คำนำ
การจัดที่ดินทำกินใหชุมชนภายใตคณะกรรมการนโยบายท่ีดินแหงชาติ (คทช.) เปนนโยบาย
ท่ีสำคัญของรัฐบาล และเปนสวนหนึ่งของยุทธศาสตรชาติดานการเสริมสรางพลังทางสังคม
เดิมสำนักจัดการท่ีดินของรัฐ ไดจัดทำหนังสือ เร่ือง กระบวนการการจัดท่ีดินทำกินใหชุมชนตามนโยบาย
รัฐบาล เพื่อใชเปนแนวทางในการปฏิบัติงานตามกระบวนการจัดท่ีดินทำกินใหชุมชนในทุกประเภทที่ดิน
เพ่ือใหเจา หนาทท่ี ี่เก่ียวของกับการจดั ที่ดินทำกินใหชมุ ชนใชเ ปนแนวทางปรับใชเพื่อใหสามารถขับเคล่ือน
การดำเนินงานไดอยางสอดคลองไปในทิศทางเดียวกัน เกิดผลสัมฤทธิ์เปนรูปธรรมอยางมีประสิทธิภาพ
ซ่ึงเปนภารกิจหลักของกรมที่ดิน และปจจุบันไดมีพระราชบัญญัติคณะกรรมการนโยบายที่ดินแหงชาติ
พ.ศ. ๒๕๖๒ มีผลบังคับใช เม่ือวันท่ี ๑๓ มิถุนายน ๒๕๖๒ มีผลยกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
วา ดวยคณะกรรมการนโยบายท่ดี ินแหง ชาติ พ.ศ. ๒๕๕๗ ประกอบกับมติคณะรัฐมนตรเี ม่อื วนั ท่ี ๑๐ ตลุ าคม ๒๕๖๑
มีมติใหคณะกรรมการนโยบายที่ดินแหงชาติ และหนวยงานที่เกี่ยวของเรงประชาสัมพันธสรางการรับรู
แกประชาชนกลุมเปาหมาย เกี่ยวกับเจตนารมณหลักเกณฑและเง่ือนไขในการดำเนินการ ตามโครงการ
ดังกลาวใหชัดเจน และถูกตองตรงกันดวย โดยกรมท่ีดินในฐานะฝายเลขานุการคณะอนุกรรมการจัดท่ีดิน
ไดตอบแนวทางปฏิบัติใหจังหวัดนำไปเปนแนวทางปฏิบัติแลว เห็นสมควรท่ีจะรวบรวมปญหา
และแนวทางปฏิบัติในเร่ืองดังกลาว ไวเปนรปู เลม เพื่อใหเจาหนาที่ผูปฏิบัติไดนำไปปรับใช เพื่อใหสามารถ
ขับเคลื่อนการดำเนินงานไดอยางสอดคลองเปนไปในทิศทางเดียวกัน เกิดผลสัมฤทธิ์อยางเปนรูปธรรม
และมปี ระสิทธิภาพตอ ไป
องคความรูเรื่อง “กระบวนการการจัดท่ีดินทำกินใหชุมชนตามนโยบายรัฐบาล” เปนองคความรู
ท่ไี ดรบั การคัดเลือกจากคณะกรรมการจดั การความรขู องกรมท่ีดนิ ประจำปง บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔
สำนกั จดั การท่ีดนิ ของรัฐ
กองฝกอบรม
กรมทดี่ ิน กระทรวงมหาดไทย
สารบัญ หนา
๑
เร่ือง ๗
กระบวนการการจัดท่ดี ินทำกนิ ใหชุมชน ๑๓
ตามนโยบายรัฐบาล พ้ืนทปี่ า สงวนแหงชาติ
๒๑
กระบวนการการจัดที่ดินทำกนิ ใหช ุมชน ๒๙
ตามนโยบายรัฐบาล พน้ื ทีป่ าสงวนแหงชาติ ๓๕
(การจดั ระบบการใชป ระโยชน) ๔๑
๔๙
กระบวนการการจัดที่ดินทำกินใหช ุมชน ๗๑
ตามนโยบายรัฐบาล พืน้ ท่ีปาชายเลน ๘๕
ภายใตคณะกรรมการนโยบายทีด่ นิ แหงชาติ
ของกรมทรพั ยากรทางทะเลและชายฝง
กระบวนการการจัดทด่ี ินทำกินใหชุมชน
ตามนโยบายรฐั บาล พ้นื ทเ่ี ขตปฏิรปู ทีด่ ินของ ส.ป.ก.
กระบวนการการจัดท่ีดนิ ทำกนิ ใหช มุ ชน
ตามนโยบายรัฐบาล พื้นทนี่ คิ มสรา งตนเอง
กระบวนการการจัดท่ีดนิ ทำกนิ ใหช มุ ชน
ตามนโยบายรฐั บาล ทดี่ นิ สาธารณประโยชน
กระบวนการการจัดทด่ี ินทำกนิ ใหชุมชน
ตามนโยบายรฐั บาล ทีด่ ินทีร่ าชพสั ดุ
ตอบขอหารือของ คทช. จงั หวัด
ภาคผนวก ก พระราชบัญญัติคณะกรรมการนโยบายทด่ี ินแหงชาติ
พ.ศ. ๒๕๖๒
ภาคผนวก ข คำสงั่ คณะกรรมการนโยบายท่ีดนิ แหง ชาติ ที่ ๑/๒๕๖๓
ลงวนั ที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๖๓ เรือ่ ง แตงต้งั คณะอนกุ รรมการ
๑
กระบวนการการจัดที่ดนิ ทากนิ ใหช้ มุ ชน
ตามนโยบายรฐั บาล
พน้ื ที่ปา่ สงวนแห่งชาติ
พื้นพทนื้่ีปทา่ ีป่สางสวงนวแนหแ่งหชงาชตาิ ติ 23
พ้นื ทีด่ ำเนินการ
พ้ืนที่ปาสงวนแหงชาติที่ผานข้ันตอนการดำเนินงานของ คณ ะอนุกรรมการจัดหาท่ีดิน
โดยคณะอนกุ รรมการจัดหาทดี่ ิน ใหความเห็นชอบใหน ำไปดำเนนิ การจัดที่ดินทำกินใหชุมชน ตามนโยบาย
รัฐบาลในลกั ษณะแปลงรวมและรายงานใหค ณะกรรมการนโยบายท่ดี ินแหงชาติ (คทช.) ทราบแลว
กระบวนการจัดที่ดินทำกินใหชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) พ้ืนที่ดำเนินการเปนท่ีดินในพ้ืนท่ี
ปาสงวนแหง ชาติ ประกอบดวย
๑. หลักเกณฑการจัดที่ดินทำกินใหชุมชน การจัดระเบียบการใชประโยชนเปนการนำที่ดิน
ของรัฐทีม่ ีผูใชประโยชน มาจดั ระเบยี บการใชป ระโยชน
(๑) จดั ทด่ี นิ ทำกนิ ใหชุมชนในรปู แปลงรวม ตามสภาพพืน้ ที่ และตามเขตการปกครอง
(๒) การใชประโยชนในท่ีดิน ใหเปนไปตามขอกำหนดและเงื่อนไขของหนวยงานเจาของพื้นท่ี
ซึ่งไดผานความเห็นชอบ ของ คทช. แลว
(๓) จั ดที่ ดิ น ให แก ผู เข าท ำป ระโยชน ห รื ออยู อาศั ยใน พ้ื น ท่ี อยู แล ว ตามท่ี ครอบ ครอง
อยูจรงิ แตไมเ กิน ๒๐ ไร หากมีพ้ืนท่ีเหลือ หรือพ้ืนที่ท่ีไมมีผูทำประโยชน จงึ จะจัดใหผูท่ีถูกผลักดัน
และอพยพออกจากพื้นที่ปา และผูมีถิ่นท่ีอยูในทองที่ท่ีจะจัดที่ดินหรือใกลเคียง โดยพิจารณา
จากหมูบาน ตำบล อำเภอ จังหวัด ตามลำดับ ตามเกณฑการตรวจสอบขอมูลการถือครอง
และแนวทางการจดั ท่ีดินที่ คทช. เห็นชอบ ทัง้ นี้ เพ่อื เปน การควบคมุ และรวมกันดูแลรักษาพ้ืนทปี่ า ไม
(๔) ใหผูที่ไดรับอนุญาตใหใชประโยชนในที่ดินนำท่ีดินดังกลาว ไปดำเนินการจัดที่ดินทำกินใหชุมชน
ตามนโยบายรัฐบาลโดยรวมกับ คทช. จังหวัด เพื่อดำเนินการจัดท่ีดินใหแกราษฎรที่มีคุณสมบัติ
และเปนไปตามหลกั เกณฑท ่ี คทช. เหน็ ชอบ
๒. ประเภทของผทู ไี่ ดรับการจัดท่ีดิน
(๑) ผูเขาทำประโยชนหรืออยูอาศัยในพ้ืนที่อยูแลวเปนไปตามผลการตรวจสอบขอมูลรูปแปลงที่ดิน
และขอมูลของรายช่ือราษฎรผูครอบครองโดย คทช. จังหวัด สำหรับผลการตรวจสอบของ
คทช. จังหวัด ในพื้นที่ปาสงวนแหงชาติ สามารถจำแนกประเภทผูที่ไดรับการจัดท่ีดินตามลักษณะ
การครอบครองได ดงั น้ี
- ผูครอบครองรายเดมิ ชือ่ ตรง/แปลงตรงใหเขารวมโครงการฯ
- ผคู รอบครองชอื่ ไมตรง (ทายาทผูค รอบครองรายเดิม)/แปลงตรงใหเขารวมโครงการฯ
- ผคู รอบครองรายใหม/มีการเปลย่ี นมอื ใหตรวจสอบคณุ สมบตั ขิ องผคู รอบครอง
4 พื้นทป่ี ่าสงวนแหง่ ชาติ พ้นื ท่ีปาสงวนแหง ชาติ 3
กรณีผา น : เขารวมโครงการแบบมีเงือ่ นไข ตามท่กี รมปา ไมไดกำหนดเงอ่ื นไขวา “ใหร าษฎรท่ีครอบครองท่ีดิน
รายใหมปลูกไมปายืนตนเฉล่ียไมนอยกวา ๔๐ ตนตอไร โดยใหแลวเสร็จภายใน ๒ ป นับแตวันที่ไดเขารวม
โครงการ ท้ังน้ีตองทำการบำรุงรักษาตนไมที่ปลูก หากตนไมที่ปลูกตายตองปลูกทดแทนดวยและตองไมตัด
ตน ไมท่ปี ลูกกอ นไดร บั อนุญาต”
กรณไี มผ า น : ไมเขา รว มโครงการฯ (ทด่ี นิ เขา กองกลาง)
- ไมปรากฏช่ือผูครอบครองมีการใชที่ดินแตไมพบตัวให คทช. จังหวัด ตรวจสอบเพ่ิมเติม
ผลการตรวจสอบเปนคนเดิม เขาสูประเภทผูครอบครองรายเดิม/ทายาท กรณีเปนคนใหม
เขาสูป ระเภทผคู รอบครองรายใหม/ มีการเปลี่ยนมือ
(๒) ผูทถ่ี กู ผลกั ดนั และอพยพออกจากพื้นท่ีปา
(๓) ผูมีถ่ินที่อยูในทองท่ีที่จะจัดท่ีดินหรือใกลเคียง โดยพิจารณาจากหมูบาน ตำบล อำเภอ จังหวัด
ตามลำดบั
๓. คณุ สมบตั ขิ องผทู ี่ไดร บั การจดั ทด่ี ิน
(๑) บุคคลสัญชาตไิ ทย
(๒) เปนผยู ากไรไมมที ่ีทำกิน และ/หรือท่ีอยอู าศยั หรอื มรี ายได ตอปไ มเกนิ ๓๐,๐๐๐ บาท/คน
