The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงสร้างและแผนการสอนวิชาภาษาไทย ป.2 เทอม2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by gubgif_zaza, 2022-05-04 22:12:04

โครงสร้างและแผนการสอนวิชาภาษาไทย ป.2 เทอม2

โครงสร้างและแผนการสอนวิชาภาษาไทย ป.2 เทอม2

กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย

ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 2

แผนกประถมศึกษา
โรงเรียนขจรเกยี รตพิ ัฒนา

โครงสร้างการสอน วิชา ภาษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 2

ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา………..………….เวลา 90 ช่ัวโมง

หน่วย ช่อื หนว่ ยการ มาตรฐาน สาระสาคญั เวลา น้าหนกั

ท่ี เรียนรู้ การเรยี นรู้ (ชั่วโมง) คะแนน

7 การอา่ นจบั มาตรฐานท่ี ท 1.1 การอ่านจบั ใจความสาคญั 2 5
(ส.1)
นกั คดิ ใจความเร่อื ง ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรแู้ ละ คือ การอา่ นเพอ่ื จบั ใจความหรอื

สมอง นักคิดสมองใส ความคดิ เพือ่ นาไปใชต้ ัดสนิ ใจ ขอ้ คดิ ความคดิ สาคัญหลักของ
แกป้ ญั หาในการดาเนินชวี ิตและมนี ิสัย
ใส รักการอา่ น ขอ้ ความ หรือเรือ่ งทีอ่ า่ น
ตวั ชี้วัดที่ ป 2/1 การอ่านจับใจความสาคญั ถอื

อ่านออกเสียงคา คาคลอ้ งจอง เป็นทกั ษะสาคัญทีใ่ ชใ้ นการอา่ น

ข้อความ และบทรอ้ ยกรองงา่ ยๆได้ เพื่อการสือ่ สารมากทสี่ ุด เพราะ
ถกู ต้อง เป็นพนื้ ฐานสาคญั ในการศกึ ษาหา
ความรู้ จึงควรฝกึ ฝนให้เกดิ ความ
ตวั ชี้วดั ท่ี ป 2/2
อธิบายความหมายของคาและขอ้ ความ ชานาญ

ทอี่ า่ น

ตวั ชี้วัดท่ี ป 2/3

ตง้ั คาถามและตอบคาถามเกย่ี วกบั เรอ่ื ง

ทอี่ ่าน

ตัวช้ีวัดท่ี ป 2/4

ระบใุ จความสาคญั และรายละเอยี ด

จากเรื่องท่ีอา่ น

ตัวช้ีวดั ที่ ป 2/8

มมี ารยาทในการอ่าน

การเขยี นคัด มาตรฐานที่ ท 2.1 ลายมือ หมายถึง ตัวหนังสือและ 2
ลายมือ ใช้กระบวนการเขยี นเขียนสอ่ื สาร ตวั เลขท่ีมีลักษณะเฉพาะ บ่งบอก (ส.1)
เขียนเรยี งความ ยอ่ ความ และเขยี น ว่าเป็นของผู้หนึ่งผู้ใด ซ่ึงการคัด
เรือ่ งราวในรปู แบบตา่ งๆ เขยี น ลายมือ จะช่วยทาให้ผู้เขียนเขียน
รายงาน หนังสือได้อย่างสวยงามและเป็น
ระเบียบเรยี บร้อย รวมทั้งช่วยฝึก

หน่วย ชือ่ หน่วยการ มาตรฐาน สาระสาคญั เวลา น้าหนกั
(ชวั่ โมง) คะแนน
ที่ เรยี นรู้ การเรียนรู้ สมาธิ และทส่ี าคัญยังเปน็
การชว่ ยอนุรักษม์ รดกทาง
ตัวชว้ี ดั ท่ี ป 2/1 วัฒนธรรมไทย
คดั ลายมือตัวบรรจงเตม็ บรรทัด

ตัวชว้ี ดั ท่ี ป 2/4 คาควบกล้า (ควบ ว) คือเสียง 2
พยญั ชนะควบ มมี ารยาทในการเขียน ควบ ก ล้าใน ภาษ าไท ย เสียง (ส.1)
กลา้ (ควบ ว) มาตรฐานที่ ท 4.1 พยัญชนะต้นสองเสียงประสมกับ
สระเดี่ยวกันโดย ก ข ค เป็น
เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั พยญั ชนะตน้ ตัวทีห่ น่งึ และ ว เป็น
ภาษาไทย การเปลยี่ นแปลงของภาษา พยญั ชนะต้นตัวท่ีสอง
และพลงั ของภาษา ภมู ิปัญญาทาง
ภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ปน็
สมบตั ขิ องชาติ
ตัวชว้ี ัดที่ ป 2/2
เขียนสะกดคาและบอกความหมาย
ของคา

การอ่านจบั มาตรฐาน ท 1.1 การอ่านจับใจความสาคัญ คือ 2
ใจความ (ส.2)
บทอาขยาน ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรแู้ ละ การอ่านเพ่ือจับใจความหรือ
ความคิดเพอ่ื นาไปใช้ตดั สนิ ใจ
แก้ปญั หาในการดาเนินชีวติ และมี ข้อคิด ความคิดสาคัญหลักของ
นิสัยรกั การอ่าน ข้อความ หรือเรื่องที่อา่ น

ตวั ชว้ี ัดที่ ป 2/1 การอ่านจับใจความสาคัญ ถือ

อา่ นออกเสียงคา คาคล้องจอง เป็นทักษะสาคัญที่ใช้ในการอ่าน

ข้อความ และบทรอ้ ยกรองง่ายๆได้ เพ่ือการส่ือสารมากที่สุด เพราะ
ถกู ต้อง เปน็ พนื้ ฐานสาคัญในการศึกษาหา
ความรู้ จึงควรฝึกฝนให้เกิดความ
ตัวชี้วดั ท่ี ป 2/2
อธบิ ายความหมายของคาและขอ้ ความ ชานาญ

ท่อี ่าน

ตวั ชี้วดั ที่ ป 2/8

มมี ารยาทในการอ่าน

หนว่ ย ช่อื หน่วยการ มาตรฐาน สาระสาคญั เวลา นา้ หนัก

ที่ เรียนรู้ การเรยี นรู้ (ชัว่ โมง) คะแนน

การเขียนเลา่ มาตรฐานที่ ท 2.1 การเขยี นเรื่องตามประสบการณ์ 2
ประสบการณ์ ใชก้ ระบวนการเขยี นเขยี นสื่อสาร คอื การเขียนเรื่องจากสง่ิ ที่เราได้ (ส.2)
กระทา หรือเขียนเรื่องจากสิ่งท่ี
เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียน เราพบเห็น เม่ือเวลาผ่านไปจะ
เร่ืองราวในรปู แบบต่างๆ เขยี น ทาให้เราจดจาความประทบั ใจ
รายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงาน เหล่านนั้
การศึกษาคน้ ควา้ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
ตวั ชวี้ ดั ท่ี ป 2/2
เขียนเรอ่ื งสัน้ ๆ เกี่ยวกบั ประสบการณ์
ตวั ชว้ี ัดท่ี ป 2/4
มีมารยาทในการเขียน

พยัญชนะควบ มาตรฐานท่ี ท 4.1 คา ค วบ ก ล้ า มี ท้ั ง คว บ ก ล้ า แ ท้ ท่ี 2 5
กล้า เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลัก ออกเสียงพยัญชนะต้น 2 ตัว (ส.2)

ควบ ร ล ภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษา กล้ากันชัดเจน และควบกล้าไม่

และพลังของภาษา ภูมิปัญญาทาง แท้ท่ีออกเสียงเฉพาะพยัญชนะ

ภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็น ต้นตัวหน้า หรือ ทร ออกเสียง
เป็น ซ ซ่ึงต้องอ่านและเขียนให้
สมบัตขิ องชาติ ถูกตอ้ ง
ตัวช้วี ดั ท่ี ป 2/2

เขยี นเรือ่ งสั้นๆ เก่ยี วกบั ประสบการณ์

การอ่านจบั มาตรฐาน ท 5.1 2
เข้าใจและแสดงความคิดเหน็ วจิ ารณ์ (ส.3)
ใจความ วรรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอย่างเหน็ การอ่านจับใจความสาคัญ คือ
อ่านคลอ่ ง
คุณคา่ และนามาประยุกต์ใช้ในชวี ิตจรงิ ก า ร อ่ า น เ พื่ อ จั บ ใจ ค ว า ม ห รื อ
รอ้ งเล่นสายรงุ้ ตัวชีว้ ดั ท่ี ป 2/2 ข้อคิด ความคิดสาคัญหลักของ

ร้อง บทร้องเล่นสาหรบั เดก็ ในทอ้ งถ่นิ ขอ้ ความ หรือเร่ืองที่อ่านการอา่ น

จับใจความสาคัญ ถือเป็นทักษะ

ส า คั ญ ท่ี ใช้ ใน ก า ร อ่ า น เพื่ อ ก า ร

สื่อสารมากท่ี สุด เพ ราะเป็ น

พื้ น ฐ าน ส าคั ญ ใน ก าร ศึ ก ษ าห า

ความรู้ จึงควรฝึกฝนให้เกิดความ

ชานาญ

หน่วย ชือ่ หน่วยการ มาตรฐาน สาระสาคญั เวลา นา้ หนกั

ที่ เรียนรู้ การเรียนรู้ (ช่วั โมง) คะแนน

การเขยี นตาม มาตรฐาน ท 2.1 การเขียนตามจินตนาการ คือ

จนิ ตนาการ ใช้กระบวนการเขยี นเขียนส่ือสาร เขียน การเขียนเรื่องที่มาจากความคิด 2
(ส.3)
เรียงความ ยอ่ ความ และเขียนเรือ่ งราวใน ความ รู้สึ ก ความ ใฝ่ฝั น ขอ ง

รูปแบบต่างๆ เขียนรายงานขอ้ มลู ผู้เขียนเอง เป็นการเขียนแบบ

สารสนเทศและรายงานการศกึ ษา อิสระ ผู้เขียนควรมีความคิด

ค้นควา้ สรา้ งสรรค์และช่างสงั เกต

อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ

ตัวชว้ี ดั ที่ ป 2/3

เขยี นเรือ่ งสนั้ ๆตามจนิ ตนาการ

ตวั ชว้ี ดั ที่ ป 2/4

มีมารยาทในการเขียน

อกั ษรนา ( ห มาตรฐานที่ ท 4.1 อักษรนาคือ คาที่มีพยัญชนะ 2 2
นา และ (ส.3)
อ นา ) เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลัก ตัวเรียงกัน ประสมสระเดียว

ภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษา ผู้เรียน ต้องอ่าน และเขียน ให้

และพลังของภาษา ภูมิปัญญาทาง ถูกต้องจึงจะส่ือความได้ตรง

ภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้ ความหมาย

ตวั ชว้ี ัดที่ ป 2/2
เขียนสะกดคาและบอกความหมาย
ของคา

2 การอา่ นจบั มาตรฐานที่ ท 1.1 2 5
ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความรู้และ (ส.4)
ใจหาย ใจความ ความคดิ เพ่ือนาไปใช้ตดั สินใจ การอ่านจับใจความสาคัญ คือ
เรอื่ ง โลกรอ้ น
แกป้ ญั หาในการดาเนนิ ชีวติ และมนี ิสยั ก า ร อ่ า น เ พื่ อ จั บ ใจ ค ว า ม ห รื อ

รกั การอ่าน ข้อคิด ความคิดสาคัญหลักของ

ตัวชว้ี ัดท่ี ป 2/3 ข้อความหรือเร่ืองทอี่ ่าน

ต้ังคาถามและตอบคาถามเก่ยี วกับ การอ่านจบั ใจความสาคัญ ถือเป็น
ทักษะสาคัญท่ีใช้ในการอ่านเพ่ือ
เร่ืองทอ่ี ่าน การสื่อสารมากท่ีสุด เพราะเป็น
พ้ื น ฐ าน ส าคั ญ ใน ก าร ศึ ก ษ าห า
ตวั ชวี้ ดั ท่ี ป 2/4 ความรู้ จึงควรฝึกฝนให้เกิดความ
ชานาญ
ระบุใจความสาคญั และรายละเอยี ด

จากเร่ืองท่อี า่ น

ตัวช้วี ดั ท่ี ป 2/5
แสดงความคดิ เห็นและคาดคะเน

หนว่ ย ช่ือหนว่ ยการ มาตรฐาน สาระสาคัญ เวลา น้าหนกั
(ชัว่ โมง) คะแนน
ท่ี เรียนรู้ การเรียนรู้

การเขยี น เหตกุ ารณ์ จากเรอ่ื งทีอ่ ่าน ก า ร เขี ย น บ ร ร ย า ย ภ า พ เป็ น 2
บรรยายภาพ ตวั ช้วี ัดท่ี ป 2/8 การเขียนเพ่ือฝึกจินตนาการ (ส.4)
มีมารยาทในการอา่ น และพฒั นาให้นกั เรียนมที ักษะ
มาตรฐาน ท 2.1 ใน ก า ร คิ ด แ ล ะ ก า ร เขี ย น
ใชก้ ระบวนการเขียนเขยี นสอ่ื สาร เขียน สร้างสรรค์คาใหม่ ๆ ให้ มี
เรยี งความ ยอ่ ความ และเขียนเรอื่ งราวใน ความถกู ต้องมากยิง่ ขน้ึ
รปู แบบตา่ งๆ เขยี นรายงานขอ้ มูล
สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาค้นคว้า
อยา่ ง มปี ระสทิ ธภิ าพ
ตวั ชี้วดั ท่ี ป 2/3
เขียนเรือ่ งสน้ั ๆ ตามจินตนาการ
ตัวชว้ี ดั ท่ี ป 2/4
มีมารยาทในการเขยี น

คาทป่ี ระ มาตรฐาน ท 4.1 ค า บ า ง ค า ที่ ป ร ะ วิ ส ร ร ช นี ย์ 2 5
(ส.4)
วิสรรชนยี ์และ เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ภาษาไทย และบางคาทีไ่ ม่ประวสิ รรชนีย์

คาที่ไมป่ ระ การเปลยี่ นแปลงของภาษาและพลงั ของ การเขียนและรู้ความหมาย

วสิ รรชนีย์ ภาษา ภมู ปิ ญั ญาทางภาษาและรกั ษา ข อ ง ค า ที่ ถู ก ต้ อ ง ท า ใ ห้
ภาษาไทยไว้เปน็ สมบัติของชาติ ส า ม า ร ถ น า ค า ไป ใ ช้ ใ น
ตัวชี้วัดที่ ป 2/2 ชีวิตประจาวันได้
อธิบายความหมายของคาและข้อความที่

อ่าน

การอา่ นจบั มาตรฐาน ท 5.1 อ่านเพ่ือจับใจความหรอื ข้อคิด 2
ใจความ เข้าใจและแสดงความคดิ เหน็ วจิ ารณ์ ความ คิ ด ส าคั ญ ห ลั ก ขอ ง (ส.4)
อ่านคล่อง วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเหน็ ข้อความ หรือเรื่องที่อ่านการ
คุณคา่ และนามาประยกุ ตใ์ ช้ในชีวติ จรงิ อา่ นจบั ใจความสาคัญ ถอื เป็น
ร้องเล่น รว่ ม ตัวชี้วัดที่ ป 2/2 ทักษะสาคัญท่ีใช้ในการอ่าน
รอ้ ง บทร้องเลน่ สาหรบั เดก็ ในทอ้ งถิ่น เพ่ื อ ก ารส่ื อ สารม าก ที่ สุ ด
แก้ไข เพ ร าะ เป็ น พ้ื น ฐา น ส าคั ญ ใน
การศึกษาหาความรู้ จึงควร
ฝึกฝนใหเ้ กิดความชานาญ

หน่วย ชอ่ื หน่วยการ มาตรฐาน สาระสาคญั เวลา นา้ หนัก

ที่ เรยี นรู้ การเรยี นรู้ (ช่วั โมง) คะแนน

การเขยี นเล่า มาตรฐานที่ ท 2.1 ก าร เขี ยน เรื่ อ ง ตาม ป ร ะ ส บ - 2
ประสบการณ์ ใชก้ ระบวนการเขยี นเขยี นสื่อสาร เขียน การณ์ คือ การเขียนเร่ืองจาก (ส.5)
สิ่งที่เราได้กระทา หรือเขียน
เรียงความ ยอ่ ความ และเขยี นเรอื่ งราวใน เรือ่ งจากสิ่งท่เี ราพบเห็น เมื่อ
รูปแบบตา่ งๆ เขียนรายงานข้อมลู เวลาผ่านไปจะทาให้เราจดจา
สารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้า ค ว า ม ป ร ะ ทั บ ใจ เล่ า น้ั น
อยา่ งมีประสิทธภิ าพ
ตัวชวี้ ัดท่ี ป 2/2
เขียนเร่ืองสนั้ ๆ เก่ยี วกบั ประสบการณ์
ตัวชี้วดั ท่ี ป 2/4
มมี ารยาทในการเขยี น

คาที่มี รร มาตรฐาน ท 4.1 คาท่ีมี รร (รหัน) อ่านออก 2 5
( ร หนั ) เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ภาษาไทย (ส.5)
การเปล่ียนแปลงของภาษาและพลงั ของ เสียงเหมือนพยัญ ชนะต้น
ภาษา ภมู ปิ ัญญาทางภาษาและรกั ษา ประสมสระ อะ ถ้าคานั้นไม่มี

ภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ ตัวสะกดจะออกเสยี งเหมือนมี

ตวั ชีว้ ัดท่ี ป 2/2 น เป็นตวั สะกด แตถ่ ้าคานั้นมี

อธบิ ายความหมายของคาและขอ้ ความที่ ตวั สะกดของคา การเขยี นและ
อา่ น รู้ความหมายของคาที่ถูกต้อง

ทาให้สามารถนาคาไปใช้ใน

ชีวิตประจาวันได้

การอ่านจบั มาตรฐาน ท 5.1 การอา่ นจบั ใจความสาคญั 2
(ส.6)
ใจความ เขา้ ใจและแสดงความคิดเห็น วจิ ารณ์ คือ การอา่ นเพื่อจบั ใจความ

เรอ่ื ง ไก่แจแ้ ซ่ วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็น หรือข้อคิด ความคดิ สาคัญ

