The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แนวการสอบวินัย อ.ประวิทย์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by phuttarat, 2021-11-29 23:35:10

แนวการสอบวินัย อ.ประวิทย์

แนวการสอบวินัย อ.ประวิทย์

คาํ ถาม-ตอบวินัย ปี 2561 โดยอาจารย์ประวทิ ย์ เปรื่องการ รวบรวมโดยนติ กิ รพร เทศบาลตําบลบะหว้า จังหวดั สกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

ปญั หาที่ถามจะมใี หเ้ ห็น หากการกาํ กับดแู ลของผูบ้ งั คบั บญั ชาหยอ่ นยาน ซ่ึงตัวขา้ ราชการเองตอ้ ง
รกั ษาวนิ ัยโดยเครง่ ครดั เวลามาปฏิบัตหิ น้าทรี่ าชการเพียง ๘ ชวั่ โมงเทา่ นน้ั ท่เี หลอื กเ็ ปน็ เวลาสว่ นตวั ไม่ควร
เบียดบงั เวลาราชการไปเป็นนจิ ในลักษณะนี้

สรปุ ส้นั
๑. ผิดวนิ ยั
๒. ฐานละทิ้งราชการ และอีกหลายฐาน..ถ้าสอบสวน
๓. ควรนําเรียนผบู้ ังคบั บญั ชาตามท่ีได้ทราบขา่ ว

ขยายความ
๑. เวลาราชการ ระหวา่ ง ๐๘.๓๐-๑๖.๓๐ น. การไม่อยปู่ ฏบิ ตั หิ นา้ ทรี่ าชการโดยไมล่ าหรือขออนุญาต
ผู้บงั คบั บญั ชาใหถ้ ูกต้อง ถอื เปน็ ความผิดทางวินยั ตามข้อ ๑๐ หลกั เกณฑ์และเงอื่ นไขในการสอบสวน การ
ลงโทษทางวินยั (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙)
๒. การละท้ิงหน้าทรี่ าชการ ต้องละทงิ้ ต้ังแตค่ รงึ่ วันเป็นตน้ ไป ดังนนั้ พฤตกิ รรมดงั กลา่ วจงึ เปน็ การละ
ทิง้ หน้าทรี่ าชการในบางวัน (ทเ่ี ข้ามาบ่ายสอง) แม้จะลงเวลามาปฏิบตั ริ าชการ ก็ไม่ไดห้ มายความวา่ มาปฏบิ ัติ
หน้าท่รี าชการ
ดงั นน้ั วนิ ัยทผ่ี ้นู ีก้ ระทาํ ผิด คือ

(๑) ฐานละทง้ิ หนา้ ที่ราชการ ข้อ ๑๓ และอาจผดิ ฐาน
(๒) ไม่ตัง้ ใจปฏิบตั ิหน้าที่ราชการ ขอ้ ๘
(๓) ไม่อุตสาหะ เอาใจใสร่ ะมัดระวงั รกั ษาประโยชน์ของราชการ ข้อ ๙
(๔) รายงานเทจ็ ต่อผบู้ ังคับบญั ชา ข้อ ๑๕
เปน็ ต้น ทั้งนีข้ ึ้นอย่กู ับผลการสอบสวน
๓. คุณได้ยนิ มา ไม่ร้จู รงิ เทจ็ ประการใด ควรเลา่ ต่อให้ผบู้ ังคับบญั ชาฟงั (ยงั ไมค่ วรทาํ บนั ทกึ เพราะอาจ
เกิดความขัดแย้งได)้ รอใหผ้ ้บู งั คบั บญั ชาสง่ั การ เปน็ ทางออกที่ดที ีส่ ดุ
ขอบคุณทกุ ความเห็น ครับ

*******************
คําถาม ๕/๙/๖๑

ผมรับราชการมาเปน็ ปีที่ 3 ขออนุญาตเรียนถามวา่ มีขา้ ราชการชาย 4 ราย ไดร้ ับอนุมตั ิอนญุ าตให้ไป
สมั มนาตา่ งจังหวดั เปน็ เวลา 3 วนั แต่ไปเพียงวันแรกวนั เดยี ว อกี 2 วนั ไม่เหน็ เข้าหอ้ งสัมมนา ทราบภายหลัง
วา่ พากนั ไปเทีย่ ว และมกี าร "อ็อฟเดก็ " ด้วย ผมเปน็ ผรู้ ว่ มสมั มนาเทา่ นนั้ ไมม่ สี ว่ นรบั ผดิ ชอบ แตไ่ ม่สบายใจเลย
ทเ่ี หน็ ขา้ ราชการประพฤตเิ ช่นนี้ เสยี ดายงบประมาณครบั ขอเรียนถามวา่

1. ผดิ วินัยหรอื ไม่
2. ผมควรเล่าให้ ผบช.ฟงั ดไี หม
3. หากจะรอ้ งเรียนสามารถทาํ ได้หรอื ไม่ และตอ้ งรอ้ งตอ่ หน่วยงานใดบ้าง
ขอบพระคุณล่วงหนา้ ครบั ผม

ตอบ

รวบรวมโดย นิติกรพร หน้า 51

คําถาม-ตอบวนิ ัย ปี 2561 โดยอาจารย์ประวิทย์ เปรอื่ งการ รวบรวมโดยนิติกรพร เทศบาลตําบลบะหว้า จงั หวดั สกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

เปน็ ข้าราชการประเภทใดไมท่ ราบ คงไมใ่ ชท่ อ้ งถ่นิ ดอกกระมงั แตป่ ระเภทใดกต็ าม พฤติกรรมดงั กลา่ ว
ควรหลกี เลย่ี ง หากจะมบี ้างไมน่ า่ ให้เอกิ เกริกอย่างที่เล่า เราเปน็ เพอ่ื นทรี่ ่วมสัมมนาไมม่ ีหน้าทใ่ี ด ๆ นอกจาก
การนําตวั เองเข้ารว่ มสมั มนา ควรรกั ษาความสามคั คใี นหมคู่ ณะนา่ จะดกี ว่า ให้ผูม้ อี ํานาจหนา้ ที่ท่านวา่ กันไป

แต่เมอื่ ถาม ก็จะตอบตามประเด็น
สรปุ สนั้
๑. ผดิ วินยั
๒. ไม่ควร
๓. ยิ่งไมค่ วร
ขยายความ
๑. หากเปน็ ข้าราชการสว่ นทอ้ งถิน่ จะมีความผิดทางวนิ ยั ตามหลักเกณฑแ์ ละเงือ่ นไขในการสอบสวน
การลงโทษทางวนิ ัย (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) หลายฐานความผดิ หากมกี ารสอบสวน เช่น

(๑) ฐานละทงิ้ หน้าทร่ี าชการ ตามข้อ ๑๗ เนือ่ งจากการไปอบรมสัมมนาเป็นการไปปฏบิ ัตหิ นา้ ที่
ราชการ เมอื่ ไม่เข้าอบรมสัมมนาแมจ้ ะเซน็ ช่อื หรอื ไม่ก็ตาม จะผดิ วนิ ัยฐานนี้

(๒) ฐานประพฤตชิ ่วั ตามขอ้ ๒๓ กรณี "ออ็ ฟเดก็ " เนอื่ งจากมแี นวทางอยูว่ ่า "ให้ขา้ ราชการเลิกใช้
บรกิ ารทางเพศ ในระหว่างไปปฏบิ ตั ริ าชการต่างจงั หวดั " ตามหนังสอื สํานักเลขาธิการคณะรฐั มนตรี ที่ สร
๐๒๐๓/ว ๒๙ ลงวนั ท่ี ๑๙ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๒๘ ซง่ึ นํามาใช้กบั ข้าราชการส่วนทอ้ งถิ่นดว้ ย ตามหนงั สอื สาํ นักงาน
ก.จ., ก.ท. และ
ก.อบต. ท่ี มท ๐๓๑๓.๓/ว ๘๘๙ ลงวันท่ี ๓๐ สงิ หาคม ๒๕๔๕

๒. ไมค่ วรเล่า (เพียงเกรน่ิ วา่ ..เห็นเขาพดู กัน..จะดกี วา่ ) เพราะเราไมใ่ ช่ผรู้ ับผิดชอบโครงการ เร่อื งนี้คง
ไมเ่ งียบดอก ลองเรารู้ เดยี๋ วถึงหูผบู้ ังคบั บญั ชาแนน่ อน ใหท้ า่ นจดั การกนั เอง ถ้าไม่จัดการแล้วมคี นอ่ืนร้องไป
(ไมใ่ ช่เรา) เป็นเร่อื งแน่ ดีแล้ว..ที่มขี า้ ราชการแบบคุณจาํ นวนมาก

๓. หน่วยรบั ร้องเรียนเรอ่ื งลักษณะน้ี (หนว่ ยภายนอก) มีมากมาย เช่น อาํ เภอ จงั หวัด กรม กระทรวง
ศนู ยด์ าํ รงธรรมทกุ ระดับ ป.ป.ท., สตง. หรือแม้แต่ ป.ป.ช.ร้องเรียนได้ง่าย (และตายหยงั เขยี ด) แตค่ วรรอ้ งเรียน
ดีหรอื ไม่ ใหก้ ลบั ไปอา่ นดูข้อ ๒ อกี ที

ขอบคณุ ทุกความเหน็ ครบั
***************

คําถาม ๗/๙/๖๑
มีปัญหาอยากปรกึ ษาอาจารย์ จะขออนญุ าตปรึกษาผา่ นไลนน์ ี้ได้มั้ยครบั
เลา่ โดยสงั เขปกอ่ นครับ
สตง.ตรวจโครงการก่อสรา้ งตอ่ เติมอาคารของเทศบาลพบว่ามีปรมิ าณงานไมค่ รบถ้วนและประมาณราคา

บางรายการสงู เกนิ จรงิ จงึ ออกหนังสือให้เทศบาลช้ีแจงและเรยี กเงนิ คนื
หลังจากทไี่ ด้รับหนังสอื แลว้ ชา่ งก็ไปหาเงินมาคืนคลงั ครบตามจาํ นวนท่ี สตง.แจง้ ทักทว้ งไว้ ซึ่งเทศบาลก็ได้

รายงานการคนื เงินไปกอ่ น ส่วนการสอบข้อเท็จจรงิ ท่ี สตง.ใหด้ าํ เนินการนัน้ ใหส้ อบคณะกรรมการตรวจงาน
จ้างและชา่ งควบคุมงาน เทศบาลแจง้ ว่าอยู่ในระหว่างดําเนินการ จะรายงานใหท้ ราบในคร้งั ต่อไป ซงึ่ เวลาผา่ น
ไปหลายเดือนแล้ว และ สตง.ก็ได้มกี ารโทรศัพทม์ าทวงเมอื่ สองอาทติ ยก์ อ่ น

คําถาม
1.จะเรม่ิ กระบวนการสอบข้อเทจ็ จรงิ อย่างไรครับ

รวบรวมโดย นติ กิ รพร หน้า 52

คําถาม-ตอบวนิ ัย ปี 2561 โดยอาจารย์ประวิทย์ เปร่ืองการ รวบรวมโดยนติ ิกรพร เทศบาลตําบลบะหว้า จงั หวัดสกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

2.บุคคลที่ สตง.ใหส้ อบฯ ในสว่ นคณะกรรมการตรวจการจ้าง มชี ่างของ อปท.อื่นรวมอยดู่ ว้ ยสามทา่ น จะ
ดําเนนิ การสอบอยา่ งไรครับ
ตอบ

๑. การสอบขอ้ เท็จจรงิ นน้ั ไมม่ ีกฎที่กาํ หนดกระบวนการขน้ั ตอนเอาไว้แต่อย่างใดว่า ต้องดาํ เนินการ
๑..๒..๓..๔... แตเ่ มอ่ื ถึงเวลาผูท้ เ่ี กี่ยวขอ้ งมกั จะดาํ เนินการใน ๒ ลกั ษณะ คือ

ลักษณะท่ี ๑ สอบแบบถาม-ตอบ โดยใช้แบบ ปค.๑๔ บนั ทึกปากคาํ จากนนั้ จึงนํามาช่ังนํ้าหนกั แลว้
สรปุ ผล

ลกั ษณะที่ ๒ สอบโดยใชแ้ นวทางของการสอบทางวนิ ยั โดยอนุโลม เช่น
(๑) การแจง้ คําสั่งตัง้ กรรมการ
(๒) การแจ้งข้อรอ้ งเรียน/ขอ้ กล่าวหา
(๓) การแจ้งสรปุ พยานหลกั ฐาน
(๔) การสอบปากคาํ พยาน
(๕) การใหโ้ อกาสชีแ้ จงนาํ สบื
(๖) การทํารายงานผลการสอบ
เป็นต้น

จะใช้วิธกี ารลักษณะใดยอ่ มเป็นดลุ พนิ จิ ของกรรมการสอบขอ้ เท็จจรงิ โดยแท้ เพียงแตข่ อใหไ้ ด้มลู ท่ี
ต้องการทราบ โดยวธิ กี ารท่ีไดม้ าตอ้ งชอบดว้ ยกฎหมาย

๒. การสอบข้อเทจ็ จรงิ ตามที่ สตง.แจง้ ย่อมเป็นกรณที ย่ี ังไมม่ กี ารชี้มลู ไม่ต้องด้วยหลกั เกณฑ์และ
เงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินยั (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) ขอ้ ๒๔ วรรคหา้ เนอ่ื งจากชา่ ง ๓ คน สงั กดั
ตา่ ง อปท. นายกเทศมนตรีไม่ใชผ่ ้บู ังคบั บญั ชา ต้องใช้อาํ นาจตาม พ.ร.บ.จัดต้งั ฯ เพ่อื เรียกผอู้ ย่ตู า่ งสงั กัดมา
สอบ ซง่ึ ตาม พ.ร.บ.เทศบาล ๒๔๙๖ มาตรา ๔๘ เอกวสี ติ บญั ญตั วิ ่า "ในการปฏบิ ตั หิ นา้ ที่ ใหน้ ายกเทศมนตรี
รองนายกเทศมนตรี และพนกั งานเทศบาลเปน็ เจ้าพนกั งานตามประมวลกฎหมายอาญา" จงึ มอี ํานาจตาม
กฎหมายในอันทจ่ี ะเรยี กชา่ งทั้ง ๓ คนมาสอบปากคาํ ได้

ดงั น้ัน การออกคําส่งั ตงั้ กรรมการสอบข้อเทจ็ จริงในเรอื่ งนี้ จึงควรอ้าง พ.ร.บ.เทศบาล พ.ศ.๒๔๙๖
ดงั กล่าว

ขอบคณุ ครับ
********************

คําถาม ๑๔/๙/๖๑
เรยี นถามทา่ น ผอ.ครบั
ผมเป็นพนกั งานเทศบาลตาํ บล ก. ตาํ แหนง่ นกั วิเคราะหฯ์ ทราบว่าผมเองถกู ร้องเรียนไปทศ่ี นู ย์ดาํ รงธรรม

จงั หวัด ๆ สง่ เรอ่ื งให้เทศบาล ก.สอบสวนข้อเท็จจรงิ ระหว่างนั้นผมโอนมาอยเู่ ทศบาลตาํ บล ข. ตอ่ มาเทศบาล
ก.ไดม้ หี นงั สือชม้ี ลู ความผดิ ผมมายงั เทศบาล ข.โดยที่ตวั ผมเองไมเ่ คยถูกเรยี กไปสอบสวนใด ๆ ทงั้ สิ้น ประเดน็
คือ

1. การสอบสวนขอ้ เทจ็ จริงลักษณะดังกลา่ วก่อนชีม้ ลู ทาํ ได้หรอื ไม่
2. นายกเทศมนตรี ข.จะสอบขอ้ เทจ็ จรงิ ใหม่อีก ไดห้ รอื ไม่
3. นายกเทศมนตรี ข.จะสงั่ ยตุ เิ ร่ือง ได้หรอื ไม่
4. ทางออกเร่อื งน้ตี ้องทําอย่างไร
กราบขอบพระคุณครับ

รวบรวมโดย นติ ิกรพร หน้า 53

คําถาม-ตอบวินัย ปี 2561 โดยอาจารย์ประวิทย์ เปรื่องการ รวบรวมโดยนิตกิ รพร เทศบาลตําบลบะหวา้ จงั หวดั สกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

ตอบ
การสอบข้อเทจ็ จรงิ มิไดม้ กี ฎหมาย ระเบยี บ หรอื แนวทางกําหนดไวช้ ัดเจนวา่ ต้องดาํ เนนิ การอย่างใด

ตามท่เี คยเสนอแล้ว ดังนั้น ใครจะสอบเรื่องอะไรเพ่อื ทราบขอ้ เทจ็ จรงิ ในขอบเขตของตน โดยไม่ผดิ กฎหมาย
ด้วยวธิ ีใด ยอ่ มสามารถกระทําได้

ในเรือ่ งท่ีมีการรอ้ งเรียน การสอบข้อเทจ็ จรงิ ทเ่ี ป็นธรรมน้นั ผูถ้ ูกรอ้ งเรียนควรได้รบั ทราบข้อกล่าวหา
สรปุ พยาน และมโี อกาสชีแ้ จง ซึง่ บางกรณสี ามารถนําผลไปลงโทษทางวินยั อย่างไมร่ ้ายแรงได้โดยไม่ต้องตัง้
กรรมการสอบวนิ ยั อย่างไมร่ ้ายแรงข้ึนมาอีก ดงั หลกั เกณฑแ์ ละเงือ่ นไขในการสอบสวน การลงโทษทางวนิ ยั
(พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) ข้อ ๒๖ วรรคสี่

อย่างไรกต็ าม แม้ผถู้ ูกรอ้ งจะไมเ่ คยใหถ้ ้อยคําตอ่ กรรมการสอบขอ้ เทจ็ จรงิ (คงมีการรวบรวม
พยานหลกั ฐานแวดล้อมกรณีแล้ว) ก็ไมไ่ ดห้ มายความวา่ ผลการสอบน้นั จะเสียไป (โดยหลกั การแลว้ ไมค่ วร)
เพราะมิไดม้ ีการกาํ หนดไวเ้ ชน่ น้ัน อกี ทงั้ ผลกไ็ มก่ ระทบสิทธผิ ถู้ กู ร้องด้วยประการท้ังปวง หากไม่มกี ารขยายผล
หรือดําเนนิ การตอ่

ประเดน็ คําถาม
การสอบข้อเทจ็ จรงิ
๑. ไม่สอบผูถ้ ูกรอ้ ง ไดห้ รอื ไม่
๒. สังกดั ใหมจ่ ะสอบเพิ่ม ได้หรือไม่
๓. สังกดั ใหม่จะสงั่ ยตุ เิ รื่องโดยไม่ดาํ เนนิ การตอ่ ไดห้ รอื ไม่
๔. มีแนวทางดาํ เนินการอย่างไร
สรปุ สน้ั
๑. ได้
๒. ได.้ .แตไ่ มค่ วร
๓. ไม่ได้
๔. สอบวนิ ยั
ขยายความ
๑. ดงั กลา่ วแลว้ ในตอนตน้
๒. การสอบข้อเทจ็ จรงิ ในเรอื่ งเดยี วกนั ของสงั กดั ใหม่ ตอ้ งมีเหตผุ ลว่า เพราะเหตุใด หากมกี ารสอบใหม่
จริง จะเกิดปัญหาตามมาอีกมากมาย เช่น จะอา้ งเหตผุ ลใดในการออกคําสงั่ กรรมการอาจไมส่ ะดวกในการ
เดนิ ทาง อาจไมไ่ ดร้ ับความรว่ มมอื ส้ินเปลอื งงบประมาณ และเสยี เวลาในการปฏิบัติราชการอ่นื เป็นตน้
ดังน้ัน จึงไมค่ วรตง้ั กรรมการสอบขอ้ เท็จจรงิ ใหม่ในเรอื่ งเดิม หากจะสอบเพิม่ ให้สมบรู ณ์ ก็ไมม่ กี ฎห้าม
แต่ไมค่ วรด้วยเหตุผลดังกลา่ วแลว้
๓. หากสงั กัดใหมจ่ ะไมส่ นใจใยดกี บั การชม้ี ลู ของสงั กัดเดิม แลว้ สงั่ ยตุ เิ รอ่ื ง อนั ตราย !! แน่นอน ผู้ส่งั ยตุ ิ
เรือ่ ง เสย่ี งตอ่ ความผดิ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ ฐานละเวน้ การปฏบิ ัตหิ นา้ ที่ และการถกู
สอบสวน รวมถึงการถูกถอดถอน ตามขอ้ ๒๔ วรรคสบิ สอง เพราะการช้มี ลู จากสังกดั เดิมถือเป็น
พยานหลกั ฐานในเบอื้ งตน้ ดังข้อ ๒๔ วรรคสี่ ของหลักเกณฑแ์ ละเงอ่ื นไขในการสอบสวนฯ ทีน่ ายกเทศมนตรี
ข.ต้องดาํ เนนิ การทางวินยั ทนั ที (ไม่มที างเลี่ยง)
๔. ข้อแนะนํา มดี ังน้ี

(๑) ใหน้ ายกเทศมนตรตี าํ บล ข.ออกคาํ สัง่ แตง่ ตง้ั กรรมการสอบวนิ ัยตามทเ่ี ทศบาล ก.ชีม้ ลู
(๒) กรรมการต้องสอบสวนไปตามจรงิ ให้หมดประเดน็ (ใหส้ ้ินกระแสความ) เช่น

รวบรวมโดย นติ กิ รพร หนา้ 54

คาํ ถาม-ตอบวินยั ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวทิ ย์ เปรอ่ื งการ รวบรวมโดยนติ ิกรพร เทศบาลตาํ บลบะหว้า จังหวดั สกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

๑) มกี ารรอ้ งเรียนกลน่ั แกลง้ หรอื ไม่
๒) ในชั้นการสอบขอ้ เทจ็ จรงิ ไม่ได้สอบปากคําผู้ถกู รอ้ ง จริงหรอื ไม่ เพราะเหตุใด
๓) ข้อเทจ็ จรงิ เปน็ ไปตามขอ้ กลา่ วหา หรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด
เป็นตน้
(๓) กรรมการสอบสวนสรุปสาํ นวนเสนอนายกเทศมนตรี ข.เพือ่ พิจารณาส่งั การ โดยทเี่ ทศบาล ก.
ไม่มอี าํ นาจชี้นําใด ๆ ได้
(๔) รายงานการดําเนนิ การทางวินัยไปยัง ก.จงั หวัด
ถา้ มนั่ ใจวา่ ไม่ผิด ยังไงกร็ อด !!
ขอบคุณทกุ การโพสต์ ครบั

*********************
คําถาม ๑๗/๙/๖๑

อบต.แหง่ หนงึ่ ต้งั กรรมการสอบวนิ ัยร้ายแรงพนกั งานสว่ นตาํ บลรายนาย ก. สอบจนแล้วเสรจ็ ยงั ไมไ่ ด้
รายงาน ก.จงั หวดั นาย ก.โอนไปสงั กัดใหมใ่ นจงั หวดั เดียวกนั นายก อบต.สงั กดั เดมิ ไดส้ ง่ สํานวนไปใหส้ ังกัด
ใหม่ และสงั กัดใหมไ่ ด้ตงั้ กรรมการสอบสวนวินยั ใหม่ ถามวา่

1. กรณดี งั กลา่ วทําถูกตอ้ งหรอื ไม่
2. ถา้ ไม่ถกู ต้องจะแกไ้ ขอย่างไร
ขอบคุณครบั
ตอบ

กรณีคาํ ถาม..
มหี ลกั เกณฑแ์ ละเงือ่ นไขในการสอบสวน การลงโทษทางวนิ ยั (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) ทเ่ี ก่ียวขอ้ งอยู่
ทั้งหมด ๓ ขอ้ คอื
๑. ข้อ ๗๔ กาํ หนดวา่ "ในระหว่างการสอบสวน แมจ้ ะมีการสง่ั ใหผ้ ้ถู ูกกล่าวหาไปอยูน่ อกบงั คบั บญั ชา
ของนายก อบต.ผู้สงั่ แตง่ ต้ังคณะกรรมการสอบสวน ให้คณะกรรมการสอบสวนทาํ การสอบสวนตอ่ ไปจนแล้ว
เสรจ็ แลว้ ทํารายงานการสอบสวนและเสนอสาํ นวนการสอบสวนต่อนายก อบต.ผสู้ ง่ั แตง่ ตงั้ คณะกรรมการ
สอบสวน เพื่อตรวจสอบความถกู ตอ้ งตามขอ้ ๗๙ ขอ้ ๘๐ ข้อ ๘๑ และขอ้ ๘๒ และให้นายก อบต.ผสู้ ่งั แตง่ ตั้ง
คณะกรรมการสอบสวนสง่ เรอ่ื งใหน้ ายก อบต.สงั กัดใหมข่ องผถู้ กู กล่าวหาตรวจสอบความถกู ต้องตามข้อ ๗๙
ขอ้ ๘๐ ขอ้ ๘๑ และข้อ ๘๒ พรอ้ มทง้ั พจิ ารณาดําเนินการตามข้อ ๗๗ (๑) หรอื (๒) แลว้ แต่กรณีต่อไป"
๒. ขอ้ ๗๗ เม่ือคณะกรรมการสอบสวนได้เสนอสาํ นวนการสอบสวนมาแล้ว ให้นายก อบต.ตรวจสอบ
ความถกู ตอ้ งของสํานวนตามข้อ ๗๙ ขอ้ ๘๐ ข้อ ๘๑ และข้อ ๘๒ แล้วดําเนนิ การดังตอ่ ไปนี้

(๑) ในกรณีคณะกรรมการสอบสวนเหน็ วา่ ...(วนิ ัยอย่างไมร่ า้ ยแรง)...ให้นายก อบต.พจิ ารณาสง่ั
การภายใน ๓๐ วันนบั แตไ่ ด้รับสาํ นวนจากคณะกรรมการสอบสวน

(๒) ในกรณีคณะกรรมการสอบสวนเห็นว่า...(วนิ ยั อยา่ งรา้ ยแรง) นายก อบต.ตอ้ งสง่ เร่ืองให้ ก.
จังหวดั พจิ ารณา...ภายใน ๓๐ วันนับแต่ได้รับสาํ นวนการสอบสวนจากคณะกรรมการสอบสวน

การดาํ เนินการของนายก อบต.ตามวรรคหนง่ึ ต้องแสดงความเหน็ เปน็ หนงั สือ กรณเี ห็นแยง้ ให้
อา้ งเหตุผลประกอบดว้ ย

๓. ข้อ ๗๘ ในกรณีท่นี ายก อบต.เห็นสมควรใหส้ อบสวนเพิ่มเตมิ ประการใด ให้กําหนดประเดน็ พร้อม
ทง้ั สง่ เอกสารทเ่ี ก่ยี วขอ้ งไปใหค้ ณะกรรมการสอบสวนคณะเดมิ ...

รวบรวมโดย นติ ิกรพร หนา้ 55

คําถาม-ตอบวินยั ปี 2561 โดยอาจารย์ประวทิ ย์ เปรือ่ งการ รวบรวมโดยนิติกรพร เทศบาลตาํ บลบะหว้า จังหวัดสกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

ในกรณที ่คี ณะกรรมการคณะเดมิ ไม่อาจทาํ การสอบสวนได้ หรือนายก อบต.เหน็ เป็นการสมควร
อาจแตง่ ตัง้ คณะกรรมการสอบสวนคณะใหม่..”

ประเด็น
๑. สงั กดั ใหม่ตงั้ กรรมการใหม่ ถูกต้องหรือไม่
๒. มีแนวทางอย่างไร

สรุปสน้ั
๑. ถกู ตอ้ งหรอื ไมก่ ไ็ ด้
๒. ก.จังหวัดต้องพจิ ารณา

ขยายความ
๑. หากข้อเทจ็ จรงิ ปรากฏว่าการสอบสวนเสร็จแล้ว จงึ ไม่อยใู่ นบงั คับขอ้ ๗๔ ซ่ึงสงั กัดเดิมจะต้อง
พิจารณาตามขอ้ ๗๗ ต่อไปภายใน ๓๐ วันนับแต่ไดร้ บั สํานวนการสอบสวนจากคณะกรรมการสอบสวน หากไม่
พิจารณาส่งั การภายในกาํ หนดจนกระท่งั ผถู้ กู กล่าวหาโอนไปสังกดั ใหม่ ย่อมเป็นความรบั ผิดชอบของสังกดั เดิม
แบง่ พจิ ารณาเป็น ๒ ประเด็น ดงั นี้
ประเดน็ ท่ี ๑ ตอ้ งพจิ ารณาวา่ คณะกรรมการสอบสวนคณะเดมิ สอบเสรจ็ และเสนอสํานวนต่อสังกดั เดิม
เม่อื ใด ผู้ถูกกลา่ วหาโอนไปสงั กัดใหม่เมอื่ ใด หากอยูภ่ ายใน ๓๐ วัน นายก อบต.สงั กดั เดมิ ยังไมไ่ ดพ้ จิ ารณาสงั่
การ (เนือ่ งจากมเี หตุผลความจําเปน็ ) กจ็ าํ ต้องสง่ ไปใหส้ ังกัดใหม่พจิ ารณาตามข้อ ๗๔ ประกอบข้อ ๗๗ ต่อไป
ประเดน็ ท่ี ๒ การทส่ี ังกัดใหม่แตง่ ต้ังคณะกรรมการสอบสวนคณะใหมข่ ้ึนทําการสอบสวน ตามขอ้ ๗๘
ไดน้ นั้ ตอ้ ง
(๑) เห็นเปน็ การสมควรจะสอบสวนเพม่ิ เติม หรอื
(๒) คณะกรรมการสอบสวนคณะเดิมไม่อาจสอบสวนได้
โดยตอ้ งกาํ หนดประเด็นเพ่ิมเตมิ และในคําสง่ั แต่งตง้ั คณะกรรมการสอบสวนคณะใหมต่ ้องอา้ งถึงคําสงั่
ท่ีแต่งตง้ั คณะกรรมการสอบสวนคณะเดิมไว้ด้วย ไม่เช่นน้นั จะเป็นการดําเนนิ การทางวนิ ัยซํา้ ทําไม่ได้
ดังน้นั จึงต้องตรวจสอบวา่ การแต่งตงั้ คณะกรรมการสอบสวนของสงั กดั ใหมเ่ ป็นไปตามท่ีกลา่ วข้างต้น
หรอื ไม่
๒. ผมู้ อี าํ นาจหน้าท่ีพจิ ารณาว่าการดาํ เนินการทางวนิ ยั รายนถี้ กู ตอ้ งหรอื ไมค่ ือ ก.อบต.จังหวดั โดย

(๑) หากการดําเนนิ การทางวนิ ยั ของสงั กดั ใหม่ถกู ตอ้ ง กพ็ ิจารณารายงานการดําเนินการทางวินยั
รายนต้ี ามปกติ

(๒) ถา้ การดาํ เนินการทางวินยั ของสงั กดั ใหมไ่ มถ่ กู ตอ้ ง ตอ้ งมมี ติให้ดําเนนิ การใหม่ให้ถูกต้อง
ดังกลา่ วแลว้

ขอบคุณทุกความเหน็ ครบั

***********************

คาํ ถาม ๑๙/๙/๖๑

รวบรวมโดย นิติกรพร หนา้ 56

คําถาม-ตอบวนิ ัย ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวทิ ย์ เปร่ืองการ รวบรวมโดยนิตกิ รพร เทศบาลตําบลบะหวา้ จงั หวดั สกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

เทศบาลแห่งหนึง่ จะต้ังกรรมการสอบสวนวนิ ยั ผอ.กองวิชาการฯ ระดับกลาง และมหี นงั สอื ขอตวั นิติกร
ชาํ นาญการพิเศษ จากเทศบาลเมอื งข้างเคียงมาเปน็ ประธานกรรมการสอบวนิ ัยได้หรอื ไม่ และอ้างระเบียบใด

ขอบพระคณุ ลว่ งหน้า ครบั
ตอบ

การเลือกประธานกรรมการสอบสวนทางวินยั ตามมาตรฐานทวั่ ไปเก่ียวกบั วนิ ัยและการรักษาวนิ ยั
และการดําเนินการทางวินัย พ.ศ.๒๕๕๘ ข้อ ๔๙ วรรคหนง่ึ ต้ังแตว่ ันท่ี ๓๑ สงิ หาคม ๒๕๖๑ เป็นต้นมา ตอ้ ง
เปน็ ไปตามหนังสือสํานกั งาน ก.จ., ก.ท. และ ก.อบต.ท่ี มท ๐๘๐๙.๕/ว ๒๐ ลง ๖ สงิ หาคม ๒๕๖๑ โดย
ประธานกรรมการสอบสวนต้องมปี ระเภท ตาํ แหนง่ และระดบั ไมต่ ่ํากวา่ หรอื เทียบไดไ้ ม่ตํา่ กวา่ ผูถ้ กู กลา่ วหา

เม่อื พจิ ารณาหนังสอื ดังกลา่ วขา้ งต้น เหน็ ว่า ผอู้ าํ นวยการทอ้ งถนิ่ ระดบั กลาง (ซี ๘ เดมิ ) ถูกกล่าวหา
วา่ กระทาํ ผดิ วินัย ผทู้ ่จี ะเป็นประธานกรรมการสอบสวน ต้องเป็นประเภททมี่ ีระดบั และตาํ แหน่ง สรุปได้ ดังน้ี

๑. ประเภทบรหิ ารทอ้ งถนิ่ ระดบั กลางขึน้ ไป
๒. ประเภทอํานวยการท้องถน่ิ ระดบั กลางขน้ึ ไป
๓. ขา้ ราชการพลเรอื นสามญั ประเภทอาํ นวยการระดบั ตน้ หรอื ประเภทวชิ าการ ระดบั ชาํ นาญการ
พิเศษ
ดังนน้ั ข้าราชการสว่ นท้องถน่ิ ประเภทวชิ าการตาํ แหนง่ นิตกิ ร ระดบั ชาํ นาญพิเศษ จงึ เป็นประธาน
กรรมการสอบสวนทางวนิ ัยผถู้ กู กลา่ วหา ประเภทอาํ นวยการท้องถน่ิ ระดับกลาง ไมไ่ ด้
ขอบคุณทกุ ความเหน็ ครับ

*********************
คาํ ถาม ๒๑/๙/๖๑

เรยี นถามปญั หาวา่
อบต.ของหนูมพี นกั งาน อบต. 20 กว่าคน ได้รับการพิจารณาเลอื่ นขัน้ เงนิ เดอื นประจําปี พ.ศ.2560 ครบ
ทุกคน แต่มี 8 คนไม่พอใจจึงร้องไปยงั ก.จงั หวดั ผา่ นมา 1 ปี ก.จังหวดั มมี ติให้ อบต.พจิ ารณาเงนิ เดือนใหม่
ประเดน็ คอื
1. จะพิจารณาเงนิ เดือนใหม่ทง้ั หมด หรอื เพยี ง 8 คนเทา่ น้นั
2. อ้างกฎหมายใด
ขอขอบพระคุณเปน็ อย่างสงู ครับ
ตอบ

ไมท่ ราบว่ากาํ ลังจะใหค้ าํ ตอบ "หญงิ " หรือ "ชาย" ชกั สบั สน มสี มาชกิ หลายหอ้ งแลกเปลยี่ นความรู้
อย่างกวา้ งขวาง เพราะใกลต้ วั บา้ ง หรอื มีประสบการณ์ตรงบา้ ง ทง้ั ยกกฎระเบียบ ข้อหารือ รวมทง้ั คําพิพากษา
มา นา่ ชมเชย

ประเด็น
๑. พิจารณาใหมเ่ พยี ง ๘ คน หรอื ทง้ั หมด
๒. อ้างระเบยี บใด
สรุปส้นั
๑. ตอ้ งดมู ติ ก.จงั หวดั
๒. กฎหลกั คอื กฎการร้องทกุ ข์

ขยายความ

รวบรวมโดย นติ ิกรพร หน้า 57

คําถาม-ตอบวินัย ปี 2561 โดยอาจารย์ประวิทย์ เปร่ืองการ รวบรวมโดยนติ ิกรพร เทศบาลตาํ บลบะหวา้ จังหวดั สกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

๑. หลักเกณฑ์และเงือ่ นไขในการอทุ ธรณแ์ ละรอ้ งทกุ ข์ (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) ขอ้ ๓๓ กาํ หนดวา่ "เมื่อ
ก.จังหวัดได้มีมตแิ ลว้ ใหน้ ายกฯ สงั่ หรอื ปฏิบตั ิให้เปน็ ไปตามมตนิ ้นั ในโอกาสแรกทท่ี าํ ได.้ .."

