201
202
203
204
4. งานอืน่ ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย งานอน่ื ที่ไดร้ ับมอบหมาย
การปฏบิ ตั ิ
งานทะเบียน
205
คำนำ
คู่มือการบริหารงานทะเบียน เป็นเอกสารที่เขียนจากการบริหารงานทะเบียน จากสภาพที่เป็นจริง
ของฝา่ ยทะเบยี นโรงเรียนจะนะวทิ ยาโดยมวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พื่อเป็นแนวทางการปฏิบตั ิงานและสรา้ งความเขา้ใจในการ
นา หลกัการบริหารมาสู่การปฏิบตัิที่เป็นจริง ให้ได้ผลอย่างมีประสิทธิภาพพร้อมกับการพฒนางานทะเบียนใน
โรงเรียนสู่ชุมชนและท้องถิ่น จากการที่โรงเรียนได้รับการสนับสนุนจาก ผู้ปกครองและครูโรงเรียน ในการนำ
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มาใช้ใน การพัฒนาคุณภาพการศึกษา การเรียนการสอนและการบรกิ ารจดั การ อันเป็น
การสนองนโยบายของโรงเรยี น และทางราชการตามยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพการศึกษา ตามแนวการปฏริ ูป
การศึกษา ของพระราชบญัญติ การศึกษาแห่งชาติ โดยเฉพาะการนำ ผลความสำเร็จต่างๆ ในการบริหารงาน
ทะเบียนสู่โลกกว้างทางการศึกษาใน การสร้างเครือข่ายอินเตอร์เน็ตและอินทราเน็ตทั้งภายนอกและภายใน
โรงเรียน (Internet&Intranet) และ เครือข่ายบรกิ ารด้านงานทะเบยี น หวังเป็นอย่างยิ่งว่า คู่มือการบริหารงาน
ทะเบียนนี้คงเป็นประโยชน์และเป็น แนวทางในการบริหารงาน การพัฒนางานวิชาการในโรงเรียนให้เกิด
ประสิทธิภาพตามเจตนารมณ์ตาม พระราชบญัญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และที่แกไข้เพิ่มเติม (ฉบับ ที่
๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ สบื ไป
( นางสาวอนิ อาม เจะ๊ ดอเลา๊ ะ)
ครู อตั ราจ้าง
กลุม่ งานทะเบียนวดั ผล
206
กล่มุ งานทะเบียนโรงเรยี นจะนะวิทยา
กล่มุ งานทะเบียน มีการกาหนดกระบวนการและ ขน้ั ตอนในการบรหิ ารกลุ่มงานทะเบียนดังนี้
๑. การวางแผน (Planning)
๒. การจัดองค์กร (Organizing)
๓. การจัดวางตัวบคุ ลากร (Staffing)
๔. การบงั คบั บัญชา (Directing)
๕. การประสานงาน (Co-ordinating)
๖. การรายงาน (Reportting)
๗. การงบประมาณ(Budgeting)
กลมุ่ งานทะเบยี น ได้วางแผนงานไว้ในแผนปฏิบัตกิ าร และแผนปฏิบัติการ/โครงการ/งาน/
กิจกรรม ประจำปีแล้วยังกำหนดบทบาท หนา้ ท่ี ท่ีสนองเจตนารมณ์ พระราชบญัญัติการศกึ ษาแห่งชาติ ไว้ดงั นี้
กลม่ ุ งานทะเบียน
งานทะเบยี น มหี น้าท่ี
-ดำเนนิ การจดัทำทะเบยี นประวัตขิ องนักเรียนในสมดุ ทะเบียนนักเรยี น เม่อื มนี กั เรยี นขอลาออก ระหวางปี
หรอื จบการศึกษาให้ดำเนินการจำหนา่ ยนักเรยี นออกจากทะเบียนนักเรยี นให้เปน็ ปจั จุบันอยู่เสมอ
-จัดทำ สถิตินักเรียนที่มาเรียนรายเดอื น สถิติการศึกษา สถิติการรับ การจำหน่ายนกัเรียนติดตามนกั เรียน
ที่ขาดเรียนนาน เก็บหลกัฐานการติดตามและดำเนินการจำหน่ายออกจากทะเบียนนักเรียนครบถ้วนถูกต้องตาม
ระเบียบ
-ดำเนินงานเกี่ยวกับรับคำร้อง ขอแกไขหลักฐานในทะเบียนนักเรียน เช่น แก้ชื่อ ชื่อสกุล วันเดือน ปี เกิด
หรืออืน่ ๆ และดำเนินการแกไขให้ถูกต้องตามหลักฐานความเป็นจริงทุกครง้ั ที่มกี ารแก้ไขให้นำเสนอ ผอู้ ำนวยการลง
นาม
-ร่วมเป็นกรรมการจดันกัเรียนเขา้แผนการเรียน เป็นกรรมการคดั เลือกนกั เรียน ม.๓ เขา้เรียนต่อ ม.๔
พิจารณาจดันกัเรียนที่ยา้ยสถานศึกษาอื่นเขา้แผนการเรียน และพิจารณาเห็นชอบกบฝ่ายวดั ผลและประเมินผล
การเรียนในกรณีนกั เรียนของเปลย่ี นแผนการสอน
-จดั ทำ และตรวจสอบระเบียบแสดงผลการเรียน (รบ.๑ต,รบ.๑บ-ป,ปพ-๑) ให้ถกู ต้องเป็นปัจจบุ ันอยู่ เสมอ
ออกใบระเบียบแสดงผลการเรียน ให้นักเรียนที่จบการศึกษา หรือนักเรียนที่ประสงค์ขอลาออกโดยดำเนิน ตาม
ระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการประเมินผลการเรียน จัดเก็บหลักฐานตามระเบียบให้เรียนร้อย และ
ปลอดภยั
207
- ออกจดหมายลงทะเบยี นแจ้ง ใหผ้ ู้ ปกครองทราบ และเชิญให้กรณีทต่ี รวจพบว่าผลการเรยี นมปี ัญหา ไมไ่ ด้
แกไ้ ข จะทำให้นักเรียนไมส่ ามารถจบหลักสูตรได้และประสานงานติดตามฝ่ายวดัผลและประเมินผลการ เรียนเพ่ือดำ
เนนิ การให้ เป็นไปตามระเบียบ
-ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรียบแสดงผลการเรยี น (รบ.๑, ปพ.๑) สา หรับนกั เรยี นที่จบการศกึ ษา ในชว่ ง
ชน้ั ท่ี ๓ และ ๔ พรอ้ มท้ังให้คณะกรรมการลงนามรบั รองความถกู ตอ้ งว่าจบหลกั สูตรจรงิ ด้านหลัง ปพ.๑ ทกุ แผน
และผอู้ ำานวยการลงนามใน รบ. ๑-ต, รบ.๑-ป, ปพ.๑)
-จัดทำแบบรายงานผลการเรียนของผู้ที่จบหลักสตู ร ใหเ้ สร็จสิ้นเรียบรอ้ ยภายใน ๓๐ วนั หลงั วนั อนุมตั ิ ผล
การเรยี นตอ่ เขตพื้นท่กี ารศึกษา และเก็บไวท้ โ่ี รงเรยี น
-ดำเนนิ การจัด ทำรายงานขอ้ มูลลงในโปรแกรม SECONDARY ให้ถกู ต้อง สมบูรณ์และเป็นปัจจุบนั
-ดำเนินการเขียนใบประกาศนียบัตร หรือ ปพ.๒ จัดทำ ทะเบียนควบคุมการออกประกาศนียบตั ร หรอื ปพ.
