๔-๗
เสน ทางเทานัน้
- หากมเี สน ทางเขาบงั คบั ใหว างกาํ ลังตามเสนทางเขานั้น โดยไมตอ งคํานงึ ถึงการปองกัน
สมา่ํ เสมอ
๒.๓ การติดพันแตเ น่นิ (EARLY ENGAGEMENT) วางอาวธุ หางตําบลปองกนั ใหส ามารถตดิ
พันเปาหมาย กอน บ.ขา ศึก ปลดระเบดิ
- หนวยยิงจะตองวางกาํ ลังใหส ามารถตดิ พนั บ. กอ นปลอยอาวธุ โจมตี
- การปฏิบัติดังกลา ว ตอ งวางหนว ยยิงหางจากทต่ี ง้ั ท่ีปอ งกัน ในทิศทางท่ีคาดวา ขา ศึกเขา
โจมตี
การแจงเตือนภัยเนิ่นใหกับหนวยยิง
ทุกหนวย จะชวยใหสามารถติดพัน
แตเน่ิน โดยระดับของการติดพันแต
เน่ิน ยอมขึ้นอยูกับ ขนาดของ
บริเวณสําคัญ, จํานวนอาวุธ ปตอ.ที่
มีอยู, หลักการวางกําลังหนวยยิง
หลักอื่นๆ ที่ตองการ (เชน การ
ปองกันสมํ่าเสมอ, การชวยเหลือซึ่ง
กนั และกนั เปน ตน )
-เปนหลักการสําคัญท่ีสุด
ในการใช ปตอ.ระยะใกล
๒.๔ การปอ งกันทางลึก (DEFENSE IN DEPTH) การวางอาวธุ เปนช้นั ๆ
- เปน การวางหนว ยยงิ ตา งๆ เพ่อื ให บ.ฝา ยคกุ คามเมอ่ื เคล่อื นท่ีเขา ใกลต ําบลทีป่ องกนั
มากเทาไร จะเผชญิ ปริมาตรการยิงมากข้ึนตามลาํ ดบั
๔-๘
- การปอ งกันทางลกึ จะบังเกดิ ผลสูงสุดดวยการทํางานเปน อนั หนึ่งอันเดยี วกนั และการ
ประสานงานของอาวธุ ปตอ.ทั้งปวงท่ใี ชในการปอ งกนั
๒.๕ การชว ยเหลือซึ่งกันและกัน (MUTUAL SUPPORT)
- เปน การวางหนว ยยงิ ใหสามารถทําการยิงครอบคลุมเขตอบั กระสนุ ซ่งึ เกิดจากลักษณะ
อาวุธและลกั ษณะของภมู ปิ ระเทศ ของหนวยยงิ ขางเคยี ง
- นอกจากนนั้ ยงั อํานวยใหส ามารถรวมการยงิ ของอาวธุ สองหนว ยยงิ หรือมากกวา ไปยงั บ.ท่ี
เขาโจมตี และทําใหไมบังเกิดชองวางในการปองกัน เม่ือหนวยยิงใดหนวยยิงหนึ่งไมสามารถปฏิบัติการไดดวย
เหตุผลใดก็ตาม
- ระยะสนบั สนนุ ซง่ึ กันและกัน มรี ะยะดังน้ี .-
ระบบอาวธุ ระยะชวยเหลือซงึ่ กันและกนั ระยะยิงเหล่ือมกัน
( เมตร ) ( เมตร )
ปตอ. ๑๒.๗ มม.
ปตอ. ๔๐ มม.แอล ๖๐ ๔๘๐ ๗๒๕
ปตอ. ๒๐ มม.วัลแคน ๑,๑๐๐ ๑,๖๕๐
ปตอ. ๔๐ มม.แอล ๗๐ ควบคุมการยงิ ๑,๐๐๐ ๑,๕๐๐
ดว ยฟลายแคทเชอร ๒,๐๐๐ ๔,๐๐๐
๒.๖ การยิงเหลือ่ มกัน (OVERLAPPING FIRE)
- เนื่องจาก ปตอ. มีจาํ กัด ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศและขนาดของท่ีตงั้ ที่ปองกนั เปนผลใหไ ม
สามารถวางหนว ยยงิ ใหอ ยูภ ายในระยะชว ยเหลือซึ่งกนั และกนั ได
- เพ่ือมใิ หเกิดชอ งวางในการปองกัน จึงตองวางหนวยยงิ ใหมีระยะยิงเหล่อื มกนั
- ระยะยงิ เหล่ือมกนั สูงสดุ ปกตยิ ดึ ถอื ระยะยิงหวังผลทางอากาศของอาวธุ น้ัน เวน ปตอ. ๒๐
มม.วลั แคน = ๑,๕๐๐ เมตร และ อาวุธนาํ วิถเี รดอาย = ๒,๐๐๐, ๓,๐๐๐ เมตร
๔-๙
๓ ความตองการในการวางกาํ ลงั หนว ยยิง ( DEFENSE DESIGN REQUIREMENT )
เปนการพิจารณาปจจัย METT-T ประกอบความตองการทางเทคนิคของระบบอาวุธท่ีใชป จ จัย METT-T
๓.๑ ภารกจิ (MISSION)
- พจิ ารณา ADA PRIORRITY. กับโครงสรางหนว ยรับการสนบั สนนุ
- ขนาด รปู แบบ ความแขง็ แรง และ ความสาํ คัญของบริเวณสําคัญ มอี ิทธผิ ลตอการโจมตีของ
ฝายคุกคาม ซง่ึ มอี ิทธผิ ลตอ จํานวน แบบ และการวางอาวุธ ปตอ.