(๓) บรรลนุ ิติภาวะแลว หรอื เปน หวั หนา ครอบครวั
(๔) มถี ิน่ ท่ีอยใู นทอ งที่ทจี่ ะจัดทด่ี ินหรอื ใกลเคียง
(๕) มคี วามสามารถทำประโยชนในที่ดินได
(๖) ไมเปน คนวกิ ลจริตหรอื จิตฟนเฟอ น ไมสมประกอบ
(๗) ยนิ ยอมปฏบิ ตั ิตามระเบยี บ ขอ บังคับ ขอกำหนด และเงอ่ื นไขที่กำหนด
(๘) ปจจุบันไมไ ดร บั การชวยเหลอื ในการจดั ทดี่ ินจากทาง ราชการ
(๙) กรณีท่ีคณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัดพิจารณาเห็น เปนความจำเปน เพื่อประโยชนในทาง
เศรษฐกิจ สังคม และความสงบเรียบรอย โดยคำนึงถึงลักษณะพื้นที่สภาพการ ใชประโยชน
ทำประโยชน คณะอนุกรรมการนโยบายท่ีดินจังหวัด (คทช. จังหวัด) จะผอนผันการปฏิบัติ
ตามหลกั เกณฑ เปนการเฉพาะรายกไ็ ด
พ้ืนพทน้ืปี่ ทา่ ส่ปี งา วสนงวแนหแ่งหชงาชตาิ ติ 45
๔. แนวทางการดำเนินการ
(๑) คณะอนุกรรมการจดั ท่ีดินสงมอบขอมูลแปลงท่ีดนิ และ รายชื่อผคู รอบครอง ใหแก คทช. จังหวัด
ดำเนนิ การ
(๒) คทช. จังหวัด รวมกับหนวยงานเจาของพื้นท่ี (ระดับจังหวัด) สำรวจ/ตรวจสอบ/ลงพ้ืนที่ตรวจสอบ
ขอมูลรูปแปลงที่ดิน และขอมูลของราษฎรผูครอบครองภายในขอบเขตพ้ืนที่ที่จะดำเนินการจัด
ที่ดินทำกนิ ใหชุมชน และจำแนกประเภทตามลกั ษณะการครอบครอง
(๓) คทช. จงั หวดั รวบรวมขอมูลรายงานคณะอนกุ รรมการจดั ทดี่ นิ ทราบเพ่ือรายงานให คทช. ทราบ
(๔) จังหวัดหรือหนวยงานท่ีไดรับมอบหมายจาก คทช. จังหวัด ขออนุญาตเขาทำประโยชนหรืออยูอาศัย
ภายในเขตปาสงวนแหงชาติ ตามมาตรา ๑๖ แหงพระราชบัญญัติปาสงวนแหงชาติ พ.ศ. ๒๕๐๗
(๕) หนวยงานท่ไี ดรับมอบหมายจาก คทช. จงั หวัด ไดร บั อนุญาตจากหนวยงานเจา ของพ้ืนที่
(๖) คทช. จงั หวดั ตงั้ คณะทำงานจัดทด่ี ินดำเนินการจัดระเบยี บการใชประโยชน
(๗) คณะทำงานฯ ประชมุ ชีแ้ จงราษฎรแจง ใหทราบถึงแนวทาง/แผนการดำเนนิ งาน
(๘) คณะทำงานฯ คัดเลือกบุคคลตามคุณสมบัติประเภทของผูท่ีไดรับการจัดที่ดินและเงื่อนไขการ
เขารวมโครงการจัดท่ีดินทำกินใหชุมชนที่กำหนด รวมทั้งจัดทำผังแปลงที่ดินและรายช่ือราษฎร
ท่จี ะไดร บั การจัดระเบียบการใชประโยชน
(๙) คทช. จังหวัด อนุมัติใหดำเนินการจัดระเบียบการใชประโยชนตามผังแปลงและรายช่ือ
ที่คณะทำงานฯ เสนอ จากนัน้ รายงานผลใหคณะอนกุ รรมการจัดทดี่ ินเพอ่ื รายงาน คทช. ทราบ
(๑๐) คทช. จังหวัด รวบรวมขอมูลสงเรื่องใหผูไดรับอนุญาตและหนวยงานเจาของพ้ืนท่ีกำกับดูแล
ใหเ ปน ไปตามการอนญุ าตและขอกำหนด ภายใตการบรหิ ารจดั การของ คทช. จงั หวดั
๕. ขอกำหนดการใชที่ดนิ ของผูท ไ่ี ดร ับการจดั ที่ดนิ
(๑) ตองทำประโยชนและ/หรืออยูอาศัย ดวยตนเองหรือใหบุคคลในครอบครัวภายในขอบเขตพ้ืนที่
ที่ไดร บั การจัดท่ดี ินเทานน้ั หามขยายพื้นที่
(๒) หา มซื้อขาย แลกเปลี่ยน ให ใหเชา ใหเชาซื้อ ใหยืม โอนสิทธิการเชา หรือโอนสทิ ธิการครอบครอง
ใหบคุ คลอืน่ เวนแตเปน ไปตามระเบยี บกฎหมายของหนว ยงานทีอ่ นุญาตใหใชทดี่ ิน
(๓) สามารถตกทอดไปยังทายาทโดยธรรมได
(๔) ตองปฏิบัติตามระเบียบ กฎหมายตาง ๆ ของหนวยงานที่อนุญาตใหใชที่ดิน รวมถึงขอกำหนด
ท่ี คทช. จะกำหนดข้ึนใหมในภายหลังดวย
(๕) ใหความยินยอมและอำนวยความสะดวกกับเจาหนาทีท่ ี่เขาไปตรวจสอบพน้ื ท่ีทีจ่ ดั ทด่ี นิ
(๖) หากมีการฝาฝนหรือไมปฏิบัติตามขอกำหนด หรือผูท่ีไดรับการจัดที่ดินไมประสงคจะใชท่ีดิน
ให คทช. จงั หวัด สามารถพิจารณายกเลิกการใชทีด่ ิน และใหผ ูท ีไ่ ดรับการจัดที่ดินตอ งสงคนื พน้ื ท่ี
6 พน้ื ทีป่ า่ สงวนแหง่ ชาติ พน้ื ท่ีปา สงวนแหง ชาติ 5
(๗) หามละทิ้งไมทำประโยชน หรือไมอยูอาศัยในที่ดิน หากมีความจำเปนหรือมีขอจำกัดที่ไมสามารถ
ทำประโยชนในท่ีดินไดใหแจงผูใหญบานเพื่อรายงานให คทช. จังหวัด ทราบและพิจารณา
ตามลำดับ
(๘) หา มบกุ รกุ แผว ถางปา เพื่อขยายเปนพื้นทีอ่ ยูอาศยั /ทำกนิ เพิม่ เติม
(๙) ตองคอยสอดสองตรวจตราระมัดระวังมิใหมีการบุกรุกแผวถางปาในบริเวณติดตอใกลเคียง
ถาพบการบุกรุกแผวถางปาใหแจงพนักงานเจาหนาที่ในทองที่ เชน กำนัน ผูใหญบาน เจาหนาท่ีปาไม
ตำรวจ ทหาร เปน ตน ทราบทนั ที
(๑๐) ใหทำการปลูกตนไมชนิดดีมีคาในพ้ืนที่ที่ไดรับการจัดที่ดินอยางนอย ๒ ตน ตอไร และตองดูแล
รกั ษาใหเจริญเตบิ โตอยางดี
๒
กระบวนการการจดั ทีด่ นิ ทากนิ ใหช้ มุ ชน
ตามนโยบายรัฐบาล
พ้ืนที่ป่าสงวนแห่งชาติ
(การจดั ระบบการใชป้ ระโยชน)์
พืน้ พทนื้ ปี่ ทา่ ่ปี สางสวงนวแนหแง่ หชง าชตาิ ติ 79
พนื้ ทดี่ ำเนนิ การ
พ้ื น ท่ี ป าส งวน แ ห งช าติ ท่ี ผ าน ขั้ น ต อ น ก ารด ำเนิ น งาน ข องค ณ ะอนุ ก รรรม ก ารจั ด ห า ที่ ดิ น
โดยคณะอนุกรรมการจัดหาที่ดินใหความเห็นชอบใหนำไปดำเนินการจัดที่ดินทำกินใหชุมชนตามนโยบาย
รัฐบาลในลักษณะแปลงรวม และรายงานใหคณะกรรมการนโยบายท่ดี ินแหง ชาติ (คทช.) ทราบ
กระบวนการจัดที่ดินทำกินใหชุมชนตามนโยบาย (คทช.) พ้ืนที่ดำเนินการเปนที่ดินในพ้ืนท่ีปาสงวน
แหงชาติหรือปา (แปลงวา ง) ประกอบดว ย
๑. หลักเกณฑการจัดทดี่ ินทำกนิ ใหชุมชน (การจัดระบบการใชประโยชน)
เปนการนำท่ีดินปาสงวนแหงชาติท่ีไมมีผูครอบครองมาจัดระบบการใชประโยชนใหแกผูยากไรไมมีท่ีดิน
ทำกนิ หรอื มีแตไมพอเลี้ยงชพี โดยใชหลักเกณฑดังน้ี
(๑) จัดท่ีดินทำกินใหชุมชนในรูปแปลงรวมใหใชประโยชนรวมกันโดยไมใหกรรมสิทธ์ิเฉพาะราย
ตามสภาพพืน้ ท่ีและตามเขตการปกครอง
(๒) จดั ทำผงั แปลงท่ีดินตามสัดสว นที่เหมาะสมกับสภาพการทำประโยชนในพื้นท่ี และความเหมาะสม
ของสภาพพื้นท่ีโดยใหกันพื้นที่สวนกลางไวไมนอยกวา ๑๐% ของพ้ืนที่ทั้งหมด เพื่อปลูกปา
หรอื ไมยืนตน
(๓) การใชประโยชนในที่ดินใหเปนไปตามขอกำหนดและเง่ือนไขของหนวยงานรับผิดชอบพื้นที่
ซ่ึงไดผา นความเหน็ ชอบของ คทช. แลว
(๔) จัดที่ดินใหผูที่ถูกผลักดันและอพยพออกจากพ้ืนท่ีสงวนหวงหามของรัฐ และผูท่ีไดรับผลกระทบ
จากการดำเนินการตามโครงการของทางราชการที่สูญเสียท่ีดินทำกินเปนลำดับแรก และผูไมมีท่ีดิน
ทำกินหรือมีเพียงเล็กนอยไมเพี ยงพอตอการครองชีพที่มีถิ่นที่อยูในท องท่ี ที่จะจัดที่ ดิน
โดยพิจารณาจากหมูบาน ตำบล อำเภอ ตามลำดับ หากมีพื้นท่ีเหลือจึงจะจัดใหผูที่มีถิ่นท่ีอยู
ในทองที่ใกลเคียงอ่ืนตอไป ทั้งนี้ กรณีที่คณะอนุกรรมการนโยบายท่ีดินจังหวัดพิจารณา
เห็นเปนความจำเปนเพ่ือประโยชนในทางเศรษฐกิจ สังคม และความสงบเรียบรอย
สามารถกำหนดการคดั กรองและจัดลำดับท่ีเหมาะสมของชุมชนทองถน่ิ ตามทีเ่ หน็ ควรได
(๕) ใหผูท่ีไดรับอนุญาตใหใชประโยชนในท่ีดินดังกลาวไปดำเนินการจัดท่ีดินทำกินใหชุมชนหรือ
โดยรวมกับ คทช. จังหวัด เพ่ือดำเนินการจัดท่ีดินใหแกราษฎรที่มีคุณสมบัติและเปนไปตาม
หลักเกณฑที่ คทช. เหน็ ชอบ
10 พ้นื ทปี่ า่ สงวนแห่งชาติ พ้นื ท่ีปาสงวนแหงชาติ 8
