๑-๑
บทที่ ๑
คุณลกั ษณะของทหารปืนใหญ่สนาม
ภารกิจโดยทั่วไปของทหารปืนใหญ่สนาม
๑. ภารกิจ โดยทั่วไปของทหารปืนใหญก่ ็คือ จัดให้มกี ารยงิ สนับสนุนแก่หน่วยกาลังรบ/ดาเนินกลยุทธ์
อยา่ งต่อเน่ือง แม่นยาและทันเวลา ด้วยการยิงทาลาย ยงิ ตัดรอนกาลงั และยิงขม่ ด้วยปืนใหญ่ประเภทลากล้องและ/
หรืออาวุธสง่ ตามลาดับความเร่งดว่ นต่อเป้าหมายต่างๆ ท่ีขัดขวางความสาเร็จในภารกิจของหน่วยดาเนินกลยุทธ์
ทีร่ บั การสนับสนนุ
๒. พันธกจิ การที่จะประสบผลสาเร็จในภารกจิ ทีก่ ล่าวมาแลว้ นั้น ทหารปนื ใหญส่ นามจะต้อง
๒.๑ สนับสนุนหน่วยดาเนินกลยุทธ์ด้วยอานาจการยิงอยา่ งใกล้ชิด มีความต่อเนื่อง แมน่ ยาและทนั เวลา
ต่อกาลังฝ่ายข้าศึก
๒.๒ ทาการยิงตอ่ ต้านปนื ใหญข่ ้าศึกและระบบค้นหาเป้าหมายของขา้ ศึกด้วยการปฏบิ ตั งิ านได้อย่าง
เตม็ ขีดความสามารถของระบบอาวธุ ทกุ ชนดิ
๒.๓ เพ่มิ ความลกึ ในการรบด้วยการยิง ไปทต่ี ั้งตาบลสง่ กาลังบารุง, กองหนนุ , ทบี่ ังคบั การ, เครือ่ งมือ-
เคร่อื งใช้ในการติดตอ่ สอ่ื สารและเป้าหมายอน่ื ๆ ทว่ั บริเวณพ้ืนที่ทมี่ ีอิทธิพลตอ่ การรบ
๒.๔ วางแผนการยงิ และประสานการยงิ ในการใชอ้ าวธุ ยิงสนับสนุนอนื่ ๆ เชน่ การระดมยิงดว้ ยปืนเรือ,
การสนับสนนุ ทางอากาศใกลช้ ิด (ของ ทอ.) การใช้ บ.ปีกหมุนโจมตี (ของ ทบ.) ฯลฯ อันจะทาใหก้ ารวางแผนใช้
อาวุธยงิ สนบั สนุนทงั้ สิน้ ในสนามรบมีเอกภาพเปน็ ไปในทางเดียวกนั
ระบบอาวธุ ของทหารปนื ใหญ่
ระบบอาวุธของทหารปืนใหญ่สนาม ประกอบด้วยองคป์ ระกอบที่สาคัญ ๔ ประการ ได้แก่ การค้นหา-
เป้าหมาย, การอานวยการยิง, ระบบอาวุธ-กระสุน และการควบคุมบังคับบัญชา ที่จะได้อธิบายพอสังเขป
ดงั ตอ่ ไปน้ี
๑. การค้นหาเป้าหมาย การค้นหาเป้าหมายเป็นการตรวจจับ, พสิ ูจน์ฝ่าย และกาหนดท่ีตั้ง เป้าหมาย
อันจาเป็นท่ีจะทาให้การโจมตีต่อเป้าหมายเหล่าน้ันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เครื่องมือค้นหา เป้าหมายท่ีมีอยู่
ในการควบคุมของทหารปืนใหญ่ ได้แก่ ผู้ตรวจการณ์ทางพื้นดิน ผู้ตรวจการณ์ทางอากาศ เรดาร์ตรวจจับ
การยงิ ป. (ค.) เคร่ืองมอื คน้ หาเป้าหมายดว้ ยแสง - เสยี ง ฯลฯ เปน็ ต้น
๒. การอานวยการยิง การอานวยการยิงคือ กรรมวิธีท่ีเปล่ียนข้อมูลซึ่งมาจากองค์การต่างๆ ในระบบ
การค้นหาเป้าหมายหรือนโยบายของผู้บังคับบัญชาให้เป็นหลักฐานยิงท่ีถูกต้อง รวดเร็วและทันเวลาเพื่อ
ส่งหลักฐานเหล่านั้น (คาสง่ั ยิง) ไปยงั ระบบอาวุธใหท้ าการโจมตี
๓. ระบบอาวุธ-กระสุน ระบบอาวุธ-กระสุน เป็นตัวกลางสาคัญที่จะทาให้การใช้ปืนใหญ่สนามบรรลุ
ความสาเร็จในภารกิจท่ีผู้บังคับบัญชาต้องการ อันรวมถึงการใช้อาวุธและกระสุนของทหารปืนใหญ่
อย่างเหมาะสม สอดคล้องกับความต้องการของหน่วยรับการสนับสนุน และสถานการณ์ที่เปล่ียนไป สิ่งต่างๆ
เหล่าน้ี รวมถงึ การยิงปนื ใหญ่ด้วยมุมเล็กและมมุ ใหญ่ การยิงอาวธุ ส่งดว้ ยชนิด/ขนาดของกระสุนอยา่ งเหมาะสม
ตามความสามารถของระบบอาวธุ ต่างๆ ทกี่ องทัพบกมใี ช้อยู่ในปจั จบุ ัน
๔. การควบคุมบังคับบัญชา การควบคุมบังคับบัญชาทหารปืนใหญ่เป็นวิธีการท่ีจาเป็นท่ีจะทาให้
การใช้ปนื ใหญ่สนามตรงกับแนวความคิดและหลักนิยมในการรบของฝ่ายเรา ส่ิงต่างๆ เหล่านีจ้ ะถกู กาหนดขึ้น
ใน รูป ข อ ง ห ลั ก ท าง ยุ ท ธวิ ธี แ ล ะ ห ลั ก ท า ง เท ค นิ ค ข อ ง ท ห าร ปื น ให ญ่ ส น า ม อั น จ ะ ก่ อ ให้ เกิ ด ค วา ม เ ช่ื อ มั่ น
ในการตอบสนองอย่างต่อเนือ่ ง แม่นยาและทันเวลา ในผลการยิงท่ีมีประสิทธิภาพให้แกห่ น่วยดาเนินกลยทุ ธ์
๑-๒
การแบ่งประเภทอาวธุ ปนื ใหญส่ นาม
การแบ่งประเภทอาวุธปืนใหญ่สนาม เป็นข้อตกลงท่ีจะนามาใช้เป็นแนวทางสาหรับการเรียกช่ือ
การแบ่งประเภท และการจัดหน่วยปืนใหญ่ชนิดต่างๆ ในการแบ่งประเภทปืนใหญ่สนาม สามารถพิจารณา
ออกไดเ้ ปน็ ๒ ลักษณะ ได้แก่
๑. การแบง่ ประเภทปนื ใหญ่สนามตามลกั ษณะอาวธุ
๒. การแบ่งประเภทปนื ใหญ่สนามตามวิธกี ารขนสง่
การแบ่งประเภทปนื ใหญ่สนามตามลกั ษณะอาวธุ
การแบ่งประเภทปืนใหญ่สนามตามลักษณะอาวุธสามารถแบ่งออกไดเ้ ป็น ๒ อยา่ งคือ ประเภทปืนใหญ่
สนามลากล้องและประเภทอาวธุ ส่ง
๑. ประเภทปืนใหญ่สนามลากล้อง ปืนใหญส่ นามลากลอ้ งแบ่งออกได้เป็น ๒ แบบคอื
๑.๑ ปืนใหญ่กระสนุ วิถีราบ (ปร.) ปืนใหญ่กระสุนวถิ ีราบคือ ป. ที่มีลากลอ้ งคอ่ นข้างยาว คอื มากกว่า
๓๐ เทา่ ของความกวา้ งปากลากลอ้ ง (Caliber) ทาการยิงดว้ ยมมุ คอ่ นข้างเลก็ และมีความเร็วตน้ ของลูกกระสุนสงู
๑.๒ ปืนใหญ่กระสุนวิถีโค้ง (ปค.) ปืนใหญ่กระสนุ วิถีโค้งเป็น ป. ท่ีมีความยาวลากล้องปานกลาง คือ
ระหว่าง ๒๐-๓๐ เท่าของความกว้างปากลากล้อง ทาการยิงด้วยมุมค่อนข้างใหญ่และมีความเร็วต้นของ
ลูกกระสนุ ปานกลาง
นอกจากน้ีแล้วปืนใหญ่ลากล้องจะแบ่งขนาดตามความกว้างลากล้องเพื่อใช้ประกอบกับการแบ่ง
ประเภทท่กี ลา่ วมาแลว้ ไดด้ ังน้คี อื
- ปืนใหญเ่ บา ขนาดกวา้ งปากลากลอ้ ง ๑๒๐ มม. หรอื เลก็ กวา่
- ปนื ใหญก่ ลาง ขนาดกวา้ งปากลากล้อง ๑๒๑ - ๑๖๐ มม.
- ปืนใหญ่หนกั ขนาดกวา้ งปากลากล้อง ๑๖๑ - ๒๑๐ มม.
- ปืนใหญห่ นกั มาก ขนาดความกวา้ งปากลากล้องปืน มากกว่า ๒๑๐ มม.
หมายเหตุ : นอกจากแบ่งขนาดของ ป. ด้วยการยกเอาขนาดกว้างปากลากล้องมาเปรียบเทียบกันแล้ว
ในบางกรณี ยังอาจเอาน้าหนกั ของตัวปืนและรถรองปนื มาใชเ้ ปรียบเทียบได้เช่นกนั เช่น ปนร.๒๐ ปนื ใหญ่หนัก
กระสุนวิถีราบ แบบ ๒๐ ขนาด ๑๕๕ มม. แบบ M 71 น้ัน ที่ถือว่าเป็นปืนใหญ่หนัก เพราะรถรองปืนมีขนาด
นา้ หนัก "หนกั " เมือ่ เปรยี บเทียบกบั ปนื ประเภทอืน่ ๆ ของ ทบ.ไทยในปัจจุบนั
๒. อาวธุ สง่ การแบง่ ประเภทของอาวุธสง่ สามารถพิจารณาแบ่งออกไปเป็น ๒ ลกั ษณะ คอื
๒.๑ การพิจารณาอาวุธส่งตามแบบที่สรา้ ง
๒.๑.๑ จรวด (Rocket) คือ อาวุธส่งท่ีเล็งไปยังเป้าหมาย ด้วยการกาหนดระยะยิงและทิศทาง
จากฐานส่ง (Launcher) เม่ือยิงไปแลว้ ไม่สามารถบังคับทิศทางได้
๒.๑.๒ อาวธุ นาวิถี (Guided Missile) คืออาวธุ สง่ ทีส่ ามารถปรับวถิ ีใหเ้ ข้าหาเป้าหมายในขณะที่
ร่อนอยูบ่ นอากาศได้
๒.๒ การพิจารณาอาวุธส่งตามระยะยิง นอกจากการพิจารณาแบ่งประเภทอาวุธส่งตามแบบท่ีสร้างแล้ว
ยงั อาจแบ่งประเภทตามระยะยงิ ของจรวดและอาวุธนาวถิ ีดังตอ่ ไปน้ีคือ
๒.๒.๑ จรวด
- จรวดระยะยิงใกล้ มรี ะยะยิงนอ้ ยกวา่ ๓๐ กม.
- จรวดระยะยิงไกล มรี ะยะยิงต้งั แต่ ๓๐ กม.หรือ มากกว่า
๒.๒.๒. อาวุธนาวถิ ี
- อาวธุ นาวิถีระยะยงิ ใกล้ มรี ะยะยงิ นอ้ ยกวา่ ๑๐๐ กม.
- อาวธุ นาวิถรี ะยะยิงปานกลาง มีระยะยิงตง้ั แต่ ๑๐๐ กม. แต่นอ้ ยกว่า ๕๐๐ กม.
- อาวุธนาวถิ รี ะยะยงิ ไกล มีระยะยิงต้งั แต่ ๕๐๐ กม. หรอื มากกว่า
๑-๓
การแบง่ ประเภทปืนใหญส่ นามตามวธิ ีการขนสง่
การแบ่งประเภทปนื ใหญ่สนามตามวิธีขนส่งสามารถแบง่ ออกไดเ้ ป็น ๒ อยา่ งคือ
๑. ปืนใหญ่ประเภทลากจูง (ลจ.) ปืนใหญ่ประเภทลากจูงเป็นอาวุธท่ีติดต้ังอยู่บนรถรองลากล้องปืน
ท่ีออกแบบใหเ้ คล่ือนทไี่ ปดว้ ยการถกู ลากจงู หรอื บรรทุกด้วยหน่วยกาลังขับเคล่อื นทแ่ี ยกจากรถรองปืนตา่ งหาก
๒. ปืนใหญ่ประเภทอัตตาจร (อจ.) ปืนใหญ่ประเภทอัตตาจร คือ ปืนใหญ่ที่ตัวอาวุธติดตั้งอยู่บน
รถรองลากล้องปืน ซง่ึ มีพลังขับเคลื่อนสาหรบั ตนเองและอาวธุ
หมายเหตุ : สาหรับ ป.ประเภทลากจูงซ่งึ มีเครื่องยนต์ผลักดันเสริมขนาดเลก็ เพ่ือใช้ขบั เคลือ่ นรถรองลากล้องปืน
ระยะใกล้ยังคงถอื ว่าเป็น ป.ประเภทลากจูง
ขดี ความสามารถและขดี จากดั ของปืนใหญส่ นาม
ทหารปืนใหญ่สนามเป็นกาลังหลักของกองทัพบกสาหรับการยงิ ต่อเป้าหมายตา่ งๆ บนผวิ พื้นการยุทธ์
ของทหารปืนใหญ่สนามก็คอื การปฏบิ ัติการรบของหน่วยปืนใหญ่สนามต่างๆ ในการสนับสนุนเหล่ากาลังรบอื่นๆ
โดยทหารปืนใหญ่จะต้องเตรียมท่ีจะทาการยิงสนับสนุนภายใต้สภาพสงครามท้ังปวงคือ ท้ังสภาพสงคราม
นิวเคลียร์และมิใชส่ งครามนวิ เคลยี ร์ และสภาพสงครามนิวเคลียร์ เคมี ชวี ะ
การท่ีจะอานวยการยิงสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง แม่นยาและทันเวลา ให้บรรลุความสาเร็จในภารกิจ
ทก่ี ล่าวมาแลว้ นั้นเจา้ หนา้ ทท่ี ี่เกยี่ วขอ้ งกบั การยุทธข์ องทหารปนื ใหญ่จะตอ้ งทราบขีดความสามารถและขีดจากัด
ของทหารปนื ใหญ่สนามดังต่อไปน้ีเปน็ อยา่ งดี
๑. ขีดความสามารถ
๑.๑ สามารถทาการยิงทกุ สภาพลมฟ้าอากาศและสภาพภูมปิ ระเทศ
๑.๒ สามารถย้ายยิงและรวมอานาจการยงิ ได้อยา่ งรวดเรว็ โดยไม่จาเป็นต้องเปลยี่ นทีต่ ัง้ ยิง
๑.๓ เพิ่มความลกึ ในสนามรบ
๑.๔ สามารถยิงดว้ ยชนวน/กระสุนหลายชนิดผสมกัน
๑.๕ สามารถยิงนวิ เคลียรแ์ ละเคมี – ชีวะ
๑.๖ สามารถส่องสว่างสนามรบ
๑.๗ สามารถทาการยิงสนบั สนนุ อย่างต่อเนื่อง ด้วยวิธีการเปลย่ี นที่ตัง้ อยา่ งเหมาะสม
๑.๘ สามารถเคลอื่ นทไ่ี ดเ้ ท่ากบั หน่วยรบั การสนับสนุน
๑.๙ สามารถทาการยิงตอ่ ต้านปืนใหญ่ขา้ ศึกและยงิ ข่มตอ่ อาวุธที่ขัดขวางความสาเร็จในการบรรลุ
ภารกจิ ได้อยา่ งรวดเรว็ (เมอ่ื เปรยี บเทียบกบั ระบบอาวุธยงิ สนับสนนุ อืน่ ๆ)
๒. ขดี จากดั
๒.๑ มีประสทิ ธิภาพในการปอ้ งกนั ตนเองจากัดตอ่ การโจมตีทางพนื้ ดนิ และทางอากาศ
๒.๒ ขีดความสามารถในการทาลายเป้าหมายเป็นจุดมีจากัดหากปราศจากกระสุนที่ออกแบบ
มาโดยเฉพาะ
๒.๓ การยงิ ปืนใหญ่สรา้ งจดุ อ่อนที่จะถกู ตรวจจบั จากเคร่ืองมอื ค้นหาเปา้ หมายของฝ่ายตรงข้าม
๒.๔ ประสิทธิภาพในการโจมตีเป้าหมายเคลื่อนท่ีจากัด
๒.๕ การยงิ ทีไ่ มม่ กี ารตรวจการณ์ได้ผลน้อยในภมู ิประเทศทเี่ ป็นภเู ขา
๒.๖ เคลือ่ นทย่ี ากในภมู ิประเทศทรุ กนั ดาร
๒.๗ เกณฑ์การส้นิ เปลอื งในการใชก้ ระสุนสูง
๒.๘ การตอบสนองการยงิ ใหแ้ ก่หน่วยรบั การสนับสนนุ จากัดดว้ ยจานวนหน่วยยิง
๒-๑
บทท่ี ๒
การจดั หน่วยทหารปนื ใหญ่ในกองทัพบกไทย
กลา่ วนา
วัตถุประสงค์ของการจัดหน่วยทหารปืนใหญ่สนามก็เพ่ือตอบสนองความต้องการในการจัดกาลัง
เขา้ ทาการรบ ให้สามารถสนบั สนนุ หน่วยดาเนินกลยุทธอ์ ย่างเปน็ ผลและออมกาลงั หน่วยทหารปืนใหญ่สนาม
ประกอบด้วยส่วนย่อยที่เป็นพ้ืนฐาน ๓ ส่วนด้วยกัน คือ ส่วนควบคุมบังคับบัญชา, ส่วนยิงและสว่ นสนับสนุน
การจัดเหล่านกี้ ระทาได้ดว้ ยการจดั หน่วยในอัตรา หน่วยบรรจุมอบ หน่วยขนึ้ สมทบและหน่วยขน้ึ การควบคุม
ทางยทุ ธการ
๑. หน่วยในอัตรา คือ หน่วยที่แบ่งมอบไว้เป็นการถาวร เพื่อเป็นส่วนประกอบสาคัญในการจัดตั้ง
ทางทหารส่วนประกอบของหน่วยในอัตราจะแสดงรายละเอยี ดไว้ในอตั ราการจดั และยทุ โธปกรณ์ที่เหมาะสม
๒. หน่วยบรรจมุ อบ คือ หนว่ ยซ่ึงส่งมอบใหก้ ับหน่วยหนงึ่ คอ่ นขา้ งถาวร ผู้บังคับหน่วยทรี่ ับการบรรจมุ อบ
จะเปน็ ผูบ้ ังคบั บัญชาหนว่ ยบรรจมุ อบ เช่นเดียวกบั หน่วยในอัตราของตน
๓. หน่วยข้ึนสมทบ คือ หน่วยซ่ึงส่งมอบให้กับหน่วยหน่ึงเป็นการชั่วคราว ถ้าไม่มีข้อจากัดจาก
หน่วยเหนือซึ่งเป็นผู้ออกคาส่ังการสมทบแล้ว ผู้บังคับหน่วยที่รับการสมทบจะเป็นผู้บังคับบัญชาหน่วยขึ้น
สมทบเช่นเดียวกับหน่วยในอัตราของตน เว้นการเล่ือนยศและการย้าย ยังคงให้หน่วยต้นสังกัดของหน่วยข้ึน
สมทบเป็นผพู้ ิจารณา
๔. หน่วยขึ้นการควบคุมทางยุทธการ การขึ้นการควบคุมทางยุทธการมีลักษณะเช่นเดียวกบั การข้ึนสมทบ
เว้นแต่หน่วยที่รับการข้ึนการควบคุมทางยุทธการไม่ต้องรับผิดชอบในเรื่องการสนับสนุนทางธุรการ และ
การส่งกาลังบารุงให้แกห่ น่วยท่ีมาขึน้ การควบคุมทางยุทธการ
การจดั หนว่ ยปืนใหญ่สนามของกองทัพบกไทย
การจัดหน่วยปืนใหญ่สนามของกองทัพบกไทย มปี ัจจัยท่ีนามาเปน็ ขอ้ พิจารณาในการจดั คือ ภารกิจ
และขนาดกว้างปากลากล้องปืน ทั้งนี้เพื่อให้ทรงไว้ซ่ึงลักษณะทางยุทธวิธีของทหารปืนใหญ่ ๓ ประการ
คือ อานาจการยิง, ความคล่องแคล่วในการเคล่ือนท่ี และการติดต่อสื่อสาร อันจะทาให้หน่วยปืนใหญ่สนาม
ของ ทบ.ไทยสามารถสนับสนุนหน่วยดาเนินกลยุทธ์/กาลังรบได้อย่างมีประสิทธิผลและออมกาลังมากที่สุด
หน่วยปนื ใหญส่ นามแบง่ การจัดเปน็ ๒ ประเภทใหญ่ๆ คอื
๑. ปนื ใหญ่สนามของกองพลดาเนินกลยทุ ธ์ ปจั จุบันจัดเปน็ กรม ป. ในอัตราของ พล.ร. หรือ พล.ม.
๑.๑ กรม ป. ประกอบด้วย พัน.ป. ๑๐๕ มม. ทาหน้าที่เป็น พัน.ป.ช่วยโดยตรงต่อ กรม ร./ม. โดยมี
พัน.ป. ๑๐๕ มม. เทา่ กบั จานวน กรม ร./ม. ท่ีมีในกองพลน้ัน นอกจากน้ันใน กรม ป.ของกองพล ยังมี ๑ พัน.ป.
๑๕๕ มม. เพื่อทาหน้าทีเ่ ป็น พัน.ป.ช่วยส่วนรวมของกองพล และ ๑ พนั .ปตอ. ทาหนา้ ที่ ปภอ. ของ พล.ร./ม.
๑.๒ ป.สนามของ พล.ร./ม. จัดไว้เพื่อใหก้ ารสนับสนนุ ทางภาคพน้ื ท้ังปวงท่ีจะมีในกองพลดว้ ย
๑.๓ ป.สนามของ พล.ร. จะจัดเปน็ หน่วยลากจงู (ลจ.) แต่ของ พล.ม. จะจัดเปน็ หน่วยอัตตาจร (อจ.)
๒. ปืนใหญ่สนามนอกกองพล เป็นหน่วยทหารปืนใหญ่สนามที่จัดไว้ท่ีอื่นๆ นอกกองพล ร./ม.
เช่น แผนกทหารปืนใหญ่ของกองทัพภาค กองพลทหารปืนใหญ่ เป็นต้น ภารกิจทางยุทธวิธีอาจจะเป็นในรูปสมทบ
ทภ. หรอื ไปเพ่มิ เตมิ กาลังยิง กรม ป.ของกองพลก็ได้ ทัง้ นี้เพือ่ ให้การใช้ ป.ทางยุทธวิธจี ะไดม้ ีความอ่อนตัวมาก
ย่ิงข้ึน เพราะสถานการณ์รบของแต่ละกองพลจะมีความหนักเบาไม่เหมือนกัน บางกองพลหรือ บาง ทภ .
อาจจะมีปืนใหญ่ในอัตราไม่พอเพียงท่ีจะสนับสนุนการรบได้ ดังนั้นจึงต้องมี หน่วย ป.นอกกองพลไว้
เพ่อื แก้ปัญหาของผู้บงั คบั บญั ชาระดบั สงู
๒-๒
๒.๑ แผนกทหารปืนใหญ่ ทภ. ทาหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของ มทภ. ในกิจการเก่ียวกับ ป. เท่าน้ัน
ยังไมม่ ีหน่วย ป. ของ ทภ. แต่ ทบ.มีแผนจะจดั ต้งั ในอนาคต
๒.๒ กองพลทหารปืนใหญ่ จะมีโครงสร้างการจัดหน่วยท่ีอ่อนตัวสอดคล้องกับภารกิจ สามารถ
ควบคมุ บงั คบั บัญชา กรม ป. ๒ - ๕ กรม ป. และหน่วยทมี่ คี วามจาเป็นอ่นื ๆ ตามความเหมาะสม
กรมทหารปืนใหญ่ (กรม ป.)
กรมทหารปืนใหญ่ประกอบด้วย กองบงั คบั การและกองร้อยกองบงั คับการ กรมทหารปนื ใหญห่ นว่ ยอ่ืนๆ
ท่ีเป็นหน่วยในอัตราของกรมทหารปืนใหญ่ และหน่วยปืนใหญ่ที่จัดสมทบให้แก่ กรม ป. ซ่ึงจะจัดกาลัง
เข้าทาการรบเพ่ือสนับสนุนการรบของกองพล และจะมอบหมายภารกิจทางยุทธวิธีอย่างเหมาะสมให้แก่
หน่วยต่างๆ ของกรมทหารปืนใหญ่ อันจะทาให้เกิดความอ่อนตัวในการใช้หน่วย ป.เหล่านั้น การเพิ่มพูน
อานาจการยิงให้แก่ กรม ป. นั้นตามปกติจะกระทาโดยจัดหน่วยปืนใหญ่สมทบกับกองพลหรือโดยจัดปืนใหญ่
หน่วยอื่นเพิ่มเติมกาลงั ยงิ ให้แก่ กรม ป.
๑. ภารกิจ ทาการสนับสนุนกองพลด้วยการยิง ได้แก่การยิงตัดรอนกาลัง หรือการยิงทาลายลาดับ
ความเร่งด่วนต่อเป้าหมายต่าง ๆ ท่ีคุกคามทันทีทันใดต่อการบรรลุภารกิจของหน่วยรับการสนับสนุน
กรมทหารปืนใหญ่ให้ความลึกแก่สนามรบและตัดตอนสนามรบด้วยการยิง ป.ข้าศึก, ยิงต่อกองหนุนข้าศึก,
จากัดการเคล่ือนย้ายไปในพื้นท่ีข้างหลัง และโดยการก่อให้เกิดความยุ่งเหยิงเสียระเบียบต่อองค์การบังคับ
บญั ชาและท่ีตั้งทางทหารอื่นๆ ของข้าศึก
๒. ระบบปนื ใหญ่สนามอื่นๆ
๒.๑. งานแผนที่ มีขีดความสามารถในการทางานแผนที่อยู่ใน ร้อย.บก.กรม ป., ร้อย.บก.บร.
พัน.ป. และในหมวดเจ้าหนา้ ทีก่ องรอ้ ยของกองรอ้ ยปนื ใหญ่
๒.๒. การค้นหาเป้าหมาย มีผู้ตรวจการณ์หน้าอยู่ในอัตรารวมจานวนท้ังสิ้น ๓๐ นาย และ
มี ผู้ตรวจการณ์ทางอากาศ ๑๐ นาย เจ้าหน้าที่บางตาแหน่งสามารถปฏิบัติหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ตรวจการณ์
ประจาทต่ี รวจการณ์ของ พัน.ป.ได้
๒.๓. การอุตุนิยม มหี ม่อู ตุ ุนิยมอยใู่ นอัตราของ ร้อย.บก.กรม ป. ๑ หมู่
๒.๔. การประสานและการควบคุมการยิง มีศูนย์อานวยการยิงที่ กรม ป.๑ ศูนย์ ที่ บก.พัน.ป.
