๗๔
ษาปที ่ี ๓
ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี ๓ภาคเรยี นที่ ๑
ำนวนตัวชี้วัด ๒๑ ตวั ชี้วัด ตอ่ ปี
นักเรียน หนว่ ยการเรียนรู้/เนอ้ื หา/กิจกรรม เวลา(ช่ัวโมง) คะแนนเกบ็
๘ ๖
วามถี่ในการ Lifestyles
- พูดถามตอบเกยี่ วกบั การทำกจิ กรรมและ
มและ ความถีใ่ นการทำกิจกรรมน้ันๆ
- ฟงั บทพูดเกีย่ วกบั อาชพี และรูปแบบการ
บการดำเนนิ ดำเนนิ ชวี ิตของนกั กีฬามืออาชีพ
- อ่านบทความเกี่ยวกบั การทำกิจกรรมและ
อร์เน็ตได้ ความถใ่ี นการทำกจิ กรรมในชีวติ ประจำวัน
รรมและ - เขยี นข้อความบรรยายพฤตกิ รรมของ
วยั รุ่นทกี่ ระทำกิจกรรมบางอย่างจนติดเปน็
พทม์ ือถอื นสิ ยั
อบกระทำ
งได้ Life Stories ๘ ๖
บคุ คลหรอื - ฟังบทพดู เกีย่ วกบั ชีวประวัตขิ องบคุ คลผมู้ ี
ชอ่ื เสยี ง
ติของบุคคลผู้ - พูดขอและให้ขอ้ มูลเกย่ี วกบั
เรอื่ งราวของตนเอง
งผ้มู ชี ่อื เสียง - อ่านบทความเกยี่ วกับ
หนว่ ยท่ี มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัดและพฤติกรรมทต่ี ้องการให้เกิดแก่น
๓ ต ๔.๑ ม. ๓/๑ - แสดงบทบาทสมมตเิ กย่ี วกบั สถานการณก์ ารสมั
นักรอ้ งวงรอ็ กผ้มู ีชอื่ เสยี งได้
ต ๑.๑ ม. ๓/๑, ๓/๒, ๓/๓, ๓/๔ - อ่านและเขา้ ใจบทความเก่ียวกบั ชวี ประวัติของศ
ต ๑.๒ ม. ๓/๑, ๓/๕ นกั รอ้ งผู้มชี ่ือเสียง
ต ๑.๓ ม. ๓/๑, ๓/๒, ๓/๓ - เขยี นชวี ประวตั ิของตนเองได้
ต ๒.๑ ม. ๓/๑, ๓/๒, ๓/๓ - เขยี นโครงงานเก่ียวกบั ชีวประวตั ขิ องบุคคลผู้มีช
ต ๒.๒ ม. ๓/๑ - พูดถาม - ตอบขอ้ มลู เกี่ยวกบั สถานการณใ์ นสน
ต ๓.๑ ม. ๓/๑ - ฟังและเข้าใจบทสนทนาแลกเปล่ียนข้อมูลเกีย่ ว
ต ๔.๑ ม. ๓/๑ กำหนดไวว้ ่าจะทำเมือ่ เดินทางไปถงึ ต่างประเทศ
ต ๔.๒ ม. ๓/๑, ๓/๒ - พดู อภิปรายเกี่ยวกับความคิดเหน็ ของตนเองเก
เดนิ ทางทางอากาศได้
- อา่ นและเขา้ ใจบทสนทนาเกยี่ วกบั แผนทก่ี ำหน
เมอ่ื เดินทางไปถึงตา่ งประเทศ
- อา่ นและเข้าใจบทความโฆษณาการเรยี นภาษา
ประเทศเมก็ ซิโก
- เขยี นอีเมลเลา่ ประสบการณ์ชวี ิตความเปน็ อยู่แ
กำหนดไวว้ า่ จะทำขณะที่เป็นนกั เรยี นแลกเปล่ียน
๔ ต ๑.๑ ม. ๓/๒, ๓/๓, ๓/๔ - พดู ถาม - ตอบเก่ยี วกบั จำนวนปริมาณของอาห
ต ๑.๒ ม. ๓/๑, ๓/๒, ๓/๕ ซุปเปอรม์ าเก็ตได้
ต ๒.๑ ม. ๓/๑, ๓/๒, ๓/๓ - ฟงั และเข้าใจบทสนทนาเกยี่ วกับการซื้ออาหาร
๗๕
นักเรียน หนว่ ยการเรียนร/ู้ เน้ือหา/กจิ กรรม เวลา(ชัว่ โมง) คะแนนเกบ็
มภาษณ์ ชวี ประวตั ิของศิลปินนักรอ้ งผมู้ ชี ่อื เสยี ง
- เขียนชีวประวัตขิ องตนเอง
ศลิ ปนิ
ช่อื เสยี งได้ When are you travelling? ๑๐ ๘
นามบินได้ - ฟงั บทสนทนาเกีย่ วกบั กำหนดการ ๑๐ ๘
วกับแผนท่ี เดินทางไปต่างประเทศ
- พูดถามตอบเกี่ยวกับสถานการณใ์ น
กย่ี วกับการ สนามบิน
- อภิปรายความคดิ เหน็ เก่ียวกบั การ
นดไวว้ ่าจะทำ เดนิ ทางทางอากาศ
- อา่ นบทความโฆษณาการเรยี น
าสเปนที่ ภาษา และเขียนอเี มลเ์ ลา่ ความเปน็ อยู่และ
แผนที่กำหนดไว้วา่ จะทำขณะเปน็ นักเรยี น
และแผนท่ี แลกเปลยี่ น
นได้ - Future with “going to” and “will”
What do I need to buy?
หารท่ซี ้อื จาก - พูดถามตอบเกี่ยวกับจำนวนปริมาณ
อาหาร a few, a little, a lot, much,
รและ
หนว่ ยที่ มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัดและพฤตกิ รรมท่ตี อ้ งการให้เกิดแก่น
ต ๒.๒ ม. ๓/๑, ๓/๒ แผนการทำอาหารมือ้ เย็น
ต ๓.๑ ม. ๓/๑ - อา่ นและเขา้ ใจบทสนทนาเกยี่ วกบั การทำอาหา
ต ๔.๑ ม. ๓/๑ เล้ียงแขกท่ีบา้ น
ต ๔.๒ ม. ๓/๑ - แสดงบทบาทสมมติเกีย่ วกับการเตรยี มอาหารเ
บา้ นได้
๕ ต ๑.๑ ม. ๓/๒, ๓/๓, ๓/๔ - อ่านบทอา่ นเกี่ยวกบั สตู รการทำอาหารได้
ต ๑.๒ ม. ๓/๑, ๓/๔, ๓/๕ - อา่ นและเขา้ ใจบทความเกยี่ วกบั ประวัติความเป
ต ๑.๓ ม. ๓/๒ สิง่ ประดษิ ฐ์
ต ๒.๑ ม. ๓/๑, ๓/๓ - ฟังและเข้าใจบทสนทนาเกี่ยวกบั กจิ กรรมท่ีบคุ ค
ต ๓.๑ ม. ๓/๑ สนทนากระทำมาต้ังแตใ่ นอดตี จนถึงปัจจุบนั
ต ๔.๑ ม. ๓/๑ - พูดอภปิ รายเก่ยี วกับกจิ กรรมท่ตี นเองกระทำมา
ต ๔.๒ ม. ๓/๑ อดีตจนถึงปัจจบุ นั ได้
- อา่ นและเขา้ ใจบทสนทนาเกยี่ วกบั การดำเนินช
๖ ต ๑.๑ ม. ๓/๒, ๓/๓, ๓/๔ นกั เรียนหลงั เรียนจบระดบั มธั ยมศกึ ษา
ต ๑.๒ ม. ๓/๔, ๓/๕ -. อ่านและเข้าใจบทความเกี่ยวกับความอัศจรรย
ต ๑.๓ ม. ๓/๒ ภาพยนตร์
ต ๒.๑ ม. ๓/๑, ๓/๒, ๓/๓ - อา่ นและเขา้ ใจข้อความบรรยายรูปภาพสถานท
ต ๒.๒ ม. ๓/๑, ๓/๒ - สนทนาเปรยี บเทียบสถานทสี่ ำคญั ได้
- ฟังและเขา้ ใจขา่ วเกี่ยวกบั เรอื่ งขยะและการนำข
ใช้ใหม่
- พดู แสดงความคดิ เห็นเกย่ี วกบั มมุ มองของนกั เร
๗๖
นักเรยี น หน่วยการเรยี นรู้/เนือ้ หา/กจิ กรรม เวลา(ชั่วโมง) คะแนนเกบ็
ารม้ือเย็น many, enough
เลย้ี งแขกท่ี - ฟงั บทสนทนาเกย่ี วกบั การซือ้ อาหารและ
แผนการทำอาหารม้อื เย็น - อา่ นบทอ่าน
เกย่ี วกบั การทำอาหาร
ป็นมาของ Since when? ๑๒ ๑๐
คลในบท - พูดถามตอบเกีย่ วกับสิง่ ประดษิ ฐ์ ๑๒ ๑๒
าต้ังแตใ่ น - ฟังบทสนทนาเก่ียวกบั กิจกรรมทท่ี ำมา
ชวี ิตของ ตง้ั แตใ่ นอดตี
ย์แหง่ - Present perfect tense versus
Simple past tense
- อา่ นบทความเกี่ยวกับความอศั จรรย์
แห่งภาพยนตร์
- Questions with How Long
ท่ี Do You Know Where It Is?
ขยะกลบั มา - ฟังขา่ วเกย่ี วกบั เรื่องขยะและการนำขยะ
รียนท่มี ตี ่อ กลบั มาใชใ้ หม่
- พูดแสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกบั มมุ มองของ
นักเรียนท่ีมีต่อเมืองที่
หนว่ ยท่ี มาตรฐานการเรียนรู้ ตวั ชี้วัดและพฤติกรรมทตี่ อ้ งการให้เกิดแกน่
ต ๓.๑ ม. ๓/๑ เมอื งทีน่ กั เรยี นอาศัยอยไู่ ด้
ต ๔.๑ ม. ๓/๑ - อ่านและเขา้ ใจบทสนทนาการแลกเปลย่ี นข้อมูล
เรือ่ งการอาศยั อยใู่ นเขตชานเมือง
- อ่านและเข้าใจบทความเก่ยี วกับเมืองบาร์เซโลน
- พดู อภิปรายเกยี่ วกับความตอ้ งการอาศัยอยู่ในเ
บารเ์ ซโลนาได้
คะแนนสอบกลางภาค
คะแนนสอบปลายภาค
คะแนนข้อสอบกลาง/สว่ นกลางกำหน
รวมทงั้ สิน้ ตลอดปี
๗๗
นักเรยี น หนว่ ยการเรียนรู้/เน้อื หา/กิจกรรม เวลา(ชัว่ โมง) คะแนนเกบ็
ลเกยี่ วกบั อาศยั อยู่
นา - อ่านโฆษณาเกย่ี วกบั หอ้ งเช่าหรอื ๒๐
เมอื ง บ้านเชา่ ๓๐
- Comparative and superlative forms ๑๐๐
นด ๒๐ % of adjectives, comparisons with
“as….as”
หนว่ ยท่ี มาตรฐานการเรยี นรู้ ชั้นมัธยมศึกษ
๗ กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ ช้ัน
ต๑.๑ ม.๓/๑, ม.๓/๓, ม.๓/๔
๘ ต๑.๒ ม.๓/๓, ม.๓/๔ จำนวนมาตรฐาน ๘ มาตรฐาน และจำ
ต๒.๒ ม.๓/๒
ต๔.๑ ม.๓/๑ ตวั ช้วี ดั และพฤตกิ รรมท่ตี อ้ งการให้เกดิ
ต๔.๒ ม.๓/๒ นกั เรยี น
ต ๑.๑ ม.๓/๒, ม.๓/๓, ม.๓/๔ - สนทนาโต้ตอบเกยี่ วกบั การบอกทศิ ทางได
ต๑.๒ ม.๓/๑, ม.๓/๔, ม.๓/๕ - อ่านตีความขอ้ มูลจากส่อื ทีไ่ ม่ใชค่ วามเรยี ง
ต๑.๓ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓ ถา่ ยโอนโดยการเขียนบรรยายได้
ต๒.๑ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓ - อา่ นบทอ่านแลว้ จบั ใจความสำคญั และแส
ต๒.๒ม.๓/๑ วามเห็นเกยี่ วกับเรอ่ื งท่ีอ่านได้
ต๓.๑ม.๓/๑ - แต่งประโยคเงื่อนไข โดยใช้รปู แบบประโ
ต๔.๑ม.๓/๑ clause (Unreal Past) ได้
ต๔.๒ม.๓/๑ - เขียน แนะนำสถานทีส่ ำคญั หรอื สถานที่
ท่องเทย่ี วได้
- นำเสนอขอ้ มูลเกย่ี วกับประเภทของกีฬาท
ช่ืนชอบในการแข่งขนั โอลมิ ปกิ ได้
- นำเสนอเกยี่ วกบั ดนตรีที่ช่ืนชอบได้
- นำเสนอเปรยี บเทียบขอ้ มลู เกย่ี วกับเทศกา
ต่างๆของไทยและของเจ้าของภาษาได้
- สนทนาโต้ตอบเกย่ี วกับการซ้ือตวั๋ ชมภาพย
ได้
๗๘
ษาปที ่ี ๓ เวลา(ชวั่ โมง) คะแนนเก็บ
นมธั ยมศึกษาปที ี่ ๓ ภาคเรียนที่ ๒ ๑๐ ๘
ำนวนตัวช้ีวัด ๒๑ ตวั ชว้ี ดั ต่อปี
ดแก่ หน่วยการเรยี นรู้/เนือ้ หา/กจิ กรรม
ด้ Broaden your Experiences
ง แล้ว - ขอและให้ข้อมลู การเดนิ ทาง
- บรรยายสถานที่ Describing places
สดง - แสดงความคิดเห็น Giving opinions
- เปรียบเทยี บ Comparing
โยค If- - อธิบายความเหมือนและความแตกต่าง
ระหว่างชีวติ ความเป็นอยแู่ ละวัฒนธรรม
ของเจ้าของภาษากบั ของไทย
ท่ตี นเอง Leisure and Entertainments ๘ ๗
- ฟังประโยค ขอ้ ความเกย่ี วกบั กิจกรรม
ยามว่างและนนั ทนาการ
าล - พดู บรรยายความรสู้ ึก ความคดิ เห็น และ
ประสบการณข์ องตนเองเกย่ี วกับกจิ กรรม
ยนตร์ ตา่ งๆในชวี ติ ประจำวันพร้อมทงั้ ใหเ้ หตุผล
ประกอบ
- อา่ นจับใจความสำคญั จากสอื่ ส่ิงพมิ พ์
หน่วยท่ี มาตรฐานการเรยี นรู้ ตวั ชี้วัดและพฤติกรรมทต่ี ้องการใหเ้ กดิ
นกั เรยี น
๙ ต ๑.๑ม.๓/๓ - พดู สอบถามขอ้ มลู เก่ยี วกบั สภาพอากาศต
ต๑.๒ม.๓/๑ - ให้คำแนะนำในการปฏิบตั ิตนตามสภาพอ
ต๑.๓ม.๓/๑, ม.๓/๓ ต่างๆได้
ต ๒.๑ ม.๓/๑, ม.๓/๒ - จบั ใจความสำคญั ของเรื่องที่ฟงั ได้
ต ๒.๒ ม.๓/๒ - เขยี นคำบรรยายเกีย่ วกับเสื้อผ้าที่เหมาะก
ต๔.๑ ม.๓/๑ สภาพอากาศตา่ งๆได้
- อา่ นจับใจความสำคญั แลว้ เขียนแสดงควา
คิดเห็นได้
๑๐ ต๑.๑ม๓/๑, ม๓/๓, ม๓/๔ - พดู สอบถามเกี่ยวกับการเจ็บป่วยและให้
ต๑.๒ม๓/๑, ม๓/๒, ม๓/๕ คำแนะนำเกี่ยวกับวิธกี ารดแู ลได้
ต๓.๑ม๓/๑ - อ่านบทอา่ นแลว้ จบั ใจความสำคญั ได้
๗๙
ดแก่ หนว่ ยการเรียนรู/้ เนอ้ื หา/กจิ กรรม เวลา(ชัว่ โมง) คะแนนเก็บ
๗
ตา่ งๆได้ และสือ่ อิเลก็ ทรอนิกส์ พรอ้ มใหเ้ หตุผล ๙
อากาศ สนบั สนุน ๙ ๘
- เขียนบรรยายเกย่ี วกบั กจิ กรรมยามว่างใน
กบั กับ ชวี ติ ประจำวนั ของตนเอง
าม - เข้ารว่ มกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม
Today’s Weather
- Asking and giving information
about weather
- Giving suggestions due to different
kinds of weather and clothes
- Identifying the signs in weather
forecast
- Comparing weather based on the
weather and temperature
- Identifying the main idea and
supporting details in reading
passage
Stay Fit
-Talking about illness and their
symptoms
หนว่ ยที่ มาตรฐานการเรยี นรู้ ตัวช้ีวดั และพฤตกิ รรมที่ตอ้ งการให้เกดิ
ต๔.๑ม๓/๑ นกั เรยี น
๑๑ ต๑.๒ม.๓/๑,ม.๓/๔ - อา่ นขอ้ ความแลว้ บอกรายละเอยี ด สรปุ ใจ
