The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ผู้สอนสามารถนำแผนการจัดการเรียนรู้เล่มนี้ไปเป็นคู่มือวางแผนกิจกรรมการเรียนรู้ประกอบการใช้หนังสือเรียนรายวิชา สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่ทางบริษัทจัดพิมพ์จำหน่าย โดยออกแบบการเรียนรู้ (Instructional Design)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kikumaru06, 2023-09-20 13:37:36

แผนกิจกรรมการเรียนรู้ประกอบการใช้หนังสือเรียนรายวิชา สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

ผู้สอนสามารถนำแผนการจัดการเรียนรู้เล่มนี้ไปเป็นคู่มือวางแผนกิจกรรมการเรียนรู้ประกอบการใช้หนังสือเรียนรายวิชา สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่ทางบริษัทจัดพิมพ์จำหน่าย โดยออกแบบการเรียนรู้ (Instructional Design)

Keywords: education

4 สังคมศึกษาฯ ป.4 เรื่องที่ 2 พระพุทธศาสนา วิธีสอนโดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ : เทคนิคการต่อเรื่องราว (Jigsaw) เวลา 1 ชั่วโมง ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. นักเรียนช่วยกันสำรวจเพื่อนๆ ในห้องเรียนว่าแต่ละคนนับถือศาสนาใดบ้าง เพราะอะไรจึงนับถือศาสนานั้น 2. นักเรียนร่วมกันสนทนาจนมีความคิดเห็นที่ตรงกันว่า ทุกศาสนามีความสำคัญต่อผู้ที่นับถือ ดังนั้น เราจึงควรศึกษา เรื่องราวประวัติความเป็นมาของศาสนาที่ตนนับถือ ขั้นสอน 1. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละกันตามความสามารถ เรียกกลุ่มนี้ว่า กลุ่มบ้าน แล้วให้แต่ละกลุ่มกำหนด หมายเลขประจำตัวให้สมาชิกแต่ละคนในกลุ่ม เป็นหมายเลข 1-4 2. สมาชิกที่มีหมายเลขเดียวกันมารวมกันเป็นกลุ่มใหม่ เรียกว่า กลุ่มผู้เชี่ยวชาญ แล้วให้กลุ่มผู้เชี่ยวชาญร่วมกันศึกษา ความรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของพระพุทธศาสนา ตามหมายเลข ดังนี้ - หมายเลข 1 ศึกษาความรู้เรื่อง ประสูติ - หมายเลข 2 ศึกษาความรู้เรื่อง ตรัสรู้ - หมายเลข 3 ศึกษาความรู้เรื่อง ประกาศธรรม - หมายเลข 4 ศึกษาความรู้เรื่อง ปรินิพพาน 3. เมื่อศึกษาความรู้เสร็จแล้ว ให้สมาชิกกลุ่มผู้เชี่ยวชาญแยกย้ายกันกลับเข้าสู่กลุ่มบ้าน แล้วร่วมกันอภิปรายแลกเปลี่ยน ความรู้ที่ได้ศึกษามาให้สมาชิกในกลุ่มบ้านฟัง โดยอาจเรียงตามลำดับหมายเลขหรือตามความสมัครใจก็ได้ 4. นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันทำใบงานที่ 2.1 เรื่อง พุทธประวัติ 5. นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอใบงานที่ 2.1 หน้าชั้นเรียน โดยมีครูคอยตรวจสอบความถูกต้อง และเพิ่มเติมในส่วนที่ยังมีข้อบกพร่องอยู่ แล้วร่วมกันเฉลยคำตอบในใบงาน ขั้นสรุป ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง ประวัติพระพุทธศาสนา


5 สังคมศึกษาฯ ป.4 เรื่องที่ 3 ศาสนาคริสต์ วิธีสอนโดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ : เทคนิคการเรียนร่วมกัน เวลา 1 ชั่วโมง ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูให้นักเรียนดูภาพเกี่ยวกับศาสนาคริสต์แล้วให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่ามีความเกี่ยวข้องกับศาสนาคริสต์ อย่างไร 2. ครูอธิบายเชื่อมโยงให้นักเรียนเข้าใจว่านอกเหนือจากพุทธประวัติที่นักเรียนเคยศึกษามาแล้ว ประวัติศาสนา และศาสดาของศาสนาอื่นๆ ก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจและสมควรที่จะศึกษาด้วย ขั้นสอน 1. นักเรียนกลุ่มเดิมจับคู่กันเป็น 2 คู่ ให้แต่ละคู่ศึกษาความรู้เรื่อง ศาสนาคริสต์ จากหนังสือเรียน และศึกษาความรู้เพิ่มเติม จากห้องสมุด และแหล่งข้อมูลสารสนเทศ โดยแบ่งหน้าที่กันศึกษาความรู้ ดังนี้ - คู่ที่ 1 ศึกษาความรู้เรื่อง ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับศาสนาคริสต์ - คู่ที่ 2 ศึกษาความรู้เรื่อง ประวัติของพระเยซู 2. เมื่อนักเรียนแต่ละคู่ศึกษาความรู้ตามที่ได้รับมอบหมายจนเข้าใจแล้วให้กลับมารวมกลุ่มเดิม (กลุ่ม 4 คน) แล้วนำความรู้ที่ได้มาอภิปรายร่วมกัน 3. นักเรียนแต่ละกลุ่มทำใบงานที่ 3.1 เรื่อง ศาสนาคริสต์โดยให้แต่ละกลุ่มกำหนดหมายเลขประจำตัว ให้สมาชิกในกลุ่ม ตั้งแต่หมายเลข 1-4 แล้วปฏิบัติ ดังนี้ - หมายเลข 1 อ่านคำถาม แยกแยะประเด็นคำถาม - หมายเลข 2 หาแนวทางในการตอบคำถาม - หมายเลข 3 รวบรวมข้อมูลและเขียนคำตอบ - หมายเลข 4 ตรวจคำตอบ ถ้าไม่ถูกต้องให้แก้ไขให้ถูกต้อง 4. เมื่อนักเรียนแต่ละกลุ่มทำใบงานที่ 3.1 ข้อ 1 เสร็จแล้ว ให้เริ่มทำข้อ 2 โดยให้สมาชิกแต่ละคนหมุนเวียนเปลี่ยนหน้าที่ กันไปเรื่อยๆ จนครบทุกข้อ 5. เมื่อแต่ละกลุ่มทำใบงานที่ 3.1 เสร็จแล้ว ให้แลกเปลี่ยนใบงานกับเพื่อนกลุ่มอื่น เพื่อตรวจสอบคำตอบ ตามที่ครูเฉลย ขั้นสรุป ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง ศาสนาคริสต์


6 สังคมศึกษาฯ ป.4 เรื่องที่ 4 ศาสนาอิสลาม วิธีสอนโดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ : เทคนิคกลุ่มสืบค้น เวลา 1 ชั่วโมง ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ครูทบทวนความรู้เดิมเรื่อง ประวัติและความสำคัญของศาสนา แล้วตั้งคำถามถามนักเรียนว่า นอกจากศาสนาที่นักเรียน นับถือแล้ว นักเรียนรู้จักศาสนาอื่นอีกหรือไม่ และศาสนานั้นมีความสำคัญอย่างไร ขั้นสอน 1. ครูสนทนากับนักเรียนว่า นอกจากพระพุทธศาสนาหรือศาสนาคริสต์ที่นักเรียนนับถือแล้ว นักเรียนรู้จักศาสนาอิสลาม หรือไม่ และศาสนาอิสลามมีความสำคัญและความเป็นมาอย่างไร 2. ครูแจกใบงานที่ 4.1 เรื่อง ศาสนาอิสลาม ให้ตัวแทนแต่ละกลุ่มเพื่อนำมาแบ่งให้สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มสืบค้นข้อมูล โดยเปิดโอกาสให้นักเรียนที่เรียนอ่อนได้เลือกหัวข้อก่อน 3. สมาชิกแต่ละคนศึกษาสืบค้นความรู้เพื่อเป็นคำตอบตามหัวข้อที่ตนรับผิดชอบ แล้วนำคำตอบมาอภิปรายร่วมกัน ในกลุ่มจนได้คำตอบที่สมบูรณ์ และมีความเข้าใจตรงกันทุกคน 4. เมื่อได้คำตอบที่ถูกต้องสมบูรณ์ก็บันทึกลงในใบงานที่ 4.1 แล้วให้ตัวแทนกลุ่มออกมานำเสนอใบงานที่หน้าชั้นเรียน 5. ครูและนักเรียนช่วยกันเฉลยคำตอบในใบงานที่ 4.1 ขั้นสรุป ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้ที่ได้จากการศึกษาเรื่อง ศาสนาอิสลาม ครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันทำสมุดเล่มเล็ก เรื่อง ศาสนาที่ฉันนับถือ โดยให้ครอบคลุมประเด็นตามที่กำหนด นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่1 เรื่อง ประวัติและความสำคัญของศาสนา


7 สังคมศึกษาฯ ป.4 9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 9.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.4 2) บัตรภาพ 3) ใบงานที่ 1.1 เรื่อง พิธีกรรมทางศาสนา 4) ใบงานที่ 2.1 เรื่อง พุทธประวัติ 5) ใบงานที่ 3.1 เรื่อง ศาสนาคริสต์ 6) ใบงานที่ 4.1 เรื่อง ศาสนาอิสลาม 9.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) ห้องสมุด 2) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ - th.wikipedia.org/wiki/พระพุทธศาสนา - th.wikipedia.org/wiki/ศาสนาคริสต์ - th.wikipedia.org/wiki/ศาสนาอิสลาม


8 สังคมศึกษาฯ ป.4 การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินสมุดเล่มเล็ก เรื่อง ศาสนาที่ฉันนับถือ รายการประเมิน คำอธิบายระดับคุณภาพ/ระดับคะแนน ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) 1. การอธิบายความสำคัญ ของพระพุทธศาสนา หรือศาสนาที่ตนนับถือ เขียนอธิบายความสำคัญของ พระพุทธศาสนา หรือศาสนาที่ตน นับถือได้อย่างน้อย 3 หัวข้อ เขียนอธิบายความสำคัญของ พระพุทธศาสนา หรือศาสนาที่ตน นับถือได้อย่างน้อย 2 หัวข้อ เขียนอธิบายความสำคัญของ พระพุทธศาสนา หรือศาสนาที่ตน นับถือได้อย่างน้อย 1 หัวข้อ 2. การสรุปพุทธประวัติหรือ ประวัติของศาสดาที่ตน นับถือ เขียนสรุปพุทธประวัติตั้งแต่บรรลุ ธรรมจนถึงประกาศธรรมหรือ เขียนสรุปประวัติของศาสดาที่ตน นับถือได้ใจความครบถ้วนตาม ประเด็นที่กำหนด เขียนสรุปพุทธประวัติตั้งแต่บรรลุ ธรรมจนถึงประกาศธรรมหรือ เขียนสรุปประวัติของศาสดาที่ตน นับถือได้ใจความตามประเด็นที่ กำหนดเป็นส่วนใหญ่ เขียนสรุปพุทธประวัติตั้งแต่บรรลุ ธรรมจนถึงประกาศธรรมหรือ เขียนสรุปประวัติของศาสดาที่ตน นับถือไม่ได้ใจความตามประเด็น ที่กำหนด 3. การอธิบายประวัติศาสดา ของศาสนาอื่น เขียนอธิบายประวัติศาสดาของ ศาสนาอื่นได้ใจความถูกต้อง สมบูรณ์ 2 ศาสนา เขียนอธิบายประวัติศาสดาของ ศาสนาอื่นได้ใจความถูกต้อง สมบูรณ์ 1 ศาสนา เขียนอธิบายประวัติศาสดาของ ศาสนาอื่นได้ใจความถูกต้อง แต่ไม่สมบูรณ์1 ศาสนา เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 8 - 9 ดี 5 - 7 พอใช้ ต่ำกว่า 5 ปรับปรุง


9 สังคมศึกษาฯ ป.4 ได้คะแนน คะแนนเต็ม แบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 คำชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ความสำคัญของพระพุทธศาสนาไม่เกี่ยวข้องกับข้อใด ก. เป็นแหล่งจัดงานรื่นเริง ข. เป็นที่ประกอบศาสนพิธี ค. เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ง. เป็นศูนย์รวมการทำความดี 2. ข้อใดต่อไปนี้กล่าวถึงพระพุทธศาสนาได้ถูกต้องยกเว้นข้อใด ก. พระพุทธศาสนาถือกำเนิดในประเทศเนปาล ข. พระพุทธเจ้าเป็นศาสดาของพระพุทธศาสนา ค. วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา คือ วันคริสต์มาส ง. พระพุทธศาสนากำเนิดมาแล้วประมาณ 3,500 ปี 3. “ปัญจวัคคีย์” ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ใดในพระพุทธศาสนา ก. มีพระรัตนตรัยครบองค์สาม ข. เคยปรนนิบัติรับใช้พระพุทธเจ้า ค. ทำให้เกิดวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ง. มีพระสงฆ์องค์แรกเกิดขึ้นในพระพุทธศาสนา 4. เหตุการณ์ในข้อใดเกี่ยวข้องกับพระเจ้าพิมพิสารตามประวัติ พระพุทธศาสนาที่ถูกต้องที่สุด ก. มีพระรัตนตรัยครบสาม ข. เคยปรนนิบัติรับใช้พระพุทธเจ้า ค. ทำให้เกิดวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา คือ วันอาสาฬหบูชา ง. ทรงถวายวัดเวฬุวัน ซึ่งเป็นวัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนา 5. วันใดเป็นวันสำคัญของศาสนาคริสต์ ก. วันที่ 1 มกราคม ของทุกๆ ปี ข. วันที่ 25 มกราคม ของทุกๆ ปี ค. วันที่ 10 ธันวาคม ของทุกๆ ปี ง. วันที่ 25 ธันวาคม ของทุกๆ ปี 6. ผู้สืบทอดของศาสนาคริสต์ คือใคร ก. พระ ข. แม่ชี ค. บาทหลวง ง. โต๊ะอีหม่าม 7. ข้อใดกล่าวถึงศาสนาอิสลามไม่ถูกต้อง ก. ผู้นับถือศาสนาอิสลาม เรียกว่า มุสลิม ข. นบีมุฮัมมัด เป็นศาสดาของศาสนาอิสลาม ค. ศาสนาอิสลามกำเนิดขึ้นที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ง. ชาวไทยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือนับถือศาสนาอิสลาม มากกว่าพระพุทธศาสนา 8. จุดมุ่งหมายสำคัญของทุกศาสนา คืออะไร ก. เน้นการทรมานร่างกาย ข. เน้นพิธีกรรมทางศาสนา ค. สอนให้ทุกคนทำความดี ง. ให้ยึดมั่นในองค์พระศาสดา 9. ศาสนามีประโยชน์อย่างไร ก. เป็นที่พึ่งทางใจ ข. แสดงถึงวัฒนธรรมอันดีงาม ค. สร้างความกลมเกลียวในครอบครัว ง. เพื่อตอบสนองความต้องการทางด้านร่างกาย ของมนุษย์ 10. เพราะเหตุใด คนเราต้องนับถือศาสนา ก. กฎหมายบังคับ ข. เพื่อให้สังคมยอมรับ ค. นับถือตามบิดา มารดา ง. เพื่อให้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต ตัวชี้วัด ส 1.1 ข้อ 1-2, 8 1. ก 2. ข 3. ค 4. ง 5. ง 6. ค 7. ง 8. ค 9. ก 10. ง 10


