สัปดาหท์ ี่ 16
โรงเรียนขจรเกยี รติพฒั นา
แผนการจดั การเรยี นรู้
ภาคเรียนที่ ……2…/………………... ชื่อผู้สอน ….…..….................................................……...
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย
หน่วยการเรียนรู้ที่ 11 เดก็ ดี ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 2 จานวน 6 คาบ
เร่ือง เดก็ ดี
1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชว้ี ัด
มาตรฐานท่ี ท 1.1ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความรแู้ ละความคดิ เพ่อื นาไปใช้ตัดสนิ ใจ แก้ปญั หาในการดาเนนิ ชวี ิต
และมีนสิ ัยรักการอา่ น
ตวั ชีว้ ดั ท่ี ป 2/1 อา่ นออกเสยี งคาคลอ้ งจอง ข้อความ และบทร้อยกรองง่ายๆได้อยา่ งถกู ต้อง
ตัวชว้ี ัดที่ ป 2/2 อธิบายความหมายของคาและข้อความที่อา่ น
ตัวชว้ี ดั ท่ี ป 2/3 ตงั้ คาถามและตอบคาถามเก่ยี วกบั เรื่องท่อี า่ น
ตวั ชว้ี ัดท่ี ป 2/4 ระบใุ จความสาคัญและรายละเอียดจากเรือ่ งท่อี ่าน
ตวั ชี้วดั ที่ ป 2/5 แสดงความคิดเห็นและคาดคะเนเหตกุ ารณจ์ ากเรอื่ งทีอ่ า่ น
ตัวชวี้ ัดท่ี ป 2/8 มมี ารยาทในการอา่ น
มาตรฐานทที่ 3.1สามารถเลอื กฟังและดสู ามารถเลอื กฟังและดอู ย่างมีวิจารณญาณและพูดแสดงความร้คู วามคิดและความรสู้ ึก
ในโอกาสตา่ งๆอย่างมวี ิจารณญาณและสร้างสรรค์
ตัวชว้ี ดั ท่ี ป 2/6 พูดส่ือสารได้ชดั เจน ตรงตามวตั ถปุ ระสงค์
ตวั ชี้วดั ท่ี ป 2/7 มีมารยาท ในการฟงั การดู และการพดู
มาตรฐานที่ ท 4.1เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทยการเปล่ยี นแปลงของภาษาและพลงั ของภาษา ภมู ปิ ัญญา
ทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบัตขิ องชาติ
ตัวช้ีวดั ท่ี ป 2/2เขยี นสะกดคาและบอกความหมาย ของคา
2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
การอ่านจบั ใจความสาคญั คือ การอ่านเพอ่ื จบั ใจความหรอื ข้อคิด ความคดิ สาคัญหลักของขอ้ ความ หรือเรือ่ งทอ่ี า่ น
การอา่ นจบั ใจความสาคัญ ถอื เปน็ ทกั ษะสาคญั ทีใ่ ช้ในการอา่ นเพื่อการสือ่ สารมากทสี่ ดุ เพราะเปน็ พ้ืนฐานสาคัญในการศึกษาหา
ความรู้ จึงควรฝกึ ฝนใหเ้ กดิ ความชานาญ
การเขยี นเรือ่ งตามประสบการณ์ คือ การเขยี นเร่ืองจากสิง่ ทเี่ ราไดก้ ระทา หรือเขียนเรื่องจากสิ่งทเี่ ราพบเห็น เมอื่ เวลา
ผา่ นไปจะทาใหเ้ ราจดจาความประทบั ใจเล่านั้น
การเขยี นคาและบอกความหมายเปน็ การฝกึ ให้ใช้คาในภาษาไทยอย่างถูกตอ้ ง และ การรคู้ วามหมายของคาทาให้
สามารถนา คามาตรา กบไปใช้ ในชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ย่างถูกต้อง
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1.อธิบายความหมาย และหลกั การอา่ นจบั ใจความสาคัญ (K)
2.รแู้ ละเข้าใจหลกั การเขียนเล่าประสบการณไ์ ด้ (K)
3. รู้และเขา้ ใจหลักการอ่านการเขียนคาท่มี ี มาตรกบ ได้(K)
4.อ่านเรือ่ งได้คลอ่ งแคลว่ รวดเร็วและถูกตอ้ งตามอักขรวธิ ี (P)
5.แยกขอ้ เทจ็ จรงิ และข้อคิดเห็นจากเร่ืองทอี่ ่าน (P)
6.อา่ นและเขียนคาทมี่ มี าตรา กบ ได้ (P)
7.เขียนเล่าประสบการณไ์ ดถ้ ูกตอ้ ง(P)
8.เห็นความสาคญั ของการอ่านและมารยาทในการอ่าน (A)
9.กระตือรอื รน้ และมสี ว่ นร่วมกับการจัดกจิ กรรมการเรยี นรแู้ ละมมี ารยาทในการเรยี น (A)
10.มคี วามสนใจในการเรยี นภาษาไทย (A )
4. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถิ่น
3.1 ความรู้ : Knowledge (K) การอ่านจบั ใจความ เรอื่ งสน้ั ๆ การ
เขียนเล่าประสบการณใ์ นชวี ิตประจาวนั มาตรากบ
3.2 กระบวนการจดั การเรยี นรู้ : Process (P)
5. กิจกรรมการเรียนรู้
คาบที่ กจิ กรรมการเรียนการสอน
คาบท่ี 1-2 สาระสาคัญ
การอ่านจบั ใจความสาคัญ คอื การอา่ นเพ่ือจบั ใจความหรือข้อคิด ความคิดสาคัญหลักของ
การอา่ นจับ
ใจความเรื่องส้นั ขอ้ ความ หรือเรื่องที่อ่าน
การอา่ นจบั ใจความสาคญั ถอื เปน็ ทกั ษะสาคญั ท่ใี ชใ้ นการอา่ นเพ่ือการสื่อสารมากทส่ี ดุ เพราะเปน็
พืน้ ฐานสาคญั ในการศกึ ษาหาความรู้ จงึ ควรฝกึ ฝนใหเ้ กดิ ความชานาญ
ข้นั ท่ี 1 ข้นั รวบรวมข้อมูล
13. ครูนาเขา้ สบู่ ทเรยี นโดยให้ดูภาพ ร่วมกนั สนทนาเพือ่ เขา้ สบู่ ทเรียนโดยครใู ช้คาถามดังนี้
- นักเรยี นเหน็ อะไรในภาพนี้
- ร้สู ึกอยา่ งไรเกี่ยวกบั ภาพ
* ในการตอบคาถามให้นกั เรยี นใช้ไมเ้ รียกเลขที่ เพ่อื ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามทลี ะคน โดย
ถามก่อนจะเรยี กเลขที่เพอื่ ใหท้ กุ คนได้คิดในแตล่ ะคาถามควรให้นกั เรียนนาเสนอ 4-5
คน
2.นกั เรยี นเข้ากลมุ่ ศกึ ษาเรอ่ื ง การเขยี นเร่อื งส้นๆ แลว้ ร่วมสนทนาโดยครูใช้คาถามดังนี้
