คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 31 ถนนหน้าพระลาน แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 www.decorate.su.ac.th ออกแบบปกและจัดวางรูปเล่ม: รองศาสตราจารย์อาวิน อินทรังษี | พิสูจน์อักษร: มุกดา จิตพรมมา | พิมพ์ที�: บริษัท โอ เอส พริ�นติ�ง เฮ้าส์ จำกัด | กันยายน 2565 สงวนลิขสิทธิ� © พ.ศ. 2565 โดย คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ห้ามคัดลอก ลอกเลียน ดัดแปลง ทำซ�ำ จัดพิมพ์ หรือกระทำอื�นใดโดยวิธีการใดๆ ในรูปแบบใดๆ ไม่ว่าส่วนหน่�งส่วนใดของหนังสือเล่มนี�เพื�อเผยแพร่ในสื�อทุกประเภท หรือเพื�อวัตถุประสงค์ใดๆ นอกจากจะได้รับอนุญาต Copyright © 2022 by Faculty of Decorative Arts, Silpakorn University, Thailand All rights reserved. No part of this publication may be reproduced, distributed, or transmitted in any form or by any means, including photocopying, recording, or other electronic or mechanical methods, without the prior written permission of the publisher.
2 |
| 3 สารจากคณบดี ในนามคณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ขอขอบพระคุณ สภาคณบดีศิลปะและการออกแบบแห่งประเทศไทย สมาคมมัณฑนากรแห่งประเทศไทย คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ศิลปะและการออกแบบ มหาวิทยาลัยนเรศวร วิทยาลัยการออกแบบ มหาวิทยาลัยรังสิต คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา และคณะวิทยาการสื�อสาร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ที�ให้ความร่วมมือสนับสนุนและส่งเสริมให้เกิดเวทีเผยแพร่ผลงานสร้างสรรค์ทาง ศิลปะและการออกแบบระดับชาติ ภายใต้ชื�อ SILPA ข่�นเป็นครั�งแรกในปีนี� โดยมีคณาจารย์จากสถาบันอุดมศ่กษาทั�วประเทศให้ความสนใจจัดส่งผลงานเข้าร่วมการคัดเลือกเป็นจำนวนมาก ซ่�งการดำเนินงานในครั�งนี�มีผู้ทรงคุณวุฒิทางด้าน วิชาการและวิชาชีพที�มีประสบการณ์ขั�นสูงจากหลากหลายสถาบัน ให้ความกรุณาสละเวลามาเป็นผู้พิจารณาประเมินผลงาน (Peer Review) เพื�อคัดเลือกเข้าร่วมการจัดแสดงนิทรรศการอย่างถูกต้องเหมาะสม คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร หวังเป็นอย่างยิ�งว่า การจัดงานในครั�งนี�จะช่วยก่อประโยชน์ให้คณาจารย์สายศิลปะและการออกแบบ ได้มีเวทีเผยแพร่ผลงานสร้างสรรค์ในระดับชาติ ที�เอื�อต่อการนำไปใช้ประโยชน์ทางวิชาการได้ตามความประสงค์ต่อไป อาจารย์ ดร.ธนาทร เจียรกุลคณบดีคณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
4 | 66 ปี มัณฑนศิลป์ 10 คู่รัก 11 HAPPINESS 12 Hybrid seed @ 88 13 ศิราภรณ์กระดูกไก่14 Calligraphy: Freehand Brush Writing 15การออกแบบตกแต่งภายในบูธจัดนิทรรศการสำหรับร้านค้า 16ของเล่นรถไม้การสร้างสรรค์ชัยนาท Coffee & Craft Market ครั�งที� 14 17 YUGEN 18 โครงการเสนอแนะออกแบบปรับปรุงพื�นที�ภายใน โชว์รูมเฟอร์นิเจอร์19 SEASONS OF LIVING สาขาเอกมัย (ชั�น 2) สัญญะในที�ว่าง 20 Narisa Cafe 21 ผลงานสร้างสรรค์ สื�อการเรียนรู้หุ่นจำลองกระดาษ 22เพื�อการเรียนรู้ทางวัฒนธรรม จังหวัดราชบุรีSTAY GREEN: NO MATTER WHAT I DO 23 The Oceanic Sportel โรงแรมบูรณาการศาสตร์24การท่องเที�ยวและการกีฬา โรงต้มตาล 25การศ่กษาที�ตั�ง-โครงสร้างทางกายภาพ-การใช้พื�นทีสา�ธารณะ 26 ของตลาดน�ำที�สำคัญในลุ่มน�ำแม่กลองตอนล่าง งานออกแบบลายหน้าบันซุ้มประตู พระ เจดีย์ “วัดทองบน” 27 บ้านพักอาศัยแห่งสันทนาการ 28 Listening with your heart 29 ปรีชา เถาทอง : กาตาล็อก เรซอนเน่ 30 THAIFORM & THAITONE 31 สมุดภาพรอยประพาสปิยมหาราชเสด็จยุโรป ร.ศ. ๑๒๖ 32 Tiger Hunting 2022 33 บทบาทของภัณฑารักษ์ (curator) และออกแบบนิทรรศการ 34 ในโครงการออกแบบเรือสิริมหรรณพ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟรอนท์ รับรู้พิพิธ : ราชบุรี 35 ฟอนต์ ZT Paperclip 36 CAADRIA logo and visual identity redesign 37 “Kai Narumit” (Chicken Creations) 38 สูจิบัตร #SURFACE 39 สงขลา สองขา 40 อัตลักษณ์แบรนด์และสินค้า กำปั�นมวยไทย 41 ภาพยนตร์สั�นเรื�อง ขมา 42 ซีเอชเค กาลหว่าห์43 ภายใน. ความทรงจำ – ออนไลน์44 ลานวัด เกมคอมพิวเตอร์เทคโนโลยีเสมือนจริง 45 Font ลายมือ OA-Satapud 46 แผนที�ภูมิทัศน์วัฒนธรรมจากอัตลักษณ์ชุมชน บ้านเมาะหลวง จังหวัดลำปาง 47 การออกแบบแอปพลิเคชัน PiGCA เกมภาพน่กคิด 48 สำหรับการประเมินความคิดสร้างสรรค์ ฉากเกมเสมือนจริง กรณีศ่กษาอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร 49 แบบตัวอักษรขอมไทยพีเอ็มแอล เทวา (PML Deva) 50 ตัวพิมพ์ ซีที คิษ (ZT KIS) 51 BYAKKO: THE WHITE TIGER YOKAI 52 Blue Bangkok 53 พระพิฆเนศ 54 Character Design Ma-Doo (น้องมาดู) จากขนมพื�นถิ�น 55 สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ มาดู ฆาตง ชุดตัวอักษรหอประวัติมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ 56 Myna : นกเอี�ยง 57 ย่านใต้ 58 โครงการออกแบบบทบรรณาธิการ หนังสือ “3706” 59 (ฉบับที� 1 ปี ค.ศ. 2020 และ 2 ปี ค.ศ. 2021) Decade 60 Mobile first website interface for older adults 61 เก้าอี�หลายเฟรม 62 หยิบ จับ ถือ 63 Day Night City 64 หิมพานต์ประดิษฐ์ 65 ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี 66 Moon at night 67 พรมวิเศษ 68 แมงกำบี� (ผีเสื�อ) 69 Ordinary Blue 70 ช้าง ม้า วัว ควาย : จากลายขิดสู่งานออกแบบผลิตภัณฑ์เซรามิก 71 จากฮอยฮูปแต้ม 72 โครงการออกแบบบรรจุภัณฑ์สำหรับแบรนด์ ตานี สยาม (Tanee Siam) 73 ดอกดิน 74 หอม (ดอก) แก้ว 75 ความทรงจำเป็นเรื�องของบริบท 76 ศิลป์หกเสา : หฤทัย 77 โลง-ตาย-กาย 78พิมพ์ไทย 79 เป็นอย่างที�เห็น ไม่ใช่อย่างที�เห็น 80 Bangle Bangkok No.4 81 กรอบ ขอบเขตของความไม่มี 82 คุณค่าของเศษขี�เลื�อย 83 ว่า-เอาะ ว่า-ออ 84 จุมปีจุมปา 85 Upcycled Clay Jewelry Set : Isaan Cart Revisited 86 BLOOM OF GLADNESS 87 สุนทรียศาสตร์แห่งศิลปะไทยสู่โครงสร้างการตัดเย็บเสื�อผ้าแฟชั�นร่วมสมัย 88 มิเคยเลือนลา หมายเลข 2 89 ศาลาวัดอรุณ 90 Dead Corals 91 Pa Kao Ma: Ban Hadseaw 92
| 5 ในน�ำมีปลา ในผ้าขาวม้ามีเส้นใยรีไซเคิล 93ผ้าลายอย่าง 94 Me 95พระคเณศแห่งแดนมังกร 96 ประตูช้าง 97 In the enclave 98 Isola/ Isolation 99 Prince Siddhartha 100ภาพเงาที�คุ้นเคย 3 101 ศรัทธาสุวรรณภูมิ ๙๙๙๙๙๙๙๙๙/2565 102 Co with Covid 103ของที�ระล่กเพื�อชุมชนคนตลาด จ.ราชบุรี “ราชาก้อน” 104 The Head, Anatomy and Skull 105หอสังเกตการณ์เศษเสี�ยวแห่งวัฒนธรรม 106 สองแม่น�ำหน่�งทางสีขาว 107พุทธเจดีย์วันนี� : สัญลักษณ์แห่งความศรัทธา-จิตรู้แจ้ง- 108ความว่าง และ ตถาตาความไร้เหตุผล 109ก้อนแก้ว-วัสดุศาสตร์เชิงศิลปะ 110ล่องเวลา 111 สตรีในทรรศนะอย่างสามัญ 112 นาฏยคเณศ 113 ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี 114 With(out) the Frames: The Absent Imagine 115 Practice in Installation ผลงานฝังในร่องรอย 116ความงามจากวิถีกสิกรรม 117เหรียญ BahtCoins 118 Different Pencils 119 Gravity of Love 120 Bio-Process: “organize, growth, adapt, reproduce” 121ภูมิ: บทกวีมีชีวิต 1/2565 122 Mixed Blessing 123 Overlaying Matter งานมัณฑนศิลป์ ในพิธีกรรมตั�งธรรมหลวง 124 เทศน์มหาชาติล้านนา สัปปายะ : พื�นที�ที�ยังคงเหลืออยู่ ชิ�นที� 7 และ 8 125 ความโกรธเกรี�ยวของท้าวเวสสุวรรณ 126 ความประทับใจต่อทัศนียภาพ ทุ่งนาบ้านวังเบน 127 สภาวะอารมณ์ความทุกข์ของจิตใต้สำน่กของข้าพเจ้า 128 Martin Life 129 รูปทรง-โครงสร้าง-เบ่งบาน 130 การสร้างสรรค์จิตรกรรมเทคนิคผสม : 131 แรงบันดาลใจจากรูปทรงของมนุษย์และสัตว์ Memories on Traces Civilization, Memories of the stones, 132 Stories of the stones พิมพ์จากธรรมชาติ 133 Wrap for life No.2 134 The Walking Dead 135 Heart Beat 136วัตถุที�ถูกทิ�งไว้บนโครงสร้าง 137กับดักชีวิต 138 สีสันริมคลองบางมด 139 ของไทย ใหม่เก่า 140คิดถ่งพ่อหลวง 141 Form and Space 142ความงามในธรรมชาติกับพื�นที�ว่างทางอารมณ์ 143 Am Alteration of Concerto for Nine Instruments, Opus 24 144 Tribe POP Art 145 MIRROR : FRESH STUCCO 146 รำล่กอาจารย์ถวัลย์ บ้านดำ 147กิเลสระเริง 148 KnownBody No 149 สะพานไม้ในความทรงจำ 150ตร่ง 151 Space of 25 Light Years 152 Art and Design Research Book 154 #F4F5F8 154พระธาตุบุรีรัมย์155 โครงการออกแบบตกแต่งภายในบ้านพักอาศัย 2 ชั�น 155บ้านคุณวรดิษฐ์ อัครมิ�งมงคล ต.คลองควาย อ.สามโคก จ.ปทุมธานีรุ่งอรุณ 156 FIG 156 Siam Heritage 157จิตวิญญาณไทย “ส่องโฉม” 157ตัวอักษรประดิษฐ์ เพื�อภาควิชาประวัติศาสตร์158คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากรHIGH DYNAMIC RANGE IMAGE 158การออกแบบอนิเมชันเพื�อการบําบัดเด็กที�มีความต้องการพิเศษ 159 2X3 2X3 159 การพัฒนาเฟอร์นิเจอร์ไม้ไผ่อเนกประสงค์จากภูมิปัญญาการจักสาน 160 PAD-LONG-MOUSE 160 Blooms 161 พื�นที� : เวลา : ความสุข 161 Cerebro : สมองไม่ใช่จิต 162 สมุนไพร: ยารักษา หรือ ยาฆ่า 162 Wood firing cup 163 ดอกไม้สีดำ 163 ถ้วยชา 164 พระพิฆเนศดินหน้าพระลานผสมกับดินพระราชวังสนามจันทร์164 กลม ๆ จากตูด 165 Diary season: Portrait & Line 165
6 | โครงการนิทรรศการผลงานสร้างสรรค์ประจําปี 2565 SILPA 2022: Creative Work Exhibition หลักการและเหตุผล คณะมัณฑนศิลป์ จัดการเรียนการสอนด้านศิลปะการออกแบบ ระดับปริญญาตรี 7 สาขาวิชา ได้แก่ สาขาวิชาการออกแบบตกแต่งภายใน สาขาวิชาการออกแบบ นิเทศศิลป์ สาขาวิชาการออกแบบผลิตภัณฑ์ สาขาวิชาประยุกตศิลปศ่กษา สาขา วิชาเครื�องเคลือบดินเผา สาขาวิชาการออกแบบเครื�องประดับ และสาขาวิชาการ ออกแบบเครื�องแต่งกาย ระดับปริญญาโท 5 สาขาวิชา ได้แก่ สาขาวิชาศิลปะ การออกแบบ สาขาวิชาการออกแบบผลิตภัณฑ์ สาขาวิชาการออกแบบเครื�อง ประดับ สาขาวิชาการออกแบบ และสาขาวิชาศิลปะการออกแบบ (หลักสูตร นานาชาติ) ระดับปริญญาเอก 3 สาขาวิชาได้แก่ สาขาวิชาศิลปะการออกแบบ (หลักสูตรนานาชาติ) สาขาวิชาการออกแบบ และสาขาวิชาศิลปะการออกแบบเชิงวัฒนธรรม มีคณาจารย์ผู้สอนรวมจำนวนกว่า 90 คน เพื�อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนางานวิชาการและวิชาชีพของคณาจารย์คณะมัณฑนศิลป์ คณะฯ จ่งมีนโยบายจัดนิทรรศการเผยแพร่ผลงานคณาจารย์ประจำคณะมัณฑนศิลป์ เป็นประจำทุกปี ในวันศิลป์ พีระศรี 15 กันยายน เพื�อเป็นการแลกเปลี�ยนเรียนรู้ ระหว่างคณาจารย์ในสาขาวิชาต่างๆ และเป็นการเผยแพร่ความรู้ด้านศิลปะและ การออกแบบให้ขยายออกสู่สาธารณชนในวงกว้าง เนื�องในโอกาสครบรอบการสถาปนาคณะมัณฑนศิลป์ เป็นปีที� 66 ในปี พ.ศ. 2565 นี� คณะมัณฑนศิลป์ ได้มีดำริในการยกระดับนิทรรศการแสดงผลงานสร้างสรรค์ ของคณาจารย์คณะมัณฑนศิลป์ เป็นการจัดนิทรรศการแสดงผลงานสร้างสรรค์ ในระดับชาติ และเปิดโอกาสให้บุคลากรจากต่างสถาบันได้จัดแสดงผลงานร่วม กับคณาจารย์ของคณะมัณฑนศิลป์ เพื�อเป็นการแลกเปลี�ยนเรียนรู้ด้านการ สร้างสรรค์ผลงานศิลปะและการออกแบบ อีกทั�งยังเป็นการสร้างช่องทางการ เผยแพร่ผลงานทางวิชาการที�มีมาตรฐานในระดับชาติ ที�มีกระบวนการพิจารณา ด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ (Peer Review) ให้แก่คณาจารย์ทุกสถาบัน สามารถนำไปใช้ ประโยชน์ในการขอกำหนดตำแหน่งทางวิชาการที�สูงข่�นต่อไป วัตถุประสงค์ 1. เพื�อส่งเสริมให้คณาจารย์มีผลงานสร้างสรรค์ในสาขาวิชาต่างๆ ที�คณะฯ จัด การเรียนการสอนและเผยแพร่ให้เป็นที�ประจักษ์ในระดับชาติ 2. เพื�อสร้างโอกาสในการแลกเปลี�ยนเรียนรู้ด้านศิลปะและการออกแบบ ระหว่างคณะฯ กับสถาบันการศ่กษาต่างๆ และสมาคมวิชาชีพที�มีความร่วมมือ 3. เพื�อสร้างช่องทางการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการที�มีมาตรฐานในระดับชาติ ที�มีกระบวนการพิจารณาด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ (Peer Review) ที�สามารถนำไปใช้ ประโยชน์ในการขอกำหนดตำแหน่งทางวิชาการที�สูงข่�นต่อไป ความสอดคล้องตามยุทธศาสตร์ 1. ตอบสนองต่อยุทธศาสตร์ : ยุทธศาสตร์ที� 4 สร้างภาพลักษณ์องค์กรให้เป็นที� ยอมรับในระดับชาติและนานาชาติ ยกระดับความเป็นเลิศในเวทีโลก 2. ความสอดคล้องตามแผนกลยุทธ์มหาวิทยาลัยศิลปากร ระยะ 15 ปี พ.ศ. 2565- 2579 เป้าหมายที� 4 ด้านภาพลักษณ์ศิลปากร กลยุทธ์ที� 5 สร้างภาพลักษณ์องค์กร ให้เป็นที�ยอมรับในระดับชาติและนานาชาติยกระดับคุณภาพชีวิตและจิตใจด้วย การบูรณาการศิลปะกับศาสตร์อื�นเพื�อความผาสุกของสังคม 3. ลักษณะงาน/โครงการ [ / ] โครงการตามยุทธศาสตร์ [ / ] โครงการพิเศษตามนโยบายผู้บริหารระดับสูง ระยะเวลาดำเนินการ ระหว่างเดือนพฤษภาคม - เดือนกันยายน 2565 จัดแสดงผลงาน ระหว่างวันที� 15 - 30 กันยายน 2565 สถานท่�ดำเนินงาน หอศิลปะและการออกแบบ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ วิธ่การดำเนินงาน 1. แต่งตั�งคณะกรรมการดำเนินงานผู้รับผิดชอบโครงการ 2. เสนอขออนุมัติโครงการ 3. คณะกรรมการดำเนินงานประชุมหารือ เสนอรูปแบบการจัดงาน 4. ติดต่อประสานงานกับสถาบัน องค์กร และผู้เกี�ยวข้อง 5. จัดกิจกรรมตามแผนการดำเนินงาน และสรุปผลการดำเนินงานและค่าใช้จ่าย โครงการ ผ้้เข้าร่วมโครงการ ผู้บริหาร คณาจารย์ผู้สร้างสรรค์ผลงาน และผู้เกี�ยวข้อง รวมจำนวน 100 คน แผนการดำเนินงาน มิถุนายน 2565 : เสนอโครงการต่อที�ประชุมกรรมการประจำคณะเพื�อให้ความ เห็นชอบ เวียนคณาจารย์แจ้งความประสงค์เข้าร่วมโครงการ กรกฎาคม 2565 : คณาจารย์สร้างสรรค์ผลงาน คณาจารย์ส่งบทความฯ พร้อม ภาพร่างผลงานหรือภาพผลงานที�เสร็จสมบูรณ์ คณะฯ ประชุมผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณา บทความฯ สิงหาคม 2565 : คณะฯ ส่งบทความฯ คืนให้คณาจารย์ปรับปรุงแก้ไข คณาจารย์ ส่งไฟล์ภาพผลงานและไฟล์บทความฯ ที�แก้ไขแล้ว จัดทำ Artwork สูจิบัตร ส่ง Artwork เข้าโรงพิมพ์ กันยายน 2565 : ดำเนินการจัดพิมพ์สูจิบัตร จัดแสดงนิทรรศการเผยแพร่ผลงาน สรุปผลการดำเนินงานและค่าใช้จ่ายโครงการ ตัวช่�วัดผลสำเร็จจากการดำเนินงาน ผลลัพธ์ ตัวชี�วัดเชิงปริมาณ : จำนวนกิจกรรมที�มีการเผยแพร่ภาพลักษณ์องค์กร 1 กิจกรรม ตัวชี�วัดเชิงคุณภาพ : ความพ่งพอใจของผู้เข้าร่วมโครงการต่อประโยชน์ของการ สร้างและเผยแพร่ภาพลักษณ์องค์กรให้เป็นที�ยอมรับในระดับชาติและนานาชาติ ร้อยละ 95 ผลผลิต ตัวชี�วัดเชิงปริมาณ : จำนวนผู้เข้าร่วมโครงการ 100 คน ตัวชี�วัดเชิงคุณภาพ : โครงการที�บรรลุผลตามวัตถุประสงค์ของโครงการ ร้อยละ 100 ตัวชี�วัดเชิงเวลา : โครงการที�แล้วเสร็จตามระยะเวลา ร้อยละ 100 ตัวชี�วัดเชิงต้นทุน : ค่าใช้จ่ายของการจัดนิทรรศการตามงบประมาณที�ได้รับจัดสรร 500,000 บาท
