The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แฟ้มสะสมผลงานครู - นายธาดา หมานดำ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by hmandambig, 2019-03-24 06:21:17

แฟ้มสะสมผลงานครู - นายธาดา หมานดำ

แฟ้มสะสมผลงานครู - นายธาดา หมานดำ

22

ใบงานที่ 1
เรือ่ ง งานตดั ต่อท่อและงานขยายท่อ

วสั ดุ ขนาด จานวน/ช้ ิน
¼ น้ิว 5/16 น้ิว หรอื 3/8 น้ิว 1
1. ทอ่ ทองแดง
2. ทอ่ แคพลิ ลารี ลาดบั ขนั้ การทางาน
3. กระดาษทรายละเอยี ด
งานตดั ต่อท่อทองแดง
และเทปพนั สายไฟฟ้า
เคร่อื งมือและอปุ กรณ์ 1. คลท่ี อ่ ทองแดงออกจากขดใหถ้ กู ตอ้ งตามวธิ ี
2. ใชเ้ วอรเ์ นียรห์ รอื ฟุตเหลก็ วดั ขนาดทอ่ ทองแดงตามขนาดทก่ี าหนด
1. ตลบั เมตรหรอื ฟุตเหลก็ 3. วดั ทอ่ ทองแดงยาวทอ่ นละ 2 น้ิวแลว้ ทาเครอ่ื งหมายรอบๆ ทอ่
2. เวอรเ์ นียร์ 4. สอดทอ่ เขา้ ไปในรอ่ งใชเ้ ครอ่ื งมอื ตดั ทอ่ ใหใ้ บมดี ตรงกบั เครอ่ื งหมายทว่ี ดั ไว้
3. เครอ่ื งมอื ตดั ทอ่ 5. คอ่ ยๆ หมนุ ดา้ มปรบั ใบมดี ใหใ้ บมดี ตดั ผวิ ทอ่ เลก็ น้อยกอ่ น แลว้ หมนุ
4. เครอ่ื งมอื ลบคมทอ่
5. ตะไบสามเหลย่ี มเลก็ ดา้ มตดั ไปรอบท่อ โดยปรบั ใบมดี ใหต้ ดั ผวิ ทอ่ อยา่ งสม่าเสมอจนกระทงั่
6. ตวั จบั ท่อ ทอ่ ขาดออกจากกนั
7. ตวั ขยายทอ่
8. คอ้ น

23

เคร่อื งมือและอปุ กรณ์ ลาดบั ขนั้ การทางาน
1. ใชเ้ ครอ่ื งมอื ลบคมทอ่ ทงั้ ภายในและภายนอก
2. เมอ่ื ตดั ทอ่ เสรจ็ แลว้ ตอ้ งใชเ้ ทปพนั สายไฟฟ้าพนั ปิดปลายทกุ ครงั้

งานตดั ท่อแคพิลลารี

1. คลท่ี อ่ แคพลิ ลารอี อกจากขดใหถ้ กู ตอ้ งตามวธิ ี
2. วดั ทอ่ แคพลิ ลารยี าว 2 น้ิวหรอื ตามทก่ี าหนด แลว้ ทาเครอ่ื งหมายไว้
3. ใชต้ ะไบสามเหลย่ี มถรู อบๆ ทอ่ แคพลิ ลารใี หต้ รงกบั เครอ่ื งหมาย ทท่ี าไว้

จนใกลข้ าด
4. คอ่ ยๆ หกั ทอ่ แคพลิ ลารใี หต้ รงทต่ี ะไบสามเหลย่ี มถรู อบๆ ใหข้ าดออก

จากกนั

งานขยายท่อ

1. นาทอ่ ทองแดงจากงานตดั ทอ่ มาใสใ่ นตวั จบั ท่อ ใหต้ รงกบั ขนาดของทอ่
โดยใหส้ งู เทา่ กบั บ่าของตวั ขยายทอ่

2. ขนั นอตตวั จบั ท่อใหแ้ น่นและจบั ยดึ ตวั จบั ทอ่ ใหม้ นั่ คง
3. ใชต้ วั ขยายทอ่ ตามขนาดของทอ่ สวมเขา้ ไปในทอ่ แลว้ ใชค้ อ้ นตอกตวั

ขยายทอ่ ใหท้ อ่ ขยายออกจนสดุ
4. ถอดตวั ขยายทอ่ ออกแลว้ ถอดทอ่ ทองแดงออกจากตวั จบั ทอ่
5. ทดลองนาทอ่ ทองแดงทต่ี ดั ไวแ้ ลว้ สวมกบั ท่อทองแดงทท่ี าการขยาย
6. นาทอ่ ทองแดงทต่ี ดั ไวท้ าการขยายจนครบตามทก่ี าหนด

ตวั ตอกขยายท่อ

ตวั จบั ท่อ
ท่อ

24

แบบประเมินผลการปฏิบตั ิงาน

ท่ี รายการ 5 คะแนน 1 รวม
432

1 การเตรยี มเครอ่ื งมอื วสั ดุ อุปกรณ์

2 ความถกู ตอ้ งในการใชเ้ ครอ่ื งมอื วสั ดุ อุปกรณ์

3 ขนั้ ตอนในการปฏบิ ตั งิ าน

4 ความสาเรจ็ ของงาน

5 การรกั ษาวนิ ยั

6 มารยาท

7 ความตงั้ ใจในการปฏบิ ตั งิ าน

8 การทางานรว่ มกบั ผอู้ ่นื

9 การเกบ็ รกั ษาเครอ่ื งมอื วสั ดุ อุปกรณ์

10 ความสะอาดเรยี บรอ้ ยของบรเิ วณปฏบิ ตั งิ าน

รวม 50

ผลการประเมิน  ผา่ น  ไมผ่ า่ น

บนั ทกึ เพม่ิ เตมิ …………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………..

…………………………………………………………………………………………………………………..

…………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชอ่ื ……………………………………… ผปู้ ระเมนิ
(…………………………………..…)

25

แผนการจดั การเรียนรแู้ บบบรู ณาการท่ี 3 หน่วยที่ 2
สอนคร้งั ที่ 9-12
รหสั วิชา 2101-2008 วิชา เคร่ืองทาความเยน็ และปรบั อากาศ จานวนชวั ่ โมง 4 ชม.
ช่ือหน่วย ระบบการทาความเย็นของเคร่ืองปรบั อากาศ

แนวคิด

ระบบทาความเยน็ ของเคร่อื งทาความเยน็ และเคร่อื งปรบั อากาศท่ใี ชอ้ ย่โู ดยทวั่ ไปจะแบ่งออกไดเ้ ป็น
2 ประเภท คอื แบบทใ่ี ชก้ ลไก และแบบทไ่ี มใ่ ชก้ ลไก ซง่ึ แต่ละแบบมวี ธิ กี ารทางานแตกตา่ งกนั ออกไป ทน่ี ิยม
ใชโ้ ดยทวั่ ไปนนั้ จะเป็นแบบอดั ไอ (Vapour Compression) ซง่ึ เป็นแบบทใ่ี ชก้ ลไก ดงั นนั้ จงึ จาเป็นจะตอ้ งมกี าร
ซ่อมแกไ้ ขบารงุ เมอ่ื เกดิ ขอ้ ขดั ขอ้ ง ชา่ งผใู้ หบ้ รกิ ารจะตอ้ งมคี วามรแู้ ละเขา้ ใจวธิ กี ารใชเ้ ครอ่ื งมอื และเลอื กใช้
เครอ่ื งมอื ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสมกบั ลกั ษณะงาน จงึ จะทาใหง้ านซอ่ มมปี ระสทิ ธภิ าพเพม่ิ มากขน้ึ

สาระการเรยี นรู้

1. ระบบการทาความเยน็
2. ระบบการทาความเยน็ แบบอดั ไอ
3. ระบบการทาความเยน็ แบบดดู ซมึ
4. ระบบการทาความเยน็ แบบใชไ้ อน้า

ผลการเรยี นรูท้ คี่ าดหวงั

1. อธบิ ายระบบการทาความเยน็ ได้
2. อธบิ ายระบบการทาความเยน็ แบบอดั ไอได้
3. อธบิ ายระบบการทาความเยน็ แบบดดู ซมึ ได้
4. อธบิ ายระบบการทาความเยน็ แบบใชไ้ อน้าได้
5. มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคท์ ค่ี รสู ามารถสงั เกตเหน็ ได้

ในดา้ นความมมี นุษย์ สมั พนั ธ์ ความมวี นิ ยั ความรบั ผดิ ชอบ ความเช่อื มนั่ ในตนเอง ความสนใจใฝร่ ู้
ความรกั สามคั คี ความกตญั ญกู ตเวที

กิจกรรมการเรยี นการสอน

1. ครตู งั้ ประเดน็ ปญั หาเรา้ ความสนใจ เชน่ นกั เรยี นเขา้ ใจถงึ ระบบการความเยน็ ขอเครอ่ื งปรบั อากาศ
วา่ มรี ะบบอะไรบา้ ง ตามความเขา้ ใจของนกั เรยี น

2. ใหน้ กั เรยี นนาประสบการณ์มาตอบคาถามและแสดงความคดิ เหน็ ประกอบ
4. แบง่ นกั เรยี นออกเป็นกลมุ่ ๆ ละ 4-5 คน ครมู อบงานดงั น้ี

- ระบบการทาความเยน็
- ระบบการทาความเยน็ แบบอดั ไอ

26

- ระบบการทาความเยน็ แบบดดู ซมึ
- ระบบการทาความเบน็ แบบใชไ้ อน้า

4. ครใู หเ้ น้ือหาตามสาระการเรยี นรเู้ รอ่ื ง ระบบการทาความเยน็ แบบอดั ไอ แบบดดู ซมึ และแบบใชไ้ อน้า
5. ครตู งั้ ประเดน็ ชวนคุยใหน้ กั เรยี นคดิ เกย่ี วกบั สาระการเรยี นรใู้ นหน่วยท่ี 2 ดว้ ยการตงั้ คาถาม

ปลายเปิดเป็นคาถามนาไปสวู่ ตั ถุประสงคก์ ารเรยี นรเู้ รอ่ื ง ความรพู้ น้ื ฐานการทาความเยน็
6. ครสู รุปขอ้ คดิ เหน็ ของนกั เรยี นทงั้ หมดแนะนาใหน้ กั เรยี นไดร้ จู้ กั ระบบการทาความเยน็ แบบอดั ไอ

แบบดดู ซมึ และแบบใชไ้ อน้า
8. สง่ เสรมิ ใหน้ กั เรยี นนาความรทู้ ไ่ี ดร้ บั มาวเิ คราะห์ ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั งิ านตามกลมุ่ งานของนกั เรยี น

ทร่ี บั ผดิ ชอบ
9. ใหน้ กั เรยี นนาเสนอผลงานกลมุ่ ตามทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย แลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ ระหวา่ งกลุม่
10. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปผลการเรยี นรู้
11. ประเมนิ พฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ าน กลมุ่ นกั เรยี นและการนาเสนอผลงานกลมุ่
12. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรทู้ ่ี 2

สือ่ การเรยี นการสอน

1. หนงั สอื เรยี นวชิ า เครอ่ื งทาความเยน็ และปรบั อากาศ รหสั 2101-2008 ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์
2. ภาพการทางานของระบบทาความเยน็ แบบอดั ไอ แบบดดู ซมึ และแบบใชไ้ อน้า

การวดั และการประเมินผล

วิธีวดั ผล
1. ตรวจใบงาน
2. สงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล
3. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 2
5. การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
เครอ่ื งมือวดั ผล
1. ใบงาน
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล (ภาคผนวก ข)
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (ภาคผนวก ค)
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 2
5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครผู สู้ อนและผเู้ รยี น

รว่ มกนั ประเมนิ (ภาคผนวก จ)

27

เกณฑก์ ารประเมินผล
1. เกณฑผ์ า่ นใบงาน คอื พอใช้
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล เกณฑผ์ า่ น ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรงุ
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ เกณฑผ์ า่ น 50% ขน้ึ ไป
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 2 เกณฑผ์ า่ น ทาถกู ตอ้ ง 50% ขน้ึ ไป
5. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การ

ประเมนิ ตามสภาพจรงิ

บนั ทกึ หลงั การสอน

(ดทู ภ่ี าคผนวก ฌ และ ญ)

28

แผนการจดั การเรียนรแู้ บบบรู ณาการท่ี 4 หน่วยท่ี 2
สอนคร้งั ที่ 13-16
รหสั วิชา 2101-2008 วิชา เครื่องทาความเยน็ และปรบั อากาศ จานวนชวั ่ โมง 4 ชม.
ชื่อหน่วย ระบบการทาความเยน็ ของเคร่ืองปรบั อากาศ

แนวคิด

ระบบทาความเยน็ ของเคร่อื งทาความเยน็ และเคร่อื งปรบั อากาศท่ใี ช้อย่โู ดยทวั่ ไปจะแบ่งออกไดเ้ ป็น
2 ประเภท คอื แบบทใ่ี ชก้ ลไก และแบบทไ่ี มใ่ ชก้ ลไก ซง่ึ แตล่ ะแบบมวี ธิ กี ารทางานแตกต่างกนั ออกไป ทน่ี ิยม
ใชโ้ ดยทวั่ ไปนนั้ จะเป็นแบบอดั ไอ (Vapour Compression) ซง่ึ เป็นแบบทใ่ี ชก้ ลไก ดงั นนั้ จงึ จาเป็นจะตอ้ งมกี าร
ซ่อมแกไ้ ขบารงุ เมอ่ื เกดิ ขอ้ ขดั ขอ้ ง ชา่ งผใู้ หบ้ รกิ ารจะตอ้ งมคี วามรแู้ ละเขา้ ใจวธิ กี ารใชเ้ ครอ่ื งมอื และเลอื กใช้
เครอ่ื งมอื ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสมกบั ลกั ษณะงาน จงึ จะทาใหง้ านซอ่ มมปี ระสทิ ธภิ าพเพมิ่ มากขน้ึ

สาระการเรยี นรู้

5. ระบบการทาความเยน็ แบบใชก้ ารขยายตวั ของอากาศ
6. เครอ่ื งมอื ซอ่ มในงานบรกิ ารเครอ่ื งทาความเยน็

