หน่อไม้ฝรั่ง
กรรมวิธี อตั ราที่ใช้ อตั ราสารออกฤทธ์ิ
(กรัมหรอื มลิ ลลิ ิตร ตอ่ น้ำ 20 ลิตร) (กรมั สารออกฤทธ์ิ ต่อไร่)
1. สารทดลอง : ช่ือสามัญ ความเข้มขน้ และสตู รผสม
2. สารทดลอง : ชื่อสามัญ ความเขม้ ขน้ และสูตรผสม
3. สารทดลอง : ชอื่ สามญั ความเขม้ ขน้ และสตู รผสม
... สารเปรยี บเทยี บ : ชื่อสามญั ความเข้มข้น และสตู รผสม
(ระบุตามขอ้ 2.2)
... นำ้ เปลา่ (ควบคุม)
2.5 วิธีการใช้
2.5.1 วธิ กี ารใช้สารป้องกนั กำจัดโรคพชื : ผสมน้ำพน่ ใหท้ ่ัวตน้
2.5.2 ระบรุ ะยะเวลา และจำนวนครั้งในการพน่ สาร : พ่นสารทดลองครั้งแรกเมื่อพบการระบาดของโรค
พน่ ซำ้ ทุก 7 วนั จำนวน 4 ครง้ั
2.5.3 เคร่ืองพน่ สารปอ้ งกันกำจัดโรคพืชควรเปน็ ชนิดทีว่ ัดแรงดนั ได้ และมีประสิทธิภาพในการ
แพร่กระจายนำ้ ได้อยา่ งสมำ่ เสมอ การพน่ สารทดลองทกุ ชนดิ ตอ้ งใชป้ ริมาณน้ำเท่ากนั ทุกแปลง
ทดลองย่อย
2.5.4 ถ้ามกี ารใชส้ ารกำจดั แมลง สารกำจดั วชั พชื สารปอ้ งกนั กำจัดโรคพืชอืน่ ๆ ที่ไมใ่ ชเ่ ป้าหมายจะตอ้ ง
ใชก้ บั ทุกแปลงทดลองย่อย
2.5.5 อตั รานำ้ ที่ใช้ 120 ลิตรต่อไร่
3. วธิ กี ารเก็บขอ้ มูลการทดลอง (Data Assessments)
3.1 วิธกี ารประเมนิ โรค เวลาและความถีข่ องการประเมิน
ประเมินความรุนแรงของโรคกอ่ นพ่นสารทดลองทุกครัง้ และหลังพ่นสารทดลองครั้งสุดท้าย 7 และ
14 วัน สุ่มประเมินจากตน้ พชื จำนวน 10 กอตอ่ แปลงยอ่ ย ประเมินความรนุ แรงจากอาการทปี่ รากฏบนก่ิง
และลำตน้ จำนวน 5 ต้นต่อกอ แบ่งระดบั ความรนุ แรงของโรคเปน็ 5 ระดับ ดงั น้ี
ระดบั 0 ไมป่ รากฏอาการโรค
ระดับ 1 แสดงอาการโรค 1-25 % ของต้น
ระดับ 2 แสดงอาการโรค 26-50 % ของต้น
ระดบั 3 แสดงอาการโรค 51-75 % ของตน้
ระดบั 4 แสดงอาการโรคมากกว่า 75 % ของต้น
คำนวณดชั นีความรนุ แรงของโรค จากสูตร
ดัชนีความรนุ แรงของโรค (%) = ผลรวมของ (จำนวนตน้ เปน็ โรคในแตล่ ะระดบั x ระดับ) x 100
จำนวนตน้ ทงั้ หมด x ระดับสูงสดุ
คำแนะนำการจัดทำแผนการทดลองประสิทธภิ าพสารป้องกนั กำจัดโรคพชื ปี 2564
143
หน่อไม้ฝร่ัง
3.2 บนั ทกึ ผลกระทบต่อพชื (Phytotoxicity) ถา้ มีอาการผิดปกตเิ กดิ ขึน้
3.3 บนั ทกึ วธิ ีการดูแลต่างๆ เช่น การให้นำ้ การใส่ป๋ยุ การกำจัดวชั พชื การกำจดั แมลง และการปอ้ งกนั กำจัด
ศัตรพู ืชอ่ืนๆ ถ้ามี
3.4 บันทกึ สภาพแวดล้อม และการเปลยี่ นแปลงต่างๆ ขณะทำการทดลองเท่าท่จี ะทำได้ เช่น ความชนื้
อณุ หภมู ิ ความแหง้ แลง้ นำ้ ท่วม เปน็ ตน้
3.5 บันทกึ ผลกระทบของสารทดลองต่อโรคพืชชนดิ อน่ื ๆ ท่ีสังเกตเหน็
4. ผลการทดลอง (Results)
ทำการวเิ คราะหผ์ ลการทดลองโดยวิธีทางสถิตทิ ่ีเหมาะสม ข้อมลู ดบิ ต้องเก็บไว้เพื่อตรวจสอบ
144 คำแนะนำการจดั ทำแผนการทดลองประสิทธิภาพสารป้องกนั กำจดั โรคพืช ปี 2564
หน่อไม้ฝรั่ง
(คำแนะนำการจดั ทำแผนการทดลอง รหัส 282)
แผนการทดลองประสทิ ธิภาพสารปอ้ งกันกำจัดโรคพชื ............... (ช่ือสามญั ความเขม้ ข้น สตู รผสม และชอ่ื การคา้ )
ในการป้องกันกำจดั โรคใบจุดหรอื ใบเทยี มรว่ ง (leaf blight) ในหนอ่ ไม้ฝร่งั
ทมี่ ีสาเหตุจากเชอ้ื รา Cercospora asparagi
1. สภาพการทดลอง (Experimental Conditions)
1.1 พืช หนอ่ ไม้ฝรัง่
1.2 สถานที่ เปน็ แปลงทม่ี ีการระบาดของโรค อย่างนอ้ ย 2 แหง่
หรอื 2 การทดลอง
1.3 ระยะเวลา เดือน ... พ.ศ. ... - เดือน ... พ.ศ. ...
1.4 การวางแผนการทดลอง RCB
1.5 กรรมวิธี จำนวนกรรมวธิ ี
1.6 จำนวนซ้ำ 4 ซำ้ (df ของ error ไม่ต่ำกว่า 12)
1.7 ขนาดแปลงย่อย ไม่นอ้ ยกวา่ 2x5 เมตร และแต่ละแปลงย่อยห่างกนั
ไม่นอ้ ยกว่า 1 เมตร
1.8 ระยะปลูก ตามวธิ ปี ฏิบัติของเกษตรกร
1.9 กรณเี ลอื กแปลงทดลอง
1.9.1 พชื ในแปลงมีการเจรญิ เติบโตสม่ำเสมอ
1.9.2 หนอ่ ไมฝ้ รง่ั ทีป่ ลูกมีอายุไมต่ ่ำกว่า 1 ปี
1.9.3 ควรมแี ปลงประกบ (border rows) ซ้ายขวาในแต่ละกรรมวธิ ี ข้างละ 1 แปลง
1.9.4 ถอนต้นท่ีเป็นโรครุนแรงมากกวา่ 50 เปอรเ์ ซ็นต์ ออกให้หมดก่อนทำการพน่ สารและควรเหลือ
ต้นไมต่ ่ำกว่า 5 ตน้ /กอ
2. กรรมวธิ กี ารใช้ (Application of Treatments)
2.1 สารป้องกันกำจัดโรคพืชท่ีใช้ทดลอง : ชื่อสามญั ความเข้มขน้ และสูตรผสม
ช่อื การคา้
2.2 สารป้องกนั กำจัดโรคพชื ท่ีใชเ้ ปรยี บเทยี บ : สารทใี่ ช้เปรียบเทยี บใหใ้ ชส้ าร 1 ชนิดและ 1 อัตราทต่ี รงกบั
ชนดิ พชื และโรคพชื ตามคำแนะนำของกลุ่มวิจยั โรคพืช สำนักวจิ ัยพัฒนาการอารกั ขาพืช
2.3 กรรมวธิ ีควบคุม (control treatment) ใช้น้ำเปล่าเปน็ กรรมวิธีเปรียบเทียบ
2.4 กรรมวธิ ีที่ใชใ้ นการทดลอง
คำแนะนำการจัดทำแผนการทดลองประสิทธิภาพสารป้องกนั กำจัดโรคพชื ปี 2564
145
หน่อไม้ฝรั่ง
กรรมวธิ ี อัตราที่ใช้ อัตราสารออกฤทธ์ิ
(กรมั หรอื มลิ ลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลติ ร) (กรมั สารออกฤทธ์ิ ต่อไร่)
1. สารทดลอง : ชือ่ สามญั ความเข้มขน้ และสูตรผสม
2. สารทดลอง : ช่อื สามญั ความเข้มข้น และสตู รผสม
3. สารทดลอง : ชอ่ื สามัญ ความเขม้ ขน้ และสตู รผสม
... สารเปรยี บเทียบ : ชอื่ สามัญ ความเขม้ ขน้ และสูตรผสม
(ระบุตามข้อ 2.2)
... นำ้ เปลา่ (ควบคุม)
2.5 วธิ กี ารใช้
2.5.1 วธิ ีการใช้สารป้องกนั กำจัดโรคพชื : ผสมนำ้ พน่ ให้ทั่วตน้
2.5.2 ระบรุ ะยะเวลา และจำนวนครั้งในการพ่นสาร : พ่นสารทดลองคร้ังแรกเมื่อพบการระบาดของโรค
พ่นซำ้ ทุก 7 วัน จำนวน 4 ครง้ั
2.5.3 เคร่ืองพ่นสารป้องกันกำจดั โรคพืชควรเปน็ ชนดิ ทว่ี ดั แรงดนั ได้ และมีประสทิ ธิภาพในการ
แพรก่ ระจายนำ้ ได้อยา่ งสมำ่ เสมอ การพน่ สารทดลองทุกชนิดต้องใชป้ รมิ าณน้ำเท่ากนั ทุกแปลง
ทดลองย่อย
2.5.4 ถา้ มกี ารใชส้ ารกำจดั แมลง สารกำจัดวชั พชื สารปอ้ งกนั กำจัดโรคพชื อื่นๆ ที่ไมใ่ ชเ่ ป้าหมายจะตอ้ ง
ใช้กับทกุ แปลงทดลองยอ่ ย
2.5.5 อัตรานำ้ ที่ใช้ 120 ลิตรตอ่ ไร่
3. วิธีการเกบ็ ขอ้ มลู การทดลอง (Data Assessments)
3.1 วิธีการประเมินโรค เวลาและความถข่ี องการประเมนิ
ประเมินความรุนแรงของโรคก่อนพ่นสารทดลองทุกคร้ัง และหลังพ่นสารทดลองครัง้ สุดท้าย 7 และ
14 วนั สุ่มประเมนิ จากต้นพืชจำนวน 10 กอตอ่ แปลงยอ่ ย ประเมินความรนุ แรงจากอาการทป่ี รากฏบนก่ิง
และลำต้น จำนวน 5 ตน้ ตอ่ กอ แบง่ ระดบั ความรุนแรงของโรคเปน็ 5 ระดับ ดังนี้
ระดับ 0 ไม่ปรากฏอาการโรค
ระดับ 1 แสดงอาการโรค 1-25 % ของต้น
ระดับ 2 แสดงอาการโรค 26-50 % ของตน้
ระดบั 3 แสดงอาการโรค 51-75 % ของตน้
ระดับ 4 แสดงอาการโรคมากกวา่ 75 % ของตน้
คำนวณดัชนีความรุนแรงของโรค จากสูตร
ดชั นีความรุนแรงของโรค (%) = ผลรวมของ (จำนวนตน้ เปน็ โรคในแตล่ ะระดับ x ระดบั ) x 100
จำนวนตน้ ทัง้ หมด x ระดบั สงู สดุ
146 คำแนะนำการจดั ทำแผนการทดลองประสิทธภิ าพสารปอ้ งกันกำจัดโรคพืช ปี 2564
หน่อไม้ฝร่ัง
3.2 บนั ทึกผลกระทบต่อพชื (Phytotoxicity) ถ้ามีอาการผิดปกติเกิดขนึ้
3.3 บนั ทกึ วธิ ีการดแู ลต่างๆ เช่น การใหน้ ำ้ การใส่ปุ๋ย การกำจัดวชั พืช การกำจดั แมลง และการปอ้ งกนั กำจัด
ศัตรูพืชอ่นื ๆ ถ้ามี
3.4 บันทกึ สภาพแวดล้อม และการเปลี่ยนแปลงตา่ งๆ ขณะทำการทดลองเท่าที่จะทำได้ เชน่ ความชนื้
อุณหภมู ิ ความแห้งแลง้ นำ้ ท่วม เป็นต้น
3.5 บันทกึ ผลกระทบของสารทดลองต่อโรคพืชชนิดอื่นๆ ทสี่ ังเกตเหน็
4. ผลการทดลอง (Results)
ทำการวิเคราะห์ผลการทดลองโดยวธิ ีทางสถิติทเ่ี หมาะสม ข้อมลู ดบิ ต้องเกบ็ ไว้เพื่อตรวจสอบ
คำแนะนำการจัดทำแผนการทดลองประสิทธภิ าพสารป้องกันกำจดั โรคพืช ปี 2564
147
หน้ำววั
(คำแนะนำการจัดทำแผนการทดลอง รหสั 291)
แผนการทดลองประสทิ ธภิ าพสารปอ้ งกนั กำจดั โรคพืช............... (ช่ือสามญั ความเขม้ ขน้ สูตรผสม และชอ่ื การคา้ )
ในการปอ้ งกนั กำจดั โรคเนา่ ดำ (black rot) ในหนา้ วัว
ทม่ี สี าเหตุจากเชอ้ื รา Phytophthora parasitica
1. สภาพการทดลอง (Experimental Conditions)
1.1 พืช หนา้ ววั
1.2 สถานท่ี เป็นแปลงท่มี ีการระบาดของโรค อยา่ งนอ้ ย 2 แห่ง
หรือ 2 การทดลอง
1.3 ระยะเวลา เดือน ... พ.ศ. ... - เดือน ... พ.ศ. ...
