แนวการสอบวินัย อ.ประวิทย์

คาํ ถาม-ตอบวนิ ัย ปี 2561 โดยอาจารย์ประวิทย์ เปร่ืองการ รวบรวมโดยนติ กิ รพร เทศบาลตาํ บลบะหว้า จังหวดั สกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

เนือ่ งจากในตัวบทมาตรานไ้ี มม่ บี ัญญตั ใิ ห้ ป.ป.ช.ออกระเบยี บอธิบายความของคาํ ว่า "พยานหลกั ฐาน
ใหม"่ ไว้ อีกทงั้ ไม่มี "นยิ ามศพั ท"์ ในมาตรา ๔ จึงเป็นอาํ นาจดลุ พินจิ ของ ป.ป.ช.โดยแท้ ทีอ่ าจตอ้ งพจิ ารณา
จากคาํ วินจิ ฉยั ขององคก์ รวนิ ิจฉยั อ่นื ประกอบ เพราะเมอื่ ตรวจสอบมาตรา ๙๙ วรรคสอง ใช้ถ้อยคําว่า ให้
ป.ป.ช.พจิ ารณาทบทวนจากพยานหลักฐานโดยละเอียด ย่อมแสดงว่า ป.ป.ช.มอี ํานาจพิจารณาโดยใชห้ ลกั การ
ใดก็ได้ เพอ่ื พจิ ารณา

(๑) ว่าเป็นพยานหลกั ฐานใหม่ หรอื ไม่
(๒) ให้เกดิ ความยตุ ิธรรม
(๓) ตามอาํ นาจดุลพนิ จิ ของ ป.ป.ช.เทา่ น้ัน
(๔) มมี ตติ ามทีข่ อให้ ป.ป.ช.ทบทวน และต้องมกี ารปฏบิ ัติตามมตินั้น
๒. หลักการ "พจิ ารณาทบทวน" ตามปกตมิ กั เป็นการพิจารณาโดยบุคคลหรอื คณะบุคคลทไี่ ดพ้ จิ ารณา
หรือมมี ตใิ นเรื่องหนึ่งเรอ่ื งใดไปแล้ว แต่เพื่อใหเ้ กดิ ความรอบคอบ รัดกมุ หรอื ใหเ้ ปน็ ไปตามกฎหมายเพราะอาจ
เกดิ ความผดิ พลาดคลาดเคลอ่ื น จงึ ได้มกี ารกําหนดใหม้ อี าํ นาจนัน้ หรือเปน็ การพจิ ารณาโดยบคุ คลหรือคณะ
บุคคลท่มี อี ํานาจเหนือกว่า
๓. ผ้บู รหิ ารท้องถิน่ เท่าน้ันต้องเปน็ ผเู้ สนอหนังสอื พร้อมเอกสารหลกั ฐาน (ม.๙๙ ว.๒) สว่ นการได้มาซง่ึ
พยานหลกั ฐานใหม่ มไิ ดก้ าํ หนดรายละเอียด วิธกี าร หรอื หา้ มผหู้ นง่ึ ผู้ใดไว้ ดงั นั้น พยานหลักฐานใหม่ จงึ
สามารถนาํ มาได้ทกุ ชอ่ งทาง แต่ผนู้ าํ เสนอตอ้ งเปน็ นายกฯ อปท.เพียงผเู้ ดยี ว
๔. การท่ีนายก อปท.ขอให้ ก.จังหวัดทบทวนมติ ป.ป.ช.ไมอ่ าจกระทําได้ ดว้ ยเหตุผลตามข้อ ๒ เพราะ
ไมส่ ามารถอา้ งระเบยี บกฎหมายใดได้ และเสี่ยงตอ่ การกระทาํ ที่ขัดกบั มาตรา ๙๘ เมอ่ื นายก อปท.ไม่ปฏบิ ัติ
ตามมติ ป.ป.ช.อาจถกู ถอดถอน และตอ้ งหาคดอี าญาได้
หลักการ
เม่ือนายก อปท.ได้รบั หนงั สอื ชม้ี ูลความผิดทางวนิ ัยอย่างรา้ ยแรง (ทกุ ฐานตามมติ ก.กลาง เมือ่ ๒๗
เม.ย.๒๕๕๙) จาก ป.ป.ช.แลว้ ต้องดาํ เนนิ การตามลําดบั ขัน้ ตอน ดังต่อไปน้ี
๑. กรณีมีพยานหลักฐานใหม่
(๑) นายก อปท.ตอ้ งส่งเร่ืองพรอ้ มเอกสารหลกั ฐานไปยงั คณะกรรมการ ป.ป.ช.เพอื่ ขอให้พจิ ารณา
ทบทวนมติที่ชี้มลู น้ันได้ ภายใน ๓๐ วนั นับแตว่ ันที่ไดร้ บั เรอื่ งจาก ป.ป.ช. (ม.๙๙ ว.๑)
(๒) ในระหวา่ งนี้ อปท.ยงั ไม่ต้องรายงาน ก.จงั หวดั เพ่อื ขอความเหน็ ชอบ
(๓) เพ่อื ความยุติธรรม คณะกรรมการ ป.ป.ช.ตอ้ งพจิ ารณาจากพยานหลกั ฐาน โดยละเอียด (ม.๙๙
ว.๒)
(๔) เมอ่ื คณะกรรมการ ป.ป.ช.มมี ตเิ ป็นประการใด ให้แจ้งนายก อปท.ทราบเพื่อดําเนนิ การตามมติ
ต่อไป (ม.๙๙ ว.๒)
(๕) กรณีนายก อปท.ไดร้ บั แจง้ มตทิ ่ีขอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.พจิ ารณาทบทวน (หาก ป.ป.ช.
ยนื ยัน) ให้นายก อปท.ส่งั ลงโทษ ภายใน ๓๐ วันนับแตไ่ ดร้ บั หนงั สอื ยนื ยันจาก ป.ป.ช.โดย

๑) ไมต่ อ้ งแต่งตง้ั คณะกรรมการสอบสวน
๒) ใหใ้ ชส้ าํ นวนของ ป.ป.ช.เป็นสํานวนของคณะกรรมการสอบสวนทางวินยั พิจารณาโทษได้
เลย (ว่าเห็นควรลงโทษสถานใด) ตามมาตรา ๙๘ วรรคหนง่ึ
๓) รายงานขอความเห็นชอบจาก ก.จงั หวดั (กรณเี ป็นวนิ ยั รา้ ยแรง)
๔) ก.จงั หวัดมมี ตเิ ปน็ ประการใด ให้นายก อปท.สัง่ หรอื ปฏบิ ัติใหเ้ ป็นไปตามมตินัน้

รวบรวมโดย นิติกรพร หน้า 101

คาํ ถาม-ตอบวินัย ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวทิ ย์ เปรือ่ งการ รวบรวมโดยนติ ิกรพร เทศบาลตําบลบะหว้า จงั หวดั สกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

๕) ถ้า ป.ป.ช.ใหส้ ง่ สาํ เนาคาํ สง่ั ลงโทษ นายก อปท.ตอ้ งสง่ สําเนาคาํ สั่งลงโทษไปให้ ป.ป.ช.
ตามขอ (กฎหมายใหม่มไิ ดก้ าํ หนดใหต้ อ้ งสง่ สําเนาคาํ สงั่ ให้ ป.ป.ช.ภายใน ๑๕ วันนบั แต่ออกคาํ ส่ัง เหมอื น
มาตรา ๙๓ กฎหมายเดมิ )

๒. กรณีไมม่ พี ยานหลกั ฐานใหม่ ใหน้ ายก อปท.ดาํ เนินการตามข้อ ๑ (๕) ตอ่ ไป
สรุป
๑. ผช.เลขานุการ ก.จังหวดั แนะนาํ ถกู ต้อง ครบถว้ นแลว้ ไม่ต้องเครยี ด ไม่ตอ้ งลาออก แต่ควร
ดาํ เนนิ การ ดังน้ี

(๑) มบี ันทกึ ความเหน็ แยง้ ไปให้ปรากฏวา่ ไมส่ ามารถกระทําได้ เช่นเดยี วกบั บนั ทึกความเหน็ แย้ง
ของกรรมการสอบสวน (เพือ่ ปูองกนั ตัวผเู้ สนอความเห็นแยง้ นัน้ เพราะอาจเกดิ สิง่ ที่ไม่คาดคดิ ตามมา)

(๒) กรณีต้องลงนามในรายงานการประชุม ใหท้ าํ บันทกึ ตามข้อ (๑) ถงึ ประธาน ก.จังหวดั แนบไป
ดว้ ย และขอให้นาํ เขา้ เพ่มิ เตมิ ในการประชุมครงั้ ถดั ไปเพอื่ รบั รองรายงานการประชุม

๒. กรณี ก.จังหวัดมกี ารประชุมเร่ืองนจ้ี รงิ จะพจิ ารณาทบทวนมติ ป.ป.ช.ไม่ได้ ด้วยเหตผุ ลขา้ งต้น แต่
ต้องแจ้งใหน้ ายก อปท.รบี สง่ เรื่องให้ ป.ป.ช.ทบทวน ตอ้ งระวงั เร่อื งระยะเวลา ๓๐ วันไว้ด้วย แต่หากพิจารณา
โดยผดิ หลงไปแล้ว ตอ้ งใหม้ กี ารแก้ไขในการพิจารณารบั รองรายงานการประชุมครง้ั ถัดไปอีกครง้ั

