๔๑ กว่างานให้ความก้าวหน้า ความท้าท้าย ความรับผิดชอบ ความสำเร็จ และการยกย่องแก่ผู้ปฏิบัติงาน แล้ว พวกเขาจะพอใจและมีแรงจูงใจในการทำงานเป็นอย่างมาก๓๓ ชนิตรา ศรลัมพ์ กล่าวว่า ความพึงพอใจ หมายถึง ความรู้สึกของบุคคลที่ได้รับการตอบสนอง ตรงความต้องการของตนจึงทำให้เกิดความรู้สึกที่ดีทำให้ปฏิบัติงานหรือกระทำสิ่งต่าง ๆได้บรรลุผล สำเร็จ Philip Kotler ได้ให้ความหมายว่า ความพึงพอใจ คือ ระดับความรู้สึกของ บุคคลที่รู้สึกพอใจ ถูกใจ หรือผิดหวัง อันเป็นผลมาจากการเปรียบเทียบ ระหว่างผลงานที่ได้รับรู้จากสินค้า หรือ บริการ กับความคาดหวังของบุคคลนั้น ดังนั้นระดับความพึงพอใจ จะสัมพันธ์ กับ ความแตกต่างระหว่าง ผลงานที่ได้รับรู้ จากการศึกษาความหมายของความพึงพอใจ สรุปได้ว่า ความพึงพอใจ หมายถึง ความรู้สึก ชอบ พอใจของบุคคล ที่มีต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ที่ตอบสนองของบุคคลนั้นได้ดีและเกิดความ พึงพอใจในสิ่ง นั้นมาก ๆ ๒.๖.๒ แนวคิดทฤษฎีที่เกี่ยวกับความพึงพอใจ ประสาท อิศรปรีดา กล่าวถึง ทฤษฎีความต้องการของมาสโลว์ (Maslow’s The Human Needs Theory) ไว้ว่า ทุกคนมีความต้องการอยู่เสมอและไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อได้รับ ความต้องการอย่าง หนึ่งจะต้องการอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะความต้องการ ๕ ระดับ ได้แก่๓๔ ๑. ความต้องการทางสรีระ (Basic Physiological Needs) เป็นความต้องการ พื้นฐาน ของมนุษย์ ได้แก่ ความต้องการอาหาร อากาศ น้ำ อุณหภูมิ การหลับนอน การขับถ่ายที่อยู่ อาศัย เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค การพักผ่อน ความต้องการทางเพศ เป็นต้น ๒. ความต้องการความปลอดภัยและมั่นคง (Safety and Security Needs) เป็น ความต้องการให้ตนเองปลอดภัยจากอันตรายทุกด้าน ความต้องการความมั่นคงในการทำงาน ตลอดจน ความมั่นคงทางฐานะเศรษฐกิจ ๓. ความต้องการความรักและเป็นเจ้าของ (Love and Belonging Needs) เป็น ความต้องการความรักอยากให้ตนเป็นที่รัก เป็นที่ยอมรับจากกลุ่มต้องการความรักและต้องการมีส่วน ร่วม ในกลุ่ม ให้กลุ่มยอมรับตน เช่น กลุ่มครอบครัว กลุ่มสังคม ๔. ความต้องการที่จะได้รับการยกย่องจากผู้อื่น (Self Esteem Needs) เป็น ความ ต้องการที่จะให้ผู้อื่นยกย่องตน เป็นความปรารถนาของบุคคลที่ทำให้เกิดพฤติกรรมต่าง ๆ ๕. ความต้องการบรรลุถึงความต้องการของตนเองอย่างแท้จริง(Self Actualzation) ๓๓ ธนียา ปัญญาแก้ว, ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความพึงพอใจในงานของข้าราชการครูในจังหวัดเชียงใหม่, วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, ( เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, ๒๕๔๑), หน้า ๔๓. ๓๔ ประสาท อิศรปรีดา, สารัตถะจิตวิทยาการศึกษา, (กรุงเทพฯ: นำอักษรการพิมพ์,๒๕๔๗), หน้า ๖๐.
๔๒ เป็นความต้องการขั้นสูงสุดของมนุษย์ เช่น ความต้องการอยากเป็นหัวหน้าสูงสุดของหน่วยงาน ความ ต้องการอยากเด่นอยากดังในทางหนึ่ง พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน (๒๕๔๖) ได้ให้ความหมาย ของความพึงพอใจ หมายถึง พอใจ ชอบใจ ความพึงพอใจ (Satisfaction) เป็นทัศนคติที่เป็นนามธรรม ไม่สามารถมองเห็นเป็น รูปร่างได้ การที่เราจะทราบว่าบุคคลมีความพึงพอใจหรือไม่ สามารถสังเกต โดยการแสดงออกที่ค่อนข้าง สลับซับซ้อน จึงเป็นการยากที่จะวัดความพึงพอใจโดยตรงแต่สามารถวัด ได้ทางอ้อม โดยการวัด ความคิดเห็น ของบุคคลเหล่านั้น และการแสดงความคิดเห็นนั้นจะต้องตรงกับ ความรู้สึกที่แท้จริงจึง สามารถวัดความพึงพอใจนั้นได้ ทิศนา แขมมณี (๒๕๕๙, น.๖๙) ได้กล่าวว่า๓๕ ความพึงพอใจของมนุษย์มีความต้อง การเป็นธรรมชาติ มีการรู้จักตนเอง มีการพัฒนาตนเองเป็นประสบการณ์ต่างๆ ที่เรียกว่า Peak Experience เป็นประสบการณ์จากการรู้จักตนเอง ตามสภาพความเป็นจริงของบุคคลนั้น ๆ มนุษย์มี ความต้องการ เสมอ เมื่อเกิดความต้องการตามคาดแล้ว ความต้องการด้านอื่น ๆ ก็จะเกิดขึ้น ตามลำดับ ซึ่งความ ต้องการนั้นอาจมีความซ้ำซ้อน อาจกล่าวว่าความต้องการหนึ่งจะเกิดขึ้นมา แต่ ความต้องการเดิมอาจ ยังไม่เกิด เมื่อความต้องการพื้นฐานของมนุษย์นั้น มีการตอบสนองเพียงพอ จะ ทำให้เกิดแรงจูงใจ ที่ต้องการให้สังคมยอมรับ และพัฒนาสูงขึ้น และนำแนวคิดมาจัดการเรียนการ สอนได้ดังนี้ ๑. การเข้าใจความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ ช่วยให้เข้าใจในพฤติกรรมของบุคคล ได้เนื่องจากพฤติกรรมเป็นการแสดงออกจากความต้องการของบุคคล ๒. การจะช่วยผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดี ซึ่งจำเป็นกับการตอบสนองความต้องการ พื้นฐานที่ต้องการเสียก่อน ๓. ในกระบวนการเรียนการสอน หากผู้สอนสามารถหาได้ว่าผู้เรียนแต่ละบุคคลนั้นมี ความต้องการอยู่ระดับใดขั้นใด ผู้สอนสามารถนำความต้องการของผู้เรียนมาเป็นแรงจูงใจ จะช่วยให้ ผู้เรียนเรียนรู้สิ่งนั้นได้ดี ๓. ช่วยให้ผู้เรียนได้รับการตอบสนองตามความต้องการพื้นฐานของตนเองเพียงพอ ให้อิสรภาพและเสรีภาพกับผู้เรียนในการเรียนรู้ การมีบรรยากาศเอื้อต่อการเรียนรู้จะสามารถช่วย เสริม ให้ผู้เรียนเกิดประสบการณ์จากการรู้จักตนเองตามสภาพความเป็นจริง จากแนวการศึกษาแนวคิดและทฤษฎีที่เกี่ยวกับความพึงพอใจข้างต้น สรุปได้ว่า ความพึงพอใจ คือ การอธิบายถึงความรู้สึกของบุคคลที่ชื่นชอบ ชื่นชม ยินดี กับสิ่งต่าง ๆรอบตัวไม่ว่า จะเป็นงาน หรือสภาพแวะล้อมต่าง ๆ การสังเกตโดยตรงอาจจะเห็นได้ยากต้องอาศัยการวัดทางอ้อม เช่น การให้แสดงความคิดเห็น ๓๕ ทิศนา แขมมณี, ศาสตร์การสอน : องค์ความรู้เพื่อจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ, (กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,๒๕๕๙), หน้า ๖๙.
๔๓ ๒.๖.๓ การวัดความพึงพอใจ ภณิดา ชัยปัญญา๓๖ ได้กล่าวไว้ว่า การวัดความพึงพอใจนั้นสามารถทำได้หลายวิธี ดังต่อไปนี้ ๑. การใช้แบบสอบถาม โดยผู้ออกแบบสอบถาม ต้องการทราบความคิดเห็น ซึ่ง สามารถกระทำได้ในลักษณะกำหนดคำตอบให้เลือก หรือตอบคำถามอิสระ คำถามดังกล่าว อาจถาม ความพอใจในด้านต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ตอบทุกคนมาเป็นแบบแผนเดียวกัน มักใช้ในกรณีที่ต้องการข้อมูล กลุ่มตัวอย่างมาก ๆ วิธีนี้นับเป็นวิธีที่นิยมใช้กันมากที่สุดในการวัดทัศนคติ รูปแบบของแบบสอบถาม จะใช้มาตรวัดทัศนคติ ซึ่งที่นิยมใช้ในปัจจุบันวิธีหนึ่ง คือ มาตราส่วนแบบลิเคิร์ทประกอบด้วยข้อความ ที่แสดงถึงทัศนคติของบุคคลที่มีต่อสิ่งเร้าอย่างใดอย่างหนึ่งที่มีคำตอบที่แสดงถึงระดับความรู้สึก ๕ คำตอบ เช่น มากที่สุด มาก ปานกลาง น้อย น้อยที่สุด ๒. การสัมภาษณ์ เป็นวิธีการที่ผู้วิจัยจะต้องออกไปสอบถามโดยการพูด โดยมีการ เตรียมแผนงานล่วงหน้า เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นจริงให้มากที่สุด ๓. การสังเกต เป็นวิธีการวัดความพึงพอใจ โดยการสังเกตพฤติกรรมของบุคคล เป้าหมายไม่ว่าจะแสงดออกจากการพูดจา กริยา ท่าทาง วิธีนี้ต้องอาศัยการกระทำอย่างจริงจัง และ สังเกตอย่างมีระเบียบแบบแผน วิธีนี้เป็นวิธีการศึกษาที่เก่าแก่ และยังเป็นที่นิยมใช้อย่างแพร่หลาย จนถึงปัจจุบัน โยธิน แสวงดี๓๗ กล่าวว่า มาตรวัดความพึงพอใจสามารถทำได้หลายวิธีได้แก่ ๑. การใช้แบบสอบถามโดยผู้ตอบแบบสอบถามจะออกแบบสอบถาม เพื่อต้องการ ทราบความคิดเห็น ซึ่งสามารถทำได้ ในลักษณะที่กำหนดคำตอบให้เลือก หรือตอบคำถามอิสระ คำถามดังกล่าวอาจถามความพึงพอใจในด้านต่าง ๆ เช่น การบริหาร และการควบคุมงาน และเงื่อนไข ต่าง ๆ เป็นต้น ๒. การสัมภาษณ์เป็นวิธีวัดความพึงพอใจทางตรงทางหนึ่งซึ่งต้องอาศัยเทคนิค และ วิธีการที่ดี จึงจะทำให้ข้อมูลเป็นจริงได้ ๓. การสังเกต เป็นวิธีการวัดความพึงพอใจ โดยการสังเกตพฤติกรรมของบุคคล เป้าหมายไม่ว่าจะแสดงออกจากการพูด กิริยา ท่าทาง วิธีนี้จะต้องอาศัย การกระทำอย่างจริงจัง และ การสังเกตอย่างมีระเบียบแบบแผน จากการศึกษาการวัดความพึงพอใจ สรุปได้ว่าการวัดความพึงพอใจเป็นการบอกถึง ๓๖ ภนิดา ชัยปัญญา, การวัดความพึงพอใจ, (กรุงเทพฯ: แสงอักษร,๒๕๔๑), หน้า ๑๑. ๓๗ โยธิน แสวงดี, การวิจัยเชิงคุณภาพ, (กรุงเทพฯ: ศูนย์ศึกษาและฝึกอบรมการวิจัย,๒๕๕๑), หน้า ๒๘.
๔๔ ความชอบของบุคคลที่มีต่อสิ่งหนึ่งสิ่งใด ซึ่งสามารถวัดได้หลายวิธี การสัมภาษณ์การใช้แบบสอบถาม ความคิดเห็น การใช้แบบสำรวจความรู้สึก โดยในการวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยได้วัดความพึงพอใจของผู้เรียน ด้วยวิธีการใช้แบบสอบถาม โดยมีเกณฑ์การประเมิน มาใช้พิจารณาแปลผลความพึงพอใจดังนี้ ๔.๕๑-๕.๐๐ หมายความว่า มีระดับความเหมาะสมมากที่สุด ๓.๑๕-๔.๕๐ หมายความว่า มีระดับความเหมาะสมมาก ๒.๕๑-๓.๕๐ หมายความว่า มีระดับความเหมาะสมปานกลาง ๑.๕๑-๒.๕๐ หมายความว่า มีระดับความเหมาะสมน้อย ๑.๐๐-๑.๕๐ หมายความว่า มีระดับความเหมาะสมน้อยที่สุด ๒.๗ งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง พยูรณี ตันมิ่ง (๒๕๖๐) ได้พัฒนาสื่อประสมประกอบการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา เรื่อง กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ ผลการวิจัยพบว่า ๑) สื่อประสมประกอบการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม วิชาสังคมศึกษา เรื่อง กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน มีประสิทธิภาพเท่ากับ ๘๘.๖๓/๘๓.๕๗ ๒) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้สื่อประสมประกอบการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม วิชา สังคมศึกษา เรื่อง กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน และมีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๑ ๓) ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ โดยใช้สื่อ ประสมประกอบการเรียนวิชาสังคมศึกษา เรื่อง กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันในระดับมากขึ้น ไป๓๘ สุพัตรา เกษมเรืองวิชชญ์ (๒๕๖๐) ได้พัฒนาชุดสื่อประสม หลักธรรมนำชีวิต เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสาระศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ผลการวิจัยพบว่า ๑) ชุดสื่อประสมหลักธรรมนำชีวิต ที่พัฒนามีประสิทธิภาพ เท่ากับ ๘๕.๔๒/๘๙.๐๔ ๒) ดัชนีประสิทธิผลของชุดสื่อประสมหลักธรรมนำชีวิต มีค่าเท่ากับ ๐.๖๘๔ แสดงว่า นักเรียนมี ความก้าวหน้าจากการเรียนเพิ่มขึ้น ร้อยละ ๖๘.๔๐ ๓) นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยชุด สื่อประสมหลักธรรมนำชีวิต ภาพรวมอยู่ ในระดับมากที่สุด๓๙ ๓๘ พยูรณี ตันมิ่ง, การพัฒนาสื่อประสม ประกอบการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา เรื่อง กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔, (เลย : โรงเรียนเชียงคาน, ๒๕๕๑), บทคัดย่อ. ๓๙ สุพัตรา เกษมเรืองวิชชญ์,การพัฒนาชุดสื่อประสม หลักธรรมนำชีวิต เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน สาระศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓, (เชียงใหม่ : โรงเรียนเทศบาลวัดศรีปิงเมือง, ๒๕๕๔), บทคัดย่อ.
