เแผนการจัดการเรียนรู้
วิชาคณิตศาสตร์ ( ค14101)
ปีการศึกษา 2564
หน่วยการเรียนรู้ที่9
รูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก
จัดทำโดย
นางสาวสุภาภรณ์ เรืองศรี
รหัสนักศึกษา 60100140108
สาขาวิชาคณิตศาสตร์ คณะครุศาสตร์
มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
โรงเรียนอนุบาลอุดรธานี
แผนการจัดการเรยี นรู้
วิชาคณิตศาสตร์ ค14101
ระดับชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 4 โรงเรียนอนุบาลอุดรธานี
นางสาวสภุ าภรณ์ เรืองศรี
รหัสประจาตัวนักศกึ ษา 60100140108
สาขาวชิ าคณติ ศาสตร์
การฝึกปฏิบัตกิ ารสอนในสถานศกึ ษา 2
รหัสวิชา ED18502 (INTERNSHIP IN SCHOOL 2)
คณะครศุ าสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั อุดรธานี
ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2564
1
คานา
แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค14101 ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 4 เล่มนี้
จัดทาขน้ึ เพื่อใช้เปน็ แนวทางในการจดั การเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพ และให้นักเรียนบรรลุตามมาตรฐาน
การเรียนรู้/ตัวช้ีวัด ที่กาหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐานพุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง
2560) ผู้จัดทาจึงได้ศึกษาสาระการเรียนรู้พ้ืนฐานให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ จึงได้นาปัญหาท่ีพบจากประสบการณ์
และความรทู้ ่ไี ด้จากการอบรมสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เทคนิค วิธีการสอน การวัดผลประเมินผล จิตวิทยา
การเรียนรู้ ตลอดจนความรูท้ ่ไี ดจ้ ากการศกึ ษาค้นคว้าด้วยตนเอง มาจัดทาแผนการจัดการเรยี นรู้ในคร้ังนี้
แผนการจดั การเรยี นรเู้ ลม่ นีใ้ นหน่วยการเรียนรจู้ ะมรี ายละเอยี ดของกจิ กรรมการเรยี นการสอน
ส่อื แหล่งการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล รวมทั้งยังมีใบกิจกรรมประกอบด้วย สามารถนาไปให้นักเรียนทา
ประกอบกับการสอนได้ นอกจากนี้ยังมีเฉลยใบกิจกรรมไว้ให้สาหรับครูผู้สอนด้วย ซ่ึงจะทาให้การจัดกิจกรรม
การเรยี นการสอนเปน็ ไปอยา่ งราบร่ืน เพื่อให้ผู้เรียนบรรลุมาตรฐานการเรยี นร้ไู ด้เต็มศกั ยภาพอยา่ งแทจ้ รงิ
ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างย่ิงว่าแผนการจัดการเรียนรู้เล่มน้ีจะเป็นประโยชน์ต่อตัวผู้สอนเอง รวมท้ังเป็น
ประโยชน์ตอ่ ผู้สอนในรายวิชาเดยี วกนั และผูส้ อนแทนเป็นอย่างมาก
สุภาภรณ์ เรืองศรี
มกราคม 2565
2
สารบญั หน้า
ก
คานา ข
สารบญั
หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน พ.ศ.2551 (ฉบับปรับปรุง 2560) 1
ทาไมต้องเรยี นคณิตศาสตร์ 1
เรยี นร้อู ะไรในคณติ ศาสตร์ 1
สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ 2
คณุ ภาพผู้เรยี นเม่ือจบชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 3
คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงคใ์ นการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ 4
ตวั ช้ีวดั และสาระแกนกลางการเรียนรู้ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 4 5
คาอธบิ ายรายวิชาคณิตศาสตร์ 9
ตารางวิเคราะหห์ ลักสูตร 11
โครงสร้างรายวิชา 12
กาหนดการจัดการเรียนรู้
หนว่ ยที่ 9 รูปสเี่ หลยี่ มมุมฉาก 22
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 46 เตรียมความพรอ้ ม
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 47 ชนดิ รูปส่เี หลยี่ มมุมฉาก 25
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 48 รูปส่ีเหลยี่ มจัตรุ ัสและรูปสเี่ หลี่ยมผนื ผา้ 29
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 49 เสน้ ทแยงมมุ ของรูปส่ีเหลี่ยม 34
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 50 การสร้างรูปสเ่ี หลยี่ มมุมฉาก 39
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 51 ความยาวรอบรูปของรปู สเ่ี หล่ียมมุมฉาก 45
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 52 ความยาวรอบรปู ของรปู หลายเหลย่ี มทีแ่ บ่งเป็นสี่เหลีย่ มมุมฉาก 51
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 53 พื้นที่ 56
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 54 หน่วยของพ้นื ท่ี 61
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 55 การหาพน้ื ทโ่ี ดยใชก้ ารนบั ตาราง 66
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 56 พื้นท่ีของรปู สีเ่ หลย่ี มผืนผ้า และพ้ืนท่ขี องรูปส่ีเหลี่ยมจตั รุ ัส 72
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 57 พ้ืนทีข่ องรูปหลายเหลย่ี มทส่ี ามารถแบ่งเป็นสี่เหล่ยี มมุมฉาก 77
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 58 โจทยป์ ญั หาเกย่ี วกับความยาวรอบรปู ของรปู สเ่ี หล่ียมมุมฉาก 82
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 59 การแกโ้ จทยป์ ญั หาเกี่ยวกับพื้นที่ของรปู สีเ่ หลย่ี มมมุ ฉาก 82
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 60 ทดสอบหลังเรียน 92
97
3
หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน พ.ศ.2551 (ฉบับปรับปรุง 2560)
ทาไมต้องเรียนคณติ ศาสตร์
คณิตศาสตร์มีบทบาทสาคัญยิ่งต่อความสาเร็จในการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 เนื่องจากคณิตศาสตร์
ช่วยใหม้ นุษย์มคี วามคดิ รเิ ร่มิ สร้างสรรค์ คิดอย่างมีเหตุผล เป็นระบบ มีแบบแผน สามารถวิเคราะห์ปัญหาหรือ
สถานการณ์ได้อย่างรอบคอบและถ่ีถ้วน ช่วยให้คาดการณ์ วางแผน ตัดสินใจแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้อง
เหมาะสม และสามารถนาไปใช้ในชีวิตจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพนอกจากนี้คณิตศาสตร์ยังเป็นเครื่องมือใน
การศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และศาสตร์อ่ืน ๆ อันเป็นรากฐานในการพัฒนาทรัพยากรบุคคลของ
ชาติใหม้ ีคุณภาพและพฒั นาเศรษฐกิจของประเทศให้เทียมกับนานาชาติ การศึกษาคณิตศาสตร์จึงจาเป็นต้องมี
การพัฒนาอย่างต่อเน่ืองเพื่อให้ทันสมัยและสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ สังคมและความรู้ทางวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยที ี่เจริญกา้ วหน้าอย่างรวดเร็วในยคุ โลกาภิวัตน์
ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560)
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ฉบับน้ี จัดทาข้ึนโดยคานึงถึงการส่งเสริม
ให้ผู้เรียนมีทักษะที่จาเป็นสาหรับการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 เป็นสาคัญ น่ันคือ การเตรียมผู้เรียนให้มีทักษะ
ด้านด้านการคิดวิเคราะห์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ การแก้ปัญหา การคิดสร้างสรรค์ การใช้เทคโนโลยี
การสื่อสารและการร่วมมือ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้เรียนรู้เท่าทัน การเปลี่ยนแปลงของระบบเศรษฐกิจ สังคม
วัฒนธรรมและสภาพแวดล้อม สามารถแข่งขัน และอยู่ร่วมกับประชาคมโลกได้ทั้งน้ีการจัดการเรียนรู้
คณิตศาสตร์ที่ประสบความสาเร็จนั้นจะต้องเตรียมผู้เรียนให้มีความพร้อมที่จะเรียนรู้ส่ิงต่าง ๆ พร้อมที่จะ
ประกอบอาชีพเม่ือจบการศึกษาหรือ สามารถศึกษาต่อในระดับท่ีสูงข้ึน ดังนั้นสถานศึกษาควรจัดการเรียนรู้
ใหเ้ หมาะสมตามศกั ยภาพของผเู้ รียน
เรยี นรู้อะไรในคณิตศาสตร์
กล่มุ สาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตรจ์ ดั เปน็ 3 สาระ ได้แก่ จานวนและพีชคณิต
การวดั และเรขาคณิต และสถิตแิ ละความน่าจะเป็น
∙ จานวนและพชี คณิต เรียนรู้เกีย่ วกับ ระบบจานวนจริง สมบตั เิ กี่ยวกับจานวนจรงิ อัตราสว่ นร้อยละ
การประมาณค่า การแกป้ ญั หาเก่ยี วกับจานวน การใช้จานวนในชีวิตจรงิ แบบรูปความสัมพันธ์ ฟังก์ชนั เซต
ตรรกศาสตร์ นิพจน์ เอกนาม พหนุ าม สมการ ระบบสมการ อสมการ กราฟ ดอกเบ้ยี และมลู คา่ ของเงนิ ลาดบั