- นกั เรียนเคยเขียนเร่อื งส้นั ๆหรอื ไม่
- ถ้านกั เรยี นเคยเขยี นเคยเขียนเรอ่ื งอะไร
ขัน้ ท่ี 2 ขั้นคดิ วเิ คราะห์และสรุปความ
3. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ร่วมกันเขยี นจบั ใจความและวิเคราะห์ การเขยี นเรื่องสัน้
4.ใหน้ ักเรียนแต่ละกลมุ่ คิดประเมนิ เพ่ือเพิ่มคณุ คา่ โดยครใู ชค้ าถามดังตอ่ ไปน้ี
- จากเร่อื งทอ่ี า่ นนักเรยี นสามารถนาไปใช้ในชวี ิตประจาวนั อยา่ งไร
ขัน้ ท่ี 3 ข้ันปฏบิ ตั แิ ละสรุปความร้หู ลังการปฏบิ ัติ
5. นักเรียนทากจิ กรรมการถามตอบจากเร่อื งทีศ่ กึ ษาและตงั้ คาถามกลมุ่ ละ 5 คาถาม
6. นักเรยี นร่วมกันสรปุ ข้อคดิ ทไี่ ดจ้ าก การเขยี นเรอื่ งสน้ั ๆ
ขนั้ ท่ี 4 ขั้นส่อื สารและนาเสนอ
7. นักเรยี นนาเสนอคาถาม โดยครูใช้ไมเ้ รยี กเลขทเี่ รียกนักเรยี นออกมานาเสนอ
คาบท่ี 3-4 ขน้ั ที่ 5ข้ันประเมนิ เพื่อเพ่มิ คุณคา่ บริการสังคมและจิตสาธารณะ
8. นกั เรยี นช่วยกนั สรปุ บทเรียน โดยครูใช้คาถามตอ่ ไปน้ี
การเขยี นเล่า - นกั เรียนสามารถนาความรู้เกยี่ วกบั เรอื่ งทเี่ รียนไปใช้ประโยชน์ในสังคมอยา่ งไร
ประสบการณใ์ น
ชีวิตประจาวัน สาระสาคัญ
การเขียนเร่ืองตามประสบการณ์ คอื การเขยี นเรอ่ื งจากสิง่ ทเ่ี ราได้กระทา หรือเขียนเรอื่ ง
จากสง่ิ ทเ่ี ราพบเห็น เม่อื เวลาผา่ นไปจะทาให้เราจดจาความประทับใจเลา่ น้ัน
ข้นั ท่ี 1 ขัน้ รวบรวมขอ้ มูล
1.นกั เรียนรว่ มกนั สนทนาเพ่อื นาเขา้ สบู่ ทเรียนโดยครูใชค้ าถามดงั น้ี
- นักเรยี นเคยเขยี นเล่าประสบการณ์หรอื ไม่
2. นกั เรยี นศึกษาวธิ เี ขยี นเลา่ ประสบการณ์ แลว้ ร่วมกนั สนทนาโดยใชค้ าถามดังนี้
- นกั เรยี นรจู้ กั วิธีการเขยี นเล่าประสบการณห์ รอื ไม่
- นกั เรยี นรหู้ รอื ไมว่ ่าการเรียนเลา่ ประสบการณม์ อี งคก์ ารเขยี นอย่างไรบา้ ง
คาบท่ี 5-6 ขัน้ ท่ี 2 ข้นั คดิ วิเคราะห์และสรุปความ
มาตรา กบ 3.นักเรียนดูตัวอย่างการเขยี นเลา่ ประสบการณ์และร่วมกันวิเคราะห์ ถงึ รูปแบบการเขยี น
4.นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ คดิ ประเมินเพอ่ื เพมิ่ คุณคา่ โดยครูใชค้ าถามดังต่อไปน้ี
- นักเรยี นสามารถนาความรทู้ ่ไี ด้รับไปใชใ้ นชวี ิตประจาวันได้อยา่ งไร
ขน้ั ที่ 3 ขั้นปฏิบัตแิ ละสรปุ ความรู้หลงั การปฏบิ ตั ิ
5.นกั เรียนเขยี นเล่าประสบการณ์ ตามความสนใจของผเู้ รยี น
6.นักเรยี นรว่ มกนั สรปุ เก่ยี วกบั การเลา่ ประสบการณ์
ขั้นท่ี 4 ข้ันส่ือสารและนาเสนอ
7.นักเรยี นนาเสนอการเขยี นเลา่ ประสบการณ์ โดยครูใชไ้ มเ้ รียกเลขทเี่ รียกนักเรียน
ออกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียนประมาณ 4-5 คน
ขั้นที่ 5 ขั้นประเมนิ เพื่อเพิม่ คุณค่าบริการสังคมและจิตสาธารณะ
8.นักเรยี นรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ โดยครูใชค้ าถามดังนี้
- นักเรียนสามารถนาความร้เู กย่ี วกบั เร่ืองทเ่ี รียนไปใชป้ ระโยชน์ในสงั คมได้อย่างไร
สาระสาคญั
การเขยี นคาและบอกความหมายเปน็ การฝกึ ใหใ้ ชค้ าในภาษาไทยอยา่ งถกู ต้อง และ การรู้
ความหมายของคาทาใหส้ ามารถนา คามาตรา กบไปใช้ ในชีวิตประจาวนั ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง
ขั้นที่ 1 ขน้ั รวบรวมขอ้ มลู
47. นกั เรยี นร่วมกันเลน่ เกม “ปริศนาคาทาย” โดยครเู ขียนประโยคปริศนาบนกระดาน
ดังนี้
- ฉันคืออะไร ใกล้ไกลถึงกัน ยกสายฉบั พลนั ทนั ใจคนรนุ่ ใหม่ ( โทรศพั ท์)
- ฉนั คืออะไร มขี าไวก้ ระโดด รอ้ งอบ๊ ๆ (กบ)
- ฉนั คอื อะไรเคลอ่ื นไหวส่ีขา คอยาวจรงิ หนา สงู กว่าช้างเอย (ยรี าฟ)
48. นกั เรยี นศึกษาเรือ่ งมาตราเกอว แล้วรว่ มกนั สนทนาโดยใช้คาถามดงั นี้
- คาทีม่ ีตัวสะกด และไมม่ ตี ัวสะกด ตา่ งกนั อย่างไร
- คาหรือพยางคท์ ีอ่ อกเสียงเหมือน บ เชน่ ป ภ พ ฟ อยา่ งไร ใหน้ กั เรียน
ยกตัวอย่างคามาคนละ 1คา
ขั้นท่ี 2 ขน้ั คดิ วิเคราะห์และสรปุ ความ
49. ครตู ิดบัตรคาทมี่ ีคามาตรา กบ เช่น กราบ บาป ลาภ ภาพ ยีราฟ
50. นกั เรียนเล่นเกมทายคา กบั ภาพ
51. ครอู ธิบายเก่ยี วกบั การอานออกเสียง มาตรา กบ
52. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ คดิ ประเมินเพ่ือเพม่ิ มลู ค่าโดยครใู ช้คาถามต่อไปน้ี
- นกั เรยี นสามาถนาความร้ทู ไ่ี ดร้ บั ไปใช้ในชวี ิตประจาวันได้อยา่ งไร
ข้นั ที่ 3 ขั้นปฏิบตั ิและสรุปความรหู้ ลังการปฏิบตั ิ
53. นักเรียนเข้ากลมุ่ อา่ นบัตรคาทมี่ มี าตรากบ ตัวแทนกลุ่มออกมาเขยี นคาท่มี ีมาตรา
กบ จากบตั รคาท่ีนักเรียนไดร้ ับไปกลมุ่ ใดตอบถูกให้แรงเสรมิ เป็นคะแนนกลุ่ม
54. ครตู ิดบัตรคาและใหน้ กั เรยี นสังเกตคาตอ่ ไปน้ี
- กบ ธปู โทรศพั ท์ แพทย์ เคารพ โลภ อฐิ บุญบาป
