36
ก งเล็กไม่หนาแนน (Fine) 3 คะแนน
ิ
่
ก งขนาดกลาง (Medium) 2 คะแนน
ิ
่
ิ
ก งขนาดใหญ่ แนนมาก (Coarse) 1 คะแนน
่
ิ
ี
นอกจากน มุมในการแตกก ง (Branch Angle) ก็ใช้รวมในการพิจารณา คัดเลือกแม่ไม้
ุ
สนสามใบด้วย โดยพิจารณาเปนคะแนนตามองศา ของก งที แตกออก มาทํามม กับลําต้น ดังน ี
็
ิ
o
มุมฉาก (90 ) 3 คะแนน
o
o
มุมกว้าง (45 - 90 ) 2 คะแนน
o
มุมแหลม (45 ) 1 คะแนน
ื
่
ื
1.5.2.7 ความหนาแนนของเน อไม้ (Wood density) ถอว่ามี
ื
่
ึ
ี
ื
ความสําคัญลักษณะหนง การจัดหาความหนาแนนของเน อ ไม้สนสามใบ จะใช้เครองมอที เรยก
ื
่
3
ื
ึ
ว่า Pilodyn โดยปกติความหนาแนนของเน อ ไม้สนสามใบจะมีค่าประมาณ 3.34 ถง 3.71 g/cm
ื
(Granhof, 1983) เน อไม้ที มีความหนาแนนมาก กจะมีความทนทานในการใช้งานได้หลาย
็
่
ประเภท โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเฟอรนเจอร์ และก่อสร้าง
์
ิ
1.5.3 ลักษณะทางสขภาพ (Health) การพิจารณาถึงสภาพความแข็ง
ุ
ั
แรงทนทาน ตลอดจากความสามารถในการ ปรบตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที ต้นไม้ขึ นอยู่ นับว่าม ี
่
ความสําคัญ ตอการคัด เลอกแม่ไม้สนสาม ใบมาก พบบอยทต้นไม้คณสมบัติต่าง ๆ ดังที กลาวมา
ี
ื
่
่
ุ
แล้วดเกอบทั งหมด แตสภาพ ของใบสน (Needle fascicle) มีอาการเหลืองซด และต่อไปต้นสน
่
ี
ี
ื
้
ี
ี
ื
นั นก็จะตาย ในกรณน พบบอยในสนโอโอคารปา เนองจากถกปลวกเข้าทําลายระบบราก ทําให้
่
์
ู
ต้นไม้ตาย ลักษณะทางด้านสขภาพสามารถที จะพจารณาได้จาก ลักษณะต่อไปน คือ
ิ
ี
ุ
็
ุ
. . . สขลักษณะโดยทั ว ๆ ไป (General health) เปนการ
ู
พิจารณาให้คะแนนแมไม้ โดยอาศัยการดจากลักษณะภายนอกของต้นไม้ ที มีลักษณะแข็งแรง
่
ื
็
ี
ี
ปรบตัวได้ดเรอนยอดมสเขยวเปนมันสดใส ใบแข็ง แรง อวบอ้วน ถือว่าเปนลักษณะที ด ถ้าใบ
ี
ั
ี
็
ี
ิ
ั
ิ
็
เขียวไม่ใส ขนาดเล็กและอ่อน ปรมาณใบน้อยเปนเพราะมีปญหาจากการได้รับปรมาณ แสงน้อย
่
เพราะการเบียดบัง หรอข นอยู่ในทิศทางที เกิดรมเงามากไป หรอเกิดจากโรครา แมลงทําลาย โดย
ึ
ื
ื
ี
ที เรามองจากภายนอก ไม่เห็นก็ได้มีการพิจารณาให้ คะแนนดังน
37
แข็งแรงด ี 3 คะแนน
ุ
สขภาพไม่ดีนัก 2 คะแนน
ใกล้ตาย 1 คะแนน
1.5.3.2 โรค - แมลง ทําลาย (Pest and Diseae) โรคแมลงที
ิ
ื
พบเหนบ่อย ที เกดขึ นกับ สนสามใบ คอ หนอนกนใบสน ด้วงเจาะยอดสน โรคราที ทําให้ ใบสน
็
ิ
ี
เปนสนํ าตาล และปลวกกินรากและลําต้น การให้คะแนนใน ลักษณะน ถ้าไม้สนถูกโรคแมลง
็
ี
ทําลายให้คะแนน 1 คะแนน ถ้าไม่มรองรอยของโรค แมลงเข้าทําลายให้คะแนน 2 คะแนน
่
ี
ื
ปัญหาที พบบ่อยในการคัดเลอกไม้สนสามใบในปา ธรรมชาติ ปรากฏลักษณะต่าง ๆ อยู่ในเกณฑ์
่
ิ
ื
ื
ู
ื
ที ด แต่ปรากฏว่า ที โคนต้นถกชาวบ้าน เจาะเอาเน อไม้ไปทําเช อเพลง หรอเอาไปขายพร้อมกับเอา
ี
ุ
ี
ิ
ไฟเผาโคนต้นเรยกนํ ามันสน ทําให้ไม่สามารถตัดสนใจให้ คะแนนสขภาพแบบใด
ํ
1.5.4 การออกดอกติดผล (Flowering) เปนลักษณะที สาคัญมาก
็
ลักษณะหนง ต้นสนที ออกดอกทั งตัวผ้ตัวเมียย่อม แสดงถึงประสทธภาพของความเหมาะสม กับ
ู
ิ
ึ
ิ
ิ
การพัฒนาให้เปนแมไม้ ในแหลงผลตเมล็ดไม้ต่อไป ซึงคงต้องรวมถงการติดผลด้วย การตรวจด
ู
็
่
่
ึ
การออกดอกตัวผู้และตัวเมีย จําเปนต้องใช้กล้องสองทางไกลชวย เพื อความแม่นยําในการนับ
่
็
่
ี
จํานวนดอก โดยเฉพาะดอกตัวเมียทจะออกตามยอดมีขนาดเล็ก หรอบุคคลที ไมมีความชํานาญ
ื
่
ี
ึ
็
อาจจะดไม่ออกนกว่าเปนยอดธรรมดาไปก็มีสําหรับดอกตัวเมีย สามารถแยกออกได้เปน ระยะ
ู
็
ดังน ี
1.5.4.1 ดอกขนาดเล็ก (Conelet) เปนดอกตัวเมียที เพิ งผ่าน
็
ื
่
การผสมเกสรมา ใหม่ ๆ มขนาดเล็กมากออกตามปลายกิ งด้านบน หรอตามยอดมีตั งแต เขียว
ี
ี
ิ
ื
อ่อน ม่วงหรอแดงเข้ม การนับปรมาณของดอกตัวเมียขนาดเล็ก พร้อมให้คะแนนดังน
่
ไมมีเลย 1 คะแนน
1 – 3 ดอก (เฉลี ย 2 ดอก) 2 คะแนน
4 – 15 ดอก (เฉลย 8 ดอก) 3 คะแนน
ี
16 – 60 ดอก (เฉลย 32 ดอก) 4 คะแนน
ี
61 – 250 ดอก (เฉลี ย 125 ดอก) 5 คะแนน
38
251 – 1,000 ดอก (เฉลี ย 500 ดอก) 6 คะแนน
1,000 – 4,000 ดอก (เฉลี ย 2,000 ดอก) 7 คะแนน
ี
1.5.4.2 ผลขนาดสองป สําหรับผล (cone) ของสนสามใบที ม
ี
ี
่
ขนาดใหญจนถึง ขนาดทพร้อมจะทําการเกบเมล็ด จะสามารถเหนได้ด้วยตาเปลาชัดเจน มีสเขียว
็
่
ี
็
ิ
็
ุ
ื
ิ
ี
เข้มตดอยู่ตามก งเปนกระจกหรอเดยว ๆ จึงต้องทําการนับจํานวน cone สน พร้อมกับการให้
คะแนน หลักการก็เหมือนกับการให้คะแนนดอกขนาดเล็ก
1.5.4.3 ผลเกาค้างปที ยังติดอยู่บนต้น (Old cone) เปนผลที มี
่
็
ี
ิ
อายุเกนกว่า 2 ป ผลจะมีสนํ าตาลถงนํ าตาลเทาผลเปดอ้า เพราะเมล็ดสนปลวรวงหลนหมดแล้ว
ี
ึ
ี
่
ิ
่
ิ
แต่ Cone สนยัง ติดค้างอยู่บนกิ งอยู่ การนับจํานวนและการให้คะแนน ใช้หลักการเดยวกับ
ี
Conelet
ื
1.5.4.4 ดอกตัวผู้ (Male flower หรอ Strobili) การจะสํารวจ
ิ
ี
ิ
ปรมาณ ของดอกตัวผู้ที ออกดอก ประมาณเดอน พฤศจกายน - มกราคม หลังจากระยะเวลาน
ื
่
ี
ดอกก็จะรวงหลนสํารวจไมได้ ลักษณะดอกตัว ผู้ของสนสามใบเปนแท่งปลายแหลม ภายในม
่
่
็
ี
ื
ี
ละอองเกสรสเหลอง เมื อดอกบานเกสรเหล่าน จะปลวไปตามลมมีการ ให้คะแนน ดังน ี
ิ
ู
ดอกตัวผ้มีมาก 3 คะแนน
ดอกตัวผู้มีน้อย 2 คะแนน
ี
ดอกตัวผู้ไม่มเลย 1 คะแนน
่
ุ
ในการปรบปรงพันธไม้สนสามใบ ได้มีการใช้แบบฟอรม การคัดเลอก แมไม้ และการ
ื
์
ั
ุ
์
่
ึ
ให้คะแนนแมไม้ตามตารางที 3 และที 4 และตั งแต่เร ม โครง การจนถง ปัจจบันสามารถ
ิ
ุ
คัดเลอก แม่ไม้สนสามใบ ได้ทั งหมด 313 แม่ไม้
ื
2. การทดลองถิ นกําเนิด (Provenance Trial)
ื
ในขบวนการปรบปรงพันธ์นั น ส งหนงทจะขาดเสยมได้ในการทดลองคอ การ
ิ
ุ
ึ
ุ
ิ
ั
ี
ี
ิ
ิ
ุ
์
ทดลอง ชนดไม้ (Species Trial) ดังแสดงในภาพที การปรบปรงพันธไม้สนก็เช่นนั น เมื อเร ม
ุ
ั
ิ
่
แรกก็ได้มีการทดลอง ชนดไม้สนที เหมาะสมสําหรับประเทศไทย เพื อการปลูกสร้างสวนปา ใน
39
้
้
่
้
์
ตารางที 3 การใหคะแนนในการคัดเลือกแมไมสนสามใบในโครงการปรับปรุงพันธุไมสน
Code Character Asseessment Score
VIGOUR
H Height m
D Diameter cm
QUALITY
FKP Fork Absent 2
Present 1
STR Stem straightness above 1.3 m Straight 9 - 7
Medium 6 - 4
Crooked 3 - 1
BSP Basal sweep Absent 2
Present 1
FTP Foxtail Absent 2
Present 1
CDP Crown defect e.g. Basket whorls,
ramicorn, kinkiness Absent 2
Present 1
BRC Branch coarseness Fine 9 - 7
Medium 6 - 4
Coarse 3 - 1
WDP Wood density by Pilodyn
HEALTH
GHE General health Healthy 3
Unhealthy 2
Dying/dead 1
ICP Incompatability of stock/scion Absent 4
Present good 3
Present medium 2
Present bad 1
PFD Pest and Disease (termites, shootborers,
defoliators, & fungi etc.) Absent 2
Present 1
40
่
้
์
ื
่
การใหคะแนนในการคัดเลอกแมไมสนสามใบในโครงการปรับปรุงพันธุไมสน (ตอ)
้
้
Code Character Asseessment Score
FLOWERING
CLN Conelet (count) 0 1
latest pollinated female flowers 1 - 3 (2) 2
4 - 15 (8) 3
16 - 60 (32) 4
61 - 250 (125) 5
251 - 1000 (500) 6
1001 - 4000 (2000) 7
CNN Mature cones (count) 0 1
due to open this year 1 - 3 (2) 2
4 - 15 (8) 3
16 - 60 (32) 4
61 - 250 (125) 5
251 - 1000 (500) 6
1001 - 4000 (2000) 7
OCN Old cones, remaining on branches 0 1
after shedding. (count) 1 - 3 (2) 2
4 - 15 (8) 3
16 - 60 (32) 4
61 - 250 (125) 5
251 - 1000 (500) 6
1001 - 4000 (2000) 7
MFN Male flowers Many 3
Few 2
Absent 1
ที มา : สมยศ กิจค้า, 2530
41
้
ื
ตารางที 4 แบบฟอรมการใหคะแนนในการคัดเลอกไม้สนสามใบ
์
QL HL FL
No.
lock No. Sp +SS Treatments Tree No. Height (m) DBH (cm) FKP STR BSP FTP CDP BRC WDP GHE ICP PED CLN CNN OCN MFN
B
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
1
6
12
18
24
30
36 Recorder :
หมายเหตุ : FKP = Fork CDP = Crown defect ICP = Incompatability
STR = Stem straightness BRC = Branch coarseness PED = Pest and disease
BSP = Basal sweep WDP = Wood density CLN = Conelet
FTP = Foxtail GHE = General health CNN = Mature cone
OCN = Old cone
MFN = Male flower
ที มา : สมยศ กิจค้า , 2530
42
ภาพที 8 การทดลองชนิดพันธุไม ้
์
ที มา Barner et al, 1988
43
็
ุ
ี
ิ
ิ
ึ
ุ
ุ
การใช้เปนวัตถดบในอตสาหกรรมทําเยื อกระดาษต่อไปซงก็สรปได้ว่าม ไม้สน พื นเมือง 2 ชนด
คือ สนสามใบ และสนสองใบ กับสนต่างประเทศ อก 2 ชนด คอ สนคารเบีย และสนโอโอคาร ์
ิ
ิ
ี
ื
ี
ป้า มีความสามารถทจะพัฒนา และปรับปรงพันธ์ ให้เจรญเติบโตในสภาพ แวดล้อมแบบประเทศ
ุ
ิ
ุ
ไทยได้ด เหมาะสมที จะสงเสรมเพื อการปลกสร้างสวนปาต่อไป สําหรบ สนสามใบมการทดลอง
ิ
ี
ี
่
ู
่
ั
ี
ู
ปลกชนดไม้ครั งแรก ใช้แหลงเมล็ดไม้จาก อมกอย จังหวัดเชยงใหม่ (S.0003) มาทดลองปลก
่
๋
ู
ิ
ิ
รวมกับไม้สนชนดต่าง ๆ
่
่
ี
ู
ิ
ิ
์
ื
ในป 1979 Zumer – Linder ให้คําจํากัดความวา ถ นกําเนด คอ แหล่งที ทางภมิศาสตร
ึ
ี
ื
หรอสถานที ทซงต้นไม้ขึ นอยู่ตามธรรมชาติ และลักษณะทางพันธกรรมของ ต้นไม้ ได้มีการ
ุ
พัฒนาผ่านการ คัดเลอกตามธรรมชาติ (Bagchi, 1988)ในป 1976 Wright ได้ให้ความหมายไว้ว่า
ี
ื
ึ
ื
ถ นกําเนด คอ สถานที สดท้ายทางธรรมชาติที ต้นไม้หรอกลมไม้ข นอยู่ ในทางด้านปาไม้จะเน้น
ิ
่
ิ
ุ
ื
ุ่
ิ
ไปที สถานที กําเนดทาง ด้านภูมประเทศ นอกจากน ในป 1972 Snyder ได้ให้ความหมายของถ น
ิ
ิ
ี
ี
่
กําเนด คือ ถ นดั งเดมทางภูมิศาสตรที เปนแหลงของ เมล็ด ละอองเกสร หรอสวนต่าง ๆ ของต้น
ื
่
ิ
ิ
์
ิ
็
ิ
็
์
็
ไม้ที นํามาขยายพันธ (Bagchi, 1988) การทดลองถ นกําเนด เปนการทดลองที มีการกระทําเปน
ุ
ิ
ี
ิ
ื
่
ซํ า ๆ (replicated) มีการเปรยบเทียบการเจรญเติบโตจากเมล็ด หรอจากสวนของต้นไม้ที ไม่ใช้
ี
เมล็ด จากต้นไม้ชนดเดยวกันจากปาธรรมชาติ (Wright , 1976) Callaham (1964) กลาวว่า การ
ิ
่
่
ึ
ิ
ิ
้
ทดลองถ นกําเนดมีเปาหมายที จะทราบผล ความผันแปรของ phenotype ซงประกอบด้วย genetic
กับ environment ในกลมไม้จากสถานที หรอแหล่ง กําเนดต่าง ๆ ของกลมไม้นั น (Barner et al,
ุ่
ื
ุ่
ิ
1988)
ิ
ุ
2.1 วัตถประสงค์ของ การทดลองถิ นกําเนด
ื
ิ
ก่อนที ดําเนนการทดลอง หรอจัดการในการทดลอง ควรจะต้องทําความ
ี
่
เข้าใจ จุดประสงค์ที แนนอนดังน (Barner et al, 1988)
ิ
2.1.1 ต้องสามารถแยกแยะ ผลผลตที เกิดจากการทดลองถ นกําเนด ใน
ิ
ิ
สภาวะของ
2.1.1.1 ปรมาตร ผลผลิตโดยรวม ต่อ ไร ่
ิ
44
่
ุ
2.1.1.2 ผลผลิตด้านคณภาพ เชน ความตรงเปลาของลําต้น สัด
่
่
ื
ี
ิ
ี
สวนของปรมาตรไม้ เมื อเปรยบเทยบระหวางลําต้นกับเรอนยอด ความหนาแนนของเน อไม้
่
ื
ี
เส ยน ตรง เปนต้น
็
ุ
่
ุ
2.1.1.3 ความสามารถที จะปรับปรงพันธกรรม เชน มีลักษณะ
ิ
ิ
บางอย่างจะแปรปรวนได้ภายในถ นกําเนดเดียวกัน
ื
ี
่
ิ
2.1.1.4 ความสามารถของผลผลตทต่อเนองตลอดไป เชน
ุ
ู
ี
ู
ื
ี
สรระของ ต้นไม้ทจะปรับตัว ให้เข้ากับพ นที ปลก ความทนทาน ความสามารถที จะปรับปรงรป
็
ทรงของ ต้นไม้ ความต้านทานโรคแมลง เปนต้น
2.1.2 จากต้นไม้ทเลอกมาทดลองต้องสามารถทําให้เกดกลุ่มประชากรที ทําการ
ื
ี
ิ
ุ
ุ
ปรับปรงพันธ์ (Breeding population) เพื อผลิตเมล็ดสําหรับ ใช้ในการปลูก สวนปาต่อไป
่
็
ถ นกําเนดผลิตเมลด (Provenance Seed Stand) ในป 1984 Willan ได้ให้คําจํากัดความ
ิ
ิ
ี
ิ
ู
่
ื
ิ
ไว้ว่าคือ กลมไม้ที ร้ถ นกําเนดแนนอน และกลุ่มไม้นั นได้ผ่านการทดสอบ หรอทดสอบเรยบ
ี
ุ่
ื
ิ
ู
่
ี
ี
ร้อยแล้ว ซงมีคณสมบัติที สงกวามาตราฐานทั วไป ในทางปฏบัติต้องมการทําเครองหมาย
ุ
่
ึ
ิ
ิ
ื
ื
ขอบเขต ถ นกําเนดผลิตเมล็ด ให้ชัดเจนแนนอน ทําบันทก ทําแผนที เพอเอาไว้คัดเลอกแมไม้เก็บ
่
ิ
็
ุ
ิ
เมล็ดอนรักษ์ถ นกําเนด (Provenance Conservation) เปนต้น ดังแสดงใน ภาพท 9
ี
ิ
การทดลองถิ นกําเนดสนสามใบในประเทศไทย ได้ดําเนนการทดลองครั งแรกในป
ิ
ี
็
1971 ไปพร้อมกับการทดลองชนดพรรณไม้ เพื อเปนการย่นระยะเวลาในการทดลอง เนองจาก
ื
ิ
็
ี
เปนที ทราบกันดว่าต้นไม้ ใช้ระยะเวลาเติบโตที ยาวนานกว่าจะเก็บข้อมูล สรปผลการทดลองได้
ุ
ิ
เมื อเร มการทดลองครั งแรกวางเปาหมายที จะทราบถ นกําเนดต่าง ๆ ของสนสามใบ ที สามารถ
ิ
ิ
้
ู
ิ
็
่
ั
ู
ิ
ื
ปรบตัว และเหมาะสมที จะปลูกสร้างสวนปาได้ ในสภาพภมประเทศที เปนพ นที สง คือ บรเวณ
ึ
สถานทดลองปลกพรรณไม้ห้วยบง อําเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ซงมีความสงจาก ระดับนํ าทะเล
ี
ู
ู
ู
ุ
ิ
็
ประมาณ 800 เมตร และในสภาพภมิประเทศที เปนพื นที ระดับตํา คือ บรเวณ จังหวัดสราษฎร ์
ู
ี
ึ
ธาน ซงมีความสงจากระดับนํ าทะเลประมาณ 100 เมตร
การทดลองถ นกําเนดสนสามใบครั งแรกในประเทศไทยน ได้ใช้เมล็ดสนสามใบ จากถ น
ิ
ิ
ี
ิ
ิ
ิ
กําเนดทั งหมด 18 แหล่งเพื อใช้ในการทดลอง แยกได้เปนเมลดจากถ นกําเนดประเทศไทย 7
็
ิ
็
ิ
ิ
ิ
ิ
์
ิ
ิ
ิ
ิ
่
่
่
แหลง เมล็ดจากถ น กําเนดฟลปปนส 5 แหลง เมล็ดจากถ นกําเนดแซมเบีย 5 แหลง เมล็ดจากถ น
ี
ิ
ิ
กําเนดมาลาวี 1 แหล่ง ดังแสดงในตารางที 5 เมล็ดจากถิ นกําเนด ดังกล่าวน ได้นํามาเพาะ และ
45
ภาพที การทดลองถิ นกําเนิดของพันธุไม ้
์
ที มา Barner et al, 1988
46
ตารางที 5 ถิ นกําเนิดของสนสามใบ
( Location of provenances of P. kesiya)
Reg. Locality Lat. Long. Elev.