ผลการเรียนรูท้ ่ีคาดหวงั

5. อธบิ ายระบบการทาความเยน็ แบบใชก้ ารขยายตวั ของอากาศได้
6. เลอื กใชเ้ ครอ่ื งมอื ซอ่ มในงานบรกิ ารเครอ่ื งทาความเยน็ ไดถ้ กู ตอ้ งปลอดภยั
7. มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคท์ ค่ี รสู ามารถสงั เกตเหน็ ได้

ในดา้ นความมมี นุษย์ สมั พนั ธ์ ความมวี นิ ยั ความรบั ผดิ ชอบ ความเช่อื มนั่ ในตนเอง ความสนใจใฝร่ ู้
ความรกั สามคั คี ความกตญั ญกู ตเวที

กิจกรรมการเรยี นการสอน

1. ครตู งั้ ประเดน็ ปญั หาเรา้ ความสนใจ เชน่ มใี ครรจู้ กั เครอ่ื งมอื ในการซอ่ มเครอ่ื งทาความเยน็
2. ใหน้ กั เรยี นนาประสบการณ์มาตอบคาถามและแสดงความคดิ เหน็ ประกอบ
3. แบง่ นกั เรยี นออกเป็นกลมุ่ ๆ ละ 4-5 คน ครมู อบงานดงั น้ี

- ระบบการทาความเยน็ แบบใชก้ ารขยายตวั ของอากาศ
- เครอ่ื งมอื ซ่อมในงานบรกิ ารเครอ่ื งทาความเยน็

4. ครใู หเ้ น้ือหาตามสาระการเรยี นรเู้ รอ่ื ง ระบบการทาความเยน็ แบบใชก้ ารขยายตวั ของอากาศและ
เครอ่ื งมอื ซอ่ มในงานเครอ่ื งทาความเยน็

5. ครตู งั้ ประเดน็ ชวนคุยใหน้ กั เรยี นคดิ เกย่ี วกบั สาระการเรยี นรใู้ นหน่วยท่ี 2 ดว้ ยการตงั้ คาถาม
ปลายเปิดเป็นคาถามนาไปสวู่ ตั ถุประสงคก์ ารเรยี นรเู้ รอ่ื ง ความรพู้ น้ื ฐานการทาความเยน็

6. ครใู หค้ านิยาม ระบบการทาความเยน็ ของเครอ่ื งปรบั อากาศ ชแ้ี นะประเดน็ ชวนใหน้ กั เรยี นได้
อภปิ รายแสดงความคดิ เหน็ ซง่ึ ความคดิ เหน็ ของนกั เรยี นนนั้ มคี วามเหมอื น/แตกต่างหรอื ไมอ่ ยา่ งไร

29

7. ครสู รุปขอ้ คดิ เหน็ ของนกั เรยี นทงั้ หมดแนะนาใหน้ กั เรยี นไดร้ จู้ กั ความรพู้ น้ื ฐานการทาความเยน็
8. สง่ เสรมิ ใหน้ กั เรยี นนาความรทู้ ไ่ี ดร้ บั มาวเิ คราะห์ ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั งิ านตามกลุม่ งานของนกั เรยี น

ทร่ี บั ผดิ ชอบ
11. ใหน้ กั เรยี นนาเสนอผลงานกลมุ่ ตามทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย แลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ ระหวา่ งกลุ่ม
12. ใหน้ กั เรยี นปฏบิ ตั ใิ บงานท่ี 2 เรอ่ื ง การบานทอ่ ชนั้ เดยี วและสองชนั้
10. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปผลการเรยี นรู้
11. ประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ านตามใบงานท่ี 2 เรอ่ื ง การบานทอ่ ชนั้ เดยี วและสองชนั้
12. ประเมนิ พฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ าน กลมุ่ นกั เรยี นและการนาเสนอผลงานกลุม่
13. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรทู้ ่ี 2

ส่อื การเรยี นการสอน

1. หนงั สอื เรยี นวชิ า เครอ่ื งทาความเยน็ และปรบั อากาศ รหสั 2101-2008 ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์
2. อุปกรณ์ในการบานทอ่

การวดั และการประเมินผล

วิธีวดั ผล
1. ตรวจใบงาน
2. สงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล
3. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 2
5. การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
เครื่องมือวดั ผล
1. ใบงาน
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล (ภาคผนวก ข)
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (ภาคผนวก ค)
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 2
5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครผู สู้ อนและผเู้ รยี น

รว่ มกนั ประเมนิ (ภาคผนวก จ)

เกณฑก์ ารประเมินผล
1. เกณฑผ์ า่ นใบงาน คอื พอใช้
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล เกณฑผ์ า่ น ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรงุ
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ เกณฑผ์ า่ น 50% ขน้ึ ไป
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 2 เกณฑผ์ า่ น ทาถกู ตอ้ ง 50% ขน้ึ ไป

30

5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การ
ประเมนิ ตามสภาพจรงิ

บนั ทึกหลงั การสอน

(ดทู ภ่ี าคผนวก ฌ และ ญ)

31

ใบงานที่ 2
เรือ่ ง การบานท่อช้นั เดยี วและสองช้นั

ปลายท่อ หวั บานแฟลร์
อะแดปเตอร์

จบั ยดึ ท่อ จบั ยดึ ท่อ
สูงเท่าตวั อะแดปเตอร์

วสั ดุ ขนาด จานวน/ช้ ิน

1. ทอ่ ทองแดง ลาดบั ขนั้ การทางาน
2. น้ามนั คอมเพรสเซอร์ งานบานท่อชนั้ เดียว
1. นาท่อทองแดงทเ่ี ตรยี มไวต้ ามจานวนทก่ี าหนด (ชน้ิ ทข่ี ยายแลว้ ) มาจบั
เคร่ืองมือและอปุ กรณ์
ดว้ ยตวั จบั ทอ่ ใหต้ รงกบั ขนาดของทอ่ โดยใหท้ อ่ สงู จากตวั จบั ทอ่ 1/3 H
1. ชุดบานทอ่ 2. ขนั นอตตวั จบั ทอ่ ใหแ้ น่นทงั้ สองขา้ ง
2. ตวั บานทอ่ สองชนั้ 3. ใชช้ ุดบานทอ่ ใสเ่ ขา้ กบั ตวั จบั ทอ่ โดยใหต้ วั บานทอ่ อยตู่ รงกลาง รทู อ่ และ
3. ประแจปากตาย
4. ประแจแหวน คอ่ ยๆ ขนั ใหแ้ น่น
5. ประแจเลอ่ื น 4. ขนั ชดุ บานทอ่ ออก จากนนั้ ถอดทอ่ ทองแดงออกจากตวั จบั ทอ่
5. ทดสอบการบานทอ่ โดยการนาปลายทอ่ ทบ่ี านแลว้ สมั ผสั กบั ตวั ตอ่ วา่

ใชไ้ ดห้ รอื ไม่
6. ถา้ ตอ้ งทาต่อใหป้ ฏบิ ตั เิ ชน่ เดยี วกบั งานชน้ิ แรกจนครบ

เคร่อื งมือและอปุ กรณ์ ลาดบั ขนั้ การทางาน

งานบานท่อสองชนั้

1. ใหน้ าท่อทองแดงท่เี ตรยี มไวต้ ามจานวนท่กี าหนดมาทาการบานสองชนั้
โดยนาท่อทองแดงสวมเขา้ กบั ตวั จบั ท่อตามขนาดของท่อทองแดง โดยให้
ปลายของท่อแดงสงู จากตวั จบั ท่อเท่ากบั ความหนาของตวั บานท่อสองชนั้
ตามขนาดของทอ่ ทองแดงนนั้

2. ขนั นอตตวั จบั ทอ่ ใหแ้ น่นทงั้ สองขา้ ง จากนนั้ ใชต้ วั บานทอ่ สองชนั้ ตาม

32

ขนาดของทอ่ สวมเขา้ ไปในปากทอ่ ทจ่ี ะบาน
3. ใชช้ ุดบานทอ่ ใสเ่ ขา้ กบั ตวั จบั ทอ่ โดยใหต้ วั บานทอ่ อยตู่ รงกลางของตวั บาน

ทอ่ สองชนั้

4. ขนั ตวั บานทอ่ ลงบนตวั บานทอ่ สองชนั้ จนกระทงั่ สมั ผสั กบั บ่าของตวั จบั ทอ่
จากนนั้ คลายตวั บานทอ่ และถอดตวั บานทอ่ สองชนั้ ออก

5. ขนั ตวั บานท่อกลบั ลงไปใหม่จนกระทงั่ ปากท่อสมั ผสั กบั บ่าของตวั จบั ท่อ
ขนั ชดุ บานทอ่ ออกแลว้ ถอดทอ่ ทองแดงออกจาก ตวั จบั ทอ่

6. ทดสอบการบานทอ่ โดยการทาปลายทอ่ ทบ่ี านสองชนั้ แลว้ สมั ผสั กบั ตวั ตอ่
วา่ ใชไ้ ดห้ รอื ไม่

7. ถา้ ตอ้ งทาต่อใหป้ ฏบิ ตั เิ ชน่ เดยี วกนั จนครบชน้ิ งาน

แบบประเมินผลการปฏิบตั ิงาน

ท่ี รายการ 5 คะแนน 1 รวม
432
1 การเตรยี มเครอ่ื งมอื วสั ดุ อุปกรณ์
2 ความถกู ตอ้ งในการใชเ้ ครอ่ื งมอื วสั ดุ อุปกรณ์ 50
3 ขนั้ ตอนในการปฏบิ ตั งิ าน
4 ความสาเรจ็ ของงาน
5 การรกั ษาวนิ ยั
6 มารยาท
7 ความตงั้ ใจในการปฏบิ ตั งิ าน
8 การทางานรว่ มกบั ผอู้ ่นื
9 การเกบ็ รกั ษาเครอ่ื งมอื วสั ดุ อุปกรณ์
10 ความสะอาดเรยี บรอ้ ยของบรเิ วณปฏบิ ตั งิ าน

รวม

ผลการประเมิน  ผา่ น  ไมผ่ า่ น

บนั ทกึ เพมิ่ เตมิ …………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………..

…………………………………………………………………………………………………………………..

…………………………………………………………………………………………………………………..

ลงช่อื ……………………………………… ผปู้ ระเมนิ
(…………………………………..…)

33

แผนการจดั การเรียนรแู้ บบบรู ณาการที่ 5 หน่วยที่ 3
สอนคร้งั ที่ 17-20
รหสั วิชา 2101-2008 วิชา เคร่ืองทาความเยน็ และปรบั อากาศ จานวนชวั ่ โมง 4 ชม.
ชื่อหน่วย วงจรเครื่องทาความเยน็

แนวคิด

การทาความเยน็ หมายถงึ กระบวนการถา่ ยเทความรอ้ นออกจากบรเิ วณทต่ี อ้ งการทาความเยน็ ดว้ ย
วธิ กี ารดงึ ความรอ้ นจากอากาศภายในตเู้ ยน็ หรอื ภายในหอ้ งปรบั อากาศออกไประบายทง้ิ สภู่ ายนอก ทาให้อากาศ
ภายในหอ้ งมอี ุณหภมู ลิ ดต่าลง ระบบการทาความเยน็ ทน่ี ิยมใชอ้ ยโู่ ดยทวั่ ไปจะเป็นแบบระบบอดั ไอ มกี ระบวนการ
ทางานคอื การอดั การควบแน่น การขยายตวั และการกลายเป็นไอ โดยจะมอี ุปกรณ์ทส่ี าคญั คอื คอมเพรสเซอร์
คอนเดนเซอร์ อแิ วโพเรเตอร์ ทอ่ พกั น้ายาเหลว เอกซแ์ พนชนั วาล์ว ซง่ึ มกี ารทางานเป็นระบบอยา่ งตอ่ เน่ือง

สาระการเรยี นรู้

1. วงจรเครอ่ื งทาความเยน็
2. วงจรการทาความเยน็ แบบอดั ไอ
3. หลกั การทางานของวงจรเครอ่ื งทาความเยน็
4. การแบง่ สว่ นการทางานของระบบเครอ่ื งทาความเยน็
5. คอนเดนซงิ ยนู ิต

ผลการเรยี นรูท้ ี่คาดหวงั

1. อธบิ ายวงจรเคร่อื งทาความเยน็ ได้
2. อธบิ ายวงจรการทาความเยน็ แบบอดั ไอได้
3. อธบิ ายหลกั การทางานของวงจรเครอ่ื งทาความเยน็ ได้
4. อธบิ ายการแบง่ สว่ นการทางานของระบบเครอ่ื งทาความเยน็ ได้
5. อธบิ ายคอนเดนซงิ ยนู ิตได้
6. มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคท์ ค่ี รสู ามารถสงั เกตเหน็ ได้

ในดา้ นความมมี นุษย์ สมั พนั ธ์ ความมวี นิ ยั ความรบั ผดิ ชอบ ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง ความสนใจใฝร่ ู้
ความรกั สามคั คี ความกตญั ญกู ตเวที

กิจกรรมการเรยี นการสอน

1. ครตู งั้ ประเดน็ ปญั หาเรา้ ความสนใจ เชน่ การทาความ เยน็ หมายถงึ อะไร มกี ระบวนการอยา่ งไรบา้ ง
2. ใหน้ กั เรยี นนาประสบการณ์มาตอบคาถามและแสดงความคดิ เหน็ ประกอบ
3. แบง่ นกั เรยี นออกเป็นกลมุ่ ๆ ละ 4-5 คน ครมู อบงานดงั น้ี

