วนั ท่ี ๙ มกราคม พุทธศกั ราช ๒๔๓๓
พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจ้าอยู่หัว เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ มาทรงเปิดอู่เรอื หลวง
ในปัจจุบนั คอื กรมอู่ทหารเรอื ทางราชการไดถ้ อื เอาวันท่ี ๙ มกราคม ของทกุ ปี
เปน็ วนั คล้ายวันสถาปนากรมอู่ทหารเรอื
นบั ถึงปจั จบุ นั รวม ๑๒๕ ปี
บรรณาธิการแถลง
การจัดท�ำวารสารกรมอู่ทหารเรือมีวัตถุประสงค์เพ่ือเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการ
ด้านวิศวกรรมเรือเทคโนโลยี และวิทยาการในสาขาวิชาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการซ่อม
และสร้างเรือ เพ่ือประโยชน์ในการศึกษาค้นคว้าและพัฒนาความรู้ของก�ำลังพลกองทัพเรือ
และผู้สนใจทั่วไป รวมทั้ง เป็นส่ือประชาสัมพันธ์ผลงานการด�ำเนินงานและกิจกรรมส�ำคัญ
ของกรมอู่ทหารเรือในรอบปีท่ีผ่านมา โดยจัดท�ำเป็นส่วนหนึ่งของของที่ระลึก เน่อื งในโอกาส
วนั คลา้ ยวันสถาปนากรมอทู่ หารเรอื วนั ที่ ๙ มกราคมของทุกปี มาอย่างต่อเนอื่ ง
วารสารกรมอ่ทู หารเรือ ประจ�ำปี ๒๕๕๘ ประกอบดว้ ยบทความทางวชิ าการ ผลงาน
การวิจัยและพัฒนา ความรู้และประสบการณ์การปฏิบัติงานซ่อมและสร้างเรือ เรื่องราว
ท่ีน่าสนใจของกรมอทู่ หารเรือ และการด�ำเนนิ งานสำ� คัญในรอบปี ๒๕๕๗ ซง่ึ บางบทความ
สามารถพฒั นาตอ่ ยอดจดั ทำ� เปน็ องคค์ วามรขู้ องกรมอทู่ หารเรอื ได้ และเปน็ เรอื่ งนา่ ยนิ ดอี ยา่ งยงิ่
ท่ีมีก�ำลังพลของกรมอู่ทหารเรือให้ความสนใจเขียนบทความทางวิชาการเพ่ิมมากขึ้นซงึ่ จะเปน็
ก�ำลงั สำ� คัญในการจดั ท�ำวารสารกรมอู่ทหารเรอื ต่อไปในอนาคต
ขอขอบพระคุณผู้บังคับบัญชา ผู้เขียนบทความ เจ้าหน้าท่ี และผู้ให้การสนับสนุน
ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในการจัดท�ำวารสารกรมอู่ทหารเรือ ประจ�ำปี ๒๕๕๘ ให้ส�ำเร็จด้วย
ความเรยี บรอ้ ยและจดั เปน็ ของทร่ี ะลกึ ทมี่ คี ณุ คา่ เนอื่ งในโอกาสกรมอทู่ หารเรอื ครบรอบ ๑๒๕ ปี
พลเรือตรี
(ทินกร ตัณฑากาศ)
บรรณาธกิ ารวารสารกรมอู่ทหารเรอื
รอบปีท่ผี ่านมา
โดย : กองบรรณาธิการวารสารกรมอทู่ หารเรือ
นบตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชด�ำเนิน
มาทรงเปดิ อูเ่ รอื หลวง เม่อื วันที่ ๙ มกราคม พ.ศ.๒๔๓๓ กรมอทู่ หารเรือ
ไดป้ ฏบิ ตั ภิ ารกจิ การซอ่ มและสรา้ งเรอื เพอ่ื เสรมิ สรา้ งสมทุ ทานภุ าพใหก้ องทพั เรอื
มาอย่างต่อเน่อื ง ปรากฏเป็นผลงานการสรา้ งเรอื ทัง้ เรอื รบ เรอื พระที่นงั่ และงานช่าง
นานัปการ ในปี ๒๕๕๗ ทีผ่ ่านมา กรมอู่ทหารเรือด�ำเนนิ งานต่าง ๆ ในหลายด้าน
มีผลงานส�ำคัญ ๆ ประมวลได้ ดงั นี้
รอบปที ีผ่ ่านมา
การสรา้ งเรอื ตรวจการณป์ นื (ตกป.) ล�ำ ใหม่
ของกองทพั เรอื
เรอื ตรวจการณป์ นื ลำ� ใหมข่ องกองทพั เรอื เปน็ เรอื ทจ่ี ดั หาเพอื่ ทดแทนเรอื ตรวจการณ์
ระยะปานกลาง ซง่ึ จะทยอยปลดประจำ� การในอนาคต กองทพั เรอื จดั ซอื้ แบบแปลน
รายละเอยี ดและพสั ดจุ ากบรษิ ทั มารซ์ นั จำ� กดั ซงึ่ บรษิ ทั ฯ ไดส้ ง่ มอบแบบแปลน
และพสั ดอุ ปุ กรณท์ ใี่ ชใ้ นการสรา้ งเรอื ใหแ้ กก่ องทพั เรอื ในลกั ษณะ Package Deal
โดยกรมอทู่ หารเรอื ดำ� เนนิ การตอ่ เรอื
พลเรอื เอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบู้ ญั ชาการทหารเรอื การตอ่ เรอื แบง่ เปน็ ๒ ระยะ คอื ระยะแรกตอ่ เฉพาะตวั เรอื และตดิ ตง้ั ระบบเครอื่ งจกั ร
เปน็ ประธานในพิธวี างกระดกู งเู รอื ตรวจการณ์ปนื ณ อแู่ หง้ หมายเลข ๑ อทู่ หารเรอื ธนบรุ ี กรมอทู่ หารเรอื ระยะเวลาดำ� เนนิ การ
ณ อ่หู มายเลข ๑ อทู่ หารเรือธนบรุ ี กรมอูท่ หารเรอื ประมาณ ๑๓ เดอื น และเมอื่ ทำ� พธิ ปี ลอ่ ยเรอื ลงนำ้� แลว้ จะนำ� ตวั เรอื ไปประกอบ
เม่ือวนั ที่ ๔ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๗ ในสว่ น Superstructure (หอบงั คบั การเรอื เสาสอื่ สาร) ระบบอาวธุ ณ อทู่ หารเรอื
พระจลุ จอมเกลา้ กรมอทู่ หารเรอื ตำ� บลแหลมฟา้ ผา่ อำ� เภอพระสมทุ รเจดยี ์ จงั หวดั สมทุ รปราการ ระยะเวลา
ดำ� เนนิ การประมาณ ๑๐ เดอื น คาดวา่ จะแลว้ เสรจ็ ประมาณเดอื นมถิ นุ ายน พ.ศ.๒๕๕๙ เรอื ลำ� นมี้ คี วามยาว
๕๘ เมตร กวา้ ง ๙.๓๐ เมตร กนิ นำ้� ลกึ (ออกแบบ) ๒.๙๐ เมตร ระวางขบั นำ�้ สงู สดุ ๕๒๐ ตนั ทำ� ความเรว็ สงู สดุ ได้
ไมน่ อ้ ยกวา่ ๒๓ นอต (ทรี่ ะวางขบั นำ้� สงู สดุ ) มรี ะยะปฏบิ ตั กิ ารในทะเลไมน่ อ้ ยกวา่ ๒,๕๐๐ ไมลท์ ะเล มคี วามคงทน
ทะเลถงึ ระดบั SEASTATE4มรี ะบบอาวธุ ประจำ� เรอื ทส่ี ำ� คญั คอื ปนื ขนาด๗๖/๖๒มลิ ลเิ มตรจำ� นวน ๑กระบอก
ปนื ขนาด ๓๐ มลิ ลเิ มตร จำ� นวน ๑ กระบอก ปนื ขนาด ๐.๕๐ นวิ้ จำ� นวน ๒ กระบอก ทงั้ น้ี ดาดฟา้ ทา้ ยเรอื
มพี น้ื ทกี่ วา้ งขวาง สามารถตดิ ตงั้ อปุ กรณห์ รอื ยทุ โธปกรณอ์ นื่ ๆ ไดอ้ กี ในอนาคต เรอื ตรวจการณป์ นื ลำ� ใหมน่ ี้
จะเขา้ ประจำ� การทกี่ องเรอื ตรวจอา่ ว กองเรอื ยทุ ธการ
14
รอบปีทผี่ ่านมา
การออกแบบแพพกั อาศัยสถานเี รือศรีเชียงใหม่
หนว่ ยเรอื รกั ษาความสงบเรยี บรอ้ ยตามลำ�แม่นำ้�โขง
เขตหนองคาย
การออกแบบแพพกั อาศยั สถานเี รอื ศรเี ชยี งใหม่ มคี ณุ ลกั ษณะของสว่ นใหก้ ำ� ลงั ลอยเปน็
โปะ๊ รองรบั มขี นาดความกวา้ ง ๑๐ เมตร ความยาว ๑๙ เมตร ใชเ้ ปน็ แพทพ่ี กั และความยาว
๒๖ เมตร ใชเ้ ปน็ แพยทุ ธการ โดยใน ๑ แพ ประกอบดว้ ย โปะ๊ จำ� นวน ๓ แถว พน้ื ทอ่ี าศยั ดา้ น
บนวางคานตลอดพนื้ ท่ี พน้ื บรเิ วณทพี่ กั อาศยั เปน็ พน้ื ไม้ พน้ื ทใี่ ชส้ อยอนื่ เปน็ แผน่ เหลก็ กนั ลน่ื
ผนงั หอ้ งบดุ ว้ ยไมฝ้ าแปรรปู หรอื ไมอ้ ดั เรยี บ โครงสรา้ งหลงั คาเหลก็ มงุ ดว้ ยเมทลั ชที และบุ
ดว้ ยฉนวนกนั ความรอ้ น การจดั สว่ นตา่ ง ๆ ของแพพกั อาศยั ประกอบดว้ ย หอ้ งทำ� งาน
หอ้ งพกั อาศยั และหอ้ งสขุ าภบิ าล
15
รอบปที ี่ผา่ นมา
การซอ่ มท�ำ เรือให้พรอ้ มรบ
กรมอทู่ หารเรอื ดำ� เนนิ การซอ่ มทำ� เรอื ของกองทพั เรอื เพอื่ เตรยี มกำ� ลงั ทางเรอื ในการปฏบิ ตั ิ
งานตามภารกจิ และเสรมิ สรา้ งใหเ้ พยี งพอตามขดี ความสามารถทต่ี อ้ งการตามยทุ ธศาสตร์
กองทพั เรอื สำ� หรบั ใชใ้ นการปกปอ้ งอธปิ ไตยและรกั ษาผลประโยชนแ์ หง่ ชาตทิ างทะเลมา
อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ในปงี บประมาณ ๒๕๕๗ มเี รอื เขา้ รบั การซอ่ มทำ� ตามแผนรวมทงั้ สน้ิ ๑๓๕ ลำ�
แบง่ เปน็ การซอ่ มทำ� ระดบั จำ� กดั ประจำ� ปี จำ� นวน ๗๗ ลำ� ตามระยะเวลา จำ� นวน ๒๒ ลำ� และ
คนื สภาพ ๓๖ ลำ� นอกจากน้ี ยงั สนบั สนนุ การซอ่ มทำ� เรอื ยนตพ์ ระทนี่ งั่ และการซอ่ มทำ� แกไ้ ข
เรอื ตา่ ง ๆ ทไ่ี มไ่ ดเ้ ขา้ รบั การซอ่ มบำ� รงุ ตามแผนในปงี บประมาณ ๒๕๕๗ เพอื่ ใหก้ องทพั เรอื มี
เรอื ใชป้ ฏบิ ตั ภิ ารกจิ ไดต้ ามแผนความพรอ้ มรบระดบั พ.๓ ผลงานทสี่ ำ� คญั คอื การปรบั ปรงุ
เรอื ฟรเิ กต ชดุ ร.ล.นเรศวร และการปรบั ปรงุ ระบบปรบั อากาศ ร.ล.ลาดหญา้ สว่ นงาน
สนบั สนนุ การซอ่ มทำ� อนื่ ๆ ไดแ้ ก่ สนบั สนนุ เจา้ หนา้ ทใี่ นการนำ� เรอื ขน้ึ รางยกเรอื (Slipway)
ทฐี่ านทพั เรอื พงั งาทพั เรอื ภาคท่ี๓ การซอ่ มบำ� รงุ แพชชู พี ของเรอื ในกองทพั เรอื การซอ่ มบำ� รงุ
เรอื ของหมเู่ รอื รกั ษาการณ์ (วงั ไกลกงั วล) ทงั้ น้ี กรมอทู่ หารเรอื ไดพ้ ฒั นาการซอ่ มทำ� เรอื โดยนำ�
เทคโนโลยดี า้ นตา่ งๆเขา้ มาใช้ พฒั นาทรพั ยากรบคุ คลใหม้ ขี ดี ความสามารถทนั ตอ่ เทคโนโลยี
ทก่ี า้ วหนา้ ไปอยา่ งรวดเรว็ และใชง้ บประมาณอยา่ งเหมาะสม เพอ่ื ใหผ้ ลการซอ่ มทำ� เรอื
มคี ณุ ภาพและสง่ มอบเรอื ไดท้ นั ตามกำ� หนดเวลา
16
รอบปที ีผ่ ่านมา
การปรับปรงุ เรือฟรเิ กต ชุดเรอื หลวงนเรศวร
กองทพั เรอื มคี วามตอ้ งการเรอื ฟรเิ กตสมรรถนะสงู สามารถปฏบิ ตั กิ ารทางเรอื ไดเ้ ปน็ หนง่ึ เดยี ว (Integrated System) ทงั้ ๓ มติ ิ
โดยเรอื จะตอ้ งมขี ดี ความสามารถและสมรรถนะตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่ การตอ่ สภู้ ยั คกุ คามทางอากาศ ผวิ นำ้� และใตน้ ำ�้ ความสามารถ
ในการทำ� สงครามอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ การเชอ่ื มโยงขอ้ มลู ทางยทุ ธวธิ อี ตั โนมตั ิ การสอ่ื สารและการควบคมุ บงั คบั บญั ชา จงึ ไดจ้ ดั ทำ�
โครงการปรบั ปรงุ เรอื ฟรเิ กต ชดุ ร.ล.นเรศวร (ร.ล.นเรศวร และ ร.ล.ตากสนิ ) เพอ่ื ปรบั ปรงุ ขดี ความสามารถและความพรอ้ มรบ
ของ ร.ล.นเรศวร และ ร.ล.ตากสนิ ใหเ้ ปน็ เรอื ฟรเิ กตสมรรถนะสงู ระยะเวลาการดำ� เนนิ โครงการตง้ั แต่ พ.ศ.๒๕๕๔ - ๒๕๕๘
ซง่ึ คณะกรรมการอำ� นวยการปรบั ปรงุ เรอื ฟรเิ กต ชดุ ร.ล.นเรศวร แบง่ งานออกเปน็ ๓ ระยะ ประกอบดว้ ยงาน ๓ สว่ น
กรมอทู่ หารเรอื โดยอรู่ าชนาวมี หดิ ลอดลุ ยเดช มสี ว่ นเกยี่ วขอ้ งกบั งานทง้ั ๓ สว่ น ไดแ้ ก่
งานปรบั ปรงุ เรอื ตามโครงการ คอื การสนบั สนนุ การรอ้ื ถอน ตดิ ตงั้ การเชอื่ มตอ่ การทดสอบหนา้ ทา่ การทดสอบใน
ทะเล และสงิ่ อำ� นวยความสะดวก
งานเตรยี มเรอื สนบั สนนุ การปรบั ปรงุ เรอื ตามโครงการ คอื การสนบั สนนุ สง่ิ อำ� นวยความสะดวก ปรบั ปรงุ ระบบไฟฟา้
ปรบั ปรงุ ตวั เรอื และเครอ่ื งจกั รตา่ ง ๆ
งานซอ่ มทำ� เรอื ของหนว่ ยเทคนคิ คอื การสนบั สนนุ การซอ่ มทำ� เรอื ตามทเ่ี รอื รายงานการซอ่ มทำ� คนื สภาพอปุ กรณ์
ตา่ ง ๆ เพอ่ื ใหเ้ รอื มคี วามพรอ้ มในการทดสอบหนา้ ทา่ และการทดสอบในทะเล
การปรบั ปรงุ เรือฟรเิ กต ชุด ร.ล.นเรศวร ใหม้ ีสมรรถนะสงู ดำ� เนนิ มาถงึ ระยะสุดทา้ ยของโครงการ อูร่ าชนาวมี หดิ ล
อดุลยเดช กรมอทู่ หารเรือ สนับสนุนงานตา่ ง ๆ ตง้ั แตเ่ รม่ิ ตน้ โครงการจนถึงการทดสอบหน้าท่าและการทดสอบในทะเล
จงึ เป็นความภาคภมู ิใจของก�ำลงั พลทุกนาย ทีไ่ ด้มสี ่วนรว่ มในการเสริมเขี้ยวเลบ็ ใหเ้ รือของกองทพั เรือมีความพร้อมรบ
สามารถปฏิบตั ภิ ารกจิ ตา่ ง ๆในการป้องกันประเทศและปกปอ้ งผลประโยชน์ของชาติทางทะเลตอ่ ไป
17
รอบปที ผี่ ่านมา
การปรับปรุงระบบปรบั อากาศเรือหลวงลาดหญา้
เรอื ชดุ ร.ล.ลาดหญา้ เปน็ เรอื ลา่ ทำ� ลายทนุ่ ระเบดิ ใกลฝ้ ง่ั (ลทฝ.) สงั กดั กองเรอื ทนุ่ ระเบดิ กองเรอื ยทุ ธการ ประกอบดว้ ย
