The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือครูหนังสือเรียน วิชาเพศวิถีศึกษา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

คู่มือครูหนังสือเรียน วิชาเพศวิถีศึกษา

คู่มือครูหนังสือเรียน วิชาเพศวิถีศึกษา

Ap3.pขlyั้นiปnฏgิบัตanิแdละCสoรnุปsคtrวuาcมtiรnู้gหลthังeกาKรnปoฏwิบleัตdิ ge Appl4y.inขg้ันสt่ืhอeสาCรoแmลmะนu�ำnเiสcaนtอion Skill 5. ขS้ันeปlรfะ-เRมeินgเพuื่อlเaพt่ิมinคgุณค่า

ค่านิยมหลัก 12 ประการ กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก

asean

40 เพศวถิ ศี กึ ษา St ep 5 ขั้นประเมินเพอื่ เพ่มิ คุณคา่
บริการสงั คมและจติ สาธารณะ
(3) การดื่มเคร่อื งดื่มที่มีแอลกอฮอล์ tingf-Regula
(4) การมนี ้ำาหนักเกินเกณฑ์มาตรฐาน Sel
(5) การขาดการออกกำาลงั กาย
(6) การใช้ยาคุมกำาเนดิ เปน็ เวลานาน 1. ผเู้ รยี นแตล่ ะกลมุ่ และรายบคุ คลตรวจสอบ
(7) การมีประจำาเดือนต้ังแต่อายุยังน้อย (น้อยกว่า 12 ปี) หรือหมดประจำาเดือน ความรู้ความเข้าใจของตนเองหลังจาก
เมอื่ อายุมากกว่าปกติ (55 ปีขนึ้ ไป) รับฟังการนำ�เสนอของสมาชิกกลุ่มอ่ืน
อาการของโรคมะเรง็ เตา้ นม ปรบั ปรงุ ชน้ิ งานของกลมุ่ ตนเองใหส้ มบรู ณ์
(1) มกี อ้ นเนือ้ ทเี่ ตา้ นม โดยมะเร็งมกั จะไมเ่ จบ็ ปวด อาจโตช้าหรือเรว็ ก็ได้ และบันทึกเพิ่มเตมิ
(2) การเปล่ียนแปลงของรูปร่างและเนื้อเต้านม เช่น เต้านมผิดรูปไปจากเดิม
บวมโต แขง็ ผดิ ปกติ 2. นำ�ผลงานแสดงในป้ายนิเทศหรือเผยแพร่
แนวทางการปอ้ งกันโรคมะเรง็ สู่หอ้ งเรียนอ่นื หรือสาธารณะ
(1) รับประทานผักผลไม ้ โดยเฉพาะผกั 5 ส ี ไดแ้ ก ่ สเี ขียว เชน่ คะนา้ กะหลาำ่ ปลี
กวางตุ้ง ผักบงุ้ สเี หลอื งหรอื ส้ม เช่น ฟักทอง แคร์รอต ข้าวโพด สม้ สีแดง เช่น มะเขอื เทศ สมี ่วง เช่น 3. ผเู้ รยี นแตล่ ะคนท�ำ แบบทดสอบ(หนงั สอื เรยี น
กะหลำ่าปลีม่วง และสีขาว เช่น ผักกาดขาว ดอกแค กะหลำ่าดอก ผักสีต่างๆ จะมีสารต้านอนุมูลอิสระ หนา้ 45-47)แลกเปลย่ี นกนั ตรวจใหค้ ะแนน
ซ่ึงสามารถป้องกนั การเกิดโรคมะเร็ง จากนั้นประเมินสรุปผลการทำ�กิจกรรม
(2) ไม่ควรรับประทานแป้ง น้ำาตาล ไขมัน และเนื้อสัตว์เพียงอย่างเดียว ควร (หนังสือเรียน หน้า 44) ทำ�แบบประเมิน
รบั ประทานผกั ผลไม ้ เพราะมีกากใยทช่ี ว่ ยดูดซับสารพษิ หรือสารอาหารทเี่ ป็นส่วนเกนิ ออกจากรา่ งกายได้ ตนเอง (หนงั สอื เรียน หน้า 48) และก�ำ หนด
(3) หลกี เล่ียงอาหารสุกๆ ดิบๆ อาหารป้งิ ย่าง อาหารรมควัน อาหารประเภทดอง แนวทางการพฒั นาตนเอง
เค็ม และอาหารที่มีรสจัด
(4) ไมด่ ืม่ แอลกอฮอล์และไมส่ ูบบุหรี่
สงวนลิข ิสทธ์ิ บริ ัษทพัฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด

51 สุดยอดคู่มือครู

GPAS 5 STEPs 1. ขGั้นaรวtบhรeวrมinขg้อมูล 2. ขั้นคิดวิเPคrรoาะcหe์แsลsะiสnรgุปความรู้
บูรณาการทักษะศตวรรษท่ี 21
ทักษะชีวิต

เพศและการดแู ลสขุ ภาพทางเพศ 41

กจิ กรรมตรวจสอบความเข้าใจ

คำ�ชี้แจง กิจกรรมตรวจสอบคว�มเข้�ใจเป็นกิจกรรมฝึกทักษะเฉพ�ะด้�นคว�มรู้-คว�มจำ� เพื่อใช้ใน
ก�รตรวจสอบคว�มเข้�ใจต�มจุดประสงค์ก�รเรียนรู้
จงตอบคำ�ถ�มตอ่ ไปน้ใี หถ้ ูกตอ้ ง
1. ผ้เู รียนมีการปฏิบัตติ นเพอ่ื สขุ ภาพทางเพศอย่างไรบา้ ง (จ.1)

(แนวทางการตอบ วิธีปฏิบัติตนเพื่อสุขภาพทางเพศ เช่น การรักษาความสะอาดของร่างกายและการแต่งกาย การรับประทาน
อาหารที่มปี ระโยชน์ การออกกำาลังกายและการพักผอ่ น หรืออนื่ ๆ ขึ้นอยู่กับดลุ ยพนิ จิ ของผสู้ อน)
สงวนลิข ิสทธิ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด
2. ปจั จยั ทท่ี ำาใหเ้ กิดพฤตกิ รรมความเสี่ยงทางเพศ มีอะไรบ้าง จงอธิบายพรอ้ มยกตวั อยา่ งประกอบ (จ.1)

(แนวทางการตอบ ปัจจัยที่ทำาให้เกิดพฤติกรรมเส่ียงทางเพศ ได้แก่ การจับคู่และชักนำากันมีพฤติกรรมทางเพศท่ีไม่เหมาะสม
และการเสพสารเสพติด เช่น การชักชวนกันไปเที่ยวกลางคืน ซึ่งเต็มไปด้วยอบายมุขและสารเสพติด เมื่อเสพสารเสพติด
แล้วทำาใหเ้ กิดอาการเคลิบเคล้มิ และนำาไปสู่การมเี พศสมั พนั ธ์ในทีส่ ุด หรอื อื่นๆ ข้ึนอยกู่ ับดุลยพินจิ ของผู้สอน)

3. อวยั วะสืบพันธ์ขุ องเพศชายประกอบดว้ ยอะไรบ้าง จงอธิบายเปน็ ข้อๆ (จ.1)

(แนวทางการตอบ 1. อวยั วะสืบพนั ธ์ภุ ายนอก ประกอบดว้ ย
- อวัยวะเพศชาย มีลักษณะเป็นกล้ามเน้ือแท่งที่มีลักษณะคล้ายฟองนำ้� อยู่บริเวณด้านหน้า

ของถงุ อัณฑะ ภายในมที ่อปสั สาวะและเส้นประสาท
- ถุงอัณฑะห่อหมุ้ ด้วยลูกอัณฑะ 2 ขา้ ง ทำาหน้าท่ีผลติ อสุจิ

2. อวัยวะสืบพันธ์ภุ ายใน ประกอบดว้ ย
- ลกู อัณฑะ ทาำ หนา้ ทผ่ี ลิตตัวอสุจิ
- ต่อมลูกหมากอยู่ด้านล่างของกระเพาะปัสสาวะมีหน้าที่ผลิตของเหลว เพ่ือผสมกับตัวอสุจิ

และน้ำ�เมอื กจากทอ่ น้ำ�อสุจเิ ปน็ ของเหลวขน้ สีขาว เรยี กวา่ นำ้�กาม จะถูกขับออกมาในขณะรว่ มเพศ)

จ. หมายถึง ตรงตามจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 ขอ้ ท่ี ...

ค่านิยมหลัก 12 ประการ
• รกั ษาวฒั นธรรมประเพณไี ทยอนั งดงาม
• มศี ลี ธรรม รกั ษาความสัตย์ หวงั ดีตอ่ ผ้อู ืน่ เผ่อื แผ่และแบ่งปัน
• ใฝห่ าความรู้ หม่ันศกึ ษาเลา่ เรียนทง้ั ทางตรงและทางอ้อม
• มีความเข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจ ไม่ยอมแพ้ต่ออำ�นาจฝ่ายตำ่�
หรือกเิ ลส มคี วามละอายเกรงกลวั ตอ่ บาปตามหลกั ของศาสนา

สุดยอดคู่มือครู 52

Ap3.pขlyั้นiปnฏgิบัตanิแdละCสoรnุปsคtrวuาcมtiรnู้gหลthังeกาKรnปoฏwิบleัตdิ ge Appl4y.inขg้ันสtื่hอeสาCรoแmลmะนu�ำnเiสcaนtอion Skill 5. ขSั้นeปlรfะ-เRมeินgเพuื่อlเaพtิ่มinคgุณค่า

ค่านิยมหลัก 12 ประการ กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก

asean

42 เพศวถิ ีศึกษาสงวนลิข ิสทธิ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด

4. อวัยวะสืบพนั ธ์ุของเพศหญงิ ประกอบดว้ ยอะไรบ้าง จงอธิบายเปน็ ข้อ ๆ (จ.1)
(แนวทางการตอบ 1. อวยั วะสืบพนั ธภ์ุ ายนอก ประกอบด้วย
- เนินหัวหน่าว มลี ักษณะเป็นรูปสามเหล่ยี ม ประกอบดว้ ยไขมนั
- แคมใหญ่ มีลักษณะเปน็ เน้ือนนู ทอดจากเนนิ ลงมา 2 ขา้ ง จรดกันบรเิ วณฝีเย็บ
- แคมเล็ก มลี ักษณะคล้ายแคมใหญ่แต่เลก็ กว่าซอ่ นอยดู่ ้านในลงมาจรดกันทีบ่ ริเวณอวยั วะเพศ
- ปุ่มกระสัน มีลักษณะเป็นเนินตุ่มเลก็ ๆ และเป็นจุดทไี่ วต่อความรสู้ ึก
- ชอ่ งคลอด เป็นอวัยวะทตี่ อ่ เน่อื งมาจากแคมเล็ก ภายในมสี ภาพเปน็ กรด
- เย่ือพรหมจารหี รือเยอ่ื บปุ ากช่องคลอด ทำาหน้าทีป่ อ้ งกันส่ิงแปลกปลอมเขา้ ไปในช่องคลอด
- ฝีเยบ็ เปน็ บรเิ วณสว่ นล่างของช่องคลอดลงมาถึงทวาร
2. อวัยวะสืบพันธุภ์ ายใน ประกอบด้วย
- ช่องคลอด มีสภาวะเป็นกรดอ่อนๆ สามารถต่อต้านเชื้อโรคบางชนิดได้ ช่องคลอดเป็นทางผ่าน
ของประจาำ เดือน เปน็ ชอ่ งทางผา่ นของเช้อื อสจุ แิ ละเปน็ ช่องทางให้ทารกคลอดออกมา
- มดลกู มีลักษณะคล้ายลูกชมพู่คว่ำ� อยดู่ า้ นหลังกระเพาะปัสสาวะและทวารหนกั
- ท่อรังไข่หรือปีกมดลูก เป็นท่อต่อจากมดลูกทอดออกไปข้างหน้า 2 ข้าง เป็นบริเวณท่ีเชื้ออสุจิ
ผสมกับไข่
- รังไข ่ มีหน้าทีผ่ ลิตฮอร์โมนภายในรังไข ่ และผลิตไขอ่ อกมาเดือนละ 1 ฟอง ซ่งึ พรอ้ มจะปฏิสนธิ)



5. พฤติกรรมทางเพศทไ่ี ม่เหมาะสมกอ่ ให้เกิดปญั หาอะไรบา้ ง จงอธิบายพรอ้ มยกตวั อยา่ ง (จ.2)
(แนวทางการตอบ พฤติกรรมทางเพศท่ไี ม่เหมาะสมทำาให้เกดิ ปญั หาการตงั้ ครรภ์กอ่ นวยั อนั ควร ปัญหาการทำาแทง้ และปัญหา
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น การมีเพศสัมพันธ์ในขณะที่ยังเรียนหนังสืออยู่ ทำาให้เกิดการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร และ
กลวั ทจ่ี ะบอกใหพ้ อ่ แมห่ รอื ผูป้ กครองร ู้ จงึ แกป้ ัญหาด้วยการทาำ แท้ง เปน็ ตน้ หรอื อนื่ ๆ ข้ึนอยกู่ บั ดุลยพินจิ ของผสู้ อน)







53 สุดยอดคู่มือครู

GPAS 5 STEPs 1. ขGั้นaรวtบhรeวrมinขg้อมูล 2. ขั้นคิดวิเPคrรoาะcหe์แsลsะiสnรgุปความรู้
บูรณาการทักษะศตวรรษท่ี 21
กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้เป็นกิจกรรม ทักษะชีวิต
ท่ีผู้สอนให้ผู้เรียนปฏิบัติทุกข้อหรือเลือก
ปฏิบัติเป็นบางข้อตามความเหมาะสม เพศและการดูแลสขุ ภาพทางเพศ 43
โดยผู้สอนให้คะแนนการทำ�กิจกรรม
ตามเกณฑ์ของใบสรุปผลการทำ�กิจกรรม กจิ กรรมสง่ เสริมการเรียนรู้
และสามารถน�ำ ผลการท�ำ กจิ กรรมไปเทยี บกบั
ก า ร ใ ห้ ค ะแ น น กั บ ต า ร า ง วิ เ ค ร า ะ ห์ คาำ ชีแ้ จง กจิ กรรมสง่ เสรมิ การเรยี นร ู้ ประกอบดว้ ยกจิ กรรมหลากหลายทฝี่ กึ ทกั ษะทกุ ดา้ นตามจดุ ประสงค์
ความสอดคลอ้ งของเนอื้ หากบั จดุ ประสงค์ เชงิ พฤติกรรม เพือ่ ใหเ้ กดิ สมรรถนะในการเรียนรู้ สามารถปฏบิ ตั กิ ิจกรรมทัง้ ในและนอกสถานท่ี
รายวชิ า สมรรถนะรายวชิ า และจดุ ประสงค์
เชงิ พฤตกิ รรมได้ ตามความเหมาะสมกับผเู้ รยี นและสิง่ แวดลอ้ มของสถานศกึ ษา
สงวนลิข ิสทธิ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด
1. ให้ผู้เรียนสัมภาษณ์เพ่ือนต่างชั้นเรียนจำานวน 3 คน ในเร่ืองเพศและพฤติกรรมทางเพศของวัยรุ่น
และนำาผลทไี่ ด้จากการสมั ภาษณม์ าเปรยี บเทยี บความเหมอื นและแตกต่าง

เรอ่ื ง คนท่ ี 1 คนที่ 2 คนที ่ 3
เพศ
พฤตกิ รรมทางเพศ

2. ให้ผ้เู รียนแบ่งกลมุ่ เป็น 2 กลมุ่ โต้วาที เรอ่ื ง พฤติกรรมของเพศหญิงและเพศชาย

3. ให้ผู้เรียนสำารวจการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และพัฒนาการทางเพศของตนเอง
ที่มกี ารเปล่ยี นแปลง และบันทึกขอ้ มูลเป็นแผนภาพความคดิ

ตัวอยา่ งแผนภาพความคดิ

การเปล่ยี นแปลง การเปลยี่ นแปลง การเปล่ียนแปลง
ดา้ นรา่ งกาย ดา้ นต่าง ๆ ของ ดา้ นจิตใจ อารมณ์
ช่ือ
เพศ

พัฒนาการทางเพศ

4. ให้ผูเ้ รียนแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ 3-5 คน หาขอ้ มูลเกี่ยวกับแนวทางในการดแู ลสุขภาพทางเพศ และร่วมกนั
จดั ทาำ สรุปพร้อมทั้งส่งตัวแทนนาำ เสนอข้อมูลหน้าชัน้ เรยี น กล่มุ ละ 3-5 นาที

กิจกรรมท้าทาย
ให้ผเู้ รยี นโตว้ าทเี รื่องพฤตกิ รรมของเพศหญิงและเพศชาย

สุดยอดคู่มือครู 54

Ap3.pขly้ันiปnฏgิบัตanิแdละCสoรnุปsคtrวuาcมtiรnู้gหลthังeกาKรnปoฏwิบleัตdิ ge Appl4y.inขg้ันสt่ืhอeสาCรoแmลmะนu�ำnเiสcaนtอion Skill 5. ขS้ันeปlรfะ-เRมeินgเพu่ือlเaพt่ิมinคgุณค่า

ค่านิยมหลัก 12 ประการ กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก

asean

44 เพศวิถศี กึ ษา

5. ใหผ้ เู้ รยี นเสนอวธิ กี ารปรบั ตวั ทเ่ี หมาะสมตอ่ การเปลย่ี นแปลงทางรา่ งกาย จติ ใจ อารมณ ์ และพฒั นาการ
ทางเพศ พรอ้ มอธิบายผลทเี่ กิดขึน้ โดยทำาเป็นแผนภาพความคดิ

ตวั อยา่ งแผนภาพความคดิ

สงวนลิข ิสทธิ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัดวธิ กี ารปรับตัวท่ีเหมาะสมผลทเ่ี กดิ ขึ้น

การเปลยี่ นแปลงทางรา่ งกาย

การเปล่ยี นแปลงทางจิตใจ อารมณ์

พัฒนาการทางเพศ

สรปุ ผลการทา� กจิ กรรม
คาำ ชแี้ จง ใหผ้ ้เู รยี นประเมนิ ผลการทาำ กจิ กรรม โดยเขียนเครื่องหมาย ✓ลงในช่อง ตามความเปน็ จรงิ

ความรู้ (K) ทกั ษะ (P) คณุ ลกั ษณะ (A) เกณฑ์การประเมนิ
การมีมนษุ ยสมั พนั ธใ์ น ทำาเครือ่ งหมาย ✓
ความร ู้ ความเข้าใจ การปฏิบตั งิ านทีไ่ ด้รับ
การนำาไปใช ้ การวเิ คราะห์ มอบหมายเสรจ็ ตามเวลา การปฏบิ ัตกิ ิจกรรม ในแตล่ ะตอน 3 ขอ้
การสงั เคราะห์ ทก่ี าำ หนด ความมีวนิ ยั ตรงต่อเวลา คือ ผ่านการประเมิน
การประเมินค่า การปฏบิ ัติงานดว้ ยความ ความซ่ือสัตยส์ ุจรติ
ละเอียด รอบคอบ ปลอดภยั ในการทาำ งาน 1. ความร้ ู (K)
การศกึ ษาค้นควา้ เรียบร้อย สวยงาม ประพฤตติ นดว้ ยความ ผ่าน ไม่ผ่าน
การแสวงหาแหลง่ ขอ้ มูล
และการรวบรวมขอ้ มูล ความสมบรู ณ์ของงาน ถกู ต้องตามศีลธรรม 2. ทกั ษะ (P)
การแสดงความคิดเหน็ การปฏบิ ตั งิ านทีท่ าำ ใหเ้ กดิ อันดงี าม
อย่างมีเหตุผล หรือแสดง สมรรถนะแก่ผ้เู รียน เจตคตทิ ี่ดใี นการปฏิบัติ ผา่ น ไม่ผา่ น
กจิ กรรม
ขน้ั ตอนและกระบวนการ ทกั ษะการวางแผน การคดิ ความพอเพยี งและความ 3. คณุ ลกั ษณะ (A)
ทาำ กิจกรรม สรา้ งสรรค ์ การออกแบบ ผา่ น ไม่ผ่าน

การหาประสบการณ์ การผลติ พอประมาณ
ความรู้ใหม่ การตัดสินใจในการแกป้ ญั หา

หมายเหตุ เกณฑ์การประเมินผลการทำากิจกรรม มีวัตถุประสงค์เพ่ือประเมินว่า ผู้เรียนเกิดสมรรถนะจากการเรียนรู้
ตามบริบทต่างๆ หรือไม่ โดยแบ่งเป็น 3 ด้าน คือ ความรู้หรือพุทธิพิสัย = Knowledge (K) ทักษะหรือ
ทักษะพิสัย = Practice (P) คณุ ลักษณะหรอื จิตพิสัย = Attitude (A)

55 สุดยอดคู่มือครู

GPAS 5 STEPs 1. ขG้ันaรวtบhรeวrมinขg้อมูล 2. ขั้นคิดวิเPคrรoาะcหe์แsลsะiสnรgุปความรู้

บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 ทักษะชีวิต

ผู้สอนให้ผู้เรียนทำ�แบบทดสอบ จากนั้น เพศและการดูแลสขุ ภาพทางเพศ 45
ให้ผู้เรียนแลกกันตรวจคำ�ตอบ โดยผู้สอน
เปน็ ผ้เู ฉลย แบบทดสอบ

เฉลยแบบทดสอบ ตอนที่ 1 จงเลือกค�ำ ตอบที่ถูกตอ้ งท่สี ดุ
สงวนลิข ิสทธิ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด
1. ตอบ 5. ความส�ำ คญั ของเพศสามารถสรปุ ได้ดงั น้ี 1. ข้อใดมีความสำาคัญเกี่ยวกบั เพศ
1) ภาพลกั ษณเ์ กยี่ วกบั รา่ งกายตามเพศ เปน็ การท�ำ
หน้าท่ีของร่างกายตามเพศ ได้แก่ เพศหญิง 1. ภาพลกั ษณเ์ ก่ียวกบั ร่างกายตามเพศ
และเพศชาย 2) ความสามารถในการปฏิบัติ
ตามบทบาททางเพศอยา่ งเหมาะสม เปน็ การยอมรบั 2. การปฏิบตั ติ ามบทบาททางเพศอยา่ งเหมาะสม
ตามวยั และการยอมรับของสงั คม
3. ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งบคุ คลอย่างเหมาะสม
3) ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลอย่างเหมาะสม
และมีเหตุผล การมีความสัมพันธ์ทางเพศท่ีดี 4. ขอ้ 1 และ 2 ถูกตอ้ ง
เป็นสิ่งที่มีความส�ำ คัญ เพราะจะส่งผลให้สุขภาพ
ดีทั้งทางร่างกายและจิตใจ มีการปรับตัวท่ีดี 5. ขอ้ 1, 2 และ 3 ถูกตอ้ ง
เป็นท่ยี อมรับของสังคม
2. ข้อใดไมใ่ ช่อวยั วะสืบพนั ธุข์ องเพศชาย 2. ทอ่ นำา้ อสุจิ
2. ตอบ 3. อวยั วะสบื พนั ธขุ์ องเพศชายประกอบดว้ ย 1. ลกู อณั ฑะ 4. ตอ่ มลกู หมาก
ลึงค์หรือองคชาต ถุงอัณฑะ ลูกอัณฑะ และ 3. กระเพาะปัสสาวะ
ตอ่ มลกู หมาก 5. องคชาต

3. ตอบ 3. สิ ว เ กิ ด จ า ก ก า ร เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง 3. ขอ้ ใดเปน็ วิธปี อ้ งกนั สิวในวยั ร่นุ
ทางฮอร์โมน การใช้เคร่ืองสำ�อางท่ีไม่เหมาะสม
เกิดจากความสกปรกของผิวหนังบริเวณใบหน้า 1. ออกกาำ ลังกาย ไม่เครยี ด
ความเครียด และความวิตกกังวล ควรดูแล
รกั ษาความสะอาดใบหนา้ อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง 2. เลือกใชเ้ คร่ืองสาำ อางใหเ้ หมาะสมกบั สภาพผิว
รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ลดอาหาร
ทมี่ มี นั มาก และพักผอ่ นให้เพียงพอ 3. รักษาความสะอาดใบหนา้ อยา่ งน้อยวนั ละ 2 ครัง้

4. ตอบ 4. เนอื่ งจากการเปลย่ี นคนู่ อนเมอื่ เลกิ รากนั 4. ไมส่ วมเส้ือผ้าซ้าำ ไมไ่ ว้ผมยาวปรกหน้า
การร่วมเพศกับคนที่ไม่รู้จัก การดื่มสุราหรือ
ใช้สารเสพติดก่อนร่วมเพศ การร่วมเพศกับ 5. รบั ประทานอาหารท่ดี ี
ผู้ติดยาเสพติดเป็นพฤติกรรมที่จะทำ�ให้มีโอกาส
ตดิ โรคทางเพศสัมพนั ธต์ ่างๆ 4. ข้อใดไมใ่ ช่พฤตกิ รรมเส่ียงตอ่ การตดิ โรคทางเพศสัมพันธ์
1. การเปลย่ี นคูน่ อนเม่ือเลกิ รากนั
5. ตอบ 3. การแต่งตัวดึงดูดความสนใจ โดย 2. การร่วมเพศกบั คนที่ไมร่ ู้จกั
ไม่คำ�นึงถึงความเหมาะสมและความปลอดภัย 3. การดม่ื สรุ าหรอื ใชส้ ารเสพตดิ ก่อนร่วมเพศ
จะเสยี่ งต่อการเกดิ อาชญากรรมทางเพศ 4. การรว่ มเพศทางทวารหนักโดยใช้ถงุ ยางอนามัย
5. การร่วมเพศกับผู้ตดิ ยาเสพติด

5. ข้อใดเป็นปัญหาทเ่ี กยี่ วกบั พฤตกิ รรมทางเพศของวัยร่นุ มากทสี่ ดุ

1. การอ่านการต์ ูนลามก

2. การมีเพศสมั พันธก์ ่อนวยั อันควร

3. การแตง่ ตัวดงึ ดูดความสนใจ

4. การมีเพศสัมพันธ์กบั ผ้ทู ี่ไม่เคยร้จู กั

5. การมีเพศสัมพันธ์กบั คู่รกั

สุดยอดคู่มือครู 56

Ap3.pขly้ันiปnฏgิบัตanิแdละCสoรnุปsคtrวuาcมtiรnู้gหลthังeกาKรnปoฏwิบleัตdิ ge Appl4y.inขgั้นสtื่hอeสาCรoแmลmะนu�ำnเiสcaนtอion Skill 5. ขS้ันeปlรfะ-เRมeินgเพuื่อlเaพt่ิมinคgุณค่า

ค่านิยมหลัก 12 ประการ กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก

asean

46 เพศวิถศี ึกษาสงวนลิข ิสทธิ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด เฉลยแบบทดสอบ

6. ขอ้ ใดไม่ใช่การดแู ลสขุ ภาพทางเพศ 6. ตอบ 4. การดูแลสุขภาพทางเพศสามารถทำ�ได้
1. การรับประทานอาหารตามหลักโภชนาการ หลายวิธีดังน้ี การดูแลตนเองให้เจริญเติบโต
2. การออกกาำ ลงั กาย และตรวจสขุ ภาพประจำาปี สมวัย การรับประทานอาหารให้ถูกต้องตามหลัก
3. การพกั ผ่อนและรักษาความสะอาดของรา่ งกาย โภชนบัญญัติ การออกกำ�ลังกาย การพักผ่อน
4. การรับประทานอาหารที่ดแี ละแตง่ กายทีด่ ี และการนอนหลับ การหลีกเล่ียงสารเสพติด
5. การหลกี เล่ียงสารเสพติด การตรวจสุขภาพประจำ�ปี และการรักษา
ความสะอาดของร่างกาย
7. ข้อใดเปน็ แนวทางป้องกนั โรคติดตอ่ ทางเพศสมั พนั ธ์
1. ไมม่ เี พศสัมพันธ์ก่อนวัยอนั ควร 7. ตอบ 2. การใชถ้ งุ ยางอนามยั เมอื่ มเี พศสมั พนั ธ์
2. ใชถ้ ุงยางอนามยั เมือ่ มเี พศสัมพันธ์ เ ป็ น วิ ธี ที่ ดี ที่ สุ ด ใ น ก า ร ป้ อ ง กั น โ ร ค ติ ด ต่ อ
3. ตรวจโรคหรือตรวจสขุ ภาพประจาำ ปี ทางเพศสัมพนั ธ์
4. ไมใ่ ช้สารเสพติดร่วมกับผอู้ ่ืน
5. ไม่ใชเ้ คร่อื งใชส้ ่วนตัวรว่ มกบั ผู้อน่ื 8. ตอบ 1. เป็นอาการของโรคซฟิ ิลิส ระยะท่ี 3 คอื
ระยะทำ�ลาย หากรักษาไม่ถูกวิธีจะทำ�ให้ตาบอด
8. ขอ้ ใดเปน็ อาการของโรคซิฟลิ ิส หูหนวก สติปัญญาเส่ือม เช้ืออาจเข้าสู่สมองและ
1. ตาบอด หหู นวก สตปิ ัญญาเสอ่ื ม ไขสันหลงั ทำ�ให้เปน็ อัมพาตและอาจเสยี สตไิ ด้
2. คนั บริเวณอวยั วะเพศ
3. มหี นองสีเหลืองข้นไหลจากทอ่ ปสั สาวะ 9. ตอบ 5. แนวทางการป้องกันโลนสามารถทำ�ได้
4. ตอ่ มลูกหมากอกั เสบ หลายวธิ ี ดงั นี้ 1) ไม่มีเพศสมั พนั ธก์ ่อนวัยอันควร
5. ต่อมน้ำาเหลอื งโตบริเวณคอ รกั แร้ ขาหนีบ 2)สวมถงุ ยางอนามยั เมอ่ื มเี พศสมั พนั ธ์3)รกั เดยี ว
ใจเดียว ไม่เปล่ียนคู่นอน 4) รักษาความสะอาด
9. ขอ้ ใดเป็นแนวทางการป้องกนั โลน ของร่างกายและอวยั วะเพศอย่างสม่�ำ เสมอ
1. ใช้หวีที่มีความถี่หวีบรเิ วณท่ีเปน็
2. ทายาบริเวณที่เปน็ 10. ตอบ 4. อาการของโรคหนองในในเพศชาย
3. ฉดี ยาปอ้ งกัน จะมอี าการปัสสาวะขดั รนุ แรง มหี นองสีเหลืองข้น
4. ใชย้ าเหน็บบริเวณทเี่ ป็น ไหลออกมาจากท่อปัสสาวะ หากไม่รีบรักษา
5. รักษาความสะอาดของรา่ งกายและอวัยวะเพศ จะลกุ ลามไปยงั ตอ่ มลกู หมาก ท�ำ ใหต้ อ่ มลกู หมาก
อักเสบ เป็นหมัน อาจเกิดอาการแทรกซ้อน
10. ขอ้ ใดเปน็ อาการของโรคหนองในในเพศชาย เชน่ อัณฑะอักเสบ ขอ้ อักเสบ เยื่อบุตาอักเสบ
1. ปวดศีรษะออ่ นเพลยี
2. ท้องเสยี ต่อมน้าำ เหลอื งโตบริเวณขาหนีบรักแร้ ขอ้ พับต่างๆ
3. นำา้ หนกั ลดเกิน 10 กิโลกรัมเกิน 1 เดือน
4. ปัสสาวะขดั หรอื แสบขัด มหี นองไหลออกมาจากท่อปสั สาวะ
5. มีผื่นบริเวณทวาร รมิ ฝปี าก และอวยั วะเพศ

57 สุดยอดคู่มือครู

GPAS 5 STEPs 1. ขG้ันaรวtบhรeวrมinขg้อมูล 2. ข้ันคิดวิเPคrรoาะcหe์แsลsะiสnรgุปความรู้
บูรณาการทักษะศตวรรษท่ี 21
ทักษะชีวิต

เพศและการดูแลสขุ ภาพทางเพศ 47

ตอนที่ 2 จงนำ�ตัวเลขหน�้ ค�ำ ตอบไปเตมิ ในช่องว�่ งใหถ้ ูกตอ้ ง

โรคเอดส์ (Acquired Immune Deficiency Syndrome หรือ AIDS) เป็นภาวะท่ีเกิด 10
หรือลดตํ่าลง เป็นผลทําให้เกิดการติดเช้ือโรคต่างๆ ได้ง่ายกว่าคนปกติ โรคเอดส์เกิดจากเช้ือไวรัส
เอชไอว ี (HIV-Human Immunedeficiency Virus)
อาการเม่ือไดร้ บั เช้ือเอชไอว ี แบง่ ไดเ้ ปน็ 3 ระยะ ดังนี้

ระยะท่ี 1 เม่ือได้รับเช้ือใหม่ๆ จะยังไม่แสดงอาการ ส่วนใหญ่จะตรวจพบ 1 ในร่างกาย
และแอนติบอดี (antibody) ตอ่ เช้ือไวรสั

ระยะท่ี 2 เปน็ ระยะอาการสมั พนั ธก์ บั โรคเอดส ์ คอื มไี ขต้ าํ่ นานกวา่ 3 เดอื น นาํ้ หนกั ลด 4-5 กโิ ลกรมั
หรือมากกวา่ รอ้ ยละ 20 ของนํ้าหนักตัวนานกวา่ 2 เดือน เบ่อื อาหาร ตอ่ มนํา้ เหลืองทค่ี อ รกั แร ้ แขน ขาหนบี โต
นานเกิน 3 เดือน มีฝ้าขาวที่ลิ้น เหง่ือออกมากผิดปกติในเวลากลางคืน แขน ขาข้างใดข้างหนึ่งไม่มีแรง

5 นานเกิน 1 เดือน โดยไมท่ ราบสาเหตุ
ระยะที่ 3 เป็นระยะสุดทา้ ย ซึ่งเป็นระยะท่ีเปน็ โรคเอดสเ์ ตม็ ขนั้ โดยทัว่ ไปภูมคิ ้มุ กันของร่างกายถกู

ทาํ ลายจนอ่อนแอ ทาํ ใหเ้ กิดการติด 7 ทอ่ี วัยวะภายใน ทาํ ให้เกิดโรคในระบบต่างๆ ของร่างกาย ดังนี้
1) ระบบเลือด เชน่ 6 มะเร็งเม็ดเลือด
2) ระบบทางเดนิ อาหาร เชน่ อจุ จาระรว่ งเรื้อรงั 8
3) ระบบทางเดนิ หายใจ เช่น วณั โรค ปอดอกั เสบ 9
4) ระบบประสาทส่วนกลาง เชน่ 4 แขนขาไมม่ แี รง

