The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

๙-นายณัฐวุฒิ จันทร์น้อย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by social study, 2022-05-22 11:30:12

๙-นายณัฐวุฒิ จันทร์น้อย

๙-นายณัฐวุฒิ จันทร์น้อย

๔๑

4. กระบวนการทางสถติ ิ t-test

๕. สตู รหาประสทิ ธิภาพ ๘๐/๘๐ (E๑/E๒)

๓.๘.๒ สถติ ิทใ่ี ช้ในการวเิ คราะหค์ ุณภาพของเครือ่ งมือ

ค่าความเท่ียงตรง (Validity Value) เป็นค่าสถิติในการหาคุณภาพของเครื่องมือ

เก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบทดสอบย่อยท้ายวงจร แบบทดสอบวัดความสามารถในการ

คิดแก้ปัญหา และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ซึ่งสถิติที่หาค่าความเที่ยงตรงคือการหา

ค่าความสอดคล้องระหว่างข้อคำถามกับวัตถุประสงค์หรือเนื้อหา (IOC) โดยให้ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน

๓ ท่าน เปน็ ผตู้ รวจสอบ โดยให้เกณฑ์ในการตรวจพจิ ารณาขอ้ คำถาม ดังน้ี

คะแนน +๑ หมายถงึ เหน็ ว่าสอดคลอ้ ง

คะแนน ๐ หมายถึง ไม่แนใ่ จ

คะแนน -๑ หมายถงึ เห็นวา่ ไม่สอดคลอ้ ง

แลว้ นำผลคะแนนทีไ่ ดจ้ ากผเู้ ชย่ี วชาญมาคำนวณหาค่า IOC ตามสูตร ดงั นี้

= ∑

เมอื่ IOC แทน ดชั นคี วามสอดคลอ้ งของขอ้ คำถามกับจุดประสงค์

R แทน ผลรวมของคะแนนการพจิ ารณาของผูเ้ ชีย่ วชาญ

N แทน จำนวนผู้เชีย่ วชาญทัง้ หมด

เกณฑ์การพิจารณา

๑. ข้อท่ีมีค่าความสอดคล้อง (IOC) ต้ังแต่ ๐.๕๐ - ๑.๐๐ มีค่าความเท่ียงตรงสูง สามารถ

ใชไ้ ด้

๒. ขอ้ ท่ีมีค่าความสอดคล้อง (IOC) ต่ำกว่า ๐.๕๐ ต้องเปลี่ยนข้อคำถามให้มีความสอดคล้อง

มากข้ึน

บทท่ี ๔

ผลการศึกษาวจิ ัย

ในการศึกษาวิจัยเรื่อง “การพัฒนาบทเรียนสำเร็จรูป รายวิชาศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม
กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒
โรงเรยี นพระธาตขุ ามแก่นพิทยาลัย โดยใช้ทักษะการคิดเชิงวิพากษ์ (Critical Thinking) เป็นงานวิจัย
เชิงทดลอง (Experimental Research) ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ สื่อการสอนบทเรียนสำเร็จรูป
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจ โดยผู้ศึกษาแบ่งผลการ
วเิ คราะหข์ อ้ มลู ได้ ดังนี้

๔.๑ ผลการหาประสิทธิภาพของบทเรียนสำเร็จรูป รายวิชา สังคมศึกษา ศาสนา และ
วฒั นธรรม ของนักเรยี นช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๒ โรงเรยี นพระธาตุขามแก่นพิทยาลยั โดยใช้รูปแบบการ
จดั การเรยี นการสอนแบบ การคิดเชงิ วพิ ากษ์ (Critical Thinking) ตามเกณฑม์ าตรฐาน ๘๐/๘๐

๔.๒ ผลการเปรียบเทียบผลสมั ฤทธ์ิกอ่ นและหลังเรยี น รายวิชา สงั คมศกึ ษา ศาสนา และ
วฒั นธรรม ของนกั เรียนชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี ๒ โรงเรยี นพระธาตุขามแกน่ พทิ ยาลยั โดยใชร้ ูปแบบการ
จัดการเรยี นการสอนแบบ การคิดเชิงวิพากษ์ (Critical Thinking)

๔.๓ ผลความพึงพอใจของนักเรียนชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๒ โรงเรียนพระธาตขุ ามแก่นพทิ ยา
ลยั ท่ีมีตอ่ การจดั การเรียนรู้ โดยใช้รปู แบบการจดั การเรียนการสอนแบบ การคดิ เชิงวิพากษ์ (Critical
Thinking)

๔.๔ องค์ความรู้ที่ได้จากงานวิจัย เร่ือง การพัฒนาบทเรียนสำเร็จรูป รายวิชาศาสนา
ศีลธรรม จริยธรรม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนช้ัน
มัธยมศึกษาปีท่ี ๒ โรงเรียนพระธาตุขามแก่นพิทยาลัย โดยใช้ทักษะการคิดเชิงวิพากษ์ (Critical
Thinking)

๔๓

๔.๑ ผลการหาประสิทธิภาพของบทเรียนสำเร็จรูป รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนา และ
วัฒนธรรม ของนักเรียนช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ ๒ โรงเรียนพระธาตุขามแก่นพิทยาลัย โดย
ใชร้ ูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบ การคดิ เชงิ วิพากษ์ (Critical Thinking) ตาม

เกณฑ์มาตรฐาน ๘๐/๘๐

การหาประสิทธิภาพบทเรียนสำเร็จรูปในการวิจัยคร้ังน้ีได้นำบทเรียนสำเร็จรูป จำนวน 3
บทเรียน ไปทดลองใช้ โดยผวู้ ิจยั สามารถสรปุ ข้อมูลได้ตามตาราง ดังนี้

ตารางท่ี ๔.๑ ผลการหาประสิทธิภาพของบทเรียนสำเร็จรูป รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนา
และวัฒนธรรม ของนักเรยี นชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๒ โรงเรียนพระธาตุขามแก่นพิทยาลัย โดยใช้รูปแบบ
การจัดการเรียนการสอนแบบ การคิดเชิงวิพากษ์ (Critical Thinking) มีคะแนนเพ่ิมขึ้นร้อยละ ๘๐

ขนึ้ ไป

เลขที่ คะแนนแบบฝึกหดั ระหวา่ งเรียน (E๑) คะแนนรวม แบบทดสอบวัด
๓๐ คะแนน ผลสัมฤทธ์ิ (E๒)
ครง้ั ที่ ๑ ครั้งท่ี ๒ ครงั้ ท่ี ๓
๒๖ ๓๐ คะแนน
(๑๐คะแนน) (๑๐คะแนน) (๑๐คะแนน) ๒๗
๒๖ ๒๔
๑๘ ๙ ๙ ๒๖ ๒๖
๒๗ ๒๗
๒๙ ๙ ๙ ๒๗ ๒๘
๒๗ ๒๗
๓๙ ๙ ๘ ๒๖ ๒๕
๒๖ ๒๔
๔๙ ๙ ๘ ๒๖ ๒๔
๒๗ ๗
๕ ๘ ๙ ๑๐ ๒๘ ๒๘
๒๘ ๑๐
๖ ๘ ๙ ๑๐ ๒๗ ๒๖
๒๗ ๒๕
๗ ๘ ๙ ๑๐ ๒๘ ๒๔
๓๐ ๒๔
๘๘ ๙ ๙ ๓๐ ๗
๒๖ ๒๔
๙๘ ๙ ๙ ๒๖ ๒๗
๒๗ ๒๕
๑๐ ๙ ๙ ๘ ๒๘
๒๒
๑๑ ๙ ๙ ๙

๑๒ ๙ ๑๐ ๙

๑๓ ๑๐ ๑๐ ๘

๑๔ ๙ ๘ ๑๐

๑๕ ๙ ๘ ๑๐

๑๖ ๙ ๙ ๑๐

๑๗ ๑๐ ๑๐ ๑๐

๑๘ ๑๐ ๑๐ ๑๐

๑๙ ๙ ๘ ๙

๒๐ ๘ ๙ ๙

๒๑ ๙ ๙ ๙

๔๔

ตารางที่ ๔.๑ ผลการหาประสิทธิภาพของบทเรียนสำเร็จรูป รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนา
และวัฒนธรรม ของนักเรียนชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๒ โรงเรียนพระธาตุขามแก่นพิทยาลัย โดยใชร้ ูปแบบ

การจัดการเรียนการสอนแบบ การคิดเชิงวิพากษ์ (Critical Thinking) มีคะแนนเพิ่มขึ้นร้อยละ ๘๐
ขนึ้ ไป (ต่อ)

เลขที่ คะแนนแบบฝกึ หัดระหว่างเรียน (E๑) คะแนนรวม แบบทดสอบวดั
๓๐ คะแนน ผลสมั ฤทธ์ิ (E๒)
คร้ังที่ ๑ ครั้งท่ี ๒ ครั้งที่ ๓
๓๐ คะแนน

(๑๐คะแนน) (๑๐คะแนน) (๑๐คะแนน)

๒๒ ๙ ๙ ๙ ๒๗ ๒๕
๒๗ ๑๙
๒๓ ๙ ๙ ๙ ๒๗ ๒๖
๒๔ ๒๕
๒๔ ๘ ๙ ๑๐ ๒๕ ๑๑
๒๗ ๒๕
๒๕ ๘ ๙ ๗ ๒๗ ๒๙
๒๘ ๒๘
๒๖ ๗ ๑๐ ๘ ๒๖ ๒๗
๒๘ ๒๗
๒๗ ๑๐ ๘ ๙ ๒๘ ๒๙
๒๙ ๒๔
๒๘ ๘ ๑๐ ๙ ๒๙ ๒๕
๒๙ ๒๙
๒๙ ๙ ๑๐ ๙ ๒๗ ๒๗
๒๕ ๒๕
๓๐ ๑๐ ๗ ๙ ๒๖ ๒๔
๒๗ ๓๐
๓๑ ๑๐ ๘ ๑๐ ๖๒๕ ๙๓๗
๒๗.๑๗ ๒๔.๐๓
๓๒ ๘ ๑๐ ๑๐
๑.๕๖ ๕.๖๗
๓๓ ๙ ๑๐ ๑๐ ๙๐.๕๗/๘๔.๖๒

๓๔ ๙ ๑๐ ๑๐

๓๕ ๙ ๑๐ ๑๐

๓๖ ๘ ๑๐ ๙

๓๗ ๘ ๘ ๙

๓๘ ๘ ๙ ๙

๓๙ ๙ ๙ ๙

รวม ๒๐๒ ๒๑๑ ๒๑๒

̅ ๘.๗๘ ๙.๑๗ ๙.๒๒

S.D. ๐.๘๕ ๐.๘๙ ๐.๗๔

(E๑/E๒)

จากตารางท่ี ๔.๑ ค่าประสิทธิภาพ (E๑/E๒) ของบทเรียนสำเร็จรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้
สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สำหรับนักเรยี นช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๒ โรงเรียนพระธาตุขามแก่น
พิทยาลัย ตามเกณฑ์มาตรฐาน ๘๐/๘๐ พบว่า นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยระหว่างเรียนโดยภาพรวม

เท่ากับ ( ̅=๒๗.๑๗, S.D.=๕.๖๗) และจากการหาค่าประสิทธิภาพของบทเรียนสำเร็จรูป กลุ่มสาระ

๔๕

การเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม สำหรบั นักเรียนชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๒ โรงเรียนพระธาตุ
ขามแก่นพิทยาลัยท้ังส้ิน ๓ ชุด ประกอบด้วย เรื่อง อธิบายการเผยแผ่พระพุทธศาสนาหรอื ศาสนาท่ี

ตนนับถือสู่ประเทศไทย วิเคราะห์ความสำคัญของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือที่มีผลต่อ
สภาพแวดล้อมในสังคมไทยรวมทั้งการพัฒนาตนและครอบครัว และวิเคราะห์พุทธประวัติต้ังแต่

ประสูติจนถึงบำเพ็ญทุกรกิริยา หรือประวัติศาสดาที่ตนนับถือ (E๑/E๒) เท่ากับ ๙๐.๕๗/๘๔.๖๒
ซงึ่ สูงกว่าเกณฑท์ ก่ี ำหนดไว้

๔.๒ ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิก่อนและหลังเรียน รายวิชา สังคมศึกษา
ศาสนา และวัฒนธรรม ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๒ โรงเรียนพระธาตุขามแก่น

พิทยาลัย โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบ การคิดเชิงวิพากษ์ (Critical
Thinking)

การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียน จากการทำแบบทดสอบผลสัมฤทธ์ิ
ทางการเรียน เรื่อง ความสำคัญของศาสนา และบทบาทต่อประเทศไทย จำนวน 30 ข้อ เป็นแบบ
ปรนัย 4 ตวั เลือก สามารถสรปุ ขอ้ มลู ได้ดังน้ี

ตารางท่ี ๔.๒ ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิก่อนและหลังเรียน รายวิชา สังคม
ศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ โรงเรียนพระธาตุขามแก่นพทิ ยาลัย
โดยใชร้ ูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบ การคดิ เชิงวพิ ากษ์ (Critical Thinking)

แบบทดสอบ N คะแนน ̅ S.D. ค่าเฉล่ียร้อยละ t. Sig.

ก่อนเรียน ๓๐ ๓๕๒ ๙.๐๓ ๕.๐๗ ๓๐.๐๙ ๑๕.๒๒๘ .๐๐๐*
หลังเรียน ๓๐ ๙๓๗ ๒๔.๐๓ ๕.๖๗ ๘๐.๐๓

*มีนยั สำคัญทางสถติ ิท่ีระดับ ๐.๐๐

จากตารางที่ ๔.๒ ผลก ารวิเคราะห์ เปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิก่อ นและหลังเรียน
รายวิชา สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ของนกั เรียนช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี ๒ โรงเรยี นพระธาตุขาม
แก่นพิทยาลัย โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบ การคิดเชิงวิพากษ์ (Critical Thinking)
พบว่า การทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนด้วยแบบทดสอบจำนวน ๓๐ ข้อ
คะแนนดำเนินการหาร้อยละ, ค่าเฉลยี่ , ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน และเปรียบเทียบนักเรียน มีคะแนน
หลังเรียนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระดับ ๐.๐๐ โดยมี

คะแนนเฉล่ียหลังเรียน ( ̅=๒๔.๐๓ S.D.=๕.๖๗), คิดเป็นร้อยละ ๘๐.๐๓ สูงกว่าคะแนนเฉล่ียก่อน

เรยี น ( ̅=๙.๐๓ S.D.=๕.๐๗ ), คดิ เปน็ รอ้ ยละ ๓๐.๐๙

๔๖

๔.๓ ผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจของนักเรยี นช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๒ ท่ีมีชดุ การเรียน
การสอน โรงเรียนพระธาตุขามแก่นพิทยาลัย ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบ
การจดั การเรียนการสอนแบบ การคดิ เชิงวิพากษ์ (Critical Thinking)

การศกึ ษาความพงึ พอใจของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๒ โรงเรยี นพระธาตขุ ามแก่นพิทยา
ลยั ทมี่ ตี อ่ บทเรียนสำเร็จรูป โดยการทำแบบประเมนิ จำนวน 10 ขอ้ ผวู้ จิ ัยสามารถสรปุ ขอ้ มูลได้ดงั น้ี

ตารางท่ี ๔.3 ผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจของนกั เรียนชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี ๒ โรงเรียนพระ
ธาตุขามแก่นพิทยาลัย ที่มีต่อท่ีมีชุดการเรียนการสอน โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบ
การคดิ เชงิ วพิ ากษ์ (Critical Thinking)