1.4 การวางแผนการทดลอง RCB
1.5 กรรมวธิ ี จำนวนกรรมวธิ ี
1.6 จำนวนซำ้ 5 ซำ้ (df ของ error ไม่ต่ำกว่า 12)
1.7 ขนาดแปลงย่อย ไม่น้อยกว่า 6 ตารางเมตร และแต่ละแปลงยอ่ ยห่างกัน
ไม่นอ้ ยกวา่ 1 เมตร
1.8 ระยะปลูก ตามวธิ ีปฏบิ ัตขิ องเกษตรกร
2. กรรมวธิ กี ารใช้ (Application of Treatments)
2.1 สารปอ้ งกนั กำจดั โรคพืชที่ใช้ทดลอง : ช่อื สามญั ความเข้มข้น และสูตรผสม
ชือ่ การคา้
2.2 สารป้องกนั กำจัดโรคพืชที่ใชเ้ ปรยี บเทียบ : สารทใ่ี ช้เปรียบเทยี บให้ใชส้ าร 1 ชนิดและ 1 อัตราทต่ี รงกับ
ชนดิ พืชและโรคพืชตามคำแนะนำของกลุ่มวจิ ัยโรคพชื สำนักวจิ ัยพัฒนาการอารักขาพืช
2.3 กรรมวิธีควบคมุ (control treatment) ใชน้ ้ำเปล่าเปน็ กรรมวธิ ีเปรยี บเทยี บ
2.4 กรรมวธิ ีท่ีใชใ้ นการทดลอง
กรรมวธิ ี อตั ราทใ่ี ช้ อตั ราสารออกฤทธ์ิ
(กรมั หรือมลิ ลลิ ิตร ตอ่ น้ำ 20 ลิตร) (กรมั สารออกฤทธิ์ ตอ่ ไร่)
1. สารทดลอง : ชอื่ สามัญ ความเข้มข้น และสตู รผสม
2. สารทดลอง : ชอื่ สามญั ความเข้มข้น และสตู รผสม
3. สารทดลอง : ชื่อสามญั ความเขม้ ข้น และสูตรผสม
... สารเปรยี บเทยี บ : ชอ่ื สามญั ความเข้มขน้ และสูตรผสม
(ระบุตามข้อ 2.2)
... น้ำเปลา่ (ควบคุม)
148 คำแนะนำการจัดทำแผนการทดลองประสิทธภิ าพสารปอ้ งกนั กำจดั โรคพชื ปี 2564
หน้ำวัว
2.5 วธิ ีการใช้
2.5.1 วธิ กี ารใช้สารป้องกันกำจดั โรคพชื : ผสมน้ำพน่ ให้ทวั่ ต้น
2.5.2 ระบุระยะเวลา และจำนวนคร้ังในการพน่ สาร : พน่ สารทดลองคร้ังแรกเม่ือพบการระบาดของโรค
พน่ ซำ้ ทุก 5 วนั จำนวนครง้ั ตามความเหมาะสม
2.5.3 เครื่องพน่ สารปอ้ งกันกำจดั โรคพืชควรเป็นชนดิ ท่ีวดั แรงดันได้ และมีประสทิ ธภิ าพในการ
แพรก่ ระจายน้ำไดอ้ ย่างสมำ่ เสมอ การพ่นสารทดลองทกุ ชนดิ ต้องใช้ปรมิ าณน้ำเท่ากนั ทุกแปลง
ทดลองย่อย
2.5.4 ถ้ามีการใชส้ ารกำจัดแมลง สารกำจัดวชั พชื สารปอ้ งกันกำจัดโรคพชื อืน่ ๆ ที่ไมใ่ ชเ่ ป้าหมายจะตอ้ ง
ใช้กับทุกแปลงทดลองยอ่ ย
2.5.5 อตั ราน้ำที่ใช้ ....... ลติ รต่อไร่
3. วิธีการเก็บข้อมลู การทดลอง (Data Assessments)
3.1 วธิ กี ารประเมินโรค เวลาและความถีข่ องการประเมนิ
ประเมินความรุนแรงของโรคก่อนพน่ สารทดลองทุกครงั้ และหลงั พน่ สารทดลองครัง้ สดุ ทา้ ย 5 และ
10 วัน สุ่มประเมินจากต้นพืชจำนวน 20 ต้นต่อแปลงย่อย ประเมินความรุนแรงจากอาการที่ปรากฏบน
ใบทุกใบในแต่ละต้น แบง่ ระดบั ความรนุ แรงของโรคออกเปน็ 5 ระดบั ดงั น้ี
ระดบั 0 ไมป่ รากฏอาการโรค
ระดับ 1 แสดงอาการโรค 1-10 % ของพื้นท่ใี บ
ระดบั 2 แสดงอาการโรค 11-25 % ของพนื้ ท่ใี บ
ระดบั 3 แสดงอาการโรค 26-50 % ของพน้ื ทใ่ี บ
ระดับ 4 แสดงอาการโรคมากกว่า 50 % ของพน้ื ทีใ่ บ
คำนวณดัชนคี วามรนุ แรงของโรค จากสูตร
ดัชนคี วามรุนแรงของโรค (%) = ผลรวมของ (จำนวนใบเปน็ โรคในแต่ละระดบั x ระดับ) x 100
จำนวนใบทงั้ หมด x ระดับสงู สดุ
3.2 บนั ทกึ ผลกระทบต่อพชื (Phytotoxicity) ถา้ มีอาการผิดปกตเิ กดิ ขึ้น
3.3 บนั ทกึ วิธีการดูแลตา่ งๆ เช่น การใหน้ ำ้ การใสป่ ยุ๋ การกำจัดวชั พืช การกำจดั แมลง และการปอ้ งกนั กำจัด
ศตั รพู ืชอ่ืนๆ ถ้ามี
3.4 บนั ทกึ สภาพแวดล้อม และการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ขณะทำการทดลองเทา่ ท่ีจะทำได้ เช่น ความชน้ื
อุณหภูมิ ความแห้งแลง้ นำ้ ท่วม เป็นตน้
3.5 บนั ทกึ ผลกระทบของสารทดลองต่อโรคพชื ชนิดอนื่ ๆ ทีส่ ังเกตเหน็
4. ผลการทดลอง (Results)
ทำการวเิ คราะห์ผลการทดลองโดยวิธที างสถติ ทิ ีเ่ หมาะสม ข้อมูลดิบต้องเก็บไวเ้ พ่ือตรวจสอบ
คำแนะนำการจดั ทำแผนการทดลองประสิทธิภาพสารปอ้ งกนั กำจดั โรคพืช ปี 2564
149
หอม
(คำแนะนำการจัดทำแผนการทดลอง รหัส 301)
แผนการทดลองประสทิ ธภิ าพสารปอ้ งกนั กำจัดโรคพืช............... (ช่อื สามญั ความเขม้ ขน้ สูตรผสม และช่ือการคา้ )
ในการป้องกนั กำจดั โรคใบจุดสีมว่ ง (purple blotch) ในหอม (ชนิดท่ีทำการทดลอง)
ท่ีมสี าเหตุจากเชอ้ื รา Alternaria porri
1. สภาพการทดลอง (Experimental Conditions)
1.1 พชื หอมหวั ใหญ่ หรอื หอมแดง (ชนิดท่ีทำการทดลอง)
1.2 สถานท่ี เป็นแปลงท่มี ีการระบาดของโรค อย่างน้อย 2 แห่ง
หรือ 2 การทดลอง
1.3 ระยะเวลา เดือน ... พ.ศ. ... - เดอื น ... พ.ศ. ...
1.4 การวางแผนการทดลอง RCB
1.5 กรรมวธิ ี จำนวนกรรมวธิ ี
1.6 จำนวนซ้ำ 4 ซำ้ (df ของ error ไม่ตำ่ กว่า 12)
1.7 ขนาดแปลงย่อย ไมน่ ้อยกวา่ 1x4 เมตร แตล่ ะแปลงย่อยหา่ งกนั ไมน่ อ้ ยกวา่
0.5 เมตร
1.8 ระยะปลกู ระยะระหวา่ งตน้ 10–15 เซนติเมตร และ ระหว่างแถว 15–20
เซนติเมตร หรือตามวิธีปฏบิ ัติของเกษตรกร
2. กรรมวธิ กี ารใช้ (Application of Treatments)
2.1 สารป้องกันกำจดั โรคพชื ท่ีใช้ทดลอง : ชื่อสามญั ความเข้มขน้ และสูตรผสม
ชอ่ื การคา้
2.2 สารป้องกันกำจดั โรคพชื ท่ีใช้เปรยี บเทยี บ : สารที่ใชเ้ ปรยี บเทยี บให้ใชส้ าร 1 ชนิดและ 1 อตั ราทต่ี รงกบั
ชนดิ พืชและโรคพชื ตามคำแนะนำของกลุ่มวจิ ยั โรคพืช สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช
2.3 กรรมวิธคี วบคุม (control treatment) ใช้น้ำเปล่าเปน็ กรรมวิธีเปรียบเทียบ
2.4 กรรมวิธที ่ใี ช้ในการทดลอง
กรรมวิธี อตั ราที่ใช้ อัตราสารออกฤทธิ์
(กรัมหรอื มิลลิลิตร ตอ่ น้ำ 20 ลติ ร) (กรัมสารออกฤทธ์ิ ต่อไร่)
1. สารทดลอง : ชอ่ื สามญั ความเข้มข้น และสตู รผสม
2. สารทดลอง : ช่ือสามัญ ความเข้มข้น และสูตรผสม
3. สารทดลอง : ชื่อสามญั ความเขม้ ข้น และสูตรผสม
... สารเปรยี บเทยี บ : ชอ่ื สามญั ความเข้มขน้ และสตู รผสม
(ระบตุ ามขอ้ 2.2)
... นำ้ เปล่า (ควบคุม)
150 คำแนะนำการจัดทำแผนการทดลองประสิทธิภาพสารปอ้ งกนั กำจัดโรคพชื ปี 2564
หอม
2.5 วิธีการใช้
2.5.1 วธิ กี ารใช้สารป้องกนั กำจดั โรคพืช : ผสมนำ้ พ่นให้ท่ัวต้น
2.5.2 ระบรุ ะยะเวลา และจำนวนคร้ังในการพน่ สาร : พน่ สารทดลองครั้งแรกเม่ือพบการระบาดของโรค
พน่ ซำ้ ทุก 7 วัน จำนวน 4 ครง้ั
2.5.3 เครือ่ งพน่ สารป้องกนั กำจดั โรคพืชควรเปน็ ชนิดท่วี ดั แรงดนั ได้ และมีประสิทธิภาพในการ
แพร่กระจายน้ำได้อย่างสมำ่ เสมอ การพ่นสารทดลองทุกชนิดต้องใชป้ รมิ าณนำ้ เท่ากันทุกแปลง
ทดลองย่อย
2.5.4 ถ้ามกี ารใช้สารกำจดั แมลง สารกำจดั วชั พืช สารป้องกนั กำจัดโรคพืชอ่นื ๆ ที่ไม่ใชเ่ ป้าหมายจะตอ้ ง
ใชก้ บั ทกุ แปลงทดลองย่อย
2.5.5 อัตรานำ้ ที่ใช้ 80 ลิตรต่อไร่
3. วิธกี ารเก็บข้อมลู การทดลอง (Data Assessments)
3.1 วิธกี ารประเมนิ โรค เวลาและความถขี่ องการประเมนิ
ประเมินความรุนแรงของโรคกอ่ นพน่ สารทดลองทุกครัง้ และหลังพ่นสารทดลองครัง้ สุดท้าย 7 และ
14 วัน สุ่มประเมินพืชจำนวน 25 ต้นต่อแปลงย่อย ประเมินความรุนแรงจากอาการที่ปรากฏบนใบที่ 4
และ 5 นับจากใบยอด แบง่ ระดับความรุนแรงของโรคออกเป็น 6 ระดบั ดงั นี้
ระดบั 0 ไม่ปรากฏอาการโรค
ระดบั 1 แสดงอาการโรค 1-10% ของพน้ื ทใี่ บ
ระดับ 2 แสดงอาการโรค 11-25% ของพน้ื ท่ใี บ
ระดบั 3 แสดงอาการโรค 26-50% ของพ้ืนที่ใบ
ระดับ 4 แสดงอาการโรค 51-75% ของพ้นื ท่ีใบ
ระดับ 5 แสดงอาการโรคมากกวา่ 75% ของพ้ืนทใี่ บ
คำนวณดชั นคี วามรุนแรงของโรค จากสตู ร
ดชั นีความรุนแรงของโรค (%) = ผลรวมของ (จำนวนใบเป็นโรคในแต่ละระดบั x ระดับ) x 100
จำนวนใบทง้ั หมด x ระดับสงู สดุ
3.2 บันทกึ ผลกระทบต่อพชื (Phytotoxicity) ถ้ามีอาการผดิ ปกติเกดิ ขน้ึ
3.3 บนั ทึกวิธีการดูแลตา่ งๆ เชน่ การให้น้ำ การใส่ปุ๋ย การกำจัดวชั พชื การกำจัดแมลง และการป้องกันกำจัด
ศตั รูพืชอ่ืนๆ ถา้ มี
3.4 บนั ทกึ สภาพแวดล้อม และการเปล่ียนแปลงตา่ งๆ ขณะทำการทดลองเทา่ ท่ีจะทำได้ เชน่ ความช้ืน
อณุ หภูมิ ความแหง้ แลง้ นำ้ ท่วม เปน็ ต้น
3.5 บันทกึ ผลกระทบของสารทดลองต่อโรคพืชชนดิ อืน่ ๆ ทสี่ งั เกตเห็น
4. ผลการทดลอง (Results)
ทำการวเิ คราะหผ์ ลการทดลองโดยวิธที างสถติ ทิ เ่ี หมาะสม ข้อมูลดบิ ต้องเก็บไว้เพ่ือตรวจสอบ
คำแนะนำการจัดทำแผนการทดลองประสิทธิภาพสารปอ้ งกันกำจัดโรคพืช ปี 2564
151
หอม
(คำแนะนำการจดั ทำแผนการทดลอง รหัส 302)
แผนการทดลองประสทิ ธภิ าพสารปอ้ งกันกำจดั โรคพชื ............... (ชือ่ สามญั ความเขม้ ขน้ สตู รผสม และช่ือการคา้ )
ในการป้องกันกำจดั โรคแอนแทรคโนส (anthracnose) ในหอม (ชนดิ ทีท่ ำการทดลอง)
ท่มี ีสาเหตุจากเชอ้ื รา Colletotrichum gloeosporioides
1. สภาพการทดลอง (Experimental Conditions)
1.1 พืช หอมหัวใหญ่ หรือหอมแดง (ชนิดทที่ ำการทดลอง)
1.2 สถานที่ เปน็ แปลงทม่ี ีการระบาดของโรค อยา่ งน้อย 2 แห่ง
หรอื 2 การทดลอง
1.3 ระยะเวลา เดอื น ... พ.ศ. ... - เดือน ... พ.ศ. ...