๒. ประเภทของผูท ไ่ี ดรบั การจดั ทด่ี นิ
(๑) ผูท ถ่ี ูกผลกั ดันและอพยพโยกยายออกจากพ้นื ที่สงวนหวงหามของรัฐ
(๒) ผทู ่ีไดรับผลกระทบจากการดำเนนิ การตามโครงการของทางราชการทส่ี ูญเสยี ทด่ี นิ ทำกิน
(๓) ผไู รที่ดนิ ทำกนิ ท่ีขอรับการจัดทด่ี ินทม่ี ีถ่ินท่ีอยูในทองทีท่ ่ีจะจัดที่ดิน โดยพิจารณาจากหมูบาน ตำบล
อำเภอ ตามลำดับ หากมีพื้นท่ีเหลือจึงจะจัดใหผูท่ีมีถ่ินที่อยูในทองที่ใกลเคียงอ่ืนตอไป และได
ข้ึนทะเบยี นไวก บั ทางราชการ
๓. คณุ สมบัตขิ องผูท ่ีไดรบั การจัดที่ดนิ
(๑) บคุ คลสัญชาติไทย
(๒) เปนผูย ากไรไ มม ีที่ทำกนิ และ/หรอื ทอ่ี ยูอ าศัย หรอื มีรายไดต อ ปไ มเกิน ๓๐,๐๐๐ บาท/คน
(๓) บรรลุนติ ิภาวะแลว หรอื เปนหวั หนา ครอบครวั
(๔) มถี นิ่ ทอี่ ยูในทองทีท่ ีจ่ ะจดั ทด่ี ินหรอื ใกลเ คียง
(๕) มคี วามสามารถทำประโยชนใ นท่ดี นิ ได
(๖) ไมเ ปน คนวิกลจริตหรอื จิตฟน เฟอ นไมสมประกอบ
(๗) ยนิ ยอมปฏบิ ัติตามระเบยี บ ขอ บังคบั ขอกำหนด และเง่อื นไขทกี่ ำหนด
(๘) ปจ จุบนั ไมไ ดร ับการชวยเหลอื ในการจดั ท่ดี นิ จากทางราชการ
(๙) กรณีที่คณะอนุกรรมการนโยบายท่ีดินจังหวัดพิจารณาเห็นเปนความจำเปนเพ่ือประโยชนในทาง
เศรษฐกิจ สังคม และความสงบเรียบรอย โดยคำนึงถึงลักษณะพ้ืนท่ีสภาพการใชประโยชน
ทำประโยชน คณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัด (คทช. จังหวัด) จะผอนผันการปฏิบัติ
ตามหลกั เกณฑเปนการเฉพาะรายก็ได
๔. แนวทางการดำเนนิ การ
(๑) คณะอนุกรรมการจัดที่ดินสงมอบขอมูลพ้ืนท่ี (เนื้อที่และรูปแปลงที่ดิน) ใหแก คทช. จังหวัด
ดำเนินการ
(๒) จังหวัดขออนุญาตเขาทำประโยชนหรืออยูอาศัยภายในเขตปาสงวนแหงชาติ ตามมาตรา ๑๖
แหงพระราชบัญญัติปาสงวนแหงชาติ พ.ศ. ๒๕๐๗ หรือตามกฎกระทรวงการขออนุญาต
และการอนุญาตทำประโยชนในเขตปา พ.ศ. ๒๕๕๘ และทแ่ี กไ ขเพมิ่ เติม
พ้นื พท้นื ป่ี ท่า่ีปสางสวงนวแนหแ่งหชง าชตาิ ติ 19 1
(๓) คทช. จงั หวัด จัดตั้งคณะทำงานจัดท่ดี นิ เพอ่ื ดำเนินการจัดระบบการใชประโยชน
- กำหนดขอบเขตแปลงท่ีดินพ้ืนท่ีสำหรับพัฒนาโครงสรางพ้ืนฐานและใหกันพ้ืนท่ีไวไมนอยกวา
๑๐% ของพน้ื ที่ทง้ั หมดเพื่อปลูกปา หรือไมยนื ตน
- การวางผงั แปลงทด่ี ินใหมีขนาดที่เหมาะสมกับสภาพการทำประโยชนในพ้ืนที่ และความเหมาะสม
ของสภาพพ้ืนท่โี ดยไมเ กนิ ครอบครัวละ ๑๕ ไร
- คดั เลือกบุคคลตามคณุ สมบตั ิ ประเภทของผูท่ไี ดรับการจดั ทดี่ นิ
- นำเสนอผลการดำเนนิ การให คทช. จงั หวัด อนมุ ัติ
(๔) คทช. จังหวัด อนุมัติใหดำเนินการจัดระบบการใชประโยชนตามผังแปลงและรายช่ือที่คณะทำงานฯ
เสนอ จากนัน้ รายงานผลใหคณะอนุกรรมการจัดทด่ี นิ เพ่ือรายงาน คทช. ทราบ
๕. ขอกำหนดการใชท่ีดินของผทู ่ีไดรับการจดั ทด่ี นิ
(๑) ตองทำประโยชนและ/หรืออยูอาศัย ดวยตนเองหรือใหบุคคลในครอบครัวภายในขอบเขตพื้นที่
ท่ไี ดรบั การจดั ทดี่ นิ เทา นัน้ หา มขยายพืน้ ที่
(๒) หา มซื้อขาย แลกเปลี่ยน ให ใหเชา ใหเชาซื้อ ใหยืม โอนสิทธิการเชา หรือโอนสิทธิการครอบครอง
ใหบ คุ คลอืน่ เวนแตเ ปนไปตามระเบียบ กฎหมายของหนวยงานท่ีอนญุ าตใหใชท ี่ดิน
(๓) สามารถตกทอดไปยังทายาทโดยธรรมได
(๔) ตอ งปฏบิ ตั ิตามระเบียบ กฎหมายตาง ๆ ของหนว ยงานที่อนุญาตใหใ ชทีด่ นิ รว ม ถึ งข อ ก ำห น ด
ที่ คทช. จะกำหนดข้ึนใหมใ นภายหลงั ดวย
(๕) ใหความยนิ ยอมและอำนวยความสะดวกกบั เจาหนาทที่ ี่เขาไปตรวจสอบพื้นท่ที ่จี ดั ทดี่ นิ
(๖) หากมีการฝาฝนหรือไมปฏิบัติตามขอกำหนด หรือผูที่ไดรับการจัดท่ีดินไมประสงคจะใชที่ดิน
ให คทช. จังหวัด สามารถพิจารณายกเลิกการใชที่ดิน และใหผูท่ีไดรับการจัดที่ดินตองสงคืนพื้นที่
(๗) หามละท้ิงไมทำประโยชน หรือไมอยูอาศัยในท่ีดิน หากมีความจำเปนหรือมีขอจำกัดท่ีไมสามารถ
ทำประโยชนในที่ดินได ใหแจงผูใหญบานเพ่ือรายงานให คทช. จังหวัด ทราบ และพิจารณา
ตามลำดบั
(๘) หามบกุ รุกแผวถางปา เพื่อขยายเปน พ้นื ทอ่ี ยูอาศัย/ทำกิน เพม่ิ เตมิ
(๙) ตองคอยสอดสองตรวจตราระมัดระวังมิใหมีการบุกรุกแผวถางปาในบริเวณติดตอใกลเคียง
ถาพบการบุกรุกแผวถางปา ใหแจงพนักงานเจาหนาท่ีในทองท่ี เชน กำนัน ผูใหญบาน เจาหนาที่
ปา ไม ตำรวจ ทหาร เปนตน ทราบทันที
12 พนื้ ทป่ี า่ สงวนแห่งชาติ พืน้ ทป่ี าสงวนแหงชาติ 10
๓
กระบวนการการจัดทดี่ ินทากนิ ใหช้ ุมชน
ตามนโยบายรฐั บาล
พื้นที่ปา่ ชายเลน
ภายใตค้ ณะกรรมการนโยบายท่ีดินแห่งชาติ
ของกรมทรพั ยากรทางทะเลและชายฝงั่
พื้นพท้นืปี่ ทา่ ชี่ปา ยชเาลยนเลน 125
พน้ื ทีด่ ำเนนิ การ
พื้ น ท่ี ป า ช า ย เล น ที่ ผ า น ขั้ น ต อ น ก า ร ด ำ เนิ น ง า น ข อ ง ค ณ ะ อ นุ ก ร ร ม ก า ร น โย บ า ย ท่ี ดิ นจั งหวั ด
(คทช. จังหวัด) และคณะอนุกรรมการจัดหาท่ีดินโดยคณะอนุกรรมการจัดหาท่ีดินใหความเห็นชอบ
ใหนำไปดำเนินการจัดท่ีดินทำกินใหชุมชนตามนโยบายรัฐบาลในลักษณะแปลงรวม และรายงาน
ใหคณะกรรมการนโยบายที่ดินแหงชาติ (คทช.) ทราบแลว และคณะรัฐมนตรีไดมีมติอนุมัติใหยกเวน
มติคณะรฐั มนตรี เม่อื วนั ท่ี ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๓๔ วนั ท่ี ๒๒ สิงหาคม ๒๕๔๓ และวนั ที่ ๑๗ ตลุ าคม ๒๕๔๓
เพ่ือนำทีด่ ินที่เปน ปา ชายเลน ไปจดั ที่ดนิ ทำกินใหชมุ ชนตามนโยบายรฐั บาล กระบวนการจัดที่ดินทำกิน
ใหช ุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.). พ้ืนทดี่ ำเนนิ การเปนท่ีดินในพื้นที่ปาสงวนแหงชาตหิ รอื ปาทเ่ี ปนปาชายเลน
ประกอบดวย
๑. หลกั เกณฑการจดั ที่ดินทำกนิ ใหช ุมชนการจดั ระเบียบ/จัดระบบการใชป ระโยชน
เปนการนำที่ดินของรัฐที่มีผูครอบครองใชประโยชนมาจัดระเบียบการใชประโยชน รวมท้ังการนำที่ดิน
ของรัฐท่ีไมมีผูครอบครองมาจัดระบบการใชประโยชนใหแกผูยากไรไมมีที่ดินทำกินหรือมีแตไมพอเลี้ยงชีพ
โดยใชหลักเกณฑดงั นี้
(๑) จัดที่ดินทำกินใหชุมชนในรูปแปลงรวมใหใชประโยชนรวมกัน โดยไมใหกรรมสิทธิ์เฉพาะราย
ตามสภาพพื้นที่และตามเขตการปกครอง โดยสมาชิกของชุมชนควรมีการรวมกลุมกัน ทั้งนี้
อาจประกอบดวยสมาชิกในกลุมตามรูปแบบท่ีกฎหมายกำหนด เชน วิสาหกิจชุมชน สหกรณ
เปนตน
(๒) การใชประโยชนในที่ดินใหเปนไปตามขอกำหนดและเง่ือนไขกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝง
ซ่ึงไดผ า นความเห็นชอบของ คทช. แลว
(๓) จัดที่ดินใหแกผูเขาทำประโยชนหรืออยูอาศัยในพ้ืนท่ีอยูแลว ตามท่ีครอบครองอยูจริงแตไมเกิน
๓๐ ไร หากมีพื้นท่ีเหลือหรือพื้นท่ีท่ีไมมีผูทำประโยชนใหนำมาฟนฟูสภาพปากอน หากพ้ืนท่ี
ไมเหมาะสมที่จะนำมาฟนฟูสภาพปาจึงจะจัดใหผูท่ีถูกผลักดันและอพยพออกจากพ้ืนท่ีปา
และผูมีถ่ินท่ีอยูในทองที่ที่จะจัดท่ีดินหรือใกลเคียง โดยพิจารณาจากหมูบาน ตำบล อำเภอ
จังหวัด ตามลำดับ ตามเกณฑ การตรวจสอบขอมูลการถือครองและแนวทางการจัดท่ีดิน ที่ คทช.
