321 สังคมศึกษาฯ ป.4 9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 9.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.4 2) บัตรภาพ 3) ใบงานที่ 1.1 เรื่อง วัฒนธรรมที่ฉันสนใจ 4) ใบงานที่ 2.1 เรื่อง ความแตกต่างทางวัฒนธรรม 9.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) ห้องสมุด 2) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ - th.wikipedia.org/wiki/ความหลากหลายทางวัฒนธรรม - www.caistudio.info/cai/sungcom/aim/index.html - www.snw.ac.th/general/สังคม/knowledge_soc23.pdf
322 สังคมศึกษาฯ ป.4 การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินเรียงความ เรื่อง ความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรม ในแต่ละภาคของประเทศไทย รายการประเมิน คำอธิบายระดับคุณภาพ/ระดับคะแนน ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) 1. การอธิบายความหมาย ลักษณะ และประเภทของ วัฒนธรรม อธิบายความหมาย ลักษณะ และ ประเภทของวัฒนธรรมได้ถูกต้อง ชัดเจน อธิบายความหมาย ลักษณะ และ ประเภทของวัฒนธรรมได้ถูกต้อง เป็นส่วนใหญ่ อธิบายความหมาย ลักษณะ และประเภทของวัฒนธรรมได้ ถูกต้องเพียงเล็กน้อย 2. การอธิบายความ แตกต่างทางวัฒนธรรม ในแต่ละท้องถิ่น อธิบายความแตกต่างทาง วัฒนธรรมในแต่ละท้องถิ่นได้ ถูกต้อง ครอบคลุมทั้ง 4 ด้าน คือ 1) วัฒนธรรมทางภาษา 2) วัฒนธรรมด้านอาหาร การกิน 3) วัฒนธรรมด้านการแต่งกาย 4) วัฒนธรรมด้านการแสดงและ การละเล่นพื้นเมือง อธิบายความแตกต่างทาง วัฒนธรรมในแต่ละท้องถิ่นได้ ถูกต้อง ครอบคลุม 3 ด้าน อธิบายความแตกต่างทาง วัฒนธรรมในแต่ละท้องถิ่นได้ ถูกต้อง ครอบคลุม 1-2ด้าน 3. การอธิบายสาเหตุที่ทำให้ วัฒนธรรมของท้องถิ่น แตกต่างกัน อธิบายสาเหตุที่ทำให้วัฒนธรรม ของท้องถิ่นแตกต่างกันได้ถูกต้อง ครบถ้วนทุกประเด็น อธิบายสาเหตุที่ทำให้วัฒนธรรม ของท้องถิ่นแตกต่างกันได้ถูกต้อง เป็นส่วนใหญ่ อธิบายสาเหตุที่ทำให้วัฒนธรรม ของท้องถิ่นแตกต่างกันได้ ถูกต้องเพียงเล็กน้อย เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 8 - 9 ดี 5 - 7 พอใช้ ต่ำกว่า 5 ปรับปรุง
323 สังคมศึกษาฯ ป.4 แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 คำชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ข้อใดกล่าวถึงลักษณะของวัฒนธรรมได้ถูกต้องที่สุด ก. เป็นสิ่งดีงาม สามารถถ่ายทอดได้ มีการเปลี่ยนแปลง อยู่ตลอดเวลา ข. เป็นสิ่งดีงาม ต้องทันสมัยอยู่เสมอ มีการเปลี่ยนแปลง อยู่ตลอดเวลา ค. เป็นสิ่งดีงาม สามารถถ่ายทอดได้ เป็นที่ยอมรับของ ทุกคนในชุมชน ง. เป็นที่ยอมรับของทุกคนในชุมชน สามารถถ่ายทอดได้ มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา 2. ข้อใดเป็นวัฒนธรรมทางวัตถุทั้งหมด ก. บ้านเรือน โบราณสถาน ค่านิยม ข. บ้านเรือน โบราณสถาน วัดวาอาราม ค. บ้านเรือน การเคารพผู้ใหญ่ วัดวาอาราม ง. ความกตัญญู โบราณสถาน วัดวาอาราม 3. อาหารและการละเล่นพื้นเมืองในข้อใด ที่ไม่สัมพันธ์กัน ก. ซุบหน่อไม้ – เซิ้ง ข. ต้มยำกุ้ง – ฟ้อนเล็บ ค. แกงเขียวหวาน – ลิเก ง. แกงไตปลา – รำมโนราห์ 4. ข้อใดเป็นวัฒนธรรมการกินของภาคเหนือ ก. ส้มตำ ข. แกงไตปลา ค. น้ำพริกหนุ่ม ง. แกงเขียวหวาน 5. การทักทายกันตามวัฒนธรรมไทย คือข้อใด ก. ยกมือไหว้ ข. แลบลิ้นให้กัน ค. พยักหน้าให้กัน ง. เอียงหน้าหากัน 6. ใครเป็นผู้รักษาวัฒนธรรมไทย ก. เจใส่เสื้อลายไปงานศพ ข. เจนสวมหมวกในห้องเรียน ค. โจแต่งชุดกีฬาไปงานแต่งงาน ง. จูนแต่งกายสุภาพไปทำบุญที่วัด 7. ประเพณีพื้นเมืองในข้อใด ที่สัมพันธ์กับการแสดงหรือ การละเล่นพื้นเมือง ก. ประเพณีสืบชะตา–รองเง็ง ข. ประเพณีบุญบั้งไฟ–หนังตะลุง ค. ประเพณีตักบาตรน้ำผึ้ง–เพลงเรือ ง. ประเพณีสารทเดือนสิบ–ฟ้อนเงี้ยว 8. ข้อใดเป็นวัฒนธรรมการละเล่นพื้นเมืองของภาคใต้ ก. ลิเก ข. หมอลำ ค. ฟ้อนเล็บ ง. มโนราห์ 9. ข้อใดไม่ใช่การละเล่นพื้นเมืองของภาคอีสาน ก. ฟ้อนเทียน ข. เซิ้งกระติบ ค. โปงลาง ง. หมอลำ 10. นักเรียนจะช่วยอนุรักษ์ประเพณีในท้องถิ่นของนักเรียนได้ อย่างไร ก. ปฏิบัติตามประเพณีที่ดีงาม ข. สะสมภาพประเพณีต่างๆ ในท้องถิ่น ค. เปลี่ยนรูปแบบประเพณีต่างๆ ในท้องถิ่น ง. ดัดแปลงวัฒนธรรมท้องถิ่นให้เข้ากับวัฒนธรรมอื่นๆ ตัวชี้วัด ส 2.1 ข้อ 4 1. ก 2. ข 3. ข 4. ค 5. ก 6. ง 7. ค 8. ง 9. ก 10. ก 10 ได้คะแนน คะแนนเต็ม
324 สังคมศึกษาฯ ป.4 แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 คำชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ข้อใดกล่าวถึงลักษณะของวัฒนธรรมได้ถูกต้องที่สุด จ. เป็นสิ่งดีงาม สามารถถ่ายทอดได้ มีการเปลี่ยนแปลง อยู่ตลอดเวลา ฉ. เป็นสิ่งดีงาม ต้องทันสมัยอยู่เสมอ มีการเปลี่ยนแปลง อยู่ตลอดเวลา ช. เป็นสิ่งดีงาม สามารถถ่ายทอดได้ เป็นที่ยอมรับของ ทุกคนในชุมชน ซ. เป็นที่ยอมรับของทุกคนในชุมชน สามารถถ่ายทอดได้ มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา 2. ข้อใดเป็นวัฒนธรรมทางวัตถุทั้งหมด จ. บ้านเรือน โบราณสถาน ค่านิยม ฉ. บ้านเรือน โบราณสถาน วัดวาอาราม ช. บ้านเรือน การเคารพผู้ใหญ่ วัดวาอาราม ซ. ความกตัญญู โบราณสถาน วัดวาอาราม 3. อาหารและการละเล่นพื้นเมืองในข้อใด ที่ไม่สัมพันธ์กัน จ. ซุบหน่อไม้ – เซิ้ง ฉ. ต้มยำกุ้ง – ฟ้อนเล็บ ช. แกงเขียวหวาน – ลิเก ซ. แกงไตปลา – รำมโนราห์ 4. ข้อใดเป็นวัฒนธรรมการกินของภาคเหนือ ก. ส้มตำ ข. แกงไตปลา ค. น้ำพริกหนุ่ม ง. แกงเขียวหวาน 5. การทักทายกันตามวัฒนธรรมไทย คือข้อใด ก. ยกมือไหว้ ข. แลบลิ้นให้กัน ค. พยักหน้าให้กัน ง. เอียงหน้าหากัน 6. ใครเป็นผู้รักษาวัฒนธรรมไทย ก. เจใส่เสื้อลายไปงานศพ ข. เจนสวมหมวกในห้องเรียน ค. โจแต่งชุดกีฬาไปงานแต่งงาน ง. จูนแต่งกายสุภาพไปทำบุญที่วัด 7. ประเพณีพื้นเมืองในข้อใด ที่สัมพันธ์กับการแสดงหรือ การละเล่นพื้นเมือง จ. ประเพณีสืบชะตา–รองเง็ง ฉ. ประเพณีบุญบั้งไฟ–หนังตะลุง ช. ประเพณีตักบาตรน้ำผึ้ง–เพลงเรือ ซ. ประเพณีสารทเดือนสิบ–ฟ้อนเงี้ยว 8. ข้อใดเป็นวัฒนธรรมการละเล่นพื้นเมืองของภาคใต้ ก. ลิเก ข. หมอลำ ค. ฟ้อนเล็บ ง. มโนราห์ 9. ข้อใดไม่ใช่การละเล่นพื้นเมืองของภาคอีสาน จ. ฟ้อนเทียน ฉ. เซิ้งกระติบ ช. โปงลาง ซ. หมอลำ 10. นักเรียนจะช่วยอนุรักษ์ประเพณีในท้องถิ่นของนักเรียนได้ อย่างไร จ. ปฏิบัติตามประเพณีที่ดีงาม ฉ. สะสมภาพประเพณีต่างๆ ในท้องถิ่น ช. เปลี่ยนรูปแบบประเพณีต่างๆ ในท้องถิ่น ซ. ดัดแปลงวัฒนธรรมท้องถิ่นให้เข้ากับวัฒนธรรมอื่นๆ ตัวชี้วัด ส 2.1 ข้อ 4 1. ก 2. ข 3. ข 4. ค 5. ก 6. ง 7. ค 8. ง 9. ก 10. ก 10 ได้คะแนน คะแนนเต็ม
361 สังคมศึกษาฯ ป.4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 การปกครองระบอบประชาธิปไตย เวลา 6 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ส 2.2 ป.4/1 อธิบายอำนาจอธิปไตยและความสำคัญของระบอบประชาธิปไตย ป.4/2 อธิบายบทบาทหน้าที่ของพลเมืองในกระบวนการเลือกตั้ง ป.4/3 อธิบายความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด ประเทศไทยปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ประชาชนมีบทบาท หน้าที่ เสรีภาพ และปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีตามระบอบประชาธิปไตย ร่วมกันไปเลือกตั้ง เคารพในสถาบันพระมหากษัตริย์ที่มีบทบาทสำคัญต่อ การปกครอง 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง 1) อำนาจอธิปไตย 2) ความสำคัญของการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย 3) บทบาทหน้าที่ของพลเมืองในกระบวนการเลือกตั้ง ทั้งก่อนการเลือกตั้ง ระหว่างการเลือกตั้ง และหลังการเลือกตั้ง 4) สถาบันพระมหากษัตริย์ในสังคมไทย 5) ความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ในสังคมไทย 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น (พิจารณาตามหลักสูตรสถานศึกษา) 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการวิเคราะห์ 2) ทักษะการตีความ 3) ทักษะการให้เหตุผล 4) ทักษะการเรียงลำดับ 5) ทักษะการระบุ 6) ทักษะการสรุปอ้างอิง 7) ทักษะการนำความรู้ไปใช้ 4.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน
362 สังคมศึกษาฯ ป.4 6. ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) ป้ายนิเทศ เรื่อง การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 7. การวัดและการประเมินผล 7.1 การประเมินก่อนเรียน - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 เรื่อง การปกครองระบอบประชาธิปไตย (K) 7.2 การประเมินระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1) ตรวจใบงานที่ 1.1 เรื่อง อำนาจอธิปไตย (K,P) 2) ตรวจใบงานที่ 1.2 เรื่อง ความสำคัญของการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย (K,P) 3) ตรวจใบงานที่ 2.1 เรื่อง หน้าที่ของพลเมืองในกระบวนการประชาธิปไตย (P) 4) ตรวจใบงานที่ 3.1 เรื่อง สถาบันพระมหากษัตริย์ในสังคมไทย (K,P) 5) ตรวจใบงานที่ 4.1 เรื่อง ความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์(P,A) 6) ตรวจแบบบันทึกการอ่าน (K,P) 7) ประเมินการนำเสนอผลงาน (K,P) 8) สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล (P,A) 9) สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม (P,A) 10) สังเกตคุณลักษณะอันพึงประสงค์(A) 7.3 การประเมินหลังเรียน - ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 เรื่อง การปกครองระบอบประชาธิปไตย (K) 7.4 การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ตรวจป้ายนิเทศ เรื่อง การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (K,P) 8. กิจกรรมการเรียนรู้ นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่7 เรื่อง การปกครองระบอบประชาธิปไตย