- วงจรเครอ่ื งทาความเยน็

34

- วงจรการทาความเยน็ แบบอดั ไอ
- หลกั การทางานของวงจรเครอ่ื งทาความเยน็
- การแบง่ สว่ นการทางานของระบบเครอ่ื งทาความเยน็
- คอนเดนซงิ ยนู ิต
4. ครใู หเ้ น้ือหาตามสาระการเรยี นรเู้ รอ่ื ง วงจรเครอ่ื งทาความเยน็
5. ครตู งั้ ประเดน็ ชวนคุยใหน้ กั เรยี นคดิ เกย่ี วกบั สาระการเรยี นรใู้ นหน่วยท่ี 3 ดว้ ยการตงั้ คาถาม
ปลายเปิดเป็นคาถามนาไปสวู่ ตั ถุประสงคก์ ารเรยี นรเู้ รอ่ื ง วงจรเครอ่ื งทาความเยน็
6. ครสู รุปขอ้ คดิ เหน็ ของนกั เรยี นทงั้ หมดแนะนาใหน้ กั เรยี นไดร้ จู้ กั วงจรเครอ่ื งทาความเยน็
7. สง่ เสรมิ ใหน้ กั เรยี นนาความรทู้ ไ่ี ดร้ บั มาวเิ คราะห์ ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั งิ านตามกลมุ่ งานของนกั เรยี น
ทร่ี บั ผดิ ชอบ
8. ใหน้ กั เรยี นนาเสนอผลงานกลุ่มตามทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย แลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ ระหวา่ งกลุ่ม
9. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ ผลการเรยี นรู้
10. ประเมนิ พฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ าน กลมุ่ นกั เรยี นและการนาเสนอผลงานกลุ่ม
11. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรทู้ ่ี 3

สอื่ การเรยี นการสอน

1. หนงั สอื เรยี นวชิ า เครอ่ื งทาความเยน็ และปรบั อากาศ รหสั 2101-2008 ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์
2. ภาพวงจรเครอ่ื งทาความเยน็

การวดั และการประเมินผล

วิธีวดั ผล
1. ตรวจใบงาน
2. สงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล
3. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 3
5. การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
เครื่องมือวดั ผล
1. ใบงาน
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล (ภาคผนวก ข)
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (ภาคผนวก ค)
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 3
5. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครผู สู้ อนและผเู้ รยี น

รว่ มกนั ประเมนิ (ภาคผนวก จ)

35

เกณฑก์ ารประเมินผล
1. เกณฑผ์ า่ นใบงาน คอื พอใช้
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล เกณฑผ์ า่ น ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรงุ
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ เกณฑผ์ า่ น 50% ขน้ึ ไป
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 3 เกณฑผ์ า่ น ทาถกู ตอ้ ง 50% ขน้ึ ไป
5. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การ

ประเมนิ ตามสภาพจรงิ

บนั ทกึ หลงั การสอน

(ดทู ภ่ี าคผนวก ฌ และ ญ)

36

แผนการจดั การเรียนรแู้ บบบรู ณาการที่ 6 หน่วยที่ 3
สอนคร้งั ที่ 21-24
รหสั วิชา 2101-2008 วิชา เครื่องทาความเย็นและปรบั อากาศ จานวนชวั ่ โมง 4 ชม.
ชื่อหน่วย วงจรเคร่ืองทาความเยน็

แนวคิด

การทาความเยน็ หมายถงึ กระบวนการถ่ายเทความรอ้ นออกจากบรเิ วณทต่ี อ้ งการทาความเยน็ ดว้ ย
วธิ กี ารดงึ ความรอ้ นจากอากาศภายในตเู้ ยน็ หรอื ภายในหอ้ งปรบั อากาศออกไประบายทง้ิ สภู่ ายนอก ทาใหอ้ ากาศ
ภายในหอ้ งมอี ุณหภมู ลิ ดต่าลง ระบบการทาความเยน็ ทน่ี ิยมใชอ้ ยโู่ ดยทวั่ ไปจะเป็นแบบระบบอดั ไอ มกี ระบวนการ
ทางานคอื การอดั การควบแน่น การขยายตวั และการกลายเป็นไอ โดยจะมอี ุปกรณ์ทส่ี าคญั คอื คอมเพรสเซอร์
คอนเดนเซอร์ อแิ วโพเรเตอร์ ทอ่ พกั น้ายาเหลว เอกซแ์ พนชนั วาลว์ ซง่ึ มกี ารทางานเป็นระบบอยา่ งต่อเน่ือง

สาระการเรยี นรู้

6. สภาวะของน้ายาในระบบเครอ่ื งทาความเยน็
7. ประสทิ ธภิ าพในการทาความเยน็

ผลการเรียนรูท้ คี่ าดหวงั

6. อธบิ ายสภาวะของน้ายาในระบบเครอ่ื งทาความเยน็ ได้
7. เลอื กใชว้ ธิ กี ารเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพในการทาความเยน็ ได้
8. มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคท์ ค่ี รสู ามารถสงั เกตเหน็ ได้

ในดา้ นความมมี นุษย์ สมั พนั ธ์ ความมวี นิ ยั ความรบั ผดิ ชอบ ความเช่อื มนั่ ในตนเอง ความสนใจใฝร่ ู้
ความรกั สามคั คี ความกตญั ญกู ตเวที

กิจกรรมการเรยี นการสอน

1. ครตู งั้ ประเดน็ ปญั หาเรา้ ความสนใจ เชน่ ถา้ นกั เรยี นจะใชเ้ ครอ่ื งทาความเยน็ สกั เครอ่ื งนกั เรยี นจะ

นึกถงึ คุณสมบตั อิ ะไรบา้ ง

2. ใหน้ กั เรยี นนาประสบการณ์มาตอบคาถามและแสดงความคดิ เหน็ ประกอบ

3. แบง่ นกั เรยี นออกเป็นกลมุ่ ๆ ละ 4-5 คน ครมู อบงานดงั น้ี

- สภาวะของน้ายาในระบบเครอ่ื งทาความเยน็

- ประสทิ ธภิ าพในการทาความเยน็

4. ครใู หเ้ น้ือหาตามสาระการเรยี นรเู้ รอ่ื ง สภาวะของน้ายาในระบบเครอ่ื งทาความเยน็ และ

ประสทิ ธภิ าพในการทาความเยน็

37

5. ครตู งั้ ประเดน็ ชวนคยุ ใหน้ กั เรยี นคดิ เกย่ี วกบั สาระการเรยี นรใู้ นหน่วยท่ี 3 ดว้ ยการตงั้ คาถาม
ปลายเปิดเป็นคาถามนาไปสวู่ ตั ถุประสงคก์ ารเรยี นรเู้ รอ่ื ง สภาวะของน้ายาในระบบเครอ่ื งทาความ
เยน็ และประสทิ ธภิ าพในการทาความเยน็

6. ครใู หค้ านิยาม วงจรเครอ่ื งทาความเยน็ ชแ้ี นะประเดน็ ชวนใหน้ กั เรยี นไดอ้ ภปิ รายแสดงความคดิ เหน็
ซง่ึ ความคดิ เหน็ ของนกั เรยี นนนั้ มคี วามเหมอื น/แตกต่างหรอื ไมอ่ ยา่ งไร

7. ครสู รปุ ขอ้ คดิ เหน็ ของนกั เรยี นทงั้ หมดแนะนาใหน้ กั เรยี นไดร้ จู้ กั วงจรเครอ่ื งทาความเยน็
8. สง่ เสรมิ ใหน้ กั เรยี นนาความรทู้ ไ่ี ดร้ บั มาวเิ คราะห์ ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั งิ านตามกลมุ่ งานของนกั เรยี น

ทร่ี บั ผดิ ชอบ
13. ใหน้ กั เรยี นนาเสนอผลงานกลุ่มตามทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย แลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ ระหวา่ งกลุม่
14. ใหน้ กั เรยี นปฏบิ ตั ใิ บงานท่ี 3 เรอ่ื ง งานตดั ทอ่
10. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ ผลการเรยี นรู้
11. ประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ านตามใบงานท่ี 3 เรอ่ื ง งานตดั ทอ่
12. ประเมนิ พฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ าน กลมุ่ นกั เรยี นและการนาเสนอผลงานกลุ่ม
13. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรทู้ ่ี 3

ส่อื การเรยี นการสอน

1. หนงั สอื เรยี นวชิ า เครอ่ื งทาความเยน็ และปรบั อากาศ รหสั 2101-2008 ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์
2. อุปกรณ์ในงานตดั ทอ่

การวดั และการประเมินผล

วิธีวดั ผล
1. ตรวจใบงาน
2. สงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล
3. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 3
5. การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
เครอื่ งมือวดั ผล
1. ใบงาน
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล (ภาคผนวก ข)
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (ภาคผนวก ค)
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 3
5. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครผู สู้ อนและผเู้ รยี น

รว่ มกนั ประเมนิ (ภาคผนวก จ)

38

เกณฑก์ ารประเมินผล
1. เกณฑผ์ า่ นใบงาน คอื พอใช้
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล เกณฑผ์ า่ น ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรงุ
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ เกณฑผ์ า่ น 50% ขน้ึ ไป
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 3 เกณฑผ์ า่ น ทาถกู ตอ้ ง 50% ขน้ึ ไป
5. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การ

ประเมนิ ตามสภาพจรงิ

บนั ทกึ หลงั การสอน

(ดทู ภ่ี าคผนวก ฌ และ ญ)

39

ใบงานที่ 3
เรือ่ ง งานตดั ท่อ

วสั ดุ ขนาด จำนวน/ชิ้น

1. ทอ่ ทองแดงอ่อนอยา่ งหนา 1/4 น้ิว , 5/16 น้ิว หรอื 3/8 น้ิว 1
เครอ่ื งมือและอปุ กรณ์
ลาดบั ขนั้ การทางาน
1. เครอ่ื งมอื ตดั ทอ่ แบบสปรงิ
2. เครอ่ื งมอื ตดั ทอ่ แบบ 1. คลท่ี อ่ ทองแดงออกจากขดตามวธิ ที ถ่ี กู ตอ้ ง (ใชท้ อ่ 1/4 น้ิว) วดั ความยาวทอ่

กระเด่อื งตดั ทอ่ ตามทก่ี าหนด แลว้ ทาเครอ่ื งหมายโดยรอบทอ่ กาหนดใหเ้ ป็นจดุ A
3. เครอ่ื งมอื ตดั ทอ่
4. เครอ่ื งมอื ลบคมทอ่ 2. วดั ความยาวลดถอยหลงั จากจุดทท่ี าเครอ่ื งหมายครงั้ แรกลงมาเทา่ กบั
5. ตะไบ
6. ตลบั เมตรหรอื ฟุตเหลก็ 23/32 น้ิว (ระยะลดเมอ่ื ดดั 90 องศา) และทาเครอ่ื งหมายโดยรอบ กาหนด
7. เหลก็ ฉาก
เป็นจดุ B

3. นาทอ่ ทองแดงสอดเขา้ ไปในช่องระยะดดั ของตวั ดดั ทอ่ โดยใหจ้ ุด O ของ

ระยะดดั ทงั้ สองจุดตรงกบั เครอ่ื งหมาย B (ระยะทท่ี าเครอ่ื งหมายไว)้

4. คอ่ ยๆ กดดา้ มตวั ดดั ทอ่ ลงมาโดยใหน้ ้าหนกั มอื สม่าเสมอจนจดุ O ของ

ระยะดดั ตรงกบั 90 องศา ของเครอ่ื งมอื ดดั ทอ่ จะไดท้ อ่ ตามรปู

40

5. นาฟุตเหลก็ วดั จากผวิ ทอ่ ดา้ นนอกของทอ่ ทด่ี ดั แลว้ ออกไปอกี 5 น้ิว แลว้
ทาเครอ่ื งหมายไว้ กาหนดใหเ้ ป็นจุด C

6. วดั ความยาวลดถอยหลงั จากจดุ C ไปอกี 21/32 น้ิว (ขนาดลดเมอ่ื ดดั ท่อ
180 องศา ตามตาราง) กาหนดใหเ้ ป็นจุด D

7. ใหน้ าเอาทอ่ สอดเขา้ ไปในชอ่ งระยะดดั โดยใหจ้ ดุ O ของระยะดดั ทงั้ สอง
จุดตรงกบั จดุ D ทก่ี าหนดบนท่อ

8. ใชม้ อื ขา้ งหน่ึงจบั ดา้ มคนั โยกและอกี ขา้ งหน่ึงจบั คนั ยดึ ดงึ มอื ดา้ นทจ่ี บั คนั
โยกลงมาชา้ ๆ และสม่าเสมอจนกระทงั่ จุด O ของดา้ มตวั ดดั คนั โยกตรง

กบั จดุ 180 องศาของเครอ่ื งมอื ดดั ทอ่ จะไดท้ อ่ ทองแดงตามรปู
9. นาทอ่ ทองแดงจากรปู ท่ี 5 มาวดั ความยาวจากผวิ สว่ นโคง้ ดา้ นนอกใหม้ ี

ความยาวอกี 4 น้ิว ทาเครอ่ื งหมายไวก้ าหนดเป็นจดุ E ไวแ้ ลว้ วดั ความ
ยาวลดถอยหลงั จากจดุ E อกี 23/32 น้ิว กาหนดใหเ้ ป็นจุด F ตามรปู

นาทอ่ สอดเขา้ ไปในเครอ่ื งมอื ดดั ทอ่ โดยใหจ้ ุด O ของระยะดดั ของทอ่ ทงั้ สอง
จดุ ตรงกบั จดุ F ทก่ี าหนดบนทอ่
คอ่ ยๆ กดดา้ มจบั ตวั ดดั ทอ่ ลงมาจนกระทงั่ จดุ O บนของระยะดดั ตรงกบั 90
องศาของคนั ยดึ จะไดท้ อ่ ตามรปู
นาทอ่ ทองแดงวดั ขนาดจากจุดโคง้ 90 องศา โคง้ หลงั สดุ ใหม้ คี วามยาวลงมา
อกี 9 น้ิว ทาเครอ่ื งหมายใหร้ อบทอ่ กาหนดใหเ้ ป็นจดุ G
ใชเ้ ครอ่ื งมอื ตดั ทอ่ ตดั ทจ่ี ดุ G จนทอ่ ขาดออกจากกนั จะไดช้ น้ิ งานดดั ทอ่ ตามท่ี
กาหนด
ใหท้ าความสะอาดเครอ่ื งมอื วสั ดุ–อุปกรณ์ จดั เกบ็ เขา้ ท่ี
ตารางระยะลดเมื่อดดั ท่อ

ขนาดทอ่ ระยะลดเมอ่ื ดดั โคง้ 180 องศา
โคง้ 90 องศา 21/32
ท่อ 1/4 28/32 13/16
ท่อ 5/16 7/8 1 + 1/16
ท่อ 3/8 1 + 5/32 1 + 23/32
ท่อ 1/2 1 + 3/4 1 + 1/8
ท่อ 5/8 1 + 1/4

41

แบบประเมนิ ผลการปฏิบตั ิงาน

ท่ี รายการ 5 คะแนน 1 รวม
432
1 การเตรยี มเครอ่ื งมอื วสั ดุ อปุ กรณ์
2 ความถกู ตอ้ งในการใชเ้ ครอ่ื งมอื วสั ดุ อุปกรณ์ 50
3 ขนั้ ตอนในการปฏบิ ตั งิ าน
4 ความสาเรจ็ ของงาน
5 การรกั ษาวนิ ยั
6 มารยาท
7 ความตงั้ ใจในการปฏบิ ตั งิ าน
8 การทางานรว่ มกบั ผอู้ ่นื
9 การเกบ็ รกั ษาเครอ่ื งมอื วสั ดุ อุปกรณ์
10 ความสะอาดเรยี บรอ้ ยของบรเิ วณปฏบิ ตั งิ าน

รวม

ผลการประเมิน  ผา่ น  ไมผ่ า่ น

บนั ทกึ เพม่ิ เตมิ …………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………..