และอนุกรมและการนาความรู้เกยี่ วกับจานวนและพชี คณิตไปใชใ้ นสถานการณต์ ่าง ๆ
∙ การวดั และเรขาคณิต เรียนรู้เกย่ี วกบั ความยาว ระยะทาง นา้ หนกั พ้นื ที่ ปริมาตรและความจุ เงิน
และเวลา หนว่ ยวดั ระบบต่าง ๆ การคาดคะเนเก่ียวกับการวัด อตั ราส่วนตรโี กณมติ ิ
รูปเรขาคณติ การแปลงทางเรขาคณติ ในเร่ืองการเลื่อนขนาน การสะท้อน การหมุน และการนาความรู้เกี่ยวกบั
การวดั และเรขาคณิตไปใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ
∙ สถติ แิ ละความน่าจะเปน็ เรียนรูเ้ กี่ยวกับ การตั้งคาถามทางสถิติ การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลการคานวณ
คา่ สถิติ การนาเสนอและแปลผลสาหรบั ขอ้ มูลเชิงคุณภาพและเชงิ ปรมิ าณหลกั การนับเบื้องต้น ความนา่ จะเปน็
การใช้ความร้เู ก่ียวกบั สถิติและความนา่ จะเปน็ ในการอธบิ ายเหตกุ ารณ์
ต่าง ๆ และชว่ ยในการตดั สนิ ใจ
4
สาระและมาตรฐานการเรียนรู้
สาระที่ 1 จานวนและพีชคณิต
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน
การดาเนนิ การของจานวน ผลที่เกิดขนึ้ จากการดาเนินการ
สมบัติของการดาเนินการ และนาไปใช้
มาตรฐาน ค 1.2 เข้าใจและวเิ คราะหแ์ บบรูป ความสมั พันธ์ ฟงั กช์ นั ลาดบั และอนุกรมและ
นาไปใช้
มาตรฐาน ค 1.3 ใชน้ พิ จน์ สมการ และอสมการ อธบิ ายความสมั พนั ธห์ รอื ช่วยแก้ปัญหาที่
กาหนดให้
สาระที่ 2 การวดั และเรขาคณิต
มาตรฐาน ค 2.1 เขา้ ใจพ้นื ฐานเกย่ี วกบั การวดั วดั และคาดคะเนขนาดของส่งิ ทตี่ ้องการวัด
และนาไปใช้
มาตรฐาน ค 2.2 เข้าใจและวิเคราะหร์ ูปเรขาคณิต สมบัติของรปู เรขาคณติ ความสมั พันธ์
ระหวา่ งรปู เรขาคณิต และทฤษฎีบททางเรขาคณติ และนาไปใช้
สาระท่ี 3 สถิติและความนา่ จะเป็น
มาตรฐาน ค 3.1 เข้าใจกระบวยการทางสถิติ และใชค้ วามรู้ทางสถิติในการแก้ปญั หา
มาตรฐาน ค 3.2 เข้าใจหลกั การนับเบือ้ งต้น ความนา่ จะเป็น และนาไปใช้
จบช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๖
เมื่อผูเ้ รียนจบการเรียนชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 3 ผู้เรียนควรจะมคี วามสามารถดังนี้
1. อ่าน เขยี นตัวเลข ตัวหนังสอื แสดงจานวนนับ เศษส่วน ทศนิยมไม่เกิน ๓ ตาแหน่ง อัตราส่วน และ
ร้อยละ มีความรู้สึกเชิงจานวน มีทักษะการบวก การลบ การคูณ การหาร ประมาณผลลัพธ์ และนาไปใช้ใน
สถานการณต์ ่าง ๆ
2. อธิบายลักษณะและสมบัติของรูปเรขาคณิต หาความยาวรอบรูปและพื้นท่ีของรูปเรขาคณิต
สร้างรูปสามเหล่ียม รูปส่ีเหล่ียมและวงกลม หาปริมาตรและความจุของทรงส่ีเหลี่ยมมุมฉาก และนาไปใช้ใน
สถานการณ์ต่าง ๆ
3. นาเสนอข้อมูลในรูปแผนภูมิแท่ง ใช้ข้อมูลจากแผนภูมิแท่ง แผนภูมิรูปวงกลม ตารางสองทาง และ
กราฟเส้นในการอธบิ ายเหตุการณต์ ่าง ๆ และตดั สินใจ
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ในการเรยี นคณติ ศาสตร์
ในหลักสตู รกลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ตามหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 ไดก้ าหนดสาระและมาตรฐานการเรียนรู้ ทักษะและกระบวนการทาง
คณติ ศาสตร์ ตัวชว้ี ดั และสาระการเรยี นรูแ้ กนกลางเพ่ือให้ผู้เรียนมีคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ในการเรียนรู้
คณติ ศาสตรด์ ังต่อไปนี้
1. ทาความเข้าใจหรอื สรา้ งกรณที ่ัวไปโดยใชค้ วามรู้ทไี่ ดจ้ ากการศกึ ษากรณตี ัวอยา่ งหลาย ๆ
กรณี
2. มองเหน็ ว่าความสามารถใช้คณิตศาสตร์แกป้ ัญหาในชวี ิตจรงิ ได้
5
3. มีความมมุ านะในการทาความเขา้ ใจปัญหาและแกป้ ัญหาทางคณิตศาสตร์
4. สรา้ งเหตผุ ลเพอื่ สนบั สนนุ แนวคิดของตนเองหรอื โต้แย้งแนวคดิ ของผอู้ น่ื อย่างสมเหตุสมผล
5. คน้ หาลกั ษณะท่ีเกิดข้ึนซ้า ๆ และประยุกตใ์ ช้ลักษณะดงั กลา่ วเพ่อื ทาความเข้าใจหรือแก้ปัญหาใน
สถานการณต์ ่าง ๆ
ตวั ชี้วัดและสาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 4
สาระท่ี 1 จานวนและพชี คณติ
มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวนการดาเนินการ
ของจานวน ผลทเ่ี กิดข้ึนจากการดาเนินการ สมบัติของการดาเนินการ และนาไปใช้
ตัวชวี้ ดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง
1.อา่ นและเขียนตวั เลขฮนิ ดูอารบกิ ตวั เลขไทย และ จานวนนับทมี่ ากกวา่ 100,000 และ 0
ตัวหนงั สือแสดงจานวนนับ ที่มากกว่า 100,000 - การอ่าน การเขียนตวั เลขฮินดูอารบกิ ตวั เลขไทย
2. เปรยี บเทยี บและเรยี งลาดับจานวนนับ ท่ีมากกว่า และตวั หนงั สือแสดงจานวน
100,000 จากสถานการณ์ ตา่ ง ๆ - หลัก ค่าประจาหลักและคา่ ของเลขโดด ในแต่ละ
หลกั และการเขียนตัวเลข แสดงจานวนในรปู
กระจาย
- การเปรยี บเทยี บและเรยี งลาดบั จานวน
- คา่ ประมาณของจานวนนบั และการใช้ เคร่ืองหมาย
≈
3. บอก อา่ น และเขยี นเศษส่วน จานวนคละ แสดง เศษสว่ น
ปรมิ าณสงิ่ ต่าง ๆ และแสดงส่ิงต่าง ๆ ตามเศษส่วน - เศษสว่ นแท้ เศษเกนิ
จานวนคละท่ีกาหนด - จานวนคละ
4. เปรียบเทยี บ เรยี งลาดับเศษส่วน และจานวนคละ - ความสัมพันธ์ระหวา่ งจานวนคละและเศษเกนิ
ทีต่ วั สว่ นตัวหนง่ึ เป็นพหุคูณของอีกตัวหนึ่ง - เศษส่วนทเ่ี ท่ากนั เศษส่วนอยา่ งต่า และเศษสว่ นท่ี
เทา่ กับจานวนนับ
- การเปรยี บเทียบ เรยี งลาดับเศษส่วน และจานวน
คละ
5. อา่ นและเขยี นทศนิยมไมเ่ กิน 3 ตาแหนง่ แสดง ทศนยิ ม
ปรมิ าณของสิ่งตา่ ง ๆ และแสดง สง่ิ ตา่ ง ๆ ตาม - การอ่านและการเขยี นทศนิยมไมเ่ กิน 3 ตาแหนง่
ทศนิยมท่ีกาหนด ตามปรมิ าณที่กาหนด
6. เปรยี บเทียบและเรียงลาดับทศนยิ ม ไม่เกิน 3 - หลกั คา่ ประจาหลัก ค่าของเลขโดด ในแต่ละหลัก
ตาแหนง่ จากสถานการณ์ตา่ ง ๆ ของทศนิยม และการเขยี น ตัวเลขแสดงทศนิยมใน
รูปกระจาย
- ทศนยิ มทเ่ี ท่ากัน
- การเปรียบเทียบและเรยี งลาดับทศนิยม
6
ตัวช้ีวดั สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง
7. ประมาณผลลพั ธ์ของการบวก การลบ การคูณ การบวก การลบ การคณู การหารจานวนนับ ท่ี
การหาร จากสถานการณต์ ่าง ๆ อยา่ งสมเหตุสมผล มากกว่า 100,000 และ 0
8. หาคา่ ของตัวไม่ทราบคา่ ในประโยคสัญลักษณ์ - การประมาณผลลพั ธข์ องการบวก การลบ การคูณ
แสดงการบวกและประโยคสัญลักษณ์ แสดงการลบ การหาร
ของจานวนนบั ที่มากกว่า 100,000 และ 0 - การบวกและการลบ
9. หาค่าของตวั ไม่ทราบคา่ ในประโยคสัญลักษณ์ - การคณู และการหาร
แสดงการคูณของจานวนหลายหลัก 2 จานวน ที่มี - การบวก ลบ คูณ หารระคน
ผลคูณไม่เกิน 6 หลักและ ประโยคสญั ลักษณ์แสดง - การแกโ้ จทยป์ ัญหาและการสรา้ ง โจทยป์ ญั หา
การหารทตี่ วั ต้ัง ไม่เกนิ 6 หลัก ตัวหารไมเ่ กิน 2 พร้อมท้งั หาคาตอบ
หลัก
10. หาผลลัพธก์ ารบวก ลบ คณู หารระคน ของ
จานวนนับ และ 0
11. แสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทย์ปญั หา 2 ขน้ั ตอน
ของจานวนนบั ท่ีมากกวา่ 100,000 และ 0
12. สร้างโจทยป์ ัญหา 2 ข้ันตอน ของจานวนนบั และ
0 พร้อมทงั้ หาคาตอบ
13. หาผลบวก ผลลบของเศษส่วนและ จานวนคละ การบวก การลบเศษส่วน
ทตี่ วั ส่วนตวั หนึ่งเปน็ พหคุ ณู ของอีกตัวหนง่ึ - การบวก การลบเศษสว่ นและจานวนคละ
14. แสดงวิธหี าคาตอบของโจทย์ปัญหา การบวก - การแก้โจทย์ปัญหาการบวกและ โจทย์ปัญหาการ
และโจทย์ปัญหาการลบเศษส่วน และจานวนคละที่ ลบเศษสว่ นและ จานวนคละ
ตัวสว่ นตัวหน่งึ เป็นพหคุ ูณของอกี ตวั หน่งึ
15. หาผลบวก ผลลบของทศนิยมไม่เกิน 3 ตาแหน่ง การบวก การลบทศนิยม
16. แสดงวธิ หี าคาตอบของโจทย์ปัญหา การบวก - การบวก การลบทศนิยม
การลบ 2 ขน้ั ตอน ของทศนิยมไมเ่ กิน 3 ตาแหน่ง - การแก้โจทย์ปัญหาการบวก การลบ ทศนิยมไม่
เกิน 2 ขนั้ ตอน
มาตรฐาน ค 1.2 เขา้ ใจและวเิ คราะห์แบบรปู ความสมั พนั ธ์ ฟงั กช์ นั ลาดบั และอนุกรม และนาไปใช้
ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
(มกี ารจดั การเรยี นการสอน เพอื่ เป็นพนื้ ฐาน แต่ แบบรปู
ไม่วัดผล) - แบบรปู ของจานวนท่เี กดิ จากการคูณ การหารด้วย
จานวนเดยี วกนั
มาตรฐาน ค 1.3 ใช้นพิ จน์ สมการ และอสมการ อธิบายความสมั พันธ์ หรือชว่ ยแก้ปญั หาท่ีกาหนดให้