363 สังคมศึกษาฯ ป.4 เรื่องที่ 1 อำนาจอธิปไตยและความสำคัญของระบอบประชาธิปไตย วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) เวลา 2 ชั่วโมง ขั้นที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engage) 1. ครูนำบัตรภาพมาให้นักเรียนดู แล้วสุ่มเรียกนักเรียน 2-3 คน ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับภาพว่าเป็นสถานที่ใด แล้วมีความสำคัญอย่างไร 2. ครูอธิบายเชื่อมโยงให้นักเรียนเข้าใจว่า อำนาจสูงสุดของประเทศมาจากประชาชน โดยประชาชนเป็นผู้มีอำนาจในการ ตัดสินใจเลือกผู้แทนให้ดำเนินการบริหารประเทศตามที่ประชาชนต้องการ ขั้นที่ 2 สำรวจค้นหา (Explore) ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละกันตามความสามารถ แล้วให้แต่ละกลุ่มจับคู่กันเป็น 2 คู่ และร่วมกันศึกษาความรู้ เรื่อง อำนาจอธิปไตยและความสำคัญของระบอบประชาธิปไตย จากหนังสือเรียน ในหัวข้อต่อไปนี้ - คู่ที่ 1 ศึกษาความรู้เรื่อง อำนาจอธิปไตย - คู่ที่ 2 ศึกษาความรู้เรื่อง ความสำคัญของการปกครองระบอบประชาธิปไตย ขั้นที่ 3 อธิบายความรู้(Explain) 1. นักเรียนแต่ละคู่ผลัดกันอธิบายความรู้ที่ได้จากการศึกษามาให้เพื่อนอีกคู่หนึ่งภายในกลุ่มฟัง แล้วผลัดกันซักถามข้อสงสัย จนสมาชิกในกลุ่มมีความรู้ความเข้าใจตรงกัน 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันทำใบงานที่ 1.1 เรื่อง อำนาจอธิปไตย ขั้นที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Expand) 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยว่ามีความสำคัญต่อการปกครอง ของประเทศอย่างไร 2. ครูอธิบายเพิ่มเติมให้นักเรียนเข้าใจว่า ระบอบประชาธิปไตยเป็นการปกครองที่ยอมรับความคิดเห็นของประชาชนส่วน ใหญ่ มีการเลือกผู้แทนของประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมบริหารประเทศ 3. นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันทำใบงานที่ 1.2 เรื่อง ความสำคัญของการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ตัวแทนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอใบงานที่ 1.1-1.2 หน้าชั้นเรียน โดยมีสมาชิกกลุ่มอื่นช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง และแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมในส่วนที่แตกต่าง 2. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง อำนาจอธิปไตยและความสำคัญของระบอบประชาธิปไตย
364 สังคมศึกษาฯ ป.4 เรื่องที่ 2 การเลือกตั้ง วิธีสอนแบบโมเดลซิปปา (CIPPA Model) เวลา 2 ชั่วโมง ขั้นที่ 1 ทบทวนความรู้เดิม ครูนำบัตรภาพเกี่ยวกับการเลือกตั้งมาให้นักเรียนดูและร่วมกันอภิปรายแสดงความคิดเห็นว่า นักเรียนเคยเห็นกิจกรรม ในภาพหรือไม่ กิจกรรมดังกล่าวมีส่วนเกี่ยวข้องกับการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอย่างไร ขั้นที่ 2 แสวงหาความรู้ใหม่ นักเรียนรวมกลุ่มเดิม แล้วให้แต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง การเลือกตั้ง จากหนังสือเรียน ห้องสมุด และแหล่งข้อมูล สารสนเทศ และศึกษาความรู้เพิ่มเติมถึงขั้นตอนวิธีการเลือกตั้ง จากใบความรู้ที่ 2.1 เรื่อง การเลือกตั้ง ขั้นที่ 3 ศึกษาทำความเข้าใจข้อมูล/ความรู้ใหม่ และเชื่อมโยงความรู้ใหม่กับความรู้เดิม ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันแสดงบทบาทสมมุติเกี่ยวกับการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง โดยจัดสถานที่ในห้องเรียนให้ เหมือนคูหาเลือกตั้ง แล้วให้นักเรียนแต่ละคนปฏิบัติตามขั้นตอนการลงคะแนนเลือกตั้ง แล้วบันทึกข้อมูลตามหัวข้อที่กำหนดให้ ขั้นที่ 4 แลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจกับกลุ่ม 1. นักเรียนแต่ละคนผลัดกันอธิบายความรู้ที่ได้จากการศึกษาและการแสดงบทบาทสมมุติมาเล่าให้เพื่อนในกลุ่มฟัง แล้วผลัดกันซักถามข้อสงสัยจนเกิดความเข้าใจที่ตรงกัน 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันทำใบงานที่ 2.1 เรื่อง หน้าที่ของพลเมืองในกระบวนการประชาธิปไตย ขั้นที่ 5 สรุปและจัดระเบียบความรู้ 1. นักเรียนช่วยกันสรุปความรู้เกี่ยวกับการเลือกตั้ง และผลดีของการไปใช้สิทธิเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย 2. ครูและนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องของคำตอบในใบงานที่ 2.1 ขั้นที่ 6 ปฏิบัติและ/หรือแสดงผลงาน 1. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในอุดมคติของนักเรียนควรมีคุณสมบัติ อย่างไรบ้าง 2. ตัวแทนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน ครูและนักเรียนกลุ่มอื่นช่วยกันเสนอความคิดเห็นเพิ่มเติมในส่วนที่ แตกต่าง ขั้นที่ 7 ประยุกต์ใช้ความรู้ 1. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันไปสังเกตการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นในชุมชนของตนเอง แล้วบันทึกข้อมูล จากนั้นนำส่งครู ในระยะเวลาที่กำหนด 2. ครูให้นักเรียนนำความรู้เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิตในโอกาสที่เหมาะสม
365 สังคมศึกษาฯ ป.4 เรื่องที่ 3 สถาบันพระมหากษัตริย์ในสังคมไทย วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการสร้างเจตคติ เวลา 1 ชั่วโมง ขั้นที่ 1 สังเกต 1. ครูนำบัตรภาพเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ไทยมาให้นักเรียนดู แล้วถามนักเรียนว่า รู้จักบุคคลในภาพหรือไม่ พระองค์เป็น ใคร และมีความสำคัญอย่างไร 2. ครูอธิบายให้นักเรียนตระหนักถึงความสำคัญของการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น ประมุข ขั้นที่ 2 วิเคราะห์ 1. นักเรียนกลุ่มเดิมร่วมกันวิเคราะห์และค้นหาคำตอบว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยระบุบทบาทของ พระมหากษัตริย์ไว้อย่างไร 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง สถาบันพระมหากษัตริย์ในสังคมไทย จากหนังสือเรียน ห้องสมุด และ แหล่งข้อมูลสารสนเทศ 3. สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มร่วมกันสรุปผลการวิเคราะห์จากประเด็นคำถามที่ครูกำหนด แล้วส่งตัวแทนกลุ่มออกมารายงาน ผลหน้าชั้นเรียน 4. นักเรียนแต่ละคนทำใบงานที่ 3.1 เรื่อง สถาบันพระมหากษัตริย์ในสังคมไทย เมื่อทำใบงานเสร็จแล้วตรวจสอบให้ เรียบร้อย จากนั้นแลกใบงานกับสมาชิกในกลุ่ม เพื่อร่วมกันเฉลยคำตอบที่ถูกต้องพร้อมกับครู ขั้นที่ 3 สรุป 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง สถาบันพระมหากษัตริย์ในสังคมไทย 2. นักเรียนร่วมกันสรุปพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้วจัดทำเป็นสมุดภาพนำส่งครู
366 สังคมศึกษาฯ ป.4 เรื่องที่ 4 ความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ในสังคมไทย วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการสร้างความตระหนัก เวลา 1 ชั่วโมง ขั้นที่ 1 สังเกต ครูตั้งประเด็นคำถามให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นประกอบเหตุผล เช่น นักเรียนมีความรู้สึกต่อพระมหากษัตริย์ไทย องค์ปัจจุบันว่าพระองค์ทรงเป็นแบบอย่างที่ดีอย่างไรบ้าง ขั้นที่ 2 วิเคราะห์วิจารณ์ 1. นักเรียนรวมกลุ่มเดิมแล้วให้แต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง ความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ในสังคมไทย จากหนังสือเรียน ห้องสมุด และแหล่งข้อมูลสารสนเทศ 2. ครูกำหนดประเด็นให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันอภิปรายเพื่อตระหนักถึงความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ใน สังคมไทย ดังนี้ 1) เพราะเหตุใด สถาบันพระมหากษัตริย์จึงมีความสำคัญต่อการปกครองของไทย 2) พระมหากษัตริย์ทรงมีความสำคัญต่อสังคมไทยอย่างไร 3. สมาชิกแต่ละกลุ่มร่วมกันวิเคราะห์วิจารณ์ในแต่ละประเด็นตามที่กำหนด แล้วสรุปผลการวิเคราะห์วิจารณ์ที่เป็นมติของ กลุ่ม พร้อมยกตัวอย่างประกอบเพื่อให้เห็นและเข้าใจในความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ในสังคมไทย 4. นักเรียนแต่ละคนทำใบงานที่ 4.1 เรื่อง ความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์เมื่อทำใบงานเสร็จแล้วให้ตรวจความ เรียบร้อยก่อนนำส่งครู ขั้นที่ 3 สรุป 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง ความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ในสังคมไทย 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันแต่งคำประพันธ์เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบัน แล้วส่งตัวแทนกลุ่มออกมานำเสนอ ผลงานหน้าชั้นเรียน นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 เรื่อง การปกครองระบอบประชาธิปไตย ครมูอบหมายให้นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกนัจดัป้ายนิเทศ เรื่อง การปกครองระบอบประชาธิปไตย อนัมีพระมหากษตัริยท์รงเป็ นประมุข โดยให้ครอบคลุมประเด็นตามที ่ก าหนด
367 สังคมศึกษาฯ ป.4 9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 9.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.4 2) บัตรภาพ 3) ใบงานที่ 1.1 เรื่อง อำนาจอธิปไตย 4) ใบงานที่ 1.2 เรื่อง ความสำคัญของการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย 5) ใบงานที่ 2.1 เรื่อง หน้าที่ของพลเมืองในกระบวนการประชาธิปไตย 6) ใบงานที่ 3.1 เรื่อง สถาบันพระมหากษัตริย์ในสังคมไทย 7) ใบงานที่ 4.1 เรื่อง ความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ 9.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) ห้องสมุด 2) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ - th.wikipedia.org/wiki/สภาผู้แทนราษฎรไทย - th.wikipedia.org/wiki/การเลือกตั้ง - th.wikipedia.org/wiki/พระมหากษัตริย์ไทย - www.chaoprayanews.com/สถาบันพระมหากษัตริย์ไทย - www.chaoprayanews.com/2009/03/19/ความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์
368 สังคมศึกษาฯ ป.4 การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินป้ายนิเทศ เรื่อง การปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รายการประเมิน คำอธิบายระดับคุณภาพ/ระดับคะแนน ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) 1. อำนาจอธิปไตย เขียนโครงสร้างอำนาจอธิปไตยได้ ถูกต้อง ครบถ้วนทุกประเด็น เขียนโครงสร้างอำนาจอธิปไตยได้ ถูกต้อง 2 ประเด็น เขียนโครงสร้างอำนาจอธิปไตยได้ ถูกต้อง 1 ประเด็น 2. ความสำคัญของระบอบ ประชาธิปไตย อธิบายความสำคัญของระบอบ ประชาธิปไตยได้ถูกต้อง ครบถ้วน ทุกประเด็น อธิบายความสำคัญของระบอบ ประชาธิปไตยได้ถูกต้องเกือบ ครบทุกประเด็น อธิบายความสำคัญของระบอบ ประชาธิปไตยได้ถูกต้องเพียง เล็กน้อย 3. บทบาท หน้าที่ของ พลเมืองในกระบวนการ เลือกตั้ง อธิบายบทบาทหน้าที่ของ พลเมืองในกระบวนการเลือกตั้ง ได้ถูกต้องครบถ้วน ทุกขั้นตอน อธิบายบทบาท หน้าที่ของ พลเมืองในกระบวนการเลือกตั้ง ได้ถูกต้องเกือบทุกขั้นตอน อธิบายบทบาท หน้าที่ของ พลเมืองในกระบวนการเลือกตั้ง ได้ถูกต้องบางขั้นตอน 4. สถาบันพระมหากษัตริย์ ตามระบอบ ประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็น ประมุข อธิบายเกี่ยวกับ ความสำคัญของสถาบัน พระมหากษัตริย์ตามระบอบ ประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้ถูกต้อง 6 ข้อขึ้นไป อธิบายเกี่ยวกับ ความสำคัญของสถาบัน พระมหากษัตริย์ตามระบอบ ประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้ถูกต้อง 3-5 ข้อ อธิบายเกี่ยวกับ ความสำคัญของสถาบัน พระมหากษัตริย์ตามระบอบ ประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้ถูกต้อง 1-2 ข้อ เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 10 - 12 ดี 6 - 9 พอใช้ ต่ำกว่า 6 ปรับปรุง