เสียง คุณค่าและนามาประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ จริง หลกั ของขอ้ ความ หรอื เรอ่ื งที่
(วรรณคดลี า ตวั ชี้วัดที่ ป 2/1
ระบุขอ้ คิด ท่ีได้จากการอา่ นหรอื การฟงั อ่าน
นา) วรรณกรรมสาหรบั เด็ก เพ่อื นาไปใชใ้ น
การอ่านจบั ใจความสาคัญ
ชวี ติ ประจาวัน ถือเป็นทกั ษะสาคัญที่ใช้ใน
การอา่ นเพ่อื การสื่อสารมาก
ทส่ี ดุ เพราะเปน็ พ้นื ฐานสาคัญ
ในการศกึ ษาหาความรู้ จงึ ควร
ฝกึ ฝนให้เกดิ ความชานาญ

หนว่ ย ชอื่ หน่วยการ มาตรฐาน สาระสาคญั เวลา น้าหนกั

ท่ี เรยี นรู้ การเรียนรู้ (ช่วั โมง) คะแนน

การเขยี นเลา่ มาตรฐานที่ ท 2.1 การเขยี นเรื่องตามประสบ- 2
ประสบการณ์ ใช้กระบวนการเขียนเขยี นส่อื สาร เขยี น การณ์ คือ การเขียนเร่ืองจาก (ส.6)
ส่ิงที่เราได้กระทา หรือเขียน
เรียงความ ย่อความ และเขยี นเรอื่ งราวใน เรอ่ื งจากสิ่งทเ่ี ราพบเห็น เมื่อ
รปู แบบตา่ งๆ เขยี นรายงานขอ้ มูล เวลาผ่านไปจะทาให้เราจดจา
สารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นควา้ ค ว า ม ป ร ะ ทั บ ใจ เล่ า น้ั น
อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
ตวั ช้วี ัดที่ ป 2/2
เขียนเรือ่ งสนั้ ๆ เกย่ี วกบั ประสบการณ์
ตัวชีว้ ดั ที่ ป 2/4
มีมารยาทในการเขยี น

การเรยี บ มาตรฐานที่ ท 4.1 ประโยค หมายถึง ข้อความท่ี 2
เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั มีท้ังภาคประธาน และภาค (ส.6)
เรยี งคาใหเ้ ปน็ ภาษาไทยการเปลี่ยนแปลงของภาษา แสดง ท่ีมีใจความสมบูรณ์
ประโยค และพลังของภาษา ภูมิปญั ญาทา ครบถ้วน รู้ว่าใครทาอะไร ที่
ไหน อย่างไร การจะส่ือสาร
ภาษาและรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ป็น

สมบัติของชาติ

ตวั ชี้วัดที่ ป 2/4 ให้ ผู้ อ่ า น เข้ า ใจ ผู้ เ ขี ย น ต้ อ ง

เรียบเรยี งคาเป็นประโยคได้ตรงตามเจตนา เรีย น รู้อ งค์ ป ระก อ บ ขอ ง

ของการส่อื สาร ประโยค

9 การอ่านจบั มาตรฐานท่ี ท 1.1 การอ่านจบั ใจความสาคญั 2 5
รักพอ่ ใจความ ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรแู้ ละ คือ การอ่านเพอ่ื จับใจความ (ส.7)

รักแม่ เรอ่ื ง รักพอ่ ความคดิ เพอ่ื นาไปใชต้ ัดสินใจ แก้ปญั หาใน หรอื ขอ้ คิด ความคดิ สาคัญ
รกั แม่ การดาเนินชวี ิตและมีนสิ ยั รกั การอ่าน
ตัวชีว้ ัดท่ี ป 2/1 หลักของขอ้ ความ หรอื เรอื่ งที่

อ่านออกเสียงคา คาคล้องจอง ขอ้ ความ อา่ น
การอา่ นจบั ใจความสาคัญ
และบทร้อยกรองงา่ ยๆไดถ้ กู ต้อง
ถอื เปน็ ทกั ษะสาคัญทีใ่ ชใ้ น
ตวั ชวี้ ัดท่ี ป 2/2
อธิบายความหมายของคาและข้อความที่ การอา่ นเพ่อื การสอื่ สารมาก
อ่าน ทีส่ ดุ เพราะเปน็ พน้ื ฐานสาคัญ
ในการศึกษาหาความรู้ จงึ ควร

ฝึกฝนให้เกิดความชานาญ

หนว่ ย ชอ่ื หนว่ ยการ มาตรฐาน สาระสาคญั เวลา น้าหนัก
(ช่วั โมง) คะแนน
ท่ี เรียนรู้ การเรยี นรู้
2
ตวั ชีว้ ดั ท่ี ป 2/3 (ส.7)
ต้ังคาถามและตอบคาถามเกีย่ วกับเรอื่ งท่ี
อา่ น
ตัวชี้วัดท่ี ป 2/4
ระบใุ จความสาคญั และรายละเอียดจาก
เรือ่ งที่อ่าน
ตัวชี้วัดที่ ป 2/5
แสดงความคดิ เหน็ และคาด
ตวั ชวี้ ัดที่ ป 2/8
มีมารยาทในการอ่าน

การเขียน มาตรฐานที่ ท 4.1 การเขียนบรรยายวันพ่อเป็น 2 5
บรรยาย เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั การใช้ป ระสบ ก ารณ์ แล ะ (ส.7)
วนั พ่อ ภาษาไทยการเปลยี่ นแปลงของภาษา พัฒนาให้นักเรียนมีทักษะใน
และพลังของภาษา ภูมิปัญญาทา ก า ร คิ ด แ ล ะ ก า ร เ ขี ย น
ภาษาและรักษาภาษาไทยไวเ้ ป็น สรา้ งสรรค์คาใหม่ๆ ให้มคี วาม
สมบัตขิ องชาติ ถกู ต้องมากยง่ิ ข้นึ
ตัวชวี้ ดั ท่ี ป 2/2
เขียนสะกดคาและบอกความหมายของคา

มาตรา ก กา มาตรฐานที่ ท 4.1 ก า ร เขี ย น ค า แ ล ะ บ อ ก 2 5
เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย (ส.7) 15
การเปลีย่ นแปลงของภาษาและพลงั ของ ความหมายเป็นการฝึกให้ใช้

ภาษา ภูมปิ ญั ญาทางภาษาและรกั คาในภาษาไทยอย่างถูกต้อง

ภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบัติของชาติ และการรู้ความหมายของคา

ตัวชี้วดั ท่ี ป 2/2 ทาใหส้ ามารถนาคามาตรา

เขียนสะกดคาและบอกความหมายของคา ก กา ไปใช้ในชีวิตประจาวัน

ได้อย่างถูกต้อง

สอบกลางภาค - ส.19

หน่วย ช่ือหนว่ ยการ มาตรฐาน สาระสาคญั เวลา นา้ หนัก

ที่ เรียนรู้ การเรียนรู้ (ชวั่ โมง) คะแนน

การเขียน มาตรฐานที่ ท 2.1 การเขียนบรรยายวันพ่อเป็น 1
บรรยายภาพ ใช้กระบวนการเขียนเขยี นสอ่ื สาร เขยี น การใช้ป ระสบ ก ารณ์ แล ะ (ส.11)
เรยี งความ ยอ่ ความ และเขียนเรอื่ งราวใน พัฒนาให้นักเรียนมีทักษะใน
วัน รปู แบบตา่ งๆ เขียนรายงานขอ้ มูล ก า ร คิ ด แ ล ะ ก า ร เ ขี ย น
รัฐธรรมนญู สารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ คว้า สร้างสรรคค์ าใหมๆ่ ให้มคี วาม
อย่างมีประสิทธิภาพ ถูกต้องมากยง่ิ ข้นึ
ตวั ชว้ี ัดท่ี ป 2/2
เขยี นเร่ืองสัน้ ๆ เกี่ยวกบั ประสบการณ์
ตัวชว้ี ดั ท่ี ป 2/4
มีมารยาทในการเขยี น

มาตรา กง มาตรฐานที่ ท 4.1 ก า ร เขี ย น ค า แ ล ะ บ อ ก 1 5
เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย ความหมายเป็นการฝึกให้ใช้ (ส.11)
การเปลยี่ นแปลงของภาษาและพลงั ของ คาในภาษาไทยอย่างถูกต้อง
ภาษา ภูมิปญั ญาทางภาษาและรกั และการรู้ความหมายของคา
ภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบัติของชาติ ทาให้สามารถนาคามาตรา
ตัวชว้ี ัดที่ ป 2/2 กง ไปใช้ในชีวิตประจาวันได้
เขียนสะกดคาและบอกความหมายของคา อย่างถกู ตอ้ ง

10 การอ่านจบั มาตรฐานที่ ท 1.1 ก า ร อ่ า น จั บ ใ จ ค ว า ม ส า คั ญ 1 5
เข็ด ใจความเรือ่ ง ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรูแ้ ละ คือ การอ่านเพื่อจับใจความ (ส.11)
ความคิดเพอื่ นาไปใช้ตัดสนิ ใจ แกป้ ญั หาใน
แลว้ เขด็ แลว้ การดาเนนิ ชวี ิตและมนี สิ ยั รกั การอา่ น หรือข้อคิด ความคิดสาคัญ

ตวั ช้วี ัดที่ ป 2/1 หลักของข้อความ หรือเรื่องท่ี

อา่ นออกเสยี งคา คาคล้องจอง ข้อความ อา่ นการอ่านจับใจความสาคญั

และบทรอ้ ยกรองง่ายๆไดถ้ ูกต้อง ถื อ เป็ น ทั ก ษ ะ ส า คั ญ ท่ี ใช้ ใ น
ตวั ชว้ี ัดที่ ป 2/2 การอ่านเพ่ือการส่ือสารมาก
อธบิ ายความหมายของคาและข้อความท่ี ทีส่ ดุ เพราะเป็นพืน้ ฐานสาคัญ
ในการศึกษาหาความรู้ จึงควร
อ่าน ฝกึ ฝนให้เกดิ ความชานาญ

ตวั ช้ีวัดที่ ป 2/3
ตัง้ คาถามและตอบคาถามเร่ืองทอ่ี า่ น

หนว่ ย ชือ่ หน่วยการ มาตรฐาน สาระสาคัญ เวลา น้าหนัก
(ชั่วโมง) คะแนน
ที่ เรียนรู้ การเรยี นรู้

ตัวชีว้ ัดที่ ป 2/4
ระบใุ จความสาคัญและรายละเอยี ดจาก
เรอื่ งที่อ่าน
ตวั ชี้วดั ท่ี ป 2/5
แสดงความคดิ เหน็ และคาดคะเน
เหตกุ ารณ์จากเร่อื งทีอ่ า่ น
ตัวชว้ี ัดท่ี ป 2/8
มมี ารยาทในการอา่ น

การเขียน มาตรฐาน ท 2.1 การเขียนประโยคจากภาพชว่ ย 1
ประโยคจาก (ส.11)
ใช้กระบวนการเขยี นเขยี นสอื่ สาร เขยี น พัฒนาทักษะการคิด การเขยี น รู้จัก
ภาพ เรยี งความ ยอ่ ความ และเขียนเร่ืองราวใน
รปู แบบตา่ งๆ เขียนรายงานข้อมลู การเชอ่ื มโยงประโยคจากภาพท่ี

สารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้า เหน็ ใหเ้ ปน็ เรอื่ งราวใหส้ ัมพันธ์กัน

อย่างมีประสิทธภิ าพ

ตวั ชว้ี ดั ท่ี ป 2/2

เขยี นเร่ืองส้นั ๆ เกีย่ วกบั ประสบการณ์

ตวั ชี้วัดที่ ป 2/4

มมี ารยาทในการเขยี น

มาตรา กม มาตรฐานที่ ท 4.1 การเขียนคาและบอกความหมาย 1 5
เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั เป็นการฝึกให้ใช้คาในภาษาไทย (ส.11)

ภาษาไทยการเปล่ียนแปลงของภาษา อย่างถูกต้อง และการรู้ความหมาย

และพลงั ของภาษา ภมู ิปญั ญาทางภาษา ของคาทาใหส้ ามารถนาคามาตรา

และรกั ภาษาไทยไว้เปน็ สมบัตขิ องชาติ กม ไปใช้ในชีวิตประจาวันได้อย่าง
ตัวชี้วัดท่ี ป 2/2
เขียนสะกดคาและบอกความหมายของ ถูกต้อง

คา

หนว่ ย ชื่อหน่วยการ มาตรฐาน สาระสาคญั เวลา น้าหนกั

ที่ เรียนรู้ การเรยี นรู้ (ชัว่ โมง) คะแนน

การอ่านจบั มาตรฐาน ท 5.1 การอ่านจบั ใจความสาคัญ คอื การ 2
อา่ นเพอ่ื จบั ใจความหรือขอ้ คดิ (ส.12)
ใจความเร่ือง เข้าใจและแสดงความคดิ เหน็ วิจารณ์ ความคดิ สาคญั หลกั ของข้อความ
ยายกะตา วรรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอย่างเห็น หรือเรือ่ งทอ่ี ่านการอ่านจบั ใจความ
(วรรณคดีลา คณุ คา่ และนามาประยกุ ต์ใชใ้ นชีวิตจริง สาคญั ถอื เปน็ ทกั ษะสาคัญทใ่ี ชใ้ น
การอา่ นเพ่ือการส่ือสารมากทส่ี ุด
นา) ตัวชว้ี ัดท่ี ป 2/1 เพราะเป็นพืน้ ฐานสาคญั ใน
ระบุขอ้ คิด ที่ไดจ้ ากการอา่ นหรอื การฟงั การศกึ ษาหาความรู้ จงึ ควรฝกึ ฝน
ใหเ้ กิดความชานาญ
วรรณกรรมสาหรับเดก็ เพือ่ นาไปใชใ้ น

ชวี ิตประจาวัน

การเขียน มาตรฐาน ท 2.1 การเขยี นตามจินตนาการ คือการ 2
ตาม ใชก้ ระบวนการเขยี นเขียนส่อื สาร เขียน เขยี นเรอ่ื งทม่ี าจากความคดิ (ส.12)
เรียงความ ยอ่ ความ และเขยี นเรือ่ งราวใน ความร้สู ึก ความใฝฝ่ นั ของผเู้ ขยี น
จนิ ตนาการ รูปแบบตา่ งๆ เขียนรายงานขอ้ มูล เอง เปน็ การเขียนแบบอสิ ระ
วนั เดก็ สารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ คว้า ผูเ้ ขยี นควรมคี วามคิดสร้างสรรค์
อย่างมีประสทิ ธภิ าพ และชา่ งสงั เกต
ตัวชี้วัดท่ี ป 2/3
เขียนเรือ่ งสั้นๆตามจนิ ตนาการ
ตัวชี้วดั ที่ ป 2/4
มมี ารยาทในการเขียน

มาตรา กน มาตรฐานท่ี ท 4.1 การเขียนคาและบอกความหมาย 2
เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั เป็นการฝึกให้ใช้คาในภาษาไทย (ส.12)
ภาษาไทยการเปล่ยี นแปลงของภาษา

และพลงั ของภาษา ภูมปิ ญั ญาทางภาษา อย่างถูกต้อง และการรู้ความหมาย

และรกั ภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบตั ิของชาติ ของคาทาใหส้ ามารถนาคามาตรา

ตวั ชวี้ ดั ที่ ป 2/2 กน ไปใช้ในชีวิตประจาวันได้อย่าง

เขียนสะกดคาและบอกความหมายของคา ถูกตอ้ ง

หน่วย ชอื่ หน่วยการ มาตรฐาน สาระสาคญั เวลา น้าหนัก

ที่ เรยี นรู้ การเรยี นรู้ (ชัว่ โมง) คะแนน

การอา่ นจบั มาตรฐาน ท 5.1 การอ่านจับใจความสาคัญ 2
ใจความ เขา้ ใจและแสดงความคดิ เหน็ วจิ ารณ์ คือ การอ่านเพื่อจับใจความ (ส.13)
กนิ ดี มีสขุ วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอยา่ งเห็น
คุณค่าและนามาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตจริง หรือข้อคิด ความคิดสาคัญ
ตวั ช้วี ดั ที่ ป 2/2
รอ้ ง บทร้องเลน่ สาหรบั เดก็ ในท้องถ่นิ หลักของข้อความ หรือเรื่องท่ี

อ่านการอา่ นจบั ใจความสาคญั

ถื อ เป็ น ทั ก ษ ะ ส า คั ญ ที่ ใช้ ใ น

การอ่านเพื่อการส่ือสารมาก

ท่สี ุด เพราะเป็นพื้นฐานสาคัญ

ในการศึกษาหาความรู้ จึงควร

ฝึกฝนใหเ้ กดิ ความชานาญ

การเขยี นเล่า มาตรฐาน ท 2.1 การเขียนเรือ่ งตามประสบ- 2
ประสบการณ์ ใช้กระบวนการเขียน เขียนส่อื สาร เขยี น การณ์ คอื การเขียนเรื่องจาก (ส.13)
ส่ิงทเี่ ราได้กระทา หรอื เขียน
วันเดก็ เรียงความ ยอ่ ความ และเขียนเรื่องราวใน เรอื่ งจากสิ่งทเี่ ราพบเห็น เมอ่ื
รูปแบบตา่ งๆ เขยี นรายงานขอ้ มูล เวลาผา่ นไปจะทาใหเ้ ราจดจา
สารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ ควา้ ความประทบั ใจเล่าน้นั
อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
ตวั ช้ีวดั ที่ ป 2/2
เขียนเร่อื งสัน้ ๆ เกยี่ วกบั ประสบการณ์
ตัวชีว้ ดั ที่ ป 2/4
มีมารยาทในการเขียน

มาตรา เกย มาตรฐานท่ี ท 4.1 ก า ร เขี ย น ค า แ ล ะ บ อ ก 2 5
เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ความหมายเป็นการฝึกให้ใช้ (ส.13)
ภาษาไทยการเปลย่ี นแปลงของภาษา คาในภาษาไทยอย่างถูกต้อง
และพลงั ของภาษา ภูมิปญั ญาทางภาษา และการรู้ความหมายของคา
และรักภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบัตขิ องชาติ ทาให้สามารถนาคามาตรา
ตวั ช้วี ดั ที่ ป 2/2 กน ไปใช้ในชีวิตประจาวันได้
เขียนสะกดคาและบอกความหมายของคา อยา่ งถูกต้อง