๔๕ เสริมศักดิ์ คงสมบัติ (๒๕๖๐) การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสังคมศึกษา เรื่อง แผนที่โดยใช้บทเรียนชุดสื่อประสม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ ผลการวิจัยพบว่า ๑) การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้บทเรียนชุดสื่อประสม เรื่อง แผนที่เป็นสื่อที่ช่วยสร้างความ สนใจความ กระตือรือร้นในการร่วมกิจกรรมซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน ทำให้ผู้เรียน มีความสนใจ และได้ลงมือปฏิบัติจริง ทำให้เกิดการสร้างองค์ความรู้ แก้ปัญหาโดยใช้กระบวนการกลุ่ม เป็นเครื่องมือ ๒) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องแผนที่ หลังการเรียนด้วยบทเรียนชุดสื่อประสม สูงกว่าก่อนเรียน คิดเป็นร้อยละ ๙๑.๑๙ ๓) ผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อ บทเรียนสื่อประสม เรื่อง แผนที่ พบว่า นักเรียนพึงพอใจต่อชุดสื่อประสมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยมี พิสัย ๔.๕๐ – ๕.๐๐๔๐ อิ่มทอง ปัญญา (๒๕๖๐) ได้พัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้สิ่งแวดล้อม เรื่อง ชุมชน ของเรา ของนักเรียนช่วงชั้นที่ ๓ โรงเรียนจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย ปทุมธานี ผลการวิจัยพบว่า แผนการ จัดการเรียนรู้สิ่งแวดล้อม เรื่อง ชุมชนของเรา มีประสิทธิภาพ ๘๖.๓๓/๘๔.๘๓ นักเรียนมีผลการ เรียนรู้หลังเรียน สูงกว่าก่อนเรียน ทักษะการเรียนรู้อยู่ในระดับดีและมีเจตคติต่อสิ่งแวดล้อมหลังเรียน สูงกว่าก่อนเรียน ประภากร ไชยเสนา (๒๕๖๑) ได้พัฒนาชุดการเรียนแบบสื่อประสม เรื่อง ชีวิตกับ สิ่งแวดล้อมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ผลการวิจัยพบว่า ๑) ชุดการเรียนแบบสื่อประสม เรื่อง ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ มีประสิทธิภาพเท่ากับ ๘๐.๘๑/๘๕.๖๔ ๒) ดัชนีประสิทธิผล ของการเรียนด้วยชุดการเรียนแบบสื่อประสม เรื่อง ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ เท่ากับ ๐.๓๔ ๓) นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม ร้อยละ ๗๐ ของคะแนนเต็ม ขึ้นไป ๔) นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนโดยใช้ชุดการเรียนแบบสื่อประสม สูงกว่าก่อน เรียนอย่าง มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕ ๕) นักเรียนมีจิตวิทยาศาสตร์หลังเรียนโดยใช้ชุดการเรียน แบบสื่อประสม สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕๔๑ วิลาวัณย์ พินสุวรรณและคณะ (๒๕๖๑) ได้พัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์แบบสื่อประสม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา มัธยมศึกษาปีที่ ๒ ผลการวิจัยพบว่า ๑) หนังสืออิเล็กทรอนิกส์แบบสื่อประสมมีประสิทธิภาพเท่ากับ ๘๖.๘๓/๘๑.๒๒ สูงกว่าเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ๒) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนของนักเรียนกลุ่มที่เรียน ด้วยหนังสืออิเล็กทรอนิกส์แบบสื่อประสมสูงกว่านักเรียนกลุ่มที่เรียนด้วยวิธีเรียนแบบปกติ อย่างมี ๔๐ เสริมศักดิ์ คงสมบัติ, การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสังคมศึกษา เรื่อง แผนที่ โดยใช้ บทเรียนชุดสื่อประสมสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔, (ชุมพร : โรงเรียนทุ่งตะโกวิทยา, ๒๕๕๔), บทคัดย่อ. ๔๑ ประภากร ไชยเสนา, การพัฒนาชุดการเรียนแบบสื่อประสม เรื่อง ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ ๓, (ขอนแก่น : โรงเรียนโนนศิลาวิทยาคม, ๒๕๕๕), บทคัดย่อ.
๔๖ นัยสำคัญที่ระดับ .๐๕ ๓) ความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อหนังสืออิเล็กทรอนิกส์แบบสื่อประสม อยู่ใน ระดับมากที่สุด (๔.๕๕) ๔๒ สุรินทร์ โสฬส (๒๕๖๓) ได้พัฒนาสื่อประสม สาระเศรษฐศาสตร์ วิชาสังคมศึกษา ส๒๑๑๐๑ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ผลการวิจัยพบว่า ๑) สื่อประสมสาระเศรษฐศาสตร์ วิชาสังคมศึกษา ส๒๑๑๐๑ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพ ๙๐.๐๗/๘๔.๒๗ สูงกว่าเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ๒) ดัชนีประสิทธิผลของสื่อประสม สาระเศรษฐศาสตร์ วิชาสังคมศึกษา ส๒๑๑๐๑ ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ ๑ ที่พัฒนาขึ้น มีค่าเท่ากับ ๐.๗๔๔๒ แสดงว่า นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นจากก่อนเรียนด้วย สื่อประสม สาระเศรษฐศาสตร์วิชาสังคมศึกษา ส๒๑๑๐๑ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ร้อยละ ๗๔.๔๒ ๓) นักเรียนมีความพึงพอใจต่อสื่อประสม สาระเศรษฐศาสตร์ วิชาสังคมศึกษา ส๒๑๑๐๑ ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ ๑ โดยรวมอยู่ในระดับพอใจมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย เท่ากับ ๔.๘๓) พีรวัฒน์ แสงเขียวและคณะ (๒๕๖๔) การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องเหตุการณ์ สำคัญทางประวัติศาสตร์สากลที่มีผลต่อโลกปัจจุบัน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ โดยใช้ชุดการเรียน ประกอบกับสื่อประสมและเทคนิคจิ๊กซอว์ผลการวิจัยพบว่า ๑) ชุดการเรียนประกอบกับสื่อประสม และเทคนิคจิ๊กซอว์เรื่อง เหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์สากลที่มีผลต่อโลกปัจจุบัน ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ ๕ มีประสิทธิภาพ ๘๔.๖๐/๘๒.๒๒ สูงกว่าเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ๒) นักเรียนที่เรียนด้วยชุด การเรียนประกอบกับสื่อประสม และเทคนิคจิ๊กซอว์เรื่อง เหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์สากลที่มี ผลต่อโลกปัจจุบัน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนการเรียนอย่าง มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕ ๓) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ มีความพึงพอใจต่อการใช้ชุดการ เรียน ประกอบกับสื่อประสมและเทคนิคจิ๊กซอว์ เรื่อง เหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์สากลที่มีผล ต่อโลกปัจจุบัน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ อยู่ในระดับมากที่สุด๔๓ ๔๒ วิลาวัณย์ พินสุวรรณ และคณะ, การพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์แบบสื่อประสม กลุ่มสาระการ เรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒, (สงขลา : คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ, ๒๕๕๕), บทคัดย่อ. ๔๓ พีรวัฒน์ แสงเขียว และคณะ, การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง เหตุการณ์สำคัญทาง ประวัติศาสตร์สากลที่มีผลต่อโลกปัจจุบันชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ โดยใช้ชุดการเรียนประกอบกับสื่อประสมและ เทคนิคจิ๊กซอว์, (มหาสารคาม : มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม, ๒๕๕๘), บทคัดย่อ.
๔๗ ๒.๘ กรอบแนวคิดในการทำวิจัย การศึกษาวิจัย เรื่อง การพัฒนาสื่อการสอนวิชาพระพุทธศาสนา ด้วยโปรแกรม Canva เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนโคกสีพิทยาสรรพ์ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (๕E) โดยผู้วิจัยได้ศึกษาแนวคิดและทฤษฎี ซึ่งมีตัว แปรต้นและตัวแปรตาม สามารถนำมาเขียนเป็นกรอบแนวคิดในการทำวิจัย ได้ดังนี้ ตัวแปรต้น ตัวแปรตาม ภาพที่ ๒.๑ กรอบแนวคิดในการทำวิจัย สื่อการสอนวิชาพระพุทธศาสนา โปรแกรม Canva เรื่อง วันสำคัญทาง พระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนโคกสีพิทยา สรรพ์โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบ สืบเสาะหาความรู้ (๕E) ทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ คือ ๑. การสร้างความสนใจ ๒. การสํารวจและค้นหา ๓. การอธิบาย ๔. การขยายความรู้ ๕. การประเมินผล ๑. ประสิทธิภาพของสื่อการสอน รายวิชาพระพุทธศาสนา ด้วยโปรแกรม Canva เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ๒. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชา พระพุทธศาสนา ด้วยโปรแกรม Canva เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ๓. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ ๔ รายวิชาพระพุทธศาสนา เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
๔๙ บทที่ ๓ ระเบียบวิธีวิจัย การวิจัย เรื่อง การพัฒนาสื่อการสอนวิชาพระพุทธศาสนา ด้วยโปรแกรม Canva เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนโคกสีพิทยาสรรพ์โดยใช้ กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (๕E) ได้กำหนดวิธีการ กิจกรรมต่างๆ และรายละเอียดการ วิจัย เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูล นับตั้งแต่ประชากรและกลุ่มเป้าหมาย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยไปจนถึง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล โดยมีรายละเอียด ดังนี้ ๓.๑ รูปแบบการวิจัย ๓.๒ กลุ่มเป้าหมาย ๓.๓ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ๓.๔ การสร้างเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ๓.๕ วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล ๓.๖ การวิเคราะห์ข้อมูล ๓.๗ สถิติที่ใช้ในการวิจัย ๓.๑ รูปแบบการวิจัย การศึกษาวิจัย เรื่อง การพัฒนาสื่อการสอนวิชาพระพุทธศาสนา ด้วยโปรแกรม Canva เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนโคกสีพิทยาสรรพ์เป็น การวิจัยเชิงทดลอง (Experimental Research) ๓.๒ กลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔/๑ ที่กำลังศึกษาในภาคเรียน ที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ โรงเรียนโคกสีพิทยาสรรพ์ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น สำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษามัธยมศึกษาเขต ๒๕ จำนวน ๒๓ คน โดยการกำหนดแบบเจาะจง
๔๙ ๓.๓ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ๓.๓.๑ สื่อการสอนวิชาพระพุทธศาสนา สื่อการสอนวิชาพระพุทธศาสนา โปรแกรม Canva เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนโคกสีพิทยาสรรพ์ ๓.๓.๒ แผนการจัดการเรียนรู้จำนวน ๓ แผน ๑) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๖ เรื่อง พระพุทธศาสนา จำนวน ๑ ชั่วโมง ๒) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๗ เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา จำนวน ๒ ชั่วโมง ๓) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๘ เรื่อง ศาสนพิธี จำนวน ๒ ชั่วโมง ๓.๓.๓ แบบทดสอบระหว่างเรียน วิชาพระพุทธศาสนา แบบทดสอบระหว่างเรียน วิชาพระพุทธศาสนาเรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา โดย จำแนกเนื้อหาการเรียนออกเป็น ๕ เรื่อง คือ ๑) วันมาฆบูชา ๒) วันวิสาขบูชา ๓) วันอัฏฐมีบูชา ๔) วันอาสาฬหบูชา และ ๕) วันธรรมสวนะ (วันพระ) เรื่องละ ๑๐ ข้อ ๓.๓.๔ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ วิชาพระพุทธศาสนา แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ วิชาพระพุทธศาสนา เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนาเป็น แบบทดสอบปรนัย ๔ ตัวเลือก จำนวน ๓๐ ข้อ ๓.๓.๕ แบบสอบถามเกี่ยวกับความพึงพอใจ แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ รายวิชาพระพุทธศาสนา เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา จำนวน ๑๐ ข้อ ๓.๔ การสร้างเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ในการพัฒนาสื่อการสอนวิชาพระพุทธศาสนา โปรแกรม Canva เรื่อง วันสำคัญทาง พระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนโคกสีพิทยาสรรพ์ ผู้วิจัยมีขั้นตอนการ สร้างเครื่องมือ ดังนี้ การจัดทำสื่อการสอนวิชาพระพุทธศาสนา โปรแกรม Canva เรื่อง วันสำคัญทาง พระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนโคกสีพิทยาสรรพ์ ๓.๔.๑ การสร้างสื่อการสอนวิชาพระพุทธศาสนา โปรแกรม Canva เรื่อง วันสำคัญทาง พระพุทธศาสนา ผู้วิจัยมีขั้นตอน ดังนี้ ๑) ศึกษาขอบข่ายเนื้อหาวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา วิชาพระพุทธศาสนา ในสาระที่ ๑ ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ตามหลักสูตร การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