369 สังคมศึกษาฯ ป.4 แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 คำชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. พระมหากษัตริย์ไม่ได้ทรงใช้อำนาจอธิปไตยผ่านข้อใด ก. ศาล ข. รัฐสภา ค. ประชาชน ง. คณะรัฐมนตรี 2. อำนาจอธิปไตย แบ่งออกเป็นกี่ประเภท ก. 2 ประเภท ข. 3 ประเภท ค. 4 ประเภท ง. 5 ประเภท 3. รัฐธรรมนูญกำหนดให้อำนาจอธิปไตยเป็นของบุคคลใด ก. ทหาร ข. นักการเมือง ค. พระมหากษัตริย์ ง. ปวงชนชาวไทย 4. ฝ่ายใดเป็นผู้ใช้อำนาจนิติบัญญัติ ก. ศาล ข. รัฐบาล ค. รัฐสภา ง. รัฐมนตรี 5. ข้อใดกล่าวถึงลักษณะของสังคมประชาธิปไตยได้ถูกต้อง ที่สุด ก. การอยู่ร่วมกันของคนอย่างเสมอภาค ข. การอยู่ร่วมกันของคนต่างเชื้อชาติ ค. การอยู่ร่วมกันของคนหมู่มาก ง. การอยู่ร่วมกันของคนหมู่น้อย 6. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการปกครองแบบ ประชาธิปไตย ก. ทำให้ทุกคนรู้จักการแสดงความคิดเห็น ข. ทำให้ทุกคนรู้จักการทำงานคนเดียว ค. ทำให้ทุกคนรู้จักการทำงานเป็นกลุ่ม ง. ทำให้ทุกคนรู้จักสิทธิของตนเอง 7. คนไทยมีสิทธิเลือกตั้งเมื่ออายุครบกี่ปี ก. 15 ปีบริบูรณ์ ข. 18 ปีบริบูรณ์ ค. 20 ปีบริบูรณ์ ง. 21 ปีบริบูรณ์ 8. การเลือกตั้งมีกี่ประเภท อะไรบ้าง ก. 1 ประเภท คือ การเลือกตั้งระดับชาติ ข. 1 ประเภท คือ การเลือกตั้งระดับเมือง ค. 2 ประเภท คือ การเลือกตั้งระดับท้องถิ่น และการ เลือกตั้งระดับชาติ ง. 2 ประเภท คือ การเลือกตั้งระดับเมืองใหญ่ และ การเลือกตั้งระดับท้องถิ่น 9. ถ้านักเรียนมีสิทธิเลือกตั้ง นักเรียนควรไปใช้สิทธินั้น หรือไม่ เพราะเหตุใด ก. ไม่ไป เพราะเสียเวลา ข. ไม่ไป เพราะไม่มีประโยชน์ ค. ไป เพราะกลัวโดนตำรวจจับ ง. ไป เพราะจะได้เลือกคนดีเข้าไปบริหารประเทศ 10. หากนักเรียนมีสิทธิเลือกตั้ง ควรเลือกผู้แทนราษฎรที่มี ลักษณะในข้อใด ก. สมศักดิ์อยากทำเพื่อผลประโยชน์ของชาวบ้าน ข. สมทรงเป็นลูกนายทุน ใช้เงินซื้อเสียงจากชาวบ้าน ค. สมชาติเป็นคนเกียจคร้าน อยากเป็นผู้แทนราษฎร เพราะความโก้หรู ง. สมเกียรติเป็นผู้มีอิทธิพล อยากเข้าไปทำงานเพื่อ ผลประโยชน์ของตนเอง ตัวชี้วัด ส 2.2 ข้อ 1-3 1. ง 2. ข 3. ง 4. ค 5. ก 6. ข 7. ข 8. ค 9. ง 10. ก 10 ได้คะแนน คะแนนเต็ม
370 สังคมศึกษาฯ ป.4 แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 คำชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. พระมหากษัตริย์ไม่ได้ทรงใช้อำนาจอธิปไตยผ่านข้อใด ข. ศาล ข. รัฐสภา ง. ประชาชน ง. คณะรัฐมนตรี 2. อำนาจอธิปไตย แบ่งออกเป็นกี่ประเภท ข. 2 ประเภท ข. 3 ประเภท ง. 4 ประเภท ง. 5 ประเภท 3. รัฐธรรมนูญกำหนดให้อำนาจอธิปไตยเป็นของบุคคลใด ข. ทหาร ข. นักการเมือง ค. พระมหากษัตริย์ ง. ปวงชนชาวไทย 4. ฝ่ายใดเป็นผู้ใช้อำนาจนิติบัญญัติ ข. ศาล ข. รัฐบาล ง. รัฐสภา ง. รัฐมนตรี 5. ข้อใดกล่าวถึงลักษณะของสังคมประชาธิปไตยได้ถูกต้อง ที่สุด ก. การอยู่ร่วมกันของคนอย่างเสมอภาค ข. การอยู่ร่วมกันของคนต่างเชื้อชาติ ค. การอยู่ร่วมกันของคนหมู่มาก ง. การอยู่ร่วมกันของคนหมู่น้อย 6. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการปกครองแบบ ประชาธิปไตย จ. ทำให้ทุกคนรู้จักการแสดงความคิดเห็น ฉ. ทำให้ทุกคนรู้จักการทำงานคนเดียว ช. ทำให้ทุกคนรู้จักการทำงานเป็นกลุ่ม ซ. ทำให้ทุกคนรู้จักสิทธิของตนเอง 7. คนไทยมีสิทธิเลือกตั้งเมื่ออายุครบกี่ปี ข. 15 ปีบริบูรณ์ ข. 18 ปีบริบูรณ์ ค. 20 ปีบริบูรณ์ ง. 21 ปีบริบูรณ์ 8. การเลือกตั้งมีกี่ประเภท อะไรบ้าง จ. 1 ประเภท คือ การเลือกตั้งระดับชาติ ฉ. 1 ประเภท คือ การเลือกตั้งระดับเมือง ช. 2 ประเภท คือ การเลือกตั้งระดับท้องถิ่น และการ เลือกตั้งระดับชาติ ซ. 2 ประเภท คือ การเลือกตั้งระดับเมืองใหญ่ และ การเลือกตั้งระดับท้องถิ่น 9. ถ้านักเรียนมีสิทธิเลือกตั้ง นักเรียนควรไปใช้สิทธินั้น หรือไม่ เพราะเหตุใด ก. ไม่ไป เพราะเสียเวลา ข. ไม่ไป เพราะไม่มีประโยชน์ ค. ไป เพราะกลัวโดนตำรวจจับ ง. ไป เพราะจะได้เลือกคนดีเข้าไปบริหารประเทศ 10. หากนักเรียนมีสิทธิเลือกตั้ง ควรเลือกผู้แทนราษฎรที่มี ลักษณะในข้อใด ก. สมศักดิ์อยากทำเพื่อผลประโยชน์ของชาวบ้าน ข. สมทรงเป็นลูกนายทุน ใช้เงินซื้อเสียงจากชาวบ้าน ค. สมชาติเป็นคนเกียจคร้าน อยากเป็นผู้แทนราษฎร เพราะความโก้หรู ง. สมเกียรติเป็นผู้มีอิทธิพล อยากเข้าไปทำงานเพื่อ ผลประโยชน์ของตนเอง ตัวชี้วัด ส 2.2 ข้อ 1-3 1. ง 2. ข 3. ง 4. ค 5. ก 6. ข 7. ข 8. ค 9. ง 10. ก 10 ได้คะแนน คะแนนเต็ม
427 สังคมศึกษาฯ ป.4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 8 การบริโภคสินค้าและบริการ เวลา 8 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ส 3.1 ป.4/1 ระบุปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกซื้อสินค้าและบริการ ป.4/2 บอกสิทธิพื้นฐานและรักษาผลประโยชน์ของตนเองในฐานะผู้บริโภค 2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการเลือกซื้อสินค้าและบริการนั้นมีหลายประการ ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้ซื้อ ผู้ขาย ตัวสินค้า ซึ่งผู้บริโภค มีสิทธิพื้นฐาน และรักษาผลประโยชน์ของตนเองในฐานะผู้บริโภค 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง 1) สินค้าและบริการที่มีอยู่หลากหลายในตลาดที่มีความแตกต่างด้านราคาและคุณภาพ 2) ปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกซื้อสินค้าและบริการที่มีมากมาย ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้ซื้อ ผู้ขาย และตัวสินค้า เช่น ความพึงพอใจของผู้ซื้อ ราคาสินค้า การโฆษณา คุณภาพของสินค้า 3) สิทธิพื้นฐานของผู้บริโภค 4) สินค้าและบริการที่มีเครื่องหมายรับรองคุณภาพ 5) หลักการและวิธีการเลือกบริโภค 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น (พิจารณาตามหลักสูตรสถานศึกษา) 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการสำรวจค้นหา 2) ทักษะการระบุ 4.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ซื่อสัตย์สุจริต 2. มีวินัย 3. อยู่อย่างพอเพียง
428 สังคมศึกษาฯ ป.4 6. ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) รายงาน เรื่อง การบริโภคสินค้าและบริการ 7. การวัดและการประเมินผล 7.1 การประเมินก่อนเรียน - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 8 เรื่อง การบริโภคสินค้าและบริการ (K) 7.2 การประเมินระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1) ตรวจใบงานที่ 1.1 เรื่อง สินค้าและบริการ (P) 2) ตรวจใบงานที่ 2.1 เรื่อง ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเลือกซื้อสินค้า (P) 3) ตรวจใบงานที่ 3.1 เรื่อง การคุ้มครองผู้บริโภค (K,P) 4) ตรวจใบงานที่ 4.1 เรื่อง การละเมิดสิทธิพื้นฐานของผู้บริโภค (P) 5) ตรวจใบงานที่ 5.1 เรื่อง เครื่องหมายรับรองคุณภาพสินค้าและบริการ (K) 6) ตรวจแบบบันทึกการอ่าน (K,P) 7) ประเมินการนำเสนอผลงาน (K,P) 8) สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล (P,A) 9) สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม (P,A) 10) สังเกตคุณลักษณะอันพึงประสงค์(A) 7.3 การประเมินหลังเรียน - ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 8 เรื่อง การบริโภคสินค้าและบริการ (K) 7.4 การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ตรวจรายงาน เรื่อง การบริโภคสินค้าและบริการ (K) 8. กิจกรรมการเรียนรู้ นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่8 เรื่อง การบริโภคสินค้าและบริการ
429 สังคมศึกษาฯ ป.4 เรื่องที่ 1 สินค้าและการบริการ วิธีสอนโดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ : เทคนิคคู่คิดสี่สหาย เวลา 1 ชั่วโมง ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูนำบัตรภาพประเภทของสินค้า มาให้นักเรียนดู แล้วให้นักเรียนเปรียบเทียบความแตกต่างของสินค้าว่ามีความ แตกต่างกันอย่างไร 2. ครูอธิบายให้นักเรียนเข้าใจว่า ในการดำเนินชีวิตของมนุษย์ไม่ได้มีความต้องการบริโภคเฉพาะอาหารเพียงอย่างเดียว แต่ยัง มีความต้องการบริโภคสินค้าชนิดอื่นด้วย ดังนั้น จึงมีการผลิตสินค้าและบริการอย่างหลากหลายและมีความแตกต่างทั้งด้าน ราคาและคุณภาพ ขั้นสอน 1. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละกันตามความสามารถ ให้แต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง สินค้าและการ บริการ จากหนังสือเรียน 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันทำใบงานที่ 1.1 เรื่อง สินค้าและบริการ โดยให้สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มหาคำตอบในใบงาน ด้วยตนเองจนครบทุกข้อ จากนั้นจับคู่กับเพื่อนในกลุ่มผลัดกันอธิบายคำตอบของตนเองให้เพื่อนฟัง (นักเรียนอีกคู่หนึ่งก็ ปฏิบัติกิจกรรมเช่นเดียวกัน) 3. สมาชิกรวมกลุ่ม 4 คน ตามเดิม ผลัดกันอธิบายคำตอบของคู่ตนเองให้เพื่อนอีกคู่หนึ่งฟัง และสรุปคำตอบที่เป็นมติของ กลุ่ม แล้วบันทึกคำตอบลงในใบงานที่ 1.1 เสร็จแล้วนำส่งครูตรวจ ขั้นสรุป 1. ครูให้นักเรียนแต่ละคนยกตัวอย่างสินค้าเพื่อการบริโภคและอุปโภคมาอย่างละ 5 ตัวอย่าง พร้อมบอกความแตกต่างของ สินค้าให้ถูกต้อง 2. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง สินค้าและการบริการ
430 สังคมศึกษาฯ ป.4 เรื่องที่ 2 ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเลือกซื้อสินค้าและบริการ วิธีสอนโดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ : เทคนิคเล่าเรื่องรอบวง เวลา 1 ชั่วโมง ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูนำบัตรภาพการโฆษณาขายสินค้า มาให้นักเรียนดู แล้วให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นว่า ถ้านักเรียนเจอเหตุการณ์ ในภาพ จะตัดสินใจซื้อสินค้าหรือไม่ อธิบายเหตุผลประกอบ 2. ครูอธิบายเชื่อมโยงให้นักเรียนเข้าใจว่า เราทุกคนอยู่ในฐานะผู้บริโภค ปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกซื้อสินค้าและบริการมีอยู่ มากมาย เช่น การโฆษณา การลดราคาของสินค้า เป็นต้น ขั้นสอน 1. ครูให้นักเรียนรวมกลุ่มเดิม แล้วให้แต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเลือกซื้อสินค้าและ บริการ จากหนังสือเรียน 2. ครูยกตัวอย่างสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน แล้วให้นักเรียนแต่ละคนเขียนข้อความเพื่อบอกเล่าเรื่องราวการตัดสินใจเลือก ซื้อสินค้า ลงในสมุด 3. สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มผลัดกันอ่านข้อความที่ตนเองเขียนให้สมาชิกในกลุ่มฟัง แล้วช่วยกันตรวจสอบความถูกต้องของ การเลือกซื้อสินค้า และเลือกนำเสนอผลงานการเขียนที่ดีที่สุดของกลุ่มที่หน้าชั้นเรียน 4. นักเรียนทำใบงานที่ 2.1 เรื่อง ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเลือกซื้อสินค้า เมื่อทำเสร็จแล้วให้ตรวจสอบความถูกต้องก่อน นำส่งครู ขั้นสรุป ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเลือกซื้อสินค้าและบริการ
