตามปกติ (เพราะยงั ไมม่ ีคาํ สงั่ ลงโทษ) ตามหลกั เกณฑ์
และเงอื่ นไขในการเลอ่ื นข้ันเงนิ เดอื น (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) ขอ้ ๘ วรรคสอง ท่กี าํ หนดวา่ "ในครง่ึ ปีท่ีแล้วมา
ต้องไมถ่ กู ลงโทษทางวินัยหนักกวา่ ภาคทณั ฑ"์ ประกอบขอ้ ขอ้ ๑๕ กาํ หนดหา้ มไว้ว่า "นายกเทศมนตรจี ะ
นําเอาเหตุท่ีพนักงานเทศบาลผู้ใดถูกแตง่ ตง้ั คณะกรรมการสอบสวน ในกรณถี กู กลา่ วหาวา่ กระทําผิดวินยั อยา่ ง
รา้ ยแรง..มาเป็นเหตุในการไม่พิจารณาเลอ่ื นขั้นเงินเดือนให้แก่พนักงานเทศบาลผนู้ ้ันไมไ่ ด"้
ดงั นน้ั เทศบาลจงึ ต้องพจิ ารณาเลอ่ื นข้ันเงนิ เดอื นใหพ้ นักงานเทศบาลคนดงั กล่าวตามปกติ ตราบใดที่
ยงั ไม่มีคําสง่ั ลงโทษ รวมถึงการลงโทษตามมติ ป.ป.ช.ดว้ ย (อบจ./อบต./เมอื งพทั ยา ก็เช่นเดียวกัน)
ขอบคุณทกุ โพสตใ์ นหลาย ๆ หอ้ ง ครบั
***********************
รวบรวมโดย นิตกิ รพร หนา้ 8
คาํ ถาม-ตอบวินัย ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวิทย์ เปรอื่ งการ รวบรวมโดยนติ กิ รพร เทศบาลตาํ บลบะหวา้ จงั หวัดสกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
คาํ ถาม ๒๐/๔/๖๑
เรยี นอาจารยป์ ระวทิ ยท์ เ่ี คารพครบั ผมขออนญุ าตเรยี นถามอาจารยห์ น่อยครบั วา่ กรณี สตง.ช้ีมลู ความผิด
คณะกรรมการตรวจรบั การจ้างไม่ปฏบิ ตั ติ ามรปู แบบรายการเปน็ ความผิดร้ายแรง และแจง้ ให้เทศบาลแต่งตงั้
คณะกรรมการสอบสวน คณะกรรมการสามารถสรปุ ผลการสอบสวนเป็นโทษไม่ร้ายแรงได้หรือไมค่ รับ หาก
ไม่ได้ควรทําอยา่ งไรครบั ขอขอบพระคุณอาจารยเ์ ป็นอย่างสงู ครบั
ตอบ
ผู้เกย่ี วขอ้ งไมน่ อ้ ยยังเขา้ ใจว่า ถกู ตั้งกรรมการสอบวนิ ยั อย่างร้ายแรงแลว้ ตอ้ งลงโทษ "ปลดออก" หรือ
"ไลอ่ อก" เท่านนั้ เพราะนําไปผกู กับ "สถานโทษวนิ ัยอย่างรา้ ยแรง" บางคนทนไม่ไหวคิดทําร้ายตวั เองถงึ ชีวติ ก็มี
ซง่ึ น่าเศร้าใจในความ "หุนหันพลนั แลน่ " น้นั
ประเดน็ กค็ อื ตัง้ กรรมการสอบวนิ ยั อยา่ งร้ายแรง ผลจะออกมาเป็นวนิ ัยอยา่ งไมร่ ้ายแรง ได้หรอื ไม่
สรปุ สนั้
ได้ (อยทู่ ผ่ี ลการสอบ)
ขยายความ
มลู กรณี (เร่อื ง) ทน่ี ายกเทศมนตรี จะใช้ในวันออกคาํ ส่งั แต่งตง้ั กรรมการสอบสวนทางวินยั มี ๒
ประเภท คอื
๑. กล่าวหาวา่ "ไม่ร้ายแรง"
๒. กลา่ วหาว่า "ร้ายแรง"
ตามขอ้ ๑. หลกั เกณฑแ์ ละเงอ่ื นไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) กาํ หนด
ว่า..ถ้ามีมูลกล่าวหาวา่ กระทาํ ผดิ วินยั อยา่ งไมร่ ้ายแรง ใหส้ อบสวนตามที่นายกเทศมนตรเี หน็ สมควร โดย ๑.
มอบ ขรก.ทีอ่ ยู่ใตบ้ งั คบั บญั ชาสอบแทน (ทาํ บันทึกขอ้ ความมอบหมาย) ๒. ตัง้ กรรมการสอบวินัยอยา่ งไม่
ร้ายแรง ๓. นาํ ผลการสอบขอ้ เท็จจรงิ (ตอ้ งเป็นนายกฯ ตงั้ / กรรมการแจง้ ข้อกลา่ ว/สรุปพยานหลักฐาน/ให้
โอกาสชแี้ จง) ตามข้อ ๒๖ วรรคสาม และวรรคส.ี่ .สามารถนาํ ผลนน้ั มาพิจารณาลงโทษวนิ ัยอย่างไมร่ ้ายแรงได้
เลย แต่หากผลออกมาเป็นวนิ ยั อย่างรา้ ยแรงใหเ้ สนอนายกเทศมนตรีเพื่อตัง้ กรรมการสอบสวนวินยั อยา่ ง
รา้ ยแรงใหม่ให้ถกู ต้อง ตามข้อ ๒๖ วรรคหก แล้วเรม่ิ ทาํ การสอบสวนใหมต่ ่อไป
ตามขอ้ ๒. หลักเกณฑ์และเง่ือนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินยั ฯ ขอ้ ๗๗ วรรคหนงึ่ (๑)
กําหนดว่า..ในกรณคี ณะกรรมการสอบสวน (รา้ ยแรง/ไมร่ า้ ยแรง) เห็นวา่ ผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้กระทําผิด..สมควร
ยตุ เิ ร่ือง หรอื กระทําผิดวินัยอยา่ งไม่รา้ ยแรง ใหน้ ายกเทศมนตรีพิจารณาและส่ังการ.."
นั่นกห็ มายความวา่ คณะกรรมการสอบสวน (วินัยอยา่ งรา้ ยแรง) สามารถมีความเห็นเปน็ ให้ยตุ เิ รอื่ งก็
ได้ เปน็ วินัยอยา่ งไมร่ า้ ยแรงกไ็ ด้ เป็นวินัยอย่างรา้ ยแรงก็ได้ (หรือแมแ้ ตม่ คี วามเหน็ ว่า ผู้ถูกกล่าวหาหย่อน
ความสามารถ บกพร่องในอนั ทจี่ ะปฏบิ ัตหิ น้าที่ หรอื ประพฤติตนไมเ่ หมาะสม เพื่อใหอ้ อกจากราชการกไ็ ด้ ตาม
นยั ขอ้ ๗๕ วรรคหนึ่ง (๒) และขอ้ ๗๖ วรรคสอง (๓) ของหลักเกณฑ์และเง่ือนไขในการสอบสวน การลงโทษ
ทางวินัยฯ ซ่ึงการใหอ้ อกจากราชการกรณนี ี้ ไมใ่ ชโ่ ทษทางวนิ ัย)
ตามคําถาม สตง.ชี้ว่ามีมลู เป็นการกระทาํ ผดิ วินยั อยา่ งร้ายแรง (คงอ้างมาตรา ๔๖ ตามกฎหมาย สตง.
ฉบับเดมิ ) นายกเทศมนตรตี อ้ งแต่งตง้ั คณะกรรมการสอบสวนวินยั อยา่ งรา้ ยแรง ตามการชีม้ ลู เพราะการ
ตรวจสอบของ สตง.เปน็ เพียงการตรวจสอบเบอ้ื งต้นเพ่ือช้มี ลู ใหน้ ายกเทศมนตรดี าํ เนินการทางวนิ ยั ต่อไป
เทา่ น้นั แตเ่ มื่อสอบสวนเสรจ็ แลว้ ผลไปไมถ่ ึง "วนิ ัยอย่างร้ายแรง" ก็ตอ้ งเสนอลงโทษตามผลการสอบสวน (แต่
ตอ้ งสอบอยา่ งตรงไปตรงมา ไม่เช่นน้นั อาจเกดิ ปญั หาในภายหลงั ได้)
ขอบคุณทุกโพสต์ และตอบไปในแนวทางเดียวกัน ครับ
รวบรวมโดย นติ กิ รพร หน้า 9
คําถาม-ตอบวินยั ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวทิ ย์ เปรอ่ื งการ รวบรวมโดยนติ ิกรพร เทศบาลตําบลบะหว้า จังหวัดสกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
*****************
คําถาม ๒๓/๔/๖๑
ถาม อ.ประวิชคับ คร้ังแรกออกคําสั่งแตง่ ต้ังคณะกรรมการสอบสวนวนิ ัยไมร่ า้ ยแรงแล้วรายงาน สตง.ทราบ
ตอ่ มา สตง.มหี นังสือมาวา่ คาํ สง่ั สอบวินัยดังกล่าวไม่ถกู ตอ้ ง ให้เทศบาลทบทวนคาํ สงั่ กรณนี ายกเปน็ ผรู้ ว่ ม
กระทาํ ความผดิ ดว้ ย ต้องเสนอให้ ก.ท.จ.คดั เลือกกรรมการและให้นายกออกคาํ สงั่ ต่อมา ก.ท.จ. คัดเลอื ก
กรรมการส่งมาให้ เทศบาลจึงออกคําสงั่ ใหมโ่ ดยไม่ได้ยกเลกิ คําส่ังเดิม ขณะนอี้ ยรู่ ะหว่างแจง้ ผู้ถูกกล่าวหา แจ้ง
ประธานสอบ ถามวา่ คาํ ส่งั เดิมเมอื่ เปน็ คําสง่ั ท่ีไมถ่ ูกตอ้ งเพราะนายกเป็นผทู้ ม่ี สี ว่ นในการกระทาํ ผดิ ด้วย จําเปน็
หรือไมท่ ี่ตอ้ งยกเลิกคําสง่ั เดิม จะตอ้ งปฏิบัติอยา่ งไร ทราบว่าเรื่องนี้ ป.ป.ช.ไต่สวนเสร็จแล้ว แตย่ ังไมช่ ี้มูล คับ
ตอบ
มี ๒ ประเดน็ คือ
๑. สตง.แจ้งใหต้ ง้ั วินัยร้ายแรงใหมข่ ณะสอบไมร่ ้ายแรง ต้องทาํ อยา่ งไร
๒. คาํ สั่งไมร่ า้ ยแรงที่ตงั้ ไปแลว้ และกําลงั สอบอยู่ ตอ้ งยกเลกิ หรือไม่ อย่างไร
สรปุ ส้นั
เหตกุ ารณป์ กติ
๑. ให้สรปุ (สว.๖) เสนอนายกเทศมนตรเี พ่ือตง้ั รา้ ยแรงใหม่
๒. คาํ สั่งตัง้ ร้ายแรงใหท้ ้าวความคาํ สัง่ เดิม ถอื เปน็ การยกเลิก
ขยายความ
๑. วเิ คราะห์คาํ ถามน่าเชอื่ ว่ามลู เหตุในการแตง่ ตั้งกรรมการสอบสวนต้องมาจาก สตง.ชี้มลู ว่ากระทาํ
ผิดวินยั อ้าง ม.๔๔ กรณีไมป่ ฏบิ ตั ิตามระเบียบ แตไ่ มร่ ะบคุ วามเสียหาย (อ้าง ม.๔๖ กรณีทจุ รติ ) ตามกฎหมาย
สตง.ฉบบั เดมิ เทศบาลได้ออกคําสั่งแตง่ ตงั้ กรรมการสอบไมร่ า้ ยแรง (ดว้ ยเหตผุ ลใดก็ตาม) พรอ้ มทัง้ แจ้ง สตง.
(ภายใน ๖๐ หรือ ๙๐ วัน แล้วแตก่ รณี) แต่ สตง.ทักทว้ งวา่ เทศบาลต้งั สอบวนิ ยั ไม่ถกู ต้อง เพราะ
นายกเทศมนตรีถกู กลา่ วหาด้วย
กรณีลักษณะนี้ กรรมการสอบสวนจะชะลอหรอื ยตุ กิ ารสอบสวนไม่ได้ ตามหนงั สอื สาํ นกั งาน ก.พ.ที่
นร ๐๗๐๙.๒/๔๖๘ ลง ๒๑ ส.ค. ๒๕๓๘ กลา่ วคอื เมือ่ เรมิ่ สอบสวนแลว้ ต้องสอบสวนต่อไปจนแล้วเสรจ็
หนงั สอื สตง.เปน็ เพยี งพยานหลักฐานหนงึ่ ทก่ี รรมการจะต้องรวบรวมและนาํ เขา้ สสู่ ํานวนการสอบสวน (สตง.ไม่
มีอํานาจใดสง่ั ใหน้ ายกฯ ตง้ั กรรมการใหมห่ รือส่ังใหก้ รรมการยุตกิ ารสอบสวน) ดังน้นั กรรมการสอบสวน ตอ้ ง
นําหนงั สอื สตง.ดงั กลา่ วเข้าประชมุ ปรกึ ษาหารือตามขอ้ ๗๕ และขอ้ ๗๖ ของหลักเกณฑ์และเงอ่ื นไขในการ
สอบสวน การลงโทษทางวินัย (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) เพ่อื จัดทาํ สว.๖ โดยเสนอใหน้ ายกเทศมนตรแี ตง่ ตั้ง
กรรมการสอบสวนวนิ ยั อย่างร้ายแรงใหมใ่ หถ้ กู ตอ้ งตามการช้มี ูลของ สตง.
๒. เมอ่ื นายกเทศมนตรี ได้รับ สว.๖ จากคณะกรรมการสอบสวน และพิจารณาตามขอ้ ๗๗ ของ
หลักเกณฑแ์ ละเงอ่ื นไขเกย่ี วกบั วินัยฯ แลว้ ให้สง่ เร่ืองไปยงั ก.ท.จ.เพอื่ พิจารณาตรวจสอบว่านายกเทศมนตรีมี
กรณีถูกกล่าวหาว่ากระทําผิดรว่ มกับผ้ถู ูกกลา่ วหาหรอื ไม่ หากพบว่าเปน็ ความจรงิ ใหแ้ จง้ ขอความยนิ ยอมจาก
ต้นสงั กัดของผจู้ ะเปน็ กรรมการสอบสวนแลว้ พจิ ารณามมี ติคดั เลอื ก สง่ รายชอ่ื ใหน้ ายกเทศมนตรีเพือ่ ออกคําสงั่
แต่งตง้ั ตามขอ้ ๔๙ วรรคสี่ ของหลกั เกณฑ์และเงอื่ นไขในการสอบสวนฯ ตอ่ ไป
กรณีตามคําถาม ใหน้ ายกเทศมนตรอี อกคําสงั่ แต่งตงั้ กรรมการสอบสวนใหมต่ ามมติ ก.ท.จ.โดยตอ้ ง
ทา้ วความตั้งแต่คาํ สัง่ แรกจนถงึ ก.ท.จ.เลอื กกรรมการให้ ตามแบบ สว.๑ และควรให้ยกเลกิ คําส่งั เดมิ ไปพรอ้ ม
กนั
กรณไี มไ่ ดท้ ้าวความดังกลา่ วมาก่อน กค็ วรออกคาํ สง่ั ยกเลกิ คาํ สงั่
รวบรวมโดย นิติกรพร หน้า 10
คาํ ถาม-ตอบวินัย ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวทิ ย์ เปรื่องการ รวบรวมโดยนิตกิ รพร เทศบาลตาํ บลบะหวา้ จังหวดั สกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
แรกเสียอยา่ ให้ค้างคา เพราะไมช่ อบมาแตต่ น้ จงึ ไมถ่ อื ว่า "ดาํ เนินการทาง
วนิ ัยซํ้าในพฤตกิ รรมเดียว" เพ่ือไม่ใหเ้ กิดปญั หาตามมาภายหลงั
ขอบคณุ ทุกเสียงทุกสาย ครบั ขอคุณข้อมลู นจ้ี ากท่าน ผอ.ประวิทย์ ครับทา่ น
***********************
คาํ ถาม ๒๕/๔/๖๑
สวสั ดคี ะ่ อาจารย์ วนั น้มี ีเรอ่ื งรบกวนขอปรกึ ษาว่า กรณถี ูกแตง่ ตง้ั เป็นกรรมการสอบวนิ ัย ในเรอื่ งทพี่ นักงาน
แอบอัดคลปิ เสียงเรื่องการจัดซือ้ รถบรรทกุ ขยะวา่ มกี ารเรยี กรับเงิน แล้วเอาไปเผยแพร่ในเนต็ แตข่ ้อมลู ที่
กรรมการวินยั ไดร้ บั มามแี คร่ ายงานสอบข้อเทจ็ จรงิ 3 แผน่ ไมม่ ีเอกสารการถอดคลปิ เสียงหรอื พยานเอกสาร
ใดๆเลย คาํ พดู ใดที่ทาํ ใหเ้ ห็นวา่ เกิดความเสียหายกไ็ มม่ ี เมอื่ กรรมการวนิ ยั สอบถามไปยงั อําเภอและจงั หวดั เพ่อื
ขอเทปการสนทนาและขอ้ ความท่ถี อดเทป อําเภอและจงั หวดั บอกว่าเปน็ ขอ้ มลู ลับ ใหไ้ ม่ได้ แบบนี้กรรมการ
วนิ ัยจะเอาพยานเอกสารตรงไหนทแี่ สดงว่าผถู้ กู กลา่ วหาแอบอดั คลปิ เสียงจริง คําพดู ใดทาํ ใหเ้ กดิ ความเสยี หาย
ถา้ เป็นแบบน้กี รรมการวินยั สามารถแจง้ เหตุไปยงั ผู้มคี าํ สง่ั ตง้ั กรรมการเพือ่ ขอระงบั การสอบสวนเนือ่ งจากไม่มี
พยานเอกสารหลกั ฐานทจ่ี ะดําเนินการสอบสวนทางวินยั ได้ไหมค่ะ
ตอบ
มี ๒ ประเด็น คือ
๑. อําเภอ/จงั หวดั แจ้งว่าเปน็ ความลบั จะตอ้ งทําอย่างไร
๒. จะขอระงับการสอบสวน ไดห้ รือไม่
สรุปสัน้
๑. ทาํ บนั ทึกประจาํ วนั แนบไว้ในสาํ นวน
๒. ระงบั การสอบสวนไม่ได้
ขยายความ
๑. กรรมการสอบสวนมีอํานาจหนา้ ท่ีขอให้..หน่วยราชการ..สง่ เอกสารและหลักฐานทเี่ กย่ี ว..กบั เรอ่ื งท่ี
สอบสวน ตามหลักเกณฑแ์ ละเงือ่ นไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) ข้อ ๒๗ (๑)
คณะกรรมการสอบสวนมหี น้าทส่ี อบสวน..เพอ่ื แสวงหาความจรงิ ในเรอ่ื งทก่ี ลา่ วหา..ดแู ลใหบ้ ังเกดิ ความ
ยตุ ิธรรมตลอดกระบวนการสอบสวน..และจัดทาํ บนั ทกึ ประจําวันทม่ี กี ารสอบสวนไวด้ ว้ ยทุกครงั้ (ข้อ ๕๗ วรรค
หนง่ึ ) การนาํ เอกสารหรอื วัตถมุ าใช้เป็นพยานหลกั ฐานในสํานวนการสอบสวน ให้กรรมการบันทกึ ไวด้ ว้ ยว่า
ไดม้ าอยา่ งไร จากผ้ใู ด และเมือ่ ใด (ข้อ ๕๙ วรรคหน่ึง) คณะกรรมการสอบสวนต้องสอบสวนใหห้ มดประเดน็
ในกรณีทีเ่ หน็ วา่ การสอบสวนพยานหลกั ฐานใดจะทําให้การสอบสวนลา่ ช้าโดยไม่จาํ เปน็ ..จะมมี ตงิ ดการ
สอบสวนพยานหลกั ฐานนน้ั ก็ได้ แต่ตอ้ งบนั ทกึ เหตนุ ้ันไว้ในบนั ทกึ ประจาํ วนั ทมี่ กี ารสอบสวน (ขอ้ ๖๘) เมอ่ื
คณะกรรมการสอบสวนไดร้ วบรวมพยานหลักฐานตา่ ง ๆ เสร็จแลว้ ให้ประชุมพิจารณาลงมติ ขอ้ ๗๕) รายงาน
การสอบสวนอย่างนอ้ ยตอ้ งมสี าระสาํ คัญ ดังน้ี (๑) สรุปขอ้ เท็จจริงและพยานหลกั ฐานว่า มอี ยา่ งใดบ้าง..(ข้อ
๗๖ วรรคสอง) การพจิ ารณาอทุ ธรณ์ใหอ้ นอุ ทุ ธรณห์ รอื ก.จงั หวดั แล้วแตก่ รณี พิจารณาจากสาํ นวนการ
สืบสวนหรอื การพจิ ารณาในเบ้ืองต้น และสํานวนการดาํ เนนิ การทางวินัย..ในกรณจี ําเปน็ และสมควรอาจขอ
เอกสารหลกั ฐานทเ่ี กยี่ วข้องเพมิ่ เตมิ ..จาก..ส่วนราชการ..เพอื่ ประกอบการพจิ ารณาได้ ตามข้อ ๒๐ ของ
หลกั เกณฑแ์ ละเงอ่ื นไขในการอทุ ธรณแ์ ละการรอ้ งทกุ ข์ (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙)
๒. การสั่งระงับการสืบสวนเป็นการสงั่ ทไ่ี มส่ อดคลอ้ งกับหลกั การของกฎหมาย เทยี บเคยี งหนังสอื
สํานักงาน ก.พ.ท่ี นร ๐๗๐๙.๒/๔๖๘ ลง ๒๑ ส.ค.๒๕๓๘ กลา่ วคือ เมือ่ เรมิ่ ทําการสอบสวนแล้ว ต้องสอบสวน
รวบรวมโดย นิติกรพร หนา้ 11
คําถาม-ตอบวนิ ยั ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวทิ ย์ เปร่อื งการ รวบรวมโดยนติ กิ รพร เทศบาลตําบลบะหว้า จังหวดั สกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
ต่อไปจนแล้วเสรจ็ กระทั่งเสนอรายงานการสอบสวนต่อนายก อปท.ตามขอ้ ๗๖ วรรคสาม ของหลกั เกณฑแ์ ละ
เงอ่ื นไขในการสอบสวนฯ จะขอระงบั การสอบสวนไม่ได้
ดงั นั้น กรณีดังกล่าวกรรมการสอบสวนต้องบันทึกเหตนุ ้ันไว้ในสํานวนการสอบสวน โดยพิจารณาตาม
ขอ้ เทจ็ จรงิ สอบไดเ้ ท่าใดก็พจิ ารณาเพียงเท่าน้นั แล้วเสนอความเห็นตามที่สอบสวนได้จรงิ ผิดคือผดิ ไม่ผิดคอื
ไมผ่ ดิ เพราะ....
การที่อําเภอ/จงั หวดั แจง้ ว่าเป็นความลบั จงึ ให้ไมไ่ ด้ เป็นการวนิ ิจฉัยทคี่ ลาดเคล่ือนไปจากกฎหมาย
เน่อื งจากเปน็ อํานาจหน้าท่ขี องกรรมการสอบสวนทีจ่ ะอาํ นวยความเป็นธรรม ซง่ึ หลกั ฐานน้ันจะไมถ่ กู นาํ มา
พจิ ารณาในภายหลงั ได้ เนือ่ งจากเปน็ ข้อเท็จจรงิ นอกสํานวน ยกเวน้ ในช้นั การพจิ ารณาของอนุและ ก.จงั หวัดท่ี
สามารถเรยี กพยานหลักฐานดังกล่าวมาประกอบการพจิ ารณาได้ (ตามบนั ทกึ ประจําวนั ของกรรมการ) และตอ้ ง
ไม่ลืมวา่ ...เม่อื เรมิ่ ทําการสอบสวนเป็นต้นไปจนกวา่ การสอบสวนจะแล้วเสรจ็ กรรมการต้องจัดทําบันทกึ ทกุ
เหตุการณ์ทีเ่ ก่ยี วขอ้ งกบั การสอบสวนซงึ่ เกิดในขณะน้นั ไวด้ ว้ ย
ขอบคณุ ทุก ๆ ความเหน็ ครบั ขอบคุณข้อมูลจากทา่ น ผอ.ประวิทยค์ รบั ท่าน
การจัดเวรรกั ษาราชการประจาํ สถานทรี่ าชการ
ให้ผู้บงั คับบญั ชาคอยสอดสอ่ งตรวจตรา
ถา้ ปรากฏวา่ เวรละทิง้ หนา้ ท่ี ใหถ้ ือว่าเป็นความผิดวนิ ยั อยา่ งรา้ ยแรง
โดยหากเกดิ อคั คีภยั ขึน้ เปน็ ความผดิ ทง้ั วินยั และอาญา
ตามหนังสอื กรมเลขาธกิ ารคณะรัฐมนตรี ดว่ นมาก ท่ี น.ว. 101/ว 2495 ลงวนั ที่ 18 เมษายน 2495
เมื่อละทง้ิ หนา้ ทเี่ วรแล้ว ถือเป็นความผิดทางวนิ ัย
ใหน้ ายก อปท. ดาํ เนนิ การทางวนิ ยั
โดยนายก อปท. พจิ ารณาโทษใหเ้ หมาะสมกบั ความผิด
ตามหนังสอื สํานักเลขาธกิ ารคณะรฐั มนตรี ที่ นร 0201/ว 103 ลงวันที่ 4 มิถุนายน 2528
ซง่ึ ใหถ้ อื ปฏิบัติตามกรณหี นงั สือส่ังการแรกเป็นหลกั
ส่วนหนงั สอื สัง่ การหลังเปน็ สว่ นประกอบ
ต้องพจิ ารณาข้อเทจ็ จริงรวมไปถงึ พฤตกิ ารณป์ ระกอบการกระทําเป็นกรณีๆไป ขอ้ มลู จากทา่ นนติ ิกรออ๊ ดครบั
ทา่ น
***********************
คําถาม ๒๗/๔/๖๑
เรียน ผอ.ผมหวั หน้ากลมุ่ ฯ จงั หวัด ขอปรึกษาว่า
1. หลกั เกณฑเ์ ก่าทเี่ ลกิ ไปกําหนดไว้ชดั เจนหรอื มหี นงั สอื สัง่ การไหม ว่าถา้ ต้งั วนิ ยั ร้ายแรงจะยังออกคาํ ส่ัง
ลงโทษไมไ่ ดแ้ มว้ ่าผลสอบจะออกมาไมร่ ้ายแรง ตอ้ งให้ ก. เหน็ ชอบก่อน (อา่ นหลักเกณฑ์แลว้ เห็นว่าไมช่ ดั
เหมอื นหลักเกณฑใ์ หม)่ มาเจอเคสทน่ี ี้ พอผลสอบกรรมการว่าไม่ร้ายแรงนายกออกคาํ สง่ั ลงโทษเลย จงึ สงสยั ว่า
จะจะถกู หรือผดิ (ตามหลักเกณฑ์เดมิ นะครบั )
2. ตามหลกั เกณฑ์ใหม่ กรณีตง้ั สอบร้ายแรง แลว้ คณะกรรมการสอบออกมาไมร่ ้ายแรง นายกเห็นตาม
กรรมการ จะออกคําสั่งไดเ้ ลย หรือไม่
ตอบ
เขา้ ใจว่าคงไดร้ บั การแตง่ ตง้ั ใหม่ตามวถิ ีราชการ กอ่ นนนั้ ยังไม่ได้รับผดิ ชอบงานวนิ ยั เปน็ เรื่องดสี ําหรบั
ผู้กาํ กบั ดแู ลทตี่ อ้ ง "มีความรมู้ ากกวา่ " ขอชนื่ ชม
รวบรวมโดย นิติกรพร หนา้ 12
คําถาม-ตอบวินัย ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวิทย์ เปร่ืองการ รวบรวมโดยนติ กิ รพร เทศบาลตาํ บลบะหว้า จังหวัดสกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
ประเดน็ มีเพยี งวา่ มาตรฐานเก่ากบั ใหม่ หลกั การต่างกนั หรือไม่
สรุปสน้ั
หลกั การเดยี วกนั (มีเพ่มิ เตมิ เล็กนอ้ ย)
ขยายความ
"มาตรฐานท่ัวไปเก่ียวกับวนิ ยั และการรักษาวนิ ัย และการดําเนินการทางวนิ ยั พ.ศ.๒๕๕๘ ลงวันที่ ๒๔
ธันวาคม ๒๕๕๘" เปน็ ของ ก.จ., ก.ท. และ ก.อบต. (ก.กลาง) มี ๘๙ ขอ้ (เดิมมี ๗๒ ข้อ) ซึง่ ก.จ.จ., ก.ท.จ.
และ ก.อบต.จงั หวดั (ก.จงั หวัด) ไดน้ าํ ไปกาํ หนดเปน็ "หลกั เกณฑแ์ ละเงอื่ นไขในการสอบสวน การลงโทษทาง
วินัย (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) มี ๘๙ ขอ้ ตรงกัน (ที่ใช้ พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙ เพราะหลายจงั หวดั ประกาศในปี
๒๕๕๘ ไม่ทัน)
เม่ือหลกั การเดียวกนั จึงมกั เขียนเหมอื นกัน ต่างกนั ที่เลขขอ้ ซง่ึ เล่ือนออกไปบา้ งเท่านนั้ เชน่ ฉบับเดมิ
เปน็ ขอ้ ๕๗ ฉบบั ใหมค่ อื ข้อ ๗๕ เปน็ ต้น (ยกเว้นท่เี พม่ิ เตมิ ) อาทิ
๑. กรณีผู้ถกู กล่าวหาไมย่ อมลงนามรับทราบ สว.๑, ๒ หรอื สว.๓ ใหผ้ ู้แจง้ จดั ทาํ บนั ทึก มพี ยานรูเ้ หน็
ถอื ว่าผู้ถูกกลา่ วหาไดร้ บั ทราบแล้ว ตามขอ้ ๕๑ (๑), ขอ้ ๖๐ วรรคหก และขอ้ ๖๑ วรรคหก
๒. กําหนดเวลาใหน้ ายก อปท.พจิ ารณาสาํ นวนภายใน ๓๐ วนั นับแตไ่ ดร้ บั สํานวนการสอบสวนจาก
คณะกรรมการสอบสวน (ขอ้ ๗๗ วรรคหนง่ึ )
๓. นายก อปท.ต้องพจิ ารณาสาํ นวนโดยแสดงความเห็นเปน็ หนังสือ (ไมใ่ ช่ลงนามเฉย ๆ) กรณีเหน็ แยง้
ใหอ้ า้ งเหตผุ ลประกอบดว้ ย (ขอ้ ๗๗ วรรคสอง)
๔. การกระทําในเรือ่ งเดียวกัน แต่เปน็ ความผิดวินัยหลายฐานความผดิ ใหส้ ั่งลงโทษในสถานโทษท่ี
หนกั ทส่ี ุดเพียงสถานเดยี ว (ข้อ ๘๔ วรรคสาม)
๕. ก.จงั หวดั อาจแต่งตง้ั หรอื มอบหมายเลขานกุ ารกรรมการสอบสวนใหเ้ ป็นผนู้ าํ เสนอในอนุวนิ ัย/ก.