ร.ล.ลาดหญา้ และ ร.ล.ทา่ ดนิ แดง ขนึ้ ระวางประจำ� การ เมอ่ื พ.ศ.๒๕๔๒ และ พ.ศ.๒๕๔๓ ตามลำ� ดบั แตจ่ ากการปฏบิ ตั งิ านท่ี
ผา่ นมา กำ� ลงั พลประจำ� เรอื ชดุ นปี้ ระสบปญั หาการใชง้ านระบบปรบั อากาศ คอื Cooler ในระบบนำ�้ เยน็ (Chilled Water) เกดิ
การแตกชำ� รดุ Heat Exchanger ในระบบนำ้� เยน็ (Chilled Water) ชำ� รดุ สง่ ผลตอ่ เนอ่ื งให้ Compressor ชำ� รดุ เสยี หาย ระบบ
ควบคมุ สง่ั การ PLC ไมเ่ หมาะสมในการปอ้ งกนั การเกดิ นำ�้ แขง็ ในระบบ และ Condenser ตดิ ตง้ั อยใู่ นตำ� แหนง่ ทยี่ ากตอ่ การ
ซอ่ มบำ� รงุ รวมทงั้ การซอ่ มบำ� รงุ เครอื่ งปรบั อากาศหมายเลข ๒ จำ� เปน็ ตอ้ งรอื้ ถอนระบบของเครอื่ งปรบั อากาศหมายเลข ๑
ดว้ ยเนอื่ งจากกดี ขวางการซอ่ มบำ� รงุ
กรมอทู่ หารเรอื ไดด้ ำ� เนนิ การวา่ จา้ งปรบั ปรงุ ระบบปรบั อากาศของ ร.ล.ลาดหญา้ ตามโครงการที่ อทู่ หารเรอื พระจลุ จอมเกลา้
กรมอทู่ หารเรอื เสนอ การปรบั ปรงุ ทส่ี ำ� คญั ไดแ้ ก่
- เปลย่ี น Compressor เปน็ แบบ Semi Hermetic Screw ทส่ี ามารถทำ� ความเยน็ ไดไ้ มต่ ำ่� กวา่ ๕๕ ตนั
โดยใชส้ ารทำ� ความเยน็ R407
- เปลยี่ น Condenser เปน็ แบบ Shell & Tube
- เปลย่ี น Cooler (Chilled Water Evaporator) เปน็ แบบ Plate Type
- เปลย่ี นระบบควบคมุ ทางดา้ นไฟฟา้ กำ� ลงั
- เปลย่ี นระบบควบคมุ ทางดา้ นควบคมุ แจง้ เตอื นและแสดงผลเปน็ แบบ PLC
- เปลย่ี นโครงสรา้ ง (Machinery Base & Structure) ทที่ ำ� ดว้ ย Stainless Steel 304
- เปลย่ี นพดั นำ�้ เยน็ เปน็ พดั นำ้� ชนดิ Vertical Inline จำ� นวน 2 Unit
ภายหลงั การปรบั ปรงุ เจา้ หนา้ ทอี่ ทู่ หารเรอื พระจลุ จอมเกลา้ กรมอทู่ หารเรอื ไดท้ ดสอบระบบรว่ มกบั กำ� ลงั พลของเรอื
ซง่ึ สามารถใชง้ านและเขา้ ตรวจสอบระบบปรบั อากาศไดง้ า่ ยขน้ึ และผลการทดสอบประสทิ ธภิ าพในการทำ� งานของระบบ
ปรบั อากาศ ปรากฏวา่ อยใู่ นเกณฑด์ ขี น้ึ การปรบั ปรงุ ดงั กลา่ วจงึ เปน็ แนวทางสำ� คญั ทจ่ี ะใชป้ รบั ปรงุ ระบบปรบั อากาศของ
ร.ล.ทา่ ดนิ แดง ตอ่ ไป
18
รอบปีที่ผา่ นมา
พลเรือโท วสันต์ แจ้งยอดสุข เจ้ากรมอู่ทหารเรือ เป็นประธานเปิดงาน
นิทรรศการเทคโนโลยีเรอื ในทศวรรษหนา้ ครงั้ ท่ี ๒
(2nd Ship Technology for the Next Decade : Ship Tech. II)
นทิ รรศการแสดงผลงานและขอ้ มลู เทคโนโลยกี ารซอ่ มและสรา้ งเรอื จดั ขน้ึ ระหวา่ งวนั ท่ี ๒๘ - ๒๙ สงิ หาคม
พ.ศ.๒๕๕๗ ณ สโมสรสัญญาบตั ร อ่รู าชนาวีมหดิ ลอดลุ ยเดช กรมอูท่ หารเรือ อ�ำเภอสตั หบี จังหวัดชลบรุ ี
เพื่อเผยแพร่และแลกเปล่ยี นความรู้ทางวชิ าการและเทคโนโลยีในดา้ นอตุ สาหกรรมเรอื
กิจกรรมภายในงาน ได้แก่ นิทรรศการแสดงผลงานของกรมอู่ทหารเรือ หน่วยงานในกองทัพเรือ
และอู่ซ่อมสร้างเรือ รวมท้ัง ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมต่อเนื่อง จ�ำนวน ๓๕ ราย แบ่งเป็น ๕๙ บู๊ธ
การบรรยายทางวิชาการ ๕ หัวข้อ โดยข้าราชการกรมอู่ทหารเรือและผู้เช่ียวชาญจากภาคเอกชน
มีผู้เข้าชมงานมากกว่า ๒,๕๐๐ คน ประกอบด้วย ก�ำลังพลของกองทัพเรือ ผู้สนใจจากหน่วยงานภาครัฐ
ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษาต่าง ๆ
ผลของการจัดนิทรรศการคือ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับงานซ่อมสร้างเรือได้แลกเปลี่ยนความรู้
ทางวิชาการ ได้รับทราบข้อมูลส�ำหรับใช้ประกอบการพิจารณาและจัดท�ำแผนปฏิบัติการจัดซื้อ/จัดจ้าง
และผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมเรือได้น�ำเสนอผลงานและข้อมูลในเชิงลึกให้เป็นท่ีรู้จักมากยิ่งขึ้น
19
รอบปที ผ่ี ่านมา
การจดั การความรู้ของกรมอู่ทหารเรือ
รางวลั “การจัดการความรู้ดเี ด่นของกองทพั เรือ
ประจ�ำ ปงี บประมาณ ๒๕๕๗”
กรมอทู่ หารเรอื ดำ� เนินงานการจัดการความรู้ภายใต้วิสยั ทศั น์การจัดการความรู้ “กรมอทู หารเรือเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู
เพ่ือความเป็นเลิศในงานซ่อมและสร้างเรอื ” และปรัชญาการจดั การความรู้ “รวมพลังการจดั การความรู้ เพื่อกรมอ่กู ้าวไกล”
การด�ำเนินงานทสี่ ำ� คญั ไดแ้ ก่
• การจดั ท�ำแผนแมบ่ ทการจัดการความรขู้ องกรมอทู่ หารเรือ พ.ศ.๒๕๕๗ - ๒๕๖๐ โดยก�ำหนดยุทธศาสตร์และแผนการ
ปฏบิ ตั ิทส่ี ำ� คัญ มงุ่ เน้นดา้ นองค์บคุ คล กระบวนการ และฐานความรขู้ องกรมอู่ทหารเรือ
• การกำ� หนดองค์ความรู้ทจ่ี ำ� เป็นสำ� หรบั การปฏบิ ัติงานของกรมอทู่ หารเรือ เพื่อให้บรรลุเปา้ ประสงคท์ างยุทธศาสตร์
ของกองทัพเรอื ท่ีกรมอ่ทู หารเรอื เกี่ยวขอ้ ง จ�ำนวน ๑๒ เปา้ ประสงค์ โดยจัดสมั มนาเชิงปฏิบัตกิ าร ๒ คร้ัง และจดั ท�ำระบบ
สารสนเทศการจดั การความรเู้ พอื่ รวบรวมและเผยแพรอ่ งคค์ วามรหู้ ลกั และองคค์ วามรตู้ า่ ง ๆ ผา่ นทางระบบอนิ เตอรเ์ นต็
• การจัดนิทรรศการแสดงผลงานการจัดการความรู้ของกรมอู่ทหารเรือ ในงาน
“วันแห่งการจัดการความรู้ของกองทัพเรือ ประจ�ำปีงบประมาณ ๒๕๕๗” เมื่อวันท่ี
๒๐ สงิ หาคม พ.ศ.๒๕๕๗ ณ หอ้ งเจา้ พระยา หอประชุมกองทพั เรือ
การจดั การความรูข้ องกรมอทู่ หารเรอื ไดร้ บั รางวัล “การจัดการความรดู้ ีเด่นของกองทพั เรือ
ประจำ� ปงี บประมาณ ๒๕๕๗” และผลจากการดำ� เนินงานน�ำไปสู่การจดั ทำ� องคค์ วามรู้
ท่ีจ�ำเป็นส�ำหรับการปฏิบัติงานของกรมอู่ทหารเรือ ซึ่งเป็นประโยชน์ในการพัฒนางาน
เพอ่ื ความเปน็ เลิศในงานซอ่ มและสร้างเรือ ตามวิสัยทัศนข์ องกรมอทู่ หารเรอื ตอ่ ไป
20
รอบปีทผี่ า่ นมา
นวตั กรรม การบริการวชิ าการและวิชาชีพ
ของนกั เรียนชา่ งกรมอทู่ หารเรือ
โรงเรยี นชา่ งกรมอทู่ หารเรอื เปน็ หนว่ ยศกึ ษาเกา่ แกข่ องกรมอทู่ หารเรอื เปดิ การศกึ ษารนุ่ แรก เมอื่ พ.ศ.๒๔๘๘
ผลิตชา่ งฝีมอื เพ่ือปฏิบัตงิ านซ่อมและสร้างเรอื มาอยา่ งต่อเนอ่ื ง ในปี ๒๕๕๗ นักเรียนชา่ งกรมอู่ทหารเรอื
ช้นั ปีที่ ๓ ไปเขา้ คา่ ยปจั ฉมิ นเิ ทศ ให้บริการวชิ าการและวชิ าชพี ณ องคก์ ารบริหารสว่ นตำ� บลทา่ ขา้ ม
อำ� เภอฮอด จังหวดั เชยี งใหม่ ระหวา่ งวนั ท่ี ๑๗ - ๒๐ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๗ ซึ่งเปน็ ไปตามหลักสตู ร
การเรยี นประกาศนยี บตั รวิชาชพี นอกจากนนั้ ยังได้ช่วยเหลือชมุ ชนดว้ ยการสรา้ งฝายชะลอน�้ำ ซึง่ ท�ำให้
นกั เรยี นชา่ งกรมอทู่ หารเรือไดร้ บั ประสบการณ์ตรงในการใชว้ ชิ าชพี เป็นการเรยี นรู้ทบ่ี ูรณาการกับการ
ทำ� งานรวมทงั้ สรา้ งภาพลกั ษณท์ ด่ี ใี หแ้ ก่กรมอู่ทหารเรอื ตลอดจนชว่ ยเผยแพร่ชื่อเสยี งและผลงานของ
โรงเรียนชา่ งกรมอ่ทู หารเรือใหเ้ ป็นที่ร้จู ักกวา้ งขวางมากย่ิงขน้ึ
ในงาน นายเรือวชิ าการ ๕๗ (RTNA Academic Expo 2014) ณ โรงเรียนนายเรือ จงั หวดั สมทุ รปราการ
เมอื่ วนั ที่ ๒๒ สงิ หาคม พ.ศ.๒๕๕๗ โรงเรยี นช่างกรมอู่ทหารเรอื ไดน้ �ำผลงาน เครอื่ งออกก�ำลงั กายผลติ
กระแสไฟฟา้ ท่ีสามารถประจแุ บตเตอรีไ่ ด้ ซง่ึ เปน็ นวตั กรรมของนกั เรียนชา่ งกรมอทู่ หารเรือ ไปร่วม
จดั แสดง การสร้างสรรค์นวัตกรรมเปน็ ส่วนหนงึ่ ของงานประกนั คุณภาพการศกึ ษา ซง่ึ ช่วยส่งเสริมให้
นักเรยี นชา่ งกรมอู่ทหารเรือพฒั นาทักษะทางช่างใหด้ ีข้ึน สง่ ผลดตี ่อคณุ ภาพการศึกษาของโรงเรยี นชา่ ง
กรมอู่ทหารเรอื ในภาพรวม
21
รอบปที ผี่ ่านมา
งานวจิ ยั และพฒั นา
กรมอทู่ หารเรือด�ำเนนิ โครงการวจิ ัยและพฒั นาประสบผลสำ� เรจ็ สามารถปดิ โครงการได้ ๒ โครงการ คอื
โครงการวิจัยและพัฒนา “การผลิตไบโอดเี ซลจากนำ้� ทิง้ ในโรงงานผลติ น�้ำมนั ปาลม์ แบบใช้ไอน�ำ้ ”
โครงการวิจยั และพฒั นา “พฒั นาระบบสารสนเทศเพื่อการประกันคณุ ภาพการฝกึ อบรม”
โครงการวจิ ยั และพฒั นา
“การผลิตไบโอดเี ซลจากนำ�้ ท้ิงในโรงงานผลิตนำ�้ มนั ปาลม์ แบบใชไ้ อนำ�้ ”
การสง่ มอบและถา่ ยทอดองคค์ วามรกู้ ารใช้งานเครอ่ื งผลิตไบโอดเี ซลกำ�ลังผลติ ขนาด ๒,๐๐๐ ลิตรตอ่ วัน
ให้แกเ่ จ้าหนา้ ท่ขี อง ฐานทัพเรอื พงั งา ทพั เรอื ภาคที่ ๓
นายทหารโครงการ – นาวาเอก เอกสิทธ์ิ รอดอยู่
วัตถปุ ระสงค์โครงการวจิ ยั ฯ เพือ่ ศกึ ษาและวิจยั กระบวนการผลติ ไบโอดเี ซลจากวัตถุดบิ ทมี่ กี รดไขมัน
อสิ ระ (Free Fatty Acid : FFA) สูง และสร้างเครอ่ื งตน้ แบบการผลิตไบโอดีเซลแบบตอ่ เนือ่ ง ขนาด
๒,๐๐๐ ลิตรต่อวัน โดยใช้น�ำ้ มันปาลม์ ดบิ ที่มีคุณภาพตำ่� และมีกรดไขมันอสิ ระสงู มากจากบ่อน้ำ� ทง้ิ
ในโรงงานผลติ นำ้� มนั ปาลม์ แบบใช้ไอนำ้� เปน็ วตั ถดุ ิบ
ผลส�ำเรจ็ ของโครงการวิจัยฯ คือ สามารถผลิตไบโอดเี ซลจากน�้ำทงิ้ ในโรงงานผลติ นำ้� มนั ปาล์มแบบ
ใชไ้ อน�้ำได้ดว้ ยเครือ่ งผลิตขนาด๒,๐๐๐ลติ รต่อวันใช้เวลาประมาณ๑๒ชั่วโมงท�ำงานไดต้ อ่ เนอ่ื งคา่ Yield
ท่เี คร่อื งสามารถผลติ ไบโอดเี ซลได้ผ่านเกณฑม์ าตรฐาน เมือ่ เปรียบเทียบกับมาตรฐานไบโอดเี ซลชมุ ชน
สามารถน�ำไปใช้งานสำ� หรับเครอ่ื งยนต์การเกษตรตามประกาศกรมธุรกจิ พลงั งาน กระทรวงพลังงาน
ได้ประโยชน์ที่ได้รบั จากโครงการวจิ ัยฯ คอื มที างเลอื กในการใชว้ ัตถดุ บิ มาผลิตเปน็ ไบโอดีเซลเพ่ิมมากขนึ้
และการน�ำนำ�้ ทง้ิ ในโรงงานผลิตนำ�้ มันปาลม์ แบบใชไ้ อน�ำ้ มาใช้ เปน็ การช่วยลดมลภาวะ โดยนำ� ของเสีย
มาเพิ่มมูลคา่ รวมทั้ง ลดค่าใชจ้ ่ายในการบ�ำบัดนำ้� เสีย ซ่ึงหากน�ำไปขยายผลในหนว่ ยงานต่าง ๆ ทางทหาร
ท่มี ีทีต่ ัง้ ใกล้กับแหล่งวัตถดุ บิ จะเปน็ การสร้างความมั่นคงด้านพลงั งานใหก้ องทัพได้ด้วย
22
รอบปีท่ผี ่านมา
โครงการวจิ ัยและพฒั นา
“พฒั นาระบบสารสนเทศเพอ่ื การประกนั คุณภาพการฝกึ อบรม”
รางวัลชมเชย ผลงานดา้ นหลักการ
นายทหารโครงการ - นาวาเอก เริงชยั ประเสรฐิ จตุ มิ ณี
วตั ถปุ ระสงคโ์ ครงการวจิ ยั ฯ เพือ่ สนับสนุนการจัดทำ� การประกนั คณุ ภาพการศึกษาและการฝึกอบรม
ของกองทพั เรอื ลักษณะโปรแกรมเปน็ Web Application ใช้ฐานข้อมลู Mysql พัฒนาโดยใช้โปรแกรม
PHP ซ่งึ ไมม่ ีลขิ สิทธิ์ (Freeware)
ผลสำ� เร็จของโครงการวจิ ยั ฯ คือ ได้ระบบสารสนเทศเพ่ือการประกันคุณภาพการฝึกอบรม
สามารถสนับสนุนหน่วยงานหรือสถานศึกษาของกองทัพเรือ ในการจัดท�ำรายงานการประเมินตนเอง
(Self Assessment Report : SAR) ใหร้ องรบั มาตรฐานและตัวบง่ ชีต้ ามเกณฑก์ ารประกันคณุ ภาพ