- แผนดําเนินกลยุทธของหนว ยรับการสนับสนุนมีผลโดยตรงตอการจดั ปตอ.ทาํ การรบ การ
วางกําลงั หนวยยงิ
- ปจ จัยดงั กลา วตองนํามาพิจารณารว มกบั ความสามารถและขีดจาํ กัดของระบบอาวุธ ปตอ.
แตล ะระบบ
๓.๒ ขา ศึก (ENEMY)
- ลักษณะและยทุ ธวธิ ีการโจมตีของฝา ยคกุ คามมีอิทธิผลโดยตรงตอ การใชอาวธุ ปตอ.
- การวางกําลังและการกําหนดท่ตี งั้ ยงิ ควรประเมนิ คาอยางสมจริงเกี่ยวกบั แบบของ บ. และ
อาวธุ ทน่ี าจะนาํ มาใชโ จมตี การใช ปตอ.จงึ จะบงั เกิดประสทิ ธิผลสงู สดุ
๓.๓ ภมู ิประเทศและลมฟาอากาศ ( TERRAIN AND WEATHER )
ปจ จยั ที่ตองนํามาพจิ ารณาเกย่ี วกบั ท่ีต้งั
- ความตอ งการมลู ฐานเกีย่ วกับการตรวจการณ และเขตการยงิ เพ่อื ใหส ามารถตดิ พันแตเ นิ่น
- สามารถเขา ที่ต้ังยิงจรงิ / สํารอง ไดงาย
- ขอจํากัดเกี่ยวกับลักษณะภูมปิ ระเทศ (พนื้ เอยี ง ความแขง็ เสน สายตา)
- การกาํ บังและการซอนพราง
- ผลของอากาศ ตอ ภมู ิประเทศ และประสทิ ธิภาพของอาวธุ
การพิจารณาภูมปิ ระเทศในการพจิ ารณาเสนทางเขา
- ภูมิประเทศโดยรอบทีต่ งั้ ท่ปี อ งกนั ที่ชวยขาศึกในการกําหนดทตี่ งั้ นนั้ ถอื วา เปน ภูมิประเทศ
สาํ คัญ
- ภมู ปิ ระเทศสาํ คัญดงั กลา ว ผบ.หนว ย ปตอ. นํามาใชว เิ คราะหเ พ่ือหาเสนทางเขาของ บ.
ระดับตาํ่
-.เม่ือทราบเสน ทางเขา โดยแนชัด อาจวางหนว ยยงิ ปตอ.ระยะใกล ตามเสน ทางดังกลาวเพื่อ
ขัดขวางการใชเสนทางบนิ ของ บ.ขาศกึ (แตค วรกระทาํ ในหว งเวลาจํากดั )
- วิเคราะหภ มู ปิ ระเทศเพ่ือทราบเขตการตรวจการณ ของฝายเราและฝายขาศกึ
๔-๑๐
๓.๔ หนว ยทหาร ( TROOP )
- พิจารณาจาํ นวนและแบบของ ปตอ.ท่ีมีอยูส าํ หรบั ใชป องกนั แตล ะทีต่ ้งั
- ความตอ งการเวลาทีใ่ ชใ นการซอ มบํารงุ ระบบอาวธุ
- ความตองการทางเทคนิคของระบบอาวธุ ขอจํากัดเกย่ี วกับอาํ นาจการยิง และระยะยิง การ
เปดเผยทต่ี ง้ั จากการยิง
๓.๕ เวลา (TIME)
- สําหรบั การจดั ระเบียบการปองกนั การลาดตระเวน การจดั เตรียมทต่ี ัง้ ตา งๆ
- ความตองการทางเทคนิค ( TECHNICAL REQUIREMENTS )
- พิจารณาถงึ ความสามารถ ขีดจํากดั และความอยรู อด ของระบบอาวุธ ในการวางแผนการ
วางกาํ ลงั หนวยยิงน้นั ยอมไมสามารถใชห ลกั การทั้งหมดโดยครบถวนได ทั้งนี้เนื่องจากลักษณะภูมิประเทศ การ
สนบั สนุนทางการชว ยรบ ฯลฯ ซงึ่ ทําใหจํากดั เกย่ี วกบั ท่ีต้งั ยงิ ที่ดี ทาํ ใหไมสามารถใชห ลกั การบางประการได
-.เมื่อใชห ลกั การอันหนง่ึ แลวอาจไปขัดกบั หลกั การอ่นื กไ็ ด โดยเฉพาะอยางยงิ่ เมือ่ มี อาวุธ
ปตอ.จํานวนนอย เชน ใช มว.ปตอ.ระยะใกล ปภอ. หากตองการใหมีการติดพันแตเน่ินยอมตองวางอาวุธหาง
กนั เกนิ ระยะสนบั สนุนซงึ่ กันและกนั เปน ตน
๔-๑๑
ตอนท่ี ๒ การ ปภอ.ทีต่ ั้งอยูก ับท่ี
(STATIC POINT DEFENSE)
กลา วทั่วไป
การ ปภอ.ท่ีตั้งอยูกับท่ี ซ่ึงอยูหลังหนวยดําเนินกลยุทธ จะวางแผนเพ่ือปองกันการโจมตีระดับตํ่า
ของ บ.ไอพน เปนหลัก ท่ตี งั้ ดังกลาวอาจเปนเปา หมายตามเหตกุ ารณ หรือตามแผนของ บ. ปกติอยูหลัง ขนพร.
