๒๕๖20สมุดภาพเมองอุทยธาน Uthai Thanis Photo Album จังหวัดอุทัยธานี เปนเมืองสําคัญที่มีบทบาททางประวัติศาสตรมาอยางตอเนื่องยาวนาน มีชัยภูมิที่ดีสําหรับการคาในพื้นที่ลุมนํ้า สะแกกรัง-เจาพระยาตอนบน และดวยทรัพยากรทางธรรมชาติที่หลากหลายอันอุดมสมบูรณ จึงกอเกิดเปนความมั่งคั่งเฟองฟู จนกลาย เปนเมืองที่มีสีสันในมรดกทางวัฒนธรรมที่ตกทอดอยูตามพื้นที่ตางๆ อีกทั้งภูมิประเทศที่งดงามตระการตาทั้งเรือกสวน ไรนา แมนํ้า ภูเขา และปาไม ประกอบกับความมีอัธยาศัยไมตรีที่เอื้ออารีของชาวอุทัยธานี จึงนับวาเปนเสนหที่ยากจะหาจังหวัดใดเสมอเหมือน จัดพิมพโดย จังหวัดอุทัยธานี
๖๑ 18สมดภาพเมืองอทัยธานีUthaiThani’sPhotoAlbumเมืองอุทัยธานี สมุดภาพ Uthai Thani’s Photo Album เอนก นาวิกมูล ธงชัย ลิขิตพรสวรรค : บรรณาธิการ จังหวัดอุทัยธานี : ผูจัดพิมพ ประมวลภาพเกาของจังหวัดอุทัยธานี โดยความรวมแรงรวมใจของชาวอุทัยธานี
Uthai Thani’s Photo Album เอนก นาวิกมูล ธงชัย ลิขิตพรสวรรค์ : บรรณาธิการ จังหวัดอุทัยธานี : ผู้จัดพิมพ์ สมุดภาพ เมืองอุทัยธานี
ชื่อหนังสือ สมุดภาพเมืองอุทัยธานี Uthai Thani’s Photo Album ผู้จัดพิมพ์ จังหวัดอุทัยธานี พิมพ์ครั้งที่ ๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ ที่ปรึกษา พระราชเวที (สุรพล ชิตญาโณ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี นายไมตรี ไตรติลานันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี นายสมเจตน์ จงศุภวิศาลกิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประพจน์ อัศววิรุฬหการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บรรณาธิการ นายเอนก นาวิกมูล นายธงชัย ลิขิตพรสวรรค์ บรรณาธิการผู้ช่วย นายสุปรีดิ์ ณ นคร กองบรรณาธิการ นางวรรณา นาวิกมูล นางสาวภัทรวดี อัศววิรุฬหการ นางสาวโชติรส เกตุแก้ว นายอภิวัฒน์ สืบสาย ถอดความอักษรจีน รองศาสตราจารย์สุรสิทธิ์ อมรวณิชศักดิ์ ถ่ายภาพ นายพิชญ์ เยาว์ภิรมย์ ศิลปกรรม นางสาวดวงตา พุ่มเจริญ ด�ำเนินการพิมพ์ บริษัทส�ำนักพิมพ์ต้นฉบับ จ�ำกัด ๖/๑๔ ซอยวัดบัวขวัญ ๑๘ ถนนงามวงศ์วาน ๒๓ ต�ำบลบางกระสอ อ�ำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี ๑๑๐๐๐ โทรศัพท์ ๐-๒๙๕๒-๙๒๐๓ พิมพ์ที่ บริษัทพิมพ์ดี จ�ำกัด จ�ำนวนหน้า ๒๔๐ หน้า © สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับแก้ไขปรับปรุง) พ.ศ.๒๕๕๘ Printed in Thailand 2018 2 สมุดภาพเมืองอุทัยธานี
ค�ำนิยม ๔ ค�ำน�ำ ๕ พื้นภูมิเมืองอุทัยธานี ๗ พระบรมวงศานุวงศ์ ๑๔ ภาพเก่าอุทัยธานียุคแรก ๒๔๔๐ - ๒๔๘๐ ๒๘ ภูมิสถานบ้านเมือง ๗๒ ภาพถ่ายทางอากาศเมืองอุทัยธานี ๗๒ เขาสะแกกรัง วัดสังกัสรัตนคีรี ๘๐ วัดขวิดก่อนผาติกรรม ๘๔ วัดอุโปสถาราม ๘๖ วัดมณีสถิตกปิฏฐาราม ๘๘ วัดพิชัยปุรณาราม ๙๐ มณฑปวัดหนองขุนชาติ ๙๓ อาคารบ้านเรือนทั่วไป ๙๔ บรรยากาศน�้ำท่วมอุทัยธานี ๑๐๒ ภาพเก่าอุทัยธานี ยุค ๒๔๘๐ - ๒๕๑๐ ๑๐๔ ๒๔๗๙ ไฟไหม้ตลาดอุทัยใหม่ ๑๐๖ ๒๔๘๒ ยุวชนทหาร ๑๐๘ ยุค ๒๔๙๐ โรงเรียนอุทัยวิทยาลัย ๑๑๐ ยุค ๒๔๙๐ ร้านถ่ายภาพเอี๊ยะมุ้ย ๑๑๒ ยุค ๒๔๙๐ ศาลเจ้าแม่ทับทิม ๑๑๓ ๒๔๙๒ งานแต่งงานโต๊ะจีน ๑๑๔ ๒๔๙๔ แห่เจ้าพ่อหลักเมือง ๑๑๕ ๒๔๙๕ ขบวนแห่นาคตระกูลพรพิบูลย์ ๑๑๘ ๒๔๙๕ พิธีเปิดโรงไฟฟ้าเทศบาลอุทัยธานี ๑๒๔ ๒๔๙๗ ขบวนขันหมากทางน�้ำ ๑๒๖ ๒๔๙๗ เปิดห้องกรรมฐาน วัดมณีสถิตฯ ๑๒๘ ๒๔๙๘ งานกีฬาวันปีใหม่ ๑๓๐ ๒๔๙๘ นายกรัฐมนตรีเยือนอุทัยธานี ๑๓๒ ๒๔๙๘ สักการะพระพุทธมงคล ๑๓๔ ๒๔๙๙ เปิดที่ท�ำการพรรคเสรีมนังคศิลา ๑๓๖ ๒๔๙๙ รถขุดพรรคเสรีมนังคศิลา ๑๓๙ ๒๕๐๐ ตลาดสดเทศบาลอุทัยธานี ๑๔๐ ๒๕๐๐ ท่องเที่ยวเขาปฐวี ๑๔๒ ๒๕๐๐ ปั่นจักรยานหย่อนใจ ๑๔๓ ๒๕๐๑ ฉลองสมณศักดิ์พระราชอุทัยกวี (พุฒ) ๑๔๔ ๒๕๐๓ การแสดงของคณะฟ้าลั่น ๑๔๖ ๒๕๐๓ งานแต่งงานที่ทัพทัน ๑๔๗ ๒๕๐๗ ประชุมคณะสงฆ์ ๑๔๘ ๒๕๐๗ บรรยากาศงานสงกรานต์ ๑๕๐ ๒๕๐๘ ประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะ ๑๕๒ สารบัญ ๒๕๐๘ งานแห่เจ้าพ่อเจ้าแม่อุทัยธานี ๑๕๔ ๒๕๐๘ ท�ำนาที่สว่างอารมณ์ ๑๕๖ ๒๕๐๙ ผู้ว่าฯ สง่า จันทรสาขา ๑๕๘ ๒๕๐๙ ข้าราชการอ�ำเภอบ้านไร่ ๑๖๐ ๒๕๑๐ สมาคมพาณิชย์ อุทัยธานี ๑๖๑ ๒๕๑๐ เล่นแม่ศรีที่วัดพิชัยฯ ๑๖๒ ๒๕๑๑ ขุดค้นโครงกระดูก ๑๖๔ ๒๕๑๒ อัญเชิญพระพุทธนวราชบพิตร ๑๖๖ ๒๕๑๒ สมโภชพระพุทธรูปปางเสด็จลงจากดาวดึงส์ ๑๗๐ ๒๕๑๓ งานปีใหม่โรงแรมพิบูลย์สุข ๑๗๒ ๒๕๑๓ ขบวนขันหมากที่บ้านไร่ ๑๗๓ ๒๕๑๔ งานศาลเจ้าปุ่งเถ้ากง ๑๗๔ ๒๕๑๖ โกนจุก ๑๗๖ ยุค ๒๕๑๐ งานแห่เทียนพรรษา ๑๗๗ ยุค ๒๕๑๐ งานบวชที่สว่างอารมณ์ ๑๗๘ ยุค ๒๕๑๐ ไหว้ครูโรงเรียนเมืองอุทัยธานี ๑๘๐ พิธีศพชาวอุทัยธานี ๑๘๑ ๒๕๐๐ ขบวนแห่ศพแบบจีน ๑๘๒ ๒๕๐๕ งานฌาปนกิจศพนางทองอยู่ พรพิบูลย์ ๑๘๔ ๒๕๐๘ งานฌาปนกิจศพพระครูอุเทศธรรมนิวิฐ (ขุน จันโท) ๑๘๖ ๒๕๐๘ งานฌาปนกิจศพนางป๊อ ตัณฑกุล ๑๘๘ เมรุในพิธีศพของชาวอุทัยธานี ๑๙๒ ชุดภาพส�ำรวจอุทัยธานีของเอนก นาวิกมูล ๑๙๔ ริมแม่น�้ำสะแกกรัง ๑๙๔ ส�ำรวจเขาปลาร้า ๑๙๖ บรรยากาศตัวเมืองอุทัยธานี ๑๙๘ ปฏิสังขรณ์วิหารพระพุทธชัยสิทธิ์ ๒๐๐ ทัศนียภาพเมืองอุทัยธานี ๒๐๓ ตักบาตรเทโวโรหณะ ๒๐๔ เพลงพื้นบ้านที่หนองขาหย่าง ๒๐๖ หลวงพ่อเสมา วัดตลุกดู่ ๒๑๐ ถ�้ำพระยาพายเรือ ๒๑๑ อนุสาวรีย์สมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก ๒๑๒ ผู้คนเมืองอุทัยธานี ๒๑๓ บุคคลส�ำคัญ ๒๑๓ บุคคลทั่วไป ๒๑๘ ภาพหมู่คณะนักเรียน ๒๓๐ ภาพหมู่คณะสงฆ์ ๒๓๒ หมายเหตุการท�ำงาน ๒๓๘ รายชื่อบุคคลที่ให้ความอนุเคราะห์ ๒๔๐ สมุดภาพเมืองอุทัยธานี 3