๕๐ ๒) ศึกษาเทคนิคการสร้างสื่อการสอน ด้วยโปรแกรม Canva ๓) กำหนดขอบข่ายเนื้อหาวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ในรายวิชาพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนโคกสีพิทยาสรรพ์ จำนวน ๕ วัน ได้แก่ ๑) วันมาฆบูชา ๒) วันวิสาขบูชา ๓) วันอัฏฐมีบูชา ๔) วันอาสาฬหบูชา และ ๕) วันธรรมสวนะ (วันพระ) ๔) ดำเนินการสร้างสื่อการสอนวิชาพระพุทธศาสนา โปรแกรม Canva เรื่อง วันสำคัญทาง พระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนโคกสีพิทยาสรรพ์ ๕) นำสื่อการสอนวิชาพระพุทธศาสนา โปรแกรม Canva เรื่อง วันสำคัญทาง พระพุทธศาสนา ที่สร้างขึ้นไปให้ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน ๕ ท่าน ตรวจสอบและประเมินคุณภาพของสื่อ การสอนในด้านเนื้อหาและการนำเสนอ ด้านภาพ การใช้ภาษา และเสียงประกอบ ด้านการออกแบบ ภาพในสื่อการสอน และด้านการเรียนรู้ในสื่อการสอน พบว่า สื่อการสอนมีความเหมาะสมในระดับ มากที่สุด คือ มีค่าเฉลี่ย ๔.๘๔ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ๐.๓๖ (ภาคผนวก ง)
๕๑ จากขั้นตอนการสร้างสื่อการสอนวิชาพระพุทธศาสนา โปรแกรม Canva เรื่อง วันสำคัญทาง พระพุทธศาสนา ที่ใช้ในการวิจัยข้างต้น สามารถนำเสนอเป็นแผนภูมิภาพ ได้ดังนี้ ภาพที่ ๓.๑ ขั้นตอนการสร้างสื่อการสอน ๓.๔.๒ การประเมินประสิทธิภาพของสื่อการสอนวิชาพระพุทธศาสนา โปรแกรม Canva เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ผู้วิจัยมีขั้นตอน ดังนี้ ๑) การทดสอบครั้งที่ ๑ แบบเดี่ยว ผู้วิจัยได้เลือกนักเรียนที่เรียนเก่ง ปานกลาง และอ่อน รวมทั้งหมด ๓ คน เป็นเด็กนักเรียนที่เรียนดี ๑ คน เรียนปานกลาง ๑ คน และเรียนอ่อน ๑ คน ที่ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่าง โดยยึดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในระดับชั้นเป็นเกณฑ์ในการคัดเลือก โดยผู้วิจัยให้ นักเรียนศึกษาและทดสอบ จากสื่อการสอนที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น เพื่อตรวจสอบว่านักเรียน เข้าใจภาษา และการลำดับเนื้อหาที่ใช้ในสื่อการสอนหรือไม่ ขณะที่นักเรียนกำลังศึกษา ผู้วิจัยอยู่กับนักเรียน ตลอดเวลา เพื่อให้นักเรียนได้ซักถามเมื่อไม่เข้าใจ และทำให้ผู้วิจัยทราบถึงข้อบกพร่องของสื่อการสอน ๑. ศึกษาเนื้อหาวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เพื่อเป็นแนวทางในการสร้างสื่อการสอน ๒. ศึกษาเทคนิคการสร้างสื่อการสอน ด้วยโปรแกรม Canva ๓. กำหนดเนื้อหาวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ ๔. ดำเนินการสร้างสื่อการสอน ด้วยโปรแกรม Canva พระพุทธศาสนา ๕. นำสื่อการสอนที่สร้างขึ้นไปให้ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน ๕ ท่าน ตรวจสอบและประเมินคุณภาพ
๕๒ Canva แล้วนำไปปรับปรุงแก้ไขต่อไป พร้อมนำคะแนนระหว่างเรียนและคะแนนหลังเรียนมาหาค่า ประสิทธิภาพ E๑⁄E๒ (เกณฑ์ ๖๐/๖๐) ได้ค่าประสิทธิภาพ ๖๓.๓๓/๖๑.๖๗ (ภาคผนวก จ) ๒) การทดสอบครั้งที่ ๒ การทดลองกลุ่มเล็ก หลังจากนำสื่อการสอน Canva ประกอบการเรียนมาปรับปรุงแก้ไขแล้ว ผู้วิจัยได้นำไปทดลองกับนักเรียน จำนวน ๙ คน ที่ไม่ใช่กลุ่ม ตัวอย่าง และไม่ซ้ำกับการทดลองครั้งที่ ๑ เป็นเด็กที่เรียนดี ๓ คน เรียนปานกลาง ๓ คน และเรียน อ่อน ๓ คน ผู้วิจัยได้นำบทเรียนมาวิเคราะห์ว่าเรื่องใดบ้างที่นักเรียนทำผิด แล้วนำมาปรับปรุงแก้ไข ตามหลักการจัดทำสื่อการสอน Canva และหาค่าประสิทธิภาพ E๑⁄E๒ (เกณฑ์ ๗๐/๗๐) ได้ค่า ประสิทธิภาพ ๗๔.๖๗/๗๓.๓๓ (ภาคผนวก จ) ๓) การทดลองครั้งที่ ๓ ขั้นทดลองภาคสนามกับกลุ่มตัวอย่าง ผู้วิจัยได้นำสื่อการสอน วิชาพระพุทธศาสนา เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา มาเป็นสื่อการสอนสำหรับนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ ๔/๑ จำนวน ๒๓ คน มาเรียนด้วยสื่อการสอน Canva ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น หลังจากได้ทำ การปรับปรุงสื่อการสอนในขั้นจัดกิจกรรมการเรียนการสอนจริง โดยเริ่มตั้งแต่ให้นักเรียนทำ แบบทดสอบก่อนเรียน แล้วนำเข้าสู่บทเรียน ประกอบกิจกรรมการเรียน สรุปผลการจัดการเรียนการ สอน และทำแบบทดสอบหลังเรียน ในการทดสอบภาคสนามนี้ ผู้วิจัยได้นำคะแนนระหว่างเรียน และ คะแนนทดสอบหลังเรียนของนักเรียนมาหาประสิทธิภาพของสื่อการสอน Canva เพื่อดูว่าสื่อการสอน ได้เกณฑ์สอดคล้องกับเกณฑ์ที่ผู้วิจัยได้กำหนดไว้หรือไม่ ซึ่งผู้วิจัยได้กำหนดเกณฑ์ของสื่อการสอน วิชา พระพุทธศาสนา Canva ไว้ที่เกณฑ์ ๘๐/๘๐ ได้ค่าประสิทธิภาพ ๘๕.๗๔/๘๓.๗๐ (ภาคผนวก จ) จากขั้นตอนการประเมินประสิทธิภาพของสื่อการสอนวิชาพระพุทธศาสนา โปรแกรม Canva เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ที่ใช้ในการวิจัยข้างต้น สามารถนำเสนอเป็นแผนภูมิภาพ ได้ดังนี้ ภาพที่ ๓.๒ ขั้นตอนการประเมินประสิทธิภาพของสื่อการสอน ๑. การทดสอบครั้งที่ ๑ แบบเดี่ยว ผู้วิจัยได้เลือกนักเรียนรวมทั้งหมด ๓ คน ๒. การทดสอบครั้งที่ ๒ การทดลองกลุ่มเล็ก นำไปทดลองกับนักเรียน จำนวน ๙ คน ๓. การทดลองครั้งที่ ๓ ขั้นทดลองภาคสนาม กับกลุ่มตัวอย่าง จำนวน ๒๓ คน
๕๓ ๓.๔.๓ แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๑. ศึกษากรอบแผนการจัดการเรียนรู้บทเรียนสําเร็จรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนโคกสีพิทยาสรรพ์ เรื่อง วัน สำคัญทางพระพุทธศาสนา มีขั้นตอน ดังนี้ ๑.๑ ศึกษาเอกสารหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ของกระทรวงศึกษาธิการเกี่ยวกับ คุณภาพผู้เรียน สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ ประเด็นการเรียนรู้ และการประเมินผลการเรียนรู้ของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนโคกสีพิทยาสรรพ์ ๑.๒ กำหนดกรอบเนื้อหา กิจกรรม จุดประสงค์การเรียนรู้ ตัวชี้วัดในการเขียน แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนโคกสีพิทยาสรรพ์ ๑.๓ กำหนดกิจกรรมการเรียนรู้ สื่อ แหล่งเรียนรู้ การวัดผลและการประเมินผลใน แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนโคกสีพิทยาสรรพ์ ๑.๔ ศึกษาการออกแบบการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคม ศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนโคกสีพิทยาสรรพ์จาก หนังสือ เอกสารและหลักการ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการเขียนต่อไป ๑.๕ จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและ วัฒนธรรมสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนโคกสีพิทยาสรรพ์ตามกรอบเนื้อหาสาระ ตัวชี้วัดที่กำหนดไว้ของกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โดยกรอบเนื้อหาและ สาระของการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม อิงจากหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น พื้นฐานพุทธศักราช ๒๕๕๑ มีจำนวน ๓ แผน คือ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๖ เรื่อง พระพุทธศาสนา แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๗ เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๘ เรื่อง ศาสนพิธี ๑.๖ การหาคุณภาพของแผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนโคกสีพิทยาสรรพ์ ผู้วิจัยได้ ดำเนินการ ดังนี้
๕๔ ๑) ผู้วิจัยนำแผนการจัดการเรียนรู้ เสนอต่ออาจารย์ที่ปรึกษา งานวิจัยศึกษาอิสระ ทางสังคมศึกษา เพื่อขอคำแนะนำและได้ปรับปรุงแก้ไขตามคำแนะนำ ๒) นำแผนการจัดการเรียนรู้ไปให้ผู้เชี่ยวชาญจำนวน ๕ ท่าน เพื่อตรวจสอบความ เที่ยงตรง ของแผนการจัดการเรียนรู้จากนั้นนำมาปรับปรุงแก้ไขให้สมบูรณ์ เพื่อตรวจสอบความ ถูกต้องชัดเจนอีกครั้ง ก่อนนำแบบทดสอบไปทดลองใช้ ๓) ปรับเปลี่ยนแผนการจัดการเรียนรู้ตามผู้เชี่ยวชาญ ๓.๔.๔ การสร้างแบบทดสอบระหว่างเรียน วิชาพระพุทธศาสนา ผู้วิจัยมีขั้นตอน ดังนี้ ๑) ศึกษาความมุ่งหมายในการเรียนและเนื้อหาในแต่ละเรื่อง ๒) สร้างแบบทดสอบระหว่างเรียนของแต่ละเรื่อง โดยให้แบบทดสอบระหว่างเรียน สอดคล้องกับจุดมุ่งหมาย และเนื้อหาในการสอนทั้ง ๕ เรื่อง เรื่องละ ๕ ข้อ ๓) นำแบบทดสอบระหว่างเรียนที่สร้างขึ้น จำนวน ๕ ฉบับ ไปให้ผู้เชี่ยวชาญ ๕ ท่าน ตรวจสอบความสอดคล้องกับผลการเรียนรู้ โดยแบบทดสอบทั้ง ๕ ฉบับ มีค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ตั้งแต่ ๐.๘ ถึง ๑.๐ (ภาคผนวก จ) ๔) ปรับปรุงแก้ไขแบบทดสอบระหว่างเรียน ตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ ๕) นำแบบทดสอบระหว่างเรียน วิชาพระพุทธศาสนา เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ไปใช้กับกลุ่มตัวอย่างที่ได้กำหนดไว้
๕๕ จากขั้นตอนการการสร้างแบบทดสอบระหว่างเรียน วิชาพระพุทธศาสนา โปรแกรม Canva เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ที่ใช้ในการวิจัยข้างต้น สามารถนำเสนอเป็นแผนภูมิภาพ ได้ดังนี้ ภาพที่ ๓.๓ ขั้นตอนการสร้างแบบทดสอบระหว่างเรียน ๓.๔.๕ การสร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์หลังเรียน ผู้วิจัยมีขั้นตอน ดังนี้ ๑) ศึกษาสาระการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ รายวิชา พระพุทธศาสนา ๒) ศึกษาเทคนิคการสร้างแบบทดสอบให้มีคุณภาพจากหนังสือต่างๆ ๓) สุ่มคัดเลือกแบบทดสอบระหว่างเรียนที่ครอบคลุมผลการเรียนรู้ ๕ ชุด โดยเลือก ข้อสอบเรื่องที่ ๑ จำนวน ๕ ข้อ เรื่องที่ ๒ จำนวน ๕ ข้อ เรื่องที่ ๓ จำนวน ๕ ข้อ เรื่องที่ ๔ จำนวน ๕ ข้อ เรื่องที่ ๕ จำนวน ๕ ข้อ รวม ๒๕ ข้อ ที่ผู้เชี่ยวชาญ ๕ ท่าน ตรวจสอบความสอดคล้องกับ ผลการเรียนรู้ โดยเลือกข้อสอบที่มีค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ตั้งแต่ ๐.๕ ขึ้นไป คัดไว้ ๑๕ ข้อ ๑. ศึกษาความมุ่งหมายในการเรียน และเนื้อหาในแต่ละเรื่อง ๒. สร้างแบบทดสอบระหว่างเรียน โดยให้ สอดคล้องกับจุดมุ่งหมาย และเนื้อหาในการสอน ๓. นำไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ ความสอดคล้องกับผลการเรียนรู้ ๔. ปรับปรุงแก้ไขแบบทดสอบระหว่างเรียน ตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ ๕. นำแบบทดสอบระหว่างเรียน เรื่อง วันสำคัญ ทางพระพุทธศาสนา ไปใช้กับกลุ่มตัวอย่าง
๕๖ เพื่อใช้เป็นแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน และใช้ทดสอบผลสัมฤทธิ์ในการหาประสิทธิภาพสื่อ การสอนวิชาพระพุทธศาสนา โปรแกรม Canva (ภาคผนวก ฉ) จากขั้นตอนการสร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์หลังเรียน วิชาพระพุทธศาสนา โปรแกรม Canva เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ที่ใช้ในการวิจัยข้างต้น สามารถนำเสนอเป็นแผนภูมิภาพ ได้ดังนี้ ภาพที่ ๓.๔ ขั้นตอนการสร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์หลังเรียน ๓.๔.๖ แบบสอบถามความพึงพอใจ ๑) ศึกษาค้นคว้าเอกสาร หนังสือ และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้เป็นข้อมูล และแนวทางในการสร้างแบบสอบถามความพึงพอใจ ๒) กำหนดเกณฑ์ในการพิจารณา เนื้อหาที่จะวัด และเลือกรูปแบบเครื่องมือที่จะวัด ๓) สร้างแบบสอบถามเกี่ยวกับความพึงพอใจข้อมูลทั่วไป สถานภาพของผู้ตอบ แบบสอบถามจำแนกตามเพศและซึ่งมีหัวข้อในการสอบถาม ๔ ด้าน คือ ด้านกิจกรรมการเรียนรู้ด้าน ครูผู้สอน ด้านบรรยากาศในห้องเรียน ด้านประโยชน์ที่ได้รับ มีลักษณะเป็นแบบตรวจสอบรายการ (Check list)เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับความคิดเห็นต่อการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชา สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนโคกสีพิทยาสรรพ์ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (๕E) มีลักษณะเป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า(Ratings scale) ๕ ระดับ ซึ่งผู้วิจัยได้ปรับใช้และ พัฒนาเครื่องมือภายใต้การควบคุมดูแลและให้คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญตรวจเครื่องมือ โดยค่าแต่ละ ระดับมีความหมายดังนี้ ๑. ศึกษาสาระการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ รายวิชา พระพุทธศาสนา ๒. ศึกษาเทคนิคการสร้างแบบทดสอบ ให้มีคุณภาพจากหนังสือต่างๆ ๓. สุ่มคัดเลือกแบบทดสอบระหว่างเรียนที่ ครอบคลุมผลการเรียนรู้นำมาใช้วัดผลสัมฤทธิ์
