Page 151
คมู อื การใชส มุนไพรไทย-จนี 141
สรรพคณุ ตามตาํ ราการแพทยแผนไทย:
ผวิ สม รสปรา หอม ปรงุ ยาหอม แกล มวิงเวียน หนามืดตาลาย แกลมจกุ เสยี ด แนน เฟอ 5
ขนาดทใี่ ชแ ละวิธใี ช:
การแพทยแ ผนจีน ใช 3-9 กรมั ตมเอานาํ้ ดมื่ 1
ขอ มลู วชิ าการท่เี ก่ียวขอ ง:
1. มีรายงานวาน้ํามันหอมระเหยจากผวิ สม จีนมีฤทธิข์ บั เสมหะ สารสกดั น้าํ และสารสกดั แอลกอฮอล
มีฤทธ์ิขยายหลอดลมในกระตา ย และสาร nobiletin มฤี ทธ์ิแกหอบในหนูตะเภาและแมว6
2. สารสกัดน้าํ มฤี ทธ์ิยบั ยัง้ การหดตัวของกลามเนื้อเรยี บของลาํ ไสหนูตะเภา กระตา ย และสนุ ัข
ตา นอนมุ ูลอสิ ระในหนขู าว น้ํามนั หอมระเหยใหค วามอบอนุ และกระตุน การทํางานของระบบกระเพาะอาหาร
และลําไสใ นกระตา ย เม่ือฉีดสาร hesperidin ท่แี ยกไดจ ากผิวสม จนี เขา ใตผ ิวหนงั ของสัตวท ดลองใน
ขนาด 100 หรอื 500 มิลลิกรมั /กิโลกรมั /วนั ติดตอกนั นาน 6 วัน พบวา สารดังกลาวแสดงฤทธบ์ิ รรเทา
อาการแผลในกระเพาะอาหารไดผ ลดี และสารดงั กลา วในขนาดเดยี วกนั มฤี ทธข์ิ บั นาํ้ ดีและละลายน่วิ ใน
6,7
ถงุ นํ้าดใี นหนูขาวและสนุ ัข
3. การทดลองทางคลนิ กิ พบวา ผวิ สมจีนมสี รรพคุณรกั ษาอาการชอ็ คอันเนือ่ งจากการตดิ เชื้อ
และสารสกัดมีสรรพคณุ รักษาแผลกลากเกลื้อน บรรเทาอาการแพ และแกอ จุ จาระมเี ลอื ดปน นา้ํ มนั หอม
ระเหยมสี รรพคณุ รกั ษาน่ิวในถงุ นาํ้ ดี7
4. เมื่อฉีดนํ้ามันหอมระเหยเขาชองทองหนูถีบจักร พบวาขนาดของนา้ํ มันหอมระเหยทท่ี ําให
หนถู ีบจักรตายรอ ยละ 50 (LD50) มีคาเทากบั 1 7
มิลลิลติ ร/กโิ ลกรัม
เอกสารอางองิ
1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I.
English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005.
2. ลีนา ผพู ัฒนพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธีรวัฒน บญุ ทวคี ุณ (คณะบรรณาธิการ). ช่อื พรรณไมแหง ประเทศไทย (เต็ม สมติ ินันทน
ฉบบั แกไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2544). สํานักวชิ าการปา ไม. กรมปา ไม. พมิ พครั้งท่ี 2. กรงุ เทพมหานคร : บริษัท ประชาชน จาํ กัด, 2544.
3. Mei XH. Shiyong Zhongyao Paozhi Zhinan. 1st ed. Hubei: Hubei Science & Technology Publishing House, 2005.
4. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science &
Technology Publishing House, 2006.
5. วุฒิ วฒุ ิธรรมเวช. ยอเภสชั กรรมไทยและสรรพคณุ สมุนไพร. พมิ พค ร้งั ที่ 2. กรุงเทพมหานคร : บริษทั ศิลปสยามบรรจุภัณฑแ ละ
การพิมพ จํากัด, 2548.
6. Institute of Materia Medica, Chinese Academy of Medicinal Sciences. Chinese Materia Medica. Vol. III. 2nd ed.
Beijing: Renmin Weisheng Publishing House, 1984.
7. Li W. Pericarpium Citri Reticulatae: chen pi. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern
study of pharmacology in traditional medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999.
Page 152
142 กรมพฒั นาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลอื ก
พทุ ราจนี : Dazao (大枣)
พทุ ราจนี หรือ ตา เจา คอื ผลสุกที่ทาํ ใหแ หงของพชื ท่ีมีชอื่ วทิ ยาศาสตรว า Ziziphus jujuba
Mill. วงศ Rhamnaceae1
2 เซนติเมตร
พทุ ราจนี (Fructus Jujubae)
ชอ่ื ไทย: พุทราจนี (ภาคกลาง)2
ช่อื จีน: ตา เจา (จีนกลาง), ตั่วจอ (จนี แตจ ิว๋ )1
ชื่ออังกฤษ: Chinese Date1
ชื่อเคร่อื งยา: Fructus Jujubae1
การเกบ็ เก่ยี วและการปฏิบตั หิ ลังการเก็บเกี่ยว:
เก็บเก่ียวผลสกุ ในฤดูใบไมรวง ตากแดดใหแหง เก็บรกั ษาไวใ นท่ีมีอากาศเย็นและแหง มีการ
ระบายอากาศดี1
การเตรยี มตวั ยาพรอ มใช:
นาํ วตั ถุดิบสมนุ ไพรมาลา งนํ้าใหส ะอาด ตากใหแหง กอนใชใ หเ อาเมด็ ออก1
คุณภาพของตวั ยาจากลักษณะภายนอก:
ตวั ยาทมี่ ีคณุ ภาพดี ผลตองมีขนาดใหญ สมบูรณ สแี ดงอมมว ง เมลด็ เลก็ และมรี สหวาน3
สรรพคณุ ตามตําราการแพทยแผนจีน:
พุทราจนี รสหวาน อุน มีฤทธ์ิเสริมช่ี บํารงุ มา มและกระเพาะอาหาร แกอาการมามพรอง (เบื่อ
Page 153
คูมอื การใชสมนุ ไพรไทย-จนี 143
อาหาร ถา ยเหลว ออ นเพลีย ไมมแี รง) และมฤี ทธิส์ งบประสาท บาํ รงุ เลอื ด แกอาการเลอื ดพรอ ง (ซดี
เซียว สตรที ่ีมอี าการของระบบประสาท กระวนกระวาย บํารุงเลือด) รวมทั้งมีฤทธป์ิ รบั ฤทธิ์ของยาใน
ตํารับยาทีม่ ฤี ทธ์ิรุนแรง สามารถใชพุทราจนี ปรับฤทธยิ์ าและลดอาการไมพึงประสงค ชว ยใหรางกายดดู ซึม
ยาไดด ขี ึ้น รักษาชีท่ ดี่ ไี วได1
ขนาดท่ีใชแ ละวิธใี ช:
การแพทยแผนจีน ใชข นาด 6-15 กรมั ตมเอานํา้ ดม่ื 1
ขอ หามใช ขอควรระวงั และอาการขางเคียง:
พทุ ราจีนแหงมีน้ําตาลสงู ผูทเี่ ปนโรคเบาหวานควรรบั ประทานแตนอย และนา้ํ ตาลอาจทําใหฟน
ผุได นอกจากนี้ผทู ี่มีอาการของโรคลําไสแ ละฟน ผคุ วรหลีกเล่ยี ง4
ขอ มลู วชิ าการทเี่ กี่ยวขอ ง:
1. สารสกัดน้าํ มีฤทธ์ิปกปองตับจากสารพิษและเพ่ิมความแข็งแรงใหตับในหนูถีบจักรและ
กระตาย ระงับไอ ขับเสมหะในหนูถบี จกั ร4,5
2. มีรายงานวาเม่ือใหหนูขาวท่เี ปนมะเร็งกระเพาะอาหารรับประทานเนื้อพุทราจีนแหงวันละ 1
กรัม โดยกลุมท่ี 1 ใหรับประทานติดตอกันนาน 8 เดือน และกลุมท่ี 2 ใหรับประทานติดตอกันนาน 10
เดอื น พบวา สามารถยบั ยัง้ เซลลม ะเร็งกระเพาะอาหารไดท้งั สองกลุม โดยใหผ ลแตกตางกันอยางชดั เจน5
3. สารเพกทิน (pectin) ในพทุ ราจนี ชว ยจับโลหะหนักทต่ี กคางในรางกายและลดคอเลสเตอรอล6
4. มีรายงานการทดลองทางคลนิ กิ พบวา สารสกดั นาํ้ มีสรรพคณุ บรรเทาอาการเลอื ดคงั่ และแก
โรคตบั อักเสบชนดิ เฉยี บพลัน โดยทั่วไปพุทราจีนมักไมใชเด่ยี ว สวนใหญจะเปน สวนประกอบในตํารบั ยา
ตาง ๆ4,5
เอกสารอางองิ
1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I.
English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005.
2. ลนี า ผพู ฒั นพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธีรวัฒน บญุ ทวคี ณุ (คณะบรรณาธิการ). ช่ือพรรณไมแหงประเทศไทย (เตม็ สมิตินนั ทน
ฉบับแกไ ขเพิ่มเติม พ.ศ. 2544). สาํ นักวชิ าการปา ไม. กรมปา ไม. พิมพคร้งั ท่ี 2. กรงุ เทพมหานคร : บริษัท ประชาชน จาํ กดั , 2544.
3. Mei XH. Shiyong Zhongyao Paozhi Zhinan. 1st ed. Hubei: Hubei Science & Technology Publishing House, 2005.
4. Institute of Materia Medica, Chinese Academy of Medicinal Sciences. Chinese Materia Medica. Vol. III. 2nd ed.
Beijing: Renmin Weisheng Publishing House, 1984.
5. Zhou ZC. Fructus Jujubae: da zao. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study
of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999.
6. บรษิ ทั หลักทรัพยจ ัดการกองทนุ กสกิ รไทย จํากัด. มหศั จรรยสมนุ ไพรจีน. กรุงเทพมหานคร : บริษัท ซเี อ็ดยูเคช่ัน จํากดั (มหาชน),
2550.
Page 154
144 กรมพฒั นาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลอื ก
ฟา ทะลายโจร : Chuanxinlian (穿心莲)
ฟาทะลายโจร หรือ ชวนซินเหลียน คือ สวนเหนือดินแหงของพืชท่ีมีชื่อวิทยาศาสตรวา
Andrographis paniculata (Burm. f.) Wall.ex Nees วงศ Acanthaceae1
(Herba 2 เซนติเมตร
ฟาทะลายโจร Andrographis)
ช่ือไทย: ฟาทะลายโจร, ฟาทะลาย (กรุงเทพฯ); หญากันงู (สงขลา)2
ช่ือจีน: ชวนซินเหลียน (จีนกลาง), ชวงซิมโนย (จีนแตจ๋ิว)1
ช่ืออังกฤษ: Common Andrographis Herb1
ช่ือเครื่องยา: Herba Andrographis1
การเกบ็ เกีย่ วและการปฏบิ ตั หิ ลังการเก็บเก่ียว:
เก็บเก่ยี วสวนเหนอื ดนิ เม่อื พืชเจรญิ เติบโตเต็มที่และเริม่ ออกดอกจนถงึ ออกดอก แยกสิ่งอนื่ ที่
ปะปนมาทง้ิ ตากแดดใหแ หง เก็บรกั ษาไวใ นท่ีมีอากาศเย็นและแหง มีการระบายอากาศดี1
การเตรียมตัวยาพรอมใช:
นาํ วตั ถดุ ิบสมนุ ไพรมาลางนาํ้ ใหส ะอาด ห่นั เปน ทอ น ๆ ขนาดพอเหมาะ และนาํ ไปทําใหแ หง1,3
คุณภาพของตัวยาจากลักษณะภายนอก:
ตัวยาท่ีมีคุณภาพดี ตองมีปริมาณใบมาก สีเขียว4
สรรพคุณตามตําราการแพทยแผนจีน:
ฟาทะลายโจร รสขม เย็น มีสรรพคุณรักษาอาการไขหวัด เจ็บคอ แผลในปากและล้ิน ไอ
เฉียบพลันและไอเรื้อรัง แกทองเสีย ติดเชื้อทางเดินปสสาวะ ปสสาวะขัด1
Page 155
คมู อื การใชส มุนไพรไทย-จีน 145
สรรพคุณตามตําราการแพทยแผนไทย:
5
ฟาทะลายโจร มีสรรพคุณแกไขเจ็บคอ แกทองเสีย
ขนาดท่ีใชและวิธีใช:
การแพทยแผนจีน ใชขนาด 6-9 กรัม ตมเอาน้ําด่ืม1
การแพทยแ ผนไทย บญั ชยี าหลักแหง ชาติ พ.ศ. 2542 กําหนดขนาดใชของฟา ทะลายโจร5 ดงั นี้
- รักษาอาการเจบ็ คอ วันละ 3-6 กรัม วันละ 4 คร้ัง หลงั อาหารและกอ นนอน
- รกั ษาอาการทอ งเสียไมต ิดเชอ้ื คร้ังละ 0.5-2 กรมั วันละ 4 คร้ัง หลังอาหารและกอนนอน
องคก ารอนามัยโลก กาํ หนดขนาดใชของฟา ทะลายโจร4 ดังน้ี
- แกไ ข ตมยาฟา ทะลายโจรแหง 3 กรมั รับประทานวันละ 2 คร้งั
- แกหวดั ผงยาฟาทะลายโจร 1.5-3 กรัม วันละ 3 ครง้ั หลังอาหารและกอนนอน
- แกทอ งเสยี 3-9 กรมั รบั ประทานครง้ั เดียวเมือ่ มีอาการหรอื รับประทานแคปซูลหรือยา
เม็ด 500 มลิ ลิกรัม ครง้ั ละ 2 เมด็ วนั ละ 4 คร้งั กอ นอาหารและกอ นนอน
ขอหามใช ขอควรระวัง และอาการขางเคียง:
1. หามใชในผูมีอาการแพฟาทะลายโจร5
2. ประสทิ ธิผลในการบรรเทาอาการไขเจ็บคอของฟา ทะลายโจร นาจะเกิดจากฤทธ์ิลดไข และ
ฤทธิต์ านการอกั เสบมากกวา ฤทธต์ิ านเช้ือแบคทเี รยี ดังนน้ั เพือ่ ปองกนั ไมใ หผูป วยไดรบั อันตรายทเ่ี กิดจาก
การติดเชื้อแบคทเี รยี Streptococcus group A ซง่ึ อาจทําใหเ กดิ ภาวะแทรกซอ นท่รี นุ แรงตามมา เชน ไข
รหู มาตคิ โรคหัวใจรูหม าตกิ และไตอักเสบ จงึ มีขอหา มใชฟ า ทะลายโจรสาํ หรบั แกเจ็บคอในกรณตี า ง ๆ
ดงั ตอไปน้ี ในผปู ว ยทม่ี ีอาการเจบ็ คอเน่ืองจากตดิ เชือ้ Streptococcus group A
- ในผปู วยท่ีมีประวตั เิ ปน โรคไตอกั เสบเน่ืองจากเคยติดเช้อื นี้
- ในผปู ว ยที่มีประวตั เิ ปน โรคหัวใจรูหม าติก
- ในผูปว ยท่ีมอี าการเจ็บคอเนือ่ งจากมกี ารตดิ เชอื้ แบคทีเรีย และมอี าการรุนแรง เชน เปน
-
ตุมหนองในคอ มไี ขส งู หนาวสน่ั
3. ฟา ทะลายโจรอาจทาํ ใหเ กิดอาการแพไ ดต ง้ั แตอาการผน่ื คนั ลมพษิ จนถงึ อาการแพขั้นรนุ แรง
ถา ใหโ ดยการฉดี หรอื ในขนาดสงู 5
4. ในผปู ว ยบางราย ฟาทะลายโจรอาจทําใหเกิดอาการปวดทอง ทอ งเดนิ ปวดเอว หรือวงิ เวยี น
ศีรษะ ใจส่นั หากมีอาการดังกลา วควรหยุดใชยาฟา ทะลายโจรและเปล่ยี นไปใชย าอื่นแทน5
5. หากใชติดตอ กนั เปน เวลานาน อาจทาํ ใหแขนขามอี าการชาหรอื ออนแรง5
Page 156
146 กรมพฒั นาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลือก
6. หากใชฟาทะลายโจรติดตอกนั 3 วนั แลวไมห าย หรอื มอี าการรนุ แรงขึ้นระหวางใชย า ควร
5
หยุดใชและไปพบแพทย
7. เน่ืองจากมีรายงานวาฟาทะลายโจรทาํ ใหเ กิดการแทง ได ดงั นั้นทางองคก ารอนามัยโลกจงึ
แนะนาํ วาสตรมี คี รรภไมควรใชฟ า ทะลายโจร5
ขอมูลวิชาการท่ีเกี่ยวของ:
1. สารสกดั แอลกอฮอลแ ละสารสาํ คัญกลุม diterpene lactone ของฟา ทะลายโจรสามารถลดการ
บบี ตัวของลาํ ไสเล็กและกลา มเน้อื กระเพาะอาหารของหนูทดลองได6 ,7 สารสกดั บิวทานอล andrographolide
และ neoandrographolide สามารถตานฤทธิ์ของ E. coli enterotoxin ทท่ี าํ ใหท อ งเสยี ได เพราะชว ยทาํ
ใหก ารสูญเสยี นาํ้ ทางลําไสล ดลง นอกจากนส้ี ารสกดั 85% แอลกอฮอลย งั ปอ งกนั การเกิดอาการทองเสีย
ในหนูถบี จกั รที่ไดร บั นาํ้ มนั ละหุงหรอื magnesium sulfate ได แสดงฤทธลิ์ ดไขใ นกระตาย และสามารถ
ตานการอักเสบในหนูขาวไดเ มือ่ ศกึ ษาฤทธิ์ในการลดบวมขององุ เทาหลงั ของหนู หลงั ไดรบั สารคาราจีแนน
(carrageenan-induced hind paw edema)5,8
2. มีบางรายงานกลาววา สารสกัดฟา ทะลายโจรมฤี ทธติ์ า นเชือ้ แบคทีเรยี บางชนิดได แตรายงาน
การวจิ ยั หลายช้ินในประเทศไทยบงช้วี า ฟา ทะลายโจรหรอื สารสกดั ฟาทะลายโจรไมมีฤทธิ์ตา นเชื้อแบคทีเรีย
ท่ที าํ ใหทอ งเสยี หรือทาํ ใหเ กิดโรคตดิ เชอื้ ของทางเดนิ หายใจสว นบน หรอื ถา พบฤทธย์ิ บั ย้งั เชอ้ื ก็จะเปน
ฤทธ์ทิ อ่ี อ นตอ งใชค วามเขมขนของสารสกัดสูงเกินกวา ที่จะมคี วามสัมพนั ธกับระดับยาในเลือดหรือในทางเดนิ
อาหารหลังรับประทานฟา ทะลายโจร นอกจากน้ีสารสกดั ฟาทะลายโจรยังแสดงฤทธต์ิ า นเชื้อ Porphyromonas
gingivalis ซึ่งทาํ ใหเ กดิ โรคปรทิ ันตไ ด และสารสกดั หยาบของฟา ทะลายโจรสามารถยับยงั้ การจับตัวของ
