The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

คู่มือสนับสนุนการคุ้มครองที่ดินของรัฐตามภารกิจของกรมที่ดิน (ปี 2562)

สำนักจัดการที่ดินของรัฐ (KM ปี 2562)

Keywords: ด้านบริหารงานที่ดิน

196 คูม่ ือสนับสนนุ การคุ้มครองท่ดี นิ ของรฐั คูม่ อื สนบั สนุนการคุม้ ครองที่ดนิ ของรฐั 193

ระเบยี บกระทรวงมหาดไทย
ว่าด้วยการสอบสวนเก่ยี วกับการบกุ รุกท่หี รือทางสาธารณประโยชน์

พ.ศ.๒๕๓๙
______________
เพื่อให้การสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการบุกรุกที่หรือทางสาธารณประโยชน์เป็นไปด้วยความ
ถูกต้อง รวดเรว็ และเปน็ ธรรมแกท่ ุกฝา่ ย กระทรวงมหาดไทยจงึ ออกระเบียบไวด้ งั ต่อไปน้ี
ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการสอบสวนข้อเท็จจริงเก่ียวกับ
การบุกรกุ ทหี่ รอื ทางสาธารณประโยชน์ พ.ศ. ๒๕๓๙”
ข้อ ๒ ระเบยี บนีใ้ หใ้ ชบ้ งั คับตัง้ แตว่ นั ประกาศเปน็ ตน้ ไป
ข้อ ๓ บรรดาระเบียบ ข้อบังคับ และคาสั่งอ่ืนใด ในส่วนที่กาหนดไว้แล้วในระเบียบน้ี หรือซึ่งขัด
หรอื แย้งกบั ระเบยี บนี้ ให้ใช้ระเบยี บนแ้ี ทน
ข้อ ๔ ในระเบียบนี้
“ผู้มอี านาจหน้าท่ีในการสอบสวน” หมายถึง เจ้าหน้าทขี่ องรัฐ ผ้หู นงึ่ ผใู้ ดหรือคณะกรรมการ
สอบสวนท่ีผูว้ ่าราชการจงั หวัดหรอื ปลัดกรงุ เทพมหานครแตง่ ตงั้ แล้วแต่กรณี
“ผ้มู สี ่วนได้เสีย” หมายถึง
(๑) ผ้ทู ี่มีผลประโยชน์ไดเ้ สียเกย่ี วข้องกับการบกุ รุกทีห่ รอื ทางสาธารณประโยชน์
(๒) ผู้ที่เป็นญาติเก่ียวข้องกับบุคคลตาม (๑) ได้แก่เป็นบุพการี หรือผู้สืบสันดาน
ไม่ว่าช้ันใด ๆ หรือเป็นพ่ีน้อง หรือเป็นลูกพ่ีลูกน้องนับได้เพียงภายในสามช้ัน หรอื เป็นญาติ เก่ียวพันทางแต่งงาน
นับได้เพียงสองช้นั
(๓) เป็นหรอื เคยเปน็ ผ้แู ทนโดยชอบธรรมของบคุ คลตาม (๑)
(๔) เปน็ เจา้ หนห้ี รือลกู หน้ี หรอื เปน็ นายจา้ ง หรอื เคยเป็นนายจ้างของบุคคลตาม (๑)
ข้อ ๕ การแต่งตง้ั ผู้มีอานาจหน้าที่ในการสอบสวน
(๑) เม่ือมีกรณีอันสมควรจะต้องสอบสวนข้อเท็จจริงเก่ียวกับการบุกรุกที่หรือทาง
สาธารณประโยชน์ ให้ผวู้ ่าราชการจงั หวัด หรอื ปลัดกรงุ เทพมหานคร แต่งตัง้ ผ้มู อี านาจหน้าที่ในการสอบสวนขึน้
(๒) ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวกับการบุกรุกที่หรือทางสาธารณประโยชน์น้ัน ไม่สมควรจะได้รับ
การแต่งตงั้ ให้เป็นผู้มีอานาจหน้าทใ่ี นการสอบสวน
(๓) เมื่อมีการคัดค้านหรือโตแ้ ย้งว่า ผู้มอี านาจหน้าที่ในการสอบสวนมีส่วนไดเ้ สียในเร่ืองท่ีมี
การสอบสวนให้ผ้วู า่ ราชการจังหวัดหรือปลัดกรุงเทพมหานครแล้วแตก่ รณพี จิ ารณาส่ังการตามเหน็ สมควร
ขอ้ ๖ การสอบสวนให้ผูม้ ีอานาจหน้าทีใ่ นการสอบสวนดาเนนิ การดงั นี้
(๑) สอบสวนถึงประวัติความเป็นมา สภาพของที่ดิน อาณาเขตเนื้อที่และการใช้ประโยชน์
ของทดี่ นิ แปลงนัน้ ๆ โดยชดั เจน นอกจากน้ใี ห้สอบสวนในประเด็นที่เก่ยี วขอ้ งดังต่อไปน้ีดว้ ย

คู่มือสนับสนุนการค้มุ ครองท่ีดินของรฐั 194
คู่มอื สนับสนนุ การคมุ้ ครองท่ีดนิ ของรัฐ 197

ก. ที่ดินที่ทางราชการสงวนหวงห้ามไว้น้ัน ได้สงวนหวงห้ามไว้ ตั้งแต่เมื่อใด ผู้ใด
ประกาศสงวนหวงห้าม อาศัยอานาจตามกฎหมายใด มีหลักฐานอยา่ งใดบ้าง ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน
มาอย่างใด ต้ังแตเ่ ม่อื ใด ในปัจจุบนั ยังใชป้ ระโยชน์ร่วมกันอยู่ หรอื เลิกใช้แล้วตง้ั แต่เม่อื ใด เพราะเหตุใด

ข. ทางน้า หนอง บึง น้ัน ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกันมาอย่างใด
มบี ริเวณต้ืนเขินหรือไม่เพยี งใด การตื้นเขินนน้ั เปน็ ไปในลกั ษณะใด กลา่ วคือ มบี ุคคลทาให้เกิดข้ึนหรือเป็นไป
โดยธรรมชาติ

ค. ถนน ทางเดนิ น้นั มีความเป็นมาอย่างไร กล่าวคือ เจ้าของที่ดินอุทิศให้โดยตรง
หรือโดยปริยาย หรืออย่างใด ทางเส้นน้ีเริ่มจากที่ใดถึงท่ีใด ใช้กันอย่างไร เป็นทางซึ่งสาธารณชนใช้หรือใช้
เฉพาะเจ้าของท่ีดนิ ในละแวกน้นั

ง. ท่ีชายตล่ิงน้ัน ตามปกติน้าท่วมถึงหรือไม่ เพียงใด ท่วมถึงทุกปีหรือไม่
เป็นระยะเวลานานเท่าใด ประชาชนได้ใชป้ ระโยชน์ร่วมกันหรือไม่ เพยี งไร หรอื มีผูใ้ ดใช้ประโยชนห์ รือไม่

(๒) จัดทาแผนท่ีสังเขป แสดงเขตที่หรือทางสาธารณประโยชน์ที่ดินข้างเคียงและส่วนที่มี
ผบู้ ุกรกุ เพ่ือประกอบการพิจารณาดว้ ย

(๓) สอบสวนผู้สูงอายุ และผู้ปกครองท้องที่ท้ังในอดีตและปัจจุบันท่ีเคยรู้เห็นหรือใช้
ประโยชน์ในที่หรือทางสาธารณประโยชนน์ ั้นมากอ่ นเปน็ หลกั

(๔) ในกรณีท่ีมีผู้เกี่ยวข้องประสงค์จะนาพยานหลักฐานอื่นมาเพิ่มเติมสานวนการสอบสวน
หรือประสงค์จะใหผ้ ู้มีอานาจหนา้ ที่ในการสอบสวนทาการสอบสวนพยานบคุ คลใดหรอื รวบรวมพยานหลักฐาน
อ่ืนใด ให้ผู้มีอานาจหน้าที่ในการสอบสวนพิจารณาดาเนินการตามความจาเป็นและสมควรโดยให้ความ
เปน็ ธรรมแกค่ ่กู รณที ุกฝ่ายด้วย

(๕) สรุปข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานให้ผู้ที่ถูกร้องเรียนว่ากระทาการบุกรุกทราบ ถ้าผู้ท่ีถูก
ร้องเรียนว่ากระทาการบุกรุกยอมรับ ก็ให้บันทึกถ้อยคาไว้เป็นหลักฐาน แต่ถ้าผู้นั้นให้ถ้อยคาปฏิเสธหรือ
ไม่ยอมรับ ให้ผู้มีอานาจหน้าที่ในการสอบสวนดาเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงว่าผู้น้ันได้ที่ดินมาอย่างไร
ชอบด้วยกฎหมายหรอื ไม่ ครอบครองทาประโยชนอ์ ย่างไร เมื่อใด

(๖) เมื่อผู้มีอานาจหน้าที่ในการสอบสวนได้ดาเนินการตาม (๕) แล้ว ให้แจ้งให้คู่กรณีทุกฝ่าย
ได้รับทราบข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานจากการสอบสวน ซึ่งรวมท้ังข้อกล่าวหาข้อปฏิเสธ หรือข้อเท็จจริงท่ีเป็น
ผลร้ายต่อคู่กรณีฝ่ายใดฝ่ายหน่ึง พร้อมท้ังแจ้งให้คู่กรณีดังกล่าวทราบว่า สามารถจะนาเสนอข้อเท็จจริงและ
พยานหลักฐาน ท้ังพยานบุคคลและพยานเอกสารของตนเองได้ ในระยะเวลาอันสมควร ซึ่งผู้มีอานาจหน้าท่ี
ในการสอบสวนจะเปน็ ผพู้ ิจารณากาหนดระยะเวลาดังกลา่ วตามความจาเป็นแล้วแตก่ รณี

(๗) การแจ้งตาม (๕) และ (๖) ให้คานึงถึงความเสียหายหรือความปลอดภัยซ่ึงอาจเกิดแก่
พยานดว้ ย

ขอ้ ๗ ในการปฏิบัติหน้าท่ีดังกล่าวนั้นผู้มีอานาจหนา้ ทใ่ี นการสอบสวนต้องวางตัวเป็นกลางไม่ลาเอียง
ไม่ช้ีนา ข่มขู่ หรือหลอกลวง หรือใช้วิธีการอ่ืนใด ในทานองเดียวกันต่อคู่กรณีหรือพยาน เพ่ือให้คู่กรณีหรือ
พยานเสนอข้อเท็จจรงิ หรือพยานหลกั ฐานโดยจายอม

ข้อ ๘ เม่ือดาเนินการเสร็จแล้ว ให้สรุปสานวนเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดหรือปลัดกรุงเทพมหานคร
แล้วแต่กรณี โดยให้ผู้มีอานาจหน้าท่ีในการสอบสวนรายงานประกอบไว้ในสานวนด้วยว่า ได้ดาเนินการตาม
ข้นั ตอนในขอ้ ๖ แล้ว และในการเปิดโอกาสให้คู่กรณีทุกฝ่ายได้รับทราบข้อกล่าวหา ข้อปฏิเสธ รวมท้ังการให้
คู่กรณีทุกฝ่ายนาพยานหลักฐานมาสืบเพ่ิมเติมน้ัน ผู้มีอานาจหน้าท่ีสอบสวนได้ให้ระยะเวลาในแต่ละข้ันตอน

198 คมู่ อื สนับสนนุ การคมุ้ ครองทดี่ นิ ของรัฐ คู่มอื สนับสนุนการค้มุ ครองท่ีดินของรฐั 195

เท่าใด และให้ผู้ว่าราชการจังหวัดหรือปลัดกรงุ เทพมหานครพิจารณาสั่งการหรือดาเนินการตามที่เห็นสมควร
รวมทง้ั แจ้งใหค้ กู่ รณีทราบ

ประกาศ ณ วนั ท่ี ๒๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๙
(ลงชือ่ ) บรรหาร ศิลปอาชา
(นายบรรหาร ศิลปอาชา)
รฐั มนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

คมู่ อื สนับสนุนการคมุ้ ครองที่ดนิ ของรฐั 196
คูม่ อื สนับสนนุ การคุ้มครองทด่ี ินของรัฐ 199

ระเบยี บกระทรวงมหาดไทย
ว่าด้วยการดูแลรักษาและคุ้มครองป้องกันทีด่ ินอันเป็น
สาธารณสมบัติของแผ่นดนิ สาหรบั พลเมืองใช้ร่วมกัน

พ.ศ. ๒๕๕๓
โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการดูแลรักษาและคุ้มครองป้องกัน
ที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๔๔ ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับมาตรา ๑๒๒
แห่งพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พระพุทธศักราช ๒๔๕๗ ซึ่งแก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติ
ลักษณะปกครองทอ้ งที่ (ฉบบั ท่ี ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑
อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๑๒๒ แห่งพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่พระพุทธศักราช
๒๔๕๗ ซ่ึงแก้ไขเพิม่ เตมิ โดยพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องท่ี (ฉบบั ที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑ และมาตรา ๒๐
แหง่ พระราชบัญญตั ิระเบียบบริหารราชการแผ่นดนิ พ.ศ. ๒๕๓๔ ซ่ึงแกไ้ ขเพม่ิ เติมโดยพระราชบญั ญัตริ ะเบยี บ
บริหารราชการแผน่ ดนิ (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๔๕ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยออกระเบียบไว้ ดงั ตอ่ ไปนี้
ข้อ ๑ ระเบียบน้ีเรียกว่า “ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการดูแลรักษาและคุ้มครองป้องกันท่ีดิน
อันเปน็ สาธารณสมบตั ิของแผ่นดนิ สาหรบั พลเมืองใชร้ ่วมกัน พ.ศ. ๒๕๕๓”
ข้อ ๒ ระเบียบนีใ้ ห้ใช้บงั คับตงั้ แตว่ ันถดั จากวันประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเป็นตน้ ไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลิกระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการดูแลรักษาและคุ้มครองป้องกันที่ดินอันเป็น
สาธารณสมบัติของแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๔๔
บรรดาระเบยี บ ขอ้ บังคบั หรือคาสั่งอน่ื ใด ท่ีขดั หรอื แยง้ กับระเบียบนี้ให้ใช้ระเบียบนี้แทน
ข้อ ๔ ให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามระเบียบนี้โดยให้มีอานาจตีความวินิจฉัยปัญหา
รวมทัง้ กาหนดหลักเกณฑ์และวธิ ีการปฏิบัติ เพือ่ ดาเนินการใหเ้ ป็นไปตามระเบียบนี้

หมวด ๑
ลกั ษณะท่ดี นิ
ข้อ ๕ ท่ีดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสาหรับพลเมืองใช้ร่วมกันท่ีอยู่ในบังคับของระเบียบนี้
หมายถึง ที่ดินสาหรับประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน ไม่ว่าเป็นโดยสภาพธรรมชาติ โดยการใช้ร่วมกันของ
ประชาชน โดยทางนติ ิกรรม หรือโดยผลของกฎหมาย เช่น ที่ชายตล่ิง ท่ีป่าชา้ ทางบก ทางน้า สวนสาธารณะ
ทเ่ี ล้ียงสัตว์ และที่สาธารณะประจาตาบลหรอื หมู่บ้าน

200 คมู่ อื สนบั สนุนการคุ้มครองทีด่ ินของรัฐ คมู่ อื สนบั สนนุ การค้มุ ครองที่ดินของรฐั 197
หมวด ๒

อานาจหน้าท่ี

ข้อ ๖ อานาจหน้าท่ีในการดูแลรักษาและคุ้มครองป้องกันท่ีดินตามข้อ ๕ ให้เป็นอานาจหน้าท่ีของ
นายอาเภอร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถนิ่ ตามกฎหมายว่าดว้ ยลกั ษณะปกครองท้องท่ี

ในกรณีมีขอ้ พิพาทหรือคดีเกย่ี วกับท่ีดินตามวรรคหนึง่ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถนิ่ เป็นผดู้ าเนินการ
ระงับข้อพิพาทหรือร้องทุกข์กล่าวโทษภายในสามสิบวัน นับแต่รู้เหตุแห่งข้อพิพาทหรือคดีน้ัน เว้นแต่คดี
จะขาดอายุความใหร้ ้องทุกขก์ ล่าวโทษโดยทันที

หากมิได้มีการดาเนินการตามวรรคสอง ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินแจ้งเหตุผลและความจาเป็น
ให้นายอาเภอทราบภายในเจ็ดวันนับแต่วันท่ีครบกาหนด และให้นายอาเภอเป็นผู้ดาเนินการหรือนายอาเภอ
รว่ มกบั องค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ ดาเนนิ การก็ได้

การดาเนินการระงับข้อพิพาทหรือการดาเนินคดีท่ีองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินหรือนายอาเภอ
ได้ดาเนินการไปก่อนระเบียบนี้ใช้บังคับ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือนายอาเภอดาเนินการต่อไป
จนกว่าจะถงึ ที่สดุ

ความในวรรคสอง ไม่เป็นการตดั อานาจหน้าท่ขี องนายอาเภอทีจ่ ะดาเนินการฝ่ายเดยี ว
หมวด ๓

การใช้ประโยชน์
ข้อ ๗ นายอาเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไม่มีอานาจใช้ หรือยินยอมให้บุคคลอ่ืนใช้ที่ดิน
อันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสาหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน เว้นแต่จะได้รับความเห็นชอบจากผู้ว่าราชการ
จังหวัดและปฏิบัติตามประมวลกฎหมายท่ีดิน กฎหมายอื่นท่ีเกี่ยวข้อง.และระเบียบที่กระทรวงมหาดไทย
กาหนด
ข้อ ๘ การขอถอนสภาพที่ดินอนั เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดนิ สาหรับพลเมืองใช้รว่ มกันตามมาตรา ๘
วรรคสอง การขออนุญาตใช้ประโยชน์ในท่ีดินของรัฐตามมาตรา ๙ และการขอสัมปทานตามมาตรา ๑๒
แหง่ ประมวลกฎหมายที่ดิน ใหป้ ฏิบตั ติ ามกฎ หรอื ระเบียบวา่ ด้วยการน้นั ทกี่ ระทรวงมหาดไทยกาหนด
ข้อ ๙ ทบวงการเมืองตามประมวลกฎหมายที่ดินอาจขอเปลี่ยนสภาพการใช้ที่ดินอันเป็น
สาธารณสมบัติของแผ่นดินสาหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน จากการใช้เพื่อประโยชน์อย่างหน่ึงเป็นอีกอย่างหน่ึงได้
ท้ังนี้ ให้ปฏิบัติตามระเบยี บว่าด้วยการเปลีย่ นสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสาหรับพลเมืองใช้
รว่ มกันที่กระทรวงมหาดไทยกาหนด

คมู่ อื สนบั สนคู่มุนือกสานรับคสนมุ้ ุนคกราอรคง้มุ ทคีด่รอินงขท่ีดอนิ งขรอฐั งรฐั 219081
หมวด ๔
การจดั ทาทะเบียน
ขอ้ ๑๐ ท่ีดนิ ตามข้อ ๕ เวน้ แต่ ที่ชายตลิ่ง ทางบก ทางน้า ลากระโดง ลารางสาธารณะหรือทางระบายน้า
รวมทั้งท่ีเรยี กชื่ออยา่ งอ่นื ในทานองเดยี วกัน ให้นายอาเภอร่วมกบั องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่ินดาเนินการจัดทา
ทะเบียนท่ีดินสาธารณประโยชน์ ตามแบบที่กระทรวงมหาดไทยกาหนด จานวน ๔ ชุด โดยให้เก็บรักษาไว้
ทอ่ี าเภอ องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ สานักงานทีด่ นิ จังหวัด และกรมทดี่ ิน แห่งละ ๑ ชุด
ถ้าท่ีดินแปลงใดยังไม่มีหนังสือสาคัญสาหรับที่หลวง ให้ผู้มีอานาจหน้าท่ีดูแลรักษาและคุ้มครอง
ป้องกันตามกฎหมาย เป็นผู้ดาเนินการขอออกหนงั สอื สาคญั สาหรับทหี่ ลวง
สาหรับทะเบียนที่ดินสาธารณประโยชน์ที่ได้จัดทาไว้ก่อนระเบียบนี้ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ขอคดั สาเนามาเพ่อื จดั เก็บไวท้ ีอ่ งคก์ รปกครองสว่ นท้องถิ่นท้องทีด่ ้วย
ในการดาเนินการข้างต้นให้สานักงานท่ีดินจังหวัดหรือสานักงานที่ดินจังหวัดสาขา ให้การสนับสนุน
ในการดาเนนิ การ เช่น ดา้ นข้อมลู และการรงั วัดทาแผนที่
ข้อ ๑๑ กรณีท่ีได้ดาเนินการออกหนังสือสาคัญสาหรับท่ีหลวงแล้ว ให้ผู้ดแู ลรกั ษาตรวจสอบทะเบียน
ที่ดินสาธารณประโยชน์ฉบับที่ผู้ดูแลรักษาเก็บไว้ หากไม่ปรากฏหลักฐานในทะเบียนท่ีดินสาธารณประโยชน์
หรือปรากฏหลักฐานแต่รายละเอียดไม่ตรงกัน ให้แจ้งเจ้าพนักงานท่ีดินดาเนินการลงรายการเกี่ยวกับที่ดิน
แปลงนั้นในทะเบียนให้ครบถ้วน หรือดาเนินการแก้ไขทะเบียนท่ีดินสาธารณประโยชน์ให้ตรงตามข้อเท็จจริง
เสร็จแลว้ ลงลายมือชอ่ื พรอ้ มช่ือตัวบรรจง ตาแหน่ง และวัน เดอื น ปี กากบั ไว้
กรณีที่ได้มีพระราชบัญญัติหรือพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพท่ีดินตามข้อ ๕ หรือมีพระราชบัญญัติ
ให้โอนที่ดินหรือมีคาพิพากษาหรือคาสั่งของศาลอันถึงที่สุดว่าท่ีดินดังกล่าวไม่เป็นท่ีดินสาธารณประโยชน์
ทัง้ แปลง ให้เจ้าพนักงานท่ีดนิ จาหน่ายทะเบียนโดยการขีดฆา่ รายการทะเบยี นที่ดินสาธารณประโยชน์ตลอดท้ัง
รายการ แต่หากกรณีเป็นท่ีดินสาธารณประโยชน์บางส่วนให้เจ้าพนักงานท่ีดินแก้ไขรายการให้ถูกต้อง พร้อมท้ัง
หมายเหตุท้ายทะเบียนของท่ีดินแปลงนั้นตามแต่กรณี ว่าที่ดินสาธารณประโยชน์ดังกล่าวได้โอนหรือถอนสภาพ
ตามพระราชบัญญัติ พระราชกฤษฎีกา คาพิพากษา หรือคาส่ังศาลใด ต้ังแต่เม่ือใด เสร็จแล้วลงลายมือชื่อ
พร้อมช่อื ตวั บรรจง ตาแหนง่ และวนั เดอื น ปี กากับไว้
กรณที ่ียังมิได้มีการออกหนังสอื สาคัญสาหรับที่หลวง เมอ่ื ปรากฏว่าการจัดทาทะเบียนท่ีดนิ สาธารณประโยชน์
ผิดพลาดคลาดเคลื่อน ให้สานักงานที่ดินจังหวัดรวบรวมขอ้ เท็จจริงและความเห็นขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน
และอาเภอ เพื่อรายงานผู้ว่าราชการจังหวัดให้ความเห็นเพื่อเสนอกระทรวงมหาดไทยพิจารณาส่ังการ
หากกระทรวงมหาดไทยเห็นชอบให้แก้ไขหรือจาหน่ายรายการทะเบียนท่ีดินสาธารณประโยชน์ ให้เจ้าพนักงานท่ีดิน
แก้ไขรายการในทะเบียนท่ีดินสาธารณประโยชน์หรือหมายเหตุไว้ตอนท้ายของทะเบียนว่า “ไม่มีที่ดินตามที่
ระบไุ ว้ในทะเบียนเดิม” เสร็จแลว้ ลงลายมือชื่อพร้อมช่ือตัวบรรจง ตาแหน่ง และวนั เดือน ปี กากับไว้
เม่ือได้มีการแก้ไขหรือหมายเหตุในทะเบียนที่ดินสาธารณประโยชน์ตามวรรคหนึ่ง วรรคสองและวรรคสาม
เสร็จแล้ว ให้จัดส่งสาเนาทะเบียนท่ีดินสาธารณประโยชน์ให้หน่วยงานตามข้อ ๑๐ แก้ไขหลักฐานทะเบียน
ให้ถูกตอ้ งตรงกัน