จังหวัด เพอ่ื ประกอบการพจิ ารณาได้ แต่ห้ามพิจารณาหรอื แสดงความเหน็ (ขอ้ ๘๕ วรรคหา้ )
๖. อนุวนิ ัยและ ก.จังหวดั (อนอุ ทุ ธรณ์และ ก.จงั หวัด) ตอ้ งพิจารณาให้แลว้ เสรจ็ ภายใน ๙๐ วนั นบั
วันท่เี ลขานุการ ก.จงั หวดั (ทอ้ งถ่นิ จงั หวดั /ปลดั อบจ.) ไดร้ บั รายงานการดําเนนิ การทางวนิ ัยจากนายก อปท.
และขยายได้ไมเ่ กิน ๒ คร้งั ๆ ละไมเ่ กิน ๓๐ วนั (ข้อ ๘๗ วรรคหนึง่ )
๗. ก.จงั หวดั อาจมมี ตใิ นคราวเดยี วให้เลขานกุ าร ก.จงั หวดั สง่ รายงานการดําเนินการทางวนิ ัยใหอ้ นุ
วินยั ไดเ้ ลย (โดย ก.จงั หวดั ไม่ต้องพิจารณากอ่ นสง่ อนวุ นิ ยั ทกุ ครงั้ ) (ข้อ ๘๗ วรรคสาม) เป็นต้น
ตามคาํ ถาม
ทั้งสองขอ้ รวมกัน คอื เมอื่ ตงั้ กรรมการสอบสวนวนิ ัยอยา่ งร้ายแรงแลว้ ผลออกมาเป็นยุติเรื่อง หรือเปน็
วินยั อยา่ งไมร่ า้ ยแรงกไ็ ด้ ตามข้อ ๗๗ (๑) (มาตรฐานเดิมข้อ ๕๙ (๑) เขยี นเหมือนกัน) นายก อปท.ต้องสงั่ ยุติ
เรอ่ื ง หรอื สงั่ ลงโทษเป็นวินยั อยา่ งไมร่ า้ ยแรง แล้วรายงาน ก.จังหวัด ตามข้อ ๘๗ เพ่อื พจิ ารณา ส่วนขอ้ ๗๗ (๒)
เป็นกรณกี รรมการหรือนายก อปท.(เพียงฝาุ ยเดียวก็ได้) เหน็ วา่ เปน็ ความผิดวนิ ัยอยา่ งรา้ ยแรง นายก อปท.
ตอ้ งรายงานไปยัง ก.จงั หวัดก่อนแล้วออกคาํ สงั่ ตามมติ ก.จงั หวดั อีกครงั้
ขอบคุณทกุ ความเห็น ครบั ขอขอบคุณข้อมลู จากทา่ นผอ.ประวิทยคฺ์ รับท่าน
คําถาม ๓๐/๔/๖๑
***********************
รวบรวมโดย นิติกรพร หน้า 13
คําถาม-ตอบวินัย ปี 2561 โดยอาจารย์ประวทิ ย์ เปร่อื งการ รวบรวมโดยนิตกิ รพร เทศบาลตําบลบะหวา้ จังหวดั สกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
อาจารคะ่ ขอเรียนถามว่าคาํ สง่ั ลงโทษไล่ออกกรณขี าดราชการตดิ ต่อกันเกนิ 15 วนั แล้วไมก่ ลบั มาอกี เลย
ถงึ ปจั จบุ ัน คือ ขาดราชการต้ังแต่ 28 ธนั วาคม 58 ต่อมาได้มีคาํ สง่ั พกั ราชการตง้ั แต่ 10 พ.ค 59 เพอื่ ไม่จา่ ย
เงนิ เดือน ถามว่ากรณนี ค้ี าํ สัง่ ลงโทษไลอ่ อกให้นับตงั้ แต่วันไหนค่ะ
ตอบ
ประเด็น คอื จะให้คาํ สง่ั ไลอ่ อกมผี ลวนั เรมิ่ ขาด หรอื วันส่ังพัก
สรุปสั้น
วนั เร่ิมขาด (๒๘ ธ.ค.๕๘)
ขยายความ
วันท่ีต้องถูกลงโทษไลอ่ อกกรณีนีม้ ี ๒ วนั คือ
๑. วันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๕๘ ซง่ึ เปน็ วนั ท่ีเร่ิมขาดราชการ ตามมติ ครม.เมอ่ื วนั ท่ี ๒๑ ธันวาคม
๒๕๓๖ สรปุ วา่ ข้าราชการละทงิ้ หนา้ ท่ีราชการติดต่อในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกว่า ๑๕ วัน โดยไมม่ เี หตุผล
อันสมควร และไม่กลบั มาปฏบิ ตั ิราชการอกี เลย เปน็ ความผดิ วนิ ัยอยา่ งรา้ ยแรง ซงึ่ ควรลงโทษเป็นไลอ่ อกจาก
ราชการ เหตุอนั ควรปรานีอืน่ ใด ไม่เป็นเหตลุ ดหยอ่ นโทษเหลอื เป็นปลดออกจากราชการ ตามหนงั สอื สํานกั งาน
เลขาธิการคณะรฐั มนตรี ที่ นร ๐๒๐๕/ว ๒๓๔ ลง ๒๔ ธันวาคม ๒๕๓๖ ประกอบหนงั สือสํานกั งาน ก.พ.ท่ี นร
๑๐๑๑/๓๒๗ ลง ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๔๘ ว่า การลงโทษไลอ่ อกจากราชการกรณขี าดราชการตดิ ต่อในคราว
เดยี วกนั เปน็ เวลาเกนิ กวา่ ๑๕ วันและไมก่ ลบั มาปฏบิ ัตริ าชการอีกเลย ต้องส่งั ลงโทษไล่ออกย้อนหลังไปถงึ วนั
ละทงิ้ หน้าทรี่ าชการ (วันเริ่มขาด)
๒. วันท่ี ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๙ ซง่ึ เปน็ วนั ถกู สง่ั พกั ราชการ
โดยเหตใุ นการสงั่ พักราชการ มี ๕ เหตุ คอื
(๑) ถูกแตง่ ตง้ั กรรมการสอบสวนวนิ ัยอย่างรา้ ยแรง และนายก อปท.เหน็ ว่าอยูต่ ่อไปจะเกดิ การ
เสียหาย
(๒) ถกู ฟอู งคดีอาญาอันเนอื่ งมาจากการปฏิบตั หิ น้าที่ อัยการไมร่ บั เปน็ ทนายให้ และนายก อปท.
เหน็ วา่ อย่ตู ่อไปจะเกดิ การเสียหาย
(๓) มพี ฤตกิ รรมถ้าอยตู่ อ่ ไปจะเป็นอุปสรรคตอ่ การสอบสวน หรอื จะกอ่ ความไมส่ งบ
(๔) อยรู่ ะหว่างถกู ควบคุมตวั ในคดีอาญาเกนิ กว่า ๑๕ วนั แลว้
(๕) ถูกต้ังกรรมการสอบสวนทางวนิ ัย และมีคาํ พพิ ากษาถงึ ทส่ี ุดในคดอี าญาวา่ มีความผดิ ในเรื่องที่
ถกู สอบสวนทางวนิ ัยน้นั (คาํ พิพากษากอ่ น/หลงั ต้ังกรรมการสอบสวนกไ็ ด)้ และนายก อปท.เห็นว่าคาํ พิพากษา
ชัดแลว้ วา่ ผิดวนิ ัยอย่างร้ายแรง ตามหลกั เกณฑแ์ ละเง่อื นไขในการใหอ้ อกจากราชการ (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) ขอ้
๑๔ และห้ามมิใหส้ ัง่ พกั ราชการยอ้ นหลัง เว้นแต่ถกู ควบคมุ ตวั ในคดีอาญา หรือต้องคําพิพากษาใหจ้ ําคกุ ให้
ยอ้ นไปถึงวันน้นั ๆ ตามข้อ ๑๗
ตามคาํ ถาม
นายก อปท.ออกคาํ สัง่ ตามมติ ก.จังหวดั ให้พกั ราชการในวนั ที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๙ ในขณะที่เขาไม่
มาทํางาน ต้งั แต่วนั ท่ี ๒๘ ธันวาคม ๒๕๕๘ (วันเร่ิมขาด) โดยอา้ งเหตถุ ูกแต่งตง้ั คณะกรรมการสอบสวนวินยั
อย่างร้ายแรง ตามขอ้ ๑๔ (๑) หลักเกณฑแ์ ละเงื่อนไขในการใหอ้ อกจากราชการ (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) แตไ่ ม่
ปรากฏเหตวุ ่า "ถา้ ผู้นัน้ คงอยใู่ นหนา้ ท่รี าชการตอ่ ไปอาจเกดิ การเสยี หายแกร่ าชการ" อยา่ งไร เพียงเพอ่ื ใช้เปน็
ขอ้ อา้ งไม่จา่ ยเงนิ เดอื นเท่าน้นั จงึ เปน็ การกระทาํ ท่ยี งุ่ ยากและเกนิ จาํ เป็น เพราะกรณดี งั กลา่ วนายก อปท.สา
มารถอา้ งพระราชกฤษฎกี าว่าด้วยการจา่ ยเงนิ เดือน เงินปี บาํ เหนจ็ บาํ นาญ และเงินอืน่ ในลกั ษณะเดียวกนั
พ.ศ. ๒๕๓๕ มาตรา ๑๖ วรรคหนงึ่ ทบ่ี ัญญตั วิ า่ "ข้าราชการที่ละทงิ้ หน้าท่ีราชการโดยไม่มเี หตผุ ลอนั สมควร
รวบรวมโดย นิตกิ รพร หนา้ 14
คาํ ถาม-ตอบวนิ ยั ปี 2561 โดยอาจารย์ประวิทย์ เปรือ่ งการ รวบรวมโดยนติ กิ รพร เทศบาลตาํ บลบะหวา้ จงั หวัดสกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
หรือหนรี าชการ หา้ มมใิ หจ้ า่ ยเงินเดือนสําหรบั วันทลี่ ะทง้ิ หนา้ ทรี่ าชการหรอื หนรี าชการดงั กล่าว" ได้อยู่แลว้
เป็นอาํ นาจของผู้บงั คบั บญั ชาโดยแท้ เพยี งสัง่ ระงบั การจา่ ยเงินเดอื นในชว่ งทผี่ ู้นน้ั ละทง้ิ หนา้ ทร่ี าชการเพือ่ รอ
ฟังผลการสอบสวนพจิ ารณาว่า "มเี หตผุ ลอันสมควรหรอื ไม"่ เท่านั้น ซ่ึงอยรู่ ะหว่างสอบสวน โดยมติ อ้ งยุ่งยาก
ถงึ กับให้ ก.จงั หวัดพจิ ารณาแต่อยา่ งใด และประการตอ่ มา คอื มติและคําส่งั พกั ราชการอาจไมช่ อบดว้ ย
กฎหมายได้ เพราะไมป่ รากฏเหตวุ ่า "ถา้ ผ้นู ั้นคงอยู่ในราชการตอ่ ไปอาจเกิดการเสยี หายแก่ราชการ" อย่างไร
เพราะขอ้ เทจ็ จริงเขาไม่อยู่ปฏิบตั ริ าชการแลว้
ดังน้นั วนั ทต่ี อ้ งออกคาํ สง่ั คอื วันปจั จบุ นั แต่ต้องสงั่ ใหม้ ผี ลยอ้ นหลงั ไปถงึ วันเริ่มขาด (ปกติการออก
คาํ สงั่ ลงโทษทางวินยั หา้ มสง่ั ใหม้ ผี ลยอ้ นหลงั ถา้ ไมม่ เี หต)ุ ...ท้งั นี้ ตัง้ แตว่ ันท่ี ๒๘ ธนั วาคม ๒๕๕๘ ซ่งึ เปน็ วันละ
ทงิ้ หนา้ ท่ีราชการ เปน็ ตน้ ไป...
ขอบคุณสําหรบั ทกุ ความเห็น ครับ
***********************
คาํ ถาม ๔/๕/๖๑
เรยี นสอบถามอาจารยค์ รับ
อบต.มคี ําสัง่ แต่งตง้ั กรรมการสอบข้อเทจ็ จริง ลงวนั ท่ี 3 ก.พ.61 กรณพี นกั งานส่วนตําบลไมม่ าปฏิบตั ิ
ราชการ ในช่วงเดอื น ก.ย.60- ม.ค.61 ขณะสอบคนนกี้ ็ยงั มพี ฤติกรรมไมม่ าปฏบิ ตั หิ น้าทเ่ี ป็นประจาํ กรรมการ
จะสามารถสอบเพ่ิมเตมิ ในส่วนหลงั วันที่ 3 ก.พ.61 ไดห้ รอื ไม่ ขอบพระคณุ ครบั
ตอบ
การสอบขอ้ เท็จจรงิ ไมม่ หี ลกั เกณฑเ์ งอื่ นไขวธิ ีการข้ันตอนกาํ หนดเอาไวว้ ่า ต้องปฏิบตั อิ ยา่ งไร บางครัง้
จงึ มกี ารอนโุ ลมใช้หลกั เกณฑข์ องวินยั ซึ่งทาํ ใหส้ บั สนกนั บ่อยคร้งั วา่ "สอบอะไรกันแน"่
อํานาจในการต้งั กรรมการสอบขอ้ เทจ็ จริง กม็ ิไดจ้ ํากดั วา่ ให้อยูท่ ีใ่ ครคนใดคนหนง่ึ เหมือนวินยั ดังนัน้
เม่อื ผู้บังคบั บญั ชาหรอื หัวหน้าหนว่ ยงานตอ้ งการทราบข้อเทจ็ จรงิ บางเรือ่ งในหนา้ ที่ของตน จงึ สามารถสอบ
ขอ้ เทจ็ จรงิ ได้ เชน่ ผกู้ ํากบั ดูแล อปท.ใช้อํานาจตรวจสอบ อปท.ตามกฎหมายจัดตงั้ เป็นต้น
แต่อยา่ งไรก็ตาม มกี ารกําหนดแนวทางในการสอบข้อเท็จจรงิ ไว้ ๒ ประการ คอื
๑. กรณี อปท.ถกู รอ้ งเรยี น เพ่ือใหไ้ ด้ขอ้ เท็จจริง ใหผ้ กู้ าํ กบั ดูแลเปน็ ผู้ตงั้ กรรมการสอบ ตามหนังสอื
กรมสง่ เสรมิ การปกครองทอ้ งถ่ิน ดว่ นทส่ี ดุ ท่ี มท ๐๘๐๙.๒/ว ๑๕๔๘ ลง ๙ ธันวาคม ๒๕๔๘
๒. กรณีการสอบขอ้ เทจ็ จรงิ เพ่ือหามลู ความผิดทางวินยั ตามหลักเกณฑแ์ ละเงอื่ นไขในการสอบสวน
การลงโทษทางวินัย (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) ขอ้ ๒๔ วรรคหา้ ที่วา่ "เมอื่ มกี ารกลา่ วหาโดยปรากฏตวั ผกู้ ล่าวหา
หรอื มีกรณเี ป็นทสี่ งสยั วา่ ..ผู้ใดกระทําผิดวนิ ยั โดยยงั ไมม่ พี ยานหลกั ฐาน ใหน้ ายก อปท.รีบดาํ เนนิ การสบื สวน
หรอื พจิ ารณาในเบื้องต้นวา่ กรณีมมี ลู ทีค่ วรกล่าวหาวา่ ผูน้ นั้ กระทาํ ผดิ วนิ ยั หรอื ไม่" วรรคแปด "การสบื สวนหรือ
พจิ ารณาในเบ้ืองตน้ ..จะกระทําโดยแตง่ ตงั้ กรรมการสบื สวนข้อเทจ็ จรงิ กรรมการสอบสวนขอ้ เทจ็ จรงิ หรือ
กรรมการตรวจสอบข้อเทจ็ จรงิ ก็ได้"
ตามคาํ ถาม
ไม่มกี ฎหมายหา้ มมิให้สอบขอ้ เทจ็ จรงิ พนกั งานส่วนตาํ บลในชว่ งระยะเวลา ตั้งแต่วนั ท่ี ๓ ก.พ.๖๑ ซง่ึ
เป็นวนั ออกคาํ สั่ง เปน็ ตน้ มา แตใ่ นทางปฏิบตั คิ วรสอบเฉพาะวันท่ีปรากฏในคําสง่ั ว่าขาดราชการโดยมเี หตอุ ัน
สมควรหรอื ไม่ ส่วนเวลาท่ีขาดมาตง้ั แต่วันท่ี ๓ ก.พ.๖๑ ควรบันทึกรายงานเสนอนายก อปท.ให้ทราบเปน็
ขอ้ มูลวา่ "ขาดราชการ" แตไ่ ม่มีรายละเอียดวา่ มเี หตผุ ลอนั สมควรหรอื ไม่ (เป็นความเห็น)
รวบรวมโดย นิตกิ รพร หนา้ 15
คําถาม-ตอบวินยั ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวิทย์ เปรอื่ งการ รวบรวมโดยนิติกรพร เทศบาลตําบลบะหวา้ จังหวัดสกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
กรณีดงั กล่าว หากเปน็ การสอบวินยั จะสอบการขาดต้ังแตว่ นั ท่ี ๓ ก.พ.๖๑ ไม่ได้ เพราะนายก อปท.
ใหอ้ าํ นาจกรรมการสอบเพียงวันที่ ๓ ก.พ.๖๑ หลงั จากนั้นเป็นขอ้ เทจ็ จรงิ ทตี่ ้องเสนอนายก อปท.เพื่อใหต้ ้ังข้อ
กล่าวหาเพิ่มเตมิ เทยี บเคียงกับข้อ ๗๐ หลกั เกณฑ์และเงื่อนไขในการสอบสวนฯ
ดงั น้ัน การออกคาํ ส่งั แต่งตงั้ กรรมการสอบสวนกรณกี ารขาดราชการ ควรใชถ้ ้อยคําว่า "ขาดราชการ
ตั้งแตว่ นั ที่.....ถงึ ปจั จุบนั เพือ่ ให้ครอบคลมุ วนั ขาดราชการทง้ั หมด ปอู งกันการขาดราชการเพมิ่ หลังตง้ั กรรมการ
แลว้
ขอบคณุ ทกุ ความเหน็ ครบั
********************
คาํ ถาม ๗/๕/๖๑
อาจารยค์ รบั ผมโดนแลว้ กินไมไ่ ดน้ อนไมห่ ลบั มาหลายคนื ผมเป็นปลดั ตอนมาอบรมวนิ ยั ทีก่ รมเป็นซี 7
เมอ่ื ปี 50 ไม่นึกวา่ เจอกบั ตัวเอง คือเมอื่ อาทติ ยท์ ผี่ ่านไป ปปช.มาขอเอกสารจัดซอ้ื จดั จ้างของปี 51-52 รวม
3 โครงการ บอกวา่ มีคนร้องนายกและขา้ ราชการไป ปปช.กลาง หลังจากใหเ้ อกสารแลว้ ผมมานง่ั นกึ วา่ มนั ผิด
ตรงไหน ใครรอ้ ง ร้องเพ่ืออะไร หลงั อบรมมาผมก็ระวงั ตวั ตลอด นกึ ยงั ไงก็นกึ ไมอ่ อกเพราะมันนานมาก รูแ้ ตว่ า่
ปปช.โหด ผมจะทํายงั ไงดี อยสู่ คู้ วามจริง หรือชิงลาออกตอนนี้ เมตตาดว้ ยเถิดอาจารย์ รบี ตอบด้วยครบั จะได้รู้
ว่าจะเอายงั กับชวี ิตตวั เอง ขอบคณุ มากครับอาจารย์
ตอบ
มโนมากไปไหม ? ทาํ ร้ายตัวเองเกินไปหรือเปล่า ? ธรรมชาติคนเราทําสง่ิ ใดผิดชัดเจนมันจะเดน่ อยู่ใน
ใจตลอดเวลา บอกเลยว่า "ลมื ยาก" แตข่ ้อมูลทใี่ ห้ "นึกยงั ไงก็นึกไม่ออก" นน่ั แหละเป็นตวั บง่ ชว้ี า่ ไมน่ า่ จะหนกั
หนาสาหัสอยา่ งจนิ ตนาการ ดีแลว้ ที่ "ระวังตัวตลอด" เท่ากบั ปลอดภัยเกนิ คร่งึ
การรอ้ งเรียนกนั ของคนภายในองคก์ รเปน็ เร่ืองปกติ ตอ้ งไม่ลืมสัจธรรมขอ้ นี้ "ในหนว่ ยงานมีทง้ั คนชอบ
และคนชงั " เปลา่ ประโยชน์ทจ่ี ะควานหาตัวผรู้ ้อง และวัตถปุ ระสงค์ของการรอ้ ง มาดูการทาํ ราชการของเราให้
ถกู ต้อง เที่ยงตรง คงดีกวา่
เมอ่ื มองโลกแหง่ ความจรงิ ต่อคํากลา่ ว "ร้แู ตว่ ่า ป.ป.ช.โหด" ขอ้ นีไ้ ม่อาจปฏเิ สธไดส้ าํ หรบั ผทู้ าํ ราชการ
ผดิ พลาด คลาดเคล่อื น เพราะ ป.ป.ช.คือ "องคก์ รปราบโกง" ทร่ี ฏั ฐาธปิ ัตย์ฝากความหวังไวค้ อ่ นขา้ งสูง เมอ่ื มี
การรอ้ งเรียนเรอ่ื ง "โกง" ป.ป.ช.จึงไมอ่ าจน่งิ เฉยได้ เพราะกฎหมายบงั คบั ให้ขับเคลอื่ น สว่ นคณุ ภาพการ
ตรวจสอบของ "ตน้ นํา้ " บางคณะ ท่พี ูดถึงมาก เป็นเรื่องทต่ี อ้ งพฒั นากนั ตอ่ ไป ในขณะทีก่ ารตรวจสอบ ก็ "รอ
ไม่ได้" เชน่ กนั
ตามคาํ ถาม
มี ๓ ประเดน็ คอื
๑. ป.ป.ช.โหด จรงิ หรือ
๒. อยสู่ คู้ วามจริง ดีหรือไม่
๓. หากชงิ ลาออก รอดหรอื ไม่
สรุปส้ัน
๑. โหดหรือไม่ ให้ดขู อ้ เท็จจรงิ เป็นกรณี ๆ ไป
๒. ควรอยสู่ คู้ วามจรงิ อยา่ งยง่ิ
๓. จะรอดหรอื ไม่ อย่ทู ่กี ารตง้ั อนไุ ตส่ วน
ขยายความ
รวบรวมโดย นิติกรพร หน้า 16
คาํ ถาม-ตอบวินยั ปี 2561 โดยอาจารย์ประวทิ ย์ เปรอ่ื งการ รวบรวมโดยนิตกิ รพร เทศบาลตาํ บลบะหวา้ จงั หวดั สกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
๑. หลักในการพจิ ารณาความผดิ ทางวินยั ของผบู้ ังคบั บญั ชา มี ๒ ประการ คือ
(๑) หลกั นิตธิ รรม
(๒) หลกั มโนธรรม
ตามสงั เกต พบว่า หลักท่ี ป.ป.ช.ใช้ในการพจิ ารณาช้มี ูลความผิดทางวินยั คือ หลกั นติ ิธรรม กลา่ วคอื
๑. มีกฎหมายกําหนดเป็นความผิดทางวนิ ยั ๒. พฤตกิ รรมครบองคป์ ระกอบความผดิ ทางวินัย หากครบทงั้ ๒
องค์ประกอบแล้ว จะชมี้ ลู วา่ กระทําผดิ ส่วนหลักมโนธรรม ไดถ้ กู นาํ มาพจิ ารณาน้อยกว่า เพราะเป็นเร่ือง
ภายในใจพสิ จู น์ยาก และอาจทําใหเ้ กดิ ความลา่ ชา้ ได้
ตามปกตกิ ารปฏิบัตหิ น้าทีต่ รวจสอบของ ป.ป.ช.จะแบง่ เปน็ ๓ ขัน้ ตอน คอื
ขน้ั ตอนที่ ๑ การแสวงหาข้อเทจ็ จรงิ
ข้นั ตอนที่ ๒ การตั้งอนกุ รรมการไตส่ วน (หรอื องคค์ ณะพนกั งานไตส่ วน)
ขั้นตอนที่ ๓ การชมี้ ลู ความผิด
คาํ ถามอยูใ่ นข้ันตอนที่ ๑ ยงั พอมีหนทางแกไ้ ข หากเห็นว่าการรอ้ งเรียนไมเ่ ปน็ ความจรงิ โดยมีขอ้ มลู
ขอ้ เท็จจรงิ ใด ตอ้ งนาํ เสนอทงั้ หมด เพอ่ื ใหผ้ แู้ สวงหาข้อเท็จจริงเชือ่ โดยสจุ ริตใจว่า "ข้อกล่าวหาไม่มมี ลู " จะมี
โอกาสรอด (การเสนอข้อมลู ตอ้ งกระทาํ โดยสจุ รติ ) หากถลาํ ถงึ ขั้นตอนที่ ๒ โอกาสรอดมนี ้อยมาก เพราะ
อนกุ รรมการไตส่ วนหรือองค์คณะพนกั งานไตส่ วน อาจมีผ้แู สวงหาขอ้ เทจ็ จริงมาร่วมดว้ ย ซ่งึ ผถู้ กู แต่งต้ัง
อนกุ รรมการไตส่ วน/องคค์ ณะพนักงานไตส่ วน จะคัดคา้ นผเู้ คยทําหนา้ ท่เี ป็นพนักงานเจา้ หน้าที่ หรือพนักงาน
ไต่สวนมากอ่ นไมไ่ ด้ ตามระเบยี บ ป.ป.ช.ว่าด้วยการไตส่ วนข้อเทจ็ จริง พ.ศ.๒๕๕๕ ขอ้ ๑๕ (๑) ซึ่งตอ่ จากนน้ั
เป็นเพยี งต้องไต่สวนใหค้ รบถ้วนตามระเบียบ และรอการช้มี ลู เทา่ น้ัน (โอกาสพลกิ มนี อ้ ยกว่า)
๒. หากมน่ั ใจวา่ ไมไ่ ด้ทําผิดตามรอ้ งเรยี น (ตรวจสอบจากเอกสารโครงการทงั้ ๓) ควรอยู่ในราชการ
ต่อไปเพื่อตอ่ สู้กบั ความเทจ็ เพราะยังไดร้ บั เงนิ เดอื น ขั้นเงินเดอื น เล่อื นระดับ อายุราชการ สวัสดกิ าร ฯลฯ อีก
มากมาย จนกว่าจะมคี ําสง่ั ลงโทษ ซง่ึ อาจจะนานหลายปี เพราะมีเรือ่ งรอ้ งเรียนค้างเป็นจํานวนมาก (ทราบว่า
ป.ป.ช.กําลงั เรง่ )
๓. หากชงิ ลาออกวันน้ี (สมมตวิ า่ ทาํ ได้และเรว็ ทส่ี ดุ ) โดยยงั ไม่มกี ารตงั้ อนุกรรมการไตส่ วนจาก ป.ป.ช.
เลย จะรอดเฉพาะวินัย เนอื่ งจากยงั ไมม่ ีการกล่าวหาวา่ ใครกระทําผิดวนิ ัยอย่างร้ายแรงเป็นหนังสอื (หากการ
ร้อง ป.ป.ช.ระบเุ พยี งโครงการ ไม่ระบุช่ือผถู้ ูกร้อง) สว่ นอาญากบั ละเมิดหารอดไม่ แต่อยา่ งไรกต็ าม การลาออก
จากราชการดูเหมือนงา่ ย แต่ไมง่ า่ ย เพราะมหี ลักเกณฑ์และเงอ่ื นไขในการให้ออกจากราชการ (พ.ศ.๒๕๕๘/
๒๕๕๙) กํากบั อยู่ เชน่ ตอ้ งยนื่ ใบลาออกไม่นอ้ ยกว่า ๓๐ วนั นายก อปท.มสี ทิ ธิยับยัง้ ๙๐ วัน และระยะเวลา
พจิ ารณาเหน็ ชอบของ ก.จงั หวดั อกี ๙๐ วนั ซึง่ เรอื่ งนห้ี ลังจาก ป.ป.ช.มาขอหรอื อายดั เอกสารไปไม่นาน หาก
ชอ่ื วา่ มีมูลกจ็ ะมีคาํ สง่ั ต้ัง "อนุกรรมการไตส่ วน" หรอื "องค์คณะพนักงานไต่สวน" ถึงวนั น้ันผถู้ ูกตงั้ คงทําได้เพยี ง
"ทําใจ" กบั "ทาํ บุญ" เพราะ "อดีตแก้ไขไมไ่ ด"้ มีคาํ แนะนาํ ทคี่ วรทาํ ให้ได้ตอนนี้ คอื ตัง้ สติ (ให้ด)ี ตง้ั ม่ัน (ให้ได้)
ตงั้ ใจ (แกไ้ ข)
ขอบคณุ ทุกข้อความ ครบั
หมายเหตุ ฝากเป็นกาํ ลังใจใหท้ ่านทถี่ กู ป.ป.ช.ชี้มูลวนิ ัยรา้ ยแรงทุกท่านว่า.."แมต้ อ้ งถอย แตอ่ ยา่ ทอ้ " อาชพี ใน
โลกมเี ปน็ ลา้ น ราชการเป็นหนง่ึ ในน้ัน อย่าลืม..ใด ๆ ในโลกลว้ นมิไดเ้ กิดจากความบงั เอญิ ..!! แตเ่ กดิ จากเหตุ
และปจั จยั ทง้ั สน้ิ ...
