แผนการจัดการเรียนรู้

124 ชื่อ ........................................................................ ช้นั.............................................................. เลขที่............... ให้นักเรียนบอกวิธีการเดินทางที่ใช้บ่อยที่สุดและเสนอแนวทางการ ปฏิบตัิตนในการเดินทางให้ปลอดภยัมา 2วิธีพร้อมบอกผลที่เกิดข้ึน บันทึกลงในแผนภาพ วันที่ ................. เดือน ...................................... พ.ศ. ............ ใบงานที่ 6 เรื่อง ความปลอดภัยจากอุบัติเหตุในการเดินทาง ผลที่เกิดขึ้น _______________________________ _______________________________ _______________________________ _______________________________ _______________________________ _______________________________ _______________________________ การปฏิบัติตนในการเดินทาง ให้ปลอดภัย _________________________________________ _________________________________________ _________________________________________ _________________________________________ _________________________________________ _________________________________________ _________________________________________ การเดินทาง_______________________________

134 แผนการจัดการเรียนรู้ที่16 กลุ่มสาระการเรียนรู้ พลศึกษาและสุขศึกษา (สุขศึกษา) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ความปลอดภัยจากอุบัติเหตุในบ้าน โรงเรียนและการเดินทาง ภาคเรียนที่ 2/2566 เรื่อง แหล่งขอความช่วยเหลือและการสื่อสารเพื่อขอความช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุร้าย เวลา 1 ชั่วโมง วันที่ 14 กุมภาพันธ์2567 ผู้สอน นายราชินทร์ แก้วบัณฑิต มาตรฐานการเรียนรู้ มฐ.พ 5.1 ป้องกันและหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ อุบัติเหตุ การใช้ยา สารเสพติด และความรุนแรง ตัวชี้วัด มฐ.พ 5.1 ป.3/2 แสดงวิธีขอความช่วยเหลือจากบุคคลและแหล่งต่าง ๆ เมื่อเกิดเหตุร้ายหรืออุบัติเหตุ สาระส าคัญ การแจ้งขอความช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุร้ายหรืออุบัติเหตุควรปฏิบัติอย่างถูกต้องและมีสติ เพื่อให้ได้รับการ ช่วยเหลือทันเหตุการณ์ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. ระบุแหล่งขอความช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุร้าย (K) 2. เห็นความส าคัญของการสื่อสารเพื่อขอความช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุร้าย (A) 3. แสดงวิธีการขอความช่วยเหลือจากแหล่งขอความช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุร้าย (P) สาระการเรียนรู้ ความรู้ 1. แหล่งขอความช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุร้าย 2. การสื่อสารเพื่อขอความช่วยเหลือ ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด การให้เหตุผล การสรุปความรู้ การจัดระบบความเป็นแผนภาพ การปฏิบัติ/การสาธิต สมรรถนะของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการท างาน

135 ชิ้นงาน/ภาระงาน ใบงานที่ 7 เรื่อง การขอความช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุร้ายหรืออุบัติเหตุ ค าถามส าคัญ อุบัติเหตุใดบ้างที่นักเรียนสามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นน าเข้าสู่บทเรียน 1. ครูถามค าท้าทาย เพื่อให้นักเรียนร่วมกันสนทนาแสดงความคิดเห็น ดังนี้ - อุบัติเหตุใดบ้างที่นักเรียนสามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง 2. ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับการขอความช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุร้าย โดยครูใช้ค าถาม ดังนี้ - นักเรียนคิดว่าการเกิดเหตุร้ายใดบ้างที่สามารถเกิดขึ้นได้อย่างกะทันหัน (ตัวอย่างค าตอบ การถูกรถชน การได้รับบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา) - ถ้าเกิดอุบัติเหตุอย ่างกะทันหันนักเรียนคิดว ่าจะขอความช ่วยเหลือโดยวิธีใด (ตัวอย่าง ค าตอบ ขอความช่วยเหลือจากคนที่อยู่ใกล้บริเวณดังกล่าว โทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจากหน่วยพยาบาล) จากนั้นครูอธิบายว ่าอุบัติเหตุหรือเหตุร้ายที ่เกิดขึ้นกะทันหัน ท าให้เราได้รับบาดเจ็บซึ่ง บางครั้งก็เกินความสามารถที่จะให้การปฐมพยาบาลได้ด้วยตนเอง จึงจ าเป็นต้องติดต่อขอความช่วยเหลือจาก ผู้อื่นและหน่วยงานอื่น ขั้นสอน 3. ครูอธิบายเกี่ยวกับวิธีการติดต่อสื่อสารเพื่อขอความช่วยเหลือที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง คือ การโทรศัพท์ โดยครูเขียนสิ่งที่นักเรียนต้องปฏิบัติเมื่อต้องติดต่อขอความช่วยเหลือและแจ้งเหตุเป็นแผนภาพ บนกระดาน

136 4. ครูยกตัวอย่างสถานการณ์เกี่ยวกับการขอความเหลือเมื่อเกิดเหตุร้ายหรืออุบัติเหตุ แล้วให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็น โดยครูใช้ค าถาม ดังนี้ - ธีรเดชควรแจ้งเหตุขอความช่วยเหลือจากที่ใด (ตัวอย่างค าตอบ ศูนย์แจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย โรงพยาบาล) - นักเรียนคิดว่าธีรเดชควรแจ้งรายละเอียดใดบ้างในการขอความช่วยเหลือ (ตัวอย่างค าตอบ สถานที่เกิดเหตุ ลักษณะการบาดเจ็บ สาเหตุการบาดเจ็บ) - นักเรียนจะแนะน าผู้บาดเจ็บอย่างไรเพื่อบรรเทาอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุดังกล่าว (ตัวอย่างค าตอบ อยู่กับที่และไม่เคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ของร่างกายป้องกันการบาดเจ็บที่รุนแรง) จากนั้นครูอธิบายว่า การแจ้งเหตุขอความช่วยเหลือเมื่อพบเห็นอุบัติเหตุที่ถูกต้องจะช่วยให้ผู้ ประสบอุบัติเหตุได้รับการช่วยเหลือได้ทันท่วงที ป้องกันการเสียชีวิต และเป็นการให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ผู้ให้การ ปฐมพยาบาลเบื้องต้นอีกด้วย 5. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มตามความเหมาะสมร่วมกันแสดงบทบาทสมมุติเกี่ยวกับการโทรศัพท์ติดต่อ ขอความช่วยเหลือและแจ้งเหตุ จากนั้นให้แต่ละกลุ่มออกมาน าเสนอหน้าชั้นเรียน โดยครูตรวจสอบความ ถูกต้องว่านักเรียนบอกข้อมูลดังต่อไปนี้ได้ครบถ้วนหรือไม่ - บอกชื่อผู้แจ้ง (คือตัวเรา) - สถานที่เกิดเหตุ - ลักษณะของการบาดเจ็บและการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้น (มีกี่คน อาการเป็นอย่างไรบ้าง) - สภาพแวดล้อมของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น - สาเหตุของการบาดเจ็บหรือการเจ็บป่วย 6. ครูอธิบายความรู้เกี่ยวกับหมายเลขโทรศัพท์กรณีฉุกเฉินเพื่อใช้ติดต่อขอความช่วยเหลือและแจ้ง เหตุ โดยครูเขียนลงบนกระดาน ดังนี้