รายการ ̅ S.D. แปลผล
๔.๖๗ ๐.๕๘ มากทีส่ ดุ
๑. คำแนะนำในการใชช้ ุดการเรียนรชู้ ัดเจนและเข้าใจงา่ ย ๔.๗๗ ๐.๕๔ มากท่ีสุด
๒. เน้ือหาบทเรียนสำเร็จรปู มีความเหมาะสมกับนักเรยี น ๔.๖๗ ๐.๖๒ มากทส่ี ุด
๓. ชว่ ยสร้างบรรยากาศในการเรียน ๔.๔๔ ๐.๖๔ มาก
๔. เปิดโอกาสใหน้ ักเรียนศกึ ษาด้วยตนเอง ๔.๕๖ ๐.๖๔ มากทส่ี ุด
๕. แบบทดสอบกอ่ นและหลังเรยี นวัดระดบั ความรขู้ อง
นกั เรียน ๔.๕๙ ๐.๗๒ มากท่ีสุด
๖. ทราบผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนของตนเองทนั ที ๔.๔๔ ๐.๗๙ มาก
๗. กจิ กรรมในบทเรียนสำเร็จรูปมีความนา่ สนใจ ๔.๕๖ ๐.๖๔ มากที่สุด
๘. ชว่ ยใหฝ้ ึกทักษะและทบทวนเนอ้ื หาไดด้ ี ๔.๖๒ ๐.๕๙ มากทส่ี ดุ
๙. เปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นได้เรยี นร้กู ระบวนการทำงานกลมุ่ ๔.๖๗ ๐.๔๘ มากที่สุด
๑๐. มีความรูเ้ พม่ิ ขึ้นหลังจากใชช้ ุดการเรยี นรู้ ๔.๖๐ ๐.๐๙ มากทสี่ ดุ

รวม

จากตารางท่ี ๔.๓ ผลการวิเคราะห์ความพงึ พอใจของนักเรยี นช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี ๒ โรงเรียน
พระธาตุขามแก่นพิทยาลัย ท่ีมีชุดการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบ
การคดิ เชิงวิพากษ์ (Critical Thinking) โดยรวม พบว่าความพงึ พอใจของนักเรยี น ทมี่ ตี อ่ แบบประเมิน
ความพึงพอใจ อยู่ในระดับมาก ( ̅=๔.๖๐, S.D.=๐.๐๙) และเมื่อแยกเป็นรายข้อ ข้อท่ีมีความพึง
พอใจมากที่สดุ คือ เน้ือหาบทเรยี นสำเร็จรปู เหมาะสมกับนกั เรยี น ( ̅=4.77, S.D.=๐.54), รองลงมา
คือ มีความรู้เพ่ิมข้ึนหลังจากใช้ชุดการเรียนรู้ ( ̅= 4.67, S.D.=๐.48), คำแนะนำในการใช้ชุดการ
เรียนรู้ชัดเจนและเข้าใจง่าย ( ̅=4.67, S.D.=๐.58), ช่วยสร้างบรรยากาศในการเรียน ( ̅= 4.67,
S.D.=๐.62), เปิดโอกาสให้นักเรียนได้เรียนรู้กระบวนการทำงานกลุ่ม ( ̅=4.62, S.D.=๐.59),
ทราบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของตนเองทันที ( ̅=4.59, S.D.=๐.72), แบบทดสอบก่อนและหลัง
เรียนวดั ระดับความร้ขู องนักเรยี น ( ̅=4.56, S.D.=๐.64), และ ชว่ ยให้ฝึกทกั ษะและทบทวนเน้ือหา
ได้ดี ( ̅= 4.56, S.D.=๐.64) ข้อท่ีมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก คือ เปิดโอกาสให้นักเรยี นศึกษา

๔๗

ด้วยตนเอง ( ̅= 4.44, S.D.=๐.64), และข้อท่ีมีความพึงพอใจน้อยที่สุดคือ กิจกรรมในบทเรียน
สำเรจ็ รปู มคี วามน่าสนใจ ( ̅= 4.44, S.D.=๐.79)

๔.๔ องค์ความรู้ท่ีได้จากงานวิจัย เรื่อง การพัฒนาบทเรียนสำเร็จรูป รายวิชาศาสนา
ศีลธรรม จริยธรรม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สำหรับ
นักเรียนชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๒ โรงเรยี นพระธาตุขามแก่นพิทยาลัย โดยใช้ ทกั ษะการคิด
เชิงวิพากษ์ (Critical Thinking)

จากการศึกษาการจัดการเรียนสอนของโรงเรียนพระธาตุขามแก่นพิทยาลัย ใช้การจัดการ
เรียนการสอนแบบเดิม คือ สอนด้วยวิธีการ “เลา่ เรอ่ื ง” และใหน้ ักเรียนเรยี นรูเ้ นอื้ หาจากหนังสือเป็น
หลัก ซ่งึ ในส่วนของเนื้อหาความสำคัญของศาสนา และบทบาทต่อประเทศไทย มีเนื้อหาท่ียากและมี
จำนวนมากเกินไปไม่เหมาะสมกับระยะเวลาในการเรียน ทำให้ครูต้องเร่งสอนให้จบตามเน้ือหา
นักเรียนจึงต้องใช้ความจำมาก ทำให้นักเรียนเกิดความเบื่อหน่าย ไม่ต้ังใจและไม่สนใจเรียน ปัญหา
ดังกล่าว ส่งผลให้การเรียนการสอนไม่บรรลุวัตถุประสงค์และทำให้ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนอยู่ใน
เกณฑ์ค่อนขา้ งต่ำกว่ามาตรฐาน

ผู้วิจัยจึงเห็นควรว่า บทเรียนสำเร็จรูปเป็นสื่อการเรียนรู้อีกรูปแบบหนึ่ง ท่ีเหมาะสมในการ
นำมาใช้ประกอบการเรียนการสอน จึงสร้างบทเรียนสำเร็จรปู ข้ึนมาเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนให้มี
ความน่าสนใจมากขน้ึ บทเรียนสำเรจ็ รปู ประกอบด้วย คำแนะนำการใช้บทเรียนสำเร็จรูป จุดประสงค์
การเรียนรู้ สาระสำคัญ เนื้อหา และแบบฝึกหัดระหว่างเรียน จากการท่ีผู้วิจัยได้นำสื่อการสอนท่ีเป็น
บทเรียนสำเร็จรูปไปประกอบในการทำวิจัยในครั้งนี้ พบว่า บทเรียนสำเร็จรูปเป็นนวัตกรรมทาง
การศกึ ษาอกี รปู แบบหนึ่ง ที่สามารถนำมาใชเ้ ป็นสอ่ื การเรยี นรู้และช่วยในการพัฒนาทักษะการเรียนรู้
ได้ดี ต่างจากการเรียนการสอนแบบเดิม ซึ่งบทเรียนสำเร็จรูป ช่วยให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้าทำ
กิจกรรมการเรยี นและประเมินผลด้วยตนเองตามลำดบั ขน้ั ตอนท่ีกำหนดไว้ล่วงหนา้ มปี ระสทิ ธิภาพใน
การถ่ายทอดเน้ือหาสาระไปสู่ผู้เรียนได้ดี มีรูปแบบการเรียนเป็นขั้นเป็นตอน มีเนื้อหากระชับและ
เขา้ ใจงา่ ย ชว่ ยใหน้ ักเรยี นเกิดความสนใจทจ่ี ะเรยี นรู้ และมีผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นทดี่ ขี ้นึ

๔๘

บทท่ี ๕

สรุปผล อภปิ รายผลการวจิ ยั และขอ้ เสนอแนะ

การวิจัยเร่ือง การพัฒนาบทเรียนสำเร็จรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา
และวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๒ โรงเรียนพระธาตุขามแก่นพิทยาลัย
มีวัตถุประสงค์ 1) เพ่ือหาประสิทธิภาพบทเรียนสำเร็จรูป รายวิชาศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒
โรงเรยี นพระธาตขุ ามแกน่ พิทยาลัย ตามเกณฑ์มาตรฐาน ๘๐/๘๐ ๒) เพอื่ เปรยี บเทียบผลสมั ฤทธิ์ก่อน
และหลังเรียน รายวิชาศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๒ โรงเรียน
พระธาตุขามแก่นพิทยาลัย โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบ การคิดเชิงวิพากษ์ (Critical
Thinking) ๓) เพ่ือศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ ๒ โรงเรียนพระธาตขุ ามแก่น
พิทยาลัย ที่รับการจัดการเรียนการสอนโดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป ท่ีได้รับการจัดการเรียนการสอน
โดยใช้บทเรยี นสำเรจ็ รปู กลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม สามารถสรุปเนอื้ หา
ได้ ดังนี้

๕.๑ สรปุ ผลการวจิ ัย
๕.๒ อภปิ รายผลการวิจยั
๕.๓ ข้อเสนอแนะ

๕.๑ สรุปผลการวจิ ัย

๕.๑.๑ ผลการหาประสิทธิภาพของบทเรียนสำเร็จรูป รายวิชา สังคมศึกษา ศาสนา
และวัฒนธรรม ของนกั เรียนชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๒ โรงเรียนพระธาตขุ ามแก่นพิทยาลัย โดยใชร้ ูปแบบ
การจัดการเรียนการสอนแบบ การคิดเชิงวิพากษ์ (Critical Thinking) ตามเกณฑ์มาตรฐาน ๘๐/๘๐
พบวา่ นักเรียนมีคะแนนเฉลีย่ ระหว่างเรยี นโดยภาพรวมเท่ากับ ( ̅= ๒๗.๑๗, S.D.=๕.๖๗) และจาก
การหาค่าประสิทธิภาพของบทเรียนสำเร็จรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา
และวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ โรงเรียนพระธาตุขามแก่นพิทยาลัยทั้งส้ิน
๓ ชุด ประกอบด้วย เร่ือง อธิบายการเผยแผ่พระพุทธศาสนาหรือศาสนาท่ีตนนับถือสู่ประเทศไทย
วิเคราะห์ความสำคัญของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาทต่ี นนับถือทมี่ ีผลต่อสภาพแวดล้อมในสังคมไทย
รวมท้ังการพัฒนาตนและครอบครัว และวิเคราะห์พุทธประวัติต้ังแต่ประสูติจนถึงบำเพ็ญทุกรกิริยา
หรอื ประวัตศิ าสดาทตี่ นนับถอื (E๑/E๒) เทา่ กับ ๙๐.๕๗/๘๔.๖๒ ซ่ึงสงู กว่าเกณฑท์ ่กี ำหนดไว้

๕.๑.๒ ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิก่อนและหลังเรียน รายวิชา สังคมศึกษา
ศาสนา และวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๒ โรงเรียนพระธาตุขามแก่นพิทยาลัย โดยใช้

49

รูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบ การคิดเชิงวิพากษ์ (Critical Thinking) อยู่ในระดับมาก
มคี ่าเฉลี่ย ๒๔.๐๓ และส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐาน ๕.๖๗

๕.๑.๓ ผลการวเิ คราะห์ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ ๒ ทม่ี ีชุดการเรียนการ
สอน โรงเรียนพระธาตุขามแก่นพิทยาลยั ท่มี ีตอ่ การจัดการเรยี นรู้ โดยใช้รปู แบบการจดั การเรียนการ
สอนแบบ การคิดเชิงวิพากษ์ (Critical Thinking) อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย ๔.๖๐ และส่วน
เบี่ยงเบนมาตรฐาน ๐.๐๙

๕.๒ อภปิ รายผลการวิจัย

จากการวิจัยเพ่ือหาค่าประสิทธิภาพของบทเรยี นสำเร็จรูป กลุ่มสาระการเรียนรูส้ ังคมศึกษา
ศาสนา และวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ ๒ โรงเรยี นพระธาตุขามแก่นพิทยาลยั ตาม
เกณฑม์ าตรฐาน ๘๐/๘๐ สามารถอภปิ รายผลได้ ดังนี้

๕.๒.๑ การพัฒนาบทเรียนสำเร็จรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา
และวัฒนธรรมสำหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๒ โรงเรียนพระธาตุขามแก่นพิทยาลัย
มีประสิทธิภาพ ๙๐.๕๗/๘๔.๖๒ ซงึ่ สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ๘๐/๘๐ จะเหน็ ไดว้ า่ นกั เรียนมคี ะแนน
เฉล่ียระหว่างเรียนโดยภาพรวมเท่ากับ ( ̅=๒๗.๑๗, S.D. =๑.๕๖) มีคะแนนแบบทดสอบวัดผล
สัมฤทธิ์เท่ากับ ( ̅=๒๔.๐๓, S.D.=๕.๖๗) และจากการหาค่าประสิทธิภาพของบทเรียนสำเร็จรูป
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สำหรับนกั เรียนชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ ๒ ท้ังส้ิน
๓ ชุด ประกอบด้วยเร่ือง อธิบายการเผยแผ่พระพุทธศาสนาหรือศาสนาท่ีตนนับถือสู่ประเทศไทย,
วเิ คราะหค์ วามสำคัญของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาทต่ี นนับถือท่ีมผี ลต่อสภาพแวดล้อมในสงั คมไทย
รวมทั้งการพัฒนาตนและครอบครัว, วิเคราะห์พุทธประวัติต้ังแต่ประสูติจนถึงบำเพ็ญทุกรกิริยา
หรือประวัตศิ าสดาทต่ี นนบั ถือ (E๑/E๒) เท่ากับ ๙๐.๕๗/๘๔.๖๒ ซง่ึ สูงวา่ เกณฑท์ ่กี ำหนดไว้ ท้งั น้ีเนื่อง
มาจากับทเรยี นสำเร็จรปู ได้ผ่านข้ันตอนการสร้างท่ีมีระบบและได้รับการตรวจสอบแก้ไขจากอาจารย์
ท่ปี รึกษา และผู้เช่ียวชาญในด้านสือ่ การสอนและด้านเนื้อหาทีไ่ ดใ้ หข้ ้อเสนอแนะ แนวทาง และวิธกี าร
นำเสนอให้เหมาะสม ทำให้ได้บทเรียนสำเร็จรูปท่ีสมบูรณ์ ซ่ึงสอดคล้องกับงานวิจัยของ รุ่งทิพย์
กลินทะ55 ไดศ้ ึกษาการพัฒนาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยเพลงประกอบภาพ เรื่อง วันสำคัญ
ทางพระพุทธศาสนา กลุ่มสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิต ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๒ พบว่า แผนการจัด
กิจกรรมการเรียนรู้ด้วยเพลงประกอบภาพ เร่ือง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา กลุ่มสร้างเสริม
ประสบการณ์ชีวิต ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๖ มีประสิทธิภาพเท่ากับ ๘๑.๒๔๗๘๘.๓๓ ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์
๘๐/๘๐ ที่ตั้งไว้ และงานวิจัยของ ศิมาภรณ์ สีเนา56 ได้ศึกษาการพัฒนาบทเรียนสำเร็จรูปประกอบ
การ์ตนู เรื่อง มรรค ๘ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔ พบวา่ บทเรยี นสำเร็จรูปประกอบการ์ตูน เรื่อง มรรค ๘
ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ มปี ระสทิ ธิภาพ ๔๒.๔/๘๒.๖๐

55 รุ่งทิพย์ กลินทะ, การพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ด้วยเพลงประกอบภาพ เร่ือง วันสำคัญทาง
พระพทุ ธศาสนา กลมุ่ สร้างเสริมประสบการณ์ชวี ิต ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๒, วิทยานิพนธ์ กศ.ม. (หลกั สูตรและการ
สอน), (มหาสารคาม : บัณฑติ วิทยาลัยมหาลัยมหาสารคาม, ๒๕๕๑), หนา้ ๑๐๒-๑๐๖.