ดังน้นั จึงต้องตรวจสอบมติ ก.จงั หวัดว่าสรุปอยา่ งไรท่ีใหพ้ ิจารณาเลอื่ นขนั้ เงินเดือนใหม่ และ
เชื่อมั่นว่า "คงใหพ้ จิ ารณาเฉพาะ ๘ รายทร่ี อ้ งทกุ ข์" เทา่ นนั้ ดว้ ยเหตผุ ล ดงั นี้

(๑) นอกเหนือจาก ๘ ราย ไม่ใช่ผ้รู ้องทกุ ข์ตามหลักเกณฑ์ ก.จังหวดั คงไม่ก้าวล่วงดลุ พนิ จิ ของ
ผูบ้ ังคบั บญั ชาในสว่ นนนั้ (เพราะอาจสง่ ผลกระทบในวงกว้าง)

(๒) หลกั เกณฑแ์ ละเงอื่ นไขในการอุทธรณแ์ ละการรอ้ งทกุ ขฯ์ ข้อ ๓๕ ให้นําการพจิ ารณาอทุ ธรณ์
มาใช้กับการรอ้ งทกุ ข์และการพจิ ารณาเร่อื งรอ้ งทกุ ขด์ ว้ ยโดยอนโุ ลม ซงึ่ ขอ้ ๒๑ วรรคหา้ สรุปวา่ เมอ่ื คนใดคน
หนึ่งใช้สิทธริ ้องทกุ ข์คาํ สั่งดงั กล่าว และผลการพจิ ารณาเปน็ คุณแก่ผรู้ ้องทกุ ข์ แมค้ นอ่นื จะไม่ได้ใชส้ ทิ ธิร้องทกุ ข์
หากเป็นเหตใุ นลักษณะคดี ให้มมี ตใิ หผ้ ู้ทไี่ ม่ได้ใชส้ ทิ ธริ อ้ งทกุ ขไ์ ดร้ ับการพจิ ารณาในทางทเี่ ปน็ คณุ เช่นเดียวกบั ผู้
รอ้ งทกุ ข์ดว้ ย

ดว้ ยหลกั การดังกลา่ วจงึ เชือ่ วา่ มติ ก.จงั หวดั น่าจะให้พจิ ารณาเล่ือนขั้นเงินเดือนใหมเ่ ฉพาะ ๘ ราย
เท่านน้ั

อย่างไรก็ตาม หาก อบต.จะพจิ ารณาเล่ือนขั้นเงนิ เดือนใหมท่ ง้ั หมด ก็อาจทาํ ได้ (ข้นึ อยู่กบั มติ ก.
จังหวัด) แตท่ งั้ น้ีจะต้องไม่กระทบในทางทเี่ ป็นโทษแกผ่ ทู้ ไ่ี มร่ อ้ งทกุ ขร์ ายอนื่ เพราะไม่เช่นนน้ั แล้วทงั้ อบต.และ
ก.จงั หวัดต้องประสบความยงุ่ ยากระลอกใหม่

อาจมคี าํ ถามว่า เมอ่ื เมด็ เงินได้ใช้พจิ ารณาในการเล่ือนข้นั คร้ังนั้นไปหมดแลว้ จะตอ้ งดาํ เนนิ การ
อย่างไร กรณนี ี้ในระเบียบวา่ ด้วยวธิ กี ารงบประมาณของ อปท.มีชอ่ งทางแกป้ ญั หาอยู่แล้ว ซ่งึ ตอ้ งเปน็ ไป
ตามนั้น

๒. นอกจากกฎหลักในการใชอ้ า้ งดงั กลา่ วแลว้ ทั้ง ๒ ฉบับขา้ งต้น ยงั ตอ้ งพจิ ารณาหลักเกณฑก์ ารเลื่อน
ขัน้ เงนิ เดอื นประกอบดว้ ย

ขอบคุณทกุ ขอ้ ความ ครับ
*********************

คาํ ถาม ๒๔/๙/๖๑
เทศบาลแหง่ หน่งึ ออกคาํ สั่งดําเนินการทางวินยั กรณพี นกั งานเทศบาลรายงานเทจ็ ต่อผบู้ งั ครบั บญั ชา ความว่า
คณะกรรมการตรวจรบั การจ้าง ตรวจรบั งานอันเปน็ เทจ็ ซ่ึงรายงายงานวา่ ผรู้ ับจา้ งทํางานตามแบบรปู และ
รายการ ซง่ึ ขอ้ เทจ็ จรงิ ทาํ งายยังไม่เรียบร้อยเลย
คาํ ถาม เมอ่ื มีการออกคําสัง่ ดําเนนิ การทางวนิ ยั แลว้
แตย่ งั ไมเ่ รยี บรอ้ ยใชเ้ วลาเปน็ ปเี กิน ๑๘๐ วันยังไมไ่ ดท้ ําอะไรตอ่

ต่อมาคณะกรรมการวินยั ที่แตง่ ตง้ั เลขากโ็ ยกย้ายไม่สามารถทาํ หน้าทต่ี อ่ ได้ จะ มีแนวทางสอบสวนทางวนิ ัย
โดยเปล่ียนแปลงกรรมการ และเวลาลว่ งมาเปน็ ปแี ล้วจะดาํ เดินการต่ออยา่ งไรครบั

ขอความอนุเคราะหส์ อบถามอาจารยผ์ า่ นทางไลน์ครับ
ตอบ

ถูกต้งั เป็นกรรมการสอบสวนมาเป็นปยี งั ไม่ขยับ..เสย่ี งไปไหม ? ถา้ มคี นร้อง !! ทั้งผู้ต้ังและผู้ถกู ตงั้ อาจ
เดือดร้อนได้

คําถามเก่ยี วกบั ๓ ประเดน็ คือ
๑. ระยะเวลาการสอบสวน
๒. กรรมการไมท่ าํ หนา้ ที่

รวบรวมโดย นติ กิ รพร หนา้ 58

คําถาม-ตอบวนิ ัย ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวทิ ย์ เปรื่องการ รวบรวมโดยนติ กิ รพร เทศบาลตําบลบะหว้า จงั หวัดสกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

๓. การเปลย่ี นแปลงกรรมการ
หลกั เกณฑแ์ ละแนวทาง
๑. ระยะเวลาการสอบสวนตามปกติ ๑๒๐ วนั ขยายได้ไมเ่ กนิ ๒ ครัง้ ๆ ละไมเ่ กนิ ๓๐ วัน รวมเปน็
๑๘๐ วัน ถ้าเกินจากนใ้ี ห้รายงาน ก.จงั หวัดติดตามเร่งรดั ตามหลกั เกณฑ์วินัยฯ ข้อ ๕๘
๒. การสอบสวนทางวินยั เม่ือไดร้ บั มอบหมายแล้วถอื เปน็ หน้าทท่ี จี่ ะตอ้ งปฏบิ ัติการสอบสวนใหเ้ สรจ็
ไป ถ้าลา่ ช้าเกินสมควรอาจเปน็ ความผดิ ทางวนิ ัยฐานบกพรอ่ งในการปฏิบตั ิหน้าที่ และฐานขดั คาํ สงั่
ผู้บงั คบั บญั ชาได้ ตามหนังสือสํานกั เลขาธกิ าร ครม.ท่ี สร ๐๒๐๓/ว ๒๔ ลง ๑๖ ก.พ.๒๕๒๒
๓. เม่ือตงั้ กรรมการสอบสวนแล้ว ถ้านายกฯ เหน็ วา่ มีเหตอุ ันสมควร หรอื จําเปน็ ทจี่ ะต้องเปล่ยี น เพม่ิ
หรือลดจํานวนกรรมการสอบสวน ก็ใหด้ าํ เนินการได้ โดยตอ้ งแสดงเหตผุ ลแห่งการสัง่ นนั้ ไวด้ ้วย ตามหลักเกณฑ์
วินยั ขอ้ ๕๖
จากขอ้ กาํ หนดทงั้ ๓ ประการ ควรดาํ เนินการ ดังน้ี
๑. นายกฯ ควรมีหนังสอื สอบถามความคืบหนา้ ไปยงั ประธานกรรมการสอบสวน โดยอ้างหลกั เกณฑ์
วนิ ยั ข้อ ๕๘
๒. กรณีประธานกรรมการ

(๑) ไม่ตอบกลบั มาภายในเวลาอันสมควร
(๒) ตอบกลบั มาแต่ไม่มเี หตุผลอนั สมควรในความล่าช้า
๓. นายกฯ ควร
(๑) ดาํ เนนิ การทางวนิ ยั (หรอื แจง้ ตน้ สงั กัดดาํ เนนิ การ) ตามหนงั สอื ว.๒๔
(๒) อ้างเหตจุ ําเป็นออกคําสง่ั ต้ังกรรมการสอบสวนใหม่อกี ๑ คําสง่ั เปลย่ี นแปลงกรรมการ
สอบสวนจากเดมิ ตามขอ้ ๕๖
(๓) ระยะเวลาการสอบสวน ๑๒๐ วัน และ ๑๘๐ วัน หมดไปแล้ว กรรมการชุดใหมต่ ้องสอบสวน
ให้แลว้ เสรจ็ โดยเร็ว (โดยไม่คํานงึ ถงึ ระยะเวลาการสอบสวน) แต่ต้องทาํ บนั ทกึ ขอขยายระยะเวลายอ้ นหลังให้
ครบถว้ นตามท่กี ําหนด
๔. กรณปี ระธานกรรมการสอบสวนมหี นงั สอื ตอบกลับมาและอ้างเหตอุ ันสมควร
๕. ใหน้ ายกฯ
(๑) แจง้ ใหก้ รรมการสอบสวนขอขยายระยะเวลายอ้ นหลงั ให้ครบถ้วน
(๒) รายงาน ก.จงั หวัด ตดิ ตามเรง่ รดั ตอ่ ไป
ขอบคณุ ทกุ ห้อง ครบั

******************
คําถาม ๒๖/๙/๖๑
เรยี นถามทา่ นอาจารย์คะ่ มนี อ้ ง หน.สป. ถูกเชญิ ไปใหข้ อ้ เท็จจรงิ ในฐานะพยาน กรณี ปปช.ชมี้ ลู ความผิดฐาน
ทจุ รติ คอื เบกิ จ่ายเงนิ คา่ อาหารและใชเ้ อกสารเทจ็ แก่ นายก ปลัด คลัง และนักทรัพย(์ คนเขยี นโครงการศึกษา
ดงู าน ในปี 2557) ตอ่ มา ปลดั คลงั นักทรพั ย์ และ หน.สป.ยา้ ยไป อบต.อื่นกันหมด ตอ่ มานายกไปแจ้งความ
ว่าเกดิ ความเสียหายแก่ราชการ และใหท้ ใ่ี หม่ตง้ั กรรมการสอบ ต่อมา ปลดั ยงิ ตัวตาย ซ่งึ ขณะนี้ อบต.ท่ีใหม่
ของคลงั และนกั ทรพั ย์ ต้งั กรรมการสอบข้อเทจ็ จรงิ โดย หน.สป.ก็ถกู เชญิ ไปสอบในฐานะพยาน และกงั วลว่าที่
ตอบไปน้ันมันถูกต้องหรอื ไม่ เพราะ อบต.ท่ีเชญิ ไปสอบน้ันสง่ ร่างมาให้ดูก่อน รายละเอยี ดทก่ี งั วลคอื "ในฐานะ
หน.สป.ได้ตรวจสอบฎีกายมื เงิน ฎีกาสง่ ใช้เงนิ ยมื กอ่ นลงนามในเอกสารตา่ ง ๆ หรือไม"่ /จึงขอคาํ แนะนํา ท่าน
อาจารย์ช่วยชี้ทางใหด้ ้วยค่ะวา่ ควรจะตอบในลกั ษณะใด /ขอบพระคุณคะ่

รวบรวมโดย นิตกิ รพร หน้า 59

คาํ ถาม-ตอบวนิ ัย ปี 2561 โดยอาจารย์ประวิทย์ เปร่ืองการ รวบรวมโดยนิตกิ รพร เทศบาลตําบลบะหว้า จังหวัดสกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

ตอบ
เรอ่ื งท่ีเล่ามาข้อเทจ็ จรงิ ยงั ไมช่ ัด เพราะบอกวา่ "ป.ป.ช.ชีม้ ลู ฐานทจุ ริต" เข้าใจวา่ มี ๔ ทา่ น คอื ๑.นายก

๒.ปลดั ๓.คลงั ๔.นกั ทรพั ย์ ซงึ่ หากถูกช้ีมลู จรงิ ทั้ง ๔ ท่าน คงถกู ออกจากราชการไปหมดแล้ว
แต่ตอ่ มานายกฯ (สังกดั เดิม/คนใหม)่ ได้ไปแจง้ ความและชม้ี ลู ใหส้ งั กัดใหม่ตง้ั กรรมการสอบสวน ย่อม

แสดงวา่ ๑.ปลัด ๒.คลัง ๓.นักทรพั ย์ ยังไม่ถกู ชม้ี ลู โดย ป.ป.ช.ตามาตรา ๙๒ กฎหมาย ป.ป.ช.ฉบบั เดิม เพราะ
หากเปน็ เช่นน้นั แมท้ ุกท่านจะได้โอนสังกดั ไปที่อ่นื แล้ว กห็ ้ามต้งั กรรมการสอบสวนขน้ึ มาอีก ให้ใช้สาํ นวนของ
ป.ป.ช.สงั่ ลงโทษได้เลย แต่น่าจะเปน็ การสง่ เรอ่ื งมาใหผ้ บู้ ังคบั บัญชาดําเนนิ การเอง ตามมาตรา ๘๙ แหง่
กฎหมายฉบบั เดียวกัน จงึ มีการแต่งตง้ั กรรมการสอบขอ้ เทจ็ จริง ๑.คลงั ๒.นกั ทรพั ย์ ขึน้ มาใหม่

พจิ ารณาตามรูปการณแ์ ล้วนายกฯ สงั กดั เดมิ คงช้มี ูลใหส้ ังกัดใหม่ตัง้ กรรมการสอบสวนทางวินัย
เพราะมีการแจ้งความในคดีอาญา อาจตอ้ งต้ังกรรมการสอบสวนทางวินัยไปพรอ้ มกนั ดว้ ย ตาม ว.๔ ปี ๐๙
(สงั กัดเดมิ ไมม่ อี ํานาจตง้ั ) ไม่ใช่สอบขอ้ เทจ็ จริงทห่ี ากจะตงั้ ควรตง้ั โดยสงั กัดเดิม ซงึ่

๑. เป็นสถานท่ีเกดิ เหตุ
๒. เปน็ ผเู้ สียหาย
๓. มีพยานหลักฐาน พยานบุคคลอยทู่ ่ีเดมิ ครบถว้ น
๔. สามารถเรียกผโู้ อนสังกัดไปแล้วมาสอบปากคําได้ ตามอํานาจในกฎหมายจดั ต้งั
ดังนน้ั เมื่อสงั กัดใหม่ต้งั กรรมการสอบข้อเทจ็ จรงิ ย่อมเป็นการลาํ บากท่ีจะได้ทราบขอ้ เทจ็ จรงิ ดงั กลา่ ว
จงึ นา่ จะไม่ถูกต้องเหมาะสมอยา่ งท่คี วรจะเป็น ซง่ึ ต้องระวังเปน็ พิเศษ เพราะตน้ เร่ืองมาจาก ป.ป.ช.
ประเดน็
ขอตอบเฉพาะคําถามทม่ี ีอยู่วา่ จะใหถ้ อ้ ยคาํ อย่างไร ในฐานะพยาน ?
สรปุ ส้นั
ให้ถอ้ ยคาํ ตามความจริง
ขยายความ
หากใหถ้ อ้ ยคําอันเปน็ เท็จ วนั ข้างถา้ มกี ารสอบสวนอกี ไมว่ ่าจะโดยหนว่ ยงานใด จะลมื ถอ้ ยคําทเ่ี คยให้
ไว้ แล้วให้ถอ้ ยคําท่ีแตกต่างออกไป เปน็ การให้ถอ้ ยคาํ กลบั ไปกลบั มา หรือใหถ้ ้อยคําเท็จ อนั เปน็ ความผิดทาง
วินยั เทียบเคียงหนงั สอื สํานกั เลขาธกิ าร ครม.ท่ี สร ๐๒๐๑/ว ๓๐ ลง ๑๐ ม.ี ค.๒๕๓๕ และหนังสือสํานักงาน
ก.พ.ท่ี นร ๐๖๑๒/ว ๑ ลง ๒๔ ม.ค.๒๕๒๙
แตห่ ากใหถ้ อ้ ยคําตามจริงแลว้ จะไมห่ ลงลมื สามารถลาํ ดับเหตกุ ารณไ์ ดถ้ กู ตอ้ ง (แมผ้ ่านมานาน หาก
คอ่ ย ๆ นกึ ความจาํ จะกลบั มา)
การใหถ้ ้อยคําในฐานะพยานตอ่ คําถามท่ีวา่ "เมอื่ มหี นา้ ที่ตอ้ งตรวจฎกี ากอ่ นลงนามทกุ ครง้ั ไดต้ รวจ
หรอื ไม่ ?" ควรใหถ้ ้อยคําตามความจรงิ ว่า ไม่ได้ตรวจ เพราะเหตใุ ด (หาเหตผุ ลท่ีมีนํา้ หนกั มาสนับสนนุ ในแตล่ ะ
ครัง้ ทรี่ ะเบียบกําหนดใหต้ รวจสอบ แตไ่ มไ่ ด้ตรวจ)
ความจรงิ เปน็ สง่ิ ไมต่ าย !! แมจ้ ะมีความผิดในการปฏบิ ตั หิ นา้ ทีอ่ ยบู่ ้าง แตห่ ากขาดเจตนา ก็จะผิดเพียง
ประมาทเลนิ เล่อ ตามข้อ ๙ วรรคหนง่ึ หรอื ไม่ปฏบิ ตั หิ น้าทตี่ ามระเบียบ ตามขอ้ ๑๐ วรรคหนง่ึ ของหลกั เกณฑ์
และเงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวนิ ยั (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) เทา่ นัน้ คงไมถ่ งึ ขนาดต้องโทษประหาร
ชวี ติ ดอกกระมงั หากไม่ไดร้ ว่ มวงไพบลู ยใ์ นการกระทําความผดิ ดว้ ย
ต้องไม่ลมื ว่า !! ไปในฐานะพยาน ไม่ใชไ่ ปในฐานะผถู้ กู กลา่ วหา อย่า "มโน" เกินเหตุ จะทาํ ใหเ้ สยี สมาธิ
ในการทํางานเปลา่ ๆ

รวบรวมโดย นติ กิ รพร หน้า 60

คําถาม-ตอบวนิ ัย ปี 2561 โดยอาจารย์ประวทิ ย์ เปรือ่ งการ รวบรวมโดยนิติกรพร เทศบาลตําบลบะหวา้ จงั หวดั สกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

อนง่ึ ขอฝากท่านผู้ตง้ั ใจทาํ งานว่า "อย่าหลวม" ในการปฏบิ ัตริ าชการจากนี้เปน็ ตน้ ไป กฎระเบยี บมี
อย่างไรใหป้ ฏบิ ัตอิ ยา่ งนั้น ทนลาํ บากเอาหนอ่ ย ดกี ว่าปลอ่ ยใหต้ ้องถกู ช้มี ลู โดยเฉพาะจากหนว่ ยตรวจสอบ แต่
หากปะเหมาะเคราะหร์ า้ ย ยงั มีอาชีพใหมร่ ออย่อู ีกมากมายมหาศาล "ปล่อยวาง..ทุกอยา่ งสบาย"

ขอบคณุ ทกุ ๆ ข้อความ ครับ
**************

คําถาม ๒๘/๙/๖๑
ขออนุญาตสอบถามค่ะ
1.อบต.แตง่ ตง้ั คณะกรรมการสอบขอ้ เทจ็ จรงิ และผลสอบขอ้ เทจ็ จรงิ สรปุ วา่ นาง ก. กระทาํ ผิด คนเดยี ว
2.อบต.ได้แต่งตงั้ คณะกรรมการสอบสวนวนิ ัยอยา่ งไมร่ ้ายแรงเพยี งผเู้ ดยี ว
3.คณะกรรมการสอบสวนดาํ เนินการสอบสวน มี สว.2 - สว. 6 ครบถ้วน และมีความเหน็ ใหล้ งโทษนาง ก.
นายกเห็นชอบตามคณะกรรมการวนิ ัย
4.อนุวินัยมีความเห็นตามความเห็นของคณะกรรมการสอบสวนและนายก
5. ก.อบต. มคี วามเห็นวา่ กระบวนการตงั้ แตก่ ่อนทนี่ าง ก. จะกระทําความผิด น้นั เกย่ี วข้องหลายขั้นตอน และ
มบี คุ คลหลายคนเก่ยี วข้อง ทําไมนางก.จึงถกู ลงโทษคนเดยี ว จึงให้ อบต.สอบสวนเพมิ่ เตมิ ว่าใครเก่ียวขอ้ งบ้าง
และใครกระทาํ ความผิดดว้ ย
เชน่ น้ี หากจะตอ้ งสอบสวนเพม่ิ จะเป็นหน้าทีใ่ คร ระหวา่ งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจรงิ หรือคณะกรรมการ
สอบวนิ ัย
6. หากให้คณะกรรมการสอบวนิ ยั เป็นผู้สอบสวนเพิม่ เตมิ จะกระทาํ ไดห้ รือไม่ เพราะว่าคณะกรรมการสอบวนิ ัย
ตอ้ งสอบสวนตามกรอบของ สว. 1 เชน่ น้ี เมอื่ สว. 1ตง้ั ให้สอบสวนกรณีการกระทาํ ทีเ้ ป็นของนาง ก.
คณะกรรมการสอบสวนจะสอบสวนผอู้ น่ื ไดห้ รือไม่ หรือต้องดาํ เนินการอยา่ งไรขอคาํ ชแ้ี นะดว้ ยค่ะ

ตอบ
คาํ ถามมี ๒ ประเดน็ คอื

๑. กรรมการชุดใดตอ้ งสอบเพม่ิ ตามมติ ก.จังหวัด
๒. กรรมการสอบสวนวินยั จะสอบผู้อนื่ ในฐานะผถู้ กู กลา่ วหาได้หรือไม่

สรุปสน้ั
๑. กรรมการสอบสวนวนิ ยั
๒. ไมไ่ ด้

ขยายความ
เม่อื พจิ ารณาตามหลกั เกณฑแ์ ละเงอื่ นไขในการสอบสวน การลงโทษทางวนิ ยั (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙)

แลว้ จะเหน็ ว่าได้มีข้อกาํ หนดทเ่ี ก่ยี วข้องหลายขอ้ ดงั น้ี
๑. กรรมการสอบข้อเทจ็ จริงที่แสวงหาขอ้ มลู เบอื้ งตน้ ไดช้ ้มี ลู นาง ก.แลว้ ว่ากระทาํ ผิดวนิ ยั เพียงราย

เดียว ตามข้อ ๒๔ วรรคห้า (หน้าทกี่ รรมการชดุ นหี้ มดลงแลว้ ) จึงเป็นเหตุใหน้ ายกฯ สงั่ ตั้งกรรมการสอบสวน

วินยั อยา่ งไมร่ า้ ยแรง ตามข้อ ๒๔ วรรคสี่ และออกคําสง่ั ลงโทษเปน็ วนิ ัยอย่างไมร่ ้ายแรง ตามขอ้ ๘๔ วรรคหน่งึ
แล้วรายงานการดาํ เนินการทางวนิ ยั ไปยงั ก.จงั หวัด ตามข้อ ๘๗ วรรคหน่งึ ซง่ึ ก.จงั หวัด ไดพ้ ิจารณาความเห็น
ของ

รวบรวมโดย นติ ิกรพร หน้า 61

คําถาม-ตอบวนิ ัย ปี 2561 โดยอาจารย์ประวิทย์ เปรอื่ งการ รวบรวมโดยนติ ิกรพร เทศบาลตาํ บลบะหวา้ จงั หวัดสกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

(๑) กรรมการสอบสวน
(๒) คาํ ส่งั ของนายกฯ
(๓) ความเห็นของอนุวนิ ยั
แล้วเห็นว่า ตอ้ งมบี คุ คลอืน่ ร่วมกระทําผิดด้วย จึงมมี ติใหส้ อบสวนเพม่ิ เติม โดยกําหนดประเดน็
หรือข้อสําคัญไปให้สอบผูอ้ ่ืนเพม่ิ ส่งมติให้นายกฯ เพอื่ สงั่ คณะกรรมการสอบสวนคณะเดมิ ทาํ การสอบเพม่ิ ตาม
ขอ้ ๘๘ วรรคหน่ึง ซึ่งนายกฯ ตอ้ งดําเนนิ การตามน้ัน ตามขอ้ ๘๗ วรรคสี่
มีขอ้ สังเกตประการสําคัญ คือ การพจิ ารณารายงานการดาํ เนนิ การทางวินัยคราวน้ี เปน็ การพจิ ารณา
การลงโทษนาง ก.วา่ ถกู ต้อง เหมาะสม หรอื ไม่ อย่างไร ตามข้อ ๘๗ วรรคหนง่ึ ดังนนั้ ก.จงั หวดั จึงควร
พจิ ารณาเฉพาะรายนาง ก.ให้เสรจ็ สนิ้ ไป ตามข้อ ๘๗ วรรคส่ี แล้วตัง้ เป็นขอ้ สงั เกตใหน้ ายกฯ ไปดําเนนิ การ
สอบข้อเทจ็ จริงเพิ่มเตมิ ขยายผลถึงบคุ คลอน่ื ทอ่ี าจร่วมกระทาํ ผิดด้วยอีกครัง้ (ไมม่ ีกฎหมายหา้ ม) ซ่งึ นายกฯ
จะต้องปฏิบัตติ ามนัน้
แตอ่ ย่างไรก็ตาม เมอ่ื ก.จงั หวดั กาํ หนดประเดน็ ใหส้ อบสวนขยายผล (น่าเช่อื ว่า ก.จงั หวัด คงรอการ
พิจารณารายอนื่ รวมในคราวเดยี ว ซง่ึ ไมก่ ระทบการเลอื่ นขั้นเงนิ เดอื น เลอ่ื นระดบั ของนาง ก.แต่อย่างใด ถา้ เขา้
เงื่อนไข) กรรมการสอบสวนวนิ ยั จึงสามารถสอบเพม่ิ เตมิ กรณพี าดพิงได้ ตามขอ้ ๗๑ วรรคหน่ึง ทกี่ ําหนดว่า
หากพบมกี ารพาดพิงข้าราชการผอู้ น่ื ว่ากระทําผิดร่วมดว้ ย ประธานกรรมการสอบสวนต้องรายงานนายกฯ ผสู้ ่ัง
ตง้ั โดยเร็ว เพอื่ ออกคําสงั่ แต่งตง้ั กรรมการสอบสวนคณะเดมิ หรือคณะใหมก่ ไ็ ด้ ตามขอ้ ๗๐ (เป็นอกี ส่วนหนึง่
ตา่ งหาก จากกรณขี องนาง ก.)
๒. การทจ่ี ะสอบสวนผูใ้ ดในฐานะเปน็ ผู้ถูกกล่าวหาวา่ กระทําผดิ วนิ ยั ได้น้ัน ผนู้ ั้นต้องถูกระบชุ อ่ื ไวใ้ น
คําส่ังแตง่ ตัง้ กรรมการสอบสวน (หรอื แบบ สว.๑) เทา่ นั้น ตามข้อ ๕๐ ท่กี าํ หนดวา่ "คําส่งั แตง่ ตงั้ คณะกรรมการ
สอบสวนต้องระบุช่อื และตําแหนง่ ระดบั ของผู้ถกู กล่าวหา.." และขอ้ ๒๖ วรรคหา้ ท่กี าํ หนดให้นําการแต่งต้งั
คณะกรรมการสอบสวน (วินัยอย่างร้ายแรง) มาใช้กบั การต้ังกรรมการสอบสวนวินยั อย่างไมร่ า้ ยแรง โดย
อนุโลม
ดงั นั้น เมื่อบุคคลอื่นมิได้เป็นผูถ้ กู กล่าวหามาแต่ตน้ กรรมการสอบสวนจึงไมม่ อี าํ นาจสอบสวนบุคคล
อ่ืนน้นั ในฐานะ "เป็นผู้ถกู กลา่ วหาว่ากระทําผดิ วินยั " ได้ นอกจากในฐานะพยาน
ขอบคณุ ทกุ ทา่ นที่แสดงความเห็น ครับ

****************
คาํ ถาม ๑/๑๐/๖๑
ขออนุญาตสอบถามค่ะ พอดเี ปน็ ขา้ ราชการบรรจุใหม่คะ่

กรณีข้าราชการขาดราชการ ในแต่ละเดือนเกินกวา่ 15 ครงั้ โดยไม่มเี หตอุ ันควรและไม่มกี ารแจ้งผู้ใด แต่
บคุ คลนี้จะมไิ ด้ขาดตดิ ตอ่ กนั 15 วัน กลา่ วคอื ประมาณ9 วนั เข้ามา1 ครงั้ แต่ละหลังจากน้ันกจ็ ะหายไปอกี
9 วัน และมาใหม่ เป็นอย่างนีป้ ระจํา ซึง่ แต่ละเดือนบุคคลน้ี เขา้ มา 5 วันตอ่ 1เดือน และแต่ละครงั้ ทเ่ี ข้ามา ก็
จะมาสายและ นงั่ อยู่ ไม่ถึงชว่ั โมงกจ็ ะกลบั ไป แบบนค้ี วรทาํ อยา่ งไรคะ
ตอบ

พฤติกรรมของบคุ คลผู้นเ้ี กย่ี วขอ้ งกบั ระเบยี บกฎหมายหลายฉบบั และทาํ ให้ผบู้ งั คบั บัญชาอกี หลาย
ท่านต้องร่วมรบั ผิด มีประเดน็ ทีน่ ่าคิด คอื เขาเปน็ ใคร ? ทําไมถึงกล้า ? เพราะการเป็นข้าราชการตอ้ งปฏบิ ัติ
ตามกฎหมาย กฎ และระเบียบของทางราชการ ไมใ่ ชท่ ําตามใจตน คิดอยากจะมากม็ า ไม่นกึ อยากมากไ็ มม่ า
มาแลว้ ไมอ่ ยากทาํ กน็ งั่ เฉย ๆ ใหม้ ีคนเห็นวา่ มา เผลอนดิ เดียวหายไปแลว้ ..แตร่ บั เงนิ เดือนเตม็ ..เอาเปรยี บเพื่อน

รวบรวมโดย นติ ิกรพร หน้า 62

คําถาม-ตอบวินยั ปี 2561 โดยอาจารย์ประวิทย์ เปรื่องการ รวบรวมโดยนิติกรพร เทศบาลตาํ บลบะหวา้ จังหวดั สกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

รว่ มงาน เอาเปรยี บผูบ้ งั คบั บญั ชา เอาเปรียบราชการ เอาเปรยี บประชาชน เอาเปรยี บประเทศชาติ..ออกดีกวา่
ไหม ? ถา้ ทเ่ี ล่ามาเป็นความจริง !!

ประเดน็ ท่นี า่ สนใจ คือ
๑. ลงชอื่ แต่ไมอ่ ยู่ ขาดราชการ หรือไม่
๒. ถ้าขาดและผิด เป็นวนิ ยั ร้ายแรง หรือไม่
๓. หย่อนความสามารถ หรือไม่
๔. ผูบ้ งั คับบญั ชาไมด่ ําเนนิ การ ใด ๆ มคี วามผิด หรอื ไม่
๕. เงนิ เดือนระหว่างนน้ั มสี ิทธิได้รับ หรอื ไม่
๖. ผู้ถาม..ควรทาํ อยา่ งไร
สรปุ สัน้
๑. ขาดราชการ
๒. อาจรา้ ยแรงได้
๓. หย่อนความสามารถ
๔. ผิด..ละเวน้ การปฏบิ ัตหิ นา้ ท่ี
๕. ไมม่ ีสิทธิ
๖. ทําใจ
ขยายความ
๑. ผู้นี้ขาดราชการไปคราวละ ๙ วัน เป็นประจาํ แม้วันทมี่ าลงชอ่ื แต่ไม่อย่ปู ฏิบัตหิ น้าที่ (หรืออยเู่ พียง
ช่วั ครู่ใหค้ นเห็น แตน่ ่ังนิ่งไมท่ าํ งานใด ๆ) กถ็ ือวา่ ละทง้ิ หรือขาดราชการแล้ว เพราะไม่ได้หมายความวา่ "เขามา
ทาํ งาน" ตามขอ้ ๑๗ ของหลกั เกณฑแ์ ละเงือ่ นไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินยั (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙)
ประกอบหนงั สือสาํ นกั งาน ก.พ.ที่ นร ๐๗๐๙.๒/๒๒๙ ลง ๑๐ พ.ค.๒๕๓๗ และท่ี นร ๐๗๐๙.๒/ป ๗๓๗ ลง
๑๙ ต.ค.๒๕๓๘ (และยังผดิ วนิ ัยฐานอ่นื อกี เพียบ)
๒. ผิดวนิ ัย ตามข้อ ๑๗ สว่ นจะเป็นวรรคหนงึ่ (ไม่รา้ ยแรง) หรอื วรรคสอง (รา้ ยแรง) ต้องพิจารณา
ขอ้ เทจ็ จรงิ เปน็ เรื่อง ๆ ไป เช่น

(๑) วันท่ขี าดราชการแมเ้ พียงวันเดียวมเี หตผุ ลอนั สมควรหรอื ไม่ ทําให้ราชการเสียหายอย่าง
รา้ ยแรงหรอื ไม่

(๒) วันท่ีมาลงช่ือไม่ไดม้ ีการปฏิบตั ิหน้าที่ราชการเลยใช่หรือไม่
(๓) มพี ฤตกิ ารณอ์ นั แสดงถึงความจงใจไมป่ ฏบิ ตั ิตามระเบียบของทางราชการ หรอื ไม่
หากเขา้ เงื่อนไขขา้ งตน้ จะเปน็ ความผิดวินยั อยา่ งร้ายแรง ตามข้อ ๑๗ วรรคสอง ซ่งึ มโี ทษปลด
ออกหรือไลอ่ อก แล้วแต่กรณี
๓. พฤติกรรมลักษณะนีอ้ าจเข้าขา่ ยหยอ่ นความสามารถในอนั ที่จะปฏิบตั หิ น้าที่ราชการ ตามขอ้ ๗
ของหลักเกณฑแ์ ละเงื่อนไขในการใหอ้ อกจากราชการ (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) ซึง่ นายกฯ สามารถแตง่ ตง้ั
คณะกรรมการสอบสวน (แบบ สว.๑) แลว้ สงั่ ให้ออกจากราชการ โดยความเห็นชอบของ ก.จงั หวดั เพื่อรบั
บาํ เหนจ็ บาํ นาญเหตทุ ดแทนได้
๔. ผูบ้ งั คบั บญั ชาทกุ ระดบั ชนั้ มีหน้าท่ีตามกฎหมายในการกํากบั ดแู ลผู้ใตบ้ งั คบั บญั ชาใหป้ ฏบิ ัตหิ น้าที่
ให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย เมือ่ พบวา่ ผใู้ ต้บงั คับบัญชากระทําผิดวินยั ต้องดาํ เนินการทางวินัยทันที ตามขอ้
๒๔ วรรคสี่ ของหลักเกณฑว์ ินัย เมอื่ ไมด่ ําเนนิ การ

รวบรวมโดย นติ ิกรพร หนา้ 63

คําถาม-ตอบวนิ ัย ปี 2561 โดยอาจารย์ประวทิ ย์ เปร่ืองการ รวบรวมโดยนติ กิ รพร เทศบาลตําบลบะหว้า จังหวัดสกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

(๑) หากผบู้ งั คับบญั ชาเป็นขา้ ราชการ ถอื ว่ากระทําผิดวนิ ัยเสยี เอง ซ่งึ นายกฯ ตอ้ งดําเนนิ การทาง
วินัยต่อผบู้ ังคบั บญั ชาน้ันเป็นอกี สว่ นหนง่ึ ตา่ งหาก

(๒) ถ้าผู้บงั คับบญั ชาเป็นนายกฯ/รองนายกฯ อาจถูกผกู้ าํ กับดูแลสอบสวนถงึ ขน้ั ถอดถอนก็ได้
ตามหลักเกณฑ์วนิ ัย ข้อ ๒๔ วรรคสบิ สอง
(๓) ผ้บู ังคับบัญชาทุกระดบั ชั้น อาจตอ้ งคดีอาญาฐานละเว้นการปฏบิ ัตหิ นา้ ท่ี ตามประมวล
กฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ ไดอ้ กี ทางหนงึ่ ดว้ ย
๕. ในวนั ทีผ่ นู้ ้ขี าดราชการโดยไมม่ ีเหตุผลอนั สมควร หรือหนรี าชการในวันใด วนั นนั้ จะไมม่ สี ทิ ธไิ ดร้ ับ
เงินเดอื น ตามพระราชกฤษฎีกาการจ่ายเงนิ เดือน เงนิ ปี บาํ เหนจ็ บํานาญ หรือเงินอืน่ ในลกั ษณะเดียวกัน พ.ศ.
๒๕๓๕ มาตรา ๑๖ วรรคหน่ึง
แตห่ ากขอ้ เท็จจรงิ ปรากฏว่า หนว่ ยงานได้จา่ ยเงินเดือนใหผ้ นู้ ี้ไปเตม็ จาํ นวน ทุกเดือน จะขดั แย้ง
กับกฎหมายฉบับดงั กลา่ ว (หากมผี นู้ าํ เรื่องไปรอ้ งเรยี นหน่วยตรวจสอบ มคี วามเปน็ ไปไดส้ ูงท่จี ะถกู ชี้มลู ทง้ั วินยั
และอาญาฐานทจุ ริต เพราะใหผ้ ้อู น่ื ไดป้ ระโยชนท์ ี่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย เนือ่ งจากผนู้ ้ีไม่มาทาํ งาน จงึ
ไมม่ สี ทิ ธิไดร้ บั เงนิ เดือนตามกฎหมายฉบับดังกล่าว)
๖. ผูถ้ ามเป็นข้าราชการบรรจใุ หม่ ถ้าไมม่ ีส่วนเกยี่ วข้อง..ตอ้ งทําใจ !! อยา่ ไปย่งุ กบั เขา เพราะคงเปน็
เช่นนี้มานานแลว้ ..เดยี๋ วเขากโ็ ดนเอง...(หากคิดวา่ เรายอมไมไ่ ด.้ .ลองรอ้ งเรียนโดยไม่ลงช่ือดู แลว้ จะร้วู า่ ไฟไหม้
สาํ นักงานมันเป็นยงั ไง !!) แต่ถา้ มีหน้าที่ควบคมุ สมุดเซน็ ชอื่ ตอ้ งรบี ทํารายงานเสนอผู้บงั คบั บญั ชาตามลาํ ดับชัน้
แล้วท่านจะรอด
ขอบคณุ หลายความเหน็ อันรอ้ นแรง ครับ