60 สังคมศึกษาฯ ป.4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 หลักธรรมของศาสนา เวลา 3 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ส 1.1 ป.4/4 แสดงความเคารพพระรัตนตรัย ปฏิบัติตามไตรสิกขาและหลักธรรมโอวาท 3 ในพระพุทธศาสนา หรือหลักธรรมของศาสนาที่ตนนับถือตามที่กำหนด ป.4/7 ปฏิบัติตนตามหลักธรรมของศาสนาที่ตนนับถือ เพื่อการอยู่ร่วมกันเป็นชาติได้อย่างสมานฉันท์ 2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด ศาสนาต่างๆ จะมีหลักธรรมคำสอนที่แตกต่างกัน การปฏิบัติตนตามหลักธรรมของศาสนาที่ตนนับถือ เพื่อให้อยู่ร่วมกันเป็น ชาติได้อย่างสมานฉันท์ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง 1) พระรัตนตรัย (ศรัทธา 4) - พระพุทธ (พุทธคุณ 3) - พระธรรม (หลักกรรม) - พระสงฆ์ 2) ไตรสิกขา - ศีล สมาธิ ปัญญา 3) โอวาท 3 - ไม่ทำชั่ว (1) เบญจศีล (2) ทุจริต 3 - ทำความดี (1) เบญจธรรม (2) สุจริต 3 (3) พรหมวิหาร 4 (4) กตัญญูกตเวทีต่อประเทศชาติ (5) มงคล 38 (เคารพ ถ่อมตัว ทำความดีให้พร้อมไว้ก่อน) - ทำจิตให้บริสุทธิ์ (บริหารจิตและเจริญปัญญา) 4) พุทธศาสนสุภาษิต - สุขา สงฺฆสฺส สามคฺคี : ความพร้อมเพรียงของหมู่ให้เกิดสุข - โลโกปตฺถมฺภิกา เมตฺตา : เมตตาธรรมค้ำจุนโลก 5) หลักธรรมเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสมานฉันท์ - เบญจศีล – เบญจธรรม - ทุจริต 3 - สุจริต 3 - พรหมวิหาร 4 - มงคล 38 (1) เคารพ (2) ถ่อมตน (3) ทำความดีให้พร้อมไว้ก่อน - พุทธศาสนสุภาษิต (1) ความพร้อมเพรียงของหมู่ให้เกิดสุข (2) เมตตาธรรมค้ำจุนโลก (3) กตัญญูกตเวทีต่อประเทศชาติ


61 สังคมศึกษาฯ ป.4 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น 1) หลักธรรมสำคัญของศาสนาคริสต์ 2) หลักธรรมสำคัญของศาสนาอิสลาม 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการวิเคราะห์ 2) ทักษะการนำความรู้ไปใช้ 4.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ซื่อสัตย์สุจริต 2. มีวินัย 3. ใฝ่เรียนรู้ 4. มุ่งมั่นในการทำงาน 6. ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) รายงานผลการปฏิบัติตนตามหลักธรรมของศาสนาที่ตนนับถือ 7. การวัดและการประเมินผล 7.1 การประเมินก่อนเรียน - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง หลักธรรมของศาสนา (K) 7.2 การประเมินระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1) ตรวจใบงานที่ 1.1 เรื่อง หลักธรรมของพระพุทธศาสนา (P) 2) ตรวจใบงานที่ 1.2 เรื่อง ความดีของฉัน (P,A) 3) ตรวจใบงานที่ 2.1 เรื่อง หลักบัญญัติ 10 ประการ (P) 4) ตรวจใบงานที่ 3.1 เรื่อง หลักธรรมสำคัญของศาสนาอิสลาม (K) 5) ตรวจแบบบันทึกการอ่าน (K,P) 6) ประเมินการนำเสนอผลงาน (P,A) 7) สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล (P,A) 8) สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม (P,A) 9) สังเกตคุณลักษณะอันพึงประสงค์(A) 7.3 การประเมินหลังเรียน - ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง หลักธรรมของศาสนา (K) 7.4 การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ตรวจรายงานผลการปฏิบัติตนตามหลักธรรมของศาสนาที่ตนนับถือ (P)


62 สังคมศึกษาฯ ป.4 8. กิจกรรมการเรียนรู้ นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่2 เรื่อง หลักธรรมของศาสนา นักเรียนสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัยและทำสมาธิก่อนเรียนทุกชั่วโมง เรื่องที่ 1 หลักธรรมสำคัญของพระพุทธศาสนา วิธีสอนแบบโมเดลซิปปา (CIPPA Model) เวลา 1 ชั่วโมง ขั้นที่ 1 ทบทวนความรู้เดิม ครูสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับประวัติของศาสนาต่างๆ เพื่อทบทวนความรู้เดิม ขั้นที่ 2 แสวงหาความรู้ใหม่ : เทคนิคการต่อเรื่องราว (Jigsaw) 1. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละกันตามความสามารถ เรียกว่า กลุ่มบ้าน แล้วกำหนดหมายเลขประจำตัวให้ สมาชิกแต่ละคนในกลุ่ม เป็นหมายเลข 1-4 2. สมาชิกหมายเลขเดียวกันมารวมกันเป็นกลุ่มใหม่ เรียกว่า กลุ่มผู้เชี่ยวชาญ แล้วให้แต่ละกลุ่มศึกษาความรู้เรื่อง หลักธรรมสำคัญของพระพุทธศาสนา จากหนังสือเรียน ห้องสมุด และแหล่งข้อมูลสารสนเทศ ตามที่กำหนดให้ ดังนี้ - หมายเลข 1 ศึกษาความรู้เรื่อง โอวาท 3, เบญจศีล เบญจธรรม, ไตรสิกขา - หมายเลข 2 ศึกษาความรู้เรื่อง พรหมวิหาร 4, ศรัทธา 4, พุทธคุณ 3 - หมายเลข 3 ศึกษาความรู้เรื่อง หลักกรรม, สุจริต 3 และทุจริต 3, กตัญญูกตเวทีต่อประเทศชาติ - หมายเลข 4 ศึกษาความรู้เรื่อง มงคล 38 ประการ, การทำจิตใจให้บริสุทธิ์, พุทธศาสนสุภาษิต ขั้นที่ 3 ศึกษาทำความเข้าใจข้อมูล/ความรู้ใหม่ และเชื่อมโยงความรู้ใหม่กับความรู้เดิม 1. เมื่อศึกษาความรู้เสร็จแล้วให้สมาชิกกลุ่มผู้เชี่ยวชาญแยกย้ายกันกลับเข้าสู่กลุ่มบ้าน แล้วผลัดกันอธิบายความรู้ที่ได้ศึกษา มาให้สมาชิกในกลุ่มบ้านฟัง เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันทำใบงานที่ 1.1 เรื่อง หลักธรรมของพระพุทธศาสนา ขั้นที่ 4 แลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจกับกลุ่ม สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มผลัดกันอภิปรายคำตอบในใบงานที่ 1.1 และสรุปคำตอบลงในใบงานและนำส่งครูตรวจ ขั้นที่ 5 สรุปและจัดระเบียบความรู้ นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง หลักธรรมสำคัญของพระพุทธศาสนา ขั้นที่ 6 ปฏิบัติและ/หรือแสดงผลงาน นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันวางแผนการปฏิบัติตนเพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อประเทศชาติ แล้วบันทึกลงในใบงานที่ 1.2 เรื่อง ความดีของฉัน เสร็จแล้วนำส่งครูตามระยะเวลาที่กำหนด ขั้นที่ 7 ประยุกต์ใช้ความรู้ ครูให้นักเรียนนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้จากการศึกษาหลักธรรมสำคัญของพระพุทธศาสนาไปประยุกต์ใช้ในการดำเนิน ชีวิต


63 สังคมศึกษาฯ ป.4 เรื่องที่ 2 หลักธรรมสำคัญของศาสนาคริสต์ วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) เวลา 1 ชั่วโมง ขั้นที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engage) ครูนำภาพการทำความดี มาให้นักเรียนดูแล้วสนทนากับนักเรียนว่า เป็นการทำความดีของคนที่นับถือศาสนาใด สังเกตได้จาก สิ่งใด ขั้นที่ 2 สำรวจค้นหา (Explore) นักเรียนรวมกลุ่มเดิมแล้วให้แต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง หลักธรรมสำคัญของศาสนาคริสต์ จากหนังสือเรียน ห้องสมุด และแหล่งข้อมูลสารสนเทศ ขั้นที่ 3 อธิบายความรู้(Explain) 1. นักเรียนแต่ละคู่ผลัดกันอธิบายความรู้ที่คู่ของตนได้ศึกษามาให้เพื่อนอีกคู่หนึ่งภายในกลุ่มฟัง ผลัดกันซักถาม ข้อสงสัยจนสมาชิกทุกคนในกลุ่มมีความรู้ความเข้าใจตรงกัน 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มทำใบงานที่ 2.1 เรื่อง หลักบัญญัติ 10 ประการ ขั้นที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Expand) ครูสุ่มเรียกนักเรียน 4-5 คน ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าตัวนักเรียนกับเพื่อนสามารถนำหลักธรรมเกี่ยวกับศาสนาที่ตน นับถือไปปฏิบัติได้อย่างไรบ้าง ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอใบงานที่ 2.1 หน้าชั้นเรียน ครูอธิบายเพิ่มเติมให้นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจมากขึ้น 2. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เกี่ยวกับหลักธรรมสำคัญของศาสนาคริสต์


64 สังคมศึกษาฯ ป.4 เรื่องที่ 3 หลักธรรมสำคัญของศาสนาอิสลาม วิธีสอนโดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ : เทคนิคเล่าเรื่องรอบวง เวลา 1 ชั่วโมง ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ครูนำบัตรภาพการประกอบพิธีฮัจญ์ของศาสนาอิสลามมาให้นักเรียนดู แล้วสนทนากับนักเรียนว่า พิธีกรรมดังกล่าวเกี่ยวข้อง กับหลักธรรมของศาสนาอิสลามอย่างไร ขั้นสอน 1. ครูให้นักเรียนรวมกลุ่มเดิมแล้วให้แต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง หลักธรรมสำคัญของศาสนาอิสลาม จากหนังสือ เรียน ห้องสมุด และแหล่งข้อมูลสารสนเทศ 2. สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มนำความรู้ที่ได้จากการศึกษาค้นคว้ามาร่วมกันอภิปรายแสดงความคิดเห็นว่า การศึกษา หลักธรรมสำคัญของศาสนาที่ตนนับถือมีข้อดีอย่างไร 3. นักเรียนทำใบงานที่ 3.1 เรื่อง หลักธรรมสำคัญของศาสนาอิสลาม 4. สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มผลัดกันแสดงความคิดเห็นตามประเด็นที่สรุปมาทีละคน โดยทุกคนมีส่วนร่วมในการแสดงความ คิดเห็น และร่วมกันสรุปประเด็นสำคัญ 5. นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานำเสนอใบงานที่ 3.1 หน้าชั้นเรียน และให้ตัวแทนกลุ่มที่มีความคิดเห็นที่แตกต่าง นำเสนอเพิ่มเติมได้ ขั้นสรุป ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง หลักธรรมสำคัญของศาสนาอิสลาม นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง หลักธรรมของศาสนา ครูมอบหมายให้นักเรียนรายงานผลการปฏิบตัิตนตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา โดยให้ครอบคลุมประเด็นตามที่ก าหนด


65 สังคมศึกษาฯ ป.4 9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 9.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.4 2) บัตรภาพ 3) ใบงานที่ 1.1 เรื่อง หลักธรรมของพระพุทธศาสนา 4) ใบงานที่ 1.2 เรื่อง ความดีของฉัน 5) ใบงานที่ 2.1 เรื่อง หลักบัญญัติ 10 ประการ 6) ใบงานที่ 3.1 เรื่อง หลักธรรมสำคัญของศาสนาอิสลาม 9.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) ห้องสมุด 2) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ - th.wikipedia.org/wiki/หมวดหมู่ : หลักธรรมของศาสนา - th.wikipedia.org/wiki/หมวดหมู่ : หลักธรรมของศาสนาคริสต์ - th.wikipedia.org/wiki/หมวดหมู่ : หลักธรรมของศาสนาอิสลาม