หน่วย ช่ือหน่วยการ มาตรฐาน สาระสาคญั เวลา นา้ หนัก

ท่ี เรยี นรู้ การเรยี นรู้ (ชว่ั โมง) คะแนน

11 การอ่านจบั มาตรฐานที่ ท 1.1 การอ่านจับใจความสาคัญ 2 5
5
เด็กดี ใจความ เรื่อง ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความรู้และ คือ การอ่านเพ่ือจับใจความ (ส.14)

เดก็ ดี ความคิดเพอ่ื นาไปใชต้ ัดสนิ ใจ แก้ปญั หาใน หรือข้อคิด ความคิดสาคัญ
การดาเนนิ ชวี ิตและมนี สิ ัยรกั การอา่ น
ตวั ชีว้ ัดที่ ป 2/1 หลักของข้อความ หรือเร่ืองท่ี

อ่านออกเสยี งคา คาคล้องจอง ข้อความ อา่ นการอา่ นจบั ใจความสาคญั
ถื อ เป็ น ทั ก ษ ะ ส า คั ญ ท่ี ใช้ ใ น
และบทรอ้ ยกรองง่ายๆไดถ้ ูกต้อง

ตวั ช้ีวัดที่ ป 2/2 การอ่านเพื่อการส่ือสารมาก

อธบิ ายความหมายของคาและขอ้ ความท่ี ท่สี ดุ เพราะเป็นพนื้ ฐานสาคัญ

อา่ น ในการศึกษาหาความรู้ จึงควร

ตวั ชีว้ ดั ท่ี ป 2/3 ฝึกฝนใหเ้ กิดความชานาญ

ตง้ั คาถามและตอบคาถามเรอ่ื งทอี่ ่า

ตวั ชว้ี ดั ท่ี ป 2/4

ระบุใจความสาคัญและรายละเอยี ดจาก

เรอื่ งท่อี า่ น

ตวั ชว้ี ดั ที่ ป 2/5

แสดงความคดิ เหน็ และคาดคะเนเหตุการณ์

จากเรือ่ งทอี่ า่ น

ตัวชว้ี ัดที่ ป 2/8

มีมารยาทในการอา่ น

การเขียน มาตรฐาน ท 2.1 การเขยี นบรรยายภาพจาก 2
บรรยายภาพ ใชก้ ระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียน การชว่ ยพัฒนาทกั ษะการคดิ (ส.14)
เรยี งความ ยอ่ ความ และเขยี นเรอื่ งราวใน การเขยี น รจู้ ักการเชื่อมโยง
รูปแบบตา่ งๆ เขียนรายงานขอ้ มูล ประโยคจากภาพทเี่ หน็ ให้
สารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นควา้ เป็นเรือ่ งราวใหส้ มั พันธ์กัน
อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
ตวั ชว้ี ัดท่ี ป 2/2
เขียนเรื่องสั้นๆ เกย่ี วกบั ประสบการณ์
ตวั ชี้วดั ท่ี ป 2/4
มมี ารยาทในการเขียน

หนว่ ย ชือ่ หนว่ ยการ มาตรฐาน สาระสาคญั เวลา นา้ หนัก

ที่ เรียนรู้ การเรยี นรู้ (ช่ัวโมง) คะแนน

มาตรา เกอว มาตรฐานที่ ท 4.1 ก า ร เขี ย น ค า แ ล ะ บ อ ก 2 5
เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ความหมายเป็นการฝึกให้ใช้ (ส.14)
ภาษาไทยการเปลี่ยนแปลงของภาษา คาในภาษาไทยอย่างถูกต้อง
และพลงั ของภาษา ภูมิปญั ญาทางภาษา และการรู้ความหมายของคา
และรกั ภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบัตขิ องชาติ ทาให้สามารถนาคามาตรา
ตัวช้วี ดั ที่ ป 2/2 เกอว ไปใช้ในชีวิตประจาวัน
เขียนสะกดคาและบอกความหมายของคา ไดอ้ ย่างถูกต้อง

การอา่ นจบั มาตรฐาน ท 1.1 การเขียนนิทาน เป็นเรื่องของ 2
ใจความ ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรแู้ ละ การเขียนบรรยาย ผู้เขียน (ส.15)
นิทาน ความคดิ เพ่ือนาไปใชต้ ดั สนิ ใจแกป้ ัญหา จะต้องมีศิลปะในการเขียน
ในการดาเนนิ ชวี ิตและมีนสิ ยั รกั การอา่ น เพ่ือให้เกิดความสนุกสนาน
ตวั ชี้วัดที่ ป 2/1 ปลูกฝังคุณธรรม คติ แง่คิด
อ่านออกเสยี งคา คาคลอ้ งจอง ข้อความ มมุ มองตา่ งๆแก่ผูอ้ ่าน
และบทรอ้ ยกรองงา่ ยๆไดถ้ ูกต้อง
ตัวช้ีวดั ที่ ป 2/2
อธิบายความหมายของคาและข้อความที่
อา่ น
ตวั ชวี้ ัดท่ี ป 2/3
ตั้งคาถามและตอบคาถามเกยี่ วกบั เรอื่ งที่
อา่ น
ตวั ชีว้ ดั ที่ ป 2/4
ระบใุ จความสาคญั และรายละเอียดจาก
เรือ่ งทอ่ี ่าน
ตวั ชว้ี ัดที่ ป 2/8
มมี ารยาทในการอ่าน

หนว่ ย ชอ่ื หนว่ ยการ มาตรฐาน สาระสาคญั เวลา นา้ หนัก

ท่ี เรียนรู้ การเรียนรู้ (ชวั่ โมง) คะแนน

การเขียน มาตรฐานท่ี ท 2.1 การเขยี นประโยคจากภาพ 2
ประโยคจาก ใช้กระบวนการเขียนเขยี นสื่อสาร เขียน
เรยี งความ ย่อความ และเขยี นเรอื่ งราว ช่วยพฒั นาทกั ษะการคิด การ (ส.15)
ภาพ ในรปู แบบตา่ งๆ เขยี นรายงานข้อมูล
สารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ คว้า เขียน รจู้ ักการเชอื่ มโยง
อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ
ตัวชวี้ ัดที่ ป 2/2 ประโยคจากภาพทเี่ หน็ ให้
เขียนเรอื่ งสนั้ ๆ เก่ียวกบั ประสบการณ์
ตัวชีว้ ดั ท่ี ป 2/4 เป็นเร่อื งราวใหส้ มั พันธก์ นั
มมี ารยาทในการเขียน

มาตรา กก มาตรฐานท่ี ท 4.1 ก า ร เขี ย น ค า แ ล ะ บ อ ก 2
เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ความหมายเป็นการฝึกให้ใช้ (ส.15)
ภาษาไทยการเปลย่ี นแปลงของภาษา คาในภาษาไทยอย่างถูกต้อง
และพลงั ของภาษา ภมู ปิ ญั ญาทางภาษา และการรู้ความหมายของคา
และรักภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบัตขิ องชาติ ทาใหส้ ามารถนาคามาตรา
ตัวชวี้ ดั ท่ี ป 2/2 กก ไปใช้ในชวี ติ ประจาวันได้
เขียนสะกดคาและบอกความหมายของคา อย่างถูกตอ้ ง

การอ่านจบั มาตรฐาน ท 1.1 ก า ร อ่ า น จั บ ใ จ ค ว า ม ส า คั ญ
ใจความ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และ คือ การอ่านเพื่อจับใจความ
เร่ืองสน้ั ๆ ความคดิ เพือ่ นาไปใช้ตดั สินใจแกป้ ญั หา หรือข้อคิด ความคิดสาคัญ
ในการดาเนินชีวิตและมนี สิ ยั รกั การอา่ น หลักของข้อความ หรือเรื่องท่ี
ตัวชี้วัดที่ ป 2/1 อ่านการอา่ นจบั ใจความสาคญั
อา่ นออกเสยี งคา คาคล้องจอง ข้อความ ถื อ เป็ น ทั ก ษ ะ ส า คั ญ ที่ ใช้ ใ น
และบทรอ้ ยกรองงา่ ยๆได้ถกู ต้อง การอ่านเพ่ือการสื่อสารมาก
ตัวช้วี ัดท่ี ป 2/2 ทสี่ ุด เพราะเป็นพื้นฐานสาคัญ
อธบิ ายความหมายของคาและขอ้ ความท่ี ในการศกึ ษาหาความรู้ จึงควร
อ่าน ฝกึ ฝนให้เกดิ ความชานาญ
ตัวช้ีวดั ที่ ป 2/3
ตง้ั คาถามและตอบคาถามเก่ียวกับเรอ่ื งที่
อา่ น

หนว่ ย ช่อื หน่วยการ มาตรฐาน สาระสาคัญ เวลา น้าหนกั
(ชวั่ โมง) คะแนน
ท่ี เรียนรู้ การเรยี นรู้
2
ตัวช้ีวดั ที่ ป 2/4 (ส.16)
ระบุใจความสาคญั และรายละเอยี ดจาก
เรื่องทีอ่ ่าน
ตวั ชว้ี ัดที่ ป 2/8
มีมารยาทในการอ่าน

การเขียนเล่า มาตรฐาน ท 3.1 การเขียนเรื่องตามประสบ- 2
ประสบการณ์ สามารถเลือกฟังและดสู ามารถเลอื กฟัง การณ์ คือ การเขยี นเรื่องจาก (ส.16)
สิ่งทเี่ ราได้กระทา หรือเขยี น
ใน และดอู ยา่ งมีวิจารณญาณและพูดแสดง เรื่องจากสง่ิ ทเ่ี ราพบเห็น เมอ่ื
เวลาผา่ นไปจะทาให้เราจดจา
ชวี ิตประจาวัน ความรู้ ความคดิ และความรู้สึกในโอกาส ความประทบั ใจเล่าน้นั
ต่างๆ อยา่ งมีวิจารณญาณและสรา้ งสรรค์

ตัวชว้ี ดั ที่ ป 2/6

พดู สือ่ สารได้ชดั เจน ตรงตามวัตถุประสงค์

ตัวชี้วดั ท่ี ป 2/8

มีมารยาทในการฟงั การดู และการพูด

มาตรา กบ มาตรฐานท่ี ท 4.1 ก า ร เขี ย น ค า แ ล ะ บ อ ก 2
เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ความหมายเป็นการฝึกให้ใช้ (ส.16)
ภาษาไทยการเปล่ียนแปลงของภาษา คาในภาษาไทยอย่างถูกต้อง
และพลงั ของภาษา ภูมิปญั ญาทางภาษา และการรู้ความหมายของคา
และรักภาษาไทยไว้เปน็ สมบตั ขิ องชาติ ทาใหส้ ามารถนาคามาตรา
ตวั ชว้ี ัดท่ี ป 2/2 กบ ไปใช้ในชวี ติ ประจาวันได้
เขียนสะกดคาและบอกความหมายของคา อยา่ งถกู ตอ้ ง

หน่วย ชือ่ หนว่ ยการ มาตรฐาน สาระสาคญั เวลา น้าหนกั

ที่ เรยี นรู้ การเรียนรู้ (ชัว่ โมง) คะแนน

12 การอ่านจบั มาตรฐาน ท 1.1 การอ่านจับใจความสาคัญ 2 5
ชาติ ใจความ ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรูแ้ ละ คือ การอ่านเพ่ือจับใจความ (ส.17)
ของเรา เร่อื ง ชาตขิ อง ความคิดเพือ่ นาไปใช้ตัดสินใจแกป้ ัญหา
หรือข้อคิด ความคิดสาคัญ
เรา ในการดาเนนิ ชีวติ และมนี สิ ยั รกั การอ่าน
ตวั ชี้วดั ท่ี ป 2/1 หลักของข้อความ หรือเร่ืองท่ี
อ่านออกเสียงคา คาคล้องจอง ขอ้ ความ
และบทร้อยกรองง่ายๆได้ถกู ตอ้ ง อ่านการอ่านจบั ใจความสาคญั
ตัวชวี้ ดั ที่ ป 2/2
อธิบายความหมายของคาและข้อความที่ ถื อ เป็ น ทั ก ษ ะ ส า คั ญ ที่ ใช้ ใ น
อา่ น
ตัวชี้วัดท่ี ป 2/3 การอ่านเพ่ือการส่ือสารมาก

ตง้ั คาถามและตอบคาถามเกีย่ วกบั เรอื่ งท่ี ท่สี ดุ เพราะเป็นพ้นื ฐานสาคัญ
อ่าน
ตวั ชี้วัดท่ี ป 2/4 ในการศึกษาหาความรู้ จึงควร
ระบใุ จความสาคัญและรายละเอียดจาก
เร่ืองที่อ่าน ฝกึ ฝนใหเ้ กิดความชานาญ
ตัวชว้ี ัดท่ี ป 2/8
มมี ารยาทในการอ่าน

การเขยี นเลา่ มาตรฐานท่ี ท 2.1 การเขยี นเรื่องตามประสบ- 2
ประสบการณ์ ใช้กระบวนการเขยี นเขียนสอ่ื สาร เขียน การณ์ คือ การเขยี นเร่ืองจาก (ส.17)
ในวันหยุด เรยี งความ ย่อความ และเขียนเรอ่ื งราว สิ่งทเี่ ราได้กระทา หรอื เขยี น
เรื่องจากสง่ิ ท่ีเราพบเหน็ เมอื่
ในรปู แบบตา่ งๆ เขียนรายงานขอ้ มลู เวลาผ่านไปจะทาให้เราจดจา
สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาค้นควา้ ความประทบั ใจเล่านนั้
อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ
ตัวชวี้ ัดท่ี ป 2/2
เขียนเรื่องส้ันๆ เกีย่ วกบั ประสบการณ์
ตวั ชวี้ ัดท่ี ป 2/4
มมี ารยาทในการเขยี น

หนว่ ย ชื่อหน่วยการ มาตรฐาน สาระสาคญั เวลา น้าหนัก

ท่ี เรยี นรู้ การเรียนรู้ (ช่วั โมง) คะแนน

มาตรา กด มาตรฐานที่ ท 4.1 การเขียนคาและบอกความหมาย 2 5
(ส.17)
เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลกั เป็นการฝึกให้ใช้คาในภาษาไทย

ภาษาไทยการเปลย่ี นแปลงของภาษา อย่างถูกต้อง และการรู้ความหมาย
และพลงั ของภาษา ภูมิปญั ญาทางภาษา ของคาทาให้สามารถนาคามาตรา
และรักภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบัติของชาติ กด ไปใช้ในชีวิตประจาวนั ได้อยา่ ง
ตัวชี้วดั ท่ี ป 2/2
เขียนสะกดคาและบอกความหมายของ ถูกตอ้ ง

คา

การอา่ นจับใจความสาคัญ คือ การ

การอา่ นจบั มาตรฐาน ท 1.1 อ่ า น เพื่ อ จั บ ใจ ค ว า ม ห รื อ ข้ อ คิ ด 2
ใจความ ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรแู้ ละ ความคิดสาคัญหลักของข้อความ (ส.18)
บทเพลง ความคิดเพ่อื นาไปใช้ตดั สนิ ใจแกป้ ัญหา หรือเร่อื งท่ีอา่ นการอ่านจับใจความ
ในการดาเนินชีวิตและมีนสิ ัยรกั การ สาคัญ ถือเป็นทักษะสาคัญท่ีใช้ใน
อ่าน การอ่านเพ่ือการสื่อสารมากที่สุด

ตัวช้ีวดั ท่ี ป 2/3 เพ ร า ะ เป็ น พ้ื น ฐ า น ส า คั ญ ใน

ตัง้ คาถามและตอบคาถามเก่ียวกับเรอ่ื งท่ี การศึกษาหาความรู้ จึงควรฝึกฝน

อา่ น ให้เกิดความชานาญ
ตัวชว้ี ดั ท่ี ป 2/5

แสดงความคดิ เหน็ และคาดคะเน

เหตกุ ารณ์จากเรือ่ งทอี่ ่าน การเขียนตามจินตนาการ คือการ 2
เขี ย น เรื่ อ งที่ ม า จ า ก ค วาม คิ ด (ส.18)
ตัวชีว้ ดั ที่ ป 2/8 ความรู้สึก ความใฝ่ฝัน ของผู้เขียน
การเขยี นตาม มีมารยาทในการอา่ น

จนิ ตนาการ เอ ง เป็ น ก ารเขี ยน แ บ บ อิ ส ระ

มาตรฐาน ท 2.1 ผู้เขียนควรมีความคิดสร้างสรรค์

ใชก้ ระบวนการเขียนเขียนส่ือสาร เขียน และช่างสังเกต

เรยี งความ ยอ่ ความ และเขยี นเรอื่ งราวใน

รูปแบบตา่ งๆ เขยี นรายงานข้อมลู

สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้

อย่างมีประสิทธภิ าพ

ตวั ชี้วัดที่ ป 2/3

เขยี นเร่อื งสนั้ ๆตามจินตนาการ

ตัวชว้ี ัดท่ี ป 2/4

มมี ารยาทในการเขยี น

หน่วย ชอื่ หนว่ ยการ มาตรฐาน สาระสาคญั เวลา น้าหนัก
(ชว่ั โมง) คะแนน
ที่ เรียนรู้ การเรียนรู้ การเขียนคาคลอ้ งจองเป็นการฝกึ
ให้ใชค้ าในภาษาไทยอยา่ งถกู ตอ้ ง 25
คาคลอ้ งจอง มาตรฐานท่ี ท 4.1 และการรคู้ วามหมายของคาทาให้ (ส.18)
เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลกั สามารถนาคาไปใช้ใน
ภาษาไทยการเปลยี่ นแปลงของภาษา ชวี ิตประจาวนั ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง
และพลงั ของภาษา ภูมปิ ญั ญาทางภาษา
และรักภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบตั ขิ องชาติ
ตวั ชว้ี ดั ที่ ป 2/4
บอกลักษณะคาคลอ้ งจอง

สอบปลายภาค - ส.19 15

สัปดาหท์ ี่ 1

โรงเรยี นขจรเกียรติพฒั นา
แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรียนที่ ……2…/…….……... ชื่อผู้สอน ….…..….................................................……...
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 7 นักคิดสมองใส ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 2 จานวน 6 คาบ

เรอ่ื ง นกั คิดสมองใส

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวัด

มาตรฐานท่ี ท 1.1ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรูแ้ ละความคดิ เพื่อนาไปใช้ตัดสนิ ใจ แกป้ ญั หาในการดาเนนิ ชีวิต
และมีนสิ ัยรกั การอ่าน