*******************
คาํ ถาม ๓/๑๐/๖๑
เรยี นถามท่านอาจารย์ประวทิ ยค์ รบั
กรณมี กี ารยืมตัวข้าราชการ อปท. ไปชว่ ยราชการเป็นคณะกรรมการกาํ หนดราคากลางและผ้คู ุมงานใน
โครงการของอาํ เภอ หลงั จากนัน้ สตง.เขา้ ตรวจและใหด้ าํ เนนิ ทางวินัยกบั คณะกรรมการกําหนดราคากลาง ผู้
คุมงาน และคณะกรรมการตรวจงานจ้าง ต่อมาอาํ เภอไดด้ าํ เนินการทางวินัยในสว่ นขา้ ราชการในสงั กัด
เรียบรอ้ ยแล้ว จึงแจง้ มาทาง อปท.ใหด้ าํ เนนิ การทางวนิ ัยตอ่ ซึ่ง อปท.ออกคาํ สงั่ แตง่ ต้งั คณะกรรมการสอบสวน
วนิ ยั อย่างไม่รา้ ยแรง ระบชุ ่ือข้าราชการท่ถี ูกยมื ตวั เปน็ ผถู้ กู กล่าวหา
คําถามครบั
๑.กรณีดังกล่าว อปท.สามารถใชส้ าํ นวนการสอบสวนของอาํ เภอมาประกอบการลงโทษวนิ ยั ข้าราชการ อปท.
ได้หรือไม่
๒.ถ้าสามารถใชส้ าํ นวนดงั กลา่ วได้ การสอบสวนจาํ เปน็ ต้องเรียกพยาน(ซึ่งเป็นผถู้ กู กลา่ วหาว่ากระทําผดิ วนิ ยั ใน
สาํ นวนของอาํ เภอ) มาสอบสวนใหม่ หรอื สอบสวนเพอ่ื ยืนยนั ถ้อยคาํ ตามสํานวนเดมิ หรือสามารถใชถ้ ้อยคําใน
สํานวนสอบสวนเดมิ ได้เลยโดยไม่ตอ้ งเรียกมาสอบสวน โดยจะแจง้ ข้อกล่าวหาและสรปุ พยานหลกั ฐาน และ
สอบสวน เฉพาะผู้ถกู กลา่ วหาตามคําส่ังที่ อปท.แตง่ ตง้ั เท่านน้ั
ขอบพระคณุ อาจารยล์ ว่ งหน้าครบั
ตอบ

เปน็ กรณีการดําเนินการทางวนิ ยั ขา้ ราชการต่างสงั กดั กระทาํ ผดิ รว่ มกนั (ในเรอ่ื งเดยี วกนั ) มีท้งั
ข้าราชการพลเรอื น ทอ้ งถิ่น และท้องท่ี

ประเดน็ คําถาม

รวบรวมโดย นิตกิ รพร หน้า 64

คําถาม-ตอบวินยั ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวทิ ย์ เปร่ืองการ รวบรวมโดยนิตกิ รพร เทศบาลตําบลบะหว้า จังหวัดสกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

๑. ใชส้ าํ นวนของอําเภอมาประกอบสํานวนของ อปท. ไดห้ รอื ไม่
๒. หากนํามาใชไ้ ด้ จาํ เป็นตอ้ งสอบยนั หรือไม่

สรุปสั้น
๑. ได้

๒. จาํ เปน็
ขยายความ
๑. กรณีข้าราชการกระทาํ ผิดร่วมในเรอ่ื งเดยี วกัน ควรต้งั กรรมการสอบสวนรว่ มกัน มหี ลายเหตผุ ล

สนับสนนุ เชน่
(๑) เปน็ ข้อมลู ในทิศทางเดียวกันเกอื บทง้ั สิน้
(๒) เปน็ การประหยดั หลายประการ ไดแ้ ก่ ตัวกรรมการ เวลาราชการ งบประมาณค่าใชจ้ า่ ย ฯลฯ

(๓) เปน็ แนวทางการสอบสวนเดยี วกัน
(๔) เปน็ ระดบั โทษเดียวกัน
เปน็ ตน้

เมื่อมกี ารดําเนนิ การทางวนิ ัยแลว้ จาํ ต้องรายงานไปยงั ก.จังหวัด ตามหลกั เกณฑแ์ ละเงือ่ นไขในการ
สอบสวน การลงโทษทางวินัย (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) ขอ้ ๘๗ วรรคหน่ึง ซง่ึ ก.พ.ได้วางหลักไว้วา่ เม่อื มผี ู้กระทํา
ผิดร่วมกันหลายคน ต้องรายงานรวมเปน็ เรือ่ งเดยี วกนั ถา้ รายงานเปน็ เรอื่ งเดียวกันไม่ได้ ให้แจง้ ด้วยว่ามผี ้ใู ด

บ้าง แต่ละคนไดร้ บั โทษอะไร ตามหนังสือสํานักงาน ก.พ.ท่ี นร ๑๐๐๕/ว ๑๑ ลง ๒๗ ก.ย.๒๕๐๘ เพราะมี
เจตนารมณเ์ พื่อให้ผกู้ ระทาํ ผดิ ในเรอื่ งเดียวกัน ต้องไดร้ บั โทษเท่ากนั

ตามคาํ ถามปรากฏว่า มีขา้ ราชการตา่ งสงั กดั กระทาํ ผดิ รว่ มในเร่ืองเดียวกัน (ไมใ่ ช่สังกดั เดียวกัน) หลาย

คน ลกั ษณะน้ี ก.พ.ได้วางระเบยี บไว้ สรุปวา่
๑. ใหเ้ จา้ สงั กัดแตล่ ะแหง่ ปรกึ ษาหารอื กันในการสอบสวนพิจารณาโทษเพอ่ื ให้ไดร้ ะดบั เดียวกนั
๒. ใหแ้ ตล่ ะสงั กัดออกคาํ สง่ั แต่งต้งั กรรมการประกอบดว้ ยตวั บุคคลชดุ เดยี วกัน ทาํ การสอบสวนเท่าที่

จะทําได้ เพอื่ ใหข้ อ้ เทจ็ จรงิ ปรากฏไปในทศิ ทางเดียวกนั
๓. คณะกรรมการสอบสวนชุดดงั กล่าว มกี ารสอบพาดพิงขา้ ราชการสงั กดั อ่นื ซึ่งตนไม่มอี าํ นาจ

สอบสวนผนู้ ั้น ใหร้ ายงานไปยงั ผสู้ ั่งตงั้ (อปท.คือ นายกฯ)

(๑) ถา้ ผ้สู ัง่ ต้ังมอี าํ นาจตงั้ กรรมการสอบสวนผู้ถูกพาดพงิ นั้น ใหส้ ง่ั กรรมการสอบสวน สอบสวนผู้น้นั
เพ่มิ เตมิ ด้วย

(๒) แต่ถ้าผูส้ งั่ ตั้งไมม่ ีอํานาจตงั้ กรรมการสอบสวนผู้ถกู พาดพงิ กใ็ หแ้ จ้งไปยงั เจา้ สงั กดั ของผู้ถกู

พาดพงิ น้ัน เพอ่ื ให้ตัง้ กรรมการชดุ เดมิ เปน็ กรรมการสอบสวนผูน้ ้ันต่อไป หรือจะตัง้ กรรมการสมทบดว้ ยก็ได้
แล้วแต่จะเห็นสมควร

๔. การสอบสวนดังกลา่ วใหใ้ ชส้ าํ นวนรว่ มกัน โดยเจา้ สงั กัดติดตอ่ หารอื พิจารณาเพ่ือให้ได้ระดบั

เดยี วกนั
ตามหนงั สอื สํานกั งาน ก.พ.ท่ี นว ๓/๒๔๙๔ ลง ๒๙ ม.ค.๒๔๙๔
(ซ่ึงต้องมีการขอยืมตัวกรรมการกนั ไปมา หากกรรมการผูน้ ้ันไมใ่ ชผ่ ู้ใต้บังคบั บัญชาของผสู้ ัง่ ตง้ั ตามข้อ

๔๙ วรรคหนึ่ง ของหลกั เกณฑว์ ินยั ฯ ด้วย)
แต่เร่อื งน้ีอําเภอได้ดาํ เนนิ การทางวินยั ผใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชาไปจนเสรจ็ ส้นิ แลว้ โดยไมไ่ ดป้ ฏบิ ตั ิตามแนวทาง

ข้างต้น ถอื ว่าเปน็ การไมป่ ฏิบัติตามระเบยี บของทางราชการดงั กลา่ ว

รวบรวมโดย นติ ิกรพร หนา้ 65

คาํ ถาม-ตอบวินัย ปี 2561 โดยอาจารย์ประวิทย์ เปรื่องการ รวบรวมโดยนติ กิ รพร เทศบาลตาํ บลบะหวา้ จงั หวดั สกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

อยา่ งไรกต็ ามระเบยี บ ก.พ.ท่ีอา้ งถึง มีวัตถุประสงค์ เพ่ือใหไ้ ด้
๑. ขอ้ เทจ็ จริงเดยี วกนั
๒. รับโทษในระดบั เดียวกนั
ดังนั้น จงึ เข้าสปู่ ระเดน็ คาํ ถามทว่ี า่ "อปท.จะใชส้ ํานวนของอาํ เภอมาประกอบไดห้ รอื ไม"่
คําตอบคอื ..สามารถกระทาํ ได้ และตอ้ งกระทาํ เช่นนน้ั ดว้ ย ตาม นว ๓/๒๔๙๔ ข้างต้น
๒. การนาํ สํานวนท่มี กี ารสอบปากคาํ ไว้กอ่ นแล้ว ไม่ว่าจะดําเนินการโดยผ้ใู ด เช่น สํานวนการสอบ
ข้อเทจ็ จรงิ การสอบวนิ ยั ไมร่ ้ายแรง การสอบสวนวนิ ัยอย่างร้ายแรง การสอบละเมิด การตรวจสอบสบื สวน
การสบื สวน สอบสวน หรือการไตส่ วนใด ๆ กต็ าม มาใชใ้ นสาํ นวนการสอบสวนทางวินัยอกี ครงั้ (ยกเว้นสํานวน
ตามกฎหมาย ป.ป.ช.ฉบบั ใหม่ ม.๙๘ วรรคหนง่ึ ) นั้น
ในหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวนิ ัยฯ ข้อ ๕๙ กําหนดวา่ "การนําเอกสาร
หรือวัตถุมาใชเ้ ปน็ พยานหลักฐานในสาํ นวนการสอบสวน ใหก้ รรมการสอบสวนบันทึกไวด้ ้วยวา่ ไดม้ าอยา่ งไร
จากผใู้ ด และเมอื่ ใด.." ซึ่งการใหป้ ากคําทเ่ี คยให้ไว้ อาจเปลยี่ นแปลงไปได้ ขนึ้ อยูกับหลายเหตปุ จั จยั
ดังนัน้ การนําสํานวนสอบสวนทางวินัยของอําเภอในเรือ่ งเดยี วกนั มาใช้ในสาํ นวนวนิ ัย ย่อมกระทําได้
แตต่ ้องใหม้ กี ารสอบสวนยืนยนั ปากคาํ หรอื ถอ้ ยคําทเี่ คยใหไ้ วแ้ ล้วต่อกรรมการชดุ ต่าง ๆ น้นั ว่า ยังยืนยันอยู่
หรอื ไม่ ซงึ่ เรียกกนั ว่า "สอบยนั " หากปากใดสอบยันไม่ได้ ไมค่ วรนํามาใช้ เพราะจะทาํ ใหผ้ ลการสอบสวน
เปลี่ยนแปลงไปได้ และอาจมปี ระเด็นโต้แย้งในภายหลัง
โดยใหก้ รรมการสอบสวนดําเนนิ การ ดงั นี้
๑. ประชมุ มีมตใิ หน้ าํ สาํ นวนนัน้ มาใชใ้ นสํานวนการสอบสวนทางวินยั ครงั้ ดงั กลา่ วเสียกอ่ น
๒. เรียกผูท้ เี่ คยให้ปากคาํ /ถ้อยคําในสํานวนนนั้ มาถามวา่ "ยงั จะให้ถอ้ ยคาํ ดงั ทใ่ี หไ้ ว้กับกรรมการ...ตาม
คําสั่ง...เมือ่ วันท.่ี ....หรอื ไม่ ?"
๓. ถา้ ผูน้ น้ั ยนื ยัน ให้ลงลายมือช่อื ไว้เป็นหลกั ฐาน เพอื่ ดาํ เนินการต่อไป
ขอบคณุ ทกุ การแชร์ ครบั

***************
คําถาม ๕/๑๐/๖๑

หนูรับราชการมา 10 กว่าปีแลว้ ค่ะ ตอนนี้มปี ญั หาจะเรยี นถามทา่ นอาจารย์ คอื หนไู ปกเู้ งินและค้ําประกนั
เงินกกู้ บั สถาบันการเงนิ แหง่ หนงึ่ คํา้ กันไปมาในสํานกั งานเดยี วกันเปน็ กลมุ่ ราว 6-7 คน เม่ือไม่นานมานี้เพอ่ื น
ในกลุ่มคนหนง่ึ เป็นปูองกันฯ ถูกตํารวจตรวจพบ "ฉส่ี ีมว่ ง" นายกฯ ไดข้ อความเหน็ ชอบให้ออกจากราชการไว้
กอ่ นและออกคําสง่ั ไปแลว้ เพอื่ นผู้นี้ถกู ส่งไปบาํ บดั วนั นีพ้ ้นจากการบําบดั แลว้ แตก่ รรมการสอบวินัยยังสอบไม่
เสรจ็ หนเู กรงวา่ ถ้าเขาถกู ไลอ่ อก พวกหนผู คู้ าํ้ ประกันตอ้ งเดอื ดรอ้ นแนน่ อน

จงึ ขอคาํ แนะนําจากทา่ นอาจารย์ว่าจะทํายังไงได้บา้ ง กราบขอบพระคุณเปน็ อย่างสงู คะ่ ท่านอาจารย์
ตอบ

คาํ ถามมี ๒ ประการ อยา่ งแรก ได้แก่ การเข้าไปเกยี่ วข้องกบั "ยาเสพติด" ท้ังในฐานะผผู้ ลติ คา้ เสพ
ตดิ หรอื ผปู้ ระกันตวั ในคดียาเสพติด ซงึ่ ผเู้ ป็นขา้ ราชการตอ้ งสาํ เหนยี กให้ดวี ่า "อยา่ เขา้ ไปยงุ่ เดด็ ขาด" เพราะ
เป็นนโยบายของรัฏฐาธปิ ตั ยท์ ี่ประกาศตอ่ สู้เพอ่ื เอาชนะยาเสพตดิ ตามมติ ครม.เมอ่ื ปี ๒๕๔๖ โดยทกุ ส่วน
ราชการ หนว่ ยงานรฐั ต้องปฏบิ ัตติ าม อย่างทสี่ อง คือการคา้ํ ประกนั เงินกู้ ซง่ึ วนั นี้กลายเป็นปัญหาใหญ่ของ
สังคมไปแลว้

คําถามจงึ อาจมี ๒ คดหี ลกั ไดแ้ ก่
๑. คดยี าเสพติด

รวบรวมโดย นิติกรพร หนา้ 66

คาํ ถาม-ตอบวินัย ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวิทย์ เปรื่องการ รวบรวมโดยนติ กิ รพร เทศบาลตาํ บลบะหว้า จงั หวัดสกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

๒. คดีคํ้าประกนั เงนิ กู้
ถามว่า
๑. คดยี าเสพตดิ มที างออก หรอื ไม่
๒. คดีค้ําประกนั เงนิ กู้ ต้องทาํ อย่างไร
สรปุ สั้น
๑. มี
๒. ทําใจ
ขยายความ
๑. มหี นังสอื สํานักงาน ก.กลาง รวม ๒ ฉบบั ได้แก่

(๑) หนงั สอื สํานักงาน ก.อบต., ก.ท. และ ก.จ.ที่ มท ๐๘๐๙.๑/ว ๗๓๓ ลง ๑๒ พ.ค.๒๕๔๖ เรอื่ ง
นโยบายตอ่ สเู้ พอ่ื เอาชนะยาเสพตดิ (ซง่ึ ตอ้ งแต่งตงั้ คณะกรรมการสอบสวนวินยั อย่างรา้ ยแรง แลว้ ส่งั ใหอ้ อก
จากราชการไว้ก่อน โดยความเหน็ ชอบของ ก.จงั หวัด ทกุ กรณี ทงั้ ผลิต ค้า เสพ ตดิ และประกันตัวผู้อื่นในคดี
ยาเสพติด)

(๒) หนงั สอื สํานักงาน ก.จ., ก.ท. และ ก.อบต.ที่ มท ๐๘๐๙.๖/ว ๓๕ ลง ๑๐ พ.ค.๒๕๕๙ เรื่อง
การให้โอกาสผู้ตดิ เช้ือเอดส์ คนพกิ าร ผเู้ สพหรอื ตดิ ยาเสพตดิ ซง่ึ พ้นจากสภาพการใช้ยาเสพตดิ

ดงั น้นั เมอื่ กรณีการสอบสวนทางวินัยยังไมแ่ ล้วเสร็จ จงึ ควรปฏบิ ตั ิตามข้นั ตอน ดงั น้ี

(๑) ผูน้ ้ีต้องมหี นังสอื ถงึ นายกฯ ผู้สง่ั แต่งตง้ั คณะกรรมการสอบสวน พรอ้ มแนบสาํ เนาหนงั สือจาก
สถานบาํ บัดหรอื นายแพทย์ผทู้ ําการรักษาว่า "เปน็ พ้นจากสภาพการใช้ยาเสพตดิ " แลว้

(๒) นายกฯ ตอ้ งสง่ หนังสือดงั กลา่ วใหป้ ระธานกรรมการสอบสวนเพอ่ื รวมไวใ้ นสํานวนการสอบสวน

(๓) ให้กรรมการสอบสวนบันทกึ ไว้ด้วยวา่ ได้มาอยา่ งไร จากผู้ใด และเมอ่ื ใด ตามข้อ ๕๙ ของ
หลกั เกณฑว์ นิ ัยฯ

(๔) เมอื่ คณะกรรมการ ทําการสอบสวนแลว้ เสรจ็ ต้องเสนอความเหน็ ต่อนายกฯ ใหล้ งโทษเป็นวนิ ัย

อยา่ งไม่ร้ายแรง (ภาคทัณฑ์ ตดั เงนิ เดอื น ลดขน้ั เงนิ เดือน) ตามควรแก่กรณี ตามขอ้ ๘๔ ของหลักเกณฑว์ นิ ยั ฯ
โดยไมอ่ าจเสนอให้ลงโทษปลดออก/ไลอ่ อกจากราชการได้ ตามหนังสอื สาํ นกั งาน ก.จ., ก.ท. และ ก.อบต.ท่ี
มท ๐๘๐๙.๖/ว ๓๕ ลง ๑๐ พ.ค.๒๕๕๙

(๕) ให้นายกฯ ลงความเห็นว่าควรลงโทษสถานใด ในระดบั สถานโทษวินยั อยา่ งไม่ร้ายแรง ตามขอ้
๗๗ (๑) และวรรคสาม ของหลกั เกณฑ์วนิ ัยฯ (แต่ยังออกคําส่ังลงโทษไมไ่ ด)้

(๖) เสนอ ก.จังหวัดเพอื่ ขอความเหน็ ชอบใหผ้ นู้ กี้ ลบั เขา้ รบั ราชการ ตามขอ้ ๒๒ (๓) ของหลกั เกณฑ์

การให้ออกจากราชการฯ
(๗) นายกฯ ออกคําส่ังใหผ้ ู้นี้กลบั เขา้ รบั ราชการ แลว้ ออกคําสงั่ ลงโทษวินยั อย่างร้ายแรง ตามข้อ

๗๗ (๑) ดังที่พจิ ารณาไว้แลว้ ใน (๕) ก่อนรายงาน ก.จงั หวดั เพ่ือพจิ ารณา ตามขอ้ ๘๗ ของหลักเกณฑ์วนิ ยั ฯ อีก

ครัง้
(๘) เงนิ เดอื นระหว่างถูกออกจากราชการไว้กอ่ น ใหจ้ า่ ยไม่เกินคร่ึงหนึ่ง เฉพาะคา่ เชา่ บ้านใหจ้ า่ ย

เตม็ ตามหลักเกณฑ์การจา่ ยเงินเดอื นใหผ้ ู้กลบั เขา้ รบั ราชการฯ ประกอบหนังสือกระทรวงการคลงั ท่ี สร

๐๕๐๓/ว ๓๐๖๖ ลง ๑๗ ก.ย.๒๕๒๒
๒. การเข้าเปน็ ผู้ค้าํ ประกนั เงินกู้ยมื ต่อสถาบันการเงนิ ตอ้ งปลอ่ ยใหก้ ระบวนการเป็นไปตามกฎหมายท่ี

เก่ยี วขอ้ ง อย่างน้อยท่ีสุด ได้แก่ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๖๘๐ ที่บัญญตั ิว่า "อนั ว่าคาํ้ ประกนั

รวบรวมโดย นิติกรพร หน้า 67

คําถาม-ตอบวินัย ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวทิ ย์ เปร่อื งการ รวบรวมโดยนติ กิ รพร เทศบาลตาํ บลบะหว้า จังหวัดสกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

นั้น คอื สัญญาซง่ึ บคุ คลภายนอกคนหนง่ึ เรยี กวา่ ผูค้ าํ้ ประกนั ผูกพันตนต่อเจ้าหน้าคนหนึ่ง เพื่อชําระหนี้ในเม่ือ
ลูกหน้ีไม่ชาํ ระหนนี้ ั้น.." ด้วยเหตผุ ลทเ่ี รายินยอมนาํ ตวั เองเขา้ ผูกพันมาแตต่ ้น ในขณะทําสญั ญากู้ยมื แลว้ ซึ่งมี
ชอ่ งทางไลเ่ บี้ยเอาคนื ได้ตามกฎหมาย (แต่คงลาํ บากหนอ่ ย)

ดงั นน้ั การเข้าเปน็ ผคู้ ํา้ ประกนั เงินกู้ยืม ควรคดิ ใหจ้ งหนักกอ่ นจรดปากกาเซ็นคํ้า ดังคาํ กล่าวทว่ี า่
"อยากเป็นหนี้ใหเ้ ป็นนายหนา้ อยากเปน็ ข้ีข้าให้เป็นนายประกนั "

ขอบคุณทุกเสยี งสาย ครบั
*****************

คําถาม ๘/๑๐/๖๑
ผมเคยมาอบรมทโ่ี รงแรมเรอื ใหญซ่ ง่ึ กรมจัดเม่อื ปี 55 มเี ร่ืองรบกวนท่าน อ.ดงั น้ี
เมื่อวนั ที่ 18 ก.ค.61 นายก อบต.ได้มีคาํ ส่งั ลงโทษตัดเงืนเดือนผมซงึ่ เปน็ ผอ.กองชา่ ง 5% 1 เดอื น กรณี

ไมก่ าํ กบั ดแู ลผ้ชู ว่ ยช่างฯ ให้ปฏิบัติหน้าท่ตี ามระเบียบ ผมรบั ทราบคําสงั่ เมอื่ วนั ท่ี 20 ก.ค.61
จากน้ันในวันท่ี 23 ก.ค.61 ผมไดอ้ ทุ ธรณค์ ําสั่งลงโทษต่อ ก.จังหวดั ตอ่ มาวันที่ 17 ส.ค.61 จนท.ห้อง

ท้องถน่ิ จงั หวัดโทร.บอกผมวา่ อบต.ยังไมไ่ ดร้ ายงานการดําเนนิ การทางวนิ ยั มาท่ี ก.จงั หวัด ยังไมส่ ามารถยนื่
หนงั สืออุทธรณ์ได้ จึงสง่ เรอ่ื งนนั้ กลบั มาใหผ้ ม ขอเรียนถามวา่

1. ผมตอ้ งทาํ อย่างไรกบั หนังสอื อทุ ธรณท์ ่ีถูกสง่ กลบั
2. วันที่ 1 ต.ค.61 ผมจะมสี ิทธเิ ลอ่ื นข้ันเงนิ เดอื นหรอื ไม่ เพราะ ก.จงั หวดั ยงั ไมไ่ ด้รบั รายงานจาก อบต.
ขอบพระคุณ อ.อยา่ งสงู ครบั
ตอบ

ประเด็นคําถามมี ๒ กรณใี นเร่ืองเดียวกัน คือ
๑. กรณีรายงานการดําเนินการทางวนิ ยั
๒. กรณีอทุ ธรณค์ าํ สงั่ ลงโทษ
ถามวา่
๑. ผยู้ นื่ จะทาํ อยา่ งไรกับหนังสอื อุทธรณ์ทีถ่ ูกสง่ คืน
๒. วันที่ ๑ ต.ค.๖๑ จะเล่อื นข้นั เงินเดือน ไดห้ รอื ไม่
สรุปสั้น
๑. สง่ หนงั สอื อทุ ธรณก์ ลบั ไปยงั ก.จงั หวัด อกี คร้งั
๒. หมดสทิ ธิ
ขยายความ
๑. กรณีดงั กลา่ วมีหลักเกณฑ์และแนวทางทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง ๓ ฉบบั ไดแ้ ก่

(๑) หลักเกณฑแ์ ละเงอ่ื นไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินยั (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) ข้อ ๘๗
กําหนดว่า "เมอ่ื นายกฯ ได้ออกคาํ ส่ังลงโทษทางวนิ ัยอยา่ งไมร่ า้ ยแรง (ภาคทัณฑ์/ตดั เงนิ เดือน/ลดขน้ั เงนิ เดอื น)
ผใู้ ดแล้ว ให้รายงานการดาํ เนนิ การทางวินัยไปยัง ก.จงั หวัด (ไมม่ ีกําหนดเงอ่ื นเวลารายงานไว้ จึงตอ้ งดําเนินการ
โดยเรว็ ) เพอื่ สง่ เรื่องใหอ้ นุวินยั ทําความเหน็ เสนอ และ ก.จังหวัดตอ้ งพิจารณามีมติให้แลว้ เสรจ็ ภายในเก้าสิบวนั

หลักเกณฑ์น้ีเปน็ หน้าทข่ี องนายกฯ ทจี่ ะต้องเป็นผู้รายงานการดาํ เนินการทางวนิ ัยไปยัง ก.จังหวัด
(๒) หลักเกณฑ์และเง่อื นไขในการอุทธรณ์ และการร้องทกุ ข์ (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) ขอ้ ๕ วรรคหนงึ่
วรรคสอง ขอ้ ๙ ข้อ ๑๐ กําหนดวา่ "ผใู้ ดถูกสง่ั ลงโทษทางวนิ ัย..ให้ผู้นัน้ มีสทิ ธิอุทธรณไ์ ดภ้ ายในสามสบิ วันนับ
แต่วันทราบคาํ สง่ั ..ตอ่ ก.จงั หวัดเพ่อื ส่งเร่ืองใหอ้ นอุ ุทธรณท์ ําความเหน็ เสนอ และ ก.จังหวดั ตอ้ งพจิ ารณา

รวบรวมโดย นิตกิ รพร หนา้ 68

คาํ ถาม-ตอบวินยั ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวทิ ย์ เปรือ่ งการ รวบรวมโดยนติ ิกรพร เทศบาลตาํ บลบะหว้า จังหวัดสกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

วินิจฉัยอุทธรณใ์ หแ้ ลว้ เสรจ็ ภายในเก้าสบิ วนั .." และขอ้ ๑๖ วรรคสอง กาํ หนดวา่ "ในกรณมี ปี ญั หาว่าอทุ ธรณ์
รายใดเปน็ อทุ ธรณท์ จี่ ะรบั ไว้พิจารณาไดห้ รอื ไม่ ให้ ก.จงั หวดั เปน็ ผพู้ จิ ารณาวินิจฉัย"

หลกั เกณฑ์น้ีเปน็ สทิ ธขิ องผู้ถูกลงโทษ ทจี่ ะตอ้ งเป็นผูย้ นื่ อทุ ธรณ์คําสง่ั ตอ่ ก.จงั หวัด
(๓) หนงั สอื สํานักงาน ก.จ., ก.ท., ก.อบต.ท่ี มท ๐๘๐๙.๑/๓๔๕ ลง ๑๘ ธ.ค.๒๕๔๕ ความว่า
"กรณี ก.จงั หวัดได้รบั รายงานการดาํ เนนิ การทางวนิ ัยพรอ้ มการอทุ ธรณ์ หรอื กรณีเรือ่ งอยู่ระหว่างการพจิ ารณา
ของอนุวินัย และได้มกี ารยืน่ อทุ ธรณ์ต่อ ก.จังหวดั ให้ ก.จงั หวดั สง่ รายงานการดําเนินการทางวนิ ัยทง้ั หมด
พรอ้ มการอทุ ธรณใ์ ห้อนุอทุ ธรณ์ พิจารณา"
แนวทางน้ีเป็นหนา้ ทข่ี อง ก.จงั หวัด ท่จี ะต้องเปน็ ผู้สง่ ใหอ้ นุอทุ ธรณ์
จากหลกั การทีก่ ลา่ วมาขา้ งตน้ จะเหน็ ได้วา่ หน้าทรี่ ายงานการดาํ เนนิ การทางวินยั สทิ ธิในการ
อทุ ธรณ์คําสั่งลงโทษ และหน้าท่ีในการส่งเรอื่ งใหอ้ นุอทุ ธรณ์ เปน็ คนละสว่ นไม่เกี่ยวกนั (ตา่ งตอ้ งทําหนา้ ทข่ี อง
ตน ๆ) เพราะหากมเี หตกุ ารณ์ทง้ั สองเกดิ พร้อมกัน ย่อมเปน็ อํานาจพิจารณาทาํ ความเหน็ ของอนุอทุ ธรณเ์ พยี ง
ฝาุ ยเดียวเทา่ นน้ั ซงึ่ หนงั สอื อทุ ธรณ์ดงั กล่าวฝุายเลขาฯ ก.จังหวดั ตอ้ งรับไว้เพอ่ื รอรายงานการดําเนินการทาง
วินยั จาก อบต.แล้วรวบรวมเสนอ ก.จงั หวดั เพอ่ื สง่ ใหอ้ นุอทุ ธรณ์ตอ่ ไป
การทฝ่ี าุ ยเลขาฯ ก.จังหวัด สง่ หนังสืออทุ ธรณ์คนื ผู้อทุ ธรณ์โดยอา้ งวา่ "ก.จงั หวัดยงั ไม่ได้รบั
รายงานการดาํ เนินการทางวนิ ัยจาก อบต." นั้น ยอ่ มเป็นข้อกลา่ วอ้างท่ีไมเ่ ป็นไปตามแนวทางดงั กล่าว
เนอื่ งจากผอู้ ุทธรณไ์ ด้ย่นื หนงั สืออทุ ธรณ์ตามขั้นตอนทก่ี ําหนดครบถว้ นแล้ว
แต่อยา่ งไรก็ตาม หากฝุายเลขาฯ ก.จงั หวดั เหน็ วา่ อุทธรณ์รายน้ีจะรบั ไว้พิจารณาไดห้ รือไม่ ชอบ
ทจ่ี ะเสนอให้ ก.จงั หวดั เป็นผพู้ จิ ารณาวินิจฉยั ตามข้อ ๑๖ วรรคสอง จงึ จะถอื เป็นวธิ ีการทชี่ อบดว้ ย
กระบวนการขัน้ ตอนอันเป็นสาระสาํ คัญ
ดังนนั้ ผูอ้ ทุ ธรณจ์ าํ ตอ้ งสง่ หนงั สอื อุทธรณ์ดังกลา่ วกลับคืนไปยัง ก.จังหวดั อกี ครงั้ เพอ่ื พิจารณา
(หากยงั มคี วามประสงค)์
๒. หลกั เกณฑก์ ารเลอ่ื นขั้นเงนิ เดือนฯ (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) ข้อ ๘ (๒) กาํ หนดวา่ .. "ในครง่ึ ปที แ่ี ลว้ มา
ต้องไม่ถูกสงั่ ลงโทษทางวินัยท่หี นกั กว่าโทษภาคทัณฑ์..เมือ่ ขอ้ เทจ็ จริงปรากฏว่า ผูถ้ ามถกู สงั่ ลงโทษตดั เงินเดอื น
๕% เปน็ เวลา ๑ เดือน (ซ่ึงหนกั กวา่ ภาคทัณฑ)์ ในวันท่ี ๑๘ ก.ค.๒๕๖๑ ดังนน้ั สิทธไิ ด้รบั การเลอื่ นขัน้
เงนิ เดอื น ในรอบ ๑ ต.ค.๒๕๖๑ - ๓๑ มี.ค.๒๕๖๒ จงึ ไมม่ ี
ขอบคุณทุกข้อความ ครบั

******************
คําถาม ๑๐/๑๐/๖๑
#คาํ ถามวนิ ยั #ลูกจ้างประจําถูกสอบสวนวินยั อยา่ งร้ายแรงฐานขาดราชการเกนิ กว่า15วัน
สวสั ดีคะ่
หนมู เี รอื่ งท่ีใครจ่ ะเรียนถามและเรยี นปรึกษา
หนเู ปน็ ลูกจา้ งประจํา อบต.แห่งหนึ่งในจังหวดั ภาคอีสาน หนูไมไ่ ด้รับเงินคา่ ตอบแทนมาจะ 2 ปีแล้วค่ะ ไม่มี
คาํ สงั่ มแี ต่บันทกึ ข้อความภายในฉบับเดียวหลงั จากงดจา่ ยเงนิ เดอื นมาได้สองเดือนกต็ งั้ กรรมการสอบวินัย
รา้ ยแรงกลา่ วหาหนขู าดราชการโดยไมม่ ีเหตุอันควรเกิน 15 วนั
ตอนน้หี นูลําบากกนั ท้ังครอบครวั เพราะหนไู ม่มรี ายไดม้ าจุนเจอื ครอบครัวคะ่ พอ่ กป็ วุ ยเดินไม่ได้มาปีกว่าแลว้ ค่ะ
แม่ตอ้ งแบกภาระครอบครัวตามลาํ พงั เพราะหนตู ้องดแู ลพ่อท่ีปุวยคา่ เล่าเรียนบตุ รก็ถกู โรงเรยี นทวงถาม หนจู ึง
อยากใครเ่ รียนถามดงั นีน้ ะคะ่

รวบรวมโดย นติ กิ รพร หนา้ 69

คาํ ถาม-ตอบวนิ ัย ปี 2561 โดยอาจารย์ประวทิ ย์ เปรื่องการ รวบรวมโดยนิตกิ รพร เทศบาลตาํ บลบะหวา้ จังหวดั สกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

1.หลงั จากทีต่ ้งั กรรมการสอบหลงั งดจ่ายเงนิ เดอื นแล้วทางคณะกรรมการสอบวนิ ัยได้สง่ เรือ่ งไปยงั อนกุ รรมการ
จังหวดั ตงั้ แต่วันที่ 21 สงิ หาคม 2560 ล่วงเลยจวบจนมาถงึ ปจั จุบนั ยงั ไมม่ ีความคืบหน้าแตป่ ระการไปตดิ ตาม
กห็ ลายหนรบั ปากแต่ไมม่ ีเรื่องเข้า ก.อบต.วนิ ยั สักครงั้ เดยี วตอนนี้กไ็ ด้แตร่ อ ภาระหนส้ี นิ จากสถาบันการเงนิ ก็
เร่มิ มดี อกเบี้ยจนถึงขนั้ ฟูองลม้ ละลายแลว้ ค่ะหนจู ะทาํ อยา่ งไรดี
2.งดจา่ ยเงนิ เดอื นตั้งแต่ 1 เมษายน 2560 ต้งั กรรมการสอบสวนวันที่ 19 พฤษภาคม 2560
คณะกรรมการสอบสวนรายงานเขา้ ก.อบต.วนั ท่ี 14 สิงหาคม 2560
จนถึงวนั น้ีกย็ งั ไมม่ คี าํ ตอบใดๆกลบั มา
ตอบ

ข้อมลู ไมพ่ อตอบ !! เปน็ ขอ้ มลู ทเี่ ลือกมาเฉพาะของผูถ้ าม แตไ่ มม่ ขี ้อมูลอนั เปน็ ท่มี าของคาํ ถาม เช่น
๑. เพราะเหตุใด จงึ ไมไ่ ดร้ ับค่าตอบแทน
๒. ตลอดเวลาในช่วงดังกล่าว มาทํางานหรอื ไม่
๓. วนั น้ยี งั มาทํางาน มาลงช่อื หรอื ไม่
๔. ท่บี อกว่ามเี พียงบนั ทึกภายในฉบบั เดียว เป็นบันทึกจากใครถงึ ใคร และเรื่องอะไร และมกี ารสงั่ การ
อยา่ งไร โดยใคร
ฯลฯ
ดงั นน้ั หากต้องการคาํ ตอบทสี่ ามารถนาํ ไปปฏบิ ตั ิได้ ต้องเพิ่มเตมิ ขอ้ มลู เหล่านอ้ี กี ครงั้

แตอ่ ยา่ งไรกต็ าม หลกั มีอย่วู ่าผู้ "ทาํ งานตอ้ งไดร้ บั คา่ ตอบแทน" คาํ ถามจึงอาจตอบได้กว้าง ๆ เทา่ นนั้
คือ

๑. ลกู จ้างประจาํ ขาดงานติดต่อเกิน ๗ วัน และนายกฯ ไดส้ ืบสวนแล้วเห็นว่าไม่เหตผุ ลอันสมควร ถือ
เป็นความผดิ ท่ีปรากฏชดั แจง้ ซงึ่ นายกฯ จะดาํ เนินการทางวนิ ยั โดยไมส่ อบสวน หรอื งดการสอบสวนกไ็ ด้ ตาม
หลกั เกณฑว์ ่าด้วยพนกั งานจ้างฯ ลง ๑๒ พ.ค.๒๕๔๗ ขอ้ ๔๘ และขอ้ ๔๙ (๖) ประกอบหลกั เกณฑแ์ ละเง่ือนไข
ในการสอบสวน การลงโทษทางวินยั ฯ ข้อ ๔๖ (๒) และวรรคสอง

๒. ผ้ขู าดงานโดยไม่มเี หตผุ ลอนั สมควรในวันใด วนั นั้นไม่มสี ิทธไิ ด้รบั คา่ ตอบแทน ตาม พรฎ.การจ่าย
เงินเดือน เงนิ ปีฯ ๒๕๓๕ มาตรา ๑๖ วรรคหน่งึ

๓. หากเหน็ วา่ ผู้บงั คับบญั ชาปฏิบัติตอ่ เราไม่ถกู ต้อง สามารถรอ้ งทกุ ข์ตอ่ ก.จังหวัดได้ ภายใน ๓๐ วนั
นบั แต่ทราบเหตุ ตามหลกั เกณฑ์ว่าด้วยพนกั งานจา้ งฯ ข้อ ๕๓ ประกอบหลกั เกณฑอ์ ทุ ธรณ์ฯ ขอ้ ๒๗ วรรค
หนึ่ง

๔. เม่ือ ก.จังหวดั พจิ ารณาแล้ว ยังสามารถใช้สิทธิฟอู งศาลปกครองไดอ้ กี
แตท่ ้งั น้ี ตอ้ งมัน่ ใจวา่ ถูกกระทําโดยไมเ่ ป็นธรรมดว้ ย
ขอบคณุ ทกุ คอมเม้นต์ ครับ

*****************
คําถาม ๑๒/๑๐/๖๑

ขอเรยี นถามว่า ผมถกู นายกฯ ตัง้ กรรมการสอบวินัยไมร่ า้ ยแรง กรณนี ายกฯ สง่ั ใหผ้ มไปสง่ หนงั สือด่วนให้
จังหวดั ขณะท่ผี มเองกําลังมงี านดว่ นเชน่ กนั และเรียนนายกฯ ไปเช่นนน้ั นายกฯ บอกใหไ้ ปกอ่ นเด๋ียวค่อย
กลบั มาทาํ ตอ่ เพราะนัดจงั หวัดไว้สบิ โมงเชา้ ผมยังยนื ยนั งานดว่ นของตัวเอง กระทง่ั สิบโมงงานผมเสรจ็ จึงรับ
หนังสือจากนายกฯ ไปสง่ จังหวดั ปรากฏวา่ ไม่ทนั เพราะขณะนน้ั เวลา 11.15 น.