๕๗ ๕ หมายถึง มีความคิดเห็นในระดับมากที่สุด ๔ หมายถึง มีความคิดเห็นในระดับมาก ๓ หมายถึง มีความคิดเห็นในในระดับปานกลาง ๒ หมายถึง มีความคิดเห็นในระดับน้อย ๑ หมายถึง มีความคิดเห็นในระดับน้อยที่สุด ๔) นำแบบสอบถามความพึงพอใจที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นให้อาจารย์ที่ปรึกษาพิจารณา ความเหมาะสม ตรวจสอบความถูกต้อง และปรับปรุงแก้ไขตามข้อเสนอแนะของอาจารย์ที่ปรึกษา ๕) นำแบบสอบถามความพึงพอใจมาแก้ไขแล้วเสนอผู้เชี่ยวชาญ ๕ คนเพื่อพิจารณา ความสอดคล้องระหว่างหัวข้อการประเมินกับพฤติกรรมที่จะวัด และนำข้อมูลที่รวบรวมจากความ คิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญมาค นวณหาค่าดัชนีความสอดกล้อง (IOC) โดยใช้ดัชนีความสอดคล้อง (Index of Item Object Congruence) ซึ่งมีค่าเท่ากับ ๐.๕ ขึ้นไปถือว่ามีความสอดคล้องอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ โดยกำหนดเกณฑ์การพิจารณา ดังนี้ +๑ หมายถึง แน่ใจว่านำแบบสอบถามความพึงพอใจความสอดคล้องกับจุดประสงค์ที่จะวัด ๐ หมายถึง นำแบบสอบถามความพึงพอใจมีความสอดคล้องกับจุดประสงค์ที่จะวัด -๑ หมายถึง นำแบบสอบถามความพึงพอใจไม่มีความสอดคล้องกับจุดประสงค์ที่จะวัด นำแบบสอบถามความพึงพอใจมีค่า IOC เท่ากับ ๐.๖๗-๑.๐๐ ๖) นำแบบสอบถามความพึงพอใจที่ผ่านการปรับปรุงแก้ไขแล้ว ไปใช้กับกลุ่ม เป้าหมาย ๓.๕ วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล วิธีดำเนินการวิจัย การพัฒนาสื่อการสอนวิชาพระพุทธศาสนา ด้วยโปรแกรม Canva เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนโคกสีพิทยาสรรพ์ โดยใช้ กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (๕E) มีวิธีดำเนินการวิจัย ดังนี้ ๓.๕.๑ ผู้สอนชี้แจงวัตถุประสงค์ เป้าหมายของการเรียน และการประเมินผล ให้นักเรียน ทราบ ๓.๕.๒ นำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน (Pre-Test) ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นไป ทดสอบความรู้รายวิชาพระพุทธศาสนา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนโคกสีพิทยาสรรพ์ ๓.๕.๓ ดำเนินการจัดการเรียนการสอนวิชาพระพุทธศาสนา ด้วยโปรแกรม Canva โดยใช้ กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (๕E) ตามแผนการจัดการเรียนรู้จำนวน ๓ แผน
๕๘ ๓.๕.๔ นำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน (Post-Test) ซึ่งเป็นแบบทดสอบ วัดผลสัมฤทธิ์ทางเรียนไปทดสอบความรู้วิชาพระพุทธศาสนากับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียน ๓.๕.๕ นำแบบสอบถามความความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้รายวิชา พระพุทธศาสนา เรื่องวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียน โคกสีพิทยาสรรพ์ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (๕E) มาแจกให้นักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนโคกสีพิทยาสรรพ์ เพื่อวัดความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนโคกสีพิทยาสรรพ์ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้รายวิชาพระพุทธศาสนา เรื่องวันสำคัญทาง พระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนโคกสีพิทยาสรรพ์ โดยใช้กระบวนการ เรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (๕E) ๓.๕.๖ รวบรวมข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์และแปลผล ๓.๖ การวิเคราะห์ข้อมูล ๑. วิเคราะห์ประสิทธิภาพของสื่อการสอนวิชาพระพุทธศาสนา โปรแกรม Canva เรื่อง วัน สำคัญทางพระพุทธศาสนา โดยใช้สูตร (E๑⁄E๒) ๒. วิเคราะห์ผลการเปรียบเทียบคะแนนก่อนและหลังเรียน โดยใช้สื่อการสอน วิชา พระพุทธศาสนา โปรแกรม Canva เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา โดยใช้สูตร t – test for dependent samples ๓. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ รายวิชาพระพุทธศาสนา เรื่อง วันสำคัญ ทางพระพุทธศาสนา โดยการหาค่าเฉลี่ย (X̅) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( S.D. ) ๓.๗ สถิติที่ใช้ในการวิจัย ผู้วิจัยใช้สถิติในการวิเคราะห์ข้อมูลในการวิจัยครั้งนี้ ดังนี้ ๑. การศึกษาความสอดคล้องของแบบทดสอบกับผลการเรียนรู้รายวิชา โดยนำผลการ ตรวจสอบความสอดคล้องของแบบทดสอบกับผลการเรียนรู้ โดยผู้เชี่ยวชาญมาวิเคราะห์จากสูตร ดังนี้ สูตร IOC = ∑ R N เมื่อ IOC แทน ดัชนีความสอดคล้องระหว่างแบบทดสอบกับจุดประสงค์ ∑ R แทน ผลรวมคะแนนความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ N แทน จำนวนผู้เชี่ยวชาญ
๕๙ คะแนนการพิจารณาของผู้เชี่ยวชาญ โดยกำหนดเป็น + ๑ หรือ ๐ หรือ - ๑ ดังนี้ + ๑ หมายถึง แน่ใจว่าแบบทดสอบนั้นวัดได้ตามผลการเรียนรู้ที่กำหนด ๐ หมายถึง ไม่แน่ใจว่าแบบทดสอบนั้นวัดได้ตามผลการเรียนรู้ที่กำหนด - ๑ หมายถึง แน่ใจว่าแบบทดสอบข้อนั้นไม่สามารถวัดได้ตามผลการเรียนรู้ที่กำหนด ๒. การหาประสิทธิภาพของสื่อการสอนวิชาพระพุทธศาสนา โปรแกรม Canva เรื่อง วันสำคัญ ทางพระพุทธศาสนา เป็นการนำคะแนนของนักเรียนที่ได้จากการปฏิบัติกิจกรรมระหว่างเรียนโดยสื่อ การสอนวิชาพระพุทธศาสนา โปรแกรม Canva เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนโคกสีพิทยาสรรพ์ และคะแนนการทำแบบทดสอบหลังเรียน ( E๑⁄E๒ ) มาวิเคราะห์โดยใช้สูตร สูตร E๑ = ∑ χ N A × ๑๐๐ E๒ = ∑ F N B × ๑๐๐ เมื่อ E๑ แทน ประสิทธิภาพของกระบวนการที่จัดไว้ในแต่ละชุด E๒ แทน ประสิทธิภาพของผลลัพธ์ (พฤติกรรมที่เปลี่ยนในตัวผู้เรียนหลังจาก การจัดการเรียนรู้ คิดเป็นร้อยละจากการทำแบบทดสอบย่อยหลังเรียน) ∑ χ แทน คะแนนรวมจากการทำแบบฝึกหัดระหว่างเรียน N แทน จำนวนผู้เรียน A แทน คะแนนเต็มของแบบฝึกหัดกิจกรรมระหว่างเรียนทุกชิ้นรวมกัน ∑ F แทน คะแนนรวมของแบบทดสอบย่อยหลังเรียนจบด้วยการจัดการเรียนรู้ โดยใช้สื่อสื่อการสอนวิชาพระพุทธศาสนา โปรแกรม Canva เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ประกอบการเรียนรู้ B แทน คะแนนเต็มของแบบทดสอบย่อยหลังเรียนจบด้วยการจัดการเรียนรู้ โดยใช้สื่อสื่อการสอนวิชาพระพุทธศาสนา โปรแกรม Canva เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ประกอบการเรียนรู้ ๓. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน การทดสอบความแตกต่างของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยนำ คะแนนทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนมาวิเคราะห์โดยใช้ t – test for dependent samples ด้วย โปรแกรมสำเร็จรูปทางคอมพิวเตอร์ ๔. ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
๕๙ บทที่ ๔ ผลการวิเคราะห์ข้อมูล การวิจัยเรื่อง การพัฒนาสื่อการสอนวิชาพระพุทธศาสนา ด้วยโปรแกรม Canva เรื่อง วัน สำคัญทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนโคกสีพิทยาสรรพ์โดยใช้ กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (๕E) ผู้วิจัยได้นำเสนอผลการวิเคราะห์ได้ ดังนี้ ๔.๑ ผลการพัฒนาสื่อการสอนวิชาพระพุทธศาสนา ด้วยโปรแกรม Canva เรื่อง วัน สำคัญทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนโคกสีพิทยาสรรพ์ ให้มี ประสิทธิภาพตามเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ๔.๒ ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาพระพุทธศาสนา ก่อนเรียนและหลัง เรียน ด้วยโปรแกรม Canva โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (๕E) เรื่อง วันสำคัญ ทางพระพุทธศาสนา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนโคกสีพิทยาสรรพ์ ๔.๓ ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ ที่มีต่อสื่อการสอน วิชาพระพุทธศาสนา ด้วยโปรแกรม Canva โดยการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบ เสาะหาความรู้ (๕E) ๔.๔ องค์ความรู้ที่ได้จากการวิจัย ๔.๑ ผลการพัฒนาสื่อการสอนวิชาพระพุทธศาสนา ด้วยโปรแกรม Canva เรื่อง วัน สำคัญทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนโคกสีพิทยา สรรพ์ ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ผู้วิจัยได้ทำการพัฒนาสื่อการสอนด้วยโปรแกรม Canva โดยการจัดการเรียนรู้โดยใช้ กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (๕E) หลังการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนครบทั้ง ๓ แผนการจัดการเรียนรู้ ตามเกณฑ์ประสิทธิภาพ ๘๐/๘๐ ๔.๑.๑ ผลการหาประสิทธิภาพของสื่อการสอน วิชาพระพุทธศาสนา โปรแกรม Canva เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา (E๑⁄E๒) ตามเกณฑ์ประสิทธิภาพ ๘๐/๘๐ ปรากฏผลตาม ตารางที่ ๑ ดังนี้
๕๙ ตารางที่ ๑ แสดงประสิทธิภาพของสื่อการสอน วิชาพระพุทธศาสนา โปรแกรม Canva เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนโคกสีพิทยาสรรพ์ นักเรียน ๒๓ คน คะแนนระหว่างเรียน (๑) (วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา) (๕๐ คะแนน) คะแนนหลังเรียน (๒) (แบบทดสอบหลังเรียน) (๒๐ คะแนน) วันที่ ๑ (๑๐) วันที่ ๒ (๑๐) วันที่ ๓ (๑๐) วันที่ ๔ (๑๐) วันที่ ๕ (๑๐) เฉลี่ย ๘.๘๗ ๘.๓๕ ๘.๗๔ ๘.๕๒ ๘.๓๙ ๑๖.๗๔ เฉลี่ยร้อยละ ๘๘.๗๐ ๘๓.๔๘ ๘๗.๓๙ ๘๕.๒๒ ๘๓.๙๑ ๘๓.๗๐ ๑⁄๒ ๘๕.๗๔ ๘๓.๗๐ จากตารางที่ ๑ พบว่า ค่าประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้โดยใช้สื่อการสอนวิชา พระพุทธศาสนา โปรแกรม Canva เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละของ คะแนนระหว่างเรียน และคะแนนสอบหลังเรียน เท่ากับ ๘๕.๗๔/๘๓.๗๐ เมื่อเทียบกับเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ที่กำหนดไว้ ปรากฏว่าสื่อการสอนวิชาพระพุทธศาสนา โปรแกรม Canva เรื่อง วันสำคัญทาง พระพุทธศาสนา ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ (ภาคผนวก จ) ๔.๒ ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาพระพุทธศาสนา ก่อนเรียนและ หลังเรียน ด้วยโปรแกรม Canva โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (๕ E) เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนโคก สีพิทยาสรรพ์ ๔.๒.๑ ผลการวิเคราะห์คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาพระพุทธศาสนา ก่อนและหลัง เรียนของนักเรียนกลุ่มตัวอย่างที่เรียนด้วยสื่อการสอนวิชาพระพุทธศาสนา โปรแกรม Canva เรื่อง วัน สำคัญทางพระพุทธศาสนา โดยใช้สถิติทดสอบ t (t – test for dependent samples) ปรากฏผล ตามตารางที่ ๒ ดังนี้ ๖๑
๖๒ ตารางที่ ๒ แสดงการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาพระพุทธศาสนา ก่อนและหลังเรียน ของนักเรียนกลุ่มตัวอย่างที่เรียนด้วยสื่อการสอนวิชาพระพุทธศาสนา โปรแกรม Canva เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา การทดลอง ̅. . ∑ ∑ ๒ ก่อนเรียน (๑) ๒๓ ๑๐.๘๓ ๑.๕๓ ๑๓๖ ๘๒๒ ๓๑.๔๘ หลังเรียน (๒) ๒๓ ๑๖.๗๔ ๑.๒๙ จากตารางที่ ๒ พบว่า คะแนนผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนกลุ่มทดลองก่อนเรียน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๑๐.๘๓ มีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ ๑.๕๓ และคะแนนผลสัมฤทธิ์หลังเรียน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๑๖.๗๕ มีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ ๑.๒๙ และเมื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ก่อนและหลังเรียน โดยใช้สถิติทดสอบ t (t – test for dependent samples) พบว่า คะแนนผลสัมฤทธิ์หลังเรียนสูง กว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๑ (ภาคผนวก ฉ) ๔.๓ การศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ ที่มีต่อสื่อการสอนวิชา พระพุทธศาสนา ด้วยโปรแกรม Canva โดยการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ แบบสืบเสาะหาความรู้ (๕E) หลังนักเรียนทำกิจกรรมการเรียนครบทั้ง ๓ แผนการจัดการเรียนรู้ ผู้วิจัยให้นักเรียนทำ แบบประเมินความพึงพอใจที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการจัดการเรียนรู้ด้วยโปรแกรม Canva โดยการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (๕E) โดยมีคำถาม ทั้งสิ้น ๑๐ ข้อ ดังตารางที่ ๔.๓
๖๓ ตารางที่ ๔.๓ ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการ จัดการเรียนรู้รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เรื่องการพัฒนาสื่อการสอนวิชา พระพุทธศาสนา ด้วยโปรแกรม Canva เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนโคกสีพิทยาสรรพ์ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (๕E) ข้อที่ รายการที่ประเมิน (̅ ) S.D. แปลผล ๑ นักเรียนสามารถนําความรู้ที่ได้ไปเผยแพร่ต่อผู้อื่นได้ ๕.๐๐ ๐.๑๗ มากที่สุด ๒ เนื้อหาเหมาะสมกับนักเรียน ๔.๐๙ ๐.๕๑ มาก ๓ การนำเสนอเนื้อหามีลำดับขั้นตอนที่เหมาะสม ๔.๐๔ ๐.๖๕ มาก ๔ เปิดโอกาสให้นักเรียนศึกษาด้วยตนเอง ๔.๗๔ ๐.๔๕ มากที่สุด ๕ นักเรียนสามารถนำความที่ได้ไปใช้ในระดับชั้นที่สูงขึ้น ๔.๔๓ ๐.๔๒ มาก ๖ เนื้อหาที่สอนมีความเชื่อมโยงกับชีวิตประจำวัน ๔.๓๕ ๐.๖๖ มาก ๗ เปิดโอกาสให้นักเรียนได้เรียนรู้กระบวนการทำงานกลุ่ม ๔.๗๔ ๐.๓๗ มากที่สุด ๘ วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำกิจกรรมมีความเหมาะสม ๔.๑๓ ๐.๔๖ มาก ๙ รูปแบบสื่อการสอนน่าสนใจ มีภาพประกอบสวยงาม ๕.๐๐ ๐.๑๗ มากที่สุด ๑๐ จำนวนข้อคำถามท้ายกิจกรรมมีความเหมาะสม ๓.๖๕ ๐.๖๖ มาก เฉลี่ยรวม ๔.๔๒ ๐.๔๕ มาก จากตารางที่ ๔.๓ พบว่า ผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วย โปรแกรม Canva โดยการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (๕E) โดยรวม พบว่าความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ( X =๔.๔๒, S.D.=๐.๔๕) เมื่อพิจารณาแยกเป็นรายข้อ ข้อที่นักเรียนพึงพอใจมากที่สุด คือนักเรียนสามารถนําความรู้ที่ได้ไปเผยแพร่ต่อผู้อื่นได้มีความพึง พอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ( X =๕.๐๐, S.D.=๐.๑๗), รองลงมารูปแบบการสอนน่าสนใจ ภาพประกอบสวย มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ( X =๕.๐๐, S.D.=๐.๑๗), เปิดโอกาสให้ นักเรียนศึกษาด้วยตนเอง มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ( X =๔.๗๔, S.D.=๐.๓๗), เปิดโอกาส ให้นักเรียนได้เรียนรู้กระบวนการทำงานกลุ่มมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ( X =๔.๗๔, S.D.= ๐.๓๗), นักเรียนสามารถนำความที่ได้ไปใช้ในระดับชั้นที่สูงขึ้นมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ( X = ๔.๔๓, S.D.=๐.๔๒),เนื้อหาที่สอนมีความเชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ( X =๔.๓๕, S.D.=๐.๖๖), วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำกิจกรรมมีความเหมาะสมมีความพึงพอใจอยู่ใน