431 สังคมศึกษาฯ ป.4 เรื่องที่ 3 การคุ้มครองผู้บริโภค วิธีสอนโดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ : เทคนิคคู่ตรวจสอบ เวลา 1 ชั่วโมง ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการซื้อสินค้าและบริการว่า นักเรียนเคยถูกเอาเปรียบหรือไม่ได้รับ ความเป็นธรรมจากการซื้อสินค้าและบริการบ้างหรือไม่ 2. ครูอธิบายเชื่อมโยงให้นักเรียนเข้าใจเกี่ยวกับการป้องกันไม่ให้ผู้บริโภคได้รับความเดือดร้อนจากการซื้อสินค้าที่ไม่เป็น ธรรมว่าต้องมีพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค และสถาบันคุ้มครองผู้บริโภค ขั้นสอน 1. ครูให้นักเรียนกลุ่มเดิมร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง การคุ้มครองผู้บริโภค จากหนังสือเรียน 2. ครูอธิบายให้นักเรียนเข้าใจเกี่ยวกับพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภคว่า มีเป้าหมายในการคุ้มครองผู้บริโภคเพื่อให้ได้รับ ความเป็นธรรม ความปลอดภัย และความประหยัด ในการบริโภคสินค้า 3. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันทำใบงานที่ 3.1 เรื่อง การคุ้มครองผู้บริโภค โดยให้สมาชิกในแต่ละกลุ่มจับคู่กันเป็น 2 คู่ แล้วให้แต่ละคู่ปฏิบัติกิจกรรม ดังนี้ - สมาชิกคนที่ 1 อ่านโจทย์คำถาม และเขียนคำตอบ - สมาชิกคนที่ 2 เป็นฝ่ายสังเกต ตรวจสอบคำตอบ ให้สมาชิกแต่ละคู่เปลี่ยนบทบาทกันในคำถามข้อต่อไป 4. นักเรียนรวมกลุ่มเดิม (4 คน) ให้แต่ละคู่นำคำตอบของคู่ตนเองมานำเสนอให้เพื่อนอีกคู่หนึ่งฟัง เพื่อช่วยกันตรวจสอบ ความถูกต้องจากนั้นนำใบงานที่ 3.1 ส่งครู ขั้นสรุป 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้และบอกแนวทางในการป้องกันไม่ให้ได้รับความเดือดร้อนจากการซื้อสินค้า และบริการ 2. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันหาข่าวการละเมิดสิทธิพื้นฐานของผู้บริโภค จากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ เพื่อเป็นข้อมูลใน การทำใบงานในชั่วโมงเรียนต่อไป
432 สังคมศึกษาฯ ป.4 เรื่องที่ 4 สิทธิพื้นฐานของผู้บริโภค วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการสร้างความตระหนัก เวลา 1 ชั่วโมง ขั้นที่ 1 สังเกต ครูให้นักเรียนแต่ละคนเขียนแสดงความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับสิทธิพื้นฐานของผู้บริโภค คนละ 5 ข้อ เมื่อนักเรียนเขียน เสร็จเรียบร้อยให้จับคู่กันในกลุ่ม แล้วเปรียบเทียบความแตกต่างของผลงาน ขั้นที่ 2 วิเคราะห์วิจารณ์ 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาความรู้เรื่อง สิทธิพื้นฐานของผู้บริโภค จากหนังสือเรียน 2. ครูให้นักเรียนสำรวจการซื้อสินค้าและบริการของตนว่ามีความสอดคล้องกับสิทธิพื้นฐานของผู้บริโภคอย่างไรบ้าง แล้ว ร่วมกันวิเคราะห์วิจารณ์ในประเด็นที่ครูกำหนด 3. ครูสุ่มเรียกตัวแทนแต่ละกลุ่มรายงานผลการวิเคราะห์วิจารณ์ในแต่ละประเด็น โดยครูคอยตรวจสอบความถูกต้อง และ แนะนำเพิ่มเติม 4. นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันหาข่าวการละเมิดสิทธิพื้นฐานของผู้บริโภค จากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ (ครูอาจให้นักเรียน เตรียมไว้ล่วงหน้า) แล้วเขียนสรุปว่า เป็นการละเมิดสิทธิพื้นฐานของผู้บริโภคอย่างไร และเสนอแนะวิธีที่จะปรับปรุง แก้ไข หรือข้อแนะนำในการปฏิบัติที่เหมาะสมกับข่าว แล้วบันทึกลงในใบงานที่ 4.1 เรื่อง การละเมิดสิทธิพื้นฐานของ ผู้บริโภค เมื่อนักเรียนทำใบงานเสร็จแล้วให้ตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำส่งครูตรวจ ขั้นที่ 3 สรุป นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันสรุปความรู้ที่ได้รับจากการศึกษาเรื่อง สิทธิพื้นฐานของผู้บริโภค พร้อมบอกแนวทางในการนำไป ปรับใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน
433 สังคมศึกษาฯ ป.4 เรื่องที่ 5 เครื่องหมายรับรองคุณภาพสินค้าและบริการ วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) เวลา 2 ชั่วโมง ขั้นที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engage) 1. ครูนำบัตรภาพเครื่องหมายรับรองคุณภาพสินค้าและบริการ มาให้นักเรียนดู แล้วถามนักเรียนว่าเคยเห็นสัญลักษณ์ เหล่านี้หรือไม่ และหมายถึงอะไร 2. นักเรียนร่วมกันสนทนาจนมีความคิดเห็นที่ตรงกันว่า เครื่องหมายรับรองคุณภาพสินค้าและบริการ หมายถึง สัญลักษณ์ ที่บ่งบอกให้ทราบถึงคุณภาพและมาตรฐานของสินค้าและบริการนั้นๆ ที่หน่วยงานภาครัฐได้กำหนดไว้ ขั้นที่ 2 สำรวจค้นหา (Explore) : เทคนิคการต่อเรื่องราว (Jigsaw) 1. ครูให้นักเรียนรวมกลุ่มเดิม เรียกว่า กลุ่มบ้าน แล้วให้แต่ละกลุ่มกำหนดหมายเลขประจำตัวให้สมาชิกแต่ละคนในกลุ่ม เป็นหมายเลข 1-4 2. สมาชิกที่มีหมายเลขเดียวกันมารวมกันเป็นกลุ่มใหม่ เรียกว่า กลุ่มผู้เชี่ยวชาญ แล้วร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง เครื่องหมาย รับรองคุณภาพสินค้าและบริการ จากหนังสือเรียน ห้องสมุด และแหล่งข้อมูลสารสนเทศ ตามประเด็นที่กำหนดให้ ขั้นที่ 3 อธิบายความรู้ (Explain) : เทคนิคการต่อเรื่องราว (Jigsaw) 1. นักเรียนในกลุ่มผู้เชี่ยวชาญร่วมกันอภิปรายและตรวจสอบผลของการศึกษาในแต่ละประเด็น 2. นักเรียนสรุปผลการตรวจสอบ จากนั้นให้นักเรียนกลุ่มผู้เชี่ยวชาญแยกย้ายกันกลับเข้าสู่กลุ่มบ้าน เพื่ออธิบายความรู้ที่ได้ จากการศึกษาและปฏิบัติกิจกรรมให้สมาชิกในกลุ่มบ้านฟัง โดยเรียงลำดับจากสมาชิกหมายเลข 1-4 หรือตามความ สมัครใจ จนครบทุกคน ขั้นที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Expand) 1. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันตรวจสอบเครื่องใช้ภายในบ้านหรือที่โรงเรียน ว่ามีเครื่องหมายรับรองคุณภาพประเภท ใดบ้าง แล้วบันทึกข้อมูลลงในสมุด 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันทำใบงานที่ 5.1 เรื่อง เครื่องหมายรับรองคุณภาพสินค้าและบริการ ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอใบงานที่ 5.1 หน้าชั้นเรียน โดยมีครูคอยตรวจสอบความถูกต้อง 2. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง เครื่องหมายรับรองคุณภาพสินค้าและบริการ
434 สังคมศึกษาฯ ป.4 เรื่องที่ 6 หลักเกณฑ์ในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าและบริการ วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) เวลา 2 ชั่วโมง ขั้นที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engage) 1. ครูนำบัตรภาพสินค้าประเภทต่างๆ มาให้นักเรียนดู แล้วให้นักเรียนแต่ละคนร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่า มีหลักในการเลือกซื้อสินค้าเหล่านี้อย่างไร 2. ครูให้อาสาสมัครนักเรียน 1-2 คน ออกมาแสดงความคิดเห็นหน้าชั้นเรียน ขั้นที่ 2 สำรวจค้นหา (Explore) ครูให้นักเรียนกลุ่มเดิม ร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง หลักเกณฑ์ในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าและบริการ จากหนังสือเรียน และห้องสมุด ขั้นที่ 3 อธิบายความรู้(Explain) สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มผลัดกันอธิบายความรู้ที่ได้จากการศึกษา และซักถามข้อสงสัยจนสมาชิกในกลุ่มมีความรู้ความเข้าใจ ตรงกัน ขั้นที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Expand) 1. ครูตั้งประเด็นคำถามให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าและบริการว่า มีสินค้าอยู่ 3 ชิ้น คือ โทรศัพท์มือถือ สมุดบันทึก และนาฬิกาข้อมือ นักเรียนจะเลือกซื้อสินค้าใด 2. นักเรียนแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันภายในกลุ่ม จนมีข้อสรุปที่ถูกต้องเป็นมติของกลุ่ม ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มผลัดกันออกมานำเสนอความคิดเห็นของกลุ่มหน้าชั้นเรียน ครูแนะนำเพิ่มเติมในส่วนที่บกพร่อง 2. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง หลักเกณฑ์ในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าและบริการ นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 8 เรื่อง การบริโภคสินค้าและบริการ ครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันทา รายงาน เรื่อง การบริโภคสินค้าและบริการ โดยให้ครอบคลุมประเด็นตามที ่ก าหนด
435 สังคมศึกษาฯ ป.4 9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 9.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.4 2) ใบความรู้ที่ 2.1 เรื่อง การเลือกซื้อสินค้าและบริการ 3) บัตรภาพ 4) ใบงานที่ 1.1 เรื่อง สินค้าและบริการ 5) ใบงานที่ 2.1 เรื่อง ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเลือกซื้อสินค้า 6) ใบงานที่ 3.1 เรื่อง การคุ้มครองผู้บริโภค 7) ใบงานที่ 4.1 เรื่อง การละเมิดสิทธิพื้นฐานของผู้บริโภค 8) ใบงานที่ 5.1 เรื่อง เครื่องหมายรับรองคุณภาพสินค้าและบริการ 9.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) ห้องสมุด 2) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ - www.panyathai.or.th/wiki/index.php/การคุ้มครองผู้บริโภค - www.oknation.net/blog/raya/2007/08/21/entry
436 สังคมศึกษาฯ ป.4 การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินรายงาน เรื่อง การบริโภคสินค้าและบริการ รายการประเมิน คำอธิบายระดับคุณภาพ/ระดับคะแนน ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) 1. การระบุปัจจัยที่มี ผลต่อการเลือกซื้อ สินค้าและบริการ ยกตัวอย่างปัจจัยที่มีผลต่อการ เลือกซื้อสินค้าและบริการ ของผู้บริโภคได้ถูกต้อง 7 ข้อ ขึ้นไป ยกตัวอย่างปัจจัยที่มีผลต่อการ เลือกซื้อสินค้าและบริการ ของผู้บริโภคได้ถูกต้อง 4-6 ข้อ ยกตัวอย่างปัจจัยที่มีผลต่อการ เลือกซื้อสินค้าและบริการ ของผู้บริโภคได้ถูกต้อง 1-3 ข้อ 2. การบอกหลักการเลือกซื้อ สินค้าและบริการ บอกหลักและวิธีการเลือกซื้อ สินค้าและบริการได้ถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์ บอกหลักและวิธีการเลือกซื้อ สินค้าและบริการได้ถูกต้อง แต่มีข้อบกพร่องเล็กน้อย บอกหลักและวิธีการเลือกซื้อ สินค้าและบริการได้ แต่มี ข้อบกพร่องเป็นส่วนใหญ่ 3. การตัดสินใจเลือก ซื้อสินค้าและบริการ บอกเหตุผลพร้อมยกตัวอย่างการ ตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าและ บริการของตนเองได้ 4 ข้อ ขึ้นไป บอกเหตุผลพร้อมยกตัวอย่างการ ตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าและ บริการของตนเองได้ 3 ข้อ บอกเหตุผลพร้อมยกตัวอย่างการ ตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าและ บริการของตนเองได้ 1 ข้อ 4. การบอกสิทธิพื้นฐานใน ฐานะผู้บริโภค บอกสิทธิพื้นฐานของตนเองใน ฐานะผู้บริโภคได้ถูกต้อง 4 ข้อ บอกสิทธิพื้นฐานของตนเองใน ฐานะผู้บริโภคได้ถูกต้อง 3 ข้อ บอกสิทธิพื้นฐานของตนเองใน ฐานะผู้บริโภคได้ถูกต้อง 1 ข้อ เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 10 - 12 ดี 6 - 9 พอใช้ ต่ำกว่า 6 ปรับปรุง