ตวั ชวี ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
--
7
สาระท่ี 2 การวดั และเรขาคณิต
มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพ้ืนฐานเกย่ี วกับการวดั วดั และคาดคะเนขนาดของส่งิ ท่ตี ้องการวดั
และนาไปใช้
ตัวชีวดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง
๑. แสดงวิธีหาคาตอบของโจทยป์ ญั หา เก่ยี วกบั เวลา เวลา
- การบอกระยะเวลาเปน็ วินาที นาที ชวั่ โมง วัน
สปั ดาห์ เดอื น ปี
- การเปรียบเทยี บระยะเวลาโดยใช้ ความสมั พนั ธ์
ระหว่างหนว่ ยเวลา
- การอ่านตารางเวลา
- การแก้โจทย์ปัญหาเก่ยี วกบั เวลา
๒. วดั และสรา้ งมุม โดยใช้โพรแทรกเตอร์ การวัดและสร้างมุม
- การวัดขนดของมมุ โดยใช้โพรแทรกเตอร์
- การสรา้ งมุมเมื่อกาหนดขนาดของมุม
๓. แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหา เก่ยี วกับ ความยาว รูปสเี่ หลยี่ มมุมฉาก
รอบรปู และพื้นท่ี ของรปู สี่เหล่ยี มมมุ ฉาก - ความยาวรอบรปู ของรปู ส่ีเหลยี่ มมมุ ฉาก
- พ้นื ทข่ี องรูปส่ีเหล่ยี มมมุ ฉาก
- การแก้โจทย์ปญั หาเกี่ยวกับความยาว รอบรูป
และพ้นื ทขี่ องรปู สเ่ี หลี่ยมมมุ ฉาก
มาตรฐาน ค 2.2 เข้าใจและวเิ คราะหร์ ปู เรขาคณิต สมบตั ิของรูปเรขาคณิต ความสัมพันธ์ระหวา่ ง
รูปเรขาคณติ และทฤษฎีบททางเรขาคณติ และนาไปใช้
ตวั ชีวดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง
1. จาแนกชนดิ ของมุม บอกชื่อมมุ ส่วนประกอบ รูปเรขาคณติ
ของมมุ และเขยี นสัญลกั ษณ์ แสดงมุม - ระนาบ จุด เสน้ ตรง รงั สี สว่ นของเส้นตรง และ
2. สรา้ งรูปสเี่ หลีย่ มมมุ ฉากเม่ือกาหนด ความยาว สญั ลกั ษณแ์ สดงเสน้ ตรง รังสี สว่ นของเส้นตรง
ของด้าน - มมุ
o สว่ นประกอบของมมุ
o การเรียกชื่อมุม
o สญั ลักษณ์แสดงมมุ
o ชนดิ ของมุม
- ชนดิ และสมบัติของรูปสเ่ี หล่ียมมุมฉาก
- การสรา้ งรูปสเ่ี หลยี่ มมมุ ฉาก
8
สาระท่ี 3 สถติ ิและความนา่ จะเปน็
มาตรฐาน ค 3.1 เข้าใจกระบวนการทางสถิติ และใชค้ วามรูท้ างสถิตใิ นการแกป้ ญั หา
ตวั ชีวดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง
1. ใช้ขอ้ มลู จากแผนภูมแิ ทง่ ตารางสองทาง ในการหาคาตอบ การนาเสนอขอ้ มลู
ของโจทยป์ ัญหา - การอ่านและการเขียนแผนภูมิแท่ง (ไม่รวม
การยน่ ระยะ)
- การอ่านตารางสองทาง (two - way table)
มาตรฐาน ค 3.2 เข้าใจหลกั การนบั เบื้องต้น ความน่าจะเป็น และนาไปใช้
ตัวชีวดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
--
9
คาอธิบายรายวิชา
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
รหัสวชิ า ค14101 วิชาคณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 4
4 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ 160 ช่วั โมง/ภาคเรียน
ศกึ ษา ฝึกทกั ษะการคดิ คานวณ และฝึกการแกป้ ัญหาในเนอื้ หาตอ่ ไปน้ี
การอ่าน การเขยี นตวั เลขฮนิ ดูอารบกิ ตวั เลขไทยและตัวหนังสือแสดงจานวนที่มากกว่า100,000 หลัก
ค่าประจา หลักและค่าของเลขโดดในแต่ละหลัก และการเขียนตัวเลขแสดงจานวนในรูปกระจาย
การเปรยี บเทยี บและเรียงลา ดบั จานวน คา่ ประมาณของจานวนนบั และการใชเ้ ครื่องหมาย ≈ การบวกและการ
ลบจานวนท่มี ากกว่า 100,000 การคณู และการหาร การบวก ลบ คณู หารระคน การประมาณผลลัพธ์ของการ
บวก การลบ การคูณ การหาร การแก้โจทย์ปัญหาและการสร้างโจทย์ปัญหาพร้อมทั้งหาคาตอบ แบบรูปของ
จานวนท่ีเกิดจาก การคูณ การหารด้วยจานวนเดียวกัน เศษส่วนแท้ เศษเกิน จานวนคละ ความสัมพันธ์
ระหว่างจานวนคละและเศษเกิน เศษส่วนที่เท่ากัน เศษส่วนอย่างต่า และเศษส่วนท่ีเท่ากับจานวนนับ
การเปรียบเทยี บและเรียงลา ดับเศษส่วน จานวนคละ การบวก การลบเศษส่วนและจานวนคละ การแก้โจทย์
ปัญหาการบวกและโจทยป์ ัญหาการลบเศษส่วน จานวนคละ การอ่านและการเขียนทศนิยมไม่เกิน 3 ตาแหน่ง
หลัก ค่าประจา หลัก ค่าของเลขโดดในแต่ละหลัก ของทศนิยม และการเขียนตัวเลขแสดงทศนิยมในรูป
กระจาย ทศนิยมท่ีเท่ากัน การเปรียบเทียบและ เรียงลา ดับทศนิยม การบวก การลบทศนิยม การแก้โจทย์
ปัญหาการบวก การลบ ทศนิยมไม่เกิน 2 ขั้นตอน การบอกระยะเวลาเป็นวินาที นาที ชั่วโมง วัน สัปดาห์
เดือน ปี การเปรยี บเทียบระยะเวลาโดยใช้ ความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยเวลา การอ่านตารางเวลา การแก้โจทย์
ปัญหาเกี่ยวกับเวลา ระนาบ จุด เส้นตรง รังสี ส่วนของเส้นตรงและสัญลักษณ์แสดงเส้นตรง รังสี
สว่ นของเส้นตรง มุม ส่วนประกอบของมุม การเรียกชื่อมุม สัญลักษณ์แสดงมุม ชนิดของมุม การวัดขนาดของ
มุม โดยใช้ โพรแทรกเตอร์ การสร้างมุมเม่ือกาหนดขนาดของมุม ชนิดและสมบัติของรูปส่ีเหลี่ยมมุมฉาก
การสร้างรูปส่ีเหล่ียมมุมฉาก ความยาวรอบรูปของรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก พ้ืนท่ีของรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก
การแกโ้ จทยป์ ญั หาเก่ียวกับความยาวรอบรูปและพนื้ ที่ ของรูปสี่เหลีย่ มมุมฉาก
การอา่ นและการเขียนแผนภมู ิแท่ง (ไม่รวมการย่นระยะ) การอ่านตารางสองทาง โดยจัดประสบการณ์
หรอื สรา้ งสถานการณ์ท่ใี กลต้ ัว ให้นักเรียนได้ศึกษาค้นคว้าจากการปฏิบัติจริง สรุป รายงาน เพ่ือพัฒนาทักษะ
การคิดคานวณ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์เกี่ยวกับการแก้ปัญหา การสื่อสารและการส่ือ
ความหมายทาง คณิตศาสตร์ การเช่ือมโยง การให้เหตุผล และการคิดสร้างสรรค์ สามารถทา งานอย่างเป็น
ระบบ มีระเบียบวินัย มีความรอบคอบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ และมีความเช่ือม่ันในตนเองรวมท้ัง
ตระหนักใน คุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ การวัดและประเมินผล เน้นการวัดและประเมินผลเพื่อ
พัฒนาการเรียนรู้ ด้วยวิธีการท่ีหลากหลาย โดยให้สอดคล้องกับบริบท และเป็นไปตามมาตรฐานการเรียนรู้
และตัวช้ีวัด
10
รหัสตัวชี้วัด
ค 1.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4, ป.4/5, ป4/6, ป.4/7, ป.4/8, ป.4/9,
ป.4/10, ป.4/11, ป.4/12, ป.4/13, ป.4/14, ป.4/15, ป4/16
ค 1.2 -
ค 1.3 -
ค 2.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3,
ค 2.2 ป.4/1, ป.4/2,
ค 3.1 ป.4/1
ค 3.2 -
รวมทั้งหมด 22 ตัวช้ีวดั
11
ตารางวิเคราะห์หลกั สูตร
รายวิชาคณติ ศาสตร์พื้นฐาน รหัสวชิ า ค14101 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์
ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรยี นที่ 2 เวลาเรยี น 80 คาบ/ภาคเรยี น จานวน 2 หน่วยกติ
หนว่ ยการเรียนรู้
สาระหลัก ลาดบั ชอ่ื หน่วยการ มาตรฐานและตัวชวี้ ัด
ท่ี เรยี นรู้
สาระการเรยี นรู้ท่ี 1 จานวนและ 6 เศษส่วน ค 1.1 ป.4/3,ป.4/4,ป.4/13 และ
พีชคณติ ป.4/14
สาระการเรียนรทู้ ่ี 1 จานวนและ 7 ทศนยิ ม ค 1.1 ป.4/5,ป.4/6,ป.4/15 และ
พีชคณติ ป.4/16
สาระการเรียนรทู้ ี่ 2 การวดั และ 8 มมุ ค 2.1 ป.4/2
เรขาคณิต ค 2.2 ป.4/1
สาระการเรยี นร้ทู ่ี 2 การวดั และ 9 รูปส่ีเหลี่ยมมมุ ค 2.1 ป.4/3
เรขาคณิต ฉาก ค 2.2 ป.4/2
สาระที่ 3 สถิติและความน่าจะเปน็ 10 การนาเสนอ ค 3.1 ป.4/1
ขอ้ มลู
12
โครงสร้างรายวชิ า
โครงสร้างรายวิชาคณิตศาสตร์ รหัสวิชา ค 14101 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 4 เวลา 160 ชม./ปี
หน่วย ชื่อหน่วยการ มาตรฐาน สาระสาคัญ เวลา น้าหนัก
ท่ี เรยี น ตวั ชี้วดั / (ชัว่ โมง) คะแนน
ผลการเรียนรู้
1 จานวนนบั ท่ี ค 1.1 ป.4/1 - การเขยี นตัวเลขแสดงจานวนนับที่ 13 6
มากกว่า และ ป.4/2 มากกวา่ 100,000 เลขโดดทางซา้ ยของ
100,000 หลกั แสน อยู่ในหลกั ล้าน หลักสบิ ล้าน
หลกั รอ้ ยล้าน หลักพนั ลา้ น หลกั หม่ืน
ล้าน หลกั แสนล้าน หลกั ล้านลา้ น …
ตามลาดบั
- คา่ ประจาหลกั ของหลกั ที่อยู่ทางซา้ ย
เป็น 10 เทา่ ของค่าประจาหลักของ
หลักท่อี ยู่ตดิ กนั ทางขวา
- เลขโดดในหลกั ตา่ ง ๆ มคี า่ ตามคา่
ประจาหลัก
- การเขียนตวั เลขแสดงจานวนในรูป
กระจายเปน็ การเขียนในรูปการบวกของ
จานวนในแตล่ ะหลัก
- จานวน 2 จานวนเมือ่ นามา
เปรียบเทียบกนั จะเทา่ กันมากกวา่ กัน