***********************
รวบรวมโดย นติ ิกรพร หน้า 17
คาํ ถาม-ตอบวนิ ัย ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวทิ ย์ เปรอ่ื งการ รวบรวมโดยนติ ิกรพร เทศบาลตําบลบะหวา้ จังหวดั สกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
คําถาม ๙/๕/๖๑
เรยี น ท่าน ผอ.ครับ ผมเปน็ ฝุายเลขาฯ ของ ก.จงั หวดั มีคําถามว่า นายก อปท.สงั่ ลงโทษทางวินัยพนักงาน
ส่วนทอ้ งถนิ่ และรายงานมาท่ี ก.จังหวดั ในขณะท่ีเจา้ ตวั ได้อทุ ธรณค์ ําสั่งลงโทษมายัง ก.จังหวัดด้วย ถามว่า
1. ผู้ใดต้องส่งเร่ืองให้อนุวินัยและอนุอุทธรณ์ เพราะตอนใช้หลักเกณฑ์เก่า ปี 2544 ก.จังหวัดมีมติให้
ผวจ.ส่งเร่ืองใหอ้ นทุ ้งั สองกอ่ นเลย
2. หากอนุวนิ ยั กบั อนุอทุ ธรณ์เห็นตา่ งกนั ก.จังหวดั จะพิจารณาอยา่ งไร
3. อนุวินัย+ก.จังหวัด หรือ อนุอุทธรณ์+ก.จังหวัด มีเวลาพิจารณา 90 วัน และขยายจนครบแล้วยัง
พจิ ารณาไม่เสรจ็ จะทําอย่างไร
ขอบคุณครับ
ตอบ
นา่ เห็นใจฝุายเลขานุการ ก.จังหวัด ท้ังวานนี้และวันนี้มีปัญหาไม่ต่างกัน คือ กําลังคนน้อย ๑ ต้องดู
เรื่องวินัยท้ังจงั หวัด ๑ นํามาส่กู ารมีโอกาสเพมิ่ พนู ความรู้เฉพาะทางไม่เต็มที่ ๑ ปัญหาท้ังน้ันคงได้รับแก้ไขใน
เร็ววนั
ตามคาํ ถาม มี ๓ ประเดน็ คือ
๑. ใครต้องส่งเร่อื งให้อนุ
๒. รายงานวนิ ยั มาพรอ้ มอุทธรณ์ อนชุ ุดใดพิจารณา
๓. อน+ุ ก.จงั หวดั ใชเ้ วลาครบแล้ว ต้องทําอย่างไร
สรปุ ส้นั
๑. เลขานกุ าร ก.จงั หวดั เป็นผ้สู ่ง
๒. อนุอุทธรณฝ์ ุายเดยี วเป็นผพู้ จิ ารณา
๓. พจิ ารณาตอ่ ไปใหแ้ ล้วเสรจ็ โดยเรว็
ขยายความ
๑. หลักเกณฑแ์ ละเงอื่ นไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) ข้อ ๘๗ วรรค
สาม กําหนดว่า "ก.จังหวัดอาจมีมติในคราวเดียวให้เลขานุการ ก.จังหวัด (ท้องถ่ินจังหวัด/ปลัด อบจ.) ส่ง
รายงานการดําเนินการทางวินัยไปให้อนุวินัยพิจารณาทําความเห็นเสนอก่อนการพิจารณาและมีมติของ ก.
จงั หวัดก็ได้" เพราะการพิจารณาของอนุวินัย+ก.จังหวัด มรี ะยะเวลาเพียง ๙๐ วนั จึงกําหนดให้ ก.จังหวัดอาจ
มมี ตใิ นคราวเดียว ซ่ึงเป็นการประหยัดเวลา กรณีน้ีมีข้อแนะนําว่าฝุายเลขานุการ ก.จังหวัดควรนําเสนอ ก.
จังหวัดตามวรรคนี้ ไว้เสยี แต่เร่ิมแรก เม่ือสาํ นวนเขา้ มายงั ก.จังหวัด เลขานกุ าร ก.จงั หวัด กส็ ามารถส่งเรอื่ งไป
ยังประธานอนวุ นิ ัย/อนุอุทธรณ์ได้ทันที หากไม่มีมติดังกล่าวไว้ก็จําเป็นต้องประชุม ก.จังหวัดเพื่อมอบหมาย
กอ่ นทุกคร้งั ตามข้อ ๘๗ วรรคหนงึ่ (ซง่ึ เสียเวลามาก) แต่จะอย่างไรกต็ าม คาํ ถามบอกว่า ก.จังหวดั เคยมอบให้
ผวจ.เป็นผู้ส่งเรื่องให้ประธานอนุวินัย/อนุอุทธรณ์ ตั้งแต่ครั้งใช้หลักเกณฑ์เดิม ดังน้ัน มติดังกล่าวยังคงใช้ได้
ตอ่ ไป แมจ้ ะมีการเปลยี่ นแปลงหลกั เกณฑใ์ หม่ก็ตาม เนอ่ื งจากยงั ไม่มีมติในเร่อื งนอี้ อกมาแกไ้ ขมติเดมิ
๒. กรณีมกี ารรายงานการดําเนนิ การทางวนิ ัยจากนายก อปท. และผู้ถูกลงโทษได้อทุ ธรณ์คําส่ังลงโทษ
มาดว้ ย ลักษณะดงั กล่าวจะไม่ปรากฏความเหน็ ต่างของอนุทง้ั สองอย่างแน่นอน เพราะหนังสือสํานักงาน ก.จ.,
รวบรวมโดย นิตกิ รพร หนา้ 18
คาํ ถาม-ตอบวนิ ยั ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวิทย์ เปรือ่ งการ รวบรวมโดยนติ ิกรพร เทศบาลตําบลบะหว้า จังหวดั สกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
ก.ท. และ ก.อบต.ที่ มท ๐๘๐๙.๑/๓๔๕ ลง ๑๘ ธ.ค.๒๕๔๕ กําหนดให้ ก.จังหวัด หรืออนุวินัย (แล้วแต่เร่ือง
อยขู่ น้ั ตอนใด) สง่ สาํ นวนและเอกสารท้งั หมดให้อนุอุทธรณ์ฝุายเดียวเท่านั้น เป็นผู้พิจารณาทําความเสนอท้ัง
รายงานการดาํ เนินการทางวนิ ยั ทง้ั การอุทธรณ์ สอดคล้องกับหนงั สือสาํ นักงาน ก.พ. ท่ี นร ๐๗๐๙.๒/๑๘๔ ลง
๑๙ เม.ย.๒๕๓๗
๓. ระยะเวลาการพิจารณาของอนวุ นิ ยั กบั ก.จังหวดั (รวมกนั ) ๙๐ วนั และอนุอุทธรณ์ กับ ก.จังหวัด
(รวมกนั ) ๙๐ วัน ทั้งชุดแรก (อนวุ ินยั +ก.จงั หวัด) และชุดหลัง (อนุอทุ ธรณ+์ ก.จังหวดั ) ขยายได้ชุดละไม่เกิน ๒
คร้งั ๆ ละไม่เกนิ ๓๐ วนั โดยใหข้ ยายเอง ดว้ ยการบนั ทึกเหตุน้นั ไว้ในรายงานการประขุมดว้ ย (อนไุ ม่ตอ้ งขอ ก.
จงั หวัด) ตามขอ้ ๘๗ วรรคหนึง่ และวรรคสอง หลกั เกณฑ์และเง่ือนไขในการสอบสวนฯ อน่งึ ระยะเวลาในการ
พิจารณาของอนแุ ละ ก.จังหวดั เปน็ ระยะเวลาเร่งรดั หาใชร่ ะยะเวลาบงั คบั ไม่ ดังน้นั แม้จะลว่ งเลยระยะเวลา
แลว้ อนแุ ละ ก.จงั หวดั กจ็ าํ ต้องพิจารณาตอ่ ไปให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
คาํ ถามอาจยากไป ขอบคุณครับ
************************
คาํ ถาม ๙/๕/๖๑
เรียน ท่าน ผอ.ครับ ผมเป็นฝาุ ยเลขาฯ ของ ก.จงั หวดั มีคาํ ถามว่า นายก อปท.ส่ังลงโทษทางวินัยพนักงาน
ส่วนท้องถน่ิ และรายงานมาที่ ก.จงั หวดั ในขณะท่ีเจา้ ตัวได้อทุ ธรณค์ ําส่ังลงโทษมายงั ก.จังหวดั ด้วย ถามวา่
1. ผใู้ ดต้องสง่ เรอื่ งให้อนวุ นิ ยั และอนอุ ทุ ธรณ์ เพราะตอนใช้หลักเกณฑ์เกา่ ปี 2544 ก.จงั หวัดมมี ติให้
ผวจ.สง่ เรือ่ งใหอ้ นทุ ั้งสองกอ่ นเลย
2. หากอนวุ นิ ัยกับอนอุ ุทธรณเ์ ห็นตา่ งกัน ก.จงั หวัดจะพจิ ารณาอย่างไร
3. อนวุ ินัย+ก.จังหวดั หรอื อนุอทุ ธรณ+์ ก.จังหวดั มเี วลาพจิ ารณา 90 วนั และขยายจนครบแล้วยัง
พิจารณาไมเ่ สร็จ จะทําอย่างไร
ขอบคณุ ครบั
ตอบ
น่าเห็นใจฝุายเลขานกุ าร ก.จงั หวัด ท้ังวานน้แี ละวนั นม้ี ปี ญั หาไมต่ ่างกนั คอื กาํ ลงั คนนอ้ ย ๑ ตอ้ งดู
เรือ่ งวนิ ยั ท้ังจงั หวัด ๑ นาํ มาสกู่ ารมโี อกาสเพมิ่ พนู ความรเู้ ฉพาะทางไมเ่ ตม็ ที่ ๑ ปัญหาทง้ั นนั้ คงได้รบั แก้ไขใน
เร็ววัน
ตามคําถาม มี ๓ ประเดน็ คือ
๑. ใครตอ้ งสง่ เรอื่ งใหอ้ นุ
๒. รายงานวินยั มาพร้อมอทุ ธรณ์ อนชุ ุดใดพิจารณา
๓. อนุ+ก.จงั หวัด ใช้เวลาครบแลว้ ตอ้ งทาํ อย่างไร
สรปุ สน้ั
๑. เลขานกุ าร ก.จงั หวดั เปน็ ผสู้ ง่
๒. อนอุ ุทธรณฝ์ าุ ยเดยี วเป็นผพู้ จิ ารณา
๓. พจิ ารณาตอ่ ไปใหแ้ ลว้ เสรจ็ โดยเร็ว
ขยายความ
รวบรวมโดย นิตกิ รพร หน้า 19
คาํ ถาม-ตอบวินัย ปี 2561 โดยอาจารย์ประวทิ ย์ เปรื่องการ รวบรวมโดยนติ ิกรพร เทศบาลตาํ บลบะหวา้ จังหวดั สกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
๑. หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) ข้อ ๘๗ วรรค
สาม กําหนดว่า "ก.จังหวัดอาจมมี ตใิ นคราวเดยี วให้เลขานุการ ก.จงั หวัด (ท้องถน่ิ จังหวดั /ปลดั อบจ.) สง่
รายงานการดําเนนิ การทางวนิ ัยไปใหอ้ นุวินยั พจิ ารณาทาํ ความเห็นเสนอกอ่ นการพจิ ารณาและมีมติของ ก.
จงั หวดั ก็ได"้ เพราะการพจิ ารณาของอนุวินยั +ก.จงั หวัด มรี ะยะเวลาเพยี ง ๙๐ วัน จึงกาํ หนดให้ ก.จงั หวดั อาจ
มมี ติในคราวเดยี ว ซง่ึ เปน็ การประหยดั เวลา กรณีนม้ี ขี ้อแนะนําว่าฝาุ ยเลขานกุ าร ก.จงั หวดั ควรนาํ เสนอ ก.
จงั หวัดตามวรรคน้ี ไวเ้ สียแต่เร่ิมแรก เมื่อสาํ นวนเข้ามายงั ก.จังหวัด เลขานุการ ก.จังหวดั ก็สามารถสง่ เร่อื งไป
ยงั ประธานอนวุ ินยั /อนอุ ุทธรณ์ได้ทนั ที หากไม่มีมติดงั กลา่ วไว้กจ็ าํ เปน็ ตอ้ งประชมุ ก.จงั หวัดเพือ่ มอบหมาย
กอ่ นทกุ ครงั้ ตามขอ้ ๘๗ วรรคหนงึ่ (ซึ่งเสียเวลามาก) แตจ่ ะอยา่ งไรก็ตาม คําถามบอกวา่ ก.จงั หวดั เคยมอบให้
ผวจ.เป็นผสู้ ง่ เรอ่ื งให้ประธานอนุวนิ ยั /อนอุ ุทธรณ์ ต้งั แต่ครงั้ ใช้หลกั เกณฑเ์ ดมิ ดงั น้ัน มติดงั กลา่ วยังคงใชไ้ ด้
ต่อไป แม้จะมกี ารเปล่ียนแปลงหลกั เกณฑใ์ หม่ก็ตาม เนอื่ งจากยังไม่มมี ติในเรอ่ื งนีอ้ อกมาแก้ไขมติเดิม
๒. กรณมี ีการรายงานการดาํ เนินการทางวนิ ัยจากนายก อปท. และผถู้ ูกลงโทษได้อทุ ธรณค์ ําสงั่ ลงโทษ
มาด้วย ลกั ษณะดงั กล่าวจะไมป่ รากฏความเหน็ ตา่ งของอนทุ ง้ั สองอยา่ งแนน่ อน เพราะหนังสือสํานกั งาน ก.จ.,
ก.ท. และ ก.อบต.ท่ี มท ๐๘๐๙.๑/๓๔๕ ลง ๑๘ ธ.ค.๒๕๔๕ กาํ หนดให้ ก.จงั หวดั หรืออนุวนิ ยั (แล้วแตเ่ รอ่ื ง
อยขู่ ้ันตอนใด) สง่ สํานวนและเอกสารทง้ั หมดให้อนุอทุ ธรณฝ์ าุ ยเดยี วเท่านน้ั เปน็ ผู้พจิ ารณาทาํ ความเสนอทั้ง
รายงานการดําเนนิ การทางวินัย ท้ังการอทุ ธรณ์ สอดคลอ้ งกบั หนังสอื สํานกั งาน ก.พ. ท่ี นร ๐๗๐๙.๒/๑๘๔ ลง
๑๙ เม.ย.๒๕๓๗
๓. ระยะเวลาการพจิ ารณาของอนุวินัย กับ ก.จังหวดั (รวมกัน) ๙๐ วัน และอนอุ ทุ ธรณ์ กับ ก.จังหวดั
(รวมกนั ) ๙๐ วนั ทง้ั ชดุ แรก (อนุวนิ ัย+ก.จงั หวัด) และชดุ หลงั (อนุอทุ ธรณ+์ ก.จังหวัด) ขยายไดช้ ุดละไม่เกิน ๒
ครั้ง ๆ ละไมเ่ กนิ ๓๐ วัน โดยให้ขยายเอง ดว้ ยการบนั ทึกเหตนุ ั้นไว้ในรายงานการประขุมดว้ ย (อนไุ ม่ต้องขอ ก.
จังหวดั ) ตามขอ้ ๘๗ วรรคหนึ่ง และวรรคสอง หลักเกณฑ์และเง่ือนไขในการสอบสวนฯ อนึ่ง ระยะเวลาในการ
พจิ ารณาของอนแุ ละ ก.จังหวดั เปน็ ระยะเวลาเรง่ รดั หาใชร่ ะยะเวลาบังคบั ไม่ ดังนน้ั แมจ้ ะล่วงเลยระยะเวลา
แลว้ อนแุ ละ ก.จงั หวัด กจ็ ําต้องพิจารณาต่อไปให้แลว้ เสรจ็ โดยเร็ว
คาํ ถามอาจยากไป ขอบคณุ ครับ
**********************
คาํ ถาม ๑๖/๕/๖๑
ขออนุญาตสอบถาม อ.ประวิทย์ กรณีที่คณะกรรมการสอบสวนวินัยรา้ ยแรงไม่มรี ายงานการประชุมแจง้
สว.3 ใหผ้ ู้ถูกกลา่ วหาทราบโดยมแี คก่ รรมการ 2 คนลงช่อื แจง้ สว.3 เม่อื เดือนตลุ าคม 2558 แล้วมกี ารสรปุ
สว.6 เป็นวินัยร้ายแรงลงโทษ "ไล่ออก" นายกเหน็ ด้วยสง่ ก.จงั หวัด แล้ว ก.จงั หวดั สง่ ใหอ้ นวุ ินยั ทาํ ความเหน็
โดยเห็นว่ากระบวนการครบถว้ นถูกต้องเห็นควรไล่ออก แต่เม่ือเสนอ ก.จงั หวัดพจิ ารณา พบว่า ไมม่ ีรายงาน
การประชุมของกรรมการสอบสวนแจง้ สว.3 และกรรมการสอบสวนลงชอื่ แจ้ง สว.3 ใหผ้ ูถ้ กู กล่าวหาทราบแค่
2 คน
☜☆☞ก.จงั หวัดจงึ สง่ รายงานการสอบสวนวนิ ัยไปให้กรรมการทาํ รายงานการสอบสวนใหถ้ กู ตอ้ งตามขอ้
37 และข้อ 45 แห่งประกาศหลักเกณฑ์การสอบสวนการลงโทษวนิ ยั ฯปี 2544
☜☆☞และเมื่อวันที่ 18 ม.ค. 61 กรรมการสอบสวนวนิ ยั ไดม้ ีการประชุมเพอ่ื แจง้ สว.3 และสง่ รายงาน
การประชมุ ใหฝ้ ุายเลขา ก.จงั หวัดเพื่อนาํ เข้าทป่ี ระชุม ก.จงั หวัด เพอื่ ประกอบรายงานการสอบสวนเดมิ ในการ
พิจารณาลงโทษทางวินยั แกผ่ ู้ถกู กลา่ วหา
☜☆☞ขอเรยี นถามทา่ น อ.ประวทิ ย์ วา่ จะสามารถนาํ รายงานการประชุมแจง้ สว.3 ลงวนั ท่ี 18 ม.ค.61
มาประกอบการพจิ ารณาการลงโทษได้หรอื ไม่ ซึ่งกระผมเหน็ ว่า กระบวนการตามประกาศหลกั เกณฑเ์ งือ่ นไข
รวบรวมโดย นิติกรพร หนา้ 20
คาํ ถาม-ตอบวินัย ปี 2561 โดยอาจารย์ประวิทย์ เปรอื่ งการ รวบรวมโดยนติ ิกรพร เทศบาลตําบลบะหว้า จงั หวัดสกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
การสอบสวนการลงโทษทางวินัย จะต้องดาํ เนนิ การใหเ้ ปน็ ปจั จบุ ัน ตั้งแต่แจง้ สว.3 จนถงึ สรปุ สว.6 ให้นายก
ลงความเหน็ ใหม่และเสนอ ก.จังหวัดใหม่ใหเ้ ป็นปจั จบุ นั ขอความกรณุ า อ.ประวทิ ย์ ช่วยตอบคาํ ถามและให้
แนวทางดว้ ย ครบั ...
ตอบ
คําถาม มี ๒ ประเดน็ คอื
๑. กรรมการ ๒ คน แจ้ง สว.๓ ไดห้ รอื ไม่
๒. กรรมการสอบสวนเพิม่ เตมิ ตอ้ งใชห้ ลกั เกณฑ์เกา่ หรือใหม่
สรปุ สน้ั
๑. แจ้งไมไ่ ด้
๒. ใชห้ ลักเกณฑ์เกา่
ขยายความ
๑. มาตรฐานท่ัวไปเกี่ยวกบั วินยั และการรักษาวินัย และการดาํ เนินการทางวินยั ลงวนั ท่ี ๒๒ สงิ หาคม
๒๕๔๔ ขอ้ ๓๕ วรรคหน่ึง กําหนดวา่ "การประชุมคณะกรรมการสอบสวน ตอ้ งมีกรรมการสอบสวนมาประชุม
ไมน่ อ้ ยกว่าก่ึงหนงึ่ ของจํานวนกรรมการสอบสวนทง้ั หมด จงึ จะเปน็ องคป์ ระชุม เวน้ แต่การประชมุ ตามขอ้ ๔๓
(แจ้ง สว.๓) และข้อ ๕๗ (จัดทาํ สว.๖) ตอ้ งมกี รรมการมาประชมุ ไม่น้อยกว่าสามคนและไมน่ อ้ ยกวา่ กงึ่ หนึ่งของ
จาํ นวนกรรมการสอบสวนทง้ั หมด.." ขอ้ ๖๒ วรรคหนง่ึ กําหนดว่า "ในกรณที ป่ี รากฏว่าการสอบสวนตอนใดทํา
ไม่ถกู ตอ้ ง ใหก้ ารสอบสวนตอนน้ันเสยี ไปเฉพาะในกรณดี งั ตอ่ ไปนี้ (๑) การประชุมของคณะกรรมการสอบสวน
มกี รรมการสอบสวนมาประชุมไมค่ รบตามขอ้ ๔๓ วรรคหนง่ึ ..(แจง้ สว.๓)" วรรคสอง กาํ หนดว่า "ในกรณี
เชน่ น้ี ใหน้ ายก อปท.สัง่ ใหค้ ณะกรรมการสอบสวนดาํ เนนิ การใหมใ่ ห้ถูกต้องโดยเร็ว" (เทยี บหลกั เกณฑ์ของ ก.
จังหวัดใหต้ รงกับมาตรฐานทว่ั ไปด้วย)
กรณีดังกลา่ ว เมือ่ ก.จงั หวดั ตรวจพบวา่ คณะกรรมการสอบสวนและนายก อปท.ไม่ปฏิบตั ใิ ห้ถูกต้อง
ตามกระบวนการข้ันตอนอนั เป็นสาระสาํ คัญ จงึ มมี ตใิ หก้ ลบั ไปแก้ไขใหถ้ กู ตอ้ ง ซ่ึงนายก อปท.ตอ้ งส่ังหรอื
ปฏิบัติให้เปน็ ไปตามมตนิ ัน้ ตามขอ้ ๖๘ วรรคสอง โดยส่งมตขิ อง ก.จงั หวัดให้คณะกรรมการสอบสวนชุดเดิม
ทาํ การสอบสวนเพม่ิ เตมิ ตามขอ้ ๗๑ วรรคหนึ่ง
เม่ือคณะกรรมการสอบสวนไดร้ บั ทราบมตขิ อง ก.จงั หวดั ดงั กลา่ วแล้ว ตอ้ งดาํ เนินการแจง้ เฉพาะ สว.๓
ใหมใ่ หถ้ ูกตอ้ ง ตามขอ้ ๖๒ วรรคหนึง่ (๑) (เปน็ กรณเี สยี ไปเฉพาะสว่ น มิใชเ่ สยี ทง้ั หมด จึงต้องกลับมาทําให้
ถกู ต้องสมบรู ณ์เฉพาะสว่ นทเ่ี สยี ไป) และกรณีดงั กลา่ วไมม่ ปี ระเด็น สว.๔-๖ เพิม่ เติม จงึ ไมจ่ าํ ตอ้ งดําเนินการใด
ๆ นอกเหนอื จากมติ ก.จงั หวัด
๒. การแตง่ ตั้งคณะกรรมการสอบสวนครง้ั นน้ั เปน็ ไปตามหลกั เกณฑ์และเงอื่ นไขฉบับเดมิ (หลักเกณฑ์
เก่า) ดงั นัน้ ประเดน็ ท่เี ก่ียวข้องกบั การสอบสวนจงึ ตอ้ งดาํ เนนิ การตามหบักเกณฑเ์ ก่าท้งั ส้ิน เวน้ เสียแต่การ
พิจารณาของ ก.จงั หวัด ต้องเป็นไปตามหลกั เกณฑแ์ ละเงอ่ื นไขในการสอบสวน การลงโทษทางวนิ ยั (พ.ศ.
๒๕๕๘/๒๕๕๙) ขอ้ ๘๙ วรรคหนึ่ง ทีว่ ่า "ในกรณที ม่ี ีการแตง่ ต้ังคณะกรรมการข้นึ ทําการสอบสวนกอ่ นวนั ที่
หลักเกณฑแ์ ละเงื่อนไขนใ้ี ชบ้ งั คับ (กอ่ นวนั ท่ี ๑ มกราคม ๒๕๕๙) ให้คณะกรรมการสอบสวนดําเนินการ
สอบสวนตามหลกั เกณฑเ์ ดมิ โดยอนโุ ลมจนกว่าจะแลว้ เสรจ็ สว่ นการพจิ ารณาสงั่ การให้ดําเนนิ การตาม
หลกั เกณฑเ์ ง่อื นไขน.ี้ ."
