แผนการสอนภาษาอังกฤษเตรียมความพร้อมเพื่อการทำงาน 20000-1208

130

สองเง่ือนไข(คุณธรรม)
1. มีวนิ ยั ในตนเอง
2. มนี า้ ใจ เกดิ ความสามัคคี
3. มคี วามรบั ผดิ ชอบ
4. มคี วามมุง่ มัน่ ทจี่ ะทางานให้สาเร็จ

8. ส่ือและแหลง่ การเรยี นรู้
8.1. ส่อื ออนไลน์ https://www.youtube.com/watch?v=cNwEVYkx2Kk
8.2. หนงั สือแบบเรียน ภาษาองั กฤษเตรยี มความพรอ้ มเพ่ือการทางาน รหสั วิชา 20000-1208
8.3. เอกสารประกอบการสอน ภาษาอังกฤษเตรยี มความพร้อมเพื่อการทางาน รหัสวิชา 20000-

1208
8.4. Google Classroom ภาษาองั กฤษเตรยี มความพร้อมเพื่อการทางาน รหสั วิชา 20000-1208
8.5. Application Duolingo

9. หลกั ฐานการเรยี นรู้
9.1. แผนการจัดการเรียนรู้
9.2. หนังสอื แบบเรยี น
9.3. ใบงาน
9.4. ใบความรู้
9.5. สมดุ บนั ทึก

10.การวดั และประเมินผลตามสภาพจริง

10.1 วธิ กี ารวดั และประเมนิ ผล (ก่อนเรยี น ระหว่างเรยี น หลงั เรยี น)
10.1.1 ดา้ นความรู้
- ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
10.1.2 ด้านทักษะ
- ตรวจแบบประเมนิ ผลการปฏิบัติ
- ตรวจกจิ กรรมเสริมสร้างประสบการณ์
10.1.3 ด้านคณุ ลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์
- สังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
- ประเมินพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลมุ่
- สังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลมุ่
- ตรวจกิจกรรมสง่ เสริมคุณธรรมนาความรู้
- ประเมินพฤตกิ รรมด้านคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์

ภาษาองั กฤษเตรยี มความพร้อมเพ่อื การทางาน 20000-1208 ครูจันจิรา คงสาคร

131

10.2 เคร่อื งมอื ในการวัดและประเมินผล
10.2.1 ดา้ นความรู้
แบบทดสอบภาคความรู้
10.2.2 ดา้ นทกั ษะ
แบบฝกึ หดั ท้ายหนว่ ยการเรียนรู้
10.2.3 ด้านคุณลักษณะทพ่ี ึงประสงค์
แบบประเมินพฤตกิ รรมผู้เรยี น

10.3 เกณฑก์ ารวดั และประเมินผล
10.3.1 ด้านความรู้
การประเมินแบบทดสอบภาคความร้ตู อ้ งได้คะแนนไม่ตา่ กวา่ 60%
10.3.2 ด้านทกั ษะ
การประเมินแบบแบบฝึกหัดทา้ ยหนว่ ยการเรียนรไู้ ดค้ ะแนนไมต่ ่ากว่า 70%
10.3.3 ด้านคณุ ลักษณะทพ่ี ึงประสงค์
การประเมินพฤตกิ รรมผเู้ รียนตอ้ งได้คะแนนไม่ต่ากวา่ 80%

11.ความสัมพนั ธ/์ การบรู ณาการกบั รายวชิ าท่ีเกี่ยวข้อง

11.1 ภาษาอังกฤษในชีวิตประจาวัน 20000-1201
11.2 ภาษาอังกฤษฟงั -พดู 20000-1202
11.3 การอ่านส่อื สิ่งพมิ พ์ภาษาอังกฤษ 20000-1203
11.4 การเขยี นภาษาอังกฤษในชีวติ ประจาวนั 20000-1204
11.6 ภาษาอังกฤษอนิ เตอร์เน็ต 20000-1206
12.ใบความร/ู้ ใบงาน/แบบประเมนิ ใบงาน/แบบทดสอบกอ่ นเรียน หลงั เรียน

ภาษาองั กฤษเตรยี มความพรอ้ มเพอ่ื การทางาน 20000-1208 ครจู ันจริ า คงสาคร

132

ใบความรู้ หน่วยที่ 6

ชื่อวิชา ภาษาองั กฤษเตรียมความพร้อมเพอื่ การทางาน เวลาเรยี นรวม 36 คาบ
ชือ่ หนว่ ย Applying for job online
สอนครง้ั ท่ี 12-13/18
ชอ่ื เรือ่ ง Applying for job online จานวน 2 คาบ

1. คาศัพท์ที่ควรทราบในการกรอกใบสมคั รงาน
1. Application form แบบฟอรม์ ใบสมัครงาน Application Letter จดหมายสมคั รงาน
2. Applicant/Candidate ผสู้ มคั รงาน
3. To be completed in own handwriting.เขียนใบสมัครด้วยลายมอื ตนเอง
4. Confidential เป็นความลับ
5. Photo attached here ติดรูปถา่ ยตรงนี้
6. Position applied for/Position sought/Position desired. ตาแหน่งทสี่ มัคร/ตาแหนง่ ทต่ี ้องการ
7. Salary expected. เงนิ เดือนที่ต้องการ
8. Personal data (อเมริกา) ประวตั ิส่วนตวั
คานี้ในประเทศองั กฤษ ใช้ Curriculum vitae (CV), bio-data หรือ data sheet กไ็ ด้ และทั้งหมดนี้ก็
มคี วามหมายอย่างเดยี วกันคาวา่ “Resume”
9. Sex เพศ (ชายใช้ Male หญงิ ใช้ Female)
10. Present address ทีอ่ ยู่ปจั จบุ ัน
11. Permanent address ที่อยถู่ าวร
12. Date of birth วันเดือนปีเกดิ
13. Age อายุ
14. Nationality สัญชาติ
15. Race เชื้อชาติ
16. Religion ศาสนา Buddhism พทุ ธ Christian คริสต์ Islam อิสลาม
17. Height ความสงู
18. Weight น้าหนัก
19. Colour of eyes สตี า
20. Colour of hair สผี ม
21. Identification Card (ID Card) บัตรประจาตัวประชาชน
22. Issued by ออกใหโ้ ดย
23. Marital status สถานภาพการสมรส Single เป็นโสด Married แตง่ งานแลว้
Widowed เปน็ หม้าย Divorce หย่าร้าง
24. Person to notify in case of emergency. ผทู้ ี่จะติดตอ่ ในกรณเี กิดอุบตั ิเหตุฉุกเฉิน
25. Certificate degree obtained. ประกาศนียบัตรหรือปริญญาท่ไี ดร้ บั
26. Military status สถานภาพทางทหาร
27. Experience/previous employment ประวตั ิการทางาน

ภาษาอังกฤษเตรียมความพรอ้ มเพื่อการทางาน 20000-1208 ครจู นั จริ า คงสาคร

133

28. Reasons for leaving. เหตุผลท่ีออกจากงาน
29. References บุคคลอ้างอิง บางแหง่ ใช้ Referees
30. Applicant signature ลายเซน็ ผ้สู มัคร
31. Reserved Officers’ Training Corps Course (ROTC) หลักสตู ร ร.ด.
32. No Military Service Obligation. ไมม่ ีพันธะทางทหาร
33. Self-employed ทางานสว่ นตวั
34. Equivalent qualification คุณวฒุ ิเทียบเท่า
35. Income รายได้
36. Letter of Recommendation จดหมายรบั รองการทางาน
บางครัง้ ใช้ Employment Certificate ใบรับรองการผ่านงาน หรือ Testimonial
37. Marriage Certificate ทะเบยี นสมรส
38. Birth Certificate สูติบัตร
39. Occupation/Profession อาชพี
40. Related Field สาขาวิชาท่เี กี่ยวข้อง
41. Resume ประวตั ยิ อ่
42. Vocational Certificate ปวช.
43. Higher Vocational Certificate ปวส.
44. Home Registration ทะเบยี นบา้ น
45. Dependent ผอู้ ยใู่ นอุปการะ
46. Extra-curricular Activities กิจกรรมนอกหลักสตู ร
47. Special skills ความชานาญพิเศษ
48. Expert in เชยี่ วชาญ
49. Employment record ประวัตกิ ารทางาน
50. Negotiable ต่อรองได้
51. Guarantor ผูค้ า้ ประกนั
52. Fringe benefits ผลประโยชน์ทล่ี กู จา้ งไดร้ บั นอกจากค่าจ้างประจา
53. Seminars and special training courses การสมั มนาและการฝึกอบรมหลกั สูตรพิเศษ
54. Spouse คสู่ มรส (สามีหรอื ภรรยากเ็ รยี กได้)
55. Domicile ภมู ิลาเนา
56. Transcript ใบแสดงผลการเรียน บางครั้งก็ใช้ Statement of Marksหรอื Mark Sheet ก็มเี รียก
57. Degree Certificate ใบปริญญาบตั ร
58. Full-time job งานทาเต็มเวลา (งานทาไม่เต็มเวลา ใช้ Part-time job)
59. Date of attended วันทีเ่ ข้าเรียน
60. Military Discharge Letter ใบปลดทหารประจาการ หรืออาจเรียกว่า Certificate of
exemption from military service

ภาษาอังกฤษเตรียมความพรอ้ มเพ่ือการทางาน 20000-1208 ครจู ันจิรา คงสาคร

134

อาชพี ตา่ งๆ ทคี่ วรทราบ
Actor (แอ็คเทอะ) = นักแสดงชาย
Actress (แอ็คทรสิ ) = นกั แสดงหญงิ
Acrobat (แอ็คคระแบ็ท) = นกั แสดงกายกรรม
Accountant (อะเคา้ นทันท) = สมหุ บ์ ญั ชี
Archeologist (อาคโิ อโลจสิ ท) = นักโบราณคดี
Artist (อาทิสท) = จิตรกร
Architecture (อาคเิ ท็คเชอะ) = สถาปนิก
Aviator (เอวิเอเทอะ) = นกั บิน
Auditor (ออดเิ ทอะ) = ผู้ตรวจสอบบัญชี
Author (ออเธอะ) = นักประพนั ธ์
Air-houstess (แอ-โฮสทิส) = พนกั งานต้อนรับหญิงบนเคร่ืองบนิ
Announcer (อะเนาเซอะ) = โฆษก
Agriculturist (แอ็กกริคัลเชอะริทส) = กสกิ ร
Banker (แบง็ คเก่อร์) = นายธนาคาร
Barber (บาเบอะ) = ชา่ งตัดผม
Baker (เบเคอะ) = คนขายขนมปัง
Barrister (แบรสิ เทอะ) = เนติบณั ฑิต
Bookseller (บุ๊คเซลเลอ่ ร์) = คนขายหนงั สือ
Booking-clerk (บคุ ก่งิ -คลาค) = คนขายตว๋ั
Book-keeper (บุค-คีพเพอะ) = พนกั งานทาบัญชี
Barman (บาร์แมน) = พนกั งานขายเหลา้ ชาย
Barmaid (บารเ์ มด) = พนกั งานขายเหลา้ หญิง
Bartender (บาร์เทน็ เด่อร)์ = พนักงานประจาบาร์
Bill collector (บิล คอลเล็คเตอร)์ = คนเกบ็ เงิน
Biologist (ไบโอโลกสิ ท) = นกั ชวี วทิ ยา
Botanist (โบตานิสท) = นกั พฤกษศาสตร์
Broker (โบรคเก่อร)์ = นายหน้า
Businessman (บสิ ซิเนสแมน) = นกั ธรุ กจิ ชาย
Businesswoman (บสิ ซิเนสวูแมน) = นักธุรกจิ หญงิ
Bootmaker (บูทเม็คเก่อร) = ช่างทารองเท้า
Butcher (บุทเชอ่ ร์) = คนขายเนื้อ
Cabinet maker (แคบ็ บิเน็ท เมค็ เก่อร)์ = ชา่ งทาตู้
Camera man (แค็มมึระ แมน) = ช่างถ่ายภาพ
Caretaker (แคร์เท็คเก่อร)์ = ภารโรง
Carpenter (คาร์เพ็นเทอะ) = ชา่ งไม้
Cashier (แคชเชียร์) = คนรับจา่ ยเงิน
Cobbler (ค็อบเบลอะ) = คนซ่อมรองเท้า