No. (m)
o
0001 Mae Rid, Chiang Mai, Thailand 18 10 N 98 50 E 1200
o
o
o
0002 Doi Suthep, Chiang Mai, Thailand 18 46 N 99 00 E 11-1300
o
o
0003 Omkoi, Chiang Mai, Thailand 17 56 N 98 17 E 1000
o
0006 Doi Intanon, Chiang Mai, Thailand 18 41 N 98 27 E 1000
o
o
o
0011 Phu Kradung, Loei, Thailand 16 51 N 101 47 E 1300
0012 Nam Now, Phetchabun, Thailand 16 40 N 101 33 E 800
o
o
o
0013 Lagangilang, Abra, Philippines 17 33 N 120 57 E 1700
o
o
0014 Lepanto, Benguet, Philippines 16 51 N 120 45 E 1200
o
o
o
0015 Kabayan, Benguet, Philippines 16 39 N 120 51 E 2300
o
o
0016 Boboc, Zambales, Philippines (?) 16 20 N 120 50 E 12-2000
o
o
0017 Coto Mine, Zambalez, Philippines 15 35 N 120 05 E 4-1100
0018 Chati, Zambia, (Madagascar Origin)
0019 Samfya, Zambia (Philippines origin)
0020 Chichele, Zambia (Assam origin)
0021 Dola Hill, Zambia (Philippines origin)
0022 Chichele, Zambia (Vietnam origin)
0028 Zamba, Malawi (Philippines origin)
o
o
0029 Baw Luang, Chiang Mai, Thailand 18 09 N 98 20 E 1000
ที มา : บรรดิษฐ์ หงษ์ทอง, 2528
47
่
ิ
ื
ผลตกล้าสนสามใบ เปนเวลา 6 เดอน ในเรอนเพาะชํา ก่อนจะขนสง ไปปลูกในแปลงทดลองที
ื
็
ี
ุ
เชียงใหม่ และ สราษฎร์ธาน ในป 1971
ี
แผนผังการทดลองปลกแบบ3 x 6 Randomized complete block, 4 replication. 36
ู
ุ
trees/plot in square at 3 x 3 m. spacing. ในทั ง 2 จังหวัด มีการเก็บข้อมูล และสรปผลในป 1974
ี
ี
ดังแสดงในตารางที 6 และได้มีการเก็บรวบรวมข้อมูลอีกในป 1976 และป 1997 เฉพาะที
ี
ี
ู
ี
สถานทดลองปลกพรรณไม้ห้วยบง จังหวัดเชยงใหม่ ดังแสดงในตารางที 7 จากตารางท
ี
ึ
ซงเปน ช่วงระยะแรกของการทดลอง Chuntaparb et al. (1974) สรปผล การทดลอง ไว้ว่า
ุ
็
1) สนสามใบ เจรญเติบโตได้รวดเรวกว่า ในสภาพดนที อดมสมบูรณ์ ภายใต้
็
ุ
ิ
ิ
ุ
ี
ปรมาณฝน ตกมาก โดยเฉพาะที สราษฎร์ธาน ภาคใต้ของประเทศ
ิ
ิ
ิ
ู
2) ทุกถ นกําเนด มีอัตราการรอดตายสงกว่า ในจังหวัดเชียงใหม่ ภาคเหนอ ของ
ื
ประเทศ
ิ
ิ
3) ถิ นกําเนดดอยอนทนนท์ Coto Mine (Phil.), Chati (ex. Madag.) และ
Chichele (ex. Vietn.) สามารถที เจรญเติบโตดี ปรับตัวเข้ากับสภาพ แวดล้อมในภาคเหนอ และ
ื
ิ
ภาคใต้ของ ประเทศได้
ุ
ี
ี
ิ
ู
4) มีถง 9 ถ นกําเนด ในสราษฎร์ธาน ที มรปทรงตรงเปลา จากตารางที 7
ิ
ึ
ิ
่
สามารถที จะกล่าวได้วา การทดลองถ นกําเนดสนสามใบ เพื อการปลูกสร้างสวนปาใน
ิ
่
ิ
็
ิ
ิ
่
ุ
อนาคต ถ นกําเนดดอยอินทนนท์ ดอยสเทพ และแมรด เปนถ นกําเนดที ดที สด เหมาะที จะเก็บ
ี
ิ
ิ
ุ
่
ิ
เมล็ดจากถ นกําเนด น เพื อใช้ในการ ปลูกสร้างสวนปาต่อไป
ิ
ี
ี
ิ
ี
ึ
ิ
ได้มีการทดลองถิ นกําเนดสนสามใบในบรเวณพื นทตําข นอีกครั งในป 1976 โดยได้นํา
็
ิ
ิ
ิ
สน สามใบจาก ถิ นกําเนด 11 แหลง ไปปลกที ท่าแซะ จังหวัดชุมพร เปนสนสามใบ ที มีถ นกําเนด
ู
่
ิ
ี
์
่
จากประเทศ ไทย 8 แหล่ง ฟลปปนส 1 แหลง และแซมเบีย 2 แหลง โดยทําการเพาะเมล็ดเตรยม
่
ิ
ิ
ึ
กล้าสนสามใบ ลวงหน้าก่อน 1 ป จงขนสงไปปลูกทชมพร ดังแสดงในตารางที 8 และ 9 พอจะ
่
ี
่
ี
ุ
ิ
ิ
ิ
ี
ี
ิ
สรปการทดลองในครั งน ได้ว่า สนสามใบจากถ นกําเนด ดอยอนทนนท์ มีอัตราการเจรญเติบโตด
ุ
ิ
ุ
มาก แต่อัตราการรอดตายยังไม่ดีนัก ในขณะที การเจรญเตบโตทางความสงดที สด คือ ถ นกําเนด
ิ
ิ
ิ
ี
ู
่
ู
ิ
ห้วยจําปา จังหวัดเชียงใหม่ และจากถ นกําเนด Chichele มีอัตราการรอดตายอยู่ในระดับสงเชน
ิ
กัน
48
ี
ี
้
ตารางที 6 ขอมูลในป 1974 จากการทดลองถิ นกําเนิด สนสามใบในป 1971
(Provenance trials of P. kesiya planted 1971. Averages of data recorded 1974.)
Ref Height (cm) Survival % % %
No. Provenance Chiang Chiang Healthy Straight
Surat Mai Surat Mai Chiang Mai Surat
0001 Mae Rid 171.4 109.3 70.2 93.1 93.2 94.3
0002 Doi Suthep 208.5 104.3 58.3 96.5 90.8 95.2
0003 Omkoi 175.5 80.9 57.7 84.7 85.1 94.9
0006 Doi Intanon 240.8 110.0 66.7 86.8 87.0 94.9
0011 Phu Kradung 185.3 99.2 66.7 85.4 94.3 91.5
0012 Nam Now 180.7 80.2 66.7 86.8 94.2 96.0
0013 Lagangilang 204.1 98.1 66.7 82.6 91.2 85.5
0014 Lepanto 217.7 98.9 66.7 73.6 92.3 85.4
0015 Kabayan 207.8 81.2 63.2 91.0 93.9 80.7
0016 Boboc (?) 242.5 88.4 71.6 93.1 91.4 89.0
0017 Coto Mine 232.7 104.9 68.1 92.4 91.6 71.5
0018 Chati 224.5 108.2 71.5 75.0 91.8 91.7
0019 Samfya 250.4 87.3 67.4 92.4 93.9 78.8
0020 Chichele 176.3 83.7 54.9 88.9 89.7 88.9
0021 Dola Hill 224.0 85.6 75.7 87.5 91.6 92.5
0022 Chichele 226.2 103.9 60.4 89.6 88.7 91.9
0028 Malawi 213.4 92.8 76.4 85.4 84.1 92.5
0029 Baw Luang 174.0 91.3 67.6 91.7 92.4 95.4
Average 208.7 94.9 66.6 87.6 91.0 89.5
ที มา : บรรดษฐ์ หงษ์ทอง, 2528
ิ
ิ
้
ตารางที 7 การเจรญเติบโตทางความสูง และอัตราการรอดตายของไมสนสามใบ ที หวยบง จงหวัดเชยงใหม ่
ั
้
ี
(Growth and Survival of P. kesiya at Huey Bong, Chiang Mai)
1974 1976 1997
Reg Seed Source Height Survival Reg Seed Source Height Survival Reg Seed Source Height Survival
no. m. % no. m. % no. m. %
S. S. S.
0017 Coto Mine (Phil.) 1.15 92 0006 Doi Inthanon 2.88 85 0006 Doi Inthanon 21.71 53.47
0006 Doi Inthanon 1.10 87 0001 Mae Rid 2.79 92 0002 Doi Suthep 21.09 54.86
0001 Mae Rid 1.09 93 0002 Doi Suthep 2.73 96 0001 Mae Rid 20.38 53.47
0018 Chati (ex. Madag.) 1.08 75 0017 Coto Mine (Phil.) 2.73 96 0012 Nam Now 19.66 61.11
0002 Doi Suthep 1.04 96 0022 Chichele (ex. Vietn) 2.55 90 0017 Coto Mine (Phil.) 19.58 61.81
0022 Chichele (ex. Vietn) 1.04 90 0011 Phu Kradung 2.47 84 0029 Baw Luang 19.27 56.94
49
0011 Phu Kradung 0.99 85 0018 Chati (ex. Madag.) 2.46 74 0011 Phu Kradung 19.16 54.17
0013 Lagangillang (Phil.) 0.98 82 0029 Baw Luang 2.42 92 0003 Om Koi 18.82 55.56
0014 Lepanto(Phil.) 0.98 74 0014 Lepanto(Phil.) 2.31 74 0019 Samfya (ex. Phil.) 18.14 63.89
0028 Zomba 0.93 85 0013 Lagangillang (Phil.) 2.31 82 0028 Zomba 17.96 63.19
0029 Baw Luang 0.91 92 0016 Boboc (Phil.) 2.26 92 0022 Chichele (ex. Vietn) 17.66 70.14
0016 Boboc (Phil.) 0.88 93 0019 Samfya (ex. Phil.) 2.21 87 0016 Boboc (Phil.) 17.05 66.67
0012 Nam Now 0.88 87 0028 Zomba 2.18 83 0018 Chati (ex. Madag.) 16.93 53.47
0019 Samfya (ex. Phil.) 0.87 92 0003 Om Koi 2.17 82 0013 Lagangillang (Phil.) 16.84 59.03
0021 Dola Hill (ex. Phil.) 0.86 88 0012 Nam Now 2.14 85 0021 Dola Hill (ex. Phil.) 16.80 53.47
0020 Chichele (ex. Assam) 0.84 89 0021 Dola Hill (ex. Phil.) 2.11 87 0014 Lepanto(Phil.) 16.50 52.78
0015 Kabayan (Phil.) 0.81 91 0020 Chichele (ex. Assam) 2.04 88 0020 Chichele (ex. Assam) 16.26 68.06
0003 Om Koi 0.81 85 0015 Kabayan (Phil.) 2.02 91 0015 Kabayan (Phil.) 14.48 58.33
av 0.95 88 2.37 87
LSD (0.05) 21 40
ที มา : คณต รัตน์วัฒนกุล และคณะ, 2541
ิ
ิ
้
ตารางที 7 การเจรญเติบโตทางความสูง และอัตราการรอดตายของไมสนสามใบ ที หวยบง จงหวัดเชยงใหม ่
ั
้
ี
(Growth and Survival of P. kesiya at Huey Bong, Chiang Mai)
1974 1976 1997
Reg Seed Source Height Survival Reg Seed Source Height Survival Reg Seed Source Height Survival
no. m. % no. m. % no. m. %
S. S. S.
0017 Coto Mine (Phil.) 1.15 92 0006 Doi Inthanon 2.88 85 0006 Doi Inthanon 21.71 53.47
0006 Doi Inthanon 1.10 87 0001 Mae Rid 2.79 92 0002 Doi Suthep 21.09 54.86
0001 Mae Rid 1.09 93 0002 Doi Suthep 2.73 96 0001 Mae Rid 20.38 53.47
0018 Chati (ex. Madag.) 1.08 75 0017 Coto Mine (Phil.) 2.73 96 0012 Nam Now 19.66 61.11
0002 Doi Suthep 1.04 96 0022 Chichele (ex. Vietn) 2.55 90 0017 Coto Mine (Phil.) 19.58 61.81
0022 Chichele (ex. Vietn) 1.04 90 0011 Phu Kradung 2.47 84 0029 Baw Luang 19.27 56.94
49
0011 Phu Kradung 0.99 85 0018 Chati (ex. Madag.) 2.46 74 0011 Phu Kradung 19.16 54.17
0013 Lagangillang (Phil.) 0.98 82 0029 Baw Luang 2.42 92 0003 Om Koi 18.82 55.56
0014 Lepanto(Phil.) 0.98 74 0014 Lepanto(Phil.) 2.31 74 0019 Samfya (ex. Phil.) 18.14 63.89
0028 Zomba 0.93 85 0013 Lagangillang (Phil.) 2.31 82 0028 Zomba 17.96 63.19
0029 Baw Luang 0.91 92 0016 Boboc (Phil.) 2.26 92 0022 Chichele (ex. Vietn) 17.66 70.14
0016 Boboc (Phil.) 0.88 93 0019 Samfya (ex. Phil.) 2.21 87 0016 Boboc (Phil.) 17.05 66.67
0012 Nam Now 0.88 87 0028 Zomba 2.18 83 0018 Chati (ex. Madag.) 16.93 53.47
0019 Samfya (ex. Phil.) 0.87 92 0003 Om Koi 2.17 82 0013 Lagangillang (Phil.) 16.84 59.03
0021 Dola Hill (ex. Phil.) 0.86 88 0012 Nam Now 2.14 85 0021 Dola Hill (ex. Phil.) 16.80 53.47
0020 Chichele (ex. Assam) 0.84 89 0021 Dola Hill (ex. Phil.) 2.11 87 0014 Lepanto(Phil.) 16.50 52.78
0015 Kabayan (Phil.) 0.81 91 0020 Chichele (ex. Assam) 2.04 88 0020 Chichele (ex. Assam) 16.26 68.06
0003 Om Koi 0.81 85 0015 Kabayan (Phil.) 2.02 91 0015 Kabayan (Phil.) 14.48 58.33
av 0.95 88 2.37 87
LSD (0.05) 21 40
ที มา : คณต รัตน์วัฒนกุล และคณะ, 2541
ิ
50
ิ
ตารางที 8 การเจรญเติบโตทางความสูง และอัตราการรอดตายของไมสนสามใบ
้
จากถิ นกําเนิดตาง ๆ ที ทดลองปลูกในที ราบตํ า (Height and Survival of
่
P. kesiya provenances at low elevation latitude)
Reg no. 1977 1978 Reg Height 1979
S. Seed source Height Height Surv. no. cm Survival
cm cm % S. % Arc. sin.