หรอื นอ้ ยกว่ากนั อย่างใดอย่างหนึ่ง
เพยี งอย่างเดียวเท่าน้ัน
- การเปรยี บเทียบจานวนนบั 2 จานวน
ให้เปรียบเทียบค่าของเลขโดดในหลกั
ซา้ ยสดุ ของแต่ละจานวนก่อน ถา้ ไม่
เทา่ กนั จานวนนับท่ีมีค่าของเลขโดด
มากกวา่ จานวนนั้นจะมากกว่า ถา้
เทา่ กนั ใหเ้ ปรียบเทยี บคา่ ของเลขโดดใน
หลกั ถัดไปทางขวาทลี ะหลัก ถ้าพบว่าคา่
ของเลขโดดของจานวนใดมากกว่า
จานวนนนั้ จะมากกวา่
- การเรยี งลาดับจานวนหลาย ๆ จานวน
ทาได้โดยการเปรียบเทียบจานวนทีละคู่
แล้วเรยี งลาดับจากนอ้ ยไปมากหรอื จาก
มากไปนอ้ ย
- การหาค่าประมาณของจานวนนับให้
13
หน่วย ช่ือหน่วยการ มาตรฐาน สาระสาคัญ เวลา น้าหนัก
ท่ี เรียน ตัวชี้วัด/ (ชวั่ โมง) คะแนน
ผลการเรยี นรู้
จานวนนบั ที่ เปน็ จานวนเต็มสบิ จานวนเตม็ ร้อย
จานวนเต็มพัน ... เปน็ การหาจานวน
มากกวา่
เต็มท่ีใกล้เคียงจานวนทต่ี ้องการ
100,000 ประมาณ เพ่ือสะดวกในการนาไปใช้
(ต่อ) - การหาผลบวกจานวนท่มี หี ลายหลัก
ทาได้โดยนาจานวนที่อย่ใู นหลักเดยี วกัน
2 การบวกและ ค 1.1 ป.4/7 มาบวกกัน ถ้าผลบวกในหลกั ใดครบสิบ 14 8
หรอื มากกว่าสบิ ใหท้ ดจานวนทคี่ รบสบิ
การลบ และ ป.4/8 ไปรวมกับผลบวกในหลกั ถัดไปทางซา้ ย
- การหาผลลบจานวนที่มีหลายหลัก ทา
จานวนนบั ท่ี ไดโ้ ดยนาจานวนทีอ่ ยู่ในหลกั เดียวกัน
ของตัวตงั้ ลบดว้ ยจานวนที่เป็นตัวลบ ถ้า
มากกว่า ในหลักใดตัวตั้งน้อยกว่าตวั ลบ ให้
กระจายตวั ตั้งในหลักถัดไปทางซา้ ยรวม
100,000 กับตัวต้ังในหลักน้นั ก่อนแลว้ จึงหาผลลบ
- การหาผลบวกหรือผลลบของจานวนท่ี
มีหลายหลกั โดยใชค้ ่าประมาณ อาจทา
ไดโ้ ดยประมาณจานวนใดจานวนหนงึ่
หรอื จานวนทงั้ หมดใหเ้ ปน็ จานวนเตม็ สบิ
เตม็ ร้อย เต็มพนั เตม็ หม่นื ... แล้วจงึ
นามาบวกหรอื ลบกนั
- การหาคา่ ของตวั ไม่ทราบคา่ ของ
ประโยคสญั ลกั ษณ์การบวกและประโยค
สัญลกั ษณ์การลบ อาจทาได้โดยใช้
ความสัมพนั ธข์ องการบวกและการลบ
- การแกโ้ จทย์ปญั หาการบวก และโจทย์
ปัญหาการลบ อาจเริ่มจากทาความ
เข้าใจปัญหา วางแผนการแก้ปญั หา
ดาเนินการตามแผนและตรวจสอบความ
สมเหตุสมผลของคาตอบ
- การสร้างโจทย์ปญั หาการบวก โจทย์
ปญั หาการลบต้องพจิ ารณาสถานการณ์
ทสี่ ร้างข้ึนให้สมเหตสุ มผลสอดคลอ้ งกับ
ความเป็นจริง
14
หน่วย ช่อื หน่วยการ มาตรฐาน สาระสาคัญ เวลา นา้ หนัก
ท่ี เรยี น ตัวชวี้ ัด/ (ช่วั โมง) คะแนน
ผลการเรยี นรู้
3 การคณู ค 1.1 ป.4/9 , - การคูณจานวน 1 หลัก กบั จานวน 23 11
มากกวา่
การหาร ป.4/10 และ 4 หลักหาผลคูณได้โดยนาจานวน 1
หลักไปคูณจานวนที่มากกวา่ 4 หลกั
ป.4/11 โดยเร่ิมจากหลกั ทางขวาไปหลักทางซา้ ย
ทีละหลัก
- การคณู จานวนมากกว่า 1 หลกั กบั
จานวนมากกวา่ 2 หลกั สามารถหาผล
คณู ไดโ้ ดยกระจายจานวนจานวนหนึง่
ตามค่าประจาหลกั แล้วนาจานวนในแต่
ละหลกั คูณกับอีกจานวนหนงึ่ จากนน้ั นา
ผลคณู ทไี่ ด้มาบวกกัน
- การหารท่ีตวั หารไม่เกนิ 2 หลัก
สามารถหาผลหารได้โดย หารตวั ตั้งจาก
ซ้ายไปขวาทลี ะหลกั ซึ่งผลหารแต่ละหลกั
หาได้จากความสัมพนั ธ์ระหว่างการคูณ
กับการหาร
- การหาคา่ ตัวไม่ทราบค่าในประโยค
สญั ลกั ษณ์การคูณและการหาร ตอ้ งใช้
ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งการคูณกับการหาร
- การแก้โจทยป์ ัญหาการคณู และโจทย์
ปัญหาการหารเรม่ิ จากทาความเขา้ ใจ
ปญั หา
วางแผนการแกป้ ัญหา ดาเนินการตาม
แผน และตรวจสอบความสมเหตสุ มผล
ของคาตอบ
- การสรา้ งโจทย์ปญั หาการคูณ และ
โจทย์ปัญหาการหารต้องพจิ ารณา
สถานการณ์ทสี่ ร้างขึน้ ใหส้ มเหตุสมผล
สอดคล้องกับความเป็นจริง
15
หน่วย ชื่อหน่วยการ มาตรฐาน สาระสาคญั เวลา นา้ หนัก
ท่ี เรียน ตัวชว้ี ดั / (ชวั่ โมง) คะแนน
ผลการเรยี นรู้
4 การบวก ลบ ค 1.1 ป.4/10, - การบวก ลบ คณู หารระคน ที่ 20 10
คณู หาร ป.4/11 และ มากกวา่
จานวนนบั ป.4/12 1 ขั้นตอนให้ดาเนินการดังน้ี
ขั้นที่ 1 คานวณในวงเล็บ (ถ้ามี)
ขั้นที่ 2 คูณหรือหาร โดยคานวณจาก
ซา้ ยไปขวา
ขัน้ ที่ 3 บวก หรือ ลบ โดยคานวณจาก
ซ้ายไปขวา
การบวก ลบ - การแกโ้ จทยป์ ญั หาการบวก ลบ คูณ
คณู หาร หารระคน 2 ขัน้ ตอน มีขน้ั ตอนดังน้ี
จานวนนบั 1) ทาความเข้าใจปญั หา
(ต่อ) 2) วางแผนแก้ปัญหา
3) ดาเนนิ การตามแผน
4) ตรวจสอบ
- การสร้างโจทย์ปญั หาจากประโยค
สญั ลักษณ์ ควรคานึงถึงความเปน็ ไปได้
และความสมเหตสุ มผลระหวา่ ง
สถานการณ์กับจานวน
- การสร้างโจทยป์ ัญหาจากภาพ เป็น
การนาข้อมลู จากภาพมาสร้าง
สถานการณ์ โดยอาจเพ่ิมเติมขอ้ มลู อ่นื ท่ี
เก่ยี วข้องทัง้ นี้ควรคานงึ ถงึ ความเป็นไป
ได้ ความเหมาะสม และ ความ
สมเหตุสมผลของสถานการณ์
- การหาค่าเฉลยี่ ทาได้โดยนาผลรวม
ของข้อมลู ทงั้ หมดหารด้วยจานวนข้อมูล
ท้ังหมด
- คา่ เฉลย่ี ของข้อมูลชดุ หนง่ึ จะอยู่
ระหวา่ งจานวนท่ีนอ้ ยท่ีสดุ และจานวนที่
มากทสี่ ดุ ของข้อมลู ชุดนน้ั
- การแกโ้ จทย์ปัญหาเกยี่ วกบั
ค่าเฉล่ีย อาจทาไดโ้ ดยใช้ความสมั พนั ธ์
ระหว่างการคูณกบั การหาร
16
หนว่ ย ช่ือหน่วยการ มาตรฐาน สาระสาคัญ เวลา น้าหนัก
ที่ เรียน ตัวชี้วดั / (ช่วั โมง) คะแนน
ผลการเรยี นรู้ - การบอกเวลาเปน็ นาฬกิ าและนาที ใช้
มหพั ภาค (.) หรอื ทวภิ าค (:) 85
5 เวลา ค 2.1 ป.4/1 - ระยะเวลา หมายถึง ช่วงเวลาที่
ต่อเนื่องจากเวลาหน่ึงถึงอีกเวลาหน่ึง
เคร่ืองหมายวรรคตอนทใี่ ชค้ ือ ทวภิ าค
(:)
- 60 วินาที เท่ากับ 1 นาที
- การเปรียบเทยี บระยะเวลา อาจ
เปลี่ยนใหเ้ ป็นหนว่ ยเดียวกันโดยใช้
ความสมั พนั ธข์ องหน่วยเวลา
เวลา (ต่อ - การอา่ นตารางเวลาต้องพิจารณาจาก 2 10
6 เศษสว่ น ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งช่องแสดงรายการ 22 8
ในแนวตงั้ กับแนวนอน
- การแก้โจทยป์ ัญหาเกยี่ วกบั เวลา
อาจใช้ความสมั พันธร์ ะหวา่ งหน่วยเวลา
สอบปลายภาคเรยี นท่ี 1
ค 1.1 ป.4/3, - เศษส่วนและจานวนคละเป็นจานวนท่ี
ป.4/4, ป.4/13 ใชแ้ สดงปรมิ าณของสิ่งตา่ ง ๆ
และ ป.4/14 - เศษส่วนท่มี ีตัวเศษน้อยกว่าตวั สว่ น
เรยี กวา่ เศษส่วนแท้
- เศษส่วนท่ีมตี วั เศษเท่ากับหรอื
มากกว่า ตวั ส่วน เรยี กวา่ เศษเกนิ
- จานวนคละเป็นจานวนที่เขียนในรูป
จานวนนับกบั เศษสว่ นแท้
- การเขียนจานวนคละในรูปเศษเกนิ ทา
ได้โดย นาตัวสว่ นคูณกับจานวนนบั แล้ว
บวกกับตัวเศษ ผลลัพธ์ที่ได้เป็นตวั
เศษ ของเศษเกิน โดยมตี ัวส่วนคงเดิม
- การเขียนเศษเกนิ ในรูปจานวนคละทา
ได้โดย นาตัวส่วนไปหารตวั เศษ ผลหาร
ทไี่ ด้เปน็ จานวนนับ เศษที่ไดเ้ ป็นตวั เศษ
โดยมตี ัวสว่ นคงเดิม
- จานวนนบั ทุกจานวนสามารถเขียนใน
17
เศษส่วน รูปเศษส่วนได้โดยที่ตัวส่วนหารตัวเศษได้
(ต่อ) ลงตัว ซงึ่ ผลหารท่ีไดเ้ ทา่ กับจานวนนับ
นั้น
- จานวนนบั ทกุ จานวนสามารถเขียนใน
รปู เศษสว่ นได้ ถ้าตัวเศษเปน็ จานวนนับ
นั้น ตัวส่วนจะเป็น 1
- การทาเศษสว่ นใหเ้ ท่ากบั เศษสว่ นที่
กาหนด อาจทาไดโ้ ดยนาจานวน
นบั จานวนเดยี วกันคณู ทง้ั ตวั เศษและ
ตวั สว่ น
- การทาเศษสว่ นให้เทา่ กบั เศษสว่ นท่ี
กาหนด อาจทาได้โดยนาจานวนนับ
จานวนเดียวกันหารทัง้ ตวั เศษและตวั
สว่ น ซงึ่ จานวนนับน้ันต้องหารทง้ั ตัวเศษ
และตวั สว่ นได้ลงตัว
- การเปรยี บเทยี บเศษสว่ นท่มี ีตัว
สว่ น ไมเ่ ทา่ กนั อาจทาไดโ้ ดยทาตัวส่วน
ให้เท่ากนั เม่ือตัวสว่ นเท่ากนั แลว้ จงึ
เปรียบเทียบตวั เศษ เศษส่วนใดมีตวั เศษ
มากกวา่ เศษส่วนนั้นจะมากกว่า
- การเปรยี บเทยี บจานวนคละ
ใหเ้ ปรยี บเทียบจานวนนับก่อน
ถ้าจานวนนับของจานวนคละใดมากกวา่
จานวนคละนน้ั จะมากกว่า ถา้ จานวน
นบั ของจานวนคละเทา่ กนั ให้
เปรียบเทียบเศษสว่ น เศษส่วนใด
มากกวา่ จานวนคละน้นั จะมากกว่า
- การเรียงลาดับเศษส่วนท่ีมีตัวส่วนไม่
เท่ากัน อาจใช้วธิ ีทาเศษส่วนทุกจานวน
ใหม้ ตี วั ส่วนเทา่ กนั แลว้ เรยี งลาดับโดย
พิจารณาจากตวั เศษ
- การบวก หรือ การลบเศษส่วนท่มี ตี วั
ส่วนไม่เทา่ กนั ต้องทาตวั ส่วนใหเ้ ท่ากนั
ก่อน แลว้ จงึ นาตัวเศษมาบวกกนั หรือ
ลบกัน
- การบวก หรอื การลบจานวนคละ ทา
ได้โดย เปลยี่ นจานวนคละใหเ้ ปน็
เศษเกนิ ก่อน แลว้ จึงหาผลบวก หรือผล
18
หน่วย ชอ่ื หน่วยการ มาตรฐาน สาระสาคัญ เวลา น้าหนัก