๓. เช่ือว่านายก อปท.มีพยานหลกั ฐานใหม่แน่นอน แตต่ อ้ งเข้าให้ถกู ชอ่ งทางทก่ี ฎหมายกาํ หนด เพราะ
ไม่เช่นน้ันอาจเปน็ การประวงิ เวลาโดยไมช่ อบ เป็นการไม่ดําเนินการตามมาตรา ๙๘ โดยไม่มีเหตผุ ลอันสมควร
ซ่งึ จะตอ้ งรบั ผิดตามมาตรา ๑๐๐ ทง้ั ถอดถอนและคดอี าญาตามมาตรา ๑๗๗ รวมถงึ ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา ๑๕๗ ดว้ ย

ขอบคุณทุกความเห็นครบั
****************

คาํ ถาม ๑๗/๑๒/๖๑
คําถามครบั อาจารย์...
เรยี น อาจารยป์ ระวทิ ย์ ครบั ขอเรยี นถามคาํ ถามครับผม

1. กรณี พนักงานเทศบาล นาย..ก...ตาํ แหนง่ ผู้อํานวยการกองช่าง สตง.ตรวจพบวา่ มีเหตุทุจรติ ใน
การตรวจรบั งานจ้าง ให้เทศบาลเรยี กเงินสว่ นทเ่ี สียหาย
คนื และให้ ดําเนนิ ทางวนิ ัยและทางอาญากับ พนักงานเทศบาล นาย ก ...
เทศบาลแต่งตงั้ คณะกรรมการสอบวนิ ยั ดําเนนิ เสรจ็ เรยี บรอ้ ยไปเมอ่ื ปี 2557 ให้ลงโทษภาคทณั ฑ์ รายงาน ก.
จังหวัดทราบ ปปช.สง่ สาํ นวนดังกล่าว ตามมา
ชีม้ ูลความผดิ ฐานทจุ รติ ตอ่ หน้าท่ี ใหด้ าํ เนนิ การทางวนิ ยั ปลดออก หรอื ไล่ออก เทศบาล ใชส้ าํ นวน ปปช.
พจิ ารณาให้ ปลดออก รายงานขอความเห็นชอบ ก.จงั หวัด
ก.จงั หวัดให้ความเห็นชอบ ใหป้ ลดออก ... เมอื่ ปี 2557 เชน่ เดยี วกนั
ในสว่ นของคดีอาญา ศาลช้นั ตน้ ให้ รอลงอาญา 1 ปี เนอื่ ง จาก พนกั งานเทศบาล นาย ก ...รบั สารภาพ ศาล
อทุ ธรณ์ กลบั คาํ พิพากษาให้ จาํ คุก 1 ปี ศาลฎกี า
ยืนตามศาลอทุ ธรณ์ พนักงานเทศบาล นาย ก..จําคกุ 1 ปี ให้มพี ้นจากการเป็นพนักงานเทศบาล
***เทศบาลทาํ หนงั สอื หารอื จงั หวัด กรณพี นักงานเทศบาล ดัง กลา่ ว ขอ รบั บํานาญ จะไดห้ รือไม่ จงั หวดั
หารือ สถ. ตอบหนงั สือมาวา่ โดนโทษทางวนิ ยั ปลดออก
จากราชการ มีสทิ ธิร์ บั บําเหน็จ บาํ นาญได้ จงั หวดั ทาํ หนงั สอื แจง้ เทศบาล ให้เบกิ ได้ ....ในระหวา่ งตั้งเรอื่ งตง้ั
ฎีกาเบกิ จ่าย ท้องถ่นิ จงั หวัด โทรมาประสานว่า

รวบรวมโดย นติ ิกรพร หน้า 102

คาํ ถาม-ตอบวนิ ัย ปี 2561 โดยอาจารย์ประวิทย์ เปรือ่ งการ รวบรวมโดยนติ ิกรพร เทศบาลตาํ บลบะหว้า จังหวัดสกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

รองผูว้ า่ ฯ ทด่ี แู ล ใหเ้ รยี กหนงั สอื คนื (ดว้ ยวาจา) แจง้ อยา่ พงึ่ เบิกจ่ายจะ ตอ้ งพิจารณาโทษใหม่ เน่อื งจาก
พนักงาน เทศบาล นาย ก..รบั สารภาพในช้ันศาลว่า ทจุ รติ ตอ่ หนา้ ทรี่ าชการ
จนได้รับโทษจําคกุ และจําคกุ จรงิ เปน็ เวลา 1ปี ต้องมาพิจารณาใหม่ ว่าใหเ้ ปน็ โทษไลอ่ อก ไม่มสี ทิ ธบ์ิ ําเหนจ็
บํานาญ
***ขอเรียนถามอาจารยว์ า่ ก.จงั หวัดสามารถ ทําได้หรือไม่ เม่ือ โทษทางวินยั ได้ดําเนนิ ไปเสรจ็ แลว้ คอื ปลด
ออก ตามสํานวน ปปช. **

2.กรณี พนกั งานเทศบาล นาย ข ตําแหนง่ นายช่างโยธา สตง.ตรวจสอบพบว่ามสี ่วนในการกระทํา
ความผิด ในการสมยอมในการเสมอราคา มตี ้งั ปี 2555
ใหเ้ ทศบาลดาํ เนินสอบวนิ ยั และ ดาํ เนินคดตี ามกฎหมาย
สว่ นของวนิ ัย เทศบาลได้แต่งต้ังคณะกรรมการสอบวนิ ัย ไม่รา้ ยแรง และพจิ ารณาลงโทษภาคภัณฑ์ เนอ่ื งจาก
พนกั งานเทศบาล นาย ข.ตาํ แหน่ง ไม่ได้กระความผิด ฐานสมยอมในการเสมอ
ราคาจรงิ เพยี งแต่ เปน็ กรรมการเปิดซองสอบราคาเทา่ นั้น แตไ่ มใ่ ชค้ วามระมัดระวงั ในการปฏบิ ตั หิ นา้ ท่จี งึ ก่อ
ให้ เกดิ การกระทาํ ดังกลา่ วขนึ้ รายงาน ก.จงั หวัด ทราบ
นาย ข .. นายช่างโยธา ไดเ้ กษยี ณ อายรุ าชการไปเมอื่ ปี 2557 เทศบาลไดจ้ ่ายเงนิ บาํ นาญใหต้ ามสทิ ธิปกติ
จนถึงปจั จบุ ัน..
ในสว่ นของคดีอาญา นาย ข นายช่างโยธา ไดร้ ับสารภาพในชั้นศาลฎีกาวา่ มีส่วนร้เู ห็นในการสมยอมการ
เสนอราคาจริง ศาลพิพากษาจาํ คกุ 1 ปี
**ขอเรยี นถามอาจารยว์ า่ กรณี น้ี ก.จงั หวัด ต้อง มกี ารสาํ นวนของคดีอาญามา สอบวินัยใหม่ เหมอื น กรณี ข้อ
1 หรือ ไม่ และ เงิน บาํ นาญทจ่ี า่ ยไปแล้ว ตั้งปี 2557 จนถงึ ปจั จบุ นั ตอ้ งเรียกคนื หรอื ไมค่ รบั ...
ขอบคณุ อาจารยม์ ากครบั ใกล้ปีใหม่แลว้ ขอให้อาจารยม์ สี ภุ าพร่างกายแขง็ แรง มีความสขุ มากๆ อย่าเจบ็ อยา่
ไข้นะครบั ...
ตอบ

เปน็ กรณีเกี่ยวเนอื่ งกนั ระหว่างคดอี าญากบั วินัย

ประเด็น
๑. จาํ เปน็ หรอื ไม่ทผี่ ลคดอี าญาและวนิ ยั ต้องเป็นไปในทศิ ทางเดียวกัน

๒. ก.จงั หวดั พิจารณารายงานการดําเนนิ การทางวินัยเสรจ็ สนิ้ ไปแล้วจะทบทวนใหม่ ได้หรือไม่
๓. ถกู ลงโทษเป็นวินัยอยา่ งไมร่ ้ายแรงแล้ว และเกษยี ณอายุปี ๒๕๕๗ พร้อมท้งั รบั บํานาญถงึ ปจั จบุ นั
เมอ่ื มคี าํ พพิ ากษาถงึ ทส่ี ดุ ให้จาํ คกุ ต้องคืนบาํ นาญที่รบั ไปแลว้ หรอื ไม่

หลกั การ
๑. คดีอาญาและวนิ ยั กฎหมายไดก้ าํ หนดให้เปน็ ส่วนหนึ่งตา่ งหากจากกนั การดาํ เนนิ การทางวินัยไม่
จําตอ้ งรอผลทางคดีอาญาแต่อยา่ งใด เมอ่ื กรณหี รอื คดถี ึงทส่ี ดุ ผลอาจตา่ งกนั ได้ เพราะการรับฟงั

พยานหลกั ฐานอาจต่างกนั แมศ้ าลจะเหน็ ตา่ ง ผบู้ ังคบั บัญชาก็หาต้องรบั ผดิ ไม่ หากลงโทษไปแล้วโดยสุจริต
ตาม

(๑) หนังสอื สาํ นักงาน ก.พ.ที่ สร ๐๙๐๕/ว ๔ ลง ๑๘ มี.ค.๒๕๐๙

(๒) หนงั สอื สาํ นักงาน ก.อบต.ท่ี
๑) มท ๐๘๐๙.๒/ว ๗๕๐ ลง ๑๑ พ.ค.๒๕๔๗
๒) มท ๐๘๐๙.๖/๗๐๒๙ ลง ๑๗ พ.ค.๒๕๕๑