| 7 งบประมาณ จากงบประมาณเงินรายได้ ภายใต้ภารกิจเชิงนโยบาย คณะมัณฑนศิลป์ ประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2565 จำนวน 500,000 บาท (ห้าแสนบาทถ้วน) ผ้้รับผิดชอบโครงการ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เครือข่ายมหาวิทยาลัยด้านศิลปะและการ ออกแบบ และสมาคมวิชาชีพที�เกี�ยวข้อง ผลท่�คาดว่าจะได้รับ 1. คณาจารย์ได้รับความรู้ประสบการณ์ และแนวทางสร้างสรรค์ผลงานในศาสตร์แขนงต่างๆ ที�เกี�ยวข้องทางด้านศิลปะและการออกแบบในระดับชาติ 2. เกิดการแลกเปลี�ยนเรียนรู้ในด้านการออกแบบ การสร้างสรรค์แนวคิดใหม่ใน การปฏิบัติงานด้านศิลปะการออกแบบ เพื�อนำองค์ความรู้ใหม่และประสบการณ์ ที�ได้มาบูรณาการการเรียนการสอน 3. ได้เสริมสร้างความสัมพันธ์และเครือข่ายความร่วมมือระหว่างสถาบันการศ่กษา ที�มีการเรียนการสอนด้านศิลปะและการออกแบบในระดับชาติให้ก้าวหน้ายิ�งข่�น ร้ปแบบผลงาน ผลงานศิลปะและผลงานการออกแบบในสาขาต่างๆ พร้อมบทความสั�นประกอบ ผลงานสร้างสรรค์ ความยาว 1 หน้ากระดาษ โดยมีรายละเอียดดังนี� 1. ข้อมูลทั�วไป: ชื�อ-นามสกุล สังกัด อีเมล ชื�อผลงาน ขนาด และเทคนิค 2. เนื�อหา: ที�มา ความสำคัญ วัตถุประสงค์ แนวความคิด กระบวนการสร้างสรรค์ สรุปอภิปรายผลของการสร้างสรรค์ ประโยชน์หรือองค์ความรู้ที�เกิดข่�น ปัญหา และแนวทางแก้ไข หรือข้อเสนอแนะ และข้อมูลอ้างอิง (ถ้ามี) เกณฑ์การพิจารณาผลงานและบทความสั�นประกอบผลงานสร้างสรรค์ การพิจารณาผลงานสร้างสรรค์ : 1. ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) 2. ความงามทางศิลปะ (Artistic) 3. นวัตกรรม (Innovation) 4. การส่งเสริมการเรียนรู้ทางวิชาการ (Academic Learning Progress) 5. ผลกระทบในเชิงบวกต่อสังคม เศรษฐกิจ เทคโนโลยี สิ�งแวดล้อม และวัฒนธรรม(Social, Economic, Technology, Environmental and Cultural Impact) การพิจารณาบทความสั�นประกอบผลงานสร้างสรรค์ : 1. ความถูกต้องของการใช้ภาษา 2. ความชัดเจนของที�มา ความสำคัญ และวัตถุประสงค์ของการสร้างสรรค์ 3. แสดงกระบวนการสร้างสรรค์ได้อย่างมีขั�นตอน เข้าใจง่าย 4. การอภิปรายผลของการสร้างสรรค์ ประโยชน์หรือองค์ความรู้ที�เกิดข่�น ปัญหา และแนวทางแก้ไข หรือข้อเสนอแนะ 5. ความถูกต้องของการอ้างอิง ผ้้ทรงคุณวุฒิ พิจารณาแต่งตั�งผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายสถาบัน โดยมีตำแหน่งทางวิชาการ ศาสตราจารย์ หรือ รองศาสตราจารย์ หรือจบการศ่กษาในระดับดุษฎีบัณฑิต หรือ เป็นผู้เชี�ยวชาญในวงการวิชาชีพ การเผยแพร่ผลงาน ผลงานที�ได้รับการพิจารณาจากผู้ทรงคุณวุฒิ และได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมแสดง นิทรรศการ จะได้รับการเผยแพร่ในช่องทางต่างๆ ดังนี� 1. นิทรรศการ ณ หอศิลปะและการออกแบบคณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัย ศิลปากร วังท่าพระ 2. สูจิบัตรนิทรรศการ 3. เผยแพร่ทางสื�อออนไลน์ที� Facebook Page: SILPA
8 | คำสั�งมหาวิทยาลัยศิลปากร ท่� 1212/2565 เร่�อง แต่งตั�งคณะกรรมการดำเนินงานโครงการนิทรรศการผลงานสร้างสรรค์ ประจำปี 2565 (SILPA 2022: Creative Work Exhibition) เพื�อให้การดำเนินงานโครงการนิทรรศการผลงานสร้างสรรค์ประจำปี 2565 (SILPA 2022: Creative Work Exhibition) ซ่�งคณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัย ศิลปากร ร่วมกับเครือข่ายมหาวิทยาลัยด้านศิลปะการออกแบบ และสมาคม วิชาชีพที�เกี�ยวข้อง โดยได้รับมอบหมายจากมหาวิทยาลัยศิลปากรให้ดำเนิน โครงการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จ่งให้แต่งตั�งคณะกรรมการดำเนินงาน โครงการนิทรรศการผลงานสร้างสรรค์ประจำปี 2565 (SILPA 2022: Creative Work Exhibition) ประกอบด้วยบุคคลผู้ดำรงตำแหน่ง และรายชื�อดังต่อไปนี� คณะกรรมการอำนวยการ ประธานกรรมการ อาจารย์ ดร.ธนาทร เจียรกุล คณบดีคณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร รองประธานกรรมการ รองศาสตราจารย์อาวิน อินทรังษี รองคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากรกรรมการ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย อารีรุ่งเรือง รองคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พงศ์ศิริ คิดดี คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม วงศ์พงษ์คำ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น รองศาสตราจารย์ ดร.เกรียงศักดิ� เขียวมั�ง คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา อาจารย์ ดร.กำธร เกิดทิพย์คณะวิทยาการสื�อสาร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานีรองศาสตราจารย์ ดร.ดนัย เรียบสกุล คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ศิลปะและการออกแบบ มหาวิทยาลัยนเรศวรรองศาสตราจารย์พิศประไพ สาระศาลินคณบดีวิทยาลัยการออกแบบ มหาวิทยาลัยรังสิต ศาสตราจารย์ ดร.บุษกร บิณฑสันต์ประธานสภาคณบดีศิลปะและการออกแบบแห่งประเทศไทย นางวิภาวดี พัฒนพงศ์พิบูล นายกสมาคมมัณฑนากรแห่งประเทศไทย (TIDA)กรรมการและเลขานุการ นางสาวมุกดา จิตพรมมา กรรมการและผ้้ช่วยเลขานุการ นางสาวนฤมล โหราเรือง คณะอนุกรรมการฝ่ายรวบรวมผลงาน และจัดแสดงนิทรรศการ ประธานอนุกรรมการ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ณัฐรฐนนท์ ทองสุทธิพีรภาสอนุกรรมการ อาจารย์ ดร.จิรายุ พงส์วรุฒน์ อาจารย์ศรีนาฏ ไพโรหกุล รองศาสตราจารย์ประภากร สุคนธมณี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ชานนท์ ไกรรส อาจารย์พลัฏฐ์ จิรพุทธินันท์ รองศาสตราจารย์ปนท ปลื�มชูศักดิ� ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อติเทพ แจ้ดนาลาว อนุกรรมการและเลขานุการ นางภาวนา บุญปก อนุกรรมการและผ้้ช่วยเลขานุการ นายเศกสันต์ แสงทอง นางสาวสุธาสินี วาจนะวินิจ คณะอนุกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ ปฏิคม การเงิน และประเมินผล ประธานอนุกรรมการ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธาตรี เมืองแก้ว อนุกรรมการ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วีรวัฒน์ สิริเวสมาศ อาจารย์ ดร.อิสรชัย บูรณะอรรจน์ นายวุฒิ คงรักษา นางมัญธรัตน์ จิตมาลีรัตน์นางสาวสุรีพร แป้นพิบูลลาภนายศุภฤกษ์ ทับเสน นางสาวนันทนา แซ่ลีนางอิญทิรา ไล้เลิศ อนุกรรมการและเลขานุการ นางสาวเบญจรัตน์ บุญศรีงามอนุกรรมการและผ้้ช่วยเลขานุการ นางสาวปวีณา พัฒนศิรินางสาวรัตนาภรณ์ แก้วไซค้วน สั�ง ณ วันที� 23 มิถุนายน พ.ศ. 2565 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วันชัย สุทธะนันท์ผู้รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร
| 9 คำสั�งมหาวิทยาลัยศิลปากร ท่� 1538/2565 เร่�อง แต่งตั�งคณะกรรมการผ้้ทรงคุณวุฒิพิจารณาผลงานและบทความสั�นประกอบ ผลงานสร้างสรรค์ เพื�อให้การดำเนินงานคัดเลือกผลงานสร้างสรรค์ประเภทต่างๆ เข้าร่วมแสดงใน นิทรรศการผลงานสร้างสรรค์ประจำปี 2565 (SILPA 2022: Creative Works Exhibition) เนื�องในโอกาสครบรอบ 66 ปี ของการก่อตั�งคณะมัณฑนศิลป์ และ เป็นกิจกรรมร่วมในวันศิลป์ พีระศรี ประจำปี 2565 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สะท้อนถ่งคุณภาพและมาตรฐานทางวิชาการ จ่งแต่งตั�งคณะกรรมการผู้ทรง คุณวุฒิพิจารณาผลงานและบทความสั�นประกอบผลงานสร้างสรรค์ ประกอบด้วย บุคคล ดังรายชื�อต่อไปนี� กรรมการ ศาสตราจารย์เกียรติคุณสุชาติ เถาทอง ศาสตราจารย์เอกชาติ จันอุไรรัตน์ ศาสตราจารย์กมล เผ่าสวัสดิ� ศาสตราจารย์ ดร.ศุภกรณ์ ดิษฐพันธุ์ ศาสตราจารย์ ดร.พัดชา อุทิศวรรณกุล รองศาสตราจารย์พิศประไพ สาระศาลิน รองศาสตราจารย์ ดร.เกรียงศักดิ� เขียวมั�ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เพิ�มศักดิ� สุวรรณทัต ผู้ช่วยศาสตราจารย์เอกรัตน์ วงษ์จริต เลขานุการ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย อารีรุ่งเรือง ผ้้ช่วยเลขานุการ นางสาวมุกดา จิตพรมมา นางสาวนฤมล โหราเรือง สั�ง ณ วันที� 2 สิงหาคม พ.ศ. 2565 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วันชัย สุทธะนันท์ ผู้รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร
10 | HONORABLE 66 ปีมัณฑนศิลป์ ดร.ธนาทร เจียรกุล | คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เส้นผ่านศูนย์กลาง 8 นิ�ว | การเขียนสีใต้เคลือบ เผาด้วยอุณหภูมิ 800 องศาเซลเซียส ในโอกาสครบรอบ 66 ปี การก่อตั�งคณะมัณฑนศิลป์ ในปี พ.ศ. 2565 คณาจารย์คณะ มัณฑนศิลป์ร่วมใจกันสร้างสรรค์ชุดผลงานออกแบบเครื�องเคลือบดินเผาประดับ อาคารศิลป์ พีระศรี 3 มหาวิทยาลัยศิลปากร พระราชวังสนามจันทร์ เพื�อเป็นที�ระล่ก ในโอกาสพิเศษดังกล่าว จ่งได้เลือกนำภาพศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ผู้ก่อตั�งและ คณบดีท่านแรกของคณะมัณฑนศิลป์มาไว้ในงานออกแบบชิ�นนี�
HONORABLE | 11 คู่รัก The Lovers ผู้ช่วยศาสตราจารย์เวนิช สุวรรณโมลี | คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 18 x 47 x 61 ซม. | Ceramic Sculpture (Raku Technique) ศิลปะเครื�องเคลือบดินเผา (Ceramic Art) เป็นได้ทั�งงานอุตสาหกรรม งานหัตถกรรมและงานศิลปะ การทำเครื�องปั�นดินเผาแบบรากุ (Raku) ได้มีการทำกันมานานหลายศตวรรษเลยทีเดียว ในสมัยก่อนทำเป็นถ้วยชาใช้ในพิธีชาในประเทศญี�ปุ่น ต่อมาการทำรากุแพร่หลายไปทั�วโลก แม้ในปัจจุบันก็ยังมีการสร้างสรรค์งานรากุกันอยู่ ทั�วไป ความสนุกสนาน ความรักสามัคคี ความงดงามแห่งศิลปะของการดำรงชีวิต ทำให้โลกนี�สวยงาม ผลงาน (The Lovers) นี� ผมเองได้ทดลองศ่กษาและพัฒนาเคลือบรากุตัวใหม่ (Copper Matt & Clear Glaze) เป็นเวลายาวนานพอสมควรและก็พบสูตรที�สวยงามลงตัวตาม ความคิดที�ต้องการคือสีประกายรุ้ง (Rainbow) เมื�อพบเคลือบที�ต้องการ ก็นำมาเคลือบ ชิ�นงานที�ปั�นไว้หลากหลายรูปแบบ และเผาเคลือบที�อุณหภูมิ 1150 ํC เผาชิ�นงานจนเสร็จสิ�นกระบวนการก็พบว่า งานออกมาได้ดั�งใจที�ต้องการคือผลงานสร้างสรรค์มีสีประกายรุ้งอันงดงามแปลกตา
12 | HONORABLE HAPPINESS ศาสตราจารย์เดชา วราชุน | ภาควิชาทัศนศิลป์ (ภาพพิมพ์และสื�อผสม) คณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 60 x 80 ซม. | Acrylic on Canvas
HONORABLE | 13 Hybrid seed @ 88 รองศาสตราจารย์ ดร.เกรียงศักดิ� เขียวมั�ง | สาขาวิชาการออกแบบผลิตภัณฑ์ (หลักสูตรสองภาษา) คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา | [email protected] 50 x 50 ซม. | 3D Model Creation
14 | HONORABLE ศิราภรณ์กระดูกไก่ รองศาสตราจารย์ ดร.ดนัย เรียบสกุล | ภาควิชาศิลปะและการออกแบบ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ศิลปะและการออกแบบ มหาวิทยาลัยนเรศวร | [email protected] 42 ซม. | ประณีตศิลป์ ศิราภรณ์ไทยร่วมสมัยนี� ผสมผสานความดั�งเดิมและปัญหาขยะ ที�เกิดกับสังคม นิยมบริโภคในปัจจุบัน เสมือนการสร้างงานประณีตศิลป์ไทยที�ใช้บนศรีษะจาก วัสดุที�มีคุณค่าต�ำสุดจากถังขยะ ผลงานนี�จะสื�อถ่งการใช้ทรัพยากรให้เกิดคุณค่า สูงสุดกับชีวิตของตนเองและสังคมในโลกอนาคต แนวคิดในการถ่ายภาพ นาง ละครนอก นักแสดงชายในอดีตสวมใส่ศิราภรณ์รูปแบบต่างๆ นำเสนอผ่านนายแบบสีผิวต่างชนชาติ นำเสนอปัญหาขยะอาหารที�เกิดข่�นกับทุกที�ทั�วโลก
HONORABLE | 15 Calligraphy: Freehand Brush Writing รองศาสตราจารย์พิศประไพ สาระศาลิน | วิทยาลัยการออกแบบ มหาวิทยาลัยรังสิต | [email protected] 70 x 100 ซม. ‘Calligraphy’ คือศิลปะการเขียนด้วยมือ (The Crafts of Writing) ในภาษากรีก หมายถ่งการเขียนลายมือที�สวยงาม สง่า (Elegant Penmanship) ‘Calligrapher’ คือผู้ที�เขียนตัวอักษรได้อย่างสวยงามและเป็นมืออาชีพ1 การเขียน Calligraphy คือการเขียนด้วยปากกา (pen) พู่กัน (brush) อุปกรณ์เขียนที�ทำด้วยพืช เช่น กก (reed) เป็นต้น ปัจจุบัน ผู้ที�สนใจการเขียนด้วยมือในลักษณะ Craftsmanship ลดน้อยลง เนื�องจากเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เคลื�อนเข้ามาแทนที� จ่งควรแก่การอนุรักษ์และสืบสานในวงการศ่กษาและวงการศิลปะ ผู้สร้างสรรค์ผลงานชิ�นนี�เคย ได้รับการฝึกเทคนิคการเขียนตัวอักษรโรมัน (Roman Inscription Letter) ด้วย พู่กันจากบาทหลวงคาธอลิคซ่�งเป็นบิดาแห่ง calligraphy ท่านหน่�งชื�อ Edward M. Catich ณ St. Ambrose College, Davenport, Iowa, ประเทศสหรัฐอเมริกา บาทหลวง Catich ได้ทุ่มเทในการทำวิจัยและนำเสนอทฤษฎีที�ว่าด้วยที�มาของ serif รวมถ่งที�มาของน�ำหนักหนาและบางของตัวอักษรโรมัน (Capital Letters) จาก Trajan’s Forum สิ�งก่อสร้างในสมัยศตวรรษที�หน่�ง ณ กรุงโรม ซ่�งขณะนี� ตัวอักษรบางส่วนอยู่ที�กรุงวาติกัน (Vatican Lapidary Galleries)2 โดยท่าน ได้วิเคราะห์และตั�งข้อสันนิษฐานว่าตัวอักษรโรมันใหญ่มีที�มามาจากลีลาการ เขียนด้วยพู่กัน ก่อนที�จะทำการแกะสลักด้วยสิ�วเป็นลักษณะ V-cuts (chiseled V-cuts) ลงไปบนแผ่นหิน และท่านได้เขียนหนังสือชื�อ ‘The Origin of the Serif, Brush Writing and Roman Letters.’ เพื�ออธิบายผลงานวิจัย ผู้สร้างสรรค์งานได้แรงบันดาลใจจากวิธีการเขียนตัวอักษรโรมัน (Capital Letter) ด้วย พู่กันจากบาทหลวง Catich นอกจากนั�นตัวอักษร script เป็นลักษณะ calligraphy ที�เป็นลายมือและลีลาของผู้เขียนเอง โดยงานชิ�นนี�เป็นการเขียนด้วยความรวดเร็ว และไม่มีการร่างแบบร่างไว้ก่อน ในกระบวนการเขียนต้องมีการตัดสินใจและมี การแก้ปัญหาทีละขั�นตอนเมื�อตัวอักษรแรกถูกเขียนลงไป เพื�อจัดองค์ประกอบ รูปทรงตัวหนังสือให้มีความสมดุลทางสายตา เนื�องจากเป็นการเขียนด้วยความ รวดเร็วจ่งมีความเสี�ยงต่อความผิดพลาด ซ่�งความผิดพลาดมักจะเกิดจากความลังเล ความไม่กล้าตัดสินใจและความกลัวที�จะเขียนผิดพลาดหรือทำให้สิ�นเปลืองวัสดุ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การเขียนด้วยพู่กันชิ�นนี� ประการสำคัญที�สุดคือ 1. ผู้เขียน จะต้องมีความกล้าเสี�ยง (risk) 2. ผู้เขียนจะต้องมีความสามารถในการควบคุม ความเร็วและจังหวะลีลาของการตวัดพู่กันและมือให้รวดเร็วพอดีและเหมาะสม (speed control and vitality) 3. ผู้เขียนจะต้องมีทักษะความชำนาญด้านการ เขียนด้วยลายมือ (hand writing skill) ในขณะจัดองค์ประกอบรูปทรงตัวอักษรให้มีความสมดุลนั�น ผู้สร้างสรรค์พบว่า มีความจำเป็นต้องแก้ปัญหาอย่างท้าทาย เนื�องจากน�ำหนักของตัว ‘L’ (script) สี แดงที�ตวัดและลากหางอย่างรวดเร็วนั�น ทำให้หางตัว L เกินออกมา และทำให้ องค์ประกอบโดยรวมเกิดความไม่สมดุล จ่งได้ตัดสินใจเพิ�มเส้นโค้ง 1 เส้น โดย เลือกพู่กันขนาดเล็กและปลายแหลม ในการตวัดเส้นนี� จำเป็นต้องตวัดลีลาของ วงแขนอย่างรวดเร็วและควบคุมมืออย่างแผ่วเบาที�สุด เพื�อไม่ให้น�ำหนักเส้นหนา เกินไปหรือได้วงกลมที�ไม่พอดีการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเช่นนี�จำเป็นต้องอาศัย ทักษะความชำนาญทางสายตา การตัดสินใจและความกล้าหาญควบคู่ไปด้วย 1 Child, Heather. (1971). ‘Calligraphy Today.’ London: Cassel & Collier Macmillan. 2 Catich, M Edward. (1968). ‘ The Origin of Serif,’ Iowa: The Catfish Press. ประโยคท่�ใช้ในการเข่ยนคัดมาจากพระคัมภ่ร์ไบเบ้�ล… ‘ This is how we know what love is; Jesus Christ laid down his life for us.’ (1 John 3; 16). ‘God is love.’ (1 John 4: 8).