437 สังคมศึกษาฯ ป.4 แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 8 คำชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. การเลือกบริโภคสินค้าและบริการ ขึ้นอยู่กับปัจจัยข้อใด มากที่สุด ก. ความสะดวกสบาย ข. ความคงทนถาวร ค. ความสวยงาม ง. ความจำเป็น 2. ข้อใดไม่ใช่หลักเกณฑ์ในการเลือกซื้อสินค้าและบริการ ก. ความจำเป็น ข. การลดราคา ค. คุณภาพสินค้า ง. การเปรียบเทียบราคา 3. สินค้าชนิดใด จัดเป็นสินค้าประเภทคงทนถาวร ก. ยาสีฟัน ข. อาหาร ค. เสื้อผ้า ง. ผงซักฟอก 4. นักเรียนควรเลือกซื้อสินค้าชนิดใด จึงจะเกิดประโยชน์ มากที่สุด ก. อุปกรณ์การเรียน ข. หนังสือการ์ตูน ค. ของเล่น ง. ลูกอม 5. ข้อใดไม่ใช่สิทธิพื้นฐานของผู้บริโภค ก. ได้รับประกันสินค้า ข. ได้รับคำชมจากผู้ขาย ค. ได้รับข้อมูลสินค้า ง. อิสระในการเลือกซื้อ 6. นักเรียนควรเลือกซื้อสินค้ามาใช้ เพราะเหตุใดมากที่สุด ก. ความสวยงาม ข. ความทันสมัย ค. ความหรูหรา ง. ความจำเป็น 7. นักเรียนควรเลือกซื้อสินค้าที่มีลักษณะอย่างไร ก. ราคาถูก คุณภาพดี ข. ราคาถูก ไม่มีคุณภาพ ค. ราคาแพง คุณภาพดี ง. ราคาแพง ไม่มีคุณภาพ 8. สินค้าใดเป็นสินค้าที่มีตรา อย. กำกับ ก. หม้อหุงข้าว ข. ยาสีฟัน ค. พัดลม ง. เตารีด 9. สินค้าใดเป็นสินค้าที่มีตรา มอก. กำกับ ก. กระทะไฟฟ้า ข. ผงซักฟอก ค. ยาสระผม ง. สบู่ 10. หากนักเรียนถูกผู้ขายสินค้าเอาเปรียบ จะต้องไป ร้องเรียนที่หน่วยงานใด ก. สำนักนายกรัฐมนตรี ข. องค์การอาหารและยา ค. สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ง. สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ตัวชี้วัด ส 3.1 ข้อ 1-2 1. ง 2. ข 3. ค 4. ก 5. ข 6. ง 7. ก 8. ข 9. ก 10. ค 10 ได้คะแนน คะแนนเต็ม
438 สังคมศึกษาฯ ป.4 แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 8 คำชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. การเลือกบริโภคสินค้าและบริการ ขึ้นอยู่กับปัจจัยข้อใด มากที่สุด ก. ความสะดวกสบาย ข. ความคงทนถาวร ค. ความสวยงาม ง. ความจำเป็น 2. ข้อใดไม่ใช่หลักเกณฑ์ในการเลือกซื้อสินค้าและบริการ ก. ความจำเป็น ข. การลดราคา ค. คุณภาพสินค้า ง. การเปรียบเทียบราคา 3. สินค้าชนิดใด จัดเป็นสินค้าประเภทคงทนถาวร ก. ยาสีฟัน ข. อาหาร ค. เสื้อผ้า ง. ผงซักฟอก 4. นักเรียนควรเลือกซื้อสินค้าชนิดใด จึงจะเกิดประโยชน์ มากที่สุด ก. อุปกรณ์การเรียน ข. หนังสือการ์ตูน ค. ของเล่น ง. ลูกอม 5. ข้อใดไม่ใช่สิทธิพื้นฐานของผู้บริโภค ก. ได้รับประกันสินค้า ข. ได้รับคำชมจากผู้ขาย ค. ได้รับข้อมูลสินค้า ง. อิสระในการเลือกซื้อ 6. นักเรียนควรเลือกซื้อสินค้ามาใช้ เพราะเหตุใดมากที่สุด ก. ความสวยงาม ข. ความทันสมัย ค. ความหรูหรา ง. ความจำเป็น 7. นักเรียนควรเลือกซื้อสินค้าที่มีลักษณะอย่างไร ก. ราคาถูก คุณภาพดี ข. ราคาถูก ไม่มีคุณภาพ ค. ราคาแพง คุณภาพดี ง. ราคาแพง ไม่มีคุณภาพ 8. สินค้าใดเป็นสินค้าที่มีตรา อย. กำกับ ก. หม้อหุงข้าว ข. ยาสีฟัน ค. พัดลม ง. เตารีด 9. สินค้าใดเป็นสินค้าที่มีตรา มอก. กำกับ ก. กระทะไฟฟ้า ข. ผงซักฟอก ค. ยาสระผม ง. สบู่ 10. หากนักเรียนถูกผู้ขายสินค้าเอาเปรียบ จะต้องไป ร้องเรียนที่หน่วยงานใด ก. สำนักนายกรัฐมนตรี ข. องค์การอาหารและยา ค. สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ง. สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ตัวชี้วัด ส 3.1 ข้อ 1-2 1. ง 2. ข 3. ค 4. ก 5. ข 6. ง 7. ก 8. ข 9. ก 10. ค 10 ได้คะแนน คะแนนเต็ม
512 สังคมศึกษาฯ ป.4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 9 เศรษฐกิจพอเพียง เวลา 5 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ส 3.1 ป.4/3 อธิบายหลักการของเศรษฐกิจพอเพียงและนำไปใช้ในชีวิตประจำวันของตนเอง 2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด หลักการของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางในการนำไปใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันอย่างมีดุลยภาพ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง 1) หลักการของเศรษฐกิจพอเพียง 2) การประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการดำรงชีวิต เช่น การแต่งกาย การกินอาหาร การใช้จ่าย 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น (พิจารณาตามหลักสูตรสถานศึกษา) 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 4.2 ความสามารถในการคิด - ทักษะการนำความรู้ไปใช้ 4.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ซื่อสัตย์สุจริต 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. อยู่อย่างพอเพียง 6. ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) รายงาน เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียงกับการดำเนินชีวิต
513 สังคมศึกษาฯ ป.4 7. การวัดและการประเมินผล 7.1 การประเมินก่อนเรียน - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 9 เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง (K) 7.2 การประเมินระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1) ตรวจใบงานที่ 1.1 เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง (P) 2) ตรวจใบงานที่ 2.1 เรื่อง หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (K) 3) ตรวจใบงานที่ 3.1 เรื่อง การประยุกต์ใช้เศรษฐกิจพอเพียงในชีวิตประจำวัน (P) 4) ตรวจแบบบันทึกการอ่าน (K,P) 5) ประเมินการนำเสนอผลงาน (K,P,A) 6) สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล (P,A) 7) สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม (P,A) 8) สังเกตคุณลักษณะอันพึงประสงค์(A) 7.3 การประเมินหลังเรียน - ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 9 เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง (K) 7.4 การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ตรวจรายงาน เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียงกับการดำเนินชีวิต (K) 8. กิจกรรมการเรียนรู้ นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่9 เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง
514 สังคมศึกษาฯ ป.4 เรื่องที่ 1 ความหมายของเศรษฐกิจพอเพียง วิธีสอนโดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ : เทคนิคกลุ่มสืบค้น เวลา 1 ชั่วโมง ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ครูให้นักเรียนศึกษาพระราชดำรัสเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงจากใบความรู้ที่ 1.1 เรื่อง พระราชดำรัสเศรษฐกิจพอเพียง แล้ว ร่วมกันสนทนาถึงความสำคัญของเศรษฐกิจพอเพียง ขั้นสอน 1. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน ตามความสมัครใจ แล้วสนทนากับนักเรียนว่า การดำเนินชีวิตแบบเศรษฐกิจ พอเพียง คือการดำเนินชีวิตแบบใด 2. นักเรียนสืบค้นข้อมูลความรู้เรื่อง ความหมายของเศรษฐกิจพอเพียง จากหนังสือเรียน ห้องสมุด และแหล่งข้อมูล สารสนเทศ 3. ครูแจกใบงานที่ 1.1 เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง ให้ตัวแทนแต่ละกลุ่ม เพื่อนำมาแบ่งให้สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มสืบค้น ข้อมูล 4. สมาชิกแต่ละคนศึกษาสืบค้นความรู้เพื่อเป็นคำตอบในประเด็นที่ตนรับผิดชอบ แล้วนำคำตอบมาอภิปรายร่วมกันในกลุ่ม จนได้คำตอบที่สมบูรณ์ และมีความเข้าใจตรงกันทุกคน 5. เมื่อได้คำตอบที่ถูกต้องสมบูรณ์ให้บันทึกลงในใบงานที่ 1.1 แล้วให้ตัวแทนกลุ่มออกมานำเสนอใบงาน หน้าชั้นเรียน ครูและนักเรียนช่วยกันเฉลยคำตอบในใบงานที่ 1.1 ขั้นสรุป 1. ครูให้นักเรียนแต่ละคนรวบรวมพระราชดำรัสเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงในโอกาสต่างๆ แล้วนำส่งครูในระยะเวลาที่ กำหนด 2. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง
515 สังคมศึกษาฯ ป.4 เรื่องที่ 2 หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) เวลา 2 ชั่วโมง ขั้นที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engage) 1. ครูทบทวนความรู้เดิมเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียง โดยให้นักเรียนดูบัตรภาพเกี่ยวกับโครงการในพระราชดำริเกี่ยวกับ เศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช แล้วถามนักเรียนว่า ภาพดังกล่าวมีความ เกี่ยวข้องกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอย่างไร 2. ครูให้อาสาสมัครนักเรียน 1-2 คน ออกมาแสดงความคิดเห็นให้เพื่อนฟังหน้าชั้นเรียน แล้วให้นักเรียนคนอื่นแสดงความ คิดเห็นเพิ่มเติมในส่วนที่แตกต่าง ขั้นที่ 2 สำรวจค้นหา (Explore) ครูให้นักเรียนกลุ่มเดิมร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จากหนังสือเรียน ห้องสมุด และแหล่งข้อมูลสารสนเทศ และศึกษาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จากใบความรู้ที่ 2.1 เรื่อง หลัก ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ขั้นที่ 3 อธิบายความรู้(Explain) 1. สมาชิกในแต่ละกลุ่มผลัดกันอธิบายความรู้ที่ได้จากการศึกษา และซักถามข้อสงสัยจนสมาชิกในกลุ่มมีความรู้ ความเข้าใจตรงกัน 2. นักเรียนทำใบงานที่ 2.1 เรื่อง หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ขั้นที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Expand) นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติตนที่ถูกต้องตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครูให้ตัวแทนของแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน โดยครูคอยตรวจสอบความถูกต้อง และแนะนำเพิ่มเติมในส่วนที่บกพร่อง 2. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
516 สังคมศึกษาฯ ป.4 เรื่องที่ 3 การประยุกต์ใช้เศรษฐกิจพอเพียงในชีวิตประจำวัน วิธีสอนแบบโมเดลซิปปา (CIPPA Model) เวลา 2 ชั่วโมง ขั้นที่ 1 ทบทวนความรู้เดิม ครูให้นักเรียนอ่านข่าวที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่ปฏิบัติตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง แล้วให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่า การปฏิบัติตนของบุคคลคลในข่าวสอดคล้องกับหลักเศรษฐกิจพอเพียงอย่างไร ขั้นที่ 2 แสวงหาความรู้ใหม่ ครูให้นักเรียนกลุ่มเดิมร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง การประยุกต์ใช้เศรษฐกิจพอเพียงในชีวิตประจำวันของตนเอง จากหนังสือ เรียน และห้องสมุด ขั้นที่ 3 ศึกษาทำความเข้าใจข้อมูล/ความรู้ใหม่ และเชื่อมโยงความรู้ใหม่กับความรู้เดิม 1. สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มผลัดกันอธิบายความรู้ที่ได้จากการศึกษาให้สมาชิกในกลุ่มฟัง และซักถามในส่วนที่สงสัย 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันทำใบงานที่ 3.1 เรื่อง การประยุกต์ใช้เศรษฐกิจพอเพียงในชีวิตประจำวัน ขั้นที่ 4 แลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจกับกลุ่ม 1. สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มผลัดกันอภิปรายคำตอบในใบงานที่ 3.1 และสรุปคำตอบลงในใบงานและนำส่งครูตรวจ 2. ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยคำตอบในใบงานที่ 3.1 ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามข้อสงสัยจนมีความเข้าใจ ที่ถูกต้องชัดเจน ขั้นที่ 5 สรุปและจัดระเบียบความรู้ นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง การประยุกต์ใช้เศรษฐกิจพอเพียงในชีวิตประจำวันของตนเอง ขั้นที่ 6 ปฏิบัติและ/หรือแสดงผลงาน 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันวางแผนการปฏิบัติตนเพื่อนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันของตนเอง 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มปฏิบัติตามแผนที่วางไว้ แล้วบันทึกผลการปฏิบัติลงในสมุด ขั้นที่ 7 ประยุกต์ใช้ความรู้ นักเรียนนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับจากการศึกษาความรู้เรื่อง การประยุกต์ใช้เศรษฐกิจพอเพียงในชีวิตประจำวันของ ตนเองไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิตอย่างเหมาะสม นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 9 เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง ครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละกลุ่มจัดท ารายงาน เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียงกบัการดา เนินชีวิต โดยให้ครอบคลุมประเด็นตามที ่ก าหนด