รวบรวมโดย นติ ิกรพร หน้า 70

คําถาม-ตอบวนิ ยั ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวิทย์ เปรื่องการ รวบรวมโดยนติ ิกรพร เทศบาลตําบลบะหวา้ จังหวดั สกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

ผมกลบั มาเรยี นนายกฯ ปรากฏว่าสหี นา้ นายกฯ ไมเ่ ป็นมติ รกบั ผมเลย วันรงุ่ ขึ้นสง่ั ตัง้ กรรมการสอบวนิ ยั ไม่
รา้ ยแรงผม โดยไมส่ อบข้อเทจ็ จริง ผมจะตอ้ งทําอยา่ งไรครับ อาจารย์
ตอบ

ขา้ ราชการนน้ั "ตอ้ งปฏิบัติตามคําส่งั ของผบู้ ังคบั บญั ชา ซ่ึงสัง่ ในหนา้ ทร่ี าชการโดยชอบดว้ ยกฎหมาย
และระเบยี บของทางราชการ โดยไมข่ ัดขนื หรือหลกี เล่ียง.." ขอ้ ๑๓ ของหลักเกณฑว์ นิ ยั ฯ

ประเด็นมเี พียงวา่ ตง้ั กรรมการสอบวินยั โดยไมส่ อบขอ้ เทจ็ จรงิ กอ่ น ไดห้ รือไม่
สรุปสน้ั

ได้..ถา้ ..!!
ขยายความ
หลักเกณฑแ์ ละเงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวนิ ยั (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) ข้อ ๒๔ ใช้สาํ หรับ

ตอบคาํ ถามนี้
"การสอบข้อเทจ็ จรงิ " เป็นการสอบเพอื่ แสวงหาเคา้ แห่งความผดิ หรือมลู ความผดิ เพื่อดําเนินการทาง

วินยั ตอ่ ไปหากมีมลู ตามขอ้ ๒๔ วรรคห้า ท่ีกําหนดวา่ "เมอ่ื มีการกล่าวหาโดยปรากฏตัวผกู้ ลา่ วหา หรอื มกี รณี

เปน็ ทส่ี งสยั ว่าขา้ ราชการส่วนทอ้ งถิ่นผ้ใู ดกระทําผดิ วินยั โดยยงั ไมม่ พี ยานหลกั ฐาน ให้นายกฯ รบี ดําเนินการ
สบื สวนหรอื พิจารณาในเบอ้ื งตน้ วา่ กรณมี มี ลู ทีค่ วรกลา่ วหาว่าผูน้ ้ันกระทาํ ผดิ วินัยหรอื ไม"่ คาํ ว่า..รบี ดําเนินการ
สบื สวนหรอื พิจารณา..คือ ตัง้ กรรมการสืบสวนขอ้ เท็จจรงิ กรรมการสอบสวนขอ้ เทจ็ จรงิ หรือกรรมการ

ตรวจสอบขอ้ เท็จจรงิ ตามขอ้ ๒๔ วรรคแปด ซ่งึ อาจเปน็ กรณีทเี่ กดิ จากหนงั สอื ร้องเรยี น หรือนายกฯ สงสัย
เป็นตน้ โดยทีน่ ายกฯ ในฐานะผทู้ จี่ ะใช้อาํ นาจในการตงั้ กรรมการสอบวนิ ยั มไิ ด้ประสบเหตดุ ้วยตนเอง เพราะ
กอ่ นใชอ้ ํานาจน้ัน นายกฯ ตอ้ งมนั่ ใจเสยี กอ่ นวา่ "มีมูล" เนอื่ งจากการถกู ต้ังกรรมการสอบวนิ ัย อยา่ งนอ้ ย

จะต้องมีการบันทึกในทะเบียนประวัติ ทาํ ใหผ้ ้นู ัน้ เสียหาย
แตใ่ นวรรคสี่ กาํ หนดชัดเจนวา่ "เมือ่ ปรากฏกรณมี ีมลู ทีค่ วรกลา่ วหาว่า ขา้ ราชการส่วนทอ้ งถ่นิ ผใู้ ด

กระทาํ ผดิ วินยั โดยมพี ยานหลักฐานในเบื้องต้นอย่แู ล้ว ใหน้ ายกฯ ดาํ เนินการทางวินยั ทันที" กล่าวคอื ต้ัง

กรรมการสอบวินัยได้เลย
คําวา่ พยานหลกั ฐานในเบอ้ื งต้น อาจไดแ้ ก่
๑. ผลการสอบข้อเท็จจริง

๒. หนว่ ยราชการแจง้ ใหส้ อบวนิ ัย
๓. ผบู้ ังคบั บญั ชาประสบเหตุดว้ ยตนเอง
เป็นตน้

จากกรณคี ําถาม ถอื ว่าเปน็ พยานหลกั ฐานเบื้องตน้ ช้นั ดี ทน่ี ายกฯ ในฐานะผซู้ ึ่งจะใชอ้ ํานาจต้งั
กรรมการสอบวินัย ไดป้ ระสบเหตุนัน้ ด้วยตนเองวา่ ผูใ้ ตบ้ ังคบั บัญชาผูน้ กี้ ระทําผดิ วนิ ยั ฐานขัดคําสัง่
ผบู้ ังคบั บญั ชา ตามขอ้ ๑๓ และภารกิจไมส่ ําเรจ็ ตามส่งั การ จงึ ไมจ่ าํ ตอ้ งหามูลใด ๆ ดงั เช่นขอ้ ๒๔ วรรคห้า อีก

ดังนั้น เมื่อนายกฯ เป็นผปู้ ระสบเหตุการณท์ ําผิดวินยั ด้วยตนเอง และตั้งกรรมการสอบวนิ ัย โดยไม่
สอบข้อเทจ็ จริงกอ่ นในกรณีน้ี จงึ ชอบดว้ ยหลักเกณฑ์วินยั ฯ ข้อ ๒๔ วรรคส่ี แล้ว

หากเหน็ ว่านายกฯ ปฏิบตั ไิ ม่ถกู ต้องหรอื ทําให้คบั ข้องใจ กช็ อบที่จะรอ้ งทกุ ข์ต่อ ก.จงั หวดั ภายใน ๓๐

นับแต่ทราบคาํ สง่ั นน้ั เพื่อพจิ ารณามีมติให้ยกเลกิ คาํ สงั่ ตงั้ กรรมการสอบวินัยนน้ั เสยี ตามหลักเกณฑก์ าร
อุทธรณแ์ ละรอ้ งทุกข์ ขอ้ ๒๗ ตอ่ ไป (ตอ้ งม่นั ใจเสียก่อนวา่ เราไมผ่ ดิ ไม่เชน่ นน้ั จะมเี รอื่ งเดอื ดรอ้ นอ่ืนตามมา
แน่นอน)

รวบรวมโดย นติ กิ รพร หนา้ 71

คาํ ถาม-ตอบวนิ ัย ปี 2561 โดยอาจารย์ประวิทย์ เปรือ่ งการ รวบรวมโดยนติ กิ รพร เทศบาลตาํ บลบะหว้า จงั หวัดสกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

ขอบคุณทุกข้อความ ครบั
************

คาํ ถาม ๑๗/๑๐/๖๑
ขอเรียนถามท่านอาจารยค์ รบั
ป.ป.ช.มีหนงั สอื ถงึ นายกฯ ขอให้พจิ ารณาโทษทางวินยั ปลดั ภายใน 30 วนั นับแตไ่ ดร้ บั หนงั สือ ฐานไม่

ปฏบิ ตั ติ ามระเบียบ เสียหายอย่างร้ายแรง
ผมในฐานะเจ้าของเรอื่ งตอ้ งดาํ เนินการอย่างไร จึงจะชอบดว้ ยวิธปี ฏบิ ตั ิ
ปลดั บอกผมว่าหลังจากลงช่อื รบั ทราบคาํ สงั่ ลงโทษแลว้ จะขอให้นายกฯ ทเุ ลาคําสง่ั และไมต่ ้องออก ตาม

กฎหมายวิธีปฏิบัตฯิ สามารถทาํ ได้หรอื ไม่ อย่างไร
สาํ หรบั ผถู้ ูกลงโทษตอ้ งทําอย่างไรบา้ ง ขอบพระคุณครับผม

ตอบ
ประเด็นที่ต้องพจิ ารณา
๑. ต้องดาํ เนนิ การอยา่ งไร เมื่อถูก ป.ป.ช.ช้ีมลู
๒. เมอ่ื มคี ําส่ังปลด/ไลอ่ อกแลว้ ผถู้ กู ลงโทษจะขอให้นายกฯ ทเุ ลาการบังคบั ตามคําสั่ง ไดห้ รือไม่
๓. ผถู้ กู คาํ ส่ังลงโทษตอ้ งปฏบิ ตั ิอย่างไร
สรปุ ส้นั
๑. หา้ มตง้ั กรรมการสอบอกี ให้ใช้สาํ นวน ป.ป.ช.สง่ั ลงโทษเลย
๒. ไมไ่ ด้
๓. อทุ ธรณค์ ําสง่ั /หรอื เลือกฟูองศาลไดท้ นั ที
ขยายความ
๑ พ.ร.ป.ว่าด้วยการปูองกนั และปรามการทุจรติ พ.ศ.๒๕๖๑ บัญญตั ิโดยสรปุ ว่า..ให้นายกฯ พิจารณา

โทษทางวินยั ตามฐานความผิดท่ี ป.ป.ช.ชี้มลู (ทกุ ฐานความผดิ ) โดยไม่ตอ้ งแตง่ ต้ังกรรมการสอบวินัยอกี ให้
ถอื เอาสาํ นวน ป.ป.ช.เปน็ สํานวนของกรรมการสอบวินัย (ม.๙๘ ว.๑) และต้องดาํ เนนิ การ ภายใน ๓๐ วันนบั
แตไ่ ดร้ ับหนงั สือจาก ป.ป.ช. หรอื ไดร้ บั หนงั สอื แจง้ ทบทวนจาก ป.ป.ช. (ม.๙๘ ว.๓) และมติ ก.จ., ก.ท. และ ก.
อบต. เมือ่ ๒๗ เม.ย.๒๕๕๙

ขัน้ ตอนปฏบิ ัติ
ให้นายกฯ

(๑) บันทึกความเหน็ วา่ ควรลงโทษสถานใด เพราะเหตุใด ต่อท้ายหนังสือ ป.ป.ช.
(๒) เสนอขอความเหน็ ชอบจาก ก.จังหวัด
(๓) ออกคําสั่งลงโทษตามมติ ก.จังหวัด
(๔) ใหผ้ ู้ถูกลงโทษลงช่อื รบั ทราบคําสง่ั
๒. พ.ร.บ.วิธปี ฏบิ ตั ริ าชการทางปกครอง พ.ศ.๒๕๓๙ มาตรา ๓ บัญญัตสิ รปุ ว่า กรณมี ีกฎหมายกําหนด
เร่อื งใดไว้โดยเฉพาะแล้ว ใหใ้ ช้กฎหมายน้ัน ซงึ่ หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการอุทธรณแ์ ละการรอ้ งทกุ ข์ฯ ข้อ ๕
วรรคสาม กาํ หนดวา่ การอุทธรณไ์ มเ่ ป็นเหตุใหท้ เุ ลาคาํ บงั คบั ตามคาํ สั่งลงโทษ ดงั นัน้ กรณดี งั กลา่ ว จึงไมอ่ าจ
ขอให้นายกฯ ทุเลาคาํ สงั่ ลงโทษได้
๓. เมื่อถกู ลงโทษแลว้ ผู้ถกู ลงโทษสามารถดาํ เนนิ การได้ ๒ ทาง คือ (ม.๑๐๑)
(๑) ฟูองศาลปกครองได้ ภายใน ๙๐ วนั โดยไม่ตอ้ งย่นื อุทธรณค์ ําสง่ั ลงโทษกอ่ นกไ็ ด้ หรอื
(๒) ยนื่ อุทธรณ์ดุลพินจิ ในการกําหนดโทษต่อ ก.จังหวัดกไ็ ด้

รวบรวมโดย นิตกิ รพร หนา้ 72

คําถาม-ตอบวินยั ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวิทย์ เปรือ่ งการ รวบรวมโดยนติ ิกรพร เทศบาลตําบลบะหว้า จังหวัดสกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

ปญั หาน้มี ีคําถามจาํ นวนมาก จะได้อธิบายโดยละเอยี ดในโอกาสต่อไป
ขอบคุณท่ีแสดงความคดิ เห็นหลากหลาย ครบั

*****************
คาํ ถาม ๑๙/๑๐/๖๑
ขอเรยี นถามท่านอาจารย์ครบั
-กรณพี นักงานส่วนตาํ บลถกู ลงโทษตดั เงินเดือน 5 % เป็นเวลา 3 เดอื น
-นายกออกคาํ สัง่ เดอื นมถิ ุนา 2561 รายงาน ก จงั หวัดเพอื่ พิจารณาเหน็ ชอบ
-ก จงั หวดั มมี ตเิ หน็ ชอบใหล้ งโทษตัดเงินเดอื น 5% เปน็ เวลา 3 เดือน และมมี ตใิ หแ้ กไ้ ขคําสงั่ ท้งั น้ี ตง้ั แตบ่ ดั นี้
เปน็ ต้นไป. มมี ติ ณ เดือน สิงหาคม 2561
- แจง้ ไปยงั อบต. เพือ่ ให้ดาํ เนินการตามมติ อบต. รับทราบมติเดอื น กันยายน 2561
คําถาม
อบต. จะออกคาํ สงั่ ตดั เงินเดอื นตามมติ ก จงั หวัด เดือนใด ระหวา่ ง ยอ้ นไปเดอื นมถิ ุนายน กับ ปจั จุบนั
กนั ยายน หรือตลุ าคมเพอ่ื ทจ่ี ะใหไ้ ดร้ บั การประเมินเลือนขน้ั เงนิ เดือนได้
- และเริม่ ตดั เงนิ เดอื น เดอื นใด
- กรณีนี้ ก. จังหวัดมิได้ระบไุ วว้ า่ ส่ัง ณ วนั ใด
-ถา้ อบต. จะออกคาํ สงั่ ใหมต่ ามมติ ก จงั หวดั ทั้งนี้ ตั้งแต่ วันที่ 1 ตุลาคม 2561 เปน็ ต้นไป. สง่ั ณ วนั ท่ี 1
ตลุ าคม 2561 และเริม่ ตัดเงนิ เดอื น เดอื นตลุ าคม 2561 จะสามารถกระทาํ ไดห้ รอื ไม่
ขอบคณุ ครบั

ตอบ

เปน็ ประเดน็ เกย่ี วกบั "วันท่ีมผี ลในการแก้ไขคําสั่งลงโทษตดั เงินเดือนตามมติ ก.จังหวดั "
ไมม่ ขี อ้ มลู วา่ เหตุใด ก.จงั หวัดจงึ มมี ติให้แก้ไขวนั มีผลของคําสงั่ ลงโทษตัดเงินเดือน ๕% ๓ เดือนเป็น
วนั ใหม่ ? เพราะมปี ระเด็นที่ตอ้ งคาํ นงึ ๒ ประการ คอื ๑. การออกคําสั่งลงโทษตัดเงนิ เดอื น ในอํานาจนายกฯ

และ ๒. การพจิ ารณารายงานการดาํ เนนิ การทางวินัย ในอํานาจ ก.จงั หวดั โดยมีหลกั เกณฑแ์ ละเงอ่ื นไขในการ
สอบสวน การลงโทษทางวนิ ยั (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) ซ่งึ มีขอ้ กาํ หนดท่ีเกีย่ วขอ้ ง ดังนี้

๑. การออกคําส่ังลงโทษตดั เงินเดือน ในอํานาจนายกฯ ขอ้ ๘๖ วรรคสอง (๑) กําหนดวา่ "การสงั่

ลงโทษตัดเงนิ เดอื น ให้ใชแ้ บบ ลท.๒" และในแบบ ลท.๒ ระบวุ ันท่ใี หค้ ําสง่ั มผี ลว่า "ท้ังน้ี ต้งั แต่......พ.ศ. ..เปน็
ต้นไป" โดยมไิ ดร้ ะบวุ นั ทล่ี งไว้ ก็เพ่อื ให้ตัดเงินเดือนยกเดอื น สะดวกตอ่ การคํานวณเม็ดเงินเป็นเดือน ๆ ไป หาก
กาํ หนดวนั ที่ลงไว้แลว้ จะยงุ่ ยาก เพราะอาจจะพนั กบั การจา่ ยเงินเดือน ๆ ถัดไปดว้ ย ดงั น้นั ในแบบ ลท.๒ จงึ

กําหนดเปน็ เดือน มใิ หก้ าํ หนดเป็นวัน เชน่
เม่อื ต้องการออกคําสงั่ ในวันท่ี ๑๙ ตุลาคม ๒๕๖๑ ให้ตดั เงนิ เดือน ๕% ๓ เดือน จะใช้คําวา่ "ทงั้ น้ี

ตงั้ แตเ่ ดือน พฤศจกิ ายน พ.ศ.๒๕๖๑ เป็นต้นไป" คือให้มผี ลในเดอื นถดั จากเดอื นท่อี อกคาํ สั่งนน่ั เอง ห้ามมิให้

สั่งลงโทษยอ้ นหลังไปก่อนวันออกคาํ ส่งั (ถ้าไมม่ กี ารสงั่ พัก/สง่ั ใหอ้ อกจากราชการไว้กอ่ น) และเมอ่ื ถงึ วนั ทค่ี าํ สงั่
มผี ล นายกฯ ต้องตัดเงนิ เดือนตามคาํ สงั่ ทนั ที โดยไม่ต้องรอมตขิ อง ก.จงั หวดั แต่อยา่ งใด (ถ้า ก.จงั หวัด
เปลีย่ นแปลงโทษ กส็ ามารถใช้ ลท.๕ ไดอ้ ีกคร้งั )

๒. การพจิ ารณารายงานการดําเนินการทางวนิ ยั ในอํานาจ ก.จังหวดั ขอ้ ๘๗ วรรคสี่ กาํ หนดว่า "เมอื่
ก.จังหวัดพิจารณาเหน็ ว่า การลงโทษ..เปน็ การไม่ถูกตอ้ ง หรอื ไม่เหมาะสม และมมี ตเิ ปน็ ประการใด ให้นายกฯ
สง่ั หรอื ปฏบิ ตั ิใหเ้ ป็นไปตามนน้ั "

รวบรวมโดย นติ ิกรพร หนา้ 73

คาํ ถาม-ตอบวินยั ปี 2561 โดยอาจารย์ประวทิ ย์ เปรอ่ื งการ รวบรวมโดยนติ ิกรพร เทศบาลตําบลบะหวา้ จงั หวดั สกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

ข้อ ๘๖ วรรคสอง (๔) กาํ หนดวา่ "การสง่ั เพมิ่ โทษ หรือลดโทษ เปน็ ลดขัน้ เงินเดอื น ตดั เงนิ เดอื น หรอื
ภาคทัณฑ์ ให้สัง่ ยอ้ นหลงั ไปถึงวนั ทค่ี าํ สงั่ ลงโทษเดิมใชบ้ งั คบั ทัง้ นี้ การสง่ั ย้อนหลังดงั กลา่ วไม่มีผลกระทบถงึ
สทิ ธิและประโยชน์ท่ีผู้ถกู สัง่ ลงโทษได้รับแลว้ "

ตามปกติ ก.จงั หวัดจะพจิ ารณาและมมี ตเิ พยี งวา่ เหน็ ชอบหรอื ไมเ่ ห็นชอบเท่าน้ัน กรณไี ม่เห็นชอบตอ้ ง
กําหนดระดบั โทษหรือสถานโทษใหม่ไว้ จะไมล่ งลกึ ถึงวันทคี่ าํ สง่ั มผี ล (เพราะอาจเกดิ ปัญหาได้) เนื่องจากเปน็
งานธรุ การทีน่ ายกฯ ต้องศกึ ษาระเบียบในการระบวุ ันใหแ้ นช่ ดั ก่อนออกคาํ สงั่ ตามมติ ก.จังหวดั อีกคร้ัง

ดังน้ัน การที่นายกฯ ออกคําสง่ั ลงโทษตัดเงินเดือน ๕% ๓ เดือน ในเดอื น มถิ นุ ายน ๒๕๖๑ จึงตอ้ งให้
มีผลในเดอื น กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๑ เปน็ ตน้ ไป ทําให้ตอ้ งตดั เงินเดอื นผู้ถูกลงโทษในเดอื น ก.ค., ส.ค. และ
ก.ย.๒๕๖๑ เมอ่ื ก.จงั หวัดเหน็ ชอบระดบั โทษ แตใ่ ห้แก้ไขวันทค่ี ําส่ังมผี ล จึงตอ้ งเปน็ ไปตามหลกั เกณฑด์ งั กล่าว

หากผถู้ ามประสงค์คําตอบทตี่ รงประเดน็ กว่านี้ ควรใหข้ ้อมูลเพิม่ เตมิ วา่ ก.จงั หวัด มีมตใิ ห้แก้ไขวนั ท่ี
คาํ สัง่ มผี ลเสยี ใหม่ และแก้ไขเปน็ วันใด เพราะเหตใุ ด

ขอบคุณทกุ การแสดงออก ครบั
**************

คําถาม ๒๒/๑๐/๖๑
ขอเรียนสอบถามนะครบั .. ผมเป็นผรู้ อ้ งเรยี นเรอ่ื งโครงการอาหารกลางวันของโรงเรยี นเทศบาลแหง่ หนง่ึ ทเ่ี ปน็
ข่าวดัง และกาํ ลังจะโดนเทศบาลตน้ สงั กัดสอบวนิ ยั ขอสอบถามเพ่ือประดบั เปน็ ความรู้นะครบั #.เทศบาลตงั้
กรรมการสอบข้อเทจ็ จรงิ และสอบเสรจ็ (มิ.ย.61) ไปแล้วรายงานจังหวัดให้ทราบและจงั หวดั ให้ตงั้ กรรมการ
สอบวนิ ัย เทศบาลจึงตั้งกรรมการสอบวนิ ัยโดยเปน็ หนงั สือคาํ สัง่ ลงวนั ท่ี 21ก.ย.61 / วันน้ผี มสอบถามปลัด
ปฏบิ ัติราชการแทนนายกเทศมนตรีวา่ ... ทําไม? ไม่มีการแจง้ ผลการสอบขอ้ เทจ็ จรงิ ท่ีดาํ เนนิ การเสรจ็ แลว้ ต่อผู้
รอ้ ง และ เม่อื แตง่ ตง้ั กรรมการสอบวนิ ยั แลว้ ลงวันที่ 21 ก.ย.61ทําไมไม่แจง้ ตอ่ ผทู้ ีจ่ ะโดนสอบวนิ ยั ให้ทราบวา่
กรรมการมีผใู้ ดบา้ งเพ่ือผทู้ โ่ี ดนสอบวนิ ยั จะไดท้ าํ เร่อื งแยง้ กรณตี ัง้ กรรมการสอบวนิ ัยไมเ่ ปน็ ธรรม ปลดั เทศบาล
ตอบว่าไมจ่ ําเปน็ ต้องแจ้งผลการสอบข้อเทจ็ จริงต่อผู้รอ้ ง ใช่แบบน้ีหรือไมอ่ ยา่ งไร และเมือ่ ตงั้ คณะกรรมการ
สอบวนิ ัยแลว้ 21 ก.ย.61 ตอ้ งแจ้งผถู้ ูกสอบหรอื ไมอ่ ยา่ งไรและภายในกี่วัน ขอความกรณุ าผู้รู้ช่วยใหค้ ําตอบ
ดว้ ยนะครับ ขอบพระคณุ มากครบั

ตอบ
ประเดน็ ทผี่ ู้ถามอยากรู้ คือ
๑. ต้องแจ้งผลการสอบข้อเทจ็ จริงใหผ้ รู้ ้องทราบ หรอื ไม่
๒. ต้องแจง้ คําสัง่ แต่งตงั้ กรรมการสอบวนิ ยั ใหผ้ ถู้ กู กลา่ วหาทราบหรอื ไม่ อยา่ งไร

สรุปส้ัน
๑. ควรแจง้
๒. ต้องแจง้ โดยเรว็

ขยายความ
เมื่อพจิ ารณาจากหลกั เกณฑแ์ ละเงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙)
แล้ว อาจตอบคําถามได้ ดังน้ี

รวบรวมโดย นิตกิ รพร หน้า 74

คาํ ถาม-ตอบวินัย ปี 2561 โดยอาจารย์ประวทิ ย์ เปร่อื งการ รวบรวมโดยนติ กิ รพร เทศบาลตาํ บลบะหว้า จงั หวัดสกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

๑. ข้อ ๒๔ มิได้กําหนดไวว้ า่ ต้องแจง้ ผลการสอบขอ้ เทจ็ จริงใหผ้ รู้ อ้ งเรยี นทราบดว้ ย อยา่ งไรก็ตาม
ปัจจบุ ันไดม้ กี ารกาํ หนดแนวทางปฏบิ ตั วิ ่าใหแ้ จ้งผลการสอบข้อเทจ็ จรงิ หรือผลการดาํ เนนิ การใหผ้ รู้ อ้ งหรอื ผู้
กลา่ วหาทราบ เชน่ การรอ้ งเรียนต่อศูนยด์ าํ รงธรรม กระทรวง กรม หรือจงั หวดั จําตอ้ งแจง้ ผลดงั กลา่ ว แม้แต่
พ.ร.บ.หลายฉบบั ยงั บญั ญัตใิ นทํานองเดียวกัน เช่น พ.ร.บ.อาํ นวยความสะดวกฯ หรอื พ.ร.ป.ว่าด้วยการปอู งกัน
และปราบปรามการทจุ ริต พ.ศ.๒๕๖๑ มาตรา ๔๙ บัญญัติวา่ กรณีมกี ารกลา่ วหา และ ป.ป.ช.มีมตไิ มร่ ับเร่อื ง
น้นั ไวพ้ จิ ารณา ให้ ป.ป.ช.มีหนงั สือแจง้ ใหผ้ ู้กลา่ วหาทราบ เปน็ ต้น

กรณดี ังกลา่ วเมอื่ หลกั เกณฑ์วินัยมไิ ด้กําหนดไว้ แตเ่ พอ่ื มิใหเ้ กดิ ประเดน็ ตามมา ผู้แตง่ ตง้ั กรรมการสอบ
ขอ้ เทจ็ จรงิ จึงควรแจ้งผลให้ผกู้ ลา่ วหาหรอื ผรู้ อ้ งเรียนทราบดว้ ย

๒. ขอ้ ๕๑ กําหนดวา่ "เม่ือมีคําส่งั แตง่ ต้งั คณะกรรมการสอบสวนแล้ว ใหน้ ายกฯ ดําเนนิ การ
ดังตอ่ ไปนี้ (๑) แจ้งคาํ สั่งให้ผ้ถู ูกกล่าวหาทราบโดยเรว็ .." ข้อ ๒๖ วรรคหก..การตง้ั กรรมการสอบสวนวนิ ยั อยา่ ง
ไมร่ า้ ยแรง ให้ดาํ เนินการเหมอื นวนิ ัยอยา่ งรา้ ยแรงโดยอนโุ ลม..

เม่อื ออกคําส่งั แตง่ ต้งั กรรมการสอบสวนแล้ว นายกฯ (เจา้ ของเรอ่ื ง) ตอ้ งแจ้งคําสง่ั นัน้ ใหผ้ ้ถู กู กล่าว
ทราบ เพ่ือประโยชน์ในการคดั ค้านกรรมการสอบสวนตามขอ้ ๕๔ ภายใน ๗ วันนับแตว่ ันทราบคาํ สงั่ หรอื
ทราบเหตุแห่งการคัดค้านน้นั ต่อไป

จะอย่างไรกต็ าม กรณนี ีผ้ ถู้ กู ตงั้ กรรมการสอบสวน ตอ้ งไดร้ บั ทราบคาํ สัง่ อยา่ งแนน่ อน ไม่เช่นนั้นอาจทํา
ให้การสอบสวนไม่ชอบ ตามขอ้ ๘๒ ได้

ขอบคุณครับ
****************

คําถาม ๒๔/๑๐/๖๑
ผมมปี ญั หาขอเรียนถาม คอื เมื่อคนื วันเสารท์ ผี่ ่านมา ผมไปสงั สรรกบั เพื่อนผมและเพ่ือนของเพอื่ นราว 10

กวา่ คน มกี ารดมื่ แต่ผมไมด่ ม่ื เกอื บเทีย่ งคืนหลายคนเร่ิมมอี าการพูดลิ้นพนั กนั ผมสงั เกตเห็นเพือ่ นของเพอื่ น 2
คน (ผมไม่สนทิ ทัง้ ค)ู่ พูดเบรคกันตลอด สกั พกั เกดิ ชกตอ่ ยกนั ขึน้ ต้องห้ามกันชลุ มุน ชว่ งนั้นเอง 1 ใน 2 คน (คู่
ววิ าท) ชกั ปนื ออกมาเล็งคกู่ รณี เพือ่ น ๆ ต้องช่วยกนั ลอ็ คตัวออกมาแลว้ แยกยา้ ยกันไป

เหตุการณ์ดังกลา่ วเจ้าของร้านได้ไปแจง้ ความท่ี สภ. และมีคนร้องเรยี นผมกับเพือ่ นรวม 2 คน มาทน่ี ายกฯ
เพราะอยใู่ นวงน้ันดว้ ยซวยเลยครับ จงึ เรยี นถามวา่

1. วนั เกิดเหตเุ ปน็ วันหยุดราชการ ผมกับเพือ่ น 2 คน ผดิ วนิ ัยหรือไม่
2. เพ่ือนของเพอ่ื นทเ่ี ปน็ ขา้ ราชการและชกั ปนื เลง็ คู่กรณผี ิดวนิ ยั หรอื ไม่ ถา้ ผดิ ๆ ฐานใด ตอ้ งออกไหม
ลักษณะเหมือนข่าวดังท่ี ขรก.ชั้นผใู้ หญ่ชกั ปืนขู่ค่กู รณเี ลยครบั
3. ผมกบั เพอื่ นรว่ มสํานกั งานตอ้ งทําอยา่ งไร เพราะเปน็ คนหา้ ม ไมใ่ ช่คนทะเลาะ ผมไมส่ บายใจเลย คงต้อง
เลกิ ไปไหนมาไหนกับพวกนกั เลงสุราบานเสียที
ขอบพระคณุ ล่วงหน้าครับ
ตอบ

โอ..เพงิ่ คิดได้ ! ตวั ไมด่ ม่ื แตม่ เี พอ่ื นด่ืม..คนดมื่ น้ันนสิ ยั ไมไ่ ด้เหมอื นกนั ทุกคน และคงดมื่ ดว้ ยเหตผุ ล
ต่างกนั อย่าเลกิ คบเลย จงเลอื กคบเอาเถิด !!