16 | FACULTY การออกแบบตกแต่งภายในบูธจั ดนิทรรศการ สํ าหรับร้านค้าของเล่นรถไม้ เกล้ากัลยาภรฌ์ สวัสดิ� มงคลกุล และ วิษุวัต มาลัย | ภาควิชาออกแบบตกแต่งภายใน คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร | [email protected] ขนาดพื�นที�การออกแบบตกแต่งภายใน 10.68 x 8.55 เมตร | การเขียนสคริปต์ สั�งงานคอมพิ วเตอร์ให้เจนเนเรตรู ปทรงและโครงสร้าง พาราเมตริกดีไซน์ เนื�องจากการออกแบบจัดแสดงบูธนิทรรศการภายในร้านค้า ที� ต้องการความ รวดเร็ วในการประกอบติดตั�งชั�นวางต่างๆ จ่งเป็นที� มาของแนวทางความคิดในการเลือกใช้วัสดุและเทคโนโลยีเป็นตัวช่วยในกระบวนการผลิต รวมถ่งแนวความคิดในการแสดงศักยภาพของผลิตภัณฑ์แผ่นไม้แปรรูป รถไม้และเทคโนโลยี เครื�องจักรให้ มีความน่าสนใจ ภายใต้แนวคิดของการใช้เส้นสายที�แตกต่างจาก บริบทโดยรอบ ซ่�งบริ ษัท TobeUS เป็นบริ ษัทที�ดำเนินธุรกิจพื�นฐานเกี�ยวกับการ จำหน่ายไม้แปรรู ปข่�นรูปด้ วยเครื�องจักร CNC และจำหน่ายของเล่นรถไม้ ที�เด็กๆ สามารถวาดเส้นรังสรรค์ผลงานให้เป็นรู ปทรงรถไม้เฉพาะบุคคลด้ วยฝี มือตนเอง ซ่�งทางบริ ษัทต้องการนำเสนอกิ จการที� มีอยู่หลายส่ วนให้เป็นที�รู้จักในวงกว้าง โดยผ่านการจัดแสดงบู ธนำเสนอผลงานที�ให้ผู้เข้าชมได้เยี�ยมชมกับรู ปแบบบู ธจัด แสดงสินค้าอีกทั�งมีพื�นที�คาเฟ่รองรับภายในด้ วย แนวคิดในการออกแบบด้ วยการนำเสนอเทคนิคกระบวนการออกแบบและขั�น ตอนการผลิต-ก่อสร้างที� มีความรวดเร็ ว สะดวกและเข้าใจง่ายในขั�นตอนการติด ตั�งและถอดประกอบ ซ่�งประเด็นแรกในการออกแบบมาจากแนวคิดที� ต้องการนำ เสนอการผลิตของบริ ษัท TobeUS ที� มี วัสดุแผ่นไม้แปรรู ปและเครื�องจักร CNC ดังนั�นรู ปทรงของตัวงานจ่งถูกออกแบบมาในลักษณะที� ต้องแสดงศักยภาพของ เครื�อง CNC และใช้ รู ปแบบโครงสร้างแบบ waffle structure เพื�อให้สามารถ รองรับกับผลิตภัณฑ์ วัสดุแผ่นไม้แปรรูป ซ่�งตัวงานที�เกิดจะกลายมาเป็นชั�นวาง ของที�ใช้จัดแสดงโชว์ สินค้าของเล่นรถไม้ที�เป็นอีกหน่�งในสินค้าของบริ ษัท และใน ส่ วนของขั�นตอนการประกอบติดตั�งจะมีความสะดวกรวดเร็ ว เพราะส่ วนประกอบ แต่ละชิ�นจะมีหมายเลขรหัสกำกับพร้อมทั�งรู ปรอยต่อที�แต่ละชิ�นจะมีความเฉพาะ เจาะจงและสัมพันธ์ กัน จ่งส่งผลให้ขั�นตอนในการประกอบติดตั�งชิ�นงานจะเกิด ความผิดพลาดได้ น้อย มีความสะดวกรวดเร็ วและประหยัดเวลา อีกทั�งยังช่ วยลด เศษฝุ่นที�สร้างความสกปรกในพื�นที�หน้างานจริง อีกนัยยะหน่�งในแง่ของการถอดประกอบตัวชิ�นงานก็สามารถทำได้สะดวกรวดเร็ว ส่งผลให้รูปแบบโครงสร้างประเภทนี�ตอบโจทย์ในงานประเภทบูธจัดแสดง โดยกระบวนการทั�งหมดนี�ถูกสั�ง งานด้ วยการสคริปต์ อัลกอริท่มให้คอมพิ วเตอร์เป็นตัวประมวลผล หรือศัพท์ ทางเทคนิคที�มักจะเรียกงานในลักษณะนี�ว่า พาราเมตริกดีไซน์และส่ วนเศษ ไม้ที�เหลือจากขั�นตอน CNC การถอดประกอบหรือเลิกใช้ ก็สามารถเข้าสู่กระบ วนนำกลับไปใช้ใหม่ในรู ปแบบการบดอัดข่�นรู ปโดยเครื�องจักรจากทางโรงงาน ทำให้กระบวนการและขั�นตอนทั�งหมดจ่งแทบไม่ มีของเหลือทิ�งและช่ วยประหยัด เวลาได้ มากข่�น การออกแบบโดยใช้วิธีการเขียนสคริปต์สั�งงานให้คอมพิ วเตอร์ เป็นผู้ช่ วยคำนวณและประมวลผลทำให้ประหยัดเวลารวมถ่งจำนวนแรงงานและ ลดความผิดพลาดโดยเฉพาะลดขั�นตอนการเขียนแบบก่อสร้าง ซ่�งรายละเอียดของรูปแบบสคริปต์ของผู้ออกแบบมีความสามารถในการจัดการประมวลผลหรือ วิเคราะห์ รู ปทรงได้หลากหลายและมากกว่าแบบที�เคยมี มา
FACULTY | 17 การสร้างสรรค์ชัยนาท Coffee & Craft Market ครั้งที่ 14 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ชัยณรงค์ อริยะประเสริฐ | ภาควิชาออกแบบตกแต่งภายใน คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร | [email protected] 2 x 59 ซม. | ประมวลภาพงานสร้างสรรค์และกิจกรรมที�ดำเนินการ ชัยนาทซ่�งเป็นจังหวัดภาคกลางตอนบนที�เพิ�งมีสะพานข้ามแม่น�ำเจ้าพระยาเกิด ข่�นใหม่ในหลายอำเภอ ทำหน้าที�เชื�อมโยงเครือข่ายคมนาคมรองรับการเดินทาง-อุตสาหกรรมการท่องเที�ยวระดับชาติและนานาชาติ เชื�อมระบบรถไฟและสนาม บิน โดยทางหลวงชนบทสายตะวันตกและใต้กับเครือข่ายคมนาคมระบบรถไฟ ความเร็วสูงสายเหนือกับทางหลวงสายเอเชีย และทางด่วนพิเศษสายตะวันออก เฉียงเหนือ ทำให้ผู้คนและวิถีชนบทเก่าแก่ริมน�ำเดิมได้รับผลกระทบกลายเป็น เมืองผ่านโดยสมบูรณ์ตลอดจนเทคโนโลยีสั�งอาหาร สินค้าและบริการด้วย แอปพลิเคชันโทรศัพท์มือถือ เป็นภาวะวิถีชีวิตปกติใหม่ที�ทำให้ตลาดเช้าในชุมชน เก่าริมน�ำอย่างตลาดสดภาษีซุงซบเซาลงมาก หลังการเปิดประเทศของรัฐ 1 กรกฎาคม 2565 จากภาวะระบาดโควิด-19 ผู้นำท้องถิ�น เครือข่ายธุรกิจ ร่วมกับ กลุ่มเขย-สะใภ้ชัยนาทจิตอาสาเห็นปัญหาร่วมกันจ่งสร้างเทศกาลออกร้านธุรกิจ กาแฟ ขนม และอาหาร สินค้าและบริการแนวคราฟต์ โดยมีฉากหลังของสถานที� เป็นจุดเช็คอินผลงานของศิลปินสตรีทอาร์ทที�มีชื�อเสียง สร้างความน่าสนใจให้ เมืองผ่านนี� “ต้องแวะเวียนเยี�ยมเยือน” ผู้สร้างสรรค์ใช้ความเป็น “เขยชัยนาท” ร่วมกับเพื�อนกลุ่ม “เขย-สะใภ้ชัยนาท” ในพื�นที� สถานภาพการเป็นผู้สอนในมหาวิทยาลัยชั�นนำแห่งการสร้างสรรค์ และ ทักษะเฉพาะวิชาชีพสาขาสถาปัตยกรรมภายในและมัณฑนศิลป์ สร้างการยอมรับ และการมีส่วนร่วมกับศิลปินสตรีทอาร์ท ธุรกิจ และผู้คนในท้องถิ�น โดยเรียนรู้ ปัญหาจากใน “มหกรรมหุ่นฟางนกชัยนาท ของดีศรีท้องถิ�น และงานกาชาด” และต่อยอดกิจกรรมจากความสนใจร่วมออกร้านในเครือข่ายผู้ติดตามเพจ “สวัสดีชัยนาท” ร่วมกับ “ตลาดโบราณร้อยปีคุ้งสำเภา” ที�เกิดแรงบันดาลใจจาก การสร้างสตรีทอาร์ทในชุมชน และใช้เครือข่ายสังคมสาธารณะขับเคลื�อนให้มีผู้ ติดตาม และประชาสัมพันธ์ จัดกิจกรรมสตรีทอาร์ท “พา-ศิลป์-ซุง” โดยเครือ ข่ายศิลปินสตรีทอาร์ทจิตอาสาที�มีชื�อเสียง ทำการเสก็ตแบบผัง-ทัศนียภาพ บรรยากาศตลาดร่วมกับคณะทำงาน และติดตามผลการจัดงาน โดยองค์ความรู้ที�ได้จากการสร้างสรรค์ ได้แก่ 1) การยอมรับเพื�อสร้างความไว้ วางใจในความร่วมมือต่างๆ สำคัญที�สุด ในการทำงานลงพื�นที� 2) ทุกพื�นที�ชุมชน มีวิถีชนบทที�มีเสน่ห์ น่าสนใจ สร้างแรงบันดาลใจต่อการสร้างสรรค์ศิลปะได้เสมอ 3) เครือข่ายจิตอาสาเพื�อสนับสนุนและอำนวยความสะดวกให้กับคณะทำงานมี ความจำเป็นต่อความสำเร็จมาก 4) วิชาชีพออกแบบใช้เพียงความเข้าใจบริบท เดิมต่อการวางผังแปลนและงานระบบก็พอแล้ว เพราะแต่ละบูธที�มาร่วมทำการ ตกแต่งเต็มที�กันอยู่แล้ว ทำให้งานเกิดข่�นได้ง่ายและรวดเร็วมาก จากการสัมภาษณ์ สอบถามผู้ออกร้าน ผู้เดินทางมาท่องเที�ยว นอกจากเรื�องห้องน�ำ จุดทิ�งขยะ เรื�อง ไฟดับเป็นบางครั�งและเรื�องเครื�องปั�นไฟไม่ทำงานแล้ว ผู้สร้างสรรค์และคณะรับรู้ ถ่งความพ่งพอใจในความสำเร็จ และความคาดหวังต่อการจัดงานครั�งต่อไป ของผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ�งความคาดหวังที�มีต่อการสร้าง รายได้เพื�อเป็นแหล่งท่องเที�ยวชนบทใหม่ของภาคกลางตอนบนในประเทศต่อไป
18 | FACULTY YUGEN ผู้ช่ วยศาสตราจารย์ ณัฐรฐนนท์ ทองสุทธิ พีรภาส | ภาควิชาออกแบบตกแต่งภายใน คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร | [email protected] 29.7 x 42 ซม. | Mix mediaยูเกน (Yugen) คือแบรนด์เครื�องหอมสัญชาติไทยที� มีแนวคิดในการสร้างบรรยากาศ ให้ผู้คนได้อยู่กับปัจจุ บันอย่างมีความสุขผ่านกลิ�นหอมที� ช่ วยให้ผู้คนไม่ ต้องหลีก หนี จากความเป็นจริง (Escapism) แต่อยู่กับปัจจุ บันอย่างมีความสุขได้โดยใช้แนวคิดของยูเกน (Yugen) ที�เป็นทั�งชื�อของแบรนด์และเป็นหน่�งในหลักการ สำคัญของปรัชญาความงามที�ได้ อิทธิพลจากลิทธิเซน โดยส่งผ่านอารมณ์ ความ คิด ความรู้ส่ก ผ่านกลิ�นหอมของเครื�องหอมต่างๆ ที�ผู้ออกแบบได้ใช้เป็นแนวคิด สำคัญในงานออกแบบภายในร้านต้นแบบที�กำลังจะเกิดข่�นจากโจทย์และแนวคิดของแบรนด์ที�ต้องการสร้างตัวร้านต้นแบบให้ มีความสากล มากข่�น จากที� ประสบความสำเร็ จในการขายที�สาธารณรัฐเกาหลีใต้ ผู้ออกแบบจ่งได้วางหลักแนวความคิดในการออกแบบภายในตามหลักการ ยูเกน (Yugen) ซ่�งหมายถ่งความงามที�แฝงเร้นชวนพินิจ1 ความล�ำล่ก แยบยล ความงามที�สามารถ ปลุกให้ตื�นจากความไม่รู้ ความล่กซ่�ง ความงามที�คงอยู่อันมีองค์ประกอบหรือความหมายที�ซ่อนอยู่ในสิ�งที�ไม่อาจมองเห็นได้ชัดเจน2 ผู้ออกแบบจ่งได้ ตีความออกมาผ่านวัสดุตกแต่งที�มีความสว่างชัดเจน มีความเคลื�อนไหวเป็นธรรมชาติ ผ่านการเคลื�อนที�ของมนุษย์เพื�อกระตุ้นการรับรู้ผ่านสายตา (Visual perception) และสัดส่ วนความสูงที� สัมพันธ์ กับมนุษย์ในพื�นที� มีความโปร่งเบาด้ วยการออกแบบ แสงสว่างเพื�อตัดสิ�งรบกวนออกไป ทั�งหมดเพื�อเน้นการรับรู้ให้อยู่กับปัจจุ บัน มี ความรู้ส่กในเชิงบวก โดยมีการจัดวางพื�นที�ใช้สอยตามตัวผลิตภัณฑ์ของสินค้าที�มีการแบ่งออกเป็น 2 หมวดหลัก ได้แก่ผลิตภัณฑ์เครื�องหอมภายในบ้าน (Home ambience) และผลิตภัณฑ์สำหรับการนวดดูแลผิ ว (Body care) โดย เน้นไปที�ผลิตภัณฑ์เครื�องหอมภายในบ้าน ตามการตลาด และใช้กลิ�นเพื�อสร้างบรรยากาศในการส่งเสริมการขายอีกทางหน่�ง และด้วยโจทย์ที�ต้องการให้ร้านมีลักษณะป๊อปอัพ (Pop-Up Store) เพื�อให้เหมาะกับทิศทางเชิงธุรกิจในปัจจุบัน การวางผังของเฟอร์ นิเจอร์จ่งมี ลักษณะเป็นระบบโมดู ล่า (Modular system) เพื�อให้สามารถแยกส่ วนกันได้ โดยมีชั�นวางตัวสินค้าหลัก (Display) ที� มี ลักษณะ รู ปทรงโค้งมนสามารถเคลื�อนย้ายและหมุนตามพื�นที�เพื�อให้ตอบรับกับเส้น ทางการสัญจรของผู้คนที�อยู่ภายในห้างสรรพสินค้า ผลงานสร้างสรรค์งานออกแบบภายในชิ�นนี�ทำให้เกิดการเรียนรู้ในเรื�องการสร้างอัตลักษณ์ของแบรนด์ในเชิงพื�นที� ที�มิได้เป็นแค่รูปทรง สีสัน บรรยากาศเท่านั�น แต่มีเรื�องของการรับรู้ (Perception) ในเชิงหลักการทางปรัชญาที�สามารถตีความ และสร้างที� ว่าง (Space) ให้เกิดองค์ประกอบและความงามที�แฝงเร้นชวนพิ นิ จ ซ่�ง เป็นหลักการของแบรนด์และแนวคิดตามหลักการของ “ยูเกน (Yugen)” 1 สุรพล วิรุฬรักษ์, โนะ : “นาฏกรรมญี�ปุ่น,” วารสารราชบัณฑิตยสภา 43,1 (มกราคม-เมษายน 2561): 68. 2 เดือนตา พรมุตตาวรงค์, “การศ่กษาเปรียบเทียบแฟชั�นไลฟ์สไตล์วิถี พุทธเถรวาทกับเซน” (วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปกรรมดุษฎี บัณฑิต สาขาวิชาศิลปกรรมศาสตร์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย, 2560), 47.
FACULTY | 19 โครงการเสนอแนะออกแบบปรับปรุงพื้นที่ภายใน โชว์รูมเฟอร์นิเจอร์ SEASONS OF LIVING สาขาเอกมัย (ชั้น 2) ปาริฉัตร สุชาติกุลวิทย์ | ภาควิชาออกแบบตกแต่งภายใน คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร | [email protected] 42 x 60 ซม. | ผลงานนำเสนองานออกแบบภายใน ผู้บริหารธุรกิจเล็งเห็นโอกาสในการพัฒนาพื�นที�ภายในโชว์รูมเฟอร์นิเจอร์ SEA- SONS OF LIVING สาขาเอกมัย และปรับปรุงการจัดการระบบทางสัญจรพื�นที�ภายในโชว์รูมเฟอร์นิเจอร์ (Flow circulation) นำไปสู่การแก้ปัญหาเรื�องมุมมองการจัดวางและการเข้าถ่งเฟอร์นิเจอร์แต่ละตัว เพิ�มมุมในการรองรับการจัดแสดง สินค้าที�หลากหลายรูปแบบมากข่�น รวมไปถ่งการออกแบบแสงสว่างใหม่เพื�อให้เหมาะสมกับการใช้งานและการเน้นสินค้าที�จะจำหน่ายภายในร้าน เกิดเป็นโครงการ เสนอแนะออกแบบปรับปรุงพื�นที�ภายในชั�น 2 ของโชว์รูม ภายใต้ข้อกำหนดของระยะเวลาในการก่อสร้างและงบประมาณที�เหมาะสม จากการศ่กษาลงพื�นที�เพื�อวิเคราะห์ปัญหาที�เกิดกับพื�นที�ภายในและโอกาสที�สามารถพัฒนาพื�นที�ได้ รวมไปถ่งข้อกำหนดต่างๆ ผนวกกับข้อมูลตัวอย่างงานออกแบบที�ได้จากการลงพื�นที�กรณีศ่กษาที�มีธุรกิจในรูปแบบเดียวกันเพื�อศ่กษาวิธีการออกแบบพื�นที�ภายในโชว์รูมเฟอร์นิเจอร์ จ่งเกิดเป็นแนวความคิดในการ ปรับปรุง 3 ส่วนหลัก ได้แก่ 1) ออกแบบจัดการระบบทางสัญจรในพื�นที�ใหม่ด้วยการสร้างผนัง 1 ผนัง เพื�อปรับมุมมอง เพิ�มจุดนำสายตา เกิดแกนทางสัญจรใหม่เพิ�มเส้นทางสัญจรเพื�อเข้าถ่งชุดเฟอร์นิเจอร์ที�จัดแสดงได้มากข่�น และเกิดพื�นที�ใหม่ในการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ 2) เพิ�มไฟซ่อนตามจุดที�เหมาะสม เพื�อให้เกิดแสงที� แสดงความใส่ใจและเน้นบรรยากาศอบอุ่น เพื�อต้อนรับผู้เข้าชมสินค้า 3) ออกแบบ ระบบแสงสว่างด้วยการจัดวาง Grid line ดวงโคม ให้มีความสัมพันธ์กับการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ที�มีการปรับเปลี�ยนตลอดเวลา เลือกดวงโคมที�เป็นแบบฝังฝ้าเพดาน ให้พื�นที�ดูเรียบร้อย ไม่กวนสายตาขณะเลือกชมเฟอร์นิเจอร์ สามารถปรับองศา ของดวงโคมได้ ระบุหลอดไฟที�มี Beam angle ไม่เกิน 20 องศา สามารถส่องเน้น สินค้าเฉพาะจุดได้ และเลือกหลอดที�มีค่าดัชนีความถูกต้องของสี (CRI) ไม่น้อยกว่า 85 เพื�อให้แสดงสีของวัตถุและพื�นผิวได้เหมือนจริง ซ่�งจากการศ่กษาและออกแบบ ค้นพบว่าตำแหน่งของผนังสามารถเป็นตัวกำหนด จุดนำสายตา เพิ�มสุนทรียภาพในการมอง ปรับเปลี�ยนระบบทางสัญจรและการ เข้าถ่งพื�นที�ได้ รวมไปถ่งการเลือกประเภทของดวงโคมและหลอดไฟ ให้เหมาะ สมกับการเน้นเป็นโชว์ความงามของเฟอร์นิเจอร์แต่ละตัว เป็นอีกหน่�งในปัจจัย หลักที�มีผลต่อทัศนียภาพและการรับรู้ของคนที�อยู่ในพื�นที�นั�น
20 | FACULTY สัญญะในที่ว่าง ไพบูลน์ จิรประเสริฐกูล | ภาควิชาออกแบบตกแต่งภายใน คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร | [email protected] 5.32 นาที | VDO clip หอพระเพื�อประดิษฐานพระมหามงคลเภสัช พระประจำคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กระบวนการถอดสัญญะในองค์พระ เพื�อด่งแนวคิดที�อยู่ เบื�องหลังและรูปแบบที�ปรากฏ มาเป็นต้นแบบในการออกแบบอาคารที�มีนัยยะ เกี�ยวข้องกับเภสัชกรรมที�มีอัตลักษณ์ไทยและมีความร่วมสมัยอย่างมีเอกภาพ สัญญะที�พบแยกแยะได้ ดังนี� 1) ที�เกี�ยวกับสถาบันการศ่กษา : คำสำคัญคือ ต้นแบบ แบบอย่าง องค์พระปฏิมามีต้นแบบจากพระพุทธสิกขีทศพลที� 1 ที�ตรัสรู้พระ อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระองค์แรก ต้นแบบความเพียร ฐานอาคารเป็นท้อง สำเภาแบบอย่างครูช่างอยุธยา ช่องเปิดผนังด้านหน้าต้นแบบจากช่องกุฎของ ศาลาสำราญมุขมาตย์ ออกแบบโดยสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ 2) ที�เกี�ยวกับยาและการรักษา : พระปฏิมาถือช่อสมอและประคองบาตรที�มี สมุนไพร 7 ชนิดที�ใช้ปรุงยา อุปลักษณ์กับไม้สานลายเฉลวด้านหน้าอาคาร ที�ใช้ ในการแพทย์โบราณและใช้บอกอาณาเขตด้วยผนังไม้กรุแบบฝาสายบัวและต่อ เนื�องไปถ่งราวจับบันได ช่องกุฏแกนกลางชั�นในใช้ไม้สานลายดอกพิกุล ตามคติ ความเชื�อโบราณ อีกทั�งยังมีสรรพคุณสมุนไพรอย่างหน่�ง 3) ที�แสดงออกถ่ง ความร่วมสมัย : คำสำคัญคือ ความเหมือนและความต่าง ด้วยเรขาคณิต องค์พระ ปฏิมามีขนาดหน้าตัก 30 นิ�ว มีที�มาจากบารมี 30 ทัศ พิกัดตำแหน่งและสัดส่วน ของอาคารและที�ว่างมาจากเรขาคณิตฟิโบนาซี�ไม่มีจั�วและหน้าบัน มีแต่เส้น โครงของนาคสะดุ้งที�ขยับลงมาเพื�อเข้ารูปอากาศด้านหน้าใหม่เมื�อนาคสะดุ้ง ขยับลงมา ปั�นลมจ่งเกลี�ยงเกลา คงไว้แต่ช่อฟ้าดังเดิม ไม่มีคันทวยค�ำยันชายคา มีผนังท่บแค่ด้านเดียว ส่วนที�เหลือเป็นช่องแสงประดับด้วยเครื�องแขวนที�ตัดทอน ด้วยเรขาคณิตช่องทางเข้าที�เล็กพอดีตัว เพื�อให้ตั�งสติก่อนเข้าห้องโถงองค์พระ เพื�อลดการเติมแต่งอย่างอื�นลง อาคารหอพระมหามงคลเภสัช ไม่ได้มุ่งหวังให้เป็นถาวรวัตถุตรงกันข้ามกลับ มุ่งหวังให้อาคารต้องมีการบำรุงรักษา นัยยะคือต้องการให้มีการขัดเกลาอย่าง สม�ำเสมอ ถ้าไม่ขัดเกลาก็จะเสื�อมไปในระยะเวลาอันสั�น Outstanding Creativity