กองพันละ ๑ ศนู ย์ และท่ี ร้อย.ป.อกี กองรอ้ ยละ ๑ ศูนย์ รวมท้งั สนิ้ มศี ูนยอ์ านวยการยิงทัง้ กรม ป.๑๗ ศนู ย์
๒.๕. ความคล่องแคลว่ เป็นหนว่ ยลากจงู เคลอ่ื นท่ีดว้ ยยานยนตไ์ ด้ ๑๐๐ เปอรเ์ ซน็ ต์
๒.๖. การสง่ กาลังบารุงและกระสนุ เปน็ หนว่ ยเลี้ยงตนเองได้
๒.๗. การติดตอ่ ส่อื สารแต่ละหน่วยใน กรม ป. มเี จา้ หน้าที่และเครอ่ื งมอื ตดิ ตอ่ สอื่ สารอยูใ่ นอัตรา
บก.และร้อย บก.กรม ป.
๑. ภารกจิ
๑.๑ ในเวลาปกติกากับดูแลการฝึกรวมท้ังการเตรียมการและการดาเนินการในการตรวจสอบ
การยงิ ปืนใหญ่
๑.๒ ในเวลารบจัดให้มีการบังคับบัญชา การประสานงาน และการควบคุมหน่วยปืนใหญ่สนาม,
หน่วยปนื ใหญต่ อ่ สอู้ ากาศยาน และหน่วยอาวธุ หนกั ต่างๆ ท่ีนามาใชใ้ นการสนับสนุนการรบภาคพืน้ ดนิ รวมทั้ง
อานวยการประสานการยิงสนับสนนุ ในการควบคุมแบบรวมการ
๒. การบรรจมุ อบ หน่ึงหนว่ ยตอ่ หน่ึง บก.กรม ป.
๓. ขีดความสามารถ วางแผนทางฝ่ายอานวยการ กากับดูแลประสานงานและควบคมุ การปฏบิ ัตขิ อง
หนว่ ยในอัตราและที่มาขึน้ สมทบ กรมทหารปนื ใหญ่
๒-๓
๔. ระบบปนื ใหญ่สนาม
๔.๑ งานแผนที่ ปฏิบตั ิงานแผนท่ีของ กรม ป.กาหนดจุดควบคุมร่วมทางแผนท่ใี หแ้ กก่ องพนั ปืนใหญ่
ของ กรม ป. เพือ่ ใหก้ ารควบคมุ ทางแผนทเ่ี ป็นระบบเดียวกัน
๔.๒ การค้นหาเป้าหมาย มีผู้ตรวจการณ์ทางอากาศ เจ้าหน้าที่แผนที่ที่มีขีดความสามารถ
ในการเป็นเจ้าหน้าทต่ี รวจการณ์ ฝอ.๒ กรม ป.รบั ผิดชอบทางฝ่ายอานวยการในเร่อื ง การจัดต้ังท่ีตรวจการณ์
และประสานการคน้ หาเป้าหมายในเขตปฏิบัตกิ ารของกองพล
๔.๓ การอตุ ุนยิ ม มหี มอู่ ตุ ุนยิ มในอตั รา ๑ หมู่ เพื่อแพรข่ า่ วสภาพอากาศทีใ่ ชใ้ นการยิงปืนใหญ่
๔.๔ การประสานและการควบคุมการยิง หมู่ยุทธการและการข่าว จัดตั้งศูนย์อานวยการยิง
ของ กรม ป. ข้ึน ๑ ศนู ย์ สาหรบั อานวยการยิงปืนใหญ่ กรม ป.
๔.๕ ความคล่องแคลว่ เป็นหน่วยเคลื่อนทด่ี ว้ ยยานยนต์ได้ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์
๔.๖ การตดิ ต่อ มหี มูต่ ดิ ตอ่ ในอตั รา ๑ หมู่
๔.๗ การติดตอ่ ส่อื สาร มีหมวดสอ่ื สารอยใู่ นอัตรา ๑ หมวด
กองพันทหารปนื ใหญ่
กองพันทหารปืนใหญ่ เป็นทั้งหน่วยทางยุทธวิธีและธุรการที่สามารถสนับสนุนตนเองได้ พัน.ป.ที่จัดอยู่
ในอัตราของกรม ป.หนึ่ง จะเรยี กว่าเป็นกองพนั ปนื ใหญป่ ระจากรม ป.นน้ั ส่วนกองพนั ท่ีไมจ่ ัดอยูใ่ นอัตราของ
กรม ป.ใด เรียกว่าเป็นกองพันแยกอิสระ (ปกติจะฝากการบังคับบัญชากับศูนย์การทหารปืนใหญ่) จานวน
กองร้อยยงิ และกองรอ้ ยทไี่ มใ่ ช่หน่วยยงิ ในกองพันตา่ งๆ จะถูกกาหนดไว้โดยอัตราการจัดกาลงั และยทุ โธปกรณ์
ที่ขึ้นอยกู่ บั ภารกจิ และแนวทางการบรรจมุ อบของกองพนั นั้น
อจย. ๖–๒๕ พัน. ปบค. ๙๕ ขนาด ๑๐๕ มม. น. ๔๕
(๒ พ.ค. ๒๙) ส. ๒๘๕
พ. ๓๐๐
รวม ๖๓๐
บก. พนั . และ รัอย. บก. บร. รอ้ ย. ปบค. ๙๕ ขนาด ๑๐๕ มม.
(ป. ๖ กระบอก)
การจัด พนั .ปบค. ๙๕ ขนาด ๑๐๕ มม.
๑. ภารกิจ ทาหน้าที่เป็นปืนใหญช่ ่วยโดยตรงต่อ กรม ร. และเพิ่มเตมิ กาลังยิงให้แก่หน่วยทหารปืนใหญ่
สนามอน่ื ๆ
๒. การแบง่ มอบ เปน็ หนว่ ยในอตั ราของ กรม ป. ใน พล.ร.
๓. ขดี ความสามารถ
๓.๑ ดาเนนิ การยิงสนับสนุนด้วย ป.สนามอย่างตอ่ เน่อื งและทันเวลาตอ่ หน่วยรบั การสนับสนนุ
๓.๒ เป็นส่วนหนึ่งในระบบการติดต่อสื่อสาร การต่อสู้ป้องกันภัยทางอากาศงานแผนที่ ป. และ
การค้นหาเปา้ หมายของ กรม ป.
๓.๓ ดาเนินการสนับสนุนทางการแพทย์อย่างจากัดกับหน่วยในอัตรา รวมท้ังการให้
การรกั ษาพยาบาลและการส่งกลบั ภายในกองพนั
๓.๔ จัดหาและแจกจ่ายส่ิงอุปกรณ์ทุกประเภทแก่หน่วยในอัตรา เก็บรักษาสิ่งอุปกรณ์บางชนิด
และบันทึกรายการยุทโธปกรณต์ า่ งๆ รวมท้งั การปฏิบัตกิ ารขนสง่ กระสุน และวตั ถรุ ะเบิดตามอัตรามูลฐาน
๒-๔
๓.๕ จดั นายทหารการยงิ สนับสนุน และผูต้ รวจการณห์ นา้ ได้ ๑ กรม ร.ซึง่ ประกอบด้วย ๓ พัน.ร.
๓.๖ เคลอื่ นทีด่ ้วยยานยนต์ได้ ๑๐๐ % และเคล่อื นทใ่ี นภูมิประเทศไดอ้ ย่างจากดั
๔. ระบบปืนใหญ่สนาม
๔.๑ อาวธุ พัน.ปบค. ๑๐๕ มม. ทงั้ กองพัน มี ปบค. ๑๐๕ มม. จานวน ๑๘ กระบอก (๑ กองพัน
มี ๓ กองร้อย กองรอ้ ยละ ๖ กระบอก)
๔.๒ งานแผนที่ ท้ังกองพันและกองร้อยปืนใหญ่มีขีดความสามารถในการทางานแผนที่ของ ป.
มีหมู่เคร่ืองมือและแผนท่ีอยู่ ๑ หมู่ อยู่ในอัตราของ ร้อย.บก.บร. หมู่นี้ ปฏิบัติงานในความควบคุมของ
นายทหารลาดตระเวนและแผนท่ขี องกองพนั
๔.๓ การค้นหาเป้าหมาย ในกองพันมีหมู่ตรวจการณ์หน้าท้ังสิ้น ๙ หมู่ เจ้าหน้าที่แผนที่มีขีด
ความสามารถในการตรวจการณ์ ฝอ.๒ ของกองพัน ป.มีความรับผิดชอบทางฝ่ายอานวยการในการจัดตั้งท่ี
ตรวจการณแ์ ละประสานการตรวจการณ์ท่อี ยใู่ นความรับผิดชอบกองพนั ป.
๔.๔ การติดต่อ มีหมู่ยิงสนับสนุน ๔ หมู่ อยู่ในอัตราของ ร้อย. บก.และ บร. เป็นลูกมือของ
นายทหารการยิงสนับสนุน ส่งไปประจาระดบั กองพนั และกรมของหนว่ ยดาเนนิ กลยุทธห์ ลกั
๔.๕ การประสานและการควบคมุ การยงิ มีศนู ยอ์ านวยการยงิ กองพัน ๑ ศนู ย์ หมู่ยุทธการและการข่าว
เป็นผู้จัดในการกากับดแู ลของ ฝอ.๓ และอกี ๓ ศูนยท์ ี่กองรอ้ ย ป.
๔.๖ ความคลอ่ งแคล่ว กองพนั เป็นหน่วยเคลอ่ื นทีด่ ว้ ยยานยนต์ได้ ๑๐๐ เปอรเ์ ซ็นต์
การจดั กองร้อย ปบค. ๑๐๕ มม.
กองรอ้ ย ปบค. ๑๐๕ มม. ประกอบสว่ นสาคัญ ๕ ส่วน อนั ไดแ้ ก่
๑. บก.ร้อย
๒. หมู่สูทกรรม
๓. หมวดเจา้ หน้าทก่ี องรอ้ ย
๔. สว่ นยิง
๕. หมตู่ รวจการณห์ น้า
อจย. ๖ - ๒๗ (๒ พ.ค. ๒๙) กองร้อย ปบค. ๑๐๕ มม. น. ๗
ส. ๖๐
พ. ๗๙
รวม ๑๔๖
บก. รอ้ ย. หมวดเจา้ หนา้ ท่ีกองรอ้ ย หมสู่ ทู กรรม ส่วนยงิ หมู่ตรวจการณห์ น้า
หม่แู ผนที่ หมู่ส่ือสาร บก. สว่ นยิง หมู่ปืน หมู่กระสุน
กระสุ
น
ผังการจัดกองรอ้ ย ปบค. ๑๐๕ มม.
๒-๕
กองพันทหารปนื ใหญก่ ลางลากจงู ๑๕๕ มม. อจย.๖ - ๑๓๕ (๒๓ ต.ค.๓๑)
๑. ภารกิจ ดาเนินการยิงสนับสนุนด้วยปืนใหญ่สนาม โดยทาหน้าท่ีเป็นปืนใหญ่ช่วยส่วนรวมให้แก่
กองพลทหารราบหรือเพ่ิมเตมิ กาลังยิง ใหแ้ ก่หนว่ ยทหารปนื ใหญส่ นามอน่ื ๆ
๒. การแบง่ มอบ เปน็ หน่วยในอัตราของกรมทหารปนื ใหญก่ องพลทหารราบ
๓. ขดี ความสามารถ
๓.๑ ดาเนนิ การยิงสนบั สนุนดว้ ย ป.สนามอยา่ งต่อเนือ่ งและทันเวลาใหแ้ ก่หน่วยรับการสนบั สนนุ
๓.๒ เป็นส่วนหนึ่งในระบบการติดตอ่ ส่ือสาร การต่อสู้ป้องกันภัยทางอากาศ งานแผนท่ีทหารปืนใหญ่
และการค้นหาเปา้ หมายของกรมทหารปืนใหญ่
๓.๓ ดาเนินการสนับสนุนทางการแพทย์อย่างจากัดให้แก่หน่วยในอัตรา รวมทั้งการให้
การรักษาพยาบาลและการส่งกลับภายในกองพนั
๓.๔ เบิกรับและแจกจ่ายสิ่งอุปกรณ์ทุกประเภทให้แก่หน่วยในอัตรา เก็บรักษาสิ่งอุปกรณ์ทุกชนิด
และบนั ทึกรายการยทุ โธปกรณต์ ่าง ๆ รวมทั้งการปฏิบัตกิ ารขนสง่ กระสนุ และวตั ถุระเบดิ ตามอัตรามูลฐาน
๓.๕ ดาเนนิ การตดิ ต่อกับหนว่ ยทหารปนื ใหญ่ทีร่ บั การเพ่มิ เติมกาลงั ยงิ ดว้ ยหมยู่ งิ สนับสนุน
๓.๖ จัดหมู่ยิงสนับสนุนให้แก่กองพันทหารม้า (ลาดตระเวน และกองพันทหารม้า (รถถัง) และ
จดั หมูต่ รวจการณ์หน้าใหแ้ กก่ องพันทหารม้า (รถถงั ) ของกองพลทหารราบได้
๓.๗ เคลื่อนท่ีด้วยยานยนต์ในอัตราได้ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ และเคลื่อนที่ในภูมปิ ระเทศได้อย่างจากัด
กองรอ้ ยปืนใหญ่สนามขนาดกลาง อจย.๖ - ๑๓๗ (๒๓ ต.ค.๓๑)
๑. ภารกิจ ทาหนา้ ทเี่ ปน็ หน่วยยงิ ของกองพันทหารปืนใหญก่ ลางลากจูง
๒. การแบ่งมอบ เป็นหน่วยในอตั ราของ พัน.ป.กลางลากจูง ของ กรม ป. ใน พล.ร.
๓. ขีดความสามารถ
๓.๑ ดาเนินการยิงด้วยปืนใหญ่สนามขนาดกลางด้วยชนิดและปริมาณของกระสุนตามความเหมาะสม
ณ เวลาและเป้าหมายตามความตอ้ งการ
๓.๒ เปน็ ส่วนหนงึ่ ในระบบการตดิ ตอ่ สื่อสารของกองพนั
๓.๓ ปฏิบตั กิ ารขนส่งกระสนุ และวัตถุระเบิดส่วนหนึง่ ของอัตรามลู ฐานของกองพนั
๓.๔ ดาเนินการต่อสปู้ ้องกันภยั ทางอากาศตอ่ อากาศยานทร่ี อ่ นตา่ ของขา้ ศึกอย่างจากดั
๓.๕ ดาเนินการซ่อมบารุงข้ันหน่วย ให้แก่ยุทโธปกรณใ์ นอัตรา เว้นเครอ่ื งมือสื่อสารของปืนใหญ่
และซ่อมบารุงยานยนตร์ ะดับกองพัน
๓.๖ เคล่อื นท่ดี ้วยยานยนต์ในอัตราได้ ๑๐๐ เปอร์เซน็ ตแ์ ละเคลื่อนทใี่ นภมู ิประเทศได้อย่างจากดั
อจย. ๖–๑๓๗ (๒๓ ต.ค. ๓๑) กองรอ้ ยปนื ใหญ่กลางลากจูง น. ๔
กองพันทหารปืนใหญ่กลางลากจูง ส. ๔๗
พ. ๘๒
๑๓๓
กองบงั คบั การกองรอ้ ย หมู่สูทกรรม หมู่ส่ือสาร สว่ นยงิ หมู่ซ่อมบารงุ กองร้อย
กองบงั คบั การสว่ นยิง หมปู่ ืน หมู่กระสนุ
ผังการจัด กองรอ้ ยปืนใหญ่สนามขนาดกลางลากจงู
๒-๖
กองพลทหารปืนใหญ่
๑. ภารกิจ
๑.๑ วางแผน อานวยการและกากับดูแลในการสนับสนุนด้วยการยิงให้แก่หน่วยดาเนินกลยุทธ์
และปฏบิ ัตกิ ารอื่นๆ ตามทก่ี องทพั บกกาหนด
๑.๒ การแบ่งมอบ เปน็ หนว่ ยในอัตราของกองทัพบก
XX
บก. และ รอ้ ย. บก. คปม. จรวด
บก. และ รอ้ ย. บก.
บก. และรอ้ ย. บก. คปม.
๗๑๑
๗๑๒
๗๑๓
บก. และ รอ้ ย. บก. ๗๒๑
๗๒๒
ผงั การจัดกองพลทหารปืนใหญ่ ๗๒๓
๒-๗
กองพนั ทหารปนื ใหญ่กลางลากจูง กรมทหารปนื ใหญ่ กองพลทหารปืนใหญ่ อจย.๖ - ๔๒๕ (๖ พ.ค.๓๑)
๑. ภารกิจ ดาเนินการยิงสนับสนุนด้วยปืนใหญ่สนามให้แก่กองพลดาเนินกลยุทธ์หรือกองทัพน้อย/
กองทพั ภาค
๒. การแบ่งมอบ เป็นหน่วยในอัตราของ กรมทหารปืนใหญ่ กองพลทหารปืนใหญ่ และอาจจัดขึ้น
สมทบกบั กรมทหารปืนใหญอ่ ่ืนได้ตามความเหมาะสม
๓. ขดี ความสามารถ
๓.๑. ดาเนินการยงิ สนับสนนุ ด้วยปืนใหญส่ นามอย่างตอ่ เนอื่ งและทนั เวลาให้แกห่ น่วยรบั การสนบั สนุน
๓.๒. เป็นส่วนหน่งึ ในระบบการติดต่อสื่อสาร การต่อสู้ป้องกันภัยทางอากาศ งานแผนที่ทหารปืนใหญ่
และการค้นหาเปา้ หมายของกรมทหารปืนใหญ่
๓.๓. ดาเนินการสนับสนุนทางการแพทย์อย่างจากัด ให้แก่หน่วยในอัตรา รวมท้ังการให้
การรักษาพยาบาลและการส่งกลับภายในกองพนั
๓.๔. เบกิ รับและแจกจ่ายสิ่งอุปกรณ์ทุกประเภทให้แกห่ น่วยในอัตราเก็บรักษาสิ่งอุปกรณ์บางชนิด
และบนั ทึกรายการยทุ โธปกรณ์ต่างๆ รวมทงั้ การปฏบิ ตั ิการขนส่งกระสุนและวตั ถรุ ะเบิดตามอัตรามลู ฐาน
๓.๕. ดาเนินการตดิ ต่อกบั หนว่ ยทหารปนื ใหญ่ ทรี่ บั การเพม่ิ เติมกาลังยิงดว้ ยหมู่ตดิ ต่อ ๑ หมู่
๓.๖. จัดหมูต่ รวจการณ์หน้าให้แก่หนว่ ยดาเนนิ กลยุทธ์ได้ ๒ หมู่
๓.๗. ถ้าจะมีการใช้หน่วยปืนใหญ่สนามในภารกิจช่วยโดยตรง จะต้องมกี ารเพิ่มเติมหมู่ยิงสนับสนุน
หมู่ตรวจการณห์ นา้ และเครื่องมือส่ือสารทีจ่ าเป็นให้
๓.๘. เคลอ่ื นทีด่ ้วยยานยนตใ์ นอัตราได้ ๑๐๐ เปอรเ์ ซน็ ต์ และเคลื่อนท่ใี นภมู ิประเทศไดอ้ ยา่ งจากัด
อจย. ๖–๔๒๕ (๖ พ.ค. ๓๑) กองพันทหารปืนใหญก่ ลางลากจงู น. ๓๖
ส. ๒๖๔
พ. ๓๑๗
๖๑๗
กองบงั คับการกองพนั กองร้อยปนื ใหญ่กลางลากจูง กองร้อยบริการ
และกองรอ้ ยกองบังคบั การ
ผงั การจัดกองพันทหารปนื ใหญก่ ลางลากจงู
๒-๘
กองพันทหารปนื ใหญค่ ้นหาเปา้ หมาย อจย.๖-๑๐๕ (๒๕ ส.ค.๒๙)
๑. ภารกจิ คน้ หาเปา้ หมายและเฝ้าตรวจสนามรบในเขตรับผิดชอบของกองทพั ภาค/กองทัพนอ้ ย
๒. การแบ่งมอบ เป็นหน่วยของกองทัพบก อาจบรรจุให้แก่กองพลทหารปืนใหญ่ หรือกองทัพภาค
หรอื กองทพั นอ้ ยไดต้ ามความเหมาะสม
๓. ขดี ความสามารถ
๓.๑ คน้ หาเปา้ หมายดว้ ยเครอ่ื งมอื ค้นหาเปา้ หมายในอตั รา
๓.๒ ตรวจผลการยงิ หาหลักฐานและปรับการยิงให้แก่ปืนใหญส่ นามไดด้ ้วยเคร่อื งมือในอัตรา
๓.๓ ตรวจผลการยงิ เทียบสภาพใหแ้ ก่ปืนใหญส่ นามได้
๓.๔ ใหก้ ารสนับสนุนเกี่ยวกบั งานแผนทท่ี หารปืนใหญใ่ ห้แกห่ น่วยรบั การสนบั สนนุ
๓.๕ ดาเนินการติดตอ่ สือ่ สารและการเฝา้ ตรวจสนามรบใหแ้ ก่หนว่ ยรับการสนับสนนุ
๓.๖ ทาการระวงั ปอ้ งกนั ตนเองได้อย่างจากัด
๓.๗ เคล่อื นทดี่ ้วยยานยนตใ์ นอตั ราได้ ๑๐๐ เปอร์เซน็ ต์
อจย. ๖–๑๐๖ ( ๒๕ ส.ค. ๒๙ ) กองพนั ทหารปนื ใหญ่ค้นหาเป้าหมาย น. ๑๐๙
ส. ๖๕๐
พ. ๒๒๗
๙๘๖
อจย. ๖–๑๐๖ อจย. ๖–๑๐๗
กองบังคบั การ กองรอ้ ยกองบงั คับการ กองร้อยทหารปนื ใหญค่ น้ หาเปา้ หมาย
และบริการ
น. ๓๐ นาย พ.ต. ๑, ร.อ. ๖, ร.ท. ๒๓
น. ๑๙ นาย พ.อ. ๑, พ.ท. ๑ , พ.ต. ๖, ร.อ. ๘, ร.ท. ๓ ส. ๑๘๗ นาย จ.(พ), จ. ๗๕, ส.อ. ๑๑๒
ส. ๘๙ นาย จ.(พ), จสอ. ๓๒, สอ. ๕๗ พ. ๖๒ นาย ส.ต. ๒๑, พลฯ ๔๑
พ. ๔๑ นาย สต. ๙, พลฯ ๓๒
ผงั การจัดกองพันทหารปืนใหญค่ ้นหาเปา้ หมาย
๒-๙
กองพันจรวดหลายลากล้องขนาดกลาง อจย.๖ - ๕๒๕ (๒๕ ม.ค.๓๐)
๑. ภารกจิ สนับสนนุ การยงิ ให้แก่หน่วยกาลังรบระดบั กองพลดาเนินกลยุทธ์ข้นึ ไป
๒. การแบ่งมอบ เปน็ หนว่ ยของกองทัพบก อาจบรรจุมอบให้แก่ กองพลทหารปืนใหญ่ หรือกองทัพภาค
ไดต้ ามความเหมาะสม
๓. ขีดความสามารถ
๓.๑. ดาเนินการสนับสนุนการยิงด้วยจรวดหลายลากล้องอย่างต่อเนื่องและทันเวลาต่อหน่วย
รบั การสนับสนุน
๓.๒. ดาเนินการยิงช่วยสว่ นรวมใหแ้ กห่ นว่ ยตา่ งๆ ของกองพลดาเนนิ กลยทุ ธ์หรอื กองทัพ
๓.๓. เพม่ิ เติมกาลังให้แก่หนว่ ยทหารปืนใหญอ่ น่ื ๆ
๓.๔. ดาเนินการสนับสนุนทางการแพทย์อย่างจากัดให้แก่หน่วยในอัตรา รวมทั้งการ ให้
การรกั ษาพยาบาลและการสง่ กลับภายในกองพัน
๓.๕. จดั หาและแจกจ่ายส่ิงอุปกรณ์ทุกประเภทแก่หน่วยในอัตรา เก็บรักษาสิ่งอุปกรณ์บางชนิด
และบนั ทึกรายการยุทโธปกรณต์ ่างๆ รวมทงั้ ปฏบิ ัติการขนส่งกระสุนและวัตถรุ ะเบดิ ตามอัตรามลู ฐาน
๓.๖. เคล่ือนท่ีด้วยยานยนต์ในอัตราได้ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์
อจย. ๖–๕๒๕ (๒๕ ม.ค. ๓๐) กองพันจรวดหลายลากล้อง น. ๔
ขนาดกลาง ส. ๓๙๐
พ. ๑๑๐
๕๔๐
กองบงั คับการ กองรอ้ ยจรวดหลายลากล้อง
กองร้อยกองบงั คับการและ ขนาดกลาง
บรกิ าร น. ๗ นาย พ.ต. ๑
ร.อ. ๑
น. ๑๙ นาย พ.ท. ๑ ส. ๙๖ นาย ร.ท. ๕
พ.ต. ๓ พ. ๒๑ นาย
ร.อ. ๑๑ จ. ๔๙
ร.ท. ๔ ส.อ. ๔๗
ส.ต. ๘
ส. ๑๐๒ นาย จ. ๓๘ พลฯ ๑๓
ส.อ. ๖๔
พ. ๔๗ นาย ส.ต. ๘
พลฯ ๓๙
ผังการจัดกองพันจรวดหลายลากล้องขนาดกลาง
๒ - ๑๐
กองพันทหารปืนใหญ่กลางกระสุนวถิ ีโค้ง อัตตาจร กรมทหารปืนใหญ่ กองพลทหารราบยานเกราะ และ
กองพลทหารม้า อจย. ๖ - ๒๒๕ ( ๒๔ มิ.ย. ๒๙ )
๑. ภารกิจ ทาหน้าที่เป็นปืนใหญ่ช่วยโดยตรงต่อ กรมทหารราบยานเกราะหรือกรมทหารม้า และ
ชว่ ยสว่ นรวมใหแ้ ก่หนว่ ยกาลังรบ หรือเพ่มิ เติมกาลงั ยงิ ให้หนว่ ยทหารปืนใหญ่อื่นๆ
๒. การแบ่งมอบ เป็นหน่วยในอตั รากรมทหารปนื ใหญ่ กองพลทหารราบยานเกราะหรือกองพลทหารม้า
๓. ขดี ความสามารถ
๓.๑ ดาเนินการยิงสนับสนนุ ดว้ ยปนื ใหญ่สนาม อย่างต่อเนื่องและทันเวลา ต่อหนว่ ยรับการสนบั สนุน
๓.๒ เป็นส่วนหนึ่งในระบบการติดต่อส่ือสาร การต่อสู้ป้องกันภัยทางอากาศ งานแผนท่ีทหารปืนใหญ่
และการคน้ หาเป้าหมายของกรมทหารปนื ใหญ่
๓.๓ ดาเนินการสนับสนุนทางการแพทย์อย่างจากัดกับหน่วยในอัตรา รวมท้ังการให้
การรกั ษาพยาบาล และการสง่ กลบั ภายในกองพนั
๓.๔ จัดหาและแจกจ่ายสิ่งอุปกรณ์ทุกประเภทแก่หน่วยในอัตรา เก็บรักษาสิ่งอุปกรณ์บางชนิด
และบันทึกรายการยทุ โธปกรณ์ตา่ ง ๆ รวมทั้งการปฏบิ ัติการขนส่งกระสนุ และวตั ถรุ ะเบดิ ตามอตั รามลู ฐาน
๓.๕ จัดนายทหารการยิงสนับสนุน และผู้ตรวจการณ์หน้าสนับสนุนได้ ๑ กรมดาเนินกลยุทธ์
ซ่ึงประกอบดว้ ย ๓ กองพนั ดาเนนิ กลยุทธ์
๓.๖ เคลื่อนที่ด้วยยานยนตไ์ ด้ ๑๐๐ เปอร์เซนต์
กองพนั ทหารปืนใหญ่กลางกระสุนวิถโี ค้ง
อัตตาจร
กองบงั คับการกองพนั กองร้อยปืนใหญ่กลางกระสนุ วถิ โี ค้ง อัตตาจร
กองร้อยกองบังคับการและบริการ
ผังการจัดกองพนั ทหารปืนใหญ่กลางกระสุนวถิ ีโคง้ อัตตาจร
๒ - ๑๑
ศูนย์การทหารปนื ใหญ่ (ศป.)