ประเดน็ คอื
๑. ขา้ ราชการเมาสรุ าแลว้ เกดิ การทะเลาะวิวาทในวนั หยดุ ราชการ ผดิ วินยั หรอื ไม่
๒. เมาสรุ าแล้วชกั ปนื ออกมาขผู่ ู้อนื่

๑) ผดิ วนิ ยั หรอื ไม่

รวบรวมโดย นติ กิ รพร หนา้ 75

คําถาม-ตอบวินยั ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวิทย์ เปรือ่ งการ รวบรวมโดยนิติกรพร เทศบาลตําบลบะหวา้ จงั หวดั สกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

๒) ถ้าผิด ผิดฐานใด
๓) เปน็ วินยั ร้ายแรงหรอื ไม่
๓. ผ้อู ยใู่ นเหตกุ ารณแ์ ละเข้าหา้ ม ต้องใหก้ ารอยา่ งไร
สรปุ สน้ั
๑. ผิด
๒. ผดิ ฐานประพฤติชว่ั จะรา้ ยแรงหรอื ไมต่ ้องดขู อ้ เทจ็ จรงิ เปน็ กรณี ๆ ไป
๓. รอใหก้ ารตามจริง
ขยายความ
๑. หลักเกณฑ์และเงอื่ นไขในการสอบสวน การลงโทษทางวนิ ัย (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) ข้อ ๒๓
ข้าราชการสว่ นทอ้ งถ่นิ ต้องรกั ษาช่อื เสยี งของตน และรกั ษาเกยี รติศกั ดิ์ของตําแหนง่ หน้าที่ราชการของตนมใิ ห้
เสื่อมเสยี โดยไมก่ ระทําการใด ๆ อนั ได้ชือ่ วา่ เป็นผู้ประพฤตชิ ั่ว..
สภาพความเป็นข้าราชการคงมอี ยตู่ ลอดเวลาจนกวา่ จะเกษียณแม้แต่ในวนั หยุดราชการ ซึ่ง
พฤตกิ รรมการมีวินยั ของขา้ ราชการสว่ นทอ้ งถ่ิน ทง้ั ๑๘ ฐานน้นั แบง่ เป็น
(๑) วนิ ยั ต่อประเทศชาติ
(๒) วนิ ยั ต่อตําแหนง่ หน้าท่ีราชการ
(๓) วินยั ตอ่ ผูบ้ งั คับบญั ชา
(๔) วินัยตอ่ ผรู้ ่วมงาน
(๕) วินยั ตอ่ ประชาชน และ
(๖) วนิ ัยตอ่ ตนเอง
การดาํ รงตนนอกเวลาและสถานทร่ี าชการ ถือเป็นวินัยต่อตนเอง
การสังสรรคเ์ ป็นคร้ังคราวระหว่างเพอ่ื นฝงู เป็นเรื่องดีตราบทีไ่ มม่ ีกจิ กรรมเกินเลย แต่หากเกดิ การ
ทะเลาะววิ าทเป็นทเี่ สื่อมเสยี จะมคี วามผิดทางวนิ ยั "ฐานประพฤตชิ ่วั " ได้
๒. เมาสรุ าแลว้ ชักปนื ขผู่ อู้ ่ืน ผกู้ ระทาํ จะมีความผดิ ทางวินัยฐานประพฤติชวั่ อีกกรณหี น่งึ (นอกจากการ
ชกต่อย) ส่วนจะร้ายแรงหรอื ไม่ ต้องพจิ ารณาจากแนวทางและกฎหมาย ดังตอ่ ไปนี้
(๑) หนังสอื กรมเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ นว ๒๐๘/๒๔๙๖ ลง ๓ ก.ย.๒๔๙๖ ระบุวา่ "เสพหรอื
เมาสรุ าในกรณีตอ่ ไปนเี้ ป็นวนิ ัยอยา่ งรา้ ยแรง เชน่

๑) เสพสรุ าในขณะปฏบิ ตั หิ นา้ ทร่ี าชการ
๒) เมาสรุ าเสียราชการ
๓) เมาสรุ าในทช่ี มุ ชนจนเกิดเรอ่ื งเสยี หาย...
(๒) พ.ร.บ.อาวธุ ปืน เครอ่ื งกระสุนปืน วัตถุระเบดิ ดอกไม้เพลงิ และสิ่งเทยี มอาวุธปืน พ.ศ.๒๔๙๐
๑) มาตรา ๗ ห้ามมิใหผ้ ู้ใด..ใช.้ .ซง่ึ อาวธุ ปนื ..เว้นแตจ่ ะไดร้ บั อนุญาตจากนายทะเบียนทอ้ งท่ี
๒) มาตรา ๘ ทวิ หา้ มมิใหผ้ ู้ใดพกพาอาวธุ ปืนตดิ ตัวไปในเมือง หมบู่ ้าน หรือทางสาธารณะ
โดยไม่ไดร้ ับอนญุ าต
๓) มาตรา ๗๒ ผ้ใู ดฝาุ ฝนื มาตรา ๗ ต้องระวางโทษจําคกุ ..
๔) มาตรา ๗๒ ทวิ วรรคสอง "ผู้ใดฝาุ ฝืนมาตรา ๘ ทวิ วรรคหนึง่ ต้องระวางโทษจาํ คุก..
ดงั นั้น พฤติการณท์ ีข่ ้าราชการชักปนื ข่ตู ามคําถาม (จะเมาหรอื ไม่กต็ าม) ถอื ว่าเป็นการกระทําผิด
วนิ ัยฐานประพฤติช่ัว และอาจรา้ ยแรงได้ เมือ่ พจิ ารณาตามหลักเกณฑ์วนิ ัย ขอ้ ๒๓ วรรคสอง ประกอบหนงั สอื

รวบรวมโดย นติ ิกรพร หน้า 76

คําถาม-ตอบวนิ ัย ปี 2561 โดยอาจารย์ประวิทย์ เปรอื่ งการ รวบรวมโดยนิติกรพร เทศบาลตาํ บลบะหวา้ จงั หวัดสกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

กรมเลขาธิการ ครม.ที่ นว ๒๐๘/๒๔๙๖ ลง ๓ ก.ย.๒๔๙๖ ข้างต้น โดยยังไม่นบั คดีกระทําผิด พ.ร.บ.อาวธุ ปนื ฯ
ซึ่งมโี ทษจําคกุ อกี ต่างหาก

๓. ตอนนีผ้ ้ถู ามและเพือ่ นไมต่ อ้ งทาํ สิ่งใด เมอื่ นายกฯ สงั่ ตงั้ กรรมการสอบขอ้ เทจ็ จรงิ แลว้ (กรณี
คดีอาญายังไม่คบื หน้า) และกรรมการเรียกไปสอบ ควรให้ถอ้ ยคาํ ตามจรงิ พรอ้ มทง้ั ้ตรียมหาพยานบุคคล
สนับสนุนไว้ดว้ ย แล้วจะรอด !!

ขอบคณุ ทุกโพสต์ ครับ
**************

คาํ ถาม ๒๖/๑๐/๖๑
เรียนถาม อาจารยป์ ระวิทย์
-พนกั งาน อบต.ถูกรอ้ งเรยี นใน 3 ประเด็น

1.ไม่อุทศิ เวลาใหร้ าชการ
2.ประพฤตติ นไมเ่ หมาะสม
3.ไมป่ ฏิบัตติ ามระเบียบ กม.ทางราชการ
-กรรมการสอบขอ้ เทจ็ จรงิ มีมลู
- อบต.ตัง้ กรรมการสอบวนิ ยั ผลสอบ ไมผ่ ิดวนิ ัยท้ัง 3 ประเดน็
- อนฯุ วินัย และ ก อบต.จงั หวดั เห็นตามกรรมการ
-ปปช.ได้รบั เร่อื งรอ้ งเรยี นในประเด็นที่ 3 และ เรอ่ื งการจซั อื้ วคั ซีนปูองกนั พษิ สนุ ขั บา้
-เรอื่ งวคั ซีนไมร่ ับพจิ ารณา
-ส่วนประเดน็ ไม่ปฏิบตั ิตามระเบียบทางราชการ สรุปว่าเปน็ เปน็ ปญั หาในการจดั การในองคก์ ร จึงมมี ติสง่ เร่อื ง
ให้ ผู้บังคบั บญั ชา ดําเนินการ ตาม มาตรา 89/2 แหง่ พรบ.ปปช.ปี 42
-จว.โดยกลมุ่ งาน กม.ไดัรบั เรอื่ ง จงึ ส่งไปใหอ้ ําเภอดําเนินการ
-อําเภอไดร้ ับเรอื่ ง จงึ ไปพจิ ารณาไมเ่ ห็นด้วยในมติของก.อบต.จงั หวดั ทง้ั สามประเด็น และขอให้ ก.อบต.
จงั หวดั ทบทวนมติ
ถามว่า ในส่วน เลขา ก.ตอ้ งปฏิบัตอิ ย่างไรครบั

ตอบ

เป็นวธิ ปี ฏิบัติของฝุายเลขานุการ ก.จังหวดั สรปุ ไดว้ า่ ในเร่ืองเดยี วกัน ก.จงั หวัดพิจารณาใหย้ ตุ ิเร่อื ง
ตามความเห็นของกรรมการสอบสวน นายกฯ และอนุวนิ ัย ไปแลว้

ตอ่ มา ป.ป.ช.สง่ เรอื่ งให้ดําเนินการตาม ม.๘๙/๒ กฎหมาย ป.ป.ช.ฉบบั เดมิ และนายอาํ เภอในฐานะผู้

กํากับดแู ลได้ใช้อาํ นาจตาม ม.๙๐ กฎหมายจัดต้งั ฯ สอบข้อเทจ็ จรงิ แลว้ เหน็ ตา่ งจาก ก.จงั หวัด จงึ ขอให้ ก.
จังหวัดทบทวนเรอ่ื งดังกล่าว

ประเด็น
๑. ป.ป.ช.อ้าง ม.๘๙/๒ ตอ้ งทาํ อย่างไร
๒. อําเภอสอบข้อเทจ็ จรงิ ไดห้ รือไม่

๓. ขอให้ ก.จังหวัดทบทวนมติ ได้หรอื ไม่
๔. ก.จงั หวัดพิจารณา ได้หรือไม่
๕. ในฐานะฝุายเลขานุการ ก.จงั หวดั ต้องปฏิบตั อิ ยา่ งไร

รวบรวมโดย นิติกรพร หน้า 77

คําถาม-ตอบวินัย ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวิทย์ เปร่อื งการ รวบรวมโดยนิติกรพร เทศบาลตําบลบะหว้า จงั หวดั สกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

สรุปส้นั
๑. สอบข้อเทจ็ จรงิ
๒. สอบได้
๓. ขอได้
๔. เปน็ ดลุ พนิ ิจ
๕. ต้งั เร่ืองเสนอทป่ี ระชมุ ตามปกติ

ขยายความ
๑. และ ๒. พ.ร.ป.ว่าด้วยการปอู งกนั และปราบปรามการทจุ ริต พ.ศ.๒๕๔๒ (ฉบับเดมิ ) มมี าตราท่ี
เกยี่ วกบั วนิ ยั ของข้าราชการ การใช้อาํ นาจของผบู้ งั คบั บญั ชา และ ก.จังหวัด โดยตรง อยู่ ๒ มาตรา คือ

(๑) มาตรา ๙๒ เปน็ การ "ชี้มูล" เด็ดขาด ห้ามนายกฯ ต้งั กรรมการสอบวนิ ยั อกี ใหใ้ ชส้ ํานวน
ป.ป.ช.พจิ ารณาโทษไดเ้ ลย

(๒) มาตรา ๘๙/๒ เปน็ การ "สง่ เรอ่ื ง" ใหน้ ายกฯ ต้ังกรรมการสอบวินยั หรอื สอบขอ้ เทจ็ จริง
แล้วแตก่ รณี

ดงั นน้ั การที่ ป.ป.ช.อา้ งมาตรา ๘๙/๒ ย่อมทําใหน้ ายกฯ ตอ้ งต้ังกรรมการสอบวนิ ยั หรือสอบ
ขอ้ เทจ็ จรงิ ตามท่ี ป.ป.ช.แจง้ แลว้ แต่กรณี หรือใหผ้ กู้ ํากบั ดแู ลต้องดาํ เนนิ การตามอํานาจหนา้ ท่ดี ้วยการสอบ
ข้อเทจ็ จรงิ ซึ่งหลงั จากนายอําเภอรบั หนังสอื จาก ป.ป.ช.ได้อาศัยอาํ นาจตามมาตรา ๙๐ แหง่ พ.ร.บ.สภาตําบล
ฯ ตงั้ กรรมการสอบขอ้ เทจ็ จรงิ การสอบขอ้ เท็จจรงิ ของอําเภอยอ่ มถอื วา่ เปน็ การใช้อาํ นาจตามกฎหมาย เม่ือผล
การสอบข้อเท็จจรงิ ตา่ งจากท่ี ก.จงั หวัด พิจารณาเป็นอันยตุ แิ ล้ว ควรเสนอผลไปยงั ก.จงั หวดั เพอื่ ให้ความ
ปรากฏแก่ ก.จงั หวดั (ใช้ถอ้ ยคําตามข้อ ๔๙ วรรคส่ี และข้อ ๘๘ วรรคสี หลกั เกณฑ์วินยั )

๓. การเสนอเรอื่ งในลักษณะดังกล่าว ไมม่ ปี รากฎในหลกั เกณฑว์ นิ ยั ว่าเปน็ ไปตามข้อใด เมอ่ื ไมม่ กี ฎ
เฉพาะ จึงตอ้ งพจิ ารณา ตามมาตรา ๓ แหง่ พ.ร.บ.วิธปี ฏบิ ตั ริ าชการทางปกครอง พ.ศ.๒๕๓๙ และมาตรา ๕๔
(๒) ซึ่งเป็นกรณมี ีพยานหลกั ฐานใหม่ อันจะทําใหข้ อ้ เท็จจรงิ ท่ีฟงั เปน็ ยุติแลว้ น้ันเปลีย่ นแปลงไปในสาระสําคัญ
มาอนุโลมใช้

๔. เม่ือความปรากฏแก่ ก.จงั หวัด ๆ อาจใช้อาํ นาจตามหลกั เกณฑ์วนิ ัย ข้อ ๘๘ วรรคหนง่ึ ทัง้ น้ี เพือ่
ประโยชน์ในการกํากบั ดแู ลขา้ ราชการส่วนทอ้ งถิ่น ตาม พ.ร.บ.ระเบยี บบริหารงานบคุ คลสว่ นทอ้ งถ่ิน พ.ศ.
๒๕๔๒ ได้ ซึ่งเป็นดลุ พินิจของ ก.จงั หวดั วา่ จะพจิ ารณาทบทวนหรือไม่ ขน้ึ อยู่กบั เหตุผลและคําอธิบาย แต่
อยา่ งไรก็ตาม หาก ป.ป.ช.เห็นวา่ ไม่ถกู ตอ้ งหรอื ไมเ่ หมาะสม อาจใชอ้ าํ นาจ ตามมาตรา ๘๙/๔ ตอ่ ไปก็ได้

๕. ฝาุ ยเลขานุการ ก.จงั หวดั ตอ้ ง
(๑) ทาํ บนั ทกึ ถึงประธาน ก.จงั หวดั เพอื่ พิจารณาเหน็ ชอบใหน้ ําเขา้ ทป่ี ระชุม (หากธรรมเนยี ม

ปฏบิ ัติต้องนาํ เสนอขอความเห็นชอบกอ่ น)
(๒) หลงั จากไดร้ ับความเห็นชอบแล้ว ให้จดั ทาํ วาระการประชมุ เสนอตามปกติ

ขอบคุณทุกความเห็น ครบั
************

รวบรวมโดย นติ ิกรพร หนา้ 78

คาํ ถาม-ตอบวินยั ปี 2561 โดยอาจารย์ประวทิ ย์ เปร่ืองการ รวบรวมโดยนิติกรพร เทศบาลตําบลบะหวา้ จงั หวดั สกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

คําถาม ๒๙/๑๐/๖๑
ผมเปน็ ก.จังหวัด ขอถามว่า พนกั งานครเู ทศบาลเรยี กรบั เงินอ้างว่าสามารถช่วยให้สอบบรรจุได้ ผลปรากฏ

ว่าคนเสียเงนิ สอบไม่ได้จงึ รอ้ งเรียน นายกฯ ตัง้ กรรมการสอบสวนวนิ ัยไม่ร้ายแรงแลว้ ออกคาํ สั่งลงโทษลดข้ัน
เงินเดอื น รายงาน ก.จังหวดั อนวุ ินัยและ ก.จงั หวดั มีมติใหไ้ ล่ออกจากราชการ นายกฯ ออกคาํ สง่ั เพม่ิ โทษเป็น
ไล่ออก เจ้าตัวอุทธรณ์วา่ มติ ก.จงั หวดั และคําสง่ั ท่ใี หเ้ พม่ิ โทษเปน็ ไลอ่ อกไมช่ อบ เพราะเปน็ การตัง้ วนิ ัยอยา่ งไม่
ร้ายแรง จงึ ไลอ่ อกไม่ได้ ถามว่า

1. คาํ อทุ ธรณ์ดังกลา่ วฟงั ขึ้นหรอื ไม่
2. ในฐานะ ก.จงั หวดั ตอ้ งมมี ตอิ ย่างไร จงึ จะชอบด้วยวธิ ีปฏบิ ัติ ขอทราบวธิ ีการ ขน้ั ตอน โดยละเอียด
ขอบคุณทา่ นครบั
ตอบ

ฐานะทีท่ า่ นอยูใ่ นตําแหน่งสงู สดุ ในการให้คุณและให้โทษขา้ ราชการส่วนทอ้ งถ่ิน ซึ่งมอี ยหู่ ลายท่านใน
หอ้ งน้ี ยินดีแลกเปลีย่ นเพอ่ื ใหก้ ารทาํ หนา้ ท่ขี อง ก.จงั หวัดเกดิ ประสิทธภิ าพในการผดงุ ความยุตธิ รรมยง่ิ ขนึ้

ประเด็น
๑. ตัง้ กรรมการสอบวนิ ัยไม่รา้ ยแรง นายกฯ ลงโทษไมร่ า้ ยแรง ก.จังหวดั เพมิ่ โทษเป็นไล่ออก ไดห้ รือไม่
อย่างไร
๒. การพจิ ารณาอุทธรณ์ควรเปน็ เช่นไร
สรปุ ส้ัน
๑. ไม่ได้
๒. อุทธรณ์ฟังข้นึ ต้องมมี ติให้กลับไปดําเนินการใหม่
ขยายความ
๑. หลกั เกณฑ์วินยั ฯ กาํ หนดวา่ ..ขา้ ราชการส่วนทอ้ งถิน่ ผใู้ ดกระทาํ ผิดวนิ ัยอย่างไมร่ ้ายแรง ให้นายกฯ
ออกคําส่งั ลงโทษภาคทัณฑ์ ตดั เงินเดอื น หรือลดขน้ั เงิน ตามควรแกก่ รณี (ขอ้ ๘๔ วรรคหนงึ่ ) แลว้ รายงานการ
ดําเนินการทางวินัยไปยัง ก.จงั หวัดเพื่อสง่ เร่ืองใหอ้ นวุ นิ ยั ทําความเห็นเสนอ (ข้อ ๘๗ วรรคหนง่ึ ) เมอื่ ก.จงั หวัด
พจิ ารณามมี ตเิ ป็นประการใดใหน้ ายกฯ สั่งหรือปฏิบตั ใิ หเ้ ป็นไปตามน้นั (ข้อ ๘๗ วรรคส่ี)

กรณตี ามคําถาม เปน็ การตง้ั กรรมการสอบวนิ ัยอย่างไม่ร้ายแรง เมือ่ กรรมการสอบสวนเหน็ ว่าไม่
รา้ ยแรง และนายกฯ เห็นดว้ ย (อาจต่างกันทสี่ ถานโทษ) ใหอ้ อกคาํ ส่งั ลงโทษตามความเหน็ ของนายกฯ แล้ว
รายงานไป ก.จงั หวดั เพือ่ พจิ ารณา

ถ้า ก.จงั หวัดเหน็ ชอบ..จบ
หาก ก.จงั หวดั มีมติใหเ้ ปลี่ยนแปลงโทษ (ในระดบั ไม่ร้ายแรงเช่นกนั ) ให้นายกฯ ออกคําสงั่ ตามน้นั
แตค่ ําถามดงั กล่าวเป็นกรณที ี่ ก.จงั หวัดเห็นว่า เปน็ วนิ ัยอยา่ งร้ายแรง ดังนั้น จึงตอ้ งมมี ตใิ หน้ ายกฯ
กลับไปแตง่ ตง้ั คณะกรรมการสอบสวนวนิ ยั อย่างรา้ ยแรงใหมใ่ ห้ถูกต้อง (เนื่องจากการต้ังกรรมการสอบวินัย
อย่างไม่รา้ ยแรง จะไมส่ ามารถลงโทษหรือเพิ่มโทษเปน็ วินัยอย่างรา้ ยแรง คือ ปลดออก/ไล่ออกได้) และย่อม
ถอื วา่ กระบวนการทางวนิ ยั เปน็ การเริ่มตน้ ใหม่ ทง้ั นี้ ตามหนงั สอื สํานกั งาน ก.พ.ที่ นร ๐๗๐๙.๒/ป ๗๙๐ ลง
๑๐ พ.ย.๒๕๓๘
๒. แนวทางการพจิ ารณาของ ก.จงั หวัด ตามหลกั เกณฑก์ ารอุทธรณ์ ขอ้ ๒๑ วรรคสอง (๗) ทกี่ าํ หนด
ว่า "ถ้าเห็นวา่ การส่งั ลงโทษไม่ถูกตอ้ ง หรือไมเ่ หมาะสมกบั ความผิด และเหน็ วา่ กรณีมมี ูลท่คี วรกลา่ วหาวา่ ผู้

รวบรวมโดย นิตกิ รพร หนา้ 79

คําถาม-ตอบวนิ ยั ปี 2561 โดยอาจารย์ประวิทย์ เปร่อื งการ รวบรวมโดยนิตกิ รพร เทศบาลตําบลบะหว้า จงั หวดั สกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

อทุ ธรณ์กระทาํ ผิดวินัยอยา่ งรา้ ยแรง ใหม้ มี ติแจง้ นายกฯ แตง่ ตงั้ คณะกรรมการสอบสวน ตามขอ้ ๒๖ วรรคหก
ของหลกั เกณฑว์ นิ ัยฯ"

ดงั น้นั ก.จงั หวัด จงึ ควรพจิ ารณาอทุ ธรณ์ โดยมมี ติ ดงั น้ี
(๑) อทุ ธรณข์ องผอู้ ทุ ธรณฟ์ ังขึน้
(๒) ให้ยกเลกิ มติ ก.จงั หวัด ในคราวประชมุ เพอ่ื พิจารณารายงานการดําเนินการทางวินยั ทีใ่ ห้เพมิ่
โทษเป็นไล่ออก เมอื่ วันที่....เสยี
(๓) ให้นายกฯ ออกคําส่งั ยกเลกิ คาํ สงั่ เพม่ิ โทษเปน็ ไล่ออกจากราชการตามมติ ก.จงั หวดั ในคร้งั นน้ั
ดว้ ย
(๔) ให้นายกฯ ออกคําสัง่ แตง่ ตงั้ คณะกรรมการสอบสวนวนิ ยั อย่างรา้ ยแรง ตามข้อ ๒๖ วรรคหก
ของหลักเกณฑว์ ินยั ฯ ใหม่ให้ถูกต้อง
(๕) คําส่งั ลงโทษทางวินยั อยา่ งไมร่ ้ายแรง ยังไมต่ ้องยกเลิก จนกวา่ การสอบสวนพจิ ารณาจะแลว้
เสรจ็ จงึ คอ่ ยมาพิจารณาคาํ ส่งั ดังกล่าวอีกครง้ั
ขอบคณุ ทุกข้อความทมี่ สี ่วนร่วม ครับ

*************
คําถาม ๕/๑๑/๖๑

สวสั ดคี ะท่าน ดิฉนั เป็นกรรมการใน ก.จงั หวัด มีปญั หาวา่ ขรก.ท้องถิ่นยมื รถจกั รยานยนตเ์ พ่ือนไปใชแ้ ละ
นาํ ไปขายโดยไมบ่ อกเพ่อื น ถูกเพอื่ นแจง้ ความจบั เจา้ ตวั ยอมรับแต่ไม่ยอมคืนเงนิ ศาลจังหวดั พพิ ากษาใหจ้ ําคุก
2 เดอื น และเข้าคกุ เมื่อวันท่ี 15 ก.ย.2558 ไม่มกี ารอทุ ธรณ์ คดีถึงท่สี ดุ หลงั พ้นโทษจําคกุ เขาไดก้ ลับมา
ทาํ งานตามปกติ นายกฯ ส่ังตง้ั กรรมการสอบวนิ ัยอย่างรา้ ยแรง กรรมการสอบสวน นายกฯ และอนวุ ินยั มี
ความเหน็ ใหป้ ลดออก เสนอมาท่ี ก.จังหวดั ปลายเดือน ต.ค.61 ที่ผ่านมา

ขอเรยี นถามวา่
1. ก.จังหวัดจะลงเปน็ ไลอ่ อก ได้หรือไม่
2. ควรใหไ้ ล่ออกยอ้ นหลังไปถงึ วนั ท่ี 15 ก.ย.2558 ซ่งึ เป็นวันท่ีเขาติดคุก ถูกตอ้ งหรอื ไม่
3. ปัจจบุ ันเขายงั ทาํ งานอยู่ จะตอ้ งดาํ เนนิ การอย่างไร
ขอบคณุ ท่านค่ะ
ตอบ

ประเดน็ หลกั ไมไ่ ดอ้ ยทู่ ่คี ําถาม แตอ่ ยทู่ ขี่ า้ ราชการถกู ลงโทษจาํ คกุ โดยคําพพิ ากษาถงึ ทส่ี ุดให้จําคุก เหตุ
ไฉนไยเลา่ เม่ือเขาพ้นโทษออกมาแลว้ นายกฯ ถงึ ปลอ่ ยให้มาทาํ งานอยา่ งหนา้ ตาเฉยอยู่อีก น่ยี งั ดีนะ..ท่ีติดคกุ
แค่ ๒ เดอื น (คนคงนึกวา่ ลา) ถา้ ตดิ สกั ๕ ปี แลว้ มีกรณแี บบเดียวกันเกิดขน้ึ คงวุ่นวายพิลึก !! ท่ีนี่..ประเทศไทย
ไมน่ า่ มี !!!

ประเด็น

๑. ก.จงั หวดั จะมีมตใิ หล้ งโทษไลอ่ อก ไดห้ รือไม่
๒. วนั ทีค่ ําสัง่ ไล่ออกมผี ล ต้องเป็นวันได้รบั โทษจําคกุ ถกู ต้องหรอื ไม่
๓. การทีเ่ ขาทาํ งานหลงั พ้นโทษต่อมาจนปจั จบุ ัน จะต้องปฏติ อิ ย่างไร

สรปุ ส้ัน
๑. ได้
๒. ถูกตอ้ ง

รวบรวมโดย นติ กิ รพร หน้า 80

คําถาม-ตอบวนิ ยั ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวทิ ย์ เปรอ่ื งการ รวบรวมโดยนติ ิกรพร เทศบาลตําบลบะหวา้ จงั หวัดสกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

๓. ตอบยากมาก..!
ขยายความ
๑. หลักเกณฑแ์ ละเงอ่ื นไขในการสอบสวน การลงโทษทางวนิ ยั (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) ขอ้ ๘๗ วรรคส่ี
ประกอบขอ้ ๘๕ วรรคหนึ่ง..ก.จงั หวดั พจิ ารณารายงานการดาํ เนินการทางวนิ ยั อยา่ งรา้ ยแรงแล้วเห็นวา่ เปน็ การ
ไมถ่ ูกต้อง หรอื ไมเ่ หมาะสม และมีมติเปน็ ประการใด ใหน้ ายกฯ สั่งหรือปฏบิ ัตใิ หเ้ ปน็ ไปตามน้ัน กรณีเป็น
ความผดิ ทางวนิ ัยอย่างร้ายแรง จะมีโทษ ๒ สถาน คือปลดออก และไลอ่ อกจากราชการ เมอื่ ก.จงั หวัดเหน็ ต่าง
จากอนุวินยั ต้องแสดงเหตผุ ลให้ปรากฏเปน็ หนังสือในรายงานการประชุมด้วย ตามข้อ ๘๗ วรรคหา้
กรณดี ังกล่าวเป็นความผิดทางวินยั อยา่ งรา้ ยแรง ฐานกระทําความผิดอาญาจนได้รับโทษจาํ คกุ ตาม
หลกั เกณฑ์วินัย (ฉบบั เดมิ ณ วันท่ี ๑๕ ก.ย.๒๕๕๘ อนั เปน็ กฎท่ีใชใ้ นขณะน้ัน) ขอ้ ๑๙ วรรคสอง
๒. เทยี บหลกั เกณฑ์และเง่อื นไขในการให้ออกจากราชการ (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) ข้อ ๕ (๔) ประกอบ
หลกั เกณฑเ์ กี่ยวกบั คณุ สมบัติและลกั ษณะตอ้ งหา้ มเบือ้ งต้นสาํ หรบั ขา้ ราชการส่วนทอ้ งถ่นิ ฯ ใน (๗)..เป็นผเู้ คย
ตอ้ งรบั โทษจําคุกโดยคําพิพากษาถึงทสี่ ุดใหจ้ ําคกุ เพราะกระทําผดิ ทางอาญา ซงึ่ จะต้องสงั่ ใหอ้ อกราชการตาม
ข้อ ๓๑ (๔) ..กรณใี ดมีเหตุสมควรสงั่ ให้ออกจากราชการยอ้ นหลงั ก็สั่งใหอ้ อกย้อนหลงั ไปถงึ วันทีค่ วรออกจาก
ราชการตามกรณีน้นั ได้ แตท่ ้งั นตี้ ้องไมเ่ ปน็ การทาํ ให้เสยี ประโยชนต์ ามสิทธโิ ดยชอบธรรมของผูน้ ้นั
เมอื่ ปรากฏข้อเทจ็ จรงิ วา่ บคุ คลดังกล่าวตอ้ งรบั โทษจาํ คุกโดยคาํ พิพากษาถงึ ทสี่ ุดใหจ้ ําคุก เมอ่ื ๑๕ ก.ย.
๒๕๕๘ จงึ ทําให้ต้องออกจากราชการ เพราะขาดคณุ สมบัตเิ น่ืองจากมลี กั ษณะต้องหา้ มเบอื้ งตน้ ยอ้ นหลังไปถึง
วันดงั กล่าว
๓. แตอ่ ยา่ งไรกต็ าม การทบี่ คุ คลผู้นพี้ น้ โทษแล้วกลบั เข้าทํางานอีกจนถงึ ปจั จบุ ัน โดยทีต่ ้นสงั กดั มไิ ด้
เสนอ ก.จังหวัดเพือ่ ขอความเห็นชอบใหอ้ อกจากราชการเพราะขาดคณุ สมบัตดิ งั กลา่ ว จงึ เป็นความรับผดิ ชอบ
ของผู้มหี น้าทเ่ี กีย่ วขอ้ งทกุ ระดบั
ดงั นน้ั เม่อื ต้นสังกัดปลอ่ ยใหบ้ คุ คลผู้ขาดคณุ สมบตั กิ ลบั เขา้ มาทํางานโดยมิได้ปฏบิ ัตใิ หเ้ ป็นไปตาม
กฎหมาย จึงมีประเดน็ ตามมาอีกมาก เช่น

(๑) เมื่อยังไมม่ ีการเสนอขอความเห็นชอบไปยัง ก.จงั หวดั สภาพความเป็นขา้ ราชการสิ้นสุดลง
หรือไม่ อยา่ งไร

(๒) งานทีบ่ คุ คลผู้นป้ี ฏิบตั ไิ ปในระหว่างนน้ั จะมีผลเชน่ ไร
(๓) เงินเดอื นซึง่ จ่ายไปแลว้ จะทาํ อยา่ งไร
(๔) ความรับผดิ ชอบเปน็ ของผู้ใด อยา่ งไร
(๕) นบั จากนจี้ ะยงั ให้บคุ คลดงั กลา่ วทํางานต่อไปอกี หรอื ไม่
เปน็ ตน้
ปญั หาท้งั นัน้ ควรไดร้ บั ความกระจ่างด้วยการหารอื เพราะเก่ยี วกบั กฎหมาย หลักเกณฑ์ และระเบยี บ
หลายฉบบั
ขอบคุณทกุ ความเหน็ ครับ

*******************
คําถาม ๗/๑๑/๖๑

อบต.ผมมีพนกั งานสว่ นตําบลถกู ร้องเรียนว่าทาํ ผดิ วินยั ก่อนนายกฯ สอบข้อเทจ็ จริง ผมไดป้ ระสานปลัด
ท่านหน่งึ เพอ่ื เปน็ กรรมการสอบวินยั ทา่ นตอบตกลงลว่ งหนา้ ตอนนี้การสอบข้อเท็จจรงิ ได้ประมาณ 95% แต่
ปลัดผมทเ่ี ปน็ ประธานสอบขอ้ เทจ็ จรงิ ไดโ้ อนไปสังกัดเทศบาลอื่นเม่อื วันท่ี 1 พ.ย.61 ทผ่ี ่านมา สว่ นปลัด อบต.
ทผี่ มทาบทามจะขอใหม้ าเป็นประธานสอบวินัยกโ็ อนไปเป็นปลดั เทศบาลอนื่ ในตา่ งจังหวดั กอ่ นมีการออกคําสง่ั

รวบรวมโดย นติ ิกรพร หนา้ 81

คําถาม-ตอบวนิ ัย ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวิทย์ เปร่ืองการ รวบรวมโดยนติ กิ รพร เทศบาลตําบลบะหว้า จงั หวดั สกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

ตงั้ กรรมการสอบวินยั
เรยี นถามท่าน อ.วา่
1. เม่ือสอบข้อเทจ็ จรงิ เสรจ็ ประธานที่โอนสงั กดั แล้ว ลงนามในรายงานการสอบข้อเทจ็ จริง ได้หรอื ไม่
2. ปลัดที่ทาบทามมาสอบวนิ ยั ไว้แลว้ แต่โอนไปตา่ งจังหวดั ขอตัวมาเปน็ กรรมการสอบในจงั หวดั เดมิ ได้

หรอื ไม่
3. ตามขอ้ 2. ถ้าได้ต้องทําหนงั สอื ขอผ่าน ก.จงั หวดั หรอื ไม่
ขอบพระคณุ อยา่ งสงู ครับ

ตอบ
เขา้ ใจวา่ คงเพง่ิ จบั งานน้.ี .เลยไมม่ นั่ ใจ !!
ประเด็น คือ
๑. สอบข้อเทจ็ จรงิ เสร็จหลงั กรรมการโอนไปสงั กดั อน่ื /จังหวดั อ่นื ลงนามในรายงานการสอบ

ข้อเทจ็ จรงิ ไดห้ รือไม่
๒. การขอตัวกรรมการสอบสวนวินัยขา้ มจงั หวัด สามารถทาํ ได้หรอื ไม่ อยา่ งไร
สรุปสน้ั
๑. ได้
๒. ได.้ .ขอโดยตรง
ขยายความ
หลักเกณฑแ์ ละเง่อื นในการสอบสวน การลงโทษทางวนิ ยั (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) ท่ีน่าจะเกีย่ วขอ้ งมี ๒

ขอ้ ไดแ้ ก่ ข้อ ๒๔ วรรคแปด และขอ้ ๔๙ วรรคหน่งึ
๑. ข้อ ๒๔ วรรคแปด กําหนดวา่ "การสบื สวนหรือพิจารณาในเบ้อื งตน้ จะกระทําโดยแตง่ ตงั้

กรรมการสบื สวนข้อเท็จจรงิ กรรมการสอบสวนขอ้ เทจ็ จริง หรือกรรมการตรวจสอบขอ้ เทจ็ จรงิ กไ็ ด"้ กฎได้
กาํ หนดเรือ่ งการสอบขอ้ เทจ็ จริงไวเ้ พียงเทา่ น้ี สว่ นกระบวนการ วิธกี าร ข้นั ตอนของการสอบข้อเทจ็ จรงิ หาได้
กําหนดไวแ้ ต่อยา่ งใดไม่ โดยเฉพาะการกําหนดในเรอื่ งสงั กดั ดงั น้นั เมือ่ ปลดั ได้รบั มอบหมายให้เปน็ กรรมการ
สอบขอ้ เทจ็ จริงไว้กอ่ นโอนไปสงั กดั อืน่ /จังหวดั อื่น จงึ ตอ้ งดาํ เนนิ การให้เสรจ็ ส้นิ ไป แมจ้ ะอยหู่ นใดกต็ าม ตราบ
ที่ยังไมม่ กี ารเปล่ียนแปลงคําสง่ั เปน็ อย่างอื่นต้องรบั ผิดชอบการสอบข้อเท็จจรงิ จนกวา่ จะเสรจ็ สนิ้

๒. ขอ้ ๔๙ วรรคหนง่ึ "...การแตง่ ต้ังคณะกรรมการสอบสวน (วินยั ) อาจแตง่ ตงั้ จากพนกั งานส่วน
ท้องถ่ินอืน่ หรือขา้ ราชการพลเรอื น โดยได้รบั ความยินยอมจากตน้ สังกดั กไ็ ด้.." เม่ือกฎมิได้กาํ หนดใหผ้ ู้ทีถ่ กู ยืม
ตวั มาเปน็ กรรมการสอบสวนต้องอยู่ภายในจงั หวัดเดยี วกนั จงึ เปน็ ความยินยอมพร้อมใจของท้งั ๒ สงั กดั คอื
สังกัดผูข้ อกบั สงั กดั ผใู้ หใ้ นจงั หวดั ใดกต็ าม หากสะดวกและยนิ ยอมแล้วชอบทจี่ ะขอตัวไดท้ งั้ สน้ิ ซง่ึ การขอใน
ลกั ษณะดงั กล่าว แม้กฎจะกาํ หนดไว้กว้าง ๆ แต่ควรคํานึงถึงด้านอน่ื ประกอบดว้ ย เชน่ ดา้ นเวลาและ
งบประมาณ เป็นต้น

เมอ่ื การขอตัวเป็นความสมัครใจและเปน็ อาํ นาจของท้งั ๒ สังกดั ดงั กล่าวแล้วขา้ งต้น จงึ ไมจ่ ําตอ้ งขอ
ความเห็นชอบ หรือขอผา่ น ก.จงั หวดั แตอ่ ย่างใด

ขอบคุณครับ
***************

คาํ ถาม ๙/๑๑/๖๑
มเี ร่อื งรบกวนถามทา่ นว่า ก.จงั หวัดได้รบั รายงานการดาํ เนนิ การทางวินัยพนักงานส่วนตําบล 25 คน กรณี

โครงการไปศึกษาดูงานภายในจังหวดั 3 วัน ในจาํ นวนนน้ั มกี ารกาํ หนดโทษปลดั หัวหน้า สป.และ ผอ.กองคลงั

รวบรวมโดย นิตกิ รพร หน้า 82

คาํ ถาม-ตอบวนิ ยั ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวิทย์ เปรือ่ งการ รวบรวมโดยนติ ิกรพร เทศบาลตําบลบะหว้า จงั หวัดสกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

เปน็ วนิ ยั ร้ายแรง ผไู้ ปรว่ ม 15 คน เป็นวินยั ไมร่ า้ ยแรง และกันเป็นพยานอีก 7 คน (เป็น ผดด.ท่ีให้ถ้อยคํากบั
กรรมการสอบสวนว่าจําใจไป)

คาํ ถาม
1. ทง้ั 25 คนร่วมเดินทางไปดว้ ยกัน จะกนั เปน็ พยานเพยี ง 7 คน ได้หรอื ไม่
2. หลกั การกนั เป็นพยานมีสาระสําคญั อยา่ งไรบ้าง
3. ในฐานะ ก.จงั หวดั เห็นว่า 7 คนที่ถูกกนั เปน็ พยานกม็ คี วามผดิ ดว้ ย เพราะลงลายมอื ชือ่ ทกุ รายการ
โดยเฉพาะการเบิกคา่ อาหาร ทงั้ ทไ่ี มไ่ ดเ้ ลยี้ ง แต่กลับลงชื่อวา่ กิน อา้ งว่าถูกขอรอ้ ง ก.จังหวดั มอี ํานาจพิจารณา
ใหก้ ลบั ไปดําเนนิ การทางวินัยทั้ง 7 คน เพิม่ เตมิ ไดห้ รอื ไม่
ขอบคุณท่านครับ
ตอบ