1.4 การวางแผนการทดลอง RCB
1.5 กรรมวธิ ี จำนวนกรรมวิธี
1.6 จำนวนซำ้ 4 ซำ้ (df ของ error ไม่ตำ่ กว่า 12)
1.7 ขนาดแปลงย่อย ไมน่ ้อยกว่า 1x4 เมตร แตล่ ะแปลงยอ่ ยห่างกันไมน่ อ้ ยกว่า
0.5 เมตร
1.8 ระยะปลกู ระยะระหวา่ งตน้ 10–15 เซนตเิ มตร และ ระหว่างแถว 15–20
เซนตเิ มตร หรอื ตามวธิ ปี ฏิบตั ิของเกษตรกร
2. กรรมวธิ กี ารใช้ (Application of Treatments)
2.1 สารปอ้ งกันกำจัดโรคพืชท่ีใชท้ ดลอง : ช่ือสามญั ความเข้มขน้ และสูตรผสม
ชอ่ื การค้า
2.2 สารปอ้ งกันกำจดั โรคพชื ที่ใชเ้ ปรียบเทยี บ : สารทใ่ี ชเ้ ปรยี บเทยี บใหใ้ ช้สาร 1 ชนิดและ 1 อตั ราทีต่ รงกบั
ชนิดพชื และโรคพืชตามคำแนะนำของกลุ่มวิจยั โรคพชื สำนกั วจิ ยั พัฒนาการอารกั ขาพืช
2.3 กรรมวิธคี วบคุม (control treatment) ใช้นำ้ เปล่าเปน็ กรรมวิธเี ปรียบเทียบ
2.4 กรรมวิธที ใี่ ชใ้ นการทดลอง
กรรมวิธี อตั ราท่ีใช้ อัตราสารออกฤทธ์ิ
(กรัมหรือมลิ ลิลิตร ตอ่ น้ำ 20 ลติ ร) (กรัมสารออกฤทธิ์ ต่อไร่)
1. สารทดลอง : ชื่อสามญั ความเข้มข้น และสูตรผสม
2. สารทดลอง : ชื่อสามญั ความเขม้ ข้น และสตู รผสม
3. สารทดลอง : ชอ่ื สามญั ความเขม้ ขน้ และสูตรผสม
... สารเปรยี บเทียบ : ช่อื สามัญ ความเข้มข้น และสตู รผสม
(ระบุตามขอ้ 2.2)
... น้ำเปลา่ (ควบคมุ )
152 คำแนะนำการจัดทำแผนการทดลองประสิทธิภาพสารป้องกนั กำจัดโรคพืช ปี 2564
หอม
2.5 วิธกี ารใช้
2.5.1 วธิ ีการใช้สารป้องกันกำจัดโรคพชื : ผสมนำ้ พน่ ใหท้ ว่ั ต้น
2.5.2 ระบุระยะเวลา และจำนวนคร้ังในการพ่นสาร : พ่นสารทดลองคร้งั แรกเมื่อพบการระบาดของโรค
พ่นซำ้ ทุก 5 วัน จำนวน 4 ครัง้
2.5.3 เคร่ืองพน่ สารปอ้ งกนั กำจดั โรคพชื ควรเป็นชนิดทวี่ ัดแรงดันได้ และมีประสทิ ธิภาพในการ
แพร่กระจายนำ้ ได้อยา่ งสมำ่ เสมอ การพน่ สารทดลองทุกชนิดต้องใช้ปรมิ าณนำ้ เท่ากันทุกแปลง
ทดลองย่อย
2.5.4 ถ้ามีการใชส้ ารกำจัดแมลง สารกำจัดวชั พชื สารป้องกันกำจัดโรคพชื อืน่ ๆ ท่ีไมใ่ ชเ่ ป้าหมายจะตอ้ ง
ใชก้ บั ทกุ แปลงทดลองย่อย
2.5.5 อตั ราน้ำที่ใช้ 80 ลติ รตอ่ ไร่
3. วธิ ีการเก็บขอ้ มูลการทดลอง (Data Assessments)
3.1 วธิ ีการประเมินโรค เวลาและความถ่ขี องการประเมิน
ประเมนิ ความรนุ แรงของโรคก่อนพ่นสารทดลองทกุ ครั้ง และหลังพ่นสารทดลองครง้ั สุดท้าย 5 และ
10 วัน สุ่มประเมินพืชจำนวน 25 ต้นต่อแปลงย่อย ประเมินความรุนแรงจากอาการทีป่ รากฏบนตน้ แบ่ง
ระดบั ความรุนแรงของโรคออกเปน็ 6 ระดบั ดังนี้
ระดบั 0 ไมป่ รากฏอาการโรค
ระดบั 1 แสดงอาการโรค 1-10% ของตน้ หรือใบเร่ิมยืดยาวผิดปกติ
ระดบั 2 แสดงอาการโรค 11-25% ของต้น หรอื ใบบดิ โคง้ งอ
ระดับ 3 แสดงอาการโรค 26-50% ของตน้ หรือสว่ นคอยดื ยาว
ระดบั 4 แสดงอาการโรค 51-75% ของตน้ หรือต้นเล้ือย
ระดับ 5 แสดงอาการโรคมากกว่า 75% ของตน้ หรือเนา่ จนเก็บผลผลิตไมไ่ ด้
คำนวณดชั นคี วามรุนแรงของโรค จากสตู ร
ดชั นีความรนุ แรงของโรค (%) = ผลรวมของ (จำนวนตน้ เปน็ โรคในแตล่ ะระดบั x ระดับ) x 100
จำนวนตน้ ท้งั หมด x ระดับสูงสุด
3.2 บันทกึ ผลกระทบต่อพืช (Phytotoxicity) ถ้ามีอาการผดิ ปกติเกิดขน้ึ
3.3 บันทกึ วิธกี ารดูแลต่างๆ เชน่ การใหน้ ้ำ การใส่ปุ๋ย การกำจัดวชั พืช การกำจัดแมลง และการป้องกนั กำจัด
ศตั รูพชื อน่ื ๆ ถา้ มี
3.4 บันทกึ สภาพแวดล้อม และการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ขณะทำการทดลองเท่าทีจ่ ะทำได้ เชน่ ความชืน้
อุณหภูมิ ความแห้งแลง้ น้ำท่วม เปน็ ต้น
3.5 บันทึกผลกระทบของสารทดลองต่อโรคพชื ชนิดอื่นๆ ทีส่ ังเกตเห็น
4. ผลการทดลอง (Results)
ทำการวเิ คราะหผ์ ลการทดลองโดยวธิ ีทางสถิตทิ ี่เหมาะสม ข้อมูลดิบต้องเก็บไว้เพื่อตรวจสอบ
คำแนะนำการจัดทำแผนการทดลองประสิทธิภาพสารป้องกนั กำจัดโรคพชื ปี 2564
153
หญ้ำสนำมกอล์ฟ
(คำแนะนำการจดั ทำแผนการทดลอง รหัส 311)
แผนการทดลองประสิทธภิ าพสารปอ้ งกนั กำจดั โรคพชื ............... (ช่ือสามญั ความเขม้ ขน้ สตู รผสม และชอ่ื การคา้ )
ในการป้องกนั กำจดั โรคใบไหม้ (leaf blight) ในหญ้าสนามกอลฟ์ (ชนดิ ท่ที ำการทดลอง)
ท่ีมสี าเหตุจากเชอื้ รา Curvularia sp.
1. สภาพการทดลอง (Experimental Conditions)
1.1 พชื หญ้าสนามกอลฟ์ (ชนดิ ที่ทำการทดลอง)
1.2 สถานที่ เป็นแปลงที่มีการระบาดของโรค อย่างน้อย 2 แห่ง
หรอื 2 การทดลอง
1.3 ระยะเวลา เดือน ... พ.ศ. ... - เดือน ... พ.ศ. ...
1.4 การวางแผนการทดลอง RCB
1.5 กรรมวิธี จำนวนกรรมวธิ ี
1.6 จำนวนซ้ำ 4 ซำ้ (df ของ error ไมต่ ำ่ กว่า 12)
1.7 ขนาดแปลงย่อย ไม่นอ้ ยกวา่ 10 ตารางเมตร แตล่ ะแปลงย่อยห่างกนั
ไมน่ ้อยกวา่ 1 เมตร
1.8 ระยะปลกู ตามวิธีปฏบิ ัติของเกษตรกร
2. กรรมวธิ กี ารใช้ (Application of Treatments)
2.1 สารปอ้ งกันกำจัดโรคพชื ที่ใชท้ ดลอง : ชอ่ื สามญั ความเขม้ ข้น และสูตรผสม
ช่ือการค้า
2.2 สารป้องกนั กำจดั โรคพชื ที่ใช้เปรยี บเทียบ : สารทีใ่ ช้เปรยี บเทียบให้ใช้สาร 1 ชนดิ และ 1 อตั ราท่ีตรงกบั
ชนดิ พืชและโรคพชื ตามคำแนะนำของกลุ่มวจิ ยั โรคพชื สำนักวิจยั พัฒนาการอารกั ขาพืช
2.3 กรรมวิธคี วบคุม (control treatment) ใชน้ ้ำเปล่าเปน็ กรรมวิธเี ปรยี บเทียบ
2.4 กรรมวิธีทีใ่ ช้ในการทดลอง
กรรมวธิ ี อัตราทใ่ี ช้ อัตราสารออกฤทธิ์
(กรมั หรือมิลลลิ ิตร ตอ่ น้ำ 20 ลิตร) (กรัมสารออกฤทธ์ิ ต่อไร่)
1. สารทดลอง : ช่ือสามัญ ความเข้มข้น และสตู รผสม
2. สารทดลอง : ชื่อสามัญ ความเขม้ ขน้ และสตู รผสม
3. สารทดลอง : ช่ือสามัญ ความเข้มข้น และสตู รผสม
... สารเปรยี บเทยี บ : ช่ือสามญั ความเขม้ ข้น และสตู รผสม
(ระบตุ ามข้อ 2.2)
... น้ำเปล่า (ควบคมุ )
154 คำแนะนำการจดั ทำแผนการทดลองประสิทธภิ าพสารปอ้ งกันกำจัดโรคพชื ปี 2564
หญ้ำสนำมกอล์ฟ
2.5 วธิ กี ารใช้
2.5.1 วิธีการใชส้ ารป้องกันกำจัดโรคพืช : ผสมนำ้ พน่ ใหท้ ่วั ต้น
2.5.2 ระบุระยะเวลา และจำนวนคร้ังในการพน่ สาร : พน่ สารทดลองครงั้ แรกเม่ือพบการระบาดของโรค
พน่ ซ้ำทุก 14 วัน อยา่ งน้อย 2 ครงั้
2.5.3 เครอื่ งพ่นสารปอ้ งกันกำจดั โรคพืชควรเปน็ ชนิดที่วดั แรงดันได้ และมีประสทิ ธิภาพในการ
แพรก่ ระจายนำ้ ไดอ้ ยา่ งสมำ่ เสมอ การพ่นสารทดลองทกุ ชนิดต้องใชป้ รมิ าณนำ้ เท่ากันทุกแปลง
ทดลองย่อย
2.5.4 ถา้ มีการใชส้ ารกำจดั แมลง สารกำจัดวัชพืช สารป้องกนั กำจัดโรคพืชอ่นื ๆ ที่ไมใ่ ช่เปา้ หมายจะต้อง
ใช้กับทกุ แปลงทดลองย่อย
2.5.5 อตั ราน้ำท่ีใช้ 80 ลติ รต่อไร่
3. วธิ ีการเก็บข้อมลู การทดลอง (Data Assessments)
3.1 วิธกี ารประเมินโรค เวลาและความถี่ของการประเมนิ
ประเมินความรุนแรงของโรคก่อนพน่ สารทดลองทุกคร้ัง และหลังพ่นสารทดลองครั้งสุดท้าย 14 วัน
ประเมินความรุนแรงจากอาการที่ปรากฏบนใบในพื้นที่สุ่มจุดละ 0.25 ตารางเมตร จำนวน 20 จุดต่อ
แปลงยอ่ ย แบ่งระดับความรุนแรงของโรคออกเป็น 6 ระดับ ดงั นี้
ระดบั 0 ไมป่ รากฏอาการโรค
ระดบั 1 แสดงอาการโรค 1-10% ของพน้ื ที่สุม่
ระดบั 2 แสดงอาการโรค 11-25% ของพื้นท่ีสุ่ม
ระดบั 3 แสดงอาการโรค 26-50% ของพ้ืนที่สุ่ม
ระดับ 4 แสดงอาการโรค 51-75% ของพน้ื ท่ีสมุ่
ระดับ 5 แสดงอาการโรคมากกวา่ 75% ของพื้นท่ีสุ่ม
คำนวณดชั นคี วามรุนแรงของโรค จากสตู ร
ดชั นีความรุนแรงของโรค (%) = ผลรวมของ (จำนวนจุดสุ่มหญ้าเปน็ โรคในแต่ละระดับ x ระดบั ) x 100
จำนวนจดุ สมุ่ ทง้ั หมด x ระดับสูงสดุ
3.2 บนั ทึกผลกระทบต่อพืช (Phytotoxicity) ถ้ามีอาการผิดปกตเิ กดิ ขึน้
3.3 บนั ทึกวิธีการดูแลต่างๆ เชน่ การใหน้ ้ำ การใสป่ ยุ๋ การกำจัดวัชพืช การกำจัดแมลง และการป้องกนั กำจัด
ศตั รูพชื อื่นๆ ถ้ามี
3.4 บนั ทึกสภาพแวดล้อม และการเปล่ยี นแปลงต่างๆ ขณะทำการทดลองเทา่ ทจี่ ะทำได้ เชน่ ความชืน้
อุณหภูมิ ความแหง้ แลง้ น้ำท่วม เปน็ ต้น
3.5 บันทึกผลกระทบของสารทดลองต่อโรคพชื ชนิดอ่นื ๆ ทสี่ งั เกตเหน็
4. ผลการทดลอง (Results)
ทำการวิเคราะห์ผลการทดลองโดยวิธที างสถิติท่ีเหมาะสม ข้อมูลดบิ ต้องเกบ็ ไวเ้ พื่อตรวจสอบ
คำแนะนำการจดั ทำแผนการทดลองประสิทธิภาพสารป้องกันกำจดั โรคพืช ปี 2564
155
อง่นุ
(คำแนะนำการจัดทำแผนการทดลอง รหสั 321)
แผนการทดลองประสิทธิภาพสารปอ้ งกนั กำจัดโรคพชื ............... (ช่ือสามญั ความเขม้ ข้น สตู รผสม และช่อื การค้า)
ในการปอ้ งกนั กำจดั โรคราน้ำค้าง (downy mildew) ในองุน่
ท่ีมีสาเหตจุ ากเชอ้ื รา Plasmopara viticola
1. สภาพการทดลอง (Experimental Conditions)
1.1 พืช องุ่น
1.2 สถานที่ เป็นแปลงทมี่ ีการระบาดของโรค อย่างน้อย 2 แห่ง
หรือ 2 การทดลอง
1.3 ระยะเวลา เดอื น ... พ.ศ. ... - เดอื น ... พ.ศ. ...