เป็นหน่วยงานสายวิทยาการของทหารปนื ใหญ่ มีหน้าที่แนะนา กากับการและดาเนินงานในวิชาการ
และกจิ การของเหลา่ ทหารปนื ใหญ่ทง้ั ปวงในกองทพั บก ปจั จบุ ันเป็นหน่วยขึ้นตรงกรมยทุ ธศึกษาทหารบก
ศูนยก์ ารทหารปนื ใหญ่
กองบญั ชาการ กองวทิ ยาการ กองเคร่อื งช่วยฝึก กองสนามยงิ ปืน
แผนกธรุ การ - แผนกวิจยั และพัฒนา - แผนกออกแบบ - กองบังคับการ
กองกาลงั พล - หมวดรักษา สนาม
- แผนกวชิ าการ - แผนกโรงงาน
- แผนกการฝึก - แผนกคลงั ยิงปนื ใหญ่
- แผนกห้องสมุด - แผนกการพมิ พ์ - หมวดรกั ษาสนามอาวุธเบา
และพพิ ธิ ภณั ฑ์
กองบริการ
- แผนกจัดการ หน่วยตรวจโรค
- แผนกปกครอง - แผนกสวัสดิการ
- แผนกเตรียมพล - แผนกพลาธิการ
- แผนกสอ่ื สาร
กองยทุ ธการและการข่าว - สว่ นบังคบั การและบริการ - แผนกขนส่ง
- สว่ นตรวจโรคและรกั ษาโรค - แผนกสรรพาวธุ
- แผนกแผน - ส่วนเภสัชกรรม - แผนกช่างโยธา
- แผนกยทุ ธการ - แผนกพันบริการ
- แผนกการฝึกและการศกึ ษา - ส่วนทันตกรรม
- แผนกขา่ วและ รปภ.
- แผนกกจิ การพลเรือน
กองส่งกองกาลงั บารงุ โรงเรียนทหารปนื ใหญ่ หนว่ ยฝากการบงั คบั บญั ชา
พนั .ขส.ซบร.บ.ทบ.
- แผนกแผน ศป
- แผนกสง่ กาลงั .
- แผนกควบคุม
โครงการและงบประมาณ ๓
ผังการจัดศูนย์การทหารปืนใหญ่
๓-๑
บทที่ ๓
ภารกจิ ทางยุทธวิธีของ ป.สนาม
กล่าวนา
การกาหนดความรับผิดชอบในการยิงสนับสนุนให้แก่หน่วยทหารปืนใหญ่สนามน้ันจะกระทาได้โดย
การมอบภารกิจทางยุทธวิธีให้แก่หน่วยทหารปืนใหญ่เหล่าน้ัน ผู้บังคับหน่วยกาลังรบเป็นผู้มอบภารกิจทาง
ยุทธวิธีให้แก่หน่วยทหารปืนใหญ่ตามขอ้ เสนอแนะของผู้บงั คับทหารปนื ใหญ่ของหนว่ ยกาลังรบโดยรายละเอยี ด
ในการมอบภารกิจทางยทุ ธวิธีจะปรากฏอย่ใู นคาสงั่ ยทุ ธการของหน่วยกาลงั รบนั้นๆ
เมื่อมีการมอบภารกจิ ทางยุทธวธิ ีให้แก่หนว่ ยปืนใหญ่ ผบู้ ังคับทหารปืนใหญ่ที่เป็นหน่วยรองของหน่วย
กาลังรบมีอานาจอันเป็นความรับผิดชอบในการบังคับบัญชาที่จะออกคาสั่งที่จาเป็นแก่หน่วยรองของตน
เพอ่ื ใหบ้ รรลุผลสาเรจ็ ในภารกิจทีไ่ ดร้ ับมอบ การปฏิบัติดังกล่าวนไี้ ด้แกก่ ารจัดหน่วยเพื่อทาการรบและการมอบ
ภารกิจทางยุทธวธิ ีแตก่ ารปฏิบัติการดังกลา่ วน้นั จะไม่ทาให้ขีดความสามารถของตนท้ังปวงที่จะบรรลุผลสาเร็จ
ในภารกิจที่ได้รับมอบนน้ั เสียหายไป หรือตอ้ งไมเ่ ป็นการลดขีดขนาดของการควบคุมแบบรวมการท่ีจะให้คงอยู่
กบั ผ้บู ังคับบญั ชาทีเ่ ป็นผูม้ อบหมายภารกิจทางยทุ ธวิธนี ั้นใหน้ ้อยลง
ภารกิจทางยทุ ธวธิ ีแบบมาตรฐาน
๑. หน่วยปืนใหญ่ระดับกองพันหรอื เทียบเท่าอาจได้รับมอบภารกิจทางยุทธวิธีแบบมาตรฐานอย่างใด
อยา่ งหนึ่งใน ๔ แบบ เมอ่ื ลาดบั ตามขนาดท่เี พม่ิ ข้นึ ของการควบคุมแบบรวมการทีม่ ีอยจู่ ะเรยี งลาดบั ได้ดังน้คี อื
๑.๑ ภารกิจชว่ ยโดยตรง (ชต.)
๑.๒ ภารกิจเพ่มิ เตมิ กาลังยิง (พย.)
๑.๓ ภารกจิ ช่วยสว่ นรวม - เพิม่ เติมกาลังยงิ (ชร.- พย.)
๑.๔ ภารกิจชว่ ยส่วนรวม (ชร.)
๒. การมอบภารกิจทางยุทธวิธีแบบมาตรฐานแบบใดแบบหนึ่งจะเป็นการระบุความรับผิดชอบ
ในการยงิ สนับสนนุ ๗ ประการ ใหแ้ ก่หน่วย ป.ทไี่ ด้รบั มอบไดแ้ ก่
๒.๑ การจดั ลาดบั ความเรง่ ดว่ นของภารกิจยงิ
๒.๒ การกาหนดเขตการยงิ
๒.๓ การจดั ผูต้ รวจการณ์
๒.๔ การวางการติดต่อ (นตต./นยส.)
๒.๕ การวางการตดิ ต่อสอ่ื สาร
๒.๖ การกาหนดทตี่ ั้งยิง
๒.๗ การทาแผนการยงิ
๓. ในกรณีที่การใช้ภารกิจทางยุทธวิธีแบบมาตรฐานทั้ง ๔ แบบ ไม่สามารถตอบสนองความต้องการ
ที่จะบรรลุความสาเร็จในการใช้อานาจการยิงแล้ว ก็อาจกาหนดภารกิจทางยุทธวิธีไม่มาตรฐาน หรืออาจจัด
หนว่ ยแยกปฏบิ ตั เิ ฉพาะภารกิจน้นั ๆ เพอื่ ใหต้ รงตามความตอ้ งการในการรบไดอ้ ีก ซึง่ จะได้กล่าวในลาดับตอ่ ไป
๓-๒
๔. การระบุถึงความรับผิดชอบในการยงิ สนับสนนุ ๗ ประการ ต่อภารกิจทางยุทธวิธีแบบมาตรฐานท้ัง
๔ แบบ จะกาหนดตามตารางดังต่อไปนี้
ภารกิจ ชว่ ยโดยตรง (ชต.) เพิ่มเติมกาลังยิง ชว่ ยสว่ นรวม -เพิ่มเตมิ ชว่ ยส่วนรวม (ชร.)
(พย.) กาลังยิง (ชร.-พย.)
๑. ลาดบั ความ ๑. หนว่ ยรับการ ๑. หนว่ ยรบั การ พย. ๑. บก.ป.หนว่ ยกาลงั รบ ๑. บก.ป.หนว่ ยกาลงั
เร่งด่วนในการ สนับสนนุ ๒. ผู้ตรวจการณข์ อง ๒. หนว่ ยรบั การ พย. รบ
ตอบสนองคาขอ ๒. ผตู้ รวจการณข์ องตน ตน (๑) ๓. ผตู้ รวจการณ์ของตน ๒. ผตู้ รวจการณข์ อง
ยงิ (๑) ๓. บก.ป.หน่วยกาลงั (๑) ตน (๑)
๓. บก.ป.หน่วยกาลังรบ รบ
๒. เขตการยงิ เขตปฏบิ ัตกิ ารของ เขตการยิงของหน่วย เขตปฏิบตั ิการของหนว่ ย เขตปฏิบัตกิ ารของ
หนว่ ยรับการสนบั สนุน รบั การ พย. รบั การสนับสนุนรวมทั้ง หน่วยรับการ
เขตการยิงของหน่วยรับ สนบั สนนุ
การ พย.
๓. จดั ผ้ตู รวจ แตล่ ะกองร้อยดาเนนิ ปกติไมต่ ้องจัด ปกติไมต่ อ้ งจดั ปกติไม่ต้องจัด
การณ์ให้กับ กลยุทธข์ องหน่วยรบั
การสนบั สนุน
๔. การวางการ จัด นยส. ใหแ้ กแ่ ตล่ ะ จดั นตต. ใหก้ ับ บก. จัด นตต. ให้กบั บก. ปกตไิ มต่ อ้ งจดั
ติดตอ่ กองพนั และกรมของ หน่วยรบั การ พย. หนว่ ยรบั การ พย.
หนว่ ยรบั การสนับสนุน
๕. การวางการ ผตน. และ นยส. ท่ี บก. หน่วยรบั การ พย. บก. หนว่ ยรบั การ พย. ปกติไมต่ ้องจัด
ติดตอ่ สอ่ื สาร ประจาอยู่กบั หนว่ ยรบั
การสนับสนนุ
๖. กาหนดท่ตี ้งั ผบ.พัน.ป.ชต. หรือโดย หนว่ ยรับการ พย. บก.ป. หนว่ ยกาลังรบ บก.ป.หนว่ ยกาลังรบ
โดย คาสง่ั ของ บก.ป.หนว่ ย หรือ/ โดยคาสงั่ ของ หรือหนว่ ยรบั การ พย.
กาลังรบ บก.ป.หนว่ ยกาลงั รบ โดยอนุมตั ิจาก บก.ป.
หน่วยกาลงั รบ
๗. ทาแผนการ พัฒนาแผนการยิงเอง บก.ป.หน่วยรับการ บก.ป.หน่วยกาลงั รบ บก.ป.หน่วยกาลังรบ
ยิงโดย พย.
หมายเหตุ (๑) ผู้ตรวจการณข์ องตน หมายถงึ ผู้ตรวจการณข์ องหน่วยและเครื่องมือคน้ หาเป้าหมายอื่นๆ
ทีม่ ิไดจ้ ดั ให้แก่หน่วยรบั การสนบั สนนุ
ภารกจิ ช่วยโดยตรง (ชต.)
๑. ภารกิจช่วยโดยตรง เป็นภารกิจท่ีจาเป็นท่ีสุดในภารกิจทางยุทธวิธีแบบมาตรฐานทั้ง ๔ แบบหน่วย
ทหารปืนใหญ่สนามท่ีได้รับมอบภารกิจน้ี จะเป็นหน่วยที่สนองตอบความต้องการทางการยิงสนับสนุนของ
หน่วยดาเนินกลยุทธโ์ ดยเฉพาะ และในทางตรงกันข้ามเป็นหน่วยท่ีสนองตอบคาขอยิงของกองบังคับการกองพัน
ทหารปืนใหญ่สนามหน่วยกาลังรบที่น้อยท่ีสุด จึงเป็นภารกิจที่มีขีดขนาดของการควบคุมแบบรวมการต่าที่สุด
โดยปกติแล้วจะจัดหน่ึงกองพันทหารปืนใหญ่สนามช่วยโดยตรง หน่ึงกรมดาเนินกลยุทธ์ ในอัตราการจัดกาลัง
ของกองพล โดยจะกาหนดหน่วยทหารปืนใหญ่สนามไว้เพื่อภารกิจดังกล่าวน้ี กองพลน้อยปืนใหญ่สนาม และ
พวกกองพนั ทหารปืนใหญ่สนามอาจไดร้ บั มอบภารกจิ น้ีได้ แต่ตอ้ งเพมิ่ เติมหม่ยู งิ สนับสนนุ และหมตู่ รวจการณห์ นา้ ให้
ซ่ึงกระทาได้โดยสมทบกองพันทหารปืนใหญ่สนามช่วยโดยตรงให้กับกองพลน้อย หรือพวกกองพันทหารปืนใหญ่-
สนามนน้ั
๓-๓
๒. กองพันทหารปืนใหญ่สนามที่ได้รับภารกิจช่วยโดยตรงจะปฏิบัติการยิงสนับสนุนภายใต้
ความรับผดิ ชอบ ๗ ประการโดย
- สนับสนุนการยิงอย่างใกล้ชิด, ต่อเน่ืองและทันเวลาให้แก่หน่วยดาเนินกลยุทธ์เพียงหน่วยเดียว
ซ่ึงปกตคิ ือกรมดาเนนิ กลยุทธ์
- มักถูกกาหนดให้สนับสนุนกรมดาเนินกลยุทธ์กรมใดกรมหน่ึงเป็นประจา เพ่ือให้เกิดความเขา้ ใจ
ซง่ึ กนั และกันในการปฏิบัตกิ ารรบ
- ผคู้ วบคมุ บงั คบั บัญชา พนั .ป.ชต. คือ ผบ.ป.หนว่ ยกาลงั รบ
๓. ในระหว่างการเคลื่อนท่ีเข้าปะทะ (แบบหน่ึงในการรบด้วยวิธีรุก) บางครั้งอาจให้กองร้อยปืนใหญ่
ของกองพัน ป.ชต.ปฏิบัติภารกิจสนับสนุนการยิงโดยเฉพาะให้แก่กองร้อยหรือชุดรบของหน่วยดาเนินกลยุทธ์
ท่ีเป็นหน่วยนา กองร้อยปืนใหญ่ที่ปฏิบัติภารกิจเช่นน้ี เรียกว่า กองร้อยปืนใหญ่แยกเฉพาะ (DEDICATED
BATTERY) ซ่งึ จะไดก้ ล่าวถึงรายละเอยี ดตอ่ ไป
ภารกจิ เพิ่มเติมกาลังยงิ (พย.)
๑. หน่วยปืนใหญท่ ี่ไดร้ ับภารกจิ เพ่ิมเตมิ กาลังยิงนนั้ มีหน้าที่เพม่ิ พนู การยงิ ให้กับหน่วยปนื ใหญห่ น่วย อนื่ ๆ
ดว้ ยกัน เพื่อให้สามารถทาการยิงสนบั สนนุ หนว่ ยดาเนินกลยุทธ์ให้ได้ผลดียิ่งขน้ึ หน่วยปนื ใหญ่เพ่ิมเตมิ กาลงั ยิง
จะถกู ควบคมุ และวางแผนการยิงโดยหนว่ ยปืนใหญท่ ่ีรบั การ พย.
๒. หน่วยปืนใหญ่เพิ่มเติมกาลังยิงจะสนองตอบความต้องการทางการยิงให้แก่หน่วยปืนใหญ่สนาม
ทต่ี ้องการอานาจการยิงเพิ่มเติมโดยเฉพาะ การใช้ภารกิจทางยุทธวธิ ชี นิดนี้ จะทาให้การสนบั สนนุ หน่วยดาเนนิ กลยทุ ธ์
ดว้ ยหน่วยทหารปืนใหญ่สนามมากกว่า ๒ หนว่ ยข้นึ ไปเป็นไปอย่างราบรน่ื ไม่ผดิ หลักเอกภาพในการบังคับบัญชา
และไม่เปลย่ี นแปลงโครงสรา้ งทางการบังคบั บัญชาของทหารปืนใหญ่
๓. ทหารปืนใหญ่สนามหน่วยหนึ่งสามารถเพิ่มเติมกาลังยิงให้กับหน่วยทหารปืนใหญ่สนามได้
เพียงหน่วยเดียวเท่าน้ัน แต่หน่วยทหารปืนใหญ่สนามหน่วยหนึ่งอาจรับการเพิ่มเติมกาลังยิงได้จากทหารปืน
ใหญ่สนามหลายๆ หน่วยได้
ภารกิจช่วยสว่ นรวม (ชร.)
๑. หน่วยปืนใหญ่ที่ได้รับมอบภารกิจช่วยส่วนรวมนั้น จะปฏิบัติการยิงสนับสนุนให้กับหน่วยกาลังรบ
เป็นสว่ นรวม หน่วยปนื ใหญท่ ่ีได้รับมอบภารกิจช่วยสว่ นรวมนีจ้ ะยังคงอยูใ่ นความควบคมุ ของผู้บังคบั ทหารปนื ใหญ่
หน่วยกาลงั รบน้ัน อนั จะทาใหผ้ ู้บังคบั หน่วยรบน้นั ๆ มีเครอ่ื งมือทจ่ี ะบงั คับการรบได้โดยทนั ทที ่ีต้องการ
๒. การมอบภารกิจช่วยรวมจะทาให้ผู้บังคับหน่วยกาลังรบสามารถบังคับวิถีการรบได้โดยใช้อานาจ
การยงิ รว่ มกบั แผนการดาเนนิ กลยุทธ์ได้อยา่ งเหมาะสม การมอบภารกิจช่วยโดยตรงและเพ่มิ เติมกาลังยิงให้กับ
หน่วยยงิ สนับสนุนยอ่ มทาให้หนว่ ยยงิ สนบั สนุนน้ันสนองตอบความต้องการการยงิ สนบั สนุนของหน่วยดาเนินกลยุทธ์
โดยตรง แต่เพ่ือให้ผู้บังคับหน่วยกาลังรบสามารถบังคับวิถีการรบได้ตามความต้องการจึงต้องสงวนหน่วย
ทหารปืนใหญ่สนามบางหน่วยไว้ โดยมอบภารกิจช่วยส่วนรวม ซ่ึงมีขีดขนาดของการควบคุมแบบรวมการ
สูงท่ีสุดให้ ผู้บังคับหน่วยกาลังรบจะควบคุมหน่วยทหารปืนใหญ่สนามช่วยส่วนรวม ผ่านทางกองบังคับการ
ทหารปนื ใหญ่สนามหนว่ ยกาลงั รบน้นั
๓. หน่วยทหารปืนใหญ่สนามช่วยส่วนรวมอาจถูกใช้เพิ่มเติมการยิงเป้าหมายตามเหตุการณ์ให้แก่
หน่วยทหารปืนใหญ่ช่วยโดยตรงได้ หากหน่วยปืนใหญ่ช่วยโดยตรงร้องขอการยิงเพ่ิมเติมมายัง บก.ป.
หน่วยกาลังรบ แต่อย่างไรกต็ ามหน่วยทหารปนื ใหญ่สนามช่วยส่วนรวมไม่เหมาะสมสาหรับการโจมตีเป้าหมาย
ตามเหตุการณ์ เพราะคาขอยิงต้องเสียเวลามากจาก ผตน.มาถึงหน่วย ป.ชร. ดังน้ันหน่วย ป.ชร. จึงมักจะใช้
ในการยิงเปา้ หมายตามแผนและการยงิ ต่อต้านปืนใหญข่ องข้าศกึ
๓-๔
ภารกจิ ช่วยส่วนรวม - เพิ่มเตมิ กาลังยิง (ชร.- พย.)
๑. ภารกิจช่วยส่วนรวม - เพ่ิมเติมกาลังยิง เป็นภารกิจที่มีความอ่อนตัวสูง เพราะเป็นภารกิจ
ซ่ึงมีลักษณะผสมกันระหว่างภารกิจท่ีมีขีดขนาดการควบคุมแบบรวมการสูงสุด คือ ภารกิจช่วยส่วนรวม
กับภารกิจซ่ึงมีขีดขนาดของการควบคุมแบบรวมการต่า คือภารกิจเพิ่มเติมกาลังยิง เพราะบางคร้ังอาจมี
ความจาเป็นต้องเพ่ิมอานาจการยิงให้กับหน่วย ป.สนามหน่วยหน่ึง แต่ในขณะเดียวกันผู้บังคับทหารปืนใหญ่
หน่วยกาลงั รบก็ยังคงต้องการการควบคุมแบบรวมการสูงไว้ดว้ ย ดงั นัน้ หนว่ ยปืนใหญ่สนามท่ีได้รับมอบภารกิจ
ชร.- พย. นน้ั นอกจากจะปฏิบัติการยิงสนับสนุนหน่วยกาลังรบเป็นส่วนรวมทั้งหมดแลว้ ยงั จะต้องเพ่ิมเติมกาลังยิง
ใหก้ ับหนว่ ย ป.หนว่ ยอน่ื ๆ ด้วย
๒. หน่วย ป.สนามที่ได้รับมอบภารกิจ ชร.- พย.จะจัดวางการติดต่อส่ือสารไปยังหน่วยรับการ พย.
เรยี กว่า การติดตอ่ สอื่ สาร "ช่องยิงเรว็ " เพราะเปน็ ระบบที่ทาใหค้ าขอยงิ จากหน่วยรบั การ พย. สามารถสง่ ตรงมายัง
หน่วย ชร.- พย.โดยตรงไมต่ ้องผา่ นกองบังคบั การใดๆ อกี
๓. หน่วย ป.สนามที่ได้รบั มอบภารกิจดังกล่าวน้ียังคงอยภู่ ายใต้การควบคุมของผู้บังคบั ทหารปืนใหญ่
หน่วยกาลงั รบนั้น กองบงั คับการปืนใหญ่หนว่ ยกาลงั รบมีสิทธิในการขอยิงลาดับเหนือกว่าหน่วยปนื ใหญ่ท่ไี ด้รับ
การเพ่ิมเติมกาลังยิง
ภารกิจทางยทุ ธวธิ ีไมม่ าตรฐาน
เมอ่ื การมอบภารกิจยุทธวธิ ีมาตรฐานท้ัง ๔ แบบ ไมส่ ามารถทจ่ี ะตอบสนองความต้องการที่จะให้บรรลุ
ความสาเร็จภารกิจตามความตอ้ งการของผู้บังคับบัญชาแล้ว ก็อาจจะมอบภารกิจยทุ ธวิธีไม่มาตรฐานด้วยการ
ปฏบิ ตั ปิ ระการใดประการหนึ่งดงั น้ี คือ
๑. มอบภารกิจยุทธวิธีมาตรฐานแลว้ อธบิ ายการดดั แปลงความรบั ผดิ ชอบตามภารกิจยุทธวิธีมาตรฐาน
น้ันๆ ตดิ ตามในบรรทัดเดยี วกนั เช่น
- ป.พนั .๑ : พย.ป.พนั .๑๐ ; กรม ป.เป็นผเู้ ลือกท่ีต้งั (ปกติ ป.พนั .๑๐ เปน็ ผเู้ ลอื กท่ีตงั้ ใหก้ บั ป.พนั .๑)
- ป.พนั .๒ : ชร.- พย.ป.พนั .๒๐ ; ใช้กระสุนไมเ่ กนิ ๕๐ เปอรเ์ ซน็ ตใ์ นการ พย.
- ป.พัน.๓ : ชร.;จดั นตต.ประจา ศปย.กรม ป. (ปกติไมต่ อ้ งจัด)
๒. หากจะต้องดัดแปลงรายละเอียดความรับผดิ ชอบ ๗ ประการ ในภารกิจยุทธวิธมี าตรฐานมากกว่า
สองข้อ แล้วจะต้องลาดับรายละเอียดความรับผิดชอบเป็นลาดับท้ัง ๗ ประการ เพื่อป้องกันการเข้าใจผิด
ดงั ตวั อยา่ ง เช่น
- ป.พนั .๕ : เพิม่ การยิง ป.พนั .๗
; ลาดับความเร่งดว่ นในการตอบคาขอยงิ คอื ป.พนั .๗, ม.พนั .๔ และ กรม ป.
; เขตการยงิ กรม ป.เปน็ ผกู้ าหนด
; ไมต่ ้องจัด ผตน.ใหก้ ับหน่วยใด
; จัด นตต. ให้กับ ป.พนั .๗
; จดั วางการตดิ ตอ่ ส่ือสารกับ ป.พัน.๗ และ ม.พนั .๔
; กาหนดท่ีต้งั โดย ป.พัน.๗ ด้วยการอนมุ ัติของ กรม ป.
; ทาแผนการยงิ โดย กรม ป.
หมายเหตุ การใช้คาว่าเพิ่มการยิง ดังตัวอย่าง "ป.พัน.๕ เพิ่มการยิง ป.พัน.๗" น้ัน เพ่ือหลีกเลี่ยง
การใช้คาซา้ กบั คาว่า " เพมิ่ เตมิ กาลงั ยงิ " ซงึ่ เป็นศัพท์จาเพาะของภารกจิ ยทุ ธวธิ ีมาตรฐาน
๓-๕
การตดิ ตอ่ ของทหารปนื ใหญ่
๑. เพื่อจดั ให้มีการยิงสนบั สนนุ ที่มปี ระสทิ ธิผลและรวมอานาจการยิงของปืนใหญ่เขา้ กบั แผนการยิงสนับสนุน
ทงั้ ส้ิน ดงั นนั้ ผู้บังคับหนว่ ยกาลงั รบจงึ มคี วามตอ้ งการดังนี้คอื
- การประสานและการรว่ มมอื อย่างใกล้ชิดระหวา่ งหนว่ ยทหารปืนใหญแ่ ละหนว่ ยรบั การสนับสนุน
- มีตัวแทนของทหารปืนใหญ่ ณ ศูนย์ปฏิบัติการทุกระดับหน่วยต้ังแต่กองร้อยดาเนินกลยุทธ์ไป
จนถงึ กองทพั นอ้ ย เพอ่ื ท่จี ะใหค้ าปรึกษาและแนะนาเก่ียวกบั ปนื ใหญแ่ ละการยิงสนบั สนุนอื่นๆ
๒. การจัดและการมอบภารกิจ สาหรับทหารปืนใหญ่จะสร้างสายการติดต่อระหว่างหน่วยทหารปืนใหญ่
และหนว่ ยรับการสนบั สนนุ เพ่ือ
๒.๑. ทาให้เกิดความเข้าใจซ่งึ กนั และกัน
๒.๒. ทาให้เกดิ เอกภาพในการดารงความมุ่งหมายและการปฏิบตั ิการ
๒.๓. วางแผนและประสานการยิงสนบั สนนุ
๒.๔. จัดสายการยิงเร็วให้แกร่ ะบบการยิงสนับสนุน
๒.๕. จัดวางการติดตอ่ สื่อสารระหว่างหนว่ ยปืนใหญ่, หน่วยยิงสนับสนุนอนื่ ๆ แหล่งขา่ วกรองและ
องค์การคน้ หาเป้าหมายอ่นื ๆ
๓. การติดตอ่ ของทหารปนื ใหญ่แบ่งออกเปน็ ๓ วธิ ี คือ
๓.๑. การติดต่อทางการบังคับบัญชาคือการติดต่อด้วยการพบปะด้วยตนเองระหว่างผู้บังคับหน่วย-
ปืนใหญ่ กับผู้บังคับหน่วยรับการสนับสนุนหรอื ผูบ้ ังคับหน่วยรับการเพ่ิมเติมกาลังยิง การตดิ ต่อด้วยวธิ ีน้ีเป็นวิธีที่
ให้ประสิทธภิ าพสูงสดุ เพราะผบู้ งั คบั หน่วยปืนใหญจ่ ะได้รบั ทราบความตอ้ งการโดยตรงของหนว่ ยรับการสนบั สนนุ
๓.๒. การตดิ ต่อด้วยนายทหารติดตอ่ และนายทหารการยงิ สนับสนุน
- นายทหารติดต่อ (นตต.) ถูกจัดขึ้นตาม อจย.เฉพาะของหน่วย ป. นตต.เหล่าน้ีจะถูกส่ง
ไปประจา ณ หน่วยรับการสนับสนุน กองบังคับการหน่วยข้างเคียง เพื่อท่ีจะเป็นตัวแทนของ ผบ.หน่วย ป.
ในเรื่องท่ีเกย่ี วกบั ปืนใหญ่ ดังตัวอย่าง การจดั นตต.ใน พัน ป.ประเภทต่างๆ หรือกรม ป.