FACULTY | 21 Narisa Cafe สลิล สมัครพงศ์ | ภาควิชาออกแบบตกแต่งภายใน คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร | [email protected] 60 x 40 ซม. | 3d rendering ในปี พ.ศ. 2500 บริเวณห้าแยกลาดพร้าว ถือว่าเป็นแหล่งพักอาศัยชานเมืองที�ได้ รับความนิยม บ้านหลังนี�ของคุณสมจิตร ชัยสูตร เป็นสถาปัตยกรรมแบบคร่�งต่ก คร่�งไม้ ที�ออกแบบโดย อาจารย์ประดิษฐ์ ยุวะพุกกะ ศิลปินแห่งชาติ สาขา สถาปัตยกรรม (แบบประเพณี) โดยเฉพาะอย่างยิ�งเป็นอาคารที�มีคุณค่าสร้าง ด้วยไม้สัก ในช่วง 65 ปี ให้หลังบริเวณนี�ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื�อง การคมนาคมและสิ�งอำนวยความสะดวก ส่งผลให้ความเจริญและมูลค่าที�ดินเพิ�มสูง ข่�น คุณนริศา ชัยสูตร ซ่�งเป็นทายาทรุ่นที� 2 ได้เล็งเห็นความสำคัญและความ เหมาะสมกับการพัฒนาบ้านหลังนี�ให้เป็นพื�นที�สร้างสรรค์ มีศักยภาพที�จะสร้าง รายได้มากกว่าการใช้เป็นที�พักอาศัยเพียงอย่างเดียว กระบวนการการออกแบบสภาพแวดล้อมภายในจ่งมีวัตถุประสงค์ 3 อย่าง ดังนี� 1) การอนุรักษ์คุณค่างานสถาปัตยกรรมสมัยโมเดิร์นในประเทศไทยในยุค 2500 (Modern Architectural Style in House Thailand) 2) การปรับใช้อาคารเพื�อ ประโยชน์ใช้สอยใหม่ (Adaptive Reuse) 3) สร้างแนวความคิดการออกแบบ เพื�อส่งเสริมวิถีชีวิตและรองรับความต้องการการใช้พื�นที�ในยุคปัจจุบัน (Conceptual Design) กระบวนการออกแบบแบ่งเป็น 3 ขั�นตอน ดังนี� ขั�นตอนที� 1 โดยการ สำรวจพื�นที�จริง ประเมินสภาพโครงสร้างอาคารเพื�อที�จะคงสถาปัตยกรรมเดิมไว้ เช่น โครงสร้างบ้านไม้สัก ช่องลม ช่องประตู โดยการซ่อมและทาสีใหม่ เปลี�ยน กระเบื�องพื�นใหม่ ขั�นตอนที� 2 ออกแบบพื�นที�ใช้สอยและงานระบบ โดยจัดวาง แนวไฟเส้น (LED Strip Light) ตามแนวแกนเพดานซ่�งเป็นตงของพื�นไม้สักชั�น 2 เดิม ปรับเปลี�ยนพื�นที�ให้เหมาะสมตามประโยชน์ใช้สอยของ NARISA CAFE โดย ชั�นที� 1 ให้มี Counter สั�งเครื�องดื�มและขนม พร้อมกับการจัดวางชุดเฟอร์นิเจอร์ High Bar และ Lounge Seat ภายใน ให้เห็นทัศนียภาพสวนหลังบ้าน ปรับทาง เข้าห้องน�ำให้เข้าทางด้านข้างบันไดเพื�อเบี�ยงวิสัยทัศน์ห้องน�ำและพื�นที�นั�งแบบ ประจันหน้า ในส่วนของชั�นที� 2 เปลี�ยนห้องนอนเดิมให้เป็นพื�นที�นั�งทำงาน หรือ ห้องประชุมขนาดเล็ก สามารถปรับเปลี�ยนเป็นแกลเลอรี�ศิลปะได้ตามโอกาส และสุดท้ายกระบวนการออกแบบแนวความคิดเชิงอนุรักษ์ความงามบ้านไม้สักที� เป็นมรดกของครอบครัว ปรับปรุงและพัฒนาสุนทรียภาพในการมองภายในและ ทัศนียภาพสวนหลังบ้าน สร้างคุณค่าทางจิตใจ สร้างประสบการณ์ให้แก่ผู้คนที� มาใช้บริการ ภายใต้แนวความคิด “Old Charm with a New Urban Lifestyle” การออกแบบสภาพแวดล้อมภายในพี�นที� ปรับประโยชน์ใช้สอยและคงคุณค่า อาคารเก่าได้อย่างยั�งยืนเปรียบเสมือน คืนชีวิตให้กับบ้านที�มีอายุถ่ง 65 ปี ให้มี ชีวิตชีวา พร้อมทั�งกลายเป็นพี�นที�สร้างสรรค์ร่วม หรือ “Co-Creation Space” ที�ตอบสนองตามบริบททางสังคมและวิถีชีวิตคนเมืองในยุคปัจจุบันทั�งยังเพิ�มมูลค่า และสร้างรายได้ ทั�งหมดนี�เกิดจากกระบวนการการออกแบบที�สนับสนุนโครงการ และสามารถทำให้เกิดข่�นได้จริง
22 | FACULTY ผลงานสร้างสรรค์สื่อการเรียนรู้หุ่ นจําลองกระดาษ เพื่อการเรียนรู้ทางวัฒนธรรม จังหวั ดราชบุ รี ผู้ช่ วยศาสตราจารย์ สัญญา สุขพูล | ภาควิชาออกแบบตกแต่งภายใน คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร | [email protected] 21 x 29.7 ซม. | หุ่นจำลองกระดาษ (Paper models) ที� มาและความสำคัญของการสร้างสรรค์ผลงาน : ผลงานชิ�นนี� ดำเนินการภายใต้ โครงการการบริหารจัดการองค์ความรู้จากศิลปวั ฒนธรรมพื�นถิ�นเพื�อพั ฒนาสู่แผนการเรียนการสอน ในระดับการศ่กษาขั�นพื�นฐานและเชื�อมแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิตในชุมชน ต่อยอดคุณค่าสู่สังคมอย่างยั�งยืน พ.ศ. 25651 สนับสนุนโดยกองทุน ส่งเสริ ม ววน. และหน่ วย บพท. โดยมีโครงการพัฒนาเมืองราชบุ รีสู่ความเป็นเมือง แห่งการเรียนรู้บนฐานเศรษฐกิจท้องถิ�นและวัฒนธรรม เป็นชุดโครงการวิจัยหลัก แนวความคิด : ผลงานสร้างสรรค์ที�ใช้เป็นสื�อการเรียนรู้ที�สร้างแรงจูงใจให้ นักเรียน เยาวชน ได้เรียนรู้คุณค่าจากสถาปัตยกรรมซ่�งเป็นความรู้ขั�นพื�นฐานจากต้นทุน ทางวัฒนธรรม จังหวัดราชบุ รี และเพื�อพัฒนาสู่แผนการเรียนการสอนในระดับ การศ่กษาขั�นพื�นฐาน โดยพิ จารณาถ่งความเหมาะสม 4 ด้าน (1) แสดงอัตลักษณ์ ด้านประวัติ ศาสตร์ สถาปัตยกรรม ศิลปกรรม จังหวัดราชบุ รี (2) สร้างความรู้ และแรงจูงใจในการเรียนรู้ตลอดชีวิต (3) สนุกต่อการเรียนรู้มีลำดับขั�นตอนใน การลงมือปฏิ บัติ (4) เข้าถ่งสื�อการเรียนรู้ด้ วยอุ ปกรณ์เทคโนโลยีสื�อสารสมัยใหม่ กระบวนการสร้างสรรค์ผลงาน : เชื�อมโยงเนื�อหา คุณค่า ของศิลปวัฒนธรรมใน พื�นที�เข้ากับวิถี ชีวิตและการเรียนรู้ การสำรวจพื�นที� ร่วมกับผู้มี ส่ วนได้ ส่ วนเสียและ ผู้คนในชุ มชน สู่การพัฒนาต้นแบบเพื�อบูรณาการหลักสูตรการเรียนการสอนระดับ การศ่กษาขั�นพื�นฐาน ผ่านการทำงานร่วมกันระหว่างผู้ออกแบบและโรงเรียน ให้มีส่วนร่วมในการให้ความเห็นต่อการทดลองผลิตสื�อการเรียนการสอน เทคนิค วัสดุ และวิธีการเรียนรู้ บทสรุ ปผลการทำงานที�ได้ จากการสร้างสรรค์ : สื�อการเรียนการสอน ต้องทำหน้าที� เป็นตัวเชื�อมโยงความรู้เพื�อที� จะกระตุ้น และสร้างพฤติกรรมให้เกิดความอยากรู้ อยากเห็นและการตั�งคำถาม หรือนำไปสู่การค้นคว้าของรายละเอียดเนื�อหาที� มากข่�น องค์ความรู้ที�ได้ จากการปฏิ บัติผลงานสร้างสรรค์ : 1) เรียนรู้กระบวนการในการ สร้างคลังทรัพย์ สินทางปัญญาและแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิต 2) เรียนรู้งานบริการ วิชาการที� บูรณาการงานออกแบบและเชื�อมโยงศิลปวั ฒนธรรมชุ มชนสู่สื�อการ เรียนรู้ขั�นพื�นฐาน 3) พัฒนาความร่วมมือในงานบริการวิชาการ เกิดเครือข่าย การเรียนรู้ระหว่างชุ มชน โรงเรียนและนักออกแบบ 4) ประยุกต์ศิลปวัฒนธรรม ชุ มชน ติดตามความก้าวหน้าและการประเมินผลงานต่อการพั ฒนางานบริการ วิชาการ 1 ภูษิต รัตนภานพ. (2565). การบริหารจัดการองค์ความรู้จากศิลปวัฒนธรรมพื�นถิ�นเพื�อพัฒนา สู่แผนการเรียนการสอน ในระดับการศ่กษาขั�นพื�นฐานและเชื�อมแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิตในชุ มชน ต่อยอดคุณค่าสู่สังคมอย่างยั�งยืน (รายงานผลวิจัย) กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศิลปากร
FACULTY | 23 STAY GREEN: NO MATTER WHAT I DO รองศาสตราจารย์ ร.ต.อ. ดร.อนุชา แพ่งเกษร | ภาควิชาออกแบบตกแต่งภายใน คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร | [email protected] A2 | ภาพถ่าย และการออกแบบภายใน ในขณะที�การแพร่กระจายของโรคระบาด เช่น โควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ฝีดาษลิง และโรคอื�นๆ อีกมากมาย ที�ระบาดไปทั�วทุกมุมโลก ทำให้ทุกคนต้องหันมาใส่ใจ ให้ความสำคัญกับสุขภาพของตนเองเป็นอันดับแรก อีกทั�งการใช้ชีวิตในรูปแบบ ปกติใหม่ (New Normal) ซ่�งจากสาเหตุดังกล่าวนี�จ่งเป็นอุปสรรคต่อการ ดำเนินชีวิตประจำวันของผู้คนในปัจจุบันเป็นอย่างมาก ที�ไม่สามารถทำกิจกรรม อันพ่งประสงค์ได้อย่างปกติสุข เช่น การกิน การนั�ง การนอน การทำงาน และ การสร้างสรรค์ผลงานตามความรัก ความชอบ ความถนัดของตนได้เหมือนเดิม ผู้วิจัยสร้างสรรค์จ่งมีวัตถุประสงค์ ออกแบบภายในพื�นที�อเนกประสงค์ที�มีความ กลมกลืนกับธรรมชาติและเหมาะสมกับชีวิตประจำวัน เพื�อกระตุ้นและตอบสนอง ความปรารถนาในรูปแบบของตนเองได้ ในพื�นที�เรียนรู้เข้าใจ เข้าถ่งธรรมชาติ ด้วยความคิดสร้างสรรค์ เพื�อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้ดีข่�นทั�งกายและใจในช่วง วิกฤติการณ์เช่นนี� แนวความคิดในการสร้างสรรค์ คือ เกษตรสร้างสรรค์ (Creative Agriculture) โดยการทำการเกษตรแบบใหม่ที�ไม่ใช้สารเคมี เพื�อให้ได้ผลผลิตที�ปลอดสารพิษ และรักษาสิ�งแวดล้อม โดยผสานกับแนวความคิดการหลอมรวมพื�นที�ภายในกับ ภายนอก (Outside In, Inside Out) เข้าด้วยกัน ที�สามารถสัมผัสบรรยากาศ ภายนอกอาคาร แต่ก็ยังคงมีความเป็นส่วนตัวและมีความสะดวกสบายในขณะที� อยู่ภายในอาคาร ด้วยการผสานสัมพันธ์ระหว่างพื�นที�กับเวลา (Space & Time) ให้เป็นหน่�งเดียวกันได้อย่างกลมกลืนและเข้าถ่งง่าย ขั�นตอนสร้างสรรค์การ ออกแบบภายในพื�นที�อเนกประสงค์ มีดังนี� 1) เก็บข้อมูล สำรวจบริบทของพื�นที� และความต้องการของผู้ใช้งาน 2) วิเคราะห์แนวความคิดในการออกแบบสร้างสรรค์ 3) งานออกแบบร่างและออกแบบขั�นพัฒนา 4) งานออกแบบขั�นรายละเอียดต่าง ๆ เพื�อตอบวัตถุประสงค์ที�ตั�งไว้ และ 5) เผยแพร่และส่งต่อผู้ที�สนใจต่อไป จากผลงานสร้างสรรค์นี� พบว่า การดำเนินชีวิตประจำวันอันเป็นหน่�งเดียวกันใน ธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน ด้วยการหลอมรวมพื�นที�ภายในกับภายนอกนั�น จะ ทำให้มีดุลยภาพของชีวิตระหว่างร่างกายกับจิตใจ โดยการปลูกต้นไม้ 5 ระดับ ภายในอาคาร คือ 1) ไม้เลื�อยเพื�อให้ร่มเงา เช่น ม่านบาหลี เบิกฟ้าอมร 2) ไม้ แขวนเพื�อฟอกอากาศ เช่น เฟิร์นบอสตัน เฟิร์นสไบนาง 3) ไม้ประดับเพิ�มสีสัน สดใสมีชีวิตชีวา เช่น เฮลิโคเนีย มอนสเตอร่า กุหลาบ 4) ไม้พุ่มเตี�ยสมุนไพรพื�น บ้านเพื�อใช้บริโภคและรักษาโรค เช่น ตะไคร้ กะเพรา กัญชา โหระพา 5) ไม้ คลุมดิน เช่น ใบบัวบก สะระแหน่ วอเตอร์เคส เป็นต้น ภายใต้แนวความคิด “ชีวิตสายเขียว: Stay Green” ที�ก่อประโยชน์ได้ครบทั�ง 5 อ. คือ 1) อาศัยในที� ใกล้ชิดกับธรรมชาติ 2) อากาศที�ถ่ายเทปลอดโปร่ง 3) อาหารที�ปลูกกินเอง ปลอดสารพิษ 4) ออกกำลังกายในกิจกรรมในร่มและกลางแจ้งที�เหมาะสมกับวัย 5) อารมณ์ดี มีความสุขกับงานอดิเรกที�สร้างสรรค์ ในการอยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ นั�น ควรมีเวลาและรู้จักเรียนรู้นิสัยพืชพันธุ์ไม้ที�ปลูกทั�งในอาคารและกลางแจ้ง เป็นอย่างดี เพราะต้นไม้เหล่านี�มีชีวิตเช่นเดียวกับคนเราที�ต้องการการดูแลรักษา เอาใจใส่อย่างใกล้ชิด
24 | FACULTY The Oceanic Sportel โรงแรมบูรณาการศาสตร์ การท่องเที่ยวและการกีฬา ผู้ช่ วยศาสตราจารย์เอกพงษ์ ตรีตรง | ภาควิชาออกแบบตกแต่งภายใน คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร | [email protected] โครงการที� มีแรงบันดาลใจจากการเห็นประโยชน์ของการท่องเที�ยวเชิงสร้างสรรค์ มิ ติใหม่ โดยได้ บูรณาการระหว่างโรงแรมและการกีฬา โดยสถานที�นี�เป็นพื�นที�สำหรับการจัดแข่งกีฬา เก็บตัวนักกีฬาและนันทนาการในครอบครัว การฝึกซ้อมกีฬาตั�งแต่วัยเด็กโดยโค้ชผู้ชำนาญการด้านกีฬานั�นๆ โดยมีการตั�งใจอย่างมากที�เห็นการพักผ่อนในโรงแรมที�มีเนื�อหาสาระที�ประสานกับการกีฬาวัตถุประสงค์ของการสร้างสรรค์ : 1) การนำรหัสที�ตั�งโดยใช้ศาสตร์ 4 DNA มา สร้างสรรค์โครงการให้เกิดเอกภาพและลักษณะเฉพาะตัว 2) การสร้างสรรค์โครงการที�นำกิจกรรมทางการกีฬาและการท่องเที�ยวตลอดจนการพักผ่อนมาผสานให้สอดคล้องบูรณาการให้เป็นเอกภาพโดยมีอัตลักษณ์ของจังหวัดภูเก็ตมาออกแบบให้เกิดเอกภาพและสร้างแรงด่งดูดและจุดขายของโครงการ 3) การสร้างสรรค์โครงการที�คำน่งถ่งสิ�งแวดล้อมของจังหวัดและเกาะภูเก็ต แนวความคิดมาจากบุคลิกของจังหวัดภูเก็ตนำมาผสานกับการกีฬา โดยให้ บุคลิกอาคารนั�นให้รู้ส่กมีความเคลื�อนไหวกระฉับกระเฉง มีลายเส้นที�สอดคล้องกัน ตั�งแต่สถาปัตยกรรมภายนอกเชื�อมต่อสู่สถาปัตยกรรมภายใน ไปจนถ่งรายละเอียดวัสดุ และคู่สีที�มาจากท้องทะเล การออกแบบสภาพแวดล้อมในโครงการ ที�คำน่งถ่งการประหยัดพลังงานโดยใช้แสงจากธรรมชาติ มีการเจาะช่องแสงจากหลายจุดของโรงแรมภายใต้แนวคิด Inside out - Outside in การออกแบบแต่ละจุดมีเงื�อนไขคือไม่ให้เสียเศษวัสดุในการติดตั�งจ่งนำแนวคิดในการลดขยะ ในโรงแรมตลอดจนการใช้ วัตถุ ดิบโดยเน้น Amenity ในห้องน�ำ และอุ ปกรณ์ ต่างๆ ที�สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้แต่ ยังคงมีความทันสมัย โครงการได้ความสำเร็ จและสัมฤทธิ�ผลเชิงประจักษ์ จนได้ รับรางวัล Asia Pacific Property Awards : New Hotel Construction & Design Asia Pacific: The Oceanic Sportel by Ideal1 Co.,Ltd. ปี 2565 อันสะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบ การท้องถิ�นสามารถนำแนวคิดสร้างสรรค์และการออกแบบที� ดีไปพั ฒนาธุรกิ จจน สามารถเทียบขั�นนักลงทุนต่างชาติ และการลงทุนขนาดใหญ่ได้ จากแสดงให้เห็น ว่าการออกแบบสามารถช่ วยการบูรณาการให้เกิดความเป็นเอกภาพได้ ทั�งความ งามและกิ จกรรมสู่การสร้างสรรค์โครงการที�แตกต่าง โดยมี สัญญะสะท้อนถ่ง ความตั�งใจของนักออกแบบเพื�อให้โครงการมีเอกภาพและปรากฎโฉมสู่สายตา ชาวไทยและชาวต่างชาติ ทำให้เกิดความประทับใจในการเข้าพักและกลับมาพักซ�ำหลายๆ ครั�ง องค์ความรู้ที�ได้ รับจากการสร้างสรรค์ : 1) องค์ความรู้ด้านการออกแบบภายใน การออกแบบสถาปัตยกรรมและการออกแบบกิ จกรรม 2) การสร้างสรรค์ให้เกิด เอกภาพด้ วยศาสตร์ 4 DNA ต่อยอดทุนทางวัฒนธรรมและพื�นถิ�นเพื�อปรากฏ เป็นการออกแบบที�เป็นเอกภาพ 3) การออกแบบให้เกิดสัญญะในการแสดงออก สู่ประสบการณ์ใหม่ของโรงแรมโดยมีรหัสที�อธิบายไปจนถ่งภาพลักษณ์องค์กร กราฟิก การใช้ สีและการสื�อสารของโครงการทั�งระบบ 4) การออกแบบที�คำน่ง ถ่งสิ�งแวดล้อมและเจียระไนจากปัญหาของพื�นที� ภาวะโลกร้อน การออกแบบที� มี จุดประสงค์ให้ผู้ใช้อาคารตระหนักถ่งสิ�งแวดล้อมทั�งลูกค้า พนักงานในโครงการ ที� มีแผนและระบบในการลดขยะให้ มากที� สุดซ่�งเป็นหัวใจของโครงการนี� Outstanding Social, Economic, Technology, Environmental and Cultural Impact
FACULTY | 25 โรงต้มตาล โชคดี ศรีสมบัติ | สาขาวิชาสถาปัตยกรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ และการออกแบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ | [email protected] 42.0 x 29.4 ซม. | Drawing, Adobe Photoshop ผลงานชิ�นนี�เกิดจากผู้นำเสนอมีความสนใจในงานสถาปัตยกรรมพื�นถิ�น ซ่�งเป็น งานสถาปัตยกรรมที�เป็นมิตรต่อสิ�งแวดล้อมในแง่ของการออกแบบผ่านงาน สถาปัตยกรรม (Passive Architecture) ลักษณะศ่กษาเป็นการวิจัยนำเสนอแนวคิด ในการศ่กษาสภาพความเป็นอยู่ของผู้คนของชุมชนบ้านดงห้วยหลวง อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี จ่งมีความสนใจการนำเสนอภูมิปัญญาของชาวบ้านออกมาใน ลักษณะของงานสำรวจ เก็บข้อมูล วิเคราะห์ เพื�อเก็บข้อมูลทั�งทางกายภาพทาง งานสถาปัตยกรรมและการได้ศ่กษาข้อมูลวิถีชีวิตของชาวบ้านดงห้วยหลวง การลง ทำงานภาคสนามและใช้เครื�องมือทางสถาปัตยกรรมบันท่กแง่มุมความคิดทาง สถาปัตยกรรม สภาพแวดล้อมและวิถีชีวิตของผู้คน ที�นำไปสู่การเปิดประสบการณ์ ทางความคิดเชิงนิเวศ (Ecological) ระหว่างผู้คนกับสถาปัตยกรรมจนเกิดเป็น แนวคิดที�เรียกกันว่า “Architectural Ethnography” รูปแบบของการสำรวจและ นำเสนอลายเส้นและใช้รูปแบบการนำเสนอแบบภาพการ์ตูนมังงะ ซ่�งเป็นที� คุ้นเคยของเยาวชนรุ่นใหม่ “โรงต้มตาล” หน่�งในสถาปัตยกรรมแห่งวิถีชีวิตของชาวสวนตาลเมืองเพชร เป็น แบบอย่างการใช้ประโยชน์จากต้นตาลอย่างคุ้มค่าถ่งที�สุด แทบจะทุกส่วนของต้นตาล สามารถนำมาใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า โดยผ่านกระบวนการทางวิถีชีวิตสืบทอด ภูมิปัญญาจากรุ่นสู่รุ่น โรงต้มตาลและวิถีชีวิตของชาวสวนตาลนั�นมีความน่าสนใจ อันได้แก่ 1) เรื�องของวิถีกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์จากตาลโตนดไปสู่ผลิตภัณฑ์ รูปแบบอื�น เช่น การนำเอาทุกองค์ประกอบในต้นตาลโตนดไปปรับประยุกต์ใช้ เป็นต้น 2) การสร้างสถาปัตยกรรมเพื�อเป็นสถานที�อยู่อาศัยหรือแปรรูปผลิตภัณฑ์ วิธีการดัดแปลงวัสดุสถาปัตยกรรมสร้างโดยแรงช่างเป็นหลัก จ่งทำให้งาน สถาปัตยกรรมที�ออกมาจะเป็นการสะท้อนทั�งแนวคิดรูปแบบวิถีการทางช่างและ ศิลปะของผู้สร้างลงไปโดยตรง 3) การจัดการสิ�งแวดล้อมในลักษณะที�แสดงให้ เห็นถ่งการไม่มีของเหลือกับกระบวนการที�เกิดข่�น แนวคิด (Zero Waste) ลด ขยะเป็นศูนย์