202 ค่มู ือสนบั สนนุ การค้มุ ครองทดี่ นิ ของรฐั คูม่ ือสนบั สนุนการค้มุ ครองที่ดินของรฐั 200
หมวด ๕

การตรวจสอบขอ้ เท็จจริง

ข้อ ๑๒ การตรวจสอบข้อเท็จจริงเก่ียวกับท่ีดินตามข้อ ๕ เช่น ประวัตคิ วามเป็นมา ที่ตั้ง ขอบเขต
สภาพปัญหาและการแก้ไขปัญหา ให้เป็นหน้าท่ีของนายอาเภอร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยให้
สานกั งานท่ดี นิ จงั หวดั หรือสานักงานท่ดี นิ จงั หวดั สาขาให้การสนับสนนุ ในการดาเนนิ การด้วย

หมวด ๖
คา่ ใชจ้ ่าย

ข้อ ๑๓ ค่าใช้จ่ายในการดาเนินการดูแลรักษาและคุ้มครองป้องกันที่ดนิ อันเปน็ สาธารณสมบตั ิของ
แผ่นดนิ สาหรับพลเมืองใช้ประโยชน์ร่วมกัน เช่น การออกหนังสือสาคัญสาหรับท่ีหลวง การตรวจสอบหนังสือ
สาคัญสาหรับที่หลวง การดาเนินคดีกรณีมีข้อพิพาท การรังวัดทาแผนท่ี การจัดทาทะเบียนที่ดิน
สาธารณประโยชน์ รวมทงั้ คา่ ใช้จา่ ยอืน่ ใดทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง ใหเ้ บกิ จ่ายจากงบประมาณขององคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิน่

บทเฉพาะกาล

ข้อ ๑๔ บรรดาคาขอ และเรื่องราวใดซึ่งได้ดาเนินการไปแล้ว หรืออยู่ระหว่างดาเนินการก่อนระเบยี บน้ี
ใชบ้ งั คับให้ดาเนนิ การต่อไปได้ เท่าทไ่ี มข่ ัดหรือแยง้ กับระเบียบนี้

ประกาศ ณ วันที่ ๑๘ มถิ ุนายน พ.ศ. ๒๕๕๓
(ลงชือ่ ) ถาวร เสนเนยี ม

(นายถาวร เสนเนยี ม)
รฐั มนตรชี ว่ ยวา่ การ ฯ ปฏบิ ตั ริ าชการแทน

รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย

(ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา ฉบับประกาศ ทว่ั ไป เลม่ ๑๒๗ ตอนพเิ ศษ ๙๕ ง ลงวันท่ี ๖ สิงหาคม ๒๕๕๓)

คูม่ อื สนับสนุนการคุ้มครองท่ีดนิ ของรฐั 200
คูม่ อื สนับสนนุ การคุ้มครองทดี่ นิ ของรัฐ 203

ระเบียบสานักนายกรฐั มนตรี
วา่ ด้วยการแก้ไขปัญหาการบุกรุกทดี่ นิ ของรฐั
พ.ศ. ๒๕๔๕
______________
โดยที่เห็นเป็นการสมควรปรับปรุงโครงสร้างอานาจหน้าที่ของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุก
ทดี่ นิ ของรัฐ ตามระเบียบสานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการแกไ้ ขปัญหาการบุกรกุ ท่ดี ินของรัฐ พ.ศ. ๒๕๓๔ ให้มี
ประสทิ ธภิ าพและประสทิ ธิผลในการแก้ไขปญั หาและป้องกนั การบุกรกุ ทีด่ นิ ของรัฐอย่างเป็นรูปธรรมมากย่งิ ขึ้น
กับเพื่อให้การประสานนโยบ ายและการปฏิบัติระหว่างหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่ดูแลรักษาและคุ้มค รอง
ป้องกันที่ดินของรัฐประเภทต่าง ๆ ให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ คาส่ัง ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรี
ทเ่ี กี่ยวขอ้ งให้สอดคล้องกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชากร ท้ังในทางสังคม การเมือง การปกครองและ
เสริมสร้างความสมดุลมนั่ คงแข็งแกรง่ ในทางเศรษฐกิจอยา่ งย่งั ยืนในระยะยาว
อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๑๑ (๘) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน
พ.ศ. ๒๕๓๔ นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี จงึ วางระเบียบไวด้ ังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ระเบียบนี้ เรียกว่า “ระเบียบสานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดิน
ของรัฐ พ.ศ. ๒๕๔๕”
ข้อ ๒ ให้ใชร้ ะเบียบนี้ ตงั้ แตว่ ันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลกิ ระเบียบสานกั นายกรัฐมนตรี ว่าดว้ ยการแก้ไขปญั หาการบุกรุกที่ดนิ ของรัฐ พ.ศ. ๒๕๓๕
ขอ้ ๔ ในระเบียบนี้
“หน่วยงานของรัฐ” หมายความว่า กระทรวง กรม หรือส่วนราชการที่เรียกช่ืออย่างอื่นและมีฐานะเป็น
กระทรวงหรือกรม ราชการส่วนภูมภิ าค ราชการส่วนทอ้ งถน่ิ รฐั วสิ าหกจิ และหนว่ ยงานอื่นของรัฐ
“ที่ดินของรัฐ” หมายความว่า ท่ีดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินทุกประเภท เช่น ที่ป่าสงวน
แหง่ ชาติ ทีส่ งวนหวงหา้ มของรัฐ ทสี่ าธารณประโยชน์ และท่รี าชพัสดุ เปน็ ต้น
“จงั หวดั ” หมายความถงึ กรงุ เทพมหานครด้วย
ข้อ ๕ ให้มีคณะกรรมการคณะหน่ึง เรียกว่า “คณะกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ”
เรยี กโดยย่อวา่ “กบร” ประกอบดว้ ย
(๑) รองนายกรฐั มนตรีท่นี ายกรฐั มนตรีมอบหมาย ประธานกรรมการ
(๒) รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รองประธานกรรมการ
(๓) รัฐมนตรวี ่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ กรรมการ
และสิ่งแวดล้อม
(๔) รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย กรรมการ
(๕) ปลัดกระทรวงกลาโหม กรรมการ
(๖) ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรรมการ

204 ค่มู อื สนบั สนุนการคุ้มครองทด่ี ินของรัฐ คมู่ ือสนับสนุนการคมุ้ ครองท่ีดินของรฐั 201

(๗) ปลดั กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาติ กรรมการ
และสงิ่ แวดลอ้ ม
(๘) ปลัดกระทรวงมหาดไทย กรรมการ
(๙) อัยการสงู สดุ กรรมการ
(๑๐) ผอู้ านวยการสานักงบประมาณ กรรมการ
(๑๑) เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎกี า กรรมการ
(๑๒) ผบู้ ัญชาการทหารบก กรรมการ
(๑๓) ผบู้ ัญชาการทหารเรอื กรรมการ
(๑๔) ผ้บู ัญชาการทหารอากาศ กรรมการ
(๑๕) อธบิ ดีกรมธนารกั ษ์ กรรมการ
(๑๖) เลขาธกิ ารสานกั งานการปฏิรปู ทีด่ นิ กรรมการ
เพ่อื เกษตรกรรม
(๑๗) อธิบดีกรมป่าไม้ กรรมการ
(๑๘) อธบิ ดีกรมอทุ ยานแหง่ ชาติ สัตว์ป่า กรรมการ
และพนั ธ์พุ ชื
(๑๙) อธิบดีกรมการปกครอง กรรมการ
(๒๐) อธิบดกี รมท่ดี นิ กรรมการ
(๒๑) ผู้ทรงคณุ วุฒทิ ีป่ ระธาน กบร. แต่งตั้ง กรรมการ
อกี ไม่เกนิ สามคน
(๒๒) รองปลัดกระทรวงทรพั ยากรธรรมชาติ กรรมการและเลขานกุ าร
และสง่ิ แวดลอ้ มท่รี ับผดิ ชอบการปฏบิ ัตริ าชการ
ของสานักแก้ไขปญั หาการบกุ รุกท่ีดนิ ของรัฐ
(๒๓) ขา้ ราชการสานักแก้ไขปญั หาการบกุ รุก กรรมการและผู้ชว่ ยเลขานุการ
ทด่ี ินของรฐั สานักงานปลัด
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ
ส่ิงแวดลอ้ มท่ีไดร้ บั มอบหมายไมเ่ กนิ สองคน
ข้อ ๖ กรรมการผู้ทรงคุณวฒุ ิมวี าระดารงตาแหน่งคราวละสองปนี บั แต่วันท่ีไดร้ ับแตง่ ตัง้
ในกรณีท่ีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งประธาน กบร. แต่งต้ัง พ้นจากตาแหน่งก่อนวาระ หรือในกรณีท่ี
ประธาน กบร. แต่งต้ังกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพ่ิมข้ึนในระหว่างที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซ่ึงแต่งต้ังไว้เดิมยังมี
วาระอยู่ในตาแหน่ง ให้ผู้ได้รับแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่งแทน หรือเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิท่ีได้รับแต่งตั้งเพ่ิม
ข้นึ อยใู่ นตาแหน่งเทา่ กับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการผทู้ รงคณุ วุฒซิ ึง่ ได้รับการแตง่ ตง้ั ไว้เดิม
เม่ือกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นกาหนดตามวาระดังกล่าวในวรรคหน่ึง หากยังมิได้แต่งต้ัง
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิขึ้นใหม่ ให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซ่ึงพ้นจากตาแหน่งตามวาระนั้นอยู่ในตาแหน่ง
เพ่ือดาเนินการตอ่ ไปจนกว่ากรรมการผทู้ รงคุณวุฒิซ่ึงได้รับแต่งต้งั ใหมเ่ ข้ารับหน้าที่
ข้อ ๗ นอกจากการพ้นจากตาแหน่งตามวาระ ตามขอ้ ๖ กรรมการผูท้ รงคณุ วฒุ พิ ้นตาแหนง่ เม่ือ
(๑) ตาย
(๒) ลาออก
(๓) เป็นบคุ คลลม้ ละลาย

คมู่ อื สนับสนนุ การคมุ้ ครองท่ีดนิ ของรฐั 203

คู่มอื สนบั สนุนการคมุ้ ครองทด่ี นิ ของรฐั 205

(๔) เปน็ คนไรค้ วามสามารถหรอื คนเสมือนไรค้ วามสามารถ
(๕) ประธาน กบร. ใหอ้ อก
(๖) ได้รับโทษจาคุกโดยคาพิพากษาถึงที่สุดให้จาคุก เว้นแต่เป็นโทษสาหรับความผิดท่ีได้
กระทาโดยประมาทหรือความผดิ ลหโุ ทษ
ข้อ ๘ ให้ กบร. มอี านาจหนา้ ทดี่ ังต่อไปน้ี
(๑) เสนอนโยบายหรอื แผนงานในการแกไ้ ขปญั หา และปอ้ งกันการบุกรุกทีด่ นิ ของรฐั ตอ่ คณะรฐั มนตรี
(๒) กาหนดมาตรการในการแกไ้ ขปัญหาและมาตรการในการป้องกนั การบกุ รกุ ทดี่ ินของรัฐ
(๓) กาหนด ติดตาม ดแู ล และตรวจสอบให้หน่วยงานของรัฐ ดาเนินการให้เป็นไปตามนโยบาย
แผนงาน มาตรการในการแก้ไขปญั หาและมาตรการในการปอ้ งกนั การบุกรุกท่ดี ินของรัฐ
(๔) รวบรวมขอ้ มลู เอกสารหลักฐาน และข้อเทจ็ จรงิ เก่ยี วกับการครอบครองที่ดินของบุคคลใด ๆ
ในทีด่ นิ ของรัฐ
(๕) เรียกให้หน่วยงานของรัฐส่งข้อมูลเอกสารหลักฐานและข้อเท็จจริง หรือขอให้ส่งผู้แทน
มาช้แี จงเพื่อประกอบการพจิ ารณาของ กบร. หรือคณะอนุกรรมการ หรอื คณะทางานท่ี กบร. แตง่ ตง้ั
(๖) ให้การสนับสนุนแก่หน่วยงานของรัฐในการดาเนินการแก้ไขปัญหาและป้องกันการบุกรุก
ที่ดนิ ของรัฐในการขอต้ังงบประมาณ และในเร่ืองอ่นื ๆ ตามความเหมาะสม สามารถปฏิบตั ิงานให้สาเร็จลุล่วง
ไปดว้ ยความรวดเร็ว
(๗) แตง่ ตงั้ คณะอนกุ รรมการหรือคณะทางานให้ปฏิบัติงานตามท่มี อบหมาย
(๘) ให้หน่วยงานของรัฐและจังหวัดดาเนินการใด ๆ ที่เก่ียวกับการแก้ไขปัญหาและป้องกัน
การบกุ รกุ ท่ดี นิ ของรฐั ตามทก่ี าหนด
(๙) ดาเนินการหรือปฏิบัตงิ านอนื่ ใดที่เก่ียวกับการแก้ไขปญั หาและป้องกันการบุกรุกท่ีดนิ ของรัฐ
ใหเ้ ป็นไปตามกฎหมาย กฎ คาสง่ั ระเบยี บ ขอ้ บงั คับ และมตคิ ณะรฐั มนตรีทีเ่ กี่ยวขอ้ ง
ขอ้ ๙ ให้สานกั แกไ้ ขปัญหาการบกุ รุกทดี่ ินของรฐั สานักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ
สิ่งแวดล้อม เป็นฝ่ายเลขานุการของ กบร. กับให้มีอานาจหน้าท่ีประสานนโยบายการปฏิบัติระหว่าง
หน่วยงานของรัฐเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาและป้องกันการบกุ รุกที่ดินของรัฐให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ คาส่ัง
ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และตรวจสอบ ติดตาม ประเมินผล และปฏิบัติหน้าท่ีอื่น
ตามที่ กบร. มอบหมาย
ขอ้ ๑๐ การดาเนนิ การแก้ไขปญั หาและป้องกนั การบุกรกุ ทีด่ นิ ของรฐั กอ่ นระเบยี บนใ้ี ช้บงั คับ ให้ถือวา่
เปน็ การดาเนินการตามระเบียบนี้
ขอ้ ๑๑ ให้นายกรฐั มนตรรี ักษาการตามระเบียบน้ี

ประกาศ ณ วนั ท่ี ๒๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๕
(ลงชอื่ ) พนั ตารวจโท ทักษณิ ชินวตั ร
(ทักษิณ ชินวัตร)
นายกรฐั มนตรี

206 ค่มู ือสนบั สนุนการคุ้มครองท่ดี ินของรัฐ คู่มอื สนบั สนุนการคุม้ ครองที่ดินของรฐั 203

คาสง่ั คณะกรรมการแก้ไขปัญหาการบกุ รกุ ท่ีดนิ ของรัฐ
ท่ี ๑/๒๕๕๓

เรอ่ื ง แต่งตั้งคณะอนกุ รรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกทด่ี ินของรฐั
จังหวดั ทกุ จังหวัด (ยกเวน้ กรงุ เทพมหานคร)
______________________

ด้วยคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกทีด่ ินของรัฐ (กบร.) ในการประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๕๒ เม่ือวันท่ี ๖
สิงหาคม ๒๕๕๒ ได้พิจารณาเห็นว่า ในปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนแปลงระบบกฎหมาย การยกฐานะของ
หน่วยงานของรฐั ในราชการส่วนภูมิภาค และมีความจาเป็นในการเพิ่มเติมผู้แทนหน่วยงานท่ีเก่ียวขอ้ ง เพื่อให้
คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ จังหวดั ทุกจังหวัด ดาเนินการแก้ไขปัญหาในพ้ืนที่ให้เป็นไป
โดยถูกต้อง เหมาะสม ด้วยความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ จึงมีมติให้ปรับปรุงแก้ไขคาสั่งคณะกรรมการ
แก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐท่ี ๔-๗๘/๒๕๔๖ ลงวันท่ี ๒๒ มกราคม ๒๕๔๖ เรื่อง แต่งต้ังคณะอนุกรรมการ
แก้ไขปัญหาการบกุ รุกที่ดนิ ของรัฐ จงั หวัดทกุ จังหวัด
อาศัยอานาจตามความในข้อ ๘ (๗) ของระเบียบสานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการแก้ไขปัญหาการบุกรุก
ทีด่ ินของรฐั พ.ศ. ๒๕๔๕ จึงให้ยกเลกิ คาส่ังคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกท่ีดินของรัฐ ท่ี ๔-๗๘/๒๕๔๖
ลงวันที่ ๒๒ มกราคม ๒๕๔๖ เรื่อง แต่งต้งั คณะอนกุ รรมการแก้ไขปัญหาการบกุ รกุ ท่ีดนิ ของรัฐ จงั หวัดทุกจงั หวัด
และให้แต่งต้ังคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ จังหวัดทุกจังหวัดใหม่ เรียกโดยย่อว่า
“กบร. จังหวัด” โดยมอี งคป์ ระกอบและอานาจหนา้ ที่ ดงั นี้
๑. องค์ประกอบ
(๑) ผู้วา่ ราชการจังหวดั ประธานอนุกรรมการ
(๒) อยั การจงั หวดั อนกุ รรมการ
(๓) ธนารกั ษ์พ้ืนที่ อนุกรรมการ
(๔) ปฏิรูปที่ดนิ จงั หวดั อนกุ รรมการ
(๕) ประชาสัมพนั ธ์จังหวดั อนุกรรมการ
(๖) ผูอ้ านวยการสานักงานพัฒนาท่ีดิน อนกุ รรมการ
เขต ๑-๑๒ ทร่ี ับผิดชอบพนื้ ที่
(๗) ผูอ้ านวยการสานักบริหาร อนุกรรมการ
พื้นทีอ่ นรุ กั ษ์ที่ ๑-๑๖ ทรี่ ับผิดชอบพืน้ ที่
(๘) ผู้อานวยการสานักจดั การทรพั ยากร อนกุ รรมการ
ปา่ ไม้ท่ี ๑ - ๑๓ ทรี่ ับผดิ ชอบพน้ื ท่ี

คู่มอื สนบั สนนุ การค้มุ ครองท่ีดินของรฐั 204
คู่มอื สนับสนุนการคมุ้ ครองทีด่ ินของรฐั 207

(๙) นายอาเภอท้องที่ หรอื ปลัดอาเภอ อนุกรรมการ
ผู้เปน็ หวั หน้าประจาก่งิ อาเภอ
(เฉพาะข้อโต้แย้งสิทธิในท่ดี ินของรฐั
ท่อี ยู่ในการดูแลรบั ผิดชอบบรรจอุ ยู่
ในวาระการประชุม)
(๑๐) หวั หนา้ สว่ นราชการประจาจงั หวดั อนุกรรมการ
ทม่ี ีหนา้ ท่ีดแู ลรบั ผิดชอบหรอื หัวหน้าส่วนราชการ
ผู้ใช้ประโยชน์ในทดี่ นิ ของรฐั (เฉพาะข้อโตแ้ ย้งสิทธิ
ในทีด่ นิ ของรฐั ที่อย่ใู นการดูแลหรอื ใช้ประโยชน์
บรรจุอยู่ในวาระการประชุม)
(๑๑) ผู้แทนเลขานุการ กบร. อนุกรรมการ
(๑๒) ปลดั จังหวดั อนกุ รรมการและเลขานกุ าร
(๑๓) หัวหน้าสานักงานจังหวดั อนกุ รรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
(๑๔) เจ้าพนกั งานท่ีดนิ จงั หวัด อนกุ รรมการและผู้ช่วยเลขานกุ าร
(๑๕) ผ้อู านวยการสานกั งาน อนกุ รรมการและผ้ชู ่วยเลขานุการ
ทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจงั หวัด
(๑๖) ข้าราชการในสงั กดั ที่ทาการปกครอง อนุกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
จังหวัดที่ประธาน กบร. จังหวัด
แตง่ ต้งั หน่ึงทา่ น
๒. อานาจหน้าท่ี
(๑) ดาเนินการแก้ไขปัญหาและป้องกันการบุกรุกท่ีดินของรัฐให้เป็นไปตามระเบียบสานัก
นายกรัฐมนตรี วา่ ดว้ ยการแก้ไขปัญหาการบกุ รกุ ทด่ี ินของรฐั พ.ศ. ๒๕๔๕
(๒) กากับ ติดตาม ดูแลการปฏิบัติงานของหน่วยงานของรัฐท่ีดูแลรักษาและใช้ประโยชน์ในท่ีดิน
ของรัฐ ให้เป็นไปตามกฎหมาย คาส่ัง ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เก่ียวข้อง และดาเนินการ
ตามนโยบาย แผนงาน มาตรการแก้ไขปัญหาและปอ้ งกันการบุกรุกท่ดี นิ ของรัฐ ตามที่ กบร. กาหนด
(๓) กาหนดแผนงานประจาปีในการแก้ไขปัญหาหรือป้องกนั การบุกรุกท่ีดนิ ของรัฐ และรายงาน
ให้ กบร. ทราบ ภายในวันที่ ๓๐ มกราคม ของทุกปี
(๔) พิสูจน์สิทธิการครอบครองที่ดินของบุคคลในเขตท่ีดินของรัฐ ตามมาตรการท่ี กบร. กาหนด
ในกรณีทีต่ อ้ งใช้ภาพถ่ายทางอากาศประกอบการพิสูจน์สทิ ธิใหใ้ ชผ้ ลการอ่าน แปล ตคี วามภาพถา่ ยทางอากาศ
ของคณะอนกุ รรมการอา่ นภาพถา่ ยทางอากาศท่ี กบร. แต่งต้ัง
(๕) ตรวจสอบหรือดาเนินการใด ๆ เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการบุกรุกที่ดินของรัฐ
และการออกหนังสอื แสดงสทิ ธิในท่ีดินของรฐั หากพบวา่ ดาเนินการไปโดยไมช่ อบด้วยกฎหมายหรือดาเนินการ
ไปโดยผิดพลาดคลาดเคลื่อน ให้แจ้งหน่วยงานของรัฐท่ีมีอานาจหน้าที่ในการดาเนินงานให้เป็นไปตามกฎหมาย
ระเบียบ และคาส่งั ที่เกยี่ วข้อง
(๖) รวบรวมข้อมูลเอกสารหลักฐานและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการครอบครองที่ดินของบุคคล
ในเขตที่ดินของรัฐ

208 คมู่ ือสนับสนนุ การคุ้มครองทด่ี นิ ของรัฐ คูม่ ือสนับสนนุ การคุม้ ครองท่ีดนิ ของรฐั 205

(๗) เร่งรัดการพิจารณาวินิจฉัยคาขอออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินของบุคคลในเขตท่ีดินของรัฐ
ให้เป็นทยี่ ุตดิ ้วยความรวดเร็ว

(๘) เรียกให้หนว่ ยงานของรัฐส่งข้อมูล เอกสารหลักฐาน ข้อเท็จจริง หรือขอให้ส่งผู้แทนมาช้ีแจง
เพือ่ ประกอบการพิจารณาหรอื เชญิ บุคคลใด ๆ มาให้ความเห็นตอ่ กบร. จังหวดั

(๙) แต่งตั้งคณะทางานหรือเจ้าหน้าที่เพื่อดาเนินการหรือปฏิบัติงานใด ๆ ในการแก้ไขปัญหา
และปอ้ งกนั การบุกรกุ ที่ดนิ ของรัฐ ตามท่ไี ดร้ ับมอบหมาย

(๑๐) ประชาสัมพันธ์ผลการดาเนินงานของ กบร. จังหวดั และเสริมสร้างความเขา้ ใจในการแก้ไข
ปัญหาและปอ้ งกนั การบุกรกุ ทดี่ นิ ของรฐั ในเขตจงั หวัด

(๑๑) ให้จัดการประชุม กบร. จังหวัด เป็นประจาทุกเดือน อย่างน้อยเดือนละ ๑ ครั้ง และเม่ือ
ประชุมเสรจ็ แล้วใหร้ ายงานผลการดาเนนิ งานใหฝ้ า่ ยเลขานกุ าร กบร. ทราบด้วย

(๑๒) รายงานผลการปฏิบัติงานในการแก้ไขและป้องกันปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐให้ กบร. ทราบ
เป็นรายไตรมาส และรายปี สาหรับการรายงานผลเป็นรายปีนั้น ให้รายงานภายในวันที่ ๓๐ มกราคม ของปี
ถดั ไป