คำนิยม จังหวัดอุทัยธานีเป็นเมืองส�ำคัญของที่ราบลุ่มภาคเหนือตอนล่างติดต่อกับภาคกลาง ด้วยเป็นเมืองอู่ข้าวอู่น�้ำที่ตั้งอยู่ ริมแม่น�้ำสะแกกรัง มีความอุดมสมบูรณ์ทั้ง “ทรัพย์ในดิน สินในน�้ำ” จนเป็นพื้นที่อยู่อาศัยของผู้คนมาตั้งแต่สมัยก่อน ประวัติศาสตร์ และมีหลักฐานอย่างต่อเนื่องของผู้คนในอดีตที่อาศัยอยู่บนผืนแผ่นดินอุทัยธานีมาจนถึงปัจจุบัน สะท้อนภาพ ให้เห็นว่าอุทัยธานีมีความส�ำคัญมานับแต่โบราณ ประกอบกับความเหมาะสมของภูมิสถานบ้านเมืองและทัศนียภาพ ทางธรรมชาติอันงามตา จึงท�ำให้อุทัยธานีเป็นเมืองที่เต็มไปด้วย “มนต์เสน่ห์” คณะบรรณาธิการหนังสือ “สมุดภาพเมืองอุทัยธานี” ได้ลงพื้นที่เสาะหาภาพถ่ายเก่าในอดีตจากเกือบทุกๆ พื้นที่ ของอุทัยธานีที่แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองในอดีต อันเป็นภาพถ่ายล�้ำค่ายุคแรกของอุทัยธานี มาจนถึงยุคภาพถ่ายขาว-ด�ำ ราว พ.ศ. ๒๕๒๕ ได้เป็นจ�ำนวนมาก นับว่าเป็นสิ่งที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งภาพถ่ายทั้งหมดล้วนเต็มไปด้วยคุณค่าและ ความงดงามทางศิลปวัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิตของผู้คนเมืองอุทัยธานีอย่างมีชีวิตชีวา ซึ่งความเป็นไปของอุทัยธานี และผู้คนที่ได้ถูกบันทึกเป็นภาพถ่ายในอดีตเหล่านี้จะเป็นเครื่องยืนยันถึง “มนต์เสน่ห์” ของอุทัยธานีได้เป็นอย่างดี จังหวัดอุทัยธานีตระหนักถึงคุณค่าของภาพถ่ายที่มีความส�ำคัญทางประวัติศาสตร์และท้องถิ่นศึกษา ด้วยมุ่งหมาย ที่จะให้มีความยั่งยืนและเป็นสิ่งที่บันทึกความเจริญรุ่งเรืองของอุทัยธานีในอดีต กับเพื่อให้เป็นหลักฐานความทรงจ�ำร่วมกัน ของชาวอุทัยธานี ก่อนที่ภาพถ่ายเหล่านี้จะสูญสลายไปตามกาลเวลา นับว่าโครงการจัดท�ำหนังสือ “สมุดภาพเมืองอุทัยธานี” ท�ำหน้าที่ดังกล่าวนี้ได้อย่างสมบูรณ์แล้ว ผมขอขอบคุณชาวอุทัยธานีทุกท่านที่ได้ให้ความอนุเคราะห์เอื้อเฟื้อในการด�ำเนินการต่างๆ อย่างดีเยี่ยม สมัครสมาน สามัคคีกัน ร่วมมือร่วมใจกันแสวงหาภาพถ่ายเก่าต่างๆ จากทุกแหล่งที่น่าจะมี และขอขอบคุณข้าราชการกับเจ้าหน้าที่ทุกท่าน ที่มีส่วนช่วยเหลือให้หนังสือเล่มนี้ส�ำเร็จสมความตั้งใจ ด้วยหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาของประวัติศาสตร์ท้องถิ่น และก่อให้เกิดส�ำนึกในการรักษาคุณค่าในตัวตนที่มี “มนต์เสน่ห์” ของชาวอุทัยธานีให้ยั่งยืนต่อไป นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ๑๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ 4 สมุดภาพเมืองอุทัยธานี
คำนำ เป็นเรื่องน่ายินดีที่จังหวัดอุทัยธานี โดยการน�ำของนายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผู้ว่า ราชการจังหวัด เล็งเห็นความส�ำคัญของการท�ำหนังสือสมุดภาพ จึงมอบหมายให้คณะท�ำงาน ดังรายนามข้างท้าย ออกงานสนามเก็บรวบรวมภาพเก่า และสิ่งของที่น่าสนใจของอุทัยธานี อย่างเป็นกิจลักษณะ แล้วน�ำมาตีพิมพ์เป็นรูปเล่มในชื่อ “สมุดภาพเมืองอุทัยธานี” เพื่อให้คนทั่วไปได้เห็นว่าอุทัยธานีมีดีอย่างไรบ้าง อุทัยธานีซึ่งเอกสารยุคเก่าอาจเขียนว่า “อุไทยธานี” เป็นเมืองเก่า เดิมตั้งอยู่ทาง ต�ำบลอุทัยเก่า อ�ำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี ถือเป็นหัวเมืองด่านชั้นนอกเมื่อครั้ง กรุงศรีอยุธยา ต่อมาได้ย้ายเมืองมาตั้งที่บ้านสะแกกรังในรัชสมัยสมัยพระบาทสมเด็จ พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ อุทัยธานีอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ขึ้นไปราว ๒๐๐ กว่ากิโลเมตร ถ้าดูแผนที่จะเห็นว่า อยู่ทางด้านทิศตะวันตก เกือบถึงชายแดนไทย - พม่า ค�ำขวัญประจ�ำจังหวัดที่ช่วยบอก จุดเด่นของตัวเองให้ผู้อื่นได้ทราบอย่างย่นย่อคือ “อุทัยธานีเมืองพระชนกจักรีปลาแรดรสดีประเพณีเทโว ส้มโอบ้านน�้ำตก มรดก โลกห้วยขาแข้ง แหล่งต้นน�้ำสะแกกรัง ตลาดนัดดังโคกระบือ” ซึ่งหมายความว่า อุทัยธานีเป็นบ้านเกิดของ “นายทองดี” พระชนกในรัชกาลที่ ๑ (พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก - มีพระนามเดิมว่าทองด้วง ครองราชย์ระหว่าง พ.ศ. ๒๓๒๕ – ๒๓๕๒) คณะบรรณาธิการ ได้รับเกียรติจากพระราชเวที (สุรพล ชิตญาโณ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (แถวนั่งล�ำดับที่ ๓ จากซ้าย) นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี (แถวยืนล�ำดับที่ ๖ จากซ้าย) และนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ (แถวยืนล�ำดับที่ ๔ จากซ้าย) นายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานี มาร่วมส�ำรวจสมบัติ ของวัดมณีสถิตกปิฏฐาราม ในคราวลงพื้นที่ท�ำงานสมุดภาพเมืองอุทัยธานี สมุดภาพเมืองอุทัยธานี 5
เมื่อรัชกาลที่ ๑ เสวยราชย์แล้ว จึงทรงสถาปนาพระอัฐิพระชนกเป็น “สมเด็จพระชนกาธิบดี” เมื่อ พ.ศ. ๒๓๓๘ ส่วนอนุสาวรีย์บนเขาสะแกกรังอันเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวต้องขึ้นไปเยี่ยมชมนั้น ทางจังหวัดก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๒ โดยกรมศิลปากรเป็นผู้ออกแบบ ปลาแรดรสดี คือปลาน�้ำจืดขนาดใหญ่ที่ชาวบ้านเลี้ยงในกระชังแม่น�้ำสะแกกรัง นิยมน�ำมาท�ำเป็นอาหาร ถือว่า มีรสชาติดี ประเพณีเทโว คือการตักบาตรช่วงวันออกพรรษา แรม ๑ ค�่ำ เดือน ๑๑ (ราวเดือนตุลาคม) ของทุกปี ค�ำว่าเทโว กร่อนมาจากค�ำว่า เทโวโรหณะ (เทว+โอโรหณ) ซึ่งแปลว่าการลงจากเทวโลก ในวันดังกล่าว พระสงฆ์ที่จ�ำพรรษาในเขตอุทัยธานีราว ๒๐๐ – ๓๐๐ รูปจะออกรับบิณฑบาต โดยเดินลงบันได จากมณฑปบนเขาสะแกกรัง พร้อมพระพุทธรูปปางเสด็จจากดาวดึงส์ สู่บริเวณวัดสังกัสรัตนคีรีที่อยู่เบื้องล่าง ตามต�ำนานหรือ พุทธประวัติว่าพระพุทธเจ้าเสด็จจากโปรดพระพุทธมารดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ กลับสู่โลกมนุษย์ด้วยบันได ๔๔๙ ขั้น ส่วนประชาชนจะแต่งกายสวยงามมาตักบาตรกันอย่างพร้อมเพรียง ถือเป็นประเพณีส�ำคัญประจ�ำเมือง มีชาวพุทธจากจังหวัด อื่นไปร่วมงานและถ่ายภาพเก็บบรรยากาศกันเนืองแน่น ส้มโอบ้านน�้ำตก คือส้มโอพันธุ์ขาวแตงกวาที่ชาวบ้านปลูกบนเกาะเทโพ (ตรงข้ามตัวเมือง) ซึ่งดินอุดมสมบูรณ์ มีรสหวานกรอบอร่อย