The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วารสารกรมอู่ทหารเรือ ประจำปี 2558

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by supanp, 2022-05-10 23:46:57

วารสารกรมอู่ทหารเรือ ประจำปี 2558

วารสารกรมอู่ทหารเรือ ประจำปี 2558

Keywords: การต่อเรือ,วารสาร อร.

จกั รยานน�้ำบำ� บัดน�ำ้ เสยี

การจดั งานอนรุ ักษ์คคู ลองบางล�ำพู
ประชาคมฟืน้ ฟวู ฒั นธรรม ยา่ นบางล�ำพู ได้จัดกิจกรรมงานวันอนุรกั ษค์ ูคลองบางล�ำพู เพ่ือฟน้ื ฟูบำ� บดั นำ�้ เสีย
ให้กบั คลองบางลำ� พู ในวนั ที่ ๒๐ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๗ โดยได้เชิญ คณุ อำ� พล เสนาณรงค์ องคมนตรี มาเป็น
ประธานเปดิ งาน ซึ่งในงานมกี ารมอบใบประกาศเกยี รติคุณ ขอบคุณบคุ คลและหน่วยงานตา่ ง ๆ ทใ่ี ห้การสนบั สนนุ
การสร้างจักรยานน้�ำบำ� บดั น�ำ้ เสยี เพม่ิ เตมิ จากตน้ แบบจ�ำนวน ๑๕ ล�ำ ซ่งึ ในส่วนคณะท�ำงานสรา้ งอุปกรณบ์ ำ� บัดน�ำ้ เสีย
ของกรมอ่ทู หารเรอื กไ็ ดไ้ ปรว่ มกจิ กรรมและรบั มอบใบประกาศเกียรตคิ ณุ ท่ีให้การสนบั สนนุ การสรา้ งจกั รยานน้�ำบ�ำบดั
น้ำ� เสียน้ดี ว้ ย

บทสง่ ทา้ ย
กรมอู่ทหารเรือจะยังคงบทบาทและสร้างสรรค์งานประดิษฐ์และการพัฒนา เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จ
พระเจา้ อยหู่ ัว พฒั นาชาติและสนบั สนุนใหค้ วามช่วยเหลือประชาชนตลอดไป

112

ของดีเกาหลีไมใ่ ชม่ แี ค่โสม
โดย : ปลายเพลา
ในระหว่างวนั ที่ ๒๓ มถิ นุ ายน – ๑ สิงหาคม ๒๕๕๗ ผเู้ ขยี นไดม้ ีโอกาสเดินทางไปเข้ารับการฝกึ อบรม
การถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยขี น้ั การออกแบบ ตามโครงการจัดหาเรือฟริเกต ณ สาธารณรัฐเกาหลี
ทอี่ ูเ่ รอื Deawoo Shipbuilding & Marine Engineering (DSME) โดยมีก�ำลังพลร่วมคณะเดินทาง
ทง้ั หมด ๒๓ นาย จากหลายหน่วยงานซ่งึ ประกอบดว้ ย กรมอูท่ หารเรือ กรมอิเลก็ ทรอนิกส์ทหารเรอื
และกรมสรรพาวธุ ทหารเรอื DSMEจดั หลกั สตู รในขน้ั การออกแบบไวจ้ ำ� นวน ๑๐หลกั สตู รโดยแตล่ ะหลกั สตู ร
กส็ อดคลอ้ งกับการทำ� งานด้านการออกแบบของ DSME โดยไดม้ ีการจัดให้ผู้ปฏบิ ตั ิงานดา้ นการออกแบบ
ของแตล่ ะส่วนมาเป็นผูบ้ รรยายให้กับก�ำลังพล DSME ยงั ไดจ้ ดั ใหม้ กี ารเย่ยี มชมพื้นทข่ี องอู่เรอื การดงู าน
ในบรษิ ัทผผู้ ลติ และสถาบันตา่ ง ๆ (รปู ท่ี ๑) เชน่ การร่วมสงั เกตการณ์ในการทดลองลากเรือจ�ำลอง
(Model Test) ทีส่ ถาบัน Korea Research Institute of Ship and Ocean (KRISO)๑ ในขั้นตอน
ของการตรวจสอบ Self-Propulsion และ Cavitation Test ความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับจากการเข้า
รบั การอบรมในคร้ังนีเ้ ป็นไปตามการคาดการณ์ ดว้ ยเพราะการออกแบบเรือกม็ ีศาสตร์ที่พัฒนามาจาก
พนื้ ฐานเดยี วกัน แต่มุมที่ผู้เขียนอยากนำ� เสนอก็คอื เรื่องแนวคดิ ในการท�ำงานของ DSME ถึงแมว้ ่า
การน�ำเสนออาจไม่ครอบคลุมทั้งหมดแต่ก็หวังว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปล่ียนแปลงถ้าหากสามารถ
นำ� ไปประยุกต์ใชก้ ับการท�ำงานได้ เนอ้ื หาในขัน้ ตน้ เป็นการน�ำเสนอเกี่ยวกับสภาพโดยรวมของ DSME
จากน้ันจงึ เปน็ การนำ� เสนอแนวคิดการท�ำงานของ DSME

ของดเี กาหลีไมใ่ ช่มีแคโ่ สม

รูปที่ ๑ การจัดใหเ้ ยีย่ มชมในบริเวณอู่เรือและดูงาน

๑. สภาพของอูเ่ รือ
DSME มีพน้ื ต้ังอยู่ท่อี ่าว Okpo Bay บนเกาะ Geoje Island ซ่ึงอย่ทู างตอนใต้ของสาธารณรัฐเกาหลี ใชเ้ วลาเดินทาง
จากเมอื งปูซานประมาณ ๑ ชั่วโมง ด้วยรถยนต์ ด้วยลักษณะทางกายภาพของพน้ื ทต่ี ้ังของ DSME (รปู ท่ี ๒) ท่อี ยู่ในอ่าว
ซ่ึงล้อมรอบด้วยแนวเทอื กเขาจึงชว่ ยชะลอความเร็วลมในบริเวณพืน้ ท่ที �ำงานภายในอู่ DSME จงึ สามารถดำ� เนนิ การ
ในสายการผลติ ได้ทุกฤดู แต่ท้ังนีใ้ นชว่ งทอี่ ากาศร้อนและหนาวจัดก�ำลังการผลติ กอ็ าจลดลง DSME มศี กั ยภาพ
ในการผลิตเรือสนิ ค้า (Commercial Ship) เรือทางทหาร (Naval & Special Ship) และโครงสร้างนอกชายฝ่ัง
(Offshore Structure) ซงึ่ แตล่ ะกลมุ่ งานไดม้ กี ารจดั สรรพนื้ ทท่ี ำ� งานแยกกนั ตามสายงานการผลติ ในสว่ นของเรอื ทางทหาร
DSME มขี ดี ความสามารถในการตอ่ เรือรบได้หลายประเภท เช่น เรอื ฟริเกต เรือพิฆาต เรือด�ำนำ�้ และเรือชว่ ยรบ
DSME มอี แู่ หง้ ๒ อู่ พรอ้ มเครนประจ�ำอู่ขนาด ๙๐๐ ตนั จึงท�ำให้สามารถรองรับการตอ่ เรือขนาดใหญ่ได้ DSME
ยงั มอี ่ลู อย ซ่งึ ไดร้ ับการพิจารณาวา่ ใหญเ่ ป็นอนั ดบั ๔ ของโลก๒ DSME มีศกั ยภาพทั้งในด้านการต่อเรือและ
โครงสรา้ งนอกชายฝ่งั โดยในปีหนงึ่ ๆ จะมีการส่งมอบเรือ/โครงสร้างนอกชายฝงั่ ประมาณ ๗๕ โครงการ ด้วยปรมิ าณ
การผลติ ที่สงู จงึ ท�ำใหใ้ นแตล่ ะวันจะมกี ารดำ� เนนิ การสร้างบลอ็ กตวั เรือ/โครงสรา้ งนอกชายฝั่ง ขนาดประมาณ ๓๐๐ ตนั
จ�ำนวน ๓๐-๔๐ บล็อก ใน ๕ พน้ื ท่โี รงงาน๓

รปู ที่ ๒ ภาพมมุ สงู ของอู่ DSME

116

ของดเี กาหลไี มใ่ ช่มแี ค่โสม

๒. แนวคดิ ในการจัดการระบบการท�ำงานของ DSME
๒.๑ แนวคิดการออกแบบด้วยการประยกุ ตข์ อ้ มลู การต่อเรือทผ่ี า่ นมา

ส�ำหรบั ข้ันตอนการออกแบบเรอื ฟริเกตของ DSME สามารถแบง่ ออกเปน็ ๒ ข้นั ตอน คอื Basic Design และ Detail
Design ซ่ึงข้ันตอนการออกแบบโดยรวมมีความใกล้เคียงกับทฤษฎีในการออกแบบเรือ (Design Spiral) ดงั แสดงใน
รูปที่ ๓-ก แตเ่ พอ่ื ความรวดเร็วและประสิทธิภาพของการออกแบบ DSME ปรบั ระบบการออกแบบให้มกี ารแลกเปล่ียน
ขอ้ มูลใหม้ ากข้นึ (รูปท่ี ๓-ข) โดยให้มกี ารตดิ ต่อแลกเปลีย่ นข้อมลู ของการออกแบบเรอื อยู่ตลอดเวลากับฝา่ ยตา่ ง ๆ
ทีเ่ กี่ยวขอ้ ง จากรูปท่ี ๓ จะเห็นได้ว่า DSME ให้ความสำ� คัญกบั ขั้นตอนการพฒั นา Hull Geometry (หรือ Hull Form)
ขอ้ มูลของ Hull Geometry จะเปน็ ข้อมลู ตง้ั ต้นสำ� หรบั การออกแบบสว่ นตา่ ง ๆ ทเ่ี กีย่ วขอ้ ง เชน่ การออกแบบ/ค�ำนวณ
คา่ ความต้านทานตวั เรอื และกำ� ลงั ของระบบขบั เคลอื่ น (Resistance and Power) การออกแบบ Subdivision Area
and Volume การออกแบบ Machinery Arrangement การจัดท�ำ General Arrangement และการออกแบบ
ด้านโครงสรา้ ง Structures ขอ้ มลู การออกแบบทไ่ี ด้ฝ่ายตา่ ง ๆ จดั ทำ� ขน้ึ จะถกู ส่งกลับไปเพ่อื ใชใ้ นการพฒั นาปรบั ปรุง
Hull Geometry กระบวนการออกแบบท้งั หมดนอ้ี าจมกี ารด�ำเนนิ การหลายครงั้ ทง้ั น้เี พือ่ ให้การออกแบบของฝา่ ยต่าง ๆ
ได้รบั การพัฒนาปรบั ปรงุ ในทศิ ทางที่สอดคล้องกัน เช่น ถ้าหากมีการขยายความยาวเรือในขั้นตอนของ General
Arrangement กจ็ �ำเป็นตอ้ งมีการพฒั นาออกแบบ Hull Geometry ใหมเ่ พือ่ ให้มีประสิทธภิ าพตัวเรือไม่ต�่ำไปกวา่
การประมาณในขนั้ ต้น มิฉะนั้นแลว้ อาจส่งผลกระทบต่อไปยงั การออกแบบระบบขับเคลื่อนได้

DSME มีการรวบรวมขอ้ มลู การสรา้ งเรือไว้อย่างต่อเน่ือง ท้ังเพอ่ื เป็นสถติ ิของการท�ำงานส�ำหรับการพัฒนา
ปรบั ปรุงระบบการท�ำงานให้มีประสิทธภิ าพให้ดขี ึน้ และเพ่อื ใช้ในการอา้ งอิงส�ำหรับการสรา้ งเรอื ในอนาคตโดยเฉพาะ
อยา่ งยิ่งในข้นั ตอนของการออกแบบ การออกแบบเรอื โดยอ้างองิ ขอ้ มูลเดมิ จากเรือประเภทเดียวกนั (Parent Ship)
จะท�ำให้การออกแบบเร็วข้ึน DSME มีการอ้างอิงข้อมูลจากเรือซ่ึงได้ต่อไปแล้ว โดยเลือกเรือท่ีมีลักษณะเดียวหรือ
ใกล้เคียงกัน (Parent Ship) ทั้งนี้จะท�ำให้การออกแบบมีระยะเวลาส้ันลง โดยเฉพาะอย่างย่ิงในข้ันตอนของ
Conceptual Design ซ่งึ ข้อมูลของเรือต้นแบบจะเปน็ ประโยชน์ตอ่ ผ้อู อกแบบเปน็ อยา่ งมาก เช่น ขอ้ มูลของ Hull
Geometry และ Propulsion System เป็นต้น ส�ำหรับการออกแบบเรือฟริเกต DSME ได้ใชข้ อ้ มูลของเรอื รบสาธารณรัฐ
เกาหลี Kwanggaeto Class Destroyer (KDX-I)๔ มาอ้างองิ ในการออกแบบ เรอื KDX-I มรี ะวางขบั น�ำ้ ทป่ี ระมาณ
๓,๘๘๕-๓,๙๐๐ ตัน ความเร็ว ๓๐ นอต ด้วยเรือฟรเิ กตซึ่งมรี ะวางขับน�้ำ ๓,๖๕๐ ตนั และความเร็ว ๓๐ นอต
ข้อมูลดา้ น Hull Geometry และ Propulsion System ของเรือ KDX-I จงึ ถกู น�ำมาอ้างอิงในการออกแบบในขั้น
Conceptual Design

ก ทางทฤษฏี ข การปฏบิ ัติจรงิ

รูปที่ ๓ การเปรยี บเทยี บล�ำ ดบั ขัน้ ตอนของการออกแบบเรอื ทางทฤษฎีกบั การปฏิบตั ิงานของ DSME

117

ของดเี กาหลไี ม่ใช่มีแค่โสม

ในข้นั ตอนของ Basic Design การออกแบบและพัฒนา Hull Geometry มโี ปรแกรมหลายประเภทเกยี่ วขอ้ งดงั
แสดงในรูปท่ี ๔ ซงึ่ การออกแบบเรมิ่ ตน้ จากการน�ำขอ้ มูล Hull Geometry ของเรอื ตน้ แบบมาพฒั นาปรับปรงุ ด้วย
โปรแกรม EZ Hull ซ่ึงประกอบดว้ ยขน้ั ตอนการการทำ� Hull Variation, Line Fairing และ Hull Form Development
โดย Appendages ของเรอื ก็จะถกู ออกแบบในข้ันตอนน้ีเชน่ กัน จากน้นั ขอ้ มูล Hull Geometry กจ็ ะใชอ้ ้างองิ ในการ
ค�ำนวณการทรงตวั ของเรือดว้ ยโปรแกรม NAPA ส่วนการคำ� นวณคา่ ความต้านทานของตวั เรอื DSME ใชโ้ ปรแกรม
Shipflow และ Star CCM โดยมีการใช้โปรแกรม Friendship ช่วยในการพัฒนาประสิทธิภาพตวั เรอื ให้ดที ่สี ดุ
การค�ำนวณ Hydrostatic ของตัวเรือดว้ ยโปรแกรม NAPA นั้นตอ้ งเรมิ่ ตน้ จากการประมาณน�้ำหนักของตัวเรอื ตำ� แหนง่
และนำ�้ หนกั ของถังบรรจุของเหลวต่าง ๆ จากนนั้ จงึ สามารถทจี่ ะพจิ ารณาคณุ สมบตั ิ Hydrostatic ของเรือ เช่น
Hydrostatic Table, Floodable Length, Intact Stability และ Damage Stability เป็นตน้ ซง่ึ ในการออกแบบ
DSME ไดอ้ ้างอิงคุณสมบตั เิ หล่าน้ีกบั U.S. Navy Design Data Sheet (DDS) 079-1 ‘Stability and Buoyancy
of U.S. Naval Surface Ship’ และ ROK Navy’s Standard โดยหากพบว่ามีคณุ สมบตั ใิ ดท่ีไมผ่ ่านคา่ มาตรฐาน
ก็จ�ำเป็นต้องพิจารณาออกแบบปรับปรุงใหม่ แต่ท้ังน้ีจะพิจารณาปรับแก้การจัดวางประเภทและต�ำแหน่งของถัง
ของเหลวต่าง ๆ กอ่ น โดยจะใหม้ ปี รับเปลย่ี น Hull Geometry นอ้ ยทสี่ ุด ทงั้ นเี้ พอื่ ป้องกันไมใ่ ห้เกิดผลกระทบตอ่
การออกแบบในสว่ นอ่นื ๆ ทีใ่ ชข้ ้อมูลของ Hull Geometry โดยคุณสมบัตดิ ้าน Hydrostatic จ�ำเป็นตอ้ งมีการตรวจ
สอบซำ�้ เมอ่ื ไดร้ บั ข้อมูลการออกแบบจากฝา่ ยตา่ ง ๆ ที่เปน็ ปัจจุบันมากขนึ้ เช่น เมอื่ ไดข้ อ้ มูลนำ้� หนักของโครงสร้าง
Structure (รปู ท่ี ๓-ข) จากฝ่ายออกแบบ Hull Design การประมาณน้�ำหนักของตวั เรือ (Weight Estimation) ของ
DSME ใช้คา่ เร่มิ ต้นที่ ๖.๔ เปอรเ์ ซ็นต์ ๔ เปอร์เซ็นต์ และ ๒ เปอรเ์ ซน็ ต์ ในขัน้ ตอนของ Basic Design, Detail
Design และ Construction ตามลำ� ดบั DSME ใช้โปรแกรม AVEVA Marine ในขน้ั ตอน Detail Design เพือ่ ทำ� การ
ออกแบบสร้างเรือ ซึ่งท�ำให้สามารถทำ� การจดั วาง/ระบุตำ� แหนง่ ของอปุ กรณ์ตา่ ง ๆ ภายในเรือไดอ้ ย่างสมจรงิ โดยไม่ท�ำ
ให้เกดิ การทับซอ้ นกันหรือการชนกนั ของอุปกรณ์ โปรแกรมยังสามารถใช้ในสว่ นการผลติ ได้อกี ดว้ ย เชน่ การออกแบบ
การตัดแผ่นเหล็กตวั เรอื นอกเหนือจากโปรแกรม AVEVA Marine กย็ ังมีโปรแกรมอนื่ ที่สามารถใช้งานในลักษณะ
เดยี วกนั ได้ เชน่ โปรแกรม Tribon ซ่ึงกค็ ือโปรแกรมทไี่ ดร้ บั การพัฒนาข้ึนมาก่อนท่ีจะมโี ปรแกรม AVEVA Marine๕
จากท่ีไดก้ ลา่ วในข้างตน้ จะเห็นวา่ แนวคิดในการออกแบบเรอื ด้วยการอา้ งองิ ข้อมลู จากเรอื ท่มี ลี ักษณะเดยี วกันเปน็ หวั ใจ
ท่ีท�ำให้ DSME สามารถด�ำเนินงานด้านการออกแบบได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างย่ิงมีการใช้โปรแกรมด้าน
การออกแบบตามคุณลักษณะเด่นของโปรแกรมนั้น ๆ มาร่วมในการออกแบบเรือก็ยิ่งท�ำให้งานออกแบบเรือมี
ความสะดวกและรวดเรว็ ย่ิงขนึ้

รูปท่ี ๔ Software ท่ีมีใช้ในการพฒั นา Hull Geometry
(ทมี่ า : เอกสารการฝึกอบรม ฯ รายวชิ า Basic Design)

118

ของดเี กาหลีไม่ใชม่ แี ค่โสม

๒.๒ แนวคิดเรอ่ื งการวจิ ัยและพฒั นา
ในกลมุ่ งานเรอื ทางทหาร (Naval & Special Ship) DSME ไดแ้ บง่ งานออกเป็นกล่มุ ยอ่ ยจ�ำนวน ๑๑ กล่มุ งานยอ่ ย
ตามลักษณะงาน ในกลุม่ งานท้ังหมดมอี ยู่ ๓ กล่มุ งานย่อยท่มี กี ารผนวกงานด้านการวิจัยและพัฒนารวมอยูด่ ้วย กลุ่ม
งานดังกล่าวคอื

๑. Hydrodynamics and R&D
๒. Fluid and R&D
๓. Noise & Vibration and R&D
ซ่ึงหากพิจารณาแลว้ ก็จะพบวา่ กล่มุ งานยอ่ ยทง้ั สามเปน็ หัวใจของการออกแบบเรอื ทจ่ี ะท�ำใหเ้ รอื มสี มรรถนะไดต้ าม
ทต่ี ้องการ ซึง่ กลมุ่ งานท้งั สามมสี ว่ นส�ำคญั อยา่ งมากในการเสนอแข่งขันเพ่อื ใหไ้ ด้สญั ญาการต่อเรือกบั ลกู ค้า ดงั นนั้
DSME จึงให้ความสำ� คญั ในกระบวนการทำ� งานของกลมุ่ งานเหล่านเ้ี ป็นอย่างมาก DSME จดั ใหม้ ีบุคลากรจาก
กลุ่มงานวจิ ยั และพฒั นามาร่วมทำ� งานกับกลุม่ งานทั้งสาม เพ่ือท่ใี หม้ าเรียนรถู้ ึงกระบวนการทำ� งาน ให้ทราบถงึ ปัญหา
ตลอดจนขอ้ ขัดขอ้ งต่าง ๆ ของการท�ำงานของกลุ่มงานดงั กล่าวอยา่ งแทจ้ ริง โดยบุคลากรจากกลุ่มงานวจิ ยั และพัฒนา
จะอยู่ร่วมท�ำงานจนเข้าใจถึงกระบวนการท�ำงานอย่างละเอียดแล้ว จึงจะกลับไปยังกลุ่มงานวิจัยเพ่ือน�ำปัญหาหรือ
แนวคิดในการพัฒนาการท�ำงานกลับไปท�ำการศึกษาวิจัย เพ่ือแก้ไขหรือปรับปรุงกระบวนการของกลุ่มงานที่ตน
ได้ไปเรียนร้ใู หม้ ีประสทิ ธภิ าพมากขึน้ ในขณะเดียวกนั ก็จะมบี คุ ลากรของกลุ่มงานวิจัยและพฒั นาไปร่วมทำ� งานแทน
ซ่ึงอาจเปน็ ผู้ที่กลุ่มงานวจิ ัย ฯ ให้มาตดิ ตามผลการด�ำเนนิ การวจิ ัยและพัฒนาท่ไี ด้ดำ� เนนิ การไปแลว้ หรืออาจเป็นผู้ที่
กล่มุ งานวจิ ัยต้องการให้มาเรยี นรู้งานในกลมุ่ งานท่เี กยี่ วข้องกไ็ ด้ ตัวอย่างการพฒั นาจากกลุ่มงานวิจยั และพฒั นา คอื
การทีก่ ล่มุ งานวิจัยและพัฒนาดำ� เนนิ การปรับปรงุ Tool Box ของ โปรแกรม AVEVA Marine ใหผ้ ้อู อกแบบสามารถ
ปฏิบตั งิ านได้รวดเรว็ ยิ่งขนึ้ โดยเคร่ืองมอื ทีเ่ พ่ิมใน Tool Box มหี ลายลักษณะ แต่ในที่นจ้ี ะขอยกตัวอย่าง “เครือ่ งมอื
ส�ำเรจ็ ส�ำหรับการออกแบบ” ซ่งึ ก็คือเครอื่ งมือส�ำเรจ็ ทผี่ อู้ อกแบบสามารถเลือกมาประกอบในแบบไดเ้ ลยโดยไมต่ ้องมา
เรมิ่ ออกแบบเองจากสว่ นประกอบยอ่ ยกอ่ น เชน่ เครอ่ื งมอื สำ� หรบั การสรา้ ง Seating ของอุปกรณต์ า่ ง ๆ ด้วยเครอื่ งมือ
สำ� เรจ็ ของ DSME ผู้ออกแบบก็เพยี งเลอื กประเภทของ Seating ใหต้ รงกบั ลกั ษณะการใชง้ าน (เชน่ จ�ำนวนขาของ
Seating ลักษณะการจบั ยึดอปุ กรณ์) จากน้นั ก็ท�ำการปรบั ขนาดของ Seating ดังกลา่ ว ผ้อู อกแบบก็จะได้ Seating
ตามต้องการ แตถ่ า้ หากไมม่ เี ครอ่ื งมอื ส�ำเรจ็ ใน Tool Box ผ้อู อกแบบก็จำ� เปน็ ตอ้ งเร่มิ ต้นจากการออกแบบสว่ นประกอบ
ทกุ ช้ิน ขา พ้ืน คาน แล้วจงึ น�ำมาประกอบเป็น Seating อกี ตวั อยา่ งหน่ึงกค็ ือเคร่อื งมอื ส�ำเรจ็ ส�ำหรับการออกแบบ
บนั ได ผอู้ อกแบบเร่ิมต้นดว้ ยการเลอื กประเภทของบันได (เกาะขา้ ง พาดระหวา่ งชน้ั ดาดฟา้ ) จากนนั้ กร็ ะบุความกวา้ ง
ยาวของบันได กจ็ ะแล้วเสรจ็ โดยสามารถน�ำไปประกอบในแบบหลกั ไดเ้ ลย แตห่ ากเปน็ การออกแบบบนั ไดขน้ึ มาใหม่
ผ้เู ขยี นก็ตอ้ งเร่ิมตน้ ดว้ ยการออกแบบ คาน ขนั้ บันได ราวจบั หูยึด ถงึ จะน�ำอุปกรณ์ย่อยเหลา่ นั้นมาประกอบเป็น
บนั ไดได้ จากท้งั สองตวั อย่างทไ่ี ด้น�ำเสนอน้ันจะเหน็ ได้ว่าผลของการวิจัยและพัฒนาของ DSME นน้ั มุ่งเน้นการท�ำงาน
ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยการท�ำให้ผู้ปฏิบัติงานมีสิ่งอ�ำนวยความสะดวกเพ่ือการท�ำงานนั้นได้รวดเร็วข้ึน
ซงึ่ ในมุมของ DSME แล้วผลลัพธท์ ไี่ ดก้ ค็ อื เรื่อง Productivity ของการทำ� งานน่ันเอง