Age 16 months 34 months 48 months
0059 Huey Champa, Thailand 35,7 102 90* 0059* 273 89 0071 86,0
0073 Ngao, Thailand 31,8 98 91* 0054* 271 81 0053 74,0
0053 Nong Kiew, Thailand 36,7 98 92* 0071* 261 98 0073 73,0
0054 Doi Inthanon, Thailand 31,8 95 81* 0026* 241 86 0059 71,3
0071 Chichele, (ex Vietnam) 35,7 94 98* 0068* 235 77 0026 70,3
0049 Mae Sair, Thailand 28,7 86 86* 0053* 233 92 0063 68,8
0026 Kalulushi (ex Madagascar) 30,2 79 88* 0073* 227 91 0023 67,5
0063 Nong Krating, Thailand 26,5 77 88* 0049* 223 85 0049 67,5
0068 Doi Suthep, Thailand 36,2 76 78* 0023* 202 85 0051 67,0
0023 Lepanto, Philippnes 31,0 75 86* 0051* 180 85 0054 65,5
0051 Doi Hun, Thailand 26,4 67 87* 0063* 173 86 0068 62,3
AV.(P.K) 31,9 85 87,7 AV. (P.K) 229 86,8
3071 P.O. ,Yucul, Nicaragua 117 85 3071 321 84 67,8
Average All Sources 87,5 Average All 86,6 70,2
Source : Granhof , 1983
์
ิ
ตารางที 9 การวิเคราะหทางสถิติของความเจรญเติบโตทางความสูงของ
้
ไมสนสามใบที ชุมพร
(Analysis of variance for height growth of P. kesiya at Chumpon )
ANOVA Height 1978 Height 1979 Survival (arc sin)
SOV DF MS F/SIG MS F/SIG MS F/SIG
Blocks 3 118,24 0,88 ns 2751,1 2,52* 35,33 0,59 ns
Provenances 11 821,64 6,12*** 6859,1 6,27*** 142,19 2,36 *
Error 33 134,15 1093,5 60,27
Total 47
LSD 0,01 25 70 -
0,05 19 55 13
Source : Granhof , 1983
51
่
3. แหลงผลิตเมล็ดพันธุไม (Seed Production Areas)
้
์
ิ
็
เมล็ดพันธ์ เปนพื นฐานแรกเร มของการปลูกสร้างสวนปา เพราะในการผลิตกล้า
ุ
่
็
ิ
ไม้จําเปนต้องใช้เมล็ดทําการเพาะ เพื อให้เกดกล้าไม้ในปรมาณ และชนดไม้ที พอเพียง กับการ
ิ
ิ
ู
่
็
่
ิ
ิ
ปลกปา แม้สามารถจะผลตกล้าไม้จากสวนของต้นไม้ได้ (clone) แต่การผลตกล้าไม้ จากเมลดไม้
ี
ก็ยังเปนทนยมมากกว่า เสยค่าใช้จายในการผลตทถกกวา ตลอดจนสามารถที จะปรับปรงพันธ์จน
ี
ี
ุ
ิ
ู
ิ
็
ุ
่
่
ี
ื
็
ได้ลักษณะที ดตามหลักวิชาการ และตามความต้องการใช้ไม้ของท้องตลาด การเก็บเมลดไม้เพอ
ใช้ในการปลกสร้างสวนปานั น โดยหลักในการคัดเลอกพันธ เพื อการผลิตเมล็ดไม้ที ดในระยะ
่
์
ุ
ู
ี
ื
ี
่
แรกควรมแหลงเก็บเมล็ด เพื อสนองความต้องการในการเก็บเมล็ด ประกอบไปด้วยต้นไม้ที มีอายุ
ิ
่
ี
มากพอ มีการพัฒนาการต่อสภาพส งแวดล้อมที ด มีปรมาณต้นไม้มากพอต่อหนวยพ นที เพอ
ื
ื
ิ
ิ
ุ่
ิ
ความสามารถในการผสมเกสรในกลมไม้นั น ถ้ามีปรมาณน้อยเกนไป อาจเกดการผสมในตัวเอง
ิ
ี
ได้ เมล็ดในกลมที เก็บได้ก็จะด้อยคณภาพนอกจากน ต้องมีลักษณะเดนทางพันธกรรมที สามารถ
ุ
ุ่
ุ
่
ุ
ถ่ายทอดพันธกรรมได้สงด้วย (High heritability) สามารถแบ่งแหลงเก็บเมล็ดออก ได้ดังต่อไปน ี
่
ู
ุ
3.1 แหล่งคัดเลือกเมล็ดพันธ์ดี (Identified Stand)
่
ุ
3.2 แหล่งเก็บเมล็ดพันธ์จากแมไม้ (Seed Production Stand)
็
3.3 แหล่งผลิตเมลดพันธไม้ (Seed Production Areas)
์
ุ
ุ
3.1 แหล่งคัดเลือกเมล็ดพันธ์ดี (Identified Stand)
ุ่
ี
ุ
แหลงคัดเลือกเมล็ดพันธ์ด คือกลมไม้ใด ๆ ที มีลักษณะต่าง ๆ ทางคณ
่
ุ
ภาพ (quality) ดีเท่าปรมาณโดยเฉลี ย ใช้เปนแหลงเกบเมล็ด ซงสามารถคัดเลอกเก็บ เมลดได้ เมื อ
ิ
ื
็
ึ
็
่
็
่
ุ่
็
เหนด้วยสายตา โดยการเลือกเก็บจากกลมไม้เดน ๆ ในบรเวณที ต้องการจะเกบ เมลดได้ เมล็ดที
็
็
ิ
เก็บได้จะเก็บแบบแยกต้นหรอเก็บแบบโดยรวมกได้ แหลงคัดเลอกเมล็ด พันธดีน จะอยู่ กระจาย
็
ี
์
ุ
ื
ื
่
ิ
ิ
ี
็
ู
ื
ุ่
ึ
็
ตามบรเวณ ที จะเกบเมล็ดเปนกลมไม้เดยว หรอบรเวณระดับความสงหนง ๆ เท่านั น (Barner et
al, 1988)
แหลงคัดเลอกเมล็ดพันธ์ด ที คัดเลือกควรมีการจัดการไมใชเฉพาะวัตถประสงค์เพื อการ
่
่
่
ี
ุ
ุ
ื
ี
่
ี
เก็บเมล็ดอย่างเดยวควรมการตรวจสอบการพัฒนาการของแหลงอยู่เสมอกลุ่มไม้ ต้องมีอายุมาก
52
่
่
ิ
็
ุ
ุ
พอที จะให้ปรมาณเมล็ดจํานวนมาก อาจจะเปนกลุ่มไม้ในปาธรรมชาติ สวนปา สวนอนรักษ์พันธ์
ื
หรอแปลงทดลองทางพันธกรรมต่าง ๆ ก็ได้ ดังแสดงในภาพท 10
ุ
ี
็
้
ี
่
็
การเก็บเมลดในพื นที เปาหมายใหญที กําหนดให้เปนพื นทสํารวจ เพื อการเก็บเมล็ด
่
็
ุ
ี
ี
้
ื
ุ
พันธ์ไม้ แหลงคัดเลอกเมล็ดพันธ์ด ก็จะอยู่กระจายทั วไปในพื นที เปาหมายทจะเกบเมล็ด โดย
ึ
็
่
ึ
นยมเก็บเมล็ดเปนหย่อม ๆ ซงก็คือ แหลงคัดเลอกเมล็ดพันธ์ดแหล่งหนง ๆ และควรจะเก็บเมล็ด
ุ
ี
ิ
ื
่
แบบแยกแหลงด้วย
ิ
การสํารวจว่าแหลงคัดเลอกเมล็ดพันธ์ดี อยู่บรเวณไหนบ้าง มีอาณาเขตของแหลง
่
ุ
ื
่
ื
ครอบคลุมกว้างขวางขนาดไหน โดยอาศัยเครองหมายตามธรรมชาติเปนตัวกําหนด ควรมีการ
็
่
่
ุ
ี
ทําเปนแผนที แหลงคัดเลอกพันธ์ดโดยเฉพาะ พรอมกับมีการอธบายข้อมูล เกยวกับแหลง
็
ื
ี
้
ิ
่
แต่ละแหลงด้วย แตอาจไม่จําเปนต้องทําเครองหมายอาณาเขตในพื นที จรงเชน หมายสหรอ
่
ื
ื
่
ิ
็
ี
ล้อมรั ว
ุ
ื
ี
ุ
ข้อมูลทางด้านพันธกรรมของแหล่งคัดเลอกเมล็ดพันธ์ดี นับว่ามความสําคัญ ควรระบุ
ให้ชัดเจน เกี ยวกับประวัติทางพันธกรรมของแหลง อันตรายทอาจเกดได้รับการผสมเกสรจาก
ี
ุ
ิ
่
ไม้นอกแหลง สวนหนงที จะทราบข้อมูลเหล่าน ได้ จากการทดลองถิ นกําเนด เพื อนํามาพัฒนา
่
ึ
่
ิ
ี
่
แหล่งคัดเลือกเมล็ดพันธ์ดตอไป
ุ
ี
ี
่
ุ
ุ
การจัดการเมล็ดจากแหลงคัดเลอกเมล็ดพันธ์ด ควรมข้อมูลเกยวกับเมล็ดให้มากที สด
ี
ี
ื
ระบถึง เดือน ปที เมล็ดไม้จะแก เพื อกําหนดเปาหมายเพื อการจัดเก็บเมล็ดต่อไป
ี
่
ุ
้
53
ที มา Barner et al, 1988
ภาพที แหล่งเก็บเมล็ดพันธุ์ไม้ชนิดต่าง ๆ
54
3.2 แหล่งเก็บเมล็ดพันธุ์จากแม่ไม้ (Seed Production Stand)
แหล่งเก็บเมล็ดพันธุ์จากแม่ไม้ คือ กลุ่มไม้ที มี ลักษณะต่าง ๆ ที ปรากฏ
ี
ี
ิ
ึ
ดกว่าลักษณะที ยอมรับได้ โดยเฉลยซงเกดจากการปรับตัวเข้ากับ สภาพแวดล้อมต่าง ๆ และ
ิ
ุ
ื
่
ลักษณะตาง ๆ นั น ได้ผ่านการพิจารณาคัดเลอกทางพันธกรรม จากนักวชาการมาแล้ว (OECD,
่
1974 cited in Barner et al, 1988) แหลงเก็บ เมลดพันธจากแม่ไม้จะคัดเลอกจากปาธรรมชาติ
็
ื
่
์
ุ
ี
ื
่
ิ
หรอสวนปาก็ได้แต่ต้องมีกลุ่มไม้ ลักษณะดีเด่นเมื อต้องการจะจัดการทางวนวัฒนวธต่อกลุ่ม ไม้
น อาจจะตัดต้นที ไม่ดีออกได้บ้างแตในปรมาณที เล็กน้อยเท่านั น กลมไม้ทคัดเลอกต้องอยู่ เปน
็
ุ่
่
ี
ิ
ื
ี
่
ุ่
ุ่
็
ื
ี
ุ่
กลมใหญโดด ๆ ปกติการเก็บเมล็ดจาก แต่ละกลมไม้ที คัดเลอกน ระยะแรกเก็บเปนกลม เมล็ด
ิ
จากจดกําเนดเดยวกัน (origin) สามารถนํามาผสมกันได้
ุ
ี
ุ
แหล่งเก็บเมล็ดพันธ์จากแมไม้น ี การจัดการหรอทําเปนแหลงเก็บเมล็ดพันธ์ มีวัตถ
่
ุ
ุ
ื
่
็
ประสงค์ที มากกว่าใช้เก็บเมล็ดอย่างเดยว ตัดสางขยายระยะได้บ้าง มีการกระจายพันธ์ และเปน
ี
็
ุ
ิ
กลมไม้ ปรมาณมากพอทจะสามารถผสมพันธ์แบบข้ามกลมได้ ผ่านการคัดเลอก พันธ์โดยธรรม
ุ่
ุ่
ุ
ี
ื
ุ
ุ
ชาติ หรอโดยมนษย์มาแล้ว การสบพันธ์ตามธรรมชาตพอเหมาะกับสภาพทขึ นอยู่ มีจํานวนแม
ิ
ี
ื
ุ
่
ื
ไม้ในกลมมากพอ และยังอยู่หางจากการปนเปอนจากละอองเกสรที ไม่ต้องการ กลม ไม้ที OECD
ุ่
่
ุ่
ื
(1974) ได้ระบคณสมบัติบางอย่างด้วยเชน มีลักษณะทค่อนข้างจะสมําเสมอ (uniform) ผลผลต
ุ
ิ
ี
่
ุ
ื
ปรมาตรเน อไม้สงกว่ามาตราฐาน ในสภาพแวดล้อมที เหมือนกันคุณภาพ เน อไม้มีคุณภาพด ลํา
ิ
ื
ี
ู
ี
ต้นตรงเปลา ก งเล็ก รดก งตามธรรมชาติด ไมแตกง่าม เสยนตรง ไม่มีโรคแมลงตามธรรมชาติ
ี
ิ
ิ
่
ิ
ี
ทําลาย ต้านทานต่อการเปลยนแปลงของธรรมชาติ (Barner et al, 1988) ในการคัดเลอกแม่ไม้เพื อ
ื
่
ี
็
ื
ุ
เก็บเมลดพันธน โดยมากจะใช้อัตราสวนหรอความเข้มข้น ในการคัดเลือกค่อนข้างตํา ประมาณ
์
่
์
ื
ิ
่
ุ
ุ่
ื
ุ่
ิ
1:10 – 1:100 ต้น ข ึนอยู่กับชนดพันธไม้กลมไม้มี ปรมาณมากหรอกลมใหญพอหรอเปลา
็
ิ
ปรมาณเมลดที ต้องการจะเก็บ ตลอดจนปรมาณงบ ประมาณ และค่าใช้จายในการเก็บและผล
่
ิ
่
ตอบแทนทางพันธ (gain) ของแตละลักษณะ (characters) จากการคัด เลอกเก็บเมล็ดจากแม่ไม้
์
ื
ุ
ิ
(อภชาติ ขาวสะอาด, 2533.)