ต๑.๓ม.๓/๑, ม.๓/๔ สำคัญ ตคี วาม วิเคราะห์ แสดงความคดิ เห็น
ต๔.๑ม.๓/๑ - อ่านฉลากยาแลว้ บอกรายละเอยี ด สรุปใจ
ต๔.๑ม.๓/๑,ม.๓/๒ สำคัญ ตคี วาม วิเคราะห์ แสดงความคดิ เห็น
- อา่ นฉลากอาหารแล้วบอกรายละเอียด สร
ใจความสำคญั ตคี วาม วเิ คราะห์ แสดงควา
คดิ เหน็ ได้
- รายงานขอ้ มูลทีไ่ ด้ฟังจากค่สู นทนาได้
- ขอและใหข้ ้อมูลเกย่ี วกบั การศกึ ษาตอ่ และ
ได้
- อ่านประกาศรับสมัครงานแล้วบอกรายละ
ได้
- กรอกแบบฟอรม์ สมัครงานไดเ้ หมาะสมก
ตำแหนง่ งาน
๑๒ ต๑.๑ม.๓/๓, ม. ¾ - อา่ นบทอ่านแลว้ จบั ใจความสำคญั และแส
๘๐
ดแก่ หนว่ ยการเรยี นรู้/เน้อื หา/กจิ กรรม เวลา(ชว่ั โมง) คะแนนเก็บ
จความ -Making suggestion and giving advice
นได้ - การอา่ นฉลากยา
จความ - โฆษณายา
นได้ - คำแนะนำเกีย่ วกับการออกกำลงั กาย
รุป - อาหาร
าม - สขุ ภาพ
ะอาชีพ Living the Life ๑๒ ๑๐
ะเอียด - สนทนาและโตต้ อบข้อมลู เกีย่ วกบั ๑๒ ๑๐
กบั การศึกษาและอาชพี
- Direct and Indirect Speech
สดง - Simple Sentences
- Conjunction: and, but, or and so
- Describing Career and jobs
- Asking about favorite
subject/Career
- Giving Reason about
subject/career
- Reading and Writing classified
Science and Technology for Life
หนว่ ยท่ี มาตรฐานการเรยี นรู้ ตวั ชว้ี ัดและพฤติกรรมท่ีต้องการให้เกิด
นกั เรยี น
ต๑.๒ม.๓/๒, ม. ¾, ม.๓/๕
ต๑.๓ม.๓/๑ ความคดิ เหน็ เกี่ยวกบั เร่ืองท่อี ่านได้อยา่ งเหม
ต๒.๑ม. ๓/๑ - ฟังบทความแล้วสรุปใจความสำคัญ และ
ต๒.๒ม. ๓/๑ นำเสนอได้
ต ๓.๑ ม. ๓/๑ - พดู ให้คำแนะนำ วิธีการแกป้ ญั หา และ
ต๔.๑ม.๓/๑ ข้อเสนอแนะได้
ต๔.๒ม.๓/๑ - อา่ นบทความแล้วเขียนแสดงความคิดเหน็
คะแนนสอบกลางภาค
คะแนนสอบปลายภาค
คะแนนข้อสอบกลาง/สว่ นกลางกำหน
รวมทัง้ ส้ิน ตลอดปี
๘๑
ดแก่ หน่วยการเรียนรู้/เนอื้ หา/กิจกรรม เวลา(ช่ัวโมง) คะแนนเก็บ
มาะสม - ขอและให้คำแนะนำเกีย่ วกบั การใช้
เทคโนโลยี
- Future Simple and Future Perfect
- should, why don’t, had better
นได้
นด ๒๐ % ๒๐
๒๔
๖
๑๐๐
๘๒
คำอธิบายรายวชิ า(วิชาพนื้ ฐาน)
๘๓
ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๑
คำอธิบายรายวิชาพ้นื ฐาน
อ ๑๑๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๑ กลุม่ สาระการเรียนร้ภู าษาตา่ งประเทศ
ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๑เวลา ๒๐๐ ชัว่ โมง
ปฏิบัติตาม คำส่ังง่ายๆ ท่ีฟังตัวอักษรและเสียง และสะกดคำง่าย ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน
ภาพตรงตามความหมายของคำและกลมุ่ คำท่ีฟงั เร่ืองใกล้ตัวคำส้นั ๆ ง่าย ๆ ในการสอ่ื สารระหว่างบุคคล
ตามแบบท่ีฟังคำส่ังง่าย ๆ ตามแบบที่ฟังความต้องการง่ายๆของตนเองตามแบบที่ฟังการขอและให้
ข้อมูลง่ายๆ เก่ียวกับตนเองตามแบบที่ฟัง ข้อมูลง่ายๆ เกี่ยวกับตนเองและเรื่องใกล้ตัวตามวัฒนธรรม
ของเจ้าของภาษา ช่ือและคำศัพท์เกี่ยวกับเทศกาลสำคัญของเจ้าของภาษา การเข้าร่วมกิจกรรมทาง
ภาษาและวัฒนธรรมท่ีเหมาะสมกับวัย การระบุตัวอักษรและเสียงอักษรของภาษาต่างประเทศ
(ภาษาอังกฤษ)และภาษาไทย คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น การฟัง/พูดในสถานการณ์
ง่ายๆท่ีเกดิ ขึ้นในห้องเรียน การใช้ภาษาต่างประเทศ(ภาษาอังกฤษ)เพ่ือรวบรวมคำศัพทท์ ี่เกีย่ วขอ้ งใกล้ตัว
โดยการปฏิบัติตาม ระบุ อ่านออกเสียง เลือกภาพ ตอบคำถาม พูดโต้ตอบ ใช้ บอก พูดขอ ให้
ข้อมูล ทำท่าประกอบ เข้าร่วม ฟัง/พูด เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจและนำไปประยุกต์ใช้ใน
ชีวิตประจำวัน เกิดสมรรถนะตามความต้องการของหลักสูตร มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ข้ึนในตัวของ
ผู้เรียน และสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุขสามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์
โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและสามารถนำไปประยุกต์ใชก้ ับชีวติ ประจำวนั ได้อย่างถูกตอ้ ง
เหมาะสม
มาตรฐาน/ตัวช้วี ดั
ต ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔
ต ๑.๒ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔
ต ๑.๓ ป.๑/๑
ต ๒.๑ ป.๑/๑,ป.๑/๒, ป.๑/๓
ต ๒.๒ ป.๑/๑
ต ๓.๑ ป.๑/๑
ต ๔.๑ ป.๑/๑
ต ๔.๒ ป.๑/๑
รวม ๘มาตรฐาน ๑๖ตวั ช้วี ัด
๘๔
ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๒
คำอธบิ ายรายวิชาพ้ืนฐาน
อ ๑๒๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๒ กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ เวลา ๒๐๐ ช่วั โมง
ปฏิบัติตามคำสั่งง่ายๆ และคำขอร้องง่ายๆ ท่ีฟังระบุตัวอักษรและเสียง อ่านออกเสียงคำ
สะกดคำ และอ่านประโยคง่ายๆ ถูกต้องตามหลักการอ่านเลือกภาพตรงตามความหมายของคำและ
กลุ่มคำท่ีฟังตอบคำถามจากการฟังประโยค บทสนทนาหรือนิทานง่าย ๆ ที่มีภาพประกอบพูดโต้ตอบ
ดว้ ยคำสน้ั ๆ ง่าย ๆในการสอื่ สารระหวา่ งบุคคลตามแบบท่ีฟังใช้คำสง่ั และคำขอร้องงา่ ย ๆ ตามแบบที่ฟัง
บอกความต้องการง่ายๆของตนเองตามแบบทฟ่ี ังพูดขอและให้ข้อมูลง่ายๆ เกี่ยวกับตนเองตามแบบท่ีฟัง
พูดให้ข้อมูล เกีย่ วกับตนเองและเร่ืองใกล้ตัวพูดและทำทา่ ทางประกอบตามวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
บอกช่ือและคำศัพท์เก่ียวกับเทศกาลสำคัญของเจ้าของภาษา การเข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและ
วัฒนธรรมท่ีเหมาะสมกับวัย ระบุตัวอักษรและเสียงอักษรของภาษาต่างประเทศ(ภาษาอังกฤษ)และ
ภาษาไทย บอกคำศัพท์ที่เก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน ฟัง/พูดในสถานการณ์ง่ายๆที่เกิดข้ึนใน
ห้องเรยี น ใชภ้ าษาตา่ งประเทศ(ภาษาอังกฤษ)เพ่ือรวบรวมคำศัพท์ทเ่ี กีย่ วข้องใกล้ตัว
โดยการระบุอ่านออกเสียงเลือกตอบคำถามพูดโต้ตอบใชบ้ อกทำทา่ ทางเขา้ ร่วมฟังเพ่ือใหผ้ ู้เรียน
มีความรู้ความเข้าใจและนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เกิดสมรรถนะตามความต้องการของ
หลักสูตร มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ข้ึนในตัวของผเู้ รียน และสามารถอยรู่ ่วมกับผู้อนื่ ในสังคมได้อย่าง
มีความสุขสามารถนำความรไู้ ปใช้ให้เกดิ ประโยชนโ์ ดยใช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงและสามารถ
นำไปประยกุ ตใ์ ชก้ บั ชีวติ ประจำวนั ได้อยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม
มาตรฐาน/ตัวชีว้ ัด
ต ๑.๑ ป.๒/๑ , ป.๒/๒ , ป.๒/๓ , ป.๒/๔
ต ๑.๒ ป.๒/๑ , ป.๒/๒ , ป.๒/๓ , ป.๒/๔
ต ๑.๓ ป.๒/๑
ต ๒.๑ ป.๒/๑ , ป.๒/๒ , ป.๒/๓
ต ๒.๒ ป.๒/๑
ต ๓.๑ ป.๒/๑
ต ๔.๑ ป.๒/๑
ต ๔.๒ ป.๒/๑
รวม ๘มาตรฐาน ๑๖ตวั ช้วี ดั
๘๕
ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๓
คำอธิบายรายวชิ าพ้ืนฐาน
อ ๑๓๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๓ กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาต่างประเทศ
ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๓ เวลา ๒๐๐ ช่ัวโมง
ปฏิบัติตามคำสั่งและคำขอรอ้ งท่ีฟังหรืออ่านคำ สะกดคำ อ่านกลุม่ คำประโยค และบทพูดเข้าจังหวะ
(chant)ง่าย ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่านภาพหรือสัญลักษณ์ตรงตามความหมายของคำกลุ่มคำและ
ประโยคทฟ่ี ัง จากการฟังหรืออ่านประโยค บทสนทนา หรือนิทานง่ายๆ คำส้ันๆ ง่าย ๆในการสอื่ สาร
ระหว่างบุคคลตามแบบท่ีฟัง คำสั่งและคำขอร้องง่าย ๆ ตามแบบท่ีฟัง ความต้องการง่ายๆของตนเอง
ตามแบบที่ฟังขอและให้ข้อมูลง่ายๆ เก่ียวกับตนเองและเพื่อนตามแบบที่ฟังความรู้สึกของตนเอง
เก่ียวกับสิ่งต่างๆ ใกล้ตัว หรือกิจกรรมต่างๆ ตามแบบที่ฟังให้ข้อมูลง่ายๆ เก่ียวกับตนเองและเร่ืองใกล้
ตวั คำตามประเภทของ บคุ คล สตั ว์ และสิง่ ของตามที่ฟงั หรืออ่าน มารยาทสงั คม/วฒั นธรรมของเจา้ ของ
ภาษา ช่ือและคำศัพท์ง่ายๆเกี่ยวกับเทศกาล/วันสำคัญ/งานฉลองและชีวิตความเป็นอยู่ของเจ้าของ
ภาษา กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมที่เหมาะสมกับวัย ความแตกต่างของเสียงตัว อักษร คำ
กลุ่มคำ และประโยคง่ายๆ ของภาษาต่างประเทศ(ภาษาอังกฤษ)และภาษาไทย คำศัพท์ท่เี กยี่ วข้องกับ
กลุ่มสาระการเรยี นรู้อ่ืน สถานการณ์งา่ ยๆทีเ่ กิดข้ึนในห้องเรียน ภาษาต่างประเทศ(ภาษาองั กฤษ)เพ่ือ
รวบรวมคำศพั ท์ท่ีเกยี่ วขอ้ งใกลต้ วั
โดยการอ่านออกเสียง สะกดคำฟังพูด เลือก/ระบุ ตอบคำถาม พูดโต้ตอบ ใช้ บอกจัด
หมวดหมู่ทำท่าประกอบเข้าร่วมกิจกรรม เพื่อให้มีความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถนำความรู้ไป
ปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและสังคมมีคุณธรรม จริยธรรม สามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิด
ประโยชน์โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันได้
อยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม
มาตรฐาน/ตวั ชว้ี ัด
ต ๑.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓ , ป.๓/๔
ต ๑.๒ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓ , ป.๓/๔ , ป.๓/๕
ต ๑.๓ ป.๓/๑ , ป.๓/๒
ต ๒.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓
ต ๒.๒ ป.๓/๑
ต ๓.๑ ป.๓/๑
ต ๔.๑ ป.๓/๑
ต ๔.๒ ป.๓/๑
รวม ๘มาตรฐาน ๑๘ตัวชี้วดั
๘๖
ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๔
คำอธบิ ายรายวชิ าพ้นื ฐาน
อ ๑๔๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๔ กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาตา่ งประเทศ
ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๔ เวลา ๑๒๐ ชว่ั โมง
ปฏิบัติตามคำสั่ง คำขอร้อง และคำแนะนำ (instructions)ง่าย ๆท่ีฟังหรืออ่านอ่านออกเสียง
คำ สะกดคำ อ่านกลุ่มคำ ประโยค ข้อความง่ายๆ และบทพูดเข้าจังหวะ ถูกต้องตามหลักการอ่าน