รวบรวมโดย นติ ิกรพร หน้า 103

คําถาม-ตอบวินยั ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวิทย์ เปรือ่ งการ รวบรวมโดยนติ ิกรพร เทศบาลตาํ บลบะหวา้ จงั หวัดสกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

(๓) หนังสอื กระทรวงมหาดไทย ลบั ท่ี ๑๓๓๓๓/๒๔๙๘ ลง ๘ ก.ค.๒๔๙๘
(๔) คําพพิ ากษาศาลปกครองสูงสดุ ท่ี อ.๓๗๐/๒๕๕๐
ดงั น้นั คดอี าญากับวนิ ัย จงึ แยกเปน็ สว่ นหนงึ่ ตา่ งหากจากกนั ผลสดุ ทา้ ยอาจไม่เปน็ ไปในทศิ ทางเดียวก็
ได้ ทั้งนขี้ ้ึนอยกู่ ับการพจิ ารณาและการรบั ฟงั พยานหลักฐาน
ประเดน็ คาํ ถามดงั กลา่ ว ปรากฏว่ากระบวนการทางวินยั ไดพ้ จิ ารณาเสร็จส้นิ ไปแลว้ แม้ต่อมาศาลจะ
เห็นต่างในคดอี าญา กไ็ มเ่ ป็นเหตใุ ห้ผบู้ งั คับบญั ชาตอ้ งกลบั มารอ้ื ฟนื้ ดําเนินการทางวนิ ัยท่เี สรจ็ ส้นิ ไปแล้วได้
หากผบู้ ังคบั บญั ชาสุจริตแลว้ ไมต่ ้องรบั ผดิ
๒. การพิจารณารายงานการดาํ เนนิ การทางวินยั ของ ก.จังหวดั ทดี่ ําเนนิ การโดยชอบ ซง่ึ นายกฯ ไดส้ ั่ง
หรอื ปฏิบัติตามมตแิ ลว้ (หลกั เกณฑ์
วนิ ัยข้อ ๘๗) ถือวา่ กระบวนการทางวนิ ยั เป็นอันเสรจ็ ส้นิ แมต้ อ่ มาภายหลงั ในคดอี าญาศาลเหน็ ตา่ ง ก็ไมม่ ี
ข้อกาํ หนดใดให้ ก.จงั หวัดตอ้ งทบทวนการพจิ ารณารายงานการดําเนินการทางวินยั ใหม่ เพราะเป็นคนละ
กระบวนการ ตามแนวคําพพิ ากษาศาลปกครองสงู สุด ที่ อ. ๓๗๐/๓๕๕๐
๓. หาก ก.จังหวดั พจิ ารณาเพม่ิ โทษจากภาคทัณฑ์เป็นไล่ผเู้ กษียณอายรุ าชการออกจากราชการ
ยอ้ นหลงั ไปถงึ วันเกษยี ณอายรุ าชการนัน้ (ดขู ้อ ๒ ประกอบ) จะทาํ ให้ไม่มสี ทิ ธไิ ด้รบั บาํ เหนจ็ บาํ นาญปกติ ตาม
มาตรา ๑๑ (๑) แห่ง พ.ร.บ.บาํ เหนจ็ บํานาญข้าราชการส่วนทอ้ งถ่ิน พ.ศ.๒๕๐๐ และฉบับแกไ้ ขเพมิ่ เตมิ ตาม
หนังสอื ตอบข้อหารอื ของกรมสง่ เสรมิ การปกครองทอ้ งถน่ิ ทรี่ ะบุ แตท่ ั้งนี้ การสง่ั ยอ้ นหลงั ดงั กลา่ วไม่มี
ผลกระทบถึงสทิ ธแิ ละประโยชน์ทผ่ี นู้ น้ั ได้รับแลว้ ตามขอ้ ๘๖ (๔) ของหลกั เกณฑว์ ินยั กลา่ วคือ เงนิ บํานาญที่
รับไปกอ่ นนน้ั ไมต่ ้องคืน
สรุป
๑. ผลของคดอี าญาและวินัยไมจ่ ําเปน็ ต้องเป็นไปในทศิ ทางเดียวกัน
๒. เม่ือการพจิ ารณามมี ติของ ก.จงั หวดั เป็นไปโดยชอบดว้ ยกฎหมายแลว้ ไม่มีข้อกาํ หนดใดใหท้ บทวน
มตินั้นอีก
๓. การมีคาํ ส่งเพมิ่ โทษเป็นไลอ่ อกจากราชการ ย่อมทาํ ให้ผูน้ ้ันเสียสทิ ธิในการรบั บําเหนจ็ บาํ นาญปกติ
ต่อไป แต่บําเหนจ็ บํานาญที่รบั ไปแล้วก่อนนนั้ ไม่ต้องคนื
ทั้ง ๓ ข้อข้างต้นดว้ ยเหตุผลดังกลา่ วแล้ว
ขอบคณุ ครับ

*******************
คาํ ถาม ๑๙/๑๒/๖๑

สวัสดีคะ่ ดฉิ นั เป็นครเู กษยี ณ 10ปแี ล้วค่ะ เม่อื 4 ปที ี่แลว้ ครู คศ.3 ซงึ่ เคยอยโู่ รงเรียนเดยี วกันยืมเงิน
2แสนบาทรับปากวา่ ถ้าเอาบ้านเขา้ ธนาคารไดจ้ ะใชค้ นื แตก่ ไ็ ม่ได้คืนอา้ งว่าไดเ้ งนิ นอ้ ยทา้ ใหด้ ิฉนั ไปฟูองเอาซงึ่ ถา้
ฟูองดฉิ นั ตอ้ งวางเงินศาล 2 หม่นื แล้วคงไม่มอี ะไรให้ยดึ เพราะครผู ู้นหี้ นส้ี ินลันพน้ ตวั ดิฉันอยากเรียนถามว่าจะ
เอาผดิ ทางวนิ ัยครูผู้นอี้ ย่างไรไดบ้ า้ งทาํ อยา่ งไรดิฉนั จะไดเ้ งนิ คืน ขอขอบพระคุณคะ่
ตอบ

"เปน็ หนแี้ ลว้ ตอ้ งชําระ" ถ้าไม่ชําระจะมคี วามผิดทางวนิ ยั
ระเบยี บกฎหมายทเ่ี กยี่ วขอ้ งในฐานะท่ีเป็นข้าราชการส่วนท้องถิน่
๑. หลกั เกณฑว์ ินัย

ขอ้ ๒๓
ขอ้ ๒๔ วรรคหา้

รวบรวมโดย นติ ิกรพร หน้า 104

คาํ ถาม-ตอบวนิ ยั ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวิทย์ เปรอื่ งการ รวบรวมโดยนติ กิ รพร เทศบาลตําบลบะหว้า จังหวัดสกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