๓ ใหถ้ ูกต้องเรยี บร้อย ควบคุมดูแลการจา่ ยประกาศนยี บตัร
-ดำเนินการในการออกเอกสารรบั รองผลการเรยี น หรือ ปพ.๗ เอกสารรบั รองการเป็นนักเรียน เอกสาร
แสดงผลการเรียนภาษาอังกฤษ และเอกสารรบั รองอ่ืนๆ ที่นกั เรยี นย่นื คำรอ้ งขอ
-ดำเนินการออกใบรับรองผลการเรียน (รบ.๑-ต, ป) , (ปพ.๑-ต,ป) ฉบบั ท่ี ๒ ใหแก้ ผ่ ู้สำเรจ็ การศกึ ษา ตาม
หลกั สตู รมธัยมศกึ ษาตอนต้นและตอนปลายก่อนหลักสตู รการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐานที่ย่นื คำร้องขอ โดย ดำเนนิ การให้
ถกู ต้องตามระเบียบและแนวปฏบิ ัติ
-ดำเนินการใหค้วามร่วมมอื กบสถาบนั การศึกษาอนื่ ๆ ในการตรวจสอบคุณวฒินุ กั เรยี นที่จบการศึกษา ไป
แลว้ และตอ้ งดำเนนิ การตรวจสอบหลักฐานคณุ วุฒนิ กั เรียนใหมท่ ่ีเขา้ เรยี น ให้ความรว่ มมือ การตอบหนังสือ
สอบถามทม่ี ีการสอบถามมาตามระเบียบและแนวปฏิบตั ิของทางราชการ
-ดำเนนิ การเก่ียวกับการรบั คำรอ้ งต่างๆ เชน่ การผอนผั่นการเรียนและการหยุดพกั การเรยี นการ
เปล่ยี นแปลงรายวิชาเรยี น ระเบียบแสดงผลการเรยี นตา่ งๆ ในประกาศนียบัตรแบบรายงานผลการเรยี นของผ้ทู ี่จบ
หลักสูตร แบบ ปพ. ตา่ งๆ และดแู ลรกั ษา พสั ดุครภุ ณั ฑ์ ฯลฯ ใหเป้ ็นระเบียบ เพ่ือสะดวกรวดเรว็ ในการ ดำเนินงาน
และไมส่ ูญหาย
-ดำเนนิ การพิมพใ์บรบั รองผลการเรยี น สำหรับนกั เรยี นที่กำลัง ศกึ ษาอยแู่ ละยงั ไม่จบหลกัสูตร
(รบ.๕, ปพ.๗) จัดเก็บรูปถา่ ยเพอ่ื ทา ใบ รบ.๑-ต, ป, ปพ.๑-ต, ป, และ รบ.๕ , ปพ.๗
-ดำเนินการเทยี บโอนผลการเรยี นนักเรยี นทยี่ า้ ยสถานศึกษาตามหลกัสตู รการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐานและ หลัก
สูตรเดิมกรณีรบั ย้ายนักเรียน ทมี่ ปี ญั หาจากโรงเรียนอ่นื ๆ เม่ือเทียบเรยี บรอ้ ยแล้ว กเ็ สนอแต่งต้ัง คณะกรรมการ
พิจารณาหลักฐานการศึกษา ความรู้ประสบการณ์ ความสามารถ และการปฏบิ ตั จิ รงิ ตาม กฎกระทรวงและระเบียบ
ท่กี ระทรวงศึกษาธิการกำหนด
-ปฎบิ ตั ิงานอ่ืนๆ ที่ได้รบั มอบหมาย
208
-วางแผนการบรหิ ารงานและจดั ทา แผนปฏบิ ตั ิงาน/โครงการ/งาน ปฏิทนิ งานกลุ่มงานทะเบียน
-ปฏบิ ตั ิหนา้ ที่นายทะเบยี นของโรงเรียน
-ตดิ ตามและประเมนิ ผลการปฏบิ ัติงานงานทะเบียน
-ดำเนินการ รับมอบตัว ลงทะเบยี นประวตั นิ กั เรยี น และจำหนา่ ยนกั เรียน
-จัดทำตรวจสอบและออก เอกสารหลัก ฐานทางการศึกษา และใบประกาศนยี บตั ร
-บริการตรวจสอบวุฒิการศึกษา แก้ไขหลกั ฐานต่างๆ และการลาออกของนักเรยี น
-จดั ทำและเก็บรกั ษาเอกสาร หลักฐานทางการศึกษา และงานทะเบียนให้เป็นปจั จบุ ัน
-จดั ทำแบบออร์ม สถิติ ข้อ มูลสารสนเทศงานทะเบียน
-จัดทำระเบยี บ แนวทางปฏบิ ัตเิ ก่ียวกับงานทะเบียน
-วเคิ ราะหง์ าน รวบรวมปัญหา อปุ สรรค ข้อเสนอแนะในการแก้ปัญหา
-วางแผนการบรหิ ารงานวดั ผลและจดั ทำ แผนปฏิบตั ิงาน/โครงการ/งาน ปฏทิ ิน งานวัด และประเมนิ ผล
-ตดิ ตามและประเมินผลการปฏิบัติงานวัดผล
-จัดทำ ระเบยี บการวัด และประเมนิ ผล แนวทางปฏิบัติเกย่ี วกบงานวดัผล
-ดำเนนิ งานพสั ดขุ องงานวดั ผล
-ประสานงานเกี่ยวกบงานวดั ผลกบั เจา้ หนา้ท่วี ดัผลกลมุ่ สาระฯ
-รับผล ตรวจสอบความถกู ตอ้งกบงานคอมพวิ เตอร์และเกั ็บหลกฐั านผลการเรียน
-จัดทำตารางสอนและตารางสอบกลางภาค สอบปลายภาค สอบแก้ตัว
-จดั ทำแบบออร์มงานวดั ผล เอกสารการวดั และประเมนิ ผล
-จัดสอบวดั และประเมินผลใหเ้ปน็ ไปตามระเบยี บการวดั ผลประเมินผล
-วเิ คราะห์งาน รวบรวมปัญหา อุปสรรค ขอ้ เสนอแนะในการแก้ปญั หา
-ปฏิบตั ิหน้าทีอ่ ืน่ ตามที่หวั หน้าฝ่ายวิชาการมอบหมาย ขอบข่ายงานทะเบยี น
๑. งานรบั นกัเรยี นใหม่ การมอบตัว/การตรวจสอบ และจัดเกบ็ เอกสารมอบตวั
๒. งานทะเบยี นประวตั ิของนักเรียน
๓. งานจำหนา่ ยนักเรยี นออกจากทะเบียนนักเรียน
๔. งานสถิติขอ้ มลู พืน้ ฐานของนกั เรียนและจำนวนนกั เรยี น
๕. งานออกเอกสารแสดงผลการเรียนของนักเรียนทจ่ี บการศกึ ษาแลวและที่กำลงั ศึกษา
๖. งานเกบ็ เอกสารแสดงผลการเรียนของนักเรยี นทง้ั หมด
๗. งานตรวจสอบวฒกิุ ารศกึ ษาของนกัเรียนที่หน่วยงานอ่ืนประสานมา
๘. จัดทำ รายงานผลการเรียนเฉลยี่ (GPA )และลำดับ ผลการเรียน (Pr) ของนักเรียนชัน้ มธยั ม
ศึกษาปีที่ ๓ และนกั เรียนชัน้ มธัยมศึกษาปีที่ ๖
209
๙. จัดทำ แบบรายงานผู้สำเร็จการศึกษา
๑๐. ตรวจสอบโปรแกรมการเรยี นและเทียบโอนผลการเรยี นของนกเั รยี นท่ียา้ ยเขา้ เรยี นระหว่างปี
การศึกษา
๑๑. ประสานการประเมินผลการเรยี นและเทยี บโอนผลการเรยี นของนักเรยี นท่ีไปศกึ ษาตอ่ ณ
ต่างประเทศ
๑๒. งานสถิตขิ ้อมลู งานทะเบียน
๑๓. ภาระงานเฉพาะกจิ ทโี่ รงเรียนมอบหมาย
ขอบข่ายงานวัดผล
๑. งานการดแู ลและตรวจสอบการวดัผลและประเมินผลรายวชาิ ต่างๆ
๒. งานการวดัผลระหวางภาค และปลายภาค่
๓. งานลงทะเบยี นการสอบซ่อม
๔. งานการลงทะเบยี นเรยี นซ้ำ
๕. งานตรวจสอบการจบหลกั สตู รของนักเรียน
๖. งานตรวจสอบและตดิ ตามการมาเรียนของนักเรยี น
๗. งานลงทะเบียนเรยี นรายวชิ าของนกั เรียน
๘. งานบนั ทึกขอ้ มลู ผลการเรียนของนักเรยี น
๙. งานสถติ ิข้อมลู ผลการเรยี นงานวดั ผล
๑๐. งานผลติ ข้อสอบวัด ผลและประเมินผล
๑๑. ภาระงานเฉพาะกิจท่ีโรงเรียนมอบหมาย
การติดตอ่ งานทะเบียน
๑. เวลาตดิ ตอ่ งานทะเบียน
สำหรบั นักเรียน พักระดบัช้ันมธยั มศึกษาตอนต้น เวลา ๑๑.๐๐ – ๑๑.๕๐ น.