137 7. ครูจัดท าบัตรค าเกี่ยวกับหน่วยงานที่ใช้ติดต่อขอความช่วยเหลือและแจ้งเหตุ จากนั้นคัดเลือก ผู้แทนนักเรียนออกมาชูบัตรค าแล้วให้เพื่อนๆ ร่วมกันบอกว่าเป็นหมายเลขโทรศัพท์ใด โดยครูคอยตรวจสอบ ความถูกต้อง ขั้นสรุป 8. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เกี่ยวกับการสื่อสารเพื่อขอความช่วยเหลือและแจ้งเหตุเมื่อเกิด เหตุร้ายหรืออุบัติเหตุ โดยครูใช้ค าถาม ดังนี้ - การแจ้งเหตุขอความช ่วยเหลือที ่ถูกต้องเมื ่อพบเห็นเหตุร้ายหรืออุบัติเหตุมีประโยชน์ อย่างไร (ตัวอย่างค าตอบ ท าให้ผู้ประสบอุบัติเหตุได้รับการช่วยเหลือได้ทันท่วงที ป้องกันการเสียชีวิต และเป็น การให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ผู้ให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น) 9. ให้นักเรียนและครูร่วมกันสรุปความรู้ ดังนี้ การขอความช่วยเหลืออย่างถูกวิธีเมื่อมีอุบัติเหตุหรือ เหตุร้ายเกิดขึ้นจะท าให้ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที 10. ให้นักเรียนท าใบงานที่ 7 เรื่อง การขอความช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุร้ายหรืออุบัติเหตุ กระบวนการวัดผลและประเมินผล 1. เครื่องมือ 1.1 แบบประเมินการตอบค าถามของนักเรียน 1.2 แบบประเมินเจตคติ 1.3 แบบสังเกตพฤติกรรมการปฏิบัติ 2. วิธีการวัดและประเมินผล 2.1 ระบุแหล่งขอความช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุร้าย 2.2 เห็นความส าคัญของการสื่อสารเพื่อขอความช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุร้าย 2.3 แสดงวิธีการขอความช่วยเหลือจากแหล่งขอความช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุร้าย สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1. บัตรค า 2. ใบงานที่ 7 เรื่อง การขอความช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุร้ายหรืออุบัติเหตุ

138 3. เกณฑ์การประเมิน การประเมินแบบประเมินการตอบค าถามของนักเรียน 3 คะแนน = ดี 2 คะแนน = พอใช้ 1 คะแนน = ปรับปรุง ประเด็นการประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน 3 2 1 1. ระบุแหล่งขอความ ช่วยเหลือเมื่อเกิด เหตุร้าย (K) ระบุแหล่งขอความ ช่วยเหลือเมื่อเกิด เหตุร้ายได้ถูกต้อง ทั้งหมด ระบุแหล่งขอความ ช่วยเหลือเมื่อเกิด เหตุร้ายได้ถูกต้อง บางส่วน ไม่สามารถระบุแหล่งขอ ความช่วยเหลือเมื่อเกิด เหตุร้ายได้ 2. เห็นความส าคัญของ การสื่อสารเพื่อขอความ ช่วยเหลือเมื่อเกิด เหตุร้าย (A) เห็นความส าคัญของการ สื่อสารเพื่อขอความ ช่วยเหลือเมื่อเกิด เหตุร้าย เห็นความส าคัญของการ สื่อสารเพื่อขอความ ช่วยเหลือเมื่อเกิด เหตุร้ายบางส่วน ไม่เห็นความส าคัญของ การสื่อสารเพื่อขอความ ช่วยเหลือเมื่อเกิด เหตุร้าย

139 แบบสังเกตพฤติกรรมผู้เรียน ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 เกณฑ์การให้คะแนน 2 คะแนน หมายถึง ปฏิบัติได้ 1 คะแนน หมายถึง ไม่สามารถปฏิบัติได้ ระดับคุณภาพ ระดับคุณภาพ 3 หมายถึง ดี คะแนน 9-10 ระดับคุณภาพ 2 หมายถึง ปานกลาง คะแนน 6-8 ระดับคุณภาพ 1 หมายถึง ปรับปรุง คะแนน 1-5 เกณฑ์การผ่านระดับคุณภาพ 2 ขึ้นไป เลขที่ ชื่อ – สกุล ความถูกต้อง ความสมจริง การปฏิบัติตามขั้นตอน การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ความร่วมมือในการปฏิบัติ คะแนนรวม สรุปการประเมิน หมายเหตุ 2 2 2 2 2 10 ผ่าน/ไม่ผ่าน 1 2 3 4 5 7 8 9 10 11 12

142 ชื่อ ........................................................................ ช้นั.............................................................. เลขที่ ............... ให้นกัเรียนยกตวัอยา่งอุบตัิเหตุที่เคยเกิดข้ึนกบันกัเรียนหรือเคยพบเห็น มา 1 อุบัติเหตุ แล้ววิเคราะห์สาเหตุ และการขอความช่วยเหลือ บันทึก ลงในแผนภาพ วันที่ ................. เดือน ...................................... พ.ศ. ............ ใบงานที่ 7 เรื่อง การขอความช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุร้ายหรืออุบัติเหตุ อุบัติเหตุ การขอความช่วยเหลือ _______________ _______________ _______________ _______________ _______________ _______________ _______________ _ _________________ _________________ _________________ _________________ _________________ _________________ _________________ _________________ _________________ _________________ _________________ _ สาเหตุ

143 แผนการจัดการเรียนรู้ที่17 กลุ่มสาระการเรียนรู้ พลศึกษาและสุขศึกษา (สุขศึกษา) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การปฐมพยาบาลเมื่อบาดเจ็บจากการเล่น ภาคเรียนที่ 2/2566 เรื่อง สาเหตุของการบาดเจ็บจากการเล่น เวลา 1 ชั่วโมง วันที่ 21 กุมภาพันธ์2567 ผู้สอน นายราชินทร์ แก้วบัณฑิต มาตรฐานการเรียนรู้ มฐ.พ 5.1 ป้องกันและหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ อุบัติเหตุ การใช้ยา สารเสพติด และความรุนแรง ตัวชี้วัด มฐ.พ 5.1 ป.3/3 แสดงวิธีปฐมพยาบาลเมื่อบาดเจ็บจากการเล่น สาระส าคัญ การเล่นเป็นกิจกรรมที่เด็กทุกคนปฏิบัติเป็นประจ า ซึ่งบางครั้งการเล่นที่ไม่ระมัดระวัง หรือเล่นด้วยความ ประมาท อาจท าให้ได้รับอุบัติเหตุได้ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายสาเหตุของการบาดเจ็บจากการเล่น (K) 2. เห็นความส าคัญของอันตรายจากการบาดเจ็บจากการเล่น (A) 3. เขียนแผนภาพสาเหตุของการบาดเจ็บจากการเล่น (P) สาระการเรียนรู้ ความรู้ สาเหตุของการบาดเจ็บจากการเล่น ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด การให้เหตุผล การสรุปความรู้ การจัดระบบความคิดเป็นแผนภาพ สมรรถนะของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการท างาน ชิ้นงาน/ภาระงาน แผนภาพสาเหตุของการบาดเจ็บจากการเล่น