1.4 การวางแผนการทดลอง RCB
1.5 กรรมวธิ ี จำนวนกรรมวิธี
1.6 จำนวนซำ้ 4 ซำ้ (df ของ error ไม่ต่ำกว่า 12)
1.7 ขนาดแปลงย่อย ไม่นอ้ ยกวา่ 3x5 เมตร และมีระยะห่างระหวา่ งแปลงย่อย
ไมน่ อ้ ยกวา่ 1 เมตร
1.8 ระยะปลูก ตามวธิ ปี ฏบิ ัติของเกษตรกร
2. กรรมวิธีการใช้ (Application of Treatments)
2.1 สารป้องกันกำจัดโรคพืชท่ีใชท้ ดลอง : ชอ่ื สามญั ความเขม้ ข้น และสูตรผสม
ชื่อการคา้
2.2 สารป้องกันกำจดั โรคพืชที่ใช้เปรยี บเทียบ : สารที่ใชเ้ ปรียบเทียบให้ใช้สาร 1 ชนดิ และ 1 อัตราที่ตรงกบั
ชนิดพืชและโรคพชื ตามคำแนะนำของกลุ่มวจิ ยั โรคพชื สำนักวจิ ัยพฒั นาการอารกั ขาพชื
2.3 กรรมวิธคี วบคุม (control treatment) ใชน้ ้ำเปล่าเปน็ กรรมวิธเี ปรียบเทียบ
2.4 กรรมวธิ ีทใ่ี ชใ้ นการทดลอง
กรรมวธิ ี อัตราที่ใช้ อตั ราสารออกฤทธ์ิ
(กรัมหรอื มลิ ลิลติ ร ตอ่ น้ำ 20 ลิตร) (กรมั สารออกฤทธิ์
ตอ่ น้ำ 20 ลิตร)
1. สารทดลอง : ชอื่ สามญั ความเข้มขน้ และสูตรผสม
2. สารทดลอง : ช่ือสามญั ความเข้มขน้ และสตู รผสม
3. สารทดลอง : ช่ือสามญั ความเขม้ ขน้ และสตู รผสม
... สารเปรยี บเทียบ : ชื่อสามญั ความเขม้ ขน้ และสตู รผสม
(ระบตุ ามขอ้ 2.2)
... น้ำเปลา่ (ควบคุม)
156 คำแนะนำการจัดทำแผนการทดลองประสิทธภิ าพสารป้องกันกำจดั โรคพชื ปี 2564
อง่นุ
2.5 วธิ กี ารใช้
2.5.1 วธิ ีการใช้สารปอ้ งกันกำจัดโรคพชื : ผสมนำ้ พ่นให้ท่ัวตน้
2.5.2 ระบุระยะเวลา และจำนวนครั้งในการพน่ สาร : พน่ สารทดลองครัง้ แรกเม่ือพบการระบาดของโรค
พน่ ซำ้ ทุก 7 วัน จำนวน 4 คร้งั
2.5.3 เคร่ืองพ่นสารป้องกันกำจดั โรคพืชควรเปน็ ชนิดที่วัดแรงดันได้ และมีประสทิ ธภิ าพในการ
แพรก่ ระจายน้ำไดอ้ ยา่ งสม่ำเสมอ การพ่นสารทดลองทุกชนิดตอ้ งใชป้ รมิ าณน้ำเท่ากันทุกแปลง
ทดลองย่อย
2.5.4 ถ้ามีการใช้สารกำจดั แมลง สารกำจัดวชั พชื สารป้องกนั กำจัดโรคพชื อ่นื ๆ ท่ีไม่ใช่เป้าหมายจะต้อง
ใช้กบั ทกุ แปลงทดลองย่อย
3. วธิ กี ารเกบ็ ข้อมูลการทดลอง (Data Assessments)
3.1 วิธกี ารประเมนิ โรค เวลาและความถี่ของการประเมิน
ประเมินความรนุ แรงของโรคก่อนพ่นสารทดลองทกุ ครง้ั และหลังพ่นสารทดลองครั้งสุดท้าย 7 และ
14 วัน สมุ่ ประเมนิ จำนวน 20 ยอดตอ่ แปลงยอ่ ยท่ีผูกป้ายไว้ การประเมินคร้ังแรกใหป้ ระเมินจากใบทุกใบ
หลงั จากพ่นสารแลว้ ให้ประเมินโรคจากใบท่ี 3-8 (ทค่ี ลีแ่ ลว้ นับจากใบยอดลงมา) ประเมินความรุนแรงจาก
อาการทป่ี รากฏบนใบแต่ละใบของยอดเดมิ แบ่งระดบั ความรนุ แรงของโรคออกเปน็ 6 ระดบั ดังนี้
ระดบั 0 ไม่ปรากฏอาการโรค
ระดบั 1 แสดงอาการโรค 1-10% ของพ้ืนที่ใบ
ระดับ 2 แสดงอาการโรค 11-25% ของพ้ืนทีใ่ บ
ระดับ 3 แสดงอาการโรค 26-50% ของพ้นื ทใี่ บ
ระดบั 4 แสดงอาการโรค 51-75% ของพ้ืนทใ่ี บ
ระดบั 5 แสดงอาการโรคมากกว่า 75% ของพนื้ ท่ีใบ
คำนวณดัชนีความรนุ แรงของโรค จากสูตร
ดัชนคี วามรุนแรงของโรค (%) = ผลรวมของ (จำนวนใบเปน็ โรคในแตล่ ะระดับ x ระดับ) x 100
จำนวนใบทง้ั หมด x ระดับสงู สดุ
3.2 บนั ทกึ ผลกระทบต่อพชื (Phytotoxicity) ถา้ มีอาการผิดปกติเกิดขึน้
3.3 บนั ทกึ วธิ กี ารดูแลต่างๆ เช่น การใหน้ ้ำ การใสป่ ยุ๋ การกำจัดวชั พชื การกำจัดแมลง และการปอ้ งกนั กำจัด
ศตั รูพชื อ่ืนๆ ถา้ มี
3.4 บนั ทกึ สภาพแวดล้อม และการเปลย่ี นแปลงต่างๆ ขณะทำการทดลองเท่าทจ่ี ะทำได้ เชน่ ความช้นื
อุณหภมู ิ ความแหง้ แล้ง น้ำท่วม เปน็ ตน้
3.5 บนั ทึกผลกระทบของสารทดลองต่อโรคพชื ชนิดอืน่ ๆ ทส่ี ังเกตเหน็
4. ผลการทดลอง (Results)
ทำการวเิ คราะหผ์ ลการทดลองโดยวิธีทางสถติ ิทเี่ หมาะสม ข้อมลู ดบิ ต้องเกบ็ ไว้เพ่ือตรวจสอบ
คำแนะนำการจัดทำแผนการทดลองประสิทธิภาพสารป้องกนั กำจัดโรคพืช ปี 2564
157
อง่นุ
(คำแนะนำการจดั ทำแผนการทดลอง รหสั 322)
แผนการทดลองประสทิ ธิภาพสารปอ้ งกันกำจดั โรคพืช............... (ช่ือสามญั ความเขม้ ขน้ สูตรผสม และชื่อการค้า)
ในการปอ้ งกนั กำจดั โรคราแปง้ (powdery mildew) ในอง่นุ
ท่ีมสี าเหตจุ ากเชอ้ื รา Erysiphe necator
1. สภาพการทดลอง (Experimental Conditions)
1.1 พชื องนุ่
1.2 สถานที่ เปน็ แปลงทีม่ ีการระบาดของโรค อยา่ งนอ้ ย 2 แห่ง
หรือ 2 การทดลอง
1.3 ระยะเวลา เดอื น ... พ.ศ. ... - เดอื น ... พ.ศ. ...
1.4 การวางแผนการทดลอง RCB
1.5 กรรมวิธี จำนวนกรรมวิธี
1.6 จำนวนซำ้ 4 ซำ้ (df ของ error ไมต่ ำ่ กว่า 12)
1.7 ขนาดแปลงย่อย ไม่นอ้ ยกว่า 3x5 เมตร และมีระยะหา่ งระหว่างแปลงย่อย
ไมน่ ้อยกวา่ 1 เมตร
1.8 ระยะปลกู ตามวธิ ีปฏบิ ตั ิของเกษตรกร
2. กรรมวธิ กี ารใช้ (Application of Treatments)
2.1 สารป้องกันกำจัดโรคพชื ท่ีใช้ทดลอง : ชือ่ สามญั ความเข้มขน้ และสูตรผสม
ช่อื การคา้
2.2 สารป้องกนั กำจัดโรคพชื ท่ีใช้เปรยี บเทียบ : สารทใี่ ช้เปรียบเทยี บให้ใช้สาร 1 ชนิดและ 1 อัตราทต่ี รงกับ
ชนดิ พชื และโรคพืชตามคำแนะนำของกลุ่มวิจัยโรคพชื สำนกั วิจยั พัฒนาการอารักขาพืช
2.3 กรรมวิธีควบคุม (control treatment) ใชน้ ้ำเปล่าเปน็ กรรมวิธีเปรยี บเทยี บ
2.4 กรรมวิธีท่ีใชใ้ นการทดลอง
กรรมวิธี อัตราท่ใี ช้ อัตราสารออกฤทธิ์
(กรัมหรอื มิลลิลิตร ตอ่ น้ำ 20 ลิตร) (กรมั สารออกฤทธิ์
ต่อน้ำ 20 ลิตร)
1. สารทดลอง : ชื่อสามญั ความเข้มข้น และสูตรผสม
2. สารทดลอง : ชอื่ สามญั ความเข้มข้น และสตู รผสม
3. สารทดลอง : ช่ือสามัญ ความเขม้ ขน้ และสตู รผสม
... สารเปรียบเทียบ : ช่อื สามัญ ความเขม้ ข้น และสูตรผสม
(ระบตุ ามข้อ 2.2)
... น้ำเปลา่ (ควบคมุ )
158 คำแนะนำการจัดทำแผนการทดลองประสิทธิภาพสารปอ้ งกนั กำจัดโรคพืช ปี 2564
อง่นุ
2.5 วธิ กี ารใช้
2.5.1 วธิ ีการใชส้ ารปอ้ งกันกำจดั โรคพชื : ผสมน้ำพน่ ให้ทวั่ ตน้
2.5.2 ระบุระยะเวลา และจำนวนครั้งในการพ่นสาร : พ่นสารทดลองครั้งแรกเมื่อพบการระบาดของโรค
พ่นซำ้ ทกุ 7 วัน จำนวน 4 คร้งั
2.5.3 เครื่องพ่นสารป้องกันกำจัดโรคพืชควรเป็นชนิดที่วัดแรงดันได้ และมีประสิทธิภาพในการ
แพร่กระจายน้ำได้อย่างสม่ำเสมอ การพ่นสารทดลองทุกชนิดต้องใช้ปริมาณน้ำเท่ากันทุกแปลง
ทดลองยอ่ ย
2.5.4 ถ้ามีการใช้สารกำจัดแมลง สารกำจัดวัชพืช สารป้องกันกำจัดโรคพืชอืน่ ๆ ที่ไม่ใช่เป้าหมายจะต้อง
ใช้กบั ทุกแปลงทดลองย่อย
3. วธิ กี ารเกบ็ ข้อมลู การทดลอง (Data Assessments)
3.1 วิธกี ารประเมินโรค เวลาและความถขี่ องการประเมนิ
ประเมินความรุนแรงของโรคกอ่ นพ่นสารทดลองทุกครั้ง และหลังพ่นสารทดลองครั้งสุดท้าย 7 และ
14 วนั สมุ่ ประเมินจำนวน 20 ยอดตอ่ แปลงย่อยทผี่ ูกปา้ ยไว้ การประเมินคร้งั แรกให้ประเมินจากใบทุกใบ
หลังจากพน่ สารแล้วใหป้ ระเมินโรคจากใบที่ 3-8 (ทค่ี ล่ีแล้วนับจากใบยอดลงมา) ประเมนิ ความรุนแรงจาก
อาการที่ปรากฏบนใบแต่ละใบของยอดเดิม แบง่ ระดบั ความรนุ แรงของโรคออกเปน็ 6 ระดบั ดงั น้ี
ระดบั 0 ไม่ปรากฏอาการโรค
ระดบั 1 แสดงอาการโรค 1-10% ของพื้นท่ใี บ
ระดบั 2 แสดงอาการโรค 11-25% ของพืน้ ทใ่ี บ
ระดับ 3 แสดงอาการโรค 26-50% ของพน้ื ท่ีใบ
ระดบั 4 แสดงอาการโรค 51-75% ของพื้นทใ่ี บ
ระดับ 5 แสดงอาการโรคมากกวา่ 75% ของพื้นท่ใี บ
คำนวณดัชนีความรนุ แรงของโรค จากสตู ร
ดัชนคี วามรนุ แรงของโรค (%) = ผลรวมของ (จำนวนใบเป็นโรคในแตล่ ะระดับ x ระดบั ) x 100
จำนวนใบทั้งหมด x ระดบั สูงสดุ
3.2 บนั ทึกผลกระทบต่อพืช (Phytotoxicity) ถา้ มีอาการผิดปกติเกดิ ข้นึ
3.3 บันทกึ วิธกี ารดูแลตา่ งๆ เชน่ การให้นำ้ การใสป่ ุ๋ย การกำจัดวัชพชื การกำจดั แมลง และการปอ้ งกนั กำจัด
ศัตรูพชื อน่ื ๆ ถา้ มี
3.4 บนั ทกึ สภาพแวดล้อม และการเปลีย่ นแปลงตา่ งๆ ขณะทำการทดลองเทา่ ท่ีจะทำได้ เช่น ความชื้น
อุณหภมู ิ ความแหง้ แล้ง น้ำท่วม เปน็ ต้น
3.5 บันทกึ ผลกระทบของสารทดลองต่อโรคพชื ชนิดอ่ืนๆ ทสี่ งั เกตเหน็
4. ผลการทดลอง (Results)
ทำการวิเคราะหผ์ ลการทดลองโดยวธิ ที างสถิตทิ เี่ หมาะสม ข้อมลู ดิบต้องเกบ็ ไว้เพ่ือตรวจสอบ
คำแนะนำการจดั ทำแผนการทดลองประสิทธภิ าพสารป้องกันกำจดั โรคพืช ปี 2564
159
อง่นุ
(คำแนะนำการจดั ทำแผนการทดลอง รหสั 323)
แผนการทดลองประสทิ ธิภาพสารปอ้ งกันกำจดั โรคพืช............... (ชือ่ สามญั ความเขม้ ข้น สตู รผสม และช่ือการคา้ )
ในการปอ้ งกนั กำจดั โรคสแคป (scab) ในองนุ่
ท่มี ีสาเหตุจากเชอ้ื รา Sphaceloma ampelinum
1. สภาพการทดลอง (Experimental Conditions)
1.1 พืช องนุ่
1.2 สถานที่ เป็นแปลงท่มี ีการระบาดของโรค อยา่ งน้อย 2 แหง่
หรอื 2 การทดลอง
1.3 ระยะเวลา เดือน ... พ.ศ. ... - เดือน ... พ.ศ. ...