517 สังคมศึกษาฯ ป.4 9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 9.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.4 2) ใบความรู้ที่ 1.1 เรื่อง พระราชดำรัสเศรษฐกิจพอเพียง 3) ใบความรู้ที่ 2.1 เรื่อง หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 4) ข่าว 5) บัตรภาพ 6) ใบงานที่ 1.1 เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง 7) ใบงานที่ 2.1 เรื่อง หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 8) ใบงานที่ 3.1 เรื่อง การประยุกต์ใช้เศรษฐกิจพอเพียงในชีวิตประจำวัน 9.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) ห้องสมุด 2) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ - www.arc.nrru.ac.th/main_menu/king/king. - www.oae.go.th/ewt_news.php?nid=6578&filename=index - www.th.wikipedia.org/wiki/เศรษฐกิจพอเพียง - www.villagefund.or.th/Sitedirectory/470/.../1942_เศรษฐกิจพอเพียง
518 สังคมศึกษาฯ ป.4 การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินรายงาน เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียงกับการดำเนินชีวิต รายการประเมิน คำอธิบายระดับคุณภาพ/ระดับคะแนน ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) 1. การอธิบายความหมาย ของเศรษฐกิจพอเพียง เขียนอธิบายความหมาย ของเศรษฐกิจพอเพียง ได้ถูกต้องชัดเจน เขียนอธิบายความหมาย ของเศรษฐกิจพอเพียง ได้ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ เขียนอธิบายความหมาย ของเศรษฐกิจพอเพียง ได้ถูกต้องเพียงเล็กน้อย 2. การอธิบายหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง เขียนอธิบายหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงได้ถูกต้อง ครบถ้วนทั้ง 5 หลักการ เขียนอธิบายหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงได้ถูกต้อง 2-4 หลักการ เขียนอธิบายหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงได้ถูกต้อง 1 หลักการ 3. การเสนอวิธีการ ประยุกต์ใช้เศรษฐกิจ พอเพียงใน ชีวิตประจำวัน เสนอแนะวิธีการประยุกต์ใช้ เศรษฐกิจพอเพียงในชีวิต ประจำวันได้อย่างมีเหตุผล 5 ข้อขึ้นไป และสามารถนำไป ปฏิบัติได้จริงทุกข้อ เสนอแนะวิธีการประยุกต์ใช้ เศรษฐกิจพอเพียงในชีวิต ประจำวันได้อย่างมีเหตุผล 3-4 ข้อ และสามารถนำไป ปฏิบัติได้จริงเป็นส่วนใหญ่ เสนอแนะวิธีการประยุกต์ใช้ เศรษฐกิจพอเพียงในชีวิต ประจำวันได้อย่างมีเหตุผล 1-2 ข้อ แต่ไม่สามารถนำไป ปฏิบัติได้ เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 8 - 9 ดี 5 - 7 พอใช้ ต่ำกว่า 5 ปรับปรุง
519 สังคมศึกษาฯ ป.4 แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 9 คำชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. การปฏิบัติตนตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ควรเริ่ม จากที่ใด ก. ตนเอง ข. ชุมชน ค. จังหวัด ง. ครอบครัว 2. ข้อใดสอดคล้องกับเศรษฐกิจพอเพียง ก. ไม่ใช้เทคโนโลยีในการผลิตเลย ข. ประหยัดไม่ฟุ่มเฟือย ค. ไม่กู้หนี้ยืมสิน ง. ไม่พึ่งพาผู้อื่น 3. ข้อใดไม่ใช่วิธีการของเศรษฐกิจพอเพียง ก. พึ่งพาตนเองและอยู่แบบพอมีพอกิน ข. จัดตั้งกองทุนสนับสนุนเกษตรกร ค. ส่งเสริมให้ความรู้กับเกษตรกร ง. รวมกลุ่มกันต่อต้านรัฐบาล 4. เศรษฐกิจพอเพียงเหมาะกับการดำเนินชีวิตของใคร ก. แม่ค้า ข. ทหาร ค. ตำรวจ ง. ทุกคน 5. ข้อใดไม่ใช่หลักแนวคิดของเศรษฐกิจพอเพียง ก. ความหรูหรา ข. ความมีเหตุผล ค. ความพอประมาณ ง. มีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี 6. ใครปฏิบัติตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ก. ส้มรับประทานอาหารเหลือทุกครั้ง ข. กล้วยซ่อมแซมกระโปรงที่ขาด ค. เงาะซื้อรองเท้าครั้งละ 5 คู่ ง. องุ่นใส่เสื้อผ้าตามแฟชั่น 7. ข้อใดไม่ใช่การนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ ก. ไม่ใช้เงินซื้อของ ข. ใช้จ่ายอย่างประหยัด ค. จัดสรรเงินรายได้เป็นส่วนๆ ง. ช่วยประหยัดน้ำและไฟฟ้า 8. การใช้จ่ายแบบใด เป็นการใช้จ่ายตามหลักเศรษฐกิจ พอเพียง ก. ใช้จ่ายตามความพอใจ ข. ใช้จ่ายอย่างประหยัด ค. ใช้จ่ายโดยไม่คิด ง. ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย 9. การแต่งกายแบบใด เป็นการแต่งกายตามหลัก เศรษฐกิจ พอเพียง ก. แต่งกายด้วยเสื้อผ้าราคาแพง ข. แต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่สะอาด ค. แต่งกายด้วยเสื้อผ้าราคาถูก ง. แต่งกายด้วยเสื้อผ้าขาดๆ 10. ใครปฏิบัติตามหลักแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงไม่ถูกต้อง ก. อ้อนมีเหตุผลในการลงทุน ข. ออดทำงานอย่างมีหลักการ ค. เอมใช้จ่ายเงินอย่างประหยัด ง. อิ่มเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนเป็นหลัก ตัวชี้วัด ส 3.1 ข้อ 3 1. ก 2. ค 3. ง 4. ง 5. ก 6. ข 7. ก 8. ข 9. ข 10. ง 10 ได้คะแนน คะแนนเต็ม
520 สังคมศึกษาฯ ป.4 แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 9 คำชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. การปฏิบัติตนตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ควรเริ่ม จากที่ใด ก. ตนเอง ข. ชุมชน ค. จังหวัด ง. ครอบครัว 2. ข้อใดสอดคล้องกับเศรษฐกิจพอเพียง ก. ไม่ใช้เทคโนโลยีในการผลิตเลย ข. ประหยัดไม่ฟุ่มเฟือย ค. ไม่กู้หนี้ยืมสิน ง. ไม่พึ่งพาผู้อื่น 3. ข้อใดไม่ใช่วิธีการของเศรษฐกิจพอเพียง ก. พึ่งพาตนเองและอยู่แบบพอมีพอกิน ข. จัดตั้งกองทุนสนับสนุนเกษตรกร ค. ส่งเสริมให้ความรู้กับเกษตรกร ง. รวมกลุ่มกันต่อต้านรัฐบาล 4. เศรษฐกิจพอเพียงเหมาะกับการดำเนินชีวิตของใคร ก. แม่ค้า ข. ทหาร ค. ตำรวจ ง. ทุกคน 5. ข้อใดไม่ใช่หลักแนวคิดของเศรษฐกิจพอเพียง ก. ความหรูหรา ข. ความมีเหตุผล ค. ความพอประมาณ ง. มีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี 6. ใครปฏิบัติตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ก. ส้มรับประทานอาหารเหลือทุกครั้ง ข. กล้วยซ่อมแซมกระโปรงที่ขาด ค. เงาะซื้อรองเท้าครั้งละ 5 คู่ ง. องุ่นใส่เสื้อผ้าตามแฟชั่น 7. ข้อใดไม่ใช่การนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ ก. ไม่ใช้เงินซื้อของ ข. ใช้จ่ายอย่างประหยัด ค. จัดสรรเงินรายได้เป็นส่วนๆ ง. ช่วยประหยัดน้ำและไฟฟ้า 8. การใช้จ่ายแบบใด เป็นการใช้จ่ายตามหลักเศรษฐกิจ พอเพียง ก. ใช้จ่ายตามความพอใจ ข. ใช้จ่ายอย่างประหยัด ค. ใช้จ่ายโดยไม่คิด ง. ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย 9. การแต่งกายแบบใด เป็นการแต่งกายตามหลัก เศรษฐกิจ พอเพียง ก. แต่งกายด้วยเสื้อผ้าราคาแพง ข. แต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่สะอาด ค. แต่งกายด้วยเสื้อผ้าราคาถูก ง. แต่งกายด้วยเสื้อผ้าขาดๆ 10. ใครปฏิบัติตามหลักแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงไม่ถูกต้อง ก. อ้อนมีเหตุผลในการลงทุน ข. ออดทำงานอย่างมีหลักการ ค. เอมใช้จ่ายเงินอย่างประหยัด ง. อิ่มเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนเป็นหลัก ตัวชี้วัด ส 3.1 ข้อ 3 1. ก 2. ค 3. ง 4. ง 5. ก 6. ข 7. ก 8. ข 9. ข 10. ง 10 ได้คะแนน คะแนนเต็ม
563 สังคมศึกษาฯ ป.4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 10 กิจกรรมทางเศรษฐกิจของชุมชน เวลา 6 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ส 3.2 ป.4/1 อธิบายความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของคนในชุมชน 2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด ในแต่ละชุมชนย่อมมีอาชีพ สินค้า และบริการต่างๆ ที่ผลิตในชุมชน จึงต้องมีการพึ่งพาอาศัยกันภายในชุมชน มีการสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนด้วยการใช้สิ่งของที่ผลิตในชุมชน 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง 1) อาชีพ สินค้าและบริการต่างๆ ที่ผลิตในชุมชน 2) การพึ่งพาอาศัยกันภายในชุมชนทางด้านเศรษฐกิจ เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ซื้อ ผู้ขาย การกู้หนี้ยืมสิน 3) การสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนด้วยการใช้สิ่งของที่ผลิตในชุมชน 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น 1) ความหมายของเศรษฐกิจชุมชน 2) ลักษณะเศรษฐกิจชุมชนของประเทศไทย 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการรวบรวมข้อมูล 2) ทักษะการวิเคราะห์ 3) ทักษะการเชื่อมโยง 4.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน
564 สังคมศึกษาฯ ป.4 6. ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) ป้ายนิเทศ เรื่อง ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของคนในชุมชน 7. การวัดและการประเมินผล 7.1 การประเมินก่อนเรียน - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 10 เรื่อง เศรษฐกิจชุมชนในประเทศไทย (K) 7.2 การประเมินระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1) ตรวจใบงานที่ 1.1 เรื่อง เศรษฐกิจชุมชน (K) 2) ตรวจใบงานที่ 2.1 เรื่อง ลักษณะอาชีพ สินค้า และบริการในชุมชน (P) 3) ตรวจใบงานที่ 3.1 เรื่อง การพึ่งพาอาศัยกันทางเศรษฐกิจในชุมชน (K) 4) ตรวจใบงานที่ 4.1 เรื่อง ชุมชนเข้มแข็ง (P) 5) ตรวจแบบบันทึกการอ่าน (K,P) 6) ประเมินการนำเสนอผลงาน (K,P) 7) สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล (P,A) 8) สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม (P,A) 9) สังเกตคุณลักษณะอันพึงประสงค์(A) 7.3 การประเมินหลังเรียน - ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 10 เรื่อง เศรษฐกิจชุมชนในประเทศไทย (K) 7.4 การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ตรวจป้ายนิเทศ เรื่อง ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของคนในชุมชน (K,P) 8. กิจกรรมการเรียนรู้ นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่10 เรื่อง กิจกรรมทางเศรษฐกิจของชุมชน