เก็บได้นาน มรดกโลกห้วยขาแข้ง คือเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ - ห้วยขาแข้ง ที่มีขนาดกว้างใหญ่ มีพื้นที่ติดต่อกับ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร (ซึ่งอยู่ในพื้นที่จังหวัดตาก กับจังหวัดก�ำแพงเพชร) องค์การยูเนสโกขึ้นทะเบียน เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติเมื่อวันที่ ๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๔ ในป่ามีสัตว์ป่าหลากหลายชนิด ทั้ง ช้าง เสือโคร่ง เสือดาว ควายป่า วัวแดง กระทิง สมเสร็จ ที่รวมเรียกว่า Big 7 หรือผู้ยิ่งใหญ่ทั้ง ๗ ตลอดจนสัตว์เล็กสัตว์น้อยมากมาย แหล่งต้นน�้ำสะแกกรัง ความจริงต้นน�้ำของแม่น�้ำสายนี้มาจากเขาโมโกจู ในเขตก�ำแพงเพชร ไหลผ่านจังหวัด ก�ำแพงเพชร นครสวรรค์ แล้วมาผ่านตลาดสะแกกรังหรือตลาดในตัวจังหวัดอุทัยธานี ก่อนไปออกแม่น�้ำเจ้าพระยาที่ อ�ำเภอ มโนรมย์ จังหวัดชัยนาท แต่ละตอนก็มีชื่อต่างกัน เช่น แม่น�้ำวังม้า แม่น�้ำตากแดด แต่ชื่อที่คนรู้จักกันมากหรือคุ้นหูที่สุด ก็คือชื่อ แม่น�้ำสะแกกรัง จึงใช้ชื่อค�ำขวัญเช่นนั้น สุดท้าย...ตลาดนัดดังโคกระบือ คือ มีตลาดนัดขนาดใหญ่ที่ อ�ำเภอทัพทัน (มีสองสามแห่ง) เป็นที่ซื้อขายวัวควาย ที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย นอกจากสิ่งเด่นๆ ที่ทางการน�ำไปผูกเป็นค�ำขวัญแล้ว อุทัยธานียังมีสิ่งที่น่าสนใจอื่นๆ อีก เช่น มีวัดที่เก่าแก่สวยงาม หลายวัด วัดที่โดดเด่นมาก ได้แก่ วัดอุโปสถารามหรือวัดโบสถ์ ริมแม่น�้ำสะแกกรังฝั่งตรงข้ามตลาดอุทัยธานี มีจิตรกรรม ฝาผนังที่งดงามทั้งในอุโบสถและวิหาร มีเรือนแพในแม่น�้ำสะแกกรัง มีธรรมชาติที่งดงาม มีถ�้ำ มีต้นไม้ยักษ์อายุหลายร้อยปีที่ อ�ำเภอบ้านไร่ มีต้นยางนาสูง ตระหง่านในทุ่งนาเขียวขจี มีภูเขาใหญ่น้อยหลายลูก มีเมืองโบราณยุคทวารวดี (ราว ๑,๐๐๐ กว่าปีก่อน) ที่บ้านการุ้ง กับที่บึงคอกช้างซึ่งพบจารึกอักษรปัลลวะ อายุประมาณ พุทธศตวรรษที่ ๑๒ มีภาพเขียนของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์บนเขาปลาร้า ซึ่งเป็นแนวแบ่งเขตอ�ำเภอลานสัก กับ อ�ำเภอหนองฉาง มีประเพณีและการละเล่นแบบเก่า เช่นการเล่นเพลงพิษฐาน เพลงช้าเจ้าโลม เพลงแห่นาค และการเล่นสวดคฤหัสถ์ ที่บ้านท่าโพ อ�ำเภอหนองขาหย่าง มีการละเล่นของชาวกะเหรี่ยงที่อ�ำเภอบ้านไร่ มีการทอผ้าแบบพื้นเมืองที่อ�ำเภอบ้านไร่ 6 สมุดภาพเมืองอุทัยธานี
ดังนี้จึงเห็นได้ว่า อุทัยธานีเป็นเมืองที่อุดมด้วยศิลปะและประเพณีที่งดงามมากมายเกินความคาดหมาย ผู้ที่สนใจ ประวัติศาสตร์ สนใจศิลปวัฒนธรรม กับสนใจการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ จะเพลิดเพลินกับการขับรถหรือขี่จักรยานชมทิวทัศน์ และซึมซับสิ่งดีงามของอุทัยธานีอย่างเต็มอิ่มได้เป็นวันๆ ในกรณีการท�ำหนังสือเกี่ยวกับจังหวัดนี้ ที่ผ่านมามีผู้ท�ำหนังสือเล่าเรื่องอุทัยธานีไว้บ้างแล้ว แต่มักจะเน้นข้อเขียน หรือตัวหนังสือเป็นหลัก มิได้เน้นภาพถ่าย เช่น - หนังสือที่ระลึกในพิธีเปิดศาลากลางจังหวัดอุทัยธานี วันที่ ๑๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๐๙ ปกสีทอง จัดรูปเล่มเป็นแนวนอน - หนังสือชื่อ เมืองอุไทยธานี เรียบเรียงโดย “วัฒนดิศ” ชมรมสื่อมวลชนอุทัยธานีจัดพิมพ์ พ.ศ. ๒๕๒๑ ปกอ่อน สีน�้ำตาล - หนังสือชื่อ น�ำเที่ยวอุทัยธานี โดย พลาดิศัย สิทธิธัญญกิจ ส�ำนักพิมพ์สะแกกรังจัดพิมพ์เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๕ ปกสีฟ้า -หนังสือชื่อ วัฒนธรรมพัฒนาการทางประวัติศาสตร์เอกลักษณ์และภูมิปัญญาจังหวัดอุทัยธานี คณะกรรมการ ฝ่ายประมวลเอกสารและจดหมายเหตุในคณะกรรมการอ�ำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จัดพิมพ์เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๒ จัดพิมพ์ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๒ ปกแข็งปกสีขาว หนังสือเหล่านี้ ให้ความรู้เรื่องอุทัยธานีได้ค่อนข้างละเอียดชัดเจน สมควรขอบคุณผู้เขียนและผู้ค้นคว้ารุ่นก่อนๆ ที่ ได้อุตส่าห์แผ้วถางไว้ส�ำหรับคนรุ่นหลัง คงเหลือแต่เรื่องภาพซึ่งเป็นเรื่องส�ำคัญ แต่ยังขาดคนประมวล เพราะต้องใช้เวลาใน การออกค้นหาสถานที่ที่มีภาพเก่าและของเก่าเพื่อขอบันทึกภาพด้วยกล้องที่มีคุณภาพ ในสมัยก่อน เทคโนโลยีการถ่ายภาพยังไม่ก้าวหน้าเท่าสมัยนี้ ที่ส�ำคัญคือต้องใช้ฟิล์มราคาแพงจ�ำนวนมาก จึงไม่มี ใครกล้าลงทุนก๊อปปี้ภาพเก่ามาเก็บสักเท่าใด ครั้นถึงยุคปัจจุบันคือยุคดิจิทัล การถ่ายรูปไม่จ�ำเป็นต้องใช้ฟิล์มแล้ว แต่การ ก๊อปปี้ภาพ ตลอดจนน�ำสิ่งของทั้งหลายมาถ่ายภาพก็ใช่ว่าจะง่ายเสียทีเดียว ภาพบางภาพแขวนอยู่ในระดับสูง ต้องปีนขึ้นไป ปลดลงมาปัดหยากไย่ เช็ดกระจก ท�ำความสะอาดกันอย่างทุลักทุเล ภาพที่ปลดไม่ได้ ต้องใช้เลนส์ดึงภาพ และตั้งกล้อง บนสามขาเปิดช่องรับแสงแช่ไว้ บางภาพอยู่ในระดับสายตาก็จริงแต่มีแสงสะท้อน ปัญหาอันยุ่งยากเหล่านี้หากไม่มีความรู้ ในการถ่ายภาพ ก็ยากที่จะแก้ไขให้งานบันทึกภาพลุล่วงลงได้อย่างมีคุณภาพ คณะท�ำงานหนังสือสมุดภาพเมืองอุทัยธานี เข้าคารวะนายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผู้ว่า ราชการจังหวัดอุทัยธานี และรับนโยบาย การจัดท�ำหนังสือ ณ ห้องท�ำงานศาลากลาง จังหวัดอุทัยธานี (แถวนั่งจากซ้าย - นายธงชัย ลิขิตพรสวรรค์ นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ นายเอนก นาวิกมูล แถวยืน จากซ้าย - นายสุปรีดิ์ ณ นคร นางสาว โชติรส เกตุแก้ว นายพิชญ์ เยาว์ภิรมย์) สมุดภาพเมืองอุทัยธานี 7