66 สังคมศึกษาฯ ป.4 การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินรายงานผลการปฏิบัติตนตามหลักธรรมของศาสนาที่ตนนับถือ รายการประเมิน คำอธิบายระดับคุณภาพ / ระดับคะแนน ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) 1. การปฏิบัติตนตามหลักธรรม สำคัญของพระพุทธศาสนา มีการกระทำและวิเคราะห์ผลของ การกระทำตามหลักธรรมสำคัญ ของพระพุทธศาสนา ครบถ้วน สมบูรณ์พร้อมหลักฐานประกอบ มีการกระทำและวิเคราะห์ผล ของการกระทำตามหลักธรรม สำคัญของพระพุทธศาสนา เป็นส่วนใหญ่ พร้อมหลักฐาน ประกอบ มีการกระทำและวิเคราะห์ผล ของการกระทำตามหลักธรรม สำคัญของพระพุทธศาสนา เพียงส่วนน้อย และไม่มีหลักฐาน ประกอบ 2. การปฏิบัติตนตามหลักธรรม สำคัญของศาสนาที่ตนนับถือ มีการกระทำและวิเคราะห์ผลของ การกระทำตามหลักธรรมสำคัญ ของศาสนาที่ตนนับถือ ครบถ้วน สมบูรณ์พร้อมมีหลักฐานประกอบ มีการกระทำและวิเคราะห์ผล ของการกระทำตามหลักธรรม สำคัญของศาสนาที่ตนนับถือ เป็นส่วนใหญ่ พร้อมมีหลักฐาน ประกอบ มีการกระทำและวิเคราะห์ผล ของการกระทำตามหลักธรรม สำคัญของศาสนาที่ตนนับถือ เพียงส่วนน้อย และไม่มีหลักฐาน ประกอบ เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 5 - 6 ดี 3 - 4 พอใช้ ต่ำกว่า 3 ปรับปรุง


67 สังคมศึกษาฯ ป.4 ได้คะแนน คะแนนเต็ม แบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 คำชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. การปฏิบัติตามหลักธรรมคำสอนทางศาสนาเกิดผลดี ต่อด้านใดมากที่สุด ก. จิตใจ ข. อารมณ์ ค. ร่างกาย ง. มารยาท 2. หลักธรรมในข้อใดที่เป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา ก. อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ข. เมตตาธรรมค้ำจุนโลก ค. พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ง. ไม่ทำชั่ว ทำดี ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ 3. ศาสนาคริสต์สอนให้รักเพื่อนบ้าน คำว่า “เพื่อนบ้าน” หมายถึงข้อใด ก. คนที่เรารัก ข. คนที่เรารู้จัก ค. มนุษย์ทั่วโลก ง. คนที่มีบ้านอยู่ใกล้บ้านเรา 4. คำสอนสำคัญของศาสนาคริสต์คือข้อใด ก. การบูชาเทพเจ้า ข. บัญญัติ 10 ประการ ค. หลักศรัทธา 6 ประการ ง. หลักบัญญัติ 5 ประการ 5. หลักคำสอนของศาสนาอิสลามเน้นในเรื่องใด ก. ลัทธิความเชื่อ ข. การทำจิตใจให้บริสุทธิ์ ค. หลักศรัทธาและหลักปฏิบัติ ง. ความรักที่มีต่อเพื่อนมนุษย์ 6. หลักธรรมเรื่องการเสียสละ การแบ่งปันสิ่งต่างๆ ให้แก่ ผู้อื่นสอดคล้องกับหลักปฏิบัติข้อใดของศาสนาอิสลาม ก. การปฏิญาณตน ข. การทำละหมาด ค. การจ่ายซะกาต ง. การประกอบพิธีฮัจญ์ 7. เมื่อเรามีความทุกข์เกิดขึ้นควรปฏิบัติสิ่งใด เป็นอันดับแรก ก. ดับทุกข์ ข. หาสาเหตุ ค. หาวิธีดับทุกข์ ง. แก้ไขสาเหตุของความทุกข์ 8. การศึกษาและอบรมตามหลักไตรสิกขา หมายถึงข้อใด ก. ศีล สติ ปัญญา ข. ศีล สมาธิ ปัญญา ค. ศีล สมาธิ วิปัสสนา ง. ศีล สมาธิ กรรมฐาน 9. หลักธรรมในข้อใดเป็นข้อปฏิบัติสำหรับควบคุม กาย วาจา ให้เป็นปกติ ก. โอวาท 3 ข. เบญจศีล ค. อบายมุข 4 ง. เบญจธรรม 10. หลักปฏิบัติข้อใดที่มุสลิมต้องปฏิบัติทุกวัน ก. การทำฮัจญ์ ข. การละหมาด ค. การถือศีลอด ง. การจ่ายซะกาต ตัวชี้วัด ส 1.1 ข้อ 4, 7 1. ก 2. ง 3. ค 4. ข 5. ค 6. ค 7. ข 8. ข 9. ข 10. ข 10


108 สังคมศึกษาฯ ป.4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เชื่อมั่นในการทำความดี เวลา 4 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ส 1.1 ป.4/3 เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามแบบอย่างการดำเนินชีวิต และข้อคิดจากประวัติสาวก ชาดก เรื่องเล่า และศาสนิกชนตัวอย่างตามที่กำหนด ป.4/5 ชื่นชมการทำความดีของตนเอง บุคคลในครอบครัว โรงเรียน และชุมชนตามหลักศาสนา พร้อมทั้งบอกแนวปฏิบัติในการดำเนินชีวิต 2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด แบบอย่างการดำเนินชีวิตและข้อคิดจากประวัติพระสาวก ชาดก เรื่องเล่า และศาสนิกชนตัวอย่างเป็นแนวทางให้เกิดการทำ ความดีของตนเอง บุคคลในครอบครัว โรงเรียน และชุมชนตามหลักธรรมของศาสนาที่ตนนับถือ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง 1) พุทธสาวก พุทธสาวิกา - พระอุรุเวลกัสสปะ 2) ชาดก - กุฏิทูสชาดก - มหาอุกกุสชาดก 3) ศาสนิกชนตัวอย่าง - สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก - สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี 4) ตัวอย่างการกระทำความดีของตนเองและบุคคลในครอบครัว โรงเรียน และชุมชน 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น (พิจารณาตามหลักสูตรสถานศึกษา) 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการสำรวจค้นหา 2) ทักษะการวิเคราะห์ 3) ทักษะการสรุปลงความเห็น 4) ทักษะการให้เหตุผล 5) ทักษะการนำความรู้ไปใช้ 4.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต


109 สังคมศึกษาฯ ป.4 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ซื่อสัตย์สุจริต 2. มีวินัย 3. ใฝ่เรียนรู้ 4. มุ่งมั่นในการทำงาน 6. ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) สมุดบันทึกความดีของฉัน 7. การวัดและการประเมินผล 7.1 การประเมินก่อนเรียน - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เชื่อมั่นในการทำความดี(K) 7.2 การประเมินระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1) ตรวจใบงานที่ 1.1 เรื่อง คนดีที่ฉันรู้จัก (K,P) 2) ตรวจใบงานที่ 2.1 เรื่อง คติธรรมที่นำไปใช้ประโยชน์(K,P) 3) ตรวจใบงานที่ 3.1 เรื่อง สมเด็จฯ พระบรมราชชนก (P) 4) ตรวจใบงานที่ 3.2 เรื่อง สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี(K,P) 5) ตรวจแบบบันทึกการอ่าน (K,P) 6) ประเมินการนำเสนอผลงาน (K,P) 7) สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล (P,A) 8) สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม (P,A) 9) สังเกตคุณลักษณะอันพึงประสงค์(A) 7.3 การประเมินหลังเรียน - ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เชื่อมั่นในการทำความดี(K) 7.4 การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ตรวจสมุดบันทึกความดีของฉัน (P,A) 8. กิจกรรมการเรียนรู้ นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่3 เรื่อง เชื่อมั่นในการทำความดี นักเรียนสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัยและทำสมาธิก่อนเรียนทุกชั่วโมง


110 สังคมศึกษาฯ ป.4 เรื่องที่ 1 คนดีที่น่าชื่นชม วิธีสอนโดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ : เทคนิคคู่คิด เวลา 1 ชั่วโมง ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ครูให้นักเรียนดูบัตรภาพ แล้วสนทนากับนักเรียนว่า รู้จักบุคคลในภาพหรือไม่ พระองค์เป็นใคร และมีความดีอย่างไร ขั้นสอน 1. ครูอธิบายให้นักเรียนฟังว่า คนดี คือ คนที่ทำความดี ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ไม่ทำสิ่งที่ทำให้ตนเองและผู้อื่นเดือดร้อน มีคุณธรรมเป็นหลักในการดำเนินชีวิต 2. นักเรียนศึกษาความรู้เรื่อง คนดีที่น่าชื่นชม จากหนังสือเรียน และห้องสมุด 3. นักเรียนทำใบงานที่ 1.1 เรื่อง คนดีที่ฉันรู้จัก 4. เมื่อนักเรียนแต่ละคนทำใบงานที่ 1.1 เสร็จแล้ว ให้จับคู่กับเพื่อนผลัดกันอภิปรายคำตอบในใบงานให้คู่ของตนฟัง 5. ครูสุ่มเรียกนักเรียนทีละคนออกมานำเสนอใบงานที่ 1.1 ให้เพื่อนฟัง แล้วร่วมกันแสดงความคิดเห็น ขั้นสรุป ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง คนดีที่น่าชื่นชม


111 สังคมศึกษาฯ ป.4 เรื่องที่ 2 แบบอย่างความดี วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) เวลา 1 ชั่วโมง ขั้นที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engage) ครูขออาสาสมัครนักเรียน 4-5 คน ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการทำความดีของตนเองว่ามีอะไรบ้าง แล้วนักเรียน ภูมิใจในการทำความดีของตนเองอย่างไร ขั้นที่ 2 สำรวจค้นหา (Explore) ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละกันตามความสามารถ แล้วให้สมาชิกในแต่ละกลุ่มแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบใน การศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับแบบอย่างความดี จากหนังสือเรียน ห้องสมุด และแหล่งข้อมูลสารสนเทศ ในหัวข้อต่อไปนี้ - พุทธสาวก : พระอุรุเวลกัสสปะ - กุฏิทูสกชาดก (นกขมิ้นสอนลิงพาล) - มหาอุกกุสชาดก (บุรุษผู้ผูกไมตรี) ขั้นที่ 3 อธิบายความรู้(Explain) 1. นักเรียนแต่ละคนผลัดกันอธิบายความรู้ที่ตนศึกษามาให้เพื่อนในกลุ่มฟัง ผลัดกันซักถามข้อสงสัย จนมีความเข้าใจตรงกัน 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันทำใบงานที่ 2.1 เรื่อง คติธรรมที่นำไปใช้ประโยชน์ ขั้นที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Expand) ครูสุ่มเรียกนักเรียน 2 คน ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า ตัวนักเรียนประทับใจในการทำความดีของใครบ้าง และนักเรียนยึด แบบอย่างจากบุคคลใดในการทำความดี โดยครูเสนอแนะเพิ่มเติมในส่วนที่บกพร่อง ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครูประเมินผลนักเรียนจากการทำใบงานที่ 2.1 2. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง แบบอย่างความดี


112 สังคมศึกษาฯ ป.4 เรื่องที่ 3 ศาสนิกชนตัวอย่าง วิธีสอนแบบโมเดลซิปปา (CIPPA Model) เวลา 2 ชั่วโมง ขั้นที่ 1 ทบทวนความรู้เดิม ครูตั้งคำถามถามนักเรียนเกี่ยวกับการปฏิบัติตนเป็นคนดี เพื่อทบทวนความรู้เดิมของนักเรียน ขั้นที่ 2 แสวงหาความรู้ใหม่ นักเรียนกลุ่มเดิมจับคู่กันเป็น 2 คู่ ให้แต่ละคู่แบ่งหน้าที่กันศึกษาความรู้เรื่อง ศาสนิกชนตัวอย่าง จากหนังสือเรียน ดังนี้ - คู่ที่ 1 ศึกษาความรู้เรื่อง สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก - คู่ที่ 2 ศึกษาความรู้เรื่อง สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ขั้นที่ 3 ศึกษาทำความเข้าใจข้อมูล/ความรู้ใหม่ และเชื่อมโยงความรู้ใหม่กับความรู้เดิม 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มผลัดกันอธิบายความรู้ที่ได้ศึกษามาให้เพื่อนอีกคู่หนึ่งภายในกลุ่มฟัง แล้วร่วมกันซักถาม ข้อสงสัยจนเกิดความเข้าใจที่ตรงกัน 2. นักเรียนแต่ละคู่ช่วยกันทำใบงาน ดังนี้ - คู่ที่ 1 ทำใบงานที่3.1 เรื่อง สมเด็จฯ พระบรมราชชนก - คู่ที่ 2 ทำใบงานที่ 3.2 เรื่อง สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ขั้นที่ 4 แลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจกับกลุ่ม สมาชิกแต่ละคู่รวมกลุ่มเดิม (กลุ่ม 4 คน) แล้วนำความรู้ที่ได้จากการศึกษาและคำตอบในใบงานมาอภิปรายให้สมาชิกอีกคู่ หนึ่งในกลุ่มฟัง ผลัดกันซักถามข้อสงสัย และแสดงความคิดเห็นร่วมกันเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน ขั้นที่ 5 สรุปและจัดระเบียบความรู้ 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง ศาสนิกชนตัวอย่าง 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันตรวจสอบความถูกต้องของคำตอบในใบงานที่ 3.1-3.2 ขั้นที่ 6 ปฏิบัติและ/หรือแสดงผลงาน นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอใบงานที่ 3.1-3.2 หน้าชั้นเรียน โดยมีครูตรวจสอบความถูกต้อง และเพิ่มเติมในส่วนที่ยังมี ข้อบกพร่อง ขั้นที่ 7 ประยุกต์ใช้ความรู้ ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันแสดงความคิดเห็นว่า นักเรียนสามารถนำความรู้เรื่อง ศาสนิกชนตัวอย่าง ไปปรับใช้ในการ ดำเนินชีวิตอย่างไรบ้าง