1.4 การวางแผนการทดลอง RCB
1.5 กรรมวิธี จำนวนกรรมวธิ ี
1.6 จำนวนซำ้ 4 ซำ้ (df ของ error ไม่ตำ่ กว่า 12)
1.7 ขนาดแปลงย่อย ไมน่ อ้ ยกว่า 3x5 เมตร และมีระยะหา่ งระหวา่ งแปลงย่อย
ไมน่ ้อยกว่า 1 เมตร
1.8 ระยะปลูก ตามวิธีปฏบิ ตั ขิ องเกษตรกร
2. กรรมวธิ กี ารใช้ (Application of Treatments)
2.1 สารป้องกันกำจัดโรคพชื ท่ีใช้ทดลอง : ช่อื สามัญ ความเขม้ ขน้ และสูตรผสม
ชอ่ื การคา้
2.2 สารป้องกนั กำจัดโรคพชื ที่ใชเ้ ปรยี บเทียบ : สารท่ีใช้เปรียบเทยี บให้ใชส้ าร 1 ชนดิ และ 1 อัตราทตี่ รงกบั
ชนดิ พชื และโรคพชื ตามคำแนะนำของกลุ่มวิจัยโรคพชื สำนกั วิจัยพฒั นาการอารกั ขาพชื
2.3 กรรมวิธคี วบคมุ (control treatment) ใช้นำ้ เปล่าเป็นกรรมวิธเี ปรยี บเทียบ
2.4 กรรมวิธีท่ีใช้ในการทดลอง
กรรมวธิ ี อตั ราที่ใช้ อัตราสารออกฤทธิ์
(กรมั หรือมลิ ลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลติ ร) (กรัมสารออกฤทธิ์
ตอ่ น้ำ 20 ลติ ร)
1. สารทดลอง : ชื่อสามัญ ความเข้มขน้ และสตู รผสม
2. สารทดลอง : ชอื่ สามญั ความเข้มขน้ และสตู รผสม
3. สารทดลอง : ช่ือสามัญ ความเขม้ ขน้ และสูตรผสม
... สารเปรยี บเทียบ : ชื่อสามญั ความเขม้ ขน้ และสตู รผสม
(ระบตุ ามข้อ 2.2)
... น้ำเปล่า (ควบคุม)
160 คำแนะนำการจดั ทำแผนการทดลองประสิทธิภาพสารปอ้ งกนั กำจัดโรคพชื ปี 2564
อง่นุ
2.5 วิธกี ารใช้
2.5.1 วิธีการใชส้ ารป้องกนั กำจดั โรคพชื : ผสมน้ำพน่ ใหท้ ่วั ต้น
2.5.2 ระบุระยะเวลา และจำนวนครั้งในการพ่นสาร : พ่นสารทดลองครั้งแรกเมื่อพบการระบาดของโรค
พน่ ซำ้ ทุก 7 วนั จำนวน 6 คร้งั จนถึงระยะตดิ ผลอ่อน
2.5.3 เครื่องพ่นสารป้องกันกำจัดโรคพืชควรเป็นชนิดที่วัดแรงดันได้ และมีประสิทธิภาพในการ
แพร่กระจายน้ำได้อย่างสม่ำเสมอ การพ่นสารทดลองทุกชนิดต้องใช้ปริมาณน้ำเท่ากันทุกแปลง
ทดลองยอ่ ย
2.5.4 ถ้ามีการใช้สารกำจัดแมลง สารกำจัดวัชพืช สารป้องกันกำจัดโรคพืชอื่นๆ ที่ไม่ใช่เป้าหมายจะต้อง
ใช้กับทุกแปลงทดลองยอ่ ย
3. วิธีการเกบ็ ข้อมูลการทดลอง (Data Assessments)
3.1 วธิ กี ารประเมนิ โรค เวลาและความถขี่ องการประเมนิ
3.1.1 ประเมินความรุนแรงของโรคท่ีใบและกิ่งย่อย ก่อนพ่นสารทดลองทุกครั้ง และหลังพ่นสารทดลอง
คร้ังสดุ ทา้ ย 7 และ 14 วัน สมุ่ ประเมิน จำนวน 20 ยอดตอ่ แปลงย่อย การประเมนิ ครง้ั แรกประเมิน
จากใบทุกใบ หลังจากพ่นสารแล้วประเมินโรคจากใบที่ 3-8 (ที่คลี่แล้วนับจากใบยอดลงมา) โดย
ประเมินความรุนแรงจากอาการที่ปรากฏบนใบและกิ่งย่อยของยอดเดิม แบ่งระดับความรุนแรง
ของโรคเป็น 6 ระดบั ดงั น้ี
ระดับ 0 ไมป่ รากฏอาการโรค
ระดบั 1 แสดงอาการโรค 1-10 % ของยอด
ระดับ 2 แสดงอาการโรค 11-25 % ของยอด
ระดับ 3 แสดงอาการโรค 26-50 % ของยอด
ระดับ 4 แสดงอาการโรค 51-75 % ของยอด
ระดับ 5 แสดงอาการโรคมากกว่า 75 % ของยอด
คำนวณดัชนคี วามรุนแรงของโรค จากสตู ร
ดัชนีความรุนแรงของโรค (%) = ผลรวมของ (จำนวนยอดเป็นโรคในแตล่ ะระดบั x ระดบั ) x 100
จำนวนยอดท้งั หมด x ระดบั สูงสดุ
3.1.2 ประเมินการเกิดโรคทีผ่ ลหลังพน่ สารทดลองครัง้ สุดท้าย 7 และ 14 วนั โดยสมุ่ ช่อผลจำนวน 20 ช่อ
ตอ่ แปลงยอ่ ย นับจำนวนผลท้ังหมดและผลทเี่ ปน็ โรค คำนวณเปอร์เซน็ ต์การเกดิ โรค จากสตู ร
เปอร์เซ็นต์การเกดิ โรค = จำนวนผลทเ่ี ป็นโรค x 100
จำนวนผลทง้ั หมด
3.2 บนั ทกึ ผลกระทบตอ่ พืช (Phytotoxicity) ถ้ามอี าการผดิ ปกตเิ กดิ ขึน้
คำแนะนำการจดั ทำแผนการทดลองประสิทธิภาพสารป้องกนั กำจัดโรคพชื ปี 2564
161
อง่นุ
3.3 บันทึกวิธีการดูแลตา่ งๆ เชน่ การใหน้ ำ้ การใส่ปุ๋ย การกำจดั วชั พืช การกำจดั แมลง และการป้องกันกำจัด
ศตั รพู ืชอ่ืนๆ ถา้ มี
3.4 บันทึกสภาพแวดล้อม และการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ขณะทำการทดลองเท่าที่จะทำได้ เช่น ความช้ืน
อณุ หภูมิ ความแห้งแลง้ น้ำท่วม เปน็ ตน้
3.5 บนั ทึกผลกระทบของสารทดลองตอ่ โรคพืชชนดิ อ่นื ๆ ท่ีสงั เกตเหน็
4. ผลการทดลอง (Results)
ทำการวิเคราะห์ผลการทดลองโดยวธิ ที างสถติ ทิ ่เี หมาะสม ข้อมูลดบิ ต้องเก็บไว้เพ่ือตรวจสอบ
162 คำแนะนำการจัดทำแผนการทดลองประสิทธภิ าพสารปอ้ งกนั กำจัดโรคพชื ปี 2564
อง่นุ
(คำแนะนำการจดั ทำแผนการทดลอง รหสั 324)
แผนการทดลองประสิทธิภาพสารปอ้ งกันกำจดั โรคพืช............... (ชื่อสามญั ความเขม้ ขน้ สตู รผสม และชอ่ื การค้า)
ในการปอ้ งกันกำจดั โรคแอนแทรคโนส (anthracnose) ในองุน่
ทม่ี สี าเหตุจากเชอ้ื รา Colletotrichum gloeosporioides
1. สภาพการทดลอง (Experimental Conditions)
1.1 พชื องนุ่
1.2 สถานที่ เปน็ แปลงท่ีมีการระบาดของโรค อยา่ งน้อย 2 แหง่
หรอื 2 การทดลอง
1.3 ระยะเวลา เดอื น ... พ.ศ. ... - เดือน ... พ.ศ. ...
1.4 การวางแผนการทดลอง RCB
1.5 กรรมวธิ ี จำนวนกรรมวธิ ี
1.6 จำนวนซำ้ 4 ซำ้ (df ของ error ไม่ต่ำกว่า 12)
1.7 ขนาดแปลงย่อย ไมน่ ้อยกว่า 3x5 เมตร และมีระยะหา่ งระหว่างแปลงย่อย
ไมน่ อ้ ยกว่า 1 เมตร
1.8 ระยะปลกู ตามวธิ ปี ฏิบตั ิของเกษตรกร
2. กรรมวิธีการใช้ (Application of Treatments)
2.1 สารป้องกนั กำจัดโรคพืชท่ีใช้ทดลอง : ชือ่ สามัญ ความเข้มข้น และสูตรผสม
ชอื่ การคา้
2.2 สารป้องกนั กำจัดโรคพืชท่ีใช้เปรียบเทียบ : สารท่ีใชเ้ ปรยี บเทยี บใหใ้ ช้สาร 1 ชนิดและ 1 อตั ราท่ตี รงกบั
ชนิดพชื และโรคพืชตามคำแนะนำของกลุ่มวจิ ัยโรคพืช สำนักวิจัยพัฒนาการอารกั ขาพืช
2.3 กรรมวิธคี วบคมุ (control treatment) ใช้นำ้ เปลา่ เป็นกรรมวิธเี ปรียบเทียบ
2.4 กรรมวธิ ีที่ใช้ในการทดลอง
กรรมวธิ ี อตั ราท่ใี ช้ อตั ราสารออกฤทธ์ิ
(กรมั หรอื มิลลลิ ิตร ต่อน้ำ 20 ลติ ร) (กรัมสารออกฤทธ์ิ
ต่อน้ำ 20 ลิตร)
1. สารทดลอง : ช่อื สามัญ ความเข้มข้น และสูตรผสม
2. สารทดลอง : ช่ือสามัญ ความเข้มขน้ และสตู รผสม
3. สารทดลอง : ชอ่ื สามญั ความเข้มขน้ และสูตรผสม
... สารเปรยี บเทยี บ : ชือ่ สามญั ความเข้มข้น และสูตรผสม
(ระบตุ ามขอ้ 2.2)
... นำ้ เปล่า (ควบคุม)
คำแนะนำการจัดทำแผนการทดลองประสิทธภิ าพสารป้องกนั กำจัดโรคพืช ปี 2564
163
อง่นุ
2.5 วธิ ีการใช้
2.5.1 วธิ กี ารใชส้ ารปอ้ งกนั กำจัดโรคพชื : ผสมน้ำพน่ ใหท้ ัว่ ตน้
2.5.2 ระบรุ ะยะเวลา และจำนวนคร้ังในการพ่นสาร : พ่นสารทดลองคร้ังแรกเมื่อพบการระบาดของโรค
ในระยะผลอ่อน พน่ ซ้ำทุก 7 วัน จำนวน 4 ครงั้
2.5.3 เครอ่ื งพน่ สารปอ้ งกันกำจัดโรคพืชควรเป็นชนิดทวี่ ัดแรงดันได้ และมีประสิทธภิ าพในการ
แพรก่ ระจายนำ้ ไดอ้ ยา่ งสมำ่ เสมอ การพ่นสารทดลองทุกชนดิ ตอ้ งใช้ปรมิ าณน้ำเท่ากันทุกแปลง
ทดลองย่อย
2.5.4 ถ้ามกี ารใช้สารกำจดั แมลง สารกำจดั วัชพชื สารปอ้ งกนั กำจัดโรคพืชอน่ื ๆ ที่ไม่ใชเ่ ปา้ หมายจะต้อง
ใช้กบั ทกุ แปลงทดลองย่อย
3. วิธกี ารเก็บข้อมลู การทดลอง (Data Assessments)
3.1 วิธีการประเมนิ โรค เวลาและความถีข่ องการประเมนิ
ประเมินการเกิดโรคหลังพ่นสารทดลองครั้งสุดท้าย 7 และ 14 วัน โดยสุ่มช่อผลจำนวน 20 ช่อต่อ
แปลงยอ่ ย นับจำนวนผลทัง้ หมดและผลท่ีเป็นโรค คำนวณเปอรเ์ ซ็นตก์ ารเกิดโรค จากสูตร
เปอรเ์ ซ็นต์การเกดิ โรค = จำนวนผลที่เป็นโรค x 100
จำนวนผลทงั้ หมด
3.2 บันทึกผลกระทบต่อพืช (Phytotoxicity) ถา้ มีอาการผิดปกตเิ กดิ ขน้ึ
3.3 บนั ทกึ วธิ ีการดูแลตา่ งๆ เชน่ การใหน้ ้ำ การใสป่ ุ๋ย การกำจดั วัชพืช การกำจัดแมลง และการป้องกันกำจัด
ศตั รูพืชอ่ืนๆ ถา้ มี
3.4 บันทกึ สภาพแวดล้อม และการเปลย่ี นแปลงต่างๆ ขณะทำการทดลองเท่าท่จี ะทำได้ เช่น ความช้ืน
อณุ หภูมิ ความแหง้ แล้ง น้ำท่วม เปน็ ตน้
3.5 บันทกึ ผลกระทบของสารทดลองต่อโรคพชื ชนิดอนื่ ๆ ที่สงั เกตเห็น
4. ผลการทดลอง (Results)
ทำการวิเคราะห์ผลการทดลองโดยวิธที างสถติ ทิ ่ีเหมาะสม ข้อมูลดบิ ต้องเกบ็ ไวเ้ พื่อตรวจสอบ
164 คำแนะนำการจัดทำแผนการทดลองประสิทธิภาพสารป้องกนั กำจัดโรคพืช ปี 2564
ภาคผนวก 1
ข้ันตอนการตรวจแผนการทดลอง
คำแนะนำการจัดทำแผนการทดลองประสิทธภิ าพสารปอ้ งกนั กำจัดโรคพชื ปี 2564
165
1. แบบฟอร์มทีเ่ ก่ยี วข้อง
1.1 คำขออนุญาตทำการทดลองประสิทธิภาพวตั ถุอันตรายในข้ันการทดลองเบือ้ งตน้
คำแนะนำการจดั ทำแผนการทดลองประสิทธิภาพสารป้องกนั กำจัดโรคพชื ปี 2564
166
คำแนะนำการจดั ทำแผนการทดลองประสิทธิภาพสารป้องกนั กำจัดโรคพชื ปี 2564
167
คำแนะนำการจัดทำแผนการทดลองประสิทธิภาพสารป้องกันกำจดั โรคพชื ปี 2564
168
1.2 ความเหน็ ของผู้ควบคุมการทดลองของราชการ และความเหน็ ของผู้อำนวยการสำนกั /สถาบนั
คำแนะนำการจดั ทำแผนการทดลองประสิทธิภาพสารป้องกนั กำจัดโรคพชื ปี 2564
169
1.3 แบบตรวจสอบแผนการทดลองประสิทธภิ าพสารเคมปี ้องกนั กำจดั ศัตรูพืช (Protocol)
คำแนะนำการจดั ทำแผนการทดลองประสิทธิภาพสารป้องกนั กำจัดโรคพืช ปี 2564
170
คำแนะนำการจดั ทำแผนการทดลองประสิทธิภาพสารป้องกนั กำจัดโรคพชื ปี 2564
171
2. วธิ กี ารตรวจแผนการทดลองประสทิ ธภิ าพสารปอ้ งกนั กำจดั โรคพืช (Protocol)
แผนการทดลองควรอ้างอิงตามเอกสาร “คำแนะนำแผนการทดลองประสิทธิภาพสารป้องกันกำจัดโรคพืช”
ของกลุม่ วิจัยโรคพืช สำนกั วจิ ัยพฒั นาการอารกั ขาพืช หรือแผนการทดลองทีม่ กี ารปรับปรงุ ล่าสุด
คำแนะนำ หากพืชและโรคพืชที่ขอทำการทดลองไม่มีในเอกสารคำแนะนำ การพิจารณาให้อยู่ใน
ดุลยพินจิ ของผ้คู วบคุมการทดลอง/กลุ่มวจิ ยั โรคพชื ใหค้ ำแนะนำการจัดทำแผนการทดลอง
❖ ช่ือเรื่อง
แผนการทดลองประสิทธิภาพสารปอ้ งกนั กำจดั โรคพชื .............(ช่อื สามัญ ความเขม้ ขน้ สตู รผสม และช่ือการค้า)
ในการป้องกันกำจดั โรค........ชื่อโรคภาษาไทย........ (ชื่อโรคภาษาองั กฤษ).......ในพืช…........................................