แบคทเี รยี Streptococcus mutans (แบคทเี รียในชอ งปากทเี่ ปลย่ี นนํา้ ตาลบนเคลอื บฟนใหเ ปน กรด อนั
เปนสาเหตขุ องฟน ผ)ุ บนผิวแกวหรือบน hydroxyapatite ท่ีเคลอื บนํ้าลาย โดยมีคา IC50 เทากบั 0.5%
โดยนํ้าหนัก/ปรมิ าตร5
3. สารสกดั แอลกอฮอลจากฟาทะลายโจรและสาร andrographolide สามารถกระตุนระบบ
ภูมคิ มุ กันของหนูถีบจกั รท้ังแบบจาํ เพาะและแบบไมจําเพาะ โดยสารสกดั แอลกอฮอลม ฤี ทธิก์ ระตนุ ภูมคิ ุมกัน
ท่ีแรงกวา andrographolide นอกจากนี้สารสกดั แอลกอฮอลย งั แสดงฤทธล์ิ ดนาํ้ ตาลในเลือดในหนูขาวที่
ถกู ทําใหเปน เบาหวานจากการไดรับสาร streptozotocin (STZ) ได สว นการศกึ ษาในกระตา ยปกตพิ บวา
สารสกดั นาํ้ ในขนาด 10 มิลลกิ รมั /กโิ ลกรมั ปอ งกนั การเพ่ิมของระดบั น้ําตาลในเลอื ดเนื่องจากไดรบั
กลโู คสทางปากในขนาด 2 มลิ ลิกรัม/กโิ ลกรัม แตไ มสามารถลดนํ้าตาลจากการกระตนุ ดวย adrenaline
ได และเมือ่ ใหส ารสกดั นาน 6 สปั ดาหไมส ามารถลดระดับนํ้าตาลในเลอื ดได เมอ่ื ใหส ารสกดั นาํ้ ขนาด 50
มลิ ลกิ รัม/กโิ ลกรมั แกห นทู เ่ี ปน เบาหวานจากการไดรับ STZ พบวาสามารถลดระดบั นํา้ ตาลในเลือดได
Page 157
คูมือการใชส มนุ ไพรไทย-จีน 147
52.90% และประสทิ ธผิ ลจะสงู ข้ึนเมือ่ ใชส ารสกดั ที่เตรียมแบบทาํ ใหแหง โดยวธิ ไี มใ ชความรอ น โดยพบวา
ขนาด 6.25 มิลลกิ รมั /กโิ ลกรัม สามารถลดนํา้ ตาลไดถ งึ 61.81% นอกจากนส้ี ารสกดั นํา้ และสารสกัด
5
แอลกอฮอลข องใบฟาทะลายโจรสามารถปอ งกนั ตบั จากสารพษิ ตา ง ๆ
4. การศึกษาประสทิ ธผิ ลในการรกั ษาโรคอุจจาระรวงและบิดแบคทีเรยี โดยใชผ งฟา ทะลายโจร
(เตรยี มจากสว นเหนอื ดิน) เทียบกบั ยาเตตราซัยคลนิ ในการรกั ษาอุจจาระรวงและบดิ แบคทีเรีย โดยใหยา
2 ขนาด คือ 500 มิลลิกรมั ทุก 6 ช่ัวโมง และ 1 กรัม ทกุ 12 ชว่ั โมง พบวาฟา ทะลายโจรทง้ั สองขนาด
สามารถลดจํานวนอจุ จาระรว ง (ท้ังความถ่แี ละปรมิ าณ) และจาํ นวนนาํ้ เกลือทีใ่ หท ดแทนไดอ ยา งนาพอใจ
แมว า จะไมแตกตา งกันอยางมีนัยสําคญั ทางสถติ ิ ฟา ทะลายโจรสามารถทําลายเชื้อทีก่ อ ใหเกดิ โรคบิดแบคทีเรีย
ไดด กี วาเตตราซยั คลนิ แตทาํ ลายเช้อื อหิวาตกโรคไดไ มดเี ทา tetracycline อยางไรก็ตามฟาทะลายโจร
ชวยใหผ ปู วยอหวิ าตกโรคถา ยนอ ยกวากลมุ ทไ่ี ดร ับ tetracycline อยา งมนี ัยสําคญั 5
5. เม่ือใหผูปวยท่มี ีอาการไขเจบ็ คอรบั ประทานฟาทะลายโจรแคปซูลในขนาด 3 กรัม/วนั หรอื
6 กรมั /วัน แบงใหว นั ละ 4 ครงั้ ตดิ ตอ กัน 7 วัน เปรียบเทยี บกับกลมุ ท่ีไดรบั พาราเซตามอลขนาด 3
กรมั /วัน พบวาในวนั ที่ 3 หลงั การรักษา ผูปว ยท่ีไดรับยาพาราเซตามอลหรือฟาทะลายโจรขนาด 6 กรัม/
วนั หายจากไขแ ละอาการเจ็บคอไดมากกวากลมุ ทไี่ ดรับฟาทะลายโจรขนาด 3 กรัม/วนั อยางมนี ยั สําคญั
แตผลการรักษาไมมคี วามแตกตางกนั ในวันที่ 75
6. รายงานผลการวจิ ัยทางคลินกิ ในตา งประเทศ โดยทดลองใหสารสกดั ฟา ทะลายโจรในขนาด
1,200 มิลลิกรมั /วนั แกผ ูปวยโรคหวดั จาํ นวน 28 คน แลววดั ผลในวนั ที่ 4 หลังไดรับยา พบวาสารสกดั
ฟา ทะลายโจรสามารถลดอาการเจ็บคอ เหน่อื ย ออนเพลีย ปวดเมอ่ื ยกลา มเน้อื ได เมื่อเทียบกับกลมุ
ควบคุมทไี่ ดรบั ยาหลอก 33 ราย โดยไมมีรายงานอาการขา งเคยี งจากการใชย า ตอมามกี ารทดลองใหยา
เม็ดฟา ทะลายโจรซงึ่ มีสารสกัด 100 มิลลิกรมั /เม็ด จํานวนครั้งละ 4 เมด็ วนั ละ 3 เวลา ในผูป ว ยท่เี ปน
ไขห วัด 102 คน เทยี บกบั กลมุ ทไ่ี ดรับยาหลอก 106 คน โดยใหผ ูป วยระบุความรุนแรงของแตละอาการ
เม่ือเริ่มใหยาและหลังไดรับยา 2 วัน และ 4 วันตามลําดับ โดยทาํ เครื่องหมายลงบนเสนตรงยาว 10
เซนติเมตร ที่แบงจาก 0-10 (0 หมายถึงไมมีอาการ และ 10 หมายถึงอาการรุนแรงที่สุด) พบวาวันท่ี
2 หลังไดรับยา ความรุนแรงของอาการออนเพลีย นอนไมหลับ เจ็บคอ นํ้ามูกไหล ในกลุมที่ไดรับยา
ฟาทะลายโจรนอยกวา กลุมควบคุมอยางมนี ัยสําคญั และในวนั ท่ี 4 หลังไดรับยา ความรุนแรงของทกุ
อาการ ไดแก อาการไอ (ทงั้ ความแรงและความถ่)ี เสมหะ นํา้ มูกไหล ปวดศรี ษะ ออ นเพลีย ปวดหู นอน
ไมห ลับ เจบ็ คอ ในกลมุ ทไี่ ดรับยาฟาทะลายโจรนอยกวากลุมควบคุมอยางมนี ยั สําคญั ขอ มลู งานวิจยั
ทางคลินิกของฟา ทะลายโจรในโรคตดิ เชือ้ ของระบบทางเดินหายใจสว นตน สรปุ ไดวา ฟาทะลายโจรนาจะมี
ประสทิ ธิผลในการนาํ มาใชบ รรเทาอาการของโรคติดเช้ือทางเดินหายใจสว นตน ท่ีไมมีภาวะแทรกซอ น5
Page 158
148 กรมพัฒนาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลือก
7. ฟาทะลายโจรมฤี ทธ์ิยบั ยง้ั เชอื้ Porphyromonas gingvalis จึงมกี ารพัฒนายาเจลฟา ทะลายโจร
เพ่อื ทดสอบประสิทธิผลในการรกั ษาโรคปริทนตอ กั เสบ โดยศึกษาเปรยี บเทียบผลทางคลนิ ิกและทางจลุ
ชีววิทยาของเจลฟา ทะลายโจรและขผี้ งึ้ ยามโิ นไซคลนิ ท่ีใชใ สใ ตเหงอื ก เพอื่ เสริมการรกั ษาผปู ว ยโรคปรทิ นต
อักเสบเรม่ิ เร็วในระยะเวลา 4 เดอื น โดยผปู วยตองมีรากฟน เดยี วอยา งนอ ย 2 ซที่ มี่ รี อ งลกึ ปริทนตเ มอ่ื
เริม่ ตนมากกวา หรือเทา กับ 5 มลิ ลิเมตร พบวา เมื่อใชเจลฟาทะลายโจรรวมกบั การเกลารากฟน จะไดผ ล
ใกลเ คียงกบั การใช minocycline gel เมื่อใชร ว มกบั การเกลารากฟน5
8. สารสกดั 50% แอลกอฮอลข องฟาทะลายโจร ไมทําใหเกิดอาการพิษเฉยี บพลันในหนถู บี จกั ร
และมขี นาดของ LD50 เมื่อใหทางปากและใตผิวหนงั มากกวา 15 กรัม/กิโลกรมั และเทากบั 14.98 กรมั /
กิโลกรมั เมอื่ ใหท างชอ งทอง สว นผลการศกึ ษาพษิ ระยะยาวของผงฟา ทะลายโจรในหนพู ันธวุ สิ ตาร เมอื่
ใหท างปากในขนาด 0.12, 1.2 และ 2.4 กรมั /กโิ ลกรัม/วัน ติดตอกนั นาน 6 เดือน พบวา ไมก อ ใหเ กดิ พษิ
ในหนูขาว5
9. การศึกษาความเปนพิษของสารสกัด 70% แอลกอฮอลของฟาทะลายโจรตอระบบสบื พนั ธุ
ของหนเู พศผู โดยใหสารสกดั ทางปากนาน 60 วัน พบวา ไมก อ ใหเ กิดพษิ ตออณั ฑะ และไมท ําใหเกิดการ
เปลี่ยนแปลงของรปู รา งหรอื หนาทข่ี อง Leydig cells ในเพศเมียพบวา เม่อื เอาผงฟา ทะลายโจรมาผสมกับ
อาหารแลว ใหหนูถีบจกั รเพศเมียกินในขนาด 2 กรัม/กิโลกรัม/วัน นาน 6 สปั ดาห พบวา ไมม ีหนตู ัวใดต้งั
ทอ งเม่ือผสมกบั หนเู พศผทู ่ีไมไ ดรับยา ขณะทหี่ นกู ลมุ ควบคมุ ตั้งทอง 95.2% มรี ายงานการศกึ ษาวาเมอื่ ฉดี
น้าํ ตม ฟาทะลายโจรเขม ขน 50% ทางชอ งทองแกห นถู ีบจักร มผี ลทําใหห นูแทง ได และถาฉดี progesterone
รวมกับฮอรโ มน LH-RH พรอ มกบั ฟา ทะลายโจร จะปองกันการแทงในชว งระยะแรกของการตง้ั ครรภได
จงึ คดิ วาฟาทะลายโจรอาจมผี ลตา นฤทธ์ขิ อง progesteroneจงึ ทําใหเกิดการแทงได5
เอกสารอางอิง
1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I.
English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005.
2. ลีนา ผูพ ฒั นพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธีรวฒั น บุญทวคี ณุ (คณะบรรณาธกิ าร). ชอื่ พรรณไมแ หงประเทศไทย (เต็ม สมิตินันทน
3. ฉMบeับiแXกHไ ข.เพSมิ่hเiตyิมonพg.ศZ.h2o5n4g4y)a.oสPําaนoกั zวhชิ iาZกhารinปaา nไม. . 1sกt รeมd.ปาHไมu.beพi:มิ Hพuคbรeั้งiทSี่ 2c.ieกnรcงุ eเท&พมTหeาcนhคnรol:oบgรyษิ Pทั uปblรiะsชhาiชnนg Hจาํ oกuดั s,e2, 524040.5.
4. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science &
Technology Publishing House, 2006.
5. อญั ชลี จูฑะพุทธิ (บรรณาธกิ าร). สมุนไพรไทยกาวไกลสูสากล. กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พ ร.ส.พ., 2548.
6. กลั ยา อนลุ ักขณาปกรณ และอุไรวรรณ เพม่ิ พพิ ัฒน. ฤทธขิ์ องฟา ทะลายโจรในการลดการบีบตวั ของลาํ ไสเลก็ และปองกนั การเกดิ
ทอ งเสยี ในสัตวท ดลอง. วารสารกรมวทิ ยาศาสตรก ารแพทย 2540; 39(1): 23-33.
7. วนิดา แสงอลังการ และคณะ. ผลของ andrographolide, neoandrographolide และ 14-deoxy-11,12 didehydroandrographolide
ตอ การหดเกรง็ ของกลา มเน้ือกระเพาะอาหารหนขู าวนอกรา งกาย. ไทยเภสชั สาร. 2533; 15(1): 5-16.
8. กองวจิ ยั และพฒั นาสมนุ ไพร กรมวทิ ยาศาสตรก ารแพทย. คูม ือสมนุ ไพรเพ่ือการสาธารณสุขมลู ฐาน. กรุงเทพมหานคร : Text and
Journal Cooperation, 2533.
Page 159
คูมอื การใชส มุนไพรไทย-จนี 149
เมล็ดบัว: Lianzi (莲子)
เมล็ดบัว หรือ เหลียนจื่อ คือ เมล็ดสุกที่ทําใหแหงของพืชที่มีช่ือวิทยาศาสตรวา Nelumbo
nucifera Gaertn. วงศ Nymphaeaceae1
1 เซนติเมตร
เมล็ดบัว (Semen Nelumbinis)
ช่ือไทย: เมล็ดบัวหลวง เมล็ดบัว (ทวั่ ไป); เมล็ดสัตตบงกช, เมลด็ สัตตบษุ ย (ภาคกลาง)2
ช่ือจีน: เหลียนจ่ือ (จีนกลาง), โหนยจ้ี (จีนแตจิ๋ว)1
ช่ืออังกฤษ: Lotus Seed1
ชื่อเคร่ืองยา: Semen Nelumbinis1
การเกบ็ เก่ยี วและการปฏิบตั หิ ลงั การเก็บเก่ียว:
เก็บเก่ียวฝกแก (สังเกตไดจากฝกบัวมีลูกบัวเปนสีเทาหรือสีดาํ ) นํามารวมบนลานดิน แลว
ใชไมทุบใหลูกบัวแกรวงหลุดจากฝก นาํ ลูกบัวไปตากแดดใหแหงประมาณ 3 วัน เม่ือแหงดีแลวจะใช
ตะแกรงหาง ๆ รอนหรือฝดเอาลูกลีบหรือเสียท้ิง กะเทาะเอาเปลือกออก ตากแดดใหแหง เก็บรักษา
ไวใ นที่มอี ากาศเย็นและแหง มีการระบายอากาศดี1,3
การเตรียมตัวยาพรอมใช:
การเตรียมตวั ยาพรอมใชมี 2 วธิ ี ดงั น้ี
วิธที ี่ 1 เมล็ดบัว เตรยี มโดยนําวตั ถุดิบสมนุ ไพรทป่ี ราศจากสงิ่ ปนปลอม มาแชดว ยนาํ้ รอ น
จนกระทั่งออนนุม แยกเอาดีบัวออก และนําไปตากแหง1,4
วิธีที่ 2 เมล็ดบัวผัด เตรียมโดยนาํ ตัวยาท่ีไดจากวิธีที่ 1 ใสกระทะ นาํ ไปผัดโดยใชไฟระดับ
ปานกลาง ผัดจนกระท่งั ผิวดา นนอกมสี ีเขมขึน้ และเน้ือดา นในมสี ีเหลืองออ น ๆ มกี ลน่ิ หอมกรุน นําออก
Page 160
150 กรมพัฒนาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลือก
จากเตา ต้ังทง้ิ ไวใ หเ ยน็ 4
คุณภาพของตวั ยาจากลักษณะภายนอก:
ตวั ยาท่มี ีคณุ ภาพดี เมล็ดตองมีขนาดใหญ และมเี น้อื มาก5
สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแ ผนจีน:
เมล็ดบวั รสอมหวานฝาด สขุ มุ มีฤทธบ์ิ าํ รุงไต ควบคุมและกระชบั การหล่ังนาํ้ อสุจิ แกอาการ
ฝนเปย ก และปสสาวะไหลโดยไมร ตู ัว (ระหวา งหลับ) มฤี ทธิบ์ ํารุงมา ม หยุดถาย แกอ าการทอ งรวงชนิด
ท่ีไมไ ดเกดิ จากการตดิ เช้อื และมฤี ทธบ์ิ ํารงุ หวั ใจ ใชบ ํารงุ หัวใจและชว ยใหนอนหลับ3
เมลด็ บวั ผดั รสอมหวาน มกี ลน่ิ หอม ใชรักษาอาการทอ งรวงชนดิ ทไี่ มไดเกดิ จากการติดเชื้อ
หรอื อาการฝน เปยกและปส สาวะไหลโดยไมร ูตัว3,4
สรรพคุณตามตําราการแพทยแผนไทย:
เมล็ดบัว รสหวานมนั สรรพคุณ บํารงุ กําลงั บาํ รงุ ไขขอ ทําใหก ระชุมกระชวย แกร อนในกระหาย
นํ้า แกเสมหะ แกพ พุ อง แกด พี กิ าร แกอ าเจยี น แกอ อ นเพลยี 6
ขนาดที่ใชแ ละวิธใี ช:
การแพทยแ ผนจีน ใช 6-15 กรัม ตม เอาน้ําด่ืม หรือบดเปนผงรบั ประทาน1
ขอ หา มใช ขอ ควรระวัง และอาการขางเคยี ง:
การแพทยแ ผนจีน หามใชเมลด็ บัวในผปู วยทม่ี อี าการทองผกู ทองเฟอ อาหารไมย อย3,7
ขอ มลู วชิ าการท่ีเก่ียวขอ ง:
เม่อื ใหส ารสกดั ปโตรเลียมอีเทอรจากเมล็ดแหง ในหนขู าวโดยการปอนในขนาด 3 มิลลิกรมั /
กโิ ลกรัม พบวามผี ลขดั ขวาง estrous cycle8
เอกสารอางอิง
1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I.
English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005.
2. ลนี า ผพู ฒั นพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธีรวัฒน บญุ ทวีคุณ (คณะบรรณาธิการ). ชอ่ื พรรณไมแ หงประเทศไทย (เตม็ สมติ ินนั ทน
ฉบับแกไ ขเพิม่ เติม พ.ศ. 2544). สาํ นกั วิชาการปา ไม. กรมปา ไม. พิมพค ร้ังท่ี 2. กรุงเทพมหานคร : บริษทั ประชาชน จํากดั , 2544.
3. กรมวทิ ยาศาสตรการแพทย กระทรวงสาธารณสุข. สมุนไพรไทย-จีน. กรงุ เทพมหานคร : โรงพิมพก ารศาสนา, 2547.
4. Gong QF. Zhongyao Paozhi Xue. 2nd ed. Beijing: National Chinese Traditional Medicine Publishing House, 2003.
5. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science &
Technology Publishing House, 2006.
6. วุฒิ วุฒิธรรมเวช. คัมภรี เภสชั รตั นโกสนิ ทร. กรงุ เทพมหานคร : บริษทั ศิลปสยามบรรจภุ ัณฑและการพิมพ จํากดั , 2547.
7. บรษิ ัท หลกั ทรัพยจัดการกองทุน กสิกรไทย จาํ กัด. มหัศจรรยสมนุ ไพรจีน. กรงุ เทพมหานคร : บริษทั ซีเอด็ ยเู คช่นั จาํ กดั มหาชน,
2550.
8. บพิตร กลางกัลยา, นงลักษณ สุขวาณิชยศ ิลป. รายงานผลการศึกษาโครงการการประเมินประสิทธิภาพและความปลอดภัยของยา
จากสมนุ ไพร. กรงุ เทพมหานคร : บรษิ ัท เอส อาร พริ้นต้งิ แมสโปรดกั ส จาํ กัด, 2544.