พกั ระดบั ชั้นมธัยมศกึ ษาตอนปลาย เวลา ๑๑.๕๐ – ๑๒.๔๐ น.
เยน็ หลงั เลิกเรยี น – ๑๖.๓๐ น. สำหรบั ผ้ปู กครอง และ บคุ คลทั่วไป
เวลาราชการ ๐๘.๓๐ – ๑๖.๓๐ น. ยกเวน้ วนั หยดุ ราชการและวนั หยุดนักขัตฤกษ์
๒. การขอเอกสารทางการศึกษา
๒.๑ นกั เรยี นปจั จุบัน
๒.๑.๑ นักเรยี นต้องเขียนคำรอ้ งด้วยตนเองในใบคำร้อง
๒.๑.๒ กรอกข้อมูลด้วยตัวบรรจง และชัดเจน
๒.๑.๓ คำรอ้ งภาษาอังกฤษเขยี นตัวพิมพใ์หญ่ ชอ่ื และนามสกุลเขียนให้ตรงกับ
210
ชอ่ื – นามสกุล ใน Passport
๒.๑.๔ เอกสารท่ีต้องติดรูป ใชรปู้ ถ่ายขาวดา ขนาด ๓ X ๔ เซนตเิ มตร (ไมร่ วมกรอบ)
แตง่ กายถูกต้องตามระเบยี บของโรงเรียน และต้องไมเ่ ปน็ รูปถ่ายโพลารอยดร์ ปู ถา่ ยสติ๊กเกอรห์ รือภาพ สแกน และ
เขียนชอื่ -นามสกุลหลังรปู ถ่ายทกุ ใบ
๒.๑.๕ รับเอกสารหลงั จากยน่ื คำร้องแล้ว ๓ วันทำการ สำหรับนกั เรียนปจั จุบันไมน่ ับวนั หยดุ
ราชการ
๒.๑.๖ นกั เรียนปัจจบุ นั ตอ้ งแตง่ เครื่องแบบนักเรียนเม่ือมาตดิ ตอ่ กบงานทะเบียนวดั ผลทุกครัง้
๒.๑.๗ นกั เรียนทกุ คนควรวางแผนการขอเอกสารทุกประเภทไวล้ ่วงหน้า โดยเฉพาะช่วงปดิ ภาค
เรียน นักเรียนควรทำเร่อื งขอเอกสารล่วงหนา้ มฉิ ะนั้นจะไม่ไดร้ ับความสะดวกเทา่ ท่ีควร
หมายเหตุ : ภาคเรียนที่ ๑ ขอเอกสารภายในวันที่ ๑๐ ตุลาคม ภาคเรยี นท่ี ๒ ขอเอกสารภายในวันที่ ๓่ ๑ มนี าคม
๒.๒ สำหรับศษิ ย์เกา่
๒.๒.๑ เขยี นคำรอ้ งขอเอกสารท่หี อ้ งทะเบียน
๒.๒.๒ ตอ้ งแตง่ กายสภุ าพ
๒.๒.๓ ถา้ ตอง้ การขอเอกสารการจบการศึกษา ใหป้ฏิบตั ิดังต่อไปน้ี ศิษย์เกา่ ทีใ่ ช้ ใบ รบ.
เอกสารหลัก ฐานที่ต้องเตรียม
๑. รูปถา่ ยขนาด ๒ น้ิว จำนวน ๒ รูป ใสเ่ สอ้ื เชติ้ สีขาว ไม่ติดเคร่ืองหมายใดๆ และถา่ ยไม่เกิน ๖
เดอื น
๒. ใบแจง้ ความเอกสารหาย แตถ่ า้ เอกสารชำรุดให้นำมาแสดงโรงเรยี นจะออกเอกสารใหม่
ให้รับเอกสารทขี่ อไว้ไดภ้ ายใน ๗ วันทำการ
ศษิ ยเ์ ก่าทีใ่ ช้ ใบ ปพ. เอกสารหลกฐั านท่ตี ้องเตรยี ม
๑. รูปถา่ ยขนาด ๓ X ๔ จา นวน ๒ รปู ใส่เสือ้ เช้ิตสีขาว ไมต่ ดิ เครอ่ื งหมายใดๆ และถ่ายไม่เกนิ ๖
เดอื น
๒. ใบแจ้งความเอกสารหาย แต่ถ้าเอกสารชำรดุ ใหน้ ำมาแสดงโรงเรียนจะออกเอกสารใหม่
ใหร้ บั เอกสารทข่ี อไว้ไดภ้ ายใน ๗ วนั ทำการ
๒.๒.๔ ศษิ ยเ์ก่ามารับเอกสารไดภ้ายใน ๗ วนั ทำการ ไม่นับวนั หยดุ ราชการ
๓. ระหว่างปิดภาคเรียน
211
๓.๑ นกั เรยี นปจั จุบันต้องแต่งเครอ่ื งแบบนกเั รียนทุกคร้ังทมี่ าตดิ ตอ่ งานทะเบยี น
๓.๒ นกั เรยี นชัน้ ม.๓ และ ม. ๖ ต้องแตง่ เครื่องแบบนกั เรยี นเมื่อมาตดิ ตอ่ งานทะเบียน
จนถงึ วนั ท่ี ๑๕ พฤษภาคม หลงั จากนัน้ แตง่ กายสุภาพ
ระเบียบว่าดว้ ยการเปลยี่นแปลงหลักฐาน
นกั เรยี นคนใดมีความประสงค์จะขอเปล่ียนแปลงหลักฐานในทะเบยี นนักเรียนได้แก่ ช่อื -ช่อื สกลุ ของตนเอง บิดา
หรือมารดา ใหป้ฏบิ ัตดิ งัน้ี
๑. ย่ืนคำรอ้ งขอเปล่ียนแปลงหลกั ฐานทง่ี านทะเบยี นวดั ผล ห้องทะเบยี นวัดผล โดยแนบหลกั ฐาน
ดงั ต่อไปนี้
๑.๑ ใบสำคญั การเปล่ยี นชื่อหรอื ชือ่ สกุล พร้อมรับรองสา เนาถูกตอ้ ง
๑.๒ สำเนาทะเบยี นบ้านท่ีเจาห้ น้าท่ีทะเบยี นราษฎร์ได้แกไ้ ขขอ้ มูลชอ่ื -ชื่อสกลุ เรยี บร้อยแล้ว
พร้อมรบั รองสำเนาถกู ต้อง
๒. เมอ่ื ยน่คื ำรอ้ งแล้วเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบหลกั ฐานแลว้ คนื ฉบับจรงิ ใหท้ ั้งหมดจึงจะถอื วาการยื่น
คำรอ้ งนนั้ เสรจ็ สมบรู ณ์
๓. ในกรณนี ักเรียน ม. ๖ ใหด้ ำเนนิ การขอเปลย่ี นแปลงหลักฐานใหเ้ สรจ็ สนิ้ ภายใน ๓๐ มถิ ุนายน
เน่ืองจากโรงเรยี นจะตอ้ งสง่ รายชื่อนักเรียนไปยังสำนกั งานทดสอบการศกึ ษาแหง่ ชาติ (สทศ) เพ่ือใชใ้ นการสอบ O-
NET
คำช้แี จงสำหรบั นักเรียนทเ่ี ขา้ ร่วมโครงการแลกเปลี่ยน การลาพัก
๑. ต้องมหี นงั สือจากโครงการแจง้ ทางโรงเรยี นวา่ นกั เรยี นสอบได้และเข้าร่วมโครงการ
๔. ตอ้ งมีหนงั สอื ขออนุญาตพกั การเรียนจากโครงการ นักเรยี นต้องนำหนงั สือดงั กล่าวส่งที่งานสารบรรณ