ที่มสี าเหตจุ าก (เชอื้ รา, เชอ้ื แบคทเี รยี , ไสเ้ ดอื นฝอย)........ช่อื วิทยาศาสตร์ของศัตรพู ืช............................................
ตวั อยา่ ง
แผนการทดลองประสิทธภิ าพสารป้องกนั กำจัดโรคพชื แมนโคเซบ (mancozeb) 80% WP
[แมนโคเซบ 80 (Mancozeb 80)] ในการปอ้ งกนั กำจดั โรคแอนแทรคโนส (anthracnose) ในมะม่วง
ท่ีมสี าเหตุจากเช้ือรา Colletotrichum spp.
คำแนะนำ
1. ในกรณีที่มีเชื้อสาเหตุของโรคหลายชนิด (species) เข้าทำลายในช่วงเวลาเดียวกัน แต่ยังไม่ได้มีการ
จำแนกชนดิ ทชี่ ัดเจน ใหใ้ ช้ช่อื สกุล (genus) แลว้ ตามดว้ ย spp.
2. ในกรณีที่มีเชื้อสาเหตุของโรคหลายชนิด (species) เข้าทำลายในช่วงเวลาเดียวกัน และมีการจำแนก
ชนิดที่ชัดเจนแล้ว ให้ใส่ชื่อเชื้อสาเหตขุ องโรคทุกชนิดเรียงตามลำดับตวั อักษร เช่น โรคเมล็ดด่าง (dirty panicle)
ในข้าว ที่มีสาเหตุจากเชื้อรา Bipolaris oryzae, Curvularia lunata, Cercospora oryzae, Fusarium
incarnatum, Sarocladium oryzae และ Trichoconis padwickii
3. ในกรณีที่ทราบชื่อสกุล (genus) ของเชื้อสาเหตุโรคแต่ยังไม่ได้มีการจำแนกชนิด (species) ที่ชัดเจน
ให้ใช้ช่อื genus ต่อดว้ ย sp. ได้ เชน่ Oidium sp.
❖ สภาพท่ที ำการทดลอง
1. สภาพการทดลอง (Experimental Conditions)
1.1 พืช ระบุชนิดพชื ท่ีทดลอง
1.2 สถานท่ี เปน็ แปลงท่มี ีการระบาดของโรค อย่างน้อย 2 แห่ง หรือ
2 การทดลอง
1.3 ระยะเวลา ระบเุ ดือนและปีทีเ่ ริ่มตน้ และสิ้นสดุ การทดลองใหช้ ัดเจนไม่เกิน 2 ปี
1.4 การวางแผนการทดลอง RCB หรอื ตามความเหมาะสม
คำแนะนำการจัดทำแผนการทดลองประสิทธภิ าพสารป้องกนั กำจัดโรคพชื ปี 2564
172
1.5 กรรมวธิ ี จำนวนกรรมวธิ ี
1.6 จำนวนซ้ำ ไม่น้อยกว่า 3 ซำ้ (df ของ error ตอ้ งไมต่ ำ่ กวา่ 12)
1.7 ขนาดแปลงย่อย ขนาดและระยะห่างระหว่างแปลงย่อยขน้ึ อยกู่ ับชนิดพชื ท่ที ดลอง
1.8 ระยะปลกู ข้ึนอย่กู ับชนดิ พืชทีท่ ดลอง หรือตามวิธปี ฏบิ ัตขิ องเกษตรกร
1.9 จำนวนต้น ขน้ึ อยกู่ ับชนดิ พชื ทที่ ดลอง (ถ้าจำเปน็ ต้องระบ)ุ
คำแนะนำ
1. สถานที่ทำการทดลอง สามารถระบุได้เกิน 2 จังหวัด แต่ไม่เกิน 5 จังหวัด เพื่อความสะดวกในกรณีท่ี
จังหวัดหนึ่งจังหวัดใด ไม่สามารถดำเนินการทดลองได้ ในกรณีที่ทำ 2 การทดลองพร้อมกันในจังหวัดเดียวกัน
ควรทำตา่ งอำเภอ หรอื ต่างตำบล หรือมรี ะยะหา่ งกันพอสมควรตามดุลยพนิ ิจของผ้คู วบคุมการทดลอง
2. การทำแปลงทดลอง กำหนดให้ทำ 2 สถานที่ หรือ 2 การทดลอง ในกรณีที่ดำเนินการ 2 สถานที่
สามารถทำพร้อมกันได้ แต่หากจำเป็นต้องทำการทดลองในสถานที่เดียวกันจะต้องทำต่างเวลากัน (หากเป็นพืช
ฤดูเดียวต้องทำต่างปกี ัน)
3. ขนาดแปลงย่อย ให้กำหนดเป็นขนาดของพื้นที่ที่น้อยที่สุดที่ต้องการ เช่น “ไม่น้อยกว่า 20
ตารางเมตร” หรอื “4 x 5 เมตร” และมีระยะหา่ งระหวา่ งแปลงย่อยที่เหมาะสม
4. ระยะเวลาของแผนการทดลอง กำหนดช่วงเวลาการปฏบิ ัติงานไว้ 2 ปี ในกรณีท่ไี ม่สามารถดำเนินการ
ตามแผนการทดลองได้ ผู้ทดลองควรทำการยกเลกิ แผนการทดลอง และแจ้งให้ผู้ควบคุมการทดลองทราบ หากมี
ความประสงค์จะต่ออายุแผนการทดลอง สามารถดำเนินการต่ออายุได้ 1 ครั้ง (ไม่เกิน 2 ปี) โดยต้องขอต่ออายุ
ก่อนแผนครบกำหนด แผนที่ต่ออายุให้เขียนระยะเวลาทำการทดลองรวมกับระยะเวลาที่ขอทำการทดลองคร้ัง
แรก เช่น
แผนเดมิ เดอื นกมุ ภาพนั ธ์ 2562 - เดือนมกราคม 2564
แผนใหม่ เดอื นกมุ ภาพันธ์ 2562 - เดอื นมกราคม 2566
5. แผนการทดลองที่ใช้ในการทดลองประสิทธิภาพสารป้องกันกำจัดโรคพืชส่วนใหญ่จะวางแผนการ
ทดลองแบบ Randomized Complete Block (RCB) เนอื่ งจากเป็นการทดลองในสภาพไร่ ดงั นน้ั ควรตรวจสอบ
การจัดวาง block และจำนวนซ้ำ (replication) ให้ถูกต้องตามหลักการวางแผนการทดลอง ในกรณีที่ไม่ได้วาง
แผนการทดลองแบบ RCB รายละเอยี ดตา่ งๆ จะเป็นไปตามข้อกำหนดของการวางแผนการทดลองน้นั ๆ
❖ กรรมวิธที ท่ี ำการทดลอง
2. กรรมวิธกี ารใช้ (Application of Treatments)
2.1 สารปอ้ งกันกำจัดโรคพชื ที่ใช้ทดลอง : ชื่อสามญั ความเขม้ ข้น และสูตรผสม
ชื่อการคา้
2.2 สารป้องกันกำจัดโรคพืชที่ใช้เปรียบเทยี บ : สารท่ีใช้เปรียบเทยี บให้ใช้สาร 1 ชนิด และ
1 อัตราทีต่ รงกับชนิดพชื และโรคพชื ตามคำแนะนำของกลุ่มวิจัยโรคพชื สำนักวิจยั พัฒนาการอารักขาพืช
คำแนะนำการจดั ทำแผนการทดลองประสิทธภิ าพสารปอ้ งกนั กำจัดโรคพชื ปี 2564
173
2.3 กรรมวิธคี วบคมุ (control treatment) ใช้นำ้ เปล่าเปน็ กรรมวธิ เี ปรยี บเทยี บ
2.4 กรรมวธิ ที ่ีใชใ้ นการทดลอง
กรรมวิธี อตั ราทีใ่ ช้ อัตราสารออกฤทธ์ิ
(กรมั หรือมิลลลิ ิตร ต่อน้ำ 20 ลติ ร) (กรัมสารออกฤทธิ์ ตอ่ ไร่)
1. สารทดลอง : ชอื่ สามญั ความเขม้ ข้น และสตู รผสม
2. สารทดลอง : ช่ือสามญั ความเขม้ ขน้ และสูตรผสม
3. สารทดลอง : ชอื่ สามญั ความเขม้ ขน้ และสูตรผสม
... สารเปรียบเทยี บ : ชอ่ื สามัญ ความเข้มขน้ และสูตรผสม
(ระบุตามข้อ 2.2)
... นำ้ เปลา่ (ควบคุม)
2.5 วิธกี ารใช้
2.5.1 วิธกี ารใช้สารป้องกนั กำจดั โรคพืช :
2.5.2 ระบุระยะเวลา และจำนวนครง้ั ในการพ่นสาร :
2.5.3 เครื่องพ่นสารป้องกันกำจัดโรคพืชควรเป็นชนิดที่วัดแรงดันได้ และมีประสิทธิภาพในการ
แพร่กระจายน้ำได้อย่างสม่ำเสมอ การพ่นสารทดลองทุกชนิดต้องใช้ปริมาณน้ำเท่ากันทุก
แปลงทดลองย่อย
2.5.4 ถ้ามีการใช้สารกำจดั แมลง สารกำจัดวัชพืช สารป้องกันกำจัดโรคพืชอื่นๆ ที่ไม่ใช่เป้าหมาย
จะต้องใช้กับทุกแปลงทดลองยอ่ ย
2.5.5 อัตราน้ำท่ใี ช.้ ........ลิตรตอ่ ไร่
คำแนะนำ
1. สารป้องกันกำจัดโรคพืชที่ใช้ทดลอง : ระบุชื่อสามัญภาษาไทย (ชื่อสามัญภาษาอังกฤษ) ความ
เข้มข้นเป็นเปอร์เซ็นต์สารออกฤทธิ์ รูปแบบสูตรผสม ชื่อการค้าภาษาไทย (ชื่อการค้าภาษาองั กฤษ) ของสารที่ใช้
ทดลอง
2. สารทดลองที่นำมาผสมกัน (Tank mixed) ไม่อนุญาตให้นำมาทดลอง จะอนุญาตให้ทดลองได้
เฉพาะสารสำเร็จรปู ท่ีมาจากแหล่งผลติ เท่านั้น
3. สารปอ้ งกันกำจดั โรคพืชท่ีใช้เปรียบเทียบ : ระบุชอ่ื สามญั ภาษาไทย (ชือ่ สามญั ภาษาอังกฤษ) ความ
เข้มข้นเป็นเปอร์เซ็นต์สารออกฤทธิ์ และรูปแบบสูตรผสม โดยสารที่นำมาใช้เปรียบเทียบให้ใช้สารตามคำแนะนำ
การป้องกันกำจัดโรคพืช (ล่าสุด) ของกลุ่มวิจัยโรคพืช สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช กรมวิชาการเกษตร หรือ
คำแนะนำการใชส้ ารป้องกนั กำจดั โรคพืชของกรมการขา้ ว
ในกรณีที่ไม่สามารถหาสารที่นำมาใช้เปรียบเทียบได้ เนื่องจากพืชและโรคพืชบางชนิดไม่มีอยู่ใน
เอกสารคำแนะนำ ให้พิจารณาเลอื กสารเปรยี บเทยี บจากพืชอ่นื ที่มเี ช้ือสาเหตุโรคชนิดเดยี วกนั หรอื ชนดิ ท่ีใกล้เคียง
แทน หรือปรกึ ษาคณะกรรมการควบคมุ การทดลองและพิจารณาตรวจสอบแผนและผลการทดลองประสิทธภิ าพ
คำแนะนำการจดั ทำแผนการทดลองประสิทธิภาพสารป้องกันกำจดั โรคพืช ปี 2564
174
วตั ถุอันตรายทางการเกษตรเพ่ือการขน้ึ ทะเบยี น สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช
4. มีกรรมวิธีควบคุม (control treatment) ใช้น้ำเปล่าเป็นกรรมวิธีเปรียบเทียบ ด้วยวิธีการพ่น หรือ
คลุก หรือแช่ หรอื ทา หรือไมใ่ ชส้ าร ขึน้ อยู่กับคณุ สมบัติของสารที่นำมาทดลอง
5. ใหร้ ะบอุ ัตราสารที่ใช้ทดลองและสารเปรียบเทยี บเปน็ กรัมหรือมลิ ลิลติ รต่อนำ้ 20 ลิตร ในกรณีเป็น
สารที่ใช้ทาแผลให้ระบุเป็นกรัมหรือมิลลิลิตรต่อน้ำ 1 ลิตร ในกรณีเป็นสารที่ใช้คลุกเมล็ดให้ระบุเป็นกรัมหรือ
มลิ ลลิ ติ รตอ่ เมลด็ พันธ์ุ 1 กิโลกรมั
6. การกำหนดอัตราที่ใช้ของสารทดลองในกรรมวิธีทดลอง ควรมีอย่างน้อย 3 ระดับ คือ อัตราที่ต่ำ
กว่าคาดหมาย อัตราที่คาดหมายว่ามีประสิทธิภาพในการควบคุมโรค และอัตราที่สูงกว่าอัตราคาดหมาย โดยช่วง
ห่างของอัตราที่ใช้แต่ละระดับให้พิจารณาจากอัตราสารออกฤทธิ์ของสารทดลอง หากมีความเข้มข้นสูงควรปรับ
ช่วงอัตราให้แคบลง
7. การคำนวณอัตราสารออกฤทธิต์ ่อไร่ ให้คำนวณเปน็ กรัมสารออกฤทธิ์ต่อไร่ โดยใช้อัตราน้ำท่ีใช้พ่นใน
พชื นัน้ ๆ สำหรับไมผ้ ลให้คำนวณอัตราสารออกฤทธิ์ต่อน้ำ 20 ลติ ร
การคำนวณปริมาณสารออกฤทธิ์ (active ingredient : a.i.) ในสารป้องกันกำจดั โรคพชื
ตัวอยา่ งวิธคี ำนวณ
ผลติ ภัณฑ์สารป้องกันกำจดั โรคพืชแมนโคเซบ (mancozeb) 80% WP ใชป้ ้องกันกำจัดโรคแอนแทรค
โนสในพริก อตั ราสาร 50 กรัมตอ่ น้ำ 20 ลติ ร อัตราน้ำ 80 ลติ รตอ่ ไร่ สามารถคำนวณปริมาณสารออกฤทธติ์ ่อไร่
(กรมั สารออกฤทธติ์ ่อไร่) ไดด้ ังนี้
- คำนวณปรมิ าณสารออกฤทธ์ิตามอตั ราการใชต้ ่อนำ้ 20 ลิตร (เทยี บจากอตั ราสารผลติ ภัณฑ์ 100 กรมั
เพราะสารออกฤทธิ์มหี น่วยเป็นเปอร์เซ็นต)์
สาร mancozeb 80% WP 100 กรัม จะมีปริมาณสารออกฤทธ์ิ = 80 กรมั
80 กรมั x 50 กรัม
ดังน้ันสาร mancozeb 80% WP 50 กรัม จะมีปริมาณสารออกฤทธ์ิ = 100 กรัม
= 40 กรมั
- คำนวณปรมิ าณสารออกฤทธต์ิ อ่ พืน้ ท่ี 1 ไร่
อตั ราการใช้นำ้ 80 ลิตรต่อไร่ จะใช้สารผลติ ภณั ฑ์ mancozeb 80% WP ปรมิ าณ 100 กรัม