Page 161
คมู อื การใชสมุนไพรไทย-จีน 151
เมลด็ ฝอยทอง: Tusizi (兔丝子)
เมล็ดฝอยทอง หรอื ทซู ือจ่อื คอื เมล็ดสุกท่ีทําใหแหงของพืชที่มชี ื่อวิทยาศาสตรว า Cuscuta
chinensis Lam. วงศ Convolvulaceae1
0.5 เซนติเมตร 0.3 เซนติเมตร
เมล็ดฝอยทอง (Semen Cuscutae)
ชื่อไทย: เมล็ดฝอยทอง (ภาคกลาง); เมล็ดผักไหม (อุดรธานี); เมล็ดฝอยไหม (นครราชสีมา)2
ชื่อจีน: ทูซือจ่ือ (จีนกลาง), โทวซีจ้ี (จีนแตจิ๋ว)1
ช่ืออังกฤษ: Dodder Seed1
ช่ือเครื่องยา: Semen Cuscutae1
การเก็บเกี่ยวและการปฏิบัตหิ ลังการเก็บเก่ียว:
เกบ็ เกีย่ วผลสกุ ในฤดใู บไมร วง ตากแดดใหแหง เคาะเมล็ดรวง เก็บสง่ิ อน่ื ที่ปะปนออก เมล็ดที่
ไดนําไปตากแหง เกบ็ รักษาไวใ นทมี่ อี ากาศเย็นและแหง มีการระบายอากาศดี1
การเตรียมตัวยาพรอมใช:
การเตรียมตัวยาพรอมใชม ี 4 วธิ ี ดงั น้ี
วิธีท่ี 1 เมลด็ ฝอยทอง เตรยี มโดยนาํ วตั ถดุ ิบสมนุ ไพรมาแยกสงิ่ อ่ืนท่ีปะปนออก ลางนาํ้ ใหสะอาด
ตากใหแ หง3
วิธีท่ี 2 เมล็ดฝอยทองผัดนา้ํ เกลือ เตรยี มโดยนาํ ตัวยาทไ่ี ดจ ากวธิ ีท่ี 1 มาใสในภาชนะท่เี หมาะสม
เติมนาํ้ เกลอื คลกุ เคลา ใหเขา กนั ตง้ั ท้งิ ไวจ นกระท่งั น้าํ เกลือแทรกซมึ เขา ไปในเนื้อตัวยา จากนัน้ นําไปใส
กระทะ ผดั โดยใชไ ฟระดบั ปานกลาง ผัดจนกระทง่ั เมล็ดพองตัวและมเี สียงเปลอื กเมลด็ ปริออกเล็กนอ ย
Page 162
152 กรมพฒั นาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลอื ก
มีกลน่ิ หอมกรุน นําออกจากเตา ตัง้ ทง้ิ ไวใ หเ ยน็ (ใชเ กลอื บริสทุ ธิ์ 2 กโิ ลกรมั ตอ ตัวยา 100 กโิ ลกรมั )3
วิธีท่ี 3 เมลด็ ฝอยทองผสมเหลา อดั เปนแผน เตรียมโดยนาํ ตวั ยาทไ่ี ดจ ากวิธีที่ 1 มาใสใ นภาชนะ
ที่เหมาะสม ตมนํ้าจนกระทัง่ เปลอื กเมลด็ แตกออก คนตลอดเวลาจนกระท่ังนํา้ แทรกซมึ เขาไปในเน้ือตัวยา
และตวั ยาทงั้ หมดมลี กั ษณะเหมือนโจก เติมเหลา เหลืองและแปง หม่ขี าวลงไปผสมใหเขา กัน นาํ ออกจาก
เตา อัดเปนแผน แลวหัน่ เปน ช้ินสเี่ หลยี่ มเล็ก ๆ ขนาดประมาณ 1 เซนติเมตร ตากใหแหง (ใชเหลา เหลือง
15 กิโลกรัมและแปง หมขี่ าว 15 กิโลกรัม ตอ ตวั ยา 100 กิโลกรมั )3
วิธีท่ี 4 เมลด็ ฝอยทองผดั เตรียมโดยนําตัวยาที่ไดจากวิธีที่ 1 ใสกระทะ นาํ ไปผัดโดยใชไฟ
ระดับปานกลาง ผัดจนกระท่งั ผิวดา นนอกเปนสีเหลืองออ น ๆ และมเี สียงปรอิ อกของเปลือกเมลด็ นําออก
จากเตา ต้งั ทิ้งไวใหเ ยน็ 3
คุณภาพของตัวยาจากลักษณะภายนอก:
ตัวยาท่ีมีคุณภาพดี เมล็ดมีสีเหลืองเทา เมล็ดอวบอ่ิม4
สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแผนจีน:
เมล็ดฝอยทอง รสอมหวาน อุน มีฤทธ์บิ าํ รงุ ไต ควบคมุ การหล่งั ของนํา้ อสุจิ รกั ษากลุมอาการ
ของระบบไตพรอ ง (ปวดเอว อวยั วะเพศไมแ ขง็ ตัว ฝน เปยก ปสสาวะบอย ตกขาว) มีฤทธ์บิ าํ รุงตบั ทํา
ใหต าสวาง รักษากลุมอาการของระบบตับและไตออนแอ (ตามัว หนามืด ตาลา เบลอ) ชว ยใหหยุดถา ย
(เนอ่ื งจากระบบมา มและไตพรอ ง ทําใหถา ยทอง) นอกจากนยี้ งั มฤี ทธิ์บํารุงมดลูก ปองกนั การแทงลูก
(เน่อื งจากระบบตบั และไตออนแอ ทาํ ใหแทงงา ย)1,5
เมล็ดฝอยทองผัดนาํ้ เกลือ เนื่องจากเมล็ดฝอยทองมีคุณสมบัติคอนขางอุน และมีฤทธ์ิบาํ รุง
หยางมากกวาบาํ รงุ ยนิ เมือ่ นํามาผัดน้าํ เกลอื จะชว ยใหฤทธ์บิ ํารุงยนิ และหยางเสมอกนั และชว ยนําตวั ยา
เขาสรู ะบบไต ชว ยเพม่ิ ฤทธ์ิบํารงุ ไตและบํารงุ ครรภ เหมาะสําหรับผูปว ยท่ีมีอาการอวยั วะเพศไมแ ขง็ ตวั
ฝน เปย ก ปส สาวะบอ ย ตกขาว3
เมล็ดฝอยทองผสมเหลา อดั เปน แผน จะเพมิ่ ฤทธใิ์ หค วามอบอนุ และบาํ รงุ ไต และชว ยใหตวั
ยาสามารถละลายออกมาไดดเี วลาตม ยา และสามารถบดเปนผงไดงา ย จงึ เปนวธิ ที ี่นิยมใช เหมาะสําหรับ
ผปู ว ยที่มีอาการปวดเมอ่ื ยเอวและเขา หอู ้ือตามวั กระหายนาํ้ 3
เมลด็ ฝอยทองผัด มสี รรพคณุ และวธิ ใี ชเหมือนเมล็ดฝอยทอง แตเมลด็ ฝอยทองผดั จะชว ยให
ตวั ยาสามารถละลายออกมาไดดีเวลาตม ยาและสามารถบดเปน ผงไดงาย สะดวกในการเตรยี มยาตาํ รบั นิยม
ใชใ นการเตรียมยาลกู กลอนและยาผง เหมาะสําหรบั ผูปวยท่มี อี าการปวดเอวเนอ่ื งจากไตพรอ ง หลงั ปส สาวะ
แลว ยังมหี ยดปสสาวะเหลอื อย3ู
Page 163
คมู อื การใชส มนุ ไพรไทย-จนี 153
สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแผนไทย:
เมล็ดฝอยทอง รสฝาดเฝอน สรรพคุณ บํารุงกําลัง บํารุงตับไต แกปวดเม่ือย ทําใหตาสวาง
แกกระหายนาํ้ แกนํา้ กามเคล่ือนเวลาหลับ6
ขนาดที่ใชและวิธีใช
การแพทยแ ผนจีน ใชขนาด 6-12 กรมั ตม เอานา้ํ ดม่ื หรอื ทําเปนยาเมด็ หรอื ยาผงรับประทาน
ใชภายนอก บดเปนผงผสมทา1,5
ขอหามใช ขอควรระวัง และอาการขางเคียง
1,5
สตรีมีครรภ และผูป วยท่มี อี าการทองผูก ไมควรรับประทาน
พชื นี้ถา ข้ึนเกาะบนตนไมท เี่ ปน พิษ เชน ตน ยโ่ี ถ ลําโพง ถอบแถบนํา้ และยาสบู เปน ตน ไมควร
เก็บมาใช5
ขอมูลวิชาการท่ีเกี่ยวของ:
1. สารสกัดโดยวธิ แี ชส กัดเมลด็ ดว ยแอลกอฮอล นํา้ หรอื ทําในรปู ยาทงิ เจอร จะมีฤทธทิ์ ําให
หวั ใจคางคกท่ีแยกตวั บีบตวั แรงขึ้น สารสกดั แชดว ยแอลกอฮอลมีฤทธิ์ทาํ ใหจ งั หวะการเตนของหัวใจ
เพมิ่ ขน้ึ แตส ารสกัดแชดวยนํ้าและทท่ี าํ ในรปู ยาทิงเจอร ทําใหจังหวะการเตน ของหวั ใจลดลง ผลตอ สุนขั
ทดลองทท่ี าํ ใหสลบมีผลทําใหค วามดนั โลหิตลดลง มามหดตัวเลก็ ลง ลดการบีบตวั ของลาํ ไส ผลตอ
มดลกู ท่ีแยกตัวมีผลกระตนุ การบบี ตัวของมดลกู เพ่ิมขน้ึ 5
2. เม่อื ฉีดสารสกัดโดยวธิ แี ชส กดั เมลด็ ดว ยแอลกอฮอลแ ละน้าํ เขาใตผ วิ หนงั ของหนูขาวในขนาด
2.465 กรัม/กิโลกรัม จะทาํ ใหห นูตายจาํ นวนครง่ึ หนึง่ เม่ือใหทางปากในขนาด 30-40 กรัม/กิโลกรมั ไม
ปรากฏอาการพษิ เมอ่ื ใหห นทู ดลองกินสารแชส กัดดว ยแอลกอฮอลแ ละนาํ้ และทีท่ ําในรูปทงิ เจอรติดตอ กนั
เปน เวลา 70 วนั ไมม ีผลตอการเจริญเติบโตของสัตวท ดลอง และไมพ บอาการเปลี่ยนแปลงผิดปกตใิ ด ๆ5
เอกสารอางอิง
1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.1.
English Edition. Beijing: Chemical Industry Press, 2000.
2. ลีนา ผพู ฒั นพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธีรวฒั น บญุ ทวคี ณุ (คณะบรรณาธิการ). ช่อื พรรณไมแ หงประเทศไทย (เต็ม สมติ ินันทน
ฉบบั แกไ ขเพิ่มเติม พ.ศ. 2544). สํานักวชิ าการปา ไม. กรมปา ไม. พมิ พค รง้ั ที่ 2. กรงุ เทพมหานคร : บริษทั ประชาชน จํากดั , 2544.
3. Gong QF. Zhongyao Paozhi Xue. 2nd ed. Beijing: National Chinese Traditional Medicine Publishing House, 2003.
4. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science &
Technology Publishing House, 2006.
5. ชยั โย ชัยชาญทิพยุทธ, วชิรา แดนตะวัน, สถาพร ลิ้มมณี, ชะนะ ครองรกั ษา, ทิพวลั ย ทรัพยเจริญ. สมุนไพร อันดับท่ี 03: การ
รวบรวมขอ มูลเบ้ืองตนสําหรับงานวิจยั ของโครงการศึกษาวจิ ัยสมุนไพร. กรงุ เทพมหานคร : จฬุ าลงกรณมหาวทิ ยาลัย, 2527.
6. วุฒิ วฒุ ธิ รรมเวช. คัมภีรเ ภสัชรัตนโกสินทร. กรงุ เทพมหานคร : บริษทั ศิลปสยามบรรจภุ ัณฑแ ละการพิมพ จํากัด, 2547.
Page 164
154 กรมพฒั นาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลือก
ราชดัด : Yadanzi (鸭胆子)
ราชดัด หรือ ยาตา นจ่ือ คือ ผลสกุ ทท่ี าํ ใหแหง ของพชื ทีม่ ีชื่อวทิ ยาศาสตรว า Brucea javanica
(L.) Merr. วงศ Simaroubaceae1
(Fructus 0.5 เซนติเมตร
ราชดัด Bruceae)
ช่ือไทย: ราชดัด, ดีคน (ภาคกลาง); กาจับหลัก, เทายายมอมนอย, มะขี้เหา, มะดีควาย, ยาแกฮ าก
ขม (เชียงใหม); พญาดาบหัก (ตราด); เพียะฟาน (นครราชสีมา); มะลาคา (ปตตานี)2
ช่ือจีน: ยาตานจื่อ (จีนกลาง), อะตาจ้ี (จีนแตจ๋ิว)1
ชื่ออังกฤษ: Java Brucea Fruit1
ชื่อเคร่ืองยา: Fructus Bruceae1
การเกบ็ เก่ยี วและการปฏบิ ตั หิ ลังการเกบ็ เก่ียว:
เก็บเกยี่ วผลสกุ ในฤดใู บไมร วง แยกเอาส่ิงปะปนออก ตากแดดใหแหง เกบ็ รกั ษาไวในท่มี อี ากาศ
เย็นและแหง มีการระบายอากาศดี1
การเตรยี มตวั ยาพรอมใช:
นาํ สมุนไพรที่ปราศจากสง่ิ ปนปลอมมากะเทาะเอาเปลือกผลออก ใชเฉพาะสว นเนื้อ รอ นเอาเศษ
เลก็ ๆ ออก ทุบใหแตกกอ นใช1,3
คณุ ภาพของตวั ยาจากลักษณะภายนอก:
ตวั ยาทม่ี คี ุณภาพดี ผลมขี นาดใหญ อวบมาก เน้อื ในเมล็ดมสี ีขาว มนี ํา้ มันมาก4
Page 165
คมู อื การใชสมุนไพรไทย-จนี 155
สรรพคณุ ตามตําราการแพทยแผนจีน:
ผล รสขม เยน็ มีฤทธิข์ บั พษิ รอ น แกม าลาเรยี และแกโ รคบิด1
สรรพคณุ ตามตําราการแพทยแ ผนไทย:
ผล รสขม สรรพคณุ แกไข แกก ระษัย บํารงุ น้ําดี บาํ รงุ น้ําเหลือง แกท องอดื เฟอ แกล มวงิ วยี น
แกห าวเรอ แกเ จบ็ อก แกอาเจยี นเปน เลอื ด เปนยาบํารุงธาตุ ยาขบั พยาธิ และแกบิด5,6
ใชรักษาโรคผวิ หนังจาํ พวกเกลอ้ื น ใชเมล็ดแหงตําพอแหลก แลวเอาน้าํ ทาบริเวณทีเ่ ปน7
ขนาดทใี่ ชแ ละวธิ ีใช:
การแพทยแผนจนี ใช 0.5-2 กรมั 1
ตมเอานา้ํ ดื่ม
ขอหามใช ขอควรระวงั และอาการขางเคียง:
ราชดดั มพี ิษเลก็ นอ ย หามใชใ นเด็กและสตรมี คี รรภ8,9
ขอมลู วิชาการทเ่ี กย่ี วขอ ง:
1. มีรายงานวา สารพษิ ท่ีพบในเมลด็ คือ bruceantin, bruceine A-E, yadanziolide A, F, I
ซง่ึ มีฤทธย์ิ บั ย้งั การเจรญิ เติบโตของเชื้อมาลาเรยี ชนดิ ฟลซพิ ารมั และเชอื้ บดิ ในหลอดทดลอง แตพ บความ
เปน พิษสงู 9 และเนอื้ ในเมล็ดหรอื สารสกัดนํา้ จากเลบ็ มือนางมีฤทธิย์ บั ย้ังเช้อื มาลาเรียในไกไ ดผลดี และ
จากการทดลองทางคลนิ ิกในเบอ้ื งตนพบวา สามารถรักษาโรคมาลาเรียได นอกจากน้ยี งั พบสารพษิ brahmine
และ kerpestine10,11
2. กองวจิ ยั ทางแพทย กรมวิทยาศาสตรก ารแพทย พบวา สวนสกดั ดวยนํ้าไมม ีพษิ เมอื่ ให
ทางปากในขนาดทท่ี าํ ใหห นตู ายรอยละ 50 โดยฉีดเขาใตผิวหนัง เทา กบั 5.17 กรัม/กิโลกรมั และเม่ือฉีด
เขา ทางชอ งทอ ง เทา กบั 6.37 กรมั /กิโลกรมั 10
3. มีรายงานการศกึ ษาทางเภสัชวิทยาและทางคลนิ ิก พบวาสารสกดั จากผลราชดัดมีฤทธ์ิฆาเชื้อ
บิด แตฤ ทธอ์ิ อ นกวายา emetine8,11
เอกสารอางองิ
1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I.
English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005.
2. ลนี า ผูพัฒนพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธรี วฒั น บุญทวคี ณุ (คณะบรรณาธกิ าร). ชอ่ื พรรณไมแ หง ประเทศไทย (เตม็ สมติ ินันทน
ฉบบั แกไ ขเพิ่มเติม พ.ศ. 2544). สาํ นกั วชิ าการปา ไม. กรมปา ไม. พมิ พค รงั้ ที่ 2. กรุงเทพมหานคร : บรษิ ัท ประชาชน จาํ กดั , 2544.
3. Lei GL, Dun BS. Zhongyao Paozhi Jishu Zhinan. 1st ed. Xian: World Library Publishing House, 2002.
4. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science &
Technology Publishing House, 2006.
5. พเยาว เหมอื นวงษญาต.ิ สมนุ ไพรกา วใหม. พมิ พค รง้ั ท่ี 2. กรุงเทพมหานคร : บริษัท ท.ี พ.ี พริ้น จาํ กดั , 2537.
Page 166
156 กรมพฒั นาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลือก
6. ชยันต วเิ ชียรสุนทร, แมนมาส ชวลิต, วิเชียร จรี วงศ. คําอธิบายตําราพระโอสถพระนารายณ. พิมพคร้ังท่ี 2. กรงุ เทพมหานคร :
สาํ นกั พิมพอมรนิ ทร, 2548.
7. กองวิจัยและพัฒนาสมุนไพร กรมวทิ ยาศาสตรก ารแพทย กระทรวงสาธารณสุข. สมนุ ไพรพื้นบานฉบับรวม. พิมพครง้ั ที่ 1. กรุงเทพมหานคร :
Text and Journal Corperation Co., Ltd., 2533.
8. พรอมจิต ศรลมั ภ, วงศส ถิตย ฉ่ัวกุล, สมภพ ประธานธุรารักษ (คณะบรรณาธิการ). สมุนไพรสวนสริ รี ุกขชาติ สารานุกรมสมุนไพร
เลม 1. พิมพค ร้ังท่ี 3. กรุงเทพมหานคร : บรษิ ทั อมรินทรพริ้นติง้ แอนดพบั ลิชชง่ิ จาํ กัด (มหาชน), 2543.
9. World Health Organization. WHO monographs on selected medicinal plants. Volume 1. Geneva: World Health
Organization, 1999.
10. สถาบนั วิจัยสมนุ ไพร กรมวิทยาศาสตรก ารแพทย กระทรวงสาธารณสขุ . คูมือฐานขอ มูลพืชพิษ. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ
กรมการศาสนา, 2545.
11. Institute of Materia Medica, Chinese Academy of Medicinal Sciences. Chinese Materia Medica. Vol. III. 2nd ed.
Beijing: Renmin Weisheng Publishing House, 1984.
Page 167
คูมอื การใชสมนุ ไพรไทย-จีน 157
เรวดง : Sharen (砂仁)
เรวดง หรือ ซาเหริน คือ ผลสุกท่ีทาํ ใหแหงของพืชที่มีชื่อวทิ ยาศาสตรว า Amomum villosum
Lour. หรอื A. villosum Lour. var. xanthioides T.L.Wu et Senjen หรือ A. longiligulare T.L.
