The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย-๒๕๖๐-เพียงหลวง-16 ปีก.ศ.2566ใส่ปกเรียบร้อย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Bume Ya In, 2023-09-12 04:44:21

หลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย-๒๕๖๐-เพียงหลวง-16 ปีก.ศ.2566ใส่ปกเรียบร้อย

หลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย-๒๕๖๐-เพียงหลวง-16 ปีก.ศ.2566ใส่ปกเรียบร้อย

หลักสูตรอนุบาล 2566 หน้า 1


หลักสูตรอนุบาล 2566 หน้า 2 ค ำน ำ หลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖6 จัดท าขึ้นเพื่อให้โรงเรียนเพียงหลวง ๑๖ ซึ่งจัด การศึกษาระดับปฐมวัย ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐ โดยปรับปรุงให้ เหมาะสมกับเด็กและสภาพท้องถิ่น เพื่อก าหนดเป้าหมายในการพัฒนาเด็กปฐมวัยให้มีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา เป็นคนดี มีวินัย ส านึกความเป็นไทย มีความรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศไทยในอนาคต อย่างมีประสิทธิภาพและได้มาตรฐานตามจุดหมาย หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐ โรงเรียนเพียงหลวง ๑๖ สังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต ๔ ขอขอบคุณผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ร่วมทั้งคณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนเพียงหลวง ๑๖ ที่มีส่วนร่วม ในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐ ให้มีความเหมาะสมต่อการน าไปใช้จัดการศึกษา ระดับปฐมวัยของโรงเรียนต่อไป คณะผู้จัดท ำ


หลักสูตรอนุบาล 2566 หน้า 3 สำรบัญ หน้ำ ค าน า สารบัญ ความน า ปรัชญาการศึกษาปฐมวัย วิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย มาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ โครงสร้างหลักสูตร (การวิเคราะห์สาระการเรียนรู้รายปี) ระยะเวลาเรียน สาระการเรียนรู้รายปี การจัดประสบการณ์ การจัดสภาพแวดล้อม สื่อและแหล่งเรียนรู้ การประเมินพัฒนาการ การบริหารจัดการหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย การเชื่อมต่อของการศึกษาระดับปฐมวัยกับระดับประถมศึกษาปีที่ ๑ การนิเทศก ากับ ติดตาม ประเมิน และรายงาน ภาคผนวก - ค าสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการจัดท าหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย - ประกาศโรงเรียนเพียงหลวง ๑๖ เรื่อง ให้ใช้หลักสูตรสถานศึกษา ปฐมวัย


หลักสูตรอนุบาล 2566 หน้า ๑ ควำมน ำ สภาพการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจ สังคม และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศประกอบกับ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ รวมทั้งกรอบยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ ๒๐ ปี(พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๗๙) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔) แผนการศึกษา แห่งชาติ (พ.ศ.๒๕๕๒-๒๕๖๑) แผนยุทธศาสตร์ชาติด้านเด็กปฐมวัย (พ.ศ.๒๕๖๐-๒๕๖๔)น าไปสู่การก าหนด ทักษะส าคัญส าหรับเด็กในศตวรรษที่ ๒๑ ที่มีความส าคัญในการก าหนดเป้าหมายในการพัฒนาเด็กปฐมวัยให้มี ความสอดคล้องและทันต่อการเปลี่ยนแปลงทุกด้าน กระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายให้มีการพัฒนาการศึกษาปฐมวัยอย่างจริงจังและต่อเนื่องโดยได้แต่งตั้ง คณะท างานพิจารณาหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย เพื่อปรับปรุงให้สอดคล้องกับสภาพการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐ เป็นหลักสูตรสถานศึกษา สถาบันพัฒนาเด็กปฐมวัย และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง น าไมใช้เป็นกรอบและทิศทางในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพและ ได้มาตรฐานตามจุดหมายหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐ ที่ก าหนดเป้าหมายในการพัฒนาเด็ก ปฐมวัยให้มีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา ครอบครัว ชุมชน สังคม และ ประเทศชาติในอนาคต


หลักสูตรอนุบาล 2566 หน้า ๒ อัตลักษณ์โรงเรียนเพียงหลวง ๑๖ เพียงหลวงดี มีจิตอาสา พัฒนาสิ่งแวดล้อม เอกลักษณ์โรงเรียนเพียงหลวง 16 ศูนย์การเรียนรู้ เชิดชูเศรษฐกิจพอเพียง พร้อมเพียงภาคีเครือข่าย ปรัชญำกำรศึกษำปฐมวัย การศึกษาปฐมวัยเป็นการพัฒนาเด็กตั้งแต่แรกเกิดถึง ๕ ปี อย่างเป็นองค์รวม บนพื้นฐานการอบรมเลี้ยงดู และส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ที่สนองต่อธรรมชาติและพัฒนาการตามวัยของเด็กแต่ละคนให้เต็มตามศักยภาพ ภายใต้บริบทสังคมและวัฒนธรรมที่เด็กอาศัยอยู่ ด้วยความรัก ความเอื้ออาทร และความเข้าใจของทุกคน เพื่อสร้าง รากฐานคุณภาพชีวิตให้เด็กพัฒนาไปสู่ความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์เกิดคุณค่าต่อตนเอง ครอบครัว สังคม และ ประเทศชาติ


หลักสูตรอนุบาล 2566 หน้า ๓ หลักกำร เด็กทุกคนมีสิทธิ์ที่จะได้รับการอบรมเลี้ยงดูและส่งเสริมพัฒนาการตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ตลอดจน ได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้อย่างเหมาะสม ด้วยปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเด็กกับพ่อแม่ เด็กกับผู้สอน เด็กกับ ผู้เลี้ยงดูหรือผู้ที่เกี่ยวข้องในการอบรมเลี้ยงดู การพัฒนา และให้การศึกษาแก่เด็กปฐมวัย เพื่อให้เด็กมีโอกาสพัฒนา ตนเองตามล าดับขั้นของพัฒนาการทุกด้าน อย่างเป็นองค์รวม มีคุณภาพ และเต็มตามศักยภาพโดยมีหลักการดังนี้ ๑. ส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้และพัฒนาการที่ครอบคลุมเด็กปฐมวัยทุกคน ๒. ยึดหลักการอบรมเลี้ยงดูและให้การศึกษาที่เน้นเด็กเป็นส าคัญ โดยค านึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล และวิถีชีวิตของเด็กตามบริบทของชุมชน สังคม และวัฒนธรรมไทย ๓. ยึดพัฒนาการและการพัฒนาเด็กโดยองค์รวมผ่านการเล่นอย่างมีความหมายและมีกิจกรรมที่หลากหลาย ได้ลงมือกระท าในสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ เหมาะสมกับวัย และมีการพักผ่อนที่เพียงพอ ๔. จัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้เด็กมีทักษะชีวิต และสามารถปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง เป็นคนดี มีวินัย และมีความสุข ๕. สร้างความรู้ ความเข้าใจและประสานความร่วมมือในการพัฒนาเด็กระหว่างสถานศึกษากับพ่อแม่ ครอบครัว ชุมชน และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเด็กปฐมวัย วิสัยทัศน์โรงเรียนเพียงหลวง 16 ภายในปีการศึกษา 2566 เด็กทุกคนต้องได้รับการพัฒนาด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา อย่างมีคุณภาพและต่อเนื่อง ได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้อย่างมีความสุขและเหมาะสมตามวัย มีทักษะชีวิต และปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นคนดี มีวินัย และส านึกความเป็นไทย โดยความร่วมมือ ระหว่างสถานศึกษา พ่อแม่ ครอบครัว ชุมชน และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเด็ก