หลกั การดําเนนิ การทางวนิ ัยแต่เรมิ่ แรกมีอยูว่ า่ "ข้าราชการกระทําผิดวนิ ัยตอ้ งถูกดาํ เนินการทางวินยั
ทกุ คน" ไมม่ ยี กเวน้ จนกระทง่ั ทศวรรษทผ่ี ่านมา การกระทําความผดิ ทางวินัยเร่ิมมคี วามสลบั ซบั ซอ้ นมากข้นึ
ตามความเจริญของสงั คม บางกรณไี มอ่ าจลงโทษผกู้ ระทาํ ความผดิ ทางวินยั ทเี่ ป็นตัวการสาํ คัญได้ เพราะผมู้ ี
ส่วนรว่ มในการกระทาํ ความผดิ ไมก่ ล้าใหถ้ ้อยคําเป็นพยาน ดว้ ยตนเองตอ้ งถกู ดําเนนิ การวินยั เชน่ กนั ดังนนั้ จงึ
เกิดแนวคิดใหก้ ารดาํ เนนิ การทางวินัยมปี ระสทิ ธิภาพยงิ่ ขน้ึ เพอ่ื รกั ษาประโยชนข์ องทางราชการไว้ โดยกัน
ผกู้ ระทาํ ผิดทีไ่ มอ่ าจหลกี เล่ียงไดเ้ ปน็ พยาน (สรา้ งแรงจูงใจ) เชน่ ถกู ผบู้ งั คบั บญั ชาทกี่ ระทําความผดิ สงั่ ให้
กระทํา ถกู ข่มขู่ ล่อลวง เปน็ ต้น ท้งั น้ี เพอ่ื หาพยานหลักฐานมาฟงั ลงโทษตวั การสําคญั ให้ได้นนั่ เอง

ขอ้ ยกเวน้ ท่ีให้งดดาํ เนินการทางวินยั ดังกลา่ วเป็นขอ้ ยกเว้นทีม่ เี ง่อื นไข ถ้าผ้ถู ูกกันเปน็ พยานไมใ่ หค้ วาม
ร่วมมือในการสอบสวน หรือกนั แล้วไมเ่ กดิ ประโยชน์ในการดาํ เนินการทางวินัยแกต่ ัวการสาํ คญั อาจถกู
ดําเนนิ การทางวินัยตอ่ ไปได้

ปจั จบุ นั เร่ิมมกี ารใช้มาตรการการกันเป็นพยานมากข้นึ จงึ จะอธบิ ายเพม่ิ เติมในโอกาสนี้
ประเดน็
๑. หัวใจของ "การกันเป็นพยาน" มีกอี่ ยา่ ง อะไรบ้าง
๒. มีผกู้ ระทาํ ความผดิ รว่ มกนั เปน็ จํานวนมาก นายกฯ จะกันเพียงบางคนเป็นพยาน ไดห้ รือไม่
๓. ก.จังหวัดสามารถเหน็ ตา่ งได้หรอื ไม่ อย่างไร
สรุปสั้น
๑. มีเพียง ๓ ประการ
๒. ใหด้ ขู อ้ เท็จจริงเปน็ เร่ือง ๆ ไป
๓. ได้...อย่ทู เ่ี หตุผล
ขยายความ
เมอ่ื แปลความตามหลักเกณฑแ์ ละเงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙)
อาจตอบคําถามได้ ดังน้ี
๑. หลักการหรอื หวั ใจสําคัญในการกันผกู้ ระทําความผิดทางวนิ ยั เป็นพยาน ในข้อ ๓๐ มี ๓ ประการ
ได้แก่

(๑) ผ้นู นั้ ไม่ใช่ตวั การสาํ คัญ ตามขอ้ ๔ วรรคสี่ หมายถงึ
๑) ไม่ใชผ่ ชู้ ักชวน
๒) ไม่ใชผ่ โู้ นม้ น้าว
๓) ไม่ใชผ่ ูล้ ่อลวง

รวบรวมโดย นิตกิ รพร หนา้ 83

คาํ ถาม-ตอบวนิ ยั ปี 2561 โดยอาจารย์ประวิทย์ เปรอื่ งการ รวบรวมโดยนิตกิ รพร เทศบาลตาํ บลบะหว้า จังหวดั สกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

๔) ไมใ่ ช่ผขู้ เู่ ข็ญ
๕) ไมใ่ ช่ผู้ใหส้ ญั ญา หรอื
๖) ไมใ่ ชผ่ ู้กระทําการใด ๆ อันทาํ ให้ผู้ (จะถกู กันเป็นพยาน) นั้น จาํ ตอ้ งปฏบิ ัตติ ามโดยไมอ่ าจ
หลกี เลยี่ งหรือขดั ขนื ได้ [ขอ้ ๓๐ วรรคหนึ่ง]
(๒) ผ้นู ั้นได้ให้ข้อมลู
จนสามารถดาํ เนินการทางวนิ ัยแกต่ วั การสาํ คญั ในเรือ่ งน้นั ได้ [ขอ้ ๓๐ (๑)]
(๓) ผนู้ น้ั ไดใ้ หข้ ้อมูลทีไ่ มอ่ าจแสวงหาจากทใ่ี ดเพอ่ื ดาํ เนินการทางวินัยแก่ตวั การสาํ คญั ในเร่อื งน้ัน
ได้อีก [ขอ้ ๓๐ (๒)]
ส่วนขอ้ ๓๑-๓๗ เป็นเรอ่ื งของกระบวนการ ขนั้ ตอนของการกันเป็นพยาน
๒. ปกติเรือ่ งลกั ษณะนีม้ กั จะมีผรู้ ว่ มกระทําผดิ ๒ ฝุาย ๆ หน่ึงเปน็ ตวั การสําคญั อกี ฝุายหน่งึ เป็นผู้ถกู
ชักชวน ถูกโนม้ น้าว ถกู ล่อลวง ถูกขเู่ ข็ญ ถกู ให้สญั ญา หรอื ถกู กระทาํ การใด ๆ จนจําต้องปฏบิ ตั ิ ไม่สามารถ
หลีกเลย่ี งหรือขัดขืนได้ ดงั น้นั นายกฯ จงึ ต้องพจิ ารณาข้อ ๓๐ ประกอบด้วยว่า ถ้าไม่กนั เป็นพยาน สามารถ
ลงโทษทางวนิ ยั แก่ตวั การสําคัญได้หรือไม่ ถา้ สามารถลงโทษได้ การกันเป็นพยานดงั กล่าวย่อมไม่ชอบ เพราะ
ขอ้ ๒๔ วรรคส่ี กําหนดใหน้ ายกฯ ตอ้ งดําเนนิ การทางวนิ ัยแกผ่ กู้ ระทําผดิ วินัยโดยมีพยานหลักฐานในเบอื้ งตน้
อยแู่ ล้วทนั ท.ี .หากนายกฯ ใช้วธิ ีกนั เปน็ พยาน อาจทาํ ใหม้ องได้วา่ ช่วยมใิ หผ้ ู้นน้ั ตอ้ งถูกดาํ เนนิ การทางวินยั
หรือไม่ ซงึ่ จะมีประเด็นตามมาได้
ดงั นั้น การใช้อํานาจกนั เป็นพยานจงึ ตอ้ งกระทาํ โดยปราศจากอคติ และต้องพจิ ารณาขอ้ เทจ็ จริงเป็น
กรณี ๆ ไป
๓. ข้อ ๘๘ วรรคหนึง่ กําหนดใหอ้ าํ นาจ ก.จงั หวัด กาํ กบั ดูแลขา้ ราชการสว่ นทอ้ งถน่ิ ตาม พ.ร.บ.
ระเบยี บบรหิ ารงานบุคคลส่วนทอ้ งถิ่น พ.ศ.๒๕๔๒ โดยให้กาํ หนดประเด็นหรอื ขอ้ สําคญั ไปใหน้ ายกฯ
ดาํ เนินการเพม่ิ เตมิ ได้
เมื่อหลกั เกณฑก์ ารกันเปน็ พยานมไิ ดก้ าํ หนดใหก้ ารสั่งการของนายกฯ วา่ ให้เป็นทส่ี ุด จงึ ไมต่ ดั อํานาจ
ก.จงั หวดั ที่จะเห็นต่าง โดยมีมตใิ หด้ ําเนนิ การทางวนิ ัยกบั ผู้กระทําความผิดทางวนิ ัยท่เี หลือต่อไปได้ แต่ตอ้ ง
พิจารณาหลักเกณฑว์ นิ ัยข้อ ๓๐ เปน็ ประการสาํ คัญประกอบด้วย
ขอบคุณทกุ ความเห็น ครบั

**************
คําถาม ๑๒/๑๑/๖๑
ผอ.คลงั ถูกฟูองคดอี าญากรณีทุจรติ ศาลชนั้ ต้นตดั สนิ จาํ คกุ 5 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน คดอี ยูร่ ะหวา่ งฎีกา
กอ่ นหนา้ น้ี นายกสงั่ ตงั้ กรรมการสอบวนิ ยั รา้ ยแรงดว้ ยเหตเุ ดยี วกันและขอความเหน็ ชอบสง่ั พักราชการผอ.คลงั
ดว้ ย ก.จงั หวัดเห็นชอบแลว้ ตอ่ มาหลงั สอบสวนเสรจ็ นายกรายงานการสอบสวนให้ ก.จงั หวัดพิจารณาตาม
ประกาศหลกั เกณฑ์ฯ (ตอนนีย้ งั ไมม่ มี ตใิ ดๆ) ระหวา่ งน้ัน ผอ.คลงั ได้ขอลาออกจากราชการและมผี ลตาม
กฎหมายแลว้ ผา่ นมาประมาณ 6 เดือน ผอ.คลังมาขอกลบั เข้ารบั ราชการ ณ. อปท. ในอีกจังหวดั หนง่ึ
ก.จังหวัดจะสามารถพจิ ารณากลบั เข้ารับราชการบคุ คลท่านน้ีได้หรือไมป่ ระการใดครบั ทา่ นอาจารย์
ตอบ

มีปญั หาแบบนีเ้ กดิ ข้ึนอยปู่ ระจาํ ในสว่ นราชการ เรยี กว่า "ชงิ ลาออกหนีความผดิ " จดุ อ่อนของ อปท.เรา
คือ "ข้อมลู ไม่พอ" ในการรบั คนเข้าทาํ งานอาจเพราะองค์กรมาก เม่ือขอ้ มูลเช่อื มโยงไม่ถงึ จงึ ทําใหค้ นเหล่านหี้ า
ชอ่ งโหว่ตลอดเวลา

ประเด็นมเี พียงว่า

รวบรวมโดย นิติกรพร หน้า 84

คาํ ถาม-ตอบวินยั ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวทิ ย์ เปร่ืองการ รวบรวมโดยนติ กิ รพร เทศบาลตาํ บลบะหวา้ จงั หวัดสกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

ก.จงั หวดั สงั กัดใหม่ จะใหบ้ รรจกุ ลบั ได้หรือไม่
สรุปสั้น
ไมค่ วรอยา่ งย่งิ
ขยายความ
ผู้น้ีมพี ันธนาการ ๓ เรอ่ื งสําคัญ คือ
๑. ถกู ฟูองคดอี าญา และศาลมคี ําพพิ ากษาให้จําคกุ คดียังไมถ่ ึงท่สี ดุ
๒. ถูกแตง่ ต้ังคณะกรรมการสอบสวนวินัยอยา่ งรา้ ยแรง อยรู่ ะหว่างการพจิ ารณารายงานการ
ดาํ เนนิ การทางวนิ ยั ของ ก.จงั หวดั
๓. ถูกส่งั พักราชการโดย ก.จงั หวัดเหน็ ชอบ ซ่งึ การสอบสวนพิจารณายงั ไมแ่ ลว้ เสร็จ
เมื่อผนู้ ีม้ ีความประสงค์จะลาออกจากราชการตามข้อ ๕ (๓) ของหลกั เกณฑ์และเง่ือนไขในการให้ออก
จากราชการฯ ยอ่ มสามารถทําได้ แมจ้ ะอยรู่ ะหวา่ ง ๓ ประเด็นสําคัญข้างตน้ กต็ าม ซงึ่ นายกฯ ไดอ้ อกคาํ สงั่ ให้
ลาออกตามมติ ก.จงั หวดั ตามขอ้ ๕ วรรคสอง และวรรคสาม ของหลกั เกณฑ์เดยี วกนั ไปแลว้ การลาออกจงึ มี
ผลสมบูรณ์ตามกฎหมาย (อาจมีปญั หาเก่ยี วกับวนั ลาออกวา่ ให้ลาออกต้งั แต่วันส่ังพัก หรอื วันขอลาออก ซึ่งเปน็
อีกประเด็นหน่งึ ที่นา่ สนใจ)
แตเ่ รอื่ งน้วี ินยั และอาญายงั ต้องดาํ เนินต่อไป
การท่บี ุคคลดังกลา่ วขอบรรจุกลับในตา่ งสังกดั /ต่างจงั หวดั เพียง ๖ เดือนหลงั ลาออก จงึ ตอ้ งพจิ ารณา
ใน ๒ เร่ืองสาํ คญั ได้แก่
๑. มคี ณุ สมบัตแิ ละลกั ษณะต้องหา้ มในการเข้ารบั ราชการ หรือไม่ อย่างไร
๒. การขอบรรจุกลบั ดังกลา่ วไดน้ ับอายรุ าชการต่อเน่อื ง หรือเร่มิ นับอายรุ าชการใหม่
หากนายกฯ และ ก.จังหวัดสังกดั ใหมพ่ ิจารณาแล้วใหบ้ รรจุกลบั เขา้ รับราชการได้ ต่อมาคดีอาญาถึง
ท่ีสุดใหจ้ ําคุก ผนู้ ีต้ ้องออกจากราชการเพราะขาดคุณสมบตั ิอกี ครั้ง ตามขอ้ ๖ (๑๐) ตั้งแตว่ ันต้องรบั โทษจาํ คกุ
แตถ่ า้ คดีถงึ ทส่ี ุดยกฟูอง ต้องกลบั มาดผู ลการพจิ ารณาทางวนิ ัยของ ก.จงั หวดั ว่า มกี ารเรมิ่ นบั อายรุ าชการใหม่
หรอื นบั อายรุ าชการต่อเนอ่ื ง

(๑) ถา้ เรมิ่ นบั อายรุ าชการใหม่ จะเป็นอํานาจพจิ ารณาของ ก.จงั หวดั สงั กัดเดมิ หากเหน็ ชอบให้
ลงโทษวนิ ยั อย่างร้ายแรง (ปลด/ไล)่ จะมผี ลใหอ้ อกคาํ ส่งั ลงโทษ (ปลด/ไล)่ ยอ้ นหลงั ไปถงึ วนั สงั่ พกั (หรอื วันขอ
ลาออก ซง่ึ ยงั มปี ญั หาในประเดน็ น)ี้ แล้วจะเปน็ เหตุให้ตอ้ งพน้ จากราชการในสงั กัดใหม่ เพราะขาดคณุ สมบตั ิ
ตามข้อ ๖ (๑๐)

(๒) ถา้ นบั อายรุ าชการตอ่ เน่ือง จะเป็นอาํ นาจพจิ ารณาของ ก.จงั หวดั สังกดั ใหม่ ซงึ่ สงั กัดเดมิ ตอ้ งสง่
รายงานการดําเนินการทางวนิ ยั พรอ้ มเอกสารหลกั ฐานมาใหส้ งั กดั ใหมเ่ ป็นผพู้ จิ ารณา หากมมี ติให้ลงโทษปลด/
ไลอ่ อก ให้ออกคาํ สงั่ ให้มผี ลเปน็ ปัจจุบัน ห้ามยอ้ นหลงั ไปกอ่ นวนั ออกคาํ สงั่ (ประเด็นทค่ี ้างอย่คู อื วนั ที่ในคาํ สงั่
พกั ราชการเดิมสน้ิ ผลเพราะการขอลาออกหรอื ไม)่

๓. การถูกสง่ั พกั ราชการถือเปน็ ลักษณะต้องห้ามตามขอ้ ๖ (๖) ที่หา้ มเข้ารบั ราชการอย่างหนงึ่
ในทางปฏิบตั ยิ ุง่ ยากมาก
ข้อแนะนํา
เม่ือทราบวา่ ผู้นี้จะขอไปบรรจุกลบั ทส่ี ังกัดใหม/่ ก.จงั หวัดใหม่ สงั กดั เดมิ ควรแจ้งขอ้ มลู ทัง้ หมดโดยเร็ว
เพือ่ ใหส้ งั กัดใหม่ใช้ประกอบการพจิ ารณาในการรักษาประโยชนข์ องทางราชการ

รวบรวมโดย นิติกรพร หนา้ 85

คําถาม-ตอบวินยั ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวิทย์ เปรอื่ งการ รวบรวมโดยนติ ิกรพร เทศบาลตาํ บลบะหวา้ จงั หวดั สกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

จะให้ดที ีส่ ุดคอื ..ไมค่ วรให้บรรจุกลับเข้ารบั ราชการในตอนน้ี ควรรอจนกวา่ วนิ ยั และอาญาทค่ี าอยนู่ ้นั
จะเสรจ็ ส้ินหรอื ถงึ ทส่ี ดุ เสยี ก่อน แลว้ จงึ มาพจิ ารณาคุณสมบตั กิ ันอีกที..!! รออกี นดิ คงไม่ถงึ กบั ทาํ ใหร้ าชการ
เสียหายอยา่ งร้ายแรงดอกกระมงั !!

ขอบคณุ ทกุ ความเห็น ครับ
******************

คําถาม ๑๔/๑๑/๖๑
เรียน ทา่ นผอ. ประวทิ ย์ ครบั ขอเรยี นสอบถาม การยน่ื อุทธรณ์ ต้องให้ ก.จงั หวดั พิจารณากอ่ นหรือไมว่ ่า
สามารถรับไดห้ รือไม่ แล้วคอ่ ยสง่ ตอ่ ใหอ้ นอุ ทุ ธรณ์ ทาํ ความเหน็ หรือ เมอ่ื มผี ู้ยนื่ อุทธรณต์ อ่ ก.จังหวัดแล้ว
สามารถสง่ ตอ่ ใหอ้ ุทธรณ์

ตอบ

เปน็ ประเดน็ การส่งเรอ่ื งใหอ้ นุฯ ทาํ ความเห็นเสนอ ก.จังหวดั วา่ มขี อบเขตแค่ไหน เพียงไร
ก่อนอน่ื ต้องเท้าความถึงรากเหง้าของการกําหนดใหต้ ัง้ อนฯุ กอ่ นว่ามาจากมาตรา ๑๑ แห่ง พ.ร.บ.
ระเบยี บบรหิ ารงานบุคคลส่วนทอ้ งถ่นิ พ.ศ.๒๕๔๒ ทีบ่ ญั ญตั วิ ่า "ก.จังหวดั อาจแตง่ ตงั้ คณะอนกุ รรมการเพอื่

ดาํ เนินการใด ๆ ตามที่ ก.จงั หวดั มอบหมายได้"
จากบทบญั ญัตดิ ังกล่าวจงึ เป็นท่ีมาของการกาํ หนดใหต้ งั้ อนฯุ ตา่ ง ๆ ใน ก.จงั หวัด โดยเฉพาะอนุวินยั ฯ

และอนอุ ทุ ธรณฯ์ เพ่อื ชว่ ยกลัน่ กรองงานดา้ นวินยั และงานดา้ นอุทธรณท์ มี่ คี วามย่งุ ยาก ซับซอ้ น หรอื มคี วาม

จาํ เปน็ ตอ้ งใชค้ วามละเอยี ดรอบคอบในการพจิ ารณา ดังนน้ั ในหลกั เกณฑจ์ ึงมกั ใชค้ าํ วา่ พจิ ารณา "ทําความเห็น
เสนอ" ซงึ่ ไมผ่ กู พนั ว่า ก.จงั หวัดจะมีมตเิ ห็นชอบตามความเหน็ นั้นหรือไม่ ข้ึนอยูท่ เี่ หตผุ ลและคําอธบิ าย (ปกติ
แลว้ จะเหน็ ชอบ)

เม่อื ย้อนกลบั มาพจิ ารณาว่าหลกั เกณฑก์ าํ หนดใหเ้ รอื่ งประเภทใดบ้างทม่ี คี วามยงุ่ ยาก ซับซ้อน ซ่งึ ตอ้ ง
พจิ ารณาโดยละเอยี ดต้องส่งใหอ้ นุฯ "ทาํ ความเห็นเสนอ" กอ่ นทุกครง้ั จงึ ถกู กําหนดไวอ้ ย่างชัดเจน และถอื เป็น
กระบวนการ ขัน้ ตอน อันเปน็ สาระสาํ คัญตามกฎหมายท่ีจะละเลยไปหาไมไ่ ด้

สว่ นเรอ่ื งประเภทใดทไี่ ม่มคี วามยุ่งยาก ซับซอ้ น ไมจ่ าํ ต้องใช้ความละเอียดในการพิจารณามากนัก ก็ให้
ก.จงั หวัดพจิ ารณามมี ตไิ ดเ้ ลย

เรื่องทห่ี ลักเกณฑ์กาํ หนดให้ตอ้ งสง่ อนฯุ ทําความเหน็ เสนอก่อนทกุ ครั้ง มีดังนี้
หลกั เกณฑว์ ินัย (สง่ อนุวนิ ัย)
๑. การลงโทษทางวินัยอย่างร้ายแรง ขอ้ ๘๕ วรรคหนึ่ง

๒. การรายงานการดําเนนิ การทางวินัย ข้อ ๘๗ วรรคหน่ึง

หลกั เกณฑก์ ารใหอ้ อกฯ (สง่ อนุวนิ ัย)

๑. การส่ังใหอ้ อกจากราชการ ข้อ ๕ วรรคสี่
๒. การสัง่ ให้ออกจากราชการเหตทุ ดแทน ข้อ ๖ วรรคหน่ึง
๓. การส่งั ใหอ้ อกจากราชการเพราะมีมลทนิ ขอ้ ๘ วรรคหนึง่

หลกั เกณฑอ์ ทุ ธรณ์ฯ (สง่ อนอุ ุทธรณ)์
๑. การอทุ ธรณ์คําสงั่ ลงโทษและคาํ สง่ั ให้ออกจากราชการ ๖ เหตุ ขอ้ ๙ วรรคหน่งึ
๒. การร้องทุกข์ ข้อ ๒๗ วรรคสาม

รวบรวมโดย นติ กิ รพร หนา้ 86

คาํ ถาม-ตอบวินัย ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวิทย์ เปรื่องการ รวบรวมโดยนติ กิ รพร เทศบาลตาํ บลบะหวา้ จงั หวดั สกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

เป็นตน้
หากหลักเกณฑจ์ ะให้ย่นื ต่ออนฯุ จะกาํ หนดไว้โดยตรง ซงึ่ เมือ่ หลักเกณฑก์ ําหนดให้สง่ เรอ่ื งให้อนุฯ ทาํ
ความเห็นเสนอกอ่ น ก.จงั หวัดตอ้ งดาํ เนนิ การตามนั้น
สําหรบั เร่ืองทห่ี ลกั เกณฑม์ ไิ ด้กําหนดไว้วา่ ตอ้ งสง่ ใหอ้ นฯุ ทําความเห็นเสนอ กไ็ มจ่ ําต้องส่งใหอ้ นุฯ ก่อน
ก.จังหวัดสามารถพิจารณามีมติไดท้ นั ที แต่อยา่ งไรกต็ าม หาก ก.จงั หวดั เหน็ วา่ เร่อื งดงั กล่าวมคี วามยงุ่ ยาก
ซบั ซ้อน ต้องพจิ ารณาโดยละเอียดรอบคอบ จะสง่ ใหอ้ นฯุ ทาํ ความเห็นก่อนที่ ก.จงั หวัดจะพิจารณามมี ตกิ ไ็ มม่ ี
กฎหา้ มไว้ ยอ่ มเป็นดลุ พินจิ ของ ก.จงั หวดั โดยแท้ แตท่ ั้งน้จี ะตอ้ งคาํ นึงถงึ ระยะเวลาในแตล่ ะเร่ืองท่ีอาจล่าช้าไว้
ด้วย
ต่อคําถาม "ก.จงั หวัดดอ้ งพจิ ารณากอ่ นไหมว่า เปน็ อุทธรณท์ จี่ ะรบั ไว้พจิ ารณาได้หรือไม"่ ตาม
หลกั เกณฑแ์ ละเงื่อนไขในการอทุ ธรณ์ และการรอ้ งทกุ ข์ (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) มเี นอื้ หาทเ่ี กีย่ วขอ้ งอยู่ ๒ ข้อ
คือ
๑. ขอ้ ๑๖ วรรคสอง "ในกรณมี ีปญั หาวา่ อทุ ธรณร์ ายใดเป็นอุทธรณ์ทีจ่ ะรบั ไว้พจิ ารณาได้หรอื ไม่ ให้ ก.
จังหวดั เปน็ ผู้พจิ ารณาวินิจฉัย"
๒. ข้อ ๑๐ ให้ ก.จังหวัดพจิ ารณาวนิ จิ ฉยั อุทธรณ์ใหแ้ ล้วเสรจ็ ภายใน ๙๐ วนั นับแต่วันท่เี ลขานกุ าร ก.
จังหวดั (ทอ้ งถิ่นจงั หวดั /ปลัด อบจ./ปลัดเมืองพทั ยา) ได้รับหนังสืออุทธรณ์
เม่อื พจิ ารณาจากหลกั เกณฑท์ ง้ั ๒ ขอ้ ขา้ งต้นแลว้ จะเหน็ ว่า การวินิจฉัยว่าจะรับหรอื ไม่รบั อทุ ธรณ์ เปน็
อาํ นาจของ ก.จงั หวัด เชน่ อุทธรณท์ ข่ี าดสาระสําคญั บางประการ หรือย่ืนเกนิ กาํ หนดเวลาเล็กนอ้ ย เป็นตน้
มิไดก้ ําหนดใหต้ อี งสง่ อนุอุทธรณว์ ินจิ ฉยั แตอ่ ยา่ งใด จงึ ตอ้ งเปน็ ไปตามนัน้ ประกอบกับมีระยะเวลาพจิ ารณา
วนิ ิจฉัยอุทธรณข์ องอนุอทุ ธรณแ์ ละ ก.จงั หวัดรวมกันเพียง ๙๐ วนั และหลักเกณฑ์มไิ ดก้ ําหนดใหร้ ะยะเวลา
สะดดุ หยดุ อยู่ หรอื สะดดุ หยดุ ลง นบั แตว่ นั รบั เร่ืองแตอ่ ยา่ งใด จงึ ตอ้ งรบี ดําเนินการใหเ้ สรจ็ ส้ินไปโดยเรว็
วิธปี ฏบิ ตั ิ ฝาุ ยเลขานุการ ก.จงั หวดั ควรนาํ เสนอ ก.จงั หวัดทนั ที เพื่อใหว้ นิ จิ ฉยั ว่าจะรบั หรือไมร่ ับ
อทุ ธรณ์ไวพ้ ิจารณา
๑. ถา้ ไมร่ บั ใหแ้ จง้ ผู้อทุ ธรณท์ ราบเปน็ หนงั สอื
๒. ถ้ารับ ใหส้ ง่ เรื่องใหอ้ นุอุทธรณ์พจิ ารณาทําความเห็นต่อไป
ขอบคุณครบั

*****************
คําถาม ๑๙/๑๑/๖๑
ขออนุญาตเรยี นถามทา่ นอาจารยป์ ระวทิ ยท์ เ่ี คารพครับ. ที่จงั หวดั ก. มีพนกั งานส่วนตาํ บลไดก้ ระทาํ การทจุ รติ
เอาเงนิ หลวงไปโดยมชิ อบ. นายก อบต ไดต้ ้ังกรรมสอบสวนทางวินัยอยา่ งร้ายแรง ฐานไม่ปฏบิ ัติหนา้ ทร่ี าชการ
ตามระเบยี บกฎหมายเปน็ เหตใุ หร้ าชการเสียหายอยา่ งรา้ ยแรง. ตอ่ กระกระบวนการดาํ เนนิ การทางวนิ ยั
สรปุ ว่า เป็นการไมป่ ฏิบตั ติ ามระเบียบกฎหมายเปน็ เหตใุ ห้ราชการเสียหายไมร่ ้ายแรง. ก จงั หวดั เหน็ ชอบ นายก
สั่งลงโทษทางวนิ ัย ตัดเงนิ เดือน 5%. เป็นเวลา. 3 เดือน เสร็จเรยี บรอ้ ยแล้วเมอื่ ปี. 2556. ตอ่ มาปี 2561.
ศาลปกครองสูงสุดได้มคี ําพพิ ากษาว่า. กรณีดังกลา่ ว เปน็ การทุจรติ โดยการใช้จา่ ยเงินทุนสํารองเงินสะสมโดย
ไม่ไดข้ อความเห็นชอบจากสภา และผ้วู ่าราชการจงั หวดั และท่สี าํ คัญคือวสั ดุสง่ิ ของทจ่ี ัดซอ้ื จัดจา้ งจํานวน 4
โครงการ ไม่มีการจัดซอื้ จรงิ และตรวจรับจรงิ เปน็ การทําเอกสารปลอมทง้ั สน้ิ . จึงเปน็ การทจุ ริต. จงึ ขออนุญาต
สอบถามวา่ กรณดี งั กล่าว น้ีสามารถดาํ เนินการทางวินัยใหมไ่ ดห้ รือไม่. ถ้าได้ ควรยกเลิกคาํ สง่ั แตง่ ตงั้ กรรมการ
สอบสวนวนิ ัยครั้งก่อน และทําคาํ สงั่ แตง่ ต้งั กรรมใหม่ ฐานทจุ ริต. ถูกต้องหรือไม่ และมตี ัวอยา่ งท่ีอนื่ บ้างหรอื
ไม่ ครับ ขอบคณุ ครบั

รวบรวมโดย นติ กิ รพร หนา้ 87

คําถาม-ตอบวินัย ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวทิ ย์ เปรือ่ งการ รวบรวมโดยนิติกรพร เทศบาลตาํ บลบะหวา้ จงั หวัดสกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

ตอบ
คําถาม..ยาก..!!
เป็นกรณกี ารดาํ เนินการทางวินัยเสรจ็ สิ้นแล้ว แตม่ กี ารฟูองศาลปกครองในมูลละเมิด โดยที่ ก.จงั หวดั

มิไดเ้ ป็นคคู่ วามในคดี อีกทั้งศาลกม็ ิไดว้ นิ จิ ฉัยข้อสาํ คญั แห่งประเดน็ ทางวินยั เพยี งกล่าววา่ คคู่ วามในคดีบาง
ฝุาย "กระทาํ ทจุ รติ " เท่านนั้

ปัญหาทีต่ อ้ งพจิ ารณา คอื การท่ีศาลระบเุ พียงวา่ "ใหเ้ รียกคืนเงินจากผู้กระทําทจุ รติ " นัน้
๑. ถือเปน็ พยานหลักฐานใหมท่ ีต่ ้องดาํ เนนิ การต่อไป หรือไม่
๒. จะยกเลิกคาํ ส่ังแตง่ ตง้ั กรรมการสอบสวนเดมิ แลว้ ดาํ เนนิ การทางวินยั ใหม่ฐานทจุ รติ ได้หรือไม่
อย่างไร
สรุปสัน้
๑. อาจเป็นได้
๒. ยกเลกิ ไมไ่ ด้

ขยายความ

๑. หากข้อเทจ็ จริงในการจดั ซอื้ จัดจ้างเป็นดงั่ คาํ ถาม พฤติกรรมยอ่ มครบองค์ประกอบความผดิ ตามข้อ
๓ วรรคสาม หลักเกณฑ์วนิ ยั ท่ใี ชใ้ นปี ๒๕๕๖ แต่กรรมการสอบสวน นายก อบต.และ ก.จงั หวดั เห็นวา่ เปน็
ความผดิ วินยั อยา่ งไมร่ า้ ยแรง เพราะเป็นเพยี งการไม่ปฏบิ ัตติ ามระเบียบ ตามข้อ ๖ วรรคหนึ่ง ซ่งึ ศาลปกครอง

เห็นตา่ งโดยมิใช่เปน็ ประเด็นสําคญั แหง่ คดี (ละเมดิ )
หลกั เกณฑแ์ ละเงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินยั ฯ ขอ้ ๘๘ วรรคหน่งึ กําหนดว่า ..."...เพอื่

ประโยชน์ในการกาํ กบั ดพู นักงานส่วนตาํ บลตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารงานบคุ คลส่วนทอ้ งถ่นิ พ.ศ.๒๕๔๒ กใ็ ห้

อนุวนิ ยั หรือ ก.จงั หวดั แลว้ แต่กรณี มอี าํ นาจกาํ หนดประเดน็ หรอื ขอ้ สําคญั ท่ตี อ้ งการทราบไปใหน้ ายก อบต.
เพื่อให้คณะกรรมการสอบสวนทแ่ี ตง่ ตงั้ ไว้เดิมทาํ การสอบสวนเพิ่มเตมิ ได้" ซึ่งเป็นกระบวนการ ขั้นตอนทางวนิ ยั
ท่ยี งั ไมเ่ สรจ็ สน้ิ ตา่ งจากกรณคี ําถามทีเ่ สรจ็ สนิ้ ไปแล้ว ส่วนขอ้ ๘๘ วรรคสี่ กําหนดวา่ "เมือ่ ความปรากฏแก่ ก.

กลางวา่ การดําเนินการทางวินยั ของนายก อบต.ใด หรือการพิจารณารายงานการดําเนินการทางวนิ ัยของ ก.
จงั หวดั แหง่ ใด ขดั แยง้ กบั มาตรฐานทั่วไปน้ี ต้องดําเนนิ การตามมาตรา ๑๙ วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบ
บรหิ ารงานบุคคลสว่ นท้องถิ่น พ.ศ.๒๕๔๒ ต่อไป" อนั เปน็ ขน้ั ตอนการใช้อาํ นาจของ ก.กลาง

จึงตอ้ งพิจารณาตาม พ.ร.บ.วิธปี ฏิบัตริ าชการทางปกครอง พ.ศ.๒๕๓๙ มาตรา ๕๔ (๑) ทีบ่ ญั ญัตวิ า่ "มี
พยานหลกั ฐานใหม่ อันอาจทาํ ใหข้ อ้ เทจ็ จรงิ ทฟ่ี งั เปน็ ยุติแล้วนน้ั เปล่ียนแปลงไปในสาระสาํ คญั " เพราะมอ่ื
พจิ ารณาจากคําพพิ ากษาศาลปกครองสงู สดุ ทว่ี า่ "ให้เรยี กคนื เงนิ จากผกู้ ระทําทจุ รติ " ซง่ึ เป็นคําพพิ ากษาในมลู

ละเมิด แตถ่ อ้ ยคาํ ดงั กล่าวมิใช่เป็นการวนิ จิ ฉัยประเดน็ สาํ คญั แหง่ คดี จะถอื ว่าเปน็ "พยานหลักฐานใหม"่ ท่ี
นายก อบต.หรือ ก.จังหวัดจะหยบิ ยกขน้ึ มาพจิ ารณาใหม่ไดห้ รอื ไม่ จากคาํ ตอบในขอ้ ๒. ควรหารอื ตอ่
คณะกรรมการวธิ ีปฏบิ ตั ทิ างปกครองว่า "กรณีดังกลา่ วถือเปน็ พยานหลกั ฐานใหมห่ รอื ไม"่ เพ่อื ดาํ เนินการตอ่ ไป

๒. การยกเลกิ คําส่ังแตง่ ตง้ั คณะกรรมการสอนทีไ่ ด้ออกไวแ้ ล้วเดิม ไมส่ ามารถทําได้ ด้วยเหตผุ ลดงั น้ี
(๑) "การดําเนินการทางวินยั ซ้ําทําไม่ได"้
๑) กรณีเป็นเรื่องเดียวกัน

๒) เม่ือนายกฯ ไดแ้ ต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนไว้แล้ว
๓) จะออกคําสง่ั แต่งตงั้ คณะกรรมการสอบสวนในเรอื่ งน้ันอีกไม่ได้
๔) เพราะเป็นการดาํ เนนิ การทางวินัยซํ้า

รวบรวมโดย นติ ิกรพร หนา้ 88

คาํ ถาม-ตอบวินัย ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวิทย์ เปรื่องการ รวบรวมโดยนิติกรพร เทศบาลตาํ บลบะหวา้ จังหวดั สกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

๕) ตอ้ งยกเลิกคําสงั่ หลัง
ตามหนังสือสํานกั งาน ก.พ.ท่ี นร ๐๗๐๙.๒/ล ๔๗ ลง ๑๙ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๓๖
(๒) คาํ สง่ั แตง่ ตงั้ คณะกรรมการสอบสวนเมอ่ื ออกแลว้ จะยกเลิกมิได้
ตามมาตรฐานท่ัวไปเกยี่ วกบั วนิ ัยและการรกั ษาวนิ ยั และการดาํ เนนิ การทางวนิ ัย ลง ๒๒ สงิ หาคม
๒๕๔๔ ขอ้ ๓๑ วรรคสี่
(๓) การท่ี ก.จงั หวัดพจิ ารณารายงานการดาํ เนนิ การทางวินัยทนี่ ายก อบต.ได้ดาํ เนินการทางวินยั
อย่างไม่ร้ายแรงแลว้ เห็นวา่ เปน็ วินยั อยา่ งร้ายแรง ตอ้ งดําเนนิ การ ดงั น้ี

๑) มมี ติใหแ้ ตง่ ตงั้ คณะกรรมการสอบสวนวนิ ัยอยา่ งรา้ ยแรงข้ึนมาใหม่
๒) กระบวนการดําเนนิ การทางวนิ ัยยอ่ มถอื เปน็ การเร่มิ ต้นใหม่
๓) แต่ยงั ไม่ต้องออกเลิกคําสงั่ ลงโทษวนิ ัยอย่างไมร่ า้ ยแรงเดิม
เทยี บเคยี งหนงั สือสาํ นกั งาน ก.พ.ท่ี นร ๐๗๐๙.๒/ป ๗๙๐ ลง ๑๐ พฤศจกิ ายน ๒๕๓๘
เม่ือพจิ ารณาหลกั การขา้ งต้นแล้วจะเห็นว่า ไม่อาจยกเลกิ คําสง่ั แตง่ ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเดิมได้

ขอ้ แนะนาํ

จากขอ้ กําหนดและแนวทางข้างตน้ ควรดําเนนิ การ ดังนี้
๑. หารอื ตอ่ คณะกรรมการวิธปี ฏิบัติราชการทางปกครองตามมาตรา ๕๔ (๑) ว่า ถ้อยคําทร่ี ะบใุ นคํา
พิพากษาศาลปกครองสงู สุดในมลู ละเมิดท่วี า่ "ใหเ้ รยี กคืนเงนิ จากผกู้ ระทาํ ทจุ ริต" ถือวา่ เป็นพยานหลกั ฐานใหม่

อนั อาจทําให้ขอ้ เทจ็ จริงที่ฟงั เปน็ ยุติในมลู วินยั แลว้ นนั้ เปล่ยี นแปลงไปในสาระสําคัญ หรือไม่
๒. หากไดร้ ับคําตอบวา่ เป็นพยานหลักฐานใหม่ ก.จงั หวัดอาจใชอ้ าํ นาจตามหลักเกณฑ์วนิ ยั ขอ้ ๘๗

วรรคสี่ ประกอบขอ้ ๘๘ วรรคหนง่ึ โดยมมี ติใหน้ ายก อบต.ดาํ เนนิ การทางวินยั กรณีดังกล่าวตาม

พยานหลกั ฐานใหม่น้นั หรืออาจดาํ เนินการตามข้อ ๘๘ วรรคสี่ แล้วแต่กรณกี ไ็ ด้
ขอ้ สงั เกต
เรื่องนหี้ ากไมม่ ีการฟอู งคดีตอ่ ศาลปกครอง คงจะไมเ่ กดิ ประเด็น

คําถามยากมาก หลายทา่ นจงึ ชอบทจ่ี ะรอฟงั ..!!
ขอบคณุ ครับ

********************

คําถาม ๒๖/๑๑/๖๑
รบกวนสอบถามอกี ครงั้ ครับ!!!
กรณี นายก.อบต. มคี ําสัง่ ไล่ ปลดั A ออกจากราชการ ตอ่ มาปลดั A อทุ ธรณค์ าํ สงั่ ต่อ ก.อบต.จงั หวัด ซึง่ ก.