ภาษาอังกฤษเตรียมความพร้อมเพื่อการทางาน 20000-1208 ครูจนั จริ า คงสาคร

135

Cook (คุก) = คนทาครัว
Chauffeur (โชเฟอะ) = คนขับรถ
Confectioner (คอนเฟ็คช่ันเน่อร์) = คนขายขนมหวาน
Comedian (คะมเี ดียน) = ตัวตลกละคร
Chemist (เคม็ มิสท) = นกั เคมี
Contractor (คอนแทร็กเต่อร์) = ผ้รู บั เหมา
Composer (คอมโพสเซ่อร์) = นกั แตง่ เพลง
Conductor (คอนดกั เตอ่ ร์) = ผ้คู วบคุมวงตนตรี
Correspondent (คอรสิ พอ็ นเด้นท) = ผ้โู ต้ตอบจดหมาย, ผู้สื่อขา่ ว
Clerk (คลาค/เคลคิ ) = เสมยี น
Crew (คร)ู = ลูกเรอื
Dancer (ดา้ นเซ่อร์) = นักเต้นรา
Dairyman (แดอะรแิ มน) = คนสง่ นม
Decorator (เดค็ คะเรเต่อร์) = ช่างแตง่ บา้ น
Dentist (เดน็ ทิสท) = ทนั ตแพทย์
Detective (ดเิ ท็คทฟิ ว) = นกั สืบ
Doorkeeper (ดอรค์ พีเพ่อะ) = คนเฝ้าประตู
Doctor (ดอ๊ กเต่อร์) = แพทย์
Diplomat (ดพิ โพลแมท็ ) = นกั การทตู
Dramatist (ดรามมะทสิ ท) = นกั แต่งบทละคร
Dressmaker (เดร็สเม็คเกอ่ ร์) = ช่างตดั เส้อื สตรี
Draftsman (ดราฟแมน) = คนวาดภาพหรอื ออกแบบ
Draper (ดราพเพ่อะ) = คนขายผา้
Driver (ไดรเวอ่ ร)์ = คนขบั รถ
Druggist (ดรกั กิสท) = คนขายยา
Dyer (ไดเออะ) = ชา่ งย้อมผา้
Editor (เอด็ ดิเทอะ) = บรรณาธิการ
Electrician (อเิ ล็คทรซิ ซึน) = ชา่ งไฟฟา้
Electroplater (อเิ ล็คโทรเพลทเตอ่ ร)์ = ชา่ งชบุ ไฟฟ้า
Engraver (อนิ เกรเวอะ) = ช่างทาบลอ็ ก
Engine driver (เอน็ จนิ ไดรเวอะ) = พนักงานขับรถไฟ
Export officer (เอ็กซพอร์ท ออ๊ ฟฟิซเซอ่ ร์) = เจา้ หน้าที่ส่งออก
Farmer (ฟาร์เมอะ) = ชาวนา
Fishmonger (ฟชิ มองเก่อร์) = คนขายปลา
Fisherman (ฟชิ เชอ่ ร์แมน) = ชาวประมง
Ferryman (เฟริแมน) = คนแจวเรอื
Fortune-teller (ฟอรจ์ ูนเทล็ เลอ่ ร)์ = หมอดู
Florist (ฟลอรสิ ท) = คนขายดอกไม้

ภาษาอังกฤษเตรียมความพรอ้ มเพ่ือการทางาน 20000-1208 ครจู นั จิรา คงสาคร

136

Founder (เฟานเด่อร)์ = ชา่ งหลอ่
Foreman (ฟอแมน) = หวั หน้าคนงาน
Gardener (การ์เด่นเนอ่ ร์) = คนทาสวน
Geographer (จิอ็อกกระเฟอ่ ร์) = นกั ภมู ศิ าสตร์
Goldsmith (โกลดสมธิ ) = ชา่ งทาทอง
Green grocer (กรนี โกรเซอะ) = คนขายผลไมส้ ด
Government officer/civil servant (กัฟเวนิ เม้นท ออ๊ ฟฟิซเซ่อร/์ ซฟิ วิล เซอร์แวน้ ท)= ข้าราชการ
Graphic designer (กร๊าฟฟิค ดเี ซเนอร์) = นกั ออกแบบ
Gorcer (โกรเชอะ) = คนขายของชา
Guide (ไกด์) = มคั คเุ ทศก์
Hair-dresser (แฮร์-เดรส็ เซอะ) = ชา่ งแตง่ ผมสตรี
Historian (ฮิสทอเรียน) = นักประวตั ิศาสตร์
Iron-monger (ไออัน-มองเก่อร์) = คนขายเครือ่ งเหลก็
Inspector (อนิ สเป็คเตอ่ ร์) = ผ้ตู รวจการ
Interpreter (อินเทอพริเทอะ) = ลา่ ม
Jeweler (จเู อลิ เลอะ) = คนขายเพชรพลอย
Janitor (แจน็ นิเทอะ) = ภารโรง
Journalist (จัวร์นาลสิ ท) = นกั หนงั สือพิมพ์
Lapidary (แลพ็ พิดะริ) = ช่างเจียระไนพลอย
Labourer, Laborer (เลเบอะเรอะ) = กรรมกร
Locksmith (ลอ็ คสมิธ) = ช่างทากญุ แจ
Lawyer (ลอเย่อร์) = ทนายความ
Massager (มาสซาซเจ่อร)์ = คนส่งเอกสาร
Merchant (เมอร์ชา้ นท) = พอ่ คา้
Model (โมเด็ล) = นางแบบ
Maid servant (เมด เซอร์แว้นท) = สาวใช้
Milk man (มลิ ค แมน) = คนสง่ นมชาย
Nurse (เนิส) = นางพยาบาล
Novelist (นอ็ ฟวะลสิ ท) = นกั แต่งนยิ าย
Oculist (ออ็ คควิ ลิสท) = จักษแุ พทย์
Pedlar (เพด็ เลอะ) = พ่อคา้ แร่
Pawn broker (พอน โบรคเก่อร)์ = คนรับจานา
Programmer (โพรแกรมเม่อร์) = นกั เขียนโปรแกรม
Poulterer (โพรเอเรอ่ ร)์ = คนขายเป็ดไก่
Photographer (โฟโตกรา๊ ฟเฟอ่ ร) = ชา่ ภาพ
Painter (เพ้นเต่อร์) = ชา่ งทาสี
Printer (พร้ินเตอ่ ร์) = ช่างพิมพ์
Playwright (เพลย์ไร้ท) = คนเขียนบทละคร

ภาษาองั กฤษเตรียมความพร้อมเพือ่ การทางาน 20000-1208 ครูจันจริ า คงสาคร

137

Policeman (โพลิสแมน) = เจา้ หน้าทตี่ ารวจ
Reporter (รีพอรท์ เต่อร)์ = ผูส้ ือ่ ขา่ ว
Receptionist (รเี ซฟ็ ชัน่ นิสท) = พนกั งานต้อนรับ
Researcher (รเิ ซิซเช่อร์) = นักวจิ ยั
Sailor (เซเลอะ) = กลาสี
Salesman (เซลซแมน) = พนกั งานขายของ
Scientist (ไซอนั ทิสท) = นกั วทิ ยาศาสตร์
Secretary (เซค้ คระทริ) = เลขา
Security officer (เซ้คควิ รติ ี้ ออ๊ ฟฟิซเซอ่ ร์) = เจ้าหน้าท่รี ักษาความปลอดภัย
Shipping clerk (ชปิ ป้ิง คลาค) = เสมยี นออกของ
Singer (ซงิ เก่อร์) = นักรอ้ ง
School master (สคลู มาสเตอ่ ร์) = ครชู าย
School mistress (สคูล มิสเตร็ส) = ครหู ญงิ
Shoe maker (ชู เม็คเก่อร์) = ช่างทารองเท้า
Shop keeper (ชอ็ ฟ คีพเป่อร์) = เจ้าของร้าน
Scuoptor (สคัลพเทอะ) = ช่างแกะสลัก
Silversmith (ซิลเวอ่ รส์ มิธ) = ช่างเงิน
Supervisor (ซุปเป่อร์ไวเซ่อร)์ = ผตู้ รวจการ
Surveyor (เซอเวเยอะ) = ชา่ งสารวจ
Sportsman (สปอร์ท แมน) = นักกฬี า
Stenographer (สเทน็ นะกรา๊ ฟเฟ่อร์) = นกั เขยี นชวเลข
Surgeon (เซอจนึ ) = ศัลยแพทย์
Tailor (เทเลอะ) = ชา่ งตัดเสื้อชาย
Telephone operator (เทเลโฟน โอเพอเรเตอร)์ = พนกั งานรบั โทรศัพท์
Tanner (แทนเน่อร)์ = ช่างฟอกหนงั
Technician (เท็คนชิ เซียน) = ช่างเทคนคิ
Trader (เทรด็ เด่อร์) = พอ่ คา้
Translator (ทรานสเลเต่อร์) = พนกั งานแปล
Teacher (ทิชเชอะ) = ครู
Typist (ไทพสิ ท) = พนักงานพมิ พด์ ดี
Waiter (เวท็ เตอ่ ร)์ = พนักงานเสริ ฟ์ อาหารชาย
Waitress (เวท็ เตร็ส) = พนกั งานเสริ ฟ์ อาหารหญงิ
Watchman (ว็อทชแมน) = คนยาม
Writer (ไร้เตอ่ ร์) = นักเขียน

ภาษาองั กฤษเตรยี มความพร้อมเพือ่ การทางาน 20000-1208 ครูจนั จริ า คงสาคร

138

ขน้ั ตอนการสมคั รงาน ผา่ นเว็บไซต์ออนไลน์

1. คน้ หางาน และสมัครงานผ่านเวบ็ ไซต์ออนไลน์
 ข้ันตอนแรกผู้สมคั รจะตอ้ งทาการสมัครสมาชิกกับเวบ็ ไซต์นั้น ๆ เสยี กอ่ น เมื่อสมัครสมาชิกเสรจ็

เรยี บร้อยแล้ว ทางระบบจะให้ Username และ Password เพ่ือเขา้ สูร่ ะบบให้แก่ผสู้ มัคร
 เม่ือทาการสมัครสมาชกิ เสร็จเรียบร้อยแลว้ ให้กรอกข้อมูลส่วนตัวลงไปในเวบ็ หรอื สามารถเพม่ิ

รูปภาพเรซเู ม่แทนการกรอกข้อมลู ได้เช่นกัน
 หากต้องการคน้ หางาน จะสามารถคน้ หาไดท้ ี่ช่องการค้นหา โดยจะสามารถเลอื กหาไดท้ ั้งการเลือก

ประเภทของงาน รวมถึงการหางานจากหนา้ การค้นหาไดเ้ ช่นเดียวกัน
 เมอ่ื เจองานทต่ี ้องการสมคั รแล้ว สามารถเลอื กทีเ่ มนู สมัครงาน ได้ทนั ที ซ่ึงทางระบบจะทาการส่ง

เรซเู มไ่ ปทีฝ่ ่ายบคุ คลของบริษัทนนั้ ๆ
2. การฝากเรซูเม่เอาไว้เพอ่ื ใช้ในการสมคั รงาน
 สาหรับการฝากเรซเู ม่เอาไวใ้ นเวบ็ ไซต์สมัครงาน เปน็ อกี หนึ่งวิธกี ารหางานทไี่ ด้รบั ความนิยม

พอสมควรเลยทเี ดียว โดยข้นั ตอนแรกผสู้ มัครจะต้องทาการกรอกขอ้ มลู ส่วนตวั หรือเรซเู ม่เข้าใน
เว็บใหเ้ รียบรอ้ ยเสยี ก่อน
 หลังจากนน้ั ทางบริษทั จะเขา้ มาค้นหาเรซเู ม่ของผสู้ มคั รท่ีตรงกบั ความต้องการของบรษิ ัทดว้ ย
ตนเอง โดยผู้สมคั รสามารถระบไุ ด้วา่ ตอ้ งการเปดิ เผยขอ้ มูลสว่ นตัวหรอื ไม่ รวมท้งั ยงั สามารถ
อนุญาต หรือไม่อนุญาตใหน้ ายจ้างคน้ หาข้อมูลสว่ นตวั ไดเ้ ช่นกัน
 หลงั จากนน้ั หากบริษัทเลือกผู้สมคั รสมั ภาษณ์งาน จะมีการตดิ ตอ่ กลับไปผ่านช่องทางตา่ ง ๆ ท่ี
ผ้สู มัครระบเุ อาไว้

ภาษาองั กฤษเตรียมความพรอ้ มเพอ่ื การทางาน 20000-1208 ครจู ันจริ า คงสาคร

ใบงานท่ี 6.1 139

ชอ่ื วชิ า ภาษาองั กฤษเตรยี มความพร้อมเพอื่ การทางาน หน่วยท่ี 6
ช่อื หน่วย Applying for a job online
เวลาเรียนรวม 36 คาบ
ช่อื เรอ่ื ง Applying for a job online
สอนครง้ั ท่ี 12-13/18
จานวน 2 คาบ

ภาษาองั กฤษเตรยี มความพรอ้ มเพือ่ การทางาน 20000-1208 ครจู ันจิรา คงสาคร

140

เฉลยใบงานท่ี 6.1 หนว่ ยที่ 6

ชือ่ วชิ า ภาษาองั กฤษเตรยี มความพร้อมเพือ่ การทางาน เวลาเรียนรวม 36 คาบ
ชื่อหน่วย letter of Application
สอนครงั้ ที่ 12-13/18
ช่อื เรือ่ ง letter of Application จานวน 2 คาบ

ขัน้ อยกู่ ับดุลพนิ จิ ครูผสู้ อน

--------------------------------------------------------------------

ภาษาองั กฤษเตรยี มความพร้อมเพอื่ การทางาน 20000-1208 ครจู ันจริ า คงสาคร

141

แบบทดสอบก่อนเรียน/หลงั เรยี น หนว่ ยท่ี 6

ชอ่ื วชิ า ภาษาองั กฤษเตรียมความพร้อมเพื่อการทางาน เวลาเรยี นรวม 36 คาบ
ชื่อหน่วย Applying for a job online
สอนครั้งท่ี 12-13/18
ชือ่ เร่ือง Applying for a job online จานวน 2 คาบ

Directions: 1. This test consists of 12 items.
2. Each item has 4 choices.
3. Choose the most appropriate answer and write X in boxes on

your answer sheet.