กลมุ่ บริหารทวั่ ไปก่อนที่จะนำไปส่งที่สำนกั งานผ้อู านวยการ
๓. นกั เรยี นตอ้ งทำเร่ืองขออนุญาตเข้ารว่ มโครงการเปน็ ภาษาองักฤษ
๔. ผูป้ กครองพร้อมทัง้ นักเรยี นต้องมาทำ เร่ืองขออนุญาตลาพกั การเรยี นท่หี ้อง ทะเบยี นวัดผล
๕. กรณเี ป็นนักศึกษาวชิ าทหาร ต้องทำเรื่องแจ้งเพื่อขออนุญาตลาพัก การเรียนวิชารกั ษาดินแดน (รด.)
ด้วย
๖. เมือ่ นกั เรยี นทำเรื่องลาพักการเรยี นเรยี บร้อยแลว้ ต้องนำเอกสารไปแจง้ ครูท่ีปรึกษา ๑ ฉบับ และนำ
กลบั มาคืนทห่ี ้องวดั ผล ๑ ฉบับ กอ่ นท่นี ักเรยี นจะหยดเุ รียน
๗. นกั เรียนเกบ็ แบบรายงานผลพฒั นาคุณภาพผู้รียนรายบคุ คล (ปพ.๖) ไว้ที่ห้องทะเบยี นวดั ผล
๘. ผ้ปู กครองต้องแจ้งงานทะเบยี นวา่ นกั เรียนจะเรียนซ้ำชัน้ หรือไม่ซ้ำชัน้
หมายเหตุ : การลงทะเบยี นเรียน สำหรบั นักเรยี นท่ลี าพัก การเรยี นปี การศึกษาตอ่ ไป ใหม้ าลงทะเบียนเรียน ใน
วนั ทป่ี ระชมุ ผ้ปู กครองตามระดบั ช้นั ของนักเรยี นประมาณต้น เดือนพฤษภาคม
212
การกลบั เขา้ เรยี น
๑. นักเรยี นตอ้ งนำหนังสือส่งตวั กลับเขา้ เรยี นจากโครงการมาแจ้งที่หอ้ งทะเบียนวดั ผล ก่อนนำ
สง่ สำนกั งานผู้อำนวยการ
๒. นกั เรียนต้องมีเอกสาร เช่น ใบรายงานผลการเรียน หรอื Transcript ท่ีมกี าร ลงนามของผูม้ ี
อำนาจจากโรงเรยี นท่ีไปเรียนต่อ มามอบใหห้องทะเบยี นวดั ผลเพื่อเป็นหลักฐาน ในการเทียบโอนผลการเรยี น
๓. นกั เรียนต้องนำหนงั สือแจง้ การกลับเขา้ เรียนจากงานทะเบยี น ไปรายงานตวั ครทู ีป่ รึกษา ๑
ฉบับ และนำกลบั มาคืนห้องวัดผล ๑ ฉบบัและนักเรียนต้องรายงานตัวกบครผู ู้สอนวชาิ ตา่ งๆ ดว้ ยตนเอง
การเทียบโอนผลการเรยี น
๑. ถ้านักเรียนเรยี นซ้ำช้นั เดิม นักเรยี นสามารถใชค้ ะแนน Formative I และ Summative
เดิมได้ และสามารถกลบั เข้า เรียนหลังการสอบ Summative เสรจ็ สิ้นแลว้ ได้ ถ้าจะสอบให้มนี ักเรียนตอ้ งยกเลิก
คะแนน Formative I และ Summative เกา่ ทง้ั หมด
๒. ถ้านักเรยี นโอนผลการเรยี น ๑ ปกี ารศกึ ษา เชน่ นกั เรียนไปขณะทีเ่ รียนช้ัน ม.๕ และกลับ
มาปี การศึกษาต่อไปนักเรียนสามารถเลื่อนช้นั เรยี นข้นึ ม.๖ ได้ แตน่ ักเรียน จะตอ้งมีใบรายงานผลการเรยี น หรือ
Transcript จากต่างประเทศมาแสดงต่อนายทะเบียน จงึ จะไดร้ ับการพจิ ารณาเทยี บโอนทั้งน้คี วรเป็นรายวชิา ที่
สอดคลอ้งกับแผนการเรียนของ นกั เรยี นดว้ ย
๓. ในกรณนี กัเรียนชน้ั ม. ๖ เข้ารว่ มโครงการแลกเปลย่ี น นักเรียนตอ้ งกลับมา เรยี นช้นั ม.๖
โดยที่นกั เรียนสามารถโอนผลการเรียนภาคเรียนที่ ๑ ได ้๑ ภาคเรยี นและกลับ มาเรยี น ม. ๖ ในภาคเรยี นท่ี ๒ นัก
เรยี นต้องแจ้ง ให้ทางโรงเรียนทราบดว้ ยวา่ นักเรยี นจะกลบั มาเรียนในภาคเรยี นใด การเทียบโอนผลการเรยี น จะดำ
เนนิ การใหเ้ฉพาะโครงการแลกเปล่ยี นทกี่ ระทรวงศึกษาธกิ ารรบั รองเท่าน้ัน
**************************************************
213
ภาคผนวก
เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษา
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน ๒๕๕๑
เอกสารหลักฐานการศึกษาถือเป็นเอกสารสำคัญที่สถานศึกษาต้องจัดทำขึ้นเพื่อใช้ในการดำเนินงาน
ในด้านต่าง ๆ ของการจดั การศึกษา ดงั น้ี
- บันทึกข้อมูลในการดำเนินการจัดการเรียนการสอนและประเมินผลการเรียน ได้แก่
แบบบันทึกผลการเรยี นประจำรายวิชา
- ติดต่อสื่อสาร รายงานข้อมูล และผลการเรียนของผู้เรียน ได้แก่ แบบรายงานประจำตัวนักเรียน
ระเบยี นสะสม
- จัดทำและออกหลักฐานแสดงวุฒิและหรือรับรองผลการเรียนของผู้เรียน ได้แก่ ระเบียนแสดงผลการ
เรียน ประกาศนียบัตร แบบรายงานผ้สู ำเรจ็ การศึกษา และใบรับรองผลการเรียน
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ กำหนดเอกสารหลักฐานการศึกษาท่ี
สถานศึกษาจะตอ้ งดำเนนิ การเป็น 2 ประเภทได้แก่
- เอกสารหลักฐานการศกึ ษาท่กี ระทรวงศกึ ษาธิการกำหนด
- เอกสารหลักฐานการศึกษาทสี่ ถานศกึ ษากำหนด