565 สังคมศึกษาฯ ป.4 เรื่องที่ 1 เศรษฐกิจชุมชน วิธีสอนโดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ : เทคนิคคู่คิด เวลา 1 ชั่วโมง ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูนำภาพเกี่ยวกับลักษณะเศรษฐกิจในชุมชน มาให้นักเรียนดูแล้วสนทนากับนักเรียนว่า เศรษฐกิจชุมชนในภาพมี ลักษณะอย่างไร แล้วนักเรียนสังเกตได้จากสิ่งใด 2. ครูอธิบายให้นักเรียนเข้าใจว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของชุมชนต่างๆ ในประเทศไทยจะมีการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ ภายในชุมชนของตนเองและต่างชุมชน ซึ่งแต่ละชุมชนจะมีลักษณะทางเศรษฐกิจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ของ ชุมชนนั้น ขั้นสอน 1. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละกันตามความสามารถ จากนั้นให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาความรู้ เรื่อง เศรษฐกิจชุมชน จากหนังสือเรียน 2. ครูให้นักเรียนแต่ละคนในกลุ่มช่วยกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับลักษณะชุมชนของตนเองว่ามีลักษณะอย่างไร พร้อมทั้ง เปรียบเทียบกับเพื่อนในกลุ่มว่ามีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร 3. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับความหมาย และลักษณะเศรษฐกิจชุมชนของประเทศไทย พร้อมยกตัวอย่างให้นักเรียนมี ความรู้ความเข้าใจมากยิ่งขึ้น 4. นักเรียนแต่ละกลุ่มจับคู่กันเป็น 2 คู่ แล้วให้แต่ละคู่ช่วยกันทำใบงานที่ 1.1 เรื่อง เศรษฐกิจชุมชน โดยให้แต่ละคนคิด หาคำตอบด้วยตนเอง เสร็จแล้วให้จับคู่เดิมและผลัดกันอภิปรายคำตอบให้คู่ของตนฟัง ช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง และปรับแก้ไขในใบงาน 5. ครูสุ่มเรียกตัวแทนของแต่ละคู่ ประมาณ 4-5 คน ออกมานำเสนอใบงานที่ 1.1 จากนั้นเก็บรวบรวมใบงานส่งครู ขั้นสรุป ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เกี่ยวกับความหมาย และลักษณะเศรษฐกิจชุมชนของประเทศไทย
566 สังคมศึกษาฯ ป.4 เรื่องที่ 2 ลักษณะอาชีพ สินค้า และบริการในชุมชน วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) เวลา 2 ชั่วโมง ขั้นที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engage) 1. ครูให้นักเรียนดูภาพลักษณะอาชีพในชุมชน แล้วผลัดกันเล่าถึงอาชีพ สินค้า และบริการในชุมชนที่นักเรียนอาศัยอยู่ 2. ครูอธิบายให้นักเรียนเข้าใจว่า ในประเทศไทยมีการผลิตสินค้าและบริการที่หลากหลาย ได้แก่ เกษตรกรรม พาณิชยกรรม หัตถกรรม และบริการ ขั้นที่ 2 สำรวจค้นหา (Explore) : เทคนิคการต่อเรื่องราว (Jigsaw) 1. ครูให้นักเรียนรวมกลุ่มเดิม เรียกว่า กลุ่มบ้าน แล้วให้แต่ละกลุ่มกำหนดหมายเลขประจำตัวให้สมาชิกแต่ละคนในกลุ่ม เป็นหมายเลข 1-4 2. สมาชิกที่มีหมายเลขเดียวกันมารวมกันเป็นกลุ่มใหม่ เรียกว่า กลุ่มผู้เชี่ยวชาญ แล้วร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง ลักษณะอาชีพ สินค้า และบริการในชุมชน จากหนังสือเรียน ตามประเด็นที่กำหนดให้ 3. นักเรียนกลุ่มผู้เชี่ยวชาญแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษา และปฏิบัติกิจกรรม ดังนี้ 1) บอกลักษณะของแต่ละอาชีพที่นักเรียนศึกษามา 2) เลือกอาชีพ 1 อาชีพ พร้อมบอกความสำคัญของอาชีพนั้นว่ามีความสำคัญต่อชุมชนอย่างไร ขั้นที่ 3 อธิบายความรู้ (Explain) : เทคนิคการต่อเรื่องราว (Jigsaw) 1. นักเรียนในกลุ่มผู้เชี่ยวชาญร่วมกันอภิปรายและตรวจสอบผลของการศึกษาในแต่ละประเด็น 2. นักเรียนสรุปผลการตรวจสอบ จากนั้นให้นักเรียนกลุ่มผู้เชี่ยวชาญแยกย้ายกันกลับเข้าสู่กลุ่มบ้าน เพื่ออธิบายความรู้ที่ได้ จากการศึกษาและปฏิบัติกิจกรรมให้สมาชิกในกลุ่มบ้านฟัง โดยเรียงลำดับจากสมาชิกหมายเลข 1-4 หรือตามความ สมัครใจ จนครบทุกคน ขั้นที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Expand) 1. ครูอธิบายเพิ่มเติมให้นักเรียนฟังว่า ในแต่ละชุมชนจะมีลักษณะของอาชีพที่แตกต่างกันไปตามสภาพแวดล้อมและปัจจัย การผลิตสินค้า เช่น อาชีพค้าขายในชุมชนส่วนมากจะค้าขายสินค้าที่ผลิตได้ในชุมชน และมีความจำเป็นกับการ ดำรงชีวิตของคนในชุมชน เป็นต้น 2. นักเรียนทำใบงานที่ 2.1 เรื่อง ลักษณะอาชีพ สินค้า และบริการในชุมชน เสร็จแล้วนำส่งครูตรวจ ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครูตรวจสอบผลนักเรียนจากการทำใบงานที่ 2.1 2. นักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เกี่ยวกับลักษณะอาชีพ สินค้า และบริการในชุมชน
567 สังคมศึกษาฯ ป.4 เรื่องที่ 3 การพึ่งพาอาศัยกันทางเศรษฐกิจในชุมชน วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) เวลา 2 ชั่วโมง ขั้นที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engage) 1. ครูให้นักเรียนกลุ่มเดิมร่วมกันสำรวจอาชีพต่างๆ ในชุมชนที่ตนอาศัยอยู่ พร้อมทั้งแสดงความคิดเห็นว่าในแต่ละอาชีพนั้น มีความสัมพันธ์กันอย่างไร 2. ครูอธิบายเชื่อมโยงให้นักเรียนเข้าใจว่า อาชีพต่างๆ ในชุมชนนั้น ย่อมมีความสัมพันธ์กันและมีการพึ่งพา อาศัยกัน เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ผลิต ผู้บริโภค ธนาคาร เป็นต้น ขั้นที่ 2 สำรวจค้นหา (Explore) ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มจับคู่กันเป็น 2 คู่ แล้วให้แต่ละคู่ศึกษาความรู้เรื่อง การพึ่งพาอาศัยกันทางเศรษฐกิจในชุมชน จาก หนังสือเรียน และห้องสมุด ตามประเด็นที่กำหนดให้ ดังนี้ - คู่ที่ 1 ศึกษาความรู้เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย - คู่ที่ 2 ศึกษาความรู้เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ผลิต ผู้บริโภค ธนาคาร ขั้นที่ 3 อธิบายความรู้ (Explain) 1. นักเรียนแต่ละคู่ผลัดกันอธิบายความรู้ที่คู่ของตนศึกษามาให้เพื่อนอีกคู่หนึ่งฟัง แล้วผลัดกันซักถามข้อสงสัยจนสมาชิกใน กลุ่มมีความรู้ความเข้าใจตรงกัน 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มทำใบงานที่ 3.1 เรื่อง การพึ่งพาอาศัยกันทางเศรษฐกิจในชุมชน ขั้นที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Expand) 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่า เศรษฐกิจในชุมชนจะมีความเจริญก้าวหน้าได้นั้นจะต้องอาศัยปัจจัยใด 2. ครูอธิบายเพิ่มเติมให้นักเรียนฟังว่า ในแต่ละชุมชนจำเป็นต้องมีการพึ่งพาอาศัยกันทางเศรษฐกิจ เพื่อความกินดีอยู่ดีของ คนในชุมชน ตลอดจนเพื่อความก้าวหน้าทางด้านเศรษฐกิจภายในชุมชนนั้นๆ ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) ตัวแทนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอใบงานที่ 3.1 โดยมีสมาชิกกลุ่มอื่นช่วยกันตรวจสอบความถูกต้องและแสดงความคิดเห็นใน ส่วนที่แตกต่าง
568 สังคมศึกษาฯ ป.4 เรื่องที่ 4 ชุมชนเข้มแข็ง วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการสร้างเจตคติ เวลา 1 ชั่วโมง ขั้นที่ 1 สังเกต 1. ครูตั้งประเด็นคำถามให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่า ชุมชนจะเข้มแข็ง ผู้คนอยู่ดีกินดี มีความมั่นคงทาง เศรษฐกิจได้ ผู้คนในชุมชนควรปฏิบัติอย่างไร 2. ครูขออาสาสมัครนักเรียน 2-3 คน ออกมาแสดงความคิดเห็นหน้าชั้นเรียน ขั้นที่ 2 วิเคราะห์ 1. ครูให้นักเรียนกลุ่มเดิมร่วมกันวิเคราะห์ประเด็นที่ครูกำหนด ดังนี้ - ถ้าในชุมชนมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่ดีจะก่อให้เกิดผลอย่างไร - เพราะเหตุใด จึงต้องมีการสานประโยชน์ทางเศรษฐกิจ 2. นักเรียนศึกษาความรู้เรื่อง ชุมชนเข้มแข็ง จากหนังสือเรียน 3. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันเสนอแนะแนวทางในการสร้างชุมชนให้เข้มแข็งลงในสมุด 4. นักเรียนแต่ละกลุ่มสรุปคำตอบที่ได้จากการวิเคราะห์ร่วมกัน จากนั้นส่งตัวแทนกลุ่มยืนอ่านคำตอบหน้าชั้นเรียน 5. นักเรียนทำใบงานที่ 4.1 เรื่อง ชุมชนเข้มแข็ง เมื่อทำใบงานเสร็จแล้วให้นักเรียนสลับกันตรวจกับเพื่อน โดยครูเฉลย คำตอบบนกระดาน ขั้นที่ 3 สรุป นักเรียนร่วมกันสรุปความสำคัญการสร้างชุมชนให้เข้มแข็ง นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 10 เรื่อง กิจกรรมทางเศรษฐกิจของชุมชน ครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละกลุ่มจัดป้ายนิเทศ เรื่อง ความสมัพนัธท์างเศรษฐกิจของคนใน ชุมชน โดยให้ครอบคลุมประเด็นตามที่ก าหนด
569 สังคมศึกษาฯ ป.4 9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 9.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.4 2) บัตรภาพ 3) ใบงานที่ 1.1 เรื่อง เศรษฐกิจชุมชน 4) ใบงานที่ 2.1 เรื่อง ลักษณะอาชีพ สินค้า และบริการในชุมชน 5) ใบงานที่ 3.1 เรื่อง การพึ่งพาอาศัยกันทางเศรษฐกิจในชุมชน 6) ใบงานที่ 4.1 เรื่อง ชุมชนเข้มแข็ง 9.2 แหล่งการเรียนรู้ - ห้องสมุด
570 สังคมศึกษาฯ ป.4 การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินป้ายนิเทศ เรื่อง ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของคนในชุมชน รายการประเมิน คำอธิบายระดับคุณภาพ/ระดับคะแนน ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) 1. ลักษณะอาชีพ สินค้า และ บริการต่างๆ ในชุมชน อธิบายลักษณะอาชีพ สินค้า และ บริการต่างๆ ในชุมชนได้ถูกต้อง ชัดเจน ครบทุกประเด็น พร้อม ยกตัวอย่างประกอบ อธิบายลักษณะอาชีพ สินค้า และ บริการต่างๆ ในชุมชนได้ถูกต้อง เป็นส่วนใหญ่ ครบทุกประเด็น พร้อมยกตัวอย่างประกอบ อธิบายลักษณะอาชีพ สินค้า และ บริการต่างๆ ในชุมชนได้ถูกต้อง เป็นส่วนใหญ่ แต่ไม่ครบทุก ประเด็น ไม่มีตัวอย่างประกอบ 2. การพึ่งพาอาศัยกันทาง ด้านเศรษฐกิจภายในชุมชน อธิบายความสัมพันธ์ระหว่าง ผู้ซื้อกับผู้ขาย และผู้ผลิตกับ ผู้บริโภคกับธนาคารได้ถูกต้อง ชัดเจน อธิบายความสัมพันธ์ระหว่าง ผู้ ซื้อกับผู้ขาย และผู้ผลิตกับ ผู้บริโภคกับธนาคารได้ถูกต้อง เป็นส่วนใหญ่ อธิบายความสัมพันธ์ระหว่าง ผู้ ซื้อกับผู้ขาย และผู้ผลิตกับ ผู้บริโภคกับธนาคารได้ถูกต้อง เพียงเล็กน้อย 3. การสร้างความ เข้มแข็งให้ชุมชน อธิบายพร้อมยกตัวอย่าง แนวทางการสร้างความเข้มแข็งให้ ชุมชนได้ถูกต้อง 4 แนวทางขึ้นไป อธิบายพร้อมยกตัวอย่างแนว ทางการสร้างความเข้มแข็งให้ ชุมชนได้ถูกต้อง 2-3 แนวทาง อธิบายพร้อมยกตัวอย่างแนวทาง การสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน ได้ถูกต้อง 1 แนวทาง เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 8 - 9 ดี 5 - 7 พอใช้ ต่ำกว่า 5 ปรับปรุง