144 ค าถามส าคัญ เครื่องแต่งกายมีส่วนท าให้เกิดอุบัติเหตุในการเล่นได้หรือไม่อย่างไร กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นน าเข้าสู่บทเรียน 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับการได้รับบาดเจ็บจากการเล่น แล้วให้นักเรียนร่วมกันแสดง ความคิดเห็น โดยครูใช้ค าถาม ดังนี้ - นักเรียนเคยได้รับบาดเจ็บ จากการเล่นอะไรบ้าง (ตัวอย่างค าตอบ ตกต้นไม้แขนถลอก หก ล้มเข่าเป็นแผล) - เมื่อได้รับบาดเจ็บนักเรียนปฏิบัติอย่างไร (ตัวอย่างค าตอบ บอกแม่ให้ใส่ยา ให้เพื่อนพาไป พบคุณครู) - เมื่อปฏิบัติแล้วผลเป็นอย่างไร (ตัวอย่างค าตอบ ท าให้หายเจ็บปวด) 2. ให้นักเรียนที่มีประสบการณ์ได้รับบาดเจ็บจากการเล่นออกมาเล่าประสบการณ์หน้าชั้นเรียน พร้อม บอกสาเหตุของการบาดเจ็บจากการเล่นด้วย ขั้นสอน 3. ครูอธิบายเพิ ่มเติมให้นักเรียนฟังว ่า เมื ่อเราได้รับบาดเจ็บควรรีบท าการปฐมพยาบาล คือ การช่วยเหลือเบื้องต้นที่ถูกวิธีเพื่อลดอาการบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยก่อนจะส่งแพทย์เพื่อรักษาอาการต่อไป 4. ให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายในชั้นเรียนเกี่ยวกับสาเหตุของการบาดเจ็บจากการเล่น จากนั้นครูสรุป ค าตอบของนักเรียนเป็นแผนภาพความคิด ดังนี้ 5. นักเรียนและครูร่วมกันสนทนาแสดงความคิดเห็น โดยครูถามค าถาม ดังนี้ - อุบัติเหตุหรือการได้รับบาดเจ็บจากการเล่นส่วนใหญ่เกิดจากสาเหตุใด (ตัวอย่างค าตอบ ความประมาท ความคึกคะนอง) - การได้รับบาดเจ็บจากการเล่นส่งผลต่อนักเรียนอย่างไร (ตัวอย่างค าตอบ ท าให้ร่างกาย เจ็บปวดท ากิจกรรมต่างๆไม่ได้ เล่นกับเพื่อนไม่ได้)

145 - ถ้าไม่อยากได้รับบาดเจ็บจากการเล่นควรปฏิบัติอย่างไร (ตัวอย่างค าตอบ เล่นด้วยความ ระมัดระวัง เล่นตามกฎ กติกา ไม่เล่นโดยใช้ความรุนแรง) ขั้นสรุป 6. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปความรู้ ดังนี้ การเล่นด้วยความประมาท เล่นผิดกติกาหรือเล่นโดยใช้ ก าลังความรุนแรง อาจท าให้ได้รับบาดเจ็บได้ 7. ครูถามค าถามท้าทายเพื่อให้นักเรียนร่วมกันสนทนาแสดงความคิดเห็น ดังนี้ - เครื่องแต่งกายมีส่วนท าให้เกิดอุบัติเหตุในการเล่นได้หรือไม่ อย่างไร กระบวนการวัดผลและประเมินผล 1. เครื่องมือ 1.1 แบบประเมินการตอบค าถามของนักเรียน 1.2 แบบประเมินเจตคติ 1.3 ใบงานสาเหตุของการบาดเจ็บจากการเล่น 2. วิธีการวัดและประเมินผล 2.1 อธิบายสาเหตุของการบาดเจ็บจากการเล่น 2.2 เห็นความส าคัญของอันตรายจากการบาดเจ็บจากการเล่น 2.3 เขียนแผนภาพสาเหตุของการบาดเจ็บจากการเล่น สื่อและแหล่งการเรียนรู้ -

146 3. เกณฑ์การประเมิน การประเมินแบบประเมินการตอบค าถามของนักเรียน 3 คะแนน = ดี 2 คะแนน = พอใช้ 1 คะแนน = ปรับปรุง ประเด็นการประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน 3 2 1 1. อธิบายสาเหตุของ การบาดเจ็บจากการเล่น (K) อธิบายสาเหตุของการ บาดเจ็บจากการเล่นได้ ถูกต้องทั้งหมด อธิบายสาเหตุของการ บาดเจ็บจากการเล่นได้ ถูกต้องบางส่วน ไม่สามารถอธิบายสาเหตุ ของการบาดเจ็บจากการ เล่นได้ 2. เห็นความส าคัญของ อันตรายจากการ บาดเจ็บจากการเล่น (A) เห็นความส าคัญของ อันตรายจากการ บาดเจ็บจากการเล่น เห็นความส าคัญของ อันตรายจากการ บาดเจ็บจากการเล่น บางส่วน ไม่เห็นความส าคัญของ อันตรายจากการ บาดเจ็บจากการเล่น 3. เขียนแผนภาพสาเหตุ ของการบาดเจ็บจากการ เล่น (P) เขียนแผนภาพสาเหตุ ของการบาดเจ็บจากการ เล่นได้ถูกต้องทั้งหมด เขียนแผนภาพสาเหตุ ของการบาดเจ็บจากการ เล่นได้ถูกต้องบางส่วน ไม่สามารถเขียน แผนภาพสาเหตุของการ บาดเจ็บจากการเล่นได้

149 แผนการจัดการเรียนรู้ที่18 กลุ่มสาระการเรียนรู้ พลศึกษาและสุขศึกษา (สุขศึกษา) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การปฐมพยาบาลเมื่อบาดเจ็บจากการเล่น ภาคเรียนที่ 2/2565 เรื่อง การปฐมพยาบาลข้อเคล็ด ฟกช ้า ห้อเลือด โน บวม และแผลถลอก เวลา 1 ชั่วโมง วันที่ 1 มีนาคม 2566 ผู้สอน นายราชินทร์ แก้วบัณฑิต มาตรฐานการเรียนรู้ มฐ.พ 5.1 ป้องกันและหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ อุบัติเหตุ การใช้ยา สารเสพติด และความรุนแรง ตัวชี้วัด มฐ.พ 5.1 ป.3/3 แสดงวิธีปฐมพยาบาลเมื่อบาดเจ็บจากการเล่น สาระส าคัญ เมื่อได้รับบาดเจ็บจากการเล่น ควรรีบท าการปฐมพยาบาลอย่างถูกต้องเพื่อป้องกันไม่ให้อาการรุนแรงขึ้น จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายวิธีการปฐมพยาบาลข้อเคล็ด ฟกช ้า ห้อเลือด โน บวม และแผลถลอก (K) 2. เห็นความส าคัญของการปฐมพยาบาลข้อเคล็ด ฟกช ้า ห้อเลือด โน บวม และแผลถลอก (A) 3. ฝึกปฏิบัติการปฐมพยาบาลข้อเคล็ด ฟกช ้า ห้อเลือด โน บวม และแผลถลอก (P) สาระการเรียนรู้ ความรู้ การปฐมพยาบาลผู้ได้รับบาดเจ็บจากการเล่น 1. ข้อเคล็ด 2. ฟกช ้า ห้อเลือด โน บวม 3. แผลถลอก ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด การให้เหตุผล การสรุปความรู้ การปฏิบัติ/การสาธิต สมรรถนะของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการท างาน