อบต.จงั หวดั ได้ประชุมโดยใหอ้ นุฯ พจิ ารณาอทุ ธรณ์ฯ ทําความเหน็ โดยอนุฯ มีความเหน็ ว่าควรไล่ออกตาม
คาํ สั่งเดมิ ก.อบต.จงั หวัด จงึ มมี ติ ยกอุทธรณ์ เมอ่ื ปลัด A ทราบว่า ก. อบต.จงั หวดั ยกอทุ ธรณ์ จากนนั่ ไมน่ าน
ปลดั A มหี นงั สอื ถึง ก.อบต.จงั หวัด ทบทวนมตยิ กอุทธรณข์ องตน.... ต่อมาในการประชุมของ ก.อบต.จังหวัด

ไดม้ ีการหยบิ ยกเร่อื งขอทบทวนมติ ของปลดั A เขา้ ท่ีประชมุ ท่ีประชมุ เห็นควรรบั เรือ่ งเข้าวาระและพิจารณา
โดยที่ประชุมมีความเห็นพรอ้ มมมี ติว่า สมควรเพิกถอนคําสง่ั ไลอ่ อกปลดั A เปน็ ปลดออกจากราชการแทน.....
ดงั นี้ จึงอยากทราบว่า การพจิ ารณาทบทวนมติของ ก.อบต.จงั หวัดชอบหรอื ไม่ และการยกเลิกคําส่ังจากไล่

ออกเป็นปลดออก ชอบหรอื ไม่
**เนือ่ งจากในหลักเกณฑข์ อง ก.อบต. กาํ หนดไวว้ ่า คาํ วินจิ ฉยั อทุ ธรณ์ของ ก.อบต.เปน็ ทสี่ ดุ จะอุทธรณ์ต่อมไิ ด้
ตอบ

รวบรวมโดย นิติกรพร หนา้ 89

คาํ ถาม-ตอบวนิ ยั ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวทิ ย์ เปร่ืองการ รวบรวมโดยนติ ิกรพร เทศบาลตําบลบะหวา้ จังหวดั สกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

มีกฎหมายและหลกั เกณฑท์ เี่ ก่ยี วขอ้ ง ๓ ฉบบั ไดแ้ ก่
๑. พ.ร.บ.วธิ ปี ฏิบตั ริ าชการทางปกครอง พ.ศ.๒๕๓๙

(๑) มาตรา ๓ วรรคหนงึ่ "วธิ ีปฏบิ ตั ิราชการทางปกครองตามกฎหมายตา่ ง ๆ ให้เป็นไปตามที่
กาํ หนดในพระราชบญั ญัตนิ ้ี เวน้ แต่ในกรณีทก่ี ฎหมายใดกาํ หนดวธิ ีปฏิบัติราชการทางปกครองเร่ืองใดไว้
โดยเฉพาะและมหี ลักเกณฑ์ทปี่ ระกนั ความเปน็ ธรรม หรอื มมี าตรฐานในการปฏบิ ตั ริ าชการไมต่ ่ํากว่าหลักเกณฑ์
ทีก่ ําหนดในพระราชบญั ญัตนิ "ี้

(๒) มาตรา ๕๔ "เมือ่ คู่กรณีมีคําขอ เจา้ หนา้ ที่อาจเพกิ ถอนหรอื แกไ้ ขเพม่ิ เติมคําสัง่ ทางปกครองท่ี
พ้นกําหนดอทุ ธรณ์ตามสว่ นท่ี ๕ ได้ในกรณีดังต่อไปน้ี

๑) มีพยานหลกั ฐานใหม่ อันอาจทําให้ข้อเท็จจรงิ ที่ฟงั เปน็ ยตุ ิแลว้ น้ันเปลยี่ นแปลงไปใน
สาระสําคัญ"

๒. หลกั เกณฑ์และเงือ่ นไขในการอทุ ธรณแ์ ละการรอ้ งทกุ ข์ (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙)
(๑) ข้อ ๙ วรรคสอง "คาํ วนิ จิ ฉัยอทุ ธรณ์ของ ก.อบต.จงั หวัดตามวรรคหนง่ึ ใหเ้ ป็นทสี่ ุด"
(๒) ข้อ ๒๓ "เม่อื ก.อบต.จงั หวัดไดม้ ีมติแลว้ ใหน้ ายก อบต.สง่ั หรือปฏบิ ตั ิให้เปน็ ไปตามมตนิ น้ั

และเมอ่ื ไดส้ ่ังหรอื ปฏิบตั ิตามมติดงั กล่าวแลว้ ให้แจ้งผู้อทุ ธรณ์ทราบเปน็ หนังสอื โดยเร็ว"
(๓) ข้อ ๒๔ "ในกรณนี ายก อบต.สง่ั หรอื ปฏบิ ัตติ ามมตแิ ลว้ ผอู้ ทุ ธรณ์จะอทุ ธรณ์ต่อไปอกี มิได"้
(๔) ข้อ ๓๓ วรรคสอง "การพจิ ารณาของ ก.อบต.จงั หวดั ทมี่ ิไดก้ าํ หนดไวใ้ นมาตรฐานทั่วไปน้ี ให้

นาํ มาตรฐานท่วั ไปเก่ยี วกับวินัยและการรกั ษาวินยั และการดาํ เนินการทางวินยั พ.ศ.๒๕๕๘ มาใช้บังคบั โดย
อนโุ ลม"

๓. หลกั เกณฑแ์ ละเงอ่ื นไขในการสอบสวน การลงโทษทางวนิ ัย (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙)
(๑) ข้อ ๘๗ วรรคสี่ "เมอ่ื ก.อบต.จงั หวดั พจิ ารณาเห็นวา่ การลงโทษ หรอื งดโทษ หรอื การสงั่ ยุติ

เรือ่ ง ตามวรรคหนึง่ เป็นการไมถ่ กู ตอ้ ง หรือไมเ่ หมาะสม หรอื มมี ติเปน็ ประการใด ใหน้ ายก อบต.สั่งหรอื ปฏบิ ัติ
ใหเ้ ป็นไปตามน้ัน"

ประเดน็ คําถาม
การอทุ ธรณด์ ังกลา่ วถือว่ามกี ฎกําหนดไวโ้ ดยเฉพาะแล้ว ตามมาตรา ๓ วรรคหนึง่ แหง่ พ.ร.บ.วิธี
ปฏบิ ตั ริ าชการทางปกครอง พ.ศ.๒๕๓๙ จงึ จําตอ้ งใช้หลกั เกณฑ์ในการอุทธรณเ์ ป็นแนวทางพจิ ารณา ซึง่
หลักเกณฑก์ ารอทุ ธรณ์ ขอ้ ๙ วรรคสอง กําหนดไวว้ ่า "คาํ วินจิ ฉยั อุทธรณ์ของ ก.อบต.จังหวดั ..ใหถ้ อื เป็นทสี่ ุด"
หมายถึง ไม่สามารถดาํ เนินการใด ๆ ในทางบริหารได้อีก นอกเสียจากฟอู งเป็นคดีตอ่ ศาล
การที่ ก.อบต.จังหวดั พจิ ารณาอทุ ธรณ์และมีมติเสรจ็ เดด็ ขาดไปแล้ว จึงเป็นท่สี ดุ ทปี่ ลัด A ไม่สามารถ
ใช้สทิ ธิอุทธรณ์ในทางบรหิ ารได้อกี หาไม่แล้วจะมกี ารอุทธรณ์ซาํ้ แลว้ ซ้าํ เลา่ เมอ่ื ไมพ่ อใจมตอิ ุทธรณ)์ หรือจะว่า
ก.อบต.จงั หวดั พิจารณาโดยผิดหลงหรือพจิ ารณาโดย "มพี ยานหลกั ฐานใหม่" ตามมาตรา ๕๔ (๑) กไ็ ม่ปรากฏ
ข้อเทจ็ จรงิ ในคาํ ถาม เม่ือ ก.อบต.จังหวัดวินจิ ฉยั อุทธรณ์เป็นที่สุดแลว้ ถ้าปลัด A ไม่พอใจคาํ วนิ จิ ฉัย ชอบที่จะ
นําคดีขนึ้ สูศ่ าล หาใช่ขอให้ ก.อบต.จงั หวดั ทบทวนไม่ (หากมีข้อมลู เพยี งว่า "ขอใหท้ บทวน" โดยไม่มสี ิ่งใด
เพมิ่ เตมิ ) เพราะหลักเกณฑม์ ไิ ด้กาํ หนดไว้
ดงั นัน้ การขอให้ ก.อบต.จงั หวดั พิจารณา "ทบทวน" มตทิ ีว่ นิ จิ ฉยั อุทธรณ์เปน็ ทสี่ ุดแล้ว จึงไมช่ อบด้วย
ข้อ ๒๔ ของหลักเกณฑ์และเงอื่ นไขในการอทุ ธรณ์ และการรอ้ งทกุ ข์ (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙)

แต่อยา่ งไรก็ตาม ควรมขี อ้ มูลเพมิ่ เติม ดงั นี้
(๑) ก.อบต.จังหวดั พจิ ารณาอทุ ธรณ์ผิดพลาดคลาดเคล่อื นหรอื ไม่ อย่างไร

รวบรวมโดย นิตกิ รพร หน้า 90

คาํ ถาม-ตอบวนิ ัย ปี 2561 โดยอาจารย์ประวิทย์ เปร่ืองการ รวบรวมโดยนติ กิ รพร เทศบาลตาํ บลบะหวา้ จงั หวดั สกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

(๒) ปลัด A มพี ยานหลักฐานใหม่ หรอื ไม่ อย่างไร
(๓) เพราะเหตุใด ก.อบต.จงั หวัด จงึ พิจารณาอทุ ธรณ์ถงึ ๒ ครั้งในเรือ่ งเดียวกัน อาศัยอาํ นาจตาม
กฎหมายใด ซ่ึงไมเ่ ปน็ ไปตามหลกั เกณฑ์ฯ ทีก่ าํ หนด

ขอ้ แนะนํา

ควรหารือเพอ่ื วางแนวทางปฏิบตั ิต่อไป
ขอบคณุ ทกุ ความเห็นครับ

**********************

คําถาม ๒๘/๑๑/๖๑
ผอ.กองคลงั อบต.แหง่ หนงึ่ ส่งั จา่ ยเชค็ ไม่ขีดคล่อม ไมฆ่ า่ ผูถ้ อื ส่ังจา่ ยการไฟฟาู ส่วนภมู ภิ าค. และเอาเชค็ ไป
ถอนเงินเอง ตนเองเอาเงนิ คา่ ไฟฟูาท่ถี อนไปให้นายก มี ผอ. กองชา่ งเปน็ พยาน ตอ่ มาการไฟฟูาทวงถามค่า

ไฟฟูา นายกตงั้ กรรมการสอบวินยั ผอ. กองคลังชแ้ี จงวา่ นายกสัง่ ไม่ให้ขดี คลอ่ มเพราะนายกรบั เหมา และเอา
เช็คไปเบกิ เองทุกครง้ั แตค่ ร้งั น้ีเบกิ ค่าไฟฟูานายกไม่เอาไปจา่ ยไฟฟูา ใหจ้ นกระทงั่ กรรมการ สอบวินัยมมี ติไห้
ไล่ออก

ขอ้ สังเกต กรรทการสอบวนิ ัยเป็นเพอื่ นกบั ลูกชายนายก
ตอนนเ้ี รื่องอยูอ่ นุวินัย. เราจะชว่ ย ผอ. กองคลงั คนน้อี ย่างไรดีครบั ใหส้ อบเพมิ่ เตมิ มั้ยครบั
ตอบ

พฤติกรรมความเกรงใจโดยละเลยระเบียบ เปน็ ปัญหาสําคญั ของทอ้ งถ่นิ เรา เขา้ ทํานอง "เอน็ ดเู ขา เอน็
เราขาด" ผอ.กองคลงั ทา่ นนเ้ี ปน็ อทุ าหรณ์ไดอ้ ย่างดี และแบบน้ยี งั มีอกี มาก !!

เราคดิ จะช่วยเขา แตเ่ ขาไม่คิดชว่ ยตัวเอง มันก็ลาํ บากด่งั ทก่ี ําลังเปน็ อันดบั แรกต้องมนั่ ใจกอ่ นว่า เรือ่ ง

น้ไี มไ่ ป ป.ป.ช.มิฉะนนั้ "ตายยกเข่ง" แนน่ อน !! ขอตอบตามท่ีใหข้ อ้ มลู ..
ประเดน็
๑. ผอ.กองคลงั ออกเช็ค "ไมข่ ีดครอ่ ม" ไม่ขีดฆ่า "หรือผถู้ ือ" ผิดวินยั หรอื ไม่

๒. นายกฯ เปน็ ผู้ "กระทาํ ผดิ ร่วม" หรือไม่
๓. จะใหส้ อบเพ่มิ เติม ไดห้ รอื ไม่
สรปุ สัน้

๑. ผิดวินยั ฐานไมป่ ฏบิ ตั ิหน้าที่ตามระเบยี บ
๒. เป็น..แน่นอน
๓. ให้สอบเพม่ิ เติมได้

ขยายความ
ตอบตามหลักเกณฑแ์ ละเงอื่ นไขในการสอบสวน การลงโทษทางวนิ ยั (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙) จะเรยี กสน้ั
ๆ ว่า "หลักเกณฑ์วนิ ัย"

๑. เมือ่ ระเบยี บในการออกเช็คกําหนดไว้ แต่ ผอ.กองคลงั ไม่ปฏบิ ัตติ าม จะด้วยเหตผุ ลใดก็แลว้ แต่ จงึ
ไม่อาจปฏเิ สธความรบั ผดิ ชอบได้ เปน็ การกระทําผดิ วินยั ตามหลกั เกณฑ์วนิ ัยขอ้ ๑๐ วรรคสอง หากเสยี หาย
อย่างร้ายแรง (พฤติกรรมตามเลา่ อาจเข้าฐานทุจริต ข้อ ๗ วรรคสาม ไดด้ ว้ ย)

๒. ถา้ ข้อเทจ็ จริงเปน็ ดง่ั ทเี่ ลา่ มา จะมปี ระเดน็ เกดิ ขน้ึ อีกมากมาย คอื
(๑) เรอ่ื งนี้นายกฯ แต่งตงั้ กรรมการสอบสวนวนิ ยั ไดอ้ ยา่ งไร กลัน่ แกล้งกันหรอื ไม่
(๒) มีการสอบข้อเทจ็ จรงิ หรอื ไม่ อย่างไร โดยใคร

รวบรวมโดย นิตกิ รพร หนา้ 91

คําถาม-ตอบวินยั ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวิทย์ เปรื่องการ รวบรวมโดยนิตกิ รพร เทศบาลตาํ บลบะหวา้ จังหวัดสกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

(๓) นายกฯ แต่งตั้งกรรมการสอบสวนเอง หรอื ก.จังหวดั เลอื กกรรมการสอบสวนให้
(๔) หากนายกฯ แตง่ ต้ังกรรมการสอบสวนเอง จะเป็นการขัดข้อ ๔๙ วรรคส่ี หรอื ไม่ ถ้าขดั ..ผล
การสอบสวนทง้ั หมดจะเสยี ไปตามขอ้ ๗๙ ไมส่ ามารถฟงั ลงโทษ ผอ.กองคลังได้
(๕) การที่กรรมการสอบวินยั เป็นเพอื่ นกับลกู ชายนายกฯ ไม่ถือเปน็ "คูก่ รณี" ตามคาํ นยิ ามศัพท์
ขอ้ ๔ วรรคสาม ทว่ี ่า "มีเหตทุ ะเลาะววิ าท รอ้ งเรียน ฟูองรอ้ ง ซ่ึงกนั และกนั เปน็ คู่หม้นั คสู่ มรส บพุ การี
ผสู้ บื สนั ดานไมว่ า่ ช้นั ใด ๆ เปน็ พนี่ ้อง ลูกพลี่ ูกนอ้ ง นับได้เพยี ง ๓ ชั้น เปน็ ญาติเก่ียวพันทางแตง่ งานนบั ได้เพียง
๒ ช้นั เปน็ หรอื เคยเปน็ ผ้แู ทนโดยชอบธรรม ผ้พู ทิ ักษ์ ผ้แู ทน ตวั แทน เจา้ หนี้ ลูกหน้ี นายจ้าง ของคู่กรณี เปน็ ผู้
มีอํานาจพจิ ารณาซงึ่ มสี ภาพรา้ ยแรง" แตอ่ าจเปน็ เหตคุ ัดคา้ นกรรมการสอบสวน ตามขอ้ ๕๔ (๕) และ ผอ.กอง
คลงั ไดค้ ัดค้านกรรมการสอบสวนหรอื ไม่ ผลเป็นประการใด
ประเดน็ ข้างตน้ ต้องชัดเจน คาํ ตอบจงึ จะกระจ่างนาํ ไปสูก่ ารปฏิบัตทิ เี่ ปน็ รูปธรรมได้
๓. หากไมม่ ปี ัญหาตามประเด็นในข้อ ๒ ถอื ว่าสํานวนมาส่กู ารพิจารณาทําความเห็นเสนอของอนวุ ินัย
ตามขอ้ ๘๕ วรรคหนง่ึ อยา่ งถูกตอ้ ง เม่อื อนวุ นิ ยั พิจารณาแลว้ เหน็ ควรใหส้ อบสวนเพมิ่ เตมิ สามารถกาํ หนด
ประเด็นหรือข้อสําคัญไปให้คณะกรรมการสอบสวนชุดเดมิ สอบสวนเพ่ิมเตมิ ตามข้อ ๘๘ วรรคหนึง่ ได้ (ข้อ ๒
อาจเป็นส่วนหนง่ึ ของประเดน็ เพ่มิ เตมิ )
นายกฯ เป็นผู้
๑. รบั เหมาเอง
๒. ส่งั ไม่ให้ขดี คร่อมเชค็
๓. รับเงินไว้แล้วไมน่ ําไปจ่ายใหแ้ ก่ไฟฟูา โดยมี ผอ.กองชา่ งเป็นพยาน
ถามว่า ผู้กาํ กับดูแล (อําเภอ/จงั หวดั ) ได้ดาํ เนนิ การตามอาํ นาจหน้าทหี่ รอื ยัง ? เพราะเหตใุ ด ? ตอ้ ง
ระวงั หนว่ ยตรวจสอบใหจ้ งหนัก ทุกวันน.้ี .นงิ่ นอนใจไม่ได้เดด็ ขาด..เพราะมีตัวอยา่ งใหเ้ ห็นเป็นระยะ ๆ !!
หากผถู้ ามได้เพ่มิ เตมิ ข้อมลู ทีย่ งั ขาด จะเปน็ คณุ ปู การแกร่ ายอ่นื อกี มาก
ขอบคุณทกุ ความเห็น ครบั

*****************

คําถาม ๓๐/๑๑/๖๑
เรยี น ผอ.ประวทิ ยท์ ี่เคารพคะ สตง.ตรวจการจัดซ้ือปรากฏไมม่ วี สั ดุที่ซอ้ื แตป่ ลัด ท.(ขณะนนั้ ) พร้อม จนท.

พสั ดุ นําบัตรประจาํ ตวั ประชาชนผ้อู น่ื มาทําสัญญาผลสอบเจา้ ตัวยืนยนั ไมไ่ ดล้ งนามไม่ไดร้ บั เช็ค ปลดั คนใหม่
มาเป็นผู้ลงนามเช็คแต่ไมข่ ดี คลอ่ ม สรปุ วินยั ลงโทษปลัด ท.คนเดิม(ยา้ ยไปอยทู่ ่ีอ่ืน)ไล่ออก ต่อมามีผรู้ อ้ งเรียน
กรณนี ี้ ป.ป.ช.เหน็ ว่ากรณี นายก ท.ลงโทษปลัด ท.(คนใหมท่ ี่ไม่ขีดคลอ่ มเชค็ ) วา่ เปน็ ไมร่ า้ ยแรงว่ากลา่ ว
ตักเตอื นนน้ั ไม่เหมาะสม ให้ ก.ท.จ.พิจารณา คะ เลขาจะนาํ เสนอ ก.อย่างไรคะ
เฉพาะของปลัด กบั จนท.ท่ี ป.ป.ช ให้พจิ ารณาใหม่ คะ ตอ้ งแจง้ ยอ้ นกลบั ไปใหน้ ายกใหม่หรอื ไม่คะ

ตอบ
ปัญหาท่ีถามคือ หลงั จาก ก.จงั หวัดพจิ ารณารายงานการดําเนนิ การทางวินัยเสร็จส้นิ ไปแลว้ ป.ป.ช.มี

หนังสอื ทกั ทว้ งในเร่อื งเดียวกันว่า การลงโทษไมถ่ กู ตอ้ ง ไมเ่ หมาะสม ฝุายเลขานกุ าร ก.จงั หวดั ต้องเสนอเรอื่ ง
กลบั ไปใหน้ ายกฯ พิจารณาใหม่ ถกู ตอ้ งหรือไม่

สงิ่ ทีไ่ มพ่ บข้อมลู คือ

รวบรวมโดย นิตกิ รพร หนา้ 92

คําถาม-ตอบวนิ ัย ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวิทย์ เปรื่องการ รวบรวมโดยนิตกิ รพร เทศบาลตําบลบะหว้า จังหวัดสกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

๑. ป.ป.ช.มหี นังสอื แจง้ มาทใ่ี คร ระหว่าง ผวจ./ประธาน ก.จงั หวัด/นายกฯ และใช้อํานาจตามมาตรา
ใดในกฎหมาย ป.ป.ช. และฉบับเดิมหรือฉบบั ใหม่

๒. การว่ากล่าวตักเตอื นไมถ่ อื เปน็ โทษทางวินัย ในหนงั สอื ป.ป.ช.ใช้ถอ้ ยคําเช่นไร หากใชค้ าํ วา่
"ลงโทษเปน็ วนิ ัยไมร่ า้ ยแรงโดยว่ากล่าวตกั เตอื นน้ันไมเ่ หมาะสม" น่าจะไมถ่ กู ต้อง เพราะการวา่ กลา่ วตกั เตอื น
เปน็ หนงั สอื ไม่ใช่การลงโทษทางวินยั เน่ืองจากโทษทางวินัย มีเพยี ง ๕ สถานเท่านัน้ คอื ภาคทัณฑ์ ตัด
เงินเดือน ลดขนั้ เงินเดือน ปลดออก และไล่ออกจากราชการ ส่วนการว่ากล่าวตักเตอื น เป็นกรณกี ระทําผดิ วนิ ัย
เล็กนอ้ ย ควรลงโทษภาคทัณฑ์ แต่มเี หตอุ ันควรงดโทษ จงึ งดโทษภาคทณั ฑ์ และให้ว่ากล่าวตกั เตือนเปน็
หนังสือก็ได้ ตามหลกั เกณฑว์ ินัย ข้อ ๘๔ วรรคหนึ่ง และวรรคสอง

ประเดน็
ขอสรปุ คําถามวา่ ถา้ เป็นกรณี ป.ป.ช.มหี นังสอื แจง้ มายงั ประธาน ก.จงั หวดั ตามพระราชบญั ญัติ
ประกอบรฐั ธรรมนญู วา่ ดว้ ยการปอู งกนั และปราบปรามการทุจริต พ.ศ.๒๕๖๑ มาตรา ๑๐๐ วรรคสอง ก.
จงั หวัดตอ้ งพิจารณาดําเนนิ การตามหน้าทแี่ ละอาํ นาจให้ถกู ต้องเหมาะสมตอ่ ไป
เพราะฉะน้นั ฝุายเลขานกุ าร ก.จังหวัด จึงต้องจัดทาํ วาระการประชมุ เสนอ ก.จงั หวดั ตามปกติ โดยอา้ ง
อาศยั อํานาจตามกฎหมายและระเบียบ ดังน้ี
๑. พ.ร.ป.วา่ ด้วยการปอู งกนั และปราบปรามการทจุ ริต พ.ศ.๒๕๖๑ มาตรา ๑๐๐ วรรคสอง ดังกล่าว
ขา้ งต้น
๒. หลักเกณฑ์และเง่ือนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย (พ.ศ.ตามท่ี ก.จงั หวัดประกาศ) ขอ้ ๘๗
วรรคส่ี ที่กําหนดวา่ "เมือ่ ก.จังหวัดพิจารณาเห็นวา่ การ..งดโทษ..เปน็ การไม่ถกู ตอ้ ง หรือไมเ่ หมาะสม และมีมติ
เปน็ ประการใด ใหน้ ายกฯ สั่งหรอื ปฏิบตั ิใหเ้ ปน็ ไปตามนน้ั "
ซง่ึ เปน็ กรณีที่ ก.จงั หวดั ใช้อาํ นาจตามกฎหมาย ป.ป.ช.หาใชเ่ ปน็ การใช้อาํ นาจตามหลกั เกณฑว์ ินยั ทไ่ี ด้
เสร็จส้ินไปแลว้ โดยตรงไม่
ดังนัน้ ฝาุ ยเลขานกุ าร ก.จังหวัด จึงไมจ่ าํ ตอ้ งยอ้ นหนงั สือ ป.ป.ช.กลับไปให้นายกฯ ดําเนนิ การใหม่
เพราะจะเปน็ การดําเนนิ การทางวินัยซํ้า ทาํ ไมไ่ ด้ ตามหนงั สอื สํานกั งาน ก.พ.ท่ี นร ๐๗๐๙.๒/ล ๒๔ ลงวันท่ี
๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๗ โดย ก.จงั หวดั สามารถมมี ติ
๑. ใหล้ งโทษเป็นวินัยอย่างไม่รา้ ยแรงได้ (หรือลงโทษเป็นวินยั อยา่ งร้ายแรงก็ได้ ถา้ กรณนี ีม้ ีการแตง่ ตงั้
กรรมการสอบสวนวินยั อยา่ งรา้ ยแรงมาแตต่ น้ ) แลว้ แจง้ ให้นายกฯ ส่งั หรอื ปฏิบตั ติ ามมติ ก.จังหวัด กอ่ นสง่
สาํ เนาคําสง่ั ให้ ป.ป.ช.ตามขอ
๒. ยนื ตามมตคิ รงั้ กอ่ นกไ็ ด้ หากมเี หตผุ ลและคาํ อธบิ ายท่สี ามารถรบั ฟงั ได้ แลว้ แจ้งผลการพจิ ารณาไป
ยงั ป.ป.ช.ตามขอ
สําหรับท่านผูเ้ ป็นเจ้าของคาํ ถาม หากตอ้ งการความชัดเจนมากกว่าน้ี ขอไดเ้ พิ่มเตมิ ข้อมลู ตามข้างต้น
และใหห้ มายรวมถงึ คําถามต่อ ๆ ไปของท่านอ่นื ๆ โดยไม่ตอ้ งระบขุ ้อมลู วา่ เปน็ ใคร ตาํ แหน่งใด อยู่ท่ีไหน
เพราะไมเ่ กิดผลดใี นภาพรวม
ขอบคณุ ครับ

*************

รวบรวมโดย นิติกรพร หนา้ 93

คาํ ถาม-ตอบวินยั ปี 2561 โดยอาจารย์ประวิทย์ เปรือ่ งการ รวบรวมโดยนติ ิกรพร เทศบาลตําบลบะหวา้ จังหวดั สกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

คาํ ถาม ๓/๑๒/๖๑
เรยี น อ.ประวิทย์ ทเ่ี คารพ
อาจารย์ครบั คําถามตอ่ เนอื่ งจากทเี่ คยโทรปรกึ ษาเรอ่ื งคู่ขัดแย้งกับคกู่ รณี ตามประกาศ กทจ.เรอ่ื ง หลกั เกณฑ์
และเง่ือนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย การใหอ้ อกจากราชการ การอทุ ธรณ์ และการรอ้ งทุกข์ พ.ศ.
๒๕๕๘ ข้อ ๔๙
คณะกรรมการสอบสวนทางวินยั ฯ พิจารณาแล้ว น่าเชื่อว่าการแต่งต้งั คณะกรรมการสอบสวนฯ ของ
นายกเทศมนตรี กระทบสทิ ธิตอ่ ผถู้ ูกกลา่ วหา เนอื่ งจากนายกเทศมนตรี อยใู่ นสถานะเป็นค่ขู ัดแยง้ จงึ มีมตเิ ห็น
ควรยกเลกิ คาํ ส่ังแตง่ ตง้ั คณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างรา้ ยแรง และนายกเทศมนตรี ได้เหน็ ชอบใหย้ กเลกิ
แตย่ ังไม่ไดเ้ ซ็นคาํ สงั่ ยกเลกิ ตามคณะกรรมการเสนอ โดยไม่รอหนงั สอื สอบถามทที่ าํ ไปสอบถาม กทจ.เร่ืองคู่
ขดั แยง้ กบั คูก่ รณ(ี ได้รับแจง้ จากฝุายเลขา กทจ.วา่ จะไมต่ อบหนงั สือ) ในกรณีน้ี สามารถทําคาํ สัง่ ยกเลกิ คําสัง่
เลยได้ไหมครบั แลว้ สง่ สาํ นวนสอบขอ้ เท็จจรงิ ไปต้นสงั กัดใหมเ่ พือ่ ดําเนนิ การต่อไป
ปล.ถา้ อาจารยอ์ นญุ าต ขอโทรศัพท์เพอ่ื ขอคาํ แนะนาํ ครบั
ตอบ

เปน็ เรื่อง "ค่กู รณ"ี
หลกั เกณฑ์วินัยทจ่ี ะใช้ตอบคาํ ถาม คือ
ข้อ ๔ วรรคสาม
ขอ้ ๒๔ วรรคห้า
ข้อ ๒๖ วรรคหก
ข้อ ๔๙ วรรคสี่
ขอ้ ๗๖ วรรคสาม และ
ข้อ ๗๖ วรรคส่ี (ขอ้ ๓๑ ว.๔ เดมิ )
ประเดน็
๑. ขณะทําการสอบสวน คณะกรรมการสอบสวนเหน็ วา่ นายกฯ "เปน็ คูก่ รณกี บั ผ้ถู กู กลา่ วหา" จะเสนอ
ใหน้ ายกฯ ยกเลกิ คําสงั่ แตง่ ตง้ั กรรมการสอบสวนท่ตี นเองเปน็ คณะกรรมการนน้ั เสยี ไดห้ รือไม่ อยา่ งไร
๒. เมือ่ นายกฯ หารือประเดน็ ดงั กลา่ วไปยัง ก.จงั หวดั แลว้ นายกฯ จะออกคาํ สงั่ ยกเลิกคาํ ส่งั แต่งตงั้
กรรมการสอบสวนก่อนรบั หนังสอื ตอบขอ้ หารือไดห้ รือไม่ อย่างไร
สรปุ
๑. ได้..แตต่ อ้ งสอบสวนตอ่ ไป เพราะไมม่ ขี อ้ กาํ หนดให้ยุตหิ รอื ชะลอการสอบสวน
๒. ไม่ได้..ตอ้ งรอหนังสอื ตอบขอ้ หารือจาก ก.จงั หวัดเสยี กอ่ น

ขยายความ
๑. หลกั เกณฑ์และเง่ือนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินยั (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙ ตามปีท่ี ก.
จังหวดั ประกาศ) กําหนดวา่ ..เมื่อปรากฏกรณมี มี ลู ท่คี วรกล่าวหาวา่ ผ้ใู ดกระทาํ ผดิ วนิ ยั โดยมพี ยานหลกั ฐานใน
เบอ้ื งตน้ อยู่แล้ว ให้นายกฯ ดําเนนิ การทางวนิ ยั ทนั ที (ข้อ ๒๔ ว.๕) ถ้าเป็นกรณกี ลา่ วหาว่ากระทําผิดวนิ ัยอย่าง
รา้ ยแรง ให้นายกฯ สงั่ แต่งตง้ั คณะกรรมการข้นึ ทําการสอบสวนตามหมวด ๗ (ขอ้ ๒๖ ว.๖) เมือ่ คณะกรรมการ
สอบสวนไดท้ าํ รายงานการสอบสวนแล้ว ให้เสนอสํานวนการสอบสวน พรอ้ มทง้ั สารบาญตอ่ นายกฯ และให้ถือ
ว่าการสอบสวนแลว้ เสร็จ (ขอ้ ๗๖ ว.๓) อนั เป็นการดําเนินการทางวนิ ัยตามปกติ

รวบรวมโดย นิติกรพร หนา้ 94

คําถาม-ตอบวนิ ัย ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวทิ ย์ เปร่อื งการ รวบรวมโดยนติ ิกรพร เทศบาลตาํ บลบะหวา้ จงั หวดั สกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

สว่ นการดาํ เนินการทางวินยั ที่ไม่ปกติ คอื การท่นี ายกฯ "เป็นคู่กรณีกบั ผู้ถกู กลา่ วหา หรอื ถูกกลา่ วหา
ว่ากระทําผิดร่วมกบั ผ้ถู กู กล่าวหา" ซงึ่ คาํ วา่ "เปน็ คูก่ รณ"ี นั้น หมายถึง เปน็ บคุ คลผมู้ ีเหตุทะเลาะววิ าท
รอ้ งเรียน ฟอู งรอ้ ง ซงึ่ กนั และกัน..หรอื เปน็ ผู้มอี ํานาจพิจารณาซง่ึ มสี ภาพร้ายแรงอนั อาจทําใหก้ ารพจิ ารณาไม่
เปน็ ธรรม (ข้อ ๔ วรรค ๓) เม่ือความปรากฏแก่ ก.จงั หวัดว่านายกฯ เป็นคู่กรณกี บั ผู้ถกู กลา่ วหา..ให้ ก.จงั หวัด
ตรวจสอบ หากพบว่าเปน็ ความจรงิ ให้แจง้ ขอความยินยอมจากตน้ สงั กดั แลว้ พจิ ารณาและมมี ตคิ ัดเลือก
คณะกรรมการสอบสวนเพอ่ื ให้นายกฯ ออกคาํ ส่งั แต่งตง้ั ตามมติ (ขอ้ ๔๙ ว.๔)

การตัดสนิ วา่ "เปน็ คกู่ รณี" กนั หรือไม่ ยอ่ มเปน็ อํานาจพิจารณาของ ก.จงั หวัดโดยแท้ (ถือเปน็ ที่สุด
ในทางบริหาร) ซ่งึ อาจทําได้ ๒ ขั้นตอน คอื

(๑) กอ่ นออกคาํ สง่ั แต่งต้ังคณะกรรมการสอบสวน ซง่ึ เป็นกรณถี กู กล่าวหา โดยมพี ยานหลกั ฐานใน
เบอ้ื งต้น