Direction : Read the job adverts. Answer the questions.

ภาษาอังกฤษเตรียมความพรอ้ มเพ่ือการทางาน 20000-1208 ครจู ันจริ า คงสาคร

142
ภาษาองั กฤษเตรยี มความพร้อมเพ่อื การทางาน 20000-1208 ครจู ันจริ า คงสาคร

143
ภาษาองั กฤษเตรยี มความพร้อมเพ่อื การทางาน 20000-1208 ครจู ันจริ า คงสาคร

144

เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น/หลังเรียน หน่วยที่ 6

ชือ่ วชิ า ภาษาอังกฤษเตรยี มความพร้อมเพอื่ การทางาน เวลาเรียนรวม 36 คาบ
ชือ่ หน่วย Jobs Vacancies
สอนครง้ั ที่ 12-13/18
ช่ือเรือ่ ง ประกาศรบั สมัครงาน จานวน 2 คาบ

Directions: 1. This test consists of 12 items.
2. Each item has 4 choices.
3. Choose the most appropriate answer and write X in boxes on

your answer sheet.

ภาษาองั กฤษเตรียมความพร้อมเพอ่ื การทางาน 20000-1208 ครูจนั จริ า คงสาคร

145
ภาษาองั กฤษเตรยี มความพร้อมเพ่อื การทางาน 20000-1208 ครจู ันจริ า คงสาคร

146

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 7 หน่วยที่ 7
ชอ่ื วิชา ภาษาอังกฤษเตรียมความพร้อมเพ่ือการทางาน เวลาเรียนรวม 36 คาบ
ชอื่ หน่วย job interview
สอนคร้งั ท่ี 14/18
ช่ือเร่ือง job interview
จานวน 2 คาบ

1. สาระสาคัญ
การสัมภาษณ์งานเป็นสิ่งท่ีสาคัญอย่างหน่ึงในการสมัครเข้าทางาน การสัมภาษณ์งานจะเป็นการ

บอกรายละเอียดต่าง ๆ ของผสู้ มคั รงาน ดังนัน้ ผู้สมัครงานควรศึกษาหาความรู้เก่ียวกับการสมัครงานเพอื่ ให้
ตรงตามจุดประสงค์ของบริษัท โดยตอบคาถามอย่างคลอ่ งแคล่ววอ่ งไว
2. สมรรถนะประจาหน่วยการเรยี นรู้ย่อยส่สู มรรถนะหลกั ตามแผนการเรยี น

2.1. ด้านความรู้ :
แสดงความรูเ้ กี่ยวกับการสัมภาษณง์ าน การแนะนาตัวในการสัมภาษณ์งาน

2.2. ดา้ นทกั ษะ :
แนะนาตัวในการสัมภาษณง์ านและการตอบคาถามการสัมภาษณง์ าน

2.3. ดา้ นคุณลักษณะท่พี งึ ประสงค์ :
ปฏบิ ัติงานทีไ่ ดร้ บั มอบหมายดว้ ยความรอบคอบ มรี ะเบยี บ วนิ ยั ตรงตอ่ เวลา สาเร็จตามทกี่ าหนด

ไดด้ ว้ ยตนเอง
3. จุดประสงค์การเรยี นรปู้ ระจาหนว่ ย

3.1 จุดประสงค์ทวั่ ไป
3.1.1 บอกขนั้ ตอนการเตรียมตัวในการสัมภาษณง์ าน

3.2. จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม
3.2.1. แนะนาตวั ในการสมั ภาษณง์ านและการตอบคาถามการสัมภาษณ์งาน

3.3 จุดประสงค์ท่ีบูรณาการ (คุณธรรม อัตลักษณ์ 9 ประการ/หลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพยี ง)

3.3.1 ความมีเหตุมีผลในการปฏิบัติงาน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง นักศึกษา
จะต้องมีการใช้ เทคนคิ ท่ีแปลกใหม่ใช้สอื่ และเทคโนโลยีประกอบการนาเสนอทน่ี า่ สนใจนาวัสดใุ นทอ้ งถน่ิ มา
ประยกุ ต์ใชอ้ ยา่ งคุ้มคา่ และประหยัด

3.3.2 มีความรกั องคก์ ร รเู้ วลา รูห้ น้าที่ สามัคคี มวี นิ ยั พอเพยี ง กตัญญู สจุ ริต จติ อาสา
4. สาระการเรยี นรู้

4.1.1..การสมั ภาษณง์ าน
4.1.2.การแนะนาตวั ในการสัมภาษณ์งาน
4.1.3.การตอบคาถามการสัมภาษณง์ าน
5. ภาระงาน
กิจกรรม Job interview

147

6. กจิ กรรมการเรยี นรู้
6.1 ข้ันท่ี 1 ข้นั อธบิ ายจดุ ประสงคใ์ นการปฏิบัติภาระงาน (L = Listing Task Objectives)
6.1.1.ครูทกั ทายนักเรยี น Good morning student How are you today ?
6.1.2. ผู้สอนสอบถามการเตรยี มตัวการสัมภาษณ์งานเปน็ ภาษาองั กฤษเมื่อสบั ดาหท์ แี่ ลว้
6.1.3 ผู้ ส อ น ใ ห้ ผู้ เ รี ย น ดู ค ลิ ป ก า ร สั ม ภ า ษ ณ์ ง า น เ ป็ น ภ า ษ า อั ง ก ฤ ษ ท า ง You tube

https://www.youtube.com/watch?v=yBtMwyQFXwA
6.1.4 ใหผ้ ้เู รียนฝกึ พูดตามบทสนทนาส้ันๆ ตาม you tube
https://www.youtube.com/watch?v=HMQlA-TIAsk พรอ้ มทง้ั ออกเสียงตามบทสนทนา
6.2 ขั้นท่ี 2 ข้ันปฏิบัติภาระงาน (O = Observing and assisting Students during the

Task
6.2.1 ผ้สู อนอธิบายการเตรยี มตวั สัมภาษณง์ านเปน็ ภาษาอังกฤษ ดังน้ี
20 Tips for Great Job Interviews
1. Research the industry and company.
An interviewer may ask how you perceive his company's position in its
industry, who the firm's competitors are, what its competitive advantages are, and
how it should best go forward. For this reason, avoid trying to thoroughly research
a dozen different industries. Focus your job search on just a few industries instead.

2. Clarify your "selling points" and the reasons you want the job.
Prepare to go into every interview with three to five key selling points in
mind, such as what makes you the best candidate for the position. Have an example
of each selling point prepared ("I have good communication skills. For example, I
persuaded an entire group to ..."). And be prepared to tell the interviewer why you
want that job – including what interests you about it, what rewards it offers that
you find valuable, and what abilities it requires that you possess. If an interviewer
doesn't think you're really, really interested in the job, he or she won't give you an
offer – no matter how good you are!

3. Anticipate the interviewer's concerns and reservations.
There are always more candidates for positions than there are openings. So
interviewers look for ways to screen people out. Put yourself in their shoes and ask
yourself why they might not want to hire you (“I don't have this,” “I'm not that,”
ภาษาองั กฤษเตรยี มความพรอ้ มเพ่ือการทางาน 20000-1208 ครูจันจริ า คงสาคร

148

etc.). Then prepare your defense: “I know you may be thinking that I might not be
the best fit for this position because [their reservation]. But you should know that
[reason the interviewer shouldn't be overly concerned]."

4. Prepare for common interview questions.
Every "how to interview" book has a list of a hundred or more "common
interview questions." (You might wonder just how long those interviews are if there
are that many common questions!) So how do you prepare? Pick any list and think
about which questions you're most likely to encounter, given your age and status
(about to graduate, looking for a summer internship). Then prepare your answers so
you won't have to fumble for them during the actual interview.

5. Line up your questions for the interviewer.
Come to the interview with some intelligent questions for the interviewer
that demonstrate your knowledge of the company as well as your serious intent.
Interviewers always ask if you have any questions, and no matter what, you should
have one or two ready. If you say, "No, not really," he or she may conclude that
you're not all that interested in the job or the company. A good all-purpose question
is, "If you could design the ideal candidate for this position from the ground up,
what would he or she be like?"

If you're having a series of interviews with the same company, you can use
some of your prepared questions with each person you meet (for example, "What
do you think is the best thing about working here?" and "What kind of person would
you most like to see fill this position?") Then, try to think of one or two others during
each interview itself.

6. Practice, practice, practice.
It's one thing to come prepared with a mental answer to a question like,
"Why should we hire you?" It's another challenge entirely to say it out loud in a
confident and convincing way. The first time you try it, you'll sound garbled and
confused, no matter how clear your thoughts are in your own mind! Do it another
10 times, and you'll sound a lot smoother and more articulate.

ภาษาอังกฤษเตรยี มความพรอ้ มเพือ่ การทางาน 20000-1208 ครูจันจริ า คงสาคร

149

But you shouldn't do your practicing when you're "on stage" with a recruiter;
rehearse before you go to the interview. The best way to rehearse? Get two friends
and practice interviewing each other in a "round robin": one person acts as the
observer and the "interviewee" gets feedback from both the observer and the
"interviewer." Go for four or five rounds, switching roles as you go. Another idea (but
definitely second-best) is to tape record your answer and then play it back to see
where you need to improve. Whatever you do, make sure your practice consists of
speaking aloud. Rehearsing your answer in your mind won't cut it.

7. Score a success in the first five minutes.
Some studies indicate that interviewers make up their minds about
candidates in the first five minutes of the interview – and then spend the rest of
the interview looking for things to confirm that decision! So what can you do in
those five minutes to get through the gate? Come in with energy and enthusiasm,
and express your appreciation for the interviewer's time. (Remember: She may be
seeing a lot of other candidates that day and may be tired from the flight in. So
bring in that energy!)

Also, start off with a positive comment about the company – something like,
"I've really been looking forward to this meeting [not "interview"]. I think [the
company] is doing great work in [a particular field or project], and I'm really excited
by the prospect of being able to contribute."

8. Get on the same side as the interviewer.
Many interviewers view job interviews as adversarial: Candidates are going to
try to pry an offer out of the interviewer, and the interviewer's job is to hold onto
it. Your job is to transform this "tug of war" into a relationship in which you're both
on the same side. You could say something as simple as, "I'm happy to have the
chance to learn more about your company and to let you learn more about me,
so we can see if this is going to be a good match or not. I always think that the
worst thing that can happen is to be hired into a job that's wrong for you – then
nobody's happy!"

ภาษาอังกฤษเตรยี มความพร้อมเพ่ือการทางาน 20000-1208 ครจู ันจริ า คงสาคร

150

9. Be assertive and take responsibility for the interview.
Perhaps out of the effort to be polite, some usually assertive candidates
become overly passive during job interviews. But politeness doesn't equal passivity.
An interview is like any other conversation – it’s a dance in which you and a partner
move together, both responding to the other. Don't make the mistake of just sitting
there waiting for the interviewer to ask you about that Nobel Prize you won. It's
your responsibility to make sure he walks away knowing your key selling points.