2

ยีนชนดิ อารเ์ อน็ เอ (RNA)
3

โปรตนี แกนกลาง
สงวนลิข ิสทธิ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด
1. เชื้อชนิดฉวยโอกาส 5. อุจจาระรว่ งเรอ้ื รัง 9. ปอดบวม
2. โปรตนี เปลือกนอก 6. มะเร็งต่อมนํา้ เหลือง 10. ภมู ิคมุ้ กันในร่างกายบกพร่อง
3. เปลือกหุ้มไวรัส 7. เช้ือไวรัส
4. สมองอกั เสบ 8. หลอดอาหารอกั เสบ

สุดยอดคู่มือครู 58

Ap3.pขly้ันiปnฏgิบัตanิแdละCสoรnุปsคtrวuาcมtiรnู้gหลthังeกาKรnปoฏwิบleัตdิ ge Appl4y.inขg้ันสt่ืhอeสาCรoแmลmะนu�ำnเiสcaนtอion Skill 5. ขS้ันeปlรfะ-เRมeินgเพuื่อlเaพtิ่มinคgุณค่า

ค่านิยมหลัก 12 ประการ กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก

asean

48 เพศวิถีศกึ ษา

แบบประเมินตนเอง
คาำ ช้ีแจง ตอนที ่ 1 ใหผ้ เู้ รยี นประเมินผลการเรียนร ู้ โดยเขียนเครอื่ งหมาย ✓ ลงในชอ่ งระดบั คะแนน
และเตมิ ขอ้ มลู ตามความเปน็ จรงิ
ระดับคะแนนตอนท่ี 1 5 : มากท่สี ุด 4 : มาก 3 : ปานกลาง 2 : นอ้ ย 1 : ควรปรบั ปรุง
ตอนท ี่ 2 ใหผ้ เู้ รยี นนาำ คะแนนจากแบบทดสอบมาเตมิ ลงในชอ่ งวา่ ง และเขยี นเครอ่ื งหมาย ✓
ลงในช่องสรปุ ผล
สงวนลิข ิสทธิ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด
ตอนท่ี 1 (ผลการเรยี นร)ู้ ตอนท่ ี 2 (แบบทดสอบ)

รายการ 5 4 3 2 1 แบบทดสอบ

1. ผู้เรียนมคี วามร ู้ ความเข้าใจในเน้อื หา คะแนน

2. ผู้เรยี นไดท้ ำากิจกรรมส่งเสรมิ การเรียนรทู้ ่สี อดคล้องกับเนือ้ หา (ข้อละ 1 คะแนน)
และจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
สรุปผล
9 - 10 (ดีมาก)
3. ผู้เรียนไดเ้ รียนและทำากจิ กรรมสง่ เสริมการเรยี นรทู้ ส่ี ่งเสรมิ 7 - 8 (ด)ี
กระบวนการคิด เกิดการค้นพบความรู้ 5 - 6 (พอใช้)
4. ผูเ้ รยี นสามารถประยกุ ต์ความร้เู พือี่ ใช้ประโยชน์ในชวี ติ ประจำาวันได้ ตำา่ กว่า 5
5. ผูเ้ รียนไดเ้ รยี นรอู้ ะไรจากการเรียน (ควรปรบั ปรงุ )

6. ผเู้ รียนต้องการทาำ ส่งิ ใดเพื่อพฒั นาตนเอง

7. ความสามารถท่ถี ือวา่ ผา่ นเกณฑ์ประเมินของผู้เรียน คอื

59 สุดยอดคู่มือครู

1. ขGั้นaรวtบhรeวrมinขg้อมูล 2. ข้ันคิดวิเPคrรoาะcหe์แsลsะiสnรgุปความรู้

ทักษะชีวิต
GPAS 5 STEPs

ตารางสรุปคะแนนการประเมนิ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21
และสมรรถนะประจำ� หนว่ ย

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 เพศและการดูแลสขุ ภาพทางเพศ

คะแนนตาม จปส. รายหน่วยการเรียนรู้
1.สงวนลิข ิสทธ์ิ บริษัท ัพฒน อธิบายความส�ำคัญเ ี่กยวกับ ุสขอนามัยของระบบ ืสบ ัพน ์ุธไ ้ดา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด
2. แสดงพฤ ิตกรรมทางเพศและ ูดแล ุสขภาพ ี่ทเหมาะสม ชิ้นงาน/การแสดงออกรวม
ตาม ิว ีถและสังคมไทยได้ท่กี �ำหนดในหนว่ ยการเรียนรูห้ รือหนว่ ยย่อย
3. ประเ ิมนโอกาสเสี่ยงจากพฤติกรรมทางเพศและปัญหา
จากการ ีมเพศ ัสม ัพนธ์ ่ทีไ ่มพ ้รอมไ ้ด
4. มีเจต ิค ่ีท ีดในการเรียนเ ื่รองเพศและการ ูดแล ุสขภาพทางเพศ
และรัก ์ษค่า ินยมห ัลก 12 ประการของไทย
ภาระงาน/ช้นิ งานระหว่างเรียน
1. ผังกราฟิกแสดงการเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเพศ 4 4 4 - 12
และการดแู ลสขุ ภาพทางเพศ
2. ผังกราฟิกสรุปความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเพศและ 4 4 4 - 12
การดูแลสุขภาพทางเพศ

3. การน�ำ เสนอผลการสรปุ ความรคู้ วามเขา้ ใจเกยี่ วกบั เพศ 4 4 4 8 20
และการดูแลสุขภาพทางเพศ

การประเมินรวบยอด 16 10 - - 26
1. ผลการปฏิบตั กิ ิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ
2. ผลการปฏบิ ตั ิกิจกรรมส่งเสริมการเรยี นรู้ - 10 5 - 15
3. ผลการประเมินตนเอง
4. คะแนนผลการทดสอบ - - - 5 5

รวม 3 3 4 - 10

31 35 21 13 100

สุดยอดคู่มือครู 60

GPAS 5 STEPs 1. Gขั้นaรวthบรeวrมinขg้อมูล 2 . ข้ันคิดPวิเrคoรcาeะหs์แsลinะสgรุปความรู้

A3pp. lขyั้นiปnฏgิบaัตnิแdละCสoรnุปsคtrวuาcมtinรgู้หลthังeกาKรnปoฏwิบleัตdิge Appl4y.inขgั้นสt่ืhอeสาCรoแmลmะนu�ำnเiสcaนtอion Skill 5. ขSั้นeปlfร-ะRเมeินgเพu่ือlaเพtiิ่มnคgุณค่า

บูรณาการทักษะศตวรรษท่ี 21 ทักษะชีวิต

ค่านิยมหลัก 12 ประการ กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก

asean

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 การสร้างสัมพนั ธภาพทดี่ ี
กับผอู้ ่ืน
สงวนลิข ิสทธิ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด
หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 3 เรอื่ งที่ 1 องค์ประกอบและหลกั การ
สร้างมนุษยสัมพนั ธ์
การสรา้ งสมั พนั ธภาพที่ดีกบั ผูอ้ ่ืน เรอ่ื งยอ่ ย
1. ความหมายและความสำ�คัญของมนุษยสัมพันธ์
สาระสำาคญั (หนงั สอื เรยี น หนา้ 51)
การสร้างมนุษยสัมพันธ์ท่ีดี เป็นการประพฤติปฏิบัติตนของแต่ละบุคคลท่ีแสดงต่อบุคคลอ่ืน 2. องคป์ ระกอบในการสรา้ งมนษุ ยสมั พนั ธ์ (หนงั สอื เรยี น
เพ่ือให้เกิดสัมพนั ธภาพท่ดี ีแก่บุคคลต่างๆ ทั้งเปน็ การสว่ นตัว ครอบครวั สงั คม เปน็ ส่วนหนึ่งทที่ าำ ให้ หน้า 51-52)
สามารถดาำ รงชวี ติ อยา่ งมคี วามสขุ 3 . หลกั การสรา้ งมนษุ ยสมั พนั ธ์ (หนงั สอื เรยี น หนา้ 52-53)
สมรรถนะประจำ�หน่วย
แสดงความรเู้ กยี่ วกบั การสรา้ งสมั พนั ธภาพทด่ี กี บั ผอู้ นื่

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธบิ ายความหมายและความส�ำ คญั ของมนษุ ยสมั พนั ธไ์ ด้
2. อธิบายองค์ประกอบในการสร้างมนษุ ยสมั พนั ธไ์ ด้
3. อธิบายหลักการสร้างมนุษยสัมพันธ์ได้
4. มเี จตคตทิ ด่ี ใี นการเรยี นเรอื่ งการสรา้ งสมั พนั ธภาพทด่ี ี

กับผู้อืน่ และรักษ์ค่านยิ มหลัก 12 ประการของไทย

สาระการเรยี นรู้
1. ความหมายและความสาำ คัญของมนุษยสัมพันธ์
2. องคป์ ระกอบในการสรา้ งมนุษยสัมพนั ธ์
3. หลกั การสร้างมนษุ ยสมั พนั ธ ์
4. คุณลกั ษณะของบคุ คลที่มีมนุษยสัมพนั ธใ์ นการทาำ กจิ กรรมร่วมกับผู้อนื่
5. ความขัดแย้งและการจัดการกบั ความขัดแย้ง

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 การสร้างสมั พนั ธภาพ 2. ความขดั แยง้ และการจดั การกบั ความขดั แยง้ 2. อธิบายวิธีการจัดการกับความขัดแย้งได้
ท่ีดีกบั ผอู้ นื่ (หนังสอื เรียน หน้า 58-60) อยา่ งเหมาะสม
เรอื่ งที่ 2 คุณลักษณะของบุคคลที่มี 3. มีเจตคติท่ีดีในการเรียนเร่ืองการสร้าง
มนษุ ยสมั พนั ธแ์ ละการจดั การ สมรรถนะประจำ�หนว่ ย สมั พนั ธภาพทดี่ กี บั ผอู้ น่ื และรกั ษค์ า่ นยิ มหลกั
กบั ความขดั แยง้ แสดงความรเู้ กย่ี วกบั การสรา้ งสมั พนั ธภาพทด่ี ี 12 ประการของไทย
กับผอู้ นื่

เรอ่ื งย่อย จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. คุณลักษณะของบุคคลที่มีมนุษยสัมพันธ์ 1. อ ธิ บ า ย คุ ณ ลั ก ษ ณ ะ ข อ ง บุ ค ค ล ที่ มี
ในการท�ำ กจิ กรรมรว่ มกบั ผอู้ น่ื (หนงั สอื เรยี น มนษุ ยสมั พนั ธใ์ นการท�ำ กจิ กรรมรว่ มกบั ผอู้ นื่
หนา้ 53-58)

61 สุดยอดคู่มือครู

GPAS 5 STEPs 1. ขGั้นaรวtบhรeวrมinขg้อมูล 2. ขั้นคิดวิเPคrรoาะcหe์แsลsะiสnรgุปความรู้

บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 ทักษะชีวิต

การประเมินผล สมรรถนะประจำาหน่วย
แสดงความร้เู กย่ี วกับการสร้างสัมพันธภาพท่ดี ีกับผูอ้ ืน่
เรอ่ื งที่ 1 องคป์ ระกอบและหลกั การ
สร้างมนษุ ยสัมพันธ์ สงวนลิข ิสทธิ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัดจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
ภาระงาน/ช้ินงาน/การแสดงออก 1. อธบิ ายความหมายและความสำาคัญของมนุษยสมั พนั ธไ์ ด้
ของผเู้ รยี น 2. อธิบายองค์ประกอบในการสร้างมนุษยสมั พันธ์ได้
ภาระงาน/ชิน้ งานระหว่างเรยี น 3. อธิบายหลกั การสรา้ งมนษุ ยสมั พนั ธ์ได้
1. ผังกราฟิกแสดงการเก็บรวบรวมข้อมูล 4. อธบิ ายคณุ ลกั ษณะของบุคคลทีม่ ีมนษุ ยสัมพันธใ์ นการทาำ กิจกรรมรว่ มกบั ผูอ้ ื่น
5. อธิบายวธิ กี ารจัดการกบั ความขัดแยง้ ไดอ้ ย่างเหมาะสม
เก่ียวกับองค์ประกอบและหลักการสร้าง 6. มีเจตคติท่ีดีในการเรียน เรื่อง การสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับผู้อื่น และรักษ์ค่านิยมหลัก
มนุษยสมั พันธ์ 12 ประการของไทย
2. ผงั กราฟกิ สรปุ ความรคู้ วามเขา้ ใจเกย่ี วกบั
อ ง ค์ ป ร ะ ก อ บ แ ล ะ ห ลั ก ก า ร ส ร้ า ง ผังสาระการเรยี นรู้
มนุษยสัมพันธ์ ความหมายและความสาำ คญั ของมนษุ ยสัมพันธ ์
3. การน�ำ เสนอผลการสรปุ ความรคู้ วามเขา้ ใจ
เก่ียวกับองค์ประกอบและหลักการสร้าง การสร้าง องคป์ ระกอบในการสร้างมนษุ ยสมั พันธ์
มนุษยสมั พนั ธ์ สัมพันธภาพท่ีดี หลักการสร้างมนษุ ยสมั พนั ธ ์
ภาระงาน/ชน้ิ งานรวบยอดในหนว่ ยการเรยี นรู้ คณุ ลกั ษณะของบคุ คลทม่ี มี นษุ ยสมั พนั ธ์
1. ผลการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ กับผู้อื่น ในการทำากจิ กรรมรว่ มกับผูอ้ ่นื
2. ผลการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมสง่ เสรมิ การเรยี นรู้ ความขัดแย้งและการจัดการกับความขัดแยง้
3. ผลการประเมนิ ตนเอง
4. คะแนนผลการทดสอบ
(ภาระงานชน้ิ งานรวบยอดในเรอื่ งนน้ี ำ�ไปรวมกบั
ภาระงานช้ินงานรวบยอดในเรอื่ งท่ี 2)

การประเมนิ ผล ภาระงาน/ชนิ้ งานระหวา่ งเรียน ภาระงาน/ช้นิ งานรวบยอดในหนว่ ยการเรียนรู้
เรื่องที่ 2 คุณลักษณะของบุคคลที่มี
มนษุ ยสมั พนั ธแ์ ละการจดั การ 1. ผงั กราฟกิ แสดงการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู เกย่ี วกบั 1. ผลการปฏบิ ตั ิกิจกรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ
กบั ความขดั แยง้ คณุ ลกั ษณะของบคุ คลทม่ี มี นษุ ยสมั พนั ธแ์ ละ 2. ผลการปฏบิ ตั ิกิจกรรมส่งเสรมิ การเรยี นรู้
ภาระงาน/ชน้ิ งาน/การแสดงออก การจดั การกบั ความขัดแยง้ 3. ผลการประเมนิ ตนเอง
ของผเู้ รียน 2. ผังกราฟิกสรุปความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ 4. คะแนนผลการทดสอบ
คณุ ลกั ษณะของบคุ คลทมี่ มี นษุ ยสมั พนั ธแ์ ละ (ภาระงานช้ินงานรวบยอดในเรื่องนี้นำ�ไปรวมกับ
สุดยอดคู่มือครู 62 การจัดการกับความขัดแยง้ ภาระงานชน้ิ งานรวบยอดในเร่ืองท่ี 1)
3. การนำ�เสนอผลการสรุปความรู้ความเข้าใจ
เกยี่ วกบั คณุ ลกั ษณะของบคุ คลทมี่ มี นษุ ยสมั พนั ธ์
และการจัดการกับความขดั แย้ง

Ap3.pขlyั้นiปnฏgิบัตanิแdละCสoรnุปsคtrวuาcมtiรnู้gหลthังeกาKรnปoฏwิบleัตdิ ge Appl4y.inขgั้นสt่ืhอeสาCรoแmลmะนu�ำnเiสcaนtอion Skill 5. ขS้ันeปlรfะ-เRมeินgเพuื่อlเaพt่ิมinคgุณค่า

ค่านิยมหลัก 12 ประการ กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก

asean

การสรา้ งสมั พันธภาพที่ดกี ับผอู้ ื่น 51 Step 2 ขนั้ คิดวิเคราะห์
และสรุปความรู้
1. ความหมายและความสาำ คัญของมนษุ ยสมั พันธ ์ grocessin
P
1.1 ความหมายของมนุษยสมั พนั ธ ์
1. ผู้เรียนร่วมกันอภิปรายเปรียบเทียบความเหมือนความต่าง จำ�กัด
มนุษยสัมพันธ์ เป็นการประพฤติปฏิบัติตนของแต่ละบุคคลท่ีแสดงต่อบุคคลอ่ืน เพ่ือให้ ที่รวบรวมได้จากนิยามที่ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับองค์ประกอบ
เกิดสัมพันธภาพที่ดีแก่บุคคลต่างๆ ท้ังเป็นการส่วนตัว ครอบครัว สังคม เป็นส่วนหน่ึงท่ีทำาให้สามารถ และหลกั การสรา้ งมนุษยสัมพนั ธ์
ดาำ รงชีวิตอยา่ งมคี วามสุข
2. ผู้เรียนร่วมกันเชื่อมโยงความคล้ายคลึง/แตกต่างของข้อมูล
1.2 ความสาำ คญั ของมนุษยสมั พนั ธ์ ที่นำ�มาอภิปรายและสรุปความรู้ตามหัวข้ออภิปราย แสดงเป็น
ความคดิ รวบยอดหรือหลักการลงในผงั กราฟกิ
มนษุ ยสมั พนั ธม์ คี วามสาำ คัญ ดงั นี้ (พว.)
1.2.1 การสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน เน่ืองจากมนุษยสัมพันธ์เป็นตัวเช่ือมระหว่างบุคคล
กล่มุ คน และสังคม
1.2.2 การตดิ ต่อสือ่ สารเพ่ือใหก้ ารทาำ งานเกิดประสิทธิภาพ
1.2.3 การรู้จกั และเข้าใจตนเองและผอู้ ื่น
1.2.4 การรู้จกั ความรัก เชอื่ ถือ ศรัทธา และไว้วางใจผอู้ ่ืน
1.2.5 การร้จู กั ความรว่ มมือ รว่ มใจ ความสามคั ค ี ช่วยเหลือกนั ในการทำางานไปสูเ่ ป้าหมาย
1.2.6 การลดปัญหาความขัดแยง้ และการอยู่รว่ มกนั
1.2.7 การตดิ ตอ่ สื่อสารทส่ี ะดวกรวดเรว็
1.2.8 การทาำ กิจกรรมต่างๆ ให้บรรลุเปา้ หมายตามวัตถุประสงค์
1.2.9 การเรยี นรนู้ สิ ยั ของผอู้ น่ื เชน่ เพอ่ื น รนุ่ พ ี่ รนุ่ นอ้ ง และนาำ มาปฏบิ ตั ใิ นการตดิ ตอ่ สมั พนั ธ์
ให้เกิดผล

2. องคป์ ระกอบในการสรา้ งมนษุ ยสมั พนั ธ์
St

บริ ัษท ัพฒนา ุคณภาพ ิวชาการ
องค์ประกอบในการสรา้ งมนุษยสัมพนั ธ ์ มีดังน้ี 3. ผู้เรยี นบันทกึ ผลข้อสรุปเป็นความเข้าใจของกลุ่มและรายบคุ คล
2.1 การรับรู ้ การตคี วาม หรอื การเข้าใจส่งิ ตา่ งๆ ตามประสบการณ์
52 เพศวิถีศกึ ษา
มี 2 ลกั ษณะ คอื การรบั ร้ตู นเอง เชน่ รวู้ า่ ตนเองมีความสามารถด้านใด เกง่ ดา้ นใด เป็นตน้
และการรับรูผ้ ู้อืน่ เช่น รู้วา่ เพ่ือนร่วมงานเป็นคนอย่างไร เปน็ ต้น ต่อส่ิงนั้นๆ ทัศนคติไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน การที่จะรู้ถึงทัศนคติของบุคคลได้ต้องใช้
วิธีแปลความหมายของการแสดงออก เชน่ เดก็ ไมช่ อบกินผัก เพราะมที ศั นคติว่าผกั มีรสชาตขิ ม เป็นตน้
2.2 ความเชือ่
2.4 คา่ นยิ ม
มีผลต่อการแสดงพฤติกรรมของมนุษย์ในด้านบวกและด้านลบ เช่น ความเชื่อเรื่องศาสนา
ความเชือ่ เรอื่ งการบริโภคอาหาร ความเชื่อเร่อื งดวงชะตาชีวติ เปน็ ต้น เป็นการให้ค่าหรือความสำาคัญกับสิ่งต่างๆ ว่าส่ิงใดดีหรือไม่ดี สิ่งใดควรหรือไม่ควร แต่ละ
บุคคลมีค่านิยมและมีการตัดสินค่านิยมท่ีไม่เหมือนกัน ข้ึนอยู่กับสภาวการณ์ของสิ่งแวดล้อมของแต่ละ
2.3 ทศั นคติ บุคคล เชน่ คนไทยมคี ่านยิ มของการเคารพผู้มีอาวุโส เป็นต้น

เปน็ ความชอบและไมช่ อบอนั เปน็ ผลมาจากความคดิ ความร ู้ ความเขา้ ใจ ความรสู้ กึ ของบคุ คล
ท่ีมีต่อส่ิงใดสิ่งหน่ึง เป็นผลมาจากประสบการณ์หรือส่ิงแวดล้อม บุคคลจะแสดงปฏิกิริยา และกระทำา

ep 1

Gatherin ขั้นรวบรวมขอ้ มูล
สงวน ิลข ิสทธ์ิg
เร่อื งที่ 1 องคป์ ระกอบและหลกั การสร้างมนษุ ยส์ มั พันธ์ ภาพท ี่ 3.1 การสรา้ งมนุษยสัมพนั ธ์
1. แบ่งกลุ่มผู้เรียนร่วมกันศึกษาเอกสารหนังสือเรียนเก่ียวกับ
3. หลกั การสรา้ งมนุษยสัมพนั ธ์
องคป์ ระกอบและหลกั การสรา้ งมนุษยสัมพันธ์
2. ตั้งคำ�ถามให้ผู้เรียนเสนอข้อมูลจากประสบการณ์ท่ีรับรู้เก่ียวกับ 3.1 หลักการสร้างมนุษยสัมพันธ์

องคป์ ระกอบและหลกั การสรา้ งมนษุ ยสมั พนั ธต์ ามหวั ขอ้ ทก่ี ำ�หนดให้ การสรา้ งมนษุ ยสัมพันธ์เพื่อใหเ้ กิดสัมพันธภาพที่ดสี ามารถพจิ ารณาได้หลายทาง ได้แก่
(ศกึ ษารายละเอยี ดค�ำ ถามจากแผนการจดั การเรียนรู)้ 3.1.1 การใชจ้ ติ วทิ ยา ไดแ้ ก ่ การศกึ ษาพฤตกิ รรมของมนษุ ยใ์ นแงม่ มุ ตา่ งๆ เชน่ ความตอ้ งการ
3. แต่ละกลุ่มบันทึกผลการศึกษาตามหัวข้อที่กำ�หนดลงผังกราฟิก
(เลอื กออกแบบและใชผ้ งั กราฟกิ ใหเ้ หมาะสมกบั ลกั ษณะของขอ้ มลู ) พน้ื ฐาน อารมณ ์ ความรสู้ กึ การรบั ร ู้ ทศั นคต ิ และบคุ ลกิ ภาพ เพอ่ื ชว่ ยใหเ้ ขา้ ใจพฤตกิ รรมพน้ื ฐานของมนษุ ย์
ดังตัวอย่าง มากขนึ้

3.1.2 การใชม้ นษุ ยสมั พนั ธใ์ นการทาำ งานและการดาำ รงชวี ติ อยา่ งมคี วามสขุ ไดแ้ ก ่ การเขา้ ใจ
ตนเองและผูอ้ นื่ การยอมรบั ซ่ึงกนั และกัน การใหป้ ระโยชน์ซ่งึ กันและกนั

3.1.3 การใช้มนุษยสัมพันธ์สำาหรับผู้บังคับบัญชา หัวหน้างาน หรือผู้บริหาร ได้แก่
ความเหน็ อกเห็นใจ การจูงใจ การยอมรับนบั ถือซ่งึ กันและกัน ความยุติธรรม

3.1.4 การมีมนุษยสัมพนั ธบ์ นพ้ืนฐานของธรรมะ ไดแ้ ก ่ การศึกษาธรรมะ เพ่ือให้เขา้ ใจเหต ุ
และผล เช่น การไมท่ าำ ช่วั ทาำ ความดี การทำาใจให้บรสิ ุทธ์ิ

63 สุดยอดคู่มือครู

GPAS 5 STEPs 1. ขG้ันaรวtบhรeวrมinขg้อมูล 2. ข้ันคิดวิเPคrรoาะcหe์แsลsะiสnรgุปความรู้

บูรณาการทักษะศตวรรษท่ี 21 ทักษะชีวิต

St St ep 3 การสร้างสมั พนั ธภาพทดี่ กี ับผู้อ่นื 53

conAstru wldedgeขน้ั ปฏบิ ตั แิ ละสรุปความรู้ 3.2 กระบวนการสรา้ งมนษุ ยสมั พนั ธ ์
หลงั การปฏิบตั ิ
ctpipnlgyitnhge aknno การสร้างมนษุ ยสัมพนั ธ์ มีกระบวนการ ดังนี้
3.2.1 การศึกษาตนเอง ผู้อื่น และสิ่งแวดล้อม ได้แก่ การเรียนรู้นิสัย บุคลิกลักษณะของ
1. ผู้เรียนนำ�ข้อสรุปความรู้ความเข้าใจ
ทไี่ ดแ้ ลกเปลย่ี นเรยี นรรู้ ว่ มกนั ระหวา่ งกลมุ่ ตนเอง และของผอู้ ่ืน รวมถึงส่ิงแวดล้อมต่างๆ
ในชน้ั เรยี นมาวเิ คราะหเ์ กยี่ วกบั องคป์ ระกอบ 3.2.2 การศึกษาสภาพวัฒนธรรม ประเพณ ี ทอ้ งถิน่ ไดแ้ ก่ วฒั นธรรมทอ้ งถิน่ วฒั นธรรม
และหลักการสรา้ งมนุษยสัมพันธ์
องคก์ ร
2. กลุ่มผู้เรียนร่วมกันอภิปรายตรวจสอบ 3.2.3 ศึกษาหลักและวิธสี ร้างมนษุ ยสมั พนั ธ์ ได้แก ่ การปฏบิ ตั ิตนใหเ้ หมาะสม
ค ว า ม ส ม บู ร ณ์ ถู ก ต้ อ ง ข อ ง ค ว า ม รู้ 3.2.4 การปรับปรุงตนเอง ได้แก่ การแก้ไขปรังปรุงตนเองเพ่ือให้เหมาะสมกับสังคมและ
ความเข้าใจเก่ียวกับองค์ประกอบและ
หลักการสร้างมนุษยสัมพันธ์ และทำ� สภาพแวดลอ้ มต่างๆ
กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ (หนังสือเรียน 3.2.5 นำาหลกั และวธิ ีการสร้างมนษุ ยสมั พันธไ์ ปใช้ในชวี ติ จริง
หนา้ 62) สงวนลิขสิท ์ิธ บริษัท ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด

Aco ep 4 kille ภาพท่ ี 3.2 การสรา้ งมนษุ ยสมั พันธก์ บั เพือ่ น

mmpupnlyicinagtiotnh s ข้ันส่ือสารและนำ� เสนอ 4. คณุ ลกั ษณะของบคุ คลทมี่ มี นษุ ยสมั พนั ธใ์ นการทำากจิ กรรม
1. ผู้เรียนแต่ละกลุ่มออกแบบหรือหาวิธี ร่วมกับผูอ้ ื่น

นำ � เ ส น อ ใ ห้ ผู้ อ่ื น รั บ รู้ แ ล ะ สื่ อ ส า ร ไ ด้ 4.1 คณุ ลกั ษณะของบุคคลทีม่ ีมนุษยสมั พนั ธ์ที่ดี
อ ย่ า ง มี ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ ด้ ว ย เ ท ค นิ ค
วิธีท่ีเหมาะสม บูรณาการการใช้ส่ือ/ 4.1.1 มีกิริยามารยาทเรียบร้อย อ่อนน้อมถ่อมตน ยิ้มแย้มแจ่มใสในการติดต่อสัมพันธ์กับ
เทคโนโลย/ี ค�ำ ศพั ทเ์ พมิ่ เตมิ /สงิ่ ทน่ี า่ สนใจ ผู้อื่น รู้จกั ควบคุมอารมณไ์ ดอ้ ยา่ งเหมาะสม
แทรกในการรายงาน
2. สมุ่ กลมุ่ ผเู้ รยี นน�ำ เสนอผลการสรปุ ความรู้ 4.1.2 มีสัมมาคารวะ เข้ากบั ผูร้ ่วมงานและบคุ คลอน่ื ได้ดี
ความเข้าใจ 4.1.3 มีนา้ำ ใจชว่ ยเหลือผู้อื่น เสยี สละ อดทน
4.1.4 เปดิ ใจกว้าง รบั ฟังความคิดเหน็ ของผ้อู ่ืน
4.1.5 มีความกระตอื รือรน้ มีความพยายาม ขยันขนั แข็ง มีปฏิภาณไหวพรบิ
4.1.6 มีความรับผิดชอบต่อการทำางาน รักษาเวลา มีความซ่ือตรง ไม่โยนความผิดให้
ผรู้ ว่ มงานหรือบุคคลอื่น
4.1.7 พยายามปรับปรุงตนเองอยู่เสมอ แก้ไขปัญหา และอุปสรรคต่างๆ อันจะเป็นหนทาง
นำาไปสกู่ ารสร้างมนษุ ย์สัมพนั ธก์ บั บคุ คลอน่ื ได้

สุดยอดคู่มือครู 64

Ap3.pขlyั้นiปnฏgิบัตanิแdละCสoรnุปsคtrวuาcมtiรnู้gหลthังeกาKรnปoฏwิบleัตdิ ge Appl4y.inขgั้นสtื่hอeสาCรoแmลmะนu�ำnเiสcaนtอion Skill 5. ขS้ันeปlรfะ-เRมeินgเพuื่อlเaพt่ิมinคgุณค่า

ค่านิยมหลัก 12 ประการ กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก

asean

54 เพศวิถีศกึ ษา St ep 5 ข้นั ประเมนิ เพอื่ เพม่ิ คณุ ค่า
บริการสงั คมและจิตสาธารณะ
4.2 การสรา้ งมนษุ ยสมั พนั ธ์ในการทำากจิ กรรมรว่ มกับผอู้ นื่ tingf-Regula
Sel
4.2.1 การทำากิจกรรมร่วมกับผู้อื่น การทำากิจกรรมร่วมกับผู้อ่ืนหรือการทำากิจกรรมเป็นทีม
(Team Work) เป็นการที่บุคคลกระทำากิจกรรมร่วมกัน มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้บรรลุผลสาำ เร็จ มีการแบ่ง 1. ผู้เรียนแต่ละกลุ่มและรายบุคคลตรวจสอบความรู้ความเข้าใจ
หนา้ ทแี่ ละความรบั ผิดชอบ สร้างความสัมพนั ธท์ ี่ดตี ่อกนั และมีจดุ ประสงคห์ รือความคาดหวงั ร่วมกัน ของตนเองหลังจากรับฟังการนำ�เสนอของสมาชิกกลุ่มอ่ืน ปรับปรุง
การทำากิจกรรมร่วมกับผู้อื่นมีความสำาคัญในด้านต่างๆ ได้แก่ เพ่ือความสำาเร็จของ ชนิ้ งานของกลุม่ ตนเองให้สมบรู ณแ์ ละบนั ทึกเพ่ิมเตมิ
การทำางาน เพื่อการแบ่งหน้าท่ีความรับผิดชอบ เพื่อมิตรภาพท่ีดี การทำากิจกรรมร่วมกันก่อให้เกิด
ความรู้สึกเข้มแข็ง ปลอดภัยมั่นคง ก่อให้เกิดการต่อรองได้มากขึ้น การทำางานเป็นทีมส่งผลให้สมาชิก 2. น�ำ ผลงานแสดงในปา้ ยนเิ ทศเพอื่ เผยแพรส่ หู่ อ้ งเรยี นอนื่ หรอื สาธารณะ
มโี อกาสได้รบั ผลประโยชน์ดา้ นตา่ งๆ ง่ายและเร็วยง่ิ ขนึ้

หลักการใช้มนุษยสัมพันธ์ในการทำากิจกรรมร่วมกับผู้อื่น ได้แก่ สมาชิกต้องยอมรับ
การทำางานร่วมกัน การยอมรบั ความคิดเห็น ประนปี ระนอม มนี าำ้ ใจ เห็นใจซงึ่ กนั และกัน ร้จู กั แบง่ งานและ
ประสานงานกัน เพราะสมาชิกทุกคนมีความสำาคัญเท่ากัน เคารพในสิทธิเสรีภาพซึ่งกันและกัน ศึกษา
พฤติกรรมของเพื่อนร่วมงานหรือทีมในแง่มุมต่างๆ เพื่อสร้างมนุษยสัมพันธ์ต่อไป เช่น ความต้องการ
พ้ืนฐาน อารมณ์ ความรู้สึก การรับรู้ ทัศนคติและบุคลิกภาพ เป็นต้น โดยปกติบุคคลจะมีแรงจูงใจ
ที่จะผลักดันให้บุคคลแสดงพฤติกรรมเพื่อสนองความต้องการ จึงควรใช้หลักจูงใจ โดยพยายามค้นหา
ส่งิ จูงใจทสี่ อดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของบคุ คล จะนาำ มาซึง่ ความพอใจและเกิดสมั พันธภาพท่ดี ไี ด้
สงวนลิขสิทธ์ิ บริ ัษทพัฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด
ภาพท่ ี 3.3 การทาำ กิจกรรมรว่ มกับผอู้ ื่น การสร้างสมั พันธภาพทดี่ กี ับผอู้ ่นื 55