เลือก/ระบุภาพหรอื สัญลักษณ์ หรือเคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยคและข้อความสั้นๆที่ฟัง
หรืออ่านตอบคำถามจากการฟังหรืออ่านประโยค บทสนทนา หรือนิทานง่ายๆพูด/เขียนโต้ตอบในการ
สื่อสารระหว่างบุคคลใช้คำสั่ง คำขอร้อง และคำขออนุญาตง่าย ๆพูด/เขียนแสดงความต้องการของ
ตนเองตามและขอความช่วยเหลือในสถานการณ์ง่ายๆพูด/เขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล เก่ียวกับตนเอง
เพื่อน และครอบครัวพูดแสดงความรู้สึกของตนเองเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ใกล้ตัว หรือกิจกรรมต่างๆ ตาม
แบบที่ฟัง พูด/เขียนให้ข้อมูลง่ายๆ เก่ียวกับตนเองและเร่ืองใกล้ตัว พูด/วาดภาพแสดงความสัมพันธ์
ของส่ิงต่างๆใกล้ตัวท่ีฟังหรืออ่าน พูดแสดงความคิดเห็นง่ายๆ เกี่ยวกับตนเองและเร่ืองใกล้ตัว พูดและ
ทำท่าประกอบอย่างสุภาพตามมารยาทสังคม/วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ตอบคำถามเกี่ยวกับ
เทศกาล/วันสำคัญ/งานฉลองและชีวิตความเป็นอยู่ง่ายๆของเจ้าของภาษา การเข้าร่วมกิจกรรมทาง
ภาษาและวัฒนธรรมที่เหมาะสมกับวัย บอกความแตกต่างของเสียงตัว อักษร คำ กลุ่มคำ ประโยค
และข้อความ ของภาษาต่างประเทศ(ภาษาอังกฤษ)และภาษาไทย บอกความเหมือน/ความแตกต่าง
ระหว่างเทศกาลและงานฉลองตามวัฒนธรรม ของเจา้ ของภาษากับของไทย ค้นคว้ารวบรวม คำศพั ท์ที่
เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น และนำเสนอด้วยการพูด/การเขียน ฟัง/พูดในสถานการณ์ท่ี
เกิดขึ้นในห้องเรียนและสถานศึกษา ใช้ภาษาต่างประเทศ(ภาษาอังกฤษ)ในการสืบค้นและรวบรวม
ข้อมลู ต่างๆ
โดยการฟัง พูด อ่าน เขียน ระบุอ่านออกเสียงเลือกตอบคำถามพูดโต้ตอบใช้บอกทำท่า
ทางเข้าร่วมเพ่ือให้ผเู้ รียนมีความรู้ความเขา้ ใจและนำไปประยกุ ต์ใช้ในชวี ิตประจำวนั เกิดสมรรถนะตาม
ความต้องการของหลักสูตร มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ขึ้นในตัวของผู้เรียน และสามารถอยู่ร่วมกับ
ผอู้ ื่นในสังคมได้อยา่ งมีความสขุ สามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใชห้ ลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพยี งและสามารถนำไปประยกุ ต์ใชก้ บั ชีวติ ประจำวันได้อย่างถกู ต้องเหมาะสม
๘๗
มาตรฐาน/ตัวชีว้ ัด
ต ๑.๑ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓ , ป๔/๔
ต ๑.๒ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓ , ป๔/๔ , ป๔/๕
ต ๑.๓ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓
ต ๒.๑ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓
ต ๒.๒ ป.๔/๑ , ป.๔/๒
ต ๓.๑ ป.๔/๑
ต ๔.๑ ป.๔/๑
ต ๔.๒ ป.๔/๑
รวม ๘มาตรฐาน ๒๐ตัวช้ีวดั
๘๘
ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕
คำอธบิ ายรายวชิ าพนื้ ฐาน
อ ๑๕๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๕ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ เวลา ๑๒๐ ชวั่ โมง
ปฏิบัติตามคำสั่ง คำขอร้อง และคำแนะนำ ท่ีฟังหรืออ่านอ่านออกเสียง ประโยค ข้อความ
และบทกลอนสั้นๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน ระบุ/วาดภาพสัญลักษณ์ หรือเครื่องหมายตรงตาม
ความหมายของประโยคและข้อความสั้นๆท่ีฟังหรืออ่านบอกใจความสำคัญและตอบคำถามจากการฟัง
หรอื อ่านบทสนทนา และนทิ านง่ายๆหรอื เรือ่ งส้ันๆพูด/เขียนโต้ตอบในการส่อื สารระหว่างบุคคลใช้คำสั่ง
คำขอร้อง คำขออนุญาตและให้คำแนะนำง่าย ๆพูด/เขยี นแสดงความต้องการของตนเองตาม ขอความ
ช่วยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์ง่ายๆพูด/เขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล
เกี่ยวกับตนเองเพ่ือน ครอบครัว และเรื่องใกล้ตัวพูดแสดงความรู้สึกของตนเองเก่ียวกับเรื่องต่างๆ ใกล้
ตัว หรือกิจกรรมต่างๆพร้อมทั้งให้เหตุผลสั้นๆประกอบ พูด/เขียนให้ข้อมูลง่ายๆ เกี่ยวกับตนเองและ
เร่ืองใกล้ตัว เขียนภาพ แผนผัง และแผนภูมิแสดงข้อมูลต่างๆตามที่ฟังหรืออ่าน พูดแสดงความคิดเห็น
เก่ียวกับเร่ืองต่างๆใกล้ตัว ใช้ถ้อยคำ น้ำเสียง และกิริยาท่าทางอย่างสุภาพตามมารยาทสังคม/
วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ตอบคำถาม/บอกความสำคัญของเทศกาล/วันสำคัญ/งานฉลองและชีวิต
ความเป็นอยงู่ ่ายๆของเจา้ ของภาษา การเขา้ ร่วมกจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ บอก
ความเหมือน/ความแตกต่างระหวา่ งการออกเสียงประโยคชนิดต่างๆ การใช้เคร่ืองหมายวรรคตอน และ
การลำดับคำ(order)ตามโครงสร้างของประโยคของภาษาต่างประเทศ(ภาษาอังกฤษ)และภาษาไทย
บอกความเหมือน/ความแตกต่างระหว่างเทศกาลและงานฉลองตามวัฒนธรรม ของเจ้าของภาษากับ
ของไทย ค้นคว้ารวบรวม คำศัพท์ท่ีเก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น และนำเสนอด้วยการพูด/การ
เขียน ฟัง พูด และอ่าน/เขียนในสถานการณ์ต่างๆท่ีเกิดข้ึนในห้องเรียนและสถานศึกษา ใช้
ภาษาต่างประเทศ(ภาษาองั กฤษ)ในการสืบคน้ และรวบรวมข้อมลู ตา่ งๆ
โดยการฟัง พูด อ่าน เขียน ระบุอ่านออกเสียงเลือกตอบคำถามพูดโต้ตอบใช้บอกทำท่า
ทางเข้าร่วมเพ่ือให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจและนำไปประยุกตใ์ ช้ในชีวิตประจำวัน เกิดสมรรถนะตาม
ความต้องการของหลักสูตร มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ขึ้นในตัวของผู้เรียน และสามารถอยู่ร่วมกับ
ผูอ้ น่ื ในสังคมได้อยา่ งมีความสุขสามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกดิ ประโยชนโ์ ดยใช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจ
พอเพียงและสามารถนำไปประยกุ ต์ใชก้ ับชีวติ ประจำวันได้อยา่ งถกู ต้องเหมาะสม
๘๙
มาตรฐาน/ตัวชีว้ ัด
ต ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔
ต ๑.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕
ต ๑.๓ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓
ต ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓
ต ๒.๒ ป.๕/๑,ป.๕/๒
ต ๓.๑ ป.๕/๑
ต ๔.๑ ป.๕/๑
ต ๔.๒ ป.๕/๑
รวม ๘ มาตรฐาน๒๐ตัวชีว้ ัด
๙๐
ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๖
คำอธิบายรายวิชาพ้ืนฐาน
อ ๑๖๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๖ กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ
ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๖ เวลา ๑๒๐ ชว่ั โมง
ปฏิบัติตามคำส่ัง คำขอร้อง และคำแนะนำ ที่ฟังและอ่านอ่านออกเสียง ข้อความ นิทาน และ
บทกลอนสั้นๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน เลือก/ระบุประโยค หรือ ข้อความสั้นๆ ตรงตามภาพ
สญั ลักษณ์ หรอื เครอื่ งหมายทีอ่ ่านบอกใจความสำคัญ และตอบคำถามจากการฟังหรืออ่าน บทสนทนา
หรือนิทานง่ายๆและเรื่องเล่า พูด/เขียนโต้ตอบในการสื่อสารระหว่างบุคคล ใช้คำส่ัง คำขอร้อง และ
คำขออนุญาตและให้คำแนะนำ พูด/เขียนแสดงความต้องการ ขอความช่วยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธ
การให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์ง่ายๆ พูด/เขียนเพ่ือขอและให้ข้อมูล เก่ียวกับตนเอง เพื่อน
ครอบครัว และเรื่องใกล้ตัว พูด/เขียนแสดงความรู้สึกของตนเองเก่ียวกับเรื่องต่างๆ ใกล้ตัว หรือ
กิจกรรมต่างๆ พร้อมทั้งให้เหตุผลส้ันๆประกอบ พูด/เขียนให้ข้อมูล เก่ียวกับตนเอง เพื่อน และ
ส่ิงแวดล้อมใกล้ตัว เขียนภาพ แผนผัง และแผนภูมิแสดงข้อมูลต่างๆตามท่ีฟังหรืออ่าน พูดเขียนแสดง
ความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ใกล้ตัว ใช้ถ้อยคำ น้ำเสียง และกิริยาท่าทางอย่างสุภาพ เหมาะสม
ตามมารยาทสงั คมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ให้ข้อมลู เกีย่ วกับเทศกาล/วันสำคัญ/งานฉลอง/ชวี ิต
ความเป็นอยู่ของเจ้าของภาษา การเขา้ รว่ มกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ บอกความ
เหมือน/ความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่างๆ การใช้เครอื่ งหมายวรรคตอน และการ
ลำดบั คำ ตามโครงสรา้ ง ประโยค ของภาษาต่างประเทศ(ภาษาอังกฤษ)และภาษาไทยเปรียบเทียบความ
เหมือน/ความแตกต่างระหว่างเทศกาลงานฉลอง และประเพณีของเจ้าของภาษากับของไทยค้นคว้า
รวบรวม คำศัพท์ท่ีเกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืนจากแหล่งการเรียนรู้ และนำเสนอด้วยการพูด/
การเขียนใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในห้องเรยี นและสถานศึกษาใช้ภาษาต่างประเทศ
(ภาษาองั กฤษ)ในการสบื คน้ และรวบรวมข้อมูลต่างๆ
โดยการฟัง พูด อ่าน เขียน ระบุอ่านออกเสียงเลือกตอบคำถามพูดโต้ตอบเข้าร่วม
เปรียบเทียบ ค้นคว้า ใช้บอกเพ่ือให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจและนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
เกิดสมรรถนะตามความต้องการของหลักสูตร มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ขึ้นในตัวของผู้เรียน และ
สามารถอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนในสังคมได้อย่างมีความสุข สามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้หลัก
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งและสามารถนำไปประยกุ ต์ใช้กับชีวิตประจำวันได้อย่างถกู ต้องเหมาะสม
๙๑
มาตรฐาน/ตัวชีว้ ัด
ต ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔
ต ๑.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕
ต ๑.๓ ป.๖/๑,ป.๖/๒, ป.๖/๓
ต ๒.๑ ป.๖/๑,ป.๖/๒, ป.๖/๓
ต ๒.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒
ต ๓.๑ ป.๖/๑
ต ๔.๑ ป.๖/๑
ต ๔.๒ ป.๖/๑
รวม ๘ มาตรฐาน ๒๐ตวั ชี้วัด
๙๒
ชั้นมัธยมศึกษาปีท๑่ี
คำอธิบายรายวชิ าพนื้ ฐาน
รหัสวิชา อ๒๑๑๐๑ รายวชิ าภาษาอังกฤษ ๑กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ
ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๑๒๐ ช่ัวโมง จำนวน ๓ หน่วยกิต