พอที่จะวางหนวยยิงหางจากท่ีต้ังท่ีปองกันทุกทิศทางได การวางกําลัง ปภอ. อาจใชอาวุธอยางเดียวกันหรือ
ผสมการใชอ าวุธกไ็ ด หนวย ปตอ.ขนาดเล็กทส่ี ุดที่สามารถ ปภอ.คอื
• ปตอ.ลํากลอ ง หนวยระดับเลก็ ที่สดุ คือ มว.ปตอ.
• ปตอ.อต. (เรดอาย) หนว ยระดบั เลก็ ทสี่ ดุ คอื ตอน ปตอ.อต.
- สามารถวางแผน ปภอ. และการเลอื กทตี่ งั้ สามารถกระทําอยา งมเี วลามากกวาการใช ปภอ.
หนวยดําเนนิ กลยุทธ
๔-๑๒
วธิ กี ารวางแผน ปภอ. (HOW TO DESIGN THE DEFENSE)
๑. ข้ันท่ี ๑ การกําหนดบริเวณที่ปองกนั โดยแนช ดั (DEFINE THE DEFENDED AREA)
บรเิ วณดังกลา ว จะเพิม่ ขนาดขน้ึ ดว ยระยะท่ีเกดิ จากผลของอาวธุ ท่ขี าศึกอาจนํามาใช
๒. ข้ันท่ี ๒ กําหนดความสําคญั ของทตี่ ้ังตา งๆ ภายในบริเวณที่ปองกัน (DETERMINE VITAL
POINTS WITHIN A POINT DEFENSE)
๓. ขัน้ ที่ ๓ กําหนดเสน ทางเขา ตางๆ (DETERMINE ROUTES OF APPROACH)
- เสนทางเขา มีเสนทางเขาคาดคะเนและเสนทางเขาบังคับ
- เสนทางเขาคาดคะเน เปน เสน ทางเขาที่ บ.ขา ศึกนา จะใช
- เสน ทางเขา บังคับ เปนเสนทางที่ บ. ขาศกึ จาํ เปนตองใช
๔. ขน้ั ท่ี ๔ กาํ หนดแนวปลดอาวธุ (DETERMINE ORDNANCE RELEASED LINE)
- จําเปนตอ งทราบเทคนคิ และขีดความสามารถตา งๆ ของขาศึกอยา งละเอียด
- แนวปลดอาวธุ ยอมแตกตา งกันไป ตามแบบของการโจมตี
- การโจมตีระดับตํ่า สําหรับเทคนิคการบินไตข้ึนสูง ควรใชระยะของแนวปลดอาวุธประมาณ
๑.๓ กม.
- ในบางกรณีหากนักบินตองการโจมตีเปนพื้นท่ี แนวปลดอาวุธอาจอยูหางจากเปาหมาย
๒ – ๓ กม.
- ปจจัยตางๆ เหลานี้ ผูวางแผนจะพิจารณาการวางหนวยยิง เพ่ือ ปภอ.ใหสามารถติดพัน บ.
ขา ศกึ ไดก อ นทจี่ ะเขา มาถึงแนวปลดอาวุธ
๕. ขั้นที่ ๕ การเลือกทีต่ งั้ หนวยยิงบนแผนที่ (SELECT TENTATIVE WEAPON LOCATIONS)
- กาํ หนดทต่ี งั้ หนว ยยงิ ตา งๆ ลงบนแผนที่ (ใชแนวทางในการวางกาํ ลังหนว ยยิง)
- ประสานการใชที่ต้ังตางๆ เหลานั้นกับหนวยเจาของพื้นท่ี และควรขออนุมัติการใชท่ีต้ัง
เหลาน้ันกับ ผบ. หนวยรบั การสนับสนุนกอ นเขาประจาํ ที่ต้งั
๔-๑๓
- การปรบั แผนควรกระทาํ เมื่อจาํ เปน
- ผบ.หนวยรับการสนบั สนนุ ควรใหข าวสารเกยี่ วกับการวางกาํ ลงั ของหนว ย
- การปฏบิ ัตติ ามแผน ปภอ. กระทําโดยการ ลลขต.