Wu วงศ Zingiberaceae1
0.5 เซนติเมตร
เรวดง (Fructus Amomi)
ช่ือไทย: เรวดง (ตราด)2
ชื่อจีน: ซาเหริน (จีนกลาง), ซาย้ิง (จีนแตจิ๋ว)1
ช่ืออังกฤษ: Villous Amomum Fruit1
ชื่อเครื่องยา: Fructus Amomi1
การเก็บเกีย่ วและการปฏิบตั หิ ลังการเก็บเกี่ยว:
เก็บเกยี่ วผลสกุ ในชวงฤดรู อนถงึ ฤดใู บไมร ว ง ตากแดดใหแหง ในทันที หรอื ทําใหแ หงทอี่ ณุ หภมู ิ
ต่ํา ในการปองกันการเสื่อมสภาพของเมล็ดและการระเหยของนํ้ามันอยางรวดเร็ว ไมควรแกะเมล็ด
กอนเมล็ดแหง เก็บรักษาเมล็ดแหงในกระสอบปานหรือถุงพลาสติก เก็บไวในท่ีมีอากาศเย็นและแหง
มีการระบายอากาศดี1,3
การเตรียมตัวยาพรอมใช:
การเตรียมตวั ยาพรอมใชม ี 2 วธิ ี ดังนี้
วิธที ่ี 1 เรวดง เตรียมโดยนําวตั ถุดบิ สมุนไพรมาแยกสงิ่ อ่นื ท่ปี ะปนออก ทบุ ใหแ ตกกอนใช4
Page 168
158 กรมพฒั นาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลือก
วธิ ีท่ี 2 เรว ดงผดั นาํ้ เกลอื เตรยี มโดยนําตวั ยาทไ่ี ดจ ากวิธที ี่ 1 มาใสใ นภาชนะที่เหมาะสม เตมิ
น้ําเกลือ คลกุ เคลา ใหเขา กนั ตง้ั ท้ิงไวจนกระท่งั นํ้าเกลือแทรกซมึ เขาไปในเนอื้ ตวั ยา จากน้นั นําไปใสก ระทะ
ผดั โดยใชไ ฟระดับปานกลาง ผดั จนกระทง่ั ตวั ยาแหง นําออกจากเตา ตัง้ ทง้ิ ไวใ หเยน็ (ใชเกลือบริสทุ ธ์ิ 2
กโิ ลกรมั ตอ ตวั ยา 100 กโิ ลกรัม)4
คุณภาพของตัวยาจากลักษณะภายนอก:
ตวั ยาท่มี ีคุณภาพดี ตอ งมีขนาดผลใหญ แขง็ และมีเน้อื มาก เนื้อในเมลด็ สนี ้ําตาลแดง กลน่ิ
หอมฉุนมาก รสเผ็ดและเยน็ มาก5
สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแผนจีน:
เรวดง รสเผ็ด อนุ มฤี ทธ์ิสลายความชนื้ ทําใหชห่ี มนุ เวยี น ใชร กั ษาอาการชตี่ ดิ ขัด ทําใหจุกเสียด
แนนทอง มีฤทธ์ิใหความอบอุนแกกระเพาะอาหาร ระงับอาเจียน ทองเสีย ใชแกกระเพาะอาหารและ
ลําไสเย็นเกินไป ทําใหทองเสีย อาเจียน และมีฤทธ์ิบํารุงครรภ แกอาการแพทอง เชน คลื่นไสอาเจียน
เบ่ืออาหารในสตรีมีครรภ1,6
เรวดงผัดน้ําเกลือ รสเผ็ดจะลดลง มีฤทธิ์ชวยนําตัวยาลงสสู ว นลา งของรางกาย เพิม่ ฤทธิใ์ หความ
อบอนุ กบั ไตและบาํ รุงครรภ4
สรรพคุณตามตําราการแพทยแผนไทย:
ผล รสรอนเผ็ดปรา แกริดสีดวง แกหืดไอ แกระดูขาว แกไขสันนิบาต7
เมล็ด รสรอนเผ็ดปรา ขับลมในลาํ ไส แกทองขึ้นอืดเฟอ แกปวดทอง แกคล่ืนเหียนอาเจียน
แกริดสีดวง หืดไอ กัดเสมหะ แกไขสันนิบาต ขับน้ํานม บาํ รุงธาตุ7
ขนาดที่ใชและวิธีใช:
การแพทยแผนจีน ใช 3-6 กรัม หรือมากกวานี้ตามอาการของโรค ตมเอานํ้าด่ืม (ถาตมกับ
ยาอื่นควรใสทีหลัง)1,6 โดยมีรายละเอียดการใชทางคลินิก ดังนี้
1. แกอาการแพทอง อาเจียน รับประทานอาหารไมได ใหใชเมล็ดบดเปนผงชงกับนา้ํ ขิงตม
รับประทานวันละหลาย ๆ ครั้ง6
2. แกอาการเปนพิษ ใหใชเมล็ดบดเปนผง รับประทานกับนํ้าอุน6
3. บาํ รุงธาตุ แกอาการทองอืด ทองเฟอและปวดทอง โดยใชเมล็ดเรวดง หัวแหวหมู ราก
ชะเอมเทศ และขิงแหงรวมกัน6
4. แกประจําเดือนมามากกวาปกติ ใหใชผลเรวแหงรางไฟจนแหงกรอบ แลวบดเปนผงชง
นาํ้ รับประทานบอย ๆ6
Page 169
คูมือการใชสมุนไพรไทย-จนี 159
เอกสารอางอิง
1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I.
English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005.
2. ลนี า ผูพฒั นพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธีรวัฒน บุญทวีคุณ (คณะบรรณาธิการ). ชือ่ พรรณไมแ หง ประเทศไทย (เต็ม สมติ ินันทน
ฉบบั แกไขเพ่มิ เตมิ พ.ศ. 2544). สาํ นักวชิ าการปา ไม. กรมปา ไม. พมิ พค ร้งั ท่ี 2. กรุงเทพมหานคร : บรษิ ทั ประชาชน จํากดั , 2544.
3. สถาบนั วจิ ัยวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยีแหงประเทศไทย. PROSEA: ทรัพยากรพืชในภมู ิภาคเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต 12(1) พืช
สมนุ ไพรและพืชพิษ เลม 1. นนทบุรี : สหมิตรพร้ินติง้ , 2546.
4. Gong QF. Zhongyao Paozhi Xue. 2nd ed. Beijing: National Chinese Traditional Medicine Publishing House, 2003.
5. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science &
Technology Publishing House, 2006.
6. กรมวทิ ยาศาสตรการแพทย กระทรวงสาธารณสขุ . สมนุ ไพรไทย-จีน. กรงุ เทพมหานคร : โรงพิมพก ารศาสนา, 2547.
7. วฒุ ิ วุฒธิ รรมเวช. ยอเภสชั กรรมไทยและสรรพคุณสมุนไพร. กรุงเทพมหานคร : บริษทั ศิลปส ยามบรรจุภัณฑและการพิมพ, 2546.
Page 170
160 กรมพัฒนาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลือก
ลกู จนั ทนเทศ : Roudoukou (肉豆蔻)
ลูกจันทนเทศ หรือ โรวโตวโคว คือ เนื้อในเมล็ดที่ทําใหแหงของพืชที่มีช่ือวิทยาศาสตรวา
Myristica fragrans Houtt. วงศ Myristicaceae1
2 เซนติเมตร
ลกู จนั ทนเ ทศ (Semen Myristicae)
ชื่อไทย: ลูกจันทนเทศ (ภาคกลาง); ลูกจันทนบาน (ภาคเหนือ)2
ชื่อจีน: โรว โตวโคว (จีนกลาง), เหน็กเตาโขว (จีนแตจ ๋ิว)1
ช่ืออังกฤษ: Nutmeg1
ชื่อเครื่องยา: Semen Myristicae1
การเกบ็ เกีย่ วและการปฏิบัตหิ ลังการเกบ็ เก่ียว:
เกบ็ เกีย่ วผลแกจ ัดในฤดใู บไมผลแิ ละฤดใู บไมร ว ง แยกเอาเปลือกผลและเปลือกหุมเมล็ดเทยี ม
ท้งิ กะเทาะเอาเปลอื กแขง็ ทหี่ มุ เมล็ดออก เอาเฉพาะเนอื้ ในเมล็ดมาแชน าํ้ ปนู ใสทิ้งไวข ามคนื แลวนํามาปง
โดยใชร ะดบั ไฟปานกลาง ปงจนแหง เกบ็ รกั ษาไวใ นทม่ี ีอากาศเย็นและแหง มกี ารระบายอากาศดี3
การเตรียมตัวยาพรอมใช:
การเตรยี มตัวยาพรอมใชม ี 4 วธิ ี ดงั นี้
วธิ ีที่ 1 ลูกจนั ทนเทศ เตรยี มโดยนาํ วตั ถดุ บิ สมนุ ไพรทป่ี ราศจากสง่ิ ปนปลอม มาลา งนา้ํ ใหส ะอาด
ตากแดดใหแหง ทุบใหแตกกอนใช4
วิธีท่ี 2 ลูกจันทนเทศค่ัวราํ ขาวสาลี เตรียมโดยนํารําขาวสาลีและตัวยาท่ีไดจากวิธีท่ี 1 ใสลง
ในกระทะ นาํ ไปผัดโดยใชไ ฟระดบั ปานกลาง พรอ มคนอยา งสมํา่ เสมอ จนกระทัง่ รําขาวสาลีเปนสเี หลือง
Page 171
คูม ือการใชส มนุ ไพรไทย-จนี 161
เกรียม และตัวยามีสีน้ําตาลเขม นําออกจากเตา แลวรอนเอารําขาวสาลีออก ต้งั ทงิ้ ไวใหเ ยน็ ทบุ ใหแตก
กอ นใช (ใชร ําขา วสาลี 40 กโิ ลกรัม ตอตัวยา 100 กิโลกรมั )3
วิธีท่ี 3 ลูกจันทนเทศค่ัวผงหินลื่น เตรียมโดยนาํ ผงหนิ ลื่นใสในภาชนะที่เหมาะสม แลวให
ความรอ นทอี่ ณุ หภูมสิ งู ใสตวั ยาท่ไี ดจ ากวธิ ที ่ี 1 ลงไป คนอยางสมํ่าเสมอจนกระทัง่ ผวิ ดานนอกของตัวยา
มสี นี าํ้ ตาลเขม และมกี ล่นิ หอมกรนุ นําออกจากเตา แลว รอ นเอาผงหินลืน่ ออก ต้ังทง้ิ ไวใ หเย็น ทุบใหแ ตก
กอนใช (ใชผ งหนิ ลน่ื 50 กิโลกรมั ตอตวั ยา 100 กโิ ลกรมั )3
วธิ ที ี่ 4 ลกู จันทนเทศหอ แปง หม่ีค่ัว เตรียมโดยนาํ แปง หม่ีผสมนํา้ ในปริมาณที่เหมาะสม ปนให
เปนแผน แลวนํามาอัดใหเปนแผนบาง ๆ จากนั้นนําแผนแปงหมี่ที่เตรียมไดมาหอตัวยาที่ไดจ ากวธิ ที ่ี 1
พรมนํ้าที่ผวิ ดานนอกเพอ่ื ใหช มุ ชน้ื แลว นําไปหอกบั แผน แปง หมอี่ ีก หอประมาณ 3-4 ช้ัน ใหทาํ เชนเดียวกัน
นําไปตากแดดใหแ หง ประมาณ 50% จากน้นั นําไปใสล งในภาชนะทบี่ รรจุผงหนิ ลืน่ ที่ผัดใหรอ นแลว คน
อยางสมาํ่ เสมอ จนกระท่งั ผวิ ดานนอกมีสีเหลอื งเกรียม นําออกจากเตา แลว รอนเอาผงหนิ ล่ืนออก ต้งั ทง้ิ
ไวใ หเ ยน็ ใหเ อาแผน แปง หมี่ทีห่ อ ไวท ง้ิ เอาเฉพาะตวั ยา ทุบใหแตกกอ นใช (ใชแ ปง หม่ี 50 กโิ ลกรัม ตอ
ตัวยา 100 กิโลกรมั )3
คุณภาพของตวั ยาจากลักษณะภายนอก:
ตัวยาทม่ี คี ุณภาพดี เน้อื ในเมลด็ ตองมีคณุ สมบัตแิ ข็งและเหนียว มีลายเสน คลา ยเน้ือในเมลด็
หมาก มีนา้ํ มนั มาก และมีกล่นิ หอม5
สรรพคณุ ตามตําราการแพทยแผนจีน:
ลกู จนั ทนเทศ รสเผด็ อุน มฤี ทธ์สิ มานลําไส ระงบั ถา ยทองรวง แกท องรว งเรอื้ รัง (เนื่องจากมาม
และไตพรองและเย็นเกนิ ไป) และมีฤทธใ์ิ หความอบอุนแกก ระเพาะอาหาร ทําใหชี่หมนุ เวยี นดี แกปวด
กระเพาะอาหาร เบอ่ื อาหาร อาเจยี น จุกเสยี ดแนนทอง1
ลูกจันทนเทศมนี ้าํ มนั ในปรมิ าณสูง ทาํ ใหมขี อ เสยี คือ มีฤทธหิ์ ลอล่ืนและกระตนุ ลําไสมากเกนิ ไป
โดยทัว่ ไปจึงตองนาํ มาแปรรูปโดยใชวธิ ีเฉพาะกอ นใช การควั่ จะขจดั น้ํามันบางสวนออกไป ทาํ ใหฤ ทธห์ิ ลอ ล่ืน
และกระตนุ ลาํ ไสล ดนอ ยลง แตมฤี ทธ์แิ รงขน้ึ ในการชว ยใหลาํ ไสแ ขง็ แรงและระงบั อาการทอ งเสยี เหมาะ
สําหรบั ผปู วยทมี่ ีอาการปวดทอ ง จุกเสียดแนน ทอง ทอ งรว ง อาเจียน อาหารไมย อ ย3
สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแ ผนไทย:
ลูกจันทนเ ทศ มกี ลิ่นหอม รสเปรยี้ วฝาด รอน มสี รรพคุณบาํ รงุ กําลงั บํารงุ ธาตุ แกธาตุพกิ าร
ขบั ลม แกจ กุ เสยี ด แกก ําเดา แกทอ งรวง แกรอ นในกระหายนํา้ แกปวดมดลูก บาํ รุงเลอื ด6-8
Page 172
162 กรมพฒั นาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลือก
ขนาดที่ใชแ ละวิธีใช:
การแพทยแ ผนจนี ใชข นาด 3-9 กรัม ตมเอานํ้าดมื่ หรือใชภ ายนอกโดยบดเปน ผงผสมกับนํา้ มนั
หรือน้าํ สมสายชผู สมทา1
การแพทยแ ผนไทย ใชเ นอื้ ในเมลด็ 0.5 กรมั หรือประมาณ 1-2 เมล็ด บดใหเ ปนผงละเอียด
ชงนา้ํ ครงั้ เดียว รบั ประทานวนั ละ 2 ครงั้ 2-3 วนั 6,9
ขอหา มใช ขอ ควรระวัง และอาการขา งเคยี ง:
หามใชใ นผปู ว ยทมี่ อี าการรอ นแกรง บิดทองรว งเพราะมีความรอน (การแพทยแ ผนจีน)1
หา มใชล กู จันทนเทศในปริมาณสูง เพราะทําใหเกดิ อาการขา งเคียงอันไมพ ึงประสงค (การแพทย
แผนไทย)6
มีรายงานวาเม่อื รบั ประทานลูกจนั ทนเ ทศขนาดนอยกวา 1 ชอ นโตะ ก็ทําใหเกิดอาการขางเคยี ง
ได อาการขางเคียงในขนาดสูง ทําใหเ กิดอาการคลื่นไส อาเจยี น ปากแหง หัวใจเตน เรว็ กระตนุ ระบบ
ประสาทสวนกลางทาํ ใหม านตาขยาย นอนไมหลบั มึนงง สบั สน เกิดอาการประสาทหลอน และอาจทาํ ให
ชักได นอกจากนย้ี ังทําใหเ กดิ อาการแพ เชน allergic contact dermatitis และ occupational asthma6
ขอ มูลวชิ าการท่เี กยี่ วของ:
1. สารสกดั Nutmeg oil จากลูกจันทนเทศสามารถยับยง้ั การจับตัวของเกลด็ เลอื ดได โดยมี
eugenol และ isoeugenol เปนสารออกฤทธ6์ิ
2. สารสกัดแอลกอฮอลม ีฤทธ์ิตา นเชอื้ จลุ ินทรีย น้ํามันลูกจนั ทนเทศสามารถยับย้งั การจับตัว
10
ของเกลด็ เลือดได สารสกดั ของเปลอื กเมล็ดแสดงฤทธิ์ตา นอักเสบในสัตวทดลอง
3. ลูกจนั ทนเทศมสี รรพคุณแกท องเสียชนดิ เร้ือรัง แกปวดทอ ง อาหารไมยอ ย อาเจียน มี
รายงานวาเมื่อรบั ประทานผงลกู จันทนขนาด 7.5 กรัม อาจทําใหเ กดิ อาการวงิ เวยี นศรี ษะ คลื่นไส อาเจยี น
ปากแหง นอนไมห ลับ หากรับประทานในขนาดสูงมากอาจทาํ ใหตายได1 0
4. เมอ่ื ใหสารสกดั อีเทอรทางปากแมว พบวา ขนาดของสารสกดั ท่ีทาํ ใหแ มวตายมีคา เทากับ 0.5-
1 มิลลิลิตร/กิโลกรัม และเม่ือใหผงยาทางปากแมวในขนาด 1.8 กรัม/กิโลกรัม อาจทําใหเกิดอาการ
ประสาทหลอน และถงึ ตายไดภ ายใน 24 ช่ัวโมง10
5. จากการศึกษาพิษเฉียบพลันในหนถู ีบจักรของสารสกัด 50% แอลกอฮอลจ ากลกู จนั ทนเทศ
พบวา คา LD50 มคี ามากกวา 10 กรัม/กิโลกรมั เม่อื ใหโดยการปอ นหรอื ฉดี เขา ใตผ ิวหนงั 11
Page 173
คูม อื การใชส มุนไพรไทย-จีน 163
เอกสารอางอิง
1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I.
English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005.
2. ลีนา ผูพัฒนพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธีรวัฒน บุญทวีคุณ (คณะบรรณาธิการ). ชอื่ พรรณไมแ หง ประเทศไทย (เต็ม สมติ ินนั ทน
ฉบบั แกไ ขเพิ่มเติม พ.ศ. 2544). สํานกั วิชาการปา ไม. กรมปา ไม. พิมพค ร้งั ที่ 2. กรงุ เทพมหานคร : บริษัท ประชาชน จํากดั , 2544.
3. Gong QF. Zhongyao Paozhi Xue. 2nd ed. Beijing: National Chinese Traditional Medicine Publishing House, 2003.
4. Mei XH. Shiyong Zhongyao Paozhi Zhinan. 1st ed. Hubei: Hubei Science & Technology Publishing House, 2005.
5. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science &
Technology Publishing House, 2006.
6. กรมวทิ ยาศาสตรก ารแพทย กระทรวงสาธารณสขุ . เอกสารวชิ าการสมนุ ไพร. นนทบุรี : สถาบันวิจยั สมนุ ไพร, 2543.
7. วุฒิ วฒุ ธิ รรมเวช. คัมภีรเภสัชรัตนโกสินทร. กรงุ เทพมหานคร : บรษิ ัท ศลิ ปสยามบรรจุภัณฑแ ละการพิมพ จํากดั , 2547.
8. ชยนั ต วเิ ชยี รสนุ ทร, แมนมาส ชวลิต, วิเชียร จีรวงศ. คาํ อธบิ ายตาํ ราพระโอสถพระนารายณ. พมิ พครั้งท่ี 2. กรงุ เทพมหานคร :
สํานักพิมพอมรนิ ทร, 2548.
9. สุนทรี สิงหบุตรา. สรรพคณุ สมุนไพร 200 ชนิด. พิมพครง้ั ที่ 1. กรุงเทพมหานคร : โอ.เอส.พรนิ้ ติ้งเฮา ส, 2536.
10. Tao C, Lin ZB. Semen Myristicae: rou dou kou. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.).
Modern study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press,
1999.
11. มงคล โมกขะสมิต, กมล สวสั ดีมงคล, ประยทุ ธ สาตราวาหะ. การศกึ ษาพษิ ของสมุนไพรไทย. ใน: ปราณี ชวลิตธํารง, ทรงพล
ชีวะพัฒน, เอมมนสั อตั ตวชิ ญ (คณะบรรณาธิการ). ประมวลผลงานวจิ ัยดานพษิ วิทยาของสถาบันวิจยั สมนุ ไพร เลม 1. พิมพคร้ังท่ี 1.
กรมวิทยาศาสตรก ารแพทย กระทรวงสาธารณสขุ . กรงุ เทพมหานคร : โรงพมิ พการศาสนา, 2546.