ศึกษาและฝกึ ทกั ษะเกย่ี วกับการปฏิบัติตามคำสั่ง คำขอร้องคำแนะนำและคำชีแ้ จงง่ายๆ อา่ น
ออกเสยี งข้อความไดถ้ ูกต้องตามหลกั การอ่าน อ่านนิทานและบทร้อยกรองสั้นๆ เลอื กระบุประโยคและ
ข้อความสมั พนั ธ์กับสื่อท่ีไม่ใช่ความเรยี งจบั ใจความสำคัญจากเร่อื งที่ฟังและอา่ นสนทนา แลกเปล่ียน
ข้อมูลเก่ยี วข้อมูลเกยี่ วกบั ตนเองกจิ กรรมและสถานการณ์ต่างๆพูดและเขยี นแสดงความต้องการขอ
ความช่วยเหลือ ตอบรับและแสดงความปฏิเสธกิจกรรมตา่ งๆใกลต้ วั พูดบรรยายเก่ยี วกบั ตนเองกจิ วตั ร
ประจำวนั ประสบการณส์ ่ิงแวดล้อม ใกลต้ ัว สรปุ วเิ คราะห์เรือ่ งท่ีอยู่ในความสนใจของสังคม ใชภ้ าษา
น้ำเสยี ง และกิรยิ าทา่ ทางตามมารยาททางสังคมและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา เข้าร่วมหรือจดั
กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมเกยี่ วกบั เทศกาลวันสำคัญชีวติ ความเปน็ อยปู่ ระเพณีของเจ้าของภาษา
บอกความเหมือนและความแตกต่างเรื่องการออกเสยี ง ประโยคชนดิ ตา่ งๆ การใช้เคร่อื งหมายวรรคตอน
การลำดับคำตามโครงสรา้ งประโยคของเจ้าของภาษาองั กฤษกับภาษาไทยและเปรียบเทยี บเทศกาลวัน
สำคัญและชีวิตความเปน็ อยู่ของเจา้ ของภาษากบั ของไทยค้นควา้ รวบรวมสรปุ ข้อมูลข้อเทจ็ จรงิ ที่
เก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรอู้ ืน่ จากแหลง่ เรียนรแู้ ละนำเสนอดว้ ยการพูด การเขยี น ใช้ภาษา
ส่อื สารในสถานการณ์จริง สถานการณ์จำลองทเี่ กดิ ขน้ึ ในห้องเรยี นและสถานศึกษา
โดยใชก้ ระบวนการทางภาษา การส่อื สารการสืบเสาะหาความรกู้ ารสืบค้นข้อมลู การฝกึ ปฏบิ ัติ
ตามสถานการณต์ ่างๆ
เพื่อให้เกดิ ความรคู้ วามคดิ ความเข้าใจ สามารถนำเสนอ ส่ือสารเหน็ คณุ ค่า นำความรูไ้ ปใช้
ประโยชน์มีคุณธรรมจรยิ ธรรมและค่านยิ มทเ่ี หมาะสม
๙๓
ตัวช้ีวดั
ต ๑.๑ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔
ต ๑.๒ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔
ต ๑.๓ม.๑/๒
ต ๒.๑ม.๑/๑
ต ๒.๒ม.๑/๑, ม.๑/๒
ต ๓.๑ม.๑/๑
ต ๔.๑ม.๑/๑
ต ๔.๒ม.๑/๑
รวม ๑๕ ตัวชว้ี ัด
๙๔
ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่๑ี
คำอธิบายรายวิชาพ้ืนฐาน
รหัสวิชา อ๒๑๑๐๒ รายวชิ าภาษาอังกฤษ ๒ กล่มุ สาระการเรียนร้ภู าษาตา่ งประเทศ
ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี ๑ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๑๒๐ ช่วั โมง จำนวน ๓ หนว่ ยกติ
อา่ นออกเสียงข้อความ นิทาน บทรอ้ ยกรอง ถูกต้องตามหลักการอา่ นออกเสยี ง บอกการลำดบั
คำตามโครงสร้างประโยคของภาษาตา่ งประทศและภาษาไทย ปฏบิ ตั ิตามและใช้คำสง่ั คำขอร้อง
คำแนะนำ คำชี้แจง การขอและให้ความชว่ ยเหลอื พดู และเขยี นบรรยาย สรปุ ใจความสำคัญทไ่ี ด้จาก
การวเิ คราะห์ แสดงความรู้สกึ และความคิดเหน็ เรือ่ งเกย่ี วกับประสบการณ์ เทศกาล วนั สำคญั ชีวติ
ความเปน็ อยู่และประเพณที ี่อยใู่ นความสนใจพร้อมทัง้ ให้เหตผุ ลประกอบ ระบุและเลอื กข้อมูล ประโยค
ขอ้ ความ บทสนทนา นิทาน เร่ืองส้นั และตอบคำถามเกี่ยวกับเรอ่ื งที่ฟังหรืออ่าน คน้ ควา้ รวบรวม สรปุ
ข้อมูลจากส่อื และแหลง่ เรียนรู้ตา่ งๆ เพ่ือใช้ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ เปรียบเทียบประเพณี
งานเทศกาล งานฉลอง วนั สำคัญ ชวี ติ ความเป็นอยู่ และวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา เข้ารว่ มและจัด
กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม
โดยใช้กระบวนการอ่าน การเขยี น การฟัง การพดู การบรรยาย การสบื คน้ ข้อมลู การวเิ คราะห์
สามารถสอื่ สารดว้ ยภาษา น้ำเสยี ง และกิรยิ าท่าทางสุภาพเหมาะสม ถูกต้องตามกาลเทศะ มคี วามใฝ่
เรียนรู้ มุง่ มนั่ ในการทำงาน รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และรักความเปน็ ไทย
ตัวชีว้ ัด
ต ๑.๑ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔
ต ๑.๒ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔, ม.๑/๕
ต ๑.๓ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓
ต ๒.๑ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓
ต ๒.๒ม.๑/๑, ม.๑/๒
ต ๓.๑ม.๑/๑
ต ๔.๑ม.๑/๑
ต ๔.๒ม.๑/๑
รวมท้ังหมด ๒๐ ตัวช้วี ดั
๙๕
ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ ๒
คำอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน
รหัสวชิ า อ๒๒๑๐๑ รายวชิ าภาษาอังกฤษ ๓กลุม่ สาระการเรยี นร้ภู าษาตา่ งประเทศ
ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ ๒ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๑๒๐ ช่วั โมง จำนวน ๓ หนว่ ยกิต
ศึกษาและปฏิบัติตามคำขอร้อง คำแนะนำ คำชี้แจง และคำอธบิ ายง่ายๆ ตามสถานการณ์ตา่ งๆ
สรปุ ใจความสำคัญ และรายละเอยี ดสนบั สนุน พร้อมท้ังแสดงความคดิ เห็น ให้เหตุผล และยกตวั อย่าง
ประกอบจากการอ่านเรอ่ื ง ขา่ ว เหตุการณ์ ประกาศ กิจกรรม บทร้อยกรองส้นั ๆ เร่ืองใกล้ตัว ขอ้ มูล
เกี่ยวกบั กิจวตั รประจำวันของตนเอง เหตุการณท์ ่ีอยู่ในความสนใจของสังคม สภาพอากาศ การเฉลิม
ฉลอง เทศกาล อาหารงานเทศกาล วนั สำคัญ ชวี ิตความเป็นอยู่ วัฒนธรรม ประเพณีของเจา้ ของภาษา
ข้อมูล/ข้อเทจ็ จรงิ ทเี่ กย่ี วข้องกับกลมุ่ สาระการเรยี นรู้อื่น ตำนานเร่ืองเล่า ภาพยนตร์ ระบุ เปรยี บเทียบ
ความเหมอื นและความแตกต่างระหวา่ งการออกเสยี งประโยคชนดิ ต่าง ๆ และการลำดบั คำตาม
โครงสร้างประโยคของภาษาอังกฤษและภาษาไทย พร้อมท้งั ประชาสัมพันธ์ข้อมลู ข่าวสารของโรงเรียน
เป็นภาษาอังกฤษ ขอและให้ข้อมูล ใช้ทกั ษะในการสื่อสารเพือ่ แสดงความต้องการ ความรสู้ กึ ความ
คดิ เห็น ความช่วยเหลอื เกยี่ วกับตัวเอง กจิ วตั รประจำวัน ประสบการณ์ สถานการณต์ ่างๆ ใน
ชีวติ ประจำวัน เชน่ ในหอ้ งเรียน สถานศึกษา ชุมชน
โดยการอ่านออกเสยี ง เขยี น อธบิ าย สบื คน้ รวบรวม และสรปุ ข้อมูล หรอื ข้อเท็จจรงิ สรปุ
ใจความสำคญั และนำเสนอ ประชาสมั พันธข์ ้อมูล ขา่ วสารของโรงเรยี น ใช้ทกั ษะในการสื่อสาร
ภาษา นำ้ เสยี งกริ ิยาทา่ ทางอย่างเหมาะสม ถกู ต้องตามกาลเทศะ เข้าร่วมหรือจัดกิจกรรมทางภาษา
และวัฒนธรรมตามความสนใจให้เหมาะสมกับบคุ คล โอกาส และมารยาทสังคม และวฒั นธรรมของ
เจา้ ของภาษา
เพ่อื ใหเ้ กิดความรู้ความ ความคิด ความเข้าใจ สามารถนำเสนอ สอ่ื สาร มีความสามารถใน
การตดั สนิ ใจ นำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน มเี จตคติท่ีดีต่อวิชาภาษาองั กฤษ รกั ความเป็นไทยและมี
จิตสาธารณะ
๙๖
ตวั ช้ีวัด
ต ๑.๑ ม. ๒/๑, ม. ๒/๒, ม. ๒/๓, ม. ๒/๔
ต ๑.๒ ม. ๒/๑, ม. ๒/๒, ม. ๒/๓, ม. ๒/๔, ม. ๒/๕
ต ๑.๓ ม. ๒/๑, ม. ๒/๒, ม. ๒/๓
ต ๒.๑ ม. ๒/๒
ต ๒.๒ ม. ๒/๑, ม. ๒/๒
ต ๓.๑ ม. ๒/๑
ต ๔.๑ ม. ๒/๑
ต ๔.๒ ม. ๒/๑, ม. ๒/๒
รวมท้ังหมด ๑๙ ตัวช้ีวัด
๙๗
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๒
คำอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน
รหสั วิชา อ๒๒๑๐๒ รายวชิ าภาษาองั กฤษ ๔ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๒ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๑๒๐ ชวั่ โมง จำนวน ๓ หนว่ ยกิต
ศกึ ษาขอ้ มูลเก่ยี วกับการบรรยาย กจิ กรรม และสถานการณ์ตา่ งๆ ในชวี ติ ประจำวนั
ประสบการณ์ เชน่ การไปพัก ผ่อนวันหยุด การเปรียบเทียบขา่ วและเหตุการณ์ท่ีอยใู่ นความสนใจของ
สงั คม ข้อมลู ข่าวสาร ส่ือทไ่ี มใ่ ช่ความเรียงรปู แบบตา่ งๆ และสถานการณต์ า่ งๆ ในชีวติ ประจำวนั
ความเจบ็ ป่วย สขุ ภาพ และการออกกำลงั กาย สว่ นตา่ งๆ ของร่างกาย การสนทนาในสถานการณ์
ต่างๆ เกยี่ วกับการซ้ือขายสนิ ค้า ขอ้ มลู ส่วนตวั รายการโทรทัศน์ ความบันเทิงตา่ งๆ ประเภทของ
ดนตรี เครือ่ งดนตรีพื้นเมือง การแสดงความคิดเห็นกฎระเบียบของโรงเรียน ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์
เสยี งและการไดย้ ิน ตลอดจนการจัดตารางนดั หมาย พร้อมทงั้ แสดงความคดิ เหน็ ใหเ้ หตผุ ล และ
ยกตัวอยา่ งประกอบจากการอ่านเร่ือง ข่าว เหตกุ ารณ์ ประกาศ กิจกรรม การลำดบั คำตามโครงสรา้ ง
ประโยคของภาษาอังกฤษและภาษาไทย รวมทัง้ ขอและให้ข้อมลู ใชท้ ักษะในการส่ือสารเพือ่ แสดงความ
ตอ้ งการ ความรสู้ กึ ความคิดเห็น ความช่วยเหลือเก่ยี วกบั ตัวเอง กจิ วตั รประจำวัน ประสบการณ์
สถานการณ์ต่างๆ
โดยการอ่านออกเสียง เขียน อธบิ าย สืบค้น รวบรวม และสรุปข้อมูล หรอื ข้อเทจ็ จริง สรปุ
ใจความสำคัญ และนำเสนอ ประชาสัมพนั ธข์ ้อมูล ข่าวสารของโรงเรียน ใชท้ ักษะในการสอื่ สาร
ภาษา น้ำเสียงกริ ยิ าท่าทางอย่างเหมาะสม ถกู ต้องตามกาลเทศะ เข้าร่วมหรือจัดกิจกรรมทางภาษา
และวฒั นธรรมตามความสนใจใหเ้ หมาะสมกับบุคคล โอกาส และมารยาทสังคม และวัฒนธรรมของ
เจ้าของภาษา
เพ่ือให้เกดิ ความรูค้ วาม ความคิด ความเข้าใจ สามารถนำเสนอ สือ่ สาร มคี วามสามารถใน
การตดั สินใจ นำความรู้ไปใช้ในชวี ติ ประจำวนั มีเจตคติทด่ี ีตอ่ วชิ าภาษาองั กฤษ รกั ความเปน็ ไทยและมี
จิตสาธารณะ
๙๘
ตวั ช้ีวัด
ต ๑.๑ ม. ๒/๑, ม. ๒/๒, ม. ๒/๓, ม. ๒/๔
ต ๑.๒ ม. ๒/๑, ม. ๒/๒, ม. ๒/๓, ม. ๒/๔, ม. ๒/๕
ต ๑.๓ ม. ๒/๑, ม. ๒/๒, ม. ๒/๓
ต ๒.๑ ม. ๒/๑, ม. ๒/๒, ม. ๒/๓
ต ๒.๒ ม. ๒/๑, ม. ๒/๒
ต ๓.๑ ม. ๒/๑
ต ๔.๑ ม. ๒/๑
ต ๔.๒ ม. ๒/๑, ม. ๒/๒
รวมทั้งหมด ๒๑ ตัวชว้ี ดั
๙๙
ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๓
คำอธิบายรายวชิ าพื้นฐาน
รหัสวชิ า อ๒๓๑๐๑ รายวชิ าภาษาอังกฤษ ๕ กล่มุ สาระการเรียนร้ภู าษาตา่ งประเทศ
ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ ๓ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๑๒๐ ชวั่ โมง จำนวน ๓ หน่วยกิต
ศกึ ษาการใชค้ ำขอร้อง ให้คำแนะนำ คำช้ีแจง คำอธบิ ายอย่างถกู ต้องเหมาะสมตามกาลเทศะ
อา่ นออกเสยี งคำศัพท์ สำนวน ประโยค ขอ้ ความ ขา่ ว โฆษณา และบทร้อยกรองสัน้ ๆ ได้ถกู ต้องตาม