- นายทหารการยิงสนับสนุน (นยส.) เป็นเจ้าหน้าท่ีของ พัน. ป.ชต. ที่จัดไปประจา ณ หน่วย
รับการสนับสนุน จะมีหน้าท่ีเป็น ๒ ลักษณะคือ การทาหน้าท่ีประสานการยิงสนับสนุน และเป็นตัวแทน
ของ ผบ.พัน. ป.ชต. ณ กองบังคับการหน่วยรับการสนับสนุนน้ันๆ ตามปกติ นยส.ของ พัน.ป. ชต.จะถูกส่งไป
ประจายัง บก. กรมดาเนนิ กลยทุ ธแ์ ละ บก.พัน. ดาเนินกลยทุ ธท์ ุกกองพัน
๓.๓. การตดิ ต่อทางฝ่ายอานวยการ เป็นการติดต่อที่นายทหารฝ่ายอานวยการของหน่วยทหารปืนใหญ่
ไปเย่ยี มเยียนตามระยะเวลาเพ่ือแลกเปลยี่ นขา่ วสาร ณ กองบังคับการอ่นื ๆ ท่ีปฏิบัตงิ านรว่ มกัน
คาสั่งเตือน
คาสั่งเตือนไม่ใช่การดัดแปลงภารกิจทางยุทธวิธี แต่ผู้บังคับบัญชาใช้คาส่ังเตือนเม่ือต้องการให้หน่วย
เตรียมพร้อมสาหรับการปฏบิ ัตใิ นอนาคต คาส่ังเตอื นของทหารปนื ใหญส่ นามมักจะกากับไว้กับการมอบภารกิจ
ทางยทุ ธวธิ ี เชน่
ป.พัน. ๑ (๑๐๕ ลจ.) : ชร. - พย. ป.พนั .๒ : ชต.ร.๑ เมอ่ื สั่ง
คาส่ังเตือนน้ีจะแจ้งให้ ผบ.ป.พัน.๑ ได้ทราบว่าทันทีที่ ร.๑ เข้าปฏิบัติการ ป.พัน.๑ จะต้องรับหน้าท่ี
ชว่ ยโดยตรง ร.๑ ทนั ที ดังน้ัน ผบ.ป.พัน.๑ จะต้องปฏิบตั ิการบางอยา่ งเพอื่ เตรียมหนว่ ยใหพ้ ร้อมสาหรับ ชต.ร.๑
การเตรียมการดงั กล่าวอาจได้แก่การวางการตดิ ต่อและการติดตอ่ สอ่ื สารไปยัง ร.๑ จัด ผตน.ให้กบั ร.๑ เปน็ ต้น
๓-๖
กองร้อยทหารปนื ใหญแ่ ยกเฉพาะ
๑. การจดั กองร้อยทหารปนื ใหญแ่ ยกเฉพาะ (ร้อย.ป. แยกเฉพาะ) เป็นการขยายความรับผดิ ชอบในภารกิจ
ช่วยโดยตรงของ พัน.ป.ชต. เพื่อให้สามารถสนับสนุนโดยเฉพาะแก่หน่วยดาเนินกลยุทธ์ระดับกองร้อย/ชุดรบ
ท่ีเป็นหน่วยนาในการเคลื่อนที่เข้าปะทะ (แบบหน่ึงของการรุก) ด้วยการจัด ร้อย.ป.ของ พัน.ป.ชต. กองร้อยใด
กองร้อยหนึ่ง่ให้สนับสนุนโดยเฉพาะแก่หน่วยดาเนินกลยุทธ์เหล่านั้น โดย พัน.ป.ชต.ซ่ึงเป็นผู้กาหนดท่ีตั้ง และ
มอบภารกจิ ให้ รอ้ ย. ป.แยกเฉพาะ จะควบคมุ การปฏบิ ตั ิงานด้วยขีดขนาดการควบคมุ ทน่ี อ้ ยทส่ี ุด ท่ีจะทาให้อานาจ
การยิงท้ังส้นิ ของกองร้อย ป.ท่จี ัดขึ้นสามารถตอบสนองทนั ทตี อ่ การยิงขม่ อาวธุ เลง็ ตรงของฝา่ ยขา้ ศึก
๒. ผู้บังคับการกรมด้วยคาแนะนาของ ผบ.พัน.ป.ชต.จะเป็นผู้ตกลงใจใช้ ร้อย.ป.แยกเฉพาะจานวน
เทา่ ใด ที่ไม่เปน็ ผลกระทบกระเทอื นต่อการยิงสนับสนุนท้ังสนิ้ ของกรม นอกไปจากนี้ ผบ.กรม จะเปน็ ผู้กาหนด
กองร้อย/ชุดรบ ท่จี ะรับการสนับสนุนจาก รอ้ ย.ป.แยกเฉพาะอีกดว้ ย
ภายหลังจากข้อตกลงใจของ ผบ.กรม ที่จะใช้ ร้อย. ป.แยกเฉพาะแล้ว ผบ.พัน.ป.ชต. จะเป็น
ผเู้ จาะจง ร้อย.ป.ของตนกองร้อยหนึ่งกองร้อยใดให้มีพันธกิจเป็น ร้อย.ป.แยกเฉพาะ ในการตกลงใจของ ผบ.กรม
และ ผบ.พัน.ป.ชต.เก่ียวกับการจัด ร้อย.ป.แยกเฉพาะนั้น มีขอ้ พิจารณาเกี่ยวกับภารกิจ, ภูมิประเทศ, จานวน
ปนื ใหญ่ทสี่ ามารถจดั ได้, ความพร้อมรบของหน่วยและการค้นหาเปา้ หมาย
๓. การกาหนดความรับผิดชอบในการตอบสนองการยิงสนับสนนุ ๗ ประการของ พนั .ป.ชต. และ ร้อย.ป.
แยกเฉพาะ จะแสดงตามรายละเอียดเปรียบเทียบในตารางแสดงความรบั ผดิ ชอบ ๗ ประการดงั ตอ่ ไปนี้
ความรับผดิ ชอบ ภารกิจชว่ ยโดยตรง กองร้อยทหารปืนใหญแ่ ยกเฉพาะ
๑. ลาดับความเร่งด่วนในการ ๑. หนว่ ยรบั การสนบั สนุน ๑. หน่วยรับการสนับสนุน
ตอบสนองคาขอยิง ๒. ผตู้ รวจการณข์ องตน (๑) ๒. กองพนั ป.ชต. (๒)
๓. บก.ป.หน่วยกาลงั รับ
๒. เขตการยิง เขตปฏิบัติการของหน่วยรับการ เขตปฏิบัตกิ ารของกองรอ้ ย/
สนบั สนุน ชดุ รบท่รี บั การสนบั สนนุ
๓. จดั ผตู้ รวจการณ์หนา้ ให้กบั แต่ละกองร้อยดาเนินกลยุทธ์ของ ปกตไิ ม่ต้องจดั
หน่วยรับการสนบั สนนุ
๔. การวางการติดต่อ จดั นยส. ใหแ้ ต่ละกองพันและกรม วางการติดต่อกับกองร้อย/ชุดรบท่ีรับ
ของหน่วยรับการสนับสนนุ การสนับสนุน (โดย ผบ. ร้อย.ป. เม่ือ
สามารถกระทาได้)
๕. จัดวางการตดิ ตอ่ สอื่ สารกับ ผตน. และ นยส. ที่ประจาอยู่กับ ๑. ผตน. ดว้ ยข่ายความถ่ีแยกเฉพาะ
หน่วยรับการสนับสนุน ๒. หน่วยรับการสนับสนุน (ด้วยข่าย
บั ง คั บ บั ญ ช า ข อ ง ห น่ ว ย รั บ ก า ร
สนบั สนนุ )
๖. กาหนดทต่ี งั้ โดย ผบ .พั น .ป .ชต. ห รือ โดยค าส่ั ง ผบ.พัน.ป.ชต.
ผบ.ป. หน่วยกาลังรบ
๗. ทาแผนการยงิ โดย พฒั นาแผนการยิงเอง ผตน.ร่วมกับ ผบ.ร้อย./ชุดรบที่รับการ
หมายเหตุ
สนบั สนนุ
(๑) ผตู้ รวจการณ์ของตนหมายถงึ ผู้ตรวจการณ์ของหนว่ ยและเครือ่ งมอื
ค้นหาเปา้ หมายอ่นื ๆทม่ี ไิ ดจ้ ัดให้แกห่ นว่ ยรับการสนบั สนนุ
(๒) จะกระทาในกรณฉี ุกเฉนิ เท่าน้นั
๓-๗
๔. ในการแปลงสภาพ ร้อย.ป. ของ พัน.ป.ชต. ให้เป็น ร้อย.ป.แยกเฉพาะนั้น สามารถแปลงสภาพ
เปน็ ๒ แบบ คอื การแปลงสภาพอย่างเรง่ ดว่ นและการแปลงสภาพอย่างประณีต
๔.๑. การแปลงสภาพอยา่ งเร่งดว่ น เปน็ การปฏิบัติทีไ่ ด้รับคาสั่งเตือนในช่วงระยะเวลาจากัด รปจ.
ท่ีถูกกาหนดขึ้นจะเป็นแนวทางให้ทหารปืนใหญ่ท่ีได้รับการฝึกเป็นอย่างดีสามารถตอบสนองความต้องการ
ของหนว่ ยดาเนินกลยุทธอ์ ยา่ งทนั ท่วงทีแตอ่ ยา่ งไรกต็ ามจะต้องปฏบิ ัตดิ ว้ ยหลักสาคัญ ๔ ประการ
- คาส่ังทีใ่ ห้ปฏบิ ัติหนา้ ท่ี รอ้ ย.ป. แยกเฉพาะ จะต้องแจ้งให้ ศอย.พัน.ป.ชต. ทราบ
- ผตน. และ ศอย. ของ ร้อย.ป.แยกเฉพาะ จะถูกกาหนดให้ใช้ข่ายความถี่วิทยุแยกเฉพาะ
สาหรับอานวยการยิงโดย ฝอ.๓ พัน.ป.ชต.
- ผตน. ที่อยูก่ ับกองร้อย / ชุดรบดาเนินกลยุทธ์ จะแจ้งให้ ผบ.ร้อย. /ชุดรบเหลา่ นน้ั ทราบว่า
จะได้รับการสนับสนุนโดย ร้อย.ป. แยกเฉพาะ และจะต้องดาเนินการส่งมาตรการ การควบคุมในการดาเนิน-
กลยุทธ์ หลักฐานเกี่ยวกับเป้าหมายอื่นๆ ไปยัง ศอย.ร้อย.ป.แยกเฉพาะ โดย นยส. ของกองพันดาเนินกลยุทธ์
จะเฝ้าฟังรายละเอียดเหลา่ นตี้ ลอดเวลา
- ศอย.ร้อย.ป.แยกเฉพาะ จะต้องจัดวิทยุเฉพาะที่ใช้ในการเฝ้าฟังในข่ายบังคับบัญชา
ของกองรอ้ ย/ชุดรบดาเนินกลยทุ ธ์
๔.๒. การแปลงสภาพอย่างประณีต เป็นความตอ้ งการในการแปลงสภาพ รอ้ ย.ป. ให้มีพนั ธกิจเป็น
ร้อย.ป.แยกเฉพาะ โดยจะใช้เวลาท่ีเพียงพอในการแจ้งหน่วยเก่ียวข้องและจะให้เวลามากที่สุดในการวางแผน
และการประสาน การแปลงสภาพอย่างประณีตนั้นคงใช้หลัก ๔ ประการ เช่นเดียวกับการแปลงสภาพ
แบบเร่งด่วนท่ีจะต้องปฏิบัติให้เรียบร้อย นอกไปจากนี้ ผบ.ร้อย.ป.แยกเฉพาะ จะต้องติดต่อด้วยตนเองกับ
ผบ.หน่วยดาเนนิ กลยทุ ธ์ เพ่ือการเข้าใจระหวา่ งหนว่ ยเปน็ ลาดับในเรอ่ื ง
- แผนดาเนินกลยทุ ธ์
- แผนการยิงสนับสนุน
- นามสถานแี ละความถใี่ นการตดิ ต่อทางวิทยุ
- เวลาท่แี น่นอนในการเร่มิ ปฏิบตั ขิ อง รอ้ ย.ป.แยกเฉพาะ
๕. ในการเร่ิมปฏิบัติจริงของ ร้อย.ป.แยกเฉพาะ จะถูกกาหนดด้วยเวลาเฉพาะ เช่น น. + ๕ หรือ
ด้วยเหตุการณเ์ ฉพาะเช่น เมอ่ื หน่วยดาเนินกลยทุ ธผ์ า่ นแนวข้ัน (Phase Line) หรือจุดอ้าง (Reference Point)
โดยมีหลกั ในการวางแผนใช้ ร้อย.ป.แยกเฉพาะ ว่าจะไมก่ าหนดท่ีต้ัง ร้อย.ป.แยกเฉพาะ และการกาหนดเวลาให้
เรม่ิ ปฏิบัติภารกิจแต่เนิ่นๆ เพราะหน่วยดาเนนิ กลยุทธ์ทร่ี ับการสนับสนุนอาจเคลือ่ นท่ี พ้นระยะยงิ ก่อนการรบ
ปะทะท่ีคาดไว้จะเกิดข้ึน นอกจากน้ี ฝอ.๓ พัน.ป.ชต. จะต้องเฝ้าฟังสถานการณ์ทางยุทธวิธีอย่างใกล้ชิด
และต่อเน่ือง หาก ร้อย.ป.แยกเฉพาะ จะไม่สามารถสนับสนุนให้บรรลุภารกิจท่ีได้รับมอบ จะต้องแจ้งให้ส่วน
บังคับบัญชาของกรมทราบ เพ่ือขอความเห็นในเร่ืองการยุติภารกิจ หรือให้ พัน.ป.ชต. จัดการสนับสนุนต่อไป
หากมีความจาเป็นท่ีจะใช้ ร้อย.ป. อกี กองรอ้ ยเขา้ สับเปลี่ยน ปฏบิ ัติหน้าที่ ร้อย.ป.แยกเฉพาะ รอ้ ย.ป. ท่ีกาหนด
ข้ึนใหม่ จะต้องได้รับข่าวสารที่จาเป็นจาก ฝอ.๓ พัน.ป.ชต., ผตน. จะต้องรับข่าวสารเก่ียวกับท่ีตั้ง ร้อย.ป.
แยกเฉพาะ ที่จัดข้ึนใหม่ เพื่อที่ ผตน. และ ผบ.ร้อย./ชุดรบ อาจจะพิจารณาผลการกระจายของกระสุน
ในการโจมตีเป้าหมาย ในระหว่างการตกลงใจท่ีจะยุติหรือดารงภารกิจ ร้อย.ป.แยกเฉพาะ พัน.ป.ชต. จะต้อง
เตรียมเพม่ิ เตมิ การยิงใหแ้ ก่ ร้อย.ป.แยกเฉพาะ อยเู่ สมอ
การดาเนินกลยุทธ์ของกรม อาจจะมีกองร้อยชดุ รบ หลายหน่วยเคลื่อนท่ีเข้าปะทะในเวลาเดียวกัน
แต่หนว่ ยต่างๆ เหลา่ นีไ้ ม่จาเป็นท่จี ะไดร้ บั การสนบั สนุนจาก รอ้ ย.ป.แยกเฉพาะ ทุกหน่วยเสมอไป ผบ.พนั .ป.ชต.
และ ผบ.กรม จะเป็นผู้วิเคราะห์สถานการณ์และกาหนดแนวทางในการใช้ ร้อย.ป.แยกเฉพาะ การยุติภารกิจ
จะต้องได้รบั อนุมตั ิจาก ผบ.กรม เมื่อพิจารณาเห็นวา่ รอ้ ย.ป.แยกเฉพาะ ไม่สามารถที่จะสนบั สนนุ หนว่ ยดาเนิน-
กลยทุ ธ์ ภารกจิ ของหน่วยดาเนินกลยุทธ์เปลย่ี นไปหรือมคี วามตอ้ งการท่ีจะใช้ พัน.ป.ชต. ทงั้ กองพัน สนับสนุน
แผนการดาเนินกลยุทธข์ องกรม
๓-๘
๖. เมื่อ พัน.ป.ชต. ได้จดั ร้อย.ป.แยกเฉพาะ ไปแลว้ น้ัน พนั .ป.ชต. จะไดร้ ับมอบหมายความรับผิดชอบ
ในการยิงสนบั สนุนเพิ่มเติม คอื
๖.๑. การยิง ปกติ พัน.ป.พย. จะเป็นผู้ดาเนินการยิงตามแผนและการยิงเป้าหมายตามเหตุการณ์
ในพื้นทีข่ องกรมท่ีมิได้อยู่ในเขตกองรอ้ ย/ชุดรบ ซึ่งเปน็ หน่วยนาในการเคล่ือนทเี่ ข้าปะทะ แต่อยา่ งไรก็ดีจะต้อง
เตรียมท่จี ะเพ่มิ เตมิ การยงิ ใหแ้ ก่กองรอ้ ย/ชุดรบเหลา่ นน้ั ดว้ ย เพราะเปน็ บรเิ วณท่ีคาดว่าการรบจะเกดิ ขน้ึ
๖.๒. การติดตอ่ ส่อื สาร เพื่อท่ีจะจัดให้มีการตอบสนองการยิงให้ทันเวลา พนั .ป.ชต. อาจกาหนดให้
พัน.ป.พย. ดาเนินการติดต่อโดยตรงกับ ผตน.หรือ ร้อย.ป.แยกเฉพาะ ด้วยความถ่ีของวิทยุของ พัน.ป.ชต.
ทก่ี าหนดเป็นพิเศษสาหรบั ร้อย.ป.แยกเฉพาะ เพราะเป็นการไม่เหมาะทีจ่ ะบีบให้ ผตน.นยส.และ ศอย.รอ้ ย.ป.
แยกเฉพาะ หันไปใช้ความถ่ีของ พัน.ป.พย. แตอ่ ยา่ งไรเมื่อมกี ารปฏบิ ตั ิตามที่กล่าวมานี้ ศอย.พนั .ป.ชต. จะตอ้ ง
เฝา้ ฟงั ข่ายด้วยการใช้วทิ ยขุ อง นตต.พนั .ป.พย. ทีป่ ระจาอยู่ ณ บก.พัน.ป.ชต.
๖.๓. การให้ พัน.ป.พย.จัด ร้อย.ป.แยกเฉพาะน้ัน ตามปกติแล้วมักจะไม่ค่อยกระทา แต่ในกรณีที่
มีความจาเป็นจะต้องปฏิบัติ ฝอ.๓ พัน.ป.ชต. จะต้องทาให้เกิดความเชื่อม่ันว่า ร้อย.ป.แยกเฉพาะ ที่จัดจาก
พัน.ป.พย. ได้รับข้อมูลเป้าหมายที่จาเป็น ได้รับข้อสรุปเก่ียวกับสถานการณ์ทางยุทธวิธี ตลอดจนการมอบ
ขา่ ยความถ่วี ิทยทุ ่ีจาเป็น
การขึ้นสมทบ
การขน้ึ สมทบไม่ถือว่าเป็นภารกิจทางยทุ ธวิธี แต่เป็นสถานภาพทางการบังคับบัญชาอย่างหนึ่งเท่านั้น
หน่วยทหารปืนใหญ่ท่ีจัดข้ึนสมทบให้กับหน่วยกาลังรบหน่วยหน่ึง เพื่อปฏิบัติการยุทธ์นั้น จะอยู่ภายใต้
การบังคับบัญชาของผู้บังคับหน่วยกาลังรบที่ตนมาขึ้นสมทบ และได้รับมอบภารกิจทางยุทธวิธีเพื่อกาหนด
ความรับผิดชอบในการยิงสนับสนุน เพ่ือการสนับสนุนหน่วยกาลังรบต่อไป สาหรับการสมทบหน่วย
ทหารปืนใหญ่สนามให้แก่หน่วยดาเนินกลยุทธ์ระดับกรมแล้ว ปกติจะพยายามหลีกเล่ียง เว้นเสียแต่
มคี วามจาเป็นเก่ียวกับระยะทาง ปัญหาการติดต่อสื่อสารหรือขอ้ ขัดข้องอ่ืนๆ ซ่ึงจะทาให้ บก.ป.หน่วยกาลังรบ
ไม่อาจควบคุมหน่วย ป.เหล่าน้ันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งน้ีเพราะการสมทบย่อมทาให้โครงสร้าง
ในการควบคมุ หนว่ ย ป.ของหนว่ ยกาลงั รบเปลี่ยนไปอันจะเป็นผลเสยี ในด้านการใช้ ป. ตอบสนองความต้องการ
ของผ้บู ังคบั หน่วยกาลงั รบน่ันเอง
๔-๑
บทที่ ๔
การจัดทหารปืนใหญ่สนามเข้าทาการรบ
กลา่ วทว่ั ไป
๑. ทหารปืนใหญ่สนามถูกจัดเข้าทาการรบ เพ่ือที่จะตอบสนองการยิงท่ีมีประสิทธิผลอย่างต่อเนื่อง และ
ทันเวลา รวมท้ังการประสานการยิงสนับสนุนกบั องค์การยิงสนับสนุนอื่นๆ ความมุ่งหมายของการจัดทหารปืนใหญ่-
สนาม เข้าทาการรบก็เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นว่า หน่วยทหารปืนใหญ่แต่ละหน่วยอยู่ในการจัดทางยุทธวิธีและ
ได้รับมอบภารกิจทางยุทธวิธี การจัดทหารปืนใหญ่สนามเข้าทาการรบ เสนอแนะโดย ผู้บังคับทหารปืนใหญ่
หนว่ ยกาลังรบ และอนุมัตโิ ดย ผบ.หนว่ ยกาลงั รบภายหลังจากได้วิเคราะห์เรื่องต่างๆ ดังตอ่ ไปนี้แลว้ คือ
๑.๑ ภารกิจของหน่วยกาลงั รบ
๑.๒ แนวความคิดในการปฏิบตั ขิ องผู้บังคบั บญั ชา
๑.๓ จานวนและประเภทของหน่วยปนื ใหญส่ นามที่มีอยู่
๑.๔ แหล่งขา่ วกรองเก่ยี วกับเป้าหมายทมี่ อี ยู่
๑.๕ แผนการปฏบิ ตั ิในอนาคต
๑.๖ จานวนและประเภทขององคก์ ารยงิ สนับสนุนอื่นๆ
๑.๗ สภาพภมู ิประเทศและลมฟา้ อากาศ
๑.๘ ความพรอ้ มรบของหน่วยทหารปืนใหญ่สนาม
๑.๙ พ้ืนทตี่ งั้ ยิงอันเหมาะสมทจ่ี ะหาได้
๑.๑๐ กระสนุ ที่มอี ยู่
๒. การจัดทหารปืนใหญส่ นามเข้าทาการรบเปน็ วธิ ีการทผ่ี ู้บังคับหนว่ ยกาลังรบใช้ ป.สนามเพื่อสนองตอบ
ความต้องการในการสนับสนุนด้วยการยิงให้แก่ตน และให้แก่หน่วยดาเนินกลยุทธ์ของตน วธิ ีการนี้ผู้บังคับหน่วย
กาลังรบจะจัด ป.สนามสนับสนุนหน่วยรองอย่างใกล้ชิดโดยมอบภารกิจ ชต. และ พย. ให้แก่หน่วย ป.สนาม
นอกจากน้ี ผบ.หน่วยกาลังรบยังคงสงวนจานวนหน่วย ป.สนามที่พอเพียงสาหรับควบคุมเอาไว้ใช้อย่างฉับพลัน
เพอ่ื ใชบ้ งั คบั วถิ ีการรบ ณ เวลา และตาบลที่เกิดวิกฤตโดยมอบภารกิจ ชร. และ ชร.- พย. ให้แกห่ นว่ ย ป.สนาม
หลกั มูลฐานในการจัดทหารปืนใหญส่ นามเขา้ ทาการรบ
ในการจัดทหารปืนใหญ่สนามเข้าทาการรบนั้น จะต้องวางหลักมูลฐานต่อไปนี้ให้เป็นไปด้วยความ
เหมาะสม คือ
๑. ควบคุมแบบรวมการไวใ้ ห้มากท่สี ดุ เท่าท่ีจะทาได้
๑.๑ ทหารปืนใหญ่สนามจะมีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อได้มีการควบคุมแบบรวมการไว้ ณ ระดับ
หน่วยสูงสุด โดยให้สอดคล้องกับความสามารถในการยิงสนับสนุนของทหารปืนใหญ่สนามและความต้องการ
ของภารกิจทั้งปวง การควบคุมแบบรวมการของทหารปืนใหญ่สนามจะอานวยให้มีความอ่อนตัวในการใช้
มคี วามสะดวกในการรวมอานาจการยิงและมั่นใจได้ว่าได้จัดการยิงสนับสนุนที่มีประสิทธิภาพให้กับหน่วยรอง
ทุกหน่วยท่ีอยู่ในความรับผิดชอบและแก่หน่วยกาลังรบเป็นส่วนรวมโดยทั่วถึงกัน ภารกิจทางยุทธวิธี
แบบมาตรฐานแต่ละภารกิจ จะแสดงถึงขดี ขนาดของการควบคุมแบบรวมการขนาดหนง่ึ และแสดงถงึ ขดี ขนาด
ของการสนองตอบความต้องการของหน่วยในแนวหน้าขนาดหน่ึงไว้ ขีดขนาดดังกล่าวจะสังเกตได้จากลาดับ
ความเร่งด่วนของการตอบสนองคาขอยิง ดังน้ันจึงต้องมีการรวมการหน่วยไว้เพ่ือสนองตอบความต้องการ
ของผู้บังคับบัญชา และขณะเดียวกันก็ต้องลดขนาดของการรวมการลงไปโดยให้หน่วยบางหน่วยสามารถ
สนองตอบความต้องการของหน่วยดาเนินกลยุทธ์ในแนวหน้าด้วย ขีดขนาดของการควบคุมแบบรวมการ
ยอ่ มเปล่ียนแปลงไปตามสถานการณด์ งั ต่อไปนี้
๔-๒
๑.๑.๑ ในการรบด้วยวิธีรับย่อมต้องการขดี ขนาดของการควบคุมแบบรวมการสงู เพราะขา้ ศึก
เป็นฝ่ายริเร่มิ จึงเปน็ การยากทจ่ี ะคาดคะเนได้ว่าขา้ ศึกจะเข้าโจมตีเมือ่ ใดและท่ีไหน ฉะนัน้ เพอื่ อานวยความสะดวก
ให้กับผู้บังคับหน่วยกาลังรบสามารถบังคับการรบที่อาจคลค่ี ลายข้ึนได้ทุกหนทุกแห่งจึงต้องมั่นใจในความอ่อนตัว
ในการใช้โดยอาศัยวิธีการรวมการควบคุมให้มากข้ึน ขีดขนาดของการควบคุมแบบรวมการสูงกระทาได้
โดยสงวนหน่วยทหารปืนใหญ่ช่วยส่วนรวม และช่วยส่วนรวม-เพิ่มเติมกาลังยิงไว้ให้มีจานวนมากกว่า
หน่วยทหารปนื ใหญช่ ว่ ยโดยตรงและเพิม่ เตมิ กาลงั ยิง
๑.๑.๒ ในการรบด้วยวิธีรุก ขีดขนาดของการควบคุมแบบรวมการจะน้อยลงทั้งนี้ เพราะ
หน่วยกาลังรบที่รับการสนับสนุนเป็นฝ่ายริเร่ิม ผู้บังคับทหารปืนใหญ่สนามหน่วยรองจะได้รับเสรีในการใช้
ปืนใหญ่สนามของตนอย่างกว้างขวางมากข้ึนเพ่ือช่วยเหลือหน่วยในแนวหน้าให้สามารถดารงการริเริ่ม และ