55
ุ
3.3 แหล่งผลิตเมลดพันธไม้ (Seed Production Areas)
์
็
่
่
่
ื
็
แหลงผลิตเมลดพันธ์ไม้ คือ พื นที ปาธรรมชาติ หรอสวนปา ของพรรณ
ุ
ิ
ึ
ิ
ี
ื
ิ
ไม้ชนด หนงชนดใดก็ได้ ทมีปรมาณไม้เกอบเต็มสต๊อก (near full stocking) มีอายุที ให้ดอกและ
ิ
ู
ิ
ื
ผล แล้วไม้ลักษณะเลวถกโค่นท งไปแล้วเหลอไม้ที มีลักษณะดีไว้ เพื อการผสมพันธ์เพื อผลต
ุ
ั
ํ
ุ
เมล็ด สาหรบการใช้ประโยชน์ต่อไป (Zobel and Talbert, 1984 อ้างใน วิเชียร สมันตกุล, 2540)
ุ
ุ่
ิ
Snyder (1972) ให้คําจํากัดความไว้ว่า แหลงผลตเมล็ดพันธ์ไม้ (Seed Production Areas) คือ กลม
่
่
ี
ั
ี
แม่ไม้ทผ่านการคัดเลือกมาแล้ว และได้ดําเนนการตัดฟน ต้นไม้ลักษณะที ไมดออก และใช้
ิ
ุ่
ระบบวนวัฒนวิธในการทําให้กลมแม่ไม้ ผลิตดอกออกผลดก (Barner et al, 1988) ดังแสดงใน
ี
ภาพที 11 การเก็บเมลดจะเก็บจากกลมแม่ไม้ แยกเปนกลุ่ม ๆ ไป การจัดสร้าง แหล่งผลิตเมล็ดไม้
็
็
ุ่
็
ก็เลือกจากกลมไม้ต่าง ๆ ที มีวัตถุหลายอย่างนอกจากการ เก็บเมลดไม้ อย่างเดียว จากนั นก็พัฒนา
ุ่
็
ิ
มาเปนเพื อวัตถุประสงค์ในการผลตเมล็ด เพียงอย่างเดยว โดยใช้ ระบบการจัดการอย่างมาก
ี
ื
ื
ละเอยดหรอเข้มข้นในการตัดสางขยายระยะเพอเหลอไม้ทมี คุณภาพ ผ่านการปรับปรงพันธ์มา
ี
ุ
ื
ุ
ี
แล้ว เพื อให้ผลิต เมล็ดไม้คุณภาพด ี
แหล่งผลิตเมลดพันธไม้ ควรจะปลอดจากการปนเปอนจากละอองเกสร ที ไม่ต้องการ
็
ุ
์
ื
ุ
ไม้ลักษณะไม่ดีถกกําจัดออกต้นไม้ที เหลอหรอกลุ่มแม่ไม้จะต้อง มีคณภาพโดดเดนจาก คณภาพ
่
ู
ุ
ื
ื
์
ิ
โดยเฉลยปราศจากโรคแมลง ปรมาณไม้ที เหลอควรจะมีประมาณ 10 ต้นตอเอเคอร เพื อให้
ี
ื
่
ี
ุ
ิ
่
ี
ุ
สามารถผสม พันธ์ข้ามกันได้ด แหลงผลตเมล็ดพันธ์ไม้ ควรมีขนาดทไม่น้อยกว่า 3 – 5 เฮกแตร์
(Barner et al, 1988)
ุ
ุ่
ื
ุ
ื
็
กลมไม้ที เหลอในแหล่งผลิตเมลดพันธ์ไม้ ควรมีอัตราการคัดเลอกพันธ์ (Selection
่
ื
ื
ุ
ุ
intensity) ประมาณร้อยละ 5 – 10 และเนองจากพ่อพันธ์ และแม่พันธ์ตางได้ผ่าน การคัดเลอกมา
ุ
ื
ี
ี
แล้วทั งค่ ผิดกับแหล่งเมล็ดพันธอน ๆ ที ผ่านการคัดเลอกแต่แม่พันธ์ด้านเดยว ดังนั นเมล็ดพันธ์ท
ุ
์
ู
ุ
ื
ุ
่
ุ
ผลตได้จากแหลงผลิตเมล็ดพันธ์ไม้ จึงมีผลตอบแทนทางพันธ์ (gain) สงกว่า เมล็ดพันธ์ที เก็บจาก
ุ
ิ
ู
ิ
แม่ไม้ประมาณสองเท่า ในกรณที อัตราการคัดเลือกพันธ์เท่ากัน (อภชาติ ขาวสะอาด, 2535)
ี
ุ
ิ
ิ
แหล่งผลิตเมลดพันธไม้สนสามใบ ได้ดําเนนการจัดสร้าง ดําเนนการไปแล้ว 3 แหลง
็
์
ุ
่
คือ แหลงที หนงแหลงผลตเมล็ดพันธ์ไม้สนสามใบ ดอยอนทนนท์ ตั งอยู่บรเวณข้างทางขึ นยอด
่
ิ
ิ
่
ุ
ึ
ิ
ดอยอนทนนท์ กม. ที 23 – 26 ซงถือวา เปนแหลงกําเนดตามธรรมชาติที ดทสดในประเทศไทย
่
ี
่
ึ
ิ
ิ
็
ุ
ี
ื
ุ
ั
่
ุ
ุ
ปญหาการบุกรกทําลายของชาวบ้านไม่มี เนองจากอยู่ในพื นที ของอทยานแหลง ผลตเมล็ดพันธ์
ิ
่
๋
ึ
ไม้สนสามใบแหลงที สอง คือ ที หนองกระทง อําเภออมกอย จังหวัดเชยงใหม่ ซงมีกลุ่มไม้สน
ิ
ี
56
์
ภาพที แหลงผลิตเมล็ดพันธุไม ้
่
ที มา Robbins in Ditlevsen et al, 1988
57
ิ
่
สามใบขึ นอยู่เปน กลุ่มที มีปรมาณหนาแนนมาก และมีหลายชั นอายุด้วยกัน มีพื นที ประมาณ 100
็
เฮกแตร ได้มีการดําเนนการกันพื นท และจัดการด้านวนวัฒนวิธอย่างดีในพื นที น โดยการทํา
ี
ี
ิ
์
ี
็
่
ิ
์
ุ
่
ุ
แนวกันไฟ ตัดไม้ ลักษณะทรามออก แหลงผลตเมลดพันธ ไม้สนสามใบ แหลงสดท้ายคือ แหลง
่
แม่รด กองลอย อําเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่
ิ
ิ
็
่
ุ
์
่
ี
ิ
การเก็บเมล็ดไม้จากแหลงผลตเมล็ดพันธไม้สนสามใบ ทั งสามแหลงน ดําเนนการเปน
ประจําทุกป โดยมีการแยกแหลงในการเก็บ เพื อใช้ในการปลกสร้างสวนปาไม้สนสามใบทุกป
่
ี
ี
่
ู
ิ
โดยเฉพาะบรเวณพื นต้นนํ า ลําธาร ของประเทศ
์
้
้
4. การสรางสวนผลิตเมล็ดพันธุไม (Seed Orchard Establishment)
สวนผลิตเมล็ดพันธ์ไม้ (Seed Orchard) คือสวนปาที ปลกต้นไม้ทมีลักษณะ
่
ุ
ู
ี
่
ี
ุ
ทางพันธกรรมด ปลูกอยู่ในพื นที แยกตางหากสามารถ ลดปรมาณการผสมเกสรจากไม้ ลักษณะ
ิ
ิ
ิ
ทรามภายนอกได้ มีการจัดการที ประณต เพอให้สามารถผลตเมล็ดไม้ได้ในปรมาณที มาก
ื
ี
ี
ิ
ึ
สมําเสมอ งายแกการเก็บเมล็ด นอกจากน สวนผลตเมล็ดอาจปลกสร้างข นด้วย ช นสวนของพืช
่
่
ู
ิ
่
จากการขยายพันธ์โดยไม่อาศัยเพศ เช่น การเปลยนยอด การชําก ง เปนต้น หรอลูกไม้จาก แม่ไม้ที
ิ
็
ี
ื
ุ
ได้รับการคัดเลือกว่ามีลักษณะต่าง ๆ ด ตามความต้องการ (Zobal et al, 1958 cited in Feilbery
ี
and Søegaard, 1976)
The Organization for Economic Co-operation and Development (O.E.C.D. , 1974) ได้
่
ให้คําจํากัดความ สวนผลตเมล็ดพันธ์ไม้ไว้ว่าคือ สวนปาทปลูกขึ นด้วยสวนของพืช จากการขยาย
ุ
่
ิ
ี
ู
ื
พันธ์แบบไม่อาศัยเพศ (clones) หรอลูกไม้จากแม่ไม้ที ได้รับการคัดเลอกแล้ว สถานที ปลกอยู่หาง
ื
ุ
่
ื
ื
ี
่
ี
โดดเดยว หรอมีการจัดการเพื อหลกเลยง หรอสามารถที ลดการผสมเกสรจาก แหลงภายนอกได้
ี
็
ิ
็
มีการจัดการเมลดให้ผลิตได้ในปรมาณมาก สมําเสมอ และง่ายต่อการเกบเมล็ด (Barner et al,
1988)
ี
ิ
ุ
้
้
การจัดสรางสวนผลิตเมลดพันธไม้ ก็เพื อเปาหมายในการผลตเมล็ดพันธ์ ที มลักษณะด
์
็
ี
ุ
ี
่
ึ
่
เพื อว่าลักษณะทดีเหล่านั น จะได้ถายทอดไปสลกหลานซงสามารถทําให้สวนปาที ปลกขึ นจาก
ู่
ู
ู
ิ
เมล็ด พันธ์ที ดเหลานั น มีการเจรญเตบโต และคุณลักษณะที ต้องการดตามไปด้วย ดังเช่นใน
ี
ุ
ี
่
ิ
ู
ิ
ี
ึ
สหรัฐอเมรกา ทสามารถเพิ มการเจรญเติบโตของต้นไม้ได้สงถงร้อยละ 5 – 43 จากลกไม้ ที ได้
ิ
ู
ี
ุ
จากการคัดเลือก ในช่วงอายุท 1 และที 2 (Kragman, 1976 อ้างใน วิเชยร สมันตกุล , 2540) ใน
ี
การจัดสร้างสวนผลิตเมลดพันธไม้ ควรประกอบด้วยองค์ประกอบเหล่าน
็
ี
ุ
์
58
ิ
ุ
4.1 ประเภทของสวนผลตเมล็ดพันธ์ไม้
ู
สวนผลิตเมล็ดพันธ์ไม้ สามารถจัดสร้างขึ นได้ 2 รปแบบ คือ
ุ
ิ
4.1.1 สวนผลตเมล็ดพันธ์ไม้จากเมล็ด (Seedling Seed Orchard)
ุ
ิ
่
4.1.2 สวนผลตเมล็ดพันธ์ไม้จากการขยายพันธ์แบบไมอาศัยเพศ
ุ
ุ
(Clonal Seed Orchard)
ุ
ิ
4.1.1 สวนผลตเมล็ดพันธ์ไม้จากเมล็ด (Seedling Seed Orchard)
ุ
ุ
็
ึ
ี
ี
หมายถง สวนผลิตเมลดพันธ์ไม้จากเมล็ดพันธ์ ที ปลูกสร้างขึ นจากเมล็ดพันธ์ด ทผ่านการคัด
ุ
ื
้
ุ
เลอกทาง พันธกรรมมาแล้ว ดําเนนการเพาะปลูกและมีการจัดการทดเพื อเปาหมาย ในการผลต
ิ
ี
ี
ิ
ุ
เมล็ดพันธ์ด ในอนาคตดังแสดงใน ภาพที 12 สวนผลิตเมล็ดพันธ์ไม้จากเมล็ด มขั นตอนในการ
ุ
ี
ี
ู
ิ
ดําเนนการปลกสร้าง ดังน ี
ุ
ื
ุ่
4.1.1.1 คัดเลอกแม่ไม้จากกลมไม้ ให้ได้มากที สด (Mass
ุ
selection) โดยประมาณ 500 – 1,000 ต้น โดยใช้อัตราการคัดเลอกพันธ์ (Selection intensity)
ื
ร้อยละ 1.0 – 0.2 ของหมู่ไม้
4.1.1.2 ทําการเก็บเมล็ดจากแม่ไม้ ที ได้รับการคัดเลอกไว้
ื
็
แล้ว โดยการเก็บเมลดนั น พยายามเก็บให้ได้ปรมาณมาก เท่าทจะมากได้ ในบางกรณทบางป
ิ
ี
ี
ี
ี
ี
ิ
ึ
เมล็ดอาจจะผลิต ได้น้อยต้องรอ เก็บในปต่อไปซงจะมปรมาณเมล็ด มาก (Seed year) เพื อให้ได้
ี
ั
เมล็ดในจํานวนมากพอ ที จะใช้ในการปรบปรงพันธ ์ ุ
ุ
4.1.1.3 เมล็ดจากแม่ไม้ที เก็บได้ แต่ละต้นในปรมาณที เท่า ๆ
ิ
กัน นํามาคลกเคล้าปนกันจากนั นนําไปเพาะ เพอผลตกล้าไม้ เมื อกล้าไม้อายุมากพอ และแข็ง
ิ
ื
ุ
ู
ี
ี
ู
็
แรงดพอ จึงนําไปปลก การปลกก็จะปลูกแบบเปน (Block planting) พื นทปลูกประมาณ แปลงละ
่
ุ
ื
ี
้
50 – 100 ไร โดยกระจายการปลูกไปแต่ละพื นที เพื อเปาหมายท จะคัดเลอกพันธ์และผลิตเมล็ด
ี
ู
่
พันธ์ ให้เหมาะสมกับ สภาพพื นที นั น ๆ ระยะปลก วิธการปลกเหมือนกัน การปลกสร้างสวนปา
ู
ู
ุ
ทั ว ๆ ไป
ุ
ึ
4.1.1.4 สวนผลิตเมล็ดพันธ์ไม้จากเมล็ด มีอายุประมาณ ครง
หนงหรอตํากว่า อายุของรอบตัดฟนทําการตัดสางขยายระยะต้นไม้ที มีลักษณะทรามออก ให้
ึ
ั
ื
่
ื
ื
เหลอ ต้นไม้ ลักษณะด ไว้ประมาณ 10 – 15 ต้นต่อไร หรอมีค่า Selection intensity ร้อยละ 10 –
ี
ั
็
ื
15 โดยต้นไม้ที เหลอเอาไว้เปน แม่ไม้สําหรบเก็บเมล็ด ต่อไป ในขณะเดียวกันกทําการคัดเลือก
็
59
ภาพที สวนผลิตเมล็ดพันธุไมจากเมล็ด
้
์
ที มา Robbins in Ditlevsen et al, 1988
60
ุ
ิ
ี
ุ
ุ
พันธ์ซํ าอก (ร้อยละ 0.1 –0.01) เพื อใช้ในการปรับปรงพันธ์ขั นต่อไป (อภชาติ ขาวสะอาด,2535)
ุ
ู
์
การปลกสร้างสวนผลิตเมล็ดพันธไม้จากเมล็ด มีขั นตอนไม่แตกต่างจากการ ปลกสร้าง
ู
่
ิ
สวนปาโดยทั วไป แต่จะเน้นที การคัดเลือกแม่ไม้ และการเก็บเมล็ดที ต้อง มีปรมาณ มากพอ และ
ุ
ึ
ต้องปลกกระจายไปในหลายพื นท ทั งน ก็เพื อปองกันการผสมพันธ์กันเอง (inbreeding) ซงมักเกด
ิ
ู
้
ี
ี
ื
ได้บ่อย เนองจากการนําเมล็ดจากแม่พันธ์มารวมปนกัน (bulk) แล้วจง นําไปปลกทําให้ไม่
ุ
ู
ึ
ุ
สามารถจะกําหนด สายพันธ์ได้ (families)
ุ
4.1.2 สวนผลิตพันธ์ไม้จากการขยายพันธ์ แบบไม่อาศัยเพศ (Clonal
ุ
ึ
Seed Orchard) หมายถง สวนผลิตเมล็ดพันธ์ไม้ที ปลกสร้างข นจากสวนต่าง ๆ ของต้นไม้จากการ
ึ
ู
่
ุ
ั
ี
ู
ขยายพันธ์แบบไม่อาศัยเพศ เช่น การเปลยนยอด การปกชําก ง การตดตา เปนต้น โดยมีรปแบบ
ุ
ิ
็
ิ
ุ
เหมอนการปลกสร้างด้วยเมลด และสวนต่าง ๆ ของต้นไม้ที นํามาขยายพันธ์ได้ผ่านการคัดเลือก
็
ื
่
ู
้
ี
์
่
็
ทางพันธกรรมมาแล้ววาดี มีเปาหมายเพื อผลิตเมลดพันธดในอนาคตเหมือนกัน ดังแสดง ในภาพ
ุ
ุ
ที 13
สวนผลตพันธ์ไม้จากการขยายพันธ์แบบไม่อาศัยเพศ มีขั นตอนในการดําเนน การปลก
ิ
ิ
ุ
ู
ุ
สร้างดังน ี
ื
่
4.1.2.1 ทําการคัดเลอกแมไม้ โดยให้มีอัตราการคัดเลอก
ื
ุ
ู
พันธ์ (Selection intensity) ค่อนข้างสง (ร้อยละ0.01 – 0.2) เพื อที จะให้ได้ผล ตอบแทนทางพันธ
ุ
กรรม (Genetic gain) สงในระยะเร มแรก
ู
ิ
ิ
่
4.1.2.2 จากแม่ไม้ที คัดเลือกได้ นําช นสวนของแม่ไม้ เพื อไป
็
ขยายพันธ์แบบไม่อาศัยเพศ โดยวธต่าง ๆ เชน ติดตา เปลยนยอด ปกชํากิ ง เปนต้น เพื อเปนการ
ั
ุ
ี
็
ิ
่
ี
สร้างสายพันธ์ โดยตรงจาก แม่ไม้เพราะเปนที ทราบกัน ดว่าการถายทอดทางพันธกรรม โดยวธ
ิ
่
ี
็
ุ
ี
ุ
น เปนผลมาจากการ แบ่ง cell แบบ Mitosis ลักษณะ ทางพันธกรรมทได้ (genotype) จะเหมือน
ี
็
ุ
ี
กับต้นแม่ทก ประการ (วิเชียร สมันตกุล,2540)
ุ
ุ
ุ
4.1.2.3 นํากล้าไม้ที ได้ จากการขยายพันธ์แบบไม่อาศัยเพศ
ุ
ู
็
ุ่
ู
ุ
ิ
ในที ถอ วาเปนกลมพันธ์แม่ไม้ (clones) ไปทําการปลกสร้างสวนผลตเมล็ดพันธ์ตามรปแบบ
่
ื
็
การจัดสร้างสวนผลิตเมลด ต่อไป
ี
ุ
ุ
การสร้างสวนผลิตเมล็ดพันธ์ไม้จากการขยายพันธ์แบบไม่อาศัยเพศ เหมาะกับ กรณที จะ
ื
ุ
ื
่
คัดเลอกแม่ไม้เมออายุยังน้อย (Early selection) เชน จากในแปลงทดสอบพันธ์ (Progeny test)
ี
็
แม่ไม้ผลิตเมลดยากหรอ ผลิตเมล็ดในปรมาณที น้อย การปรับปรงพันธ์จากกรณน ใช้ระยะเวลา
ี
ุ
ุ
ื
ิ
61
์
ั
้
่
ภาพที สวนผลิตเมล็ดพันธุไมแบบไมอาศยเพศ
ที มา Robbins in Ditlevsen et al, 1988
62
ุ
ุ
ิ
ุ
สั น ก็สามารถสร้างสวนผลตเมล็ดพันธ์ไม้ได้ การผสมพันธ์ในสายพันธ์เดียวกัน (inbreeding) จะ
ี
ั
่
ุ
่
ื
่
ไมมีปญหาเนองจากมีการวางผังและตําแหนงปลูกทแนนอน ผลตอบสนองจาก การปรับปรง
ุ
ุ
ุ
็
ั
พันธ์ (gain) สงเปนสองเท่า ของการปรบปรงพันธ์แบบ เก็บเมล็ดพันธ์จากแม่ไม้ (Seed trees)
ู
ุ
ิ
และให้ผลเท่า ๆ กัน การจัดสร้างสวนผลตเมล็ดพันธ์แบบสายพันธ์ (Progeny Seedling Seed
ุ
ุ
ื
ิ
ิ
่
้
Orchard) แตใช้ระยะเวลาสั นกว่าเกอบเท่าตัว (อภชาต ขาวสะอาด,2535) การสรางสวนผลต
ิ
ุ
่
ิ
ุ