Page 174
164 กรมพฒั นาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลอื ก
ลกู เดือย : Yiyiren (意苡仁)
ลูกเดือย หรือ อ้ีอ่ีเหริน คือ เนื้อในเมล็ดของพืชท่ีมีชื่อวิทยาศาสตรวา Coix lacryma-jobi
L. var. mayuen (Rorman.) Stapf วงศ Gramineae1
0.5 เซนติเมตร
ลูกเดือย (Semen Coicis)
ชื่อไทย: ลูกเดือย (ทั่วไป)2
ช่ือจีน: อี้อี่เหริน (จีนกลาง), อี้อี๋ย้ิง (จีนแตจิ๋ว)1
ช่ืออังกฤษ: Coix Seed1
ช่ือเคร่ืองยา: Semen Coicis1
การเก็บเกี่ยวและการปฏิบตั หิ ลงั การเกบ็ เกี่ยว:
เก็บเก่ียวผลสุกในฤดูใบไมรวง ตากแดดใหแหง แยกเอาเนื้อในเมล็ดออกจากเปลือกนอกซึ่ง
มีสนี ํา้ ตาลเหลือง แยกเอาสงิ่ ที่ปะปนทิง้ เกบ็ รักษาไวในทมี่ อี ากาศเย็นและแหง มกี ารระบายอากาศดี1
การเตรียมตัวยาพรอมใช:
การเตรยี มตวั ยาพรอ มใชมี 3 วธิ ี ดังนี้
วธิ ีที่ 1 ลกู เดอื ย เตรียมโดยนําวัตถุดบิ สมนุ ไพรที่ปราศจากสิ่งปนปลอมมารอนเอาเศษเลก็ ๆ
ออก1,3
วิธีที่ 2 ลูกเดือยผัด เตรียมโดยนาํ ตัวยาท่ีไดจากวิธีที่ 1 ใสกระทะ นําไปผัดโดยใชไฟระดับ
ปานกลาง ผดั จนกระท่งั ผวิ ดา นนอกเปน สีเหลือง พองออกเลก็ นอ ย นาํ ออกจากเตา ตงั้ ทิ้งไวใหเ ย็น3
Page 175
คมู ือการใชส มนุ ไพรไทย-จีน 165
วิธีที่ 3 ลูกเดือยผัดราํ ขาวสาลี เตรียมโดยนาํ รําขาวสาลีใสในภาชนะท่ีเหมาะสม แลวใหความ
รอ นจนกระทัง่ มีควนั ออกมา ใสต วั ยาท่ไี ดจ ากวิธที ่ี 1 ลงไป คนอยา งรวดเรว็ จนกระทัง่ ผวิ ดานนอกมีสี
เหลอื ง พองออกเลก็ นอย นําออกจากเตา แลว รอ นเอารําขา วสาลอี อก (ใชราํ ขา วสาลี 15 กโิ ลกรัม ตอ ตวั ยา
100 กิโลกรมั )1,3
คุณภาพของตวั ยาจากลักษณะภายนอก:
ตัวยาท่มี ีคุณภาพดี เนอื้ ในเมล็ดมขี นาดใหญ มีเนอื้ มาก และมสี ีขาว4
สรรพคณุ ตามตําราการแพทยแ ผนจีน:
ลูกเดือย รสจืดอมหวาน เยน็ เล็กนอย มีฤทธส์ิ ลายความช้ืน ขบั ปส สาวะ ใชเ ปน ยาขบั ปสสาวะ
แกบวมน้ํา ขาบวม มีฤทธ์เิ สริมบํารุงมาม แกอาการมามพรอ ง ถา ยกระปดกระปรอย บวมน้ํา ทอ งมาน มี
ฤทธ์ิบรรเทาอาการปวดขอ ปวดเม่อื ยกลามเน้ือ แกปวดขอ กลา มเนอื้ บวมตึง เปนตะคริว คลายเสนเอ็น
และมีฤทธ์ริ ะบายความรอน ขับหนอง นํ้าเหลืองเสีย ใชแ กโ รคปอดอกั เสบ ลําไสอกั เสบ ขับหนอง แผลฝ1
ลูกเดือยผัด และลูกเดือยผัดราํ ขาวสาลี จะชว ยใหค ุณสมบตั ิเยน็ หรอื เยน็ มากของลกู เดอื ยเกิด
ความสมดลุ เพมิ่ ฤทธบ์ิ าํ รงุ มามและระงับทองเสยี ใชรกั ษาอาการทองเสียทเ่ี กดิ จากภาวะมามพรอง แก
ทอ งมาน3
สรรพคณุ ตามตาํ ราการแพทยแผนไทย:
ลูกเดอื ย รสมันเยน็ สรรพคุณ แกหลอดลมอกั เสบ แกปอดอกั เสบ ขับปสสาวะ แกน ้าํ คัง่ ใน
ปอด ใชเ ปนอาหารบํารุงกาํ ลังสาํ หรบั คนฟน ไข5
ขนาดทีใ่ ชแ ละวิธีใช:
การแพทยแ ผนจีน ใช 9-30 กรัม ตม เอาน้าํ ด่ืม1
ขอ หามใช ขอควรระวงั และอาการขา งเคยี ง:
ลกู เดอื ยไมเหมาะกบั ผมู ีปญหาทองผูกบอย ปส สาวะบอย หรือมปี ญ หาเก่ยี วกับระบบสืบพันธ6ุ
ขอมลู วิชาการที่เกยี่ วขอ ง:
1. มรี ายงานวา สาร coixol ในลูกเดอื ย มฤี ทธค์ิ ลายอาการเกรง็ ตวั ของกลามเน้ือและปองกนั
การชัก ลดความดนั โลหิตไดช ่วั ขณะ ลดนํา้ ตาลในเลอื ดและลดไข และสาร coixenolide มีฤทธ์ติ า นการ
เจรญิ เตบิ โตของเน้ืองอก7,8
2. น้าํ มันจากลกู เดือย มีประมาณ 5.9-9.8% ซ่งึ ประกอบดว ยสารสาํ คัญคอื coix acid, palmitic
acid นํา้ มันลกู เดอื ยมีฤทธ์ิกระตุนศนู ยการหายใจในสตั วทดลอง (หากใหป รมิ าณสูง ๆ อาจทําใหส ตั วทดลอง
Page 176
166 กรมพฒั นาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลือก
ตายได) ลดความเปลี้ยของรา งกาย ลดความดันโลหิต และขับปส สาวะ7,8
3. จากการศึกษาพิษเฉยี บพลันในหนถู ีบจักร พบวา เม่ือฉีดน้ํามนั จากลูกเดือยเขาทางชอ งทอง
ในขนาด 90 มิลลกิ รัม/ตัว ไมพ บสตั วทดลองตัวใดตายภายใน 24 ชัว่ โมง แตเ มอ่ื ฉีดนํ้ามันดังกลา วเขา
ทางใตผ ิวหนัง พบวาขนาดท่ีทาํ ใหหนูถบี จักรตายคือ 5-10 มิลลกิ รัม/กรมั และขนาดทท่ี าํ ใหก ระตายตาย
เมอ่ื ฉดี เขาทางหลอดเลอื ดดําคอื 1-1.5 กรมั /กิโลกรัม เมอื่ ฉดี สาร coixol เขา ทางชองทองหนถู บี จักรใน
ขนาด 500 มิลลิกรัม/กโิ ลกรมั พบวา แสดงฤทธร์ิ ะงบั ปวดไดชัว่ ขณะ และไมพบสัตวทดลองตวั ใดตาย
และเมอ่ื ใหโดยวิธรี บั ประทานวนั ละ 20, 100, 500 มิลลกิ รมั /กโิ ลกรมั ตดิ ตอ กันนาน 30 วัน ไมพ บ
8
อาการผดิ ปกตใิ ด ๆ และไมมสี ัตวทดลองตัวใดตาย
เอกสารอางอิง
1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I.
English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005.
2. ลนี า ผูพฒั นพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธีรวัฒน บุญทวคี ณุ (คณะบรรณาธิการ). ช่ือพรรณไมแ หงประเทศไทย (เตม็ สมิตินนั ทน
ฉบบั แกไ ขเพ่ิมเติม พ.ศ. 2544). สาํ นกั วิชาการปา ไม. กรมปา ไม. พิมพค รงั้ ท่ี 2. กรงุ เทพมหานคร : บรษิ ทั ประชาชน จาํ กดั , 2544.
3. Gong QF. Zhongyao Paozhi Xue. 2nd ed. Beijing: National Chinese Traditional Medicine Publishing House, 2003.
4. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science &
Technology Publishing House, 2006.
5. วฒุ ิ วฒุ ธิ รรมเวช. คัมภีรเภสชั รัตนโกสินทร. กรงุ เทพมหานคร: บรษิ ทั ศลิ ปสยามบรรจุภัณฑแ ละการพิมพ จํากดั , 2547.
6. บรษิ ัท หลกั ทรัพยจ ัดการกองทนุ กสกิ รไทย จํากัด. มหศั จรรยสมุนไพรจีน. กรงุ เทพมหานคร : บรษิ ทั ซีเอ็ดยเู คชั่น จาํ กดั มหาชน,
2550.
7. ลดั ดาวลั ย บุญรตั นกรกจิ . สมนุ ไพรนาใช. พมิ พค ร้งั ที่ 1. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ แทน ทองปร้ินติ้งเซอรวิส, 2535.
8. Han XZ, Li DH. Semen Coicis: yi yi ren. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern
study of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999.
Page 177
คูมอื การใชส มนุ ไพรไทย-จนี 167
เลบ็ มือนาง: Shijunzi (使君子)
เล็บมือนาง หรือ ส่ือจฺวินจื่อ คือ ผลสุกท่ีทาํ ใหแหงของพืชท่ีมีชื่อวิทยาศาสตรวา Quisqualis
indica L. วงศ Combretaceae1
0.5 เซนติเมตร
เล็บมือนาง (Fructus Quisqualis)
ชื่อไทย: เลบ็ มือนาง (ภาคกลาง); จะม่ัง, จา ม่งั , มะจีมั่ง (ภาคเหนือ); ไทห มอ ง (แมฮ อ งสอน); อะดอนง่ิ
(ยะลา)2
ชื่อจีน: สื่อจฺวินจื่อ (จีนกลาง), ไซกุงจ้ือ (จีนแตจ๋ิว)1
ชื่ออังกฤษ: Rangooncreeper Fruit1
ชื่อเคร่ืองยา: Fructus Quisqualis1
การเก็บเก่ียวและการปฏบิ ตั หิ ลงั การเก็บเกี่ยว:
เกบ็ เก่ยี วผลสุกในฤดใู บไมร ว งเมอ่ื เมลด็ สกุ และเน้ือผลมสี ีมว งดาํ แยกเอาสง่ิ ที่ปะปนมาทิ้ง ตาก
แดดหรอื ทาํ ใหแ หงที่อุณหภมู ติ าํ่ เก็บรกั ษาไวในทม่ี อี ากาศเยน็ และแหง มกี ารระบายอากาศด1ี
การเตรียมตัวยาพรอมใช:
การเตรยี มตวั ยาพรอ มใชม ี 3 วธิ ี ดังนี้
วิธีที่ 1 เล็บมือนาง เตรียมโดยนําวัตถดุ บิ สมุนไพรมาคัดเอาส่ิงปนปลอมและกา นผลออก ทบุ ให
แตกกอนใช1 ,3
Page 178
168 กรมพฒั นาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลอื ก
วธิ ที ี่ 2 เนอ้ื ผลเลบ็ มือนาง เตรียมโดยนาํ ตัวยาท่ไี ดจากวิธีที่ 1 มากะเทาะเอาเปลือกออก ใช
1,3
เฉพาะสวนเนื้อผล ทุบใหแตกกอนใช
วิธที ี่ 3 เนื้อผลเล็บมอื นางผัด เตรียมโดยนาํ ตวั ยาท่ีไดจ ากวิธที ่ี 2 ใสก ระทะ ผดั โดยใชไฟระดับ
ปานกลาง ผัดจนกระทั่งผวิ นอกมสี เี หลอื งและมีจุดดาํ เกรยี ม มีกลน่ิ หอม นาํ ออกจากเตา ตง้ั ทิง้ ไวใ หเ ย็น
ทุบใหแตกกอนใช1,3
คุณภาพของตวั ยาจากลักษณะภายนอก:
ตัวยาที่มคี ณุ ภาพดี ผลตอ งมีขนาดใหญ ผิวนอกสนี ้าํ ตาลมวง เนอื้ ผลอวบอิ่ม4
สรรพคุณตามตําราการแพทยแ ผนจีน:
เล็บมือนาง รสหวานเลก็ นอ ย มฤี ทธิ์ฆา พยาธิและชว ยใหก ารยอยอาหารดขี ้ึน ใชถ า ยพยาธไิ สเ ดือน
และพยาธเิ สน ดาย1
เน้อื ผลเล็บมือนาง มีสรรพคุณและการใชเหมือนเล็บมือนาง โดยทวั่ ไปเลบ็ มือนางจะใชใ น
รปู แบบของยาตม หากเตรียมเปนยาผงหรอื ยาเมด็ จะใชเน้อื ผลเลบ็ มอื นาง3
เนอื้ ผลเล็บมอื นางผดั จะชว ยลดอาการขา งเคยี งทเ่ี กดิ จากการหดเกรง็ ของกลามเนื้อกระบงั ลม
มีฤทธ์ชิ ว ยใหม ามแข็งแรง การยอ ยอาหารดีขึน้ และฆาพยาธิ สว นใหญใชรกั ษาอาการปวดทอ งเนื่องจาก
พยาธไิ สเดือนและพยาธเิ สน ดายในเด็ก3
สรรพคุณตามตําราการแพทยแ ผนไทย:
เล็บมือนาง รสเอยี น เบอื่ เลก็ นอ ย ใชข ับพยาธแิ ละตานซาง5
ขนาดทีใ่ ชแ ละวธิ ใี ช:
การแพทยแ ผนจนี ใช 9-12 กรัม ตม เอาน้ําดม่ื หรือเนือ้ ในผล 6-9 กรัม ทาํ เปน ยาลูกกลอน
หรอื เปนยาผงรับประทานครัง้ เดยี ว หรือแบง รบั ประทานเปน 2 ครัง้ 1
การแพทยแผนไทย ใชถา ยพยาธิไสเ ดือนและพยาธเิ สนดาย สาํ หรับเด็กใช 2-3 เมล็ด (หนกั 4-
6 กรมั ) ผใู หญใ ช 5-7 เมล็ด (หนัก 10-15 กรัม) ทบุ พอแตก ตมเอาน้ําด่ืมหรือห่ันทอดกับไขร ับประทาน5
เมล็ดใชตําเปนผงละเอียด ใชร กั ษาโรคผวิ หนังโดยผสมกบั นํ้ามันพชื 6
ขอหา มใช ขอ ควรระวงั และอาการขา งเคียง:
การแพทยแ ผนจีน หามใชเลบ็ มอื นางรวมกบั นํา้ ชาเขมขน เนอ่ื งจากจะลบลา งฤทธกิ์ ัน1
การแพทยแผนไทย ควรระมัดระวงั ในการใชเ ลบ็ มือนาง เพราะอาจทาํ ใหเ กดิ อาการขา งเคียง คือ
สะอกึ เวยี นศีรษะ คลื่นไส อาเจียน เปนตน 5
Page 179
คมู อื การใชสมนุ ไพรไทย-จนี 169
ขอมูลวิชาการที่เกีย่ วของ:
1. เมลด็ เล็บมือนางประกอบดว ยน้าํ มันและสาร quisqualic acid (กรดอะมิโน) และ D-manitol
พบวาสารสําคัญซงึ่ ออกฤทธขิ์ ับพยาธิคอื quisqualic acid และยังมีรายงานฤทธขิ์ บั ถา ยอยา งแรงของนํา้ มัน
ในเมลด็ เล็บมือนางดวย5
2. การศึกษาความเปนพิษของเมล็ดเลบ็ มอื นางพบวา เมื่อใหสารสกดั นํา้ จากเมลด็ เล็บมือนาง
แกหนถู บี จกั รทางปากไมท าํ ใหเกดิ พิษเฉียบพลัน และขนาดเมล็ดเลบ็ มือนางที่ทาํ ใหสตั วท ดลองตายรอย
ละ 50 (LD50) มคี ามากกวา 20 กรมั /กิโลกรัม จากการทดสอบพิษกึ่งเฉียบพลนั ในหนูแรทพันธุวิสตาร
โดยใหส ารสกดั เทียบเทาเมล็ดเลบ็ มอื นางขนาด 0.2, 2.0, 6.0, 10.0 และ 20.0 กรมั /กโิ ลกรมั /วัน ทาง
ปากติดตอ กนั เปนเวลา 60 วนั เปรยี บเทียบกับกลุม ควบคมุ ท่ีไดร ับนํ้าพบวา เมอื่ ไดร บั สารสกดั เทยี บเทา
เมล็ดเล็บมือนางขนาด 6.0, 10.0 และ 20.0 กรมั /กโิ ลกรมั /วนั เปน เวลา 2 วัน สตั วท ดลองแสดงอาการ
ท่ีเกิดจากความเปน พษิ ตอ ระบบประสาท โดยมีอาการท่ีสาํ คญั คือ ชักกระตกุ รวมกบั ชักเกรง็ ตอมาหยุด
หายใจและตาย หนูเพศผูตายจากอาการพิษ คิดเปนรอยละ 26, 53 และ 80 ในเพศเมียคิดเปนรอยละ
0, 6 และ 80.0 ตามลาํ ดบั ขนาดยา และตอมากลุม ท่ีไดรบั สารสกดั ขนาดสูงสดุ คอื 20.0 กรมั /กโิ ลกรัม/
วนั นาน 3 วันตายหมด หนทู ี่ไดร บั สารสกัดเมล็ดเล็บมอื นางครบ 60 วนั มีการเจริญเตบิ โตและการกิน
อาหารไมตา งจากกลุมควบคุม การเปล่ียนแปลงคาทางโลหิตวทิ ยาและคาทางชวี เคมีของซรี ั่มตรวจพบได
ในหนทู ี่ไดร บั สารสกัดบางกลมุ อยา งไมสมั พันธกบั ขนาดของสารสกดั จงึ ไมส ามารถกลาวไดว า เกดิ จาก
สารสกดั โดยตรง ผลการตรวจเน้ือเยือ่ อวยั วะภายในทางจุลพยาธวิ ทิ ยา ไมพ บการเปล่ยี นแปลงท่ีสรุปได
7
วา เกิดจากความเปนพิษของสารสกดั จากเมลด็ เลบ็ มอื นาง
เอกสารอางอิง
1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I.
English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005.
2. ลนี า ผพู ฒั นพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธรี วัฒน บญุ ทวคี ณุ (คณะบรรณาธกิ าร). ชอ่ื พรรณไมแ หง ประเทศไทย (เตม็ สมติ ินนั ทน
ฉบับแกไขเพิม่ เตมิ พ.ศ. 2544). สํานกั วชิ าการปา ไม. กรมปา ไม. พมิ พค ร้งั ที่ 2. กรุงเทพมหานคร : บรษิ ทั ประชาชน จาํ กดั , 2544.
3. Gong QF. Zhongyao Paozhi Xue. 2nd ed. Beijing: National Chinese Traditional Medicine Publishing House, 2003.
4. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science &
Technology Publishing House, 2006.
5. กนั ทิมา สทิ ธธิ ัญกิจ, พรทิพย เติมวเิ ศษ (คณะบรรณาธกิ าร). คูมอื ประชาชนในการดูแลสุขภาพดว ยการแพทยแผนไทย. พิมพครั้งที่ 2
กรงุ เทพมหานคร : สํานักงานกิจการโรงพมิ พอ งคก ารทหารผา นศึกในพระบรมราชูปถัมภ, 2547.
6. พเยาว เหมอื นวงษญาต.ิ สมุนไพรกาวใหม. พมิ พค รั้งที่ 2. กรงุ เทพมหานคร : บริษทั ที.พ.ี พริน้ จํากดั , 2537.
7. ทรงพล ชีวพฒั น, ปราณี ชวลิตธาํ รง, ปราณี จนั ทเพ็ชร. ความเปนพิษของเมล็ดเล็บมือนาง ในประมวลผลงานวจิ ยั ดา นพิษวิทยาของ
สถาบันวจิ ัยสมนุ ไพร กรมวิทยาศาสตรการแพทย กระทรวงสาธารณสขุ ., 2550.