หนังสือสมุดภาพเป็นสิ่งจ�ำเป็นที่ควรมีประดับเมือง ด้วยช่วยท�ำให้คนทั่วไปเข้าใจ เมืองนั้นได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาอธิบายหรืออ่านหนังสือกันยืดยาว ในเมื่อเรามาถึงยุค ที่มีเครื่องมืออันวิเศษแล้ว ไฉนจึงไม่เร่งเก็บภาพส�ำคัญมาประมวลไว้เป็นมรดกส่งต่อ ให้แก่คนทั้งหลายเล่า เมื่อท่านผู้ว่าราชการจังหวัดแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อนุมัติให้จัดท�ำหนังสือ “สมุดภาพ เมืองอุทัยธานี” แล้ว คณะท�ำงานซึ่งประกอบด้วยผู้ที่รักในวิชาประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม จึงได้เร่งยกก�ำลังไปท�ำงานในพื้นที่อ�ำเภอเมืองและอ�ำเภอต่างๆ อย่างไม่รอช้า ได้ท�ำงาน ภาคสนาม พบปะผู้น�ำชุมชน ชี้แจงเจ้าของภาพให้เข้าใจวัตถุประสงค์ และย�้ำว่าจะขอเพียง ก๊อปปี้ภาพเท่านั้น เมื่อก๊อปปี้แล้วก็รีบส่งคืนทันที มิได้เอาภาพออกไปด้วย ก่อนก๊อปปี้ภาพ ก็ได้ซักถามทั้งเจ้าของและผู้รู้ให้ได้รายละเอียดของแต่ละภาพก่อนว่าเป็นภาพของใคร เป็นภาพอะไร ฯลฯ แล้วจึงเขียนค�ำบรรยายหลังภาพและลงมือถ่ายภาพ หนังสือสมุดภาพ แบ่งออกเป็น ๒ ส่วนใหญ่ๆ คือ ภาพเก่า กับ ของเก่า ภาพของเก่า ในส่วนหลังนี้ ถ่ายจากสถานที่ราชการบ้าง วัดวาอารามบ้าง บ้านเรือนต่างๆ บ้าง แต่ละชิ้น ล้วนเป็นของสวยของงาม ที่ควรน�ำมาแบ่งปันกันชม เพื่อเป็นแรงกระตุ้นให้ผู้คนตระหนักใน คุณค่า เร่งช่วยกันเก็บของหรือท�ำพิพิธภัณฑ์ขึ้นอีกทางหนึ่ง หลักการหนึ่งในการพิมพ์หนังสือที่ยึดถือคือ ต้องให้เครดิตเจ้าของภาพและผู้ร่วม ท�ำงานทุกคน เพื่อเป็นการแสดงความเคารพและขอบคุณผู้ให้ความอนุเคราะห์อย่างจริงใจ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไรก็จะเป็นเครื่องเตือนความจ�ำว่าได้มีส่วนสร้างกุศลกรรมครั้งนี้ ร่วมกัน การท�ำหนังสือ สมุดภาพเมืองอุทัยธานี ส�ำเร็จลุล่วงไปด้วยดีก็เพราะได้รับ ความร่วมมืออย่างแข็งขันจากคนอุทัยธานี กระทั่งผู้ว่าราชการจังหวัดก็ยังปลีกเวลาออกไป ให้ก�ำลังใจ เช่น ไปดูการท�ำงานที่วัดมณีสถิตฯ หรือวัดทุ่งแก้ว เป็นต้น อีกทั้งเมื่อออกไปยัง อ�ำเภอใด นายอ�ำเภอ ก�ำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ครูอาจารย์ ตลอดจนชาวบ้านชาวเมืองทั้งหลาย ก็ขมีขมันช่วยกันหาภาพมาให้ก๊อปปี้ หรือพาไปถ่ายภาพสิ่งของตามที่ต่างๆ จนเกินปริมาณ ที่จะน�ำลงพิมพ์ให้หมดเป็นหนังสือเล่มเดียวได้ หลังจากการออกงานสนามเป็นจ�ำนวน ๓ ครั้ง คณะท�ำงานได้น�ำภาพทั้งหมดมาคัด เลือก เขียนค�ำบรรยาย และควบคุมดูแลการจัดรูปเล่มทุกขั้นตอน จนส่งเข้าโรงพิมพ์ในที่สุด ในนามของคณะท�ำงาน ผู้เขียนขอขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัด แมนรัตน์ รัตนสุนคนธ์ ขอบคุณเจ้าของภาพดังอ้างอิงทุกท่าน หวังว่าการบันทึกเรื่องราวของอุทัยธานีจะไม่ยุติที่ หนังสือ สมุดภาพเมืองอุทัยธานี เพียงเล่มเดียว ของดี ของงามของอุทัยธานีจะได้รับการน�ำ เสนอต่อไปในหนังสืออีกหลายๆ เล่ม สมควรแก่ความรุ่งเรืองทางทรัพยากรธรรมชาติและ ศิลปวัฒนธรรมของจังหวัด นายเอนก นาวิกมูล วันศุกร์ที่ ๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ 8 สมุดภาพเมืองอุทัยธานี
พื้นภูมิเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี ตั้งอยู่บนพื้นที่อันอุดมสมบูรณ์ของที่ราบลุ่มภาคเหนือตอนล่าง ติดต่อกับภาคกลางตอนบน ค่อนไปทางทิศตะวันตก เป็นเมืองที่มีทัศนียภาพงดงามตระการตา ทั้งเรือกสวน ไร่นา แม่น�้ำ และป่าเขาอันหลากหลายทั้งพันธุ์พืชและสัตว์ ด้วยความมั่งคั่ง ในทรัพยากรทางธรรมชาติ อุทัยธานีจึงเป็นอู่ข้าวอู่น�้ำของผู้คนบนผืนแผ่นดินมานับแต่อดีต ดังปรากฏหลักฐานการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์โบราณที่มีความต่อเนื่องกันมาหลายยุคหลาย สมัย ประกอบกับสภาพทางภูมิศาสตร์ของอุทัยธานีนั้นเอื้ออ�ำนวยต่อการตั้งชุมชนมา ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ จึงพบว่าเกือบทุกพื้นที่ของอุทัยธานีนั้นเป็นแหล่งอารยธรรม ที่ส�ำคัญมายาวนาน จากหลักฐานทางโบราณคดีในพื้นที่ต่างๆ ตามบริเวณช่องเขา หุบเขา ถ�้ำ และ ในพื้นที่ราบลุ่ม ล้วนบ่งบอกว่าพื้นที่บริเวณนี้เคยมีมนุษย์อยู่อาศัยมาตั้งแต่สมัยก่อน ประวัติศาสตร์ เช่น ภาพเขียนสีที่เขาปลาร้า อ�ำเภอลานสัก โครงกระดูกมนุษย์ ภาชนะ ดินเผา ลูกปัดแก้ว ลูกปัดหินสีต่างๆ ที่แหล่งโบราณคดีบ้านหลุมเข้า อ�ำเภอหนองขาหย่าง โครงกระดูกมนุษย์ ภาชนะดินเผา เครื่องมือที่ท�ำจากหินที่แหล่งโบราณคดีเขานาค และ แหล่งโบราณคดีเขาปฐวี อ�ำเภอทัพทัน เป็นต้น ประกอบกับพื้นที่ตั้งของเมืองอุทัยธานีเป็น จุดเชื่อมต่อระหว่างช่องเขา ซึ่งเป็นเส้นทางเดินไปมาค้าขาย จึงท�ำให้มีการตั้งถิ่นฐานของ มนุษย์อยู่อย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นชุมชนโบราณและมีพัฒนาการไปสู่ชุมชนขนาดใหญ่ ตัวเมืองอุทัยธานี (ใหม่) ตั้งอยู่ที่บ้าน สะแกกรัง ริมแม่น�้ำสะแกกรัง เป็นพื้นที่ ที่มีความสะดวกในการติดต่อค้าขาย มากกว่าเมืองอุทัยธานี (เก่า) จึงมีพ่อค้า ชาวจีนเข้ามาตั้งชุมชนจนกลายเป็น ตัวเมืองอุทัยธานีในปัจจุบัน (ภาพจากหน้า ๗๔) สมุดภาพเมืองอุทัยธานี 9
เมื่อเข้าสู่ยุคทวารวดี ชุมชนขนาดใหญ่ได้มีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมจากพื้นที่ภายนอกโดยเฉพาะอินเดีย ท�ำให้มี การจัดการชุมชนไปสู่รูปแบบเมืองที่มีคูน�้ำคันดินล้อมรอบส�ำหรับรักษาความปลอดภัยของชุมชน และเกิดพัฒนาการของตนเอง ทั้งด้านอุปโภคบริโภค การเกษตร การก่อสร้าง และการค้าขายแลกเปลี่ยนกับชุมชนอื่นๆ ดังจะเห็นร่องรอยชุมชนโบราณที่มี อย่างกระจัดกระจายในพื้นที่ต่างๆ ของอุทัยธานี เช่น เมืองโบราณบ้านใต้ อ�ำเภอเมืองอุทัยธานี เมืองโบราณบึงคอกช้าง อ�ำเภอ สว่างอารมณ์ เมืองโบราณบ้านคูเมือง อ�ำเภอหนองขาหย่าง และเมืองโบราณบ้านการุ้ง อ�ำเภอบ้านไร่ เป็นต้น ซึ่งพบว่า หลักฐานทางโบราณคดีต่างๆ ในเมืองโบราณเหล่านี้ ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงความเจริญของผู้คนในพื้นที่อุทัยธานีว่ามีอารยธรรม ที่ยิ่งใหญ่ ชุมชนโบราณในยุคทวารวดีนี้ เป็นยุคแรกเริ่มของวัฒนธรรมท้องถิ่นที่พัฒนาไปสู่ความเป็นสังคมเมือง และมีรูปแบบ ของความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงกับชุมชนภายนอกในพื้นที่ใกล้เคียง โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มแม่น�้ำเจ้าพระยา จนเกิดเป็นการรวมตัวกัน ตั้งถิ่นฐานขึ้นเป็นนครรัฐต่างๆ เช่น นครรัฐสุโขทัย หรือนครรัฐสุพรรณภูมิ เป็นต้น ด้วยมีการขุดค้นทางโบราณคดีที่พบเครื่อง สังคโลกสุโขทัยเป็นจ�ำนวนไม่น้อยในพื้นที่ของอุทัยธานี จึงเป็นหลักฐานส�ำคัญอย่างหนึ่งได้ว่า ในยุคสุโขทัยพื้นที่ของเมือง อุทัยธานีก็ได้มีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมกับกรุงสุโขทัยด้วยเช่นกันด้วยที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของอุทัยธานีนั้น เป็นพื้นที่ส�ำคัญของการผ่านสินค้าทั้งทางน�้ำคือแม่น�้ำเจ้าพระยา และทางบกคือช่องเขาด้านทิศตะวันตกไปสู่อ่าวเมาะตะมะ ล่วงเข้าสู่ยุคอาณาจักรอยุธยา ความส�ำคัญของเมืองอุทัยธานีจึงได้เริ่มปรากฏขึ้นชัด ด้วยสถานะของกรุงศรีอยุธยา ที่มีอ�ำนาจยิ่งใหญ่ในลุ่มแม่น�้ำเจ้าพระยา และการสงครามระหว่างอาณาจักรของอยุธยากับพม่า ส่งผลให้พื้นที่ของอุทัยธานี กลายเป็นเขตชายแดนรอยต่อ ซึ่งจ�ำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีเมืองหน้าด่านไว้ส�ำหรับระมัดระวังสอดส่องดูแลการทัพที่ล่วงล�้ำ เข้ามา “เมืองอุไทย” จึงเกิดขึ้นในเวลานี้และมีสถานะเป็นหัวเมืองหน้าด่าน ด้วยมีด่านส�ำคัญหลายด่านที่อยู่ในพื้นที่ของเมือง อุไทย คือ ด่านเมืองอุไทย (ที่บ้านคลองค่าย อ�ำเภอหนองฉาง) ด่านแม่กลอง ด่านเขาปูน ด่านสลักพระ และด่านหนองหลวง โดยมีเจ้าเมืองอุไทยเป็นผู้ดูแล จนถึงสมัยสมเด็จพระเอกาทศรถได้ทรงบัญญัติอ�ำนาจการใช้ตราประจ�ำต�ำแหน่ง โดยระบุใน กฎหมายลักษณะพระธรรมนูญว่า “เมืองอุไทยธานีเป็นหัวเมืองขึ้นแก่มหาดไทย” จึงท�ำให้เมืองอุไทยธานีเป็นเมืองหน้าด่าน ส�ำคัญของกรุงศรีอยุธยามาโดยตลอด แผนที่ของส�ำนักโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดอุทัยธานี มาตราส่วน ๑ : ๓๕๐,๐๐๐ พิมพ์เมื่อ พ.ศ. ๒๕๕๑ 10 สมุดภาพเมืองอุทัยธานี
ในสมัยกรุงธนบุรี เป็นช่วงเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงส�ำคัญของเมืองอุไทยธานี ด้วยเมืองอุไทยธานีเป็นที่ตั้งของ ด่านส�ำคัญที่มีการเข้าออกระหว่างผู้คน แม้ยามว่างเว้นจากการศึกก็ยังมีการแลกเปลี่ยนค้าขายไปมาระหว่างกัน พื้นที่ของ เมืองอุไทยธานี (เก่า) จึงกลายเป็นชุมชนที่มีผู้คนหลากหลายทั้งไทย มอญ และจีน โดยเฉพาะความอุดมสมบูรณ์ในพื้นที่ราบ ของเมืองอุไทยธานี (เก่า) ที่เหมาะสมต่อการท�ำนาได้ตลอดและไม่มีน�้ำท่วมขัง จึงท�ำให้มีผู้คนเข้ามาตั้งถิ่นฐานกันมากจน กลายเป็นชุมชนขนาดใหญ่ การค้าข้าวของเมืองอุไทยธานี (เก่า) ที่เฟื่องฟูได้ท�ำให้มีชาวจีนเข้ามารับซื้อข้าวเปลือกมากขึ้น แต่ด้วยที่ตั้งของเมืองอุไทยธานี (เก่า) ที่อยู่ห่างจากแม่น�้ำใหญ่ค่อนข้างมาก แม้จะมีล�ำน�้ำขนาดเล็กเข้าไปจนถึงตัวเมือง แต่ก็ไม่สะดวกในช่วงหน้าแล้ง จึงต้องบรรทุกข้าวเปลือกใส่เกวียนมาลงเรือที่บ้านสะแกกรัง ท�ำให้พ่อค้าจีนส่วนใหญ่พากัน ตั้งบ้านเรือนและยุ้งข้าวอย่างหนาแน่นขึ้นในบริเวณนี้ จนกลายเป็นย่านทางการค้าแห่งใหม่และมีความส�ำคัญต่อ เมืองอุไทยธานีในเวลาต่อมา เหตุที่บ้านสะแกกรังมีความเจริญขึ้นเป็นล�ำดับ ด้วยเป็นชุมทางของการค้าข้าว ซึ่งพื้นที่ราบของเมืองอุทัยธานี มีนาดอนมากกว่านาลุ่ม จึงไม่ค่อยประสบปัญหาน�้ำท่วมขัง ข้าวจากเมืองอุไทยธานีจึงมีความส�ำคัญต่อเศรษฐกิจในสมัย ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ และด้วยสถานะของเมืองหน้าด่านที่ส�ำคัญต่อยุทธศาสตร์ความมั่นคง พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้า จุฬาโลก จึงโปรดฯ ให้เลื่อนสถานะเจ้าเมืองอุไทยธานีขึ้นเป็น “พระยาอุไทยธานี” จนกระทั่ง พ.ศ. ๒๓๗๖ เจ้าเมืองอุไทยธานี ที่มาจากกรุงเทพฯ เห็นว่าบ้านสะแกรังมีบ้านเรือนหนาแน่น และมีการค้าคับคั่งกว่าที่เมืองอุไทยธานี (เก่า) การสัญจรทางน�้ำ ผ่านแม่น�้ำสะแกกรังก็สะดวก พระยาอุไทยธานีผู้นี้จึงได้ว่าราชการเมืองอยู่ที่บ้านสะแกกรัง และนับแต่นั้นกรมการเมือง อุไทยธานีก็ได้พากันย้ายมาตั้งที่ท�ำการอยู่ที่บ้านสะแกกรังเรื่อยมา ครั้น พ.ศ. ๒๓๙๑ เกิดปัญหาการจัดเก็บภาษีอากร เงินสมพัตรสร อากรตลาด ระหว่างเมืองอุไทยธานี กับเมืองชัยนาท ด้วยมีพื้นที่ทับซ้อนกันอยู่ ทางกรุงเทพฯ จึงส่งพระยามหาอ�ำมาตย์มาเป็นผู้ไกล่เกลี่ยสอบสวนกับกรมการของเมืองทั้งสอง ความนี้ได้ปรากฏในพระนิพนธ์ของสมเด็จฯ กรมพระยาด�ำรงราชานุภาพว่า “จึงให้ตัดเขตบ้านสะแกกรังทางฝั่งคลองฝากใต้ กว้าง ๑๐๐ เส้น ตั้งแต่ท้ายบ้านสะแกกรังไปจดแดนเมืองอุไทยเก่า โอนพื้นที่นั้นจากเมืองไชยนาทเป็นของเมืองอุไทยธานี เมืองอุไทยธานีจึงตั้งอยู่ปลายสุดเขตแดนทางฝั่งคลองสะแกกรังฝากเหนือ ตรงบ้านเจ้าเมืองอุไทยธานีข้ามไปก็เป็นเขตแดน เมืองมโนรมย์ข้างใต้บ้านลงมาสักคุ้งน�้ำหนึ่งก็เป็นแดนเมืองไชยนาท” ปัญหาของแดนเมืองอุไทยธานีกับเมืองไชยนาทจึงเป็น อันยุติ แผนที่จังหวัดอุทัยธานี ส�ำรวจโดยเหล่าทหารช่างกองทัพอเมริกัน เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๙ มาตราส่วน ๑ : ๕๐,๐๐๐ จัดพิมพ์โดยกรมแผนที่ทหาร เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๒ สมุดภาพเมืองอุทัยธานี 11