26 | FACULTY การศึกษาที่ตั้ง-โครงสร้างทางกายภาพ-การใช้พื้นที่ สาธารณะของตลาดนาทํ้ ส ี่าคํ ัญในลุมน่ า ํ้ แม่กลองตอนล่าง ธีรดา รองรัตน์ | สาขาวิชาสถาปัตยกรรมผังเมือง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ | [email protected] 30 x 60 ซม. | Urban Mapping and Diagram by Survey พื�นที�ลุ่มแม่น�ำแม่กลองตอนล่างถือเป็นพื�นที�ตั�งถิ�นฐานชุ มชนริมน�ำดั�งเดิมที�สำคัญและเป็นศูนย์กลางทางการซื�อขาย พบตามบริเวณจุดตัดคลองหรือปากแม่น�ำสายสำคัญประกอบไปด้วยตลาดร้านค้าที�หนาแน่นสองฝั�งคลอง ปัจจุบันศูนย์กลางตลาดน�ำขนาดใหญ่ถูกเปลี�ยนบทบาทจากชุมชนริมน�ำดั�งเดิมและตลาดน�ำมาอยู่ในรูปแบบของพื�นที�เพื�อการท่องเที�ยว การศ่กษานี�มีวัตถุประสงค์เพื�อ ศ่กษารู ปแบบที�ตั�ง โครงสร้างทางกายภาพ และการใช้งานของพื�นที�สาธารณะของตลาดน�ำที�สำคัญ 6 แห่ง ตลาดน�ำบางน้อย ตลาดน�ำบางนกแขวก ตลาดน�ำ อัมพวา ตลาดน�ำท่าคา ตลาดน�ำร่มบวร ตลาดน�ำดำเนินสะดวก เพื�อสะท้อนให้เห็นลักษณะพฤติกรรมการใช้งานของพื�นที�สาธารณะในตลาดน�ำแต่ละแห่งให้เกิดความเข้าใจในพื�นที�เพื�อสามารถนำข้อมูลไปประกอบการพัฒนาเชิงพื�นที�ในอนาคต ผู้วิจัยใช้กระบวนการสำรวจเชิงพื�นที�และสอบถามผู้ใช้งานในพื�นที� เพื�อวิเคราะห์ผลในรูปแบบแผนผังและ Mapping and Diagram จากการวิเคราะห์รูปแบบที�ตั�งของตลาดน�ำสามารถจำแนกได้ 4 ประเภท ได้แก่ 1) ที�ตั�งบริเวณจุดตัดของ ลำคลอง 2) ที�ตั�งบริเวณปากแม่น�ำ 3) ที�ตั�งบริเวณริมน�ำหน้าวัด และ 4) ที�ตั�งตามเส้นทางน�ำที�เหมาะสม ด้านโครงสร้างทางกายภาพของตลาดน�ำในพื�นที�ศ่กษาพบว่าจากการตั�งถิ�นฐานของชุมชนเดิมริมน�ำมักมีองค์ประกอบที�สำคัญของชุมชนริมน�ำของไทย ได้แก่ 1) ศาสนสถาน 2) ศาลาท่าน�ำ ท่าเรือและบันไดท่าน�ำ 3) พื�นที�ท้องน�ำ 4) ทางเดินริมน�ำและสะพานข้ามคลอง 5) ตลาดน�ำและตลาดอื�น ๆ ในละแวกเดียวกัน การวิเคราะห์รูปแบบของตลาดน�ำสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ตามลักษณะการใช้งานของตลาดในปัจจุบันและโครงสร้างทางกายภาพที�สำคัญ ได้แก่ 1) ตลาดน�ำดั�งเดิม 2) ตลาดน�ำประยุกต์ และ 3) ตลาดน�ำจำลอง ซ่�งรู ปแบบการใช้งานพื�นที�สาธารณะของตลาดน�ำแต่ละประเภท นั�นแตกต่างกันออกไป โดยตลาดน�ำประยุกต์และตลาดน�ำจำลองมักมีการจัดการ พื�นที�เพื�อส่งเสริ มรองรับการท่องเที�ยวมากกว่าแบบตลาดดั�งเดิ ม ผังภาพสะท้อนลักษณะที�ตั�งและการใช้งานของพื�นที�สาธารณะของตลาดน�ำที� สำคัญ 6 แห่งในลุ่มแม่น�ำแม่กลองตอนล่าง จากการศ่กษาพบว่าการใช้งานพื�นที� สาธารณะของตลาดน�ำในปัจจุ บันมีความแตกต่างกันตามรู ปแบบพื�นที�และความ เปลี�ยนแปลงทางเศรษฐกิจสังคมในปัจจุ บัน โดยโครงสร้างทางกายภาพที�สำคัญ ของตลาดน�ำดั�งเดิมคือศาสนสถานและแหล่งการค้าใหม่ที�เชื�อมโยงกับตลาดน�ำเดิม ซ่�งช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจในชุมชนเดิม ในขณะที�โครงสร้างทางกายภาพที� สำคัญของตลาดน�ำที� มีการฟ้�นฟูและตลาดน�ำจำลองคือพื�นที�ทางเดินริมน�ำ ท้องน�ำและลานอเนกประสงค์เพื�อส่งเสริ มการค้าและท่องเที�ยวในปัจจุ บัน โดย องค์ความรู้ดังกล่าวสามารถนำไปปรับใช้เป็นแนวทางสำคัญในการพั ฒนาและ ปรับปรุงพื�นที�สาธารณะของตลาดน�ำในลุ่มแม่น�ำแม่กลองในอนาคต
FACULTY | 27 งานออกแบบลายหน้าบันซุ้มประตูพระเจดีย์ “วัดทองบน” ผู้ช่วยศาสตราจารย์ชาญ วิทย์ สุข พร | ภาควิชา ศิลปสถาปัตยกรรมคณะสถาปัตยกรรม ศาสตร์ มหาวิทยาลัย ศิลปากร | [email protected] 2.40 x 2.40 เมตร | แบบร่าง ดินสอ บนกระดาษ และโปรแกรมAuto CAD พระเจดีย์วัดทองบน เป็นงานออกแบบสถาปัตยกรรมอย่างสถาปัตยกรรมไทยร่วมสมัย ซ่�งทางเจ้าภาพงานก่อสร้างพระเจดีย์ มีความประสงค์ที�จะให้บรรจุลายหน้าบันประกอบในส่วนของซุ้มประตูทั�ง 4 ด้านของพระเจดีย์ โดยลวดลายจะต้องมีความโดดเด่นแต่สามารถสอดรับกับตัวพระเจดีย์โดยรวมได้ ทางผู้ออกแบบ จ่งกำหนดให้เป็นงานลายปูนปั�นทาสีขาวล้วนให้เป็นเนื�อสีเดียวกับองค์พระเจดีย์ มีการออกแบบลวดลายเป็น 2 ลักษณะดังนี� ซุ้มประตูทางเข้าทั�ง 3 ด้าน ออกแบบ ให้มีลวดลายแบบเดียวกัน และใช้การทำงานแบบพิมพ์คอนกรีตประกอบลาย ใน ส่วนซุ้มประตูด้านหลังเป็นซุ้มประตูหลอก กำหนดให้เป็นงานปั�นปูนสด ใช้ลวดลาย เฉพาะที�มีความหมายต่อครอบครัวของเจ้าภาพงานก่อสร้างพระเจดีย์ การทำแบบครั�งนี�ได้ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ Auto CAD ในการทำการเขียนแบบและ การทำงานแบบขยาย 1:1 เพื�อให้ช่างปั�นสามารถทำตามแบบได้อย่างถูกต้อง ลายหน้าบันซุ้มประตูทางเข้าทั�ง 3 ด้าน กำหนดให้เป็นงานพิมพ์ลายคอนกรีต ประยุกต์ลวดลายให้เป็นแบบร่วมสมัย ตำแหน่งประธานของลายออกแบบเป็นลาย “ปูรณฆฏะ” ซ่�งเป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์เป็นความหมายการอวยพรให้แก่ผู้ที�มาสักการะด้านในพระเจดีย์และเป็นการอวยพรให้แก่เจ้าภาพงานก่อสร้างให้ครอบครัวมีความสุขสมบูรณ์ มีความสำเร็จในการงานธุรกิจต่างๆ ลายพญานาคปรากฏอยู่ทั�งสองข้าง มีความหมายถ่งการช่วยปกป้องรักษาคุ้มครองให้ความสำเร็จและความอุดมสมบูรณ์ได้อยู่ยั�งยืนนาน ลายหน้าบันซุ้ม ประตูหลอกด้านหลัง ในส่วนฐานของซุ้มจะเป็นพื�นที�บรรจุอัฐิบิดาและมารดาของครอบครัวเจ้าภาพ จ่งมีการออกแบบให้เป็นงานปูนปั�นสดที�มีลวดลายเฉพาะแตกต่างจากซุ้มประตูอื�นๆ มีการนำความหมายชื�อภาษาจีนของคุณพ่อและคุณแม่ แปลเป็นสัญลักษณ์อันได้แก่ ต้นไม้ แม่น�ำ นก หอยมุก และภูเขา นำมาร้อยเรียงเป็นเรื�องราวของภาพลายหน้าบัน การนำโปรแกรม Auto CAD มาช่วยในการเขียนแบบและขยายแบบ ทำให้สามารถ ตรวจงานแบบขยาย 1:1 เพื�อเช็คความเรียบร้อยของงานได้สะดวกมากยิ�งข่�น สามารถปรับแก้งานเฉพาะส่วนได้ ลดปัญหาความเข้าใจคลาดเคลื�อนของช่างที�มี ต่อแบบ ปัญหาของการทำงานจะอยู่ที�กระบวนการทำงานที�อาจจะดูยุ่งยากและ ซับซ้อน ต้องมีทักษะในการเขียนแบบด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์
28 | FACULTY บ้านพักอาศัยแห่งสันทนาการปราบ ชัยวัฒนา | ภาควิชาสถาปัตยกรรมภายใน คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ | [email protected]ประมาณ 500 ตารางเมตร | งานออกแบบสถาปัตยกรรมและตกแต่งภายใน โครงการบ้านพักอาศัยแห่งสันทนาการหลังนี�เกิดข่�นจากการที�ทางเจ้าของบ้านซ่�งเป็นคู่สามีภรรยาและมีลูกสาวและลูกชายซ่�งอยู่ในวัยผู้ใหญ่ ทางสามีเป็นเจ้าของกิจการและภรรยาเป็นแม่บ้าน ซ่�งการใช้ชีวิตประจำวันของทั�งคู่ จะมีเวลาในการ ทำกิ จกรรมที� บ้านค่อนข้างมาก ทั�งคู่จะมี กิ จกรรมต่างๆ มากมายทั�งกับครอบครัว และกับเพื�อนฝูง ซ่�งมีทั�งการออกกำลังกาย เล่นเกมส์ กีฬา พักผ่อน และสังสรรค์ ทั�งคู่จ่งมีความคิดที� จะเพิ�มพื�นที� กิ จกรรมต่างๆ ซ่�งไม่พอเพียงในพื�นที� บ้านหลังเดิ ม จ่งต้องการเพิ�มพื�นที� กิ จกรรมและพื�นที� ส่ วนตัวให้กลมกลืนกันอย่างลงตัวมากข่�น และได้ทำการซื�อที� ดินแปลงที�อยู่ติดกับตัวบ้านเดิ มเพิ�มอีกหน่�งแปลง จ่งทำให้เกิด การออกแบบโครงการบ้านพักอาศัยแห่งสันทนาการหลังนี� แนวทางในการออกแบบโครงการนี�จะเน้นการสร้างความสัมพันธ์ของพื�นที�กิจกรรมใหม่ให้กลมกลืนกับบริบทของบ้านพักอาศัยเดิม ซ่�งเป็นอาคาร 2 ชั�นมี ระเบียงชั�นบนบริเวณด้านหน้าอาคารและสวนบริเวณด้านหลังอาคารชั�นล่าง ซ่�ง ทั�ง 2 ส่ วนนั�นเป็นพื�นที�เปิดโล่งซ่�งเหมาะแก่การสร้างความต่อเนื�องของพื�นที� กับ อาคารพักอาศัยใหม่ที� จะเกิดข่�น อีกทั�งยังมี ต้นไม้ใหญ่บริเวณด้านหน้าโครงการ ระหว่างที� ดินเดิ มและที� ดินใหม่ ซ่�งทำให้เกิดความร่มรื�นระหว่างสองพื�นที� ในส่ วน ของตำแหน่งและทิ ศทางการวางตัวของพื�นที� ก่อสร้างและลักษณะของอาคาร หลังเดิมจะส่งผลต่อการรับแสงธรรมชาติ การรับลมธรรมชาติ และการเชื�อมต่อกับพื�นที�ใช้สอยเดิม โดยขั�นตอนการออกแบบได้คำน่งถ่งองค์ประกอบเหล่านี�ซ่�งส่งผลต่อบรรยากาศ ภาวะความน่าสบาย และการใช้สอยของพื�นที�กิจกรรมต่าง ๆ ภายในโครงการแห่งนี� ซ่�งการออกแบบรู ปทรงของอาคารใหม่นี�ก่อให้เกิดพื�นที� ว่างระหว่างอารคารใหม่และเก่าเป็นลานศูนย์กลางกิ จกรรมภายนอกของ ครอบครัว ส่ วนโถงชั�นล่างจะมี ลักษณะเสมือนเป็นพื�นที�ใต้ ถุนของอาคารไทยพื�น ถิ�นมีหน้าที�หลักสำหรับเชื�อมโยงพื�นที� กิ จกรรมของบ้านหลังเดิมสู่บ้านหลังใหม่ และโถงชั�นสองจะมี ลักษณะเสมือนชานเชื�อมพื�นที� กิ จกรรมซ่งมีความเป็นส่ วนตัว มากข่�นในชั�นสอง ทั�งหมดนี�ผลของการออกแบบก่อสร้างหลังจากที�ทางเจ้าของบ้านได้อยู่อาศัยและใช้งานไปแล้วนั�น อาคารหลังนี�ได้สร้างความสัมพันธ์ของกิจกรรมภายในครอบครัว และกับธรรมชาติภายนอกได้เป็นอย่างดี แต่ ก็พบปัญหาทั�งการใช้งานและการ ก่อสร้างอยู่บ้าง เช่น การป้องกันน�ำฝนไม่เพียงพอในช่ วงเวลาที�ลมแรง วัสดุที� เลือกใช้ไม่เหมาะสมในบางตำแหน่ง การแตกร้าวรั�วซ่มของปูน เป็นต้น และได้ มี การปรับปรุงแก้ไขเสร็จสิ�นหลังจากนั�น ซ่�งสิ�งที�ได้เรียนรู้หลังจากเสร็จสิ�น กระบวนการทั�งหมดของโครงการจะเป็นประโยชน์สำหรับการนำไปประยุกต์ และพัฒนาโครงการในอนาคตต่อไป
FACULTY | 29 Listening with your heart คณิตา มีชูบท | ภาควิชาออกแบบนิเทศศิลป์ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร | [email protected] 18 x 22 ซม. | Digital paint ชุดผลงานนี� เกิดจากความร่วมมือของสมาคมสะมาริตันส์แห่งประเทศไทย และ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้จัดทำสื�อประชาสัมพันธ์ “การรับฟังด้วยหัวใจ เพื�อป้องกันการฆ่าตัวตาย” ในช่วงเวลาที�เกิดการแพร่ระบาด ของเชื�อไวรัสโควิด-19 ที�ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อประชาชนไทยจำนวนมาก ได้ ก่อให้เกิดความกดดันทางการเงิน ขาดรายได้ จ่งเกิดความเครียดก่อให้เกิดอารมณ์เชิงลบ ซ่�งอาจส่งผลให้กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบฆ่าตัวตาย ในการออกแบบ ครั�งนี� จ่งได้มุ่งเน้นศ่กษาทดลองการออกแบบภาพศิลปะที�ส่งเสริมความรู้ส่กเชิงบวก จากทฤษฎีจิตวิทยาที�ได้นำมาเชื�อมโยงกับศิลปะ เพื�อให้ผู้ที�ได้ชมภาพนั�นเกิด ความรู้ส่กผ่อนคลาย ในปัจจุบันมีการสื�อสารออนไลน์กันมากข่�น จ่งเกิดเป็นแนวความคิดในการออกแบบ แผ่นการ์ดภาพประกอบออนไลน์เพื�อส่งเสริมความรู้ส่กเชิงบวก ซ่�งสามารถเผยแพร่ ด้วย Social Media โดยใช้ช่องทาง Facebook Page และ Twitter ของสมาคม สะมาริตันส์เพื�อสื�อสารภาพและข้อความที�ทำให้เกิดอารมณ์เชิงบวกให้บุคคล ทั�วไปได้ โดยได้จัดทำภาพประกอบในรูปแบบการ์ดให้กำลังใจจำนวน 6 แบบ ซ่�ง ใช้แนวคิด Positive Design1 ที�ก่อให้ความรู้ส่กอ่อนโยน อบอุ่น ประกอบด้วย เส้นโค้ง ในการออกแบบตัวละครที�มีอารมณ์เชิงบวก ทั�งนี�ได้มีการวิเคราะห์เนื�อหา และข้อความจากนักจิตวิทยาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เพื�อให้ได้ภาพที�เหมาะ สมในการให้กำลังใจผู้ประสบปัญหา แล้วจ่งใช้ทฤษฎีจิตวิทยาศิลปะในการ ออกแบบเรื�องทัศนธาตุและสีต่อไป จากการใช้แนวคิด Positive Design ในการออกแบบผลงานของ Hester van Zuthem (2018)2 ทำให้ชาวเมืองในอัมสเตอร์ดัมมีความคิดเชิงบวกต่อกัน และ อยู่รวมกันอย่างมีความสุข จ่งชี�ให้เห็นว่าแนวคิดนี�สามารถนำมาใช้ในการออกแบบ ได้ ซ่�งในการสร้างสรรค์ผลงานชุดนี� ทำให้ผู้ออกแบบได้ทราบว่าภาพประกอบ เพื�อส่งเสริมให้ผู้ชมเกิดอารมณ์เชิงบวกนั�น ในเรื�องหลักการออกแบบมีความ สำคัญเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในเรื�องสีและเส้น อีกทั�งเรื�องการออกแบบตัวละคร ในงาน (Character) ทำให้ผู้ชมภาพเกิดความผ่อนคลายและประทับใจด้วยสีที� ละมุน ประกอบกับตัวละครที�แสดงถ่งความรู้ส่กเชิงบวก และผู้ชมแนะนำว่า อยากจะให้มีการ์ดจำนวนมากข่�น การศ่กษาครั�งนี�เป็นการศ่กษานำร่องเพื�อรู้ทิศทาง ในการศ่กษา และเพื�อพัฒนาผลงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ�งข่�นนั�น ในการศ่กษา ครั�งต่อไป อาจต้องมีการทดลองในประชากรเฉพาะกลุ่มที�ต้องการศ่กษา และใช้ จำนวนผู้เชี�ยวชาญที�มากข่�น เพื�อให้ได้ผลของการวิจัยที�มีความแม่นยำมากยิ�งข่�น 1 Desmet, P. M. A. (2013). Positive design: An introduction to design for subjective well-being. International Journal of Design 2 Zuthem (2018). Positive design: Delft students design for our well-being. Delft, Delft University of Technology.
30 | FACULTY ปรี ชา เถาทอง : กาตาล็อก เรซอนเน่ ดร.จิรายุ พงส์วรุตม์ | ภาควิชาออกแบบนิเทศศิลป์ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร | [email protected] 22.4 x 29.8 ซม. จำนวน 244 หน้า | พิมพ์ออฟเซต และแทรกภาพพิมพ์ หิน กาตาล็อก เรซอนเน่ (Catalogue Raisonné) คือ หนังสือรวบรวมผลงานโดยเน้นที�ประวัติการสร้าง ปีที�สร้าง การเปลี�ยนมือผู้ครอบครองแต่ละครั�ง มีจุดมุ่งหมายเพื�อรวบรวมข้อมูลที�สามารถตรวจสอบได้ชัดเจน ณ ช่วงเวลาหน่�งๆ สถาบันเกี�ยวกับศิลปะในต่างประเทศเป็นผู้ริเริ�มจัดทำข่�น เพื�อใช้อ้างอิงซื�อขายหรือเปลี�ยนมือผู้ครอบครอง โดยจะมีการแก้ไขเพิ�มเติมในกรณีที�พบผลงานใหม่ และมีการตัดผลงานออกในกรณีที�ตรวจสอบพบว่าไม่ใช่ผลงานของศิลปินท่านนั�น จ่งเป็นแหล่งข้อมูลที�สำคัญสำหรับตรวจสอบ ลักษณะงาน วัสดุ และเทคนิคที�ใช้ ช่วงเวลาที�สร้างงาน จ่งเอื�อกับการศ่กษาวิจัยและการซื�อขายผลงานของศิลปินให้มีความชัดเจนข่�น ซ่�งการจัดทำหนังสือลักษณะนี�นับเป็นครั�งแรกสำหรับศิลปินไทย ศาสตราจารย์เกียรติคุณปรีชา เถาทอง ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ ด้านจิตรกรรมได้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะอย่างต่อเนื�องยาวนานกว่า 50 ปี จ่งทำให้มี ผลงานจำนวนมาก กองบรรณาธิการได้จัดแบ่งเนื�อหาออกเป็น 4 ส่ วน ซ่�งมี ลักษณะแตกต่างกันอันเป็นโจทย์สำหรับผู้ออกแบบดังนี� 1. ส่ วนข้อเขียนที�เกี�ยวข้องที� มาจากผู้เขียนสามท่าน ท่านแรกคือศาสตราจารย์ เกียรติ คุณพิษณุ ศุภนิ มิตร เพื�อนสนิทตั�งแต่ วัยเด็กที�ได้ทำการวิเคราะห์แยกแยะ ผลงานของศิลปินออกเป็นช่ วง ท่านที�สองคือคุณภาวนา ชุณหรักษ์โชติ นักสะสม ผลงานศิลปะที� พูดถ่งผลงานตามมุมมองที�ตนเองสนใจและสะสม ท่านที�สามคือ ผู้ช่ วยศาสตราจารย์ปวีณา สุ ธีรางกูร นักวิชาการรุ่นเยาว์ที�วิเคราะห์ประเด็นสำคัญ คือแสงเงาและเวลาในผลงานของศิลปิน 2. ส่ วนลักษณะเด่นของผลงานศิลปะแต่ละยุค ในส่ วนนี�หนังสือจะทำหน้าที�ขยาย ความให้ผู้อ่านได้ชมภาพผลงานให้สวยที� สุดเท่าที� จะเป็นไปได้ จ่งออกแบบให้ภาพ ได้ “พูด” ในแต่ละประเด็นอย่างสวยงามและมีความต่อเนื�องในยุคสมัยของภาพแต่ละภาพด้วย 3. ส่ วนผลงานที�รวบรวมมาได้ ส่ วนนี�มีโจทย์สำคัญ คือผลงานของศิลปินมีขนาด ที�หลากหลายตั�งแต่ไม่เกิน 30 เซนติเมตร ไปจนกระทั�งยาวกว่า 3 เมตร การ ออกแบบจ่งเน้นให้การแสดงขนาดภาพให้เป็นสัดส่ วนกับขนาดภาพจริง และแก้ปัญหา ที�ตามมาคือพื�นที�ในแต่ละหน้ายังสามารถสวยงามสมกับเป็นหนังสือศิลปะด้ วย 4. เป็นส่ วนผลงานศิลปะภาพพิมพ์ที�สร้างสรรค์ข่�นจำนวน 99 edition ในส่ วนนี�ผู้ ออกแบบมีโอกาสได้ พูดคุยกับศิลปินแต่แรกและได้ขอให้ศิลปินสร้างสรรค์ผล งานชุดใหม่โดยมี ลักษณะเด่นของงานที�แบ่งออกเป็น 4 ลักษณะเป็นตัวแทนของ 4 ยุค และปร่กษากับศิลปินภาพพิมพ์ หินที� มาทำงานให้ ทำให้ได้ผลงานภาพพิมพ์ ที�สามารถจับกี�เย็บรวมเข้าไปในเล่ มได้ ไม่ใช่แค่การแทรกเข้าไปทีละหน้าซ่�งจะมี ความคงทนน้อยกว่าลักษณะเด่นทั�งสี�นี�ถูกหลอมรวมกันเข้ากลายเป็นหนังสือหน่�งเล่มที� มีการเลือกกระดาษคุณภาพสูง เพื�อให้สามารถเป็นหนังสือศิลปะที�สวยงามในตัวเองด้วย
FACULTY | 31 THAIFORM & THAITONE ดร.ไพโรจน์ พิทยเมธี | ภาควิชาออกแบบนิเทศศิลป์ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร | [email protected] 120 x 120 ซม. | Digital print on canvas & Acrylic paint ผลงานสร้างสรรค์ในครั�งนี�มาจากการต่อยอดจากผลการวิจัยเรื�อง “การวิเคราะห์ รูปร่างรูปทรงไทยในงานศิลปะไทย เพื�อสร้างสรรค์ต่อยอดในงานกราฟิกไทย ร่วมสมัย”1 ที�ได้รูปร่างรูปทรงไทยที�จะนำไปประยุกต์ใช้ในงานออกแบบกราฟิก เพื�อให้สะท้อนความรู้ส่กของความเป็นไทย โดยประกอบด้วย รูปทรงสามเหลี�ยม จอมแห จากรูปทรงสถาปัตยกรรมและศิลปะไทย รูปทรงกลมจากธรรมจักร จากลายดาวเพดาน และจากลายกลางฝ่าพระพุทธบาท รูปทรงย่อมุมไม้สิบสอง จากสถาปัตยกรรมและลวดลายไทยสมัยอยุธยา รูปทรงสี�เหลี�ยมจากลายประจำ ยาม1 มาใช้สร้างสรรค์ออกแบบผลงานในครั�งนี� วัตถุประสงค์ 1) เพื�อให้เห็นตัวอย่างผลงานสร้างสรรค์ ที�ใช้รูปร่างรูปทรงไทย เป็นส่วนหน่�งขององค์ประกอบการออกแบบกราฟิกไทยร่วมสมัย 2) เพื�อการใช้ รูปร่างรูปทรงไทยผสมกับสีไทยโทน เพื�อให้สะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นไทย 3) เพื�อใช้เป็นภาพประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการท่องเที�ยวไทย ให้เห็นความงาม และเอกลักษณ์ไทย แนวความคิด การใช้รูปร่างรูปทรงไทย ผสมกับสีไทยโทน มาเป็นองค์ประกอบใน ภาพเพื�อสื�อถ่งเอกลักษณ์ไทย ในรูปสถานที�สำคัญของไทย ศิลปะไทย ที�สะท้อน เอกลักษณ์ไทย กระบวนการสร้างสรรค์ เริ�มด้วยการรวบรวมรูปร่างรูปทรงไทย กำหนดเนื�อหาของภาพที�จะสื�อแต่ละภาพ ลงมือออกแบบ วิเคราะห์ผลงานออกแบบ ปรับแก้ให้ลงตัวสมบูรณ์ และสรุปผลของผลงานออกแบบ สรุปผลงานที�ใช้รูปร่างรูปทรงไทยกับสีไทยโทน เป็นงานกราฟิกไทยร่วมสมัยได้ดี ที�จะเป็นแรงบันดาลใจ และสามารถนำไปใช้สอนในการออกแบบไทยให้นักออกแบบ ต่อไป องค์ความรู้ที�เกิดข่�น คือการใช้รูปร่างรูปทรงไทยกับสีไทยโทนที�เป็นเอกลักษณ์ ในรูปแบบที�เรียบง่ายข่�น ก็สามารถสะท้อนความเป็นไทยได้เช่นกัน ปัญหาที�ค้น พบระหว่างการออกแบบ คือการลดทอนรายละเอียดของงานศิลปะไทยที�มีราย ละเอียดมาก ต้องใช้เวลา แต่ผลที�ได้ก็มีความแปลกตา เรียบง่าย และมีความ ร่วมสมัยข่�น 1 ไพโรจน์ พิทยเมธี, “การวิเคราะห์รูปร่างรูปทรงไทยในงานศิลปะไทย เพื�อสร้างสรรค์ต่อยอด ในงานกราฟิกไทยร่วมสมัย,” Dec Journal 1, 2 (พฤษภาคม-สิงหาคม 2565): 97-124.