10. Be ready to handle illegal and inappropriate questions.
Interview questions about your race, age, gender, religion, marital status, and
sexual orientation are inappropriate and in many areas illegal. Nevertheless, you
may get one or more of them. If you do, you have a couple of options. You can
simply answer with a question ("I'm not sure how that's relevant to my application"),
or you can try to answer "the question behind the question": "I don't know whether
I'll decide to have children in the near future, but if you're wondering if I'll be leaving
my job for an extended period of time, I can say that I'm very committed to my
career and frankly can't imagine giving it up."

11. Make your selling points clear.
If a tree falls in the forest and no one is there to hear it, did it make a sound?
More important, if you communicate your selling points during a job interview and
the interviewer doesn't get it, did you score? On this question, the answer is clear:
No! So don't bury your selling points in long-winded stories. Instead, tell the
interviewer what your selling point is first, then give the example.

12. Think positive.
No one likes a complainer, so don't dwell on negative experiences during an
interview. Even if the interviewer asks you point blank, "What courses have you liked
least?" or "What did you like least about that previous job?" don't answer the
question. Or more specifically, don't answer it as it's been asked. Instead, say
something like, "Well, actually I've found something about all of my classes that I've
liked. For example, although I found [class] to be very tough, I liked the fact that

ภาษาองั กฤษเตรยี มความพร้อมเพื่อการทางาน 20000-1208 ครูจนั จริ า คงสาคร

151

[positive point about the class]" or "I liked [a previous job] quite a bit, although now
I know that I really want to [new job]."

13. Close on a positive note.
If a salesman came to you and demonstrated his product, then thanked you
for your time and walked out the door, what did he do wrong? He didn't ask you to
buy it! If you get to the end of an interview and think you'd really like that job, ask
for it! Tell the interviewer that you'd really, really like the job – that you were
excited about it before the interview and are even more excited now, and that
you're convinced you'd like to work there. If there are two equally good candidates
at the end of the search – you and someone else – the interviewer will think you're
more likely to accept the offer, and thus may be more inclined to make an offer to
you.

Even better, take what you've learned about yourself from your MyPath
career assessment and use it to explain why you think this is the job for you: "I've
done some careful career self-assessment, and I know that I'm most interested in
[one or two of your most important career interest themes], and – correct me if I'm
wrong – it seems that this position would allow me to express those interests. I also
know that I'm most motivated by [two or three of your most important motivators
from your MyPath assessment], and I have the sense that if I do well, I could get
those rewards in this position.

Finally, I know that my strongest abilities are [two or three of your strongest
abilities from your MyPath assessment], and I see those as being the abilities you
most need for this position." If you follow this tip, you'll be (a) asking for the job, (b)
explaining why you think it's a good match, (c) displaying your thoughtfulness and
maturity, and (d) further disarming the tug-of-war dynamic that interviewers
anticipate. You'll be making the strongest possible "close" – and that's worth a lot!

14. Bring a copy of your resume to every interview.
Have a copy of your resume with you when you go to every interview. If the
interviewer has misplaced his or her copy, you'll save a lot of time (and

ภาษาอังกฤษเตรยี มความพร้อมเพื่อการทางาน 20000-1208 ครจู นั จิรา คงสาคร

152

embarrassment on the interviewer's part) if you can just pull your extra copy out
and hand it over.

15. Don't worry about sounding "canned".
Some people are concerned that if they rehearse their answers, they'll
sound "canned" (or overly polished or glib) during the interview. Don't worry. If you're
well prepared, you'll sound smooth and articulate, not canned. And if you're not so
well prepared, the anxiety of the situation will eliminate any "canned" quality.

16. Make the most of the "Tell me about yourself" question.
Many interviewers begin interviews with this question. So how should you
respond? You can go into a story about where you were born, what your parents
do, how many brothers and sisters and dogs and cats you have, and that's okay. But
would you rather have the interviewer writing down what kind of dog you have –
or why the company should hire you?

Consider responding to this question with something like: "Well, obviously I
could tell you about lots of things, and if I'm missing what you want, please let me
know. But the three things I think are most important for you to know about me are
[your selling points]. I can expand on those a little if you'd like." Interviewers will
always say, "Sure, go ahead." Then you say, "Well, regarding the first point, [give your
example]. And when I was working for [company], I [example of another selling
point]." Etc. This strategy enables you to focus the first 10-15 minutes of the
interview on all of your key selling points. The "Tell me about yourself" question is
a golden opportunity. Don't miss it!

17. Speak the right body language.
Dress appropriately, make eye contact, give a firm handshake, have good
posture, speak clearly, and don't wear perfume or cologne! Sometimes interview
locations are small rooms that may lack good air circulation. You want the
interviewer paying attention to your job qualifications -- not passing out because
you've come in wearing Chanel No. 5 and the candidate before you was doused

ภาษาอังกฤษเตรียมความพรอ้ มเพ่ือการทางาน 20000-1208 ครจู ันจิรา คงสาคร

153

with Brut, and the two have mixed to form a poisonous gas that results in you not
getting an offer!

18. Be ready for "behavior-based" interviews".
One of the most common interview styles today is to ask people to describe
experiences they have had that demonstrate behaviors that the company thinks are
important for a particular position. You might be asked to talk about a time when
you made an unpopular decision, displayed a high level of persistence, or made a
decision under time pressure and with limited information, for example.

Step 1 is to anticipate the behaviors this hiring manager is likely to be looking
for. Step 2 is to identify at least one example of when you demonstrated each
behavior. Step 3 is to prepare a story for each example. Many people recommend
using SAR (Situation-Action-Result) as a model for the story. Step 4 is to practice
telling the story. Also, make sure to review your resume before the interview with
this kind of format in mind; this can help you to remember examples of behaviors
you may not have anticipated in advance.

19. Send thank-you notes.
Write a thank-you note after every interview. Type each note on paper or
send them by email, depending on the interviewers' preferences. Customize your
notes by referring specifically to what you and the interviewer discussed; for
example, "I was particularly excited about [or interested by, or glad to hear] what
you said about ..." Handwritten notes might be better if you're thanking a personal
contact for helping you in your job search, or if the company you're interviewing
with is based in Europe. Whatever method you choose, notes should be sent within
48 hours of the interview.

To write a good thank-you note, you'll need to take time after each interview
to jot down a few things about what the interviewer said. Also, write down what
you could have done better in the interview, and make adjustments before you
head off for your next interview.

ภาษาอังกฤษเตรยี มความพร้อมเพ่ือการทางาน 20000-1208 ครจู ันจริ า คงสาคร

154

20. Don't give up!
If you've had a bad interview for a job that you truly think would be a great
fit for you (not just something you want badly), don't give up! Write a note, send an
email, or call the interviewer to let him or her know that you think you did a poor
job of communicating why you think this job would be a good match. Reiterate
what you have to offer the company, and say that you'd like an opportunity to
contribute. Whether this strategy will get you a job offer depends on the company
and on you. But one thing's for sure: If you don't try, your chances are exactly zero.
We've seen this approach work on numerous occasions, and we encourage you to
give it that last shot.
6.2.2 ผ้สู อนใหน้ ักเรียนจาลองสถานการณ์ สมั ภาษณง์ านโดยจบั คฝู่ กึ ซ้อมกับเพื่อน
6.3 ขั้นที่ 3 ข้ันตรวจสอบความเขา้ ใจของผเู้ รยี น (V = Verifying Student Comprehension)
6.3.1 ผ้เู รยี นจาลองสถานการณส์ ัมภาษณ์งานทล่ี ะคู
6.4 ขน้ั ที่ 4 ขั้นประเมินช้ินงานสุดทา้ ยของผ้เู รยี น (E = Evaluating Final Student Output)
6.4.1 ผูส้ อนมอบหมายให้ผเู้ รียนจดั ทาวดิ ีโอสมั ภาษณง์ านแนะนาตวั เปน็ ภาษาองั กฤษ โดยนดั หมาย
ส่งอาทติ ยห์ นา้

7. บูรณาการปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง
สามห่วง (ความพอประมาณ)
1. แบง่ เวลาได้เหมาะสมกับกิจกรรมและภาระงาน
2. วางแผนการเรียน การทากิจกรรมตามท่ีได้รับมอบหมายให้เหมาะสมกับบทบาทหนา้ ท่ี
สามห่วง (ความมีเหตผุ ล)
1. เพ่อื จัดเวลาใหเ้ หมาะสมภาระหน้าทใ่ี นการทากิจกรรมหรือภาระงาน
2. เพอื่ ให้การทากิจกรรมเปน็ ไปตามกาหนดเวลาอย่างคมุ้ ค่า
สามห่วง (ความภูมิคุ้มกนั )
1. การใชเ้ วลาเหมาะสมและคุ้มคา่
2. กจิ กรรมท่ที าเกิดผลอย่างมีประสทิ ธภิ าพ
สองเงื่อนไข(ความรู้)
1. รูค้ าศพั ท์ สานวน การสนทนาภาษาองั กฤษ
2. รูว้ ิธกี ารใชเ้ คร่ืองมืออปุ กรณก์ ารส่ือสารได้อยา่ งคุ้มคา่
สองเงื่อนไข(คุณธรรม)
1. มวี ินยั ในตนเอง
2. มนี า้ ใจ เกดิ ความสามคั คี
3. มคี วามรบั ผิดชอบ
4. มีความมงุ่ มนั่ ทจ่ี ะทางานใหส้ าเร็จ

ภาษาองั กฤษเตรยี มความพรอ้ มเพื่อการทางาน 20000-1208 ครจู นั จริ า คงสาคร

155

8. ส่อื และแหลง่ การเรยี นรู้
8.1. สอ่ื ออนไลน์ https://www.youtube.com/watch?v=cNwEVYkx2Kk
8.2. หนงั สอื แบบเรียน ภาษาองั กฤษเตรียมความพร้อมเพ่ือการทางาน รหสั วชิ า 20000-1208
8.3. เอกสารประกอบการสอน ภาษาองั กฤษเตรียมความพร้อมเพ่ือการทางาน รหัสวชิ า 20000-

1208
8.4. Google Classroom ภาษาองั กฤษเตรียมความพร้อมเพอ่ื การทางาน รหสั วิชา 20000-1208
8.5. Application Duolingo

9. หลกั ฐานการเรยี นรู้
9.1. แผนการจัดการเรยี นรู้
9.2. หนังสือแบบเรยี น
9.3. ใบงาน
9.4. ใบความรู้
9.5. สมดุ บนั ทกึ

10.การวดั และประเมินผลตามสภาพจรงิ

10.1 วิธกี ารวัดและประเมินผล (ก่อนเรียน ระหวา่ งเรียน หลงั เรียน)
10.1.1 ด้านความรู้
- ตรวจแบบประเมินผลการเรยี นรู้
10.1.2 ด้านทักษะ
- ตรวจแบบประเมนิ ผลการปฏบิ ตั ิ
- ตรวจกจิ กรรมเสรมิ สรา้ งประสบการณ์
10.1.3 ดา้ นคณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์
- สังเกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล
- ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม
- สังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุม่
- ตรวจกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมนาความรู้
- ประเมินพฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

10.2 เครอ่ื งมอื ในการวัดและประเมินผล
10.2.1 ด้านความรู้
แบบทดสอบภาคความรู้
10.2.2 ดา้ นทักษะ
แบบฝกึ หดั ท้ายหน่วยการเรียนรู้
10.2.3 ดา้ นคุณลักษณะทพี่ ึงประสงค์
แบบประเมินพฤติกรรมผูเ้ รยี น

ภาษาอังกฤษเตรยี มความพร้อมเพอ่ื การทางาน 20000-1208 ครูจันจริ า คงสาคร

156

10.3 เกณฑ์การวดั และประเมินผล
10.3.1 ด้านความรู้
การประเมินแบบทดสอบภาคความร้ตู อ้ งได้คะแนนไม่ตา่ กวา่ 60%
10.3.2 ดา้ นทกั ษะ
การประเมนิ แบบแบบฝกึ หดั ท้ายหนว่ ยการเรยี นรู้ไดค้ ะแนนไมต่ ่ากว่า 70%
10.3.3 ดา้ นคุณลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์
การประเมินพฤตกิ รรมผเู้ รยี นต้องได้คะแนนไม่ต่ากวา่ 80%

11.ความสมั พันธ์/การบูรณาการกับรายวชิ าท่ีเกยี่ วข้อง

11.1 ภาษาอังกฤษในชีวิตประจาวนั 20000-1201
11.2 ภาษาองั กฤษฟงั -พูด 20000-1202
11.3 การอ่านสอ่ื สิง่ พมิ พภ์ าษาอังกฤษ 20000-1203
11.4การเขยี นภาษาอังกฤษในชวี ติ ประจาวัน20000-1204
11.5 ภาษาอังกฤษอินเตอร์เนต็ 20000-1206
12.ใบความรู/้ ใบงาน/แบบประเมนิ ใบงาน/แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หลังเรยี น