(๑๓) ดาเนินการใด ๆ ตามที่ กบร. หรือประธาน กบร. มอบหมาย
ให้ กบร. จังหวัด เบิกจ่ายเบ้ียประชุมตามพระราชกฤษฎีกาเบ้ียประชุมกรรมการ พ.ศ. ๒๕๔๗
และที่แกไ้ ขเพ่ิมเตมิ จากงบประมาณของกระทรวงมหาดไทย โดยใหเ้ บิกจ่ายที่จงั หวดั

ท้งั นี้ ต้ังแต่บัดนี้เป็นต้นไป
สงั่ ณ วนั ที่ ๑๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๓
(ลงช่ือ) พลตรี สนนั่ ขจรประศาสน์
(สน่นั ขจรประศาสน)์
รองนายกรฐั มนตรี
ประธานกรรมการแกไ้ ขปัญหาการบุกรกุ ท่ีดินของรัฐ

คู่มอื สนับสนุนการคุ้มครองท่ีดนิ ของรฐั 206
คมู่ ือสนับสนุนการคมุ้ ครองท่ดี นิ ของรฐั 209

คาส่งั ที่ ๑๕๘/๒๕๐๑
เรื่อง ระเบียบปฏิบตั ใิ นการรังวดั ทาแผนที่และการระวงั แนวเขตท่ดี ิน
อนั เป็นสาธารณสมบตั ิของแผ่นดินสาหรบั พลเมืองใช้ร่วมกันซ่งึ เกิดขึน้ โดยสภาพ
โดยที่ได้พิจารณาเห็นสมควรวางระเบียบปฏิบัติในการรังวัดทาแผนท่ีและการระวังแนวเขต
เกี่ยวกับที่หนอง คลอง บึง บาง หรือที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสาหรับพลเมืองใช้ประโยชน์
ร่วมกัน ซ่ึงเกิดขึ้นโดยสภาพ เฉพาะในบางกรณีท่ีมีปัญหาเก่ียวกับแนวเขตไม่ปรากฏแน่ว่าอยู่ที่ใดให้เป็นการ
เรียบร้อย กระทรวงมหาดไทยจงึ ไดว้ างระเบยี บปฏิบัตไิ ว้ ดังต่อไปน้ี
ข้อ ๑ ถ้าที่ดินที่มีการรังวัดน้ันมีระวางแผนที่สาหรับออกโฉนดที่ดินอยู่แล้ว ให้ช่างแผนท่ียึด
ระวางแผนที่หรือหลักฐานการแผนที่เป็นหลักในการรังวัดตรวจสอบ โดยจัดการคัดหรือจาลองแผนที่ไปให้
ละเอียดด้วยในช้ันต้นให้รังวัดตรวจสอบว่า ที่สาธารณประโยชน์ซ่ึงปรากฏในระวางแผนที่นั้นมีอาณาเขต
กว้างยาวเทา่ ใด แล้วรังวัดตรวจสอบจากสภาพพ้นื ท่ีดินตามท่ีเป็นอยู่วา่ คลาดเคลือ่ นเปลยี่ นแปลงไปจากระวาง
แผนท่ีเพยี งใดประการใดหรือไม่
ข้อ ๒ หากปรากฏว่าสภาพพ้ืนท่ีดินคลาดเคล่ือนเปล่ียนแปลงไปจากระวางแผนที่หรือ
หลักฐานการแผนท่ีเดิม ให้ช่างแผนที่หากหลักฐานเดิมโดยรอบคอบ เป็นต้นว่าหลักหมายเขตที่ดิน
หมุดหลักฐานแผนท่ี ต้นไม้หรือวัตถุพยานอย่างใดอย่างหน่ึง ซึ่งอาจใช้เป็นหลักฐานพยานยืนยันได้ แล้วจึง
รังวัดตรวจสอบว่าอาณาเขตที่สาธารณประโยชน์ท่ีถูกต้องอยู่ท่ีใด คลาดเคลื่อนเปลี่ยนแปลงเพราะเหตุใด
และให้ช้ีแจงเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองหรือผ้มู ีหน้าที่ดูแลรกั ษาคุ้มครองปอ้ งกันทดี่ ินอันเป็นสาธารณสมบตั ิของ
แผ่นดินซง่ึ ไประวังแนวเขตที่ดนิ สาธารณประโยชนท์ ราบและร่วมกันพจิ ารณาเขตท่ีดนิ นั้นต่อไป
ข้อ ๓ ในการพิจารณาว่าอาณาเขตท่ีดินสาธารณประโยชน์ท่ีแท้จริงอยู่ที่ใด ประการใด
ให้พิจารณาจากหลักฐานการรังวัดตรวจสอบตามข้อ ๑ และข้อ ๒ ประกอบกับเอกสารของทางราชการ
เชน่ ทะเบียนทดี่ ินสาธารณประโยชน์แปลงนนั้ ถ้าจาเป็นจะต้องสอบสวนพยานบุคคล กใ็ หเ้ จา้ พนักงานฝา่ ยปกครอง
หรือผู้มีหน้าท่ีดูแลรักษาคุ้มครองป้องกันดาเนินการสอบสวน เสร็จแล้วจึงร่วมกันพิจารณากับช่างแผนที่
เม่ือเจ้าหน้าท่ีทั้งสองฝ่ายพิจารณาร่วมกันเห็นว่า หลักฐานตามที่รังวัดตรวจสอบและสอบสวนเป็นที่เช่ือถือ
และพอจะดาเนนิ การต่อไปได้ กใ็ หช้ แ้ี จงยนื ยนั ไวโ้ ดยละเอียด
ข้อ ๔ ถ้าท่ีดนิ น้ันยังไม่มีระวางแผนที่ที่จะตรวจสอบได้ก็ดี หรือมีระวางแผนที่ท่ีจะตรวจสอบ
ได้แต่คลาดเคล่ือนกับสภาพท่ีดินท่ีเป็นอยู่ก็ดี หรือหาหลักฐานตามข้อ ๒ ไม่ได้ก็ดี ซึ่งเป็นเหตุให้ไม่สามารถ
สอบสวนหาหลกั ฐานท่ีจะยืนยนั ให้ทราบได้ว่าอาณาเขตทด่ี ินสาธารณประโยชน์ท่ีแนน่ อนวา่ อยู่เพียงใด ให้เป็น
หน้าที่ของเจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง หรือผ้มู ีหน้าท่ีดูแลรกั ษาและคุ้มครองป้องกันท่ีดินอันเป็นสาธารณสมบัติ
ของแผ่นดิน หาทางทาความตกลงปรองดองกับผู้มีสิทธิในท่ีดินนั้นเท่าท่ีสามารถจะดาเนินการไปได้เพื่อให้
ประชาชนได้ใชป้ ระโยชนร์ ่วมกนั ตามสมควร

210 ค่มู ือสนบั สนุนการคมุ้ ครองทีด่ นิ ของรฐั คมู่ ือสนบั สนนุ การค้มุ ครองที่ดินของรฐั 207

ข้อ ๕ ในการทาความตกลงปรองดองกับผู้มีสิทธิในที่ดินนั้น ให้เจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง
หรือผูม้ ีหน้าทดี่ ูแลรกั ษาและคุ้มครองท่ีดินอันเป็นสาธารณสมบตั ิของแผน่ ดนิ พิจารณาโดยรอบคอบว่าแนวเขต
ที่สาธารณประโยชน์แปลงนั้น มีความสัมพันธ์ต่อเนื่องกันมากับที่ดินสาธารณประโยชน์ในท่ีดิน
สาธารณประโยชน์แห่งอ่ืนอย่างใด ความจาเป็นของประชาชนท่ีต้องใช้ประโยชน์ในที่ดินสาธารณประโยชน์
แปลงนนั้ มีอยู่อย่างใดและในอนาคตจะมคี วามจาเป็นต้องใชป้ ระโยชน์ร่วมกนั อย่างใด หากเห็นเป็นการสมควร
จะให้มกี ารประชมุ ฟงั ความเหน็ จากประชาชนในบริเวณทีเ่ กยี่ วขอ้ งนั้นด้วยกไ็ ด้ เมอ่ื ได้พิจารณาถงึ ความจาเป็นตา่ ง ๆ
เหล่านี้แล้ว เห็นว่าการตกลงประนีประนอมจะไม่เป็นผลเสียหายและเป็นการเดือดร้อนแก่ประชาชนส่วนรวมแล้ว
ก็ควรดาเนินการทาความตกลงกาหนดอาณาเขตที่ดินสาธารณประโยชน์น้ันไปได้ และถ้าแนวเขตท่ีดิน
สาธารณประโยชน์ต่อเน่อื งกับผู้มสี ิทธิในท่ีดินรายอ่ืน กใ็ ห้ทาความตกลงประนีประนอมกบั ผู้มีสิทธิในที่ดินรายอ่ืน
ตลอดแนวเขตนั้น เพ่ือความเป็นระเบียบเรียบร้อยด้วย แต่ถ้าทาความตกลงกันไม่ได้ หรือการดาเนินงาน
เรื่องน้ันต่อไปจะเป็นผลเสียหากแก่ราษฎรส่วนรวม ก็ให้งดการดาเนินงานในเร่ืองน้ันไว้และรายงานต่อไป
โดยอนุโลมตามความในขอ้ ๗

ข้อ ๖ ในกรณีท่ีช่างแผนที่ได้ไปดาเนินการรังวัดตรวจสอบชั้นต้นแล้ว ถ้าช่างแผนท่ี
ไมส่ ามารถหาหลักฐานที่จะยนื ยันได้ว่าอาณาเขตทด่ี ินสาธารณประโยชน์นัน้ มอี ยู่เพียงใด หรือมีปญั หาเกยี่ วกับ
การรังวดั ตรวจสอบประการใด ให้รายงานให้ผู้บังคับบญั ชาทราบทุกระยะ และให้ผู้บังคับบัญชาพจิ ารณาแกไ้ ข
ปัญหาท่ีเกิดขึ้นนั้นตามสมควรแก่กรณี เช่น จัดช่างแผนท่ีช้ันผู้ใหญ่ไปดาเนินการหรือผู้บังคับบัญชา
ไปดาเนนิ การเอง

ข้อ ๗ ถ้าการพิจารณาร่วมกันระหว่างช่างแผนท่ีกับเจ้าพนักงานผู้ปกครองท้องที่หรือผู้มี
หนา้ ที่ดูแลรักษาและคุ้มครองป้องกันที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินไม่เป็นทต่ี กลง ให้ช่างแผนที่ชี้แจง
ข้อเท็จจริงพร้อมกับส่งหลักฐานต่าง ๆ และเสนอความเห็นไปตามลาดับจนถึงกรมท่ีดินเฉพาะในส่วนภูมิภาค
ให้จังหวดั รวบรวมพจิ ารณาเสนอไปยังกรมทดี่ ินเพ่ือวินิจฉยั ต่อไป

ขอ้ ๘ ให้ยกเลกิ คาสัง่ อน่ื ที่มขี ้อความอย่างเดยี วกับคาสั่งนหี้ รอื ซง่ึ แยง้ หรือขดั ต่อคาสัง่ นี้
ท้ังน้ี ใหเ้ จ้าหนา้ ทถ่ี ือเป็นทางปฏิบัตโิ ดยเคร่งครดั ตั้งแตบ่ ดั น้ีเปน็ ตน้ ไป

ส่ัง ณ วนั ท่ี ๓ มีนาคม ๒๕๐๑
(ลงช่ือ) ท.แรงขา
(นายทวี แรงขา)
รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย

(เวยี นตามหนงั สือกรมท่ีดนิ ท่ี ๑๕๘๑/๒๕๐๑ ลงวันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๐๑)

คมู่ ือสนับสนุนการคุ้มครองท่ีดินของรฐั 208
คมู่ ือสนบั สนนุ การคมุ้ ครองทดี่ นิ ของรฐั 211

คาสงั่ กระทรวงมหาดไทย
ที่ ๑๐๙/๒๕๓๘

เร่อื ง แต่งตงั้ พนักงานเจา้ หน้าทตี่ ามความในมาตรา ๙ แห่งประมวลกฎหมายที่ดนิ
_______________

ตามที่กระทรวงมหาดไทยได้มีคาส่ัง ที่ ๓๕๐/๒๕๓๕ ลงวันท่ี ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๓๕ แต่งต้ัง
พนักงานเจ้าหนา้ ท่ีตามความในมาตรา ๙ แห่งประมวลกฎหมายท่ีดิน นั้น

อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๑๕ แห่งพระราชบัญญตั ิให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดนิ พ.ศ. ๒๔๙๗
และมาตรา ๙ แห่งประมวลกฎหมายท่ีดิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยให้ยกเลิกคาสั่งกระทรวงมหาดไทย
ท่ี ๓๕๐/๒๕๓๕ ลงวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๓๕ และแต่งตั้งให้ผู้ดารงตาแหน่งดังต่อไปนี้ เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่
ตามความในมาตรา ๙ แหง่ ประมวลกฎหมายท่ีดิน คือ

๑. อธิบดีกรมท่ีดินเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่สาหรับการอนุญาตระเบิดและย่อยหิน การขุดตักดินลูกรัง
หรือหินผุ ในบริเวณท่ีเขาหรือภูเขา และปริมณฑลรอบที่เขาหรือภูเขา ๔๐ เมตร ที่รัฐมนตรียังมิได้ประกาศ
กาหนดพื้นทน่ี น้ั ให้เป็นแหลง่ หนิ ปนู หรือดินลกู รงั หรือหนิ ผุเพื่อการก่อสรา้ ง

๒. ผู้ว่าราชการจังหวดั เปน็ พนกั งานเจา้ หน้าทใ่ี นเขตท้องที่จงั หวดั สาหรับการอนุญาตดงั น้ี
(๑) การระเบิดและย่อยหิน การขุดตักดินลูกรังหรือหินผุ ในบริเวณท่ีรัฐมนตรี ได้ประกาศ

กาหนดพ้ืนที่นั้น เป็นแหล่งหินปูนหรือดินลูกรัง หรือหินผุ เพื่อการก่อสร้าง และในพ้ืนที่นอกเขตเขาหรือภูเขา
และปรมิ ณฑลรอบท่เี ขา หรอื ภูเขา ๔๐ เมตร

(๒) การขุดหรือดูดทราย การเก็บหินลอย การทาส่ิงหน่ึงส่ิงใดอันเป็นอันตรายแก่ทรัพยากร
ในที่ดนิ

(๓) การเข้าไปยดึ ถือ ครอบครอง รวมตลอดถึงการก่นสรา้ งหรือเผาป่า
(๔) การตอ่ อายใุ บอนญุ าต กรณที ีอ่ ธบิ ดีกรมทด่ี นิ หรอื ผวู้ ่าราชการจงั หวัดไดอ้ นุญาตไว้

ทงั้ น้ี ตัง้ แต่บัดนีเ้ ป็นต้นไป
ส่ัง ณ วนั ที่ ๑๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๘
(ลงช่ือ) ไพโรจน์ โล่ห์สุนทร
(นายไพโรจน์ โลห์สนุ ทร)
รฐั มนตรีชว่ ยวา่ การฯ ปฏบิ ตั ริ าชการแทน
รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงมหาดไทย

212 คมู่ อื สนับสนนุ การคุ้มครองทดี่ ินของรฐั คูม่ อื สนบั สนุนการคุ้มครองท่ีดินของรฐั 209

คาส่ังกระทรวงมหาดไทย
ท่ี ๕๐๕/๒๕๕๒

เรอ่ื ง มอบหมายใหท้ บวงการเมืองอ่ืนมีอานาจหนา้ ที่ดูแลรักษาและดาเนินการ
คุ้มครองป้องกนั ทดี่ ินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินหรือทรพั ย์สิน
ของแผ่นดินท่ีไม่มกี ฎหมายกาหนดไวเ้ ป็นอย่างอื่น
___________________________

โดยท่ีเป็นการสมควรปรับปรุงคาส่ังกระทรวงมหาดไทย ท่ี ๑๒/๒๕๔๓ ลงวันท่ี ๑๘ มกราคม ๒๕๔๓
เร่ือง มอบหมายให้ทบวงการเมืองอ่ืนมีอานาจหน้าท่ีดูแลรักษาและดาเนินการคุ้มครองป้องกันที่ดินอันเป็น
สาธารณสมบัติของแผ่นดินให้สอดคล้องกับอานาจหน้าท่ีขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติ
กาหนดแผนและข้ันตอนการกระจายอานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน พ.ศ. ๒๕๔๒ เพ่ือให้การดูแลรักษา
และดาเนินการคุ้มครองป้องกันท่ีดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน หรือทรัพย์สินของแผ่นดิน ที่ไม่มีกฎหมาย
กาหนดไวเ้ ป็นอย่างอน่ื เปน็ ไปอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ

อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๘ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย
จึงให้ยกเลิกคาส่ังกระทรวงมหาดไทยดังกล่าวข้างต้น และมีคาสั่งมอบหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน
มีอานาจหน้าทใ่ี นการดูแลรักษาและดาเนินการคุ้มครองปอ้ งกันท่ีดนิ อันเป็นสาธารณสมบตั ิของแผน่ ดินหรอื ทรัพย์สิน
ของแผน่ ดนิ ท่ีไม่มีกฎหมายกาหนดไว้เป็นอยา่ งอื่น ดงั น้ี
(๑) กรงุ เทพมหานคร ภายในเขตกรุงเทพมหานคร
(๒) เมืองพัทยา ภายในเขตเมอื งพัทยา
(๓) เทศบาล ภายในเขตเทศบาล นัน้
(๔) องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบล ภายในเขตองค์การบริหารสว่ นตาบล นัน้

สาหรับองค์การบริหารส่วนจังหวัดอาจสนับสนุน ประสานและให้ความร่วมมือกับองค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่นตาม (๒) (๓) และ (๔) ในการดูแลรักษาและดาเนินการคุ้มครองป้องกันท่ีดินดังกล่าวข้างต้น
รวมท้ังให้ความร่วมมือในการปฏิบัติหน้าท่ี และอาจสนับสนุนงบประมาณแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น
ในการดาเนินงานหรือเข้าไปดาเนนิ การเมอ่ื ได้รับการร้องขอจากองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินนั้น

ทง้ั น้ี ตั้งแตบ่ ัดนี้เป็นต้นไป

ส่ัง ณ วนั ท่ี ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๒

(ลงช่ือ) นายถาวร เสนเนียม
(นายถาวร เสนเนียม)

รัฐมนตรชี ่วยว่าการฯ ปฏิบัตริ าชการแทน
รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงมหาดไทย

คู่มือสนบั สนคมู่ นุ ือกสานรับคสนมุ้ นุ คกราอรคงุ้มทค่ีดรอนิ งขท่ีดอินงขรอัฐงรฐั 2103

ท่ี มท ๐๖๐๔/ว. ๑๙๗ (สาเนา) กระทรวงมหาดไทย

๑๘ เมษายน ๒๕๑๐

เรื่อง การดูแลรกั ษาและดาเนนิ การคมุ้ ครองป้องกันท่ดี ินอันเปน็ สาธารณสมบัตขิ องแผน่ ดนิ

เรียน ผู้ว่าราชการจงั หวัดทกุ จังหวดั

อา้ งถึง หนงั สือกระทรวงมหาดไทย ที่ ๒๗๗๘๒/๒๔๙๗ ลงวันที่ ๑๔ ธนั วาคม ๒๔๙๗

และที่ ๑๓๘๐๒/๒๕๐๓ ลงวนั ที่ ๗ กันยายน ๒๕๐๓

สิ่งท่ีส่งมาดว้ ย ตัวอยา่ งทะเบียนทีส่ าธารณประโยชน์และคาอธบิ ายการใช้

ตามที่กระทรวงมหาดไทยได้ชี้แจงทางปฏิบัติเก่ียวกับการดูแลรักษา และดาเนินการคุ้มครอง
ป้ องกันที่ ดินอันเป็ นสาธารณ สมบั ติของแผ่นดินซึ่งประชาชนใช้ประโยชน์ ร่วมกัน มาให้ จังหวั ด
สั่งเจ้าหน้าทถี่ อื ปฏิบัติและดาเนนิ การจัดทาทะเบียนท่ดี ินสาธารณประโยชน์ให้เรยี บรอ้ ยเป็นหลักฐาน นั้น

บัดนี้ กระทรวงมหาดไทยได้พิจารณาเห็นสมควรปรับปรุงทะเบียนท่ีดินสาธารณประโยชน์
เสียใหม่ ตามแบบตัวอย่างและคาอธิบายการใช้ซึ่งได้ส่งมาพร้อมกับหนังสือน้ี ฉะน้ัน ให้จังหวัดสั่งอาเภอและ
กิ่ งอ าเภ อจั ดท าข้ึ น ๓ ชุ ด เก็ บ รักษ าไว้ที่ ก่ิ งอ าเภ อหรือที่ อาเภ อและที่ จั งห วัดแห่ งละ ๑ ชุ ด
จัดส่งไปยังกรมที่ดิน ๑ ชุด แบบพิมพ์ทะเบียนและแฟ้มปกแข็ง กระทรวงมหาดไทยจะได้จัดพิมพ์ข้ึนต่อไป
จงั หวดั ใดต้องการจานวนเทา่ ใด ขอให้ทาใบเบิกขอเบกิ ไปยังกรมที่ดิน ส่วนการจดั ทาทะเบียนให้ปฏิบัตดิ งั น้ี

๑. ให้ตรวจสอบจากทะเบียนฯ และบัญชีสารวจซึ่งกระทรวงมหาดไทยสั่งให้จัดทาตาม
หนังสือ ท่ี ๒๕๐/๒๔๗๙ ลงวันท่ี ๒๑ ธันวาคม ๒๔๗๙ ท่ี ๒๒๐/๒๔๙๑ ลงวันที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๔๙๑ และ
ที่ ๓๕๓/๒๔๙๒ ลงวันท่ี ๒ กันยายน ๒๔๙๒ แล้วนารายการมากรอกลงในทะเบียนท่ีดินสาธารณประโยชน์
ตามคาสั่งน้ี

๒. ถ้าที่ดินสาธารณประโยชน์แปลงใดมีรายการไม่ครบถ้วน ให้สอบสวนราษฎรตลอดจน
กานันผู้ใหญ่บ้านท่ีทราบเรื่องเกี่ยวกับท่ีดิ นแปลงนั้นดี เพ่ือให้ได้รายการครบถ้วนตามระเบียบ
สว่ นเอกสารการสอบสวนให้เก็บไว้เป็นหลกั ฐานต่อไป

๓. ท่ีดินสาธารณประโยชน์แปลงใดไม่ปรากฏหลักฐานในทะเบียนท่ีดินสาธารณประโยชน์
เดิมหรือบัญชีสารวจดังกล่าวในข้อ ๑ ให้ดาเนินการตามข้อ ๒ แล้วนาข้ึนทะเบียนท่ีดินสาธารณประโยชน์
ตามคาส่ังนี้

๔. ที่สาธารณะประจาตาบลและหมู่บ้านซ่ึงได้จัดหาไว้ตามหนังสือกระทรวงมหาดไทย
ที่ ๔๗๓/๒๔๘๖ ลงวันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๔๘๖ และท่ีดินซึ่งเป็นทางสัญจรไปมา เช่น แม่นา้ ลาคลอง ถนน
ทางเดิน ไม่ตอ้ งจดั ทาทะเบียนตามคาสัง่ นี้

๕. ที่ดินสาธารณประโยชน์แปลงใด เมื่อได้มีการออกหนังสือสาคัญสาหรับท่ีหลวงแล้ว
ให้จังหวดั แจ้งเลขที่ และวัน เดอื น ปี ของหนังสือสาคญั ดังกลา่ ว ไปยังกระทรวงมหาดไทยดว้ ย

214 คมู่ อื สนบั สนนุ การคุม้ ครองท่ดี ินของรัฐ คู่มือสนับสนนุ การคุม้ ครองท่ีดินของรฐั 211

๖. ในกรณี ที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงทะเบียนที่ดินสาธารณ ประโยชน์แปลงใด
ให้ชี้แจงรายละเอียดว่า รายการใดได้แก้ไขเปลี่ยนแปลงอย่างไร ด้วยเหตุผลประการใด ไปยังกระทรวงมหาดไทย
เพ่ือแก้ไขทะเบยี นที่ดินสาธารณประโยชน์ทางส่วนกลางให้ตรงกนั