55. นกั เรียนฝึกอ่านคามาตรากบจากบัตรคา
56. นกั เรยี นทาแบบฝึกหดั
57. นกั เรยี นร่วมกนั สรปุ เรื่องมาตรา กบ ซง่ึ จะใช้ในชีวติ ประจาวนั ได้ ในการเขียนคา
ต่างๆ
ขัน้ ท่ี 4 ขั้นส่ือสารและนาเสนอ
58. นกั เรียนนาเสนอคาที่มีมาตรา กบโดยครูใช้ไมเ้ รยี กท่ี เรยี กนกั เรยี นออกมานาเสนอ
หน้าช้ันเรียนประมาณ 4- 5คน
ขั้นท่ี 5ข้ันประเมินเพ่ือเพม่ิ คุณคา่ บริการสังคมและจติ สาธารณะ
13. นักเรียนร่วมกันแสงดความคดิ เหน็ โดยครใู ชค้ าถามต่อไปน้ี
- นักเรยี นสามาถนาความรูเ้ กี่ยวกบั เร่ืองท่ีเรียนไปใชป้ ระโยชน์ในสังคมไดอ้ ยา่ งไร
3.3 คณุ ลักษณะท่พี ึงประสงค์ : Attitude (A) ซ่อื สัตยส์ จุ รติ มวี ินัย ใฝ่เรียนรู้ อยยู่ ่างพอเพยี ง
ม่งุ มนั่ ในการทางาน รกั ความเป็นไทย มจี ิตสาธารณะ
6. สอื่ /อปุ กรณ์/แหลง่ การเรยี นรู้
1. แบบฝกึ หดั 2. บัตรคา 3. หนังสอื ภาษาไทยชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 2
4. ไมเ้ รียกเลขท่ี 5.คาถาม 6.ปริศนาคาทาย
7. หนงั สอื หลกั ภาษาเลม่ 4 ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 2
7. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้
การประเมิน วธิ กี าร เครือ่ งมอื
ดา้ นความรู้ (K) -การตอบคาถาม -คาถาม
-ทาแบบฝกึ หัด -แบบฝกึ หัด
ด้านทกั ษะและกระบวนการ (P) -ทกั ษะการอา่ น -แบบประเมนิ การอา่ น
-ทกั ษะการเขยี น -แบบประเมนิ การเขียน
ทักษะการคิดวเิ คราะห์ -แบบฝึกหดั
ด้านคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยม (A) -สงั เกตพฤตกิ รรมในการร่วมกจิ กรรม -แบบสังเกตพฤติกรรม
การทางานกลมุ่
-สงั เกตพฤตกิ รรมการเขียน
8. กจิ กรรมเสนอแนะ
............................................................................................................................. .............................................................................
..........................................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................................
ลงชื่อ.............................................ครผู สู้ อน ลงชอื่ ...................................................ฝ่ายวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)
ลงชือ่ ................................................... ผูบ้ ริหาร
(...........................................................)
สปั ดาหท์ ี่ 17
โรงเรยี นขจรเกยี รตพิ ฒั นา
แผนการจดั การเรยี นรู้
ภาคเรียนท่ี ……2…/………..……... ชื่อผู้สอน ….…..….................................................……...
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 12 ชาตขิ องเรา ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 2 จานวน 6 คาบ
เรื่อง ชาติของเรา
1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้วี ดั
มาตรฐานที่ ท 1.1ใช้กระบวนการอา่ นสรา้ งความรแู้ ละความคิดเพือ่ นาไปใช้ตดั สนิ ใจ แก้ปญั หาในการดาเนนิ ชวี ติ
และมนี สิ ัยรกั การอา่ น
ตัวชี้วัดท่ี ป 2/1 อ่านออกเสยี งคาคลอ้ งจอง ข้อความ และบทรอ้ ยกรองง่ายๆได้อยา่ งถกู ต้อง
ตัวชีว้ ัดที่ ป 2/2 อธบิ ายความหมายของคาและขอ้ ความทอี่ า่ น
ตัวชว้ี ดั ท่ี ป 2/3 ตัง้ คาถามและตอบคาถามเก่ยี วกบั เรือ่ งท่อี า่ น
ตวั ชว้ี ดั ที่ ป 2/4 ระบใุ จความสาคญั และรายละเอยี ดจากเรอื่ งทีอ่ า่ น
ตัวชวี้ ัดท่ี ป 2/5 แสดงความคิดเห็นและคาดคะเนเหตกุ ารณจ์ ากเรอ่ื งที่อ่าน
ตัวช้ีวัดท่ี ป 2/8 มมี ารยาทในการอา่ น
มาตรฐานที่ ท 2.1ใชก้ ระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขยี นเรียงความ ยอ่ ความ และเขยี นเรอ่ื งราวในรปู แบบต่างๆ เขยี น
รายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ ควา้ อย่าง มีประสทิ ธิภาพ
ตัวชี้วัดท่ี ป 2/2เขียนเร่อื งสั้นๆ เกีย่ วกับประสบการณ์
ตัวช้ีวดั ท่ี ป 2/4มีมารยาทในการเขยี น
มาตรฐานท่ี ท 4.1เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทยการเปลยี่ นแปลงของภาษาและพลังของภาษา ภมู ิปัญญา
ทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบตั ขิ องชาติ
ตัวชี้วัดที่ ป 2/2เขียนสะกดคาและบอกความหมาย ของคา
2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
การอา่ นจบั ใจความสาคญั คอื การอ่านเพ่อื จับใจความหรอื ข้อคิด ความคิดสาคัญหลักของข้อความ หรือเรื่องท่ีอ่าน
การอ่านจบั ใจความสาคญั ถือเป็นทกั ษะสาคญั ทีใ่ ชใ้ นการอา่ นเพอื่ การสอื่ สารมากทสี่ ดุ เพราะเปน็ พ้นื ฐานสาคัญในการศึกษาหา
ความรู้ จงึ ควรฝกึ ฝนให้เกดิ ความชานาญ