- ผบ.มว./ตอน เปนผูกําหนดที่ต้ังตางๆ ของแตละหนวยยิง มอบเขตการยิงหลัก และเสน
หลกั การยิงใหแ ตล ะหนวยยงิ (บนแผนท)ี่
- ผบ.หนว ยยงิ /ชุดยงิ กําหนดท่ีต้งั ท่แี ทจรงิ บนพื้นทีด่ ิน
๔-๑๔
ตอนที่ ๓ การ ปภอ.หนว ยดําเนินกลยุทธขณะเคลื่อนที่
กลาวนาํ
๑. การ ปภอ. หนว ยดาํ เนินกลยุทธ มปี จ จยั สําคญั ทจ่ี ะตอ งพจิ ารณาอยู ๓ ประการ คอื
๑.๑ การระวงั ปองกันที่ตงั้
๑.๒ ความสามารถในการเคลอื่ นท่ี
๑.๓ ความตอ งการเก่ยี วกับทตี่ ง้ั
๒. การระวังปอ งกนั ทต่ี ั้ง หนวย ปภอ. ระยะใกล จะปฏิบตั ภิ ารกิจอยางไดผล ตองมีความปลอดภัย
จากการโจมตีทางพื้นดิน จงึ ตองหลกี เล่ียงการวางกําลงั หนา หนวยดําเนนิ กลยุทธ ซง่ึ จะกอใหเกิดผลในการลดขีด
ความสามารถในการตดิ พันแตเ น่นิ
๓. ความสามารถในการเคลื่อนท่ี หนวย ปตอ.ปภอ.หนวยดําเนินกลยุทธ จะตองใหมีและดํารงขีด
ความสามารถในการเคล่ือนที่ เพื่อ ปภอ.ใหกับหนวยดําเนินกลยุทธไดตลอดเวลา อาวุธท่ีเหมาะในการ ปภอ.
หนว ยดาํ เนนิ กลยทุ ธ คอื อาวุธ ปตอ.อจ.
๔. ความตองการเกี่ยวกับที่ตั้ง ไดแก เขตการยิงและการตรวจการณกวางขวาง และการ
ตดิ ตอ สื่อสารกบั หนวยตา งๆ และเรดารฟาร ดังน้นั ควรตงั้ ยงิ ในที่สูง
๕. ภัยคกุ คามทางอากาศทห่ี นว ยดาํ เนนิ กลยุทธเผชญิ มกั จะไดแก ฮ.โจมตี และ บ.สมรรถนะสูง
๖. การใช อาจใชเ คล่ือนที่ติดตามหนว ยดาํ เนินกลยทุ ธ หรือเขาท่ีต้งั ยิงคมุ ครองกไ็ ด
๔-๑๕
ตอนท่ี ๔ การปองกนั ภยั ทางอากาศตอขบวนเดิน
กลาวทว่ั ไป
- ขบวนเดนิ ลอ แหลมตอ การโจมตที างอากาศ ในขณะเคล่อื น เม่อื ทัศนวสิ ัยดี หลงั แนวขนพร.
- ภัยทางอากาศทเ่ี ผชิญ นาจะไดแ ก บ.ไอพน
- ขบวนเดินมกั จะเปนเปา หมายตามเหตุการณของการโจมตีทางอากาศ
- วธิ กี าร ปภอ.ขบวนเดินทาํ ได ๒ วธิ ี
• ใหห นวย ปตอ.เคลือ่ นทรี่ วมไปกับขบวนเดิน
• วางกําลัง ปตอ.ปภอ. ตามเสนทางเคลอ่ื นที่ ณ ตาํ บลสาํ คัญตา งๆ
การใชหนวย ปตอ. เคล่ือนท่รี วมไปกบั ขบวนเดนิ
- ปกตจิ ะใช อาวุธ ปตอ.อจ. และอาวุธ MANPAD
- ทิศทางที่ บ.ขาศึกนาจะใชเ ขา โจมตี คอื ทศิ ทางดา นหวั และทายขบวน
- ขัน้ แรกตอ งหาความยาวของขบวนเดิน
- การวางกําลงั หนว ยยิงจะวางกาํ ลังเพ่อื เพม่ิ นาํ้ หนักการ ปภอ. ในทศิ ทางหัวและทา ยขบวน
เพื่อใหส ามารถตดิ พนั แตเนิ่น สว นทเ่ี หลอื ของรูปขบวน คงวางกําลังโดยอาศยั ระยะชวยเหลือซ่งึ กันและกัน
๑. การใช ปตอ. ๑๒.๗ มม.