150 ชิ้นงาน/ภาระงาน ภาพการปฐมพยาบาลเมื่อได้รับบาดเจ็บจากการเล่น ค าถามส าคัญ การเล่นท าให้เกิดการบาดเจ็บลักษณะใดมากที่สุด เพราะอะไร กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นน าเข้าสู่บทเรียน 1. ให้นักเรียนร่วมกันสนทนาแสดงความคิดเห็นโดยครูถามค าถามท้าทาย ดังนี้ - การเล่นท าให้เกิดการบาดเจ็บลักษณะใดมากที่สุด เพราะอะไร 2. ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับการบาดเจ็บจากการเล่น โดยครูใช้ค าถาม ดังนี้ - นักเรียนเคยได้รับบาดเจ็บข้อเคล็ดหรือไม่ (ตัวอย่างค าตอบ เคย/ไม่เคย) - ข้อเคล็ดเกิดจากสาเหตุใด (ตัวอย่างค าตอบ ตกจากที่สูง หกล้ม หรือถูกแรงกระแทก) - ข้อเคล็ดมีอาการอย่างไร (บวม เจ็บปวด อาจเห็นอวัยวะที่เคล็ดผิดรูปไป) ขั้นสอน 3. ครูสาธิตการปฐมพยาบาลอาการข้อเคล็ดให้นักเรียนดูอย่างละเอียด 4. ครูเลือกผู้แทนนักเรียนออกมาสาธิตการปฐมพยาบาลผู้ที ่ได้รับบาดเจ็บข้อเคล็ด โดยครูคอย ตรวจสอบความถูกต้องและแนะน าเพิ่มเติม 5. ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาเกี ่ยวกับการได้รับบาดเจ็บ ฟกช ้า ห้อเลือด โน บวม โดยครูใช้ ค าถามดังนี้ - นักเรียนเคยได้รับบาดเจ็บฟกช ้า ห้อเลือด โน บวม หรือไม่ (ตัวอย่างค าตอบ เคย/ไม่เคย) - ฟกช ้า ห้อเลือด โน บวม เกิดจากสาเหตุใด (ตัวอย่างค าตอบ ถูกกระแทกด้วยของแข็ง เช่น ถูกชกต่อย) - ฟกช ้า ห้อเลือด โน และบวมมีอาการอย่างไร (ผิวหนังเขียวช ้า หรือเป็นสีม่วงแดง ไม่มี เลือดออก และมีอาการบวมแดง) 6. ครูสาธิตการปฐมพยาบาลอาการฟกช ้า ห้อเลือด โน และบวม ให้นักเรียนดูจากนั้นให้นักเรียน แบ่งกลุ่มฝึกปฏิบัติการปฐมพยาบาล โดยครูคอยตรวจสอบความถูกต้อง และให้ค าแนะน าเพิ่มเติม 7. ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับการเกิดแผลถลอก โดยครูใช้ค าถาม ดังนี้ - นักเรียนเคยได้รับบาดเจ็บและเกิดแผลถลอกหรือไม่ (ตัวอย่างค าตอบ เคย/ไม่เคย) - แผลถลอกเกิดจากสาเหตุใด (ตัวอย่างค าตอบ เกิดจากการหกล้ม) - แผลถลอกมีอาการอย่างไร (เป็นแผลตื้นๆ บริเวณผิวหนังมีเลือดออกเล็กน้อย) 8. ครูอธิบายและสาธิตการปฐมพยาบาลผู้ได้รับบาดเจ็บแผลถลอกให้นักเรียนดู จากนั้น เลือกผู้แทน นักเรียนออกมาสาธิตการปฐมพยาบาลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บแผลถลอก โดยครูคอยตรวจสอบความถูกต้องและให้ ค าแนะน าเพิ่มเติม

151 9. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละเท่าๆ กัน แล้วให้แต่ละกลุ่มส่งผู้แทนกลุ่มออกมาจับ สลากเพื่อเลือกหัวข้อไปฝึกแสดงบทบาทสมมุติตามหัวข้อต่อไปนี้ - การปฐมพยาบาลข้อเคล็ด - การปฐมพยาบาลการฟกช ้า ห้อเลือด โน บวม - การปฐมพยาบาลแผลถลอก จากนั้นให้นักเรียนฝึกแสดงบทบาทสมมุติตามหัวข้อที่ได้รับมอบหมาย และออกมาแสดงหน้า ชั้นเรียนทีละกลุ่ม 10. ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับการปฐมพยาบาลผู้ได้รับบาดเจ็บข้อเคล็ด ฟกช ้า ห้อเลือด โน บวม โดยครูใช้ค าถาม ดังนี้ - การปฐมพยาบาลอาการข้อเคล็ด อาการฟกช ้า ห้อเลือด โน บวม และแผลถลอก มี ประโยชน์อย่างไร (ตัวอย่างค าตอบ ลดอาการเจ็บปวด ป้องกันไม่ให้อาการบาดเจ็บรุนแรงขึ้น) - เมื ่อได้รับบาดเจ็บจากการเล่น หากไม ่ท าการปฐมพยาบาลจะส่งผลอย ่างไร (ตัวอย่าง ค าตอบ เจ็บปวดทรมาน อาการบาดเจ็บรุนแรงและหายช้า) ขั้นสรุป 11. นักเรียนและครูร ่วมกันสรุปความรู้ ดังนี้ เมื ่อได้รับบาดเจ็บจากการเล่น ควรรีบท าการปฐม พยาบาลทันที เพื่อป้องกันไม่ให้อาการบาดเจ็บรุนแรงขึ้น 12. ครูแจกกระดาษให้นักเรียนคนละ 1 แผ่น วาดภาพการปฐมพยาบาลเมื่อได้รับบาดเจ็บจากการ เล่นคนละ 1 อาการ โดยระบุอาการข้างใต้ภาพจากนั้นครูเลือกผลงานที่สวยงามมาน าเสนอหน้าชั้นเรียน กระบวนการวัดผลและประเมินผล 1. เครื่องมือ 1.1 แบบประเมินการตอบค าถามของนักเรียน 1.2 แบบประเมินเจตคติ 1.3 แบบสังเกตพฤติกรรมการปฏิบัติ 2. วิธีการวัดและประเมินผล 2.1 อธิบายวิธีการปฐมพยาบาลข้อเคล็ด ฟกช ้า ห้อเลือด โน บวม และแผลถลอก 2.2 เห็นความส าคัญของการปฐมพยาบาลข้อเคล็ด ฟกช ้า ห้อเลือด โน บวม และแผลถลอก 2.3 ฝึกปฏิบัติการปฐมพยาบาลข้อเคล็ด ฟกช ้า ห้อเลือด โน บวม และแผลถลอก สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1. กระเป๋าน ้าแข็ง หรือถุงน ้าแข็ง 2. สบู่ 3. ส าลีหรือผ้าสะอาด 4. แอลกอฮอล์5. ยาใส่แผลสด