เมล็ดพันธ์ไม้แบบน กระทําได้คอนข้างยาก เนองจากวธการขยายพันธ์แบบไมอาศัยเพศ ต้องใช้
่
ี
ื
ี
ิ
ุ
ิ
ความชํานาญและประสบการณ์ในการปฏบัติมาก และพบบ่อยที สวนผลต เมล็ดพันธ์ไม้ที ขยาย
ิ
ี
์
ี
ู
ื
พันธ์จากการเปลยนยอด (grafting) โดย เฉพาะสนคารเบียร เมอปลกไปแล้ว มีอายุ 10 ปขึ นไป
ุ
จะแสดงอาการที เรยกวา Incompatability เปนการเข้ากันไม่ได้ของสวนที เปนต้นตอกับสวนที
่
็
็
ี
่
่
ุ
็
ึ
็
ึ
เปนแม่ไม้ และจะถงตายในที สด ซงเปนความล้มเหลวในการจัดสร้างสวนผลิตเมล็ดพันธ์ไม้โดย
ุ
ิ
ส นเชิง
ุ
4.2 ขั นตอนการปลูกสร้างสวนผลิตเมล็ดพันธ์
การปลกสรางสวนผลตเมลดพันธไม้ นอกจากจะต้องมีความรความ
้
ู
ุ
ิ
์
็
ู
้
์
ุ
ี
ุ
ี
ี
สามารถในด้านปรับปรงพันธไม้ที ดพอแล้ว ยังต้องเปนผู้ทมีความละเอยดรอบครอบในการ
็
ปฏบัติการทกขั นตอนของการจัดสร้างเร ม ตั งแต่การคัดเลอกแม่ไม้ การเก็บเมล็ด การเก็บช น
ิ
ิ
ื
ิ
ุ
ิ
สวนของแม่ไม้ ตลอดจนการจัดการและการดูแลรักษา ทุกขั นตอนปฏบัติมีความสําคัญต่อความ
่
็
ิ
ิ
สําเรจ ของการสร้างสวนผลตเมล็ดพันธ์ไม้ ดังมีรายละเอยดและขั นตอนในการปฏบัติดังน ี
ี
ุ
้
็
ุ
4.2.1 การเตรยมกล้าไม้ สําหรับปลูกสรางสวนผลิตเมลดพันธ์ไม้
ี
่
ื
็
ก่อนการเตรยมกล้าไม้ จําเปนต้องมีการคัดเลอกแม่ไม้ ซงได้กลาว ในรายละเอยดไปแล้ว การเก็บ
ึ
ี
ี
ุ
็
ี
ี
้
เมล็ด การเพาะเมลด ในกรณที ปลูกสรางจากเมล็ด การขยายพันธ์แบบไม่อาศัยเพศ ในกรณที ปลูก
ิ
่
ี
่
สร้างจากช นสวนของต้นไม้ทไมใชเมล็ด รายละเอยดของวธการและการปฏบัติจะได้ กลาวใน
ิ
ี
่
ิ
ี
่
ตอนต่อ ๆ ไป
ุ
ู
4.2.2 สภาพพื นที ในการปลกสร้างสวนผลตเมล็ดพันธ์ไม้ในการคัด
ิ
เลอกพื นที ในการปลกสร้างสวนผลตเมล็ด นับว่ามีความสาคัญมาก เพราะเปาหมายในการจัด
ิ
ํ
ู
้
ื
ุ
ี
สร้าง ก็เพอให้ผลผลตเมล็ดคุณภาพดีมปรมาณสมําเสมอ และมผลผลตในปรมาณทมาก คณภาพ
ื
ี
ิ
ิ
ิ
ี
ิ
๋
ิ
ของพื นที ที มีความอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติก็จะช่วยให้การเจรญเติบโตดีประหยัด การให้ปุย
่
ิ
ิ
ึ
ิ
เพื อสงเสรมการผลิตและควรจะมีการศึกษากอนถงชนดดิน โครงสร้างของดนต่อไม้แตละชนด
่
่
ิ
63
์
ุ
ู
ที จะนํามาปลกสร้าง ดังตัวอย่าง ในการสร้างสวนผลิตเมล็ด พันธแบบ ไม่อาศัยเพศ (Clonal Seed
ื
่
ี
่
Orchard) ในของสนสามใบ ในท้องที อําเภอแม่แตง จังหวัดเชยงใหม เน อที 65 ไร ตามคําจํากัด
ุ
ื
ี
่
้
ความที ว่า ต้องหางไกลหรอสามารถปองกัน การผสมพันธ์จาก ไม้ภายนอกทไม่ต้องการได้ โดย
ู
ิ
สภาพพื นที มีดนดไมมีสนสามใบขึ นอยู่เลย เพราะระดับความสงประมาณ 400 เมตร แม้ระยะ
่
ี
่
ี
ี
ิ
ิ
ึ
ี
่
เวลาจะผ่านไปถง 20 กว่าปแล้ว สวนแหงน ยังไมสามารถ ผลิตเมล็ดได้เลย แต่การเจรญเตบโตด
ี
็
ี
ั
มาก จากกรณน ต้องคิดถึงปจจัยทุก ๆ ด้าน ที มีผลกระทบ ต่อความสําเรจของการปลูกสร้างผลิต
ุ
เมล็ดพันธ์ไม้ด้วย
่
็
ี
การคมนาคมทสะดวก พื นที ไมเปนเขาสงชัน หางไกลหมู่บ้าน และการบุกรกทําลาย ก็
่
ุ
ู
นับว่ามสวนสาคัญไม่น้อย บ่อยครั งที การปลูกสรางกระทําไม่สําเรจ เพราะมปัญหากับราษฎร
ี
็
ํ
้
ี
่
โดยเฉพาะที ดนดี นํ าดี
ิ
4.2.3 การเตรยมพ นที เมื อทําการคัดเลอกพื นที ที เหมาะสมกับการ
ื
ี
ื
ื
ี
ู
็
็
็
สร้างสวนผลิตเมลด ได้แล้วกมา ถึงขั นตอนในการเตรยมพ นที การที ต้องปลกสวนผลิตเมลด
ู
ิ
ี
่
ุ
พันธ์ไม้ เพื อหวังผล ผลตเต็มที การเตรยมพื นที ก็ต้องลงทุนมากกว่า การปลกสร้างสวนปาแบบ
็
็
่
ิ
ิ
ุ่
ธรรมดา โดยเร ม จากการแผ้วถางไม้เลก โค่นไม้ใหญ เกบรบสมเผาเศษไม้ปลายไม้ต่าง ๆ ให้
สะอาด จากนั นต้อง มีการขดตอไม้ออกจากพื นที ให้หมด เพื อสะดวกในการปฏิบัติงานภายหลัง
ุ
ุ
ด้วยรถไถ ทําการไถ พรวนพื นที เพื อให้กล้าไม้รอดตายมากที สดหลังปลก ปกหลักหมายแนว
ั
ู
ปลกและปลก ในขั น ตอนการปลกจะต้องควบคมคนงานอย่างใกล้ชด โดยเฉพาะการปลกแบบ
ู
ิ
ู
ู
ุ
ู
ึ
ุ
ุ่
กลมสายสายพันธ์ (clone) ซงต้องตรงตามแผนผังที กําหนดไว้
ิ
4.2.4 การวางผังในสวนผลตเมล็ดพันธ์ไม้
ุ
ุ
4.2.4.1 ระยะปลูก สวนผลตเมล็ดพันธ์ไม้จากเมล็ด (Seedling
ิ
Seed Orchard) ดังได้กลาวมาแล้วว่าระยะปลกของสวนผลตเมล็ดแบบน เหมือนกับการปลูกสวน
ู
ี
่
ิ
ปาทั วไป แต่ อาจมีระยะหางพอที เครองจักร รถไถ จะเข้าไปทํางานได้สะดวก ในกรณของไม้สน
ี
ื
่
่
่
สามใบ นยมปลกที ระยะ 3 X 3 เมตร รถไถสามารถเข้าทํางานไถพรวน ใสปุย และกันไฟได้ด
ิ
๋
ี
ู
็
ื
เปนการลดเช อเพลิง ที จะทําให้ สวนไหม้ไฟไปได้ เพราะไม้สนจะตดไฟได้ง่ายกว่าไม้ชนดอน
ื
ิ
ิ
ุ
ู
ิ
ิ
ุ
สวนผลตเมล็ดพันธ์ไม้จากการขยายพันธ์ไม่อาศัยเพศ (Clonal Seed Orchard) นยมปลก
ื
ู
กันที ระยะหางมากกว่า สวนผลิตเมล็ดพันธ์ที ปลูกด้วยเมล็ด เนองจาก รปทรงของเรอนยอดเมื อ
ุ
ื
่
ิ
เจรญเติบโตจะแผ่กว้างกว่าเรอนยอดที ปลูกจากเมล็ด ในระยะเวลา ปลูกที เท่ากัน โดยทั วไปนยม
ื
ิ
64
ู
ึ
ี
ปลกกันทระยะหาง 5 X 5 เมตร ถง 6 X 6 เมตร ทั วโลก (Giertych, 1976) ในเมืองไทยก็นยม
่
ิ
ู
ระยะปลูกเท่าน เหมือนกันในการปลกไม้สนสามใบ
ี
ิ
4.2.4.2 จํานวนแม่ไม้และการวางผังปลูก สวนผลตเมล็ด
ุ
ิ
พันธ์ไม้แบบไม่อาศัยเพศ (Clonal Seed Orchard) นยมในการวางแผนใช้จํานวนแม่ไม้ในการ
่
ุ
ปลกอยู่ระหว่าง 20 ถง 50 clones. (Giertych, 1976) สวนในสวนผลิตเมล็ดพันธ์ไม้จากเมลดได้
ู
ึ
็
ิ
่
กลาวถึง จํานวนแม่ไม้เพื อใช้ปลูก ไว้แล้วตอนต้น รปแบบการวางแปลนปลกจะเปนที นยมกัน
็
ู
ู
ี
ี
ี
ื
่
ู
ุ
แบบสเหลยมจตรัส หรอสเหลยมผืนผ้า ต้องปลกแบบแสงแดดสองทางทิศเหนอ - ใต้ และเครอง
ื
ื
ี
จักรขนาดใหญ่ให้เข้าทํางานได้
ุ
ู
การวางผังปลูก มีหลายรปแบบในการปลกสร้างสวนผลตเมล็ดพันธ์ไม้ทั งจากเมล็ดและ
ู
ิ
่
่
ไมใช้เมล็ด เชน Completely Randon, Randomised Complete-block, Fix-block, Rotating-block,
Reversed-block, Unbalanced Incomplete-block, Directional Cyelic Balanced Incomplete block,
ิ
็
Balanced Lattice เปนต้น แต่ที นยมใช้กันมากใน ออสเตรเลีย, แคนาดา, เดนมาร์ค, นอรเวย์,
์
ิ
ี
ิ
อเมรกาใต้, อเมรกา, รัสเซย, เยอรมัน ฯลฯ คือแบบ Randomised Complete-block (Giertych,
1976) รวมทั งในประเทศไทยด้วย โดยเฉพาะใน ไม้สนสามใบ
4.3 การจัดการสวนผลตเมล็ดพันธ์ไม้
ิ
ุ
์
ิ
เมื อมีการจัดสรางสวนผลตเมลดพันธไม้แล้ว การจัดการกนับว่ามี
้
ุ
็
็
็
ความสําคัญมาก โดยสามารถแบ่งออกได้เปนขั นตอนดังน ี
่
4.3.1 การกําจัดวัชชพช ก็คงเหมือนกับการกําจัดวัชชพืช ในสวนปา
ื
ี
ื
่
ิ
ทั วไป เพื อลดการแกงแย่งและเช อเพลง ควรใช้รถไถทําการไถพรวนปละอย่างน้อย 2 ครั ง ทําให้
ื
ี
ิ
็
ิ
กล้าไม้เจรญเติบโตดกว่าด้วย เพราะวัชชพืชจะผุพังเผ่าเปอย เปนการปรับปรงดนไปในตัว ใน
ุ
็
ิ
ิ
ุ
ี
ิ
ิ
ปัจจบันมีแนวความคิดใหม่ ทไม่ควรไถพรวนดนเพราะจะเกดการพังทลายของหน้าดน ซงก จรง
ึ
ี
ในระดับหนง แต่ถ้าเกดไฟไหม้สวนผลิตเมล็ดพันธ์ไม้ ต้นกล้าพันธ์ดตายถ้าไม่ตายการเจรญ เติบ
ิ
ุ
ิ
ุ
ึ
ึ
ี
่
ู
ี
่
โตก็เสยไป นับวาสญเสยใหญหลวง ทั งต่อการลงทุน และระยะเวลาที เสยไป ดังนั นจงควร ที จะ
ี
ไถพรวนไว้ก่อน
๋
4.3.2 การใสปุย เปนที ทราบกันดว่าต้นไม้จะเจรญเติบโตออกดอก
ิ
็
่
ี
ออกผล จําเปนต้องพึงพาธาตุอาหารหลักคือ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโปรแตสเซยม ในสภาพ
ี
็
65
่
ิ
ู
ื
ี
ี
พื นที ปลกที ดนด นํ าด ธาตุอาหารเหลาน ก็จะมีอยู่ตามธรรมชาติอยู่แล้ว แต่ในบางสภาพพ นที
ี
ิ
็
่
่
ิ
๋
่
ิ
ื
จําเปนที จะต้องมีการ ใสปุย เพื อเรงการเจรญเตบโต หรอเรงการผลตดอก ติดผล ควรจะมีการ
์
ุ
่
วิเคราะหดินกอน ว่าขาดธาตุอะไร แล้วจงใสปุยเคมีรวมกับปยหมัก ปุยคอก ตามที พืชต้องการ
๋
ึ
่
่
๋
๋
ุ
็
้
4.3.3 การปองกันโรคแมลง โรคแมลงนับว่า เปนตัวบ่อนทําลาย สข
ุ
ื
ู
ภาพ และการเจรญเตบโตของต้นไม้ เนองจากการปลูกสวนผลิตเมล็ดพันธ์ไม้ เปนการปลกไม้
ิ
ิ
็
ื
ิ
ชนดเดียวในหนงแปลง เมื อมีโรคหรอแมลงทําลายก็จะเกิดความเสยหายมาก โดยเฉพาะไม้สน
ี
ึ
ซงมีทั งแมลงกนใบ หนอนเจาะลําต้นหลายชนด ซงถ้ามีการฉดยาและควบคมดแลสวนปาอย่างด
ี
ึ
ู
่
ี
ิ
ิ
ุ
ึ
สามารถลดการระบาด ลงได้ถึงร้อยละ 80
4.3.4 การตัดสางขยายระยะ ยังมีความจําเปนทต้องตัดฟนไม้ออก
ั
ี
็
ิ
ุ
ี
บ้าง เมื อมีการเบยดบังของเรอนยอด ในสวนผลตเมล็ดพันธ์ไม้จากเมล็ด เมื อแรกเร มปลก ก็มีการ
ิ
ู
ื
วางแผนที จะให้มีการตัดสางขยายระยะอยู่แล้ว โดยเลือกตัดต้นที มีลักษณะทรามออกภาย หลัง
ี
เมื อมการพิสจน์ทางพันธกรรมแล้ว ในสวนผลิตเมลดพันธไม้จากการขยายพันธ์แบบไมอาศัย
ุ
ุ
์
ุ
่
็
ู
ี
่
เพศ สามารถตัดสางขยายระยะได้บางเชนกัน นอกจากน ในไม้สนหลาย ชนดนยมทจะตัดแตง
่
ิ
ี
ิ
เรอนยอด เพื อให้สะดวกกับการเก็บเมล็ด คงลักษณะต้นตําไว้ แต่ในประเทศไทยยังไม่ได้ เร ม
ื
ิ
ี
ิ
ั
็
ี
ดําเนนการ กรณไม้สกการตัดยอดกับเปนผลร้ายต่อการผลตเมล็ดมากกว่าผลด (บรรดิษฐ์ หงษ์
ิ
ทอง, 2528)
ุ
4.4 สวนผลิตเมล็ดพันธ์ไม้สนสามใบ
สวนผลตเมล็ดพันธ์ไม้สนสามใบ ได้ดําเนนการจัดสร้างขึ นในป 1975
ิ
ิ
ี
ุ
ิ
– 1981 ภายหลังทราบข้อมูล การทดลองชนดพรรณไม้ และการทดลองถ นกําเนดแล้ว การจัด
ิ
ิ
ิ
ุ
ื
สร้างสวน ดําเนนการในพื นทภาคเหนอ ทั งสวนผลิตเมล็ดพันธ์ไม้จากเมล็ด (Seedling Seed
ี
Orchard) สวนผลตเมล็ดพันธ์ไม้แบบไม่อาศัยเพศ (Clonal Seed Orchard) เมล็ดไม้เก็บมาจากแม่
ุ
ิ
่
่
ื
่
ี
ไม้ที คัด เลือกแล้วจาก ปาธรรมชาติ หรอสวนปาทั งในและตางประเทศ แยกได้ดังตอไปน
่
ี
4.4.1 Seedling Seed Orchard/Progeny Trial ป 1971 ห้ ว ย บ ง
่
ื
ิ
่
จังหวัดเชยงใหม เร มโครงการ ทําการคัดแม่ไม้จากแหล่งธรรมชาติ โดยเลอก 1 ต้นตอ 1 แหล่ง
ี
็
็
เมล็ดที ได้เปนแบบ Open pollination นําเมล็ดที ได้มาทําการเพาะ และปลูกเปนสวนผลิต เมล็ด
ี
พันธ์ไม้จากเมล็ด (Seedling Seed Orchard ) ในป 1971 ดังแสดงในตารางที 10
ุ
66
์
้
ตารางที 10 แหลงและการเลอกเก็บเมล็ดไม มาทําการปลูกสรางสวนผลิตเมล็ดพันธุไม ้
้
ื
่
S. no Origin Selection intensity
0004 Omkoi, Seed tree 1 in 1,500
0005 Omkoi, Seed tree 1 in 1,500
0006 Doi Intanon, provenance collection 1 in 200
0007 Doi Intanon Seed tree 1 in 1,000
0008 Doi Intanon Seed tree 1 in 1,000
0009 Doi Intanon Seed tree 1 in 1,000
0010 Doi Intanon Seed tree 1 in 1,000
0011 Phu Kradung, provenance collection 1 in 10
0012 Nam Now, provenance collection 1 in 200
ที มา : บรรดิษฐ์ หงษ์ทอง, 2528
ี
ในป 1976 , 1978 เมื อไม้สนสามใบมีอายุได้ 5 , 8 ป ทําการประเมินผล ทาง
ี
ู
พันธกรรม ทั งด้านการเจรญ เติบโต, รปทรงและลักษณะทางคณภาพต่าง ๆ ในป 1979 สนสาม
ุ
ี
ุ
ิ
ิ
ู
ี
ู
ิ
ใบจากถิ นกําเนด ภกระดึง ที มการเจรญเติบโตไม่ดี รปทรงและคุณลักษณะทรามถกตัด ออกหมด
ู
ื
ี
เหลอ แต่ไม้สนสามใบ ทดี แค่ 12 ต้นต่อแปลง และจากต้นไม้ที เหลือได้มีการนํายอด ไปสร้าง
ุ
ี
ี
ั
สวนผลตเมล็ดพันธ์ไม้แบบไม่อาศัยเพศ ในป 1975 (โครงการท 2) ในขั นสดท้ายจะ ตัดฟนให้
ิ
ุ
ี
ุ
ื
่
เหลือ 100 ต้นตอเฮกแตร สวนผลตเมล็ดพันธ์ไม้ น มีเน อที 1.9 เฮกแตร์
ิ
์
ุ
4.4.2 Clonal Seed Orchard Mae Tang, 1975 สวนผลิตเมล็ดพันธ์ไม้
ู
ื
์
จากการขยายพันธแบบไม่อาศัยเพศ ดําเนนการปลก สร้างในเดอน กรกฏาคม 1976 ทําการคัด
ุ
ิ
ื
เลอกแม่ไม้ในเดอน มีนาคม 1975 จากแปลง Provenance Trail, Seedling Seed Orchard ที ปลกป
ู
ื
ี
ี
1971 เมื อสนสามใบมอายุได้ 4 ป ได้แม่ไม้จํานวน 144 clones จากนั นนํายอดไปทําการต่อยอด