4.2.2 การเป็นผู้นำา ผู้นำามีความสำาคัญต่อทุกองค์กร ถ้าองค์กรใดได้ผู้นำาที่มีคุณภาพ ผูน้ าำ (Leader) หมายถงึ บุคคลที่ไดร้ บั การแต่งตัง้ ใหด้ ำารงตาำ แหน่งเป็นหวั หนา้ โดยได้
องค์กรนั้นจะเจริญก้าวหน้า ดังน้ันองค์การธุรกิจทุกแห่งจึงพยายามหาผู้นำาที่มีความรู้ความสามารถ รบั การเลอื ก การยอมรบั การยกยอ่ งใหเ้ ปน็ หวั หนา้ ใหเ้ ปน็ ผตู้ ดั สนิ ใจ ใชอ้ าำ นาจปกครองบงั คบั บญั ชา จงู ใจ
และเพม่ิ ทกั ษะของผูน้ ำาที่มอี ยู่แลว้ ในองค์กรใหเ้ ปน็ ผ้มู ปี ระสทิ ธภิ าพ ใหบ้ ุคคลอน่ื ปฏิบตั ิตามกระบวนการของการบรหิ าร
ภาวะผู้นำา (Leadership) หมายถึง ความสามารถของบุคคลในการจูงใจบุคคลอื่น
asean การเรียนรู้สู่อาเซียน ให้ความร่วมมือ มีความพึงพอใจในการปฏิบัติงาน การดำาเนินกิจกรรมให้เป็นไปตามแผนงานและ
การบรู ณาการค�ำ ศพั ทภ์ าษาองั กฤษทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั เนอื้ หาในบทเรยี น จุดประสงค์ทว่ี างไว ้
ช่วยให้ผู้เรียนได้เพ่ิมพูนความรู้ภาษาอังกฤษ และมีเจตคติท่ีดี
ในการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษท่ีใช้เป็นภาษากลางในการทำ�งาน หลักการใช้มนุษยสัมพันธ์ในการเป็นผู้นำา ได้แก่ การช้ีแจงให้ผู้ที่ได้รับมอบหมายงาน
ของอาเซียน หรือกิจกรรมเข้าใจวัตถุประสงค์อย่างชัดเจน กำาหนดมาตรฐานของงานหรือกิจกรรมที่ต้องการ ให้ความเป็น
อิสระแก่ผู้ปฏิบัติ มีการประเมินผล สร้างธรรมาภิบาลในองค์กร เพื่อสร้างสรรค์และส่งเสริมองค์กร
ธรรมาภบิ าล เปน็ แนวทางในการจดั ระเบยี บใหส้ งั คมรฐั ภาคธรุ กจิ ใหม้ ีศักยภาพและประสทิ ธิภาพ
เอกชน และภาคประชาชน สามารถอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข 4.2.3 การเป็นผู้ตาม คุณสมบัติของผู้นำาและผู้ตามโดยทั่วไป ได้แก่ รับผิดชอบงานที่ได้
มีความรู้รักสามัคคี และร่วมกันเป็นพลัง ก่อให้เกิดการพัฒนา รับมอบหมาย ร้จู ักกาลเทศะ ยอมรบั ฟังความคดิ เหน็ ผู้อนื่ ใหค้ วามรว่ มมอื ในการปฏิบตั งิ านหรือกจิ กรรม
อย่างยั่งยนื มวี ุฒิภาวะทางอารมณ์และสังคม

หลักการใช้มนุษยสัมพันธ์ในการเป็นผู้ตาม ได้แก่ ปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ
ปรับปรุงหรือพัฒนางาน พบปะสนทนากับผู้นำาเป็นส่วนตัวหรือเป็นกลุ่มในการสร้างข้อตกลงร่วมกัน
เพือ่ ลดขอ้ ขัดแย้ง

4.3 การสร้างมนุษยสัมพนั ธก์ ับบุคคลต่างๆ

หลกั การสร้างมนุษย์สมั พนั ธ์กับบุคคลต่างๆ มีดงั น้ี
4.3.1 การสรา้ งมนุษยสมั พนั ธ์กับผู้บังคบั บัญชาหรือหัวหนา้ ไดแ้ ก่
1) เรยี นรูบ้ คุ ลกิ และลกั ษณะนิสยั ของผู้บงั คบั บัญชา
2) ควบคุมอารมณ์
3) ตัง้ ใจทาำ งานอยา่ งเตม็ ความสามารถ
4) ปฏบิ ตั ติ นใหเ้ ปน็ ทีไ่ วว้ างใจ
4.3.2 การสรา้ งมนษุ ยสมั พันธก์ บั เพอ่ื น ไดแ้ ก่
1) ยอมรบั ความแตกต่าง รบั ฟงั ความคดิ เหน็ และเขา้ ใจเพ่ือน
2) แสดงความมนี ำ้าใจ จริงใจ เปน็ มติ ร ไมถ่ ือตวั
3) ร่าเริงแจ่มใส
4) เปน็ ผ้ใู หม้ ากกวา่ ผูร้ ับ
5) มีความเกรงใจ
6) ไม่ยกตนข่มท่าน
7) ไมซ่ ดั ทอดความผดิ ให้เพื่อน

65 สุดยอดคู่มือครู

GPAS 5 STEPs 1. ขG้ันaรวtบhรeวrมinขg้อมูล 2. ขั้นคิดวิเPคrรoาะcหe์แsลsะiสnรgุปความรู้
บูรณาการทักษะศตวรรษท่ี 21
ทักษะชีวิต

56 เพศวถิ ศี กึ ษา St ep 2 ข้ันคิดวเิ คราะห์
และสรุปความรู้
8) เปดิ เผยในลักษณะทีเ่ หมาะสม g rocessin
9) รู้จกั ขออภัยและให้อภัย P
10) ให้ความร่วมมือในกจิ กรรมต่างๆ
4.3.3 การสรา้ งมนุษยสัมพนั ธ์กบั ผูใ้ ตบ้ งั คับบัญชา ได้แก่ 1. ผู้เรียนร่วมกันอภิปรายเปรียบเทียบความเหมือนความต่าง
1) การรู้จักควบคมุ อารมณ์ ท่ีรวบรวมได้จากนิยามท่ีศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับคุณลักษณะ
2) มีความยุตธิ รรม ไม่ลาำ เอยี ง ไม่ใชอ้ าำ นาจเกนิ ความจำาเปน็ ของบุคคลทมี่ ีมนุษยสมั พันธ์และการจดั การกบั ความขดั แยง้
3) ไม่จับผิด
4) สือ่ สารชดั เจน 2. ผู้เรียนร่วมกันเช่ือมโยงความคล้ายคลึง/แตกต่างของข้อมูล
5) ให้กาำ ลังใจผใู้ ต้บงั คับบญั ชา ที่นำ�มาอภิปราย และสรุปความรู้ตามหัวข้ออภิปราย แสดงเป็น
6) ดูแลทกุ ขส์ ุขของผู้ใตบ้ ังคับบัญชา ความคิดรวบยอดหรือหลกั การลงในผงั กราฟิก
7) ใช้คนใหเ้ หมาะกับงาน สงวน ิลขสิทธ์ิ บริ ัษท ัพฒนา ุคณภาพ ิวชาการ (พว.) จำ�กัด
8) เปิดโอกาสให้ผูใ้ ตบ้ งั คบั บญั ชาได้พัฒนาตนใหก้ า้ วหนา้ St 3. ผูเ้ รียนบนั ทึกผลขอ้ สรปุ เปน็ ความเข้าใจของกลุ่มและรายบุคคล
9) ยกยอ่ งชมเชย ใหร้ างวัล ให้ความเป็นธรรม
10) เป็นแบบอย่างทีด่ ีg การสร้างสมั พันธภาพที่ดกี ับผูอ้ ่ืน 57
4.3.4 การสรา้ งมนุษยสมั พนั ธก์ บั บุคคลอน่ื ทเี่ กยี่ วข้อง ได้แก่ 4.4.2 การแกป้ ัญหาในการทาำ กิจกรรม ได้แก่
1) รู้ความต้องการของบุคคลอ่ืน อาจใช้วิธีการสังเกต เช่น ชอบอ่านหนังสือเกี่ยวกับ 1) สังเกต เป็นการสังเกตการทำากจิ กรรม เพ่อื การประเมนิ หรอื ปรับปรุงแกไ้ ข
สุขภาพ 2) วิเคราะห์ เปน็ การวเิ คราะหป์ ญั หาวา่ มมี ากนอ้ ยเพียงใด จัดลาำ ดบั ความสำาคญั ของ
2) จดจาำ รายละเอียดของบคุ คลอน่ื เชน่ ชอบใส่เส้ือสสี ดใส ปญั หา และวเิ คราะห์สาเหตุ
3) จดจาำ ลกั ษณะของบคุ คลอน่ื เช่น ขีอ้ าย หรอื เปดิ เผย 3) สร้างทางเลือก  เป็นการเรียงลำาดับความสำาคัญของปัญหาและพิจารณาว่า
4) ใชห้ ลกั การสอ่ื สารเพอื่ สรา้ งความประทบั ใจ เชน่ มองหนา้ คสู่ นทนา ยม้ิ แยม้ แจม่ ใส ควรแก้ปญั หาใดกอ่ น-หลงั
ทักทายอยา่ งเป็นกนั เอง ถามความต้องการ เปน็ ผู้ฟงั ที่ดี 4) ประเมินทางเลือก  เป็นการตรวจสอบ โดยพิจารณารายละเอียดว่าทางใดที่
5) ปรับตัวใหเ้ ขา้ กับสภาพแวดล้อม เหมาะสมกับการแก้ไขปญั หามากที่สุด
6) แสดงอารมณ์และมารยาทอย่างเหมาะสม 5) การสรุปผลและนำาเสนอผลงาน การทำางานควรมีการสรุปผลออกมาอย่างเป็น
รูปธรรม อาจอยู่ในรูปของรายงานหรือเอกสารต่างๆ และนำาเสนอผลการปฏิบัติงานแก่ผู้บังคับบัญชา
4.4 การใช้ทักษะพ้นื ฐานทจี่ าำ เป็นต่อการทาำ กจิ กรรมต่างๆ หรอื หัวหน้างาน
4.4.3 การทำางานร่วมกันหรือการทำางานเป็นทีม เป็นการทำางานร่วมกันผู้อื่นให้สำาเร็จลุล่วง
ทักษะพื้นฐานทจี่ าำ เป็นต่อการทาำ กิจกรรมตา่ งๆ มดี งั นี้ โดยปราศจากความขัดแย้ง ไดแ้ ก่
4.4.1 การวางแผน ปฏิบัตงิ าน และตดิ ตามผล ได้แก่
1) การวิเคราะห์กิจกรรม เป็นการมองภาพรวมว่าเป้าหมายของกิจกรรมคืออะไร 1) การจดั บทบาทหนา้ ทภี่ ายในกลมุ่ การทาำ งานรว่ มกนั กบั ผอู้ น่ื นนั้ ควรรจู้ กั หนา้ ทแี่ ละ
ผลลพั ธท์ ีจ่ ะทาำ คืออะไร และจะทาำ อย่างไรให้งานบรรลเุ ป้าหมาย ความรับผดิ ชอบของตนเอง
2) การวางแผนในการปฏิบตั ิงาน  เป็นการกาำ หนดเปา้ หมาย ระยะเวลา กำาลงั คนทใ่ี ช้
ในการทาำ งาน การวางแผนเร่ืองค่าใช้จ่ายในการดำาเนินงาน 2) การฟัง พดู แสดงความคดิ เหน็ และอภปิ รายในกลมุ่  เมอื่ ทาำ งานร่วมกับบุคคลอ่ืน
3) การลงมือปฏิบตั ิงาน  เปน็ การลงมอื ทำากจิ กรรมตามแผนที่วางไว้จนสำาเรจ็ เป็นส่ิงท่ีจำาเป็น เพราะการเป็นผู้ฟังท่ีดี ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น และเป็นผู้พูดที่ดีจะช่วย
4) การประเมินผลการปฏิบัติงาน เป็นการตรวจสอบแผนงานว่าสามารถปฏิบัติตาม ใหง้ านสำาเร็จ
ไดห้ รอื ไม ่ ตลอดจนประเมนิ ผลงานท่ที ำาสาำ เร็จแลว้ วา่ มีคุณภาพหรอื ไม่
3) มีคุณธรรมในการทำางานร่วมกนั  เพ่ือความสขุ ในการทำางานร่วมกบั ผอู้ น่ื และช่วย
ep 1 ลดหรอื หลกี เลี่ยงไมใ่ หเ้ กิดความขัดแยง้
4.4.4 การแสวงหาความร ู้ สรา้ งความรใู้ หมเ่ พม่ิ เตมิ อาจมาจากการศกึ ษาคน้ ควา้ การทดลอง
Gatherin ขนั้ รวบรวมข้อมูล หรอื ปฏบิ ัติ ได้แก่
1) การกำาหนดปญั หา เปน็ การตงั้ หวั ขอ้ หรอื ประเดน็ ในการศกึ ษาค้นควา้ โดยกาำ หนด
เรอื่ งที่ 2 คุณลักษณะของบุคคลที่มีมนษุ ยสมั พนั ธ ์ ขอบเขตท่ตี ้องการจะค้นควา้
และการจดั การกบั ความขดั แยง้ 2) การวางแผน เปน็ การกาำ หนดเปา้ หมายวา่ จะสืบคน้ ขอ้ มลู ทใ่ี ด อยา่ งไร
1. แบง่ กลมุ่ ผเู้ รยี นรว่ มกนั ศกึ ษาเอกสารหนงั สอื เรยี นเกยี่ วกบั คณุ ลกั ษณะ 3) การดาำ เนินการ เปน็ การดำาเนนิ การสืบคน้ ขอ้ มลู ตามแผนท่ีวางไว้
4) การวเิ คราะห์ขอ้ มูล เป็นการนำาขอ้ มลู ที่ไดค้ น้ ควา้ มาพิจารณาอย่างละเอียด
ของบุคคลท่มี ีมนุษยสมั พนั ธแ์ ละการจัดการกบั ความขัดแยง้ 5) การสรปุ ผล เปน็ การสรปุ ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู และบนั ทกึ จดั เกบ็ ขอ้ มลู ในรปู แบบ
2. ตั้งคำ�ถามให้ผู้เรียนเสนอข้อมูลจากประสบการณ์ท่ีรับรู้เกี่ยวกับ ทงี่ ่ายต่อการคน้ ควา้
4.4.5 การจัดการ เป็นความสามารถในการจัดระบบงานให้สำาเร็จตามเป้าหมายอย่างมี
คณุ ลกั ษณะของบคุ คลทมี่ มี นษุ ยสมั พนั ธแ์ ละการจดั การกบั ความขดั แยง้ ประสทิ ธภิ าพ ไดแ้ ก ่ การจดั การระบบการทำางานคนเดียว การจัดการระบบการทาำ งานกลุ่ม
ตามหวั ขอ้ ทก่ี ำ�หนดให้ (ศกึ ษารายละเอยี ดจากแผนการจดั การเรยี นร)ู้
3. แต่ละกลุ่มบันทึกผลการศึกษาตามหัวข้อที่กำ�หนดลงผังกราฟิก
(เลอื กออกแบบและใชผ้ งั กราฟกิ ใหเ้ หมาะสมกบั ลกั ษณะของขอ้ มลู )
ดงั ตัวอย่าง

สุดยอดคู่มือครู 66

Ap3.pขly้ันiปnฏgิบัตanิแdละCสoรnุปsคtrวuาcมtiรnู้gหลthังeกาKรnปoฏwิบleัตdิ ge Appl4y.inขg้ันสtื่hอeสาCรoแmลmะนu�ำnเiสcaนtอion Skill 5. ขS้ันeปlรfะ-เRมeินgเพu่ือlเaพtิ่มinคgุณค่า

ค่านิยมหลัก 12 ประการ กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก

58 เพศวถิ ศี กึ ษา asean

ep 3
St
ข้นั ปฏิบตั แิ ละสรุปความรู้
wldedge
conAstructpipnlgyitnhge aknno หลังการปฏิบัติ

สงวนลิขสิท ิ์ธ บริษัท ัพฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) ำจ�กัดภาพท่ี 3.4 การทำางานรว่ มกนั 1. ผู้เรียนนำ�ข้อสรุปความรู้ความเข้าใจท่ีได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน
ระหว่างกล่มุ ในช้นั เรียนมาวเิ คราะห์เกีย่ วกบั คุณลกั ษณะของบุคคล
5. ความขัดแย้งและการจัดการกบั ความขัดแย้ง ทม่ี มี นุษยสมั พนั ธ์และการจดั การกับความขัดแยง้

ความขดั แยง้ (Conflict) เป็นแนวคดิ หรอื ความสนใจของบคุ คลท่ีไปดว้ ยกันไมไ่ ด ้ หรือท่ีเป็นไปใน 2. กลุ่มผู้เรียนร่วมกันอภิปรายตรวจสอบความสมบูรณ์ถูกต้อง
ทางตรงกนั ข้าม ของความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับคุณลักษณะของบุคคลท่ีมี
มนุษยสัมพันธ์และการจัดการกับความขัดแย้ง และทำ�กิจกรรม
5.1 สาเหตุของความขดั แยง้ ตรวจสอบความเขา้ ใจ (หนังสือเรียน หนา้ 61)

ความขดั แย้งมหี ลายสาเหต ุ ไดแ้ ก่ การสรา้ งสมั พันธภาพทีด่ กี บั ผ้อู ืน่ 59
5.1.1 ความขัดแย้งทั่วไป เป็นบุคลิกภาพหรือพฤติกรรมของบุคคลที่เป็นสาเหตุของ 5.2.3 การสร้างทักษะในการสอ่ื สาร เช่น การฟงั และการเจรจา
5.2.4 การลงมติโดยใชเ้ สยี งขา้ งมาก
ความขัดแย้ง เช่น ความแตกต่างทางการศึกษาทำาให้บุคคลมีความคิดเห็นแตกต่างกัน ความแตกต่าง 5.2.5 การใช้เหตผุ ลหรอื หลักการ
ในค่านยิ มและความเชอื่ ทำาให้ประพฤติและปฏิบัตแิ ตกตา่ งกนั 5.2.6 การประสานผลประโยชนด์ ว้ ยการแลกเปล่ยี นความตอ้ งการซึ่งกนั และกนั

5.1.2 ปฏิสัมพันธ์ท่ีก่อให้เกิดความขัดแย้ง ได้แก่ การสื่อสารที่ไม่มีคุณภาพ เช่น ผู้จัดการ
แจ้งข่าวสารหรือให้ข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์หรือไม่ถูกต้อง ผู้ปฏิบัติงานรับข่าวสารแล้วเข้าใจไม่ตรงกัน
เปน็ ตน้ สอ่ื ทไี่ มเ่ หมาะสมและส่งิ รบกวนต่างๆ เช่น เสียงดัง อากาศที่ร้อน

5.1.3 สภาพขององคก์ รบุคลากร เช่น การมที รัพยากรจำากดั จงึ ตอ้ งแข่งขันกนั เพ่ือใหไ้ ดม้ าซึ่ง
ทรัพยากรนั้น โครงสร้างขององค์กรท่ีคลุมเครือทำาให้ไม่เข้าใจว่าบทบาทของใครเป็นอย่างไร กฎเกณฑ์
ที่เข้มงวดทำาให้อึดอัดกับการปฏิบัติงาน การแข่งขันกันปฏิบัติงาน เป็นต้น สามารถก่อให้เกิด
ความขดั แย้งได้

5.2 การจดั การกบั ความขัดแย้ง

การจัดการกบั ความขัดแย้งมหี ลายวิธี ได้แก่
5.2.1 การร่วมมอื โดยมีเปา้ หมายใหเ้ กิดความพอใจแก่ตนเองและผอู้ ื่น
5.2.2 การประนปี ระนอม

ทักษะชีวิต

การนำ�ความรู้เร่ืององค์ประกอบและหลักการสร้างมนุษยสัมพันธ์ ภาพท ่ี 3.5 การจัดการความขดั แยง้ ในการทำากิจกรรม
รวมถึงคุณลักษณะของบุคคลท่ีมีมนุษยสัมพันธ์และการจัดการกับ
ความขดั แยง้ มาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจำ�วนั เพอื่ สรา้ งสมั พนั ธภาพทดี่ ี 5.3 การตดั สินใจและการแก้ปญั หา
กับคนรอบข้าง ซึ่งเป็นการเสริมสร้างทักษะชีวิตท่ีมีผลดีต่อตนเอง
และสังคม การตัดสินใจเป็นระยะหนึ่งของกระบวนการ
เฮอร์เบิร์ต เอ ไซมอน ได้รับรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์
เมื่อปี ค.ศ. 1978 จากผลงานการค้นคว้าวิจัยในกระบวนการ แก้ไขปัญหา (Problem Solving Process) ของบุคคล
ตัดสนิ ใจภายในองคก์ รที่ประกอบการเศรษฐกจิ
เมื่อบุคคลพบว่ามีปัญหาเกิดขึ้นจะต้องมีการตัดสินใจ

เลือกแนวทางทดี่ ที ี่สุด เพ่ือนำาไปสู่การแก้ไขปญั หา

กระบวนการตัดสินใจ (Decision Making

Process) เปน็ การกาำ หนดขนั้ ตอนเพอื่ ตดั สนิ ใจแกไ้ ขปญั หา

ท่ีเกิดขน้ึ อย่างมีหลกั เกณฑ์และได้ผลลพั ธท์ ต่ี อ้ งการ

เฮอร์เบิร์ต เอ ไซมอน (Herbert A. Simon)

นกั เศรษฐศาสตรช์ าวอเมรกิ นั ไดแ้ บง่ ระยะของการตดั สนิ ใจ ภาพที่ 3.6 เฮอร์เบริ ต์ เอ ไซมอน
ภายในองค์การออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่ การใช้ความคิด ที่มา:http://www.famouspsychologists.org/
การออกแบบ และการเลอื กแนวทางทด่ี ที ่ีสดุ
herbert-simon/

จอร์จ ฮับเบอร์ (George Huber) ได้นำาการตัดสินใจของ เฮอร์เบิร์ต เอ ไซมอน มารวม

เข้ากบั กระบวนการแก้ไขปญั หา ทาำ ใหเ้ กดิ ขั้นตอนการตัดสนิ ใจและการแกไ้ ขปัญหาขนึ้ ได้แก่

1) การใชค้ วามคดิ คอื การค้นหาสาเหตุของปัญหา

2) การออกแบบ คือ การสร้างและวิเคราะห์ทางเลือกในการตัดสินใจ โดยทางเลือก

ที่สร้างขึน้ มาจะต้องมีความเป็นไปได้ในการแกไ้ ขปญั หาใหไ้ ด้ประโยชน์สงู สดุ

67 สุดยอดคู่มือครู

GPAS 5 STEPs 1. ขGั้นaรวtบhรeวrมinขg้อมูล 2. ข้ันคิดวิเPคrรoาะcหe์แsลsะiสnรgุปความรู้

บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 ทักษะชีวิต

St ep 4 60 เพศวถิ ีศกึ ษา

killemmpupnlyicinagtiotnh s ขั้นสือ่ สารและน�ำเสนอ 3) การเลือกทางเลือกท่ีดีที่สุด คือ การค้นหาและการประเมินทางเลือกต่างๆ
Aco Sel1. ผู้เรียนแต่ละกลุ่มออกแบบหรือหาวิธี ผลลัพธท์ ่ไี ดน้ าำ ไปใชใ้ นการแกไ้ ขปัญหาจริง
4) การนำาไปใช้ คอื การนำาทางเลอื กในการแกไ้ ขปัญหา การลงมอื ปฏิบตั ิ หากนำาไปใช้
นำ � เ ส น อ ใ ห้ ผู้ อื่ น รั บ รู้ แ ล ะ ส่ื อ ส า ร ไ ด้ แลว้ ลม้ เหลวอาจยอ้ นกลบั ไปสูข่ ัน้ ตอนใดขั้นตอนหน่ึง เพือ่ ทบทวนกระบวนการใหม่
อย่างมีประสิทธิภาพด้วยเทคนิควิธี 5) การติดตามผล คือ การประเมินผลหลังจากนำาแนวทางที่ได้เลือกแล้วไปใช้ใน
ที่เหมาะสม บูรณาการการใช้ส่ือ/ การแก้ไขปัญหา หากผลลัพธไ์ ม่เปน็ ทีน่ า่ พอใจควรนำาไปปรบั ปรงุ เพ่ือแก้ไขปัญหาใหม่อีกคร้งั
เทคโนโลย/ี ค�ำ ศพั ทเ์ พม่ิ เตมิ /สง่ิ ทนี่ า่ สนใจ
แทรกในการรายงาน หลักในการตัดสินใจและการแก้ปัญหา ได้แก่ การแก้ปัญหาในการทำางานอย่างมีเหตุผล
2. สมุ่ กลมุ่ ผเู้ รยี นน�ำ เสนอผลการสรปุ ความรู้ หลักการทำางานด้วยความเสียสละ การบริหารเวลาอย่างเหมาะสม การปรับเปล่ียนความคิด การสร้าง
ความเขา้ ใจ ความเขม้ แขง็ ทางจติ ใจ การสรา้ งสมั พันธท์ ่ดี กี บั เพอ่ื นรว่ มงาน การแสดงอารมณ์อยา่ งเหมาะสม
สงวนลิข ิสทธ์ิ บริ ัษท ัพฒนา ุคณภาพ ิวชาการ (พว.) ำจ�กัด
St ep 5 ขัน้ ประเมินเพอ่ื เพิม่ คุณคา่
บริการสงั คมและจิตสาธารณะ
tingf-Regula

1. ผเู้ รยี นแตล่ ะกลมุ่ และรายบคุ คลตรวจสอบ ภาพที ่ 3.7 การตดั สนิ ใจและการแกป้ ัญหา
ความรู้ความเข้าใจของตนเองหลังจาก
รับฟังการนำ�เสนอของสมาชิกกลุ่มอ่ืน บูรณาการทักษะศตวรรษท่ี 21
ปรบั ปรงุ ชน้ิ งานของกลมุ่ ตนเองใหส้ มบรู ณ์
และบนั ทกึ เพิ่มเติม

2. นำ�ผลงานแสดงในป้ายนิเทศเพ่ือเผยแพร่
ส่หู ้องเรียนอน่ื หรอื สาธารณะ

3. ผเู้ รยี นแตล่ ะคนท�ำ แบบทดสอบ(หนงั สอื เรยี น
หน้า 64) แลกเปลี่ยนกันตรวจให้คะแนน
จากนั้นประเมินสรุปผลการทำ�กิจกรรม
(หนังสือเรียน หน้า 63) ทำ�แบบประเมิน
ตนเอง (หนงั สอื เรยี น หนา้ 65) และก�ำ หนด
แนวทางการพฒั นาตนเอง

การทำ�งานกลุ่มจะช่วยฝึกกระบวนการทำ�งานแบบประชาธิปไตย
และสง่ เสริมกระบวนการคดิ การแกป้ ัญหาใหแ้ ก่ผ้เู รียน

สุดยอดคู่มือครู 68

Ap3.pขlyั้นiปnฏgิบัตanิแdละCสoรnุปsคtrวuาcมtiรnู้gหลthังeกาKรnปoฏwิบleัตdิ ge Appl4y.inขg้ันสtื่hอeสาCรoแmลmะนu�ำnเiสcaนtอion Skill 5. ขSั้นeปlรfะ-เRมeินgเพu่ือlเaพt่ิมinคgุณค่า

ค่านิยมหลัก 12 ประการ กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก

asean

สงวนลิข ิสทธิ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัดการสรา้ งสมั พันธภาพทีด่ กี ับผอู้ ืน่ 61

กจิ กรรมตรวจสอบความเข้าใจ

คำ�ชีแ้ จง กิจกรรมตรวจสอบคว�มเข้�ใจเป็นกิจกรรมฝึกทักษะเฉพ�ะด้�นคว�มรู้-คว�มจำ� เพื่อใช้ใน
ก�รตรวจสอบคว�มเข�้ ใจต�มจุดประสงคก์ �รเรยี นรู้
จงตอบคำ�ถ�มต่อไปนี้ใหถ้ กู ตอ้ ง
1. จงอธบิ ายความหมายและความสาำ คัญของมนษุ ยสัมพนั ธ์ โดยสังเขป (จ.1)

(แนวทางการตอบ มนษุ ยสมั พนั ธ์ หมายถงึ การประพฤตปิ ฏบิ ตั ติ นของแตล่ ะบคุ คลทแี่ สดงตอ่ บคุ คลอนื่ เพอ่ื ใหเ้ กดิ สมั พนั ธภาพ
ที่ดีแก่บุคคลต่างๆ มีความสำาคัญในการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน ทำาให้รู้จักและเข้าใจผู้อื่น ช่วยลดปัญหาความขัดแย้งใน
การอยูร่ ว่ มกนั หรอื อืน่ ๆ ข้นึ อยูก่ ับดุลยพินิจของผู้สอน)

2. องคป์ ระกอบในการสรา้ งมนษุ ยสัมพนั ธ์ ได้แก่อะไรบา้ ง จงอธิบายพร้อมยกตัวอย่างประกอบ (จ.2)

(แนวทางการตอบ องค์ประกอบในการสรา้ งมนษุ ยสมั พนั ธ์ ได้แก่ การรับรู้ การตีความและการเขา้ ใจส่งิ ต่างๆ ตามประสบการณ์
ความเชอื่ และค่านิยม ยกตวั อยา่ งเชน่ การรับรวู้ ่าผ้อู ่นื เปน็ คนอยา่ งไร ชอบหรอื ไม่ชอบอะไร หรืออน่ื ๆ ขน้ึ อยกู่ ับดุลยพนิ จิ ของ
ผู้สอน)

3. จงอธบิ ายถงึ หลกั การสร้างสมั พนั ธภาพท่ีดกี บั ผอู้ ื่น โดยสงั เขป พร้อมยกตัวอยา่ งประกอบ (จ.3)

(แนวทางการตอบ หลกั การสรา้ งสมั พนั ธภาพทด่ี กี บั ผอู้ นื่ ไดแ้ ก่ การใชจ้ ติ วทิ ยา การใชม้ นษุ ยสมั พนั ธใ์ นการทาำ งานและการดาำ รง
ชีวิตอย่างมีความสุข การใช้มนุษยสัมพันธ์สำาหรับผู้บังคับบัญชา หัวหน้างานหรือผู้บริหาร การมีมนุษยสัมพันธ์บนพ้ืนฐานของ
ธรรมะ ยกตวั อย่างเชน่ การศกึ ษาพฤตกิ รรมของมนุษย์ในแงม่ ุมตา่ งๆ เพื่อชว่ ยเขา้ ใจพฤตกิ รรมพ้นื ฐานของมนษุ ย์และสามารถ
สรา้ งความสัมพันธ์กบั ผอู้ ่ืนได้อย่างถกู ต้อง หรอื อื่นๆ ข้ึนอยู่กับดลุ ยพนิ ิจของผสู้ อน)

4. จงอธิบายถึงคณุ ลักษณะของบุคคลทีม่ ีมนษุ ยสัมพนั ธใ์ นการทาำ กิจกรรมร่วมกบั ผู้อ่ืน โดยสังเขป (จ.4)

(แนวทางการตอบ คุณลักษณะของบุคคลท่ีมีมนุษยสัมพันธ์ในการทำากิจกรรมร่วมกับผู้อ่ืน คือ ต้องยอมรับความคิดเห็นของ
ผู้อ่ืน รู้จักประนีประนอม มีน้ำ�ใจ รู้จักแบ่งงานและประสานงานร่วมกัน เคารพในสิทธิเสรีภาพของผู้อ่ืน หรืออื่นๆ ขึ้นอยู่กับ
ดุลยพินจิ ของผูส้ อน)

5. จงอธบิ ายวิธีการจัดการกบั ความขดั แย้ง โดยสังเขป พรอ้ มยกตวั อยา่ งประกอบ (จ.5)

(แนวทางการตอบ การจัดการกับความขัดแย้ง ได้แก่ การร่วมมือโดยมีเป้าหมายให้เกิดความพอใจแก่ตนเองและผู้อ่ืน
การประนีประนอม การสร้างทักษะในการสื่อสาร การลงมติโดยใช้เสียงข้างมาก การใช้เหตุผลหรือหลักการ การประสาน
ผลประโยชน์ด้วยการแลกเปลี่ยนความต้องการซ่ึงกันและกัน ยกตัวอย่างเช่น การเลือกหัวหน้าห้องเรียน ควรเลือกโดยใช้มติ
หรือเสยี งขา้ งมาก ส่วนเสียงข้างน้อยตอ้ งยอมรบั ความคดิ เหน็ ส่วนมาก หรอื อ่ืนๆ ข้นึ อย่กู บั ดลุ ยพนิ จิ ของผ้สู อน)

จ. หมายถึง ตรงตามจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ขอ้ ท่ี ...