32 | FACULTY สมุ ดภาพรอยประพาสปิยมหาราชเสด็จยุโรป ร.ศ. ๑๒๖ ผู้ช่ วยศาสตราจารย์ ดร.ยอดขวัญ สวัสดี | ภาควิชาออกแบบเครื�องประดับ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร | [email protected] 29.80 x 24 ซม. | เทคนิคงานกระดาษ งานพิมพ์ 4 สีสมุดภาพรอยประพาสปิยมหาราชเสด็จยุโรป ร.ศ. ๑๒๖ ได้จัดพิมพ์ข่�น โดย สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร เพื�อเฉลิ มพระเกียรติในโอกาสครบ ๑๑๕ ปี พระบาทสมเด็ จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสยุโรปครั�งที� ๒ พุทธศักราช ๒๔๕๐ โดยนำเสนอเนื�อหา 5 บท 1. นิราศพระนคร 2. สัญจรอิตาลี 3. กลางวิถีที� ประพาส 4. บรรยากาศแห่งเมืองหนาว 5. หลากเรื�องราวและประเทศ วัตถุ ประสงค์ : เพื�อเผยแพร่เนื�อหาผ่านการออกแบบเรขศิลป์ และสื�อสารบุคลิก ลักษณะของข้อมูลให้ออกมาเป็นรูปธรรม โดยผ่านองค์ประกอบงานออกแบบ สิ�งพิมพ์ 2 มิ ติ กระบวนการสร้างสรรค์ เริ�มด้ วยการศ่กษารวบรวมข้อมูลของ สมุดภาพในสมัยรัชกาลที� 5 พบว่าส่ วนมากมีโครงสร้างสัดส่ วนในแนวนอน มี การจัดวางรู ปแบบเว้นขอบหน้าที�สมดุลทั�ง 4 ด้าน ขนาดรู ปไม่เต็ มหน้า มีลวดลาย ประดับไม่ มากนัก จ่งนำไปสู่การกำหนดรู ปเล่ มขนาด 29.80 x 24.00 เซนติเมตร (แนวนอน) จำนวน 320 หน้า โครงสร้างระบบกริดภายในของหนังสือสอดคล้องกับรูปแบบสมุดภาพเดิมที�ทำการค้นคว้ามาเบื�องต้น หน้าเปิดบทเป็นส่วนหน่�งที�ผู้ ออกแบบให้ความสำคัญในการย่ดโยงองค์ประกอบในรู ปภาพที� มีการปรากฏ ลวดลายต่างๆ ผู้ออกแบบจ่งได้ทำการทดลองถอดลวดลาย และนำมาจัดโครงสร้าง ของหน้าเปิด โดยผ่านทฤษฎีการซ�ำในรู ปแบบต่างๆ เพื�อหารู ปแบบที�เหมาะสม ในการนำไปใช้งานของทั�ง 5 บท รู ปแบบตัวอักษรหลัก ผู้ออกแบบเลือกใช้ ตัว อักษร ZT PSRD ที� มีโครงสร้างตัวอักษรบริเวณหางอ่อนช้อยงดงาม และเลือกใช้ สีประจำหน้าเปิดของบทต่างๆ เชื�อมโยงการใช้ สีประกอบเลขหน้า เพื�อมุ่งหวัง ให้เกิดการมองเห็นแถบสีที� ปรากฏด้านข้างของหนังสือซ่�งจะถูกแบ่งลำดับตามบท อย่างชัดเจน การประเมินคุณค่างานทัศนศิลป์จะพิ จารณาจาก 3 ด้าน ได้แก่ 1. คุณค่าด้าน ความงาม เป็นการประเมินคุณค่าด้านการใช้หลักองค์ประกอบศิลป์ โดยผลงาน ชิ�นนี�มุ่งเน้นการใช้งานออกแบบเรขศิลป์เพื�อให้สื�อสารบุคลิกลักษณะของข้อมูลให้ออกมาเป็นรูปธรรม การออกแบบลวดลายที�สื�อแสดงถ่งสถานที�และการถอดความผ่านการใช้เส้น และองค์ประกอบศิลป์ 2. คุณค่าด้านเนื�อหาสาระ ผลงาน ชิ�นนี�ถ่ายทอดเนื�อหาในอดีตอันเกี�ยวกับการเสด็จประพาสยุโรปของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที� 5 สาระสำคัญของการออกแบบ มิได้มีจุดประสงค์ในการบอกเล่าถ่งความเจริญตาเจริญใจของดินแดนแห่งความ รุ่งโรจน์ อันแสนไกล หากแฝงไว้ถ่งพระปรีชาญาณที�ทรงพยายามสำรวจ แสวงหา ศ่กษา วิเคราะห์ และบันท่กสิ�งอันเป็นศิวไลซ์ ต่างๆ เหล่านั�น โดยทรง มุ่งหวังที�จักนำมาพัฒนาแก่อาณาประชาราษฎร์ของพระองค์ ทั�งหมดถูกแสดงออกด้วยรูปแบบของการออกแบบจัดวาง การเลือกใช้ตัวอักษร การออกแบบลวดลาย 3. คุณค่าด้านความรู้ส่กรับรู้ การใช้องค์ประกอบงานเรขศิลป์ แสดงออกถ่งความรู้ส่กรับรู้ เช่น การคัดเลือกสี เพื�อสื�อสารถ่งการเดินทางในแต่ละสถานที� แต่ละชื�อบทมาจากกลุ่มสีในลำดับที�สาม หรือสีตติยภูมิ สังเกตได้ว่า มีการคัดเลือกสีที�เป็นคู่สีตรงข้ามซ่�งมีการผสมกันไปเป็นลำดับที�สาม จ่งไม่เกิดปรากฏการณ์สีคู่ขัดแย้งเหมือนกับลำดับการผสมของสีชั�นที� 2 แต่เกิดการปรากฏใหม่ เผยให้เห็นลักษณะของสีที�หม่น ท่บ และเก่าแก่ ทำให้เกิดความสอดคล้องกับเนื�อหา อีก ทั�งยังถ่ายทอดอารมณ์ความรู้ส่กของหนังสืออีกด้ วย
FACULTY | 33 Tiger Hunting 2022 ดร.ศราวุฒิ ปิ�นทอง | หลักสูตรปรัชญาดุษฎี บัณฑิต สาขาวิชาศิลปะการออกแบบเชิงวัฒนธรรม คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร | [email protected]ความยาว 4:46 นาที | สื�อวีดิทัศน์ พร้อมนิทรรศการขนาดเล็กจัดแสดง องค์ประกอบการแสดง “กระตั�วแทงเสือ 2022” “การละเล่นกระตั�วแทงเสือ” เป็นหน่�งในมรดกทางวั ฒนธรรมที� มี มาตั�งแต่สมัย โบราณ มี ข้อสันนิษฐานทางวิชาการระบุ ว่าการละเล่นกระตั�วแทงเสือเป็นการ แสดงเบิกโรงประเภทหน่�งที�ได้ รับอิทธิพลมาจากการละเล่นกระอั�วแทงควายของ เมืองทวายซ่�งใช้แสดงถวายในงานราชพิ ธีโสกันต์และถูกรวมเป็นส่ วนหน่�งในการ ละเล่นหลวง1 เมื�อผันมาเป็นการละเล่นพื�นบ้านกระตั�วแทงเสือ สถานะของการ ละเล่นดังกล่าวจ่งเป็นไปเพื�อความสนุกสนาน เป็นสี สันของขบวนแห่งานบุญต่างๆ โดยรู ปแบบท่ วงทำนองดนตรีการขับร้องส่ วนใหญ่ผสมผสานดัดแปลงมาจาก ละครเรื�องมโนราห์ ใช้เครื�องดนตรีประกอบท่ วงท่าการแสดงผาดโผน และเรื�อง ราวก็ ถูกนำเสนอให้ตื�นตาตื�นใจเป็นหลัก ปัจจุ บันการละเล่นกระตั�วแทงเสือยังคง พบเห็นได้และทำการแสดงอยู่ในพื�นที�ฝั�งธนบุ รี จังหวัดกรุงเทพมหานคร ทว่า ด้ วยบริบททางสังคมที� ผันตามกระแสโลกาภิ วัฒน์ และปัจจัยร่วมอื�นๆ ทำให้การ ละเล่นพื�นบ้านไทยซ่�งเป็นม่านสะท้อนวิถี ชีวิต ความเชื�อ และแสดงถ่งอัตลักษณ์ ของท้องถิ�นนี�กำลังจะเลือนหายไป จ่งเป็นที� มาของการค้นหา “กระบวนการฟ้�นฟู” (Revitalization) และแนวทางในการอนุ รักษ์ สร้างความยั�งยืนผ่านการประยุกต์ และออกแบบสร้างสรรค์การละเล่นกระตั�วแทงเสือ กระบวนการฟ้�นฟูและอนุ รักษ์ “กระตั�วแทงเสือ” ครั�งนี� เกิดข่�นภายใต้กรอบแนว ความคิดการปรับตัวทางวัฒนธรรม ประยุกต์แนวคิดที�มุ่งเน้นการพัฒนาต่อยอดจากองค์ความรู้เดิม ‘Modernised’ องค์ประกอบต่างๆ ตั�งแต่การกำหนดรูป แบบการแสดงและจินตลีลา การออกแบบเครื�องแต่งกาย ดนตรีที�ใช้บรรเลงและ เพลงประกอบ โดยผสานเข้ากับแนวทางของ “Street Culture” ปรับเปลี�ยนเรื�องราว เพิ�มนัยยะการอนุรักษ์ โดยเน้นย�ำความสำคัญของเสือในบริบทของการเป็นตัวชี�วัดความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า กระตุ้นให้มนุษย์ร่วมตระหนักถ่งการอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างสมดุล มากกว่าการมุ่งใช้และรับประโยชน์จากธรรมชาติเพียงฝ่ายเดียวจากการออกแบบสร้างสรรค์ฟ้�นฟูการแสดง “กระตั�วแทงเสือรูปแบบใหม่” เพื�อเพิ�มคุณค่าและเข้าถ่งกลุ่มเป้าหมายในยุคสมัยปัจจุบันนี� ตั�งเป้าให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชนเป็นหลัก นอกจากจะอนุรักษ์ให้การละเล่นกระตั�วแทงเสือ สามารถ ปรับตัวดำรงอยู่ในสังคมได้อย่างยั�งยืนแล้ว ยังเป็นการเผยแพร่ วั ฒนธรรม อัต ลักษณ์ของพื�นที� ชุ มชนฝั�งธนฯ ให้เป็นที�รู้จัก และคาดหมายให้เกิดการต่อยอด อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ที� จะช่ วยกระตุ้นการท่องเที�ยวและเศรษฐกิจชุ มชนสืบไป 1 เกรียงไกร ฮ่องเฮงเส็ง กระอั�วแทงควาย กับ กระตั�วแทงเสือ ประวัติและพัฒนาการของการละเล่นโบราณ วารสารไทยศ่กษา 13, 1 มิถุนายน 2560): 1 26. Outstanding Academic Learning Progress
34 | FACULTY บทบาทของภัณฑารักษ์ (curator) และออกแบบนิทรรศการในโครงการออกแบบ เรือสิริมหรรณพ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟรอนท์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย อารีรุ่งเรือง | หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการออกแบบ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร | [email protected] ผลงานศิลปกรรม พื�นที�ท่าเรือเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟรอนท์ (กลางแจ้ง) และ เรือสิริมหรรณพ (เรือสำเภาสามเสา) บนดาดฟ้าเรือและภายในใต้ดาดฟ้าเรือ | ออกแบบบูรณาการ ในปี พ.ศ. 2563 เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟรอนท์ ได้เปิดตัวเรือ “สิริมหรรณพ” เรือใบสามเสา โดยมีผู้เขียนเป็นภัณฑารักษ์ (curator) นักออกแบบ และ สร้างสรรค์งานศิลปกรรม ร่วมกับบริษัท PIA Interior Co.,Ltd. ในการทำงาน ด้านตกแต่งภายในเรือ ซ่�งได้รับรางวัล Design Excellence Award DEmark ใน กลุ่มผลงานการออกแบบตกแต่งภายในที�เกี�ยวข้องกับโรงแรม ร้านอาหาร ร้าน กาแฟ ร้านค้า พื�นที�ทำงานร่วมกัน อาคารชุด ปี 2021 โดย PIA เป็นผู้รับรางวัล ผู้เขียนได้กำหนดหัวข้อการออกแบบคือ 1) ย่านอุตสาหกรรมโลกาภิวัฒน์แห่ง แรกในสยาม 2) อารมณ์โคโลเนียล ณ พื�นที�ชานพระนคร 3) ธุรกิจการเดินเรือ ทะเล บริษัท อีสต์ เอเชียติค ศูนย์กลางการค้าขาย 4) ประวัติเรือทูลกระหม่อม5) จากเรือทูลกระหม่อมสู่เรือสิริมหรรณพ 6) สายการเดินเรือบริษัทอิสต์ เอชียติค นำสินค้าสยามสู่ตลาดโลก 7) ไม้สักไม้ยอดปรารถนา แล้วตีความออกมาเป็นงาน ออกแบบ การเลือกสื�อที�สร้างสรรค์ให้เหมาะสมกับพื�นที� ผู้เขียนได้ใช้กระบวนการของการทำงานภัณฑารักษ์ (Curator) นักออกแบบ และ นักสร้างสรรค์สำหรับโครงการขนาดใหญ่ กล่าวคือ โครงการเรือสิริมหรรณพ เป็นโครงการที�แตกต่างจากการออกแบบนิทรรศการโดยทั�วไป ด้วยพื�นที�ของ การออกแบบมีความแตกต่างกันกับอาคารทั�วไป ประกอบด้วยพื�นที�ท่าเรือขนาด ยาวขนานไปกับแม่นำเจ้าพระยา และเรือสำเภาขนาดใหญ่แต่ต้องการให้เกิด พื�นที�เรียนรู้ และพื�นที�ใช้งานอเนกประสงค์ด้วย ดังนั�นความยากของการทำงาน คือ ผู้เขียนต้องคำถ่งถ่งความต้องการพื�นที�ใช้สอยที�มีความขัดแย้งกัน แต่ให้อยู่ด้วยกันให้ได้รวมไปถ่งต้องมีสุนทรียภาพด้วยเช่นกัน Outstanding Artistic
FACULTY | 35 รับรู้พิพิธ : ราชบุรี Rabru Phipith Ratchaburi ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อติเทพ แจ้ดนาลาว | หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการออกแบบ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร | [email protected] 35 x 35 ซม. | Stickers Line, illustration, Computer Graphic เพื�อให้คนรุ่นใหม่ไม่รู้ส่กว่าการเดินเข้าชมโบราณสถานและโบราณวัตถุไม่ใช่ เรื�องที�น่าเบื�อ หรือไกลตัว ผู้ออกแบบได้วางเป้าหมายในการสร้างสื�อปฏิสัมพันธ์ ในด้านการให้ความรู้ การรับรู้ การมีส่วนร่วม และความมีชีวิตชีวาจากงานวิจัย เรื�อง “การออกแบบการรับรู้เชิงปฏิสัมพันธ์สำหรับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ราชบุรี”ซ่�งผู้ออกแบบได้สร้างสื�อปฏิสัมพันธ์ต้นแบบและจัดนิทรรศการ “รับรู้พิพิธ : ราชบุรี” ภายใต้แนวคิดการเดินทางฟ้�นคืนชีวิตพิพิธภัณฑ์ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ราชบุรี ในผลงานสร้างสรรค์ครั�งนี�เป็นส่วนหน่�งของ “พิพิธระล่ก” ซ่�งคือสิ�งของ ที�มอบให้กับผู้ชมหลังจากที�ผู้ชมได้ชมนิทรรศการเสร็จสิ�นลงซ่�งเป็นของที�ระล่ก หรือสิ�งที�แทนความรู้ส่กให้คิดถ่งพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี ดังนั�น วัตถุประสงค์การสร้างสรรค์ในครั�งนี�ผู้ออกแบบได้สร้างสรรค์ผลงานสติกเกอร์ ไลน์ (Sticker Line) เพื�อให้เป็นของที�ระล่กกับผู้เข้าเยี�ยมชม นิทรรศการ เพื�อให้ ระล่กถ่งพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ราชบุรี ผลงานสติกเกอร์ไลน์มาจากแนวคิดการเดินทางฟ้�นคืนชีวิตพิพิธภัณฑ์ คือ เรื�อง ราวของผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์คนใหม่ ตัวละครหลัก 3 ตัว ซ่�งรับบทเป็นเจ้าหน้าที�ผู้ ดูแลพิพิธภัณฑ์ และนำชมนิทรรศการรับรู้พิพิธราชบุรี ประกอบด้วย 1) คุณพิพิธ เป็นผู้นำชมแต่ละห้องให้ทุกท่านได้รู้ว่าเนื�อหาแต่ละห้องจะจัดแสดงอะไรบ้าง 2) คุณภัทรา เจ้าหน้าผู้ที�จะพาทุกท่านทำกิจกรรมสนุกๆ 3) คุณธนพันธ์ ภัณฑารักษ์อาวุโส ทำหน้าที�นำพาทุกท่านเจาะล่กเนื�อหาที�น่าสนใจในแต่ละห้อง โดยได้เริ�ม สร้างสรรค์จากการวางแนวทางและกำหนดรูปแบบข้อความท่าทางของตัวละคร ทั�ง 3 พร้อมทั�งออกแบบกราฟิกที�แสดงถ่งโบราณวัตถุที�มีชีวิตข่�นมาอีกครั�ง เพื�อ นำมาพัฒนาเป็นท่าทางต่างๆ และใส่ข้อความตามที�วางโครงสร้างไว้ของสติก เกอร์ไลน์โดยผู้ออกแบบได้วางแนวคิดไว้ดังต่อไปนี� 1) ผลงานสติกเกอร์ไลน์จะ ต้องมีข้อความหรือท่าทางที�สามารถใช้งานได้ทุกเพศทุกวัย 2) มีข้อความหรือ ท่าทางการสื�อสารที�สามารถใช้ได้ทุกๆ วัน เช่น สวัสดี ขอโทษ เสียใจ ตกลง ขำ งอน เป็นต้น 3) มีข้อความหรือท่าทางการสื�อสารที�สามารถสื�อสารถ่งแนวคิด ของนิทรรศการได้ เช่น คิดถ่งราชบุรีไหมครับ จับจ้องให้ดี ลองจับดู 4) องค์ ประกอบกราฟิกที�แสดงถ่งโบราณวัตถุที�จัดแสดงในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ราชบุรี เมื�อจ้องผ่านสติกเกอร์ไลน์ที�นำตัวละครน่ารักมาสื�อสารแนวคิดและการใช้คำพูด ที�ใช้สื�อสารในชีวิตประจำวันทำให้ผลงานออกแบบสติกเกอร์ไลน์ครั�งนี�สามารถ ชวนให้ระล่กถ่งพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ราชบุรีได้ ทั�งนี�มีข้อพ่งระวังคือการนำ โบราณวัตถุมาสร้างตัวละครต้องระมัดระวังเรื�องความหมายที�ถูกต้องอาจต้องมี การปรับแก้หลายรอบจาก LINE STORE ตลอดจนการสร้างสรรค์ให้กับองค์กร ต้องได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรถ่งจะนำข่�นเผยแพร่ได้
36 | FACULTY ฟอนต์ ZT Paperclip รองศาสตราจารย์อาวิน อินทรังษี | ภาควิชาออกแบบนิเทศศิลป์ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร | [email protected] 59.4 x 84.1 ซม. | โปรแกรมคอมพิ วเตอร์ ในงานออกแบบสื�อสาร โดยเฉพาะงานออกแบบกราฟิก ภาพและตัวอักษร เป็นส่วนสําคัญที�ใช้ในการสื�อสาร บอกเล่าเรื�องราว รวมทั�งแสดงอารมณ์และความรู้ส่ก ตามที�ผู้ออกแบบต้องการ ในปัจจุบันภาพและตัวอักษรสําเร็จรูปก็มีให้เลือกใช้มากมายจากคลังดิจิทัลออนไลน์ ทั�งที�มีค่าใช้จ่ายและไม่มีค่าใช้จ่าย สําหรับ ฟอนต์ที� มีอยู่ในท้องตลาด หากจะกล่าวโดยคร่าว ๆ อาจเแบ่งได้เป็น 2 ลักษณะ ตามการใช้งานคือ ดิสเพลย์ฟอนต์ (Display Font) คือ ฟอนต์สำหรับใช้พาดหัวหัวข้อ หรือข้อความสั�นๆ และบอดี�เท็กซ์ฟอนต์ (Bodytext Font) คือฟอนต์ที�ใช้สําหรับอ่านเนื�อหายาว ๆ ซ่�งในปัจจุบันก็มีให้เลือกใช้มากมายหลากหลายรูปแบบ แต่อย่างไรก็ดี นักออกแบบยังมีความต้องการฟอนต์รูปแบบใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื�อสร้างความแปลกใหม่ให้กับผลงาน ฟอนต์ ZT Paperclip จ่งถูกออกแบบมาเพื�อ ตอบสนองความต้องการและเพิ� มทางเลือกให้แก่ผู้ใช้งานดังกล่าว ฟอนต์ ZT Paperclip ถูกกําหนดให้เป็นดิสเพลย์ฟอนต์ที� มี ลักษณะพิเศษ แตกต่าง จากฟอนต์อื�นๆ จ่งเน้นไปที� รู ปแบบที�แปลกตา มากกว่าเน้นการอ่านง่าย (Readability) แต่อย่างไรก็ตามก็ยังคําน่งถ่งการแยกแยะตัวอักษรได้ (Legibility) เนื�องจากตัวอักษรไทยมีความคล้ายคล่งกันในหลายๆ ตัว เช่น ก ถ ภ ซ่�งต่างกันเพียงแค่หัวเท่านั�น สําหรับไอเดียการออกแบบได้แรงบันดาลใจมาจากลวดหนีบ กระดาษ ซ่�งเป็นสิ�งประดิ ษฐ์มหัศจรรย์ ที�ออกแบบโดย Johan Vaaler ในปี ค.ศ. 18991 ที�ใช้ลวดเพียงแค่เส้นเดียวนํามาขดเกิดเป็นรู ปทรงที� มีประโยชน์ใช้สอยได้ จ่งนําหลักการนี�มาออกแบบ โดยใช้เส้นเพียงเส้นเดียวสร้างเป็นสเต็ ม (Stem) ของ ตัวอักษร ขดสลับกันไปมาเกิดเป็นรูปร่างของหัวและขมวดในตัวอักษรภาษาไทย ในกระบวนการออกแบบ หลังจากกําหนดลักษณะของฟอนต์และได้ไอเดียในการ ออกแบบแล้ ว จ่งทําการร่างแบบคร่าว ๆ ด้ วยดินสอเพื�อถ่ายทอดไอเดีย ให้ ชัดเจนข่�น จากนั�นจ่งลงมือทําในโปรแกรม Adobe Illustrator ให้ครบทั�งพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ เครื�องหมาย และตัวเลข ทั�งตัวอักษรไทยและตัวอักษรละติน จากนั�นจ่งนําแบบที�ได้ไปทําต่อในโปรแกรม Fontlab ตั�งค่าระยะห่างระหว่างตัวอักษร ปรับแก้ไข Kerning จนเป็นฟอนต์ที�เสร็จสมบูรณ์ และได้นําออกจําหน่าย ในนามกลุ่มเซียมไท้ (Ziam Type) ฟอนต์ ชุดนี�ยังได้ รับรางวัลงานออกแบบ Design Excellence Awards หรือ DEmark 2022 หมวด Graphic Design อีกด้ วย จากการปฏิ บัติงานออกแบบพบว่า ในการออกแบบฟอนต์ แม้ นักออกแบบจะมี อิสระทางความคิด แต่ ก็ ยังมีปัจจัยต่างๆ ที� จะต้องคําน่งในการออกแบบ เช่น ความกลมกลืนเป็นชุดเดียวกัน ซ่�งจะยิ�งยากข่�นไปอีกเมื�อต้องให้กลมกลืนกันทั�งตัวอักษรไทยและตัวอักษรละติน รวมทั�งผู้อ่านสามารถที�จะแยกแยะออกได้ไม่เกิดความสับสนว่าเป็นตัวอักษรตัวใด และหากจะให้ดีก็ควรอ่านง่ายด้วยเพื�อไม่สร้างความหงุดหงิดให้กับผู้อ่าน และโดยเฉพาะดิสเพลย์ฟอนต์ควรจะต้องมี เอกลักษณ์และแสดงอารมณ์และความรู้ส่กได้ ชัดเจน เพราะต้องทําหน้าที�ด่งดูด ความสนใจและสร้างบุคลิกภาพให้เกิดข่�นในงานออกแบบได้1 Johan Vaaler, accessed August 6, 2022, available from https:// en.wikipedia.org/wiki/Johan_Vaaler Outstanding Creativity
FACULTY | 37 CAADRIA logo and visual identity redesign Graham Newman | สาขาวิชาการออกแบบนิเทศศิลป์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | [email protected] คอมพิวเตอร์กราฟิก The Association for Computer-Aided Architectural Design Research (CAADRIA) called for proposals to redesign their logo and visual identity on the occasion of the 25th CAADRIA conference to be held at Chulalongkorn University in April 2020. The design objectives were to reflect the association’s topics, geographic identity and values. Namely to facilitate the dissemination of information about CAAD among Asian schools of architecture, planning, engineering, and building sciences; to encourage the exchange of staff, students, experience, courseware, and software among schools; to identify research and develop needs in CAAD education and to initiate collaboration to satisfy them; and to promote research and teaching in CAAD that enhances creativity rather than production. The crescent shaped trust mark is intentionally open to interpretation. Exploratory, but founded on the following principles: like the moon, is youthful and bright and bearing hope, an emerging practice of computer aided architectural design research; a stylised letter C as a counterpoint of the first capital letter of the acronym; a circle within a circle, with white space symbolizing the geographic location of Asia in its relation to the world; a three-dimensional object; An aesthetic that is fluid in its relationship to the white space around it. Nonpolitical, non-confrontational, harmonious. Yellow colour in keeping with the association’s existing branding. A natural colour with positive attitude toward responsible usage of materials and product lifecycles. The identity is scalable and modular, professional, fair, and rigorous. It works as an identity in large scale on the tail of an aircraft, and as small as an app icon. This is the mark of a good mark. The outcome of the project was favourabe and won the competition. Feedback from the jury was that “Graham’s design reflects the values of the association and found the logo very clear and well-balanced.” The principles of the identity reflect the artist and designer Bruno Munari’s tenet that “design is simplifying, not complicating.“