การเขยี นเร่ืองตามประสบการณ์ คือ การเขียนเร่ืองจากสง่ิ ทเ่ี ราได้กระทา หรือเขียนเรื่องจากส่งิ ทเ่ี ราพบเห็น เมอื่ เวลา
ผา่ นไปจะทาใหเ้ ราจดจาความประทบั ใจเลา่ น้นั
การเขยี นคาและบอกความหมายเปน็ การฝกึ ใหใ้ ช้คาในภาษาไทยอย่างถกู ต้อง และ การรคู้ วามหมายของคาทาให้
สามารถนา คามาตรา กด ไปใช้ ในชวี ิตประจาวัน ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง
3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1.อธิบายความหมาย และหลกั การอา่ นจบั ใจความสาคัญ (K)
2.รแู้ ละเข้าใจหลกั การเขียนเลา่ ประสบการณไ์ ด้ (K)
3. รแู้ ละเข้าใจหลกั การอ่านการเขียนคาท่ีมี มาตรกด ได(้ K)
4.อา่ นเรอ่ื งได้คลอ่ งแคลว่ รวดเรว็ และถูกต้องตามอักขรวธิ ี (P)
5.แยกข้อเทจ็ จริงและขอ้ คิดเหน็ จากเรอื่ งท่อี ่าน (P)
6.อา่ นและเขียนคาทมี่ มี าตรา กด ได้ (P)
7.เขียนเลา่ ประสบการณ์ไดถ้ ูกต้อง(P)
8.เห็นความสาคญั ของการอา่ นและมารยาทในการอา่ น (A)
9.กระตอื รือรน้ และมีส่วนรว่ มกับการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้และมีมารยาทในการเรียน (A)
10.มีความสนใจในการเรยี นภาษาไทย (A )
4. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถิน่
3.1 ความรู้ : Knowledge (K) การอ่านจบั ใจความ เรอ่ื งส้นั ๆ
การเขียนเล่าประสบการณ์ในชวี ิตประจาวนั มาตรากบ
3.2 กระบวนการจดั การเรยี นรู้ : Process (P)
5. กิจกรรมการเรยี นรู้
คาบท่ี กิจกรรมการเรียนการสอน
คาบท่ี 1-2 สาระสาคัญ
การอ่านจบั ใจความสาคญั คือ การอ่านเพ่ือจับใจความหรือขอ้ คดิ ความคดิ สาคัญหลกั ของ
ข้อความ หรอื เร่อื งทอ่ี า่ น
การอา่ นจบั ใจความ การอ่านจบั ใจความสาคัญ ถือเปน็ ทกั ษะสาคญั ทีใ่ ชใ้ นการอา่ นเพอ่ื การส่อื สารมากทสี่ ุด เพราะเปน็
ชาติของเรา พืน้ ฐานสาคัญในการศึกษาหาความรู้ จงึ ควรฝกึ ฝนใหเ้ กิดความชานาญ
ขั้นที่ 1 ข้ันรวบรวมขอ้ มลู
14. ครนู าเข้าสบู่ ทเรยี นโดยใหด้ ูภาพ ร่วมกันสนทนาเพือ่ เข้าสบู่ ทเรียนโดยครูใชค้ าถามดงั นี้
คาบที่ 3-4 - นักเรียนเห็นอะไรในภาพนี้
- รู้สึกอย่างไรเก่ียวกบั ภาพ
การเขยี นเล่า * ในการตอบคาถามใหน้ กั เรยี นใช้ไมเ้ รียกเลขท่ี เพอื่ ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามทลี ะคน โดย
ประสบการณ์ ถามกอ่ นจะเรยี กเลขท่ีเพอ่ื ให้ทกุ คนไดค้ ิดในแต่ละคาถามควรให้นักเรียนนาเสนอ 4-5
คน
วนั หยดุ 2.นกั เรียนเขา้ กลมุ่ ศกึ ษาเรอ่ื ง ชาติของเรา แลว้ รว่ มสนทนาโดยครใู ช้คาถามดังนี้
- นักเรยี นรสู้ กึ อยา่ งไรกับครูกิตติ
- ภาพช้นิ ไม้ท่วี างเรียงเปน็ รปู แผนทป่ี ระเทศไทย ลม้ ลงทลี ะชิน้ จนหมดแถว เปรยี บ
ได้กบั ส่ิงใด
- ใครทจ่ี ะเปน็ ผรู้ ักษาชาติไทยให้คงอยู่ตอ่ ไป
ข้นั ที่ 2 ขนั้ คิดวเิ คราะห์และสรุปความ
3. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกนั เขียนจบั ใจความและวิเคราะห์ เรอื่ งชาติของเรา
4.ให้นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ คิดประเมินเพ่อื เพ่ิมคณุ ค่าโดยครใู ชค้ าถามดงั ตอ่ ไปน้ี
- จากเรื่องทอ่ี า่ นนกั เรยี นสามารถนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั อยา่ งไร
ขั้นท่ี 3 ข้ันปฏิบตั แิ ละสรุปความรหู้ ลังการปฏบิ ัติ
5. นักเรียนทากิจกรรมการถามตอบจากเรื่องทศี่ ึกษาและตง้ั คาถามกลมุ่ ละ 5 คาถาม
6. นกั เรียนรว่ มกันสรปุ ข้อคดิ ที่ไดจ้ าก การเขียนเรือ่ งชาตขิ องเรา
ขั้นที่ 4 ขั้นสือ่ สารและนาเสนอ
7. นกั เรียนนาเสนอคาถาม โดยครใู ช้ไมเ้ รียกเลขทเ่ี รียกนกั เรยี นออกมานาเสนอ
ขน้ั ท่ี 5ขั้นประเมนิ เพื่อเพ่มิ คุณค่าบรกิ ารสงั คมและจติ สาธารณะ
8. นกั เรียนชว่ ยกนั สรปุ บทเรียน โดยครใู ช้คาถามต่อไปนี้
- นักเรียนสามารถนาความรูเ้ กี่ยวกบั เรื่องท่ีเรยี นไปใช้ประโยชน์ในสงั คมอยา่ งไร
สาระสาคญั
การเขยี นเรอื่ งตามประสบการณ์ คอื การเขียนเรอื่ งจากสิง่ ทเี่ ราได้กระทา หรอื เขียนเรื่อง
จากสงิ่ ทเี่ ราพบเหน็ เมอื่ เวลาผา่ นไปจะทาใหเ้ ราจดจาความประทับใจเลา่ นั้น
ข้ันที่ 1 ขัน้ รวบรวมข้อมลู
31. นักเรียนรว่ มกนั สนทนาเพ่ือเข้าสู่บทเรยี นโดยครูใชค้ าถามดงั น้ี
- นกั เรยี นทาอะไรในวันหยุดช่วงปิดภาคเรยี น (ส่มุ ถามนักเรียนโดยใชเ้ รยี กเลขที่ 4-5
คน )
32. นักเรียนศกึ ษาการเขยี นเล่าประสบการณแ์ ล้วร่วมกันสนทนาโดยใชค้ าถามดังนี้
คาบที่ 5-6 - นักเรียนร้จู กั คาว่าประสบการณห์ รอื ไม่
มาตรา กด
- การเขียนเลา่ ประสบการณ์ควรเขยี นในลกั ษณะใด
ข้ันที่ 2 ขั้นคิดวิเคราะหแ์ ละสรปุ ความ
33. นกั เรยี นดตู ัวอยา่ งการเขียนเลา่ ประสบการณแ์ ละร่วมกันวเิ คราะห์ ถงึ รูปแบบการเขียน
34. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มคิดประเมินเพื่อเพม่ิ มลู คา่ โดยครูใชค้ าถามตอ่ ไปน้ี
- นกั เรียนสามาถนาความรู้ทีไ่ ดร้ บั ไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ได้อยา่ งไร
ขั้นท่ี 3 ขั้นปฏิบตั ิและสรปุ ความร้หู ลังการปฏบิ ัติ
5. นกั เรียนเขียนเลา่ ประสบการณ์( วันหยดุ )
6. นักเรยี นร่วมกนั สรปุ เกีย่ วกบั การเขียนเลา่ ประสบการณ์ (วนั หยุด)
ขั้นที่ 4 ขั้นสอื่ สารและนาเสนอ
7. นกั เรียนนาเสนอการเขียนเล่าประสบการณ์(วันหยุด) โดยครใู ชไ้ ม้เรียกเลขที่ เรียก
นักเรยี นออกมานาเสนอหน้าชนั้ เรยี นประมาณ 4-5 คน
ขน้ั ที่ 5ขั้นประเมินเพื่อเพ่มิ คุณคา่ บรกิ ารสังคมและจิตสาธารณะ
8. นกั เรียนรว่ มกันแสงดความคดิ เหน็ โดยครใู ชค้ าถามตอ่ ไปนี้
- นักเรียนสามาถนาความรเู้ ก่ียวกับเร่ืองท่เี รียนไปใชป้ ระโยชน์ในสังคมได้อยา่ งไร
สาระสาคัญ
การเขยี นคาและบอกความหมายเป็นการฝกึ ให้ใชค้ าในภาษาไทยอยา่ งถกู ต้อง และ การรู้
ความหมายของคาทาใหส้ ามารถนา คามาตรา กด ไปใช้ ในชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง
ขน้ั ท่ี 1 ขัน้ รวบรวมขอ้ มูล
59. นกั เรยี นร่วมกนั เลน่ เกม “ปริศนาคาทาย” โดยครเู ขยี นประโยคปรศิ นาบนกระดาน
ดงั นี้
- ฉนั คอื อะไร เวลาใชต้ ัวรอ้ น เวลานอนตวั เย็น ( เตารดี )
- ฉันคอื อะไร ไมม่ ีตวั ตน ทุกคนมองไมเ่ ห็น แต่ถ้าขาดฉนั ทุกคนจะตาย (อากาศ)
- ฉันคืออะไร มีตารอบตัว (สับปะรด)
60. นักเรียนศกึ ษาเรือ่ งมาตราเกอว แล้วรว่ มกนั สนทนาโดยใชค้ าถามดังน้ี
- คาทมี่ ตี ัวสะกด และไมม่ ีตัวสะกดตา่ งกันอยา่ งไร
- คาหรอื พยางค์ท่ีออกเสียงเหมอื น ด เช่น จ ซ ช ฎ ฏ ฑ ฒ ต ถ ท ธ ศ ส ษ อย่างไร
ใหน้ ักเรียนยกตวั อย่างมาคนละ 1คา
ข้ันที่ 2 ข้ันคิดวเิ คราะหแ์ ละสรุปความ
61. ครูตดิ บตั รคาทมี่ คี ามาตรา กด เช่น แพทย์ ประโยชน์ กฎหมาย รสชาติ กระดาษ
สวนสัตว์
62. นกั เรียนเลน่ เกมทายคา กับภาพ
63. ครอู ธิบายเกีย่ วกบั การอานออกเสียง มาตรากด
64. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ คดิ ประเมินเพอ่ื เพม่ิ มลู ค่าโดยครูใช้คาถามต่อไปนี้
- นักเรียนสามาถนาความรู้ทไี่ ดร้ บั ไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั ได้อย่างไร
ข้ันที่ 3 ขั้นปฏบิ ัติและสรุปความรหู้ ลงั การปฏบิ ตั ิ
7. นกั เรียนเข้ากลมุ่ อา่ นบตั รคาทม่ี ีมาตรากด ตวั แทนกลุม่ ออกมาเขยี นคาท่ีมมี าตรากบ จาก
บัตรคาท่ีนกั เรยี นไดร้ ับไปกลุ่มใดตอบถกู ให้แรงเสริมเป็นคะแนนกล่มุ
8. ครตู ดิ บัตรคาและให้นกั เรียนสงั เกตคาต่อไปนี้
- แพทย์ ประโยชน์ กฎหมาย รสชาติ กระดาษ สวนสัตว์
9. นกั เรยี นอ่านบัตรคามาตรา กด
10. นกั เรยี นทาแบบฝกึ หัด
11. นักเรียนร่วมกนั สรปุ เรื่องมาตรา กดซ่ึงจะใช้ในชีวติ ประจาวันได้ ในการเขียนคาตา่ งๆ
ข้ันที่ 4 ข้ันสื่อสารและนาเสนอ
12.นกั เรียนนาเสนอคาที่ มมี าตรา กดโดยครใู ชไ้ มเ้ รยี กที่ เรยี กนกั เรียนออกมานาเสนอหนา้
ชน้ั เรียนประมาณ 4- 5คน
ขน้ั ที่ 5ขั้นประเมินเพ่ือเพม่ิ คุณคา่ บริการสังคมและจติ สาธารณะ
13. นักเรยี นรว่ มกนั แสงดความคดิ เหน็ โดยครใู ช้คาถามต่อไปน้ี
- นกั เรียนสามาถนาความรเู้ กย่ี วกับเรอ่ื งที่เรยี นไปใช้ประโยชน์ในสังคมไดอ้ ยา่ งไร
3.3 คุณลักษณะที่พงึ ประสงค์ : Attitude (A) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซือ่ สตั ยส์ จุ ริต มวี นิ ัย ใฝ่
เรยี นรู้ อยยู่ ่างพอเพียง มงุ่ มัน่ ในการทางาน รกั ความเป็นไทย มีจติ สาธารณะ
6. สื่อ/อปุ กรณ/์ แหล่งการเรยี นรู้
1. แบบฝึกหัด 2. บตั รคา 3. หนงั สอื ภาษาไทยชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 2
6.ปริศนาคาทาย
4. ไมเ้ รยี กเลขที่ 5.คาถาม
7. หนงั สือหลกั ภาษาเลม่ 4 ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 2
7. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้
การประเมิน วิธกี าร เคร่อื งมอื
ดา้ นความรู้ (K) -การตอบคาถาม
-คาถาม
-ทาแบบฝกึ หัด -แบบฝกึ หดั
ด้านทกั ษะและกระบวนการ (P) -ทกั ษะการอา่ น -แบบประเมนิ การอา่ น
-ทกั ษะการเขียน -แบบประเมินการเขยี น
ทกั ษะการคดิ วิเคราะห์ -แบบฝึกหัด
ด้านคณุ ธรรม จริยธรรมและค่านยิ ม (A) -สงั เกตพฤตกิ รรมในการรว่ มกจิ กรรม -แบบสงั เกตพฤตกิ รรม
การทางานกลมุ่
-สงั เกตพฤตกิ รรมการเขียน
8. กจิ กรรมเสนอแนะ
............................................................................................................................. .............................................................................