ฉะนั้น ขอใหจ้ ังหวดั สั่งเจา้ หนา้ ที่ดาเนินการต่อไป

ขอแสดงความนบั ถอื อย่างสูง
(ลงชือ่ ) พ. สุวรรณรัฐ

(นายพว่ ง สุวรรณรัฐ)
รองปลัดกระทรวง รักษาราชการแทน
ปลัดกระทรวงมหาดไทย กรมที่ดนิ

คู่มือสนับสนคมู่ ุนือกสานรับคสนมุ้ ุนคกราอรคงมุ้ ทคีด่รอินงขที่ดอนิ งขรอัฐงรฐั 221125

ที่ มท ๐๔๐๙/ว ๑๓๙๕ (สาเนา) กระทรวงมหาดไทย
ถนนอัษฎางค์ กท ๑๐๒๐๐

๒๕ ตุลาคม ๒๕๒๘

เรื่อง กาหนดมาตรการป้องกนั การบุกรุกท่ีดนิ สาธารณประโยชน์

เรยี น ผู้วา่ ราชการจังหวัดทุกจงั หวดั (เวน้ กรุงเทพมหานคร)

ส่งิ ทสี่ ่งมาด้วย ๑. สาเนาหนงั สอื กระทรวงมหาดไทย ที่ ๒๕๓/๒๔๙๑
ลงวันท่ี ๒๓ สิงหาคม ๒๔๙๑

๒. สาเนาความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎกี า
ลงวนั ท่ี – มถิ ุนายน ๒๔๙๒

๓. สาเนาหนังสอื กระทรวงมหาดไทย ที่ ๑๘๕๐/๒๔๙๙
ลงวนั ที่ ๒๔ มกราคม ๒๔๙๙

๔. สาเนาหนงั สอื กระทรวงมหาดไทย ที่ มท ๐๓๐๙/ว ๗๙๔
ลงวันที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๒๒

๕. สาเนารายงานการประชุมคณะกรรมการจัดทีด่ ิน
แหง่ ชาติ ครัง้ ท่ี ๔/๒๕๒๘ เมื่อวนั ที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๒๘

๖. แบบรายงานฯ จานวน ๔ ชุด

ด้วยสานักงานเลขาธิการคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติแจ้งว่า ในการประชุมคณะกรรมการ
จัดที่ดินแห่งชาติ ครั้งท่ี ๔/๒๕๒๘ เม่ือวันท่ี ๒๒ เมษายน ๒๕๒๘ ที่ประชุมได้พิจารณาเร่ืองการกาหนด
มาตรการการป้องกันการบุกรุกท่ีดินสาธารณประโยชน์ ซ่ึงมติท่ีประชุมดังกล่าวได้กาหนดสาเหตุการบุกรุก
ท่ีดินสาธารณประโยชน์ พร้องทั้งวางแนวทางแก้ไขและมีผลเกี่ยวข้องกับท่ีดินอันเป็นสาธารณสมบัติของ
แผ่นดินสาหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ซึ่งนายอาเภอมีอานาจหน้าที่ดูแลรักษาและคุ้มครองป้องกันตาม
พระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องท่ี พระพุทธศักราช ๒๔๕๗ จึงขอให้จังหวัดและอาเภอดาเนินการแก้ไข
ปญั หาดังกล่าวดงั ต่อไปน้ี คอื

๑. การแกไ้ ขปญั หาการบุกรุกท่ีเกดิ จากทีด่ นิ สาธารณประโยชน์
๑.๑ ให้อาเภอตั้งคณะกรรมการประกอบด้วย ปลัดอาเภอ ที่ดินอาเภอ ป่าไม้อาเภอ
และกานันท้องที่ดาเนินการสอบสวน ตรวจสอบท่ีดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสาหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
จากทะเบียนเดิมให้เป็นปัจจุบัน นอกจากนี้ หากปรากฏท่ีดินแปลงใดเป็นท่ีดินอันเป็นสาธารณสมบัติของ
แผ่นดินสาหรับพลเมืองใช้ร่วมกันจากทะเบียนเดิมให้เป็นปัจจุบัน นอกจากน้ี หากปรากฏท่ีดินแปลงใด
เป็นท่ีดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสาหรับพลเมืองใช้ร่วมกันอยู่แล้ว ซ่ึงอาจเป็นโดยสภาพ เช่น หนองน้า
สาธารณะที่ทาเลเลี้ยงสัตว์ หรืออาจเป็นโดยการใช้ประโยชน์ร่วมกันของพลเมือง เช่น ท่ีป่าช้า หรืออาจเป็น
โดยการสงวนหวงห้ามตามกฎหมาย เช่น การสงวนหวงห้ามที่ดินเพื่อให้พลเมืองใช้ประโยชน์ร่วมกันต้ังแต่
วันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับจะต้องดาเนินการตามมาตรา ๒๐ (๔) หรือเอกชนอุทิศท่ีดินให้ประชาชน
ใชป้ ระโยชน์รว่ มกัน แม้วา่ จะเป็นที่ดินที่มโี ฉนด การอุทิศก็ไม่จาต้องทาเป็นหนงั สือและจดทะเบียนต่อพนักงาน
เจ้าหน้าที่ก็สมบูรณ์ (คาพิพากษาฎีกาที่ ๗๘๒/๒๕๒๓ และ ๘๔๓/๒๕๒๓) และถ้าที่ดินดังกล่าวยังไม่ได้
ออกหนังสือสาคัญสาหรับที่หลวงก็ให้อาเภอดาเนินการขอออกหนังสือสาคัญสาหรับที่หลวงให้แล้วเสร็จ

216 คมู่ ือสนับสนุนการคมุ้ ครองทดี่ นิ ของรฐั คมู่ ือสนับสนนุ การคมุ้ ครองท่ีดนิ ของรฐั 213

โดยเร็ว กรณีท่ีไม่มีการสงวนหวงห้ามให้ถูกต้องตามกฎหมายให้จังหวัดรายงานกรมการปกครอง
เพ่ือเสนอต่อคณะกรรมการจัดท่ีดินแห่งชาติเพ่ือสงวนหรือหวงห้ามไว้ให้ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันตาม
มาตรา ๒๐ (๔) แห่งประมวลกฎหมายท่ีดิน ท้ังนี้ เพื่อดาเนินการออกหนังสือสาคัญสาหรับท่ีหลวงต่อไป
เชน่ กนั

สาหรับการจาหน่ายที่ดินดังกล่าวออกจากทะเบียนเดิมเพราะมีทะเบียน แต่ไม่มีที่ดิน กรณีที่
ผลการตรวจสอบพบว่าไม่มีท่ีดินนั้น ให้นายอาเภอใช้หมึกสีแดงขีดฆ่าข้อความตลอดรายการของท่ีดินแต่ละแปลง
ในต้นฉบับและหมายเหตุไว้ตอนท้ายของทะเบียนเป็นรายแปลงโดยระบวุ ่า “ไม่มีทด่ี ินตามท่ีระบุไว้ในทะเบียนเดิม”
เสร็จแล้วลงลายมือชื่อและระบุชื่อตัวบรรจงตาแหน่งพร้อม วัน เดือน ปี ให้ชัดเจนกรณีไม่มีท่ีดินดังกล่าวไม่
หมายความถงึ ท่ดี นิ ทม่ี อี ย่จู รงิ แต่ถกู บุกรุกเขา้ ครอบครองทาประโยชน์หมดแลว้ หรอื บางส่วน

๑.๒ ให้อาเภอขอความร่วมมือจากข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน และมวลชนในท้องท่ี
ให้ความร่วมมือแก่ราชการเก่ียวกับการขุดคู ทาถนน ปลูกต้นไม้โดยรอบท่ี ดินสาธารณประโยชน์
ซ่ึงอาจจะจัดทาในรูปโครงการท่ีมีงบประมาณของทางราชการสนับสนุนอยู่แล้ว หรือการพัฒนาท้องถ่ิน
ในโอกาสอนั ควร เช่น วนั เฉลิมพระชนมพรรษา วันฉตั รมงคล วันจกั รี เปน็ ต้น หรืออื่น ๆ

๑.๓ อาเภออาจนาท่ีดินสาธารณประโยชน์ใช้เป็นสนามกีฬา หรือสถานท่ีพักผ่อนหย่อนใจ
ตามหนังสือกระทรวงมหาดไทย ท่ี ๑๘๕๐/๒๔๙๙ ลงวันที่ ๒๔ มกราคม ๒๔๙๙ หรืออาจนาไปใช้เป็น
ประโยชน์ในด้านเศรษฐกิจแก่ส่วนรวม เช่น ใช้เป็นแปลงทดลองปลูกพืชชนิดต่าง ๆ ใช้เป็นสถานท่ีกลาง
สาหรับนาสินค้าไปจาหน่าย ใช้เป็นทุ่งปลูกหญ้าเล้ียงสัตว์หรือใช้บางส่วนเป็นแหล่งน้าสาธารณะประจาตาบล
หมู่บ้าน เป็นต้น ตามหนังสือกระทรวงมหาดไทย ที่ มท ๐๓๐๙/ว ๗๙๔ ลงวันท่ี ๒๐ มิถนุ ายน ๒๕๒๒ และกรณี
ท่ีอาเภอจะดาเนินการเช่นน้ันจาเป็นอย่างยิ่งท่ีจะต้องคานึงถึงความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาเมื่อเดือน
มิถุนายน ๒๔๙๒ ซึ่งตอบข้อหารือของกระทรวงมหาดไทย เร่ืองสาธารณสมบัติของแผ่นดินว่าสาธารณสมบัติ
ของแผ่นดินสาหรับทรัพย์สินสาหรับประชาชนใช้ร่วมกันโดยสภาพย่อมเป็นทรัพย์สินท่ีจะใช้หรือจัดการได้
โดยมีขอบเขตจากัด เพราะการใช้และจัดการจะต้องมุ่งรักษาไว้ซึ่งประโยชน์ร่วมกันของประชาชน จะต้องรอนสิทธิ
ของประชาชนได้เฉพาะเป็นกรณีช่ัวคราว หรือบางส่วนบางตอนตามสมควร ทั้งน้ี ต้องแล้วแต่ข้อเท็จจริง
เปน็ เร่ือง ๆ ไป

๒. การแก้ไขปญั หาการบกุ รุกทด่ี นิ สาธารณประโยชน์ท่ีเกิดจากผู้บุกรกุ
๒.๑ ให้นายอาเภอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจความหมายของคาว่า “สาธารณสมบัติ
ของแผ่นดิน” ซึ่งหมายถึงทรัพย์สินของแผ่นดิน ทั้งที่เป็นสังหาริมทรัพย์ หรือ อสังหาริมทรัพย์ ซ่ึงใช้เพื่อ
สาธารณประโยชน์หรือสงวนไว้เพื่อประโยชน์ร่วมกันตามมาตรา ๑๓๐๔ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและ
พาณิชย์ แบง่ ออกเป็นสามประเภทคือ

- ท่ีดินรกร้างว่างเปล่า และท่ีดินซ่ึงมีผู้เวนคืนหรือทอดทิ้ง หรือกลับมาเป็นของแผ่นดิน
โดยประการอน่ื ตามกฎหมายท่ีดิน

- ทรัพย์สนิ สาหรับพลเมืองใชร้ ่วมกนั เปน็ ต้นวา่ ทชี่ ายตล่ิง ทางนา้ ทางหลวง ทะเลสาบ
- ทรพั ย์สนิ ใช้เพ่ือประโยชน์ของแผ่นดนิ เฉพาะ เปน็ ต้นว่า ป้อมและโรงทหาร สานักราชการ
บา้ นเมอื ง เรือรบ อาวุธยทุ ธภัณฑ์
นายอาเภอมีอานาจหน้าท่ีดูแลรักษาและคุ้มครองป้องกันท่ีดินอันเป็นสาธารณสมบัติ
ของแผ่นดินสาหรับพลเมืองใช้ร่วมกันตามมาตรา ๑๒๒ แห่งพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่
พระพุทธศักราช ๒๔๕๗ ทั้งนี้ นายอาเภอมีอานาจหน้าที่เฉพาะกรณีท่ีไม่มีกฎหมายกาหนดให้อานาจหน้าที่
ดังกล่าวเป็นของหน่วยงานหรือผู้ดารงตาแหน่งอื่น เช่น ผู้อานวยการทางหลวง มีอานาจหน้าท่ีดูแลทางหลวง

คู่มือสนับสนนุ การค้มุ ครองที่ดนิ ของรฐั 214
คมู่ อื สนบั สนนุ การคุม้ ครองท่ดี ินของรฐั 217

ประเภทต่าง ๆ ตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับท่ี ๒๙๕ ลงวันท่ี ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๑๕ สุขาภิบาลมี
หน้าที่ดูแลรักษาทางบก ทางน้า ภายในเขตสุขาภิบาล ตามมาตรา ๒๕ แห่งพระราชบัญญัติสุขาภิบาล
พ.ศ. ๒๔๙๕ เทศบาลมีหน้าที่ดูแลรักษาทางบก ทางน้า ภายในเขตเทศบาลตามมาตรา ๕๐ (๒) มาตรา ๕๓ (๑)
แห่งพระราชบัญญัตเิ ทศบาล พ.ศ. ๒๔๙๖ เป็นตน้

๒.๒ ให้อาเภอช้ีแจงให้ประชาชนเห็นความสาคัญของที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติ
ของแผ่นดินสาหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน เป็นต้นว่า การท่ีทางราชการจัดให้มีที่ดินสาธารณประโยชน์สาหรับ
ประชาชนใช้ร่วมกันน้ันเพราะคาดว่าในอนาคตบ้านเมืองเจริญข้ึน จานวนของประชากรก็จะมีเพิ่มมากขึ้น
ตามลาดับ ซ่ึงจาเป็นอย่างยิ่งท่ีจะต้องขยายเมืองออกไป เม่ือถึงเวลานั้นแล้วจะไม่มีท่ีดินสาธารณประโยชน์
สาหรับให้สาธารณชนใช้ประโยชน์ร่วมกันตามหนังสือกระทรวงมหาดไทย ที่ ๒๕๓/๒๔๙๑ ลงวันที่ ๒๓
สิงหาคม ๒๔๙๑

๒.๓ กรณีท่ีมีผู้บุกรุกครอบครองทาประโยชน์โดยมิชอบในท่ีดินอันเป็นสาธารณสมบัติของ
แผ่นดินสาหรับพลเมืองใช้ร่วมกันแล้ว นายอาเภอมีอานาจออกคาส่ังให้ผู้บุกรุกออกจากที่ดินดังกล่าวได้โดย
อาศัยอานาจตามมาตรา ๑๒๒ แห่งพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ฯ หากไม่ยอมออกจากที่ดินก็อาจมี
ความผิดฐานขัดคาส่ังเจ้าพนักงาน (คาพิพากษาฎีกาที่ ๖๖๕/๒๔๙๖) ถ้ามีการทาให้เสียหายทาลายทาให้เสื่อมค่า
หรือทาให้ไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์ท่ีใช้หรือมีไว้เพ่ือสาธารณประโยชน์ อาจมีความผิดฐานทาให้เสียทรัพย์
ตามมาตรา ๓๖๐ แห่งประมวลกฎหมายอาญา

๓. การแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์ กรณีเกิดจากการปฏิบัติงานของ
เจา้ หน้าท่ีผู้ดแู ลรกั ษาและระเบียบ คาสั่ง กฎหมาย

๓.๑ ให้นายอาเภอเอาใจใส่เก่ียวกับการดูแลรักษาที่ดินอันเป็นสาธารณ สมบั ติ
ของแผ่นดินสาหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ตามอานาจหน้าที่ที่มีอยู่ตามมาตรา ๑๒๒ แห่งพระราชบัญญัติ ลักษณะ
ปกครองท้องท่ี พระพุทธศักราช ๒๔๕๗ โดยให้ความสาคัญแก่การป้องกันมากกว่าการแกไ้ ขทันทีก่อนท่ปี ัญหา
จะเพิ่มมากขึ้น ตลอดจนกาชับให้กานันปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ตามมาตรา ๔๐
แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ให้นายอาเภอมอบหมายให้สภาตาบล คณะกรรมการหมู่บ้าน
และผู้ใหญ่บ้าน ช่วยเหลือนายอาเภอและกานันดูแลรักษาท่ีดินสาธารณประโยชน์ด้วย โดยช้ีให้เห็นถึง
ความสาคัญของสาธารณสมบัติของแผ่นดิน และหม่ันประชุม แนะนา กาชับ และส่ังการให้ถือปฏิบัติอย่าง
สม่าเสมอ

๓.๒ อาเภอต้องให้ความสาคัญแก่กรณีที่มีปัญหาข้อพิพาท เร่ืองร้องเรียนหรือข้อขัดแย้ง
เก่ียวกับท่ีดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสาหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน โดยให้ดาเนินการให้ถึงที่สุด
หากไม่สามารถดาเนินการได้ให้รายงานจังหวัดช่วยเหลือ ถ้ายังไม่สามารถดาเนินการได้อีกให้รายงาน
กระทรวงมหาดไทยพิจารณาวินิจฉยั ส่ังการต่อไป

จึงเรียนมาเพื่อขอใหโ้ ปรดดาเนนิ การดังต่อไปนี้
๑. ให้จังหวัดและอาเภอร่วมมือกันแก้ไขปัญหาการบุกรุกท่ีดินตามแนวทางพอสังเขป
ท่กี าหนดไว้ข้างตน้ โดยเคร่งครัด และใหถ้ อื เป็นนโยบายสาคญั ของกระทรวงมหาดไทย
๒. ให้จังหวัดและอาเภอรายงานข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาท่ีดินอันเป็นสาธารณสมบัติ
ของแผน่ ดินสาหรับพลเมอื งใชร้ ว่ มกนั ตามแบบ ทส.๑ ทส.๒ ทส.๓ และ ทส.๔ ซึ่งสง่ มาพร้อมน้โี ดยให้รายงาน
เป็นงวด ๆ ละ ๓ เดือน รวมปีละ ๔ งวด สาหรับอาเภอ ให้ใช้แบบ ทส.๑ ทส.๒ รายงานจังหวัด และจังหวัด

218 คูม่ อื สนับสนุนการค้มุ ครองทด่ี ินของรฐั คู่มอื สนบั สนุนการคุ้มครองท่ีดนิ ของรฐั 215

ใช้แบบ ทส.๓ ทส.๔ รายงานกระทรวงมหาดไทย ภายในวันท่ี ๑๕ ของเดือนมกราคม เมษายน กรกฎาคม
และตุลาคม เป็นประจา สาหรับงวดแรกให้จังหวัดรายงานกระทรวงมหาดไทย ภายในวันท่ี ๑๕ มกราคม
๒๕๒๙

ขอแสดงความนับถอื
(ลงช่ือ) เสน่ห์ วัฑฒนาธร

(นายเสนห่ ์ วฑั ฒนาธร)
รองปลดั กระทรวง ปฏิบตั ิราชการแทน

ปลดั กระทรวงมหาดไทย

กรมการปกครอง
กองปกครองทอ้ งที่
โทร. (๐๒) ๒๒๒๙๘๘๘

ค่มู อื สนบั สนคุนมู่ อืกสานรบั คส้มุนนุคกราอรงคทมุ้ ค่ดี รินองขทอ่ีดงนิ รขัฐองรฐั 221196

ที่ มท ๐๖๐๖/ว ๓๐๗๔๓ (สาเนา) กรมท่ดี ิน
ถนนพระพิพธิ กท ๑๐๒๐๐

๒๒ พฤศจกิ ายน ๒๕๓๙

เรอ่ื ง การรังวัดตรวจสอบท่สี าธารณประโยชนท์ ่ีไม่มหี นงั สอื สาคัญสาหรบั ทีห่ ลวง

เรยี น ผู้วา่ ราชการจังหวดั ทกุ จังหวดั (เว้นกรงุ เทพมหานคร)

ด้วยปรากฏว่ามีผู้บุกรุกที่สาธารณประโยชน์ ที่ไม่มีหนังสือสาคัญสาหรับที่หลวง เช่น
ทางสาธารณประโยชน์ ทางน้าสาธารณประโยชน์ และลารางสาธารณประโยชน์ เม่ือผู้มีอานาจหน้าท่ีดูแล
รักษาได้รับการร้องเรียนก็จะขอให้สานักงานที่ดินจังหวัดหรือสานักงานท่ีดินสาขา ส่งเจ้าหน้าท่ีไปรังวัดสอบเขต
แต่เจ้าหน้าที่ที่ดินจะแจ้งว่าไม่มีอานาจที่จะไปรังวัดสอบเขตตามประมวลกฎหมายท่ีดิน เพราะไม่มีหนังสือ
แสดงสิทธิหรือหนังสือสาคัญสาหรับที่หลวง ทาให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติ ประชาชนท่ีเดือดร้อนจะมีหนังสือ
ร้องเรียนกับจังหวัด สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หรือหน่วยงานอื่น ๆ ซ่ึงหน่วยงานน้ัน ๆ จะขอทราบ
แนวทางปฏิบตั ิจากกรมทีด่ นิ

กรมท่ีดินพิจารณาแล้วเห็นว่า การขอรังวัดสอบเขตที่ดินสาธารณประโยชน์ท่ีไม่ออกหนังสือ
สาคัญสาหรับที่หลวง ไม่มีระเบียบให้ผู้มีหน้าท่ีดูแลรักษาย่ืนขอสอบเขต เม่ือมีราษฎรร้องเรียนว่ามีผู้บุกรุก
หรือออกโฉนดที่ดินทับที่สาธารณประโยชน์ ในทางปฏิบัติให้ผู้มีหน้าท่ีดูแลท่ีดินสาธารณประโยชน์ แจ้งเป็น
หนังสือมายังสานักงานท่ีดินเพ่ือขอความร่วมมือ ให้สานักงานท่ีดินจัดส่งเจ้าหน้าท่ีไปช่วยทาการรังวัด
ตรวจสอบแนวเขตทีด่ ินสาธารณประโยชน์ โดยถอื หนังสอื ขอความร่วมมือเป็นคาขอ และอนุโลมถอื ปฏิบัติตาม
ระเบียบกรมท่ีดิน ว่าด้วยการรังวัดสอบเขต แบ่งแยก และรวมโฉนดท่ีดิน พ.ศ. ๒๕๒๗ หมวด ๑ ข้อ ๕
กับคาส่ังกระทรวงมหาดไทยท่ี ๑๕๘/๒๕๐๑ ลงวันท่ี ๓ มีนาคม ๒๕๐๑ เร่ือง ระเบียบปฏิบัติในการรังวัด
ทาแผนท่ีและการระวังแนวเขตที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสาหรับพลเมืองใช้ประโยชน์ร่วมกัน
ซง่ึ เกิดขึ้นโดยสภาพ เว้นแต่การปักหลักเขตที่ดินให้ใช้หลักไม้ปักแทน ซ่ึงการดาเนินการดังกล่าวผู้มีหน้าที่ดูแล
จะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเช่นเดียวกับการรังวัดสอบเขต แบ่งแยก และรวมโฉนดท่ีดิน และเมื่อดาเนินการ
เสร็จแล้ว จะต้องแจ้งผลการรังวดั ให้ผูม้ ีหน้าท่ดี ูแลรักษาท่ีสาธารณประโยชน์ทราบ เพ่ือดาเนินการตามอานาจ
หนา้ ท่ี

จงึ เรียนมาเพ่ือโปรดทราบ และสั่งให้เจ้าหนา้ ทถี่ ือปฏบิ ตั ติ ่อไป

กองควบคุมแผนท่ี ขอแสดงความนบั ถือ
โทร ๒๒๒๓๑๘๘ (ลงชื่อ) วิเชยี ร รัตนะพรี ะพงศ์
โทรสาร ๒๒๓๐๓๒๖
(นายวิเชยี ร รตั นะพรี ะพงศ์)
อธบิ ดีกรมท่ดี ิน

220 คู่มอื สนับสนนุ การคมุ้ ครองที่ดินของรฐั คู่มือสนับสนุนการคมุ้ ครองที่ดินของรฐั 217

(สาเนา)

ที่ มท ๐๗๑๘/ว ๒๙๕๒๘ กรมท่ีดิน
ถนนพระพิพธิ กท ๑๐๒๐๐

๒๒ กนั ยายน ๒๕๔๐

เร่ือง ซ้อมความเข้าใจเก่ียวกับทางปฏิบัติตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๕ (พ.ศ.๒๕๓๗) ออกตามความ
ในพระราชบญั ญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.๒๔๙๗

เรยี น ผวู้ ่าราชการจังหวัดทกุ จงั หวัด (เว้นกรุเทพมหานคร)