ค่านิยมหลัก 12 ประการ
• มีศีลธรรม รักษาความสัตย์ หวังดีต่อผู้อ่ืน เผื่อแผ่และแบ่งปัน
• ใฝห่ าความรู้ หม่ันศกึ ษาเล่าเรียนท้ังทางตรงและทางอ้อม

69 สุดยอดคู่มือครู

GPAS 5 STEPs 1. ขG้ันaรวtบhรeวrมinขg้อมูล 2. ข้ันคิดวิเPคrรoาะcหe์แsลsะiสnรgุปความรู้
บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21
ทักษะชีวิต

62 เพศวิถศี ึกษา กจิ กรรมสง่ เสรมิ การเรยี นรเู้ ปน็ กจิ กรรมทผ่ี สู้ อนใหผ้ เู้ รยี นปฏบิ ตั ทิ กุ ขอ้
หรือเลือกปฏิบัติเป็นบางข้อตามความเหมาะสม โดยผู้สอน
กจิ กรรมส่งเสริมการเรยี นรู้ ใหค้ ะแนนการท�ำ กจิ กรรมตามเกณฑข์ องใบสรปุ ผลการท�ำ กจิ กรรม
และสามารถนำ�ผลการทำ�กิจกรรมไปเทียบกับการให้คะแนนกับ
คำาชี้แจง กจิ กรรมสง่ เสรมิ การเรยี นร ู้ ประกอบดว้ ยกจิ กรรมหลากหลายทฝ่ี กึ ทกั ษะทกุ ดา้ นตามจดุ ประสงค์ ตารางวิเคราะห์ความสอดคล้องของเน้ือหากับจุดประสงค์รายวิชา
เชิงพฤติกรรมเพื่อให้เกิดสมรรถนะในการเรียนร ู้ สามารถปฏิบัติกิจกรรมทั้งในและนอกสถานที่ สมรรถนะรายวชิ า และจดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรมได้

ตามความเหมาะสมกบั ผู้เรียนและสงิ่ แวดลอ้ มของสถานศกึ ษา

1. ให้ผู้เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3-5 คน เลือกข่าวสารจากหนังสือพิมพ์ วารสาร หรืออินเทอร์เน็ต
ที่มีความเก่ียวพันกับมนุษยสัมพันธ์และการสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับผู้อื่น มากลุ่มละ 1 ข่าว
วิเคราะหข์ า่ วท่เี กิดข้นึ สง่ ตวั แทนกลุม่ มารายงานและร่วมกันอภปิ รายหนา้ ชนั้ เรยี น

2. ให้ผู้เรียนเขียนเรียงความในหัวข้อ “การสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับผู้อื่น” โดยให้สมมติตัวเองเป็น
ประธานนักศึกษาหรือประธานสีตามความสนใจ แล้วเสนอแนะแนวทางที่เหมาะสม โดยผู้สอน
สุ่มผู้เรียนมานำาเสนอหนา้ ชั้นเรียน

3. ใหผ้ ู้เรียนเขียนผังความคิดสรุปเกี่ยวกบั เรอ่ื ง การสร้างความสมั พันธท์ ่ีดกี บั ผ้อู ืน่ พร้อมระบุประโยชน์
ท่ีไดร้ ับจากการเรยี น
สงวนลิข ิสทธิ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด
การสร้างสมั พนั ธภาพที่ดีกบั ผู้อ่นื 63

สรปุ ผลการทำากิจกรรม
คาำ ชี้แจง ใหผ้ ูเ้ รยี นประเมินผลการทาำ กจิ กรรม โดยเขียนเครอ่ื งหมาย ✓ลงในช่อง ตามความเป็นจรงิ

กิจกรรมท้าทาย ความรู ้ (K) ทกั ษะ (P) คุณลักษณะ (A) เกณฑ์การประเมนิ
• ใหผ้ ู้เรียนจดั ป้ายนิเทศเรือ่ งการสรา้ งสัมพนั ธภาพทดี่ กี ับผอู้ ่นื การมมี นุษยสัมพนั ธใ์ น ทำาเคร่อื งหมาย ✓
• ใหผ้ เู้ รยี นเขยี นเรยี งความในหวั ขอ้ “การสรา้ งสมั พนั ธภาพทด่ี กี บั ผอู้ น่ื ” ความรู ้ ความเข้าใจ การปฏิบตั ิงานทไ่ี ด้รับ
การนำาไปใช้ การวิเคราะห์ มอบหมายเสร็จตามเวลา การปฏบิ ตั กิ ิจกรรม ในแตล่ ะตอน 3 ข้อ
การสงั เคราะห์ ท่ีกำาหนด ความมีวินัย ตรงตอ่ เวลา คอื ผ่านการประเมิน
การประเมนิ คา่ การปฏิบตั งิ านดว้ ยความ ความซื่อสัตย์สจุ รติ
ละเอยี ด รอบคอบ ปลอดภัย ในการทาำ งาน 1. ความร้ ู (K)
การศกึ ษาค้นคว้า เรียบรอ้ ย สวยงาม ประพฤติตนด้วยความ ผ่าน ไม่ผ่าน
การแสวงหาแหล่งขอ้ มูล
และการรวบรวมข้อมูล ความสมบูรณ์ของงาน ถูกต้องตามศีลธรรม 2. ทักษะ (P)
การแสดงความคิดเหน็ การปฏบิ ัติงานท่ที าำ ให้เกิด อันดีงาม
อยา่ งมเี หตุผล หรือแสดง สมรรถนะแก่ผเู้ รียน เจตคติที่ดใี นการปฏบิ ัติ ผ่าน ไม่ผา่ น
กิจกรรม
ขั้นตอนและกระบวนการ ทักษะการวางแผน การคดิ ความพอเพียงและความ 3. คณุ ลักษณะ (A)
ทำากิจกรรม สรา้ งสรรค์ การออกแบบ ผ่าน ไมผ่ า่ น

การหาประสบการณ์ การผลติ พอประมาณ
ความรู้ใหม่ การตัดสนิ ใจในการแกป้ ัญหา

หมายเหตุ เกณฑ์การประเมินผลการทำากิจกรรม มีวัตถุประสงค์เพ่ือประเมินว่า ผู้เรียนเกิดสมรรถนะจากการเรียนรู้
ตามบริบทต่างๆ หรือไม่ โดยแบ่งเป็น 3 ด้าน คือ ความรู้หรือพุทธิพิสัย = Knowledge (K) ทักษะหรือ
ทกั ษะพสิ ัย = Practice (P) คุณลักษณะหรอื จิตพิสยั = Attitude (A)

สุดยอดคู่มือครู 70

Ap3.pขlyั้นiปnฏgิบัตanิแdละCสoรnุปsคtrวuาcมtiรnู้gหลthังeกาKรnปoฏwิบleัตdิ ge Appl4y.inขgั้นสtื่hอeสาCรoแmลmะนu�ำnเiสcaนtอion Skill 5. ขS้ันeปlรfะ-เRมeินgเพuื่อlเaพtิ่มinคgุณค่า

ค่านิยมหลัก 12 ประการ กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก

asean

64 เพศวถิ ศี กึ ษา ผู้สอนให้ผู้เรียนทำ�แบบทดสอบ จากนั้น
ให้ผู้เรียนแลกกันตรวจคำ�ตอบ โดยผู้สอน
แบบทดสอบ เป็นผู้เฉลย

ตอนที่ 1 จงจบั คขู่ อ้ ท่ีมีความสัมพันธ์กัน เฉลยแบบทดสอบ
สงวนลิข ิสทธิ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด
ข 1. การรับร้ตู นเองและผู้อนื่ ก. มีความรบั ผิดชอบ 1. ตอบ ข. การรับรู้ การตีความ หรือการเข้าใจ

ง 2. การค้นหาสาเหตขุ องปัญหา ข. การตีความ

ซ 3. การสรา้ งทางเลือกในการตัดสนิ ใจ ค. ยอมรับฟงั ความคิดเหน็ สิ่งต่างๆ ตามประสบการณ์มี 2 ลักษณะ คือ
ฆ 4. การสร้างทักษะในการส่ือสาร ฅ. ให้ความรว่ มมือ การรับรูต้ นเองและการรบั รผู้ อู้ ืน่
ฌ 5. ความแตกตา่ งในค่านิยมและความเชอ่ื ฆ. การจัดการความขดั แยง้ 2. ตอบ ง. การใช้ความคิด คือ การค้นหาสาเหตุ
ฉ 6. การไม่ทาำ ชวั่ ทำาความดที ำาใจให้บริสุทธิ์ ง. การใชค้ วามคิด ของปญั หา
ช 7. ความชอบและไมช่ อบอันมผี ลมาจากความคดิ จ. การตดิ ตามผล
3. ตอบ ซ. การสร้างและวิเคราะห์ทางเลือก
ก 8. คุณลกั ษณะของบุคคลที่มมี นษุ ยสมั พันธด์ ี ฉ. การสรา้ งมนษุ ยสมั พันธ์ ในการตัดสินใจ โดยทางเลือกที่สร้างขึ้นมา
ค 9. การเปน็ ผ้นู ำา ช. ทศั นคติ จะต้องมีความเป็นไปได้ในการแก้ไขปัญหา
ฅ 10. การเป็นผตู้ าม ซ. การวเิ คราะห์ ใหไ้ ด้ประโยชน์สูงสดุ
ฌ. สาเหตขุ องความขัดแยง้

ตอนท่ี 2 จงขีดเครือ่ งหมาย ✓หน้าข้อความทีถ่ กู ต้องและเครอื่ งหมาย ✗ หน้าขอ้ ความท่ผี ดิ 4. ตอบ ฆ. การมีทักษะในการสื่อสารจะช่วยให้
จัดการกับความขัดแย้งได้ เช่น การฟังและ
✗ 1. มนุษย์สมั พนั ธ์ใหค้ วามสาำ คญั ในการจัดระบบงานและโครงสร้างองคก์ าร การเจรจา
✓ 2. การปฏบิ ัติตนตามหลักมนุษยสัมพันธ์ชว่ ยให้การดำาเนินชวี ิตมีความสขุ
✓ 3. การดาำ เนินชีวิตของมนุษย์ตอ้ งมีความสมั พนั ธ์ พ่ึงพาอาศยั และช่วยเหลอื กัน 5. ตอบ ฌ. ความขัดแย้งมีหลายสาเหตุ ได้แก่

✗ 4. ผบู้ รหิ ารตอ้ งใช้ทักษะทางความคดิ มากกวา่ ทักษะมนษุ ยสมั พนั ธ์ ค ว า ม แ ต ก ต่ า ง ท า ง ก า ร ศึ ก ษ า ทำ � ใ ห้ บุ ค ค ล

✗ 5. ผทู้ ี่ปฏบิ ตั งิ านในระดบั ตา่ำ ต้องใช้ทักษะทางความคิดมากกว่าทักษะมนุษยสัมพนั ธ์ มีความคิดเห็นแตกต่างกัน ความแตกต่าง
✓ 6. บคุ คลทีอ่ ยู่เพียงลาำ พังไมค่ บหาสมาคมกับใครอาจทาำ ให้เกดิ ผลกระทบตอ่ สุขภาพจิตได้ ในค่านิยมและความเชื่อทำ�ให้ประพฤติและ
✓ 7. มนุษยสัมพนั ธ์ชว่ ยใหก้ ารบรหิ ารเกดิ ประสทิ ธภิ าพ ปฏิบัติแตกต่างกัน การส่ือสารที่ไม่มีคุณภาพ
✗ 8. จติ วิทยาไม่มคี วามเก่ียวขอ้ งกับหลกั มนุษยสมั พนั ธ์ สอ่ื ทไี่ มเ่ หมาะสมและสง่ิ รบกวนตา่ งๆ การแขง่ ขนั กนั
✗ 9. การจดั การแบบมนษุ ยสมั พันธใ์ ห้ความสำาคัญในเรื่องส่ิงแวดลอ้ ม

✓ 10. การจดั การในระยะเริม่ ตน้ ให้ความสำาคัญในการสร้างขวัญและกาำ ลังใจในการทาำ งาน ปฏบิ ตั ิงาน เปน็ ตน้

6. ตอบ ฉ. การสร้างมนุษยสัมพันธ์เพ่ือให้เกิด

สัมพันธภาพท่ีดีสามารถพิจารณาได้หลายทาง

เช่น การมีมนุษยสัมพันธ์บนพื้นฐานของธรรมะ

ได้แก่ การศึกษาธรรมะ เพ่อื ให้เขา้ ใจเหตุและผล

การไมท่ �ำ ชัว่ ทำ�ความดี การทำ�ใจให้บริสุทธิ์

7. ตอบ ช. ทัศนคติเป็นความชอบและไม่ชอบ

8. ตอบ ก. คุณลักษณะของบุคคลที่มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี คือมีกิริยามารยาทเรียบร้อย ยิ้มแย้มแจ่มใส อันเป็นผลมาจากความคิด ความรู้ ความเข้าใจ
ในการตดิ ตอ่ สัมพันธ์กบั ผอู้ ่นื ร้จู กั ควบคุมอารมณ์ได้อยา่ งเหมาะสม มสี มั มาคารวะ มีน้�ำ ใจช่วยเหลอื ผู้อื่น ความรู้สึกของบุคคลที่มีต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง

เสียสละ อดทน เปิดใจกว้าง รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น มีความกระตือรือร้น มีความพยายาม เป็นผลมาจากประสบการณ์หรือส่ิงแวดล้อม

มคี วามรับผดิ ชอบตอ่ การทำ�งาน รกั ษาเวลา พยายามปรบั ปรงุ ตนเองอย่เู สมอ บุคคลจะแสดงปฏิกิริยา และกระทำ�ต่อสิ่งน้ันๆ

9. ตอบ ค. คุณสมบัติของผู้นำ�โดยท่ัวไป ได้แก่ การยอมรับฟังความคิดเห็นผู้อ่ืน การดำ�เนินกิจกรรม ทัศนคติไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน

ให้เปน็ ไปตามแผนงานและจดุ ประสงค์ทวี่ างไว้ การที่จะรู้ถึงทัศนคติของบุคคลได้ต้องใช้วิธี

10. ตอบ ฅ. คุณสมบัติของผู้ตามโดยทั่วไป ได้แก่ รับผิดชอบงานท่ีได้รับมอบหมาย รู้จักกาลเทศะ แปลความหมายของการแสดงออก

ให้ความรว่ มมอื ในการปฏบิ ตั ิงานหรอื กจิ กรรม

71 สุดยอดคู่มือครู

GPAS 5 STEPs 1. ขGั้นaรวtบhรeวrมinขg้อมูล 2. ขั้นคิดวิเPคrรoาะcหe์แsลsะiสnรgุปความรู้
บูรณาการทักษะศตวรรษท่ี 21
ทักษะชีวิต

การสรา้ งสัมพันธภาพทด่ี ีกับผู้อน่ื 65

แบบประเมินตนเอง
คำาช้แี จง ตอนท่ ี 1 ใหผ้ เู้ รยี นประเมนิ ผลการเรียนร ู้ โดยเขยี นเครือ่ งหมาย ✓ ลงในช่องระดับคะแนน
และเตมิ ข้อมลู ตามความเปน็ จรงิ
ระดบั คะแนนตอนท่ี 1 5 : มากท่ีสดุ 4 : มาก 3 : ปานกลาง 2 : นอ้ ย 1 : ควรปรบั ปรงุ
ตอนท ่ี 2 ใหผ้ เู้ รยี นนาำ คะแนนจากแบบทดสอบมาเตมิ ลงในชอ่ งวา่ ง และเขยี นเครอื่ งหมาย ✓
ลงในชอ่ งสรปุ ผล
สงวนลิข ิสทธิ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด
ตอนท ี่ 1 (ผลการเรยี นรู)้ ตอนท่ี 2 (แบบทดสอบ)

รายการ 5 4 3 2 1 แบบทดสอบ

1. ผู้เรยี นมคี วามรู ้ ความเขา้ ใจในเน้อื หา คะแนน

2. ผเู้ รยี นได้ทำากิจกรรมส่งเสริมการเรยี นรูท้ ีส่ อดคล้องกับเนอื้ หา (ข้อละ 1 คะแนน)
และจุดประสงคก์ ารเรียนรู้
สรปุ ผล
9 - 10 (ดมี าก)
3. ผูเ้ รียนไดเ้ รียนและทำากิจกรรมสง่ เสรมิ การเรยี นรทู้ ีส่ ง่ เสริม 7 - 8 (ด)ี
กระบวนการคิด เกดิ การค้นพบความรู้ 5 - 6 (พอใช)้
4. ผเู้ รยี นสามารถประยุกต์ความรเู้ พ่ีอื ใช้ประโยชนใ์ นชวี ิตประจำาวนั ได้ ตาำ่ กว่า 5
5. ผูเ้ รยี นไดเ้ รียนรอู้ ะไรจากการเรยี น (ควรปรบั ปรงุ )

6. ผูเ้ รียนต้องการทำาสง่ิ ใดเพอื่ พฒั นาตนเอง

7. ความสามารถท่ถี ือว่าผ่านเกณฑ์ประเมินของผเู้ รยี น คอื

สุดยอดคู่มือครู 72

5. ขSั้นeปlรfะ-เRมeินgเพu่ือlเaพtิ่มinคgุณค่า
Ap3.pขlyั้นiปnฏgิบัตanิแdละCสoรnุปsคtrวuาcมtiรnู้gหลthังeกาKรnปoฏwิบleัตdิ ge

ตารางสรปุ คะแนนการประเมนิ จุดประสงค์การเรยี นรู้ค่านิยมหลัก 12 ประการ
Appl4y.inขgั้นสt่ืhอeสาCรoแmลmะนu�ำnเiสcaนtอion Skill

กิจกรรมท้าทาย asean รอบรู้อาเซียนและโลก
และสมรรถนะประจำ� หนว่ ย

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3 การสรา้ งสมั พนั ธภาพทด่ี ีกบั ผอู้ ่ืน

คะแนนตาม จปส. รายหนว่ ยการเรยี นรู้
1. สงวน ิลข ิสทธิ์ บริษัท ัพฒนอธิบายความหมายและความส�ำคัญของม ุนษย ัสม ัพน ์ธไ ้ดาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) ำจ�กัด
ชนิ้ งาน/การแสดงออก 2. อ ิธบายอง ์คประกอบในการสร้างมนุษย ัสม ัพน ์ธไ ้ด รวม
ทกี่ ำ� หนดในหน่วยการเรยี นร้หู รอื หนว่ ยยอ่ ย 3. อธิบายห ัลกการสร้างม ุนษย ัสม ัพนธ์ได้
4. อธิบายคุณ ัลกษณะของบุคคลท่ี ีมม ุนษย ัสม ัพนธ์ในการท�ำ
กิจกรรมร่วมกับ ้ผู ือ่น
5. อ ิธบาย ิว ีธการจัดการรับความ ัขดแ ้ยงได้อ ่ยางเหมาะสม
6. ีมเจตค ิตที่ ีดในการเ ีรยนเร่ืองการส ้รางสัม ัพนธภาพที่ ีด ักบ ้ผู ่ือน
และ ัรกษ์ ่คา ินยมหลัก 12 ประการของไทย
ภาระงาน/ชน้ิ งานระหวา่ งเรยี น 12
เรื่องที่ 1 องค์ประกอบและหลักการสร้างมนษุ ยสมั พนั ธ์ 12
1. ผังกราฟิกแสดงการเก็บรวบรวมข้อมูลเก่ียวกับองค์ประกอบ 4 4 4 - - - 16
และหลักการสร้างมนุษยสมั พนั ธ์
2. ผังกราฟิกสรุปความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับองค์ประกอบ 4 4 4 - - - 8
และหลกั การสรา้ งมนุษยสัมพันธ์ 8
3. การน�ำ เสนอผลการสรปุ ความรคู้ วามเขา้ ใจเกย่ี วกบั องคป์ ระกอบ 4 4 4 - - 4 12
และหลกั การสร้างมนุษยสมั พันธ์

เร่ืองที่ 2 คุณลักษณะของบุคคลท่ีมีมนุษยสัมพันธ์และ
การจัดการกบั ความขัดแย้ง
1. ผังกราฟิกแสดงการเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับคุณลักษณะ - - - 4 4 -
ของบุคคลท่ีมมี นุษยสัมพนั ธแ์ ละการจัดการกบั ความขัดแย้ง
2. ผังกราฟิกสรุปความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับคุณลักษณะ - - - 4 4 -
ของบคุ คลท่ีมีมนษุ ยสัมพนั ธแ์ ละการจัดการกบั ความขดั แย้ง
3. การน�ำ เสนอผลการสรปุ ความรคู้ วามเขา้ ใจเกยี่ วกบั คณุ ลกั ษณะ - - - 4 4 4
ของบคุ คลทม่ี มี นษุ ยสัมพันธ์และการจดั การกับความขดั แย้ง

73 สุดยอดคู่มือครู

สุดยอดคู่มือครู 74 การประเมนิ รวบยอด ช้นิ งาน/การแสดงออก
1. ผลการปฏิบตั กิ จิ กรรมตรวจสอบความเข้าใจ ทก่ี ำ� หนดในหน่วยการเรยี นร้หู รอื หนว่ ยย่อย
2. ผลการปฏิบัติกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้
3. ผลการประเมนิ ตนเอง
4. คะแนนผลการทดสอบ

รวม
สงวนลิขสทิ ธิ์ บรษิ ัทพฒั นาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.) จำ�กดั1. อธบิ ายความหมายและความส�ำคัญของมนุษยสัมพนั ธไ์ ด้
2. อธบิ ายองคป์ ระกอบในการสรา้ งมนุษยสมั พนั ธ์ได้ 2 2 2 2 2 - คะแนนตาม จปส. รายหนว่ ยการเรียนรู้
- - - 3 3 -
3. อธิบายหลกั การสรา้ งมนษุ ยสมั พนั ธ์ได้ - - - - - 6

4. อธิบายคุณลักษณะของบุคคลที่มีมนุษยสัมพันธ์ในการท�ำ 2 2 2 2 2 -
กจิ กรรมรว่ มกับผอู้ นื่ 16 16 16 19 19 14

5. อธิบายวธิ ีการจดั การรับความขัดแยง้ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

6. มเี จตคตทิ ดี่ ใี นการเรยี นเรอ่ื งการสรา้ งสมั พนั ธภาพทด่ี กี บั ผอู้ น่ื
และรักษ์ค่านิยมหลกั 12 ประการของไทย
10 รวม
6
6

10
100

GPAS 5 STEPs 1. Gขั้นaรวthบรeวrมinขg้อมูล 2 . ขั้นคิดPวิเrคoรcาeะหs์แsลinะสgรุปความรู้

A3pp. lขyั้นiปnฏgิบaัตnิแdละCสoรnุปsคtrวuาcมtinรgู้หลthังeกาKรnปoฏwิบleัตdิge Appl4y.inขg้ันสtื่hอeสาCรoแmลmะนu�ำnเiสcaนtอion Skill 5. ขSั้นeปlfร-ะRเมeินgเพuื่อlaเพti่ิมnคgุณค่า

บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 ทักษะชีวิต

ค่านิยมหลัก 12 ประการ กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก

asean

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 อทิ ธพิ ลตา่ งๆ ทม่ี ผี ลตอ่
การแสดงออกทางเพศ
สงวนลิข ิสทธิ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด
สาระการเรียนรู้

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 1. อิทธิพลของครอบครัวท่ีมีต่อการแสดงพฤติกรรม
ทางเพศและการด�ำ เนนิ ชวี ติ (หนงั สอื เรยี น หนา้ 68-78)
อิทธพิ ลต่างๆ ทม่ี ีผลตอ่ 2. อิทธิพลของเพื่อนที่มีผลต่อการแสดงพฤติกรรม
ทางเพศ (หนงั สอื เรยี น หนา้ 71-72)
3. อิทธิพลของสังคมที่มีผลต่อการแสดงพฤติกรรม
ทางเพศ (หนงั สือเรียน หนา้ 72-73)
4. อทิ ธพิ ลของวฒั นธรรมทม่ี ผี ลตอ่ การแสดงพฤตกิ รรม
ทางเพศ (หนังสือเรยี น หนา้ 73-74)
5 . พฤตกิ รรมเบย่ี งเบนทางเพศ (หนงั สอื เรยี น หนา้ 74)
สมรรถนะประจำ�หน่วย

การแสดงออกทางเพศ แสดงความรู้เกี่ยวกับอิทธิพลต่างๆ ท่ีมีผลต่อ
การแสดงออกทางเพศ
สาระสำาคัญ
ปัญหาพฤติกรรมทางเพศกำาลังเป็นปัญหาท่ีสำาคัญในสังคมยุคปัจจุบัน ก่อให้เกิดผลกระทบ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
ต่อสุขภาพและอนาคตของบุคคลที่มีปัญหา ซึ่งปัจจัยท่ีมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมทางเพศและ 1. อธิบายอิทธิพลของครอบครัวที่มีต่อการแสดง
การดำาเนนิ ชีวิต ไดแ้ ก ่ ครอบครวั เพอื่ น สงั คม วัฒนธรรม สาำ หรบั ปัญหาพฤติกรรมเบย่ี งเบนทางเพศ
ซ่ึงมใี หเ้ หน็ อยู่พอสมควรในสงั คมไทย ก็จัดว่าเปน็ ความผิดปกตทิ างเพศด้วย พฤตกิ รรมทางเพศได้
2. อธิบายอิทธิพลของเพื่อนท่ีมีผลต่อการแสดง
สาระการเรยี นรู้
1. อทิ ธิพลของครอบครัวที่มีตอ่ การแสดงพฤตกิ รรมทางเพศและการดำาเนินชีวติ พฤตกิ รรมทางเพศได้
2. อิทธพิ ลของเพื่อนท่มี ีผลตอ่ การแสดงพฤตกิ รรมทางเพศ 3. อธิบายอิทธิพลของสังคมที่มีผลต่อการแสดง
3. อทิ ธิพลของสังคมทมี่ ีผลตอ่ การแสดงพฤตกิ รรมทางเพศ
4. อทิ ธพิ ลของวฒั นธรรมท่ีมีผลต่อการแสดงพฤตกิ รรมทางเพศ พฤตกิ รรมทางเพศได้
5. พฤตกิ รรมเบยี่ งเบนทางเพศ 4. อธิบายอิทธิพลของวัฒนธรรมที่มีผลต่อการแสดง

การประเมนิ ผล พฤตกิ รรมทางเพศได้
5. อธบิ ายพฤติกรรมเบยี่ งเบนทางเพศได้
6. มีเจตคติที่ดีในการเรียนเร่ืองอิทธิพลต่างๆ ที่มี

ผลตอ่ การแสดงออกทางเพศ และรกั ษ์ค่านิยมหลัก
12 ประการของไทย

ภาระงาน/ชน้ิ งาน/การแสดงออกของผู้เรียน

ภาระงาน/ชิน้ งานระหวา่ งเรียน ภาระงาน/ช้ินงานรวบยอดในหนว่ ยการเรยี นรู้
1. ผงั กราฟกิ แสดงการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู เกยี่ วกบั อทิ ธพิ ลตา่ งๆ ทม่ี ผี ลตอ่ การแสดงออกทางเพศ 1. ผลการปฏบิ ัติกจิ กรรมตรวจสอบความเข้าใจ
2. ผงั กราฟิกสรปุ ความรู้ความเขา้ ใจเกยี่ วกบั อทิ ธิพลต่างๆ ทม่ี ผี ลต่อการแสดงออกทางเพศ 2. ผลการปฏิบัตกิ จิ กรรมส่งเสริมการเรยี นรู้
3. การนำ�เสนอผลการสรปุ ความรคู้ วามเข้าใจเกย่ี วกับอทิ ธพิ ลต่างๆ ทมี่ ผี ลตอ่ การแสดงออก 3. ผลการประเมินตนเอง
ทางเพศ 4. คะแนนผลการทดสอบ

75 สุดยอดคู่มือครู

GPAS 5 STEPs 1. ขGั้นaรวtบhรeวrมinขg้อมูล 2. ข้ันคิดวิเPคrรoาะcหe์แsลsะiสnรgุปความรู้
บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21
ทักษะชีวิต
ep 1
St สมรรถนะประจำาหนว่ ย
Gatherin ขน้ั รวบรวมขอ้ มูล แสดงความรเู้ กย่ี วกับอิทธพิ ลตา่ งๆ ที่มผี ลตอ่ การแสดงออกทางเพศ
g1. แบ่งกลุ่มผู้เรียนร่วมกันศึกษาเอกสาร
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
สงวนลิข ิสทธ์ิ บริษัทพัฒนา ุคณภาพ ิวชาการ (พว.) ำจ�กัดหนังสือเรียนเก่ียวกับอิทธิพลต่างๆ ท่ีมี 1. อธบิ ายอิทธพิ ลของครอบครัวทม่ี ีตอ่ การแสดงพฤตกิ รรมทางเพศได้
ผลตอ่ การแสดงออกทางเพศ 2. อธบิ ายอิทธิพลของเพ่อื นทม่ี ีผลต่อการแสดงพฤติกรรมทางเพศได้
2. ต้ังคำ�ถามให้ผู้เรียนเสนอข้อมูลจาก 3. อธบิ ายอิทธพิ ลของสงั คมท่มี ีผลตอ่ การแสดงพฤติกรรมทางเพศได้
ประสบการณท์ ร่ี บั รเู้ กย่ี วกบั อทิ ธพิ ลตา่ งๆ 4. อธบิ ายอิทธิพลของวฒั นธรรมทมี่ ผี ลตอ่ การแสดงพฤติกรรมทางเพศได้
ทมี่ ผี ลตอ่ การแสดงออกทางเพศตามหวั ขอ้ 5. อธิบายพฤตกิ รรมเบี่ยงเบนทางเพศได้
ท่ีกำ�หนดให้ (ศึกษารายละเอียดคำ�ถาม 6. มีเจตคติที่ดีในการเรียน เร่ือง อิทธิพลต่างๆ ที่มีผลต่อการแสดงออกทางเพศ และรักษ์
จากแผนการจดั การเรียนร)ู้ คา่ นิยมหลัก 12 ประการของไทย
3. แต่ละกลุ่มบันทึกผลการศึกษาตามหัวข้อ
ที่กำ�หนดลงผังกราฟิก (เลือกออกแบบ ผงั สาระการเรยี นรู้
และใช้ผังกราฟิกให้เหมาะสมกับลักษณะ
ของขอ้ มูล) ดังตวั อย่าง อิทธิพลของครอบครัวท่มี ตี ่อการแสดงพฤตกิ รรมทางเพศ
และการดำาเนินชีวิต
Positive
อิทธิพลตา่ งๆ อิทธพิ ลของเพอื่ นทม่ี ีผลตอ่ การแสดงพฤติกรรมทางเพศ
Negative ทีม่ ผี ลตอ่ อทิ ธพิ ลของสังคมทมี่ ีผลตอ่ การแสดงพฤตกิ รรมทางเพศ
อทิ ธิพลของวัฒนธรรมที่มีผลตอ่ การแสดงพฤติกรรมทางเพศ
การแสดงออก
ทางเพศ

พฤติกรรมเบีย่ งเบนทางเพศ

บูรณาการทักษะศตวรรษท่ี 21
การทำ�งานกลุ่มจะช่วยฝึกกระบวนการทำ�งานแบบประชาธิปไตย
และส่งเสรมิ กระบวนการคิดการแก้ปัญหาใหแ้ ก่ผ้เู รยี น

สุดยอดคู่มือครู 76

Ap3.pขlyั้นiปnฏgิบัตanิแdละCสoรnุปsคtrวuาcมtiรnู้gหลthังeกาKรnปoฏwิบleัตdิ ge Appl4y.inขg้ันสt่ืhอeสาCรoแmลmะนu�ำnเiสcaนtอion Skill 5. ขS้ันeปlรfะ-เRมeินgเพu่ือlเaพtิ่มinคgุณค่า

ค่านิยมหลัก 12 ประการ กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก

asean

68 เพศวถิ ีศึกษา ep 2St ข้นั คิดวเิ คราะห์
และสรปุ ความรู้
rocessing
1. อทิ ธิพลของครอบครัวทม่ี ีตอ่ การแสดงพฤติกรรมทางเพศ P
และการดาำ เนนิ ชีวิต
1. ผู้เรียนร่วมกันวิเคราะห์และอภิปราย
เม่ือมนุษย์เกิดมาจะพบกับสถาบันครอบครัวเป็นสงวนลิข ิสทธ์ิ บริษัทพัฒนา ุคณภาพ ิวชาการ (พว.) ำจ�กัดภาพที ่ 4.1 ครอบครวั เปน็ สถาบันแรกของมนุษย์เ ก่ี ย ว กั บ อิ ท ธิ พ ล ต่ า ง ๆ ที่ มี ผ ล ต่ อ
ลำาดับแรก มีพ่อแม่เป็นหลัก อาจมีพ่ี ปู่ ย่า ตา ยาย ญาติ การแสดงออกทางเพศ โดยใช้ข้อมูล
บุคคลท่ีมีความสำาคัญที่สุดของเด็กท่ีเกิดมาคือ พ่อและแม่ ค ว า ม รู้ ที่ ไ ด้ จ า ก ก า ร ศึ ก ษ า ค้ น ค ว้ า
ผู้ใหก้ ำาเนิด ให้การเล้ียงดู ให้การอบรมส่ังสอน พอ่ แม่นบั วา่ จากหนงั สอื เรยี น เอกสาร แหลง่ เรยี นรอู้ นื่ ๆ
เป็นครูคนแรกของลูก ลูกจะซึมซับบุคลิกภาพ พฤติกรรม หรือประสบการณ์ของผู้เรยี น
ตลอดจนการดำาเนินชีวิตของพ่อแม่ ซึ่งจะมีทั้งในทางท่ีดี
และในทางที่ไม่ดี ลูกท่ีเกิดมาจะมีพฤติกรรมทางเพศ 2. ผู้เรียนร่วมกันเชื่อมโยงความคล้ายคลึง
และการดาำ เนนิ ชวี ติ อยา่ งไรนน้ั ขน้ึ อยกู่ บั ปจั จยั หลายประการ ของขอ้ มลู ทน่ี �ำ มาอภปิ ราย และสรปุ ความรู้
ในครอบครวั ดังนี้ ตามหัวข้ออภิปราย แสดงเป็นความคิด
รวบยอดหรอื หลักการลงในผังกราฟกิ
1.1 คา่ นยิ มของครอบครัว

ครอบครวั ทม่ี ีคา่ นิยมทด่ี เี กี่ยวกับเร่อื งพฤตกิ รรมทางเพศ เชน่ ค่านิยมในการรักนวลสงวนตวั
คา่ นยิ มในการมคี สู่ มรสเดยี ว เปน็ ตน้ จะทาำ ใหเ้ ดก็ ซมึ ซบั คา่ นยิ มทด่ี นี น้ั จนเกดิ เปน็ พฤตกิ รรมทด่ี ขี องตนเอง
ในทางตรงกันข้ามถ้าครอบครัวมีค่านิยมที่ไม่ดีเก่ียวกับเร่ืองพฤติกรรมทางเพศ เช่น ปล่อยเน้ือปล่อยตัว
เป็นต้น จะทำาให้เด็กซมึ ซับค่านยิ มทีไ่ มด่ นี นั้ จนเกิดเป็นพฤติกรรมท่ีไมด่ ีของตนเอง