เห็นชอบ ท้ังน้ี เพ่อื เปนการควบคมุ และรวมกันดแู ลรักษาพนื้ ท่ปี าชายเลน
16 พนื้ ทีป่ ่าชายเลน พืน้ ที่ปาชายเลน 13
(๔) ใหผูที่ไดรับอนุญาตใหใชประโยชนในที่ดินนำที่ดินดังกลาวไปดำเนินการจัดท่ีดินทำกินใหชุมชน
หรือสมาชิกของชุมชน ท่ีรวมกลุมกันตามนโยบายรัฐบาล โดยรวมกับ คทช. จังหวัด เพ่ือดำเนินการ
จัดที่ดนิ ใหแ กร าษฎรทีม่ คี ณุ สมบตั แิ ละเปนไปตามหลักเกณฑท ่ี คทช. เหน็ ชอบ
(๕) พ้ืนที่ท่ีจะจัดใหตามโครงการฯ ตองมีการทำประโยชนในพ้ืนท่ีกอนมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่
๒๓ กรกฎาคม ๒๕๓๔ และตอเนือ่ งจนถึงปจจุบนั
(๖) ใหกันที่ดินสวนที่อยูหางจากริมทะเล ไมนอยกวา ๑๐๐ เมตร ออกไปกอน เพื่อการอนุรักษ
และฟนฟสู ภาพปา ชายเลน
(๗) ในการจัดระบบการใชประโยชนท่ีดินใหกับผูไดรับการจัดที่ดินรายใหมไดกำหนดพื้นท่ีตามความ
เหมาะสมของที่ดินปาชายเลนที่สามารถจัดได และเหลือจากการจัดใหผูอยูอาศัยในพ้ืนท่ี
ดง้ั เดิมกอ น
(๘) ผูท่ีจะไดรับการจัดที่ดินตองแจงความประสงคเขารวมโครงการฯ ตอกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝง
หรอื คทช. จังหวัด
๒. ประเภทของผูทไี่ ดร บั การจัดที่ดิน
(๑) ผเู ขาทำประโยชนหรืออยูอาศัยในพื้นที่อยูแลวจากการสำรวจเบ้อื งตน ของกรมทรพั ยากรทางทะเล
และชายฝง และเปนไปตามผลการตรวจสอบขอมูลรูปแปลงท่ีดิน และขอมูลรายช่ือราษฎร
ผูครอบครองจาก คทช. จังหวัด โดยจำแนกประเภทผูท่ีไดรับการจัดที่ดินตามลักษณะการครอบครอง
ออกเปน
(๑.๑) ผคู รอบครองรายเดมิ ชอ่ื ตรง/แปลงตรงใหเ ขา รวมโครงการฯ
(๑.๒) ผูครอบครองชอ่ื ไมตรง (ทายาทผูครอบครองรายเดิม)/แปลงตรง ใหเขารว มโครงการฯ
(๑.๓) ผูครอบครองรายใหม/มกี ารเปลี่ยนมอื ใหต รวจสอบคุณสมบตั ิของผคู รอบครอง
กรณผี าน : ใหเ ขา รว มโครงการฯ
กรณไี มผ าน : แจง ผคู รอบครองทราบและใหน ำพ้ืนทมี่ าฟน ฟู สภาพปา
(๑.๔) ในพ้ืนท่ีที่ไมแจงความประสงคเขารวมโครงการฯ ให คทช. จังหวัด ตรวจสอบเพิ่มเติม
เพื่อยืนยันวาไมประสงคจะเขารวมโครงการฯในกรณีน้ี ใหกรมทรัพยากรทางทะเล
และชายฝง พจิ ารณาดำเนนิ การตามอำนาจหนา ทีต่ อ ไป
(๒) ผทู ่ีถกู ผลกั ดนั และอพยพออกจากพน้ื ท่ปี า
(๓) ผูมีถิ่นท่ีอยูในทองที่ที่จะจัดที่ดินหรือใกลเคียง โดยพิจารณา จากหมูบาน ตำบล อำเภอ จังหวัด
ตามลำดับ
พ้ืนทพป่ีน้ื ท่าชี่ปาายชเาลยนเลน 1174
๓. คณุ สมบัตขิ องผูท ่ไี ดร ับการจดั ที่ดนิ
๓.๑ ผคู รอบครองที่ดนิ รายเดิม (การจดั ระเบยี บการใชป ระโยชน)
(๑) มสี ัญชาติไทยและบรรลุนติ ภิ าวะแลวหรอื เปน หัวหนาครอบครัว
(๒) มีความสามารถทำประโยชนในท่ีดนิ ได
(๓) ไมเ ปนคนวกิ ลจรติ หรือจิตฟน เฟอ นไมสมประกอบ
(๔) ยินยอมปฏิบตั ติ ามระเบยี บ ขอ บังคบั ขอกำหนด และเงอ่ื นไขทก่ี ำหนด
(๕) ปจจุบันไมไดร ับการชวยเหลอื ในการจดั ทดี่ นิ จากทางราชการ
๓.๒ ผไู ดร บั การจัดทด่ี ินรายใหม (การจดั ระบบการใชป ระโยชน)
(๑) มสี ญั ชาตไิ ทยและบรรลนุ ิตภิ าวะแลวหรอื เปนหวั หนา ครอบครัว
(๒) มีความสามารถทำประโยชนใ นทด่ี ินได
(๓) ไมเ ปนคนวิกลจรติ หรือจิตฟน เฟอนไมส มประกอบ
(๔) ยนิ ยอมปฏบิ ตั ิตามระเบยี บ ขอบังคบั ขอ กำหนด และเงื่อนไขทก่ี ำหนด
(๕) ปจ จบุ ันไมไดรับการชว ยเหลอื ในการจดั ทด่ี นิ จากทางราชการ
(๖) เปน ผูยากไรไ มม ีท่ีทำกนิ และ/หรือท่ีอยูอาศัย หรือมรี ายไดไ มเ กิน ๓๐,๐๐๐ บาท/คน/ป
(๗) มีถ่นิ ท่อี ยใู นทองท่ที ่จี ะจดั ท่ดี นิ หรอื ใกลเคียง
กรณีที่คณะอนุกรรมการนโยบายท่ีดินจังหวัด พิจารณาถึงความจำเปนเพื่อประโยชนในทางเศรษฐกิจ
สังคม และความสงบเรียบรอย โดยคำนึงถึงลักษณะพื้นท่ี สภาพการใชประโยชน ทำประโยชน
คณะอนกุ รรมการนโยบายท่ดี ินจงั หวดั (คทช. จงั หวัด) จะผอนผนั การปฏบิ ตั ิตามหลกั เกณฑเปนการเฉพาะรายก็ได
๔. แนวทางการดำเนนิ การ
(๑) คณะอนุกรรมการจัดหาที่ดินสงมอบขอมูลแปลงที่ดินและรายช่ือผูครอบครองท่ีมีใหแก คทช. จังหวัด
ดำเนินการ
(๒) คทช. จังหวัด รวมกับหนวยงานเจาของพื้นที่ (ระดับจังหวัด) สำรวจตรวจสอบ/ลงพ้ืนท่ีตรวจสอบ
ขอมูลรูปแปลงที่ดิน และขอมูลของราษฎรผูครอบครองภายในขอบเขตพื้นที่ท่ีจะดำเนินการ
จดั ท่ดี ินทำกินใหชุมชน และจำแนกประเภทตามลักษณะการครอบครอง
(๓) คทช. จังหวัด รวบรวมขอมูลรายงานคณะอนุกรรมการจัดที่ดินทราบเพ่ือรายงานให คทช. ทราบ
(๔) จังหวัดหรือหนวยงานท่ีไดรับมอบหมายจาก คทช. จังหวัด ขออนุญาตเขาทำประโยชนหรือ
อยูอาศัยภายในเขตปาสงวนแหงชาติ ตามมาตรา ๑๖ แหงพระราชบัญญัติปาสงวนแหงชาติ
พ.ศ. ๒๕๐๗ หรือตามกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตทำประโยชนในเขตปา
พ.ศ. ๒๕๕๘ ซึ่งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝงไดดำเนินการขอยกเวน มติ ครม. ท่ีเก่ียวของ
เรยี บรอยแลว
18 พ้ืนทีป่ ่าชายเลน พื้นที่ปา ชายเลน 15
(๕) หนวยงานทีไ่ ดรบั มอบหมายจาก คทช. จงั หวัด ไดร บั อนุญาตจากหนว ยงานเจาของพ้นื ท่ี
(๖) คทช. จังหวดั อาจต้ังคณะทำงานจัดท่ดี ินดำเนินการจดั ระเบยี บ/จดั ระบบการใชป ระโยชน
(๗) คณะทำงานฯ ประชุมชแี้ จงราษฎรแจง ใหท ราบถึงแนวทาง/แผนการดำเนินงาน
(๘) คณะทำงานฯ คัดเลือกบุคคลตามคุณสมบัติประเภทของผูท่ีไดรับการจัดที่ดิน และเง่ือนไข
การเขารวมโครงการจัดที่ดินทำกินใหชุมชนท่ีกำหนดซึ่งไดผานความเห็นชอบของ คทช. แลว
รวมท้ังจัดทำผังแปลงที่ดินและรายช่ือราษฎรที่จะไดรับการจัดระเบียบ/จัดระบบการใชประโยชน
(๙) คทช. จังหวัด อนุมัติใหดำเนินการจัดระเบียบ/จัดระบบการใชประโยชนตามผังแปลงและรายชื่อ
ท่ีคณะทำงานฯ เสนอ จากนั้นรายงานผลใหคณะอนุกรรมการจัดที่ดินเพ่ือรายงาน คทช. ทราบ
(๑๐) คทช. จังหวัด รวบรวมขอมูลสงเรื่องใหผูไดรับอนุญาตและหนวยงานเจาของพื้นท่ีกำกับดูแล
ใหเปน ไปตามการอนญุ าต และขอกำหนดภายใตก ารบรหิ ารจัดการของ คทช. จังหวดั
๕. ขอ กำหนดการใชท่ดี ินของผทู ีไ่ ดรับการจัดที่ดิน
(๑) ตองทำประโยชนและ/หรืออยูอาศัยดวยตนเอง หรือบุคคลในครอบครัวภายในขอบเขตพ้ืนที่
ท่ีไดรบั การจัดท่ีดินเทา นนั้ หามขยายพ้นื ทแ่ี ละตองทำประโยชนอยา งตอเน่อื ง
(๒) หามซ้ือขาย แลกเปล่ียน ให ใหเชา ใหเชาซื้อ ใหยืม โอนสิทธิการเชา หรือโอนสิทธิการครอบครอง
ใหบคุ คลอน่ื เวนแตเปนไปตามระเบียบ กฎหมายของหนว ยงานท่อี นญุ าตใหใชท ดี่ ิน
(๓) สามารถตกทอดไปยงั ทายาทโดยธรรมได
(๔) ตอ งปฏิบตั ิตามระเบยี บ กฎหมายตา ง ๆ ของหนว ยงานทีอ่ นุญาตใหใ ชท ่ดี ิน รว ม ถึ งข อ ก ำห น ด
ที่ คทช. จะกำหนดข้นึ ใหมในภายหลังดวย
(๕) ใหความยนิ ยอมและอำนวยความสะดวกกบั เจาหนาทท่ี ่ีเขา ไปตรวจสอบพน้ื ท่ที ่จี ดั ท่ดี ิน
(๖) หากมีการฝาฝนหรือไมปฏิบัติตามขอกำหนด หรือผูท่ีไดรับการจัดท่ีดินไมประสงคจะใชท่ีดิน
ให คทช. จังหวัด สามารถพิจารณายกเลิกการใชที่ดิน และใหผูที่ไดรับการจัดท่ีดินตองสงคืนพ้ืนที่
(๗) อนุญาตใหใชประโยชนเพ่ือการเพาะเล้ียงสัตวน้ำหรือพืชเกษตรที่มีอยูเดิม หรือปลูกปาชายเลน
ไมอ นุญาตใหใ ชเ พอ่ื วัตถปุ ระสงคอ ่ืน
(๘) การสรางท่ีอยูอาศัยตองทำเทาท่ีจำเปนแกตนเองและบุคคลในครอบครัว จะสรางท่ีอยูอาศัย
เพอ่ื วตั ถปุ ระสงคอืน่ มไิ ด
(๙) การทำประโยชนของตนจะตองไมกระทบตอระบบนิเวศใกลเ คียง และไมก อ ใหเกดิ มลพษิ ตอสิง่ แวดลอม
(๑๐) ผูท่ีไดรับการจัดที่ดินตองใหความรวมมือในการปลูกและบำรุงรักษาปาชายเลนในพื้นท่ีตามท่ี
ทางราชการเห็นสมควร ตลอดทงั้ ตองชวยดแู ลปา ชายเลนที่อยใู กลเคียงมใิ หถกู บุกรุกเพิ่มเติม
(๑๑) การไมปฏิบัติตามเง่ือนไขหรือกระทำผิดเงื่อนไข มีผลทำใหสิทธิในการใชท่ีดินตามโครงการฯ
สน้ิ สดุ ลงทนั ที
พ้นื ทพปี่ ื้นา่ ชทาี่ปยา เชลานยเลน 1196
พืน้ ที่เขตปฏริ ปู ท่ีดนิ ของ ส.ป.ก. 21
๔
กระบวนการการจัดทีด่ นิ ทากนิ ให้ชมุ ชน
ตามนโยบายรฐั บาล
พน้ื ที่เขตปฏิรปู ทีด่ นิ ของ ส.ป.ก.
พื้นพทน้ืีเ่ ขทตเ่ี ปขตฏปิรปูฏิรทูปี่ดทิน่ีดขินอขงอสง.ปส..ปก..ก. 2183
กระบวนการจัดที่ดินทำกินใหชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) ในพ้ืนท่ีเขตปฏิรูปท่ีดินของ ส.ป.ก.
ประกอบดว ย
๑. หลักเกณฑการจัดท่ีดินทำกินใหชุมชน (การจัดระบบการใชประโยชน) เปนการนำท่ีดิน
ของรัฐที่ไมม ีการใชประโยชน (ทีว่ าง) มาบริหารจดั การ
(๑) จัดที่ดินทำกินใหชุมชนหรือกลุมบุคคลหรือสถาบันเกษตรกรในรูปสหกรณหรือกลุมเกษตรกร
ใหใ ชป ระโยชนร วมกันโดยไมใหเปนกรรมสิทธิ์เฉพาะรายตามสภาพพ้ืนที่ และตามเขตการปกครอง
(๒) การจัดทำแผนผังแปลงท่ีดินตามสัดสวนท่ีเหมาะสมกับสภาพการทำประโยชน (Zoning)
และความเหมาะสมของสภาพพ้ืนท่ี
(๓) กำหนดจัดทำสาธารณูปโภคอยางเหมาะสมกับพื้นที่ และความสะดวกในการใชประโยชน
และความเปน อยู
(๔) หลักเกณฑวิธีการและเง่ือนไขในการจัดท่ีดินและการใชประโยชนในที่ดินใหเปนไปตามกฎหมาย
และขอกำหนดของหนวยงานเจาของพ้ืนท่ซี ึง่ ไดผา นความเห็นชอบของ คทช. แลว
(๕) จัดท่ีดินใหผูที่ถูกผลักดันและอพยพออกจากพื้นที่ปาตนน้ำและปาอนุรักษที่สำคัญเปนลำดับแรก
ผูท่ีไดรับผลกระทบจากการดำเนินการตามโครงการของทางราชการท่ีสูญเสียที่ดินทำกิน
และผูไมมีท่ีดินทำกิน หรือมีเพียงเล็กนอยไมเพียงพอตอการครองชีพที่มีถิ่นท่ีอยูในทองที่
ท่ีจะจัดที่ดิน โดยพิจารณาจากหมูบาน ตำบล อำเภอ ตามลำดับ หากมีพื้นที่เหลือจึงจะจัดใหผูที่มี
ถ่ินที่อยูในทองท่ีใกลเคียงอื่นตอไป ทั้งนี้ กรณีที่คณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัด
พิจารณาเห็นเปนความจำเปนเพื่อประโยชนในทางเศรษฐกิจ สังคม และความสงบเรียบรอย
สามารถกำหนดการคดั กรองและจัดลำดับท่เี หมาะสมของชมุ ชนทองถน่ิ ตามทเ่ี ห็นควรได
(๖) ใหผูท่ีไดรับอนุญาต (หนวยงาน หรือชุมชน หรือสถาบันเกษตรกร หรืออ่ืน ๆ ท่ีกฎหมาย
ของหนวยงานกำหนด) ใหใชประโยชนในท่ีดินนำที่ดินดังกลาวไปดำเนินการจัดท่ีดินทำกิน
ใหสมาชิกในชุมชนตามนโยบายรัฐบาล โดยรวมกับ คทช. จังหวัด หนวยงานเจาของพ้ืนท่ี
และองคกรหรือคณะกรรมการตามท่ีกฎหมายของหนวยงานนั้นกำหนด เพ่ือดำเนินการ
จัดที่ดินใหแกผูท่ีมีคุณสมบัติตามกฎหมายของหนวยงานนั้นกำหนด และเปนไปตามหลักเกณฑ
ท่ี คทช. เห็นชอบ
๒. ประเภทของผูที่จะไดร ับการจดั ท่ดี นิ
(๑) ผูที่ถูกผลกั ดนั และอพยพออกจากพืน้ ท่ปี า ตนนำ้ และปาอนรุ กั ษทส่ี ำคญั
(๒) ผูทไี่ ดร ับผลกระทบจากการดำเนนิ การตามโครงการของทางราชการทสี่ ูญเสียท่ดี ินทำกิน
(๓) เกษตรกรผูไรท่ีดินทำกินท่ีขอรับการจัดท่ีดินท่ีมีถิ่นท่ีอยูในทองท่ีท่ีจะจัดที่ดิน และไดข้ึนทะเบียน
กบั ส.ป.ก. หรอื หนวยงานอ่ืน ๆ
24 พนื้ ทีเ่ ขตปฏริ ูปทีด่ ินของ ส.ป.ก. พนื้ ท่เี ขตปฏริ ปู ทดี่ นิ ของ ส.ป.ก. 19
(๔) กลุมเกษตรกรรุนใหมท่ีผานการฝกอบรมจาก ส.ป.ก. โดยกำหนดที่จะจัดที่ดินใหเนื้อที่
ไมเกินรอยละ ๕ ของจำนวนแปลงที่ดินท่ีจะจัดสรรท้ังหมด และขนาดเน้ือที่ท่ีจะจัดสรรใหแก
เกษตรกรรุนใหมแตละราย ไมเกินกึ่งหนึ่งของเนื้อที่จัดสรรใหแกราษฎรทั่วไปในพ้ืนที่นั้น
โดยใหคณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัด (คทช. จังหวัด) สามารถพิจารณาไดตามความเหมาะสม
๓. คณุ สมบตั ิของผทู ไ่ี ดร บั การจัดที่ดนิ
(๑) บุคคลสญั ชาติไทย
(๒) เปนผยู ากไรไมม ีที่ทำกิน และ/หรอื ที่อยูอาศัย
(๓) บรรลนุ ิติภาวะแลว หรอื เปน หัวหนา ครอบครวั
(๔) มคี วามสามารถทำประโยชนใ นทด่ี ินได
(๕) ไมเ ปนคนวิกลจรติ หรือจติ ฟนเฟอ นไมสมประกอบ
(๖) ยินยอมปฏิบัติตามระเบียบ ขอบังคับ ขอกำหนดและเง่ือนไขท่ีกำหนด ท้ังจาก คทช.