(๒) หลังออกคําสง่ั แตง่ ตง้ั คณะกรรมการสอบสวน เป็นกรณถี ูกแต่งตง้ั กรรมการสอบสวน
(หลกั เกณฑ์ใชค้ ําว่า ผู้ถกู กล่าวหา กรณนี ี้หมายถงึ ผนู้ ั้นตกอยู่ในฐานะเป็นผู้ถูกกลา่ วหาตามคาํ สง่ั แลว้ )

เพราะฉะนน้ั คําวา่ "ผู้ถกู กลา่ วหา" จงึ หมายถงึ ท้งั กอ่ นและหลังการแตง่ ตง้ั คณะกรรมการสอบสวน
ซงึ่ กรณตี ามคําถาม หลงั จากคณะกรรมการสอบสวน ไดท้ าํ การรวบรวมพยานหลักฐานไประยะหนึ่ง
แล้ว นา่ เช่ือว่า นายกฯ "เปน็ คู่กรณกี บั ผถู้ ูกกล่าวหา" จงึ ต้องรายงานนายกฯ ใหส้ ง่ เร่อื งไปให้..ความปรากฏแก่
ก.จังหวัดเพอื่ ทาํ การตรวจสอบ หาก ก.จงั หวัดตรวจสอบแลว้ พบว่าเป็นความจริง ให้ ก.จงั หวดั ดาํ เนนิ การ ดงั นี้

(๑) แจง้ ขอความยินยอมจากต้นสงั กัดของผ้จู ะถกู ยืมตัว (อาจมวี ิธเี ตรยี มการไว้แล้ว)
(๒) พิจารณาและมมี ติคดั เลือกรายชอื่ กรรมการ
(๓) มีมติให้ยกเลกิ คาํ สง่ั แต่งตง้ั คณะกรรมการสอบสวนเดมิ เสยี เนอ่ื งจากตามอํานาจเฉพาะของ
นายกฯ "เม่อื มกี ารแต่งตง้ั คณะกรรมการสอบสวนแล้ว จะยกเลิกมิได้" ตามหลกั เกณฑว์ ินยั พ.ศ.๒๕๔๔ ขอ้ ๓๑
วรรคเจด็ ตรงกบั หลักเกณฑ์วินัย พ.ศ.๒๕๕๘ ขอ้ ๗๖ วรรคสี่ ท่ีกําหนดวา่ "การแตง่ ตั้งคณะกรรมการขึน้ ทํา
การสอบสวนในเรื่องใดไปแล้ว จะแตง่ ต้งั คณะกรรมการสอบสวนในเร่ืองนัน้ อีกมไิ ด้ เวน้ แตก่ รณตี ามข้อ ๗๘
วรรคสอง" ซ่งึ ทงั้ ๒ ขอ้ จะมคี วามหมายนัยเดียวกัน
(๔) ส่งรายชอื่ ไปให้นายกฯ ออกคาํ สง่ั แตง่ ตงั้ ตามมติ โดย

๑) ใหน้ ายกฯ ออกคําสัง่ ยกเลกิ คําสั่งแต่งตงั้ คณะกรรมการสอบสวนคณะเดมิ ตามมติ ก.จงั หวัด
๒) ให้นายกฯ ออกคําสง่ั แตง่ ตงั้ คณะกรรมการสอบสวนคณะใหม่ ตามรายชื่อท่ี ก.จงั หวัดสง่ มา
ให้ (จะไม่ใช้คาํ วา่ "เปลีย่ นแปลงหรอื แก้ไขเพม่ิ เติมคําส่ัง" ตามข้อ ๕๖ เพราะเป็นการออกคาํ สั่งใหม)่
๒. ด้วยเหตผุ ลตามขอ้ ๑. เมื่อนายกฯ หารอื ประเดน็ ดังกลา่ วไปยัง ก.จงั หวัดแลว้ ตราบใดทีย่ งั ไม่ได้รบั
หนังสอื ตอบข้อหารอื กลบั มา นายกฯ จะออกคําสงั่ ยกเลิกคาํ สัง่ แตง่ ตงั้ กรรมการสอบสวนเดิมไมไ่ ด้ เพราะ ก.
จังหวัดอาจมมี ตวิ ่า "ไมเ่ ป็นคู่กรณี" กไ็ ด้ หากเป็นเชน่ นน้ั ผลการสอบสวนท่ีกระทํามา ยอ่ มเป็นอนั ใช้ได้
ดงั นน้ั สงิ่ ท่ีกรรมการคณะนีต้ อ้ งดําเนนิ การ คือ
(๑) สอบสวนตามหลกั เกณฑ์ปกติต่อไป จนกวา่ จะแล้วเสรจ็ เพราะระยะเวลาการสอบสวนยังคงนบั
อยอู่ ยา่ งต่อเนอ่ื ง
(๒) หาก ก.จงั หวัดมีมตวิ ่า "เป็นคู่กรณ"ี จริง คณะกรรมการสอบสวนคณะใหม่ทอ่ี าจแต่งตั้งขึน้ ยงั
สามารถใช้สํานวนการสอบสวนของคณะเดิมไป "ฟงั เปน็ ข้อเท็จจริง" ในสํานวนการสอบสวนของคณะใหม่ได้
ขอบคณุ ครบั

*********************

รวบรวมโดย นิตกิ รพร หน้า 95

คําถาม-ตอบวินัย ปี 2561 โดยอาจารย์ประวิทย์ เปรื่องการ รวบรวมโดยนิติกรพร เทศบาลตาํ บลบะหว้า จังหวัดสกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

คาํ ถาม ๗/๑๒/๖๑
กราบเรยี นทา่ นท่ีเคารพ
เมื่อ 15 ปีก่อนผมพบรกั กบั เพ่ือนนกั เรียนหญิงชัน้ ม.3 เรารกั กนั มากแต่ไมม่ ีอะไรเกินเลย เพราะเป็นความ

รกั ทบ่ี รสิ ทุ ธิ์ จากนัน้ ครอบครัวของเธอได้ย้ายไปอยูจ่ งั หวดั อนื่ กระทนั หันโดยทเ่ี ราไมม่ โี อกาสไดพ้ ดู คุยราํ่ ลาหรอื
ขอทอ่ี ย่กู ันเลยผมเสียใจมาก จากนนั้ มาผมไม่ไดส้ นใจหญงิ อนื่ อกี เลย และเรียน ม.ปลายทเี่ ดิม ได้เรยี นตอ่ จนจบ
ป.ตรี สอบเข้ารบั ราชการไดท้ ่ี อบต.แห่งหน่งึ ปจั จบุ นั โอนมาอยู่ อบต.แห่งใหม่ เหมือนสวรรค์เปน็ ใจใหผ้ มไดม้ า
พบเธอซง่ึ รบั ราชการอยทู่ ่นี ก่ี อ่ นแล้ว เราได้สานสมั พันธต์ ่อกนั ด้วยดเี หมือนเดิม

เรื่องมาเกิดเมอื่ วนั ที่ 22 พ.ย.61 ผมให้เธอน่งั ซอ้ นบคิ ไบคน์ นิ จาพาไปลอยกระทงในตวั เมือง และคนื นั้น
ทกุ อยา่ งกล็ งเอย ผมต้งั ใจจะให้ผูใ้ หญ่ไปสู่ขอเธอแต่งงานต้นปีหน้า

แตแ่ ล้วเหมือนสวรรคก์ ลัน่ แกลง้ เพราะเมอ่ื อาทิตย์กอ่ น มีชายคนหนึง่ ขบั รถมาหาเธอท่ีทาํ งานแล้วเกิดการ
ทะเลาะกนั ผมทราบภายหลงั ว่าเขาเปน็ แฟนของแฟนผม และรเู้ รอ่ื งทเี่ ราคบกัน เขาเขา้ ไปพบนายกฯ ให้เอา
เรือ่ งเรา 2 คน โดยกลา่ วหาว่า ผมแย่งเมียเขา และผมเป็นได้แค่ผวั น้อย ผมทราบเมื่อวานนว้ี ่าจะมกี ารตั้ง
หน.สป.ทมี่ ีปญั หารักสามเสา้ เหมอื นผมมาเปน็ กรรมการสอบ

แฟนผมบอกว่า เขาคบกนั เฉย ๆ และไดบ้ อกเลกิ ไปแลว้ แต่ผ้ชู ายไมย่ อม ผมเปน็ ห่วงแฟนและกงั วลวา่ เรา
2 คนจะเดือดรอ้ น จงึ ขอเรยี นถามท่านวา่

1. เราคบกันอยา่ งเปดิ เผยและจรงิ ใจ ผิดวนิ ัยฐานแย่งเมยี เขาไหม ถา้ ผดิ จะมีโทษถงึ ออกหรอื ไม่
2. เขาเพียงเล่าใหน้ ายกฯ ฟัง โดยไมไ่ ดท้ าํ หนงั สอื จะถอื ว่าเปน็ การรอ้ งเรยี นไหม และนายก จะดาํ เนินการ
ตอ่ ได้หรือไม่
3. นายกฯ จะตัง้ กรรมการสอบวนิ ยั ผมกบั แฟนทันที โดยไมส่ อบขอ้ เทจ็ จริง ได้หรอื ไม่
4. ผมจะคัดค้าน หน.สป.ทจี่ ะมาเป็นกรรมการสอบข้อเท็จจรงิ หรือสอบวนิ ัย ได้หรือไม่ และต้องทาํ
อย่างไร
ผมเล่ายาวไปหนอ่ ย เพราะกาํ ลงั รอ้ นใจ โปรดตอบด่วนดว้ ยเถดิ ทา่ น ขอบพระคณุ ล่วงหนา้ เปน็ อย่างสูงครบั
ตอบ

หลักเกณฑว์ นิ ัยทจ่ี ะใชต้ อบคาํ ถาม "กระทงหลงทาง" คือ
ข้อ ๒๓ วรรคหนง่ึ
ขอ้ ๒๔ วรรคสี่
ขอ้ ๒๔ วรรคหา้
ข้อ ๒๔ วรรคแปด
ขอ้ ๒๔ วรรคเกา้ และ
ข้อ ๕๔ (๕)
กอ่ นอน่ื ขอชืน่ ชมหวั ใจรกั ทห่ี นกั แน่นเดด็ เดยี่ ว..รกั เดยี วใจเดียว..ของผถู้ าม ในโลกใบน้จี ะเหลืออกี สกั ก่ี
ชายทไ่ี ด้รอมอบพรหมจารี (virgin) ใหห้ ญงิ หนงึ่ ในดวงใจโดยไมม่ องหญิงทว่ั ไปเป็นกําไรชีวติ ในชว่ งกระแส
สงั คมทกี่ ําลงั กลับตาลปัตร..!!
อา่ นคาํ ถามแล้วมองเหน็ ภาพชัดเจน ถ้าจรงิ ดงั ว่า ??
ประเด็น
๑. คบกนั อยา่ งเปิดเผยและจรงิ ใจ ผดิ วนิ ยั หรอื ไม่
๒. รอ้ งเรยี นดว้ ยวาจา สามารถทําไดห้ รอื ไม่
๓. ต้งั กรรมการสอบวนิ ัยโดยไม่สอบขอ้ เท็จจรงิ กอ่ น ได้หรอื ไม่

รวบรวมโดย นติ ิกรพร หนา้ 96

คําถาม-ตอบวนิ ัย ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวทิ ย์ เปร่อื งการ รวบรวมโดยนติ ิกรพร เทศบาลตาํ บลบะหว้า จังหวัดสกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

๔. คัดค้านกรรมการทม่ี พี ฤติกรรมคลา้ ยกนั ได้หรือไม่
สรปุ
๑. หญิงชายไร้พนั ธะจะคบหากันมนั ผิดตรงไหน วินยั ขอ้ ๒๓ วรรคหนงึ่ ฐานประพฤติชัว่ ไมอ่ าจทาํ
อะไรคุณทัง้ ๒ ได้เลย ถา้ ..ไม่มีขอ้ เท็จจรงิ อน่ื เพิม่ เตมิ
๒. ผรู้ อ้ งสามารถรอ้ งเรยี นกล่าวหาดว้ ยวาจาได้ ตามหลกั เกณฑว์ นิ ัยข้อ ๒๔ วรรคเก้า
๓. สอบวนิ ัยเลยทนั ทไี ด้ แต่ไมค่ วรทํา เพราะนายกฯ ไดร้ ับเพยี งคาํ บอกเล่า หาได้ประสบเหตุด้วย
ตนเองไม่ จงึ ควรสอบข้อเท็จจรงิ กอ่ น ตามขอ้ ๒๔ วรรคห้า
๔. คดั คา้ นได้..แต่คดั คา้ นทําไม ในเมอ่ื "หวั อกเดยี วกนั " จะเปน็ ประโยชน์มากกว่า มองอยา่ งไร กไ็ มเ่ ขา้
เหตุคัดค้านตามข้อ ๕๔ (๕)
ขยายความ
อยเู่ ปน็ โสดคนเดยี วไม่ขอ้ งเก่ยี วหญิงใด กระท่งั วัย ๓๐ อีกทัง้ ไมป่ รากฏพฤตกิ รรมเสียหายทางเพศ
(ตามเลา่ ) ถือวา่ มีวนิ ยั ด.ี .!!
ตามหลกั เกณฑแ์ ละเงอื่ นไขในการสอบสวน การลงโทษทางวนิ ัย (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๕๙ ตามท่ี ก.จงั หวัด
ประกาศ)
๑. ขา้ ราชการส่วนทอ้ งถิ่นมีพฤตกิ รรมวา่ กระทําผดิ วินัย หากนายกฯ จะสง่ั ลงโทษทางวนิ ยั
องคป์ ระกอบความผิดต้องครบในความผดิ ฐานนั้น ๆ ไม่เช่นน้ันท่านให้ลงโทษทางวนิ ัย "ฐานประพฤติช่วั " (ขอ้
๒๓ ว.๑) แต่ถา้ เสยี หายแกร่ าชการอย่างร้ายแรง เป็นความผดิ วนิ ัยอยา่ งร้ายแรง (ขอ้ ๒๓ ว.๒)
ทั้ง ๒ คน อายุอานามกข็ ึน้ เลข ๓ ซึง่ บรรลุนิตภิ าวะกนั แล้ว ไปเทย่ี วตามประสาคนรกั กนั เฉกเชน่ วิญญู
ชนพงึ กระทํา นอกเวลาราชการและเปน็ ความยินยอมพรอ้ มใจของทง้ั คู่ จะเป็นความผิดวนิ ัยตามขอ้ ๒๓ ได้
อย่างไร เว้นเสียแต่มกี ารใชก้ าํ ลงั ข่มเหง บงั คบั หรอื มีการแจง้ ความต่อพนักงานสอบสวนว่าผู้ถามกระทําผิด
กฎหมายอาญา..นั่นแหละ..ถึงจะซวย !?
๒. กอ่ น ๑ มกราคม ๒๕๕๙ หากมีใครสกั คนนาํ เรอื่ งทค่ี ดิ ว่าข้าราชการส่วนทอ้ งถ่ินกระทําผดิ วินยั ไป
เล่าหรอื ไประบายใหน้ ายกฯ ฟงั ยังไมม่ ีกฎบงั คบั ให้นายกฯ ตอ้ งดาํ เนนิ การใด ๆ จงึ มกั ขึน้ อยกู่ บั ดลุ พินจิ ของ
นายกฯ โดยแท้ วา่ จะดําเนนิ การหรือไม่ อย่างไร (ต้องใช้ดลุ พินิจโดยชอบ)
หลงั ๑ มกราคม ๒๕๕๙ หลักเกณฑ์วนิ ัย ได้บงั คบั วา่ "การกลา่ วหาตอ้ งกระทําเป็นหนังสอื ถ้าเป็นการ
กลา่ วหาด้วยวาจาใหผ้ ู้บงั คบั บญั ชาผ้ไู ดร้ บั ฟังการกล่าวหาจัดให้มกี ารทําบนั ทกึ เป็นหนงั สอื และใหผ้ ู้กลา่ วหาลง
ลายมือชือ่ ไวเ้ ปน็ หลกั ฐานเพอ่ื ดาํ เนนิ การตามวรรคห้า" (ขอ้ ๒๔ ว.๙) ทีก่ ําหนดว่า "เมื่อมกี ารกลา่ วหาโดย
ปรากฏตวั ผกู้ ล่าวหา..โดยยงั ไมม่ พี ยานหลักฐาน ให้นายกฯ รบี ดําเนินการสบื สวนหรือพจิ ารณาในเบ้ืองต้นว่า
กรณมี มี ลู ทค่ี วรกลา่ วหาว่าผูน้ ัน้ กระทําผดิ วนิ ยั หรอื ไม"่ (ขอ้ ๒๔ ว.๕)
๓. ไม่มีข้อกําหนดในหลกั เกณฑ์วนิ ยั วา่ การท่ีนายกฯ จะส่ังแตง่ ตงั้ กรรมการสอบสวนทางวินัยนน้ั ต้อง
สอบข้อเทจ็ จรงิ กอ่ นเสมอไป มเี พียงกําหนดวา่ "เม่อื ปรากฏกรณีมีมลู ที่ควรกลา่ วหาวา่ ผใู้ ดกระทําผิดวินยั โดยมี
พยานหลกั ฐานในเบอื้ งตน้ อยู่แลว้ ใหน้ ายกฯ ดําเนนิ การทางวินัยทันที" (ขอ้ ๒๔ ว.๔)
เพราะฉะนั้น เมือ่ นายกฯ มิได้เป็นผปู้ ระสบเหตดุ ว้ ยตนเอง จงึ ชอบทจี่ ะแสวงหามลู ดว้ ยการสอบ
ขอ้ เทจ็ จรงิ กอ่ น (ขอ้ ๒๔ ว.๕) โดยการแตง่ ตั้งกรรมการ

(๑) สืบสวนขอ้ เทจ็ จรงิ
(๒) สอบสวนขอ้ เทจ็ จรงิ
(๓) ตรวจสอบขอ้ เท็จจรงิ
(ข้อ ๒๔ ว.๘) ก็ได้

รวบรวมโดย นติ กิ รพร หนา้ 97

คําถาม-ตอบวินัย ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวิทย์ เปร่ืองการ รวบรวมโดยนติ กิ รพร เทศบาลตําบลบะหว้า จังหวดั สกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

เมื่อพบมลู ความผดิ แล้ว จึงแต่งตงั้ กรรมการสอบสวนวนิ ัย (ขอ้ ๒๔ ว.๔) ต่อไป
๔. หลักเกณฑว์ ินยั มิได้กาํ หนดการคัดคา้ นกรรมการสอบข้อเทจ็ จรงิ ไวแ้ ตอ่ ยา่ งใด เวน้ แต่การคัดคา้ น
กรรมการสอบสวนทางวนิ ยั ซึ่งตอ้ งอาศัยหลกั เกณฑ์วินยั ข้อ ๕๔ (๕) ทีก่ าํ หนดว่า "มีเหตอุ ื่นที่อาจทําใหก้ าร
สอบสวนเสียความเป็นธรรม" กรณีตามเลา่ ดูอยา่ งไรก็ไม่นา่ จะเข้าเหตทุ าํ ใหก้ ารสอบสวนเสยี ความเป็นธรรมได้
ประสบการณข์ องหัวหนา้ สาํ นักปลดั น่าจะเป็นคุณต่อผถู้ ามมากกวา่ โทษ จงึ มองไม่เห็นประโยชน์อนั ใดเลยท่ีจะ
คดั ค้าน ไม่ว่าในช้ันการสอบขอ้ เทจ็ จรงิ หรือแม้แตส่ อบวินยั
ขอบคณุ ครบั

*********************
คําถาม ๑๒/๑๒/๖๑

ขอเรียนถามค่ะ
หนูเป็นคนหน้าตาดี มน่ั ใจว่าเปน็ อย่างนน้ั คะ่ ไมช่ อบง้อใคร หนูรบั ราชการท่ีเทศบาล ต่อมาไดแ้ ตง่ งานจด
ทะเบียนกับหนุม่ หล่อทาํ งานเอกชนจนมีลกู สาว ปัจจบุ ันอายุ 4 ขวบกําลงั นา่ รกั
ปลายปีท่แี ลว้ สามหี นูไปติดพนั หญงิ อ่ืน หนบู อกใหเ้ ลกิ เขากร็ ับปาก แต่หนจู บั ไดว้ ่ายงั แอบคบกนั อยู่ หนู
โกรธมากชวนเขาไปหย่า เขากต็ ามใจหนู แลว้ เขากไ็ ปจดทะบยี นกบั ผูห้ ญิงคนนนั้ หนอู ยกู่ บั ลูกสาวเพยี ง 2 คน
มาเกือบปี กระทงั่ เมอ่ื 4 เดอื นทแ่ี ลว้ แฟนมาเย่ียมลูกทกุ วันหยุด พาลูกไปเทีย่ ว ไปกินโนน่ น่ีน่นั แล้วกก็ ลบั พอ
นานเขา้ ก็ขอนอนกบั ลูกสาว (บอกลูกสาวรบเร้า) หนกู ป็ ลอ่ ย เพราะสงสารลกู
แต่เมอ่ื อาทิตย์ทีแ่ ลว้ แฟนใหม่ทจี่ ดทะเบยี นกนั กบั อดตี สามีหนมู าดา่ หนูวา่ เปน็ ชู้กับสามเี ธอ หากไมเ่ ลิกจะ
เอาเร่อื งใหถ้ ึงทส่ี ุด
หนูต้องทําอย่างไร กลวั จะตอ้ งออกจากราชการ ชว่ ยแนะนําด้วยคะ่ ขอบพระคณุ อย่างสงู คะ่
นาํ มาแชร.์ .!!

ลองมาฟังความเหน็ ของคณุ ผ้หู ญงิ ทเี่ ป็นสมาชิกในกลมุ่ ก่อนครับ..พรงุ่ น้จี ะตอบให้อีกที
...เมยี หลวงกลายเป็นเมียนอ้ ยไปแล้ว ห้ามผชู้ ายเขา้ บ้าน ให้เค้าไปจดั การคนใหมใ่ หเ้ รียบร้อย ถ้าจัดการไม่ได้
กไ็ มค่ วรมาพบลกู และที่สําคญั ไม่ควรใหเ้ คา้ เข้ามานอนในบา้ นหรือเขา้ บา้ นเด็ดขาด อกเค้าอกเรา เป็นใครๆก็
คดิ เราเองควรวางตวั ให้ดีดว้ ย เพราะสถานะตอนน้ีมนั เปลย่ี นไปแล้ว คดิ ใหม่ทําใหม่ เรื่องพ่อลกู ให้เปน็ เร่ือง
นอกบ้าน หรือไม่ก็ใหเ้ คา้ รบั ลกู ไปนอนกะเค้าไม่ใชเ่ ขา้ มานอนในบา้ นเรา ทีส่ ําคญั ตัวเองต้องตดั เค้าให้ขาด อย่า
คดิ เอาลกู เป็นขอ้ อ้าง วางตัวใหช้ ัดเจน ช่วงน้ีก็หา่ งๆไปกอ่ น คนใหม่เหน็ วา่ เราชดั เจนแน่ๆ เคา้ กเ็ บาลงเอง...

และยังมีความเหน็ ดี ๆ อีกหลายท่านครับ
ตอบ

ข้อมูลที่ไมใ่ หค้ ือ พฤติกรรมการแสดงออกของผูถ้ ามตอ่ อดตี สามเี ปน็ อย่างไร ? จะบอกว่าภรรยา
ปัจจุบนั ของเขา "มโน" ไปเอง ก็ไม่เป็นธรรมกบั ฝุายโนน้ เท่าใดนกั ดั่งความเห็นของท่านสมาชกิ ขา้ งตน้ "ผวั ใคร
ใครก็รกั และวันนเี้ ขาไมใ่ ช่ผวั เรา" เพราะเราเป็นผ้เู ปิดทางใหเ้ ขาเอง เข้าทํานองสวยเลอื กได้ จงึ ทําให้ "มทุ ะลุ"
เหตกุ ารณ์อาจเปน็ ประเดน็ "ถา่ นไฟเก่าหรอื ไม"่ ปญั หาลักษณะน้ีจาํ ไดว้ า่ เคยตอบไปแลว้ !!

เม่อื ขอ้ มลู ไม่พอฟงั จงึ ขอตอบกวา้ ง ๆ ดังน้ี
หลักเกณฑว์ ินยั ทเี่ กยี่ วขอ้ ง
ข้อ ๕
ขอ้ ๒๓
ข้อ ๒๔ วรรคห้า และ
ข้อ ๒๔ วรรคแปด

รวบรวมโดย นิติกรพร หน้า 98

คําถาม-ตอบวินยั ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวิทย์ เปรอ่ื งการ รวบรวมโดยนิติกรพร เทศบาลตาํ บลบะหว้า จงั หวัดสกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

ประเด็น
๑. การให้ชายอน่ื (พ่อของลกู ทีม่ ภี รรยาใหม)่ มานอนคา้ งโดยอ้างลกู ผิดวินัย หรือไม่
๒. หากผิด จะมโี ทษถึงขนั้ ปลดออก/ไลอ่ อก หรือไม่
๓. จะตอ้ งปฏบิ ตั ติ วั อยา่ งไรกบั ปญั หาท่ีเกิดขนึ้
สรุป
๑. จะผิดวินัยหรอื ไม่ ข้ึนอย่กู บั พฤตกิ รรมผ้ถู ามทม่ี ตี อ่ ชายน้นั เป็นอย่างไร แตก่ ารอนญุ าตให้เขาเข้ามา
นอนค้างในบา้ นเราไม่ควรอย่างยงิ่ ซึ่งเป็นการไม่ถอื ปฏบิ ัติตามหลกั วินยั อยา่ งเคร่งครัดอย่เู สมอ (ขอ้ ๕)
๒. ถา้ มีพฤติกรรม "เมียหลวงกลายเปน็ เมียน้อย" อย่างว่า อาจเปน็ วนิ ัยอยา่ งร้ายแรงฐานประพฤติช่วั
ได้ (ขอ้ ๒๓ วรรคสอง) และหากภรรยาเขารอ้ งเรียนจรงิ นายกเทศมนตรีต้องรบี ดําเนนิ การสบื สวนหรือ
พจิ ารณาในเบื้องต้นว่ามมี ูลหรอื ไม่ (ขอ้ ๒๔ ว.๕) โดยดําเนินการ ตามขอ้ ๒๔ วรรคแปด
๓. หากไม่มพี ฤติกรรม "เปน็ ชู้" เป็นแต่เพยี งเร่อื งของพ่อลกู เขา เราไมม่ ีสว่ นเกยี่ วข้องใด ๆ ควรแสดง
ความจรงิ ใจตามทท่ี ่านสมาชิกแนะนาํ
ขยายความ
หลกั เกณฑ์และเงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย (พ.ศ.๒๕๕๘/๒๕๖๙ ตามท่ี ก.จังหวัด
ประกาศ)
๑. พนักงานเทศบาลตอ้ งรกั ษาวินัยตามท่กี าํ หนดเปน็ ขอ้ ห้ามและข้อปฏิบตั ไิ วใ้ นหมวดน้ี โดยเครง่ ครดั
อย่เู สมอ (ขอ้ ๕) ตอ้ งรกั ษาชื่อเสียงของตน และรักษาเกียรตศิ ักดิ์ของตาํ แหนง่ หนา้ ทรี่ าชการของตนมใิ ห้เสอื่ ม
เสยี โดยไมก่ ระทําการใด ๆ อันไดช้ อื่ ว่าเปน็ ผปู้ ระพฤติช่ัว (ขอ้ ๒๓ ว.๑) หรอื กระทาํ การอืน่ ใดอนั ไดช้ อ่ื วา่ เป็นผู้
ประพฤตชิ ว่ั อยา่ งร้ายแรง (ขอ้ ๒๓ ว.๒)
การอนญุ าตใหช้ ายอ่นื ซงึ่ มีภรรยาอยแู่ ลว้ มานอนค้างอา้ งแรมบ่อย ๆ ทบ่ี า้ นตน จะดว้ ยเหตผุ ลใดก็ตาม
ไม่สมควรเลย กลางคนื ค่อนขา้ งยาวนานเหตกุ ารณใ์ ดจะเกดิ ขน้ึ บ้างไม่มใี ครรู้ นอกจากเรากบั เขาเทา่ นน้ั และ
หากเป็นเร่อื ง "ววั เคยขา มา้ เคยข่ี" ด้วยแล้ว ย่ิงต้องหลกี เลี่ยง เพราะอาจเข้าการกระทาํ ใด ๆ อันไดช้ อ่ื เปน็ ผู้
ประพฤตชิ ว่ั ตามขอ้ ๒๓ ได้
๒. หากการคา้ งคืนดงั กล่าวมกี ารปลอ่ ยให้ไปตามอารมณ์ ผิดวนิ ัยขอ้ ๒๓ วรรคหนึง่ หรือวรรคสอง
แนน่ อน ถ้าผู้ถามไมพ่ ยายามแกไ้ ขจนถกู ภรรยาเขารอ้ งเรียน นายกเทศมนตรตี อ้ งตงั้ กรรมการ

(๑) สบื สวนขอ้ เท็จจริง หรอื
(๒) สอบสวนขอ้ เทจ็ จริง หรือ
(๓) ตรวจสอบขอ้ เท็จจรงิ
ตามข้อ ๒๔ วรรคแปด ว่ามมี ลู หรอื ไม่ ตามขอ้ ๒๔ วรรคหา้ ถา้ มมี ูลแลว้ ผู้ถามไดเ้ ลิกพฤตกิ รรม
ดงั กล่าวเสีย จะผิดวินยั ฐานประพฤติชั่วตามข้อ ๒๓ วรรคหนึ่ง แตห่ ากไม่หยุดการกระทํา เป็นเหตใุ หส้ ามี
ภรรยาคูน่ น้ั ตอ้ งแตกแยกทางเลกิ ร้างกนั ไป จะกลายเปน็ ประพฤตชิ ่วั อยา่ งร้ายแรง ตามข้อ ๒๓ วรรคสอง ทันที
๓. ถามใจตวั เองดูกอ่ นว่า ท่ภี รรยาเขาจะเอาเรอื่ งเราให้ถึงท่ีสดุ นั้น มนั มมี ลู ความจรงิ หรือไม่ ถา้ ไมม่ มี ลู
ไมต่ ้องกังวล แตถ่ ้ามีมูลหรือใช่ แกไ้ ขเสียตามที่บอก และอยา่ ลมื คาํ วา่ "สวยเลือกได้" มนั ไมเ่ กิดผลดีอะไรกบั
เราและลกู เลยอยา่ งทกี่ าํ ลงั เป็น..!! จงรกั และเปน็ หว่ งลกู ของตัว ส่วนผัวให้คนอ่นื ไปแลว้ นะ
ขอบคณุ ทุกขอ้ ความ ครับ

*****************

รวบรวมโดย นิติกรพร หน้า 99

คาํ ถาม-ตอบวนิ ัย ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวิทย์ เปร่ืองการ รวบรวมโดยนิตกิ รพร เทศบาลตาํ บลบะหวา้ จงั หวัดสกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

คําถาม ๑๔/๑๒/๖๑
ผอ.คะ มปี ญั หาอีกแล้ว กจจ. เสนอเรอื่ งขอทบทวนมติ ปปช. เข้า ก. หนใู นฐานะผู้ช่วยเลขานุการ ไดน้ ําเรยี นที่
ประชมุ ว่าไมใ่ ช่อาํ นาจของ ก. ทจี่ ะไปทบทวนมตขิ อง ปปช. เปน็ อํานาจของนายกท่ีต้องดาํ เนินการภายใน 30
วนั หากมีหลักฐานใหมน่ ายกกเ็ สนอทบทวนไปที่ ปปช. แต่หากไม่มีหลกั ฐานใหม่ใหน้ ายกนําสาํ นวน ปปช.ส่งั
ลงโทษ โดยใชส้ าํ นวนของ ปชช.ดาํ เนินการไดเ้ ลย ประเด็นนายกไม่สัง่ ลงโทษ เสนอ ก.ทบทวนมติ ปปช.หนูแยง้
แล้ว เขาไมย่ อม เขาก็ยืนยนั ทํารายงานการประชมุ มาใหเ้ ราลงนาม เอาไงดี ตอนนี้โมโหหละ จะทําบันทกึ ขอ
ลาออกจาก ผู้ช่วยเลขานุการหละคะ่ ไม่ไหว มีแตเ่ รอ่ื งวนิ ยั (ปลัด) เราตอ้ งไปนําเสนอใหเ้ ขา เครียดค่ะ
ตอบ

กอ่ นอ่ืนขอชืน่ ชมในองค์ความรขู้ องผูถ้ ามท่ยี ืนบนหลกั การและแนวทางท่ีกาํ หนด..คงตอ้ งใจเย็น เพราะ
กฎหมายใหม่เพงิ่ ใช้บงั คับ รอเวลาให้ทา่ นผู้เก่ยี วข้องเข้าใจหลักการแลว้ คงดขี นึ้ ..!! ต้องยอมรับวา่ ปญั หานี้กาํ ลงั
เกดิ ขนึ้ หลาย อปท.และหลาย ก.จังหวดั เพราะกฎหมาย ป.ป.ช.เปลีย่ นแปลงไปค่อนขา้ งมาก..แถมยังมโี ทษทาง
อาญาอกี ด้วย..!!

เปน็ คําถามเกย่ี วกบั การดําเนนิ การทางวินัยกบั เจา้ หน้าทข่ี องรัฐ ตามหมวด ๔ ส่วนท่ี ๒ แหง่
พระราชบัญญตั ปิ ระกอบรัฐธรรมนญู วา่ ด้วยการปูองกนั และปราบปรามการทจุ ริต พ.ศ.๒๕๖๑ ซงึ่ ประกาศใน
ราชกจิ จานเุ บกษา เมอื่ วันที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๖๑ ใหใ้ ช้บงั คบั ต้งั แต่วนั ถดั จากวนั ประกาศฯ (๒๒ กรกฎาคม
๒๕๖๑) เปน็ ตน้ ไป โดยบัญญตั วิ า่

"มาตรา ๙๙ ในการพจิ ารณาลงโทษทางวินยั ตามคําวินิจฉัยของคณะกรรมการ ป.ป.ช. หาก
ผู้บังคบั บญั ชาหรอื ผู้มอี าํ นาจแตง่ ตง้ั ถอดถอนมพี ยานหลกั ฐานใหม่อนั แสดงได้ว่าผถู้ ูกกลา่ วหามไิ ดม้ ีการกระทาํ
ความผิดตามท่กี ล่าวหา หรอื กระทาํ ความผดิ ในฐานท่ีแตกต่างจากทถ่ี กู กล่าวหา ใหผ้ บู้ งั คบั บญั ชาหรือผูม้ ี
อาํ นาจแตง่ ตง้ั ถอดถอน มหี นังสอื พร้อมเอกสารและพยานหลักฐานถงึ คณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อขอให้พจิ ารณา
ทบทวนมตินัน้ ไดภ้ ายในสามสิบวันนับแต่วันทีไ่ ด้รบั เรื่องจากคณะกรรมการ ป.ป.ช.

เพ่ือประโยชน์แหง่ ความยุตธิ รรม ในการพจิ ารณาทบทวนตามวรรคหนง่ึ ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.
พิจารณาพยานหลกั ฐานโดยละเอยี ด เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.มมี ตเิ ป็นประการใดให้แจ้งใหผ้ บู้ งั คบั บญั ชา
หรอื ผ้มู อี ํานาจแตง่ ตั้งถอดถอนทราบเพอ่ื ดําเนนิ การต่อไปตามมตขิ องคณะกรรมการ ป.ป.ช."

ประเดน็
๑. คาํ ว่า "พยานหลักฐานใหม"่ มีความหมายแคไ่ หน เพยี งไร
๒. การที่ ป.ป.ช.มีมติชม้ี ลู ความผิดทางวินัยไปแลว้ ผู้ใดมีอํานาจในการพจิ ารณาทบทวนมตนิ ้ัน
๓. การเสนอพยานหลกั ฐานใหม่ ควรเปน็ หน้าทผ่ี ใู้ ดระหว่างผู้ถูกกลา่ วหาเองกบั นายก อปท.
๔. กรณนี ายก อปท.ขอให้ ก.จังหวัดพิจารณาทบทวนมติ ป.ป.ช.สามารถทําไดห้ รอื ไม่ เพียงใด และจะ
เกิดผลตามมาอย่างไร
ความเหน็
๑. คําว่า "พยานหลกั ฐานใหม"่ นน้ั นับเปน็ ประเด็นสําคญั ท่ีสุดในเรอ่ื งนี้ว่า หมายถึงส่ิงใด เชน่

(๑) เปน็ พยานหลกั ฐานทเี่ คยนาํ เสนอในขณะถกู ไต่สวนแล้ว แต่ไมป่ รากฏในสาํ นวนการไตส่ วนของ
ป.ป.ช. หรือ

(๒) เปน็ พยานหลักฐานทมี่ อี ยแู่ ล้ว แต่ไมไ่ ดถ้ ูกนาํ เสนอในขณะท่ี ป.ป.ช.ไตส่ วน หรือ
(๓) เปน็ พยานหลกั ฐานท่ีเกดิ ขึ้นใหม่ ภายหลงั การไตส่ วนของ ป.ป.ช.เสรจ็ สน้ิ ไปแลว้ หรอื
(๔) เป็นพยานหลกั ฐานเดียวกัน แต่ "ตคี วาม" ตา่ งกนั ระหวา่ ง ป.ป.ช.กบั นายก อปท.
เปน็ ต้น

รวบรวมโดย นิติกรพร หนา้ 100


Click to View FlipBook Version