119

ของดเี กาหลีไม่ใชม่ ีแค่โสม

๒.๓ แนวคิดเรือ่ งการจัดซอ้ื (Procurement Concept)
การท่ี DSME สามารถสร้างเรือและโครงสรา้ งนอกชายฝั่งไดถ้ งึ ประมาณปลี ะ ๗๕ โครงการ นน่ั หมายถึงท้งั ระบบ
การจัดซ้ือของ DSME และงานสายการผลิตมคี วามสัมพันธ์กันเป็นอย่างดี DSME จัดการระบบการซ้ือโดยใช้
เจา้ หนา้ ท่ีจาก ๓ ส่วน คอื วิศวกรรม (Engineering) จัดซอื้ (Procurement) และควบคมุ คุณภาพ (QC) ดังแสดง
ในรูปท่ี ๕ กระบวนการจัดซ้ือเร่มิ ต้นที่วศิ วกรท�ำหน้าทีก่ ารกำ� หนดรายละเอียดความต้องการ อปุ กรณ/์ วัสดุ จากนนั้
บรษิ ัทคูค่ ้า (Vendor) ท่อี ยใู่ นรายช่ือทะเบยี นผู้คา้ (Approval Vendor List) จะเขา้ มารบั รายละเอียดความตอ้ งการ
อุปกรณ์/วัสดุ ผ่านเจ้าหน้าที่จัดซ้ือ หากมีข้อสงสัยก็สามารถสอบถามไปยังวิศวกรผู้ก�ำหนดรายละเอียดน้ัน ๆ ได้
เม่ือบริษัทคู่ค้าต่าง ๆ เข้าใจรายละเอียดอุปกรณ์/วัสดุ ดีแล้ว เจ้าหน้าท่ีจัดซื้อก็จะด�ำเนินการให้มีการยื่นประกวด
ราคาเพ่อื เลอื กบรษิ ทั คคู่ า้ ที่ย่นื เสนอราคาต่ำ� สุด บริษทั ท่ีไดร้ บั เลือกกจ็ ะได้ทำ� สญั ญาซื้อกบั DSME ตอ่ ไป หลงั จาก
นน้ั ทมี วิศวกรก็จะรับหน้าทใ่ี นการส่งแบบอปุ กรณ์ให้กับบรษิ ทั ท่ีได้รบั การคัดเลอื กเพอ่ื ตรวจทานความถกู ต้อง จากน้ัน
ก็เป็นข้นั ตอนของเจ้าหน้าท่ีจัดซ้ือในการเรง่ รดั การจัดส่งอปุ กรณ์/วสั ดุ โดยเจ้าหน้าทีจ่ ัดซ้ือตอ้ งประสานกับเจ้าหน้าที่
ควบคณุ ภาพเพื่อใหม้ ีการตรวจสอบคุณภาพของอุปกรณ/์ วสั ดุให้ถูกต้องตามที่ทมี วิศวกรไดม้ ีการกำ� หนดไว้ เจา้ หน้าท่ี
ด้านควบคุณภาพจะเป็นผู้ท�ำการตรวจสอบคุณภาพของอุปกรณ์/วัสดุ ที่มีการจัดซื้อท้ังหมดโดยอ้างอิงจากเอกสาร
มาตรฐานและเคร่ืองมือตรวจวดั ตา่ ง ๆ ทงั้ น้ีเจ้าหน้าทีค่ วบคุมคณุ ภาพอาจเข้าตรวจสอบระหว่างกระบวนการผลติ ของ
อปุ กรณ/์ วสั ดนุ น้ั ๆ ก็ได้ หากพิจารณาว่าจ�ำเปน็

รปู ที่ ๕ กระบวนการจดั ซอ้ื ของ DSME
(ท่มี า : เอกสารการฝึกอบรม ฯ รายวิชา Procurement Management)

จากกระบวนการจัดซ้ือของ DSME ทีก่ ล่าวในขา้ งตน้ หากพิจารณาในภาพรวมแล้วจะเห็นไดว้ ่ากระบวนการจดั ซื้อ
ของกรมอู่ทหารเรือก็มีข้ันตอนท่ีใกล้เคียงกับของ DSME กล่าวคือให้วิศวกรของกรมอู่ทหารเรือเป็นผู้ก�ำหนดราย
ละเอยี ดความตอ้ งการ โดยมเี จ้าหนา้ ท่ีของศูนย์พสั ดุชา่ งเป็นผู้ด�ำเนินการจัดซือ้ แต่สิง่ ที่ไมเ่ หมอื นกนั คือเจา้ หน้าทใ่ี น
การตรวจรบั ซง่ึ มกั มกี ารจดั ใหเ้ จา้ หนา้ ทภ่ี ายในกรมอทู่ หารเรอื หมนุ เวยี นในการปฏบิ ตั หิ นา้ ทก่ี รรมการตรวจรบั ซง่ึ อาจทำ� ให้
การตรวจรบั อปุ กรณ/์ วสั ดใุ นบางครง้ั ไมส่ ามารถกระทำ� ไดอ้ ยา่ งเตม็ ท่ีทงั้ นเี้ นอื่ งจากอาจไมม่ คี วามคนุ้ เคยกบั อปุ กรณ/์ วสั ดุ
ที่ท�ำการตรวจรับ หรือแม้แต่การท่ีไม่มีเครื่องมือที่เหมาะสมในการตรวจวัด เพื่อให้กรมอู่ทหารเรือได้ยกระดับ
การสรา้ งและซอ่ มเรอื ระบบการจัดซือ้ จา้ งกส็ มควรไดร้ ับการปรบั ปรงุ ควบคู่ไปด้วย มิฉะน้ันแล้วก็คงเปรยี บได้กับการที่
มพี ่อครวั ที่ฝมี อื ดีแต่กป็ รุงอาหารไม่อร่อย ดว้ ยเพราะไมส่ ามารถหาวตั ถดุ บิ ท่มี คี ณุ ภาพดีมาใชป้ รงุ อาหารได้

120

ของดเี กาหลีไม่ใชม่ ีแคโ่ สม

๒.๔ สรปุ
การเข้ารบั การอบรมความรูแ้ ละเทคโนโลยขี ้นั การออกแบบ ท�ำใหไ้ ด้เรียนรถู้ ึงขั้นตอนการออกแบบ แนวคดิ ในการ
จัดการในงานออกแบบของDSME โดยองคค์ วามรแู้ ละประสบการณ์ทไ่ี ดร้ บั เป็นประโยชน์ในการทำ� งานดา้ นการต่อเรอื
โดยตรง และหากสามารถนำ� มาพฒั นาปรบั ให้เขา้ กบั ระบบการท�ำงานของกรมอู่ทหารเรือไดก้ ็จะเป็นการบูรณาการท่ี
เกดิ ประโยชน์สงู สดุ เชน่ การเก็บขอ้ มลู เพ่อื ใชอ้ า้ งอิงในการทำ� งานหรอื การเรียนร้ใู นอนาคต แนวคดิ ดา้ นการวิจยั และ
พัฒนาการท�ำงานในสว่ นต่าง ๆ เพอื่ เพิ่มประสิทธิผลการทำ� งาน แนวคิดในการจัดซอ้ื เพ่ือใหไ้ ด้อุปกรณ์/วสั ดทุ ี่ตรงกบั
ความต้องการของผูใ้ ชแ้ ละทนั เวลา การทกี่ องทัพเรอื พจิ ารณาส่งก�ำลงั พลจากหน่วยงานต่าง ๆ ทีเ่ กีย่ วขอ้ งกับการต่อเรอื
ไปเข้ารับการอบรมในครั้งนี้ก็เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมหากจะมีการต่อเรือขนาดใหญ่ภายในประเทศ และหาก
การตอ่ เรอื ดงั กลา่ วมาถงึ กรมอทู่ หารเรอื กค็ งไดร้ บั ความไวว้ างใจจากกองทพั เรอื ใหเ้ ปน็ หนว่ ยงานหลกั ในการบรหิ ารจดั การ
ด้านการต่อเรือดังกล่าว เพื่อให้กรมอู่ทหารเรือมีความพร้อมส�ำหรับภารกิจการต่อเรือขนาดใหญ่ตามแนวทางของ
กองทัพเรือที่วางไว้การจัดส่งบุคลากรเข้ารับการอบรมเรื่องการสร้างเรือตามโครงการจัดหาเรือฟริเกตน้ันเป็นส่ิงจ�ำเป็น
หากแตจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งมกี ารจดั ทำ� แผนการบรรจกุ ำ� ลงั พลใหม้ คี วามเหมาะสมควบคไู่ ปกบั การสง่ กำ� ลงั พลไปอบรมการถา่ ยทอด
ความรู้และเทคโนโลยีด้านการสร้างเรือ อีกท้ังยังจ�ำเป็นต้องด�ำเนินการพัฒนาเคร่ืองมือ อุปกรณ์และสิ่งอ�ำนวย
ความสะดวกในลกั ษณะคขู่ นานไปกบั การพัฒนาด้านบุคลากร

อา้ งอิง
๑ http://www.kriso.re.kr/eng/
๒ http://www.dsme.co.kr/epub/business/business010201.do
๓ http://www.dsme.co.kr/epub/publicize/exploreDSME.do
๔ http://en.wikipedia.org/wiki/Gwanggaeto_the_Great-class_destroyer
๕ http://tribonmigration.aveva.com/

121

On the Job Training ขั้นการออกแบบ :
DSME สาธารณรัฐเกาหลี

นาวาเอก ดิเรก ขจรรตั น์
หัวหนา้ แผนกออกแบบไฟฟา้ กำ� ลงั และแสงสว่าง กองออกแบบไฟฟ้า กรมแผนการชา่ ง กรมอู่ทหารเรือ

นาวาโท มานะชัย ค�ำแยม้
นายชา่ งแผนกวทิ ยาศาสตรก์ ารไฟฟา้ กองออกแบบไฟฟา้ กรมแผนการช่าง กรมอู่ทหารเรอื

 

ความเปน็ มา

กองทพั เรอื ไดล้ งนามในสัญญาวา่ จา้ งให้ บรษิ ัท Daewoo Shipbuilding & Marine Engineering (DSME)
สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) สร้างเรอื ฟริเกตจำ� นวน ๑ ลำ� ตามโครงการจดั หาเรอื ฟริเกตจ�ำนวน ๒ ลำ� ทดแทน
เรอื หลวงพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลก และ เรือหลวงพทุ ธเลิศหล้านภาลยั ทค่ี รบปลดประจำ� การในปี ๒๕๕๘ และ ๒๕๖๑
ตามล�ำดบั ส่วนล�ำที่ ๒ จะพิจารณาด�ำเนินการจัดหาตอ่ ไป โครงการจัดหาล�ำท่ี ๑ น้ี มชี ว่ งระยะเวลาประมาณ ๕ ปี
(๒๕๕๖ – ๒๕๖๑) เปน็ เรือฟรเิ กตที่มคี วามยาวตลอดล�ำ ๑๒๓ เมตร และระวางขับน�้ำ ๓,๗๐๐ ตนั โดยประมาณ
ถอื วา่ เปน็ เรอื ฟรเิ กตทมี่ ขี นาดใหญล่ ำ� หนง่ึ ทกี่ องทพั เรอื หวงั ใหเ้ ปน็ เขย้ี วเลบ็ ใหมท่ ส่ี งู ดว้ ยคณุ คา่ ทางยทุ ธการเมอื่ ขนึ้ ระวาง
ประจ�ำการ

On the Job Training ขัน้ การออกแบบ : DSME สาธารณรฐั เกาหลี

การถา่ ยทอดเทคโนโลยี (Transfer of Technology) ในข้ันตอนการออกแบบสร้างเรอื ในเฟสของ On the
Job Training (OJT) เป็นสว่ นหน่ึงที่สำ� คญั ของสญั ญาทท่ี าง บริษทั DSME ต้องดำ� เนินการจัดการฝึกอบรมก�ำลังพล
ของกองทัพเรือในส่วนของการออกแบบสรา้ งเรือ ซ่ึงมีท้ังหมด ๑๐ หลกั สูตรประกอบด้วย

๑. หลักสูตร Project Engineering Management ๒. หลักสูตร Basic Design
๓. หลักสตู ร Hull Design ๔. หลักสูตร Machinery and Propulsion
๕. หลักสูตร HVAC and Auxiliary System ๖. หลักสตู ร Hull Outfitting
๗. หลักสูตร Accommodation ๘. หลกั สูตร Electrical Design
๙. หลักสูตร Armament ๑๐. หลกั สูตร Electronics and Navigation

โดยการฝกึ อบรมนจี้ ัดขึ้นที่บรษิ ทั DSME สาธารณรฐั เกาหลใี นชว่ งเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๗ แต่ละหลกั สตู รใช้
เวลาประมาณ ๒๐ – ๔๐ วนั มีก�ำลงั พลกองทัพเรอื เข้ารับการฝกึ อบรมในครงั้ นีท้ ้งั ๑๐ หลักสตู รจำ� นวน ๒๓ นาย
ผเู้ ขยี นได้มโี อกาสไปอบรมในหลกั สตู รของการออกแบบระบบไฟฟ้า (Electrical Design) และมีความยินดที ี่ได้น�ำ
ความรู้และประสบการณ์ทีไ่ ดร้ บั มาในการฝกึ อบรมครง้ั น้ี ตลอดจนขอ้ สงั เกต ข้อคิดเห็นในแงม่ ุมตา่ ง ๆ ไม่เพยี งแต่
เรอื่ งราวของการออกแบบทผ่ี เู้ ขียนได้สอดแทรกเขา้ ไปมาเล่าสูก่ ันฟงั ในบทความนแี้ ม้จะเป็นการอบรมในช่วงระยะเวลา
ไมน่ านนกั กอ่ นทีจ่ ะเล่าถึงรายละเอยี ดในสว่ นของการออกแบบระบบไฟฟ้า ผู้เขียนจะกลา่ วถึงขอ้ มลู ท่ัวไปของอู่ DSME
และขอ้ มูลทั่วไปของเรือฟริเกตทก่ี ำ� ลังสร้าง โดยสงั เขป

DSME สาธารณรฐั เกาหลี : มาทำ� ความรจู้ กั กันหนอ่ ย

Daewoo Shipbuilding & Marine Engineering (DSME) ตั้งอยบู่ นเกาะโกเจ (Geoje Island) เมอื งออคโป
(Okpo) ทางตอนใตข้ องสาธารณรัฐเกาหลีตามรปู ที่ ๑ เมอื งออคโปอยูท่ างตอนใตป้ ระมาณ ๑๐๐ กโิ ลเมตรของเมือง
ปซู าน (Busan) เมืองที่ใหญเ่ ป็นอนั ดับ ๒ ของสาธารณรฐั เกาหลีรองจากกรุงโซล ด้วยเนื้อท่เี กือบ ๕ ล้านตาราง
กโิ ลเมตร ท�ำให้ DSME เปน็ อู่สร้างเรอื ทม่ี ขี นาดใหญ่
เป็นอนั ดบั ๒ ของโลกและเปน็ อู่สร้างเรอื ที่มีขนาดใหญ่ ๑
ใน ๓ ของสาธารณรฐั เกาหลีภายในอ่ปู ระกอบด้วยอแู่ หง้
(Drydock) ขนาดใหญท่ มี่ คี วามจุสงู สดุ ถงึ กว่า ๑ ล้านตนั
จำ� นวน ๒ อู่ แตล่ ะอู่แหง้ ติดตง้ั เครนขนาด ๙๐๐ ตัน อู่ลอย


(Floating Dock) จำ� นวน ๔ อู่ มคี วามจุสงู สดุ ถงึ กว่า
๑ แสนตัน โรงประกอบบลอ็ กขนาดใหญ่ (Block Assembly
Shop) จ�ำนวน ๓ โรง โรงตดั เหล็ก (Cutting Shop) ขนาด
ใหญจ่ �ำนวน ๑ โรง Pre-Outfitting Shop อีกจำ� นวน ๒ โรง
ปัจจุบนั DSME มเี จา้ หนา้ ที่ พนกั งาน วิศวกร และ คนงาน

  รปู ท่ี ๑ แสดงทีต่ ้ังของอู่ DSME รว่ ม ๔ หมืน่ คน สรา้ งเรือมาแล้วกว่า ๑,๒๐๐ ล�ำ มที ้ัง
เรือรบผวิ น้ำ� เรอื ด�ำน�้ำ เรือพานชิ ย์ ตลอดจน Offshore Projects

126

On the Job Training ข้นั การออกแบบ : DSME สาธารณรฐั เกาหลี


  รูปท ่ี ๒ แสดงบรเิ วณพนื้ ที่อู่ DSME
ในชว่ ง ๒ วนั แรก DSME นำ� เราทั้งหมดรวมทัง้ เจ้าหน้าทช่ี าวต่างชาตทิ มี่ าท�ำงานในอ่เู ข้าฟงั เรือ่ ง Safety
System DSME ใหค้ วามส�ำคัญในเรือ่ งนีเ้ ป็นอย่างมาก จากน้นั กพ็ านง่ั รถชมพนื้ ที่ภายในอู่ ตามรปู ท่ี ๒ และรูปที่ ๓
ท�ำให้ได้เห็นโรงประกอบบล็อก เครน และอแู่ หง้ ขนาดใหญ่มหึมา ได้เหน็ การเคลอ่ื นบล็อกจากโรงประกอบบลอ็ กทีม่ ี
ขนาดใหญห่ ลาย ๑๐๐ ตันเพ่ือไป Erection การจัดวางสิง่ ของอปุ กรณ์ท่เี ป็นระเบยี บ ตลอดจนความสะอาดภายในอู่ ไม่
นา่ แปลกใจเลยว่าเขาเป็นอูเ่ รอื ทตี่ ดิ อันดบั โลก


 
 

รปู ที่ ๓ แสดงพนื้ ที่ภายในอู่ DSME

127

On the Job Training ขน้ั การออกแบบ : DSME สาธารณรฐั เกาหลี

เรือฟริเกตของกองทพั เรือลำ� นจี้ ะเป็นเรอื ล�ำแรกทีก่ องทัพเรือได้วา่ จา้ งใหส้ รา้ งท่ี DSME และเปน็ คร้งั แรกใน
สาธารณรัฐเกาหลี ซ่ึงเปน็ ประเทศที่ ๒ ในภมู ภิ าคเอเชีย เพราะท่ีผ่านมาเรือทส่ี ร้างจากประเทศในภมู ิภาคน้ีเป็นเรือที่
สรา้ งจากสาธารณรัฐประชาชนจีน เหลา่ นี้เป็นความจริงท่สี ะทอ้ นให้เห็นถึงศกั ยภาพทางอุตสาหกรรมการสร้างเรอื ของ
๒ ประเทศในภมู ภิ าคน้ี ซ่ึงประเทศเราตอ้ งน�ำมาขบคิดเพอ่ื วนั หนึ่งเราตอ้ งก้าวไปสจู่ ุดน้นั ได้เหมอื นกัน โดยเฉพาะอยา่ ง
ย่ิงเมอื่ พดู ถงึ องคค์ วามรใู้ นด้านการออกแบบนน้ั ในความเหน็ ของผู้เขยี นหลงั จากทไ่ี ด้รับการอบรมแลว้ ประเทศไทยไม่
ได้ดอ้ ยกว่าอยา่ งท่หี ลายคนเขา้ ใจ

เรือฟรเิ กตที่กำ� ลงั สรา้ ง : ขอ้ มูลโดยทว่ั ไป

ลกั ษณะของเรือฟริเกตตามรปู ท่ี ๔ มรี ะวางขับนำ้� กวา่ ๓,๗๐๐ ตนั ความยาวตลอดล�ำ ๑๒๓ เมตร กินน้�ำลึก
ประมาณ ๘ เมตร ความเรว็ สงู สุด ๓๐ นอต รัศมีทำ� การ ๔,๐๐๐ ไมล์ทะเล ระบบขบั เคลื่อนประกอบด้วยเครื่องยนต์
แก็สเทอรไ์ บน์ ๑ เคร่อื งและเครอ่ื งยนต์ดเี ซล ๒ เครื่อง เคร่อื งก�ำเนิดไฟฟ้าจ�ำนวน ๔ เคร่อื ง ระบบไฟฟ้าเปน็ แบบ
๔๔๐ โวลต์ ๓ เฟส ๖๐ เฮริ ตซ์ รายละเอียดตามตารางที่ ๑


 

รปู ที่ ๔ แสดง Outboard Profile ของเรอื ฟรเิ กต


  ตารางท่ี ๑ ขอ้ มลู โดยท่ัวไปของเรอื ฟรเิ กต

128

On the Job Training ขั้นการออกแบบ : DSME สาธารณรัฐเกาหลี

ขนั้ การออกแบบมีความสำ� คญั : สาธารณรฐั เกาหลี
เขาท�ำกนั อยา่ งไร

สำ� หรบั คนทวั่ ไปทไี่ มไ่ ดม้ คี วามรทู้ างดา้ นการสรา้ งเรอื รบกค็ งไมย่ ากทจี่ ะเขา้ ใจไดว้ า่ ไมว่ า่ จะเปน็ การสรา้ งเรอื รบ
หรือสร้างอาคาร ข้นั ตอนการออกแบบเป็นขนั้ ตอนที่มีความสำ� คัญ การออกแบบนัน้ ไม่จำ� เป็นตอ้ งมคี �ำตอบเดยี วเสมอ
ไปเพอ่ื ตอบโจทยเ์ ดียวกัน อาจแตกต่างกนั ไดต้ ราบใดที่ยงั อยบู่ นพ้นื ฐานของหลกั การทางวศิ วกรรมแขนงต่าง ๆ ท่ี
เก่ียวขอ้ ง ตามมาตรฐานท่ยี อมรับเปน็ สากลอนั จะสง่ ผลให้ข้ันการผลติ (Production) ซ่ึงเป็นขน้ั ตอนตอ่ ไปในการสร้าง
เรอื นนั้ มีความราบร่นื ไม่ตอ้ งมีการแกไ้ ขเมือ่ ดำ� เนินการผลิตไปแล้ว ซึ่งจะทำ� ให้กระบวนสรา้ งเปน็ ไปตามแผน

“การได้ไปฝึกอบรมข้ันตอนการออกแบบระบบไฟฟ้าในเรอื รบท่ีบริษทั DSME สาธารณรัฐเกาหลซี ึ่งเปน็
บรษิ ทั ทีม่ ชี ือ่ ติดอันดับโลกในอตุ สาหกรรมการสรา้ งเรอื ท่ีมคี วามนา่ เช่อื ถอื ในความเหน็ ของผูเ้ ขยี นเปน็ โอกาสทดี่ ี ๒
ประการคอื ประการแรกเป็นโอกาสทีเ่ ราจะได้ตรวจสอบเปรียบเทียบองค์ความรขู้ องเรากับของเขาในแงข่ องแนวคดิ
กระบวนการ ในขั้นการออกแบบระบบไฟฟ้าในเรอื การอ้างอิงมาตรฐานว่าเหมอื นหรือแตกตา่ งกันอยา่ งไร ประการ
ทส่ี อง เราไดม้ โี อกาสรับเอาสง่ิ ที่เรายังไม่มีหรือยงั ไมท่ ราบมาปรบั ใชใ้ หเ้ หมาะสมกบั บรบิ ทของเรา” และหลังจาก ๑
เดอื นในการฝกึ อบรมสิง่ ที่ได้รบั ไดช้ ่วยเพิ่มพูนความรู้ความเข้าใจและประสบการณ์ในกระบวนการออกแบบระบบ
ไฟฟา้ ในเรือ ซงึ่ จะได้กลา่ วในล�ำดบั ต่อไป

วธิ กี ารการฝกึ อบรม : การฝกึ อบรมด�ำเนนิ การใน ๒ ลกั ษณะด้วยกัน คอื การ Lecture แยกตามหลักสตู ร
และการพาไปเยยี่ มชม ณ บรษิ ัทผผู้ ลติ อปุ กรณ์ท่ีจะติดตง้ั บนเรือฟริเกตประมาณ ๒ – ๓ บรษิ ทั ในพ้ืนทใี่ กล้เคยี งกับ
อู่ DSME ซ่งึ ท�ำใหเ้ ห็นกระบวนการผลิต การทดสอบอุปกรณ์ซงึ่ เปน็ ประโยชน์มาก สว่ นการ Lecture จะเปลี่ยน
ผู้สอนไปตามระบบงานทีร่ บั ผดิ ชอบซึง่ แสดงใหเ้ หน็ การแบง่ สรรงานอย่างมรี ะบบชัดเจน อยา่ งไรกต็ ามสิ่งหนึง่ ท่ียงั เปน็
อุปสรรคไดแ้ ก่เรือ่ งการสื่อสาร ภาษาองั กฤษในการสอนนน้ั ส่วนใหญ่จะค่อนขา้ งฟังยากพอสมควร อย่างไรก็ตาม
โดยภาพรวมเมื่อผ่านไปประมาณ ๑ สปั ดาหเ์ รากส็ ามารถปรับหแู ละสามารถส่ือสารกันไดด้ ีขน้ึ