113 สังคมศึกษาฯ ป.4 นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เชื่อมั่นในการทำความดี 9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 9.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.4 2) บัตรภาพ 3) ใบงานที่ 1.1 เรื่อง คนดีที่ฉันรู้จัก 4) ใบงานที่ 2.1 เรื่อง คติธรรมที่นำไปใช้ประโยชน์ 5) ใบงานที่ 3.1 เรื่อง สมเด็จฯ พระบรมราชชนก 6) ใบงานที่ 3.2 เรื่อง สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี 9.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) ห้องสมุด 2) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ - th.wikipedia.org/wiki/พระอุรุเวลกัสสปะ - truthoflife.fix.gs/index.php?topic=2481.0 - www.geocities.ws/tmchote/tpd-mcu/tpd27.htm - th.wikipedia.org/.../สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร_อดุลยเดชวิกรม_พระบรมราชชนก - th.wikipedia.org/wiki/สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละคนท าสมุดบันทึกความดีของฉัน โดยให้ครอบคลุมประเด็นตามที ่ก าหนด


114 สังคมศึกษาฯ ป.4 การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินสมุดบันทึกความดีของฉัน รายการประเมิน คำอธิบายระดับคุณภาพ/ระดับคะแนน ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) 1. การบันทึกความดีใน ครอบครัว บันทึกความดีในครอบครัว 5 พฤติกรรมขึ้นไป และมีผู้รับรอง บันทึกความดีในครอบครัว 3-4 พฤติกรรม และมีผู้รับรอง บันทึกความดีในครอบครัว 1-2 พฤติกรรม และมีผู้รับรอง 2. การบันทึกความดีใน โรงเรียน บันทึกความดีในโรงเรียน 5 พฤติกรรมขึ้นไป และมีผู้รับรอง บันทึกความดีในโรงเรียน 3-4 พฤติกรรม และมีผู้รับรอง บันทึกความดีในโรงเรียน 1-2 พฤติกรรม และมีผู้รับรอง 3. การบันทึกความดีใน ชุมชน บันทึกความดีในชุมชน 5 พฤติกรรมขึ้นไป และมีผู้รับรอง บันทึกความดีในชุมชน 3-4 พฤติกรรม และมีผู้รับรอง บันทึกความดีในชุมชน 1-2 พฤติกรรม และมีผู้รับรอง เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 8 - 9 ดี 5 - 7 พอใช้ ต่ำกว่า 5 ปรับปรุง


115 สังคมศึกษาฯ ป.4 ได้คะแนน คะแนนเต็ม แบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 คำชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ข้อใดไม่จัดเป็นการทำความดี ก. ช่วยเหลือเพื่อน ข. มีความสามัคคีกัน ค. พูดโกหกให้คนอื่นเชื่อ ง. ปฏิบัติตามหน้าที่ของตน 2. การชื่นชมคนดีเป็นสิ่งที่ควรทำหรือไม่ ก. ควร เพราะคนดีทำแต่สิ่งที่ดี ข. ควร เพราะคนดีเป็นญาติเรา ค. ไม่ควร เพราะไม่เกี่ยวกับเรา ง. ไม่ควร เพราะจะทำให้คนดีได้ใจ 3. การทำความดีเป็นสิ่งที่ควรทำ เพราะเหตุใด ก. ให้ผลคือความสุข ข. พ่อแม่คอยบังคับให้ทำ ค. ได้รับรางวัลจากพ่อแม่ ง. ได้รับการยกย่องจากผู้อื่น 4. ผลจากการทำความดี คือข้อใด ก. มีคนชื่นชม ข. มีคนเมตตา ค. มีความสุขทางใจ ง. ได้รับสิ่งตอบแทน 5. พระนามใด หมายถึง สมเด็จย่า ก. หมอเจ้าฟ้า ข. แม่ฟ้าหลวง ค. ย่าฟ้าหลวง ง. เจ้าฟ้าหลวง 6. สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ทรงมีคุณธรรมข้อใดเด่นชัดที่สุด ก. ความใฝ่รู้ ข. ความซื่อสัตย์ ค. ความเมตตา ง. ความยุติธรรม 7. ในวัยของนักเรียนควรปฏิบัติตนเป็นคนดีข้อใดเหมาะสม ที่สุด ก. ประกอบอาชีพสุจริต ข. บริจาคทรัพย์บำรุงศาสนา ค. เชื่อฟังคำสั่งสอนของพ่อแม่ ง. บำเพ็ญประโยชน์เพื่อประเทศชาติ 8. ใครทำความดีทางใจ ก. สุชาติช่วยพ่อแม่ทำงาน ข. กมลเอาข้าวให้สุนัขจรจัดกิน ค. วัลยาไม่โกรธเพื่อนที่วิ่งมาชน ง. วิชัยพูดจากับเพื่อนอย่างสุภาพ 9. การทำความดีในระดับโรงเรียน คือข้อใด ก. ไม่พูดโกหก ข. ช่วยเหลือเพื่อนๆ ค. มีความซื่อสัตย์ ง. ช่วยเหลืองานชุมชน 10. คุณค่าที่สำคัญที่สุดของชาดก ได้แก่ข้อใด ก. ความบันเทิง ข. ข้อคิด คติสอนใจ ค. สำนวนภาษาที่สละสลวย ง. สืบสานเรื่องในพระพุทธศาสนา ตัวชี้วัด ส 1.1 ข้อ 3, 5 1. ค 2. ก 3. ก 4. ค 5. ข 6. ค 7. ค 8. ค 9. ข 10. ข 10


156 สังคมศึกษาฯ ป.4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ศาสนิกชนที่ดี เวลา 7 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ส 1.1 ป.4/6 เห็นคุณค่าและสวดมนต์ แผ่เมตตา มีสติที่เป็นพื้นฐานของสมาธิในพระพุทธศาสนา หรือการพัฒนาจิต ตามแนวของศาสนาที่ตนนับถือตามที่กำหนด ส 1.2 ป.4/1 อภิปรายความสำคัญและมีส่วนร่วมในการบำรุงรักษาศาสนสถานของศาสนาที่ตนนับถือ ป.4/2 มีมรรยาทของความเป็นศาสนิกชนที่ดีตามที่กำหนด ป.4/3 ปฏิบัติตนในศาสนพิธี พิธีกรรม และวันสำคัญทางศาสนาตามที่กำหนดได้ถูกต้อง 2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด ศาสนิกชนที่ดีต้องประพฤติปฏิบัติตนในศาสนพิธี และพิธีกรรมในวันสำคัญทางศาสนา ตามมรรยาทของศาสนาและมีส่วนร่วม ในการบำรุงรักษาศาสนสถานที่ตนนับถือ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง 1) สวดมนต์ไหว้พระ สรรเสริญคุณพระรัตนตรัย และแผ่เมตตา - รู้ความหมายของสติสัมปชัญญะ สมาธิ และปัญญา - รู้วิธีปฏิบัติของการบริหารจิตและเจริญปัญญา - ฝึกการยืน การเดิน การนั่ง และการนอนอย่างมีสติ - ฝึกการกำหนดรู้ความรู้สึกเมื่อตาเห็นรูป หูฟังเสียง จมูกดมกลิ่น ลิ้นลิ้มรส กายสัมผัสสิ่งที่มากระทบ ใจรับรู้ธรรมารมณ์ - ฝึกให้มีสมาธิในการฟัง การอ่าน การคิด การถาม และการเขียน 2) ความรู้เบื้องต้นและความสำคัญของศาสนสถาน 3) การแสดงความเคารพต่อศาสนสถาน 4) การบำรุงรักษาศาสนสถาน 5) มรรยาทของศาสนิกชน - การปฏิบัติตนที่เหมาะสมต่อพระภิกษุ - การยืน การเดิน และการนั่งที่เหมาะสมในโอกาสต่างๆ 6) ปฏิบัติตนในศาสนพิธี - การอาราธนาศีล - การอาราธนาธรรม - การอาราธนาพระปริตร - ระเบียบพิธีและการปฏิบัติตนในวันธรรมสวนะ 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น (พิจารณาตามหลักสูตรสถานศึกษา)


157 สังคมศึกษาฯ ป.4 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 4.2 ความสามารถในการคิด - ทักษะการนำความรู้ไปใช้ 4.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ซื่อสัตย์สุจริต 2. มีวินัย 3. ใฝ่เรียนรู้ 4. มุ่งมั่นในการทำงาน 6. ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) รายงานผลการปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดี 7. การวัดและการประเมินผล 7.1 การประเมินก่อนเรียน - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง ศาสนิกชนที่ดี(K) 7.2 การประเมินระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1) ตรวจใบงานที่ 2.1 เรื่อง การบริหารจิตและเจริญปัญญา (K,A) 2) ตรวจใบงานที่ 4.1 เรื่อง การฝึกให้มีสมาธิ(P,A) 3) ตรวจใบงานที่ 5.1 เรื่อง ศาสนสถานที่ฉันสนใจ (K) 4) ตรวจใบงานที่ 7.1 เรื่อง ศาสนพิธี(K,A) 5) ตรวจแบบบันทึกการอ่าน (K,P) 6) ประเมินการนำเสนอผลงาน (K,P,A) 7) สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล (P,A) 8) สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม (P,A) 9) สังเกตคุณลักษณะอันพึงประสงค์(A) 7.3 การประเมินหลังเรียน - ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง ศาสนิกชนที่ดี(K) 7.4 การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ตรวจรายงานผลการปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดี(P,A) 8. กิจกรรมการเรียนรู้ นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่4 เรื่อง ศาสนิกชนที่ดี นักเรียนสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัยและทำสมาธิก่อนเรียนทุกชั่วโมง


158 สังคมศึกษาฯ ป.4 เรื่องที่ 1 การสวดมนต์ไหว้พระ สรรเสริญคุณพระรัตนตรัย และแผ่เมตตา เวลา 1 ชั่วโมง วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการปฏิบัติ ขั้นที่ 1 สังเกต รับรู้ 1. นักเรียนศึกษาความรู้เรื่อง การสวดมนต์ไหว้พระ สรรเสริญคุณพระรัตนตรัย และแผ่เมตตา จากหนังสือเรียน 2. ครูให้นักเรียนฟังแถบบันทึกเสียงการสวดมนต์ไหว้พระ สรรเสริญคุณพระรัตนตรัย และแผ่เมตตา ขั้นที่ 2 ทำตามแบบ 1. นักเรียนทุกคนกราบบูชาพระรัตนตรัย กล่าวบทสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย และแผ่เมตตาพร้อมกับเสียงสวดมนต์จาก แถบบันทึกเสียงที่ครูเปิดให้ฟัง (ครูแจกใบความรู้ที่ 1.1 เรื่อง การสวดมนต์ไหว้พระ สรรเสริญคุณพระรัตนตรัย และแผ่ เมตตา ให้นักเรียนใช้สวดตาม) 2. ครูอธิบายเพิ่มเติมให้นักเรียนเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการแก้ไขปัญหาอุปสรรคที่เกิดจากการฝึกสวดมนต์ไหว้พระและแผ่เมตตา ขั้นที่ 3 ทำเองโดยไม่มีแบบ นักเรียนสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัย กล่าวบทสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย และแผ่เมตตา ตามขั้นตอนที่เคยฝึกปฏิบัติด้วยตนเอง ขั้นที่ 4 ฝึกทำให้ชำนาญ ครูให้นักเรียนสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัย กล่าวบทสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย และแผ่เมตตา อย่างสม่ำเสมอในเวลาที่ เหมาะสม แล้วบันทึกผลของการปฏิบัติ


159 สังคมศึกษาฯ ป.4 เรื่องที่ 2 การบริหารจิตและเจริญปัญญา เวลา 1 ชั่วโมง วิธีสอนโดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ : เทคนิคคู่คิดสี่สหาย ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูสนทนากับนักเรียนว่า นักเรียนเคยฝึกสมาธิบ้างหรือไม่ และการฝึกสมาธินั้นมีผลดีต่อนักเรียนอย่างไร 2. ครูอธิบายเชื่อมโยงให้นักเรียนเข้าใจว่า การบริหารจิตและเจริญปัญญาจะมีความเกี่ยวข้องกัน ผู้ฝึกจะต้องหมั่นฝึกจิตให้ เป็นสมาธิ แล้วปัญญาจะเกิดขึ้นในที่สุด ขั้นสอน 1. ครูแบ่งกลุ่มนักเรียน กลุ่มละ 4 คน คละกันตามความสามารถ ให้แต่ละกลุ่มจับคู่กันเป็น 2 คู่ แล้วให้แต่ละคู่ศึกษา ความรู้เรื่อง การบริหารจิตและเจริญปัญญา จากหนังสือเรียน ห้องสมุด และแหล่งข้อมูลสารสนเทศ ตามประเด็นที่ กำหนดให้ ดังนี้ - คู่ที่ 1 ศึกษาความรู้เรื่อง ความหมายของสติสัมปชัญญะ สมาธิ และปัญญา - คู่ที่ 2 ศึกษาความรู้เรื่อง วิธีปฏิบัติของการบริหารจิตและเจริญปัญญา 2. นักเรียนแต่ละคู่ผลัดกันอธิบายความรู้ที่คู่ของตนศึกษามาให้เพื่อนอีกคู่หนึ่งฟัง แล้วผลัดกันซักถามข้อสงสัยจนสมาชิกใน กลุ่มมีความรู้ความเข้าใจตรงกัน 3. นักเรียนแต่ละกลุ่มทำใบงานที่ 2.1 เรื่อง การบริหารจิตและเจริญปัญญา ขั้นสรุป 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับวิธีและขั้นตอนของการฝึกสมาธิในแบบที่ตนเองถนัด 2. ครูอธิบายเพิ่มเติมให้นักเรียนฟังว่า สติ สมาธิ และปัญญา เป็นสิ่งที่เกื้อหนุนกัน เพราะเมื่อมีสติไม่ปล่อยจิต ให้ฟุ้งซ่าน จะทำให้เกิดสมาธิ เมื่อจิตมีสมาธิจะนำไปสู่การเกิดปัญญาในที่สุด 3. ตัวแทนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอใบงานที่ 2.1 โดยมีสมาชิกกลุ่มอื่นช่วยกันตรวจสอบความถูกต้องและแสดงความ คิดเห็นเพิ่มเติมในส่วนที่แตกต่าง