หลักสูตรอนุบาล 2566 หน้า ๔ พันธกิจโรงเรียนเพียงหลวง 16 1. พัฒนา ครูและบุคลากรให้มีคุณภาพตามมาตรฐานวิชาชีพ 2. พัฒนา การจัดกระบวนการเรียนรู้ให้ผู้เรียนมีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา 3. พัฒนาการจัดการเรียนรู้ให้เกิดสมรรถนะส าคัญของผู้เรียน 4. ส่งเสริม ปลูกฝัง คุณธรรม จริยธรรม ตามคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 5. ส่งเสริมให้ชุมชน ภาคีเครือข่าย มีส่วนร่วมและสนับสนุนการจัดการศึกษา ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง เป้ำหมำย ๑. เด็กปฐมวัยทุกคนได้รับการพัฒนาด้านร่างกาย อารมณ์-จิตใจ สังคม และสติปัญญาเป็นองค์รวมอย่าง สมดุลและมีความสุข ๒. ครูมีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถจัดประสบการณ์ที่ส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านการเล่นโดยใช้ กระบวนการวางแผน การปฏิบัติ และการทบทวน ๓. มีสภาพแวดล้อม สื่อ เทคโนโลยี และแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยอย่าง พอเพียง ๔. ผู้ปกครอง ชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการพัฒนาเด็กปฐมวัย แนวคิดกำรจัดกำรศึกษำปฐมวัย หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช๒๕๖๐ พัฒนาขึ้นบนแนวคิดหลักส าคัญเกี่ยวกับพัฒนาการเด็ก ปฐมวัย โดยถือว่าการเล่นของเด็กเป็นหัวใจส าคัญของการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ ภายใต้การจัดสภาพแวดล้อม ที่เอื้อต่อการท างานของสมอง ผ่านสื่อที่ต้องเอื้อให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านการเล่นประสาทสัมผัสทั้งห้า โดยครูจ าเป็นต้อง เข้าใจและยอมรับว่าสังคมและวัฒนธรรมที่แวดล้อมตัวเด็กมีอิทธิพลต่อการเรียนรู้และการพัฒนาศักยภาพและ พัฒนาการของเด็กแต่ละคน ทั้งนี้ หลักสูตรฉบับนี้มีแนวคิดในการจัดการศึกษาปฐมวัย ดังนี้ ๑. แนวคิดเกี่ยวกับพัฒนำกำรเด็ก พัฒนาการของมนุษย์เป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นต่อเนื่องใน ตัวมนุษย์เริ่มตั้งแต่ปฏิสนธิไปจนตลอดชีวิต พัฒนาการของเด็กแต่ละคนจะมีล าดับขั้นตอนลักษณะเดียวกัน แต่อัตรา และระยะเวลาในการผ่านขั้นตอนต่างๆอาจแตกต่างกันได้ขั้นตอนแรกๆจะเป็นพื้นฐานส าหรับพัฒนาการขั้นต่อไป พัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคมและสติปัญญา แต่ละส่วนส่งผลกระทบซึ่งกันและกัน เมื่อด้านหนึ่ง


หลักสูตรอนุบาล 2566 หน้า ๕ ก้าวหน้าอีกด้านหนึ่งจะก้าวหน้าตามด้วยในท านองเดียวกันถ้าด้านหนึ่งด้านใดผิดปกติจะท าให้ด้านอื่นๆผิดปกติตาม ด้วย แนวคิดเกี่ยวกับทฤษฎีพัฒนาการด้านร่างกายอธิบายว่าการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็กมีลักษณะต่อเนื่อง เป็นล าดับชั้น เด็กจะพัฒนาถึงขั้นใดจะต้องเกิดวุฒิภาวะของความสามารถด้านนั้นก่อน ส าหรับทฤษฎีด้านอารมณ์ จิตใจ และสังคมอธิบายว่า การอบรมเลี้ยงดูในวัยเด็กส่งผลต่อบุคลิกภาพของเด็ก เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ความรักและ ความอบอุ่นเป็นพื้นฐานของความเชื่อมั่นในตนเอง เด็กที่ได้รับความรักและความอบอุ่นจะมีความไว้วางใจในผู้อื่น เห็น คุณค่าของตนเอง จะมีความเชื่อมั่นในความสามารถของตน ท างานร่วมกับผู้อื่นได้ดี ซึ่งเป็นพื้นฐานส าคัญของความ เป็นประชาธิปไตยและความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และทฤษฎีพัฒนาการด้านสติปัญญาอธิบายว่า เด็กเกิดมาพร้อมวุฒิ ภาวะ ซึ่งจะพัฒนาขึ้นตามอายุ ประสบการณ์ รวมทั้งค่านิยมทางสังคมและสิ่งแวดล้อมที่เด็กได้รับ ๒. แนวคิดเกี่ยวกับกำรเล่นของเด็ก การเล่นเป็นหัวใจส าคัญของการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ การเล่น อย่างมีจุดมุ่งหมายเป็นเครื่องมือการเรียนรู้ขั้นพื้นฐานที่ถือเป็นองค์ประกอบส าคัญในกระบวนการเรียนรู้ของเด็ก ขณะที่เด็กเล่นจะเกิดการเรียนรู้ไปพร้อมๆกันด้วย จากการเล่นเด็กจะมีโอกาสเคลื่อนไหวส่วนต่างๆของร่างกาย ได้ใช้ ประสาทสัมผัสและการรับรู้ผ่อนคลายอารมณ์ และแสดงออกของตนเอง เรียนรู้ความรู้สึกของผู้อื่น เด็กจะรู้สึก สนุกสนาน เพลิดเพลิน ได้สังเกต มีโอกาสท าการทดลอง คิดสร้างสรรค์ คิดแก้ปัญหาและค้นพบด้วยตนเอง การเล่น ช่วยให้เด็กเรียนรู้สิ่งแวดล้อม และช่วยให้เด็กมีพัฒนาการทางด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคมและสติปัญญา ดังนั้น เด็กควรมีโอกาสเล่น ปฏิสัมพันธ์กับบุคคล สิ่งแวดล้อมรอบตัว และเลือกกิจกรรมการเล่นด้วยตนเอง ๓. แนวคิดเกี่ยวกับกำรท ำงำนของสมอง สมองเป็นอวัยวะที่มีความส าคัญที่สุดในร่างกายของคนเรา เพราะการที่มนุษย์สามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆได้นั้นต้องอาศัยสมองและระบบประสาทเป็นพื้นฐานการรับรู้ รับความรู้สึก จากประสาทสัมผัสทั้งห้า การเชื่อมโยงต่อกันของเซลล์สมองส่วนมากเกิดขึ้นก่อนอายุ ๕ ปี และปฏิสัมพันธ์แรกเริ่ม ระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่ มีผลโดยตรงต่อการสร้างเซลล์สมองและจุดเชื่อมต่อ โดยในช่วง ๓ ปีแรกของชีวิต สมอง เจริญเติบโตอย่างรวดเร็วมาก มีการสร้างเซลล์สมองและจุดเชื่อมต่อขึ้นมามากมาย มีการสร้างไขมันหรือมันสมองหุ้ม ล้อมรอบเส้นใยสมองด้วย พอเด็กอายุ ๓ ปี สมองจะมีขนาดประมาณ ๘๐ % ของสมองผู้ใหญ่ มีเซลล์สมองนับหมื่น ล้านเซลล์ เซลล์สมองและจุดเชื่อมต่อเหล่านี้ยิ่งได้รับการกระตุ้นมากเท่าใด การเชื่อมต่อกันระหว่างเซลล์สมองยิ่งมี มากขึ้นและความสามารถทางการคิดยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น ถ้าหากเด็กขาดการกระตุ้นหรือส่งเสริมจากสิ่งแวดล้อมที่ เหมาะสม เซลล์สมองและจุดเชื่อมต่อที่สร้างขึ้นมาก็จะหายไป เด็กที่ได้รับความเครียดอยู่ตลอดเวลาจะท าให้ขาด ความสามารถที่จะเรียนรู้ อย่างไรก็ตาม ส่วนต่างๆของสมองเจริญเติบโตและเริ่มมีความสามารถในการท าหน้าที่ใน ช่วงเวลาต่างกัน จึงอธิบายได้ว่าการเรียนรู้ทักษะบางอย่างจะเกิดขึ้นได้ดีที่สุดเฉพาะในช่วงเวลาหนึ่งที่เรียกว่า” หน้าต่างของโอกาสการเรียนรู้” ซึ่งเป็นช่วงที่พ่อแม่ ผู้เลี้ยงดูและครูสามารถช่วยให้เด็กเรียนรู้และพัฒนาสิ่งนั้นๆได้ดี ที่สุด เมื่อพ้นช่วงนี้ไปแล้วโอกาสนั้นจะฝึกยากหรือเด็กอาจท าไม่ได้เลย เช่น การเชื่อมโยงวงจรประสาทของการ มองเห็นและรับรู้ภาพจะต้องได้รับการกระตุ้นท างานตั้งแต่ ๓ หรือ ๔ เดือนแรกของชีวิตจึงจะมีพัฒนาการตามปกติ