และหนว ยงานเจาของพืน้ ที่
(๗) ปจจบุ ันไมไ ดรบั การชวยเหลอื ในการจดั ทีด่ นิ ทำกนิ จากทางราชการ
(๘) กรณีที่คณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัดพิจารณาเห็นเปนความจำเปนเพ่ือประโยชน
ในทางเศรษฐกิจ สังคม และความสงบเรียบรอย โดยคำนึงถึงลักษณะพ้ืนที่สภาพการใชประโยชน
ทำประโยชน คณะอนุกรรมการนโยบายท่ีดินจังหวัด (คทช. จังหวัด) จะผอนผันการปฏิบัติ
ตามหลกั เกณฑเ ปน การเฉพาะรายก็ได
(๙) มีคณุ สมบตั ติ ามกฎหมายของหนว ยงานเจาของพน้ื ที่กำหนด
๔. แนวทางการดำเนินการ
(๑) คณะอนุกรรมการจัดทีด่ ินสงมอบพ้ืนท่ี (เน้ือท่ี และรูปแปลงที่ดิน) ใหแ ก คทช. จังหวดั ดำเนนิ การ
(๒) คทช. จังหวัด รวมกับหนวยงานเจาของพื้นที่และหนวยงานอ่ืน ๆ ท่ีเกี่ยวของในระดับจังหวัด
กำหนดวางผังแปลงที่ดินใหมีขนาดท่ีเหมาะสมกับสภาพการทำประโยชน (Zoning) และพ้ืนที่
สาธารณประโยชนใ นดา นตา ง ๆ ท่ใี ชร ว มกนั
(๓) คทช. จังหวัด รวมกับหนวยงานเจา ของพ้ืนท่ีและหนวยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวของประกาศรับผูมีความจำเปน
ทเ่ี ดือดรอ น คดั กรองจดั ลำดบั และจดั ทำบัญชีรายช่ือผูทีส่ มควรจะไดรับการจดั ท่ดี ิน
(๔) คทช. จังหวัด หรือรวมกับหนวยงานเจาของพ้ืนที่และหนวยงานอื่น ๆ ที่เก่ียวของ หรือองคกร
หรือคณะกรรมการตามท่ีกฎหมายของหนวยงานนั้น กำหนดพิจารณาคัดเลือกผูท่ีสมควรจะไดรับ
การจัดทดี่ นิ ตามการคัดกรองจัดลำดับตาม (๓)
พ้นื พทื้นีเ่ ขทตี่เขปตฏปิรฏปู ิรทปู ่ีดทินี่ดขนิ อขงอสง.สป..ปก..ก. 2205
(๕) ใหผูที่ผานการพิจารณาตาม (๔) จัดตั้งสถาบันเกษตรกรในรูปสหกรณหรือกลุมเกษตรกร
โดยตอ งมวี ตั ถปุ ระสงคเ พอื่ นำทดี่ นิ ทไ่ี ดมาไปบรหิ ารจัดการ ใหสมาชิกใชประโยชนตามกฎหมาย
ของหนว ยงานนนั้ กำหนดดว ย
(๖) ใหอ งคกรหรอื คณะกรรมการตามท่ีกฎหมายของหนวยงานน้ัน กำหนดพิจารณาอนญุ าตใหสถาบัน
เกษตรกรเขา ทำประโยชนใ นทีด่ ินตามเงือ่ นไขท่กี ฎหมายของหนวยงานนั้นกำหนด
(๗) คทช. จังหวัด บูรณาการระหวางหนวยงานที่เก่ียวของในการพัฒนาพื้นที่และอาชีพของสมาชิก
สถาบันเกษตรกรหรือผูท่ีไดรับการจัดท่ีดิน สำหรับการพัฒนาพื้นที่ดานโครงสรางพื้นฐาน
และกิจการสาธารณประโยชนตามแผนผังท่ีกำหนดใน (๒) ใหหนวยงานท่ีดำเนินการบูรณาการ
พฒั นาขอใชท ่ีดินเพอ่ื ดำเนินงานไดจ ากหนว ยงานเจาของพื้นท่ี
๕. การอนุญาตใหส ถาบันเกษตรกรเขา ทำประโยชนใ นที่ดนิ
(๑) ระเบยี บ/กฎหมายที่ใช
๑) พระราชบัญญัติการปฏิรูปท่ีดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ แกไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๑๙ และ (ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๓๒
๒) ระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปท่ีดินเพื่อเกษตรกรรมวาดวยหลักเกณฑ วิธีการ และเงื่อนไข
ในการคัดเลือกเกษตรกร ซ่ึงจะมีสิทธิไดรับที่ดินจากการปฏิรูปท่ีดินเพ่ือเกษตรกรรม
พ.ศ. ๒๕๓๕ แกไ ขเพ่ิมเตมิ (ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๓๘
๓) ระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปท่ีดินเพ่ือเกษตรกรรม วาดวยการใหเกษตรกร และสถาบันเกษตรกร
ผูไดรับที่ดินจากการปฏิรูปที่ดินเพ่ือเกษตรกรรม ปฏิบัติเก่ียวกับการเขาทำประโยชนในที่ดิน
พ.ศ. ๒๕๓๕ แกไขเพมิ่ เตมิ (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๐
๔) พระราชกฤษฎีกา ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ มติ คปก. ท่ีเกี่ยวของ และหนังสือ
สงั่ การจาก ส.ป.ก.
(๒) ขั้นตอนการอนุญาต
๑) สถาบันเกษตรกรยื่นคำรองขอเขาทำประโยชนในที่ดินตามประกาศของคณะกรรมการ
ปฏิรูปท่ดี ินจังหวดั
๒) นำเสนอคณะกรรมการปฏิรูปท่ีดินจังหวัด (ผูวาราชการจังหวัดเปนประธาน) เพ่ือพิจารณา
ใหความเห็นชอบ คัดเลือกและอนุญาตใหสถาบันเกษตรกรเขาทำประโยชนในเขตปฏิรูปที่ดิน
๓) นำเสนอคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพ่ือเกษตรกรรม พิจารณาอนุญาตใหเขาทำประโยชน
โดยทำเปน สัญญาเชา ซ่งึ อาจจะมกี ารยกเวน คาเชาไประยะหน่งึ กอ นก็ได
๔) ประกาศผลการคัดเลือกใหทราบโดยท่วั กนั และใหย นื่ คำคดั คาน
๕) จัดทำสัญญาเชา และมอบทดี่ ินใหส ถาบันเกษตรกร
26 พน้ื ที่เขตปฏิรปู ที่ดนิ ของ ส.ป.ก. พน้ื ที่เขตปฏริ ปู ทด่ี นิ ของ ส.ป.ก. 21
(๓) เงอ่ื นไขการอนญุ าตและสถาบันเกษตรกรตองใหส มาชิกถือปฏิบัติ
๑) ทำประโยชนในที่ดินดวยตนเองเต็มความสามารถ และไมนำท่ีดินน้ันท้ังหมดหรือบางสวน
ไปใหบุคคลอื่นไมวาจะโดยการขาย ใหเชา หรือเขาทำประโยชนหรือโดยพฤติกรรมใด ๆ
ที่แสดงใหเหน็ ในลกั ษณะนั้น
๒) ทำสัญญาเชาท่ีดินกับสถาบันเกษตรกรหรือตามขอตกลงอื่นท่ีกำหนด และตองปฏิบัติ
ตามสญั ญาดังกลา ว
๓) ไมเปลี่ยนแปลงสภาพท่ีดินจนเปนเหตุใหท่ีดินเส่ือมสภาพความเหมาะสมแกการประกอบ
เกษตรกรรม
๔) ไมข ดุ บอ เพ่อื การเกษตรกรรมเกินรอยละหาของเน้ือที่ท่ีไดรับมอบ
๕) ไมปลูกสรางสิ่งกอสรางใด ๆ เวนแตการปลูกสรางตามสมควรสำหรับโรงเรือน ท่ีอยูอาศัย ยุงฉาง
หรือส่ิงกอสรางอ่ืน ๆ ที่ใชประโยชนเพื่อการเกษตรของเกษตรกรที่เปนสมาชิกหรือสถาบัน
เกษตรกรน้ัน
๖) ดูแลรักษาหมุดหลักฐานของ ส.ป.ก. และหลักเขตท่ีดินในที่ดินที่ไดรับมอบมิใหเกิดชำรุดเสียหาย
เคลื่อนยา ยไปจากตำแหนง เดิม
(๔) คาตอบแทน/คาธรรมเนียม/คาเชา คาเชาที่ดินตามท่ีกำหนด ซ่ึงคณะกรรมการปฏิรูปท่ีดิน
เพอื่ เกษตรกรรมอาจจะมีการยกเวน คา เชาไประยะหนง่ึ กอ นก็ได
๖. ขอกำหนด
(๑) สมาชิกสถาบันเกษตรกรตองทำประโยชนและ/หรืออยูอาศัย ดวยตนเองหรือใหบุคคล
ในครอบครัวภายในขอบเขตพ้ืนทีท่ ่ไี ดรับการจดั ทด่ี ินเทานัน้ หา มขยายพ้ืนท่ี
(๒) หา มซ้ือขาย แลกเปลี่ยน ให ใหเ ชา ใหเชาซ้อื ใหย ืม โอนสทิ ธิการเชา หรือโอนสิทธกิ ารครอบครอง
ใหบคุ คลอื่นเวน แตเ ปน ไปตามระเบียบ กฎหมายของหนว ยงานท่อี นญุ าตใหใ ชทด่ี ิน
(๓) สามารถตกทอดไปยงั ทายาทโดยธรรมของสมาชกิ สถาบันเกษตรกรได
(๔) ตองปฏิบัติตามระเบียบ กฎหมายตาง ๆ ของหนวยงานท่ีอนุญาตใหใชท่ีดิน รวมถึงขอกำหนด
ที่ คทช. จะกำหนดข้นึ ใหมใ นภายหลังดว ย
(๕) ใหค วามยินยอมและอำนวยความสะดวกกบั เจาหนา ที่ท่เี ขาไปตรวจสอบพนื้ ทีท่ ่ีจัดที่ดนิ
(๖) หากมีการฝาฝนหรือไมปฏิบัติตามขอกำหนด หรือผูที่ไดรับการจัดที่ดินไมประสงคจะใชท่ีดิน