56 ศิมาภรณ์ สีเนา, การพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้และบทเรียนสำเร็จรูปประกอบภาพการ์ตูน
เรื่อง มรรค ๘ ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ ๔, วิทยานิพนธ์ กศ.ม. (หลกั สูตรและการสอน), (มหาสารคาม : บณั ฑติ วทิ ยาลัย
มหาลยั มหาสารคาม, ๒๕๕๒), หน้า ๘๑.

๕๐

๕.๒.๒ ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิก่อนและหลังเรียน รายวิชา สังคม
ศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ของนกั เรียนช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี ๒ โรงเรยี นพระธาตขุ ามแก่นพิทยา
ลัย โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูปในรูปแบบ การคิดเชิงวิพากษ์ (Critical Thinking) พบว่า
การทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนด้วยแบบทดสอบจำนวน ๓๐ ข้อ คะแนน
ดำเนนิ การหารอ้ ยละ, ค่าเฉล่ยี , ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน และเปรียบเทยี บนกั เรยี น มีคะแนนหลังเรียน
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระดับ ๐.๐๐ โดยมีคะแนนเฉล่ีย
หลังเรียน ( ̅ =๒๔.๐๓ S.D.=๕.๖๗), คิดเป็นร้อยละ ๘๐.๐๓ สูงกว่าคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน ( ̅=
๙.๐๓ S.D.=๕.๐๗), คดิ เป็นร้อยละ ๓๐.๐๙ เน่อื งจากนกั เรียนไดเ้ รยี นรูด้ ว้ ยตวั เอง มกี ารลงมอื ปฏิบตั ิ
ดว้ ยตนเองคดิ วิเคราะห์ ครเู ป็นเพียงผู้ช้ีแนะแนวทางทำให้นักเรียนมผี มสัมฤทธ์ิท่ีมากขนึ้ สอดคล้อง
กบั มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช57 ให้ความหมายว่า การวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนเป็นการวัด
ความสำเร็จทางการเรียน หรือวัดประสบการณ์ทางการเรียนท่ีผู้เรียนได้รับจากการเรียนการสอน
โดยวดั ตามจุดมงุ่ หมายของการสอนหรอื วัดผลสำเร็จจากการศึกษาอบรมในโปรแกรมตา่ งๆ สอดคลอ้ ง
ไพโรจน์ คะเชนทร์58 ให้คำจำกัดความผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนว่า คือคุณลักษณะ รวมถึงความรู้
ความสามารถของบุคคลอันเป็นผลมาจากการเรียนการสอน หรือ มวลประสบการณ์ทั้งปวงที่บุคคล
ได้รับจากการเรียนการสอน ทำให้บุคคลเกิดการเปล่ียนแปลงพฤตกิ รรมในด้านต่างๆ ของสมรรถภาพ
ทางสมอง ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพ่ือเป็นการตรวจสอบระดับความสามารถสมองของบุคคลว่าเรียนแล้วรู้
อะไรบ้าง และมีความสามารถด้านใดมากน้อยเท่าไร ตลอดจนผลที่เกิดขึ้นจากการเรียนการฝึกฝน
หรือประสบการณ์ต่างๆ ทั้งในโรงเรียน ท่ีบ้าน และส่ิงแวดล้อมอ่ืนๆ รวมท้ังความรู้สึก ค่านิยม
จริยธรรมต่างๆ ก็เป็นผลมาจากการฝึกฝนด้วย สอดคล้องอุทุมพร จามรมาน59 กล่าวถึง หลักการวัด
ผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนว่า คือการพยายามที่จะทำการวัดใหไ้ ด้ผลตรงตามจดุ งหมายของการเรียนการ
สอน ตรงตามเน้อื หาสาระและวิธีการทค่ี รูจัดประสบการณก์ ารเรียนการสอน ดังนัน้ การวดั ผลสมั ฤทธิ์
ทางการเรียน จึงตอ้ งมุ่งหวงั ที่การทำความเข้าใจกบั จุดมุ่งหมายหลักสตู รระดับตา่ งๆ การจดั การศึกษา
ตลอดจนการเรียนการสอนและเทคนิควิธีการวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน สอดคล้อง อารมณ์
เพชรช่ืน60 ได้กล่าวว่า การวัดผลสัมฤทธ์ทิ ี่นิยมใช้กันแพร่หลายในโรงเรยี นส่วนมากจะวัดกันมากใน
ดา้ นเนื้อหา เป็นการทดสอบในด้านวิชาความรู้ ความจำ ความเข้าใจ การวัดผลสัมฤทธท์ิ างการเรียน
ในคร้ังนี้ เป็นการวัดความสามารถของนักเรียนก่อนและหลังการเรียนโดยวิธีการจัดการเรียนรู้แบบ
ร่วมมือ โดยการตรวจสอบพฤติกรรมของผู้เรียนในด้านต่างๆ จากผลการวิจัยสามารถสรุปได้ว่า
การทำแบบสำรวจก่อนเรียนและหลังเรียน นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพ่ิมข้ึนดังน้ันการเรียน
โดยใชบ้ ทเรียนสำเรจ็ รูปในรูปแบบ การคิดเชิงวิพากษ์ (Critical Thinking) จึงเป็นรูปแบบการเรียนที่
มีความเหมาะสมในการนำมาพัฒนาผลสัมฤทธิ์ เน่ืองจากนักเรียนได้ลงมือปฏิบัติเอง เกิดการเรียนรู้

57 มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช , kruoiysmarteng, สืบค้นเมื่อ๖ เดือนมกราคม ๒๕๕๖ ,
จาก dhttps://kruoiysmarteng. blogspot.com.

58 ไพโรจน์ คะเชนทร์, การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวรรณคดีเร่ืองรามเกียรติ์,
(กรงุ เทพมหานคร : มหาวทิ ยาลัยรามคำแหง, ๒๕๖๑), หนา้ ๗.

59 อุทุมพร จามรมาน, การวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ ปฏิบัติการวิจัยในช้ันเรียน, พิมพครั้งท่ี ๓,
(กรุงเทพฯ : ครุศาสตรม์ หาวิทยาลยั ราชภัฎพระนคร, ๒๕๔๔), หนา้ ๓๔.

60 อารมณ์ เพชรชืน่ , หลักสูตรและการสอนคณิตศาสตร์, (กรุงเทพฯ : พัฒนาคุณภาพวิชาการ, ๒๕๒๗),
หนา้ ๔๐-๔๑.

๕๑

คิดวิเคราะห์ด้วยตนเอง ครูผู้สอนเป็นเพียงผู้ช้ีแนะเท่าน้ัน ทำให้ผู้เรียนสามารถมีองค์ความรู้เพ่ิมข้ึน
จากการศกึ ษาด้วยตนเอง เปลี่ยนรูปแบบจากการทอ่ งจำเปน็ แบบเข้าใจ เม่ือทำแบบทดสอบนักเรียน
จึงสามารถทำแบบทดสอบได้เพม่ิ ข้ึน

๕.๒.๓ เพ่ือศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๒ ที่มีต่อบทเรียน
สำเร็จรูป โรงเรียนพระธาตุขามแก่นพิทยาลัย ที่ได้รับการจัดการเรียนการสอนโดยใช้บทเรียน
สำเร็จรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม พบว่าความพึงพอใจของ
นักเรียน ท่ีมีต่อแบบประเมินความพึงพอใจ อยู่ในระดับมาก ( ̅=๔.๖๐, S.D.=๐.๐๙) และเม่ือแยก
เป็นรายข้อ ขอ้ ทีม่ ีความพึงพอใจมากท่ีสุด คือ เน้ือหาเหมาะสมกับนักเรียน ( ̅=4.77, S.D.=๐.54),
รองลงมาคือ มีความรู้เพมิ่ ข้ึนหลงั จากใชช้ ดุ การเรียนรู้ ( ̅=4.67, S.D.= ๐.48), คำแนะนำในการใช้
ชุดการเรียนร้ชู ัดเจนและเข้าใจง่าย ( ̅= 4.67, S.D.=๐.58), ช่วยสร้างบรรยากาศในการเรียน ( ̅=
4.67, S.D.=๐.62), เปิดโอกาสให้นักเรียนได้เรียนรู้กระบวนการทำงานกลุ่ม ( ̅= 4.62, S.D.=๐.
59), ทราบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของตนเองทันที ( ̅=4.59, S.D.= ๐.72), แบบทดสอบก่อน
และหลังเรียนวัดระดับความรู้ของนักเรียน ( ̅= 4.56, S.D.=๐.64), และ ช่วยให้ฝึกทักษะและ
ทบทวนเนื้อหาได้ดี ( ̅=4.56, S.D.=๐.64) ข้อท่ีมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก คือ เปิดโอกาสให้
นกั เรียนศึกษาด้วยตนเอง ( ̅=4.44, S.D.=๐.64), และขอ้ ทีม่ ีความพึงพอใจน้อยที่สุดคอื กิจกรรมใน
บทเรียนน่าสนใจ ( ̅= 4.44, S.D.=๐.79) โดยภาพรวม มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก เม่ือแยก
เป็นรายข้อ พบว่า ข้อท่ีมีความพึงพอใจมากที่สุด คือ นักเรียนสามารถนำความรู้ท่ีได้ไปเผยแพร่ต่อ
ผู้อ่ืนได้ รองลงมา คือ รูปแบบส่ือการ สอนน่าสนใจ มีภาพประกอบสวยงาม และเนื้อหามีความ
เหมาะสมกับระดับความสามารถของนักเรียน ซึ่ง มธุรส สว่างบำรุง61 ไดก้ ล่าวว่า ความพงึ พอใจกับ
ผลการเรยี นมคี วามสัมพันธก์ นั ทางบวกทงั้ น้ขี ้ึนอยู่กบั กิจกรรมทนี่ ักเรยี นไดป้ ฏิบัติ ทำใหน้ ักเรยี นไดร้ ับ
การตอบสนองความตอ้ งการด้านร่างกายและจิตใจ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญท่ีจะทำให้เกิดความสมบูรณ์ของ
ชีวิตมากน้อยเพียงใด น่ันคือสง่ิ ที่ตอ้ งคำนึงถึงองค์ประกอบต่างๆ ในการส่งเสรมิ ความพึงพอใจในการ
เรียนร้ใู หก้ ับนกั เรยี นและสอดคลอ้ งกบั งานวิจยั ของ วฒั นา ภญิ ญมิตร์62 ได้ศกึ ษาการพฒั นาแผนการ
จดั การเรียนรแู้ ละบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง อาณาจักรสโุ ขทัย กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา
และวัฒนธรรมช้ันประถมศึกษาปีที่ ๔ พบว่านักเรียนมีความพึงพอใจโดยรวมอยู่ในระดับมาก และ
งานวิจัยของ ธมนวรรณ พรหมจันทร์63 ได้ศึกษาการพัฒนาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้
บทเรียนสำเร็จรปู เร่อื ง จังหวดั อุบลราชธานี กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจโดยรวมอยู่ในระดับมาก ธมนวรรณ พรหม

61 มธุรส สว่างบำรงุ , จติ วทิ ยาทั่วไป, (กรุงเทพฯ : กติ ติการพิมพ์, ๒๕๕๑), หน้า ๔๘-๕๑.
62 วัฒนา ภิญญมิตร,์ การพัฒนาแผนการจัดการเรียนรูแ้ ละบทเรยี นสำเรจ็ รูป เรื่อง อาณาจักรสุโขทัย
กล่มุ สาระการเรยี นร้สู ังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๑, วิทยานพิ นธ์ กศ.ม. หลักสตู ร
และการสอน, (มหาสารคาม : บัณฑิตวิทยาลัยมหาสารคาม, ๒๕๕๒), หนา้ ๗๙-๘๐.
63 ธมนวรรณ พรหมจนั ทร์, การพฒั นาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใชบ้ ทเรยี นสำเรจ็ รปู เรอ่ื ง
จงั หวดั อบุ ลราชธานี กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษาศาสนา และวัฒนธรรม ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๑,
วทิ ยานิพนธ์ กศ.ม. หลกั สตู รและการสอน, (มหาสารคาม : บณั ฑิตศึกวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, ๒๕๕๒)
หนา้ ๙๐.

๕๒

จันทร์64 ได้ศึกษาการพัฒนาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป เร่ือง จังหวัด
อบุ ลราชธานี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ พบว่า
นกั เรียนมคี วามพงึ พอใจโดยรวมอย่ใู นระดับมาก

๕.๓ ข้อเสนอแนะ

จากผลการวิจัยเร่ือง การพัฒนาบทเรียนสำเร็จรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา
และวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๒ โรงเรียนพระธาตุขามแก่นพิทยาลัย ผู้วิจัยมี
ขอ้ เสนอแนะ ดงั ตอ่ ไปนี้

๕.๓.๑ ขอ้ เสนอแนะท่ีได้จากการวจิ ัยในคร้ังนี้
๑. การสรา้ งบทเรียนสำเรจ็ รูป ควรมีการศกึ ษาวางแผนอย่างเปน็ ระบบ มีการพฒั นา

ตามขน้ั ตอนการวจิ ัย เพราะจะทำใหก้ ารพัฒนาบทเรยี นทำได้ง่ายขึน้
๒. ควรมีการส่งเสริมใหม้ ีการพัฒนาบทเรียนสำเร็จรูปเน้ือหาอ่ืนๆ ท่ีหลากหลายเพ่ือ

จะได้ช่วยส่งเสริมผู้เรียนให้สามารถใช้ประโยชน์จากเคร่ืองมือการเรียนรู้ และฝึกให้ผู้เรียนมีความ
รับผิดชอบในการเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง

๓. ควรมีการร่วมมือระหว่างสถานศึกษาในการนำบทเรียนสำเร็จรูป ที่ได้มีการ
พัฒนาข้นึ มาอยา่ งมีประสิทธิภาพมาใช้รว่ มในการจัดการเรยี นการสอนในโรงเรียน

๕.๓.๒ ข้อเสนอแนะเพอ่ื การวจิ ยั คร้ังตอ่ ไป
๑. ควรศึกษาเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์การเรียนของนักเรียนท่ีเรียนด้วยบทเรียน

สำเร็จรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม สำหรบั นักเรียนชั้นมธั ยมศึกษาปีที่
๒ ดว้ ยนวัตกรรมอนื่ ๆ

๒. ควรมีการพัฒนาต่อยอดบทเรียนสำเร็จรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา
ศาสนา และวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๒ โดยใช้สื่อท่ีเป็นเทคโนโลยีเพ่ือให้
นักเรียนเกดิ ความสนใจบทเรยี นเพิม่ ยิ่งข้นึ

64 ธมนวรรณ พรหมจันทร์, การพัฒนาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป
เร่ือง จังหวัดอุบลราชธานี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนา และวัฒนธรรม ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๑ ,
วทิ ยานิพนธ์ กศ.ม. หลักสูตรและการสอน, (มหาสารคาม : บัณฑิตศึกวิทยาลยั มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, ๒๕๕๒)
หนา้ ๙๐.

๕๓

บรรณานุกรม

กระทรวงศึกษาธิการ. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๒ และแก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่
๒ พ.ศ. ๒๕๔๕. กรงุ เทพฯ : กระทรวงศึกษาธิการ, ๒๕๔๒.

กุลนษิ ฐ์ชา รานอก. การศึกษาปญั หาและแนวทางการแก้ปญั หาการจดั ชน้ั เรียนของครปู ระจำชั้น
ประถมศึกษาปีที่ ๔-๖ สังกัดสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา.
วิทยานิพนธก์ ารศึกษามหาบัณฑติ สาขาหลกั สูตรการสอน คณะศกึ ษาศาสตร์
มหาวิทยาลัยราชภฏั นครราชสมี ี, ๒๕๕๔.