160 สังคมศึกษาฯ ป.4 เรื่องที่ 3 การฝึกให้มีสติ เวลา 1 ชั่วโมง วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการปฏิบัติ ขั้นที่ 1 สังเกต รับรู้ 1. ครูให้นักเรียนดูภาพการฝึกสมาธิแบบต่างๆ แล้วร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่า การทำสมาธิในแต่ละวิธีนั้น มีความแตกต่างกัน หรือคล้ายคลึงกันอย่างไร 2. นักเรียนศึกษาความรู้เรื่อง การฝึกการยืน เดิน นั่ง และนอนอย่างมีสติ และการฝึกกำหนดรู้ความรู้สึกของประสาทสัมผัส ทั้ง 6 จากหนังสือเรียน 3. ครูอธิบายเพิ่มเติมให้นักเรียนเข้าใจว่า การฝึกกำหนดรู้ความรู้สึกของตนเอง คือ การฝึกกำหนดรู้เมื่ออวัยวะต่างๆ ของ ตัวเรา ได้เกิดสัมผัสกับสิ่งรอบกาย ซึ่งการทำสมาธินั้นมีหลายวิธีสามารถเลือกปฏิบัติได้ตามความเหมาะสม ขั้นที่ 2 ทำตามแบบ นักเรียนฝึกสมาธิด้วยการ ยืน เดิน นั่ง และนอน และฝึกกำหนดรู้ความรู้สึกของประสาทสัมผัสทั้ง 6 ตามขั้นตอนที่ได้ศึกษา มา (ครูแจกใบความรู้ที่ 3.1 เรื่อง การฝึกกำหนดรู้ความรู้สึกของประสาทสัมผัสทั้ง 6) โดยมีครูคอยแนะนำในส่วนที่บกพร่อง ตามที่ได้ศึกษามา ขั้นที่ 3 ทำเองโดยไม่มีแบบ 1. นักเรียนฝึกสมาธิ โดยไม่ต้องมีครูคอยบอกขั้นตอน เป็นเวลา 20 นาที 2. นักเรียนแต่ละคนผลัดกันเล่าปัญหา อุปสรรคในการทำสมาธิ โดยมีครูช่วยเสนอแนะในการแก้ไขปัญหา อุปสรรค และ การพัฒนาตนในการทำสมาธิ ขั้นที่ 4 ฝึกทำให้ชำนาญ 1. นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยชน์ของการฝึกสมาธิ 2. ครูให้นักเรียนทุกคนได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ในการฝึกสมาธิแบบต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ


161 สังคมศึกษาฯ ป.4 เรื่องที่ 4 การฝึกให้มีสมาธิในการฟัง การอ่าน การคิด การถาม และการเขียน เวลา 1 ชั่วโมง วิธีสอนโดยใช้ทักษะกระบวนการเผชิญสถานการณ์ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ครูให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นว่า นักเรียนจะเรียนอย่างไร ให้ประสบผลสำเร็จ ขั้นสอน ขั้นที่ 1 รวบรวมข่าวสาร ข้อมูล ข้อเท็จจริง ความรู้ และหลักการ 1. ครูอธิบายเชื่อมโยงความรู้เกี่ยวกับการฝึกให้มีสมาธิเพื่อให้นักเรียนเห็นความสำคัญของการมีสมาธิที่ดี 2. นักเรียนรวมกลุ่มเดิม แล้วให้แต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาและรวบรวมข้อมูลความรู้เรื่อง การฝึกให้มีสมาธิใน การฟัง การอ่าน การคิด การถาม และการเขียน จากหนังสือเรียน ห้องสมุด และแหล่งข้อมูลสารสนเทศ ขั้นที่ 2 ประเมินคุณค่าและประโยชน์ 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันทำใบงานที่ 4.1 เรื่อง การฝึกให้มีสมาธิ 2. ครูสุ่มตัวแทนกลุ่ม 2-3 กลุ่ม ออกมานำเสนอใบงานที่ 4.1 หน้าชั้นเรียน และให้กลุ่มอื่นที่มีความคิดเห็นแตกต่างกันได้ นำเสนอข้อมูลเพิ่มเติม ขั้นที่ 3 เลือกและตัดสินใจ นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันคิดหาแนวทางในการร่วมมือกันศึกษาข้อมูลและหลักฐานมาสนับสนุนความสำคัญ และประโยชน์ของการฝึกให้มีสมาธิในการฟัง การอ่าน การคิด การถาม และการเขียน และตัดสินใจเลือกแนวทางที่สามารถ ปฏิบัติได้ ขั้นที่ 4 ปฏิบัติ นักเรียนแต่ละกลุ่มปฏิบัติตามแผนงาน หรือแนวทางที่กลุ่มตัดสินใจ เลือกแนวทาง หรือวิธีการหาข้อมูลหลักฐาน ที่แสดงถึงความสำคัญและประโยชน์ของการฝึกให้มีสมาธิในการฟัง การอ่าน การคิด การถาม และการเขียน แล้วออกมา นำเสนอผลงานที่หน้าชั้นเรียน ขั้นสรุป นักเรียนและครูร่วมกันสรุปประเด็นสำคัญของการฝึกให้มีสมาธิในการฟัง การอ่าน การคิด การถาม และการเขียน


162 สังคมศึกษาฯ ป.4 เรื่องที่ 5 ความสำคัญของศาสนสถาน เวลา 1 ชั่วโมง วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) ขั้นที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engage) 1. ครูนำบัตรภาพของศาสนสถานของแต่ละศาสนา มาให้นักเรียนดู แล้วให้นักเรียนช่วยกันแสดงความคิดเห็นว่า ศาสนสถานมีความสำคัญต่อผู้ที่นับถือศาสนาอย่างไร 2. ครูอธิบายเชื่อมโยงถึงความสำคัญของศาสนสถานว่า ศาสนิกชนที่ดีของแต่ละศาสนาควรศึกษาและมีความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับศาสนสถานของศาสนาที่ตนนับถือ รู้จักทำนุบำรุงศาสนสถาน และแสดงความเคารพต่อ ศาสนสถานได้ถูกต้องเหมาะสม ขั้นที่ 2 สำรวจค้นหา (Explore) นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 6 คน คละกันตามความสามารถ ให้แต่ละกลุ่มจับคู่กันเป็น 3 คู่ แล้วร่วมกันศึกษาความรู้เกี่ยวกับ ความรู้เบื้องต้นและความสำคัญของศาสนสถาน ในหัวข้อต่อไปนี้ - คู่ที่ 1 ศึกษาความรู้เรื่อง ความหมายของศาสนสถาน - คู่ที่ 2 ศึกษาความรู้เรื่อง การแสดงความเคารพต่อศาสนสถาน - คู่ที่ 3 ศึกษาความรู้เรื่อง การบำรุงรักษาศาสนสถาน ขั้นที่ 3 อธิบายความรู้(Explain) 1. สมาชิกแต่ละคู่นำข้อมูลเกี่ยวกับความรู้เบื้องต้นและความสำคัญของศาสนสถานที่สืบค้นมา ตามหัวข้อที่กำหนดมา อภิปรายร่วมกันภายในกลุ่ม และสรุปประเด็นสำคัญ 2. นักเรียนร่วมกันทำใบงานที่ 5.1 เรื่อง ศาสนสถานที่ฉันสนใจ ขั้นที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Expand) สมาชิกแต่ละกลุ่มนำความรู้ที่ได้จากการศึกษาเกี่ยวกับความสำคัญของศาสนสถาน มาเป็นพื้นฐานในการปฏิบัติตนเพื่อเป็น ศาสนิกชนที่ดี และร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่า จะมีวิธีทำนุบำรุงศาสนสถานให้มั่นคงแข็งแรง สวยงามสมกับเป็นสถานที่สำคัญ อย่างไร ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องของใบงานที่ 5.1 ภายในกลุ่ม แล้วส่งตัวแทนกลุ่มออกมานำเสนอ ผลงานหน้าชั้นเรียน 2. ครูตรวจสอบความถูกต้องในการนำเสนอผลงานของนักเรียนทุกกลุ่ม


163 สังคมศึกษาฯ ป.4 เรื่องที่ 6 มรรยาทของศาสนิกชนที่ดี เวลา 1 ชั่วโมง วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการปฏิบัติ ขั้นที่ 1 สังเกต รับรู้ 1. ครูให้นักเรียนวิเคราะห์ภาพมรรยาทของศาสนิกชนที่ดีในด้านต่างๆ แล้วให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับผลของ กิจกรรมในภาพ 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง มรรยาทของศาสนิกชนที่ดี จากหนังสือเรียน ห้องสมุด และแหล่งข้อมูล สารสนเทศ 3. ครูให้นักเรียนดูภาพหรือวีดิทัศน์ หรือให้ตัวแทนนักเรียนสาธิตมรรยาทชาวพุทธที่เกี่ยวกับการปฏิบัติตนที่เหมาะสมต่อ พระภิกษุ การสนทนา และการแสดงความเคารพต่อพระภิกษุ การยืน เดิน และนั่งที่เหมาะสมในโอกาสต่างๆ ขั้นที่ 2 ทำตามแบบ นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันฝึกมรรยาทของศาสนิกชนที่ดีตามตัวอย่างที่ครูนำมาให้ดู ซึ่งอาจจะเป็นภาพ หรือวีดิทัศน์ หรือการ สาธิตเกี่ยวกับมรรยาทของศาสนิกชนที่ดี โดยครูเป็นผู้ช่วยเสนอแนะการปฏิบัติที่ถูกต้อง ขั้นที่ 3 ทำเองโดยไม่มีแบบ นักเรียนแต่ละกลุ่มฝึกมรรยาทของศาสนิกชนที่ดี โดยไม่ต้องดูแบบ ครูช่วยแนะนำความถูกต้อง ขั้นที่ 4 ฝึกทำให้ชำนาญ 1. สมาชิกในแต่ละกลุ่มช่วยกันฝึกซ้อมมรรยาทของศาสนิกชนที่ดีให้ถูกต้องจนมีความชำนาญ 2. สมาชิกแต่ละกลุ่มนำเสนอผลงาน โดยการสาธิตมรรยาทของศาสนิกชนที่ดีที่หน้าชั้นเรียน โดยให้ครอบคลุม 3 หัวข้อ ดังนี้ 1) การสนทนากับพระสงฆ์ 2) การแสดงความเคารพต่อพระภิกษุ 3) การยืน เดิน และนั่งที่เหมาะสมในโอกาสต่างๆ 3. สมาชิกกลุ่มผู้ชมการสาธิตผลัดกันแสดงความคิดเห็น โดยครูตรวจสอบความถูกต้องของการสาธิตมรรยาทของนักเรียน และให้ข้อเสนอแนะ 4. ครูและนักเรียนช่วยกันสรุปแนวทางการปฏิบัติตนให้เป็นศาสนิกชนที่ดี และให้นักเรียนนำความรู้ที่ได้ศึกษานำไปปฏิบัติ ในโอกาสที่เหมาะสม


164 สังคมศึกษาฯ ป.4 เรื่องที่ 7 ศาสนพิธี เวลา 1 ชั่วโมง วิธีสอนโดยใช้ทักษะกระบวนการเผชิญสถานการณ์ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ครูให้นักเรียนดูวีดิทัศน์เกี่ยวกับพิธีทำบุญขึ้นบ้านใหม่ แล้วให้นักเรียนช่วยกันวิเคราะห์ว่า การประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่ ถูกต้องนั้น จะต้องปฏิบัติอย่างไร ขั้นสอน ขั้นที่ 1 รวบรวมข่าวสาร ข้อมูล ข้อเท็จจริง ความรู้ และหลักการ นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันหาข้อมูลเกี่ยวกับศาสนพิธี จากหนังสือเรียน ห้องสมุด และแหล่งข้อมูลสารสนเทศในหัวข้อที่ กำหนดให้ ดังนี้ 1) การอาราธนาศีล และสมาทานศีล 2) การอาราธนาธรรม 3) การอาราธนาพระปริตร 4) ระเบียบพิธีและการปฏิบัติตนในวันธรรมสวนะ ขั้นที่ 2 ประเมินคุณค่าและประโยชน์ 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันวาดภาพที่เกี่ยวกับการทำบุญในวันธรรมสวนะที่ตนเองเคยเข้าร่วม แล้วบันทึกข้อมูลลงใน ใบงานที่ 7.1 เรื่อง ศาสนพิธี 2. ตัวแทนของแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอใบงานที่ 7.1 เพื่อนกลุ่มอื่นและครูร่วมกันแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม ขั้นที่ 3 เลือกและตัดสินใจ 1. สมาชิกในกลุ่มช่วยกันเลือกและตัดสินใจสาธิตการเข้าร่วมพิธีกรรมทางศาสนา เช่น ทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ทำบุญแต่งงาน เป็นต้น 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มวางแผนฝึกซ้อมการสาธิตเกี่ยวกับศาสนพิธีตามหัวข้อที่กำหนด ขั้นที่ 4 ปฏิบัติ 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มสาธิตการปฏิบัติตนในศาสนพิธีตามหัวข้อที่นักเรียนเลือกและตัดสินใจ 2. นักเรียนกลุ่มผู้ชมช่วยกันแสดงความคิดเห็น โดยครูเป็นผู้ตรวจสอบความถูกต้องและให้ข้อเสนอแนะ ขั้นสรุป ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปแนวคิดหรือประสบการณ์ที่ได้รับจากการปฏิบัติ และจากการศึกษาความรู้เรื่อง ศาสนพิธี นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง ศาสนิกชนที่ดี ครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละคนรายงานผลการปฏิบตัิตนเป็ นศาสนิกชนที่ดีโดยให้ครอบคลุมประเด็น ตามที ่ก าหนด