- วางอาวธุ ปตอ. ๑๒.๗ มม. ๒ หนวยยงิ แรกหา งจากหัวและทายขบวน ๒๐๐ เมตร
- สวนที่เหลือของขบวนเดินจะวางกําลังหางกันทุกๆ ๕๐๐ เมตร เขาหาจุดกึ่งกลางขบวนเดิน
เพือ่ ให ปตอ.๑๒.๗ มม.ทกุ หนวยยงิ อยหู างกนั ภายในระยะชวยเหลือซ่ึงกนั และกัน
- หากขบวนเดนิ มีความยาว ๕๐๐ เมตร หรือนอยกวา ใหใช ปตอ. ๑๒.๗ มม. ๒ หนวยยิง (ไม
ใช ปตอ. ๑๒.๗ มม. ๑ หนวยยงิ เปน อนั ขาด)
๒. การใช ปตอ. ๒๐ มม.วลั แคน อจ.
- วางอาวุธ ปตอ. ๒๐ มม. ๒ หนวยยิงแรกอยูหางจากหัวขบวนและทายขบวน ๕๐๐ เมตร
- ตอจากน้ัน ใหวางกําลังหนวยยิงที่เหลือหางกันทุกระยะชวยเหลือซ่ึงกันและกัน (๑,๐๐๐
เมตร) เขา หาจุดก่ึงกลางขบวนเดิน เพื่อให ปตอ. ๒๐ มม.วัลแคน ทุกหนวยยิงอยูหางกันภายในระยะชวยเหลือ
ซ่ึงกนั และกัน
- ขบวนเดนิ ยาว ๑,๐๐๐ เมตรหรือนอยกวา จะใช ปตอ.๒๐ มม. ๒ หนวยยิง จะไมใช ปตอ.วัล
แคนหนงึ่ หนว ยยิงเปนอันขาด
๔-๑๖
๓. การใช ปตอ. ๔๐ มม.แอล. ๖๐ อจ. ( ดัสเตอร )
- วางอาวธุ ปตอ. ๔๐ มม. ๒ หนวยยิงแรกอยหู างจากหวั และทา ยขบวน ๕๐๐ เมตร
- ตอ จากนน้ั วางกําลังหนวยยงิ ทเ่ี หลอื หา งกนั ทุกระยะชวยเหลือซึ่งกันและกนั (๑,๑๐๐ เมตร )
เขาหาจุดก่ึงกลางขบวนเดิน เพอ่ื ให ปตอ. ๔๐ มม.ทุกหนวยยงิ อยหู างกนั ภายในระยะชว ยเหลือซ่ึงกันและกัน
- ขบวนเดินยาว ๑,๑๐๐ เมตร หรือนอยกวา จะใช ปตอ. ๔๐ มม. ๒ หนวยยิง และจะไมใช
ปตอ. ๔๐ มม. หนงึ่ หนวยยิงเปน อนั ขาด
๔. การใชอ าวุธ ปตอ.อต. (เรดอาย)
- เนน ในเร่ืองการวางกําลังหนว ยยงิ
๔.๑ การติดพนั แตเ นน่ิ วางอาวุธได ๒ ชุดยิงใกลดานหัวและทายขบวน
๔.๒ การใหมีระยะยงิ เหล่อื มกัน กระทําโดยวางหนวยยิงใหหางเทาๆ กันตลอดขบวนเดิน โดย
ใหมรี ะยะหา งกันนอ ยกวา ๓ กม.
- เม่ือการโจมตีทางอากาศใกลจะเกิดข้ึน ชุดยิงเรดอายจะตองรีบนํารถลงจากถนน เขาประจํา
ทต่ี ัง้ ยิงท่ีดีทส่ี ุดเทา ทจ่ี ะหาได และสามารถทาํ การยิงไดอยา งปลอดภัย
๕. การใชอ าวธุ ปตอ.อต.รว มกับอาวธุ ปตอ.แบบอื่น
- อาวุธ ปตอ.แบบอืน่ คงวางกาํ ลงั ปอ งกนั ขบวนเดนิ เชน ทีก่ ลาวมาแลว
- อาวุธ ปตอ.วางกําลังคูกับอาวุธ ปตอ.แบบอ่ืน ซ่ึงอยูดานหัวและทายขบวน สวนอาวุธท่ีเหลือ
คงวางกําลงั เชน ทีก่ ลา วไวในขอ ๔.
การใช ปตอ.ปภอ. ขบวนเดินดวยการเขา ประจําที่ต้ังตามเสน ทางเคลอื่ นที่
- ตองพิจารณาปจจัย METT-T จํานวนที่ต้ังสําคัญตางๆ ตามเสนทาง ความยาวของขบวน
เสนทาง และ อาวุธ ปตอ.ท่ีมีอยู การวางกําลังแบบนี้ ควรวางอาวุธใหหางกันในระยะชวยเหลือซ่ึงกันและกัน
เวน อาวุธเรดอายควรใหว างกําลังใหมรี ะยะยงิ เหลื่อมกนั
- สําหรับ ปตอ.๔๐ มม.แอล.๗๐ ควบคุมการยิงดวยฟลายแคทเชอร ควรวางหนวยยิงหางกันไม
เกนิ ๔ กม. และวางหา งเสน ทางประมาณ ๒๕๐ – ๕๐๐ เมตร
๕-๑
บทท่ี ๕
อาวุธและยทุ โธปกรณ์ปนื ใหญต่ ่อสู้อากาศยานทบ. ไทย
การแบ่งประเภทอาวธุ ปตอ.