ให คทช. จังหวัด สามารถพิจารณายกเลิกการใชท่ีดิน และใหผูที่ไดรับการจัดท่ีดินตองสงคืนพื้นที่
พพนื้ ืน้ ทที่เขเี่ ขตตปปฏฏริ ริูปูปทท่ดี ี่ดนิ ินขขอองงสส.ป.ป.ก..ก. 2227
(๗) สมาชิกสถาบันเกษตรกรตองใชเวลาสวนใหญประกอบอาชีพในบริเวณพื้นท่ีท่ีจัดให ตลอดจน
เอาใจใสพัฒนาปรับปรุงฟนฟูบำรุงดิน เพื่อใหเหมาะแกการเกษตรและรักษาสภาพแวดลอม
ระบบนิเวศไวอยางย่ังยืน รวมทั้งตองปลูกไมยืนตน หรือไมผลไมนอยกวารอยละ ๒๐ ของเนื้อที่
ทไ่ี ดร ับ
(๘) สมาชิกสถาบันเกษตรกรตองใชพ้ืนที่ดำเนินการผลิตใหเปนไปตามแนวทาง/สอดคลองกับแนวทาง
ของกลุมหรือสถาบันเกษตรกรท่ีเปนสมาชิกตามหลักเกณฑการจัดท่ีดิน ท้ังน้ี เพื่อผลประโยชน
ของสมาชิกในการที่จะไดรับการสงเสริมดานวิชาการผลิต การหาตลาด โดยเฉพาะอำนาจตอรอง
ในการจำหนายผลผลติ อยางครบวงจร
28 พนื้ ทเ่ี ขตปฏริ ปู ทดี่ นิ ของ ส.ป.ก. พืน้ ทเ่ี ขตปฏิรปู ทด่ี นิ ของ ส.ป.ก. 23
๕
กระบวนการการจดั ทดี่ นิ ทากนิ ใหช้ ุมชน
ตามนโยบายรัฐบาล
พน้ื ท่ีนคิ มสรา้ งตนเอง
พนื้ พทืน้ น่ี ทิคน่ี มิคสมรสา้ รงาตงนตเนอเงอง 3251
พ้นื ท่ดี ำเนนิ การ
พื้นท่ีนิคมที่สงวนเพื่อกิจการนิคม (ราษฎรที่ใชประโยชนใ นพ้ืนที่เดิม) ซึ่งผานข้ันตอนการดำเนินงาน
ของคณะอนุกรรมการจัดหาท่ีดิน และคณะอนุกรรมการจัดหาท่ีดินไดใหความเห็นชอบใหนำไปดำเนินการ
จัดทด่ี ินทำกนิ ใหช มุ ชนตามนโยบายรฐั บาลในลกั ษณะแปลงรวม และรายงานใหค ณะกรรมการนโยบายท่ีดิน
แหงชาติ (คทช.) ทราบ
๑. หลักเกณฑการจัดท่ีดินทำกินใหชุมชน การจัดระเบียบการใชประโยชน โดยการนำที่ดิน
ในเขตพื้นทน่ี คิ มสรางตนเอง ทม่ี ีผูเขาใชป ระโยชนเดิมมาจดั ระเบียบการใชประโยชน
(๑) จัดท่ีดินทำกินใหชุมชนรูปแปลงรวม โดยไมใหเปนกรรมสิทธิ์ตามสภาพพื้นที่และตามเขต
การปกครอง
(๒) การใชประโยชนในที่ดินใหเปนไปตามกฎหมาย ขอกำหนด และเงื่อนไขของหนวยงานเจาของ
พน้ื ที่ซ่งึ ไดผานความเห็นชอบของ คทช. แลว
(๓) จัดท่ีดินใหแกผูใชประโยชน หรือผูที่อาศัยอยูในพื้นที่อยูแลวตามท่ีครอบครองอยูจริง
ตามความเหมาะสม หากมีพื้นที่เหลือหรือพื้นท่ีที่ไมมีผูใชประโยชน จึงจะจัดใหผูที่ถูกผลักดัน
หรืออพยพออกจากพื้นที่ปาหรือผูท่ีมีถิ่นฐานอยูในทองท่ีหรือใกลเคียงกับพื้นท่ีท่ีจัดระเบียบ น้ัน
คัดเลือกจากผูที่มาข้ึนทะเบียนไวกับจังหวัดเทานั้น) โดยพิจารณาจาก หมูบาน ตำบล อำเภอ
จังหวัด ตามลำดับ ตามเกณฑการตรวจสอบขอมูลการถือครองและแนวทางการจัดที่ดิน ที่ คทช.
เหน็ ชอบ ท้งั น้ี เพอ่ื เปน การควบคมุ และรวมกันดูแลรกั ษาพ้นื ทส่ี งวนเพือ่ กจิ การนิคม
๒. ประเภทของผทู ี่ไดรบั การจดั ทด่ี นิ
(๑) ผใู ชป ระโยชนห รอื อยูอาศยั ในพื้นท่ีอยแู ลว ซงึ่ ไดทำสัญญาอนุญาตใหใชทด่ี นิ ในนคิ มน้นั ๆ
(๒) ผทู ีถ่ กู ผลักดนั และอพยพออกจากพน้ื ทป่ี า
(๓) ผูท่ไี ดร บั ผลกระทบจากการดำเนนิ การตามโครงการของทางราชการที่สูญเสียทดี่ นิ ทำกิน
(๔) ผูท่ีไมมีท่ีดินทำกินหรือมีเพียงเล็กนอยไมพอตอการครองชีพ ที่มีถิ่นอยูในทองท่ีที่จะจัดท่ีดิน
โดยพิจารณาจากหมูบาน ตำบล อำเภอ จังหวัด ตามลำดับ หากมีพื้นที่เหลือจึงจะจัดใหผูท่ีมีถิ่นท่ีอยูใน
ทอ งทีใ่ กลเคียงอืน่ ตอ ไป
32 พ้ืนท่นี ิคมสร้างตนเอง พืน้ ทีน่ คิ มสรางตนเอง 26
๓. คุณสมบัตขิ องผทู ่ีไดรบั การจดั ทดี่ ิน
(๑) บุคคลสญั ชาตไิ ทย
(๒) เปนผูย ากไรไมมที ี่ทำกิน และ/หรอื ที่อยอู าศัย หรือมรี ายไดต อปไมเกิน ๓๐,๐๐๐ บาท/คน
(๓) บรรลุนติ ภิ าวะแลว หรือเปนหวั หนาครอบครวั
(๔) มีถน่ิ ทีอ่ ยใู นทอ งที่ท่จี ะจดั ทีด่ ินหรอื ใกลเคยี ง
(๕) มคี วามสามารถทำประโยชนใ นท่ดี นิ ได
(๖) ไมเ ปนคนวิกลจรติ หรือจิตฟน เฟอนไมส มประกอบ
(๗) ยนิ ยอมปฏิบัตติ ามระเบยี บ ขอ บังคบั ขอ กำหนด และเงื่อนไข ท่ีกำหนด
(๘) กรณีที่คณะอนุกรรมการนโยบายท่ีดินจังหวัดพิจารณาเห็นเปนความจำเปน เพ่ือประโยชนใน
ทางเศรษฐกิจ สังคม และความสงบเรียบรอย โดยคำนึงถึงลักษณะพ้ืนที่สภาพการใชประโยชน
ทำประโยชน คณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัด (คทช. จังหวัด) จะผอนผันการปฏิบัติ
ตามหลกั เกณฑเ ปน การเฉพาะรายก็ได
(๙) คุณสมบัติตามกฎหมายของหนวยงานเจาของพื้นที่กำหนด เชน กรณีการจัดระเบียบการใชประโยชน
ผูไดร ับการจดั สรร ตอ งเปนผูอยูใ นที่นคิ มสรางตนเอง เปน ตน
๔. แนวทางการดำเนินการการจัดทด่ี นิ ทำกนิ ใหช ุมชนโดยการจัดระเบียบการใชประโยชน
(๑) กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ รังวัดแปลงที่ดินและจัดทำบัญชีรายช่ือผูครอบครองใชประโยชน
ในท่ีดินสงวนเพื่อกิจการนิคมสงใหคณะอนุกรรมการจัดหาท่ีดิน พิจารณาใหความเห็นชอบ
กำหนดเปนพนื้ ท่ีเปาหมายดำเนนิ การจัดที่ดนิ
(๒) คณะอนกุ รรมการจัดหาท่ีดินสงมอบพื้นท่ีเปา หมายใหคณะอนุกรรมการจดั ท่ีดิน พิจารณาคัดเลือก
กำหนดพ้ืนที่พรอมราษฎรทค่ี รอบครองเดมิ
(๓) คณะอนุกรรมการจัดที่ดินสงมอบพื้นที่และรูปแปลงที่ดินพรอมรายชื่อผูครอบครองใชประโยชนเดิม
ให คทช. จังหวัด พิจารณาคัดเลือกคนเขา ทำประโยชน
(๔) ผูปกครองนิคมสรางตนเองรวมกันพิจารณาคัดเลือกผูเขาทำประโยชนแลว เสนอ คทช. จังหวัด
พจิ ารณาใหค วามเห็นชอบ และรายงานใหค ณะอนุกรรมการจดั ท่ดี ินทราบ
(๕) ผูไดรับคัดเลือกดำเนินการรวมกลุมจดทะเบียนจัดต้ังสหกรณ หรือรูปแบบอ่ืนท่ีเหมาะสม
และยื่นคำขออนุญาตใชท่ีดินสงวนเพื่อกิจการนิคม พรอมจัดทำสัญญาในลักษณะแปลงรวม
เสนออธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (คิดคาบำรุงกิจการนิคม เพ่ือท่ีอยูอาศัยคิดอัตรา
ไรละไมน อ ยกวา ๑๐๐ บาท ตอป เพ่ือทำการเกษตร คดิ อัตราไรล ะไมนอยกวา ๒๐๐ บาท ตอ ป)
(๖) คทช. จังหวัด รายงานผลการจัดทด่ี นิ ใหค ณะอนกุ รรมการจดั ทดี่ นิ เพื่อรายงาน คทช. ทราบ
พนื้ ทพี่นน้ื คิ ทมนี่ สิครม้าสงรตานงเตอนงเอง 3237
๕. ขอกำหนดการใชทด่ี ินของผทู ีไ่ ดรับการจัดที่ดิน
(๑) ตองทำประโยชนและ/หรืออยูอาศัยดวยตนเอง หรือบุคคลในครอบครัวภายในขอบเขตพื้นท่ี
ท่ไี ดรับการจัดทดี่ ินเทา นนั้
(๒) หา มมิใหทำการซ้ือขายหรือโอน หรือมอบสิทธิการครอบครองใหแกบคุ คลอนื่ เวนแตเ ปนการโอนสิทธิ
ใหก บั บุตร คสู มรส หรอื บิดา มารดา ของผูรบั อนญุ าตเทานน้ั
(๓) สามารถตกทอดไปยงั ทายาทโดยธรรมได
(๔) ตองปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ รวมถึงขอกำหนดที่ คทช.