152 3. เกณฑ์การประเมิน การประเมินแบบประเมินการตอบค าถามของนักเรียน 3 คะแนน = ดี 2 คะแนน = พอใช้ 1 คะแนน = ปรับปรุง ประเด็นการประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน 3 2 1 1. อธิบายวิธีการปฐม พยาบาลข้อเคล็ด ฟกช ้า ห้อเลือด โน บวม และ แผลถลอก(K) อธิบายวิธีการปฐม พยาบาลข้อเคล็ด ฟกช ้า ห้อเลือด โน บวม และ แผลถลอกได้ถูกต้อง ทั้งหมด อธิบายวิธีการปฐม พยาบาลข้อเคล็ด ฟกช ้า ห้อเลือด โน บวม และ แผลถลอกได้ถูกต้อง บางส่วน ไม่สามารถอธิบายวิธีการ ปฐมพยาบาลข้อเคล็ด ฟกช ้า ห้อเลือด โน บวม และแผลถลอกได้ 2. เห็นความส าคัญของ การปฐมพยาบาลข้อ เคล็ด ฟกช ้า ห้อเลือด โน บวม และแผลถลอก (A) เห็นความส าคัญของการ ปฐมพยาบาลข้อเคล็ด ฟกช ้า ห้อเลือด โน บวม และแผลถลอก เห็นความส าคัญของการ ปฐมพยาบาลข้อเคล็ด ฟกช ้า ห้อเลือด โน บวม และแผลถลอกบางส่วน ไม่เห็นความส าคัญของ การปฐมพยาบาลข้อ เคล็ด ฟกช ้า ห้อเลือด โน บวม และแผลถลอก

153 แบบสังเกตพฤติกรรมผู้เรียน ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 เกณฑ์การให้คะแนน 2 คะแนน หมายถึง ปฏิบัติได้ 1 คะแนน หมายถึง ไม่สามารถปฏิบัติได้ ระดับคุณภาพ ระดับคุณภาพ 3 หมายถึง ดี คะแนน 9-10 ระดับคุณภาพ 2 หมายถึง ปานกลาง คะแนน 6-8 ระดับคุณภาพ 1 หมายถึง ปรับปรุง คะแนน 1-5 เกณฑ์การผ่านระดับคุณภาพ 2 ขึ้นไป เลขที่ ชื่อ – สกุล การปฐมพยาบาลข้อเคล็ด การปฐมพยาบาล ฟกช ้า การปฐมพยาบาลห้อเลือด การปฐมพยาบาลโน บวม การปฐมพยาบาลแผลถลอก คะแนนรวม สรุปการประเมิน หมายเหตุ 2 2 2 2 2 10 ผ่าน/ไม่ผ่าน 1 2 3 4 5 7 8 9 10 11 12

156 แผนการจัดการเรียนรู้ที่19 กลุ่มสาระการเรียนรู้ พลศึกษาและสุขศึกษา (สุขศึกษา) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การปฐมพยาบาลเมื่อบาดเจ็บจากการเล่น ภาคเรียนที่ 2/2566 เรื่อง การห้ามเลือด เวลา 1 ชั่วโมง วันที่ 6 มีนาคม 2567 ผู้สอน นายราชินทร์ แก้วบัณฑิต มาตรฐานการเรียนรู้ มฐ.พ 5.1 ป้องกันและหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ อุบัติเหตุ การใช้ยา สารเสพติด และความรุนแรง ตัวชี้วัด มฐ.พ 5.1 ป.3/3 แสดงวิธีปฐมพยาบาลเมื่อบาดเจ็บจากการเล่น สาระส าคัญ เมื่อมีบาดแผลเลือดออก ควรรีบท าการปฐมพยาบาลโดยการห้ามเลือด เพื่อไม่ให้ร่างกายเสียเลือดมาก ซึ่งอาจท าให้เกิดอันตรายต่อชีวิตได้ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายการปฐมพยาบาลโดยการห้ามเลือด (K) 2. เห็นความส าคัญของการห้ามเลือดเมื่อได้รับบาดเจ็บจากการเล่น (A) 3. ฝึกปฏิบัติการปฐมพยาบาลโดยการห้ามเลือด (P) สาระการเรียนรู้ ความรู้ การปฐมพยาบาลผู้ได้รับบาดเจ็บจากการเล่น - การห้ามเลือด ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด การให้เหตุผล การสรุปความรู้ การปฏิบัติ/การสาธิต สมรรถนะของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการท างาน

157 ชิ้นงาน/ภาระงาน ภาพวาดการปฐมพยาบาลด้วยการห้ามเลือด ค าถามส าคัญ บริเวณของร่างกายส่วนใดบ้างที่ไม่มีเลือดไปหล่อเลี้ยง กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นน าเข้าสู่บทเรียน 1. ครูถามค าถามท้าทาย เพื่อให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็น ดังนี้ - บริเวณของร่างกายส่วนใดบ้างที่ไม่มีเลือดไปหล่อเลี้ยง 2. ครูและนักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประสบการณ์การมีเลือดออกของนักเรียนโดยครู ใช้ค าถาม ดังนี้ - นักเรียนเคยมีเลือดออกจากร่างกายหรือไม่ อย่างไร (ตัวอย่างค าตอบ เคย โดยเคยโดนมีด บาดมือท าให้มีเลือดไหลออก) - นักเรียนใช้วิธีใดในการห้ามเลือดดังกล่าว (ตัวอย่างค าตอบ ใช้ผ้าสะอาดกดทับบริเวณแผล) - นักเรียนคิดว่าวิธีการปฐมพยาบาลของตนเองถูกต้องหรือไม่ (ตัวอย่างค าตอบ ถูกต้อง/ ไม่ถูกต้อง) ขั้นสอน 3. ครูอธิบายเกี่ยวกับวิธีการห้ามเลือดตามส่วนต่างๆ ของร่างกายให้นักเรียนฟังจนนักเรียนเข้าใจ แล้วครูใช้ค าถามเพื่อให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็น ดังนี้ - การห้ามเลือดเบื้องต้นท าได้อย่างไร (ตัวอย่างค าตอบ ใช้นิ้วกดที่บาดแผลหรือใช้ผ้าหนาๆ ที่ สะอาดกดห้ามเลือดไว้) - การห้ามเลือดที่ศีรษะมีวิธีการปฐมพยาบาลอย่างไร (ใช้ผ้าสะอาดปิดทับบริเวณบาดแผล แล้วใช้ผ้าอีกผืนพันรัดให้แน่น) - การห้ามเลือดบริเวณใบหน้าหรือล าคอมีวิธีการปฐมพยาบาลอย ่างไร (ใช้ผ้าสะอาดปิด บริเวณบาดแผลแล้วใช้มือกดให้แน่นถ้าเลือดไม่หยุดไหลให้รีบน าส่งแพทย์ทันที) - การห้ามเลือดบริเวณแขนหรือขาท ่อนบน กรณีบาดแผลมีขนาดลึกและกว้างจะมีวิธีการ ปฐมพยาบาลอย่างไร (ใช้วิธีขันชะเนาะ) - การห้ามเลือดบริเวณขาส่วนล่างมีวิธีการปฐมพยาบาลอย่างไร (ให้ผ้าสะอาดปิดทับบริเวณ บาดแผล และใช้ผ้าพันทับให้แน่น) - การห้ามเลือดบริเวณข้อพับของขาท่อนล่างมีวิธีการปฐมพยาบาลอย่างไร (ใช้ผ้าม้วนให้กลม แล้วสอดไว้บริเวณด้านหลัง และใช้ผ้าพันทับให้แน่นอีกรอบ) - ถ้าเลือดออกที่ฝ่ามือจะมีวิธีการปฐมพยาบาลอย่างไร (ใช้ผ้าสะอาดม้วนให้มีลักษณะกลม แล้ววางปิดทับบาดแผล ให้ผู้บาดเจ็บก าไว้ให้แน่น แล้วใช้ผ้าพันให้แน่น)