เนื่องจากอาวุธ ปตอ . ได้รับการพฒั นาและไดน้ ามาใชใ้ นปจั จบุ นั มีหลายระบบ และหลายชนิด
อาวุธดงั กล่าวสามารถแบ่งออกได้ดังนี้ คอื การแบ่งประเภทอาวธุ ปตอ. ตามลกั ษณะอาวุธ การแบ่ งประเภท
อาวธุ ปตอ.ตามระยะยงิ และการแบ่งประเภทอาวธุ ปตอ.ตามลักษณะการนาไปมา
๑. การแบ่งประเภทอาวธุ ปตอ. ตามลกั ษณะอาวุธ สามารถแบ่งออกได้เปน็ ๒ ประเภท คือ
๑.๑ ปตอ. ลากล้อง อาวธุ ปตอ. ลากล้องเป็นอาวุธ ป . กระสุนวิถรี าบ ทาการยงิ แบบอตั โนมตั ิ
ด้วยความเรว็ ในการยงิ สูง โดยท่ัวไปแล้วมขี นาดกว้างปากลากลอ้ งไม่เกนิ ๔๐ มม. และมีระยะยิงจากดั
๑.๒ อาวุธนาวิถผี ิวพนื้ สอู่ ากาศ หรอื อาวุธนาวิถีตอ่ สอู้ ากาศยาน (SURFACE TO AIR
MISSILE) เป็นอาวธุ สง่ ซง่ึ ส่งจากเครือ่ งส่ง (LAUNCHER) แล้วสามารถปรบั วถิ ีเข้าหาเปา้ หมายได้ในขณะ
เคลื่อนที่อยใู่ นอากาศ ระบบของการนาวิถที ่ใี ช้มี ๓ แบบ คอื
๑.๒.๑ สัง่ การนาวถิ ี (COMMAND GUIDANCE) คือ ระบบนาวถิ ีการเคลือ่ นทขี่ องอาวุธสง่
สามารถเปล่ยี นแปลงได้ภายหลงั ปล่อยขนึ้ สู่อากาศแล้วดว้ ยสญั ญาณส่ังการจากภายนอกตัวอาวธุ เช่นโร
แลนด์ , ไนกเี้ ฮอร์ควิ ลิส
๑.๒.๒ การแล่นไต่ลานาวถิ ี (BEAM-RIDING GUIDANCE) คอื ระบบนาวิถซี ่งึ อาวธุ ส่ง เมื่อ
สง่ ขนึ้ สู่อากาศแลว้ อาวุธส่งจะเคลอื่ นทีเ่ ขา้ หาลาคลน่ื และจะเคลอ่ื นที่ไปตามลาคลืน่ (BEAM) แม่เหล็กไฟฟ้า
ซ่งึ สง่ ออกไปจากเรดารท์ ต่ี ดิ ต้งั อย่บู นผิวพ้นื ลาคลื่นดงั กลา่ วจะเล็งตามเปา้ หมาย ซ่งึ อาวธุ สง่ จะบงั คบั ให้
เคล่อื นทีไ่ ปตามลาคลน่ื แม่เหลก็ ไฟฟา้ เข้าสกดั กบั เป้าหมายท่เี คลอ่ื นที่ เชน่ เทอริเออร์ ของ ทร .สหรฐั
๑.๒.๓ เป้าหมายนาวิถี (HOMING GUIDANCE) คอื ระบบนาวถิ ีซึง่ อาวุธสง่ เม่อื ได้ส่งขึน้ สู่
อากาศแลว้ การเคล่ือนท่ขี องอาวธุ สง่ สามารถเปลีย่ นแปลงวถิ ไี ด้ดว้ ยอุปกรณ์ภายในอาวุธส่ง จะทาปฏกิ ิรยิ า
ตอบโต้คณุ ลักษณะเดน่ ชดั บางประการของเปา้ หมาย โดยธรรมดาจะอาศัยพลงั งานรปู แบบต่างๆ ที่สะทอ้ น
หรอื แพรอ่ อกจากเป้าหมาย ระบบเป้าหมายนาวิถีแบง่ ออกไดต้ ามลกั ษณะพลงั งานท่แี พร่ออกมาจากเปา้ หมาย
ไดเ้ ป็น ๓ แบบ คือ
๑.๒.๓.๑ เปา้ หมายนาวิถีแบบสะทอ้ นกลบั โดยตรง (ACTIVE HOMMING GUIDANCE)
ใช้การสะท้อนกลับจากพลงั งานท่สี ่งมากจากเครอ่ื งส่งพลงั งาน (ILLUMINATOR) ท่ตี ิดต้งั อยู่ในตวั อาวธุ ส่งเอง
เช่น โรแลนด์ , ไนก้เี ฮอรค์ วิ ลิส
๑.๒.๓.๒ เป้าหมายนาวถิ ีสะท้อนกลับทางอ้อม(SEMI ACTIVE HOMMING
GUIDANCE) ใช้การสะทอ้ นกลับของพลังงานทีส่ ง่ มากจากเครือ่ งส่งพลงั งาน ซึง่ แยกออกมาต่างหากจากตวั
อาวธุ ส่ง เชน่ SPADA
๑.๒.๓.๓ เป้าหมายนาวิถีแบบสอ่ื จากเปา้ หมาย (PASSIVE HOMING GUIDANCE)
ใชก้ ารแพรพ่ ลงั งานท่ีสง่ มาจากตวั เปา้ หมายเอง เช่น เรดอาย , สติงเกอร์ , HN – ๕
๒. การแบ่งประเภทอาวธุ ปตอ.ตามระยะยงิ แบง่ ออกไดเ้ ป็น ๒ ประเภท
๒.๑ อาวธุ ปตอ .ระยะใกล้ ( SHORT RANGE AIR DEFENSE SYSTEM ) อาวุธ ปตอ .