หลักสูตรอนุบาล 2566 หน้า ๖ ช่วงเวลาของการเรียนภาษาคือ อายุ ๓ – ๕ ปีแรกของชีวิต เด็กจะพูดได้ชัด คล่องและถูกต้อง โดยการพัฒนาจากการ พูดเป็นค าๆมาเป็นประโยคและเล่าเรื่องได้ เป็นต้น ๔. แนวคิดเกี่ยวกับสื่อกำรเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ท าให้เด็กเกิดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ที่วางไว้ ท าให้สิ่งที่ เป็นนามธรรมเข้าใจยากกลายเป็นรูปธรรมที่เด็กเข้าใจและเรียนรู้ได้ง่าย รวดเร็ว เพลิดเพลิน เกิดการเรียนรู้และค้นพบ ด้วยตนเอง การใช้สื่อการเรียนรู้ต้องปลอดภัยต่อตัวเด็กและเหมาะสมกับวัย วุฒิภาวะ ความแตกต่างระหว่างบุคคล ความสนใจ และความต้องการของเด็กที่หลากหลาย สื่อประกอบการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาเด็กปฐมวัยควรมีสื่อทั้งที่ เป็นประเภท ๒ มิติและ/หรือ ๓ มิติ ที่เป็นสื่อของจริง สื่อธรรมชาติ สื่อที่อยู่ใกล้ตัวเด็ก สื่อสะท้องวัฒนธรรม สื่อภูมิ ปัญญาท้องถิ่น สื่อเพื่อพัฒนาเด็กในด้านต่างๆให้ครบทุกด้าน ทั้งนี้ สื่อต้องเอื้อให้เด็กเรียนรู้ผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้า โดยการจัดการใช้สื่อส าหรับเด็กปฐมวัยต้องเริ่มต้นจากสื่อของจริง ของจ าลอง ภาพถ่าย ภาพโครงร่างและสัญลักษณ์ ตามล าดับ ๕. แนวคิดเกี่ยวกับสังคมและวัฒนธรรม เด็กเมื่อเกิดมาจะเป็นส่วนหนึ่งของสังคมและวัฒนธรรม ซึ่งไม่ เพียงแต่จะได้รับอิทธิพลจากการปฏิบัติแบบดั้งเดิมตามประเพณี มรดก และความรู้ของบรรพบุรุษ แต่ยังได้รับอิทธิพล จากประสบการณ์ ค่านิยมและความเชื่อของบุคคลในครอบครัว และชุมชนของแต่ละที่ด้วย บริบทของสังคมและ วัฒนธรรมที่เด็กอาศัยอยู่หรือแวดล้อมตัวเด็กท าให้เด็กแต่ละคนแตกต่างกันไป ครูจ าเป็นต้องเข้าใจและยอมรับว่า สังคมและวัฒนธรรมที่แวดล้อมตัวเด็ก มีอิทธิพลต่อการเรียนรู้ การพัฒนาศักยภาพและพัฒนาการของเด็กแต่ละคน ครูควรต้องเรียนรู้บริบททางสังคมและวัฒนธรรมของเด็กที่ตนรับผิดชอบ เพื่อช่วยให้เด็กได้รับการพัฒนา เกิดการ เรียนรู้และอยู่ในกลุ่มคนที่มาจากพื้นฐานเหมือนหรือต่างจากตนได้อย่างราบรานมีความสุข เป็นการเตรียมเด็กไปสู้ สังคมในอนาคตกับการอยู่ร่วมกับผู้อื่น การท างานร่วมกับผู้อื่นที่มีความหลากหลายทางความคิด ความเชื่อและ วัฒนธรรมเช่น ความคล้ายคลึงและความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรมไทยกับประเทศเพื่อนบ้านเรื่องศาสนา ประเทศ พม่า ลาว กัมพูชาก็จะคล้ายคลึงกับคนไทยในการท าบุญตักบาตร การสวดมนต์ไหว้พระ การให้ความเคารพพระสงฆ์ การท าบุญเลี้ยงพระ การเวียนเทียนเนื่องในวันส าคัญทางศาสนา ประเพณีเข้าพรรษา ส าหรับประเทศมาเลเซีย บรูไน อินโดนีเซีย ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามจึงมีวัฒนธรรมแบบอิสลาม ประเทศฟิลิปปินส์ได้รับอิทธิพลจาก คริสต์ศาสนา ประเทศสิงคโปร์และเวียดนามนับถือหลายศาสนา โดยนับถือลัทธิธรรมเนียมแบบจีนเป็นหลัก เป็นต้น


หลักสูตรอนุบาล 2566 หน้า ๗ มำตรฐำนคุณลักษณะที่พึงประสงค์ หลักสูตรการศึกษาปฐมวัยก าหนดมาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์จ านวน ๑๒ มาตรฐาน ประกอบด้วย ๑.พัฒนำกำรด้ำนร่ำงกำย ประกอบด้วย ๒ มำตรฐำนคือ มาตรฐานที่ ๑ ร่างกายเจริญเติบโตตามวัยและมีสุขนิสัยที่ดี มาตรฐานที่ ๒ กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กแข็งแรงใช้ได้อย่างคล่องแคล่วและประสาน สัมพันธ์กัน ๒.พัฒนำกำรด้ำนอำรมณ์ จิตใจ ประกอบด้วย ๓ มำตรฐำนคือ มาตรฐานที่ ๓ มีสุขภาพจิตดีและมีความสุข มาตรฐานที่ ๔ ชื่นชมและแสดงออกทางศิลปะ ดนตรี และการเคลื่อนไหว มาตรฐานที่ ๕ มีคุณธรรม จริยธรรม และมีจิตใจที่ดีงาม ๓.พัฒนำกำรด้ำนสังคม ประกอบด้วย ๓ มำตรฐำนคือ มาตรฐานที่ ๖ มีทักษะชีวิตและปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาตรฐานที่ ๗ รักธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม และความเป็นไทย มาตรฐานที่ ๘ อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุขและปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของสังคมใน ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ๔.พัฒนำกำรด้ำนสติปัญญำ ประกอบด้วย ๔ มำตรฐำนคือ มาตรฐานที่ ๙ ใช้ภาษาสื่อสารได้เหมาะสมกับวัย มาตรฐานที่ ๑๐ มีความสามารถในการคิดที่เป็นพื้นฐานการเรียนรู้ มาตรฐานที่ ๑๑ มีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ มาตรฐานที่ ๑๒ มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้และมีความสามารถในการแสวงหาความรู้ได้ เหมาะสมกับวัย ตัวบ่งชี้ ตัวบ่งชี้เป็นเป้าหมายในการพัฒนาเด็กที่มีความสัมพันธ์สอดคล้องกับมาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์