กมลณัฐ พิชัย,นภาภรณ์ ธัญญา. การพัฒนาบทเรียนสำเรจ็ รูป เรอื่ งวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
กลุม่ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สำหรบั นกั เรียนช้ัน
ประถมศกึ ษาปีที่ ๕/๓. โรงเรียนอนุบาลวังมว่ ง อำเภอวงั ม่วง จงั หวัดสระบรุ ี. นักศึกษา :
มหาวิทยาลยั เวสเทริ น์ , ๒๕๖๒.

กุศยา แสงเดช. บทเรยี นสำเรจ็ รูป คมู่ ือการพัฒนาสื่อการสอนท่ีเน้นผู้เรียนเปน็ สำคัญ. กรงุ เทพฯ :
ฟิสิกส์เซ็นเตอร์, ๒๕๕๒.

เกษมศรี บญุ พอ. การพฒั นาบทเรียนสำเรจ็ รูป เรอ่ื ง กฎหมายน่ารู้ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๓.วิทยานิพนธ์
กศ.ม. หลกั สตู รและการสอน. มหาสารคาม : บัณฑติ วิทายาลยั มหาสารคาม, ๒๕๕๐.

จักรพงศ์ วงศ์จันทร์แดง. การพัฒนาบทเรียนสำเร็จรูปประกอบภาพการ์ตูน โดยการเรียนรู้แบบ
ร่วมมือ เทคนคิ STAD เรือ่ ง อาณาจกั รสโุ ขทยั กล่มุ สาระการเรยี นร้สู งั คมศึกษาศาสนา และ

วัฒนธรรม ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๔. วิทยานิพนธ์ ค.ม. มหาสารคาม : มหาวิทยาลยั ราช
ภัฏมหาสารคาม, ๒๕๕๘.
จตรุ งณ์ ผดุงสัญญา. Critical Thinking คืออะไร?. บนเว็ปไซต์ https://www.palagrit.com สบื คน้
เม่อื วันท่ี ๑๘/๑๒/๖๔.
ฉวีลกั ษณ์ บุญยะกาญจน. นวัตกรรมการศึกษา. กรงุ เทพฯ : ธารอักษร, ๒๕๕๑.
ฐาปนพงศ์ หงส์ภู. การพฒั นาบทเรียนสำเรจ็ รปู รว่ มกับเทคนิค SDL เรื่อง การเรยี นรสู้ ปู่ ระชาคม
อาเซยี น สำหรบั นกั เรียนชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๖ เพอ่ื พฒั นาความมีวนิ ยั ในตนเอง
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และความคงทนในการเรียนรู้. วิทยานิพนธ์ ค.ม การวจิ ัยและ
พฒั นาการศึกษา. สกลนคร : มหาวิทยาลยั ราชภัฏสกลนคร, ๒๕๕๙.
ถวัล มาศจรัส. บทเรียนโปรแกรม กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย. กรงุ เทพ : ธารอัษร, ๒๕๔๘.
ทศิ นา แขมมณี. ศาสตร์การสอน. กรงุ เทพฯ : โรงพิมพจ์ ฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลัย, ๒๕๕๒.
ธมนวรรณ พรหมจันทร์. การพัฒนาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป เร่ือง
จังหวัดอบุ ลราชธานี กลุม่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศึกษาศาสนา และวฒั นธรรม ช้นั
ประถมศึกษาปีท่ี ๑. วิทยานพิ นธ์ กศ.ม. หลักสตู รและการสอน. มหาสารคาม :
บณั ฑิตศกึ วทิ ยาลัย มหาวิทยาลยั มหาสารคาม, ๒๕๕๒.

๕๔

ธีรชัย ปูรณโชติ. การสรา้ งบทเรียนสำเรจ็ รปู . กรุงเทพฯ : โรงพมิ พ์จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย. ๒๕๕๓.
นภัทร สทิ ธาโนมัย. ความคิดเชงิ วิพากษ(์ Critical thinking ). กรุงเทพฯ : เดอะมาสเตอรก์ ร๊ปุ

แบเนจเม็น, ๒๕๔๘.
วารี วณชิ ปัญจ. ความคิดเชิงวจิ ารณญาณสำหรับพยาบาล (Critical Thinking For Nurses).

วารสารกองการพยาบาลปที ่ี ๓๗ ฉบับที่ ๓, ๒๕๕๓
บุญชม ศรีสะอาด. การพฒั นาการสอน. กรุงเทพฯ : สุวีริยาสาสน์ . ๒๕๔๕.
ปราณี กองจินดา. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน. พระนครศรีอยุธยา : บัณฑิตวิทยาลัย

มหาวิทยาลยั ราชภัฎพระนครศรอี ยุธยา, ๒๕๔๙.
พชิ ติ ฤทธิจ์ รญู . การวิจัยเพ่ือพฒั นาการเรียนรู้ : ปฏิบัติการวจิ ัยในช้ันเรียน. พมิ พ์คร้ัง. กรุงเทพฯ :

ครศุ าสตรม์ หาวทิ ยาลยั ราชภฏั พระนคร, ๒๕๔๕.
พิมพันธ์ เดชะคุปต์. การเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง กรุงเทพฯ : เดอะมาสเตอร์กรุ๊ป

แบเนจเม็น, ๒๕๔๘.
ไพโรจน์ คะเชนทร์. การเปรยี บเทยี บผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นวรรณคดเี รือ่ งรามเกียรติ์.

กรงุ เทพมหานคร : มหาวิทยาลยั รามคำแหง, ๒๕๖๑.
มธุรส สว่างบำรงุ . จติ วิทยาท่ัวไป. กรงุ เทพฯ : กติ ตกิ ารพิมพ์, ๒๕๕๑.
มหาวิทยาลัยสุโขทยั ธรรมาธริ าช. ความคิดเชิงวิพากษ(์ Critical thinking ). จาก kruoiysmarteng.

blogspot.com.
รงุ่ ทพิ ย์ กลินทะ. การพฒั นาแผนการจัดการเรยี นรูด้ ้วยเพลงประกอบภาพ เรือ่ ง วันสำคัญทาง

พระพทุ ธศาสนา กลมุ่ สร้างเสรมิ ประสบการณ์ชวี ิต ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๒. วิทยานิพนธ์
กศ.ม. (หลักสตู รและการสอน), (มหาสารคาม : บัณฑติ วทิ ยาลยั มหาลยั มหาสารคาม,
๒๕๕๑.
วิจิตรา พลสำโรงคณะและคณะ. ความคิดเชิงวิพากษ์(Critical thinking ). มหาวิทยาลัยมหามกุฏ
ราชวิทยาลยั วทิ ยาเขตอสี าน, http://www.mbuisc.ac.th › exc.
วัฒนา ภิญญมิตร์. การพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้และบทเรียนสำเร็จรูป เร่ือง อาณาจักรสุโขทัย
กลมุ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา ลัวฒั นธรรม ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑.
วิทยานพิ นธ์ กศ.ม. หลักสูตรและการสอน. มหาสารคาม : บัณฑติ วิทยาลัย
มหาสารคาม, ๒๕๕๒.
ศรีเรือน ใกล้ชิด. การพัฒนาบทเรียนสำเร็จรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคม ศาสนา และวัฒนธรรม
สำหรบั นกั เรยี นช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๓. วทิ ยานพิ นธ์ ค.ม. (หลกั สูตรและการสอน).
จนั ทบรุ ี : มหาวิทยาลยั ราชภฏั จนั ทบรุ ี, ๒๕๕๗.
ศิมาภรณ์ สีเนา. การพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้และบทเรียนสำเร็จรูปประกอบภาพการ์ตูน เร่ือง
มรรค ๘ ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๔. วทิ ยานพิ นธ์ กศ.ม. หลักสตู รและการสอน.
มหาสารคาม : บัณฑติ วทิ ยาลัยมหาลยั มหาสารคาม, ๒๕๕๒.

๕๕

สคุ น สินธพานนท์ และคณะ. การจัดกระบวนการเรยี นรู้. กรงุ เทพฯ : อักษรเจรญิ ทัศน์. ๒๕๔๕.
สุนัน สุนทรประเสรฐิ . การสร้างส่ือการสอนและนวัตกรมมการเรยี นร้สู่การพัฒนาผู้เรียน. ราชบุรี :

ธรรมรกั ษก์ ารพิมพ์, ๒๕๔๗.
สมพร เช้ือพันธ์. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน. พระนครศรีอยุธยา : บัณฑิตวิทยาลัย

สถาบนั ราชฎพั ระนครศรีอยธุ ยา, ๒๕๔๗.
สุวทิ ย์ มลู คำ และอรทยั มลู คำ. วิธกี ารเรยี นรู้. กรุงเทพฯ : ภาพพมิ พ์, ๒๕๔๕.
สานติ ย์ กายาผาด. เทคโนโลยีสารสนเทศเพอ่ื ชีวิต. กรงุ เทพฯ : เธิรด์ เวฟ เอ็ดดูเคชน่ั , ๒๕๔๘.
เสงี่ยม แสนสุด. การสรา้ งบทเรียนโปรแกรมวชิ าสังคมศึกษาเรื่อง ประวัติศาสตร์สมัยอยุธยา สำหรับ

นกั เรียนชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๒. วิทยานิพนธ์ ศษ.ม. ประถมศกึ ษา. ขอนแกน่ : บัณฑิต
วทิ ยาลยั มหาวิทยาลัยขอนแก่น, ๒๕๕๑.
อทุ มุ พร จามรมาน. การวจิ ัยเพอ่ื พัฒนาการเรียนรู้ ปฏิบัติการวจิ ัยในชนั้ เรยี น. กรุงเทพฯ : ครุ
ศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร, ๒๕๔๔.
อรอนงค์ มัยรัตน์. การพัฒนาบทเรียนสําเร็จรูปเร่ือง วันสําคัญทางพระพุทธศาสนา สาระสังคม
ศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๓. นักศึกษาหลักสูตรครุศาสตรม
หาบัณฑติ . สาขาวิชาวิจัยและประเมินผลการศึกษา. คณะครศุ าสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏ
หมบู่ า้ นจอมบงึ , ๒๕๖๑.
อาภาภรณ์ อินเสมียน. การพัฒนาบทเรียนสำเร็จรูปแบบประกอบภาพการ์ตูน เรื่อง อริยสัจ ๔ กลุ่ม
สร้างเสริมประสบการณ์ชีวิต ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๔. วทิ ยานิพนธ์ กศ.ม. หลักสูตรการ
สอน. มหาสารคาม : บณั ฑิตวิทยาลัย มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม, ๒๕๕๑.
อารมณ์ เพชรช่ืน. หลักสตู รและการสอนคณิตศาสตร.์ กรุงเทพฯ : พฒั นาคณุ ภาพวชิ าการ. ๒๕๒๗.
Pattana Ajjaneeyakul, Critical Thinking, บนเวป็ ไซต์ https://misterdevelopment.com/
สืบคน้ เมอ่ื วนั ท่ี ๑๘/๑๒/๖๔.

๕๖

ภาพผนวก ก
รายช่อื ผเู้ ชี่ยวชาญตรวจสอบเคร่อื งมอื ทใี่ ช้ในการวิจยั

๕๗

รายช่อื ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเครอื่ งมอื ทใ่ี ช้ในการวิจยั

๑. ผศ.ดร.อนสุ รณ์ นามทะราช ประธานประจำหลักสตู รพุทธศาสตรบณั ฑิต
๒. อาจารยบ์ ญุ สง่ นาแสวง สาขาวิชาสังคมศึกษา คณะครุศาสตร์
๓. อาจารย์พนั ทิวา ทับภมู ี มหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั
วทิ ยาเขตขอนแก่น

อาจารย์ประจำหลักสูตรพุทธศาสตรบัณฑติ
สาขาวชิ าสังคมศกึ ษา คณะครศุ าสตร์
มหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
วิทยาเขตขอนแก่น

อาจารยป์ ระจำหลักสูตรพทุ ธศาสตรบัณฑิต
สาขาวิชาสังคมศึกษา คณะครศุ าสตร์
มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
วทิ ยาเขตขอนแกน่

๕๘

ภาพผนวก ข
แบบประเมินคณุ ภาพเคร่อื งมือโดยผ้เู ชี่ยวชาญ

- แบบประเมินแผนการจดั การเรียนรู้
- แบบประเมินส่อื การสอน
- แบบวดั ผลสัมฤทธ์ิ
- แบบประเมิลแบบสอบถามความพงึ พอใจ

๕๙

แบบประเมินความคิดเหน็ ของผู้เช่ียวชาญเก่ยี วกับแผนการจัดการเรยี นรู้
วิชา สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม รหสั วิชา ส ๒๑๑๐๑ สำหรับนักเรยี น ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๒

แผนการเรียนรู้ท่ี ๑ เรื่อง อธบิ ายการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาหรือศาสนาทตี่ นนบั ถอื สปู่ ระเทศไทย

คำช้ีแจง : ขอ้ ความที่เสนอตอ่ ไปน้ีเปน็ เกณฑ์พนื้ ฐานในการประเมินแผนการจัดการเรยี นรู้ โปรดใสเครื่องหมาย

ถกู () ลงในช่องท่ตี รงกับความคิดเหน็ ลงในแบบประเมิน และหากทา่ นมีขอ้ เสนอแนะกรุณาระบุ

รายละเอยี ดใหเ้ ป็นแนวทางในการปรับปรุงตอ่ ไป โดยกำหนดให้ความหมายเกณฑป์ ระเมิน ดังนี้

ระดับ ๕ หมายถึง เหน็ ด้วยมากทสี่ ุด

ระดบั ๔ หมายถงึ เห็นด้วยมาก

ระดบั ๓ หมายถงึ เห็นดว้ ยปานกลาง

ระดับ ๒ หมายถึง เห็นดว้ ยน้อย

ระดบั ๑ หมายถึง เหน็ ดว้ ยนอ้ ยทส่ี ดุ

โปรดใสเ่ ครอ่ื งหมายถูก () ลงในช่องทีต่ รงกบั ความคิดเหน็ ลงในแบบประเมิน

รายการประเมนิ ระดับความคดิ เหน็ หมายเหตุ
๕๔๓๒๑

๑. หน่วยการเรียนรู้มอี งคป์ ระกอบครบถ้วน

เหมาะสมและมีรายละเอยี ดที่สอดคล้องสมั พันธ์

กนั

๒. การเขยี นสาระท่สี ำคัญในแผน กระชับ

ครอบคลุม ตามเปา้ หมาย

๓. จุดประสงค์การเรยี นรู้มีความชัดเจนถกู ต้อง

ครอบคลมุ เนื้อหาสาระ

๔. เน้อื หา / กิจกรรมการสอนเหมาะสมกบั

จำนวน

เวลาท่ีกำหนด

๕. เนื้อหาสาระในแผนถูกต้องตามโครงสรา้ ง

หลกั สตู ร

๖. กิจกรรมการเรียนรู้หลากหลาย / เหมาะสม

กบั วัย

ของผูเ้ รียนและสามารถนำไปปฏิบตั ิได้จรงิ

๗. กจิ กรรมการสอนตามรูปแบบการคิดเชิง

วิพากษ์ (Critical Thinking)

๘. มกี ารใชส้ ื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้ทเ่ี หมาะสมกบั วยั

๖๐

และเน้ือหาสาระ
๙. มีรูปแบบการวัดผลและประเมนิ ผลที่
หลากหลาย
๑๐.มีการวดั ผลและประเมนิ ผลที่สอดคล้องกับ

จุดประสงค์การเรียนรู้
ขอ้ เสนอแนะเพิม่ เติม
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงชื่อ………………………………………………………………..
(…………………………………………………………………….)