การออกแบบระบบไฟฟา้ ในเรือ : ตามแบบ DSME

มาตรฐานทอ่ี า้ งองิ : มาตรฐานที่ DSME ใชอ้ า้ งองิ ในการออกแบบระบบไฟฟ้าในเรือมีท้ังมาตรฐานสากล
และมาตรฐานกองทพั เรอื สาธารณรฐั เกาหลี (Republic of Korea (ROK) Navy Standard) สำ� หรับมาตรฐานสากล
แบ่งออกเป็น ๓ กล่มุ หลกั ๆ กลมุ่ แรกเปน็ ความตอ้ งการพน้ื ฐานเกีย่ วกบั ความปลอดภัยในการด�ำรงชีวิตในเรือ ได้แก่
สมาคมจดั ชัน้ เรอื (International Association Classification Society : IACS) หรอื บางทเี รียกสนั้ ๆ ว่า Class ซ่งึ ข้อ
ก�ำหนด (Requirements) ตา่ ง ๆ จะอา้ งองิ ขอ้ ก�ำหนดหรอื ขอ้ บงั คบั ที่บญั ญตั ิไวใ้ น SOLAS (Safety Of Live At Sea)
และ IMO (International Marine Time Organization) โดยสาธารณรัฐเกาหลเี ป็น ๑ ใน ๑๓ สมาชิกของ IACS
ใช้ชื่อวา่ Korean Register (KR) กลุม่ ที่ ๒ เป็นกลมุ่ ท่ีอยู่บนพ้นื ฐานของหลักการทางวิศวกรรมไฟฟ้า ได้แก่ Institute
of Electrical and Electronics Engineers (IEEE) และ International Electrotechnical Commission (IEC) และ

129

On the Job Training ข้ันการออกแบบ : DSME สาธารณรัฐเกาหลี

กลุ่มสดุ ทา้ ย เป็นกลมุ่ ทเี่ ปน็ ความต้องการทางทหาร ได้แก่ Military Standard (MIL-STD) และมาตรฐานกองทพั เรอื
อเมริกา (Naval Sea System Command : Navsea)
กระบวนการออกแบบ (Design Process) : การออกแบบระบบไฟฟา้ ในเรอื แสดงตามรูปที่ ๕ มีงานท่ี
ตอ้ งดำ� เนนิ การอยู่ ๓ ส่วน ได้แกง่ านระบบ (Electrical Systems ) งานแบบ (Electrical Drawing) และงานก�ำหนด
แผนงาน (Design Schedule) ซ่งึ ทง้ั ๓ ส่วนจะมคี วามสัมพันธ์กนั และสมั พนั ธก์ บั การออกแบบของระบบอ่ืนดว้ ย


  รปู ท่ี ๕ แสดงภาพรวมระบบไฟฟา้ ต่าง ๆ ในเรือ
๑. งานระบบ (Electrical Systems)
ระบบไฟฟ้าในเรือ (Electrical Systems) ประกอบด้วยระบบไฟฟา้ ๒ ระบบได้แก่ ระบบไฟฟา้ กระแส
สลับ (AC) และระบบไฟฟ้ากระแสตรง (DC) แบง่ ตามลกั ษณะการใช้งานไดเ้ ปน็ ระบบไฟฟา้ กำ� ลัง 440 VAC Power
System ระบบไฟฟ้าแสงสวา่ ง (Lighting System) ระบบควบคุม (Control System) ระบบสื่อสาร (Communication
System) ระบบ Degaussing System และระบบป้องกนั การกดั กร่อนตวั เรือ (ICCP : Impressed Current Cathodic
Protection) ดงั แสดงในรปู ที่ ๕ โดยในแตล่ ะส่วนมีขั้นตอนการด�ำเนินการ ดงั น้ี
๑.๑ ระบบไฟฟา้ กำ� ลัง 440 VAC 60 Hz 3 เฟส
• คณุ ลักษณะของระบบไฟฟา้ (Electrical Characteristics) อา้ งอิงมาตรฐาน [๑]
• ต้องท�ำการวเิ คราะหภ์ าระทางไฟฟา้ (Electrical Load Analysis) โดยอา้ งอิงมาตรฐาน [๒]
และ ROK [๓] เพอื่ ก�ำหนดขนาดทางไฟฟ้าและจ�ำนวนของชุดเคร่อื งก�ำเนดิ ไฟฟา้ ขนาดพิกัดกระแสของสายไฟบก
(สายไฟบก หมายถึง สายไฟทต่ี อ่ จากแผงจ่ายไฟบนทา่ เรอื ผ่านแผงไฟบกบนเรอื เพ่ือใชก้ บั โหลดในเรอื ขณะทเ่ี รอื เทยี บท่า)
• ทำ� การกำ� หนด Key-Plan ของระบบการสง่ จ่ายก�ำลงั ไฟฟา้ (Electrical Distribution System)
• ท�ำการคำ� นวณกระแสลัดวงจร (Short Circuit Calculation) โดยอา้ งองิ มาตรฐาน [๔] เพื่อ
ทำ� การกำ� หนดขนาดพกิ ัดกระแสท่ี Bus bar ในแผงจ่ายไฟหลัก (Main Switchboard : MSB) และอปุ กรณ์ป้องกนั ทางไฟฟ้า
• การค�ำนวณแรงดันตกในสายไฟ (Voltage Drop Calculation) โดยอา้ งองิ มาตรฐาน [๕]
เพ่ือนำ� มาประกอบในการพิจารณาก�ำหนดขนาดพกิ ัดกระแสของสายไฟ

130

On the Job Training ข้นั การออกแบบ : DSME สาธารณรัฐเกาหลี

• ก�ำหนดอุปกรณ์หลัก (Main Equipments) ในระบบไดแ้ ก่ Main Switch Board (MSB)
Load Center (LC) และ แผงจ่ายไฟย่อยต่าง ๆ
๑.๒ ระบบไฟฟ้าแสงสวา่ ง (Lighting System)
• ตอ้ งค�ำนวณความตอ้ งการการสอ่ งสว่าง (Illumination Calculation) ในแตล่ ะสว่ นของเรือ
อ้างอิงมาตรฐาน [๖]
• การก�ำหนดระบบไฟเรอื เดินและไฟสัญญาณ (Navigation & Signal Light) อา้ งองิ มาตรฐาน [๖]
• กำ� หนดระบบไฟรับส่งเฮลิคอปเตอร์ (Heli VLA Light)
• ก�ำหนดอปุ กรณห์ ลัก ไดแ้ ก่ รูปแบบไฟแสงสวา่ ง (Lighting Fixture) ไฟเรอื เดินและสญั ญาณ
อา้ งองิ มาตรฐาน [๖]
๑.๓ ระบบควบคมุ (Control System)
• ระบบควบคมุ เครือ่ งจักรใหญแ่ ละเคร่ืองกำ� เนิดไฟฟา้
• ก�ำหนดระบบป้องกนั ความเสยี หาย (Damage System) และระบบ Fire Alarm
• กำ� หนดอปุ กรณห์ ลัก ไดแ้ ก่ Integrated Platform Management System (IPMS) และ Fire Alarm
๑.๔ ระบบไฟกระแสตรง DC Power System
• วเิ คราะหภ์ าระทางไฟฟา้ ระบบไฟกระแสตรง (DC Power Electrical Load Analysis) เพ่อื
ก�ำหนดขนาดของเครือ่ งเรยี งกระแส (Rectifier) และความจุของแบตเตอรี่
• กำ� หนดระบบส่งจา่ ยไฟกระแสตรง ได้แก่ แผงจา่ ยไฟ 24 VDC Rectifier และแบตเตอรี่
๑.๕ ระบบไฟฟา้ ส่อื สาร (Communication Power System)
• วเิ คราะหภ์ าระทางไฟฟา้ ระบบส่อื สาร (Communication Load Analysis) เพอ่ื ก�ำหนดขนาด
ของเครื่องแปลงความถ่ี (Frequency Converter) หม้อแปลง (Communication Transformer) สำ� หรบั ระบบไฟฟ้า
สอ่ื สาร
• กำ� หนดอุปกรณห์ ลัก ได้แก่ Frequency Converter แผงจ่ายไฟ Transformer
๑.๖ ระบบ Degaussing System
• Magnetic Signature Modeling
• Degaussing Coil Lay-Out Design/ Degaussing Coil Arrangement
๑.๗ ICCP System
• การออกแบบองคป์ ระกอบระบบกนั การกดั กรอ่ นตวั เรอื (ICCP Equipment Composition Design)

131



On the Job Traini๑ng.๗ขIน้ัCกCาPรSอyอsกteแmบบ : DSME สาธารณรฐั เกาหลี

• การออกแบบองคประกอบระบบกันการกัดกรอนตัวเรือ (ICCP Equipment Composition
Design)

๒. งานแ๒บ. บงา(นEแlบeบctr(iEclaelcDtrircaawl iDnrga)wงinาgน) งEาlนecEltericctraiclaDl Drarawwiinnggนน้นั ปน้ั รปะกรอะบกไปอดบว ไยปด้วย
๒.๑๒.๑ SSyysstetemmWiriWngirDiniaggramDiเaปgนrกaารmนํางาเนปร็นะบกบานรั้นนม�ำาถงาายนทรอดะอบอบกนมา้ันเปมนาแถบบ่ายWทirอinดgอDอiaกgrมamาเป็นแบบ Wiring
Diagram ของระขบองบรตะบ่าบงตาๆง ๆดดังงั ตตัวัวออยายงา่แงสแงใสนดตางรใานงทต่ี ๒ารเชานงทแี่บบ๒Wเirชin่นg DแiaบgrบamWขอirงiรnะgบบDไฟia4g4r0aVmAC รขะอบงบรไฟะบบไฟ 440 VAC
ระบบไฟ DC แลDะCระแบละบระไบฟบแไฟสแงสสงวสว่าางง เเปปน น็ ตตน ้น

DWGNO DRAWING TITLE START FINISH CLASS OWNER
DA310E002 SUBMIT RECEIVE SUBMIT RECEIVE
DA313E001 Wiring Diagram of AC 440V Power System
DA252E001 Wiring Diagram of DC Power System
DA252E002 Wiring Diagram of IPMS
DA252E003 Wiring Diagram of EPCC
DA252E004 Wiring Diagram of DCC
DA330E001 Wiring Diagram of ACC
DA426E001 Wiring Diagram of Lighting System
DA422E001 Wiring Diagram of Elec. Navigation system
Wiring Diagram of Navigation & Signal
DA588E001 Lighting System
DA436E001 Wiring Diagram of VLA System
DA475E001 Wiring Diagram of Fire Detection System
DA252E005 Wiring Diagram of Degaussing System
DA314E001 Wiring Diagram of Steering Gear & Auto Pilot
Wiring Diagram of Communication Power
DA633E001 System
Wiring Diagram of ICCP & MGPS System

ตารางทตาี่ ร๒างแท่ีส๒ดแงสตดัวงตอัวยอยา่ างงรราายยกกาารรWiWrinigriDnigagrDamiagขอraงรmะบขบไอฟงฟรา ะตบางบๆไฟฟา้ ตา่ ง ๆ
ทางดานขวาของตารางที่ ๒ จะแสดงวันที่เริ่มดําเนินการ (Start) และวันท่ีส้ินสุด (Finish) ของการจัดทํา Wiring
ทางดDา้iaนgrขamวาแขตอลงะตราายรกาางรทรวี่ ม๒ท้ังวันจทะี่สแงส(ดSuงbวmนั iทt) ี่เใรหิม่ Cดla�ำsเsนซนิ่ึงใกนทาี่นร้ีหม(าSยtถaึงrKt)oreแaลnะRวeนัgisทteส่ี r(ิน้ KRส)ุดเพื่อ(ทFําiกnาiรsh) ของการจดั ทำ�
Wiring Diagrรaับmรองแ(ตApล่ pะroรvาeย)กแาบรบ Wรวirมinทg ัง้นว้ันันแลทะี่สวันง่ ท(ี่ไSดรuับbกmลับitม)า ใทหา้ งCดาlaนขsวsาสซุดึ่งแใสนดงทวีน่ันทหี้ ่ีสมงใาหย Oถwงึ neKroซr่ึงeหaมnายRถึงegister (KR) เพื่อ
ทกอำ� กงทารัพรเับรือรโอดงตกยลอ(คAองทณดpัพชpะวเรrกงoือเรวโvลรดeายมข)คกอณแงาสบะรญักบตรญรราWมวกเจพiาrกื่อรinทตาgรํารวกจนจาา้รกน้ัรงาับดรแรจา้ลอานงงะแดวไบาฟันนบทฟไแฟล่ีไ้าฟะดวา(ร้นั กับท(ตกรี่กบัตจลจก.ด.บัลดับ้ามานนาไไ ฟ ฟฟทาฟา)งา้ ด)ข้าอขงนอกของวงกทาอัพสงเุดรทือแพั สทเ่ีปดรรืองะวจนัทําอทป่ี ย่ีสรูทะ่งี่ DจใSหำ� Mอ้ EOยู่ทw่ีnDerSซM่งึ Eหมตาลยอถดึง
ช ต่วำ� งแเหวลนา่งข กอางรสจตัญัดาํ แวญหา๒นางง.ขก๒๒เอาพ.๒รง่ือจแอัดทบแุปวบำ�าบกงบกกขรกาอณาารงรรอร์ตจจุปบััด่าัดกวรงรวาอณางๆงตองแาุปอบงบกุปๆนรบกณบพแรในื้นลณนพเะด้นืรใ์ วือดนานั าด(เดGทรฟฟeอื ีร่ า้าnบัเเรeร(ือกrGือaแลlลแeบั ะลnAใeนะrrใหraaนอnlงgหตeAา้อmงงrerๆตanา่ดntงังgต:eัวๆอGmยAดeา)งงัnเใตปนtนัวต:แาอรบยาGบง่าทAงD่ีใr)๓aนwเเตชiปnนาgน็ รแแาทบงบี่แบทสกบดา่ี รง๓Dเrชa่นwiแngบบทกี่แา๑สร๐จดัดง
วาจงัดอุปวากงรอณุปไ์ กฟรฟณ้าไบฟนฟาMบaนinMDaeinckDe(Acrkra(nAgrreamngeenmt oefnEt loefc.EEleqcu.ipEmqueinptminenMtaiinn MDaeicnk)Dซe่ึงcทk)างซดึ่งา้ทนาขงดวาากนม็ขีลวักากษ็มณี ะ
เดลยี กัวกษนัณกะับเดตยี าวรกาันงกทบั ี่ ๒ตารางท่ี ๒

DWGNO DRAWING TITLE START FINISH CLASS OWNER
SUBMIT RECEIVE SUBMIT RECEIVE
DA310E010 Arrangement of Electric Maintenance Room
DA313E002 Arrangement of Battery & Battery Charging
Room
DA310E011 Arrangement of Elec. Distribution Center
DA310E003 Arrangement of Elec. Equipment in G/T &
RT Room
DA310E004 Arrangement of Elec. Equipment in AMR &
D/E Room
DA310E005 Arrangement of Elec. Equipment in 2nd
Platform & hold
DA310E006 Arrangement of Elec. Equipment in 1st
Platform
132 DA310E007 Arrangement of Elec. Equipment in
Maindeck
DA310E008 Arrangement of Elec. Equipment in 01 level

DA310E011 Arrangement of Elec. Distribution Center
DA310E003 Arrangement of Elec. Equipment in G/T &
On tDhAe31J0oEb00T4raininARgTrraRขnนั้ogoกemmารeอnอtกoแfบEบle:cD. SEqMuEipสmาeธnาtรณinรAัฐMเกRาห&ลี

D/E Room
DA310E005 Arrangement of Elec. Equipment in 2nd

Platform & hold
DA310E006 Arrangement of Elec. Equipment in 1st

Platform
DA310E007 Arrangement of Elec. Equipment in

Maindeck
DA310E008 Arrangement of Elec. Equipment in 01 level
DA310E009 Arrangement of Elec. Equipment in 02 &

Above Level
DA304E001 Arrangement of Main Cable Way
DA400E001 Arrangement of Pilot House & Chart Room
DA426E002 Arrangement of IC & Gyro Room
DA252E006 Arrangement of Central Control Station
DA588E003 Arrangement of Helicopter Control Station
DA422E002 Arrangement of Navigation & Signal Light
DA330E002 Arrangement of Lighting Fixture
DA436E003 Arrangement of Fire Detector System
DA588E002 Arrangement of VLA Light
DA314E002 Arrangement of Power Converter Room
DA633E002 Arrangement of ICCP Anode/Ref Cell &

Echo Sounder & Speed Log Transducer
DA330E003 Arrangement of Dressing Light

ตตาารราางงทท่ีี่ ๓๓ แแสสดดงงตตัวัวออยย่าางงรราายยกกาารรกกาารรจจดััดววาางงออปุุปกกรรณณ์ไไฟฟฟฟาา้ (A(Arrrarannggeemmeenntt))ขขอองงรระะบบบบไไฟฟฟฟา า้ ตตา่างงๆๆ๑๑


(กตEาาlรรeาคcก (งEtํารทrนlะiecี่ แว๒๒caสณt.lr๓ลiกcัดL aรวolแะงaแLบจdoสรบaลก(dAัดSา๒nวhรA.งaคo๓nจlrําyatรแนslCyบi(วssSiบณrihscก:ouแา:irลรtEtEคะCLL�ำกAaCนAา)lciร)วrucตณกกluaิดาแาitรตtรiลoค้ัคงะnําตกำ�C)นนาาaเวรงวปlณตๆcณน็ uดิ แแตดlตรaรน้ัง้งังtงตตดiดoทัว่าันันnอางตต)งยๆกดกเาปใด้างในในนนังนสตสขตตาัววานยาอายรไขยทไฟาอฟ่าางงงงทตใ(ด(นV่ีVาา๔รooตนาllาtเขtงaชรaมวgานgาลีeงeขทักกDอษ่ีา๔Dงrรณoตrวเopะาิชเคpเร่นดCราียางaกCวะมlาcaกหีลรulบั วภcักlaติเuษาคtาlรiณoรaระาntาะทiะ)oงเหาทดnแงภ์ีี่ย)ไล๒าฟวแะรกฟกละับาะาทราคง�ำไนฟวฟณา้

DWGNO DRAWING TITLE START FINISH CLASS OWNER
SUBMIT RECEIVE SUBMIT RECEIVE
DA310E001 Key Plan of Main Electric Power System
DA436E002 Alarm & Wiring system
DA304E002 Installation Standard of Cable & Electric
Equipment
DR310E002 Voltage drop Calculation
DR310E001 Electric Power load Analysis
DR310E003 Short Circuit Calculation
DR330E001 Illumination Calculation
DR252E001 IPMS Measuring Point
DDAR331243 EE000011 CD aiabglreamLisotf Casualty Power System

ตารางตทาี่ ๔ราแงทสดี่ ๔งตแัวสอดยงา ตงรัวาอยยก่าางรรากยากรคารํานกาวรณคตำ� านงวๆณตข่าองงรๆะบขบอไงฟระฟบาบไฟฟา้
๒.๔ แบบของอปุ กรณไฟฟา (Vendor Drawing) เปนแบบท่ีมากับอุปกรณที่ทาง DSME ส่ังซ้ือมาจากผู
จาํ หนาย (Supplier หรอื Vendor)

๓. งานการกําหนดตารางแผนงาน (Electrical System Design Schedule) ประกอบไปดวย 133

แผนงานท่ตี อ งพจิ ารณาใหสัมพันธก บั งานสว นท่ี ๑ และ ๒ เพอื่ ใหเ ห็นวา งานใดตองเรมิ่ กอนหลงั และเร่ิมเม่ือใด

On the Job Training ข้ันการออกแบบ : DSME สาธารณรัฐเกาหลี

๒.๔ แบบของอปุ กรณ์ไฟฟ้า (Vendor Drawing) เป็นแบบท่ีมากบั อุปกรณท์ ที่ าง DSME สงั่ ซ้ือมาจาก
ผจู้ �ำหนา่ ย (Supplier หรอื Vendor)
๓. งานการก�ำหนดตารางแผนงาน (Electrical System Design Schedule) ประกอบไปด้วยแผนงานทีต่ อ้ ง
พิจารณาให้สมั พันธ์กบั งานส่วนท่ี ๑ และ ๒ เพ่อื ให้เห็นว่างานใดตอ้ งเริ่มกอ่ นหลงั และเร่มิ เมือ่ ใด
๓.๑ การทำ� รายงานงานออกแบบใน ๒ ส่วนแรกและส่งให้ กตจ.ด้านไฟฟา้ (Ship Owner) ๙ เดือน
กอ่ นวนั ตัดแผ่นเหลก็ (Steal Cutting: S/C)
๓.๒ Wiring Diagram ท้ังหมดตอ้ งสง่ ให้ กตจ.ดา้ นไฟฟา้ ๖ เดือนกอ่ น S/C
๓.๓ DSME ต้องรับรอง Vendor Drawing ๕ เดือนครึ่งก่อน S/C
๓.๔ แบบ General Arrangement ท้ังหมดตอ้ งส่งใหค้ ณะกรรมการตรวจการจ้างดา้ นไฟฟา้ ๕ เดอื น
ก่อน S/C
๓.๕ มาตรฐานการติดต้ังอุปกรณ์ไฟฟ้าและสายไฟ (Installation Standard) ต้องดำ� เนินการให้เสร็จสิ้น
๕ เดอื นกอ่ น S/C
๓.๖ แผนการเดินสายไฟ (Cable Plan) ชดุ แรกและชดุ ที่ ๒ ตอ้ งดำ� เนนิ การใหเ้ สร็จสิน้ ๔ เดอื นและ
๒ เดือน กอ่ น S/C ตามล�ำดบั
๓.๗ แผนการเจาะช่องตา่ ง ๆ (Hole Plan) ตอ้ งดำ� เนนิ การใหเ้ สรจ็ สิน้ ๗ สัปดาห์กอ่ น S/C เพื่อนำ�
ไปใช้ในการผลิต
๓.๘ แบบการติดต้งั อปุ กรณ์ (Installation Drawing) ต้องด�ำเนินการใหเ้ สรจ็ สน้ิ กอ่ นการประกอบ
Block ประมาณ ๗ สัปดาห์
๓.๙ แบบ GA ตอ้ งเสร็จเพอ่ื นำ� ไปทำ� งาน ๖ สัปดาห์ หลังจาก S/C
๓.๑๐ Wiring Diagram ต้องเสรจ็ เพือ่ น�ำไปทำ� งาน ๕ สัปดาห์ หลังจาก S/C
๓.๑๑ แบบและการตดิ ตั้ง Cable Tray (Main Cable Tray Drawing) ต้องเสร็จเพอ่ื นำ� ไปทำ� งาน ๒๓
วันก่อน S/C

134

On the Job Training ข้นั การออกแบบ : DSME สาธารณรัฐเกาหลี

บทสรปุ

ผเู้ ขยี นได้มโี อกาสไปฝกึ อบรม(On the Job Training : OJT) ในขัน้ การออกแบบท่อี ูต่ ่อเรือ Daewoo
Shipbuilding & Marine Engineering (DSME) สาธารณรฐั เกาหลี ซึ่งเป็นสว่ นหนึง่ ในสัญญาทก่ี องทัพเรอื ว่าจ้างให้
DSME สร้างเรอื ฟริเกต ๑ ล�ำโดยเนอื้ หาสาระทีผ่ ู้เขยี นนำ� มาบอกเลา่ น้นั เปน็ ภาพรวมของกระบวนการออกแบบระบบ
ไฟฟ้าในเรอื ฟริเกตล�ำนซ้ี ึง่ ประกอบดว้ ยขนั้ ตอนและสงิ่ ทต่ี อ้ งดำ� เนินการหลายประการดว้ ยกนั ถึงแมว้ า่ มหี ลายส่วน
ขององค์ความรู้ในข้ันการออกแบบที่มีความคล้ายคลึงกับความรู้ความเข้าใจท่ีผู้เขียนมีอยู่ก่อนการได้เข้ารับการอบรม
ท�ำให้ได้รับองคค์ วามรูใ้ หม่ วิธกี าร และเทคนคิ ใหม่ ๆ นอกจากน้กี ารไดเ้ ย่ยี มชมบริเวณอูเ่ รือ DSME ทำ� ใหไ้ ดเ้ ห็นการ
จัดการท่ีดีท้ังด้านความปลอดภัยและการผลิตตลอดจนสิ่งอ�ำนวยความสะดวกในการสร้างเรือที่ครบครันและก็ทันสมัย
อีกท้ังได้ไปเยี่ยมชมบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าที่จะติดต้ังในเรือฟริเกตล�ำน้ีซ่ึงท�ำให้เห็นภาพการผลิตและการทดสอบ
ส่ิงท้ังหลายท้ังปวงเหล่านี้ได้เพ่ิมพูนความรู้ความเข้าใจของผู้เขียนในกระบวนการออกแบบไฟฟ้าในเรือให้ครบถ้วน
และรอบดา้ นมากขนึ้ และหวงั ว่าผู้อ่านจะไดร้ ับประโยชนเ์ ชน่ กนั
เอกสารอา้ งองิ
[๑] MIL-STD-1399 SECTION 300B “DEPARTMENT OF DEFENSE INTERFACE STANDARD
SECTION 300B ELECTRIC POWER, ALTERNATING CURRENT”
[๒] NAVAL SEA SYSTEMS COMMAND “DDS 310-1 REV 1 ELECTRICAL POWER LOAD
ANALYSIS (EPLA) FOR SURFACE SHIPS”
[๓] REPUBLIC OK KOREA (ROK)NAVY STANDARD
[๔] IEC 61363-1 PART 1 “PROCEDURES FOR CALCULATING SHORT-CIRCUIT CURRENTS
IN THREE-PHASE A.C.
[๕] MIL–HDBK–299(SH) “CABLE COMPARISON HANDBOOK DATA PERTAINING TO ELECTRIC
SHIPBOARD CABLE”
[๖] MIL–HDBK–289(SH) “LIGHTING ON NAVAL SHIPS (METRIC)”

135

การออกแบบห้องพกั อาศัย
ส�ำหรับเรอื ฟริเกตสมรรถนะสูง

นาวาเอก กิตติพงษ์ พุ่มสร้าง รองผู้อ�ำนวยการศูนย์พัสดชุ ่าง กรมอู่ทหารเรือ
นาวาตรี นรเศรษฐ์ จนั ทนป รกั ษาราชการนายชา่ งแผนกโรงงานเบด็ เตลด็ กองโรงงาน