ที่ เรียน ตัวชี้วดั / (ชวั่ โมง) คะแนน
ผลการเรียนรู้ ลบ
- การแก้โจทยป์ ญั หาเริม่ จากการทา
ความเขา้ ใจปัญหา วางแผนแก้ปัญหา
ดาเนินการตามแผน และตรวจสอบ
7 ทศนยิ ม ค 1.1 ป.4/5 , - ทศนิยมเป็นจานวนชนิดหน่งึ ที่ใชแ้ สดง 19 7
ป.4/6, ป.4/15 ปรมิ าณต่าง ๆ มี (.) เปน็ จุดทศนิยม โดย
และ ป.4/16 ตวั เลขที่อยหู่ น้าจุดทศนยิ ม แสดงจานวน
นับหรือศูนย์ ตวั เลขที่อยหู่ ลงั จุดทศนิยม
แสดงจานวนท่ีนอ้ ยกวา่ 1
- การอ่านทศนยิ ม ตวั เลขท่ีอย่หู น้าจดุ
ทศนยิ ม อ่านเช่นเดียวกันกับจานวนนับ
หรือศูนย์ ตวั เลขหลงั จุดทศนิยม อา่ นเรียง
ตวั
ทศนยิ ม (ต่อ) - การเปรียบเทียบทศนยิ มใช้วธิ ีการ
เดียวกับการเปรยี บเทียบจานวนนับ โดย
เปรียบเทยี บจานวนทอี่ ยู่หนา้ จุดทศนิยม
ก่อน ถา้ จานวน ท่ีอยหู่ นา้ จดุ ทศนยิ ม
เทา่ กนั จึงเปรียบเทียบจานวนท่ีอยหู่ ลัง
จุดทศนิยมทีละหลกั โดยเรมิ่ จากหลักสว่ น
สบิ จานวนที่มีค่าของเลขโดดมากกวา่
จานวนน้นั จะมากกว่า
- การบวกและการลบทศนิยมใช้หลักการ
เดียวกันกบั การบวกและการลบจานวน
นับ โดยนาจานวนในหลกั เดียวกนั มาบวก
หรือลบกัน
- การแกโ้ จทย์ปัญหาการบวก และการลบ
ทศนยิ ม เรม่ิ จากทาความเขา้ ใจปญั หาวาง
แผนการแกป้ ัญหา ดาเนนิ การตามแผน
และตรวจสอบ
19
หนว่ ย ช่ือหน่วยการ มาตรฐาน สาระสาคัญ เวลา นา้ หนัก
ท่ี เรยี น ตัวช้ีวัด/ (ชว่ั โมง) คะแนน
ผลการเรยี นรู้
8 มุม ค 2.1 ป.4/2 - มุม คอื รังสี 2 เส้นที่มจี ุดปลายเป็นจุด 11 4
เดียวกัน รังสี 2 เสน้ น้ี เรยี กวา่ แขนของ
ค 2.2 ป.4/1 มมุ และจดุ ปลายท่ีเปน็ จดุ เดียวกนั น้ี
เรยี กวา่ จุดยอดมุม
- หรอื เป็นสัญลกั ษณแ์ สดงมุม
- การวัดขนาดของมุมโดยใชโ้ พร
แทรกเตอร์ ทาไดโ้ ดยวางโพรแทรกเตอร์
ให้จุดกงึ่ กลางของโพรแทรกเตอรท์ บั จุด
ยอดมุมของมมุ ทีต่ อ้ งการวดั และให้แนว
ศนู ย์องศาของโพรแทรกเตอร์ทาบไปบน
แขนข้างหน่ึงของมุม จากนน้ั อ่านขนาด
ของมมุ โดยนับจาก 0 องศา ท่ตี รงกับ
แขนของมุมขา้ งหนงึ่ ไปจนถึงรอยขดี
บอกองศาทีต่ รงกับ
แขนของมุมอีกขา้ งหน่ึง รอยขีดน้นั จะ
บอกขนาดของมุมทต่ี ้องการวัด
- มุมตา่ ง ๆ จาแนกตามขนาดได้ดังน้ี
มุมศนู ย์ มีขนาด 0
มุมแหลม มีขนาดมากกว่า 0 แตน่ ้อย
กวา่ 90 มุมฉาก มีขนาด 90
มมุ ปา้ น มขี นาดมากกว่า 90 แตน่ อ้ ย
กวา่ 180
มมุ ตรง มขี นาด 180
มุมกลบั มีขนาดมากกวา่ 180 แต่นอ้ ย
กวา่ 360
- การสรา้ งมุมให้มีขนาดตามที่
ต้องการ มขี ้ันตอน ดังนี้
ขน้ั ที่ 1 ลากรงั สี 1 เสน้ เปน็ แขนของมุม
พร้อมทง้ั กาหนดจุดปลาย
ขน้ั ท่ี 2 วางโพรแทรกเตอร์ให้จุด
กึง่ กลางทับจดุ ปลายและแนวศูนย์องศา
ทาบไปบนรงั สี
ขั้นที่ 3 นับจานวนองศาจาก 0 ไป
จนถึงขนาดของมมุ ท่ีตอ้ งการ โดยเขียน
จุดกากับไว้ แลว้ ลากรงั สจี ากจุดปลายให้
20
หนว่ ย ชื่อหน่วยการ มาตรฐาน สาระสาคัญ เวลา นา้ หนัก
ที่ เรยี น ตวั ช้ีวัด/ (ช่วั โมง) คะแนน
ผลการเรยี นรู้
9 รปู ส่ีเหลย่ี ม ค 2.1 ป.4/3 ผ่านจดุ ทเี่ ขยี นกากบั ไว้ จะได้มมุ มขี นาด 18 7
มมุ ฉาก ค 2.2 ป.4/2 ตามตอ้ งการ
- รูปสเ่ี หล่ียมทมี่ ีมมุ เป็นมุมฉาก
เรียกว่า รูปส่เี หล่ยี มมุมฉาก
- รปู ส่ีเหล่ียมมมุ ฉากที่มดี ้านยาวเท่ากนั
ทกุ ด้าน เรียกว่า รปู สเี่ หลีย่ มจัตุรสั
- รปู สี่เหลยี่ มมมุ ฉากที่มดี ้านตรงขา้ มยาว
เท่ากนั 2 คู่ โดยด้านที่อย่ตู ิดกัน ยาวไม่
เทา่ กนั เรียกว่า รปู สเี่ หลี่ยมผืนผ้า
ด้านทีส่ น้ั กวา่ เรยี กวา่ ดา้ นกว้าง ด้านท่ี
ยาวกว่าเรยี กวา่ ดา้ นยาว
- ในรูปส่เี หล่ยี มใด ๆ สว่ นของเส้นตรงที่
ลากจากจุดยอดมมุ จุดหนงึ่ ไปยังจดุ ยอด
มุมอีกจดุ หน่งึ ซ่ึงสว่ นของเส้นตรงนั้น
ไมใ่ ช่ดา้ นของรปู สเ่ี หลย่ี ม เรียกวา่ เส้น
ทแยงมมุ ของรปู ส่ีเหลยี่ ม
- เสน้ ทแยงมุมของรูปส่ีเหลีย่ มจัตรุ สั
มี 2 เสน้ ซึ่งยาวเทา่ กันแบ่งคร่งึ ซ่ึงกนั
และกนั และตดั กนั เปน็ มมุ ฉาก
- เสน้ ทแยงมมุ ของรูปสเี่ หล่ียมผืนผ้า
มี 2 เสน้ ซ่งึ ยาวเท่ากนั แบ่งครึ่งซงึ่ กัน
และกนั และตัดกนั ไมเ่ ปน็ มุมฉาก
รปู สเี่ หล่ยี ม - การสรา้ งรูปสี่เหลยี่ มมมุ ฉาก เป็นการ
มุมฉาก สรา้ งตามลกั ษณะของรูปสเี่ หลย่ี มมมุ
(ตอ่ ) ฉากแตล่ ะชนดิ ซึง่ ตอ้ งอาศัยทักษะการ
วดั ความยาว การใช้ไม้ฉากหรือโพร
แทรกเตอร์
- ความยาวรอบรปู ของรปู ส่ีเหลย่ี ม เป็น
ผลบวกของความยาว ของด้านทกุ ดา้ น
ของรปู ส่เี หลยี่ ม
21
หนว่ ย ชอ่ื หน่วยการ มาตรฐาน สาระสาคญั เวลา น้าหนัก
ที่ เรยี น ตัวชวี้ ัด/ (ช่ัวโมง) คะแนน
ผลการเรียนรู้
10 การนาเสนอ ค 3.1 ป.4/1 - ตารางสองทาง (two-way table) 8 4
เปน็ ตารางทจ่ี าแนกข้อมลู เปน็ 2
ขอ้ มูล ลักษณะ โดยการอา่ นตารางสองทางให้
อา่ นข้อมลู ในแนวต้ังและแนวนอนท่ี
สมั พนั ธก์ นั
- แผนภมู ิแท่งเป็นรปู แบบหน่ึงของการ
นาเสนอข้อมูลท่ีใช้รปู สเ่ี หลย่ี มมุมฉาก
แสดงจานวนของแตล่ ะรายการโดยการ
อ่านแผนภมู แิ ท่งทาไดโ้ ดยเทียบสว่ น
ปลายสดุ ของรปู สเี่ หลยี่ มมุมฉากแตล่ ะ
รปู กับจานวนบนเสน้ แสดงจานวน
- สว่ นประกอบของแผนภูมแิ ทง่ ไดแ้ ก่
ช่อื แผนภมู แิ ละตัวแผนภมู ิ ชอื่ แผนภมู ิ
เปน็ สว่ นท่ีแสดงให้ทราบว่าเป็นขอ้ มูล
เกีย่ วกบั เรื่องใด เวลาใด
ตวั แผนภูมิ ประกอบดว้ ย เส้นแสดง
จานวน เส้นแสดงรายการ และรูป
ส่ีเหลี่ยมมมุ ฉากท่ีแสดงจานวนของแตล่ ะ
รายการ ซึ่งรปู สี่เหลย่ี มมมุ ฉากแตล่ ะรปู
ตอ้ งมีความกว้างเทา่ กนั เรม่ิ ต้นจาก
ระดับเดียวกันท่ี 0 และระยะห่าง
ระหวา่ งรปู สี่เหล่ยี มมุมฉากควรเทา่ กัน
สอบปลายภาคเรียนที่ 2 2 20
รวมตลอดปีการศึกษา 160 100
22
กาหนดการจดั การเรียนรู้
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ วิชาคณิตศาสตร์ ค14101
ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 4 ภาคเรียนที่ 2 เวลาเรยี น 68 ชวั่ โมง จานวน 2.0 หนว่ ยกิต
หน่วยการเรียนรู้ ลาดับที่ของแผน จานวน วันท่สี อน หมาย
ช่ัวโมง เหตุ
หน่วยการเรยี นรู้ 1.เตรยี มความพร้อม 1 1/11/64
ที่6 2. เศษส่วนแท้ เศษเกนิ
1 2/11/64
เร่ือง เศษสว่ น 3. การเขยี นจานวนคละใหอ้ ยู่ในรปู ของ
เศษเกิน 1 3/11/64
4. การเขียนเศษเกินในรูปจานวนคละ
5. การเปรียบเทียบและเรยี งลาดับ 1 4/11/64
6. เศษสว่ นทีเ่ ท่ากัน (โดยการคูณ) 1 8/11/64
7. เศษส่วนที่เท่ากนั (โดยการหาร) 1 9/11/64
8. เศษส่วนอย่างต่า 1 10/11/64
9. เปรยี บเทยี บเศษส่วน 1 11/11/64
10. เปรียบเทียบเศษส่วน จานวนคละ 1 15/11/64
11. การเรยี งลาดับเศษส่วน จานวนคละ 1 16/11/64
12. การบวก การลบเศษสว่ น (1) 1 17/11/64
13 การบวก การลบเศษสว่ น (2) 1 18/11/64
14 การบวก การลบจานวนคละ 1 22/11/64
15 โจทย์ปญั หา (1) 1 23/11/64
16 โจทย์ปญั หา (2) 1 24/11/64
17 โจทยป์ ญั หา (3) 1 25/11/64
18 ทดสอบหลงั เรยี น 1 26/11/64
1 29/11/64
รวมจานวน 18 ช่ัวโมง
23
หนว่ ยการเรียนรู้ ลาดับทีข่ องแผน จานวนชั่วโมง วนั ทีส่ อน หมายเหตุ
หน่วยการเรยี นรู้ 19.ทดสอบก่อนเรยี น และเตรียมความพร้อม 1 30/11/64
ที่ 7 20. การอ่าน การเขยี นทศนิยม 1 ตาแหน่ง 1 1/12/64
เรอื่ ง ทศนยิ ม 21. การอ่าน การเขยี นทศนิยม 2 ตาแหน่ง (1) 1 2/12/64
22. การอา่ น การเขยี นทศนิยม 2 ตาแหนง่ (2) 1 7/12/64
23. การอา่ น การเขยี นทศนยิ ม 3 ตาแหนง่ 1 8/12/64
24. หลัก ค่าประจาหลกั ของทศนิยม 1 9/12/64
25. การเขียนทศนยิ มให้อยูใ่ นรปู กระจาย 1 13/12/64
26. การเปรยี บเทียบทศนิยม 1 14/12/64
27. การเรยี งลาดับทศนยิ ม 1 15/12/64
28. การบวกทศนยิ มแบบไม่มีการทด 1 16/12/64
29. การบวกทศนิยมทมี่ ีการทด 1 20/12/64
30. การลบทศนิยมแบบไมม่ ีการกระจาย 1 21/12/64
31. การลบทศนิยมแบบท่ีมกี ารกระจาย 1 22/12/64
32. การบวก การลบทศนยิ ม 2 ข้ันตอน 1 23/12/64
33. โจทย์ปัญหา 1 ขน้ั ตอน 1 27/12/64
34. โจทยป์ ัญหา 2 ขน้ั ตอน 1 28/12/64
35. ทดสอบหลงั เรยี น 1 29/12/64
รวมจานวน 17 ชว่ั โมง
หน่วยการเรยี นรู้ ลาดบั ท่ีของแผน จานวนชว่ั โมง วนั ท่ีสอน หมายเหตุ
หน่วยการเรยี นรู้ 36.เตรียมความพร้อม 1 4/01/65
ท่ี 8 37. ระนาบ จุด และการใชจ้ ดุ แสดงตาแหนง่ 1 5/01/65
เรอื่ ง มมุ