หลักการอ่าน เลือกระบุและเขียนหวั ข้อเร่ือง ใจความสำคัญ และสอ่ื ที่ไม่ใชค่ วามเรียง รูปแบบตา่ งๆ
แสดงความคดิ เห็นจากเร่ืองที่ฟงั และอ่าน พร้อมให้เหตผุ ลและยกตวั อย่างประกอบ พูดสนทนาและ
เขยี นบรรยายข้อมลู เกยี่ วกับตนเอง เรือ่ งต่างๆ ใกลต้ ัว สถานการณ์ ข่าว เรือ่ งที่อยู่ในความสนใจของ
สังคมได้อย่างถูกต้องเหมาะสมตามกาลเทศะ เลอื กใช้ภาษา นำ้ เสียง และกิริยาท่าทาง อธบิ าย
เปรียบเทียบเกยี่ วกบั ชีวติ ความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนยี มประเพณี วัฒนธรรมของเจ้าของภาษากบั
วัฒนธรรมของไทย เข้ารว่ มกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ ค้นควา้ รวบรวม และ
สรุปข้อมูล ข้อเทจ็ จริง แลว้ นำเสนอด้วยการพดู และการเขียนที่เก่ยี วข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่นื
จากแหลง่ เรียนรูแ้ ละสื่อสารในสถานการณ์ทีเ่ กดิ ข้นึ ในห้องเรียน สถานศึกษา ชุมชน และสังคม อยา่ ง
ถูกต้องเหมาะสมตามกาลเทศะ
โดยการอา่ นออกเสยี ง เขยี น อธบิ าย สืบคน้ รวบรวม และสรปุ ขอ้ มูล หรอื ข้อเทจ็ จรงิ สรปุ
ใจความสำคญั และนำเสนอ ประชาสมั พนั ธ์ข้อมูล ข่าวสารของโรงเรยี น ใชท้ ักษะในการส่ือสาร
ภาษา นำ้ เสยี งกิริยาทา่ ทางอย่างเหมาะสม ถูกต้องตามกาลเทศะ เขา้ รว่ มหรือจดั กจิ กรรมทางภาษา
และวฒั นธรรมตามความสนใจให้เหมาะสมกบั บคุ คล โอกาส และมารยาทสังคม และวฒั นธรรมของ
เจา้ ของภาษา
เพื่อใหเ้ กดิ ความรู้ความ ความคิด ความเข้าใจ สามารถนำเสนอ สอ่ื สาร มีความสามารถใน
การตัดสนิ ใจ นำความรู้ไปใชใ้ นชีวิตประจำวนั มีเจตคติท่ดี ีต่อวิชาภาษาอังกฤษ รักความเปน็ ไทยและมี
จติ สาธารณะ
๑๐๐
ตวั ชว้ี ัด
ต๑.๑ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓, ม.๓/๔
ต๑.๒ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓, ม.๓/๔, ม.๓/๕
ต๑.๓ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓
ต๒.๑ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓
ต๒.๒ ม.๓/๑, ม.๓/๒
ต ๓.๑ ม.๓/๑
ต ๔.๑ ม.๓/๑
ต ๔.๒ ม.๓/๑ , ม.๓/๒
รวมท้ังหมด ๒๑ ตัวชี้วัด
๑๐๑
ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๓
คำอธบิ ายรายวชิ าพน้ื ฐาน
รหสั วิชา อ๒๓๑๐๒ รายวชิ าภาษาองั กฤษ ๖ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ
ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี ๓ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๑๒๐ ชว่ั โมง จำนวน ๓ หนว่ ยกิต
ศึกษาความรูเ้ กยี่ วกับคำขอร้อง คำแนะนำ คำชี้แจง คำอธบิ าย หลักการอา่ นออกเสียงส่ือท่ี
ไมใ่ ชค่ วามเสี่ยงการจบั ใจความสำคญั การแสดงความคิดเห็น การใหเ้ หตุผลและยกตัวอย่างประกอบ
ข้อมูลเก่ยี วกบั ตนเอง เรือ่ งต่างๆใกลต้ ัว ความต้องการ การเสนอการตอบรับและปฏเิ สธการให้ความ
ช่วยเหลือ การขอและใหข้ ้อมูล การอธิบายเปรยี บเทยี บ การแสดงความรู้สกึ การบรรยายเกยี่ วกับ
ตนเอง ประสบการณ์ การจบั ใจความสำคญั การวเิ คราะห์เรื่องเหตุการณแ์ ละสถานท่ีอยู่ในความสนใจ
ศกึ ษาเปรยี บเทียบเกี่ยวกับภาษา น้าํ เสียง กิริยาท่าทาง ชวี ิตความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียมประเพณี และ
วัฒนธรรม ของเจ้าของภาษา ความเหมอื นความแตกต่าง การออกเสียงประโยค ลำดบั คำถามโครงสร้าง
ประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย ศกึ ษาการใช้ภาษาสอ่ื สารในสถานการณจ์ รงิ สถานการณ์
จำลอง การคน้ ควา้ การเผยแพร่ประชาสัมพนั ธ์ข่าวสารของโรงเรียน ชมุ ชนและสังคม
โดยใช้กระบวนการทางภาษา คือ ฟัง พูด อ่านและเขียน การส่ือสาร การสบื เสาะความรู้ การ
สืบค้นขอ้ มูลการฝกึ ปฏบิ ัตติ ามสถานการณ์ต่างๆ
เพ่ือให้เกดิ ความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สามารถนำเสนอ สื่อสาร เห็นคณุ ค่าและประโยชน์ นำ
ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ในชีวิตประจำวนั อย่างเหมาะสม ตลอดจนมคี วามรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
รกั ความเป็นไทย ซื่อสตั ย์ สจุ รติ มวี ินยั ใฝเ่ รยี นรู้ และมุ่งมน่ั ในการทำงาน
ตัวชี้วดั
ต ๑.๑ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓, ม.๓/๔
ต ๑.๒ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓, ม.๓/๔, ม.๓/๕
ต ๑.๓ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓
ต ๒.๑ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓
ต ๒.๒ ม.๓/๑, ม.๓/๒
ต ๓.๑ ม.๓/๑
ต ๔.๑ ม.๓/๑
ต ๔.๒ ม.๓/๑ , ม.๓/๒
รวมท้ังหมด ๒๑ ตัวชี้วัด
๑๐๒
เกณฑ์การจบการศึกษา
หลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรียนบ้านปา่ คาป่าม่วง พุทธศักราช ๒๕๖3 ตามหลักสูตรแกนกลาง
การศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ กำหนดเกณฑ์สำหรบั การจบการศกึ ษา ดังน้ี
เกณฑ์การจบระดบั ประถมศึกษา
(๑) ผู้เรียน ต้องเรียนรายวิชาพื้นฐาน จำนวน ๕,๐๔๐ ชั่วโมงและรายวิชาเพ่ิมเติม/กิจกรรม
เพม่ิ เตมิ ไม่น้อยกวา่ จำนวน ๔๘๐ ช่วั โมง
(๒) ผู้เรียนตอ้ งมีผลการประเมินในรายวชิ าพ้นื ฐานระดับ ๑ข้นึ ไปทกุ รายวิชา
(๓) ผู้เรียนต้องมีผลการประเมนิ การอ่าน คดิ วิเคราะห์ และเขยี นผา่ นเกณฑ์การประเมนิ
ในระดบั “ผ่าน” ข้นึ ไปทุกดา้ น
(๔) ผูเ้ รยี นต้องมผี ลการประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ผา่ นเกณฑ์การประเมิน
ในระดับ “ผา่ น” ขึน้ ไปทกุ ด้าน
(๕) ผ้เู รยี นตอ้ งเข้าร่วมกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี นและมีผลการประเมนิ ในระดับ “ผา่ น”
ทกุ กิจกรรม
เกณฑ์การจบระดับมธั ยมศกึ ษาตอนตน้
(๑) ผู้เรียนต้องเรียนรายวิชาพ้ืนฐาน จำนวน ๒,๖๔๐ ช่ัวโมง(๖๖ หน่วยกิต)และรายวิชา
เพม่ิ เติมไมน่ ้อยกว่า ๔๘๐ ชวั่ โมง (๑๒ หน่วยกิต)
(๒) ผูเ้ รียนตอ้ งมผี ลการประเมินรายวชิ าพืน้ ฐานในระดับ ๑ข้ึนไปทกุ รายวชิ า
(๓) ผ้เู รยี นตอ้ งมผี ลการประเมินการอ่าน คดิ วเิ คราะห์ และเขยี นผา่ นเกณฑ์การประเมิน
ในระดับ “ผา่ น” ขึ้นไปทกุ ดา้ น
(๔) ผู้เรียนมผี ลการประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ในระดับ ผ่านเกณฑ์การประเมนิ
ในระดบั “ผา่ น” ข้นึ ไปทกุ ดา้ น
(๕) ผู้เรียนต้องเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการประเมินในระดับ “ผ่าน”
ทุกกิจกรรม
การจดั การเรยี นรู้
การจัดการเรียนรู้เป็นกระบวนการสำคัญในการนำหลักสูตรสู่การปฏิบัติ หลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาข้ันพื้นฐาน เป็นหลักสูตรท่ีมีมาตรฐานการเรียนรู้ สมรรถนะสำคัญและคุณลักษณะอันพึง
ประสงคข์ องผเู้ รียน เป็นเปา้ หมายสำหรบั พัฒนาเด็กและเยาวชน
๑๐๓
ในการพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณสมบัติตามเป้าหมายหลักสูตร ผู้สอนพยายามคัดสรร
กระบวนการเรียนรู้ จัดการเรียนรู้โดยช่วยให้ผู้เรียนเรียนรู้ผ่านสาระท่ีกำหนดไว้ในหลักสูตร ๘ กลุ่ม
สาระการเรียนรู้ รวมท้ังปลูกฝังเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ พัฒนาทักษะต่างๆ อันเป็น
สมรรถนะสำคัญใหผ้ ูเ้ รยี นบรรลตุ ามเป้าหมาย
๑. หลักการจดั การเรยี นรู้
การจัดการเรียนรู้เพ่ือให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานการเรียนรู้สมรรถนะ
สำคญั และคุณลักษณะอันพงึ ประสงคต์ ามทีก่ ำหนดไวใ้ นหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน
โดยยดึ หลักว่า ผูเ้ รียนมีความสำคัญทีส่ ุด เชื่อว่าทกุ คนมคี วามสามารถเรียนร้แู ละพัฒนาตนเองได้
ยึดประโยชน์ท่ีเกิดกับผู้เรียน กระบวนการจัดการเรียนรู้ต้องส่งเสริมให้ผู้เรียน สามารถพัฒนาตาม
ธรรมชาตแิ ละเต็มตามศักยภาพ คำนงึ ถึงความแตกตา่ งระหวา่ งบุคคลและพัฒนาการทางสมองเน้น
ใหค้ วามสำคญั ทัง้ ความรู้ และคณุ ธรรม
๒. กระบวนการเรยี นรู้
การจดั การเรียนรู้ทเ่ี นน้ ผู้เรยี นเปน็ สำคญั ผ้เู รียนจะต้องอาศยั กระบวนการเรยี นรู้
ท่ีหลากหลาย เป็นเครื่องมือท่ีจะนำพาตนเองไปสู่เป้าหมายของหลักสูตร กระบวนการเรียนรู้ที่จำเป็น
สำหรับผู้เรียน อาทิ กระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการ กระบวนการสร้างความรู้ กระบวนการคิด
กระบวนการทางสังคม กระบวนการเผชิญสถานการณ์และแก้ปัญหา กระบวนการเรียนรู้จาก
ประสบการณ์จรงิ กระบวนการปฏิบัติ ลงมอื ทำจริงกระบวนการจัดการ กระบวนการวจิ ัย กระบวนการ
เรียนรู้การเรยี นรู้ของตนเอง กระบวนการพฒั นาลกั ษณะนิสยั
กระบวนการเหล่านี้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้ที่ผู้เรียนควรได้รับการฝึกฝน พัฒนา
เพราะจะสามารถช่วยให้ผเู้ รยี นเกิดการเรยี นรู้ได้ดี บรรลุเป้าหมายของหลักสูตร ดงั นั้น ผูส้ อน
จึงจำเป็นต้องศึกษาทำความเข้าใจในกระบวนการเรียนรู้ต่าง ๆ เพื่อให้สามารถเลือกใช้ในการจัด
กระบวนการเรียนร้ไู ดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ
๓. การออกแบบการจดั การเรยี นรู้
ผู้สอนต้องศึกษาหลักสูตรสถานศึกษาให้เข้าใจถึงมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด สมรรถนะ
สำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสาระการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรียน แล้วจึง
พิจารณาออกแบบการจัดการเรียนรู้โดยเลือกใช้วิธีสอนและเทคนิคการสอน ส่ือ/แหล่งเรียนรู้ การวัด
และประเมนิ ผล เพอ่ื ให้ผูเ้ รียนได้พัฒนาเตม็ ตามศกั ยภาพและบรรลตุ ามเป้าหมายท่กี ำหนด
๔. บทบาทของผสู้ อนและผู้เรียน
การจัดการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนมีคุณภาพตามเป้าหมายของหลักสูตร ท้ังผู้สอนและผู้เรียน
ควรมีบทบาท ดงั นี้
๑๐๔
๔.๑ บทบาทของผสู้ อน
๑) ศึกษาวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคล แล้วนำข้อมูลมาใช้ในการวางแผน
การจดั การเรยี นรู้ ทท่ี า้ ทายความสามารถของผเู้ รยี น
๒) กำหนดเป้าหมายท่ีต้องการให้เกิดข้ึนกับผู้เรียน ด้านความรู้และทักษะกระบวนการ