ผู้ประเมนิ

๖๑

แบบประเมินความคดิ เห็นของผูเ้ ชี่ยวชาญเกี่ยวกบั แผนการจดั การเรียนรู้
วิชา สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รหัสวิชา ส ๒๑๑๐๑ สำหรับนักเรียน ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๒

แผนการเรียนรทู้ ี่ ๒ เรอื่ ง วิเคราะหค์ วามสำคัญของพระพุทธศาสนา

คำชี้แจง : ขอ้ ความที่เสนอตอ่ ไปนี้เป็นเกณฑพ์ ื้นฐานในการประเมินแผนการจัดการเรียนรู้ โปรดใสเครือ่ งหมาย

ถกู () ลงในช่องทีต่ รงกับความคดิ เห็นลงในแบบประเมิน และหากทา่ นมขี ้อเสนอแนะกรณุ าระบุ

รายละเอียดให้เป็นแนวทางในการปรบั ปรงุ ตอ่ ไป โดยกำหนดให้ความหมายเกณฑ์ประเมิน ดงั น้ี

ระดับ ๕ หมายถงึ เหน็ ด้วยมากท่ีสุด

ระดบั ๔ หมายถึง เหน็ ดว้ ยมาก

ระดับ ๓ หมายถึง เหน็ ด้วยปานกลาง

ระดับ ๒ หมายถงึ เหน็ ดว้ ยน้อย

ระดับ ๑ หมายถึง เห็นด้วยนอ้ ยท่ีสดุ

โปรดใส่เคร่อื งหมายถกู () ลงในชอ่ งที่ตรงกับความคิดเหน็ ลงในแบบประเมนิ

รายการประเมนิ ระดบั ความคิดเหน็ หมายเหตุ
๕๔๓๒๑

๑. หน่วยการเรยี นรมู้ อี งคป์ ระกอบครบถว้ นเหมาะสม

และมีรายละเอียดที่สอดคล้องสมั พันธก์ นั

๒. การเขียนสาระที่สำคัญในแผน กระชบั ครอบคลุม

ตามเปา้ หมาย

๓. จุดประสงค์การเรียนรมู้ คี วามชดั เจนถูกตอ้ ง

ครอบคลุมเนอ้ื หาสาระ

๔. เน้อื หา / กจิ กรรมการสอนเหมาะสมกบั จำนวน

เวลาท่ีกำหนด

๕. เนือ้ หาสาระในแผนถูกตอ้ งตามโครงสรา้ งหลักสตู ร

๖. กิจกรรมการเรยี นรู้หลากหลาย / เหมาะสมกับวัย

ของผู้เรียนและสามารถนำไปปฏิบตั ิได้จรงิ

๗. กจิ กรรมการสอนตามรูปแบบการคดิ เชิงวพิ ากษ์

(Critical Thinking)

๘. มกี ารใช้สื่อ/แหลง่ การเรียนรูท้ ่เี หมาะสมกับวยั

และเน้ือหาสาระ

๙. มีรูปแบบการวัดผลและประเมนิ ผลทีห่ ลากหลาย

๑๐.มกี ารวัดผลและประเมนิ ผลท่สี อดคล้องกบั

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

๖๒

ขอ้ เสนอแนะเพม่ิ เตมิ
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงช่ือ………………………………………………………………..
(…………………………………………………………………….)

ผปู้ ระเมนิ

๖๓

แบบประเมินความคดิ เห็นของผู้เชี่ยวชาญเกีย่ วกบั แผนการจัดการเรียนรู้
วชิ า สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รหสั วิชา ส ๒๑๑๐๑ สำหรบั นักเรียน ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๒

แผนการเรยี นรูท้ ี่ ๓ เรอื่ ง วเิ คราะห์พุทธประวตั ิตงั้ แต่ประสูตจิ นถึงบำเพญ็ ทกุ รกริ ยิ า

คำชแี้ จง : ข้อความท่ีเสนอตอ่ ไปน้ีเป็นเกณฑ์พืน้ ฐานในการประเมนิ แผนการจัดการเรียนรู้ โปรดใสเครื่องหมาย

ถกู () ลงในช่องทีต่ รงกบั ความคิดเหน็ ลงในแบบประเมิน และหากท่านมขี ้อเสนอแนะกรณุ าระบุ

รายละเอียดให้เปน็ แนวทางในการปรับปรงุ ต่อไป โดยกำหนดให้ความหมายเกณฑป์ ระเมิน ดงั นี้

ระดับ ๕ หมายถงึ เหน็ ดว้ ยมากทส่ี ดุ

ระดับ ๔ หมายถงึ เหน็ ด้วยมาก

ระดบั ๓ หมายถึง เห็นด้วยปานกลาง

ระดบั ๒ หมายถงึ เห็นดว้ ยน้อย

ระดับ ๑ หมายถึง เหน็ ดว้ ยน้อยที่สุด

โปรดใส่เคร่ืองหมายถกู () ลงในชอ่ งทตี่ รงกบั ความคดิ เหน็ ลงในแบบประเมิน

รายการประเมนิ ระดับความคดิ เห็น หมายเหตุ
๕๔๓๒๑

๑. หน่วยการเรยี นรูม้ อี งคป์ ระกอบครบถว้ นเหมาะสม

และมรี ายละเอยี ดที่สอดคล้องสัมพนั ธ์กนั

๒. การเขยี นสาระที่สำคญั ในแผน กระชบั ครอบคลุม

ตามเปา้ หมาย

๓. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้มคี วามชดั เจนถูกต้อง

ครอบคลุมเนอ้ื หาสาระ

๔. เนือ้ หา / กจิ กรรมการสอนเหมาะสมกบั จำนวน

เวลาทีก่ ำหนด

๕. เนื้อหาสาระในแผนถูกตอ้ งตามโครงสรา้ งหลกั สตู ร
๖. กิจกรรมการเรยี นรหู้ ลากหลาย / เหมาะสมกับวยั

ของผเู้ รียนและสามารถนำไปปฏิบัติได้จรงิ

๗. กจิ กรรมการสอนตามรูปแบบการคดิ เชิงวพิ ากษ์
(Critical Thinking)
๘. มกี ารใชส้ ื่อ/แหล่งการเรยี นรูท้ ีเ่ หมาะสมกบั วัย

และเนอ้ื หาสาระ
๙. มรี ปู แบบการวัดผลและประเมินผลทห่ี ลากหลาย
๑๐. มีการวดั ผลและประเมนิ ผลที่สอดคล้องกบั

จุดประสงค์การเรียนรู้

๖๔

ข้อเสนอแนะเพม่ิ เตมิ
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงช่ือ………………………………………………………………..
(………………………………………………………..…………….)

ผ้ปู ระเมนิ

สำหรบั ผ้เู ชยี่ ๖ว๕ชาญ

แบบประเมินส่ือการเรยี นรู้

สือ่ การเรียนรู้ บทเรียนสำเร็จรปู (Critical Thinking) เรอื่ ง ความสำคญั ของศาสนา และบทบาทต่อประเทศ

คำช้ีแจง : ขอ้ ความที่เสนอต่อไปนเี้ ป็นเกณฑพ์ ืน้ ฐานในการประเมนิ แผนการจัดการเรยี นรู้ โปรดใสเครอ่ื งหมาย

ถกู () ลงในช่องท่ตี รงกบั ความคิดเห็นลงในแบบประเมิน และหากท่านมีข้อเสนอแนะกรณุ าระบุ

รายละเอียดใหเ้ ป็นแนวทางในการปรับปรงุ ต่อไป โดยกำหนดให้ความหมายเกณฑ์ประเมิน ดงั น้ี

ระดบั ๕ หมายถงึ เหมาะสมมากท่ีสุด

ระดับ ๔ หมายถึง เหมาะสมมาก

ระดับ ๓ หมายถึง เหมาะสมปานกลาง

ระดับ ๒ หมายถึง เหมาะสมนอ้ ย

ระดับ ๑ หมายถึง เหมาะสมน้อยท่ีสุด

โปรดใส่เครอื่ งหมายถูก () ลงในชอ่ งที่ตรงกบั ความคิดเห็นลงในแบบประเมิน

รายการประเมิน ระดับความคิดเหน็ หมายเหตุ
๕๔๓๒๑

ด้านที่ ๑ องค์ประกอบและเนอื้ หา

๑. มีองคป์ ระกอบครบ ถูกต้อง เหมาะสม

๒. ความสอดคลอ้ งของเนอ้ื หากบั ตวั ชีว้ ดั สาระการเรียนรู้ และวัตถุประสงค์

๓. ลำดบั ขั้นตอนในการนำเสนอเนื้อหา

๔. ความสอดคลอ้ งของเนื้อหาในแต่ละหวั ข้อ

๕. ความถกู ต้องชดั เจนในการอธบิ ายเนอ้ื หาของบทเรยี น

ดา้ นที่ ๒ รปู ภาพ ภาษา สี และเทคนิค

๑. ความเหมาะสมของรูปภาพต่อเน้อื หาของเร่ือง

๒. ความเหมาะสมของกราฟิกทใ่ี ชป้ ระกอบบทเรียน

๓. ความสอดคลอ้ งของรปู ภาพกบั คำบรรยายในเน้อื หา

๔. ภาษาท่ีใช้มีความเหมาะสมถกู ต้อง

๕. การใช้สีสันในเนือ้ หามีความเหมาะสมและน่าสนใจ

ดา้ นท่ี ๓ แบบฝึกหัดระหวา่ งเรยี น

๑. แบบฝกึ หัดมีความสอดคลอ้ งกบั ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรู้ วตั ถุประสงค์

๒. แบบฝกึ หัดมีความสอดคล้องกบั บทเรยี น

๓. ความเหมาะสมของคำถามต่อเนื้อหา

๔. ความเหมาะสมของจำนวนขอ้ ในแบบฝึกหดั

๕. แบบฝึกหัดช่วยสง่ เสรมิ การฝกึ ทกั ษะการเรยี นรู้

๖๖

ความคดิ เหน็ และขอ้ เสนอแนะอ่นื ๆ
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงชอื่ ..........................................................(ผู้ประเมิน)
(................................................................)

๖๗

แบบประเมินความสอดคล้องระหว่างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน
กบั จุดประสงค์การเรียนรู้

เร่อื ง การพัฒนาบทเรียนสำเร็จรูป รายวิชาศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม กลุ่มสาระการเรียนรสู้ งั คม
ศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม สำหรบั นักเรยี นช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๒ โรงเรยี นพระธาตุขามแก่นพทิ ยาลัย

โดยใช้ ทักษะการคิดเชงิ วิพากษ์ (Critical Thinking)

คำชี้แจง
โปรดพิจารณาข้อสอบแต่ละข้อวา่ สามารถวัดได้ตามตรงวัตถุประสงค์การเรียนรู้ เม่อื พิจารณาแล้วให้

ท่านทำเคร่ืองหมาย / ลงในช่องทีต่ รงตามกบั ความคิดเหน็ ของท่านมากทส่ี ุด โดยใชเ้ กณฑ์ดงั น้ี
+๑ หมายถึง แนใ่ จวา่ ขอ้ สอบมคี วามสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้
๐ หมายถึง ไม่แนใ่ จว่าข้อสอบมีความสอดคลอ้ งกับจุดประสงค์การเรยี นรู้
-๑ หมายถงึ แน่ใจวา่ ขอ้ สอบไม่มีความสอดคล้องกบั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

ขอบพระคุณเปน็ อย่างสงู
นายณัฐวุฒิ จันทร์นอ้ ย
นิสติ ระดบั ปรญิ ญาตรี สาขาวิชาสังคมศึกษา คณะครุศาสตร์
มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั วทิ ยาเขตขอนแกน่

๖๘

วัตถุประสงค์ ขอ้ สอบ ระดบั ระดบั ความ ขอ้ เสนอแ
การเรยี นรู้ พฤตกิ รรม สอดคลอ้ ง นะ

อธบิ าย ๑. พระพทุ ธศาสนาเผยแผ่เขา้ สู่ดนิ แดนภูมิภาคเอเชีย ความรู้ +๑ ๐ -๑

.

ความหมาย ตะวันออกเฉยี งใต้ หรือดนิ แดนสวุ รรณภมู ิ ในช่วง ความจำ
ของการเผยแผ่ เหตุการณ์ใด

พระพทุ ธศาสน ก. หลังจากการตรสั ร้ขู องพระพทุ ธเจา้

าเขา้ สู่ประเทศ ข. หลงั การแสดงโอวาทปาตโิ มกข์ของ

ไทย พระพุทธเจา้

ค. หลงั เสร็จสิ้นการทำสงั คายนาพระธรรมวินยั

ครงั้ ท่ี ๓

ง. กอ่ นจะมกี ารทำการสงั คายนาพระธรรมวนิ ยั

ครงั้ ท่ี ๓

เฉลย ขอ้ ค.

อธบิ าย ๒. ชาวสงิ คโปร์ส่วนใหญ่นับถอื พระพุทธศาสนาแบบ ความรู้

ความหมาย นิกายใด ความจำ

ของการเผยแผ่ ก. ขงจ๊อื

พระพุทธศาสน ข. เต๋า

าเขา้ สปู่ ระเทศ ค. เถรวาท

ไทย ง. มหายาน

เฉลย ขอ้ ง.

ตระหนักและ ๓. ทำอย่างไรวฒั นธรรมท่ีเปน็ มรดกเอกลักษณข์ อง ความเข้า

เหน็ ชาติไทยจึงจะดำรงอยคู่ ่กู ับชาตไิ ทยตลอดไป ใจ

ความสำคัญ ก. นำวัฒนธรรมไทยมาประยุกตใ์ หท้ นั สมยั ข้นึ

ความของพทุ ธ ข. นำวฒั นธรรมไทยไปปฏบิ ตั ิร่วมกบั วฒั นธรรม

ศาสนาตอ่ อื่น

สงั คมไทย ค. ไม่ต้องทำอะไรทั้งสนิ้ เพราะวัฒนธรรมไทยดอี ยู่

แล้ว

ง. ศกึ ษาใหร้ ้เู หน็ คณุ ค่าแล้วรว่ มกันอนรุ ักษ์และสืบ

สานตอ่ ไป

เฉลย ขอ้ ง.

อภิปราย และ ๔. พระพุทธศาสนานา่ จะมสี ว่ นชว่ ยแกไ้ ขปัญหามาก วเิ คราะห์

นำเสนอข้อมูล ทสี่ ุด

เกีย่ วกบั การ ก. ปัญหาการก่อการรา้ ย

เผยแผ่ ข. ปัญหานำ้ มนั ขนึ้ ราคา

พระพุทธศาสน ค. ปัญหาความยากจนในชุมชน

าเขา้ สู่ประเทศ ง. ปัญหาสุขภาพของคนไทย

๖๙

วัตถปุ ระสงค์ ข้อสอบ ระดับ ระดบั ความ ขอ้ เสนอแ
การเรยี นรู้ พฤตกิ รรม สอดคลอ้ ง นะ

+๑ ๐ -๑

ไทย เฉลย ข้อ ค.

อธิบาย ๕. พระพทุ ธศาสนาได้เผยแผ่เขา้ สู่ประเทศสาธารณรัฐ ความรู้
ความจำ
ความหมาย ประชาธิปไตยประชาชนลาวในยคุ สมัยใด

ของการเผยแผ่ ก. ยคุ ทวารวดี

พระพทุ ธศาสน ข. ยุคอาณาจักรศรวี ชิ ัย

าเข้าสู่ประเทศ ค. ยุคอาณาจักรลา้ นชา้ ง

ไทย ง. ยุคอาณาจักรล้านนา

เฉลย ขอ้ ง.