รวบรวมโดย นิตกิ รพร หนา้ 21
คาํ ถาม-ตอบวนิ ัย ปี 2561 โดยอาจารย์ประวทิ ย์ เปร่ืองการ รวบรวมโดยนิติกรพร เทศบาลตําบลบะหวา้ จังหวดั สกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
ดังนั้น หากคณะกรรมการสอบสวนไดม้ กี ารแจ้ง สว.๓ ตามมติ ก.จังหวดั ถกู ต้องครบถ้วน เม่ือวันที่
๑๘ มกราคม ๒๕๖๑ แล้ว ก.จงั หวัดสามารถนาํ มาประกอบการพจิ ารณามีมตลิ งโทษได้
ขอบคณุ ขอ้ มูลและความเห็นจากหลายห้อง โดยเฉพาะหอ้ ง "ชมรมนักวนิ ัยมอื อาชพี " ครบั
************************
คําถาม ๒๓/๕/๖๑
อาจารย์ค่ะ มีเร่อื งอยวู่ ่า ประชมุ ผอ แต่ละกอง นาํ โดยปลัด ปลดั เสนอนกั จดั การงานท่ีวไป ไปทาํ งานท่ีกอง
สาธารณสขุ ผอ แต่ละกองกเ็ หน็ ด้วย พออีกวนั ประชมุ ประจําเดอื น ในทป่ี ระชุม นายกเป็นคนพดู ให้ ขา้ พเจา้
หวั หนา้ ฝุายอํานวยการไปทํางานทีก่ องสาธารณสขุ และใหอ้ อกคาํ สง่ั ข้าพเจา้ กแ็ ย้งในทปี่ ระชมุ วา่ จะทําบันทกึ
แย้งและจะไม่ทาํ งานทีก่ องสาธารณสุข ในท่ีประชุมปลดั ก็เงยี บไมพ่ ูดอะไรเลยเอาตามนายก ทงั้ ที่ ปลดั เสนอให่้
นักจัดการเปน็ คนทาํ งานในกองสาธารณสขุ ปัจจุบันคาํ สง่ั ยงั ไมอ่ อก ใหข้ า้ พเจา้ ไปทํางานกองสาธารณสขุ ใน
วนั ท่ี18 พค ขา้ พเจา้ ลากจิ นายกไดส้ ัง่ ปลดั ให้พาคนงานไปยา้ ยโต๊ะขา้ พเจ้าไปกองสาธารณสุข ซงึ่ เป็นการลแุ ก่
อาํ นาจ น่าจะรอให้ขา้ พเจ้ากลับไปทํางานกอ่ น อีกท้ังขา้ พเจา้ ยงั ไม่ได้เซนรบั ทราบคําสัง่ แตอ่ ยา่ งใด
คําถาม ขา้ พเจา้ จะสามารถสง่ เรือ่ งรอ้ งไปร้องศนู ยด์ าํ รงธรรมได้ไหมค่ะ เพราะโดนกล่ันแกลง้
ตอบ
ปัญหาลักษณะนม้ี กั มีใหเ้ หน็ บ่อยครงั้ ในสว่ นราชการ ต้องดูวา่ หวั หนา้ ส่วนราชการคอื ใคร คาํ สัง่ ให้
ปฏิบตั ขิ องผนู้ ้ันท่ีออกมาภายหลังเทา่ กบั ลบลา้ งคําสั่งเดมิ ของผู้บงั คบั บัญชาระดบั รองลงไปเสียสิน้ จะเห็นได้
จากการท่ี "ปลัดเงียบไมพ่ ูดอะไรเลย" ซงึ่ การยา้ ยหน้าที่ก็เปน็ ไปเพอื่ ประโยชน์ภายในองค์กร มิใชส่ ทิ ธทิ พ่ี ึง
เรียกร้องใหผ้ บู้ ังคบั บัญชาแตง่ ตง้ั ตามทเี่ ราตอ้ งการ
การที่นายก อปท.ส่งั ใหผ้ ู้อื่นยา้ ยโตะ๊ ทาํ งานโดยเจา้ ตัวลากิจ แมท้ ําไดก้ ็ไม่ควรทาํ ควรใหเ้ กยี รติซง่ึ กัน
และกนั ควรถนอมนํ้าใจกนั จะเปน็ สง่ิ ท่ีดีทส่ี ดุ สาํ หรับสังคมเรา เพราะยงั ตอ้ งปฏิบัติราชการรว่ มกนั อีกนาน
สงสยั ว่า "ทะเลาะกนั มากอ่ นใชห่ รอื ไม่" ถงึ เกิดเหตกุ ารณแ์ บบน้ี
กรณีดังกล่าว เมอ่ื นายก อปท.สง่ั ใหย้ ้ายกต็ ้องยา้ ย ถึงเปน็ เพยี งการสั่งดว้ ยวาจาท่ียังไมม่ เี อกสารก็ตาม
เราต้องปฏิบัตติ ามโดยไมอ่ าจหลกี เลย่ี ง แต่อยา่ งไรก็ตาม หากเห็นว่าการปฎิบัติตามคาํ ส่งั นั้นจะทาํ ให้เสียหาย
แก่ราชการ หรอื จะเปน็ การไมร่ กั ษาประโยชนข์ องทางราชการ หรอื เป็นคําสัง่ ทไี่ ม่ชอบด้วยกฎหมาย ผนู้ น้ั ตอ้ ง
เสนอความเห็นเป็นหนงั สือทันทเี พ่ือให้นายก อปท.ทบทวน ถ้านายกฯ ยนื ยนั ให้ปฏบิ ตั ติ ามคาํ สงั่ เดมิ เป็น
หนงั สอื ตอ้ งปฏบิ ัตติ าม ตามข้อ ๑๓ ของหลกั เกณฑแ์ ละเงอ่ื นไขในการสอบสวน การลงโทษทางวนิ ยั ฯ
ตามคาํ ถาม
จะร้องเรยี นศูนยด์ าํ รงธรรม ได้หรือไม่
สรุปส้ัน
รอ้ งได้
ขยายความ
การรอ้ งศูนยด์ าํ รงธรรมสามารถทําได้ แต่ตอ้ งดูกระบวนการขับเคลือ่ นเพือ่ แกป้ ญั หารอ้ งเรยี นด้วยวา่ จะ
สามารถดาํ เนนิ การไดแ้ ค่ไหน เพียงไร
รวบรวมโดย นิติกรพร หน้า 22
คําถาม-ตอบวินยั ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวิทย์ เปรือ่ งการ รวบรวมโดยนิตกิ รพร เทศบาลตาํ บลบะหว้า จงั หวดั สกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
ข้อแนะนํา
ควรไปทาํ งานท่ีได้รับมอบหมายใหมด่ ว้ ยใจสงบนิง่ (โต๊ะถูกย้ายแล้ว) อยา่ ลมื ว่า "การเป็นข้าราชการนน้ั
เลอื กไม่ได้ ๒ อยา่ ง คือ เลอื กนาย และเลอื กทท่ี ํางาน" แลว้ ทาํ หนังสือให้นายกฯ ทบทวน
หากคดิ ว่า "ไมท่ น" หรอื "ทนไม่ได"้ ควรใชก้ ระบวนการรอ้ งทกุ ขข์ องข้าราชการส่วนท้องถิ่นทมี่ ี
โดยเฉพาะอยู่แลว้ คือ หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการอทุ ธรณแ์ ละการร้องทกุ ข์ (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) ข้อ ๒๗
เป็นกรณที ี่ "นายก อปท.ปฏิบัติให้เกิดความคบั ขอ้ งใจต่อตน..ให้รอ้ งทุกขต์ ่อ ก.จังหวัดภายใน ๓๐ วนั นับแต่
ทราบเร่อื ง..เมื่อ ก.จงั หวัดพิจารณามมี ตเิ ปน็ ประการใดใหน้ ายก อปท.ส่งั หรือปฏบิ ัติใหเ้ ปน็ ไปตามน้นั โดยพลัน
มติ ก.จังหวัดใหถ้ อื เปน็ ทสี่ ดุ "
แต่ไมว่ า่ จะเปน็ การรอ้ งเรียนตอ่ ศนู ยด์ ํารงธรรม หรือการรอ้ งทกุ ขต์ อ่ ก.จงั หวัด ผรู้ ้องจะยนื อยู่คนละฝง่ั
กบั นายก อปท.ทันที เพราะนี่คอื "ลกั ษณะส่วนใหญข่ องสังคมไทย" จะเดอื ดรอ้ นยงุ่ ยากยิง่ ขึน้ ซ่ึงตอ้ งใช้
กระบวนการทางกฎหมายเขา้ มาเยยี วยา ต้ังแต่ ก.จงั หวดั ศาลปกครอง หรอื แมแ้ ต่ศาลยุตธิ รรม (ศาลอาจไมร่ บั
ฟอู งกไ็ ด)้ ต้องใชเ้ วลานาน อาจเขา้ ทาํ นอง "กวา่ ถว่ั จะสกุ งากไ็ หม้" โดยไม่มีหลักประกันว่าเราจะชนะ ขอใหโ้ ชค
ดี
ขอบคุณขอ้ มลู จากหอ้ งตา่ ง ๆ ทแ่ี สดงความเหน็ อยา่ งกว้างขวาง ครบั
************************
คาํ ถาม ๒๑/๕/๖๑
พนกั งานจ้างขาดงานเกนิ กวา่ 7 วนั แตห่ วั หน้างานยงั ไมท่ ํารายงานเสนอผบู้ งั คับบัญชา ปจั จบุ ันเปน็ เวลา
10 กว่าวันแล้ว และวันนพ้ี นกั งานจา้ งคนดงั กลา่ วไดก้ ลบั มา และบอกว่าจะทํางานต่อ หนจู งึ ขอปรกึ ษา ค่ะ
1. พนกั งานจ้างคนนั้นสามารถกลบั เข้ามาทํางานได้ม้ัยคะ (เค้าอ้างวา่ ยงั ไมม่ คี าํ สัง่ ใหอ้ อก เค้ายังสามารถมา
ทํางานได้ค่ะ)
2. ถา้ เคา้ กลบั เขา้ ทาํ งานได้ จะต้องต้งั กรรมการสอบสวนกรณขี าดงานเกนิ กวา่ 7 วันมั้ยคะ
3. หน.งานทยี่ งั ไม่ไดท้ าํ รายงานเสนอผบู้ ังคบั บญั ชามีความผิดม้ัยคะ
ตอบ
คาํ ถามมี ๓ ประเดน็ คือ
๑. ผบู้ งั คบั บญั ชาชน้ั ต้นไม่รายงาน ผิดวนิ ัยหรือไม่
๒. กลับมาทํางานไดห้ รอื ไม่
๓. ตอ้ งสอบหรือไม่
สรปุ ส้ัน
๑. ผิดวินัย
๒. ได้
๓. ตอ้ งสอบหรอื สืบ
ขยายความ
๑. หน้าที่ของผบู้ งั คบั บญั ชาอนื่ หากพบการกระทาํ ผิดของผู้ใต้บังคบั บัญชา ต้องรายงานตามลาํ ดับชน้ั
ถึงนายกฯ โดยเรว็ ตามข้อ ๒๔ วรรคเจด็ ซงึ่ เปน็ กฎ ระเบียบของทางราชการทีข่ า้ ราชการส่วนท้องถนิ่ ต้อง
ปฏิบตั ิตาม ตามขอ้ ๑๐ วรรคหน่ึง เมือ่ ละเลยไมป่ ฏบิ ัติหนา้ ท่ี ใหถ้ อื ว่ากระทําผิดวนิ ยั ตามข้อ ๒๔ วรรคสิบสอง
ของหลกั เกณฑ์และเง่ือนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินยั (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) ซง่ึ นายกฯ จะต้อง
ดาํ เนนิ การเป็นอกี สว่ นหนงึ่ ตา่ งหาก
รวบรวมโดย นติ กิ รพร หนา้ 23
คาํ ถาม-ตอบวนิ ัย ปี 2561 โดยอาจารย์ประวิทย์ เปรอ่ื งการ รวบรวมโดยนติ กิ รพร เทศบาลตําบลบะหวา้ จังหวัดสกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
๒. ถือว่าพนกั งานจ้างรายนยี้ งั อยู่ในราชการ ตราบเท่าทีย่ งั ไม่มคี าํ สั่งลงโทษไลอ่ อกจากราชการ เขา
ต้องมาทาํ งานตอ่ ไป ข้ออา้ งของเขาฟังข้ึน
๓. พนักงานจ้างละทงิ้ หรอื ทอดทงิ้ การทาํ งานเป็นเวลาติดต่อกนั เกินกว่าเจ็ดวัน ถือเป็นความผดิ วนิ ัย
อย่างรา้ ยแรง ตามขอ้ ๔๙ (๖) ซ่ึงต้องนําหลกั เกณฑแ์ ละเงอ่ื นไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินยั ฯ ของขา้
ราชส่วนท้องถน่ิ มาใชบ้ ังคบั โดยอนุโลม ตามข้อ ๕๐ วรรคสอง ของหลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกบั การ
บรหิ ารงานบคุ คลสําหรบั พนกั งานจา้ งฯ
ดังนั้น กรณีดังกลา่ วจงึ ตอ้ งรายงานนายกฯ เพ่ือดําเนนิ การตามขอ้ ๒๔ วรรคห้า และเมอื่ สบื สวนหรือ
พิจารณาในเบื้องต้นแลว้ เห็นวา่ ไมม่ ีเหตุผลอันสมควร ถือเปน็ ความผดิ ทีป่ รากฏชัดแจง้ ตามข้อ ๔๖ วรรคหนง่ึ
(๒) ของหลกั เกณฑแ์ ละเงือ่ นไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัยฯ นายกฯ จะงดการสอบสวนหรอื ไม่
สอบสวนก็ได้ (จะสอบสวนก็ได้ เพราะเป็นดลุ พนิ จิ ) แลว้ เสนอ ก.จังหวดั เพ่อื ขอความเหน็ ชอบใหส้ งั่ ลงโทษไล่
ออกจากราชการ ตามข้อ ๔๘ วรรคสอง (๔) ของหลักเกณฑแ์ ละเงอ่ื นไขเก่ยี วกับการบรหิ ารงานบคุ คลสาํ หรบั
พนักงานจ้างฯ
ขอบคณุ สมาชกิ หลายห้องท่แี สดงความเหน็ ครบั
************************
คําถาม ๔/๖/๖๑
ผมขอคาํ ช้แี นะจากอาจารย์ด้วยครบั
ป.ป.ช.มีหนงั สือถงึ นายก อบต.ให้พิจารณาโทษทางวินยั พนักงานส่วนตําบล ฐานทจุ ริตตอ่ หน้าทรี่ าชการ
๑. ตามเครสนีผ้ มจะออกคําสงั่ ลงโทษแล้วราย ก.อบต.จงั หวดั หรือรายงาน ก.อบต.จงั หวัดให้มมี ตกิ ่อนค่อย
ออกคาํ สั่งลงโทษ
๒. ผมจะลงโทษแค่ปลดออกไดห้ รือไม่ครบั
ขอขอบคณุ ทีใ่ ห้คาํ ชแี้ นะ
ตอบ
กรณี ป.ป.ช.ชี้มูลโดยขอใหน้ ายกฯ พิจารณาโทษทางวนิ ยั นนั้ ยังมีการปฏิบัติไม่ถกู ตอ้ งอยูม่ าก
วิธีปฏบิ ตั ิ
เมอ่ื ป.ป.ช.ชม้ี ูลความผิด
๑. ใหน้ ายกฯ บันทกึ แสดงความเหน็ เปน็ หนงั สือ ตามขอ้ ๗๗ วรรคสอง วา่ เหน็ ควรลงโทษไลอ่ อกฐาน
ทจุ ริตตอ่ หนา้ ทร่ี าชการ ตามมติ ครม.เม่อื วนั ท่ี ๒๑ ธนั วาคม ๒๕๓๖ โดยไมต่ ้องแต่งตัง้ คณะกรรมการสอบสวน
ตามกฎหมาย ป.ป.ช.มาตรา ๙๒ แลว้ สง่ เรือ่ งให้ ก.จังหวดั เพอื่ พิจารณามมี ติ ตามขอ้ ๗๗ วรรคหนง่ึ (๒)
ประกอบขอ้ ๘๕ วรรคหน่งึ ซ่งึ นายกฯ จะตอ้ งสง่ั หรอื ปฏิบัตใิ หเ้ ปน็ ไปตามมตนิ ั้น แลว้ รายงานให้ ก.จังหวดั
ทราบ ตามข้อ ๘๗ วรรคหก ของหลักเกณฑแ์ ละเงือ่ นไขในการสอบสวน การลงโทษทางวนิ ยั (พ.ศ.๒๕๕๘/
๒๕๕๙) และสง่ สําเนาคาํ สงั่ ลงโทษไปให้ ป.ป.ช.ทราบ ภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันออกคาํ สัง่ ตามมาตรา ๙๓
กฎหมาย ป.ป.ช. หลงั จากนน้ั จะเป็นข้ันตอนการอทุ ธรณ์คําสง่ั ของผู้ถูกสั่งลงโทษ
ขอ้ สังเกต
แนวทางของ ก.กลาง (ก.จ., ก.ท. และ ก.อบต.) เมอื่ ๒๗ เมษายน ๒๕๕๙ ไมว่ า่ ป.ป.ช.จะชี้มลู ฐานใด
ก็ตาม ต้องปฏิบัตเิ ชน่ เดยี วกับฐานทจุ ริต จนกว่าจะมกี ารเปลย่ี นแปลง สว่ นคําพพิ ากษาศาลปกครองสงู สดุ ที่
อ.๑๐๓๗/๒๕๕๘ และ ฟ.๒๕/๒๕๖๐ ผูกพนั เฉพาะคกู่ รณี
รวบรวมโดย นิตกิ รพร หนา้ 24
คําถาม-ตอบวนิ ยั ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวทิ ย์ เปรื่องการ รวบรวมโดยนิติกรพร เทศบาลตําบลบะหว้า จงั หวัดสกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
ตามคาํ ถาม
๑. คําสงั่ ลงโทษออกก่อนหรอื หลงั รายงาน ก.จงั หวดั
๒. ทจุ รติ ปลดไดห้ รอื ไม่
สรุปสั้น
๑. หลังรายงาน ก.
๒. ไมไ่ ด้
ขยายความ
๑. การออกคาํ สั่งลงโทษทางวินัย แยกเป็น ๒ กรณี คือ
(๑) กรณีเห็นเป็นวนิ ยั อยา่ งไม่ร้ายแรงทงั้ กรรมการสอบสวนและนายกฯ ใหอ้ อกคําสัง่ ลงโทษ
(ภาคทณั ฑ์/ตัดเงนิ เดอื น/ลดขน้ั เงนิ เดอื น รวมท้งั วา่ กล่าวตกั เตือน/ยตุ ิเร่อื ง) แล้วรายงาน ก.จงั หวดั
(๒) กรณีเห็นวินัยอยา่ งร้ายแรง (แมเ้ พียงฝาุ ยเดยี ว ระหว่างกรรมการสอบสวนและนายกฯ) ให้
รายงานไปยัง ก.จงั หวัด แล้วรอออกคาํ สง่ั ตามมติ
๒. กรณคี วามผดิ ฐานทจุ รติ ตอ่ หนา้ ท่ีราชการ ต้องไลอ่ อกสถานเดยี ว ตามมติ ครม.เมอ่ื ๒๑ ธนั วาคม
๒๕๓๖ การนําเงนิ ท่ที จุ รติ ไปแล้วมาคืน หรือมเี หตุอันควรปรานีอืน่ ใดไมเ่ ปน็ เหตุใหล้ ดโทษเหลอื เป็นปลดออก
จากราชการ ตามหนังสอื สํานกั งานเลขาธิการ ครม. ที่ นร ๐๒๐๕/ว ๒๓๔ ลง ๒๔ ธันวาคม ๒๕๓๖
ขอบคุณ
************************
คาํ ถาม ๖/๖/๖๑
ท่านครับผมเป็นนิติกรบรรจใุ หม่ ขอเรียนถามว่า อบจ.ตงั้ กรรมการสอบวินยั รา้ ยแรง ผอ.กองฯ สอบได้ไม่
นาน พบวา่ ประธานกรรมการมสี ่วนกระทาํ ผดิ ดว้ ย ประเด็นคือ
1. ตอ้ งเปลย่ี นแปลงคาํ สงั่ หรอื ไม่
2. ถ้าต้องเปลี่ยน จะตั้งรองนายก อบจ.เป็นประธานแทนไดห้ รือไม่
ขอบคณุ ทา่ นครบั
ตอบ
คงจะใหมจ่ ริง ๆ ถงึ ขนาดจะเปล่ยี นประธานกรรมการสอบสวนวินยั ใหเ้ ปน็ รองนายก อบจ.
เรอื่ งนี้ขณะออกคาํ สงั่ ต้งั คณะกรรมการสอบน้นั ยังไม่พบวา่ ประธานกรรมการเกยี่ วขอ้ ง แตเ่ ม่ือสอบลกึ
จงึ พบ คาํ ตอบมีดงั นี้
๑. ตอ้ งเปล่ยี นแปลงคําสงั่
๒. ประธานกรรมการจะ
(๑) ต้องเปน็ ข้าราชการส่วนท้องถ่ิน (เทา่ นนั้ ) ตง้ั แตร่ ะดับอาํ นวยการกลางข้นึ ไป (บรหิ ารทอ้ งถิ่น
กลางขึน้ ไปดว้ ย)
(๒) แต่งตงั้ รองนายก อบจ.เปน็ ประธานกรรมการสอบวินยั ไมไ่ ด้ เพราะไมใ่ ชข่ ้าราชการ (แต่ตัง้ สอบ
ข้อเท็จจรงิ ได้)
ทั้งน้ี ตามหลักเกณฑ์และเงอ่ื นไขในการสอบสวน การลงโทษฑท์ างวินัย (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) ข้อ ๔๙
วรรคหนง่ึ ประกอบหนงั สือสาํ นักงาน ก.จ., ก.ท. และ ก.อบต. ที่ มท ๐๘๐๙.๖/ว ๔๑ ลงวนั ท่ี ๙ มิถนุ ายน
๒๕๕๙
ขอ้ แนะนาํ
รวบรวมโดย นิติกรพร หน้า 25
คาํ ถาม-ตอบวินัย ปี 2561 โดยอาจารย์ประวิทย์ เปรอื่ งการ รวบรวมโดยนติ ิกรพร เทศบาลตําบลบะหวา้ จังหวัดสกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
๑. ใหอ้ อกคําสงั่ ใหมอ่ กี ๑ คําสัง่ "เรอื่ ง เปลีย่ นแปลงคําสง่ั แตง่ ต้ังคณะกรรมการสอบสวนวนิ ยั อย่าง
ร้ายแรง" โดยใหท้ ้าวความถึงคาํ สงั่ เดมิ ด้วย
๒. ผจู้ ะถูกแตง่ ต้งั เปน็ ประธานกรรมการสอบสวน ตอ้ งเปน็ ระดบั ผอ.กอง ใน อบจ.ข้นึ ไปจนถงึ ปลดั
หากไม่มี ใหข้ อยมื ตวั จากตา่ งทอ้ งถิ่นเทา่ นน้ั (เปน็ ขา้ ราชการประเภทอื่นไม่ได)้
๓. สาํ หรบั การสอบสวนทพี่ บว่าประธานคนเดมิ อยใู่ นข่ายกระทําผดิ วินยั ด้วย ใหร้ ายงานนายก อบจ.
เพ่อื แต่งต้งั คณะกรรมการสอบสวนเปน็ อกี หนง่ึ คาํ สั่ง ถอื เป็นกรณสี อบพาดพงิ ถึงข้าราชการ อบจ.อน่ื ว่ากระทํา
ผิด ตามขอ้ ๗๑ ของหลกั เกณฑ์และเงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวนิ ัยฯ
ขอบคณุ ทุกความเห็น ครบั
********************
คําถาม ๑๑/๕/๖๑
เรียน ทา่ น ผอ.ครับ ผมทาํ หน้าทใ่ี นฝุายเลขานกุ าร ก.จังหวดั มีประเด็นคําถามว่า กรณี การ
ดําเนนิ การทางวนิ ัยพนกั งาน อปท.ซึง่ ปปช.ชม้ี ลู ความผดิ วินยั อยา่ งร้ายแรงฐานทจุ ริต โดยมผี ู้ถกู กล่าวหา
จาํ นวน 3 ราย ปปช.ตงั้ อนุกรรมการไตส่ วนในขณะที่ ทัง้ 3 เป็นพนกั งาน อปท.แต่ไดช้ มี ลู มายังต้นสงั กัด
ภายหลังจากผ้ถู กู กล่าวหาพน้ จากราชการไปแลว้ 2 ราย จงึ มีประเด็นคาํ ถามดังน้ี
1. กรณีผู้ทพ่ี ้นจากราชการไปแลว้ สามารถลงโทษทางวนิ ัย ไดห้ รือไม่ หากได้ จะมผี ลในวนั ได
ย้อนหลงั ไปวนั เกษียณ 30 ตลุ าคม หรอื เป็นวนั ณ ปจั จบุ นั
2. ฐานทุจรติ โทษไลอ่ อกสถานเดียวใช่หรอื ไม่ กรณอี นุวนิ ัยฯ มีความเห็นใหล้ งโทษปลดออก ก.
จังหวดั จะเหน็ ด้วยกบั อนุวนิ ยั ฯ ไดห้ รือไม่
3. กรณลี งโทษ ไล่ออก ยอ้ นหลงั ไป ณ วันทเี่ กษียณอายรุ าชการ เงินบาํ เหน็จ บาํ นาญทเี่ จา้ ตวั รับไป
แลว้ จะตอ้ งคืนกลบั อปท. หรือไม่
ขอทา่ น ผอ.ชว่ ยให้ความอนุเคราะห์ดว้ ยครบั /ขอบพระคุณมากครบั
ตอบ
หาก ป.ป.ช.ต้ังอนุกรรมการไตส่ วนไวแ้ ล้ว อยูร่ ะหว่างการไตส่ วน จะเหมอื นกรณนี ายก อปท.ต้งั
กรรมการสอบสวนวนิ ัยอยา่ งร้ายแรงไว้แลว้ แตย่ ังสอบไม่เสรจ็ ผ้ถู ูกกล่าวพน้ จากราชการไปก่อน เช่น ลาออก
หรือเกษยี ณอายรุ าชการ ซง่ึ มีใหเ้ ห็นเปน็ ประจํา เมือ่ ผลการสอบสวนเป็นวินยั อย่างไม่ร้ายแรง จะลงโทษไม่ได้
ให้งดโทษเสยี แตถ่ ้าเป็นวนิ ัยอยา่ งรา้ ยแรง ให้ลงโทษปลด/ไล่ออกจากราชการได้ เทยี บเคยี งข้อ ๒๘ วรรคหนึ่ง
ของหลกั เกณฑแ์ ละเงอ่ื นไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินยั (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙)
ตามคําถาม
๑. สง่ั ไลผ่ ู้พ้นราชการใหม้ ีผลวันใด
๒. ทุจริตปลดได้หรอื ไม่
๓. ไล่ตอ้ งคืนบาํ เหนจ็ บํานาญหรอื ไม่
สรปุ สัน้
๑. ย้อนไปถงึ วนั พน้
๒. ทุจรติ ต้องไล่
๓. ไล่ออก คนื บาํ เหน็จบาํ นาญ
ขยายความ
๑. กรณีท่ีพ้นจากราชการเพราะเหตุเกษยี ณอายรุ าชการ ใหอ้ อกคาํ ส่ัง ณ วนั ท่ปี ัจจุบัน แต่ใหม้ ผี ลใน
วนั เกษยี ณอายรุ าชการ (วนั ท่มี สี ภาพเปน็ ข้าราชการวนั สุดทา้ ย)
รวบรวมโดย นติ ิกรพร หนา้ 26
คาํ ถาม-ตอบวินัย ปี 2561 โดยอาจารย์ประวทิ ย์ เปรอ่ื งการ รวบรวมโดยนิติกรพร เทศบาลตาํ บลบะหวา้ จังหวดั สกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
๒. ฐานทจุ ริตต่อหนา้ ทร่ี าชการ เป็นวินยั อยา่ งรา้ ยแรง ตามขอ้ ๗ วรรคสาม หลักเกณฑ์วนิ ัยฯ ตอ้ ง
ลงโทษปลดออกหรือไลอ่ อกจากราชการ แต่เนื่องจากมติ ครม.เมอ่ื วนั ที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๓๖ ตามหนงั สือ
สาํ นักงานเลขาธิการ ครม.ท่ี นร ๐๒๐๕/ว ๒๓๔ ลงวันที่ ๒๔ ธนั วาคม ๒๕๓๖ กาํ หนดว่า "การทจุ รติ เงนิ ของ
ทางราชการ ควรลงโทษเป็นไลอ่ อกจากราชการ การนําเงินที่ทจุ ริตไปแล้วมาคนื หรอื มีเหตุอันควรปรานอี ่ืนใด
ไม่เปน็ เหตลุ ดหย่อนโทษเหลือเป็นปลดออกจากราชการ" แม้อนวุ ินัยจะทําความเหน็ เสนอวา่ ใหล้ งโทษปลด
ออกฐานทจุ ริตกต็ าม ไมผ่ กู พันท่ี ก.จงั หวดั จะต้องเหน็ ตาม ดงั นนั้ กรณีดังกลา่ ว ก.จังหวัดตอ้ งมีมติใหล้ งโทษไล่
ออกจากราชการเทา่ นน้ั ซงึ่ เม่อื นายก อปท.ออกคาํ ส่งั ลงโทษไล่ออกจากราชการและสง่ คาํ สง่ั ให้ ป.ป.ช.ตาม
มาตรา ๙๒ และ ๙๓ พ.ร.ป.ป.ป.ช. ๒๕๔๒ แลว้ ผู้ถกู ลงโทษจงึ มสี ทิ ธิ์ยนื่ อุทธรณ์คําสงั่ ลงโทษตอ่ ก.จงั หวัดอีก
ครัง้
๓. กรณีถูกลงโทษไลอ่ อกย้อนหลงั ไปถึงวันเกษียณอายุราชการ เปน็ เหตใุ ห้ต้องคนื บําเหน็จบาํ นาญทรี่ บั
ไปแล้วทั้งหมด
ขอบคุณสําหรับคาํ ตอบในบางหอ้ ง ครบั
************************
คําถามที่ ๑๑/๖/๖๑
จากเพชรบรุ ี ขออนญุ าตเรียนถามท่าน ผอ.ประวิทย์ นะคบั
.....กรณี อปท.ดําเนินการทางวินัยอยา่ งไม่รา้ ยแรงพนกั งานสว่ นทอ้ งถ่นิ จนออกคําสง่ั ลงโทษภาคทัณฑ์ แต่ใน
การดาํ เนินการนน้ั ได้แตเ่ พียงแต่งตงั้ คกก.สอบข้อเทจ็ จรงิ ไดม้ กี ารแจง้ ขอ้ กล่าวหาและหลกั ฐานทส่ี นับสนนุ ขอ้
กลา่ วหา ได้มกี ารสอบปากคาํ ได้มกี ารทํารายงานการสอบสวนทกุ อย่าง แตม่ ไิ ด้ดาํ เนนิ การแตง่ ตงั้ คกก.
สอบสวนวนิ ัยอย่างไม่รา้ ยแรง ตามแบบ สว.๑ ตลอดจนแบบ สว.๒, สว.๓, สว.๔ และ สว.๖
.....กรณีนจ้ี ะถือวา่ การดาํ เนนิ การดงั กล่าวข้างตน้ ของ อปท. ถูกต้องครบถ้วนแล้วตามข้อ ๒๔ วรรคสบิ เอ็ด ข้อ
๒๖ วรรคสาม และ สามารถส่งเร่ืองใหค้ ณะอนกุ รรมการพจิ ารณาการดาํ เนนิ การทางวินัยฯ ..หรอื ว่าจะต้องแจง้
ให้ อปท. กลบั ไปดาํ เนนิ การตงั้ คกก.สอบสวนวนิ ยั อยา่ งไมร่ า้ ยแรง ตามแบบ สว.๑ และดําเนินการตามแบบ
สว.๒, สว.๓, สว.๔ และ สว.๖ เสยี ให้ครบถ้วนถกู ตอ้ งกอ่ นคบั
...ขอขอบพระคณุ คบั ทา่ น
........
๗ ม.ิ ย. ๒๕๖๑
ตอบ
หลักการ
หลักเกณฑแ์ ละเงอื่ นไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินยั (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) กําหนดวา่
"ประเดน็ หลัก" ในการสอบวินัยอย่างไมร่ า้ ยแรง ใหด้ ําเนนิ การสอบสวนตามท่นี ายกฯ เห็นสมควร ตาม
ข้อ ๒๖ วรรคสาม
และเพอ่ื ให้เกดิ ความสะดวกในการปฏิบัติ ก.กลาง จงึ กําหนดเพ่มิ เติม คําว่า "ตามท่นี ายกฯ
เห็นสมควร" เช่น อาจ
๑. มอบหมาย ขรก.ผ้ใู ตบ้ ังคบั บญั ชาสอบสวนแทน
๒. ตง้ั กรรมการสอบสวนวนิ ัยอยา่ งไม่ร้ายแรง
กไ็ ด้ (ใหเ้ ปน็ ดลุ พนิ จิ )
รวบรวมโดย นิตกิ รพร หน้า 27
คําถาม-ตอบวินยั ปี 2561 โดยอาจารย์ประวิทย์ เปร่อื งการ รวบรวมโดยนติ ิกรพร เทศบาลตาํ บลบะหวา้ จังหวดั สกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
ตามขอ้ ๒๖ วรรคสามเช่นเดียวกนั แต่เปน็ "ประเดน็ รอง"
หวั ใจของการสอบสวนทางวินัยเพอ่ื นําผลไปลงโทษ มี ๓ ต้อง คอื
๑. แจง้ ขอ้ กล่าวหา
๒. สรปุ พยานหลักฐานเทา่ ทม่ี ี
๓. ให้โอกาสชแ้ี จง/นาํ สืบ
ตามขอ้ ๒๖ วรรคหน่งึ
หากข้อเท็จจริงปรากฏว่า นายกฯ ไดร้ ีบดาํ เนินการสบื สวนหรอื พจิ ารณาในเบอ้ื งต้น ตามขอ้ ๒๔
วรรคหา้ โดย..อาจ
๑. ต้ังกรรมการสบื สวนขอ้ เท็จจรงิ
๒. ตงั้ กรรมการสอบสวนขอ้ เทจ็ จรงิ
๓. ตัง้ กรรมการตรวจสอบขอ้ เทจ็ จริง
กไ็ ด้ แล้ว (ใหเ้ ป็นดลุ พนิ จิ )
ตามขอ้ ๒๔ วรรคแปด
นายกฯ จะสง่ั ลงโทษตามขอ้ ๘๔ (วนิ ัยอยา่ งไมร่ า้ ยแรง ไดแ้ ก่ ภาคทณั ฑ์ ตดั เงนิ เดือน ลดขน้ั เงินเดอื น)
โดยไมต่ ้องแต่งต้งั กรรมการสอบวนิ ัยอยา่ งไมร่ ้ายแรงอีกก็ได้ (เป็นดลุ พนิ จิ ) ตามข้อ ๒๖ วรรคส่ี
ดงั นัน้ เมอ่ื นายกฯ ไดด้ ําเนนิ การทางวนิ ยั โดยมีการสอบสวนและสง่ั ลงโทษภาคทณั ฑ์ แลว้ รายงาน
มายงั ก.จงั หวัด จงึ ชอบที่ ก.จังหวดั จะสง่ เรอื่ งให้อนุวินัยฯ ทาํ ความเห็นเสนอ โดยไม่ตอ้ งยอ้ นสาํ นวนกลบั ไปให้
นายกฯ ดาํ เนนิ การใหม่ แตอ่ ยา่ งใด ตามขอ้ ๘๗ วรรคหน่งึ
คําถามมี ๑ ประเด็น คอื
ต้องย้อนสาํ นวนให้ไปดําเนนิ การใหมห่ รือไม่
สรุปสั้น
ไมต่ อ้ งยอ้ น
ขยายความ (อีกครัง้ )
นายกฯ ตงั้ กรรมการสอบขอ้ เทจ็ จรงิ ซง่ึ กรรมการได้ดําเนนิ การ ๓ ตอ้ ง คอื ๑. แจง้ ข้อกลา่ วหา ๒.