การศกึ ษาและการฝกึ อบรมของกองทพั เรอื ซง่ึ เร่ิมใชง้ านท่ีศูนยพ์ ฒั นาอาชพี ช่าง กองการศึกษา
กรมพัฒนาการช่าง กรมอทู่ หารเรือ และโรงเรยี นช่างกรมอู่ทหารเรือ รวมทั้ง ได้อบรมการใชง้ าน
โปรแกรมให้แกห่ นว่ ยงานและหนว่ ยศกึ ษาต่าง ๆ ของกองทัพเรอื เพือ่ นำ� ไปใช้งานตอ่ ไป
โครงการวิจัยฯ “พฒั นาระบบสารสนเทศเพอ่ื การประกันคุณภาพการฝึกอบรม” ไดร้ ับรางวัลชมเชย
ผลงานดา้ นหลกั การในงาน“นาววี ิจยั ๒๐๑๔”จัดโดย ส�ำนักงานวิจัยและพฒั นาการทางทหารกองทัพเรอื
เมื่อวันที่ ๕ สงิ หาคม พ.ศ.๒๕๕๗
23
รอบปที ี่ผา่ นมา
การสร้างแพท่ปี ระทบั ของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยูห่ ัว
ในการเสดจ็ พระราชด�ำ เนินไปทอดพระเนตร
อ่างเกบ็ นำ�้ แกง่ กระจาน
วนั ที่ ๓ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๗ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ จากพระตำ� หนกั เปย่ี มสขุ
วงั ไกลกังวล อำ� เภอหวั หิน จงั หวัดประจวบคิรขี ันธ์ ไปทรงติดตามความกา้ วหนา้ ผลการดำ� เนนิ งานดา้ นการ
บรหิ ารจัดการนำ�้ ของโครงการเขื่อนแกง่ กระจาน ตำ� บลแก่งกระจาน อ�ำเภอแก่งกระจาน จงั หวดั เพชรบรุ ี
โอกาสนี้ ประทับแพขนานยนตไ์ ปทอดพระเนตรระดบั น้ำ� ของเข่อื นและความอุดมสมบรู ณข์ องสภาพป่า
การเสด็จพระราชด�ำเนินในคร้ังน้ี กรมอู่ทหารเรือได้รับมอบหมายให้ปรับปรุง ซ่อมท�ำและ
เสรมิ ความแข็งแรงแพท่ีประทับและแพผูต้ ามเสดจ็ ฯ จำ� นวน ๒ แพ ซึ่งแพที่ประทบั และแพผ้ตู ามเสดจ็ ฯ
เปน็ พอนทูน (Pontoon) จำ� นวน ๔ ลูก ขนาดความกวา้ งประมาณ ๒.๕ เมตร ความยาวประมาณ ๑๒ เมตร
ความสงู ๒ เมตร อยู่ในสภาพช�ำรุด ผุ ไม่มคี วามแขง็ แรงและปลอดภยั การด�ำเนินงานจงึ เริม่ ต้ังแต่
การออกแบบ จดั สรา้ ง ปรับปรงุ โดยซ่อมท�ำเสริมความแขง็ แรงพอนทูนสำ� หรับประกอบเป็นแพ จดั ท�ำ
โครงสร้างรองรับพนื้ ติดตั้งเสาเหลก็ และโครงสร้างเหลก็ รองรับหลงั คา รวมทงั้ สว่ นประกอบอนื่ ๆ ของแพ
ทาสกี ันสนิมและทดลองความเรว็ ในอา่ งเก็บนำ�้ มีระยะเวลาปฏิบตั ิงานต้ังแต่วนั ที่๑๒มนี าคม- ๕เมษายน
พ.ศ.๒๕๕๗
การด�ำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อยด้วยความอุตสาหะ มุ่งม่ัน และความจงรักภักดีของข้าราชการ
และช่างฝมี อื ทไ่ี ด้มโี อกาสปฏบิ ัติงานถวายแดพ่ ระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั ถอื เป็นเกียรตยิ ศอย่างย่งิ แก่
กรมอู่ทหารเรอื และกำ� ลงั พลทกุ นาย
24
รอบปีทผี่ า่ นมา
พพิ ธิ ภณั ฑอ์ ู่เรอื หลวงเฉลมิ พระเกียรติ ๘๔ พรรษา
รางวัล “อนุรกั ษ์ศลิ ปสถาปัตยกรรมดเี ด่น ประจ�ำ ปี ๒๕๕๗”
กรมอทู่ หารเรอื ดำ� เนนิ งานเผยแพรพ่ ระปรชี าสามารถของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ในดา้ นนาวาสถาปตั ย์
ผา่ นพพิ ธิ ภณั ฑอ์ เู่ รอื หลวงเฉลมิ พระเกยี รติ ๘๔ พรรษา ซง่ึ จดั แสดงพระอจั ฉริยภาพของพระองค์ทา่ น
ตั้งแตท่ ท่ี รงออกแบบและต่อเรอื ใบมด ซุเปอรม์ ด ไมโครมด แนวพระราชดำ� ริทพ่ี ระราชทานใหก้ องทพั เรอื
ต่อเรือยนต์รักษาฝัง่ ขน้ึ ใช้เอง อนั เปน็ ท่ีมาของโครงการสร้างเรอื ตรวจการณ์ใกลฝ้ ั่งชุดเรอื ต.๙๑ ขยายผลสู่
ชดุ เรือ ต.๙๙๑ และ ชดุ เรอื ต.๙๙๔ ทั้งปวงเหลา่ น้ี กอ่ ให้เกิดความซาบซ้งึ ในพระมหากรณุ าธิคุณที่ทรงมตี อ่
ประเทศชาติ และสร้างเสริมความจงรกั ภกั ดีต่อสถาบันพระมหากษัตริยใ์ นหมูป่ ระชาชนท่ีไดช้ มและเรียนรู้
พพิ ธิ ภัณฑอ์ ่เู รอื หลวงเฉลมิ พระเกียรติ ๘๔ พรรษา ได้รบั รางวลั “อนรุ ักษศ์ ิลปสถาปัตยกรรมดเี ด่น
ประจำ� ปี ๒๕๕๗ ประเภทอาคารสถาบันและอาคารสาธารณะ” จากสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรม
ราชูปถัมภ์ และได้รับการเผยแพร่ใหเ้ ปน็ สถานท่ีทอ่ งเท่ียวที่นา่ สนใจแหง่ หน่ึงของกรงุ เทพมหานครใน
หนังสอื คูม่ ือการทอ่ งเท่ยี ว “กรุงเทพฯ มหัศจรรยใ์ นวันเดยี ว” ทง้ั ฉบับภาษาไทยและภาษาองั กฤษ
พิพธิ ภัณฑ์อ่เู รอื หลวงเฉลิมพระเกยี รติ ๘๔ พรรษา เปิดให้ก�ำลงั พลกองทพั เรอื และประชาชนท่วั ไป
เขา้ ชมเป็นหมู่คณะ ในวันราชการ เวลา ๐๙.๐๐ น. - ๑๕.๓๐ น. ไม่เกบ็ คา่ เข้าชม โดยทำ� หนงั สือ
ขอเขา้ ชมเป็นการลว่ งหนา้ ประมาณ ๒ สัปดาห์ หมายเลขโทรศพั ท์ ๐ ๒๔๗๕ ๕๓๖๘ Website
http:/www.dockyard.navy.mi.th/doced/Museum_Ship
25
รอบปที ี่ผา่ นมา
วันมหิดล
ณ อู่ราชนาวีมหดิ ลอดลุ ยเดช กรมอู่ทหารเรือ
กรมอทู่ หารเรอื โดยอรู่ าชนาวีมหดิ ลอดุลยเดชจัดงานวนั มหิดลคร้ังแรก เมื่อวันท่ี ๒๔ กนั ยายน พ.ศ.๒๕๕๐
เพอ่ื นอ้ มรำ� ลกึ ถงึ พระกรณุ าธคิ ณุ ในจอมพลเรอื สมเดจ็ พระมหติ ลาธเิ บศร อดลุ ยเดชวกิ รม พระบรมราชชนก
ทที่ รงมคี ณุ ปู การต่อกองทัพเรอื ดว้ ยทรงรเิ รม่ิ โครงการสรา้ งกองเรอื รบปกปอ้ งชายฝัง่ ทะเลไทย ประกอบ
ดว้ ย ปฏิบัตกิ ารเรอื ด�ำนำ้� กอ่ ใหเ้ กดิ “ฐานทัพเรือ” และ “สถานีทหารเรอื ” แนวพระราชดำ� รทิ พ่ี ระราชทาน
ไว้เปน็ ประโยชนแ์ ละทันสมยั อกี ทั้ง พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หวั ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ พระราชทาน
ชอื่ อเู่ รอื แห่งท่ี ๓ ของกองทพั เรือวา่ “อูร่ าชนาวีมหดิ ลอดุลยเดช” เม่ือวนั ที่ ๒๗ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๓๘
ถอื เป็นมงคลยิง่ แก่กรมอทู่ หารเรอื ผู้ปฏบิ ตั งิ าน ณ อูเ่ รือแหง่ นี้ และกำ� ลงั พลของกองทัพเรือทั้งมวล
กองทพั เรืออนุมัติให้คณะกรรมการจัดงานวนั มหิดล ซ่งึ มเี จ้ากรมอทู่ หารเรือเปน็ ประธานกรรมการฯ
จดั พธิ ีบำ� เพญ็ กศุ ลอุทิศถวายแด่ จอมพลเรือ สมเด็จพระมหิตลาธเิ บศร อดุลยเดชวกิ รม พระบรมราชชนก
ในวันมหดิ ล ประจำ� ปี ๒๕๕๗ วันที่ ๒๔ กนั ยายน พ.ศ.๒๕๕๗ ณ อ่รู าชนาวมี หดิ ลอดุลยเดช กรมอูท่ หารเรอื
ตำ� บลสัตหบี อำ� เภอสัตหบี จังหวัดชลบรุ ี โดย พลเรือเอก พิจารณ์ ธรี เนตร ผแู้ ทนผู้บญั ชาการทหารเรอื
เปน็ ประธาน มีก�ำลงั พลกองทพั เรือเข้ารว่ มในพธิ ีฯ ดังกลา่ วเปน็ จ�ำนวนมาก
26
รอบปที ีผ่ ่านมา
การจัดทำ�เชอื กชักฉดุ ราชรถพระนำ�
และราชรถเชิญพระโกศพระศพ สมเดจ็ พระญาณสังวร
สมเดจ็ พระสงั ฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
กรมศลิ ปากรรว่ มกบั กรมสรรพาวธุ ทหารบก และกรมอทู่ หารเรอื ดำ� เนนิ การซอ่ มแซมราชรถเพอื่ ใชใ้ นรวิ้ กระบวน
พระอิสริยยศเชญิ พระโกศพระศพ สมเด็จพระญาณสงั วร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสงั ฆปริณายก
เรม่ิ ต้งั แต่วนั ท่ี ๖ มนี าคม - ๑๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๗ โดยกรมศลิ ปากรเสรมิ ความแขง็ แรงโครงไม้
ซ่อมลวดลายแกะสลักทชี่ �ำรดุ งานปดิ ทองประดบั กระจก งานผา้ ลายทองแผ่ลวด กรมสรรพาวธุ ทหารบก
ซอ่ มเปลี่ยนระบบลอ้ และกรมอู่ทหารเรอื จดั ทำ� เชือกชกั ฉุดราชรถทั้ง ๒ องค์
การจัดทำ� เชือกชกั ฉดุ ราชรถ ใช้เชอื กเปอรล์ อ่ น ขนาด ๒๖ มลิ ลเิ มตร และ ๑๒ มลิ ลเิ มตร ถักเป็นห่วง
สำ� หรบั คลอ้ งไหล่ ตามตวั อยา่ งของสำ� นกั ชา่ งสบิ หมู่ กรมศลิ ปากร โดยเชอื กชกั ฉดุ ราชรถเชญิ พระโกศพระศพ
ค่หู น้า ใชเ้ ชือกยาว ๑๒.๔๕ เมตร จำ� นวน ๒ เสน้ พร้อมถกั ห่วง ๑๔ หว่ ง คหู่ ลัง ใช้เชอื กยาว ๗.๕๐
เมตร จ�ำนวน ๒ เส้น พร้อมถกั ห่วง ๘ ห่วง ส่วนเชือกชักฉดุ ราชรถสำ� หรบั ราชรถพระน�ำ ค่หู นา้ ใชเ้ ชือก
ยาว ๕.๕๐ เมตร จ�ำนวน ๒ เส้น พร้อมถกั หว่ ง ๖ ห่วง คูห่ ลัง ใชเ้ ชือกยาว ๔.๗๐ เมตร จ�ำนวน ๒ เส้น
พร้อมถกั ห่วง ๔ ห่วง ใชร้ ะยะเวลาประมาณ ๑๕ วันงาน หลังจากน้ัน ห้มุ ผา้ สแี ดงทเ่ี ชอื กเปอร์ล่อน
ตามตวั อยา่ งใชร้ ะยะเวลา ประมาณ ๑๕ วนั งาน
การซอ่ มแซมราชรถทงั้ ๒ องค์ เสรจ็ สมบรู ณ์ตามแบบอย่างโบราณราชประเพณีและพรอ้ มใช้ในริว้ กระบวน
พระอิสรยิ ยศอย่างสมพระเกยี รติ
27
รอบปที ี่ผา่ นมา
การสนับสนุนเครอื่ งผลักดนั น�้ำ ในการหนว่ งน้ำ�เค็ม
ตั้งแต่ปลายเดอื นมกราคมต่อเนอ่ื งถงึ เดอื นกุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๗ สถานการณ์นำ�้ ในพื้นทล่ี ุม่ แมน่ ้�ำ
เจา้ พระยาตอนลา่ งมนี ำ้� เคม็ รกุ ลำ�้ เขา้ ไปยงั แหลง่ ผลติ นำ้� ประปาและพนื้ ทก่ี ารเกษตร เมอ่ื วนั ท่ี ๑๕ กมุ ภาพนั ธ์
พ.ศ.๒๕๕๗ ที่สถานสี ูบนำ้� ส�ำแล จังหวดั ปทมุ ธานี น้�ำมคี วามเคม็ เกินคา่ มาตรฐานสงู ถึง ๑.๙๒ กรัมต่อลติ ร
ต่อเนอื่ งนาน ๗๐ ชว่ั โมง
คณะกรรมการบรหิ ารจดั การนำ้� และอทุ กภยั (กบอ.) ไดข้ อรบั การสนบั สนนุ เครอ่ื งผลกั ดนั นำ�้ จากกองทพั เรอื
เพ่อื ผนั น�้ำจากแม่น้ำ� แม่กลองผา่ นคลองมหาสวัสดิ์ใหไ้ หลลงสคู่ ลองบางกอกนอ้ ย ในการหน่วงนำ�้ เคม็ ท่ี
รุกล�้ำแหล่งผลิตน้�ำประปาและพ้ืนท่ีการเกษตรดังกล่าว กองทัพเรือ โดยกรมอู่ทหารเรือสนับสนุน
เครอื่ งผลักดันนำ้� จำ� นวน ๓๐ เครื่อง พร้อมกบั จัดกำ� ลงั พล เคร่ืองมือ เครอื่ งท่นุ แรง ดำ� เนนิ การติดตง้ั
และเดินเครื่องผลักดนั น�ำ้ ๓ จุด ได้แก่ คลองมหาสวสั ด์ิ บริเวณถนนราชพฤกษ์ จ�ำนวน ๑๐ เคร่ือง
คลองบางกอกน้อย บริเวณถนนบรมราชชนนี จ�ำนวน ๑๐ เครอ่ื ง และคลองบางกอกน้อย บรเิ วณถนน
อรณุ อมรนิ ทร์ จำ� นวน ๑๐ เครอื่ ง ระยะเวลาปฏบิ ตั กิ ารตง้ั แตว่ นั ท่ี ๑ เมษายน - ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๗
ผลการใชเ้ ครื่องผลกั ดันน้�ำในครัง้ นี้คือ สามารถชว่ ยเร่งความเรว็ ของน้�ำได้จากเดิม ๐.๓๗ เมตรตอ่ วนิ าที
เปน็ สงู สดุ ถึง๐.๖เมตรตอ่ วนิ าทีโดยความเรว็ พื้นฐานของน้ำ� ในคลองมหาสวัสด์อิ ยู่ในช่วง๐.๓๕-๐.๔เมตร
ต่อวนิ าที และหัวนำ�้ จืดทน่ี อนคลองบรเิ วณถนนราชพฤกษ์ใช้เวลาเดินทางถึงแม่นำ�้ เจา้ พระยา (ระยะทาง
๘ กิโลเมตร) ใช้เวลา ๕ - ๖ ชั่วโมง (ช่วงเวลานำ�้ ลงนานสดุ แตล่ ะวัน ๘ - ๑๐ ช่ัวโมง) ทัง้ นี้ น�ำ้ จากแมน่ ำ�้
แม่กลอง สามารถไหลออกสู่แมน่ ้ำ� เจา้ พระยาใช้เวลาวนั ละ ๒ - ๔ ช่วั โมง เป็นอย่างน้อย
28
รอบปีท่ผี ่านมา
การบูรณปฏิสังขรณอ์ ุโบสถวัดวงศมูลวิหาร
โบราณสถานในกรมอทู่ หารเรือ
วดั วงศมลู วหิ ารเปน็ วดั ทสี่ รา้ งขน้ึ ในสมยั รตั นโกสนิ ทรต์ อนตน้ โดยพระองคเ์ จา้ ประยงค์กรมขนุ ธเิ บศรบ์ วรพระราชนดั ดา
ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจฬุ าโลกมหาราช ทรงสร้างวดั บริเวณดา้ นหลงั พระต�ำหนักทีป่ ระทับภายในอาณา
บรเิ วณพระนเิ วศนเ์ ดมิ ของพระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราช (เมอ่ื ครงั้ ทรงเปน็ สมเดจ็ เจา้ พระยามหากษตั รยิ ศ์ กึ
ในสมัยกรุงธนบรุ เี ปน็ ราชธาน)ี สันนษิ ฐานวา่ สร้างข้ึนกอ่ น พ.ศ.๒๔๐๐ ปัจจุบันอยใู่ นเขตพื้นท่กี รมอทู่ หารเรอื
กรมศลิ ปากรได้ข้ึนทะเบยี นอุโบสถวดั วงศมลู วหิ ารเป็นโบราณสถานเมือ่ พ.ศ.๒๕๔๕
งานบรู ณปฏสิ งั ขรณใ์ นครง้ั นเ้ี ปน็ การซอ่ มแซมสว่ นทชี่ ำ� รดุ ทรดุ โทรม โดยเปลย่ี น 29
กระเบอื้ งมงุ หลงั คาอโุ บสถซอ่ มแซมสว่ นตา่ งๆไดแ้ ก่ชอ่ ฟา้ ใบระกา หางหงส์
หนา้ บัน ประตู หน้าต่าง ผนังภายนอกภายใน ปกู ระเบือ้ งดินเผารอบ
อโุ บสถ และฐานพระพทุ ธวงศมลู ม่งิ มงคล พระพุทธรูปปางมารวชิ ัย
แบบสมยั รัตนโกสินทร์ ซ่งึ เป็นพระประธานท่หี ันพระพักตร์ไปตาม
ความยาวของอุโบสถ ทางด้านทศิ เหนอื อันเป็นลักษณะเฉพาะของอโุ บสถ
วดั วงศมลู วิหาร
การบรู ณะดำ� เนนิ ไปอยา่ งตอ่ เนอื่ งดว้ ยกศุ ลจติ และกำ� ลงั ศรทั ธาของกำ� ลงั พล
กองทพั เรอื ประชาชนทว่ั ไปและบรษิ ทั หา้ งรา้ นทร่ี ว่ มสมทบทนุ เพอ่ื การอนรุ กั ษ์
ศาสนสถานและโบราณสถานของชาตใิ หด้ ำ� รงอยตู่ ลอดไป เชน่ ซอื้ กระเบอื้ ง
มุงหลงั คา บรจิ าคเงินซอ่ มลายรดน�ำ้ บานประตหู นา้ ตา่ ง เขา้ ร่วมการแข่งขัน
กรมอูท่ หารเรือมนิ ิมาราธอน คร้งั ที่ ๑ วนั ท่ี ๓๐ พฤศจกิ ายน พ.ศ.๒๕๕๗
รอบปที ี่ผา่ นมา
กจิ กรรมทางทหารเนื่องในงานวนั เด็กแหง่ ชาติ ประจำ�ปี ๒๕๕๗
ณ อทู่ หารเรอื พระจุลจอมเกล้า กรมอู่ทหารเรือ
อทู่ หารเรอื พระจลุ จอมเกล้า กรมอู่ทหารเรือ ไดร้ บั มอบหมายจากกองทพั เรอื ให้จัดกจิ กรรมทางทหาร
เนอื่ งในงานวันเดก็ แหง่ ชาติ ร่วมกับป้อมพระจลุ จอมเกลา้ ฐานทัพเรือกรุงเทพ เป็นประจ�ำทกุ ปี
งานวนั เดก็ แหง่ ชาติ ประจำ� ปี ๒๕๕๗ จดั ขน้ึ ในวนั เสารท์ ่ี ๑๑ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๗ ตง้ั แตเ่ วลา
๐๘.๐๐ น. ถงึ ๑๖.๐๐ น. ณ อทู่ หารเรอื พระจลุ จอมเกลา้ และป้อมพระจลุ จอมเกล้า อำ� เภอพระสมทุ รเจดีย์
จงั หวดั สมทุ รปราการ เพอ่ื ใหเ้ ดก็ และเยาวชนในพน้ื ทจ่ี งั หวดั สมทุ รปราการ และพน้ื ทใ่ี กลเ้ คยี งไดร้ บั ความสขุ
และเหน็ ความสำ� คญั ของตนเองในการเตบิ โตเปน็ กำ� ลงั สำ� คญั ของชาตติ อ่ ไปในอนาคตซง่ึ มหี นว่ ยงานตา่ งๆ
ในกองทัพเรอื หลายหนว่ ยงานรว่ มจัดกจิ กรรม เช่น กรมการสอ่ื สารและเทคโนโลยีสารสนเทศทหารเรือ
กองเรอื ทุ่นระเบิดกองเรือยุทธการ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยาน
และรักษาฝั่ง กรมอเิ ลก็ ทรอนิกสท์ หารเรอื กรมสรรพาวุธทหารเรอื นอกจากน้ี ยังมีโรงเรยี น
หน่วยราชการ บริษทั หา้ งร้าน และมลู นธิ ิ อกี หลายหน่วยงานใหก้ ารสนับสนนุ
งานวนั เด็กมีกจิ กรรมที่หลากหลาย เชน่ การแสดงเรือรบของกองทพั เรอื ไดแ้ ก่ ร.ล.ถลาง ร.ล.ตาปี
และ ร.ล.สรุ ินทร์ การแสดงยทุ โธปกรณ์ทางทหาร เชน่ รถหุ้มเกราะล้อยางติดอาวุธ ปืนตอ่ สูอ้ ากาศยาน
นิทรรศการอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลจ�ำลอง การสาธิตการถอดท�ำลายระเบิดพร้อมจ�ำลองสถานการณ์
การแสดงสนุ ขั ทหาร การแขง่ ขนั กีฬากลางแจ้ง การเลน่ เกมส์ การแสดงบนเวทีของโรงเรียนต่าง ๆ
การแจกของขวญั อาหาร และเครอ่ื งดื่มตลอดงาน ทั้งน้ี มีเดก็ เยาวชน และผปู้ กครองเขา้ รว่ มงานเป็น
จ�ำนวนมาก
30
รอบปีทผี่ า่ นมา
การด�ำเนินงานต่าง ๆ ของกรมอู่ทหารเรือในรอบปีที่ผ่านมา ประสบผลส�ำเร็จด้วยความเรียบร้อยจาก
ความมุ่งมัน่ และความรว่ มมือของกำ� ลงั พลทกุ ระดบั ชัน้ นำ� มาซ่ึงความภาคภมู ใิ จและก�ำลงั ใจทจ่ี ะปฏิบัติ
งานตามภารกจิ และงานที่ไดร้ บั มอบหมายอย่างเตม็ กำ� ลงั ความสามารถ “รอบปที ผ่ี ่านมา” จึงเปน็ บนั ทึก
ความทรงจำ� อกี หน้าหนึ่งของประวตั ศิ าสตร์กรมอทู่ หารเรือ สว่ นหน่งึ เปน็ องค์ความร้แู ละมรดกทางปัญญา
ทอี่ นุชนรนุ่ หลังจะได้เรยี นรู้ สืบสาน และพัฒนาต่อยอด เพอ่ื ความเจรญิ กา้ วหน้าของกรมอ่ทู หารเรอื ต่อไป
31
ปลอ่ งเหล่ยี มและเตาโบราณ
โบราณสถานประเภทมรดกทางอตุ สาหกรรม
(Industrial Heritage)
โดย : นาวาเอกหญงิ กาญจนา ทรงวรวทิ ย์
นายทหารปฏบิ ตั ิการประจำ� กรมกำ� ลงั พลทหารเรอื
ชว่ ยปฏิบตั ิราชการ กรมพฒั นาการชา่ ง กรมอ่ทู หารเรือ และ
ภัณฑารักษพ์ ิพิธภณั ฑ์อู่เรือหลวงเฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษา
กรมอู่ทหารเรือในอดตี
พนื้ ทีร่ มิ แมน่ ำ�้ เจ้าพระยาประมาณ ๔๐ ไร่ ทตี่ ้งั ของกรมอทู่ หารเรือในปัจจบุ นั เปน็ แหล่งประวตั ศิ าสตร์
ส�ำคญั แหง่ หนึง่ ในยา่ นฝ่งั ธนบุรี ด้วยคณุ ค่าทางดา้ นประวัตศิ าสตรพ์ ้ืนท่ี สิ่งกอ่ สรา้ ง และอ่ซู อ่ มสร้างเรือ
เก่าแกข่ องประเทศ กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนสง่ิ ก่อสร้างภายในกรมอูท่ หารเรอื เปน็ โบราณสถานและ
กำ� หนดเขตท่ีดินโบราณสถานแลว้ ๒ เขต คอื อโุ บสถวดั วงศมูลวิหาร และปล่องเหล่ยี ม โดยปล่องเหลย่ี ม
ซ่ึงรวมท้ังเตาโบราณของระบบเคร่ืองจักรไอน�้ำ จัดเป็นโบราณสถานประเภทมรดกทางอุตสาหกรรม
(Industrial Heritage)
ปล่องเหล่ียมเป็นช่ือท่ีชาวกรมอู่ทหารเรือใช้เรียกกันมาอย่างยาวนาน และเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย
เป็นจุดสังเกต (Landmark) หนึง่ ทสี่ ูงตระหงา่ นเคียงคูโ่ รงงานและอแู่ ห้งของกรมอู่ทหารเรอื มาช้านาน
ส่วนชอื่ เรยี กอน่ื ได้แก่ ปล่องควัน ปลอ่ งกรมอู่ ทัง้ นี้ มีช่อื ทางราชการวา่ ปลอ่ งควันหมอ้ น้ำ� (๑)
ปลอ่ งเหลีย่ มและเตาโบราณ โบราณสถานประเภทมรดกทางอตุ สาหกรรม
ประวัติศาสตรค์ วามเป็นมา
พ.ศ.๒๔๒๓ เมือ่ พระองคเ์ จา้ ยคุ ันธร กรมหมืน่ อนนั ตการฤทธ์ิ พระราชนดั ดาในพระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟ้า
จฬุ าโลกมหาราช ซึ่งประทบั ณ พระนิเวศน์เดมิ ของพระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จุฬาโลกมหาราช (บรเิ วณตัง้ แต่
ปากคลองมอญไปจนถงึ อู่กำ� ปนั่ ) ไดส้ ิ้นพระชนมล์ ง พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ เจ้าอยหู่ ัวมไิ ดพ้ ระราชทาน
พระนเิ วศน์เดิมแหง่ นีใ้ ห้แก่เจ้านายพระองค์ใด และต่อมา พ.ศ.๒๔๒๖ ไดพ้ ระราชทานใหแ้ ก่กรมทหารเรือ (กองทพั เรอื
ในปจั จบุ ัน) เพ่อื สร้างโรงงานกรมอหู่ ลวงและท่ีทำ� การของกรมทหารเรือ พร้อมทงั้ ทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ ให้สร้าง
อู่เรือไม้ขนาดใหญ่ขึ้นบริเวณข้างโรงหล่อด้านทิศใต้ของวัดระฆังโฆสิตาราม ส�ำหรับซ่อมและสร้างเรือรบ โดยเสด็จ
พระราชด�ำเนินมาทรงเปิดอู่เรือหลวง เม่ือวันที่ ๙ มกราคม พ.ศ.๒๔๓๓ ซึ่ง คือ อู่หมายเลข ๑ อู่ทหารเรือธนบุรี
กรมอู่ทหารเรือ ในระยะแรกงานอู่เรือแบ่งออกเป็น ๒ ส่วน คือ ฝ่ายการอู่และฝ่ายการกลจักรหรือโรงงาน
ซ่ึงโรงเครอื่ งจกั รมชี ่างฝีมอื ไดแ้ ก่ ช่างหมอ้ นำ�้ ช่างกลงึ ชา่ งหลอ่ ชา่ งทำ� แบบไม้ ช่างเหล็ก ชา่ งเหล่านี้สว่ นมากเปน็ ชาว
จนี ต่อมาจงึ มชี า่ งท่ีเปน็ คนไทย
ในสมัยนนั้ การซ่อมท�ำเรอื ของกรมอู่ทหารเรือใชแ้ รงดนั ไอนำ�้ ทม่ี ีกำ� ลงั ดนั สงู ไปขับเคร่อื งจกั รไอน้�ำ เพ่ือใชง้ านในอเู่ รือ
และเดินอปุ กรณต์ ่าง ๆ ในโรงงาน โดยมีหมอ้ น�ำ้ (Steam Boiler) เป็นอุปกรณส์ ำ� คญั ในการผลติ ไอน�ำ้ หม้อนำ�้ มสี ่วน
ประกอบต่าง ๆ หลายอยา่ ง รวม เตา (Furnace) และปลอ่ งควันหมอ้ น้�ำ (Chimney) ดว้ ย
ปล่องควันหม้อนำ�้ หรอื ปล่องเหลี่ยมและ
เตาโบราณของกรมอู่ทหารเรือนั้น ไม่
ทราบปีทีก่ ่อสร้างแน่ชัด แต่สันนษิ ฐาน
ว่าสร้างพร้อม ๆ กับการน�ำหม้อน�้ำ
มาใช้ในการผลิตไอน้�ำท่ีมีก�ำลังดันสูง
ประมาณ พ.ศ.๒๔๔๘ จากข้อมูลท่ี
โรงงานเชือกรอกและการอู่ แผนก
โรงงานเบ็ดเตลด็ กองโรงงานอู่ทหารเรอื
ธนบุรี บนั ทกึ ไว้ ระบวุ า่ “หมอ้ น�ำ้
หมายเลข ๑ และ หมายเลข ๒ นำ� มา
ใชร้ าชการเมอื่ พ.ศ.๒๔๔๘ เป็นหม้อน�ำ้
แบบแลงแคชไชร์ (Lancashire Boiler) ชนดิ เตาเกลยี้ ง รูปทรงกระบอก ขนาดของหม้อนำ้� กว้าง ๙ ฟุต ยาว ๓๐ ฟตุ
หนา ๑/๒ นวิ้ มเี รอื นไฟ ๒ เตา มีก�ำลัง ๑๐๐ แรงม้า ใชก้ �ำลงั ไอนำ้� อย่างสงู ได้ ๑๒๐ ปอนด์ตอ่ ตารางนว้ิ จุน�ำ้ ได้
๑๙.๗๒๙ ลูกบาศกเ์ มตร เชื้อเพลิงที่ใช้คือ ถ่านหรือฟนื (เปล่ยี นมาใช้น�้ำมันเมื่อ ๒๑ มีนาคม พ.ศ.๒๔๙๙) บริษทั ที่
สรา้ ง คอื John Marshall & Co., Ltd. London มีปลอ่ งระนาดครนั สูง ๒๓.๕๐ เมตร” และจากภาพถ่ายเกา่ แกข่ องกรม
อทู่ หารเรือทีบ่ ันทกึ การสรา้ งอแู่ ห้ง หมายเลข ๑ ช้ันใน เมอื่ วันที่ ๑๑ กุมภาพนั ธ์ พ.ศ.๒๔๕๘ มปี ลอ่ งเหลี่ยมปรากฏอยู่
ในภาพด้วย
34
ปล่องเหลีย่ มและเตาโบราณ โบราณสถานประเภทมรดกทางอุตสาหกรรม
ลกั ษณะทางสถาปัตยกรรม
ปลอ่ งเหลีย่ มเป็นปลอ่ งกอ่ อิฐสอปูนรูปทรงส่เี หล่ียมจัตรุ ัสปลายสอบสงู ประมาณ ๒๓.๗๕ เมตร ขนาดฐานล่างของปลอ่ ง
ประมาณ ๓.๐๕ X ๓.๐๕ เมตร ปากปล่องมขี นาดประมาณ ๑.๗๐ X ๑.๗๐ เมตร มีท่อระบายควันทีเ่ ช่ือมตอ่ กบั หม้อน�ำ้
๔ หม้อ (ปัจจุบันเหลอื เพียง ๒ หมอ้ ) ท่อระบายควันกอ่ อฐิ สอปนู เชน่ กนั มลี ักษณะเปน็ ทอ่ สีเ่ หล่ยี มยนื่ ออกมาจากปลอ่ ง
๒ ดา้ น ดา้ นละ ๒ ท่อ (๒) (สอปูน หมายถงึ นําปูนสอมาเชอ่ื มอิฐหรือหินใหต้ ิดกัน – ผเู้ ขียน)
การใช้สอยในอดตี
ปลอ่ งเหล่ยี มและเตาโบราณใชร้ าชการอยูท่ ่โี รงงานเชอื กรอกและการอู่ แผนกโรงงานเบ็ดเตลด็ กองโรงงาน อทู่ หารเรือ
ธนบุรี เตาเป็นทีส่ �ำหรับบรรจเุ ช้อื เพลิง ท�ำใหเ้ ช้ือเพลิงเกิดการเผาไหม้ เพือ่ ใหค้ วามร้อนแกห่ มอ้ นำ้� และปลอ่ งเหล่ียม
ทำ� หนา้ ทเี่ ปน็ ทอ่ ทางนำ� แกส๊ รอ้ นและควนั ออกทงิ้ สบู่ รรยากาศภายนอกหมอ้ นำ้� และชว่ ยทำ� ใหก้ ระแสลมเรง่ ทางธรรมชาติ
(Natural Draft) ดขี นึ้ ผนังเตาและปล่องเหลยี่ มทำ� ด้วยอฐิ ทนไฟ (Fire Brick) โดยชา่ งเดนิ เคร่ืองของโรงงานเชอื กรอก
และการอู่ ฯ ตดิ ไฟหมอ้ น้ำ� ตอนเช้าเวลา ๐๘.๓๐ น. ดบั ไฟหม้อนำ้� ชว่ งพักกลางวนั เวลา ๑๑.๓๐ น. และติดไฟอกี ครั้ง
เวลา ๑๓.๐๐ น. ตอนเยน็ ดับไฟเลิกใชห้ มอ้ น้ำ� เวลา ๑๕.๓๐ น.