…………………………………………………………………………………………………………………..

…………………………………………………………………………………………………………………..

ลงช่อื ……………………………………… ผปู้ ระเมนิ
(…………………………………..…)

42

แผนการจดั การเรียนรแู้ บบบรู ณาการที่ 7 หน่วยที่ 4
สอนครงั้ ที่ 25-28
รหสั วิชา 2101-2008 วิชา เคร่ืองทาความเยน็ และปรบั อากาศ จานวนชวั่ โมง 4 ชม.
ช่ือหน่วย ระบบเครื่องทาความเยน็ แบบอดั ไอ

แนวคิด

ระบบหรอื วงจรการทาความเยน็ แบบอดั ไอนนั้ จะประกอบดว้ ยอุปกรณ์ต่างๆ รว่ มกนั ทางานอยา่ งเป็น
ระบบซง่ึ ทส่ี าคญั ไดแ้ ก่ คอมเพรสเซอรซ์ ง่ึ ทาหน้าทใ่ี นการดดู และอดั สารความเยน็ เขา้ สรู่ ะบบ คอนเดนเซอรจ์ ะมี
หน้าทร่ี ะบายความรอ้ นออกจากน้ายาเหลว (โดยทน่ี ้ายาเหลวจะมาพกั ทท่ี อ่ พกั น้ายาเหลว) โดยมชี ุดควบคมุ น้ายา
จะทาหน้าทค่ี วบคุมการไหลของน้ายาทไ่ี หลไปยงั อแิ วโพเรเตอร์ ซง่ึ อแิ วโพเรเตอรน์ ้ีจะทาหน้าทด่ี ดู รบั ปรมิ าณ
ความรอ้ นจากบรเิ วณหรอื ในเน้ือทท่ี ต่ี อ้ งการทาความเยน็ ทาใหร้ อบๆ อแิ วโพเรเตอรม์ อี ุณหภมู ลิ ดลง จาเป็น
อยา่ งยง่ิ ทผ่ี ใู้ หบ้ รกิ ารควรจะตอ้ งมคี วามรแู้ ละความเขา้ ใจการทางานของอุปกรณ์ชนดิ ตา่ งๆ ในระบบเครอ่ื งทา
ความเยน็ แบบอดั ไอ

สาระการเรยี นรู้

1. ระบบเครอ่ื งทาความเยน็ แบบอดั ไอ
2. คอมเพรสเซอร์
3. สมรรถนะของคอมเพรสเซอร์
4. คอนเดนเซอร์
5. ภาระงานของคอนเดนเซอร์
6. อแิ วโพเรเตอร์
7. ชดุ ควบคุมน้ายาเครอ่ื งทาความเยน็

ผลการเรียนรูท้ ่คี าดหวงั

1. อธบิ ายระบบการทาความเยน็ แบบอดั ไอได้
2. อธบิ ายหน้าทล่ี กั ษณะและสมรรถนะของคอมเพรสเซอรช์ นิดต่างๆ ได้
3. อธบิ ายหน้าทล่ี กั ษณะและภาระงานคอนเดนเซอรแ์ ตล่ ะชนิดได้
4. อธบิ ายหน้าทล่ี กั ษณะและการทางานของอแิ วโพเรเตอรไ์ ด้
5. อธบิ ายหน้าทล่ี กั ษณะและการทางานของชดุ ควบคมุ น้ายาได้
6. วเิ คราะหเ์ ลอื กใชอ้ ุปกรณ์ชนดิ ต่างๆ ไดเ้ หมาะสมกบั การใชง้ าน
7. มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคท์ ค่ี รสู ามารถสงั เกตเหน็ ได้

ในดา้ นความมมี นุษย์ สมั พนั ธ์ ความมวี นิ ยั ความรบั ผดิ ชอบ ความเช่อื มนั่ ในตนเอง ความสนใจใฝร่ ู้
ความรกั สามคั คี ความกตญั ญกู ตเวที

43

กิจกรรมการเรยี นการสอน

1. ครตู งั้ ประเดน็ ปญั หาเรา้ ความสนใจ เชน่ ระบบหรอื วงจรการทางานของเครอ่ื งเยน็ จะประกอบดว้ ย
อะไรบา้ ง ตามความเขา้ ใจของนกั เรยี น

2. ใหน้ กั เรยี นนาประสบการณ์มาตอบคาถามและแสดงความคดิ เหน็ ประกอบ
3. แบง่ นกั เรยี นออกเป็นกลมุ่ ๆ ละ 4-5 คน ครมู อบงานดงั น้ี

- ระบบเครอ่ื งทาความเยน็ แบบอดั ไอ
- คอมเพรสเซอร์
- สมรรถนะของคอมเพรสเซอร์
- คอนเดนเซอร์
- ภาระงานของคอนเดนเซอร์
- อแิ วโพเรเตอร์
- ชดุ ควบคุมน้ายาเครอ่ื งทาความเยน็
4. ครใู หเ้ น้ือหาตามสาระการเรยี นรเู้ รอ่ื ง ระบบเครอ่ื งทาความเยน็ แบบอดั ไอ
5. ครตู งั้ ประเดน็ ชวนคยุ ใหน้ กั เรยี นคดิ เกย่ี วกบั สาระการเรยี นรใู้ นหน่วยท่ี 4 ดว้ ยการตงั้ คาถาม
ปลายเปิดเป็นคาถามนาไปสวู่ ตั ถุประสงคก์ ารเรยี นรเู้ รอ่ื ง สภาวะของน้ายาในระบบเครอ่ื งทาความ
เยน็ และประสทิ ธภิ าพในการทาความเยน็
6. ครใู หค้ านิยาม ระบบเครอ่ื งทาความเยน็ แบบอดั ไอ ชแ้ี นะประเดน็ ชวนใหน้ กั เรยี นไดอ้ ภปิ รายแสดง
ความคดิ เหน็ ซง่ึ ความคดิ เหน็ ของนกั เรยี นนนั้ มคี วามเหมอื น/แตกตา่ งหรอื ไมอ่ ยา่ งไร
7. ครสู รปุ ขอ้ คดิ เหน็ ของนกั เรยี นทงั้ หมดแนะนาใหน้ กั เรยี นไดร้ จู้ กั ระบบเครอ่ื งทาความเยน็ แบบอดั ไอ
8. สง่ เสรมิ ใหน้ กั เรยี นนาความรทู้ ไ่ี ดร้ บั มาวเิ คราะห์ ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั งิ านตามกลุม่ งานของนกั เรยี น
ทร่ี บั ผดิ ชอบ
10. ใหน้ กั เรยี นนาเสนอผลงานกลมุ่ ตามทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย แลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ ระหวา่ งกลุ่ม
11. ใหน้ กั เรยี นปฏบิ ตั ใิ บงานท่ี 4 เรอ่ื ง วธิ กี ารใชเ้ ครอ่ื งมอื เลน่ ประสาน
12ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปผลการเรยี นรู้
13. ประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ านตามใบงานท่ี 4 เรอ่ื ง วธิ กี ารใชเ้ ครอ่ื งมอื เลน่ ประสาน
14. ประเมนิ พฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ าน กลมุ่ นกั เรยี นและการนาเสนอผลงานกลุ่ม
15. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรทู้ ่ี 4

ส่อื การเรยี นการสอน

1. หนงั สอื เรยี นวชิ า งานเครอ่ื งทาความเยน็ และปรบั อากาศ รหสั 2101-2008 ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์
2. เครอ่ื งมอื และอุปกรณ์ในการแล่นประสาน

44

การวดั และการประเมินผล

วิธีวดั ผล
1. ตรวจใบงาน
2. สงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล
3. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 4
5. การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
เครอ่ื งมือวดั ผล
1. ใบงาน
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล (ภาคผนวก ข)
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (ภาคผนวก ค)
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 4
5. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครผู สู้ อนและผเู้ รยี น

รว่ มกนั ประเมนิ (ภาคผนวก จ)
เกณฑก์ ารประเมินผล
1. เกณฑผ์ า่ นใบงาน คอื พอใช้
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล เกณฑผ์ า่ น ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรงุ
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ เกณฑผ์ า่ น 50% ขน้ึ ไป
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 4 เกณฑผ์ า่ น ทาถกู ตอ้ ง 50% ขน้ึ ไป
5. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การ

ประเมนิ ตามสภาพจรงิ

บนั ทกึ หลงั การสอน

(ดทู ภ่ี าคผนวก ฌ และ ญ)

45
ใบงานที่ 4
เรือ่ ง วิธีการใชเ้ ครือ่ งมือแล่นประสาน

ขนาดท่อ 12 "

12 " ชว่ งสวมตอ่

วสั ดุ ขนาด จานวนช้ ิน

1. ทอ่ ทองแดง

2. ลวดเชอ่ื มเงนิ

3. ลวดเชอ่ื มทองเหลอื ง

4. ฟลกั ซส์ าหรบั ลวดเช่อื มเงนิ

5. ฟลกั ซส์ าหรบั ลวด-เชอ่ื มทองเหลอื ง

6. กระดาษทราย

เครื่องมือและอปุ กรณ์ ลาดบั ขนั้ การทางาน

1. เครอ่ื งเช่อื มแกส๊ การเปิ ดเครอื่ งเช่ือมแกส๊

2. ตวั จดุ เปลวไฟ 1. ตรวจรอยตอ่ ของเครอ่ื งเชอ่ื มแก๊สวา่ แน่นหรอื ไม่ ถา้ ไมแ่ น่นใหใ้ ชป้ ระแจ

3. ประแจเลอ่ื นขนาด 12 น้ิว เล่อื นขนั ใหแ้ น่นแลว้ คลายตวั ปรบั ความดนั ทวนเขม็ นาฬกิ าทงั้ สองตวั ทา

4. เครอ่ื งทาความสะอาดหวั ความสะอาดหวั เครอ่ื งเชอ่ื มแกส๊

เชอ่ื ม 2. ปิดวาลว์ ของหวั เช่อื มแลว้ ใชป้ ระแจปิด-เปิดวาลว์ เปิดถงั อะเซทลิ นี โดย
5. ประแจปิด-เปิดวาลว์ หมนุ ทวนเขม็ นาฬกิ า 1/4 รอบ และปรบั ตวั ปรบั ความดนั ตามเขม็ นาฬกิ า
6. แวน่ ตาเชอ่ื มแก๊ส ใหเ้ ขม็ ของเกจชท้ี ่ี 5 psig
7. ถุงมอื หนงั
8. คมี จบั ของรอ้ น 3. เปิดวาลว์ ถงั ออกซเิ จนทวนเขม็ นาฬกิ าประมาณ 1 รอบ และปรบั ตวั ปรบั
ความดนั ตามเขม็ นาฬกิ าใหเ้ ขม็ ของเกจชท้ี ่ี 5-10 psig เปิดวาลว์ หวั เช่อื ม
9. ปากกาจบั งาน ออกซเิ จนเลก็ น้อย เสรจ็ แลว้ ปิดหวั เช่อื มออกซเิ จนดงั เดมิ

4. เปิดวาลว์ หวั เช่อื มอะเซทลิ นี ใหแ้ ก๊สอะเซทลิ นี ออกมาเลก็ น้อย ใชต้ วั จุด

46

เปลวไฟจุดเปลวไฟ จากนัน้ ค่อยๆ ปรบั วาลว์ ออกซเิ จนใหเ้ ปลวควนั หมด
ไป
5. ปรบั เปลวไฟใหเ้ หมาะสมกบั ลกั ษณะชน้ิ งานทจ่ี ะทาการแลน่ ประสาน

การปิ ดเครื่องเช่ือมแกส๊
1. ปิดวาลว์ ของหวั เชอ่ื มอะเซทลิ นี และออกซเิ จนแลว้ ปิดวาลว์ หวั ถงั เครอ่ื ง
เช่อื มออกซเิ จนและอะเซทลิ นี
2. เปิดวาล์วของหวั เช่อื มออกซเิ จนและอะเซทลิ นี เพ่อื ใหเ้ ขม็ ช้คี วามดนั
ตกลงมาท่ี 0 psig ทงั้ สองถงั
3. คลายตวั ปรบั ความดนั ของออกซเิ จนและอะเซทลิ นี ทวนเขม็ นาฬกิ า
จนกระทงั่ มคี วามรสู้ กึ เบามอื
4. ทาความสะอาดหวั เช่อื ม จากนนั้ มว้ นสายเช่อื มเกบ็ เขา้ ท่ี

การฝึ กปฏิบตั ิงานแล่นประสาน
1. นาทอ่ ทองแดงทจ่ี ดั เตรยี มมาสวมต่อเขา้ ดว้ ยกนั ตามรปู
2. นาชน้ิ งานทป่ี ระกอบเสรจ็ แลว้ ตามรปู มาทาความสะอาดดว้ ยกระดาษ
ทรายตามแนวทจ่ี ะแล่นประสาน
3. นาชน้ิ งานชุดแรกมาจบั ดว้ ยปากกาจบั งานแลว้ ทาการแลน่ ประสานดว้ ย
ลวดเช่อื มเงนิ
4. นาชน้ิ งานอกี 1 ชุดมาจบั ดว้ ยปากกาจบั ชน้ิ งานแลว้ ทาการแล่นประสาน
ดว้ ยลวดเชอ่ื มทองเหลอื ง
5. เสรจ็ งานแลว้ ทาความสะอาดเครอ่ื งมอื แลว้ เกบ็ เขา้ ท่ี

47

แบบประเมนิ ผลการปฏิบตั ิงาน

ท่ี รายการ 5 คะแนน 1 รวม
432
1 การเตรยี มเครอ่ื งมอื วสั ดุ อปุ กรณ์
2 ความถกู ตอ้ งในการใชเ้ ครอ่ื งมอื วสั ดุ อุปกรณ์ 50
3 ขนั้ ตอนในการปฏบิ ตั งิ าน
4 ความสาเรจ็ ของงาน
5 การรกั ษาวนิ ยั
6 มารยาท
7 ความตงั้ ใจในการปฏบิ ตั งิ าน
8 การทางานรว่ มกบั ผอู้ ่นื
9 การเกบ็ รกั ษาเครอ่ื งมอื วสั ดุ อุปกรณ์
10 ความสะอาดเรยี บรอ้ ยของบรเิ วณปฏบิ ตั งิ าน

รวม

ผลการประเมิน  ผา่ น  ไมผ่ า่ น

บนั ทกึ เพม่ิ เตมิ …………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………..