ภาษาองั กฤษเตรียมความพรอ้ มเพอ่ื การทางาน 20000-1208 ครจู นั จิรา คงสาคร

157

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 7 หนว่ ยท่ี 7
ช่อื วิชา ภาษาองั กฤษเตรียมความพรอ้ มเพ่ือการทางาน เวลาเรียนรวม 36 คาบ
ชือ่ หน่วย job interview
สอนครงั้ ที่ 15/18
ช่อื เรือ่ ง job interview 2
จานวน 2 คาบ

1. สาระสาคญั
การสัมภาษณ์งานเป็นส่ิงที่สาคัญอย่างหน่ึงในการสมัครเข้าทางาน การสัมภาษณ์งานจะเป็นการ

บอกรายละเอียดต่าง ๆ ของผสู้ มัครงาน ดังนนั้ ผู้สมัครงานควรศึกษาหาความรู้เกยี่ วกับการสมัครงานเพือ่ ให้
ตรงตามจุดประสงคข์ องบริษัท โดยตอบคาถามอยา่ งคลอ่ งแคลว่ ว่องไว
2. สมรรถนะประจาหน่วยการเรยี นรยู้ ่อยสสู่ มรรถนะหลกั ตามแผนการเรียน

2.1. ด้านความรู้ :
แสดงความรู้เกี่ยวกับการสัมภาษณง์ าน การแนะนาตวั ในการสัมภาษณง์ าน

2.2. ดา้ นทกั ษะ :
แนะนาตวั ในการสมั ภาษณ์งานและการตอบคาถามการสัมภาษณ์งาน

2.3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ :
ปฏบิ ตั งิ านท่ีไดร้ ับมอบหมายดว้ ยความรอบคอบ มรี ะเบียบ วินยั ตรงตอ่ เวลา สาเร็จตามทีก่ าหนด

ไดด้ ้วยตนเอง
3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ประจาหนว่ ย

3.1 จดุ ประสงคท์ ่วั ไป
3.1.1 บอกขั้นตอนการเตรยี มตัวในการสัมภาษณ์งาน

3.2. จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม
3.2.1. แนะนาตัวในการสัมภาษณ์งานและการตอบคาถามการสัมภาษณง์ าน

3.3 จุดประสงค์ที่บูรณาการ (คุณธรรม อัตลักษณ์ 9 ประการ/หลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพียง)

3.3.1 ความมีเหตุมีผลในการปฏิบัติงาน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง นักศึกษา
จะต้องมีการใช้ เทคนิคท่ีแปลกใหม่ใชส้ อ่ื และเทคโนโลยีประกอบการนาเสนอที่น่าสนใจนาวัสดุในทอ้ งถิ่นมา
ประยุกตใ์ ชอ้ ย่างคุ้มคา่ และประหยัด

3.3.2 มีความรักองคก์ ร รเู้ วลา ร้หู น้าท่ี สามคั คี มีวนิ ัย พอเพยี ง กตญั ญู สุจรติ จิตอาสา
4. สาระการเรยี นรู้

4.1.1..การสมั ภาษณง์ าน
4.1.2.การแนะนาตัวในการสัมภาษณ์งาน
4.1.3.การตอบคาถามการสัมภาษณ์งาน
5. ภาระงาน
กิจกรรม Job interview

ภาษาองั กฤษเตรยี มความพร้อมเพอ่ื การทางาน 20000-1208 ครูจนั จิรา คงสาคร

158

6. กจิ กรรมการเรยี นรู้
6.1 ขนั้ ท่ี 1 ขน้ั อธบิ ายจดุ ประสงค์ในการปฏิบตั ภิ าระงาน (L = Listing Task Objectives)
6.1.1.ครูทกั ทายนักเรยี น Good morning student How are you today ?
6.1.2. ผสู้ อนสอบถามการเตรยี มตวั การสมั ภาษณง์ านเปน็ ภาษาอังกฤษเม่ือสปั ดาหท์ ีแ่ ล้ว
6.1.3 ผ้สู อนใหผ้ ้เู รียนเตรียมตวั นาเสนอ คลิปวิโดโอสัมภาษณง์ านทไี่ ด้จัดทาขึน้
6.2 ขั้นที่ 2 ข้ันปฏิบัติภาระงาน (O = Observing and assisting Students during the

Task
6.2.1 ผู้สอนอธบิ ายบทสัมภาษณ์งาน ดงั น้ี

Job interview conversation
Mike: Good Morning, John. I am Mike.
John: Good Morning.
Mike: How are you doing?
John: I am doing fine. Thank you.
Mike: How was the traffic coming over here?
John: I am so glad that the traffic was light this morning. No traffic jam and no
accidents.
Mike: That is good. John, let’s start the interview. Are you ready?
John: Yes, I am.
Mike: First of all, let me properly introduce myself. I am the Finance
Department Manager. As you know there is an open position in my department,
and I need to fill this position as soon as possible.
John: Please, tell me a little bit about the position.
Mike: It is an entry-level position. The new employee will have to work closely
with the
Accounting department. He will also have to deal with the bank on a daily
basis.
John: What type of qualifications do you require?
Mike: I require a four-year college degree in Finance. Some working experience
would be helpful.
John: What kind of experience are you looking for?
Mike: Doing office work is good. However, since this is an entry-level position, I
do not require a lot of experience. I am willing to train the new person.
John: That is great!

Mike: John, tell me a little bit about yourself.
John: I was a student at West Coast University, and I just graduated with a
Bachelor degree in

ภาษาอังกฤษเตรียมความพรอ้ มเพอ่ื การทางาน 20000-1208 ครจู ันจริ า คงสาคร

159

Finance. I have been working part-time as a payroll clerk for the last two years.
Mike: What are you looking for in a job?
John: The job should help me see what Finance is all about. I have learned a
lot of Finance theories at school, and now it is time for me to put them into
practice.
Mike: Anything else?
John: I also hope that it will help me grow in my field.
Mike: What are your strengths? Why should I hire you?
John: I am a hard-working person and a fast learner. I am very eager to learn,
and I get along fine with people.
Mike: OK. Now, let me ask you a few quick questions. You do not mind working
long hours, do you?
John: No, I do not.
Mike: Can you handle pressure?
John: Yes, I can. When I was going to school, I took quite a few courses each
semester while working at least twenty hours every week. And, I handled that
situation very well.
Mike: Do you still have any questions for me?
John: No, I think I have a pretty good understanding of the job. I believe that I
can handle it with ease, and I hope to have the opportunity to work for you.
Mike: John, nice meeting you. Thank you for coming.
John: Nice meeting you too. Thank you for seeing me.
6.3 ขัน้ ท่ี 3 ข้ันตรวจสอบความเขา้ ใจของผูเ้ รียน (V = Verifying Student Comprehension)
6.3.1 ผเู้ รยี นจาลองสถานการณ์สัมภาษณ์งานท่ีละคน
6.4 ข้ันท่ี 4 ขน้ั ประเมินชิ้นงานสดุ ทา้ ยของผูเ้ รียน (E = Evaluating Final Student Output)
6.4.1 ผสู้ อนตรวจความถกู ต้องของแต่ละคน ทั้งสานวนภาษาอังกฤษทอี่ อกเสยี ง Final sound S-es
7. บรู ณาการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง
สามห่วง (ความพอประมาณ)
1. แบ่งเวลาไดเ้ หมาะสมกับกิจกรรมและภาระงาน
2. วางแผนการเรยี น การทากิจกรรมตามที่ไดร้ บั มอบหมายให้เหมาะสมกับบทบาทหน้าที่
สามห่วง (ความมเี หตุผล)
1. เพื่อจดั เวลาให้เหมาะสมภาระหนา้ ท่ีในการทากจิ กรรมหรือภาระงาน
2. เพอื่ ให้การทากิจกรรมเปน็ ไปตามกาหนดเวลาอยา่ งคุม้ ค่า
สามห่วง (ความภูมิค้มุ กัน)
1. การใช้เวลาเหมาะสมและคุ้มคา่
2. กิจกรรมท่ที าเกิดผลอย่างมีประสิทธภิ าพ

ภาษาองั กฤษเตรยี มความพร้อมเพื่อการทางาน 20000-1208 ครจู ันจิรา คงสาคร

160

สองเง่ือนไข(ความร้)ู

1. รคู้ าศพั ท์ สานวน การสนทนาภาษาอังกฤษ
2. รวู้ ิธีการใชเ้ ครอ่ื งมืออปุ กรณก์ ารสื่อสารได้อย่างคุ้มค่า
สองเงื่อนไข(คณุ ธรรม)
1. มีวนิ ยั ในตนเอง
2. มีนา้ ใจ เกิดความสามคั คี
3. มีความรับผิดชอบ
4. มคี วามมุ่งมนั่ ทีจ่ ะทางานให้สาเร็จ
8. สื่อและแหลง่ การเรียนรู้
8.1. ส่ือออนไลน์ https://www.youtube.com/watch?v=cNwEVYkx2Kk
8.2. หนงั สอื แบบเรยี น ภาษาอังกฤษเตรยี มความพร้อมเพื่อการทางาน รหัสวิชา 20000-1208
8.3. เอกสารประกอบการสอน ภาษาองั กฤษเตรยี มความพร้อมเพอื่ การทางาน รหสั วิชา 20000-
1208
8.4. Google Classroom ภาษาองั กฤษเตรยี มความพร้อมเพ่อื การทางาน รหัสวิชา 20000-1208
8.5. Application Duolingo

9. หลกั ฐานการเรียนรู้
9.1. แผนการจดั การเรียนรู้
9.2. หนังสือแบบเรียน
9.3. ใบงาน
9.4. ใบความรู้
9.5. สมุดบันทึก

10.การวดั และประเมินผลตามสภาพจริง

10.1 วธิ กี ารวดั และประเมินผล (ก่อนเรยี น ระหว่างเรยี น หลังเรียน)
10.1.1 ด้านความรู้
- ตรวจแบบประเมินผลการเรยี นรู้
10.1.2 ดา้ นทักษะ
- ตรวจแบบประเมินผลการปฏิบตั ิ
- ตรวจกจิ กรรมเสริมสรา้ งประสบการณ์
10.1.3 ดา้ นคณุ ลักษณะที่พงึ ประสงค์
- สงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล
- ประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลมุ่
- สังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม
- ตรวจกจิ กรรมสง่ เสรมิ คณุ ธรรมนาความรู้
- ประเมนิ พฤติกรรมด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

ภาษาองั กฤษเตรียมความพร้อมเพ่อื การทางาน 20000-1208 ครจู นั จริ า คงสาคร

161

10.2 เครื่องมือในการวดั และประเมนิ ผล
10.2.1 ดา้ นความรู้
แบบทดสอบภาคความรู้
10.2.2 ด้านทกั ษะ
แบบฝึกหดั ท้ายหน่วยการเรียนรู้
10.2.3 ด้านคุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์
แบบประเมนิ พฤติกรรมผู้เรียน

10.3 เกณฑ์การวดั และประเมินผล
10.3.1 ดา้ นความรู้
การประเมนิ แบบทดสอบภาคความรู้ตอ้ งได้คะแนนไม่ตา่ กวา่ 60%
10.3.2 ดา้ นทักษะ
การประเมนิ แบบแบบฝกึ หัดทา้ ยหน่วยการเรียนรไู้ ดค้ ะแนนไมต่ ่ากว่า 70%
10.3.3 ดา้ นคุณลกั ษณะทีพ่ งึ ประสงค์
การประเมินพฤติกรรมผู้เรยี นตอ้ งได้คะแนนไม่ต่ากวา่ 80%

11.ความสัมพันธ์/การบูรณาการกับรายวิชาทเ่ี กี่ยวข้อง

11.1 ภาษาอังกฤษในชวี ิตประจาวนั 20000-1201
11.2 ภาษาองั กฤษฟัง-พดู 20000-1202
11.3 การอ่านสือ่ สง่ิ พิมพภ์ าษาอังกฤษ 20000-1203
11.4 การเขยี นภาษาองั กฤษในชวี ติ ประจาวัน20000-1204
11.5 ภาษาองั กฤษอินเตอรเ์ นต็ 20000-1206
12.ใบความร/ู้ ใบงาน/แบบประเมินใบงาน/แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หลงั เรียน