ข้อ ๒๔ วรรคแปด
ขอ้ ๒๖ วรรคสาม
ขอ้ ๒๖ วรรคหก
๒. ป.พ.พ. มาตรา ๖๕๓
ประเดน็
จะดาํ เนนิ การอย่างไรกับขา้ ราชการทเี่ ป็นลกู หนีแ้ ล้วไมย่ อมชําระหน้ี
สรปุ
๑. ดาํ เนนิ การทางแพง่
๒. ดาํ เนนิ การทางวินยั
นอกจากฟูองร้องบงั คบั ทางแพง่ แลว้ ยังสามารถรอ้ งเรียนตอ่ ผูบ้ งั คับบญั ชาเพือ่ ดาํ เนนิ การทางวินยั เปน็
อกี สว่ นหนงึ่ ต่างหาก
ขยายความ
๑. ฟูองเป็นคดีแพง่ ดงั ที่ประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์ บญั ญัตไิ วว้ ่า
"มาตรา ๖๕๓ การก้ยู ืมเงนิ เกนิ กวา่ สองพนั บาทขึน้ ไปน้นั ถา้ มิไดม้ ีหลักฐานแห่งการก้ยู มื เป็นหนงั สือ
อยา่ งใดอยา่ งหนง่ึ ลงลายมอื ชอ่ื ผู้ยืมเปน็ สําคญั จะฟอู งร้องบงั คบั คดีหาได้ไม.่ ."
กรณีน้มี ที ุนทรพั ย์ ๒๐๐,๐๐๐ บาท เข้าใจว่ามสี ัญญากยู้ มื เงินกนั เรยี บร้อย ตามมาตรา ๖๕๓ ดงั นัน้
เมอื่ ลกู หนผี้ ดิ นัดชําระหนี้ เจา้ หน้ีจงึ มสี ิทธฟิ อู งเป็นคดีแพ่งตอ่ ศาล ภายในกาํ หนดอายคุ วาม หากผถู้ ามต้องการ
ได้รับการชําระหน้ีคนื อย่าเปน็ กงั วล ควรใชช้ อ่ งทางของกฎหมายท่มี อี ยูใ่ หเ้ กิดประโยชน์ แตถ่ ้าเกรงจะเสยี เงิน
วางศาล ๒๐,๐๐๐ บาท อาจจะไม่ไดร้ บั การชําระหนีต้ ลอดไปเลยกไ็ ด้ ฟูองศาลยงั พอมคี วามหวัง ไม่ควรคดิ เอา
เองวา่ เขามหี น้ีสนิ ล้นพ้นตัว
๒. ตามหลักเกณฑแ์ ละเงอ่ื นไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินยั ฯ ตอ้ งทาํ หนงั สอื รอ้ งเรยี นต่อ
ผู้บังคบั บญั ชา ซ่ึงนายกฯ ตอ้ งรบี ดาํ เนินการสืบสวนหรอื พจิ ารณาในเบ้อื งต้นว่ามมี ูลหรอื ไม่ (ขอ้ ๒๔ ว.๕) โดย
ต้งั คณะกรรมการ
(๑) สบื สวนข้อเทจ็ จริง
(๒) สอบสวนข้อเทจ็ จรงิ หรือ
(๓) ตรวจสอบขอ้ เทจ็ จรงิ
(ขอ้ ๒๔ ว.๘)
เมอ่ื สืบสวนหรอื พิจารณาในเบอื้ งตน้ แลว้ เหน็ เป็นกรณมี ีมลู ทค่ี วรกลา่ วหาวา่ กระทําผิดวินยั อยา่ งไม่
ร้ายแรง ใหด้ าํ เนนิ การสอบสวนตามทีน่ ายกฯ เห็นสมควร (ขอ้ ๒๖ ว.๓) แต่หากเหน็ เป็นกรณมี ีมลู ทค่ี วร
กลา่ วหาว่ากระทาํ ผิดวนิ ยั อย่างร้ายแรง ให้นายกฯ สงั่ แตง่ ตั้งคณะกรรมการขึน้ ทําการสอบสวน (ขอ้ ๒๖ ว.๖)
ข้อ ๒๓ ต้องไม่กระทาํ การใด ๆ อนั ไดช้ ่ือว่าเป็นผปู้ ระพฤตชิ ่ัว
นอกจากการดาํ เนินการทางวินัยแล้ว ยังตอ้ งปฏบิ ตั ติ ามมาตรฐานจริยธรรมของข้าราชการส่วนทอ้ งถ่ิน
ขอ้ ๙ ที่กาํ หนดให้ "ยดึ ม่ันในหลักจรรยาวชิ าชพี ขององค์กร" กรณนี ้ผี ู้ถกู กลา่ วหาเป็นข้าราชการครจู งึ ตอ้ ง
ปฏิบัตติ ามจรรยาบรรณครู ขอ้ ๓ ท่ีกําหนดให้ "ครตู อ้ งประพฤติปฏบิ ตั ิตนเปน็ แบบอย่างท่ีดแี ก่ศิษย์.." ดว้ ย
เมื่อครซู ึ่งเป็นแมพ่ ิมพไ์ มป่ ระพฤตปิ ฏิบตั ติ นใหเ้ ปน็ แบบอย่างทดี่ ีแก่ศษิ ย์ ด้วยการเปน็ หนแ้ี ลว้ ไมช่ ําระ
จึงเปน็ การกระทาํ ผิดวนิ ยั ฐานประพฤติช่วั ส่วนจะรา้ ยแรงตามข้อ ๒๓ วรรคสอง หรือไม่ ข้ึนอยู่ทผี่ ลการ
สอบสวนพิจารณา
ขอบคุณทุกความเหน็ ครับ

รวบรวมโดย นติ ิกรพร หน้า 105

คําถาม-ตอบวนิ ัย ปี 2561 โดยอาจารย์ประวิทย์ เปรอื่ งการ รวบรวมโดยนติ กิ รพร เทศบาลตําบลบะหวา้ จงั หวัดสกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

*******************
คาํ ถาม ๒๑/๑๒/๖๑
เรียน ถามทา่ นอาจารยป์ ระวิทย์ ครบั กรณอี าํ เภอเข้าตรวจปัสสาวะ อบต แห่งหน่งึ พบพนักงานสว่ นตาํ บลราย
หน่งึ ปสั สาวะสีม่วงเบอ้ื ตน้ รบั สารภาพวา่ เสพยาเสพตดิ โดยทไ่ี ม่ไดต้ รวจแยกสารฯ และทาง อบต มไิ ด้สง่ ใหเ้ จ้า
พนักงานตํารวจดําเนนิ การ ตอนนอ้ี ยใู่ นระหว่างดาํ เนินการกรรมการสอบสวนวนิ ัย ต่อมามีคาํ พพิ ากษาของศาล
พพิ ากษาจาํ คกุ พนักงานรายดงั กลา่ วฐานเสพยาเสพตดิ ,ทํารา้ ยรา่ งกายและอีกหลายฐานศาลเหน็ ว่าเคยกระทํา
ความผดิ ในลักษณะเดยี วกนั หลายครง้ั ไมห่ ราบจาํ ไมม่ เี หตุบรรเทาโทษส่ังจําคกุ รวมกนั 14เดอื น แตป่ ระกันตัว
ออกมาสู้คดใี นช้ันอุทธรณต์ อนนีก้ ม็ าทาํ งานตามปกติ แต่นายกจะใหต้ งั้ กรรมการสอบสวนเฉพาะกรณอี ําเภอ
ตรวจปสั สาวะเจอสมี ่วง เช่นน้ีทาง อบต ควรจะดาํ เนินการอยา่ งไรเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบ กฎหมายที่
เก่ยี วข้องครบั
ตอบ

หลกั การ
ขา้ ราชการสว่ นท้องถนิ่ /พนักงานจา้ ง/ลกู จ้าง เกีย่ วขอ้ งกับยาเสพติด ทง้ั ผลิต ค้า/จาํ หน่าย เสพ หรือ
ตดิ หรือสนบั สนุน (ผ้ปู ระกันตัวในคดียาเสพติด) ทุกคน นายกฯ ต้องดาํ เนินการตามขน้ั ตอน ดังตอ่ ไปน้ี
๑. ตง้ั กรรมการสอบสวนวินัยอย่างรา้ ยแรง
๒. เสนอขอความเหน็ ชอบไปยงั ก.จงั หวัดเพื่อใหอ้ อกจากราชการไวก้ อ่ น (หลักเกณฑ์วนิ ยั ขอ้ ๒๙ ว.
๕)
ท้ังนี้ ตามหนงั สือสํานกั งาน ก.จ., ก.ท.และ ก.อบต.ที่ มท ๐๘๐๙.๑/ว ๗๓๓ ลง ๑๒ พฤษภาคม
๒๕๔๖
๓. ผลการสอบสวนพจิ ารณา

(๑) หากเปน็ วินยั อยา่ งร้ายแรง ต้องสงั่ ลงโทษปลดออก/ไลอ่ อกจากราชการ โดยขอความเหน็ ชอบ
จาก ก.จงั หวดั แล้วออกคาํ สงั่ ใหม้ ผี ลต้ังแตว่ นั ใหอ้ อกจากราชการไวก้ อ่ นน้ัน

(๒) หากเป็นวนิ ยั อยา่ งไมร่ ้ายแรง ใหข้ อความเหน็ ชอบไปยงั ก.จงั หวดั เพื่อใหผ้ นู้ นั้ กลับเขา้ รบั
ราชการกอ่ น แล้วจึงออกคาํ ส่ังลงโทษภาคทัณฑ์ ตดั เงินเดือน ลดข้นั เงินเดือน ตามควรแกก่ รณี

๔. ผเู้ สพหรือตดิ ยาเสพติดซง่ึ ถูกส่งตวั เข้ารบั การบาํ บดั แบง่ เป็น ๒ กรณี คือ
(๑) กรณพี ้นจากการเป็นผ้ใู ชย้ าเสพตดิ ก่อนสง่ั ลงโทษ ตอ้ งใหโ้ อกาสทํางาน โดยจะสงั่ ลงโทษปลด

ออก/ไล่ออกไม่ได้ ให้ลงโทษได้เพียงวินยั อย่างไมร่ ้ายแรง (ภาคทณั ฑ์ ตัดเงนิ เดอื น ลดข้ันเงินเดอื น) เทา่ นั้น ตาม
หนงั สือสํานกั งาน ก.จ.,ก.ท. และ ก.อบต.ที่ มท ๐๘๐๙.๖/ว ๓๕ ลง ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๙

(๒) กรณพี น้ จากสภาพการใช้ยาเสพติดหลังการสัง่ ลงโทษ กล่าวคือ ในวนั ท่ถี ูกสัง่ ลงโทษทางวนิ ัย
ยังไม่พ้นจากสภาพการใช้ยาเสพตดิ ไมอ่ ยู่ในความหมายตามขอ้ (๑) นั่นคอื ให้พิจารณาโทษตามขอ้ เทจ็ จรงิ เปน็
กรณี ๆ ไป

ประเด็น
๑. ต้องดําเนนิ การอย่างไรกบั ข้าราชการสว่ นทอ้ งถนิ่ ผ้เู สพยาเสพติด
๒. ศาลมคี ําพพิ ากษาใหจ้ ําคกุ ในหลายเร่ืองต้องดําเนินการเช่นใด

สรุป

รวบรวมโดย นิติกรพร หน้า 106

คาํ ถาม-ตอบวนิ ัย ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวทิ ย์ เปรอ่ื งการ รวบรวมโดยนติ ิกรพร เทศบาลตาํ บลบะหว้า จังหวดั สกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

๑. ต้องแต่งตง้ั คณะกรรมการสอบสวนวนิ ยั อย่างรา้ ยแรง และขอความเห็นชอบจาก ก.จงั หวัด ให้ออก
จากราชการไวก้ อ่ น ทกุ คน

๒. ข้าราชการส่วนท้องถิ่นถูกฟอู งคดอี าญาในหลายเรอ่ื ง นายกฯ ต้องแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน
วินัย (ทกุ เร่ือง) เทียบเคยี งหนงั สอื สาํ นกั งาน ก.พ.ที่ สร ๐๙๐๕/ว ๔ ลง ๑๘ มีนาคม ๒๕๐๙