อทู่ หารเรือธนบุรี กรมอู่ทหารเรอื

บทคัดยอ่

หากจะกล่าวถึงองค์ความร้ตู า่ ง ๆ เก่ียวกบั เรอื หลวงในกองทพั เรือนั้น ยากท่ีจะหาผ้ทู เี่ ขยี นบรรยายถึงการ
ออกแบบหอ้ งพกั อาศัยภายในเรือโดยเฉพาะอย่างยงิ่ การออกแบบหอ้ งพกั อาศยั ในเรอื รบ สว่ นใหญ่จะคำ� นงึ ถึงคณุ ค่า
ทางยทุ ธการเปน็ หลกั มากกว่า แต่จากการทค่ี ณะเทคโนโลยีการถา่ ยทอดความรเู้ รือฟริเกตสมรรถนะสูง ณ สาธารณรฐั
เกาหลี ไดไ้ ปรบั การอบรมในชว่ งกลางปี ๒๕๕๗ ท่ผี า่ นมา โดยกระผมไดร้ ับโอกาสเป็นหวั หนา้ คณะยอ่ ยในสว่ นของ
Accommodation Design กระผมจึงอยากขอกลา่ วถงึ การออกแบบหอ้ งพักอาศัยภายในเรือของเรอื ฟริเกตสมรรถนะ
สงู ที่บริษัท DSME : Daewoo Shipbuliding and Marine Engineering ได้ท�ำการต่อเรือให้กับกองทพั เรือ โดยขอ
กล่าวถึงเรือโดยทั่วไปก่อน ส�ำหรบั เรอื โดยทวั่ ไปจะให้ความส�ำคัญกับการออกแบบห้องพกั อาศยั ในเรอื เป็นอย่างมาก
เนือ่ งจากระยะเวลาทก่ี ำ� ลงั พลทีต่ ้องอาศยั ไปกับเรือเป็นระยะเวลานาน และท่ีสำ� คญั ทสี่ ดุ คือความปลอดภัยของกำ� ลงั
พลในเรือขณะที่เรืออยู่ในทะเลนนั่ เอง เจ้าของบริษัทหรอื นายจา้ งทีจ่ า้ งตอ่ เรือจงึ เลง็ เห็นความส�ำคัญของการออกแบบ
หอ้ งพกั อาศัยในเรอื เปน็ อย่างมาก โดยบริษัทผู้ทำ� การตอ่ เรือต้องออกแบบและสรา้ งเรือให้ผา่ นข้อก�ำหนดของการจัด
สถาบนั ช้นั เรอื (Classification Socities : Class) ที่เจ้าของบรษิ ทั ตอ้ งการเพื่อที่เจ้าของบรษิ ทั จะสามารถไปท�ำประกัน
ความเสยี หายซึง่ อาจเกดิ ขนึ้ กบั เรอื ในขณะทเี่ รืออยใู่ นทะเล ซ่ึงหากเกดิ เหตุการณ์ท่ไี ม่คาดฝัน เช่น ไฟไหม้ เรือโดนกัน
เป็นตน้ เจ้าของบริษัทจะสามารถเรยี กรอ้ งค่าเสยี หายกับบรษิ ัทประกันภัยได้ ส�ำหรับเรือรบนน้ั โดยสว่ นใหญไ่ ม่ได้คำ� นงึ
ถงึ Class หรือความปลอดภัยของกำ� ลงั พลขณะที่เรอื อยู่ในทะเลมากนัก แตส่ ำ� หรบั เรือฟริเกตสมรรถนะสูงที่บริษัท
DSME ได้ทำ� การรับจ้างตอ่ เรือให้กับราชนาวีไทยนั้น ทีมการออกแบบหอ้ งพักอาศัยภายในเรือ (Accommodation
Design Team) ได้ใช้ SOLAS : Safety of Life at Sea เป็น Class ในการออกแบบและสร้างห้องพักอาศัยภายในเรอื
ของเรือฟรเิ กตสมรรถนะสงู ลำ� น้ี เพอ่ื ความสะดวกสบายทเี่ พิม่ มากขึ้น และท่สี �ำคัญท่สี ุด คอื ความปลอดภัยของก�ำลัง
พลขณะทเ่ี รืออย่ใู นทะเล ตัวอย่างเชน่ การออกแบบหอ้ งเคร่ืองจกั รใหญท่ อี่ ยูต่ ิดกับหอ้ งพกั อาศยั หากหลีกเลี่ยงไมไ่ ด้
หอ้ งลกั ษณะนจี้ ะถกู เรยี กวา่ “VitalRoom” หมายถงึ หอ้ งทต่ี อ้ งใหค้ วามสำ� คญั มากซงึ่ เกยี่ วขอ้ งกบั ชวี ติ ของกำ� ลงั พลในเรอื
หอ้ งลกั ษณะดังกล่าวผนังหอ้ งเครอ่ื งจกั รใหญ่ท่ตี ดิ กบั ห้องพักอาศัย จะต้องใช้ Class “A-60” เปน็ ต้น จงึ อาจกล่าวได้

การออกแบบหอ้ งพกั อาศัยส�ำหรบั เรือฟริเกตสมรรถนะสงู

ว่าการออกแบบห้องพกั อาศัยภายในเรอื ฟรเิ กตสมรรถนะสูงล�ำนีม้ ีความแตกต่างจากเรอื รบที่มีอยเู่ ดมิ ของกองทพั เรือ
และอาจเป็นต้นแบบให้กับเรือฟริเกตสมรรถนะสงู ลำ� ต่อไปท่จี ะตอ่ ภายในประเทศในภายภาคหน้าก็เป็นได้
Accommodation Design
การออกแบบห้องพกั อาศยั ภายในเรือ จะตอ้ งมีเทคนิคในการจัดวางเท่ากับคุณลักษณะทก่ี ำ� หนดการออกแบบ
เรือในเบ้อื งตน้ เช่น การวางผังหอ้ ง ระบบความปลอดภัยในเรอื และการจัดวางอุปกรณท์ ่ัวไปของเรอื ในห้องตา่ ง ๆ
ตอ้ งเป็นไปตามมาตรฐานตา่ ง ๆ ทง้ั ภายในประเทศ หรือมาตรฐานระดับนานาชาติ และ Class ในบทความนีข้ อยก
ตวั อย่างมาตรฐานตา่ ง ๆ พอสงั เขป ดงั นี้
๑. มาตรฐานภายในประเทศ เช่น
- มาตรฐานผลติ ภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.)
- มาตรฐานพัสดุชา่ ง กรมอทู่ หารเรือ (มพช.อร.)
๒. มาตรฐานระดับนานาชาติ เชน่
- American Society for Testing and Material หรือ ASTM
- Japanese Industrial Standard หรือ JIS
- Military Standard หรอื MIL STD ของกองทพั เรอื สหรฐั
๓. ขอ้ ก�ำหนดของสถาบันจดั ชน้ั เรือ (Classification Societies) เชน่
- American Bureau of Shipping (ABS)
- Lloyd’s Register of Shipping (LR)
- Germanischer Lloyd (GIL)
- Korea’s Register (KR)
การออกแบบห้องพักอาศัยภายในเรือท่ดี ีจะต้องท�ำให้เรือน่าอยู่ มคี วามสะดวกสบาย และมีความปลอดภยั
ตลอดจน ระบบระบายอากาศ ระบบปรับอากาศ ระบบแสงสว่าง ระบบเสียง และการทาสี การจัดบรเิ วณท่พี กั อาศัย
ควรมลี กั ษณะทพี่ อเพยี งและใช้งานไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธิภาพ การจัดวางผงั เรือถือเป็นคณุ ลกั ษณะอย่างหน่ึงทีจ่ ะสร้าง
ความพงึ พอใจให้กับความต้องการของก�ำลังพล และถูกต้องตามวัตถุประสงคข์ องเรือ พืน้ ทปี่ ฏิบัติการ ระยะเวลาการใช้
งาน คณุ ภาพการใช้ชีวติ และการท�ำงานภายในเรือ
มาตรฐานการออกแบบห้องพกั อาศยั ภายในเรอื การแบ่งชนิดและการวางต�ำแหนง่ พื้นทต่ี ่าง ๆ โดยท่วั ไป ควร
สร้างความรสู้ กึ ของกำ� ลังพลใหเ้ สมือนอยบู่ ้านขณะอยู่บนเรือ สิ่งอ�ำนวยความสะดวกตอ้ งมอี ยา่ งเหมาะสมและเพียงพอ
โดยเฉพาะเรอื ที่มขี นาดใหญ่ กำ� ลังพลควรมีที่พกั อาศยั ใกล้กบั อปุ กรณ์ท่จี ะตอ้ งท�ำงาน ยกตวั อยา่ ง เชน่
- พ้ืนทีร่ กั ษาพยาบาลจะตอ้ งตดิ ต้ังอยูใ่ นบรเิ วณท่ีหา่ งจากบรเิ วณทคี่ นพลกุ พล่าน สงบหา่ ง
จากสง่ิ รบกวน และแหลง่ ก�ำเนิดเสยี งตา่ ง ๆ เชน่ เสน้ ทางชอ่ งทางเดินของเพลาใบจกั ร หอ้ งเครอื่ ง เน่ืองจากมแี รงสัน่
สะเทอื นอย่ตู ลอดเวลา
- พ้ืนทีพ่ ักอาศยั ของผู้บงั คับการเรอื หรอื นายทหารชนั้ สัญญาบัตร ควรอยูใ่ กลก้ บั ห้องควบคุม
ตา่ ง ๆ เช่น สะพานเดนิ เรอื หอ้ ง CIC และหอ้ งปฏิบัตกิ ารอน่ื ๆ

140

การออกแบบห้องพักอาศัยสำ� หรับเรอื ฟรเิ กตสมรรถนะสงู

- หอ้ งพกั อาศยั ตา่ ง ๆ ตอ้ งเพยี งพอกับก�ำลังพล มสี ภาพแหง้ และไม่อบั ช้นื อากาศถา่ ยเทสะดวก
สามารถปรับปรุงอณุ หภมู ิร้อนหรอื เยน็ มแี สงสว่างเพียงพอ ปราศจากฝนุ่ ควัน การส่ันสะเทอื นและเสียง บริเวณดาดฟ้า
ต้องไม่มสี ่งิ กีดขวางทที่ ำ� ใหเ้ กิดอันตรายได้ ช่องทางเดินไปมาสญั จรระหว่างห้องต้องมีความกว้างไมน่ ้อยกว่า ๙๐๐
มลิ ลิเมตร
- การออกแบบหอ้ งครวั โดยปกติห้องครวั ควรจัดอยูบ่ รเิ วณท้ายเรอื หรือใหห้ า่ งจากหอ้ งปฏิบตั ิการ
หรือห้องพกั อาศัยตา่ ง ๆ ขนาดของห้องครัวสามารถกำ� หนดได้ตามการใช้ประโยชนส์ ูงสุด โดยค�ำนวณได้จากขนาด
อปุ กรณเ์ คร่อื งครวั จำ� นวนก�ำลงั พล และความปลอดภยั ในการปฏิบตั งิ าน
ในบางกรณีรูปทรงของห้องครวั อาจมโี ครงสรา้ งตัวเรือกดี ขวางหรอื ช่องทางเดนิ หรอื ทางลง ควรจัดวางอุปกรณ์
หลบให้ดแี ละถูกสุขลักษณะปลอดภัย อาจเพ่ิมขนาดพืน้ ท่หี อ้ งตามความจ�ำเปน็ เหมาะสม บริเวณพื้นทีห่ ้องครัวควรต้อง
คำ� นึงถงึ การออกแบบพืน้ ทสี่ ่วนต่าง ๆ ดังนี้ด้วย เช่น หอ้ งเสบียงแหง้ ห้องเยน็ ห้องจัดเลีย้ ง ลิฟท์ส่งอาหาร ฯลฯ ห้อง
ดงั กลา่ วควรจัดใหอ้ ยู่ในบรเิ วณเดียวกันกบั หอ้ งครัว เพ่อื ความสะดวกในการปฏบิ ัติงาน การจดั สรรพ้นื ทีต่ า่ ง ๆ ภายใน
ห้องครวั ควรมีดังน้ี
พน้ื ทอ่ี าหาร ๓๐ เปอร์เซน็ ต์
พน้ื ทเ่ี ตรียมของแห้ง ๒๗ เปอรเ์ ซ็นต์
พนื้ ทเ่ี ตรยี มผัก ๑๐ เปอรเ์ ซ็นต์
พื้นทีเ่ ตรียมเนื้อ ๘ เปอร์เซ็นต์
ความสูงภายในหอ้ งครวั ตอ้ งสามารถเดนิ ผา่ นได้อยา่ งสะดวกปลอดภยั ขณะปฏิบตั งิ านและมีการถา่ ยเทอากาศ
ได้อยา่ งสะดวก ฝาผนงั ภายในหอ้ งครัวสามารถปอ้ งกันไฟได้ตามมาตรฐาน (A-60) และลดการส่งผา่ นความรอ้ นจาก
อุปกรณ์เคร่ืองครัวลงสู่พนื้ ที่ท�ำงานส่วนอื่น ๆ โดยสามารถติดตัง้ ฉากก้ันความรอ้ นจากดาดฟ้าดา้ นลา่ งถงึ ดาดฟา้ ดา้ น
บนได้ ส่วนฝาผนงั ควรติดตั้งอุปกรณด์ ดู ควันช้นั นอกสดุ หากมฉี ากก้ันควรมีลกั ษณะผิวเรียบและทำ� ความสะอาดไดง้ ่าย
ทางเข้าและออกของหอ้ งครวั ไมค่ วรมสี ิง่ กดี ขวางใด ๆ ประตหู อ้ งครวั สามารถปอ้ งกันไฟได้ตามมาตรฐาน (A-60) และ
มีความกว้างพอทจี่ ะผา่ นไปได้สะดวก ถา้ กำ� หนดเป็นแบบประตเู ลื่อนจะดมี ากในขณะปฏิบตั ิงาน เพือ่ เปน็ ทางสญั จรไป
ด้วยความสะดวกรวดเร็วขณะปฏบิ ตั ิงาน หากมีการอพยพก�ำลงั พลหรือเมอ่ื มีเหตุการณฉ์ กุ เฉินเกิดข้ึน ประตหู ้องครัว
ควรมอี ยา่ งน้อย ๒ ต�ำแหนง่ อีกทง้ั ควรจดั ให้มีชอ่ งทางหนไี ฟสำ� หรบั หอ้ งครัวในกรณฉี กุ เฉนิ
ความปลอดภัยทางทะเล (Marintime Safety)
การขนส่งทางทะเลถือได้ว่าเป็นกิจกรรมระหว่างประเทศทส่ี ำ� คัญท่สี ุด เนอื่ งจาก ๙๐ เปอรเ์ ซ็นต์ ของสินค้าทม่ี ี
การค้าขายระหวา่ งประเทศต้องใช้การขนสง่ ทางเรือ ซ่ึงต้องผ่านนา่ นนำ้� ทอ่ี ยู่ในอ�ำนาจอธิปไตยของประเทศต่าง ๆ เพื่อ
ให้การขนส่งทางทะเลมีความปลอดภัยและเป็นมาตรฐานเดียวกัน ประเทศตา่ ง ๆ จึงตระหนักถงึ ความจ�ำเป็นในการ
ที่จะตอ้ งมกี ฎหมายระหวา่ งประเทศมากำ� กับการเดินเรอื ทางทะเลรว่ มกนั เพ่ือให้การด�ำเนนิ การตามกฎหมายในเรื่อง
ดังกลา่ วเป็นไปอย่างมปี ระสิทธิภาพ จงึ ได้เหน็ ชอบในการจดั ตั้งหนว่ ยงานเพอ่ื รับผดิ ชอบในการเดนิ เรอื ทางทะเลขนึ้
คือ องค์การท่ปี รกึ ษาทางทะเลระหวา่ งรฐั บาล (Inter Governmental Maritime Consulative Orgainzation : IMCO)
เมือ่ วันท่ี ๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๐๒ ต่อมาชอ่ื องค์การได้เปล่ียนเป็น องคก์ ารทางทะเลระหวา่ งประเทศ (International

141

การออกแบบห้องพกั อาศยั สำ� หรับเรอื ฟรเิ กตสมรรถนะสงู

Maritime Organization : IMO) และในปี พ.ศ. ๒๕๒๕ ประเทศไทยได้สมัครเปน็ สมาชิกขององค์การดังกล่าว ปจั จบุ นั
มปี ระเทศสมาชกิ รวมทั้งสิ้น ๑๕๘ ประเทศ โดยส�ำนักงานใหญต่ งั้ อยู่ ณ กรงุ ลอนดอน สหราชอาณาจักร
IMO มีหนา้ ที่หลกั คอื รบั ผดิ ชอบเกี่ยวกับอนสุ ัญญาและพธิ ีสารท่เี ก่ียวขอ้ งกับการขนส่งทางทะเล สามารถแบง่
ไดเ้ ปน็
- ความปลอดภัยทางทะเล (Maritime Safety)
- มลพษิ ทางทะเล (Maritime Pollution)
- ความรับผดิ และการชดเชยคา่ เสียหาย (Liability and Compensation)
ในทีน่ ีข้ อกล่าวถึง ความปลอดภยั ทางทะเล (Maritime Safety) ซ่ึงมกี ฎหมาย/ข้อตกลง ๒ ฉบับด้วยกัน ได้แก่
๑. อนสุ ัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยความปลอดภยั แห่งชีวติ ในทะเล พ.ศ.๒๕๑๗ (International
Convention for the Safety of Life at Sea 1974 or SOLAS) ประเทศไทยใหส้ ตั ยาบันเมือ่ วนั ท่ี ๑๘ ธันวาคม พ.ศ.
๒๕๑๗ อนุสัญญาถูกรบั รองในปี พ.ศ. ๒๕๑๗ ตอ่ มาได้มีการปรับปรุงแกไ้ ขหลายครง้ั
๒. อนุสญั ญาระหว่างประเทศว่าด้วยการช่วยเหลือผปู้ ระสบภยั ทางทะเล พ.ศ. ๒๕๒๑ (International
Convention on Maritime Search and Rescue 1979 of SAR) ประเทศไทยมแี ผนท่ีจะเข้ารว่ มท�ำสัตยาบนั อนสุ ัญญา
ถูกรบั รองเมือ่ วนั ที่ ๒๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๒ และมีผลบังคับใช้เมื่อวนั ท่ี ๒๒ มิถนุ ายน พ.ศ.๒๕๒๘

โดยสว่ นมากแลว้ บริษทั ขนาดใหญใ่ นหลายประเทศทีป่ ระกอบธุรกิจตอ่ เรือ จงึ ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ก�ำหนดของ
SOLAS เนอ่ื งจากในแตล่ ะปบี ริษทั ทป่ี ระกอบธุรกจิ ต่อเรือมโี ครงการต่อเรือจ�ำนวนมาก เช่น Cargo Ship, Offshore
Vessel, PLSV (Pipe Laying Support Vessel), Passenger Ship และ Navy Ship โดยชนิดและขนาดของเรือ
จะสมั พนั ธ์กับความตอ้ งการใช้งานของลูกค้า เพือ่ ความปลอดภัยตอ่ ชวี ติ ของลูกเรอื โดยเฉพาะเรอื ท่ีผโู้ ดยสารไปด้วย
จำ� นวนมาก เชน่ Passenger Ship หรือแม้กระทงั่ เรอื รบ Fire Protection จงึ จดั เปน็ ระบบหน่งึ ทมี่ คี วามส�ำคญั ทสี่ ดุ
ทล่ี กู คา้ และบรษิ ทั ทรี่ บั จา้ งตอ่ เรอื ใหค้ วามเอาใจใสแ่ ละตอ้ งปฏบิ ตั ใิ หเ้ ปน็ ไปตามมาตรฐานความปลอดภยั แหง่ ชวี ติ ในทะเล
(SOLAS) เพือ่ ใหผ้ ู้โดยสารร้สู ึกมคี วามปลอดภัยเมื่ออาศยั ไปกบั เรือในขณะท่ีเรอื อย่ใู นทะเลน่นั เอง

ในบทความนี้ขอกลา่ วถงึ SOLAS : Safety of Life at Sea เท่านนั้ เนอื่ งจากการในสว่ นของการออกแบบ
ห้องพักอาศัยภายในเรือของเรอื ฟริเกตสมรรถนะสงู ของกองทพั เรอื ไทยโดยบรษิ ทั DSME : Daewoo Shipbuliding
and Marine Engineering น้นั ทีมการออกแบบห้องพกั อาศยั ภายในเรือ (Accommodation Design Team) ได้ยดึ ถอื
มาตรฐาน SOLAS เปน็ มาตรฐานหลกั ในการออกแบบห้องพักอาศัยภายในเรือลำ� นี้
SOLAS มีวัตถุประสงคเ์ พอื่ กำ� หนดมาตรฐานข้นั ตำ่� สำ� หรบั การต่อเรือ ตลอดจนอปุ กรณ์และการปฏิบัติการ
ของเรอื ซ่ึงจะตอ้ งมคี วามปลอดภัยต่อชวี ติ ของก�ำลังพลในเรอื รฐั เจ้าของธงจะต้องรับผิดชอบในการควบคมุ ใหเ้ รือของ
ตนปฏบิ ัตติ ามขอ้ ก�ำหนดของอนุสญั ญา โดยการออกใบรับรองใหแ้ ก่เรือที่ได้ปฏบิ ัติตามมาตรฐานทวี่ างไว้

142

การออกแบบหอ้ งพักอาศัยส�ำหรับเรือฟริเกตสมรรถนะสงู

อปุ กรณ์หลกั ท่จี ะตอ้ งมเี พ่ือเปน็ ไปตามมาตรฐานของ SOLAS ไดแ้ ก่ Fire Protection and Insulation
ซงึ่ Fire Protection มีหนา้ ท่ดี ังตอ่ ไปน้ี
๑. เพอ่ื ป้องกนั การระเบดิ จากประกายไฟ
๒. ลดความเส่ียงจากการเกิดเพลงิ ไหม้
๓. ลดความเสยี หายจากเหตกุ ารณไ์ ฟไหม้ในเรอื หรอื สง่ิ ของท่ีบรรทุกมากับเรือ
๔. ควบคุมและป้องกันการเกดิ เพลิงไหมใ้ หห้ ยุดอยูท่ ่ีตน้ เพลงิ
๕. เตรียมทางหนไี ฟใหเ้ พียงพอกับผู้โดยสาร หรอื เจ้าหนา้ ทป่ี ระจ�ำเรอื (Escape Way) เชน่ LLL (Low
Location Lighting System) เพอ่ื บอกทางหนไี ฟหากเกดิ เหตุไฟไหม้ในเรอื และไฟแสงสว่างในเรอื ดบั หมด LLL จะติด
และบอกทางหนีไฟ (Escape Way) เพื่อใหก้ �ำลงั พลสามารถออกจากตวั เรอื ได้อยา่ งปลอดภัย
ฟงั ก์ชน่ั ทีจ่ ะมสี ว่ นช่วย เพือ่ สนับสนนุ ระบบ Fire Protection ได้แก่
๑. การแบง่ โซนของตัวเรือทั้งแนวต้ังและแนวนอนต้องค�ำนงึ ถึงขอบเขตของอุณหภมู ิทม่ี ีผลกบั โครงสรา้ งตัวเรอื
๒. แยกพน้ื ทใ่ี นการพักอาศยั จากสว่ นโครงสรา้ งตวั เรอื ท่ีมีอุณหภมู ิสูง
๓. จำ� กัดการใช้วัสดุท่ีสามารถตดิ ไฟได้โดยงา่ ย
๔. ตรวจสอบบรเิ วณที่อาจเป็นจดุ ก�ำเนิดของไฟ
๕. จ�ำกดั พ้นื ทท่ี ี่มีความเสีย่ งตอ่ การเกิดไฟไหม้
๖. ป้องกนั ทอ่ ทางหรอื ทางผา่ นของระบบป้องกนั ไฟ
๗. อุปกรณ์ดบั ไฟตอ้ งพร้อมอยูเ่ สมอ
๘. ไอระเหยทสี่ ามารถจดุ ประกายไฟติดท่ีอย่กู ับสิ่งของทบ่ี รรทกุ มากบั เรือตอ้ งมใี ห้นอ้ ยทสี่ ุด

ชนดิ ของ Fire Protection ได้แก่
อปุ กรณ์ป้องกันไฟ แบ่งออกเป็น ๒ ชนิด ไดแ้ ก่
๑. Active Type ไดแ้ ก่ Detector, Sprinkler, Foam Fire - Extinguish System, Gas Fire - Extinguishing System

143

การออกแบบหอ้ งพักอาศยั ส�ำหรับเรือฟริเกตสมรรถนะสูง

๒. Passive Type ไดแ้ ก่ Fire Insulation, Wall Linings, Ceilings, Doors
Classes of Fire - A,B and C
A Class Divisions
“A” Class Divisions จะแบ่งตาม Bulkheads (ผนังก้นั ) และ Deck
(ดาดฟา้ ) โดยมีเกณฑ์ดังตอ่ ไปน้ี

๑. ตอ้ งสร้างดว้ ยเหล็กหรอื อุปกรณ์ท่มี ีคุณสมบัตใิ กลเ้ คียงกับเหล็ก
๒. ต้องตง้ั ตรงอย่างเหมาะสม
๓. ฉนวนจะต้องท�ำด้วยวัสดุที่ไม่ท�ำให้ไฟติด ที่จุดก�ำเนิด อุณหภูมิเฉล่ียของด้านที่ไม่ได้สัมผัสกับเปลวไฟจะ
ตอ้ งไม่สูงกวา่ ๑๔๐ องศาเซลเซียส และทจ่ี ุดใดจุดหนึง่ รวมถึงข้อต่อหากอณุ หภูมิสูงกวา่ ๑๘๐ องศาเซลเซียส ซึง่ สงู กวา่
อุณหภูมขิ องจดุ ก�ำเนดิ จะตอ้ งสามารถทนไฟไดภ้ ายในเวลาตามรายการต่อไปนี้
Class “A-60” 60 min
Class “A-30” 30 min
Class “A-15” 15 min
Class “A-0” 0 min
๔. ต้องทดสอบให้สามารถปอ้ งกนั ควนั และเปลวไฟที่จะสามารถผา่ นไปได้เป็นเวลา ๖๐ นาที