หลักสูตรอนุบาล 2566 หน้า ๘ สภำพที่พึงประสงค์ สภาพที่พึงประสงค์เป็นพฤติกรรมหรือความสามารถตามวัยที่คาดหวังให้เด็กเกิด บนพื้นฐานพัฒนาการตาม วัยหรือความสามารถตามธรรมชาติในแต่ละระดับอายุเพื่อน าไปใช้ในการก าหนดสาระเรียนรู้ใน การจัดประสบการณ์ กิจกรรมและประเมินพัฒนาการเด็ก โดยมีรายละเอียดของมาตรฐาน มาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ตัวบ่งชี้ และ สภาพที่พึงประสงค์ ดังนี้


หลักสูตรอนุบาล 2566 มำตรฐำนที่ ๑ ร่ำงกำยเจริญเติบโตตำมวัยเด็กมีสุขนิสัยที่ดี ตัวบ่งชี้ที่ ๑.๑ มีน้ ำหนักและส่วนสูงตำมเกณฑ์ สภำพที่พึงประสอำยุ ๓ ปี อำยุ ๔ ปี-น้ าหนักและส่วนสูงตามเกณฑ์ของกรมอนามัย -น้ าหนักและส่วนสูงตามเกณตัวบ่งชี้ที่ ๑.๒ มีสุขภำพอนำมัย สุขนิสัยที่ดี สภำพที่พึงประสอำยุ ๓ ปี อำยุ ๔ ปี-ยอมรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และดื่มน้ าที่ สะอาดเมื่อมีผู้ชี้แนะ -รับประทานอาหารที่มีประโยสะอาดด้วยตนเอง -ล้างมือก่อนรับประทานอาหารและหลังจากใช้ห้องน้ า ห้องส้วมเมื่อมีผู้ชี้แนะ -ล้างมือก่อนรับประทานอาหห้องน้ าห้องส้วมด้วยตนเอง -นอนพักผ่อนเป็นเวลา -นอนพักผ่อนเป็นเวลา -ออกก าลังกายเป็นเวลา -ออกก าลังกายเป็นเวลา


หน้า ๙ สงค์ ปี อำยุ ๕ ปี ณฑ์ของกรมอนามัย -น้ าหนักและส่วนสูงตามเกณฑ์ของกรมอนามัย สงค์ ปี อำยุ ๕ ปี ยชน์และดื่มน้ า -รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ได้หลายชนิด และดื่มน้ าสะอาดได้ด้วยตนเอง ารและหลังจากใช้ -ล้างมือก่อนรับประทานอาหารและหลังจากใช้ ห้องน้ าห้องส้วมด้วยตนเอง -นอนพักผ่อนเป็นเวลา -ออกก าลังกายเป็นเวลา


หลักสูตรอนุบาล 2566 ตัวบ่งชี้ที่ ๑.๓ รักษำควำมปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น สภำพที่พึงปอำยุ ๓ ปี อำยุ ๔ ปี-เล่นและท ากิจกรรมอย่างปลอดภัยเมื่อมีผู้ชี้แนะ -เล่นและท ากิจกรรมอย่างปล


หน้า ๑๐ ระสงค์ ปี อำยุ ๕ ปี ลอดภัยด้วยตนเอง -เล่นและท ากิจกรรมและปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างปลอดภัย


หลักสูตรอนุบาล 2566 มำตรฐำนที่ ๒ กล้ำมเนื้อใหญ่และกล้ำมเนื้อเล็กแข็งแรงใช้ได้อย่ำงคล่องแคล่วและปตัวบ่งชี้ที่ ๒.๑ เคลื่อนไหวร่ำงกำยอย่ำงคล่องแคล่วประสำนสัมพันธ์และทรงตัวได้ สภำพที่พึงปรอำยุ ๓ ปี อำยุ ๔ ปี-เดินตามแนวที่ก าหนดได้ -เดินต่อเท้าไปข้างหน้าเป็นเส้กางแขน -กระโดดสองขา ขึ้นลงอยู่กับที่ได้ -กระโดดขาเดียวอยู่กับที่ได้โด-วิ่งแล้วหยุดได้ -วิ่งหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้ -รับลูกบอลโดยใช้มือและล าตัวช่วย -รับลูกบอลได้ด้วยมือทั้งสองขตัวบ่งชี้ที่ ๒.๒ ใช้มือ-ตำประสำนสัมพันธ์กัน สภำพที่พึงปรอำยุ ๓ ปี อำยุ ๔ ปี-ใช้กรรไกรตัดกระดาขาดจากกันได้โดยใช้มือเดียว -ใช้กรรไกรตัดกระดาษตามแ-เขียนรูปวงกลมตามแบบได้ -เขียนรูปสี่เหลี่ยมตามแบบได้-ร้อยวัสดุที่มีรูขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง ๑ ซม.ได้ -ร้อยวัสดุที่มีรูจนาดเส้นผ่านศ


หน้า ๑๑ ประสำนสัมพันธ์กัน ระสงค์ ปี อำยุ ๕ ปี ส้นตรงได้โดยไม่ต้อง -เดินต่อเท้าถอยหลังเป็นเส้นตรงได้โดยไม่ต้องกางเกง ดยไม่เสียการทรงตัว -กระโดดขาเดียว ไปข้างหน้าได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ เสียการทรงตัว -วิ่งหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้อย่างคล่องแคล่ว ข้าง -รับลูกบอลที่กระดอนขึ้นจากพื้นได้ ระสงค์ ปี อำยุ ๕ ปี นวเส้นตรงได้ -ใช้กรรไกรตัดกระดาษตามแนวเส้นโค้งได้ ด้อย่างมีมุมชัดเจน -เขียนรูปสามเหลี่ยมตามแบบได้อย่างมีมุมชัดเจน ศูนย์ ๐.๕ ซม.ได้ -ร้อยวัสดุที่มีรูขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง๐.๒๕ ซม.ได้


หลักสูตรอนุบาล 2566 ๒.พัฒนำกำรด้ำนอำรมณ์ จิตใจ มำตรฐำนที่ ๓ มีสุขภำพจิตดีและมีควำมสุข ตัวบ่งชี้ที่ ๓.๑ แสดงออกทำงอำรมณ์อย่ำงเหมำะสม สภำพที่พึงปรอำยุ ๓ ปี อำยุ ๔ ปี-แสดงอารมณ์ ความรู้สึกได้เหมาะสมกับบาง สถานการณ์ -แสดงอารมณ์ ความรู้สึกได้ตตัวบ่งชี้ที่ ๓.๒ มีควำมรู้สึกที่ดีต่อตนเองและผู้อื่น สภำพที่พึงปรอำยุ ๓ ปี อำยุ ๔ ปี-กล้าพูดกล้าแสดงออก -กล้าพูดกล้าแสดงออกอย่างเสถานการณ์ -แสดงความพอใจในผลงานตนเอง -แสดงความพอใจในผลงานแของตนเอง


หน้า ๑๒ ระสงค์ ปี อำยุ ๕ ปี ตามสถานการณ์ -แสดงอารมณ์ ความรู้สึกได้สอดคล้องกับสถานการณ์ อย่างเหมาะสม ระสงค์ ปี อำยุ ๕ ปี เหมาะสมบาง -กล้าพูดกล้าแสดงออกอย่างเหมาะสมตามสถานการณ์ และความสามารถ -แสดงความพอใจในผลงานและความสามารถของ ตนเองและผู้อื่น