รักษาความหนุนเนื่องในการเข้าตีไว้ ขีดขนาดของการควบคุมแบบรวมการต่าน้ี กระทาได้โดยการจัดหน่วย
ทหารปืนใหญ่สนามช่วยโดยตรงและเพิ่มเตมิ กาลังยิงให้มากกว่า หน่วยทหารปืนใหญ่สนามชว่ ยส่วนรวม และ
หนว่ ยทหารปืนใหญส่ นามช่วยสว่ นรวม-เพ่มิ เตมิ กาลงั ยิง
๑.๒ กองบังคับการทหารปนื ใหญส่ นามหน่วยกาลังรบจะควบคุมหนว่ ยทหารปืนใหญ่สนามหน่วยรอง
ของตน ด้วยขีดขนาดของการควบคุมแบบรวมการที่ลดหลั่นไปตามประเภทของภารกิจซึ่งย่อมทาให้เกิด
ความอ่อนตัวสูงสาหรับการใช้หน่วยต่างๆ เหล่านี้ ดังน้ันจึงพึงละเว้นการสมทบหน่วยทหารปืนใหญ่สนาม
ให้กับหน่วยขนาดกรมดาเนินกลยุทธ์หรือเล็กกว่า นอกจากมีความจาเป็นเก่ียวกับปัญหาด้านระยะทางแล้ว
ปัญหาการติดต่อส่ือสารหรือข้อขัดข้องอ่ืนๆ ก็อาจทาให้กองบังคับการทหารปืนใหญ่สนามหน่วยกาลังรบ
ไม่อาจควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งน้ีเพราะการสมทบย่อมทาให้โครงสร้างของการควบคุมบังคับบัญชา
เปล่ียนไป และยังลดความสามารถของผู้บังคับทหารปืนใหญ่สนามหน่วยกาลังรบในการตอบสนอ ง
ความต้องการของผู้บังคับหน่วยกาลังรบอีกด้วย เพราะจานวนหน่วยทหารปืนใหญ่สนามย่อมลดลง สาหรับ
ผบู้ ังคบั การกรมดาเนินกลยทุ ธน์ ้ัน การสมทบหรอื การช่วยโดยตรงของกองพันทหารปืนใหญ่สนามย่อมใหผ้ ลสาคัญ
เท่าเทียมกัน แต่สาหรับผู้บังคับการกรมทหารปืนใหญ่สนามของกองพลแล้ว การสมทบย่อมส่งผล
กระทบกระเทือนมาก เพราะผู้บังคับการกรมทหารปืนใหญ่สนามของกองพลไม่สามารถควบคุมบังคับบัญชา
หน่วยทหารปนื ใหญ่สนามท่ีไปขึ้นสมทบกรมดาเนินกลยุทธ์ได้อีกต่อไป แต่ถ้ามอบภารกิจช่วยโดยตรงใหผ้ ู้บังคับการ-
กรมทหารปืนใหญ่ของกองพล ยังคงสามารถส่งคาขอยิงไปยังกองพันทหารปืนใหญ่สนามช่วยโดยตรงได้
โดยสามารถกาหนดท่ีต้ังยิงได้เม่ือต้องการและอาจเปล่ียนแปลงภารกิจทางยุทธวิธีเสียใหม่ เพื่อให้สอดคล้อง
กบั สถานการณ์ซึ่งทาให้การใช้หนว่ ยทหารปนื ใหญ่สนามสามารถสนับสนนุ เจตนารมย์ของผบู้ งั คับหนว่ ยกาลังรบ
ไดส้ มบรู ณ์ยิง่ ขึน้
๒. ให้การสนับสนุนของทหารปืนใหญ่สนามอย่างเพียงพอแก่หน่วยดาเนินกลยุทธ์ท่ีเข้าปฏิบัติการ
การมอบภารกิจช่วยโดยตรงให้แก่หน่วยทหารปืนใหญ่สนาม ย่อมทาให้ทหารปืนใหญ่สนามสามารถสนองตอบ
คาขอยิงของหน่วยดาเนินกลยุทธ์ในแนวหน้าได้อย่างสมบูรณ์ โดยปกติแล้วการให้กองพันทหารปืนใหญ่สนาม
หนง่ึ กองพันช่วยโดยตรง ตอ่ กรมดาเนินกลยุทธใ์ นแนวหนา้ หนงึ่ กรมถือว่าเปน็ การเพยี งพอ
๓. วางน้าหนักการยิงให้กับด้านเข้าตีหลักในการรบด้วยวิธีรุกหรือเพิ่ มเติมกาลังยิงให้กับพ้ืนที่
ท่ีล่อแหลมต่ออันตรายมากท่ีสุดในการรบด้วยวิธีรับ เพ่ือให้บรรลุจุดประสงค์น้ี ทหารปืนใหญ่สนามสามารถ
ปฏิบัตไิ ด้ ๓ วธิ คี อื
๓.๑ มอบหน่วยทหารปนื ใหญ่สนามทมี่ ภี ารกจิ เพ่มิ เตมิ กาลงั ยิง หรือชว่ ยส่วนรวม-เพ่มิ เตมิ กาลังยิง
ให้กับด้านท่ตี ้องการเพ่มิ เติมอานาจการยิง
๓.๒ กาหนดที่ตั้งและมอบทิศทางยิงให้กับหน่วยทหารปืนใหญ่สนาม เพื่อให้หน่วยนั้นสามารถ
พงุ่ ความสนใจไปยังพนื้ ที่ที่ตอ้ งการได้
๔-๓
๓.๓ มอบจานวนกระสนุ ใหม้ ากเปน็ พิเศษสาหรบั หน่วยซ่ึงรบั ผิดชอบตอ่ พืน้ ทีท่ ่ีต้องการอานาจการยิง
สนบั สนนุ สูงนน้ั
๔. เก้ือกูลแก่การปฏิบัติการในอนาคต หลักการน้ีช่วยให้การปฏิบัติการในอนาคตเป็นผลสาเร็จและ
ทาให้การปฏิบตั ิจากขน้ั ตอนหนึ่งของการยุทธถ์ งึ อีกข้นั ตอนหน่ึงเป็นไปโดยราบร่นื หลักการนี้จะกระทาได้โดย
๔.๑ การมอบภารกิจทางยุทธวิธีท่ีเหมาะสมให้สอดคล้องกับแนวความคิดในการปฏิบัติการ
ในอนาคตของหน่วยรับการสนับสนุน การออกคาส่ังเตือน "เม่ือสั่ง" จะทาให้หน่วยรับทราบถึงความต้องการ
ทางการยิงสนับสนุนในอนาคตได้ด้วย ตัวอย่างเช่น กองพันทหารปืนใหญ่สนามช่วยโดยตรงที่เคยช่วยโดยตรง
กรมดาเนนิ กลยุทธ์ ซ่ึงขณะนี้เป็นกองหนนุ อาจได้รับมอบภารกิจชว่ ยส่วนรวม-เพ่ิมเตมิ กาลังยิง ใหแ้ ก่กองพัน-
ทหารปืนใหญ่สนามทก่ี าลงั ช่วยโดยตรงกรมดาเนินกลยุทธ์ในแนวหน้าได้ โดยการออกคาส่ังเตอื นใหช้ ่วยโดยตรง
กรมในกองหนนุ เมื่อสัง่ เชน่ ป.พัน.๓๑ : ชร.- พย. ป.พนั . ๑ ; ชต.ร.๓๑ เม่ือสั่ง
๔.๒ การกาหนดท่ีตั้งยงิ ให้สอดคล้องกับการปฏิบัตกิ ารในอนาคตของหน่วยรบั การสนับสนนุ
๔.๓ การจากดั หรอื เพม่ิ เติมกระสุนเพื่อให้มีกระสนุ ไวม้ ากพอสาหรบั การปฏบิ ตั กิ ารในอนาคต
๕. ให้มีการสนับสนุนจากหน่วยทหารปืนใหญ่สนามโดยทันทีซ่ึงผู้บังคับบัญชาสามารถใช้บังคับวิถี
การรบได้ ผ้บู งั คับทหารปืนใหญส่ นามหนว่ ยกาลังรบจะสงวนอาวธุ ยงิ สนบั สนุนของทหารปนื ใหญส่ นามให้มีไวใ้ ช้
ไดท้ ันทีเพ่ือให้ผู้บังคบั หน่วยกาลงั รบสามารถบงั คบั วิถกี ารรบได้ ซึ่งกระทาได้โดยมอบภารกจิ ชว่ ยส่วนรวม หรือ
ช่วยส่วนรวม-เพิ่มเติมกาลังยิง ให้กับหน่วยทหารปืนใหญ่สนามที่ต้องการสงวนไว้หน่วยเหล่านี้จะสนองตอบ
ความต้องการทางการยิงสนับสนุนของผู้บังคับหน่วยกาลังรบโดยตรง เพราะกองบังคับการทหารปืนใหญ่
หนว่ ยกาลังรบมีลาดับความเรง่ ด่วนของภารกจิ ยิงเป็นหน่วยแรก
ขอ้ พจิ ารณาที่ใช้กบั ขั้นต่างๆ ของทหารปืนใหญโ่ ดยเฉพาะ
ข้อพจิ ารณาทีส่ าคญั ทีใ่ ช้กับข้ันตอนต่างๆ ของทหารปืนใหญโ่ ดยเฉพาะมดี ังต่อไปนี้
๑. ปืนใหญ่กองพลจะต้องจัดให้มีการยิงสนับสนุน แก่หน่วยดาเนินกลยุทธ์อย่างใกล้ชิด และต่อเน่ือง
อยู่เสมอ และทาการยิงปืนใหญ่ข้าศึก, ทาการยิงปืนใหญ่ป้องกันภัยทางอากาศข้าศึก, ทาการยิงรบกวน และ
ขัดขวาง ตลอดท้งั โปรแกรมการยงิ อ่นื ๆ ท่ีตอ้ งการเพอ่ื สนบั สนนุ หนว่ ยกาลังรบทด่ี าเนนิ กลยทุ ธน์ น้ั
๒. ปืนใหญ่กองทัพน้อยทาการเพิ่มความลึกในการรบ เพิ่มเติมการยิงสนับสนุนให้กับปืนใหญ่กองพล
และทาการยิงปนื ใหญข่ า้ ศึกเปน็ กลมุ่ ก้อนภายใตก้ ารควบคมุ ของกองทัพนอ้ ยในการสนบั สนนุ การยุทธ์น้นั ๆ
๓. ปืนใหญ่กองทัพทาการเพ่ิมความลึกในการรบ เพิ่มเติมการยิงสนับสนุนของปืนใหญ่ท่ีดาเนินการ
โดยปืนใหญก่ องทพั น้อย ภายใต้การควบคุมของกองทัพในการสนบั สนุนการยุทธ์น้ันๆ
๓.๑ กองพันทหารปืนใหญ่ประเภทลากล้องของกองทัพนั้น โดยปกติจะจัดสมทบให้กับกองทัพน้อย
และกองทพั น้อยจะจัดสมทบใหก้ บั กรมทหารปนื ใหญ่หรือกองพลตอ่ ไปอกี
๓.๒ กองพันทหารปืนใหญข่ ปี นาวุธระยะยงิ ใกลข้ องกองทพั โดยปกติจะจัดสมทบใหก้ บั กองทัพนอ้ ย
และอาจจัดกองพันดงั กล่าวข้นึ สมทบใหก้ ับกรมทหารปนื ใหญห่ รือกองพลตอ่ ไปอีก
๓.๓ ส่วนหน่วยขีปนาวุธระยะยงิ ไกลของกองทัพนน้ั ตามปกติจะยังคงอยู่ภายใตก้ ารควบคุมของปืนใหญ่
กองทัพ
การจดั พวกทหารปืนใหญ่
ในกรณที ี่ไมม่ กี รมทหารปืนใหญห่ รือกองบงั คับการทางยทุ ธวิธีเหมาะสม ก็อาจใหก้ องพันหนึง่ ไปขึ้นสมทบ
กับอีกกองพันหนึ่งแล้วจัดเป็นพวกกองพันปืนใหญ่ข้ึน ส่วนพวกกองร้อยปืนใหญ่ก็อาจจัดขึ้นได้เช่นเดียวกัน
เม่ือสถานการณ์บังคับให้กระทาการจัดขึ้นเป็นพวกทหารปืนใหญ่กระทาเม่ือต้องการให้หน่วยหนึ่ง มีขีดขนาด
ในการควบคมุ เหนืออกี หนว่ ยหนึ่งมากกวา่ ที่จะมอบภารกจิ เพม่ิ เตมิ กาลังยิงให้กับหนว่ ยนนั้ เทา่ น้ัน พวกทหารปืนใหญ่
๔-๔
จดั ขึ้นเพียงช่ัวระยะเวลาจากัดหรือจดั ข้ึนเพ่ือปฏิบัติการรบในห้วงเวลานั้นเท่านั้น เม่ือจะมีการจัดพวกกองพัน
ทหารปืนใหญ่ข้นึ แลว้ วธิ กี ารปฏิบตั ิก็คือ
๑. ผ้มู อี านาจในการจัดต้ังพวกกองพนั จะเปน็ ผ้กู าหนดตัวผู้บงั คบั พวกกองพันนัน้
๒. การกาหนดหมายเลขพวกกองพนั ปืนใหญ่ คงใชห้ มายเลขตามกองพันของผูบ้ งั คบั พวกกองพันน่ันเอง
ตัวอยา่ ง :
พวก พนั .ป.ที่ ๑ : ชต.ฉก.ร.๑
ป.พัน.๑
ป.พนั .๗๑๑
(ผบ.คอื ผบ.ป.พัน.๑)
สรุปภารกิจทางยทุ ธวธิ แี ละหลักมูลฐานในการจัดปนื ใหญ่เขา้ ทาการรบ
๑. ทหารปืนใหญ่เปน็ องคก์ ารที่สาคัญในสว่ นการยิงสนับสนุนของอานาจกาลังรบ (COMBAT POWER)
๒. ภารกิจโดยท่วั ไปของทหารปืนใหญใ่ นการรบกค็ อื การสนับสนุนหนว่ ยดาเนินกลยทุ ธด์ ้วยการยิง
๓. ทหารปืนใหญ่จะปฏิบัติพันธกจิ ของตนได้อย่างดที ่ีสุด เม่ืออยู่ภายใต้กองบังคับการหนึ่งซึ่งสามารถ
ควบคุมการยิงของหน่วย ป.หลายหน่วยได้ หมายความว่าควรที่จะควบคุมหน่วยปืนใหญ่เป็นแบบรวมการ
ไว้มากกว่า
๔. การท่ีจะบรรลุผลสาเร็จในการควบคุมแบบรวมการได้นั้นก็โดยการมอบภารกิจทางยุทธวิธี
แบบมาตรฐานอย่างใดอย่างหน่งึ ให้
๕. เมื่อไม่สามารถจะคงการควบคุมหน่วยทหารปืนใหญ่หน่วยหน่ึงได้ กค็ วรให้หนว่ ยทหารปนื ใหญ่น้ัน
ข้นึ สมทบเสีย
๖. บทบาทของทหารปืนใหญ่นั้นจะต้องเข้าใจว่า อานาจในการทาลายน้ันขึ้นอยู่กับการสนับสนุน
หน่วยดาเนินกลยทุ ธโ์ ดยใกล้ชิดและตอ่ เน่อื งตลอดเวลา ผู้บงั คบั บญั ชายอ่ มใช้ทหารปืนใหญ่เพ่ิมความลึกให้กับ
เขตหนา้ ของกาลังของตนไดด้ ว้ ยการยงิ ระยะไกลนั่นเอง
ตัวอย่างการจัดทหารปืนใหญส่ นามเขา้ ทาการรบ
๑. สถานการณ์ พล.๑ จะทาการเข้าตีทางทิศเหนือ โดยมี ร.๑ อยู่ทางซ้าย, ร.๑๑ อยู่ทางขวา และ
ร.๓๑ เป็นกองหนุน ในการปฏบิ ัติคร้ังนี้กาหนดให้ ร.๑ เป็นส่วนเข้าตีหลัก เพ่ือยึด ทม.๑, ร.๑๑ เป็นส่วนเข้าตี
สนับสนุน เพ่ือยึด ทม.๒, ร.๓๑ เคลื่อนที่ตาม ร.๑ เตรียมตีผ่านเพ่ือขยายผล เมื่อ ร.๑ ยดึ ทม.๑ ได้, ทบ. ได้สมทบ
พัน.ป. ขนาด ๑๕๕ (ลจ.) ให้แก่ พล.๑ จานวน ๒ กองพัน หน่วยทหารปืนใหญ่ท้ังส้ินที่มีอยู่ใน ป.๑ ขณะนี้
ได้แก่
- ป.พัน.๑ (๑๐๕ ลจ.) - ปกติสนบั สนุน ร.๑
- ป.พัน.๑๑ (๑๐๕ ลจ.) - ปกตสิ นับสนุน ร.๑๑
- ป.พนั .๓๑ (๑๐๕ ลจ.) - ปกตสิ นับสนุน ร.๓๑
- ป.พัน.๑๐๑ (๑๕๕ ลจ.)
- ป.พนั .๗๑๑ (๑๕๕ ลจ.) - ได้รับการสมทบจาก ทบ.
- ป.พนั .๗๑๒ (๑๕๕ ลจ.) - ได้รับการสมทบจาก ทบ.
๔-๕
ทม. ๑ ทม. ๒
๑ ๑๑
X X
X
๒ ๑ ๑ X ๒
X
X
นต. นต.
๑ (ชต.) ๑๑ (ชต.)
๑๐๕ (ลจ.) ๑๐๕ (ลจ.)
๑๐๑ (พย.) ๗๑๑ (พย.)
๑๕๕ (ลจ.) ๑๕๕ (ลจ.)
๓๑ (ชร.-พย.)
๑๐๕ (ลจ.)
๗๑๒ (ชร.)
๑๕๕ (ลจ.)
ร. ๓๑
ภาพแสดงการจดั ป. เข้าทาการรบแบบหน่ึง
๒. การจดั ทหารปืนใหญ่เขา้ ทาการรบ
- ป.พัน.๑ (๑๐๕ ลจ.) : ชต. ร.๑
- ป.พัน.๑๑ (๑๐๕ ลจ.) : ชต. ร.๑๑
- ป.พัน.๓๑ (๑๐๕ ลจ.) : ชร. - พย. ป.พนั .๑ ; ใช้กระสนุ ไม่เกิน ๓๐ % ; ชต.ร.๓๑ เมอื่ สง่ั
- ป.พัน.๑๐๑ (๑๕๕ ลจ.) : พย. ป.พัน.๑ ; พย.ป.พนั .๓๑ เมื่อสั่ง
- ป.พัน.๗๑๑ (๑๕๕ ลจ.) : พย. ป.พนั .๑๑
- ป.พัน.๗๑๒ (๑๕๕ ลจ.) : ชร.
๔-๖
๓. ถกแถลงการจัด ป. เข้าทาการรบ
๓.๑ ควบคุมแบบรวมการไว้ให้มากที่สุดในการปฏิบัติการของ พล.๑ เป็นการปฏิบัติการรบ
ด้วยวิธีรุก ขีดขนาดของการควบคุม ป.แบบรวมการจะค่อนข้างต่า ดังจะเห็นได้จากการจดั หน่วย ป.ชต. และ
พย. จากจานวน พัน.ป. ๖ กองพัน จะเห็นว่า ๒ พัน.ป. ให้ ชต.และ ๒ พัน.ป. ให้ พย., ๑ พัน.ป. ให้ ชร.- พย.
และ ๑ พนั .ป. ให้ ชร. จงึ เป็นการสมเหตผุ ล
๓.๒ ให้การสนับสนุนของทหารปืนใหญ่สนามอย่างเพียงพอแก่หน่วยดาเนินกลยุทธ์ที่เข้า
ปฏิบัตกิ าร
การจดั ให้มี พัน.ป.ชต.หนงึ่ กองพนั สนับสนนุ กรม ร. ที่เขา้ ปฏิบัติการเป็นการสนบั สนนุ อย่างน้อย
ทสี่ ุดทจ่ี ะตอ้ งจดั ใหม้ ีขน้ึ นอกจากนี้ กรม ร.ทีท่ าการเข้าตหี ลักยังไดม้ ีการเพ่ิมเตมิ กาลังยิงจาก พัน.ป.อกี ๑ กองพัน
และได้รับความเร่งด่วนในการตอบสนองการยิงเป็นลาดับสอง (ชร.- พย.) จาก พัน.ป. อีก ๑ กองพัน สาหรับ
กรม ร. ท่ีเป็นส่วนเข้าตีสนับสนุนจะได้รับ พัน.ป.๑ กองพัน เพิ่มเติมกาลังยิงให้ จากการจัดท่ีกล่าวจะเห็นว่า
เป็นการจดั ท่ีสามารถสนับสนุนการยิงอย่างเพียงพอในการเรมิ่ การยทุ ธ์
๓.๓ วางนา้ หนักการยงิ สาหรับดา้ นเขา้ ตหี ลกั
การสนบั สนนุ ถกู วางน้าหนักการยงิ สาหรับทิศทางเขา้ ตหี ลักดงั จะเหน็ ว่า ป.พัน. ๑ : ชต.ร.๑
ป.พัน.๑๐๑ : พย.ป.พัน.๑, ป.พัน.๓๑ : ชร.- พย.ป.พัน.๑ และนอกจากน้ีอาจกาหนดท่ีตั้งให้ ป.พัน.๗๑๒ ซึ่งใช้ ชร.
สามารถเพิ่มเตมิ การยิงในพ้ืนท่ปี ฏิบตั ิการของ ร.๑ อีกด้วยก็ได้
๓.๔ เกอ้ื กูลในการปฏิบัติการในอนาคต
การให้ ป.พัน.๓๑ : ชร.- พย. ป.พัน.๑ แทนที่จะให้ พย.ป.พัน.๑ จะทาให้สามารถสนับสนุน
ภารกิจ ชต.ร.๓๑ "เม่ือสั่ง" ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้การกาหนดการใช้กระสุนเป็นวิธีที่เหมาะที่จะเตรียม
กระสุนไว้สาหรับการสนับสนุนในอนาคต การใช้คาสั่งเตือนแก่ ป.พัน.๓๑ และ ป.พัน.๑๐๑ เป็นการวางแผน
ที่ทาให้การแปลงสภาพหน่วยเหลา่ นไ้ี ปสนบั สนุนการปฏบิ ัตกิ ารใหม่เป็นไปอยา่ งรวดเร็วและมีระเบียบ
๓.๕ ให้มกี ารสนบั สนนุ จากทหารปืนใหญ่สนามโดยทันที ซ่ึงผู้บังคับบญั ชาสามารถใชบ้ งั คบั วถิ กี ารรบ
ได้ผู้บงั คับหน่วยกาลังรบได้รบั การตอบสนองคาขอยิงเปน็ ลาดับแรกจาก ป.พนั .๓๑ และ ป.พัน.๗๑๒ เนือ่ งจาก
เปน็ หนว่ ยทหารปืนใหญ่ ชร.- พย. และ ชร. ดงั น้ันจะเห็นวา่ ผบู้ งั คับหน่วยกาลงั รบสามารถที่จะใช้การยิงสนบั สนุน
จากทหารปนื ใหญไ่ ดท้ นั ทีทต่ี ้องการ
๕-๑
บทท่ี ๕
การประสานการยงิ สนับสนุน
กล่าวท่วั ไป
ระบบอาวุธยิงสนับสนุน สามารถทาการยิงสนับสนุนอย่างใกล้ชิดให้แก่หน่วยดาเนินกลยุทธ์และตลอดจน
การต่อตา้ นการยงิ สนบั สนุนของข้าศึกด้วย
ผูบ้ งั คับบญั ชากับการยงิ สนบั สนุน ผบู้ ังคบั หนว่ ยกาลังรบที่สามารถ จะผสมผสานการยิงสนับสนนุ ท้ังสน้ิ เขา้ กับ
การดาเนนิ กลยุทธ์ เพื่อให้ได้รบั อานาจกาลังรบสงู สุด ในขณะท่ีเขากาลังพฒั นาแผนการใชห้ น่วยดาเนินกลยุทธน์ ั้น
เขาก็จะต้องนึกคิดไปด้วยว่าเขาจะใช้อานาจการยิงสนับสนุนอย่างไร? เป้าหมายใดจะใช้อาวุธยิงสนับสนุน
ทาการโจมตีด้วยโดยพิจารณาจากอาวธุ ยงิ สนับสนุนท้ังสิ้นท่ีให้การสนับสนุน ผู้บังคับหน่วยกาลงั รบไม่ควรที่จะ
ปักใจในการดาเนินกลยุทธ์หรือการยงิ สนบั สนนุ อย่างใดอย่างหน่งึ เพียงอย่างเดยี ว
อานาจกาลังรบนนั้ เป็นผลรวมจากอานาจกาลงั รบทีม่ ตี วั ตนและไมม่ ตี ัวตน อานาจกาลังรบท่มี ตี ัวตนนั้น
อาจเกิดขึ้นได้ด้วยการสนธิการข่าวกรอง, เคร่ืองกีดขวาง และการสนับสนุนการช่วยรบอย่างมีประสิทธิภาพ
แต่ที่ถือว่าเป็นองค์ประกอบใหญ่จริงๆ แล้วน้ัน ได้แก่อานาจการยิงกับการดาเนินกลยุทธ์ ท้ังสองส่วนรวมกัน
เปน็ อานาจกาลังรบท่มี ีตวั ตน อานาจการยิงน้ันรวมเอาการยงิ ของอาวุธทุกชนิดทัง้ อาวุธยิงเล็งตรง และอาวุธยิง-
เล็งจาลองที่จัดให้ผู้บังคับหน่วยกาลังรบน้ันในจานวนนี้นั้น ถือว่าอาวุธยิงเล็งจาลองเป็นอานาจส่วนใหญ่ของ
การยิงสนับสนุน อาวุธยิงเล็งจาลองนี้มีระบบที่จะทางานอย่างสัมพันธ์กันเพ่ือสนองตอบความต้องการของ
ผบ.หนว่ ยกาลังรบ ระบบดังกลา่ วนมี้ ีอยู่ ๓ ระบบทสี่ าคัญ ไดแ้ ก่
๑. ระบบค้นหาเปา้ หมาย จะเป็นส่วนท่กี าหนดทต่ี ง้ั ของเป้าหมายซ่ึงถือวา่ เป็นหูและเปน็ ตาของระบบ
อาวธุ ยงิ เล็งจาลอง
๒. ระบบอาวธุ และกระสุน ส่วนนเี้ ปน็ สว่ นโจมตเี ป้าหมายหรอื เป็นส่วนกาลังของระบบน่นั เอง
๓. ระบบควบคมุ , บงั คับบัญชาและประสานงาน ถอื ได้ว่าเปน็ สว่ นสมองของระบบอาวุธท่ีอานวยการ
ปฏบิ ัตทิ ั้งทางยทุ ธวิธี และเทคนคิ อันจาเปน็ เพ่อื ใหก้ ารโจมตเี ปา้ หมายเปน็ ไปอยา่ งรวดเร็วและมีประสิทธภิ าพ
มีเครื่องมือหลายชนิดด้วยกันที่สามารถกาหนดเป้าหมาย เพื่อโจมตีด้วยอาวุธยิงสนับสนุน ซึ่งเป็น
เครื่องมือของระบบอาวุธยิงสนับสนุนนั้นๆ นั่นเอง เช่น ผู้ควบคุมอากาศยานหน้าของ ทอ., ผู้ตรวจการณ์,
เรดาร์กาหนดท่ีตั้งด้วยแสงและเสียงของ ป.สนาม และผู้ตรวจการณ์ปืนเรือ เป็นต้น นอกจากน้ันอาจจะได้
เป้าหมายมาจากสว่ นข่าวกรองของหนว่ ยดาเนนิ กลยุทธ์
ระบบอาวุธที่จะใช้โจมตเี ปา้ หมาย มอี ยู่หลายประเภทด้วยกัน ตามปกตทิ ี่จัดสนับสนุนได้แก่
- เคร่ืองยงิ ลูกระเบดิ
- ปนื ใหญ่สนาม
- การสนบั สนุนทางอากาศใกล้ชดิ ของ ทอ.