ตวั ชว้ี ดั ท่ี ป 2/1 อ่านออกเสียงคาคล้องจอง ข้อความ และบทร้อยกรองง่ายๆได้อย่างถกู ตอ้ ง
ตวั ชี้วัดที่ ป 2/2 อธบิ ายความหมายของคาและขอ้ ความทอี่ า่ น
ตัวชี้วดั ท่ี ป 2/3 ตั้งคาถามและตอบคาถามเกี่ยวกบั เรื่องทอี่ า่ น
ตัวชี้วัดที่ ป 2/4 ระบุใจความสาคญั และรายละเอยี ดจากเร่อื งท่อี า่ น
ตัวช้วี ดั ที่ ป 2/5 แสดงความคิดเหน็ และคาดคะเนเหตกุ ารณจ์ ากเรอ่ื งที่อ่าน
ตัวชว้ี ดั ที่ ป 2/8 มีมารยาทในการอ่าน
มาตรฐานท่ี ท 2.1ใช้กระบวนการเขียนเขยี นสอื่ สาร เขียนเรยี งความ ย่อความ และเขยี นเรอื่ งราวในรปู แบบต่างๆ
เขยี นรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาค้นควา้ อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ
ตัวชี้วัดท่ี ป 2/1คัดลายมอื ตวั บรรจงเต็มบรรทัด
ตวั ช้วี ดั ที่ ป 2/4มมี ารยาทในการเขยี น
มาตรฐานที่ ท 3.1 สามารถเลอื กฟังและดอู ยา่ งมีวิจารณญาณและพดู แสดงความรคู้ วามคดิ และความรู้สกึ ใน
โอกาสต่างๆอย่างมีวิจารณญาณแลสร้างสรรค์
ตวั ชว้ี ัดที่ ป 2/1 ฟงั คาแนะนา คาส่ังทซ่ี บั ซอ้ น และปฏิบัติตาม
มาตรฐานท่ี ท 4.1 เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปลีย่ นแปลงของภาษาและพลงั ของภาษา ภมู ปิ ญั ญา
ทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบัตขิ องชาติ
ตวั ชี้วดั ที่ ป 2/2เขียนสะกดคาและบอกความหมายของคา

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด

การอ่านจับใจความสาคัญ คอื การอา่ นเพ่อื จับใจความหรอื ขอ้ คดิ ความคิดสาคัญหลักของข้อความ หรือเร่ืองทีอ่ ่าน
การอา่ นจบั ใจความสาคัญ ถือเป็นทกั ษะสาคญั ท่ใี ชใ้ นการอา่ นเพ่ือการสอื่ สารมากทส่ี ดุ เพราะเปน็ พ้นื ฐานสาคัญในการศึกษาหา
ความรู้ จงึ ควรฝกึ ฝนใหเ้ กดิ ความชานาญ

ลายมือ คือ ตัวหนังสือและตัวเลขทเ่ี ขียนท่ีมลี ักษณะเฉพาะ บง่ บอกว่าเปน็ ของผหู้ น่ึงผใู้ ด ซึง่ การฝึกคดั ลายมอื จะ
ช่วยทาให้ผ้เู ขยี นเขียนหนังสอื ไดอ้ ยา่ งสวยงาม และเปน็ ระเบยี บเรียบรอ้ ย รวมทงั้ ชว่ ยฝึกสมาธิ และทส่ี าคญั ยงั เปน็ การชว่ ย
อนรุ กั ษม์ รดกทางวัฒนธรรมไทย

คาควบกลา้ ( ควบ ว ) คือ เสียงควบกล้าในภาษาไทย เสียงพยัญชนะต้นสองเสยี งประสมกบั สระเดียวกนั โดย ก ข ค
เปน็ พยญั ชนะตน้ ตวั ท่หี นงึ่ และ ว เป็นพยัญชนะตน้ ตวั ทสี่ อง

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

1.อธบิ ายความหมาย และหลกั การอ่านจบั ใจความสาคัญ (K)
2.อธิบายวิธกี ารคดั ลายมือตวั บรรจงเต็มบรรทัด (K)
3.อธิบายลกั ษณะของคาควบกลา้ (ควบ ว) (K)
4.อา่ นออกเสียงคาควบกลา้ (ควบ ว) (P)
5.คัดลายมอื ได้ถูกต้อง (P)
6.อา่ นเรอ่ื งได้คล่องแคลว่ รวดเร็วและถูกต้องตามอักขรวิธี (P)
7.แยกขอ้ เทจ็ จริงและข้อคดิ เหน็ จากเร่อื งทีอ่ ่าน (P)
8.มคี วามตงั้ ใจในการคดั ลายมอื (A)
9.กระตอื รอื รน้ ในการเรียนรู้ (A)
10.เหน็ ความสาคญั ของการอา่ นและมารยาทในการอ่าน (A)

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนร้ทู อ้ งถนิ่

3.1 ความรู้ : Knowledge (K) การอ่านจบั ใจความ เรอื่ งนักคิด
สมองใส การเขียนคดั ลายมอื พยัญชนะควบกล้า (ควบ ว)
3.2 กระบวนการจดั การเรยี นรู้ : Process (P)

5.กจิ กรรมการเรยี นรู้

คาบท่ี กจิ กรรมการเรยี นการสอน

คาบที่ 1-2 สาระสาคญั
การอา่ น การอา่ นจบั ใจความสาคัญ คอื การอา่ นเพอ่ื จบั ใจความหรอื ข้อคิด ความคิดสาคัญหลกั
จับใจความ
( นักคดิ สมองใส) ของข้อความ หรือเรือ่ งท่อี า่ น

การอ่านจบั ใจความสาคัญ ถือเป็นทกั ษะสาคญั ท่ีใช้ในการอา่ นเพ่อื การสอ่ื สารมากทส่ี ุด เพราะ

เปน็ พ้นื ฐานสาคญั ในการศกึ ษาหาความรู้ จงึ ควรฝกึ ฝนใหเ้ กดิ ความชานาญ

ขั้นที่ 1 ขนั้ รวบรวมขอ้ มูล

1.ครูและนักเรียนรม่ กนั สนทนา โดยครูใช้คาถามกระตุ้นความคิดดงั นี้

-นักเรยี นรจู้ ักรงุ้ กนิ น้าหรอื ไม่
-นกั เรยี นคดิ ว่ารงุ้ กนิ น้าเกิดจากอะไร ใหน้ กั เรยี นช่วยกันตอบ เพอ่ื โยงเข้าสสู่ าระ
การเรยี นรู้
นักเรียนทบทวนเก่ียวกบั การอา่ นจบั ใจความโดยครใู ช้คาถามดงั น้ี
- การอ่านสรปุ ใจความคืออะไร
- นกั เรยี นใชท้ ักษะอะไรบ้างในการอ่านจบั ใจความ
* ในการตอบคาถามใหน้ ักเรยี นใชไ้ ม้เรยี กเลขที่ เพอื่ ให้นกั เรยี นตอบคาถามทลี ะ
คน โดยถามกอ่ นจะเรยี กเลขทเ่ี พื่อให้ทุกคนได้คิดในแต่ละคาถามควรใหน้ กั เรียนนาเสนอ 4-5
คน
2.นกั เรยี นเขา้ กลมุ่ ศึกษาเรื่อง นกั คดิ สมองใส แล้วรว่ มกนั สนทนาโดยใช้คาถามดังนี้
- ทาไมรุ้งกนิ นา้ ที่เกิดขนึ้ เองตามธรรมชาติ จึงเกดิ หลักฝนตก
- เด็กๆในเรอ่ื งทดลองการทารงุ้ กินน้าอย่างไร
- นักเรียนบอกช่อื ผลไมท้ นี่ ามาทานา้ ผลไมไ้ ด้
ข้นั ที่ 2 ขน้ั คดิ วิเคราะห์และสรุปความ
3. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ รว่ มกันวิเคราะห์เกย่ี วกบั เรื่องทอี่ ่าน โดยครูใช้คาถามดังนี้
- ตัวละครในเร่อื งมใี ครบ้าง มเี หตกุ ารณอ์ ะไรเกดิ ขึ้นบา้ ง

4.ใหน้ ักเรียนแต่ละกลมุ่ คดิ ประเมินเพอ่ื เพิม่ คุณค่าโดยครใู ชค้ าถามดังต่อไปน้ี

- จากเรอื่ งท่อี ่านนักเรียนสามารถนาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวนั อย่างไร
ขั้นที่ 3 ขั้นปฏบิ ัติและสรปุ ความรู้หลงั การปฏบิ ตั ิ

5.นกั เรยี นเขา้ กลมุ่ ทากจิ กรรมการตง้ั คาถามและตอบคาถามเร่อื งทีอ่ ่าน กล่มุ ละ 5 ข้อ
กติกาในการตงั้ คาถาม คณุ ครูแบง่ จานวนหนา้ ทแ่ี ตล่ ะกล่มุ จะต้องรบั ผิดชอบในการตงั้
คาถาม เพอื่ ปอ้ งกนั ไมใ่ ห้การต้งั คาถามของแตล่ ะกลุ่มไมใ่ ห้ซา้ กัน
6.นกั เรียนร่วมกนั สรปุ ข้อคิดท่ไี ดจ้ ากการอา่ น
ข้นั ที่ 4 ข้ันสอื่ สารและนาเสนอ
7.นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มนาเสนอหน้าชนั้ เรียนแล้วใหเ้ พ่ือนตอบคาถาม

คาบท่ี 3-4 ขน้ั ที่ 5ขั้นประเมินเพื่อเพ่มิ คุณค่าบริการสังคมและจติ สาธารณะ
8. นกั เรียนช่วยกันสรปุ บทเรียน โดยครูใชค้ าถามตอ่ ไปน้ี
การเขียน - นกั เรยี นสามารถนาความรู้เก่ยี วกบั เรอื่ งทเี่ รียนไปใช้ประโยชนใ์ นสังคมอยา่ งไร
คดั ลายมือ
สาระสาคญั
ลายมือ คอื ตวั หนงั สอื และตวั เลขทเ่ี ขียนที่มลี กั ษณะเฉพาะ บง่ บอกว่าเปน็ ของผู้

หนึ่งผ้ใู ด ซง่ึ การฝึกคัดลายมือ จะช่วยทาให้ผเู้ ขยี นเขียนหนงั สือไดอ้ ยา่ งสวยงาม และเป็นระเบียบ

เรียบรอ้ ย รวมทง้ั ช่วยฝกึ สมาธิ และทส่ี าคญั ยังเป็นการช่วยอนรุ กั ษม์ รดกทางวัฒนธรรมไทย

ขน้ั ท่ี 1 ขนั้ รวบรวมข้อมลู
1. นกั เรยี นสังเกต ตัวอยา่ งการคดั ลายมอื ท่ีครูนามาให้ดแู ล้วร่วมกนั สนทนาเกย่ี วกบั

การคดั ลายมอื โดยครถู ามนาเพอื่ โยงเขา้ สสู่ าระการเรยี นร้แู ละกระต้นุ ความสนใจผเู้ รยี น โดย
ครูถามคาถามดงั น้ี

-นักเรยี นคดิ วา่ การคดั ลายมือมกี ปี่ ระเภท และมอี ะไรบา้ งทนี่ กั เรยี นรูจ้ กั (ตวั เหล่ยี ม
อาลักษณ์ แบบมาตรฐานราชบัณฑติ ) หากนักเรยี นตอบไมค่ รบครูตอ้ งให้ความรเู้ พิ่มเตมิ

-ตวั อยา่ งการคดั ลายมอื ทน่ี กั เรยี นดจู ดั เปน็ การคดั ลายมอื ประเภทใด
-ปัจจบุ นั นนี้ ักเรยี นใช้ตัวอกั ษรประเภทใดในการเขยี นหนังสือ
2.นกั เรยี นศกึ ษา เรอื งการคัดลายมอื แลว้ สนทนาโดยครถู ามคาถามดงั น้ี
-การคัดลายมอื ท้งั สองแบบแตกต่างกันอย่างไร
-จากการอ่านขอ้ ความท้งั สองแบบนกั เรียนคดิ วา่ แบบใดทีอ่ ่านไดง้ า่ ย และเขา้ ใจสง่ิ ที่
ส่ือสารได้เรว็
ขน้ั ท่ี 2 ข้ันคดิ วเิ คราะห์และสรุปความ
4.นกั เรียนเข้ากลมุ่ แลว้ รว่ มกนั วิเคราะห์เกี่ยวกับการคดั ลายมือ
5.นกั เรยี นคดิ ประเมนิ เพอื่ เพม่ิ คุณคา่ โดยครถู ามคาถามดังน้ี
-การเรียนรเู้ กีย่ วกบั เรอื่ งการคดั ลายมอื มีประโยชนใ์ นการสอ่ื สารอยา่ งไร
- นกั เรียนสามาถนาความรูท้ ไี่ ด้รบั ไปใชใ้ นชีวติ ประจาวันไดอ้ ยา่ งไร

ขั้นท่ี 3 ข้ันปฏบิ ัติและสรุปความร้หู ลังการปฏิบัติ
6.นักเรยี นดกู ารเขยี นหนังสือทเ่ี ปน็ ระเบยี บสวยงาม และการเขียนหนงั สอื ท่ีไม่เปน็

ระเบยี บ แล้วร่วมกันเปรียบเทียบขอ้ ดีและข้อเสยี ของแตล่ ะประเภท เพื่อนาไปสกู่ ารสรปุ ความรู้
-นกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ ประโยชน์ของการคดั ลายมือดงั นี้
(ประโยชนข์ องการคัดลายมือ นอกจากเพอ่ื ความสวยงาม ความเป็นระเบยี บเรยี บรอ้ ย
แลว้ ยงั ชว่ ยในการฝกึ สมาธิได้เป็นอย่างดี และทสี่ าคัญ ยงั เปน็ การช่วยอนรุ ักษ์มรดกทาง
วัฒนธรรมไทยให้คงไวด้ ว้ ย)
7.นกั เรียนฝกึ คดั ลายมือตัวบรรจงเตม็ บรรทดั

ขนั้ ท่ี 4 ขั้นสื่อสารและนาเสนอ

9.นักเรยี นนาเสนอผลงานการคัดลายมอื โดยการจดั ปา้ ยนิเทศแสดงผลงานของแต่ละ

คน

คาบที่ 5-6 ขัน้ ท่ี 5ข้ันประเมินเพ่ือเพิม่ คุณค่าบรกิ ารสังคมและจิตสาธารณะ

พยญั ชนะควบกล้า 10. นกั เรียนช่วยกันสรปุ บทเรียน โดยครูใช้คาถามต่อไปนี้
(ควบ ว ) - นกั เรียนสามารถนาความรเู้ กยี่ วกบั เรอ่ื งทีเ่ รยี นไปใชป้ ระโยชนใ์ นสังคมอย่างไร

สาระสาคัญ
คาควบกล้า ( ควบ ว ) คือ เสยี งควบกลา้ ในภาษาไทย เสียงพยญั ชนะต้นสองเสยี ง

ประสมกบั สระเดียวกนั โดย ก ข ค เปน็ พยัญชนะตน้ ตัวท่หี นงึ่ และ ว เปน็ พยญั ชนะตน้ ตวั ท่สี อง

ขน้ั ท่ี 1 ขนั้ รวบรวมขอ้ มลู
1. นักเรียนรว่ มกันเลน่ เกม “ปริศนาคาทาย” โดยครเู ขียนประโยคปรศิ นาบนกระดาน
ดงั น้ี
- อะไรเอ่ย ชือ่ สตั ว์ ใช้ไถนา (ควาย)
2. ครูอธิบายคาในภาษาไทย จะประกอบไปด้วยพยญั ชนะควบกล้า (ควบ ว)
3. นกั เรียนศกึ ษาเรอื่ งอักษรควบ แล้วร่วมสนทนาโดยครใู ชค้ าถามต่อไปน้ี
- คาควบกล้าหมายถงึ
- คาควบกลา้ มกี ปี่ ระเภท มอี ะไรบา้ ง
- คาควบกล้ามีลกั ษณะอย่างไร
- คาควบกลา้ แทแ้ ละควบกล้าไมแ่ ทต้ า่ งกันอยา่ งไร

ขน้ั ที่ 2 ข้นั คิดวิเคราะหแ์ ละสรุปความ
4. ครูตดิ บัตรคาและใหน้ กั เรียนสังเกตคาต่อไปน้ี
- กวาด แกวง่ เกวียน
- ขวา ขวาน ขวนขวาย
5. นักเรยี นอา่ นคาต่อไปน้ีแล้วรว่ มวิเคราะห์ว่าคาใดบา้ งท่คี วบดว้ ย ว
6. นกั เรียนแตล่ ะกลุม่ คดิ ประเมินเพือ่ เพมิ่ มลู ค่าโดยครใู ช้คาถามต่อไปนี้

- นักเรยี นสามาถนาความรู้ที่ไดร้ ับไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ไดอ้ ย่างไร
ขน้ั ที่ 3 ขั้นปฏบิ ตั แิ ละสรปุ ความรหู้ ลังการปฏิบัติ

7 . นกั เรยี นเขา้ กลุ่ม ควบแท้ หรือ คาควบไมแ่ ท้ โดยครชู บู ตั รคาใหน้ กั เรยี นดบู ตั รคา แต่
ละกลุ่มชว่ ยกันตอบ วา่ เป็นอักษรควบแทห้ รอื ไมแ่ ท้ กลมุ่ ท่ีตอบได้เรว็ และถกู ต้องจะได้ 1คะแนน

8. นกั เรียนอ่านคาควบ ว ท่เี ปน็ ตัวควบกลา้ จากหนังสือแบบฝกึ หัดหลกั ภาษาไทยเล่ม

ที่ 3

9. นกั เรียนทาแบบฝกึ หัด

10. นักเรยี นรว่ มกนั สรปุ เรอื่ งคาควบ ว ซ่งึ จะใช้ในชีวติ ประจาวันได้ ในการเขยี นคาต่างๆ

ขน้ั ท่ี 4 ขั้นส่อื สารและนาเสนอ
11 .นักเรียนนาเสนอการทาแบบฝึกหัด โดยครูใช้ไมเ้ รยี กเลขท่ี เพอื่ ใหน้ กั เรยี น

นาเสนอทีละคน เพอื่ นๆช่วยกนั
ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง

ขน้ั ที่ 5ข้ันประเมนิ เพ่ือเพิ่มคุณคา่ บรกิ ารสังคมและจติ สาธารณะ
12 . นกั เรยี นร่วมกันแสงดความคิดเหน็ โดยครูใช้คาถามตอ่ ไปนี้
- นักเรียนสามาถนาความรเู้ ก่ยี วกบั เรื่องทเ่ี รยี นไปใชป้ ระโยชน์ในสังคมได้อย่างไร

3.3 คณุ ลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ : Attitude (A) ซือ่ สตั ยส์ จุ รติ มวี นิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ อยูย่ ่างพอเพยี ง
ม่งุ มั่นในการทางาน รกั ความเป็นไทย มีจติ สาธารณะ

6. สือ่ /อปุ กรณ์/แหลง่ การเรยี นรู้

1. แบบฝกึ หดั 2. บตั รคา 3. หนงั สอื ภาษาไทยช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 2
8.บัตรภาพ
4. ไม้เรยี กเลขท่ี 5.คาถาม

9. หนงั สอื หลกั ภาษาเลม่ 3 ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 2

7. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้

การประเมิน วิธีการ เคร่อื งมือ

ดา้ นความรู้ (K) -การตอบคาถาม -คาถาม
-ทาแบบฝกึ หดั -แบบฝึกหัด

ด้านทักษะและกระบวนการ (P) -ทักษะการอา่ น -แบบประเมินการอ่าน

-ทักษะการเขยี น -แบบประเมินการเขยี นคดั ลายมือ

ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ -แบบฝกึ หัด

ด้านคณุ ธรรม จริยธรรมและค่านิยม (A) -สงั เกตพฤตกิ รรมในการร่วมกจิ กรรม -แบบสังเกตพฤตกิ รรม

การทางานกลมุ่

-สังเกตพฤตกิ รรมการใชค้ าศัพท์

ภาษาไทย

8. กิจกรรมเสนอแนะ

............................................................................................................................. .............................................................................
............................................................................................................................. .............................................................................
.........................................................................................................................................................................................................