กำ� ลังไอนำ�้ ท่มี กี ำ� ลังดนั สงู จากหมอ้ น้�ำน�ำไปใชใ้ นการเดนิ อปุ กรณใ์ นโรงงานตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่ โรงงานเชอื กรอกและการอู่
ใช้แรงดันไอน้�ำไปขับเคร่ืองจักรไอน�้ำเพื่อสูบน้�ำออกจากอู่ โรงงานเครื่องกลน�ำแรงดันไอน�้ำไปขับเครื่องจักรไอน้�ำ
เพ่ืออัดลมไปเป่าเตาที่ใช้เผาเหล็กส�ำหรับน�ำไปตีข้ึนรูป โรงงานยางน�ำความร้อนไปอบยางในการหล่อชิ้นงาน
โรงงานแบตเตอร่นี �ำไอนำ�้ ไปใช้ทำ� เป็นนำ�้ กล่ัน
35
ปล่องเหลีย่ มและเตาโบราณ โบราณสถานประเภทมรดกทางอตุ สาหกรรม
การข้นึ ทะเบียนเป็นโบราณสถาน
โบราณสถาน หมายถึง “อสังหารมิ ทรัพย์ซงึ่ โดยอายหุ รอื โดยลักษณะแห่งการก่อสร้าง หรือโดยหลกั ฐานเกี่ยว
กบั ประวตั ิของอสังหารมิ ทรัพยน์ ้ัน เป็นประโยชน์ทางศิลปะ ประวัติศาสตร์ หรือโบราณคดี ทง้ั นีใ้ ห้รวมถงึ สถานที่
ท่เี ป็นแหลง่ โบราณคดี แหล่งประวตั ศิ าสตร์ และอุทยานประวตั ศิ าสตรด์ ว้ ย” (๓)
หม้อนำ�้ หมายเลข ๑ และหมายเลข ๒ เลกิ ใช้งานต้ังแต่ พ.ศ.๒๕๓๓ เนอ่ื งจาก ในช่วงแรกเมอื่ เรมิ่ ติดไฟหม้อน�้ำ
จะมคี วนั ด�ำเกดิ ขึ้นเปน็ จ�ำนวนมาก เปน็ มลพษิ ตอ่ ชวี ิตและสงิ่ แวดลอ้ มทงั้ ในบรเิ วณกรมอทู่ หารเรอื และพน้ื ทใี่ กลเ้ คียง
กรมอูท่ หารเรือจึงได้น�ำหม้อนำ�้ แบบ York จำ� นวน ๒ หมอ้ มาใช้แทน ตอ่ มาเมื่อเกดิ การชำ� รุดใชร้ าชการไม่ได้ จงึ
หยดุ ใช้งานหม้อน�้ำ และปล่องเหลี่ยมด้วย จนกระท่ังกองทัพเรือได้อนุมัติผังหลักการจัดแบ่งพื้นที่ของหน่วยต่าง ๆ
ในกรมอู่ทหารเรือ โดยให้ยา้ ยหน่วยงานทท่ี �ำใหเ้ กดิ มลพิษไปอยู่ทีอ่ ู่ทหารเรือพระจลุ จอมเกลา้ จงั หวัดสมทุ รปราการ
และปรับปรงุ อาคารสถานที่ เพอ่ื เพ่มิ ขีดความสามารถของอู่ทหารเรือธนบรุ ี ในการสร้างเรอื ขนาดใหญ่ ซ่ึงในผังหลกั น้ี
ไมม่ ีการก�ำหนดปลอ่ งเหล่ียมไวด้ ว้ ย
เมอ่ื ปลอ่ งเหลี่ยมไม่ไดใ้ ชง้ านเป็นเวลานาน และไดร้ ับความชื้นจากสภาพแวดลอ้ ม จึงอยใู่ นสภาพชำ� รดุ ทรดุ โทรม
อฐิ ทนไฟบริเวณปากปล่องมีรอยรา้ วและร่วงหล่นตกลงมาบอ่ ยครัง้ ในชว่ งปลาย พ.ศ.๒๕๔๑ กรมอู่ทหารเรอื จงึ ขอให้
กรมช่างโยธาทหารเรือตรวจสภาพความมน่ั คงแข็งแรงของปล่องเหล่ยี ม ผลการส�ำรวจปรากฏว่า ปูนกอ่ เรมิ่ เส่ือมสภาพ
การยึดเหนีย่ วของอฐิ มปี ระสทิ ธิภาพลดลง มีโอกาสรว่ งหลน่ ลงมาและท�ำความเสยี หายใหแ้ ก่ทรพั ย์สินของทางราชการ
ไดต้ ลอดเวลา พร้อมกนั น้ี กรมชา่ งโยธาทหารเรอื ได้จดั ทำ� แบบและกำ� หนดรายละเอยี ดการซ่อมปรบั ปรงุ และรอ้ื ถอน
โดยประมาณการค่าใช้จา่ ยในการซ่อมทำ� ปล่องเหลี่ยมใหด้ ำ� รงสภาพเพอื่ การอนุรกั ษ์ในครงั้ แรก และการบำ� รุงรักษา
ซ่ึงต้องด�ำเนินการทุกระยะเวลา ๕ ปี และค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนด้วยกรมอ่ทู หารเรอื พิจารณาเห็นวา่ ปลอ่ งเหล่ยี มหมด
ความจำ� เปน็ ในการใช้งาน และสภาพปลอ่ งเหลยี่ มเปน็ อันตรายต่อการปฏบิ ตั งิ าน ประกอบกับค่าใชจ้ ่ายเพือ่ การอนุรักษ์
มีราคาคอ่ นขา้ งสูง นอกจากน้ี หากรอ้ื ถอนปลอ่ งเหลย่ี มออกไป พนื้ ทตี่ ง้ั ของปล่องเหลย่ี มประมาณ ๒๐๐ ตารางเมตร
สามารถน�ำไปใชป้ ระโยชนอ์ ยา่ งอื่นได้ สอดคล้องกบั การพฒั นาหน่วยตามผังหลกั จงึ เสนอกองทัพเรอื ขออนมุ ตั ิร้อื ถอน
ปล่องเหล่ยี ม ในเดอื นสงิ หาคม พ.ศ.๒๕๔๒
เมื่อกองทัพเรืออนุมัติให้รื้อถอน และอยู่ระหว่างการด�ำเนินการสอบราคาว่าจ้างเอกชนให้รื้อถอนปล่องเหล่ียมน้ัน
เดือนมีนาคม พ.ศ.๒๕๔๓ กรมศิลปากรได้ขอเข้าด�ำเนินการส�ำรวจโบราณสถานในกรมอู่ทหารเรือ ต่อมาเดือน
พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๔๓ กรมศิลปากรมีหนังสือเรียนผู้บัญชาการทหารเรือขออนุรักษ์ปล่องเหล่ียมและเตาโบราณ
เพอ่ื การประกาศขนึ้ ทะเบยี นโบราณสถาน
“...กรมศลิ ปากรได้ส�ำรวจพน้ื ท่ีกรมอทู่ หารเรือ ซงึ่ เป็นส่วนหน่งึ ของพระนิเวศนเ์ ดิมของพระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอด
ฟา้ จฬุ าโลก และได้ทราบวา่ ปลอ่ งระบายควัน ฯ ดงั กล่าวเปน็ ส่วนหนึ่งของระบบเครื่องจักรไอน้ำ� ทส่ี ร้างขึ้นโดยพระบรม
ราชโองการของพระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจ้าอยูห่ ัว เพือ่ ใช้ซ่อมและสรา้ งเรือรบไว้ใช้ในการปอ้ งกันประเทศ นับ
วา่ เปน็ โบราณสถานสำ� คัญประเภทมรดกของอุตสาหกรรม (Industrial Heritage) ซึ่งไดร้ ับการคมุ้ ครองตามพระราช
บญั ญตั ิโบราณสถาน โบราณวตั ถุ ศิลปวัตถุ และพพิ ิธภัณฑสถานแห่งชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๓๕ สมควรไดร้ ับการ
อนรุ กั ษ์ และสามารถพัฒนาใหม้ ่นั คงแขง็ แรงได้ โดยกรมศลิ ปากรยินดปี ระสานกบั กองทพั เรือในการอนรุ ักษ์ การข้นึ
ทะเบยี น รวมท้ังจดั สรรงบประมาณมาสมทบกับงบประมาณเดมิ ท่กี องทัพเรอื เตรียมไวส้ ำ� หรบั การร้ือถอน...” (๔)
36
ปลอ่ งเหลีย่ มและเตาโบราณ โบราณสถานประเภทมรดกทางอุตสาหกรรม
กองทัพเรือพิจารณาแล้วเห็นว่าสมควรให้ความร่วมมือกับกรมศิลปากรในการอนุรักษ์ปล่องเหล่ียม แม้ว่าการระงับ
การร้ือถอนปลอ่ งเหล่ยี มจะกระทบตอ่ ผงั หลักของกรมอ่ทู หารเรือ แต่สามารถปรับแต่งและออกแบบให้สอดคล้องกับ
การอนรุ กั ษ์ได้ กองทพั เรือจึงได้อนมุ ัติใหย้ กเลิกการวา่ จ้างร้ือถอนปล่องเหลยี่ ม
วันท่ี ๒๘ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๔ กรมศิลปากรมหี นังสือแจง้ ใหก้ องทัพเรอื ทราบว่า “...อาคารกรมอู่ทหารเรอื เป็นโบราณ
สถานทมี่ คี ุณค่าทางประวตั ิศาสตร์ โบราณคดแี ละศิลป สถาปตั ยกรรม กรมศลิ ปากรได้ดำ� เนนิ การจัดทำ� แผนผังและ
กำ� หนดเขตโบราณสถานเป็นท่ีเรียบร้อยแล้ว และอยูใ่ นระหวา่ งด�ำเนินการประกาศขน้ึ ทะเบยี น...” (๕) ซง่ึ ตามรายชื่อ
โบราณสถานที่ขนึ้ ทะเบยี นโดยกรมศิลปากร มเี ลขทะเบยี น คอื ๐๐๐๐๑๖๔ จนกระทง่ั มีประกาศกรมศิลปากร เร่ือง ขึ้น
ทะเบยี นและก�ำหนดเขตทดี่ ินโบราณสถาน ณ วนั ท่ี ๓๐ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๕ และลงประกาศในราชกจิ จานุเบกษา
เล่ม ๑๑๙ ตอนพเิ ศษ ๑๓๑ ง วนั ที่ ๒๘ ธนั วาคม พ.ศ.๒๕๔๕ ความว่า
“...๓. โบราณสถานกรมอู่ทหารเรอื (ปล่องควันหม้อน้ำ� ) แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกนอ้ ย กรงุ เทพมหานคร พืน้ ท่ี
โบราณสถาน
พื้นท่ี ก. ประมาณ ๒ งาน ๗๒ ตารางวา
พ้นื ท่ี ข. ประมาณ ๑๑ ไร่ ๖๒ ตารางวา ...”