38. เสน้ ตรง ส่วนของเส้นตรง รังสี 1 6/01/65
39. มุม สว่ นประกอบของมุม การเรยี กชอื่ มมุ 1 7/01/65
40. มุมฉาก มมุ ตรง 1 11/01/65
41. มุมแหลม มมุ ปา้ น 1 12/01/65
42. การวัดขนาดมุม 1 13/01/65
43. การวดั ขนาดมุม 1 14/01/65
44. การสรา้ งมุมโดยใช้โพรแทรกเตอร์ 1 17/01/65
45. ทดสอบหลงั เรียน 1 18/01/65
รวมจานวน 10 ช่วั โมง
24
หนว่ ยการ ลาดับทีข่ องแผน จานวน วันท่สี อน หมาย
เรียนรู้ ชั่วโมง เหตุ
หนว่ ยการ 46.เตรยี มความพรอ้ ม 1 19/01/65
เรยี นรู้ 47. ชนดิ รูปสีเ่ หลย่ี มมุมฉาก 1 20/01/65
ที่ 9 48. รูปสเ่ี หลยี่ มจัตรุ ัสและรปู ส่ีเหลีย่ มผืนผ้า
เรอื่ ง รปู 1 24/01/65
สี่เหล่ยี ม
มุมฉาก 49. เสน้ ทแยงมุมของรูปสีเ่ หล่ยี ม 1 25/01/65
50. การสรา้ งรปู สี่เหล่ยี มมมุ ฉาก
51. ความยาวรอบรูปของรูปสี่เหลีย่ มมมุ ฉาก 1 26/01/65
1 27/01/65
52. ความยาวรอบรูปของรปู หลายเหล่ยี มที่แบง่ เปน็ 1 31/01/65
สี่เหลีย่ มมุมฉาก
53. พนื้ ท่ี 1 1/02/65
1 2/02/65
54. หน่วยของพน้ื ท่ี 1 3/02/65
1 7/02/65
55. การหาพ้ืนทโ่ี ดยใช้การนบั ตาราง
56. พืน้ ทข่ี องรูปสี่เหลย่ี มผนื ผ้า และพ้นื ท่ีของรปู
สี่เหล่ยี มจัตรุ ัส
57. พนื้ ทข่ี องรปู หลายเหล่ียมท่ีสามารถแบ่งเป็น 1 8/02/65
สเ่ี หลยี่ มมุมฉาก
58. โจทย์ปัญหาเกย่ี วกับความยาวรอบรูปของรปู 2 9/02/65
สเ่ี หล่ียมมุมฉาก
59. การแกโ้ จทย์ปญั หาเกี่ยวกับพื้นท่ีของรูปส่ีเหล่ียม 1 10/02/65
มมุ ฉาก
60. ทดสอบหลงั เรียน 1 14/02/65
รวมจานวน 15 ช่วั โมง
หนว่ ยการเรยี นรู้ ลาดบั ท่ขี องแผน จานวน วันท่สี อน หมาย
หนว่ ยการเรยี นรู้ ชว่ั โมง เหตุ
61. เตรยี มความพรอ้ ม 15/02/65
ที่ 10 62 การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล และการ 1 16/02/65
เร่อื ง การนาเสนอ จาแนก
63 การนาเสนอข้อมูลด้วยตารางสองทาง 1 17/02/65
ขอ้ มลู 64. การแก้ปญั หาโดยใช้ตารางสองทาง 21/02/65
65. แผนภูมแิ ทง่ 1 22/02/65
รวมจานวน 8 ชวั่ โมง 66. การแก้โจทยป์ ัญหาจากแผนภมู แิ ท่ง 1 23/02/65
67. การเขียนแผนภูมแิ ทง่ 1 24/02/65
68. ทดสอบหลงั เรียน 1 28/02/65
1
1
25
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 46
กล่มุ สาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 4
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 9 รปู สเ่ี หล่ียมมุมฉาก เวลา 15 ชว่ั โมง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 46 เตรียมความพรอ้ ม ชั่วโมงที่ 46
วนั ทสี่ อน วันท่ี 19 เดือน มกราคม พ.ศ. 2565 ผู้สอน นางสาวสภุ าภรณ์ เรอื งศรี
มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชวี้ ัด
มาตรฐานการเรยี นรู้
ค 2.1 เขา้ ใจพื้นฐานเกย่ี วกับการวดั วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งท่ตี ้องการวัด และนาไปใช้
ค 2.2 เข้าใจและวเิ คราะห์รปู เรขาคณติ สมบตั ิของรปู เรขาคณติ ความสมั พนั ธ์ระหว่างรูปเรขาคณิต
และทฤษฎบี ททางเรขาคณติ และการนาไปใช้
สาระสาคญั
รูปส่เี หล่ียม เป็นรูปปดิ ทมี่ ีด้าน 4 ดา้ น และมมุ 4 มมุ
จุดประสงค์การเรยี นรู้ เม่ือนักเรียนเรียนจบบทเรยี นน้แี ล้ว นกั เรียนสามารถ
1. ระบรุ ปู สเี่ หลยี่ มกบั รูปอนื่ ๆทก่ี าหนดให้ได้ (K)
2. จาแนกรูปสี่เหลี่ยมกบั รปู อื่นๆได้ (P)
3. แสดงพฤตกิ รรมมรี ะเบียบวนิ ัยในการทางาน (A)
สาระการเรยี นรู้
รูปส่ีเหล่ยี ม
กิจกรรมการเรยี นรู้ ( การสอนแบบอุปนัย)
ข้ันที่ 1 ขน้ั เตรียม
1. ครูกล่าวทักทายนักเรยี น จากนัน้ แจง้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ใหน้ กั เรยี นทราบ
2. ครถู ามนกั เรียนวา่ “ส่งิ ของในชวี ติ ประจาวนั อะไรบ้างที่มลี กั ษณะเป็นรปู สเี่ หล่ียม”
ข้นั ที่ 2 ขน้ั สอน
3. ครูและนกั เรยี นรว่ มกันศึกษา และทากจิ กรรมในหนงั สอื เรยี น หน้าท่ี 136 ดังนี้
26
4. ครูถามนักเรยี นว่า “รปู ส่เี หลย่ี มจะต้องมีลักษณะเป็นอย่างไร”
( เป็นรปู ปดิ มีด้าน 4 ดา้ น มีมุม 4 มุม )
ขั้นท่ี 3 ขนั้ สรปุ
5. ครูตรวจสอบความรูพ้ นื้ ฐานเกี่ยวกับรูปสเ่ี หลยี่ มซ่ึงจาเปน็ สาหรับการเรยี นบทนี้ หากพบวา่ นกั เรยี นยังมี
ความร้พู ้นื ฐานไมเ่ พยี งพอควรทบทวนก่อน
ขน้ั ท่ี 4 ขน้ั นาไปใช้
6. ให้นกั เรียนทาแบบฝกึ หดั ท่ี 9.1 หน้าที่ 58
สื่อและแหล่งการเรยี นรู้
1. สอ่ื การเรียนรู้
1.1 แบบฝึกหดั รายวชิ าคณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4
1.2 หนงั สือเรยี นรายวิชาคณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 4
1.3 Powerpoint เนื้อหาการเรยี น
2.แหล่งการเรยี นรู้
2.1 เว็บไซต์ https://proj14.ipst.ac.th/p4/p4-math-book2/
การวัดผลและประเมินผล
ส่ิงทตี่ ้องการวดั /ประเมนิ วธิ กี าร เครื่องมอื ทใ่ี ช้ เกณฑ์การประเมิน
- ตรวจแบบฝึกหดั 9.1 - แบบฝึกหัด 9.1
1. ด้านความรู้ (K) ถูกต้องรอ้ ยละ 70
ระบรุ ูปสี่เหลีย่ มกบั รปู อ่ืนๆท่ี ข้นึ ไป
กาหนดใหไ้ ด้ (K)
2. ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) - ตรวจแบบฝกึ หัด 9.1 - แบบฝกึ หัด 9.1 ถกู ต้องรอ้ ยละ 70
จาแนกรปู สเี่ หลี่ยมกับรูปอื่นๆได้ ข้ึนไป
- สงั เกตจากการรว่ ม - แบบสังเกต
(P) กิจกรรมการเรยี นรู้ พฤติกรรมรายหน่วย ผา่ นเกณฑ์ในระดบั
ดขี ้นึ ไป
3. ดา้ นคุณลกั ษณะ (A)
แสดงพฤตกิ รรมมรี ะเบยี บวินัย
ในการทางาน (A)
27
บันทึกหลงั การสอน
1. ผลการจดั การเรยี นการสอน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..………
นกั เรยี นระบรุ ูปส่ีเหล่ยี มกับรูปอนื่ ๆท่ีกาหนดให้ได้ และจาแนกรปู สเี่ หล่ยี มกับรปู อืน่ ๆได้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
2. ปัญหา/อปุ สรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………
นักเรยี นบางสว่ นไม่มอี ปุ กรณใ์ นการเรยี น หรือใชโ้ ทรศัพท์ของผปู้ กครอง ทาใหไ้ มส่ ามารถเข้าเรยี นได้อย่าง
สมา่ เสมอ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………
3. แนวทางแก้ไขปัญหา
…………………………………………………………………………………………………………………………..……………………………………
ครูอดั คลปิ วีดีโอการสอนย้อนหลังไว้ใหใ้ นกลมุ่ facebook
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
ลงชือ่ ..........................................ผูบ้ ันทึก
( นางสาวสุภาภรณ์ เรอื งศรี )
….……./……………/…..………
28
บนั ทกึ ความคดิ เหน็ และขอ้ เสนอแนะ
ความเหน็ ครพู ่ีเลีย้ ง
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................ ..................................................................................................... ...
..................……………………………………………….......................................................................................................
..............………………………………………………...............................................................................................................
ลงช่อื .................................................
( นางขนิษฐา นรินทร์ )
ครพู ี่เลยี้ ง
ความคิดเห็นของหวั หนา้ สถานศกึ ษาหรือผูท้ ่ีไดร้ บั มอบหมาย
............................................................................................................................. .......................................................
................................................................................................................................................... .................................
.........………………………………………………......................................................................................................................
..............………………………………………………...............................................................................................................
ลงชือ่ .......................................................