ในคราวเสด็จประพาสมณฑลฝ่ายเหนือของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๔ ได้เสด็จ พระราชด�ำเนินมายังเมืองอุไทยธานี ณ บ้านสะแกกรัง เมื่อวันที่ ๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๔๔ และได้พระราชทานพระแสงราชศัสตรา ประจ�ำเมืองอุไทยธานี (ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่ศาลากลางจังหวัดอุทัยธานี) แล้วจึงเสด็จฯ ประพาสตลาดอุไทยธานี พระราชทาน เหรียญเสมาแก่ข้าราชการต่างๆ และเสด็จไปยังวัดอุโปสถาราม ทรงรับการถวายพระพุทธรูปหล่อเงินจากพระครูอุทัยธรรม นิเทศ (จัน) แล้วจึงพระราชทานคืนให้แก่วัดส�ำหรับเป็นที่สักการะของชาวเมืองสืบไป ต่อมา พ.ศ. ๒๔๔๙ พระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จประพาสเมืองอุไทยธานีอีกครั้งเมื่อคราวเสด็จประพาสต้นครั้งที่ ๒ ตรงกับวันที่ ๑๐ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๔๙ ได้เสด็จขึ้นประพาสตัวเมืองและตลาดสดอุไทยธานี ในคราวนี้ได้ทรงถ่ายภาพฝีพระหัตถ์เมืองอุไทยธานีไว้เป็น จ�ำนวนมาก ยังปรากฎเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของเมืองอุไทยธานีตราบจนทุกวันนี้ ล่วงเข้าสู่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ใน พ.ศ. ๒๔๕๙ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนการ เรียกชื่อเมืองเป็นจังหวัด เมืองอุไทยธานีจึงกลายเป็น “จังหวัดอุไทยธานี” และมีเหตุการณ์ที่เกี่ยวเนื่องกับชื่อ “อุไทยธานี” ต่อมาด้วยว่า เมื่อครั้งชาวอุไทยธานีได้ร่วมกันสร้างโรงเรียนชายประจ�ำจังหวัดขึ้นนั้น ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน ชื่อว่า “โรงเรียนอุทัยทวีเวท” โดยมีหนังสือของกรมราชเลขาธิการมาถึงกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ ๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๖๕ ซึ่งเป็นเอกสารชิ้นแรกที่มีการระบุชื่อจังหวัดเป็น “อุทัยธานี” นับแต่นั้นจึงได้มีการเขียนชื่อเมืองตามความนิยมนี้ มาจนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชด�ำเนินประพาสเมืองอุไทยธานี เมื่อวันที่ ๒๙ – ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๖๕ โดยเสด็จฯ มาตรวจเยี่ยมข้าราชการและทอดพระเนตรความเป็นอยู่ของราษฎร และได้เสด็จฯ ขึ้นนมัสการพระพุทธบาทจ�ำลองในมณฑปบนเขาสะแกกรังที่วัดสังกัสรัตนคีรีอีกด้วย นับเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์เดียว ที่ได้ประทับแรม ณ เมืองอุไทยธานี ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้เสด็จพระราชด�ำเนินจังหวัดอุทัยธานี เป็นจ�ำนวน ๔ ครั้ง โดยมีพระราชกรณียกิจครั้งส�ำคัญเมื่อวันที่ ๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๑๒ ในการเสด็จพระราชด�ำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร (เมื่อครั้งด�ำรงพระอิสริยยศ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้า วชิราลงกรณฯ) ประกอบพระราชกรณียกิจพระราชทานพระพุทธนวราชบพิตร ประจ�ำจังหวัดอุทัยธานี ณ ศาลากลางจังหวัด อุทัยธานี นับว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณแก่ชาวอุทัยธานีเป็นล้นพ้น ต่อมาใน พ.ศ. ๒๕๑๙ โดยความร่วมแรงร่วมใจกันของ บรรยากาศตลาดในตัวเมืองอุทัยธานี เมื่อราว พ.ศ. ๒๔๕๐ มีสภาพใกล้เคียงกับบ้านเมืองเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสเมืองอุทัยธานี เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๙ (ภาพจากหน้า ๓๙) 12 สมุดภาพเมืองอุทัยธานี
ชาวอุทัยธานี ได้บริจาคทุนทรัพย์สร้างพระบรมรูปสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก ภายใต้การควบคุมของกรมศิลปากร พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ฯ ได้เสด็จ พระราชด�ำเนินมาเปิดพระวิสูตรพระบรมรูปฯ เมื่อวันที่ ๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๒ จึงเป็นความปลาบปลื้มแก่ชาวอุทัยธานีที่น้อม แสดงถึงความจงรักภักดีแด่พระราชวงศ์อย่างแท้จริง จังหวัดอุทัยธานียังคงมีความเจริญรุดหน้าอย่างต่อเนื่องนับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และยังเป็นเมืองที่เป็นชุมชนการ ค้าข้าวและเป็นเมืองเกษตรกรรมส�ำคัญของประเทศ ความบริบูรณ์ในทรัพยากรทางธรรมชาติของอุทัยธานียังได้ประจักษ์เมื่อ ครั้งที่องค์การยูเนสโกประกาศให้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร – ห้วยขาแข้ง เป็นมรดกทางธรรมชาติของโลก เมื่อ เดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๔ ด้วยผืนป่าที่กว้างใหญ่และเป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ จึงเป็นป่าต้นน�้ำของลุ่มแม่น�้ำส�ำคัญหลายสาย อาทิ ลุ่มแม่น�้ำแม่กลอง ลุ่มแม่น�้ำสุพรรณบุรี ลุ่มแม่น�้ำเจ้าพระยา และลุ่มแม่น�้ำสะแกกรัง เป็นต้น นับได้ว่าพื้นที่ของจังหวัด อุทัยธานีนั้นมีความส�ำคัญเป็นอู่ข้าวอู่น�้ำผืนใหญ่ของประเทศ ที่สร้างประโยชน์อย่างมหาศาลและช่วยในการด�ำรงวิถีชีวิต หล่อเลี้ยงผู้คนในพื้นที่ใกล้เคียง ปัจจุบันจังหวัดอุทัยธานีแบ่งเขตการปกครองเป็น ๘ อ�ำเภอ คือ อ�ำเภอเมืองอุทัยธานี อ�ำเภอหนองฉาง อ�ำเภอทัพทัน อ�ำเภอหนองขาหย่าง อ�ำเภอบ้านไร่ อ�ำเภอสว่างอารมณ์ อ�ำเภอลานสัก และอ�ำเภอห้วยคต มีเนื้อที่ ๖,๗๓๐.๒๔ ตารางกิโลเมตร เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ ๒๙ ของประเทศไทย มีประชากรราว ๓๒๘,๐๐๐ คน ประกอบด้วยชาวไทย ภาคกลาง ชาวไทยพวน ชาวไทยครั่ง ชาวไทยเชื้อสายจีน ชาวไทยมุสลิม ชาวไทยมอญ และชาวไทยกะเหรี่ยง ผู้คนเหล่านี้ อยู่ด้วยกันมาอย่างสงบสุข ร่มเย็น และมีไมตรีต่อกัน นับว่าจังหวัดอุทัยธานีเป็นเมืองส�ำคัญที่มีบทบาททางประวัติศาสตร์ มาอย่างต่อเนื่องยาวนาน มีชัยภูมิที่ดีส�ำหรับการค้าในพื้นที่ลุ่มน�้ำสะแกกรัง-เจ้าพระยาตอนบน และด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติ ที่หลากหลายอันอุดมสมบูรณ์ จึงก่อเกิดเป็นความมั่งคั่งเฟื่องฟู จนกลายเป็นเมืองที่มีสีสันในมรดกทางวัฒนธรรมที่ตกทอด อยู่ตามพื้นที่ต่างๆ อีกทั้งภูมิประเทศที่งดงามตระการตาทั้งเรือกสวน ไร่นา แม่น�้ำ ภูเขา และป่าไม้ ประกอบกับความมีอัธยาศัย ไมตรีที่เอื้ออารีของชาวอุทัยธานี จึงนับว่าเป็นเสน่ห์ที่ยากจะหาจังหวัดใดเสมอเหมือน บันไดทางขึ้นมณฑปพระพุทธบาทวัดสังกัสรัตนคีรี ณ เชิงเขาสะแกกรัง ราว พ.ศ. ๒๔๕๐ - ๒๔๖๐ (ภาพจากหน้า ๓๘) เอกสารของกรมราชเลขาธิการถึงกระทรวงศึกษาธิการแจ้ง เรื่องพระราชทานชื่อโรงเรียนอุทัยทวีเวท เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๕ เป็นเอกสารชิ้นแรกที่ได้ระบุชื่อจังหวัดอุทัยธานีสะกด อย่างปัจจุบัน สมุดภาพเมืองอุทัยธานี 13