ระยะใกล้ มที ั้งอาวธุ ปตอ.ลากล้อง และอาวธุ นาวถิ ีผวิ พ้ืนส่อู ากาศ เชน่ ปตอ . (ซาเจนท์ยอร์ค ) วลั แคน , ดัส
เตอร์ อาวธุ นาวิถผี ิวพื้นสอู่ ากาศ โรแลนด์ แชพพาราล และประเภทนาไปมาดว้ ยคน ( MANPAD ) เช่น
สตงิ เกอร์ และเรดอาย อาวุธ ปตอ . ระยะใกล้ปกตจิ ะใชส้ นบั สนุนหนว่ ยดาเนนิ กลยุทธ เพื่อป้องกนั ภัยทาง
อากาศต่อทตี่ ง้ั ที่สาคญั มากทสี่ ดุ ต่อการสนับสนุ นทางอากาศโดยใกล้ชดิ ของเครือ่ งบนิ และเฮลคิ อปเตอร์ของ
๕-๒
ขา้ ศกึ และสามารถนามาใช้ในพ้ืนท่ีสว่ นหลงั เพ่ือปอ้ งกันท่ตี ั้งตา่ ง ๆ เช่น สนามบนิ ที่ต้งั หน่วยทหาร และท่ีตัง้
สาคัญอ่ืน ๆ ในพน้ื ที่ของกองทัพนอ้ ย ปตอ. ระยะใกล้ จะมีขดี ความสามารถในการเคล่อื นที่และความแข็งแรง
เพียงพอเพื่อใหม้ นั่ ใจไดว้ ่าสามารถดารงความอยรู่ อดไดภ้ ายใตส้ ภาพแวดล้อมของหนว่ ยกาลงั รบทต่ี นไป
สนับสนุน
๒.๒ อาวุธ ปตอ . ระยะปานกลางและไกล (HIGH -TO – MEDIUM AIR DEFENSE
SYSTEM) เปน็ อาวุธนาวถิ ีประเภทผวิ พนื้ สู่อากาศ เชน่ ไนกี้เฮอรค์ วิ ลศิ พาตริออต และ ฮอร์ค อาวธุ ปตอ .