(นายสชุ าติ เข็มทอง)
รองผอู้ านวยการ ฝ่ายวชิ าการ
โรงเรียนอนุบาลอุดรธานี
29
แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 47
กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 4
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 9 รปู ส่เี หล่ียมมมุ ฉาก เวลา 15 ชั่วโมง
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 47 ชนิดรปู สี่เหลย่ี มมุมฉาก ชัว่ โมงท่ี 47
วนั ท่สี อน วนั ท่ี 20 เดอื น มกราคม พ.ศ. 2565 ผสู้ อน นางสาวสภุ าภรณ์ เรอื งศรี
มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้วี ัด
มาตรฐานการเรียนรู้
ค 2.2 เข้าใจและวเิ คราะห์รปู เรขาคณิต สมบตั ิของรูปเรขาคณติ ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งรูปเรขาคณิต
และทฤษฎบี ททางเรขาคณติ และการนาไปใช้
ตัวชี้วัด
ค 2.1 ป.4/3 แสดงวิธหี าคาตอบของโจทย์ปญั หาเก่ยี วกบั ความยาวรอบรปู และพน้ื ทีข่ องรปู สีเ่ หลย่ี ม
มมุ ฉาก
สาระสาคญั
1. รูปสีเ่ หลีย่ มทม่ี ีมมุ ทั้งสี่มุมเปน็ มมุ ฉาก เรยี กว่า รูปสี่เหล่ียมมุมฉาก
2. รปู สี่เหล่ียมมมุ ฉากท่ีมดี ้านยาวเท่ากนั ทกุ ด้าน เรียกวา่ รูปสเี่ หลย่ี มจัตุรัส
3. รูปส่ีเหลี่ยมมุมฉากท่ีมีด้านตรงข้ามยาวเท่ากัน 2 คู่ โดยด้านท่ีอยู่ติดกันยาวไม่เท่ากัน เรียกว่า
สเี่ หลย่ี มผนื ผา้ ด้านท่ีสน้ั กวา่ เรียกวา่ ด้านกว้าง ด้านทย่ี าวกวา่ เรยี กว่าดา้ นยาว
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ เม่ือนักเรยี นเรยี นจบบทเรียนน้แี ล้ว นักเรยี นสามารถ
1. บอกชนดิ และสมบตั ิของรูปสีเ่ หลย่ี มมมุ ฉาก (K)
2. จาแนกชนดิ และสมบตั ิของรปู สเี่ หลย่ี มมมุ ฉาก (P)
3. แสดงพฤตกิ รรมมรี ะเบียบวนิ ัยในการทางาน (A)
สาระการเรยี นรู้
ชนดิ และสมบตั ิของรูปส่ีเหลย่ี มมุมฉาก
กจิ กรรมการเรยี นรู้ ( การสอนแบบอปุ นัย)
ข้ันท่ี 1 ขนั้ เตรยี ม
1. ครกู ลา่ วทักทาย และแจ้งจุดประสงคใ์ หน้ ักเรียนทราบ
30
ขั้นที่ 2 ขน้ั สอน
2. ครแู ละนักเรียน ร่วมกันศกึ ษาตวั อย่างในหนังสือเรียน หนา้ ท่ี 137 , 138 ดงั น้ี
3. ครูและนกั เรยี น รว่ มกนั ทากิจกรรมในหนังสือเรียน หนา้ ที่ 138 ดังน้ี
ข้นั ที่ 3 ข้นั สรปุ
4. ครูและนักเรยี นร่วมกันสรุปองค์ความรู้ ดงั นี้
31
ขั้นที่ 4 ขั้นนาไปใช้
5. ใหน้ กั เรียนทาแบบฝกึ หัดที่ 9.2 หน้าที่ 59
สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้
1. สื่อการเรยี นรู้
1.1 แบบฝกึ หดั รายวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 4
1.2 หนงั สือเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 4
1.3 Powerpoint เนอื้ หาการเรยี น
2.แหล่งการเรยี นรู้
2.1 เวบ็ ไซต์ https://proj14.ipst.ac.th/p4/p4-math-book2/
การวัดผลและประเมนิ ผล
สง่ิ ที่ต้องการวัด/ประเมิน วธิ ีการ เครื่องมือทีใ่ ช้ เกณฑก์ ารประเมนิ
1. ดา้ นความรู้ (K) - ตรวจแบบฝึกหดั 9.2 - แบบฝึกหดั 9.2 ถกู ต้องรอ้ ยละ 70
ข้นึ ไป
บอกชนิดและสมบัตขิ องรูปสเ่ี หลยี่ ม
มมุ ฉาก (K)
2. ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) - ตรวจแบบฝกึ หดั 9.2 - แบบฝกึ หดั 9.2 ถูกต้องร้อยละ 70
จาแนกชนดิ และสมบตั ขิ องรปู ขน้ึ ไป
ส่เี หลี่ยมมมุ ฉาก (P)
- สงั เกตจากการร่วม - แบบสังเกต ผา่ นเกณฑ์ในระดบั
3. ด้านคณุ ลักษณะ (A)
แสดงพฤตกิ รรมมรี ะเบียบวนิ ยั กิจกรรมการเรยี นรู้ พฤติกรรมรายหนว่ ย ดีขนึ้ ไป
ในการทางาน (A)
32
บันทกึ หลงั การสอน
1. ผลการจัดการเรียนการสอน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..………
นักเรียนบอกชนิดและสมบัติของรูปส่ีเหล่ยี มมมุ ฉาก และจาแนกชนดิ และสมบัตขิ องรูปสีเ่ หล่ียมมุมฉาก
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
2. ปญั หา/อุปสรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………
นกั เรียนบางส่วนไม่มอี ุปกรณ์ในการเรียน หรอื ใชโ้ ทรศัพท์ของผู้ปกครอง ทาให้ไม่สามารถเขา้ เรียนได้อยา่ ง
สม่าเสมอ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………
3. แนวทางแก้ไขปัญหา
…………………………………………………………………………………………………………………………..……………………………………
ครูอดั คลปิ วดี ีโอการสอนย้อนหลังไว้ให้ในกลุม่ facebook
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
ลงชอ่ื ..........................................ผ้บู ันทึก
( นางสาวสภุ าภรณ์ เรืองศรี )
….……./……………/…..………
33
บนั ทกึ ความคดิ เหน็ และขอ้ เสนอแนะ
ความเหน็ ครพู ่ีเลีย้ ง
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................ ..................................................................................................... ...
..................……………………………………………….......................................................................................................
..............………………………………………………...............................................................................................................
ลงช่อื .................................................
( นางขนิษฐา นรินทร์ )
ครพู ี่เลยี้ ง
ความคิดเห็นของหวั หนา้ สถานศกึ ษาหรือผูท้ ่ีไดร้ บั มอบหมาย
............................................................................................................................. .......................................................
................................................................................................................................................... .................................
.........………………………………………………......................................................................................................................
..............………………………………………………...............................................................................................................
ลงชือ่ .......................................................
(นายสชุ าติ เข็มทอง)
รองผอู้ านวยการ ฝ่ายวชิ าการ
โรงเรียนอนุบาลอุดรธานี
34
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 48
กลุม่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 9 รปู สเี่ หลีย่ มมมุ ฉาก เวลา 15 ชวั่ โมง
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 48 รูปสเ่ี หล่ียมจัตรุ สั และรูปสเ่ี หลี่ยมผนื ผา้ ชั่วโมงท่ี 48
วันที่สอน วันที่ 24 เดอื น มกราคม พ.ศ. 2565 ผสู้ อน นางสาวสุภาภรณ์ เรอื งศรี
มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชี้วดั
มาตรฐานการเรียนรู้
ค 2.2 เขา้ ใจและวเิ คราะหร์ ูปเรขาคณติ สมบัติของรปู เรขาคณิต ความสมั พนั ธร์ ะหว่างรูปเรขาคณิต
และทฤษฎบี ททางเรขาคณติ และการนาไปใช้
ตัวชีว้ ดั
ค 2.1 ป.4/3 แสดงวิธีหาคาตอบของโจทยป์ ัญหาเก่ียวกบั ความยาวรอบรปู และพื้นท่ขี องรูปสี่เหลี่ยม
มมุ ฉาก
สาระสาคัญ
เสน้ ทแยงมุมของรปู ส่ีเหล่ียม เปน็ สว่ นของเสน้ ตรงท่ีลากจากจุดยอดมุมจุดหนึ่ง ไปยงั จุดยอดมมุ อีกจุดหนึ่ง
โดยส่วนของเส้นตรงน้ันไม่ใชด่ ้านของรปู สี่เหล่ยี ม
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ เมือ่ นกั เรยี นเรยี นจบบทเรียนน้แี ลว้ นักเรียนสามารถ
1. บอกชนดิ และสมบตั ิของรูปส่เี หลีย่ มจตั รุ สั และรปู ส่ีเหลีย่ มผนื ผา้ (K)
2. จาแนกชนดิ และสมบัติของรปู สี่เหลย่ี มจตั รุ สั และรปู สี่เหลยี่ มผืนผา้ (P)
3. แสดงพฤตกิ รรมมีระเบยี บวนิ ัยในการทางาน (A)
สาระการเรยี นรู้
สมบัติของรูปสี่เหล่ยี มมุมฉาก
กิจกรรมการเรียนรู้ ( การสอนแบบอปุ นัย)
ขัน้ ที่ 1 ข้นั เตรยี ม
1. ครกู ล่าวทักทายนกั เรียน และทบทวนความรู้เดมิ ดงั นี้
35
ขั้นที่ 2 ขน้ั สอน
2. ครแู ละนักเรียน ร่วมกันศกึ ษาตวั อย่างในหนังสือเรียน หนา้ ท่ี 139 , 140 ดงั น้ี
3. ครูและนกั เรยี น รว่ มกนั ทากิจกรรมในหนังสือเรียน หนา้ ที่ 141 ดังน้ี
ข้นั ที่ 3 ข้นั สรปุ
4. ครูและนักเรยี นร่วมกันสรุปองค์ความรู้ ดงั นี้
36
ขัน้ ที่ 4 ข้นั นาไปใช้
5. ให้นกั เรยี นทาแบบฝึกหดั ที่ 9.3 หนา้ ที่ 60
ส่อื และแหล่งการเรียนรู้
1. สอื่ การเรียนรู้
1.1 แบบฝึกหัดรายวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 4
1.2 หนงั สอื เรียนรายวิชาคณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 4
1.3 Powerpoint เนอ้ื หาการเรียน
1.4 รูปสี่เหล่ยี มมุมฉาก
1.5 ไม้ฉาก
1.6 โพรแทรกเตอร์
2.แหล่งการเรียนรู้
2.1 เวบ็ ไซต์ https://proj14.ipst.ac.th/p4/p4-math-book2/
การวดั ผลและประเมนิ ผล
สง่ิ ท่ตี ้องการวัด/ประเมิน วิธีการ เครื่องมือทีใ่ ช้ เกณฑก์ ารประเมนิ
1. ด้านความรู้ (K) - ตรวจแบบฝึกหดั 9.3 - แบบฝึกหดั 9.3 ถกู ต้องรอ้ ยละ 70
ข้นึ ไป
บอกชนดิ และสมบตั ิของรปู สี่เหลย่ี ม
จัตุรัสและรปู สีเ่ หลี่ยมผนื ผ้า (K)
2. ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) - ตรวจแบบฝกึ หดั 9.3 - แบบฝกึ หดั 9.3 ถูกต้องร้อยละ 70
จาแนกชนิดและสมบัตขิ องรปู ขน้ึ ไป
ส่เี หลีย่ มจัตรุ ัสและรูปส่ีเหลี่ยมผืนผา้ - สังเกตจากการร่วม - แบบสังเกต
(P) กจิ กรรมการเรยี นรู้ พฤติกรรมรายหนว่ ย ผา่ นเกณฑ์ในระดบั
ดีขนึ้ ไป
3. ดา้ นคุณลกั ษณะ (A)
แสดงพฤตกิ รรมมรี ะเบยี บวินัย
ในการทางาน (A)
37
บันทึกหลงั การสอน
1. ผลการจัดการเรยี นการสอน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……….
นักเรยี นบอกชนิดและสมบตั ิของรปู ส่ีเหลีย่ มจตั รุ ัสและรปู สีเ่ หลย่ี มผนื ผา้ และจาแนกชนิดและสมบัติของรูป
ส่เี หลี่ยมจัตุรสั และรูปสี่เหล่ยี มผืนผา้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
2. ปญั หา/อปุ สรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………
นักเรียนบางสว่ นไม่มีอุปกรณ์ในการเรยี น หรือใช้โทรศัพท์ของผูป้ กครอง ทาใหไ้ มส่ ามารถเข้าเรียนได้อย่าง
สม่าเสมอ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………
3. แนวทางแก้ไขปัญหา
…………………………………………………………………………………………………………………………..……………………………………
ครูอัดคลปิ วีดีโอการสอนย้อนหลังไว้ให้ในกล่มุ facebook
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
ลงช่อื ..........................................ผู้บันทึก
( นางสาวสุภาภรณ์ เรืองศรี )
….……./……………/…..………
38
บันทึกความคิดเหน็ และขอ้ เสนอแนะ
ความเหน็ ครูพี่เลีย้ ง
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................ ..................................................................................................... ...