.......................................................................................................................................... ................................................................
................................................................... ............................................................................................................................. ..........
ลงชื่อ.............................................ครผู สู้ อน ลงช่ือ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)
ลงชื่อ................................................... ผบู้ ริหาร
(...........................................................)
สปั ดาหท์ ี่ 18
โรงเรียนขจรเกยี รติพฒั นา
แผนการจัดการเรียนรู้
ภาคเรยี นท่ี ……2…/………..……... ชอ่ื ผ้สู อน ….…..….................................................……...
กลุม่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย
หน่วยการเรียนรู้ที่ 12 ชาติของเรา ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 2 จานวน 6 คาบ
เร่อื ง ชาตขิ องเรา
1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วัด
มาตรฐานที่ ท 1.1ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรูแ้ ละความคิดเพอ่ื นาไปใชต้ ัดสินใจ แก้ปญั หาในการดาเนนิ ชวี ติ
และมนี สิ ัยรกั การอา่ น
ตวั ชี้วดั ที่ ป 2/1 อา่ นออกเสยี งคาคลอ้ งจอง ข้อความ และบทรอ้ ยกรองง่ายๆได้อยา่ งถกู ต้อง
ตัวชี้วัดท่ี ป 2/2 อธิบายความหมายของคาและข้อความทอ่ี า่ น
ตวั ชี้วดั ท่ี ป 2/3 ตง้ั คาถามและตอบคาถามเกย่ี วกบั เรื่องที่อา่ น
ตัวชว้ี ัดที่ ป 2/4 ระบใุ จความสาคญั และรายละเอียดจากเรอ่ื งที่อา่ น
ตวั ชี้วัดท่ี ป 2/5 แสดงความคดิ เห็นและคาดคะเนเหตกุ ารณจ์ ากเรือ่ งท่อี ่าน
ตัวชวี้ ดั ที่ ป 2/8 มมี ารยาทในการอ่าน
มาตรฐานที่ ท 2.1ใช้กระบวนการเขียนเขยี นส่อื สาร เขยี นเรียงความ ย่อความ และเขียนเร่อื งราวในรูปแบบตา่ งๆ เขียน
รายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ คว้าอย่าง มปี ระสิทธภิ าพ
ตัวชวี้ ดั ท่ี ป 2/3เขียนเร่อื งส้นั ๆตามจินตนาการ
ตัวชวี้ ัดที่ ป 2/4มมี ารยาทในการเขยี น
มาตรฐานที่ ท 4.1เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทยการเปลีย่ นแปลงของภาษาและพลังของภาษา ภูมปิ ัญญา
ทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ขิ องชาติ
ตัวชวี้ ดั ท่ี ป 2/4 บอกลักษณะของคาคลอ้ งจอง
2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
การอ่านจบั ใจความสาคัญ คือ การอ่านเพอื่ จับใจความหรือข้อคดิ ความคดิ สาคัญหลกั ของข้อความ หรอื เรือ่ งที่อา่ น
การอา่ นจบั ใจความสาคัญ ถือเป็นทกั ษะสาคัญทใี่ ชใ้ นการอ่านเพอื่ การสือ่ สารมากทสี่ ดุ เพราะเป็นพื้นฐานสาคญั ในการศกึ ษาหา
ความรู้ จงึ ควรฝกึ ฝนใหเ้ กิดความชานาญ
การเขียนตามจินตนาการ คือการเขยี นเรื่องท่มี าจากความคิด ความรสู้ ึก ความใฝ่ฝัน ของผูเ้ ขียนเอง เปน็ การเขยี นแบบ
อสิ ระ ผเู้ ขียนควรมีความคิดสร้างสรรคแ์ ละช่างสงั เกต
การเขียนคาคล้องจองเป็นการฝึกให้ใช้คาในภาษาไทยอย่างถูกต้อง และ การรู้ความหมายของคาทาใหส้ ามารถนา คา
มาไปใช้ ในชีวิตประจาวนั ได้อยา่ งถูกต้อง
3. จุดประสงค์การเรียนรู้
1.อธิบายความหมาย และหลกั การอ่านจบั ใจความสาคัญ (K)
2.รแู้ ละเขา้ ใจหลกั การเขยี นเล่าตามจินตนาการได้ (K)
3. รแู้ ละเขา้ ใจหลักการอา่ นการเขียนคาคลอ้ งจอง ได(้ K)
4.อ่านเรื่องไดค้ ล่องแคล่ว รวดเร็วและถูกตอ้ งตามอักขรวธิ ี (P)
5.แยกข้อเทจ็ จริงและขอ้ คดิ เห็นจากเรอ่ื งทีอ่ ่าน (P)
6.อ่านและเขียนคาทม่ี ีคาคล้องจอง ได้ (P)
7.เขยี นเล่าตามจนิ ตนาการไดถ้ ูกต้อง(P)
8.เห็นความสาคญั ของการอ่านและมารยาทในการอ่าน (A)
9.กระตอื รือร้นและมีสว่ นรว่ มกับการจัดกจิ กรรมการเรียนรูแ้ ละมมี ารยาทในการเรียน (A)
10.มีความสนใจในการเรยี นภาษาไทย (A )
4. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถ่ิน
3.1 ความรู้ : Knowledge (K) การอา่ นจบั ใจความ บทเพลง การ
เขยี นตามจินตนาการ คาคล้องจอง