ท่เี ปน็ ความคิดรวบยอด หลกั การ และความสมั พนั ธ์ รวมทั้งคุณลักษณะอันพึงประสงค์
๓) ออกแบบการเรียนรู้และจัดการเรียนรู้ที่ตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคล
และพฒั นาการทางสมอง เพ่อื นำผู้เรยี นไปสเู่ ป้าหมาย
๔) จดั บรรยากาศทีเ่ ออ้ื ตอ่ การเรยี นรู้ และดแู ลชว่ ยเหลือผเู้ รียนให้เกิดการเรยี นรู้
๕) จัดเตรียมและเลือกใช้สือ่ ให้เหมาะสมกับกิจกรรม นำภูมิปญั ญาทอ้ งถ่ิน เทคโนโลยี
ทเ่ี หมาะสมมาประยกุ ต์ใช้ในการจัดการเรยี นการสอน
๖) ประเมินความก้าวหนา้ ของผู้เรยี นดว้ ยวธิ ีการทห่ี ลากหลาย เหมาะสมกบั ธรรมชาติ
ของวิชาและระดับพฒั นาการของผูเ้ รียน
๗) วิเคราะห์ผลการประเมินมาใช้ในการซ่อมเสริมและพัฒนาผู้เรียน รวมทั้งปรับปรุง
การจดั การเรยี นการสอนของตนเอง
๔.๒ บทบาทของผ้เู รียน
๑) กำหนดเปา้ หมาย วางแผนและรบั ผดิ ชอบการเรียนรู้ของตนเอง
๒) เสาะแสวงหาความรู้ เขา้ ถงึ แหล่งการเรียนรู้ วิเคราะห์ สังเคราะห์ขอ้ ความรู้ ตั้งคำถาม
คดิ หาคำตอบหรือหาแนวทางแกป้ ญั หาดว้ ยวิธีการต่างๆ
๓) ลงมอื ปฏิบตั ิจรงิ สรปุ สงิ่ ท่ีไดเ้ รยี นรู้ดว้ ยตนเอง และนำความรู้ไปประยุกตใ์ ช้ใน
สถานการณ์ต่างๆ
๔) มปี ฏสิ มั พันธ์ ทำงาน ทำกิจกรรมร่วมกับกล่มุ และครู
๕) ประเมนิ และพัฒนากระบวนการเรยี นรูข้ องตนเองอย่างต่อเน่ือง
สือ่ การเรยี นรู้
ส่ือการเรียนรู้เป็นเครื่องมือส่งเสริมสนับสนุนการจัดการกระบวนการเรียนรู้ ให้ผู้เรียนเข้าถึง
ความรู้ ทักษะกระบวนการ และคุณลักษณะตามมาตรฐานของหลักสูตรได้อย่างมีประสิทธภิ าพ ส่ือการ
เรียนรู้มีหลากหลายประเภท ท้ังส่ือธรรมชาติ ส่ือส่ิงพิมพ์ สื่อเทคโนโลยี และเครือข่าย การเรียนรู้ต่างๆ
ท่ีมีในท้องถิ่น การเลือกใช้สื่อควรเลือกให้มีความเหมาะสมกับระดับพัฒนาการ และลีลาการเรียนรู้
ทห่ี ลากหลายของผเู้ รยี น
การจัดหาส่ือการเรียนรู้ ผู้เรียนและผู้สอนสามารถจัดทำและพัฒนาขึ้นเอง หรือปรับปรุง
เลือกใช้อย่างมีคุณภาพจากส่ือต่างๆ ที่มีอยู่รอบตัวเพ่ือนำมาใช้ประกอบในการจัดการเรียนรู้ท่ีสามารถ
๑๐๕
ส่งเสริมและส่ือสารให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ โดยสถานศึกษาควรจัดให้มีอย่างพอเพียง เพ่ือพัฒนาให้
ผูเ้ รียน เกดิ การเรยี นร้อู ยา่ งแท้จรงิ สถานศึกษา เขตพ้ืนท่ีการศึกษา หน่วยงานที่เกี่ยวขอ้ งและผูม้ ีหน้าที่
จัดการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน ควรดำเนนิ การดังน้ี
๑. จัดให้มีแหล่งการเรียนรู้ ศูนย์สื่อการเรียนรู้ ระบบสารสนเทศการเรียนรู้ และเครือข่าย
การเรียนรู้ท่ีมีประสิทธิภาพทั้งในสถานศึกษาและในชุมชน เพ่ือการศึกษาค้นคว้าและการแลกเปลี่ยน
ประสบการณ์การเรยี นรู้ ระหวา่ งสถานศกึ ษา ท้องถนิ่ ชมุ ชน สังคมโลก
๒. จัดทำและจัดหาสื่อการเรียนรู้สำหรับการศึกษาค้นคว้าของผู้เรียน เสริมความรู้ให้ผู้สอน
รวมทัง้ จดั หาส่ิงทมี่ ีอยู่ในท้องถ่ินมาประยกุ ต์ใชเ้ ปน็ สื่อการเรยี นรู้
๓. เลือกและใช้ส่ือการเรียนรู้ท่ีมีคุณภาพ มีความเหมาะสม มีความหลากหลาย สอดคล้อง
กบั วิธกี ารเรยี นรู้ ธรรมชาติของสาระการเรียนรู้ และความแตกตา่ งระหวา่ งบคุ คลของผู้เรยี น
๔. ประเมินคุณภาพของส่อื การเรียนรู้ที่เลือกใช้อยา่ งเป็นระบบ
๕. ศึกษาค้นควา้ วจิ ยั เพื่อพัฒนาส่ือการเรียนรู้ใหส้ อดคล้องกับกระบวนการเรียนรขู้ องผู้เรยี น
๖. จัดให้มีการกำกับ ติดตาม ประเมินคุณภาพและประสิทธิภาพเก่ียวกับสื่อและการใช้ส่ือ
การเรียนรู้เปน็ ระยะๆ และสม่ำเสมอ
ในการจัดทำ การเลือกใช้ และการประเมินคุณภาพส่ือการเรียนรู้ท่ีใช้ในสถานศึกษา
ควรคำนึงถึงหลักการสำคัญของสือ่ การเรียนรู้ เช่น ความสอดคล้องกับหลักสูตร วัตถุประสงค์การเรียนรู้
การออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ การจัดประสบการณ์ให้ผู้เรียน เน้ือหามีความถูกต้องและทันสมัย
ไม่กระทบความม่ันคงของชาติ ไม่ขัดต่อศีลธรรม มีการใช้ภาษาท่ีถูกต้อง รูปแบบการนำเสนอ
ท่เี ข้าใจง่าย และนา่ สนใจ
การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนต้องอยู่บนหลักการพื้นฐานสองประการ คือ การ
ประเมินเพื่อพัฒนาผู้เรียนและเพื่อตัดสินผลการเรียน ในการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
ให้ประสบผลสำเร็จน้ัน ผู้เรียนจะต้องได้รับการพัฒนาและประเมินตามตัวช้ีวัดเพ่ือให้บรรลุ
ตามมาตรฐานการเรียนรู้ สะท้อนสมรรถนะสำคัญ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนซึ่งเป็น
เป้าหมายหลักในการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ในทุกระดับไม่ว่าจะเป็นระดับชั้นเรียน ระดับ
สถานศึกษา ระดับเขตพ้ืนท่ีการศึกษา และระดับชาติ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
เป็นกระบวนการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนโดยใช้ผลการประเมินเป็นข้อมูลและสารสนเทศท่ีแสดง
พัฒนาการ ความก้าวหน้า และความสำเร็จทางการเรียนของผู้เรียน ตลอดจนข้อมูลที่เป็นประโยชน์
ตอ่ การส่งเสรมิ ใหผ้ เู้ รียนเกิด การพฒั นาและเรยี นรู้อย่างเต็มตามศกั ยภาพ
๑๐๖
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ แบ่งออกเป็น ๔ ระดับ ได้แก่ ระดับช้ันเรียน ระดับ
สถานศกึ ษา ระดับเขตพื้นทกี่ ารศกึ ษา และระดับชาติ มีรายละเอียด ดังนี้
๑. การประเมินระดับชั้นเรียน เป็นการวัดและประเมนิ ผลท่ีอยู่ในกระบวนการจัดการเรียนรู้
ผู้สอนดำเนินการเป็นปกติและสม่ำเสมอ ในการจัดการเรียนการสอน ใช้เทคนิคการประเมินอย่าง
หลากหลาย เชน่ การซักถาม การสงั เกต การตรวจการบ้าน การประเมนิ โครงงาน การประเมินชนิ้ งาน/
ภาระงาน แฟ้มสะสมงาน การใช้แบบทดสอบ ฯลฯ โดยผู้สอนเป็นผู้ประเมินเองหรือเปิดโอกาสให้
ผู้เรียนประเมินตนเอง เพอื่ นประเมินเพ่ือน ผู้ปกครองร่วมประเมิน ในกรณีที่ไมผ่ ่านตัวช้ีวัดให้มีการสอน
ซอ่ มเสริม
การประเมนิ ระดบั ช้ันเรียนเป็นการตรวจสอบว่า ผเู้ รยี นมีพฒั นาการความกา้ วหนา้ ในการ
เรียนรู้ อันเป็นผลมาจากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนหรือไม่ และมากน้อยเพียงใด มีสิ่งท่ีจะต้อง
ได้รับการพัฒนาปรับปรุงและส่งเสริมในด้านใด นอกจากนี้ยังเป็นข้อมูลให้ผู้สอนใช้ปรับปรุงการเรียน
การสอนของตนดว้ ย ทัง้ นโี้ ดยสอดคล้องกับมาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ชวี้ ดั
๒. การประเมินระดับสถานศึกษา เป็นการประเมินท่ีสถานศึกษาดำเนินการเพ่ือตัดสินผล
การเรียนของผู้เรียนเป็นรายปี/รายภาค ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะ
อันพึงประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน นอกจากนี้เพื่อให้ได้ข้อมูลเก่ียวกับการจัดการศึกษา ของ
สถานศึกษา ว่าสง่ ผลต่อการเรียนรู้ของผู้เรียนตามเป้าหมายหรือไม่ ผเู้ รียนมจี ุดพัฒนาในดา้ นใด รวมท้ัง
สามารถนำผลการเรยี นของผเู้ รียนในสถานศกึ ษาเปรยี บเทียบกับเกณฑ์ระดับชาติ ผลการประเมนิ ระดับ
สถานศึกษาจะเป็นข้อมูลและสารสนเทศเพ่ือการปรับปรุงนโยบาย หลักสูตร โครงการ หรือวิธีการ
จัดการเรียนการสอน ตลอดจนเพื่อการจัดทำแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา
ตามแนวทางการประกันคุณภาพการศึกษาและการรายงานผลการจัดการศึกษาต่อคณะกรรมการ
สถานศึกษา สำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ผู้ปกครอง
และชมุ ชน
๓. การประเมินระดบั เขตพ้ืนท่ีการศึกษา เป็นการประเมินคณุ ภาพผู้เรียนในระดับเขตพื้นท่ี
การศึกษาตามมาตรฐานการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน เพ่ือใช้เป็นข้อมูล
พ้ืนฐานในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ตามภาระความรับผิดชอบ สามารถ
ดำเนินการโดยประเมินคุณภาพผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนด้วยข้อสอบมาตรฐานที่จัดทำและดำเนินการโดย
เขตพ้ืนท่ีการศกึ ษา หรือด้วยความร่วมมอื กับหน่วยงานต้นสงั กัด ในการดำเนนิ การจัดสอบ นอกจากนีย้ ัง
ไดจ้ ากการตรวจสอบทบทวนข้อมูลจากการประเมนิ ระดบั สถานศึกษาในเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษา
๔. การประเมนิ ระดับชาติ เป็นการประเมินคณุ ภาพผู้เรยี นในระดับชาติตามมาตรฐานการ
เรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน สถานศึกษาต้องจัดใหผ้ ู้เรยี นทุกคนทีเ่ รยี น ในชัน้
ประถมศึกษาปที ี่ ๓ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๖ เข้ารบั การประเมนิ ผลจากการประเมนิ ใชเ้ ป็นขอ้ มูลในการ
๑๐๗
เทียบเคยี งคณุ ภาพการศึกษาในระดับตา่ ง ๆ เพ่อื นำไปใช้ในการวางแผนยกระดบั คุณภาพการจดั
การศกึ ษา ตลอดจนเปน็ ข้อมูลสนับสนุนการตัดสินใจในระดบั นโยบายของประเทศ
ข้อมูลการประเมินในระดับต่างๆ ข้างต้น เป็นประโยชน์ต่อสถานศึกษาในการตรวจสอบ
ทบทวนพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ถือเป็นภาระความรับผิดชอบของสถานศึกษาท่ีจะต้องจัดระบบดูแล
ช่วยเหลือ ปรับปรุงแก้ไข ส่งเสริมสนับสนุนเพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพบนพื้นฐานความ
แตกต่างระหว่างบุคคลที่จำแนกตามสภาพปัญหาและความต้องการ ได้แก่ กลุ่มผู้เรียนทั่วไป กลุ่ม
ผู้เรียนทม่ี ีความสามารถพเิ ศษ กล่มุ ผู้เรยี นท่ีมีผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี นต่ำ กลุ่มผูเ้ รียนทม่ี ีปัญหาด้านวนิ ัย
และพฤติกรรม กลุ่มผู้เรียนที่ปฏิเสธโรงเรียน กลุ่มผู้เรียนที่มีปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม กลุ่มพิการ
ทางร่างกายและสติปัญญา เป็นต้น ข้อมูลจากการประเมินจึงเป็นหัวใจของสถานศึกษาในการ
ดำเนินการช่วยเหลือผู้เรียนได้ทันท่วงที ปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาและประสบความสำเร็จ
ในการเรยี น
สถานศึกษาในฐานะผู้รับผิดชอบจัดการศึกษา จะต้องจัดทำระเบียบว่าด้วยการวัดและ
ประเมินผลการเรียนของสถานศึกษาให้สอดคล้องและเป็นไปตามหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติท่ีเป็น