..................……………………………………………….......................................................................................................
..............………………………………………………...............................................................................................................
ลงช่อื .................................................
( นางขนิษฐา นรนิ ทร์ )
ครูพีเ่ ลีย้ ง
ความคิดเหน็ ของหัวหน้าสถานศกึ ษาหรือผทู้ ่ีไดร้ บั มอบหมาย
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................ ................................................................................................ ........
.........………………………………………………................................................................................................................ ......
..............………………………………………………...............................................................................................................
ลงชอื่ .......................................................
(นายสชุ าติ เข็มทอง)
รองผู้อานวยการ ฝา่ ยวิชาการ
โรงเรียนอนบุ าลอุดรธานี
39
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 49
กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 4
หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 9 รูปส่เี หลี่ยมมุมฉาก เวลา 15ช่วั โมง
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 49 เส้นทแยงมมุ ของรปู สเ่ี หลยี่ ม ชั่วโมงท่ี 49
วันทส่ี อน วนั ที่ 25 เดือน มกราคม พ.ศ. 2565 ผูส้ อน นางสาวสภุ าภรณ์ เรอื งศรี
มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชว้ี ดั
มาตรฐานการเรยี นรู้
ค 2.2 เขา้ ใจและวิเคราะหร์ ปู เรขาคณติ สมบตั ิของรูปเรขาคณติ ความสัมพนั ธ์ระหว่างรูปเรขาคณิต
และทฤษฎีบททางเรขาคณิตและการนาไปใช้
ตัวชว้ี ัด
ค 2.1 ป.4/3 แสดงวิธีหาคาตอบของโจทยป์ ัญหาเก่ยี วกับความยาวรอบรปู และพืน้ ที่ของรูปสเี่ หล่ียม
มมุ ฉาก
สาระสาคัญ
เสน้ ทแยงมมุ ของรูปสเี่ หลย่ี ม เป็นส่วนของเส้นตรงท่ลี ากจากจดุ ยอดมุมจุดหน่งึ ไปยงั จดุ ยอดมุมอีกจุดหนึ่ง
โดยสว่ นของเส้นตรงนนั้ ไม่ใชด่ า้ นของรูปสเี่ หล่ยี ม
จุดประสงค์การเรยี นรู้ เม่ือนักเรยี นเรียนจบบทเรยี นนแ้ี ลว้ นักเรียนสามารถ
1. บอกชนิดและสมบัติเกีย่ วกับเสน้ ทแยงมมุ ของรปู สีเ่ หล่ียมได้ (K)
2. เขยี นแสดงชนิดและสมบัตเิ กี่ยวกบั เส้นทแยงมุมของรปู สเ่ี หลย่ี มได้ (P)
3. แสดงพฤตกิ รรมมีระเบยี บวินัยในการทางาน (A)
สาระการเรียนรู้
สมบัติของรูปสเ่ี หลีย่ มมุมฉาก
กิจกรรมการเรยี นรู้ ( การสอนแบบอปุ นัย)
ขัน้ ที่ 1 ขั้นเตรยี ม
1. ครกู ลา่ วทกั ทายนักเรียน และทบทวนความรเู้ ดิม เรอื่ ง รูปสี่เหลยี่ มจตั รุ สั และรปู ส่ีเหล่ยี มผนื ผา้ ดังนี้
40
ข้ันที่ 2 ขน้ั สอน
2. ครแู ละนกั เรยี น ร่วมกนั ศกึ ษาตัวอย่าง และทากิจกรรมในหนังสอื เรยี น หนา้ ท่ี 144 ดงั น้ี
3. ครูและนักเรียน รว่ มกนั ทากิจกรรมในหนงั สือเรียน หน้าที่ 145,146 ดงั น้ี
4. ครูใหน้ ักเรียนทากจิ กรรมเพม่ิ เตมิ ในหนังสือเรียนหน้าที่ 147 ดงั นี้
41
ข้ันท่ี 3 ขนั้ สรุป
5. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรปุ องค์ความรู้ ดังน้ี
ขนั้ ที่ 4 ขัน้ นาไปใช้
6. ใหน้ ักเรียนทาแบบฝกึ หดั ที่ 9.4 หน้าที่ 61
สื่อและแหล่งการเรยี นรู้
1. สอ่ื การเรยี นรู้
1.1 แบบฝึกหัดรายวชิ าคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 4
1.2 หนงั สือเรียนรายวิชาคณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 4
1.3 Powerpoint เน้ือหาการเรียน
1.4 รปู สีเ่ หล่ียมมมุ ฉาก
1.5 ไมฉ้ าก
1.6 โพรแทรกเตอร์
2.แหล่งการเรยี นรู้
2.1 เว็บไซต์ https://proj14.ipst.ac.th/p4/p4-math-book2/
42
การวดั ผลและประเมนิ ผล
สงิ่ ที่ต้องการวดั /ประเมนิ วิธีการ เครอ่ื งมอื ทีใ่ ช้ เกณฑก์ ารประเมนิ
1. ด้านความรู้ (K) - ตรวจแบบฝึกหัด 9.4 - แบบฝึกหัด 9.4 ถูกต้องร้อยละ 70
บอกชนิดและสมบตั เิ ก่ยี วกับเส้น
ทแยงมมุ ของรปู ส่ีเหลีย่ มได้ (K) - ตรวจแบบฝึกหัด 9.4 - แบบฝึกหัด 9.4 ขนึ้ ไป
2. ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) - สงั เกตจากการรว่ ม - แบบสงั เกต ถูกต้องรอ้ ยละ 70
เขียนแสดงชนิดและสมบัตเิ ก่ียวกบั กิจกรรมการเรยี นรู้ พฤติกรรมรายหน่วย ข้ึนไป
เส้นทแยงมมุ ของรปู สี่เหลี่ยมได้ (P)
3. ด้านคณุ ลักษณะ (A) ผ่านเกณฑ์ในระดบั
ดีขึน้ ไป
แสดงพฤติกรรมมรี ะเบียบวนิ ยั
ในการทางาน (A)
43
บันทึกหลงั การสอน
1. ผลการจดั การเรียนการสอน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..………
นกั เรียนบอกชนิดและสมบตั ิเก่ยี วกบั เส้นทแยงมุมของรูปสีเ่ หล่ยี มได้ และเขียนแสดงชนิดและสมบตั ิเก่ยี วกบั
เสน้ ทแยงมมุ ของรปู สเี่ หลย่ี มได้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………
2. ปัญหา/อุปสรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………
นกั เรยี นบางสว่ นไม่มอี ุปกรณใ์ นการเรียน หรอื ใชโ้ ทรศัพทข์ องผปู้ กครอง ทาใหไ้ มส่ ามารถเข้าเรียนได้อยา่ ง
สมา่ เสมอ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………
3. แนวทางแกไ้ ขปัญหา
…………………………………………………………………………………………………………………………..……………………………………
ครูอดั คลิปวดี ีโอการสอนย้อนหลังไว้ใหใ้ นกลุม่ facebook
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
ลงชอื่ ..........................................ผบู้ ันทกึ
( นางสาวสภุ าภรณ์ เรอื งศรี )
….……./……………/…..………
44
บันทึกความคิดเหน็ และขอ้ เสนอแนะ
ความเหน็ ครูพี่เลีย้ ง
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................ ..................................................................................................... ...
..................……………………………………………….......................................................................................................
..............………………………………………………...............................................................................................................
ลงช่อื .................................................
( นางขนิษฐา นรนิ ทร์ )
ครูพีเ่ ลีย้ ง
ความคิดเหน็ ของหัวหน้าสถานศกึ ษาหรือผทู้ ่ีไดร้ บั มอบหมาย
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................ ................................................................................................ ........
.........………………………………………………................................................................................................................ ......
..............………………………………………………...............................................................................................................
ลงชอื่ .......................................................
(นายสชุ าติ เข็มทอง)
รองผู้อานวยการ ฝา่ ยวิชาการ
โรงเรียนอนบุ าลอุดรธานี
45
แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 50
กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 4
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 9 รปู ส่เี หลี่ยมมุมฉาก เวลา 15 ชวั่ โมง
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 50 การสร้างรปู ส่เี หลี่ยมมมุ ฉาก ชว่ั โมงท่ี 50
วนั ท่สี อน วันที่ 26 เดือน มกราคม พ.ศ. 2565 ผสู้ อน นางสาวสภุ าภรณ์ เรอื งศรี
มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชีว้ ัด
มาตรฐานการเรียนรู้
ค 2.2 เข้าใจและวเิ คราะห์รปู เรขาคณติ สมบัติของรูปเรขาคณติ ความสมั พันธร์ ะหวา่ งรูปเรขาคณิต
และทฤษฎีบททางเรขาคณติ และการนาไปใช้
ตวั ชี้วดั
ค 2.2 ป.4/2 สร้างรปู ส่ีเหลย่ี มมุมฉาก เม่อื กาหนดความยาวของด้าน
สาระสาคญั
การสร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก เป็นการสร้างตามลักษณะของรูปสี่เหล่ียมมุมฉากแต่ละชนิด ซ่ึงต้องอาศัย
ทักษะการวัดความยาว การใช้ไม้ฉากหรือโพรแทรกเตอร์
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ เมื่อนักเรียนเรยี นจบบทเรียนนี้แล้ว นกั เรยี นสามารถ
1. บอกความแตกต่างของการสร้างรูปส่ีเหลย่ี มมุมฉากแต่ละชนดิ ได้ (K)
2. สรา้ งรูปสเี่ หล่ียมมุมฉากจากความยาวด้านทก่ี าหนดให้โดยใชไ้ มฉ้ ากและโพรแทรกเตอร์ได้ (P)
3. แสดงพฤติกรรมมรี ะเบียบวินยั ในการทางาน (A)
สาระการเรียนรู้
การสร้างรูปสี่เหลย่ี มมมุ ฉาก
กิจกรรมการเรยี นรู้ ( การสอนแบบอปุ นัย)
ขน้ั ที่ 1 ขน้ั เตรยี ม
1. ครูกล่าวทักทายนักเรยี น และทบทวนความรู้เดมิ เร่ือง เสน้ ทแยงมุมของรปู ส่เี หลย่ี ม ดังนี้
46
ข้นั ท่ี 2 ข้นั สอน
2. ครูและนักเรียน ร่วมกนั ศกึ ษาตัวอย่าง และทากจิ กรรมในหนังสอื เรียน หนา้ ที่ 149 ดงั น้ี
3. ครแู ละนักเรยี น รว่ มกนั ศึกษาตวั อยา่ ง ในหนังสอื เรยี น หน้าที่ 150,151 ดงั น้ี
4. ครูให้นักเรียนทากจิ กรรมเพิ่มเติม ในหนงั สือเรยี นหนา้ ที่ 152 ดงั น้ี
47
ข้ันท่ี 3 ขนั้ สรุป
5. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรปุ องค์ความรู้ ดังน้ี
ขนั้ ที่ 4 ขัน้ นาไปใช้
6. ใหน้ ักเรียนทาแบบฝกึ หดั ที่ 9.5 หนา้ ที่ 64
สื่อและแหล่งการเรยี นรู้
1. สอ่ื การเรยี นรู้
1.1 แบบฝึกหัดรายวชิ าคณิตศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 4
1.2 หนงั สือเรียนรายวิชาคณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 4
1.3 Powerpoint เน้ือหาการเรียน
1.4 รปู สีเ่ หล่ียมมมุ ฉาก
1.5 ไมฉ้ าก
1.6 โพรแทรกเตอร์
2.แหล่งการเรยี นรู้
2.1 เว็บไซต์ https://proj14.ipst.ac.th/p4/p4-math-book2/