เอกสารแตล่ ะประเภทมีวตั ถปุ ระสงคแ์ ละรายละเอยี ดในการดำเนนิ การ ดังน้ี
เอกสารหลกั ฐานการศึกษาท่กี ระทรวงศึกษาธิการกำหนด
๑. ระเบยี นแสดงผลการเรยี น (ปพ.๑)
เป็นเอกสารสำหรับบันทึกข้อมูลผลการเรียนของผู้เรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ได้แก่ ผลการเรียนตามกลุ่มสาระการเรยี นรู้ ผลการประเมนิ การอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน
ผลการประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ และผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผ้เู รียน สถานศึกษาจะต้องจดั ทำและ
ออกเอกสารนีใ้ ห้ผ้เู รียนเป็นรายบุคคล เม่ือผเู้ รียนจบการศึกษาแตล่ ะระดับ หรือเมือ่ ผ้เู รียนออกจากสถานศึกษเพื่อ
ใช้แสดงผลการเรียนหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ และใช้เป็นหลักฐานแสดงวุฒิ
การศึกษาเพ่ือสมัครเข้าศึกษาต่อ สมคั รงานหรอื ขอรับสิทธปิ ระโยชน์อน่ื ใดท่ีพึงมพี ึงได้ตามวฒุ ิการศึกษานนั้
๒. ประกาศนยี บัตร (ปพ.๒)
214
เปน็ เอกสารแสดงวฒุ ิการศึกษาทมี่ อบใหแ้ ก่ผ้จู บการศึกษาภาคบังคับและผู้สำเร็จการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ เพ่ือประกาศและรบั รองวุฒิการศึกษาของผู้สำเร็จ
การศกึ ษาตามวุฒแิ ห่งประกาศนียบัตรนั้น ประกาศนยี บตั รสามารถนำไปใชป้ ระโยชน์ดงั นี้
- ใชเ้ ปน็ หลกั ฐานแสดงวุฒกิ ารศกึ ษา เพ่อื สมัครเขา้ ศึกษาต่อ สมคั รงานหรอื ขอรบั สิทธปิ ระโยชน์อ่ืน
ใดท่พี งึ มพี งึ ได้ตามวุฒกิ ารศึกษาแหง่ ประกาศนียบัตรนน้ั
- ตรวจสอบวฒุ ทิ างการศกึ ษาของผเู้ รียน
๓. แบบรายงานผ้สู ำเร็จการศึกษา (ปพ.๓)
เปน็ เอกสารสำหรบั อนุมตั ิการจบหลักสตู รของผเู้ รยี นในแต่ละรุ่นการศึกษา โดยบันทึกรายชือ่ และข้อมลู
ทางการศึกษาของผจู้ บการศึกษาระดบั ประถมศึกษา (ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๖) ผ้จู บการศึกษาภาคบังคบั (ช้มั ธั ยม
ศึกษาปีท่ี ๓) และผูจ้ บการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน (ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ ๖) แบบรายงานผ้สู ำเร็จการศกึ ษา (ปพ.๓) จัดทำ
เพ่อื
- ผ้บู รหิ ารสถานศึกษา อนุมัติการจบการศึกษาระดบั ประถมศึกษา การศึกษาภาคบงั คับ และ
การศึกษาข้ันพืน้ ฐานของผูเ้ รยี น
- แสดงรายชอื่ ผู้จบการศึกษาระดบั ประถมศึกษา การศึกษาภาคบังคบั และการศึกษา
ข้นั พน้ื ฐานท่ีได้รับการรบั รองวุฒจิ ากกระทรวงศึกษาธิการ
- เปน็ หลกั ฐานในการตรวจสอบ และรบั รองวุฒิหรือผลการศึกษาของผู้สำเร็จการศึกษาตามหลักสตู ร
การศึกษาน้ันๆ
เอกสารหลักฐานการศกึ ษาท่ีสถานศกึ ษากำหนด
ในการจัดการศึกษาสถานศึกษาจำเป็นต้องมีข้อมูลเกี่ยวกับผู้เรียนในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูล
ด้านความก้าวหน้าในการเรียนรู้ สถานศกึ ษาจึงต้องมีเอกสารที่จัดทำขนึ้ เพ่ือบันทึกผลการประเมินและข้อมูลต่าง ๆ
เกี่ยวกับผู้เรียน เอกสารเหล่านี้ ได้แก่ แบบบันทึกผลการเรียนประจำรายวิชา แบบรายงานประจำตัวนักเรียน
ระเบียนสะสม ใบรับรองผลการเรยี น และเอกสารอ่ืนๆ ตามท่ีสถานศึกษาเห็นสมควร
๑. แบบบนั ทกึ ผลการเรียนประจำรายวิชา
เป็นเอกสารท่ีสถานศึกษาจัดทำขึน้ เพื่อให้ผู้สอนใช้บันทึกข้อมูลการวดั และการประเมินผลการเรยี น
ตามแผนการจดั การเรียนการสอนและประเมนิ ผลการเรียน และใช้เปน็ ขอ้ มลู ในการพจิ ารณาตัดสนิ ผลการเรียนแต่
ละรายวชิ า เอกสารนีค้ วรจัดทำเพ่อื บนั ทกึ ข้อมลู ของผู้เรียนเปน็ รายห้อง
เอกสารบันทึกผลการเรียนประจำรายวชิ า นำไปใชป้ ระโยชนด์ งั นี้
- ใช้เป็นเอกสารเพ่ือการดำเนินงานของผสู้ อนแตล่ ะคนในการวัดและประเมนิ ผลการเรยี นของผู้เรียน
แตล่ ะรายวชิ า รายห้อง
215
- ใช้เป็นหลักฐานสำหรับตรวจสอบ รายงาน และรับรองข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการและกระบวนการวดั
และประเมินผลการเรียน
- เปน็ เอกสารทผ่ี ู้บริหารสถานศึกษาใช้ในการอนมุ ัติผลการเรียนประจำภาคเรียน / ปีการศึกษา