ข้อกำหนดของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน เพื่อให้บุคลากรที่เก่ียวข้องทุกฝ่ายถือปฏิบัติ
ร่วมกนั
เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผลการเรยี น
การตัดสนิ ผลการเรยี น
ในการตดั สนิ ผลการเรียนของกลุ่มสาระการเรียนรู้ การอ่าน คิดวเิ คราะหแ์ ละเขยี น
คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ และกิจกรรมพฒั นาผูเ้ รียนนัน้ ผู้สอนต้องคำนึงถึงการพฒั นานกั เรียนแตล่ ะ
คนเป็นหลกั และต้องเกบ็ ข้อมูลของนักเรียนทกุ ด้านอยา่ งสม่ำเสมอและต่อเนื่องในแต่ละภาคเรยี น
มเี กณฑด์ งั นี้
(๑) ผูเ้ รียนต้องมีเวลาเรยี นไม่นอ้ ยกว่าร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียนท้ังหมด
(๒) ผู้เรยี นตอ้ งได้รบั การประเมินทกุ ตวั ชว้ี ดั และผา่ นเกณฑ์ไม่นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ ๘๐
ของจำนวนตวั ช้ีวดั
(๓) ผเู้ รียนตอ้ งไดร้ ับการตัดสินผลการเรยี นทกุ รายวิชา
(๔) ผู้เรียนตอ้ งได้รับการประเมนิ และมผี ลการประเมินผา่ นตามเกณฑ์ท่ีสถานศึกษา
กำหนดในการอ่านคดิ วเิ คราะห์และเขยี นคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ และกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น
๑๐๘
การใหร้ ะดับผลการเรยี น
๑๓.๑ การตัดสินผลการเรียนรายวิชาของกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ใหใ้ ช้ระบบตวั เลข
แสดงระดบั การเรียนในแตล่ ะกล่มุ สาระ ดังนี้
ระดับผลการเรยี น ความหมาย ช่วงคะแนนร้อยละ
๔ ผลการเรยี นดเี ยย่ี ม ๘๐ - ๑๐๐
๓.๕ ผลการเรียนดีมาก ๗๕ - ๗๙
๓ ๗๐ - ๗๔
๒.๕ ผลการเรยี นดี ๖๕ - ๖๙
๒ ผลการเรียนค่อนข้างดี ๖๐ - ๖๔
๑.๕ ผลการเรยี นน่าพอใจ ๕๕ - ๕๙
๑ ๕๐ - ๕๔
๐ ผลการเรียนพอใช้ ๐ - ๔๙
ผลการเรียนผา่ นเกณฑ์ขั้นต่ำ
ผลการเรียนต่ำกวา่ เกณฑ์
๑๓.๒ การประเมนิ การอ่าน คิดวเิ คราะห์ และเขยี น เป็นผ่านและไม่ผ่าน
ถา้ กรณีท่ผี า่ น กำหนดเกณฑ์การตดั สินเปน็ ดเี ยี่ยม ดี และผา่ น
ดเี ย่ียมหมายถึง มผี ลงานทีแ่ สดงถงึ ความสามารถในการอา่ นคดิ วิเคราะห์ และเขียน
ที่มคี ณุ ภาพดเี ลศิ อยูเ่ สมอ
ดี หมายถึงมีผลงานท่ีแสดงถึงความสามารถในการอ่านคิดวเิ คราะห์ และเขียน
ที่มคี ุณภาพเปน็ ท่ียอมรบั
ผ่านหมายถึงมีผลงานทแ่ี สดงถึงความสามารถในการอ่านคิดวิเคราะห์ และเขียน
ทมี่ คี ณุ ภาพเปน็ ทีย่ อมรบั แต่ยังมีข้อบกพรอ่ งบางประการ
ไม่ผ่านหมายถึงไมม่ ีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่านคิดวิเคราะห์
และเขยี นหรือถ้ามีผลงานผลงานนัน้ ยังมขี ้อบกพรอ่ งท่ตี ้องไดร้ บั การปรบั ปรุงแก้ไขหลายประการ
๑๓.๓ การประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ รวมทุกคุณลักษณะเพือ่ การเลือ่ นช้ัน
และจบการศกึ ษา เปน็ ผา่ นและไมผ่ ่าน ในการผ่าน กำหนดเกณฑก์ ารตัดสินเปน็ ดีเยย่ี ม ดี และผ่าน
และความหมายของแตล่ ะระดับ ดังนี้
ดีเย่ยี มหมายถึงผเู้ รยี นปฏิบตั ิตนตามคุณลักษณะจนเปน็ นิสัยและนำไปใช้ในชวี ติ ประจำวันเพื่อ
ประโยชนส์ ขุ ของตนเองและสังคมโดยพิจารณาจากผลการประเมนิ ระดับดเี ย่ยี มจำนวน๕-๘ คุณลักษณะ
และไม่มีคุณลักษณะใดได้ผลการประเมินตำ่ กวา่ ระดับดี
๑๐๙
ดี หมายถงึ ผู้เรียนมคี ุณลกั ษณะในการปฏิบัตติ ามกฎเกณฑ์ เพื่อให้เปน็ การยอมรับของ
สังคมโดยพจิ ารณาจาก
๑) ไดผ้ ลการประเมนิ ระดบั ดีเยี่ยมจำนวน๑-๔คุณลกั ษณะและไม่มีคุณลักษณะใดไดผ้ ล
การประเมินต่ำกวา่ ระดบั ดี หรอื
๒)ไดผ้ ลการประเมินระดบั ดี เยี่ยมจำนวน๔ คุณลักษณะและไม่มคี ุณลักษณะใดได้ผลการ
ประเมินต่ำกวา่ ระดับผา่ นหรือ
๓)ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับดี จำนวน ๕-๘คุณลกั ษณะและไมม่ คี ุณลักษณะใดไดผ้ ลการ
ประเมินต่ำกวา่ ระดับผา่ น
ผ่านหมายถึงผเู้ รียนรับรู้และปฏิบตั ิตามกฎเกณฑแ์ ละเง่ือนไขทส่ี ถานศึกษากำหนดโดย
พิจารณาจาก
๑) ได้ผลการประเมินระดับผา่ น จำนวน๕-๘คณุ ลกั ษณะและไม่มคี ุณลกั ษณะใดได้ผลการ
ประเมินต่ำกวา่ ระดับผ่านหรือ
๒)ไดผ้ ลการประเมินระดับดี จำนวน๔ คุณลกั ษณะ และไม่มีคณุ ลักษณะใดได้ผลการ
ประเมนิ ต่ำกว่าระดับผา่ น
ไมผ่ า่ นหมายถงึ ผ้เู รียนรับรู้และปฏิบตั ไิ ด้ไมค่ รบตามกฎเกณฑแ์ ละเงื่อนไขทีส่ ถานศึกษา
กำหนดโดยพจิ ารณาจากผลการประเมินระดบั ไม่ผ่านต้งั แต่ ๑คุณลกั ษณะ
๑๓.๔ การประเมนิ กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี นจะต้องพิจารณาทงั้ เวลาการเข้ารว่ มกจิ กรรม
การปฏิบัตกิ ิจกรรมและผลงานของผ้เู รียนตามเกณฑท์ ่โี รงเรียนกำหนดและใหผ้ ลการประเมนิ เป็นผ่าน
และไม่ผา่ นให้ใช้ตัวอักษรแสดงผลการประเมนิ ดังนี้
“ผ” หมายถึงผู้เรียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียนไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ ๘๐ ปฏบิ ตั ิ
กจิ กรรมและมผี ลงานเปน็ ท่ีประจกั ษ์
“มผ” หมายถึงผ้เู รียนมเี วลาเขา้ รว่ มกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น ปฏบิ ตั กิ ิจกรรมและมผี ลงาน
ไมเ่ ป็นไปตามเกณฑท์ ่ีสถานศึกษากำหนด
ในกรณีทผ่ี ู้เรียนได้ “มผ” ครูผ้ดู แู ลกิจกรรมต้องจดั ซ่อมเสริมใหผ้ ้เู รียนทำกจิ กรรมในสว่ น
ทผี่ เู้ รยี นไม่ไดเ้ ข้าร่วมหรือไมไ่ ด้ทำจนครบถว้ น แลว้ จงึ เปลีย่ นผลการเรียนจาก “มผ” เป็น “ผ” ได้
ทง้ั น้ี ต้องดำเนินการให้เสร็จส้ินภายในปีการศึกษานนั้ ยกเว้นมีเหตุสุดวสิ ัยหอ้ ยู่ในดุลยพนิ ิจของ
ผู้บริหารสถานศึกษาหรือผ้ทู ่ีได้รับมอบหมาย
๑๑๐
การเลอ่ื นชั้น
เม่ือสิ้นปกี ารศกึ ษาผู้เรียนจะไดร้ ับการเลอ่ื นช้ันเม่ือมีคณุ สมบตั ิตามเกณฑด์ ังต่อไปนี้
(๑) ผู้เรียนตอ้ งมีเวลาเรียนไม่นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ ๘๐ ของเวลาเรยี นทั้งหมด
(๒) ผู้เรยี นต้องไดร้ ับการประเมินทุกตัวชี้วดั และผา่ นเกณฑ์ไมน่ ้อยกวา่ รอ้ ยละ ๘๐ ของ
จำนวนตวั ชวี้ ดั
(๓) ผู้เรยี นต้องได้รบั การตัดสินผลการเรียนทกุ รายวชิ า ไมน่ ้อยกวา่ ระดบั “๑” จึงจะถือ
วา่ ผา่ นเกณฑ์ตามที่สถานศกึ ษากำหนด
(๔) นกั เรยี นต้องได้รบั การประเมนิ และมีผลการประเมนิ การอ่าน คดิ วเิ คราะห์และเขียน
ในระดบั “ ผา่ น ” ขึ้นไป มีผลการประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงคใ์ นระดับ“ ผา่ น ” ขึ้นไป และมี
ผลการประเมินกิจกรรมพัฒนานักเรียน ในระดับ “ ผา่ น ”
ทง้ั นี้ ถ้าผู้เรยี นมขี ้อบกพร่องเพยี งเลก็ น้อยและพิจารณาเห็นวา่ สามารถพฒั นาและสอน
ซอ่ มเสริมได้ให้อยใู่ นดุลยพนิ ิจของสถานศกึ ษาท่จี ะผ่อนผนั ให้เลือ่ นชั้นได้
อนงึ่ ในกรณที ีผ่ ้เู รยี นมหี ลกั ฐานการเรียนรู้ที่แสดงว่ามีความสามารถดเี ลศิ สถานศกึ ษาอาจ
ใหโ้ อกาสผ้เู รยี นเลอ่ื นชนั้ กลางปกี ารศึกษา โดยสถานศึกษาแตง่ ตงั้ คณะกรรมการประกอบดว้ ยฝ่าย
วิชาการของสถานศกึ ษาและผแู้ ทนของเขตพื้นท่ีการศึกษาหรือตน้ สังกัดประเมนิ ผเู้ รียนและตรวจสอบ
คณุ สมบตั ิให้ครบถ้วนตามเง่อื นไขทงั้ ๓ประการตอ่ ไปน้ี
๑. มผี ลการเรยี นในปีการศึกษาทีผ่ ่านมาและมผี ลการเรยี นระหวา่ งปีท่กี ำลงั ศึกษาอยู่
ในเกณฑด์ ีเยี่ยม
๒. มีวุฒิภาวะเหมาะสมทีจ่ ะเรยี นในช้ันท่ีสงู ขึ้น
๓.ผา่ นการประเมินผลความรู้ความสามารถทุกรายวชิ าของชนั้ ปีท่เี รยี นปัจจบุ ันและ
ความรคู้ วามสามารถทุกรายวิชาในภาคเรยี นแรกของช้นั ปที ี่จะเลื่อนขนึ้
การอนมุ ัติให้เลือ่ นชน้ั กลางปีการศกึ ษาไปเรยี นช้ันสูงขนึ้ ได้ ๑ระดบั ช้นั น้ี ตอ้ งไดร้ ับ
การยนิ ยอมจากผเู้ รียนและผูป้ กครองและต้องดำเนินการใหเ้ สร็จสิ้นก่อนเปิดภาคเรยี นที่ ๒ของปี
การศึกษานั้นสำหรับในกรณีที่พบวา่ มผี ้เู รียนกลุ่มพเิ ศษประเภทต่างๆมีปัญหาในการเรยี นรู้ให้
สถานศึกษาดำเนนิ งานรว่ มกับสำนกั งานเขตพนื้ ท่ีการศึกษาเฉพาะความพกิ ารหาแนวทางการแก้ไขและ
พัฒนา
๑๑๑
การสอนซ่อมเสริม
การสอนซ่อมเสริม เปน็ การสอนเพ่ือแกไ้ ขข้อบกพร่อง กรณีทีผ่ ูเ้ รียนมีความรู้ ทักษะ
กระบวนการ หรอื คณุ ลักษณะไม่เป็นไปตามเกณฑ์ทกี่ ำหนด จะต้องจัดสอนซ่อมเสริมเพอื่ พัฒนาการ
เรียนรขู้ องผู้เรียนเต็มตามศกั ยภาพการสอนซ่อมเสริมเปน็ การสอนเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องกรณีท่ผี ู้เรยี นมี
ความรู้ ทักษะกระบวนการหรอื เจตคต/ิ คณุ ลกั ษณะไมเ่ ป็นไปตามเกณฑท์ ี่สถานศึกษากำหนด
สถานศกึ ษาตอ้ งจัดสอนซ่อมเสริมเป็นกรณีพเิ ศษนอกเหนือไปจากการสอนตามปกติเพื่อพฒั นาให้ผู้เรียน
สามารถบรรลุตามมาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้วี ดั ท่กี ำหนดไว้เปน็ การให้โอกาสแกผ่ ู้เรียนไดเ้ รยี นรู้และ
พฒั นาโดยจัดกิจกรรมการเรยี นร้ทู ่ีหลากหลายและตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคล
การเปลยี่ นผลการเรยี น
การเปล่ียนผลการเรียน“๐”
สถานศกึ ษาจดั ให้มีการสอนซ่อมเสรมิ ในมาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวชว้ี ัดทผี่ ูเ้ รยี นสอบไม่
ผ่านกอ่ นแลว้ จึงสอบแก้ตวั ได้ไมเ่ กนิ ๒ คร้ัง ถา้ ผูเ้ รียนไม่ดำเนินการสอบแก้ตัวตามระยะเวลาที่
สถานศกึ ษากำหนดใหอ้ ยู่ในดุลยพนิ จิ ของสถานศึกษาทจ่ี ะพิจารณาขยายเวลาออกไปอีก๑ภาคเรยี น
สำหรับภาคเรยี นท่ี ๒ต้องดำเนนิ การให้เสรจ็ สิ้นภายในปกี ารศกึ ษานนั้
ถ้าสอบแก้ตัว๒ครงั้ แลว้ ยังได้ระดับผลการเรียน “๐” อีกให้สถานศกึ ษาแตง่ ตั้ง
คณะกรรมการดำเนินการเกยี่ วกบั การเปล่ยี นผลการเรียนของผู้เรยี นโดยปฏบิ ัตดิ ังน้ี
๑)ถ้าเปน็ รายวชิ าพื้นฐานใหเ้ รียนซ้ำรายวชิ าน้ัน
๒) ถา้ เปน็ รายวิชาเพมิ่ เติมใหเ้ รียนซำ้ หรือเปล่ียนรายวิชาเรียนใหม่ ท้ังน้ใี หอ้ ยใู่ น
ดุลยพินจิ ของสถานศึกษาในกรณีทีเ่ ปลีย่ นรายวิชาเรียนใหม่ ให้หมายเหตใุ นระเบยี น
แสดงผลการเรียนวา่ เรยี นแทนรายวิชาใด
การเปล่ยี นผลการเรียน“ร”
การเปล่ียนผลการเรยี น“ร” ให้ดำเนินการดังน้ี ใหผ้ เู้ รียนดำเนินการแก้ไข “ร” ตาม
สาเหตุ เม่อื ผเู้ รยี นแก้ไขปญั หาเสรจ็ แล้วให้ได้ระดับผลการเรียนตามปกติ (ต้ังแต่ ๐-๔)ถ้าผเู้ รียนไม่