ี
ในเรอนเพาะชํา แล้วจึงนําไป ปลูกในพื นทแม่แตง จังหวัดเชยงใหม ระยะปลก 9 x 9 เมตร เน อที
ื
่
ื
ี
ี
ู
10 เฮกแตร์ จํานวน 1 แปลง 8 block
67
่
ื
ู
ี
ในป ได้นํากล้าไม้เกา มาปลกแทรกระหว่างแถว (interplanting) เนองจากระยะ เก่า
็
่
็
มีความหางเกินไป ทําให้ระยะปลูกกลายเปน . x 6.4 เมตร ทําให้ต้นไม้ แต่ละ block เพิ มเปน
้
ั
ต้น ในขณะเดยวกันก็ได้ตัดฟน กล้าไม้ที ปลกมีลักษณะไม่ดออก ไปประมาณรอยละ ต้น
ี
ี
ู
่
ุ
ิ
ุ
ื
กล้าแม่พันธ์ ที ปลูกบางต้น ยอดต้นแม่พันธ์ตายหรอหักโค่นต้อง ทําการต่อ ยอดซอมต้นเดมด้วย
็
แม่ไม้ต้นเดิมในพื นที แปลงปลูกเลย ซงการทํางานเปนไปด้วยความยากลําบาก คาดว่าสวนผลิต
ึ
ิ
เมล็ดพันธ์ไม้จากการขยายพันธแบบไม่อาศัยเพศน จะให้การผลตเมล็ดเต็มทประมาณ ป แต่
ุ
ี
ี
ี
ุ
์
่
ื
ิ
ปัจจุบันก็ไม่สามารถผลตเมล็ดได้เลย เนองจากไมมีการ ออกดอกตัวผ้และตัวเมีย
ู
4.4.3 Extension (1979) of Pinus kesiya Sub orchard 1971, Huey
ิ
Bong จาก Seedling Sub Orchard ในโครงการท ทําการขยายพื นที สร้างสวน ผลตเมล็ดไม้
ี
ออก ไปอก . เฮกแตร จากไม้สนสามใบ clones มาทําการปลกระยะ x 9 เมตร ในแต่ละ
ี
ู
์
ี
block ใช้กล้าปลูก clones โดยมรายละเอียดดังน ี
4.4.3.1 จากแม่ไม้ กลุ่ม (เลอก ต้นใน provenance) จาก
ื
ุ
ดอยอนทนนท์ (จากกลมไม้ , , , , ) ซงถือว่าเปนกลุ่มไม้ ที ดีที สดจากทั ง
ึ
็
ุ่
ิ
หมด กลุ่ม ที คัดเลือกไว้
ิ
. . . จากแม่ไม้ กลม ในบรเวณ อมกอย ( , )
ุ่
๋
และนํ าหนาว ( ) คัดเลือกรองจากต้นดีที สด จาก กลุ่ม
ุ
ื
ิ
่
4. . . คัดเลอก 3 clones จากแหลงแม่รด (จาก Seed
Production Area)
ื
่
4.4.3.4 คัดเลอก clones จากแหลงดอยอินทนนท์ (จาก
ู
ู
Seed Production Area) ในการปลก clones ใช้ ramets ปลกสลับ ramet เว้น ramet
ไม่มการ ตัดฟันแม่ไม้ออก
ี
4.4.4 สวนผลิตเมล็ดจากการคัดเลอกเมล็ด จากแหลงกําเนดแต่ละ
ิ
ื
่
่
ิ
ุ
ี
ี
แหลงทดีที สด จากการทดลองถ นกําเนดในป 1971 และประเมินผลระยะแรก 1976 พบว่า แหล่ง
ิ
ิ
ิ
ุ
กําเนดที ดของไม้สนสามใบได้แก ดอยอนทนนท์ แม่รด ดอยสเทพ ห้วยแก้ว และแม่สะนาม จาก
่
ี
ิ
ี
แหล่งเก็บเมล็ด (Seed Source Area) ของโครงการปรับปรงพันธ์ไม้สน ทมีอยู่ 3 แหล่งคอ ดอย
ุ
ุ
ื
อินทนนท์ แม่รด และหนองกระทง นํามาพิจารณาเปนแหล่งเกบเมล็ดด้วย สร้าง Open Pollinated
็
ิ
ิ
็
ิ
Progeny Trail ในป 1975 – 77 โดยแมไม้ 29 ต้น จากดอยอนทนนท์ และ 28 ต้น จากแม่รด เพื อ
่
ี
ิ
ี
ื
ุ
่
ี
่
่
ี
ทดสอบหาแมไม้ต้นที ดทสดจาก 2 แหล่งน ทําการคัดเลอกแม่ไม้จากแหลงที ได้กลาวมาแล้วทั ง
68
หมดที ช่วงระดับความสงจาก นํ าทะเล ประมาณ 1,000 เมตร ในทุกแหล่ง ได้แม่ไม้ลักษณะดีเดน
่
ู
ี
ี
่
60 แมไม้ ดังรายละเอยด ในตารางที 11 ต่อไปน
้
่
ื
ตารางที 11 แหลงคัดเลอกแมไม และปริมาณการคัดเลือกแมไมสนสามใบ
่
่
้
Seed source Lat Long Elev No of Plus tree No of tree for 2 Total
m for cloning stage prov. trial
(A collection) (B collection)
Doi Inthanon 18 41 98 27 9 - 1000 10 5 15
o
o
10 - 1100 5 5 10
11 – 1200 5 5 10
12 – 1300 5 5 10
Doi Suthep 18 46 99 00 9 – 1000 5 5 10
o
o
10 – 1100 5 5 10
11 – 1200 5 5 10
Mae Sameung 19 00 98 45 1100 5 5 10
o
o
o
Mae Rid 18 10 98 50 1200 5 5 10
o
Nong Kiow 19 00 98 07 11 – 1300 5 5 10
o
o
Nong Krating 17 56 98 17 1080 5 5 10
o
o
60 55 115
ที มา : บรรดษฐ์ หงษ์ทอง, 2528
ิ
ในป ทําการคัดเลอก แม่ไม้ในแตละแหล่งซํ า ให้เหลอแม่ไม้ในแต่ละกลุ่ม – 5
่
ื
ื
ี
ื
่
์
ต้น กระจายในพื นที ต้นตอ เฮกแตร นําเมล็ดไม้ที เก็บได้จาก แมไม้ที คัดเลอกไว้แล้ว 60 ต้น
่
(A collection) มาทํา Progeny test และทําพร้อมไปกับการทดสอบเมล็ดไม้จาก 50 ต้น จาก
ิ
ิ
แหล่งทดลองถ นกําเนด (B collection) ที ปลกป 1971
ู
ี
69
Seed procurement must be sufficient to cover :
1) A collection , for progeny testing (see 4.4.4)
2 x 48 x 2 = 192 seedling / family.
2) A collection , for ESSO (see 4.4.5) 50 x 2 = 100 seedling / family.
3) A collection , for 2 stage prov. collection,
4 x 6 x 4 = 96 seedling / family.
Total = 388 seedling / family.
4) B collection, for 2 stage prov. collection, 4 sites (see 4.4.4)
4 x 6 x 4 = 96 seedling/ family.
่
ื
ป 1980 ทําการสร้างสวน Clonal Seed Orchard ที ใช้แมไม้จาก 60 แมไม้ ที คัดเลอก จาก
่
ี
่
ี
ี
ปาธรรมชาติ และ 20 แม่ไม้จาก Seedling Seed Orchard ที ห้วยบง ที ปลกป 1971 เตรยมต้นตอใน
ู
ิ
ถง plastic ขนาด 6 นิ ว x 15 น ว ในเรอนเพาะชําที แมสะนาม ทําการเปลยนยอด ในป 1979 – 80
ี
ื
ุ
ี
่
ิ
ิ
ู
ุ่
ี
ื
ู
ทําการปลกในเดอน สงหาคม 1980 ใช้ระยะปลูก 4.5 x 4.5 เมตร ปลกโดยวธสมในแต่ละ block
ใช้ 80 clones block size 36 x 45 เมตร เน อที ทั งหมดของสวนผลิตเมล็ดพันธ์ไม้เท่ากับ 5 เฮกแตร์
ื
ุ
ี
ู
ี
จํานวน 31 blocks พื นทปลก 2 สถาน คือที ห้วยบง และแม่สะนาม ใช้กล้าไม้ทั งหมด 62
ู
็
ี
่
ี
ramets/clones และได้ทําการเตรยม ไว้ปลกซอมอีกร้อยละ 25 ในป 1981 เมล็ดไม้ทเกบจาก
ี
่
่
แหลงธรรมชาติทั ง 60 แหลง (A collection) นํามาเพาะเพื อปลกเปนสวน Seedling Seed Orchard
็
ู
ในป 1981 ด้วย วางแผนการปลกแบบ Single Tree plot design สําหรับทํา Progeny Trials, 48
ี
ู
trees/family, 8 replications of each 6 complets block with 1 single tree/family/block สถานที
ทดลองปลูกห้วยบง และ หนองกระทิง
ี
ี
ในขณะเดยวกัน เตรยมกล้าสนสามใบที เก็บเมล็ดได้จากแม่ไม้ 50 ต้น (B collection) ทํา
ี
ี
การปลกทดลองถิ นกําเนดในขั นท 2 ใน 4 สถาน คือ ห้วยบง หนองกระทิง ห้วยยะอุ และชมพร
ุ
ิ
ู
ุ
ิ
ื
หรอท่าตูม สรนทร ์
4.4.5 Extensive Pinus kesiya Seedling Seed Orchard (ESSO) 1981
ู
ี
ในขณะททําการปลก progeny Trails ใน ก็ได้ทําการคัดเลอกกล้าไม้สน สามใบลักษณะด ไปทํา
ื
ี
การปลกเปน Extensive Seedling Seed Orchard (ESSO) ในพื นที เฮกแตร์ ดังน ี
ู
็
70
่
4.4.5.1 Progenies ของแมไม้ที คัดเลือกไว้ 60 แมไม้
่
(A collection)
ี
4.4.5.2 Progenies ของแม่ไม้ทคัดเลือกไว้ 10 แม่ไม้ จาก
ี
่
Rhodesia Seed Orchard เมล็ดไม้ สงมาในป 1979
ื
4.4.5.3 Progenies จากแม่ไม้ที คัดเลอกไว้ 10 แม่ไม้ จาก
ิ
Philippines ถ นกําเนด Coto Mine/Zambales เมล็ดไม้สงมาในป 1980
่
ี
ิ
4.4.5.4 Progenies จากแม่ไม้ที คัดเลอกไว้ 10 แม่ไม้ จาก
ื
Zambia (ex Vietnam) Seed Orchard เมล็ดไม้สงมาในป 1980
่
ี
4.4.5.5 Progenies จากแม่ไม้ที คัดเลือกไว้ 10 แม่ไม้ จาก
็
Madagascar Seed Orchard ทั งหมดเปน 100 single tree progeny families
ิ
4.4.5.6 ระยะปลูกเร มแรก 4.5 x 4.5 เมตร ให้ตัดสางขยาย
ุ
์
ระยะ ได้ร้อยละ 75 สดท้าย เหลอระยะปลูก 9 x 9 เมตร ดั งนั น ใช้กล้าไม้ 500 กล้าต่อ เฮกแตร
ื
หรอ 5 ต้น/family or 50 ต่อเฮกแตร์ หรอ 100 เมื อ อัตรา รอดตายทร้อยละ 50
ี
ื
ื
ุ
่
ิ
ุ
สรป พื นที สวนผลิตเมล็ดพันธ์ไม้ ที กรมปาไม้ได้ดําเนนการปลูกไปแล้ว ดังน ี
ี
ิ
ปลกแล้ว (ไร) ชนดสวน อายุ(ป)
่
ู
ห้วยบง 125 Seedling Seed Orchard 20 – 27
ห้วยบง 32.5 Clonal Seed Orchard 18
แม่แตง 65 Clonal Seed Orchard 23
้
5. การทดสอบลูกไม (Progeny Trial)
ุ
ึ
ึ
Progeny หมายถง ลูกไม้ (offspring) ที เกิดจากการผสมพันธกันคู่ใดคู่หนง ที
์
ึ
็
่
่
ื
ทราบประวัติทั งสายพ่อและสายแม่ หรอจากแมไม้ใดแมไม้หนงที ไม่อาจทราบที มาของสายพ่อก
ู
ุ
ได้ นอกจากน ยังรวมทั ง Propagules ที ได้จากการขยายพันธ์โดยไมผสมเกสรด้วย การทดสอบลก
่
ี
ไม้ที ทราบประวัติทั งพ่อและแม่เรยก Full-sib Progeny Test การทดสอบลกไม้ ที ทราบประวัติ
ู
ี
ุ
ื
ี
ี
่
พ่อหรอแม่ฝายเดยว เรยกว่า Half–sib Progeny Test ( วิเชียร สมันตกุล, )
71
โดยทั วไปการทดสอบลูกไม้แบบธรรมชาติ Half–sib Progeny Test หรอ (Open-
ื
ิ
ิ
ื
pollinated Progeny Test) จะเร มดําเนนการทันทีหลังได้ทําการคัดเลอกแม่ไม้ โดยเมล็ด จะนํามา
ู
่
ุ
ุ
ี
ื
เพาะแล้วปลูกตามแบบแผนการปรับปรงพันธ์ เพอเปรยบเทียบรปรางลักษณะ (phenotype) การ
ู
์
ุ
ิ
หาคณค่าทางพันธ (Genotypic value) ของรนลูก (progeny) ที ปลกได้ยัง ประเมนค่า Breeding
ุ
ุ่
value ของแม่ไม้ว่ามีลักษณะดีเลวอย่างไร
่
ึ
การทดสอบลูกไม้แบบธรรมชาติ พอจะกลาวได้ถงวัตถุประสงค์ในการ ทดสอบดังน ี
ุ
ุ่
ู
1) เพื อประเมินค่าทางพันธกรรมของรนลก ในแต่ละ family ตลอดทั งเพื อ
์
ั
ประเมินหา ค่า heritability ในระดับ family ที ทดสอบ และหาความสมพันธทาง (Genetic
correlation) ต่าง ๆ
ุ
่
ุ่
2) ผลจากการประเมินคาทางพันธ์ (Genetic value) ของรนลูก ในแต่ละ family
ทําให้ทราบ ค่าการถายทอดทางพันธกรรม (Breeding value) ของแม่ไม้ที คัดเลือกไว้ได้
ุ
่
ู
้
ิ
การดําเนนการจัดสรางสวนการทดสอบลกไม้ (Progeney Test) ของไม้สนสามใบ จะ
เปนแบบ Half–sib Progeny Test ได้ดําเนนการหลังจากการคัดเลอกแม่ไม้ จากแหลงธรรมชาติ
ิ
่
็
ื
และแปลงทดลองที ทราบผลจากการประเมนขั นต้นแล้วว่า เปนแหลงแมไม้ลักษณะด จงได้
ึ
่
ิ
่
็
ี
่
ิ
ู
็
ดําเนนการทดสอบลกไม้จากแม่ไม้แหลงต่าง ๆ โดยเกบเมล็ดจากแม่ไม้ที ต้อง การทดสอบมา
ิ
เพาะแยกเปน family จากนั นนําไปปลูกตามผังการทดสอบ ซงก็นยมใช้ผังการปลกทดสอบแบบ
ึ
็
ู
ิ
ิ
Randomized Complete Block with Sengle Tree plot ระยะปลูก 3 x 3 เมตร เร มดําเนนการใน
ี
่
ี
ู
ป 1975 – 77 และได้ทําการทดสอบลกไม้สนสามใบ (Progeny Trial) ในป 1981 ดัง ได้กลาวใน
ิ
ี
รายละเอียดแล้วใน (ข้อ 4) สวนผลตเมล็ดจากการคัดเลอกเมล็ด และในป 1987 ได้ทําการ
ื
ู
ี
ทดสอบลกไม้สนสามใบ จํานวน 100 family ที ห้วยบง เชนกัน แผนผังการทดสอบ ใช้แบบเดยว
่
ี
กับทกล่าวมาแล้ว
์
้
์
6. การอนุรักษพันธุไม (Gene Conservation)
่
้
ิ
่
ู
ุ
การปลกสรางสวนปา เพื อขยายพื นที ปาไม้ ได้มีการดําเนนกันเกอบจะทก
ื
ี
ประเทศ เพื อทําให้สภาวะแวดล้อมดขึ น ในขณะเดยวกันก็ทําให้รอบตัดฟนของต้นไม้สั นลงด้วย
ั
ี
ิ
ิ
ุ
ุ
โดยการใช้เทคนคในการปรับปรงพันธ์ เปนต้นว่าการทดลองชนดไม้ ทดลองถ นกําเนดการจัด
ิ
็
ิ
ุ
การเมล็ด นําเมล็ดไม้จากปาธรรมชาติ มาสร้างสวนผลตเมล็ดพันธ์ไม้ และรวมถึงพัฒนาคณภาพ
ุ
ิ
่
ของเมล็ด เพื อให้เกิดการหลากหลายทางพันธกรรม อย่างไรก็ตามการเก็บเมล็ดจากไม้ที ใกล้ จะ
ุ
72
ิ
ู
ุ
ุ
้
็
สญพันธ์ เพื อการเพิ มประชากรไม้ชนดนั นนับว่ามีความสําคัญมากเปนการปองกัน และอนรักษ์
่
ู
ุ
ุ
พันธ์ เรงด่วนควบค่ไปกับ ความต้องการเมล็ดพันธ์ดี เพื อการปลูกปา
่
็
ุ
ั
ั
ิ
คําว่า การอนรกษ์ทรพยากร หมายถึง เปนกจกรรมและนโยบายในการ ดํารงคงอยู่ไว้
็
ิ
ึ
ซง ความแปรปรวนตามธรรมชาต และไม่ให้สญหายไป เปนคํากําจัดความใน (The World
ู
Conservation Strategy (IUCN/UNEP/WWF, 1980) cited in Keiding and Graudal, 1989)
่
ทรัพยากรพันธกรรม (Genetic resources) หมายถง เปนหนวยของความแปรปรวนที
็
ุ
ึ
่
ื
ื
็
สามารถถายทอดได้ ที จะแสดงให้เหนหรอมีค่าศักยภาพที จะถ่ายทอด ความแปรปรวน หรอ
่
สามารถถายทอดได้และจะแสดงออกให้เหนในทันทีทันใดหรอในภายหลัง โดยถ่ายทอดให้กับ
ื
็
ู
ุ่
รนลก รนหลานต่อ ๆ ไปในอนาคต (Roche & Dourojeanni, 1984 cited in Keiding and Graudal,
ุ่