๖๔ ระดับมาก ( X =๔.๑๓, S.D.=๐.๔๖),เนื้อหาเหมาะสมกับนักเรียนความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ( X =๔.๐๙, S.D.= ๐.๕๑),การนำเสนอเนื้อหามีลำดับขั้นตอนที่เหมาะสมมีความเหมาะสมมีความพึง พอใจอยู่ในระดับมาก ( X =๔.๐๔, S.D.=๐.๖๕),จำนวนข้อคำถามท้ายกิจกรรมมีความเหมาะสมมี ความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ( X =๓.๖๕, S.D.=๐.๖๖) และข้อที่นักเรียนมีความพึงพอใจน้อยที่สุด คือ จำนวนข้อคำถามท้ายกิจกรรมมีความเหมาะสม ( X =๓.๖๕, S.D.=๐.๖๖) ตามลำดับ ๔.๔ องค์ความรู้ที่ได้จากการวิจัย จากการศึกษา เรื่องการพัฒนาสื่อการสอนวิชาพระพุทธศาสนา ด้วยโปรแกรม Canva เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนโคกสีพิทยาสรรพ์โดยใช้ กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (๕E) การพัฒนาสื่อการสอนด้วยโปรแกรม Canva โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหา ความรู้ (๕E) เป็นอีกหนึ่งกระบวนการที่ใช้พัฒนาผลสัมฤทธิ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะนักเรียนเกิด ความสนใจในการเรียน การสํารวจค้นหา การอธิบาย และการขยายความรู้ด้วยตนเอง จึงทำให้ นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจมากยิ่งขึ้น
๖๕ ภาพที่ ๔.๑ องค์ความรู้ที่ได้จากงานวิจัย การพัฒนาสื่อการสอนวิชาพระพุทธศาสนา ด้วยโปรแกรม Canva เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนโคกสีพิทยาสรรพ์โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (๕E) สื่อการสอน ด้วยโปรแกรม Canva แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน ๓ แผน โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ แบบสืบเสาะหาความรู้ (๕E) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน แบบสอบถาม ความพึงพอใจ ประโยชน์ ๑. นักเรียนสนใจในการเรียนไม่เกิดความเบื่อ หน่ายจากสื่อการสอนด้วยโปรแกรม Canva โดย ใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (๕E) ๒. นักเรียนเกิดความสนใจ และรู้จักการสํารวจ ค้นหา การอธิบาย และการขยายความรู้ด้วย ตนเอง สะท้อนผล ๑. ได้เรียนรู้ขั้นตอนกระบวนเรียนรู้แบบสืบ เสาะหาความรู้(๕E) ๒. กิจกรรมการเรียนรู้บางแผน การจัด กิจกรรมยังต้องปรับให้เหมาะสมกับผู้เรียน เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ และพัฒนาทักษะด้าน การคิดอย่างมีวิจารณญาณ
๖๖ บทที่ ๕ สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ การศึกษาวิจัย เรื่อง การพัฒนาสื่อการสอนวิชาพระพุทธศาสนา ด้วยโปรแกรม Canva เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนโคกสีพิทยาสรรพ์ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (๕E) มีวัตถุประสงค์ ๑) เพื่อพัฒนาสื่อการสอนวิชา พระพุทธศาสนา ด้วยโปรแกรม Canva เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนโคกสีพิทยาสรรพ์ ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ ๘๐/๘ ๒) เพื่อเปรียบเทียบ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาพระพุทธศาสนา ก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยโปรแกรม Canva โดยใช้ กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (๕E) เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนโคกสีพิทยาสรรพ์๓) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ ๔ ที่มีต่อสื่อการสอนวิชาพระพุทธศาสนา ด้วยโปรแกรม Canva โดยการจัดการเรียนรู้โดยใช้ กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (๕E) สามารถสรุปเนื้อหาได้ ดังนี้ ๕.๑ สรุปผลการวิจัย ๕.๒ อภิปรายผลการวิจัย ๕.๓ ข้อเสนอแนะ ๕.๑ สรุปผลการวิจัย จากการศึกษาวิจัย เรื่อง การพัฒนาสื่อการสอนวิชาพระพุทธศาสนา ด้วยโปรแกรม Canva เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนโคกสีพิทยา สรรพ์โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (๕E) สามารถสรุปผลการวิจัยได้ ดังนี้ ๕.๑.๑ สื่อการสอนวิชาพระพุทธศาสนา โปรแกรม Canva เรื่อง วันสำคัญทาง พระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนโคกสีพิทยาสรรพ์โดยใช้กระบวนการ เรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (๕E) มีประสิทธิภาพ เท่ากับ ๘๕.๗๔/๘๓.๗๐ สูงกว่าเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ที่ กำหนดไว้ ๕.๑.๒ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนรู้โปรแกรม Canva เรื่อง วันสำคัญ ทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนโคกสีพิทยาสรรพ์โดยใช้ กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (๕E) หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
๖๗ ๕.๑.๓ ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนโคกสี พิทยาสรรพ์ ที่ได้รับการจัดการเรียนการสอนโดยใช้โปรแกรม Canva โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบ สืบเสาะหาความรู้ (๕E) โดยภาพรวม มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก เมื่อแยกเป็นรายข้อ พบว่า ข้อ ที่มีความพึงพอใจมากที่สุด คือ นักเรียนสามารถนําความรู้ที่ได้ไปเผยแพร่ต่อผู้อื่นได้ รองลงมา คือ รูปแบบสื่อการสอนน่าสนใจ มีภาพประกอบสวยงาม และเนื้อหามีความเหมาะสมกับระดับ ความสามารถของนักเรียน ๕.๒ อภิปรายผลการวิจัย การอภิปรายผลการวิจัย เรื่อง โปรแกรม Canva เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนโคกสีพิทยาสรรพ์โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบ เสาะหาความรู้ (๕E) ผู้วิจัยจะนำเสนอประเด็นที่สำคัญและน่าสนใจ ดังนี้ ๕.๒.๑ การจัดการเรียนรู้โดยใช้สื่อการสอนวิชาพระพุทธศาสนา โปรแกรม Canva เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนโคกสีพิทยาสรรพ์ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (๕E) มีประสิทธิภาพ เท่ากับ ๘๕.๗๔/๘๓.๗๐ สูง กว่าเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะในการพัฒนาและหาประสิทธิภาพของสื่อการสอนวิชา พระพุทธศาสนา และสร้างสื่อ Canva จากการหาคุณภาพโดยผู้เชี่ยวชาญ และหาประสิทธิภาพตาม ขั้นตอนแบบเดี่ยว แบบกลุ่ม และแบบภาคสนาม ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ พยูรณ์ ตันกิ่ง (๒๕๖๑) ที่พัฒนาสื่อประสม ประกอบการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษาฯ เรื่อง กฎหมายที่ เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ มีประสิทธิภาพเท่ากับ ๘๘.๖๓/๘๓.๕๗๔๔ ส่วน สุพัตรา เกษมเรืองวิชชญ์ (๒๕๖๒) ที่ได้พัฒนาชุดสื่อประสม เรื่อง หลักธรรมนำชีวิต เพื่อยกระดับ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สาระศาสนา ศีลธรรม จริยธรรมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ โดยสื่อประสม หลักธรรมนำชีวิตที่พัฒนา มีประสิทธิภาพเท่ากับ ๘๕.๔๒/๘๙.๐๔๔๕ สำหรับ ประภากร ไชยเสนา (๒๕๖๑) ได้พัฒนาชุดการเรียนแบบสื่อประสมเรื่องชีวิตกับสิ่งแวดล้อม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ สื่อ ประสมมีประสิทธิภาพเท่ากับ ๘๐.๘๑/๘๕.๖๔๔๖ วิลาวัณย์ พินสุวรรณ และคณะ (๒๕๖๑) ได้ ๔๔ พยูรณี ตันมิ่ง, การพัฒนาสื่อประสม ประกอบการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา เรื่อง กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔, (เลย : โรงเรียนเชียงคาน, ๒๕๖๑), บทคัดย่อ. ๔๕ สุพัตรา เกษมเรืองวิชชญ์,การพัฒนาชุดสื่อประสม หลักธรรมนำชีวิต เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน สาระศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓, (เชียงใหม่ : โรงเรียนเทศบาลวัดศรีปิงเมือง, ๒๕๖๒), บทคัดย่อ. ๔๖ ประภากร ไชยเสนา, การพัฒนาชุดการเรียนแบบสื่อประสม เรื่อง ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ ๓, (ขอนแก่น : โรงเรียนโนนศิลาวิทยาคม, ๒๕๖๑), บทคัดย่อ.
๖๘ พัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์แบบสื่อประสมกลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษาฯ เรื่อง หลักธรรมทาง พระพุทธศาสนา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ มีประสิทธิภาพเท่ากับ ๘๖.๘๓/๘๑.๒๒๔๗ สุรินทร์ โสฬส (๒๕๖๓) ได้พัฒนาสื่อประสม สาระเศรษฐศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ สื่อประสม มีประสิทธิภาพ ๙๐.๐๗/๘๔.๒๗๔๘ และสอดคล้องกับ พีรวัฒน์ แสงเขียวและคณะ (๒๕๖๑) ซึ่งพัฒนาผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน ในเรื่อง เหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์สากลที่มีผลต่อโลกปัจจุบัน ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ ๕ โดยใช้ชุดการเรียนประกอบกับสื่อประสม มีประสิทธิภาพ ๘๔.๖๐/๘๒.๒๒ ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ ๘๐/๘๐๔๙ จากการวิจัยสามารถสรุปได้ว่า ผู้วิจัยจัดการเรียนรู้โดยใช้สื่อการสอนวิชาพระพุทธศาสนา โปรแกรม Canva เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียน โคกสีพิทยาสรรพ์โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (๕E) มีประสิทธิภาพ เท่ากับ ๘๕.๗๔/๘๓.๗๐ สูงกว่าเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะในการพัฒนาและหาประสิทธิภาพของสื่อ การสอนวิชาพระพุทธศาสนา และสร้างสื่อ Canva โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (๕E) เป็นกระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ และสามารถสร้างองค์ความรู้ ด้วยตนเองได้ ซึ่งจะนำไปสู่การคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล พฤติกรรมเหล่านี้จะช่วยส่งเสริมให้นักเรียน ได้เกิดการพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของตนเอง ๕.๒.๒ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนรู้โดยสื่อการสอนวิชา พระพุทธศาสนา โปรแกรม Canva เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนโคกสีพิทยาสรรพ์โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (๕E) หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ทั้งนี้อาจเป็นเพราะผู้วิจัย สร้างแบบทดสอบตามหลักการและนำไปทดลอง ใช้สอบกับกลุ่มที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับกลุ่มที่ ต้องการสอนจริง แล้วนำผลการสอบมาวิเคราะห์และ ปรับปรุงข้อสอบให้มีคุณภาพ ก่อนนำมาทดลอง เพื่อการวิจัย ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ อิ่มทอง ปัญญา (๒๕๖๑) ที่ได้พัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้สิ่งแวดล้อม เรื่อง ชุมชนของเรา ของนักเรียนช่วง ชั้นที่ ๓ โรงเรียนจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย ปทุมธานี ผลการวิจัย พบว่า แผนการจัดการเรียนรู้ ๔๗ วิลาวัณย์ พินสุวรรณ และคณะ, การพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์แบบสื่อประสม กลุ่มสาระการ เรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒, (สงขลา : คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ, ๒๕๖๑), บทคัดย่อ. ๔๘ สุรินทร์ โสฬส, การพัฒนาสื่อประสม สาระเศรษฐศาสตร์ วิชา สังคมศึกษา ส๒๑๑๐๑ ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ ๑, (สุรินทร์ : โรงเรียนศีขรภูมิพิสัย, ๒๕๖๓), บทคัดย่อ. ๔๙ พีรวัฒน์ แสงเขียว และคณะ, การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง เหตุการณ์สำคัญทาง ประวัติศาสตร์สากลที่มีผลต่อโลกปัจจุบันชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ โดยใช้ชุดการเรียนประกอบกับสื่อประสมและ เทคนิคจิ๊กซอว์, (มหาสารคาม : มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม, ๒๕๖๑), บทคัดย่อ.