…………………………………………………………………………………………………………………..

…………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชอ่ื ……………………………………… ผปู้ ระเมนิ
(…………………………………..…)

48

แผนการจดั การเรียนรแู้ บบบรู ณาการท่ี 8 หน่วยที่ 5
สอนคร้งั ที่ 29-32
รหสั วิชา 2101-2008 วิชา เคร่ืองทาความเยน็ และปรบั อากาศ จานวนชวั ่ โมง 4 ชม.
ชื่อหน่วย อุปกรณอ์ ื่นๆ ของระบบทาความเยน็ แบบอดั ไอ

แนวคิด

การทางานของระบบทาความเยน็ แบบอดั ไอนอกจากจะตอ้ งอาศยั การทางานของอุปกรณ์หลกั ๆ ตามทไ่ี ดก้ ลา่ ว
มาแลว้ เพอ่ื ใหก้ ารทางานมปี ระสทิ ธภิ าพและความปลอดภยั จงึ ตอ้ งมอี ุปกรณ์ประกอบและควบคุมเพอ่ื ชว่ ยเสรมิ เพมิ่
ประสทิ ธภิ าพในการทางานของวงจรน้ายา อุปกรณ์บางตวั อาจมคี วามจาเป็นทจ่ี ะตอ้ งตดิ ตงั้ ในระบบ แตอ่ ุปกรณ์ชนิดเดยี วกนั
นนั้ กอ็ าจไมม่ คี วามจาเป็นกบั เครอ่ื งทาความเยน็ อกี ระบบหน่ึงกไ็ ด้ อุปกรณ์เสรมิ ตา่ งๆ นนั้ มกั จะตดิ ตงั้ อยรู่ ะหวา่ งอุปกรณ์
หลกั ของระบบ ทาหน้าทค่ี วบคมุ และปรบั การทางานของระบบ เพอ่ื ชว่ ยใหว้ งจรน้ายาทางานไดส้ มบรู ณ์แบบยง่ิ ขน้ึ

สาระการเรยี นรู้

1. ฟิลเตอรด์ รายเออร์
2. กระจกมองน้ายา
3. แอกควิ มเู ลเตอร์
4. อุปกรณ์แยกน้ามนั
5. อุปกรณ์แลกเปลย่ี นความรอ้ น
6. โซเลนอยดว์ าลว์
7. วาลว์ ประเภทต่างๆ

ผลการเรยี นรูท้ ่ีคาดหวงั

1. อธบิ ายลกั ษณะการทางานของอุปกรณ์ชนดิ ต่างๆ ได้
2. อธบิ ายอุปกรณ์แยกน้ามนั และอุปกรณ์แลกเปลย่ี นความรอ้ นได้
3. อธบิ ายลกั ษณะการทางานของโซเลนอยดว์ าลว์ ได้
4. มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคท์ ค่ี รสู ามารถสงั เกตเหน็ ได้

ในดา้ นความมมี นุษย์ สมั พนั ธ์ ความมวี นิ ยั ความรบั ผดิ ชอบ ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง ความสนใจใฝร่ ู้
ความรกั สามคั คี ความกตญั ญกู ตเวที

กิจกรรมการเรยี นการสอน

1. ครตู งั้ ประเดน็ ปญั หาเรา้ ความสนใจ เชน่ นกั เรยี นรจู้ กั อุปกรณ์อะไรบา้ งทเ่ี กย่ี วกบั ระบบทาความเยน็
แบบอดั ได

2. ใหน้ กั เรยี นนาประสบการณ์มาตอบคาถามและแสดงความคดิ เหน็ ประกอบ
3. แบง่ นกั เรยี นออกเป็นกลมุ่ ๆ ละ 4-5 คน ครมู อบงานดงั น้ี

- ฟิลเตอรด์ รายเออร์

49

- กระจกมองน้ายา
- แอกควิ มเู ลเตอร์
- อุปกรณ์แยกน้ามนั
- อุปกรณ์แลกเปลย่ี นความรอ้ น
- โซเลนอยดว์ าลว์
- วาลว์ ประเภทต่างๆ
4. ครใู หเ้ น้ือหาตามสาระการเรยี นรเู้ รอ่ื ง อุปกรณ์อ่นื ๆ ของระบบทาความเยน็ แบบอดั ไอ
5. ครตู งั้ ประเดน็ ชวนคยุ ใหน้ กั เรยี นคดิ เกย่ี วกบั สาระการเรยี นรใู้ นหน่วยท่ี 5 ดว้ ยการตงั้ คาถาม
ปลายเปิดเป็นคาถามนาไปสวู่ ตั ถุประสงคก์ ารเรยี นรเู้ รอ่ื ง วงจรเครอ่ื งทาความเยน็
6. ครสู รปุ ขอ้ คดิ เหน็ ของนกั เรยี นทงั้ หมดแนะนาใหน้ กั เรยี นไดร้ จู้ กั วงจรเครอ่ื งทาความเยน็
7. สง่ เสรมิ ใหน้ กั เรยี นนาความรทู้ ไ่ี ดร้ บั มาวเิ คราะห์ ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั งิ านตามกลุม่ งานของนกั เรยี น
ทร่ี บั ผดิ ชอบ
8. ใหน้ กั เรยี นนาเสนอผลงานกลมุ่ ตามทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย แลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ ระหวา่ งกลุ่ม
9. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ ผลการเรยี นรู้
10. ประเมนิ พฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ าน กลมุ่ นกั เรยี นและการนาเสนอผลงานกลมุ่
11. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรทู้ ่ี 5

สื่อการเรยี นการสอน

1. หนงั สอื เรยี นวชิ า เครอ่ื งทาความเยน็ และปรบั อากาศ รหสั 2101-2008 ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์
2. อุปกรณ์ทาความเยน็ แบบอดั ไอ

การวดั และการประเมินผล

วิธีวดั ผล
1. ตรวจใบงาน
2. สงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล
3. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 5
5. การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
เครื่องมือวดั ผล
1. ใบงาน
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล (ภาคผนวก ข)
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (ภาคผนวก ค)
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 5
5. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครผู สู้ อนและผเู้ รยี น

รว่ มกนั ประเมนิ (ภาคผนวก จ)

50

เกณฑก์ ารประเมินผล
1. เกณฑผ์ า่ นใบงาน คอื พอใช้
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล เกณฑผ์ า่ น ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรงุ
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ เกณฑผ์ า่ น 50% ขน้ึ ไป
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 5 เกณฑผ์ า่ น ทาถกู ตอ้ ง 50% ขน้ึ ไป
5. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การ

ประเมนิ ตามสภาพจรงิ

บนั ทกึ หลงั การสอน

(ดทู ภ่ี าคผนวก ฌ และ ญ)

51

แผนการจดั การเรียนรแู้ บบบรู ณาการท่ี 9 หน่วยท่ี 5
สอนคร้งั ที่ 33-36
รหสั วิชา 2101-2008 วิชา เคร่ืองทาความเย็นและปรบั อากาศ จานวนชวั ่ โมง 4 ชม.
ชื่อหน่วย อุปกรณอ์ ่ืนๆ ของระบบทาความเยน็ แบบอดั ไอ

แนวคิด

การทางานของระบบทาความเยน็ แบบอดั ไอนอกจากจะต้องอาศยั การทางานของอุปกรณ์หลกั ๆ ตามท่ไี ด้กล่าว
มาแล้ว เพ่อื ใหก้ ารทางานมปี ระสทิ ธภิ าพและความปลอดภยั จงึ ต้องมอี ุปกรณ์ประกอบและควบคุมเพ่อื ช่วยเสรมิ เพมิ่
ประสทิ ธภิ าพในการทางานของวงจรน้ายา อุปกรณ์บางตวั อาจมคี วามจาเป็นทจ่ี ะตอ้ งตดิ ตงั้ ในระบบ แตอ่ ุปกรณ์ชนิดเดยี วกนั
นัน้ กอ็ าจไม่มคี วามจาเป็นกบั เคร่อื งทาความเยน็ อกี ระบบหน่ึงกไ็ ด้ อุปกรณ์เสรมิ ต่างๆ นัน้ มกั จะตดิ ตงั้ อย่รู ะหว่างอุปกรณ์
หลกั ของระบบ ทาหน้าทค่ี วบคมุ และปรบั การทางานของระบบ เพอ่ื ชว่ ยใหว้ งจรน้ายาทางานไดส้ มบูรณ์แบบยง่ิ ขน้ึ

สาระการเรยี นรู้

8. ปลกั๊ หลอมละลาย
9. ฮอตแกส๊ บายพาสเรกุเลเตอร์
10. คอนเดนเซอรว์ อเตอรเ์ รกุเลเตอร์

ผลการเรียนรูท้ ่ีคาดหวงั

4. อธบิ ายหลกั การทางานของวาลว์ ประเภทตา่ งๆ ได้
5. วเิ คราะหก์ ารทางานของอุปกรณ์เครอ่ื งทาความเยน็ ได้
6. มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคท์ ค่ี รสู ามารถสงั เกตเหน็ ได้

ในดา้ นความมมี นุษย์ สมั พนั ธ์ ความมวี นิ ยั ความรบั ผดิ ชอบ ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง ความสนใจใฝร่ ู้
ความรกั สามคั คี ความกตญั ญกู ตเวที

กิจกรรมการเรยี นการสอน

1. ครตู งั้ ประเดน็ ปญั หาเรา้ ความสนใจ เชน่ วา่ ใครเคยทาการประกอบคอมเพรศเซอรห์ รอื ไม่
2. ใหน้ กั เรยี นนาประสบการณ์มาตอบคาถามและแสดงความคดิ เหน็ ประกอบ
3. แบง่ นกั เรยี นออกเป็นกลมุ่ ๆ ละ 4-5 คน ครมู อบงานดงั น้ี

- ปลกั๊ หลอมละลาย
- ฮอตแกส๊ บายพาสเรกุเลเตอร์
- คอนเดนเซอรว์ อเตอรเ์ รกุเลเตอร์
4. ครใู หเ้ น้ือหาตามสาระการเรยี นรเู้ รอ่ื ง อุปกรณ์คอมเพรสเซอร์
5. ครตู งั้ ประเดน็ ชวนคยุ ใหน้ กั เรยี นคดิ เกย่ี วกบั สาระการเรยี นรใู้ นหน่วยท่ี 5 ดว้ ยการตงั้ คาถาม
ปลายเปิดเป็นคาถามนาไปสวู่ ตั ถุประสงคก์ ารเรยี นรเู้ รอ่ื ง อุปกรณ์คอมเพรสเซอร์

52

6. ครใู หค้ านิยาม อุปกรณ์อ่นื ๆ ของระบบทาความเยน็ แบบอดั ไอ ชแ้ี นะประเดน็ ชวนใหน้ กั เรยี นได้
อภปิ รายแสดงความคดิ เหน็ ซง่ึ ความคดิ เหน็ ของนกั เรยี นนนั้ มคี วามเหมอื น/แตกตา่ งหรอื ไมอ่ ยา่ งไร

7. ครสู รปุ ขอ้ คดิ เหน็ ของนกั เรยี นทงั้ หมดแนะนาใหน้ กั เรยี นไดร้ จู้ กั อุปกรณ์อ่นื ๆ ของระบบทาความ
เยน็ แบบอดั ไอ

8. สง่ เสรมิ ใหน้ กั เรยี นนาความรทู้ ไ่ี ดร้ บั มาวเิ คราะห์ ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั งิ านตามกลมุ่ งานของนกั เรยี น
ทร่ี บั ผดิ ชอบ

9. ใหน้ กั เรยี นนาเสนอผลงานกลมุ่ ตามทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย แลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ ระหวา่ งกลมุ่
10. ใหน้ กั เรยี นปฏบิ ตั ใิ บงานท่ี 5 เรอ่ื ง การถอดประกอบคอมเพรสเซอร์
11. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ ผลการเรยี นรู้
12. ประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ านตามใบงานท่ี 5 เรอ่ื ง การถอดประกอบคอมเพรสเซอร์
13. ประเมนิ พฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ าน กลมุ่ นกั เรยี นและการนาเสนอผลงานกลมุ่
14. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรทู้ ่ี 5

สื่อการเรยี นการสอน

1. หนงั สอื เรยี นวชิ า เครอ่ื งทาความเยน็ และปรบั อากาศ รหสั 2101-2008 ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์
2. เครอ่ื งมอื และอุปกรณ์ในถอดประกอบคอมเพรสเซอร์

การวดั และการประเมินผล

วิธีวดั ผล
1. ตรวจใบงาน
2. สงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล
3. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 5
5. การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
เครื่องมือวดั ผล
1. ใบงาน
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล (ภาคผนวก ข)
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (ภาคผนวก ค)
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 5
5. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครผู สู้ อนและผเู้ รยี น

รว่ มกนั ประเมนิ (ภาคผนวก จ)