สรปุ พยานหลกั ฐาน ๓. ให้โอกาสชีแ้ จง ครบถว้ น และออกคาํ สั่งลงโทษภาคทัณฑ์ ย่อมเปน็ การดาํ เนนิ การทาง
วินัยอย่างไมร่ า้ ยแรงท่ีชอบดว้ ยหลักเกณฑ์ฯ แล้ว ก.จงั หวดั จงึ ตอ้ งพจิ ารณารายงานการดาํ เนนิ การทางวินยั ราย
นี้ต่อไปตามลาํ ดบั โดยไมต่ อ้ งย้อนสํานวนแต่อยา่ งใด
ขอบคุณทกุ เสยี งทุกสาย ครบั
*********************
คําถาม ๑๕/๖/๖๑
รวบรวมโดย นติ กิ รพร หนา้ 28
คําถาม-ตอบวินยั ปี 2561 โดยอาจารย์ประวิทย์ เปร่ืองการ รวบรวมโดยนติ ิกรพร เทศบาลตําบลบะหวา้ จังหวดั สกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
สวัสดีครับหัวหนา้ ครับ อยากทราบกรณกี ารสง่ั พกั ราชการไม่มบี ญั ญตั ไิ ว้วา่ ตอ้ งผา่ นการเสนอความเห็น
ของอนวุ ินยั หรอื ไม่ และในคัมภรี จ์ อมยุทธ กไ็ ม่บอกกระบวนการไว้ ครับ
ตอบ
เมื่อหลักเกณฑ์และเงือ่ นไขในการให้ออกจากราชการ (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) มิไดก้ ําหนดไว้ ยอมเปน็
อํานาจดลุ พินจิ ของ ก.จงั หวดั โดยแท้ แต่อย่างไรก็ตาม เมอ่ื พจิ ารณาจากช่อื board ชุดเลก็ ตามขอ้ ๘๕ วรรค
หนง่ึ ของหลกั เกณฑแ์ ละเงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) แลว้ จะเห็นวา่ ชอ่ื
เตม็ ของอนวุ ินัยฯ คอื "คณะอนุกรรมการพจิ ารณาการดําเนนิ การทางวนิ ยั และการใหอ้ อกจากราชการ" ดงั นั้น
ยอ่ มตีความไดว้ า่ "การส่ังพกั ราชการ" ถอื เป็นการให้ออกจากราชการอยา่ งหนงึ่ ความเหน็ สว่ นตัว "ควรให้อนุ
วินัยฯ ทาํ ความเหน็ เสนอ" มากอ่ น
กรณดี ังกลา่ วไมป่ รากฏวา่ เคยมีการหารอื ไปยงั ก.กลาง แต่อย่างใด หากเห็นวา่ น่าจะมกี ารวางหลักให้
เกดิ ความชดั เจนมากกวา่ เดมิ ก.จังหวัด ควรต้ังประเด็นหารอื ไปยงั ก.กลางต่อไป
ขอบคุณครบั
*************************
คําถาม ๑๘/๖/๖๑
อาจารย์ครับรบกวนถาม ศาลตัดสนิ จาํ คุกคดพี ยายามฆา่ เจ้าตวั อุทธรณ์ ถามวา่ ตอ้ งมีคําสง่ั ให้ออกจาก
ราชการไว้กอ่ น หรอื มีทางอื่นขอคําแนะนําด้วยครบั
ตอบ
เหตใุ นการสง่ั ใหอ้ อกจากราชการไว้กอ่ น เป็นเหตุเดยี วกนั กบั การส่ังพกั ราชการ ตามข้อ ๑๔ ของ
หลักเกณฑ์และเงอ่ื นไขในการให้ออกจากราชการ (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) ดังน้ี
๑. ถกู แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวนิ ยั อย่างร้ายแรง และนายกฯ เห็นว่าอยตู่ อ่ ไปอาจเกดิ ความ
เสยี หายแก่ราชการ
๒. ถกู ฟูองคดีอาญา ในเรือ่ งเกีย่ วกบั หนา้ ที่ หรอื ความประพฤติ (เว้นแต่ประมาทหรอื ลหโุ ทษ) อัยการ
ไม่รบั เปน็ ทนายให้ และนายกฯ เห็นวา่ อยตู่ ่อไปอาจเกดิ ความเสยี หายแกร่ าชการ
๓. มพี ฤติการณจ์ ะเปน็ อุปสรรคต่อการสอบสวนพจิ ารณา หรอื กอ่ ความไมส่ งบขึน้
๔. ถกู ควบคมุ หรอื ขงั ในคดีอาญาตดิ ตอ่ เกนิ ๑๕ วันแล้ว
๕. ศาลมีคําพิพากษาถึงท่สี ุดว่ากระทําผดิ ในเร่ืองทส่ี อบสวนนนั้ และนายกฯ เหน็ วา่ ข้อเทจ็ จรงิ ตามคํา
พิพากษาชดั แล้วว่าผิดวนิ ัยร้ายแรง
นายกฯ โดยความเห็นชอบของ ก.จังหวัด จะสั่งพักราชการเพือ่ รอผลกไ็ ด้ กรณีหากการสอบสวนหรือ
พิจารณาจะไมแ่ ล้วเสรจ็ โดยเร็ว อาจสั่งให้ออกจากไว้กอ่ นอกี ช้ันหนึ่ง โดยความเห็นชอบของ ก.จงั หวดั ก็ได้ ตาม
ขอ้ ๑๙ และ ๒๐ ทั้งเปน็ ดลุ พนิ จิ ของนายกฯ
คําถามมปี ระเดน็ เดียว คือ
จะใหอ้ อกไว้กอ่ นตอนนี้ ได้หรือไม่
สรปุ ส้นั
ไม่ควร
รวบรวมโดย นติ ิกรพร หน้า 29
คาํ ถาม-ตอบวนิ ยั ปี 2561 โดยอาจารย์ประวทิ ย์ เปรอ่ื งการ รวบรวมโดยนิติกรพร เทศบาลตําบลบะหว้า จงั หวัดสกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
ขยายความ
เร่อื งนไ้ี ม่ใช่เร่อื งการปฏบิ ัตหิ น้าท่ี แมจ้ ะเกี่ยวกบั พฤตกิ รรมก็ตาม ไมค่ วรสง่ั ใหอ้ อกจากราชการไวก้ อ่ น
เพราะ
๑. หากเห็นวา่ จะสง่ั ใหอ้ อกจากราชการไว้กอ่ น ในเรอ่ื งที่ถกู ฟูองคดีอาญาอันเนือ่ งมาจากความ
ประพฤติ ก็ควรสัง่ ใหอ้ อกไว้ก่อนต้งั แตเ่ รม่ิ ถกู ฟูองคดอี าญาแล้ว ไม่ควรให้ล่วงเลยมาถงึ ศาลช้ันต้นตดั สนิ ให้
จาํ คุก และขอ้ เท็จจรงิ ได้รบั การประกันตวั เพอ่ื สคู้ ดีในช้นั ศาลอทุ ธรณ์ดว้ ย
๒. เมอ่ื คาํ พิพากษายงั ไมถ่ ึงทสี่ ดุ ควรให้โอกาสเขาปฏิบัติหนา้ ทร่ี าชการต่อไป เว้นเสียแต่มพี ฤตกิ รรมที่
นายกฯ เห็นว่าอยูต่ อ่ ไปจะเกิดความเสียหายแกร่ าชการ หลงั ศาลมีคําพพิ ากษาอกี เทา่ น้ัน
ขอ้ สงั เกต
ว.๔ ปี ๐๙ วางแนวทางกรณีข้าราชการต้องหาคดีอาญา หรอื ถูกฟอู งคดีอาญาว่า ผบู้ งั คับบัญชาตอ้ ง
ดาํ เนินการทางวนิ ัยไปพรอ้ มกนั ดว้ ย จากคําถามดังกลา่ ว ไมพ่ บวา่ มกี ารแตง่ ต้ังกรรมการสอบวินยั รา้ ยแรงแล้ว
หรอื ยงั ถา้ ยัง..ตอ้ งรีบตงั้ กอ่ นจะมกี ารรอ้ งเรียนวา่ "ละเวน้ "
ขอบคณุ ครบั
*****************************
คาํ ถาม ๒๐/๖/๖๑
ท่าน ผอ.ผมดีใจท่ีเจอทา่ น ที่ทาํ งานผมขา้ ราชการเรียกเงินขา้ ราชการตอนสอบขา้ ราชการ อปท.จบั ไดม้ ี
หลักฐาน แตท่ กุ วนั นีเ้ ขายงั ทํางานอยู่ และขม่ ขคู่ นรอ้ งเรียนตลอด สังคมมนั นา่ กลัวมากขึน้ ทุกวนั เขายังดํารง
ตาํ แหน่งและยมื เงินคนไร ทปท่ัวติดการพนันทําได้หมดท.ุ .กอยา่ ง ยง่ิ ตอนนหี้ นกั เลยเพราะมบี อลโลก ผมเองก็
ถกู ยืมแตไ่ มม่ ใี ห้ สงสารแตต่ นอืน่ ทใ่ี หย้ มื ไม่มใี ครได้คืนเลย จะทําอยา่ งไรดกี บั คนพนั ธุน์ ้ี
ขอบคุณครับ
ตอบ
พฤติกรรมการ "ตกเบ็ด" เห็นบอ่ ยคร้ังทีม่ กี ารเปิดสอบบรรจเุ ขา้ รับราชการ หรือสอบเลือ่ นช้ันเล่อื น
ระดับ ถ้าสอบไมไ่ ดก้ บ็ อกใหม้ ารับเงนิ คืน เปน็ เรือ่ งน่าคดิ กรณนี ีเ้ ปน็ ปญั หา "โลกแตก" และคงมอี ยู่ต่อไปตราบ
ทย่ี ังมีการสอบเข้ารบั ราชการ หรือสอบเลอื่ นชนั้ เลอื่ นระดบั
สิ่งท่นี ่าเป็นห่วงกค็ อื การใช้ตําแหน่งหนา้ ที่หาประโยชน์ เป็นอนั ตราย ทําให้ภาพลกั ษณข์ ององคก์ ร
เสยี หาย ยิง่ มกี ารขม่ ขู่ด้วยแลว้ คงไมต่ ้องบรรยาย..!!
การยมื เงินคนอืน่ ไปท่วั แลว้ ไมช่ าํ ระหน้ี การอ้างวา่ สามารถช่วยพาใหส้ อบไดแ้ ล้วเรยี กเงิน การติดการ
พนันทกุ ชนดิ ถงึ ข้ัน "ตดิ งอมแงม" การขม่ ข่คู กุ คามสารพัดวธิ ี ล้วนแตเ่ ปน็ ความผดิ วนิ ยั "ฐานประพฤติชว่ั " ทงั้ สิ้น
ตามหลกั เกณฑ์และเงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวนิ ยั (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) ข้อ ๒๓ เทียบกบั
พ.ร.บ.ระเบียบขา้ ราชการพลเรอื น พ.ศ.๒๕๕๑ มาตรา ๘๒ (๑๐) ประกอบมาตรา ๘๕ (๔) เพราะทกุ กรณมี ี
โทษถงึ ปลดออก/ไลอ่ อก และอาจผิดวินยั ฐานอ่ืนอีก ไม่นบั คดแี พง่ คดีอาญาซึง่ ผิดแนน่ อน
อา่ นคําถามแลว้ เหมือน "บ่นใหฟ้ ัง" แตเ่ ชื่อวา่ เรอ่ื งนผ้ี ู้บังคบั บญั ชาของผู้น้นั คงทราบและดําเนินการอยู่
แลว้ จากข้อความที่วา่ "ยืมเงินคนไปทวั่ " เพียงแตค่ นนอกไมร่ ู้ และใจร้อนเลยกงั วล การร้องเรียนไปหน่วยตา่ ง
ๆ ซ่งึ รบั ผิดชอบเปน็ ช่องทางท่ีน่าลอง แต่ไม่แนะนาํ ใหร้ ้องหลายแหง่ เป็นการเพมิ่ งานใหเ้ จ้าหน้าที่ เพราะ
สดุ ท้ายเร่อื งเดยี วกันกจ็ ะมากองอยูก่ บั เจ้าหน้าท่ผี รู้ บั ผิดชอบคนเดยี ว
ขอบคุณทกุ การแชรค์ รบั
รวบรวมโดย นติ ิกรพร หนา้ 30
คาํ ถาม-ตอบวินัย ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวทิ ย์ เปรือ่ งการ รวบรวมโดยนิติกรพร เทศบาลตาํ บลบะหว้า จงั หวดั สกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
**********************
คาํ ถาม ๒๕/๖/๖๑
เรียน อาจารย์ครบั ผมเปน็ หวั หนา้ ฝาุ ยธรุ การ สงั กดั เทศบาล มีเรื่องถามอาจารย์ ดงั น้ี นกั วิชาการพัสดุ ไม่
เบิกเงินคา่ วัสดสุ าํ นักงานใหบ้ ริษัท เปน็ เงนิ 25,800 บาท บรษิ ทั มาทวงโดยไดเ้ ข้ามาพูดคยุ กบั นายก ปลดั ผอ.
กองคลงั และนกั วิชาการพสั ดุ และตกลงกันวา่ ใหน้ กั วิชาการพัสดชุ ดใช้ 25,800 และนายกจะช่วยชดใช้
12,900 แต่ไมม่ ีการดําเนนิ การทางวนิ ยั (ปลัดเสนอ) ประมาณให้เร่อื งเงียบ (เนือ่ งจากมผี ลประโยชน์ทบั ซอ้ น
มากมายในองค์กรน)้ี จงึ อยากถามอาจารยว์ า่ ถ้าเกิดมเี รอ่ื งรอ้ งเรยี นขึน้ มา นายก ปลัด ผอ.คลงั ผิดวินยั หรอื
เปล่าครับ ที่ไม่ดําเนนิ การทางวนิ ัย นกั วิชาการพัสดุ
หมายเหตุ ที่ปลัดไมด่ ําเนนิ การทางวินัยกับนกั วชิ าการพัสดุ เพราะเกรงวา่ หากตัง้ คกก.สอบสวน เร่ืองอาจจะ
สาวมาถึงตัวปลัด และ ผอ.กองคลงั ครบั
ตอบ
อันตรายเหลอื ! ถ้าคนในองคก์ รรักกนั ทกุ คน เรอ่ื งมนั จะถูกซกุ ใตพ้ รมไปจนกว่าจะขัดแย้ง เม่อื ถงึ วัน
นั้น ตัวใครตัวมัน ตามเร่ืองเลา่ เขาห้ามเกิดในยคุ THAILAND 4.0 หวั หน้าหน่วยตอ้ ง Action เพื่อลดความ
แรงของกระแส ไมค่ วรน่ิง อย่าลมื วา่ ! "ความลับไมม่ ใี นโลก" ขนื ปลอ่ ยไว้ มนั จะกลายเปน็ ระเบดิ ปรมาณู เข้าสกั
วนั !!!
คําถามมีประเดน็ เดียว คอื
ผ้บู ังคบั บญั ชาที่กลา่ วมาทง้ั หมด ผิดไหม ?
สรปุ ส้ัน
ผิด (เต็ม ๆ)
ขยายความ
หลกั เกณฑ์และเง่ือนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินยั (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) ขอ้ ๒๔ วรรคส่ี
กําหนดวา่ "เม่ือปรากฏกรณมี ีมลู ทค่ี วรกล่าวหาวา่ ข้าราชการส่วนท้องผใู้ ดกระทาํ ผิดวนิ ยั โดยมพี ยานหลกั ฐาน
ในเบือ้ งตน้ อยแู่ ล้ว ให้ผบู้ รหิ ารทอ้ งถน่ิ ดําเนินการทางวนิ ยั ทนั ท"ี วรรคสบิ สอง ว่า "ผูบ้ ังคบั บญั ชาผูใ้ ด (หัวหนา้
งาน-นายกฯ) ละเลยไม่ปฏบิ ตั ิหน้าท่ีตามขอ้ นี้..ใหถ้ อื วา่ ผนู้ น้ั กระทาํ ผดิ วนิ ยั ในกรณีผบู้ ังคับบัญชาเป็นผบู้ รหิ าร
ทอ้ งถ่ิน ใหถ้ อื ว่าไม่ปฏบิ ัตกิ ารตามอาํ นาจหน้าทโ่ี ดยถูกตอ้ งดว้ ยกฎหมาย กฎ ระเบียบ แลข้อบงั คบั ของทาง
ราชการ"
เรอื่ งนแี้ ยกความรบั ผิดเปน็ ๒ กลมุ่
กลุ่มท่ี ๑ ได้แก่ ฝุายการเมอื ง คอื นายกฯ ต้องถกู ผ้กู าํ กับดแู ลสอบเพื่อถอดถอน
กล่มุ ท่ี ๒ ไดแ้ ก่ ฝุายข้าราชการประจาํ ทกุ ตาํ แหนง่ ตอ้ งถกู สอบวนิ ยั อยา่ งรา้ ยแรง อาจถงึ ขน้ั ทจุ ริตตอ่
หนา้ ที่ราชการ เพราะใหผ้ อู้ ่ืน (นวช.พสั ดุ) ไดป้ ระโยชน์ทมี่ ิควรได้
น่ยี ังไม่พดู ถงึ คดอี าญา ทผ่ี ูเ้ กีย่ วข้องจะต้องรบั โทษจาํ คุก ตามมาตรา ๑๕๗ อกี ตา่ งหาก
ข้อแนะนํา
นายกฯ ควรสอบ อยา่ หมก !! เพราะมันหนกั กว่าทคี่ ิดหลายเทา่ ตัว โดยเฉพาะในยคุ ป.ป.ช.เฟือ่ งฟู
อย่างปจั จบุ นั
ขอบคณุ ทกุ ความเหน็ ครบั
*********************
รวบรวมโดย นิติกรพร หนา้ 31
คาํ ถาม-ตอบวินัย ปี 2561 โดยอาจารย์ประวิทย์ เปรอื่ งการ รวบรวมโดยนติ กิ รพร เทศบาลตาํ บลบะหวา้ จังหวดั สกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
คําถาม ๒๗/๖/๖๑
ผอ.คลงั รายงานไปจงั หวดั ว่าเงินขาดบญั ช.ี .และเทศบาลตัง้ คกก.สอบข้อเทจ็ จรงิ ได้ความว่าเปน็ เงินล้าํ เงิน
สะสม..ปลัดใหร้ ายงานจังหวัดไปในการสรปุ ครงั้ แรก..คือปลดั เหมือนจะกกั เร่อื ง รายงานแบบง่ายไม่..แตค่ ลัง
จงั หวัดใหป้ ระชมุ กันใหมว่ า่ จะทาํ ยงั งัย..คกก.สอบใหม่ แตผ่ มไมไ่ ดเ้ ข้าประชมุ ด้วย..ไมท่ ราบเหมือนกนั ว่าทําไม
ไม่ให้ผมเขา้ ประชุม..แตผ่ มถามหัวหน้าสาํ นกั ปลดั สรปุ กันวา่ ..ให้ ผอ.นําเงนิ มาคืน...แล้วเรื่องก็เงียบไป...จน
ล่วงเลยมาถงึ วันนี้ ผอ.มาถามผมวา่ สรุปเร่อื งใหเ้ ขาหรอื ยัง เพราะเขาอยากยา้ ย...และมาวานใหต้ ามเรอ่ื งให้ ผม
ไมร่ จู้ ะทาํ งัยเพราะเรอ่ื งมันเลยเวลามามากแลว้ ..ตอนเขาประชมุ กันครัง้ สดุ ทา้ ยทไี่ ม่ใหผ้ มเข้าดว้ ยรายงานการ
ประชุมก็ไมม่ ี
ช่วยหาทางออกให้ ผอ.คลังดว้ ยครบั เพราะอยากยา้ ยแลว้
ตอบ
ปัญหาน้ี เพ่งิ ตอบคําถาม ๒๕/๖/๖๑ ไป ถึงผลกระทบทผ่ี ้บู งั คับบญั ชาละเลยหรอื ไมส่ จุ ริต ทจี่ ะ
ดาํ เนินการตามหลกั นติ ิธรรม (Rule of law) โดยมุง่ แตจ่ ะดาํ เนินการทางบรหิ ารอย่างเดยี ว ถา้ ไมม่ ีใครรู้
มากกวา่ ผบู้ ังคับบญั ชากับผกู้ ระทําผดิ ก็ดีไป แต่ถา้ ไม่ ! เส่ยี งแนน่ อน...!!!
คําถามมีเพยี งว่า
ตอ้ งการโอน (ยา้ ย) ตอนนี้ ตอ้ งรอไหม
สรปุ สนั้
ไมต่ ้องรอ
ขยายความ
การเลือกถน่ิ ทอี่ ยเู่ ปน็ สทิ ธแิ ละเสรีภาพข้นั พ้ืนฐานของปวงชนชาวไทย ตามความในมาตรา ๓๘
รฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย พทุ ธศักราช ๒๕๖๐ การจํากัดสทิ ธแิ ละเสรีภาพดังกล่าวจะกระทาํ มไิ ด้ ซึ่ง
การโอน (ย้าย) ข้าราชการส่วนท้องถนิ่ กม็ ิไดม้ ีกฎหมายใดกาํ หนดห้าม หากเป็นความประสงคข์ อง อปท.ตน้
ทาง หนว่ ยราชการปลายทาง และตัวผนู้ น้ั เอง แมก้ ารกระทาํ ผดิ วินัยกไ็ ม่อาจอา้ งเป็นสาเหตหุ า้ มมิให้โอน (ยา้ ย)
ได้ เนือ่ งจากหลกั เกณฑ์ในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) ข้อ ๗๔ กําหนดในเชิง
สนบั สนนุ วา่ "ในระหวา่ งการสอบสวน แม้จะมกี ารสงั่ ให้ผถู้ กู กลา่ วหาไปอยนู่ อกบงั คับบญั ชาของนายกฯ ผสู้ ั่ง
แตง่ ตัง้ คณะกรรมการสอบสวน ใหค้ ณะกรรมการสอบสวนทาํ การสอบสวนต่อไปจนแล้วเสร็จ.." ย่อม
หมายความวา่ แม้ถูกแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวนิ ยั แลว้ ยังสามารถโอน (ย้าย) ได้ มิพักตอ้ งคาํ นึงถงึ
กรณีท่ียังไมม่ กี ารแตง่ ตงั้ เลย เพราะหากพบมลู การกระทําความผดิ วนิ ัยในภายหลงั นายกฯ สังกดั เดมิ สามารถ
แจ้งเปน็ หนงั สอื ช้มี ลู ตามไปยงั สงั กดั ใหมข่ องผู้นั้น เพ่อื ให้แตง่ ตง้ั คณะกรรมการสอบสวนทางวนิ ยั ได้ ตามขอ้ ๒๔
วรรคส่ี หลกั เกณฑ์เดียวกัน
ข้อแนะนํา
ให้ยน่ื เรอ่ื งขอโอน (ยา้ ย) ได้เลย ถา้ ใจปรารถนา โดยไมต่ อ้ งรอท่าสงิ่ ใด
ขอบคณุ ทุกท่านท่ีร่วมตอบปัญหานี้ ครับ
***************************
คําถาม ๒๙/๖/๖๑
กราบสวสั ดคี ะทา่ น หนเู พงิ่ ไดร้ ับการบรรจเุ มือ่ วันที่ 1 ก.พ.ทผ่ี า่ นมา ในตําแหนง่ พสั ดุ หลงั จากนัน้ ประมาณ
2 อาทิตย์ นายก อบต.ได้ออกคําส่ังแตง่ ต้ังใหห้ นูรกั ษาการ ผอ.กองคลงั แล้วกม็ เี หตุการณ์เกดิ ข้นึ ต่างกรรมตา่ ง
วาระ เม่ือนายก อบต.สงั่ ใหห้ นเู บิกเงนิ ใหห้ ลายครง้ั โดยไม่มเี อกสารหรอื ฎีกาประกอบการเบิกจ่ายแต่อย่างใด
รวบรวมโดย นิตกิ รพร หนา้ 32
คําถาม-ตอบวินัย ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวทิ ย์ เปรอ่ื งการ รวบรวมโดยนติ ิกรพร เทศบาลตาํ บลบะหว้า จังหวดั สกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
ใหเ้ ซน็ เช็คเปลา่ หนไู ด้บนั ทกึ ทกั ท้วง แต่นายก อบต.กย็ ังยนื ยนั ให้หนูเบิก หนจู าํ เปน็ ต้องเบกิ ให้ เพราะแกขู่ว่า
ถา้ ไม่เบิกจะไมใ่ หผ้ า่ นทดลองงาน หนกู ลุ้มใจมาก จะทาํ อยา่ งไรดี ถึงจะหนอี อกจากทนี่ ่ไี ด้ เพราะหาก สตง.
หรือ ป.ป.ช.ลงมาตรวจอยา่ งทีพ่ ่ี ๆ บอก หนตู อ้ งโดยไล่ออกแน่ ๆ แตท่ ี่หนกู ลัวยง่ิ กว่า คอื กลัวติดคุก ชว่ ย
ชแ้ี นะดว้ ยคะ่ ท่าน
ตอบ
กรรมแท้ ๆ !! จะติดคกุ แบบไม่ทนั ตง้ั ตวั ..ดบั เครอื่ งชนดีกวา่ ไหม ?
คําถามมีคาํ ตอบอยู่ในตวั เองแล้ว เพราะข้อ ๑๓ ของหลกั เกณฑ์และเงือ่ นไขในการสอบสวน การ
ลงโทษทางวินัย (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) กาํ หนดโดยสรุปวา่ ..ตอ้ งปฏบิ ตั ิตามคาํ สง่ั ของผบู้ ังคบั บัญชาซง่ึ สง่ั ใน
หน้าท่ีราชการโดยชอบดว้ ยกฎหมายและระเบียบของทางราชการโดยไม่ขัดขนื หรอื หลีกเลยี่ ง แตถ่ ้าเหน็ วา่ จะ
เสียหายแกร่ าชการ หรอื จะเป็นการไมร่ กั ษาประโยชนข์ องทางราชการ หรือเปน็ คาํ สงั่ ทไ่ี มช่ อบดว้ ยกฎหมาย
ต้องเสนอความเหน็ เปน็ หนังสอื ทันทีเพอ่ื ใหผ้ ูบ้ งั คับบญั ชาทบทวนคาํ ส่ังน้ัน ถ้าผบู้ งั คบั บญั ชายังยืนยันใหป้ ฏิบตั ิ
ตามเป็นหนงั สือตอ้ งปฏบิ ตั ติ าม..ซงึ่ กรณดี ังกล่าวมีการขอใหท้ บทวนแล้ว และยงั มีการยืนยัน (ไมท่ ราบว่ายืนยัน
เปน็ หนงั สอื หรอื ไม)่ ในทางวนิ ยั ถอื วา่ มโี อกาสรอด
ขอ้ แนะนาํ
ควรนําเรียนให้ท่านนายอําเภอและท่านทอ้ งถิ่นจงั หวัดรบั ทราบเพอ่ื ช่วยพจิ ารณาหาทางแกไ้ ขโดยดว่ น
และไม่ควรทําแบบนีอ้ ีกตอ่ ไป หยุดเดี๋ยวนี้ !! และหยุดทันที !!!