38 | FACULTY “Kai Narumit” (Chicken Creations) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พรรณี วิรุณานนท์ | สาขาวิชาการออกแบบนิเทศศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ | [email protected] 40 x 60 ซม. | Digital Art งานออกแบบ “ไก่นฤมิต” มาจาก “ไก่แก้ว” ในวรรณคดีไทยเรื�อง “ลิลิตพระลอ” ตอน “พระลอตามไก่” ไก่ในที�นี�เป็นไก่แก้วที� “ปู่เจ้าสมิงพราย” จอมขมังเวทย์ใช้ เวทมนตร์เนรมิตให้งามเพริศแพร้ว เพื�อเป็นกลอุบายให้พระลอโอรสแห่งเมือง แมนสรวงตามไปพบ “พระเพื�อน-พระแพง” ธิดาแฝดแห่งเมืองสรอง ก่อน โศกนาฏกรรมแห่งความรักจะเกิดข่�น โดยวัตถุประสงค์ของการออกแบบ “ไก่นฤมิต” นี� เพื�อเป็นพัฒนากระบวนการออกแบบ ด้วยหลักการออกแบบนิเทศศิลป์ โดยการปรับใช้กับงานออกแบบกราฟิก การออกแบบได้นำเพลง “ระบำไก่” เพลงประกอบมาขยายความ เพลงนี�พรรณนา ถ่งความงดงามของ ”ไก่แก้ว” ที�มีขนเฉดสีเบญจรงค์ อันประกอบด้วย 5 สีคือ แดง ดำ เขียว ทอง และขาว ซ่�งเป็นหัวใจของการออกแบบงานชุดนี� มีการปรับ ความงามของไก่แก้วให้เป็นงานกราฟิก ด้วยเทคนิคการทับซ้อนของรูปทรง และ การซ�ำกันของลวดลาย โดยจัดวาง “ไก่นฤมิต” แถวละ 5 ตัว เพื�อสื�อถ่งรูปแบบ เด่นของ “ร่ายสุภาพ” คำประพันธ์ที�ใช้แต่งเรื�องนี� มีวรรคละ 5 คำ และจัดวาง 5 แถว ตาม (Brand Archetypes) 5 แบบจาก 12 แบบ ของ คาร์ล กุสทัฟ ยุง นัก จิตวิทยาชาวสวิส ผู้เสนอแนวคิด “ต้นแบบหรือแม่แบบ” (Archetypes) ภายใต้ ทฤษฎีมนุษย์มีจิตไร้สำน่กร่วมสะสมมาแต่อดีตกาล อันมีผลต่อพฤติกรรม ได้แก่ 1. Everyman เข้าได้กับทุกคน 2. Explorer ชอบความท้าทาย 3. Lover มีเสน่ห์ น่าค้นหา 4. Creator ชอบสร้างสรรค์ และ 5. Outlaw ชอบคิดต่าง ลวดลาย “ไก่นฤมิต” สามารถนำไปสร้างเป็นลวดลายบนผืนผ้าเพื�อวัตถุประสงค์ ต่างๆ เช่น นำไปพิมพ์เป็นลวดลายบนกระเป๋า ถุงผ้า หรือกระดาษห่อของขวัญ โดยสามารถนำไปใช้ทั�งแบบเดี�ยว แบบแถว หรือทั�งชุดแล้วแต่ความเหมาะสม
FACULTY | 39 สูจิบัตร #SURFACE ผู้ช่วยศาสตราจารย์มนต์ชัย สันติเวส | สาขาวิชาการออกแบบนิเทศศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ | [email protected] 26 x 32 ซม. | พิมพ์ดิจิทัล เนื�องด้วยหอศิลปมหาวิทยาลัยกรุงเทพได้จัดนิทรรศการ #SURFACE ข่�นระหว่าง วันที� 17 กุมภาพันธ์ ถ่ง 8 พฤษภาคม 2563 โดยมีศิลปินและนักออกแบบเข้า ร่วมแสดงผลงานรวม 8 คน ดังนั�น ทางหอศิลปมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ยังอยาก เก็บเนื�อหาและเรื�องราวที�ศิลปินและนักออกแบบได้จัดแสดงไว้เพื�อนำไปใช้ใน โอกาสต่อไปในอนาคตภายหลังจากที�ระยะเวลาการจัดแสดงนิทรรศการสิ�นสุดลง จ่งต้องการจัดทำสูจิบัตรเพื�อใช้ตามจุดประสงค์ดังกล่าว การเริ�มต้นสร้างสรรค์ผลงานออกแบบสูจิบัตร #SURFACE จะเริ�มทบทวนจาก นิยามของชื�อนิทรรศการ และแนวความคิดในผลงานแสดงของศิลปินและนัก ออกแบบแต่ละคน พบว่าผลงานแต่ละชิ�นพยายามถ่ายทอดความหมายของคำว่า “SURFACE” ที�แตกต่างกัน ดังนั�น ผู้สร้างสรรค์จ่งออกแบบโดยใช้ภาพผลงาน ของศิลปินและนักออกแบบทุกคนมาจัดเรียงลำดับ และกำหนดขนาดความกว้าง ความยาวของแต่ละส่วนให้มีความแตกต่างกัน เพื�อสามารถเห็นภาพผลงานบาง ส่วนของศิลปินและนักออกแบบจนครบทุกคน รวมถ่งผิวสัมผัสของกระดาษที� สอดคล้องกับเนื�อหาของผลงานชิ�นนั�นๆ ก็มีความแตกต่างเช่นกัน ในการสร้างสรรค์ผลงานออกแบบสูจิบัตร #SURFACE เกิดการทดลองหาความ เป็นไปได้ในการจัดเรียงลำดับภาพ ฝึกการคำนวณและปรับแก้ไขหาขนาดที� เหมาะสม โดยคำน่งถ่งการรวมทุกส่วนเข้าด้วยกันแล้วต้องเกิดความสมดุลและมี เอกภาพมากที�สุด ในส่วนของเทคนิคการพิมพ์นั�น ผู้สร้างสรรค์ได้เลือกระบบ พิมพ์ดิจิทัล ทำให้มีข้อจำกัดเรื�องขนาดที�พิมพ์ได้ไม่เกิน A3 (30 x 42 เซนติเมตร) และมีชนิดของกระดาษที�สามารถพิมพ์ผ่านระบบนี�ได้บางชนิดเท่านั�น ทำให้ผู้ สร้างสรรค์ต้องวางแผนเผื�อชนิดของกระดาษไว้สำรองในกรณีที�ชนิดของ กระดาษที�ต้องการแบบแรกไม่สามารถพิมพ์ดิจิทัลได้ ซ่�งเป็นขั�นตอนที�ต้องตัดสิน ใจอย่างรอบคอบ เพราะในผลงานสร้างสรรค์มีการใช้ชนิดของกระดาษที�แตกต่าง กันทั�งหมด 11 ชนิด
40 | FACULTY สงขลา สองขา ดร.สรัล ตั�งตรงสิทธิ� | สาขาวิชาการออกแบบนิเทศศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ | [email protected] 65 x 118 ซม. | งานออกแบบกราฟิก การเดินทางไปยังเมืองเก่าสงขลา ด้ วย สองขา นักออกแบบจ่งได้แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานชิ�นนี�ด้วย สองมือ เพื�อส่งต่อแรงบันดาลใจให้กับศิลปิน นักออกแบบคนอื�นๆ ในการเดินทางมาเก็บเกี�ยวแรงบันดาลใจ เพื�อนำไปต่อยอดสร้างสรรค์จากเมืองเก่าสงขลา เมืองสงขลากินบริเวณกว้างตั�งแต่บริเวณถนน นครนอก นครใน ยะลา และนางงาม และมีความโดดเด่นทางวัฒนธรรมที�สะท้อนผ่านสิ�งต่างๆ อย่างอาหาร วิถีชีวิต และที�สำคัญคือสถาปัตยกรรมที�งดงามอัน ทรงคุณค่าที�หลากหลายทั�งที�ได้ รับอิทธิพลจากรู ปแบบไทย อิทธิพลจากรู ปแบบจีน อิทธิพลชิโน-โปรตุ กีส และอิทธิพลตะวันตก1 สถาปัตยกรรมที�โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ อาทิ หับโห้หิ�นหรือโรงสีแดงที�แม้จะหยุดกิจการไปแล้ว แต่ก็กลายเป็นหน่�งในสิ�งยืนยันถ่งความเจริญรุ่งเรืองทางการค้าในอดีตของเมืองเก่าสงขลา โดยสถาปัตยกรรมยังนับเป็นองค์ประกอบด้านกายภาพที�มนุษย์สามารถรับรู้ได้มากที�สุดเมื�อได้เข้าไปยังสถานที�ใดสถานที�หน่�ง2 แต่ในปัจจุ บันพบว่าอาคาร ทรงคุณค่าบางแห่งได้ทรุดโทรมขาดการดูแลรักษา งานออกแบบกราฟิกชิ�นนี�อาจจะสามารถเป็นสื�อหน่�งในการประชาสัมพันธ์เมืองเก่าสงขลาให้คนในพื�นที�ได้ตระหนักรู้ถ่งคุณค่าของสถาปัตยกรรมในเมืองเก่าสงขลาแห่งนี�อีกด้วย เพราะการสร้างความตระหนักรู้นับเป็นหน่�งในวิธีที�สามารถนำไปสู่การพัฒนาที�ยั�งยืนนอกเหนือจากการควบคุมมาตรการการใช้ประโยชน์ในพื�นที�และการผลักดันให้เกิดการข่�นทะเบียนเป็นโบราณสถาน3 ผู้ออกแบบเริ� มสร้างสรรค์ผลงานชิ�นนี�โดยการศ่กษาข้อมูลเบื�องต้นก่อนที� จะลงพื�นที�เพื�อทำการสำรวจในสถานที�จริง โดยได้เก็บข้อมูลด้วยการถ่ายภาพ สถาปัตยกรรมที�สำคัญภายในเมืองเก่าสงขลา จากนั�นจ่งได้ทำการลดทอนตัวสถาปัตยกรรมทั�งหมดให้เป็นภาพกราฟิกที�สามารถนำไปย่อยขยายได้ไม่สิ�นสุด รวมทั�งสามารถนำไปต่อยอดในเทคนิคการพิมพ์ประเภทต่างๆ แก่ผู้ที�สนใจ ผู้ ออกแบบจ่งได้นำกราฟิกสถาปัตยกรรมทั�งหมดมาจัดวางและใช้ สี สันให้รู้ส่กถ่ง ความสนุกสนานเสมือนเป็นการกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์แก่ผู้ชมงานให้อยากเดินทางไปเก็บเกี�ยวแรงบันดาลใจ ณ ที�แห่งนี� จากการสร้างสรรค์ผลงานชิ�นนี�นอกเหนือจากการได้องค์ความรู้เกี�ยวกับเรื�อง ราวของสถาปัตยกรรมที�สำคัญหลายแห่งในเมืองเก่าสงขลาแล้ว งานออกแบบ กราฟิกชิ�นนี�สามารถต่อยอดสร้างสรรค์ไปยังสื�อต่างๆ เพื�อประชาสัมพันธ์เมืองเก่าสงขลา รวมทั�งสามารถต่อยอดเป็นสินค้าที�ระล่กเพื�อสร้างรายได้แก่ท้องถิ�น1 อนุสรณ์ กำบัง, “ห้องแถวเมืองสงขลา: รู ปแบบ, องค์ประกอบและพัฒนาการ (พ.ศ. 2385 - 2504) (วิทยานิพนธ์ปริญญาสถาปัตยกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาสถาปัตยกรรมศาสตร์ ภาควิชาสถาปัตยกรรมศาสตร์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย, 2546), 118” 2 Dong, X. M. และ Kong, Y. L. (2009). Urban Colourscape Clanning a Colour Study of The Architecture of Karlskrona. Sweden: LAP LAMBERT Academic Publishing. 3 ชญานุตม์ ถาวโรฤทธิ� และสิทธิพร ภิรมย์รื�น. “การศ่กษาโครงสร้างและองค์ประกอบสิ�งแวดล้อมทางธรรมชาติและสิ�งแวดล้อมทางวัฒนธรรมเพื�อการอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่าสงขลา.” Veridian E-Journal, Silpakorn University 10, 3 (กันยายน-ธันวาคม 2560): 2877.
FACULTY | 41 อัตลักษณ์แบรนด์และสินค้า กําปั้นมวยไทย Brand identity and Product design of Gumpun Muay Thai ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ขาม จาตุรงคกุล | หลักสูตรออกแบบ (กราฟิกและมัลติมีเดีย) คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น | [email protected] 45 x 140 ซม. | Computer Graphic กำปั�นมวยไทย คือ ส่วนผสมของ ยิม ฟิตเนสออกกำลังกาย การฝึกอบรมกีฬา มวยไทย งานสร้างสรรค์ในครั�งนี�เป็นส่วนหน่�งของงานวิจัยขับเคลื�อนธุรกิจโดย คณะเศรษฐศาสตร์และศูนย์ Innovation Hub KKU มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดตั�ง เป็น บริษัท กำปั�นมวยไทย จำกัด เมื�อปี พ.ศ. 2560 โดยมีแนวคิดเป็นการดำเนิน กิจการเพื�อสังคม (Social Enterprise) ที�มุ่งเน้นเป้าหมายทางสังคม คือการช่วย เหลือนักมวยที�เลิกชกแล้ว เนื�องจากใช้เวลาตั�งแต่วัยเด็กจนถ่งหนุ่มไปกับการฝึก ซ้อมอย่างหนักจ่งมีความบกพร่องทางด้านการวางแผนการเงินและไม่มีโอกาส ทางการศ่กษาในวิชาชีพอื�นๆ จ่งเกิดแนวคิดให้อดีตนักชกกลับมาเป็นโค้ชในการ สอนการออกกำลังกายด้วยการชกมวยอย่างถูกวิธีเพื�อให้ได้กำลังและไม่บาดเจ็บ จากการใช้ร่างกาย ซ่�งได้จัดระเบียบการเงินเพื�อการเกษียณอายุ ได้ส่งเสริมให้ เทรนเนอร์และครูมวยเป็นส่วนหน่�งของธุรกิจ โดยออกแบบการบริหารยิมมวย และลงทุนเพื�อเปิดโอกาสให้ครูมวยเป็นเจ้าของกิจการ เป็นโอกาสในการสร้าง รายได้ให้นักมวยและมีการส่งเสริมให้ชุมชนท้องถิ�นและผู้ด้อยโอกาสทางสังคม ได้ทำผลิตภัณฑ์ในกีฬามวยไทยนี�อีกด้วย วัตถุประสงค์คือการสร้างแบรนด์ให้เป็น ที�รู้จักซ่�งสามารถสื�อความหมายได้ดี และออกแบบผลิตภัณฑ์อุปกรณ์กีฬามวยไทย ที�มีกราฟิกสวยงามแต่เข้มแข็ง เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายหลักที�เป็นหญิงวัยทำงาน แนวความคิด กระบวนการสร้างสรรค์ คือการนำเอาสัญญะความเป็นไทย การต่อสู้ การกีฬา และแฟชั�นนำมาเป็นส่วนผสมในการสร้างสรรค์ สื�อสารให้ดุดันเข้มแข็งและร่วมสมัย กำปั�นนั�นมีความหมายถ่งอาวุธหลักของกีฬามวย ตราสัญลักษณ์ (Logo) ออกแบบโดยใช้ภาพกำปั�นพุ่งตรงให้ดูแข็งแกร่งมีลักษณะ เป็นภาพตัดทอน ตัวอักษร GUM PUN Muay Thai เดินรอบรูปมือ ใช้อักษรที�มีแนวคิดมาจากรูปแบบกางเกงนักมวยไทย ทั�งนี�ได้ออกแบบทั�งอักษรไทยและ โรมัน โดยใช้สัญลักษณ์ของหัวใจเป็นกรอบ ใช้สีที�มีพลังในการต่อสู้ที�สุดคือ สีแดง ดำ สื�อว่าเป็นกีฬาที�ต้องใช้จิตใจในการต่อสู้และยังเป็นเอกลักษณ์ของชาติที�ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติอีกด้วย ผลงานการออกแบบในครั�งนี�ได้นำไปใช้จริงโดยใช้ตกแต่งสถานที�เช่น พื�นเวที กำแพง ป้ายหน้าร้าน สร้างบรรยากาศที�ดุดันเข้ากับเวทีมวยหรือการต่อสู้ได้ดี ใช้โลโก้และกราฟิกพิมพ์ใส่อุปกรณ์กีฬาเพื�อออกจำหน่ายจริง เช่น นวม กระสอบ ทราย เสื�อ-กางเกงนักมวย มีจัดจำหน่ายอยู่ที�ยิมกำปั�นมวยไทย 2 สาขาคือ Gumpun Muaythai (Khonkaen) 192/32 ถ.กัลปพฤกษ์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น และ กำปั�นมวยไทย เดอะมอลล์ โคราช ชั�น 2 ต.ในเมือง อ.เมืองจ.นครราชสีมา ติดตามข้อมูลได้ที� http://gumpunmuaythai.com ภาพถ่ายเพื�อการโฆษณาในครั�งนี�ได้ใช้ครูมวยที�อยู่ประจำเป็นนายแบบ และได้ลูกค้าของ ยิมมาเป็นนางแบบด้วยเช่นกัน
42 | FACULTY ภาพยนตร์สั้ นเรื่อง ขมา รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม วงศ์พงษ์คำ | สาขาวัฒนธรรมศิลปกรรมและการ ออกแบบ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น | [email protected] และ ผู้ช่ วยศาสตราจารย์ ดร.ปรีชา สาคร | สาขาวิชานิเทศศาสตร์ คณะวิทยาการสารสนเทศ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม | [email protected] ภาพยนตร์สั�น 15 นาที ภาพยนตร์สามารถสื�อสารวัฒนธรรม สะท้อนภาพทางสังคม การประกอบสร้างความจริงทางสังคม หรือสร้างความหมายใหม่ในมิติของมายาคติทางวัฒนธรรมประกอบไปด้วยมิติวัฒนธรรมที�เป็นวัตถุ และ ไม่เป็นวัตถุ1 ซ่�งจะสร้างชุดความเชื�อ จนเกิดวาทกรรมและอำนาจต่อรองเชิงความหมายข่�นในที�สุด ผีเป็นอีกชุดความเชื�อทางวัฒนธรรมที�ถูกถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นที�ยังคงอัตลักษณ์ที�ชัดเจน ควบคู่ไปพร้อมกับความงมงาย ลี�ลับ ผีเป็นสถาบันทางสังคมหน่�งที�ย่ด โยงสังคมไทยมาช้านาน2 โดยเฉพาะอย่างยิ�งสังคมชนเผ่าชาติ พันธุ์ภูไท หาก กระทำผิดจารีต ฮีต คลอง เงื�อนไข กฏ กติกาของชุ มชนแล้วนั�นจะถูกผีลงโทษ ผีเป็นสถาบันทางสังคมที� ขัดเกลาให้คนทุกคนเป็นคนดี เกรงกลัวต่อการกระทำผิด ดังนั�นความเชื�อเรื�องผีจ่งถูกแสดงออกในรู ปแบบของการยอมรับ (Acceptance) ในความเชื�อว่าผี มีอยู่ แต่การมีอยู่จริง (Truth) ของความเชื�อเรื�องผีนั�นไม่ได้ หมายถ่งการเห็นว่าผี มีอยู่จริงเป็นรูปธรรม สัมผัสและเห็นได้ แต่เป็นการมีอยู่ใน ทางเหนือธรรมชาติเชื�อว่าผี มีอำนาจเหนือธรรมชาติ ที�สามารถให้ คุณและโทษ แก่มนุษย์ได้3 ผู้นำเสนอผลงานผลิตภาพยนตร์สั�นเรื�อง ขมา ความยาว 15 นาที โดยใช้องค์ความรู้และกระบวนการกลุ่มในการทำงานร่วมกันระหว่างคณะศิลปกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น หลักสูตรนิเทศศาสตร์ คณะวิทยาการสารสนเทศ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และชุมชนวัฒนธรรมภูไท ประโยชน์ที�ได้รับในการสร้างสรรค์ผลงานคือ นิสิต นักศ่กษา ชุมชน ได้ร่วมเรียนรู้ในการทำงานร่วมกันบนความแตกต่าง และโดดเด่นในทางวิชาชีพทั�งด้านศิลปะและนิเทศศาสตร์ จนเกิดการร่วมเรียนรู้ นอกห้องเรียนในรู ปแบบการเรียนการสอนแบบฝึกปฏิ บัติ Learning by Doing ควบคู่ไปกับกิ จกรรมบริการวิชาการสู่ชุ มชน ผู้นำเสนอผลงานมุ่งที� จะสะท้อนภาพ ของคนรุ่นใหม่นอกวั ฒนธรรมที�ไม่พยายามทำความเข้าใจคนในวั ฒนธรรมจน เกิดปมขัดแย้ง ในที� สุดผีที�เป็นสถาบันทางสังคมต้องออกมาสั�งสอนให้ ซาบซ่�งถ่ง ถ่งกาละและเทศะ ที�คนนอกวั ฒนธรรมต้องเข้าใจก่อนจะก้าวย่างข้ามวัฒนธรรม ส่ วนปัญหาที�เกิดข่�นในกระบวนการสร้างสรรค์ เกิดจากการนำนิ สิต นักศ่กษา ต่างมหาวิทยาลัย และชุ มชนเข้ามาทำงานร่วมกันให้เกิดการทำงานเป็นที ม ซ่�งผู้ สร้างสรรค์ผลงานในฐานะผู้กำกับและผู้อำนวยการผลิต ต้องสอน ให้คำปร่กษา ชี�แนะแนวทาง และทำงานกำกับภาพยนตร์ในกองถ่ายภาพยนตร์ในขณะเดียวกัน ทำให้การทำงานล่าช้า แต่ ก็แลกมาด้ วยประสบการณ์ที� นิ สิต นักศ่กษา และชุ มชน ได้ รับ 1 ทยากร แซ่แต้. (2551) มายาคติทางวัฒนธรรม ที� ปรากฎในละครเกาหลี และการสร้าง ประโยชน์ทางธุรกิ จ. นิเทศศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชานิเทศศาสตร์ ธุรกิ จ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธุรกิ จ. 2 ปิยะลักษณ์ โพธิ วรรณ และ ยุพาภร ยุภาส. (2559) กระบวนการสร้างพื�นที�ทางสังคมของผี อีสาน.รายงานการวิจัย. มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม. 3 ธัญณ์ณภัทร์ เจริญพานิช. (2559) ผีและอำนาจผ่านความเชื�อเรื�องผีของชาวไทยทรงดำ ตำบลพันเสา อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก. วารสารราชพฤกษ์ ปีที� 14 ฉบับที� 2 (พฤษภาคม - สิงหาคม) 67-74
FACULTY | 43 ซีเอชเค กาลหว่าห์ CHK Kalawar ชูเกียรติ อ่อนชื�น | สาขาวิชามีเดียอาตส์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการ ออกแบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี | [email protected] ประเทศไทยเป็นประเทศหน่�งที�มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมตั�งแต่สมัยอดีต จนถ่งปัจจุบัน ทำให้เกิดการไหลเวียน แลกเปลี�ยน ความเชื�อ ค่านิยมและ ประเพณีข่�นในสังคม ย่านตลาดน้อย เจริญกรุง ก็เป็นหน่�งในพื�นที�ทางวัฒนธรรม ที�สำคัญแห่งหน่�งที�มีประวัติยาวนาน เนื�องจากเป็นย่านการค้าที�เก่าแก่ มีเสน่ห์ และเอกลักษณ์แบบดั�งเดิม มีทั�งต่กรามบ้านช่องแบบเก่าใหม่ปะปนกันไป หน่�งใน นั�นมีโบสถ์คริสต์ของชาวโปรตุเกส นิกายโรมันคาทอลิก สถาปัตยกรรมเป็นแบบ โกธิคที�เก่าแก่ที�สุดในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ตั�งแต่ปี พ.ศ. 2434 - ปัจจุบัน โบสถ์มีอายุรวมแล้ว 130 ปี รัชกาลที� 1 ได้พระราชทานที�ดินให้สร้างโบสถ์หลังแรกข่�น ได้ชื�อว่า “กาลวารีโอ” ตามชื�อเขาที�พระเยซูถูกตร่งกางเขน ต่อมาได้เปลี�ยนชื�อเป็น “กาลหว่าร์” ในสมัยรัชกาลที� 3 และโบสถ์รูปแบบปัจจุบันถูกสร้างเสร็จใน สมัยรัชกาลที� 5 จุดเด่นของโบสถ์สไตล์โกธิคที�น่าสนใจคือ ส่วนหน้าเป็นยอดแหลมพุ่งสูง ประดิษฐานไม้กางเขน ซุ้มประตูหน้าต่างที�ใช้เส้นโค้งคล้ายโดมภายในประดับด้วยกระจกสี ทำให้ผู้สร้างสรรค์เกิดแรงบันดาลใจในการสร้าง ฟอนต์ชุดนี� อันเนื�องจากความสวยงามและจุดเด่นของโบสถ์ที�เป็นเอกลักษณ์ของ ศิลปะตะวันตกผสมกับไทย แนวคิดในการสร้างฟอนต์ ซีเอชเค กาลหว่าห์ เกิดข่�นจากแรงบันดาลใจในการ ค้นหา shape-form ในการนำเสนอฟอนต์ที�มีความร่วมสมัยในสไตส์ย้อนยุค โหยหาอดีต และแสดงถ่งความน่าสนใจของศิลปะโกธิค ซ่�งลักษณะการเขียนเป็น แบบตัวริบบิ�น ที�ดั�งเดิมถูกใช้ในงานออกแบบตัวอักษรกราฟิกในสมัยคริสต์ ศาสนาเฟ้�องฟูโดยแนวคิดของฟอนต์ชุดนี� จุดเด่นถูกพัฒนามาจากซุ้มประตูอัน โดดเด่น มีหลายชั�น รวมถ่งจังหวะและเสน่ห์ในแบบตะวันตกที�ร่วมสมัยในแบบ ไทย ซ่�งอยู่ในย่านวัฒนธรรมสมัยรัชกาลที� 5 อันเป็นต้นทุนที�น่าสนใจของแหล่ง ท่องเที�ยวบนเกาะรัตนโกสินทร์ ย่านเจริญกรุง กระบวนการออกแบบ ผู้สร้างสรรค์ได้ถอดรูปแบบและพัฒนาตัวอักษรจากตัวริบบิ�น ที�เป็นที�นิยมของของชุมชนชาวจีน โดยได้ศ่กษาหาข้อมูล โดยการลงพื�นที�สำรวจ และรวมตัวรูปแบบ และลักษณะตัวอักษร จากนั�นได้พัฒนา โดยการเขียนโดยใช้ ปากกาหัวแร้งหม่กซ่มในการเขียนและพัฒนาเข้าสู่เวกเตอร์ในโปรแกรม Adobe Illustrator และ FontLab ตามลำดับ ตัวอักษรชุดนี�ถูกออกแบบและพัฒนาทั�งตัวอักษรไทย ตัวอักษรละติน รวมถ่งตัวเลข นำเสนอในรูปแบบ regular เหมาะสำหรับงานที�ร่วมสมัย โอกาสสำคัญ ประเพณี และการย้อนยุคอย่างน่าลุ่มหลง ชวนให้คิดถ่งเสน่ห์ในวันวาน