ภาษาอังกฤษเตรยี มความพร้อมเพอ่ื การทางาน 20000-1208 ครจู ันจริ า คงสาคร

162

ใบความรู้ หน่วยที่ 7
ชื่อวิชา ภาษาองั กฤษเตรียมความพรอ้ มเพ่ือการทางาน เวลาเรยี นรวม 36 คาบ
ช่อื หน่วย job interview
สอนคร้งั ท่ี 14-15/18
ชอื่ เร่อื ง job interview
จานวน 2 คาบ

การเตรียมตวั สาหรับการสัมภาษณง์ าน
ในการสัมภาษณ์งานน้ัน นักเรียนบางคนท่ีเคยสมัครเข้าทางานท่ีใดที่หนึ่งมาแล้วก็คงพอเข้าใจ แต่
ขณะทีบ่ างคนก็ยังไมท่ ราบว่าจะต้องเตรียมอะไรบ้างเพ่ือใหพ้ รอ้ มกับการสัมภาษณ์งาน การเตรียมพร้อมใน
การสมัครงานนั้น ไม่ใชเ่ พียงเตรยี มเอกสารต่างๆ ท่ีจาเปน็ เท่านนั้ แต่ยังมีสิ่งทส่ี าคญั มากอกี หลายอย่างท่ีไม่
อาจละเลยได้
ประการแรก คือ การแต่งกาย ในเร่ืองการแต่งกายทต่ี ้องกล่าวถึงเพราะมันสาคัญมากการแตง่ กาย
สามารถทาให้ผู้สัมภาษณ์จะเห็นเราแต่งกายก่อนท่ีจะได้พูดคุยกับเราเสียอีกและการแต่งกายทาให้ผู้ท่ีจะ
ว่าจ้างเราสามารถเข้าใจบุคลิกและอปุ นิสยั บางประการในการทางานได้ดว้ ย ดงั น้ัน หากนักเรยี นคิดว่างานที่
นักเรียนสมัครไว้สาคัญกับตัวนักเรียนและไม่อยากพลาดโอกาส นักเรียนต้องแต่งกายให้เหมาะสมกับการ
เข้าสัมภาษณ์งานด้วย สาหรับนักเรียนที่กาลังจะจบการศึกษาในปีน้ี การแต่งกายท่ีเหมาะสมที่สุดก็คือชุด
นกั ศกึ ษา (ชุดนักศกึ ษาท่ีถูกระเบยี บดว้ ย) หากนกั เรยี นจบการศึกษาไปแล้วระยะเวลาหนึ่ง การแต่งกายด้วย
ชุดสุภาพจะเหมาะสมที่สุด อะไรล่ะที่เป็นชุดสุภาพ นักเรียนบางคนอาจจะไม่เข้าใจ ชุดสุภาพหมายถึง
เส้ือเชิ๊ต ไม่ใช่เสื้อโปโล และต้องไม่ใช่ผ้ายืด ไม่ใช่เส้ือลาย สีเส้ือที่ไม่แนะนาได้แก่สีเข้มๆ จัดๆ เช่น สีแดง
เข้ม / สีส้ม / สีเข้มๆ ไม่น่าจะเหมาะสม หากเป็นเสื้อสีขาว หรือสีในโทนสีอ่อนและเย็น เป็นสีพื้น จะดี
ที่สุด ส่วนกางเกงให้เป็นกางเกงขายาว ทรงสุภาพ ไม่แนะนาให้ใส่กางเกงเอวต่า ไม่ใช่ผ้ายีนส์ / ผ้า
ลูกฟูก หรือผ้ายืด สีของกางเกงก็ ไม่ควรเป็นสีฉูดฉาด เช่น สีส้ม / สีเขียว / สีเหลือง สีกางเกงที่
เหมาะสมคือสีกรมท่า สีดา หรือ สีน้าตาล การแต่งตัวต้องทับเส้ือไว้ในกางเกงให้เรียบร้อย คาดเข็มขัด
และใส่ถุงเท้ารองเท้าให้เรียบร้อย ถุงเท้าไม่ควรเป็นสีฉูดฉาด รองเท้าต้องเป็นรองเท้าหุ้มส้น ไม่ใช่รองเท้า
สาน จะเป็นรองเท้าผ้าใบ หรือรองเท้าหนังก็ได้ รองเท้าผ้าใบต้องสะอาด รองเท้าหนังต้องขัดเงา และท่ี
สาคญั เส้ือ ผา้ ถุงเท้า รองเทา้ ตอ้ งอยู่ในสภาพดี ไมข่ าด หรอื ชารุด นกั เรียนหญงิ ไม่ควรใส่กางเกงขายาว แต่
ควรใส่กระโปรง และไม่ควรใส่เส้ือผ้าที่คับเกินไป หรือกระโปรงที่ส้ันเกินไป หรือผ่าลึกเกินไป ไม่ควร
แต่งหนา้ เขม้ จดั จนเกนิ ไป ไมค่ วรใส่เครื่องประดับมากเกนิ ไป ที่สาคัญคือเครอ่ื งแต่งกายต้องสะอาด สาหรับ
ทรงผม ต้องเป็นทรงสุภาพ และต้องไม่ยาวเกินไป หวีหรือจัดทรงใหด้ ี ไม่ปล่อยกระเซิง ยุ่งเหยงิ ส่วนหนวด
เคราตอ้ งโกนให้เรยี บร้อย เล็บมือต้องตัดให้เรียบรอ้ ย นกั เรียนหญิงควรรวบผมใหเ้ รยี บรอ้ ย
ประการที่สอง คือ ต้องเรียนรู้เกี่ยวกับเวลาและสถานท่ีสัมภาษณ์งาน ต้องศกึ ษาเส้นทางการเดินทางไปยัง
สถานท่ีสัมภาษณ์ วัน และเวลา ควรมีการคานวนเวลาการเดินทางไปยังสถานท่ีสัมภาษณ์ และเผ่ือไว้บ้าง
อย่างน้อยต้องถึงสถานท่ีสัมภาษณ์ก่อนเวลาประมาณ 15 นาที หากศึกษาสภาพอากาศ และเตรียมพร้อม
ไว้บ้างก็จะทาให้มีความมั่นใจข้ึน เช่น หากเป็นหน้าฝน ควรมีร่มไปด้วย หน้าร้อม หากใส่เสื้อแขนยาว อาจ
ทาให้เหงื่อออกจนเสื้อเปียกและอาจมีกลิน่ ตัวดว้ ย ดงั นั้นเสอื้ แขนส้ันจะเหมาะกับในหนา้ รอ้ นมากกว่า การ
เดนิ ทางไปควรไปคนเดยี ว ไม่ควรพาเพื่อนหรอื ญาตไิ ปด้วย เพราะอาจถกู มองว่าไม่มีความมน่ั ใจ

ภาษาองั กฤษเตรียมความพรอ้ มเพ่อื การทางาน 20000-1208 ครจู นั จิรา คงสาคร

163

ประการทสี่ าม คือเรือ่ งการเตรยี มเอกสารทจ่ี าเป็นตา่ งๆ ได้แก่ สาเนาบัตรประชาชน, สาเนาทะเบียนบา้ น,
สาเนาระบียนการเรยี น (ร.บ.), สาเนา transcript, resume, รปู ถ่าย, ใบรับรองต่างๆ, หากมีใบ
ประกาศนยี บตั รอะไร ใหถ้ ่านสาเนาไปดว้ ย ทสี่ าคญั เอกสารทง้ั หมดต้องตรวจสอบความถกู ต้องเรยี บร้อย
กอ่ น
ประการสุดท้าย คือการเตรยี มตัวสาหรับสัมภาษณ์ สิง่ ท่ตี ้องเตรยี มพร้อมไว้ คือการตอบคาถามสัมภาษณ์
คาถามบางอย่างสามารถเตรียมล่วงหนา้ ได้ คาถามหลักๆ จะเปน็ เร่อื งเกย่ี วกบั

ประวตั สิ ่วนตวั (personal information)
ประวัตกิ ารศกึ ษาและฝึกอบรม (education and training)
ประวัติการทางาน และฝึกงาน (in-plant training and experiences)
ความสามารถพเิ ศษ และบุคลิกภาพ (skills and personalities)
ข้อมูลเบอ้ื งต้นเกย่ี วกบั บริษัท และตาแหน่งงาน (background information of the company and
the position)
ข้อควรระวงั ในการสัมภาษณง์ าน
1. ควรมาถงึ ห้องสมั ภาษณ์ก่อนเวลา ประมาณ 15 นาที เพอื่ ทาความคนุ้ เคยกับสถานที่
และเพ่ือเปน็ การเตรยี มความพร้อมก่อนเขา้ สัมภาษณ์ ตรวจเชค็ การแต่งกาย ผม และอื่นๆ
2. การน่งั ไม่ควรนัง่ กระดกิ ขา หรือไขว่ห้าง หรอื นัง่ ในลักษณะกงิ่ นง่ั กงิ่ นอน ไมค่ วรน่ังทา้ วคาง และไม่
ควรนงั่ เหยยี ดขายื่นออกไป
3. ไมค่ วรเคีย้ วหมากฝรง่ั หรืออมลกู อม หรือเคี้ยวสง่ิ ใดๆในขณะเขา้ รับการสัมภาษณ์ ยกเว้นยาอมระงบั
กล่ินปาก ซ่งึ ต้องระวังไม่ให้เป็นอปุ สรรคในการพูด
4. สายตา ไมค่ วรจ้องมองกรรมการตลอดเวลา หรอื ไม่ควรหลบสายตากรรมการ สายตาควรแสดงการ
กระตือรอื ลน้ ไมแ่ สดงอาการง่วงเหงาหาวนอน
5. ควรมีการใชม้ ือแสดงประกอบการพดู บ้างแต่อย่าให้มากเกินไป ไม่ใชม้ ือแสดงท่าประกอบเลยก็ไมด่ ี ไม่
เปน็ ธรรมชาติ
6. ไมค่ วรน่ังแคะเล็บ ในขณะเข้ารบั การสมั ภาษณ์
7. ในขณะเข้ารับการสัมภาษณ์ ควรปิดโทรศัพท์มือถือ หรือหากจาเป็นต้องเปิดไว้ ควรปดิ เสยี งไว้ และไม่
ควรรับโทรศพั ท์ในขณะเข้ารับการสัมภาษณ์งาน
8. สัมภาระ เชน่ เป้ ถุงใส่ของ ไม่ควรนาเขา้ ไปในห้องสัมภาษณ์ ยกเวน้ แฟ้มเอกสารที่จาเปน็ เท่านน้ั

Answer these questions with your own information:
Personal Information

1. What is your name, please?
2. How can I call you?
3. Could you tell me your name, please?
4. Can I have your name, please?
5. How old are you?
6. Where were you born?
7. Where is your hometown?
8. Where are you from?

ภาษาอังกฤษเตรยี มความพร้อมเพอ่ื การทางาน 20000-1208 ครจู ันจิรา คงสาคร

164

9. Where do you come from?
10. When is your birthday?
11. When were you born?
12. How many brothers and sisters do you have?
13. How big is your family?
14. What does your father / mother do?
15. What is your father's / mother's job?
16. What do your parents do?
17. What do you do?
18. Where do you live?
19. What is your address?
20. What is your phone number?
21. Do you have your home phone number?
22. What's your hobby?
23. What are your hobbies?
24. What do you do in your free time?
25. Are you married?
Experiences
1. Do you have any work experience?
2. Are you working now?
3. Have you got any experiences or training related to the position you applied for?
4. Tell me about your work experience, please.
5. Where did you take the in-plant training? And how long?
6. What does the company do? // What kind of business does the company do?
7. What were your responsibilities?
8. What did you do there?/ what was your job like?
9. Which department were you in?
10. How many employees were there in your department?
11. How many hours did you work in a day?
12. What time did you start working, and what time did you finish your work in a day?
13. Did you get paid?
14. Did you receive any money for your training?

ภาษาองั กฤษเตรยี มความพร้อมเพ่ือการทางาน 20000-1208 ครูจนั จริ า คงสาคร

165

Education
1. What is your highest education?
2. Where did you complete your secondary education?
3. When did you get your Certificate of Vocational Education?
4. What is your field of study/ major subject?
5. What course are you taking up?
6. Are you a student?
7. When will you graduate ?
8. What is your grade point average (GPA)?
9. What subjects are you good at?
10. What qualification will you obtain?
11. What certificate did you get from primary school (Pratom 6)?
12. How long did you study in primary school?

Skills & Personality
3.1. What are your special skills? / What are your strengths? / What are

your main specialties?
3.1.1. What are your special skills? หรอื What are your special ability?