๖๙ สิ่งแวดล้อม เรื่อง ชุมชนของเรา นักเรียนมีผล การเรียนรู้หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน๕๐ และสอดคล้อง กับ พีรวัฒน์ แสงเขียวและคณะ (๒๕๖๔) ซึ่งพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง เหตุการณ์สำคัญ ทางประวัติศาสตร์สากล ที่มีผลต่อโลกปัจจุบันชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ โดยใช้ชุดการเรียนประกอบกับสื่อ ประสม ผลการวิจัย พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนการเรียน อย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .๐๕๕๑ นอกจากนี้แล้ว สื่อการสอน Canva เป็นการสร้างบรรยากาศการเรียนการ สอนทำให้นักเรียนเกิดความสนใจ ไม่เบื่อหน่าย กระตือรือร้น เอาใจใส่และให้ความสนใจในการทำ กิจกรรม เพราะมีการเปลี่ยนสิ่งเร้าตลอดเวลา จึงทำให้นักเรียนได้รับความรู้กว้างขวาง เข้าใจบทเรียน ยิ่งขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของดวงพร เกี๋ยงคำ (๒๕๖๐) ที่กล่าวว่าสื่อ Canva เป็นสื่อที่ทำให้ นักเรียนเกิดความสนใจ ไม่เบื่อเพราะมีการเปลี่ยนสิ่งเร้าอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังทำให้นักเรียนได้รับ ความรู้กว้างขวางเข้าใจบทเรียนดียิ่งขึ้น และยังทำให้ประหยัดเวลา นักเรียนเกิด ความรู้ได้รวดเร็ว เพราะได้เรียนจากสื่อการเรียนการสอนที่แตกต่างกันหลาย ๆ อย่าง๕๒ จากการวิจัยสามารถสรุปได้ว่า สื่อการสอน Canva ที่ผู้วิจัยที่นำมาใช้ประกอบการจัดการ เรียนรู้สามารถอธิบายหรือถ่ายทอดความรู้จากนามธรรมมาสู่ความรู้ที่เป็นรูปธรรมได้อย่างเป็นระบบ สื่อการสอนสอดคล้องกับผลการเรียนรู้เนื้อหา มีความแปลกหลากหลาย และมีสีสัน สร้างความเร้าใจ ช่วยกระตุ้นให้นักเรียนมีความสนใจในการเรียนรู้ทำให้นักเรียนเกิดความรู้ เข้าใจ สามารถพัฒนาการ เรียนรู้อย่างต่อเนื่องเกิดการเรียนรู้ในเนื้อหาวิชาได้อย่างมีผลสัมฤทธิ์สูงขึ้น และเมื่อผู้วิจัยได้จัดการ เรียนรู้ให้นักเรียนทำใบงานโดยนักเรียนแต่ละคนที่คละความสามารถ คือ เก่ง ปานกลาง อ่อน นักเรียนจะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ และความรู้ ร่วมกัน ซึ่งเป็น การช่วยให้นักเรียนได้ฝึกการเรียนรู้ร่วมกันได้อีกทางหนึ่ง และหลังจากนักเรียนเรียนจบ ในแต่ละครั้ง ได้มีการสนทนาซักถามในเนื้อหาที่ยังไม่เข้าใจและช่วยกันสรุป โดยครูจะคอยเพิ่มเติมในข้อสรุป บางอย่าง ก่อนที่จะให้นักเรียนทดสอบหลังเรียน รวมทั้งครูให้การเสริมแรง ใช้เทคนิคการสอนที่ช่วย กระตุ้นนักเรียน อันจะส่งผลต่อการพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียน และยังเป็นการสร้างเจตนคติที่ดีต่อ รายวิชาที่จัดการเรียนการสอนอีกด้วย ๕๐ อิ่มทอง ปัญญา, การพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้สิ่งแวดล้อม เรื่อง ชุมชนของเรา ของนักเรียน ช่วงชั้นที่ ๓ โรงเรียนจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย ปทุมธานี, ปริญญานิพนธ์มหาบัณฑิต, (กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร, ๒๕๖๑), บทคัดย่อ. ๕๑ พีรวัฒน์ แสงเขียว และคณะ, การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง เหตุการณ์สำคัญทาง ประวัติศาสตร์สากลที่มีผลต่อโลกปัจจุบันชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ โดยใช้ชุดการเรียนประกอบกับสื่อประสมและ เทคนิคจิ๊กซอว์, (มหาสารคาม : มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม, ๒๕๖๔), บทคัดย่อ. ๕๒ ดวงพร เกี๋ยงคำ, คู่มือใช้งาน Canva ๒๐๑๓ ฉบับสมบูรณ์, (กรุงเทพมหานคร : ไอดีซีพรีเมียร์, ๒๕๖๐), หน้า ๗.
๗๐ ๕.๒.๓ ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนโคกสีพิทยาสรรพ์ ที่ ได้รับการจัดการเรียนการสอนโดยใช้โปรแกรม Canva โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหา ความรู้ (๕E) โดยภาพรวม มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก เมื่อแยกเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีความพึง พอใจมากที่สุด คือ นักเรียนสามารถนําความรู้ที่ได้ไปเผยแพร่ต่อผู้อื่นได้ รองลงมา คือ รูปแบบสื่อการ สอนน่าสนใจ มีภาพประกอบสวยงาม และเนื้อหามีความเหมาะสมกับระดับความสามารถของ นักเรียน ซึ่งมธุรส สว่างบํารุง๕๓ ได้กล่าวว่า ความพึงพอใจกับผลการเรียนมีความสัมพันธ์กันทางบวก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่นักเรียนได้ปฏิบัติ ทำให้นักเรียนได้รับการตอบสนองความต้องการด้าน ร่างกายและจิตใจ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้เกิดความสมบูรณ์ของชีวิตมากน้อยเพียงใด นั่นคือสิ่งที่ ต้องคำนึงถึงองค์ประกอบต่าง ๆ ในการส่งเสริมความพึงพอใจในการเรียนรู้ให้กับนักเรียน และ สอดคล้องกับงานวิจัยของ วัฒนา ภิญญมิตร์๕๔ ได้ศึกษาการพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้และ บทเรียนสําเร็จรูป เรื่อง อาณาจักรสุโขทัย กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ พบว่านักเรียนมีความพึงพอใจโดยรวมอยู่ในระดับมาก และงานวิจัยของ ธมนวรรณ พรหมจันทร์๕๕ ได้ศึกษาการพัฒนาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้บทเรียน สำเร็จรูป เรื่อง จังหวัดอุบลราชธานี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรร ม ชั้น ประถมศึกษาปีที่ ๖ พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจโดยรวมอยู่ในระดับมาก จากการวิจัยสามารถสรุปได้ว่า ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบประเมินความพึง พอใจอยู่ในระดับมากที่สุด อาจเป็นเพราะผู้วิจัยที่นำมาใช้ประกอบการจัดการเรียนรู้สามารถอธิบาย หรือถ่ายทอดความรู้จากนามธรรมมาสู่ความรู้ที่เป็นรูปธรรมได้อย่างเป็นระบบสื่อการสอนสอดคล้อง กับผลการเรียนรู้ เนื้อหา มีความแปลกหลากหลาย และมีสีสัน สร้างความเร้าใจช่วยกระตุ้นให้นักเรียน มีความสนใจในการเรียนรู้ ทำให้นักเรียนเกิดความรู้ เข้าใจ ซึ่งการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ โปรแกรม Canva โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (๕E) เป็นการเรียนการสอนแบบที่ เน้นให้นักเรียนปฏิบัติด้วยตนเอง นักเรียนจึงได้ คิดวิเคราะห์ ลงมือทำ ทำให้เกิดความสนุกสนานใน การเรียน มีความสนใจในการเรียน และมีสมาธิในการเรียนมากขึ้น ๕๓ มธุรส สว่างบํารุง, จิตวิทยาทั่วไป, (กรุงเทพฯ : กิตติการพิมพ์, ๒๕๖๑), หน้า ๔๘-๕๑. ๕๔ วัฒนา ภิญญมิตร์,การพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้และบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง อาณาจักรสุโขทัย กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑, วิทยานิพนธ์ กศ.ม. หลักสูตร และการสอน, (มหาสารคาม : บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยมหาสารคาม,๒๕๖๑), หน้า ๗๙-๘๐. ๕๕ ธมนวรรณ พรหมจันทร์,การพัฒนาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้บทเรียนสําเร็จรูป เรื่อง จังหวัดอุบลราชธานี กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1, วิทยานิพนธ์ กศ.ม. หลักสูตรและการสอน, (มหาสารคาม : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 2552), หน้า ๙๐.
๗๑ ๕.๓ ข้อเสนอแนะจากผลการวิจัย จากการวิจัยผลการใช้สื่อการสอนวิชาพระพุทธศาสนา ด้วยโปรแกรม Canva เรื่อง วันสำคัญ ทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนโคกสีพิทยาสรรพ์โดยใช้ กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (๕E) ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะ ดังนี้ ๕.๓.๑ ข้อเสนอแนะในการนำผลการวิจัยไปใช้ ๑) ควรเผยแพร่ความรู้ เรื่อง การสร้างสื่อการสอน โปรแกรม Canva ประกอบการเรียนรู้ ให้เป็นที่รู้กันโดยทั่วไป และส่งเสริมให้ครูผู้สอนรายวิชาต่าง ๆ สร้างสื่อการสอน ในรายวิชาที่สอน เพื่อ ส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียน ๒) ครูผู้สอนกลุ่มสาระสังคมศึกษาฯ ควรร่วมกันสร้างสื่อการสอน โปรแกรม Canva ประกอบการเรียน ในรายวิชาที่สอน เพื่อให้นักเรียนที่อาจจะขาดเรียนในบางคาบ ใช้เรียนรู้ด้วยตนเอง เพื่อทดแทนในคาบเรียนที่ขาดไป ๓) ครูอาจเผยแพร่บทเรียนลงในเว็บไซต์โรงเรียนเพื่อให้นักเรียนใช้เป็นสื่อประกอบการ เรียนรู้เพื่อเสริมความรู้เพื่อการสอบคัดเลือกเข้าศึกษาต่อในระดับสูง ๕.๓.๒ ข้อเสนอแนะในการวิจัยครั้งต่อไป ๑) ควรมีการวิจัยเกี่ยวกับการเปรียบเทียบการจัดการเรียนรู้โดยสื่อการสอน โปรแกรม Canva กับการจัดการเรียนรู้วิธีอื่น ๆ เช่น บทเรียนคอมพิวเตอร์เป็นต้น ๒) ควรมีการวิจัยเกี่ยวกับการเปรียบเทียบการจัดการเรียนรู้โดยใช้สื่อการสอน โปรแกรม Canva ประกอบการเรียนรู้กับนักเรียนที่มีความสามารถต่างกัน หรือนักเรียนที่มีลักษณะแตกต่างกัน เช่น เพศ อายุ ความ ถนัดทางภาษา สถานภาพทางเศรษฐกิจ และระดับคะแนนเฉลี่ยของทุกวิชา ๓) ควรสนับสนุนและส่งเสริมให้มีการจัดการเรียนการสอนด้วยกระบวนการเรียนรู้แบบ สืบเสาะหาความรู้ (๕E) ไปบูรณาการกับการเรียนการสอนในรายวิชาอื่น ๆ ร่วมกับการใช้เทคโนโลยีที่ มีความทันสมัย เพื่อดึงดูดความสนใจในการเรียนรู้ของผู้เรียน
๗๒ บรรณานุกรม กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ. ความรู้เกี่ยวกับสื่อมัลติมีเดียเพื่อการศึกษา. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์คุรุสภา, ๒๕๕๑. ________. การจัดสาระการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ - ๖ ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๖๒. พิมพ์ครั้งที่ ๑. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว, ๒๕๖๒. กระทรวงศึกษาธิการ. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๕๕. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์คุรุสภา, ๒๕๕๕. กระทรวงศึกษาธิการ. หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย, ๒๕๕๒. กิดานันท์ มลิทอง. เทคโนโลยีและการสื่อสารเพื่อการศึกษา, กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์อรุณ การพิมพ์, ๒๕๔๙. คณิต ดวงหัสดี. การรับรู้วัฒนธรรมองค์การและความผูกพันต่อองค์การ : กรณีศึกษาหน่วยงาน ที่ไม่ใช่หน่วยงานของรัฐ (วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต). ชลบุรี : มหาวิทยาลัยบูรพา, ๒๕๔๗. ชวาล แพรัตกุล. เทคนิคการวัดผล (พิมพ์ครั้งที่ ๗). กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช, ๒๕๕๒. ชัยยงค์ พรหมวงศ์. ระบบสื่อการสอน. กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ๒๕๕๐. ________. เทคโนโลยีการศึกษา : หลักการและการปฏิบัติ. กรุงเทพมหานคร : วัฒนาพานิช, ๒๕๕๓. ________. เอกสารการสอนชุดวิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษาหน่วยที่ ๑ - ๕ (ระบบสื่อ การสอน). พิมพ์ครั้งที่ ๒. นนทบุรี : สำนักเทคโนโลยีการศึกษา มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, ๒๕๕๖. ไชยยศ เรืองสุวรรณ. การจัดระบบงานสื่อและเทคโนโลยีการศึกษาและห้องสมุดสื่อโรงเรียน. มหาสารคาม : ภาควิชาเทคโนโลยีและสื่อการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัย มหาสารคาม, ๒๕๔๘. ________. การออกแบบพัฒนาโปรแกรมบทเรียนและบทเรียนบนเว็บ. มหาสารคาม : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, ๒๕๕๓.