๒. แบบรายงานประจำตัวนักเรียน
เป็นเอกสารที่สถานศึกษาจัดทำขึ้นเพื่อบันทึกข้อมูลการประเมินผลการเรียนรู้ และพัฒนาการด้าน
ต่าง ๆ ของผู้เรียนแต่ละคนตามเกณฑ์การตัดสินการผ่านระดับชั้นของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
รวมทั้งข้อมูลด้านอื่นๆ ของผู้เรียนท้ังท่ีบ้านและโรงเรียน เป็นเอกสารรายบุคคล สำหรับส่ือสารให้ผู้ปกครองของ
ผเู้ รยี นแต่ละคนได้รบั ทราบผลการเรียนและพัฒนาการด้านต่าง ๆ ของผ้เู รยี นและร่วมมือในการพัฒนาผู้เรียนอย่าง
ตอ่ เน่อื ง
๓. ใบรบั รองผลการเรียน
เป็นเอกสารที่สถานศึกษาจัดทำขึ้นเพื่อรับรองสถานภาพความเป็นผู้เรียนใน สถานศึกษาท่ีกำลังศึกษา
อยู่หรือรับรองผลการเรียนหรือวุฒิของผู้เรียนเป็นการชั่วคราวตามที่ผู้เรียนร้องขอ ทั้งกรณีที่ผู้เรียนกำลังศึกษาอยู่ใน
โรงเรียนหรอื เม่อื จบการศึกษาไปแลว้ แต่กำลังรอรับหลักฐานการศกึ ษาระเบียนแสดงผลการเรียน เป็นต้น
ใบรับรองผลการเรียนมีอายุการใช้งานชั่วคราว โดยปกติประมาณ ๓๐ วัน ซึ่งผู้เรียนสามารถนำไปใช้
เป็นหลักฐานแสดงคุณสมบัติของผู้เรียนในการสมัครเข้าศึกษาต่อ สมัครเข้าทำงาน หรือเมื่อมีกรณีอื่นใดที่ผู้เรียน
แสดงคุณสมบัตเิ กย่ี วกบั วฒุ คิ วามรู้ หรอื สถานภาพการเป็นผ้เู รียนของตน
๔. ระเบียนสะสม
เปน็ เอกสารท่สี ถานศึกษาจัดทำขึ้นเพื่อบนั ทึกข้อมูลเกีย่ วกับพัฒนาการของผู้เรยี นในดา้ นต่าง ๆ เปน็
รายบุคคลอย่างต่อเนือ่ ง ตลอดชว่ งระยะเวลาการศึกษาตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน ๑๒ ปี
ระเบยี นสะสมให้ขอ้ มลู ที่เปน็ ประโยชนใ์ นการแนะแนวทางการศกึ ษาและการประกอบอาชพี ของผู้เรียน การพฒั นา
ปรบั ปรุงบุคลกิ ภาพ การปรับตัวของผ้เู รียน และผลการเรียน ตลอดจนรายงานกระบวนการพัฒนาคุณภาพของ
ผ้เู รียนระหว่างสถานศึกษากับบ้าน และใช้เป็นหลักฐานในการตรวจสอบคณุ สมบตั ิของผู้เรียนตามความเหมาะสม
216
ระเบยี นแสดงผลการเรยี น
(ปพ.๑)
แนวปฏบิ ัตใิ นการจดั ทำระเบยี นแสดงผลการเรียน (ปพ.๑)
ระเบียนแสดงผลการเรียน (ปพ.๑) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
เป็นหลักฐานแสดงผลการเรียนของผู้เรยี นท่ีเรียนหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพื้นฐานแต่ละระดับชั้น โรงเรียน
ต้องออกระเบียนแสดงผลการเรียนหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานให้ผู้เรียน ทุกคนที่จบการศึกษาแต่ละ
ระดบั ชั้นหรอื เม่ือออกจากสถานศึกษา โดยใชแ้ บบพมิ พ์ที่กระทรวงศึกษาธิการจดั พมิ พ์เท่านน้ั
รูปแบบของระเบยี นแสดงผลการเรยี น (ปพ.๑)
๑. ระเบยี นแสดงผลการเรยี น (ปพ.๑) จำแนกเปน็ ๓ แบบ คือ
๑.๑ ระเบยี นแสดงผลการเรียนหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน ระดับประถมศึกษา (ปพ.๑:
ป)
๑.๒ ระเบียนแสดงผลการเรยี นหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น
(ปพ.๑ : บ)
๑.๓ ระเบียนแสดงผลการเรียนหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
(ปพ.๑ : พ)
๒. ระเบียนแสดงผลการเรียน (ปพ.๑) ทกุ ระดับมี ๒ ลกั ษณะ คือ
๒.๑ แบบพิมพ์ปกติ มลี ักษณะเป็นแบบพมิ พ์สมบูรณค์ รบถว้ น สำหรับใชก้ รอกขอ้ มูลดว้ ยการเขียน
หรือพิมพด์ ีด
๒.๒ แบบพิมพ์สำหรบั พมิ พ์ด้วยคอมพวิ เตอร์ มลี ักษณะเป็นกระดาษวา่ ง มีข้อมูลเฉพาะชอื่ เอกสาร
แตล่ ะระดับ และหมายเลขควบคมุ เอกสารเทา่ น้ัน
การออกเอกสารระเบยี นแสดงผลการเรยี น (ปพ.๑) ให้ผูเ้ รียน ใหจ้ ัดทำดังนี้
๑. ให้จัดทำเอกสารคู่ฉบับของเอกสารต้นฉบับขึ้น ๒ ฉบับ โดยใช้วิธีการถ่ายสำเนาจากตน้ ฉบับ หรือ
นำแบบพิมพเ์ อกสารที่ใชจ้ ัดทำตน้ ฉบับมาคัดลอกข้อมูลจากต้นฉบบั ก็ได้ (กรณีนใี้ หน้ ำเลขชุดที.่ ..........เลขที่............
ของเอกสารต้นฉบับไปกรอกที่ช่องหมายเหตุของเอกสารที่ลอกใหม่ทั้ง ๒ ฉบับ โดยกรอกว่า เอกสารฉบับนี้เป็น
เอกสารคฉู่ บับของเอกสารตน้ ฉบบั ชดุ ที่...........เลขที.่ ..............)