ด้วยในกรณีที่มีผู้คัดค้านการออกหนังสือสาคัญสาหรับที่หลวง และผู้คัดค้านมีหลักฐาน
แสดงสิทธิในที่ดินตามประมวลกฎหมายท่ีดิน กฎกระทรวงฉบับท่ี ๔๕ (พ.ศ.๒๕๓๗) ออกตามความ
ในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ข้อ ๒ (๒) กาหนดให้รอการออกหนังสือสาคัญ
สาหรับที่หลวงเฉพาะส่วนที่คัดค้านไว้ก่อน และให้ผู้ว่าราชการจังหวัดตรวจสอบสิทธิในท่ีดินของผู้คัดค้าน
ว่าได้มาโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ถ้าปรากฏว่าได้มาโดยไม่ชอบ ให้ออกหนังสือสาคัญสาหรับที่หลวงโดย
ไม่ได้กล่าวถึงหลักฐานแสดงสิทธิในท่ีดินท่ีออกไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายไว้ด้วยว่าจะให้ดาเนินการอย่างไร
เป็นเหตุให้เกิดความสับสนในทางปฏิบัติ อีกประการหน่ึงการตรวจสอบดังกล่าวเป็นการกาหนดให้เป็นหน้าท่ี
ของผู้วา่ ราชการจังหวัดท่ีจะตอ้ งดาเนินการหรืออยา่ งไร

กรมท่ดี ินขอเรียนวา่ การท่กี ฎกระทรวงฉบบั ที่ ๔๕ (พ.ศ.๒๕๓๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติ
ใหใ้ ช้ประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ.๒๔๙๗ ข้อ ๒ (๒) บญั ญัตไิ ว้ดงั กลา่ ว กเ็ นือ่ งจากเม่ือความปรากฏวา่ ได้มกี าร
ออกหลักฐานแสดงสิทธใิ นที่ดนิ ไปโดยไม่ชอบดว้ ยกฎหมาย ผู้มีหนา้ ที่และผู้มอี านาจจะต้องดาเนินการเพกิ ถอน
ตามมาตรา ๖๑ แห่งประมวลกฎหมายท่ีดินอยู่แล้ว จึงละไว้ในฐานท่ีเข้าใจไม่ต้องกาหนดไว้ในกฎกระทรวง
ให้เป็นการซ้าซ้อนอีก อีกประการหนึ่งที่ดินแปลงเดียวจะมีเอกสารสาคัญสาหรับท่ีดิน ๒ ประเภท ซ้อนกันอยู่
ในคราวเดียวกันไม่ได้ จึงต้องทาการเพิกถอนหลักฐานแสดงสิทธิในที่ดินออกไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายก่อน
แล้วจงึ ออกหนงั สอื สาคัญสาหรับที่หลวง

ส่วนที่ตามกฎกระทรวงฯ กาหนดให้ผู้ว่าราชการจังหวัดตรวจสอบสิทธิในท่ีดินของผู้คัดค้านนั้น
แม้จะเป็นหน้าที่แต่ผู้ว่าราชการจังหวัดก็สามารถส่ังการให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๗๑ แห่งประมวล
กฎหมายทดี่ ินดาเนินการได้ โดยอนุโลมถือปฏิบัติตามหนังสือกระทรวงมหาดไทย ท่ี มท ๐๗๐๘/ว ๗๐๗ ลงวันที่ ๒๖
มิถนุ ายน ๒๕๓๐

จงึ เรยี นมาเพอื่ โปรดทราบ และสัง่ ให้เจ้าหนา้ ท่ที ราบเพ่ือถือปฏบิ ตั ติ ่อไป

ขอแสดงความนบั ถือ
(ลงช่ือ) วิเชียร รัตนะพีระพงศ์

(นายวิเชยี ร รัตนะพีระพงศ์)
อธิบดกี รมท่ีดนิ

กองสารวจและควบคุมที่ดินของรัฐ
โทร. ๒๒๒๑๘๔๐
โทรสาร ๒๒๒๒๘๕๑

ค่มู อื สนับสนคมู่ ุนอื กสานรับคสนุม้ ุนคกราอรคงมุ้ ทคดี่รอนิ งขท่ีดอนิ งขรอฐั งรฐั 221281

(สาเนา)

ท่ี มท ๐๗๑๙/ว ๓๙๘๑๔ กรมท่ดี ิน

ถนนพระพพิ ิธ กทม. ๑๐๒๐๐

๒๓ ธนั วาคม ๒๕๔๐

เร่ือง การออกหนงั สือแสดงสทิ ธิในทดี่ นิ ในเขตทด่ี ินของรัฐ

เรยี น ผวู้ ่าราชการจังหวัดทกุ จังหวดั

อา้ งถงึ หนงั สอื กรมท่ีดนิ ที่ มท ๐๖๑๙/ว ๐๘๘๑๓ ลงวนั ที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๓๙

ตามที่กรมท่ีดินได้วางทางปฏิบัติเกี่ยวกับการออกหนังสือแสดงสิทธิในท่ีดินในเขตท่ีดินของรัฐ
ตามหนังสือที่อ้างถึง ขณะนี้มีปัญหาเรื่องการออกหนังสือแสดงสิทธิในท่ีดินในเขตพระราชกฤษฎีกาหวงห้ามที่ดิน
พ.ศ. ๒๔๘๑ และพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมกสิกรรม และนิคมนาเกลือในรูปสหกรณ์ พ.ศ. ๒๕๐๐ กรมที่ดิน
จงึ ยกเลิกหนงั สือท่ีอ้างถงึ และให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีถือปฏิบัติใหม่ กรณีการออกหนังสือแสดงสิทธิในท่ีดนิ ในเขต
ทด่ี ินของรฐั ดังตอ่ ไปนี้

๑. กรณีท่ีราษฎรขอออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินของรัฐ เช่น ที่สาธารณประโยชน์
ที่ราชพัสดุ และท่ีดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินทุกประเภท ก่อนจะออกหนังสือแสดงสิทธิในท่ีดิน
ให้จังหวัดนาเร่ืองดังกล่าวเสนอต่อคณะกรรมการประสานการแก้ไขปัญหาการบุกรุกท่ีดินของรัฐ ส่วนจังหวัด
(กปร. ส่วนจังหวัด) พิจารณาตรวจสอบการครอบครองท่ีดินของบุคคลผู้เข้าครอบครองท่ีดินของรัฐ เพ่ือพิสูจน์สิทธิ
ในที่ดินกอ่ น ผลเปน็ ประการใด กใ็ ห้จงั หวัดพิจารณาดาเนินการไปตามอานาจหน้าที่

กรณีท่ีราษฎรขอออกหนงั สือแสดงสิทธิในท่ีดินของรัฐ ในเขตกรุงเทพมหานคร ให้สานักงานที่ดิน
กรุงเทพมหานครสรุปเรื่องเสนอให้กรมที่ดินส่งเร่ืองให้คณะกรรมการประสานการแก้ไขปัญหาการบุกรุกท่ีดิน
ของรัฐส่วนกลาง (กปร. ส่วนกลาง) พิจารณาตรวจสอบการครอบครองท่ีดินของบุคคลผู้เข้าครอบครองที่ดิน
ของรัฐ เพื่อพิสูจนส์ ทิ ธใิ นทดี่ นิ กอ่ นทกุ แปลงเชน่ เดียวกัน ผลการพิจารณาของ กปร. สว่ นกลาง เป็นประการใด
ก็ให้เจ้าพนักงานทด่ี นิ กรุงเทพมหานครพิจารณาดาเนนิ การไปตามอานาจหน้าที่

๒. กรณีที่ได้ออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินให้กับราษฎรไปแล้ว ต่อมาปรากฏข้อเท็จจริง
ในภายหลังว่า ได้ออกทับท่ีดินของรัฐที่กล่าวมาข้างต้น หรือส่วนราชการผู้มีอานาจหน้าท่ีดูแลที่ดินของรัฐ
ร้องขอให้ตรวจสอบก่อนท่ีจังหวัดจะพิจารณาดาเนินการเพิกถอนหรือแก้ไขเอกสารสิทธิน้ัน ๆ จังหวัดควรนาเร่ือง
เสนอต่อคณะกรรมการประสานการแก้ไขปัญหาการบุกรุกท่ีดินของรัฐส่วนจังหวัด (กปร. ส่วนจังหวัด)
พิจารณาใหค้ วามเห็นอีกครง้ั หน่ึง ผลเป็นประการใด กใ็ ห้จังหวัดพจิ ารณาดาเนินการไปตามอานาจหนา้ ท่ี

จึงเรยี นมาเพอื่ โปรดทราบ และสัง่ ให้เจ้าหนา้ ท่ที ราบและถือปฏิบัติตอ่ ไป

กองหนังสือสาคญั ขอแสดงความนบั ถือ
โทร. ๕๐๓๓๙๕๙ (ลงชื่อ) วเิ ชียร รัตนะพรี ะพงศ์

(นายวเิ ชยี ร รตั นะพรี ะพงศ์)
อธิบดีกรมที่ดิน

222 คมู่ อื สนับสนนุ การค้มุ ครองทดี่ นิ ของรัฐ คูม่ ือสนับสนุนการคมุ้ ครองท่ีดินของรฐั 219

(สาเนา)

ที่ มท ๐๗๒๖/ว ๐๗๒๘๒ กรมทด่ี ิน
ถนนพระพพิ ธิ กท ๑๐๒๐๐

๒๐ มีนาคม ๒๕๔๔

เรื่อง ซ้อมความเข้าใจการรังวัดตรวจสอบที่สาธารณประโยชน์ท่ีไมม่ ีหนงั สือสาคญั สาหรับทห่ี ลวง

เรียน ผ้วู า่ ราชการจงั หวัดทุกจงั หวัด

อา้ งถึง หนงั สือกรมทดี่ นิ ที่ มท ๐๖๐๖/ว ๓๐๗๔๓ ลงวนั ที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๓๙

ตามหนังสือท่ีอ้างถึง กรมทด่ี ินได้วางแนวทางปฏิบัติกรณีการรังวัดสอบเขตท่ีดนิ สาธารณประโยชน์
ที่ไม่มีหนังสือสาคัญสาหรบั ที่หลวง โดยให้ผู้มีหน้าท่ีดูแลท่ีดินสาธารณประโยชน์ แจ้งเป็นหนังสือมายังสานักงานท่ีดิน
เพื่อขอความร่วมมือให้สานักงานท่ีดินจัดส่งเจ้าหน้าท่ีไปช่วยทาการรังวดั ตรวจสอบแนวเขตท่ีดินสาธารณประโยชน์
โดยถือหนังสือขอความร่วมมือเปน็ คาขอและอนโุ ลมถือปฏิบัติตามระเบียบกรมท่ีดิน ว่าด้วยการรังวัดสอบเขต
แบ่งแยก และรวมโฉนดท่ีดิน พ.ศ. ๒๕๒๗ หมวด ๑ ข้อ ๕ กับคาสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ ๑๕๘/๒๕๐๑
ลงวันท่ี ๓ มีนาคม ๒๕๐๑ เรื่อง ระเบียบปฏิบัติในการรังวัดทาแผนที่และการระวังแนวเขตที่ดินอันเป็น
สาธารณสมบัติของแผ่นดินสาหรับพลเมืองใช้ประโยชน์ร่วมกันซ่ึงเกิดขึ้นโดยสภาพ เว้นแต่การปักหลักเขตที่ดิน
ใหใ้ ช้หลักไมป้ กั แทน ความละเอียดแจง้ แลว้ น้นั

ปั จ จุ บั น ใน ก า ร ป ฏิ บั ติ ง าน รั ง วั ด ส อ บ เข ต ที่ ดิ น ส า ธ าร ณ ป ร ะ โย ช น์ ที่ ไม่ มี ห นั งสื อ ส า คั ญ
ส า ห รั บ ที่ ห ล ว ง ได้ เกิ ด ปั ญ ห า โ ด ย พ นั ก ง า น เจ้ า ห น้ า ที่ จ ะ อ้ า ง ว่ า ไม่ ส า ม า ร ถ เข้ า ไ ป ใน ท่ี ดิ น ข้ า ง เคี ย ง
ท่ีสาธารณประโยชน์ท่ีมีการรังวัดสอบเขตได้ หากเจ้าของที่ดินข้างเคียงน้ันมิได้ขอรังวัดสอบเขตที่ดินด้วย
ดังน้ัน เมื่อมีการรังวัดที่ดินสาธารณประโยชน์หรือทางสาธารณประโยชน์ที่ไม่มีหนังสือสาคัญสาหรับท่ีหลวง
เพื่อต้องการทราบว่าทด่ี ินแปลงข้างเคียงบุกรุกท่ีดินสาธารณประโยชน์หรือไม่ พนักงานเจ้าหน้าท่ีมักจะบอกให้
เจ้าของที่ดินที่ถูกอ้างว่าเป็นผู้บุกรุกน้ัน ไปขอรังวัดสอบเขตที่ดินด้วย ซึ่งก็เป็นไปไม่ได้ที่ผู้บุกรุกจะไปขอรังวัด
บัดน้ี คณะกรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์ สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้พิจารณาแล้ว เห็นว่า พนักงาน
เจ้าหน้าทใ่ี นการรงั วัดสอบเขตที่ดนิ สาธารณประโยชน์ทีไ่ ม่มีหนังสอื สาคญั สาหรับท่ีหลวงมีอานาจทจ่ี ะเขา้ ไปใน
ท่ีดินข้างเคียง เพื่อประโยชน์ในการรังวัดได้ตามมาตรา ๖๖ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน แม้เจ้าของที่ดิน
ข้างเคยี งน้ันจะมิไดข้ อรังวัดกต็ าม

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ และสั่งเจ้าหน้าท่ถี อื ปฏบิ ตั ติ ่อไป

ขอแสดงความนบั ถือ
(ลงช่อื ) ยงยทุ ธ วชิ ยั ดิษฐ

(นายยงยทุ ธ วชิ ัยดิษฐ)
อธิบดีกรมที่ดิน

สานักบรหิ ารและส่งเสรมิ การรังวดั
โทร. ๒๒๑๔๘๒๑
โทรสาร ๒๒๓๐๓๒๖

คมู่ ือสนับสนคุนู่มกอื สานรบัคสุ้มนคุนรกาอรงคท้มุ คดี่ รนิ อขงทอี่ดงนิ รขฐั องรฐั 222230

(สาเนา)

ด่วนมาก กระทรวงมหาดไทย
ถนนอัษฎางค์ กทม. ๑๐๒๐๐
ท่ี มท ๐๕๑๑.๔/ว ๒๔๓๔

๒๑ กรกฎาคม ๒๕๔๖

เรอ่ื ง การแก้ไขปญั หาการบุกรกุ ท่ีดนิ ของรัฐ

เรยี น ผวู้ ่าราชการจังหวัดทกุ จังหวัด

อ้างถงึ หนงั สอื กระทรวงมหาดไทย ท่ี มท ๐๕๑๑.๒/ว ๗๗๗ ลงวันท่ี ๓ มนี าคม ๒๕๔๖

ตามหนังสือที่อ้างถึง ได้ส่งระเบียบสานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดิน
ของรัฐ พ.ศ. ๒๕๔๕ พร้อมคาส่ังท่ีเกยี่ วขอ้ งมาเพ่ือทราบ และว่าตามระเบียบใหม่น้ีผู้วา่ ราชการจังหวัดจะต้อง
ทาหน้าทีป่ ระธาน กบร. จงั หวัดดว้ ยตนเอง น้ัน

เน่ืองจากรัฐบาลมีนโยบายปราบปรามผู้มีอิทธิพล และได้กาหนดพฤติการณ์ส่วนบุคคลท่ีเข้าข่าย
ผู้มีอิทธิพลไว้ ๑๕ ประเภท มีเร่ืองการบุกรุกที่ดินสาธารณะ และหรือทาลายทรัพยากรธรรมชาติและ
สิ่งแวดล้อมรวมอยู่ด้วย และโดยท่ี กบร. จังหวัด มีอานาจหน้าท่ีแก้ไขและป้องกันการบุกรุกท่ีดินของรัฐ
จงึ มีส่วนสนับสนุนการดาเนินงานตามนโยบายปราบปรามผูม้ ีอิทธิพล ดังน้ัน เพ่ือให้การแกไ้ ขปัญหาการบุกรกุ ที่ดิน
ของรัฐ ได้รับการแก้ไขอย่างเปน็ รูปธรรม มีการดาเนินการอย่างต่อเน่อื ง และเป็นการสนองตอบนโยบายปราบปราม
ผมู้ อี ทิ ธพิ ล จึงขอใหจ้ ังหวดั และ กบร. จงั หวดั ดาเนินการดังนี้

๑. ควบคุม กากับ ติดตาม ดูแล ให้หน่วยงานของรัฐท่ีดูแลหรือใช้ประโยชน์ในท่ีดินของรัฐ
ให้หม่ันตรวจสอบระมัดระวังอย่าให้มีการบุกรุกท่ีดินของรัฐเป็นอันขาด หากมีหรือพบเห็นการบุกรุกที่ดินของรัฐ
ให้ดาเนินการตามกฎหมาย ระเบียบ คาส่ัง มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และดาเนินการตามนโยบาย
แผนงาน มาตรการแก้ไขปัญหา และป้องกันการบุกรุกที่ดินของรัฐตามที่ กบร. กาหนด โดยเคร่งครัด
ถ้าปรากฏว่าการบุกรุกท่ีดินของรัฐดังกล่าวมีเจ้าหน้าท่ีผู้ใดให้การสนับสนุนช่วยเหลือหรือมีส่วนร่วมด้วย
กใ็ หด้ าเนินการทางวนิ ัยและคดอี าญาโดยเดด็ ขาดทุกรายไป

๒. ให้หน่วยงานของรัฐที่ดูแล หรือใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐ หรือดาเนินการเกี่ยวกับการบุกรุกที่ดิน
ของรัฐ สารวจตรวจสอบว่ามีการบุกรุกที่ดินของรัฐอยู่ระหว่างดาเนินการหรือไม่ ถ้ามี มีจานวนกี่เร่ือง
เรื่องใด รายใดบ้าง ค้างดาเนินการอยู่ข้ันตอนใด มีปัญหาอุปสรรคใดท่ีไม่สามารถแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดิน
ของรัฐให้ยุติไปได้ เช่น ไม่ชัดเจนว่าเป็นท่ีสาธารณประโยชน์หรือไม่ หรือไม่ทราบขอบเขตที่แน่นอน ฯลฯ
จากนน้ั ให้หน่วยงานดังกล่าวสรปุ ขอ้ เท็จจริง ความเป็นมาทั้งหมดพรอ้ มความเหน็ เสนอ กบร. จังหวัดพิจารณา
ใหเ้ ปน็ ที่ยุตติ ่อไป

๓. กรณีราษฎรขอออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินของรัฐ ให้จังหวัดนาเร่ืองเสนอ กบร. จังหวัด
พิจารณาก่อนทุกราย ทั้งน้ี ตามนัยหนังสือกรมที่ดิน ท่ี มท ๐๗๑๙/ว ๓๙๘๑๔ ลงวันที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๔๐
ซ่ึงกรมท่ีดินได้เวียนมาให้เจ้าพนักงานท่ีดินถือปฏิบัติแล้ว และหากพบว่าเจ้าหน้าที่ท่ีดินผู้ใดดาเนินการไป
โดยไม่ชอบหรือโดยทุจริต หรือดาเนินการไปโดยผิดพลาดคลาดเคล่ือนให้แจ้งหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าท่ี
เกีย่ วขอ้ งดาเนนิ การให้เป็นไปตามระเบยี บกฎหมายโดยเร็ว

224 คู่มอื สนับสนนุ การคุ้มครองทดี่ นิ ของรัฐ คู่มอื สนับสนุนการคมุ้ ครองท่ีดินของรฐั 221

๔. เพื่อให้การปฏิบัติงานของ กบร. จังหวัด ซึ่งเป็นกลไกสาคัญในการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของ
รฐั ได้เป็นไปอย่างต่อเน่ือง และมีผลงานท่ีเป็นรปู ธรรม จังหวดั ควรจัดใหม้ ีการประชมุ กบร. จงั หวัดเปน็ ประจา
ทุกเดือน อยา่ งนอ้ ยเดือนละ ๑ ครง้ั

จึงเรียนมาเพ่ือทราบและถือปฏบิ ัติ

ขอแสดงความนับถอื
(ลงชือ่ ) เสริมศกั ด์ิ พงษพ์ านิช

(นายเสรมิ ศักด์ิ พงษพ์ านิช)
ปลัดกระทรวงมหาดไทย

กรมท่ีดิน
สานกั จัดการทดี่ ินของรฐั
โทร. ๐ – ๒๒๒๒ – ๑๘๔๐
โทรสาร ๐ – ๒๒๒๒ – ๒๘๕๑
มท. ๕๐๘๐๑-๑๒ ตอ่ ๒๕๔, ๓๗๐

คู่มอื สนับสนุนการคุ้มครองที่ดินของรฐั 222
คู่มือสนับสนุนการค้มุ ครองทดี่ ินของรัฐ 225

(สาเนา)

ท่ี มท ๐๕๑๑.๔/ว ๗๑๘๒ กรมทด่ี ิน
ถนนพระพิพธิ กทม. ๑๐๒๐๐

๑๖ มีนาคม ๒๕๕๒

เรื่อง การออกหนงั สอื สาคัญสาหรบั ทหี่ ลวงในทด่ี ินอันเป็นสาธารณสมบตั ิของแผน่ ดินสาหรบั
พลเมืองใช้ร่วมกนั

เรยี น ผู้ว่าราชการจังหวดั ทุกจงั หวดั

อ้างถึง ๑. หนงั สือกรมท่ีดิน ท่ี มท ๐๖๐๔/ว ๕๖๗๘๔ ลงวันท่ี ๓๐ พฤศจกิ ายน ๒๕๑๖
๒. หนงั สือกรมท่ดี ิน ที่ มท ๐๖๐๗/ว ๒๔๑๖๗ ลงวันท่ี ๔ ธันวาคม ๒๕๒๑

ตามที่กรมที่ดินได้วางแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับอานาจหน้าที่ของนายอาเภอในการดูแลรักษา
ทด่ี ินอนั เป็นสาธารณสมบตั ิของแผ่นดิน และการยื่นแสดงความประสงค์ขอออกหนังสือสาคัญสาหรบั ที่หลวงไว้แล้ว
โดยในการออกหนังสอื สาคัญสาหรับที่หลวงนนั้ มาตรา ๘ ตรี วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายท่ีดินบญั ญัติว่า
แบบ หลักเกณฑ์ และวิธกี ารให้เปน็ ไปตามทกี่ าหนดในกฎกระทรวง ซ่ึงกฎกระทรวงฉบับท่ี ๒๖ (พ.ศ. ๒๕๑๖)
ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ข้อ ๑ กาหนดให้ทบวงการเมือง
ผู้มีอานาจหน้าที่ดูแลรักษาเป็นผู้แสดงความประสงค์ในการขอออกหนังสือสาคัญสาหรับท่ีหลวงต่ออธิบดี
และในกรณีที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสาหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน กระทรวงมหาดไทยในฐานะ
ท่ีเป็นทบวงการเมืองผู้มีอานาจหน้าที่ดูแลรักษา ได้มีคาสั่ง ท่ี ๙๔๘/๒๕๑๖ ลงวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๑๖
มอบหมายให้นายอาเภอท้องที่ท่ีที่ดินต้ังอยู่เป็นผู้ดาเนินการแทน ดังนั้น ในการดาเนินการขอออกหนังสือ
สาคญั สาหรับทหี่ ลวงที่ดินอนั เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสาหรับพลเมอื งใช้รว่ มกัน นายอาเภอจงึ เป็นผ้ยู ื่น
คาขอ (แสดงความประสงค์แทนกระทรวงมหาดไทยซ่ึงเป็นทบวงการเมืองผู้มีอานาจหน้าที่ดูแลรักษา) ตลอดมา
อันเปน็ การสอดคล้องกบั พระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พระพุทธศกั ราช ๒๔๕๗ ความละเอยี ดแจ้งแลว้ นน้ั