53

เกณฑก์ ารประเมินผล
1. เกณฑผ์ า่ นใบงาน คอื พอใช้
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล เกณฑผ์ า่ น ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรงุ
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ เกณฑผ์ า่ น 50% ขน้ึ ไป
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 5 เกณฑผ์ า่ น ทาถกู ตอ้ ง 50% ขน้ึ ไป
5. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การ

ประเมนิ ตามสภาพจรงิ

บนั ทกึ หลงั การสอน

(ดทู ภ่ี าคผนวก ฌ และ ญ)

54

ใบงานที่ 5
เรือ่ ง การถอดประกอบคมอเพรสเซอร์

วสั ดุ ขนาด จานวนช้ ิน

1. น้ามนั คอมเพรสเซอร์ ลาดบั ขนั้ การทางาน
2. ปะเกน็ คอมเพรสเซอร์
3. ก๊าซไนโตรเจน การทางานคอมเพรสเซอรแ์ บบปิ ด (ศึกษาการทางาน)

เคร่ืองมือและอปุ กรณ์ 1. นาคอมเพรสเซอรแ์ บบปิดทผ่ี า่ แลว้ เทน้ามนั ออกใสถ่ ว้ ยตวง

1. คอมเพรสเซอรแ์ บบปิด 2. เปิดฝาครอบดา้ นบนของเปลอื กคอมเพรสเซอรอ์ อก
2. คอมเพรสเซอรแ์ บบเปิด 3. ถอดสปรงิ ยดึ ชุดมอเตอรแ์ ละปมั๊ ออกจากโครง จากนนั้ ถอด ฝาครอบ
3. เครอ่ื งทาสญุ ญากาศ
4. ชดุ เกจวดั ความดนั ลน้ิ ออก
5. เครอ่ื งเชอ่ื มแกส๊
6. เครอ่ื งมอื งานท่อ 4. ตรวจเชค็ ตาแหน่งและทาเคร่อื งหมายแผน่ ยดึ ลน้ิ (Valve Plate)
7. ประแจ
5. ศกึ ษาการทางานของลกู สบู การไหลเวยี นของระบบน้ายาใน

คอมเพรสเซอร์

6. บนั ทกึ รายละเอยี ดต่าง ๆ เชน่ จานวนลกู สบู เสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลางลกู สบู และ

ระยะชกั ของลกู สบู

7. ประกอบชน้ิ สว่ นต่างๆ เขา้ ตาแหน่งเดมิ เตมิ น้ามนั ทเ่ี ทออก กลบั เขา้

คอมเพรสเซอรด์ งั เดมิ
การทางานคอมเพรสเซอรแ์ บบเปิ ด

1. จดั เตรยี มคอมเพรสเซอรแ์ บบเปิด (Open Type) แบบใดแบบหน่ึง

2. เทน้ามนั หลอ่ ล่นื คอมเพรสเซอรอ์ อกจากตวั คอมเพรสเซอร์ ทางชอ่ งเตมิ

น้ามนั หลอ่ ลน่ื ใสถ่ ว้ ยตวงไว้

3. ถอดชุดคลตั ชแ์ มเ่ หลก็ ออกจากตวั คอมเพรสเซอร์ แลว้ ทา เครอ่ื งหมายบน

แผน่ ยดึ ลน้ิ

55

4. 4.ถอดนอตยดึ ตวั เรอื นคอมเพรสเซอรอ์ อก ถอดสว่ นประกอบ ต่างๆ
ของคอมเพรสเซอรอ์ อก

5. ศกึ ษาชน้ิ สว่ นประกอบและการทางานของคอมเพรสเซอร์ ศกึ ษาระบบ
การดดู และอดั น้ายาของคอมเพรสเซอร์

6. บนั ทกึ รายละเอยี ดตา่ งๆ เชน่ จานวนลกู สบู เสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลาง ลกู สบู และ
ระยะชกั ของลกู สบู ไว้

7. เมอ่ื ศกึ ษารายละเอยี ดตา่ งๆ เสรจ็ แลว้ ใหป้ ระกอบดงั เดมิ แลว้ เตมิ น้ามนั
ทเ่ี ทออกกลบั เขา้ คอมเพรสเซอร์

แบบประเมินผลการปฏิบตั ิงาน

ท่ี รายการ 5 คะแนน 1 รวม
432
1 การเตรยี มเครอ่ื งมอื วสั ดุ อปุ กรณ์
2 ความถกู ตอ้ งในการใชเ้ ครอ่ื งมอื วสั ดุ อุปกรณ์ 50
3 ขนั้ ตอนในการปฏบิ ตั งิ าน
4 ความสาเรจ็ ของงาน
5 การรกั ษาวนิ ยั
6 มารยาท
7 ความตงั้ ใจในการปฏบิ ตั งิ าน
8 การทางานรว่ มกบั ผอู้ ่นื
9 การเกบ็ รกั ษาเครอ่ื งมอื วสั ดุ อุปกรณ์
10 ความสะอาดเรยี บรอ้ ยของบรเิ วณปฏบิ ตั งิ าน

รวม

ผลการประเมิน  ผา่ น  ไมผ่ า่ น

บนั ทกึ เพมิ่ เตมิ …………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………..

…………………………………………………………………………………………………………………..

…………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชอ่ื ……………………………………… ผปู้ ระเมนิ
(…………………………………..…)

56

แผนการจดั การเรียนรแู้ บบบรู ณาการที่ 10 หน่วยที่ 6
สอนคร้งั ที่ 37-40
รหสั วิชา 2101-2008 วิชา เครื่องทาความเย็นและปรบั อากาศ จานวนชวั ่ โมง 4 ชม.
ชื่อหน่วย สารทาความเยน็ และน้ามนั หลอ่ ลื่น

แนวคิด

สารความเยน็ (Refrigerant) เป็นน้ายาท่ใี ชใ้ นระบบปรบั อากาศ อาจเรยี กว่า น้ายาแอร์ แบ่งออกได้
หลายชนิด ซ่ึงมคี วามเหมาะสมกบั งานทาความเยน็ ท่แี ตกต่างกนั ไป มหี น้าท่ดี ูดความร้อนและคายความร้อน
ในขณะทเ่ี ปลย่ี นสถานะจากของเหลวเป็นก๊าซและจากก๊าซเป็นของเหลวตามลาดบั สารความเยน็ มสี ว่ นอย่างมาก
ในการทาลายชนั้ บรรยากาศของโลก ดงั นนั้ จงึ ไดม้ กี ารนาสาร R-134a มาใช้ แต่เน่ืองจากว่ายงั มคี ุณสมบตั ิ
บางอย่างแตกต่างกนั ในสารแต่ละชนิด จาเป็นท่ีช่างบรกิ ารจะต้องเขา้ ใจในรายละเอียดต่างๆ เพ่อื การปรบั แต่ง
ชน้ิ สว่ นบางอยา่ งใหเ้ หมาะสมกบั การใชง้ าน

สาระการเรยี นรู้

1. คณุ สมบตั ขิ องสารความเยน็
2. ชนดิ ของสารความเยน็
3. ความปลอดภยั ในการใชส้ ารความเยน็
4. น้ามนั หลอ่ ลน่ื คอมเพรสเซอร์
5. การตรวจสอบการรวั่ ของระบบน้ายา
6. วธิ กี ารหาจุดรวั่ ของระบบน้ายา

ผลการเรียนรูท้ ค่ี าดหวงั

1. อธบิ ายคุณสมบตั ขิ องสารความเยน็ ได้
2. อธบิ ายการเลอื กใชช้ นดิ ของสารความเยน็ ได้
3. อธบิ ายการใชส้ ารความเยน็ อยา่ งปลอดภยั ได้
4. อธบิ ายคณุ สมบตั ขิ องน้ามนั หล่อล่นื คอมเพรสเซอรไ์ ด้
5. ตรวจสอบการรวั่ และหาจดุ รวั่ ของระบบได้
6. มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคท์ ค่ี รสู ามารถสงั เกตเหน็ ได้

ในดา้ นความมมี นุษย์ สมั พนั ธ์ ความมวี นิ ยั ความรบั ผดิ ชอบ ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง ความสนใจใฝร่ ู้
ความรกั สามคั คี ความกตญั ญกู ตเวที

กิจกรรมการเรยี นการสอน

1. ครตู งั้ ประเดน็ ปญั หาเรา้ ความสนใจ เชน่ สารความเยน็ เป็นน้ายาทใ่ี ชใ้ นระบบปรบั อากาศท่ี
นกั เรยี นรจู้ กั มอี ะไรบา้ ง

57

2. ใหน้ กั เรยี นนาประสบการณ์มาตอบคาถามและแสดงความคดิ เหน็ ประกอบ
3. แบง่ นกั เรยี นออกเป็นกลมุ่ ๆ ละ 4-5 คน ครมู อบงานดงั น้ี

- คุณสมบตั ขิ องสารความเยน็
- ชนิดของสารความเยน็
- ความปลอดภยั ในการใชส้ ารความเยน็
- น้ามนั หลอ่ ล่นื คอมเพรสเซอร์
- การตรวจสอบการรวั่ ของระบบน้ายา
-วธิ กี ารหาจุดรวั่ ของระบบน้ายา
4. ครใู หเ้ น้ือหาตามสาระการเรยี นรเู้ รอ่ื ง สารทาความเยน็ และน้ามนั หลอ่ ล่นื
5. ครตู งั้ ประเดน็ ชวนคยุ ใหน้ กั เรยี นคดิ เกย่ี วกบั สาระการเรยี นรใู้ นหน่วยท่ี 6 ดว้ ยการตงั้ คาถาม
ปลายเปิดเป็นคาถามนาไปสวู่ ตั ถุประสงคก์ ารเรยี นรเู้ รอ่ื ง สารทาความเยน็ และน้ามนั หลอ่ ลน่ื
6. ครใู หค้ านิยาม สารทาความเยน็ และน้ามนั หล่อลน่ื ชแ้ี นะประเดน็ ชวนใหน้ กั เรยี นไดอ้ ภปิ รายแสดง
ความคดิ เหน็ ซง่ึ ความคดิ เหน็ ของนกั เรยี นนนั้ มคี วามเหมอื น/แตกต่างหรอื ไมอ่ ยา่ งไร
7. ครสู รปุ ขอ้ คดิ เหน็ ของนกั เรยี นทงั้ หมดแนะนาใหน้ กั เรยี นไดร้ จู้ กั สารทาความเยน็ และน้ามนั หล่อล่นื
8. สง่ เสรมิ ใหน้ กั เรยี นนาความรทู้ ไ่ี ดร้ บั มาวเิ คราะห์ ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั งิ านตามกลมุ่ งานของนกั เรยี น
ทร่ี บั ผดิ ชอบ
9. ใหน้ กั เรยี นนาเสนอผลงานกลุ่มตามทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย แลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ ระหวา่ งกลุ่ม
11. ใหน้ กั เรยี นปฏบิ ตั ใิ บงานท่ี 6 เรอ่ื ง การเตมิ น้ามนั คอมเพรสเซอร์
11. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปผลการเรยี นรู้
12. ประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ านตามใบงานท่ี 6 เรอ่ื ง การเตมิ น้ามนั คอมเพรสเซอร์
13. ประเมนิ พฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ าน กลมุ่ นกั เรยี นและการนาเสนอผลงานกลุม่
14. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรทู้ ่ี 6

สือ่ การเรยี นการสอน

1. หนงั สอื เรยี นวชิ า เครอ่ื งทาความเยน็ และปรบั อากาศ รหสั 2101-2008 ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์
2. เครอ่ื งมอื และอุปกรณ์ในถอดประกอบคอมเพรสเซอร์

การวดั และการประเมินผล

วิธีวดั ผล
1. ตรวจใบงาน
2. สงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล
3. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 6
5. การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

58

เคร่อื งมือวดั ผล
1. ใบงาน
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล (ภาคผนวก ข)
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (ภาคผนวก ค)
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 6
5. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครผู สู้ อนและผเู้ รยี น

รว่ มกนั ประเมนิ (ภาคผนวก จ)
เกณฑก์ ารประเมินผล
1. เกณฑผ์ า่ นใบงาน คอื พอใช้
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล เกณฑผ์ า่ น ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรงุ
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ เกณฑผ์ า่ น 50% ขน้ึ ไป
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 6 เกณฑผ์ า่ น ทาถกู ตอ้ ง 50% ขน้ึ ไป
5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การ

ประเมนิ ตามสภาพจรงิ

บนั ทึกหลงั การสอน

(ดทู ภ่ี าคผนวก ฌ และ ญ)

59

ใบงานที่ 6
เรือ่ ง การถอดประกอบคอมเพรสเซอร์

เกจความดนั ต่า เกจความดนั สูง

คอมเพรสเซอร์ น้ามนั เครอ่ื งทาสุญญากาศ

วสั ดุ ขนาด จานวนช้ ิน

1. น้ามนั คอมเพรสเซอร์ ลาดบั ขนั้ การทางาน
2. ก๊าซไนโตรเจน การเติมน้ามนั โดยการเท
1. เทน้ามนั คอมเพรสเซอร์แบบเปิดออกจากตวั คอมเพรสเซอร์ท่ชี ่องเติม
เครอื่ งมือและอปุ กรณ์
น้ามนั ลงภาชนะตวงน้ามนั แลว้ จดบนั ทกึ ปรมิ าตร น้ามนั ทเ่ี ทออกไว้
1. คอมเพรสเซอรท์ งั้ แบบปิด 2. เทน้ามนั คอมเพรสเซอรเ์ ก่าเกบ็ ในภาชนะเกบ็ น้ามนั
และคอมเพรสเซอรแ์ บบ 3. เทน้ามนั คอมเพรสเซอรใ์ หมล่ งในภาชนะตวงตามปรมิ าตรเดมิ
เปิด 4. เทน้ามนั คอมเพรสเซอรใ์ หมล่ งในตวั คอมเพรสเซอรโ์ ดยใชก้ รวยชว่ ยใน