ขยายความ
ตามคาํ ถาม
๑. นายกฯ มิไดแ้ ต่งตงั้ คณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอยา่ งรา้ ยแรงมาต้ังแตพ่ บการกระทาํ ความผดิ
และมไิ ดส้ งั่ ให้ออกจากราชการไวก้ อ่ น จงึ เป็นการไมป่ ฏิบตั ติ ามแนวทางขา้ งต้น (ตอ้ งระวงั เร่ืองการละเว้นการ
ปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗) แมป้ ลอ่ ยปละละเลยมาจนกระท่งั มีการฟูองคดีอาญา
และศาลชั้นต้นมคี ําพพิ ากษาว่ามีความผดิ

นายกฯ จาํ ตอ้ งอาศัยเหตุทขี่ า้ ราชการผ้นู น้ั เสพยาเสพตดิ
(๑) แตง่ ตัง้ คณะกรรมการสอบสวนวนิ ัยอย่างร้ายแรง (หลักเกณฑว์ ินัย ข้อ ๒๖ ว.๖)
(๒) เสนอ ก.จังหวดั เพ่อื ขอความเหน็ ชอบใหอ้ อกจากราชการไวก้ อ่ น (หลักเกณฑ์วนิ ยั ขอ้ ๒๙ ว.๕
ประกอบ ว.๗๓๓)
(๓) สง่ ตวั ไปรบั การบาํ บดั ณ สถานบาํ บดั หรอื สถานพยาบาล (ว.๓๕)
(๔) เม่ือการสอบสวนพจิ ารณาแล้วเสร็จ พบวา่

๑) กรณีเป็นวินัยอย่างไม่รา้ ยแรง ต้องดําเนนิ การ ดงั นี้
ก. ใหเ้ สนอไปยงั ก.จงั หวดั เพื่อขอให้ผเู้ สพยาเสพตดิ กลบั เขา้ รบั ราชการในตาํ แหนง่ เดมิ /

ระดบั เดยี วกนั เสียกอ่ น (หลักเกณฑ์ให้ออก ขอ้ ๒๒ (๓)
ข. ออกคําสัง่ ลงโทษ เป็นวนิ ยั อย่างไมร่ า้ ยแรง ดว้ ยการภาคทณั ฑ์ ตดั เงินเดอื น ลดขนั้

เงนิ เดือน แลว้ แตก่ รณี (หลกั เกณฑ์วินัย ข้อ ๘๔ ว.๑) หลงั จากท่ไี ด้มีคําสัง่ ให้กลับเข้ารับราชการแลว้
ค. รายงานการดาํ เนินการทางวินยั ไปยงั ก.จังหวดั เพือ่ พิจารณา (หลกั เกณฑ์วินัย ข้อ ๘๗

ว.๑)
๒) กรณเี ปน็ วินยั อย่างรา้ ยแรง ต้อง
ก. เสนอเรอื่ งไปยงั ก.จงั หวดั เพื่อขอความให้ชอบใหล้ งโทษปลด/ไล่ออกจากราชการ
ข. นายกฯ ออกคําสง่ั ลงโทษปลด/ไล่ออก ตามมติ ก.จงั หวัด (หลกั เกณฑ์วนิ ัย ขอ้ ๘๕ ว.

๑)
๓) กรณพี น้ จากการใชย้ าเสพติด (มหี นังสือรบั รองจากสถานบําบดั หรอื แพทยผ์ ทู้ าํ การรักษา)
ก. กอ่ นการออกคาํ สง่ั ลงโทษ จะสง่ั ปลดออก/ไล่ออก ไม่ได้ (ว.๓๕) และสามารถสง่ั ลงโทษ

ได้เพียงวนิ ัยอยา่ งไมร่ ้ายแรงเท่านน้ั
ข. หลงั การออกคําส่งั ลงโทษ ไม่อย่ใู นความหมายตาม ว.๓๕ (การอา่ น ว.๓๕ ต้องอา่ นทัง้

ฉบับ รวมถึงสงิ่ ทส่ี ง่ มาดว้ ย)
ค. กรณถี ูกส่ังลงโทษปลด/ไลอ่ อกไปแลว้ และมกี ารอทุ ธรณ์คําสง่ั ลงโทษ ก.จงั หวัดต้อง

พจิ ารณาใหโ้ อกาสตาม ว.๓๕
๒. เมือ่ ศาลมีคาํ พพิ ากษาใหจ้ ําคุกในหลายเรอื่ ง นายกฯ จะเลอื กแต่งตงั้ คณะกรรมการสอบสวนเฉพาะ

เรอื่ งยาเสพตดิ เพยี งเรือ่ งเดียวหาได้ไม่ ถา้ การกระทาํ ความผดิ ตามคําพพิ ากษาในเร่อื งอน่ื น้นั ได้กระทาํ ในขณะมี
สภาพเป็นขา้ ราชการ ตามรายละเอียด ดงั น้ี

รวบรวมโดย นติ ิกรพร หน้า 107

คําถาม-ตอบวินัย ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวิทย์ เปรือ่ งการ รวบรวมโดยนิติกรพร เทศบาลตําบลบะหวา้ จังหวัดสกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

(๑) ขา้ ราชการสว่ นท้องถ่ินผูใ้ ดถูกกล่าวหาว่ากระทําผิดวินยั โดยมีพยานหลกั ฐานในเบื้องตน้ อยู่แลว้
ให้นายกฯ ดาํ เนนิ การทางวนิ ัยทนั ที (หลกั เกณฑว์ ินยั ข้อ ๒๔ ว.๔)

(๒) การดําเนินคดีอาญากบั การดาํ เนนิ การทางวนิ ยั เปน็ คนละกระบวนการกัน ตอ้ งดําเนินการไป
พรอ้ มกัน (ว.๔)

(๓) เม่อื มีการฟูองเป็นคดอี าญาและดําเนนิ การทางวนิ ยั ในเรอ่ื งใดไปแลว้ แตก่ ารสอบสวนทางวินัย
ยังไมส่ ามารถฟังลงโทษผู้กระทําผดิ ได้ สมควรรอการสงั่ การเดด็ ขาดทางวนิ ัยไวก้ ่อน จนกว่าจะทราบผลทาง
คดอี าญา ตามหนังสือสาํ นกั งาน ก.พ.ท่ี สร ๐๙๐๕/ว ๙ ลง ๖ ตุลาคม ๒๕๐๙

ดังนัน้ เมือ่ ความปรากฏแกน่ ายกฯ ว่า ขา้ ราชการสว่ นท้องถิน่ ผใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชากระทาํ ผิดวินัยหลาย
เรอื่ ง นายกฯ ตอ้ งต้ังกรรมการสอบสวนทุกเรอื่ ง ไม่อาจเว้นการดาํ เนนิ การทางวนิ ัยในเร่ืองหนงึ่ เรอื่ งใดได้ โดย
ตอ้ งดาํ เนนิ การ ดงั น้ี

(๑) ออกคาํ สั่งแตง่ ตงั้ คณะกรรมการสอบสวน ๑ คาํ ส่ัง ในทุกเรือ่ งที่ไดก้ ระทําลง โดยตอ้ งระบวุ า่
๑) กระทาํ ผดิ เรือ่ งอะไร ท่ีไหน อย่างไร เมอื่ ไร
๒) กระทาํ ผิดเรอ่ื งอะไร ท่ีไหน อย่างไร เมอ่ื ไร และ
๓) กระทาํ ผดิ เร่อื งอะไร ทไ่ี หน อย่างไร เมอ่ื ไร
เปน็ ต้น

(๒) ออกคําสัง่ คนละคําสง่ั ในแตล่ ะเร่ือง (หลกั เกณฑว์ ินัยมไิ ดก้ าํ หนดไว้เป็นการเฉพาะ กรณีกระทาํ
ผดิ วินยั หลายเรอ่ื งพรอ้ ม ๆ กนั แต่หากเลอื กใชว้ ิธกี ารตามขอ้ (๑) จะสะดวกยงิ่ กวา่ )

ขอบคุณทกุ ความเห็น ครับ
******************

คําถาม ๒๔/๑๒/๖๑
พนกั งานจ้างถูกตรวจพบฉส่ี ีม่วง นายกฯ ส่งไปบาํ บดั 1 เดอื น ต่อมาตรวจพบฉ่ีสมี ่วงอกี จึงแนะนําให้ยนื่

ใบลาออกและออกไปแล้ว ไมท่ ราบวา่ นายกฯ ปฏบิ ตั ิถกู ต้องหรอื ไม่คะ หากไมถ่ ูก ตอ้ งรับผิดชอบหรือไม่
อยา่ งไร กราบขอบพระคณุ ค่ะ
ตอบ

แนวทางปฏิบัติกรณีขา้ ราชการสว่ นท้องถ่นิ พนกั งานจ้าง ลกู จ้าง เข้าไปเก่ยี วขอ้ งกบั ยาเสพตดิ ท้ังเป็น
ผ้ผู ลติ ค้า/จาํ หนา่ ย เสพ หรือตดิ หรอื สนบั สนนุ (ผปู้ ระกนั ตวั ในคดยี าเสพตดิ ) ไดอ้ ธิบายไว้ในคาํ ตอบ- คําถาม
๒๑/๑๒/๖๑ แล้ว สว่ นคําถามใหมม่ ีเพิม่ เตมิ ดงั น้ี