เนื่องจากปัจจุบันพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ (ฉบับท่ี ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑
มาตรา ๑๓ บัญญัติให้ยกเลิกความในมาตรา ๑๒๒ แห่งพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องท่ี
พระพุทธศักราช ๒๔๕๗ และให้ใช้ความใหม่แทนแล้วโดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันท่ี ๖ เมษายน ๒๕๕๑ เป็นต้นมา
ซึ่งความใหม่ในมาตรา ๑๒๒ วรรคหนึ่ง บัญญัติให้นายอาเภอมีหน้าที่ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ในการดูแลรักษาและคุ้มครองป้องกันท่ีดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน
และสง่ิ ซึ่งเปน็ สาธารณประโยชน์อืน่ อนั อยูใ่ นเขตอาเภอ

กรมท่ีดินพิจารณาแล้วเห็นว่า จากการแก้ไขบทบัญญัติตามความในมาตรา ๑๒๒ แห่ง
พระราชบัญ ญั ติลักษณ ะปกครองท้ องท่ี พระพุทธศักราช ๒ ๔ ๕ ๗ เป็นผลให้องค์กรปกครอง
ส่วน ท้ องถ่ิน มีอาน าจห น้ าท่ี ดูแลรักษ าที่ ดิน อัน เป็ น สาธา รณ สมบั ติของแผ่น ดิ น ท่ี ป ระช าช น
ใช้ประโยชน์ร่วมกันตามพระราชบัญญัติดังกล่าว ดังน้ัน ในการออกหนังสือสาคัญสาหรับท่ีหลวง นอกจาก
นายอาเภอจะเป็นผู้แสดงความประสงค์แทนกระทรวงมหาดไทยแล้ว องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินที่มีสถานะ
เป็น “ทบวงการเมือง” ตามคานิยามในมาตรา ๑ แห่งประมวลกฎหมายท่ีดิน ก็สามารถแสดงความประสงค์
ขอออกหนังสือสาคัญสาหรับท่ีหลวงได้เช่นเดียวกัน สาหรับการดาเนินการเก่ียวกับการออกหนังสือสาคัญ

226 คมู่ อื สนับสนุนการคมุ้ ครองท่ดี ินของรัฐ ค่มู อื สนับสนุนการคุ้มครองที่ดินของรฐั 223

สาหรับที่หลวง รวมทั้งการดูแลรักษาและคุ้มครองป้องกันท่ีดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินน้ัน
นายอาเภอยังคงมีหน้าที่รว่ มกับองค์กรปกครองส่วนท้องถนิ่ ในการดาเนินการดงั กล่าวตามกฎหมาย

จึงเรยี นมาเพ่อื โปรดทราบ และแจ้งให้เจ้าหน้าทที่ ี่เกยี่ วขอ้ งทราบและถอื ปฏบิ ัติต่อไป
ขอแสดงความนบั ถือ

(ลงชือ่ ) อนวุ ัฒน์ เมธีวิบลู วฒุ ิ
(นายอนุวฒั น์ เมธีวิบลู วุฒิ)
อธบิ ดกี รมที่ดิน

สานกั จัดการทีด่ ินของรฐั
โทร./โทรสาร ๐ ๒๒๒๒๑๘๔๐

ค่มู อื สนบั สนคมู่ นุ ือกสานรบั คสนมุ้ นุ คกราอรคงมุ้ ทคีด่รอินงขที่ดอนิ งขรอัฐงรฐั 222247

แบบตรวจสอบเรื่องร้องเรียนเกยี่ วกบั ทีส่ าธารณประโยชน์/ทีร่ าชพสั ดุ
ช่ือผู้ร้อง...........................................................................................................................................
ชื่อทสี่ าธารณประโยชน/์ ท่รี าชพสั ดุ.................................................................................................
ตง้ั อยทู่ ีต่ าบล.....................................อาเภอ..................................จังหวดั ......................................
ลาดบั รายการตรวจสอบ

ที่

1 สถานะของทด่ี นิ
1.1 ( ) กรณีเปน็ ทส่ี าธารณประโยชน์
( ) โดยการสงวนหวงห้ามกอ่ นการใช้ พ.ร.บ. ว่าด้วยการหวงห้ามทดี่ ิน
รกรา้ งว่างเปล่าอันเป็นสาธารณสมบตั ขิ องแผน่ ดนิ พ.ศ. 2478
( ) โดย พรฎ. ซงึ่ ออกตาม พระราชบัญญัติ ว่าด้วยการหวงหา้ มฯ พ.ศ. 2478
( ) โดยสภาพการใชป้ ระโยชน์ร่วมกันตัง้ แต่.................................
( ) โดยประการอ่นื ๆ เชน่ โดยการอทุ ิศ
( ) โดยการสงวนหวงห้ามตามมาตรา 20 (4) ประมวลกฎหมายท่ีดนิ
( ) อน่ื ๆ (ระบ)ุ ..........................................................................
1.2 ( ) กรณเี ปน็ ทร่ี าชพสั ดุ
( ) เป็นทรพั ยส์ ินของแผ่นดินธรรมดา
( ) เป็นทรัพย์สนิ ทีใ่ ชเ้ พ่อื ประโยชนข์ องแผน่ ดนิ โดยเฉพาะ
( ) โดยการสงวนหวงห้ามตามมาตรา 20 (4) ประมวลกฎหมายท่ีดิน
คณะกรรมการจัดท่ดี นิ
( ) อนื่ ๆ (ระบ)ุ ..........................................................................

2 กรณีท่ีข้อเท็จจริงยังไม่ยุติ ว่าเป็นท่ีสาธารณประโยชน์หรือไม่ และมีอาณาเขต
แค่ไหน เพยี งใด
( ) ต้ังคณะกรรมการสอบสวนตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วย
ก าร ส อ บ ส ว น เก่ี ย ว กั บ ก า ร บุ ก รุ ก ท่ี ห รื อ ท า งส า ธ าร ณ ป ร ะ โย ช น์
พ.ศ. 2539
( ) รังวดั ทาแผนท่ี/รงั วัดเพื่อออกหนังสอื สาคัญสาหรับท่ีหลวง
( ) องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถ่ินใหค้ วามเห็น
( ) อาเภอ/จงั หวดั ให้ความเหน็
( ) กบร. จงั หวัดพิจารณา
( ) อนื่ ๆ (ระบ)ุ ..........................................................................

3 กรณีท่ีมีปัญหาเกี่ยวกับสถานะของที่ดิน ว่าเป็นท่ีดินประเภทใด เช่น ท่ีสาธารณประโยชน์
หรอื ที่ราชพัสดุ
( ) ให้ส่วนราชการทีม่ หี น้าท่ีดูแลร่วมกนั พิจารณา
( ) สง่ ให้ กบร. จังหวัดพจิ ารณา
( ) อนื่ ๆ (ระบุ)..........................................................................

228 คมู่ อื สนบั สนนุ การคุ้มครองท่ีดนิ ของรฐั คมู่ อื สนับสนุนการค้มุ ครองที่ดนิ ของรฐั 225

ลาดับ รายการตรวจสอบ

ท่ี

4 จากข้อ 2 กรณที ่ีมกี ารรังวดั เพ่ือออกหนงั สือสาคัญสาหรับท่ีหลวง
( ) ย่ืนคาขอ/นัดทาการรังวัด,ออกหมายข้างเคียง,วางเงนิ ค่ามดั จารังวดั
( ) นาชเ้ี ขต
( ) มผี คู้ ดั ค้านช้ันรังวดั /ไม่มี
( ) รังวดั แสดงเขตท่ีมีผู้คดั ค้านชั้นรงั วดั
( ) ประกาศหนงั สอื สาคัญสาหรับทหี่ ลวง
( ) มีผู้คดั ค้านชนั้ ประกาศ/ไมม่ ี
( ) รังวัดแสดงเขตทม่ี ีผู้คดั คา้ นช้ันประกาศ
( ) ผูค้ ัดคา้ นมีหลกั ฐานแสดงสทิ ธใิ นท่ดี นิ /ไม่มี
( ) ไมม่ ีหลักฐาน ใช้สิทธิทางศาล ปฏบิ ัตติ ามกฎกระทรวง
ฉบบั ที่ 45 วรรค 2 (1)
( ) มีหลักฐาน สอบสวนสิทธิ ปฏิบัตติ ามกฎกระทรวง
ฉบับที่ 45 วรรค 2 (2)
( ) ออก นสล. ส่วนทไ่ี ม่มีผูค้ ัดค้านไปกอ่ น
( ) พิสจู น์สทิ ธิตามระเบยี บ กบร.
( ) อา่ นแปลภาพถ่ายทางอากาศ
( ) กบร. มีมติ
( ) หนว่ ยงานของรฐั เหน็ ด้วยกบั มติ กบร./ไมเ่ หน็ ด้วย
( ) เห็นด้วย ใหแ้ จ้งเจา้ พนกั งานท่ีดินจังหวดั ดาเนินการ
ตามระเบียบและกฎหมาย
( ) ไมเ่ ห็นดว้ ย ใหพ้ จิ ารณาดาเนนิ การตามอานาจหนา้ ที่
( ) กรณีรังวดั ได้เน้อื ทนี่ อ้ ยกว่าเดิม
( ) มคี วามเหน็ ของสภาตาบลหรือองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน/ไมม่ ี
( ) ออกหนังสือสาคัญสาหรบั ท่ีหลวง
( ) อ่ืน ๆ (ระบุ)............................................................................

5 กรณที ีม่ ีการรงั วดั ตรวจสอบแนวเขต นสล.
( ) ยนื่ คาขอ
( ) นดั รงั วดั
( ) รังวดั ไดร้ ูปแผนที่ เน้ือท่ี เท่าเดมิ
( ) รปู แผนที/่ เนอ้ื ที่ เปลย่ี นแปลงไปจากเดิม
( ) ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั ซ่งึ ได้รับมอบหมายจากอธิบดีสั่งแก้ไขรปู แผนที/่
เนอ้ื ทตี่ ามระเบียบกรมที่ดิน ว่าด้วยการเพิกถอนหรือแก้ไข นสล.
พ.ศ. 2529
( ) กรณีมีผู้คัดค้านการรังวัดตรวจสอบแนวเขต ให้พนักงานเจ้าหน้าท่ี
สงั่ การไปตามอานาจหน้าที่ ผูค้ ดั ค้านสามารถอทุ ธรณค์ าสง่ั ได้

คูม่ ือสนับสนุนการคคุ้มู่มคือรสนอับงสทน่ดี นุ ินกาขรอคมุ้งครรฐั องที่ด2ิน2ข9องรฐั 226
ลาดบั รายการตรวจสอบ

ที่

( ) กรณที ี่หนว่ ยงานราชการคัดค้าน ให้เสนอปลดั กระทรวงมหาดไทย
ส่ังการ

( ) อนื่ ๆ (ระบุ)..................................................................
6 มีการฟ้องรอ้ งดาเนนิ คดี

( ) มี
( ) ไม่มี
7 มปี ัญหาข้อขัดขอ้ งอื่น ๆ..............................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………

230 คู่มอื สนบั สนุนการคุ้มครองทีด่ ินของรฐั คู่มอื สนับสนุนการคุ้มครองที่ดินของรฐั 227

บนั ทกึ รายงาน
ผลการสารวจแนวเขตทด่ี ินสาธารณประโยชน์ทุ่งเขาพระ

อาเภอหนองบัว จงั หวัดนครสวรรค์
__________________

ตามท่ี ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ได้มีคาสั่ง ท่ี ๒๐/๒๕๒๖ ลงวันท่ี ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๖
และคาสั่ง ท่ี ๑๐๕/๒๕๒๖ ลงวันท่ี ๑๐ มิถุนายน ๒๕๒๖ แต่งต้ังคณะกรรมการพิจารณาปัญหาพิพาท
ในที่ดินสาธารณประโยชน์ทุ่งเขาพระ อาเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ โดยกาหนดให้คณะกรรมการ
มี อาน าจ ห น้ าที่ ด าเนิ น ก าร ส ารว จ แ น ว เขต ท่ี แ น่ น อน ข องที่ ส าธ าร ณ ป ร ะโย ช น์ แ ป ล งนี้ แ ล ะท าก าร รั งวั ด
ออกหนังสือสาคัญสาหรับท่ีหลวงแห่งนี้ให้เสร็จสิ้นไปโดยเร็ว รวมท้ังดาเนินการสอบสวนการเข้ามาอยู่อาศัย
ของราษฎรในที่สาธารณะแปลงน้ี ถ้าปรากฏว่าราษฎรได้มาอาศัยอยู่ก่อนหรือได้เข้ามาอยู่อาศัยโดยสืบเน่ือง
กนั มากอ่ น พ.ศ. ๒๔๙๒ ก็ให้กนั ที่ดนิ ส่วนท่ีเป็นของราษฎรนั้นออกจากท่สี าธารณะ น้ัน

บดั น้ี คณะกรรมการได้พจิ ารณาดาเนนิ การตามคาสง่ั แล้ว ขอรายงานผลดงั น้ี
ในการดาเนินการได้กาหนดแบ่งแนวทางการทางานออกเป็น ๓ ข้ันตอน คือ ในขั้นตอนท่ี ๑
เป็ น ก ารด าเนิ น การพิ จารณ าก าห น ด แ น วเขต ท่ี สาธ ารณ สม บั ติ ขอ งแผ่ น ดิ น ส าห รับ รา ษ ฎ ร
ใช้ประโยชน์ร่วมกัน ทุ่งเล้ียงสัตว์ “ทุ่งเขาพระ” ท่ีแน่นอน และดาเนินการรังวัดจัดทาแผนผังแสดง
แนวเขตในขั้นตอนท่ี ๒ ดาเนินการตรวจสอบบริเวณเน้ือท่ีในทุ่งเล้ียงสัตว์ ทุ่งเขาพระ ท่ีราษฎร
เข้าถือครอง รวมทั้งบริเวณท่ีดินส่วนที่ทางราชการได้มีการออกหนังสือสาคัญไปแล้ว เพ่ือให้ได้ข้อเท็จจริงว่า
การออกหนังสือสาคัญสาหรับท่ีดินในบริเวณทุ่งเลี้ยงสัตว์ให้แก่เอกชนไปน้ันในแต่ละรายได้กระทาไปโดย
ถูกต้อง เพียงใด และมีผู้ใดหรือไม่ที่ได้เข้าถือครองอยู่ก่อนนาที่ดินแปลงนี้ข้ึนทะเบียนท่ีสาธารณประโยชน์
เพื่อจะได้ดาเนินการกันท่ีดินดังกล่าวออกจากเขตทุ่งเล้ียงสัตว์ ตามนัยคาสั่งสานักนายกรัฐมนตรี ท่ี ๑๐๕/
๒๕๒๖ ลงวันท่ี ๑๐ มิถุนายน ๒๕๒๖ และในข้ันตอนท่ี ๓ จะนาท่ีดินดังกล่าวขอออกหนังสือสาคัญสาหรับท่ีหลวง
ตามมาตรา ๘ ตรี แห่งประมวลกฎหมายที่ดินต่อไป
การดาเนินการในข้นั ตอนท่ี ๑
ข้อเท็จจริง จากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ เอกสารหลักฐาน และบุคคลที่เก่ียวข้อง
ขอ้ เท็จจรงิ ไดค้ วามวา่
๑. ที่ดินบริเวณทุ่งเขาพระน้ี เดิมเป็นบริเวณท่ีดินอยู่ในเขตปกครองของอาเภอชุมแสง
จังหวัดนครสวรรค์ เป็นท่ีดินที่ราษฎรในเขตหลายท้องที่ได้ใช้เป็นทุ่งเลี้ยงสัตว์มาเป็นเวลานาน โดยไม่มี
หลักฐานยืนยันได้แน่นอนว่า เร่ิมใช้เป็นทุ่งเลี้ยงสัตว์มาต้ังแต่เมื่อใด คงมีแต่ถ้อยคาของกานันแหวน บุญนาง
นายสนิท รอดบารุง ซึ่งดารงตาแหน่งท่ีดินอาเภอ (ปี ๒๔๙๘-๒๕๑๑) นายประเทือง จาเนียรผล
อดีตปลัดอาเภอหนองบัว และนายเชิญ นวลละออง อดีตกานันหนองบัว (ปี ๒๔๘๗ – ๒๕๐๓) ยืนยันว่า
เป็นทุง่ เล้ียงสตั ว์มากว่า ๕๐ ปี ก่อนทจ่ี ะมกี ารนาขนึ้ ทะเบียนทส่ี าธารณประโยชน์ เมอ่ื พ.ศ. ๒๔๙๒
๒. เมื่อวันที่ ๑ มกราคม ๒๔๙๑ ได้มีประกาศกระทรวงมหาดไทย ยกฐานะตาบลหนองบัว
อาเภอชุมแสง ข้ึนเป็น “กิ่งอาเภอหนองบัว” (๑) อยู่ในความปกครองของอาเภอชุมแสงเขตที่ดินบริเวณ
ทุ่งเลี้ยงสัตว์แปลงนี้จึงมาขึ้นอยู่ในเขตปกครองของกิ่งอาเภอหนองบัว อาเภอชุมแสง และต่อมาเม่ือ
พ.ศ. ๒๔๙๙ จึงได้ยกฐานะกิ่งอาเภอหนองบัวขึ้นเป็นอาเภอหนองบัว พื้นท่ีเขตท่ีดินสาธารณสมบัติของ
แผน่ ดนิ ทุ่งเขาพระจึงขน้ึ อยใู่ นเขตปกครองของอาเภอหนองบัว
________________________________________________________________________

(๑) มเี ขตการปกครอง ๓ ตาบล คือ ตาบลหนองบวั ตาบลห้วยร่วม และตาบลหว้ ยใหญ่

คูม่ อื สนบั สนนุ การคุ้มครองท่ีดินของรฐั 228
คู่มอื สนบั สนนุ การคุ้มครองทด่ี นิ ของรฐั 231

๓. เม่ือปี พ.ศ. ๒๔๙๒ กระทรวงมหาดไทยได้มีหนังสือกระทรวงมหาดไทย ที่ ๓๕๓/๒๔๙๒
ลงวันท่ี ๒ กันยายน ๒๔๙๒ สั่งให้ทุกท้องท่ีนาท่ีดินท่ีมีสภาพเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินทุกแปลง
ข้ึนทะเบียนจัดทาบัญชีไว้เพ่ือประโยชน์แก่การตรวจสอบและรักษาท่ีหลวง อาเภอชุมแสง จึงได้นาท่ีสาธารณสมบัติ
ของแผ่นดินทุ่งเล้ียงสัตว์เขาพระ ส่วนท่ีอยู่ในเขตท้องท่ีตาบลหนองบัว กิ่งอาเภอหนองบัว ข้ึนทะเบียน
ท่ีสาธารณประโยชน์ไว้ เม่ือวันท่ี ๑๐ ตุลาคม ๒๔๙๒ จากการตรวจสอบหลักฐานจากอาเภอหนองบัว
และจังหวัดนครสวรรค์ ไม่อาจหาหลักฐานตน้ ฉบบั เดิมท่ีไดข้ ึ้นทะเบียนไว้เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๒ คงปรากฏแต่เพียง
สาเนาทะเบียนทด่ี ินสาธารณประโยชน์ของตาบลหนองบวั อาเภอหนองบัว จงั หวดั นครสวรรค์ ที่สาเนามาจาก
ทะเบียนฉบับเดิม โดยมีนายสืบศักด์ิ สุขไทย ลงนามเป็นผู้สารวจลงทะเบียน และมีนายอรุณ วิไลรัตน์
นายอาเภอหนองบัว (เมษายน ๒๕๐๒ - กรกฎาคม ๒๕๐๘ (๒)) เป็นผู้ลงนามรับรองสาเนาถูกต้อง และอีกฉบับหนึ่ง
ซงึ่ ได้จดแจ้งสารวจลงทะเบยี นเมือ่ วนั ท่ี ๒๗ มถิ ุนายน ๒๕๑๕ โดยระบุว่า นายทวีป โอชารส ได้คัดลอกมาจาก
ทะเบียนเดิม เลขที่ ๑ ข้ึนทะเบียนไว้เมื่อวันท่ี ๑๐ ตุลาคม ๒๔๙๒ (๓) ซ่ึงสาเนาทะเบียนดังกล่าวทั้ง 2 ฉบับ
ไดร้ ะบุอาณาเขตของท่ีดนิ ไวว้ ่า
ทศิ เหนอื จดหนองบวั ยาว ๑๐๐ เส้น
ทศิ ใต้ จดคลองเสมา ยาว ๑๐๐ เส้น
ทิศตะวันออก จดเขาสงู ยาว ๒๐๐ เสน้
ทศิ ตะวันตก จดหนองคอก หนองแขวนปลอก ยาว ๒๐๐ เสน้
ฉบับคัดลอกฉบับท่ี ๑ เป็นสาเนาทะเบียนฉบับที่คัดลอกจากทะเบียนต้นฉบับท่ีได้
ขนึ้ ทะเบียนไว้คร้ังแรกที่อาเภอชุมแสง เนอ่ื งจากกงิ่ อาเภอหนองบัวแยกการปกครองออกมาจากอาเภอชุมแสง
และการคดั ลอกครงั้ ที่ ๒ กระทาเพราะเหตกุ ระทรวงมหาดไทยเปลย่ี นแบบทะเบยี นท่ดี ินสาธารณประโยชน์ (๔)
๔. จังหวัดนครสวรรค์ได้เคยดาเนินการรังวัดกาหนดเขตท่ีดินสาธารณะทุ่งเขาพระแปลงน้ี
เพอ่ื ออกหนงั สอื สาคัญสาหรบั ทหี่ ลวงแลว้ ๒ คราว ดงั นี้
๔.๑ การรังวัดเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๑ เพ่ือกาหนดรูปแผนที่ออกหนังสือสาคัญสาหรับที่หลวง
โดยมีนายสนิท รอดบารุง พนักงานท่ีดินอาเภอหนองบัวเป็นเจ้าหน้าท่ีนารังวัด ร่วมกับกานันแหวน บุญนาง
ในการรังวัดคร้ังน้ัน ทางด้านทิศเหนือ ได้รังวัดโดยยึดเอาทางน้าธรรมชาติที่ช่ือว่า“ร่องเอ้ือง” เป็นสุดเขต
ส่วนทางด้านทิศใต้ มิได้นารังวัดจดคลองเสมาตามท่ีระบุไว้ในทะเบียนได้รังวัดโดยถือเอาทางสาธารณประโยชน์
สายหนองบัว - บ้านหนองไผ่ เป็นสุดเขตทางทิศใต้ (โดยอ้างว่าบริเวณท่ีดินระหว่างทางสาธารณประโยชน์
สายหนองบัว - บ้านหนองไผ่ กับคลองเสมาน้ัน มีสภาพเป็นที่นาซ่ึงราษฎรได้เข้าทาประโยชน์เต็มเน้ือที่แล้ว)
ด้านทิศตะวันออก (ซ่ึงทะเบียนระบุจดเขาสูง) ได้รังวัดโดยยึดเอาทางสาธารณประโยชน์และท่ีป่า เป็นสุดเขต
ได้มีการปักเขตท่ีสาธารณประโยชน์ตามที่นารังวัดไว้น้ัน และได้นารูปแผนที่ปิดประกาศรอผู้คัดค้านจึงได้มี
ผู้ร้องเรียนหลายรายคัดค้านการรังวัดท่ีดินทางด้านทิศเหนือ โดยอ้างว่ารังวัดทับท่ีดินของตนในจานวน
ผรู้ อ้ งเรยี นดงั กลา่ ว ไดม้ ีนายพิมพ์ เหมอื นศรี บิดาของ น.ส.พรพศิ เหมอื นศรี (ผู้ยื่นคาร้องเรียนตอ่ นายกรฐั มนตรี
________________________________________________________________________
(๒) นายอรณุ วไิ ลรัตน์ ดารงตาแหนง่ นายอาเภอหนองบัว ระหวา่ ง เมษายน ๒๕๐๒ – กรกฎาคม ๒๕๐๘
(๓) นายสนิท รอดบารุง ได้บันทึกถ้อยคาให้ไว้ต่อคณะกรรมการพิจารณาปัญหาพิพาทในท่ีดินสาธารณประโยชน์
ทุ่งเขาพระ เม่ือวันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๒๖ ว่า เป็นฉบับท่ีได้คัดลอกมาจากทะเบียนเดิมท่ีเก็บรักษาไว้ที่อาเภอชุมแสงซึ่งเป็น
ตน้ สงั กัดเขตปกครองของก่ิงอาเภอหนองบัว ก่อนยกฐานะเป็นอาเภอหนองบัว
(๔) ขอ้ เทจ็ จริงชี้แจงโดยนายวันชัย ตณั ฑ์สกุล เจ้าหน้าที่ของกรมที่ดินท่ีเข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมการพจิ ารณา
ปัญหาพิพาทในที่ดนิ สาธารณประโยชน์ทุง่ เขาพระ