3.2 กระบวนการจดั การเรยี นรู้ : Process (P)
5. กิจกรรมการเรยี นรู้
คาบท่ี กิจกรรมการเรียนการสอน
คาบท่ี 1-2 สาระสาคญั
การอ่านจบั ใจความสาคญั คอื การอา่ นเพื่อจับใจความหรอื ข้อคดิ ความคิดสาคญั หลักของ
ข้อความ หรือเรอื่ งทอ่ี า่ น
การอา่ นจบั ใจความ การอ่านจบั ใจความสาคัญ ถอื เปน็ ทกั ษะสาคญั ทใี่ ชใ้ นการอา่ นเพอ่ื การสอ่ื สารมากทสี่ ดุ เพราะเป็น
บทเพลง พน้ื ฐานสาคัญในการศึกษาหาความรู้ จงึ ควรฝึกฝนใหเ้ กิดความชานาญ
ข้นั ที่ 1 ขนั้ รวบรวมขอ้ มลู
1.นักเรียนฟังเพลงสายฝน และร้องเพลง แล้วร่วมสนทนาโยงเขา้ สบู่ ทเรียน โดยครใู ช้
คาถามดงั นี้
-นกั เรียนเข้าใจเนื้อเพลงท่ีฟงั หรือไม่
-ในเพลงมใี ครบา้ ง
คาบที่ 3-4 -ได้ข้อคดิ อะไรจากเพลง
2.ใหน้ ักเรยี นช่วยกนั ตอบเพอ่ื โยงเข้าสู่สาระการเรียนรู้ นกั เรยี นทบทวนการอ่านจับ
การเขียนตาม ใจความสาคญั โดยครใู ชค้ าถามดงั นี้
จนิ ตนาการ
- การอ่านสรปุ ใจความคืออะไร
- นกั เรยี นใช้ทกั ษะอะไรบา้ งในการอา่ นสรปุ ใจความ
3. นกั เรยี นเข้ากลมุ่ ศกึ ษา เร่ืองเพลงสายฝน โดยครใู ช้คาถามดงั นี้
- นกั เรียนฟงั เพลงสายฝนแลว้ รสู้ ึกอย่างไรบ้าง
- ในเพลงเกี่ยวกบั เรอ่ื งอะไร
ขน้ั ท่ี 2 ข้นั คดิ วเิ คราะหแ์ ละสรุปความ
4.นกั เรียนร่วมกนั วเิ คราะห์เก่ยี วกบั ใจความสาคญั ของเพลงสายฝน
5. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มคิดประเมินเพอ่ื เพม่ิ คณุ คา่ โดยครใู ช้คาถามดงั ต่อไปนี้
- นกั เรยี นสามารถนาความรทู้ ไ่ี ด้รับไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้อยา่ งไร
ขั้นที่ 3 ข้ันปฏบิ ตั ิและสรุปความรูห้ ลังการปฏบิ ตั ิ
6.นักเรยี นเข้ากลมุ่ ทากจิ กรรมการตง้ั คาถามและตอบคาถามจากเพลงสายฝน กลมุ่ ละ 5 ขอ้
7. นกั เรียนรว่ มกันสรปุ ขอ้ คิดท่ีไดจ้ ากการอ่าน
ขัน้ ท่ี 4 ข้ันสอื่ สารและนาเสนอ
8.นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ นาเสนอคาถามหนา้ ชนั้ เรยี น แลว้ ให้เพอื่ นตอบคาถาม
ขนั้ ท่ี 5ข้ันประเมนิ เพ่ือเพิ่มคุณคา่ บริการสังคมและจติ สาธารณะ
9.นักเรยี นรว่ มกันแสดงความคดิ เห็น โดยครูใชค้ าถามดงั นี้
- นักเรยี นสามารถนาความรเู้ ก่ยี วกบั เรอ่ื งท่เี รียนไปใชป้ ระโยชนใ์ นสงั คมได้อยา่ งไร
สาระสาคัญ
การเขยี นตามจินตนาการ คือการเขยี นเรอื่ งทมี่ าจากความคดิ ความรู้สึก ความใฝฝ่ ัน ของ
ผเู้ ขยี นเอง เปน็ การเขยี นแบบอสิ ระ ผเู้ ขียนควรมคี วามคดิ สรา้ งสรรคแ์ ละช่างสงั เกต
ขั้นท่ี 1 ข้ันรวบรวมขอ้ มูล
1. นักเรียนดตู วั อยา่ งการเขียนตามจนิ ตนาการ แลว้ ร่วมกนั สนทนาโดยใช้คาถามดงั น้ี
-งานเขยี นทนี่ ักเรียนอา่ นเปน็ เร่อื งราวเกย่ี วกบั อะไร
-การเขียนตามจนิ ตนาการมลี กั ษณะอย่างไร
2.นักเรียนศกึ ษาความรเู้ รอื่ ง การเขียนเรอ่ื งตามจนิ ตนาการ แล้วร่วมกนั สนทนาโดยใชค้ าถาม
ดังน้ี
- การเขียนตามจนิ ตนาการมลี กั ษณะอยา่ งไร
- นกั เรียนเคยเขียนตามจินตนาการหรอื ไม่
- นักเรยี นรหู้ รือไม่วา่ การเขยี นตามจินตนาการมอี งค์ประกอบอะไรบ้าง
ข้นั ท่ี 2 ขนั้ คดิ วิเคราะหแ์ ละสรปุ ความ
3.นักเรียน ร่วมกนั วิเคราะห์การเขียนเรือ่ งตามจินตนาการจากตัวอย่างการเขยี นเรอ่ื งตาม
จินตนาการ
4. นักเรียนแต่ละกลุม่ คิดประเมินเพอื่ เพ่ิมคณุ ค่าโดยครูใช้คาถามดังตอ่ ไปน้ี
คาบท่ี 5-6 - นักเรียนสามารถนาความรทู้ ่ีได้รบั ไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั ได้อยา่ งไร
คาคลอ้ งจอง ขั้นที่ 3 ข้ันปฏิบัตแิ ละสรปุ ความรู้หลังการปฏบิ ัติ
5.นักเรียนฝกึ เขียนเร่ืองตามจินตนาการ ตามความสนใจของนกั เรยี น
6.นักเรียนรว่ มกันสรปุ เกย่ี วกบั การเขยี นตามจนิ ตนาการ และครูอธิบายเพ่มิ เติมดงั น้ี การ
เขยี นตามจินตนาการ คอื การเขียนเรอื่ งท่ีมาจากความคดิ ความรูส้ กึ ความใฝ่ฝัน ของผูเ้ ขยี นเอง
เป็นการเขยี นแบบอสิ ระ ผเู้ ขียนควรมีความคิดสรา้ งสรรค์และช่างสังเกต
ขน้ั ท่ี 4 ข้ันสอื่ สารและนาเสนอ
7. นกั เรียนนาเสนอผลงาน โดยการจดั แสดงทปี่ ้ายนิเทศ
ข้ันท่ี 5ข้ันประเมนิ เพื่อเพิ่มคุณคา่ บริการสังคมและจิตสาธารณะ
8.นกั เรยี นร่วมกันแสดงความคิดเหน็ โดยครใู ชค้ าถามดงั น้ี
- นกั เรียนสามารถนาความรู้เกี่ยวกับเร่อื งทเ่ี รยี นไปใชป้ ระโยชน์ในสงั คมไดอ้ ยา่ งไร