ตระหนกั และ ๖. ข้อใดมคี วามหมายตรงกบั คำว่า “ศาสนา” ความเขา้ ใจ

เหน็ ก. ลัทธคิ วามเชื่อของมนษุ ย์

ความสำคญั ข. ลัทธิความเช่อื ถอื ของคนสว่ นใหญ่

ความของพุทธ ค. ลัทธิความเชอื่ ถอื เกี่ยวกบั ความคดิ เห็น

ศาสนาต่อ ง. ลัทธิความเชือ่ ถือเกีย่ วกับเทพเจา้

สังคมไทย เฉลย ข้อ ก.

ตระหนักและ ๗. “นดิ หน่อยไปทำบญุ ทุกวันพระทโ่ี บสถแ์ ถวบ้าน” วเิ คราะห์

เหน็ จากประโยคข้างตน้ โบสถ์ เปน็ มรดกทางวัฒนธรรม

ความสำคญั ด้านใด

ความของพทุ ธ ก. มรดรทางด้านจิตใจ

ศาสนาต่อ ข. มรดกทางด้านรปู ธรรม

สังคมไทย ค. มรดกทางด้านนามธรรม

ง. มรดกทางด้านศิลปกรรม

เฉลย ข้อ ข.

ตระหนักและ ๘. มานะ ไม่ เก่งเลข แต่ด้วยความเอาใจใส่และมุ่งม่ัน วิเคราะห์

เห็น จงึ ทำให้สอบผ่าน แสดงว่ามานะมีหลกั ธรรมข้อใด

ความสำคญั ก. ฉันทะ

ความของพุทธ ข. วิรยิ ะ

ศาสนาตอ่ ค. จติ ตะ

สังคมไทย ง. วิมังสา

เฉลย ข้อ ค.

อภิปราย และ ๙. เพราะเหตุใด คนเราตอ้ งนับถอื ศาสนา วิเคราะห์

นำเสนอข้อมูล ก. กฎหมายบงั คบั

เกีย่ วกับ ข. เพื่อใหส้ ังคมยอมรบั

ความสำคญั ค. นับถือตามบดิ า มารดา

ของพทุ ธ ง. เพื่อให้เป็นแนวทางในการดำเนินชวี ติ

๗๐

วตั ถุประสงค์ ข้อสอบ ระดับ ระดบั ความ ข้อเสนอแ
การเรียนรู้ พฤตกิ รรม สอดคลอ้ ง นะ

+๑ ๐ -๑

ศาสนาตอ่ เฉลย ข้อ ง.

สงั คมไทยได้

ตระหนกั และ ๑๐. ข้อใดไม่ใชเ่ อกลกั ษณ์ของคนไทย ความเข้า

เห็น ก. การกราบการไหว้ ใจ

ความสำคัญ ข. การมีจติ ใจเมตตากรุณา

ความของพุทธ ค. การมจี ิตใจเออื้ เฟอ้ื เผ่อื แผ่

ศาสนาต่อ ง. การพดู จาเอาแตไ่ ด้ฝ่ายเดยี ว

สงั คมไทย เฉลย ข้อ ง.

ตระหนกั และ ๑๑. ศลิ ปะในข้อใดทีเ่ กย่ี วข้องกับพระพุทธศาสนาเปน็ ความเขา้

เหน็ ส่วนใหญ่ ใจ

ความสำคัญ ก. งานปั้นดนิ เผา

ความของพุทธ ข. งานแกะสลักไม้

ศาสนาต่อ ค. งานจิตรกรรมฝาผนงั

สังคมไทย ง. งานหตั ถกรรมเคร่อื งจกั สาน

เฉลย ข้อ ค.

ตระหนกั และ ๑๒. ชาวพุทธมกั ไปทำบุญทใ่ี ด การ

เห็น ก. สวนสาธารณะ นำไปใช้

ความสำคญั ข. โรงเรียน

ความของพทุ ธ ค. ตลาด

ศาสนาต่อ ง. วดั

สงั คมไทย เฉลย ขอ้ ง.

ตระหนักและ ๑ ๓ . ใค ร ป ฏิ บั ติ ต าม ห ลั ก ธ ร ร ม ค ำ ส อ น ข อ ง การนำ

เหน็ พระพุทธศาสนา ไปใช้

ความสำคัญ ก. สชุ นชอบแกล้งเพ่อื น

ความของพุทธ ข. สชุ าติชอบทำบุญตักบาตร

ศาสนาตอ่ ค. สพุ จนจ์ บั สัตวป์ ่ามาเลี้ยงในกรง

สังคมไทย ง. สวุ ทิ ย์ชอบพูดไมต่ รงกับความจริง

เฉลย ข้อ ข.

อภิปราย และ ๑๔. พระพุทธศาสนามีหลกั ธรรมคำสอนท่ีช่วยหล่อ วเิ คราะห์

นำเสนอข้อมูล หลอมพฤตกิ รรมของคนไทยใหเ้ ป็นคนดี ยกเว้น ข้อใด

เกย่ี วกับ ก. สอนใหม้ ีความสามัคคี

ความสำคญั ข. สอนให้มีความเออื้ เฟือ้ เผื่อแผ่

ของพุทธ ค. สอนให้มรี ะเบียบวินยั

ศาสนาตอ่ ง. สอนให้เหน็ แกต่ วั

สังคมไทยได้ เฉลย ขอ้ ง.

๗๑

วัตถุประสงค์ ข้อสอบ ระดบั ระดบั ความ ข้อเสนอแ
การเรยี นรู้ พฤติกรรม สอดคลอ้ ง นะ
๑๕. สถานทป่ี ระสูติของพระพทุ ธเจ้าคอื ข้อใด ความรู้
อธบิ ายพทุ ธ ก. สวนพฤกษศาสตร์ ความจำ +๑ ๐ -๑
ประวตั ติ ง้ั แต่ ข. สวนวโนทยาน
ประสูติจนถึง ค. สวนลุมพนิ วี นั ความรู้
บำเพญ็ ทกุ ร ง. สวนสาธารณะ ความจำ
กิริยา
เฉลย ขอ้ ค.
อธบิ ายพทุ ธ ๑๖. สถานทีใ่ ดเป็นทปี่ ระสูติของพระพทุ ธเจา้
ประวัติตั้งแต่
ประสตู ิจนถึง ก. ใตต้ น้ สาละ ข. ใต้ตน้ ไทร
บำเพญ็ ทุกร ค. ใต้ต้นโพธิ์ ง. ใตต้ ้นรังคู่
กริ ิยา เฉลย ข้อ ก.
อธิบายพทุ ธ
ประวัติต้งั แต่ ๑๗. พระพทุ ธเจา้ มีพระนามว่าอะไร ความรู้
ประสตู จิ นถึง ความจำ
บำเพญ็ ทกุ ร ก. เจา้ ชายเทวราช ข. เจา้ ชายสทุ ทนะ
กิรยิ า ค. เจ้าชายสิทธศิ ักดิ์ ง. เจา้ ชายสิทธตั ถะ
อธิบายพทุ ธ เฉลย ข้อ ง.
ประวตั ิตง้ั แต่
ประสตู จิ นถงึ ๑๘. เจา้ ชายสิทธัตถะทรงอภเิ ษกสมรสเมอื่ ความรู้
บำเพ็ญทุกร
กริ ยิ า พระชนมายุไดเ้ ท่าไร ความจำ
อธิบายพุทธ
ประวัติตัง้ แต่ ก. ๑๕ พรรษา ข. ๑๖ พรรษา
ประสตู ิจนถงึ
บำเพ็ญทกุ ร ค. ๑๗ พรรษา ง. ๑๘ พรรษา
กริ ิยา
เฉลย ข้อ ข.
อธบิ ายพทุ ธ
ประวัติต้งั แต่ ๑๙. เจา้ ชายสิทธัตถะทรงอภิเษกสมรสกบั ใคร ความรู้
ประสตู จิ นถงึ
บำเพ็ญทุกร ก. พระนางพิมพา ความจำ
กิริยา
อธิบายพุทธ ข. พระนางสิริมหามายา
ประวตั ติ ้งั แต่
ประสูตจิ นถงึ ค. พระนางอมิตตา

ง. พระนางวสิ าขา

เฉลย ข้อ ก.

๒๐. บุคคลในข้อใด คือ พระโอรสของเจา้ ชายสิทธัต ความรู้

ถะ ความจำ
ก. สุภทั ธะกมุ าร ข. จุลกมุ าร

ค. เทวทัตกมุ าร ง. ราหลุ กมุ าร

เฉลย ขอ้ ง.

๒๑. อะไรเปน็ มลู เหตุแห่งการตัดสินพระทัยออกผนวช วิเคราะห์

ก. ความเบ่อื หน่าย

ข. ความสขุ ส่วนพระองค์

๗๒

วัตถปุ ระสงค์ ขอ้ สอบ ระดบั ระดบั ความ ขอ้ เสนอแ
การเรียนรู้ พฤติกรรม สอดคลอ้ ง นะ

บำเพญ็ ทกุ ร ความรู้ +๑ ๐ -๑
กริ ิยา ความจำ
ค. เทวทูตทง้ั ๔
อภิปราย และ
นำเสนอขอ้ มูล ง. ราชสมบัติ
เกย่ี วกบั พทุ ธ
ประวตั ิตัง้ แต่ เฉลย ข้อ ค.
ประสูติจนถงึ
บำเพ็ญทกุ ร ๒๒. บุคคลในข้อใด มิได้ทำให้เจ้าชายสิทธัตถะตัดสิน
กิรยิ า
อภิปราย และ พระทยั ออกผนวช
นำเสนอขอ้ มูล
เก่ยี วกับพทุ ธ ก. เดก็ เล็ก ข. คนแก่
ประวตั ติ ้ังแต่
ประสูติจนถงึ ค. คนเจ็บ ง. สมณะ
บำเพ็ญทุกร
กริ ิยา เฉลย ขอ้ ก.
อธิบายพทุ ธ
ประวตั ิต้ังแต่ ๒๓. การค้นหาความจรงิ โดยวธิ ที รมานตนของเจ้าชาย ความเขา้
ประสูตจิ นถงึ
บำเพ็ญทกุ ร สทิ ธัตถะ เรียกวา่ อะไร ใจ
กิรยิ า
อธิบายพุทธ ก. ทุกกรกริ ยิ า
ประวตั ติ ัง้ แต่
ประสูตจิ นถงึ ข. ภาวนากริ ิยา
บำเพ็ญทกุ ร
กิริยา ค. สมถะกริ ยิ า

อธบิ ายพทุ ธ ง. การบำเพ็ญเพยี ร
ประวัตติ ้ังแต่
ประสตู จิ นถึง เฉลย ข้อ ก.
บำเพ็ญทุกร
กิรยิ า ๒๔. ข้ันตอนใด มิใช่ การทรมานร่างกายของเจ้าชาย ความเขา้ ใจ
อภปิ ราย และ
นำเสนอขอ้ มลู สิทธตั ถะ

ก. อดอาหาร ข. ยนื ขาเดียว

ค. กลัน้ ลมหายใจ ง. กดั ฟนั

เฉลย ข้อ ข.

๒๕. สถานทีใ่ ดเปน็ ท่ตี รสั รขู้ องพระพทุ ธเจ้า ความรู้

ก. ใต้ต้นสาละ ความจำ

ข. ใต้ตน้ ไทร

ค. ใต้ตน้ โพธ์ิ

ง. ใตต้ ้นรังคู่

เฉลย ขอ้ ค.

๒๖. พระพุทธเจา้ ตรัสรู้เมือ่ พระชนมายุไดเ้ ทา่ ไร ความรู้

ก. ๒๙ พรรษา ข. ๓๕ พรรษา ความจำ

ค. ๔๐ พรรษา ง. ๔๕ พรรษา

เฉลย ขอ้ ข.

๒๗. พระพุทธเจ้าทรงเปรยี บคนทีฉ่ ลาดมากเหมือนสิ่ง วิเคราะห์
ใด

๗๓

วตั ถปุ ระสงค์ ขอ้ สอบ ระดบั ระดบั ความ ขอ้ เสนอแ
การเรียนรู้ พฤตกิ รรม สอดคล้อง นะ

เก่ียวกบั พุทธ +๑ ๐ -๑
ประวตั ติ ้งั แต่
ประสูตจิ นถงึ ก. ดอกกุหลาบ
บำเพญ็ ทกุ ร
กิริยา ข. ดอกราตรี
อธิบายพทุ ธ
ประวตั ติ ้ังแต่ ค. ดอกชงโค
ประสูตจิ นถึง
บำเพ็ญทกุ ร ง. ดอกบวั ท่พี น้ น้ำ
กริ ิยา
เฉลย ขอ้ ง.
อธิบายพทุ ธ
ประวัตติ ั้งแต่ ๒๘. ในการแสดงธรรมครั้งแรกได้บังเกิดสิ่งใดขึ้นเป็น ความเข้า
ประสตู ิจนถงึ
บำเพญ็ ทุกร คร้งั แรกในโลก ใจ
กิรยิ า
ก. นักบวช
อภิปราย และ
นำเสนอข้อมลู ข. นักพรต
เกี่ยวกับพทุ ธ
ประวัติตั้งแต่ ค. พระสงฆ์
ประสูตจิ นถงึ
บำเพ็ญทกุ ร ง. ภกิ ษณุ ี
กิรยิ า
อธิบายพทุ ธ เฉลย ข้อ ค.
ประวัติตั้งแต่
ประสูติจนถึง ๒๙. พระสงฆท์ พ่ี ระพุทธเจ้าทรงบวชใหเ้ รียกว่าอะไร ความรู้
บำเพ็ญทุกร
กริ ยิ า ก. ติสรณคม ความจำ

อธบิ ายพุทธ ข. ไตรสรณคม
ประวตั ิตง้ั แต่
ประสูติจนถึง ค. มหาภเิ นษกรมณ์
บำเพญ็ ทกุ ร
ง. เอหิภกิ ขุอุปสัมปทา

เฉลย ข้อ ง.

๓๐. หัวใจของพระพุทธศาสนาท่ีพระพุทธเจ้าทรงสั่ง ความรู้

สอนเรียกว่าอะไร ความจำ

ก. ธัมจักกัปปวตั นสตู ร

ข. โอวาทปาตโิ มกข์

ค. อรยิ สจั

ง. อทิ ธบิ าท ๔

เฉลย ข้อ ข.

๓๑. พระพทุ ธเจ้าปรนิ ิพพานเมือ่ พระชนมายุไดเ้ ท่าไร ความรู้

ก. ๒๙ พรรษา ความจำ

ข. ๓๕ พรรษา

ค. ๔๕ พรรษา

ง. ๘๐ พรรษา

เฉลย ขอ้ ง.

๓ ๒ . ส ถ าน ท่ี ใด เป็ น ส ถ าน ที่ ป รินิ พ พ าน ข อ ง ความรู้

พระพทุ ธเจา้ ความจำ

ก. สวนพฤกษศาสตร์

ข. สวนวโนทยาน

๗๔

วตั ถปุ ระสงค์ ข้อสอบ ระดับ ระดับความ ข้อเสนอแ
การเรียนรู้ พฤติกรรม สอดคลอ้ ง นะ

กิริยา +๑ ๐ -๑

อธบิ ายพุทธ ค. สวนลมุ พนิ วี ัน
ประวตั ิตง้ั แต่
ประสูติจนถงึ ง. สวนสาธารณะ
บำเพญ็ ทกุ ร
กริ ิยา เฉลย ขอ้ ข.