๗๓ ดวงพร เกี๋ยงคำ. คู่มือใช้งาน Canva ๒๐๑๓ ฉบับสมบูรณ์, กรุงเทพมหานคร : ไอดีซีพรีเมียร์, ๒๕๕๗. ดิเรก ฤกษ์หร่าย. การทำการเปลี่ยนแปลง : เน้นกระบวนการเผยแพร่กระจายนวัตกรรม. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์เฉลิมชาญการพิมพ์, ๒๕๔๘. ดุสิต ขาวเหลือง. การบูรณาการใช้สื่อประสมและสื่อหลายมิติเพื่อการสอนและการเรียนรู้. วารสารศึกษาศาสตร์ ปีที่ ๑๘ ฉบับที่ ๑, ๒๕๔๙. ทวีศักดิ์ กาญจนสุวรรณ. มัลติมีเดียฉบับพื้นฐาน. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์เคทีพีการพิมพ์, ๒๕๕๒. ทองพูล บุญยิ่ง. การพัฒนาการสอนและผลงานทางวิชาการครู. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์คุรุสภา, ๒๕๕๐. นิพนธ์ ศุขปรีดี. “ชุดฝึกอบรม” ในเอกสารการสอนชุดวิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการฝึกอบรม หน่วยที่ ๑ หน้า ๑๔๗ – ๑๙๗. นนทบุรี: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, ๒๕๔๗. บุญชม ศรีสะอาด. การวิจัยและพัฒนาการสอน. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์สุริวิยาสาส์น, ๒๕๔๗. บุญธรรม กิจปรีดาบริสุทธิ์. คู่มือการวิจัยการเขียนรายงานการวิจัยและวิทยานิพนธ์ กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลัยมหิดล, ๒๕๕๓. ประดับ จันทร์สุขศรี. การเขียนตำราและเอกสารทางวิชาการ. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์คุรุสภา, ๒๕๔๗. ประภากร ไชยเสนา. การพัฒนาชุดการเรียนแบบสื่อประสม เรื่อง ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ขอนแก่น : โรงเรียนโนนศิลาวิทยาคม, ๒๕๕๕. ประภาพรรณ เส็งวงศ์. การพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ด้วยการวิจัยในชั้นเรียน. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์อีเคบุคค์, ๒๕๕๐. เผชิญ กิจระการ. ดัชนีประสิทธิผล. มหาสารคาม : คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, ๒๕๔๖. ________. การวิจัยและทฤษฎีเทคโนโลยีการศึกษา. มหาสารคาม : มหาวิทยาลัย มหาสารคาม, ๒๕๕๔. พยูรณี ตันมิ่ง. การพัฒนาสื่อประสม ประกอบการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา เรื่อง กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔. เลย : โรงเรียนเชียงคาน, ๒๕๕๑. พรพิไล เลิศวิชา. แนวทางการพัฒนามัลติมีเดียเพื่อการศึกษา. เชียงใหม่ : สำนักพิมพ์ธารปัญญา, ๒๕๕๒.
๗๔ พิชิต ฤทธิ์จำรูญ. หลักการวัดและประเมินผลการศึกษา. กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์แห่ง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ๒๕๕๐. พิสณุ ฟองศรี. วิจัยทางการศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ ๖. กรุงเทพฯ : บริษัทพอเพอร์ตี้ จํากัด, ๒๕๕๓. พีรวัฒน์ แสงเขียว และคณะ. การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง เหตุการณ์สำคัญทาง ประวัติศาสตร์สากลที่มีผลต่อโลกปัจจุบันชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ โดยใช้ชุดการเรียน ประกอบกับสื่อประสมและเทคนิคจิ๊กซอว์, มหาสารคาม : มหาวิทยาลัยราชภัฏ มหาสารคาม, ๒๕๕๘. เพ็ญศรี ศรีสวัสดิ์. การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้ชุดสื่อประสมผ่านเครือข่าย อินเทอร์เน็ต วิชาการประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์ ในสถาบันการพลศึกษา. สุพรรณบุรี: สถาบันการพลศึกษา, ๒๕๕๒. ไพศาล หวังพานิช. การวัดผลการศึกษา. กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์ไทยวัฒนาพานิช, ๒๕๔๖. ภัทรา นิคมานนท์. การประเมินผลการเรียน. กรุงเทพมหานคร : ทิพยวิสุทธิ์, ๒๕๔๓. มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. เอกสารการสอนชุดวิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา. นนทบุรี : สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, ๒๕๔๙. มณฑา สุขศรี. การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสังคมศึกษา เรื่อง เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ โดยใช้บทเรียนชุดสื่อประสม มัธยมศึกษาปีที่ ๒. กรุงเทพมหานคร : โรงเรียนอัสสัมชัญ ธนบุรี, ๒๕๕๗. เยาวดี วิบูลย์ศรี. การวัดผลและการสร้างแบบวัดผลสัมฤทธิ์. กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์แห่ง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ๒๕๕๐. เรวดี หน่อนารถ. สื่อการสอน. กรุงเทพมหานคร : วีเจพริ้นต์ติ้ง, ๒๕๔๗. ล้วน สายยศ และ อังคณา สายศ. เทคนิคการวิจัยทางการศึกษา. กรุงเทพมหานคร : สุวิริยาสาส์น, ๒๕๕๐. วชิราพร อัจฉริยโกศล. การประเมินผลสื่อการสอน. กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย, ๒๕๔๘. วราภรณ์ กิจสวัสดิ์. การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ตัวประกอบของ จํานวนนับ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ด้วยการจัดการเรียนรู้โดยใช้สื่อ ประสม. กรุงเทพมหานคร : โรงเรียนอัสสัมชัญ แผนกประถม, ๒๕๕๖. วาโร เพ็งสวัสดิ์. การวิจัยในชั้นเรียน. กรุงเทพมหานคร : สุวิริยาสาส์น, ๒๕๔๖. วัลลภา กองอินตา. การศึกษาผลสัมฤทธิ์และความพึงพอใจในการเรียนโดยใช้สื่อ Power Point เรื่องแรง มวล และการเคลื่อนที่ (ปริญญานิพนธ์มหาบัณฑิต). เชียงใหม่ : วิทยาลัยเทคโนโลยีโปลิเทคนิคลานนา, ๒๕๕๔.
๗๕ วิจารณ์ พานิช. วิถีสร้างการเรียนรู้เพื่อศิษย์ในศตวรรษที่ ๒๑. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ มูลนิธิสดศรีสฤษดิ์วงศ์, ๒๕๕๕. วิชัย วงษ์ใหญ่. พัฒนาหลักสูตรและการสอนมิติใหม่. กรุงเทพมหานคร : โอเดียนสโตร์, ๒๕๔๕. วิลาวัณย์ พินสุวรรณ และคณะ. การพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์แบบสื่อประสม กลุ่มสาระ การเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒. สงขลา : คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ, ๒๕๕๕. สมบุญ ภู่นวล. การประเมินผลการสร้างแบบทดสอบ. กรุงเทพมหานคร : บารมีการพิมพ์, ๒๕๕๕. สมหวัง พิธิยานุวัฒน์. วิธีการทางการประเมินศาสตร์แห่งคุณค่า. พิมพ์ครั้งที่ ๒. กรุงเทพมหานคร : จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย, ๒๕๕๔. สุชา จันทร์เอมและสุรางค์ จันทร์เอม. สถิติและการประเมินผลการเรียน. กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์อักษรบัณฑิต, ๒๕๕๑. สุพัตรา เกษมเรืองวิชชญ์. การพัฒนาชุดสื่อประสม หลักธรรมนำชีวิต เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน สาระศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓. เชียงใหม่ : โรงเรียนเทศบาลวัดศรีปิงเมือง, ๒๕๕๔. สุรชัย ศรีใส. เทคโนโลยีทางการศึกษา. อุบลราชธานี : มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี, ๒๕๕๕. สุรินทร์ โสฬส. การพัฒนาสื่อประสม สาระเศรษฐศาสตร์ วิชา สังคมศึกษา ส๒๑๑๐๑ ชั้นมัธยม ศึกษาปีที่ ๑. สุรินทร์ : โรงเรียนศีขรภูมิพิสัย, ๒๕๕๖. สุวิทย์ มูลคำ. วิธีการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาความรู้และทักษะ. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ ภาพพิมพ์, ๒๕๕๐. อิ่มทอง ปัญญา. การพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้สิ่งแวดล้อม เรื่อง ชุมชนของเรา ของนักเรียน ช่วงชั้นที่ ๓ โรงเรียนจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย ปทุมธานี. (ปริญญานิพนธ์มหาบัณฑิต). กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร, ๒๕๔๙.
๗๖ ภาคผนวก
๗๗ ภาคผนวก ก รายชื่อผู้เชี่ยวชาญที่ตรวจสอบเครื่องมือ
๗๘ รายชื่อผู้เชี่ยวชาญที่ตรวจสอบเครื่องมือ ๑. นายธนสิทธิ์ ธนสีรังกูร ตำแหน่ง ครูชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนโคกสีพิทยาสรรพ์ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น สพม. ๒๕ ๒. นายณัฐดนัย วันตะโพธิ์ ตำแหน่ง ครูชำนาญการพิเศษ ครูกลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนโคกสีพิทยาสรรพ์ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น สพม. ๒๕ ๓. นางรัชนีย์ วงศ์ไกรสิน ตำแหน่ง ครูชำนาญการพิเศษ ครูกลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนโคกสีพิทยาสรรพ์ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น สพม. ๒๕ ๔. นางจิราภรณ์ สารแสน ตำแหน่ง ครูชำนาญการพิเศษ ครูกลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ โรงเรียนโคกสีพิทยาสรรพ์ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น สพม. ๒๕ ๕. นางสาวนริสรา คำสี ตำแหน่ง ครูชำนาญการพิเศษ ครูกลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี โรงเรียนโคกสีพิทยาสรรพ์ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น สพม. ๒๕
๗๙ ภาคผนวก ข แบบประเมินคุณภาพเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญ
๘๐ แบบประเมินคุณภาพของสื่อการสอนวิชาพระพุทธศาสนา โปรแกรม Canva เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนโคกสีพิทยาสรรพ์โดยผู้เชี่ยวชาญ คำชี้แจง ๑. การประเมินคุณภาพต่อการสอน โดยสื่อการสอนวิชาพระพุทธศาสนา โปรแกรม Canva เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อทราบความคิดเห็นของ ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งผลการประเมินจะนำไปใช้ปรับปรุงสื่อการสอน Canva ให้เหมาะสมกับผู้เรียนให้มาก ที่สุด ซึ่งวิธีการประเมินมี ดังนี้ ๒) โปรดทำเครื่องหมาย ✓ ลงใช่องความคิดเห็นของท่าน แต่ละระดับคะแนนมี ความหมาย ดังนี้ ๕ หมายถึง มีความเหมาะสมมากที่สุด ๔ หมายถึง มีความเหมาะสมมาก ๓ หมายถึง มีความเหมาะสมปานกลาง ๒ หมายถึง มีความเหมาะสมน้อย ๑ หมายถึง มีความเหมาะสมน้อยที่สุด ข้อ รายการประเมิน ระดับความเหมาะสม ๕ ๔ ๓ ๒ ๑ ๑ ด้านเนื้อหาและการนำเสนอ ๑.๑ เนื้อหาครอบคลุมตามผลการเรียนรู้รายวิชา ๑.๒ การจัดลำดับขั้นตอนและการนำเสนอเนื้อหา ๑.๓ ความถูกต้องของเนื้อหา ๑.๔ ความชัดเจนในการอธิบายเนื้อหา ๑.๕ เนื้อหามีความเหมาะสมกับระดับความรู้ของผู้เรียน
๘๑ ข้อ รายการประเมิน ระดับความเหมาะสม ๕ ๔ ๓ ๒ ๑ ๒ ด้านภาพ การใช้ภาษา และเสียงประกอบ ๒.๑ ความถูกต้องของภาพที่นำเสนอเนื้อหา ๒.๒ ขนาดของภาพเหมาะสมกับบทเรียน ๒.๓ การสื่อความหมายของภาพประกอบบทเรียน ๒.๔ การเร้าความสนใจด้วยภาพประกอบบทเรียน ๒.๕ การใช้ภาษาและสะกดคำถูกต้อง ๓ ด้านการออกแบบภาพในบทเรียน ๓.๑ แบบและขนาดของตัวอักษรนำเสนอชัดเจนดี ๓.๒ ความเหมาะสมของสีจอภาพ ๓.๓ ความเหมาะสมของอักษร สี เทคนิคต่างๆ ๓.๔ การใช้ภาษาสื่อสารเข้าใจได้ดี ๓.๕ การบรรยายเนื้อหา ๔ ด้านการเรียนรู้ในบทเรียน ๔.๑ คำอธิบายในบทเรียนชัดเจน ๔.๒ ความต่อเนื่องของการนำเสนอเนื้อหา ๔.๓ บทเรียนส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียน ๔.๔ บทเรียนเหมาะสมกับระดับผู้เรียน ๔.๕ ความเหมาะสมของวิธีเรียนรู้จากบทเรียน ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะอื่นๆ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ลงชื่อ......................................................... (.............................................................) ผู้ประเมิน