158 - ถ้าเลือดออกที ่เท้าจะมีวิธีการปฐมพยาบาลอย ่างไร (ใช้ผ้าสะอาดที่มีความหนากว่าผ้า ธรรมดาวางทับบริเวณบาดแผลแล้วใช้ผ้ารัดให้แน่น และพยายามเคลื่อนไหวให้น้อยลง วางเท้าให้สูงขึ้น) 4. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 6 กลุ่ม กลุ่มละเท่าๆกัน แล้วให้แต่ละกลุ่มส่งผู้แทนกลุ่มออกมาจับ สลากเพื่อเลือกหัวข้อไปร่วมกันฝึกปฏิบัติ ดังนี้ - การห้ามเลือดที่ศีรษะ - การห้ามเลือดบริเวณใบหน้าหรือล าคอ - การห้ามเลือดบริเวณแขนหรือขาท่อนบน - การห้ามเลือดบริเวณขาส่วนล่าง - การห้ามเลือดบริเวณฝ่ามือ - การห้ามเลือดบริเวณเท้า เมื ่อแต ่ละกลุ ่มได้หัวข้อที ่รับผิดชอบแล้วให้นักเรียนแต ่ละกลุ ่มร ่วมกันฝึกปฏิบัติวิธีการ ปฐมพยาบาลตามหัวข้อที่รับผิดชอบจนถูกต้องและคล่องแคล่ว จากนั้นให้แต่ละกลุ่มออกมาแสดงวิธีการปฐม พยาบาลตามหัวข้อดังกล่าวให้ครูและนักเรียนกลุ่มอื่น ๆ ดู และตรวจสอบความถูกต้องทีละกลุ่มจนครบทุก กลุ่ม 5. ครูเล่าสถานการณ์เกี่ยวกับการปฐมพยาบาลผู้ที่ถูกมีดบาดให้นักเรียนฟัง ดังนี้ เมื ่อเล่าสถานการณ์ให้นักเรียนฟังจบแล้วครูใช้ค าถามเพื ่อให้นักเรียนร่วมกันแสดงความ คิดเห็นดังนี้ - เด็กในสถานการณ์ได้รับบาดเจ็บเป็นอะไร (มีดบาดที่นิ้วมือ) - การบาดเจ็บของเด็กในสถานการณ์มีอาการเป็นอย ่างไร (มีเลือดไหลออกจากบริเวณ บาดแผล) - การกระท าของเด็กในสถานการณ์ถูกต้องหรือไม่ เพราะอะไร (ไม่ถูกต้อง เพราะจะท าให้ เลือดไหลไม่หยุด และเป็นอันตรายต่อร่างกายได้) - การปฐมพยาบาลที่ถูกต้องเป็นอย่างไร (ใช้นิ้วมือกดบริเวณบาดแผลหรือใช้ผ้าหนาๆ ที่ สะอาดกดห้ามเลือดไว้) - ถ้าเด็กในสถานการณ์ไม่ได้รับการปฐมพยาบาลจะเกิดผลอย่างไร (ท าให้เลือดไหลออกจาก บริเวณบาดแผลมาก เกิดอาการแสบบริเวณปากแผล)

159 6. ครูและนักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเพื่อสรุปเกี่ยวกับการห้ามเลือด โดยครูใช้ค าถามดังนี้ - ถ้าเกิดบาดแผลแล้วไม่มีการห้ามเลือดที่ถูกวิธีจะเกิดผลเสียอย่างไร (ท าให้เกิดอันตรายต่อ ชีวิต) - ถ้าเกิดบาดแผลแล้วมีการห้ามเลือดที่ถูกวิธีจะเกิดผลดีอย่างไร (ท าให้เลือดหยุดไหลและไม่ ก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต) ขั้นสรุป 7. ครูให้นักเรียนวาดภาพขั้นตอนการปฐมพยาบาลด้วยการห้ามเลือดที่ตนเองท าได้ดีที่สุด ระบายสีให้ สวยงาม จากนั้นให้ผู้แทนนักเรียนออกมาน าเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน โดยครูคอยตรวจสอบและแนะน า เพิ่มเติม 8. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปความรู้ ดังนี้ เมื่อมีบาดแผลเลือดออกจากการเล่น ควรรีบท าการปฐม พยาบาลด้วยการห้ามเลือดเป็นอันดับแรก เพราะหากเลือดออกมากอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ กระบวนการวัดผลและประเมินผล 1. เครื่องมือ 1.1 แบบประเมินการตอบค าถามของนักเรียน 1.2 แบบประเมินเจตคติ 1.3 แบบสังเกตพฤติกรรมการปฏิบัติ 2. วิธีการวัดและประเมินผล 2.1 อธิบายการปฐมพยาบาลโดยการห้ามเลือด 2.2 เห็นความส าคัญของการห้ามเลือดเมื่อได้รับบาดเจ็บจากการเล่น 2.3 ฝึกปฏิบัติการปฐมพยาบาลโดยการห้ามเลือด สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ผ้าสะอาด