165 สังคมศึกษาฯ ป.4 9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 9.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.4 2) ใบความรู้ที่ 1.1 เรื่อง การสวดมนต์ไหว้พระ สรรเสริญคุณพระรัตนตรัย และแผ่เมตตา 3) ใบความรู้ที่ 3.1 เรื่อง การฝึกกำหนดรู้ความรู้สึกของประสาทสัมผัสทั้ง 6 4) แถบบันทึกเสียงการสวดมนต์ 5) บัตรภาพ 6) ใบงานที่ 2.1 เรื่อง การบริหารจิตและเจริญปัญญา 7) ใบงานที่ 4.1 เรื่อง การฝึกให้มีสมาธิ 8) ใบงานที่ 5.1 เรื่อง ศาสนสถานที่ฉันสนใจ 9) ใบงานที่ 7.1 เรื่อง ศาสนพิธี 9.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) ห้องสมุด 2) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ - www.catholic.or.th/.../vaticanmar09/44 - wikimedia.org/wikipedia/commons/8/83/P


166 สังคมศึกษาฯ ป.4 การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินรายงานผลการปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดี รายการประเมิน คำอธิบายระดับคุณภาพ/ระดับคะแนน ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) 1. การสวดมนต์ และ แผ่เมตตา สวดมนต์ และแผ่เมตตา ได้ตามเวลาที่เหมาะสม สวดมนต์ และแผ่เมตตาได้เป็น บางเวลา สวดมนต์ และแผ่เมตตาได้ 2. การมีสติที่เป็นพื้นฐาน ของสมาธิ หรือการ พัฒนาจิตตามแนวของ ศาสนาที่ตนนับถือตามที่ กำหนด มีสติที่เป็นพื้นฐานของสมาธิ และ พัฒนาจิตตามแนวของศาสนาที่ ตนนับถือ ได้ครบถ้วนทุกประเด็น ตามที่กำหนด มีสติที่เป็นพื้นฐานของสมาธิ และ พัฒนาจิตตามแนวของศาสนาที่ ตนนับถือ ได้เกือบครบทุก ประเด็นตามที่กำหนด มีสติที่เป็นพื้นฐานของสมาธิ และ พัฒนาจิตตามแนวของศาสนาที่ ตนนับถือได้ แต่ไม่ครบทุก ประเด็นตามที่กำหนด 3. การมีส่วนร่วมในการ บำรุงรักษาศาสนสถาน ของศาสนาที่ตนนับถือ มีส่วนร่วมในการบำรุงรักษา ศาสนสถานของศาสนาที่ตน นับถือทุกกิจกรรม มีส่วนร่วมในการบำรุงรักษา ศาสนสถานของศาสนาที่ตน นับถือบางกิจกรรม ไม่มีส่วนร่วมในการบำรุงรักษา ศาสนสถานของศาสนาที่ตน นับถือ 4. การมีมรรยาทของความ เป็นศาสนิกชนที่ดีตามที่ กำหนด มีมรรยาทของความเป็น ศาสนิกชนที่ดีตามที่กำหนด สามารถนำไปปรับใช้ใน ชีวิตประจำวันได้ตามเวลาที่ เหมาะสม มีมรรยาทของความเป็น ศาสนิกชนที่ดีตามที่กำหนด สามารถนำไปปรับใช้ใน ชีวิตประจำวันได้บางเวลา มีมรรยาทของความเป็น ศาสนิกชนที่ดีตามที่กำหนด แต่ไม่สามารถนำไปปรับใช้ใน ชีวิตประจำวันได้ 5. การปฏิบัติตนในศาสนพิธี พิธีกรรม และวัน สำคัญทางศาสนาตามที่ กำหนด ปฏิบัติตนในศาสนพิธี พิธีกรรม และวันสำคัญทางศาสนาตามที่ กำหนดได้ถูกต้อง ปฏิบัติตนในศาสนพิธี พิธีกรรม และวันสำคัญทางศาสนาตามที่ กำหนดได้บางเวลา ปฏิบัติตนในศาสนพิธี พิธีกรรม และวันสำคัญทางศาสนาตามที่ กำหนดได้ แต่ไม่ถูกต้อง เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง


167 สังคมศึกษาฯ ป.4 ได้คะแนน คะแนนเต็ม แบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 คำชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ข้อใดเป็นการปฏิบัติตนต่อศาสนสถานที่ไม่ถูกต้อง ก. ใส่กระโปรงยาวไปวัด ข. นำสุนัขไปปล่อยที่วัด ค. กราบพระประธานในโบสถ์ ง. ถอดรองเท้าก่อนเข้ามัสยิด 2. ในวันสำคัญทางศาสนา นักเรียนควรปฏิบัติอย่างไร ก. คิดถึงความดีที่เคยทำ ข. ชวนพ่อแม่ไปทัศนศึกษา ค. เข้าร่วมพิธีกรรมทางศาสนา ง. บริจาคทรัพย์ให้ศาสนสถาน 3. ในวัยของนักเรียน ควรช่วยพัฒนาวัดโดยวิธีใดจึงจะ เหมาะสมที่สุด ก. รับใช้พระสงฆ์ ข. ช่วยสร้างกำแพงวัด ค. ล้างถ้วยชามในโรงครัว ง. ช่วยเก็บกวาดบริเวณวัด 4. การปฏิบัติตนในข้อใดเป็นพิธีกรรมในวันสำคัญทาง พระพุทธศาสนา ก. ถือศีลอด ข. รับศีลบวช ค. บูชาเทวดา ง. เวียนเทียน 5. จุดมุ่งหมายสำคัญของการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา คือข้อใด ก. โฆษณาชวนเชื่อ ข. ชักชวนให้ปฏิบัติดี ค. หารายได้บำรุงศาสนา ง. ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ 6. ในการจัดพิธีกรรมทางศาสนาควรคำนึงถึงข้อใด ก. เสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด ข. ถูกต้องตามหลักศาสนา ค. ทำให้ผู้จัดได้รับความนิยม ง. จัดตามประเพณีแบบโบราณ 7. ใจที่ว่อกแว่ก แสดงว่าไม่มีสิ่งใด ก. ศีล ข. สมาธิ ค. ปัญญา ง. ความจำ 8.การหมั่นฝึกสมาธิมีประโยชน์ต่อการเรียนอย่างไรบ้าง ก. หน้าตาดี ข. มีเมตตา ค. ความจำดี ง. ได้บุญกุศล 9. โบสถ์คริสต์มีความสำคัญอย่างไร ก. ใช้เป็นที่จัดงานเลี้ยง ข. ใช้เป็นที่พบปะสังสรรค์ ค. ใช้รับรองแขกบ้านแขกเมือง ง. ใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาคริสต์ 10. ถ้าเรายืนอยู่ริมถนนแล้วเห็นพระสงฆ์เดินผ่านมา เราควรทำอย่างไร ก. เดินหนี ข. ยกมือไหว้ ค. หันหลังให้ ง. ก้มลงกราบ ตัวชี้วัด ส 1.1 ข้อ 6 ส 1.2 ข้อ 1-3 1. ข 2. ค 3. ง 4. ง 5. ข 6. ข 7. ข 8. ค 9. ง 10. ข 10


242 สังคมศึกษาฯ ป.4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 สมาชิกที่ดีของชุมชน เวลา 7 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ส 2.1 ป.4/1 ปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตยในฐานะสมาชิกที่ดีของชุมชน ป.4/2 ปฏิบัติตนในการเป็นผู้นำและผู้ตามที่ดี ป.4/3 วิเคราะห์สิทธิพื้นฐานที่เด็กทุกคนพึงได้รับตามกฎหมาย ป.4/5 เสนอวิธีการที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขในชีวิตประจำวัน 2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด สมาชิกที่ดีของชุมชนย่อมต้องเข้าร่วมกิจกรรมตามวิถีประชาธิปไตย เป็นผู้นำและผู้ตามที่ดี และคำนึงถึงสิทธิพื้นฐานที่เด็กทุก คนพึงได้รับ และสามารถอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง 1) การเข้าร่วมกิจกรรมประชาธิปไตยของชุมชน เช่น การรณรงค์การเลือกตั้ง 2) แนวทางการปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของชุมชน เช่น อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สาธารณสมบัติ โบราณวัตถุ และโบราณสถาน การพัฒนาชุมชน 3) การเป็นผู้นำและผู้ตามที่ดี - บทบาทและความรับผิดชอบของผู้นำ - บทบาทและความรับผิดชอบของผู้ตามหรือสมาชิก - การทำงานกลุ่มให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล และประโยชน์ของการทำงานเป็นกลุ่ม 4) สิทธิพื้นฐานของเด็ก เช่น สิทธิที่จะมีชีวิต สิทธิที่จะได้รับการปกป้อง สิทธิที่จะได้รับการพัฒนา สิทธิที่จะมีส่วนร่วม 5) ปัญหาและสาเหตุของการเกิดความขัดแย้งในชีวิตประจำวัน 6) แนวทางการแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธี 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น (พิจารณาตามหลักสูตรสถานศึกษา) 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการวิเคราะห์ 2) ทักษะการตัดสินใจ 3)ทักษะการพยากรณ์ 4.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต


243 สังคมศึกษาฯ ป.4 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ซื่อสัตย์สุจริต 2. มีวินัย 3. ใฝ่เรียนรู้ 4. มีจิตสาธารณะ 6. ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) 1. การรายงานผลการปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของชุมชน (ชิ้นงานที่ 1) 2. การจัดทำแผ่นพับ เรื่อง สิทธิเด็กกับการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข (ชิ้นงานที่ 2) 7. การวัดและการประเมินผล 7.1 การประเมินก่อนเรียน - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง สมาชิกที่ดีของชุมชน (K) 7.2 การประเมินระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1) ตรวจใบงานที่ 1.1 เรื่อง คุณธรรมของพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย (K,P) 2) ตรวจใบงานที่ 1.2 เรื่อง พลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย (P) 3) ตรวจใบงานที่ 1.3 เรื่อง พลเมืองดีในท้องถิ่น (P,A) 4) ตรวจใบงานที่ 1.4 เรื่อง สมาชิกที่ดีของชุมชน (P,A) 5) ตรวจใบงานที่ 2.1 เรื่อง ผู้นำและผู้ตามในครอบครัว (K) 6) ตรวจใบงานที่ 2.2 เรื่อง ผู้นำชุมชนของฉัน (P) 7) ตรวจใบงานที่ 3.1 เรื่อง การละเมิดสิทธิเด็ก (P) 8) ตรวจใบงานที่ 4.1 เรื่อง การอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข (P) 9) ตรวจใบงานที่ 4.2 เรื่อง วิธีอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข (P) 10) ตรวจแบบบันทึกการอ่าน (K,P) 11) ประเมินการนำเสนอผลงาน (K,P,A) 12) สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล (P,A) 13) สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม (P,A) 14) สังเกตคุณลักษณะอันพึงประสงค์(A) 7.3 การประเมินหลังเรียน - ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง สมาชิกที่ดีของชุมชน (K) 7.4 การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) 1) สังเกตการรายงานผลการปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของชุมชน (ชิ้นงานที่ 1) (P,A) 2) ตรวจแผ่นพับ เรื่อง สิทธิเด็กกับการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข (ชิ้นงานที่ 2) (K,P) 8. กิจกรรมการเรียนรู้ นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่5 เรื่อง สมาชิกที่ดีของชุมชน


244 สังคมศึกษาฯ ป.4 เรื่องที่ 1 พลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย วิธีสอนแบบโมเดลซิปปา (CIPPA Model) เวลา 2 ชั่วโมง ขั้นที่ 1 ทบทวนความรู้เดิม 1. ครูให้นักเรียนดูบัตรภาพการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง แล้วสนทนากับนักเรียนว่า บุคคลในภาพกำลังทำอะไร และเป็น การปฏิบัติตนในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของการปกครองระบอบประชาธิปไตยอย่างไร 2. ครูอธิบายให้นักเรียนเข้าใจถึงความหมายและความสำคัญของประชาธิปไตย และการเป็นพลเมืองดีตามวิถี ประชาธิปไตย ขั้นที่ 2 แสวงหาความรู้ใหม่ ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละกันตามความสามารถ กำหนดหมายเลขประจำตัวให้สมาชิกแต่ละคนในกลุ่ม เป็นหมายเลข 1-4 จากนั้นให้แต่ละคนแยกย้ายกันไปเข้ากลุ่มใหม่ที่มีหมายเลขเดียวกันเพื่อศึกษาความรู้เรื่อง พลเมืองดีตามวิถี ประชาธิปไตย จากหนังสือเรียน ตามประเด็นที่กำหนดให้ ขั้นที่ 3 ศึกษาทำความเข้าใจข้อมูล/ความรู้ใหม่ และเชื่อมโยงความรู้ใหม่กับความรู้เดิม สมาชิกในกลุ่มใหม่ ศึกษาความรู้ในหัวข้อที่ได้รับมอบหมายและตอบคำถามในใบงาน ดังนี้ - สมาชิกกลุ่มหมายเลข 1 ทำใบงานที่ 1.1 เรื่อง คุณธรรมของพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย - สมาชิกกลุ่มหมายเลข 2 ทำใบงานที่ 1.2 เรื่อง พลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย - สมาชิกกลุ่มหมายเลข 3 ทำใบงานที่ 1.3 เรื่อง พลเมืองดีในท้องถิ่น - สมาชิกกลุ่มหมายเลข 4 ทำใบงานที่ 1.4 เรื่อง สมาชิกที่ดีของชุมชน ขั้นที่ 4 แลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจกับกลุ่ม 1. ครูสนทนากับนักเรียนถึงประเด็นสำคัญที่นักเรียนได้ศึกษาเรื่อง พลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย 2. สมาชิกกลุ่มใหม่แยกย้ายกันกลับกลุ่มเดิม ให้สมาชิกแต่ละหมายเลขนำความรู้ที่ได้ศึกษาและทำใบงานในส่วนที่ตน รับผิดชอบมาเล่าให้สมาชิกคนอื่นในกลุ่มฟัง ผลัดกันซักถามข้อสงสัยและอภิปรายประเด็นสำคัญได้ศึกษามา ขั้นที่ 5 สรุปและจัดระเบียบความรู้ นักเรียนช่วยกันสรุปความรู้ที่ได้ศึกษาในประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย ขั้นที่ 6 ปฏิบัติและ/หรือแสดงผลงาน ตัวแทนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอใบงานที่ 1.1-1.4 หน้าชั้นเรียน โดยครูตรวจสอบความถูกต้อง และเพิ่มเติมในส่วนที่บกพร่อง ขั้นที่ 7 ประยุกต์ใช้ความรู้ ครูมอบหมายให้นักเรียนนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการคิดวิเคราะห์เพื่อแก้ปัญหาของชุมชนที่นักเรียนเห็นว่าควรปรับปรุงแก้ไข เพื่อช่วยพัฒนาชุมชนในฐานะเป็นสมาชิกที่ดีของชุมชน