Page 180
170 กรมพฒั นาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลอื ก
วา นพรา ว : Xianmao (仙茅)
วานพรา ว หรอื เซียนเหมา คอื เหงา แหงของพืชท่ีมีชือ่ วทิ ยาศาสตรว า Curculigo orchioides
Gaertn. วงศ Amaryllidaceae1
1 เซนตเิ มตร
วานพราว (Rhizoma Curculiginis)
ช่ือไทย: วานพราว (ภาคเหนือ)2
ชื่อจีน: เซียนเหมา (จีนกลาง), เซียงเมา (จีนแตจิ๋ว)1
ชื่ออังกฤษ: Common Curculigo Rhizome1
ชื่อเครื่องยา: Rhizoma Curculiginis1
การเก็บเกีย่ วและการปฏบิ ตั หิ ลงั การเก็บเก่ียว:
เก็บเก่ียวเหงาในฤดูใบไมรวงหรือฤดูหนาวเม่ือสวนเหนือดินเหี่ยวแหงกอนแตกตา แยกเอา
สวนรากฝอยและใบและทิ้ง ลางน้ําใหสะอาด ตากแดดใหแหง เกบ็ รักษาไวใ นทม่ี ีอากาศเย็นและแหง มี
การระบายอากาศดี1
การเตรียมตัวยาพรอมใช:
การเตรียมตัวยาพรอ มใชม ี 2 วธิ ี ดังน้ี
วธิ ีที่ 1 วา นพราว เตรยี มโดยนาํ วตั ถดุ ิบสมุนไพรมาลา งนาํ้ ใหสะอาด ใสภาชนะปดฝาไวเพื่อให
ออนนุม หั่นเปนทอ น และนาํ ไปตากแหง 1,3
วธิ ที ี่ 2 วา นพรา วผัดเหลา เตรยี มโดยนาํ ตวั ยาท่ไี ดจากวิธีท่ี 1 ใสใ นภาชนะทีเ่ หมาะสม เตมิ เหลา
เหลืองปริมาณพอเหมาะ แลวคลุกเคลา ใหเขา กัน จนกระทัง่ เหลาแทรกซึมเขาไปในเนื้อตวั ยา จากนัน้ นําไป
Page 181
คมู ือการใชส มุนไพรไทย-จนี 171
ผดั โดยใชไ ฟระดบั ปานกลาง ผัดจนแหง นาํ ออกจากเตา ตากใหแหง ในทีร่ ม (ใชเ หลา เหลือง 10 กิโลกรมั
ตอ ตวั ยา 100 กโิ ลกรมั )3
คณุ ภาพของตวั ยาจากลักษณะภายนอก:
ตวั ยาทม่ี ีคุณภาพดี ผิวนอกสนี ํา้ ตาลเขม หรือสนี ้ําตาลดาํ คุณสมบตั แิ ขง็ แตเ ปราะ หักงายแต
ดา นหนา ตัดจะไมเ รยี บ มีกลิน่ หอมออ น ๆ รสเผ็ด4
สรรพคุณตามตําราการแพทยแ ผนจีน:
วานพรา ว รสเผด็ รอน มฤี ทธิใ์ หค วามอบอุนและเสรมิ หยางของระบบไต แกห ยางของไตไมพ อ
ธาตไุ ฟนอย (เชน อวัยวะเพศไมแขง็ ตวั นาํ้ อสจุ ิเย็น ปสสาวะรดท่ีนอน ปสสาวะบอย) มีฤทธบิ์ าํ รงุ เสน
เอน็ และกระดูก แกร ะบบไตออ นแอ เขาและเอวออนแรง ปวดเสนเอน็ และกระดูก การปวดและการชา
เรื้อรังจากความเย็นและความชื้น และมีฤทธิ์ขับความเย็นและความชื้น แกหยางของมามและไตพรอง
หนาทอ งและทอ งนอ ยเย็นและปวด ถา ยทอง1
วานพราวผัดเหลา จะชวยลดพิษของสมุนไพร เพิ่มฤทธ์ิในการบํารุงหยางของไต เสริมความ
แขง็ แรงของเสน เอ็นและกระดกู รวมทง้ั ขบั ความเย็นและความช้ืนไดด ี เหมาะสาํ หรบั ผูป วยทม่ี อี าการหยอ น
3
สมรรถภาพทางเพศ ปวดเสนเอ็นและกระดูก และปสสาวะบอ ย
สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแผนไทย:
วานพราวมสี รรพคุณเปนยาชกั มดลูก เชน สตรคี ลอดบุตรใหม ๆ มดลูกลอยเพราะความอักเสบ
ชว ยใหม ดลกู เคลื่อนไหวกลับทเ่ี ดมิ ใหเปน ปกติ5
ขนาดที่ใชและวิธใี ช:
การแพทยแผนจีน ใช 3-9 กรมั 1
ตมเอาน้ําดื่ม
ขอหา มใช ขอ ควรระวงั และอาการขา งเคยี ง:
วา นพราวเปนสมุนไพรท่มี พี ษิ หา มใชใ นผูปว ยทีม่ อี าการรอ นใน1
ขอ มลู วิชาการท่เี ก่ียวของ:
1. สารสกดั แอลกอฮอลเมอ่ื ใหท างชอ งทอ งหนถู บี จกั รในขนาด 10 กรัม/กโิ ลกรมั พบวาสามารถ
เพม่ิ ฤทธขิ์ องยา pentobarbital sodium ใหนอนหลบั นานข้นึ และชว ยเพิ่มฤทธข์ิ องยา picrotoxin หรอื
cocculin ใหลดอาการตนื่ ตระหนกตกใจลง นอกจากนีส้ ารสกดั ดงั กลาวยังแสดงฤทธ์ติ านการอกั เสบที่
เกิดจากนํ้ามนั สลอดดว ย6
Page 182
172 กรมพัฒนาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลือก
2. สารสกัดแอลกอฮอลเ ม่ือใหท างปากหนูถีบจกั รในขนาด 10 และ 20 กรัม/กโิ ลกรมั วนั ละครง้ั
ติดตอกันนาน 8 วัน พบวาไมสามารถเพ่ิมเซลลเม็ดเลอื ดขาวชนิดลิมโฟชัยตในหนปู กติ แตส ามารถรกั ษา
ภาวะภูมิคุมกันบกพรอ งในหนทู ไ่ี ดร บั สารกดภมู คิ ุม กัน6
3. การศึกษาพิษเฉียบพลันโดยใหสารสกัดนาํ้ ทางปากหนูถีบจักรในขนาด 150 กรัม/กิโลกรัม
พบวาไมม ีสัตวท ดลองตัวใดตายภายใน 7 วัน แสดงวาวานพรา วมพี ิษตํ่ามาก6
เอกสารอางองิ
1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I.
English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005.
2. ลนี า ผพู ฒั นพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธรี วัฒน บุญทวคี ุณ (คณะบรรณาธกิ าร). ชือ่ พรรณไมแ หง ประเทศไทย (เตม็ สมติ ินนั ทน
ฉบับแกไขเพมิ่ เติม พ.ศ. 2544). สาํ นกั วชิ าการปา ไม. กรมปา ไม. พมิ พค รงั้ ท่ี 2. กรงุ เทพมหานคร : บรษิ ัท ประชาชน จาํ กัด, 2544.
3. Gong QF. Zhongyao Paozhi Xue. 2nd ed. Beijing: National Chinese Traditional Medicine Publishing House, 2003.
4. Mei XH. Shiyong Zhongyao Paozhi Zhinan. 1st ed. Hubei: Hubei Science & Technology Publishing House, 2005.
5. เสงี่ยม พงษบ ุญรอด. ไมเ ทศ เมืองไทย. กรงุ เทพมหานคร : เกษมบรรณกจิ , 2514.
6. Di L. Rhizoma Curculigo: xian mao. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study
of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999.
Page 183
คมู อื การใชสมุนไพรไทย-จีน 173
วา นน้ํา : Zangchangpu (藏菖蒲)
วานนํ้า หรือ จั้งชางผู คือ เหงาแหงของพืชท่ีมีชื่อวิทยาศาสตรวา Acorus calamus L. วงศ
Araceae1
2 เซนติเมตร
วานน้ํา (Rhizoma Acori Calami)
ชื่อไทย: วานนา้ํ , วานน้ําเล็ก, ฮางคาวผา (เชียงใหม); ทิสีปุคอ (แมฮองสอน); ตะไครนํ้า (แพร);
ไครนา้ํ (เพชรบูรณ); คาเจ้ียงจี้, ผมผา, สมชื่น, ฮางคาวนาํ้ , ฮางคาวบาน (ภาคเหนือ)2
ช่ือจีน: จั้งชางผู (จีนกลาง), เจี่ยงเชียงพู (จีนแตจ๋ิว)1
ชื่ออังกฤษ: Tibet Sweetflag Rhizome1
ชื่อเคร่ืองยา: Rhizoma Acori Calami1
การเกบ็ เก่ยี วและการปฏิบัตหิ ลังการเก็บเก่ียว:
เก็บเกี่ยวเหงาในฤดูใบไมรวงและฤดูหนาว แยกเอารากฝอยและดินท้ิง ตากใหแหง เกบ็
รักษาไวในทีม่ ีอากาศเย็นและแหง มีการระบายอากาศดี1
การเตรียมตัวยาพรอมใช:
หลงั เกบ็ เกยี่ วสมนุ ไพรแลว แยกส่งิ อน่ื ทปี่ ะปนออก ลา งนาํ้ ใหส ะอาด จากนน้ั นาํ ไปใสใ นภาชนะ
ทีเ่ หมาะสม คลุมดวยผา ขาวบาง ต้งั ทิ้งไวจ นตัวยาออนนมุ ห่นั เปนแวนเฉียง ๆ หรือหนั่ ตามขวาง ทาํ ให
แหง ในท่ีรมหรือตากแดด1,3
Page 184
174 กรมพัฒนาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลอื ก
คุณภาพของตัวยาจากลักษณะภายนอก:
ตัวยาที่มีคุณภาพดี ดานหนาตัดตองมีสีออกขาว กล่ินหอมฉุน5
สรรพคุณตามตําราการแพทยแผนจีน:
วานนํ้า รสขมเผ็ด สุขุม มีฤทธิ์ขับลม ขับเสมหะ สงบประสาท ใชรักษาอาการไอ ต่ืนเตนลืม
งาย สลึมสลือ บิด ทองเสีย ทองอืด อาหารไมยอย ปวดขอ แผลฝหนอง และขับพยาธิ1,6
สรรพคุณตามตําราการแพทยแผนไทย:
เหงา มีกลิ่นหอม รสรอน สรรพคุณเปนยาแกบิด แกปวดทอง แกทองอืดทองเฟอ แนนจุก
เสียด ขับลมในกระเพาะอาหารและลาํ ไส ขับเสมหะ แกไอ ระงับประสาท แกปวดตามขอ แกแผลฝ
หนอง ขับพยาธิ แกปวดฟน เลือดออกตามไรฟน7-8
ขนาดที่ใชและวิธีใช:
การแพทยแผนจีน ใช 3-6 กรัม ตมเอานํ้าด่ืม ใชภายนอก ตมเอาน้าํ ชะลางหรือบดเปนผง
ผสมทา1,5
ขอหามใช ขอควรระวัง และอาการขางเคียง:
การแพทยแผนจีน ควรระมัดระวังในการใชในผูปวยที่เหง่ือออกบอย ๆ หรือเหงื่อออกงาย5
การแพทยแ ผนไทย หา มกินมากกวา ครั้งละ 2 กรัม เพราะจะทําใหอาเจียน (อาจใชป ระโยชนใ น
กรณีผูปวยกนิ สารพิษ และตอ งการขับสารพิษออกจากทางเดินอาหารดว ยการทําใหอ าเจยี น)9
ขอมูลวิชาการท่ีเก่ียวของ:
1. นํ้ามนั หอมระเหย และสารสกัดนํา้ มีฤทธ์ลิ ดการเคลื่อนไหวของหนทู ีท่ ดลอง น้ํามันหอมระเหย
สามารถเพม่ิ ฤทธส์ิ งบประสาทและทําใหน อนหลับของโซเดยี มเพนโทบารบทิ าล ไลเซอจิกแอสิดไดเอทิลเอ
ไมด และไดเบนซลิ นี เสริมฤทธข์ิ องรีเซอปนในการลดพษิ ของแอมเฟทามีนในหนู รวมทง้ั มีฤทธิบ์ รรเทา
ปวด และปองกนั หนูชกั จากการทดลองชอ็ คดว ยไฟฟา สารสกัดแอลกอฮอลจากเหงา มีฤทธค์ิ ลา ยกนั สามารถ
เพ่ิมฤทธ์ิของยาชาเฉพาะที่ และสามารถลดพษิ ของแอมเฟทามีนในหนทู ี่ทดลองได5
2. นํ้ามนั หอมระเหย สารสกดั แอลกอฮอล และสารสกดั น้ําจากเหงาสามารถลดความดนั โลหิต
ของสตั วทดลองที่สลบได สารสกัดน้ํามีฤทธ์ิกดการเตน ของหัวใจ น้าํ มันหอมระเหยสามารถลดอัตราการ
เตน ของหัวใจสนุ ขั และกบ5
3. น้าํ มนั หอมระเหยจากเหงามีฤทธิ์ระงบั อาการไอที่เกดิ จากการกระตุนดวยซัลเฟอรไ ดออกไซด
ในหนทู ดลอง ฤทธ์ิระงับอาการไอนีเ้ ดนชดั มาก และจากการทดลองใชหลอด capillary ตอ หลอดลมเพอื่
Page 185
คมู ือการใชสมุนไพรไทย-จีน 175
วดั ปรมิ าตรของเมือกสารทขี่ บั ออกมาในหลอดลมของกระตาย พบวา นํา้ มนั หอมระเหยแสดงฤทธิข์ บั เสมหะ5
4. นํ้าคน้ั จากเหงา สดสามารถเพิ่มการหลงั่ กรดในกระเพาะอาหาร โดยเฉพาะในคนที่มกี รดใน
กระเพาะอาการนอย ยาเตรยี มจากเหงาวา นนาํ้ ใชเปนยาเจริญอาหาร ชว ยใหอยากอาหาร ทาํ ใหการยอ ย
อาหารดีขึน้ และน้ํามันระเหยงายในขนาดนอย ๆ จะมีฤทธ์ิขบั ลม5
5. นํา้ มนั หอมระเหย สารสกดั นํา้ และสารสกดั แอลกอฮอลม ีฤทธล์ิ ดอุณหภูมใิ นสตั วท ดลอง
นํ้ามันหอมระเหยในขนาด 10 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร สามารถยับยัง้ การเจริญของเชือ้ วัณโรคได สารสกัด
แอลกอฮอลส ามารถยบั ยัง้ การเจรญิ ของเช้อื ราได มีบางรายงานวาสามารถใชเ ปนยาขบั และฆา พยาธไิ ด5
6. จากการศึกษาพษิ เฉียบพลนั ในหนูถีบจกั รของสารสกัด 50% แอลกอฮอลจากเหงา วานนาํ้
พบวา คา LD50 มคี า มากกวา 10 กรมั /กโิ ลกรัม เมอ่ื ใหโดยการปอนหรอื ฉดี เขา ใตผ วิ หนงั 10
เอกสารอางอิง
1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I.
English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005.
2. ลีนา ผพู ัฒนพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธีรวฒั น บุญทวีคุณ (คณะบรรณาธกิ าร). ชอ่ื พรรณไมแหง ประเทศไทย (เตม็ สมติ ินนั ทน
ฉบับแกไ ขเพิม่ เติม พ.ศ. 2544). สํานกั วิชาการปา ไม. กรมปา ไม. พิมพครง้ั ท่ี 2. กรุงเทพมหานคร : บริษทั ประชาชน จํากัด, 2544.
3. Lei GL, Dun BS. Zhongyao Paozhi Jishu Zhinan. 1st ed. Xian: World Library Publishing House, 2002.
4. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science &
Technology Publishing House, 2006.
5. ชยั โย ชยั ชาญทพิ ยุทธ, วชิรา แดนตะวัน, สถาพร ล้มิ มณี, ชะนะ ครองรักษา, ทิพวลั ย ทรัพยเจริญ. สมนุ ไพร อันดับที่ 3: การ
รวบรวมขอ มูลเบ้อื งตนสาํ หรบั งานวิจยั ของโครงการศกึ ษาวิจัยสมนุ ไพร. กรุงเทพมหานคร : จฬุ าลงกรณมหาวิทยาลยั , 2527.
6. สถาบนั วิจยั วิทยาศาสตรและเทคโนโลยแี หงประเทศไทย. PROSEA: ทรัพยากรพืชในภมู ิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต 12(1) พชื
สมนุ ไพรและพืชพษิ เลม 1. นนทบุรี : สหมติ รพร้ินต้ิง, 2546.
7. พเยาว เหมือนวงษญาติ. สมุนไพรกา วใหม. พิมพค ร้งั ที่ 2. กรงุ เทพมหานคร : บริษทั ท.ี พ.ี พริ้น จํากัด, 2537.
8. ชยนั ต วิเชยี รสุนทร, แมน มาส ชวลิต, วเิ ชียร จรี วงศ. คาํ อธบิ ายตาํ ราพระโอสถพระนารายณ. พมิ พคร้ังท่ี 2. กรุงเทพมหานคร :
สาํ นักพมิ พอมรนิ ทร, 2548.
9. พรอ มจติ ศรลัมภ, วงศส ถติ ย ฉว่ั กุล, สมภพ ประธานธุรารักษ (คณะบรรณาธิการ). สมุนไพรสวนสิรรี ุกขชาติ สารานุกรมสมุนไพร
เลม 1. พิมพครง้ั ที่ 3. กรงุ เทพมหานคร : บริษัท อมรินทรพริ้นตง้ิ แอนดพบั ลิชชิ่ง จํากดั (มหาชน), 2543.
10. มงคล โมกขะสมิต, กมล สวัสดีมงคล, ประยุทธ สาตราวาหะ. การศึกษาพิษของสมนุ ไพรไทย. ใน: ปราณี ชวลิตธาํ รง, ทรงพล
ชวี ะพัฒน, เอมมนัส อตั ตวิชญ (คณะบรรณาธกิ าร). ประมวลผลงานวจิ ัยดานพิษวิทยาของสถาบันวิจัยสมนุ ไพร เลม 1. พิมพคร้ังท่ี 1.
กรมวทิ ยาศาสตรการแพทย กระทรวงสาธารณสุข. กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พก ารศาสนา, 2546.
Page 186
176 กรมพฒั นาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลือก
สายน้าํ ผงึ้ : Jinyinhua (金银花)
สายนํ้าผง้ึ หรือ จนิ อ๋ินฮวา คือ ดอกตูมหรือดอกเริ่มบานทที่ ําใหแ หง ของพืชทม่ี ีช่อื วิทยาศาสตรวา
Lonicera japonica Thunb. หรือ L. hypoglauca Miq. หรือ L.confusa DC. หรือ L. dasystyla
Rehd. วงศ Caprifoliaceae1
0.5 เซนติเมตร
สายนํา้ ผึ้ง (Flos Lonicerae)
ช่ือไทย: สายน้ําผ้ึง (กรุงเทพฯ)2
ชื่อจีน: จินอ๋ินฮวา (จีนกลาง), กิมหงึ่งฮวย (จีนแตจิ๋ว)1
ช่ืออังกฤษ: Honeysuckle Flower1
ชื่อเคร่ืองยา: Flos Lonicerae1
การเก็บเก่ียวและการปฏิบตั หิ ลังการเกบ็ เก่ียว:
เกบ็ เก่ียวดอกตูมหรอื ดอกเร่ิมออกในตนฤดรู อ น ผง่ึ ในทีร่ มแลวนําไปตากแดดใหแหง เก็บรกั ษา
ไวในทม่ี อี ากาศเย็นและแหง มีการระบายอากาศดี1
การเตรียมตัวยาพรอมใช:
การเตรียมตวั ยาพรอ มใชม ี 2 วธิ ี ดงั นี้
วธิ ีที่ 1 ดอกสายนาํ้ ผงึ้ เตรยี มโดยนําวตั ถดุ บิ สมุนไพรมาคัดแยกเอาสิ่งปนปลอมออก รอ นเอา
3
ฝนุ และเศษเลก็ ๆ ออก
วธิ ที ี่ 2 ดอกสายนาํ้ ผึง้ ถา น เตรยี มโดยนําตัวยาทีไ่ ดจ ากวิธีท่ี 1 ใสก ระทะ นําไปผดั โดยใชไ ฟ
ระดับปานกลาง ผดั จนกระทงั่ ผวิ นอกสีนาํ้ ตาลดํา พรมนาํ้ เลก็ นอย นําออกจากเตา ตงั้ ทงิ้ ไวใ หเย็น แลว นาํ ไป
Page 187
คมู อื การใชสมนุ ไพรไทย-จีน 177
ตากแหง ในท่รี ม3
คุณภาพของตัวยาจากลักษณะภายนอก:
ตัวยาที่มีคุณภาพดี ตองมีปริมาณดอกมาก สีเหลืองอมขาว กลิ่นหอมจรุงใจ4
สรรพคุณตามตําราการแพทยแผนจีน:
ดอกสายนาํ้ ผ้ึง รสอมหวาน เย็น มีฤทธ์ิระบายความรอน แกหวัดจากการกระทบลมรอน
ระบายความรอ น ขบั พษิ มีฤทธข์ิ บั พิษ แกแ ผลฝ แผลเปอ ย บวม (มกั ใชภ ายนอก) และมฤี ทธิ์ผอนคลาย
และกระจายความรอน ใชแกบิด มีพิษรอน ถายบิดเปนมูกเลือด1
ดอกสายนาํ้ ผง้ึ ถา น มีสรรพคณุ แกถ า ยบิดเปนมูกเลือด สตรีทีม่ ีอาการตกเลอื ด อาเจยี นเปน
เลอื ด และเลือดกาํ เดาไหล3
สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแผนไทย:
ดอกสายน้ําผึ้ง รสหวานเย็น สรรพคุณเจริญอาหาร เปนยาอายุวัฒนะ ขับปสสาวะ แกไข
แกปวดหลัง แกความดันโลหิตสูง5
ขนาดท่ีใชและวิธีใช:
การแพทยแผนจีน ใช 6-15 กรัม ตมเอาน้ําดื่ม1
การแพทยแผนไทย ค้ันหรือใชดอกแหงชงดื่มแทนน้ําชา5
ขอมูลวิชาการท่ีเกี่ยวของ:
1. มีรายงานวาดอกสายน้าํ ผึ้งมีฤทธิ์ตานเชื้อแบคทีเรียและเช้ือไวรัสหลายชนิด ไดแก เชื้อ
Staphylococcus aureus, Hemolytic streptococcus, Pneumococcus, Typhoid bacillus, Influenza
virus, Herpes virus, C virus ECHO19 virus โดยสารสกัดนํ้าที่ไดโดยวิธีแชจะมีฤทธิ์แรงกวาสาร
สกัดนา้ํ ที่ไดโดยวิธีตม นอกจากน้ีดอกสายน้ําผึ้งมีฤทธิ์ตานเชื้อราโรคผิวหนังได6
2. ดอกสายน้าํ ผ้ึงมีฤทธล์ิ ดไข ตา นการอกั เสบ ตานอนมุ ูลอิสระ ลดไขมนั ในเลอื ด และหามเลือด6
3. การศึกษาทางคลินิกพบวา ดอกสายน้าํ ผ้ึงเมื่อใชเดี่ยว หรือใชเปนสวนประกอบของยา
ตาํ รับที่ใชรักษาโรคเก่ียวกับทางเดินหายใจในทารก การอักเสบที่เกิดขึ้นที่ทางเช่ือมระหวางปากและ
คอหอย การติดเช้ือท่ีเกิดจากเชื้อปรสิตตระกูล Treponemataceae การติดเช้ือท่ีเกิดจากการผาตัด
การอักเสบชนิดเฉียบพลัน โรคผิวหนังโดยเฉพาะที่เกิดจากหนังแท โรคซาร และลาํ ไสเล็กอักเสบ7
4. การศึกษาพษิ เฉยี บพลนั ของสารสกดั นํา้ เมอ่ื ฉดี เขา ใตผวิ หนงั ของหนถู บี จกั ร มคี า LD50เทากบั
53 กรมั /กิโลกรมั 6
Page 188
178 กรมพัฒนาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลือก
เอกสารอางอิง
1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I.