หลักสูตรอนุบาล 2566 มำตรฐำนที่ ๔ ชื่นชมและแสดงออกทำงศิลปะ ดนตรี และกำรเคลื่อนไหว ตัวบ่งชี้ที่ ๔.๑ สนใจและมีควำมสุขและแสดงออกผ่ำนงำนศิลปะ ดนตรีและกำรเคลืมำตรฐำนที่ ๕ มีคุณธรรม จริยธรรมและมีจิตใจที่ดีงำม ตัวบ่งชี้ที่ ๕.๑ ซื่อสัตย์ สุจริต สภำพที่พึงปรอำยุ ๓ ปี อำยุ ๔ ปี-บอกหรือชี้ได้ว่าสิ่งใดเป็นของตนเองและสิ่งใดเป็น ของผู้อื่น - ขออนุญาตหรือรอคอยเมื่อตผู้อื่นเมื่อมีผู้ชี้แนะ สภำพที่พึงปรอำยุ ๓ ปี อำยุ ๔ ปี-สนใจและมีความสุขและแสดงออกผ่านงานศิลปะ -สนใจและมีความสุขและแสดศิลปะ -สนใจ มีความสุขและแสดงออกผ่านเสียงเพลง ดนตรี -สนใจ มีความสุขและแสดงอดนตรี -สนใจ มีความสุขและแสดงท่าทาง/เคลื่อนไหว ประกอบเพลง จังหวะและ ดนตรี -สนใจ มีความสุขและแสดงทประกอบเพลง จังหวะและ ด


หน้า ๑๓ ลื่อนไหว ระสงค์ ปี อำยุ ๕ ปี ต้องการสิ่งของของ - ขออนุญาตหรือรอคอยเมื่อต้องการสิ่งของของผู้อื่น ด้วยตนเอง ระสงค์ ปี อำยุ ๕ ปี ดงออกผ่านงาน -สนใจและมีความสุขและแสดงออกผ่านงานศิลปะ ออกผ่านเสียงเพลง -สนใจ มีความสุขและแสดงออกผ่านเสียงเพลง ดนตรี ท่าทาง/เคลื่อนไหว นตรี -สนใจ มีความสุขและแสดงท่าทาง/เคลื่อนไหว ประกอบเพลง จังหวะและ ดนตรี


หลักสูตรอนุบาล 2566 ตัวบ่งชี้ที่ ๕.๒ มีควำมเมตตำ กรุณำ มีน้ ำใจและช่วยเหลือแบ่งปัน สภำพที่พึงประอำยุ ๓ ปี อำยุ ๔ ปี-แสดงความรักเพื่อนและมีเมตตาสัตว์เลี้ยง -แสดงความรักเพื่อนและมีเม-แบ่งปันสิ่งของให้ผู้อื่นได้เมื่อมีผู้ชี้แนะ -ช่วยเหลือและแบ่งปันผู้อื่นไดตัวบ่งชี้ที่ ๕.๓ มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น สภำพที่พึงปรอำยุ ๓ ปี อำยุ -แสดงสีหน้าหรือท่าทางรับรู้ความรู้สึกผู้อื่น -แสดงสีหน้าหรือท่ผู้อื่น ตัวบ่งชี้ที่ ๕.๔มีควำมรับผิดชอบ สภำพที่พึงปรอำยุ ๓ ปี อำยุ -ท างานที่ได้รับมอบหมายจนส าเร็จเมื่อมีผู้ช่วยเหลือ -ท างานที่ได้รับมอบหมาย


หน้า ๑๔ ะสงค์ ปี อำยุ ๕ ปี มตตาสัตว์เลี้ยง -แสดงความรักเพื่อนและมีเมตตาสัตว์เลี้ยง ด้เมื่อมีผู้ชี้แนะ -ช่วยเหลือและแบ่งปันผู้อื่นได้ด้วยตนเอง ระสงค์ ๔ ปี อำยุ ๕ ปี าทางรับรู้ความรู้สึก -แสดงสีหน้าหรือท่าทางรับรู้ความรู้สึกผู้อื่นอย่าง สอดคล้องกบสถานการณ์ ระสงค์ ๔ ปี อำยุ ๕ ปี ยจนส าเร็จเมื่อมีผู้ชี้แนะ -ท างานที่ได้รับมอบหมายจนส าเร็จด้วยตนเอง


หลักสูตรอนุบาล 2566 ๓.พัฒนำกำรด้ำนสังคม มำตรฐำนที่ ๖ มีทักษะชีวิตและปฏิบัติตนตำมหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง ตัวบ่งชี้ที่ ๖.๑ ช่วยเหลือตนเองในกำรปฏิบัติกิจวัตรประจ ำวัน สภำพที่พึงปรอำยุ ๓ ปี อำยุ ๔- แต่งตัวโดยมีผู้ช่วยเหลือ - แต่งตัวด้วยตนเอง - รับประทานอาหารด้วยตนเอง -รับประทานอาหารด้วยตน-ใช้ห้องน้ าห้องส้วมโดยมีผู้ช่วยเหลือ -ใช้ห้องน้ าห้องส้วมด้วยตนตัวบ่งชี้ที่ ๖.๒ มีวินัยในตนอง สภำพที่พึงปรอำยุ ๓ ปี อำยุ ๔-เก็บของเล่นของใช้เข้าที่เมื่อมีผู้ชี้แนะ -เก็บของเล่นของใช้เข้าที่ด้ว-เข้าแถวตาล าดับก่อนหลังได้เมื่อมีผู้ชี้แนะ -เข้าแถวตาล าดับก่อนหลังไ


หน้า ๑๕ ระสงค์ ๔ ปี อำยุ ๕ ปี - แต่งตัวด้วยตนเองได้อย่างคล่องแคล่ว นเอง - รับประทานอาหารด้วยตนเองอย่างถูกวิธี เอง -ใช้และท าความสะอาดหลังใช้ห้องน้ าห้องส้วมด้วย ตนเอง ระสงค์ ๔ ปี อำยุ ๕ ปี วยตนเอง -เก็บของเล่นของใช้เข้าที่อย่างเรียบร้อยด้วยตนเอง ได้ด้วยตนเอง -เข้าแถวตาล าดับก่อนหลังได้ด้วยตนเอง


หลักสูตรอนุบาล 2566 ตัวบ่งชี้ที่ ๖.๓ ประหยัดและพอเพียง สภำพที่พึงปอำยุ ๓ ปี อำยุ๔-ใช้สิ่งของเครื่องใช้อย่างประหยัดและพอเพียงเมื่อมีผู้ ชี้แนะ -ใช้สิ่งของเครื่องใช้อย่างปรเมื่อมีผู้ชี้แนะ มำตรฐำนที่ ๗ รักธรรมชำติ สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม และควำมเป็นไทย ตัวบ่งชี้ที่ ๗.๑ ดูแลรักษำธรรมชำติและสิ่งแวดล้อม สภำพที่พึงปอำยุ ๓ ปี อำยุ ๔ ี-มีส่วนร่วมในการดูแลรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เมื่อมีผู้ชี้แนะ -มีส่วนร่วมในการดูแลรักษาธสิ่งแวดล้อมเมื่อมีผู้ชี้แนะ -ทิ้งขยะได้ถูกที่ -ทิ้งขยะได้ถูกที่


หน้า ๑๖ ระสงค์ ๔ ปี อำยุ ๕ ปี ระหยัดและพอเพียง -ใช้สิ่งของเครื่องใช้อย่างประหยัดและพอเพียงด้วย ตนเอง ประสงค์ ปี อำยุ ๕ ปี ธรรมชาติและ -มีส่วนร่วมในการดูแลรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้วยตนเอง -ทิ้งขยะได้ถูกที่