245 สังคมศึกษาฯ ป.4 เรื่องที่ 2 ผู้นำและผู้ตามในสังคมประชาธิปไตย วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) เวลา 2 ชั่วโมง ขั้นที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engage) 1. ครูสนทนากับนักเรียนว่า การอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขนั้นจะต้องปฏิบัติตนอย่างไร 2. ครูอธิบายเพิ่มเติมให้นักเรียนเข้าใจว่า ในการอยู่ร่วมกันในสังคมจำเป็นจะต้องมีผู้นำและผู้ตามที่ดี และรู้จักเสนอวิธีที่จะ อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ขั้นที่ 2 สำรวจค้นหา (Explore) นักเรียนกลุ่มเดิมร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง ผู้นำและผู้ตามในสังคมประชาธิปไตย จากหนังสือเรียน ตามหัวข้อต่อไปนี้ 1) ลักษณะของผู้นำในสังคมประชาธิปไตย 2) บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบของผู้นำในแต่ละกลุ่มสังคม 3) บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบของผู้ตาม 4) คุณลักษณะและคุณธรรมจริยธรรมของผู้นำที่ดี 5) การทำงานกลุ่มให้มีประสิทธิภาพ ขั้นที่ 3 อธิบายความรู้(Explain) 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันอภิปรายประเด็นสำคัญของเรื่องที่ศึกษา และช่วยกันทำใบงานที่ 2.1 เรื่อง ผู้นำและผู้ตาม ในครอบครัว 2. ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยคำตอบในใบงานที่ 2.1 ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามข้อสงสัยจนเข้าใจชัดเจน ขั้นที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Expand) 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับผู้นำที่ดีจะต้องเป็นแบบอย่างแก่ผู้ที่ทำงานด้วยกันรวมถึงจะต้องมี คุณลักษณะและทัศนวิสัยที่ดีต่อการทำงาน 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันทำใบงานที่ 2.2 เรื่อง ผู้นำชุมชนของฉัน ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอใบงานที่ 2.2 หน้าชั้นเรียน ครูตรวจสอบความถูกต้อง 2. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง ผู้นำและผู้ตามในสังคมประชาธิปไตย ครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละกลุ่มรายงานผลการปฏิบตัิตนเป็ นสมาชิกที่ดีของชุมชน โดยให้ครอบคลุมประเด็นตามที ่ก าหนด


246 สังคมศึกษาฯ ป.4 เรื่องที่ 3 สิทธิพื้นฐานสำหรับเด็ก วิธีสอนโดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ : เทคนิคคู่คิด เวลา 1 ชั่วโมง ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูนำข่าวเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิเด็กมาให้นักเรียนวิเคราะห์และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสิทธิพื้นฐานของเด็กทุกคนที่ พึงได้รับตามกฎหมาย 2. ครูอธิบายเชื่อมโยงให้นักเรียนเข้าใจว่า มนุษย์ทุกคนมีศักดิ์ศรีมาตั้งแต่กำเนิด และมีสิทธิเท่าเทียมกันตามกฎหมายจึง ต้องเตรียมเด็กให้พร้อมที่จะดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยตนเองในสังคม ขั้นสอน 1. นักเรียนกลุ่มเดิมร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง สิทธิพื้นฐานสำหรับเด็ก จากหนังสือเรียน 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มจับคู่กันเป็น 2 คู่ ให้แต่ละคู่นำข่าวเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิเด็ก (หามาล่วงหน้า) มาวิเคราะห์แล้วตอบ คำถามที่กำหนดในใบงานที่ 3.1 เรื่อง การละเมิดสิทธิเด็ก 3. นักเรียนแต่ละคู่นำคำตอบในใบงานที่ 3.1 ของคู่ตนเองมาเล่าให้เพื่อนอีกคู่หนึ่งภายในกลุ่มฟัง แล้วช่วยกันเพิ่มเติม ในส่วนที่บกพร่อง 4. ครูสุ่มเรียกนักเรียน 4-5 คน ออกมานำเสนอใบงานที่ 3.1 หน้าชั้นเรียน ครูตรวจสอบความถูกต้องและ ให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ขั้นสรุป ครูและนักเรียนช่วยกันสรุปความรู้เกี่ยวกับสิทธิพื้นฐานสำหรับเด็ก


247 สังคมศึกษาฯ ป.4 เรื่องที่ 4 การอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข วิธีสอนโดยใช้ทักษะกระบวนการเผชิญสถานการณ์ เวลา 2 ชั่วโมง ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ครูให้นักเรียนร่วมกันยกตัวอย่างปัญหาหรือสาเหตุที่อาจทำให้เกิดความขัดแย้งของคนในครอบครัวหรือในชั้นเรียน และ ร่วมกันอภิปรายเสนอแนะวิธีแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี ขั้นสอน ขั้นที่ 1 รวบรวมข่าวสาร ข้อมูล ข้อเท็จจริง ความรู้ และหลักการ 1. นักเรียนกลุ่มเดิมช่วยกันสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ในประเด็นต่อไปนี้ 1) ลักษณะของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข 2) ปัญหาและสาเหตุของการเกิดความขัดแย้ง 3) แนวทางการแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธี 2. สมาชิกในกลุ่มร่วมกันอภิปรายประเด็นสำคัญของข้อมูลที่ได้รวบรวมมา ขั้นที่ 2 ประเมินคุณค่าและประโยชน์ 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันทำใบงานที่ 4.1 เรื่อง การอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข 2. เมื่อแต่ละกลุ่มทำใบงานที่ 4.1 เสร็จแล้วให้ออกมานำเสนอใบงานที่หน้าชั้นเรียน โดยให้สมาชิกกลุ่มอื่นช่วยกัน แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม ครูตรวจสอบความถูกต้อง ขั้นที่ 3 เลือกและตัดสินใจ 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันเสนอแนะวิธีการที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขในครอบครัวและโรงเรียนแล้วบันทึกผล ลงในใบงานที่ 4.2 เรื่อง วิธีอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข 2. สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มตัดสินใจเลือกกิจกรรมที่ตนสามารถนำไปปฏิบัติได้ แล้วบันทึกลงในสมุด ขั้นที่ 4 ปฏิบัติ สมาชิกแต่ละคนปฏิบัติตนตามกิจกรรมที่ตนตัดสินใจเลือก แล้วผลัดกันเล่าให้สมาชิกในกลุ่มฟัง หรือนำบันทึกส่งครู ขั้นสรุป 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันเสนอแนวทางการลดความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน 2. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง สมาชิกที่ดีของชุมชน ครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละกลุ่มจัดท าแผ่นพับ เรื่อง สิทธิเดก ็ กบัการอยู่ร่วมกนัอย่างสนัติสุข โดยให้ครอบคลุมประเด็นตามที ่ก าหนด


248 สังคมศึกษาฯ ป.4 9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 9.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.4 2) บัตรภาพ 3) ใบงานที่ 1.1 เรื่อง คุณธรรมของพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย 4) ใบงานที่ 1.2 เรื่อง พลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย 5) ใบงานที่ 1.3 เรื่อง พลเมืองดีในท้องถิ่น 6) ใบงานที่ 1.4 เรื่อง สมาชิกที่ดีของชุมชน 7) ใบงานที่ 2.1 เรื่อง ผู้นำและผู้ตามในครอบครัว 8) ใบงานที่ 2.2 เรื่อง ผู้นำชุมชนของฉัน 9) ใบงานที่ 3.1 เรื่อง การละเมิดสิทธิเด็ก 10) ใบงานที่ 4.1 เรื่อง การอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข 11) ใบงานที่ 4.2 เรื่อง วิธีอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข 9.2 แหล่งการเรียนรู้ - ห้องสมุด


249 สังคมศึกษาฯ ป.4 การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินการรายงานผลการปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของชุมชน (ชิ้นงานที่ 1) รายการประเมิน คำอธิบายระดับคุณภาพ/ระดับคะแนน ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) 1. การปฏิบัติตนเป็น พลเมืองดีตามวิถี ประชาธิปไตย ในฐานะ สมาชิกที่ดีของชุมชน ปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีตามวิถี ประชาธิปไตยในฐานะสมาชิกที่ดี ของชุมชนได้ถูกต้อง เหมาะสม ครบทั้ง 3 ด้าน คือ 1.ด้านสังคม 2.ด้านเศรษฐกิจ 3.ด้านการเมือง ปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีตามวิถี ประชาธิปไตยในฐานะสมาชิกที่ดีของ ชุมชนได้ถูกต้อง เหมาะสม ครบ 2 ด้าน ปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีตามวิถี ประชาธิปไตยในฐานะสมาชิกที่ดี ของชุมชนได้ถูกต้อง เหมาะสม ครบ 1 ด้าน 2. การมีส่วนร่วมใน กิจกรรมของชุมชน มีส่วนร่วมในกิจกรรมของชุมชน 5 กิจกรรมขึ้นไป พร้อมมีหลักฐาน ประกอบ มีส่วนร่วมในกิจกรรมของชุมชน 3-4 กิจกรรม พร้อมมีหลักฐานประกอบ มีส่วนร่วมในกิจกรรมของชุมชน 1-2 กิจกรรม พร้อมมีหลักฐาน ประกอบ 3. การปฏิบัติตนในการ เป็นผู้นำที่ดี ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีใน กลุ่มสังคม โดยยึดหลักคุณธรรม จริยธรรม ประพฤติตนค่อนข้างเป็นแบบอย่างที่ ดีในกลุ่มสังคม โดยยึดหลักคุณธรรม จริยธรรม ประพฤติตนไม่เป็นแบบอย่างที่ดี ในกลุ่มสังคม 4. ปฏิบัติตนในการเป็น ผู้ตามที่ดี ประพฤติตนเป็นผู้ตามที่ดีในกลุ่ม สังคม โดยยึดหลักคุณธรรม จริยธรรม ประพฤติตนค่อนข้างเป็น ผู้ตามที่ดีในกลุ่มสังคม โดยยึดหลัก คุณธรรม จริยธรรม ประพฤติตนไม่เป็นผู้ตามที่ดีใน กลุ่มสังคม 5. การปฏิบัติตนในการ ทำงานกลุ่มให้มี ประสิทธิภาพ ปฏิบัติตนในการทำงานกลุ่มให้มี ประสิทธิภาพ เรียงตามลำดับ ขั้นตอน ครบทั้ง 8 ขั้นตอน ปฏิบัติตนในการทำงานกลุ่มให้มี ประสิทธิภาพ เรียงตามลำดับขั้นตอน เป็นส่วนใหญ่ ครบทั้ง 8 ขั้นตอน ปฏิบัติตนในการทำงานกลุ่มให้มี ประสิทธิภาพ แต่ไม่ครบทั้ง 8 ขั้นตอน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 – 15 ดี 8 – 11 พอใช้ ต่ำกว่า 5 ปรับปรุง


250 สังคมศึกษาฯ ป.4 การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินแผ่นพับ เรื่อง สิทธิเด็กกับการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข (ชิ้นงานที่ 2) รายการประเมิน คำอธิบายระดับคุณภาพ/ระดับคะแนน ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) 1. สิทธิพื้นฐานสำหรับเด็ก ยกตัวอย่างการกระทำตามสิทธิ พื้นฐานสำหรับเด็กได้ถูกต้อง ครบถ้วน 4 ข้อ ยกตัวอย่างการกระทำตามสิทธิ พื้นฐานสำหรับเด็กได้ถูกต้อง 2-3 ข้อ ยกตัวอย่างการกระทำตามสิทธิ พื้นฐานสำหรับเด็กได้ถูกต้อง 1 ข้อ 2. การอยู่ร่วมกันอย่าง สันติสุข บอกวิธีการในการอยู่ร่วมกันอย่าง สันติสุขได้ 6 ข้อขึ้นไป และ สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง บอกวิธีการในการอยู่ร่วมกันอย่าง สันติสุขได้ 3-5 ข้อ และสามารถ นำไปปฏิบัติได้จริง บอกวิธีการในการอยู่ร่วมกันอย่าง สันติสุขได้ 1-2 ข้อ และสามารถ นำไปปฏิบัติได้จริง เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 5 - 6 ดี 3 - 4 พอใช้ ต่ำกว่า 3 ปรับปรุง