144

การออกแบบหอ้ งพกั อาศยั ส�ำหรับเรอื ฟรเิ กตสมรรถนะสงู

ลกั ษณะของฉนวนป้องกนั ไฟจะเป็นช้นั ๆ ประกอบดว้ ย
๑. Glass Cloth
๒. Glass Cloth Coated with Aluminium Foil
๓. Glass Cloth Coated with Perforated Steel (Aluminium) Sheet

รปู ที่ ๑ ลักษณะชั้นของฉนวนป้องกนั ไฟ
ตัวอย่าง A Class Fire Doors

รูปท่ี ๒ A-0 Class Fireproof Cabin Door A-60 Class Fireproof Cabin Door


145

การออกแบบห้องพักอาศยั ส�ำหรบั เรือฟริเกตสมรรถนะสูง

B Class Divisions
“B” Class Divisions จะแบ่งตาม Bulkheads (ผนงั กน้ั ), Deck (ดาดฟ้า), Ceilings (เพดาน) หรือ Linings
(ชัน้ บุใน) โดยมีเกณฑด์ ังต่อไปนี้
๑. ต้องสร้างด้วยวัสดทุ ่ีไม่ติดไฟและวสั ดุทกุ ชิน้ ท่ตี ิดกันต้องใชว้ สั ดุทไ่ี ม่ติดไฟเชน่ กัน
๒. ท่ีจุดก�ำเนิด อุณหภูมิเฉล่ยี ของดา้ นที่ไมไ่ ด้สมั ผสั กับเปลวไฟจะต้องไมส่ งู กวา่ ๑๔๐ องศาเซลเซียส และทจ่ี ุด
ใดจดุ หน่งึ รวมถึงขอ้ ต่อหากอณุ หภมู สิ งู กวา่ ๒๒๕ องศาเซลเซยี ส ซ่งึ สงู กวา่ อณุ หภูมขิ องจุดก�ำเนิด จะตอ้ งสามารถทนไฟ
ไดภ้ ายในเวลาตามรายการต่อไปน้ี
Class “B-15” 15 min
Class “B-0” 0 min
๓. ตอ้ งทดสอบให้สามารถป้องกนั เปลวไฟทจี่ ะสามารถผ่านไปไดเ้ ปน็ เวลา ๓๐ นาที
ตัวอยา่ ง B Class Linings, Ceilings & Doors



รปู ที่ ๓ Class Linings, Ceilings & Doors

C Class Division
“C” Class Divisions จะตอ้ งสร้างดว้ ยวสั ดุท่ีไมต่ ิดไฟ* ตอ้ งสามารถป้องกันควนั และเปลวไฟท่จี ะสามารถ
ผา่ นไปโดยสัมพันธ์กนั กบั อณุ หภูมทิ ่ีเพิ่มสูงข้นึ อปุ กรณท์ ที่ �ำจากไม้และสามารถตดิ ไฟไดต้ อ้ งไดร้ บั อนญุ าตตามความ
จ�ำเปน็


146

C Class Division

การออกแบ“บCห”้องCพlaกั sอsาศDัยiสvi�ำsหioรnบั sเรจือะฟตรอิเกงตสสรมารงดรถว นยะวสสั ูงดทุ ไ่ี มตดิ ไฟ* ตอ งสามารถปอ งกันควันและเปลวไฟทจ่ี ะสามารถ
ผา นไปโดยสมั พันธก นั กบั อุณหภูมิท่เี พ่ิมสงู ข้ึน อปุ กรณท่ีทําจากไมและสามารถติดไฟไดตองไดรับอนุญาตตามความ
จาํ เปน

ด ดว้ วยยตตัวัวเอเอ*ง*วงวเสััสมเมดด่อื ื่อุทุทมม่ีไ่ไีคี มคีมวตว่ตาิดามดิมไรฟไร้อฟอนหนมปปหารรมยะะถมามงึยาาณถณวัสึง๗ด๗วุท๕๕ัสไ่ี๐๐มดไออทุ หงงไ่ีมศศมแาาไ่ลเเหซซะลลมไมเเ้แซซปียลียลสสะอ ไเยเมกกไป่ณณอลรฑฑะอ่ น์นเยห้ีถ้ถี ไยกูกูอขกกรอาํ�ำะงหหเเหนปนยดลดตขวตไอาาฟมงมอเFปอFTลกTPไวPปไCฟเCoพอodยี อdeงeกพ(ไFอ(ปFiทrieเr่ีจพeะTยีทTeงําesพใtsหtอจPทดุ rีจ่ oไะฟcทeต�ำdิดใuหre้จsดุ Cไฟodตeดิ )

Procedures Code)

FIRE TEST TIME(MIN) 05 10 15 30 60 Material
Temperature on
A-CLASS - to+576* to+679 to+738 to+841 to+945 - constructed of
(Deck and the steel or other
Bulkhead) Testing furnance equivalent
material**
(C)
Fire grade A-0 - - A-15 A-30 A-60 - insulated with
Temperature of
Unexposed Side approved non-
combustible
(C) Average to+140, Maximum to+180 materials
Maintainability
Blocking the spreding of the “flare”and “smoke”for 60 minutes

Fire grade B-0 - - B-15 - - Approved
Temperature of incombustible
B-CLASS Unexposed Side Average to+140, Maximum to+225 material

(C) Blocking the spreding of the “flare” 30 minutes
Maintainability

C-CLASS Maintainability and the value of protection against fire is not defined Approved
incombustible
material

เ ผPเตาrาoโเดcผยeาdอโดตุณuตยาrาหอeรรณุภาsางงหูมCกกภิจoาาะรูมdรทสิจeทัมดะด2สสพส0มัอนั อ1บพธบ0มันก์ มาธันตการกนัตฐับกราฐับเนวาเกลวนาลากราตปาตารอามปมงมกมอ้ ันาางตไตกฟรรนั ขฐฐไาอาฟนงนขBโอโดuดงยlยkกBhกาeuราaทlรkdทดhsสดeอแaสบลdอะดsบว Dดยแe้ววลcยธิ ะkีเวฉsธิ Dพทีเeฉาี่สะcพัมตkาผsาะสั มตกทFานั สี่ TมมัดPFผว :ยัสTกFกPiาันrรe:ทFดTดir้วeสeยsอtกTบาeในรsทt Pดสroอcบeใdนuเrตeาs
Code 2010

147

การออกแบบห้องพักอาศัยสำ� หรับเรอื ฟริเกตสมรรถนะสงู

สรปุ
การออกแบบห้องพกั อาศัยภายในเรอื โดยสากลจำ� เปน็ ต้องปฏบิ ตั ใิ หเ้ ป็นไปตาม Class โดยบริษทั DSME :
Daewoo Shipbuliding and Marine Engineering นน้ั ทมี การออกแบบหอ้ งพักอาศยั ภายในเรอื (Accommodation
Design Team) ได้ยึดถือ SOLAS (Safety of Life at Sea) เป็นมาตรฐานหลกั ในการออกแบบหอ้ งพกั อาศัยภายใน
เรือของเรอื ฟริเกตสมรรถนะสูงใหก้ บั กองทัพเรอื เพือ่ ความเป็นอยทู่ ่ีดแี ละมีความปลอดภยั ของก�ำลงั พลในขณะที่เรอื อยู่
ในทะเลใหม้ ากที่สดุ เพ่ือทำ� ใหเ้ รอื ฟริเกตสมรรถนะสูงของกองทพั เรือมศี กั ยภาพในการเดินเรอื ในทะเลและพร้อมท่ีจะ
ท�ำการรบอยา่ งสงู สดุ ต่อไป


เอกสารอา้ งองิ
SOLAS Consolidated Edition 2009,INTERNATIONAL MARITIME ORGANIZATION 4 Albert
Embankment, London se1 7SR.
FTP CODE INTERNATIONAL CODE FOR APPLICATION OF FIRE TEST PROCEDURES 2010,

INTERNATIONAL MARITIME ORGANIZATION 4 Albert Embankment, London se1 7SR, 2012 EDITION.


เวบ็ ไซต์
http://www.mkh.in.th สถาบนั วจิ ัยทรพั ยากรทางน้ำ� จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย.

148

การศึกษากระบวนการท�ำงาน
(Work Study)

การซ่อมบำ� รงุ เพลา
ของเรอื หลวงทองหลาง

นาวาเอก นฤธรรม สรุ ักขกะ
หวั หน้าแผนกจดั แผนงาน กองบริหารงานซ่อมสร้าง อ่ทู หารเรอื พระจุลจอมเกลา้ กรมอทู่ หารเรอื

นาวาโท บพธิ ทศเทพพิทักษ์
ประจำ� แผนกจัดแผนงาน กองบรหิ ารงานซอ่ มสร้าง อู่ทหารเรือพระจลุ จอมเกลา้ กรมอูท่ หารเรือ

เรอื เอกหญิง สชุ าดา มณพี ันธ์
วิศวกรโรงงานแผนกการโรงงาน กองบรหิ ารงานซอ่ มสร้าง อู่ทหารเรือพระจลุ จอมเกล้า กรมอู่ทหารเรอื

บทคดั ย่อ


การศกึ ษากระบวนการทำ� งาน (Work Study) การซ่อมบ�ำรงุ เพลาในบทความน้ี ไดร้ ับส่งั การจาก
พลเรอื โท อุบล อนิ ทรพิทกั ษ์ ผู้ชว่ ยผู้อ�ำนวยการฝ่ายผลติ อู่ทหารเรือพระจลุ จอมเกลา้ กรมอทู่ หารเรอื ซง่ึ ด�ำรง
ต�ำแหน่งในขณะนน้ั ใหต้ งั้ คณะท�ำงานเพือ่ ศกึ ษากระบวนการท�ำงานของการซ่อมบ�ำรงุ เพลาของเรือท่ีอยใู่ นขอบเขตการ
ซอ่ มบำ� รุงของอ่ทู หารเรือพระจลุ จอมเกลา้ กรมอ่ทู หารเรือ โดยมรี ะยะเวลาในการด�ำเนินการระหว่าง มิถุนายน ๒๕๕๗
ถึง กนั ยายน ๒๕๕๗ ซึง่ การซ่อมบำ� รงุ เพลาเพือ่ ด�ำรงสภาพความพรอ้ มใช้งานดังกลา่ ว ถือเป็นภารกจิ งานส�ำคญั
สว่ นหน่งึ ทอี่ ูท่ หารเรอื พระจุลจอมเกลา้ กรมอ่ทู หารเรือ ซ่ึงประกอบดว้ ยองค์ความร้ทู างดา้ นวศิ วกรรม อาทิ วศิ วกรรม
เครื่องกล อตุ สาหการ รวมถึงโลหะวทิ ยา โดยการศึกษากระบวนการซอ่ มบ�ำรงุ เพลาในบทความน้ี จะศกึ ษากระบวนการ
ซอ่ มบำ� รงุ เพลาในแตล่ ะขั้นตอน การแบง่ ชนิดและประเภทของการซอ่ มบ�ำรงุ ท�ำใหท้ ราบถงึ กระบวนการซอ่ มบ�ำรงุ
โดยท่ัวไป และเน่อื งจากเพลาใบจกั รของเรือแต่ละล�ำซึง่ มีคณุ ลกั ษณะทีแ่ ตกตา่ งกนั ตามชนดิ ของเพลา วสั ดุ ขนาด
ตลอดจนการติดตงั้ ส่งผลให้การซอ่ มบ�ำรุงเพลามกี ระบวนการทีแ่ ตกต่างกนั คณะท�ำงานจึงกำ� หนดการศึกษา
กระบวนการทำ� งานการซอ่ มบำ� รงุ เพลาของเรอื หลวงทองหลางเปน็ ตน้ แบบในการศกึ ษาซง่ึ มแี ผนการซอ่ มจำ� กดั ในระหวา่ ง
๑๖ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ถงึ ๒๖ กนั ยายน ๒๕๕๗ ตามแผนถอื วา่ สอดคลอ้ งกับระยะเวลาในการศึกษาของคณะทำ� งาน
อยา่ งไรก็ดี ผลการศกึ ษาการซ่อมบ�ำรุงเพลาในรายงานฉบบั น้ี จะนำ� ไปส่กู ารวางแผนและพัฒนาการซ่อมบำ� รุงเพลา
ใบจักรทั้งทางดา้ นระยะเวลาการซ่อมบำ� รุงตามมาตรฐาน การเสนอแนะเทคนิคการซอ่ มบำ� รุง ตลอดจนปญั หาและ
อุปสรรคในการทำ� งาน เพอื่ ให้การซ่อมบ�ำรงุ เพลาใบจกั รสามารถด�ำรงสภาพการใช้งานสูงสุดในการปฏบิ ัติราชการ
และด้วยระยะเวลาและเทคนคิ การซ่อมทำ� ทเ่ี หมาะสม และจะเป็นแนวทางในการศึกษาการซอ่ มบำ� รุงเพลาใบจักรของ
เรอื ล�ำตอ่ ไปและเป็นพื้นฐานการศกึ ษาการซ่อมบ�ำรุงระบบอื่น ๆ ในอนาคตต่อไป

การศึกษากระบวนการทำ� งาน (Work Study) การซอ่ มบำ� รงุ เพลาของเรือหลวงทองหลาง

บทนำ�

ภารกิจซอ่ มบ�ำรุงเพื่อเตรียมเรือใหพ้ รอ้ มรบ เป็นภารกิจหลักของอู่ทหารเรอื พระจลุ จอมเกล้า กรมอู่ทหารเรอื
ซง่ึ การเตรียมความพร้อมของเรือรบดังกลา่ ว ประกอบด้วยหลายส่วน ทัง้ ในการบ�ำรงุ รกั ษา ด�ำรงสภาพ และการ
ทดสอบระบบในเรือให้มีสภาพพร้อมใชส้ งู สุด ท่ีผา่ นมาการปฏิบตั ิตามภารกิจดังกลา่ ว สามารถตอบสนองและบรรลุ
ตามวตั ถุประสงค์ ถงึ แมจ้ ะมีอุปสรรคในการท�ำงาน แต่ด้วยประสบการณ์ท่ีสัง่ สมของผู้ปฏิบตั ิงาน สามารถแกไ้ ขปัญหา
ผา่ นไปไดด้ ว้ ยดี แตอ่ ยา่ งไรก็ตาม ประสบการณ์ของผู้ปฏิบตั งิ านจะต้องพฒั นาควบคู่ไปกบั กระบวนการซ่อมบ�ำรุง
เนอ่ื งดว้ ยเทคโนโลยใี นดา้ นการซอ่ มบำ� รงุ มพี ฒั นาการทรี่ วดเรว็ ตามความกา้ วหนา้ ของเทคโนโลยใี นปจั จบุ นั ก ารพฒั นา
การซอ่ มบำ� รงุ จึงจ�ำเปน็ ต้องมีการศึกษากระบวนการท�ำงานอย่างเปน็ ระบบ เพ่อื ให้มคี วามเขา้ ใจในรายละเอยี ดของงาน
แตล่ ะกระบวนการ เร่ิมจากการแบง่ งานออกเปน็ ส่วน ๆ ทเี่ ชอ่ื มโยงกันในแตล่ ะกระบวนการเป็นภาพรวมโครงสรา้ ง
ของระบบงาน ซงึ่ ประกอบด้วยทั้ง คน อุปกรณเ์ คร่อื งจักร สถานที่ ขอ้ มูล รวมถึงส่วนท่ีเก่ียวขอ้ งกบั การท�ำงานใหเ้ กดิ
ผลสำ� เรจ็ ซึง่ อาจมกี ารเช่ือมโยงระหวา่ งหน่วยงานในแตล่ ะหน่วย ตามเสน้ ทางการท�ำงานจนประสบผลสำ� เร็จ ทำ� ให้
ต้องมกี ระบวนการทำ� งานตามขน้ั ตอนยอ่ ยทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั การกระท�ำของผู้ปฏบิ ัตงิ าน และจ�ำเป็นตอ้ งมกี ารพฒั นา
กระบวนการอยู่เสมอ เพื่อให้กระบวนการท�ำงานกา้ วทันต่อการเปลย่ี นแปลงท่รี วดเรว็ ของเทคโนโลยีในปจั จบุ นั
ส�ำหรับความหมายของการศึกษางานมีหลากหลายบทความทใ่ี หค้ วามหมาย อาทิ การศกึ ษางานเป็นการศกึ ษา
ระบบงาน (Work System) อยา่ งเป็นระบบระเบยี บ (เกชา ลาวัลยะวัฒน์ และ ยุทธชยั บันเทงิ จติ ร, ๒๕๒๗)
การศกึ ษางานคอื เทคนิคท่ใี ชใ้ นการปรบั ปรุงการท�ำงานให้ดีข้ึน (เกษม พพิ ัฒน์ปัญญานุกูล, ๒๕๓๙) การศกึ ษา
การท�ำงาน (Work Study) เป็นคำ� ทใ่ี ชแ้ ทนวธิ ีการต่าง ๆ จากการศกึ ษาวิธีการทำ� งาน (Method Study) และการวัดผล
งาน (Work Measurement) (วจิ ติ ร ตณั ฑสทุ ธ์ิ และคณะ, ๒๕๔๓) จากการศกึ ษาเพ่ือให้ทราบถึงความหมายของการ
ศกึ ษาการท�ำงานจากเอกสารทีส่ ืบคน้ สรปุ ได้วา่ การศึกษาการท�ำงาน (Work Study) หมายถึง “การจัดท�ำข้อมูลอยา่ ง
มีขัน้ ตอนและตรวจตราอย่างรอบคอบของแนวทางการทำ� งานท่ีมีอยู่แล้วและเสนอขึ้นมาใหมเ่ พ่อื น�ำไปสู่การพฒั นาให้
มปี ระสทิ ธิภาพสงู ขนึ้ ”
การศกึ ษากระบวนการท�ำงาน (Work Study) การซอ่ มบำ� รุงเพลา เปน็ สว่ นหน่งึ ของการศึกษา เพ่อื ก่อให้เกดิ
การพัฒนากระบวนการซ่อมบ�ำรงุ เพลาอยา่ งเปน็ รูปธรรม และเปน็ พ้ืนฐานของระบบมาตรฐานการบริหารจัดการ อาทิ
ISO 9003 PMQA ฯลฯ นอกจากน้นั ยงั เป็นพ้ืนฐานของค่มู ือปฏิบัตงิ าน (Work Instruction) ของการทำ� งานตามภารกิจ
ของอู่ทหารเรือพระจลุ จอมเกลา้ กรมอทู่ หารเรอื ท่ีได้รับมอบหมายจากกองทพั เรอื ดงั นั้น การศึกษากระบวนการซอ่ ม
บ�ำรงุ เพลา จึงเปน็ ส่งิ ท่ีมีความส�ำคัญตอ่ การเริม่ ต้นการพัฒนากระบวนการซอ่ มบ�ำรุงเพลาอยา่ งเปน็ ระบบ ข้อมลู จาก
ผลการศกึ ษากระบวนการท�ำงานสามารถวิเคราะหก์ ารท�ำงานในแตล่ ะกระบวนการไดเ้ ปน็ อย่างดี ท่ีผา่ นมา อู่ทหารเรอื
พระจลุ จอมเกลา้ กรมอทู่ หารเรอื ได้มีการจดั ท�ำคมู่ ือการจัดการความรู้ (Knowledge Management; KM) ของการ
ซอ่ มบ�ำรงุ เพลาในภาพรวม ซึ่งคมู่ ือ KM ดงั กลา่ วจะเป็นภาพรวมของกระบวนการซอ่ มบ�ำรุงเพลา ยังไมส่ ามารถใช้เปน็
ค่มู อื อ้างองิ ในการซ่อมบ�ำรงุ เพลาของเรอื ทกุ ลำ� ได้ เนอื่ งดว้ ยลักษณะของเพลาในเรือแต่ละลำ� มีความแตกต่างกัน อาทิ
ลักษณะ ขนาด การตดิ ต้งั รวมถึงชนดิ ของวสั ดุของเพลา ทั้งหมดนีเ้ ป็นตัวแปรท่ที �ำใหก้ ระบวนการซ่อมบำ� รงุ เพลามขี ้ัน
ตอนและวธิ กี ารซอ่ มบ�ำรงุ ที่แตกต่าง แต่อย่างไรก็ดี คมู่ ือ KM การซอ่ มบ�ำรุงเพลาใบจักรของอทู่ หารเรอื พระจุลจอมเกล้า
กรมอู่ทหารเรือ จดั เปน็ การศกึ ษากระบวนการท�ำงานในเบือ้ งต้น ก่อนทจ่ี ะศึกษารายละเอียดในแตล่ ะกระบวนการ
สำ� หรับการศึกษาในรายงานฉบับนี้ คณะท�ำงานมวี ัตถปุ ระสงค์เพือ่ ศกึ ษาและวเิ คราะห์กระบวนการซอ่ มบ�ำรุงระบบ

152

การศึกษากระบวนการท�ำงาน (Work Study) การซอ่ มบ�ำรุงเพลาของเรอื หลวงทองหลาง

เพลาใบจกั รของเรือหลวงทองหลาง ตง้ั แตเ่ ร่ิมตน้ กระบวนการชัก – เพลาใบจกั รจนดำ� เนินการแล้วเสรจ็ สง่ มอบ และ
ประเมินการกระบวนการซ่อมบำ� รงุ ระบบเพลาใบจักร ส�ำหรับเป็นแนวทางในการปรับลดระยะเวลาการท�ำงานในแต่ละ
กระบวนการ โดยผลทไี่ ดจ้ ะทำ� ใหท้ ราบถึงระยะเวลาในการท�ำงานในแต่ละกระบวนการ ส�ำหรับการวางแผนการซ่อม
บำ� รงุ เพลาใบจกั รในอนาคตส�ำหรบั เรอื ชุดนี้ รวมถงึ เพอ่ื ใหท้ ราบแนวทางการพฒั นาการทำ� งานใหส้ อดคล้องและมี
ประสิทธิภาพสงู สุดในการซอ่ มบ�ำรุงระบบเพลาใบจกั ร นอกจากนั้นยงั สามารถรวบรวมผลการศึกษาจัดทำ� เปน็ ค่มู อื
การปฏิบตั งิ าน (Work Instruction) ในการซอ่ มบำ� รงุ ระบบเพลาใบจกั รอนั จะนำ� ไปสกู่ ารบริหารงานคุณภาพท่ีเนน้ การ
ควบคุมเชงิ กระบวนการตอ่ ไป
กระบวนการและขัน้ ตอนการปฏบิ ตั ิงานซอ่ มทำ� เพลาใบจักรของ
อทู่ หารเรอื พระจุลจอมเกล้า กรมอู่ทหารเรอื

งานซ่อมท�ำเพลาใบจกั รทชี่ ำ� รุดเสยี หายจากการใช้งานจำ� แนกเป็น ๓ กระบวนการ ดังน้ี
๑. กระบวนการดดั คนื สภาพกรณีพบความเสยี หายจากการคดงอของเพลา
๒. กระบวนการสเปรยพ์ น่ พอกเพ่มิ ขนาดกรณพี บความสึกหรอจากการเสยี ดสไี ม่มากนกั
๓. กระบวนการเปลี่ยนปลอกสวมรัดเพลาใหม่กรณีปลอกสวมรดั เพลาชำ� รดุ มาก
จากรูปท่ี ๑ แสดงใหเ้ หน็ ถงึ ภาพรวมของกระบวนการซอ่ มบ�ำรุงเพื่อคนื สภาพการใช้งานของเพลาใบจักรโดย
ทั่วไป โดยเร่ิมจากการนำ� เรอื ข้ึนอแู่ ห้ง ฝ่ายแผนประเมนิ การซ่อมท�ำโดยแยกประเภทของชนดิ ใบจักรคอื แบบปรับพทิ ช์
(CCP) โรงงานทเี่ ป็นแม่งานคอื โรงงานปรับซอ่ มเครอ่ื งไอน้�ำและกังหนั ก๊าซ กองโรงงานเครื่องกล อทู่ หารเรอื
พระจลุ จอมเกลา้ กรมอูท่ หารเรือ และแบบปรบั พทิ ช์ไม่ได้ (Fixed Pitch Propellers; FPP) มีโรงงานปรบั ซ่อมเครือ่ งยนต์
กองโรงงานเคร่อื งกล อูท่ หารเรอื พระจุลจอมเกล้า กรมอ่ทู หารเรือ เป็นแมง่ าน จากนน้ั เข้าสู่กระบวนการถอดใบจกั ร -
ชักเพลา โดยโรงงานเชอื กรอกและการอู่ กองโรงงานเครอื่ งกล อู่ทหารเรอื พระจุลจอมเกล้า กรมอทู่ หารเรือ และน�ำ
เขา้ ไปท่ีโรงงานเครอ่ื งกล กองโรงงานเครื่องกล อทู่ หารเรือพระจุลจอมเกลา้ กรมอู่ทหารเรือ เพอ่ื วิเคราะหแ์ ละประเมนิ
การซ่อมท�ำ โดยแยกประเภทของการซ่อมท�ำตามกรณีของการชำ� รดุ ของเพลาใบจกั ร จากนั้นเขา้ ส่กู ระบวนการซ่อมท�ำ