ขอบคณุ ทุก ๆ ความเหน็ ครบั
********************
คาํ ถาม ๒/๗/๖๑
เรยี นถามท่าน ผอ.ครบั เมื่ออาทติ ย์ก่อน พนกั งานส่วนตาํ บลหลายคนกาํ ลงั มงุ ดทู ีวสี รปุ ขา่ วผลการแข่งขัน
ฟตุ บอลโลก ซึ่งนายกฯ เดินผ่านมาพอดจี ึงหยดุ ดดู ้วย ระหวา่ งนน้ั จัดเก็บฯ ไดท้ วงค่าพนนั บอลกบั ปอู งกนั ฯ
และถกเถียงจนเกิดการชกต่อยกันต่อหน้านายกฯ นายกฯ สง่ั ให้ปลดั ออกคาํ ส่ังตงั้ กรรมการสอบสวนวินัย จึง
เรยี นถามว่า
1. พฤติกรรมของคกู่ รณีเกดิ ข้นึ ต่อหนา้ นายกฯ ถือเปน็ ความผิดท่ปี รากฏชดั แจง้ หรอื ไม่
2. นายกฯ จะตั้งกรรมการวินยั โดยไมส่ อบข้อเทจ็ จรงิ กอ่ น ไดห้ รอื ไม่
3. พฤติกรรมของคูว่ วิ าท ผดิ วนิ ัยขอ้ ใดบ้าง
ขอบพระคณุ ท่านมากครบั
ตอบ
วันน้.ี .ฟุตบอลโลก อาจเปลยี่ นชีวติ ของคนอีกหลายคน แม้แตค่ นท่เี ป็น "ข้าราชการ" ตอบคาํ ถามทงั้ ๓
ประเด็น
สรุปสนั้
๑. ชัดเจน แตไ่ มใ่ ช่ "ชัดแจง้ "
๒. ได้
๓. ฐานไมร่ ักษาความสามคั คี ประพฤติชวั่ เปน็ ตน้
ขยายความ
๑. ความผดิ ท่ปี รากฏชัดแจ้งทางวินยั ซงึ่ นายกฯ สามารถสงั่ ลงโทษโดยไมส่ อบสวนหรอื งดการสอบสวน
ได้นัน้ มี ๓ ลกั ษณะ คือ
รวบรวมโดย นติ ิกรพร หนา้ 33
คาํ ถาม-ตอบวินยั ปี 2561 โดยอาจารย์ประวทิ ย์ เปรอ่ื งการ รวบรวมโดยนิตกิ รพร เทศบาลตาํ บลบะหวา้ จังหวัดสกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
(๑) กระทาํ ผดิ อาญาและมคี าํ พิพากษาถงึ ที่สุดวา่ "ผดิ "
(๒) กระทาํ ผดิ และรบั สารภาพเป็นหนังสอื ต่อนายกฯ หรือผ้มู หี นา้ ทีส่ บื สวน สอบสวนทางวนิ ัย
(๓) ขาดราชการติดตอ่ ในคราวเดียวเกนิ ๑๕ วนั (พนักงานจา้ ง/ลกู จ้าง ๗ วนั ) และนายกฯ สบื สวน
แล้วเหน็ วา่ ไม่มเี หตผุ ลอันสมควร
ตามหลักเกณฑก์ ารสอบสวน ข้อ ๔๕ และขอ้ ๔๖ เทา่ นัน้ จงึ จะถอื เป็นความผดิ ทปี่ รากฏชดั แจง้ ได้
กรณกี ระทาํ ผิดวินยั ต่อหนา้ นายกฯ เป็นเพียง "ชดั เจน" เพราะประจกั ษ์ต่อสายตานายกฯ แต่ไม่ใช่ "ชดั แจง้ "
ตามหลกั เกณฑน์ ้ี
๒. การสอบข้อเท็จจรงิ คือ การแสวงหาข้อเทจ็ จรงิ หรือแสวงหามลู ความผิดวา่ ได้ทาํ ผิดวนิ ยั หรือไม่
ก่อนทีน่ ายกฯ จะแตง่ ตง้ั กรรมการสอบวนิ ัย (มักเกดิ จากการร้องเรยี น โดยขอ้ เทจ็ จรงิ ยังไมป่ ระจกั ษ์ตอ่ นายกฯ)
เมอื่ แสวงหาขอ้ เท็จจรงิ โดยตั้งกรรมการสบื สวน สอบสวน หรอื ตรวจสอบขอ้ เทจ็ จรงิ แลว้ ไมพ่ บมลู ความผิดกใ็ ห้
ยตุ เิ ร่อื งเสยี แตถ่ า้ พบมลู ความผิดต้องดําเนินการทางวินยั ทันที ตามหลกั เกณฑ์วนิ ยั ขอ้ ๒๔ วรรคห้า และวรรค
สบิ
แตส่ ําหรบั ประเด็นคําถาม เปน็ เหตกุ ารณ์ทีเ่ กิดขนึ้ ซง่ึ หนา้ นายกฯ ประจกั ษ์ชดั เจน ถือเปน็
พยานหลกั ฐานในเบอ้ื งตน้ แลว้ จงึ ไม่จาํ ต้องแสวงหามลู ความผดิ หรือแสวงหาข้อเทจ็ จรงิ เพ่ิมเติมใด ๆ อกี
นายกฯ สามารถตั้งกรรมการสอบวนิ ัยได้ทันที ตามหลักเกณฑ์วนิ ัย ข้อ ๒๔ วรรคสี่ (เว้นแตน่ ายกฯ ตอ้ งการ
ทราบข้อเทจ็ จรงิ ในประเดน็ อนื่ เพมิ่ เตมิ )
๓. พฤติกรรมดงั กลา่ ว ตามหลกั เกณฑแ์ ละเงอ่ื นไขในการสอบสวน การลงโทษทางวนิ ัย (พ.ศ.๒๕๕๘/
๒๕๕๙) อาจผดิ วนิ ยั หลายฐาน เชน่ ข้อ ๑๘ ฐานไม่รกั ษาความสามัคคี (ทะเลาะววิ าท) ข้อ ๒๓ ฐานประพฤติ
ชั่ว (เลน่ การพนนั ) ขอ้ ๑๗ ฐานทอดทิง้ หน้าทีร่ าชการ (ตัวอยูแ่ ต่ไมท่ าํ งาน) เป็นตน้
ขอบคุณทกุ ความเห็น ครับ
*********************
คาํ ถาม ๑๖/๗/๖๑
เรยี น ท่านผอ. ประวทิ ย์ ครับ ขอเรียนสอบถาม การย่ืนอทุ ธร์ ต้องให้ ก.จังหวัด พจิ ารณากอ่ นหรือไมว่ ่า
สามารถรบั ไดห้ รือไม่ แล้วคอ่ ยส่งต่อใหอ้ นุอุทธรณ์ ทําความเหน็ หรอื เมอื่ มผี ยู้ ่ืนอุทธรณ์ตอ่ ประะ ก.จงั หวัด
แลว้ สามารถสง่ ต่อใหอ้ ุทธรณ์
ตอบ
หลักเกณฑแ์ ละเงื่อนไขในการอทุ ธรณ์และการร้องทกุ ข์ พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) ขอ้ ๑๖
วรรคสอง "ในกรณมี ปี ญั หาวา่ อทุ ธรณร์ ายใดเป็นอทุ ธรณท์ ่ีจะรบั ไวพ้ ิจารณาได้หรอื ไม่ ให้ ก.จงั หวดั เป็น
ผ้พู ิจารณาวินิจฉัย"
วรรคสาม "ในกรณี ก.จงั หวดั มมี ติไมร่ บั อุทธรณไ์ ว้พจิ ารณา ให้ ก.จงั หวดั แจง้ มตนิ ้ันใหผ้ ้อู ทุ ธรณท์ ราบ
เปน็ หนงั สอื และเมื่อ ก.จังหวดั มมี ติเป็นประการใด ผู้อทุ ธรณ์จะอทุ ธรณ์ต่อไปอีกมิได"้
ประเดน็ คาํ ถาม คอื
อุทธรณ์ที่มปี ญั หาว่าจะรบั ไว้พจิ ารณาไดห้ รอื ไม่ ตอ้ งปฏิบตั ิอยา่ งไร
สรปุ ส้ัน
รวบรวมโดย นติ กิ รพร หนา้ 34
คําถาม-ตอบวินัย ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวทิ ย์ เปรือ่ งการ รวบรวมโดยนติ กิ รพร เทศบาลตาํ บลบะหวา้ จังหวดั สกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
ให้ ก.จังหวดั พิจารณา
ขยายความ
๑. การอทุ ธรณ์คําสัง่ ลงโทษทางวนิ ยั หรือคําสง่ั ใหอ้ อกจากราชการ ๖ ลักษณะ ตามปกตติ อ้ งปฏบิ ตั ใิ ห้
เปน็ ไปตามหลกั เกณฑแ์ ละเง่ือนไขในการอุทธรณ์และการร้องทกุ ข์ฯ ทกุ ประการ
๒. กรณีมีปญั หาวา่ อุทธรณร์ ายใดจะรบั ไวพ้ จิ ารณาไดห้ รอื ไม่ ย่อมเปน็ อุทธรณ์ท่ไี มเ่ ป็นไปตามข้อ ๑. ที่
กล่าวแลว้ ดงั น้นั ฝาุ ยเลขานกุ ารจงึ ตอ้ งนําเสนอ ก.จงั หวดั เพอ่ื พิจารณากอ่ นเข้าสกู่ ารพจิ ารณาอทุ ธรณต์ ามปกติ
ต่อไป
ขอบคณุ ทกุ ความเหน็ ครบั
*********************
คําถาม ๒๔/๗/๖๑
ท่านคะเห็นเพอ่ื นเขาพูดกันว่ากฎหมาย ป.ป.ช.ออกมาใหม่ หลายคนบน่ ว่า "อยากลาออก" เพราะเชือ่ วา่
ทอ้ งถ่ินต้องเปน็ เปูาหมายใหญแ่ นน่ อน หากโดน ป.ป.ช.ช้มี ลู แคอ่ อกคงไม่เทา่ ไหร่ แต่จะตดิ คกุ อีกนซ่ี ิ รบั วา่ ทาํ
ใจไม่ได้ หนูเรม่ิ กงั วลเพราะตําแหนง่ ทท่ี าํ อยู่คือพสั ดุ ขอเรียนถามวา่ กฎหมาย ป.ป.ช.มแี นวทางท้ังคดอี าญา
และวินัย แตกตา่ งจากเดมิ หรอื ไม่ เบาลงหรือแรงขึน้ มที างออกใหบ้ า้ งไหม ถา้ ได้คําตอบแล้วจะใช้เปน็ ข้อมลู
วางแผนอนาคตตอ่ ไป
กราบขอบพระคณุ ค่ะ
ตอบ
อยา่ เพ่ิงวู่วาม กฎหมายเขาตรามาปราบโกง ถ้าเราไม่โกงไมเ่ ดอื ดรอ้ น เพราะกว่าจะเข้ามารบั ราชการ
ได้เลอื ดตาแทบกระเด็น ทาํ ใจใหร้ ่ม ๆ เขา้ ไว้
คําถามมี ๒ ประเด็น คือ
๑. แนวทางอาญาและวินยั เปลยี่ นไปหรือไม่
๒. มชี ่องทางแก้ไขหรอื ไม่
สรปุ สน้ั
๑. ไมเ่ ปลีย่ นแตเ่ พมิ่ เตมิ เลก็ นอ้ ย
๒. ช่องทางเยยี วยามอี ยูบ่ ้าง
ขยายความ
พ.ร.ป.ป.ป.ช.ฉบบั ใหมป่ ระกาศในราชกจิ จานเุ บกษา เมอื่ ๒๑ ก.ค.๖๑ มีผลใชบ้ งั คบั ๒๒ ก.ค.๖๑ มี
ทัง้ สิ้น ๒๐๐ มาตรา
กําลงั ศึกษาแต่ละมาตราท่มี ผี ลกระทบต่อข้าราชการอย่างละเอยี ด ภาพโดยรวม คือ
๑. อัยการสงู สุดยงั รบั ผิดชอบคดอี าญาเช่นเดมิ
๒. วินัยยังคงเป็นในทศิ ทางเดมิ คอื ให้ใช้สาํ นวนของ ป.ป.ช.สงั่ ลงโทษเลย แตก่ อ่ นทจ่ี ะสง่ั ลงโทษนน้ั
ผูบ้ งั คบั บญั ชาสามารถขอให้ ป.ป.ช.ทบทวนได้ในบางกรณี
๓. การชม้ี ูลเน้นความผิดฐานทจุ ริตมากกว่าฉบบั เดมิ
รวบรวมโดย นิตกิ รพร หน้า 35
คําถาม-ตอบวินยั ปี 2561 โดยอาจารย์ประวทิ ย์ เปรอื่ งการ รวบรวมโดยนติ กิ รพร เทศบาลตาํ บลบะหวา้ จงั หวดั สกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
๔. คดที ุจริตหากผกู้ ระทําผิดหลบหนี ไมม่ อี ายคุ วาม
๕. ระยะเวลาดําเนนิ การมเี พ่ิมขนึ้ ซง่ึ จะทาํ ใหค้ ดตี า่ ง ๆ แลว้ เสรจ็ ไปโดยเร็ว
๖. ป.ป.ช.ช้มี ลู ฟูองศาลปกครองได้
๗. เจ้าหนา้ ทร่ี ฐั ทกุ ตาํ แหนง่ ต้องย่ืนบัญชีทรพั ย์สิน เป็นตน้
สาํ หรบั รายละเอียดจะนาํ มาเสนออกี ครั้ง ตอนนที้ ่านผ้รู ู้ และกูรหู ลายท่านกําลงั วิเคราะห์กันอยู่ เพราะ
กระทบข้าราชการค่อนขา้ งสงู
ขอบคุณครับ
********************
คาํ ถาม ๒๕/๗/๖๑
เม่อื หกปที ่ีแลว้ ผมซ่งึ เป็น จนท.ปอู งกันฯ ได้ลากจิ ในขณะทลี่ าไดไ้ ปเล่นไพ่ ถกู ตาํ รวจจับและสง่ ฟูอง ศาลมี
คําพพิ ากษาให้ลงโทษปรับ ผมเสียค่าปรับเรยี บรอ้ ย วันรงุ่ ขนึ้ จงึ มาทาํ งานตามปกติ โรงพกั ไมม่ หี นังสือแจง้ มาที่
ทาํ งาน ตวั ผมเองกไ็ มไ่ ด้นําเรียนใหผ้ ้บู งั คบั บญั ชาทราบ และไม่ไดเ้ ลา่ เรื่องนใี้ ครฟัง ยกเว้นเพ่ือนรักคนเดยี ว
จากน้นั ไม่มอี ะไรเกิดข้นึ
วนั น้ีเพอ่ื นผมคนดงั กล่าวทะเลาะกบั ผม มนั ขู่ว่าจะร้องเรยี นนายกฯ ให้เล่นวนิ ยั ผมในเรอ่ื งทถี่ กู จบั ผมเปน็
กังวลมาก เพราะไวใ้ จเพอ่ื นไมน่ กึ วา่ มันจะมสี ันดานเหย้ี แบบนี้
ขอเรียนถามท่านว่า ผมควรจะทาํ อย่างไรดี ถา้ นายกฯ ทราบเรือ่ ง ผมจะโดนอะไรบา้ ง หากถูกสอบวินัยจะ
มโี ทษถงึ ไลอ่ อกไหม ขอบพระคุณอย่างสงู ครบั ท่าน
ตอบ
ทา่ นกาํ ลังปกปดิ ความจริงซงึ่ ควรต้องแจง้ ใหน้ ายกฯ ทราบ ถอื วา่ ผิดวินัยฐานรายงานเทจ็ ตอ่
ผู้บังคบั บญั ชา ตามขอ้ ๑๕ ของหลักเกณฑ์และเง่อื นไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย (พ.ศ.๒๕๕๘/
๒๕๕๙) อีก ๑ กระทง นอกจากความผดิ ฐานประพฤติชว่ั ตามข้อ ๑๙ ของหลักเกณฑเ์ ดมิ ที่ถูกฟูองคดีอาญา
กรณีเล่นการพนนั เมอื่ ๖ ปีทแ่ี ลว้
ทัง้ น้ี เพราะหนงั สอื สาํ นักงาน ก.พ. ที่ สร ๐๙๐๕/ว ๔ ลงวันที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๐๙ และหนงั สอื
สํานกั งาน ก.อบต. ที่ มท ๐๘๐๙.๒/ว ๗๔๐ ลงวนั ท่ี ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๔๗ ไดก้ ําหนดว่า เม่ือขา้ ราชการถูก
ฟูองคดีอาญา หรือตอ้ งหาว่ากระทาํ ผิดอาญา ผบู้ งั คับบัญชาตอ้ งดําเนนิ การทางวนิ ัยไปพรอ้ มกันดว้ ย ซึ่งได้เคย
ตอบไปแล้ว
แต่ข้อเทจ็ จรงิ ปรากฏวา่ ท่านถกู จับดําเนนิ คดีอาญาจนศาลพพิ ากษาใหเ้ สียคา่ ปรบั ในวนั ที่ตัวเองลากจิ
พนักงานสอบสวนไมแ่ จง้ อบต. (อาจไมร่ ู้ว่าเป็นขา้ ราชการ) ตวั เราเองก็ไมร่ ายงานใหผ้ บู้ งั คบั บญั ชาทราบเพอ่ื
ดําเนนิ การตามระเบียบ กฎหมาย เทา่ กบั เร่อื งนมี้ กี ารกระทาํ ความผิดสําเร็จแล้ว ตราบใดทย่ี งั ไม่มีการ
ดาํ เนินการทางวินัย ความผดิ กย็ งั คงอยู่ตราบนัน้ เปรยี บเหมอื น "หนามตําตีน" จะเดินไม่สะดวก กงั วล ระแวง
อยูต่ ลอดเวลา
ดังน้นั เพือ่ นจะรอ้ งเรยี นนายกฯ ก็ปลอ่ ยเขา เราจะได้ "โล่ง" เสียที โทษเปน็ วินยั ไมร่ ้ายแรง อย่าดา่
เพื่อน เรอ่ื งน้ตี ้องด่าตัวเอง อยา่ ลมื วา่ "ความลับไม่มใี นโลก"
ขอบคุณทกุ ความเห็นครับ
********************
คาํ ถาม ๑/๘/๖๑
รวบรวมโดย นติ ิกรพร หน้า 36
คาํ ถาม-ตอบวนิ ัย ปี 2561 โดยอาจารย์ประวิทย์ เปรอ่ื งการ รวบรวมโดยนิติกรพร เทศบาลตําบลบะหวา้ จังหวัดสกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
ทา่ นอาจารย์ครบั หารอื กรณพี นักงานจา้ งทเี่ สพยา มติ ก.อบต.จ.ใหอ้ อกจากราชการไว้ก่อนเมอ่ื อบต.ออก
คาํ สงั่ ใหอ้ อก คาํ ถาม
1. นายกฯ จะจ้างเปน็ พนกั งานจา้ งเหมาบริการตามว 7120 และระเบยี บพสั ดไุ ดห้ รอื ไม่
2. หากพนักงานจา้ งพ้นจากการเสพยาโดยมีแพทยร์ ับรอง จะสมัครเขา้ รบั การสรรหาเป็นพนักงานจ้างใน
ตาํ แหน่งเดมิ ตาม ว35 ลงวันที่ 10 พ.ค.2559 ทใ่ี ห้โอกาสผเู้ สพซง่ึ พน้ การใช้ยาเสพตดิ ตาม มติ ครม.27 ก.พ.
2550 ได้หรอื ไม่ ขอบคุณครับ
ตอบ
มหี นงั สอื ทเี่ ก่ียวข้องกบั คําถาม ๒ ฉบบั คือ
๑. หนงั สือกระทรวงมหาดไทย ดว่ นมาก ท่ี มท ๐๘๐๘.๒/ว ๗๑๒๐ ลงวนั ท่ี ๙ ธนั วาคม ๒๕๕๙ เรอ่ื ง
หลกั เกณฑก์ ารเบิกจา่ ยเงินคา่ จ้างเหมาบรกิ ารของ อปท.
๒. หนงั สือสาํ นกั งาน ก.จ., ก.ท. และ ก.อบต. ที่ มท ๐๘๐๙.๖/ว ๓๕ ลงวนั ที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๙
เร่อื ง แนวทางปฏบิ ตั เิ กย่ี วกับการใหโ้ อกาสผตู้ ดิ เชื้อเอดส์ คนพกิ าร และผูเ้ สพหรือตดิ ยาเสพติดซง่ึ พ้นจากสภาพ
การใชย้ าเสพตดิ
ขยายความ
๑. หนงั สอื มท.ฉบบั แรก เป็นการกําหนดหลักเกณฑ์การเบกิ จ่ายเงินคา่ จ้างเหมาบรกิ ารของ อปท. เชน่
อปท.มีความจําเปน็ ต้องจา้ งเอกชนเขา้ มาดาํ เนินการโครงการใด ๆ ทีม่ ลี กั ษณะงานเป็นรายชน้ิ อนั มิใชค่ วามลบั
ของทางราชการ ซ่งึ คดั เลอื กจากผมู้ ีความรปู้ ระสบการณท์ เี่ หมาะสม โดยต้องปฏบิ ตั ติ ามระเบียบของทาง
ราชการ ประการสําคัญคือ ผรู้ บั จ้างเหมาบริการมฐี านะเป็นเพยี งผรู้ ับจา้ งทาํ ของ จึงไมม่ สี ภาพเปน็ พนกั งานจ้าง
เป็นต้น ซึง่ หาไดม้ กี ารเน้นคุณสมบัตเิ บ้อื งตน้ ไว้เช่นเดยี วกบั พนกั งานจ้างไม่ ดังนั้น สว่ นตวั เหน็ ว่า การถูกแต่งตงั้
คณะกรรมการสอบสวนทางวนิ ยั อย่างรา้ ยแรง แล้วถกู สง่ั ใหอ้ อกจากราชการไวก้ อ่ น เพราะเขา้ ไปเก่ียวขอ้ งกับ
ยาเสพตดิ จงึ ไมน่ า่ จะเปน็ เหตผุ ลหลักทจี่ ะไมจ่ า้ งเหมาบรกิ าร แต่อย่างไรกต็ าม อปท.ควรพจิ ารณาถงึ ผลกระทบ
ดา้ นอ่นื ๆ ประกอบด้วย
๒. ส่วนหนงั สอื ฉบบั ตอ่ มา เปน็ การให้โอกาสผู้ตดิ เชอ้ื เอดส์ คนพกิ าร และผเู้ สพหรอื ตดิ ยาเสพติดซ่งึ พน้
จากสภาพการใช้ยาเสพตดิ เขา้ ทาํ งานใน อปท. สาระสําคญั ของหนงั สอื ดงั กล่าวได้แก่ ขา้ ราชการท่ีเสพยาหรือ
ตดิ ยาเสพติด เมอื่ พน้ จากสภาพการใช้ยาเสพติดโดยสถานบาํ บดั รักษา หรือแพทยร์ ับรองแลว้ ตอ้ งใหโ้ อกาสผู้
น้ันเข้าทํางาน หรอื เข้ารบั ราชการใน อปท.
หนังสอื ฉบบั น้เี ป็นคนละประเด็นกบั หนงั สือสํานักงาน ก.จ., ก.ท. และ ก.อบต.ที่ มท ๐๘๐๙.๑/ว
๗๓๓ ลงวนั ที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๔๖ ทีใ่ ห้แตง่ ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวนิ ัยอย่างรา้ ยแรง และขอความ
เหน็ ชอบจาก ก.จงั หวดั ใหอ้ อกจากราชการไวก้ ่อน หากขา้ ราชการผใู้ ดเข้าไปเกีย่ วขอ้ งกบั ยาเสพตดิ ไม่ว่าจะใน
ฐานะผูผ้ ลิต ผคู้ า้ ผเู้ สพ หรอื ผ้ตู ดิ ยาเสพตดิ เปน็ ตน้ ในทกุ กรณี
ประเด็นคําถาม
๑. แมห้ ลกั เกณฑม์ ิไดก้ าํ หนดหา้ มโดยชัดแจ้ง แต่หาก อปท.จะจ้างเหมาบริการผซู้ ึ่งอยรู่ ะหว่างถกู สงั่ ให้
ออกจากราชการไว้ก่อนนั้น ควรพจิ ารณาใหร้ อบคอบวา่ คุ้มคา่ เหมาะสมต่อ อปท.หรอื ไม่ เพยี งใด
๒. การพ้นจากสภาพการใช้ยาเสพตดิ ต้องมกี ารรบั รองจากสถานบําบัดรกั ษา หรือจากแพทย์ จงึ ใช้ได้
และเปน็ คนละประเดน็ กบั หนงั สอื สํานักงาน ก.กลาง ท่ี ว ๗๓๓ ดงั กล่าวแล้ว
ขอบคณุ ความเห็นในหลายหอ้ ง ครบั
*********************
คําถาม ๖/๘/๖๑
รวบรวมโดย นติ กิ รพร หน้า 37
คาํ ถาม-ตอบวินัย ปี 2561 โดยอาจารย์ประวิทย์ เปรือ่ งการ รวบรวมโดยนิตกิ รพร เทศบาลตําบลบะหว้า จังหวดั สกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
พนกั งานจา้ งโดนจบั เลน่ การพนนั งานศพ โดนดาํ เนนิ คดี ประกันตวั ออกมา ดําเนินการด้านวินัยอยา่ งไร
บ้างครบั อ้างระเบยี บไหนครับ ขอบคณุ ครบั
ตอบ
"วถิ ปี ระชา" กบั "กฎหมาย" บา้ นเราหลายเรอ่ื งยงั คงเดนิ เปน็ เสน้ ขนานนับจากอดีตถึงปัจจุบนั
กฎหมายจาํ นวนไมน่ ้อยท่ีไร้สภาพบังคับ เพราะเกดิ จากหลายสาเหตุ หนงึ่ ในจาํ นวนนนั้ คอื "ขดั กบั วถิ ปี ระชา" ผู้
ตรากฎหมายอยากไดอ้ ะไร ก็ตรา ๆ ๆ และตรา ทําใหป้ ระเทศไทยกลายเปน็ ประเทศท่ี "รวยกฎหมาย" มาก
ท่สี ดุ ในโลกประเทศหนง่ึ
พระราชบัญญตั กิ ารพนนั พ.ศ.๒๔๗๘ กเ็ ช่นเดียวกนั ใชม้ านานมาก แต่การพนันบา้ นเราก็ยงั เต็มบ้าน
เต็มเมือง ไมเ่ วน้ แต่ในแวดวงผู้ถอื กฎหมายเอง
การ "เล่นไพเ่ ปน็ เพื่อนผ"ี ถอื เปน็ นาํ้ ใจของเพื่อนบ้าน หลายคนขาดเจตนา หรือ "ความอยาก" อาจถอื
เปน็ วิถปี ระชาของชมุ ชนบางแหง่ ได้ แตเ่ มอ่ื ถูกจับกว็ ่ากันไปตามกฎหมาย
กฎหมายการพนนั ปี ๗๘ ดงั กล่าวข้างต้น กาํ หนดการพนันไว้ ๒ ประเภท คือ ประเภท ก.ห้ามเลน่
เดด็ ขาด ประเภท ข.เล่นไดบ้ า้ งหากได้รบั อนญุ าต แตก่ รณถี กู จับเปน็ ประเภทใดนั้นไม่มขี อ้ มลู อาจเปน็ ประเภท
ก. หรอื ประเภท ข.แตไ่ มข่ ออนญุ าตกเ็ ป็นได้ ซงึ่ ขอ้ หาคงหนกั เอาการอยู่
คําถามมีเพยี งประเดน็ วา่ ต้องหาคดีอาญาจะดาํ เนินการทางวนิ ัยอย่างไร
เปน็ คําถามทีพ่ บและตอบบ่อย
สรุปสั้น
ตอ้ งตง้ั กรรมการสอบวนิ ัย
ขยายความ
แม้จะเป็นพนักงานจา้ งก็ใชห้ ลกั การเดยี วกับขา้ ราชการ คอื ตอ้ งดาํ เนินการตามหนงั สอื สํานกั งาน ก.พ.
ที่ สร ๐๙๐๕/ว ๔ ลงวนั ที่ ๑๘ มนี าคม ๒๕๐๙ ประกอบหนงั สอื สาํ นักงาน ก.อบต. ที่ มท ๐๘๐๙.๒/ว ๗๔๐
ลงวันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๔๗ กลา่ วคอื พนักงานสว่ นทอ้ งถ่ินตอ้ งหาคดีอาญา นายกฯ ต้องดาํ เนนิ การทาง
วินัยไปพรอ้ มกนั แต่ถา้ ผลการสอบสวนยงั ฟังลงโทษทางวนิ ยั ไมไ่ ด้ จึงใหร้ อผลในคดีอาญา ตามหนงั สือ
สาํ นกั งาน ก.พ. ที่ สร ๐๙๐๕/ว ๙ ลงวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๐๙
การแต่งต้ังคณะกรรมการสอบสวนทางวนิ ยั กรณนี จ้ี ะตัง้ สอบวินัยอยา่ งรา้ ยแรงหรอื ไม่ ให้ดทู ี่ประเภท
การพนนั ถา้ ต้งั สอบวนิ ัยอยา่ งร้ายแรง จะสงั่ พกั หรอื สงั่ ให้ออกไวก้ อ่ นหรือไม่น้นั ย่อมเป็นดลุ พนิ จิ ของนายกฯ
และ ก.จงั หวดั ซงึ่ ต้องครบเงอ่ื นไขในการสงั่ ดว้ ย
เม่ือผลคดีอาญาถึงทส่ี ุด หากไม่ถกู จําคุกจรงิ โทษทางวินยั จะไปไม่ถึงไล่ออก ซง่ึ นายกฯ สามารถลงโทษ
เป็นภาคทณั ฑ์ ตัดคา่ ตอบแทน ลดค่าตอบแทน ฐานประพฤติชว่ั ได้ ตามมาตรฐานทวั่ ไปเกีย่ วกับพนกั งานจ้าง
ลงวันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๔๗ ข้อ ๔๘ ประกอบมาตรฐานทั่วไปเกยี่ วกบั วินยั และการรักษาวินยั และการ
ดาํ เนินการทางวินยั พ.ศ.๒๕๕๘ ขอ้ ๒๓
ขอบคณุ ทกุ ข้อความ ครับ
******************
คาํ ถาม ๘/๘/๖๑
รวบรวมโดย นิตกิ รพร หน้า 38
คาํ ถาม-ตอบวินยั ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวิทย์ เปร่อื งการ รวบรวมโดยนติ ิกรพร เทศบาลตาํ บลบะหวา้ จงั หวัดสกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
เรียนอาจารย์คะ่ ขอหารอื กรณพี นักงานจา้ งฆา่ คนตาย ซง่ึ ทางวนิ ยั ไดต้ ั้งกรรมการสอบสวนวินยั อย่าง
รา้ ยแรง ฐานประพฤติชัว่ อย่างร้ายแรง คณะกรรมการสอบสวนแลว้ มคี วามเห็นวา่ เป็นความผดิ วินัยอย่างไม่
ร้ายแรงฐานประพฤตชิ ว่ั เพราะถกู ข่มเหงดว้ ยเหตุอนั ไมเ่ ป็นธรรม ลงโทษตัดคา่ ตอบแทน ๕% เปน็ เวลา ๓
เดือน โดยไมร่ อคดีอาญา
หลงั จากเสนอสํานวนแลว้ แตย่ ังไม่ไดอ้ อกคาํ สงั่ ลงโทษ พนกั งานจา้ งผนู้ ลี้ าออก ก.จงั หวัด เหน็ ชอบให้
ลาออก ตอนนเ้ี ขาออกไปแล้ว แตท่ างวินยั เพิ่งนําเขา้ อนุวินัยฯ ซึง่ อนวุ ินัยฯ มคี วามเหน็ แยง้ โดยใหไ้ ล่ออก ยงั ไม่
เข้า ก.จงั หวัด หนจู งึ ขอหารอื ดังนี้คะ่
๑. ถา้ ตอ่ มาศาลพพิ ากษาถงึ ทสี่ ุดจําคุก และหาก ก.จงั หวดั เห็นด้วยกับคณะกรรมการสอบสวน คือวนิ ยั ไม่
รา้ ยแรง จะต้องกลบั มาออกคําสง่ั ลงโทษวินัยอย่างร้ายแรงกบั พนักงานจา้ งผนู้ ้อี ีกหรอื ไม่ เน่ืองเหตเุ กดิ กอ่ นเขา
ลาออก
๒. หาก ก.จงั หวดั เห็นดว้ ยกบั อนวุ นิ ัยฯ เรอื่ งจบมั้ยคะ
๓. กรณี เปน็ กรรมการ/เลขานุการ คณะกรรมการสอบสวนวนิ ยั และในขณะเดียวกนั เปน็ เลขานุการ อนุ
วินยั ฯ ได้มั้ยคะ เพราะเปน็ ผู้นําเสนอข้อมลู
ขอบพระคุณมากค่ะอาจารย์
ตอบ
ลองมาทบทวน "ไล่สาย" การดําเนินการทางวินยั ทง้ั ๒ ประเภท คอื อยา่ งไมร่ า้ ยแรง ๑ และอย่าง
รา้ ยแรง ๑ ดหู น่อยดีไหม
๑. ต้งั กรรมการสอบวินัยอย่างไมร่ ้ายแรง ผลปรากฏวา่
(๑) กรรมการเหน็ เป็นวนิ ัยอยา่ งไมร่ ้ายแรง นายกฯ เห็นดว้ ย (อาจต่างกันในสถานโทษ ได้แก่
ภาคทณั ฑ์ ตัดเงนิ เดอื น ลดข้นั เงนิ เดือน)
๑) ให้นายกฯ สัง่ การหรอื พจิ ารณาออกคาํ สง่ั ลงโทษ ตามความเห็นของนายกฯ ซง่ึ ตอ้ งแสดง
เป็นหนงั สอื หากเหน็ แย้งต้องมเี หตผุ ลไวด้ ้วย ทง้ั น้ี ภายใน ๓๐ วนั นับแต่ไดร้ บั สาํ นวนจากกรรมการ (เปน็
ระยะเวลาเรง่ รดั )
๒) เมอ่ื ออกคําสง่ั ลงโทษวนิ ัยอยา่ งไมร่ า้ ยแรงแล้ว ใหร้ ายงานการดาํ เนินการทางวนิ ยั ไปยัง ก.