๒. ตดิ รูปถา่ ยของผ้เู รียนขนาด ๓ x ๔ ซม. ในช่องตดิ รูปถา่ ย ใหน้ ายทะเบียนและผู้บรหิ ารสถานศึกษา
ลงนามในเอกสารที่จัดทำขึ้นใหม่ทั้ง ๒ ฉบับ พร้อมกับกรอกวันที่ เดือน พ.ศ. ที่ลงนามใน เอกสาร แล้ว
217
ประทบั ตราโรงเรียน (สแี ดงชาด) ทร่ี ูปถ่ายของผู้เรยี นและท่ีลายเซ็นของผู้บรหิ ารสถานศึกษา โรงเรียนมอบเอกสารท่ี
จัดทำขึน้ ให้ผูเ้ รยี น ๑ ฉบบั และเกบ็ รกั ษาไวเ้ ปน็ สำเนารวมกับตน้ ฉบบั ทีโ่ รงเรียน ๑ ฉบบั
๓. ผู้เรยี นท่ีไดร้ ับเอกสารระเบียนแสดงผลการเรียน (ปพ.๑) ไปแล้ว เมอื่ มีความจำเปน็ ต้องขอฉบับใหม่
ใหย้ น่ื คำขอร้องขอเอกสารฉบับใหม่พร้อมด้วยเหตผุ ลในการขอเอกสารเปน็ ลายลักษณ์อักษร ให้โรงเรยี นดำเนินการ
ออกเอกสารใหม่จากต้นฉบับเดิมที่จัดทำไว้ตามวิธีข้างต้น และให้นายทะเบียนและผู้บริหารสถานศึกษาที่ดำรง
ตำแหนง่ ขณะท่ผี เู้ รียนยนื่ คำร้องขอเอกสาร เป็นผลู้ งนามในเอกสารทจ่ี ัดทำใหมท่ ้ัง ๒ ฉบับ
๔. วิธีการออกเอกสารระเบียนแสดงผลการเรียนของระดับชั้นประถมศึกษามีแนวปฏิบัติในการออก
เอกสารเช่นเดียวกับระดับชั้นมัธยมศึกษาทุกประการ และสถานศึกษาต้องทำบัญชีจ่ายแบบระเบียน แสดงผลการ
เรียนหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน (ปพ.๑) ในทุกกรณี และบันทึกในสมุดจดหมายเหตุรายวันของ
สถานศกึ ษาทุกครั้งทมี่ ีการออกเอกสาร
การยกเลิกระเบยี นแสดงผลการเรยี นกรณีสญู หายหรือเสียหาย
เนื่องจากระเบียนแสดงผลการเรียน (ปพ.๑) เป็นเอกสารหลักฐานสำคัญที่กระทรวงศึกษาธิการจะต้อง
ดำเนนิ การควบคมุ ดงั นน้ั ถา้ ระเบยี นแสดงผลการเรยี น (ปพ.๑) เกดิ การสญู หายหรือเสียหาย จะต้องดำเนินการ
สอบสวนและประกาศยกเลิกแบบพมิ พ์ทส่ี ูญหายหรือเสียหาย พร้อมทั้งแจง้ ใหห้ นว่ ยงานที่เก่ยี วข้องทราบ
กรณีท่ีแบบพมิ พเ์ กิดการสญู หายทงั้ เมื่อขณะทำการขนสง่ และเก็บรักษาอย่ทู ี่โรงเรียน
ให้ผู้ทำให้เกิดการสูญหาย ได้แก่ โรงเรียน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือหน่วยงานที่จัดส่ง
ดำเนนิ การดังตอ่ ไปนี้
๑. ผู้ทำให้เกิดการสูญหายแจ้งความเอกสารสูญหายต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อลงบันทึกรายงานประจำวัน
รบั แจง้ เอกสารหาย แล้วเกบ็ ใบแจ้งความไวเ้ ป็นหลกั ฐาน
๒. ทำรายงานขอยกเลิกแบบพิมพ์ ปพ.๑ ฉบับที่สูญหาย (พร้อมแนบสำเนาเอกสารลงบันทึกรายงาน
ประจำวันด้วย) ต่อสำนักงานเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษาท่สี งั กดั โดยด่วน
๓. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง แล้วทำรายงานเพือ่ ขอยกเลิกแบบพิมพ์
พร้อมแนบร่างประกาศยกเลิกแบบพิมพ์ โดยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาส่วนกลางต้องรายงานเลขาธิการ
คณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน และสำนกั งานเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษาส่วนภูมภิ าค รายงานผู้ว่าราชการจังหวดั
๔. เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือผู้ว่าราชการจังหวัด เมื่อได้รับรายงานแล้วให้ทำ
การสอบสวนโรงเรยี นให้ได้ความจริงอีกครง้ั หนึ่งก่อนลงนามในประกาศยกเลกิ แบบพิมพ์ เมือ่ มกี ารลงนามเรียบร้อย
แลว้ ให้สำนกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษา และโรงเรียนดำเนินการแจ้งประกาศยกเลิก ถึงกระทรวงทุกกระทรวง ผู้ว่า
ราชการจังหวัดทุกจังหวัด และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ เพื่อแจ้งหน่วยงานในสังกัดไม่ให้รับ
พิจารณาเอกสาร ปพ.๑ ทถี่ ูกยกเลิกต่อไป
218
กรณที ่แี บบพิมพ์เกดิ การเสยี หายเนื่องจากเขียนผดิ พลาด สกปรก หรือเกดิ การชำรุดเสยี หายดว้ ยเหตุ
อืน่ ใดจนไม่อาจใชก้ ารได้
ให้โรงเรียนท่ที ำใหเ้ กดิ การเสยี หาย ดำเนินการดงั น้ี
๑. โรงเรียนทำรายงานขอยกเลิกแบบพิมพ์ ปพ.๑ โดยระบสุ าเหตุ เลขท่ี และจำนวนแบบพิมพ์ที่เสียหาย
เสนอสำนกั งานเขตพืน้ ที่การศกึ ษาต้นสังกัด
๒. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการสอบสวน (กรณีแบบพิมพ์มีความ
เสียหายเพียงเล็กน้อย สามารถทำเครื่องหมายขีดฆ่าและเขียนข้อมูลที่ถูกต้อง โดยลงลายมือชื่อ
นายทะเบียนกำกับได้อาจไม่ต้องประกาศยกเลิก ท้ังนี้ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของคณะกรรมการดำเนินการสอบสวน)
หากคณะกรรมการเหน็ ควรประกาศยกเลกิ แบบพิมพ์
ให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทำรายงานขอยกเลิกแบบพิมพ์ ปพ.๑ ฉบับที่เสียหาย ส่วนกลาง
รายงานเลขาธิการคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน ส่วนภูมภิ าครายงานผู้ว่าราชการจังหวัดพรอ้ มแนบประกาศ
ยกเลิกแบบพิมพ์เพื่อให้ลงนาม ทั้งนี้ผู้มีอำนาจลงนามสามารถแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนไปตรวจสอบอีกครั้ง
เปน็ รายกรณีได้
๓. เมื่อผู้มีอำนาจลงนามในประกาศยกเลิกแบบพิมพ์เรียบร้อยแล้ว ให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา/
โรงเรียน ดำเนินการแจง้ ประกาศยกเลกิ ถึงกระทรวงทกุ กระทรวง ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั ทุกจังหวดั และสำนักงานเขต
พน้ื ท่ีการศึกษาทกุ เขต เพื่อแจง้ หนว่ ยงานในสงั กดั ไม่ให้รับพจิ ารณาระเบียนแสดงผลการเรยี น (ปพ.๑) ที่ถูกยกเลิก
ตอ่ ไป
ระเบยี นแสดงผลการเรยี นหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน
ระดับประถมศึกษา (ปพ.๑ : ป)
และคำอธิบายการกรอกระเบยี นแสดงผลการเรียน
219
ระเบียนแสดงผลการเรียนหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ระดับประถมศึกษา (ปพ.๑ : ป) ประกอบด้วย
ข้อมูลตอ่ ไปนี้
ด้านหน้า ระเ บยี นแสดงผลการเรยี นหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน ระดบั ประถม ศกึ ษา
ปพ.1:ป ชดุ ที่ เลขท่ี
โรงเรยี น ชอื่ 3x43x4ซซมม..