โดยมรี ายละเอยี ดแผนผังแนบท้ายตามประกาศนี้ พนื้ ท่ี ก. คอื อโุ บสถวดั วงศมูลวิหาร และ พ้นื ท่ี ข. คือ ปล่องเหลีย่ ม
ในการอนุรักษ์ปล่องเหลี่ยม และเตาโบราณของระบบเคร่ืองจักรไอน้�ำ กรมศิลปากรให้ความเห็นชอบแบบ
การอนุรักษ์และประมาณการท่กี รมช่างโยธาทหารเรือดำ� เนินการรว่ มกบั กรมศิลปากร การซ่อมปรบั ปรงุ มคี า่ ใช้จ่าย
เป็นเงนิ ๔๐๓,๐๐๐ บาท โดยกรมศิลปากรสนับสนุน จำ� นวน ๑๓๙,๐๐๐ บาท (ใชง้ บประมาณปี ๒๕๔๕) สมทบ
กับงบประมาณของกองทพั เรือ จ�ำนวน ๒๖๔,๐๐๐ บาท วิธีการซอ่ มปรบั ปรงุ คอื ใชน้ ำ้� ยาเคลอื บทาปูนและทาสีใหม่
ส่วนงบประมาณคา่ ซอ่ มบ�ำรงุ ตามระยะเวลา (วงรอบ ๕ ป)ี ประมาณการไว้คร้งั ละ ๓๔๒,๐๐๐ บาท (๖)
37
ปลอ่ งเหลย่ี มและเตาโบราณ โบราณสถานประเภทมรดกทางอุตสาหกรรม
สภาพปัจจบุ ัน
หลงั จากการซ่อมปรับปรุงปลอ่ งเหลยี่ มเม่อื พ.ศ.๒๕๔๕ แลว้ ยังไมม่ กี ารซอ่ มปรับปรงุ ตามระยะเวลาอกี ปจั จบุ ัน
ลักษณะภายนอกของปลอ่ งเหล่ยี มอยู่ในสภาพดี เหน็ สีอฐิ ชดั เจน แต่มีวัชพืชขนึ้ บริเวณฐานของปลอ่ งและปากปลอ่ ง
เจา้ หนา้ ทแี่ ละชา่ งโรงงานเชอื กรอกและการอฯู่ สามารถกำ� จดั วชั พชื บรเิ วณฐานของปลอ่ งไดแ้ ละปฏบิ ตั อิ ยอู่ ยา่ งสมำ่� เสมอ
แตไ่ มส่ ามารถกำ� จดั ตน้ โพธเิ์ ลก็ ๆทข่ี นึ้ บรเิ วณปากปลอ่ งได้เจา้ หนา้ ทพี่ ยายามใชร้ ถเครนยกกระเชา้ ขนึ้ ไปกำ� จดั หลายครง้ั
เพื่อไม่ให้รากและล�ำต้นสร้างความเสียหายแก่อิฐ แต่เน่ืองจากปล่องเหล่ียมสูงกว่ารถเครนมาก จึงไม่สามารถยก
กระเช้าข้นึ ไปถงึ ได้ และต้นโพธ์เิ ลก็ ๆ เหลา่ นจ้ี ะเตบิ โตขึน้ ทุกวันๆ อาจสรา้ งความเสียหายแก่ปากปล่องได้ในอนาคต
38
ปลอ่ งเหลี่ยมและเตาโบราณ โบราณสถานประเภทมรดกทางอตุ สาหกรรม ด้านหนา้ เตาหม้อน�้ำ
โบราณสถานประเภทมรดกทางอุตสาหกรรม
(Industrial Heritage)
แม้ว่าปล่องเหล่ียมและเตาโบราณเลิกใช้งานไปนานแล้ว
แต่การเปน็ สว่ นหน่ึงของระบบเคร่อื งจกั รไอน้ำ� ทส่ี รา้ งขึ้น โดย
พระบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า
เจา้ อยหู่ วั เพอื่ ใชส้ รา้ งและซอ่ มเรอื ในการปอ้ งกนั ประเทศมอี ายุ
มากกว่า ๑๐๐ ปี และไดร้ บั การข้นึ ทะเบียนเปน็ โบราณสถาน
ประเภทมรดกทางอตุ สาหกรรม แสดงถงึ คณุ ค่าและความ
ส�ำคัญของส่ิงก่อสรา้ งน้ี ซ่ึงนอกจากการดูแลรักษาและด�ำรง
สภาพเดมิ ไว้แล้ว ปลอ่ งเหลี่ยมและเตาโบราณ สมควรไดร้ ับ
การเผยแพร่ให้เปน็ ที่รจู้ ักวา่ เปน็ “โบราณสถาน” อีกแห่งหนึ่ง
ภายในกรมอทู่ หารเรอื เพอ่ื ประโยชนใ์ นการศกึ ษาของกำ� ลงั พล
กรมอ่ทู หารเรอื และสาธารณชนที่สนใจ โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ
ชา่ งรนุ่ ใหมจ่ ะไดเ้ รียนรู้การท�ำงานของชา่ งรุ่นแรก ๆ ท่ีปฏบิ ตั ิ
งานกับเคร่ืองจักร อุปกรณแ์ ละเครือ่ งมือแบบเก่า
แนวทางการใช้ประโยชนเ์ พ่อื การศกึ ษา คอื จัดพื้นทบี่ รเิ วณ
ดา้ นหน้าเตาหมอ้ น้ำ� ซ่งึ เดมิ เปน็ ส่วนปฏบิ ตั ิงานในการติดไฟ
หม้อน�้ำน้นั กนั้ ให้เปน็ ทางเดนิ เพอ่ื ใหผ้ ู้สนใจสามารถ
เข้าไปชมเตาโบราณและหมอ้ น้ำ� ได้ พรอ้ มจัดทำ� แผน่ ปา้ ย
คำ� บรรยายแบบถาวร เช่นเดียวกบั เครื่องจักรไอนำ�้ ทีใ่ ชส้ ูบน�ำ้
ออกจากอแู่ หง้ ซงึ่ เจา้ หนา้ ทโี่ รงงานเชอื กรอกและการอู่ ฯ ดแู ล
รักษาไว้เป็นอย่างดี ในกรณีที่มีผู้สนใจรายละเอียดการ
ปฏิบัติงาน อาจขอรับการสนับสนุนเจ้าหน้าที่ของโรงงาน
เชือกรอกและการอู่ ฯ ทีม่ ีประสบการณ์ในการตดิ ไฟหม้อนำ้�
ซง่ึ มีอยูห่ ลายนาย มาชว่ ยบรรยายและให้ความรู้ กจ็ ะเสรมิ
สรา้ งบรรยากาศการเรยี นรไู้ ด้ดียิ่งข้นึ
ถงั พักน้�ำ มนั เตา เครื่องจักรไอน�ำ้ ส�ำ หรบั สบู น้�ำ ออกจากอู่
39
ปล่องเหล่ียมและเตาโบราณ โบราณสถานประเภทมรดกทางอุตสาหกรรม
ขอขอบคุณ นาวาเอกหญงิ วิภา หงษาไกร หวั หนา้ กองธรุ การ กองบังคบั การ กรมอู่ทหารเรือ และคณุ ชลนชิ า ทอง
หยัด ช่วยปฏบิ ัติราชการ แผนกธรุ การ อู่ทหารเรอื ธนบุรี กรมอทู่ หารเรอื ท่ีกรณุ าสบื คน้ หาเอกสารทางราชการดว้ ย
ความมงุ่ ม่ันและอุตสาหะ และขอบคณุ นาวาตรี สวุ รรณ เผ่อื นผ่อง ประจำ� กรมอู่ทหารเรือ ช่วยปฏบิ ตั ิราชการ กอง
โรงงาน อู่ทหารเรอื ธนบุรี กรมอูท่ หารเรอื นายสุชาติ อ�่ำสำ� อางค์ ชา่ งเชือกรอกและการอู่ ระดับ ๓ และเจ้าหน้าที่
โรงงานเชอื กรอกและการอู่ แผนกโรงงานเบด็ เตลด็ กองโรงงาน อูท่ หารเรือธนบุรี กรมอู่ทหารเรือ ทกุ ทา่ นทีก่ รณุ าให้
ข้อมูลเกยี่ วกบั ปล่องเหลี่ยมและเตาโบราณอย่างดยี ่ิง
เจ้าหน้าทีโ่ รงงานเชือกรอกและการอู่
(๑) ข้อมลู การขึน้ ทะเบยี นของกรมศลิ ปากร.
(๒) ข้อมลู ของกรมศิลปากร ระบคุ วามสูง ๒๓.๗๕ เมตร แต่ขอ้ มูลของโรงงานเชือกรอกและการอู่
แผนกโรงงานเบ็ดเตล็ด กองโรงงาน อ่ทู หารเรือธนบรุ ี กรมอู่ทหารเรือ ระบคุ วามสูง ๒๓.๕๐ เมตร.
(๓) พระราชบัญญตั ิ โบราณสถาน โบราณวตั ถุ ศิลปวัตถุ และพพิ ิธภณั ฑสถานแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๐๔ แกไ้ ขเพ่ิมเติม
โดยพระราชบัญญตั ิ โบราณสถาน โบราณวตั ถุ ศลิ ปวตั ถุ และพิพธิ ภัณฑสถานแหง่ ชาติ (ฉบับท่ี ๒ ) พ.ศ.๒๕๓๕.
(๔) บนั ทกึ กรมส่งกำ� ลงั บำ� รงุ ทหารเรอื (กองการฐานทัพและอสังหารมิ ทรพั ย)์ ท่ีตอ่ กรมส่งก�ำลังบ�ำรุงทหารเรอื
เลขรับ ๒๗๑๑/๔๓ เร่อื ง การอนรุ ักษป์ ล่องระบายควนั หม้อนำ้� และเตาโบราณของระบบเครือ่ งจกั รไอนำ้�
ทีก่ รมอู่ทหารเรือ ลงวนั ท่ี ๒๓ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๔๓.
(๕) หนังสือ กรมศลิ ปากร ท่ี ศธ ๐๗๐๘/๔๒๐๕ ลงวันท่ี ๒๘ กนั ยายน พ.ศ.๒๕๔๔ เรื่อง ขึน้ ทะเบยี นโบราณสถาน
กรมอู่ทหารเรอื .
(๖) บนั ทกึ กองจดั การ กรมอทู่ หารเรอื ที่ กองจดั การ กรมอูท่ หารเรือ เลขรับ ๑๑๘๘/๔๔
เรือ่ ง การอนรุ ักษ์ปลอ่ งระบายควนั หม้อน้�ำ และเตาโบราณของระบบเคร่อื งจกั รไอนำ้� ท่กี รมอทู่ หารเรอื
ลงวนั ท่ี ๒๑ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๔๔
40
ปล่องเหล่ียมและเตาโบราณ โบราณสถานประเภทมรดกทางอตุ สาหกรรม
บรรณานุกรม
ข้อมลู ประจ�ำหม้อนำ�้ โรงงานเชือกรอกและการอู่ แผนกโรงงานเบ็ดเตลด็ กองโรงงาน อ่ทู หารเรือธนบรุ ี
กรมอูท่ หารเรือ.
บนั ทึก กรมส่งก�ำลังบ�ำรุงทหารเรอื (กองการฐานทัพและอสงั หาริมทรัพย)์ ท่ีตอ่ กรมสง่ ก�ำลังบำ� รุงทหารเรอื
เลขรบั ๒๗๑๑/๔๓ เรื่อง การอนรุ กั ษป์ ล่องระบายควันหม้อน�ำ้ และเตาโบราณของระบบเคร่อื งจักร
ไอนำ้� ท่กี รมอู่ทหารเรือ ลงวนั ท่ี ๒๓ มิถนุ ายน ๒๕๔๓.
พระราชบัญญตั ิ โบราณสถาน โบราณวตั ถุ ศิลปวัตถุ และพิพธิ ภัณฑสถานแหง่ ชาติ พ.ศ.๒๕๐๔ แกไ้ ขเพิ่มเตมิ
โดยพระราชบญั ญัติ โบราณสถาน โบราณวตั ถุ ศิลปวตั ถุ และพิพิธภัณฑสถานแหง่ ชาติ (ฉบับท่ี ๒ )
พ.ศ.๒๕๓๕.
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๑๙ ตอนพิเศษ ๑๓๑ ง วนั ที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๔๕.
รายชอ่ื โบราณสถานท่ีขน้ึ ทะเบียนโดยกรมศลิ ปากร : รายชอื่ โบราณสถานในกรุงเทพมหานคร (ฝ่งั ธนบุรี).
สุชาติ อำ�่ สำ� อางค.์ ชา่ งเชอื กรอกและการอู่ ระดับ ๓ โรงงานเชอื กรอกและการอู่ แผนกโรงงานเบด็ เตลด็
กองโรงงาน อทู่ หารเรอื ธนบรุ ี กรมอู่ทหารเรือ. สัมภาษณ,์ ๑๐ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๗.
41
“...การพัฒนาทุกสิง่ ทุกอย่างใหเ้ จริญขน้ึ นั้น
จะตอ้ งสรา้ งและเสรมิ ขึ้น จากพ้นื ฐานเดิมท่ีมีอยกู่ อ่ นทั้งสิ้น
ถา้ พื้นฐานไมด่ ี หรือคลอนแคลนบกพร่องแล้ว ทจี่ ะเพมิ่ เติมเสรมิ ตอ่ ใหเ้ จริญข้ึนไปอกี นั้น ยากนักท่จี ะทำ�ได้
ดงั นนั้ นอกจากจะมงุ่ สร้างความเจรญิ แล้ว
จะต้องพยายามรกั ษาพ้ืนฐานใหม้ ัน่ คงไมบ่ กพรอ่ งพร้อมๆ กันไปด้วย...”
พระบรมราโชวาท พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยูห่ ัว
เนอื่ งในพธิ พี ระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั
วันที่ ๑๐ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๒๓
โครงการสรา้ งเรือตรวจการณ์ปนื ระยะท่ี ๒ ตามแนวพระราชดำ� รเิ ศรษฐกจิ พอเพยี ง
อกี กา้ วหนง่ึ ท่ีพ่ึงตน
อู่ทหารเรอื ธนบรุ ี กรมอู่ทหารเรอื
ริเริม่ ...เรียนร.ู้ ..ปฐมบทแหง่ การพ่ึงตน
ย้อนเวลากลับไปเมื่อกว่าคร่ึงศตวรรษท่ีผ่านมาผลพวงจากการเสด็ิจพระราชด�ำเนินไปเยี่ยมชมกิจการ
อู่ตอ่ เรือ LURSSEN WERFT ประเทศสหพนั ธ์สาธารณรัฐเยอรมนีของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ ัว
เม่ือปี พ.ศ.๒๕๐๓ ได้นำ� มาซ่งึ พระราชดำ� รทิ จ่ี ะใหก้ องทัพเรือต่อเรอื ตรวจการณ์ใกล้ฝัง่ (เวลานัน้ เรียกวา่
เรือยนต์เร็วรกั ษาฝัง่ ) ไว้ใช้ในราชการเองบา้ ง อันจะเป็นการสร้างรั้วทางทะเลใหเ้ ขม้ แขง็ และมนั่ คงขึ้น
กองทพั เรือจึงด�ำเนนิ การตอ่ เรอื ตรวจการณ์ใกล้ฝ่งั ชดุ เรอื ต.๙๑ ข้นึ จ�ำนวน ๙ ล�ำ โดยทำ� การออกแบบ
และต่อข้ึนเอง ดังพระราชประสงค์ของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั ทต่ี อ้ งการใหบ้ คุ ลากรของกรมอ่ทู หาร
เรอื เกดิ ความชำ� นาญงาน และร้จู ักการใชเ้ ทคนิคตา่ ง ๆ ในการตอ่ เรือ สามารถพ่ึงพาตนเองได้และเปน็
การประหยัดมากกว่าที่จะส่ังซ้ือจากต่างประเทศ แต่เนื่องจากเวลานั้นประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจ
ความหมายที่แท้จริงของแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงมากนัก จึงถือเป็นการน้อมน�ำแนวพระราชด�ำริ
“เศรษฐกิจพอเพยี งแบบพืน้ ฐาน” ซึ่งเปน็ ความพอเพียงในระดบั ทสี่ ามารถเล้ียงตัวเองได้ บนพ้ืนฐานของ
ความประหยดั และการลดค่าใชจ้ ่ายทไ่ี ม่จ�ำเป็น มาประยกุ ตใ์ ชใ้ นกจิ การกองทพั เรอื เป็นครง้ั แรก
อกี ก้าวหนึง่ ท่ีพึ่งตน
ต่อมา กองทัพเรือไดน้ ้อมน�ำแนวคดิ “เศรษฐกจิ พอเพียงแบบก้าวหน้า” ซง่ึ ครอบคลุมทฤษฎีใหม่ข้ันท่ี ๓ เป็นเศรษฐกจิ
พอเพยี งในระดบั ที่มีการรวมตัวกนั เพ่อื รว่ มกันดำ� เนนิ งานในเร่อื งต่าง ๆ มีการสร้างเครอื ขา่ ยและการขยายกจิ กรรม
ทางเศรษฐกิจ โดยประสานความรว่ มมอื กบั ภายนอกมาใช้ในการสร้างเรือชุด เรอื ต.๙๙๑ โดยได้มอบหมายให้
กรมอทู่ หารเรือเป็นผู้ออกแบบและสรา้ งเรือ ต.๙๙๑ และ ต.๙๙๔ เพอ่ื สืบทอดองคค์ วามรแู้ ละดำ� รงรกั ษาภมู ปิ ญั ญาทาง
ดา้ นการสรา้ งเรอื ทมี่ มี าแตค่ รง้ั อดตี ใหค้ งอยสู่ บื ไปและบรษิ ทั มารซ์ นั จำ� กดั เปน็ ผูด้ ำ� เนินการสร้าง เรอื ต.๙๙๒ - ต.๙๙๓