แนวการตอบ ...
I can …..V1 (เชน่ I can make drawing. / I can repair computer./ I can build homepage.)
I am able to V1 (เช่น I am able to install computer hardware. / I am able to speak
Japanese. )
I am good at ..N .. (V-ING) (เชน่ I am good at English./ I am good at mathematics.)
I am proficient in ...N...(V-ING) (เชน่ I am proficient in repairing gasoline engines.)
Personality
Strengths and weaknesses

1. What are your (strengths / positive personalities / good points)?
2. Why do you think you’re better than the others?
3. Why do you think you are suitable for this position?
4. Why should we hire you?
5. Tell me about your (strengths/ positive personalities / good points), please.
6. What are your (weaknesses / negative personalities / bad points)?
7. What do you think may be the problems when working?
8. Tell me about your (weaknesses / negative personalities / bad points), please.

ภาษาองั กฤษเตรยี มความพรอ้ มเพอ่ื การทางาน 20000-1208 ครูจันจิรา คงสาคร

166

3.1.2. What are your strengths? หรอื What are your positive personalities? หรอื
Have you got any strengths? หรอื Do you have any positive personalities?

แนวการตอบ ...
I am __g1__, __g2___, and ___g3___. (ข้อดีทง้ั 3 รายการ) เช่น
I am hard-working, honest, and patient. (ฉนั เปน็ คน ขยนั , ซือ่ สตั ย์ และ อดทน)

3.1.3. What are your weaknesses? หรอื What are your negative personalities?
แนวการตอบ ...
Sometimes, I am a little bit ___n1___. (ข้อเสีย 1 รายการ) เชน่
Sometimes, I am a little bit serious. (บางครง้ั ฉนั รู้สึกเครยี ดเลก็ น้อย)

3.1.4. What kind of person are you?
แนวการตอบ ...
I am __g1__, __g2___, and ___g3___; but sometimes, I am a little bit

___n1___.
(ข้อดที ง้ั 3 รายการและ ข้อเสยี 1 รายการ) เช่น
I am hard-working, honest, and patient; but sometimes, I am a little bit

serious.
(ฉนั เป็นคน ขยัน, ซื่อสัตย์ และ อดทนบางครัง้ ฉันรูส้ ึกเครียดเลก็ น้อย)

Background information about the position and the company
1. What do you know about our company?
2. Do you know why we need new employees?
3. How did you know that we need new employees?
4. Why do you want to work here?
5. Would you mind working upcountry?
6. Can you work on holidays?
7. Can you work in shifts?
8. Would you mind if we ask you to work offshore?
9. What do you know about the position you applied for?
10. How did you find out about the job vacancy here?
11. What salary do you expect?
12. When can you start working?
13. If we hire you, how soon can you start working?
14. If you are employed, how soon can you start working?

ภาษาอังกฤษเตรยี มความพร้อมเพ่อื การทางาน 20000-1208 ครูจนั จิรา คงสาคร

167

คาถาม-คาตอบ เพื่อเตรยี มตัวสอบสมั ภาษณใ์ นวิชาภาษาองั กฤษสมัครงาน อ. รงั สี
1. Please tell me about yourself. หรือ Could you tell me something about yourself?

-My name is ……….
-I am …….years old.
-I was born on the ……วัน เดอื น ปี ทเ่ี กิด…. in….จังหวดั ทเ่ี กิด.
-I have …จานวนพ่ีนอ้ งที่เป็นชาย..brother(s) and …จานวนพีน่ ้องทเี่ ปน็ หญิง. sister(s).
-My father is a ….อาชพี ของบดิ า….
-My mother is a ..อาชพี ของมารดา…

(กรณีทบ่ี ดิ า มารดาทาอาชีพเดยี วกันให้พดู ว่า My parents are ….อาชีพของบิดามารดา…)
-I am Thai.
-I like …งานอดิเรก เชน่ reading, หรือ browsing internet, หรือ using computers.
-I am a student.
*** -I am exempted from military service because I have completed 3rd year reserved
officer training course. (ถา้ เรยี น ร.ด. มาแล้ว)
*** -I am exempted from military service because I drew black card. (ถ้าจับไดใ้ บดา)
*** -I had been discharged from the military since .เดือน / ปีที่ปลดประจาการ (กรณีทปี่ ลด
ทหารแล้ว)
*** -I am going to be recruited for military service in… ปีทตี่ อ้ งไปเกณฑ์ทหาร… in… อาภอ
และ

จังหวัดทจ่ี ะต้องไปเกณฑ์ทหาร… (กรณีท่ไี มไ่ ดเ้ รียน ร.ด.)
- I am single.
- I live at บา้ นเลขท่ี… หมู่ …. ถนน……. ตาบล …… อาเภอ ……… (จังหวัด) ……
คาวา่ “จังหวดั ” ไมต่ อ้ งพูด ให้พูดชือ่ จงั หวดั ลงไปเลย เช่น Chonburi. หรอื Rayong.
*** สาหรบั ข้อที่มีดอกจันทน์ เฉพาะ น.ศ. ชาย เทา่ น้นั

2. Please tell me about your education.
I started my education at ช่อื ร.ร...... in ..ปี ค.ศ.…
Then, I got a certificate of Primary Education in ....ปี ค.ศ.ทีจ่ บ ป. 6…
After that, I studied at ……ช่ือร.ร มัธยม…... for 3 years.
I got a Certificate of Secondary Education.
I continued my study at ....ร.ร/วิทยาลยั ........ for 3 years.
(สาหรบั น.ศ. ทีเ่ รยี นปวช.)I got a Vocational Certificate in …สาขาวิชาท่ีเรียน...... in.......ปีที่จบ
(สาหรับน.ศ. ม. 6) I got a Certificate of High School.
Now, I’m studying for a vocational diploma in ….สาขาวิชาทีเ่ รียน.... at Thai-Austrian
Technical
College. I’m going to graduate in this coming March.

ภาษาองั กฤษเตรยี มความพร้อมเพอ่ื การทางาน 20000-1208 ครูจันจริ า คงสาคร

168

4. Do you have any work experience? (เลือกตอบเพียงข้อเดยี ว)
• ถา้ เคยทางานมาแล้ว ---Yes. I used to work for ชือ่ บรษิ ทั as a ช่ือตาแหน่ง for ระยะเวลาท่ี
ทางานท่ีนน่ั .

บอกประเภทของงานทที่ า เช่น I repaired cars. I operated the lathe machine. I serviced
computers. I installed computer programs. I maintained the company
website. I made
drawings.
• ถ้ายงั ไม่เคยทางาน ---- No. But during my study at Thai-Austrian Technical College, I
was trained at ชอ่ื บริษัท as a ชอื่ ตาแหนง่ for 20 weeks. บอกประเภทของงานท่ที า เชน่ I repaired
cars. I operated the lathe machine. I serviced computers. I installed computer
programs. I maintained the company website. I made drawings.
5.1. Why do you want to work for us? (เลอื กตอบเหตผุ ลหลกั 1 ขอ้ และเหตผุ ลเสริมอกี 1 ขอ้ )
เหตผุ ลหลกั …
Because the job is mainly about my specialties. หรอื
Because the job is directly related to my study.

และเลอื กเหตุผลเสรมิ ขอ้ ใดข้อหนึ่งข้างล่างน้อี ีกเพียงข้อเดยี ว
- Because the company is not far from where I live.
- Because the salary is very attractive.
- Because your company provides good welfares and good working conditions.

5.2. If you are employed, how soon can you start working? (เลือกตอบข้อใดข้อหนงึ่ )
- I can start working tomorrow.
- I can start working next Monday.
- I can start working on the 2 of April. (วนั /เดอื น)
- I can start working as soon as the company requires.

5.3. How did you find out about job vacancies here? (เลอื กตอบเพียงข้อเดียว)
- I read it from the newspapers. (หรอื magazine)
- My teacher told me. (หรือ ใช้คาว่า friend / uncle / brother แทนคาว่า teacher กไ็ ด้)

5.4. What kind of work are you looking for?
- I like to work in … ช่ือแผนกในโรงงาน….เช่น welding department, production line.
- I like to work with computer./ machines /

5.5. What position did you apply for?
- I applied for a …ชอื่ ตาแหนง่ งาน……..

ภาษาอังกฤษเตรียมความพร้อมเพ่ือการทางาน 20000-1208 ครจู นั จิรา คงสาคร

169

Job Interview questions and answering guides:
1. Please tell me about yourself.
( Could you tell me something about yourself?)

-My name is ........ช่อื นามสกลุ .........................................................……….
-I am .....อายุ...…….years old.
-I like ……(งานอดเิ รก)…………….
*** -I am exempted from military service because I have completed 3rd year reserved
officer training course. (ถา้ เรียน ร.ด. มาแล้ว)
*** -I am exempted from military service because I drew black card. (ถ้าจับได้ใบดา)
*** -I had been discharged from the military since …………… (กรณที ี่ปลดทหารแล้ว)
*** -I am going to be recruited for military service in…ชอื่ อาเภอ และจังหวัด… in…ปี ค.ศ.ท่ี
จะไป

เกณฑ์……
(กรณีทไ่ี ม่ไดเ้ รยี น ร.ด.)
- I am single.
- I live at …บ้านเลขที่ ถนน ตาบล อาเภอ จงั หวัด……………………………….

หมายเหตุ: ข้อท่ที าเคร่อื งหมาย *** ให้เลือกตอบเพียงข้อเดยี วท่ตี รงกับความจริงท่ีสดุ

2. Please tell me about your education.
I started my education at …ชอ่ื โรงเรยี นที่เรยี นประถมศึกษา....... in…. ปี ค.ศ...........
Then, I got a certificate of Primary Education in …..ปี ค.ศ...........
After that, I studied at …ชื่อโรงเรียนท่เี รยี นมธั ยมศึกษา.…... for 3 years.
I got a Certificate of Secondary Education.
I continued my study at .........(.ชื่อโรงเรยี นทเ่ี รยี นม. 6) หรอื …(ชอื่ วิทยาลยั ทีเ่ รียน ปวช.)....... for 3
years.
(สาหรบั น.ศ. ทีเ่ รียนปวช.)I got a Vocational Certificate in …(สาขาที่เรียน)...... in......ปี ค.ศ...........
(สาหรับน.ศ. ม. 6) I got a Certificate of High School.
Now, I’m studying for a vocational diploma in …(สาขาทีเ่ รยี น)… at Thai-Austrian Technical
College.
I’m going to graduate in this coming March.

ภาษาองั กฤษเตรยี มความพรอ้ มเพื่อการทางาน 20000-1208 ครูจันจริ า คงสาคร

170

3. What are your special skills? / What are your strengths? / What are
your main specialties?

I can ………………………………….หรือ I am able to …………………………… (ฉันสามารถ ทา.../ สรา้ ง..../
ซอ่ ม.../ ติดตั้ง .../ เขียนโปรแกรม .... ได้ ) ประโยคแบบน้ีใชบ้ อกเรื่องท่ีไมใ่ ช่สาขาทีเ่ รียนมา เช่น เรยี น
สาขาช่างกลฯ แตส่ ามารถสร้างเวบ็ ไซดไ์ ด้ เป็นตน้
I am good at ………………………… หรือ I am proficient in .............................. (ฉันสามารถ ทา.../ สร้าง
..../ซ่อม.../ ตดิ ตัง้ .../
เขยี นโปรแกรม .... ได้ดี ) ประโยคแบบนีใ้ ชบ้ อกเร่ืองตรงกับสาขาท่ีเรียนมา เช่น เรยี นสาขาชา่ งกลฯ
สามารถเขยี นโปรแกรมคุมเครื่อง CNC ได้ เปน็ ต้น
4. Do you have any work experience? (เลือกตอบเพียงขอ้ เดยี ว)
• Yes. I used to work for …ช่ือบริษัททเี่ คยทางานท่นี นั่ ……….. as a …ชือ่ ตาแน่งงาน. for …
ระยะเวลาทีท่ างานท่บี ริษัทนั้น… I บอกงานท่ีตนเองทา 2-3 อยา่ ง ………………………….
• No. But during my study at Thai-Austrian Technical College, I was trained at …ชือ่ บริษัท
ทไ่ี ปฝึกงานพร้อมชื่อจงั หวดั …… as a trainee (หรือ as an apprentice) for 9 หรือ 18 weeks. I บอก
งานทตี่ นเองทา 2-3อย่าง

5.1. Why do you want to work for us? ทาไมจึงอยากทางานทน่ี ี่
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
5.2. If you are employed, how soon can you start working? สามารถเร่ิมงานได้เรว็ ทส่ี ดุ เมื่อไร

………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

5.3. How did you find out (know) about job vacancies here? รไู้ ด้อยา่ งไรวา่ ทน่ี ี่มีตาแหน่งงานวา่ ง
I read it from the newspapers. หรอื from the college’s notice board หรอื the

company’s website.
My teacher told me about it. อาจเปล่ยี น teacher เป็น friend uncle, หรอื คนอืน่ ๆก็ได้

5.4. What kind of work are you looking for?

-I applied for (ชือ่ ตาแหนง่ งานทสี่ มคั รไว้)………………………………………………

What position did you apply for?
-I applied for (ชื่อตาแหน่งงานที่สมัครไว้)………………………………………………

What kind of work are you specialized in?
-I studied about (สาขาที่เรยี น) so I am specialized in this field.