English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005.
2. ลนี า ผูพ ัฒนพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธีรวฒั น บุญทวคี ณุ (คณะบรรณาธกิ าร). ชือ่ พรรณไมแหงประเทศไทย (เต็ม สมิตินนั ทน
ฉบับแกไขเพมิ่ เติม พ.ศ. 2544). สาํ นักวชิ าการปา ไม. กรมปา ไม. พิมพค รงั้ ที่ 2. กรุงเทพมหานคร : บรษิ ทั ประชาชน จาํ กัด, 2544.
3. Lei GL, Dun BS. Zhongyao Paozhi Jishu Zhinan. 1st ed. Xi-an: World Library Publishing House, 2002.
4. Mei XH. Shiyong Zhongyao Paozhi Zhinan. 1st ed. Hubei: Hubei Science & Technology Publishing House, 2005.
5. วุฒิ วฒุ ิธรรมเวช. คัมภรี เ ภสัชรตั นโกสินทร. กรุงเทพมหานคร : บริษทั ศิลปส ยามบรรจภุ ัณฑแ ละการพิมพ จาํ กัด, 2547.
6. Deng WL. Flos Lonicerae: jin yin hua. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study
of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999.
7. Deng JG, Wei SJ. Genuine and well-reputed medicinal materials in Guangxi. 1st ed. Beijing: Zhongguo Zhongyi
Yao Publishing House, 2007.
Page 189
คมู ือการใชส มนุ ไพรไทย-จนี 179
สีเสียด : Ercha (儿茶)
สเี สยี ด หรอื เออ ฉา คือ สว นสกดั นาํ้ ท่ีเตรียมจากลําตนและกิง่ ทป่ี อกเปลือกออกแลว ของพืชท่ีมี
ชอ่ื วิทยาศาสตรวา Acacia catechu (L.f.) Willd. วงศ Leguminosae1
3 เซนติเมตร
สีเสียด (Catechu)
ช่ือไทย: สีเสียด, ขี้เสียด (ภาคเหนือ); สีเสียดแกน (ราชบุรี); สีเสียดเหนือ (ภาคกลาง); สีเสียด
เหลือง (เชียงใหม)2
ช่ือจีน: เออฉา (จีนกลาง), หย่แี ต (จนี แตจ๋วิ )1
ช่ืออังกฤษ: Cutch Black Catechu1
ชื่อเคร่ืองยา: Catechu1
การเกบ็ เกี่ยวและการปฏิบตั หิ ลังการเกบ็ เกี่ยว:
เกบ็ เก่ยี วกิ่งและลําตน ในฤดูหนาว ปอกเปลอื กออก หนั่ เปน ชิ้นใหญ ๆ ใสน ้ําใหทว ม เคย่ี ว 5-6
ชั่วโมง ยางจะถกู สกดั ออกมา เปน สนี ํา้ ตาลดํา ขน ๆ คลา ยนํา้ ตาลทเ่ี ค่ียวจนงวด เทลงพิมพตามตองการ
เมอื่ เยน็ จะแขง็ มีลักษณะเปนกอนสนี ้าํ ตาลดํา เกบ็ รักษาไวใ นทมี่ ีอากาศเย็นและแหง มกี ารระบายอากาศ
ด1ี ,3
การเตรยี มตัวยาพรอ มใช:
หลังเกบ็ เกีย่ วสมุนไพรแลว แยกสง่ิ อ่ืนทป่ี ะปนออก รอ นเอาเศษเลก็ ๆ ออก ทบุ ใหแ ตกหรอื บด
ใหล ะเอียดกอ นใช1 ,4
Page 190
180 กรมพัฒนาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลือก
คณุ ภาพของตวั ยาจากลักษณะภายนอก:
ตัวยาท่มี คี ณุ ภาพดี ดานนอกมีสีนํ้าตาลเขมถึงสนี ํ้าตาลดํา ผิวเรยี บเปน มัน แข็งและแตกหกั งา ย
ปราศจากส่งิ ปนปลอม5
สรรพคณุ ตามตําราการแพทยแ ผนจีน:
สเี สียด รสฝาด มฤี ทธิ์ชวยใหเนอ้ื เย่ือทเ่ี กิดใหมเจริญเตบิ โต ชว ยสมานแผล แกแ ผลในปาก แก
ทอ งเสีย1
สรรพคณุ ตามตาํ ราการแพทยแ ผนไทย:
สเี สียดไทย รสฝาด สรรพคุณ ชว ยสมานแผล แกอ าการทองเดนิ (ท่ไี มใชบิดหรอื อหิวาตกโรค)
และแกบดิ (ปวดเบง และมมี กู หรืออาจมีเลอื ดดวย)3,6,7
ขนาดทีใ่ ชและวธิ ใี ช:
การแพทยแผนจนี ใช 1-3 กรัม หอใสถุงผา ตมเอานํ้าดืม่ หรือทําเปนยาลกู กลอน หรือยาผง1
การแพทยแ ผนไทย ใชผ ง ครง้ั ละ 0.3-1 กรัม ตม เอาน้ําด่ืม6 ใชภายนอก ใชผ งสเี สียดละลาย
นํ้าใสแ ผลสดหา มเลอื ด กอ นสีเสยี ดฝนกบั นํา้ ใหขน ๆ ทาแผลนาํ้ กัดเทา ผงสเี สยี ดผสมกับนาํ้ มนั พืช ทา
แผลนํ้ากดั เทา ใสป นู ทีใ่ ชร ับประทานกับหมากและพลู เพื่อปอ งกันปูนกดั ปาก3
ขอ หา มใช ขอ ควรระวงั และอาการขางเคียง:
ควรระมัดระวงั ในเรือ่ งขนาดทใี่ ช ถาใชม ากจะเกดิ อาการขา งเคยี งได6
ขอ มลู วชิ าการท่ีเกีย่ วขอ ง:
1. กอ นสีเสยี ดประกอบดว ย catechin 2-20%, catechu-tannic acid 25-35%, epicatechin,
dicatechin และสารอื่น ๆ เน่ืองจากมีแทนนินในปริมาณสูง จึงมีฤทธฝิ์ าดสมาน ฆาเชอื้ แบคทีเรยี 6
2. สารสกดั น้ําความเขมขน 20% สามารถยับยง้ั การเจริญของเซลลม ะเรง็ กระเพาะอาหารและฤทธ์ิ
ในการฆา เซลลม ะเรง็ คอนขางแรง แตไมมพี ษิ ตอ ตอ มนํา้ ลายและเซลลล กู อัณฑะ8
3. สาร d-catechin ในสีเสยี ดชว ยใหก ารทาํ งานของตบั ดขี น้ึ และชว ยปกปองตับจากสารพษิ
ดงั นั้นจึงสามารถใชไ ดผลดีในผปู วยโรคตับอกั เสบชนิดเฉยี บพลันและชนดิ เรอ้ื รังหรอื ผปู ว ยที่ตบั ถูกทําลาย
จากการไดร บั สารพิษ8
เอกสารอางองิ
1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I.
English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005.
Page 191
คูมอื การใชส มุนไพรไทย-จนี 181
2. ลีนา ผพู ฒั นพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธรี วัฒน บุญทวคี ณุ (คณะบรรณาธกิ าร). ช่ือพรรณไมแ หงประเทศไทย (เต็ม สมิตินันทน
ฉบบั แกไ ขเพ่มิ เตมิ พ.ศ. 2544). สาํ นกั วิชาการปา ไม. กรมปา ไม. พิมพครง้ั ที่ 2. กรุงเทพมหานคร : บรษิ ัท ประชาชน จํากดั , 2544.
3. พเยาว เหมอื นวงษญ าต.ิ สมนุ ไพรกา วใหม. พมิ พค รั้งท่ี 2. กรงุ เทพมหานคร : บริษทั ท.ี พ.ี พริ้น จาํ กัด, 2537.
4. Lei GL, Dun BS. Zhongyao Paozhi Jishu Zhinan. 1st ed. Xi-an: World Library Publishing House, 2002.
5. Mei XH. Shiyong Zhongyao Paozhi Zhinan. 1st ed. Hubei: Hubei Science & Technology Publishing House, 2005.
6. กนั ทิมา สิทธิธัญกิจ, พรทิพย เตมิ วเิ ศษ (คณะบรรณาธกิ าร). คูมือประชาชนในการดูแลสุขภาพดวยการแพทยแ ผนไทย. พมิ พคร้งั ท่ี 2
กรุงเทพมหานคร : สํานกั งานกจิ การโรงพิมพองคก ารทหารผา นศึกในพระบรมราชูปถัมภ, 2547.
7. กองวิจัยและพัฒนาสมุนไพร กรมวิทยาศาสตรการแพทย กระทรวงสาธารณสุข. สมุนไพรพื้นบา นฉบับรวม. พิมพคร้ังที่ 1. กรุงเทพมหานคร :
Text and Journal Corperation Co., Ltd., 2533.
8. Wang DP, Guo ZK. Catechu: er cha. In: Wang BX, Ma JK, Zheng WL, Qu SY, Li R, Li YK (eds.). Modern study
of pharmacology in traditional Chinese medicine. 2nd ed. Tianjin: Tianjin Science & Technology Press, 1999.
Page 192
182 กรมพฒั นาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลอื ก
หญา คา: Baimaogen (白茅根)
หญาคา หรอื ไปเหมาเกนิ คือ เหงาแหงของพชื ที่มีช่ือวิทยาศาสตรวา Imperata cylindrica
Beauv. var. major (Nees) C.E. Hubb. วงศ Gramineae1
หญาคา (Rhizoma Imperatae) 1 เซนติเมตร
ชื่อไทย: หญาคา (ท่ัวไป); ลาลาง ลาแล (ยะลา); เกอ ฮี (แมฮอ งสอน)2
ช่อื จนี : ไปเ หมาเกนิ (จีนกลาง), แปะเหมากิง (จนี แตจิว๋ )1
ชอื่ องั กฤษ: Lalang Grass Rhizome1
ชื่อเครือ่ งยา: Rhizoma Imperatae1
การเกบ็ เกยี่ วและการปฏิบตั หิ ลงั การเก็บเก่ียว:
เกบ็ เก่ียวเหงาในฤดูใบไมผลถิ งึ ฤดใู บไมรวง ลางน้ําใหสะอาด ตากแดดใหแ หง แยกเอารากฝอย
และกาบใบทิ้ง เกบ็ รกั ษาไวใ นที่มีอากาศเย็นและแหง มีการระบายอากาศดี1
การเตรยี มตวั ยาพรอ มใช:
การเตรยี มตวั ยาพรอ มใชมี 2 วธิ ี ดงั นี้
วธิ ที ่ี 1 หญาคา เตรียมโดยนําวัตถดุ ิบสมุนไพรที่ปราศจากส่ิงปนปลอมมาลา งนํา้ ใหส ะอาด ใส
ภาชนะหมักไวสกั ครเู พ่อื ใหอ อนนุม หัน่ เปน ชน้ิ ขนาดพอเหมาะ และนําไปทําใหแ หง 1,3
วิธที ่ี 2 หญา คาถาน เตรยี มโดยนําตวั ยาทไ่ี ดจ ากวิธที ่ี 1 ใสกระทะ ผัดโดยใชไฟระดบั ปานกลาง
ผัดจนกระทงั่ ผวิ นอกของตวั ยามสี ีนาํ้ ตาลไหม เนือ้ ในเปน สีเหลืองไหม พรมนาํ้ เลก็ นอย นําออกจากเตา
ต้ังท้งิ ไวใหเ ย็น ตากใหแ หงในทร่ี ม 3
Page 193
คมู อื การใชสมนุ ไพรไทย-จีน 183
คณุ ภาพของตวั ยาจากลักษณะภายนอก:
ตัวยาที่มคี ณุ ภาพดี ลาํ ตนตอ งหยาบ สขี าว และมรี สหวาน4
สรรพคุณตามตําราการแพทยแผนจีน:
หญาคา รสอมหวาน เยน็ มีฤทธ์ิหา มเลือด ทําใหเลอื ดเยน็ ใชร กั ษาอาการเลือดออกจากภาวะ
เลือดรอ น เชน เลือดกําเดา ไอ อาเจียน ปสสาวะเปนเลอื ด และมีฤทธ์ิระบายความรอน ขับปสสาวะ ใช
เปน ยาขับปสสาวะ แกอาการบวมน้ํา ปส สาวะรอนมีสีเขม1
หญา คาถาน รสฝาด เย็นเลก็ นอย ฤทธ์ริ ะบายความรอ นในระบบเลือดคอ นขางออน แตฤ ทธิ์
3
หามเลือดแรง โดยทว่ั ไปใชในกลมุ อาการของโรคทีม่ ีเลือดออก เปนยาฝาดสมานและยาหา มเลือด
สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแ ผนไทย:
ตาํ รายาไทยใชเปน ยาขบั ปสสาวะ แกรอ นในกระหายน้าํ แกอกั เสบในทางเดนิ ปสสาวะ บาํ รุงไต
แกน้าํ ดีซาน แกอ อ นเพลีย เบื่ออาหาร5
ขนาดที่ใชแ ละวธิ ีใช:
การแพทยแผนจนี ใช 9-30 กรมั 1
ตมเอาน้ําดื่ม
การแพทยแผนไทย ใช 1 กํามือ (สด 40-50 กรัม หรือแหง 10-15 กรมั ) หั่นเปน ชน้ิ เล็ก ๆ
ตมนา้ํ รับประทานวันละ 3 คร้ัง กอนอาหารคร้งั ละ 1 ถว ยชา (75 มลิ ลลิ ติ ร)6
ขอ มูลวชิ าการทเ่ี กีย่ วขอ ง:
1. สารสกดั น้าํ จากเหงามฤี ทธใิ์ นการลดจํานวนปสสาวะและทาํ ใหจ ํานวนคลอไรดในปสสาวะ
เพ่ิมข้นึ สารสกดั น้าํ รอนจากเหงาสามารถลดอาการของแผลในกระเพาะอาหารและสามารถยับย้งั การหลงั่
ฮีสตามนี ในหนูขาวท่ีถูกกระตนุ ดว ย สาร 48/80 ไมพบฤทธใ์ิ นการกอ กลายพันธ7ุ
2. สารสกัดดวยนํา้ จากเหงาแหง สารสกัดดวยแอลกอฮอลจากเหงาสดและเหงาแหง แสดง
ฤทธิ์ยับยงั้ เอนไซม HIV-1 protease โดยสารสกัดท่แี สดงฤทธแ์ิ รง คอื สารสกัดดวยแอลกอฮอลจ าก
เหงา สด สามารถยบั ยง้ั เอนไซมด ังกลาวไดร อยละ 98 ท่คี วามเขมขน ของตัวอยาง 66.67 ไมโครกรัม/
มิลลลิ ติ ร7
3. เมือ่ ใหก ระตายกินนํ้าตม จากหญาคาขนาด 25 กรัมตอ นํา้ หนักตวั 1 กโิ ลกรมั หลังจากนน้ั
16 ชั่วโมง กระตา ยเคลอ่ื นไหวชาลง การหายใจเรว็ ขนึ้ และคนื สปู กตใิ นเวลาไมน านนกั ถาฉีดเขาหลอด
เลือดดําขนาด 10-15 กรัมตอ นา้ํ หนักตัว 1 กโิ ลกรัม การหายใจจะเร็วขึน้ การเคลอ่ื นไหวชา ลง หลังจาก
นนั้ 1 ชั่วโมง จะกลับสปู กติ ถาฉดี ขนาด 25 กรมั ตอ น้าํ หนักตัว 1 กโิ ลกรมั หลงั จากฉีด 6 ช่วั โมง
กระตา ยก็ตาย8
Page 194
184 กรมพัฒนาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลอื ก
เอกสารอางองิ
1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I.
English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005.
2. ลีนา ผพู ัฒนพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธีรวัฒน บญุ ทวีคุณ (คณะบรรณาธกิ าร). ชอ่ื พรรณไมแ หง ประเทศไทย (เตม็ สมติ ินันทน
ฉบับแกไขเพมิ่ เติม พ.ศ. 2544). สํานกั วชิ าการปา ไม. กรมปา ไม. พิมพคร้ังที่ 2. กรงุ เทพมหานคร : บรษิ ัท ประชาชน จาํ กดั , 2544.
3. Gong QF. Zhongyao Paozhi Xue. 2nd ed. Beijing: National Chinese Traditional Medicine Publishing House, 2003.
4. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science &
Technology Publishing House, 2006.
5. เสงี่ยม พงษบ ุญรอด. ไมเ ทศ เมืองไทย. กรงุ เทพมหานคร : โรงพมิ พประเสริฐศริ ิ, 2493.
6. ดรณุ เพ็ชรพลาย และคณะ. สมุนไพรพืน้ บา น (ฉบบั รวม). สถาบนั วิจัยสมนุ ไพร กรมวทิ ยาศาสตรการแพทย. กรุงเทพมหานคร :
หา งหนุ สวนจํากดั รุง เรืองสาสนก ารพมิ พ, 2541.
7. เยน็ จติ ร เตชะดํารงสิน, บษุ ราวรรณ ศรีวรรธนะ, จนั ทรเพ็ญ วิวัฒน, สธุ น วงษช รี ี, จารีย บนั สิทธ์ิ และประถม ทองศรรี กั ษ. หญา
คา. ใน: ปราณี ชวลติ ธาํ รง (บรรณาธิการ). รายงานการศกึ ษาวจิ ยั โครงการสมนุ ไพรตา นเอดส. กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พอ งคการ
สงเคราะหท หารผา นศึก, 2546.
8. Jiangsu New Medical College. A Dictionary of Chinese Materia Medica. Vol.1. Hong Kong: Shangwa, 1979.
Page 195
คูม ือการใชสมุนไพรไทย-จีน 185
หญาแหว หมู : Xiangfu (香附)
หญา แหว หมู หรอื เซยี งฟู คือ เหงา แหงของพชื ทีม่ ีช่ือวิทยาศาสตรว า Cyperus rotundus L.