และเรอื ต.๙๙๕ - ต.๙๙๖ พร้อมท้ังสง่ มอบวสั ดุอปุ กรณ์ต่าง ๆ ในการสรา้ งเรือ ต.๙๙๑ และ ต.๙๙๔ ให้กบั
กรมอู่ทหารเรอื
นอกจากการสร้างเรอื ตรวจการณใ์ กลฝ้ ัง่ ชดุ ต. ๙๑ และชดุ ต.๙๙๑ แลว้ กองทพั เรอื ยังไดจ้ ัดสรา้ งเรอื ชดุ ตา่ ง ๆ
เพ่ือสืบทอดองคค์ วามรู้จากรนุ่ สู่รนุ่ และเพ่ือเพ่มิ พูนความสามารถของบุคลากรด้านต่อเรอื ของกองทพั เรอื โดยมีการ
วางแผนดำ� เนินการตามกำ� ลงั งบประมาณของประเทศ เชน่ เรือตรวจการณ์ปราบเรอื ด�ำนำ้� เรือตรวจการณ์ปืน เรือกวาด
ทุ่นระเบิดน้�ำตน้ื เรอื บรรทุกนำ้� เรอื บรรทุกน�้ำมัน และเรือตรวจการณ์ลำ� นำ้� เปน็ ตน้
กลา่ วได้ว่า การประสานความร่วมมอื กันในลักษณะนี้ เปน็ ประโยชน์อยา่ งย่ิงในการสืบทอดภูมปิ ัญญา แลกเปลยี่ น
ความรู้ เทคโนโลยี และบทเรยี นจากการพัฒนา หรือรว่ มมอื กันพฒั นาตามแนวพระราชด�ำรเิ ศรษฐกจิ พอเพียง แห่ง
องคพ์ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู วั นบั เปน็ การส่งเสริมขดี ความสามารถในการสรา้ งเรอื ของภาคเอกชนและอุตสาหกรรม
ต่อเรอื ในประเทศอยา่ งแท้จริง
การจัดหาเรือตรวจการณ์ปืนระยะที่ ๑
ในเวลาตอ่ มา กองเรอื ยทุ ธการได้เสนอความตอ้ งการเรอื ตรวจการณ์ปืน จ�ำนวน ๓ ล�ำ เพ่ือใชป้ ฏิบัติภารกิจในการ
ลาดตระเวน ตรวจการณ์ทางทะเลบริเวณห่างฝ่ัง ปอ้ งกันการแทรกซึมทางทะเล คมุ้ ครองการประมงและการแสวงหา
ทรัพยากรธรรมชาติต่าง ๆ ในทะเล รวมทง้ั ป้องกนั และปราบปรามการกระทำ� ผดิ กฎหมายในทะเลตามอำ� นาจหน้าท่ี
ที่ได้รับมอบ ตลอดจนคน้ หาและช่วยเหลอื ผู้ประสบภยั ทางทะเล รวมท้ังปอ้ งกนั ตนเองจากเรือผิวน�ำ้ และอากาศยาน
ข้าศกึ ไดต้ ามสมรรถนะและอาวธุ ประจำ� เรอื ซ่ึงกองทัพเรอื ได้อนุมตั หิ ลกั การจัดหาเรอื ตรวจการณป์ นื จ�ำนวนดังกลา่ ว
โดยพิจารณาจากมาตรฐานของเรือตรวจการณป์ ืนชุดเรือหลวงตองปลวิ ท่ีกองทพั เรอื มีใช้ราชการอยู่แล้วโดยกองทพั เรอื
เสนอความต้องการงบประมาณโครงการจดั หาเรอื ตรวจการณป์ นื จ�ำนวน ๓ ล�ำ ไดแ้ ก่ เรอื หลวงหัวหนิ เรือหลวงแกลง
และเรือหลวงศรรี าชา วงเงินรวม ๘๔๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ผูกพนั งบประมาณ ๔ ปี ตงั้ แตป่ งี บประมาณ ๒๕๓๙ - ๒๕๔๒
โดยใชว้ ธิ กี ารประกวดราคา เพื่อเปน็ การเปิดโอกาสใหม้ ีการแข่งขนั อย่างกวา้ งขวางและเปน็ ประโยชนต์ ่อกองทพั เรอื
รวมทั้งเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมการต่อเรือภายในประเทศและเพ่ิมพูนความสามารถของบุคลากรด้านต่อเรือของ
กองทัพเรอื อกี ดว้ ย
เรือหลวงตองปลวิ
44
อีกกา้ วหน่ึงท่พี ง่ึ ตน
จากผลการประกวดราคาปรากฏว่าบรษิ ัท เอเชยี น มารนี เซอร์วสิ ส์ จ�ำกดั (มหาชน) เปน็ ผชู้ นะการประกวด โดยเรือชดุ
น้กี รมอู่ทหารเรอื เป็นผอู้ อกแบบเบือ้ งตน้ และบรษิ ัท เอเชยี น มารีนเซอรว์ ิสส์ จำ� กัด (มหาชน) ได้นำ� แบบดังกล่าวไป
ออกแบบรายละเอยี ดจนถึงแบบทีใ่ ช้ในการสรา้ งเรือ โดยเรือหลวงหวั หนิ และเรือหลวงแกลง ได้ด�ำเนนิ การตอ่ ทีบ่ รษิ ัท
เอเชยี น มารีนเซอร์วสิ ส์ จ�ำกดั (มหาชน) สว่ นเรือหลวงศรีราชา บรษิ ัทฯ เป็นผจู้ ดั หาแรงงานวัสดุ เคร่ืองมอื เครือ่ งใช้
ตลอดจนอปุ กรณ์ตา่ ง ๆ ชนิดดี และสง่ มอบอุปกรณป์ ระจ�ำเรอื ตรวจการณป์ ืนให้แกก่ องทพั เรือในลักษณะ PACKAGE
DEAL (ผูร้ บั จา้ งเปน็ ผู้ก�ำหนดแบบเรือและวสั ดุที่ใช้ในการสร้างเรอื เครอื่ งจกั ร และอุปกรณต์ ่าง ๆ ทต่ี ดิ ตัง้ ในเรือ
รวมทงั้ การให้ความช่วยเหลือทางเทคนคิ ในการสรา้ งใหแ้ กก่ องทัพเรือ โดยบริษัทฯ เป็นผใู้ ห้คำ� ปรกึ ษาในการต่อเรอื
ของกรมอทู่ หารเรือตามแบบน้นั )
เรือหลวงศรรี าชา
ส�ำหรบั กรมอู่ทหารเรอื ได้ออกแบบและกำ� หนดแนวทางการสร้างเรือตรวจการณ์ปนื ลำ� ท่ี ๓ เป็นการต่อแบบบล็อก
แบ่งเป็นตัวเรือ ๒๓ บล็อก (บลอ็ ก H1 – บล็อก H23) และเก๋งเรือ (SUPERSTRUCTURE) ๗ บล็อก
(บล็อก S1 – บลอ็ ก S7) ในการดำ� เนนิ การสร้าง ได้มอบใหอ้ ่ทู หารเรือธนบรุ ี กรมอู่ทหารเรือ ดำ� เนนิ การสรา้ งตวั เรอื
ทง้ั ๒๓ บลอ็ ก ในอู่แห้งหมายเลข ๑ เมือ่ สร้างตวั เรอื เสร็จแลว้ จึงไดเ้ คลื่อนย้ายไปที่อทู่ หารเรือพระจุลจอมเกลา้
กรมอทู่ หารเรอื และมอบใหอ้ ทู่ หารเรอื พระจลุ จอมเกลา้ กรมอทู่ หารเรอื ดำ� เนนิ การสรา้ งเกง๋ เรอื (SUPERSTRUCTURE)
โดยวัสดุทใ่ี ชส้ ร้างตวั เรือเปน็ เหลก็ สว่ น เกง๋ เรือ (SUPERSTRUCTURE) เปน็ อะลูมิเนยี มเจือ
คุณลกั ษณะท่วั ไปของเรอื ตรวจการณ์ปนื ระยะที่ ๑
ในการจัดสร้างเรือหลวงศรรี าชานน้ั ได้ประกอบพิธีวางกระดูกงู เมอ่ื วนั ที่ ๑๕ กนั ยายน พ.ศ.๒๕๔๐ และสามารถ
ประกอบพิธปี ล่อยเรือลงนำ�้ ได้ ในวนั จนั ทร์ท่ี ๖ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๒ โดยได้ประกอบพิธีรบั มอบเรือ และข้ึนระวาง
ประจำ� การเรือตรวจการณ์ปนื ชดุ เรอื หลวงหัวหิน (ท้ังสามล�ำ) ในวนั ศุกรท์ ่ี ๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๔๕
45
อีกกา้ วหนึ่งท่พี ่งึ ตน
การจดั หาเรอื ตรวจการณป์ นื ระยะท่ี ๒
กองทัพเรอื มคี วามตอ้ งการจัดหาเรอื ตรวจการณป์ นื ระยะ
ปานกลาง ตามยทุ ธศาสตร์กองทัพเรอื พ.ศ.๒๕๕๑ ถึง
๒๕๖๐ ซง่ึ จะมเี รือตรวจการณ์ปนื ระยะปานกลางทยอย
ปลดระวางในอนาคต เพอ่ื ใชป้ ฏบิ ตั งิ านรว่ มกบั เรอื อากาศนาวี
หนว่ ยบญั ชาการตอ่ สอู้ ากาศยานและรกั ษาฝง่ั หนว่ ยบญั ชาการ
นาวกิ โยธนิ และ หน่วยสงครามพเิ ศษทางเรอื กองเรือ
ยทุ ธการ โดยมีขีดความสามารถการรบ ๒ มติ ิ ท้ังรบผวิ นำ้�
และการตอ่ ส้อู ากาศยาน มีการดำ� เนินการโครงการโดย ภาพจ�ำ ลอง เรอื ตรวจการณ์ปนื ระยะท่ี ๒
จดั ซ้ือแบบและวัสดุสร้างเรือจาก บรษิ ทั มารซ์ ัน จำ� กดั (วงเงนิ ๖๙๙ ลา้ นบาทเศษ) ยกเว้น GFE (Government
Furnished Equipment) ระบบอาวธุ ระบบควบคุมการยงิ ระบบส่อื สารภายนอก และให้ อ่ทู หารเรือธนบรุ ี
กรมอูท่ หารเรอื เป็นผ้สู ร้าง เร่ิมโครงการปีงบประมาณ ๒๕๕๖ – ๒๕๕๘
การออกแบบ
ความตอ้ งการฝ่ายเสนาธกิ าร (STAFF REQUIREMENT) ก�ำหนดภารกิจหลกั ลาดตระเวน ตรวจการณ์ ต่อสภู้ ัย
คุกคามผิวนำ้� และทางอากาศ การระดมยิงฝ่งั การป้องกันฝั่ง และการช้เี ปา้ ให้กับเรอื ผิวนำ�้ และอากาศยาน ภารกิจรอง
การรักษาผลประโยชนข์ องชาตทิ างทะเล สนบั สนุนการปอ้ งกันและต่อตา้ นการก่อการรา้ ยในทะเลและท่าเรอื การค้นหา
และชว่ ยเหลือผู้ประสบภัยในทะเล บรเิ วณชายฝงั่ และสนบั สนนุ การปฏิบตั กิ ารทางเรอื อนื่ ๆ
ภาพแบบ General Arrangement ของเรือตรวจการณ์ปนื ระยะท่ี ๒
46
อกี ก้าวหนึ่งท่ีพึ่งตน
ภาพแบบจำ�ลอง เรือตรวจการณป์ ืนระยะที่ ๒
คณุ ลกั ษณะของเรือตรวจการณป์ นื ระยะท่ี ๒
ความยาวตลอดลำ� ๕๘ เมตร
กินน้ำ� ลึกเตม็ ท ี่ ๒.๙ เมตร
ระวางขบั นำ�้ เต็มท ่ี ๕๒๐ ตัน
ความเรว็ สงู สุดต่อเน่ืองท่รี ะวางขบั น�้ำเต็มที่ไม่นอ้ ยกวา่ ๒๓ นอต
ระยะปฏบิ ัติการท่คี วามเรว็ เดนิ ทาง ๑๕ นอต ไม่นอ้ ยกว่า ๒,๕๐๐ ไมล์
ออกปฏิบตั งิ านในทะเลได้อยา่ งตอ่ เน่อื งไมน่ ้อยกว่า ๗ วนั
มีความคงทนทะเลจนถึงสภาวะทะเลระดับ ๔
ตัวเรอื สรา้ งดว้ ยเหลก็ โครงสร้างเหนือดาดฟ้าหลักสร้างดว้ ยอะลมู เิ นียมอัลลอยด์
ระบบขับเคลอ่ื น ประกอบด้วย เครอ่ื งจักรใหญ่ เกยี ร์ เพลาใบจกั ร ๓ ชุด ชุดกลางปรบั พทิ ช์ใบจกั รไดเ้ พ่อื ใชง้ าน
ลาดตระเวนความเรว็ ต่�ำ
เครอื่ งจกั รใหญ่ ดีเซลไฮสปีด ตราอกั ษร Caterpillar 3516c 3 x 2525 Kw 3 x 3386 HP.
สหพนั ธ์สาธารณรฐั เยอรมนี
เกยี ร์ ตราอักษร REINTJES WV1540 (For FPP) WLS1540 (For CPP เพลากลาง)
สหพนั ธ์สาธารณรัฐเยอรมนี
ใบจักร ตราอกั ษร Wartsila 4D550 สาธารณรัฐฟนิ แลนด์
ระบบไฟฟา้ ชนดิ 380 VAC 50 Hz และ 220 VAC มรี ะบบควบคุมสามารถเร่มิ เดิน และขนานเครอื่ งแบบอตั โนมัติ
ได้
เครอื่ งขับ MAN D2876 LE301 จ�ำนวน ๓ เคร่ือง สหพนั ธส์ าธารณรฐั เยอรมนี
เคร่ืองกำ� เนิด LEROY SOMER 47.2 M7 300 KW จ�ำนวน ๓ เครอื่ ง สาธารณรัฐฝรั่งเศส
ระบบควบคุมบังคับบัญชาและตรวจการณ ์
ระบบอ�ำนวยการรบและระบบควบคุมการยิง ตราอักษร THALES รุน่ MIRADOR
กล้องตรวจการณ์ระยะไกล ELBIT รนุ่ COMPASS
ระบบอาวธุ
ปืน 76/62 OTO MELARA Refurbished จ�ำนวน ๑ กระบอก
ปนี กล ขนาด ๓๐ มม. MSI จ�ำนวน ๑ กระบอก
ปืนกล .50 Refurbished จ�ำนวน ๒ กระบอก
47
อกี ก้าวหน่ึงท่พี ึ่งตน
แนวทางในการสรา้ งเรอื
การสรา้ งเรือและเกง๋ จะด�ำเนินการสร้างโดยวิธกี ารแบ่งส่วนของตวั เรอื และเก๋งเรือออกเป็นบลอ็ กเพ่อื ความสะดวกใน
การปฏิบัติงาน สามารถทำ� งานได้ง่ายขึน้ คุณภาพของงานดขี น้ึ มีการบรหิ ารแรงงานอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ และการใช้
สถานที่ ๆ มีอยู่ให้เกิดประโยชนส์ งู สดุ โดยค�ำนงึ ถึงส่งิ อำ� นวยความสะดวก เคร่ืองทุ่นแรงเครื่องมือเครื่องใช้ที่มีใน
ปัจจุบันโดยแบ่งตัวเรือ (HULL CONSTRUCTION) ออกเป็น ๖ บล็อก คือ BLOCK-H1 , BLOCK-H2, BLOCK-H3,
BLOCK-H4, BLOCK-H5 และ BLOCK-H6 และแบ่งเก๋งเรือ (SUPERSTSUCTURE CONSTRUCTION) แบง่ ออก
เปน็ ๓ บลอ็ ก ไดแ้ ก่ BLOCK-S1, BLOCK-S2 และ BLOCK-S3
ภาพการแบง่ BLOCK ตวั เรอื (HULL CONSTRUCTION) และเก๋งเรอื (SUPERSTSUCTURE CONSTRUCTION)
ในการสร้างตัวเรือ (HULL CONSTRUCTION) มีล�ำดับการสร้างตามแผนท่ีก�ำหนดโดยเริม่ จากการขยาย
แบบ BODY PLAN เพอ่ื ตรวจสอบขนาดและรูปรา่ งของช้นิ งานท่ไี ดจ้ ากการตัดด้วยโปรแกรมคอมพวิ เตอรแ์ ละ
ทำ� การประกอบชน้ิ สว่ นยอ่ ยในโรงงาน การสรา้ งบลอ็ กบนฐานรองรบั การประกอบบล็อกในอู่แหง้ ซงึ่ การสร้างเกง๋ เรือ
(SUPERSTRUCTURE CONSTRUCTION) กจ็ ะดำ� เนนิ การในแนวทางเดยี วกนั โดยสร้างต่อเน่ืองหลังจากการสร้าง
บล็อกตัวเรือแลว้ เสรจ็
ภาพการสรา้ งบลอ็ กตวั เรือ ในอู่แหง้ หมายเลข ๑ อูท่ หารเรอื ธนบุรี กรมอ่ทู หารเรือ
48
อกี กา้ วหนง่ึ ที่พ่ึงตน
ในระหว่างการสร้างบล็อกตัวเรือและเก๋งเรือ จะด�ำเนินการสร้างฐานแท่น (FOUNDATION) ตัวจบั ยดึ ชอ่ งทางผ่าน
ฝากั้น (DUCT & PENETRATION) ตา่ ง ๆ ของระบบกลจักรและไฟฟ้าที่เกี่ยวเน่อื งกับโครงสรา้ งตัวเรอื และเก๋งเรือ
เพอ่ื หลกี เลยี่ งงาน HOT WORK ท่ีจะเกดิ ข้ึนหลงั การทาสีภายในตวั เรือ
เม่ืองานสร้างตัวเรือและเก๋งเรือแล้วเสร็จและผ่านขั้นตอนการตรวจสอบคุณภาพเรียบร้อยแล้วจะด�ำเนนิ การประกอบ