ลงชอื่ .............................................ครผู สู้ อน ลงช่อื ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชอ่ื ................................................... ผูบ้ ริหาร
(...........................................................)

สปั ดาหท์ ่ี 2

โรงเรยี นขจรเกียรตพิ ฒั นา
แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรียนท่ี ……2…/……..……... ชื่อผสู้ อน ….…..….................................................……...
กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย
หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 7 นกั คดิ สมองใส ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 2 จานวน 6 คาบ

เรื่อง นกั คิดสมองใส

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชี้วดั

มาตรฐานที่ ท 2.1ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขยี นเรยี งความ ยอ่ ความ และเขียนเรอื่ งราวในรปู แบบตา่ งๆ
เขยี นรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ

ตัวช้ีวัดท่ี ป 2/2 เขียนเรอื่ งสนั้ ๆ เกีย่ วกบั ประสบการณ์
ตัวช้วี ดั ท่ี ป 2/4 มีมารยาทในการเขียน
มาตรฐานที่ ท 4.1 เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ภาษาไทยการเปลย่ี นแปลงของภาษาและพลงั ของภาษา ภูมปิ ญั ญา
ทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ
ตัวชว้ี ัดที่ ป 2/2เขียนสะกดคาและบอกความหมาย ของคา
มาตรฐานที่ ท 5.1 เขา้ ใจและแสดงความคดิ เหน็ วิจารณว์ รรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณคา่ และนามา
ประยกุ ตใ์ ช้ในชีวติ จรงิ
ตวั ช้วี ัดที่ ป 2/1 ระบุข้อคดิ ที่ไดจ้ ากการอา่ น หรือการฟงั
ตวั ชี้วัดท่ี ป 2/3ทอ่ งจาบทอาขยานตามทกี่ าหนดและบทร้อยกรองท่ีมคี ณุ คา่ ตามความสนใจ

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

คาควบกลา้ มีทั้งควบกลา้ แทท้ ีอ่ อกเสียงพยัญชนะต้น 2 ตัวกล้ากันชดั เจน และควบกล้าไมแ่ ทท้ ีอ่ อกเสยี งเฉพาะ
พยัญชนะตน้ ตัวหนา้ หรอื ทร ออกเสยี งเป็น ซ ซง่ึ ตอ้ งอา่ นและเขยี นใหถ้ ูกตอ้ ง

การอา่ นจบั ใจความสาคัญ คือ การอา่ นเพอ่ื จับใจความหรอื ข้อคดิ ความคิดสาคญั หลกั ของข้อความ หรอื เร่อื งที่อา่ น
การอา่ นจบั ใจความสาคญั ถอื เป็นทกั ษะสาคัญท่ใี ช้ในการอา่ นเพือ่ การสอ่ื สารมากทสี่ ุด เพราะเป็นพน้ื ฐานสาคญั ในการศึกษาหา
ความรู้ จงึ ควรฝกึ ฝนใหเ้ กิดความชานาญ

3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1.ระบขุ ้อคิดทไี่ ดจ้ ากการท่องจาบทอาขยาน (K)
2.รู้และเข้าใจหลกั การเขยี นเลา่ ประสบการณ์ได้ (K)
3.อธบิ ายลกั ษณะของคาควบกล้า (ควบ ร ล ) (K)
4.ทอ่ งจาบทอาขยาน (P)

5.เขยี นเล่าประสบการณ์ได้ถูกตอ้ ง(P) สาระการเรียนรูท้ อ้ งถน่ิ
6.อ่านออกเสียงคาควบกลา้ (ควบ ร ล) (P)
7.มคี วามสนใจในการเรียนภาษาไทย (A )
8.กระตือรอื ร้นในการเรียนรู้ (A)
9.ตระหนกั ในความสาคญั ของขอ้ คิดท่ีไดจ้ ากการท่องจาบทอาขยาน (A)

4. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

3.1 ความรู้ : Knowledge (K) การอ่านจบั ใจความบท
อาขยาน การเขยี นเลา่ ประสบการณ์(วนั เข้าพรรษา) พยัญชนะควบ
กล้า(ควบ ร ล )
3.2 กระบวนการจัดการเรียนรู้ : Process (P)

5. กิจกรรมการเรียนรู้

คาบท่ี กิจกรรมการเรยี นการสอน

คาบท่ี 1-2 สาระสาคญั

การอ่านจับ การอ่านจบั ใจความสาคัญ คือ การอ่านเพือ่ จบั ใจความหรือขอ้ คิด ความคิดสาคัญหลักของ
ใจความ
ขอ้ ความ หรอื เรื่องที่อา่ น

การอ่านจบั ใจความสาคัญ ถอื เปน็ ทกั ษะสาคัญทีใ่ ช้ในการอา่ นเพ่อื การสอื่ สารมากทสี่ ดุ เพราะเป็น

พื้นฐานสาคัญในการศกึ ษาหาความรู้ จงึ ควรฝกึ ฝนให้เกดิ ความชานาญ

ขน้ั ท่ี 1 ขนั้ รวบรวมข้อมูล

1. ครูนาเข้าสบู่ ทเรยี นโดยให้นกั เรยี นตอบคาถาม โดยครใู ช้คาถามตอ่ ไปนี้
-อะไรเอ่ย เปน็ สตั วท์ ต่ี ื่นเช้าขยันทามาหากิน เพอื่ รอ้ งปลุกผคู้ น ( ไก่)
-ใครรู้จกั ไก่ บ้าง เลา่ ใหก้ ันฟงั ว่าไก่มลี ักษณะอย่างไร
- ไกท่ น่ี กั เรยี นรจู้ กั มไี ก่ชนดิ ใดบา้ ง ( ไก่ชน ไกเ่ น้ือ ไก่แจ้ ไก่ไข่ ไก่บ้าน)

2. ครอู ธิบายให้นกั เรยี นเขา้ ใจ มลู เหตขุ องการอ่านบทอาขยาน เพอ่ื ใหน้ กั เรียนสนใจใครร่ ู้
เพอ่ื ใหก้ ารอา่ นออกเสยี งมปี ระสทิ ธิภาพควรฝึกฝนดงั น้ี
1. ฝกึ เปลง่ เสียงใหพ้ อประมาณ ไมต่ ะโกน ควรบงั คับเสียง เนน้ เสยี งปรบั ระดับเสยี งสงู ตา่
ให้สอดคลอ้ งกบั จงั หวะ ลลี า ทว่ งทานอง และเนื้อหาท่ีอ่าน
2. อ่านด้วยนา้ เสียงทช่ี ัดเจน แจ่มใส ไพเราะ มกี ระแสเสียงเดยี ว ไม่แตกพรา่ เปลง่ เสียง
จากลาคอโดยตรงดว้ ยความมน่ั ใจ
3. อ่านออกเสียงใหถ้ กู อักขระวธิ หี รอื ความนยิ มและต้องเขา้ ใจเน้ือหาของบทอาขยาน

กอ่ น

4. ออกเสยี งควบกล้า ร ล ใหช้ ัดเจน

5. อ่านให้ถูกจงั หวะวรรคตอน

ขน้ั ที่ 2 ขน้ั คิดวิเคราะห์และสรุปความ

3. นกั เรียนดซู ีดีการอ่านออกเสยี งบทอาขยาน(ไกแ่ จ้) แล้วสนทนาซกั ถามโดยใช้คาถามดังน้ี

- บทอาขยาน(ไก่แจ)้ ท่ีนักเรียนอา่ นมีใจความอย่างไร

- ข้อคดิ ท่ีได้จากบทอาขยานคอื

5. นกั เรยี นคดิ ประเมินเพอ่ื เพมิ่ มลู ค่าโดยครูตั้งคาถามดงั ตอ่ ไปน้ี

- นกั เรียนสามาถนาเร่อื งบทอาขยานไปใชใ้ นชวี ิตประจาวันได้อยา่ งไร

ขั้นท่ี 3 ข้ันปฏิบัติและสรปุ ความรหู้ ลงั การปฏบิ ตั ิ

6. นักเรยี นฝกึ อา่ นออกเสยี งบทอาขยานพรอ้ มกัน 2-3 รอบ ครูสงั เกตการอา่ นออกเสียง และ

การเว้นวรรคตอน

7. แบ่งนักเรยี นเป็นกลมุ่ จากน้นั ให้นักเรยี นฝึกอา่ นบทอาขยาน

ข้ันที่ 4 ข้ันสอ่ื สารและนาเสนอ

8. นักเรียนแต่ละกลมุ่ ออกมานาเสนอการอา่ นบทอาขยานหน้าชัน้ เรียน ในขั้นตอนน้ี

นักเรยี นยงั อา่ นไมไ่ ดค้ รสู ามารถใหน้ ักเรียนดูบทอายานได้ แต่ให้สังเกตการอา่ นของแตล่ ะกล่มุ

พร้อมทัง้ เสนอแนะและวธิ ีแก้ไข

9. ครูนดั หมายนกั เรียนอ่านบทอาขยานกับครูเป็นรายบุคคล

ขน้ั ที่ 5ข้ันประเมินเพื่อเพม่ิ คุณคา่ บรกิ ารสังคมและจติ สาธารณะ

10. นกั เรยี นช่วยกนั สรปุ บทเรยี น ครูสรปุ เพม่ิ เติมด้วยการส่มุ ถามนักเรยี นบางคน เพื่อเปน็

การประเมนิ ความเข้าใจไปในตวั ด้วย

11. นกั เรียนรว่ มกนั แสงดความคิดเหน็ โดยครูใชค้ าถามตอ่ ไปนี้

- นักเรียนสามาถนาความร้เู กี่ยวกับเรื่องทเี่ รยี นไปใช้ประโยชนใ์ นสงั คมได้อย่างไร

คาบท่ี 3-4 สาระสาคญั

การเขยี นเรื่องตาม การเขียนเรอื่ งตามประสบการณ์ คอื การเขยี นเร่อื งจากสงิ่ ทเี่ ราไดก้ ระทา หรอื เขียนเร่อื ง
จากสงิ่ ทเี่ ราพบเหน็ เมือ่ เวลาผา่ นไปจะทาให้เราจดจาความประทับใจเล่าน้นั
ประสบการณ์ ขน้ั ที่ 1 ข้นั รวบรวมขอ้ มูล

1. นกั เรยี นรว่ มกันสนทนาเพื่อเข้าสบู่ ทเรียนโดยครใู ชค้ าถามดงั นี้

- นักเรยี นรจู้ กั วันเขา้ พรรษาหรือไม่

- เปน็ วันสาคัญของชาวพทุ ธอย่างไร

2. นกั เรยี นศกึ ษาการเขียนเล่าประสบการณ์ แลว้ รว่ มกันสนทนาโดยใชค้ าถามตอ่ ไปนี้

- นักเรียนเคยเขยี นเล่าประสบการณห์ รอื ไม่

- นักเรียนมีเทคนคิ อยา่ งไรในการเขียนเล่าประสบการณอ์ ย่างไร

ข้ันท่ี 2 ขั้นคิดวเิ คราะห์และสรุปความ
3. นักเรยี นดตู ัวอยา่ งการเขียนเล่าประสบการณ์และรว่ มกันวเิ คราะห์ เกีย่ วกับการเขียน

เลา่ ประสบการณ์

4. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ คิดประเมินเพ่อื เพม่ิ มลู ค่าโดยครใู ชค้ าถามตอ่ ไปน้ี

- นักเรียนสามาถนาความรู้ที่ไดร้ บั ไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ได้อย่างไร
ข้ันที่ 3 ข้ันปฏิบตั ิและสรุปความรูห้ ลงั การปฏบิ ัติ

5. นกั เรียนเขียนเลา่ ประสบการณ์( วนั เข้าพรรษา)

6. นักเรยี นร่วมกันสรุปเกี่ยวกบั การเขยี นเล่าประสบการณ์ (วันเข้าพรรษา)
ขนั้ ท่ี 4 ขั้นสือ่ สารและนาเสนอ

7. นักเรียนนาเสนอการเขียนเลา่ ประสบการณ์(วันเขา้ พรรษา) โดยครใู ช้ไม้เรียกเลขที่ เรียก
นักเรียนออกมานาเสนอหน้าชนั้ เรยี นประมาณ 4-5 คน

ขั้นที่ 5ข้ันประเมนิ เพ่ือเพิ่มคุณค่าบรกิ ารสงั คมและจิตสาธารณะ
8. นกั เรียนรว่ มกนั แสงดความคดิ เห็น โดยครูใชค้ าถามต่อไปนี้
- นักเรยี นสามาถนาความรเู้ กย่ี วกบั เรอื่ งท่เี รยี นไปใชป้ ระโยชน์ในสงั คมไดอ้ ย่างไร

คาบท่ี 5-6
สาระสาคญั

พยญั ชนะควบกลา้ คาควบกลา้ มที ง้ั ควบกล้าแท้ท่อี อกเสียงพยญั ชนะตน้ 2 ตัวกลา้ กนั ชัดเจน และควบกลา้

( ควบ ร ล ) ไมแ่ ทท้ ่อี อกเสียงเฉพาะพยญั ชนะต้นตัวหน้า หรือ ทร ออกเสยี งเป็น ซ ซง่ึ ตอ้ งอ่านและเขยี นให้
ถกู ต้อง

ขั้นที่ 1 ขั้นรวบรวมขอ้ มลู

7. นักเรยี นรว่ มกนั เลน่ เกม “ปรศิ นาคาทาย” โดยครเู ขียนประโยคปรศิ นาบนกระดาน
ดังน้ี
- อะไรเอย่ เปน็ ชือ่ พาหนะ ลอยบนน้า (ร)
- อะไรเอย่ เป็น นกั เรยี นศึกษาเรื่องอกั ษรควบ (ร ,ล)แลว้ ร่วมสนทนาโดยครใู ช้
คาถามต่อไปนี้
- คาควบกลา้ หมายถงึ
- คาควบกลา้ มีกปี่ ระเภท มอี ะไรบ้าง
- คาควบกลา้ มลี กั ษณะอยา่ งไร
- คาควบกล้าแทแ้ ละควบกลา้ ไม่แท้ต่างกันอย่างไร

ขน้ั ท่ี 2 ข้ันคดิ วิเคราะห์และสรุปความ
8. ครูติดบตั รคาและใหน้ ักเรียนสังเกตคาต่อไปนี้
- กราบ โปร่ง เคร่ือง
- กลิ้ง กลอ่ ง เผลอ
9. นกั เรียนอา่ นคาต่อไปนแี้ ลว้ ร่วมวิเคราะหว์ ่าคาใดบ้างทีค่ วบดว้ ย ร ล
10. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ คดิ ประเมนิ เพื่อเพมิ่ มลู คา่ โดยครใู ชค้ าถามตอ่ ไปน้ี

- นักเรยี นสามาถนาความรูท้ ไี่ ดร้ ับไปใช้ในชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ยา่ งไร
-

ขัน้ ท่ี 3 ขั้นปฏบิ ตั แิ ละสรปุ ความรู้หลังการปฏิบัติ
6. ครแู จกบัตรคาศพั ทเ์ ปน็ กลมุ่ เช่น กรอง ขรวั แปรง กลอ่ ง เผลอ ฯลฯ
7. ให้นกั เรยี นแต่ละกลุม่ ส่งตวั แทนออกมาตดิ โดยแยกเสยี งควบกลา้ ร และ ล
8. กล่มุ ใดตอบถกู ใหแ้ รงเสรมิ เปน็ คะแนนกลมุ่ หรอื ดาวตามที่ครูตกลงกับนักเรยี น
9. นักเรียนอ่านบตั รคาพร้อมกัน
10. นักเรียนทาแบบฝกึ หัด
11. นกั เรยี นรว่ มกันสรปุ เรือ่ งคาควบกลา้ ซง่ึ จะใช้ในชีวติ ประจาวนั ได้ ในการเขียนคาตา่ งๆ

ขั้นที่ 4 ขั้นสือ่ สารและนาเสนอ
11.นกั เรียนนาเสนอการทาแบบฝึกหัด โดยครูใช้ไม้เรยี กเลขที่ เพ่อื ใหน้ กั เรยี นนาเสนอที

ละคน เพอื่ นๆช่วยกัน
ตรวจสอบความถกู ต้อง

ข้ันท่ี 5ขั้นประเมินเพ่ือเพ่ิมคุณคา่ บรกิ ารสังคมและจติ สาธารณะ
12. นกั เรยี นร่วมกันแสงดความคิดเห็น โดยครใู ชค้ าถามตอ่ ไปนี้
- นกั เรยี นสามารถนาความรเู้ กีย่ วกับเร่ืองทเี่ รียนไปใชป้ ระโยชนใ์ นสังคมไดอ้ ย่างไร

3.3 คุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ : Attitude (A) ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซ่อื สตั ย์สุจริต มวี นิ ัย ใฝ่
เรยี นรู้ อยูย่ ่างพอเพียง มุง่ ม่นั ในการทางาน รกั ความเปน็ ไทย มจี ิตสาธารณะ

6. สื่อ/อปุ กรณ/์ แหลง่ การเรยี นรู้

1. แบบฝึกหัด 2. ซดี ไี ก่แจ้ 3. หนงั สือวรรณคดีลานาชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 2

4. ไม้เรียกเลขท่ี 5.คาถาม 6.ปรศิ นาคาทาย

7.บตั รคาศพั ท์ 8. หนังสอื หลกั ภาษาเลม่ 3ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 2

7. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้

การประเมิน วธิ ีการ เครื่องมือ
ดา้ นความรู้ (K) -การตอบคาถาม
-คาถาม
-ทาแบบฝกึ หดั -แบบฝึกหดั

ด้านทักษะและกระบวนการ (P) -ทักษะการอา่ น -แบบประเมนิ การอ่าน

-ทักษะการเขียน -แบบประเมนิ การเขยี นเลา่ ประสบการณ์

-ทักษะการคดิ วเิ คราะห์ -แบบฝกึ หัด

ด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและค่านิยม (A) -สงั เกตพฤตกิ รรมในการรว่ มกจิ กรรม -แบบสงั เกตพฤตกิ รรม

การทางานกลมุ่

-สงั เกตพฤตกิ รรมการใช้คาควบกล้า

8. กจิ กรรมเสนอแนะ

............................................................................................................................. .............................................................................
............................................................................................................................. .............................................................................
........................................................................................................................................................ ..................................................