1989) ทรัพยากรพันธกรรมจะปรากฏในรปแบบต่าง ๆ และให้หลายขั นตอน ของการพัฒนาใน
ู
ุ
้
ุ
่
ุ
่
ุ
่
ทางพันธกรรม ครอบคลมทั งปาธรรมชาติ ปาที มนษย์สรางขึ น สวนปาปลูก โดยขบวนการคัด
เลือกพันธ์ ดังแสดงในแผนภมิที 2
ุ
ู
่
แผนภูมิที 2 ความตอเนองระหวาง Genetic variability และ Different gene resources ใน
ื
่
ระหวาง ขั นตอนการปรับปรุงพันธุ
่
์
”Variabilty”
”Yield”
natural ex situ plantation Selected Seed Seed orchard
forest conservation Stand clones
ที มา : H. Keiding and L. Graudal, 1989
73
ุ
ุ
ิ
ี
ี
การอนรักษ์พันธ์ของชนดไม้ และความหลากหลายทางชวภาพมอยู่ 2 แนวทางคือ
In situ (on sites) เปนการปองกัน และคงไว้ซงชนดไม้และจํานวนประชากรในระบบ
็
ึ
ิ
้
ิ
นเวศน์วิทยาในที ทต้นไม้ขึ นอยู่
ี
ิ
Ex situ (off site) เปนการปองกัน และคงไว้ ซึงทรัพยากรพันธกรรมนอกถ นฐานเดม
้
ุ
ิ
็
ื
ุ
็
ุ
ุ
ั
่
เชน Production stands วัสดที ใช้ในการคัดเลอกพันธ์ และผสมพันธ์ การ อนรกษ์แหลงผลตเมลด
ุ
ิ
่
ื
ละออง หรอ tissue ความแตกต่างของสองแนวทางน มีพื นฐานคือ In situ conservation ของพันธ
ี
ุ
ิ
ิ
ื
่
ื
กรรมพช จะมการวิวัฒนาการอย่างตอเนองภายในพื นที ถ นกําเนดดั งเดิม บอยครั งที มีการสบ
่
ื
ี
ทอดพันธของประชากรพืช ใน In situ conservation รวมไปถึงการขยายพันธ์แบบไมธรรมชาติ
ุ
์
่
ุ
ื
ิ
็
(Artificial regeneration) เมื อมการปลูกพืชหรอการเพาะเมล็ดใน ถิ นดั งเดมและการเก็บเมล็ด ก
ี
มาจากถ นดั งเดมนั นด้วย (FAO, 1985 cited in Keidind and Graudal , 1989)
ิ
ิ
การอนรักษ์พันธ์ไม้ มเป้าหมายในการอนรักษ์ดังน ี
ุ
ุ
ุ
ี
ิ
ิ
ุ
ุ
6.1 เปาหมายในการอนรักษ์พันธ์ในถ นเดม (In situ Gene Conservation)
้
การอนรักษ์พันธ์ในถ นเดม (In situ Gene Conservation) มีเป้าหมายในการ อนรักษ์ ดังน ี
ุ
ิ
ุ
ุ
ิ
ุ
6.1.1 เพื อให้ พืชมีปรมาณเพิ มขึ น อนรักษ์พันธกรรมให้มีปรมาณมาก
ิ
ิ
ุ
6.1.2 เพื ออนรักษ์ การปรับตัวของชนดไม้ ซงไมสามารถที จะไปปลูก
่
ึ
ิ
ุ
ึ
ิ
ื
็
ิ
ุ
ี
ุ่
ิ
สร้าง หรอขยายพันธ์ นอกถ นที อยู่เดมของมันได้ ซงชนดไม้น แบ่งเปน 3 กลม คือ
ิ
ิ
6.1.2.1 ชนดไม้ซงขึ นในสภาพทางระบบนเวศน์ ที ซับซ้อน
ึ
ิ
ึ
่
ิ
ื
่
ึ
ู
เชน ปาเขตร้อนช น ซงต้นไม้ต้องพึงพาอาศัยกัน ไม่สามารถนําชนดหนงชนดใดไป ปลกเดี ยว ๆ
ได้
ิ
ี
6.1.2.2 ชนดไม้ที เมล็ดมอายุสั น หรอเมล็ดมีการชงักงัน โดย
ื
ไม่สามารถ แก้ไขได้ โดยวิธที ไม่ใช่ธรรมชาต ิ
ี
ุ
ุ
6.1.2.3 ชนดไม้ทมีระบบการคัดเลอกพันธ์ และผสมพันธ์
ิ
ี
ื
ิ
แบบพิเศษเชน แมลงชนดหนงถงจะชวยผสมพันธ์ได้ นกหรอค้างคาวชวยในการนําพาละออง
ื
่
ุ
่
่
ึ
ึ
ื
ุ
เกสร หรอการ ผสมพันธ์ต้องพึงพา ความซับซ้อน ของระบบนเวศน์
ิ
74
ื
ี
ิ
. . เพื อให้มีการววัฒนาการตามธรรมชาติอย่างต่อเนองอย่างในกรณ
ุ
การพัฒนาความต้านทานโรคแมลง เพื อประโยชน์ของนักผสมพันธ์ ในอนาคต
่
ิ
ี
่
ื
ุ
่
. . เพออนรักษ์หลายส งในเวลาเดยวกัน เชน พืช ปาไม้ สัตว์ปา ผลิต
่
ี
ผลจากปา ซงจะ ต้องรักษาไว้ โดยการป้องกันในพื นที เดยวกัน
ึ
ู
. . เพื อศึกษาค้นคว้า ที อยู่อาศัยของชนดไม้ตามธรรมชาต รปพรรณ
ิ
ิ
ิ
ุ
ิ
สัณฐาน และลักษณะทางพันธกรรมที สัมพันธ์กับระบบนเวศน์และส งแวดล้อม เพื อให้ได้พันธ์ ที
ุ
ุ
ดขึ นและมีประโยชน์มากขึ น คณค่าของลักษณะตาง ๆ ของพชพบได้เนองจาก การอยู่รอดตาม
่
ื
ี
ื
็
ธรรมชาติ เช่น ความต้านทานต่อ ความเค็ม ต้านทาน ความแห้งแล้ง เปนต้น
ิ
้
ุ
ิ
ิ
. . เพื อปองกันสังคมพืชเมื อพืชชนดนั น ๆ เกดมีคณค่าทางเศรษฐกจ
อย่างปจจบันทันดวน นอกจากน อาจจะมีสวนประกอบที เกี ยวข้องกับพชก็อยู่ ในการอนรักษ์
่
ุ
ุ
ื
ั
ี
่
ุ
ระยะยาว อาจจะเพิ มคณค่าในอนาคตด้วย
ิ
ิ
ุ
ุ
้
. เปาหมายการอนรักษ์พันธ์นอกถ นกําเนด (Ex situ Gene Conservation)
ุ
ิ
ี
การอนรักษ์พันธ์นอกถ นกําเนด (Ex situ Gene Conservation) ก็มวัตถประสงค์ที พอ
ุ
ิ
ุ
่
กลาว ได้ดังน ี
ื
็
ี
6.2.1 เปนการปองกันประชากรทได้อันตราย เนองจากการถดถ้อยลง
้
ิ
ื
ุ
ของ จํานวนชนดไม้ที สําคัญ ในพื นที ธรรมชาติ หรอ ในสภาพธรรมชาติ การอนรักษ์แบบ In situ
ุ
ช่วยเหลือไม่ไหวแล้ว เช่น ถูกราษฏรบุกรกทําลาย
ุ
ี
ื
้
ั
6.2.2 เปนการปองกันประชากรทได้รบอันตราย เนองจากการถดถอย
็
ทาง พันธกรรม เชน พันธกรรมเดิมเกิดการปนเปอน จากพันธ์ไม้ที นํา เข้ามาปลูกจากต่างประเทศ
ุ
ุ
ุ
่
ื
ในการอนรักษ์ให้เกิดพันธกรรมธรรมชาติ เดมของชนดไม้นั นจําเปนต้องทํา Ex situ โดยการ
ุ
ุ
ิ
็
ิ
ุ
่
่
ี
ิ
เก็บเมลดที ระยะ เวลาหนงที แนใจว่าไม่มพันธ์ต่างชาติผสม หรอนําสวนต่าง ๆ ของพืช ชนดนั น
ึ
ื
็
ไปขยายพันธ์ แบบไม่อาศัยเพศต่อไป
ุ
ิ
ุ
ุ
็
ิ
ี
ุ
พอจะกล่าวได้ว่า การอนรักษ์พันธ์แบบ In situ เปนวธทางความคด ในการอนรักษ์
ั
ุ
่
ุ
ุ
พันธกรรมในสภาพปาธรรมชาติ ในขณะทการอนรกษ์พันธกรรมแบบ ex situ ช่วยรักษาพันธ
ี
ุ
ู
กรรมไม่ให้สญหายไปจากที อยู่อาศัยตามธรรมชาติของมัน (FAO, 1985 cited in Keiding and
Graudal, 1989)
75
ุ
ุ
ี
ุ
้
ุ
การอนรักษ์พันธ์ไม้สนสามใบ ในป 1971 โครงการปรับปรงพันธ์ไม้สน ได้ทําการสราง
ุ
ิ
ิ
ั
ุ
ุ
่
สวนอนรกษ์พันธ์ในถ นเดม (In situ Gene Conservation) ของไม้สนสามใบ ขึ นที อทยานแหง
ี
ิ
ชาติดอยอนทนนท์ เน อทประมาณ 150 เฮกแตร์ และจัดสร้างสวนอนรักษ์พันธ์ในถ นเดมของไม้
ื
ิ
ุ
ิ
ุ
สนสามใบในป 1972 ขึ นที หนองกระทิง อําเภออมกอย จังหวัดเชยงใหม่ เน อประมาณ 250 เฮก
ี
๋
ี
ื
แตร์ (Sa – Ardavut et al, 1989)
์
ุ
ิ
ิ
ุ
ั
การสร้างสวนอนรกษ์พันธนอกถ นกําเนด (Ex situ Gene Conservation) ของ
ุ
ุ
ี
ื
สนสามใบ ได้มีการสรางสวนอนรักษ์พันธ์นอกถิ นกําเนดของสนสามใบ ขึ นในพื นทภาคเหนอ
ิ
้
ดังแสดง ในตารางที 12
ื
์
ิ
ั
ตารางที 12 การสรางสวนอนุรกษพันธุนอกถิ นกําเนิด ของสนสามใบ บรเวณภาคเหนอของ
้
์
ประเทศไทย
ื
ิ
ิ
ี
ู
สถานที ปที ปลก เน อที ถ นกําเนด
(ha)
๋
ห้วยบง 1971 3 มาลาวี, อมกอย, ภูกระดง
ึ
ิ
์
ิ
ิ
ุ
ห้วยบง 1978 85 หนองเขียว, ฟลปปนส, ดอยสเทพ
ห้วยบง 1979 37 Huang Su Phi Vietnum, ดอยสเทพ
ุ
ห้วยบง 1980 38 ห้วยจําปา
ึ
แม่สะนาม 1974 131 ดอยอินทนนท์, หนองเขียว, ภูกระดง
ี
แม่สะนาม 1976 29 พม่า, อินเดย
แม่สะนาม 1986 16 สะเมง
ิ
บ่อหลวง 1973 ดอยอินทนนท์, ภูกระดง
ึ
หนองกระทิง 1983 10 หนองกระทิง
๋
หนองกระทิง 1984 อมกอย, หนองกระทิง
หนองกระทิง 1985 หนองกระทิง
หนองกระทิง 1986 หนองกระทิง
หนองกระทิง 1987 ห้วยบง
บ่อแก้ว 1984 ดอยอินทนนท์, ห้วยจําปา
ี
ที มา : ประดิษฐ์ หอมจน, 2540
76
การจัดการเมล็ดไมสนสามใบ
้
ิ
ู
่
ู
ในการปลกสร้างสวนปาทั วไปไม่เฉพาะแต่ในประเทศไทย นยมใช้เมล็ดในการปลก
สร้างสวนปา แม้วาจะมีการใช้สวนต่าง ๆ ของต้นไม้ ในการปลกสร้างสวนปาบ้าง แตยังม
ี
่
่
่
่
ู
่
ู
ุ
่
ี
ปรมาณน้อยและใช้เพื อวัตถประสงค์อน นักวิชาการปาไม้ต้องมีความร้ดพอทางด้านชววิทยาของ
ื
ิ
ี
ู
้
็
ดอก ผล และเมล็ด ของต้นไม้เพื อความสําเรจในการปลกสรางสวนปา เมล็ดเปนหนวยมีชวิตที
่
็
ี
่
ใช้ในการขยายพันธ์แบบอาศัยเพศ เกดจากรังไข่ทพัฒนาเจรญข นหลัง การผสมพันธ์แล้ว
ี
ุ
ิ
ึ
ุ
ิ
ี
(Willan, 1984) ดังแสดงในภาพที 14 การจัดการเมล็ดไม้ (Seed Procurement) นับวามความ
่
สําคัญขั นตอนแรก ๆ เมื อเร มจะดําเนนการปลกสร้างสวนปา มีขั นตอนในการจัดการ ดังน ี
ิ
่
ิ
ู
1. แผนการเก็บเมล็ดไม้ (Planning Seed Collection)
2. แหลงเก็บเมล็ดไม้ (Seed Source)
่
3. การเก็บเมล็ดไม้ (Seed Collection)
4. การคัดแยกเมล็ดไม้ และทําความสะอาด (Seed Processing)
5. การเก็บรักษาเมล็ดไม้ (Seed Storage)
6. การทดสอบเมล็ดไม้ (Seed Testing)
้
1. แผนการเก็บเมล็ดไม (Planning Seed Collection)
็
ข้อมูลเกี ยวกับเมล็ด ความต้องการใช้เมลดรายป ปรมาณเมล็ดทเก็บรักษาไว้ ทั ง
ี
ี
ิ
่
ิ
ปที ชัดเจน ชวยให้การวางแผนการจัดเก็บเมลดไม้ เกิดประสทธภาพที ดี นอกจากน ยังมีข้อมูล
ี
ิ
็
ี
่
ี
ุ
ื
่
่
ี
่
เกยวกับการบกรกทําลายแหลงเก็บเมล็ด ไฟไหม้ปาหรอเมล็ดเกิดการแกล้าช้าไป ส งเหลาน จํา
ุ
ิ
ึ
ั
็
เปนต่อการที จะต้องมี การปรบแผนการเก็บเมลดอยู่ตลอดเวลา ซงพอจะแยกออกเปนขั นตอน
็
็
ดังน ี
่
ิ
ิ
1.1 ปรมาณความต้องการเมลดในแต่ละป เร มจากชนดไม้ที จําเปนต้องใช้กอน
็
็
ิ
ี
ึ
ิ
่
ึ
ุ
็
ิ
ู
ซงก็เปนไปตามวัตถประสงค์ของการปลูกปาว่าจะปลกไม้ชนดใด เมื อทราบชนดไม้แล้วถงจะ
ดําเนน แผนการอื นได้ แต่ทั งน ต้องมความร้ทางชีววทยาของการเกดเมล็ดของไม้ชนดนั น ๆ ดีพอ
ิ
ี
ู
ิ
ี
ิ
ิ
เปนต้นว่า ไม้ชนดนั นออกดอก ผล อย่างใด ไม้บางชนดออกดอกผลเล็กมาก เมล็ดไม้เปนแบบ
ิ
็
ิ
็
77
ภาพที 14 รูปตัดตามยาวของรังไข และเมล็ดไม ้
่
ที มา Barner et al, 1989
78
ึ
่
็
Orthodox seeds ซงเมล็ดสามารถเกบรักษาไว้ได้นาน ก็ยังคงงอกได้ดีอยู่เชน เมล็ดสนสามใบ
ี
เปนต้น หรอ Recalcitrant seeds ซงเมล็ดจะมีความสามารถดํารงความมีชวิตอยู่สั น เก็บแล้ว ต้อง
ื
ึ
็
็
รบเพาะเลย เชน เมล็ดไม้ตระกูล ยาง เมล็ดไม้สะเดา เปนต้น โรคแมลงที สามารถทําลาย เมล็ดได้
่
ี
่
ิ
ี
ี
ี
ี
็
มาก ปรมาณผลิตเมล็ดของแตละป ว่าปไหนเปนปทผลิตเมล็ดได้มาก ปไหนเปนปที ผลิต เมล็ด
ี
็
ี
่
่
็
็
ได้น้อย ข้อมูลเหลาน ีชวยในการวางแผนในการเกบและรักษาเมลด เพื อให้เพียงพอกับ ความ
ต้องการใช้เมล็ดในแต่ละป ประกอบไปด้วย 2 ปัจจัย ที ใช้วางแผนคือ
ี
ู
่
1.1.1 แผนการปลกปากับความต้องการใช้เมล็ดไม้ ปกติก็จะทราบกัน
ู
่
ู
ึ
ิ
ี
ี
่
่
ี
ี
ดว่า แตละปจะปลกปาปละกไร ด้วยไม้ชนดใด ระยะปลกเท่าใด ซึงก็สามารถคํานวณ ได้ถง
ิ
ี
ปรมาณ ความต้องการใช้เมล็ดในการเพาะ ในปนั นได้ ดังแสดงในตารางที 13
็
ิ
ี
1.1.2 ปที ผลตเมลดได้มาก (Seed year) ทําให้สามารถเก็บเมล็ด ได้
ปรมาณมาก ราคาค่าใช้จายก็ถกลง เมล็ดมีคุณภาพด เมล็ดเสยน้อย สามารถที จะเก็บรักษา ไว้ได้
ี
ี
่
ิ
ู
ิ
ี
็
ี
มาก เพื อรอปที ผลผลตมากอีกในปตอไป ขณะเดยวกันกสามารถเปลยนงบประมาณท ใช้ในการ
ี
่
ี
ี
้
ิ
่
ี
เก็บเมล็ดในปที ให้ผลผลิตน้อยมารวมอยู่ในปที ใหผลผลตมากแทน และควรจะมีการวางแผนลวง
ี
หน้าอย่างน้อย 5 – 10 ป ในการใช้เมล็ด
ี
่
ในกรณสนสามใบ กใช้หลักการน ในการเก็บเมล็ดสนสามใบ ให้หนวยงานของ กรมปา
ี
่
ี
็
ู
่
ไม้ ใช้ในการปลกปา ดังแสดงในตารางที 14
79
ตารางที 13 การประมาณความตองการใชเมล็ดไม ้
้
้
1. Species (a) Pinus kesiya (b) Tectona grandis
2. Plants per ha
(a) Number planted 1670 (3 x 2 m) 1111 (3 x 3 m)
(b) Additional for replacing field
casualties - percent 15 35
- number of plants 250 389
(c) Total requirement -
plantable plants 1920 1500
(d) Additional for nursery losses
and culls - percent 20 1) 62.5 2)
- number of plants 480 2500
(e) Total requirement -
germinated seedling 2400 4000
3. Estimated number of germinated seedling per kg of seed 3) received 32000 500
4. Basis for estimate in 3. 1980 crop ex 1979 crop ex
Zambia, dewinged Trinidad, with
And cleaned involucres removed
5. Number of kg of seed needed per ha 0.07 8.0
of plantation (13.3 ha/kg) (0.12 ha/kg)
6. Annual planting area (ha) 12000 5000
7. Annual requirement of seed (kg) 900 40000
Note : 1) Losses and culls represent 20% of the germinated seeds. This is equivalent to 25% of the
plantable plants.