160 3. เกณฑ์การประเมิน การประเมินแบบประเมินการตอบค าถามของนักเรียน 3 คะแนน = ดี 2 คะแนน = พอใช้ 1 คะแนน = ปรับปรุง ประเด็นการประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน 3 2 1 1. อธิบายการปฐม พยาบาลโดยการห้าม เลือด (K) อธิบายการปฐมพยาบาล โดยการห้ามเลือดได้ ถูกต้องทั้งหมด อธิบายการปฐมพยาบาล โดยการห้ามเลือดได้ ถูกต้องบางส่วน ไม่สามารถอธิบายการ ปฐมพยาบาลโดยการ ห้ามเลือดได้ 2. เห็นความส าคัญของ การห้ามเลือดเมื่อได้รับ บาดเจ็บจากการเล่น (A) เห็นความส าคัญของการ ห้ามเลือดเมื่อได้รับ บาดเจ็บจากการเล่น เห็นความส าคัญของการ ห้ามเลือดเมื่อได้รับ บาดเจ็บจากการเล่น บางส่วน ไม่เห็นความส าคัญของ การห้ามเลือดเมื่อได้รับ บาดเจ็บจากการเล่น

161 แบบสังเกตพฤติกรรมผู้เรียน ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 เกณฑ์การให้คะแนน 2 คะแนน หมายถึง ปฏิบัติได้ 1 คะแนน หมายถึง ไม่สามารถปฏิบัติได้ ระดับคุณภาพ ระดับคุณภาพ 3 หมายถึง ดี คะแนน 9-10 ระดับคุณภาพ 2 หมายถึง ปานกลาง คะแนน 6-8 ระดับคุณภาพ 1 หมายถึง ปรับปรุง คะแนน 1-5 เกณฑ์การผ่านระดับคุณภาพ 2 ขึ้นไป เลขที่ ชื่อ – สกุล ปฏิบัติได้ถูกต้องตามขั้นตอน ความสะอาด ความเข้าใจในเนื้อหา ความร่วมมือในชั้นเรียน การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า คะแนนรวม สรุปการประเมิน หมายเหตุ 2 2 2 2 2 10 ผ่าน/ไม่ผ่าน 1 2 3 4 5 7 8 9 10 11 12

163 แผนการจัดการเรียนรู้ที่20 กลุ่มสาระการเรียนรู้ พลศึกษาและสุขศึกษา (สุขศึกษา) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การปฐมพยาบาลเมื่อบาดเจ็บจากการเล่น ภาคเรียนที่ 2/2566 เรื่อง การเข้าเฝือกชั่วคราว เวลา 1 ชั่วโมง วันที่ 13 มีนาคม 2567 ผู้สอน นายราชินทร์ แก้วบัณฑิต มาตรฐานการเรียนรู้ มฐ.พ 5.1 ป้องกันและหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ อุบัติเหตุ การใช้ยา สารเสพติด และความรุนแรง ตัวชี้วัด มฐ.พ 5.1 ป.3/3 แสดงวิธีปฐมพยาบาลเมื่อบาดเจ็บจากการเล่น สาระส าคัญ การเข้าเฝือกชั่วคราวเป็นการปฐมพยาบาลผู้ที่กระดูกหรือข้อต่อต่างๆ หักเพื่อช่วยบรรเทาความเจ็บปวด และป้องกันไม่ให้กระดูกส่วนที่หักบาดเจ็บมากขึ้น จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายวิธีการปฐมพยาบาลด้วยการเข้าเฝือกชั่วคราว (K) 2. เห็นความส าคัญของการห้ามเลือดเมื่อได้รับบาดเจ็บจากการเล่น (A) 3. ฝึกปฏิบัติการปฐมพยาบาลด้วยการเข้าเฝือกชั่วคราว (P) สาระการเรียนรู้ ความรู้ การปฐมพยาบาลผู้ได้รับบาดเจ็บจากการเล่น - การเข้าเฝือกชั่วคราว ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด การให้เหตุผล การสรุปความรู้ การปฏิบัติ/การสาธิต สมรรถนะของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการท างาน

164 ชิ้นงาน/ภาระงาน ใบงานที่ 8 เรื่อง การปฐมพยาบาลเมื่อได้รับบาดเจ็บจากการเล่น ค าถามส าคัญ นักเรียนควรน าคุณธรรมและจริยธรรมในข้อใดมาใช้เพื่อไม่ให้เกิดการบาดเจ็บในการเล่น กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นน าเข้าสู่บทเรียน 1. ครูและนักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับอาการแขนหัก โดยครูใช้ค าถาม ดังนี้ - นักเรียนเคยเห็นคนแขนหักหรือไม่ (เคย/ไม่เคย) - คนแขนหักต้องรักษาอย่างไร (เข้าเฝือกที่แขนข้างที่หัก) - ถ้าพบคนแขนหักนักเรียนจะช่วยเหลือปฐมพยาบาลเขาได้หรือไม่ อย่างไร (ตัวอย่างค าตอบ ไม่ได้เพราะยังไม่มีความรู้เกี่ยวกับการปฐมพยาบาลแขนหัก) - ถ้านักเรียนแขนหักจะท าอย่างไร (ตัวอย่างค าตอบ รีบไปพบแพทย์) ขั้นสอน 2. ครูอธิบายและสาธิตการเข้าเฝือกชั่วคราวให้นักเรียนฟังและดูจนเข้าใจแล้วครูใช้ค าถามเพื ่อให้ นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็น ดังนี้ - การเข้าเฝือกชั่วคราวเป็นการกระท าที่มีจุดประสงค์เพื่ออะไร (เพื่อช่วยเหลือเบื้องต้นให้กับ คนที่กระดูกหรือข้อต่อต่างๆ หักและหมดสติ ไม่สามารถเคลื่อนไหวตนเองได้) - การเข้าเฝือกชั่วคราวมีวิธีปฏิบัติอย่างไร (พยายามอย่าเคลื่อนไหวบริเวณที่กระดูกหักแล้ว น าผ้าผืนใหญ่มาพันทับบริเวณที่แขนหักให้แขนแนบข้างล าตัว และอ้อมมาผูกบริเวณทรวงอกใต้รักแร้ของอีก ข้างหนึ่งที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ) - เมื่อเข้าเฝือกชั่วคราวเสร็จแล้วควรปฏิบัติอย่างไร (รีบน าผู้ป่วยส่งแพทย์ทันที) 3. ให้นักเรียนจับคู่เพื่อฝึกการเข้าเฝือกชั่วคราวแล้วครูคัดเลือกผู้แทนนักเรียนที่ท าได้ดีจ านวน 2 คู่มา แสดงการเข้าเฝือกชั ่วคราวให้ครูและเพื ่อนๆ ดูและตรวจสอบความถูกต้องทีละคู ่จนครบทุกคู ่หากพบ ข้อผิดพลาดให้ครูให้ค าแนะน าเพื่อให้นักเรียนน าไปแก้ไขให้ถูกต้อง 4. ครูเล่าสถานการณ์เกี่ยวกับการแขนหักให้นักเรียนฟัง ดังนี้ - เพราะเหตุใดวันนี้อนุชิตจึงไม่ได้ขี่จักรยาน (เพราะเมื่อวานขี่จักรยานล้มท าให้แขนหัก) - นักเรียนเคยประสบเหตุการณ์แบบอนุชิตหรือไม่ (เคย/ไม่เคย)