ลงชื่อ.............................................ครผู สู้ อน ลงช่ือ...................................................ฝ่ายวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงช่ือ................................................... ผู้บรหิ าร
(...........................................................)

สปั ดาหท์ ่ี 3

โรงเรียนขจรเกยี รติพฒั นา
แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรียนที่ ……2…/…….……... ชือ่ ผสู้ อน ….…..….................................................……...
กลุม่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 7 นกั คิดสมองใส ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 2 จานวน 6 คาบ

เรื่อง นักคิดสมองใส

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชวี้ ัด

มาตรฐานท่ี ท 2.1ใชก้ ระบวนการเขยี นเขียนสือ่ สาร เขียนเรยี งความ ย่อความ และเขยี นเรอ่ื งราวในรปู แบบตา่ งๆ
เขยี นรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ คว้าอยา่ งมีประสิทธภิ าพ

ตัวช้ีวดั ที่ ป 2/3เขยี นเร่ืองสั้นๆ ตามจนิ ตนาการ
ตวั ชวี้ ดั ท่ี ป 2/4 มีมารยาทในการเขยี น
มาตรฐานท่ี ท 4.1 เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทยการเปลย่ี นแปลงของภาษาและพลงั ของภาษา
ภูมปิ ญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบตั ิของชาติ
ตัวชี้วดั ท่ี ป 2/2 เขียนสะกดคาและบอกความหมาย ของคา
มาตรฐานที่ ท 5.1เข้าใจและแสดงความคดิ เหน็ วจิ ารณว์ รรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอยา่ งเหน็ คณุ ค่าและนามาประยกุ ต์ใช้ใน
ชวี ติ จริง
ตวั ชว้ี ดั ท่ี ป 2/2 รอ้ ง บทร้องเลน่ สาหรบั เด็กในทอ้ งถ่นิ

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด

การอา่ นจับใจความสาคัญ คือ การอ่านเพอ่ื จบั ใจความหรอื ขอ้ คดิ ความคิดสาคญั หลักของข้อความ หรือเร่อื งที่อ่าน
การอ่านจบั ใจความสาคัญ ถอื เปน็ ทกั ษะสาคญั ทใ่ี ชใ้ นการอา่ นเพ่อื การสื่อสารมากทส่ี ดุ เพราะเปน็ พืน้ ฐานสาคัญในการศึกษาหา
ความรู้ จึงควรฝกึ ฝนให้เกิดความชานาญ

การเขียนตามจนิ ตนาการ คอื การเขียนเรื่องท่มี าจากความคดิ ความรสู้ กึ ความใฝ่ฝัน ของผเู้ ขียนเอง เปน็ การเขียน
แบบอสิ ระ ผู้เขียนควรมีความคดิ สร้างสรรค์และชา่ งสังเกต

อกั ษรนาคอื คาท่ีมีพยญั ชนะ 2 ตวั เรยี งกัน ประสมสระเดยี ว ผ้เู รียนตอ้ งอ่านและเขยี นให้ถูกตอ้ งจงึ จะสอื่ ความไดต้ รง
ความหมาย

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

1.เขา้ ใจลกั ษณะของคาทีม่ ีอกั ษรนา (K)
2.ใช้จินตนาการในการคดิ เร่อื งราวตา่ ง ๆ (K)
3.อธิบายความหมาย และหลกั การอ่านจบั ใจความสาคัญ (K)

4.อา่ นเรื่องได้คลอ่ งแคลว่ รวดเร็วและถกู ต้องตามอกั ขรวิธี (P) สาระการเรียนรทู้ อ้ งถ่นิ
5.แยกข้อเทจ็ จรงิ และขอ้ คดิ เห็นจากเรอ่ื งทอี่ ่าน (P)
6.เขยี นเรอื่ งสน้ั ๆ ตามจนิ ตนาการได้ (P)
7.อา่ นออกเสยี งคาทม่ี ีอักษรนาได้ (P)
8.ตระหนกั ถงึ ความสาคญั ของการรจู้ กั ใช้จินตนาการอย่างสรา้ งสรรค์ (A)
9.เห็นความสาคญั ของการอ่านและมารยาทในการอ่าน (A)
10.เหน็ ความสาคัญของการอ่านออกเสยี งคาอย่างถกู ต้อง (A)

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

3.1 ความรู้ : Knowledge (K) การอ่านจบั ใจความอ่าน
คลอ่ งร้องเล่น สายรุ้ง การเขยี นตามจินตนาการ อักษรนา ( ห นา
และ อ นา )
3.2 กระบวนการจัดการเรยี นรู้ : Process (P)

5. กิจกรรมการเรยี นรู้

คาบที่ กิจกรรมการเรียนการสอน

คาบที่ 1-2 สาระสาคัญ
การอ่านจบั ใจความสาคัญ คือ การอ่านเพอ่ื จบั ใจความหรอื ขอ้ คดิ ความคิดสาคัญหลกั ของ
การอา่ นจับ
ใจความ ข้อความ หรอื เรือ่ งที่อา่ น
การอ่านจบั ใจความสาคัญ ถอื เปน็ ทกั ษะสาคญั ทใ่ี ชใ้ นการอา่ นเพ่อื การสอื่ สารมากทส่ี ุด เพราะเปน็
พ้นื ฐานสาคัญในการศึกษาหาความรู้ จงึ ควรฝกึ ฝนใหเ้ กดิ ความชานาญ
ขั้นที่ 1 ขั้นรวบรวมขอ้ มลู

4. ครูนาเข้าสบู่ ทเรียนโดยนาภาพรงุ้ ใหน้ กั เรียนดู โดยใชค้ าถามดงั น้ี
- นักเรยี นรู้จกั สายรงุ้ หรอื ไม่
- สายรงุ้ มีกสี่ ี
- สายรุ้งเกดิ จากอะไร

2.นกั เรยี นเขา้ กลมุ่ ศึกษาเรือ่ ง สายรุ้ง แล้วร่วมกนั สนทนาโดยใช้คาถามดงั น้ี
- หลงั จากทีน่ กั เรยี นได้ศกึ ษาเร่อื งสายรุ้งแล้วรสู้ ึกอยา่ งไรกับบทความน้ี
- บทความนใ้ี หข้ ้อคิดอะไรบา้ ง

-นักเรยี นคิดว่าทาไมรุ้งกนิ นา้ ที่เกดิ ขนึ้ เองตามธรรมชาติ จงึ เกิดหลงั ฝนตก เฉพาะตอน
เชา้ หรือตอนเยน็ เทา่ น้ัน
ขนั้ ที่ 2 ขั้นคิดวเิ คราะหแ์ ละสรุปความ

3. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั วิเคราะหเ์ ก่ียวกบั เรอ่ื งท่ีอา่ น โดยครูใชค้ าถามดงั น้ี
- ตัวละครในเร่อื งมใี ครบา้ ง มีเหตุการณอ์ ะไรเกิดข้นึ บา้ ง

4. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกันสรุปใจความสาคัญของเร่ืองสายร้งุ และต้ังคาถามกลุ่มละ 5

คาถาม

5.ให้นักเรยี นแต่ละกลมุ่ คดิ ประเมินเพื่อเพ่ิมคณุ ค่าโดยครูใชค้ าถามดงั ต่อไปนี้

- จากเรื่องท่ีอ่านนกั เรียนสามารถนาไปใช้ในชวี ติ ประจาวันอยา่ งไร

ขน้ั ท่ี 3 ข้ันปฏบิ ัติและสรปุ ความร้หู ลงั การปฏบิ ัติ

6. เมอ่ื นักเรียนอา่ นจบแลว้ ครใู หน้ ักเรียนสรปุ เรือ่ งทีอ่ า่ น
7. ครูสมุ่ ถามนักเรียนโดยใช้ไมเ้ รยี กเลขท่ี ให้สรุปเรือ่ งใจความสาคญั
ข้นั ที่ 4 ขั้นส่อื สารและนาเสนอ
8. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ออกมานาเสนอการอ่านจบั ใจความเรอื่ งสายรงุ้ ประมาณ 4-5 คน
ครูสุ่มเรยี กนักเรียนโดยใช้ไม้เรยี กที่
ขน้ั ท่ี 5ขั้นประเมินเพ่ือเพิ่มคุณคา่ บรกิ ารสังคมและจิตสาธารณะ
9. นักเรยี นช่วยกันสรปุ บทเรียน ครูสรปุ เพมิ่ เตมิ ด้วยการสมุ่ ถามนักเรียนบางคน เพือ่ เปน็
การประเมนิ ความเขา้ ใจไปในตัวด้วย
10. นกั เรยี นรว่ มกันแสงดความคิดเห็น โดยครใู ชค้ าถามตอ่ ไปน้ี

- นักเรยี นสามารถนาความรเู้ กย่ี วกับเรอ่ื งทเี่ รียนไปใช้ประโยชน์ในสังคมได้อย่างไร

คาบที่ 3-4 สาระสาคญั
การเขยี นตามจินตนาการ คอื การเขียนเรอื่ งที่มาจากความคิด ความรูส้ ึก ความใฝ่ฝนั ของ
การเขียนตาม
จินตนาการ ผ้เู ขียนเอง เปน็ การเขยี นแบบอสิ ระ ผเู้ ขียนควรมีความคิดสรา้ งสรรคแ์ ละชา่ งสงั เกต

ข้นั ท่ี 1 ขั้นรวบรวมขอ้ มูล

1. ครสู นทนาซกั ถามนักเรียน เกี่ยวกบั ความหมายของคาวา่ จินตนาการ
2. นักเรยี นศึกษาความรเู้ รือ่ ง การเขยี นตามจินตนาการ แล้วรว่ มกนั โดยครูใชค้ าถาม
ต่อไปนี้

- จินตนาการหมายถงึ อะไร
- นกั เรยี นเคยเขียนเรอื่ งตามจินตนาการหรอื ไม่
ข้ันที่ 2 ขนั้ คิดวเิ คราะห์และสรุปความ
3. นักเรียนดตู ัวอย่างการเขยี นเรื่องตามจนิ ตนาการ แลว้ รว่ มกนั วเิ คราะหโ์ ดยครใู ชค้ าถาม
ตอ่ ไปนี้
- งานเขียนทน่ี ักเรียนอา่ นเป็นเรอ่ื งราวเกีย่ วกบั อะไร
- การเขยี นตามจินตนาการมลี กั ษณะอยา่ งไร
4. นกั เรยี นแตล่ ะกลุม่ คิดประเมนิ เพอื่ เพมิ่ มลู ค่าโดยครใู ชค้ าถามต่อไปนี้

คาบที่ 5-6 - นกั เรียนสามาถนาความรทู้ ไ่ี ด้รับไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวันได้อย่างไร
อักษรนา ขน้ั ท่ี 3 ขั้นปฏบิ ัติและสรุปความร้หู ลังการปฏบิ ตั ิ

5. นักเรียนฝกึ เขยี นเรอ่ื งตามจินตนาการตามความสามารถของนักเรยี น
6. นกั เรยี นรว่ มกันสรปุ เกยี่ วกับการเขยี นตามจนิ ตนาการ และครอู ธบิ ายเพ่ิมเติมดังน้ี การ
เขียนตามจินตนาการ คือการเขยี นเร่ืองทีม่ าจากความคิด ความรสู้ กึ ความใฝฝ่ นั ของผูเ้ ขียนเอง
เป็นการเขยี นแบบอสิ ระ ผูเ้ ขียนควรมคี วามคดิ สร้างสรรคแ์ ละช่างสงั เกต
ขน้ั ท่ี 4 ขั้นสื่อสารและนาเสนอ
7.นักเรยี นนาเสนอผลงาน โดยจดั แสดงปา้ ยนเิ ทศ
ขั้นที่ 5ข้ันประเมินเพื่อเพิม่ คุณค่าบรกิ ารสังคมและจติ สาธารณะ
8. นกั เรยี นร่วมกนั แสงดความคิดเหน็ โดยครใู ช้คาถามตอ่ ไปน้ี
- นักเรียนสามาถนาความรู้เกี่ยวกบั เร่ืองทเ่ี รียนไปใช้ประโยชนใ์ นสังคมไดอ้ ย่างไร
สาระสาคญั
อักษรนาคอื คาท่ีมีพยัญชนะ 2 ตัวเรียงกนั ประสมสระเดียว ผูเ้ รียนตอ้ งอ่านและเขยี นให้
ถกู ต้องจงึ จะส่ือความได้ตรงความหมาย
ขน้ั ที่ 1 ข้ันรวบรวมข้อมูล
11. ครนู าภาพมาติดบนกระดานดา แล้วรว่ มกันสนทนาโดยครใู ชค้ าถามดังน้ี

-คาที่ติดบนกระดานดามคี าวา่ อะไรบา้ ง

กหุ ลาบ จดหมาย หนอ่ ไม้ หลอดไฟ

*นกั เรยี นศึกษาเรอ่ื ง ห นา แล้วร่วมกันสนทนาโดยครูใชค้ าถามดงั นี้
- คาในภาพมีคาใดทเ่ี หมือนกนั ( ห )
- มีพยัญชนะท่ตี ามหลัง ห หรือไม่
- คาเหลา่ น้ันเรียกวา่ อะไรรู้หรือไม่ ( ห นา )
2. นกั เรยี นฟงั ครูอธบิ ายเร่ือง ห นา
3. ครนู าบัตรคา อ นา ย มาติดบนกระดานดา เช่น

* นักเรียนศึกษาเร่อื ง อ นา ย แลว้ ร่วมกนั สนทนาโดยครูใช้คาถามดังน้ี
- คาในภาพมคี าใดท่เี หมอื นกัน ( อ )
- มีพยัญชนะท่ีตามหลงั อ หรือไม่ ( ย)
- คาเหลา่ น้ันเรียกวา่ อะไรรหู้ รือไม่ ( อ นา ย )

อยา่ อยู่ อยา่ ง อยาก

4. นกั เรียนฟงั ครอู ธิบายเร่ือง อ นา ย
ขั้นที่ 2 ขัน้ คดิ วเิ คราะห์และสรปุ ความ

5. นักเรยี นช่วยกนั วเิ คราะห์วา่ คาในแบบฝึกหดั คาใดบา้ งทเ่ี ป็น ห นา หรอื อ นา ย
6. นกั เรยี นแตล่ ะกลุม่ คิดประเมินเพ่ือเพมิ่ มลู คา่ โดยครใู ช้คาถามต่อไปน้ี

- นักเรยี นสามาถนาความรทู้ ไ่ี ดร้ บั ไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ยา่ งไร
ขน้ั ที่ 3 ขั้นปฏิบัตแิ ละสรุปความรู้หลงั การปฏบิ ตั ิ

7. ครแู จกบตั รคาศพั ท์เปน็ กลมุ่ เช่น เหงา หงาย หลาน ถล่ม จรวด ตลงิ่ ฯลฯ
8. ให้นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ส่งตัวแทนออกมาติดโดยแยกกลมุ่ คาอกั ษรนา ห นา และ อ นา
9. กล่มุ ใดตอบถกู ใหแ้ รงเสรมิ เปน็ คะแนนกลมุ่ หรอื ดาวตามท่คี รูตกลงกับนกั เรยี น
10. นักเรยี นรว่ มกันอ่านบตั รคาพรอ้ มกนั
12. นักเรียนทาแบบฝกึ หัด
13. ครสู รปุ ในเรอ่ื งอกั ษรนา ซ่งึ จะใชใ้ นชวี ิตประจาวนั ได้ ในการเขยี นคาต่างๆ
ขั้นที่ 4 ขั้นสือ่ สารและนาเสนอ
14.นักเรียนนาเสนอการทาแบบฝึกหดั โดยครูใช้ไมเ้ รยี กเลขที่ เพอื่ ใหน้ กั เรยี นนาเสนอที
ละคน เพ่ือนๆช่วยกนั

ตรวจสอบความถูกต้อง
ขั้นที่ 5ขั้นประเมนิ เพื่อเพ่มิ คุณคา่ บริการสังคมและจติ สาธารณะ

15. นักเรียนร่วมกนั แสงดความคิดเห็น โดยครใู ช้คาถามต่อไปนี้
- นกั เรียนสามาถนาความร้เู ก่ียวกับเร่ืองทเี่ รียนไปใช้ประโยชนใ์ นสังคมไดอ้ ยา่ งไร

3.3 คณุ ลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ : Attitude (A) ซื่อสตั ยส์ จุ รติ มีวินัย ใฝเ่ รยี นรู้ อยยู่ ่างพอเพยี ง
มุ่งม่นั ในการทางาน รกั ความเปน็ ไทย มจี ิตสาธารณะ

6. สื่อ/อปุ กรณ/์ แหล่งการเรียนรู้

1. แบบฝกึ หดั 2. เพลง ห นา 3. บตั รคา

4. ไมเ้ รียกเลขท่ี 5.คาถาม 6.ภาพสายรุ้ง

7. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้

การประเมนิ วิธกี าร เครอื่ งมือ
-คาถาม
ดา้ นความรู้ (K) -การตอบคาถาม -แบบฝึกหดั
-แบบประเมินการอา่ น
-ทาแบบฝกึ หัด -แบบประเมนิ การเขียน
-แบบฝกึ หดั
ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ (P) -ทกั ษะการอา่ น

-ทักษะการเขยี น

-ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์

ด้านคณุ ธรรม จริยธรรมและคา่ นิยม (A) -สงั เกตพฤตกิ รรมในการร่วมกจิ กรรม -แบบสังเกตพฤตกิ รรม
การทางานกลมุ่
-สังเกตพฤตกิ รรมการใช้คาอักษรนา

8. กิจกรรมเสนอแนะ

..........................................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .............................................................................
............................................................................................................................. ........................................................................ .....