ก) ข)
รปู ท่ี ๑ ก) เรือหลวงทองหลาง ข) เพลาใบจักรของเรอื หลวงทองหลาง

153

การศกึ ษากระบวนการท�ำงาน (Work Study) การซ่อมบำ� รุงเพลาของเรอื หลวงทองหลาง

ใบจักร CPP เรอื ข้นึ อูแหง ใบจกั ร FPP
ปรบั ซอ มเครือ่ ง ปรบั ซอ ม
โรงงาน เคร่ืองยนต
ไอนํา้ เครื่องกล
โรงงานชา งสี
โรงงานชา งไมและใยแกว วเิ คราะหป ญ หา
(ลอกส)ี
(ลอกพลาสตกิ ) ประเมนิ ความเสียหาย

เพลาคดงอ ปลอกเพลาชํารดุ ปลอกเพลาชาํ รดุ
นอย มาก

การซอ มทาํ

สง มอบเรอื

รูปที่ ๒ ภาพรวมกระบวนการซอ่ มทำ� เพลาใบจกั ร

ผลการศกึ ษากระบวนการซ่อมท�ำเพลาใบจักรของเรอื หลวงทองหลาง

เรอื หลวงทองหลางมเี พลาใบจกั ร ๒ ชุด โดยใบจักรมีลกั ษณะเป็นใบจกั รแบบปรับพทิ ช์ไม่ได้ (FPP) แสดงใน
รูปท่ี ๓ คณุ ลักษณะของเพลาวสั ดุเป็นเหล็ก มีความยาวจากเกลยี วปลายเพลาดา้ นใบจักรถึงเกลยี วปลายเพลาด้านหนา้
แปลนเกยี ร์ ๗.๕๓ เมตร ขนาดเสน้ ผ่าศูนยก์ ลางใหญ่สดุ ๑๒๖ มลิ ลเิ มตร มีกระบวนการซ่อมบำ� รงุ เพลาใบจักรของ
เรือหลวงทองหลางดังแสดงในรปู ที่ ๔


  ปลายเพลาดา้ นหน้าแปลน ϕ๑๒๖ มลิ ลเิ มตร x ๓ ปลายเพลาด้านใบจกั ร

ϕ๑๒๐ มิลลิเมตร

๗.๕๓ เมตร

ตาํ แหนง่ ในกระบอกดฟี ุต

รูปที่ ๓ ขนาดและมิตขิ องเพลาใบจักรเรอื หลวงทองหลาง

154

การศึกษากระบวนการทำ� งาน (Work Study) การซ่อมบำ� รุงเพลาของเรือหลวงทกอางรหศลึกาษง ากระบวนการซ่อมบาํ รุงระบบเพลาใบจกั ร จ

เพลาเรือหลวงทองหลาง

๑๙ ชั่วโมง วางแผนงาน ๓ ชั่วโมง

๐ ถอดเพลา (ชักเพลา)

๓ ชั่วโมง ๒ ทําความสะอาด (ลอกส)ี
๑ ชั่วโมง
๓ ช่ัวโมง ๑ ตรวจสอบความเสียหาย

๓ วัดคาความตรง (หาศูนยเ พลา)

๑. เชอ่ื มพอกเพ่ิมขนาดเพลา ๒. กดดดั คนื สภาพ ๓. สเปรยพนพอกเพิม่ ขนาด

๒ ชั่วโมง ๔ ทาํ ความสะอาดผวิ หนา และวัด ๘ วัดคา กําหนดตําแหนง ๒ ชวั่ โมง ๑๖ ทาํ ความสะอาดเตรยี มผวิ งาน
คาขนาดเรยี วเตเปอร (กลึงปลอกผวิ สลิปเพลา)

๒๒ ชัว่ โมง ๕ เชอ่ื มพอกเพมิ่ ขนาด ๙ กดดัดคนื สภาพ ๔ ช่วั โมง ๑๗ สเปรยพน พอกเพลา
๑๐ วดั คาใหไ มเ กนิ 0.5 มม. ๓ ชั่วโมง ๑๘ กลึงปรบั แตง ผวิ สเปรย

๑ ชั่วโมง ๖ ทาํ ความสะอาดและวดั คา ทําซํ้า ๓๕ เทยี่ ว ๓๐ ช่ัวโมง ๒ ชว่ั โมง ๑๙ ขดั เงาสลปิ เพลา
เกลยี วปลายเพลาดานใบจักร

๕ ช่ัวโมง ๗ เชอ่ื มพอกเพ่มิ ขนาด ๒ ชัว่ โมง ๑๑ กลึงปรบั แตง ๒๔ ชั่วโมง ๒๐ กัดรองลิ่ม
เกลยี วนอกดุมใบจกั รทต่ี ัว ๑ ชั่วโมง ๑๒ เรยี วเตเปอรเ พลาใบจกั ร ตามแนวเชอ่ื มประสาน
๕ ช่ัวโมง ๑๓ กลึงปรบั แตงปลายเพลา
ดานใบจกั ร ๒ ตรวจสอบตําแหนงทสี่ เปรย
และเทียบศูนยเพลา
เชื่อมพอกเพิ่มเตมิ

๑๘ ชัว่ โมง ๑๔ กลึงปรบั แตงเรียวเตเปอร ๑๘ ชว่ั โมง ๒๑ ประกอบเพลา
รวมเวลาทง้ั หมด ๑๗๔ ช่วั โมง คิดเปน ๒ ชั่วโมง ๑๕ และปลายเพลาดานใบจกั ร ๒๔ ช่วั โมง ๒๒ หมุ พอกพลาสติก
ทดลอง/สงมอบ
๒๙ วนั (ทํางานวนั ละ ๖ ช่ัวโมง) ขดั เงา



รูปที่ ๔ กระบวนการซอมบํารุงเพลาใบจักรของเรือหลวงทองหลาง
รปู ท่ี ๔ กระบวนการซ่อมบ�ำรงุ เพลาใบจักรของเรอื หลวงทองหลาง

Work Study of Shaft Propeller@2014 คณะทาํ งานศึกษาการทาํ งานฯ 155

การศกึ ษากระบวนการท�ำงาน (Work Study) การซ่อมบำ� รงุ เพลาของเรือหลวงทองหลาง

สรปุ ผลการศึกษา

การศึกษางานซอ่ มบำ� รงุ เพลาใบจักรของเรือหลวงทองหลางมีขั้นตอนต้งั แต่กระบวนการเริม่ ต้นชกั เพลาใบจกั ร
จนถงึ กระบวนการสดุ ท้ายคือ ตดิ ต้งั สง่ มอบ และทดลองเรอื ในทะเล โดยมีกระบวนการท้ังส้นิ ๒๒ กระบวนการ
โดยใช้เวลาในการซ่อมบ�ำรุงเพลาต่อ ๑ เพลา ท้งั หมด ๑๗๔ ชั่วโมง คดิ เป็น ๒๙ วนั (ท�ำงานวันละ ๖ ชัว่ โมง) จากผล
การศึกษาทไ่ี ด้ทำ� ให้ไดท้ ราบถงึ กระบวนการทัง้ หมด การใชก้ ำ� ลงั คน การใชเ้ ครอ่ื งมอื และอปุ กรณท์ ั้งหมดในการซอ่ ม
บ�ำรงุ เพลาของเรือหลวงทองหลาง โดยข้อมูลทีไ่ ด้รบั จะทำ� ใหส้ ามารถประเมนิ ขดี ความสามารถและเวลาของอทู่ หารเรอื
พระจุลจอมเกลา้ กรมอู่ทหารเรือ ในการซอ่ มบ�ำรงุ เพลาใบจักร อนั จะนำ� ไปสกู่ ารวางแผนบรหิ ารจดั การ การประเมนิ
ระยะเวลาในการซอ่ มท�ำของเพลาใบจกั รของเรอื หลวงทองหลางและเรอื ท่อี ย่ใู นชดุ เดียวกันหรอื เรอื ทม่ี ีเพลาในลกั ษณะ
เดียวกนั มคี วามเสียหายใกล้เคยี งกันไดเ้ ป็นอยา่ งดี ผลการศึกษาทไี่ ด้กลา่ วโดยสรุปได้ ดังนี้
• สามารถวิเคราะห์และประเมินกระบวนการซ่อมบ�ำรุงระบบเพลาใบจักรตั้งแต่เร่ิมต้นกระบวนการชักเพลา
ใบจกั รจนดำ� เนนิ การแลว้ เสรจ็ และสง่ มอบ ท�ำใหเ้ หน็ ภาพรวมของกระบวนการ อนั จะน�ำไปสแู่ นวทางในการพฒั นา
ปรับปรงุ เพือ่ ลดระยะเวลาการทำ� งานในแตล่ ะกระบวนการไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ
• ท�ำให้ได้คู่มือการปฏิบัติงาน (Work Instruction) ในการซ่อมบ�ำรุงระบบเพลาใบจักรอันจะน�ำไปสู่การ
บริหารงาน เพ่อื ใหไ้ ด้คุณภาพโดยเน้นท่ีการควบคุมเชงิ กระบวนการและสามารถประเมินระยะเวลาในการซอ่ มบำ� รุง
ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพและเปน็ แนวทางในการศกึ ษาการซอ่ มบำ� รงุ ระบบเพลาใบจกั รของเรอื ลำ� อน่ื ทมี่ รี ะบบเพลาใบจกั ร
ท่ีแตกต่างกัน ส�ำหรับการจัดท�ำคู่มือการปฏิบัติงานที่สมบูรณ์ในการซ่อมบ�ำรุงระบบเพลาใบจักรของเรือทุกล�ำ
ในกองทัพเรือต่อไป
เอกสารอา้ งองิ
เกชา ลาวลั ยะวัฒน์ และยุทธชัย บนั เทงิ จติ ร, ๒๕๒๗, งานศกึ ษา = Work study, สถาบันเทคโนโลยี พระจอมเกล้า
พระนครเหนือ, กรุงเทพฯ.
เกษม พพิ ัฒน์ปญั ญานุกลู , ๒๕๓๙, การศึกษางาน: Work Study, กรงุ เทพ ฯ : สํานกั พิมพป์ ระกอบเมไตร.
วิจติ ร ตัณฑสุทธิ์ และคณะ, ๒๕๔๓, การศกึ ษาการทํางาน, พมิ พค ร้งั ท่ี ๗, จฬุ าลงกรณม หาวิทยาลยั .
วันชัย ริจริ วนิช, ๒๕๓๙, การศึกษาการท�ำงาน : หลกั การและกรณีศกึ ษา, กรงุ เทพฯ : สำ� นกั พมิ พ์
จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย.
คูม่ อื การบริหารจดั การความรู้ (Knowledge Management), กระบวนการและขน้ั ตอนการปฏิบัตงิ าน
ซอ่ มทำ� เพลาใบจกั ร โรงงานเคร่ืองกล กองโรงงานเคร่ืองกล อ่ทู หารเรอื ธนบุรพี ระจุลจอมเกลา้
กรมอทู่ หารเรอื (รง. 331)


156

การออกแบบและสร้างเครอ่ื งทดสอบ
แบริ่งเพลาใบจกั รเพื่อพฒั นางานวจิ ัย

สู่การใชง้ านจรงิ

นาวาโท เสวยี ง เถื่อนบุญ
หัวหน้านายชา่ งโรงงานหล่อหลอมและไม้แบบ แผนกโรงงานเครอ่ื งกล กองโรงงาน อ่ทู หารเรือธนบุรี กรมอทู่ หารเรอื

นาวาโท นพดล ตนั วัฒนะ
หวั หน้านายชา่ งโรงงานเคร่ืองกล แผนกโรงงานเครอื่ งกล กองโรงงาน อทู่ หารเรือธนบรุ ี กรมอ่ทู หารเรอื

แบร่งิ ในระบบเพลาใบจักรเรือสามารถแบง่ ออกเปน็ ๒ ประเภท ดงั นี้ ประเภททอ่ี ยู่ภายในตวั เรอื (Line Shaft
Bearing) และประเภททีอ่ ยภู่ ายนอกตัวเรอื (Outboard Bearing) [๑,๒] ประเภทที่อย่ใู นตัวเรอื ประกอบดว้ ยแบริ่งชนิด
Split Roller Bearing และชนิด Babbit Bearing ซึ่งมกี ารหล่อลื่นดว้ ยจาระบหี รอื น้ำ� มันหลอ่ ลืน่ ส่วนประเภทท่อี ยู่
ภายนอกตัวเรือเป็นแบริ่งชนิด Sliding Bearing ซง่ึ โดยทวั่ ไปติดต้งั อยูท่ ่ีกระบอกดฟี ุต (Stern Tube) เรยี กวา่ Stern
Tube Bearing และตดิ ตัง้ ที่โยงโย่ (Strut) เรียกว่า Strut Bearing ซึ่งตอ่ ไปจะขอเรียกแบรง่ิ ท่ีอยูน่ อกตวั เรือทั้งสอง
ประเภทว่า แบร่ิงเพลาใบจกั ร (Propeller Shaft Bearing) ท้ังน้เี พ่ือความกระชบั ในการกลา่ วถึงต่อไปในยุคก่อนปี ค.ศ.
๑๙๖๐ แบรงิ่ เพลาใบจกั รส่วนใหญท่ �ำจากไม้ลก๊ิ นำ่� ไวตี (Lignum Vitae) ซึ่งมีการหลอ่ ล่ืนด้วยน้�ำ (Water - Lubricated
Bearing) แตด่ ้วยแบรง่ิ เพลาใบจกั รท่ีหล่อลนื่ ด้วยนำ้� ในยุคน้ันมีอายกุ ารใชง้ านทีส่ ัน้ จึงทำ� ใหม้ ีการเปลยี่ นมาใชแ้ บรง่ิ
เพลาใบจกั รทมี่ กี ารหลอ่ ล่ืนด้วยนำ้� มัน (Oil - Lubricated Bearing) [๒] แบรง่ิ เพลาใบจักรทีห่ ลอ่ ลน่ื ดว้ ยน�ำ้ มนั นนั้ ก็
มขี ้อจำ� กดั หลายประการ คอื มีการสกึ หรออย่างรนุ แรงแม้ว่าระบบเพลาใบจกั รมีการผิดศนู ย์ (Misalignment) เพยี ง
เล็กน้อย นอกจากนน้ั ยังมโี อกาสเกิดการปนเปอ้ื นของน�้ำมันไปสู่ส่งิ แวดล้อมได้ ในกรณที ่รี ะบบน้ำ� มนั เกิดการรัว่ ไหล
และดว้ ยเพราะระบบการหลอ่ ลืน่ ตอ้ งมีการหมนุ เวียนของน้ำ� มันหลอ่ ลื่นในระบบ ซึ่งท�ำใหแ้ บริง่ เพลาใบจักรทีต่ ำ� แหน่ง
โยงโย่มีความยุ่งยากในการเดนิ ระบบท่อทางของน้ำ� มันหลอ่ ล่นื ดว้ ยความก้าวหนา้ ในการพฒั นาเทคโนโลยที างด้าน
วัสดทุ �ำให้ในปัจจบุ นั มีการนำ� วัสดผุ สม (Composite Material) และยางธรรมชาติ มาใช้ผลิตเป็นแบรง่ิ เพลาใบจักร
จงึ ท�ำให้มีความคงทนและเหมาะสมกบั การหลอ่ ล่ืนดว้ ยน้ำ� [๓]
ปจั จบุ นั แบรงิ่ เพลาใบจกั รทง้ั ประเภททท่ี ำ� จากวสั ดผุ สมและยางธรรมชาตทิ ใี่ ชใ้ นเรอื รบมกี ารนำ� เขา้ จากตา่ ง
ประเทศเป็นสว่ นใหญ่ ซ่งึ ท�ำใหก้ องทัพเรือ ตอ้ งเสยี ค่าใช้จา่ ยเป็นจ�ำนวนมากในการซอ้ื แบรงิ่ เพลาใบจกั รดังกล่าว
กรมอู่ทหารเรอื ไดพ้ ิจารณาถงึ ความส�ำคญั ในเรอ่ื งนี้ จงึ ได้ใหก้ ารสนบั สนนุ ให้ด�ำเนนิ โครงการวจิ ยั เรื่อง “การผลติ แบริง่
รองรบั เพลาโดยใช้ยางสังเคราะห์” เพ่ือเพม่ิ ศักยภาพของกรมอูท่ หารเรือในการผลิตแบริง่ เพลาใบจักรประเภทยาง
โครงการวิจัยดังกล่าวเป็นโครงการวิจัยภายใต้ความร่วมมือระหว่างกรมอู่ทหารเรือกับส�ำนักงานกองทุนสนับสนุน

การออกแบบและสร้างเคร่อื งทดสอบแบรงิ่ เพลาใบจักรเพ่ือพฒั นางานวิจัยส่กู ารใชง้ านจรงิ

การวิจัย (สกว.) ด้วยทุนวิจัยภายใตร้ หัสโครงการ RDG5450029 การวิจยั ประกอบดว้ ยการทดลองสูตรยางในหอ้ ง
ปฏิบตั ิการตามมาตรฐาน MIL-DTL-17901C (SH) เพอื่ พัฒนาส่วนผสมของยางใหม้ ีความเหมาะสมตอ่ การใช้งาน
ในการดำ� เนินโครงการวิจัยดงั กลา่ ว ศนู ยเ์ ทคโนโลยีโลหะและวสั ดแุ ห่งชาติ (MTEC) ได้ใหก้ ารสนบั สนุนในขนั้ ตอน
ของการวดั คา่ ความแขง็ ความสามารถในการตา้ นแรงกด ความสามารถในการเช่ือมประสานกับปลอกของแบร่งิ เพลา
ใบจักร ส่วนกรมอูท่ หารเรือโดยโรงงานยาง แผนกโรงงานเคร่ืองกล กองโรงงาน อ่ทู หารเรือธนบรุ ี กรมอทู่ หารเรือ
สนบั สนุนในการสร้างแบบส�ำหรับขน้ึ รปู ยางของแบรง่ิ และโรงงานหลอ่ หลอมและไมแ้ บบ แผนกโรงงานเครอ่ื งกล กอง
โรงงาน อ่ทู หารเรือธนบรุ ี กรมอู่ทหารเรอื สนับสนุนการนำ� แบริ่งเพลาใบจักรไปทดสอบในสภาพการใชง้ านจริง เพ่ือ
ให้ไดร้ ู้ถึงประสทิ ธิภาพของแบร่งิ เพลาใบจกั รทไี่ ด้รบั การพัฒนาด้วยการวัดสมั ประสทิ ธ์ิของแรงเสียดทานและการวดั คา่
การสกึ หรอ [๓] แต่การที่จะนำ� แบร่งิ เพลาใบจกั รทอี่ ยใู่ นข้นั ตอนของการปรับปรงุ สว่ นผสมยาง (สูตรยาง) ไปทดลองกบั
เรอื นนั้ ท�ำให้มคี วามเสย่ี งต่อความเสยี หายทอ่ี าจเกดิ ข้ึนกบั ระบบเพลาใบจักรได้ ทำ� ให้ไม่สามารถควบคุมช่วงเวลาของ
การทดลองได้ เพราะต้องรอการนำ� เรอื เข้าอู่แหง้ /ชานซ่อมเรือตามแผนงานของอูเ่ รอื อีกท้งั ยังไม่คมุ้ ค่าในการดำ� เนนิ
การ เนอื่ งจากค่าใช้จ่ายในการนำ� เรอื เขา้ อ่แู หง้ /ชานซอ่ มเรอื นั้น มีมูลค่าสูงดว้ ยเหตุผลท่กี ลา่ วไวข้ ้างต้น จงึ นำ� มาซึง่ การ
ออกแบบและสร้างเครอื่ งทดสอบแบรง่ิ เพลาใบจักรข้ึนเพ่ือใช้ในการทดลอง ดังแสดงในรูปท่ี ๑

รูปที่ ๑ เคร่อื งทดสอบแบรงิ่ เพลาใบจักร

จดุ ประสงคข์ องการสรา้ งเครอื่ งทดสอบแบรงิ่ เพลาใบจกั รกเ็ พอ่ื ทำ� การทดสอบแบรงิ่ เพลาใบจกั รทผ่ี า่ นการพฒั นา
ปรบั ปรุงสูตรยางจากห้องทดลองแล้ว โดยแบรงิ่ เพลาใบจักรท่ีได้ท�ำการศกึ ษาในโครงการวจิ ัย ฯ เป็นของเรือกวาดทุน่
น้�ำตน้ื ซ่ึงมีเส้นผ่านศนู ยก์ ลางของเพลาใบจกั ร ๒ ๑/๔ นิ้ว ใบจักรนำ�้ หนกั ๔๐ กโิ ลกรมั ใช้การหล่อลื่นด้วยน้ำ� ดว้ ย
หลักการของการให้มนี ำ�้ ไหลผ่านรอ่ งน้�ำของแบรง่ิ เพลาใบจกั รด้วยอัตราการไหลทเ่ี หมาะสมกบั ความเร็วรอบของเพลา
ใบจกั รซ่ึงในขณะที่น้ำ� ไหลผ่านตามร่องน้ำ� ของแบร่ิงเพลาใบจกั รนัน้ เพลาใบจักรจะรีดน้ำ� ใหแ้ ทรกตัวเปน็ ชน้ั ฟลิ ์มบางๆ
(Hydrodynamic Film) ระหวา่ งแบรง่ิ เพลาใบจกั รกบั เพลาใบจกั รได้ [๒, ๔] ซ่งึ ฟลิ ม์ ของน้ำ� น้เี องท่ีท�ำหนา้ ทใี่ นการหล่อ
ล่ืนการหมนุ ของเพลาในแบรงิ่ เพลาใบจกั รและเนอ่ื งจากมีการไหลผา่ นของน�้ำในแบริง่ เพลาใบจกั รตลอดเวลาเม่อื มกี าร
หมุนเพลา น้ำ� ส่วนน้ีก็ยังท�ำหนา้ ที่ในการระบายความรอ้ นทีเ่ กดิ จากการเสยี ดสรี ะหวา่ งเพลาใบจกั รกับแบริ่งเพลาใบ
จกั รดว้ ย

160

การออกแบบและสรา้ งเครือ่ งทดสอบแบรงิ่ เพลาใบจกั รเพอ่ื พัฒนางานวจิ ัยสูก่ ารใช้งานจริง

เครอื่ งทดสอบแบร่ิงเพลาใบจกั รประกอบดว้ ยชุดทดลอง ๒ ชดุ ท�ำงานอิสระจากกัน ดังแสดงในรูปท่ี ๒

รูปที่ ๒ การออกแบบเครื่องทดสอบแบริง่ ด้วย SolidWorks©
โดยการออกแบบเครือ่ งทดสอบแบร่งิ เพลาใบจักร ไดม้ ีการพิจารณาใหส้ ามารถจำ� ลองลกั ษณะการทำ� งานของ
แบร่ิงเพลาใบจกั รใหเ้ สมอื นกบั ลกั ษณะการใชง้ านจรงิ ในเรือดว้ ยการรับภาระน�ำ้ หนกั (แรงกด) การหล่อล่ืนและ
ระบายความร้อนดว้ ยน�ำ้ ลกั ษณะของการรับภาระแรงของแบริง่ เพลาใบจกั ร อาศยั กลไกของสปริงในการควบคมุ แรง
กดระหวา่ งแบริง่ เพลาใบจกั รกับเพลาทดสอบ เพลาทดสอบรองรบั ด้วย Ball Bearing ทีป่ ลายเพลาท้ังสองด้านโดย
ปลายข้างหน่ึงของเพลาทดสอบต่อกับมอเตอรผ์ ่านข้อต่ออ่อน ดังนัน้ การทมี่ ีแรงกดจากสปริงลงบนแบร่งิ เพลาใบจักรก็
จะเปรยี บเสมอื นกับการท่ีนำ�้ หนกั เพลาใบจกั รกดลงที่แบริง่ เพลาใบจกั ร ในกรณขี องระบบเพลาใบจกั รทมี่ ใี ชใ้ นเรอื แต่
ทัง้ นีท้ ศิ ของแรงกดทก่ี ระท�ำนนั้ มลี กั ษณะตรงกนั ข้าม ดังแสดงในรูปที่ ๓

เพลาทดสอบ : รองรับดว้ ย
  คาน
Ball Bearing ทป่ี ลายเพลา

แบรงิ่ เพลาใบจกั ร : คาน
รบั แรงกดจากระบบสปริง

รูปท่ี ๓ ภาพตดั ขวางของกลไกสปริงเพ่อื จ�ำลองแรงกดของเพลาใบจกั รต่อแบริ่งเพลาใบจกั ร

161

การออกแบบและสรา้ งเคร่อื งทดสอบแบริ่งเพลาใบจักรเพือ่ พัฒนางานวิจยั สู่การใชง้ านจรงิ