251 สังคมศึกษาฯ ป.4 แบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 คำชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ข้อใดเป็นคุณธรรม 3 ประการ ที่ถูกต้องของการเป็น พลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย ก. คารวธรรม ปัญญาธรรม เบญจธรรม ข. คารวธรรม เบญจธรรม สามัคคีธรรม ค. คารวธรรม ปัญญาธรรม สามัคคีธรรม ง. เบญจธรรม ปัญญาธรรม สามัคคีธรรม 2. ข้อใดเป็นการปฏิบัติตนของการเป็นพลเมืองดีตามวิถี ประชาธิปไตยที่ไม่ถูกต้อง ก. ยอมรับการเป็นผู้นำและผู้ตามที่ดี ข. รู้หน้าที่และรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว และ โรงเรียน ค. รักและภูมิใจในศิลปวัฒนธรรมใหม่ๆ ที่เข้ามาสู่ ประเทศไทย ง. ปฏิบัติตามข้อตกลงตามกฎระเบียบของครอบครัว โรงเรียนและชุมชน 3. ข้อใดเป็นปัญญาธรรม ก. มีเหตุผลในการอภิปรายเรื่องต่างๆ ข. รับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย ค. เคารพในความคิดเห็นของกันและกัน ง. เคารพในกฎหมายและวัฒนธรรมประเพณีของ สังคม 4. ข้อใดเป็นบริการขั้นพื้นฐานที่รัฐต้องจัดให้กับเด็ก ก. อาหาร ข. การศึกษา ค. การเดินทาง ง. ของเล่นของใช้ 5. เด็กในข้อใดควรได้รับการคุ้มครอง ก. เด็กทุกคนที่เกิดมา ข. เด็กที่มีฐานะยากจน ค. เด็กที่พิการทางสมอง ง. เด็กที่พิการทางด้านร่างกาย 6. ข้อใดไม่ใช่สิทธิพื้นฐานของเด็ก ก. สิทธิที่จะมีชีวิต ข. สิทธิที่จะได้รับรางวัล ค. สิทธิที่จะได้รับการพัฒนา ง. สิทธิที่จะได้รับการปกป้อง 7. ข้อใดเป็นการทารุณกรรมเด็ก ก. กบถูกบังคับให้กินผัก ข. กุ้งถูกตำหนิเรื่องไม่ทำการบ้าน ค. เก้งถูกตักเตือนเมื่อพูดจาก้าวร้าว ง. ไก่ถูกบุหรี่จี้ตามตัวเพราะทำงานช้า 8. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับสิทธิเด็ก ก. เมื่อเกิดมาเรามีสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่ ข. พ่อแม่มีหน้าที่ปกป้องคุ้มครองลูก ค. เด็กทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับการศึกษา ง. การลงโทษเด็กด้วยวิธีที่รุนแรงจะทำให้เด็กไม่กล้า ทำความผิดอีก 9. ข้อใดเป็นการทารุณกรรมทางด้านร่างกาย ก. แตนถูกครูตำหนิ ข. ต่อถูกพ่อเลี้ยงทุบตี ค. ตาวถูกเพื่อนนินทา ง. เตยถูกเพื่อนล้อเลียน


252 สังคมศึกษาฯ ป.4 10. ข้อใดเป็นสิทธิพื้นฐานที่เด็กทุกคนพึงได้รับตามกฎหมายทุกข้อ ก. สิทธิที่จะมีชีวิต สิทธิที่จะได้รับการปกป้อง สิทธิที่จะได้รับการพัฒนา สิทธิที่จะมีส่วนร่วม ข. สิทธิที่จะมีชีวิต สิทธิในการประกอบอาชีพสุจริต สิทธิที่จะได้รับการพัฒนา สิทธิที่จะมีส่วนร่วม ค. สิทธิที่จะมีชีวิต สิทธิที่จะได้รับการปกป้อง สิทธิในการประกอบอาชีพสุจริต สิทธิที่จะมีส่วนร่วม ง. สิทธิที่จะมีชีวิต สิทธิที่จะได้รับการปกป้อง สิทธิที่จะได้รับการพัฒนา สิทธิในการประกอบอาชีพสุจริต ตัวชี้วัด ส 2.1 ข้อ 1-3, 5 1. ค 2. ค 3. ก 4. ข 5. ก 6. ข 7. ง 8. ง 9. ข 10. ก 10 ได้คะแนน คะแนนเต็ม


316 สังคมศึกษาฯ ป.4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 วัฒนธรรมท้องถิ่น เวลา 5 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ส 2.1 ป.4/4 อธิบายความแตกต่างทางวัฒนธรรมของกลุ่มคนในท้องถิ่น 2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด วัฒนธรรมเป็นแบบแผนของวิถีการดำเนินชีวิตซึ่งมีความแตกต่างกันในแต่ละท้องถิ่น 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง - วัฒนธรรมในภาคต่างๆ ของไทยที่แตกต่างกัน เช่น การแต่งกาย ภาษา อาหาร 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น (พิจารณาตามหลักสูตรสถานศึกษา) 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการวิเคราะห์ 2) ทักษะการเปรียบเทียบ 3) ทักษะการสรุปย่อ 4) ทักษะการจำแนกประเภท 4.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 4. มีจิตสาธารณะ 6. ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) การเขียนเรียงความ เรื่อง ความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรมในแต่ละภาคของประเทศไทย


317 สังคมศึกษาฯ ป.4 7. การวัดและการประเมินผล 7.1 การประเมินก่อนเรียน - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 เรื่อง วัฒนธรรมท้องถิ่น (K) 7.2 การประเมินระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1) ตรวจใบงานที่ 1.1 เรื่อง วัฒนธรรมที่ฉันสนใจ (K,P) 2) ตรวจใบงานที่ 2.1 เรื่อง ความแตกต่างทางวัฒนธรรม (K,P) 3) ตรวจแบบบันทึกการอ่าน (K,P) 4) ประเมินการนำเสนอผลงาน (K,P,A) 5) สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล (P,A) 6) สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม (P,A) 7) สังเกตคุณลักษณะอันพึงประสงค์(A) 7.3 การประเมินหลังเรียน - ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 เรื่อง วัฒนธรรมท้องถิ่น (K) 7.4 การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ตรวจเรียงความ เรื่อง ความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรมในแต่ละภาคของประเทศไทย (P) 8. กิจกรรมการเรียนรู้ นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่6 เรื่อง วัฒนธรรมท้องถิ่น (K)


318 สังคมศึกษาฯ ป.4 เรื่องที่ 1 ความหมาย ลักษณะ และประเภทของวัฒนธรรม วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) เวลา 2 ชั่วโมง ขั้นที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engage) 1. ครูให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่า วัฒนธรรมมีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตของคนอย่างไรบ้าง 2. ครูอธิบายเชื่อมโยงให้นักเรียนเห็นว่า วัฒนธรรมมีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตของคน เพราะเป็นแบบแผนในการ ดำเนินชีวิตของคนในสังคมที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาเป็นเวลาช้านาน และเป็นสิ่งที่แสดงถึงความเจริญของมนุษย์ ขั้นที่ 2 สำรวจค้นหา (Explore) นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน ตามความสมัครใจ ให้แต่ละกลุ่มร่วมกันสืบค้นข้อมูลจากหนังสือเรียน ห้องสมุด และ แหล่งข้อมูลสารสนเทศ ในหัวข้อต่อไปนี้ 1) ความหมายของวัฒนธรรม 2) ลักษณะของวัฒนธรรม 3) ประเภทของวัฒนธรรม ขั้นที่ 3 อธิบายความรู้(Explain) 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มนำความรู้ที่ได้จากการศึกษามาเป็นพื้นฐานในการทำใบงานที่ 1.1 เรื่อง วัฒนธรรมที่ฉันสนใจ 2. นักเรียนร่วมกันอธิบายความรู้ที่ได้จากการศึกษาและจากการทำใบงานที่ 1.1 ขั้นที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Expand) ครูให้นักเรียนนำความรู้ที่ได้จากการศึกษามาวิเคราะห์ความสำคัญของวัฒนธรรมในแต่ละท้องถิ่น ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครูให้นักเรียนช่วยกันสรุปความรู้เรื่อง ความหมาย ลักษณะ และประเภทของวัฒนธรรม 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันหาภาพกิจกรรมเกี่ยวกับการกระทำที่แสดงถึงวัฒนธรรมที่เป็นแบบแผนในการดำเนินชีวิตของ คนในสังคม แล้วนำส่งครูในชั่วโมงเรียนต่อไป


319 สังคมศึกษาฯ ป.4 เรื่องที่ 2 ความแตกต่างทางวัฒนธรรม วิธีสอนแบบโมเดลซิปปา (CIPPA Model) เวลา 2 ชั่วโมง ขั้นที่ 1 ทบทวนความรู้เดิม 1. ครูนำบัตรภาพเกี่ยวกับความแตกต่างของวัฒนธรรมในแต่ละท้องถิ่น มาให้นักเรียนดูแล้วให้นักเรียนร่วมกันแสดงความ คิดเห็นว่า เพราะเหตุใด ในแต่ละท้องถิ่นจึงมีวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ทั้งที่อยู่ในประเทศเดียวกัน 2. ครูอธิบายเพิ่มเติมให้นักเรียนเข้าใจว่า ประเทศไทยเป็นสังคมที่มีคนอยู่รวมกันมากมายหลายเชื้อชาติ และมีวิถีในการ ดำเนินชีวิตอันเป็นรูปแบบเฉพาะของแต่ละท้องถิ่น ขั้นที่ 2 แสวงหาความรู้ใหม่ นักเรียนรวมกลุ่มเดิม แล้วให้แต่ละกลุ่มศึกษาความรู้เรื่อง ความแตกต่างทางวัฒนธรรม ตามหัวข้อที่กำหนดให้ ดังนี้ 1) วัฒนธรรมทางภาษา 2) วัฒนธรรมด้านอาหารการกิน 3) วัฒนธรรมด้านการแต่งกาย 4) วัฒนธรรมด้านการแสดงและการละเล่นพื้นเมือง ขั้นที่ 3 ศึกษาทำความเข้าใจข้อมูล/ความรู้ใหม่ และเชื่อมโยงความรู้ใหม่กับความรู้เดิม สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มผลัดกันอธิบายความรู้ที่ได้จากการศึกษาเกี่ยวกับความแตกต่างทางวัฒนธรรม ตามหัวข้อที่กำหนด และให้แต่ละกลุ่มช่วยกันทำใบงานที่ 2.1 เรื่อง ความแตกต่างทางวัฒนธรรม ขั้นที่ 4 แลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจกับกลุ่ม 1. สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มร่วมกันอธิบายคำตอบในใบงานที่ 2.1 และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นภายในกลุ่ม ผลัดกันซักถาม ข้อสงสัยจนมีความเข้าใจที่ตรงกัน 2. ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยคำตอบในใบงานที่ 2.1 ขั้นที่ 5 สรุปและจัดระเบียบความรู้ นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสรุปความรู้เกี่ยวกับความแตกต่างทางวัฒนธรรม แล้วบันทึกข้อสรุปลงในสมุด ขั้นที่ 6 ปฏิบัติและ/หรือแสดงผลงาน นักเรียนแต่ละกลุ่มคัดเลือกผลงานที่ดีที่สุดและมีข้อบกพร่องน้อยมาติดป้ายนิเทศหน้าชั้นเรียน โดยครูคอยดูแลความ เรียบร้อยและเสนอแนะเพิ่มเติมในส่วนที่บกพร่อง ขั้นที่ 7 ประยุกต์ใช้ความรู้ ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับความแตกต่างทางวัฒนธรรม เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจมากยิ่งขึ้น สามารถนำไป ประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างถูกต้อง


320 สังคมศึกษาฯ ป.4 เรื่องที่ 3 สาเหตุที่ทำให้วัฒนธรรมของท้องถิ่นแตกต่างกัน วิธีสอนโดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ : เทคนิคเล่าเรื่องรอบวง เวลา 1 ชั่วโมง ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูสนทนากับนักเรียนว่า วัฒนธรรมของแต่ละท้องถิ่นย่อมมีความแตกต่างกัน แล้วนักเรียนทราบหรือไม่ว่ามีสาเหตุมา จากสิ่งใดบ้าง 2. ครูอธิบายเชื่อมโยงให้นักเรียนเข้าใจว่า การที่แต่ละภูมิภาคของไทยมีลักษณะทางวัฒนธรรมของท้องถิ่นแตกต่างกัน มีสาเหตุมาจากหลายประการ เช่น ศาสนา เชื้อชาติ เป็นต้น ขั้นสอน 1. นักเรียนรวมกลุ่มเดิมแล้วให้แต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง สาเหตุที่ทำให้วัฒนธรรมของท้องถิ่นแตกต่างกัน จากหนังสือเรียน ห้องสมุด และแหล่งข้อมูลสารสนเทศ 2. สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มนำความรู้ที่ได้จากการศึกษาค้นคว้ามาร่วมกันอภิปรายแสดงความคิดเห็นว่า การศึกษาสาเหตุ ที่ทำให้วัฒนธรรมของท้องถิ่นแตกต่างกัน มีข้อดีอย่างไร 3. สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มผลัดกันแสดงความคิดเห็นตามประเด็นที่สรุปมาทีละคน แบบเล่าเรื่องรอบวง และร่วมกันสรุป ประเด็นสำคัญ 4. นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานำเสนอผลการอภิปรายที่หน้าชั้นเรียน และให้ตัวแทนกลุ่มที่มีความคิดเห็น ที่แตกต่างนำเสนอเพิ่มเติมได้ ขั้นสรุป ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสาเหตุที่ทำให้วัฒนธรรมของท้องถิ่นมีความแตกต่างกัน นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 เรื่อง วัฒนธรรมท้องถิ่น ครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละกลุ่มเขียนเรียงความ เรื่อง ความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรม ในแต่ละภาคของประเทศไทย โดยให้ครอบคลุมประเด็นตามที ่ก าหนด


Click to View FlipBook Version