1.2 การอบรมเลี้ยงดู 3. ผู้เรียนบันทึกผลข้อสรุปเป็นความเข้าใจ
ของกลุ่มและรายบคุ คล
ผู้ที่อบรมในเรื่องเพศแก่ลูก ได้แก่ พ่อ แม่ ถ้าการอบรมเล้ียงดูเป็นการห้ามมากกว่าการให้
ความรู้ท่ีถูกต้องแก่เด็ก โดยไม่มีการอธิบายเหตุผลของการห้าม อาจทำาให้เด็กเกิดความสงสัยและ
ความอยากรอู้ ยากลอง และเมอื่ เดก็ มโี อกาสไดไ้ ปพบกบั ประสบการณท์ างเพศกบั เพอ่ื น แฟน คนอน่ื ๆ หรอื
จากสือ่ ตา่ งๆ อาจจะปฏิบตั ิไม่เหมาะสม ไม่ถูกต้องหรอื อาจมกี ารต่อต้านผู้ใหญ่ แอบไปหาประสบการณ์ใน
เรอื่ งเพศตามทต่ี นเองสนใจ ดงั นนั้ พอ่ แมจ่ งึ ควรอบรมเลยี้ งดลู กู ในเรอื่ งเพศอยา่ งมเี หตผุ ล และเปดิ โอกาส
ให้ลูกได้ซักถามเพื่อความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ย่ิงเม่ือลูกเข้าสู่วัยรุ่นพ่อแม่ควรเอาใจใส่ให้มาก
เด็กต้องการคำาอธิบายจากพ่อและแม่ พ่อแม่ควรใกล้ชิดและสอนความเป็นสุภาพบุรุษให้แก่ลูกผู้ชาย
และความเป็นสุภาพสตรีให้แก่ลูกผู้หญิง อย่าปล่อยให้ลูกไปเรียนรู้ในสิ่งที่ไม่ดีจากเพ่ือนหรือสื่อต่างๆ
ตลอดจนสังคมภายนอก เพราะอาจจะมพี ฤติกรรมทางเพศท่ีไม่เหมาะสมโดยไมร่ ตู้ วั

asean การเรียนรู้สู่อาเซียน
การบรู ณาการค�ำ ศพั ทภ์ าษาองั กฤษทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั เนอื้ หาในบทเรยี น
ช่วยให้ผู้เรียนได้เพ่ิมพูนความรู้ภาษาอังกฤษ และมีเจตคติท่ีดี
ในการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษท่ีใช้เป็นภาษากลางในการทำ�งาน
ของอาเซยี น

7777 สุดยอดคู่มือครู

GPAS 5 STEPs 1. ขG้ันaรวtบhรeวrมinขg้อมูล 2. ขั้นคิดวิเPคrรoาะcหe์แsลsะiสnรgุปความรู้
บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21
ทักษะชีวิต

อทิ ธพิ ลตา่ งๆ ท่มี ผี ลต่อการแสดงออกทางเพศ 69

1.3 สภาพความเป็นอยู่ของครอบครัว

ถ้าเด็กอยู่ในครอบครัวท่ีอบอุ่น พ่อแม่มี
ความรักใคร่กันดี ไม่ทะเลาะเบาะแว้งกัน เอาใจใส่ใน
การเล้ียงดูลูก ให้ความรักและความอบอุ่นกันเป็น
อย่างดี เด็กก็จะซึมซับเอาสิ่งที่ดีนั้นมาไว้ในตนเอง
ท้ังเรื่องพฤติกรรมทางเพศและเร่ืองอ่ืนๆ ถ้าเด็กอยู่
ในครอบครัวที่ไม่อบอุ่น พ่อแม่ทะเลาะเบาะแว้งกัน
พ่อหรือแม่ไม่สนใจกัน ต่างคนต่างอยู่หรือหย่าร้างกัน
เด็กจะขาดความอบอุ่นและส่งผลไปถึงพฤติกรรม
ของเดก็ ทจ่ี ะแสดงออกทางสังคม
St ภาพที่ 4.2 พ่อแม่ควรเป็นแบบอย่างท่ีดี
และให้ความสำาคญั กับการอบรมสั่งสอนบุตร
wldedge
1.4 สภาพทางเศรษฐกิจหรอื ฐานะของครอบครัว
สงวนลิข ิสทธิ์ บริ ัษทพัฒนา ุคณภาพ ิวชาการ (พว.) ำจ�กัด
หญงิ ที่ขายบรกิ ารทางเพศ มกั มาจากครอบครวั ทยี่ ากจนหรอื ครอบครัวทมี่ ปี ญั หา จงึ ตอ้ งยอม
ขายบริการทางเพศเพ่ือแลกกับเงิน ถ้าหากไมม่ ีฐานะยากจนผ้หู ญิงเหล่าน้ีคงจะไมป่ ระกอบอาชพี น ี้ เพราะ
เป็นอาชีพท่ีได้รับการดูถูกและถูกมองว่าเป็นบุคคลท่ีไม่ดี ซ่ึงถือว่ามีพฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสม
มคี วามเสย่ี งตอ่ โรคตดิ ตอ่ ทางเพศสมั พนั ธ์ โดยเฉพาะโรครา้ ยทส่ี าำ คญั เชน่ โรคเอดส ์ ซง่ึ ปจั จบุ นั เปน็ ปญั หา
ใหญข่ องสังคมปญั หาหนงึ่

1.5 ระดับการศกึ ษาของครอบครัว

ครอบครัวที่พอ่ แมม่ ีการศึกษาดีจะรูแ้ ละเข้าใจพฤตกิ รรมทางเพศของลกู ไดด้ ีกว่าครอบครวั ที่
พ่อแมม่ ีการศึกษานอ้ ย เพราะได้เรยี นรจู้ ากการศกึ ษาในสถานศึกษา มคี วามคดิ และสามารถที่จะสอนลกู
เกี่ยวกับเร่ืองเพศได้ดีกว่า ให้ความสำาคัญกับเร่ืองการอบรมส่ังสอน การป้องกันตน การมีพฤติกรรม
ทางเพศที่เหมาะสมของลูก จงึ สง่ ผลให้ลูกมแี นวโน้มท่ดี ใี นเร่ืองพฤติกรรมทางเพศ

1.6 การมพี ฤตกิ รรมทางเพศท่ีไม่เหมาะสมของบคุ คลในครอบครัว

บุคคลในครอบครัวอาจมีพฤติกรรมทางเพศท่ีไม่เหมาะสม เช่น มีคู่นอนหลายคน มี
การแสดงออกทางเพศกบั คคู่ รองหรอื คนรกั อยา่ งไมเ่ หมาะสม มกี ารพดู คยุ กนั ในเรอ่ื งเพศอยา่ งชดั แจง้ และ
หยาบคาย ชอบดูสื่อลามก เป็นต้น จึงมีผลโดยตรงต่อพฤติกรรมทางเพศของเด็กที่กำาลังเจริญเติบโต
เด็กจะรับรู้ว่าสิ่งที่ไม่ดีดังกล่าวข้างต้นเป็นเร่ืองปกติ ไม่ใช่เร่ืองน่ารังเกียจและสามารถปฏิบัติได้ นับเป็น
อนั ตรายอยา่ งยงิ่ สาำ หรบั ครอบครวั และสงั คม เพราะบางคนมพี ฤตกิ รรมทางเพศทไ่ี มด่ ตี อ่ บคุ คลอนื่ ในสงั คม

70 เพศวถิ ศี กึ ษา

1.7 การเป็นแบบอยา่ งทดี่ ตี อ่ ลกู

ในทางจติ วทิ ยาเดก็ ผหู้ ญงิ มกั เลยี นแบบพฤตกิ รรม

จากแม่ ส่วนเด็กผู้ชายมักเลียนแบบพฤติกรรมจากพ่อ ดังน้ัน

ep 3 ถา้ พอ่ มพี ฤตกิ รรมทไ่ี มด่ ตี อ่ แม ่ เชน่ กดข ี่ รงั แก ทบุ ต ี ดา่ ทอ เจา้ ช ู้

ลูกชายอาจซึมซับพฤติกรรมและไปแสดงออกเม่ือมีครอบครัว

ขัน้ ปฏบิ ตั ิและสรุปความรู้ และถ้าหากแม่มีพฤติกรรมท่ีไม่ดีต่อพ่อ เช่น ด่าทอ ใช้
หลังการปฏบิ ัติ
ความรุนแรงกับสามี ลูกสาวอาจซึมซับพฤติกรรมและไป

conAstructpipnlgyitnhge aknno แสดงออกเมื่อมีครอบครัว ในทางตรงกันข้ามถ้าพ่อแม่มี

พฤติกรรมที่ดีต่อกัน เอื้ออาทรต่อกัน จะส่งผลให้ลูกมี ภาพท่ ี 4.3 ในทางจติ วิทยา

พฤตกิ รรมที่เหมาะสม และนำาไปปฏิบัติเมอื่ มีคู่ครอง เด็กผ้หู ญงิ มกั เลียนแบบพฤตกิ รรมจากแม่

1. ผู้เรียนนำ�ข้อสรุปความรู้ความเข้าใจที่ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน 1.8 ความเขา้ ใจของพอ่ แมใ่ นเรือ่ งพฤตกิ รรมทางเพศของเด็ก
ระหว่างกลุ่มในชั้นเรียนมาวิเคราะห์ โดยการทำ�กิจกรรมตรวจสอบ
ความเข้าใจ (หนงั สอื เรียน หนา้ 75) ถ้าพ่อแม่มีความเข้าใจถึงพฤติกรรมทางเพศ ตลอดจนพฤติกรรมอ่ืนๆ ของเด็กในช่วงวัย

2. กลุ่มผู้เรียนร่วมกันสรุปแนวคิดเก่ียวกับอิทธิพลต่างๆ ท่ีมีผลต่อ ต่างๆ จะทำาให้พ่อแม่เข้าใจและอบรมสั่งสอนลูกได้ถูกต้องย่ิงขึ้น เพื่อการมีพฤติกรรมทางเพศที่ดีและ
การแสดงออกทางเพศ จากน้ันทำ�กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้
(หนงั สอื เรยี น หนา้ 76) การดาำ เนนิ ชีวติ ทด่ี ขี องลูก พอ่ แมค่ วรทำาความเขา้ ใจพฤติกรรมทางเพศตามวัยของเด็ก ดงั นี้

1.8.1 เด็กจะมีความสนใจอวัยวะเพศของตนในช่วงอายุ 3-6 ปี จึงมักชอบจับอวัยวะเพศ

ของตนเอง พ่อแม่จะต้องไม่ดุด่าหรือห้ามปรามไม่ให้เด็กทำา แต่ก็ไม่ควรสนับสนุนการกระทำาดังกล่าว

ควรปล่อยให้แสดงพฤติกรรมไปตามวัย เพราะถ้าพ่อแม่ดุด่าว่ากล่าว ห้ามปราม เด็กจะเกิดความคิดว่า

อวัยวะเพศและเร่ืองเพศเป็นเร่ืองที่ผิดปกติ เป็นสิ่งท่ีน่าอาย น่ารังเกียจ ถ้าจะให้เด็กหยุดพฤติกรรม

เลน่ อวยั วะเพศของตน พอ่ แม่อาจหนั เหความสนใจของเดก็ ให้ไปทำาสงิ่ อนื่ แทน

1.8.2 เด็กจะลอกเลียนแบบลักษณะท่าทางพ่อแม่ในช่วงอายุ 3-6 ปี การเลียนแบบนี้

จะส่งผลต่อพฤติกรรมเมื่อโตขึ้น ดังน้ันความสัมพันธ์ท่ีมีต่อกันของพ่อแม่ การแสดงบทบาททางเพศ

ที่เหมาะสมของพ่อแม่ จึงเป็นส่ิงที่พ่อแม่ควรคำานึงถึงและต้องแสดงออกในทางที่ดี เพ่ือให้ลูกได้เห็น

แบบอย่างทด่ี ี

1.8.3 เด็กช่วงอายุ 7-12 ปี จะเรม่ิ มเี พ่ือนมากข้ึน เพราะเขา้ เรยี นตามเกณฑแ์ ละมพี ัฒนาการ

ไปตามวัย ดังนั้นพ่อแม่ควรส่งเสริมให้เด็กได้มีเพื่อนท้ังเพศเดียวกันและเพ่ือนต่างเพศ เด็กจะเกิด

พัฒนาการและมคี วามร้สู กึ ท่ีดตี ่อเพอ่ื นเพศเดยี วกนั และเพื่อนตา่ งเพศดว้ ย

1.8.4 เมื่อเด็กเข้าสู่วัยรุ่นจะมีการเปลี่ยนแปลงทางเพศมาก พ่อแม่ควรปลูกฝังในสิ่งท่ีดี

ในเรื่องพฤติกรรมทางเพศแก่ลูก โดยเฉพาะในเร่ืองความรับผิดชอบท้ังต่อตนเองและเพศตรงข้ามให้รู้ว่า

ควรปฏิบัติตนอย่างไร เช่น สอนให้ลูกสาวรู้จักระวังตัวในการคบเพื่อนชาย ต้องวางตัวท่ีเหมาะสมต่อ

เพศตรงข้าม สอนลูกชายให้มีจิตสำานึกถึงความรับผิดชอบต่อเพศหญิง ให้เกียรติผู้หญิง มีความเป็น

สุภาพบุรุษและต้องสอนให้ทั้งลูกสาวและลูกชายมีพฤติกรรมทางเพศท่ีเหมาะสม โดยเฉพาะการไม่มี

เพศสมั พันธ์ก่อนวยั อันควร

สุดยอดคู่มือครู 78

Ap3.pขly้ันiปnฏgิบัตanิแdละCสoรnุปsคtrวuาcมtiรnู้gหลthังeกาKรnปoฏwิบleัตdิ ge Appl4y.inขgั้นสt่ืhอeสาCรoแmลmะนu�ำnเiสcaนtอion Skill 5. ขS้ันeปlรfะ-เRมeินgเพuื่อlเaพt่ิมinคgุณค่า

ค่านิยมหลัก 12 ประการ กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก

asean

อทิ ธิพลต่างๆ ทม่ี ีผลต่อการแสดงออกทางเพศ 71 ep 4
St

kille
2. อทิ ธิพลของเพือ่ นทม่ี ผี ลต่อการแสดงพฤติกรรมทางเพศ mmpupnlyicinagtiotnh s ขนั้ สอื่ สารและน�ำเสนอ
1. ผเู้ รยี นแตล่ ะกลมุ่ ออกแบบหรอื หาวธิ นี �ำ เสนอใหผ้ อู้ น่ื รบั รแู้ ละสอ่ื สาร
เพื่อนมีอิทธิพลต่อชีวิตของวัยรุ่นมาก บางครั้งวัยรุ่นจะเช่ือเพ่ือนมากกว่าพ่อแม่หรือครูอาจารย์ Aco
เพื่อนจะมีอิทธิพลในเร่ืองการดำาเนินชีวิต ทั้งด้านความคิด ความเช่ือ การให้คำาปรึกษา ตลอดจน ได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพด้วยเทคนิควิธที ี่เหมาะสม บูรณาการการใช ้
พฤติกรรมทางเพศ เพ่ือนอาจชักจูงไปในทางท่ีดีและไม่ดีก็ได้ ถ้าเพ่ือนชักจูงไปในทางท่ีดีก็จะทำาให้ สอื่ /เทคโนโลยี/ค�ำ ศัพท์เพ่ิมเติม/สงิ่ ท่นี า่ สนใจแทรกในการรายงาน
การดำาเนินชีวิตมีความสุข การคบกันของวัยรุ่นเพศเดียวกันและเพื่อนต่างเพศนับว่ามีผลต่อพฤติกรรม 2. สุ่มกลมุ่ ผ้เู รียนนำ�เสนอผลการสรุปความรู้ความเข้าใจ
ทวั่ ไป รวมถงึ พฤติกรรมทางเพศด้วย อทิ ธพิ ลของเพื่อนมีดังนี้
สงวนลิข ิสทธิ์ บริษัทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) ำจ�กัด 72 เพศวถิ ศี กึ ษา
1. การคบกนั ของเพอ่ื นเพศเดียวกนั วัยรุ่นมกั จะคบเพ่ือนทีม่ ีอายเุ ทา่ ๆ กัน หรอื ใกลเ้ คียงกัน แต่
บางคร้ังก็อาจคบเพ่ือนต่างรุ่นบ้าง ซ่ึงในกลุ่มเพ่ือนมักจะมีอุปนิสัย พฤติกรรม ทัศนคติ และเร่ืองอื่นๆ ที่ 2.3 ความตอ้ งการให้เปน็ ที่ยอมรบั ของเพ่ือน

คลา้ ยคลงึ กนั ดังนนั้ กลมุ่ เพ่ือนเพศเดยี วกันจงึ มอี ิทธพิ ลตอ่ การดำาเนนิ ชีวิตและพฤตกิ รรมทางเพศของวยั รุน่ วัยรุ่นมักชอบการรวมกลุ่มและมีความต้องการให้ตนเองเป็นที่ยอมรับของเพื่อน วัยรุ่นจึงมี
พฤตกิ รรมการแสดงออกในลกั ษณะเอาใจเพอ่ื น แมบ้ างครงั้ อาจจะไมอ่ ยากทาำ เชน่ นน้ั ความตอ้ งการใหเ้ ปน็
2. การคบกันของเพ่ือนต่างเพศ วัยรุ่นมักคบ ท่ียอมรับของเพอ่ื น ถา้ เปน็ ไปในทางลบกไ็ ม่ควรกระทำา เชน่ สูบบุหร ี่ ดื่มสุรา ทะเลาะววิ าท มีเพศสมั พนั ธ์
เพื่อนต่างเพศในฐานะเพ่ือนหรือคู่รักบ้างแล้วแต่ ในวยั เรียน เที่ยวกลางคืน เป็นต้น แตถ่ า้ เปน็ ไปในทางบวกก็ควรกระทาำ เช่น ขยันเรียน บาำ เพ็ญประโยชน์
ชอบเล่นกฬี า เปน็ ตน้
ลักษณะของการคบและความพงึ พอใจของทั้งสองฝา่ ย
2.4 มกี ารถา่ ยทอดความรู้ท่ีไม่ถูกต้อง
การคบกันในฐานะของคู่รักหรือแฟนอาจนำามา ซึ่ง
วยั รุน่ เปน็ วยั ท่อี ยากรู้อยากลองในหลายๆ เรอ่ื ง รวมท้ังเรื่องเพศ ถา้ ได้รับการถ่ายทอดความรู้
การแสดงออกถงึ พฤตกิ รรมทางเพศทไี่ มเ่ หมาะสม เชน่ ทไ่ี มถ่ กู ตอ้ ง หรอื ปลอ่ ยใหเ้ รยี นรหู้ าประสบการณด์ ว้ ยตนเอง ลองผดิ ลองถกู เอง อาจจะทาำ ใหเ้ กดิ ความผดิ พลาด
เช่น การขาดการป้องกันในการมเี พศสัมพนั ธ์จนทำาใหเ้ กิดการตงั้ ครรภ์โดยไมพ่ ึงประสงค์ เป็นต้น
การมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียน การบังคับข่มขืน
3. อิทธพิ ลของสังคมทม่ี ีผลต่อการแสดงพฤตกิ รรมทางเพศ
การต้ังครรภ์โดยไม่พึงประสงค์ การทำาแท้ง การติด
ในสังคมยุคปัจจุบันมีการเปล่ียนแปลงไปมาก จากเดิมที่เป็นสังคมเกษตรกรรมก็เปลี่ยนไปเป็น
โรคทางเพศสัมพันธ์ และโรคเอดส์ การผิดหวังแล้ว ภาพท ี่ 4.4 กล่มุ เพือ่ นเพศเดียวกนั มอี ทิ ธิพลต่อ สงั คมในเชงิ อตุ สาหกรรมและธรุ กจิ มากขนึ้ อกี ทง้ั ความเจรญิ กา้ วหนา้ ทางดา้ นวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
การดำาเนนิ ชวี ติ ของวยั รนุ่ ตลอดจนสอื่ สารมวลชน จงึ ทำาใหส้ ่งผลต่อพฤตกิ รรมทางเพศและการดำาเนนิ ชีวิต ดงั นี้
คิดสั้นฆ่าตัวตาย การหึงหวงผิดใจกันแล้วเกิด
การทำารา้ ยร่างกายหรือฆ่ากนั เป็นตน้ 3.1 สภาพทางสงั คม

อิทธพิ ลของเพือ่ นที่มตี ่อพฤตกิ รรมทางเพศและการดาำ เนนิ ชวี ิต แบ่งไดด้ งั น้ี สภาพสังคมไทยในปัจจุบันมีความเหล่ือมลำ้าและมีช่องว่างทางฐานะเศรษฐกิจมากขึ้นกว่า
2.1 การชักจงู ของเพ่อื น เมื่อก่อน นอกจากนี้ยังเน้นในเร่ืองของวัตถุนิยมมากขึ้น จึงก่อให้เกิดการขายบริการทางเพศเพิ่มขึ้น
ตามไปดว้ ย ซ่ึงแฝงมาให้รูปแบบต่างๆ เพือ่ ใหไ้ ดเ้ งนิ มา โดยไม่
วัยรุ่นจะมีความผูกพันกับเพ่ือนมาก มีความต้องการให้ตนเองเป็นที่ยอมรับของกลุ่มเพื่อน คาำ นงึ ถงึ เกียรติยศและศกั ดศ์ิ รีของตนเอง
จึงมักจะแสดงออกเพ่ือเอาใจเพ่ือนหรือให้เพื่อนพอใจตนเอง ดังนั้นกลุ่มเพ่ือนจึงมีอิทธิพลใน
การชกั จงู ใหว้ ยั รนุ่ มพี ฤตกิ รรมตามกลมุ่ เพอ่ื น แมก้ ระทงั่ พฤตกิ รรมทางเพศและการดำาเนนิ ชวี ติ กม็ กั จะไป 3.2 ความกา้ วหนา้ ทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลย ี
ในแนวทางเดียวกนั เชน่ การชักชวนกนั ดูส่อื ลามก จบี ผ้หู ญงิ เท่ียวกลางคืน มเี พศสัมพันธ์กอ่ นวยั อนั ควร
ในสังคมปัจจุบันจะพบว่ามีข่าวการล่อลวงทางเพศ
เป็นต้น ซ่ึงวัยรนุ่ ควรรจู้ กั ทจ่ี ะปฏิเสธเม่อื เพ่อื นชกั จูงใหท้ าำ ในสิ่งทไ่ี ม่ดี จากการติดต่อกันทางอินเทอร์เน็ตอยู่บ่อยครั้ง ความเจริญ
ก้าวหน้าจึงเป็นดาบสองคม ถ้าใช้ในทางที่ดีก็จะเป็นประโยชน์
2.2 การเลียนแบบเพื่อน แต่ถ้าใช้ในทางทไี่ ม่ดีจะกอ่ ใหเ้ กิดความเสียหายได้

วัยรุ่นมักมีค่านิยมท่ีเหมือนเพื่อนในกลุ่ม และเลียนแบบเพ่ือนที่ตนเองช่ืนชอบ ในเร่ือง
การแต่งกาย การพูด การใช้สัญลักษณ์ของกลุ่ม กิริยาท่าทาง บุคลิกลักษณะ การมีพฤติกรรมทางเพศ
และการดำาเนินชีวิต ดังนั้นการเลียนแบบเพื่อน จึงควรพิจารณาให้ดีว่าส่ิงท่ีเลียนแบบนั้นเป็นเชิงบวก
หรือเชิงลบ ถ้าเปน็ เชิงลบควรงดเว้นเสีย

ทักษะชีวิต
การนำ�ความรู้เรื่องอิทธิพลต่างๆ ที่มีต่อการแสดงออกทางเพศ
มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำ�วัน เพ่ือให้สามารถปรับตัวและปฏิบัติตน
ได้อย่างเหมาะสม ซ่ึงเป็นการเสริมสร้างทักษะชีวิตที่มีผลดีต่อตนเอง
และสังคม

ภาพท ่ี 4.5 การประพฤตดิ ี ขยันศกึ ษา
เป็นค่านยิ มท่ีถูกตอ้ งของวัยร่นุ

79 สุดยอดคู่มือครู

GPAS 5 STEPs 1. ขGั้นaรวtบhรeวrมinขg้อมูล 2. ข้ันคิดวิเPคrรoาะcหe์แsลsะiสnรgุปความรู้
บูรณาการทักษะศตวรรษท่ี 21
ทักษะชีวิต

อิทธิพลตา่ งๆ ท่ีมผี ลต่อการแสดงออกทางเพศ 73

3.3 สื่อสารมวลชน

ในสงั คมไรพ้ รมแดนยคุ ปจั จบุ นั ทาำ ใหก้ ารรบั รขู้ า่ วสารจากสอ่ื สารมวลชนเปน็ ไปไดอ้ ยา่ งรวดเรว็
และกว้างไกลมาก สื่อสารมวลชนจึงมีอทิ ธิพลต่อแนวคดิ และทิศทางการเคลื่อนไหวในสังคม ดังจะเห็นได้
จากการเสนอข่าวเก่ียวกับพฤติกรรมทางเพศในทางท่ีเสอื่ มเสยี อย่างชัดแจง้ และเปดิ เผยมากเกินไป นอกจากนี้
ยังมีการลงภาพท่ีค่อนข้างอนาจารและวาบหวิว โดยไม่คำานึงถึงความไม่เหมาะสม อีกทั้งยังมีส่ือลามก
เกดิ ขน้ึ มากมาย ทาำ ใหว้ ยั รนุ่ เสพสง่ิ ทไี่ มเ่ หมาะสม จงึ มสี ว่ นกอ่ ใหเ้ กดิ การแสดงออกของพฤตกิ รรมทางเพศ
ทไ่ี ม่เหมาะสมมากยิ่งขึ้น

4. อทิ ธิพลของวัฒนธรรมทม่ี ผี ลต่อการแสดงพฤติกรรมทางเพศ

ปจั จบุ นั อทิ ธพิ ลของวฒั นธรรมตะวนั ตกได้เข้ามาครอบงาำ สงั คมไทยมากขึ้น ทาำ ให้คนไทยมคี ่านยิ ม
ทางเพศเปลย่ี นไป ไมค่ าำ นงึ ถงึ ขนบธรรมเนยี มและวฒั นธรรมอนั ดงี ามทบ่ี รรพบรุ ษุ ไดส้ รา้ งและรกั ษาไวเ้ ปน็
เวลายาวนาน วฒั นธรรมเปน็ สง่ิ ทม่ี นษุ ยส์ รา้ งขนึ้ เพอ่ื ใชใ้ นการดำาเนนิ ชวี ติ วฒั นธรรมเปน็ สง่ิ ทม่ี กี ารสบื สาน
ตอ่ เนือ่ งเป็นมรดกทางสงั คมท่มี กี ารถา่ ยทอดจากคนรุ่นหนง่ึ ไปส่คู นอกี รุ่นหนง่ึ ตอ่ ไปเรื่อยๆ วัฒนธรรมจึง
ได้แก่ ขนบธรรมเนยี ม ประเพณี คา่ นิยม ความเช่อื ศลี ธรรม ตลอดจนกฎเกณฑต์ ่างๆ ท่ีมอี ยูใ่ นสังคม
ค่านิยมทางเพศ เป็นความเช่ือเก่ียวกับเร่ืองเพศท่ียึดถือเป็นหลักปฏิบัติของตนเอง ตามท่ีตนเอง
มีความเชื่อ มีความคิด มีความยึดม่ัน ดังนั้นค่านิยมทางเพศ จึงเป็นหัวใจสำาคัญของการดำาเนินชีวิต
ในเรื่องเพศของคนๆ น้ัน ค่านิยมทางเพศอาจมีการเปล่ียนแปลงไปตามกาลเวลา และสภาพของสังคม
มรี ายละเอยี ดดังน้ี

4.1 การยึดม่นั ในความบริสุทธ์ทิ างเพศ

ในปัจจบุ นั วัยรุน่ ชายและวยั รุน่ หญิง มกั มีคา่ นยิ มในเรื่องความบรสิ ทุ ธิ์ทางเพศ ดังน้ี
4.1.1 วยั รนุ่ ชาย มคี า่ นยิ มทางเพศในเรอื่ งความบรสิ ทุ ธท์ิ างเพศของผหู้ ญงิ วา่ มใิ ชเ่ รอ่ื งสาำ คญั
ไมถ่ อื วา่ ผหู้ ญงิ คนนน้ั จะเคยผา่ นการมเี พศสมั พนั ธม์ าจากชายอน่ื แลว้ และบางสว่ นมคี า่ นยิ มทชี่ อบทำาลาย
ความบรสิ ทุ ธิ์ของผ้หู ญงิ
4.1.2 วัยรุ่นหญิง มีค่านิยมท่ีอ่อนด้อยในเรื่องความบริสุทธิ์ทางเพศ มักคิดว่าการรักษา
ความบริสุทธ์ิของตนเองไม่มีเพศสัมพันธ์จนถึงวันแต่งงานนั้น ไม่ใช่เรื่องสำาคัญอีกต่อไป ถ้าพอใจ
ก็ยอมมีเพศสัมพันธ์ด้วย ในสมัยก่อนผู้ใหญ่มักจะสอนและเน้นในเร่ืองของการรักษาความบริสุทธิ์ของ
ผ้หู ญงิ กันอย่างมาก ทาำ ใหผ้ ู้หญิงสมัยก่อนมีการรักษาความบริสุทธ์ิทางเพศได้ดีกวา่ ผหู้ ญงิ ในยคุ ปจั จุบัน
St

ting

สงวน ิลข ิสทธิ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพ ิวชาการ (พว.) ำจ�กัด
Sel ep 5 ขัน้ ประเมนิ เพอื่ เพ่มิ คุณค่า 74 เพศวิถศี กึ ษา
บรกิ ารสงั คมและจิตสาธารณะ
f-Regula 4.2. การมีเพศสมั พันธ ์

1. ผู้เรียนแต่ละกลุ่มและรายบุคคลตรวจสอบความรู้ความเข้าใจ ในปจั จุบนั วัยรุ่นชายและวยั รนุ่ หญงิ มกั มคี า่ นิยมในเร่ืองการมีเพศสมั พันธ์ ดงั นี้
ของตนเองหลังจากรับฟังการนำ�เสนอของสมาชิกกลุ่มอื่น ปรับปรุง 4.2.1 วัยรุ่นชาย มีค่านิยมว่าการมีเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องของการแสดงความสามารถ
ชน้ิ งานของกลมุ่ ตนเองให้สมบรู ณ์และบนั ทึกเพมิ่ เตมิ ในการพิสูจน์ความเป็นชาย โดยคิดว่าการมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงหลายๆ คนน้ัน เป็นเร่ืองโก้เก๋
เป็นคนเก่ง เป็นชายชาตรี จึงทำาให้ฝ่ายหญิงเดือดร้อน เพราะฝ่ายชายจะไม่คำานึงถึงจิตใจของฝ่ายหญิง
2. น�ำ ผลงานแสดงในปา้ ยนเิ ทศหรอื เผยแพรส่ หู่ อ้ งเรยี นอนื่ หรอื สาธารณะ มีความเห็นแก่ตัวในเร่ืองเพศ หวังเพียงความสนุกหรือสนองตัณหาของตนเองเท่านั้น และไม่คำานึงถึง
3. ผู้เรียนแต่ละคนทำ�แบบทดสอบ (หนังสือเรียน หน้า 78-80) ผลกระทบทีจ่ ะตามมา ตลอดจนความเสียหายท่ีจะเกิดข้ึนแก่ฝ่ายหญิง
4.2.2 วัยรุ่นหญิง ปัจจุบันวัยรุ่นหญิงมักยอมให้ผู้ชายมีเพศสัมพันธ์ด้วยง่ายกว่าในอดีต
แลกเปล่ียนกันตรวจให้คะแนน จากน้ันประเมินสรุปผล บางคนคิดว่ามิใช่เรื่องเสียหายขึ้นอยู่กับความพึงพอใจ บางคนยอมขายบริการทางเพศเพราะ
การทำ�กิจกรรม (หนังสือเรียน หน้า 77) ทำ�แบบประเมินตนเอง มีค่านิยมทางเพศท่ีผิด และไม่คำานึงถึงศักด์ิศรีของตนเอง ค่านิยมในเรื่องการรักนวลสงวนตัวจึงแทบจะ
(หนงั สือเรียน หน้า 80) และก�ำ หนดแนวทางการพฒั นาตนเอง ไม่มีความหมายหรือหายไปจากความคิดของวยั รุ่นหญิงจาำ นวนไม่นอ้ ย

ภาพท่ี 4.6 ชายและหญิงตอ้ งคาำ นึงถงึ การปฏิบัตติ น ตามขนบธรรมเนียมอันดงี ามตามวัฒนธรรมไทย

5. พฤตกิ รรมเบี่ยงเบนทางเพศ

พฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศนั้นมีหลายประเภทและหลายรูปแบบ เช่น ชายชอบเป็นหญิง
หญิงชอบเป็นชาย ผู้ชายที่ชอบอวดอวัยวะเพศ ผู้ชายที่ชอบพูดลามกทางโทรศัพท์ต่อผู้อ่ืน ผู้ชายท่ีชอบ
แอบดหู รือที่เรยี กว่า ถ้ำามอง ผูช้ ายที่ชอบสะสมชดุ ช้ันในผูห้ ญิง เป็นตน้
จะเห็นได้ว่าผู้ท่ีมีพฤติกรรมเบ่ียงเบนทางเพศมักเป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิง แต่ไม่ว่าผู้หญิงหรือ
ผู้ชายท่ีมีพฤติกรรมเบ่ียงเบนทางเพศสามารถอยู่ในสังคมได้เหมือนคนปกติ แต่การดำาเนินชีวิตของเขา
อาจแตกต่างจากคนปกติไปบ้าง เช่น พวกท่ีกายเป็นชายแต่ใจเป็นหญิงอาจมีการแต่งหน้า แต่งตัวเป็น
ผู้หญิง และดำาเนินชีวิตคล้ายๆ ผู้หญิง เป็นต้น ดังน้ันการอยู่ร่วมกันในสังคมโดยสันติ จึงควรวางตน
และปฏิบตั ติ นอยา่ งเหมาะสม

สุดยอดคู่มือครู 80

Ap3.pขlyั้นiปnฏgิบัตanิแdละCสoรnุปsคtrวuาcมtiรnู้gหลthังeกาKรnปoฏwิบleัตdิ ge Appl4y.inขgั้นสtื่hอeสาCรoแmลmะนu�ำnเiสcaนtอion Skill 5. ขSั้นeปlรfะ-เRมeินgเพu่ือlเaพtิ่มinคgุณค่า

ค่านิยมหลัก 12 ประการ กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก

asean

อทิ ธพิ ลต่างๆ ทม่ี ผี ลตอ่ การแสดงออกทางเพศ 75สงวนลิข ิสทธิ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด

กจิ กรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ

คำ�ชีแ้ จง กิจกรรมตรวจสอบคว�มเข้�ใจเป็นกิจกรรมฝึกทักษะเฉพ�ะด้�นคว�มรู้-คว�มจำ� เพื่อใช้ใน
ก�รตรวจสอบคว�มเข�้ ใจต�มจดุ ประสงคก์ �รเรยี นรู้

จงตอบค�ำ ถ�มตอ่ ไปนีใ้ ห้ถกู ตอ้ ง

1. จงอธิบายอิทธิพลของครอบครัวท่ีมีต่อการแสดงพฤติกรรมทางเพศ โดยสังเขป พร้อมยกตัวอย่าง
ประกอบ (จ.1)

(แนวทางการตอบ อิทธิพลของครอบครัวที่มีต่อการแสดงพฤติกรรมทางเพศ ได้แก่ ค่านิยม การอบรมเลี้ยงดู สภาพ
ความเปน็ อยู่ สภาพทางเศรษฐกจิ ระดบั การศกึ ษาของครอบครวั การมพี ฤตกิ รรมทางเพศทไี่ มเ่ หมาะสมของบคุ คลในครอบครวั
การเปน็ แบบอยา่ งทดี่ ตี อ่ ลกู ความเขา้ ใจในเรอื่ งพฤตกิ รรมทางเพศของเดก็ ยกตวั อยา่ งเชน่ สถานภาพทางเศรษฐกจิ ของครอบครวั
ไมด่ ี ทำาให้ผหู้ ญงิ ยอมขายบริการทางเพศเพอ่ื แลกเปลี่ยนกับเงนิ หรอื อ่นื ๆ ขนึ้ อยูก่ บั ดลุ ยพินจิ ของผสู้ อน)

2. จงอธบิ ายอทิ ธพิ ลของเพอื่ นทม่ี ตี อ่ การแสดงพฤตกิ รรมทางเพศ โดยสงั เขป พรอ้ มยกตวั อยา่ งประกอบ
(จ.2)

(แนวทางการตอบ อิทธิพลของเพื่อนท่ีมีต่อการแสดงพฤติกรรมทางเพศ ได้แก่ การชักจูงของเพ่ือน การเลียนแบบเพื่อน
ความต้องการเป็นทีย่ อมรับของเพอื่ น การถา่ ยทอดความรู้ที่ไมถ่ ูกตอ้ ง ยกตวั อย่างเชน่ ถูกเพอ่ื นชักจงู ใหด้ ม่ื สุรา เสพสารเสพติด
และดสู ่อื ลามก หรืออื่นๆ ข้นึ อยกู่ บั ดุลยพินิจของผ้สู อน)

3. จงอธบิ ายอทิ ธพิ ลของสงั คมทม่ี ตี อ่ การแสดงพฤตกิ รรมทางเพศ โดยสงั เขป พรอ้ มยกตวั อยา่ งประกอบ
(จ.3)

(แนวทางการตอบ อิทธพิ ลของสังคมที่มีต่อการแสดงพฤตกิ รรมทางเพศ ไดแ้ ก่ สภาพสังคม ที่มีช่องวา่ งของฐานะทางเศรษฐกิจ
ความกา้ วหน้าของวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี และสอ่ื สารมวลชน ยกตวั อยา่ งเชน่ วยั รุน่ เข้าถงึ สื่อลามกอนาจารได้งา่ ยขน้ึ ผ่าน
ทางอินเทอร์เน็ต หรอื อื่นๆ ข้ึนอยูก่ บั ดลุ ยพินิจของผสู้ อน)

4. จงอธิบายอิทธิพลของวัฒนธรรมที่มีต่อการแสดงพฤติกรรมทางเพศ โดยสังเขป พร้อมยกตัวอย่าง
ประกอบ (จ.4)

(แนวทางการตอบ อิทธิพลของวัฒนธรรมที่มีต่อการแสดงพฤติกรรมทางเพศ ได้แก่ การยึดมั่นในความบริสุทธิ์ทางเพศและ
การมเี พศสมั พนั ธ์ ยกตวั อยา่ งเชน่ วยั รนุ่ มคี วามเชอื่ วา่ ความบรสิ ทุ ธท์ิ างเพศเปน็ เรอื่ งไมส่ าำ คญั สามารถมเี พศสมั พนั ธก์ บั ใครกไ็ ด้
ไม่ใชเ่ ร่อื งเสยี หายขึน้ อยู่กบั ความพงึ พอใจ หรืออืน่ ๆ ขึ้นอยกู่ ับดุลยพินจิ ของผูส้ อน)

5. หากผเู้ รียนมพี ฤตกิ รรมเบีย่ งเบนทางเพศ ควรปฏิบตั ิอย่างไร เพราะเหตุใด (จ.5)

(แนวทางการตอบ ขึ้นอยกู่ บั ดุลยพนิ จิ ของผูส้ อน)

จ. หมายถึง ตรงตามจุดประสงค์การเรียนรู้ หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 4 ข้อท่ี ...