ปานกลางและไกล จะนามาใชก้ บั ภัยท่ัวยุทธบริเวณ/ทัพน้อย ต่อการโจมตีของอากาศยานข้าศกึ นอกจากน้นั
ยังอาจบรรจใุ ห้กบั กองทพั นอ้ ยหรอื กองพลเมอื่ มอี าวุธเพียงพอ เพื่อให้การปอ้ งกันภัยทางอากาศครอบคลุม
ท่ีตั้งสาคญั ตา่ งๆ ของกองทัพน้อย/กองพล ต่อการโจมตีของอากาศยานความเรว็ สูงของข้าศึก
๓. การแบง่ ประเภทอาวุธ ปตอ .ตามลักษณะการเคลือ่ นที่ อาวธุ ปตอ . แบง่ ลักษณะการเคลอ่ื นที่
ได้เป็น ๔ ประเภท คือ
๓.๑ ประจาที่ (FIXED) เปน็ อาวธุ ปตอ.ท่ีตดิ ต้ังอยอู่ ย่างถาวร เพ่อื ปอ้ งกันบริเวณที่สาคัญ หรือ
สถานท่สี าคัญ
๓.๒ ลากจูง (TOWED) เปน็ อาวุธ ปตอ. ท่อี อกแบบสาหรบั การเคลอื่ นทโี่ ดยพว่ งไปเบอ้ื งหลังรถ
ลาก
๓.๓ อตั ตาจร (SELF-PROPELLED) เป็นอาวุธ ปตอ.ทตี่ ดิ ตง้ั บนยานพาหนะทีม่ กี าลงั เคล่ือนทีไ่ ด้
ด้วยตวั เอง
๓.๔ นาไปมาด้วยคน (MAN PORTABLE AIR DEFENSE SYSTEM - MANPAD) เปน็ อาวธุ
ปตอ. ทีน่ าไปมาด้วยพลยงิ
คณุ ลักษณะอาวุธทหารปืนใหญ่ตอ่ สอู้ ากาศยาน
ประเภท ระยะยิง น้าหนัก อัตรายงิ ยานพาหนะ หมายเหตุ
ปตอ.๔๐ มม. ไกลสดุ ๖,๐๐๐ lbs (นดั /นาท)ี (ตัน)
(ม.) ๔๙,๕๐๐ lbs
L ๖๐ หวังผล ๑๒๐ รยบ. ๒ ๑/๒ แบบ M๑
ปตอ.๔๐ มม. ๑,๖๕๐ (อ) ๕,๒๕๐ กก. ตนั ระยะยงิ ไกลสุด
๑,๘๕๐ ๕,๒๕๐ กก. ๒๔๐ (ลจ.) ๑๐,๐๐๐ ม.
ปตอ.๔๐ มม. (พื้นดนิ ) (๒ ลากล้อง)
L ๗๐ หวังผล ติดต้ังบน แบบ M ๔๒
๑,๖๕๐ (อ) ๓๐๐ รถสายพาน สายพาน
ปตอ.๔๐ มม. ๑,๘๕๐ ๓๐๐ (DUSTER)
L ๗๐ (พนื้ ดิน) M ๔๑ ระยะยงิ ไกลสดุ
๑๐,๐๐๐ ม.
Fly Catcher หวงั ผล รยบ.๕ ตัน ระยะยงิ ไกลสดุ
๒,๐๐๐ (อ) (ลจ.) ๑๒,๕๐๐ ม.
ระยะยงิ ไกลสุด
หวังผล รยบ. ๕ ตนั ๑๒,๕๐๐ ม.
๔,๐๐๐ (อ) (ลจ.)
๕-๓
Radar
ปตอ.๑๒.๗ มม. หวังผล ๘๒๕ ๒๐,๗๖๕ lbs ๔๕๐/ลก. ติดต้งั บนรถ แบบ M ๑๖
(อ) ๔ ลากลอ้ ง กง่ึ สายพาน ระยะยิงไกลสุด
๑,๘๐๐ ๑,๘๐๐- แบบ M ๓ ๖,๖๐๐ ม.
(พน้ื ดนิ ) ๒,๒๐๐ ติดตงั้ บนรถ แบบ RC ๒๔
๑ ตนั้ ๔/๔ ระยะยงิ ไกลสดุ
ปตอ.๑๒.๗ มม. หวังผล ๙๒ lbs ๖๐๐
๑,๖๐๐ (อ) ๗,๐๐๐ ม.
๓,๓๐๐ ๓,๐๐๐ ติดตัง้ บนรถ แบบ M ๑๖๓
(พื้นดิน) สายพาน ระยะยงิ ไกลสุด
๓,๐๐๐ M ๗๔๑ ๔,๕๐๐ ม.
ปตอ.๒๐ มม. หวัลผล ๑๒,๔๙๓ กก. รยบ. ๑ ๑/๔ แบบ M ๑๖๗
(วลั แคน) ๑,๒๐๐ (อ) (๒๔,๗๐๐ lbs) ปกติ ๕๐–๖๐
๒,๐๐๐ สงู สดุ ๑๐๕– ตนั ระยะยิงไกลสดุ
(พ้ืนดิน) (ลจ.) ๔,๕๐๐ ม.
๑๒๐ รยบ ๕ ตัน ระยะยิงไกลสดุ
ปตอ.๒๐ มม. หวงั ผล ๑,๕๘๓ กก. - (ลจ.) ๑๕,๐๐๐ ม.
(วลั แคน) ๑,๒๐๐ (อ) (๓,๑๕๐ lbs) -
๒,๐๐๐
(พื้นดิน)
ปตอ.๕๗ มม. หวงั ผล ๔,๗๕๐ กก.
T ๕๙ ๘,๘๐๐ (อ)
๑๒,๐๐๐
(พื้นดนิ )
อตอ.๓๐ หวงั ผล ๒,๘๐๐ ๑๕ กก. บคุ คลนาไป ระยะยิงไกลสุด
(HN-๕) รยบ.๑๐ ตัน ๔,๒๐๐ ม.
อตอ.๓๑ หวงั ผล ๑๐– ๒๒๐ กก. (ลจ.) ๑ แทน่ มี ๖ ท่อ
(เอสปเิ ด้) ๑๕ กม. ยงิ