ประเดน็

๑. พนกั งานจ้างเสพยาเสพตดิ นายกฯ สง่ ตัวเข้ารับการบําบัดเพียงอยา่ งเดียว แต่ไมด่ ําเนินการทาง
วนิ ัย สามารถทําได้หรอื ไม่

๒. พนกั งานจา้ งเสพยาเสพตดิ นายกฯ อนญุ าตใหล้ าออก โดยไม่ดําเนินการทางวินยั ไดห้ รอื ไม่

๓. ทัง้ สองกรณี นายกฯ ตอ้ งรบั ผดิ ชอบหรอื ไม่ อยา่ งไร
สรปุ
๑. นายกฯ ไม่อาจส่งตวั ผู้เสพยาเสพตดิ เข้ารับการบาํ บัดเพยี งอยา่ งเดยี ว โดยไม่ดาํ เนินการทางวินัยได้

แตเ่ มอ่ื สง่ ตัวเขา้ รบั การบาํ บัด ณ สถานบาํ บัด หรอื สถานพยาบาลแล้วต้องดําเนนิ การทางวินยั อย่างร้ายแรงด้วย
๒. นายกฯ ตอ้ งอนญุ าตใหผ้ ้เู สพยาเสพติดลาออกจากงาน เพราะเป็นสทิ ธขิ ัน้ พ้ืนฐานตามรัฐธรรมนญู

แตต่ ้องแตง่ ตัง้ คณะกรรมการสอบสวนวนิ ัยอย่างร้ายแรงก่อนการลาออกมผี ล

รวบรวมโดย นติ กิ รพร หน้า 108

คําถาม-ตอบวนิ ัย ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวิทย์ เปร่ืองการ รวบรวมโดยนิตกิ รพร เทศบาลตําบลบะหว้า จงั หวัดสกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

๓. เมือ่ นายกฯ ไมด่ ําเนินการทางวนิ ัยผ้เู สพยาเสพตดิ ดงั กล่าว ถือว่าไมป่ ฏบิ ตั หิ น้าทโี่ ดยถูกตอ้ งตาม
กฎหมาย กฎ ระเบียบ และขอ้ บงั คบั ของทางราชการ

ขยายความ
๑. การทีข่ ้าราชการส่วนทอ้ งถนิ่ พนกั งานจา้ ง ลกู จา้ ง เสพยาเสพติด นายกฯ ตอ้ งดําเนนิ การ ดังนี้

(๑) แต่งตง้ั คณะกรรมการสอบสวนวนิ ยั อยา่ งร้ายแรง
(๒) เสนอขอความเหน็ ชอบไปยงั ก.จงั หวดั เพอื่ ให้ผู้นั้นออกจากราชการหรอื ออกจากงานไวก้ ่อน
อา้ งอิง
๑. หนังสอื สาํ นักงาน ก.จ., ก.ท. และ ก.อบต. ที่ มท ๐๘๐๙.๑/ว ๗๓๓ ลง ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๔๗ ขอ้
๑
๒. หลกั เกณฑแ์ ละเงอ่ื นไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินยั ฯ ขอ้ ๒๖ วรรคหก และข้อ ๒๙ วรรค
หา้
๓. มาตรฐานทว่ั ไปเกย่ี วกบั พนกั งานจ้าง ลง ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๔๗ ขอ้ ๔๘ วรรคหน่ึง

๒. การลาออกจากงานของพนักงานจา้ งเปน็ สทิ ธขิ นั้ พน้ื ฐานของปวงชนชาวไทยในการเลอื กถ่ินทีอ่ ยู่

ตามรฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย เมือ่ พนกั งานจ้างผเู้ สพยาเสพตดิ ขอลาออกจากงาน นายกฯ ตอ้ งเสนอ
ความเหน็ ว่า "เห็นควรอนญุ าต" ก่อนเสนอ ก.จงั หวดั ใหค้ วามเห็นชอบในการลาออก และต้องแตง่ ต้งั
คณะกรรมการสอบสวนวินัยอยา่ งร้ายแรงกอ่ นการขอลาออกมผี ล

อา้ งองิ
๑. รัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๓๘ วรรคหนึง่
๒. มาตรฐานทวั่ ไปเกย่ี วพนกั งานจา้ ง ลง ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๔๗ ข้อ ๔๘ และขอ้ ๕๕

๓. หลักเกณฑ์และเงอื่ นไขในการใหอ้ อกจากราชการฯ หมวด ๔

๓. การที่นายกฯ ไมด่ ําเนินการทางวินัย ท้ังทีม่ พี ยานหลักฐานในเบอื้ งตน้ อยู่แล้วว่าพนกั งานจา้ งเสพยา

เสพตดิ ตามหลกั เกณฑ์วนิ ยั ข้อ ๒๔ วรรคสี่ ประกอบ ว.๗๓๓ จึงเปน็ กรณที น่ี ายกฯ ไมป่ ฏบิ ตั ิหนา้ ที่หรอื ปฏบิ ตั ิ
หนา้ ที่ดังกลา่ วโดยไมส่ จุ รติ ให้ถือวา่ ไม่ปฏิบตั กิ ารตามอํานาจหน้าทโ่ี ดยถกู ต้องตามกฎหมาย กฎ ระเบยี บ และ
ขอ้ บงั คับของทางราชการ ตามหลกั เกณฑว์ ินยั ขอ้ ๒๔ วรรคสิบสอง ซง่ึ อาจนาํ มาสู่การสอบสวน การถอดถอน

หรือความรับผดิ ทางอาญา มาตรา ๑๕๗ ได้
อ้างองิ
๑. หลกั เกณฑ์และเงอ่ื นไขในการสอบสวน การลงโทษทางวนิ ยั ฯ ขอ้ ๒๔ วรรคสี่ และวรรคสบิ สอง

๒. ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗
๓. พ.ร.บ.จดั ตง้ั

(๑) อบจ. มาตรา ๗๙

(๒) เทศบาล มาตรา ๗๓
(๓) เมอื งพทั ยา มาตรา ๙๖
(๔) อบต. มาตรา ๙๒

ข้อสังเกต
เร่อื งลกั ษณะน้ีเป็นการจดั การเชิงบรหิ าร ซ่งึ มีให้เหน็ อยู่เนอื ง ๆ หากไม่มีการรอ้ งเรียนหรอื ร้องทุกข์
กลา่ วโทษจะไม่เกิดประเดน็ แตห่ ากมกี รณรี อ้ งเรยี นหรอื รอ้ งทกุ ขก์ ลา่ วโทษ จะเกิดความยุ่งยากในการแกต้ ่างไม่

รวบรวมโดย นิติกรพร หน้า 109

คาํ ถาม-ตอบวนิ ัย ปี 2561 โดยอาจารย์ประวทิ ย์ เปรือ่ งการ รวบรวมโดยนติ ิกรพร เทศบาลตาํ บลบะหว้า จังหวัดสกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

นอ้ ย เพราะการจดั การเชงิ บริหารดงั กลา่ ว มไิ ดเ้ ป็นไปตามหลักนิติธรรมแตอ่ ย่างใด ดงั น้นั ผู้ใชอ้ าํ นาจจึงต้อง
ใครค่ รวญใหร้ อบคอบทุกครัง้ กอ่ นตัดสนิ ใจใช้อํานาจนน้ั

ขอบคณุ ทกุ ความเหน็ ครบั
******************

คาํ ถาม ๒๖/๑๒/๖๑
เรยี นถามค่ะท่านอาจารย์
นายกฯ สง่ั ให้ดิฉันหัวหนา้ สํานกั ปลัด อบต.ร่างคําสงั่ ตง้ั กรรมการสอบวนิ ัยปลัดโดยอา้ งวา่ ขดั คําสั่งนายกฯ

เรอ่ื งของเรือ่ งคือ ท้ังสองทา่ นขดั แย้งกนั ในเร่อื งงานบ่อย ๆ นายกฯ เคยเสนอใหย้ ้ายปลดั กรณขี ดั แยง้ แต่
จงั หวดั สอบแล้วไม่ขัดแยง้ เพราะปลดั ทําตามระเบยี บ

นายกฯ มักสัง่ ใหป้ ลดั ทาํ โนน่ นี่นั่นกอ่ นเลิกงานเป็นประจาํ "จะเอาเดีย๋ วน"้ี หรือ "ผมจะรอ" เปน็ ต้น ปลดั
ต้องจดั ให้ บางครง้ั เกอื บหนง่ึ ทมุ่ ถงึ เรียบรอ้ ย

เมอื่ วนั ศุกร์ท่ี 21 ธ.ค.61 ที่ผ่านมา ตอน 16.30 น. นายกฯ ให้ จนท.ถือหนงั สอื มายน่ื ใหป้ ลัดบอกวา่ จะ
เอาเดี๋ยวน้ี ปลัดบอกเดก็ ให้นําเรยี นนายกฯ วา่ ต้องตรวจสอบเอกสารจาํ นวนมาก อกี ท้งั มตี ัวเลขที่ต้องใช้ความ
ละเอียด วันจันทรจ์ ะนําเสนอตอน 08.30 น. ซงึ่ ทราบว่าในวนั หยุดเสาร-์ อาทติ ย์ ปลัดมาทําเรื่องนี้จนเสรจ็
และนาํ เสนอท่านนายกฯ ตอนแปดโมงครง่ึ วนั แรกที่มาทํางาน นายกฯ ตบโต๊ะไมพ่ อใจ แลว้ พูดว่า "ผมรอตง้ั แต่
วันศุกร์ มาเสนออะไรตอนน"้ี แล้วส่ังใหด้ ิฉนั ยกร่างคําสง่ั แตง่ ต้งั กรรมการสอบวนิ ัยเสนอใหล้ งนามด่วน