- ปืนเรือ
ในบางสถานการณ์ที่จาเป็นหรือเม่ือผู้บังคับบัญชาส่ังการ ก็อาจได้อานาจการยิงจากระบบอาวุธอื่น
มาเพ่มิ เตมิ ระบบอาวธุ ยงิ สนบั สนุนดงั กล่าว ไดแ้ ก่
- ฮ.โจมตใี นอตั ราหรือทม่ี าสมทบ
- อาวธุ ปตอ.
- รถถังเมือ่ นามาใช้ยิงเลง็ จาลอง เป็นต้น
๕-๒
จากเป้าหมายจานวนมากที่หลั่งไหลเข้าสู่ระบบอาวุธต่างๆ ทั้งในระดับ และหนทางต่างๆ กันนั้น ก็มี
อาวุธและกระสุนอันแตกต่างกนั หลายชนิดท่ใี ช้โจมตี สิง่ เหลา่ น้ีต้องการการควบคุมและประสานงานเป็นอยา่ งดี
ในแตล่ ะสว่ นของระบบอาวุธยิงสนบั สนุนจะต้องทาหน้าทร่ี ่วมกันกับส่วนอนื่ ๆ ได้ หรอื อาจมีบางคน ณ ระดับหน่ึง
จะต้องสามารถกาหนดงานให้กับส่วนอ่ืนๆ ได้ ซ่ึงเรียกว่า การวางแผนและการประสาน ถือว่าเป็นกรรมวิธี
ทลี่ ะเอียดและซับซอ้ นที่ต้องการผูเ้ ชีย่ วชาญอนั ได้แก่ "ผู้ประสานการยิงสนบั สนุนนน่ั เอง"
ระบบอาวธุ ยิงสนบั สนนุ
ระบบคน้ หาเปา้ หมาย ระบบอาวธุ และกระสนุ ระบบควบคมุ และประสาน
ผคู้ วบคุมอากาศยานหน้า เคร่ืองยิงลูกระเบิด แนวทางปฏิบตั ิของผู้บังคบั บญั ชา
ผู้ตรวจการณ์ ป.สนาม ป.สนาม องค์การวางแผนและประสานการยงิ
ผู้ตรวจการณ์ ค. การสนบั สนนุ ทางอากาศใกลช้ ิด สนับสนนุ
ผ้ตู รวจการณ์ ปนื เรือ ปนื เรอื การวางแผนและประสาน
ฯลฯ
แสง, เสียง, เรดาร์ ฮ.โจมตี
เค ร่ือ งบิ น เล็ ก ค ว บ คุ ม ปตอ.
รถถงั
ระยะไกล
หนว่ ยลาดตระเวน
ผูป้ ระสานการยงิ สนบั สนุน
ผู้ประสานการยิงสนับสนุนในระดบั หน่วยต่างๆ ต้งั แต่กรมดาเนินกลยุทธ์ขึ้นไป คือ ผู้บงั คบั ทหารปนื ใหญ่
ของหน่วยน้ันน่ันเอง (ผบ.พัน.ป.ชต. ในระดับกรมดาเนินกลยุทธ์, ผบ.กรม ป. ในระดับกองพล และ ผบ.ป.
ทัพน้อย ในระดับกองทัพน้อย) แต่ผู้ประสานการยิงสนับสนุนระดับกองพันดาเนินกลยุทธ์ ได้แก่ นยส.ของ
หน่วยปืนใหญ่ทุกระดับที่ได้รับการสมทบ ผปยส. จะเป็นผู้ช่วยเหลือผู้บังคับหน่วยกาลังรบในการทาหน้าที่
วางแผนและประสานการยิงสนับสนุน เช่น การแบ่งมอบอาวุธยิงสนับสนุน, การกาหนดความเร่งด่วน และ
เสนอแนะการยิงสนับสนุนต่างๆ ตลอดจนอานวยการยิงต่อต้าน ป.ถ้าไม่คานึงถึงเทคนิคต่างๆ ที่จะใช้แล้ว
ผปยส.ควรจะตอ้ งเรยี นรูแ้ ละคุน้ เคยกบั สิ่งต่อไปนก้ี ่อนจงึ จะสามารถทางานไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ
๑. ขีดความสามารถ, ขีดจากัด, ข้อพิจารณาในการใช้ และช่องทางการติดต่อส่ือสารของแต่ละระบบ
อาวธุ ยิงสนบั สนุน
๒. ทาอย่างไรจึงจะทาการโจมตีเป้าหมายหนึ่งดว้ ยระบบอาวุธหลายๆ ชนิด โดยไม่ต้องหยุดการยิงของ
ระบบใดระบบหน่ึง
๓. ระบบอาวุธใดที่มีประสิทธิภาพท่ีสุดในการโจมตีเป้าหมายในรูปของความทันท่วงที, อานาจการ
ทาลาย และความอย่รู อด
๔. ทาอย่างไรจึงจะทาการประสานได้อย่างรวดเรว็ และง่ายโดยพยายามตดั ข้ันตอนท่ยี ืดเยือ้ ออกไป
๕. สถานการณฝ์ ่ายข้าศกึ , ขีดความสามารถ และความลอ่ แหลมต่างๆ
๖. สว่ นข่าวกรองและแหลง่ ข่าวของแต่ละระดับหน่วยที่สามารถช่วยพัฒนาเปา้ หมาย และการตอ่ ต้านการยิง
ของข้าศกึ ได้
๗. ภารกจิ ของหนว่ ยและเจตนารมณ์ของผู้บังคับหน่วยดาเนินกลยุทธใ์ นการใช้อานาจกาลังรบ
๕-๓
ความรบั ผดิ ชอบของผปู้ ระสานการยิงสนับสนุน
๑. จัดตัง้ และกากับดแู ลองค์กรวางแผนและประสานการยงิ สนับสนนุ
๒. ให้คาปรกึ ษา ผบ.หน่วยกาลงั รบ/ดาเนินกลยทุ ธใ์ นทุกเรอ่ื งทเี่ กยี่ วกบั การยงิ สนับสนนุ เช่น
๒.๑ การแบ่งมอบอาวธุ ยิงสนับสนุน
๒.๒ การกาหนดลาดบั ความเร่งด่วนในการยงิ สนบั สนุน
๒.๓ จัดการในเรื่องการยงิ ต่อต้าน ป.
๓. ใหค้ าปรกึ ษา ผบ.หน่วยกาลงั รบ/ดาเนนิ กลยุทธเ์ กีย่ วกบั การคน้ หาเป้าหมาย
๔. ทาการวเิ คราะหเ์ ป้าหมาย
๕. จดั ทาแผนการยิงสนบั สนุน
๖. เสนอแนะการใช้มาตรการประสานการยงิ สนับสนนุ
๗. แก้ปัญหาขอ้ ขัดแย้งและการซา้ ซอ้ นต่างๆ ในระหว่างระบบอาวธุ ยงิ สนบั สนนุ ดว้ ยกนั
๕-๔
เครือ่ งยิงลูกระเบดิ (ค.)
กลา่ วทั่วไป
ค.เปน็ อาวธุ สนบั สนุนในอตั ราของหนว่ ยกาลังรบ ไดแ้ ก่
๑. ค.๖๐ มม. จานวน ๓ หมู่ (มว.ค.๖๐ มม.) ในกองรอ้ ยอาวธุ เบา
๒. ค.๘๑ มม. จานวน ๓ หมู่ (ตอน ค.๘๑ มม.) ในหมวดอาวธุ หนกั กองรอ้ ยสนบั สนนุ การรบของ
กองพันดาเนินกลยทุ ธ์
๓. ค.๑๒๐ มม.จานวน ๑๒ หมู่ (๓ มว.ๆ ละ ๔ หม)ู่ ในกองร้อยเคร่ืองยิงหนักของกรมดาเนนิ กลยุทธ์
ตารางแสดงคุณลกั ษณะของ ค.
อาวุธ ระยะยิง (ม.) กระสุน อตั ราการยงิ (นัด/นาที)
ค.๖๐ มม ใกลส้ ุด ไกลสดุ ต่อเนื่อง สงู สดุ
๔๕ ๑,๗๗๑ รบ.
ค.๘๑ มม. ๓๔ ๑,๔๔๘ ควัน ๑๘ ๓๐
๓๗๕ ๙๙๘ สอ่ งแสง
ค.๑๐๗ มม. ๗๐ ๔,๕๙๕ รบ. ๘ ๓๐
๗๐ ๔,๕๙๕ ควนั และขน้ึ อย่กู ับส่วนบรรจุ
ค.๑๒๐ มม. ๑๐๐ ๒,๙๕๐ ส่องแสง
๙๒๐ ๕,๖๕๐ รบ. ๒ ๒๐
๙๒๐ ๕,๖๕๐ ควนั
๔๐๐ ๕,๔๙๐ ส่องแสง ๕ ๑๐
รบ.
๖,๕๐๐
ขดี ความสามารถและขีดจากัดของ ค.
ค. เป็นอาวุธที่เหมาะในการโจมตีเป้าหมายซึ่งเป็นหน่วยทหารในท่ีโล่งแจ้ง ที่ตั้งอาวุธซ่ึงไม่มีท่ีกาบัง
เหนือศีรษะท่มี ่ันคง, กองกระสนุ , สป. และทีร่ วมพล
๑. ขดี ความสามารถของ ค.
๑.๑ ยิงควันฉับพลัน ยงิ สอ่ งสวา่ งได้
๑.๒ ยงิ ข่มหรือทาลายเป้าหมายเป็นพื้นทแี่ ละเป็นจุดได้
๑.๓ ยงิ ดว้ ยอัตราการยิงท่ีสงู เพ่อื ให้ไดม้ าซ่งึ ความเหนือกวา่ ของอานาจการยงิ
๑.๔ ยงิ เปา้ หมายท่อี ยู่หลังเนินหรอื ในช่องคูได้
๑.๕ ยงิ กระสุนเคมีไดใ้ นกรณีของ ค.๑๐๗ มม.
๒. ขีดจากดั ของ ค.
๒.๑ ระยะยงิ สั้นกว่า ป.สนามมาก
๒.๒ ความแม่นยาลดลงเม่ือลมแรง
๒.๓ ถูกขา้ ศกึ ใชเ้ รดารต์ รวจจับไดง้ ่าย เนอ่ื งจากมุมยงิ สงู และเวลาแล่นนาน
๒.๔ นากระสุนไปได้จากัดทาให้ไม่สามารถยงิ อย่างหนาแน่นไดน้ าน
๕-๕
ภารกิจทางยทุ ธวธิ ี
ปกติหน่วย ค. จะได้รับภารกิจช่วยส่วนรวมให้แก่หน่วยกาลังรบ มีโอกาสน้อยมากท่ีจะไดร้ ับภารกิจ ชต.
หรือสมทบให้กับหน่วยรองหรือส่วนใดส่วนหน่ึงของหน่วยกาลังรบนั้น ผู้บังคับบัญชาอาจเพิ่มน้าหนัก
ในการสนบั สนุนใหก้ บั หนว่ ยรองของตนไดโ้ ดยกาหนดความเร่งดว่ นในการยงิ ให้กบั หนว่ ยน้ัน อย่างไรก็ดภี ารกิจ ชร.
ทาให้มีความอ่อนตัวท่ีสุดและสามารถจะรวมอานาจการยิงได้ บางครง้ั ตอน ค.๘๑ ของ พัน.ร. อาจได้รับภารกิจ ชต.
ให้ ร้อย.ร. ร้อยใดร้อยหนึ่งก็ได้ ถ้า พัน.ร. ได้รับการสนับสนุนจาก ป.เพ่ิมเติม ทาให้สามารถควบคุม ค.
แบบแยกการได้ ในการรบที่เคลื่อนที่เร็ว เช่น การรุกโดยการส่งกาลังทางอากาศหรือเคลื่อนท่ีทางอากาศ
ในข้ันแรกของการรุก ผู้บังคับบัญชาอาจสมทบ ค. ให้กับหน่วยรองของตน อย่างไรก็ดีจะต้องเลิกสมทบและ
จดั การควบคุมแบบรวมการ (ชร.) โดยเร็วท่สี ุด
๕-๖
การสนับสนุนทางอากาศใกลช้ ดิ (สอก.)
กลา่ วทว่ั ไป
สอก. คือ การปฏิบัติการทางอากาศ หรือการโจมตีของอากาศยานท่ีกระทาต่อเป้าหมายของข้าศึก
บนพื้นดินหรือพื้นน้า ท่ีต้ังอยู่ใกล้ชิดกับกาลังฝ่ายเรา ด้วยการใช้อานาจการยิงให้ประสานกันอย่างแน่นแฟ้น
กบั อานาจการยงิ และการดาเนินกลยุทธข์ องกาลงั ภาคพนื้ ท่ีได้รับการสนบั สนนุ จะใช้ สอก. เมอ่ื ไมส่ ามารถโจมตี
เปา้ หมายอยา่ งได้ผลโดยใช้อาวุธยงิ สนบั สนุนทางภาคพื้นหรือเมอ่ื ต้องการการยงิ สนบั สนุนเพ่ิมเติม เพอ่ื ให้ไดผ้ ล
ทีต่ อ้ งการ ผบ. หนว่ ยภาคพื้นจะกาหนดผลทต่ี อ้ งการจาก สอก. โดยกาหนดวา่ "ทาลาย, ตัดรอนกาลงั หรอื ขม่ ”
สอก. มลี ักษณะการปฏบิ ตั ิการดังน้ี
- สนบั สนุนหนว่ ยทกี่ าลงั จะเขา้ ปะทะ, กาลงั ปะทะ หรอื ผละจากการปะทะใหม่ๆ
- โจมตีเป้าหมายให้อ่อนกาลังก่อนการรุกคืบหน้าของหน่วยผิวพ้ืน รวมท้ังบริเวณพ้ืนที่ส่งลง หรือ
บริเวณท่ีจะทาการยกพลข้นึ บก
- คุ้มกนั ขบวนเคล่ือนย้าย, ขบวนเฮลคิ อปเตอร์ หรือขบวนเรอื
- โจมตีสว่ นตดิ ตามของข้าศกึ
- เป้าหมายที่จะใช้ สอก.อย่างได้ผลสูง ได้แก่ เป้าหมายที่มีเกราะกาบัง, เป้าหมายเคล่ือนท่ี,
หน่วยทหารทม่ี ีการรวมกนั อยู่เปน็ จานวนมาก, เป้าหมายท่อี ยูป่ ระจาที่ และหนว่ ยรถถังหรอื ยานเกราะ
ขดี ความสามารถและขีดจากดั ของ สอก.
๑.ขีดความสามารถของ สอก.
มีความเร็วสูงและระยะปฏิบัติการไกล ความเร็ว และระยะปฏิบัติการของอากาศยานสมัยใหม่
ทาให้การยา้ ย หรือการรวมอานาจการยงิ ของ สอก.เป็นไปไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ และคล่องตัวท่ัวพ้นื ท่กี ารรบ
มีอาวุธกระสุนหลายชนิด สามารถทาลายเป้าหมายได้หลายชนิด สอก.จึงมีประสิทธิภาพสูง
ในการโจมตีเป้าหมายหุ้มเกราะ, เปา้ หมายทม่ี เี ครอื่ งกาบังดี และเป้าหมายเคลอ่ื นที่
มีความแม่นยาสูง เทคนิคในการยิงและการนาวิถีท่ีดีสาหรับอาวุธกระสุนสมัยใหม่สามารถติดต่อ
กับทางพื้นดินด้วยระบบส่ือสารที่ดีมาก ระบบสื่อสารของ ทบ. (วิทยุ, ทางสาย หรอื พลนาสาร) ใชใ้ นการขอรับ
การสนับสนุนทางอากาศตามแผนและในการประสานปฏิบัติการทางอากาศกับปฏิบัติการทางผิวพื้น
ระบบควบคุมทางอากาศยุทธวิธีของ ทอ. (UHF, VHF, HF - SSB และวิทยุ FM) มรี ะบบการส่ือสารท่ีดีสาหรับ
การร้องขอ สอก. แบบเรง่ ดว่ น (HF-SSB) และใชว้ ิทยุระบบ FM สาหรบั การควบคุมเครอ่ื งบนิ โจมตี
๒ .ขีดจากดั ของ สอก.
- จากัดด้วยจานวนอากาศยานท่ีสามารถสนับสนุนได้ ดังนั้นผู้บังคับบัญชา และ ผปยส. จึงต้อง
วางแผนใช้ ณ จดุ วิกฤติของสนามรบในเวลาที่วิกฤติ
- จากัดด้วยสภาพอากาศและทศั นวิสัย
- ถูกต่อตา้ นดว้ ยอาวธุ ปอ้ งกันภยั ทางอากาศ
- ต้องคานึงถงึ เวลาสนองตอบและเวลาทอ่ี ากาศยานจะปฏิบตั กิ ารเหนือเปา้ หมายได้จากัด
อาวุธท่ี สอก.ใชส้ นบั สนนุ โดยทั่วไป ได้แก่
- ปก.อากาศ ท่ีมอี ัตราการยงิ สูงมากกระสุนท่ีใช้ท่ัวๆ ไปเปน็ กระสุนระเบดิ เพลงิ และกระสนุ เจาะเกราะเพลิง
- จรวดจากอากาศส่ผู ิวพ้ืน ซ่ึงมีหวั รบหลายประเภท เช่น ระเบิดแรงสูง, ระเบดิ แรงสงู ต่อสู้รถถงั (HEAT)
หรอื ระเบิดแรงสูงสงั หารบุคคล (คล้ายกระสุน BEE HIVE)
- ระเบดิ พวง (CLUSTER BOMB UNITS) ซึ่งได้ผลต่อเปา้ หมายเปน็ พนื้ ที่
- ขนาดของระเบิดโดยทั่วไปมีขนาด ๕๐๐, ๗๕๐, ๑,๐๐๐, ๒,๐๐๐, และ ๓,๐๐๐ ปอนด์ ซึ่งมีท้ัง
ชนวนเวลา, ถ่วงเวลา และชนวนไว
๕-๗
- ระเบดิ เพลงิ (NAPALM) ซงึ่ เป็นเช้อื เพลงิ ข้นเหนยี ว ตดิ เปา้ หมายและจะลกุ ไหม้ได้นานถึง ๑๕ นาที
ระเบดิ น้มี ีแรงระเบิดและสะเก็ดน้อยมาก อาจใชใ้ กลแ้ นวหนา้ การวางกาลังทหารฝา่ ยเดยี วกันได้
อาวุธนาวิถีอากาศสู่ผิวพ้ืน อานวยให้โจมตีเป้าหมายเป็นจุดที่มีการป้องกันภัยทางอากาศอย่างดีได้
อาวุธชนิดน้มี ีทงั้ ประเภทระเบดิ และอาวุธนาวิถี (MISSILE) ซึ่งใช้ระบบนาวิถีต่างกัน เช่น นาวถิ ีโดยแสงเลเซอร์
(LASER GUIDANCE) กรณีน้ีต้องมีการฉายแสงเลเซอร์ไปยังเป้าหมาย เป็นการช้ีเป้าหมายให้ระบบนาวิถี
แบบ ELECTRO OPTICAL GUIDANCE ใช้กล้องโทรทัศน์นาวิถีไปยังรอยตัดของแสงและเงา บนเป้าหมาย
ซงึ่ จะใชไ้ ด้ก็ตอ่ เมอ่ื อากาศดี และใช้ในเวลากลางวันเทา่ นัน้ อาวุธนาวิถแี บบ ANTIRADIATION MISSILES นาวิถี
โดยคล่ืนแม่เหลก็ ไฟฟา้ จากเรดารข์ า้ ศึกทสี่ ่งออกมา ในภารกจิ ยิงข่มระบบ ปภอ.ของขา้ ศกึ
ระบบอาวธุ ที่กลา่ วมานี้ เปน็ ระบบท่ีวงการทหารใชอ้ ยู่ท่ัวไป เพือ่ ใหเ้ หน็ ภาพอย่างกว้างๆ ส่วนอาวุธท่ีมี
สนับสนุนให้จรงิ ๆ นนั้ ผปยส.จะต้องประสานขอรายละเอียดจากตวั แทนของระบบ สอก.ท่มี าสนบั สนุน
การรอ้ งขอและประสาน
การรอ้ งขอโดยหน่วยผิวพ้ืนระดบั ใดกไ็ ด้ มี ๒ แบบ ได้แก่ การร้องขอตามแผน และการร้องขอแบบเร่งด่วน
๑. การร้องขอตามแผน ใช้ข่ายการติดต่อส่ือสารของ ทบ. โดยผ่าน สยส. ไปถึงระดับกองพล และ
กองทัพน้อย การร้องขอตามแผนอานวยให้มีการวางแผน สนธิและประสาน สอก. เข้ากับแผนยุทธการโดย
ละเอียด ตัวอย่างลักษณะภารกิจ สอก. ในการร้องขอตามแผน เช่น การท้ิงระเบิดก่อนการเข้าตีและการ
ขดั ขวางทางอากาศตอ่ สะพานสาคัญ หรือเส้นทางคมนาคม การร้องขอตามแผนย่อมใหป้ ระสทิ ธภิ าพดกี ว่าการ
ร้องขอแบบเร่งด่วน เพราะมีเวลาในการวางแผนและอากาศยานก็จะติดอาวุธได้เหมาะสมกับลักษณะของ
เปา้ หมายมากที่สุด (ดังรปู )
ศปย. ศสอต. ชอ่ งทางการร้องขอ (ให้ดูภาพประกอบ)
ทัพน้อย
ชคอย. ศคอย.ทอ.
สสอย.
สว่ นตดิ ตอ่ ของทบ.
สยส.
xx สยส. สยส. ผบ.รอ้ ย
สยส.
นยส. นยส.
ผช.ผปยส. นอต. นอต.
นอต. ผช.ฝอ.๓ (อ.) ผช.ฝอ.๓ (อ.)
ผช.หน.สธ.๓ (อ.)
คาร้องขอที่เริม่ จากกองรอ้ ยดาเนินกลยุทธ์ จะถูกส่งต่อไปยัง สยส. กองพนั โดยการติดตอ่ ทางสายการ
บังคับบัญชา หรือวธิ ีอนื่ ท่ีมีอย่ทู ี่ สยส. กองพัน ผช.ฝอ.๓ (อากาศ), นยส. และ นอต. จะตรวจสอบคาร้องขอว่า
เป้าหมายเหมาะแก่การโจมตีทางอากาศหรือไม่, ขัดขวางกับการใช้ห้วงอากาศหรือไม่ นยส. อาจพิจารณา
ใช้อาวุธยิงสนับสนุนประเภทอื่นแทนถ้าเห็นควรหรือถ้าเห็นด้วย ก็สนธิ สอก. เข้ากับแผนการยิงสนับสนุน
ผช.ฝอ.๓ (อากาศ) รวบรวมคาร้องขอจากหน่วยรอง ขจัดความซ้าซ้อน จัดลาดับความเร่งด่วนของคาขอ
หลังจากรวบรวมเสร็จแล้วก็จะส่งคาร้องขอต่อไปยัง ผช.ฝอ.๓ (อากาศ) ของกรม ซ่ึงในระดับกรมก็จะมี
๕-๘
การพจิ ารณารว่ มกันของ นยส., นอต, และ ผช.ฝอ.๓ (อากาศ) ทานองเดียวกันกับการพิจารณาในระดบั กองพัน
แล้วส่งคาขอต่อไปยังกองพล ซ่ึงมีการปฏิบัติทานองเดียวกันอีกจนกระทั่งคาขอถูกส่งไปยังกองทัพน้อย
เมื่อกองทัพน้อยอนุมตั ิคาขอแลว้ ก็จะส่งคาขอต่อไปให้ส่วนติดตอ่ ของ ทบ.ที่ ศคอย.ทอ. ซงึ่ ส่วนติดต่อของ ทบ.
จะประสานคาขอท้ังหมดใน ยทุ ธบริเวณเสนอเป็นความต้องการสนับสนุนกับ ศคอย.ทอ./ศคอย.ทอ. ก็กาหนด
จานวนเท่ยี วบนิ ใหส้ อดคล้องกับ ลาดับความเร่งด่วนที่ ทบ.กาหนด
๒. การร้องขอแบบเร่งด่วน เป็นการสนับสนุนฉกุ เฉินต่อหนว่ ยภาคพื้นต่อเหตุการณ์ทเี่ กิดเฉพาะหน้า
การประสานรายละเอยี ดน้ันควรกระทาตอ่ ไปในขณะท่ีอากาศยานขึ้นสู่อากาศแล้ว ชอ่ งทางการขอใชก้ ารส่ือสาร
ของ ทอ. เมื่อมีความต้องการสนับสนุนทางอากาศขึ้น กองร้อยจะส่งคาขอไปยัง สยส.กองพัน โดยใช้
การติดตอ่ สื่อสารข่ายบงั คับบญั ชา หรือโดยวิธีอ่ืนท่ีมีอย่ใู นกองพัน คาขอจะไดร้ ับการพจิ ารณาจาก นยส., นอต.
และ ผช.ฝอ.๓ (อากาศ) คาขอท่ีได้รับการพิจารณาแล้ว นอต. ก็จะส่งไปยัง ศสอต. ที่กองทัพน้อยโดยตรง
โดยใชก้ ารตดิ ตอ่ ส่ือสารข่ายของ ทอ. ชคอย. ระดับกรมและกองพลเฝา้ ฟังคาขอน้ี นอต. แต่ละระดับจะประสาน
กบั ผปยส. และ ผช.ฝอ.๓ / สธ.๓ (อากาศ) ณ ระดับนั้นๆ การน่งิ เฉยแสดงว่ายอมรบั (ถ้าระดบั กรมหรือกองพล
ไม่อนุมัติ ชคอย.ท่ีระดับน้ันจะแจ้งการระงับคาขอให้ ชคอย.ท่ีร้องขอและ ศสอต. ที่กองทัพน้อยทราบพร้อมด้วย
เหตุผล) เม่อื ศสอต.ไดร้ ับคาขอมาแล้วก็จะสง่ สาเนาให้ ผช.หน.สธ.๓ (อากาศ) ของ ทน. เพื่อประสานกบั ผปยส.
แต่ถา้ ได้รับอนุมัติ ศสอต.ก็จะสงั่ ให้อากาศยานขน้ึ ปฏิบตั ิภารกิจทันที โดยใชเ้ ที่ยวบินเตรยี มพรอ้ มและ/หรือแบ่ง
อากาศยานมาจากภารกจิ อ่ืน
ในการสนับสนุนทางอากาศสง่ิ ที่จาเป็นทนี่ ักบนิ และลูกเรือจะตอ้ งทราบอย่างนอ้ ยทสี่ ุด ไดแ้ ก่
- ทราบท่ีหมาย (ทม.) โดยเดน่ ชัด การช้ี ทม.ทร่ี วดเรว็ ถ้าทาได้ ไดแ้ ก่ การใช้ ป.ยิงกระสุน WP ไปยงั ทม.
- ทราบท่ีตัง้ ของหนว่ ยภาคพ้ืนอย่างแน่ชัด เพอื่ มิให้เกดิ อนั ตรายแกฝ่ ่ายเดยี วกัน
- ระยะห่างของเป้าหมายจากหน่วยฝ่ายเดียวกันต้องเพียงพอท่ีจะใช้อาวุธทางอากาศได้อย่าง
ปลอดภัยต่อหนว่ ยทหารฝ่ายเดยี วกนั
กรณีที่ไม่มีผูค้ วบคุมอากาศยานหน้า (ผคน.) ของ ทอ.อยู่ดว้ ย ผตน.จะต้องทาการปรบั ให้ถูกเป้าหมาย
วิธีการปรบั จะตอ้ งง่าย, ชดั เจน และรวดเร็ว แนวอา้ งทนี่ ยิ ม ได้แก่ ทศิ หลักทงั้ ส่ี เชน่ บอกใหเ้ ลอ่ื นตาบลโจมตขี ้ึน
ไปทางเหนอื ๓๐๐ เมตร เปน็ ต้น
๕-๙
การสนบั สนนุ จากปนื เรือ
กล่าวท่วั ไป
ปืนเรอื เป็นอาวธุ ยงิ สนับสนุนที่มีปรมิ าตรการยิงสงู สามารถสนองตอบอย่างรวดเรว็ ต่อหน่วยกาลังรบ
ที่ปฏิบัติการใกล้ชายฝั่งทะเล ในการยิงสนับสนุนด้วยปืนเรอื นั้นจะมีตัวแทนของ ทร. ในระดับต่างๆ ใน สยส.