2) 25% of germinated seeds are estimated to produce plantable plants in one year and a further
12.5% at the end of a second year in the nursery. Losses and culls therefore amount to 62.5% of germinated
seeds, equivalent to approximately 167% of plantable plants.
3) In P.kesiya the sowing unit is a true seed. In T.grandis the “seed” or sowing unit is botanically a
fruit, which may contain 0-4 true seeds.
Source : Willan R.L. ,1984
80
้
ิ
้
ตารางที 14 ปรมาณการเก็บเมล็ด และการใชเมล็ด ไมสนสามใบ
ี
ป พ.ศ. ปรมาณทเกบได้ ปรมาณทใช้ออกไป
ิ
ี
็
ี
ิ
(ก.ก.) (ก.ก)
2529 447.41 215.80
2530 350.72 159.53
2531 416.29 47.01
2532 200.40 238.27
2533 131.30 313.82
2534 110.90 167.58
2535 18.20 206.42
2536 152.00 148.35
2537 58.00 113.32
2538 13.45 70.93
2539 - 17.91
ที มา : อําไพ พรลแสงสวรรณ์, 2541
ุ
ี
ิ
1.2 การบันทึกแหล่งเก็บเมล็ด เมอทราบปรมาณของความต้องการใช้เมล็ด ใน
ื
่
็
็
ี
แต่ละป แล้วจะเก็บเมล็ดที ไหน การสํารวจแหลงเก็บเมลดก็เปนงานที จะต้องตามมา อาจจะต้อง
ทําเปน หนังสอสอบถามไปตามหนวยงานต่าง ๆ เชน ปาไม้เขต ปาไม้จังหวัด อทยานแหงชาต
่
่
ุ
่
็
่
ื
ิ
่
่
ต่าง ๆ เปนต้น ในที น กรวมถึง สวนผลตเมล็ด กลุ่มไม้ในปาธรรมชาติ และปาปลกด้วย เมื อทราบ
ี
็
็
ู
่
ิ
ี
ี
ิ
ู
สถานที ทจะเก็บเมล็ด จะได้วางแผนการเก็บที ถกต้องตรงเวลาได้เช่น ไม้ชนดเดยวกันที ระดับ
ี
็
่
่
ู
่
ความสงจากนํ าทะเล ไมเท่ากัน การแกของเมล็ดก็จะมระยะเวลาไมตรงกัน เปนต้น
ี
่
ี
็
ี
1.3 การวางแผนในรายละเอยดเปนรายป เมื อทราบแหลงเก็บเมล็ดไม้แล้ว
ี
ปรมาณทจะใช้เท่าไรกจะมาลงรายละเอยด ว่าต้องทําเปนหนังสอเพื อขอทําการเก็บเมล็ด โดย
ิ
ื
็
ี
็
ึ
็
ี
่
กําหนดระยะเวลาที จะเก็บ ตั งแต่เมื อไรถงวันไหน ใช้คนกคน ตัวอย่างเชน การเก็บเมลด
81
ี
่
็
สนสามใบจากแหลงเกบเมล็ด 16 แหลง ในประเทศไทย ใช้คนปน 4 คน หัวหน้าเก็บ 1 คน เก็บ
่
ได้ 3,000 กิโลกรัม ใช้ระยะเวลา 30 วัน (Stabsgaard and Baadsgaard, 1989)
ี
ู
ี
ึ
็
้
็
หัวหน้าเก็บเมล็ดต้องมความร ในการเก็บเมลดเปนอย่างด และสามารถที จะทราบถงผล
็
่
ี
ออน ผลแก่ ได้ดการเกบเมล็ดก็จะเกบเฉพาะผลแกเท่านั น นอกจากน เขายังต้องสามารถสอนคน
ี
็
่
ู
็
งานให้สามารถเลือกเกบผลแก่ได้อย่างถกต้อง ใช้เครองมือเปน ตั งแต่การปนต้นไม้ วธเก็บเมลด
็
ื
ี
ิ
ี
็
ิ
ไม้ โดยไม่ทําความเสยหายแกต้นไม้ด้วย ส งเหล่าน จะต้องมีการวางแผนลวงหน้าก่อน
ี
ี
่
่
่
่
ี
เครองมือต่าง ๆ ที จะใช้ รถยนต์ในการขนสง ก็ต้องมีการวางแผนลวงหน้ากอนทจะถง
ื
่
ึ
ุ
เวลาเก็บเมล็ดจรง ต้องมีการตรวจสอบอปกรณ์ในการเก็บเมลดก่อน เพื อความปลอดภัย ต้องหา
ิ
็
ซ อมาเพิ มเติมถ้าชํารดเสยหาย รถยนต์ก็ต้องอยู่ในสภาพด เนองจากแหลงเก็บเมลดไม้ มักอยู่หาง
ี
็
่
ี
ุ
ื
ื
่
ไกล และการคมนาคมลําบาก
ี
่
ี
เงินงบประมาณ ต้องมีการวางแผนอย่างดี ว่าจะใช้จายเงินเท่าใด ในกรณคนงาน ปนต้น
ี
็
่
ื
ไม้ อาจจะต้องจายแพงเปนพิเศษ เนองจากความเสยงและจําเปนต้องพักแรมกัน ในพื นที แหลง
็
่
เก็บเมล็ด
่
ควรจะทราบแผนการเก็บเมล็ด เชน ปกตการเก็บเมล็ดก็มักเก็บกันแบบ ปรมาณมากรวม
ิ
ิ
่
็
็
็
กัน แต่จะแยกเปนแหลง ๆ ไป มีบ้างที จําเปนที จะต้องเก็บเมล็ดแยกเปนต้น ๆ ไป เพื องานค้นคว้า
และทดลอง
ิ
่
ื
1.4 การประเมินผลผลตเมล็ด เนองจากผลผลตของเมล็ดไม้ แตละชนดไม่
ิ
ิ
เหมอนกัน บางปกให้ผลผลตมาก การประเมินกําลังผลตนับว่าเปนส งจําเปน ต่อการวางแผนใน
ิ
ื
ิ
็
็
ิ
ี
็
การเก็บเมล็ด
่
็
การประเมินปรมาณของเมล็ดไม้ ถ้าเปนไปได้ควรกระทํา ในชวงการติดดอก การผสม
ิ
ิ
ื
ั
ิ
ื
ื
ื
เกสรว่าดีหรอไม่ แมลงหรอมีปจจัยอนหรอไม่ในการทําให้ปรมาณการผลตน้อยลง และกอน
่
ิ
็
หน้าที เมล็ดจะแก่ เปนเวลาที ดที สดในการออกไปประเมินการ ผลิตเมล็ดไม้ชนดที ต้องการจะ
ี
ุ
เก็บ
ิ
่
่
การประเมนความแกของเมล็ด การใช้กล้องสองทางไกล ตรวจดูความแก่ของเมล็ด ใน
ี
ชวงระยะเวลาที เหมาะสมทจะเก็บเมล็ดได้นับว่ามีความสําคัญมาก ในกรณไม้สนสามใบ ซงผล
ึ
ี
่
่
ี
็
ี
ี
สน (cone) เร มเปลยนจากสเขยวไปเปนสนํ าตาล ในอัตราสวนครงต่อครง แสดงว่าเมล็ดไม้แก
ิ
ี
ึ
ึ
่
ื
่
่
แล้ว ระยะเวลาในการเก็บผลสน สนสามใบ ที แกจัดจะอยู่ในชวง เดอนธันวาคม - มกราคม ของ
ทุกป เก็บเมล็ดได้ทันที ซงผู้เก็บที ชํานาญจะตรวจสอบได้ไม่ยาก
ึ
ี
82
ู
่
การทดสอบความแกของเมล็ด โดยการผ่าผลสนของสนสามใบออกด ถ้าเมล็ดภายในมี
็
็
ื
ลักษณะเปนนํ านม กแสดงว่าอ่อนอยู่ แต่ถ้าเมล็ดมีลักษณะแข็งใสเหมอนเมล็ดข้าวสาร ก็แสดงว่า
ิ
่
็
เมล็ดแกสามารถเก็บได้ การนับจํานวนเมลดใน cone ก็ชวยให้สามารถ ประมาณการผลผลตที จะ
่
ี
เห็นได้ ในปนั นด้วย ดังแสดงใน ภาพที 15
2. แหลงเก็บเมล็ดไม (Seed Source)
้
่
็
แหลงเก็บเมล็ดไม้ของสนสามใบ ในประเทศไทยที เปนแหล่งเก็บเมล็ดตาม
่
ิ
ธรรมชาต ได้ทําการคัดเลอก กลมไม้หรอแม่ไม้ ลักษณะดีไว้แล้ว จํานวน 21 แหล่ง ดังแสดงใน
ื
ื
ุ่
ตารางที 15
ุ
ี
นอกจากน ในการปรับปรงพันธ์ไม้สนสามใบ ก็ได้มีการจัดสรางสวนผลิตเมล็ดพันธ์
ุ
ุ
้
ุ
(Seed Orchard) ขึ นเพื อวัตถประสงค์ให้เปน แหล่งผลิตเมล็ดไม้พันธ์ดี ดังน ี
ุ
็
สวนผลิตเมล็ดพันธุไมดวยเมล็ด (Seedling Seed Orchard) สนสามใบที
้
์
้
ี
สถานทดลองปลูกพรรณไม้ห้วยบง อําเภอฮอด จังหวัดเชยงใหม ่
ี
้
้
่
ั
สวนผลิตเมล็ดพันธุไมดวยการขยายพันธุแบบไมอาศยเพศ (Clonal Seed Orchard) สน
์
์
สามใบ ที
สถานทดลองปลูกพรรณไม้ห้วยบง อําเภอฮอด จังหวัดเชยงใหม ่
ี
ี
ี
่
ุ
ี
สถานอนรักษ์พันธ์ไม้ปาอินทขิล อําเภอแม่แตง จังหวัดเชยงใหม่
ุ
แหลงเก็บเมล็ดสนสามใบ ที เปนพนที ปลูกสรางสวนปา
่
้
็
่
ื
ี
สถานทดลองปลูกพรรณไม้ห้วยบง อําเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม ่
ุ
ิ
สถานปรบปรงแหล่งผลตเมลดพันธไม้ปาหนองกระทง อําเภออมกอย
๋
็
ิ
่
์
ี
ั
ุ
ี
จังหวัดเชยงใหม ่
83
่
ิ
่
ภาพที 15 การผาผลสน เพี อตรวจสอบ ปรมาณเมล็ดแกและเมล็ดดี
ที มา Robbins et al, 1981 cited in Stubsgaard and Baadsgaard, 1989
84
่
ตารางที 15 แหลงเก็บเมล็ดไมสนสามใบในประเทศไทย
้
ุ
้
ู
แหล่งเมลด ระดับความสง เส้นรง เส้นแวง จํานวนเมล็ด/กก.
็
(เมตร) Lat (N) Long (E)
1. ดอยอินทนนท์ เชยงใหม่ 1,000 18 41 98 27 52,500
ี
o
o
่
2. แมรด เชยงใหม ่ 1,200 18 10 98 50 48,400
o
ิ
ี
o
ี
3. บ่อหลวง เชยงใหม ่ 1,100 18 09 98 20 52,800
o
o
4. ดอยหน เชยงใหม่ 1,087 18 04 98 22 48,600
ี
ุ
o
o
ี
5. ห้วยจําปา เชยงใหม ่ 1,100 18 10 98 10 54,900
o
o
6. บ่อแก้ว เชียงใหม ่ 1,000 18 00 98 12 50,000
o
o
ี
7. แม่สะนาม เชยงใหม ่ 1,100 18 04 98 10 57,100
o
o
ี
8. แม่อมลอง เชยงใหม่ 1,050 18 30 98 25 49,600
o
o
ี
9. หนองกระทิง เชยงใหม ่ 1,080 17 56 98 17 45,600
o
o
10. ยางเปยง เชยงใหม ่ 1,000 17 56 98 20 52,600
ี
ี
o
o
ี
11. ปางโอ้งโม่ง เชยงใหม ่ 1,000 17 56 98 17 48,000
o
o
๋
12. อมกอย เชียงใหม ่ 900 17 52 98 20 56,100
o
o
ิ
ี
13. สะเมง เชยงใหม ่ 1,100 19 00 98 45 54,900
o
o
ี
14. แม่แสะ เชยงใหม ่ 1,050 19 08 98 45 46,400
o
o
ุ
15. ดอยสเทพ เชยงใหม ่ 1,100-1,300 18 46 99 00 51,600
ี
o
o
16. วัดจันทร์ เชยงใหม ่ 900 19 05 98 18 46,200
ี
o
o
17. หนองเขียว แม่ฮองสอน 1,100-1,300 19 00 98 07 46,800
่
o
o
18. งาว ลําปาง 1,000 18 10 99 30 52,200
o
o
19. ขุนลาว เชียงราย 1,000 19 02 99 20 53,000
o
o
ู
20. นํ าหนาว เพชรบรณ์ 800 16 40 101 33 49,600
o
o
ึ
21. ภูกระดง เลย 1,300 16 51 101 47 53,600
o
o
ที มา : อําไพ พรลแสงสวรรณ์, 2541
ี
ุ