ขอเรียนถามวา่
1. ดฉิ นั ตอ้ งร่างคําสง่ั ตั้งกรรมการสอบวนิ ยั เสนอนายกฯ เลย ใช่หรอื ไม่ หรอื ต้องเสนออยา่ งไร
2. หากนายกฯ ออกคําสง่ั สอบวนิ ยั ปลดั จะทกั ท้วงอะไรได้บา้ ง
3. จะหาทางออกอย่างไรกับเรอ่ื งแบบนี้
ขอบพระคุณมากค่ะอาจารย์
ตอบ

"อํานาจน้ันใช้เป็นจะมีคุณ ใช้ไมเ่ ป็นย่อมเกิดโทษ" อยู่ด้วยกนั ไม่รักกัน แลว้ จะให้ใครมารักเรา..!!
ประเด็น
๑. การสง่ั งานในลกั ษณะน้เี ป็นการกลนั่ แกลง้ หรอื ไม่ ผ้ถู ูกสง่ั ควรทาํ อย่างไร
๒. ในฐานะเจ้าหน้าท่ผี รู้ บั ผดิ ชอบ ต้องปฏบิ ัติอยา่ งไร
๓. หากมีการออกคาํ สัง่ ตงั้ กรรมการสอบวินัยจรงิ ผถู้ ูกส่ังมสี ทิ ธิทําส่ิงใดได้บ้าง
๔. ปญั หาลักษณะน้ีควรดําเนินการเชน่ ใด จงึ ชอบดว้ ยกฎหมาย
คาํ อธิบาย
๑. เปน็ กรณผี บู้ ังคบั บญั ชาปฏิบัตใิ หเ้ กดิ ความคบั ข้องใจตอ่ ตน ผู้ถกู สง่ั ควรขอปรกึ ษาหารอื เพอื่ หาทาง
ออกร่วมกนั แต่หากไม่ประสงค์จะปรกึ ษาหารอื สามารถใช้สทิ ธริ ้องทกุ ข์ไปที่ ก.จังหวดั ภายใน ๓๐ วันนับแต่
วันทราบเหตุแหง่ การรอ้ งทกุ ขน์ ัน้
ผู้บงั คบั บญั ชาต้องมีวจิ ารณญาณในการส่ังงาน โดยยดึ ท้งั ข้อกฎหมาย ข้อเท็จจรงิ และความเป็นไปได้
เพราะตอ้ ง

(๑) ใช้อาํ นาจปฏบิ ตั ิอยา่ งถกู ต้อง
(๒) ปฏิบตั ใิ หถ้ ูกต้องตามกฎหมาย
(๓) ไม่ปฏบิ ัตใิ ห้เกดิ ความคบั ขอ้ งใจ

รวบรวมโดย นติ กิ รพร หนา้ 110

คาํ ถาม-ตอบวนิ ัย ปี 2561 โดยอาจารย์ประวิทย์ เปรอ่ื งการ รวบรวมโดยนิติกรพร เทศบาลตําบลบะหวา้ จังหวดั สกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

ดังน้นั การส่ังใหผ้ ใู้ ต้บังคบั บญั ชาดําเนนิ การในลักษณะดงั กล่าวเปน็ ประจาํ ควรหลีกเลี่ยง เพราะอาจ
กอ่ ใหเ้ กิดความคบั ข้องใจตอ่ ผู้ใต้บงั คับบัญชา นาํ ไปสกู่ ารร้องเรียน รอ้ งทุกข์ ฟอู งรอ้ ง ซง่ึ อาจมีการสอบสวน
ถอดถอน หรอื แม้กระทง่ั ต้องคดีอาญา มาตรา ๑๕๗ ได้

อา้ งอิง : หลกั เกณฑแ์ ละเงอื่ นไขในการอทุ ธรณแ์ ละการร้องทกุ ข์ฯ
(๑) ขอ้ ๒๖ วรรคหน่ึง วรรคสอง
(๒) ขอ้ ๒๗ วรรคหนึ่ง

๒. พฤตกิ ารณด์ ่งั ต้องการใหผ้ ้ถู กู สงั่ กระทําผดิ วนิ ยั ขอ้ ๑๓ แต่ในฐานะเจา้ หนา้ ทผี่ ้รู บั ผดิ ชอบ ต้องทํา
เป็นบนั ทึกเสนอ

(๑) ใหผ้ ู้ถูกสั่งชี้แจงเหตุขดั ข้องเป็นลายลักษณ์อกั ษร หรอื
(๒) ให้รบี ดําเนนิ การสบื สวนหรอื พิจารณาในเบอื้ งตน้ ว่าเป็นกรณีมีมลู ท่คี วรกลา่ วหาว่ากระทําผิด
วินยั หรือไม่ ดว้ ยการต้งั กรรมการสบื /สอบ/ตรวจสอบ ขอ้ เทจ็ จริง
เพ่อื นาํ ผลมาประกอบการพจิ ารณาออกคําสง่ั ตงั้ กรรมการสอบวินัยตอ่ ไป
อ้างองิ : หลักเกณฑ์และเงอื่ นไขในการสอบสวน การลงโทษทางวนิ ัยฯ
(๑) ขอ้ ๑๓ วรรคหนึง่
(๒) ข้อ ๒๔ วรรคห้า และวรรคแปด
๓. หากผสู้ ั่งยงั ยืนยันเลือกที่จะแตง่ ต้ังกรรมการสอบวินยั โดยไมใ่ หโ้ อกาสชแ้ี จงเหตุขดั ขอ้ ง (ทาํ ใหต้ อ้ ง
ถกู บนั ทกึ ในทะเบียนประวัติ) ผู้ถูกส่งั มสี ทิ ธิรอ้ งทกุ ข์ตอ่ ก.จงั หวัดได้ ภายใน ๓๐ วัน นับแต่ลงนามรบั ทราบ
คาํ ส่ังแตง่ ต้ังกรรมการสอบวินัย ใน ๒ ประเด็น คอื
(๑) ผสู้ ่งั ตง้ั เป็นคู่กรณีกบั ผู้ถกู สงั่ ไม่สามารถแตง่ ตงั้ กรรมการสอบวินยั เองได้ ต้องให้ ก.จงั หวดั
คัดเลอื กกรรมการสอบสวน ("ขดั แยง้ " ในเรื่องโอนยา้ ยกบั "คู่กรณี" ในการตง้ั กรรมการสอบ อาจเป็นคนละ
ประเด็น ยอ่ มเป็นอาํ นาจพิจารณาของ ก.จงั หวัด)
(๒) ผูบ้ งั คบั บญั ชาปฏบิ ัติตอ่ ตนอย่างไมเ่ ปน็ ธรรม
อา้ งองิ :

๑. หลกั เกณฑแ์ ละเงอื่ นไขในการสอบสวน การลงโทษทางวนิ ยั ฯ ขอ้ ๔๙ วรรคสี่
๒. หลกั เกณฑ์และเงอ่ื นไขในการอทุ ธรณ์และการรอ้ งทกุ ข์ฯ ข้อ ๒๗ วรรคหนง่ึ
๔. ปัญหาน้ีแก้ยาก เพราะเป็นเรอ่ื งของ "คน" ทีม่ ีความเหน็ ตา่ ง หรือมิจฉาทิฏฐิ หรอื อคติ อันดบั แรกผู้
ถกู ส่งั ต้องพจิ ารณาตัวเองก่อนวา่ ทาํ ไม ? เพราะเหตุใด ? บกพรอ่ งหรอื ไม่ ? เปน็ ต้น ก่อนตาํ หนผิ สู้ ง่ั ไม่ควร
ทะเลาะกนั เพราะผลรา้ ยจะตกอยกู่ บั ประชาชนที่ไมร่ เู้ รอื่ ง
เกิดเรื่องลักษณะนีข้ ้ึนใน อปท.เนอื ง ๆ เพราะตา่ งมมุ มอง ต่างจดุ ยนื ฝุายหนงึ่ ต้องรบั ผดิ ชอบต่อ
ประชาชนผเู้ ลอื ก อกี ฝาุ ยยดึ ระเบียบกฎหมาย บางครงั้ มเี ร่อื งผลประโยชนเ์ ขา้ มาเกี่ยวข้อง ทาํ ใหเ้ กิดความ
ขดั แย้ง นานเข้าก็ยากจะเยียวยา
ดังนัน้ ผถู้ กู สงั่ มีทางเลอื ก ๓ ทาง คอื
(๑) อดทน ยึดมั่นในระเบยี บ อีกไมน่ านกต็ อ้ งแยกจากกนั ไป
(๒) ใชช้ อ่ งทางตามกฎหมายเพ่ือปกปอู งตวั เอง
(๓) หากเหน็ ว่าไมไ่ หวจรงิ ๆ ควรหาสงั กดั ใหม่ ผบู้ ังคับบัญชาท่เี ปน็ คนดียังมอี กี มาก (ศกึ ษาข้อมลู
ให้ละเอยี ดจนมั่นใจ ต้องระวัง ! อย่าให้ "หนเี สอื ปะจระเข้" อกี )
อนึง่ หากมกี ารแก้ไข พ.ร.บ.ระเบยี บบรหิ ารงานบคุ คลสว่ นท้องถิ่น ปัญหาดงั กลา่ วอาจลดลง..!!
ขอบคุณทกุ ความเหน็ ครับ