กองพล และ สยส.กรม จะมี นตต.ปืนเรือ ในระดับกองพันดาเนินกลยุทธ์ จะมีชุดควบคุมการยิงชายฝ่ัง
ซ่งึ ประกอบด้วยชุดตดิ ต่อปืนเรอื ที่ประจาอยู่กับ สยส.กองพัน และผูต้ รวจการณ์ปืนเรือซึ่งมักจะอยูก่ ับกองร้อย
ใดกองร้อยหนงึ่ ของกองพัน การบงั คับบัญชาอาวุธยิงสนับสนุนของ ทร. คงขน้ึ อยู่กับ ทร. ผบ.หมู่เรือสนับสนุน
จะมอบภารกิจให้เรือของตน ตามแนวทางของ ผบ.พล ซึ่งเป็นผลมาจากการเสนอแนะของ ผปยส. และ นตต.
ปืนเรอื ภารกจิ นน้ั มีเพยี ง ๒ ประการ ได้แก่ ช่วยโดยตรง (ชต.) และช่วยสว่ นรวม (ชร.)
ในภารกิจชว่ ยโดยตรงมักสนับสนุนให้กับหน่วยระดับกองพันดาเนินกลยุทธ์ ซึ่งจะทาการยิงสนับสนุน
ท้ังตามแผนและตามคาขอ การปรับการยิงกระทาโดยผู้ตรวจการณ์ปืนเรือหรือ ผตอ. ปืนเรือแล้วแต่กรณี
ผตอ.ปร. อาจทาการปรับการยิงปืนเรือได้ แต่จาเป็นต้องให้ชุดติดต่อปืนเรือท่ี สยส.กองพัน ถ่ายทอดวิทยุให้
เพราะติดต่อกับเรอื โดยตรงไม่ได้
สาหรับภารกิจช่วยส่วนรวม ปืนเรือจะ ชร. ให้หน่วยดาเนินกลยทุ ธร์ ะดับกรมข้นึ ไป และปกติจะใช้ ผตอ.
ปรับการยงิ หรือมอบให้เรือ ชร. ยิงในความควบคุมของชุดควบคุมการยิงชายฝั่งของกองพัน แต่เม่อื จบภารกิจ
แลว้ กก็ ลับไป ชร. ตามเดมิ
แม้ภารกิจ ชต. และ ชร. จะคล้ายคลึงกับ ป.สนาม แต่อานาจในการกาหนดท่ีตงั้ ของเรือและวธิ ีการยิง
เป็นของผ้บู ังคับการเรือ หน่วยผิวพ้ืนจะกาหนดเป้าหมาย, เวลาท่ีต้องการให้กระสุนระเบิด ณ เป้าหมาย และ
ดาเนินการปรับการยงิ เท่านน้ั ไมม่ ีความรับผดิ ชอบ ๗ ประการเหมือน ป.สนาม
สาหรับขา่ ยการติดต่อส่ือสาร มีดังนี้
- ข่ายปืนเรือกองพล จะมีการติดต่อระหวา่ ง นตต. ปืนเรือกองพล (สถานีบังคับข่าย), นตต.ปนื เรือกรม
และ เรือ ชร.ต่างๆ ไม่มีการติดต่อระหว่าง นตต. ปืนเรือของกรม กับชุดควบคุมการยิงชายฝ่ังของกองพัน
ตอ้ งใช้ขา่ ยทางการตดิ ต่อสอื่ สารของหน่วยดาเนนิ กลยทุ ธ์ หรือระบบอาวธุ ยงิ สนับสนุนอื่นๆ
- ข่ายปรับการยิงปืนเรือ ซ่ึงมีการติดต่อระหว่างผู้ตรวจการณ์ปืนเรือ, ชุดติดต่อปืนเรือ (ท่ีกองพัน)
และเรือ ชต. ผู้ตรวจการณ์ปืนเรือจะส่งภารกิจยิงไปยังเรือ ชต. โดยมีชุดติดต่อปืนเรือที่ สยส.กองพัน เฝ้าฟัง
การเงียบเฉยถือวา่ อนมุ ตั ิ
ถ้าต้องการอานาจการยิงสนับสนนุ จากปืนเรือเพ่ิมเติม เชน่ ต้องการปนื เรอื ขนาดใหญ่กว่าของเรอื ชต.
นตต. ปืนเรือกองพันจะร้องขอไปยัง นตต. ปืนเรือกรม เพื่อขอการยิงจากเรือ ชร. กรณีนี้เรือ ชร. ก็จะเข้ามาร่วม
ข่ายวิทยขุ องชดุ ควบคุมการยิงชายฝัง่ หรอื อาจให้ ผตอ. ปืนเรอื ทาการปรับการยิงให้
ในกรณีท่ีใช้ ผตอ. ต้องมีการติดต่อระหว่าง ผตอ.กับผู้ตรวจการณ์ปืนเรือ เพ่ือผู้ตรวจการณ์ปืนเรือ
จะชว่ ยเหลือ ผตอ. ในการกาหนดเปา้ หมายและแนวขอบหน้าทีม่ นั่ ของฝา่ ยเดียวกัน
- ขา่ ยปรบั การยิงโดย ผตอ. จดั เพอื่ ใหป้ รบั การยิงไดส้ ะดวก ผ้รู ว่ มในขา่ ยนจ้ี ะได้แก่เรอื ชต. และ เรอื ชร.,
ผตอ., นตต.ปืนเรือที่กองพนั และผ้ตู รวจการณ์ปืนเรอื
๕ - ๑๐
ขีดความสามารถและขดี จากัดของปืนเรือ
๑. ขดี ความสามารถของปืนเรอื
๑.๑ ความคล่องตัวในการเลือกที่ตั้งของเรือทาให้เลือกแนวปืนเป้าหมายได้ดีที่สุด และสามารถ
สนับสนนุ หน่วยทีแ่ ยกปฏิบัตกิ ารไกลๆ ได้
๑.๒ ระบบควบคุมการยิงของปืนเรอื แม่นยาทั้งยิงเลง็ ตรงและเล็งจาลอง เพราะมีเคร่ืองควบคุมการยิง
ทล่ี ะเอียดประณตี
๑.๓ มีอาวุธหลายขนาด สามารถเลือกขนาดท่ีเหมาะในการยิงสนับสนุนได้ ปกติบนเรือมักมี ป.
อยา่ งนอ้ ย ๒ ขนาด
๑.๔ มกี ระสุนหลายชนิด และเลอื กประกอบกับชนวนประเภทตา่ งๆ ตามต้องการ
๑.๕ มีความเร็วต้นปากลากล้องสูงและกระสุนวิถีค่อนข้างราบ เหมาะสาหรับการยิงเล็งตรง
หรอื การยิงทาลายใกล้ชดิ โดยเฉพาะเปา้ หมายท่ีเปน็ โครงสรา้ งแขง็ แรง และเป้าหมายท่ีมีผิวเป็นแนวดง่ิ
๑.๖ อัตราการยิงสูงซ่ึงเป็นผลดีอย่างมากในการยิงตัดรอนกาลัง อัตราการยิงของปืนเรือจะสูงกว่า
ป.สนาม มาก
๑.๗ มีอาการกระจายทางทิศแคบมาก สามารถยิงใกล้ที่มั่นฝ่ายเรา ถ้าแนวปืนเป้าหมายขนาน
แนวขอบหน้าท่ีมั่นฝ่ายเรา และมีผลดีมากในการยิงครอบคลุมเส้นทางหรือถนน ซ่ึงแนวยาวของเป้าหมาย
ขนานกับทศิ ทางยิง
๒. ขดี จากดั ของปนื เรือ
๒.๑ เป็นปนื วิถีกระสุนราบ ทาให้มีอาการกระจายทางระยะมาก ดังนั้นการใช้จึงจากัดทิศทางที่ตั้ง
ฉากกบั แนวหนา้ การวางกาลังทหารฝ่ายเดยี วกนั
๒.๒ สภาพทางอทุ กศาสตร์ อาจจากดั ทีต่ ้งั ของเรอื ทาใหเ้ รือสนบั สนนุ ตอ้ งทาการยงิ จากระยะไกล
๒.๓ ความแมน่ ยาของหลกั ฐานยิง ขน้ึ อยกู่ ับการกาหนดทีต่ งั้ ท่ถี ูกต้องของเรอื
๒.๔ สภาพอากาศและทัศนวสิ ัย ก่อให้เกิดปญั หาในการกาหนดที่ต้งั ของเรอื , ในการตรวจการณแ์ ละ
ปรับการยงิ แล้วยงั อาจทาให้เรือต้องออกจากท่ตี ง้ั ท่ีเหมาะสมและคล่ืนลมท่แี รงมากจะทาให้เรือโยนตัว ซึ่งมผี ล
ทาให้เครื่องคานวณใหข้ อ้ มลู ที่ผิดพลาดแกป่ ืนเรอื อีกดว้ ย
๒.๕ การยงิ สนับสนนุ ขณะทีเ่ รือเคลอ่ื นทท่ี าใหแ้ นวปนื เปา้ หมายเปล่ียนไปบางครง้ั ทศิ ทางยงิ อาจตัดกับ
แนวหนา้ การวางกาลังทหารฝ่ายเดียวกันมาก จนอาจตอ้ งระงับการยงิ กลางคนั เพ่ือป้องกนั อันตรายท่อี าจไดร้ ับ
จากอาการกระจายทางระยะ
๒.๖ บรรทุกกระสุนไดจ้ ากดั และตอ้ งแบ่งกระสนุ จานวนหน่ึงไวป้ ้องกันตนเองอีกดว้ ย ซง่ึ ตอ้ งแก้ไข
ในการสง่ กาลงั สป.๕ ทางทะเล
๒.๗ การติดต่อส่อื สารระหวา่ งเรือกับพน้ื ดนิ ใช้วิทยอุ ยา่ งเดยี วเทา่ น้นั ถา้ ถูกรบกวนมากๆ อาจขาด
การตดิ ตอ่ ได้
๒.๘ ผลจากการปฏิบัติการของข้าศึก ถ้าขา้ ศกึ โจมตตี ่อเรอื เรือก็จะระงับภารกิจการยงิ สนับสนุน
เพอ่ื เข้าเผชญิ หนา้ กับข้าศึกทันที
๕ - ๑๑
อาวธุ ทีใ่ ช้ยงิ สนับสนุนกาลงั ภาคพนื้ ดิน
อาวธุ ระยะยงิ ไกลสุด ระยะยงิ หวงั ผล อตั รายงิ (นดั /นาท)ี กระสุน
ม. ม. สูงสดุ ต่อเนื่อง
๘ นิ้ว/๕๕ ๒๙,๘๐๐ ๒๖,๐๐๐ ๔ (๑๐) ๓ (๑๐) AP,HC,AAC
๖ นิ้ว/๔๗ ๒๓,๐๐๐ ๒๑,๐๐๐
๕ น้วิ /๕๔ ๒๕,๙๐๐ ๒๒,๕๐๐ ๑๐ ๑๐ AP,HC,AAC
๕ นวิ้ /๓๘ ๑๘,๐๐๐ ๑๕,๐๐๐
๒๐ ๒๐ OM,HC,ILL,AAC,WP
๒๐ ๑๕ OM,HC,ILL,AAC,WP
หมายเหตุ ก. ตัวเลขกลมุ่ ทีอ่ ยตู่ อ่ ทา้ ย หมายถงึ ความยาวลากล้องเปน็ กี่เท่าของกว้างปากลากลอ้ ง
ข. ตวั เลขในวงเล็บเป็นอัตราการยงิ ของเรือทใ่ี ชร้ ะบบการยงิ อตั โนมตั ิ
ค. สาหรับกระสนุ ปืนเรือ
- AP เทียบได้กับ HEAT ของ ทบ. เม่ือรอ้ งขอใช้คาว่า “เจาะเกราะ” เหมาะสาหรับ
ทาลายปอ้ มค่าย
- COM เทียบได้กบั HEAT ของ ทบ. การใชเ้ หมือนกบั AP
- HC เทียบได้กบั HE ของ ทบ. ร้องขอว่า “กระสนุ ระเบดิ ”
- ACC เทยี บได้กับ HE ของ ทบ. รอ้ งขอว่า “กระสนุ ระเบดิ ”
- ILL เทียบได้กับ ILLUM ของ ทบ. ร้องขอว่า “กระสุนส่องแสง” ให้แสงสว่างจ้า
เปน็ ทรงกลมเส้นผ่าศนู ยก์ ลาง ๓๕๐ - ๕๕๐ เมตร เป็นเวลา ๔๕ - ๕๒ วินาที
- WP เทียบได้กับ WP ของ ทบ.ร้องขอว่า “กระสุนควันขาว” มีท้ังชนวนไว,
ถ่วงเวลา, เวลา และวที ี
๕ - ๑๒
อาวุธยงิ สนับสนุนอื่นๆ
กล่าวทวั่ ไป
ผู้บังคับบัญชาอาจสั่งให้อาวุธอ่ืนๆ ช่วยยิงสนับสนุนเพ่ือเพ่ิมเติมอานาจการยิงสนับสนุนจาก
อาวุธยิงสนับสนุนปกติ เช่น ฮ.โจมตี, หน่วย ปตอ. ที่ใช้ในบทบาทของการยิงเป้าหมายบนพื้นดิน และ ถ.
ในการยิงเล็งจาลอง แต่การใช้อาวุธเหล่านี้ในภารกิจของการยิงสนับสนุน เป็นการนาออกมาจากภารกิจหลัก
ของอาวุธนั้น ผบ.หน่วยดาเนินกลยุทธ์ จึงต้องเปรียบเทียบความจาเป็นท่ีจะได้รับการยิงสนับสนุนเพิ่มข้ึน
กับภารกิจหลกั ทีต่ ้องเสียไปของอาวุธเหล่านี้ ถ้า ผบ.หน่วยดาเนินกลยุทธ์ ตัดสนิ ใจใหใ้ ช้กเ็ ป็นหน้าทีข่ อง ผปยส.
ในการสนธิอานาจการยิงของอาวุธเหลา่ น้เี ขา้ กับอานาจการยงิ สนบั สนนุ ท้งั ปวง
ฮ.โจมตี
ฮ.โจมตี มีขีดจากัดเก่ียวกับระยะเวลาทสี่ ามารถปฏิบัติการได้, สภาพอากาศ, ทศั นวิสัย และสถานภาพ
การ ปภอ.ของข้าศึก การใช้ ฮ.โจมตี ให้เกิดประสิทธิภาพสูงควรใช้เป็นหน่วย เช่น ใช้เป็นหมวด, เป็นกองร้อย
หรือกองพัน ความคล่องตัวในการเคลื่อนท่ีอย่างรวดเร็วและขีดความสามารถในการรวมอานาจการยิง
ในทุกลักษณะภูมิประเทศ แม้ว่าพ้ืนท่ีการรบจะกระจายกว้างขวางก็ตาม ทาให้ ฮ.โจมตี เป็นระบบอาวธุ โจมตี
ที่มีประสิทธิภาพสูง, สามารถใช้ชดเชยอานาจการยิงของ ป., ค. และ สอก. ได้อย่างดี ในเม่ือภูมิประเทศและ
สถานการณ์ไม่อานวยให้ใช้ระบบอาวธุ ยิงสนับสนุนเหล่านี้ได้คุ้มค่า ฮ.โจมตี สามารถติดอาวุธได้หลายประเภท
การทราบรายละเอียดเกี่ยวกับเป้าหมาย จะทาให้ ฮ.โจมตี สามารถเลือกติดอาวุธให้เหมาะสมกับเป้าหมายได้
ในการใช้ ฮ.โจมตี ต้องมีการวางแผนการยิงข่มอาวุธ ปภอ. ข้าศึก ซึ่งแผนนี้มีความสาคัญเป็นพิเศษในขณะท่ี ฮ.
ถอนตัวกลับหลังจากทาการโจมตไี ปแลว้
อาวธุ ปอ้ งกันภยั ทางอากาศ
อาวุธป้องกันภัยทางอากาศประเภทลากล้อง เชน่ วัลแคน มคี วามแม่นยาและอัตราเร็วในการยิงสูงขึ้น
สามารถเคล่ือนท่ีไดอ้ ยา่ งคลอ่ งตัว จึงเหมาะท่ีจะใช้ในภารกจิ ยิงเป้าหมายบนพ้ืนดนิ เชน่ หน่วยทหาร, ยานยนตล์ ้อ
และรถหุ้มเกราะบางๆ ได้ดี แต่จะใช้ในภารกิจยิงเป้าหมายบนพื้นดินเช่นน้ีได้ ก็ต่อเม่ือไม่มีความเร่งด่วน
ในการป้องกนั ภัยทางอากาศในขณะน้ันเท่าน้ัน อาวุธส่งท่ีเป็นอาวุธ ปภอ. บางชนดิ ก็อาจใช้ในการยิงเปา้ หมาย
บนผวิ พน้ื ได้
รถถงั
อาจใช้ในบทบาทการยิงเล็งจาลองได้ กระสนุ ทจี่ ะใชใ้ นการยงิ จาลองมีบางชนดิ กลา่ วคอื กระสนุ ระเบิด
แรงสูงพลาสติก (HEP) และกระสุนควันขาว (WP) ถ. มอี ัตราการยิงท่ีสูงกวา่ ป. แต่การประกอบกระสนุ /ชนวน
เข้าด้วยกันไม่อ่อนตัวเหมือน ป. สนาม และอาการกระจายทางระยะมีมาก ต้องใช้เวลาปรับการยิงนาน
ขดี จากัดสาคัญอีกประการก็คือ มุมสงู ยกได้จากัดมากส่วนใหญ่ไมเ่ กนิ ๓๖๕ มลิ เลยี ม ส่วนใหญ่เปา้ หมายที่มอบให้ ถ.
ยงิ โดยวิธีเล็งจาลอง มักต้องเป็นเปา้ หมายเป็นพื้นท่ีและทราบระยะยิงแน่นอน เช่น พ้ืนท่ีบรเิ วณรอบๆ สะพาน
พน้ื ทรี่ วมพล เป็นตน้
๕ - ๑๓
การควบคมุ และบังคบั บญั ชา
การบังคับบัญชา ฮ.โจมตี, ปตอ. หรือรถถัง ท่ีใช้ในบทบาทของอาวุธยิงสนับสนุน คงข้ึนอยู่กับ
หน่วยเดิมของอาวุธน้ันๆ เมื่อใช้เปน็ อาวุธยิงสนับสนุน ท้ังผูส้ นับสนนุ และผู้รับการสนับสนนุ จะตอ้ งทราบ และ
ปฏิบัติตามกฎการใช้ท่ีผู้บังคับบัญชากาหนด (โดยการเสนอแนะของ ผปยส.) กฎการใช้จะระบุว่าอาวุธนั้น
จะใหก้ ารสนับสนุนอะไรบา้ ง และกลา่ วถึงความรับผดิ ชอบต่างๆ ได้แก่
ก. ความเรง่ ดว่ นในการยิง ใครเป็นผ้ยู ิงอะไรใหใ้ คร ตามลาดบั ความเรง่ ด่วน
ข. เขตการยงิ
ค. กระสนุ ท่อี นุมัติให้ใช้, ชนิดอะไรบา้ ง และจานวนเทา่ ไร สาหรบั ภารกิจน้ี
ง. ชุดตดิ ตอ่ , นตต. หรือนายสิบตดิ ต่อ จะจดั ใหพ้ บใคร ท่ีไหน
จ. การติดตอ่ สื่อสาร ใช้วทิ ยอุ ะไร ความถเ่ี ทา่ ไร
ฉ. การกาหนดทต่ี ง้ั (ถา้ มี)
ช. การวางแผนการยงิ ใครเป็นผวู้ างแผนการยิง
ปกติ สยส. จะวางแผนการยงิ สนับสนุนของ ฮ.โจมตี ส่วนอาวุธ ปภอ.และ ถ. มกั จะวางแผนการยิงโดย
ศอย. หรือ ศปย.ของ ป.สนาม
๕ - ๑๔
องค์กรวางแผนและประสานการยงิ สนับสนนุ
กล่าวทว่ั ไป
การวางแผนและการประสานการยิงสนับสนุน เป็นหน้าท่ีของผู้บังคับบัญชาซึ่งมอบความรับผิดชอบ
ให้กับตัวแทนของทหารปืนใหญ่ท่ีอาวุโส ซึ่งประจาอยู่กับหน่วยกาลังรบนั้น โดยกาหนดให้เป็นผู้ประสาน
การยิงสนับสนุน (ผปยส.) ณ ระดับกองทัพน้อย, กองพล และกรม ได้แก่ ผบ.หน่วย ป.สนามทใ่ี ห้การสนับสนุน
ในแตล่ ะระดับนั่นเอง (ผบ.ป.ทัพน้อย, ผบ.กรม ป. และ ผบ.พัน.ป.ชต.) ผปยส. จะรับผิดชอบในการใช้อาวุธยิง-
สนับสนนุ ทงั้ ปวง อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพและเกดิ ประสิทธิผลมากทส่ี ดุ ณ ระดับกองพนั และระดบั กองร้อยดาเนิน-
กลยุทธ์ ผปยส. จะได้แก่ตัวแทนของ ผบ.พัน.ป.ชต. ท่ีส่งไปประจา ณ หน่วยนนั้ หนว่ ยตั้งแต่กองทัพน้อยจนถึง
กองร้อย ผปยส. จะจัดต้ังองค์กรวางแผนและประสานการยิงสนับสนุนข้ึน เพื่อดาเนินงานการวางแผนและ
ประสานการยิงสนับสนนุ ซง่ึ องค์กรนี้จะอยู่ร่วมกบั ศูนย์ปฏิบตั ิการทางยุทธวิธี หรือที่บังคับการของแต่ละระดับ
หนว่ ยดาเนินกลยุทธน์ ัน้ ๆ
องค์กรวางแผนและประสานการยงิ สนับสนุน
หน่วยดาเนินกลยุทธ์ ศนู ยป์ ฏบิ ัติการทางยทุ ธวิธี ปืนใหญส่ นาม
XXX องคก์ ารวางแผนและประสาน ตอน ป.สนาม
XX ศปย.ทัพนอ้ ย
สยส.
ศปย.กองพล
สยส.
ทก.กรม
สยส.
ทก.พนั . ชต.
สยส.
ทก.ร้อย
ชยส.
องค์กรนี้จะจัดให้มีเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่วางแผนการยิงอยู่ตลอดเวลา และการประสาน
การยิงสนับสนุนน้ัน จะต้องเข้ากันได้กับคาแนะนาของ ผบ.หน่วย และ ผปยส. ถ้าจะศึกษาให้ละเอียด
ถึงกาลังพลและยุทโธปกรณห์ ลักขององค์กรฯ ในสว่ นของทหารปืนใหญ่สนามใหด้ ู อจย.ของหนว่ ย ป.สนาม
๕ - ๑๕
ส่วนยงิ สนบั สนนุ ของกองทพั น้อย
จนท. ใน สยส.ทพั นอ้ ย จะประกอบดว้ ยกาลังพลจากตอนปืนใหญ่ใน บก. และ รอ้ ย.บก. ของกองทัพนอ้ ย
จะทาการวางแผนและประสานการยิงให้กับหนว่ ยระดับกองทัพนอ้ ย และทางานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับ สยส.
กองพล ผช.ผปยส. ที่อาวุโสจะรับผิดชอบการปฏิบัติงานของ สยส.ทัพน้อย และจะถือว่าเป็นผู้ดาเนินการ
ตลอดเวลาขององค์กรน้ี ร่วมกับตัวแทนหน่วยข่าวกรอง เพ่ือทาหน้าที่หาและดาเนินกรรมวิธีผลิตข่าวกรอง
เป้าหมายให้กบั หน่วยยิงสนับสนนุ
สว่ นยงิ สนับสนุนของกองพล
ผช.ผปยส. จะได้รับความรับผิดชอบในการวางแผนและประสานการยิงสนับสนุนของ สยส.กองพล
และจะทาการประสานกันอย่างใกล้ชิดกับ ศปย .กรม ป.ปกติ สยส.กองพล จะได้รับมอบอานาจ
ในการดาเนินการต่อคาร้องขอการยิงสนับสนุนจาก สยส.ของหน่วยรอง จะมีตัวแทนของระบบอาวุธต่างๆ
(สอก., ปืนเรือ ฯลฯ) ซึ่งจะเป็นผู้ใหค้ าแนะนาแก่ ผปยส. ในการใชร้ ะบบอาวุธของตน
ส่วนยงิ สนบั สนนุ ของกรม
สยส. ของกรมดาเนนิ กลยุทธ์นั้นจะดาเนินงานโดย นยส. ทจ่ี ัดมาจาก พัน.ป.ชต. และจะทางานสัมพันธ์
กับ ศอย.พัน.ป.ชต., สยส.ของกองพันดาเนินกลยุทธ์อย่างใกล้ชิด นอกจากนั้นจะประสานกับ สยส.กองพล
ด้วย นยส.ประจากรมดาเนินกลยุทธ์, ผช.ฝอ.๓ (อากาศ) และตัวแทนของระบบอาวุธอ่ืนๆ จะร่วมกันทางาน
ใน สยส.กรม เพอื่ วางแผนและประสานการยิงสนับสนนุ ทั้งปวงใหก้ บั กรมดาเนนิ กลยทุ ธ์
ส่วนยงิ สนบั สนนุ ของกองพัน
สยส. ของแต่ละกองพันดาเนินกลยทุ ธ์ กากับดแู ลโดย นยส.ที่จัดมาจาก พนั .ป.ชต. จะรว่ มกบั ผช.ฝอ.๓
(อากาศ) และตัวแทนระบบอาวุธยิงสนับสนุนอื่นๆ ในการวางแผนและประสานการยิงสนับสนุน สยส.กองพัน
จะประสานและรว่ มทางานอย่างใกล้ชดิ กัน สยส.กรม, สยส.กองพันอื่นๆ , ศอย.พัน.ป.ชต. และ ผตน.ในระดับ
กองร้อย นอกจากนั้น นยส.ประจากองพันดาเนินกลยุทธ์ ก็ยังจะต้องกากับดูแลการปฏิบัติของ ผตน.
ทร่ี บั ผิดชอบด้วย
ชุดยิงสนบั สนุนประจากองร้อยดาเนินกลยทุ ธ์
ชุดยิงสนับสนนุ (ชยส.) จะจัดการวางแผนและประสานการยิงสนับสนุนตามความตอ้ งการของกองรอ้ ย
ชยส. หรือชุด ผตน. นี้จัดมาจาก พัน.ป.ชต. ในบางโอกาสอาจมีผู้ตรวจการณ์ปืนเรือ (ผตปร.) และผู้ควบคุม
อากาศยานหน้า (ผคน.) มาอยรู่ ่วมกันที่กองร้อยเพื่อให้คาปรกึ ษาและช่วยเหลือการใช้ระบบอาวุธยิงสนับสนุน
ของตน ชยส. นีจ้ ะกากับดูแลโดย ผตน. จาก พนั .ป.ชต. และทาหนา้ ที่ ผปยส. ของกองร้อยด้วย
๕ - ๑๖
ทีป่ รึกษาผูป้ ระสานการยงิ สนับสนุน
ในแต่ละระดับหน่วย ผปยส. และ จนท. ในส่วนยิงสนับสนุนจะได้รับคาแนะนาในการใช้อาวุธยิง
สนับสนุนแทบทุกชนิดจากตัวแทนของระบบอาวุธนั้นๆ ตั้งแต่ระดับกองพันข้ึนไปจะมีที่ปรึกษาให้กับ ผปยส.