และตดิ ต้งั อุปกรณ์ ระบบตวั เรือ ระบบกลจกั ร ระบบไฟฟา้ และอิเล็กทรอนิกส์ ระบบเดินเรอื ระบบอาวธุ (ฐานแทน่ )
สง่ิ อำ� นวยความสะดวกในเรือและอน่ื ๆ ณ อูท่ หารเรอื ธนบุรี กรมอทู่ หารเรือ ให้มากท่สี ดุ เทา่ ทจ่ี ะทำ� ได้ สว่ นงาน
ประกอบและติดต้งั อุปกรณ์ทเ่ี หลือให้ไปดำ� เนนิ การต่อที่ อทู่ หารเรอื พระจุลจอมเกล้า กรมอู่ทหารเรือ หลังจากการ
ปลอ่ ยเรือลงน้�ำแล้ว
เนอื่ งจากมขี อ้ จำ� กดั ในการนำ� เรอื ผา่ นสะพานตา่ ง ๆ ในแมน่ ำ้� เจา้ พระยา การประกอบเกง๋ เรอื ในสว่ นของ BLOCK-S3,
BLOCK-S5 (CANOPY) และเสากระโดง จะทำ� การประกอบสมบูรณ์ ณ อ่ทู หารเรือธนบุรี กรมอูท่ หารเรอื กอ่ น
แตร่ อยต่อระหวา่ งบลอ็ กดังกลา่ วกบั บลอ็ กเก่ยี วเน่อื งจะเว้นการเชอื่ มประสานไว้ เพอื่ ถอดออกในขณะน�ำเรือผ่านสะพาน
การตดิ ต้งั และเดนิ สายอปุ กรณข์ องระบบตา่ ง ๆ ทีเ่ ก่ียวเน่ืองกับบลอ็ กดงั กลา่ วไดถ้ กู ออกแบบให้มีสว่ นต่อเพอื่ สะดวก
ในการประกอบหลงั จากนำ� BLOCK-S3, BLOCK-S5 (CANOPY) เสากระโดงเรือระบบอาวุธและระบบอน่ื ๆ ตดิ ตัง้
อย่างสมบรู ณ์ ณ อทู่ หารเรือพระจุลจอมเกล้า กรมอู่ทหารเรอื
ภาพแบบการน�ำ เรอื ผ่านสะพานตา่ ง ๆ ในแมน่ ้ำ�เจา้ พระยา
49
อกี ก้าวหนึ่งทีพ่ งึ่ ตน
ล�ำดบั และขัน้ ตอนการสร้างเรือ
๑. การสรา้ งตัวเรือและเกง๋ เรอื ตวั เรอื และเก๋งเรอื สามารถแบ่งเป็นบลอ็ กเพ่อื การประกอบ ดงั น้ี
- ตวั เรือ มีเปลือกเรอื และโครงสร้างภายในเปน็ เหลก็ ต่อเรอื สามารถแบง่ ออกเป็น ๖ บล็อก ดังน้ี BLOCK-H1,
BLOCK-H2, BLOCK-H3, BLOCK-H4, BLOCK-H5 และ BLOCK-H6 (นำ�้ หนักประมาณ ๑๘๕.๕ ตนั )
- เก๋งเรือ มีผนังและโครงสร้างภายในอะลูมิเนียมอัลลอยด์ สามารถแบ่งออกเป็น ๓ บล็อก ดงั น้ี BLOCK-S1,
BLOCK-S2 และ BLOCK-S3 (น้�ำหนกั ประมาณ ๑๑ ตนั )
ภาพการแบง่ BLOCK เก๋งเรอื (SUPERSTSUCTURE CONSTRUCTION)
50
อีกก้าวหนงึ่ ทพี่ ึ่งตน
๒. การตดิ ต้งั ระบบขบั เคลอ่ื นและสว่ นประกอบ มีล�ำดบั และข้ันตอน ดงั นี้
ภาพแบบ Propulsion Arrangement ของเรือตรวจการณป์ ืนระยะที่ ๒
- การติดตง้ั ฐานแท่นเครื่องจักรใหญ่ จะด�ำเนนิ การสร้างไปพร้อมกบั การสร้างบล็อกหอ้ งเครอ่ื ง (H2, H3) และ
จะตอ้ งดำ� เนนิ การให้แลว้ เสร็จกอ่ นการหาศูนย์เพลาใบจกั ร
- การหาศูนย์เพลาและตดิ ต้ัง STERN TUBE & SHAFT STRUT จะดำ� เนินการไปพรอ้ มกันหลังจากการตอ่
บลอ็ กตัวเรอื ในอู่แห้งแลว้ เสรจ็
- การ BORING/BEARING/SHAFTING จะด�ำเนินการไปพรอ้ มกันหลงั จากการเชอื่ ม STERN TUBE &
SHAFT STRUT เขา้ กับโครงสรา้ งตวั เรอื เรียบร้อย
- การตดิ ต้ังเกยี ร์ เครื่องจกั รใหญ่และใบจักร จะด�ำเนินการไปพรอ้ มกันหลงั จากการใสเ่ พลาแลว้ เสร็จ
- การติดต้ังใบหางเสือ จะดำ� เนินการหลงั จากการใสเ่ พลาใบจกั รแลว้ เสร็จเชน่ กัน แตต่ วั ใบหางเสือจะประกอบ
ในโรงงานให้แลว้ เสร็จประมาณ ๗๕ เปอรเ์ ซ็นต์ กอ่ นแลว้ จงึ น�ำประกอบเขา้ กบั แกนใบหางเสอื ทน่ี ำ� มาตดิ ต้ังเข้าทีแ่ ล้ว
เพ่อื ลดความสงู ของหมอนรองรับเรอื
- การตงั้ ศนู ยเ์ พลาและปรบั ระดบั แทน่ เครอื่ งจกั รใหญ่ ขณะเรอื อยใู่ นนำ้� จะดำ� เนนิ การหลังจากยา้ ยเรอื ไปท่ีอทู่ หาร
เรือพระจลุ จอมเกล้า กรมอูท่ หารเรอื แลว้
๓. การติดตัง้ ระบบไฟฟ้า มีล�ำดบั และข้ันตอน ดงั นี้
- การตดิ ตง้ั PENETRATION ทที่ ะลผุ า่ นฝากนั้ หรอื ดาดฟา้ และ CABLE TRAY SUPPORT ที่เปน็ งาน HOT
WORK ใหด้ ำ� เนนิ การหลังจากการประกอบบล็อกตัวเรอื แลว้ เสร็จ หรืออยูใ่ นลกั ษณะทีง่ า่ ยตอ่ การตดิ ตัง้ ลดการทำ� งาน
เหนอื ศีรษะ แตจ่ ะตอ้ งด�ำเนนิ การใหแ้ ลว้ เสรจ็ กอ่ นทำ� สีตัวเรือ
- การติดต้งั ฐานแทน่ อปุ กรณไ์ ฟฟ้าตา่ งๆ ใหด้ ำ� เนินการหลงั จากการประกอบบลอ็ กตวั เรือแล้วเสรจ็ แตจ่ ะ
ตอ้ งดำ� เนนิ การใหแ้ ลว้ เสร็จกอ่ นท�ำสตี ัวเรือและกอ่ นยา้ ยเรอื ไปอทู่ หารเรอื พระจุลจอมเกลา้ กรมอทู่ หารเรือ
- การติดตั้งอปุ กรณไ์ ฟฟ้าตา่ ง ๆ ใหเ้ ปน็ ไปตามแผนท่ีก�ำหนด
- การตดิ ตง้ั อุปกรณไ์ ฟฟา้ ทมี่ ีขนาดใหญ่ เชน่ เครื่องกำ� เนดิ ไฟฟา้ เคร่อื งแปลงความถ่ไี ฟฟา้ ตคู้ วบคมุ เครื่อง
แปลงความถ่ีไฟฟ้า ตู้เมนไฟฟ้ากระแสสลับ หม้อแปลงไฟฟา้ เป็นตน้ ใหท้ ำ� การตดิ ตงั้ กอ่ นนำ� เครื่องจกั รใหญล่ งมาติด
ตงั้ โดยเฉพาะตเู้ มนไฟฟา้ กระแสสลับท่ีตดิ ตัง้ ในหอ้ งควบคมุ เคร่อื งจกั ร อาจต้องตัดผนังห้องเพ่ือขนย้ายตู้เข้าไปติดต้ัง
ก่อน แล้วเช่ือมปิดกลับไปเช่นเดิม การติดต้ังหม้อแปลงไฟฟ้า ต้องขนย้ายหม้อแปลงไฟฟ้าเขา้ ไปในห้องกอ่ นติดต้ัง
วงกบประตู ทง้ั ประตขู องห้องหม้อแปลงไฟฟา้ และประตูทางเขา้ เกง๋ เรือ
51
อีกกา้ วหนึ่งทพ่ี ง่ึ ตน
๔. การตดิ ตัง้ ระบบเดนิ เรือ สื่อสารและอิเล็กทรอนิกส์
- การตดิ ต้ัง PENETRATION ท่ที ะลผุ ่านฝาก้ันหรอื ดาดฟา้ และ CABLE TRAY SUPPORT ท่เี ป็นงาน HOT
WORK ใหด้ �ำเนนิ การหลงั จากการประกอบบลอ็ กตวั เรือแล้วเสรจ็ หรอื อยูใ่ นลกั ษณะท่ีงา่ ยตอ่ การติดตั้งลดการท�ำงาน
เหนือศีรษะแต่จะต้องดำ� เนนิ การใหแ้ ล้วเสร็จกอ่ นท�ำสีตัวเรือ
- การตดิ ตั้งฐานแท่นระบบเดินเรอื สือ่ สารและอิเลก็ ทรอนกิ ส์ ใหด้ ำ� เนินการหลังจากการประกอบบลอ็ กตวั เรอื
แลว้ เสรจ็ แตจ่ ะตอ้ งดำ� เนนิ การใหแ้ ลว้ เสรจ็ กอ่ นทำ� สตี วั เรอื และกอ่ นนำ� เรอื ไปอทู่ หารเรอื พระจลุ จอมเกลา้ กรมอทู่ หารเรอื
- การตดิ ต้งั ฐานแท่นระบบเดินเรือ ส่อื สารและอเิ ล็กทรอนิกส์ ให้เปน็ ไปตามแผนท่กี �ำหนด
- การติดต้ังอุปกรณ์ระบบเดินเรือ ส่ือสารและอิเล็กทรอนิกส์ที่มีขนาดใหญ่ เช่น ชั้นวางวิทยุ จอเรดาร์
คอนโซลหอ้ งควบคุมเครอื่ งจักร คอนโซลหอ้ งสะพานเดนิ เรือ อปุ กรณ์ระบบควบคมุ การยิง เป็นตน้ ต้องขนย้ายเข้าไป
ในห้องที่จะตดิ ต้ังกอ่ นการเชือ่ มวงกบประตู ทั้งประตขู องหอ้ งทจี่ ะติดตง้ั และประตทู างเข้าเก๋งเรอื
๕. การติดต้ังระบบทอ่ ทาง
- การตดิ ต้ัง PENETRATION ท่ที ะลผุ า่ นฝากน้ั หรอื ดาดฟ้า และ PIPING SUPPORT ท่เี ปน็ งาน HOT
WORK ใหด้ ำ� เนินการหลังจากการประกอบบลอ็ กตวั เรือแล้วเสร็จ หรืออยู่ในลักษณะท่งี า่ ยต่อการตดิ ตั้งลดการทำ� งาน
เหนอื ศีรษะ แตจ่ ะตอ้ งด�ำเนนิ การให้แล้วเสร็จก่อนท�ำสีตวั เรือ
- การติดตง้ั ระบบท่อทางต่าง ๆ ในเรือ ใหเ้ ป็นไปตามแผนท่กี �ำหนด
๖. การติดตงั้ ระบบเครอื่ งจกั รช่วย
- การตดิ ตัง้ ฐานแท่นระบบเครอ่ื งจักรช่วย ใหด้ ำ� เนินการหลังจากการประกอบบล็อกตัวเรือแล้วเสรจ็ แต่จะตอ้ ง
ด�ำเนนิ การใหแ้ ลว้ เสรจ็ ก่อนทำ� สตี ัวเรอื
- การติดต้งั ระบบเครือ่ งจกั รชว่ ย ใหเ้ ป็นไปตามแผนทก่ี ำ� หนด โดยใหด้ ำ� เนินการใหแ้ ลว้ เสรจ็ ก่อนนำ� เครือ่ งจกั ร
ใหญ่ลงติดตงั้
๗. การติดต้งั สิ่งอำ� นวยความสะดวกและตกแตง่
- การติดตั้งระบบเครอ่ื งจกั รช่วย ให้เปน็ ไปตามแผนท่ีกำ� หนด โดยให้ด�ำเนนิ การให้แลว้ เสร็จกอ่ นการทดลอง
เรือหน้าท่า
๘. การติดตง้ั ระบบอาวุธ
- การติดตงั้ MASTER REFERENCE & BENCH MARK ให้ด�ำเนนิ การหลงั จากการสร้างบล็อกตวั เรอื แล้ว
เสรจ็ และก่อนการปล่อยเรอื ลงนำ�้
- การตดิ ตง้ั ฐานแทน่ ปืน ให้ตดิ ต้ังทอี่ ่ทู หารเรอื ธนบุรี กรมอูท่ หารเรอื และนำ� ไปปรับฐานแทน่ ในอูแ่ หง้ หรือ
บนบก ท่อี ูท่ หารเรอื พระจุลจอมเกลา้ กรมอู่ทหารเรอื
- การติดปนื ให้ด�ำเนินการตดิ ตง้ั ในอ่แู ห้งหรือบนบก ท่อี ทู่ หารเรือพระจลุ จอมเกลา้ กรมอ่ทู หารเรือ
- การตดิ ต้ังฐานแทน่ เซ็นเซอรร์ ะบบควบคมุ การยงิ MIRADOR ให้ติดตง้ั ท่ี อูท่ หารเรือธนบรุ ี กรมอ่ทู หารเรือ
และนำ� ไปติดต้งั เซน็ เซอรร์ ะบบควบคมุ การยงิ MIRADOR ท่ีอทู่ หารเรอื พระจุลจอมเกล้า กรมอทู่ หารเรอื
52
อกี กา้ วหน่ึงทีพ่ ่งึ ตน
ภาพแบบจำ�ลองการติดตงั้ อุปกรณ์ตา่ ง ๆ ของเรอื ตรวจการณ์ปนื ระยะท่ี ๒
ยืนหยัดและก้าวเดินบนความพอเพยี ง
กล่าวไดว้ า่ นับตงั้ แตก่ จิ การอู่เรอื ไทยได้หยั่งรากลึกลงบนผืนแผ่นดินสยาม จากนัน้ สืบมา กระทั่งวันเวลาได้ล่วงเลย
เข้าสปู่ ที ่ี ๑๒๕ กรมอ่ทู หารเรอื ไดส้ รา้ งสรรคส์ ิ่งดีงาม และมอบประโยชน์สขุ ใหแ้ กป่ ระเทศชาติ และประชาชนชาวไทยมา
มากมายนบั ไม่ถว้ น ดว้ ยปณธิ านอนั มุ่งม่ัน มุมานะ ทำ� หน้าท่เี พอื่ หนา้ ที่ ดว้ ยความเช่ือม่ันศรัทธาของชาวกรมอทู่ หารเรือ
ทุกคนทลี่ ว้ นเชอ่ื ว่า “ความมงุ่ ม่นั คอื พลังอันยงิ่ ใหญ่แหง่ ชีวิต” ทจ่ี ะแปรเปลีย่ นทุกสรรพสิง่ และผลักดันใหม้ นุษย์
ทุกคนสามารถกา้ วเดินไปข้างหน้าได้ ก้าวแลว้ ... กา้ วเล่า... เช่นเดยี วกบั ภารกิจการสรา้ งเรือตรวจการณป์ ืนระยะที่ ๒
ขึน้ ใชเ้ องของกองทพั เรือ ซ่งึ เม่ือเริ่มมีก้าวแรกทีก่ ลา้ กา้ วแลว้ กจ็ ะมกี า้ วตอ่ ไปท่ีมุ่งมั่นไปไดเ้ รื่อย ๆ แนน่ อนวา่ ดว้ ยความ
สม่�ำเสมอนเี้ อง ท่จี ะเปน็ ส่งิ นำ� พาไปสูก่ ารพฒั นาทย่ี ง่ั ยืน ทง้ั ยงั เป็นหลกั ประกนั ไดว้ ่า ในเรื่องของการพึง่ พาตนเองน้นั
กองทัพเรือไทยจะสามารถก้าวไปได้ไกลอีกมาก
53
อกี ก้าวหนงึ่ ทีพ่ ่ึงตน
ตารางเปรียบเทียบคุณลกั ษณะของเรือตรวจการณป์ ืนระยะท่ี ๑ และ ๒
เรอื ตรวจการณ์ปืนระยะท่ี ๑ เรือตรวจการณป์ ืนระยะที่ ๒
(เรือหลวงศรีราชา)
อูท่ หารเรือธนบรุ ี กรมอูท่ หารเรอื
สร้างท่ี อ่ทู หารเรือธนบุรี กรมอทู่ หารเรอื ๔ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๗
-
วางกระดูกงู ๑๕ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๐ ๕๒๐ ตัน
๕๘ เมตร
ขนึ้ ระวางประจำ�การ ๒๔ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๔ ๙.๓ เมตร
๒.๙ เมตร
ระวางขับนำ้ �เตม็ ที่ ๖๒๕ ตัน ๒๓ นอต
ความยาวตลอดลำ� ๖๒ เมตร เครอ่ื งยนต์ดเี ซล Caterpillar 3516c 3386Hp
จำ�นวน ๓ เครอื่ ง
ความกวา้ ง ๘.๙ เมตร ๒,๕๐๐ ไมล์ ท่ีความเร็วเดินทาง ๑๕ นอต
ปืน 76/62 Otto Melara (Refurbished)
กินน้ำ�ลกึ เตม็ ท่ี ๒.๖๔ เมตร ๑ กระบอก
ปนื ๓๐ มม. MSI ๑ กระบอก
ความเรว็ สูงสุดตอ่ ๒๕ นอต ปนื กล .๕๐ นิ้ว ๒ กระบอก
เนอ่ื งท่ีระวางขับน้ำ� ระบบอำ�นวยการรบ
เตม็ ท่ี ระบบควบคมุ การยิง Mirador
เครอ่ื งจกั รใหญ่ เครือ่ งยนตด์ เี ซล GEC ALSTHOM PAXMAN
12 VP 185 จำ�นวน ๓ เคร่อื ง
ระยะปฏิบตั ิการ ๒,๕๐๐ ไมล์ ที่ความเรว็ เดนิ ทาง ๑๕ นอต
ระบบอาวุธ ปืนใหญ่เรือ Bofors
ขนาด 76/50
แท่นเด่ยี ว ๑ แท่น
ปนื กล Bofors ขนาด 40/60
แทน่ เดีย่ ว ๑ แท่น
ปืนกล ขนาด ๑๒.๗ มม. แท่นเด่ียว ๒ แทน่
54