ค่านิยมหลัก 12 ประการ
• มีศีลธรรม รักษาความสัตย์ หวังดีต่อผู้อื่น เผ่ือแผ่และแบ่งปัน
• ใฝ่หาความรู้ หม่นั ศึกษาเล่าเรียนทง้ั ทางตรงและทางอ้อม

81 สุดยอดคู่มือครู

GPAS 5 STEPs 1. ขG้ันaรวtบhรeวrมinขg้อมูล 2. ข้ันคิดวิเPคrรoาะcหe์แsลsะiสnรgุปความรู้
บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21
ทักษะชีวิต

76 เพศวถิ ศี ึกษา กจิ กรรมสง่ เสรมิ การเรยี นรเู้ ปน็ กจิ กรรมทผ่ี สู้ อนใหผ้ เู้ รยี นปฏบิ ตั ทิ กุ ขอ้
หรือเลือกปฏิบัติเป็นบางข้อตามความเหมาะสม โดยผู้สอน
กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ ใหค้ ะแนนการท�ำ กจิ กรรมตามเกณฑข์ องใบสรปุ ผลการท�ำ กจิ กรรม
และสามารถนำ�ผลการทำ�กิจกรรมไปเทียบกับการให้คะแนนกับ
คาำ ชแี้ จง กจิ กรรมสง่ เสรมิ การเรยี นรปู้ ระกอบดว้ ยกจิ กรรมหลากหลายทฝ่ี กึ ทกั ษะทกุ ดา้ นตามจดุ ประสงค์ ตารางวิเคราะห์ความสอดคล้องของเนื้อหากับจุดประสงค์รายวิชา
เชิงพฤติกรรมเพื่อให้เกิดสมรรถนะในการเรียนร ู้ สามารถปฏิบัติกิจกรรมทั้งในและนอกสถานที่ สมรรถนะรายวิชา และจดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมได้

ตามความเหมาะสมกับผ้เู รยี นและสงิ่ แวดล้อมของสถานศกึ ษา

1. ให้ผ้เู รยี นแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 3-5 คน เลอื กข่าวสารจากหนังสอื พิมพ ์ วารสาร หรืออนิ เทอรเ์ นต็ เก่ียวกบั
อทิ ธิพลต่างๆ ทีม่ ผี ลตอ่ การแสดงออกทางเพศมากลมุ่ ละ 1 ขา่ ว วเิ คราะหข์ ่าวทีเ่ กิดข้นึ ส่งตวั แทนกลมุ่
มารายงานและร่วมกนั อภิปรายหน้าชั้นเรียนกลุ่มละ 3-5 นาที
2. ให้ผู้เรียนเขียนเรียงความในหัวข้อ “อิทธิพลต่างๆ ท่ีมีผลต่อการแสดงออกทางเพศของตนเอง”
แลว้ เสนอแนะแนวทางทเี่ หมาะกบั ผูเ้ รียน โดยผู้สอนสุ่มผู้เรียนมานำาเสนอหนา้ ชนั้ เรียน
3. ใหผ้ ู้เรยี นเขียนผังความคดิ สรุปเก่ียวกบั เร่ือง อิทธิพลต่างๆ ท่มี ผี ลตอ่ การแสดงออกทางเพศ
4. ให้ผเู้ รียนสำารวจความคดิ เห็นของเพอื่ นรว่ มชนั้ เรยี น หรือต่างช้นั เรยี นจาำ นวน 10 คน ในเร่อื ง อิทธิพล
ตา่ งๆ ท่ีมผี ลค่อการแสดงออกทางเพศ และจดั ทำาสรุปผล
สงวนลิข ิสทธิ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด
อิทธิพลตา่ งๆ ทม่ี ีผลตอ่ การแสดงออกทางเพศ 77

สรุปผลการทำากจิ กรรม
คำาช้แี จง ให้ผเู้ รียนประเมินผลการทาำ กิจกรรม โดยเขยี นเคร่ืองหมาย ✓ลงในช่อง ตามความเป็นจรงิ

กิจกรรมท้าทาย ความร ู้ (K) ทักษะ (P) คณุ ลักษณะ (A) เกณฑ์การประเมิน
ให้ผู้เรียนเขียนเรียงความในหัวข้อ “อิทธิพลต่างๆ ที่มีผลต่อ การมมี นุษยสัมพนั ธ์ใน ทาำ เคร่อื งหมาย ✓
การแสดงออกทางเพศ” ความรู้ ความเขา้ ใจ การปฏิบัตงิ านท่ีไดร้ บั
การนำาไปใช ้ การวเิ คราะห์ มอบหมายเสรจ็ ตามเวลา การปฏิบตั กิ จิ กรรม ในแต่ละตอน 3 ขอ้
การสงั เคราะห์ ท่กี าำ หนด ความมีวนิ ยั ตรงตอ่ เวลา คือ ผา่ นการประเมิน
การประเมินค่า การปฏิบัติงานด้วยความ ความซ่อื สตั ยส์ ุจรติ
ละเอยี ด รอบคอบ ปลอดภัย ในการทำางาน 1. ความรู้ (K)
การศึกษาคน้ ควา้ เรยี บร้อย สวยงาม ประพฤติตนด้วยความ ผา่ น ไม่ผา่ น
การแสวงหาแหลง่ ขอ้ มลู
และการรวบรวมข้อมลู ความสมบรู ณข์ องงาน ถกู ต้องตามศลี ธรรม 2. ทักษะ (P)
การแสดงความคิดเหน็ การปฏบิ ัติงานทท่ี ำาใหเ้ กิด อนั ดีงาม
อยา่ งมีเหตุผล หรือแสดง สมรรถนะแกผ่ เู้ รยี น เจตคติทีด่ ีในการปฏิบัติ ผา่ น ไม่ผา่ น
กิจกรรม
ข้นั ตอนและกระบวนการ ทักษะการวางแผน การคดิ ความพอเพียงและความ 3. คุณลกั ษณะ (A)
ทาำ กิจกรรม สร้างสรรค์ การออกแบบ ผา่ น ไมผ่ า่ น

การหาประสบการณ์ การผลติ พอประมาณ
ความรู้ใหม่ การตดั สนิ ใจในการแกป้ ัญหา

หมายเหตุ เกณฑ์การประเมินผลการทำากิจกรรม มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินว่า ผู้เรียนเกิดสมรรถนะจากการเรียนรู้
ตามบริบทต่างๆ หรือไม่ โดยแบ่งเป็น 3 ด้าน คือ ความรู้หรือพุทธิพิสัย = Knowledge (K) ทักษะหรือ
ทักษะพสิ ัย = Practice (P) คณุ ลักษณะหรอื จติ พิสยั = Attitude (A)

สุดยอดคู่มือครู 82

Ap3.pขly้ันiปnฏgิบัตanิแdละCสoรnุปsคtrวuาcมtiรnู้gหลthังeกาKรnปoฏwิบleัตdิ ge Appl4y.inขg้ันสt่ืhอeสาCรoแmลmะนu�ำnเiสcaนtอion Skill 5. ขSั้นeปlรfะ-เRมeินgเพuื่อlเaพtิ่มinคgุณค่า

ค่านิยมหลัก 12 ประการ กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก

asean

78 เพศวิถีศึกษา ผู้สอนให้ผู้เรียนทำ�แบบทดสอบ จากนั้น
ให้ผู้เรียนแลกกันตรวจคำ�ตอบ โดยผู้สอน
แบบทดสอบ เป็นผเู้ ฉลย

ตอนท่ี 1 จงขีดเคร่ืองหมาย ✓หนา้ ขอ้ ความท่ีถกู ต้องและเคร่ืองหมาย ✗ หนา้ ขอ้ ความท่ีผดิ

✓ 1. พ่อแมค่ วรใหก้ ารอบรมเลีย้ งดลู ูกในเรอื่ งเพศอยา่ งมีเหตุผล
✗ 2. ระดบั การศึกษาของครอบครัวไมม่ อี ิทธิพลตอ่ การแสดงพฤติกรรมทางเพศ
✓ 3. เดก็ จะชอบจับอวัยวะเพศของตนเองพอ่ แม่ไมค่ วรดดุ ่าหรือห้ามปราม
✓ 4. วัยรุน่ มกั มีคา่ นยิ มเหมอื นเพอื่ นในกลุ่ม และมกี ารถา่ ยทอดความรรู้ ะหวา่ งกลุ่ม
✓ 5. ความกา้ วหนา้ ทางวิทยาศาสตรเ์ ป็นดาบสองคมสำาหรบั พฤตกิ รรมทางเพศ
✓ 6. ส่ือสารมวลชนมอี ิทธิพลต่อแนวคิดและพฤตกิ รรมทางเพศ
✗ 7. พอ่ แม่ควรมคี วามเข้าใจในเรอื่ งพฤติกรรมทางเพศของลูกในวยั เด็กเทา่ น้นั
✓ 8. ผชู้ ายชอบอวดอวัยวะเพศมแี นวโนม้ ดา้ นพฤตกิ รรมเบย่ี งเบนทางเพศมากทีส่ ุด
✗ 9. ปัจจบุ ันวัยรุ่นชายและหญงิ ยังคงยึดมั่นค่านยิ มในเรือ่ งความบริสุทธิ์ทางเพศ
✓ 10. การเป็นแบบอย่างทดี่ ีของบุตรหลาน จะสง่ ผลในเร่ืองพฤตกิ รรมทางเพศที่เหมาะสม
สงวนลิข ิสทธิ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด
ตอนที่ 2 ให้นาำ ตัวเลขหน้าคาำ ตอบไปเติมในชอ่ งว่างใหถ้ กู ต้อง

คา่ นยิ มในเรื่องเพศตามวฒั นธรรมอน่ื

ค่านิยมในเร่ืองเพศของวัยรุ่นไทยได้เปล่ียนแปลงไปจากสมัยก่อน ทั้งน้ีเป็นเพราะวัฒนธรรมจาก
ชาติอ่ืนได้เข้ามามีบทบาทและมีอิทธิพลมากข้ึน โดยเฉพาะวัฒนธรรมตะวันตกที่แพร่เข้ามาทางส่ือต่างๆ

ท้งั โทรทศั น์ ภาพยนตร์ หนงั สือ หรอื อนิ เทอรเ์ นต็ ทาำ ใหเ้ กิด 1 ซง่ึ วฒั นธรรมบางอย่างกส็ ง่ ผลดี
ตอ่ การดาำ เนนิ ชวี ติ แตว่ ฒั นธรรมบางอยา่ งกส็ ง่ ผลใหเ้ กดิ ปญั หาสงั คมตามมา เราจงึ ควรเลอื กรบั วฒั นธรรม

ทด่ี แี ละมีความเหมาะสมกบั วัฒนธรรมไทย มาปรับใช้เพือ่ ใหเ้ ปน็ ท่ยี อมรับและมีชวี ติ ท่ดี ีงาม

ค่านยิ มทางเพศท่เี หมาะสมตามวัฒนธรรมตะวันตก
1. การแสดง 2 ให้เกียรตผิ ู้หญิง

2. การมี 3 ต่อสามีภรรยา ไม่นอกใจ

ไมส่ าำ ส่อนทางเพศ
3. ผู้ชายหรือสามีมีความรักและ 4

ต่อครอบครัว ขยันทำางานเพ่ือเล้ียงดูครอบครัว
ชว่ ยทาำ งานและดูแลความเรียบรอ้ ยในบ้าน

4. ผหู้ ญงิ สามารถแสดง 8 หรอื โต้แยง้ การพักผ่อนรว่ มกบั ครอบครวั เปน็ ประจาำ
ในเร่ืองต่างๆ อย่างเทา่ เทียมกับผู้ชาย เปน็ สงิ่ ทดี่ งี ามของวัฒนธรรมตะวันตก

5. การมีเพศสัมพนั ธอ์ ย่างปลอดภัยดว้ ยการใช้ถงุ ยางอนามยั

83 สุดยอดคู่มือครู

GPAS 5 STEPs 1. ขG้ันaรวtบhรeวrมinขg้อมูล 2. ขั้นคิดวิเPคrรoาะcหe์แsลsะiสnรgุปความรู้
บูรณาการทักษะศตวรรษท่ี 21
ทักษะชีวิต

อิทธพิ ลตา่ งๆ ท่ีมผี ลต่อการแสดงออกทางเพศ 79

คา่ นยิ มทางเพศท่ไี มเ่ หมาะสมตามวฒั นธรรมตะวนั ตก
1. การแตง่ กายลอ่ แหลม เปดิ เผยใหเ้ หน็ สดั สว่ นหรอื เน้ือตวั การสวมใสช่ ดุ วา่ ยน�า้ เพอื่ ใหเ้ ป็นทสี่ นใจ
หรอื ดึงดดู เพศตรงขา้ ม
2. การคบเพอื่ นตา่ งเพศคร้ังละหลายๆ คน
3. การออกเดท หรอื ไปเทีย่ วกบั เพื่อนตา่ งเพศสองต่อสอง
4. การแสดง 6 จนเกนิ งาม โดยเฉพาะการจบี ผชู้ ายกอ่ นของผหู้ ญงิ ซงึ่ เปน็ สง่ิ ทไี่ มเ่ หมาะสม
5. การแสดง 10 ในทีส่ าธารณะอย่างเปิดเผย
สงวนลิข ิสทธิ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด
6. การไปเที่ยวกลางคนื กับเพื่อนตา่ งเพศในสถานบนั เทิง
7. การมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน ซ่ึงอาจก่อให้เกิดปัญหา
ตามมา เช่น การต้ังครรภ์ทไี่ ม่พึงประสงค ์ การทา� แท้ง
8. การถ่ายคลิปวิดีโอลามกหรือการแชทผ่านกล้องทาง
อนิ เทอรเ์ น็ต ซ่งึ อาจทา� ใหเ้ กิดปัญหาอาชญากรรมตามมา
การเลือกรับวัฒนธรรมตะวันตกที่เหมาะสมต่อวัฒนธรรม
และสังคมไทยมาปรบั ใช้ในการด�าเนนิ ชีวติ จะช่วยให้เรามี 7
ในเร่ืองเพศ เป็นที่ยอมรับและช่ืนชมของผู้อื่น สามารถด�ารงชีวิตได้
อยา่ งมีความสุข

เมื่ออยใู่ นทส่ี าธารณะ
ตอ้ งปฏบิ ตั ิตนอย่างเหมาะสม

คา่ นิยมในเรื่องเพศทม่ี คี วามเหมาะสมของคูร่ กั
การมีคนรกั ของวยั ร่นุ จะต้องมีขอบเขต ต้องอยูใ่ นสายตาและ 9 ทงั้ สองฝา่ ย ตอ้ งไมล่ ่วงเกนิ

ซึ่งกันและกนั และท่ีส�าคญั ทสี่ ุด คือ ตอ้ งไมม่ เี พศสมั พนั ธ์ ดงั น้นั วยั รนุ่ ท่มี ีคนรักควรปฏบิ ัตติ นในขอบเขต

ที่เหมาะสม ดงั น้ี

1. การคบหากันระหว่างชายและหญิงจะ

ต้องยึดครองประเพณีของวัฒนธรรมไทยและ

วัฒนธรรมอ่ืนๆ ควรหลีกเลี่ยงการกระท�าที่จะ

เป็นการล่วงละเมิดอีกฝ่ายหน่ึง โดยเฉพาะกับ

ผูห้ ญงิ

2. ไมอ่ ยใู่ นทลี่ บั ตาคนตามลา� พงั สองตอ่ สอง

เช่น ในห้อง ในบ้านท่ีไม่มีใครอยู่ ซ่ึงจะท�าให้ ความรกั แบบเพอ่ื นเหมาะสมกบั เด็กในวัยเรยี น
เกิดบรรยากาศที่จะน�าไปสู่การมีความสัมพันธ์ มากกว่าความรกั แบบชู้สาว
ทางเพศได้

สุดยอดคู่มือครู 84

Ap3.pขly้ันiปnฏgิบัตanิแdละCสoรnุปsคtrวuาcมtiรnู้gหลthังeกาKรnปoฏwิบleัตdิ ge Appl4y.inขg้ันสtื่hอeสาCรoแmลmะนu�ำnเiสcaนtอion Skill 5. ขS้ันeปlรfะ-เRมeินgเพu่ือlเaพt่ิมinคgุณค่า

ค่านิยมหลัก 12 ประการ กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก

asean

80 เพศวถิ ีศึกษา

3. รู้จักการปฏิเสธ โดยเฉพาะผู้หญิงต้องรู้จักการปฏิเสธอย่างจริงจังและเด็ดขาด พูดให้เห็นถึง
ผลเสยี ของการมีเพศสมั พนั ธก์ ่อนวยั อันควร
4. ไม่นัดค้างคนื กนั สองตอ่ สอง เพราะจะเป็นการเสีย่ งตอ่ การมเี พศสมั พนั ธ์ได้ง่าย
5. มี 5 ไม่ท�าร้ายทั้งทางร่างกายและทางจิตใจ ให้ก�าลังใจกัน ช่วยเหลือกันในเร่ืองต่างๆ
โดยเฉพาะเรอื่ งเรยี นซึ่งเปน็ เรอื่ งส�าคญั ที่สุดสา� หรับวยั รุ่น
สงวนลิข ิสทธิ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด
1. พฤตกิ รรมลอกเลยี นแบบ 5. ความเมตตาต่อกัน 9. ความดแู ลของพ่อแม่
2. ความเป็นสภุ าพบรุ ุษ 6. ความสนใจต่อเพศตรงข้าม 10. ความรกั ด้วยการกอดจูบ
3. ความซ่ือสตั ย ์ 7. ความปลอดภยั
4. ความรับผดิ ชอบ 8. ความคิดเหน็

แบบประเมินตนเอง
ค�าช้แี จง ตอนท่ี 1 ให้ผู้เรียนประเมินผลการเรยี นรู้ โดยเขียนเครือ่ งหมาย ✓ ลงในชอ่ งระดบั คะแนน

และเติมข้อมลู ตามความเป็นจรงิ
ระดับคะแนนตอนท่ี 1 5 : มากท่สี ดุ 4 : มาก 3 : ปานกลาง 2 : นอ้ ย 1 : ควรปรบั ปรงุ
ตอนที่ 2 ใหผ้ เู้ รยี นนา� คะแนนจากแบบทดสอบมาเตมิ ลงในชอ่ งวา่ ง และเขยี นเครอ่ื งหมาย ✓

ลงในช่องสรุปผล

ตอนท่ี 1 (ผลการเรียนร)ู้ ตอนท่ี 2 (แบบทดสอบ)

รายการ 5 4 3 2 1 แบบทดสอบ

1. ผู้เรียนมคี วามร ู้ ความเข้าใจในเนื้อหา คะแนน

2. ผูเ้ รียนไดท้ �ากิจกรรมสง่ เสรมิ การเรียนร้ทู ีส่ อดคล้องกบั เนอื้ หา (ขอ้ ละ 1 คะแนน)
และจุดประสงคก์ ารเรียนรู้
สรุปผล
9 - 10 (ดมี าก)
3. ผู้เรียนไดเ้ รียนและทา� กิจกรรมสง่ เสริมการเรียนรทู้ ส่ี ่งเสริม 7 - 8 (ด)ี
กระบวนการคดิ เกดิ การค้นพบความรู้ 5 - 6 (พอใช)้
4. ผูเ้ รยี นสามารถประยกุ ต์ความรูเ้ พ่ือี ใชป้ ระโยชน์ในชวี ิตประจ�าวันได้ ต�่ากวา่ 5
5. ผเู้ รียนได้เรียนรูอ้ ะไรจากการเรียน (ควรปรบั ปรงุ )

6. ผู้เรยี นต้องการทา� สิ่งใดเพ่ือพัฒนาตนเอง

7. ความสามารถที่ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์ประเมนิ ของผู้เรยี น คอื

85 สุดยอดคู่มือครู

1. ขGั้นaรวtบhรeวrมinขg้อมูล 2. ขั้นคิดวิเPคrรoาะcหe์แsลsะiสnรgุปความรู้

ทักษะชีวิต
GPAS 5 STEPs

ตารางสรปุ คะแนนการประเมินจุดประสงค์การเรียนรู้บูรณาการทักษะศตวรรษท่ี 21
และสมรรถนะประจำ� หนว่ ย

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 อทิ ธิพลตา่ งๆ ทม่ี ีผลต่อการแสดงออกทางเพศ

คะแนนตาม จปส. รายหนว่ ยการเรียนรู้
1. สงวน ิลข ิสทธิ์ บริษั อธิบายอิท ิธพลของครอบครัว ี่ทมี ่ตอการแสดงพฤ ิตกรรมทางเพศได้ท ัพฒนาคุณภาพ ิวชาการ (พว.) ำจ�กัด
ช้ินงาน/การแสดงออก 2. อธิบายอิทธิพลของเ ่ืพอน ี่ท ีมผลต่อการแสดงพฤ ิตกรรมทางเพศได้ รวม
ท่กี �ำหนดในหน่วยการเรียนรหู้ รอื หนว่ ยยอ่ ย 3. อธิบายอิท ิธพลของ ัสงคม ีท่มีผลต่อการแสดงพฤ ิตกรรมทางเพศได้
4. อ ิธบายอิท ิธพลของ ัวฒนธรรม ่ทีมีผล ่ตอการแสดงพฤติกรรมทางเพศไ ้ด
5. อ ิธบายพฤ ิตกรรมเ ี่บยงเบนทางเพศไ ้ด
6. ีมเจตคติ ีท่ดีในการเรียนเ ่รืองอิทธิพล ่ตางๆที่ ีมผล ่ตอการแสดงออกทางเพศ
และรักษ์ ่คา ินยมห ัลก 12 ประการของไทย
ภาระงาน/ชน้ิ งานระหวา่ งเรียน - 20
1. ผังกราฟิกแสดงการเก็บรวบรวมข้อมูลเก่ียวกับอิทธิพลต่างๆ 4 4 4 4 4
ท่มี ีผลต่อการแสดงออกทางเพศ - 20
2. ผังกราฟิกสรุปความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอิทธิพลต่างๆ 4 4 4 4 4
ท่ีมผี ลตอ่ การแสดงออกทางเพศ 4 24
3. การน�ำ เสนอผลการสรปุ ความรคู้ วามเขา้ ใจเกยี่ วกบั อทิ ธพิ ลตา่ งๆ 4 4 4 4 4
ท่ีมีผลต่อการแสดงออกทางเพศ - 15
- 6
การประเมินรวบยอด 3 3 3 3 3 5 5
1. ผลการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 3 3 - - - - 10
2. ผลการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมสง่ เสรมิ การเรียนรู้ - - - - - 9 100
3. ผลการประเมินตนเอง 2 2 2 2 2
4. คะแนนผลการทดสอบ 20 20 17 17 17

รวม

สุดยอดคู่มือครู 86

GPAS 5 STEPs 1. Gขั้นaรวthบรeวrมinขg้อมูล 2. ขั้นคิดPวิเrคoรcาeะหs์แsลinะสgรุปความรู้

A3pp. lขyั้นiปnฏgิบaัตnิแdละCสoรnุปsคtrวuาcมtinรgู้หลthังeกาKรnปoฏwิบleัตdิge Appl4y.inขg้ันสt่ืhอeสาCรoแmลmะนu�ำnเiสcaนtอion Skill 5. ขS้ันeปlfร-ะRเมeินgเพu่ือlaเพtiิ่มnคgุณค่า

บูรณาการทักษะศตวรรษท่ี 21 ทักษะชีวิต

ค่านิยมหลัก 12 ประการ กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก

asean

หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 5 ทกั ษะชวี ิต

หนว่ ยการเรียนรู้ที่สงวนลิข ิสทธิ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด5 สาระการเรียนรู้
ทักษะชวี ิต 1. ทกั ษะการส่ือสาร (หนังสอื เรียน หน้า 83-84)
2. ทกั ษะการสรา้ งสมั พนั ธภาพ (หนงั สอื เรยี น หนา้ 84)
สาระสาำ คญั 3. ทักษะการตอ่ รอง (หนังสือเรียน หนา้ 85-86)
4. ทกั ษะการปฏเิ สธ (หนงั สอื เรียน หนา้ 86-87)
การดาำ เนนิ ชีวิตประจำาวัน ผทู้ มี่ ีทกั ษะชีวติ ท่ดี จี ะสามารถอยู่ในสงั คมอยา่ งมีความสขุ สามารถ 5. ทกั ษะการคดิ วิเคราะห์ (หนงั สือเรยี น หนา้ 88)
แก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ดี จึงควรฝึกฝนและเลือกใช้ทักษะชีวิตให้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่างๆ เพ่ือ 6. ทักษะการตดั สนิ ใจ (หนังสอื เรยี น หนา้ 88)
ป้องกันและแกไ้ ขปัญหาเรอ่ื งเพศ และลดความขดั แยง้ ในครอบครวั 7. ทกั ษะการแก้ไขปญั หา (หนงั สือเรยี น หนา้ 90)
สมรรถนะประจ�ำ หนว่ ย
สาระการเรียนรู้ แสดงความร้เู ก่ียวกับทกั ษะชีวิต
1. ทกั ษะการสือ่ สาร
2. ทักษะการสร้างสัมพนั ธภาพ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
3. ทักษะการตอ่ รอง 1. อธิบายและแสดงทักษะการส่ือสารได้
4. ทกั ษะการปฏิเสธ 2. อธิบายและแสดงทักษะการสร้างพนั ธภาพได้
5. ทกั ษะการคิดวิเคราะห์ 3. อธิบายและแสดงทักษะการต่อรองได้
6. ทกั ษะการตดั สนิ ใจ 4. อธบิ ายและแสดงทกั ษะการปฏเิ สธได้
7. ทักษะการแกไ้ ขปญั หา 5. อธิบายและแสดงทักษะการคิดวิเคราะห์ได้
6. อธิบายและแสดงทกั ษะการตัดสนิ ใจได้
7. อธิบายและแสดงทักษะการแกไ้ ขปญั หาได้
8. มีเจตคติที่ดีในการเรียนเร่ืองทักษะชีวิต และรักษ์

คา่ นิยมหลกั 12 ประการของไทย

การประเมินผล ภาระงาน/ชน้ิ งานรวบยอดในหนว่ ยการเรียนรู้
1. ผลการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ
ภาระงาน/ชน้ิ งาน/การแสดงออกของผูเ้ รยี น 2. ผลการปฏิบัตกิ ิจกรรมสง่ เสริมการเรยี นรู้
ภาระงาน/ชน้ิ งานระหว่างเรียน 3. ผลการประเมนิ ตนเอง
1. ผังกราฟกิ แสดงการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู เก่ยี วกบั ทักษะชีวติ 4. คะแนนผลการทดสอบ
2. ผงั กราฟิกสรุปความรคู้ วามเข้าใจเกีย่ วกบั ทักษะชวี ติ
3. การน�ำ เสนอผลการสรุปความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกบั ทักษะชีวติ 87 สุดยอดคู่มือครู

GPAS 5 STEPs 1. ขG้ันaรวtบhรeวrมinขg้อมูล 2. ข้ันคิดวิเPคrรoาะcหe์แsลsะiสnรgุปความรู้

บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 ทักษะชีวิต

Step 1 สมรรถนะประจำาหน่วย
แสดงความรู้เกีย่ วกับทักษะชีวิต
gGatherin ขน้ั รวบรวมขอ้ มูล
1. แบ่งกลุ่มผู้เรียนร่วมกันศึกษาเอกสาร จดุ ประสงค์การเรียนรู้
สงวนลิข ิสทธ์ิ บริษัทพัฒนา ุคณภาพ ิวชาการ (พว.) ำจ�กัด 1. อธบิ ายและแสดงทักษะการสอื่ สารได้
หนังสือเรยี นเกยี่ วกับทกั ษะชวี ิต 2. อธบิ ายและแสดงทักษะการสร้างสมั พนั ธภาพได้
2. ต้ังคำ�ถามให้ผู้เรียนเสนอข้อมูลจาก 3. อธบิ ายและแสดงทักษะการต่อรองได้
4. อธบิ ายและแสดงทกั ษะการปฏเิ สธได้
ประสบการณ์ที่รับรู้เกี่ยวกับทักษะชีวิต 5. อธบิ ายและแสดงทักษะการคดิ วิเคราะห์ได้
ตามหวั ขอ้ ทก่ี �ำ หนดให้ (ศกึ ษารายละเอยี ด 6. อธบิ ายและแสดงทักษะการตดั สินใจได้
คำ�ถามจากแผนการจดั การเรยี นร)ู้ 7. อธิบายและแสดงทักษะการแก้ไขปญั หาได้
3. แต่ละกลุ่มบันทึกผลการศึกษาตามหัวข้อ 8. มีเจตคติท่ดี ใี นการเรยี น เรื่อง ทักษะชวี ิต และรักษค์ ่านยิ มหลัก 12 ประการของไทย
ท่ีกำ�หนดลงผังกราฟิก (เลือกออกแบบ
และใช้ผังกราฟิกให้เหมาะสมกับลักษณะ
ของข้อมูล) ดังตัวอยา่ ง

ผงั สาระการเรยี นรู้

ทกั ษะการสอื่ สาร

ทกั ษะการสรา้ งสมั พันธภาพ

ทกั ษะการตอ่ รอง

ทกั ษะชวี ิต ทกั ษะการปฏเิ สธ

ทกั ษะการคดิ วิเคราะห ์

ทกั ษะการตดั สนิ ใจ

ทักษะการแกไ้ ขปญั หา

บูรณาการทักษะศตวรรษท่ี 21
การทำ�งานกลุ่มจะช่วยฝึกกระบวนการทำ�งานแบบประชาธิปไตย
และสง่ เสรมิ กระบวนการคดิ การแก้ปัญหาใหแ้ กผ่ ู้เรียน

สุดยอดคู่มือครู 88

Ap3.pขlyั้นiปnฏgิบัตanิแdละCสoรnุปsคtrวuาcมtiรnู้gหลthังeกาKรnปoฏwิบleัตdิ ge Appl4y.inขg้ันสt่ืhอeสาCรoแmลmะนu�ำnเiสcaนtอion Skill 5. ขSั้นeปlรfะ-เRมeินgเพuื่อlเaพt่ิมinคgุณค่า