571 สังคมศึกษาฯ ป.4 แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 10 คำชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ข้อใดไม่ใช่อาชีพเกษตรกรรม ก. การทำนา ข. การค้าขาย ค. การเลี้ยงสัตว์ ง. การทำประมง 2. ถ้าเราไม่สบายหรือเจ็บป่วย เราต้องใช้บริการผู้ที่ ประกอบ อาชีพใด ก. หมอ ข. ทหาร ค. ตำรวจ ง. ช่างก่อสร้าง 3. ธนาคารนำเงินทุนจากที่ไหนมาให้หน่วยเศรษฐกิจกู้ยืม ก. เงินลงทุนของรัฐบาล ข. เงินกู้ของหน่วยธุรกิจ ค. เงินฝากของประชาชน ง. เงินยืมของหน่วยครัวเรือน 4. สินค้าชนิดใดไม่ได้เกิดจากการเลี้ยงสัตว์ ก. ไข่ ข. นม ค. เนื้อ ง. น้ำตาล 5. หน่วยครัวเรือนมักจะมีความสัมพันธ์กับหน่วยธุรกิจใน กระบวนการผลิตรูปแบบใด ก. ทุน ข. ที่ดิน ค. แรงงาน ง. ผู้ประกอบการ 6. ถ้าในชุมชนมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่ดีจะ ก่อให้เกิดผลอย่างไร ก. ผู้คนในชุมชนไม่ขัดแย้งกัน ข. ผู้คนในชุมชนรู้จักกันมากขึ้น ค. เศรษฐกิจในชุมชนจะไม่ค่อยดี ง. เศรษฐกิจในชุมชนมีความเข้มแข็ง 7. การแข่งขันทางเศรษฐกิจภายในชุมชน มีผลดีอย่างไร ก. สินค้ามีราคาที่แพงขึ้น ข. มีการพัฒนาคุณภาพสินค้าให้ดีขึ้น ค. ช่วยให้ผลผลิตทางการเกษตรดีขึ้น ง. มีการบริการทางด้านสินค้าที่ไม่ได้ประสิทธิภาพ 8. ข้อใดต่อไปนี้คือชุมชนที่เข้มแข็ง ก. ชุมชนที่ผลิตสินค้าราคาถูก ข. ชุมชนที่ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ค. ชุมชนที่ผลิตสินค้าที่ขายได้กำไรมาก ง. ชุมชนที่รู้จักนำทรัพยากรที่มีอยู่มาใช้ให้เกิด ประโยชน์สูงสุด 9. ข้อต่อไปนี้คือความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของชุมชน ยกเว้นข้อใด ก. การพึ่งพา ข. การแข่งขัน ค. การประสานประโยชน์ ง. การร่วมมือวางแผนอนาคตของคนในชุมชน 10. ถ้าเราต้องการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ เราต้องใช้ บริการผู้ที่ประกอบอาชีพใด ก. ครู ข. หมอ ค. ตำรวจ ง. คนขับรถประจำทาง ตัวชี้วัด ส 3.2 ข้อ 1 1. ข 2. ก 3. ค 4. ง 5. ค 6. ง 7. ข 8. ง 9. ง 10. ง 10 ได้คะแนน คะแนนเต็ม
572 สังคมศึกษาฯ ป.4 แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 10 คำชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ข้อใดไม่ใช่อาชีพเกษตรกรรม ก. การทำนา ข. การค้าขาย ค. การเลี้ยงสัตว์ ง. การทำประมง 2. ถ้าเราไม่สบายหรือเจ็บป่วย เราต้องใช้บริการผู้ที่ ประกอบ อาชีพใด ก. หมอ ข. ทหาร ค. ตำรวจ ง. ช่างก่อสร้าง 3. ธนาคารนำเงินทุนจากที่ไหนมาให้หน่วยเศรษฐกิจกู้ยืม ก. เงินลงทุนของรัฐบาล ข. เงินกู้ของหน่วยธุรกิจ ค. เงินฝากของประชาชน ง. เงินยืมของหน่วยครัวเรือน 4. สินค้าชนิดใดไม่ได้เกิดจากการเลี้ยงสัตว์ ก. ไข่ ข. นม ค. เนื้อ ง. น้ำตาล 5. หน่วยครัวเรือนมักจะมีความสัมพันธ์กับหน่วยธุรกิจใน กระบวนการผลิตรูปแบบใด ก. ทุน ข. ที่ดิน ค. แรงงาน ง. ผู้ประกอบการ 6. ถ้าในชุมชนมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่ดีจะ ก่อให้เกิดผลอย่างไร ก. ผู้คนในชุมชนไม่ขัดแย้งกัน ข. ผู้คนในชุมชนรู้จักกันมากขึ้น ค. เศรษฐกิจในชุมชนจะไม่ค่อยดี ง. เศรษฐกิจในชุมชนมีความเข้มแข็ง 7. การแข่งขันทางเศรษฐกิจภายในชุมชน มีผลดีอย่างไร ก. สินค้ามีราคาที่แพงขึ้น ข. มีการพัฒนาคุณภาพสินค้าให้ดีขึ้น ค. ช่วยให้ผลผลิตทางการเกษตรดีขึ้น ง. มีการบริการทางด้านสินค้าที่ไม่ได้ประสิทธิภาพ 8. ข้อใดต่อไปนี้คือชุมชนที่เข้มแข็ง ก. ชุมชนที่ผลิตสินค้าราคาถูก ข. ชุมชนที่ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ค. ชุมชนที่ผลิตสินค้าที่ขายได้กำไรมาก ง. ชุมชนที่รู้จักนำทรัพยากรที่มีอยู่มาใช้ให้เกิด ประโยชน์สูงสุด 9. ข้อต่อไปนี้คือความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของชุมชน ยกเว้นข้อใด ก. การพึ่งพา ข. การแข่งขัน ค. การประสานประโยชน์ ง. การร่วมมือวางแผนอนาคตของคนในชุมชน 10. ถ้าเราต้องการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ เราต้องใช้ บริการผู้ที่ประกอบอาชีพใด ก. ครู ข. หมอ ค. ตำรวจ ง. คนขับรถประจำทาง ตัวชี้วัด ส 3.2 ข้อ 1 1. ข 2. ก 3. ค 4. ง 5. ค 6. ง 7. ข 8. ง 9. ง 10. ง 10 ได้คะแนน คะแนนเต็ม
573 สังคมศึกษาฯ ป.4
623 สังคมศึกษาฯ ป.4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 11 เงินทองของมีค่า เวลา 5 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ส 3.2 ป.4/2 อธิบายหน้าที่เบื้องต้นของเงิน 2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เงินมีหน้าที่เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการต่างๆ ในแต่ละประเทศจะมีสกุลเงินที่ใช้ในการแลกเปลี่ยน ระหว่างประเทศ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง 1) ความหมายและประเภทของเงิน 2) หน้าที่เบื้องต้นของเงินในระบบเศรษฐกิจ 3) สกุลเงินสำคัญที่ใช้ในการซื้อขายแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น (พิจารณาตามหลักสูตรสถานศึกษา) 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 4.2 ความสามารถในการคิด - ทักษะการสร้างความรู้ 4.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 6. ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แผ่นพับ เรื่อง เงินทองของมีค่า
624 สังคมศึกษาฯ ป.4 7. การวัดและการประเมินผล 7.1 การประเมินก่อนเรียน - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 11 เรื่อง เงินทองของมีค่า (K) 7.2 การประเมินระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1) ตรวจใบงานที่ 1.1 เรื่อง สกุลเงิน (K) 2) ตรวจใบงานที่ 1.2 เรื่อง ค่าของเงิน (P) 3) ตรวจใบงานที่ 2.1 เรื่อง หน้าที่ของเงิน (P) 4) ตรวจใบงานที่ 3.1 เรื่อง ประเภทของเงิน (K) 5) ตรวจแบบบันทึกการอ่าน (K,P) 6) ประเมินการนำเสนอผลงาน (K,P) 7) สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล (P,A) 8) สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม (P,A) 9) สังเกตคุณลักษณะอันพึงประสงค์(A) 7.3 การประเมินหลังเรียน - ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 11 เรื่อง เงินทองของมีค่า (K) 7.4 การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ตรวจแผ่นพับ เรื่อง เงินทองของมีค่า (K,P) 8. กิจกรรมการเรียนรู้ นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่11 เรื่อง เงินทองของมีค่า
625 สังคมศึกษาฯ ป.4 เรื่องที่ 1 ความหมายของเงิน วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการสร้างความคิดรวบยอด เวลา 1 ชั่วโมง ขั้นที่ 1 สังเกต 1. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน ตามความสมัครใจ จากนั้นครูนำบัตรภาพสกุลเงินของแต่ละประเทศมาให้ นักเรียนดูแล้วร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่า เป็นเงินสกุลใดบ้าง และมีความแตกต่างกันอย่างไร 2. ครูอธิบายให้นักเรียนตระหนักถึงคุณค่าของเงินว่า มีความจำเป็นต่อชีวิตประจำวันในฐานะเป็นสื่อกลางของการ แลกเปลี่ยน มีอำนาจซื้อขายสินค้าและบริการ 3. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันบอกความหมายของเงินตามความเข้าใจของตนเอง ขั้นที่ 2 จำแนกความแตกต่าง 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง ความหมายของเงิน จากหนังสือเรียน ตามประเด็นที่กำหนด ดังนี้ 1) ความหมายของเงินในแต่ละสกุล 2) ลักษณะของเงินในแต่ละสกุล 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มเปรียบเทียบผลการศึกษาความหมายและลักษณะของเงินในแต่ละสกุล แล้วสรุปประเด็นสำคัญ เป็นมติของกลุ่ม จากนั้นให้ตัวแทนกลุ่มออกมารายงานหน้าชั้นเรียน ขั้นที่ 3 หาลักษณะร่วม 1. ครูให้นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์ว่า เงินมีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตประจำวันอย่างไร 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มสรุปผลการวิเคราะห์ แล้วส่งตัวแทนกลุ่มออกมารายงานผลการวิเคราะห์ 3. ครูอธิบายให้นักเรียนเข้าใจว่า เงินเป็นของมีค่า ใช้บริโภคไม่ได้ แต่ใช้เป็นสื่อกลางการแลกเปลี่ยน เพื่อให้ได้สินค้าและ บริการที่เราต้องการมาบริโภคได้ และทำให้การแลกเปลี่ยนระหว่างสินค้าและบริการต่างๆ กระจายไปสู่ผู้บริโภคได้ สะดวกขึ้น ขั้นที่ 4 ระบุชื่อความคิดรวบยอด นักเรียนร่วมกันบอกความสำคัญและประโยชน์ของเงิน แล้วทำใบงานที่ 1.1 เรื่อง สกุลเงิน เมื่อทำเสร็จแล้วให้ตรวจความ เรียบร้อยก่อนนำส่งครูตรวจ ขั้นที่ 5 ทดสอบและนำไปใช้ ครูให้นักเรียนสำรวจการใช้จ่ายเงินในชีวิตประจำวันของตนเป็นเวลา 5 วัน แล้วบันทึกผลลงในใบงานที่ 1.2 เรื่อง ค่าของเงิน โดยครูและนักเรียนร่วมกันกำหนดระยะเวลาในการส่งใบงานตามความเหมาะสม
626 สังคมศึกษาฯ ป.4 เรื่องที่ 2 หน้าที่ของเงินในระบบเศรษฐกิจ วิธีสอนแบบโมเดลซิปปา (CIPPA Model) เวลา 2 ชั่วโมง ขั้นที่ 1 ทบทวนความรู้เดิม ครูสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับความสำคัญของเงิน เพื่อทบทวนความรู้เดิมว่า เงินมีประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตประจำวัน ของนักเรียนอย่างไรบ้าง ขั้นที่ 2 แสวงหาความรู้ใหม่ : เทคนิคการต่อเรื่องราว (Jigsaw) 1. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มกำหนดหมายเลขประจำตัวให้สมาชิกแต่ละคนในกลุ่ม เป็นหมายเลข 1-4 เรียกว่า กลุ่มบ้าน 2. สมาชิกที่มีหมายเลขเดียวกันมารวมกันเป็นกลุ่มใหม่ เรียกว่า กลุ่มผู้เชี่ยวชาญ แล้วให้แต่ละกลุ่มศึกษาความรู้เรื่อง หน้าที่ของเงินในระบบเศรษฐกิจ จากหนังสือเรียน ห้องสมุด และแหล่งข้อมูลสารสนเทศ ตามที่กำหนดให้ ดังนี้ - กลุ่มหมายเลข 1 ศึกษาความรู้เรื่อง เป็นสื่อกลางการแลกเปลี่ยน - กลุ่มหมายเลข 2 ศึกษาความรู้เรื่อง เป็นเครื่องรักษามูลค่าของสินค้า - กลุ่มหมายเลข 3 ศึกษาความรู้เรื่อง เป็นมาตรฐานในการวัดค่า เปรียบเทียบค่า - กลุ่มหมายเลข 4 ศึกษาความรู้เรื่อง เป็นมาตรฐานชำระหนี้ภายหน้า ขั้นที่ 3 ศึกษาทำความเข้าใจข้อมูล/ความรู้ใหม่ และเชื่อมโยงความรู้ใหม่กับความรู้เดิม 1. เมื่อศึกษาความรู้เสร็จแล้วให้สมาชิกกลุ่มผู้เชี่ยวชาญแยกย้ายกันกลับเข้าสู่กลุ่มบ้าน แล้วผลัดกันอธิบายความรู้ ที่ได้จากการศึกษาให้สมาชิกในกลุ่มบ้านฟัง เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันทำใบงานที่ 2.1 เรื่อง หน้าที่ของเงิน ขั้นที่ 4 แลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจกับกลุ่ม สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มผลัดกันอภิปรายคำตอบในใบงานที่ 2.1 และสรุปคำตอบลงในใบงาน แล้วนำส่งครูตรวจ ขั้นที่ 5 สรุปและจัดระเบียบความรู้ นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง หน้าที่ของเงินในระบบเศรษฐกิจ ขั้นที่ 6 ปฏิบัติและ/หรือแสดงผลงาน นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันวางแผนการปฏิบัติตนเพื่อการใช้เงินอย่างรู้ค่า ขั้นที่ 7 ประยุกต์ใช้ความรู้ ครูให้นักเรียนนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้จากการศึกษาความรู้เรื่อง หน้าที่ของเงินในระบบเศรษฐกิจ ไปประยุกต์ใช้ใน การดำเนินชีวิต