รวบรวมโดย นติ ิกรพร หนา้ 111

คาํ ถาม-ตอบวนิ ัย ปี 2561 โดยอาจารยป์ ระวิทย์ เปรือ่ งการ รวบรวมโดยนิติกรพร เทศบาลตาํ บลบะหวา้ จงั หวัดสกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

*******************
คาํ ถาม ๒๘/๑๒/๖๑
ขอสอบถาม
การยกเลกิ คําส่งั ลงโทษทางวินยั
นายก อ. มีคําส่งั ลงโทษตดั เงนิ เดอื น นาย1 5% 2 เดอื น
ตอ่ มา นาย1 ย้ายมา ทต. ส และ ปปช.ชมี้ ูล วา่ การกระทําของ นาย 1 เปน็ ทจุ ริต ผิดวนิ ัยร้ายแรง ก. จึงมมี ติ
ไล่ออก (มลู ความผิดเดยี วกนั )
ประเดน็ การจะออกคําส่ังไลอ่ อก ตอ้ งดาํ เนนิ การเพกิ ถอนคาํ สัง่ เดมิ กอ่ น
ขอสอบถามวา่ นายก อ. ผูอ้ อกคําส่ัง หรอื นายก.ปจั จุบัน ใครเป็นผ้มู อี ํานาจเพกิ ถอนคาํ สง่ั ตดั เงินเดือน
ตอบ

เปน็ กรณี "การออกคําสงั่ ลงโทษครงั้ ท่ี ๒ ในความผดิ เดียวกนั " ภายใต้แนวคดิ ทฤษฎีการลงโทษทีว่ ่า
"พฤติกรรมเดียวตอ้ งไดร้ ับโทษครง้ั เดียว"

ประเด็น
๑. นายกฯ ออกคาํ ส่ังลงโทษทางวนิ ยั อยา่ งไมร่ า้ ยแรงแลว้ ตอ่ มา ป.ป.ช.ช้ีมูลความผิดในเรอ่ื งเดยี วกัน
ว่าเปน็ วนิ ัยอย่างรา้ ยแรงอกี จะตอ้ งปฏิบตั อิ ย่างไร
๒. กรณดี งั กล่าวหากมกี ารโอน สงั กดั ใหมต่ ้องออกคาํ สั่งอยา่ งไร
สรปุ ส้นั
๑. ทําได้ ๒ วิธี คือ

(๑) สง่ั "เพมิ่ โทษ" ตามแนวทางวินยั
(๒) สง่ั "ลงโทษ" ตามแนวทางคาํ พพิ ากษาศาลปกครอง
๒. กรณีโอนสงั กัด ทาํ ได้ ๒ วธิ ี คอื
(๑) สงั กดั ใหมอ่ อกคําสง่ั "เพ่มิ โทษ"
(๒) สงั กดั ใหม่ออกคาํ ส่งั "ลงโทษ" แลว้ ส่งสําเนาคาํ สง่ั ไปใหส้ งั กดั เดมิ ดาํ เนนิ การในส่วนท่เี ก่ยี วขอ้ ง
ขยายความ
๑. การออกคําส่งั ครงั้ หลัง มี ๒ แนวทาง ดังนี้
(๑) ออกคําสง่ั "เพิ่มโทษ" จากตัดเงนิ เดอื น ๕% ๒ เดอื น เป็นไลอ่ อกจากราชการ ตามการชีม้ ลู ของ
ป.ป.ช. (ไมต่ อ้ งแตง่ ต้งั กรรมการสอบสวน) โดยความเหน็ ชอบของ ก.จงั หวัด และใช้แบบ ลท.๕ ซง่ึ เปน็ แนว
ทางการดําเนินการทางวินัย ตามหนงั สอื สาํ นักงาน ก.พ.ท่ี นร ๑๐๑๑/ล ๖๘๘ ลงวันที่ ๒๙ มิถนุ ายน ๒๕๔๗
(๒) ออกคําส่ังยกเลิกคําสงั่ ลงโทษตดั เงินเดอื น ๕% ๒ เดือน (เดมิ ) แลว้ ออกคาํ ส่ังลงโทษไล่ออก
จากราชการ (ใหม)่ ตามการชมี้ ลู ของ ป.ป.ช. (ไม่ตอ้ งแต่งตัง้ กรรมการสอบสวน) โดยความเหน็ ชอบของ ก.
จงั หวดั และใช้แบบ ลท.๕ ตามแนวคําพิพากษาศาลปกครองสงู สดุ ท่ี ๗/๒๕๕๗ (ซงึ่ ผกู พนั ค่กู รณี ตาม ม.๗๐
แหง่ พ.ร.บ.จัดตัง้ ศาลปกครองและวิธพี จิ ารณาคดปี กครอง ๒๕๔๒)
๒. สงั กัดใหมท่ ําได้ ๒ วิธี คอื
(๑) ออกคาํ สัง่ "เพมิ่ โทษ" จากตดั เงินเดอื น ๕% ๒ เดอื น เปน็ ไลอ่ อกจากราชการ โดยความ
เห็นชอบของ ก.จงั หวดั และใช้แบบ ลท.๕ (เทา้ ความถึงคาํ สง่ั ลงโทษเดมิ ) มผี ลใหโ้ ทษเดิมเปน็ อันยกเลกิ และ
ไมเ่ ปน็ การลงโทษสองคร้งั ในเร่อื งเดยี วกนั แต่อยา่ งใด ตามหนงั สอื สาํ นกั งาน ก.พ.ที่ นร ๑๐๑๑/ล ๑๔๐ ลงวันท่ี
๑ มนี าคม ๒๕๔๘

รวบรวมโดย นติ กิ รพร หนา้ 112

คําถาม-ตอบวนิ ยั ปี 2561 โดยอาจารย์ประวิทย์ เปรอ่ื งการ รวบรวมโดยนิติกรพร เทศบาลตาํ บลบะหว้า จงั หวดั สกลนคร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------

(๒) สงั กัดใหม่ออกคาํ สงั่ "ลงโทษ" ไลอ่ อกจากราชการ แลว้ สง่ สําเนาคาํ สงั่ ไปยงั สงั กัดเดิมให้ออก
คําสั่งยกเลิกคาํ สั่งตัดเงนิ เดือน ๕ % ๒ เดอื นเสยี เพ่อื คืนเงินเดอื นที่ตัดไว้น้ันใหแ้ ก่ผ้ถู กู ลงโทษ ตามหลักเกณฑ์
วนิ ยั ข้อ ๘๗ วรรคเจด็ เทยี บเคียงหนงั สือสํานักงาน ก.อบต.ท่ี มท ๐๘๐๙.๑/ว ๘๖๓ ลงวนั ท่ี ๙ มถิ นุ ายน
๒๕๔๖

หมายเหตุ
กรณนี ้ี ไมว่ า่ จะใช้คาํ วา่ "เพิม่ โทษ" หรอื "ลงโทษ" ในสถาน (ปลดออก หรือ) ไลอ่ อกจากราชการ สังกดั
เดิมตอ้ งคนื เงินเดอื นท่ตี ดั ไว้ ๕ % ๒ เดือนน้ันให้แกผ่ ถู้ ูกลงโทษ
อา้ งอิง :
๑. พ.ร.ป.ว่าดว้ ยการปูองกันและปราบปรามการทจุ ริตฯ มาตรา ๙๒ (เดิม) มาตรา ๙๘ (ใหม)่
๒. พ.ร.บ.จัดตง้ั ศาลปกครองและวธิ พี ิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.๒๕๔๒ มาตรา ๗๐
๓. คําพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ท่ี ๗/๒๕๕๗
๔. หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวนิ ยั ฯ

ขอ้ ๘๕ วรรคหนึ่ง
ขอ้ ๘๗ วรรคเจด็
๕. หนงั สอื
(๑) สํานกั งาน ก.จ.ที่ มท ๐๘๐๙.๑/ว ๖๔ ลงวนั ท่ี ๒๑ มกราคม ๒๕๔๖
(๒) สาํ นักงาน ก.อบต.ที่ มท ๐๘๐๙.๑/ว ๘๖๓ ลงวนั ท่ี ๙ มิถนุ ายน ๒๕๔๖
(๓) หนงั สอื สํานักงาน ก.จ., ก.ท.และ ก.อบต.ท่ี มท ๐๘๐๙.๑/ว ๘๘๙ ลงวนั ท่ี ๓๐ สงิ หาคม
๒๕๔๕
๖. หนงั สอื สํานกั งาน ก.พ.
(๑) ที่ นร ๑๐๑๑/ล ๖๘๘ ลงวันท่ี ๒๙ มิถนุ ายน ๒๕๔๗
(๒) ที่ นร ๑๐๑๑/ล ๑๔๐ ลงวนั ท่ี ๑ มนี าคม ๒๕๔๘
ขอ้ แนะนาํ
เพ่อื ใหเ้ ป็นไปตามแนวทางวินยั ควรใช้วธิ ีการ "เพิ่มโทษ" ตามขอ้ ๑ (๑) และข้อ ๒ (๑) ซ่ึงเปน็ วิธีแกไ้ ข
ทไี่ ด้กาํ หนดไว้ครบถ้วนแลว้ เพราะคาํ พพิ ากษาศาลปกครองสงู สุดผูกพันเฉพาะคกู่ รณี
ขอบคณุ ทกุ ความเหน็ ครับ

----------------------------------------------------

รวบรวมโดย นิติกรพร หนา้ 113