จะกำหนดข้นึ มาใหมใ นภายหลังดว ย
(๕) ใหค วามยินยอมและอำนวยความสะดวกกับเจา หนา ท่ีท่เี ขา ไปตรวจสอบพืน้ ท่ีท่จี ดั ทด่ี ิน
(๖) หากมีการฝา ฝนหรือไมปฏิบัติตามขอกำหนดในสัญญาอนญุ าตใหใชท ี่ดนิ หรอื ผูท่ไี ดรบั การจดั ทีด่ ิน
ไมประสงคจะใชท่ีดินใหผูท่ีไดรับการจัดที่ดินตองสงคืนพื้นที่ใหแกสหกรณ และแจงนิคมสรางตนเอง
ในพ้นื ท่ี
(๗) หา มบกุ รุกขยายพน้ื ทอี่ ยอู าศยั /ทำกนิ เพิ่มเตมิ
(๘) ใหทำการปลกู ตนไมในพ้นื ทท่ี ี่ไดรับการจดั ที่ดนิ ตามความเหมาะสม
34 พนื้ ทน่ี คิ มสรา้ งตนเอง พนื้ ทน่ี ิคมสรางตนเอง 28
๖
กระบวนการการจดั ทีด่ นิ ทากนิ ให้ชมุ ชน
ตามนโยบายรฐั บาล
ที่ดินสาธารณประโยชน์
ท่ดี ินทสีด่ าินธสาารธณารปณระปโรยะชโยนช์ น 3370
ในการดำเนนิ การจดั ท่ดี ินทำกินและทีอ่ ยูอาศยั ใหช มุ ชน
ในที่ดินสาธารณ ประโยชนตามนโยบายของรัฐบาลภ ายใต คทช. นั้น เปนการนำที่ดิน
สาธารณประโยชนท่ีประชาชนเลิกใชประโยชนรวมกันแลว มาจัดระเบียบการถือครองใหแกราษฎร
เปนแปลงรวม โดยการออกหนังสืออนุญาตใหแกชุมชนที่มีฐานะเปนนิติบุคคลในรูปสหกรณหรือรูปแบบอื่นท่ี
เหมาะสม ตามสภาพพื้นท่ีเพื่อเขาใชประโยชนในท่ีดินของรัฐ ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา ๙
และระเบียบกระทรวงมหาดไทย วาดวยการอนุญาตใหประชาชนใชประโยชนในที่ดินของรัฐ พ.ศ. ๒๕๔๗
สวนคุณสมบัติขอกำหนดและเงื่อนไข ในการใชประโยชนในที่ดินของผูไดรับการจัดใหเปนไปตามท่ี
คทช. กำหนด โดยมีแนวทางในการดำเนินการ ดงั น้ี
(๑) กรมทีด่ นิ จดั สงขอ มลู แปลงทดี่ นิ และรายช่ือผูครอบครองท่ีดนิ ใหแกคณะอนุกรรมการจดั หาท่ดี นิ
(๒) คณ ะอนุกรรมการจัดหาท่ีดินสงมอบขอมูลแปลงท่ีดินและรายช่ือผูครอบครองที่ดิน
ใหค ณะอนุกรรมการจัดทีด่ ิน
(๓) คณะอนุกรรมการจัดท่ีดินสงมอบขอมูลแปลงที่ดินและรายชื่อผูครอบครองใหคณะอนุกรรมการ
นโยบายท่ีดิน (คทช. จังหวัด) ดำเนนิ การ
(๔) คณะอนกุ รรมการนโยบายทีด่ นิ จงั หวัด (คทช. จังหวัด) สงมอบขอมลู แปลงท่ีดินและรายชือ่ ผคู รอบครอง
ใหคณะกรรมการพิจารณาเพ่ืออนุญาตใหประชาชนใชประโยชนในที่ดินของรัฐ ตามระเบียบ
กระทรวงมหาดไทยวาดวยการอนุญาตใหประชาชนใชประโยชนในที่ดินของรัฐ พ.ศ. ๒๕๔๗
ตรวจสอบคณุ สมบัตขิ องบคุ คลตามทคี่ ณะกรรมการนโยบายทีด่ นิ แหงชาติ (คทช.) กำหนด
(๕) คณะกรรมการพิจารณาเพ่อื อนุญาตใหประชาชนใชป ระโยชนในที่ดินของรัฐ สงผลขอมลู แปลงที่ดิน
และรายชื่อผูครอบครองที่ไดรับการพิจารณาคัดเลือกแลว ใหคณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัด
(คทช. จังหวดั )
(๖) ผูทผี่ า นการพิจารณาตามขอ (๕) ขอจัดต้ังเปนนติ ิบุคคลในรปู สหกรณ หรอื รปู แบบอื่นท่ีเหมาะสม
โดยมีวัตถุประสงคเพื่อนำท่ีดินท่ีไดมาบริหารจัดการใหแกสมาชิกใชประโยชน ตามกฎหมาย
และระเบียบ
(๗) คณะอนกุ รรมการนโยบายท่ีดนิ จงั หวัด (คทช. จังหวัด) มอบขอมลู แปลงทด่ี ินและรายช่ือผูครอบครอง
ใหสำนักงานที่ดินจังหวัด เพ่ือเสนอผูวาราชการจังหวัด ออกหนังสืออนุญาตใหกับชุมชน
และใหชุมชนบรหิ ารจัดการการใชประโยชนในท่ดี ินดังกลา วใหก บั สมาชิกในชมุ ชน
(๘) คณะอนุกรรมการนโยบายท่ีดินจังหวัด (คทช. จังหวัด) รายงานคณะอนุกรรมการจัดท่ีดิน
เพ่ือรายงานคณะกรรมการนโยบายท่ีดินแหงชาติ (คทช.) ทราบ และสงขอมูลใหหนวยงาน
เจา ของพน้ื ทีก่ ำกบั ดแู ลการใช ประโยช นใหเปน ไปตามเง่ือน ไขท่ีกำห น ด ภ ายใตกรอบ
การบรหิ ารจดั การของคณะกรรมการนโยบายทีด่ นิ แหงชาติ (คทช.)
38 ท่ีดนิ สาธารณประโยชน์ ทด่ี นิ สาธารณประโยชน 31
๑. ประเภทของผทู ่ีไดร บั การจดั ทีด่ ิน
(๑) ผูท่ีเขาครอบครองทำประโยชนหรืออยูอาศัยในที่ดินอยูแลว โดยเปนไปตามผลการตรวจสอบขอมูล
รายช่อื บคุ คลผูเขาครอบครองและรูปแปลงท่ีดิน
(๒) ผทู ่ีถูกผลักดันและอพยพออกจากพื้นท่ีปาตนน้ำ ปาอนุรักษ หรือพื้นที่ท่ีทางราชการกำหนดใหเปน
ที่สงวนหวงหามตลอดไป โดยพิจารณาจากบุคคลที่มีถิ่นที่อยูในทองที่ที่จะจัดที่ดินหรือใกลเคียง
ในหมูบาน ตำบล อำเภอ จังหวัด ตามลำดับ ตามเกณฑการตรวจสอบขอมูลการถือครอง และแนวทาง
การจดั ทีด่ นิ ท่ีคณะกรรมการนโยบายท่ดี นิ แหงชาติ (คทช.) เห็นชอบ
๒. คุณสมบตั ขิ องผูทีไ่ ดร ับการจดั ท่ดี นิ
(๑) บุคคลสัญชาตไิ ทย
(๒) เปนผูยากไรไ มม ที ่ที ำกนิ และ/หรอื ท่อี ยอู าศยั หรือมรี ายได ตอปไมเ กิน ๓๐,๐๐๐ บาท/คน
(๓) บรรลนุ ติ ิภาวะแลว หรือเปนหัวหนา ครอบครัว
(๔) มีถิ่นทอ่ี ยูในทอ งที่ทจี่ ะจดั ทดี่ ินหรือใกลเ คยี ง
(๕) มีความสามารถทำประโยชนใ นท่ีดนิ ได
(๖) ไมเปน คนวิกลจริตหรือจิตฟนเฟอนไมสมประกอบ
(๗) ยินยอมปฏบิ ัตติ ามระเบยี บ ขอบังคับ ขอกำหนด และเงื่อนไขท่ีกำหนด
(๘) ปจ จบุ ันไมไดร ับการชว ยเหลอื ในการจัดที่ดินจากทางราชการ
(๙) กรณีท่ีคณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัดพิจารณาถึงความจำเปน เพ่ือประโยชน
ในทางเศรษฐกิจ สังคม และความสงบเรียบรอย โดยคำนึงถึงลักษณะพื้นท่ีสภาพการใชประโยชน
ทำประโยชน คณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัด (คทช. จังหวัด) จะผอนผันการปฏิบัติ
ตามหลกั เกณฑเ ปนการเฉพาะรายก็ได
๓. หลักเกณฑการจัดระเบียบท่ีดินสาธารณประโยชนใหชุมชนทำกินหรืออยูอาศัย
ตามนโยบายของรัฐบาล และคณะกรรมการนโยบายที่ดินแหงชาติ (คทช.) โดยการนำ
ท่ีสาธารณประโยชนท่ีประชาชนเลิกใชประโยชนรวมกันแลวมาจัดระเบียบการถือครอง
ใหแกราษฎร ดังนี้
(๑) จัดที่ดินทำกินหรืออยูอาศัยใหชุมชนที่มีฐานะเปนนิติบุคคล ในรูปแบบสหกรณหรือรูปแบบอื่น
ท่ีเหมาะสมตามสภาพพนื้ ท่ี
(๒) การใชประโยชนในที่ดินใหเปนไปตามขอกำหนดและเงอื่ นไขของหนวยงานเจาของพื้นท่ี ซ่ึงไดผาน
ความเหน็ ชอบของคณะกรรมการนโยบายท่ีดนิ แหงชาติ (คทช.) แลว
ท่ีดทินดี่สินาธสาารธณารปณรปะรโยะโชยนช์ น 3329
(๓) จัดท่ีดินใหแกผูเขาทำประโยชนหรืออยูอาศัยในพ้ืนท่ีอยูแลว ตามท่ีครอบครองอยูจริง
เปน ลำดับแรก หากมีพ้ืนที่เหลอื จากการจัดท่ีดินใหค งไวเปน พ้ืนท่สี วนกลางเพ่ือใชป ระโยชนร วมกัน
สำหรับพื้นท่ีที่มีผูครอบครองแตไมอยูในหลักเกณฑ หรือคุณสมบัติ หรือเงื่อนไขที่กำหนด
ไวใหพิจารณาจัดใหแกผูท่ีถูกผลักดันและอพยพออกจากพื้นท่ีปาตนน้ำและปาอนุรักษ หรือพื้นที่
ท่ีทางราชการกำหนดใหเปนที่สงวนหวงหามตลอดไป โดยพิจารณาจากบุคคลท่ีมีถิ่นที่อยูในทองท่ี
ท่ีจะจัดที่ดินหรือใกลเคียงในหมูบาน ตำบล อำเภอ จังหวัด ตามลำดับ ตามเกณฑการตรวจสอบขอมูล
การถือครองและแนวทางการจัดท่ีดินท่ีคณะกรรมการนโยบายท่ีดินแหงชาติ (คทช.) เห็นชอบ
ท้งั น้ี เพ่ือเปนการควบคุมและรวมกันดูแลท่สี าธารณประโยชน โดยจดั ใหครัวเรอื นละไมเ กนิ ๑๕ ไร
(๔) ใหชุมชนที่ไดรับอนุญาตใหใชประโยชนในท่ีดินนำที่ดินดังกลาว ไปดำเนินการจัดใหแกสมาชิก
ในชุมชนตามนโยบายรัฐบาล โดยรวมกับคณะอนุกรรมการนโยบายท่ีดินจังหวัด (คทช. จังหวัด)
หนว ยงานผมู ีหนาท่ดี แู ลรักษาตามกฎหมาย และระเบียบของหนว ยงานนนั้
๔. ขอ กำหนดการใชท่ีดนิ ของผูท่ีไดรบั การจดั ท่ีดนิ
(๑) ตองทำประโยชนและ/หรืออยูอาศัย ดวยตนเองหรือใหบุคคลในครอบครัว ภายในเขตพื้นท่ี
ที่ตนไดร บั การจดั ทด่ี นิ เทานัน้ หามขยายพน้ื ที่
(๒) หา มซือ้ ขาย แลกเปลี่ยน ให ใหเ ชา ใหเชาซ้อื ใหยืม หรอื โอนสทิ ธิการเชา หรอื โอนสทิ ธิครอบครอง
ใหบ ุคคลอน่ื เวน แตเปนไปตามระเบยี บ กฎหมาย ของหนวยงานทีอ่ นุญาตใหใชทด่ี นิ
(๓) สามารถตกทอดแกท ายาทโดยธรรมได
(๔) ตองปฏิบัติตามระเบียบ กฎหมายตาง ๆ ของหนวยงาน ท่ีอนุญาตใหใชท่ีดิน รวมถึงขอกำหนด
ที่คณะกรรมการนโยบายท่ีดนิ แหงชาติ (คทช.) จะกำหนดข้ึนใหมในภายหลงั ดว ย
(๕) ใหความยนิ ยอมหรอื อำนวยความสะดวกกับเจาหนาที่ท่ีเขา ไปตรวจสอบพนื้ ท่ีทจ่ี ดั ที่ดิน
(๖) หากมีการฝาฝนหรือไมปฏิบัติตามขอกำหนด หรือผูที่ไดรับการจัดท่ีดินไมประสงคจะใชท่ีดิน
ใหคณะกรรมการพิจารณาเพ่ืออนุญาตใหประชาชนใชประโยชนในท่ีดินของรัฐสามารถพิจารณา
ยกเลกิ การใชทด่ี ิน และใหผทู ี่ไดร บั การจัดทด่ี นิ ตอ งสง คนื พืน้ ท่ี
(๗) ตองระมัดระวังไมใหการทำประโยชนข องตนกระทบกระเทือนหรือรบกวนบุคคลอืน่ หรือกอ ใหเกิด