อธบิ ายพุทธ ๓ ๓ . ใค ร เป็ น ผู้ถ ว ายที่ ให้ เป็ น วั ด แ ห่ งแ รก ให้ ความรู้
ประวตั ิตง้ั แต่
ประสูตจิ นถงึ พระพุทธเจา้ ความจำ
บำเพญ็ ทกุ ร
กริ ิยา ก. พระเจา้ พมิ พสิ าร

อธิบายพุทธ ข. พระเจา้ พรหมทตั
ประวตั ิตั้งแต่
ประสูตจิ นถึง ค. เศรษฐีเมอื งพาราณสี
บำเพญ็ ทกุ ร
กิรยิ า ง. ยสกุมาร

เฉลย ข้อ ก.

๓๔. การประชุมสงฆ์มีองค์ ๔ หรือท่ีเรียกว่าจาตุรงค ความรู้

สันนิบาต ต่อมาวันนถี้ ือเปน็ วันอะไร ความจำ

ก. วันมาฆบชู า

ข. วันวิสาขบูชา

ค. วนั อาสาฬหบูชา

ง. วันเข้าพรรษา

เฉลย ขอ้ ก.

๓๕. พระสงฆ์ องค์แรกในพระพุทธศาสนาคือใคร ความรู้

ก. อัสสชิ ความจำ

ข. พระอานนท์

ค. พระมหานามะ

ง. พระโกณทญั ญะ

เฉลย ขอ้ ง.

ลงชอ่ื ……………………………………………………………
(……………………………………………………………………)

ผู้ประเมนิ

๗๕

แบบสอบถามความพึงพอใจของนกั เรยี นชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๒ โรงเรียนพระธาตขุ ามแก่น

พิทยาลัย ท่ไี ด้รับการจัดการเรยี นการสอนโดยใชบ้ ทเรยี นสำเร็จรูป

กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม

คำช้แี จง : โปรดพิจารณาข้อคำถามของแบบสอบถามความพงึ พอใจของนักเรียนทมี่ ีต่อบทเรียนสำเรจ็ รูป

โปรดใส่เครอื่ งหมายถูก (✓) ลงในชอ่ งท่ีตรงกบั ความคดิ เห็นของทา่ นลงในแบบประเมนิ และหากท่านมี

ขอ้ เสนอแนะกรุณาระบรุ ายละเอียดให้เป็นแนวทางในการปรบั ปรงุ ตอ่ ไป โดยกำหนดใหค้ วามหมายเกณฑ์

ประเมนิ ดังน้ี

ข้อ ประเดน็ คำถาม ระดบั ความเหน็ ข้อเสนอแนะ

+๑ ๐ -๑

๑ คำแนะนำในการใช้ชุดการเรียนรู้ชัดเจนและเขา้ ใจงา่ ย

๒ เน้ือหาเหมาะสมกบั นักเรียน

๓ ชว่ ยสร้างบรรยากาศในการเรยี น

๔ เปดิ โอกาสให้นักเรียนศึกษาด้วยตนเอง

๕ แบบทดสอบก่อนและหลงั เรยี นวัดระดับความรู้ของนกั เรียน

๖ ทราบผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นของตนเองทนั ที

๗ กจิ กรรมในบทเรยี นน่าสนใจ

๘ ชว่ ยใหฝ้ กึ ทกั ษะและทบทวนเนือ้ หาไดด้ ี

๙ เปิดโอกาสให้นักเรยี นได้เรียนรกู้ ระบวนการทำงานกลมุ่

๑๐ มคี วามรเู้ พิม่ ข้นึ หลังจากใชช้ ดุ การเรียนรู้

๑๑ ภาษาทใ่ี ช้ในชุดกิจกรรมมคี วามถูกต้อง

๑๒ กจิ กรรมมคี วามหลากหลาย

๑๓ วัสดุและอุปกรณที่ใชในการทำกจิ กรรมมคี วามเหมาะสม

๑๔ วธิ ีการทำกจิ กรรมอธบิ ายไดละเอียด ชัดเจน

๑๕ จำนวนขอคำถามทายกจิ กรรมมคี วามเหมาะสม

ข้อเสนอแนะเพ่ิมเติม

..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ......................................................

(....................................................)

ผู้ประเมิน

๗๖

ภาพผนวก ค
เคร่ืองมือที่ใช้ในการวิจัย

- ตวั อยา่ งแผนการจัดการเรยี นรู้
- ตัวอยา่ งส่อื การจดั การเรียนรู้
- ตัวอย่างแบบสอบถามความพงึ พอใจ
- ตัวอยา่ งแบบวดั ผลสมั ฤทธิ์

๗๗

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๑

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สังคมศกึ ษาศาสนา และวฒั นธรรม ระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๒

รายวชิ า สังคมศึกษา รหสั วิชา ส ๒๑๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๔

หนว่ ยการเรียนท่ี ๒ เร่อื ง ความสำคัญของศาสนา และบทบาทตอ่ ประเทศไทย เวลา ๓ ชวั่ โมง

หนว่ ยการเรยี นรู้ยอ่ ยท่ี ๑ เรอื่ ง การเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาเขา้ ส่ปู ระเทศไทย เวลา ๑ ช่ัวโมง

ชอ่ื ผสู้ อน นายณัฐวฒุ ิ จันทรน์ อ้ ย วันท่ี ๑๔ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๕

มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้วี ดั

มาตรฐาน ส ๑.๑ รู้และเข้าใจ ความสำคญั ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรอื ศาสนาที่ตน

นบั ถอื และศาสนาอื่น มีศรทั ธาทีถ่ ูกต้อง ยึดม่ัน และปฏบิ ัตติ ามหลกั ธรรมเพอื่ อยู่ร่วมกันอย่างสนั ติสุข

ตัวช้วี ัด ส๑.๑ ม.๒/๒ วิเคราะห์ความสำคัญของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาท่ตี นนบั ถอื ที่มีต่อ

สภาพแวดลอ้ มในสงั คมไทย รวมท้งั การพัฒนาตนและครอบครัว

สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด

ศาสนาเป็นบ่อเกิด ของขนบธรรมเนียม ประเพณี ค่านิยม ตลอดจนการดำเนินชีวิตของคนในสังคม
เพราะศาสนามีหลักคำสอนและข้อปฏิบัติท่ีส่งเสริมให้ศาสนิกชนของตนเข้าใจชีวิต ดำเนินชีวิตอย่างสงบสุข

สามารถนำพาชีวิตตนไปสเู่ ปา้ หมายที่ดีงามได้ รวมทงั้ ช่วยทำใหส้ งั คมดำรงอยูไ่ ดอ้ ย่างม่นั คง
จุดประสงค์การเรียนรู้

๑. อธบิ ายความหมายของการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาเขา้ สู่ประเทศไทย (K)

๒. อภิปราย และนำเสนอขอ้ มูลเกีย่ วกับการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาเขา้ สปู่ ระเทศไทย (P)
๓. ตระหนกั และเห็นความสำคัญของพทุ ธศาสนาตอ่ สังคมไทย (A)
ด้านความรู้

บอกการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเข้าสู่ประเทศไทย

ด้านทักษะ/กระบวนการ

ผู้เรียนสามารถวิเคราะหส์ าเหตุที่พระพทุ ธศาสนาเข้าสสู้ ังคมไทยในฐานะต่างๆได้อย่าง

สมเหตุสมผล

ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

 รกั ชาตศิ าสน์กษัตริย์  อยู่อย่างพอเพียง  ซ่ือสตั ย์สจุ ริต

 มุ่งมั่นในการทำงาน  มวี นิ ัย  รกั ความเป็นไทย

 ใฝ่เรียนรู้  มีจิตสาธารณะ

ด้านสมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น

ความสามารถในการสือ่ สาร : นักเรียนสามารถสือ่ สารให้ผู้อนื่ เข้าใจได้

ความสามารถในการคิด : นักเรยี นสามารถคิดวิเคราะหเ์ กีย่ วกบั เรือ่ งท่คี รูสอนได้

ความสามารถในการแก้ไขปญั หา :

สามารถในการใช้ทักษะชวี ติ :

ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี :

๗๘

ด้านคุณลักษณะของผู้เรยี นตามหลักสูตรมาตรฐานสากล

เป็นเลิศวิชาการ สื่อสารสองภาษา ลำ้ หน้าทางความคิด

ผลิตงานอยา่ งสร้างสรรค์ รว่ มกนั รับผิดชอบตอ่ โลก

บูรณาการตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

๑. หลกั ความพอประมาณ : นักเรยี นรูจ้ ักประมาณตน

๒. หลกั ความมีเหตุผล : นักเรยี นเขา้ ใจในระบบเศรษฐกจิ

๓. หลกั ภูมิคุ้มกัน : นกั เรียนรูจ้ ักยอมรับและเขา้ ในระบบเศรษฐกจิ

๔. เงื่อนไขความรู้ : นักเรียนมคี วามรู้เรือ่ งระบบเศรษฐกจิ

๕. เงือ่ นไขคณุ ธรรม : นักเรียนให้เกียรติ และรู้จักเคารพผอู้ ่นื

สาระการเรยี นรู้/เน้อื หา
๑. นิกายในพระพทุ ธศาสนา

๒. บทบาทของพระเจ้าอโศกมหาราช
๓. การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาเข้าสู่ประเทศไทย

หลักฐานหรือร่องรอยของการเรยี นรู้ / การวัดผลประเมินผล / ชนิ้ งาน / ภาระงาน
๑. ใบงานท่ี ๑ เรื่อง การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนา

กิจกรรมการเรยี นการสอน การคดิ เชิงวพิ ากษ์ (Critical Thinking)

ขน้ั นําเข้าสบู่ ทเรียน ๕ นาที
๑. ครกู ล่าวทักทายนักเรยี นด้วยการพูดคุยเก่ียวกบั เหตุการณ์ที่กำลังเป็นประเด็น พร้อมทั้ง

เชค็ ช่ือนักเรีย

๒. ครูช้ีแจงหัวข้อท่จี ะเรยี น เร่อื ง เก่ยี วกับการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาหรือศาสนาท่ีตนนบั ถือ
หาความรู้ (Knowledge) ๑๐ นาที

๓. ครูถามนักเรียนว่า การเผยแผ่พระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือ เข้ามาสู่ประเทศ
ไทยได้อยา่ งไร ในความคิดของนักเรยี นมีความเข้าใจว่าเปน็ อยา่ งไร เพ่อื ทำการประเมินว่านักเรียนมคี วามเขา้ ใจ
เกี่ยวกับเร่ือง ศาสนาต่อสังคมไทย

ข้ันสอน/กิจกรรมการเรยี นรู้/กิจกรรมพัฒนาผ้เู รยี น
ทำความเข้าใจ (Comprehension)

๔. ครูอธบิ ายในหวั หอ้ เรอ่ื ง การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนา ผา่ นส่ือการสอน canva
การประยุกต์ (Application) ๒๐ นาที
๕. ครูแบ่งนักเรียนออกเป็น ๓ กลุ่ม โดยแบ่งกลุ่มโดยการนับเลข ๑, ๒, ๓, เพื่อเป็นการ

คละความความสามารถของนักเรยี น
โดยกำหนดให้ นักเรยี นทนี่ ับไดเ้ ลข

- คนท่ีนบั ๑ ได้ เร่อื งการเดินทาง สายที่ ๑, ๔ และ ๗
- คนท่นี ับ ๒ ได้ เรื่องการเดินทาง สายที่ ๒, ๕ และ ๘
- คนทนี่ ับ ๓ ได้ เรอ่ื งการเดินทาง สายท่ี ๓, ๖ และ ๙

๗๙

การสงั เคราะห์ (Synthesis)

๖. ครมู อบหมายใหน้ ักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกนั ศึกษาศกึ ษาเน้อื หา ในบทเรียนสำเร็จรูป ทกี่ ลุ่ม

ได้รบั จากครผู สู้ อน

การลงมอื ทำ (Action) ๑๕ นาที

๗. แต่กลุ่มออกมานำเสนอผลงาน ไม่เกินกลุ่มละ ๕ นาที ครูผู้สอนกล่าวชมเชยนักเรียนที่

ออกมานำเสนอและ ใหค้ วามร้เู พ่ิมเติมในหวั ข้อเรื่องทไี่ ดร้ ับมอบหมาย

ขน้ั สรุป/กจิ กรรมรวบยอด

การประเมนิ (Evaluation) ๑๐ นาที

๘. ครูสรุปเรื่อง การเผยแผ่พระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือ เข้าสู้ประเทศไทย ให้

ผู้เรียนฟัง และสอบถามความเข้าใจของนักเรียน พร้อมมอบหมายให้นักเรียนไปศึกษาข้อมูลเรื่อง ตลาดใน

ระบบเศรษฐกิจ ที่จะเรียนในชวั่ โมงต่อไป

สือ่ /อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

สื่อ ๑. canva เร่ือง การเผยแผ่พระพุทธศาสนา ๒. ใบงานท่ี ๒ การเผยแผ่ของแต่ละ

สาย

วสั ดุ / อปุ กรณ์ ๑. คอมพิวเตอร์ ๒. โปรเจคเตอร์

แหลง่ เรียนรู้ ๑. ขอ้ มลู ผ่านอินเตอรเ์ นต็ ๒. หอ้ งเรียน ๓. หนงั สือสังคมศึกษา ศาสนา และ

วัฒนธรรม ม. ๒

การวัดผลประเมินผลการเรียนรู้

วธิ ีวดั เคร่อื งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ

K อธิบายความหมายของการเผยแผ่ ใบงานที่ ๑ รอ้ ยละ ๖๐ ข้นึ ไป ผา่ นเกณฑ์
พระพทุ ธศาสนาเขา้ สู่ประเทศไทย รอ้ ยละ ๖๐ ข้ึนไป ผา่ นเกณฑ์

P อภิปราย และนำเสนอข้อมูลเก่ยี วกับ แบบประเมนิ การนำเสนอ

การเผยแผ่ งานกล่มุ

A ตระหนกั และเหน็ ความสำคัญของ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกลุ่ม พฤตกิ รรมอยู่ในระดับปลานกลางข้ึนไป

พุทธศาสนาต่อสังคมไทย ผา่ นเกณฑ์

กิจกรรมเสนอแนะ/มอบหมาย

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๘๐

บนั ทึกหลังจากจัดกิจกรรมการเรยี นรู้

รหัสวชิ า………………………..รายวิชา……………………………………ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี……………
วนั ที่………………………………ใช้สอนหอ้ ง………เวลา…….-…….จำนวน……………..ช่ัวโมง
วนั ทใี่ ช้…………………………..ใช้สอนหอ้ ง………เวลา.......-……..จำนวน…………….ชวั่ โมง
๑. ผลการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
๒. ปัญหาอปุ สรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
๓. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงชอื่ …………………………………………ผู้สอน
(……………………………………………..)
……………./.……………../……………

ความคดิ เหน็ (รองผ้อู ำนวยการกลุม่ บริหารวชิ าการผู้บริหารผู้ไดร้ ับมอบหมาย)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ…………………………………….
(…………………………………………)

ตำแหน่ง…………………………………
วนั ที่………………………….

๘๑

ใบงานท่ี ๑

เรอื่ ง การเผยแผ่พระพุทธศาสนา

คำชีแ้ จง ให้นักเรยี นนำขอ้ มลู ความรู้เกย่ี วกับการเผยแผพ่ ระพุทธศาสนา มาวิเคราะห์และตอบคำถามตาม
หวั ขอ้ ที่กำหนด
๑. สายที่ ..... ผ้นู ำสาย .........................................................................................................................................