ค่านิยมหลัก 12 ประการ กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก

asean

ทักษะชวี ติ 83 ep 2St ขน้ั คิดวเิ คราะห์
และสรุปความรู้
1. ทกั ษะการสอ่ื สาร rocessing
P
1.1 ความหมายของทักษะการส่อื สาร
1. ผู้เรียนร่วมกันวิเคราะห์และอภิปรายเก่ียวกับทักษะชีวิต โดยใช้
ทักษะการสื่อสาร หมายถึง ความสามารถในการใช้คำาพูดและภาษาท่าทาง เพื่อแสดง ขอ้ มลู ความรคู้ วามเขา้ ใจทไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษาคน้ ควา้ จากหนงั สอื เรยี น
ความรู้สึกนึกคิดของตนอย่างเหมาะสมกับสภาพวัฒนธรรมและสถานการณ์ต่างๆ โดยสามารถที่จะ เอกสาร แหลง่ เรยี นรู้อืน่ ๆ หรอื ประสบการณข์ องผ้เู รียน
แสดงความคิดเหน็ ความปรารถนา ความตอ้ งการ การขอรอ้ ง การเตอื น และการขอความช่วยเหลอื
2. ผู้เรียนร่วมกันเชื่อมโยงความคล้ายคลึงของข้อมูลท่ีนำ�มาอภิปราย
1.2 ความสาำ คัญของทักษะการสอื่ สาร และสรุปความรู้ตามหัวข้ออภิปราย แสดงเป็นความคิดรวบยอด
หรือหลักการลงในผังกราฟกิ
การสอื่ สารสามารถทำาได้หลายชอ่ งทาง เช่น การพูดคยุ กันต่อหน้า การพดู คยุ กันทางโทรศพั ท์
การพูดคุยกันทางอินเทอร์เน็ต การส่งจดหมายติดต่อถึงกัน การส่งอีเมล การส่งข้อความทางโทรศัพท์
เคลื่อนที่ การมีทักษะในการส่ือสารอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้คนในครอบครัวมีความเข้าใจกัน
เปน็ การชว่ ยปอ้ งกนั และลดความขดั แยง้ ในครอบครวั ได ้ แมแ้ ตป่ ญั หาเรอ่ื งเพศ พอ่ แม ่ ลกู หรอื สาม ี ภรรยา
ก็สามารถสือ่ สารพูดคยุ กนั ได ้ เมือ่ ครอบครวั มคี วามเข้าใจกันกส็ ามารถแกป้ ญั หาในเร่อื งเพศได้

1.3 การเป็นผ้พู ดู ท่ดี แี ละการเปน็ ผู้ฟังท่ดี ี

1.3.1 การเป็นผพู้ ูดที่ด ี ควรคาำ นึงถงึ ส่งิ ต่อไปน้ี
สงวนลิข ิสทธ์ิ บริษัทพัฒนา ุคณภาพ ิวชาการ (พว.) ำจ�กัด
พดู กับใคร พดู ท่ีไหน พดู เวลาใด พดู ในโอกาสใด พูดอย่างไร

การพูดนั้นต้องใช้ การพูดนั้นต้องใช้ การพดู นนั้ ควรคำานงึ การพูดคุยในโอกาส การพูดให้ผู้ฟังรู้สึก

ถ้อยคำาให้เหมาะสม ถ้อยคำาให้เหมาะสม ถึงอารมณ์ของผู้ท่ี ต่ า ง ๆ ค ว ร จ ะ มี ชอบใจ ตอ้ งใชค้ าำ พดู

กบั คนทพ่ี ดู ดว้ ย เชน่ กับสถานท่ี ควรดูว่า สนทนาด้วยว่าใน ความแตกต่างกัน ท่ีสุภาพ นุ่มนวล

พดู กับพ่อแม่ พดู กบั เป็นที่ส่วนตัวหรือที่ เวลาน้ันเป็นอย่างไร เช่น ในงานสังสรรค์ ไม่หยาบคาย เป็น

เพื่อน พูดกับเด็ก สาธารณะ ควรใช้คำา หรือสถานการณ์ใน อาจพูดคุยกันอย่าง คำาพูดในเชิงบวก

พูดกับผู้ใหญ่ ก็จะ พูดและระดับเสียง ขณะน้ันควรจะพูด เ ต็ ม ที่ ส นุ ก ส น า น ไม่พูดติเตียนให้ร้าย 3. ผูเ้ รยี นบนั ทึกผลขอ้ สรปุ เป็นความเขา้ ใจของกลุ่มและรายบุคคล

ต้องใช้ระดับภาษาที่ ใ ห้ เ ห ม า ะ ส ม กั บ อยา่ งไร เช่น ไมค่ วร ใ น ง า น ศ พ ค ว ร ผู้อื่น ใช้คำาพูดที่ 84 เพศวถิ ศี กึ ษา

ตา่ งกนั และควรใชค้ าำ สถานที่ เช่น หาก พูดเล่นในขณะที่พูด สำารวมกิริยาไม่พูด ไพเราะ พูดด้วย

สุภาพ เพราะการใช้ ผู้ เ รี ย น อ ยู่ ใ น พิ ธี เ ป็ น ก า ร เ ป็ น ง า น ตลกขบขัน ในงาน ความจริงใจ ไม่

คำาพูดท่ีไม่สุภาพ ไหว้ครู แล้วจำาเป็น ไม่พูดเย้าแหย่ใน แต่งงานควรใช้คำา เสเเสร้ง ก็จะทำาให้

อาจนำาไปสู่ความ ต้องพูดกับเพื่อน ข ณ ะ ที่ มี อ า ร ม ณ์ พูดท่ีเป็นสิริมงคล ผู้ฟังหรือคู่สนทนา

ขัดแยง้ ได้ ควรพดู โดยใชน้ า้ำ เสยี ง โกรธ เปน็ ตน้ ไม่ควรพูดล้อเล่น พอใจ

เบาเพ่ือไมใ่ หร้ บกวน ใ ห้ คู่ บ่ า ว ส า ว เ กิ ด

ผู้อ่นื ความระแวงแคลงใจ

กนั เป็นตน้

asean การเรียนรู้สู่อาเซียน 1.3.2 การเป็นผฟู้ ังท่ีด ี ควรคำานงึ ถึงส่ิงตอ่ ไปน้ี
การบรู ณาการค�ำ ศพั ทภ์ าษาองั กฤษทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั เนอ้ื หาในบทเรยี น 1) ตง้ั ใจฟงั พยายามจบั เนอ้ื หาและทำาความเขา้ ใจในเรอ่ื งทผี่ พู้ ดู กำาลงั พดู ตอ้ งมสี มาธิ
ช่วยให้ผู้เรียนได้เพ่ิมพูนความรู้ภาษาอังกฤษ และมีเจตคติที่ดี
ในการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษท่ีใช้เป็นภาษากลางในการทำ�งาน จดจอ่ ในการฟงั
ของอาเซียน 2) ตอ้ งคดิ ตาม คอื คดิ ตามไปกบั เรอ่ื งทกี่ าำ ลงั ฟงั ดว้ ยการใชว้ จิ ารณญาณอยา่ งมเี หตผุ ล
3) ไม่ขดั จังหวะผู้พดู คือ ไม่พดู สอดแทรก โตแ้ ยง้ หรอื ซกั ถามเม่ือผพู้ ูดยงั พูดไมจ่ บ

เม่ือผพู้ ูดพดู จบแล้วจึงโตแ้ ย้งหรอื ซักถามได ้
4) ต้องควบคุมอารมณ์ในการฟัง เม่ือไม่พอใจในคำาพูดหรือไม่อยากฟังผู้นั้นพูด

ตอ้ งรู้จักเกบ็ อารมณ์ท่ไี ม่ดไี ว ้ ไม่แสดงอารมณ์ไม่พอใจออกมา จงึ จะนับไดว้ ่าเปน็ ผ้ฟู งั ท่ีดี
5) แสดงความสนใจผู้พูด ทำาได้ด้วยการมองสบตาผู้พูดในบางจังหวะ พยักหน้า

เมอ่ื เหน็ ด้วย จะทาำ ให้ผู้พูดมีกาำ ลงั ใจในการพูด

2. ทกั ษะการสร้างสมั พันธภาพ

2.1 ความสำาคัญของการสร้างสัมพันธภาพ

ทักษะการสร้างสัมพันธภาพ เป็นทักษะที่ช่วยให้บุคคลมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน สามารถ
ท่ีจะรักษาและดำารงไว้ซึ่งความสัมพันธ์อันดีกับผู้อ่ืน การรักษาสัมพันธภาพท่ีดีกับสมาชิกในครอบครัว
เป็นพ้ืนฐานในการสร้างสัมพันธภาพทางสังคม ครอบครัวประกอบด้วย สามี ภรรยา หรือ พ่อ แม่ ลูก
หรืออาจรวมเป็นครอบครัวใหญ่ คนในครอบครัวย่อมมีความเก่ียวข้องสัมพันธ์กัน มีความเข้าอกเข้าใจ
จึงจะอยรู่ ว่ มกันได้อยา่ งมคี วามสขุ

2.2 หลักในการสรา้ งสมั พันธภาพ

การสร้างสัมพนั ธภาพมหี ลกั การ ดงั น้ี
2.2.1 ลูกต้องมีความกตญั ญกู ตเวทตี ่อพอ่ แม่และบรรพบุรษุ
2.2.2 เด็กควรเคารพผู้ใหญ ่ ผู้ใหญ่เองก็ควรรับฟังความคิดเห็นของเด็ก โดยเด็กจะต้องพูด
หรือชีแ้ จงกบั ผ้ใู หญอ่ ยา่ งสภุ าพ ไม่ก้าวรา้ ว
2.2.3 สมาชกิ ในครอบครวั ควรรักและซ่อื สัตย์ มคี วามเอื้ออาทร หว่ งใยซงึ่ กนั และกัน
2.2.4 สมาชิกของสังคมควรให้ความร่วมมือช่วยเหลือกัน ไม่เอาเปรียบ และทำาหน้าที่ของ
ตนเองให้ดีท่ีสุด
2.2.5 สมาชิกของสังคมควรร่วมกันขจัดปัญหาและความขัดแย้งต่างๆ ที่เกิดขึ้นด้วย
ความรกั ความเข้าใจ และความเหน็ อกเห็นใจกนั
หากทุกคนรู้จักสร้างสัมพันธภาพที่ดีต่อกันจะเป็นการป้องกัน ลดความขัดแย้ง รวมท้ัง
แกป้ ญั หาในเร่ืองตา่ งๆ ไดด้ ขี ้นึ ด้วย

89 สุดยอดคู่มือครู

GPAS 5 STEPs 1. ขG้ันaรวtบhรeวrมinขg้อมูล 2. ข้ันคิดวิเPคrรoาะcหe์แsลsะiสnรgุปความรู้
บูรณาการทักษะศตวรรษท่ี 21
ทักษะชีวิต

ทักษะชวี ติ 85St ทักษะชีวิต
การนำ�ความรู้เรื่องทักษะชีวิตมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำ�วัน เพื่อ
3. ทักษะการตอ่ รองwldedge พฒั นาคณุ ภาพชวี ติ ซงึ่ เปน็ การเสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ ทมี่ ผี ลดตี อ่ ตนเอง
และสังคม
3.1 ความหมายของทกั ษะการตอ่ รองสงวนลิขสิท ิธ์ บริ ัษทพัฒนา ุคณภาพ ิวชาการ (พว.) ำจ�กัด
86 เพศวิถศี กึ ษา
ทักษะการต่อรอง หมายถึง กระบวนการติดต่อส่ือสารเพ่ือร่วมกันตัดสินใจและแก้ไขปัญหา 2. รบั ฟงั ขอ้ เสนออยา่ งตงั้ ใจ พรอ้ มทง้ั คดิ หาคาำ ตอบและคาำ พดู โตต้ อบ โดยการชงั่ ใจตนเองในประเดน็
โดยแต่ละฝา่ ยจะแสดงความตอ้ งการ ความรู้สกึ ความคดิ เหน็ ตลอดจนความคาดหวังของตนเองใหท้ ราบ ต่างๆ อยา่ งรวดเรว็ ละเอยี ดรอบคอบ
เพอื่ ใหเ้ กดิ การเปลย่ี นแปลงจากความตงั้ ใจเดมิ มาคลอ้ ยตามตนเอง โดยรกั ษาไวซ้ งึ่ สมั พนั ธภาพทดี่ ตี อ่ กนั 3. การไมแ่ สดงการตอบรบั หรอื ปฏเิ สธโดยทนั ท ี ดว้ ยการแสดงกริ ยิ าวาจา ทา่ ทางทท่ี าำ ใหอ้ กี ฝา่ ยเกดิ
ความรู้สกึ ในทางที่ไม่ดี เชน่ กิรยิ าวาจาที่ก้าวรา้ ว ดูถกู โกรธ เพราะจะกอ่ ใหเ้ กิดความเสียหายได ้
3.2 ความสำาคัญของการต่อรอง 4. การพดู หรือแสดงทา่ ทางที่เป็นมิตร และคอยหาโอกาสปฏเิ สธด้วยคำาวา่ “ขอโทษ” หรอื “เสยี ใจ”
ทไี่ ม่สามารถตอบสนองความต้องการได้
ทักษะการต่อรองจะต้องใช้ทักษะการส่ือสารและทักษะการสร้างสัมพันธภาพ ที่มีผลต่อ 5. การแสดงความรู้สึกของตนเองพร้อมการให้เหตุผล โดยแสดงถึงข้อด ี ข้อเสีย ที่จะเกิดข้ึนจาก
การร่วมกันตัดสินใจ การยอมลดระดับความต้องการ เพ่ือคล่ีคลายปัญหาท่ีเกิดขึ้น ความสำาเร็จของ สถานการณ์นั้นๆ
การต่อรองจะต้องเป็นที่ยอมรับของท้ังสองฝ่าย ทักษะการต่อรองเป็นส่ิงที่ใช้ปฏิบัติกันในชีวิตประจำาวัน 6. การรู้จักผัดผ่อนหรือหลีกเล่ียงจากสถานการณ์ เช่น การขอให้หยุดการกระทำานั้น ควรใช้วิธี
เชน่ การตอ่ รองราคาในการซอื้ ขายสนิ คา้ การตอ่ รองในการยมื คนื สง่ิ ของ เปน็ ตน้ การตอ่ รองมคี วามสำาคญั ผดั ผ่อนไว้โอกาสหน้า พยายามออกไปจากสถานการณ์ทไี่ ม่ปลอดภัยน้นั
ดังน ี้ 7. การพยายามใชท้ กั ษะการสอื่ สารด้วยคำาพดู ที่จะทาำ ใหต้ นเองเอาตัวรอดจากสถานการณน์ ้ัน เชน่
การพดู หลอกลอ่ หรือโกหกเพ่อื เอาตัวรอด
3.2.1 การปกป้องสิทธิของตนเอง เพื่อป้องกันความเสียหายอันอาจเกิดข้ึนจากสถานการณ์ 8. การยดื หยุ่น รู้จกั ผ่อนหนกั ผ่อนเบา จะช่วยใหก้ ารต่อรองมผี ลมากยงิ่ ขนึ้
ต่างๆ
4. ทกั ษะการปฏิเสธ
3.2.2 การรกั ษาสทิ ธขิ องตน เพอ่ื แสดงถงึ จดุ ยนื หรอื ความตอ้ งการของตนเอง ซงึ่ เปน็ สทิ ธสิ ว่ น
บคุ คลท่ีพึงกระทาำ 4.1 ความหมายของทักษะการปฏเิ สธ

3.2.3 การลดระดับความเสียหายหรือความส้ินเปลืองที่จะเกิดขึ้น ซ่ึงถ้าไม่มีการต่อรองแล้ว ทกั ษะการปฏเิ สธ เปน็ ทกั ษะการสอ่ื สารเพอื่ แสดงความรสู้ กึ นกึ คดิ ของตนเองใหผ้ อู้ น่ื รบั รแู้ ละ
จะเกิดความเสยี หาย และสน้ิ เปลืองมากกวา่ ยอมรับวา่ ตนเองไม่เห็นด้วย โดยไม่เสยี สมั พันธภาพอนั ดตี อ่ กนั

3.2.4 การสร้างความสัมพันธ์ เพ่ือความเข้าใจอันดีระหว่างบุคคลหรือกลุ่มคนในการทำา 4.2 องค์ประกอบของการปฏเิ สธ
กิจกรรมตา่ งๆ ใหบ้ รรลุตามวัตถุประสงคข์ องทงั้ สองฝ่าย
การปฏเิ สธมอี งค์ประกอบ ดงั น้ี
3.2.5 เปน็ กระบวนการพฒั นาการทาำ งานร่วมกนั อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ เพ่อื การพัฒนาตนเอง 4.2.1 คณุ ลกั ษณะของการปฏิเสธ
และพัฒนากลุ่มอีกดว้ ย 1) การปฏิเสธเป็นสิทธิและความตอ้ งการส่วนบคุ คลโดยชอบธรรมทจี่ ะปฏิเสธ
2) การทจี่ ะปฏิเสธหรอื ไมน่ ้นั ต้องข้ึนอยกู่ บั สถานการณ์ใดสถานการณ์หน่งึ เพราะใน
3.2.6 การปลูกจิตสำานึกในหน้าท่ีและกิจกรรมต่างๆ เพื่อการพัฒนา การจัดการ และ เร่อื งเดียวกนั แตถ่ า้ มีสถานการณท์ ่ีแตกตา่ งกนั กอ็ าจปฏิเสธไดท้ ั้งทีใ่ นสถานการณค์ รง้ั กอ่ นไมป่ ฏิเสธ
การประเมินตนเองอยา่ งเหมาะสมในการดำาเนินชวี ติ 3) การพิจารณาถึงพฤติกรรม วา่ พฤติกรรมนน้ั ควรปฏิเสธหรอื ไม่
4) การมีองค์ประกอบในด้านความรู้สึก การแสดงพฤติกรรมที่ต้องการ และ
3.2.7 เป็นกระบวนการคิด วเิ คราะห์ คาดการณ ์ ประเมินสถานการณ์ โดยใชก้ ระบวนการ ความคิดเห็นสว่ นบุคคลเขา้ มาเก่ียวขอ้ ง
ในเชิงบูรณาการทักษะชีวิตหลายๆ ทักษะของบุคคล เช่น ทักษะการส่ือสาร ทักษะการสร้างสัมพันธภาพ 4.2.2 หลกั การปฏิเสธ
ในขณะเผชญิ ปัญหา และมกี ารต่อรองอย่างรอบคอบ 1) ควรปฏิเสธด้วยคำาพูด นำ้าเสียง ท่าทางที่จริงจังแต่มีความสุภาพ เพื่อแสดง
ความตัง้ ใจจริงอยา่ งชดั เจนในการปฏิเสธ
3.2.8 การกอ่ ใหเ้ กิดความเมตตาตอ่ กัน รจู้ กั เห็นอกเหน็ ใจผู้อ่นื เคารพสิทธิผอู้ ืน่ อันจะก่อให้
เกดิ การลดความขัดแย้ง และเกดิ ความสงบสุขในครอบครัวและสังคม

ตวั อยา่ ง การใชท้ กั ษะการตอ่ รอง
สถานการณท์ ี่ผู้หญงิ ถูกผู้ชายลวนลาม ฝา่ ยหญงิ ควรกระทำา ดังน้ ี
1. การต้งั สตใิ ห้ดี ไม่แสดงความตกใจ เครียด และหวาดกลวั มากจนเกินไป

ep 3

conAstructpipnlgyitnhge aknno ขน้ั ปฏบิ ัติและสรปุ ความรู้
หลังการปฏิบตั ิ

1. ผู้เรียนนำ�ข้อสรุปความรู้ความเข้าใจที่ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน
ระหว่างกลุ่มในช้ันเรียนมาวิเคราะห์ โดยการทำ�กิจกรรมตรวจสอบ
ความเขา้ ใจ (หนังสือเรยี น หนา้ 91)

2. กลมุ่ ผเู้ รยี นรว่ มกนั สรปุ แนวคดิ เกย่ี วกบั ทกั ษะชวี ติ จากนนั้ ท�ำ กจิ กรรม
ส่งเสริมการเรียนรู้ (หนังสือเรียน หนา้ 92)

สุดยอดคู่มือครู 90

Ap3.pขlyั้นiปnฏgิบัตanิแdละCสoรnุปsคtrวuาcมtiรnู้gหลthังeกาKรnปoฏwิบleัตdิ ge Appl4y.inขgั้นสt่ืhอeสาCรoแmลmะนu�ำnเiสcaนtอion Skill 5. ขS้ันeปlรfะ-เRมeินgเพu่ือlเaพt่ิมinคgุณค่า

ค่านิยมหลัก 12 ประการ กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก

asean

ทกั ษะชีวติ 87 ep 4
St
2) การแสดงความรสู้ กึ และพฤติกรรมประกอบไปกบั เหตุผล
3) การขอความเห็นร่วมกับการแสดงการขอบคุณ การขอโทษ เพ่ือรักษาน้ำาใจและ kille
สมั พนั ธภาพที่ดตี ่อกนั หลงั จากการปฏิเสธ mmpupnlyicinagtiotnh s ขัน้ สือ่ สารและนำ� เสนอAco
4) ควรมีสมาธิในการปฏิเสธเมื่อถูกรบเร้า ไม่ควรหว่ันไหวหรือลังเล ควรยืนยัน 1. ผเู้ รยี นแตล่ ะกลมุ่ ออกแบบหรอื หาวธิ นี �ำ เสนอใหผ้ อู้ นื่ รบั รแู้ ละสอ่ื สาร
การปฏิเสธ และหาทางออก ดังน ี้สงวนลิขสิท ิ์ธ บริษัทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) ำจ�กัด
(1) ควรปฏิเสธซ้ำาโดยไม่ต้องใช้ข้ออ้าง พร้อมท้ังกล่าวคำาอำาลา โดยไม่ฟังคำาพูด ได้อยา่ งมีประสิทธิภาพดว้ ยเทคนคิ วิธีทเ่ี หมาะสม บรู ณาการการใช้
อื่นใดอกี เพอ่ื ไมใ่ ห้เกิดความลังเลใจ หรือขาดความเชอ่ื มัน่ ในตนเอง ส่อื /เทคโนโลยี/คำ�ศพั ทเ์ พ่ิมเตมิ /สง่ิ ทน่ี า่ สนใจแทรกในการรายงาน
(2) ควรมีการต่อรองหรือผัดผอ่ น โดยการหากจิ กรรมอื่นมาทดแทน 2. สุม่ กลุม่ ผเู้ รียนน�ำ เสนอผลการสรุปความรูค้ วามเขา้ ใจ
(3) ควรมกี ารผดั ผ่อนโดยยดื ระยะเวลาออกไป เพอื่ ใหเ้ กดิ การเปล่ียนใจ
4.2.3 การเลือกใชท้ กั ษะการปฏิเสธ 88 เพศวิถีศึกษา
1) เมื่อไม่ชอบหรือไม่ต้องการร่วมกิจกรรมต่างๆ ซ่ึงทำาให้เกิดความอึดอัดหรือ
คับข้องใจกค็ วรใช้ทกั ษะการปฏิเสธ 5. ทักษะการคดิ วิเคราะห์
2) เมื่อรู้สึกลังเลใจต่อการเลือกสถานการณ์ใดสถานการณ์หนึ่ง ก็ควรใช้ทักษะ
การปฏิเสธสถานการณ์ใดสถานการณห์ นง่ึ เสีย 5.1 ความหมายของทักษะการคิดวิเคราะห์

3) เมอ่ื รสู้ กึ วา่ สถานการณน์ นั้ เสยี่ งตอ่ ตนเอง ควรใชท้ กั ษะการปฏเิ สธในสถานการณน์ น้ั ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห ์ เปน็ การคดิ อนั จะนาำ ไปสกู่ ารตดั สนิ ใจ โดยใชข้ อ้ มลู ทมี่ อี ยคู่ ดิ ใครค่ รวญ
ถึงเหตุผล สามารถตอบคำาถามได้ว่าท่ีทำาเช่นน้ีเพราะคิดอย่างไร ผู้ใช้ทักษะการคิดวิเคราะห์จะเป็นผู้ที่มี
4.3 ประโยชนข์ องการปฏิเสธ เหตผุ ล และคาดหมายผลท่จี ะเกดิ ในอนาคตไดค้ ่อนขา้ งแม่นยำา

4.3.1 เป็นการแสดงสิทธิอันชอบธรรมของบุคคลต่อการแสดงความรู้สึกไม่พอใจ 5.2 ความสำาคัญของทกั ษะการคิดวิเคราะห์
ความขัดแยง้ ของตนเอง ตอ่ ผู้อนื่ โดยไม่เสียสมั พนั ธภาพ
4.3.2 ทำาให้เกดิ ความปลอดภัยหรอื ป้องกนั การเกิดความสญู เสียอาจเกดิ ขน้ึ ได้ ผู้ที่สามารถคิดวิเคราะห์ได้ดีจะต้องเป็นบุคคลท่ีอ่านมาก ฟังมาก มีข้อมูลต่างๆ และ
4.3.3 ใช้ในการแก้ไขปัญหา รวมทง้ั สถานการณ์เส่ยี งต่อสุขภาพและเหตกุ ารณต์ า่ งๆ ในชวี ติ เป็นคนช่างคิด มีเหตุผล ดังนั้นจึงต้องฝึกฝนตนเอง ฝึกคิดวิเคราะห์บ่อยๆ แล้วพิจารณาว่าผลท่ีเกิดขึ้น
4.3.4 เปน็ การระงบั ความขดั แย้งหรือเพ่อื การรกั ษาสมั พนั ธภาพทีด่ ตี อ่ กันใหค้ งอยู่ เป็นจริงตามท่ีคิดวิเคราะห์ไว้หรือไม่ และต้องมีการปรับปรุงและพัฒนาการคิดวิเคราะห์อยู่เสมอ
ตัวอยา่ ง การใชท้ กั ษะการปฏเิ สธ เพอ่ื เพิม่ ความชาำ นาญ
บอยมาหาบีที่บ้านเพื่อช่วยกันทำารายงาน หลังทำารายงานเสร็จ บอยจึงใช้คำาพูดขอหอมแก้มบี
และบอกว่ารักบมี าก 5.3 หลกั ในการคิดวิเคราะห ์
บอย : “เราขอหอมแกม้ บไี ดม้ ย้ั บอยรักบนี ะ”
บ ี : “บีวา่ อยา่ ดีกว่านะ มนั ไม่เหมาะสม เพราะเรายังเด็กกนั อย ู่ อย่าทำาอะไรแบบน้ีเลย” การคดิ วิเคราะห ์ เป็นความสามารถในการจำาแนกแยกแยะองคป์ ระกอบต่างๆ ของสิ่งหนงึ่ สง่ิ ใด
บอย : “บีไมร่ กั บอยเหรอ” ซึ่งอาจเป็นเรื่องราวหรือเหตุการณ์และหาความสัมพันธ์ของเหตุผลระหว่างองค์ประกอบ เพื่อค้นหา
บ ี : “บีก็รักบอย แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา เราควรเป็นเพ่ือนกันไปก่อน และทำาหน้าที่ ความเปน็ จริง หรือสง่ิ สาำ คัญ คาำ ถามท่ีมกั ใช้กับการคดิ วเิ คราะห์ คือ 5W 1H ประกอบดว้ ย What (อะไร)
ของตนเองให้ดีท่ีสุด เรียนหนังสือให้จบ มีงานทำาและสามารถรับผิดชอบตนเอง Where (ท่ีไหน) When (เมอ่ื ใด) Why (ทาำ ไม) Who (ใคร) How (อย่างไร) รวบรวมขอ้ มลู มาจัดระบบ
ได ้ นนั่ คือเวลาทเี่ หมาะสมสาำ หรบั เร่ืองน”้ี หรือเรียบเรียงให้ง่ายแก่การทำาความเข้าใจ การคิดวิเคราะห์เป็นการคิดคิดเชิงลึกอย่างละเอียด
บอย : “บอยขอโทษ ต่อไปบอยจะไม่ทำาอย่างนีอ้ กี ” จากเหตุไปสู่ผล เช่ือมโยงความสมั พันธ์

5.4 ประโยชนข์ องการคิดวิเคราะห์

5.4.1 ช่วยให้รูข้ อ้ เท็จจรงิ เหตผุ ลของสง่ิ ท่ีเกดิ ข้นึ ความเปน็ มาเปน็ ไปของเหตกุ ารณต์ า่ งๆ
5.4.2 การนำาข้อมลู ทไ่ี ด้จาการวเิ คราะหไ์ ปใช้ในการตดั สินใจแก้ปญั หา
5.4.3 การหาเหตุผลทส่ี มเหตุสมผลให้กบั สิง่ ทีเ่ กดิ ขึ้นจรงิ
5.4.4 ชว่ ยประมาณความน่าจะเป็นหรือคาดการณ์สง่ิ ทเ่ี กิดขนึ้ เพือ่ หาวธิ ีการแก้ปญั หา

91 สุดยอดคู่มือครู

GPAS 5 STEPs 1. ขGั้นaรวtบhรeวrมinขg้อมูล 2. ข้ันคิดวิเPคrรoาะcหe์แsลsะiสnรgุปความรู้
บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21
ทักษะชีวิต

ทกั ษะชีวิต 89

6. ทกั ษะการตัดสนิ ใจ

6.1 ความหมายของการตัดสนิ ใจ

ทักษะการตัดสินใจ เป็นทักษะที่จะนำาไปสู่พฤติกรรมการดำาเนินชีวิตของบุคคล โดยมี
การประเมินทางเลือก และผลจากการตดั สินใจจะทาำ ให้เกดิ การเปลีย่ นแปลงข้นึ กบั บุคคลน้ัน

6.2 กระบวนการในการตดั สนิ ใจ

การตัดสินใจเป็นกระบวนการซ่ึงแยกเป็น 6 ขน้ั ตอน ดังนี้
6.2.1 การกาำ หนดหรอื ระบปุ ญั หา เปน็ พนื้ ฐานของการสงั เกตพฤตกิ รรมของบคุ คล สถานการณ์
ทข่ี ัดแยง้ จะช่วยให้บุคคลเกิดความคิดและมจี นิ ตนาการ เพ่ือจะเกดิ แนวทางตา่ งๆ
6.2.2 คน้ หารวบรวมขอ้ มูลที่เปน็ ประโยชน์ เพื่อการตดั สนิ ใจ
6.2.3 หาทางเลือกท่มี ีอยูว่ ่ามกี ่หี นทาง
6.2.4 หาข้อดีและขอ้ เสียของแต่ละทางเลือก
6.2.5 ตัดสินใจเลือกทางเลือกที่เหมาะสม โดยพิจารณาจากความรู้ เจตคติ และค่านิยม
จากประสบการณ์ท่มี อี ยู่
6.2.6 ประเมินผลจากการตัดสินใจ วา่ ตดั สนิ ใจถกู หรอื ผดิ เกดิ ผลดหี รอื ผลเสยี อยา่ งไร

ตัวอย่าง การใชท้ กั ษะการตัดสินใจ
การตดั สนิ ใจทด่ี จี ะชว่ ยในการป้องกัน ลดความขัดแยง้ และแก้ปัญหาเร่อื งเพศและครอบครัวได้
โอต๊ ชวนตุ๊กตาไปดหู นงั รอบดกึ สองคน ตกุ๊ ตากาำ ลังตดั สินใจวา่ จะไปหรือไม่ไป

ไป ไม่ไป
St
ขอ้ ดี ข้อเสยี ขอ้ ดี ข้อเสีย
ting- ดูหนังสนกุ
- กลับบ้านดึกโดนพ่อแมด่ ุ - ไดอ้ า่ นหนังสือทาำ การบา้ น - โอ๊ต
สงวน ิลข ิสท ิธ์ บ ิร ัษท ัพฒนา ุคณภาพ ิวชาการ (พว.) ำจ�กัด- เส่ียงตอ่ อนั ตรายทางเพศ- พอ่ แมส่ บายใจ อาจโกรธ
- ไม่ไดอ้ า่ นหนงั สือ - ไมเ่ ส่ยี งตอ่
การเกดิ อนั ตรายต่างๆ

ตุ๊กตาจึงตดั สินใจไมไ่ ปดูหนังกับโอ๊ตโดยใหเ้ หตผุ ลวา่ ต้องเตรยี มตัวอ่านหนงั สอื สอบ 90 เพศวถิ ศี กึ ษา

ep 5Sel ข้นั ประเมนิ เพอ่ื เพม่ิ คุณคา่ 7. ทกั ษะการแก้ไขปญั หา
บรกิ ารสังคมและจติ สาธารณะ
f-Regula 7.1 ความหมายของทกั ษะการแกป้ ญั หา

1. ผู้เรียนแต่ละกลุ่มและรายบุคคลตรวจสอบความรู้ความเข้าใจ ทกั ษะการแกไ้ ขปญั หา เป็นทักษะที่ต้องทาำ หลังจากใชท้ ักษะการตดั สนิ ใจเลือกแนวทางปฏิบตั ิ
ของตนเองหลังจากรับฟังการนำ�เสนอของสมาชิกกลุ่มอ่ืน ปรับปรุง โดยใช้เหตุผลและสติในการแก้ไขปัญหาอย่างรอบคอบแทนการใช้อารมณ ์ เพ่ือให้ปัญหาคล่ีคลายไปใน
ชน้ิ งานของกลุ่มตนเองใหส้ มบรู ณ์และบันทึกเพม่ิ เตมิ ทางทถี่ กู ตอ้ ง

2. น�ำ ผลงานแสดงในปา้ ยนเิ ทศหรอื เผยแพรส่ หู่ อ้ งเรยี นอน่ื หรอื สาธารณะ 7.2 ความสาำ คญั ของทักษะการแกป้ ัญหา
3. ผู้เรียนแต่ละคนทำ�แบบทดสอบ (หนังสือเรียน หน้า 94-95)
การแก้ปัญหาโดยใช้เหตุผลจะทำาให้ปัญหาต่างๆ ได้รับการแก้ไขให้สำาเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
แลกเปล่ียนกันตรวจให้คะแนน จากน้ันประเมินสรุปผล ช่วยป้องกนั และลดความขดั แยง้ จึงต้องฝึกใชเ้ หตผุ ลในการแกป้ ัญหาจนเป็นนสิ ัย และต้องร้จู ักแยกแยะ
การทำ�กิจกรรม (หนังสือเรียน หน้า 93) ทำ�แบบประเมินตนเอง อารมณ ์ ความรสู้ กึ ทเี่ กดิ ขนึ้ พรอ้ มทง้ั ตอ้ งฝกึ การควบคมุ อารมณท์ เี่ กดิ ขนึ้ เพอื่ ไมใ่ หอ้ ารมณเ์ ขา้ ไปมบี ทบาท
(หนังสอื เรียน หนา้ 96) และกำ�หนดแนวทางการพัฒนาตนเอง ในการแก้ปัญหา เพราะอาจส่งผลเสยี ต่อการแกป้ ญั หา