232 คู่มอื สนบั สนุนการคุม้ ครองที่ดนิ ของรัฐ คมู่ ือสนับสนุนการคมุ้ ครองที่ดินของรฐั 229

ตามหนังสือ ฉบับลงวันท่ี ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๖ เพ่ือประกอบเร่ืองคณะกรรมการพิจารณาปัญหาพิพาท
ในท่ีดินสาธารณประโยชน์ทุ่งเขาพระ) กับพวก คือ นายชิด พูดดี นายชาญ พูดดี นายประเชิญ คุ้มพลอย
นายดวน เช้ือนุ่น นายน้อย แสงทอง นายโปร่ง โพธิศรี นางหนู เหมือนศรี น.ส.โสภิส เหมือนศรี นายสุรินทร์ พนู สวัสดิ์
นายปาน ชัยชนะ นายโพธ์ิ คาสังข์ นายลือ ครองสิน นางฑิด สพุ ีระ และนายช่วง ครองสิน โดยนายพิมพ์ เหมอื นศรี
ได้ยื่นคาร้องเรียนต่อคณะกรรมการเรื่องราวร้องทุกข์ตามพระราชบัญญัติเร่ืองราวร้องทุกข์ พ.ศ. ๒๔๙๒
และคณะกรรมการเร่ืองราวร้องทุกข์ได้มีคาวินิจฉัยตามคาวินิจฉัยท่ี ๕/๒๕๑๖ ลงวันท่ี ๑๐ มกราคม ๒๕๑๖
ว่าให้ยกคาร้องทุกข์ (๕) เน่ืองจากที่ดินบริเวณเกิดเหตุร้องทุกข์ท่ีผู้ร้องอ้างว่ามีสิทธิครอบครองน้ันเป็นท่ีดิน
อยู่ในเขตที่สาธารณะสาหรับเล้ียงสัตว์ของราษฎร ผู้ร้องได้เข้าบุกเบิกก่นสร้างและรับซ้ือรับโอนมาจากผู้อ่ืน
ภายหลังใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ โดยมิได้ขอจับจองต่อเจ้าหน้าท่ีและมิได้มีหนังสือสาคัญประการใด
เปน็ การบุกรุกเข้าไปทากนิ โดยไม่มีสทิ ธิ

๔.๒ การรังวัดเมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๓ ซึ่งกระทาขึ้นเนื่องจาก น.ส.พรพิศ เหมือนศรี ได้ร้องเรียน
ต่อนายอาเภอหนองบัวว่า ทางราชการไม่ยอมออก น.ส. ๓ ให้ คณะกรรมการสอบสวนท่ีจังหวัดแต่งต้ัง
ตามคาสั่ง ท่ี ๒๔๖/๒๕๒๒ ลงวันท่ี ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๒ ไดเ้ สนอขอให้สารวจรงั วัดท่ีดินสาธารณประโยชน์
ทุ่งเขาพระอีกคร้ังเพ่ือให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ร้องเรียนในการรังวัดคร้ังน้ี คณะกรรมการช้ีเขตที่ตั้งตามคาสั่ง
อาเภอหนองบวั ที่ ๗๑/๒๕๒๓ ลงวันท่ี ๒๓ เมษายน ๒๕๒๓ ไดน้ าชรี้ ังวดั ไปตามแนวเขตท่รี ะบุในทะเบียน

๕. เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๐ ได้มีการเดินสารวจออกหนังสือรับรองการทาประโยชน์ให้แก่ราษฎร
ตามโครงการเดินสารวจออกหนังสือรับรองการทาประโยชน์โดยใช้รูปถ่ายทางอากาศ ได้ยึดเอาแนวเขต
ตามรูปแผนท่ีท่ีรังวัดเม่ือ พ.ศ. ๒๕๑๑ และได้มีการออกหนังสือสาคัญให้แก่ราษฎรไปเป็นจานวนมาก
ในบริเวณท่ีดินระหว่างทางสาธารณประโยชน์สายหนองบัว - บ้านหนองไผ่ กับคลองเสมา (อันเป็นแนวเขต
ทางทิศใต้ของท่ีดินทุ่งเลี้ยงสัตว์เขาพระที่ระบุในทะเบียน) และได้มีหนังสือกรมที่ดิน ท่ี มท ๐๖๐๗/๑๐๐๓๒
ลงวันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๒๐ อนุมัติให้กันเขตที่ดินเอกชนบางรายที่ครอบครองอยู่ออกจากเขต
ทีส่ าธารณประโยชน์ทุ่งเขาพระ (รายนายชิด พูดด)ี

๖. เนื่องจากการนารังวัดกาหนดแนวเขตรูปแผนที่ท่ีสาธารณประโยชน์ทุ่งเขาพระ
ที่กระทาขึ้นท้ัง ๒ คราว มีความแตกต่างกัน และมีผลทาให้มีการออกหนังสือรับรองการทาประโยชน์ให้แก่
ราษฎรไปเป็นจานวนมาก จงึ ได้มกี ารประชุมหารือในระหว่างบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการสารวจรังวัดออกหนังสือ
สาคัญสาหรับท่ีหลวงทุ่งเขาพระเม่ือวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๒๔ ว่าจะควรใช้แนวเขตใดในการประชุมครั้งนั้น
มีผู้เห็นว่าแม้รูปแผนท่ีปี พ.ศ. ๒๔๒๓ จะตรงตามทะเบียนมากกว่า แต่ควรใช้รูปแผนท่ีในการรังวัดเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๑
เป็นจานวน ๒๗ คน โดยให้เหตุผลว่า หลังจากการรังวัดในปี พ.ศ. ๒๕๑๑ ได้มีการออกหนังสือรับรอง
การทาประโยชน์ไปแล้วเป็นจานวนมากและที่ดินบริเวณที่อยู่นอกเขตแผนที่ปี พ.ศ. ๒๕๑๑ และในเขตแผนที่
ปี พ.ศ. ๒๕๒๓ มีราษฎรอาศัยครอบครองก่อนปี พ.ศ. ๒๔๙๒ เป็นจานวนมาก หากใช้รูปแผนที่ปี พ.ศ. ๒๕๒๓
จะมีปัญหากับราษฎรมาก และมีผู้เห็นว่าควรใช้ตามรูปแผนที่ปี พ.ศ. ๒๕๒๓ ซ่ึงตรงตามทะเบียน ซ่ึงทางจังหวัด
________________________________________________________________________

(๕) แม้วา่ คณะกรรมการเร่ืองราวรอ้ งทกุ ข์จะวนิ จิ ฉยั วา่ ทีด่ นิ ของผู้รอ้ งทุกคนอยใู่ นบรเิ วณที่สาธารณะทงุ่ เล้ียงสัตว์
ใหย้ กคาร้อง แต่มีข้อเทจ็ จริงปรากฏต่อมาวา่ ได้มีการออก น.ส. ๓ ใหน้ ายชิด พูดดี โดยอ้างเหตวุ า่ ที่ดนิ ของนายชดิ พูดดี
อยู่นอกแนวเขตทส่ี าธารณประโยชนท์ งุ่ เขาพระ

คมู่ อื สนบั สนคมู่ ุนือกสานรบั คสนุ้มุนคกราอรคงมุ้ ทคดี่รอนิ งขที่ดอนิ งขรอัฐงรฐั 223303

(โดยปลัดจังหวัด) ได้สรุปว่า แม้เสียงข้างมากจะเห็นว่าควรใช้รูปแผนท่ี ปี พ.ศ. ๒๕๑๑ แต่โดยที่เป็นแผนท่ี
ที่รังวัดไม่ถูกต้องตรงตามทะเบียน ซ่ึงไม่เป็นการถูกต้องตามหลักนิติศาสตร์ จึงเห็นควรให้ถือตามรูปแผนที่
ท่ีรงั วดั ตรงตามทะเบียนคือรูปแผนท่ีปี พ.ศ. ๒๕๒๓
๗. แนวเขตของท่ีสาธารณประโยชน์แปลงน้ีแม้จะได้มีการนาขึ้นทะเบียนไว้ต้ังแต่ พ.ศ. ๒๔๙๒
แต่เนื่องจากไม่อาจหาทะเบียนเดิมท่ีออกเม่ือ พ.ศ. ๒๔๙๒ มาเป็นหลักฐาน คงมีแต่ฉบับที่คัดลอกต่อจาก
ฉบับเดิม ๒ คร้ัง จึงเป็นเหตุให้ไม่มีข้อยืนยันได้ว่า ฉบับคัดลอกนั้นตรงตามฉบับเดิมหรือไม่ ซึ่งในเวลาต่อมา
เมื่อมีการนาชี้แนวเขตเพื่อนารังวัดและการให้ถ้อยคาในการสอบสวน เมื่อมีการร้องเรียน ได้มีความเห็น
เกยี่ วกับแนวเขตของที่สาธารณประโยชน์แห่งนไ้ี วอ้ ยา่ งสับสนหลายความเห็น ดังน้ี
๗.๑ จากเอกสารรายงานการประชุมเม่ือวันที่ ๙ มกราคม ๒๕๒๔ ของคณะกรรมการ
สารวจรังวัดเพื่อออกหนังสือสาคัญสาหรับที่หลวงในการรังวัดปี พ.ศ. ๒๕๒๓ นายหนุ่ม ศรสุรินทร์ กรรมการ
ผู้ทรงคุณวุฒิ สภาตาบลหนองบัว ผู้นาช้ีเขตได้ให้ความเห็นว่า ด้านทิศเหนือเขตท่ีสาธารณะจุดคลองร่องบง
ส่วนคลองที่แยกจากคลองร่องบงลงมาทางทิศใต้ คือ คลองวังเหียง คลองนี้อยู่ในที่สาธารณประโยชน์ทุ่งเขาพระ
นายเชิญ นวลละออง อดีตกานันตาบลหนองบัว กรรมการได้กล่าวว่าที่สาธารณประโยชน์ “ทุ่งเขาพระ”
ทางทิศตะวันตกจดหนองแขวนปลอก และมาคูเมืองมาร่วมกับคลองบ่อระร่ืน ข้ึนไปทางหนองหูควายไป
จดร่องบง ทิศตะวันออกจดทางด่านขวาง เชิงเขาสูง ทิศเหนือจดเขตหนองกลับ คลองร่องบง ทิศใต้
จดคลองไม้แดง และตามรูปแผนที่ที่ทาการรังวัดไว้ เม่ือวันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๑๑ กับรปู แผนที่ที่ทาการรงั วัด
เมอื่ วนั ท่ี ๑๕ สิงหาคม ๒๕๒๓ เขตทีส่ าธารณะฯ ยงั ไมถ่ กู ตอ้ ง
๗.๒ จากบันทึกถ้อยคาของนายเชิญ นวลละออง ที่ได้ให้ถ้อยคาไว้ต่อนายอาเภอหนองบัว
เม่ือวันท่ี ๗ มีนาคม ๒๕๑๕ นายเชิญฯ ให้ถ้อยคาว่า “ที่สาธารณประโยชน์แปลงน้ีเป็นที่เล้ียงสัตว์
สาธารณประโยชน์มาแต่เดิม และได้มีราษฎรหลายตาบล เช่น ตาบลหนองบัว ตาบลหนองกลับ ตาบลธารทหาร
ได้เข้ามาเล้ียงสัตว์ในฤดูทานาและฤดูท่ีน้าท่วมต้ังแต่ก่อนท่ีข้าพเจ้าได้เข้ารับตาแหน่งกานัน และข้าพเจ้า
ได้รายงานต่อทางอาเภอขอขึ้นทะเบียนที่สาธารณประโยชน์เป็นท่ีเลี้ยงสัตว์สาธารณประโยชน์ เม่ือปี
พ.ศ. ๒๔๙๒ ข้าพเจ้าได้นาประกาศไปปิด ณ ที่ดินแปลงนี้ก็ไม่มีผู้ใดคัดค้านหรือโต้แย้งแต่ประการใด” และ
จากบันทึกถ้อยคาลงวันท่ี ๒๖ สิงหาคม ๒๕๒๔ นายเชิญฯ ให้ถ้อยคาว่าต่อผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย
(นายศภุ โยค พาณิชย์วิทย)์ วา่ การท่ีในทะเบียนระบุว่า ทีส่ าธารณประโยชน์แปลงนี้มอี าณาเขต
ทิศเหนอื จดหนองบัว ยาว ๑๐๐ เส้น
ทศิ ใต้ จดคลองเสมา ยาว ๑๐๐ เส้น
ทศิ ตะวนั ออก จดเขาสูง ยาว ๒๐๐ เสน้
ทศิ ตะวันตก จดหนองคอก หนองแขวนปลอก ยาว ๒๐๐ เสน้
เนื้อท่ี ๒๐,๐๐๐ ไร่
ไม่ถูกต้อง ไม่ตรงกับที่ตนได้สารวจและส่งแบบสารวจมาให้เจ้าหน้าท่ีทางอาเภอลงรายการ ตามข้อเท็จจริง
ทด่ี ินสาธารณะแปลงน้ีเปน็ ท่ีสาธารณประโยชน์ทุ่งเขาพระ มอี าณาเขตดังนี้
ทิศเหนือ จดคลองบ่อระรื่น และคลองวังหินเพลิงและคลองวังเหียง จนถึงร่องบง
ซ่งึ เป็นลานา้ เดียวกนั ยาวประมาณ จาไมไ่ ด้
ทศิ ใต้ จดคลองเสมา ยาวไปทางตะวันออกจนจดเขาน้าสาด จาระยะไมไ่ ด้
ทิศตะวันออก จดทางดา่ นขวางเชงิ เขาสงู จาระยะไม่ได้

234 คู่มือสนับสนนุ การค้มุ ครองทีด่ นิ ของรัฐ คูม่ ือสนับสนนุ การคุ้มครองที่ดินของรฐั 231

ทิศตะวันตก จากมุมหนองแขวนปลอกเลียบไปตามเส้นทางมุมหนองคูเมือง
ไปทางทิศเหนือ ไปจดคลองบ่อระร่ืนทางทิศเหนือ จาระยะไม่ได้
จนจดร่องบง

เน้ือทป่ี ระมาณ ๒๐,๐๐๐ ไร่
๗.๓ นายสนิท รอดบารุง ให้ถ้อยคาต่อคณะกรรมการพิจารณาข้อพิพาทฯ เมื่อวันที่ ๑๕
มีนาคม ๒๕๒๖ ว่า ในการนารังวัดเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๑ นั้น ทิศเหนือรังวัดไว้จดร่องเอ้ืองหรือร่องบงเป็นเขต
แต่ในทะเบียนท่ดี ินสาธารณประโยชน์ระบุวา่ จดเขตหนองบัวไม่ตรงกันนั้น เรอื่ งนี้ก่อนท่จี ะมีการรังวัดออกหนงั สือสาคัญ
สาหรับท่ีหลวงแปลงนี้ ได้นาปัญหาเข้าหารือนายอาเภอหนองบัวในขณะนั้น คือ นายอรุณ วิไลรัตน์ แล้วในที่สุด
นายอาเภอหนองบัวก็ได้นัดประชุมกานัน ผู้ใหญ่บ้าน สภาตาบลหนองบัว และสภาตาบลหนองกลับร่วมกับ
ท่ีประชุมลงมติว่า ทิศเหนือ ท่ีแท้จรงิ คือสุดเขตอาเภอหนองบัว (คณะกรรมการเห็นว่า น่าจะเป็นตาบลหนอง
บัวมากกว่า) ซ่ึงถือร่องน้าธรรมชาติที่เรียกว่า “ร่องเอ้ือง” เป็นแนวเขตธรรมชาติแบ่งเขตตาบลหนองบัวกับ
ตาบลหนองกลับเป็นเขตเพราะคาว่า “หนองบัว” ในทะเบียนนั้น จะใช้เป็นเขตไม่ได้แน่นอน เนื่องจากอยูท่ าง
ทศิ ตะวนั ตกของหนองคอก และหนองแขวนปลอก ประมาณ ๓ ก.ม. เศษ และเป็นหนองนา้ ธรรมชาติอย่กู ลาง
หมู่บ้านหนองบัวท่ีประชาชนท่ัวไปปลูกบ้านอยู่อาศัยมานานนับร้อยปีแล้วย่อมเป็นไปไม่ได้ท่ีเจ้าหน้าที่ในสมัยนั้น
จะนาข้ึนทะเบียนไว้ โดยคลุมหมู่บ้านเกือบท้ังตาบลรวมไปด้วย และ “ร่องเอ้ือง” กับ “ร่องบง” เป็นร่องเดียวกัน
สว่ นที่เรียกชอ่ื ผิดกนั ไปบา้ งก็เป็นเรื่องการเรยี กช่ือระหว่างต้นน้าและปลายน้าที่มอี ยู่ท่ัวไป และได้เริ่มทาการรังวัด
คร้ังแรกในดา้ นทศิ เหนือนี้ก่อน
๗.๔ จากหลักฐานบันทึกข้อความของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณี น.ส. พรพิศฯ
รอ้ งเรียนที่จังหวัดนครสวรรค์ ตามคาสั่ง ที่ ๒๔๖/๒๕๒๒ ลงวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๒ รายงานผลการสอบสวน
ตอ่ ผวู้ ่าราชการจงั หวัดว่า

นายเชิญ นวลละออง ได้ให้ถ้อยคาต่อคณะกรรมการฯ ว่า สภาพที่สาธารณประโยชน์
แปลงนี้ ทิศเหนือ จดคลองบ่อมะรื่น และคลองหัวควาย หรือคลองห้วยบง ซึ่งต้นน้าไหลมาจากเขาสูง เขาวิจันทร์
ตอนปลายคลองมะรื่น เรียกว่า คลองวังเหียง เดิมคลองน้ีไหลลงสู่บ้านหนองบัว ซ่ึงเป็นที่ราบ ปัจจุบันปลายคลอง
ไดต้ ืน้ เขินหมดสภาพไปแล้ว

คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงของจังหวัด พิจารณาแล้วเสนอความเห็นโดยมี
ข้อสังเกตว่า หลักฐานสาเนาทะเบียนที่ดินสาธารณประโยชน์แปลงน้ีได้คัดลอกมาจากทะเบียนเดิม เล่มท่ี ๑
ซ่ึงขึ้นทะเบียนไว้เม่ือวันท่ี ๑๐ ตุลาคม ๒๔๙๒ โดยคัดลอกใหม่เม่ือวันท่ี ๒๗ มิถุนายน ๒๕๑๕ อาจมีการผิดพลาด
ในการคัดลอกได้ เนื่องจากตามแผนที่ภูมิประเทศท่ีอ้างอิง แสดงคลองวังเหียง เริ่มต้นจากเชิงเขาพระไหล
ไปลงหนองม่วง บ้านหนองม่วง ซึ่งอยู่ทิศเหนือของท่ีดินสาธารณประโยชน์ “ทุ่งเขาพระ” แปลงน้ี การเขียน
หรือคัดลอกเพื่อขึ้นทะเบียนท่ีสาธารณประโยชน์อาจผิดพลาด โดยเขียนหนองม่วงเป็นหนองบัว ก็อาจเป็นได้
ทาให้ผิดจากสภาพความเป็นจริงตามธรรมชาติไป และคณะกรรมการฯ เช่ือว่าตามสภาพความเป็นจริงอาณาเขต
ทิศเหนือของท่ีดินสาธารณประโยชน์ทุ่งเขาพระ มิได้จดหนองบัว แต่น่าจะจดแนวคลองท่ีต้นน้าไหลจากเขาสูง
มาถึงคลองวังเหียงและบรเิ วณท่ีมีสภาพเปน็ ปา่ ทง้ั หมด ดา้ นทิศใตข้ องถนนสายหนองบวั – ชมุ แสง ในปัจจุบัน

ความเห็น
จากข้อเท็จจริงดังกล่าว คณะกรรมการพิจารณาปัญหาพิพาทฯ เห็นว่าก่อนที่จะพิจารณา
กาหนดแนวเขตที่สาธารณประโยชน์แปลงนี้ ว่ามีแนวเขตอย่างใด ในขณะท่ีที่สาธารณประโยชน์แปลงนี้
ยังมิได้มีการออกหนังสือสาคัญสาหรับที่หลวงขึ้นไว้น้ีมาตรา ๘ ตรี วรรคสาม แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน
ได้บัญญัติว่า ท่ีสาธารณประโยชน์สาหรับราษฎรใช้ประโยชน์ร่วมกันแปลงใดยังไม่มีหนังสือสาคัญสาหรับท่ีหลวง

คู่มอื สนับสนนุ การคุ้มครองท่ีดินของรฐั 232
คมู่ ือสนบั สนนุ การคุม้ ครองทด่ี นิ ของรัฐ 235

เขตของที่ดินดังกล่าวให้เป็นไปตามหลักฐานของทางราชการ ท่ีสาธารณประโยชน์ทุ่งเขาพระท่ีเป็นปัญหา
พิพาทอยู่ขณะนี้ ได้มีหลักฐานของทางราชการอยู่คือ ทะเบียนท่ีสาธารณประโยชน์ท่ีมีข้อเท็จจริงฟังได้ว่า
ได้จัดทาข้ึนต้ังแต่ พ.ศ. ๒๔๙๒ แต่ทะเบียนฉบับดั้งเดิมได้สูญหายไป คงมีแต่ทะเบียนที่คัดลอกไว้จากทะเบียนเดิม
เทา่ น้ัน และทะเบยี นฉบบั คดั ลอกระบุว่า ทีส่ าธารณะแปลงนีม้ ีแนวเขต