44 | FACULTY ภายใน. ความทรงจํา – ออนไลน์ INT. Memories – O N L I N E ดร.ภาณุ แสง-ชูโต | สาขาวิชามีเดียอาตส์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี | [email protected] 3 นาที | Video Art, Pal HD, Color, Sound. ผลงานสร้างสรรค์เป็นผลลัพธ์และผลผลิตจากโครงการวิจัยและการสำรวจเพื�อเก็บรวบรวมข้อมูลเรื�อง “ประสบการณ์การจัดชั�นเรียน รายวิชาภาพยนตร์ ที�เน้น Project-based โดยจัดการเรียนรู้แบบผสมผสาน Hybrid Learning” โดยมีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื�อได้ข้อค้นพบจากการทำวิจัยในชั�นเรียน ผ่านรายวิชาภาพยนตร์ และได้ข้อค้นพบประสบการณ์จากการจัดชั�นเรียนออนไลน์ แบบผสมผสาน Hybrid Learning ที�เน้นการเรียนรู้ในลักษณะแบบ Project-based โดย วิเคราะห์และสังเคราะห์ ด้ วยแนวความคิด KSA (ความรู้ ทักษะ และทัศนคติ) 2) เพื�อนำปัญหาจากข้อค้นพบ ในการสอนรายวิชาภาพยนตร์ นำกลับมาใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุงพัฒนาคุณภาพ ออกแบบวิธีการเรียนการสอน การวัดประเมินผล และกิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆ ที�ร่วมกันคิดปรับไปพร้อมกับนักศ่กษา เพื�อให้เกิดผลลัพธ์การเรียนรู้ เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประสิทธิภาพของการ จัดชั�นเรียน ตามแนวทาง OBE : Outcomes Based Education 3) เพื�อนำผลที�ได้จากการวิจัยนำมาเป็นกรอบใช้ในการออกแบบสร้างสรรค์ผลงานวิดีโอศิลปะเรื�อง ภายใน. ความทรงจำ – ออนไลน์ ซ่�งตัวผลงานเป็นไปตามระเบียบขั�นตอน ของกระบวนการผลิตและแนวคิด ศิลปะภาพยนตร์และวิดีโอศิลปะ ใช้ระเบียบวิธีการวิจัยเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ ขอบเขตของการวิจัย ได้ทำ การเก็บรวบรวมข้อมูล ผ่านกลุ่มเป้าหมาย คือ นักศ่กษาสาขาวิชาเอกภาพยนตร์และภาพเคลื�อนไหว หลักสูตรมีเดียอาตส์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ชั�นปีที� 2 และ 3 ระหว่างปี พ.ศ. 2563 - 2565 จำนวน 360 คน และขอบเขตด้านเนื�อหาของรายวิชาภาพยนตร์ มีจำนวนรวม 3 วิชา ที�เน้นการ จัดการเรียนรู้ในแบบ Project-based มีเครื�องมือที�ใช้ในการวิจัยในชั�นเรียน ประกอบด้วยชุดคำถาม เขียนตอบถ่งประเด็นต่างๆ ที�เกี�ยวข้องกับเนื�อหาที�เรียน ในสัปดาห์นั�นๆ ชุดคำถามที�ถามถ่งปัญหาการเรียน ความรู้ส่ก และความต้องการ ของผู้เรียนในระหว่างที�เรียน ชุดเครื�องมือการให้กลุ่มเป้าหมายประเมินตนเอง โดยใช้ รู ปแบบการให้ระดับคะแนน Rating Scale วัดประเมินผลความรู้ความ เข้าใจในเนื�อหาวิชาภาพยนตร์ที�เรียน การปฏิ บัติทำงานเป็นกลุ่มของผู้เรียนเอง และกลุ่มเพื�อนร่วมชั�นเรียน เครื�องมือที�สำคัญที� สุด คือการวัดประเมินจากผลผลิต หรือชิ�นผลงานปลายภาคการศ่กษา ที� จะสามารถสะท้อนสรุ ปให้เห็นถ่งกระบวนการ และแนวความคิดที�ผู้เรียนได้เรียนรู้ฝึกปฏิ บัติ มาตลอด 15 สัปดาห์ ผลการวิจัยพบว่า สามารถนำปัญหาหรือข้อค้นพบที�สะท้อนมาจากผู้เรียนทั�งหมด วิเคราะห์ ผ่านประเด็นความต้องการและความรู้ส่ก ปรับให้ ยืดหยุ่นตามการรับรู้ ของผู้เรียน ที�แสดงผ่านระดับคะแนนประเมิน ทำให้ผู้สอนได้เห็นถ่งความก้าวหน้า ของการเรียนรู้ในแต่ละสัปดาห์ ผู้สอนสามารถปรับวิธีการสอนได้ ทันที โดยที� ยัง เน้นการเรียนรู้ เข้าใจได้ จากการลงมือปฏิ บัติทำผ่านโครงงาน Project-Based Learning อีกทั�งผู้เรียนมีความต้องการให้ มีสื�อหรือชุดคู่มือสำหรับประกอบการ สอน ที�เข้าใจง่ายเพื�อใช้ทบทวนบทเรียน ประสบการณ์การจัดชั�นเรียน รายวิชา ภาพยนตร์ ที�เน้น Project-based จัดการเรียนรู้แบบผสมผสาน Hybrid Learningได้ด้วยกระบวนการ PDCA และด้วยแนวคิด 3 เป็น คือ คิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาเป็น โดยวิเคราะห์สังเคราะห์ด้วยแนวคิด KSA (ความรู้ทักษะ ทัศนคติ) เพื�อตอบโจทย์ให้ผู้เรียนสามารถได้ผลลัพธ์การเรียนรู้ที�สัมฤทธิ�ผลได้
FACULTY | 45 ลานวัด เกมคอมพิวเตอร์เทคโนโลยีเสมือนจริง Virtual Reality Game เบญนภา พัฒนาพิภัทร และ นัจภัค มีอุสาห์ | สาขาวิชาเทคโนโลยีมัลติมีเดีย คณะเทคโนโลยีสื�อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี | [email protected], [email protected] 15 นาที | เกมคอมพิวเตอร์ภาพ 3 มิติ ผสมเทคโนโลยีเสมือนจริง (VR Game) งานวัด เป็นกิจกรรมที�มีการปรากฎหลักฐานตั�งแต่สมัยโบราณกาล โดยส่วนใหญ่ มีวัตถุประสงค์เพื�อการฉลองศาสนสถานและถาวรวัตถุต่างๆ ภายในวัด ซ่�งมัก นิยมจัดเทศกาลนมัสการและงานเฉลิมฉลองต่างๆ จนกลายเป็นประเพณีหน่�งใน สังคมไทย ซ่�งในสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด 19 ส่งผลให้การจัดกิจกรรม ที�มีคนเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ถูกเลื�อนหรืองดการจัดงานเพื�อป้องกันการแพร่ ระบาดของโรค แต่ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในการสร้างสรรค์ภาพ 3 มิติ หรือเทคโนโลยีการจัดแสดงที�สามารถดำเนินการจัดกิจกรรม (Event) ในรูปแบบ ออนไลน์ได้ ทำให้การเข้าถ่งกิจกรรมต่างๆ ที�แต่ละบุคคลสนใจก็ยังสามารถเข้าถ่ง ได้ผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ได้ คณะผู้วิจัยเกิดแนวคิดในการสร้างสรรค์ กิจกรรมงานวัดในรูปแบบเกมคอมพิวเตอร์เทคโนโลยีความเป็นจริงเสมือน (Virtual Reality Game) ข่�นมา เพื�อทำให้บุคคลทั�วไปสามารถเข้าไปเที�ยวงานวัด และระล่กถ่งความทรงจำ ความสุข ความสนุกสนานที�เกิดข่�นในวัด ถ่งแม้จะอยู่ ในสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื�อโรคก็ตาม เกม “ลานวัด” ในรูปแบบเกมคอมพิวเตอร์เทคโนโลยีความเป็นจริงเสมือน โดย ใช้เทคโนโลยีเครื�องแสดงภาพแบบสวมหัว (Head-mounted display: HMD) ถูกสร้างข่�นเพื�อให้ผู้เล่นมีความรู้ส่กได้เข้าไปอยู่ในสภาพแวดล้อมจริงทั�ง บรรยากาศ แสง สี และเสียง มีกิจกรรมที�ประกอบด้วย เกมปาลูกโป่ง เกมยิงเป้า เกมยิงตุ�กตา ชิงช้าสวรรค์ บ้านผีสิง และองค์ประกอบที�ควรมีในงานวัดอื�นๆ ทำให้ผู้เล่นมีความรู้ส่กได้เข้าไปอยู่ในสภาพแวดล้อมนั�นจริง เห็นสภาพแวดล้อม เหล่านั�นทั�งหมด ทำให้รู้ส่กถ่งการมีอารมณ์ร่วมกับการทำกิจกรรมต่างๆ และ สนุกสนานที�ได้ขยับร่างกายในทุกส่วนเพื�อทำภารกิจต่างๆ ภายในเกม ผู้วิจัยศ่กษาระดับความพ่งพอใจของผู้เล่นที�มีต่อเกม “ลานวัด” พบว่า ภาพรวม อยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี�ย 4.16) เมื�อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ผู้เล่นมีความ รู้ส่กว่าอยู่กับสิ�งแวดล้อมนั�นจริง อยู่ในระดับมากที�สุด (ค่าเฉลี�ย 4.57) ความสวยงาม ขององค์ประกอบต่างๆ ในเกม อยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี�ย 4.47) นอกจากนี� ผู้เล่น และผู้เชี�ยวชาญได้ให้ความคิดเห็นว่า แนวคิดหลัก (Concept) ของเกมที�นำเสนอ เรื�องราวของงานวัด มีความน่าสนใจ และทำให้ผู้เล่นรู้ส่กมีประสบการณ์ร่วมกับ เหตุการณ์ เนื�องจากเป็นเทศกาลที�มีความคุ้นชิน มีความรู้ส่กได้ย้อนกลับไปช่วง วัยเด็ก หรือย้อนกลับไปในความทรงจำตรงนั�น ที�อาจจะหาได้ยากในช่วงเวลานี� และเมื�อผู้เล่นเคยมีประสบการณ์ร่วมอยู่แล้ว ส่งผลให้ตอนเล่นเกมในสภาพแวดล้อม เทคโนโลยีความเป็นจริงเสมือน (VR) ก็สามารถทำได้ เนื�องจากมีความเข้าใจว่า จะต้องเล่นอย่างไร ซ่�งเทคโนโลยีความเป็นจริงเสมือน (VR) ก็สามารถทำให้ผู้ เล่นแสดงแอ็คชันเหล่านั�นได้เหมือนกับตอนอยู่ในสถานการณ์จริง นอกจากนี� ใน ด้านการสร้างโมเดลและฉากต่างๆ ในเกม มีการทำ Low Poly ที�ดี และ Art Style ที�ดูสวยงาม ยิ�งทำให้มีความรู้ส่กร่วมกับสถานการณ์ดังกล่าวมากยิ�งข่�น และจากผลการศ่กษา นอกจากจะศ่กษาเรื�องความพ่งพอใจแล้ว ยังศ่กษาองค์ประกอบอื�นๆ ที�เกี�ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบเกม การออกแบบส่วนต่อ ประสานผู้ใช้ การออกแบบวิธีการเคลื�อนที�ที�เหมาะสมกับผู้เล่นในแต่ละช่วงวัย
46 | FACULTY Font ลายมือ OA-Satapud ดร.ธีรศักดิ� สะกล | สาขาวิชาออกแบบหัตถอุตสาหกรรม คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ | [email protected] 35 x 70 ซม. | เทคนิคการสร้างสรรค์ การพัฒนาตัวอักษรแบบดิ จิ ทัล ในวิชาเขียนแบบเบื�องต้น ผู้เรียนส่ วนใหญ่อาจได้เรียนวิชาคัดลายมือ ซ่�งจะมีเอกลักษณ์ เฉพาะตัว สถาปนิกทุกคนจะมี รู ปแบบการเขียนด้ วยลายมือที�คล้ายคล่งกัน โดย ก่อนที�คอมพิ วเตอร์ จะมี ส่ วนช่ วยในการออกแบบสถาปัตยกรรมในลักษณะของแบบแปลน กระบวนการเขียนแบบและแก้ไขแบบในสมัยก่อนของสถาปนิกต้องอาศัยรูปแบบลายมือและขนาดของตัวอักษรที�คล้ายคล่งกัน เพื�อป้องกันข้อผิดพลาดจากการตีความแบบแปลน ซ่�งอาจทำให้เกิดความเสียหายในการก่อสร้าง โดย การเขียนตัวอักษรมักนิยมใช้ ตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ Rose Lagacé (2019)1 เนื�องจาก ตัวอักษรตัวพิมพ์ใหญ่ มีเอกลักษณ์ ชัดเจน ง่ายต่อการตีความและไม่ สับสนกับตัว อักษรอื�น นอกจากนี�ยังมีเหตุผลเชิงองค์ประกอบในการเลือกรู ปแบบตัวอักษร ตัวพิมพ์ใหญ่ ด้ วย การเขียนตัวอักษรที�ทำให้คนอื�นมองออกในเชิงเขียนแบบจ่ง เป็นสิ�งที� จำเป็น ด้ วยเหตุนี�ผู้ออกแบบจ่งสนใจในการพั ฒนาชุดตัวอักษรในเชิง สถาปัตยกรรมทั�งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เพื�อใช้ในโปรแกรมคอมพิ วเตอร์ที� เกี�ยวข้องกับงานสถาปัตยกรรมและกราฟิกดีไซน์ โดยงานสร้างสรรค์ชิ�นนี�จะมีต้นแบบสเก็ตช์และตัวต้นแบบกราฟิกไฟล์ที�พร้อมนำไปพัฒนาเป็นตัวอักษรที� สามารถติดตั�งลงบนคอมพิ วเตอร์ ต่อไป วัตถุ ประสงค์ : เพื�อพั ฒนาต้นแบบตัวอักษรแบบลายมือของนักเขียนแบบเชิง สถาปัตยกรรม กระบวนการสร้างสรรค์ : 1) ศ่กษาแนวคิดและรู ปแบบในการเขียนลายมือเชิง สถาปัตยกรรม 2) ทดลองร่างแบบอักษรด้ วยมือ 3) นำแบบอักษรภาพร่าง ปร่กษาผู้เชี�ยวชาญในสาขาสถาปัตยกรรม 4) ปรับปรุงภาพร่างตามคำแนะนำ 5) ใช้โปรแกรมคอมพิ วเตอร์กราฟิกพั ฒนาเป็นต้นแบบตัวอักษร เตรียมพร้อม นำไปพัฒนาให้สามารถติดตั�งในเครื�องคอมพิ วเตอร์ได้ในขั�นตอนต่อไป ประโยชน์หรือความรู้ที�เกิดข่�น 1) ได้เข้าใจลักษณะการเขียนลายมือแบบเชิง สถาปัตยกรรม 2) ได้แนวทางการพั ฒนารู ปแบบตัวอักษรเชิงสถาปัตยกรรม 3) ได้ ต้นแบบตัวอักษรเชิงสถาปัตยกรรมที� จะเตรียมไปพั ฒนาให้สามารถติดตั�ง ในเครื�องคอมพิ วเตอร์ได้ ปัญหาในช่ วงแรกของการพั ฒนาแบบคือเรื�องเอกสารตำราที�เกี�ยวกับการเขียน ตัวอักษรเชิงสถาปัตยกรรมในภาษาไทย ทางแก้ไขคือสอบถามผู้เชี�ยวชาญที� ทำงานด้านสถาปัตยกรรม เกี�ยวกับหลักการและกระบวนการที� ถูกต้องในการ เขียนเพื�อนำมาพัฒนาเป็นต้นแบบ ข้อเสนอแนะในงานครั�งนี� คือผู้ออกแบบต้อง ทดลองนำตัวอักษรไปจัดวางกับภาพประกอบอื�นๆ ให้ มีความหลากหลายเพื�อดู ถ่งความเหมาะสมและจุดที�ควรปรับปรุง1 Rose Lagacé . Architectural Lettering: How to Write Like an Architect. Accessed Just 8,2022 Available from https://artdepartmental.com/blog/architectural-lettering/
FACULTY | 47 แผนที่ภูมิ ทัศน์ วัฒนธรรมจากอัตลักษณ์ ชุมชน บ้านเมาะหลวง จังหวัดลํ าปาง บุ ษกร ฮวบแช่ ม | สาขาวิชาออกแบบหัตถอุตสาหกรรม คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ | [email protected] 60 x 60 x 23 ซม. | พิมพ์ ดิ จิ ทัล เลเซอร์ คัทลงบนไม้ ผลงานการออกแบบแผนที� ภู มิ ทัศน์ วั ฒนธรรมจากอัตลักษณ์ ชุ มชนบ้านเมาะหลวง จังหวัดลำปาง เป็นส่ วนหน่�งจากโครงการวิจัย “ภู มิ ทัศน์ วัฒนธรรม: การออกแบบ เพื�อชุ มชนที�ยั�งยืนจากแนวคิดหลักปรัชญาเศรษฐกิ จพอเพียง กรณีศ่กษา ชุ มชน บ้านเมาะหลวง จังหวัดลำปาง” เป็นการศ่กษาในหลักสูตรดุษฎี บัณฑิตศิลปะการ ออกแบบเชิงวัฒนธรรม คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ซ่�งวัตถุ ประสงค์ ผู้วิจัยต้องการศ่กษาภู มิ ทัศน์ วั ฒนธรรมของชุ มชนบ้านเมาะหลวง ด้านสังคม สิ�งแวดล้อม เศรษฐกิ จ และศิลปะวัฒนธรรม ที� มีความเชื�อมโยงกัน และใช้การ ออกแบบมาเป็นตัวขับเคลื�อนเพื�อให้เกิดการพั ฒนาที�ยั�งยืนต่อไป โดยเบื�องต้น เป็นการนำอัตลักษณ์ จากชุ มชนมาออกแบบแผนที� ภู มิ ทัศน์ วั ฒนธรรม ซ่�งการออกแบบอัตลักษณ์จะสามารถนำไปต่อยอดในส่วนของการออกแบบต่างๆ ได้อีก แนวความคิดของการออกแบบแผนที� ภู มิ ทัศน์ วั ฒนธรรมเป็นการศ่กษารวบรวม ข้อมูล ทรัพยากร สิ�งแวดล้อมและต้นทุนทางวัฒนธรรมของชุ มชนและใช้ รู ปแบบ กราฟิกเพื�อส่งเสริมอัตลักษณ์ของชุ มชนให้ น่าสนใจ ผ่านประวั ติ ศาสตร์ ชุ มชน กลุ่มชาติ พันธุ์ไทใหญ่ ประเพณีแห่ ช้างผ้า ตัวโต สถานที�สำคัญ เช่น ภูเขาไฟจำ ป่าแดด หอศิลปวัฒนธรรมแม่เมาะ วัดเมาะหลวง ศาลหลักเมืองแม่เมาะ เป็นต้น ด้วยกระบวนการสร้างสรรค์เป็นผลงาน 3 มิติ จากเทคนิคการพิมพ์ดิจิทัล เลเซอร์ คัทลงบนวัสดุไม้ เนื�องจากพื�นที�แม่เมาะมีความเชื�อมโยงและมีทรัพยากร ป่าไม้ มากมายมาตั�งแต่อดีต จากการศ่กษาและเก็บข้อมูลภู มิ ทัศน์ วั ฒนธรรมชุ มชนบ้านเมาะหลวง โดยทาง เอกสารและลงพื�นที�เก็บข้อมูล สอบถามข้อมูลจากบุคคลในชุ มชนและองค์กรที� เกี�ยวข้อง เพื�อมาวิเคราะห์ใช้ในงานออกแบบ ทำให้ได้ ข้อมูลอัตลักษณ์ของชุ มชน ที� ค่อนข้างชัดเจน เป็นประโยชน์ ต่อผู้วิจัยในด้านการออกแบบอย่างยิ�ง โดยผู้วิจัย จะมีการนำเสนอผลงานการออกแบบเพื�อให้ทางชุ มชนบ้านเมาะหลวงและผู้มี ส่ วนเกี�ยวข้อง ร่วมกันแสดงความคิดเห็นในการต่อยอดพั ฒนาผลงาน นำไปใช้ ประโยชน์ในพื�นที� ชุ มชนต่อไป เอกสารอ้างอิงชูศักดิ� วิทยาภัค. (2561). นิเวศวิทยามนุษย์: การศ่กษาสิ�งแวดล้อมในมิ ติของสังคมและ วัฒนธรรม. ศูนย์บริหารงานวิจัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่พินัย วิลัยทอง. (2557). การศ่กษาประเพณีแห่ช้างผ้า ชุ มชนเมาะหลวง อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง เพื�อการอนุรักษ์และสืบสานอย่างมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคม. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยชียงใหม่ Outstanding Social, Economic, Technology, Environmental and Cultural Impact
48 | FACULTY การออกแบบแอปพลิเคชัน PiGCA เกมภาพนึกคิ ด สํ าหรับการประเมิ นความคิ ดสร้างสรรค์ ผู้ช่ วยศาสตราจารย์ ทิพย์ ลักษณ์ โกมลวณิช | หลักสูตรการออกแบบเชิงสร้างสรรค์ คณะศิลปกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ | [email protected] ผู้ช่ วยศาสตราจารย์ บัญญพนต์ พูลสวัสดิ� | หลักสูตรการออกแบบเชิงโต้ตอบและการพัฒนาเกม วิทยาลัยครีเอทีฟดีไซน์ แอนด เ์ อ็นเตอร์เทนเมนต์ เทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ | [email protected] 1125 X 2436 px | ออกแบบแอปพลิเคชัน ถ่ายภาพ และคอมพิ วเตอร์กราฟิก PiGCA เกมภาพน่กคิด เป็นแอปพลิเคชันเกมที�ใช้ พัฒนาทักษะการคิดแบบขยาย (Divergent Thinking) และใช้ประเมินความคิดสร้างสรรค์ วัตถุ ประสงค์การ ออกแบบแอปพลิเคชัน PiGCA 1. เพื�อนำไปใช้ประเมินการเกิดความคิดสร้างสรรค์ด้วยรูปภาพต่างชนิด 2. เพื�อเก็บข้อมูลสำหรับพัฒนาอินเตอร์เฟซของแอปพลิเคชัน และ 3. เพื�อสำรวจความรู้ส่กด้านความคิดสร้างสรรค์ของผู้เล่นหลังจากใช้แอปพลิเคชัน วิธีการเล่น PiGCA เกมภาพน่กคิด จะมีคำถามเพียง 1 คำถาม คือ เมื�อเห็นภาพแล้วน่กถ่งอะไร ตอบให้ได้มากที�สุดภายใน 90 วินาที ผู้เล่นสามารถตอบคำถาม โดยการพูดหรือพิมพ์ตอบ ใน 1 รอบการเล่นจะเปลี�ยน 5 ภาพ การข่�นภาพจะเป็นแบบสุ่ม มีการเก็บข้อมูล นับคะแนนหลังการเล่น และจัดอันดับผู้เล่น การ ออกแบบกราฟิกภายในเกม ใช้เส้นคลื�นหัวใจข่�นลง เพื�อสื�อถ่งการถูกกระตุ้นให้ ตอบภายในเวลาอันจำกัด ใช้โทนสีโอลด์โรสให้ความรู้ส่กกระตือรือร้นใช้สัญลักษณ์กล้องเพื�อสื�อสารถ่งลักษณะของเกมว่าเกี�ยวกับภาพ และจุดตัวไอใน คำว่า PiGCA ใช้เป็นดาวกระจาย สร้างความเร้าใจขณะเล่นเกม ภาพที�ใช้ในเกมมี 3 หมวด คือ หมวดธรรมชาติ หมวดของในออฟฟิศ หมวดยานพาหนะ มีชนิดมุมภาพแบบเห็นหลากหลายสิ�ง กับภาพที�เห็นเฉพาะอย่าง สำหรับใช้ในการทดสอบเก็บข้อมูลเกี�ยวกับความคิดสร้างสรรค์ ผลจากการนำแอปพลิเคชัน PiGCA ทดสอบในกลุ่มนักศ่กษา พบว่า ผู้เล่นรู้ส่กสนุกกับการได้คิดแบบเร็ว ๆ ช่วยฝึกความคิดสร้างสรรค์ได้ดี เล่นแล้วไม่เครียด วิธีเล่นเรียบง่าย ไม่ ซับซ้อน ควรปรับแก้ไขคือ เพิ�มด่านการเล่น เพิ� มเสียงประกอบ โดยเฉพาะสัญญาณเตือนตอนใกล้หมดเวลา และควรปรับเพิ� ม UX/UI ตอนเข้า เกมให้ มีความน่าด่งดูด น่าสนใจยิ�งข่�น แอปพลิเคชันนี�เมื�อได้ รับการพัฒนาสมบูรณ์ จะสามารถนำไปใช้เป็นเครื�องมือในการประเมินศักยภาพด้านความคิดสร้างสรรค์ และต่อยอดงานวิจัยด้านอื�นๆ ที�เกี�ยวกับความคิดสร้างสรรค์ได้ ต่อไป เอกสารอ้างอิงวรภัทร์ ภู่เจริญ. คิดอย่างเป็นระบบและเทคนิคการแก้ปัญหา. พิมพ์ครั�งที� 6. กรุงเทพมหานคร : อริยชน, 2546. ไดเยอร์, เจฟฟ์ และ เกรเกอร์เซน, ฮาล และคริสเตนเซน, เคลย์ ตัน. นวัตกรพลิกโลก. แปลโดย นรา สุภัคโรจน์. นนทบุรี : ปราณ, 2556.