ตวั อย่าง การใชท้ กั ษะการแกป้ ญั หา

เอกับบีชักชวนกันไปเทย่ี วหา้ งสรรพสนิ ค้าหลังเลกิ เรยี น
เอ : “บเี ราชอบชดุ น้มี ากเลย อยากได้จงั แต่เงนิ ไมพ่ อเอาไงด”ี
บี : “เจ้าของเคา้ ไม่เหน็ จิก๊ เลย”
เอ : “ไม่ไดห้ รอกเดย๋ี วโดนตำารวจจับ”
บี : “กล้องก็ไม่ม ี ใครจะมาเหน็ หยิบเลย เร็วๆ ซ”ิ
เอ : “ไมล่ ะ เดย๋ี วเราเกบ็ เงนิ ใหค้ รบแลว้ ค่อยมาซ้ือดีกวา่ ถึงกล้องไมม่ แี ต่เราก็
ไมอ่ ยากขโมยหรอก”
บี : “ตามใจ งน้ั รีบกลบั กนั เถอะ เยน็ มากแล้ว”

สุดยอดคู่มือครู 92

Ap3.pขly้ันiปnฏgิบัตanิแdละCสoรnุปsคtrวuาcมtiรnู้gหลthังeกาKรnปoฏwิบleัตdิ ge Appl4y.inขgั้นสtื่hอeสาCรoแmลmะนu�ำnเiสcaนtอion Skill 5. ขS้ันeปlรfะ-เRมeินgเพuื่อlเaพtิ่มinคgุณค่า

ค่านิยมหลัก 12 ประการ กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก

asean

ทักษะชีวิต 91สงวนลิข ิสทธิ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด

กจิ กรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ

ค�ำ ชแ้ี จง กิจกรรมตรวจสอบคว�มเข้�ใจเป็นกิจกรรมฝึกทักษะเฉพ�ะด้�นคว�มรู้-คว�มจำ� เพ่ือใช้ใน
ก�รตรวจสอบคว�มเข้�ใจต�มจดุ ประสงคก์ �รเรียนรู้
จงตอบคำ�ถ�มตอ่ ไปนีใ้ ห้ถกู ตอ้ ง
1. จงอธบิ ายความหมายและความสำาคญั ของทักษะการสอื่ สาร โดยสงั เขป (จ.1)

(แนวทางการตอบ ทักษะสือ่ สาร หมายถงึ ความสามารถในการใชค้ ำาพดู และภาษาทา่ ทาง เพือ่ แสดงความร้สู กึ นึกคิดของตนเอง
อย่างเหมาะสมกับสภาพวัฒนธรรมและสถานการณ์ต่างๆ การมีทักษะในการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพทำาให้มีความเข้าใจ
ชว่ ยปอ้ งกันและลดความขัดแย้งได้ หรืออนื่ ๆ ข้นึ อยกู่ ับดลุ ยพินิจของผสู้ อน)

2. จงอธบิ ายหลักการของทักษะการสร้างสัมพนั ธภาพ โดยสังเขป(จ.2)

(แนวทางการตอบ หลกั การของทักษะการสรา้ งสัมพนั ธภาพ คอื ลูกต้องมีความกตัญญูต่อพ่อแม่และบรรพบุรุษ เด็กควรเคารพ
ผใู้ หญ่ สมาชกิ ในครอบครวั ควรรกั และซอื่ สตั ยต์ อ่ กนั สมาชกิ ของสงั คมควรใหค้ วามรว่ มมอื ชว่ ยเหลอื กนั และรว่ มกนั ขจดั ปญั หา
และความขัดแย้งตา่ งๆ ดว้ ยความรกั ความเขา้ ใจ หรืออื่นๆ ขึ้นอยูก่ ับดลุ ยพนิ จิ ของผู้สอน)

3. จงอธิบายถงึ หลักการของทกั ษะการตอ่ รองและทกั ษะการปฏิเสธ โดยสังเขป (จ.3,จ.4)

(แนวทางการตอบ ทกั ษะการต่อรอง เรม่ิ จากตอ้ งต้ังสติ รับฟงั ขอ้ เสนออย่างต้ังใจ พูดหรอื แสดงทา่ ทเี ปน็ มติ ร พยายามใชท้ กั ษะ
ส่ือสารด้วยคำาพูดท่ีทำาให้ตัวเองรอดจากสถานการณ์นั้น ทักษะการปฏิเสธ ต้องปฏิเสธด้วยคำาพูด นำ้�เสียงท่ีจริงจังแต่สุภาพ
มสี มาธใิ นการปฏเิ สธเมือ่ ถกู รบเรา้ ไม่หว่นั ไหวหรอื ลงั เล หรอื อ่นื ๆ ข้ึนอยกู่ ับดุลยพินิจของผู้สอน)

4. จงอธบิ ายถึงคณุ ลักษณะของบคุ คลท่ีมที ักษะการคิดวเิ คราะห์ทด่ี ี โดยสงั เขป (จ.5)

(แนวทางการตอบ คณุ ลกั ษณะของบคุ คลทม่ี ที กั ษะการคดิ วเิ คราะหท์ ดี่ ี เปน็ ผทู้ มี่ เี หตผุ ลและคาดหมายผลทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ ในอนาคต
ไดอ้ ย่างแม่นยำา หรอื อืน่ ๆ ขนึ้ อยู่กับดุลยพนิ ิจของผ้สู อน)

5. จงอธบิ ายวิธีการตดั สินใจและการแก้ไขปัญหา โดยสังเขป (จ.6,จ.7)

(แนวทางการตอบ ทกั ษะการตดั สนิ ใจ เร่ิมจากการกาำ หนดหรอื ระบุปญั หา การรวบรวมข้อมูล การค้นหาทางเลอื ก การหาข้อดี
ขอ้ เสยี ของแตล่ ะทางเลอื ก ตดั สนิ ใจเลอื กทางเลอื กทเี่ หมาะสม ประเมนิ ผลจากการตดั สนิ ใจ ทกั ษะการแกไ้ ขปญั หาตอ้ งใชเ้ หตผุ ล
รจู้ ักแยกแยะและควบคุมอารมณ์ในการแกป้ ัญหา หรอื อ่ืนๆ ขึน้ อยู่กับดลุ ยพนิ ิจของผู้สอน)

จ. หมายถึง ตรงตามจุดประสงค์การเรยี นรู้ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 5 ข้อท่ี ...

ค่านิยมหลัก 12 ประการ
• มีศีลธรรม รักษาความสัตย์ หวังดีต่อผู้อ่ืน เผื่อแผ่และแบ่งปัน
• ใฝ่หาความรู้ หมั่นศึกษาเล่าเรียนทง้ั ทางตรงและทางอ้อม

93 สุดยอดคู่มือครู

GPAS 5 STEPs 1. ขGั้นaรวtบhรeวrมinขg้อมูล 2. ขั้นคิดวิเPคrรoาะcหe์แsลsะiสnรgุปความรู้
บูรณาการทักษะศตวรรษท่ี 21
ทักษะชีวิต

92 เพศวิถีศกึ ษา กจิ กรรมสง่ เสรมิ การเรยี นรเู้ ปน็ กจิ กรรมทผ่ี สู้ อนใหผ้ เู้ รยี นปฏบิ ตั ทิ กุ ขอ้
หรือเลือกปฏิบัติเป็นบางข้อตามความเหมาะสม โดยผู้สอน
กจิ กรรมส่งเสริมการเรียนรู้ ใหค้ ะแนนการท�ำ กจิ กรรมตามเกณฑข์ องใบสรปุ ผลการท�ำ กจิ กรรม
และสามารถนำ�ผลการทำ�กิจกรรมไปเทียบกับการให้คะแนนกับ
คาำ ชแี้ จง กจิ กรรมสง่ เสรมิ การเรยี นรปู้ ระกอบดว้ ยกจิ กรรมหลากหลายทฝ่ี กึ ทกั ษะทกุ ดา้ นตามจดุ ประสงค์ ตารางวิเคราะห์ความสอดคล้องของเนื้อหากับจุดประสงค์รายวิชา
เชิงพฤติกรรมเพื่อให้เกิดสมรรถนะในการเรียนร ู้ สามารถปฏิบัติกิจกรรมท้ังในและนอกสถานที่ สมรรถนะรายวิชา และจดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรมได้

ตามความเหมาะสมกับผู้เรียนและสงิ่ แวดลอ้ มของสถานศกึ ษา

1. ให้ผู้เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3-5 คน เลือกข่าวสารจากหนังสือพิมพ์ วารสาร หรืออินเทอร์เน็ต ที่มี
ความเก่ียวข้องกับทักษะด้านต่างๆ ของวัยรุ่น มากลุ่มละ 1 ข่าว วิเคราะห์ข่าวที่เกิดข้ึน ส่งตัวแทน
กลุ่มมารายงานและใหเ้ พ่อื นร่วมชนั้ เรยี นร่วมกันอภิปราย
2. ให้ผเู้ รยี นเขยี นเรยี งความในหวั ขอ้ “ทักษะชวี ิตของขา้ พเจ้า” ผูส้ อนสุ่มผู้เรยี นมานำาเสนอหน้าชัน้ เรยี น
3. ให้ผ้เู รยี นเขียนผังความคดิ สรปุ เก่ยี วกบั ทกั ษะชวี ติ ทม่ี ีความสัมพันธก์ บั การดำารงชีวติ ของผู้เรยี น
4. ให้ผู้เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3-5 คน จับสลากเลือกทักษะชีวิตกลุ่มละ 1 ทักษะ แล้วให้แต่ละกลุ่ม
คดิ การแสดงบทบาทสมมติเกี่ยวกบั การใช้ทกั ษะชีวติ ในการแก้ปญั หา
5. ให้ผู้เรียนแบ่งกลุ่ม จัดทำาป้ายนิเทศเกี่ยวกับการใช้ทักษะชีวิตเพื่อลดความขัดแย้งในเรื่องเพศเพื่อ
เผยแพร่ใหผ้ ู้เรียนอน่ื ๆ ไดร้ บั ทราบข้อมูล
สงวนลิข ิสทธิ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด
ทกั ษะชวี ติ 93

สรุปผลการท�ากจิ กรรม

คำาชแี้ จง ใหผ้ ู้เรียนประเมินผลการทำากจิ กรรม โดยเขียนเครื่องหมาย ✓ลงในชอ่ ง ตามความเป็นจรงิ

กิจกรรมท้าทาย ความร ู้ (K) ทกั ษะ (P) คณุ ลกั ษณะ (A) เกณฑก์ ารประเมิน
ให้ผู้เรียนจัดป้ายนิเทศเรื่องการใช้ทักษะชีวิตเพ่ือลดความขัดแย้ง การมีมนุษยสัมพนั ธ์ใน ทาำ เครอ่ื งหมาย ✓
ในเรือ่ งเพศ ความรู ้ ความเข้าใจ การปฏบิ ตั ิงานทีไ่ ด้รับ
การนาำ ไปใช ้ การวเิ คราะห์ มอบหมายเสร็จตามเวลา การปฏิบัตกิ ิจกรรม ในแต่ละตอน 3 ข้อ
การสงั เคราะห์ ท่ีกาำ หนด ความมวี ินยั ตรงตอ่ เวลา คอื ผ่านการประเมนิ
การประเมินค่า การปฏบิ ัติงานด้วยความ ความซื่อสตั ย์สจุ รติ
ละเอียด รอบคอบ ปลอดภยั ในการทาำ งาน 1. ความรู ้ (K)
การศกึ ษาค้นควา้ เรียบรอ้ ย สวยงาม ประพฤติตนดว้ ยความ ผา่ น ไม่ผา่ น
การแสวงหาแหลง่ ขอ้ มูล
และการรวบรวมข้อมลู ความสมบูรณ์ของงาน ถกู ต้องตามศีลธรรม 2. ทกั ษะ (P)
การแสดงความคดิ เหน็ การปฏิบตั งิ านทที่ ำาให้เกิด อนั ดงี าม
อยา่ งมีเหตผุ ล หรือแสดง สมรรถนะแก่ผเู้ รยี น เจตคติท่ีดีในการปฏิบตั ิ ผา่ น ไม่ผ่าน
กิจกรรม
ข้นั ตอนและกระบวนการ ทักษะการวางแผน การคดิ 3. คุณลกั ษณะ (A)
ทำากิจกรรม สร้างสรรค์ การออกแบบ ความพอเพยี งและความ ผ่าน ไม่ผา่ น

การหาประสบการณ์ การผลิต พอประมาณ
ความรู้ใหม่ การตัดสินใจในการแกป้ ญั หา

หมายเหต ุ เกณฑ์การประเมินผลการทำากิจกรรม มีวัตถุประสงค์เพ่ือประเมินว่า ผู้เรียนเกิดสมรรถนะจากการเรียนรู้
ตามบริบทต่างๆ หรือไม่ โดยแบ่งเป็น 3 ด้าน คือ ความรู้หรือพุทธิพิสัย = Knowledge (K) ทักษะหรือ
ทักษะพิสยั = Practice (P) คณุ ลกั ษณะหรอื จิตพสิ ยั = Attitude (A)

สุดยอดคู่มือครู 94

Ap3.pขly้ันiปnฏgิบัตanิแdละCสoรnุปsคtrวuาcมtiรnู้gหลthังeกาKรnปoฏwิบleัตdิ ge Appl4y.inขgั้นสtื่hอeสาCรoแmลmะนu�ำnเiสcaนtอion Skill 5. ขSั้นeปlรfะ-เRมeินgเพuื่อlเaพtิ่มinคgุณค่า

ค่านิยมหลัก 12 ประการ กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก

asean

94 เพศวิถศี กึ ษา ผู้สอนให้ผู้เรียนทำ�แบบทดสอบ จากนั้น
ให้ผู้เรียนแลกกันตรวจคำ�ตอบ โดยผู้สอน
แบบทดสอบ เป็นผ้เู ฉลย

ตอนท่ี 1 จงเตมิ ข้อมลู ลงในผงั สาระสาำ คญั ใหส้ มบูรณ์
สงวนลิข ิสทธิ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด
1. ทกั ษะการสอ่ื สาร คือ ความสามารถในการใช้คำาพูดและภาษาท่าทางเพ่ือแสดง

ความร้สู ึกนึกคิดของตนอยา่ งเหมาะสมกบั สภาพวฒั นธรรมและสถานการณ์ตา่ งๆ

2. ทกั ษะการสร้างสัมพันธภาพ เป็นทักษะท่ีช่วยให้บุคคลมีความสัมพันธ์ท่ีดี

ตอ่ กัน สามารถท่ีจะดำารงรักษาไวซ้ ึ่งความสมั พนั ธ์อันดีกับผู้อน่ื

3. ทักษะการตอ่ รอง กระบวนการติดต่อสื่อสารเพื่อร่วมตัดสินใจและแก้ไขปัญหา โดยแต่ละฝ่าย

แสดงความตอ้ งการและความคดิ เหน็ เพอ่ื ใหเ้ กดิ การเปลย่ี นแปลงจากความตงั้ ใจเดมิ มาคลอ้ ยตามตนเอง

ทักษะชีวิต 4. ทกั ษะการปฏิเสธ เปน็ ทักษะการส่ือสารเพื่อแสดงความรูส้ กึ นกึ คดิ ของตนเอง

ใหผ้ อู้ ืน่ รับร้แู ละยอมรับวา่ ตนเองไม่เหน็ ดว้ ย

5. ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ เป็นการคิดอันนำาไปสู่การตัดสินใจ โดยใช้ข้อมูลที่มีอยู่

ใคร่ครวญถงึ เหตุผล

6. ทกั ษะการตัดสนิ ใจ เป็นทักษะท่ีจะนำาไปสู่พฤติกรรมการดำาเนินชีวิตของบุคคล

โดยมกี ารประเมินทางเลอื กและผลการตัดสินใจจะทาำ ใหเ้ กิดการเปลยี่ นแปลง

7. ทกั ษะการแก้ปญั หา เป็นทักษะที่ต้องทำาหลังจากใช้ทักษะการตัดสินใจ โดยใช้

เหตุผลและสตใิ นการแกไ้ ขปัญหาอยา่ งรอบคอบแทนการใชอ้ ารมณ์

95 สุดยอดคู่มือครู

GPAS 5 STEPs 1. ขGั้นaรวtบhรeวrมinขg้อมูล 2. ขั้นคิดวิเPคrรoาะcหe์แsลsะiสnรgุปความรู้
บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21
ทักษะชีวิต

ทกั ษะชวี ติ 95
8. ผู้เรยี นคิดว�่ ทกั ษะใดช่วยปอ้ งกนั ปญั ห�ในเร่ืองเพศได้ ขน้ึ อยู่กับดลุ ยพนิ ิจของผ้สู อน

สงวนลิข ิสทธิ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด9. ก�รจัดก�รกับอ�รมณแ์ ละคว�มเครียดส�ม�รถทำ�ไดอ้ ย่�งไร ท�ำ กจิ กรรมทีต่ นเองชอบ เช่น อ�่ นหนงั สือ

เล่นดนตรี เล่นกีฬ� เป็นตน้

10. ผ้เู รียนมแี นวท�งในก�รป้องกันและแกไ้ ขปัญห�ก�รล่วงละเมิดท�งเพศอย่�งไร ใช้ทักษะก�รต่อรอง

เริ่มต้นด้วยก�รตัง้ สติและรับฟังขอ้ เสนอ แสดงท�่ ทที ี่เป็นมิตร แสดงคว�มร้สู ึกของตนเอง พร้อมทั้งใหเ้ หตุผล และพย�ย�ม
ใชท้ ักษะก�รส่อื ส�รด้วยค�ำ พูดทท่ี ำ�ให้ตนเองหลุดพ้นจ�กสถ�นก�รณ์นั้น

ตอนที่ 2 จงขีดเครือ่ งหมาย ✓หน้าขอ้ ความที่ถูกตอ้ งและเครอื่ งหมาย ✗ หน้าขอ้ ความท่ผี ดิ

✓ 1. ก�รเป็นผู้ฟังที่ดีควรจับเนื้อห�และทำ�คว�มเข้�ใจในเร่ืองท่ีผู้พูดกำ�ลังพูดเพื่อห�
ขอ้ เสนอแนะและข้อโต้แยง้ ไดอ้ ย่�งตรงประเด็น

✓ 2. ห�กทุกคนรู้จักสร้�งสัมพันธภ�พท่ีดีต่อกัน จะเป็นก�รป้องกัน ลดคว�มขัดแย้ง รวมทั้ง
แก้ปญั ห�ครอบครัว และปัญห�สังคม

✓ 3. ก�รทจี่ ะปฏเิ สธหรอื ไมน่ นั้ ตอ้ งขนึ้ อยกู่ บั สถ�นก�รณ์ เพร�ะในเรอ่ื งเดยี วกนั แตส่ ถ�นก�รณ์
แตกต�่ งกัน อ�จปฏิเสธหรือไม่ปฏิเสธกไ็ ด้

✓ 4. ก�รปฏิเสธเปน็ สิทธิและคว�มตอ้ งก�รส่วนบคุ คลโดยชอบธรรม
✓ 5. ควรปฏิเสธดว้ ยค�ำ พูด น�ำ้ เสียง ท่�ท�งทจ่ี ริงจัง เพือ่ แสดงให้เหน็ คว�มตงั้ ใจทชี่ ัดเจน
✓ 6. ก�รคิดวเิ คร�ะหเ์ ป็นคว�มส�ม�รถในก�รจ�ำ แนกแยกแยะองค์ประกอบต่�งๆ
✓ 7. ก�รห�เหตุผลที่สมเหตสุ มผลเปน็ ก�รคิดวเิ คร�ะห์
✓ 8. ผลของก�รตดั สนิ ใจจะท�ำ ใหเ้ กดิ ก�รเปลี่ยนแปลงขึ้นกับบคุ คล
✓ 9. ก�รแก้ปญั ห�เปน็ เพียงก�รใช้เหตผุ ลและสติปัญญ�แกไ้ ขปัญห�
✗ 10. อ�รมณม์ ีบทบ�ทในก�รแก้ปัญห�

สุดยอดคู่มือครู 96

Ap3.pขlyั้นiปnฏgิบัตanิแdละCสoรnุปsคtrวuาcมtiรnู้gหลthังeกาKรnปoฏwิบleัตdิ ge Appl4y.inขg้ันสt่ืhอeสาCรoแmลmะนu�ำnเiสcaนtอion Skill 5. ขS้ันeปlรfะ-เRมeินgเพuื่อlเaพtิ่มinคgุณค่า

ค่านิยมหลัก 12 ประการ กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก

asean

96 เพศวิถีศกึ ษา

แบบประเมนิ ตนเอง
คำาชแี้ จง ตอนท่ี 1 ให้ผเู้ รียนประเมนิ ผลการเรียนรู ้ โดยเขยี นเคร่ืองหมาย ✓ ลงในชอ่ งระดบั คะแนน
และเติมข้อมลู ตามความเปน็ จรงิ
ระดับคะแนนตอนท ี่ 1 5 : มากท่สี ดุ 4 : มาก 3 : ปานกลาง 2 : นอ้ ย 1 : ควรปรบั ปรงุ
ตอนท่ ี 2 ใหผ้ เู้ รยี นนาำ คะแนนจากแบบทดสอบมาเตมิ ลงในชอ่ งวา่ ง และเขยี นเครอื่ งหมาย ✓
ลงในชอ่ งสรปุ ผล
สงวนลิข ิสทธิ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด
ตอนท่ี 1 (ผลการเรยี นร)ู้ ตอนท่ี 2 (แบบทดสอบ)

รายการ 5 4 3 2 1 แบบทดสอบ

1. ผเู้ รียนมคี วามร ู้ ความเขา้ ใจในเน้อื หา คะแนน

2. ผู้เรยี นไดท้ ำากิจกรรมสง่ เสริมการเรยี นรู้ทส่ี อดคลอ้ งกับเนอื้ หา (ขอ้ ละ 1 คะแนน)
และจดุ ประสงค์การเรยี นรู้
สรปุ ผล
9 - 10 (ดีมาก)
3. ผู้เรียนไดเ้ รยี นและทำากิจกรรมส่งเสริมการเรยี นรทู้ ส่ี ่งเสรมิ 7 - 8 (ด)ี
กระบวนการคดิ เกดิ การคน้ พบความรู้ 5 - 6 (พอใช้)
4. ผู้เรียนสามารถประยุกตค์ วามรู้เพี่อื ใช้ประโยชน์ในชวี ติ ประจำาวนั ได้ ตำ่ากวา่ 5
5. ผู้เรียนได้เรยี นรูอ้ ะไรจากการเรียน (ควรปรบั ปรงุ )

6. ผู้เรียนตอ้ งการทำาสิง่ ใดเพื่อพฒั นาตนเอง

7. ความสามารถทถ่ี อื วา่ ผ่านเกณฑ์ประเมนิ ของผเู้ รยี น คอื

97 สุดยอดคู่มือครู

1. ขG้ันaรวtบhรeวrมinขg้อมูล 2. ข้ันคิดวิเPคrรoาะcหe์แsลsะiสnรgุปความรู้

ทักษะชีวิต
GPAS 5 STEPs

ตารางสรปุ คะแนนการประเมนิ จุดประสงค์การเรยี นรู้บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21
และสมรรถนะประจำ� หนว่ ย

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 ทกั ษะชีวติ

คะแนนตาม จปส. รายหนว่ ยการเรยี นรู้
1.สงวนลิข ิสทธ์ิ บริ ัษท ัพฒน อธิบายและแสดง ัทกษะการส่ือสารได้าคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด
ชิ้นงาน/การแสดงออก 2. อธิบายและแสดง ัทกษะการส ้ราง ัสม ัพนธภาพไ ้ด รวม
ท่กี ำ� หนดในหน่วยการเรียนรหู้ รอื หนว่ ยย่อย 3. อ ิธบายและแสดง ัทกษะการ ่ตอรองไ ้ด
4. อ ิธบายและแสดงทักษะการป ิฏเสธไ ้ด
5. อธิบายและแสดงทักษะการ ิคด ิวเคราะ ์หไ ้ด
6. อธิบายและแสดงทักษะการตัด ิสนใจได้
7. อ ิธบายและแสดงทักษะการแ ้กไขปัญหาไ ้ด
8. มีเจตค ิตที่ ีดในการเรียนเรื่อง ัทกษะ ีชวิตและ ัรก ์ษ ่คา ินยมห ัลก
12 ประการของไทย
ภาระงาน/ชนิ้ งานระหว่างเรียน - 14
1. ผังกราฟิกแสดงการเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ 2 2 2 2 2 2 2
ทักษะชีวิต - 14
2. ผงั กราฟิกสรุปความรคู้ วามเขา้ ใจเกี่ยวกบั ทักษะชีวติ 2 2 2 2 2 2 2 8 36
3. การนำ�เสนอผลการสรุปความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ 4 4 4 4 4 4 4
ทักษะชีวิต - 14
- 6
การประเมนิ รวบยอด 2 2 2 2 2 2 2 6 6
1. ผลการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ - - - - - 3 3 - 10
2. ผลการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมส่งเสริมการเรยี นรู้ - - - - - - - 14 100
3. ผลการประเมนิ ตนเอง 1 1 1 1 2 2 2
4. คะแนนผลการทดสอบ 11 11 11 11 12 15 15

รวม

สุดยอดคู่มือครู 98

GPAS 5 STEPs 1. Gขั้นaรวthบรeวrมinขg้อมูล 2. ขั้นคิดPวิเrคoรcาeะหs์แsลinะสgรุปความรู้

A3pp. lขy้ันiปnฏgิบaัตnิแdละCสoรnุปsคtrวuาcมtinรgู้หลthังeกาKรnปoฏwิบleัตdิge Appl4y.inขg้ันสt่ืhอeสาCรoแmลmะนu�ำnเiสcaนtอion Skill 5. ขSั้นeปlfร-ะRเมeินgเพu่ือlaเพtiิ่มnคgุณค่า

บูรณาการทักษะศตวรรษท่ี 21 ทักษะชีวิต

ค่านิยมหลัก 12 ประการ กิจกรรมท้าทาย รอบรู้อาเซียนและโลก

asean

หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 6 กฎหมายใกลต้ วั

หน่วยการเรยี นรูท้ ่ีสงวนลิข ิสทธิ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด6 เรื่องท่ี 1 กฎหมายทเ่ี กย่ี วข้องกบั ตนเองและ
กฎหมายใกล้ตวั ครอบครัว สทิ ธแิ ละการแสดงออก
เรือ่ งยอ่ ย
สาระสำาคญั 1. ความหมายและลกั ษณะของกฎหมาย (หนงั สอื เรยี น
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับตนเองเป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับตัวบุคคล เช่น กฎหมายเกี่ยวกับ หนา้ 99-100)
ความสามารถของผู้เยาว์ กฎหมายบัตรประจำาตัวประชาชน ส่วนกฎหมายเก่ียวกับครอบครัว 2. กฎหมายท่ีเกี่ยวข้องกับตนเองและครอบครัว
เป็นกฎหมายที่เก่ียวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลในครอบครัวและเครือญาติ เช่น การหมั้น (หนังสือเรยี น หนา้ 100-104)
การสมรส การรับรองบตุ ร เปน็ ตน้ 3. สทิ ธใิ นการแสดงออกตามวถิ ชี วี ติ ทางเพศ (หนงั สอื เรยี น
ความสำาคัญของสิทธิมนุษยชนเป็นผลมาจากการที่มนุษย์เกิดมามีสิทธิในตนเอง มีเกียรติภูมิ หนา้ 104-107)
ในความเป็นมนุษย์ มีคุณค่าในตนเอง มีความภาคภูมิใจในตนเอง โดยเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนมีฐานะ สมรรถนะประจ�ำ หน่วย
เท่าเทียมกนั จงึ พงึ ไดร้ บั การคุ้มครองจากรฐั และการปฏบิ ตั ิอย่างเท่าเทียมกัน แสดงความรู้เกี่ยวกับกฎหมายใกล้ตัว
ความผิดเกี่ยวกับเพศบัญญัติอยู่ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๖ ถึงมาตรา ๒๘๗
สำาหรบั มาตรา ๒๗๖ มาตรา ๒๗๗ และ มาตรา ๒๘๖ ได้มีการแกไ้ ขเพม่ิ เตมิ โดยพระราชบัญญตั ิ จุดประสงค์การเรียนรู้
แกไ้ ขเพิม่ เติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที ่ ๑๙) ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา เล่ม ๑๒๔ ตอนท ี่ 1. อธบิ ายความหมายและลักษณะของกฎหมายได้
๕๖ ก วันที ่ ๑๙ กันยายน ๒๕๕๐ มผี ลใช้บังคับต้งั แต่วนั ถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา คือ 2. ประยุกต์ใช้กฎหมายที่เก่ียวข้องกับตนเองและ
วนั ท่ ี ๒๐ กันยายน ๒๕๕๐
ครอบครวั ได้
สาระการเรียนรู้ 3. อธบิ ายสิทธมิ นษุ ยชนได้
1. ความหมายและลักษณะของกฎหมาย 4. มีเจตคติที่ดีในการเรียนเร่ืองกฎหมายใกล้ตัว และ
2. กฎหมายท่ีเกีย่ วขอ้ งกบั ตนเองและครอบครัว
3. สิทธใิ นการแสดงออกตามวถิ ีชีวติ ทางเพศ รกั ษค์ ่านิยมหลกั 12 ประการของไทย
4. ประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๗๖-๒๘๗

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 6 กฎหมายใกล้ตัว สมรรถนะประจำ�หนว่ ย

เร่ืองที่ 2 ประมวลกฎหมายอาญา แสดงความร้เู กี่ยวกับกฎหมายใกล้ตัว
มาตรา ๒๗๖-๒๘๗ จุดประสงค์การเรียนรู้

เรือ่ งยอ่ ย 1. อธิบายประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๗๖
ถงึ มาตรา ๒๘๗ ได้
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๗๖–๒๘๗ 2. มเี จตคตทิ ด่ี ใี นการเรยี นเรอ่ื งกฎหมายใกลต้ วั
(หนงั สอื เรยี น หนา้ 108-112) และรกั ษค์ ่านิยมหลัก 12 ประการของไทย

99 สุดยอดคู่มือครู

GPAS 5 STEPs 1. ขGั้นaรวtบhรeวrมinขg้อมูล 2. ขั้นคิดวิเPคrรoาะcหe์แsลsะiสnรgุปความรู้

บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 ทักษะชีวิต

การประเมินผล สมรรถนะประจำาหน่วย
แสดงความรู้เกย่ี วกับกฎหมายใกลต้ วั
เรอ่ื งท่ี 1 กฎหมายทเี่ ก่ียวขอ้ งกบั
ตนเองและครอบครัว จดุ ประสงค์การเรียนรู้
สทิ ธิและการแสดงออก 1. อธิบายความหมายและลกั ษณะของกฎหมายได้
ภาระงาน/ช้ินงาน/การแสดงออก 2. ประยกุ ต์ใช้กฎหมายทเี่ ก่ียวข้องกับตนเองและครอบครัวได้
ของผู้เรียน 3. อธิบายสทิ ธิมนษุ ยชนได้
ภาระงาน/ช้ินงานระหวา่ งเรียน 4. อธิบายประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๗๖ ถึงมาตรา ๒๘๗ ได้
1. ผังกราฟิกแสดงการเก็บรวบรวมข้อมูล 5. มเี จตคติที่ดใี นการเรียน เร่ือง กฎหมายใกลต้ ัว และรกั ษ์ค่านยิ มหลัก 12 ประการของไทย
สงวนลิข ิสทธิ์ บ ิร ัษท ัพฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำ�กัด
เก่ียวกับกฎหมายท่ีเก่ียวข้องกับตนเอง ผงั สาระการเรยี นรู้ ความหมายและลกั ษณะของกฎหมาย
และครอบครวั สิทธแิ ละการแสดงออก กฎหมายท่เี กยี่ วข้องกบั ตนเองและครอบครวั
2. ผงั กราฟกิ สรปุ ความรคู้ วามเขา้ ใจเกย่ี วกบั กฎหมาย สิทธิ ในการแสดงออกตามวถิ ชี วี ติ ทางเพศ
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับตนเองและ ใกลต้ วั ประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๗๖-๒๘๗
ครอบครวั สทิ ธแิ ละการแสดงออก
3. การน�ำ เสนอผลการสรปุ ความรคู้ วามเขา้ ใจ
เก่ียวกับกฎหมายที่เก่ียวข้องกับตนเอง
และครอบครวั สิทธแิ ละการแสดงออก
ภาระงาน/ชน้ิ งานรวบยอดในหนว่ ยการเรยี นรู้
1. ผลการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ
2. ผลการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมสง่ เสรมิ การเรยี นรู้
3. ผลการประเมนิ ตนเอง
4. คะแนนผลการทดสอบ
(ภาระงานชนิ้ งานรวบยอดในเรอ่ื งนนี้ ำ�ไปรวมกบั
ภาระงานชนิ้ งานรวบยอดในเร่อื งที่ 2)

การประเมินผล ภาระงาน/ช้ินงานระหว่างเรยี น ภาระงาน/ช้ินงานรวบยอดในหนว่ ยการเรียนรู้

เรอื่ งที่ 2 ประมวลกฎหมายอาญา 1. ผงั กราฟกิ แสดงการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู เกย่ี วกบั 1. ผลการปฏิบัติกิจกรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ
มาตรา ๒๗๖-๒๘๗ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๗๖-๒๘๗ 2. ผลการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมสง่ เสริมการเรยี นรู้
ภาระงาน/ช้นิ งาน/การแสดงออก 2. ผังกราฟิกสรุปความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ 3. ผลการประเมนิ ตนเอง
ของผู้เรยี น ประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๗๖-๒๘๗ 4. คะแนนผลการทดสอบ
3. การนำ�เสนอผลการสรุปความรู้ความเข้าใจ (ภาระงานชิ้นงานรวบยอดในเร่ืองน้ีนำ�ไปรวมกับ
เกี่ยวกับประมวลกฎหมายอาญามาตรา ภาระงานชนิ้ งานรวบยอดในเร่อื งท่ี 1)
๒๗๖-๒๘๗

สุดยอดคู่มือครู 100


Click to View FlipBook Version