ลงชือ่ .............................................ครผู สู้ อน ลงช่อื ...................................................ฝ่ายวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชอื่ ................................................... ผู้บรหิ าร
(...........................................................)

สปั ดาหท์ ี่ 4

โรงเรียนขจรเกยี รติพฒั นา
แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรียนท่ี ……2…/……..……... ชื่อผูส้ อน ….…..….................................................……...
กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 8 โลกรอ้ น ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 2 จานวน 6 คาบ

เรือ่ ง โลกร้อน

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วดั

มาตรฐานท่ี ท 1.1ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรแู้ ละความคิดเพอื่ นาไปใช้ตดั สนิ ใจ แก้ปญั หาในการดาเนนิ ชวี ติ
และมนี สิ ัยรักการอา่ น

ตัวชว้ี ดั ท่ี ป 2/1 อ่านออกเสยี งคาคล้องจอง ขอ้ ความ และบทรอ้ ยกรองงา่ ยๆได้อยา่ งถกู ตอ้ ง
ตวั ช้ีวดั ท่ี ป 2/2 อธบิ ายความหมายของคาและข้อความทอ่ี า่ น
ตัวชี้วดั ที่ ป 2/3 ตง้ั คาถามและตอบคาถามเก่ียวกบั เร่ืองทอ่ี า่ น
ตวั ชว้ี ดั ที่ ป 2/4 ระบใุ จความสาคัญและรายละเอยี ดจากเร่อื งทอ่ี ่าน
ตัวชวี้ ดั ที่ ป 2/5 แสดงความคิดเหน็ และคาดคะเนเหตกุ ารณจ์ ากเรือ่ งท่อี า่ น
ตัวชว้ี ัดท่ี ป 2/8 มีมารยาทในการอ่าน

มาตรฐานท่ี ท 2.1ใช้กระบวนการเขยี นเขียนส่อื สาร เขียนเรยี งความ ย่อความ และเขยี นเรอ่ื งราวในรปู แบบตา่ งๆ เขยี น
รายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ คว้าอยา่ ง มีประสทิ ธภิ าพ

ตัวชีว้ ดั ท่ี ป 2/3เขยี นเรอ่ื งสั้นๆ ตามจนิ ตนาการ

ตัวชว้ี ัดที่ ป 2/4มีมารยาทในการเขยี น

มาตรฐานที่ ท 4.1เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทยการเปลีย่ นแปลงของภาษาและพลงั ของภาษา ภมู ปิ ัญญา
ทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ

ตัวช้ีวดั ที่ ป 2/2เขียนสะกดคาและบอกความหมาย ของคา

2.สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

การอา่ นจับใจความสาคัญ คือ การอา่ นเพ่ือจบั ใจความหรอื ข้อคดิ ความคิดสาคญั หลกั ของข้อความ หรอื เร่ืองท่ีอา่ น
การอ่านจบั ใจความสาคญั ถอื เปน็ ทกั ษะสาคัญทใี่ ช้ในการอา่ นเพือ่ การสื่อสารมากทส่ี ดุ เพราะเป็นพ้ืนฐานสาคัญในการศึกษาหา
ความรู้ จึงควรฝกึ ฝนใหเ้ กิดความชานาญ

การเขียนบรรยายภาพเปน็ การเขียนเพือ่ ฝกึ จนิ ตนาการและพฒั นาใหน้ กั เรยี นมที กั ษะในการคิดและการเขยี นสรา้ งสรรค์
คาใหม่ ๆ ให้มีความถูกต้องมากย่งิ ขน้ึ

คาบางคาท่ีประวสิ รรชนยี ์ และคาทไี่ ม่ประวสิ รรชนีย์การเขียนและรูค้ วามหมายของคาท่ีถูกต้อง ทาใหส้ ามารถนาคาไป
ใช้ในชีวิตประจาวนั ได้

3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

1.อธบิ ายความหมาย และหลกั การอา่ นจบั ใจความสาคญั (K)
2.รู้และเขา้ ใจหลักการเขียนบรรยายภาพ (K)
3. ร้แู ละเขา้ ใจเรื่องคาทป่ี ระวสิ รรชนีย์ และคาทไี่ ม่ประวสิ รรชนยี ์ได้ (K)
4.อ่านเรื่องไดค้ ลอ่ งแคลว่ รวดเรว็ และถกู ต้องตามอกั ขรวธิ ี (P)
5. เขยี นบรรยายภาพได้ถูกต้อง(P)
6.อ่านและเขียนคาทปี่ ระวสิ รรชนีย์ และคาทีไ่ มป่ ระวิสรรชนีย์ไดถ้ ูกต้อง (P)
7.แยกขอ้ เทจ็ จริงและขอ้ คดิ เหน็ จากเร่อื งทอี่ า่ น (P)
8.กระตอื รือร้นและมีส่วนรว่ มกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และมมี ารยาทในการเรยี น (A)
9. มมี ารยาทในการเขียนภาษาไทยและมคี วามกระตือรอื รน้ (A)
10.เห็นความสาคญั ของการอ่านและมารยาทในการอา่ น (A)

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถ่ิน

3.1 ความรู้ : Knowledge (K) การอา่ นจบั ใจความ เรอ่ื งโลกรอ้ น
การเขียนบรรยายภาพ คาที่ประวิสรรชนีย์ และคาทไ่ี มป่ ระวิสรรชนีย์
3.2 กระบวนการจัดการเรยี นรู้ : Process (P)

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้

คาบท่ี กจิ กรรมการเรียนการสอน

คาบท่ี 1-2 สาระสาคญั

การอา่ นจบั ใจความสาคญั คือ การอา่ นเพอ่ื จบั ใจความหรอื ขอ้ คดิ ความคิดสาคญั หลักของ

การอ่านจบั ใจความ ขอ้ ความ หรอื เรอ่ื งท่ีอา่ น

เรื่อง…โลกรอ้ น การอา่ นจบั ใจความสาคัญ ถอื เปน็ ทกั ษะสาคญั ท่ีใชใ้ นการอา่ นเพอ่ื การส่อื สารมากทสี่ ุด เพราะเปน็

พ้นื ฐานสาคัญในการศกึ ษาหาความรู้ จงึ ควรฝกึ ฝนใหเ้ กิดความชานาญ

ขนั้ ที่ 1 ขน้ั รวบรวมข้อมูล

1.ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สนทนา โดยครใู ช้คาถามกระต้นุ ความคดิ ดังนี้

-นกั เรียนเคยได้ยนิ เกี่ยวกับโลกรอ้ นหรือไม่

-นกั เรียนคิดว่าโลกรอ้ นเกิดจากอะไร ใหน้ กั เรียนชว่ ยกันตอบ เพ่ือโยงเข้าสสู่ าระการ

เรยี นรู้

คาบท่ี 3-4 นักเรียนทบทวนเกี่ยวกบั การอา่ นจับใจความโดยครูใชค้ าถามดงั น้ี
* ในการตอบคาถามใหน้ ักเรียนใชไ้ มเ้ รียกเลขที่ เพื่อให้นกั เรยี นตอบคาถามทลี ะคน
การเขยี นบรรยาย
ภาพ โดยถามกอ่ นจะเรยี กเลขท่ีเพื่อใหท้ กุ คนไดค้ ิดในแต่ละคาถามควรให้นักเรยี นนาเสนอ 4-5 คน
2.นกั เรียนเข้ากลมุ่ ศึกษาเรื่อง โลกรอ้ นโดยครูใชค้ าถามดงั นี้
- จากการอา่ นเรอ่ื งโลกร้อนนกั เรยี นคดิ ว่าโลกเรารอ้ นเพราะอะไร
- นักเรยี นจะช่วยอยา่ งไรเพอ่ื ลดโลกรอ้ น

ข้ันท่ี 2 ขน้ั คดิ วเิ คราะหแ์ ละสรุปความ
4. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ รว่ มกันสรปุ ใจความสาคัญของเรื่องโลกรอ้ น

5.ให้นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ คิดประเมินเพ่ือเพม่ิ คุณคา่ โดยครใู ชค้ าถามดังตอ่ ไปนี้

- ตัวละครในเรอื่ งมีใครบา้ ง มีเหตกุ ารณ์อะไรเกดิ ขึน้ บา้ ง

- จากเรือ่ งทีอ่ ่านนกั เรียนสามารถนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั อย่างไร
ขัน้ ท่ี 3 ข้ันปฏบิ ตั ิและสรปุ ความรหู้ ลังการปฏิบตั ิ

6. นักเรยี นทากิจกรรมการถามตอบจากเรือ่ งที่ศกึ ษาและตงั้ คาถามกล่มุ ละ 10 คาถาม
7. นกั เรียนรว่ มกนั สรปุ ขอ้ คดิ ท่ไี ดจ้ ากการอ่านเร่อื ง โลกร้อน
ข้ันท่ี 4 ขั้นสอื่ สารและนาเสนอ
8. นักเรียนนาเสนอคาถาม โดยครูใช้ไม่เรียกเลขทเ่ี รยี กนักเรยี นออกมานาเสนอ
ขน้ั ที่ 5ข้ันประเมินเพ่ือเพ่มิ คุณค่าบริการสงั คมและจติ สาธารณะ
9. นักเรียนช่วยกนั สรปุ บทเรยี น โดยครใู ช้คาถามต่อไปน้ี

- นักเรียนสามารถนาความรเู้ กยี่ วกบั เรอ่ื งที่เรียนไปใชป้ ระโยชนใ์ นสังคมอยา่ งไร
สาระสาคัญ

การเขียนบรรยายภาพเปน็ การเขียนเพอ่ื ฝกึ จินตนาการและพัฒนาให้นักเรยี นมที ักษะใน

การคดิ และการเขียนสรา้ งสรรคค์ าใหม่ ๆ ใหม้ ีความถูกตอ้ งมากยงิ่ ขน้ึ

ข้นั ท่ี 1 ขนั้ รวบรวมข้อมูล
1. นกั เรียนดตู ัวอยา่ งการเขียนบรรยายภาพ แล้วรว่ มกนั สนทนาโดยครใู ชค้ าถามตอ่ ไปน้ี
- การเขยี นบรรยายภาพดังกลา่ วนกั เรยี นคดิ วา่ ดหี รอื ไมเ่ พราะอะไร
- นกั เรยี นทราบหรือไมว่ ่าการเขยี นบรรยายภาพมหี ลักการเขยี นอย่างไร
2. ให้นักเรยี นศกึ ษาความรเู้ รอ่ื งการเขียนบรรยายภาพ แลว้ ร่วมกันสนทนาโดยใช้คาถาม

ดงั นี้
- นกั เรยี นเคยเขียนบรรยายภาพหรือไม่
- นกั เรยี นมเี ทคนคิ การเขียนบรรยายภาพอยา่ งไร

ขน้ั ท่ี 2 ข้นั คดิ วเิ คราะห์และสรุปความ
2. นกั เรยี นดรู ูปภาพแลว้ ร่วมกนั วเิ คราะหโ์ ดยครูใชค้ าถามดังนี้

- ภาพทน่ี ักเรียนเหน็ มีองค์ประกอบอะไรบ้าง

- การเขียนบรรยายภาพมคี วามสาคญั อย่างไร

- นักเรยี นมีวธิ กี ารช่วยหมีท่ีตดิ บนนา้ แขง็ ไดอ้ ยา่ งไร

3. นกั เรยี นชว่ ยกันเขยี นบรรยายภาพบนกระดาน เพือ่ นตรวจสอบความถกู ต้อง ครแู นะนา

เพม่ิ เตมิ วา่ ควรปรบั ปรงุ อยา่ งไร

4. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มคดิ ประเมนิ เพ่ือเพมิ่ มลู คา่ โดยครูใชค้ าถามต่อไปน้ี

- นักเรยี นสามาถนาความรทู้ ่ไี ดร้ บั ไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั ได้อยา่ งไร
* ในการตอบคาถามให้นักเรยี นใช้ไม้เรียกเลขที่ เพอื่ ให้นกั เรยี นตอบคาถามทีละคน โดย
ถามกอ่ นจะเรยี กเลขทเี่ พอื่ ใหท้ กุ คนไดค้ ดิ ในแตล่ ะคาถามควรให้นักเรียนนาเสนอ 4-5
คน

ขน้ั ท่ี 3 ขั้นปฏบิ ตั ิและสรปุ ความรู้หลงั การปฏบิ ัติ

5. ครูแบ่งกลุ่มเปน็ กล่มุ ละ 4 คน แล้วใหแ้ ตล่ ะกล่มุ ดูภาพแลว้ ฝกึ เขียนบรรยายภาพ

6. นกั เรียนสรปุ เกย่ี วกบั การเขียนบรรยายภาพแลว้ ครอู ธบิ ายเพ่มิ เตมิ ดงั น้ี

* การเขียนบรรยายภาพเป็นการใชป้ ระสบการณร์ ่วมกบั จนิ ตนาการของผูเ้ ขียน โดยดู

รายละเอียดตา่ งจากภาพเปน็ พ้ืนฐาน เขียนเปน็ เรอ่ื งราวทีน่ ่าสนใจหรอื สนุกสนานเพลดิ เพลนิ แก่

ผ้อู ่าน

ขั้นที่ 4 ขั้นสื่อสารและนาเสนอ

7.นกั เรยี นนาเสนอผลงานหน้าช้ันเรยี น โดยครูใช้ไม้เรียกท่ี เรยี กนกั เรยี นออกมานาเสนอ

หนา้ ชั้นเรียนประมาณ 4- 5คน

ข้ันที่ 5ข้ันประเมินเพื่อเพ่ิมคุณค่าบริการสงั คมและจิตสาธารณะ

8. นกั เรียนร่วมกนั แสงดความคดิ เห็น โดยครใู ชค้ าถามตอ่ ไปนี้

คาบที่ 5-6 - นักเรยี นสามาถนาความรูเ้ ก่ียวกบั เร่ืองที่เรยี นไปใชป้ ระโยชน์ในสังคมได้อยา่ งไร

คาทป่ี ระวสิ รรชนยี ์ สาระสาคัญ
คาบางคาทป่ี ระวสิ รรชนยี ์ และคาท่ีไมป่ ระวสิ รรชนีย์การเขียนและรคู้ วามหมายของคาที่
และคาทไ่ี ม่ประ ถูกตอ้ ง ทาใหส้ ามารถนาคาไปใช้ในชวี ิตประจาวนั ได้
วสิ รรชนยี ์ ข้ันที่ 1 ข้ันรวบรวมขอ้ มูล

12. นักเรยี นรว่ มกนั เลน่ เกม “ปรศิ นาคาทาย” โดยครเู ขียนประโยคปริศนาบนกระดาน

ดงั นี้
- ผลไม้อะไรเอ่ย เนอื้ สีเหลือง หวานก็เปร้ยี วกม็ ี ( มะม่วง)
- ผลไม้อะไรเอย่ ลูกกลมๆ เปน็ พวงมเี ขียว มว่ ง (องุ่น)
13. นกั เรียนศกึ ษาเรือ่ งคาประวสิ รรชนยี ์และคาทีไ่ ม่ประวิสรรชนยี โ์ ดยครอู ธิบายให้
นักเรยี นฟงั
- คาที่ประวสิ รรชนีย์ คือคาทม่ี ี อะ
- คาทไ่ี มป่ ระวสิ รรชนยี ์ คือคาทม่ี ีไม่มี อะ
ข้ันท่ี 2 ขั้นคดิ วเิ คราะหแ์ ละสรุปความ
3. นักเรียนร่วมกนั วเิ คราะหว์ า่ คาใดทเ่ี ปน็ คาประวสิ รรชนยี แ์ ละคาทีไ่ ม่ประวสิ รรชนีย์
4. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ คิดประเมนิ เพอื่ เพม่ิ มลู ค่าโดยครูใชค้ าถามต่อไปนี้

- นกั เรยี นสามาถนาความรทู้ ่ไี ดร้ ับไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ไดอ้ ย่างไร
ขน้ั ท่ี 3 ข้ันปฏบิ ัติและสรปุ ความรู้หลงั การปฏบิ ตั ิ

5 . นกั เรยี นเข้ากลมุ่ อ่านบัตรคาทมี่ ีคาประวสิ รรชนีย์และคาทีไ่ มป่ ระวสิ รรชนีย์ ตัวแทนกลุ่ม
ออกมาเขยี นคาทม่ี ีประวิสรรชนีย์และคาท่ีไมป่ ระวสิ รรชนียจ์ ากบตั รคาทนี่ กั เรยี นได้รบั ไปกลมุ่ ใด
ตอบถูกให้แรงเสรมิ เปน็ คะแนนกลมุ่

6. ครูตดิ บัตรคาและใหน้ กั เรียนสงั เกตคาต่อไปนี้
- สะพาน ตะเกียง มะม่วง กระตา่ ย (ประวสิ รรชนีย์)
- ขบวน อรอ่ ย ตลก สงบ ( ไมป่ ระวสิ รรชนีย์)
- ประวิสรรชนีย์และคาที่ไมป่ ระวสิ รรชนียต์ า่ งกันอย่างไร

7. นกั เรยี นอ่านบตั รคาพรอ้ มกนั
8. นกั เรยี นทาแบบฝกึ หัด
9. นักเรียนร่วมกันสรุปเรือ่ งประวสิ รรชนีย์และคาที่ไมป่ ระวสิ รรชนยี ์
ขั้นท่ี 4 ข้ันสอื่ สารและนาเสนอ
10.นกั เรียนนาเสนอคาที่ ประวสิ รรชนียแ์ ละคาทีไ่ มป่ ระวสิ รรชนีย์โดยครูใชไ้ ม้เรยี กที่ เรียก
นกั เรียนออกมานาเสนอหนา้ ชั้นเรียนประมาณ 4- 5คน
ข้ันที่ 5ขั้นประเมินเพ่ือเพ่มิ คุณคา่ บริการสังคมและจิตสาธารณะ
11. นักเรยี นร่วมกนั แสงดความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามตอ่ ไปน้ี
- นกั เรยี นสามาถนาความรู้เก่ยี วกับเรื่องทีเ่ รยี นไปใชป้ ระโยชนใ์ นสังคมได้อยา่ งไร
3.3 คณุ ลักษณะทพี่ งึ ประสงค์ : Attitude (A) ซอื่ สตั ย์สจุ รติ มวี ินยั ใฝ่เรยี นรู้ อยู่ยา่ งพอเพยี ง
มุง่ มัน่ ในการทางาน รกั ความเปน็ ไทย มจี ติ สาธารณะ

6. ส่อื /อปุ กรณ์/แหลง่ การเรยี นรู้

1. แบบฝึกหดั 2. บตั รคา 3. หนงั สอื ภาษาไทยชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 2
8.ปรศิ นาคาทาย
4. ไมเ้ รียกเลขท่ี 5.คาถาม

9. หนงั สอื หลักภาษาเลม่ 3 ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2

7. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้

การประเมนิ วิธกี าร เครอ่ื งมือ
ด้านความรู้ (K) -การตอบคาถาม -คาถาม
-แบบฝกึ หดั
-ทาแบบฝกึ หัด -แบบประเมนิ การอา่ น
-แบบประเมินการเขียน
ดา้ นทักษะและกระบวนการ (P) -ทกั ษะการอา่ น -แบบฝึกหัด
-แบบสังเกตพฤตกิ รรม
-ทกั ษะการเขียน

ทกั ษะการคดิ วิเคราะห์

ดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรมและคา่ นยิ ม (A) -สงั เกตพฤตกิ รรมในการรว่ มกจิ กรรม

การทางานกลมุ่

-สงั เกตพฤตกิ รรมการเขยี นคาศัพท์

8. กจิ กรรมเสนอแนะ

........................................................................................................................................... ...............................................................
..........................................................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................... ...............................................................................