ภาษาองั กฤษเตรยี มความพรอ้ มเพ่ือการทางาน 20000-1208 ครูจนั จริ า คงสาคร

ใบงานท่ี 7 171
ช่อื วิชา ภาษาอังกฤษเตรียมความพรอ้ มเพ่ือการทางาน
ชอ่ื หน่วย job interview หน่วยท่ี 7
เวลาเรยี นรวม 36 คาบ
ช่อื เรอ่ื ง job interview สอนครง้ั ท่ี 14-15/18
จานวน 2 คาบ

ภาษาองั กฤษเตรยี มความพรอ้ มเพ่ือการทางาน 20000-1208 ครจู นั จริ า คงสาคร

เฉลยใบงานท่ี 7 172
ชื่อวิชา ภาษาองั กฤษเตรยี มความพร้อมเพื่อการทางาน
ชอื่ หน่วย letter of Application หน่วยที่ 7
เวลาเรียนรวม 36 คาบ
ช่อื เรื่อง letter of Application สอนครงั้ ที่ 14-15/18
จานวน 2 คาบ

ขั้นอย่กู ับดุลพนิ ิจครผู ู้สอน
--------------------------------------------------------------------

ภาษาองั กฤษเตรยี มความพร้อมเพ่อื การทางาน 20000-1208 ครจู ันจริ า คงสาคร

173

แบบทดสอบกอ่ นเรียน/หลังเรยี น หน่วยท่ี 7
ชือ่ วิชา ภาษาอังกฤษเตรยี มความพร้อมเพื่อการทางาน เวลาเรยี นรวม 36 คาบ
ช่ือหน่วย job interview
สอนครง้ั ท่ี 14-15/18
ชื่อเรือ่ ง job interview
จานวน 2 คาบ

Directions: 1. This test consists of 12 items.
2. Each item has 4 choices.
3. Choose the most appropriate answer and write X in boxes on your

answer sheet.

Complete the sample conversation below by filling the gaps with verbs in the
appropriate form and tense.
The vacancy being discussed is that of "Assistant Manager" in a clothing shop.

1. Arrival and first chat
- [Interviewer] Hello, are you Ben Grey?

- [You] Yes, hello.

- [Interviewer] I’m Isabelle Hall. I'm the general manager here. How do you do?

- [You] (1)...............................[to do]

- [Interviewer] Did you find us OK?

- [You] Yes, all fine. I (2) ......................... [to take] the train and (3)......................... [to walk]
from the station.

- [Interviewer] Fine. I understand you've come in to discuss our vacancy for assistant
manager?

- [You] Yes, that's right.

- [Interviewer] Great. Why don't you come through and we can have a proper chat.

- [You] Sure, thank you.

2. Questions about your current job
- [Interviewer] I (4) ............................ [to have] a chance to look at your CV yet.
(5).......................... [to bring] a copy with you?

ภาษาอังกฤษเตรยี มความพรอ้ มเพือ่ การทางาน 20000-1208 ครจู นั จริ า คงสาคร

174

- [You] Yes, here you are.

- [Interviewer] Thank you. I see that currently you (6)........................... [to work] at ABC
company as a senior sales assistant. What responsibilities (7)............................ [to have]
there?

- [You] Well, on a day to day basis I (8)............................. [to deal] with customers in the
shop area and I handle cash and card transactions. However in the last six months I
(9).............................. (to be given) other responsibilities, like taking customer complaints
and supervising stock levels.

- [Interviewer] I see. Have you had any experience with purchasing stock as well?

- [You] Yes, I (10) .............. often ................ [to be asked] to collect input from other sales
assistants when the store manager selects new clothing ranges. I (12) ............................. [to

visit] 3 of our suppliers with him recently and I often speak to them by phone.

- [Interviewer] Great. What (12) ............................... [to discuss] with them?

- [You] Usually it's queries about delivery and availability of certain items. But I also often
negotiate returns of items that are unsatisfactory or damaged.

1 A How are you?
B How do you do?
C How have you been doing?
D How do you feel?

2. A took
B is taking
C taken
D take

3. A walk
B is walking
C has walked
D walked

4 A had
B has had
C haven’t had
D have had

ภาษาองั กฤษเตรียมความพร้อมเพอื่ การทางาน 20000-1208 ครูจันจิรา คงสาคร

175

5 A Have you brought
B brought
C be brought
D Did you brought

6. A worked
B has worked
C will work
D are working

7. A have
B having
C are you having
D do you have?

8.. A deal
B am dealing
C to deal
D dealing

9. A give
B have you given
C have you giving
D given

10 A asked
B am often asked
C have asked
D often asked

11 A have visited
B visiting
c visit
D has visited

12 A discuss
B did you discuss?
C are you discussed?
D do you discuss?

ภาษาอังกฤษเตรยี มความพร้อมเพอ่ื การทางาน 20000-1208 ครจู ันจริ า คงสาคร

176

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น/หลังเรียน หน่วยท่ี 7
ชื่อวิชา ภาษาองั กฤษเตรียมความพรอ้ มเพื่อการทางาน เวลาเรยี นรวม 36 คาบ
ชื่อหน่วย Jobs Vacancies
สอนครั้งที่ 14-15/18
ช่อื เร่อื ง ประกาศรับสมคั รงาน
จานวน 2 คาบ

Directions: 1. This test consists of 12 items.
2. Each item has 4 choices.
3. Choose the most appropriate answer and write X in boxes on your

answer sheet.

Complete the sample conversation below by filling the gaps with verbs in the
appropriate form and tense.
The vacancy being discussed is that of "Assistant Manager" in a clothing shop.

1. Arrival and first chat
- [Interviewer] Hello, are you Ben Grey?
- [You] Yes, hello.
- [Interviewer] I’m Isabelle Hall. I'm the general manager here. How do you do?
- [You] (1)...............................[to do]
- [Interviewer] Did you find us OK?
- [You] Yes, all fine. I (2) ......................... [to take] the train and (3)......................... [to walk]
from the station.
- [Interviewer] Fine. I understand you've come in to discuss our vacancy for assistant
manager?
- [You] Yes, that's right.
- [Interviewer] Great. Why don't you come through and we can have a proper chat.
- [You] Sure, thank you.
2. Questions about your current job
- [Interviewer] I (4) ............................ [to have] a chance to look at your CV yet.
(5).......................... [to bring] a copy with you?
- [You] Yes, here you are.

ภาษาอังกฤษเตรียมความพรอ้ มเพื่อการทางาน 20000-1208 ครูจนั จิรา คงสาคร

177

- [Interviewer] Thank you. I see that currently you (6)........................... [to work] at ABC
company as a senior sales assistant. What responsibilities (7)............................ [to have]
there?

- [You] Well, on a day to day basis I (8)............................. [to deal] with customers in the
shop area and I handle cash and card transactions. However in the last six months I
(9).............................. (to be given) other responsibilities, like taking customer complaints
and supervising stock levels.

- [Interviewer] I see. Have you had any experience with purchasing stock as well?

- [You] Yes, I (10) .............. often ................ [to be asked] to collect input from other sales
assistants when the store manager selects new clothing ranges. I (12) ............................. [to

visit] 3 of our suppliers with him recently and I often speak to them by phone.

- [Interviewer] Great. What (12) ............................... [to discuss] with them?

- [You] Usually it's queries about delivery and availability of certain items. But I also often
negotiate returns of items that are unsatisfactory or damaged.

1 A How are you?
B How do you do?
C How have you been doing?
D How do you feel?

2. A took
B is taking
C taken
D take

3. A walk
B is walking
C has walked
D walked

4 A had
B has had
C haven’t had
D have had

5 A Have you brought
B brought
C be brought
D Did you brought

ภาษาองั กฤษเตรยี มความพรอ้ มเพื่อการทางาน 20000-1208 ครจู ันจิรา คงสาคร

178

6. A worked
B has worked
C will work
D are working

7. A have
B having
C are you having
D do you have?

8.. A deal
B am dealing
C to deal
D dealing

9. A give
B have you given
C have you giving
D given

10 A asked
B am often asked
C have asked
D often asked

11 A have visited
B visiting
c visit
D has visited

12 A discuss
B did you discuss?
C are you discussed?
D do you discuss?

ภาษาองั กฤษเตรยี มความพรอ้ มเพ่อื การทางาน 20000-1208 ครจู นั จริ า คงสาคร

179

แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 8 หนว่ ยที่ 8
ช่ือวิชา ภาษาองั กฤษเตรียมความพร้อมเพ่ือการทางาน เวลาเรยี นรวม 36 คาบ
ชอื่ หน่วย Communication & IT at Work
สอนครง้ั ที่ 16/18
ชอ่ื เรอ่ื ง Communication & IT at Work
จานวน 2 คาบ

1. สาระสาคญั
การสอื่ สารทเ่ี กดิ ขึน้ ในการปฏิบตั งิ านอาชีพมีหลายรปู แบบ จะมงุ่ เน้นให้ผเู้ รยี นคุน้ กับการ่ส่ือ

สารดว้ ยลายลกั ษณ์อักษรท่ีมักพบเจอในระหวา่ งปฏิบัตงิ านอาชีพ รวมถงึ การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อ
การพฒั นาทกั ษะภาษาอังกฤษ
2. สมรรถนะประจาหน่วยการเรียนรยู้ ่อยส่สู มรรถนะหลักตามแผนการเรียน

2.1. ด้านความรู้ :
2.1.1. แสดงความรู้ความเข้าใจความสําคัญของการสื่อสารด้วยลายลักษณ์อักษรในการปฏิบัติงาน

อาชีพ
2.2.2. สามารถใชค้ ําและสํานวนประโยคท่เี กย่ี วกบั การใชแ้ ฟกซ์

2.2. ดา้ นทกั ษะ :
2.2.1 เขยี นวนั ทีใ่ นภาษาองั กฤษได้
2.2.2 เขียนบนั ทึกภายในเพือ่ สื่อสารในการปฏบิ ตั ิงานอาชีพได้
2.2.3 สนทนาเป็นภาษาองั กฤษเพ่อื การนัดหมายได้
2.2.4 สง่ ข้อมลู ทางโทรศัพทผ์ ่านแอปพลิ เคชนั ออนไลน์ต่างๆ

2.3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ :
ปฏิบัตงิ านทไี่ ดร้ บั มอบหมายดว้ ยความรอบคอบ มีระเบยี บ วนิ ยั ตรงต่อเวลา สาํ เรจ็ ตามที่กาํ หนด

ได้ดว้ ยตนเอง
3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ประจาหน่วย

3.1 จดุ ประสงคท์ ว่ั ไป
3.1.1 อธิบายความสําคญั ของการสื่อสารด้วยลายลกั ษณ์อักษรในการปฏบิ ตั ิงานอาชพี

1.2 บอกชนิดคําและสาํ นวนประโยคท่ีเกีย่ วกับการใช้แฟกซ์
3.2. จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม
3.2.1. เขียนวันท่ีในภาษาอังกฤษได้
3.2.2 เขียนบนั ทึกภายในเพื่อส่ือสารในการปฏิบัติงานอาชพี ได้
3.2.3 สนทนาเปน็ ภาษาองั กฤษเพือ่ การนัดหมายได้
3.2.4 ส่งข้อมูลทางโทรศัพทผ์ ่านแอปพลิ เคชัน ออนไลนต์ า่ งๆ

3.3 จุดประสงค์ที่บูรณาการ (คุณธรรม อัตลักษณ์ 9 ประการ/หลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพยี ง)

3.3.1 ความมีเหตุมีผลในการปฏิบัติงาน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง นักศึกษา
จะตอ้ งมกี ารใช้ เทคนคิ ท่ีแปลกใหม่ใช้สอื่ และเทคโนโลยีประกอบการนําเสนอทน่ี ่าสนใจนําวัสดุในทอ้ งถิ่นมา
ประยกุ ต์ใชอ้ ยา่ งค้มุ คา่ และประหยดั

3.3.2 มคี วามรักองคก์ ร ร้เู วลา รหู้ นา้ ที่ สามัคคี มวี ินัย พอเพียง กตญั ญู สุจริต จิตอาสา