ตามรปู ทแ่ี สดงข้างล่าง ดงั ต่อไปน้ี
ท่ปี รกึ ษาการยิงสนับสนนุ
ฮ.โจมตี ปืนเรือ
นตต.๓ ผ้แู ทนปืนเรือ ๓
รถ.ถงั ศอย.ป.สนาม๑ ผปยส. นตต.๒ ปตอ.
ศอย.๒ ป.สนาม
นตต.๑ ชคอย.๒
ค.หนัก ผช.สธ./ฝอ.๓ อากาศ
สอก.
หมายเหตุ ๑. ในระดบั กองพนั และกรม
๒. ตัง้ แตร่ ะดับกองพนั จนถงึ กองทพั น้อย
๓. ตงั้ แต่ระดบั กองพันถงึ กองพล
ก. การยิงของ ป.สนาม ปกติ ผปยส.จะเกีย่ วขอ้ งโดยตรงกับ ศอย.(ศปย.) ป.สนาม ซ่ึงจะให้คาแนะนา
เกี่ยวกบั สถานภาพการสนบั สนนุ ของ ป.สนามทจ่ี ดั ให้ได้
ข. การยงิ ของรถถัง เมื่อนารถถังมาใช้เป็นอาวธุ ยิงเลง็ จาลอง ข่าวสารทั้งส้ินเก่ียวกับสถานภาพการยิง
จะไดจ้ าก ศอย.ป.สนามและตัวแทนของหน่วยรถถงั ทอี่ ยู่ ณ ศอย.ป.นั้น
ค. การยิงของ ค. เม่อื ใช้ ค. เข้ารว่ มในการปฏบิ ัติการยิงสนับสนุน ก็จะมตี ัวแทนของอาวุธ ค. ไปรว่ มอยู่ใน
สยส. ในแต่ละระดบั หนว่ ยด้วย ซ่งึ จะให้คาแนะนาเกย่ี วกบั ขีดความสามารถและขีดจากดั ของ ค.
ง. การยิงของ ปตอ. ถ้านาอาวธุ ปตอ.มาใชใ้ นการยิงเลง็ จาลอง หนว่ ย ปตอ.ก็จะจดั นตต.มาประจาอยู่ใน
สยส. ท่ีเหมาะสมเพ่ือใหค้ าแนะนาในการใช้อาวธุ น้ีให้ได้ผลดที ่สี ุด
จ. การสนับสนุนทางอากาศใกล้ชิด คาแนะนาการใช้ สอก. จะได้จากตัวแทนของทหารอากาศ ได้แก่
ชดุ ควบคุมอากาศยุทธวิธี (ชคอย.) และจาก ผช.สธ./ฝอ.๓ (อากาศ) ทเี่ ปน็ ตวั แทนเกย่ี วกบั สอก.
ฉ. เฮลิคอปเตอร์โจมตี เม่ือนาระบบอาวุธชนิดน้ีมาใช้ในการยิงสนับสนุนจะมีตัวแทนจากหน่วยบิน
จัดมาประจากบั หน่วยรับการสนับสนนุ เพ่อื ใหค้ าแนะนาในขดี ความสามารถและขดี จากัดของระบบอาวุธเพิ่มเตมิ
ช. ปืนเรอื กองทพั เรอื จะจดั ตัวแทนมาใหค้ าแนะนาเช่นกัน ตง้ั แต่ระดบั กองพนั , กรม และกองพล ทรี่ ับ
การสนบั สนุนจากปืนเรือ จนท.เหลา่ นี้จะมีเคร่ืองมือตดิ ตอ่ สอื่ สารเชอ่ื มกบั เรอื ท่ีให้การสนับสนนุ โดยตรง
๕ - ๑๗
การติดต่อสอ่ื สารขององคก์ รวางแผนฯ
การติดต่อสื่อสารที่ดีระหว่างหน่วยสนับสนุนและหน่วยรับการสนับสนุน เป็นส่ิงจาเป็นมากถ้าจะให้
การวางแผนและประสานฯ ดาเนินไปได้ บ่อยครั้งทีว่ ิทยุของกองทัพบกทีจ่ ะใชต้ ิดต่อกบั สว่ นทีม่ าสนบั สนุน หรือ
ทหารเหล่าอ่ืนๆ ไม่สามารถติดต่อกันได้ แต่ปัญหานี้ก็หมดไปเมอ่ื ส่วนที่ใหก้ ารสนับสนุนจัดสง่ ตัวแทนพรอ้ มท้ัง
วทิ ยทุ ม่ี ปี ระสิทธิภาพ มาประจา ณ ที่บังคบั การของหน่วยรบั การสนับสนุน
ทต่ี ั้งขององค์การวางแผนฯ
โดยการทใ่ี หอ้ งค์กรฯ นไี้ ปอยู่รว่ มกบั ศนู ยป์ ฏบิ ตั ิการหรือท่บี ังคับการของหนว่ ยดาเนินกลยุทธ์น้ัน จะทาให้
ผปยส. แน่ใจได้ว่า กรรมวิธีในการวางแผนและประสานการยิงสนับสนุนน้ันได้รับการสนธิเข้ากับแผนในการรบ
นอกจากนี้เจ้าหน้าท่ีทุกคนขององค์กรฯ ก็จะได้รับทราบสถานการณ์ทางยุทธวิธีและทาให้การวางแผน และ
ประสานฯ ดาเนินไปตามวงรอบทต่ี อ่ เนือ่ งในระหว่างการปฏบิ ตั กิ ารยทุ ธ์ได้
๕ - ๑๘
กรรมวธิ ีในการวางแผนและประสานการยงิ สนบั สนนุ
คาจากดั ความ
๑. การวางแผน คือ กรรมวิธีอันต่อเน่ืองในการวิเคราะห์ การแบ่งมอบและการจัดตารางการยิงสนับสนุน
แลว้ สนธเิ ขา้ กบั การดาเนนิ กลยทุ ธเพอื่ ใหไ้ ด้อานาจกาลังรบสงู สดุ
๒. การประสาน เป็นกรรมวิธีอันต่อเน่ืองเช่นกัน เป็นการทาแผนให้เป็นผลสาเร็จตลอดจน
การดาเนนิ การต่างๆ ทต่ี อ้ งการให้อาวุธยิงสนบั สนุนทาการยงิ สนับสนนุ หน่วยดาเนินกลยทุ ธ ถ้าจะกลา่ วอย่างง่ายๆ
การวางแผนการยิงสนับสนุนก็หมายถึงว่าเราจะให้มีการยิงสนับสนุนอย่างไรการประสานการยิงสนับสนุน
ก็จะเปน็ การดาเนินการต่างๆ ทตี่ อ้ งการในแผนที่วางไวใ้ ห้เป็นผลสาเรจ็ แล้วยงั รวมถงึ การจดั เก่ียวกับระบบอาวุธ
ยิงสนับสนุนด้วย ถึงแม้ว่าการวางแผนและการประสานจะเป็นกรรมวิธีคนละอย่างกัน แต่กรรมวิธีทั้งสองนี้
จะเกิดข้ึนอย่างสัมพันธ์กันจนไม่สามารถแยกออกจากกันได้ โดยในข้ันต้นตอนที่ ผบ.หน่วยดาเนินกลยุทธ
รับภารกจิ มากจ็ ะเป็นขัน้ ตอนของการวางแผนเป็นส่วนใหญ่ มีการประสานแต่น้อย คร้นั เม่อื ใกล้จะถึงการปฏบิ ัติ
การประสานก็จะเพ่ิมมากขึน้ เรอ่ื ยๆ และมีความสาคญั มากกว่าการวางแผนในตอนนี้
การวางแผนการยงิ สนบั สนนุ
ลาดับข้ันตอน
๑. การวางแผนการยงิ สนบั สนนุ เร่มิ ตน้ ตัง้ แต่ ผบ.หนว่ ยดาเนินกลยทุ ธรับภารกิจมาหรืออาจกาหนดขึ้นเอง
การดาเนนิ กรรมวิธีกจ็ ะเปน็ ไปตามข้นั ตอนดงั รูป
ลาดบั ข้นั ตอนการวางแผนการยิงสนับสนนุ
- รับภารกจิ
- กาหนดแนวทางการวางแผน
- รวบรวมขา่ วสาร
- ประมาณการ/ประมาณสถานการณข์ อง ผบ.ชา
- ตกลงใจ/ใหแ้ นวทางปฏบิ ัติ
- จดั ทาแผน
- อนุมัติเปน็ คาสง่ั การดาเนินกลยทุ ธ์ การยิงสนับสนนุ
- การปฏบิ ตั ิ
การวางแผนน้ันเป็นกรรมวิธีอันต่อเน่ืองโดยไม่มีการหยุดจนกระทั่งภารกิจสาเร็จลง จุดมุ่งหมายของ
การวางแผนการยิงสนับสนุนก็คือการพิจารณาว่าจะสนธอิ านาจการยิงสนับสนุนเข้ากับแผนการดาเนินกลยุทธ์
อยา่ งไรจงึ จะไดอ้ านาจกาลงั รบทสี่ ูงทีส่ ดุ ให้กบั ผู้บังคบั บัญชา
๒. ความลึกซึ้งของการวางแผนและวธิ กี ารท่จี ะใชว้ างแผนน้ัน ขึ้นอยู่กับส่วนที่วางแผนและเวลาทม่ี ีอยู่
ถ้าละเว้นในเร่ืองส่วนที่วางแผนและเวลาแล้ว การวางแผนของ ผปยส.ก็อาจยึดถือตามหลักการวางแผน
ซง่ึ ถือวา่ เปน็ คาแนะนาในการวางแผนตามทีก่ ล่าวไว้ในขอ้ ตอ่ ไป
๕ - ๑๙
หลักการวางแผน
หลักการนี้ถือเสมือนเป็นโครงร่างท่ี ผปยส. ใช้เป็นกรรมวิธีในการนึกคิดเพ่ือเป็นการเพิ่มพูน
ประสิทธภิ าพการใชอ้ านาจการยงิ สนับสนนุ
๑. เร่ิมการวางแผนแตเ่ น่ินและต่อเนื่อง การสนธิอานาจการยิงสนับสนนุ เขา้ กับแผนการดาเนินกลยทุ ธ์
อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพนัน้ จะต้องเร่ิมต้นตั้งแต่ ผบ.หน่วยไดช้ ้ีแจงภารกิจให้ทราบและดาเนินต่อไป พรอ้ มๆ กบั ท่ี
ผู้บังคับบัญชาปฏิบตั ิไปตามขั้นตอนการวางแผนของตน ซ่งึ จะต้องกระทาไปอย่างต่อเนื่องเพ่ือให้ทันกับความผันแปร
ในสนามรบ
๒. ใช้เครื่องมือผลิตเป้าหมายทั้งส้ินท่ีมีอยู่ให้เป็นประโยชน์ ผปยส.จะต้องแน่ใจวา่ ข่าวสารเป้าหมาย
จากแหล่งขา่ วท้ังสิน้ ของตนนัน้ ไดม้ ีการประเมนิ คา่ และส่งผ่านไปยงั ระบบอาวุธยงิ อย่างรวดเร็ว
๓. พิจารณาใช้ระบบอาวุธยิงทงั้ ส้ินทใ่ี ห้การสนับสนุนได้ ผปยส.ต้องนึกถึงอาวุธในกามือของตนท้ังหมด
ต้องไม่เช่ือถือระบบใดระบบหน่ึงโดยเฉพาะความรอบรู้ในระบบอาวุธที่ให้การสนับสนุนจะเป็นกุญแจสาคัญ
ในการท่ีจะนาไปใช้ได้อย่างมีประสิทธภิ าพ
๔. เลือกใช้อาวุธท่ีมีประสิทธิผลมากท่ีสุด หลักการน้ีเป็นผลต่อเน่ืองมาจากการพิจารณาระบบอาวุธ
ท้ังสิ้นของ ผปยส. และผลท่ีเกิดจากการวิเคราะห์เป้าหมาย, คุณลักษณะอาวุธ, ภารกิจและแนวทางของ ผบ.
หน่วยซ่ึงทาให้ ผปยส. สามารถเลือกและเสนอแนะระบบอาวุธทมี่ ีประสทิ ธิภาพสาหรบั แต่ละภารกิจได้
๕. จัดให้มีการยิงสนับสนนุ อย่างเพียงพอ ภารกิจของหน่วยและแนวทางของผู้บังคับบัญชานั้น ผปยส.
สามารถนามาพิจารณาความต้องการจานวนและชนิดของการยิงสนับสนุนได้ เสร็จแล้วก็เสน อแนะต่อ
ผบู้ งั คบั บัญชาใหอ้ นมุ ตั กิ ารแบ่งมอบอาวุธยงิ สนับสนนุ ที่คดิ วา่ จะปฏิบตั ภิ ารกจิ ไดส้ าเรจ็
๖. พยายามหลีกเล่ยี งการซ้ากนั ท่ีไม่จาเป็น การวางแผนการยิงตอ่ เป้าหมายหนง่ึ นนั้ ต้องเพยี งพอ แต่กต็ ้อง
ไมม่ ากจนเกินความจาเป็นตามความเป็นจริงแล้วการใช้หนว่ ยยิงมากกว่าหน่งึ หนว่ ย หรือระบบอาวธุ ยงิ มากกว่า
๑ ระบบทาการโจมตเี ปา้ หมายเดีย่ วเปา้ หมายหนึง่ อาจไม่ถอื วา่ เป็นการโจมตซี า้ กนั โดยไมจ่ าเป็นก็ได้ หลกั การขอ้ นี้
จึงขึน้ อยู่กบั การตกลงใจทเี่ หมาะสมโดยการวิเคราะหเ์ ปา้ หมายอยา่ งละเอยี ด
๗. ใหม้ ีความออ่ นตวั ผปยส. จะต้องคาดเอาไว้ล่วงหนา้ ว่าจะต้องมเี หตกุ ารณท์ ไ่ี ม่คาดคิดเกดิ ขน้ึ ไดเ้ สมอ
การใช้ภารกิจเมื่อส่ัง, ความรอบคอบในการแบ่งมอบอาวุธยิงสนับสนุน, การมอบภารกิจไม่มาตรฐาน และ
การระมัดระวังในการกาหนดที่ตั้งยิง ล้วนแต่เป็นส่ิงที่จะอานวยให้ผู้บังคับบัญชามีความอ่อนตัวที่จะรับกับ
สถานการณ์ทีแ่ ปรเปลย่ี นไปได้ทงั้ สิ้น
๘. ให้มีความปลอดภัยและความอยรู่ อดแกห่ น่วยฝา่ ยเรา หลกั การข้อนม้ี ีมาตรการหลายอย่างที่ช่วยให้
กระทาได้สาเร็จ เช่น โครงการต่อต้าน ป., การใช้มาตรการประสานการยิงสนับสนุน และการจากัดการยิง
เพือ่ ลดการที่ต้องแสดงตวั ของหน่วยฝ่ายเรา ตลอดจนการวิเคราะห์เป้าหมายในส่วนทเี่ กย่ี วขอ้ งกับหนว่ ยฝา่ ยเรา
อย่างไรก็ตามยังมีข้อที่จะต้องเพิ่มเติม สาหรับหลักการข้อน้ีอีกว่า จะต้องไม่ใช้มาตรการจากัดมากจนกระท่ัง
เป็นการลดประสิทธิภาพในการยิงสนบั สนนุ
ความเรง่ ด่วนในการวางแผน
หลักการต่างๆ ที่กล่าวมาแล้วน้ันได้คิดค้นข้ึนเพ่ือให้ได้อานาจการยิงสนับสนุนสูงสุด เพื่อตอบสนอง
ความต้องการเกี่ยวกับการยิงสนับสนุน บางคร้ังความต้องการน้ันอาจจะมากจนเกินขีดความสามารถ
ของระบบอาวุธยิงสนับสนุน จึงจาเป็นที่ผู้บังคับบัญชาจะต้องกาหนดลาดับในการโต้ตอบเป้าหมายต่างๆ
ท่ีเป็นอันตรายต่อภารกิจของตนมากที่สุดก่อน แนวทางและความเร่งด่วนน้ีผู้บังคับบัญชากาหนดขึ้น
เพ่ือให้ ผปยส. วางแผนการโจมตีเป้าหมาย ความเร่งด่วนน้ีจะไม่คงท่ีโดยแปรเปลี่ยนไปตามสถานการณ์
และข้าศึกท่ีเราเผชิญหน้าอยู่การกาหนดความเร่งด่วนนี้เป็นผลมาจากการแบ่งมอบอาวุธ, การกาหนดที่ต้ัง,
๕ - ๒๐
การมอบภารกิจ โครงการยิงต่างๆ และบัญชเี ปา้ หมายในขั้นการวางแผน โดยจะใช้ได้ในสถานการณห์ น่ึงและใน
ระดับหนว่ ยทเ่ี ปน็ ผู้กาหนดความเรง่ ด่วนน้นั ข้นึ มาเทา่ น้ัน
ประเภทของการวางแผน
การวางแผนการยิงสนบั สนุนนั้นอาจแยกออกเป็น "แบบเป็นทางการ" และ "แบบไมเ่ ป็นทางการ" ทั้งนี้
แลว้ แตร่ ะดับหน่วยท่ีเป็นผู้วางแผนและเวลาท่ีมอี ยู่ แต่การวางแผนท้ังสองแบบน้ีก็เพ่อื ที่จะเพิ่มพนู อานาจกาลงั รบ
อันสูงสดุ ใหแ้ กผ่ ูบ้ ังคับบัญชาน่นั เอง
๑. การวางแผนแบบเป็นทางการ เป็นกรรมวิธีอันประณีตการวางแผนน้ันจาเป็นต้องออกจาก
หน่วยเหนือลงไปยังหน่วยรอง จะเป็นการพิจารณาในรายละเอียดที่เกี่ยวกับว่า จะมีอาวุธอะไรบ้างที่ให้
การสนับสนุนจะได้มาอย่างไร และจะผสมผสานการดาเนินกลยุทธกับการยิงสนับสนุนให้เข้ากันได้อย่างไร
การวางแผนแบบนี้ใช้กับการปฏิบัติการเฉพาะคร้ังหน่ึง โดยมากจะปรากฏในหน่วยตั้งแต่ระดับกรมขึ้นไป
ผลของการวางแผนนั้น จะออกมาในรปู ของเอกสาร "แผนการยงิ สนับสนนุ " แลว้ ทาการแจกจ่ายจากหน่วยเหนือ
ไปยงั หน่วยรอง โดยถือวา่ เปน็ สว่ นหน่ึงของคาสง่ั ยุทธการ
การวางแผนการยิงสนบั สนุนแบบเป็นทางการ
xxx
XX
๒. การวางแผนแบบไม่เป็นทางการ เป็นกรรมวิธีที่เป็นอตั โนมัติเพื่อสนองตอบกับปัญหาเร่งด่วนต่างๆ
ท่เี กิดขน้ึ ในสนามรบ โดยท่ัวไปจะหมุนเวียนจากหน่วยระดับต่าข้นึ ไปยังหน่วยเหนือและจะใช้ท่ีระดับกองร้อย
กับกองพันเป็นหลัก ส่วนที่คล้ายกับการวางแผนเป็นทางการก็คือต้องขึ้นอยู่กับระดับหน่วย และเวลาท่ีมี
เพราะว่า การวางแผนแบบน้ีเป็นกรรมวธิ ที ่ีเป็นไปโดยอัตโนมัติ เพือ่ ใหร้ ับกับสถานการณ์ฉุกเฉนิ ดงั นั้นจงึ มักจะ
อยใู่ นรปู ของปากเปลา่ มากกวา่ เปน็ ข้อเขียน
การวางแผนการยงิ สนับสนุนแบบไม่เป็นทางการ
ชต.
๕ - ๒๑
การวางแผนการยิงสนบั สนุนแบบเป็นทางการ
ความรับผดิ ชอบในการวางแผน
ผปยส.ก็คือ ผู้วางแผนการยิงสนับสนุนให้กับ "ผู้บังคับบัญชา" โดยจะทางานประสานกันอย่างใกล้ชิด
กับฝ่ายอานาจการหลักของผู้บังคบั บัญชาโดยเฉพาะกับ สธ./ฝอ.๓ และกบั ตวั แทนของระบบอาวธุ ยงิ สนับสนุนอื่น
หน้าท่ีและความรับผิดชอบขององค์การฯ ท่ีเกี่ยวข้อง ในการวางแผนการยิงสนับสนุนแบบเป็นทางการ
จะได้ถกแถลงในหวั ข้อตอ่ ไปน้ี
๑. สยส.ทัพน้อย
สยส.ทพั นอ้ ยจะวางแผนการใชก้ ารยิงสนบั สนนุ ใหก้ ับกองทัพน้อยเปน็ สว่ นรวม ด้วยการวางแผนการยิง
ของระบบอาวุธที่คงอยู่ในความควบคุมของ ผบ.ทัพน้อย ระบบอาวุธน้ันอาจได้แก่ สอก. ตลอดจนขีปนาวุธ ต่างๆ
การวางแผนการยงิ ของอาวุธเหล่านจี้ ะกระทา ณ สยส.ทพั น้อย
สยส.ทัพนอ้ ยจะได้รบั ขา่ วสารเปา้ หมายมาจากศนู ยข์ ่าวกรองของกองทพั น้อย ศูนย์ข่าวกรองสงคราม -
อเิ ล็กทรอนิกส์, กองพล และส่วนดาเนินกลยทุ ธอื่นๆ ของกองทัพน้อย การยงิ จะวางแผนโจมตีต่อเป้าหมายซึ่ง
เป็นท่ีสนใจของกองทัพน้อยกับเป้าหมายต่างๆ ท่ีเกินขีดความสามารถของกองพล สยส.ทัพน้อยน้ันสามารถ
มอบงานใหก้ บั สยส.กองพลได้ โดยผ่านทางแผนและคาส่ังยุทธการของกองทัพนอ้ ย
๒. สยส.กองพล ที่ สยส.กองพลจะมีการแลกเปล่ียนข่าวสารกับองคก์ ารข่าวกรองอื่นๆ และกับระบบ
อาวุธยิงสนับสนุนอื่นๆ (เช่น ศูนย์ข่าวกรองของกองพล,ศปย.กรม ป., สยส.ทัพน้อย) เพ่ือทาการพัฒนา
เป้าหมายให้กับอาวุธยิงสนับสนุนของกองพลทาการยิงหรืออาจจะผ่านต่อไปให้หน่วยเหนือ หรือหน่วยรอง
ยิงก็ได้ สยส.กองพลจะเป็นผู้อนุมัติเป้าหมายที่กรมเป็นผู้วางแผนให้ระบบอาวุธอ่ืน (เว้น ป.สนาม) ท่ีอยู่
นอกความควบคุมของกรมเพ่ือทาการยิง แต่คาร้องขอการยิงเพิ่มเติมจาก ป.สนามน้ันจะกระทาผ่านทาง
ศูนย์อานวยการยิง สยส.กองพลน้ันก็มีส่วนเก่ียวข้องกับการวางแผนการใช้อาวุธนิวเคลียร์และเคมีด้วยเช่นกัน
โดยจะวางแผนกาหนดอัตราย่อยเพ่อื สง่ ไปสรุปรวมท่ี สยส.ทัพนอ้ ย นอกน้ันก็มงี านในการจัดทาแผนในรูปแบบ
ของเอกสาร และการมอบหมายงานให้กบั หน่วยรอง
สยส.หลักของกองพล (MAIN FSE) ไม่ได้ติดพันอยู่กับการรบโดยตรงจึงมักเป็นผู้วางแผน
การยิงสนบั สนุนแบบเป็นทางการสาหรบั แผนยุทธการในอนาคต
สยส.ยุทธวิธีกองพล (TAC FSE) ปกติจะไม่ใช่ผู้วางแผนฯ แต่เป็นผู้ประสานการยิงหรือร้องขอให้
สยส.หลักวางแผน
๓. สยส.กรม
ผบ.กรมน้ันจะคานึงถึงเป้าหมายที่มีผลอย่างมากต่อการปฏิบัติของกรม ความรับผิดชอบของ ผปยส.
ต่อความต้องการอันนี้ก็คือ ต้องแน่ใจว่า ผู้บังคับบัญชาได้วางแผนและตกลงใจ โดยใช้อาวุธยิงสนับสนุน
อยา่ งเต็มขีดความสามารถ สยส.กรมนั้น จะเปน็ ผ้รู วบรวมแผนการยิงสนับสนุนท่ี สยส.กองพันต่างๆ ร้องขอข้นึ มา
แล้วทาการตรวจแก้ส่วนท่ีซ้ากันและ/หรือเพ่ิมเติมเป้าหมายของกรมเข้าไปอีก โดยทาการประสานงานกับ
ฝอ.๓ กรม แล้วทาการเสนอแนะเป้าหมายเหล่าน้ีไว้ในแผนการยิงสนับสนุนซึ่งถือว่าเป็นการต้ังต้นพื้นฐาน
ของแผนการยงิ สนับสนุน
หลังจากนั้น ผปยส.ก็จะอานวยการให้ จนท.ใน สยส.กรม ซึ่งจะรวมทั้งตัวแทนจากระบบอาวุธยิง
สนับสนุนอ่ืนๆ ด้วย ทาการประสานงานกันเพ่ือวางแผนให้แผนการยิงสนับสนุน ตรงตามความต้องการ
ในการปฏิบตั ิการของกรม ผลสุดท้ายของแผนการยิงสนับสนุนของกรม ก็จะปรากฏอยู่ในแผน หรือคาสั่งยุทธการ
ของกรม ซ่ึงจะแสดงการมอบหมายงานการยิงสนับสนุนให้กับหน่วยรองและระบบอาวุธยิงสนับสนุน จากน้ัน
สยส.กรม ก็จะต้องเป็นผู้คอยแจ้งข่าวให้กับ พัน.ป.ชต., สยส.กองพันและตัวแทนระบบอาวุธยิงอ่ืนๆ ทราบถึง
การเปล่ยี นแปลงแผนของกรมอยเู่ สมอ
๕ - ๒๒
หัวข้อต่อไปน้ีจะเป็นการถกแถลงเร่ืองของแผนการยิงสนับสนุนต่างๆ ที่กล่าวมาแล้วว่าจัดทาข้ึนมา
ได้อยา่ งไร? แจกจา่ ยไปถึงใครบา้ ง? และใครเปน็ ผูร้ บั ผิดชอบในการดาเนนิ การเหลา่ น้ี?
การจัดทาแผนการยงิ สนบั สนนุ
๑. ผู้บงั คับบญั ชาจะกาหนดหนทางปฏิบัติ และคาแนะนาต่างๆ ที่ได้ให้ไว้ตั้งแต่ข้ันตอนวางแผน อันจะเป็น
มูลฐาน ในการจัดทาคาส่ังยุทธการในหัวข้อที่ ๓ ของคาสั่งยุทธการ จะแสดงว่าผู้บังคับบัญชาต้องการท่ีจะ
ใชก้ ารยงิ และการดาเนินกลยุทธ์อย่างไร และมสี ่วนทเี่ รยี กว่า "แผนการยงิ สนบั สนนุ " ดงั รูป
คาสัง่ ยุทธการและแผนการยงิ สนบั สนุน
คาสงั่ ยุทธการกองพล
๑. สถานการณ์
๒. ภารกจิ
๓. การปฏบิ ัติ
ก. แนวความคดิ ในการปฏบิ ัติ
๑) เจตนารมณ์
๒) กลยทุ ธ์
๓) การยงิ
ข. กรมทหารราบที่ ๑
ค. .............
ง. .............
จ. .............
ฉ. การยิงสนับสนนุ
แผนการยงิ ๑) ปืนใหญส่ นาม
สนับสนนุ ๒) การสนับสนุนทางอากาศใกล้ชิด
๓) ปืนเรอื
๔) นิวเคลยี ร์
๕) เคมี
๖) คาแนะนาในการประสานการยงิ สนับสนนุ
๔. การช่วยรบ
๕. การบังคับบญั ชาและการสอื่ สาร