ลงช่อื .............................................ครผู สู้ อน ลงชอ่ื ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงช่ือ................................................... ผูบ้ ริหาร
(...........................................................)

สปั ดาหท์ ่ี 5

โรงเรียนขจรเกยี รติพัฒนา
แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรยี นที่ ……2…/…….……... ช่ือผู้สอน ….…..….................................................……...
กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย
หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 8 โลกร้อน ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 2 จานวน 6 คาบ

เร่ือง โลกร้อน

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้ีวดั

มาตรฐานท่ี ท 2.1ใชก้ ระบวนการเขยี นเขียนส่ือสาร เขยี นเรยี งความ ยอ่ ความ และเขียนเรือ่ งราวในรปู แบบต่างๆ
เขียนรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ คว้าอยา่ งมีประสิทธภิ าพ

ตัวชวี้ ัดที่ ป 2/2 เขยี นเรอื่ งสน้ั ๆ เก่ยี วกบั ประสบการณ์
ตัวชว้ี ดั ท่ี ป 2/4 มมี ารยาทในการเขยี น
มาตรฐานท่ี ท 4.1 เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทยการเปลยี่ นแปลงของภาษาและพลงั ของภาษา
ภมู ปิ ัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบัติของชาติ
ตวั ชี้วดั ท่ี ป 2/2 เขยี นสะกดคาและบอกความหมาย ของคา
มาตรฐานที่ ท 5.1เข้าใจและแสดงความคดิ เหน็ วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเหน็ คณุ ค่าและนามาประยกุ ต์ใช้ใน
ชีวติ จรงิ
ตวั ชว้ี ดั ท่ี ป 2/2 รอ้ ง บทร้องเลน่ สาหรบั เดก็ ในท้องถน่ิ

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด

การอา่ นจับใจความสาคัญ คือ การอา่ นเพอื่ จับใจความหรอื ข้อคดิ ความคิดสาคัญหลักของขอ้ ความ หรอื เรือ่ งทอี่ า่ น
การอ่านจบั ใจความสาคญั ถอื เปน็ ทกั ษะสาคญั ที่ใชใ้ นการอา่ นเพือ่ การสื่อสารมากทส่ี ดุ เพราะเป็นพนื้ ฐานสาคญั ในการศึกษาหา
ความรู้ จงึ ควรฝกึ ฝนใหเ้ กดิ ความชานาญ

การเขยี นเรื่องตามประสบการณ์ คือ การเขยี นเรื่องจากส่ิงทเ่ี ราได้กระทา หรือเขียนเรอ่ื งจากสง่ิ ทเี่ ราพบเหน็ เม่ือเวลา
ผา่ นไปจะทาใหเ้ ราจดจาความประทบั ใจเลา่ นัน้

คาท่มี ี รร อา่ นออกเสียงเหมือนพยญั ชนะตน้ ประสมสระ อะ ถ้าคานัน้ ไม่มตี ัวสะกดจะออกเสียงเหมอื นมี น เป็น
ตวั สะกด แตถ่ า้ คานนั้ มตี ัวสะกดจะออกเสียงตามเสียงตวั สะกดของคา การเขียนและรูค้ วามหมายของคาทถี่ ูกตอ้ ง ทาใหส้ ามารถ
นาคาไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั ได้

3. จุดประสงค์การเรียนรู้

1.อธิบายความหมาย และหลกั การอ่านจบั ใจความสาคญั (K)
2. รู้และเขา้ ใจเรื่องคาทมี่ ี รรได้ (K)

3.รแู้ ละเขา้ ใจหลักการเขียนเล่าประสบการณ์ได้ (K)
4.เขียนเล่าประสบการณไ์ ดถ้ ูกตอ้ ง(P)
5.อ่านและเขยี นคาทมี่ ี รรได้ถูกต้อง (P)
6.อ่านเร่อื งได้คลอ่ งแคลว่ รวดเร็วและถกู ต้องตามอักขรวิธี (P)
7.แยกข้อเทจ็ จริงและข้อคิดเหน็ จากเรอ่ื งที่อ่าน (P)
8.มคี วามสนใจในการเรยี นภาษาไทย (A )
9.กระตอื รอื รน้ และมสี ว่ นร่วมกับการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้และมีมารยาทในการเรยี น (A)
10.เหน็ ความสาคญั ของการอ่านและมารยาทในการอ่าน (A)

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรูท้ อ้ งถิ่น

3.1 ความรู้ : Knowledge (K) การอ่านจบั ใจความอา่ นคล่องรอ้ ง
เลน่ รว่ มแก้ไข การเขียนเล่าประสบการณ์(วันลอยกระทง) คาท่มี ี รร
( ร หนั )
3.2 กระบวนการจัดการเรียนรู้ : Process (P)

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้

คาบท่ี กิจกรรมการเรียนการสอน

คาบที่ 1-2 สาระสาคัญ
การอา่ นจบั ใจความสาคญั คือ การอ่านเพือ่ จับใจความหรอื ข้อคดิ ความคิดสาคญั หลกั ของ
การอา่ นจบั
ใจความ ข้อความ หรอื เรอ่ื งทอี่ ่าน
การอา่ นจบั ใจความสาคัญ ถือเปน็ ทกั ษะสาคญั ทีใ่ ช้ในการอา่ นเพ่อื การสือ่ สารมากทสี่ ุด เพราะเปน็
พืน้ ฐานสาคัญในการศึกษาหาความรู้ จงึ ควรฝกึ ฝนใหเ้ กิดความชานาญ
ขั้นที่ 1 ขัน้ รวบรวมข้อมูล

5. ครูนาเขา้ สบู่ ทเรยี นโดยนาภาพรงุ้ ใหน้ ักเรยี นดู โดยใช้คาถามดงั นี้
- นกั เรียนร้หู รือไม่วา่ โลกเรารอ้ นเพราะอะไร
- นกั มีวิธีปอ้ งกันอย่างไร

2.นักเรยี นเข้ากลมุ่ ศกึ ษาเร่ือง ร่วมแกไ้ ข แลว้ ร่วมกนั สนทนาโดยใชค้ าถามดงั นี้
- นกั เรียนชว่ ยกันคดิ คาขวัญเชิญชวนรว่ มกนั ลดภาวะโลกร้อน และเขยี นป้ายติดใน

หอ้ งเรยี น หรอื บรเิ วณโรงเรยี น

ข้นั ท่ี 2 ข้ันคดิ วเิ คราะหแ์ ละสรุปความ

3. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกนั วเิ คราะห์เก่ยี วกบั เร่ืองทีอ่ ่านโดยครูใชค้ าถามดงั น้ี
- ตัวละครในเรือ่ งมีใครบ้าง มเี หตกุ ารณ์อะไรเกดิ ขึ้นบา้ ง

4. นักเรียนแต่ละกลมุ่ รว่ มกันสรปุ ใจความสาคัญของเรือ่ งรว่ มแกไ้ ข และตัง้ คาถามกลมุ่ ละ

10 คาถาม

5.ให้นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ คดิ ประเมินเพือ่ เพมิ่ คณุ ค่าโดยครูใชค้ าถามดงั ตอ่ ไปนี้

- นกั เรยี นสามาถนาความรทู้ ่ไี ดร้ บั ไปใชใ้ นชวี ิตประจาวันไดอ้ ย่างไร
ขนั้ ท่ี 3 ข้ันปฏิบตั ิและสรุปความรหู้ ลังการปฏิบตั ิ

6. เม่ือนกั เรยี นอ่านจบแลว้ ครใู ห้นกั เรียนสรปุ เร่ืองทอี่ ่าน

7. ครูสมุ่ ถามนกั เรียนโดยใชไ้ ม้เรียกเลขที่ ให้สรปุ เรือ่ งใจความสาคญั

ขน้ั ท่ี 4 ข้ันส่อื สารและนาเสนอ

8. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ออกมานาเสนอการอ่านจบั ใจความเรอ่ื งรว่ มแก้ไข ประมาณ 4-5 คน

ครสู ่มุ เรียกนกั เรียนโดยใช้ไม้เรียกท่ี

ขั้นที่ 5ข้ันประเมินเพ่ือเพม่ิ คุณคา่ บริการสังคมและจติ สาธารณะ

9. นกั เรียนช่วยกันสรุปบทเรียน ครสู รปุ เพมิ่ เตมิ ด้วยการสมุ่ ถามนักเรียนบางคน เพ่อื เป็น

การประเมินความเข้าใจไปในตัวดว้ ย

10. นักเรียนร่วมกันแสงดความคิดเหน็ โดยครใุ ชค้ าถามต่อไปน้ี

- นกั เรยี นสามาถนาความรเู้ กี่ยวกับเรอ่ื งท่เี รยี นไปใช้ประโยชนใ์ นสังคมได้อยา่ งไร
คาบที่ 3-4 สาระสาคัญ

การเขยี นเรอ่ื งตาม การเขียนเรอ่ื งตามประสบการณ์ คอื การเขยี นเรื่องจากสิง่ ทเี่ ราได้กระทา หรือเขียนเร่อื ง

ประสบการณ์ จากสงิ่ ทเี่ ราพบเห็น เม่อื เวลาผา่ นไปจะทาให้เราจดจาความประทับใจเลา่ นั้น

ขัน้ ที่ 1 ข้ันรวบรวมขอ้ มลู
5. นกั เรียนร่วมกันสนทนาเพ่ือเขา้ ส่บู ทเรยี นโดยครูใชค้ าถามดังนี้

- นักเรียนร้จู กั วันลอยกระทงหรอื ไม่

- นกั เรียนทากิจกรรมใดบา้ งในลอยกระทง

6. นกั เรียนศึกษาการเขียนเลา่ ประสบการณ์ แล้วร่วมกนั สนทนาโดยใช้คาถามดงั น้ี

- นักเรยี นรจู้ กั คาวา่ ประสบการณห์ รือไม่

- การเขยี นเล่าประสบการณค์ วรเขยี นในลกั ษณะใด

ข้ันที่ 2 ขั้นคิดวิเคราะห์และสรปุ ความ
7. นักเรียนดตู วั อย่างการเขียนเล่าประสบการณแ์ ละรว่ มกนั วิเคราะห์ ถงึ รปู แบบการเขยี น

8. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ คดิ ประเมินเพอื่ เพม่ิ มลู ค่าโดยครูใชค้ าถามตอ่ ไปนี้

- นักเรยี นสามาถนาความรู้ทไี่ ดร้ ับไปใช้ในชีวิตประจาวันไดอ้ ยา่ งไร

ขน้ั ที่ 3 ข้ันปฏบิ ัตแิ ละสรุปความรหู้ ลังการปฏบิ ตั ิ
5. นกั เรยี นเขียนเล่าประสบการณ(์ วันลอยกระทง)

6. นกั เรยี นร่วมกนั สรุปเกย่ี วกบั การเขยี นเลา่ ประสบการณ์ (วนั ลอยกระทง)

ขน้ั ท่ี 4 ขั้นส่ือสารและนาเสนอ

7. นกั เรยี นนาเสนอการเขียนเล่าประสบการณ์(วันลอยกระทง) โดยครูใช้ไมเ้ รียกเลขท่ี เรยี ก

นกั เรยี นออกมานาเสนอหนา้ ชน้ั เรยี นประมาณ 4-5 คน

ขั้นท่ี 5ขั้นประเมนิ เพ่ือเพ่ิมคุณคา่ บริการสังคมและจิตสาธารณะ

8. นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็น โดยครใู ชค้ าถามต่อไปน้ี

คาบที่ 5-6 - นักเรยี นสามาถนาความรู้เก่ียวกบั เรอ่ื งทเ่ี รยี นไปใช้ประโยชน์ในสงั คมได้อย่างไร
คาทมี่ ี รร สาระสาคัญ

คาทม่ี ี รร อา่ นออกเสยี งเหมอื นพยญั ชนะตน้ ประสมสระ อะ ถ้าคานัน้ ไมม่ ีตัวสะกดจะออก

เสยี งเหมือนมี น เป็นตัวสะกด แต่ถ้าคานน้ั มีตวั สะกดจะออกเสียงตามเสยี งตวั สะกดของคา การ

เขียนและร้คู วามหมายของคาทถ่ี กู ตอ้ ง ทาใหส้ ามารถนาคาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ได้

ขั้นที่ 1 ขน้ั รวบรวมขอ้ มูล บันทกึ ใหด้ จู งดี
14. นักเรยี นรว่ มกันอา่ นบทร้อยกรอง
บันดาลลงบนั ได

รน่ื เรงิ บนั เทงิ มี เสียงบันลอื สนน่ั ดงั

15. นักเรยี นศึกษาเร่อื งคาทีม่ ี รร (ร หัน) แลว้ ร่วมกันสนทนาโดยใชค้ าถามดังน้ี

- นักเรยี นรูจ้ กั คาใดท่ีมี ร หันบ้าง ให้ยกตวั อย่างมา คนละ 1 คา ครเู ขียนบนกระดาน
ดา

ข้ันท่ี 2 ข้นั คดิ วเิ คราะหแ์ ละสรปุ ความ

16. ครูตดิ บัตรคาและใหน้ กั เรยี นสงั เกตคาต่อไปน้ี

- พรรษา หรรษา กรรไกร สรรพคณุ สรรพสนิ ค้า บรรพชา บรรพบรุ ุษ
วรรณคดี

- คาทม่ี ี ร หัน ที่ออกเสยี งเป็นสระ –ะ + น

- คาทม่ี ี ร หัน ทีอ่ อกเสยี งเป็นสระ –ะ + บ
4. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ คิดประเมินเพอ่ื เพิม่ มลู คา่ โดยครูใชค้ าถามต่อไปนี้

- นักเรยี นสามาถนาความรทู้ ี่ไดร้ ับไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ได้อยา่ งไร
ขน้ั ที่ 3 ข้ันปฏิบัตแิ ละสรุปความร้หู ลังการปฏบิ ตั ิ

5 . นกั เรียนเข้ากลมุ่ อา่ นบัตรคาทมี่ ี ร หัน ตวั แทนกลมุ่ ออกมาเขียนคาที่มี ร หัน จากบัตร
คาที่นักเรียนไดร้ บั ไปกลมุ่ ใดตอบถกู ใหแ้ รงเสรมิ เป็นคะแนนกล่มุ

6. นักเรยี นร่วมกนั อา่ นคาศัพท์พรอ้ มกนั

7. นกั เรยี นทาแบบฝึกหัด

8. นกั เรยี นรว่ มกนั สรุปเรอื่ ง ร หนั ซึ่งจะใช้ในชีวิตประจาวนั ได้ ในการเขียนคาตา่ งๆ

ข้ันท่ี 4 ขั้นส่อื สารและนาเสนอ

9.นกั เรียนนาเสนอคาที่ ร หนั โดยครูใชไ้ มเ้ รยี กท่ี เรียกนกั เรยี นออกมานาเสนอหน้าช้ันเรียน

ประมาณ 4- 5คน

ขั้นที่ 5ขั้นประเมนิ เพื่อเพม่ิ คุณค่าบรกิ ารสังคมและจิตสาธารณะ
10. นกั เรียนรว่ มกนั แสงดความคิดเหน็ โดยครใู ช้คาถามตอ่ ไปน้ี
- นกั เรียนสามาถนาความรูเ้ กย่ี วกับเรอื่ งทเ่ี รียนไปใช้ประโยชน์ในสงั คมได้อย่างไร

3.3 คุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ : Attitude (A) ซื่อสตั ยส์ จุ รติ มีวนิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ อยู่ยา่ งพอเพียง
มงุ่ มน่ั ในการทางาน รกั ความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ

6. สือ่ /อปุ กรณ/์ แหลง่ การเรียนรู้

1. แบบฝึกหดั 2. บทรอ้ ยกรอง 3. บตั รคา

4. ไมเ้ รยี กเลขที่ 5.คาถาม

7. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้

การประเมิน วิธกี าร เคร่ืองมอื
ด้านความรู้ (K) -การตอบคาถาม -คาถาม
-แบบฝึกหัด
-ทาแบบฝกึ หดั -แบบประเมนิ การอ่าน
-แบบประเมินการเขยี น
ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ (P) -ทักษะการอา่ น -แบบฝกึ หดั
-แบบสังเกตพฤตกิ รรม
-ทักษะการเขียน

-ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์

ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและคา่ นยิ ม (A) -สังเกตพฤตกิ รรมในการร่วมกจิ กรรม

การทางานกลมุ่

-สังเกตพฤตกิ รรมการใช้ คา ศัพท์

8. กจิ กรรมเสนอแนะ

............................................................................................................................. .............................................................................
............................................................................................................................. .............................................................................
.........................................................................................................................................................................................................

ลงชอื่ .............................................ครผู สู้ อน ลงช่อื ...................................................ฝ่ายวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชอ่ื ................................................... ผู้บรหิ าร
(...........................................................)


Click to View FlipBook Version