วงศ Cyperaceae1
1 เซนติเมตร
หญาแหวหมู (Rhizoma Cyperi)
ชื่อไทย: หญาแหวหมู (ทั่วไป); หญาขนหมู (แมฮองสอน)2
ช่ือจีน: เซยี งฟู (จนี กลาง), เฮยี งหู (จีนแตจ ว๋ิ )1
ชื่ออังกฤษ: Nutgrass Galingale Rhizome1
ช่ือเครื่องยา: Rhizoma Cyperi1
การเก็บเกย่ี วและการปฏบิ ัตหิ ลงั การเก็บเก่ียว:
เกบ็ เกี่ยวเหงาในฤดใู บไมร วง แยกเอารากฝอยทิ้ง ตมนา้ํ สักครูหรอื น่งึ สักครู ตากใหแหง เกบ็
รักษาไวใ นท่ีมอี ากาศเย็นและแหง มกี ารระบายอากาศด1ี
การเตรียมตวั ยาพรอ มใช:
การเตรียมตวั ยาพรอมใชม ี 5 วธิ ี ดังนี้
วธิ ีท่ี 1 หญา แหวหมู เตรียมโดยนาํ วัตถุดิบสมุนไพรท่ีปราศจากสง่ิ ปนปลอม มาลางนํ้าใหสะอาด
ใสภาชนะปดฝาไวเ พือ่ ใหออนนมุ ห่ันเปนชิ้นหรือฝานเปนแผน บาง ๆ นาํ ไปทําใหแหงโดยใชอ ณุ หภมู ิต่ํา1,3
วิธที ่ี 2 หญาแหว หมผู ดั น้าํ สม เตรยี มโดยนําตัวยาท่ีไดจากวิธีท่ี 1 ใสในภาชนะที่เหมาะสม เติม
นา้ํ สม (ซง่ึ ไดมาจากการหมักกลน่ั ขา ว) ปริมาณพอเหมาะ แลว คลกุ เคลา ใหเ ขา กนั จนกระทง่ั นาํ้ สม แทรกซึม
เขาไปในเนื้อตัวยา จากน้ันนําไปผัดโดยใชไฟระดับปานกลาง ผัดจนกระทั่งตัวยาแหง นําออกจากเตา
Page 196
186 กรมพฒั นาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลอื ก
ตากใหแหง ในทรี่ ม (น้ําสม 20 กิโลกรัม ตอตัวยา 100 กโิ ลกรมั )1,3
นอกจากหญา แหวหมูผดั นํา้ สม แลว ยงั อาจเตรยี มอกี วธิ ีหนงึ่ คือ หญา แหวหมูนงึ่ กับนาํ้ สม โดย
นาํ ตัวยาทไี่ ดจ ากวธิ ีท่ี 1 ใสใ นภาชนะท่เี หมาะสม เตมิ น้าํ สม (ซ่งึ ไดมาจากการหมักกล่ันขาว) ปรมิ าณพอเหมาะ
และเตมิ น้าํ สะอาดปรมิ าตรเทาน้ําสม นาํ ไปใสใ นภาชนะน่ึง น่ึงจนกระทัง่ นํา้ สมแทรกซึมเขา ไปในเน้ือตวั ยา
จากนั้นนงึ่ ตอ อกี 5 ช่วั โมง นําออกจากเตา ตง้ั ทิ้งไวใ หเ ยน็ ลงเลก็ นอ ย ฝานเปนแวนบาง ๆ นําไปตากแหง
(นํา้ สม 20 กิโลกรมั ตอตัวยา 100 กิโลกรมั )1,3
วธิ ที ี่ 3 หญาแหวหมผู ดั สารปรุงแตง 4 ชนิด เตรยี มโดยนาํ ตัวยาที่ไดจ ากวธิ ีที่ 1 ใสใ นภาชนะที่
เหมาะสม เติมนํ้าค้ันขงิ สด น้าํ สม (ซ่งึ ไดม าจากการหมกั กลัน่ ขา ว) เหลาเหลอื ง และนา้ํ เกลอื ปรมิ าณ
พอเหมาะ แลว คลุกเคลา ใหเ ขา กนั จนกระทง่ั สารปรงุ แตง แทรกซมึ เขา ไปในเน้อื ตวั ยา จากนัน้ นําไปผัด
โดยใชไ ฟระดบั ปานกลาง ผัดจนกระท่งั ตัวยาแหง นําออกจากเตา ตากใหแ หง ในทร่ี ม (ใชขงิ สด 5 กโิ ลกรัม
คนั้ เอาแตน ้ํา ใชนํา้ สม และเหลาเหลอื งอยางละ 10 กโิ ลกรัม เกลอื บรสิ ทุ ธ์ิ 2 กิโลกรัมละลายในน้ํา รวม
สารปรุงแตง ทัง้ หมด ตอ ตัวยา 100 กิโลกรัม)3
วธิ ที ี่ 4 หญา แหวหมผู ัดเหลา เตรยี มโดยนาํ ตวั ยาที่ไดจ ากวิธที ี่ 1 ใสใ นภาชนะทเ่ี หมาะสม เติม
เหลา เหลืองปรมิ าณพอเหมาะ แลวคลกุ เคลา ใหเขากนั จนกระท่ังเหลาแทรกซึมเขาไปในเนื้อตวั ยา จากน้ัน
นาํ ไปผัดโดยใชไ ฟระดบั ปานกลาง ผดั จนกระทัง่ ตวั ยาแหง นําออกจากเตา ตากใหแหง ในที่รม (ใชเ หลา
เหลือง 20 กิโลกรัม ตอ ตัวยา 100 กิโลกรมั )3
วิธีที่ 5 หญาแหวหมูถาน เตรียมโดยนาํ ตัวยาที่ไดจากวิธีที่ 1 ใสกระทะ ผัดโดยใชไฟระดับ
ปานกลาง ผดั จนกระท่งั ผวิ นอกของตวั ยามสี ีดาํ ไหม เนือ้ ในมีสนี ํ้าตาลไหม พรมน้ําเล็กนอย นําออกจาก
เตา ตากใหแ หง ในท่รี ม 3
คณุ ภาพของตวั ยาจากลักษณะภายนอก:
ตวั ยาท่มี คี ุณภาพดี ขนาดของเหงา ตองสม่ําเสมอ ผิวเรียบเปน มัน ไมมขี น มีกล่ินหอม4
สรรพคณุ ตามตาํ ราการแพทยแผนจีน:
หญาแหวหมู รสเผด็ ขมเลก็ นอ ย อมหวานเลก็ นอย สขุ ุม มีฤทธผิ์ อ นคลายตับ ทาํ ใหชห่ี มนุ เวยี น
แกอ าการชต่ี ิดขดั ปวดทอ ง ปวดชายโครง และมฤี ทธ์ิปรบั ประจําเดือน แกป วด ใชบรรเทาอาการเครยี ด
ประจําเดอื นมาไมปกติ ปวดประจาํ เดอื น ปวดคัดเตานม1
หญาแหวหมผู ัดหรือนึ่งนา้ํ สม ตัวยาจะเขาสเู สน ลมปราณของตบั เพมิ่ ฤทธิ์ผอนคลายตบั ระงบั
ปวด และชว ยยอ ยอาหาร เหมาะสําหรับผูปวยทมี่ ีอาการปวดทอ ง อาหารไมย อย ธาตุพิการ3
Page 197
คมู ือการใชส มุนไพรไทย-จีน 187
หญาแหวหมูผดั สารปรุงแตง 4 ชนดิ จะชว ยใหชห่ี มนุ เวยี นไมต ิดขัด ปรับประจาํ เดอื นใหเ ปน
ปกติ เหมาะสําหรบั ผูปวยทีม่ ีอาการปวดประจาํ เดอื น ประจาํ เดือนมาไมป กติ3
หญาแหว หมผู ัดเหลา มฤี ทธ์ิชวยใหเ ลือดลมเดินสะดวก เหมาะสําหรับผปู ว ยท่ีมีอาการปวดทอ ง
เนอ่ื งจากไสเ ลื่อน3
หญา แหว หมูถา น รสขม ฝาด อุน โดยทวั่ ไปใชรักษาอาการประจําเดอื นมามากผดิ ปกต3ิ
สรรพคณุ ตามตาํ ราการแพทยแผนไทย:
หญา แหวหมู มีกลน่ิ หอม รสเผด็ ปรา ขมเล็กนอ ย สรรพคุณเปน ยาบํารงุ หัวใจ ขบั เหงอื่ ขับระดู
ขับปส สาวะ แกไ ข ขับลมในลําไส แกปวดทอ ง ทอ งอืด เปนยาบาํ รุงกําลงั บํารุงธาตุ บาํ รงุ ทารกในครรภ เปน
ยาฝาดสมาน สงบประสาท เปน ยาอายวุ ฒั นะ5-7
ขนาดทใ่ี ชแ ละวธิ ใี ช:
การแพทยแผนจีน ใช 6-9 กรมั ตมเอานํ้าดม่ื 1
การแพทยแ ผนไทย ใชค ร้ังละ 1 กาํ มอื (60-70 หัว หรือหนัก 15 กรมั ) ทุบใหแ ตก ตมเอานํ้า
ดืม่ หรอื สด ครั้งละ 5 หัว 5,6
โขลกใหล ะเอียดผสมนาํ้ ผ้ึงรบั ประทาน
ขอ มูลวชิ าการทีเ่ ก่ยี วของ:
1. การทดลองในสตั วทดลอง พบฤทธิ์ขบั ปส สาวะ ลดไข ลดความดันโลหิต และลดการอกั เสบ
ซึง่ เกดิ จาก α-cyperone นอกจากน้ียังพบฤทธิย์ ับยั้งการเจรญิ เตบิ โตของเช้ือมาลาเรยี ชนิดฟลซิพารัมใน
หลอดทดลองดวย8
2. หัวแหวหมมู นี ํา้ มันหอมระเหย และมรี ายงานวามฤี ทธิค์ ลายอาการเกร็งตัวของกลา มเนือ้ เรยี บ
ชว ยขบั ปสสาวะ กรมวิทยาศาสตรก ารแพทยรายงานวาไมมีพษิ เฉยี บพลนั 5
3. จากการศึกษาพษิ เฉียบพลันในหนถู บี จักรของสารสกดั 50% แอลกอฮอลจากหัวแหว หมู
พบวา คา LD50 มคี ามากกวา 10 กรมั /กโิ ลกรัม เม่ือใหโ ดยการปอนหรือฉีดเขาใตผวิ หนัง9
เอกสารอางอิง
1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People’s Republic of China. Vol.I.
English Edition. Beijing: People’s Medical Publishing House, 2005.
2. ลนี า ผูพ ฒั นพงศ, กองกานดา ชยามฤต, ธรี วัฒน บญุ ทวีคุณ (คณะบรรณาธกิ าร). ช่อื พรรณไมแหง ประเทศไทย (เต็ม สมิตินนั ทน
ฉบับแกไขเพม่ิ เตมิ พ.ศ. 2544). สาํ นักวิชาการปา ไม. กรมปา ไม. พิมพคร้ังท่ี 2. กรงุ เทพมหานคร : บรษิ ทั ประชาชน จาํ กัด, 2544.
3. Gong QF. Zhongyao Paozhi Xue. 2nd ed. Beijing: National Chinese Traditional Medicine Publishing House, 2003.
4. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science &
Technology Publishing House, 2006.
Page 198
188 กรมพฒั นาการแพทยแ ผนไทยและการแพทยทางเลือก
5. กนั ทิมา สิทธิธัญกิจ, พรทพิ ย เตมิ วิเศษ (คณะบรรณาธิการ). คูมือประชาชนในการดูแลสุขภาพดวยการแพทยแ ผนไทย. พมิ พครงั้ ที่ 2
กรุงเทพมหานคร : สาํ นกั งานกจิ การโรงพิมพองคการทหารผา นศึกในพระบรมราชูปถัมภ, 2547.
6. กองวจิ ยั และพฒั นาสมุนไพร กรมวิทยาศาสตรก ารแพทย กระทรวงสาธารณสุข. สมุนไพรพ้ืนบานฉบับรวม. พิมพคร้ังที่ 1. กรุงเทพมหานคร :
Text and Journal Corporation Co., Ltd., 2533.
7. ชยนั ต วเิ ชียรสนุ ทร, แมน มาส ชวลิต, วิเชียร จรี วงศ. คาํ อธิบายตําราพระโอสถพระนารายณ. พมิ พครั้งท่ี 2. กรุงเทพมหานคร :
สาํ นกั พมิ พอมรินทร, 2548.
8. พรอมจติ ศรลมั ภ, วงศส ถติ ย ฉ่วั กลุ , สมภพ ประธานธรุ ารกั ษ (คณะบรรณาธิการ). สมนุ ไพรสวนสริ รี ุกขชาติ สารานกุ รมสมุนไพร
เลม 1. พิมพครง้ั ท่ี 3. กรุงเทพมหานคร : บริษทั อมรินทรพร้ินต้งิ แอนดพบั ลิชช่ิง จํากดั (มหาชน), 2543.
9. มงคล โมกขะสมิต, กมล สวัสดีมงคล, ประยทุ ธ สาตราวาหะ. การศึกษาพษิ ของสมนุ ไพรไทย. ใน: ปราณี ชวลิตธาํ รง, ทรงพล
ชวี ะพัฒน, เอมมนัส อตั ตวชิ ญ (คณะบรรณาธิการ). ประมวลผลงานวจิ ัยดา นพษิ วิทยาของสถาบันวจิ ัยสมนุ ไพร เลม 1. พิมพค รั้งที่ 1.
กรมวทิ ยาศาสตรก ารแพทย กระทรวงสาธารณสุข. กรงุ เทพมหานคร : โรงพมิ พก ารศาสนา, 2546.
Page 199
คูมอื การใชสมนุ ไพรไทย-จนี 189
หมาก: Binglang (槟榔)
หมาก หรือ ปงหลาง คือ เมล็ดสุกท่ีทําใหแหงของพืชท่ีมีช่ือวิทยาศาสตรวา Areca catechu
L. วงศ Palmae1
เมล็ดหมาก (Semen Arecae) 1 เซนติเมตร
ชื่อไทย: หมาก, หมากเมีย (ท่ัวไป); หมากมู, แซ (แมฮองสอน); สีซะ (ภาคเหนือ); มะ (ตราด);
เซียด (นครราชสีมา)2
ชื่อจีน: ปงหลาง (จีนกลาง), ปงนอ (จีนแตจ๋ิว)1
ช่ืออังกฤษ: Areca Seed1
ช่ือเครื่องยา: Semen Arecae1
การเกบ็ เกี่ยวและการปฏบิ ัตหิ ลังการเกบ็ เกี่ยว:
เกบ็ เกี่ยวผลสุกในปลายฤดใู บไมผ ลถิ งึ ตน ฤดใู บไมร วง ตมนาํ้ ใหเดือด ตากแดดใหแ หง กรดี แยก
เปลอื กออก เอาเมลด็ ตากแดดใหแหง เก็บรกั ษาไวในทม่ี อี ากาศเยน็ และแหง มกี ารระบายอากาศด1ี ,3
การเตรียมตัวยาพรอมใช:
การเตรยี มตวั ยาพรอมใชมี 3 วธิ ี ดงั น้ี
วิธีท่ี 1 เมล็ดหมาก เตรยี มโดยนําวตั ถดุ ิบสมุนไพรที่ปราศจากสิ่งปนปลอม มาแชนํ้า 3-5 วัน
นําตัวยาออกมาใสในภาชนะท่ีเหมาะสม ราดดวยนาํ้ สะอาด หมักไวจนกระทัง่ น้ําซมึ เขาไปในเนื้อตัวยา ห่ัน
เปนแวนบาง ๆ ตากใหแหง ในทร่ี ม 1,4
วธิ ที ่ี 2 เมลด็ หมากผดั เตรยี มโดยนาํ ตัวยาท่ีไดจ ากวธิ ีท่ี 1 ใสกระทะ ผดั โดยใชไ ฟระดับปานกลาง
Page 200
190 กรมพฒั นาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลือก
ผัดจนกระท่ังผวิ นอกมีสเี หลอื งออ น ๆ นาํ ออกจากเตา ตงั้ ทง้ิ ไวใ หเย็น แลว รอ นเอาเศษเลก็ ๆ ออก4
วิธที ี่ 3 เมล็ดหมากผดั เกรยี ม เตรียมโดยนาํ ตัวยาที่ไดจ ากวิธีที่ 1 ใสกระทะ ผดั โดยใชไฟแรง
ปานกลาง ผัดจนกระทัง่ ผวิ นอกของตวั ยามสี ีเหลอื งเกรยี ม มกี ล่นิ หอม นาํ ออกจากเตา ตงั้ ทง้ิ ไวใ หเย็น
แลว รอ นเอาเศษเลก็ ๆ ออก4
คุณภาพของตวั ยาจากลักษณะภายนอก:
ตัวยาที่มคี ุณภาพดี ตองเปน แวน บาง ๆ หนา ตดั มีสขี าวอมนํ้าตาล ระหวา งกลางมลี ายเสนลกั ษณะ
คลายลายหิน ขอบรอบ ๆ มีสีน้ําตาลอมเหลอื งออนหรือนา้ํ ตาลอมแดงออน เนือ้ แข็งเปราะ แตกหักงา ย
มกี ลิ่นออน ๆ รสเฝอ น ขมเล็กนอย5
สรรพคุณตามตําราการแพทยแ ผนจีน:
หมาก รสขมเผ็ด อนุ มีฤทธ์ิถายพยาธิ ทองมานจากพยาธิ ใชเปนยาถา ยพยาธิในลําไส และมี
ฤทธิ์ทาํ ใหช ่ีหมุนเวียน ขับนํา้ แกอาการอาหารตกคาง ชไี่ มห มุนเวียน ถายทอง บิด ปวดถว ง แกอ าการ
1
บวมนํ้า ขาบวม ปวด และแกมาลาเรยี
เมล็ดหมากผัด และเมล็ดหมากผัดเกรยี ม จะชว ยใหฤทธขิ์ องยานมุ นวลขนึ้ และชว ยลดอาการ
ขางเคียงของตัวยา เชน คล่นื เหยี นอาเจยี น ปวดทอง มีสรรพคณุ และวิธใี ชเ หมอื นกัน โดยมฤี ทธิ์ชวยยอ ย
อาหาร แกท องเสีย ใชร ักษาอาการธาตุพิการ แกบิดข้ันรุนแรง เมล็ดหมากผัดจะมีฤทธ์ิแรงกวา เมล็ดหมาก
และเมลด็ หมากผดั เกรยี ม โดยทวั่ ไปคนท่ีมีรา งกายแขง็ แรงจะใชเ มลด็ หมากผดั สําหรับคนท่มี รี า งกายไม
แขง็ แรงจะใชเ มลด็ หมากผัดเกรยี ม4
สรรพคุณตามตาํ ราการแพทยแ ผนไทย:
เมล็ด รสขมฝาด ทําใหเจรญิ อาหาร กลอ มประสาท ขบั เสมหะ แกเ มาเหลา อาเจยี นอยา งแรง
ไอ สมานแผล3
ขนาดท่ใี ชและวธิ ใี ช:
การแพทยแ ผนจีน ใช 3-9 กรัม ตม เอาน้ําด่ืม1
การแพทยแ ผนไทย ใช 5-10 กรมั (ถา ใชข บั พยาธิ ใช 60-90 กรมั ) ตม กนิ หรือบดเปนผงทํา
เปน ยาเม็ดหรอื ยาผงกนิ ใชภ ายนอกตม ชะลา งหรอื บดเปนผงผสมทา3
ขอหามใช ขอควรระวงั และอาการขา งเคยี ง:
การแพทยแผนไทย หามใชในผปู วยที่มรี างกายออนแอ หรือหลงั จากทองเสียหรอื เปน มาลาเรยี 3
ขอ มูลวิชาการท่เี ก่ียวขอ ง:
1. สาร arecoline ในเมล็ดมฤี ทธิข์ บั พยาธิ ตอพยาธติ ัวตดื ในหมู ทําใหพยาธทิ งั้ ตวั เปน อัมพาต
ตอตืดววั ทาํ ใหสวนหัวและขอ ที่ยงั ไมแ กเปน อมั พาตตอ ปลอ งตรงกลางและทา ยท่เี ปนสวนผสมพันธุ มี