ดำเนนิ การแก้ไข “ร” กรณีท่ีส่งงานไม่ครบแต่มผี ลการประเมินระหวา่ งภาคเรียนและปลายภาคให้
ผูส้ อนนำข้อมูลที่มีอยตู่ ัดสินผลการเรยี นยกเว้นมีเหตุสดุ วสิ ยั ให้อยู่ในดุลยพนิ จิ ของสถานศกึ ษาท่ีจะขยาย
เวลาการแก้ “ร” ออกไปอกี ไมเ่ กนิ ๑ภาคเรียนสำหรับภาคเรียนที่ ๒ตอ้ งดำเนินการให้เสรจ็ ส้นิ ภายใน
ปีการศึกษานัน้ เม่ือพน้ กำหนดนี้แลว้ ให้เรยี นซำ้ หากผลการเรียนเป็น “๐” ให้ดำเนนิ การแก้ไขตาม
หลกั เกณฑ์
๑๑๒
การเปลีย่ นผลการเรยี น “มส”
การเปลี่ยนผลการเรยี น“มส” มี ๒กรณี ดงั น้ี
๑)กรณีผู้เรยี นได้ผลการเรียน “มส” เพราะมีเวลาเรียนไม่ถึงรอ้ ยละ๘๐
แตม่ ีเวลาเรยี นไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ๖๐ของเวลาเรยี นในรายวชิ านัน้ ใหจ้ ดั ให้เรียนเพ่ิมเติมโดยใชช้ วั่ โมง
สอนซ่อมเสรมิ หรือใช้เวลาวา่ งหรอื ใชว้ ันหยุดหรือมอบหมายงานใหท้ ำจนมีเวลาเรียนครบตามทกี่ ำหนด
ไว้สำหรับรายวชิ าน้นั แลว้ จึงใหว้ ดั ผลปลายภาคเปน็ กรณพี ิเศษ
ผลการแก้ “มส” ให้ไดร้ ะดบั ผลการเรยี นไมเ่ กนิ “๑” การแก้
“มส” กรณนี ใี้ ห้กระทำให้เสร็จส้นิ ภายในปกี ารศกึ ษาน้นั ถา้ ผู้เรียน ไมม่ า
ดำเนินการแก้ “มส” ตามระยะเวลาทก่ี ำหนดไว้นใี้ หเ้ รยี นซำ้ ยกเวน้ มีเหตุสดุ วสิ ัยให้อยใู่ นดุลยพินิจ
ของสถานศกึ ษาทีจ่ ะขยายเวลาการแก้ “มส” ออกไปอีกไม่เกนิ ๑ ภาคเรยี น แต่เม่อื พ้นกำหนดนแ้ี ลว้
ใหป้ ฏบิ ตั ดิ ังนี้
(๑)ถ้าเป็นรายวิชาพน้ื ฐานใหเ้ รยี นซ้ำรายวิชาน้ัน
(๒)ถา้ เปน็ รายวิชาเพ่ิมเตมิ ให้อย่ใู นดุลยพินจิ ของสถานศึกษา ใหเ้ รียนซ้ำหรือ
เปล่ยี นรายวชิ าเรยี นใหม่
๒) กรณีผูเ้ รยี นได้ผลการเรียน “มส” เพราะมเี วลาเรยี นนอ้ ยกว่ารอ้ ยละ๖๐ ของ
เวลาเรียนทั้งหมดใหส้ ถานศึกษาดำเนนิ การดังน้ี
(๑) ถ้าเปน็ รายวชิ าพืน้ ฐานใหเ้ รยี นซ้ำรายวิชาน้นั
(๒) ถ้าเปน็ รายวชิ าเพิ่มเติมให้อยใู่ นดลุ ยพินิจของสถานศึกษา ให้เรียนซำ้ หรอื
เปลีย่ นรายวิชาเรยี นใหม่ ในกรณีท่เี ปลี่ยนรายวชิ าเรียนใหมใ่ หห้ มายเหตุในระเบยี นแสดงผลการเรียนว่า
เรียนแทนรายวิชาใด
การเรียนซ้ำรายวิชาผเู้ รียนทีไ่ ดร้ ับการสอนซ่อมเสริมและสอบแก้ตวั ๒ครงั้ แล้วไมผ่ า่ น
เกณฑ์การประเมินให้เรยี นซ้ำรายวิชานน้ั ทัง้ น้ีให้อยู่ในดลุ ยพนิ ิจของสถานศึกษาในการจัดใหเ้ รียนซำ้
ในชว่ งใดช่วงหนึ่งท่สี ถานศึกษาเหน็ ว่าเหมาะสมเชน่ พักกลางวันวันหยุดช่ัวโมงว่างหลงั เลกิ เรียนภาคฤดู
ร้อนเปน็ ต้น
ในกรณีภาคเรยี นที่๒ หากผเู้ รียนยังมีผลการเรยี น “๐” “ร” “มส” ให้ดำเนนิ การให้
เสรจ็ ส้นิ ก่อนเปดิ เรยี นปีการศึกษาถัดไป สถานศกึ ษาอาจเปิดการเรียนการสอนในภาคฤดูรอ้ นเพ่ือแกไ้ ข
ผลการเรยี นของผูเ้ รยี นได้
การเปลยี่ นผล“มผ”
กรณที ผี่ ู้เรยี นไดผ้ ล “มผ” สถานศกึ ษาต้องจดั ซ่อมเสริมใหผ้ เู้ รียนทำกจิ กรรมในส่วนท่ี
ผูเ้ รียนไมไ่ ดเ้ ขา้ รว่ มหรือไม่ได้ทำจนครบถ้วน แล้วจงึ เปลี่ยนผลจาก “มผ”เป็น “ผ” ได้ ทง้ั นีด้ ำเนินการ
ใหเ้ สรจ็ สนิ้ ภายในภาคเรยี นน้นั ๆยกเว้นมีเหตสุ ุดวิสัยให้อยู่ในดุลยพนิ จิ ของสถานศกึ ษาที่จะพิจารณา
๑๑๓
ขยายเวลาออกไปอีกไม่เกิน๑ ภาคเรยี น สำหรับภาคเรยี นที่๒ตอ้ งดำเนนิ การใหเ้ สร็จสิ้นภายในปี
การศึกษานัน้
การเรียนซ้ำชน้ั
ผ้เู รยี นท่ไี มผ่ ่านรายวิชาจำนวนมากและมแี นวโนม้ ว่าจะเป็นปัญหาต่อการเรยี นในระดบั ชั้น
ท่สี ูงขน้ึ สถานศึกษาตอ้ งตั้งคณะกรรมการพจิ ารณาให้เรียนซ้ำช้นั ได้ ทงั้ นใ้ี ห้คำนึงถงึ วฒุ ิภาวะและความรู้
ความสามารถของผู้เรียนเปน็ สำคญั
ผเู้ รยี นทไ่ี มม่ ีคณุ สมบัตติ ามเกณฑก์ ารเล่ือนชน้ั สถานศึกษาควรให้เรียนซำ้ ชน้ั ทง้ั นี้
สถานศกึ ษาอาจใช้ดลุ ยพินิจให้เลือ่ นช้ันได้ หากพิจารณาว่าผู้เรียนมคี ุณสมบตั ิข้อใดข้อหนงึ่ ดังต่อไปน้ี
๑) มเี วลาเรยี นไมถ่ ึงรอ้ ยละ๘๐อนั เนื่องจากสาเหตุจำเปน็ หรือเหตสุ ดุ วิสยั แต่มี
คุณสมบัตติ ามเกณฑ์การเล่อื นชน้ั ในขอ้ อนื่ ๆครบถ้วน
๒) ผ้เู รียนมผี ลการประเมินผ่านมาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตวั ชี้วัดไมถ่ งึ เกณฑต์ ามท่ี
สถานศึกษากำหนดในแตล่ ะรายวิชาแตเ่ ห็นวา่ สามารถสอนซ่อมเสริมไดใ้ นปีการศึกษาน้นั และมี
คุณสมบตั ิตามเกณฑ์การเลื่อนช้ันในข้ออน่ื ๆครบถ้วน
๓)ผเู้ รยี นมีผลการประเมินรายวชิ าในกลมุ่ สาระภาษาไทยคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์
สังคมศึกษาศาสนาและวฒั นธรรมอยู่ในระดบั ผา่ น
ก่อนท่ีจะให้ผเู้ รยี นเรยี นซำ้ ชั้นสถานศึกษาต้องแจง้ ให้ผ้ปู กครองและผู้เรยี นทราบเหตุผล
ของการเรียนซำ้ ชั้น
เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษา
เอกสารหลักฐานการศึกษา เป็นเอกสารสำคัญท่ีบันทึกผลการเรียน ข้อมูลและสารสนเทศที่
เก่ยี วข้องกบั พฒั นาการของผู้เรยี นในด้านต่าง ๆ แบง่ ออกเป็น ๒ ประเภท ดังนี้
๑. เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษาทก่ี ระทรวงศกึ ษาธกิ ารกำหนด
๑.๑ ระเบียนแสดงผลการเรียน เป็นเอกสารแสดงผลการเรียนและรับรองผลการเรียน
ของผู้เรียนตามรายวิชา ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ผลการประเมินคุณลักษณะอัน
พึงประสงค์ของสถานศึกษา และผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน สถานศึกษาจะต้องบันทึกข้อมูล
และออกเอกสารนี้ให้ผู้เรยี นเปน็ รายบคุ คล เมื่อผู้เรียนจบการศกึ ษาระดับประถมศึกษา
๑.๓ แบบรายงานผู้สำเร็จการศึกษา เปน็ เอกสารอนุมัตกิ ารจบหลักสตู รโดยบนั ทึกรายชื่อ
และข้อมลู ของผูจ้ บการศกึ ษาระดบั ประถมศึกษา
๑๑๔
๒. เอกสารหลกั ฐานการศึกษาท่สี ถานศึกษากำหนด
เป็นเอกสารท่ีสถานศึกษาจัดทำข้ึนเพื่อบันทึกพัฒนาการ ผลการเรียนรู้ และข้อมูลสำคัญ
เก่ียวกับผู้เรียน เช่น แบบรายงานประจำตัวนักเรียน แบบบันทึกผลการเรียนประจำรายวิชา ระเบียน
สะสม ใบรบั รองผลการเรยี น และ เอกสารอ่นื ๆ ตามวตั ถปุ ระสงคข์ องการนำเอกสารไปใช้
การเทียบโอนผลการเรียน
สถานศึกษาสามารถเทียบโอนผลการเรียนของผู้เรียนในกรณีต่างๆได้แก่ การย้ายสถานศึกษา
การเปลี่ยนรูปแบบการศึกษา การย้ายหลักสูตร การออกกลางคันและขอกลับเข้ารับการศึกษาต่อ
การศึกษาจากต่างประเทศและขอเข้าศึกษาต่อในประเทศ นอกจากนี้ ยังสามารถเทียบโอนความรู้
ทักษะ ประสบการณ์จากแหล่งการเรียนรู้อื่นๆ เช่น สถานประกอบการ สถาบันศาสนา สถาบันการ
ฝกึ อบรมอาชพี การจัดการศกึ ษาโดยครอบครัว
การเทียบโอนผลการเรยี นควรดำเนนิ การในชว่ งก่อนเปิดภาคเรียนแรก หรือต้นภาคเรียนแรก
ที่สถานศึกษารบั ผู้ขอเทียบโอนเป็นผู้เรยี น ทั้งน้ี ผู้เรียนทีไ่ ด้รับการเทยี บโอนผลการเรยี นตอ้ งศึกษา
ตอ่ เนอ่ื งในสถานศกึ ษาท่ีรบั เทียบโอนอย่างน้อย ๑ ภาคเรยี น โดยสถานศึกษาท่รี ับผู้เรยี นจาก
การเทยี บโอนควรกำหนดรายวชิ า/จำนวนหนว่ ยกติ ทีจ่ ะรับเทียบโอนตามความเหมาะสม
การพิจารณาการเทยี บโอน สามารถดำเนนิ การได้ ดงั น้ี
๑. พจิ ารณาจากหลักฐานการศึกษา และเอกสารอืน่ ๆ ท่ีให้ข้อมูลแสดงความรู้ ความสามารถ
ของผู้เรียน
๒. พจิ ารณาจากความรู้ ความสามารถของผเู้ รียนโดยการทดสอบด้วยวธิ ีการตา่ งๆ ท้ังภาค
ความรู้และภาคปฏิบตั ิ
๓. พิจารณาจากความสามารถและการปฏบิ ตั ิในสภาพจรงิ
การเทียบโอนผลการเรียนใหเ้ ป็นไปตาม ประกาศ หรือ แนวปฏบิ ตั ิ ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร
การบริหารจัดการหลักสูตร
ในระบบการศึกษาที่มีการกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นและสถานศึกษามีบทบาทในการพัฒนา
หลักสูตรน้ัน หน่วยงานต่างๆ ท่ีเกี่ยวข้องในแต่ละระดับ ต้ังแต่ระดับชาติ ระดับท้องถ่ิน จนถึงระดับ
สถานศึกษา มีบทบาทหน้าที่ และความรับผิดชอบในการพัฒนา สนับสนุน ส่งเสริม การใช้และพัฒนา
หลกั สูตรใหเ้ ปน็ ไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อใหก้ ารดำเนนิ การจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาและการจัดการ
เรียนการสอนของสถานศึกษามีประสิทธิภาพสูงสุด อันจะส่งผลให้การพัฒนาคุณภาพผู้เรียนบรรลุตาม
มาตรฐานการเรียนรู้ท่ีกำหนดไว้ในระดับชาติคุณภาพของของผู้เรียนท่ีสำคัญ และคุณลักษณะอันพึง
ประสงค์
๑๑๕
ระดับท้องถ่ิน ไดแ้ ก่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หน่วยงานตน้ สงั กดั อน่ื ๆ เปน็ หนว่ ยงานทีม่ ี
บทบาทในการขับเคลื่อนคุณภาพการจัดการศึกษา เป็นตัวกลางที่จะเช่ือมโยงหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขั้นพื้นฐานที่กำหนดในระดับชาติให้สอดคล้องกับสภาพและความต้องการของท้องถ่ิน เพื่อ
นำไปสู่การจัดทำหลักสูตรของสถานศึกษา ส่งเสริมการใช้และพัฒนาหลักสูตรในระดับสถานศึกษา ให้
ประสบความสำเรจ็ โดยมภี ารกิจสำคัญ คอื กำหนดเป้าหมายและจุดเนน้ การพัฒนาคณุ ภาพผู้เรียน ใน
ระดับท้องถิ่นโดยพิจารณาให้สอดคล้องกับส่ิงท่ีเป็นความต้องการในระดับชาติ พัฒนาสาระ การเรียนรู้
ท้องถน่ิ ประเมินคุณภาพการศึกษาในระดบั ทอ้ งถ่ิน รวมทงั้ เพ่มิ พูนคณุ ภาพการใช้หลักสูตรดว้ ยการวจิ ัย
และพัฒนา การพัฒนาบุคลากร สนับสนุน ส่งเสริม ติดตามผล ประเมินผล วิเคราะห์ และรายงานผล
คณุ ภาพของผู้เรยี น
สถานศึกษามีหน้าที่สำคัญในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา การวางแผนและดำเนินการใช้
หลักสูตร การเพ่ิมพูนคุณภาพการใช้หลักสูตรดว้ ยการวจิ ัยและพัฒนา การปรับปรุงและพฒั นาหลักสูตร
จดั ทำระเบียบการวัดและประเมินผล ในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาต้องพิจารณาให้สอดคล้อง กับ
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน และรายละเอียดที่เขตพ้ืนที่การศึกษา หรือหน่วยงาน สังกัด
อื่นๆ ในระดับท้องถิ่นได้จัดทำเพ่ิมเติม รวมทั้ง สถานศึกษาสามารถเพิ่มเติมในส่วนที่เก่ียวกับสภาพ
ปัญหาในชุมชนและสังคม ภูมิปัญญาท้องถิ่น และความต้องการของผู้เรียน โดยทุกภาคส่วนเข้ามามี
ส่วนร่วมในการพัฒนาหลกั สตู รสถานศึกษา