จากอตั ราการใช้นำ้ 20 ลิตร มีปริมาณสารออกฤทธ์ิ = 40 กรมั
ดังนนั้ อตั ราการใชน้ ้ำ 80 ลติ ร จะมีปริมาณสารออกฤทธ์ิ = 40 กรัม x 80 ลิตร
20 ลิตร
= 160 กรมั /ไร่
คำแนะนำการจดั ทำแผนการทดลองประสิทธิภาพสารปอ้ งกนั กำจดั โรคพืช ปี 2564
175
8. วิธีการใช้สารป้องกันกำจัดโรคพืช ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของสารที่นำมาทดลอง อาจจะเป็นการพ่นทาง
ใบ หรือการคลกุ เมล็ด หรือการราดดนิ ฯลฯ สำหรับระยะเวลาของการใช้สารซำ้ และจำนวนครั้งท่ีใช้สารตามความ
เหมาะสม โดยใหอ้ ยู่ในดุลยพินจิ ของผคู้ วบคมุ การทดลอง
9. ในกรณีท่มี ีการใชส้ ารกำจัดแมลงศัตรูพชื หรือสารเคมีอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับสารทดลองต้องใช้เหมือนกัน
ในทกุ กรรมวธิ ีและทุกแปลงทดลองยอ่ ย และสารน้นั ต้องไมม่ ีผลกระทบต่อการเกดิ โรคพืชที่ทำการทดลอง
10. ในกรณีที่ผู้ควบคุมการทดลองพบความไม่ปลอดภัยของสารทดลองต่อสิ่งมีชีวิตอื่นหรือสภาพแวดล้อม
สามารถทำหนงั สอื แจง้ ใหก้ ลมุ่ วิจัยโรคพืช พจิ ารณาเสนอคณะกรรมการวตั ถอุ ันตรายฯ เพอื่ ยกเลิกการทดลองได้
11. แผนการทดลองท่ีได้รบั ความเห็นชอบให้ทำการทดลองแลว้ แตต่ อ่ มาผู้ทดลองมคี วามประสงค์ขอแก้ไข
แผนการทดลอง ผู้ทดลองต้องยื่นเรื่องขอแก้ไขต่อสำนักควบคุมพืชและวัสดุเกษตร และในระหว่างดำเนินการ
ผู้ทดลองต้องแจ้งต่อผู้ควบคุมการทดลอง เพื่อพิจารณาอนุญาตให้ผู้ทดลองเตรียมแปลงทดลองและดำเนินการ
ล่วงหนา้ ได้
❖ วธิ กี ารเกบ็ ขอ้ มูล
3. วธิ ีการเกบ็ ข้อมูลการทดลอง (Data Assessments)
3.1 วิธีการประเมนิ โรค เวลาและความถ่ีของการประเมนิ
3.2 บันทึกผลกระทบต่อพชื (Phytotoxicity) ถ้ามีอาการผิดปกติเกิดข้นึ
3.3 บันทึกวิธีการดูแลต่างๆ เช่น การให้น้ำ การใส่ปุ๋ย การกำจัดวัชพืช การกำจัดแมลง และการ
ป้องกนั กำจัดศตั รูพชื อน่ื ๆ ถ้ามี
3.4 บันทกึ สภาพแวดลอ้ ม และการเปลี่ยนแปลงตา่ งๆ ขณะทำการทดลองเทา่ ที่จะทำได้ เช่น ความช้นื
อณุ หภูมิ ความแห้งแลง้ น้ำทว่ ม เป็นต้น
3.5 บนั ทกึ ผลกระทบของสารทดลองต่อโรคพืชชนดิ อื่นๆ ทีส่ งั เกตเห็น
คำแนะนำ
1. วธิ กี ารประเมินโรค (Disease assessment) มวี ิธปี ระเมนิ 3 วิธี ดงั น้ี
1.1 การประเมินเปอร์เซน็ ต์การเกดิ โรค Disease Incidence (I)
เปน็ การประเมินการเกิดโรค โดยประเมนิ จากลักษณะอาการของโรคทีป่ รากฏบนตน้ พืช ใบพืช
หรอื สว่ นตา่ งๆ ของพืชด้วยสายตา แลว้ นับจำนวนต้นพืช ใบพืช หรอื สว่ นทแี่ สดงอาการของโรค แล้วนำมาคำนวณ
เป็นเปอรเ์ ซน็ ตก์ ารเกดิ โรค
Disease Incidence (I) = number of infected plant units x 100
total number of plant units assessed
หรอื จำนวนตน้ หรอื ส่วนของพชื ท่ีเปน็ โรค x 100
เปอร์เซ็นต์การเกิดโรค = จำนวนต้น หรือสว่ นของพืชท้ังหมดท่ตี รวจ
คำแนะนำการจดั ทำแผนการทดลองประสิทธิภาพสารปอ้ งกนั กำจัดโรคพชื ปี 2564
176
ตัวอย่างการประเมินเปอรเ์ ซน็ ต์การเกดิ โรค
1.1.1 ประเมินเปอร์เซ็นต์การเกิดโรคเมล็ดด่างของข้าว โดยประเมินการเกิดโรคก่อนการเก็บ
เกี่ยว 2 สัปดาห์ โดยการสุ่มเก็บรวงข้าวไม่น้อยกว่า 50 รวงต่อแปลงย่อย ในแนวทแยงมุม 2 แนว แนวละ 20 จุด
นำมานับจำนวนเมล็ดทั้งหมดได้ 2,400 เมล็ด นับจำนวนเมล็ดที่แสดงอาการโรคเมล็ดด่างได้ 960 เมล็ด
คำนวณหาเปอรเ์ ซ็นตก์ ารเกดิ โรคเมลด็ ดา่ งได้ ดงั นี้
เปอรเ์ ซน็ ต์การเกดิ โรคเมลด็ ด่าง = จำนวนเมลด็ ท่เี กิดโรคเมล็ดด่าง x 100
จำนวนเมลด็ ทง้ั หมด
เปอรเ์ ซ็นต์การเกิดโรคเมลด็ ด่าง = 960 x 100
เปอรเ์ ซน็ ต์การเกดิ โรคเมลด็ ด่าง = 2,400
40 %
1.1.2 ประเมินเปอร์เซ็นต์การเกิดโรคราน้ำค้างในข้าวโพดหวาน โดยประเมินการเกิดโรคเม่ือ
ข้าวโพดหวานอายุ 40 วัน นับจำนวนต้นข้าวโพดทั้งหมดได้ 120 ต้น นับจำนวนต้นข้าวโพดหวานที่แสดงอาการ
โรคราน้ำค้างได้ 38 ตน้ คำนวณเปอร์เซน็ ต์การเกดิ โรครานำ้ ค้างในขา้ วโพดหวานได้ ดงั น้ี
เปอร์เซ็นต์การเกิดโรครานำ้ ค้าง = จำนวนต้นขา้ วโพดหวานทเ่ี กิดโรค x 100
จำนวนตน้ ขา้ วโพดหวานท้งั หมด
เปอรเ์ ซ็นต์การเกิดโรคราน้ำค้าง =
เปอรเ์ ซ็นต์การเกดิ โรครานำ้ ค้าง = 38 x 100
120
31.67%
1.2 การประเมนิ เปอร์เซน็ ต์ความรนุ แรงของโรค Disease severity (S)
เป็นการประเมนิ ระดบั ความรนุ แรงของโรคท่เี กดิ กบั ส่วนตา่ งๆ ของพชื โดยการวัดขนาดพ้ืนท่สี ว่ นของ
เนื้อเยื่อพชื ทแ่ี สดงอาการโรค เชน่ การวดั ขนาดแผลทลี่ ำตน้ หรือใบ แล้วนำมาคำนวณเป็นเปอร์เซ็นต์ความรุนแรง
ของโรค area of diseased tissue
total tissue area
Disease severity (S) = x 100
หรือ
เปอร์เซน็ ตค์ วามรุนแรงของโรค = พ้นื ทสี่ ว่ นของพชื ท่ีแสดงอาการโรค x 100
พ้ืนทีส่ ว่ นของพืชท้งั หมด
คำแนะนำการจดั ทำแผนการทดลองประสิทธิภาพสารปอ้ งกนั กำจัดโรคพชื ปี 2564
177
ตัวอยา่ งการประเมนิ เปอรเ์ ซ็นตค์ วามรุนแรงของโรค
1.2.1 ประเมินความรุนแรงโรคกาบใบแห้งในข้าว โดยการวัดความสูงของแผลและความสูงของต้น
ข้าว ด้วยวิธีการเดินสุ่มแบบทแยงมุมจำนวน 20 จุดต่อแปลงย่อย ได้ความสูงของแผลเฉลี่ยในแปลงย่อยเท่ากับ
28.5 เซนติเมตร และความสูงของต้นข้าวในแปลงย่อยเฉลี่ยเท่ากับ 108 เซนติเมตร คำนวณหาเปอร์เซ็นต์ความ
รนุ แรงของโรคได้ ดงั นี้
เปอรเ์ ซน็ ตค์ วามรุนแรงของโรค = ความสงู ของแผล x 100
ความสงู ของต้นขา้ ว
เปอร์เซน็ ต์ความรุนแรงของโรค = 28.5 x 100
108
เปอรเ์ ซน็ ต์ความรุนแรงของโรค = 26.39%
1.2.2 ประเมินความรุนแรงโรคขอบใบแห้งในข้าว โดยวัดความยาวของแผลและความยาวของใบ
ข้าวจำนวน 90 ใบต่อแปลงย่อย ด้วยวิธีการเดินสุ่มแบบทแยงมุม จำนวน 10 จุด จุดละ 3 กอต่อแปลงย่อย ได้
ค่าเฉล่ยี ความยาวของแผลในแปลงย่อยเทา่ กับ 12.50 เซนตเิ มตร และไดค้ า่ เฉลยี่ ความยาวของใบขา้ วในแปลงย่อย
เทา่ กับ 47.50 เซนติเมตร คำนวณหาเปอรเ์ ซน็ ตค์ วามรนุ แรงของโรคได้ ดังน้ี
เปอรเ์ ซ็นตค์ วามรนุ แรงของโรค = ความยาวของแผล x 100
ความยาวของใบขา้ ว
เปอรเ์ ซ็นตค์ วามรนุ แรงของโรค = 12.50 x 100
47.50
เปอรเ์ ซน็ ตค์ วามรุนแรงของโรค = 26.32 %
=
1.3 การประเมินดัชนคี วามรุนแรงของโรค (Disease Index (DI) หรอื
Disease severity index (DSI))
เป็นการประเมินระดับความรุนแรงของโรคด้วยสายตา โดยการให้คะแนนเป็นระดับ ตามลักษณะ
อาการความรุนแรงของโรคท่ีปรากฏ โดยใช้เกณฑ์การประเมินท่ีมีความเหมาะสมของแต่ละโรค แล้วนำมาคำนวณ
ค่าดชั นีความรุนแรงของโรคเปน็ เปอร์เซน็ ต์
Disease severity index (DSI) = [sum (class frequency × score of rating class)] x 100
(total number of plants × maximal disease index)
คำแนะนำการจัดทำแผนการทดลองประสิทธภิ าพสารปอ้ งกนั กำจัดโรคพชื ปี 2564
178
หรือ ผลรวมของ (จำนวนต้นหรอื ใบพชื เปน็ โรคในแตล่ ะระดับ × ระดับ) x 100
ดัชนคี วามรุนแรงของโรค (%) = (จำนวนต้นหรือใบพชื ทง้ั หมด × ระดบั สงู สดุ )
ตัวอย่างการประเมนิ ดัชนีความรุนแรงของโรค
1.3.1. ประเมินความรุนแรงของโรคใบไหม้มนั ฝร่ังในแปลงทดลอง โดยการสุม่ ต้นมันฝรั่งจำนวน 25
ตน้ ต่อแปลงย่อย ประเมนิ ความรุนแรงจากอาการโรคทีป่ รากฏบนต้นพืช แบง่ ระดบั ความรุนแรงของโรคออกเป็น 6
ระดบั ดงั น้ี
ระดับ 0 ไม่ปรากฏอาการโรค
ระดับ 1 แสดงอาการโรค 1-10 % ของตน้
ระดบั 2 แสดงอาการโรค 11-25% ของต้น
ระดบั 3 แสดงอาการโรค 26-50% ของต้น
ระดบั 4 แสดงอาการโรค 51-75% ของต้น
ระดบั 5 แสดงอาการโรคมากกวา่ 75% ของต้น
ได้ผลการประเมินระดบั ความรุนแรงของโรคใบไหม้มนั ฝรง่ั ในแปลงย่อย ดังน้ี
ระดบั ความรนุ แรงของโรค จำนวนต้น
0 1
1 2
2 5
3 6
4 4
5 2
ดชั นีความรุนแรงของโรค (%) = ผลรวมของ (จำนวนตน้ เป็นโรคแตล่ ะระดับ × ระดบั ) x 100
(จำนวนต้นทัง้ หมด × ระดบั สงู สุด)
ดชั นคี วามรนุ แรงของโรค (%) = (1x0) + (2x1) + (5x2) + (6x3) + (4x4) + (2x5) x 100
(20 × 5)
ดัชนคี วามรุนแรงของโรค (%) = 56 x 100
100
ดัชนคี วามรนุ แรงของโรค (%) = 56.00%
=
คำแนะนำการจดั ทำแผนการทดลองประสิทธภิ าพสารปอ้ งกนั กำจัดโรคพืช ปี 2564
179
2. ภายหลงั จากผู้ควบคมุ การทดลองตรวจแผนการทดลองเรียบรอ้ ยแล้ว
2.1 กรณมี ีการแก้ไข ใหผ้ ้คู วบคุมการทดลองส่งแผนการทดลองทตี่ ้องแก้ไขไปท่ีกลุ่มวิจัยโรคพชื เพื่อส่งให้
ผู้ทดลองแก้ไข เมื่อผู้ทดลองแก้ไขเรียบร้อยแล้วจะส่งกลับมาที่กลุ่มวิจัยโรคพืช เพื่อส่งให้ผู้ควบคุมการทดลอง
พจิ ารณาอีกครง้ั หากเห็นชอบ ผคู้ วบคมุ การทดลองดำเนินการตามขอ้ 2.2
2.2 กรณีไม่มีการแก้ไขและผู้ควบคุมการทดลอง “เห็นชอบ” แผนการทดลอง ผู้ควบคุมการทดลองต้อง
ให้ความเห็นและลงนามเอกสาร ดงั ต่อไปน้ี
2.2.1 เอกสาร “ความเห็นของผู้ควบคุมการทดลองของราชการ” (ตัวอย่างเอกสารภาคผนวก 1 ข้อ 1.2
หน้า 169)
2.2.2 เอกสาร“แบบตรวจสอบแผนการทดลองประสิทธิภาพสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช
(Protocol)” (ตวั อยา่ งเอกสารภาคผนวก 1 ข้อ 1.3 หนา้ 170-171) และสง่ กลบั ไปยงั ผูอ้ ำนวยการกลุ่มวิจัยโรคพืช
หรือผู้มีอำนาจลงนาม