๘๒ แบบประเมินแผนการจัดการเรียนรู้ วิชา พระพุทธศาสนา รหัสวิชา ส ๓๑๑๐๑ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ แผนการจัดการเรียนรู้เรื่อง พระพุทธศาสนา คำชี้แจง : ข้อความที่เสนอต่อไปนี้เป็นเกณฑ์พื้นฐานในการประเมินแผนการจัดการเรียนรู้ โปรดใส่ เครื่องหมายถูก () ลงในช่องที่ตรงกับความคิดเห็นลงในแบบประเมิน และหากท่านมี ข้อเสนอแนะกรุณาระบุรายละเอียดให้เป็นแนวทางในการปรับปรุงต่อไป รายการประเมิน ระดับความคิดเห็น หมายเหตุ +๑ ๐ -๑ ๑. หน่วยการเรียนรู้มีองค์ประกอบครบถ้วนเหมาะสมและมี รายละเอียดที่สอดคล้องสัมพันธ์กัน ๒. การเขียนสาระที่สำคัญในแผน กระชับ ครอบคลุม ตามเป้าหมาย ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้มีความชัดเจนถูกต้องครอบคลุมเนื้อหา สาระ ๔. เนื้อหา / กิจกรรมการสอนเหมาะสมกับจำนวนเวลาที่กำหนด ๕. เนื้อหาสาระในแผนถูกต้องตามหลักวิชาการ ๖. กิจกรรมการเรียนรู้หลากหลาย / เหมาะสมกับวัย ของผู้เรียนและสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง ๗. กิจกรรมการสอนสอดคล้องกับบทเรียนอย่างมีวิจารณญาณ ๘. มีการใช้สื่อ / แหล่งการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับวัย และ เนื้อหาสาระ ๙. มีรูปแบบการวัดผลและประเมินผลที่หลากหลาย ๑๐. มีการวัดผลและประเมินผลที่สอดคล้องกับจุดประสงค์การ เรียนรู้ ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ................................................................................................................................................................ ลงชื่อ……………………………………… (……………………………………………….) ผู้ประเมิน
๘๓ แบบประเมินแผนการจัดการเรียนรู้ วิชา พระพุทธศาสนา รหัสวิชา ส ๓๑๑๐๑ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ แผนการจัดการเรียนรู้เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา คำชี้แจง : ข้อความที่เสนอต่อไปนี้เป็นเกณฑ์พื้นฐานในการประเมินแผนการจัดการเรียนรู้ โปรดใส่ เครื่องหมายถูก () ลงในช่องที่ตรงกับความคิดเห็นลงในแบบประเมิน และหากท่านมี ข้อเสนอแนะกรุณาระบุรายละเอียดให้เป็นแนวทางในการปรับปรุงต่อไป รายการประเมิน ระดับความคิดเห็น หมายเหตุ +๑ ๐ -๑ ๑. หน่วยการเรียนรู้มีองค์ประกอบครบถ้วนเหมาะสมและมี รายละเอียดที่สอดคล้องสัมพันธ์กัน ๒. การเขียนสาระที่สำคัญในแผน กระชับ ครอบคลุม ตามเป้าหมาย ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้มีความชัดเจนถูกต้องครอบคลุมเนื้อหา สาระ ๔. เนื้อหา / กิจกรรมการสอนเหมาะสมกับจำนวนเวลาที่กำหนด ๕. เนื้อหาสาระในแผนถูกต้องตามหลักวิชาการ ๖. กิจกรรมการเรียนรู้หลากหลาย / เหมาะสมกับวัย ของผู้เรียนและสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง ๗. กิจกรรมการสอนสอดคล้องกับบทเรียนอย่างมีวิจารณญาณ ๘. มีการใช้สื่อ / แหล่งการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับวัย และ เนื้อหาสาระ ๙. มีรูปแบบการวัดผลและประเมินผลที่หลากหลาย ๑๐. มีการวัดผลและประเมินผลที่สอดคล้องกับจุดประสงค์การ เรียนรู้ ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ................................................................................................................................................................ ลงชื่อ……………………………………… (……………………………………………….) ผู้ประเมิน
๘๔ แบบประเมินแผนการจัดการเรียนรู้ วิชา พระพุทธศาสนา รหัสวิชา ส ๓๑๑๐๑ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ แผนการจัดการเรียนรู้เรื่อง ศาสนพิธี คำชี้แจง : ข้อความที่เสนอต่อไปนี้เป็นเกณฑ์พื้นฐานในการประเมินแผนการจัดการเรียนรู้ โปรดใส่ เครื่องหมายถูก () ลงในช่องที่ตรงกับความคิดเห็นลงในแบบประเมิน และหากท่านมี ข้อเสนอแนะกรุณาระบุรายละเอียดให้เป็นแนวทางในการปรับปรุงต่อไป รายการประเมิน ระดับความคิดเห็น หมายเหตุ +๑ ๐ -๑ ๑. หน่วยการเรียนรู้มีองค์ประกอบครบถ้วนเหมาะสมและมี รายละเอียดที่สอดคล้องสัมพันธ์กัน ๒. การเขียนสาระที่สำคัญในแผน กระชับ ครอบคลุม ตามเป้าหมาย ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้มีความชัดเจนถูกต้องครอบคลุมเนื้อหา สาระ ๔. เนื้อหา / กิจกรรมการสอนเหมาะสมกับจำนวนเวลาที่กำหนด ๕. เนื้อหาสาระในแผนถูกต้องตามหลักวิชาการ ๖. กิจกรรมการเรียนรู้หลากหลาย / เหมาะสมกับวัย ของผู้เรียนและสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง ๗. กิจกรรมการสอนสอดคล้องกับบทเรียนอย่างมีวิจารณญาณ ๘. มีการใช้สื่อ / แหล่งการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับวัย และ เนื้อหาสาระ ๙. มีรูปแบบการวัดผลและประเมินผลที่หลากหลาย ๑๐. มีการวัดผลและประเมินผลที่สอดคล้องกับจุดประสงค์การ เรียนรู้ ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ................................................................................................................................................................ ลงชื่อ……………………………………… (……………………………………………….) ผู้ประเมิน
๘๕ แบบประเมินความสอดคล้องระหว่างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กับจุดประสงค์การเรียนรู้เรื่อง การพัฒนาสื่อการสอนวิชาพระพุทธศาสนา ด้วยโปรแกรม Canva เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนโคกสีพิทยาสรรพ์โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (๕E) คำชี้แจง โปรดพิจารณาข้อสอบแต่ละข้อว่าสามารถวัดได้ตามตรงวัตถุประสงค์การเรียนรู้ เมื่อพิจารณา แล้วให้ท่านทำเครื่องหมาย / ลงในช่องที่ตรงตามกับความคิดเห็นของท่านมากที่สุด โดยใช้เกณฑ์ดังนี้ +๑ หมายถึง แน่ใจว่าข้อสอบมีความสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ ๐ หมายถึง ไม่แน่ใจว่าข้อสอบมีความสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ -๑ หมายถึง แน่ใจว่าข้อสอบไม่มีความสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ ขอบพระคุณเป็นอย่างสูง นางสาวธีรนุช สุดสา นิสิตระดับปริญญาตรี สาขาวิชาสังคมศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น
๘๖ วัตถุประสงค์ การเรียนรู้ ข้อสอบ ระดับ พฤติกรรม ระดับความ สอดคล้อง ข้อเสนอแนะ +๑ ๐ -๑ อธิบาย ความหมาย ความสำคัญของ วันสำคัญทาง พระพุทธศาสนา ๑. วันมาฆบูชา ตรงกับข้อใด ก. วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๒ ข. วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ ค. วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๔ ง. วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๕ เฉลย ข้อ ข. ความรู้ ความจำ . อธิบาย ความหมาย ความสำคัญของ วันสำคัญทาง พระพุทธศาสนา ๒. วันมาฆบูชา มีเหตุการณ์อัศจรรย์ที่มี องค์ประกอบสำคัญกี่อย่าง ก. ๒ อย่าง ข. ๓ อย่าง ค. ๔ อย่าง ง. ๕ อย่าง เฉลย ข้อ ก. ความรู้ ความจำ อธิบาย ความหมาย ความสำคัญของ วันสำคัญทาง พระพุทธศาสนา ๓. วันมาฆบูชา มีพระสงฆ์จำนวนกี่รูปมา ประชุมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ก. ๓,๒๕๐ รูป ข. ๒,๒๕๐ รูป ค. ๑,๒๕๐ รูป ง. ๑,๒๐๐ รูป เฉลย ข้อ ข. ความรู้ ความจำ วิเคราะห์ หลักธรรม และ ปฏิบัติตน ในวันสำคัญทาง พระพุทธศาสนา ๔. พระสงฆ์ที่มาประชุมนั้นมีคุณสมบัติพิเศษ อย่างไร ก. พระพุทธเจ้าทรงบวชให้ ข. เป็นพระอรหันต์ทั้งหมด ค. เป็นพระสงฆ์ที่อยู่ทั่วไป ง. ถูกทั้งข้อ ก และ ข เฉลย ข้อ ข. การ วิเคราะห์
๘๗ วัตถุประสงค์ การเรียนรู้ ข้อสอบ ระดับ พฤติกรรม ระดับความ สอดคล้อง ข้อเสนอแนะ +๑ ๐ -๑ อธิบาย ความหมาย ความสำคัญของ วันสำคัญทาง พระพุทธศาสนา ๕. พระอรหันต์ หมายความว่าอย่างไร ก. พระสงฆ์ทั่วไป ข. ผู้สำเร็จธรรมพิเศษสูงสุด ค. คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ง. พระสงฆ์ที่พระพุทธเจ้าบวชให้ เฉลย ข้อ ง. ความเข้าใจ วิเคราะห์ หลักธรรม และ ปฏิบัติตน ในวันสำคัญทาง พระพุทธศาสนา ๖. เราถือวันมาฆบูชาเป็นวันที่เกี่ยวข้องกับ อะไร ก. พระพุทธเจ้าประสูติ ข. พระพุทธเจ้าตรัสรู้ ค. พระพุทธเจ้าปรินิพพาน ง. พระพุทธเจ้าแสดงธรรมครั้งแรก เฉลย ข้อ ข. ความเข้าใจ วิเคราะห์ หลักธรรม และ ปฏิบัติตน ในวันสำคัญทาง พระพุทธศาสนา ๗. ธรรมะที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่พระสงฆ์ ในวันมาฆบูชา คืออะไร ก. ธรรมจักรกัปปวัตนสูตร ข. พระเวสสันดรชาดก ค. โอวาทปาฏิโมกข์ ง. ทศชาติ เฉลย ข้อ ก. ความรู้ ความจำ ตระหนักและเห็น คุณค่าของ วันสำคัญทาง พระพุทธศาสนา และเทศกาลที่ สำคัญของศาสนา ที่ตนนับถือ ๘. ธรรมะที่แสดงในวันมาฆบูชามีใจความ สำคัญอย่างไร ก. การรู้จักเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ข. การอดทน อดกลั้นต่อความทุกข์ยาก ค. การรู้จักอ่อนน้อม ถ่อมตน ง. การทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจ ให้ผ่องใส ความเข้าใจ
๘๘ วัตถุประสงค์ การเรียนรู้ ข้อสอบ ระดับ พฤติกรรม ระดับความ สอดคล้อง ข้อเสนอแนะ +๑ ๐ -๑ เฉลย ข้อ ค. วิเคราะห์ หลักธรรม และ ปฏิบัติตน ในวันสำคัญทาง พระพุทธศาสนา ๙. ข้อใดควรปฏิบัติในวันมาฆบูชา ก. ชวนพ่อแม่ไปทำบุญที่วัด ข. ชวนเพื่อนไปเที่ยวสวนสัตว์ ค. ชวนเพื่อนไปจับปลา ง. ชวนเพื่อนไปวิ่งเล่น เฉลย ข้อ ง. การนำไปใช้ วิเคราะห์ หลักธรรม และ ปฏิบัติตน ในวันสำคัญทาง พระพุทธศาสนา ๑๐. กิจกรรมที่ชาวพุทธปฏิบัติร่วมกันในวัน มาฆบูชา คือข้อใด ก. ทำบุญตักบาตร ข. ฟังธรรม รักษาศีล ค. เวียนเทียน ง. ถูกทุกข้อ เฉลย ข้อ ข. การนำไปใช้ ตระหนักและเห็น คุณค่าของ วันสำคัญทาง พระพุทธศาสนา และเทศกาลที่ สำคัญของศาสนา ที่ตนนับถือ ๑๑. วันสำคัญทางพระพุทธศาสนาวันใดที่ชาว พุทธถือว่าสำคัญที่สุด ก. วันมาฆบูชา ข. วันวิสาขบูชา ค. วันอาสาฬหบูชา ง. วันอัฏฐมีบูชา เฉลย ข้อ ข. การ วิเคราะห์ อธิบาย ความหมาย ความสำคัญของ วันสำคัญทาง พระพุทธศาสนา ๑๒. พระพุทธเจ้าทรงผนวชอยู่นานเท่าไรจึง ได้ ตรัสรู้ ก. ๖ ปี ข. ๑๖ ปี ค. ๓๕ ปี ง. ๔๕ ปี ความรู้ ความจำ
๘๙ วัตถุประสงค์ การเรียนรู้ ข้อสอบ ระดับ พฤติกรรม ระดับความ สอดคล้อง ข้อเสนอแนะ +๑ ๐ -๑ เฉลย ข้อ ก. วิเคราะห์ หลักธรรม และ ปฏิบัติตน ในวันสำคัญทาง พระพุทธศาสนา ๑๓. เหตุใดพระพุทธเจ้าจึงทรงออกผนวช ก. เพื่อครอบครัว ข. เพื่อหาหนทางดับทุกข์ ค. ศึกษาหลักธรรม ง. ไม่ต้องการเป็นกษัตริย์ เฉลย ข้อ ข. การ วิเคราะห์ อธิบาย ความหมาย ความสำคัญของ วันสำคัญทาง พระพุทธศาสนา ๑๔. พระพุทธเจ้ามีพระนามเดิมว่าอะไร ก. ราหุล ข. สิทธัตถะ ค. ศากยกุมาร ง. สุทโธทนะ เฉลย ข้อ ข. ความรู้ ความจำ วิเคราะห์ หลักธรรม และ ปฏิบัติตนในวัน สำคัญทาง พระพุทธศาสนา ๑๕. พุทธศาสนิกชนควรปฏิบัติตัวอย่างไรใน วันวิสาขบูชา ก. ทำบุญตักบาตร ข. รักษาศีล ค. ปล่อยนก ปล่อยปลา ง. ถูกทุกข้อ เฉลย ข้อ ง. การนำไปใช้ อธิบาย ความหมาย ความสำคัญของ วันสำคัญทาง พระพุทธศาสนา ๑๖. วันวิสาขบูชา มีเหตุการณ์สำคัญใด เกิดขึ้น ก. พระพุทธเจ้าแสดงโอวาทปาฏิโมกข์ ข. พระพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้ และ ปรินิพพาน ค. พระพุทธเจ้าทรงแสดงธัมมจักกัปปวัต ตนสูตร ความเข้าใจ
๙๐ วัตถุประสงค์ การเรียนรู้ ข้อสอบ ระดับ พฤติกรรม ระดับความ สอดคล้อง ข้อเสนอแนะ +๑ ๐ -๑ ง. เป็นวันที่มีพระสงฆ์รูปแรกเกิดขึ้น เฉลย ข้อ ข. วิเคราะห์ หลักธรรม และ ปฏิบัติตนในวัน สำคัญทาง พระพุทธศาสนา ๑๗. ข้อใดคือการบำเพ็ญประโยชน์ในวันวิ สาขบูชา ก. หมิวและมิ้งช่วยกันทำความสะอาดวัด ข. เมล์ช่วยแม่ตกปลาไปขาย ค. ต้นกับเตยไปเที่ยวสวนสัตว์ ง. เจมนั่งเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ เฉลย ข้อ ก. การนำไปใช้ วิเคราะห์ หลักธรรม และ ปฏิบัติตนในวัน สำคัญทาง พระพุทธศาสนา ๑๘. ในการบำเพ็ญทุกกิริยา พระพุทธเจ้าทรง ปฏิบัติอย่างไร ก. ทรมานร่างกายด้วยวิธีต่าง ๆ ข. ทำงานหนักมากขึ้นกว่าเดิม ค. ทรมานร่างกาย อดอาหาร และกลั้นลมหายใจ ง. นั่งบำเพ็ญเพียรทั้งวันทั้งคืน เฉลย ข้อ ค. ความเข้าใจ อธิบาย ความหมาย ความสำคัญของ วันสำคัญทาง พระพุทธศาสนา ๑๙. พระพุทธเจ้าทรงเผยแผ่พระพุทธศาสนา เป็นเวลากี่ปี ก. ๖ ปี ข. ๑๖ ปี ค. ๓๕ ปี ง. ๔๕ ปี เฉลย ข้อ ง. ความรู้ ความจำ อธิบาย ความหมาย ความสำคัญของ ๒๐. พระพุทธเจ้าตรัสรู้ด้วยวิธีการใด ก. อดอาหาร ข. ทำจิตใจให้สงบ ค. ขบฟันด้วยฟัน ความเข้าใจ