2. เครอ่ื งทาสญุ ญากาศ การเตมิ น้ามนั
3. ชุดเกจวดั ความดนั 5. เมอ่ื เตมิ เสรจ็ เรยี บรอ้ ยใหข้ นั นอตปิดชอ่ งเตมิ น้ามนั ใหแ้ น่น
4. เครอ่ื งเช่อื มแก๊ส
5. เครอ่ื งมอื งานทอ่ การเติมน้ามนั ด้วยการทาสญุ ญากาศ
6. ภาชนะตวงวดั น้ามนั 1. เทน้ามนั จากคอมเพรสเซอรแ์ บบปิดออกทางทอ่ ดดู ใสภ่ าชนะตวง
7. ภาชนะสาหรบั เกบ็ 2. วดั ปรมิ าตรน้ามนั หลอ่ ล่นื ทเ่ี ทออกมาแลว้ บนั ทกึ คา่ ไว้ จากนนั้ เท

น้ามนั และกรวย น้ามนั หลอ่ ล่นื เก่าเกบ็ ในภาชนะทเ่ี ตรยี มไว้
3. เทน้ามนั หลอ่ ล่นื ใหมล่ งในภาชนะตวงเทา่ กบั ปรมิ าตรน้ามนั เกา่ ทเ่ี ท

ออกมา
4. ต่อสายเกจดา้ นต่า (สเี ขยี ว) ของเกจวดั ความดนั เขา้ กบั ทอ่ ดดู ของ

คอมเพรสเซอร์

60

5. ต่อสายกลาง (สเี หลอื ง) ของเกจวดั ความดนั เขา้ กบั เครอ่ื งทาสญุ ญากาศ

6. นาสายเกจดา้ นสงู (สแี ดง) ของเกจวดั ความดนั ต่อเขา้ กบั ทอ่

บรกิ ารของคอมเพรสเซอร์ ใหน้ าปลายอกี ดา้ นหน่ึงจุ่มลงในภาชนะ

บรรจุน้ามนั

7. เดนิ เครอ่ื งทาสญุ ญากาศ น้ามนั หลอ่ ลน่ื คอมเพรสเซอรจ์ ะถกู ดดู ผา่ นทอ่

บรกิ ารเขา้ สตู่ วั คอมเพรสเซอร์

8. เมอ่ื น้ามนั ถกู ดดู เขา้ คอมเพรสเซอรจ์ นหมดแลว้ ใหห้ ยดุ ดนิ เคร่อื งทา

สญุ ญากาศ

9. ทาความสะอาดและเกบ็ เครอ่ื งมอื เขา้ ท่ี

การเติมน้ามนั โดยการเดินคอมเพรสเซอร์

1. ปฏบิ ตั งิ านเชน่ เดยี วกบั การเตมิ น้ามนั ดว้ ยการทาสญุ ญากาศ

2. นาสายเกจวดั ความดนั หน่ึงเสน้ ต่อเขา้ กบั ทอ่ บรกิ ารของคอมเพรสเซอร์

สว่ นปลายอกี ขา้ งหน่ึงนาจุม่ ลงในภาชนะตวง น้ามนั

3. ใหเ้ ดนิ คอมเพรสเซอรเ์ พ่อื ดดู น้ามนั จากภาชนะตวงเขา้ ตวั

คอมเพรสเซอรจ์ นหมด

4. ขณะเดนิ เครอ่ื งคอมเพรสเซอรต์ อ้ งนาเครอ่ื งวดั กระแสวดั กระแสของ

มอเตอรค์ อมเพรสเซอรท์ กุ ครงั้

เมอ่ื น้ามนั ถกู ดดู เขา้ คอมเพรสเซอรห์ มดแลว้ ถอดสายเกจวดั ความดนั แลว้

เกบ็ เครอ่ื งมอื เขา้ ท่ี

61

แบบประเมนิ ผลการปฏิบตั ิงาน

ท่ี รายการ 5 คะแนน 1 รวม
432
1 การเตรยี มเครอ่ื งมอื วสั ดุ อปุ กรณ์
2 ความถกู ตอ้ งในการใชเ้ ครอ่ื งมอื วสั ดุ อุปกรณ์ 50
3 ขนั้ ตอนในการปฏบิ ตั งิ าน
4 ความสาเรจ็ ของงาน
5 การรกั ษาวนิ ยั
6 มารยาท
7 ความตงั้ ใจในการปฏบิ ตั งิ าน
8 การทางานรว่ มกบั ผอู้ ่นื
9 การเกบ็ รกั ษาเครอ่ื งมอื วสั ดุ อุปกรณ์
10 ความสะอาดเรยี บรอ้ ยของบรเิ วณปฏบิ ตั งิ าน

รวม

ผลการประเมิน  ผา่ น  ไมผ่ า่ น

บนั ทกึ เพม่ิ เตมิ …………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………..

…………………………………………………………………………………………………………………..

…………………………………………………………………………………………………………………..

ลงช่อื ……………………………………… ผปู้ ระเมนิ
(…………………………………..…)

62

แผนการจดั การเรียนรแู้ บบบรู ณาการที่ 11 หน่วยที่ 7
สอนคร้งั ท่ี 41-44
รหสั วิชา 2101-2008 วิชา เคร่ืองทาความเย็นและปรบั อากาศ จานวนชวั ่ โมง 4 ชม.
ช่ือหน่วย การทาสญู ญากาศและการบรรจุสารทาความเยน็

แนวคิด

การทาสญุ ญากาศระบบเคร่อื งทาความเยน็ หรอื เครอ่ื งปรบั อากาศ (Evacuating the System) คอื การใช้
เคร่อื งทาสุญญากาศดูดอากาศและความช้นื ออกมาจากระบบ เพ่อื ใหส้ ารความเยน็ ท่บี รรจุเขา้ ไปนัน้ ปราศจาก
อากาศและความชน้ื เจอื ปน เน่ืองจากความชน้ื จะแปลงสภาพเป็นไอ (Vapor) ไดง้ า่ ย ซ่งึ จะก่อใหเ้ กดิ ผลเสยี ต่อ
ระบบ ดงั นัน้ ภายหลงั การประกอบตดิ ตงั้ หรอื ตรวจซ่อมเคร่อื งทาความเยน็ จงึ ตอ้ งมีการทาสุญญากาศก่อนการ
บรรจุสารความเยน็ เขา้ ในระบบ ซ่งึ การบรรจุสารความเยน็ นัน้ มที งั้ การบรรจุในสถานะก๊าซและของเหลว ทงั้ น้ี
กข็ น้ึ อยกู่ บั ลกั ษณะของการใชง้ านเป็นสาคญั

สาระการเรยี นรู้

1. ความจาเป็นทต่ี อ้ งทาสญุ ญากาศ
2. การทาสญุ ญากาศ
3. การบรรจุสารความเยน็ เขา้ ในระบบ
4. การปลอ่ ยสารความเยน็ ทง้ิ ออกจากระบบ
5. ขอ้ มลู ประกอบเพอ่ื การบรรจุสารความเยน็
6. การเช่อื มปิดระบบการทาความเยน็

ผลการเรยี นรูท้ ค่ี าดหวงั

1. อธบิ ายความจาเป็นทต่ี อ้ งทาสญุ ญากาศได้
2. อธบิ ายขนั้ ตอนการทาสญุ ญากาศได้
3. อธบิ ายขนั้ ตอนการบรรจสุ ารความเยน็ เขา้ ในระบบได้
4. อธบิ ายการปลอ่ ยสารความเยน็ ทง้ิ ออกจากระบบได้
5. บรรจสุ ารความเยน็ ตามเกณฑท์ ก่ี าหนดได้
6. ปฏบิ ตั กิ ารเช่อื มปิดระบบการทาความเยน็ ได้
7. มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคท์ ค่ี รสู ามารถสงั เกตเหน็ ได้

ในดา้ นความมมี นุษย์ สมั พนั ธ์ ความมวี นิ ยั ความรบั ผดิ ชอบ ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง ความสนใจใฝร่ ู้
ความรกั สามคั คี ความกตญั ญกู ตเวที

63

กิจกรรมการเรยี นการสอน

1. ครตู งั้ ประเดน็ ปญั หาเรา้ ความสนใจ เชน่ การทาสญุ ญากาศระบบเครอ่ื งทาความเยน็ หรอื
เครอ่ื งปรบั อากาศคอื อะไร ตอบตามความเขา้ ใจ

2. ใหน้ กั เรยี นนาประสบการณ์มาตอบคาถามและแสดงความคดิ เหน็ ประกอบ
3. แบง่ นกั เรยี นออกเป็นกลมุ่ ๆ ละ 4-5 คน ครมู อบงานดงั น้ี

- ความจาเป็นทต่ี อ้ งทาสญุ ญากาศ
- การทาสญุ ญากาศ
- การบรรจสุ ารความเยน็ เขา้ ในระบบ
- การปล่อยสารความเยน็ ทง้ิ ออกจากระบบ
- ขอ้ มลู ประกอบเพอ่ื การบรรจุสารความเยน็
-การเชอ่ื มปิดระบบการทาความเยน็
4. ครใู หเ้ น้ือหาตามสาระการเรยี นรเู้ รอ่ื ง การทาสญุ ญากาศและการบรรจสุ ารทาความเยน็
5. ครตู งั้ ประเดน็ ชวนคยุ ใหน้ กั เรยี นคดิ เกย่ี วกบั สาระการเรยี นรใู้ นหน่วยท่ี 7 ดว้ ยการตงั้ คาถาม
ปลายเปิดเป็นคาถามนาไปสวู่ ตั ถุประสงคก์ ารเรยี นรเู้ รอ่ื ง การทาสญุ ญากาศและการบรรจสุ ารทา
ความเยน็
6. ครใู หค้ านิยาม การทาสญุ ญากาศและการบรรจุสารทาความเยน็ ชแ้ี นะประเดน็ ชวนใหน้ กั เรยี นได้
อภปิ รายแสดงความคดิ เหน็ ซง่ึ ความคดิ เหน็ ของนกั เรยี นนนั้ มคี วามเหมอื น/แตกตา่ งหรอื ไมอ่ ยา่ งไร
7. ครสู รปุ ขอ้ คดิ เหน็ ของนกั เรยี นทงั้ หมดแนะนาใหน้ กั เรยี นไดร้ จู้ กั สารทาความเยน็ และน้ามนั หลอ่ ล่นื
8. สง่ เสรมิ ใหน้ กั เรยี นนาความรทู้ ไ่ี ดร้ บั มาวเิ คราะห์ ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั งิ านตามกลมุ่ งานของนกั เรยี น
ทร่ี บั ผดิ ชอบ
9. ใหน้ กั เรยี นนาเสนอผลงานกลมุ่ ตามทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย แลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ ระหวา่ งกลุ่ม
10. ใหน้ กั เรยี นปฏบิ ตั ใิ บงานท่ี 7 เรอ่ื ง การตรวจกาลงั การเกบ็ รกั ษาคอมเพรสเซอร์
11. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปผลการเรยี นรู้
12. ประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ านตามใบงานท่ี 7 เรอ่ื ง การตรวจกาลงั การเกบ็ รกั ษาคอมเพรสเซอร์
13. ประเมนิ พฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ าน กลมุ่ นกั เรยี นและการนาเสนอผลงานกลมุ่
14. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรทู้ ่ี 7

ส่อื การเรยี นการสอน

1. หนงั สอื เรยี นวชิ า เครอ่ื งทาความเยน็ และปรบั อากาศ รหสั 2101-2008 ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์
2. เครอ่ื งมอื และอุปกรณ์ในการตรวจกาลงั การเกบ็ รกั ษาคอมเพรสเซอร์

64

การวดั และการประเมินผล

วิธีวดั ผล
1. ตรวจใบงาน
2. สงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล
3. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 7
5. การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
เครอ่ื งมือวดั ผล
1. ใบงาน
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล (ภาคผนวก ข)
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (ภาคผนวก ค)
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 7
5. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครผู สู้ อนและผเู้ รยี น

รว่ มกนั ประเมนิ (ภาคผนวก จ)
เกณฑก์ ารประเมินผล
1. เกณฑผ์ า่ นใบงาน คอื พอใช้
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล เกณฑผ์ า่ น ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรงุ
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ เกณฑผ์ า่ น 50% ขน้ึ ไป
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 7 เกณฑผ์ า่ น ทาถกู ตอ้ ง 50% ขน้ึ ไป
5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การ

ประเมนิ ตามสภาพจรงิ

บนั ทกึ หลงั การสอน

(ดทู ภ่ี าคผนวก ฌ และ ญ)

65

ใบงานที่ 7
เรือ่ ง การตรวจกาลงั การเก็บรกั ษาคอมเพรสเซอร์

วาล์วบรกิ าร วาล์วบรกิ าร
ความดนั ต่า ความดนั สูง

คอมเพรสเซอร์

วสั ดุ ขนาด จานวนช้ ิน

เครอ่ื งมือและอปุ กรณ์ ลาดบั ขนั้ การทางาน

1. คอมเพรสเซอรท์ งั้ แบบ การวดั กาลงั ด้านดดู
ปิดและคอมเพรสเซอร์
แบบเปิด 1. เชอ่ื มปิดทอ่ ดา้ นดดู ไว้
2. ต่อเกจวดั ความดนั เขา้ กบั คอมเพรสเซอร์
2. เครอ่ื งทาสญุ ญากาศ 3. ใหป้ ิดวาลว์ ดา้ นต่า และเปิดวาลว์ ดา้ นสงู
3. ชุดเกจวดั ความดนั 4. เดนิ คอมเพรสเซอรป์ ระมาณ 3 นาที
4. ประแจ 5. ใหส้ งั เกตเขม็ ทางดา้ นดดู แลว้ จดบนั ทกึ คา่ ไว้
การทดสอบกาลงั ด้านอดั

1. ต่อเกจวดั ความดนั เขา้ กบั คอมเพรสเซอร์
2. ใหเ้ ปิดวาลว์ ดา้ นความดนั ต่า และปิดวาลว์ ดา้ นความดนั สงู ของเกจวดั

ความดนั
3. เดนิ คอมเพรสเซอร์
4. สงั เกตเขม็ ดา้ นความดนั สงู ของเกจ แลว้ จดบนั ทกึ คา่ กาลงั ดา้ นอดั ไว้
การเกบ็ รกั ษาคอมเพรสเซอร์

1. นาคอมเพรสเซอรท์ ท่ี ดสอบกาลงั แลว้ มา 1 ลกู ต่อเกจวดั ความดนั เขา้ กบั
คอมเพรสเซอร์