คำแนะนำการจดั ทำแผนการทดลองประสิทธภิ าพสารปอ้ งกนั กำจัดโรคพชื ปี 2564
180
ภาคผนวก 2
ขั้นตอนการตรวจแปลงการทดลอง
คำแนะนำการจดั ทำแผนการทดลองประสิทธภิ าพสารป้องกันกำจัดโรคพชื ปี 2564
181
1. แบบฟอร์มทเ่ี ก่ยี วข้อง
1.1 แบบรายงานการตรวจแปลงทดสอบประสิทธภิ าพสารเคมปี ้องกันกำจัดศตั รูพืช (Protocol)
คำแนะนำการจัดทำแผนการทดลองประสิทธภิ าพสารป้องกันกำจัดโรคพืช ปี 2564
182
2. วิธีการตรวจแปลงทดลองประสทิ ธิภาพสารปอ้ งกนั กำจดั โรคพชื
2.1 ผู้ทดลอง ต้องแจ้งให้ผู้ควบคุมการทดลองทราบล่วงหน้าถึงกำหนดเวลาการตรวจแปลง เพื่อทำการนัด
หมายอย่างนอ้ ย 1 สปั ดาห์
2.2 ผทู้ ดลอง ต้องทำสำเนาแผนการทดลองประสิทธิภาพสารป้องกันกำจัดโรคพชื (Protocol) ฉบับทีผ่ ่านการ
อนุมัติให้ดำเนินการทดลองแล้ว ซึ่งจะมีตราประทับจาก 2 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือสำนักวิจัยพัฒนาการอารักขา
พืช และสำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร นำมามอบให้ผู้ควบคุมการทดลองเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการขอ
อนมุ ตั เิ ดนิ ทางไปตรวจแปลงทดลองจากต้นสังกดั
2.3 ผู้ควบคุมการทดลองควรตรวจการวางผังแปลงทดลองให้เป็นไปตามแผน และการระบาดของโรคพืชใน
แปลงทดลองควรมคี วามสมำ่ เสมอ
2.4 จำนวนครั้งที่ไปตรวจแปลง อยา่ งนอ้ ย 2 คร้ัง
2.5 เมื่อดำเนินการทำแปลงทดลองแล้ว หากผู้ทดลองไม่แจ้งให้ผู้ควบคุมการทดลองไปตรวจแปลง จนพืชอยู่
ในระยะทไี่ มส่ ามารถตรวจผลการทดลองได้แล้ว การทดลองนัน้ จำเปน็ ตอ้ งดำเนินการใหม่
2.6 ผ้คู วบคุมการทดลองควรใหผ้ ู้ทดลองเตรียมข้อมลู ดบิ ใหผ้ ู้ควบคมุ การทดลองทกุ ครง้ั
2.7 ผู้ควบคุมการทดลองควรจดบันทึก วัน เวลา สถานที่ สภาพแวดล้อม และข้อมูลจากการตรวจแปลง
ทดลองในวันที่ไปตรวจ เพื่อนำข้อมูลมาเปรียบเทียบกับข้อมูลในผลการทดลอง และเป็นประโยชน์ในการลงแบบ
ตรวจสอบผลการทดลอง
2.8 ในกรณีท่ีผู้ควบคุมการทดลองพบว่าไม่สามารถสรุปผลการทดลองได้ อันเนื่องมาจากสาเหตุอื่นซึ่งมี
ผลกระทบโดยตรงต่อโรคพชื เป้าหมาย ต้องแจ้งผู้ทดลองทราบพรอ้ มเหตุผล และให้ทำการทดลองใหม่
2.9 หลังจากเสร็จสิ้นการตรวจแปลงแล้ว ผู้ควบคุมการทดลองต้องกลับมารายงานการตรวจแปลงทดลองตาม
แบบรายงานการตรวจแปลงทดสอบประสิทธิภาพสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช (Protocol) (ตัวอย่างเอกสาร ใน
ภาคผนวก 2 ขอ้ 1.1 หนา้ 182) เพ่อื แนบไปกบั รายงานการเดนิ ทางไปปฏิบัตริ าชการ
คำแนะนำการจดั ทำแผนการทดลองประสิทธิภาพสารป้องกนั กำจดั โรคพืช ปี 2564
183
ภาคผนวก 3
ขั้นตอนการตรวจผลการทดลอง
คำแนะนำการจดั ทำแผนการทดลองประสิทธภิ าพสารปอ้ งกันกำจัดโรคพชื ปี 2564
184
1. แบบฟอร์มที่เกยี่ วข้อง
1.1 แบบรายงานผลการทดลองประสิทธภิ าพวัตถุอันตรายทางการเกษตร
คำแนะนำการจดั ทำแผนการทดลองประสิทธิภาพสารป้องกนั กำจดั โรคพชื ปี 2564
185
1.2 แบบตรวจสอบผลการทดลองประสทิ ธภิ าพสารเคมปี ้องกันกำจดั ศัตรูพชื (Protocol)
คำแนะนำการจัดทำแผนการทดลองประสิทธิภาพสารปอ้ งกันกำจัดโรคพืช ปี 2564
186
2. คำแนะนำวิธีการเขียนผลการทดลอง
2.1 ผลการทดลองประสิทธิภาพสารป้องกันกำจัดโรคพืชให้เขียนรูปแบบรายงานตามเอกสารในภาคผนวก 3
ขอ้ 1.1 หนา้ 185 ซ่ึงอยใู่ นประกาศกรมวชิ าการเกษตร
2.2 ผลการทดลองแสดงผลการประเมินโรคโดยใช้เปอร์เซ็นต์การเกดิ โรค เปอร์เซ็นต์ความรุนแรงของโรค หรือ
ดชั นคี วามรนุ แรงของโรคให้สอดคล้องกบั แผนการทดลอง (ตามตวั อย่างวธิ ีคำนวณในภาคผนวก 1 หน้า 176-179)
2.3 ประสิทธิภาพของสารป้องกันกำจัดโรคพืชที่นำมาทดลอง เมื่อวิเคราะห์ผลทางสถิติแล้ว ต้องดีเทียบเท่า
หรอื ดีกว่า สารเปรยี บเทยี บ และแตกต่างอย่างมีนยั สำคญั ทางสถิติกบั กรรมวธิ ีควบคุม
2.4 ขอ้ มลู ท่นี ำมาเขียนคำนำ ควรอา้ งองิ จากเอกสารทางวชิ าการท่ีมาจากแหล่งทเี่ ช่ือถือได้
2.5 วิธีการดำเนินงานในส่วนการวิเคราะห์ทางสถิติ ให้ระบุว่าวิเคราะห์ผลทางสถิติและเปรียบเทียบความ
แตกต่างโดยใชว้ ิธีการใด เช่น
“นำข้อมูลการทดลองที่ได้มาวิเคราะห์ผลทางสถิติโดยวิธี Analysis of Variance และเปรียบเทียบ
ความแตกต่างของคา่ เฉลย่ี โดยวธิ ี Duncan’s new Multiple Range Test”
2.6 การเขียนรายงานผลการทดลองควรมีความถูกต้องตามรูปแบบสากลทั่วไป ผลการทดลองและสรุปต้อง
เป็นข้อมลู ที่ปรากฏอยใู่ นตารางผลการทดลองเทา่ น้ัน
2.7 รปู แบบการเขยี นผลการทดลอง ในสว่ นของการแปลผลทางสถิติ
2.7.1 เปรยี บเทยี บระหว่างกรรมวธิ ีใช้สารและกรรมวธิ ีควบคุม
2.7.2 เปรียบเทียบระหว่างกรรมวิธีใช้สารทดลองและกรรมวิธีใช้สารเปรียบเทียบ โดยเปรยี บเทียบอัตรา
ที่มปี ระสทิ ธภิ าพดีที่สดุ กอ่ น แล้วจงึ เปรียบเทยี บอัตราทีม่ ปี ระสิทธิภาพในลำดบั รองลงมา
2.8 กรณีผลการทดลองจาก 2 แปลงทดลอง ได้อัตราสารที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดแตกต่างกัน ให้ใช้อัตราที่สูง
กว่าเป็นอตั ราแนะนำ
2.9 ตารางแสดงผลการทดลอง
2.9.1 ช่อื ตาราง ระบชุ ื่อการทดลอง แปลงทดลองท่ี สถานทด่ี ำเนนิ การ และระยะเวลาให้ชดั เจน
2.9.2 หัวตาราง ระบุกรรมวธิ ีทดลอง อัตราใชส้ าร รูปแบบการประเมนิ ตามท่ีกำหนดในแผนการทดลอง
2.9.3 การประเมินโรคให้ระบุเป็น ก่อนพ่นสารทดลองครั้งที่....และหลังพ่นสารทดลองครั้งสุดท้าย...วัน
2.9.4 ในตารางแสดงขอ้ มูลผลการทดลองต้องแสดง %CV ของการทดลองทุกครั้ง
2.9.5 การใสเ่ ชงิ อรรถใต้ตาราง
- ตัวเลขในสดมภ์เดียวกันที่ไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ ให้กำกับเป็นตัวยก (superscript)
“ns” และขอ้ ความท่ีเชิงอรรถใหใ้ ช้ “ns = Not significant”
- ตัวเลขในสดมภ์เดียวกันที่มีความแตกต่างกันทางสถิติ ให้ใส่ตัวพิมพ์เล็กของอักษรภาษาอังกฤษ
และให้กำกับด้วยตัวยก (superscript) เป็นตัวเลข เช่น 1/ สำหรับข้อความที่เชิงอรรถให้ใช้เป็น “ตัวเลขในสดมภ์
เดยี วกันทต่ี ามดว้ ยตวั อักษรเหมือนกันไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติท่ีระดับความเชื่อม่ัน 95% โดยวิธี DMRT”
คำแนะนำการจดั ทำแผนการทดลองประสิทธภิ าพสารปอ้ งกันกำจดั โรคพืช ปี 2564
187
3. การเขียนแบบตรวจสอบผลการทดลอง
ระบุรายละเอียดตามแบบตรวจผลการทดลองประสิทธิภาพสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช (Protocol) ตาม
เอกสารในภาคผนวก 3 ข้อ 1.2 หนา้ 186 ให้ครบถว้ น
คำแนะนำการจดั ทำแผนการทดลองประสิทธภิ าพสารปอ้ งกนั กำจดั โรคพืช ปี 2564
188
4. ตวั อย่างวิธกี ารเขียน
คำแนะนำการจดั ทำแผนการทดลองประสิทธิภาพสารป้องกนั กำจัดโรคพชื ปี 2564 ตารางท่ี 1 ผลการทดลองประสทิ ธิภาพสารปอ้ งกนั กำจดั โรคพืช............ช่อื สามัญ คว
(sheath blight) ในข้าว ทมี่ ีสาเหตจุ ากเช้อื รา Rhizoctonia solani (
189 ระหว่างเดือน............... - ...................
กรรมวธิ ี อตั ราการใช้ กอ่ น
(กรมั , มิลลิลติ ร คร
1. ชอื่ สามัญ ความเข้มขน้ สตู รผสม ต่อน้ำ 20 ลิตร)
2. ชื่อสามัญ ความเข้มขน้ สตู รผสม
3. ชอ่ื สามญั ความเข้มข้น สูตรผสม
4. ช่ือสามัญ ความเข้มขน้ สตู รผสม
5. นำ้ เปล่า (ควบคมุ )
CV (%)
ns = Not significant
1/ ตัวเลขในสดมภเ์ ดียวกนั ทีต่ ามดว้ ยตวั อกั ษรเหมอื นกนั ไม่มคี วามแตกตา่ งกนั ทางสถิตทิ
นข้อมูลผลการทดลองในตาราง
ความเข้มขน้ สูตรผสม และชื่อการค้า….......ในการป้องกันกำจดั โรคกาบใบแห้ง
(Thanatephorus cucumeris) แปลงทดลองที่.......อำเภอ............จงั หวดั ..................
เปอรเ์ ซ็นต์ความรนุ แรงของโรค
นพ่นสาร กอ่ นพน่ สาร หลังพ่นสาร หลังพ่นสาร
รั้งท่ี 1 คร้ังสุดท้าย 14 วัน
….ns คร้ังที่ 2 คร้ังสดุ ท้าย 7 วนั
….
…. …. ab 1/
….
…. …. ab
…. a
…. a
…. c
ท่รี ะดบั ความเชอ่ื มั่น 95% โดยวิธี DMRT
คำแนะนำการจัดทำแผนการทดลองประสิทธิภาพสารป้องกันกำจดั โรคพชื ปี 2564 ตารางท่ี 2 ผลการทดลองประสทิ ธภิ าพสารปอ้ งกนั กำจัดโรคพืช............ช่ือสามัญ คว
(brown spot) ในขา้ ว ท่ีมีสาเหตจุ ากเชอ้ื รา Bipolaris oryzae แปลง
190
กรรมวิธี อตั ราการใช้ กอ่ น
(กรมั , มลิ ลลิ ติ ร คร
1. ชอ่ื สามญั ความเข้มข้น สตู รผสม ตอ่ นำ้ 20 ลติ ร) …
2. ชือ่ สามญั ความเข้มขน้ สตู รผสม
3. ชื่อสามัญ ความเข้มข้น สตู รผสม
4. ชือ่ สามัญ ความเข้มขน้ สูตรผสม
5. นำ้ เปลา่ (ควบคุม)
CV (%)
ns = Not significant
1/ ตัวเลขในสดมภ์เดยี วกันทต่ี ามดว้ ยตวั อกั ษรเหมือนกนั ไม่มคี วามแตกตา่ งกนั ทางสถิตทิ ี่ร
ความเข้มขน้ สูตรผสม และชอื่ การค้า….......ในการป้องกนั กำจดั โรคใบจุดสีน้ำตาล
งทดลองท.่ี .......อำเภอ................จังหวัด.......................ระหวา่ งเดือน .............-.............
ดัชนีความรนุ แรงของโรค (%)
นพ่นสาร กอ่ นพน่ สาร หลังพน่ สาร หลังพ่นสาร
รัง้ ท่ี 1 ครง้ั สุดท้าย 14 วัน
….ns ครัง้ ที่ 2 คร้งั สุดทา้ ย 7 วัน
….
…. …. ab 1/
….
…. …. ab
…. a
…. a
…. c
ระดบั ความเชอื่ ม่ัน 95% โดยวธิ ี DMRT