หลักสูตรอนุบาล 2566 ตัวบ่งชี้ที่ ๗.๒ มีมำรยำทตำมวัฒนธรรมไทยและรักควำมเป็นไทย สภำพที่พึงปอำยุ ๓ ปี อำยุ ๔ ีปฏิบัติตนตามมารยาทไทยได้ เมื่อมีผู้ชี้แนะ -ปฏิบัติตนตามมารยาทไทยได-กล่าวค าขอบคุณและขอโทษเมื่อมีผู้ชี้แนะ -กล่าวค าขอบคุณและขอโทษ-หยุดเมื่อได้ยินเพลงชาติไทยและเพลงสรรเสริญพระ บารมี -หยุดเมื่อได้ยินเพลงชาติไทยพระบารมี มำตรฐำนที่ ๘ อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่ำงมีควำมสุขและปฏิบัติตนเป็นสมำชิกที่ดีของสัตัวบ่งชี้ที่ ๘.๑ ยอมรับควำมเหมือนและควำมแตกต่ำงระหว่ำงบุคคล สภำพที่พึงปอำยุ ๓ ปี อำยุ ๔ ี-เล่นและท ากิจกรรมร่วมกับเด็กที่แตกต่างไปจากตน -เล่นและท ากิจกรรมร่วมกับกจากตน


หน้า ๑๗ ประสงค์ ปี อำยุ ๕ ปี ด้ด้วยตนเอง -ปฏิบัติตนตามมารยาทไทยได้ ตามกาลเทศะ ษด้วยตนเอง -กล่าวค าขอบคุณและขอโทษด้วยตนเอง และเพลงสรรเสริญ -ยืนตรงและร่วมร้องเพลงชาติไทยและเพลงสรรเสริญ พระมารมี สังคมในระบอบประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุข ระสงค์ ปี อำยุ ๕ ปี กลุ่มเด็กที่แตกต่างไป -เล่นและท ากิจกรรมร่วมกับเด็กที่แตกต่างไปจากตน


หลักสูตรอนุบาล 2566 ตัวบ่งชี้ที่ ๘.๒ มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น สภำพที่พึงปอำยุ ๓ ปี อำยุ ๔-เล่นร่วมกับเพื่อน -เล่นหรือท างานร่วมกับเพื่อ-ยิ้มหรือทักทายผู้ใหญ่และบุคคลที่คุ้นเคยเมื่อมีผู้ชี้แนะ -ยิ้มหรือทักทายหรือพูดคุยกคุ้นเคยได้ด้วยตนเอง ตัวบ่งชี้ที่ ๘.๓ ปฏิบัติตนเบื้องต้นในกำรเป็นสมำชิกที่ดีของสังคม สภำพที่พึงปอำยุ ๓ ปี อำยุ ๔-ปฏิบัติตามข้อตกลงเมื่อมีผู้ชี้แนะ -มีส่วนร่วมสร้างข้อตกลงแลเมื่อมีผู้ชี้แนะ -ปฏิบัติตนเป็นผู้น าและผู้ตามเมื่อมีผู้ชี้แนะ -ปฏิบัติตนเป็นผู้น าและผู้ตา-ยอมรับการประนีประนอมแก้ไขปัญหาเมื่อมีผู้ชี้แนะ -ประนีประนอมแก้ไขปัญหาความรุนแรงเมื่อมีผู้ชี้แนะ


หน้า ๑๘ ระสงค์ ๔ ปี อำยุ ๕ ปี อนเป็นกลุ่ม -เล่นหรือท างานร่วมกับเพื่อนอย่างมีเป้าหมาย กับผู้ใหญ่และบุคคลที่ -ยิ้มหรือทักทายหรือพูดคุยกับผู้ใหญ่และบุคคลที่ คุ้นเคยได้เหมาะสมกับสถานการณ์ ระสงค์ ๔ ปี อำยุ ๕ ปี ละปฏิบัติตามข้อตกลง -มีส่วนร่วมสร้างข้อตกลงและปฏิบัติตามข้อตกลงด้วย ตนเอง ามที่ดีได้ด้วยตนเอง -ปฏิบัติตนเป็นผู้น าและผู้ตามได้เหมาะสมกับ สถานการณ์ าโดยปราศจากการใช้ -ประนีประนอมแก้ไขปัญหาโดยปราศจากการใช้ความ รุนแรงด้วยตนเอง


หลักสูตรอนุบาล 2566 ๕. ด้ำนสติปัญญำ มำตรฐำนที่ ๙ ใช้ภำษำสื่อสำรได้เหมำะสมกับวัย ตัวบ่งชี้ที่ ๙.๑ สนทนำโต้ตอบและเล่ำเรื่องให้ผู้อื่นเข้ำใจ สภำพที่พึงปอำยุ ๓ ปี อำยุ ๔-ฟังผู้อื่นพูดจนจบและโต้ตอบเกี่ยวกับเรื่องที่ฟัง -ฟังผู้อื่นพูดจนจบและสนทกับเรื่องที่ฟัง -เล่า เรื่องด้วยประโยคสั้นๆ -เล่าเรื่องเป็นประโยคอย่างตัวบ่งชี้ที่ ๙.๒ อ่ำน เขียนภำพ และสัญลักษณ์ได้ สภำพที่พึงปอำยุ ๓ ปี อำยุ ๔-อ่านภาพ และพูดข้อความด้วยภาษา ของตน -อ่านภาพ สัญลักษณ์ ค า พตามองข้อความตามบรรทัด-เขียนขีด เขี่ย อย่างมีทิศทาง -เขียนคล้ายตัวอักษร


หน้า ๑๙ ประสงค์ ๔ ปี อำยุ ๕ ปี ทนาโต้ตอบสอดคล้อง -ฟังผู้อื่นพูดจนจบและสนทนาโต้ตอบอย่างต่อเนื่อง เชื่อมโยงกับเรื่องที่ฟัง ต่อเนื่อง -เล่าเป็นเรื่องราวต่อเนื่องได้ ประสงค์ ๔ ปี อำยุ ๕ ปี พร้อมทั้งชี้ หรือกวาด ด -อ่านภาพ สัญลักษณ์ ค า ด้วยการชี้ หรือกวาดตามอง จุดเริ่มต้นและจุดจบของข้อความ -เขียนชื่อของตนเอง ตามแบบ เขียนข้อความด้วยวิธีที่คิดขึ้นเอง


หลักสูตรอนุบาล 2566 มำตรฐำนที่ ๑๐ มีควำมสำมำรถในกำรคิดที่เป็นพื้นฐำนในกำรเรียนรู้ ตัวบ่งชี้ที่ ๑๐.๑ มีควำมสำมำรถในกำรคิดรวบยอด สภำพที่พึงอำยุ ๓ ปี อำยุ ๔-บอกลักษณะของสิ่งของต่างๆจากการสังเกตโดยใช้ ประสาทสัมผัส -บอกลักษณะและส่วนประจากการสังเกตโดยใช้ประส-จับคู่หรือเปรียบเทียบสิ่งต่างๆโดยใช้ลักษณะหรือหน้าที่ การงานเพียงลักษณะเดียว -จับคู่และเปรียบเทียบความเหมือนของสิ่งต่างๆโดยใช้ลัเพียงลักษณะเดียว -คัดแยกสิ่งต่างๆตามลักษณะหรือหน้าที่การใช้งาน -จ าแนกและจัดกลุ่มสิ่งต่างๆลักษณะเป็นเกณฑ์ -เรียงล าดับสิ่งของหรือเหตุการณ์อย่างน้อย ๓ ล าดับ -เรียงล าดับสิ่งของหรือเหตุกล าดับ