165 - ถ้านักเรียนพบผู้ประสบเหตุการณ์เหมือนอนุชิตจะท าอย่างไร (ช่วยปฐมพยาบาลเขาด้วย การเข้าเฝือกชั่วคราว โดยใช้ผ้าผืนใหญ่มาพันบริเวณแขนที่หักให้แขนแนบล าตัว และอ้อมมาผูกบริเวณทรวงอก ใต้รักแร้ของอีกข้างหนึ่งที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ) 5. ครูและนักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเพื่อสรุปเกี่ยวกับการเข้าเฝือกชั่วคราว โดยครูใช้ค าถาม ดังนี้ - การเข้าเฝือกชั่วคราวมีประโยชน์อย่างไร (เพื่อป้องกันการเคลื่อนไหวบริเวณที่กระดูกหัก และเป็นการช่วยเหลือเบื้องต้นให้กับคนที่กระดูกหัก หรือข้อต่อต่างๆ หัก และหมดสติไม่สามารถเคลื่อนไหว ตัวเองได้) - หากกระดูกและข้อต่อหักแล้วไม่รีบเข้าเฝือกชั่วคราวจะส่งผลอย่างไร (ตัวอย่างค าตอบ อาจ ท าให้เกิดความพิการ บริเวณส่วนที่กระดูกหรือข้อต่อหักได้) ขั้นสรุป 6. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปความรู้ ดังนี้ เมื่อได้รับบาดเจ็บกระดูกหรือข้อต่อหักจากการเล่น ควร รีบท าการเข้าเฝือกชั่วคราว เพื่อไม่ให้การบาดเจ็บมีอาการรุนแรงมากขึ้น 7. ให้นักเรียนสนทนาแสดงความคิดเห็น โดยครูถามค าถามท้าทาย ดังนี้ - นักเรียนควรน าคุณธรรมและจริยธรรมในข้อใดมาใช้ เพื่อไม่ให้เกิดการบาดเจ็บในการเล่น 8. ให้นักเรียนท าใบงานที่ 8 เรื่อง การปฐมพยาบาลเมื่อได้รับบาดเจ็บจากการเล่น กระบวนการวัดผลและประเมินผล 1. เครื่องมือ 1.1 แบบประเมินการตอบค าถามของนักเรียน 1.2 แบบประเมินเจตคติ 1.3 แบบสังเกตพฤติกรรมการปฏิบัติ 2. วิธีการวัดและประเมินผล 2.1 อธิบายวิธีการปฐมพยาบาลด้วยการเข้าเฝือกชั่วคราว 2.2 เห็นความส าคัญของการปฐมพยาบาลด้วยการเข้าเฝือกชั่วคราว 2.3 ฝึกปฏิบัติการปฐมพยาบาลด้วยการเข้าเฝือกชั่วคราว สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1. ผ้าผืนใหญ่ 2. ใบงานที่ 8 เรื่อง การปฐมพยาบาลเมื่อได้รับบาดเจ็บจากการเล่น

166 3. เกณฑ์การประเมิน การประเมินแบบประเมินการตอบค าถามของนักเรียน 3 คะแนน = ดี 2 คะแนน = พอใช้ 1 คะแนน = ปรับปรุง ประเด็นการประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน 3 2 1 1. อธิบายวิธีการปฐม พยาบาลด้วยการ เข้าเฝือกชั่วคราว (K) อธิบายวิธีการปฐม พยาบาลด้วยการ เข้าเฝือกชั่วคราวได้ ถูกต้องทั้งหมด อธิบายวิธีการปฐม พยาบาลด้วยการ เข้าเฝือกชั่วคราว บางส่วน ไม่สามารถอธิบายวิธีการ ปฐมพยาบาลด้วยการ เข้าเฝือกชั่วคราวได้ 2. เห็นความส าคัญของ การห้ามเลือดเมื่อได้รับ บาดเจ็บจากการเล่น (A) เห็นความส าคัญของการ ห้ามเลือดเมื่อได้รับ บาดเจ็บจากการเล่น เห็นความส าคัญของการ ห้ามเลือดเมื่อได้รับ บาดเจ็บจากการเล่น บางส่วน ไม่เห็นความส าคัญของ การห้ามเลือดเมื่อได้รับ บาดเจ็บจากการเล่น

167 แบบสังเกตพฤติกรรมผู้เรียน ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 เกณฑ์การให้คะแนน 2 คะแนน หมายถึง ปฏิบัติได้ 1 คะแนน หมายถึง ไม่สามารถปฏิบัติได้ ระดับคุณภาพ ระดับคุณภาพ 3 หมายถึง ดี คะแนน 9-10 ระดับคุณภาพ 2 หมายถึง ปานกลาง คะแนน 6-8 ระดับคุณภาพ 1 หมายถึง ปรับปรุง คะแนน 1-5 เกณฑ์การผ่านระดับคุณภาพ 2 ขึ้นไป เลขที่ ชื่อ – สกุล ปฏิบัติได้ถูกต้องตามขั้นตอน ความสะอาด ความเข้าใจในเนื้อหา ความร่วมมือในชั้นเรียน การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า คะแนนรวม สรุปการประเมิน หมายเหตุ 2 2 2 2 2 10 ผ่าน/ไม่ผ่าน 1 2 3 4 5 7 8 9 10 11 12

170 ชื่อ........................................................................ ช้นั.............................................................. เลขที่ ............... ครูแบ่งกลุ่มนักเรียนตามความเหมาะสมแล้วให้นักเรียนแต่ละกลุ่มฝึ ก ปฏิบัติการปฐมพยาบาล เมื่อได้รับบาดเจ็บจากการเล่นตามที่ครูสาธิตให้ ดู แล้วบันทึกผลลงในแบบบันทึก วันที่ ................. เดือน ...................................... พ.ศ. ............ ใบงานที่ 8 เรื่อง การปฐมพยาบาลเมื่อได้รับบาดเจ็บจากการเล่น การปฐมพยาบาลผู้ได้รับบาดเจ็บจากการเล่น ผลการปฏิบัติ ถูกต้อง ไม่ถูกต้อง 1.ข้อเคล็ด 2. ฟกช้า ห้อเลือด โน บวม 3. แผลถลอก 4. การห้ามเลือด 5.การเขา้เฝือกชวั่คราว ปฏิบัติได้_________________ข้อ เกณฑ์การประเมิน ปฏิบัติได้ 3-5 ข้อ นักเรียนมีทักษะการปฐมพยาบาลอยู่ในระดับ ดี 0-2 ข้อ นักเรียนมีทักษะการปฐมพยาบาลอยู่ในระดับควร ปรับปรุง นักเรียนมีทักษะการปฐมพยาบาลอยู่ในระดับใด ____________________________ นักเรียนคิดว่าตนเองควรปรับปรุงการปฐมพยาบาลอาการบาดเจ็บขอ้ใดให้ดีข้ึน ___________________________________________________________________ การปฐมพยาบาลผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างถูกวิธีท าให้เกิดผลอยางไร ___________________________________________________________________ ___________________________________________________________________ __________________________________________________________________