สาระสาคัญ
การเขียนคาคลอ้ งจองเป็นการฝกึ ให้ใชค้ าในภาษาไทยอยา่ งถกู ต้อง และ การรูค้ วามหมาย
ของคาทาใหส้ ามารถนา คามาไปใช้ ในชวี ติ ประจาวัน ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง
ขน้ั ท่ี 1 ขั้นรวบรวมขอ้ มลู
65. นักเรยี นร่วมกันอา่ นประโยคบนกระดานดา
- พอ่ แม่ แกไ้ ข ใหช้ ว่ ย ด้วยกนั
แลว้ รว่ มกันสนทนาโดยใช้คาถามดงั น้ี
- นกั เรียนสงั เกตเหน็ อะไรในประโยคนี้ (คาท่มี สี ระเหมือนกัน แล้วตัวสะกด
คลอ้ งจองกัน)
66. นักเรียนรว่ มกันศกึ ษาเรอ่ื งคาคลอ้ งจอง แล้วรว่ มกันสนทนาโดยใชค้ าถามดังนี้
-นกั เรียนรหู้ รอื ไม่วา่ คาคล้องจองมีวธิ ีการเขยี นอย่างไร
- ลักษณะของคาคลอ้ งจองมีอะไรทเ่ี ราต้องใหส้ มั พนั ธก์ นั
ขั้นท่ี 2 ข้นั คิดวเิ คราะห์และสรปุ ความ
67. ครูติดบตั รคาทมี่ คี าคล้องจอง เชน่ วันพระ จ๊ะจา๋ นา่ รกั ฟกั ไข่
- นักเรียนเลน่ เกมโดยนาคามาเรียงใหเ้ ป็นคาคลอ้ งจอง
68. นักเรยี นแตล่ ะกลุม่ คิดประเมนิ เพือ่ เพมิ่ มลู ค่าโดยครใู ช้คาถามต่อไปน้ี
- นักเรียนสามาถนาความร้ทู ไ่ี ดร้ ับไปใช้ในชีวิตประจาวนั ไดอ้ ย่างไร
ข้ันท่ี 3 ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ
5 . นกั เรียนเขา้ กลมุ่ อา่ นบัตรคาที่ครูแจกให้ เป็นกลมุ่ ออกมาเรยี งใหเ้ ป็นคาคลอ้ งจองให้
ถูกต้อง
- ไกต่ นื่ ชนื่ ใจ ใชด้ ี ปกี อ่ น
- ต้อนรับ กลับแลว้ แก้วนา้ ยา่ เท้า
- เขา้ ไป ไมย่ ุง่ กรุ๋งกรงิ๋ ฉิง่ ฉบั
- รับนอ้ ง ร้องเรียก เปยี กโชก โปก๊ เป๊ก
6. นักเรียนอ่านบตั รคา พรอ้ มกนั
7. นกั เรียนทาแบบฝึกหดั
8. นกั เรยี นร่วมกนั สรปุ เรอ่ื งคาคลอ้ งจอง ซึง่ จะใชใ้ นชวี ิตประจาวนั ได้ ในการเขยี นคาตา่ งๆ
ขนั้ ท่ี 4 ข้ันสอื่ สารและนาเสนอ
9.นกั เรยี นนาเสนอคาคลอ้ งจองโดยครูใชไ้ มเ้ รยี กที่ เรยี กนกั เรยี นออกมานาเสนอหน้าชั้นเรยี น
ประมาณ 4- 5คน
ข้ันท่ี 5ข้ันประเมินเพื่อเพิ่มคุณคา่ บริการสังคมและจติ สาธารณะ
10. นกั เรยี นรว่ มกันแสงดความคดิ เห็น โดยครูใชค้ าถามตอ่ ไปน้ี
- นกั เรียนสามาถนาความรูเ้ กย่ี วกบั เรื่องทีเ่ รียนไปใช้ประโยชนใ์ นสังคมได้อย่างไร
3.3 คุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ : Attitude (A) ซือ่ สัตยส์ จุ รติ มีวินยั ใฝเ่ รยี นรู้ อยู่ยา่ งพอเพียง
มุ่งมนั่ ในการทางาน รกั ความเป็นไทย มีจติ สาธารณะ
6. ส่ือ/อปุ กรณ์/แหลง่ การเรียนรู้
1. แบบฝกึ หัด 2. บตั รคา 3. หนงั สอื ภาษาไทยชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 2
4. ไม้เรียกเลขท่ี 5.คาถาม 6.ปรศิ นาคาทาย
7. หนงั สอื หลักภาษาเลม่ 4 ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 2
7. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้
การประเมนิ วิธกี าร เครือ่ งมอื
ด้านความรู้ (K) -การตอบคาถาม -คาถาม
-ทาแบบฝกึ หัด -แบบฝกึ หดั
ด้านทักษะและกระบวนการ -ทักษะการอ่าน -แบบประเมินการอ่าน
(P) -ทักษะการเขยี น -แบบประเมินการเขียน
ทักษะการคิดวเิ คราะห์ -แบบฝึกหดั
ด้านคุณธรรม จริยธรรมและคา่ นยิ ม (A) -สงั เกตพฤตกิ รรมในการรว่ มกจิ กรรม -แบบสงั เกตพฤตกิ รรม
การทางานกลมุ่
-สังเกตพฤตกิ รรมการเขียน
8. กจิ กรรมเสนอแนะ
............................................................................................................................. .............................................................................
............................................................................................................................. .............................................................................
..................................................................................................................................... .....................................................................
ลงชอื่ .............................................ครูผสู้ อน ลงช่อื ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)
ลงชอ่ื ................................................... ผ้บู ริหาร
(...........................................................)