จงั หวัดเพ่ือพจิ ารณา
๓) ก.จังหวดั สง่ เรื่องให้อนุวินัยทําความเหน็ เสนอ (ก.จงั หวดั อาจมมี ตใิ นคราวเดยี วให้
เลขานุการ ก.จงั หวดั เปน็ ผสู้ ง่ เร่อื งก็ได)้
๔) ก.จงั หวัดพิจารณามมี ติ (ระยะเวลาของอนวุ นิ ัย + ก.จงั หวดั = ๙๐ วัน นบั แตเ่ ลขานกุ าร
ก.จังหวัดไดร้ บั รายงาน และเปน็ ระยะเวลาเรง่ รดั ) ถ้าเห็นชอบตามคาํ สั่งลงโทษ การดําเนนิ การทางวนิ ยั ถอื เปน็
อันเสร็จสน้ิ แต่หากมมี ตใิ หเ้ ปลีย่ นแปลง เพม่ิ ลดโทษ หรือใหส้ อบเพมิ่ เตมิ นายกฯ ตอ้ งสง่ั หรอื ปฏิบตั ิให้เปน็ ไป
ตามมตินน้ั แล้วรายงาน ก.จงั หวดั อกี ครั้ง
(๒) กรรมการและนายกฯ (เพียงฝุายเดยี วหรอื ทัง้ สองฝุาย) เหน็ เปน็ วนิ ัยอยา่ งรา้ ยแรง ให้นายกฯ
ออกคําสั่งแตง่ ตงั้ คณะกรรมการสอบสวนวินยั อย่างร้ายแรงใหม่ แลว้ ดําเนินการสอบสวนต่อไปตามปกติ (ตาม
ข้อ ๒)
๒. แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินยั อยา่ งรา้ ยแรง (สว.๑) ผลปรากฏว่า
รวบรวมโดย นติ กิ รพร หนา้ 39
คําถาม-ตอบวนิ ยั ปี 2561 โดยอาจารย์ประวทิ ย์ เปรอื่ งการ รวบรวมโดยนติ กิ รพร เทศบาลตําบลบะหว้า จังหวัดสกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
(๑) คณะกรรมการสอบสวนเหน็ เป็นวินัยอยา่ งไม่ร้ายแรง นายกฯ เหน็ ดว้ ย (อาจตา่ งกันในสถาน
โทษ)
๑) ใหน้ ายกฯ สง่ั การหรือพจิ ารณาออกออกคําส่งั ลงโทษ ตามความเห็นของนายกฯ ซง่ึ ตอ้ ง
แสดงเปน็ หนงั สอื หากเห็นแย้งตอ้ งแสดงเหตุผลไว้ด้วย ทงั้ น้ี ภายใน ๓๐ วันนบั แตไ่ ด้รบั สาํ นวนจาก
คณะกรรมการสอบสวน (เป็นระยะเวลาเรง่ รัด)
๒) เมอ่ื ออกคําสงั่ ลงโทษทางวนิ ัยอย่างไมร่ ้ายแรงแล้ว ใหร้ ายงานการดาํ เนินการทางวนิ ยั ไปยงั
ก.จังหวัดเพื่อพจิ ารณา
๓) ก.จังหวัดสง่ เรอ่ื งให้อนวุ ินยั ทาํ ความเห็นเสนอ (ก.จงั หวดั อาจมีมตใิ นคราวเดียว ให้
เลขานกุ าร ก.จงั หวดั เป็นผู้สง่ เรื่องกไ็ ด้)
๔) ก.จงั หวดั พจิ ารณามมี ติ (ระยะเวลาของอนวุ ินัย + ก.จงั หวัด = ๙๐ วนั นบั แต่เลขานุการ
ก.จังหวดั ได้รับรายงาน และเป็นระยะเวลาเร่งรดั ) ถ้าเห็นชอบตามคําส่ังลงโทษ การดําเนินการทางวินยั ถือเป็น
เสรจ็ สน้ิ แตห่ ากมมี ติใหเ้ ปลี่ยนแปลง เพม่ิ ลดโทษ หรอื ใหส้ อบเพม่ิ เตมิ นายกฯ ตอ้ งส่ังหรอื ปฏบิ ัติใหเ้ ปน็ ไป
ตามมตนิ ้นั แลว้ รายงาน ก.จงั หวัดอกี ครัง้
(๒) คณะกรรมการสอบสวนและนายกฯ (เพยี งฝาุ ยเดยี ว หรือทงั้ สองฝุาย) เห็นเป็นวินยั อยา่ ง
ร้ายแรง ให้นายกฯ รายงานการดาํ เนนิ การทางวนิ ัยไปยงั ก.จงั หวัดเพอื่ พจิ ารณา (นายกฯ ยังออกคําสั่งลงโทษ
ไมไ่ ด)้
(๓) เม่ือ ก.จงั หวัดพจิ ารณาและมมี ตเิ ปน็ ประการใด ให้นายกฯ ส่ังหรือปฏบิ ตั ใิ หเ้ ปน็ ไปตามมตินัน้
เชน่
๑) เห็นว่าไม่ผิดให้ยุตเิ ร่อื ง งดโทษ หรือยกโทษ
๒) เห็นเปน็ วินัยอยา่ งไม่รา้ ยแรง ใหล้ งโทษภาคทณั ฑ์ ตัดเงนิ เดือน ลดขน้ั เงนิ เดือน
๓) เหน็ เป็นวินัยอย่างร้ายแรง ใหล้ งโทษลดออกหรือไล่ออกจากราชการ
เม่ือนายกฯ สัง่ หรอื ปฏบิ ตั ิตามมตแิ ล้ว ให้รายงาน ก.จังหวดั เพอื่ ทราบ
คําถามมี ๓ ประเดน็ คอื
๑. คดอี าญาถงึ ที่สดุ ใหจ้ าํ คุก แต่ ก.จงั หวดั เหน็ เปน็ วนิ ัยอยา่ งไม่รา้ ยแรง ต้องออกคําสงั่ ลงโทษหรอื ไม่
เพราะผู้นั้นพน้ จากหนา้ ที่ไปก่อนแลว้
๒. หาก ก.จงั หวัดเหน็ เปน็ วนิ ยั อย่างร้ายแรง จะมีมตใิ ห้ลงโทษไลอ่ อก ไดห้ รือไม่
๓. ผ้เู กย่ี วขอ้ งคนเดียวแตห่ ลายขั้นตอน กระทําไดห้ รือไม่
สรุปสัน้
๑. อาญากับวินัยเป็นคนละส่วน แต่วนิ ัยเรอ่ื งน้ีดําเนนิ การไมถ่ กู ตอ้ ง
๒. ไลอ่ อกได้ แต่...
๓. ไม่ควร
ขยายความ
๑. ประเด็นนี้ แยกเปน็ ๓ เร่อื ง
๑) เรอ่ื งคดีอาญา เพราะฆ่าคน
๒) เรือ่ งตั้งวนิ ัยอยา่ งร้ายแรง แตเ่ หน็ ว่าไม่ร้ายแรง
รวบรวมโดย นติ กิ รพร หนา้ 40
คาํ ถาม-ตอบวินัย ปี 2561 โดยอาจารย์ประวทิ ย์ เปร่อื งการ รวบรวมโดยนิติกรพร เทศบาลตาํ บลบะหวา้ จังหวดั สกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
๓) เรอ่ื งการลาออกจากงาน
สามารถดําเนินการไปพรอ้ มกันได้ เพราะเปน็ กฎหมายคนละฉบบั
คดอี าญาย่อมเป็นอาํ นาจพิจารณาพพิ ากษาของศาล เมอ่ื คําพิพากษาถงึ ทสี่ ุดใหจ้ าํ คุกในเร่ืองเดียวกนั
ย่อมไมก่ ระทบถงึ การพจิ ารณาดาํ เนนิ การทางวินยั ของนายกฯ เนอ่ื งจากเปน็ กระบวนการที่แยกต่างหากจากกนั
และการรบั ฟังพยานหลกั ฐานตา่ งกนั ตามคําพพิ ากษาศาลปกครองสงู สุด ท่ี อ.๓๗๐/๒๕๕๐
สว่ นวินัย ตามที่ "ไล่สาย" ขา้ งต้น จะเห็นว่า เมือ่ แตง่ ต้งั คณะกรรมการสอบสวนวินยั อยา่ งรา้ ยแรงแล้ว
คณะกรรมการสอบสวนและนายกฯ เห็นว่าเป็นวนิ ยั อย่างไมร่ า้ ยแรง ตอ้ งออกคาํ สง่ั ลงโทษกอ่ นรายงานไป ก.
จงั หวดั เพ่ือพจิ ารณา แตเ่ รอ่ื งน้ยี ังไมอ่ อกคําสงั่ ลงโทษเสยี ก่อน (ตามข้อมูลทีใ่ ห้) กระบวนการทางวินัยจึงไม่ชอบ
สาํ หรับการลาออกเป็นสิทธิขนั้ พนื้ ฐานของปวงชนชาวไทยในการเลอื กถิน่ ทอ่ี ยู่ ตามรฐั ธรรมนญู แหง่
ราชอาณาจกั รไทย พ.ศ.๒๕๖๐ มาตรา ๓๘ ประกอบหลักเกณฑ์และเงอื่ นไขในการใหอ้ อกจากราชการ พ.ศ.
๒๕๕๘/๒๕๕๙)
ดงั นนั้ จึงมปี ัญหาเฉพาะประเด็นของการดําเนนิ การทางวนิ ัยที่นายกฯ มไิ ดอ้ อกคําสง่ั ลงโทษวนิ ัยอย่าง
ไม่รา้ ยแรงกอ่ นรายงานไปยัง ก.จังหวัด จึงเป็นการดําเนินการที่ไมช่ อบ ประเดน็ การให้นายกฯ กลบั มาออก
คําส่ังลงโทษวินยั อย่างไมร่ า้ ยแรงใหม่ จึงไมจ่ าํ ตอ้ งพจิ ารณา เพราะผู้นัน้ ได้ออกจากงานไปแลว้ อาจต้องดว้ ย
หลักเกณฑ์และเง่ือนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินยั ฯ ข้อ ๒๘ วรรคหน่งึ (เว้นเสียแต่ ก.จงั หวัดมีมติให้
กลับมาแกไ้ ขให้ถูกตอ้ งก่อนรายงานเพอ่ื พจิ ารณาใหม่อกี คร้ัง ซ่งึ เปน็ ความเห็นสว่ นตัว เพราะไมป่ รากฏวา่ ก.
กลาง ได้เคยตอบข้อหารอื ในประเด็นดังกลา่ วแต่อยา่ งใด)
๒. หาก ก.จงั หวัด เหน็ ชอบตามความเหน็ ของอนุวนิ ยั ท่ใี ห้ลงโทษไลอ่ อกจากราชการ ตามปกตสิ ามารถ
กระทําได้ เพราะไดแ้ ต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินยั อยา่ งร้ายแรงไวแ้ ล้ว ความเหน็ ของคณะกรรมการ
สอบสวน และความเหน็ ของนายกฯ ยอ่ มไมผ่ กู พันอนวุ ินยั และ ก.จงั หวดั ทจ่ี ะต้องเหน็ ตามนนั้ (ขึน้ อยเู่ หตผุ ล
และคําอธบิ าย) เมอ่ื เป็นดังนี้ ก.จงั หวัดก็สามารถเหน็ ชอบใหไ้ ลอ่ อกตามความเหน็ ของอนุวนิ ยั ได้ ซง่ึ นายกฯ
ต้องออกคาํ สง่ั ลงโทษไล่ออกยอ้ นหลงั ไปถงึ วนั ท่ผี นู้ ัน้ ไดล้ าออกจากงาน (เป็นความเหน็ สว่ นตัวตวั เหมอื นขอ้ ท่ี
แล้ว เพ่ือใหม้ ีแนวทางปฏบิ ตั ิที่ชดั เจน ควรขอให้ ก.กลาง วางหลกั ในประเด็นดงั กล่าว)
๓. หลกั ในเรอ่ื งบุคคลคนเดียวกนั ไมอ่ าจพจิ ารณาในเรอื่ งเดียวกันได้หลายครงั้ (เปน็ กรรมการ/
อนกุ รรมการ/เลขานุการ/กรรมการสอบวินยั /กรรมการสอบข้อเท็จจรงิ ฯลฯ) ไดก้ าํ หนดไวใ้ นหลักเกณฑแ์ ละ
เงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินยั ฯ ข้อ ๘๕ วรรคสาม แตถ่ า้ เพียงเป็นผู้นาํ เสนอโดยไมไ่ ด้พจิ ารณา
หรือแสดงความเห็นในการประชุม ย่อมสามารถกระทาํ ได้ ถ้าไดร้ ับมอบหมายจากอนวุ ินัย/ ก.จังหวัด แล้วแต่
กรณี ตามวรรคหา้
ขอบคณุ ครับ
***************
คําถาม ๑๐/๘/๖๑
กรณสี อบสวนวนิ ยั ในครง้ั เดียวกันเกินหนง่ึ ราย การจัดทาํ สว 2 สว 3 นนั้ จัดทําแยกหรือทํารวมในใบ
เดียวกนั
ตอบ
หลักเกณฑใ์ นการจัดทาํ สว.๒, ๓ มไิ ดก้ าํ หนดไว้ว่าให้จัดทําแยกหรือรวม ตามปกติจะสอบบคุ คลเพยี ง
คนเดยี ว จึงทาํ เพยี งฉบบั เดยี ว
รวบรวมโดย นติ กิ รพร หน้า 41
คําถาม-ตอบวินยั ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวทิ ย์ เปร่อื งการ รวบรวมโดยนิติกรพร เทศบาลตาํ บลบะหว้า จงั หวดั สกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
ตามคําถามจาํ เป็นตอ้ งมคี าํ สัง่ แตง่ ตง้ั กรรมการสอบสวนวนิ ัย (สว.๑) ในเร่ืองเดยี วกัน แตม่ ผี รู้ ว่ มกระทาํ
ความผิดหลายคน เชน่ เป็นกรรมการกาํ หนดราคากลาง กรรมการเปิดซอง หรอื กรรมการตรวจรบั งาน เปน็ ตน้
กรณีดงั กลา่ วควรจดั ทํา สว.๒, ๓ แยกเปน็ รายบุคคล จงึ จะเหมาะสมกบั ลกั ษณะงานทรี่ ับผดิ ชอบ (คนอื่นทไ่ี ม่
เก่ียวขอ้ ง ไม่ควรร)ู้ แต่หากจะทาํ รวม กฎก็ไมห่ า้ มเช่นกัน
ดงั นัน้ ถ้าในคําสั่งแตง่ ตั้งคณะกรรมการสอบสวน (สว.๑) มผี ถู้ กู กลา่ วหาหลายคน ตา่ งกันตรงงานที่
รบั ผิดชอบในโครงการนนั้ ควรจดั ทาํ สว.๒, ๓ แยกกันเปน็ ๑ คน/๑ ฉบับ (หลักเกณฑ์และเงอ่ื นไขในการ
สอบสวน การลงโทษทางวนิ ยั (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) ขอ้ ๖๐ และขอ้ ๖๑
ขอบคณุ หลาย ๆ ความเหน็ ครับ
*****************
คําถาม ๑๕/๘/๖๑
สวัสดีค่ะอาจารยห์ นูมปี ญั หาจะสอบถาม่คะ่ คือหนถู กู ตง้ั กก.สอบวินยั ไม่รา้ ยแรงผลสรปุ ของ กก.ออกมา
วา่ ใหภ้ าคทณั ฑ์ แตค่ กู่ รณีที่มเี รอื่ งเป็นนายกทเ่ี ดิมและบดั น้ีนายกคนนัน้ ตายไปแล้ว หนยู ้ายมาอยเู่ ทศบาลแห่ง
ใหม่ อบต.ที่เดิมสง่ เรือ่ งมาให้ท่ีเทศบาลท่ีอยปู่ จั จบุ นั เทศบาลเขาจะตอ้ งทําอยา่ งไร และทาํ อย่างไรที่จะไม่ตอ้ ง
ถูกวนิ ัย เพราะเรอ่ื งทเี่ กิดนถี้ กู กลน่ั แกลง้ จากนายกคนเดมิ คือคนทต่ี ายไปแล้วค่ะ อาจารยช์ ่วยหนดู ้วยนะคะ
และโทษภาคทณั ฑ์ต้องลงในทะเบยี นประวตั หิ รือเปลา่ คะ
ขอบพระคุณอาจารยม์ ากคะ่
ตอบ
ในใจคงคิดวา่ "สมนาํ้ หน้า ตายเสยี ไดก้ ็ด"ี ทแ่ี กลง้ เรา ใช่ไหม ?
คาํ ถามมี ๓ ประเด็น คือ
๑. เม่อื รบั สาํ นวนแล้ว สังกดั ใหมต่ อ้ งดาํ เนนิ การอยา่ งไร
๒. มีวิธีการใดบา้ งทจ่ี ะไม่ถูกลงโทษทางวินัย
๓. โทษภาคทณั ฑ์ตอ้ งบนั ทึกลงในทะเบียนประวัติ หรือไม่
สรุปส้ัน
๑. เสนอนายกฯ สังกดั ใหมพ่ จิ ารณา
๒. ข้นึ อยทู่ น่ี ายกฯ และ ก.จังหวัด
๓. ลง
ขยายความ
๑. เมือ่ นายกฯ สงั กัดเดมิ ตั้งกรรมการสอบวนิ ยั อย่างไมร่ ้ายแรงแลว้ ในระหว่างการสอบสวนผู้ถูก
กล่าวหาโอนไปสงั กดั อ่นื หลังจากนน้ั กรรมการสอบสวนแลว้ เสร็จเหน็ ควรใหล้ งโทษภาคทัณฑ์ ตอ้ ง
(๑) เสนอสาํ นวนตอ่ นายกฯ (สงั กดั เดิม) เพ่ือตรวจสอบความถูกตอ้ ง (ถา้ ไมถ่ ูกต้อง ไม่ครบถ้วน
นายกฯ สงั กัดเดมิ ต้องสง่ั ใหก้ รรมการกลบั ไปทําใหถ้ ูกต้อง ครบถ้วน)
(๒) ให้นายกฯ สังกดั เดมิ สง่ สํานวนการสอบสวนไปใหน้ ายกฯ สงั กดั ใหม่ (โดยไมต่ ้องลงความเห็น)
ตามหลกั เกณฑ์และเงอื่ นไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) ขอ้ ๗๔
รวบรวมโดย นิตกิ รพร หนา้ 42
คาํ ถาม-ตอบวนิ ยั ปี 2561 โดยอาจารย์ประวิทย์ เปร่ืองการ รวบรวมโดยนิตกิ รพร เทศบาลตาํ บลบะหว้า จังหวัดสกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
(๓) หลังจากนายกฯ สงั กดั ใหมไ่ ด้รบั สํานวนการสอบสวนแล้ว ให้ตรวจสอบความถูกตอ้ งอกี คร้งั
(หากไมถ่ ูกต้อง ไมค่ รบถว้ น ใหส้ ง่ กลับไปให้สงั กดั เดมิ ดําเนนิ การใหถ้ กู ต้อง ครบถว้ น โดยต้องระบุไปด้วยวา่ ไม่
ถูกตอ้ ง ครบถว้ น อยา่ งไร)
(๔) เมือ่ ตรวจสอบถกู ตอ้ ง ครบถ้วนแล้ว นายกฯ สังกัดใหม่ ตอ้ งพิจารณาสงั่ การเป็นหนังสอื ภายใน
๓๐ วนั นับแตไ่ ดร้ บั สาํ นวนทีถ่ กู ตอ้ ง ครบถ้วนนั้น โดย
๑) หากเหน็ ชอบตามทกี่ รรมการสอบสวนเสนอ ให้ออกคําสัง่ ลงโทษทางวินยั อยา่ งไมร่ า้ ยแรง
(กรณนี ้ีคอื ภาคทัณฑ์)
๒) ถา้ เหน็ ว่าจะเพิ่มโทษใหห้ นกั ขน้ึ หรือลดโทษใหเ้ บาลง ในระดับโทษทางวินยั อย่างไม่
รา้ ยแรง กใ็ หอ้ อกคําสั่งลงโทษตามนัน้ (หรือแมแ้ ต่ให้ยุตเิ ร่ือง หรอื วา่ กลา่ วตักเตือนเป็นหนงั สอื กต็ าม) แต่ต้อง
บันทกึ เหตผุ ลความเห็นแย้งไวด้ ้วยวา่ เพราะเหตุใด
๓) รายงานไปยัง ก.จงั หวดั เพอื่ พิจารณา
ท้ังนี้ ตามความในขอ้ ๗๗ ข้อ ๘๔ และขอ้ ๘๗ ของหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการสอบสวน การ
ลงโทษทางวนิ ัย (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙)
๒. วิธีการทจี่ ะไม่ถกู ลงโทษทางวินยั ในชั้นน้ไี ม่มี เว้นเสยี แตว่ ่า
(๑) นายกฯ สงั กดั ใหมพ่ จิ ารณาสั่งการในสํานวนแล้วใหย้ ตุ เิ รอื่ ง หรือวา่ กล่าวตกั เตอื นเป็นหนงั สอื
ตามหลกั เกณฑก์ ารสอบสวนฯ ข้อ ๘๔
(๒) ก.จังหวดั พจิ ารณารายงานการดําเนินการทางวนิ ยั แล้วอาจมมี ติให้
๑) งดโทษ
๒) ยกโทษ
๓) ยุติเร่อื ง หรือ
๔) วา่ กล่าวตกั เตือนเป็นหนังสอื (ว่ากลา่ วตักเตอื นไมใ่ ช่โทษทางวินยั ) ซง่ึ นายกฯ สงั กัดใหม่
จะต้องส่ังหรอื ปฏบิ ตั ิใหเ้ ปน็ ไปตามนั้น ตามหลกั เกณฑก์ ารสอบสวนฯ ขอ้ ๘๗
(๓) หากผ้ถู ูกลงโทษทางวินัยเหน็ วา่ ตนไมไ่ ดร้ ับความยุติธรรมเพราะถูกกลน่ั แกล้ง หรอื มเี หตผุ ล
อ่ืนใดก็ตาม ต้องแสดงให้ ก.จงั หวดั เห็นในชั้นการพจิ ารณาอทุ ธรณ์ ซงึ่ ก.จงั หวดั อาจพิจารณาอุทธรณแ์ ล้วมมี ติ
ให้
๑) ยตุ ิเรอ่ื ง
๒) วา่ กล่าวตักเตือน
๓) ยกโทษ หรอื
๔) งดโทษ
กไ็ ด้ ข้ึนอยู่ที่การช้แี จงแสดงเหตุผลในหนงั สืออทุ ธรณค์ ําสง่ั ลงโทษของผยู้ ืน่ อุทธรณ์ ตาม
หลกั เกณฑก์ ารอทุ ธรณ์และการรอ้ งทกุ ขฯ์ ขอ้ ๖ และข้อ ๒๑
๓. การถูกดาํ เนนิ การทางวินยั และถูกลงโทษทางวนิ ัยของข้าราชการทกุ คน จะตอ้ งบนั ทึกลงใน
ทะเบยี นประวัตทิ กุ ครงั้ เช่น
(๑) เลขท/่ี วัน/เดือน/ปี ในคาํ สัง่ ต้ังกรรมการสอบสวน
(๒) เลขท่/ี วัน/เดอื น/ปี ในคําสงั่ ลงโทษทางวนิ ยั และสถานโทษ
(๓) บนั ทกึ การเปลียนแปลงโทษตามมติ ก.จงั หวดั
รวบรวมโดย นิติกรพร หนา้ 43
คาํ ถาม-ตอบวินัย ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวิทย์ เปรื่องการ รวบรวมโดยนิติกรพร เทศบาลตําบลบะหวา้ จงั หวัดสกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
(๔) บนั ทึกการได้รบั การล้างมลทินตามกฎหมายลา้ งทิน เปน็ ต้น
ขอบคณุ ทกุ การแชร์ ครับ
******************
คาํ ถาม ๑๗/๘/๖๑
ขอเรียนถามท่านอาจารย์ ขอ้ กล่าวหาว่าพนักงานส่วนตําบลมีความสัมพันธเ์ ชิงชสู้ าวกบั ภรรยาผอู้ น่ื
คณะกรรมการสอบขอ้ เทจ็ จริงสรปุ ผลวา่ มีมลู ดาํ เนนิ การทางวนิ ยั คําส่งั นายก อบต.ใหต้ งั้ กรรมกรรมการ
ดาํ เนินการทางวนิ ยั ร้ายแรงขอเรยี นถามดังนี้
1.ตอ้ งออกคาํ ส่งั แต่งตงั้ คณะกรรมการดําเนนิ การทางวนิ ัยรา้ ยแรงหรอื ใชแ้ ค่คําว่าให้ดาํ เนนิ การทางวินยั สว่ น
วินยั รา้ ยแรงให้คณะกรรมการสอบวนิ ยั เป็นผสู้ รปุ ว่าเปน็ วินัยรา้ ยแรง
2.การตง้ั คณะกรรมการ ประธานเป็นปลัด อบต.แต่ไมเ่ คยอบรมวินยั และไมจ่ บทางนติ ศิ าสตรจ์ ะแต่งตง้ั ได้
หรือไม่
3.กรรมการ 5 คน ผ่านการอบรมวนิ ัยมา 3 คน 1ใน 3 ดาํ รงตาํ แหนง่ นติ กิ ร 1 คน และมีนติ ิกรบรรจุใหมอ่ กี
1 คน เปน็ กรรมการเพ่ือฝกึ เรยี นรใู้ นการทํางาน จะแตง่ ตั้งได้หรอื ไม่
3.ผถู้ ูกกล่าวหาจะขอถ่ายสําเนาคําให้การของผกู้ ล่าวหาและพยานเพ่ือจะไปนําไปฟอู งหมนิ่ ประมาท จะ
อนญุ าตให้ถา่ ยได้หรอื ไม่
ปวดหัวเลยครบั เพราะผู้ถูกกลา่ วหาดุกลวั จะต้ังกรรมการไท่ถกู ต้อง ช่วยแนะนําใหค้ วามกระจา่ งหนอ่ ย
ครบั ขอขอบคุณลว่ งหน้า
ตอบ
สาํ หรบั ๔ ประเด็นท่ถี าม
๑. จะออกคาํ สั่งตัง้ กรรมการอยา่ งไร
๒. ประธานกรรมการสอบสวนตอ้ งจบกฎหมาย หรอื ผา่ นอบรม หรือไม่
๓. แตง่ ต้งั นิติกรบรรจุใหมเ่ ปน็ กรรมการ ไดห้ รอื ไม่
๔. กรรมการอนญุ าตใหผ้ ู้ถูกกล่าวหาถา่ ยสําเนาคําใหก้ ารของผกู้ ลา่ วหาและพยานตามขอ ได้หรอื ไม่
สรปุ สนั้
๑. ใชแ้ บบ สว.๑
๒. ไมจ่ ําเป็น
๓. ได้
๔. ไม่ได้
ขยายความ
๑. หลกั เกณฑแ์ ละเงอื่ นไขในการสอบสวน การลงโทษทางวนิ ัย (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) ขอ้ ๒๖ วรรคหก
กาํ หนดวา่ "ถ้าเป็นกรณีกลา่ วหาว่ากระทําผิดวินัยอย่างรา้ ยแรง ใหน้ ายกฯ สงั่ แตง่ ตงั้ คณะกรรมการข้นึ ทํา
สอบสวนตามหมวด ๗" ข้อ ๕๐ วรรคหนงึ่ "คาํ สัง่ แตง่ ตง้ั คณะกรรมการสอบสวนตอ้ งระบุช่อื และตาํ แหน่งระดบั
ของผู้ถูกกลา่ วหา เรื่องทกี่ ลา่ วหา ชื่อและตําแหน่งระดบั ของผูไ้ ดร้ ับแตง่ ตง้ั เป็นกรรมการสอบสวน และ
ผ้ชู ว่ ยเลขานุการ (ถ้าม)ี ทง้ั น้ี ใหม้ ีสาระสําคญั ตามแบบ สว.๑ ทา้ ยหลักเกณฑแ์ ละเง่อื นไขน้ี
รวบรวมโดย นติ กิ รพร หน้า 44
คําถาม-ตอบวินยั ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวิทย์ เปรือ่ งการ รวบรวมโดยนติ กิ รพร เทศบาลตําบลบะหวา้ จังหวดั สกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
๒. หลกั เกณฑ์ข้างต้น ข้อ ๔๙ วรรคหนงึ่ "การแตง่ ตง้ั คณะกรรมการสอบสวนใหแ้ ต่งตงั้ จากขา้ ราชการ
ส่วนทอ้ งถ่ินในสงั กดั กรณีมีเหตผุ ลความจาํ เป็น หรือเพือ่ ประโยชน์ในการสอบสวนพจิ ารณา หรือเพื่อความ
ยตุ ิธรรม การแตง่ ตงั้ คณะกรรมการสอบสวนอาจแตง่ ตัง้ จากข้าราชการส่วนท้องถน่ิ อ่ืน หรือข้าราชการฝุายพล
เรือน โดยได้รบั ความยนิ ยอมจากต้นสงั กัดก็ได้ ในการแต่งตง้ั คณะกรรมการสอบสวนใหแ้ ตง่ ตง้ั จํานวนอยา่ ง
นอ้ ยสามคน ประกอบด้วยประธานกรรมการซงึ่ มตี าํ แหน่งระดับไม่ตํา่ กว่าหรอื เทียบไดไ้ มต่ ่าํ กวา่ ผ้ถู กู กล่าวหา
ตามที่ ก.กลางกําหนด โดยใหก้ รรมการคนหนงึ่ เป็นเลขานุการ"
กล่าวคอื ผู้เปน็ ประธานกรรมการสอบสวน กาํ หนดไวแ้ ตเ่ พยี งว่า..จะตอ้ งมีตําแหนง่ ระดบั ไม่ตํา่ กว่า
หรือเทียบได้ไมต่ าํ่ กว่าผถู้ กู กล่าวหา ตามที่ ก.กลางกาํ หนด..ซึ่งปจั จบุ ันได้กําหนดใหมแ่ ล้วตามหนังสือสาํ นกั งาน
ก.จ., ก.ท. และ ก.อบต. ที่ มท ๐๘๐๙.๕/ว ๒๐ ลงวนั ท่ี ๖ สิงหาคม ๒๕๖๑ ซึ่งมผี ลใช้บงั คบั ตงั้ แตว่ นั ที่ ๓๑
สงิ หาคม ๒๕๖๑ เป็นต้นไป (ตัง้ ก่อนนตี้ ้องเป็นไปตาม ว ๔๑)
๓. หลักเกณฑ์ฯ ขอ้ ๔๙ วรรคสอง กาํ หนดว่า "คณะกรรมการสอบสวนต้องมผี ูด้ าํ รงตาํ แหนง่ นิตกิ ร
หรือผ้ไู ดร้ บั ปรญิ ญาทางกฎหมาย หรอื ผไู้ ดร้ บั การฝกึ อบรมตามหลกั สูตรการดําเนินการทางวินยั หรอื ผมู้ ี
ประสบการณ์ด้านการดําเนินการทางวนิ ัย อยา่ งนอ้ ยหน่ึงคน"
ดงั นน้ั ตามคาํ ถาม เมอ่ื มนี ิตกิ ร (ท้ังเก่าและใหม)่ และผผู้ า่ นการฝกึ อบรมตามหลกั สตู รการดาํ เนนิ การ
ทางวินยั (หลกั สตู ร ๕ วนั ) อย่แู ล้ว เกิน ๑ คน จงึ สามารถแตง่ ตัง้ ได้ โดยไม่ต้องคํานึงถึงผมู้ าเป็นประธาน
กรรมการแตอ่ ย่างใด (หากประธานกรรมการจบกฎหมาย หรือผา่ นหลกั สตู รวินยั มาแล้วกจ็ ะเสริมงานสอบสวน
ยง่ิ ขนึ้ )
๔. รายงานการสอบสวน (สว.๖) รวมถึง สว.๔ และ สว.๕ (บันทกึ ถ้อยคําผถู้ ูกกล่าวหาและพยาน) ถือ
เปน็ ความลบั ของทางราชการ คณะกรรมการสอบสวนและนายกฯ เท่าน้นั ท่จี ะต้องรับผิดชอบต่อความลับนนั้
ผอู้ ืน่ ไมม่ สี ทิ ธิรถู้ งึ รายละเอยี ดของสาํ นวน แมก้ ระทงั่ ตวั ผถู้ กู ลา่ วหา ยกเวน้ คําให้การของตนเอง
ดังนั้น หากความลับในสํานวนถกู เผยแพร่ตอ่ บคุ คลภายนอก (ท่ไี มเ่ กี่ยวข้องกับสํานวน) คณะกรรมการ
สอบสวนและนายกฯ ต้องรบั ผดิ ชอบรว่ มกัน และส่วนตัวคณะกรรมการก็ต้องรบั ผดิ ชอบตอ่ นายกฯ ผสู้ งั่ แต่งตัง้
คณะกรรมการสอบสวนโดยตรงแตเ่ พียงผเู้ ดยี ว ไมม่ อี าํ นาจหนา้ ทใี่ ห้ผใู้ ดถา่ ยหรอื คัดสาํ เนาเอกสารการสอบสวน
ได้ (ตรงนีบ้ างคณะยงั เข้าใจผิด)
แตอ่ ย่างไรกต็ าม เนื่องจากผถู้ ูกกลา่ วหาเปน็ ไดร้ บั ผลกระทบจากคําสงั่ ลงโทษ (เม่อื มคี าํ สงั่ ลงโทษแล้ว)
ช่องทางทผี่ ู้ถูกกล่าวหาจะขอเอกสารดังกลา่ วได้ มีอยู่ ๒ ช่องทาง คอื
(๑) ช่องทางตามหลักเกณฑแ์ ละเงอ่ื นไขในการอุทธรณ์และการรอ้ งทกุ ข์ (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) ขอ้
๑๒ ทก่ี ําหนดวา่ "เพ่ือประโยชนใ์ นการอทุ ธรณ์ ผจู้ ะอทุ ธรณม์ สี ทิ ธขิ อตรวจ หรอื คัดรายงานการสอบสวนของ
คณะกรรมการสอบสวน หรอื ของผสู้ อบสวนได้ สว่ นการขอตรวจหรือคัดบันทึกถ้อยคําบุคคล พยานหลกั ฐาน
อน่ื หรอื เอกสารทเ่ี กีย่ วข้อง ใหอ้ ยู่ในดลุ พินจิ ของนายกฯ ทจ่ี ะอนุญาตหรอื ไม่ โดยใหพ้ จิ ารณาถงึ ประโยชนใ์ น
การรกั ษาวินยั ของข้าราชการส่วนท้องถ่ิน ตลอดจนเหตผุ ลและความจาํ เป็นเปน็ เร่ือง ๆ ไป"
หมายความวา่ ผู้ถูกกล่าวหาจะขอคัดสําเนาเอกสารรายงานการสอบสวนได้ ก็เพื่อนาํ ไปใช้ในการ
อุทธรณเ์ ทา่ นน้ั กลา่ วคอื ต้องมคี าํ สงั่ ลงโทษแลว้ และผอู้ นญุ าตได้แกน่ ายกฯ ไม่ใชค่ ณะกรรมการสอบสวน
(๒) ชอ่ งทางตาม พ.ร.บ.ข้อมลู ข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ ซึง่ ตอ้ งดาํ เนนิ กระบวนการ
ขั้นตอนตามกฎหมายว่าดว้ ยการน้นั เปน็ อกี ส่วนหนงึ่ ต่างหาก
ขอบคุณหลายหอ้ งทตี่ อบไดถ้ กู ตอ้ งและตรงประเด็น ครบั
***************
คาํ ถาม ๒๐/๘/๖๑
รวบรวมโดย นิตกิ รพร หนา้ 45
คาํ ถาม-ตอบวนิ ยั ปี 2561 โดยอาจารย์ประวทิ ย์ เปร่อื งการ รวบรวมโดยนติ ิกรพร เทศบาลตาํ บลบะหว้า จงั หวัดสกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
เรียนสอบถาม @p.prawit คะ กรณีถูก สตง.ชีม้ ลู คดีจดั ซ้อื ท่ดี ินแพงเกินกวา่ ความเปน็ จริงและถูกช้ีว่าเป็น
ความผิดวินัยรา้ ยแรง คนทโ่ี ดนคณะกรรมจัดซื้อโดยวิธพี เิ ศษ ตง้ั แต่ ปี 2554 และพสั ดุ นายก. ปลดั . ก.อบต.จ
.ได้คัดเลือกกรรมสอบวนิ ัยรา้ ยแรงและให้นายกออกคาํ สงั่ แตง่ ตั้ง เมื่อกรรมการสอบวินัยเสรจ็ นายกสง่ รายงาน
ให้ ก.อบต.จ.พจิ ารณา เกอื บ 6-7 เดอื น ก.ได้พจิ ารณาแต่บคุ คลท่ถี กู กลา่ วหายา้ ยหนว่ ยงานกอ่ น ก.จงึ
พจิ ารณาเฉพาะคนทไี่ ม่โอนย้ายแลว้ มีมตสิ ง่ เรอื่ งใหน้ ายกท่ีใหมพ่ จิ ารณา. เรยี นสอบถามท่านคะ กรณเี ชน่ น้ี เหตุ
ใด ก.อบต.จ.ถงึ ไมพ่ จิ ารณาให้แลว้ เสรจ็ กอ่ นสง่ เรือ่ งให้หน่วยงานท่ีใหมอ่ อกคําสง่ั ตามความเห็นชอบ ก.จงั หวดั
เดิม
สอบถามเพิ่มเตมิ คะแลว้ ตอ้ งทาํ อย่างไรตอ่ ไปคะ
ตอบ
การพิจารณาสํานวนการสอบสวนกรณีนีเ้ ปน็ กรณี ก.จังหวัดใชอ้ าํ นาจแทนนายกฯ เนอ่ื งจากนายกฯ
ถกู กลา่ วหาว่ากระทาํ ผดิ ร่วมกบั ผถู้ ูกกล่าวหา ตามขอ้ ๔๙ วรรคส่ี ของหลกั เกณฑ์และเง่อื นไขในการสอบสวน
การลงโทษทางวินยั (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) เมอื่ คณะกรรมการสอบสวน สอบสวนแลว้ เสรจ็ ตอ้ งเสนอสํานวนการ
สอบสวนไปให้ ก.จังหวดั พิจารณา ตามวรรคหา้
ลักษณะสําคญั ก็คอื วินยั เปน็ อาํ นาจของผู้บังคบั บญั ชา (รวมทัง้ ก.จงั หวัด) เจา้ สงั กัด ตามคําถาม ก.