ส่วนลักษณะการหล่อลนื่ และระบายความรอ้ นด้วยนำ้� น้นั ไดอ้ อกแบบให้มีการหมุนเวียนของน�้ำ เพ่อื หลอ่ ล่ืน
และระบายความร้อนในระบบปดิ โดยมชี ุดซลี ทางกล (Mechanical Seal) ทำ� หน้าทปี่ ้องกันการร่ัวไหลของน�้ำทเ่ี ขา้
หล่อลนื่ ในแบรงิ่ เพลาใบจักร ซ่งึ ชดุ ซีลทางกลนี้ก็เปรยี บเสมือนกับชดุ Stuffing Box ของระบบเพลาใบจักรท่ใี ชง้ าน
จริงในเรือ สว่ นการระบายความร้อนของนำ้� ในระบบเน่อื งจากความร้อนทเ่ี กดิ จากการเสยี ดสรี ะหว่างแบร่ิงเพลาใบจักร
กบั เพลาทดสอบไดอ้ อกแบบใหใ้ ชร้ งั ผงึ้ ในการระบายความร้อน โดยทั้งนอ้ี ุณหภูมิของนำ้� ในระบบไดถ้ ูกควบคุมให้ใกล้
เคียงกับอุณหภมู เิ ฉลี่ยขอบผวิ หน้าน้�ำทะเล เพ่อื ควบคมุ อุณหภมู ินำ�้ ให้เสมือนการใชง้ านจรงิ ของเรอื
เพลาใบจักรทำ� ใหเ้ กดิ ภาระแรงในหลายลกั ษณะเช่น ภาระแรงทเี่ กิดจากควง (Swirling Load) ภาระท่เี กดิ จาก
นำ้� หนักของเพลาใบจกั รเอง (Bending Load) ภาระทเี่ กิดจากแรงผลักดันของใบจักร (Thrust Load) และภาระที่เกดิ
จากนำ�้ หนกั ของใบจักร (Propeller Load) [๒] ซ่ึงภาระทง้ั หมดนี้มอี ิทธพิ ลต่อแรงกดลงบนแบริ่งเพลาใบจกั ร (Contact
Pressure) แต่เน่อื งจากน�ำ้ หนกั ของเพลาใบจักรและใบจักรมีผลตอ่ แรงท่กี ดบนแบริ่งเพลาใบจกั รโดยตรง โดยน�ำ้ หนกั
ของใบจกั รมีผลทำ� ให้แบรงิ่ เพลาใบจักรด้านที่ตดิ กับใบจกั รรบั แรงกดมากกวา่ ดา้ นตรงข้าม แต่ส�ำหรบั นำ้� หนักของเพลา
ใบจกั รจะทำ� ให้เกดิ การกระจายแรงกดอย่างสม�่ำเสมอลงบนแบรงิ่ เพลาใบจักรหรือทำ� ให้มแี รงกดทสี่ ว่ นปลายของแบรงิ่
เพลาใบจกั รมีความใกล้เคียงกนั [๓] ดังนั้นการออกแบบเครอ่ื งทดสอบแบร่งิ เพลาใบจักร นจ้ี ึงไดพ้ ิจารณาใหส้ ามารถ
จำ� ลองการรบั ภาระแรงกดท้ังที่เกิดจากนำ้� หนักเพลาใบจักรและแรงกดที่เกดิ จากน�ำ้ หนักของใบจกั ร ได้ด้วยการปรับ
ต�ำแหนง่ ของสปริงทีก่ ดลงบน แบร่ิงเพลาใบจกั ร เมอื่ ต้องการจำ� ลองลกั ษณะของแรงท่ีแบรง่ิ เพลาใบจักรด้วยแรงกด
ของเพลาใบจกั รอย่างสม่ำ� เสมอ (กรณีของแบร่ิงเพลาใบจักร ณ ตำ� แหน่งทีไ่ มใ่ ช่ต�ำแหนง่ ท่ีติดอย่กู บั ใบจักร) กใ็ ห้ปรบั
ตำ� แหน่งของชดุ สปริงให้อยูบ่ ริเวณก่ึงกลางความยาวของแบร่งิ เพลาใบจักร แรงปฏกิ ิริยาจากเพลาทดสอบกจ็ ะกระจาย
ตลอดความยาวของแบรง่ิ เพลาใบจกั ร ดงั แสดงในรปู ที่ ๔

รูปท่ี ๔ แสดงตำ� แหน่งของชุดสปรงิ เมอ่ื ต้องการจ�ำลองแรงกดซึง่ เกดิ จากนำ้� หนักเพลาใบจกั ร

แตเ่ ม่อื ต้องการจ�ำลองลักษณะแรงทีก่ ระทำ� ตอ่ แบร่งิ เพลาใบจักร ท่มี ีผลมาจากนำ�้ หนกั ของใบจักร (กรณีของ
แบร่งิ เพลาใบจกั ร ณ ตำ� แหนง่ ทต่ี ิดอยกู่ ับใบจักร) กใ็ หท้ ำ� การปรับต�ำแหน่งของชดุ สปรงิ ให้ชิดกบั ส่วนปลายของแบรง่ิ
เพลาใบจักร แรงปฏิกิริยาจากเพลาทดสอบกจ็ ะกระท�ำตอ่ แบรง่ิ เพลาใบจักรท่ีตำ� แหน่งปลายดา้ นหนึ่งของแบรงิ่ เพลาใบ
จักรมากกวา่ ด้านตรงขา้ ม ดงั แสดงในรูปท่ี ๕

162

การออกแบบและสร้างเคร่ืองทดสอบแบริง่ เพลาใบจกั รเพ่ือพฒั นางานวจิ ัยสู่การใช้งานจริง

รปู ที่ ๕ แสดงตำ� แหนง่ ของชุดสปริงเมอ่ื ตอ้ งการจำ� ลองแรงกดซ่งึ เกดิ จากใบจักร
ระบบควบคุมของเครอื่ งทดสอบแบร่งิ เพลาใบจักร ประกอบดว้ ย ๒ ระบบทำ� งานแยกเป็นอสิ ระ โดยแต่ละ
ระบบประกอบดว้ ยระบบควบคมุ ความเรว็ รอบของมอเตอร์ตน้ กำ� ลงั ขับ (380 V 5 hp 3 Phase 50 Hz) ซง่ึ สามารถ
ควบคุมความเร็วรอบไดจ้ นถงึ ๑,๔๕๐ รอบ/นาที โดยใช้ Inverter ตราอักษร Mitsubishi 380 V 3 Phase 3.7 kW
E700 ในการควบคมุ สว่ นการควบคมุ อณุ หภมู ขิ องระบบน้ำ� หล่อลืน่ และระบายความรอ้ นกระท�ำโดยการตัดตอ่ พัดลม
ระบายความรอ้ นของรังผ้ึงขนาด 12 V DC ตามอุณหภมู ขิ องนำ้� หลังจากเขา้ หล่อล่ืนทีช่ ุดแบรงิ่ เพลาใบจกั ร โดยมีการ
ติดต้ัง Temperature Sensor ทที่ อ่ ทางน้ำ� กอ่ นเขา้ รังผง้ึ นอกจากน้ยี ังจดั ใหม้ ีการแสดงจ�ำนวนช่วั โมงใช้งานของเครอ่ื ง
ในการทดลองแตล่ ะครงั้
ดังที่ไดก้ ล่าวในขา้ งต้นว่าโครงการผลติ แบร่งิ รองรบั เพลาโดยใช้ยางสงั เคราะห์ ไดม้ ุ่งศกึ ษาการพฒั นาสูตร
ยางทเ่ี หมาะสมส�ำหรบั แบริ่งเพลาใบจกั ร ซึง่ มกี ารหล่อลืน่ และระบายความร้อนดว้ ยน�ำ้ การทดลองกับเคร่อื งทดสอบ
แบรง่ิ เพลาใบจักร จงึ จำ� เป็นต้องสามารถแสดงคณุ สมบัตทิ ีส่ �ำคญั สำ� หรับการพัฒนาสูตรยางได้ ซึ่งประกอบดว้ ยคา่ การ
สึกหรอลกั ษณะของการสึกหรอและสัมประสิทธ์ิแรงเสยี ดทาน การพจิ ารณาค่าการสึกหรอของแบร่ิงเพลาใบจกั รกระทำ�
ไดด้ ้วยการเปรียบเทยี บค่า Clearance ระหวา่ งแบรง่ิ เพลาใบจักรกับเพลาทดสอบกอ่ นและหลัง การทดสอบทีร่ อบและ
ชวั่ โมงใช้งานท่ตี ้องการ ส่วนการพิจารณาคา่ สัมประสิทธ์ิแรงเสียดทานนน้ั จะกระท�ำในขน้ั ตอนกอ่ นการทดลอง โดยให้
ท�ำการปรบั ระยะกดสปรงิ ทีร่ ะยะทดสอบ จากนั้นจึงทำ� การวดั คา่ สมั ประสทิ ธ์ิของแรงเสยี ดทานสถติ ย์ สว่ นการพจิ ารณา
ลักษณะของการสกึ หรอของแบร่ิงเพลาใบจักรนนั้ เป็นการตรวจสอบทางกายภาพด้วยสายตา หลังจากการทดสอบแล้ว
โดยขอ้ มลู ท่ไี ดจ้ ะน�ำไปใช้ประกอบการพัฒนาสูตรยางของแบร่งิ เพลาใบจักรต่อไป
รปู ท่ี ๖ ตัวอย่างของสภาพแบริ่งยางหลังทำ� การทดลอง

163

การออกแบบและสร้างเครื่องทดสอบแบร่ิงเพลาใบจกั รเพือ่ พัฒนางานวจิ ยั สู่การใช้งานจริง

รูปที่ ๖ เปน็ ตัวอย่างลกั ษณะการสึกหรอของแบริ่งเพลาใบจักรชุดแรกทที่ ำ� การทดลองกับเครอื่ งทดสอบแบริ่ง
เพลาใบจักร โดยท�ำการทดสอบท่ีรอบ ๖๐๐ รอบ/นาทเี ป็นเวลา ๘๐ ชั่วโมง ซึง่ จากรปู ตวั อย่างของแบรง่ิ เพลาใบจักรที่
ทดสอบแสดงให้เหน็ วา่ ยางมกี ารฉีกขาดบริเวณขอบของรอ่ งน�้ำ โดยมีบางต�ำแหน่งลอกออกเป็นช้ันบาง ๆ จากผวิ หน้า
ของยาง ผลการทดสอบแสดงใหเ้ ห็นว่ากรรมวิธีการขึน้ รปู ของยาง/สูตรของยางยังตอ้ งไดร้ ับการปรับปรุง ในทางตรง
กนั ขา้ มดังทไ่ี ด้แสดงในรูปที่ ๗ สูตรยางไดร้ ับการพฒั นาปรบั ปรงุ จนความสามารถลดการฉกี ขาดและมคี วามสามารถ
คงรูปได้ดี หลงั จากท่ไี ด้ท�ำการทดสอบท่ีรอบและเวลาท่ีเทา่ กนั ส�ำหรบั สูตรยางของแบริง่ เพลาใบจกั รทผี่ า่ นการทดสอบ
แลว้ ได้นำ� ไปขยายผลเพอื่ น�ำไปผลติ แบรง่ิ เพลาใบจักรเพ่ือทดลองกับเรอื กวาดทนุ่ ระเบดิ น้�ำตนื้ ซ่งึ ปัจจบุ ันอยูใ่ นขนั้
ตอนของการดำ� เนินการทดลองแบริง่ เพลาใบจกั รท่ไี ด้พฒั นาขึ้นกบั เรอื ท.๑๒

รปู ที่ ๗ แบร่งิ เพลาใบจกั รหลังจากการพัฒนาสตู รยางและ
ทดลองดว้ ยเคร่ืองทดสอบแบร่ิงเพลาใบจักร

เคร่ืองทดสอบแบร่ิงเพลาใบจักรเป็นตัวอย่างหนึ่งของความพยายามในการผลักดันการน�ำผลงานวิจัยของ
กรมอทู่ หารเรอื ไปสกู่ ารใชง้ านจรงิ ซงึ่ หากพจิ ารณาถงึ ผลงานวจิ ยั ของกรมอทู่ หารเรอื จะพบวา่ มผี ลงานวจิ ยั จำ� นวนไมน่ อ้ ย
ทผี่ า่ นการกระบวนวิจัยพัฒนา ด้วยขน้ั ตอนของการวเิ คราะห์/ทดสอบ/ทดลอง มาแล้วแตย่ ังไมส่ ามารถนำ� ไปสู่การใช้
งานจรงิ ได้หรอื ยังไม่เปน็ ท่ยี อมรับของหน่วยผ้ใู ช้ ดังนน้ั จึงเปน็ เรือ่ งทา้ ทายส�ำหรบั นกั วิจัยในปจั จบุ นั ท่ีต้องพยายาม
ผลักดันใหผ้ ลงานวิจัยท่ีไดส้ รา้ งสรรคข์ ึ้นมา ให้สามารถขยายผลเพื่อน�ำไปใชง้ านจริงให้ได้ โดยเฉพาะอยา่ งยิง่ งาน
วจิ ยั เชิงนวัตกรรม ซ่ึงผลิตผลจากการวิจยั มกั เปน็ อุปกรณ/์ เครื่องมือ/ชนิ้ สว่ น ที่ได้รบั การพัฒนาปรบั ปรงุ ขนึ้ มาใหม่
นอกเหนอื จากตวั นกั วจิ ยั เองแลว้ ในการขยายผลการนำ� เอาผลงานวจิ ยั ไปใช้คอื การทหี่ นว่ ยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ งทง้ั ผซู้ อ่ มและผใู้ ช้
ควรดำ� เนนิ นโยบายทต่ี อบรบั กบั นโยบายดา้ นการวจิ ยั และพฒั นาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยขี องกองทพั เรอื เพอ่ื ให้
มกี ารนำ� ผลงานวจิ ยั และพฒั นาของกองทพั เรอื ไปใชง้ านไดอ้ ยา่ งแทจ้ รงิ โดยมงุ่ หวงั ผลประโยชนท์ จ่ี ะเกดิ ขนึ้ กบั กองทพั เรอื
อย่างสูงสุด

164

การออกแบบและสรา้ งเครื่องทดสอบแบริ่งเพลาใบจักรเพอ่ื พัฒนางานวิจยั สู่การใชง้ านจริง

เอกสารอา้ งอิง
[๑] D.A. Tayloy.Roy, Z L. Harrington. (1996). Introduction to Marine Engineering,2nd
edition,ISBN:0-7506-2530-9, Elsevier Butterworth-Heinemann
[๒] Roy, L. Harrington. (1992). Marine Engineering, ISBN:0-939773-10-4, The Society of Naval
Architects and Marine Engineers.
[๓] M.H.Pollock, R.Haynes. Developments in water lubricated propeller shaft bearings, Marine
Engineering Digest January 1985, pp.12-25.
[๔] Thordon Engineering Manual VersionE2006.1, Canada(2006). Commerscial & Private Marine
(Design), URL:http://www.thordonbearings.com, access on 25/02/2012.
[๕] Thordon Marine Bearing Installation Manual Version 2008.1, Canada (2008). Commerscial &
Private Marine (Design), URL:http://www.thordonbearings.com,access on 25/02/2012.

165

โครงการวิจัยการผลติ และซ่อมแซมใบจกั รเรอื
แบบ Voith Schneider
เพือ่ ทดแทนการน�ำเขา้

นาวาโท เสวยี ง เถอื่ นบญุ
หวั หนา้ นายชา่ งโรงงานหลอ่ หลอมและไม้แบบ
แผนกโรงงานเคร่อื งกล กองโรงงาน อูท่ หารเรอื ธนบุรี กรมอู่ทหารเรอื
๑. ปัญหาที่ทำ� วจิ ัยและความสำ� คัญของปัญหา

สงครามทุน่ ระเบิดมีความส�ำคญั ทัง้ ในดา้ นยุทธศาสตร์ ยทุ ธวิธี และสงครามจิตวิทยาในการรบทางน้ำ� เป็น
อย่างมาก โดยหากมีการวางทุ่นระเบิดในตำ� แหน่งการเดินเรอื ท่ีส�ำคญั จะท�ำใหก้ ารคมนาคมทางน้�ำของเรอื พาณิชย์และ
การเคล่อื นก�ำลังของเรือรบไมส่ ามารถกระท�ำไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ หรอื แมแ้ ตก่ ารปลอ่ ยข่าวลวงถึงการวางทนุ่ ระเบิด
ในต�ำแหน่งการเดนิ เรอื ต่าง ๆ กจ็ ะสง่ ผลทางจติ วิทยาและการเคลื่อนกำ� ลังของเรอื รบเชน่ เดียวกัน การกวาดหรอื การล่า
ท�ำลายทนุ่ ระเบิดเปน็ วิธีการต่อต้านทุ่นระเบิดทจ่ี ะดำ� เนินการย้ายหรือท�ำลายทุน่ ระเบดิ ใหห้ มดไปจากพ้นื ทท่ี ต่ี อ้ งการ
เพ่อื เปดิ เส้นทางการเดนิ เรือทีส่ ำ� คญั
เรอื หลวงลาดหญ้าและเรือหลวงท่าดนิ แดงเปน็ เรือล่าทำ� ลายทนุ่ ระเบิดท่มี ีสมรรถนะและทันสมัยมากที่สุดชดุ
หนง่ึ ของกองทพั เรอื ไทย โดยเรือชุดน้ไี ด้ติดต้งั ระบบใบจักรแบบ Voith Schneider Propeller (VSP) ซง่ึ มจี ุดเดน่ ในการ
บงั คับเรอื ให้สามารถเลี้ยวหรอื กลับล�ำเรอื ได้อยา่ งรวดเร็ว ระบบ VSP จงึ มีความเหมาะสมกับเรอื ลา่ ทำ� ลายทุน่ ระเบิดซง่ึ
ตอ้ งการความคลอ่ งตวั สงู ในขณะปฏบิ ตั ิงาน
ใบจักรแบบ VSP ของกองทพั เรือไทยผลิตจากวัสดุแมงกานีสอะลูมเิ นียมบรอนซเ์ กรด G-CuAl8Mn8 (Cu-
8Al-8Mn-1.5Ni-2Fe) โดยเรือหนึง่ ล�ำประกอบดว้ ยใบจกั รแบบ VSP จ�ำนวน ๒ ชดุ ชดุ ละ ๕ ใบ รวมทงั้ หมด ๑๐ ใบ
ดงั แสดงในรูปที่ ๑. หลงั จากทเ่ี รอื ชดุ นี้เข้าประจำ� การเป็นเวลาประมาณ ๑๔ ปี ใบจกั รแบบ VSP หกั บรเิ วณโคนใบ
จกั รจำ� นวน ๓ ครั้ง ๆ ละ ๑ ใบ ซง่ึ มลี ักษณะความเสียหายแบบ Corrosion Fatigue (รูปที่ ๒.) ท้ัง 3 ครง้ั โดยการหัก
ของใบจักรแบบ VSP ครัง้ แรกมีสาเหตุของความเสยี หายจากการสูญเสยี ธาตุอะลมู เิ นียม (Dealuminification) ออกไป
จากแมงกานสี อะลูมเิ นียมบรอนซ์ ทำ� ให้เน้อื โลหะบรเิ วณทีส่ ูญเสยี ธาตอุ ะลมู เิ นียมเกิดโพรงขนาดเล็กกระจายอยทู่ ่วั เน้ือ
โลหะและกลายเป็นจดุ สีแดง (รูปท่ี ๒.) ซงึ่ มีผลทำ� ใหค้ วามแข็งแรงของใบจักรลดลง โดยเฉพาะบริเวณโคนใบจักรแบบ
VSP ซงึ่ เป็นบรเิ วณท่เี กิดความเค้นในขณะใชง้ านสงู ทีส่ ุด (รปู ท่ี ๓.)

โครงการวจิ ัยการผลิตและซ่อมแซมใบจักรเรือแบบ Voith Schneider เพอ่ื ทดแทนการน�ำเขา้

รปู ท่ี ๑. ใบจักรแบบ VSP ของเรอื หลวงลาดหญ้า


รูปท่ี ๒. สภาพความเสยี หายและการเกดิ การกดั กรอ่ นอันเน่อื งจากการสูญเสียธาตุอะลมู เิ นยี ม (Dealuminification)
ของใบจักรแบบ VSP ครัง้ ที่ ๑

ใบจักรแบบ VSP ท่เี หลืออีก ๑๙ ที่ยงั ไม่หกั เสียหาย กรมอูท่ หารเรือได้ว่าจา้ งบรษิ ทั ภายในประเทศเพือ่
ซอ่ มใบจักรใหส้ ามารถใชร้ าชการได้เหมือนเดิม การซอ่ มใบจักรกระทำ� โดยการกำ� จัดเนอ้ื บรเิ วณท่เี กดิ การสูญเสียธาตุ
อะลมู ิเนยี มออกและท�ำการเชือ่ มซอ่ มให้พ้ืนผิวของใบจักรกลับสู่สภาพปกติ แต่เม่ือน�ำใบจกั รกลับมาใช้ราชการไดร้ ะยะ
หนึ่งใบจกั รแบบ VSP ก็หักเป็นคร้งั ที่ ๒ บรเิ วณโคนใบจักรใต้แนวเชอ่ื มซอ่ มดว้ ยลกั ษณะความเสียหายแบบ Corrosion
Fatigue (รปู ที่ ๔.) ตอ่ มา กรมอู่ทหารเรอื ได้ส่งใบจักรแบบ VSP ทย่ี ังอยูใ่ นสภาพดีไปเชื่อมซอ่ มทีป่ ระเทศสิงคโปร์
โดยมีคา่ บริการและค่าขนส่งไป-กลบั รวมมูลค่ามากกว่าสบิ ล้านบาท แต่เมือ่ น�ำมาใบจักรแบบ VSP กลับมาใช้งาน

168

โครงการวิจยั การผลติ และซอ่ มแซมใบจักรเรือแบบ Voith Schneider เพ่อื ทดแทนการนำ� เข้า

ไดไ้ ม่นาน ใบจกั รก็หกั อีกเป็นครง้ั ที่ ๓ บริเวณโคนใบจักรใต้แนวเชอ่ื มซอ่ มด้วยลักษณะความเสียหายแบบ Corrosion
Fatigue เช่นเดมิ รปู ที่ ๔.

รปู ท่ี ๓. แสดงตำ� แหนง่ ทเี่ กดิ ความเคน้ สงู สดุ
บนใบจกั รที่ไดจ้ ากการคำ� นวณเบอ้ื งตน้

รปู ท่ี ๔. สภาพผวิ หนา้ รอยขาดของใบจกั รแบบ VSP
ครั้งที่ ๒ (บน) และคร้ังที่ ๓ (ลา่ ง)

จากความเสียหายที่เกิดขน้ึ กบั ใบจกั รแบบ VSP ของเรอื หลวงลาดหญ้าและเรอื หลวงทา่ ดินแดง ซง่ึ เปน็ เรือที่มี
คุณคา่ ทางยทุ ธการสงู ท�ำใหค้ วามพร้อมในการป้องกนั ประเทศของกองทัพเรอื ลดลง กรมอทู่ หารเรือ ซึง่ เป็นหน่วย
ซอ่ มบำ� รงุ หลกั ของกองทพั เรอื ไดพ้ ยายามทจ่ี ะแกไ้ ขปญั หาทเี่ กดิ ขนึ้ โดยทดลองทำ� การผลติ และทำ� การซอ่ มแซมใบจกั รแบบ
VSP เอง รวมถงึ การวา่ จ้างบริษัททม่ี คี วามเชยี่ วชาญทงั้ ภายในและภายนอกประเทศให้ดำ� เนนิ การหลอ่ ใบจักรและ
ซอ่ มแซมใบจกั รดว้ ยเช่นกนั แต่กย็ งั ไมส่ ามารถแก้ปัญหาดงั กลา่ วได้ การแก้ปัญหาโดยการเปลย่ี นใบจกั รแบบ VSP
เปน็ ของใหมท่ ั้งหมด ๒๐ ใบ เปน็ วิธีแก้ปญั หาอีกวธิ หี นง่ึ ทถ่ี กู กล่าวถึง แตก่ ารเปล่ยี นใบจักรท้งั หมดตอ้ งใชง้ บประมาณ
มากกวา่ ๑๐๐ ล้านบาท เพราะราคาล่าสุดที่สอบถามจากตัวแทนจำ� หนา่ ยในประเทศไทยอยทู่ ่ปี ระมาณ ๕ ลา้ นบาท
ต่อ ๑ ใบ และยังไมส่ ามารถรับรองผลไดว้ า่ ใบจักรจะไมห่ ักซ�ำ้ อีก ดงั นน้ั การเปลยี่ นใบจักรใหมท่ ้ังหมดจงึ มีความเส่ยี ง
และอาจจะไมค่ ุ้มคา่ กับงบประมาณจำ� นวนมากท่ตี อ้ งใช้

169

โครงการวจิ ยั การผลิตและซ่อมแซมใบจกั รเรอื แบบ Voith Schneider เพือ่ ทดแทนการน�ำเขา้

การแก้ปญั หาใบจกั รแบบ VSP โดยทกี่ รมอทู่ หารเรอื สามารถพง่ึ พาตนเองไดท้ งั้ ในด้านการผลติ และการ
ซอ่ มแซมใบจกั ร จึงน่าจะเปน็ การแก้ปัญหาในระยะยาวทด่ี ที ่ีสุด แต่เน่ืองจากปจั จุบนั กรมอู่ทหารเรือยังขาดองคค์ วามรู้
ด้านโลหะวทิ ยา กระบวนการผลติ การเช่อื ม การกดั กร่อน และการวิเคราะห์ความเคน้ ท่ีเกดิ ข้ึนบนใบจักรขณะใชง้ าน
ทำ� ให้ยงั ไมส่ ามารถผลติ และซ่อมแซมใบจกั รแบบ VSP ได้เอง กรมอ่ทู หารเรอื จึงได้ร่วมมอื กบั อาจารยแ์ ละผเู้ ช่ยี วชาญ
ของมหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบรุ ี มหาวิทยาลยั เทคโนโลยพี ระจอมพระนครเหนอื มหาวทิ ยาลยั มหิดล
และศนู ยเ์ ทคโนโลยีโลหะและวสั ดแุ หง่ ชาติ เพอื่ ท�ำการวจิ ยั แบบบูรณาการในการแกป้ ญั หาของใบจักรแบบ VSP ทุก
ด้านในระยะยาว และเน่ืองจากการผลิตใบจักรแบบ VSP เป็นเทคโนโลยกี ารผลิตข้นั สูงของประเทศเยอรมัน เม่ือ
การวิจยั เสร็จส้นิ ลง ความรทู้ ่ีได้จากการวจิ ัยจะถูกสง่ ต่อไปยงั ภาคการศกึ ษาของประเทศ ดงั น้ันการท�ำวจิ ัยในครั้งนี้
นอกจากจะเปน็ การเสรมิ สร้างความพร้อมใหก้ ับกองทัพเรือแลว้ ยงั เปน็ การพฒั นาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยภี ายใน
ประเทศ ตลอดจนพัฒนาบุคลากรของประเทศไทยเพื่อส่งตอ่ ให้กับภาคอุตสาหกรรมให้มีขดี ความสามารถทีจ่ ะแขง่ ขัน
ในเวทีโลกเพ่ิมมากขนึ้