หน้า ๒๐ ประสงค์ ๔ ปี อำยุ ๕ ปี กอบของสิ่งของต่างๆ าทสัมผัส -บอกลักษณะ ส่วนประกอบ การเปลี่ยนแปลง หรือ ความสัมพันธ์ของสิ่งของต่างๆจากการสังเกตโดยใช้ ประสาทสัมผัส มแตกต่างหรือความ ลักษณะที่สังเกตพบ -จับคู่และเปรียบเทียบความแตกต่างหรือความเหมือนของ สิ่งต่างๆโดยใช้ลักษณะที่สังเกตพบสองลักษณะขึ้นไป ๆโดยใช้อย่างน้อยหนึ่ง -จ าแนกและจัดกลุ่มสิ่งต่างๆโดยใช้ตั้งแต่สองลักษณะขึ้น ไปเป็นเกณฑ์ การณ์อย่างน้อย ๔ -เรียงล าดับสิ่งของหรือเหตุการณ์อย่างน้อย ๕ ล าดับ


หลักสูตรอนุบาล 2566 ตัวบ่งชี้ที่ ๑๐.๒ มีควำมสำมำรถในกำรคิดเชิงเหตุผล สภำพที่พึงปอำยุ ๓ ปี อำยุ ๔-ระบุผลที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์หรือการกระท าเมื่อมีผู้ ชี้แนะ -ระบุสาเหตุหรือผลที่เกิดขึ้นการกระท าเมื่อมีผู้ชี้แนะ -คาดเดา หรือ คาดคะเนสิ่งที่อาจเกิดขึ้น -คาดเดา หรือคาดคะเนสิ่งทีส่วนร่วมในการลงความเห็นตัวบ่งชี้ที่ ๑๐.๓ มีควำมสำมำรถในกำรคิดแก้ปัญหำและตัดสินใจ สภำพที่พึงปอำยุ ๓ ปี อำยุ ๔-ตัดสินใจในเรื่องง่ายๆ -ตัดสินใจในเรื่องง่ายๆและเ-แก้ปัญหาโดยลองผิดลองถูก -ระบุปัญหา และแก้ปัญหาโ


หน้า ๒๑ ประสงค์ ๔ ปี อำยุ ๕ ปี นในเหตุการณ์หรือ -อธิบายเชื่อมโยงสาเหตุและผลที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์ หรือการกระท าด้วยตนเอง ที่อาจจะเกิดขึ้น หรือมี นจากข้อมูล -คาดคะเนสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น และมีส่วนร่วมในการลง ความเห็นจากข้อมูลอย่างมีเหตุผล ระสงค์ ๔ ปี อำยุ ๕ ปี เริ่มเรียนรู้ผลที่เกิดขึ้น -ตัดสินใจในเรื่องง่ายๆและยอมรับผลที่เกิดขึ้น โดยลองผิดลองถูก -ระบุปัญหาสร้างทางเลือกและเลือกวิธีแก้ปัญหา


หลักสูตรอนุบาล 2566 มำตรฐำนที่ ๑๑ มีจินตนำกำรและควำมคิดสร้ำงสรรค์ ตัวบ่งชี้ที่ ๑๑.๑ เล่น/ท ำงำนศิลปะตำมจินตนำกำรและควำมคิดสร้ำงสรรค์ สภำพที่พึงปอำยุ ๓ ปี อำยุ ๔-สร้างผลงานศิลปะเพื่อสื่อสารความคิด ความรู้สึกของ ตนเอง -สร้างผลงานศิลปะเพื่อสื่อสความรู้สึกของตนเองโดยมีกแปลกใหม่จากเดิมหรือมีราตัวบ่งชี้ที่ ๑๑.๒ แสดงท่ำทำง/เคลื่อนไหวตำมจินตนำกำรอย่ำงสร้ำงสรรค์ สภำพที่พึงปอำยุ ๓ ปี อำยุ ๔-เคลื่อนไหวท่าทางเพื่อสื่อสารความคิด ความรู้สึกของ ตนเอง -เคลื่อนไหวท่าทางเพื่อสื่อสของตนเอง อย่างหลากหลายหรือแปลก


หน้า ๒๒ ระสงค์ ๔ ปี อำยุ ๕ ปี สารความคิด การดัดแปลงและ ยละเอียดเพิ่มขึ้น -สร้างผลงานศิลปะเพื่อสื่อสารความคิด ความรู้สึกของ ตนเองโดยมีการดัดแปลงและแปลกใหม่จากเดิมและ มีรายละเอียดเพิ่มขึ้น ระสงค์ ๔ ปี อายุ ๕ ปี สารความคิด ความรู้สึก กใหม่ -เคลื่อนไหวท่าทางเพื่อสื่อสารความคิด ความรู้สึกของ ตนเอง อย่างหลากหลายและแปลกใหม่


หลักสูตรอนุบาล 2566 มำตรฐำนที่ ๑๒ มีเจตคติที่ดีต่อกำรเรียนรู้ และมีควำมสำมำรถในกำรแสวงหำควำมตัวบ่งชี้ที่ ๑๒.๑ มีเจตคติที่ดีต่อกำรเรียนรู้ สภำพที่พึงปรอำยุ ๓ ปี อำยุ ๔-สนใจฟังหรืออ่านหนังสือด้วยตนเอง -สนใจซักถามเกี่ยวกับสัญลัพบเห็น -กระตือรือร้นในการเข้าร่วมกิจกรรม -กระตือรือร้นในการเข้าร่วมตัวบ่งชี้ที่ ๑๒.๒ มีควำมสำมำรถในกำรแสวงหำควำมรู้ สภำพที่พึงปรอำยุ ๓ ปี อำยุ ๔-ค้นหาค าตอบของข้อสงสัยต่างๆ ตามวิธีการที่มีผู้ชี้แนะ -ค้นหาค าตอบของข้อสงสัยตนเอง -เชื่อมโยงค าถา “อะไร” ในการค้นหาค าตอบ -ใช้ประโยคค าถามว่า “ที่ไหค้นหาค าตอบ


หน้า ๒๓ มรู้ได้เหมำะสมกับวัย ระสงค์ ๔ ปี อำยุ ๕ ปี ักษณ์หรือตัวหนังสือที่ -หยิบหนังสือมาอ่านและเขียนสื่อความคิดด้วยตนเอง เป็นประจ าอย่างต่อเนื่อง มกิจกรรม -กระตือรือร้นในการร่วมกิจกรรมตั้งแต่ต้นจนจบ ระสงค์ ๔ ปี อำยุ ๕ ปี ยต่างๆ ตามวิธีการของ -ค้นหาค าตอบของข้อสงสัยต่างๆ ตามวิธีการที่ หลากหลายด้วยตนเอง หน” “ท าไม” ในการ -ใช้ประโยคค าถามว่า “เมื่อไร” อย่างไร” ในการ ค้นหาค าตอบ


หลักสูตรอนุบาล 2566 หน้า ๒๔ โครงสร้ำงหลักสูตร (กำรวิเครำะห์สำระกำรเรียนรู้รำยปี) ระยะเวลำเรียน หลักสูตรการศึกษาปฐมวัยก าหนดกรอบโครงสร้างเวลาในการจัดประสบการณ์ให้กับเด็ก ๑-๓ ปีการศึกษา โดยประมาณ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับอายุของเด็กที่เริ่มเข้าสถานศึกษาหรือสถาบันพัฒนาเด็กปฐมวัย เวลาเรียนส าหรับเด็ก ปฐมวัยขึ้นอยู่กับสถานศึกษาแต่ละแห่ง โดยมีเวลาเรียนไม่น้อยกว่า ๑๘๐ วันต่อ ๑ ปีการศึกษา ในแต่ละวันจะใช้เวลา ไม่น้อยกว่า ๕ ชั่วโมง โดยสามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมตามบริบทของสถานศึกษาและสถาบันพัฒนาเด็กปฐมวัย


หลักสูตรอนุบาล 2566 โครงสร้ำงสัดส่วนเวลำ ตำมตำรที่ กำรพัฒนำ ๑ ทักษะพื้นฐานในชีวิตประจ าวัน (รวมทั้งการช่วยตนเองในการแต่งกาย การรับประทานอาหาร สุขอนามัยและการนอนพักผ่อน) ๒ การเล่นเสรี ๓ การคิดและความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ๔ กิจกรรมด้านสังคม (การท างานร่วมกับผู้อื่น) ๕ กิจกรรมพัฒนากล้ามเนื้อใหญ่ ๖ กิจกรรมที่มีการวางแผนโดยผู้สอน รวม