จงั หวัดจะพจิ ารณาแทนนายกฯ ได้ ตอ้ งพิจารณาในวันทผ่ี ถู้ กู กลา่ วหายงั สงั กัดอยเู่ ท่านน้ั หากเขาโอนไปอย่นู อก
สงั กัดแล้วนายกฯ (ก.จงั หวดั ) กห็ มดอํานาจพิจารณา
ส่วนระยะเวลาการพิจารณาแทนนายกฯ ในเรอื่ งน้ี หลักเกณฑม์ ิได้กาํ หนดไว้ จึงตอ้ งเทยี บเคยี งกบั กรณี
นายกฯ แตง่ ตั้งกรรมการสอบสวนเองและพจิ ารณาเอง ตอ้ งพจิ ารณาสง่ั การภายใน ๓๐ วัน นบั แตไ่ ดร้ ับสาํ นวน
การสอบสวนจากนายกฯ ตามขอ้ ๗๗ อย่างไรกต็ าม ระยะเวลาดังกล่าวเป็นเพียงระยะเวลาเร่งรัด แม้ ก.
จังหวดั จะพจิ ารณาหลงั จากเวลาผ่านไป ๖-๗ เดือนแล้วกต็ าม หาทําให้การพจิ ารณาของ ก.จงั หวัดเสยี ไปแต่
อยา่ งใดไม่
สําหรบั ตําถามทว่ี า่ ก.จงั หวดั เลือกพจิ ารณาเป็นกลมุ่ ระหวา่ งผทู้ โ่ี อนและยังไมโ่ อนนัน้ กเ็ ป็นอาํ นาจของ
ก.จังหวัดตามทเ่ี ห็นสมควร แตจ่ ะพิจารณาลงโทษผูท้ โี่ อนไปแล้วไม่ได้ ตามหลกั การดงั กล่าว (เขา้ ใจว่าการ
พจิ ารณากลุ่มแรกของ ก.จังหวัด นา่ จะเปน็ มติใหส้ ่งสํานวนการสอบสวนไปใหส้ งั กดั ใหมด่ าํ เนินการ มใิ ชก่ าร
พจิ ารณาสงั่ โทษอย่างแน่นอน)
ขอบคุณครับ
***************
คาํ ถาม ๒๒/๘/๖๑
-อ.คะ หนขู ออนญุ าตสอบถามคะ่ คอื หนทู ําเรอื่ งวนิ ัยอยา่ งร้ายแรงอยู่เร่ืองหนึง่ ค่ะ แล้วสง่ หนังสอื ขอสาํ เนา
ข้อมูลรายละเอยี ดของเอกสารประกอบฎกี าเบกิ จ่าย และเอกสารอ่นื ทีเ่ กี่ยวข้อง ไปยัง อบต.แหง่ หนึง่ แล้วเขา
ใหเ้ อกสารมาน้อย ไม่เพยี งพอทจี่ ะเอามาวนิ ิจฉยั อะ่ คะ่ เคยขอไปแลว้ สองครง้ั ไดเ้ อกสารมา 2 แผน่ ค่ะ ตอนน้ี
ขอไปคร้ังที่ 3 รอเขาให้มาอยู่คะ่
-หนเู คยคยุ กับประธานกรรมการสอบสวน เหมอื นประธานฯ เขาบอกว่า เรามาเจอกบั เรือ่ งอิทธพิ ลอ่ะคะ่
เหมอื นแนวๆ ว่านายกอบต. เขานา่ จะกลวั ตวั เองโดนไปดว้ ยคะ่
-หนูเลยสงสยั วา่ จะมีมาตรการอะไร ท่ีทําใหเ้ ราได้ เอกสารหลักฐานมาได้ไหมคะ
-ตอนนเ้ี ลยเวลาขอขยายระยะเวลาการสอบสวนไปแลว้ คะ่ เพราะไม่มพี ยานหลักฐานทเี่ พยี งพอค่ะ ตอนนีท้ าํ
เร่ืองแจง้ ไปที่ ก.อบต.อย่คู ่ะ (ตามข้อ 58 ว.ท้ายค่ะ)
รวบรวมโดย นติ กิ รพร หนา้ 46
คําถาม-ตอบวนิ ยั ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวทิ ย์ เปรือ่ งการ รวบรวมโดยนิติกรพร เทศบาลตําบลบะหว้า จังหวดั สกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
ตอบ
มี ๓ ประเดน็ ลว้ นเกี่ยวข้องกบั เอกสารทั้งสน้ิ คือ
๑. อาํ นาจเรยี กเอกสารของกรรมการสอบสวน มเี พยี งใด
๒. เมื่อกรรมการสอบสวนเรยี กเอกสารไม่ได้ ตอ้ งทาํ อยา่ งไร
๓. ครบกําหนดการขอขยายระยะเวลา แตไ่ มอ่ าจเรยี กเอกสารเพ่ิมเติมได้เลย จะสอบสวนต่อไป
อย่างไร
สรปุ สั้น
๑. ขอให้ อบต.สง่ เอกสารและหลักฐานทเี่ กย่ี วข้อง
๒. บนั ทึกประจาํ วันทมี่ กี ารสอบสวน
๓. จัดทํา สว.๖ เสนอนายกฯ เทา่ ท่ีพยานหลกั ฐานมี
ขยายความ
หลักเกณฑ์และเง่ือนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) กําหนดไว้ ดังน้ี
๑. ข้อ ๒๗ ให้กรรมการสอบสวนมีอํานาจหนา้ ที่ ดงั ตอ่ ไปน้ี
(๑) ขอใหก้ ระทรวง ทบวง กรม หนว่ ยราชการ...ชแ้ี จงขอ้ เทจ็ จริง สง่ เอกสารและหลกั ฐานท่ี
เก่ียวข้อง...
เม่ือคณะกรรมการสอบสวน ส่งหนังสือขอสําเนาขอ้ มูลรายละเอียดของเอกสารประกอบฎีกาเบกิ จา่ ย
และเอกสารอน่ื ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งไปยงั อบต.ทมี่ ีการกระทาํ ผดิ เกิดขึน้ ถือวา่ คณะกรรมการสอบสวนได้ปฏิบตั หิ นา้ ท่ี
ตามขอ้ นี้ถกู ต้อง ครบถ้วนแล้ว เพียงแต่หนังสอื ท่ขี อไป ต้องมั่นใจว่า อบต.แหง่ น้นั ไดร้ ับอย่างแน่นอน เชน่ มี
การลงลายมอื ช่อื ผเู้ กีย่ วข้องรบั ไว้ หรอื ส่งทางไปรษณียล์ งทะเบยี นตอบรบั เป็นตน้ (ครง้ั เดียวกเ็ พียงพอ..เม่ือ
อบต.แหง่ นนั้ ไม่ให้ความร่วมมือกบั คณะกรรมการสอบสวน ผลรา้ ยจะตกอยทู่ เ่ี ขาเอง..หากมีการตรวจสอบใน
ภายหลัง..ไม่ใช่เรื่องที่คณะกรรมการสอบสวนจะต้องใชว้ ธิ กี ารนอกเหนือจากทก่ี ําหนด เพอ่ื ให้ได้มาซงึ่ เอกสาร
เช่น การขอไปถงึ ๒-๓ ครงั้ หรอื การบบี คัน้ ดว้ ยวธิ อี ่นื เป็น อาท)ิ
๒. ข้อ ๕๗ วรรคหนง่ึ "คณะกรรมการสอบสวนมีหนา้ ที่สอบสวน...และจัดทําบันทึกประจาํ วนั ทมี่ ีการ
สอบสวนไว้ด้วยทกุ ครัง้ " ซง่ึ หมายถงึ การบันทกึ เหตุการณท์ เี่ กดิ ขึ้นตลอดเวลาทมี่ ีการประชมุ หรอื มีการ
สอบสวน เช่น
(๑) บนั ทกึ ประวตั ิและความประพฤติของผถู้ ูกกล่าวหาท่เี กย่ี วข้องกบั เรอ่ื งทก่ี ลา่ วหา เป็นตน้ ว่า ใน
ระหวา่ งการสอบสวนครัง้ น้ี ผู้ถูกกล่าวหาได้พดู จาขม่ ขูก่ รรมการสอบสวน พยาน ฯลฯ
(๒) การตัดพยาน (ข้อ ๖๗)
(๓) การงดพยาน (ขอ้ ๖๘)
เปน็ ต้น
ดงั นน้ั เม่อื คณะกรรมการสอบสวนได้มีหนงั สอื ขอเอกสารไปโดยชอบแลว้ แต่ อบต.แห่งน้ันได้ให้มา
เพยี ง ๒-๓ แผน่ ใหก้ รรมการสอบสวนบันทกึ ไว้ด้วยวา่ ได้มาอยา่ งไร จากผู้ใด และเม่อื ใด (ขอ้ ๕๙) หนงั สอื ทวง
คร้งั ท่ี ๒ และ ๓ ก็ต้องบันทกึ ประจาํ วันท่ีมกี ารสอบสวนไว้ดว้ ย เพราะเปน็ เหตกุ ารณ์ทเี่ กิดขน้ึ ในขณะทาํ การ
สอบสวนและรวบรวมพยานหลกั ฐาน โดยไม่จําตอ้ งอาศัยขอ้ ๕๘ วรรคสาม แตอ่ ย่างใด
รวบรวมโดย นติ กิ รพร หนา้ 47
คําถาม-ตอบวนิ ัย ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวิทย์ เปร่อื งการ รวบรวมโดยนติ ิกรพร เทศบาลตําบลบะหวา้ จงั หวัดสกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
๓. ข้อ ๗๕ เมอ่ื คณะกรรมการสอบสวนไดร้ วบรวมพยานหลกั ฐานตา่ ง ๆ เสรจ็ แล้ว ให้ประชมุ พจิ ารณา
ลงมติ ดังน้ี
(๑) ผู้ถกู กล่าวหากระทาํ ผิดวนิ ัยหรอื ไม่ ถ้าผดิ เป็นความผดิ กรณีใด ตามขอ้ ใด และควรไดร้ ับโษ
สถานใด...(เทา่ ทม่ี ีพยานหลักฐาน) จากน้นั ใหจ้ ดั ทาํ รายงานการสอบสวน (สว.๖) เสนอนายกฯ ถอื วา่ การ
สอบสวนแล้วเสรจ็
หมายเหตุ
๑. วิธรี วบรวมพยานหลักฐานอกี ๑ ประเภท คือ "การรวบรวมพยานหลกั ฐานต่างทอ้ งท่ี" ตามขอ้ ๖๙
ซึง่ คณะกรรมการสอบสวนควรพจิ ารณาดําเนินการกอ่ นการเรยี กพยานหลักฐานตามปกติ (ไมค่ วรนํามา
ดําเนินการหลงั คณะกรรมการเรียกเอกสารเองไม่ได้ เน่ืองจากคณะกรรมการสอบสวนมแี นวทางแกไ้ ขดังกลา่ ว
แล้ว)
๒. คําวา่ "อทิ ธพิ ล" ระหว่างการสอบสวน ในความเป็นจริงเกดิ ขึน้ ได้ แต่ในการปฏบิ ตั หิ น้าทส่ี อบสวน
คณะกรรมการสอบสวนต้องดูแลใหเ้ กิดความยุติธรรมตลอดการสอบสวน โดยปราศจาก "อคติ" บางครงั้
พฤตกิ รรมของผถู้ กู กล่าวหา นา่ เชอ่ื วา่ ผิดวนิ ยั อย่างรา้ ยแรง แตก่ ารสอบสวนไมส่ ามารถแสวงหาพยานหลักฐาน
มาเพ่อื ประกอบการพจิ ารณาเสนอลงโทษปลดออกหรอื ไลอ่ อกได้ จะดว้ ยเหตผุ ลกลใดก็ตาม ไม่ควร "มโน"
เสนอโทษเป็นวินยั อยา่ งรา้ ยแรงโดยท่ีพยานหลักฐานไปไมถ่ ึง ซงึ่ กรณีดังกลา่ วมิใชค่ วามผิดของคณะกรรมการ
สอบสวนแตอ่ ย่างใด ผทู้ มี่ ีหนา้ ทตี่ อ้ งรบั ผิดชอบคือ อบต.ท่ไี มใ่ ห้ความร่วมมือนั่นเอง ไดแ้ ก่ ผ้เู กย่ี วข้องทกุ คน
ขอใหจ้ าํ ไว้ว่า ถา้ สอบสวนอย่างตรงไปตรงมาแลว้ ผมู้ เี จตนาดี "ปลอดภ้ย" แน่นอน
ขอบคุณทุกข้อความ ครับ
********************
คําถาม ๒๗/๘/๖๑
ขอเรยี นถามว่า ผมเปน็ นกั วเิ คราะห์ฯ เพ่ิงบรรจไุ ดไ้ ม่นาน อบต.ทีผ่ มอยู่ไมม่ ีนิตกิ ร นายกฯ ส่งั ให้ผมเสนอ
คําส่งั ต้งั กรรมการสอบวนิ ัยช่างโยธา ผมไม่คยมปี ระสบการณด์ า้ นนีม้ าก่อน แตจ่ บนติ ิศาสตร์ จะเสนอชอื่ ผู้ช่วย
จัดเกบ็ ใหเ้ ปน็ ผชู้ ่วยเลขานุการกรรมการสอบสวนได้หรอื ไม่
ขอรอคาํ ตอบ ขอบคณุ อยา่ งสงู ครบั
ตอบ
ผชู้ ่วยเลขานุการคณะกรรมการสอบสวน จะมหี นา้ ท่ชี ว่ ยเหลอื กรรมการสอบสวนในดา้ นเอกสาร เชน่
พมิ พ์ จัด เกบ็ รกั ษา รวมรวมพยานหลกั ฐาน เป็นตน้ ตามทีค่ ณะกรรมการสอบสวนมอบหมาย แต่ไม่มีสทิ ธใิ น
การลงมติใด ๆ
การท่ีมคี าํ สง่ั แต่งตง้ั ผู้ชว่ ยเลขานุการ จะมีขอ้ ดหี ลายประการ เชน่ เม่อื ไดร้ บั การแตง่ ตั้งแลว้ ผู้น้นั
สามารถอย่ใู นทีป่ ระชุมหรอื ทสี่ อบสวนได้ ไมถ่ อื ว่าเป็น "ผู้อืน่ " ทต่ี ้องหา้ มอยใู่ นทส่ี อบสวน
เคยปรากฏขอ้ เทจ็ จรงิ วา่ ในจาํ นวนกรรมการทุกคนไมผ่ ูใ้ ดพิมพด์ ีดเป็นแมแ้ ตค่ นเดียว จงึ วานให้
เจา้ หนา้ ทพ่ี ิมพ์ดีดช่วยพิมพ์ให้ ซง่ึ ผลการสอบสวนอาจเสียไปได้ ถา้ คณะกรรมการไมร่ ะมดั ระวงั หรือในเร่อื ง
การรกั ษาความลับของสํานวนการสอบสวน ซงึ่ ผ้ไู มไ่ ด้รบั การแต่งต้งั ในคาํ สัง่ ย่อมไม่มีความรบั ผิดชอบแตอ่ ย่าง
ใด
ดังนน้ั การแตง่ ตัง้ ผ้ชู ว่ ยเลขานกุ ารคณะกรรมการจึงเปน็ สิง่ จาํ เปน็ ในบางกรณี
คาํ ถามมีประเดน็ เพยี งวา่
ผู้ชว่ ยจดั เกบ็ ฯ เป็นผ้ชู ่วยเลขานกุ ารคณะกรรมการสอบสวน ไดห้ รอื ไม่
รวบรวมโดย นิติกรพร หน้า 48
คําถาม-ตอบวินัย ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวิทย์ เปร่ืองการ รวบรวมโดยนิติกรพร เทศบาลตําบลบะหว้า จังหวดั สกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
สรปุ สนั้
ได้ ถ้า...
ขยายความ
หลักเกณฑ์และเง่ือนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) ข้อ ๔๙ วรรคสาม
กําหนดวา่ "ในกรณจี ําเป็นจะใหม้ ผี ้ชู ว่ ยเลขานกุ ารซงึ่ เปน็ ข้าราชการส่วนท้องถิ่น (นนั้ ) หรอื ขา้ ราชการส่วน
ท้องถนิ่ อน่ื หรอื ข้าราชการฝาุ ยพลเรอื น หรอื ลกู จ้างประจํา หรอื พนกั งานจา้ งตามภารกิจทม่ี ีคุณสมบตั ติ าม
วรรคสอง ด้วยก็ได้ และให้นาํ ขอ้ ๕๔ ขอ้ ๕๕ และขอ้ ๕๖ มาใชบ้ งั คับโดยอนโุ ลม
กล่าวคือ ผูท้ อ่ี าจถูกแตง่ ตงั้ เป็นผชู้ ่วยเลขานกุ ารคณะกรรมการสอบสวนได้ ได้แก่
๑. ข้าราชการส่วนท้องถิ่นน้ัน
๒. ขา้ ราชการสว่ นทอ้ งถิ่นอ่ืน
๓. ขา้ ราชการฝุายพลเรือน
๔. ลูกจ้างประจาํ หรือ
๕. พนกั งานจา้ งตามภารกจิ (ไมใ่ ช่พนักงานจา้ งทั่วไป)
และตอ้ งเป็น
๑. ผู้ชว่ ยนติ ิกร
๒. จบปริญญาทางกฎหมาย
๓. ได้รบั การฝกึ อบรมตามหลักสตู รการดําเนินการทางวินยั (หลักสูตร ๕ วัน) หรอื
๔. มีประสบการณ์ดา้ นการดาํ เนนิ การทางวินยั (เคยเปน็ ผู้ชว่ ยเลขานกุ ารคณะกรรมการสอบสวน
มาแล้ว ๑ ครั้งข้ึนไป)
อยา่ งใดอย่างหนึ่ง
จากคาํ ถาม
หากผู้ชว่ ยจัดเก็บฯ มีคณุ สมบัติดงั กล่าวกส็ ามารถแต่งตงั้ ได้
ถา้ ไม่มแี มแ้ ต้ขอ้ เดียว แตง่ ต้งั ไม่ได้
ขอบคณุ สําหรบั หลายความเห็น ครับ
********************
คาํ ถาม ๓๑/๘/๖๑
เรียนอาจารยป์ ระวิทย์ เปร่อื งการ @p.prawit
กรณวี นิ ัยร้ายแรง (เทศบาลสง่ เรื่องให้ ปปช.ดําเนินการดว้ ย) ขณะรอมติ ก.ทจ. ปปช.มมี ตวิ า่ การกระทํา
ของผถู้ ูกกล่าวหามมี ลู ความผิดวนิ ยั ไม่รา้ ยแรง ขอให้เทศบาลพิจารณาโทษทางวนิ ยั และส่งรายงานเอกสารและ
ความเห็นมายงั ผบู้ งั คับบัญชาเพอ่ื พจิ ารณาโทษทางวนิ ัยตามฐานความผิดท่ี ปปช.ได้มีมติ
เรียนถามวา่ หากเทศบาลแหง่ นีแ้ ต่งตัง้ คณะกรรมการพจิ ารณาโทษทางวินยั กรณีนี้ สามารถกระทาํ ได้
หรอื ไม่
ขอบคณุ ครบั (บญุ แทๆ้ ท่ีสง่ เรื่องให้ ปปช.)
ตอบ
อํานาจทางวนิ ยั ตามคําถาม มี ๒ ทาง คอื
๑. เปน็ อาํ นาจของนายกเทศมนตรี ตามมาตรา ๑๕ แหง่ พ.ร.บ.ระเบยี บบรหิ ารงานบคุ คลสว่ นท้องถน่ิ
พ.ศ. ๒๕๔๒
รวบรวมโดย นิติกรพร หน้า 49
คาํ ถาม-ตอบวนิ ัย ปี 2561 โดยอาจารย์ประวิทย์ เปร่อื งการ รวบรวมโดยนิตกิ รพร เทศบาลตําบลบะหว้า จังหวดั สกลนคร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------
๒. เป็นอํานาจของ ป.ป.ช. ตามมาตรา ๙๒ แหง่ พ.ร.ป.ว่าด้วยการปอู งกันและปราบปรามการทจุ รติ
พ.ศ.๒๕๔๒ (ฉบบั เดิม)
กฎหมายทง้ั ๒ ฉบบั ไม่มบี ทบญั ญัตใิ นมาตราใดเลยทตี่ ัดอํานาจฝาุ ยใดฝุายหนง่ึ มใิ หด้ ําเนนิ การตาม
อํานาจหนา้ ที่ เมื่อมกี รณพี นกั งานเทศบาลถกู กลา่ วหาว่ากระทาํ ผดิ วินัย
กลา่ วคอื นายกเทศมนตรกี ็ดําเนินการทางวนิ ยั ไปตามปกติภายใต้อาํ นาจของตน (หาไม่แล้ว อาจเข้า
ข่ายละเว้นได้) จนถึงข้ันตอนรายงานการดําเนินการทางวินัยไปยัง ก.จงั หวดั สว่ น ป.ป.ช.ต้องดาํ เนนิ การไตส่ วน
ไปตามที่กฎหมายบัญญตั ิ ตอ่ เมอื่ มมี ตชิ ม้ี ลู ตามมาตรา ๙๒ แล้วเท่านนั้ จงึ หา้ มนายกเทศมนตรีแตง่ ตงั้
คณะกรรมการสอบสวนข้ึนมาอีก โดยใหใ้ ช้สาํ นวนของ ป.ป.ช.สั่งลงโทษไดเ้ ลย ซึ่งเป็นกรณที ่นี ายกเทศมนตรยี ัง
ไมม่ กี ารแต่งตง้ั คณะกรรมการสอบสวนทางวินยั มากอ่ น (แต่ตามคาํ ถามต้งั และสอบเสร็จแล้ว)
ประเด็นคือ
เทศบาลจะแตง่ ตง้ั คณะกรรมการพจิ ารณาโทษทางวนิ ยั (จากสาํ นวน ป.ป.ช.) ทําไดห้ รือไม่
สรปุ สั้น
ไมม่ กี ฎกําหนดให้ทาํ
ขยายความ
วิธปี ฏบิ ัตทิ ีถ่ ูกตอ้ ง หลงั จากเทศบาลสอบสวนพจิ ารณาจนเสร็จ และรายงานไปยงั ก.ท.จ.แลว้ อาํ นาจ
หนา้ ที่ของเทศบาล ถือวา่ ดําเนนิ การครบถว้ น ขน้ั ตอนปัจจบุ นั จงึ เป็นข้นั ตอนการพิจารณารายงานการ
ดําเนินการทางวินัยของ ก.ท.จ.
เม่ือข้อเท็จจรงิ ปรากฏว่า ป.ป.ช.มหี นังสือชม้ี ลู มายงั นายกเทศมนตรี ๆ ชอบทจี่ ะสง่ หนงั สอื นั้นตอ่ ไปยัง
ก.ท.จ.เพอื่ รวมพจิ ารณามมี ติ ตามขอ้ ๘๗ วรรคหนึ่ง และขอ้ ๘๘ วรรคหนง่ึ ของหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการ
สอบสวน การลงโทษทางวินัย (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) โดยไมต่ อ้ งแต่งตงั้ คณะกรรมการพจิ ารณาโทษทางวนิ ยั
เพราะไมม่ ขี อ้ กาํ หนดใหท้ ํา จากน้นั ตอ้ งแจง้ ให้ ป.ป.ช.ทราบดว้ ย
ขอบคณุ ทุกความเห็น ครบั
*****************
คาํ ถาม ๓/๙/๖๑
ขอเรียนถามท่านคะ่
ดฉิ ันเป็นข้าราชการบรรจุใหม่ ได้รบั มอบหมายจากทา่ นหัวหน้าสํานกั ปลัดให้ควบคมุ สมดุ ลงเวลา มขี อ้
สงสยั วา่ พ่ขี า้ ราชการคนหนงึ่ มาเซ็นชอื่ ทํางานตอน 06.00 น. เป็นคนแรกทุกวัน (ดูสมดุ ยอ้ นไป 2 เลม่ กเ็ ซ็น
คนแรก) แต่ช่วงเชา้ ไมค่ ่อยเหน็ พเ่ี ขาเลย หลายครั้งพบหน้าประมาณบา่ ยสอง บางวัน ผอ.มาถามว่า "คนนีม้ า
หรือยงั " ดฉิ นั กเ็ รียนว่า "มาแลว้ แตไ่ มท่ ราบไปไหน" มคี นมากระซบิ วา่ พ่ีคนนีม้ าแอบเซน็ ชื่อแลว้ หนไี ปรับจ็อบ
พเิ ศษเปน็ ประจํา
เรียนถามวา่
1. พีค่ นนี้ทาํ ผิดวนิ ัยไหมคะ
2. ถา้ ผดิ วนิ ยั จะผิดฐานใด
3. ดฉิ ันควรทําอย่างไร ในฐานะท่ีรบั ผิดชอบสมุดลงเวลา เพราะถา้ จรงิ ถอื ว่าเอาเปรยี บผอู้ ื่นมาก
ด้วยความเคารพ ขอบพระคณุ มากค่ะ
ตอบ
รวบรวมโดย นติ กิ รพร หนา้ 50