14 สมุดภาพเมืองอุทัยธานี
Uthai Thani’s Photo Album สมุดภาพ เมืองอุทัยธานี สมุดภาพเมืองอุทัยธานี 15
พระบรมวงศานุวงศ์ พิธีพระราชทานพระพุทธนวราชบพิตร พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพย วรางกูร (เมื่อครั้งด�ำรงพระอิสริยยศ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณฯ) เสด็จพระราชด�ำเนินมาประกอบพระราชพิธี พระราชทานพระพุทธนวราชบพิตร ประจ�ำจังหวัดอุทัยธานี ณ ศาลากลางจังหวัดอุทัยธานี เมื่อวันที่ ๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๑๒ (ภาพพระราชทาน ส�ำนักงานเทศบาลเมืองอุทัยธานี เอื้อเฟื้อภาพ) 16 สมุดภาพเมืองอุทัยธานี
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพย วรางกูร (เมื่อครั้งด�ำรงพระอิสริยยศ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณฯ) ประทับในพลับพลาหน้าศาลากลางจังหวัด อุทัยธานี (ภาพพระราชทาน ส�ำนักงานเทศบาลเมืองอุทัยธานี เอื้อเฟื้อภาพ) พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระราชด�ำรัสพระราชทานแก่ข้าราชการและชาวอุทัยธานี ที่มาเข้าเฝ้าฯ ในคราวเสด็จพระราชด�ำเนินมาประกอบพระราชพิธีพระราชทานพระพุทธนวราชบพิตร ประจ�ำจังหวัดอุทัยธานี เมื่อวันที่ ๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๑๒ (ภาพพระราชทาน ส�ำนักงานเทศบาลเมืองอุทัยธานี เอื้อเฟื้อภาพ) สมุดภาพเมืองอุทัยธานี 17
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงพระสุหร่ายและเจิมองค์พระพุทธนวราชบพิตร ประจ�ำจังหวัดอุทัยธานี (ภาพพระราชทาน ส�ำนักงานเทศบาลเมืองอุทัยธานี เอื้อเฟื้อภาพ) 18 สมุดภาพเมืองอุทัยธานี
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร โปรดเกล้าฯ ให้นายสง่า จันทรสาขา ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี เข้ารับพระราชทานพระพุทธนวราชบพิตร ประจ�ำจังหวัดอุทัยธานี เมื่อวันที่ ๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๑๒ (ภาพพระราชทาน ครอบครัวบุญญเศรษฐ์ เอื้อเฟื้อภาพ) สมุดภาพเมืองอุทัยธานี 19
(ภาพหน้าซ้ายและขวา) พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร (เมื่อครั้งด�ำรงพระอิสริยยศ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณฯ) เสด็จพระราชด�ำเนินเยี่ยมราษฎรชาวอุทัยธานีที่มาเข้าเฝ้าฯ ในคราวเสด็จฯ มาพระราชทานพระพุทธนวราชบพิตร ณ ศาลากลาง จังหวัดอุทัยธานี เมื่อวันที่ ๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๑๒ (ภาพพระราชทาน - ส�ำนักงานเทศบาลเมืองอุทัยธานี และทันตแพทย์กฤตพล พรพิบูลย์ เอื้อเฟื้อภาพ) 20 สมุดภาพเมืองอุทัยธานี
สมุดภาพเมืองอุทัยธานี 21
(ภาพหน้าซ้ายและขวา) พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร (เมื่อครั้งด�ำรงพระอิสริยยศ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณฯ) เสด็จพระราชด�ำเนินเยี่ยมและทรงมีพระราชปฏิสันถารกับราษฎรชาวอุทัยธานีที่มาเข้าเฝ้าฯ ในคราวเสด็จฯ มาพระราชทาน พระพุทธนวราชบพิตร ณ ศาลากลางจังหวัดอุทัยธานี เมื่อวันที่ ๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๑๒ (ภาพพระราชทาน ส�ำนักงานเทศบาลเมืองอุทัยธานี เอื้อเฟื้อภาพ) 22 สมุดภาพเมืองอุทัยธานี
สมุดภาพเมืองอุทัยธานี 23
(ภาพบนและล่าง) พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ในองค์พระพุทธปฏิมา พระประธานในอุโบสถวัดจันทราราม (วัดท่าซุง) ต�ำบลท่าซุง อ�ำเภอเมืองอุทัยธานี เมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๑๘ (ภาพพระราชทาน ส�ำนักงานเทศบาลเมืองอุทัยธานี เอื้อเฟื้อภาพ) 24 สมุดภาพเมืองอุทัยธานี
(ภาพบนและล่าง) พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรม ราชินีนาถ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนสุดาฯ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ ได้พระราชทาน ธงประจ�ำรุ่นลูกเสือชาวบ้าน และทรงมีพระราชปฏิสันถารกับราษฎรชาวอุทัยธานีที่มาเข้าเฝ้ารับเสด็จฯ ในคราวเสด็จพระราชด�ำเนิน มาทรงประกอบศาสนพิธี ณ วัดจันทราราม (วัดท่าซุง) เมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๑๘ สมุดภาพเมืองอุทัยธานี 25
(ภาพบนและล่าง) พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรม ราชินีนาถ และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร (เมื่อครั้งด�ำรงพระอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร) เสด็จพระราชด�ำเนินมาประกอบพิธีตัดหวายลูกนิมิตอุโบสถวัดจันทราราม (วัดท่าซุง) อ�ำเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี เมื่อวันที่ ๒๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๐ (ภาพพระราชทาน ส�ำนักงานเทศบาลเมืองอุทัยธานี เอื้อเฟื้อภาพ) 26 สมุดภาพเมืองอุทัยธานี
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับพระราชาคณะประธานพิธีสงฆ์ในคราว เสด็จพระราชด�ำเนินมาประกอบพิธีตัดหวายลูกนิมิตอุโบสถวัดจันทราราม (วัดท่าซุง) อ�ำเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี เมื่อวันที่ ๒๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๐ (ภาพพระราชทาน ส�ำนักงานเทศบาลเมืองอุทัยธานี เอื้อเฟื้อภาพ) พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร (เมื่อครั้งด�ำรงพระอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราช กุมาร) เสด็จพระราชด�ำเนินมาพระราชทานธงประจ�ำรุ่นลูกเสือชาวบ้านจังหวัดอุทัยธานี จ�ำนวน ๕๐ รุ่น ณ พลับพลาหน้าสนามกีฬา อุทัยธานี เมื่อวันที่ ๒๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๐ (ภาพพระราชทาน ส�ำนักงานเทศบาลเมืองอุทัยธานี เอื้อเฟื้อภาพ) สมุดภาพเมืองอุทัยธานี 27