๒. วตั ถุประสงค์
๑. ศกึ ษา วเิ คราะห์ และผลติ ใบจักรเรอื แบบ VSP ด้วยแมงกานีสอะลมู เิ นียมบรอนซเ์ กรด G-CuAl8Mn8
เพื่อทดแทนการน�ำเขา้ จากต่างประเทศ
๒. ศึกษาใหเ้ ข้าใจถงึ อิทธพิ ลของการเชอื่ มซ่อมตอ่ การกัดกร่อนท่ีเกดิ ข้นึ ในใบจักรเรือแบบ VSP เพ่อื ใช้เป็น
แนวทางในการเชอ่ื มซ่อมใบจกั รในอนาคต
๓. ทางเลอื กการแกป้ ัญหา
กรณที ี่ ๑ ใบจักร VSP หกั ช�ำรุด
แนวทางการแกป้ ญั หาใบจักรเรอื แบบ Voith Schneider หกั ชำ� รดุ ทเ่ี ปน็ ไปไดป้ ระกอบดว้ ย

ทางเลอื กที่ ๑ ซ้อื ใบจกั รจากผู้ผลิต เพอื่ เปล่ียนทดแทนใบที่เสียหาย
เนอื่ งจากต้องนำ� เขา้ ใบจักร และใบจกั รมีราคาประมาณ ๕ ล้านบาท ต่อใบ เรือทง้ั สองลำ� ใช้ใบจกั รทง้ั หมด
๒๐ ใบ ดังนนั้ จงึ ต้องใชง้ บประมาณ ๑๐๐ ลา้ นบาท จงึ มคี ่าใชจ้ ่ายท่สี ูงมาก และต้นเหตขุ องปัญหาไมไ่ ดถ้ กู วเิ คราะหแ์ ละ
แกไ้ ข ใบจกั รใหม่จึงมแี นวโนม้ ทจ่ี ะเสียหายในลักษณะเดมิ
ทางเลือกท่ี ๒ ดำ� เนนิ การหลอ่ ใบจักรโดยกรมอู่ทหารเรอื
โรงงานหล่อหลอม กรมอทู่ หารเรือมปี ระสบการณ์ในการหลอ่ โลหะมากกวา่ ๓๐ ปี จงึ มคี วามพรอ้ มใน
การทจี่ ะด�ำเนินการหลอ่ ใบจกั ร VSP และโรงงานหล่อหลอม ยงั ไดท้ ำ� การวจิ ยั และทดลองจนสามารถหล่อโลหะนเิ กลิ
อะลมู เิ นียมบรอนซ์ ซึ่งเปน็ โลหะผสมกลุ่มเดยี วกันกับแมงกานสิ อะลมู ิเนยี มบรอนซไ์ ดเ้ ปน็ ผลสำ� เร็จ จงึ มีความเป็นไปได้
สงู ทจี่ ะประสบความส�ำเร็จในการวจิ ยั และทดลองหล่อใบจกั ร VSP แต่เนือ่ งจากใบจักร VSP มปี ระวัติการหกั อันเน่ือง
มาจากความลา้ การด�ำเนนิ การผลติ ใบจักร VSP โดยทไี่ มไ่ ด้มีการวิเคราะห์ความแขง็ แรงร่วมด้วย จงึ มคี วามเสี่ยงเรื่อง

170

โครงการวจิ ัยการผลติ และซอ่ มแซมใบจกั รเรือแบบ Voith Schneider เพื่อทดแทนการนำ� เข้า

ความแขง็ แรงของใบจักรทีอ่ าจจะไมส่ งู เพียงพอกับการใชง้ าน นอกจากน้ีตน้ เหตขุ องปัญหาไม่ไดถ้ ูกวเิ คราะห์และแก้ไข
เช่นเดยี วกบั ทางเลอื กท่ี ๑ ใบจกั รใหมจ่ ึงมแี นวโน้มทจี่ ะเสียหายในลกั ษณะเดิม
ทางเลอื กที่ ๓ ด�ำเนินการหลอ่ ใบจักรโดยว่าจ้างเอกชน
กรมอูท่ หารเรือเคยด�ำเนินการวา่ จ้างเอกชนหลอ่ ใบจกั ร VSP แต่รูปรา่ งของใบจกั รไม่เป็นไปตามแบบ
และนำ้� หนกั ของใบจกั รทจ่ี า้ งหล่อไม่เทา่ กับใบจักรจรงิ จงึ ไม่สามารถน�ำมาใชร้ าชการได้ และเมือ่ พจิ ารณาทางเลอื ก
ท่ี ๒ ซึ่งมลี ักษณะการแก้ปญั หาทคี่ ล้ายคลงึ กนั จะพบวา่ การวิจัยกอ่ นทีจ่ ะเริม่ ดำ� เนินการผลติ ใบจกั ร VSP มคี วามส�ำคญั
อยา่ งมาก รวมถึงตน้ เหตขุ องปญั หายังไมไ่ ด้ถกู วิเคราะห์เชน่ เดยี วกับทางเลือกที่ ๑ และ ๒ ทำ� ใหท้ างเลอื กที่ ๓ จึงมี
ความเป็นไปได้น้อยกว่าทางเลอื กที่ ๒ และยงั ไมเ่ หมาะสมที่จะดำ� เนินการในปัจจุบัน แตม่ ีความเหมาะสมทจี่ ะทำ� ได้
หากทางเลอื กท่ี ๒ ประสบความสำ� เรจ็
ทางเลอื กท่ี ๔ ท�ำการวิจยั เพอื่ ผลติ ใบจกั ร VSP ท่ีเหมาะสมกับการใช้งาน
ท�ำการวิเคราะห์ความแข็งแรงของใบจักรเดิม โดยใชข้ ้อมลู คุณสมบัตทิ างกลของแมงกานสิ อะลูมเิ นยี ม
บรอนซท์ ไี่ ด้จากการวจิ ัยและทดลองผลติ ดว้ ยกระบวนการหล่อโลหะ และกระบวนการตีข้ึนรูปร้อนจรงิ มาประกอบการ
วิเคราะห์ ท�ำให้ได้ความแข็งแรงของใบจักรท่มี ีความถูกต้อง โดยหากความแขง็ แรงของใบจกั รทีไ่ ดจ้ ากการวเิ คราะหไ์ ม่
แข็งแรงเพียงพอกับการใช้งาน นกั วจิ ัยจะดำ� เนนิ การปรับปรงุ กระบวนการผลติ เพอ่ื ใหไ้ ดแ้ มงกานิสอะลูมเิ นยี มบรอนซ์
ทีม่ คี ณุ สมบัตทิ างกลดีข้นึ และ/หรอื อาจจะต้องปรบั ปรงุ รปู รา่ งของใบจักรใหม่ เพอื่ ให้ไดค้ วามแข็งแรงท่ีสงู ขน้ึ ซึ่งการ
เปลย่ี นแปลงรปู รา่ งใบจักรจะมกี ารออกแบบให้มีผลทางกลศาสตร์ของไหลทใ่ี กล้เคียงกบั ของเดมิ ดังนน้ั การวจิ ยั กอ่ นท่ี
จะเรมิ่ ท�ำการผลติ จริงจงึ เป็นวธิ ที เ่ี หมาะสมทสี่ ุด และจะสามารถแกป้ ญั หาการหักชำ� รดุ ของใบจกั ร VSP ไดอ้ ย่างยั่งยืน
กรณที ี่ ๒ ใบจกั ร VSP เกดิ การกดั กร่อนแตย่ งั ไมห่ กั ช�ำรดุ
ทางกองทพั เรอื ประสบปญั หาการกดั กรอ่ นของใบจกั ร เนื่องจากไม่มวี ธิ กี ารปอ้ งกันอย่างถกู ตอ้ ง ซ่ึงเม่ือ
เกิดการกัดกร่อนขึ้นแล้ว สิง่ ที่จะทำ� ไดเ้ พือ่ ใหใ้ บจักรสามารถใช้งานไดต้ อ่ ไปคือ การเชื่อมซ่อม แต่เม่อื มีการเชอื่ มซ่อม
แล้วกลบั พบว่า บรเิ วณที่มกี ารเชอื่ มซอ่ มกลับเกดิ ปัญหาการกดั กร่อนและเกดิ ความเสียหาย ซ่ึงเหตกุ ารณ์เชน่ น้มี โี อกาส
เกดิ ขึน้ ไดก้ บั ใบจักรทีม่ ีการใชง้ านในปัจจุบนั ท้ังหมด ดังนั้นทางเลอื กในการแก้ปญั หาที่สามารถทำ� ไดไ้ ด้แก่
ทางเลือกที่ ๑ เปลี่ยนใบจักร VSP ทม่ี ีการเชอ่ื มซอ่ มและทีเ่ กิดการกัดกรอ่ นใหม่ทัง้ หมด
วธิ ีการน้จี ะทำ� ใหเ้ กิดการสูญเสยี งบประมาณ ๑๐๐ ล้านบาท
ทางเลือกท่ี ๒ ว่าจา้ งเอกชนที่มีความเช่ียวชาญในการเช่ือมซอ่ มให้ดำ� เนนิ การซ่อมใบจกั ร VSP
กรมอทู่ หารเรอื ไดเ้ คยวา่ จา้ งเอกชนท่มี ีความเช่ยี วชาญในการเชือ่ มซ่อมท้ังในและต่างประเทศ ให้ด�ำเนนิ
การซ่อมใบจักร VSP โดยเสยี คา่ ใช้จ่ายไปแล้วมากกวา่ ๑๐ ลา้ นบาท แต่ใบจกั รแบบ VSP ก็ยังคงหกั อยา่ งต่อเนื่อง
หลงั จากใช้งานไปเปน็ ระยะเวลาไม่นาน เพราะใบจักรแบบ VSP น้ี เป็นใบจักรทมี่ ีสว่ นผสมและวิธีการผลิตโดยเฉพาะ
ซ่งึ ยงั ไมม่ รี ายงานเกย่ี วกับการกดั กรอ่ นและการป้องกันการกดั กร่อนหลังการเชอ่ื ม ดังนนั้ เอกชนจึงเชอื่ มซอ่ มใบจักร
โดยใชอ้ งค์ความรู้เดิมท่ีมีอย่ซู ึ่งไม่ถูกต้อง ทำ� ใหก้ ารเชอ่ื มซ่อมไมป่ ระสบผลส�ำเรจ็
ทางเลอื กท่ี ๓ หาวิธีในการปอ้ งกนั การกัดกรอ่ นของใบจกั รทผี่ า่ นการเชอ่ื มซอ่ ม เพอ่ื ยดื อายุการใช้งานจะเห็นว่า
แนวทางในข้อ ๓ เป็นวธิ ีการทเ่ี สียค่าใช้จา่ ยนอ้ ยกว่ามาก และยังสามารถแก้ปญั หาไดอ้ ย่างยัง่ ยนื พอประมาณ เหมาะสม
กับสภาพเศรษฐกจิ ของประเทศ ซ่งึ โดยทวั่ ไปแลว้ ใบจกั รท่ผี ่านการเช่ือมซ่อมนน้ั มแี นวโน้มในการเกิดการกัดกร่อน
และเกดิ ความเสียหายได้ แต่หากสามารถปอ้ งกันการกดั กร่อนและความเสยี หายหลังการเช่อื มซ่อมได้แลว้ จะทำ� ให้

171

โครงการวจิ ัยการผลติ และซอ่ มแซมใบจกั รเรอื แบบ Voith Schneider เพ่ือทดแทนการน�ำเข้า

สามารถใชง้ านใบจกั รไดย้ าวนานขน้ึ ซ่งึ เป็นการประหยัดงบประมาณของหน่วยงานและประเทศชาติ และเนื่องจากใบ
จักรชนิดน้เี ป็นใบจักรทีม่ สี ว่ นผสมและวธิ กี ารผลติ โดยเฉพาะ ซ่งึ ยังไมม่ รี ายงานเก่ียวกับการกดั กรอ่ นและการป้องกัน
การกัดกร่อนหลังการเชื่อมดังทไ่ี ด้กล่าวมาแล้วในขอ้ ๒ ดังนัน้ ในการศกึ ษาวิจัยนจี้ งึ จ�ำเป็นตอ้ งมกี ารวิเคราะห์ โดย
อาศัยความรใู้ นด้านการวเิ คราะหว์ สั ดุ และโลหะวทิ ยาการกดั กรอ่ น สำ� หรบั หาสาเหตกุ ารกดั กร่อน เพ่ือจะไดห้ าทาง
ป้องกนั ได้อย่างถกู ตอ้ ง เหมาะสมกบั ใบจกั รชนดิ นี้ ซึง่ ผลการวเิ คราะหเ์ พอ่ื การปอ้ งกันการกัดกรอ่ นน้ี นอกจากจะใช้
งานกับใบจักรชนิดแมงกานสี อะลูมิเนียมบรอนซ์แล้ว ยังเป็นแนวทางสำ� หรับการประยกุ ตใ์ ช้กบั ใบจักรในกลมุ่ ทองแดง
ผสมทผี่ า่ นการเชือ่ มซอ่ มได้อกี ด้วย
๔. การวิเคราะห์เศรษฐศาสตร์
เน่ืองจากเรือหลวงลาดหญา้ และเรือหลวงทา่ ดินแดงเป็นเรอื ลา่ ทำ� ลายทุน่ ระเบดิ ทีม่ ีศกั ยภาพสงู ของกองทพั เรอื
การท่ใี บจักรแบบ VSP หกั ชำ� รดุ และทางกรมอู่ทหารเรอื หรือเอกชนในประเทศไม่สามารถผลติ ทดแทนหรือเชอ่ื มซอ่ ม
ใบจักรเองได้ ท�ำให้ศกั ยภาพและความพร้อมในการปอ้ งกนั ประเทศลดลง หรือหากใบจกั รแบบ VSP เกิดหกั ในภาวะ
สงครามจะยิ่งสง่ ผลเสยี กับประเทศชาติอย่างใหญ่หลวง ดงั นน้ั การวิจัยนจี้ งึ ท�ำการวจิ ัยเพอื่ แกป้ ัญหาให้กองทัพเรอื พ่งึ พา
ตนเองไดแ้ ละมคี วามพรอ้ มในการปอ้ งกันประเทศ เมื่องานวิจัยเสร็จสนิ้ ลงจะท�ำให้กองทพั เรือประหยดั งบประมาณใน
การที่จะตอ้ งส่งั ซอ้ื ใบจกั ร VSP จากผผู้ ลิตตา่ งประเทศ (ซง่ึ มีอยู่เพียงรายเดยี วในโลก คอื บรษิ ัท Voith ประเทศสหพนั ธ์
สาธารณรฐั เยอรมัน และค่าใชจ้ ่ายในการซ่อมใบจักรได้เปน็ จำ� นวนมาก นอกจากนใี้ นภาวะที่ไม่ปกติหากกองทพั เรือ
มคี วามจำ� เป็นตอ้ งใชเ้ รือล่าท�ำลายทนุ่ ระเบดิ และเรอื ไม่มคี วามพรอ้ มที่จะใช้ปฏิบตั ิงานได้ จะส่งผลเสยี ท่ไี ม่สามารถ
ประเมินเปน็ มลู ค่าได้
จากการวเิ คราะหข์ า้ งตน้ จะพบวา่ งานวจิ ยั นม้ี จี ดุ มงุ่ หมายหลกั เพอื่ แกป้ ญั หาความพรอ้ มของกองทพั เรอื เปน็ หลกั
แตเ่ นือ่ งจากโลหะแมงกานิสอะลมู ิเนยี มบรอนซเ์ ปน็ โลหะผสมทมี่ ขี อ้ มูลทางวิชาการทง้ั ในด้านการผลิต การกัดกรอ่ น
และการเชือ่ มซอ่ มนอ้ ยมาก และโลหะแมงกานสิ อะลูมิเนยี มบรอนซ์ยงั เป็นโลหะท่มี ีคุณสมบตั ิทางกลสูงและสามารถ
ต้านทานการกดั กร่อนของนำ�้ ทะเลไดด้ ี จึงนยิ มใช้ผลิตเปน็ ใบจักรเรือ ใบพัดนำ�้ วาล์ว ตวั เรือนเครอ่ื งสูบน�้ำ หรอื ส่วน
ประกอบของอุปกรณ์ท่ใี ชง้ านในน้�ำทะเลที่ตอ้ งการความแข็งแรงสูง ซง่ึ เป็นอปุ กรณท์ ี่มมี ูลค่าทางการตลาดสงู ดงั น้นั
เมือ่ งานวจิ ยั น้สี ิ้นสดุ ลง สามารถกลา่ วไดว้ ่าองคค์ วามรู้ท่ีเกดิ ขนึ้ จากงานวจิ ยั จะสามารถสรา้ งโอกาสทางออ้ มใหก้ ับผู้ที่
ผลิตชิน้ สว่ นสำ� หรับการสนับสนุนอตุ สาหกรรมพาณชิ ย์นาวดี ้วยอีกทางหนึง่
๕. สรุป
โครงการวิจยั นเี้ ป็นการแกไ้ ขปญั หาใบจักร VSP แบบบูรณาการ ท้งั การศึกษาสาเหตุของการกดั กรอ่ น และ
การศึกษาแนวทางในการผลติ ใบจักรเพือ่ ทดแทนการนำ� เขา้ ท�ำให้กองทพั เรือพ่ึงพาตนเองได้ ประหยัดงบประมาณ
แผ่นดนิ ในการจดั ซื้อใบจักรเรือ และเปน็ การขยายขีดความสามารถในการผลิตและการซอ่ มบ�ำรงุ เรือของกองทพั เรือ
พัฒนาขีดความสามารถของบุคลากร ตลอดจนความรดู้ า้ นวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยขี องประเทศไทยให้เพ่ิมข้ึน

172

การยดื อายกุ ารใช้งานเรอื รบ
ของกองทัพเรือสหรฐั

โดย : นาวาเอก พัลลภ เขม้นงาน
ผอู้ �ำนวยการกองแผนและประมาณการช่าง อทู่ หารเรือพระจุลจอมเกล้า กรมอทู่ หารเรอื

ในอดีตที่ผ่านมา กองทัพเรือได้ท�ำการยืดเวลาการใช้งานของเรือจ�ำนวนหลายล�ำออกไปจากท่ีก�ำหนด
เอาไว้เดิม และมักจะตัดสินใจด�ำเนินการในขณะท่ีเรือก�ำลังเข้าสู่บ้ันปลายของอายุเรือ ฐานของเรือ
(Platform) จึงอยู่ในสภาพท่ีทรุดโทรมสะสมเกนิ กว่าสภาพการชำ� รดุ ปกติ การซ่อมท�ำส่วนใหญ่จะเปน็ ไป
ในลักษณะเอาจริงเอาจังในครั้งเดียวให้แล้วเสร็จพร้อมกันทุกระบบ งบประมาณท่ีใช้ก็มิได้มีการจัดสรร
ใหเ้ ปน็ กรณพี เิ ศษ เปน็ เหตใุ หไ้ มส่ ามารถเปลย่ี นทดแทนอปุ กรณท์ หี่ มดอายกุ ารใชง้ านไดต้ ามความเปน็ จรงิ
ในส่วนของกองทัพเรือสหรัฐเองนั้น ในปัจจุบันก็ก�ำลังเผชิญกับปัญหาถูกตัดงบประมาณจ�ำนวนมาก
จนท�ำให้แผนการสรา้ งเรอื ตอ้ งถกู ยกเลกิ ไปหลายโครงการ และท�ำให้มคี วามจำ� เป็นตอ้ งขยายเวลาการใช้
งานของเรอื ออกไปดว้ ยเชน่ เดยี วกนั โดยประเดน็ ทมี่ กี ารโตเ้ ถยี งกนั มากในเวลานเี้ กย่ี วขอ้ งกบั อายกุ ารใชง้ าน
ของเรอื รบและโครงสรา้ งกำ� ลงั ทางเรอื จากเรอ่ื งราวนเ้ี องทำ� ใหเ้ กดิ ประเดน็ ทนี่ า่ สนใจอยหู่ ลายประการ การศกึ ษา
เรื่องดังกล่าว จึงน่าจะเป็นประโยชน์ในการน�ำมาวิเคราะห์เชิงเปรียบเทียบกับปัญหาการซ่อมท�ำเรือ
ของกองทพั เรอื ทกี่ �ำลังประสบอยูใ่ นปัจจบุ ันได้บ้าง และอาจเป็นแนวทางในการชว่ ยหาค�ำตอบของคำ� ถาม
ที่วา่ ท�ำไมกรมอูท่ หารเรือถึงซอ่ มทำ� เรอื ไดช้ ้า

การยดื อายุการใชง้ านเรือรบของกองทพั เรอื สหรัฐ

อายกุ ารใชง้ านของเรือรบ (Ship Service Life)
อายุการใช้งานมีผลกระทบโดยตรงกับแผนการจัดหาเรือ เพ่ือให้สามารถด�ำรงโครงสร้างก�ำลังทางเรือท่ีกองทัพมี
ความตอ้ งการ มีการยกตวั อยา่ งง่าย ๆ เอาไว้วา่ ส�ำหรบั กองเรอื ท่มี ีจำ� นวนเรอื ๑๐๐ ล�ำ แตล่ ะล�ำมีอายกุ ารใชง้ าน
๒๕ ปี ถา้ มกี ารจดั หาเรอื มาเพิม่ ปีละ ๔ ล�ำก็จะทำ� ให้สามารถรกั ษาจ�ำนวนเรือ ๑๐๐ ล�ำในกองเรือเอาไว้ได้ ในขณะท่ี
ถา้ เรอื แตล่ ะลำ� มีอายุเปล่ียนไปเป็น ๓๓ ปแี ลว้ กม็ ีความจำ� เป็นท่จี ะตอ้ งจดั หาเรอื ใหม่แค่ปีละ ๓ ล�ำเท่าน้ัน แตใ่ น
ความเป็นจริงแล้วงบประมาณในการสร้างเรืออาจมิได้ลดลงตามไปด้วย ท้ังน้ีเน่ืองจากเรือท่ีสร้างข้ึนใหม่ในแต่ละปี
ย่อมมีราคาสูงขึ้นเรอ่ื ย จนท�ำใหไ้ ปหกั ล้างผลของการประหยัดงบประมาณท่เี กิดจากการสั่งสร้างเรือจำ� นวนน้อยลงได้
ยงิ่ ไปกว่านนั้ แตล่ ะปที ีผ่ ่านไปอายเุ ฉล่ยี ของเรือในกองเรอื ยอ่ มเพ่มิ มากขึน้ เปน็ เหตใุ ห้คา่ ซอ่ มบ�ำรุง (Maintenance)
และคา่ ปรับปรงุ เรือให้มคี วามทนั สมัย (Modernization) ย่อมสงู ตามไปดว้ ย ปจั จยั ทก่ี ลา่ วมามอี ิทธิพลอยา่ งย่ิงกับการ
ตดั สนิ ใจของผมู้ ีอ�ำนาจในกองทัพว่า จะเลอื กใชว้ ธิ กี ารขยายเวลาอายุการใชง้ านเรือออกไปหรอื จะเลอื กการใช้วิธีจัดหา
เรอื ใหม่มาทดแทนกองทัพเรือสหรัฐก�ำลังเผชิญกับเสยี งวิพากษว์ จิ ารณ์อย่างหนกั วา่ การกำ� หนดโครงสร้างกำ� ลังทางเรอื
ไว้ท่ีจ�ำนวนเรือ ๓๑๓ ล�ำในอีก ๓๐ ปีข้างหน้า (ปี ค.ศ.๒๐๒๐) น้ันมีความเป็นไปได้จริงหรือไม่ ดังจะเห็นได้จาก
การทมี่ ีผใู้ ห้ข้อสังเกตวา่ โครงสรา้ งกำ� ลงั ทางเรือทีต่ ้งั ไวน้ ก้ี ำ� หนดขึน้ มาจากความคดิ ท่วี า่ อายกุ ารใช้งานของเรือรบ
เฉลี่ยที่กองทัพคาดการณ์เอาไว้อยู่ท่ี ๓๕ ปี ตามท่ีเห็นในตารางท่ี ๑ ซ่ึงได้รับการยืนยันแล้วว่ายาวนานเกินจริง
เว้นแตจ่ ะมีการทุ่มงบประมาณก้อนมโหฬาร เพื่อพยายามรกั ษาเรอื เกา่ ใหส้ ามารถปฏบิ ัติการอยไู่ ด้ยนื ยาวกว่าอายุของ
เรอื ในประวัตศิ าสตร์ของสหรฐั ท่ผี ่านมา ด้วยเหตุทก่ี องทพั เรือสหรัฐนั้นไม่เคยสามารถรกั ษาเรือรบผิวน้�ำขนาดใหญใ่ ห้
สามารถอยู่ประจำ� การไดเ้ ปน็ เวลานานถงึ ๓๕ ปมี ากอ่ นเลยนบั ตัง้ แตส่ งครามโลกครง้ั ท่ี ๒ อายุการใช้งานเฉล่ียของเรือ
ลาดตระเวน (Cruiser) อยู่ที่ ๒๖.๓ ปี ของเรือพิฆาต (Destroyer) อยู่ท่ี ๒๕.๔ ปี และของเรือฟรเี กต (Frigate) อยู่ท่ี
๑๙.๘ ปเี ท่าน้นั [๑] ตามขอ้ มูลที่แสดงอายุการใชง้ านจริงของเรือชนั้ ตา่ ง ๆ ในตารางที่ ๒

ตารางท่ี ๑ ขอ้ มูลอายุการใช้งานท่กี องทัพเรอื สหรัฐคาดการณ์เอาไว้สำ�หรบั เรือประเภทต่าง ๆ

176


Click to View FlipBook Version