ลักษณะการเดนิ ทางเป็นอยา่ งไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

เหตุการณ์สำคัญทเ่ี กิดขึ้นระหว่างเผยแผ่
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

หากการเผยแผเ่ กิดขึน้ ในยคุ ปัจจุบนั นักเรียนคิดว่าเราควรเผยแผ่ในสายน้ียงั ไง
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

๒. สายท่ี ..... ผู้นำสาย .........................................................................................................................................
ลกั ษณะการเดนิ ทางเป็นอยา่ งไร

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

เหตกุ ารณ์สำคญั ทเี่ กิดขึ้นระหวา่ งเผยแผ่
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

หากการเผยแผ่เกดิ ข้นึ ในยุคปัจจุบัน นักเรียนคดิ ว่าเราควรเผยแผใ่ นสายนย้ี งั ไง
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

๓. สายที่ ..... ผู้นำสาย .........................................................................................................................................
ลักษณะการเดินทางเปน็ อยา่ งไร

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

๘๒

เหตกุ ารณ์สำคญั ที่เกิดขนึ้ ระหวา่ งเผยแผ่
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

หากการเผยแผ่เกิดขนึ้ ในยุคปัจจบุ ัน นักเรียนคิดว่าเราควรเผยแผ่ในสายน้ียงั ไง
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

สมาชิกกลุ่ม กลุ่มท่ี ..........
๑. ชื่อ…………………………………………………………………………………………… เลขท่ี ........
๒. ชื่อ…………………………………………………………………………………………… เลขที่ ........
๓. ชื่อ…………………………………………………………………………………………… เลขท่ี ........
๔. ชอ่ื …………………………………………………………………………………………… เลขท่ี ........
๕. ช่ือ....................................................................................................... เลขที่ ........

๘๓

แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ เรือ่ ง การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาเข้าสู่ประเทศไทย

สมาชิกกล่มุ …………………………………

๑. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….
๒. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….

๓. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….
๔. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….
๕. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….

รายการประเมนิ พฤติกรรมบ่งช้ี
๕๔๓๒๑
๑. มกี ารวางแผนการทำงาน
๒. มีความพรอ้ มในการนำเสนอ
๓. ความนา่ สนใจในการนำเสนอ
๔. มีความคิดสรา้ งสรรค์
๕. ประโยชน์-ความถกู ต้องของงาน
นำเสนอ

รวม
คะแนนรวมทั้งหมด

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน

ระดับคะแนนพฤติกรรม ๒๑ - ๒๕ = ดีมาก
= ดี
ระดบั คะแนนพฤติกรรม ๑๖ - ๒๐ = ปานกลาง
= พอใช้
ระดบั คะแนนพฤติกรรม ๑๑ - ๑๕ = ปรบั ปรงุ

ระดับคะแนนพฤตกิ รรม ๖ - ๑๐

ระดับคะแนนพฤติกรรม ๐-๕

ลงชอื่ …………….…………......ผู้ประเมนิ
(………………………………..)
ครูผสู้ อน

๘๔

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายกลุ่ม

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๑ เรื่อง การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาเข้าสปู่ ระเทศไทย

กล่มุ ท่ี ..............................................................
สมาชิกในกลมุ่

๑. ...................................................................................................................

๒. ...................................................................................................................
๓. ...................................................................................................................

๔. ...................................................................................................................
๕. ……………………………………………………………………………………………………..
คำชี้แจง ให้ทำเคร่ืองหมาย  ในชอ่ งท่ีตรงกบั ความเปน็ จรงิ

พฤติกรรมท่ีสังเกต คะแนน
๕๔ ๓ ๒ ๑
๑. การมสี ่วนรว่ มในการวางแผน
๒. การปฏบิ ัติงานตามบทบาทหนา้ ท่ี
๓. การใหค้ วามรว่ มมอื ในการทำงาน
๔. การแสดงความคิดเห็น
๕. การยอมรบั ความคิดเหน็

รวม
รวมคะแนนทงั้ หมด

เกณฑก์ ารให้คะแนน

ระดบั คะแนนพฤติกรรม ๒๑ - ๒๕ = ดีมาก
= ดี
ระดับคะแนนพฤติกรรม ๑๖ - ๒๐ = ปานกลาง

ระดับคะแนนพฤติกรรม ๑๑ - ๑๕ = พอใช้
= ปรบั ปรุง
ระดบั คะแนนพฤติกรรม ๖ - ๑๐

ระดบั คะแนนพฤตกิ รรม ๐-๕

ลงชือ่ …………….…………......ผู้ประเมิน
(………………………………..)
ครูผสู้ อน

๘๕

๘๖

คำแนะนำสำหรับครู
1. ครเู ตรยี มบทเรยี นสำเรจ็ รูปให้ครบตามจำนวนนักเรียน
2. ศึกษาบทเรียนสำเรจ็ รูปตงั้ แต่กรอบแรกจนถงึ กรอบสุดท้าย ทัง้ เนื้อหาและกจิ กรรมให้เข้าใจกอ่ น

ปฏบิ ัติกิจกรรมตอ่ ไป
3. ศกึ ษาวา่ กิจกรรมในกรอบใดท่ีครูต้องเป็นผู้ให้คำแนะนำช่วยเหลือหรอื ให้ คำปรึกษาบ้าง
4. ใชบ้ ทเรยี นสาํ เร็จรูปนี้เสริมนักเรยี นทีเ่ ก่งและช่วยเหลือนักเรยี นทเ่ี รยี นช้า
5. พยายามชี้แจงให้นักเรียนอา่ นคําแนะนาํ ในการใชบ้ ทเรียนสําเรจ็ รปู และปฏบิ ตั กิ ารทุกขัน้ ตอน ทุก

กรอบ ทงั้ เนือ้ หากจิ กรรม คาํ ถาม คําตอบ หรือแบบประเมนิ ผลก่อนเรียน –หลงั เรียน
6. ครชู แี้ จงนกั เรยี นว่าเม่ือทําแบบทดสอบก่อน – หลังเรยี น หรือตอบคําถาม ทุกกรอบนกั เรียนไมค่ วร

เปดิ ดูคําตอบกอ่ น นักเรยี นควรมีคุณธรรมประจาํ ตวั มีความซ่ือสัตย์ตอ่ ตนเอง

๘๗

คําแนะนําสาํ หรับนักเรียน
1. บทเรียนนไ้ี ม่ใช่ขอ้ สอบ นักเรียนพยายามทําไปเรอื่ ยๆ ทลี ะกรอบ นกั เรยี นจะไดร้ บั ความรไู้ ด้ทาํ

แบบทดสอบและกิจกรรมตา่ งๆ ดว้ ยตัวนักเรยี นเอง
2. ก่อนศกึ ษาเนือ้ หาในบทเรยี น ใหน้ ักเรียนทําแบบทดสอบก่อนเรยี นเสียกอ่ น
3. เรม่ิ ทาํ ต้งั แต่กรอบแรกเรียงลําดับ ห้ามข้ามกรอบโดยเดด็ ขาด
4. อา่ นคําอธิบาย คาํ ถามให้เข้าใจแลว้ จึงตอบคําถามลงในกระดาษเปล่าอย่าขีดเขียนขอ้ ความใดๆลง

ในบทเรียนสาํ เรจ็ รปู
5. เม่ือตอบคําถามเสรจ็ จงึ เปิดไปดูเฉลยในหน้าถดั ไป
6. เมอ่ื ศกึ ษาจบทกุ กรอบแล้วให้นกั เรยี นทําแบบทดสอบหลงั เรียน ตรวจคาํ ตอบ เปรียบเทยี บคะแนน

สอบกอ่ นเรียนและหลังเรียนเพอ่ื ประเมินความก้าวหนา้ ของตนเองถ้าไม่ผ่านเกณฑใ์ ห้นกั เรยี นเริ่มศึกษาใหม่
ตัง้ แตก่ รอบที่ 1 เปน็ ตน้ มา

7. นักเรียนไม่ควรเปิดดคู ําตอบก่อน ควรมีคุณธรรมประจาํ ตัว มคี วามซอ่ื สัตย์ต่อตนเอง

๘๘

บทเรยี นสำเรจ็ รูป
ชุดที่ 1 เรอ่ื ง ประวตั แิ ละความสำคญั ทางพระพุทธศาสนา
สาระสำคญั
พระพุทธศาสนาได้เผยแผ่เขา้ สู่ประเทศเพ่อื นบ้าน ส่งผลต่อการเสริมสรา้ งความเข้าใจอนั ดี รู ะหวา่ ง
ประเทศเพอ่ื นบ้าน และยังเป็นรากฐานของวฒั นธรรม เอกลักษณ์ของชาติ และมรดกของชาตไิ ทยมีสว่ นในการ
พฒั นาชุมชนและการจัดระเบยี บสงั คม
มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐานการเรยี นรู้ ส 1.1
รู้และเขา้ ใจประวตั ิ ความสำคญั ศาสดา หลกั ธรรมของพระพุทธศาสนาหรือ ศาสนาที่ตนเองนับถอื
และศาสนาอนื่ มีศรัทธาทีถ่ ูกต้อง ยึดมน่ั และปฏิบัติตาม หลกั ธรรมเพอื่ อย่รู ว่ มกันอยา่ งสันตสิ ุข
ตวั ช้ีวัด
มฐ. ส 1.1 ม.2/1 อธบิ ายการเผยแพรพ่ ระพทุ ธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนบั ถอื สู่ประเทศเพื่อนบา้ น
มฐ. ส 1.1 ม.2/2 วเิ คราะห์ความสำคญั ของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถอื ทชี่ ่วยเสริมสร้างความ
เข้าใจอันดกี บั ประเทศเพ่ือนบา้ น
มฐ. ส 1.1 ม.2/3 วเิ คราะหค์ วามสำคญั ของพระพุทธศาสนาหรอื ศาสนาที่ตนนับถอื ในฐานะท่ีเปน็ รากฐาน
ของวฒั นธรรม เอกลกั ษณ์ของชาติและมรดกของชาติ
จุดประสงค์การเรยี นรู้
1) อธบิ ายการเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาเขา้ สู่ประเทศพมา่ อินโดนีเซีย มาเลเซยี สิงคโปร์ ลาว กัมพชู า
เวียดนามได้
2) อธบิ ายสภาพการนับถือพระพุทธศาสนาของประเทศเพอ่ื นบา้ นในปัจจุบนั ได้
3) วเิ คราะห์ความสำคญั ของพระพุทธศาสนา ท่ีช่วยเสริมสร้างความเข้าใจอนั ดกี บั ประเทศเพอื่ นบ้าน
4) วิเคราะห์ความสำคัญของพระพทุ ธศาสนาในฐานะทเี่ ป็นรากฐานของวัฒนธรรมได้
5) วิเคราะห์ความสำคัญของพระพุทธศาสนาในฐานะทเ่ี ปน็ เอกลักษณ์และมรดกของชาติ
6) วิเคราะห์ความสำคัญของพระพุทธศาสนากบั การพฒั นาชุนชน และการจัดระเบียบสังคม

๘๙

แบบทดสอบก่อนเรียน

เร่ือง ความสำคญั ของพระพทธศาสนา และพุทธประวตั ิ

คําช้ีแจง ใหน้ กั เรยี นทําเครือ่ งหมาย x ทับอกั ษรหนา้ ขอ้ ทีถ่ กู ตอ้ ง

1. พระพทุ ธศาสนาเผยแผ่เข้าสู่ดนิ แดนภูมิภาคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ หรอื ดินแดนสุวรรณภมู ิ ในช่วง
เหตุการณใ์ ด

ก. หลงั จากการตรสั รู้ของพระพุทธเจา้
ข. หลงั การแสดงโอวาทปาตโิ มกข์ของพระพทุ ธเจา้
ค. หลงั เสร็จส้ินการทำสังคายนาพระธรรมวนิ ยั ครงั้ ท่ี 3
ง. ก่อนจะมกี ารทำการสงั คายนาพระธรรมวนิ ยั ครง้ั ที่ 3
2. ข้อใดไมใ่ ช่ความหมายของหลกั ธรรม สาราณยี ธรรม
ก. ธรรมเปน็ ท่ตี ั้งแห่งความปรารถนาดตี อ่ กัน
ข. ธรรมเป็นทต่ี ั้งแหง่ ความสามัคคี
ค. ธรรมเป็นท่ตี งั้ หลักการอยู่ร่วมกนั
ง. ธรรมเปน็ ที่ต้ังแหง่ การประกอบความเพียร
3. ขอ้ ใดกล่าวถงึ สถานการณก์ ารนับถือพระพทุ ธศาสนาในประเทศเวียดนามได้ถกู ต้อง
ก. ประชากรร้อยละ 80 นับถอื พระพุทธศาสนา
ข. ชาวเวียดนามนบั ถือพระพทุ ธศาสนาแบบนกิ ายมหายาน
ค. พระพทุ ธศาสนานกิ ายมหายานได้รับอทิ ธิพลจากทิเบต
ง. ปจั จุบนั พระพทุ ธศาสนาในเวยี ดนามได้ลม่ สลายลงหลงั จากเวียดนามปกครองประเทศแบบ
คอมมวิ นสิ ต์
4. ชาวสงิ คโปร์ส่วนใหญ่นับถือพระพุทธศาสนาแบบนิกายใด
ก. ขงจ๊ือ
ข. เตา๋
ค. เถรวาท
ง. มหายาน
5. ประเทศใดเม่อื เทียบกบั จำนวนประชากรแลว้ มีผู้นับถอื พระ พุทธศาสนานอ้ ยท่สี ุด
ก. ไทย
ข. เมยี นมาร์
ค. สงิ คโปร์
ง. ลาว
6. การเคารพกฎหมาย กฎระเบยี บระหว่างประเทศ มคี วามเห็นไปในทศิ ทางเดียวกัน เปน็ ความหมาย ของสา
ราณียธรรม 6 ในขอ้ ใด
ก. เมตตามโนกรรม
ข. สาธารณโภคติ า
ค. ทิฏฐิสามญั ญตา
ง. สีลสามัญญตา

๙๐

7. ข้อใดกล่าวไมถ่ กู ตอ้ งเกยี่ วกบั วัฒนธรรมไทย
ก. วัฒนธรรมไทยสว่ นใหญ่สืบทอดมาจากศาสนาพราหมณ์

ข. วัฒนธรรมไทยมรี ากฐานมาจากพระพุทธศาสนา
ค. วฒั นธรรมไทยเป็นเอกลักษณ์เฉพาะสังคมไทย

ง. วฒั นธรรมไทยเป็นมรดกของชาติไทย
8. ประเพณีในขอ้ ใดทไี่ มไ่ ดส้ บื เนอื่ งมาจากพระพทุ ธศาสนา

ก. การทำบุญวันสำคญั ทางพระพทุ ธศาสนา

ข. ประเพณีแข่งเรอื ประจำปีของจงั หวัด
ค. ประเพณีทำบุญขึน้ บา้ นใหม่

ง. ประเพณสี งกรานต์
9. ศลิ ปสถาปัตยกรรมในขอ้ ใดท่ีสืบทอดมาจากพระพุทธศาสนา

ก. พระท่ีนง่ั อนันตสมาคม

ข. อาคารรัฐสภา
ค. ทำเนียบรัฐบาล

ง. พระบรมมหาราชวงั
10. ทำอย่างไรวัฒนธรรมทเ่ี ปน็ มรดกเอกลักษณข์ องชาติไทยจงึ จะดำรงอยู่ค่กู บั ชาตไิ ทยตลอดไป

ก. นำวัฒนธรรมไทยมาประยกุ ต์ให้ทันสมยั ขนึ้

ข. นำวัฒนธรรมไทยไปปฏิบตั ิรว่ มกับวฒั นธรรมอน่ื
ค. ไมต่ ้องทำอะไรท้ังสิน้ เพราะวฒั นธรรมไทยดอี ยแู่ ล้ว

ง. ศกึ ษาให้ร้เู ห็นคุณค่าแล้วร่วมกันอนุรกั ษ์และสบื สานต่อไป


Click to View FlipBook Version