ทศิ เหนือ จดหนองบัว
ทศิ ตะวนั ออก จดหนองคอก หนองแขวนปลอก
ทิศใต้ จดคลองเสมา
ทศิ ตะวันตก จดเขาสูง
เรื่องน้ีมีปัญหาท่ีจะต้องพิจารณาเบื้องต้นอยู่ว่า เมื่อไม่สามารถจะหาทะเบียนเดิมท่ีได้จัดทาข้ึน
เม่ือ พ.ศ. ๒๔๙๒ มาเป็นหลักฐานได้ ทะเบียนที่ทางราชการได้สาเนามาจากทะเบียนเดิมโดยมีนายอาเภอ
หนองบัว เจ้าของท้องท่ีรับรองสาเนาไว้โดยถูกต้อง และทะเบียนที่ได้กระทาขึ้นใหม่เพราะเหตุทางราชการ
เปลี่ยนแบบทะเบียน (๖) โดยคัดลอกมาจากสาเนาทะเบียนเดิมนั้น จะถือได้ว่าเป็นหลักฐานของทางราชการ
อันจะเช่ือถอื ไดเ้ พยี งใด
ในปัญหาน้ี เห็นว่าไม่ว่าเอกสารสาคัญของทางราชการในเร่ืองใด ตามกฎหมายใด ถ้าทาง
ราชการได้มีการคัดลอกลงไว้จากต้นฉบับเดิม ไม่ว่าจะเป็นด้วยเหตุใด และได้ลงลายมือช่ือเจ้าพนักงาน
ผู้รับผิดชอบรับรองความถูกต้องไว้แล้ว ย่อมต้องถือว่าเอกสารฉบับที่คัดลอกไว้นั้นเป็นหลักฐานของทางราชการ
อนั จะต้องรับฟังไดจ้ นกว่าจะมีขอ้ พิสูจนไ์ ด้ว่า เอกสารนั้นไดจ้ ัดทาขน้ึ โดยไมถ่ ูกต้องและโดยไม่ชอบ และขณะน้ี
หลกั ฐานทีจ่ ะแสดงให้เห็นเชน่ นั้นยังไม่ปรากฏ
ดังนั้น ด้วยเหตุที่คณะกรรมการพิจารณาปัญหาข้อพิพาทฯ เห็นว่า ทะเบียนที่สาธารณะ
ท่ีปรากฏอยู่ในขณะน้ี (ปี พ.ศ. ๒๕๑๕) เป็นหลักฐานของทางราชการท่ีจะรับฟังได้ จึงมีความเห็นว่า การกาหนด
แนวเขตทดี่ ินแปลงนี้ จะต้องเป็นไปตามแนวเขตทร่ี ะบไุ ว้ในทะเบียน
ในการพิจารณากาหนดแนวเขตตามทะเบียนคณะกรรมการพิจารณาปัญหาขอ้ พิพาทเห็นว่า
ถอ้ ยคาที่ระบุเป็นแนวเขตทางด้านทิศตะวันตก ทิศตะวันออก และทิศใต้ ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด เพราะถอ้ ยคา
ระบุยึดแนวเขตธรรมชาติเป็นหลักอย่างแจ้งชัด ปัญหาคงมีอยู่แต่เฉพาะแนวเขตทางด้านทิศเหนือ ซ่ึงทะเบียน
ระบุว่า “ทิศเหนือ จดหนองบัว” จากถ้อยคาว่า “จดหนองบัว” นั้น พิจารณาตามถ้อยคาก็น่าจะแปลว่า จดหนองน้า
ที่ชื่อว่า “หนองบัว” ซ่ึงในเขตท้องท่ีตาบลหนองบัวน้ัน มีหนองน้าช่ือว่าหนองบัวอยู่จริง แต่อยู่ในสภาพท่ีเห็นได้
ชัดแจ้งว่าไม่อาจถือเอาเป็นแนวเขตได้ เพราะอยู่ไกลไปทางทิศตะวันตกของที่ดินสาธารณประโยชน์แปลงนี้
กวา่ ๒ กิโลเมตร และอยูใ่ นเขตชุมชนหนองบัว
คณะกรรมการพิจารณาปัญหาข้อพิพาทฯ ได้พิเคราะห์ข้อเท็จจริงที่ปรากฏดังกล่าวน้ันแล้ว
เห็นว่า การที่ทะเบียนท่ีสาธารณประโยชน์แปลงนี้ ระบุถ้อยคาว่า “ทิศเหนือจดหนองบัว” นั้น น่าจะ
สนั นษิ ฐานได้วา่ ในชว่ งระยะเวลา พ.ศ. ๒๔๙๐-๒๔๙๑ อนั เปน็ ช่วงระยะเวลาท่ีจัดต้ังก่ิงอาเภอหนองบัวขึน้ น้ัน
กงิ่ อาเภอหนองบัว มีเพียง ๓ ตาบล คือ ตาบลหนองบัว ตาบลห้วยรว่ ม และตาบลหว้ ยใหญ่ยังไม่มีตาบลหนองกลับ
แต่ในช่วงที่ดาเนินการข้ึนทะเบียนที่สาธารณสมบัติแปลงนี้ส่งขึ้นทะเบียน คือ พ.ศ. ๒๔๙๒ นั้น ได้มีการแยก
หม่บู ้านจากตาบลหนองบัว ไปต้ังเป็นตาบลหนองกลับขึ้นและที่สาธารณประโยชน์ทุ่งเล้ยี งสัตว์แปลงนี้มีอาณาเขต
กว้างใหญ่มีอาณาเขตเลยเข้าไปจนถึงเขาสูงในหมู่บ้านทถ่ี ูกแยกไปจัดต้ังเป็นตาบลหนองกลับด้วย ดังน้นั การจดแจ้ง
ลงทะเบียนท่ีสาธารณประโยชน์ที่อยู่ในเขตปกครองของตาบลหนองบัวจึงจาต้องระบุแต่เฉพาะส่วนที่อยู่ใน
พ้นื ทที่ เี่ ป็นเขตปกครองของตาบลหนองบวั จึงตอ้ งจดแจ้งลงไว้ในทะเบียนว่า “ทศิ เหนอื จดหนองบัว”

_________________________________________________________________________
(๖) การเปล่ียนแบบทะเบียนเป็นไปตามหนังสือกระทรวงมหาดไทย ที่ มท ๐๖๐๔/ว ๑๙๙ ลงวันที่ ๑๘ เมษายน

พ.ศ. ๒๕๑๐

236 คมู่ อื สนบั สนนุ การคุ้มครองท่ีดินของรัฐ คมู่ อื สนบั สนุนการคุ้มครองที่ดินของรฐั 233

ซึ่งหมายความว่า ทิศเหนือจดเขตตาบลหนองบัวน่ันเอง ข้อสันนิษฐานน้ีจะสอดคล้องกับข้อเท็จจริงท่ีปรากฏ
อยู่วา่ แนวเส้นแบง่ เขตระหว่างตาบลหนองบัว กับตาบลหนองกลับท่ีจังหวัดนครสวรรค์จัดส่งมาให้ตามหนังสือ
ดว่ นมาก ท่ี นว ๐๐๒๐/๓๙๐๐ ลงวันท่ี ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๘ ซึ่งแจ้งว่า เขตท้องท่ีตาบลหนองกลับกาหนด
เขตทางด้านทศิ ใต้ไวว้ ่า

“ทิศใต้ เริ่มต้นจากทิศตะวันออกของหมู่ที่ ๙ ตาบลหนองบัวถือลาคลองห้วยถ่ัวเป็นเขตผ่าน
หมู่ท่ี ๕ ตาบลหนองบัวกับหมู่ที่ ๑ ตาบลหนองกลับและถือลาเหมืองส่งน้าเข้าสระวัดหนองกลับ ระหว่างหมู่ท่ี ๖
ตาบลหนองกลับกับหมู่ท่ี ๖, ๗ และ ๘ ตาบลหนองบัว ไปทางทิศตะวันออก จนจดลาคลองห้วยไม้แดง
วกขึ้นไปทางทศิ เหนือเลียบเชิงเขาลูกจันทร์และหัวเขาพระเขา้ ส่ทู างสาธารณประโยชนผ์ ่านหัวเขาสูงเลียบทาง
สาธารณประโยชน์ ผ่านหนองกระทุ่มไปจนจดสันเขาน้าโจน อาเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ ยาว ๖๐ ก.ม.”
และกาหนดเขตทางทศิ เหนอื ของตาบลหนองบวั ไว้วา่

“ทิศเหนือ ติดต่อเขตตาบลหนองกลับ อาเภอหนองบัว เร่ิมต้นจากทางทิศตะวันออกของ
หมู่ที่ ๙ ตาบลหนองบัวถือลาคลองห้วยถ่ัวเป็นเขต ผ่านหมู่ที่ ๕ ตาบลหนองบัว กับหมู่ท่ี ๑ ตาบลหนองกลับ
และแยกเข้าสู่ทางสาธารณประโยชน์ระหว่างหมู่ท่ี ๕ ตาบลหนองบัวกับหมู่ท่ี ๒ ตาบลหนองกลับ และถือลาเหมือง
ส่งน้าเข้าสระวัดหนองกลับเป็นเขตระหว่างหมู่ที่ ๖ ตาบลหนองกลับกับหมู่ท่ี ๖, ๗ และ ๘ ตาบลหนองบัว
ไปทางทิศตะวนั ออกจนจดลาคลองหว้ ยไมแ้ ดงวกข้ึนไปทางทิศเหนือเลียบเชงิ เขาลูกจนั ทร์และหวั เขาพระเขา้ สู่
ทางสาธารณประโยชน์ไปทางทิศตะวันออกผ่านหัวเขาสูงเลียบทางสาธารณประโยชน์ผ่านหนองกระทุ่ม
ไปจนถงึ สันเขาห้วยนา้ โจน ตาบลบ้านโภชน์ อาเภอวเิ ชยี รบรุ ี จงั หวดั เพชรบรู ณ์ ยาวประมาณ ๖๐ กม.”

จากข้อความท่ีระบุดังกล่าว เห็นได้ว่า แนวแบ่งเขตระหว่างตาบลหนองบัวและตาบลหนองกลับน้ัน
ยึดเอาแนวทางน้าทีช่ ่ือวา่ คลองไม้แดง (๗) อ้อมหวั เขาพระ เป็นเสน้ แบง่ เขตและมขี ้อเท็จจริงท่ีปรากฏเพิ่มเติม
จากการประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมการพิจารณาปัญหาพิพาทกับคณะกรรมการสภาตาบลหนองบัวและ
หนองกลับว่า ในเขตตาบลหนองกลับที่ติดเส้นแบ่งเขตกับตาบลหนองบัวมีที่สาธารณสมบัติทุ่งเลี้ยงสัตว์
อยอู่ กี แปลงหนึ่งเรียกว่า“ทุ่งเขาพระนอ้ ย” ซ่ึงกรมที่ดินไดอ้ อกหนังสือสาคญั สาหรับที่หลวงไวแ้ ล้ว เม่อื นารูปแผนท่ี
ของท่ีสาธารณประโยชน์ทุ่งเขาพระน้อยตามหนังสือสาคัญสาหรับที่หลวง (๘) มาพิจารณาแล้วจะเห็นว่า แนวเขต
ทางด้านทิศใต้ จดร่องเอ้ืองตาม และอ้อมเชิงเขาพระด้านทิศเหนือ ตรงกับเส้นแบ่งเขตตาบลหนองบัวและ
ตาบลหนองกลบั ดังกล่าวแลว้ น่ันเอง

ตามข้อเท็จจริงนี้ จึงเป็นการสอดคล้องกับข้อสันนิษฐานของคณะกรรมการพิจารณาปัญหา
ข้อพิพาทฯ ท่ีว่า เดิมทุ่งเลี้ยงสัตว์ทั้ง ๒ แปลงนี้มีแนวเขตติดต่อกัน แต่เมื่อนาลงทะเบียนท่ีสาธารณะ
จาเปน็ ต้องแยกทะเบยี นออกเปน็ ๒ แปลง เนอื่ งจากพน้ื ทอี่ ย่ใู นเขตปกครองของท้ัง ๒ ตาบล

ด้วยเหตุผลดังกล่าว คณะกรรมการพิจารณ าปัญหาข้อพิพาทฯ จึงมีความเห็นว่า
คาว่าหนองบัว ท่ีได้จดแจ้งไว้เป็นแนวเขตทางด้านทิศเหนือน้ัน หมายถึงสุดเขตตาบลหนองบัว
ที่ต่อกับเขตตาบลหนองกลั บ และเมื่อมีความเห็นเช่นนี้แล้วจึงเห็นว่า เมื่อตาบลหนองบัวและ
ตาบลหนองกลับมีทางน้าทเ่ี รียกว่าลาคลองห้วยไมแ้ ดงเป็นเส้นแบ่งเขตแล้ว ไมว่ ่าลาคลองหว้ ยไม้แดง จะมีชือ่ อนื่
_______________________________________________________________________________

(๗) คลองไม้แดง เป็นทางน้าและเป็นเส้นแบ่งเขตตาบลหนองบัวกับตาบลหนองกลับวกไปทางด้านทิศเหนือของ
ที่สาธารณะทุง่ เขาพระ

(๘) “ทุ่งเขาพระน้อย” เป็นท่ีสาธารณประโยชน์ทุ่งเลี้ยงสัตว์ในเขตท้องที่ตาบลหนองกลับ ซึ่งกรมที่ดินได้ออก
หนงั สือสาคัญสาหรับที่หลวง เลขท่ี ๒๔๑๐๙ ลงวนั ที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๒๘

คมู่ ือสนบั สนุนการคุ้มครองที่ดินของรฐั 234
คูม่ อื สนบั สนุนการค้มุ ครองท่ดี ินของรัฐ 237

เรียกวา่ อย่างไร จงึ ไม่เปน็ สาระสาคัญ คงสาคัญแต่เพยี งว่าคือตามแนวคลองห้วยไม้แดงท่ีวกขนึ้ ไปทางทิศเหนือ
เลยี บเชิงเขาลูกจันทร์ และหวั เขาพระเขา้ สู่ทางสาธารณประโยชน์ดังทรี่ ะบไุ ว้ในประกาศกาหนดแนวเขตตาบล
ดังกล่าวแล้วเท่านั้น ความเห็นของคณะกรรมการพิจารณาปัญหาข้อพิพาทฯ ดังกล่าวแล้วน้ี สภาตาบลหนองบัว
และตาบลหนองกลบั ก็มีความเห็นชอบด้วยแล้ว

ดังนน้ั คณะกรรมการพิจารณาปัญหาข้อพิพาทฯ จงึ ได้มีมติต้ังคณะอนุกรรมการนาช้ีแนวเขต
เพ่ือรังวัดจัดทารูปแผนท่ีของที่สาธารณประโยชน์แปลงนี้ขึ้น โดยกาหนดให้นาช้ีแนวเขตทางทิศเหนือไปตามแนว
เส้นแบ่งเขตตาบลหนองบัว กับตาบลหนองกลับ ส่วนแนวเขตทางด้านทิศตะวันออก ทิศตะวันตก และทิศใต้น้ัน
ให้นาชีไ้ ปตามแนวเขตธรรมชาติทร่ี ะบุไวใ้ นทะเบียน

บัดน้ี คณะอนุกรรมการฯ ได้ดาเนินการรังวัดเสร็จส้ินแล้ว โดยมีแนวเขตที่ปรากฏตาม
รูปแผนท่ีท่ีแนบมาพร้อมรายงานน้ี

อน่ึง แนวเขตตามรูปแผนท่ีน้ียังมีความแตกต่างไปจากรูปแผนที่ที่รังวัดเมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๓
เพราะได้รังวัดอ้อมเขาพระเข้าไว้ด้วย ซ่ึงคณะกรรมการพิจารณาปัญหาข้อพิพาทฯ เห็นว่า น่าจะไม่มี
ผลกระทบถึงสิทธิของราษฎรมากนัก เพราะบริเวณภูเขาจนถึงปริมณฑล รอบเขา ๔๐ เมตร น้ัน
เปน็ บริเวณที่ดินหวงหา้ มตามประกาศหวงห้ามของกระทรวงมหาดไทย ซ่งึ ผใู้ ดจะเข้ายึดถือครอบครองไม่ได้อยู่แลว้

คณะกรรมการพิจารณาปัญหาข้อพิพาทฯ จึงขอกราบเรียนรายงานผลการดาเนินการ
กาหนดเขตที่ดินสาธารณประโยชน์ทุ่งเขาพระในข้ันตอนท่ี ๑ มาเพ่ือโปรดพิจารณาสั่งการว่า จะเป็นการ
สมควรและถูกต้องประการใดหรือไม่ และหาก ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีเห็นว่า แนวเขตที่กาหนดดังกล่าวเป็น
การถูกต้องและสมควรแล้ว คณ ะกรรมการพิจารณ าปัญห าข้อพิพาทฯ ก็จะได้ดาเนินการส่งให้
กรมท่ีดินดาเนนิ การออกหนังสอื สาคัญสาหรบั ที่หลวงต่อไป

สาหรับการดาเนินการสอบสวนสิทธิของราษฎรที่เข้าอยู่อาศัยในบริเวณที่สาธารณประโยชน์
แปลงน้ี อันเป็นข้ันตอนปฏิบัติตามคาสั่งในข้ันตอน ๒ และขั้นตอนออกหนังสือสาคัญสาหรับที่หลวง อันเป็น
ขั้นตอนปฏิบัติตามคาส่ังในขั้นตอน ๓ น้ัน คณะกรรมการพิจารณาปัญหาข้อพิพาทฯ ได้พิจารณาเห็นว่า
หลกั เกณฑ์วิธีการออกหนังสือสาคัญสาหรบั ที่หลวงน้ัน ตามมาตรา ๘ ตรี วรรค ๒ แห่งประมวลกฎหมายท่ีดิน
พ.ศ. ๒๔๙๗ ได้กาหนดให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการท่ีกาหนดในกฎกระทรวง และโดยท่ีกฎกระทรวง
ฉบับท่ี ๒๖ (พ.ศ. ๒๕๑๖) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗
ได้กาหนดวิธีการในการออกหนังสอื สาคัญสาหรับทห่ี ลวงไว้วา่

๑. ทบวงการเมืองผู้มีอานาจหนา้ ท่ีดูแลรกั ษาที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดนิ สาหรับ
พลเมืองใช้ร่วมกัน หรือใช้เพ่ือประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะ ประสงค์จะให้มีหนังสือสาคัญสาหรับที่หลวง
สาหรบั ทีด่ นิ แปลงใด ให้แสดงความประสงค์ตอ่ อธิบดี

๒. เม่ือได้รับคาขอตามข้อ ๑ แล้ว ให้อธิบดีจัดให้มีการสอบสวนและรังวัดทาแผนท่ี
ต าม วิ ธี รั งวั ด เพ่ื อ อ อ ก ห นั ง สื อ ส า คั ญ ส า ห รั บ ที่ ดิ น แ ล ะ ป ร ะ ก า ศ ก า ร อ อ ก ห นั ง สื อ ส า คั ญ ส า ห รั บ ท่ี ห ล ว ง
ให้ประชาชนทราบมีกาหนดสามสิบวัน โดยปิดไว้ในท่ีเปิดเผย ณ สานักงานที่ดินจังหวัด หรือสานักงานท่ีดิน
สาขาหนึ่งฉบับ ณ ที่ว่าการอาเภอหรือก่ิงอาเภอท้องที่ หรือที่ทาการเขตหน่ึงฉบับ ท่ีทาการกานันหนึ่งฉบับ
และในบริเวณท่ีดินนั้นหน่ึงฉบับ ในเขตเทศบาลให้ปิดไว้ ณ สานักงานเทศบาลอีกหนึ่งฉบับ ในประกาศ
ดงั กล่าวให้มีแผนที่แสดงแนวเขตทด่ี ินท่ีจะออกหนงั สือสาคัญสาหรบั ท่หี ลวง และกาหนดระยะเวลาทีผ่ ู้มีส่วนได้เสีย
จะคัดค้านไว้ด้วย ซึ่งต้องไม่น้อยกว่าสามสิบวันนับแต่วันประกาศ ถ้าไม่มีผู้คัดค้านให้ดาเนินการ
ออกหนังสือสาคัญสาหรับที่หลวงต่อไป ถ้ามีผู้คัดค้านให้อธิบดีรอการออกหนังสือสาคัญสาหรับท่ีหลวงไว้
จนกวา่ จะได้มีคาพพิ ากษาถงึ ทส่ี ดุ ของศาล แสดงว่าผู้คัดค้านไมม่ สี ิทธิในทีด่ นิ น้ัน

238 คู่มือสนับสนนุ การค้มุ ครองทด่ี นิ ของรฐั ค่มู ือสนับสนุนการคมุ้ ครองที่ดนิ ของรฐั 235

คณะกรรมการพิจารณาปัญหาข้อพิพาทฯ จงึ มีความเหน็ สอดคล้องต้องกันว่า หากคณะกรรมการฯ
จะเข้าดาเนินการสอบสวนสิทธิ และดาเนินการออกหนังสือสาคัญสาหรับท่ีหลวง.โดยไม่ปฏิบัติให้ถูกต้อง
ตามกฎหมายที่กาหนดไว้ดังกล่าว จะมีผลทาให้การออกหนังสือสาคัญสาหรับที่หลวงแปลงน้ีเป็นไปโดยไม่ชอบ
ดังนั้น คณะกรรมการพิจารณาปัญหาข้อพิพาทฯ.จึงเห็นว่าเม่ือได้รูปแผนท่ีแนวเขตที่ดินตามท่ีกราบเรียนมานี้แล้ว
ก็ควรให้กรมท่ีดินรับไปดาเนินการตามขั้นตอนการออกหนังสือสาคัญสาหรับท่ีหลวงตามท่ีกฎหมายบัญญัติไว้
และเม่ือกรมที่ดินจะส่งเจ้าหน้าที่ออกไปดาเนินการ ก็ขอได้แจ้งให้คณะกรรมการพิจารณาปัญหาข้อพิพาทฯ
ได้ทราบด้วย เพื่อจะได้ออกไปร่วมพิจารณาในเรื่องสิทธิของราษฎรตามควรแก่กรณี หากเห็นชอบด้วยขอได้โปรด
มบี ญั ชาใหก้ ระทรวงมหาดไทยส่ังให้กรมท่ีดนิ รีบดาเนนิ การตามขั้นตอนของระเบียบวิธีการในการออกหนังสือสาคัญ
สาหรับท่หี ลวงแหง่ นี้ต่อไป

ลงชื่อ สุนนั ท์ นวลจันทรก์ ลุ ประธานกรรมการ
(นายสนุ ันท์ นวลจันทรก์ ุล)
ผ้ตู รวจราชการสานักนายกรฐั มนตรี

ลงชอ่ื ไชยศักด์ิ สนุ ทรัช กรรมการ
(นายไชยศักดิ์ สนุ ทรัช)
ผ้อู านวยการกองสารวจและควบคุมทีด่ นิ ของรัฐ
ผแู้ ทนกรมท่ีดิน

ลงชื่อ อดุ ม วฒั นะครี ี กรรมการ
(นายอุดม วัฒนะครี ี)

ผอู้ านวยการกองหนงั สือสาคัญ
ผแู้ ทนกรมท่ีดนิ

ลงชื่อ แสวง กจิ พนั ธ์ กรรมการ
(นายแสวง กจิ พนั ธ์)
เจ้าพนักงานที่ดนิ จังหวัดนครสวรรค์
ผ้แู ทนผู้ว่าราชการจงั หวัดนครสวรรค์

ลงช่ือ ดวงกมล นิธิอุทัย กรรมการ
(นางดวงกมล นิธอิ ุทัย)
ผู้แทนสานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา

คู่มอื สนับสนนุ การคุ้มครองที่ดินของรฐั 236
คู่มอื สนับสนุนการคุ้มครองท่ีดนิ ของรัฐ 239

ลงชื่อ ทองเจือ สร้อยทอง กรรมการและเลขานุการ
(นางสาวทองเจือ สร้อยทอง)
สานกั งานปลัดสานักนายกรัฐมนตรี

ลงช่ือ วนั ชัย ตณั ฑส์ กุล กรรมการและผู้ชว่ ยเลขานกุ าร
(นายวนั ชัย ตัณฑ์สกุล)
กรมท่ีดนิ

ลงชือ่ เดชา คงั คายะ กรรมการและผู้ชว่ ยเลขานกุ าร
(นายเดชา คังคายะ)

สานักเลขาธิการนายกรฐั มนตรี

240 คูม่ ือสนบั สนนุ การคุ้มครองที่ดนิ ของรฐั ค่มู ือสนับสนุนการคมุ้ ครองที่ดนิ ของรฐั 237

คณะผูจ้ ดั ทา

องคค์ วามรู้ : คู่มือสนับสนุนการคุ้มครองทดี่ นิ ของรฐั ตามภารกิจของกรมทดี่ นิ

ท่ปี รกึ ษา : ๑. นายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดกี รมท่ดี ิน
๒. นายณรงค์ สืบตระกูล ผู้บรหิ ารดา้ นการจดั การความรขู้ องกรมที่ดนิ (CKO)
๓. นายณรงค์ สืบตระกูล รองอธิบดีกรมท่ีดนิ
๔. นายวิรตั น์ สายลิ่ม ผู้อานวยการสานกั จัดการท่ีดินของรัฐ
เจา้ พนักงานท่ีดนิ จังหวัดพะเยา สาขาแมใ่ จ
๕. นายทวศี กั ด์ิ ทรงอยู่ รกั ษาราชการแทน ผู้อานวยการกองฝึกอบรม

คณะทางาน : สานกั จดั การที่ดินของรฐั
คณะทางานจดั การความรู้ (KM Team) ของส่วนคมุ้ ครองทดี่ ินของรัฐ
ตามคาสง่ั สานักจัดการที่ดินของรฐั ท่ี 17/2561 ลงวนั ท่ี 23 เมษายน 2561
ประกอบด้วย
๑. นายทวีศักดิ์ ทรงอยู่ ผอู้ านวยการสว่ นคมุ้ ครองทด่ี ินของรฐั

๒. นางวราภรณ์ แก้วแฝก หัวหน้ากลุ่มพิจารณาปัญหาข้อเรยี กร้อง

๓. นายจานงค์ โฆสติ หัวหน้ากลุ่มค้มุ ครองทีด่ ินของรัฐ 1

๔. นายรฐั ปัทม์ มูลไชยสขุ หวั หน้ากลมุ่ คุ้มครองท่ีดนิ ของรัฐ 2

๕. นายเกรยี งศักด์ิ ธีรพงษ์พิพัฒน์ หวั หน้าฝา่ ยรังวัดเพ่อื ออกหนงั สือสาคัญสาหรับทีห่ ลวง

๖. นกั วิชาการทด่ี นิ ชานาญการ/ปฏิบตั ิการ

๗. หวั หนา้ เจา้ หนา้ ทใ่ี นส่วนงานธุรการ

๘. เจ้าหน้าทใ่ี นสว่ นงานธุรการ

: กองฝึกอบรม หัวหน้ากลุม่ งานสง่ เสริมและพัฒนาการเรียนรู้
นักทรัพยากรบุคคลชานาญการ
๑. นายศกั ดิ์นรินทร์ พมิ พเนตร นกั ทรพั ยากรบุคคลชานาญการ
๒. นางสมใจ ศุขนคิ ม
3. นายกฤตมิ า ทิวากรวงศ์


Click to View FlipBook Version