ความเสียหายตอทรัพยสนิ ของทางราชการและของเอกชน หากผูรับอนุญาตพบแรทรัพยากรปาไม
วตั ถโุ บราณ หรอื ทรัพยากรอนั ควรอนรุ ักษ เปนตน ใหหยุดการทำประโยชนไวและแจงใหพนักงาน
เจา หนาที่ทราบโดยดวน
(๘) ในกรณีที่มีความจำเปนเพ่ือประโยชนสาธารณะ หรือเพื่อประโยชนของทางราชการ และทางราชการ
จะตอ งเรยี กพืน้ ทท่ี ีไ่ ดรบั การจัดท่ีดินคืน ผูที่ไดรบั การจดั ที่ดินตอ งสงคืนพ้ืนท่ที ันที
(๙) สมาชกิ ตอ งปฏบิ ัตติ ามขอ บงั คบั ของสหกรณหรือนิติบุคคล รปู แบบอื่น
40 ทดี่ นิ สาธารณประโยชน์ ทด่ี ินสาธารณประโยชน 33
๗
กระบวนการการจดั ท่ีดินทากนิ ให้ชุมชน
ตามนโยบายรฐั บาล
ที่ดินท่รี าชพสั ดุ
พ้นื พทืน้ ีท่ ท่ดี ท่ี นิ ดี่ รินารชาพชัสพดสั ุ ดุ 4353
๑. หลกั เกณฑก ารจัดทด่ี นิ ทำกินใหช มุ ชน
มี ๒ รปู แบบ ดังนี้
๑.๑ การจัดที่ดินทำกินใหชุมชน โดยการจัดระบบการใชประโยชน นำท่ีดินราชพัสดุที่ไมมีการ
ใชประโยชน (ทีว่ า ง) มาจัดระบบใชประโยชน
(๑.๑.๑) จัดท่ีดินทำกินใหชุมชนหรือกลุมบุคคล โดยไมใหเปนกรรมสิทธิ์ เฉพาะรายตามสภาพ
พ้นื ท่ีและตามเขตการปกครอง
(๑.๑.๒) จัดทำแผนผังแปลงที่ดินตามสัดสวนที่เหมาะสมกับสภาพการใชประโยชน และความเหมาะสม
ของสภาพพนื้ ที่
(๑.๑.๓) จัดทำสาธารณูปโภคอยา งเหมาะสมกับพน้ื ท่แี ละความสะดวกในการใชประโยชน
(๑.๑.๔) หลักเกณฑ วิธีการ และเงื่อนไขในการจัดท่ีดินราชพัสดุ และการใชประโยชน
ท่ีดินราชพัสดุใหเปนไปตามกฎหมายท่ีราชพัสดุซึ่งไดผานความเห็นชอบของ คทช. แลว
(๑.๑.๕) จัดที่ดินราชพัสดุใหผูที่ถูกผลักดัน และอพยพออกจากพ้ืนที่ปาตนน้ำ และปาอนุรักษ
ที่สำคัญเปนลำดับแรกในเง่ือนไข จะไดรับการจัดท่ีดินตามกฎหมายท่ีราชพัสดุ ผูท่ีไดรับ
ผลกระทบจากการดำเนินการตามโครงการของทางราชการที่สูญเสียท่ีดินทำกิน
และผูท่ีไมมีที่ดินทำกินหรือมีเพียงเล็กนอยไมเพียงพอตอการครองชีพท่ีมีถิ่นท่ีอยู
ในทองทีท่ ี่จะจดั ที่ดิน โดยพจิ ารณาจากหมูบาน ตำบล อำเภอ ตามลำดับ หากมีพื้นท่ี
เหลือจงึ จะจัดใหผ ูท่ีมีถน่ิ ท่ีอยใู นทองท่ีใกลเ คียงอ่ืนตอไป ท้ั งนี้ กรณี ที่คณะอนุ กรรมการ
นโยบายท่ดี ินจังหวัด พิจารณาเห็นเปนความจำเปนเพ่ือประโยชนในทางเศรษฐกิจ สังคม
และความส งบ เรียบรอย สามารถกำหนดการคั ดกรองและจั ดลำดั บท่ี เห ม าะส ม
ของชมุ ชนทอ งถ่ินตามที่เหน็ สมควรได
๑.๒ การจัดท่ีดินทำกินใหชุมชน โดยการจัดระเบียบการใชประโยชน เปนการนำที่ดินราชพัสดุที่มี
ผใู ชประโยชนม าจัดระเบียบการใชประโยชน
(๑.๒.๑) จัดทด่ี นิ ทำกินใหชมุ ชนในรูปแปลงรวมตามสภาพพ้ืนที่ และตามเขตการปกครอง
(๑.๒.๒) การใชประโยชนในท่ีดินใหเปนไปตามกฎหมาย ขอกำหนด และเงื่อนไขของหนวยงาน
เจาของพืน้ ที่ ซึง่ ไดผา นความเหน็ ชอบของ คทช. แลว
(๑.๒.๓) จัดท่ีดินใหแกผูเขาทำประโยชนหรืออยูอาศัยในพื้นท่ีอยูแลวตามท่ีครอบครองอยูจริง
ตามความเหมาะสม หากมีพ้ืนท่ีเหลือหรือพ้ืนท่ีท่ีไมมีผูทำประโยชนจึงจะจัดใหผูที่
ถูกผลักดันและอพยพออกจากพื้นท่ีปา และผูมีถ่ินที่อยูในทองท่ีที่จะจัดที่ดิน
หรือใกลเคียง โดยพิจารณาจากหมูบาน ตำบล อำเภอ จังหวัด ตามลำดับ ตามเกณฑ
การตรวจสอบขอมูลการถือครองและแนวทางการจัดที่ดินท่ี คทช. เห็นชอบ ทั้งนี้
เพ่ือเปนการควบคมุ และรว มกันดแู ลรักษาพนื้ ทท่ี ีร่ าชพัสดุ
44 พ้ืนทที่ ่ีดินราชพัสดุ พื้นที่ทด่ี นิ ราชพัสดุ 36
๒. ประเภทของผูท่ีไดรบั การจดั ท่ีดนิ
(๑) ผทู ถี่ ูกผลกั ดันและอพยพออกจากพนื้ ทปี่ าตนน้ำและปา อนรุ ักษที่สำคัญ
(๒) ผบู ุกรุกทด่ี นิ ราชพสั ดุ ซึง่ อยูในเงอ่ื นไขจะไดร ับการจัดที่ดนิ ตามกฎหมายทร่ี าชพสั ดุ
(๓) ผทู ี่ไดรับผลกระทบจากการดำเนินการตามโครงการของทางราชการทีส่ ญู เสยี ท่ีดนิ ทำกิน
(๔) ผูท่ีไมมีท่ีดินทำกินหรือมีเพียงเล็กนอยไมพอตอการครองชีพที่มีถิ่นท่ีอยูในทองที่ที่จะจัดท่ีดิน
โดยพิจารณาจากหมูบาน ตำบล อำเภอ จังหวัด ตามลำดับ หากมีพ้ืนท่ีเหลือจึงจะจัดใหผูท่ีมีถ่ิน
ที่อยใู นทอ งท่ีใกลเคยี งอืน่ ตอไป
๓. คุณสมบตั ขิ องผทู ่ไี ดรบั การจดั ท่ีดิน
(๑) บุคคลสญั ชาตไิ ทย
(๒) เปน ผยู ากไรไมม ีท่ที ำกนิ และ/หรอื ทีอ่ ยูอาศยั หรือมีรายไดตอ ปไ มเกิน ๓๐,๐๐๐ บาท/คน
(๓) บรรลนุ ิตภิ าวะแลว หรอื เปนหัวหนา ครอบครวั
(๔) มีถนิ่ ท่ีอยูในทองท่ีทจี่ ะจัดทดี่ ินหรอื ใกลเ คียง
(๕) มคี วามสามารถทำประโยชนในทดี่ นิ ได
(๖) ไมเ ปน คนวกิ ลจรติ หรอื จิตฟน เฟอนไมส มประกอบ
(๗) ยินยอมปฏิบัติตามระเบียบ ขอบังคับ ขอกำหนด และเงื่อนไขที่กำหนด ทั้งจาก คทช. และกรมธนารักษ
(๘) ปจ จุบันไมไดรบั การชวยเหลอื ในการจดั ที่ดนิ ทำกินจากทางราชการ
(๙) กรณีท่ีคณะอนุกรรมการนโยบายท่ีดินจังหวัดพิจารณาเห็นเปนความจำเปน เพ่ือประโยชนในทาง
เศรษฐกิจ สังคม และความสงบเรียบรอย โดยคำนึงถึงลักษณะพ้ืนที่สภาพการใชประโยชน
ทำประโยชน คณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัด (คทช. จังหวัด) จะผอนผันการปฏิบัติ
ตามหลักเกณฑเปนการเฉพาะรายก็ได
(๑๐) มีคุณสมบัติตามกฎหมายของหนวยงานเจาของพ้ืนท่ีกำหนด เชน กรณีการจัดระเบียบ
การใชประโยชนผูไดรับการจดั สรร ตองเปนผอู ยใู นท่ีราชพัสดุกอนวันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๔๖ เปนตน
๔. แนวทางดำเนนิ การ
๔.๑ การจดั ทด่ี ินทำกนิ ใหชุมชน โดยการจัดระบบการใชประโยชน
(๔.๑.๑) กรมธนารักษคัดเลือกท่ีราชพัสดุแปลงที่เหมาะสมเสนอคณะอนุกรรมการจัดหาที่ดิน
เพื่อกำหนดเปนพน้ื ทเ่ี ปา หมาย
(๔.๑.๒) คณะอนุกรรมการจัดหาที่ดินใหความเห็นชอบ แลวสงใหคณะอนุกรรมการนโยบายที่ดิน
จังหวดั (คทช. จังหวัด) พิจารณาดำเนินการ
พนื้ พทน้ื ่ที ท่ีด่ที ินด่ี รินารชาพชสัพดสั ุดุ 3475
(๔.๑.๓) คทช. จังหวัด พิจารณาตรวจสอบขอบเขตพื้นท่ีดำเนินการกำหนดวางผังแปลงท่ีดิน ใหมีขนาด
ที่เหมาะสมกับสภาพการทำประโยชน และพื้นท่ีสาธารณประโยชนในดานตาง ๆ
เพือ่ ใชร วมกัน และสงขอมลู ใหคณะอนุกรรมการจดั หาท่ดี นิ พิจารณา
(๔.๑.๔) คณะอนุกรรมการจัดหาท่ีดินสงมอบพ้ืนที่เปาหมายใหคณะอนุกรรมการจัดที่ดิน
และ คทช. จงั หวัด ดำเนนิ การ
(๔.๑.๕) คทช. จังหวัด คัดเลือกบุคคลตามหลักเกณฑคุณสมบัติประเภทผูไดรับการจัดท่ีดิน
และขอกำหนดอ่ืนที่เก่ียวของ และจัดทำบัญชีรายชื่อผูท่ีจะไดรับการจัดที่ดิน
สงใหค ณะอนุกรรมการจัดทดี่ ินพจิ ารณา
(๔.๑.๖) ผูไดรับการคัดเลือกตามบัญชีรายชื่อผูท่ีจะไดรับการจัดท่ีดิน ดำเนินการจดทะเบียน
จัดตงั้ สหกรณ
(๔.๑.๗) ชมุ ชนในรปู สหกรณยืน่ คำขอเชา ทร่ี าชพสั ดุในลักษณะแปลงรวม
(๔.๑.๘) สำนักงานธนารักษพ้ืนท่ีดำเนินการจัดใหชุมชนในรูปสหกรณเชาตามกฎหมายท่ีราชพัสดุ
โดยสหกรณจัดสรรพื้นที่ใหแกสมาชิกเพื่ออยูอาศัยไดไมเกิน ๑๐๐ ตารางวา ตอครอบครัว
อัตราคาเชาไมต่ำกวาตารางวาละ ๐.๒๕ บาท ตอเดือน และกรณีการเชาเพ่ือประกอบ
การเกษตรไดไมเกิน ๑๕ ไร ตอครอบครัว อัตราคาเชาไมต่ำกวา ไรละ ๒๐๐ บาท ตอป
(๔.๑.๙) คทช. จังหวัด แจงผลการดำเนินการจัดทำสัญญาเชาท่ีราชพัสดุใหคณะอนุกรรมการ
จัดท่ดี นิ ทราบ เพ่ือสงใหคณะอนกุ รรมการสง เสริมและพฒั นาอาชพี ดำเนนิ การตอไป
๔.๒ การจดั ทดี่ ินทำกนิ ใหชุมชนโดยการจดั ระเบียบการใชป ระโยชน
(๔.๒.๑) สำนักงานธนารักษพื้นท่ีสำรวจรังวัดและตรวจสอบที่ราชพัสดุแปลงท่ีมีการบุกรุก
พ รอ ม รายล ะเอี ยด ผู บุ ก รุก ส งให ก รม ธน ารัก ษ เพ่ื อพิ จารณ าคั ดเลื อกแปลง
เสนอคณะอนุกรรมการจัดหาทด่ี ินพจิ ารณากำหนดเปนพน้ื ทเี่ ปาหมาย
(๔.๒.๒) คณะอนุกรรมการจัดหาที่ดินใหความเห็นชอบแลวสงใหคณะอนุกรรมการนโยบายท่ีดิน
จงั หวัด (คทช. จังหวดั ) พิจารณาดำเนินการ
(๔.๒.๓) คทช. จังหวัด พิจารณาตรวจสอบขอบเขตพ้ืนที่ดำเนินการจำนวนผูบุกรุกและรายละเอียด
แลว สง ขอมลู ใหคณะอนกุ รรมการจัดหาทด่ี นิ พิจารณา
(๔.๒.๔) คณะอนุกรรมการจัดหาท่ีดินสงมอบพื้นที่เปาหมายใหคณะอนุกรรมการจัดที่ดิน
และ คทช. จังหวัด ดำเนินการ
(๔.๒.๕) คทช. จังหวัด รับรองสิทธิของผูบุกรุกที่ราชพัสดุตามสภาพการครอบครองที่ดิน
และจัดทำบัญชีรายช่ือผูที่จะไดรับการจัดท่ีดินสงใหคณะอนุกรรมการจัดที่ดินพิจารณา
(๔.๒.๖) ผูที่ไดรับการคัดเลือกตามบัญชีรายช่ือผูที่จะไดรับการจัดที่ดินดำเนินการจดทะเบียน
จดั ต้งั สหกรณ