หน้า ๒๕ รำงกิจกรรมประจ ำวัน อำยุ ๔ ปี ชั่วโมง : วัน (ประมำณ) อำยุ ๕ ปี ชั่วโมง : วัน (ประมำณ) ง ๒ (๑/๒) ๒ (๑/๔) ๑ ๑ ๑ ๑ ๓/๔ ๑ ๓/๔ ๓/๔ ๑ ๑ ๗ ๗


หลักสูตรอนุบาล 2566 สำระกำรเรียนรู้รำยปี สาระการเรียนรู้ใช้เป็นสื่อกลางในการจัดประสบการณ์การหลักสูตรที่ก าหนด ประกอบด้วย ประสบการณ์ส าคัญและสาระที่ควรเรียนรู้ ดังนี้ กำรวิเครำะห์สำระกำรเรียนรู้ตำม มำพัฒนำกำรด้ำนร่ำงกำย มำตรฐำนที่ 1 ร่ำงกำยเจริญเติบโตตำมวัยและมีสุขนิสัยที่ดี ตัวบ่งชี้ สภำพที่พึงประสงค์ ชั้น อนุบำล 1 (3 – 4 ปี) ชั้น อนุบำล 2 (4 – 5 ปี) ชั้น อนุบำล 3 (5 – 6 ปี) 1.1 น้ าหนัก และส่วนสูง ตามเกณฑ์ 1.1.1 มีน้ าหนัก ส่วนสูงตามเกณฑ์ ของกรมอนามัย 1.1.1 มีน้ าหนัก ส่วนสูงตาม เกณฑ์ของกรม อนามัย 1.1.1 มีน้ าหนัก ส่วนสูงตามเกณฑ์ ของกรมอนามัย 1.การที่ดีในกิ2.การเรียงล ายาว/ค


หน้า ๒๖ รเรียนรู้ให้กับเด็กเพื่อส่งเสริมพัฒนาการทุกด้าน ให้เป็นไปตามจุดหมายของ ำตรฐำนคุณลักษณะที่พึงประสงค์ สำระกำรเรียนรู้รำยปี หน่วยกำรจัด ประสบกำรณ์ ประสบกำรณ์ส ำคัญ สำระที่ควรเรียนรู้ ปฏิบัติตนตามสุขอนามัย สุขนิสัย กิจวัตรประจ าวัน จับคู่ การเปรียบเทียบและการ าดับสิ่งต่างๆ ตามลักษณะความ ความสูง น้ าหนัก ปริมาตร 1.การรับประทานอาหารที่มี ประโยชน์ 2.การดูแลสุขภาพอนามัย -การออกก าลังกาย -การพักผ่อนเป็นเวลา 3. การดูแลรักษาอนามัยและความ สะอาด - ดูแลรักษาความสะอาดของ ส่วนรวม เช่น ของเล่น ของใช้ 1.ร่างกายของฉัน 2.มีอะไรในตัวหนู 3. ฟ.ฟันสะอาดจัง 4. นม 5.ผัก สดสะอาด 6. กล้วย 7.กินอย่างมีคุณค่า 8.ข้าวมีคุณค่า


หลักสูตรอนุบาล 2566 ตัวบ่งชี้ สภำพที่พึงประสงค์ ชั้น อนุบำล 1 (3 – 4 ปี) ชั้น อนุบำล 2 (4 – 5 ปี) ชั้น อนุบำล 3 (5 – 6 ปี) 1.2 มีสุขภาพ อนามัยและสุข นิสัยที่ดี 1.2.1 ยอม รับประทาน อาหารที่มี ประโยชน์และดื่ม น้ าสะอาดเมื่อมีผู้ ชี้แนะ 1.2.1 รับประทาน อาหารที่มี ประโยชน์และ ดื่มน้ าสะอาด ด้วยตนเอง 1.2.1 รับประทาน อาหารที่มี ประโยชน์ได้ หลายชนิดและดื่ม น้ าสะอาดด้วย ตนเอง 1.การ2.การที่ดีในกิ3.การเปลี่ยนประสา4.การจ าแนกรูปทรง


หน้า ๒๗ สำระกำรเรียนรู้รำยปี หน่วยกำรจัด ประสบกำรณ์ ประสบกำรณ์ส ำคัญ สำระที่ควรเรียนรู้ ภายในห้องเรียนและโรงเรียน 4. การพักผ่อนเป็นเวลา 9.คณิตคิดสนุก ประกอบอาหารไทย ปฏิบัติตนตามสุขอนามัย สุขนิสัย กิจวัตรประจ าวัน สังเกตลักษณะ ส่วนประกอบ การ นแปลงของสิ่งต่างๆ โดยใช้ าทสัมผัสอย่างเหมาะสม คัดแยก การจัดกลุ่มและการ กสิ่งต่างๆ ตามลักษณะและรูปร่าง ง 1.การรับประทาอาหารที่มี ประโยชน์ 2.อาหารที่มีประโยชน์และไม่มี ประโยชน์ 3.อาหารหลัก 5 หมู่ 4.การมีเจตคติที่ดีต่อการ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ 5. มารยาทในการรับประทาน อาหาร 6. ประโยชน์ของน้ า 1.กินอย่างมีคุณค่า 2. ผักสดสะอาด 3. นม 3.ผัก สดสะอาด 4. กล้วย 5.ข้าวมีคุณค่า 6.คณิตคิดสนุก 7.ประสาทสัมผัส 8. วิทยาศาสตร์น่ารู้


หลักสูตรอนุบาล 2566 ตัวบ่งชี้ สภำพที่พึงประสงค์ ชั้น อนุบำล 1 (3 – 4 ปี) ชั้น อนุบำล 2 (4 – 5 ปี) ชั้น อนุบำล 3 (5 – 6 ปี) 1.2.2 ล้างมือ ก่อนรับประทาน อาหารและ หลังจากใช้ ห้องน้ าห้องส้วม เมื่อมีผู้ชี้แนะ 1.2.2 ล้างมือ ก่อนรับประทาน อาหารและ หลังจากใช้ ห้องน้ าห้องส้วม ด้วยตนเอง 1.2.2 ล้างมือ ก่อนรับประทาน อาหารและ หลังจากใช้ ห้องน้ าห้องส้วม ด้วยตนเอง 1. การที่ดีในกิ2. การชีวิตปร3. การประจ า4.ฟังนิ


หน้า ๒๘ สำระกำรเรียนรู้รำยปี หน่วยกำรจัด ประสบกำรณ์ ประสบกำรณ์ส ำคัญ สำระที่ควรเรียนรู้ รปฏิบัติตนตามสุขอนามัย สุขนิสัย กิจวัตรประจ าวัน รช่วยเหลือตนเองใน ระจ าวัน รปฏิบัติตนให้ปลอดภัยในกิจวัตร าวัน นิทานเรื่องราวเกี่ยวกับสุขนิสัยที่ดี 1. วิธีการรักษาร่างกายให้สะอาด และมีสุขอนามัยที่ดี 2. การปฏิบัติตนขณะรับประทาน อาหาร 3. การใช้ห้องน้ าห้องส้วม 4.อวัยวะต่างๆ ของร่างกายและ การรักษาความปลอดภัย 1. หนูมาโรงเรียน 2. ร่างกายของฉัน 3. มีอะไรในตัวหนู 4. ฟ.ฟันสะอาดจัง 5. หนูน้อยน่ารัก 6.กินอย่างมีคุณค่า 7. เรียนเล่น ปลอดภัย


Click to View FlipBook Version