(ภาพหน้าซ้ายและขวา) พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ ไปทรงเปิดพระวิสูตร พระบรมรูปสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก ณ พลับพลาจัตุรมุข บนยอดเขาสะแกกรัง อ�ำเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี เมื่อวันที่ ๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๒ (ภาพพระราชทาน ส�ำนักงานเทศบาลจังหวัดอุทัยธานี เอื้อเฟื้อภาพ) 28 สมุดภาพเมืองอุทัยธานี
สมุดภาพเมืองอุทัยธานี 29
ภาพเก่าอุทัยธานียุคแรก ๒๔๔๐ - ๒๔๘๐ (ภาพหน้าซ้ายและขวา) เมืองอุไทยธานี - แลเห็นเรือนแพในแม่น�้ำสะแกกรังเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสต้น ครั้งที่ ๒ ร.ศ. ๑๒๕ (พ.ศ. ๒๔๔๙) มีบางส่วนเป็นภาพของเมืองมโนรมย์ จังหวัดชัยนาทปรากฏอยู่ร่วมกัน สันนิษฐานว่าภาพเหล่านี้ เป็นส่วนหนึ่งในภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ (ภาพจากหนังสือเสด็จประพาสต้น ร.ศ. ๑๒๕ - รูปถ่ายฝีพระหัตถ์และบทพระราชนิพนธ์ใน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หน้า ๔๐) 30 สมุดภาพเมืองอุทัยธานี
เมืองอุไทยธานี สมุดภาพเมืองอุทัยธานี 31
ตลาดเมืองอุไทยธานี - แลเห็นท่าน�้ำทางขึ้นตลาดและตัวตลาดเมืองอุไทยธานี มีร้านรวงและราษฎรพลุกพล่าน เมื่อครั้ง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสต้น ครั้งที่ ๒ ร.ศ. ๑๒๕ (พ.ศ. ๒๔๔๙) สันนิษฐานว่าภาพเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่ง ในภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ (ภาพจากหนังสือเสด็จประพาสต้น ร.ศ. ๑๒๕ - รูปถ่ายฝีพระหัตถ์และบทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หน้า ๔๑) ท่าขึ้นตลาดเมืองอุไทยธานี ตลาดเมืองอุไทยธานี 32 สมุดภาพเมืองอุทัยธานี
ชาวร้าน สมุดภาพเมืองอุทัยธานี 33
34 สมุดภาพเมืองอุทัยธานี
ล�ำน�้ำสะแกกรัง อุไทยธานี - แลเห็นชุมชนเรือนแพในแม่น�้ำสะแกกรัง บริเวณตัวเมืองอุทัยธานีตรงข้ามกับวัดอุโปสถาราม เมื่อครั้ง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสต้น ครั้งที่ ๒ ร.ศ. ๑๒๕ (พ.ศ. ๒๔๔๙) (ภาพจากหนังสือเสด็จประพาสต้น ร.ศ. ๑๒๕ - รูปถ่ายฝีพระหัตถ์และบทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หน้า ๔๒) สมุดภาพเมืองอุทัยธานี 35
(ภาพบนและล่าง) ภาพล�ำน�้ำสะแกกรัง บริเวณตัวเมืองอุทัยธานี เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสต้น ครั้งที่ ๒ ร.ศ. ๑๒๕ (พ.ศ. ๒๔๔๙) (ภาพจากหนังสือเสด็จประพาสต้น ร.ศ. ๑๒๕ - รูปถ่ายฝีพระหัตถ์และบทพระราชนิพนธ์ในพระบาท สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หน้า ๔๖-๔๗) ล�ำน�้ำแลเห็นบ้านใหญ่ในเมืองอุไทยธานี เรือค้าเมืองอุไทยธานี 36 สมุดภาพเมืองอุทัยธานี
(ภาพบนและล่าง) ล�ำน�้ำสะแกกรัง บริเวณตัวเมืองอุทัยธานี ไม่ทราบรายละเอียด ภาพยุค ๒๔๖๐ - ๒๔๗๐ (ภาพจากนายปราโมช เลาหวรรณธนะ) สมุดภาพเมืองอุทัยธานี 37
วัดสังกัสรัตนคีรี บริเวณบันไดเชิงเขาสะแกกรัง ภาพยุค ๒๔๕๐ - ๒๔๖๐ (ภาพจากพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมท้องถิ่น จังหวัดอุทัยธานี (เบญจมราชูทิศ)) 38 สมุดภาพเมืองอุทัยธานี
บรรยากาศตลาดเมืองอุทัยธานี ราว พ.ศ. ๒๔๕๐ (ภาพจากหอจดหมายเหตุแห่งชาติ) สมุดภาพเมืองอุทัยธานี 39
พ่อค้าและขบวนเกวียนสินค้าที่เมืองอุทัยธานี ภาพยุค ๒๔๔๐ - ๒๔๕๐ ไม่ทราบรายละเอียด (ภาพจากนายนรินทร์ วัฒโนภาส) 40 สมุดภาพเมืองอุทัยธานี
สมุดภาพเมืองอุทัยธานี 41
คณะบุคคลแต่งกายหลายหลาก ยุค ๒๔๖๐ ไม่ทราบรายละเอียด (ภาพจากพิพิธภัณฑ์ฮกแซตึ๊ง) 42 สมุดภาพเมืองอุทัยธานี
สมุดภาพเมืองอุทัยธานี 43
44 สมุดภาพเมืองอุทัยธานี
คณะข้าราชการจังหวัดอุทัยธานี ในการเลี้ยง ส่งหลวงชัยประชา (ขจร สุนทโรทัย - แถวนั่งล�ำดับที่ ๖ จากซ้าย) ผู้พิพากษาศาลจังหวัดอุทัยธานี ครั้งไปรับ ราชการในแห่งอื่น มีพระยาพิไชยสุนทร (ทองสุข บุญศรีมานนท์) ผู้ว่าราชการจังหวัด อุทัยธานี (แถวนั่งล�ำดับที่ ๗ จากซ้าย) เป็นประธานเลี้ยงส่งที่ศาลากลางจังหวัด อุทัยธานี เมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๖๔ (ภาพจากนายธงชัย ลิขิตพรสวรรค์) สมุดภาพเมืองอุทัยธานี 45
46 สมุดภาพเมืองอุทัยธานี
คณะข้าราชการกรมต�ำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานี ร่วมถ่ายรูปที่ด้านหน้าสถานีต�ำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานี ในคราวงานเฉลิม พระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อราว พ.ศ. ๒๔๗๐ - ๒๔๗๕ (ภาพจากพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และ วัฒนธรรมท้องถิ่นจังหวัดอุทัยธานี (เบญจมราชูทิศ)) (ภาพหน้าซ้าย) คณะข้าราชการเมืองอุทัยธานี ถ่ายที่ด้านหน้าอาคารศาลากลางเมืองอุทัยธานีหลังแรก คนขวามือสุดคือ พระพิไชยนฤนาท (หม่อมหลวงอั้น เสนีวงศ์) ผู้ว่าราชการเมืองอุทัยธานี สันนิษฐานว่าภาพนี้ถ่ายเมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๐ - ๒๔๕๖ (ภาพจากพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมท้องถิ่นจังหวัดอุทัยธานี (เบญจมราชูทิศ)) สมุดภาพเมืองอุทัยธานี 47
คณะกรรมการศึกษาธิการของจังหวัดอุทัยธานี ถ่ายที่หน้าศาลากลางจังหวัดอุทัยธานีหลังแรก มีครูนวม ประกอบไวทยกิจ อดีตครูใหญ่โรงเรียนอุทัยวิทยาลัย (แถวนั่งล�ำดับที่ ๔ จากซ้าย) ภาพยุค ๒๔๗๐ - ๒๔๘๐ (ภาพจากนายปราโมช เลาหวรรณธนะ) 48 สมุดภาพเมืองอุทัยธานี