2. นาสายกลางของเกจวดั ความดนั ตอ่ เขา้ กบั เครอ่ื งทาสญุ ญากาศ

66

3. เปิดวาลว์ เกจดา้ นความดนั ต่าแลว้ เดนิ เครอ่ื งทาสญุ ญากาศ จนกระทงั่
ในตวั คอมเพรสเซอรเ์ ป็นสญุ ญากาศ (ทค่ี วามดนั 29.9 น้ิวปรอท)

4. ปิดวาลว์ เกจดา้ นความดนั ต่า แลว้ หยดุ เดนิ เคร่อื งทาสญุ ญากาศ
5. นาสายกลางของเกจวดั ความดนั ต่อเขา้ กบั ถงั ก๊าซไนโตรเจน
6. เปิดวาลว์ ถงั ก๊าซไนโตรเจนและคลายเกลยี วสายกลางของเกจวดั ความ

ดนั เพอ่ื ไลอ่ ากาศในสายเกจออก
7. เปิดวาลว์ เกจดา้ นความดนั ต่า ให้ก๊าซไนโตรเจนไหลเขา้ คอมเพรสเซอร์

ไมน่ ้อยกวา่ 20 psig แลว้ ปิดวาลว์ เกจวดั ความดนั
8. ใชค้ มี บบี ท่อบบี ทอ่ ของคอมเพรสเซอรแ์ ลว้ เชอ่ื มปิดทอ่ ไว้

แบบประเมินผลการปฏิบตั ิงาน

ที่ รายการ 5 คะแนน 1 รวม
432
1 การเตรยี มเครอ่ื งมอื วสั ดุ อปุ กรณ์
2 ความถกู ตอ้ งในการใชเ้ ครอ่ื งมอื วสั ดุ อุปกรณ์ 50
3 ขนั้ ตอนในการปฏบิ ตั งิ าน
4 ความสาเรจ็ ของงาน
5 การรกั ษาวนิ ยั
6 มารยาท
7 ความตงั้ ใจในการปฏบิ ตั งิ าน
8 การทางานรว่ มกบั ผอู้ ่นื
9 การเกบ็ รกั ษาเครอ่ื งมอื วสั ดุ อุปกรณ์
10 ความสะอาดเรยี บรอ้ ยของบรเิ วณปฏบิ ตั งิ าน

รวม

ผลการประเมิน  ผา่ น  ไมผ่ า่ น

บนั ทกึ เพม่ิ เตมิ …………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………..

…………………………………………………………………………………………………………………..

…………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชอ่ื ……………………………………… ผปู้ ระเมนิ
(…………………………………..…)

67

แผนการจดั การเรียนรแู้ บบบรู ณาการท่ี 12 หน่วยที่ 8
สอนคร้งั ท่ี 45-48
รหสั วิชา 2101-2008 วิชา เคร่ืองทาความเย็นและปรบั อากาศ จานวนชวั ่ โมง 4 ชม.
ชื่อหน่วย ท่อทางเดินสารทาความเยน็ และการต่อท่อ

แนวคิด

เครอ่ื งทาความเยน็ นอกจากจะประกอบดว้ ยอุปกรณ์ทส่ี าคญั เชน่ คอมเพรสเซอร์ รซี ฟิ เวอร์ วาลว์ ลด
ความดนั และอแิ วโพเรเตอรแ์ ลว้ ยงั ประกอบไปดว้ ยทอ่ ทางเดนิ สารทาความเยน็ ซง่ึ จะทาหน้าท่สี ง่ สารทาความเยน็
ไปยงั อุปกรณ์ต่างๆ ดงั นนั้ ในการออกแบบและตดิ ตงั้ ท่อทางเดนิ สารทาความเยน็ จะตอ้ งพจิ ารณาขอ้ กาหนดต่างๆ
ไมว่ า่ จะเป็นขนาดของทอ่ หรอื วธิ กี ารตดิ ตงั้ ทอ่ ทางเดนิ สารทาความเยน็ ซง่ึ เกย่ี วขอ้ งโดยตรงกบั ประสทิ ธภิ าพของ
การทาความเยน็ ทอ่ ทางเดนิ สารทาความเยน็ ทใ่ี ชใ้ นระบบการทาความเยน็ แบง่ ออกไดเ้ ป็น 2 ชนดิ คอื ทอ่ ชนิด
ออ่ นและทอ่ ชนิดแขง็ ซง่ึ มลี กั ษณะการใชง้ านตามสภาพทแ่ี ตกต่างกนั ออกไป

สาระการเรยี นรู้

1. ทอ่ ทางเดนิ สารทาความเยน็
2. การออกแบบทอ่ ทางเดนิ สารทาความเยน็
3. ชนดิ ของทอ่ ทางเดนิ สารทาความเยน็
4. การตดั และการดดั ท่อสารทาความเยน็
5. การบานทอ่ ทางเดนิ สารทาความเยน็
6. การต่อทอ่ ทางเดนิ สารทาความเยน็

ผลการเรยี นรูท้ คี่ าดหวงั

1. อธบิ ายท่อทางเดนิ สารทาความเยน็ ได้
2. อธบิ ายการออกแบบท่อทางเดนิ สารทาความเยน็ ได้
3. อธบิ ายชนิดของทอ่ ทางเดนิ สารทาความเยน็ ได้
4. ตดั และดดั ทอ่ สารทาความเยน็ ได้
5. บานทอ่ และต่อทอ่ ทางเดนิ สารทาความเยน็ ได้
6. เลอื กใชท้ อ่ ทางเดนิ สารทาความเยน็ ไดเ้ หมาะสมกบั ลกั ษณะงาน
7. มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคท์ ค่ี รสู ามารถสงั เกตเหน็ ได้

ในดา้ นความมมี นุษย์ สมั พนั ธ์ ความมวี นิ ยั ความรบั ผดิ ชอบ ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง ความสนใจใฝร่ ู้
ความรกั สามคั คี ความกตญั ญกู ตเวที

กิจกรรมการเรยี นการสอน

1. ครตู งั้ ประเดน็ ปญั หาเรา้ ความสนใจ เชน่ เครอ่ื งทาความเยน็ นนั้ ประกอบดว้ ยอุปกรณ์ทส่ี าคญั
อะไรบา้ ง ตอบตามความเขา้ ใจ

68

2. ใหน้ กั เรยี นนาประสบการณ์มาตอบคาถามและแสดงความคดิ เหน็ ประกอบ
3. แบง่ นกั เรยี นออกเป็นกลมุ่ ๆ ละ 4-5 คน ครมู อบงานดงั น้ี

- ทอ่ ทางเดนิ สารทาความเยน็
- การออกแบบทอ่ ทางเดนิ สารทาความเยน็
- ชนิดของท่อทางเดนิ สารทาความเยน็
- การตดั และการดดั ทอ่ สารทาความเยน็
- การบานทอ่ ทางเดนิ สารทาความเยน็
- การตอ่ ทอ่ ทางเดนิ สารทาความเยน็
4. ครใู หเ้ น้ือหาตามสาระการเรยี นรเู้ รอ่ื ง ทอ่ ทางเดนิ สารทาความเยน็ และการต่อทอ่
5. ครตู งั้ ประเดน็ ชวนคยุ ใหน้ กั เรยี นคดิ เกย่ี วกบั สาระการเรยี นรใู้ นหน่วยท่ี 8 ดว้ ยการตงั้ คาถาม
ปลายเปิดเป็นคาถามนาไปสวู่ ตั ถุประสงคก์ ารเรยี นรเู้ รอ่ื ง ทอ่ ทางเดนิ สารทาความเยน็ และการต่อทอ่
6. ครใู หค้ านิยาม ทอ่ ทางเดนิ สารทาความเยน็ และการต่อทอ่ ชแ้ี นะประเดน็ ชวนใหน้ กั เรยี นไดอ้ ภปิ ราย
แสดงความคดิ เหน็ ซง่ึ ความคดิ เหน็ ของนกั เรยี นนนั้ มคี วามเหมอื น/แตกต่างหรอื ไมอ่ ยา่ งไร
7. ครสู รปุ ขอ้ คดิ เหน็ ของนกั เรยี นทงั้ หมดแนะนาใหน้ กั เรยี นไดร้ จู้ กั ทอ่ ทางเดนิ สารทาความเยน็ และการ
ต่อทอ่
8. สง่ เสรมิ ใหน้ กั เรยี นนาความรทู้ ไ่ี ดร้ บั มาวเิ คราะห์ ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั งิ านตามกลมุ่ งานของนกั เรยี น
ทร่ี บั ผดิ ชอบ
9. ใหน้ กั เรยี นนาเสนอผลงานกลุ่มตามทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย แลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ ระหวา่ งกลุ่ม
10. ใหน้ กั เรยี นปฏบิ ตั ใิ บงานท่ี 8 เรอ่ื ง การต่อวงจรไฟฟ้าคอมเพรสเซอรแ์ บบต่างๆ
11. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปผลการเรยี นรู้
12. ประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ านตามใบงานท่ี 8 เรอ่ื ง การต่อวงจรไฟฟ้าคอมเพรสเซอรแ์ บบต่างๆ
13. ประเมนิ พฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ าน กลมุ่ นกั เรยี นและการนาเสนอผลงานกลุ่ม
14. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรทู้ ่ี 8

สื่อการเรยี นการสอน

1. หนงั สอื เรยี นวชิ า เครอ่ื งทาความเยน็ และปรบั อากาศ รหสั 2101-2008 ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์
2. เครอ่ื งมอื และอุปกรณ์ในการตรวจกาลงั การเกบ็ รกั ษาคอมเพรสเซอร์

การวดั และการประเมินผล

วิธีวดั ผล
1. ตรวจใบงาน
2. สงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล
3. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่
4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 8
5. การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

69

เคร่อื งมือวดั ผล
1. ใบงาน
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล (ภาคผนวก ข)
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (ภาคผนวก ค)
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 8
5. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครผู สู้ อนและผเู้ รยี น

รว่ มกนั ประเมนิ (ภาคผนวก จ)
เกณฑก์ ารประเมินผล
1. เกณฑผ์ า่ นใบงาน คอื พอใช้
2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล เกณฑผ์ า่ น ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรงุ
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ เกณฑผ์ า่ น 50% ขน้ึ ไป
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 8 เกณฑผ์ า่ น ทาถกู ตอ้ ง 50% ขน้ึ ไป
5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การ

ประเมนิ ตามสภาพจรงิ

บนั ทึกหลงั การสอน

(ดทู ภ่ี าคผนวก ฌ และ ญ)

70

ใบงานที่ 8
เรือ่ ง การต่อวงจรไฟฟ้ าคอมเพรสเซอรแ์ บบต่างๆ

รปู ที่ 1 แบบ RSIR รปู ที่ 2 แบบ CSIR

รปู ท่ี 3 แบบ PSC รปู ที่ 4 แบบ CSR

ความตา้ นทานของคอมเพรสเซอร์ (Ohm) 3
12

2

71

กระแสของคอมเพรสเซอร์ (Amp) จุดคอมมอน ขดสตารต์ ขดรนั

ตอนมอเตอรส์ ตารต์
ตอนมอเตอรร์ นั

สรุป จดุ ท่ี 1 เป็น ……………..

จดุ ท่ี 2 เป็น ……………..

จดุ ท่ี 3 เป็น ……………..

วสั ดุ ขนาด จานวน/ชิ้น

1. สายตอ่ วงจรไฟฟ้า

2. หางปลาชนิดตา่ งๆ

3. เทปพนั สายไฟ

เคร่อื งมือและอปุ กรณ์ ลาดบั ขนั้ การทางาน

1. คอมเพรสเซอรแ์ บบ RSIR ตารางท่ีใช้ตรวจสอบและหาข้อมลู คอมเพรสเซอรแ์ บบ RSIR

พรอ้ มอุปกรณ์ สตารต์ 1. ใหว้ ดั ความตา้ นทานของคอมเพรสเซอรแ์ บบ RSIR แลว้ บนั ทกึ คา่ ลงใน
2. คอมเพรสเซอรแ์ บบ CSIR ตารางทก่ี าหนด

พรอ้ มอุปกรณ์ สตารต์ 2. ต่อวงจรไฟฟ้าตามรปู ท่ี 1
3. คอมเพรสเซอรแ์ บบ PSC 3. จา่ ยกระแสไฟฟ้าเขา้ มอเตอรค์ อมเพรสเซอรโ์ ดยผา่ นอุปกรณ์ ตดั ตอน

พรอ้ มอุปกรณ์ สตารต์ กระแส
4. คอมเพรสเซอรแ์ บบ CSR 4. บนั ทกึ คา่ ตา่ งๆ ลงในตารางท่ี 1

พรอ้ มอุปกรณ์ สตารต์ การตรวจสอบและหาข้อมลู คอมเพรสเซอรแ์ บบ CSIR

5. คอมเพรสเซอรแ์ บบ 3 1. ใหว้ ดั คา่ ความตา้ นทานของมอเตอรค์ อมเพรสเซอรแ์ บบ CSIR แลว้
เฟส
บนั ทกึ คา่ ลงในตารางทก่ี าหนดตามตวั อยา่ ง
6. เครอ่ื งตดั ตอน 2. ตอ่ วงจรไฟฟ้าตามรปู ท่ี 2
กระแสไฟฟ้า 3. จา่ ยกระแสไฟฟ้าเขา้ มอเตอรค์ อมเพรสเซอรโ์ ดยผา่ นอุปกรณ์

7. มลั ตมิ เิ ตอร์ ตดั ตอนกระแส
8. เครอ่ื งมอื วดั กระแส 4. บนั ทกึ คา่ ตา่ งๆ ลงในตารางทก่ี าหนด

ไฟฟ้าแบบคลอ้ ง(Clamp
on Meter)

การตรวจสอบและหาข้อมลู คอมเพรสเซอรแ์ บบ PSC

1. ใหว้ ดั คา่ ความตา้ นทานของมอเตอรค์ อมเพรสเซอรแ์ บบ PSC

แลว้ บนั ทกึ คา่ ลงในตารางทก่ี าหนดตามตวั อยา่ ง
2. ต่อวงจรไฟฟ้าตามรปู ท่ี 3
3. จา่ ยกระแสไฟฟ้าเขา้ มอเตอรค์ อมเพรสเซอรโ์ ดยผา่ นอุปกรณ์ ตดั ตอน


Click to View FlipBook Version