สงั กัด
ตำบล/แขวง ชอ่ื สกุล พ. ศ. ขอ้ มลู โรงเรยี นและผเู้ รยี น
ศำ สนำ
อำเภอ/ เขต เลขประจำตัวนักเรยี น
จงั หวัด
สำนักงำนเขตพนื้ ทกี่ ำรศกึ ษ ำ เลขประจำ ตัวประชำ ชน
วนั เขำ้ เรยี น
โรงเรยี นเดมิ เกดิ วนั ที่ เดอื น
จงั หวัด เพศ สัญชำต ิ
ชนั้ เรยี นสดุ ทำ้ ย
ชอื่ -ชอ่ื สกุลบดิ ำ
ชอ่ื -ชอ่ื สกุลมำรดำ
ผลกำรเรยี นรำยวชิ ำ
เวลำ
(ช่ัวโมง)
ผลกำรเรียน
เวลำ
(ชั่วโมง)
ผลกำรเรียน
เวลำ
(ช่ัวโมง)
ผลกำรเรียน
รหั ส/รำยวิชำ รหั ส/รำย วชิ ำ รหั ส/รำยวิชำ
ผลการเรียนรายวชิ า
( )
นำย ทะเบ ี ยน
ดา้ นหลัง ผลการประเมิน
กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน
ผลการประเมิน
ระดบั ชาติ สรุปผล/ตดั สนิ /อนมุ ตั ิ
ผลการประเมนิ
คาอธิบายเกณฑก์ าร
ประเมนิ
ขอ3xง4สถซามน. ศกึ ษา
220
221
222
คำอธบิ ายการกรอกระเบยี นแสดงผลการเรียน ระดบั ประถมศกึ ษา (ปพ.๑ : ป)
การกรอกข้อมูลในระเบยี นแสดงผลการเรียน ระดับประถมศึกษา ใหก้ รอกข้อมลู ต่าง ๆ ด้วยวิธีการเขียน
หรือพิมพ์ด้วยพิมพ์ดีดหรือคอมพิวเตอร์อย่างใดอย่างหนึ่ง เมื่อเลือกใช้วิธีการใดแล้วให้ใช้วิธีการนั้นตลอดทั้งแผ่น
โดยใหก้ รอกหมึกสีดำหรือสีน้ำเงินเท่านั้น ตัวเลขทีก่ รอกใช้ตวั เลขฮินดูอารบิกเท่าน้ัน ห้ามลบ หรือขูดข้อมูลท่ีกรอก
ไปแล้ว กรณีเขียนผิดหรือต้องการเปลี่ยนแปลงข้อมูล ให้ขีดฆ่าข้อความที่เขียนผิดหรือข้อความที่ต้องการ
เปลี่ยนแปลง แล้วเขียนข้อความที่ถูกต้องหรือข้อความที่ต้องการไว้ข้างบนและให้นายทะเบียนลงนามกำกับไว้
วธิ ีการกรอกข้อมูลมรี ายละเอยี ดดังตอ่ ไปนี้
๑. ขอ้ มลู โรงเรียนและผเู้ รยี น
โรงเรียน ใหก้ รอกชอ่ื เตม็ ของโรงเรียนอยา่ งชดั เจน
สังกัด ให้กรอกชื่อหน่วยงานต้นสังกัดของโรงเรียนระดับกรมหรือหน่วยงานจัดการศึกษาตามการปกครองรูปแบบ
พิเศษ เช่น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา สำนักงาน
พระพุทธศาสนาแห่งชาติ สำนักบริหารงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น สำนัก
การศกึ ษากรุงเทพมหานคร และสำนกั การศกึ ษาเมอื งพัทยา ฯลฯ
ตำบล/แขวง,เขต/อำเภอ,จังหวดั ให้กรอกชือ่ เต็มของสถานทีอ่ ันเปน็ ที่ตั้งของโรงเรียนอย่างชดั เจน
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ให้โรงเรียนทุกสังกัดกรอกชื่อสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่โรงเรียน
ต้งั อยู่
วนั เข้าเรยี น ให้กรอกเลขวนั ท่ี ชอ่ื เดอื น และเลข พ.ศ. ทโี่ รงเรียนรบั ผู้เรยี นเข้าเรียนตามวันรับเข้า
ในทะเบยี นนกั เรียน เช่น ๑๒ มนี าคม ๒๕๕๒
โรงเรียนเดิม ให้กรอกชื่อโรงเรียน/สถานศึกษาเดิมของผู้เรียน ตามที่ระบุในหลักฐานการศึกษาของ
ผ้เู รยี นท่ีนำมาใช้สมัครเข้าเรยี น
กรณีที่ ๑ กรณีผู้เรียนเข้าโรงเรียนโดยไม่เคยเรียนในสถานศึกษาใดมาก่อน ไม่ต้องกรอกช่ือ
โรงเรียนเดิม ใหข้ ดี ดว้ ยเครือ่ งหมาย “ – ”
กรณีที่ ๒ กรณีผู้เรียนเคยศึกษาอยู่ในโรงเรียนอื่นๆ มาก่อนให้กรอกชื่อโรงเรียนลำดับสุดท้ายที่
ผเู้ รยี นลาออก ตามหลกั ฐานระเบยี นแสดงผลการเรียน (ปพ.๑) ท่ีนำมาแสดง
กรณีที่ ๓ ผู้เรียนศึกษาจากต่างรูปแบบ ถ้าศึกษาจากสถานศึกษานอกระบบ ให้กรอกชื่อ
สถานศกึ ษานอกระบบที่เรยี น และถา้ ผูเ้ รียนศึกษาตามอัธยาศยั ใหก้ รอก “ศกึ ษาตามอธั ยาศยั ”
จังหวัด ให้กรอกชื่อจังหวัดที่ตั้งของโรงเรียนเดิม กรณีศึกษานอกระบบและอัธยาศัย ให้กรอกช่ือ
จังหวัดที่ผู้เรียนได้รับการเทียบระดับตามที่ปรากฏในเอกสารการเทียบระดับการศึกษา ส่วนนักเรียนที่ศึกษาตาม
อัธยาศัย แตย่ งั ไม่ได้รบั เอกสารการเทียบระดับการศึกษาใด ๆ ให้กรอกช่ือจังหวัดท่ีผู้เรยี นได้ลงทะเบียนเป็นผู้ศึกษา
ตามอัธยาศยั
223
ชั้นเรียนสุดท้าย ให้กรอกระดับชั้นเรียนที่ผู้เรียนกำลังเรียนหรือจบการเรียนจากสถานศึกษาเดิม
ตามทปี่ รากฏในหลกั ฐานการศกึ ษาทผี่ เู้ รยี นนำมาแสดงเม่ือสมัครเข้าเรยี น ดงั น้ี (จะกรอกระดบั ช้ันหรอื กรอกปีอย่าง
ใดอย่างหน่ึง)
กรณีที่ ๑ โรงเรียนเดิมออกเอกสาร เมื่อผู้เรียนจบระดับการศึกษา ให้กรอกระดับชั้นสุดท้าย
ของระดับการศึกษานน้ั
กรณีที่ ๒ โรงเรียนเดิมออกเอกสารเมื่อผู้เรยี นเรียนจบปีการศึกษา (ไม่จบระดับการศึกษา) ให้
กรอกชั้นปีที่ผเู้ รยี นเรยี นจบปีการศกึ ษา
กรณีท่ี ๓ โรงเรียนเดิมออกเอกสารให้ผู้เรียนที่ออกจากโรงเรียนระหว่างปีการศึกษา
ให้กรอก “กำลังเรียนชน้ั ...............” (ระบุระดับชั้นปที ก่ี ำลังเรียนอยู่ ขณะทล่ี าออก)
กรณที ่ี ๔ ผ้เู รยี นท่ไี มม่ ีโรงเรียนเดมิ ใหก้ รอก “ – ”
ชอ่ื ช่อื สกุล ใหก้ รอกช่อื และชื่อสกลุ ของผูเ้ รยี นอย่างชัดเจน พร้อมคำนำหนา้ ช่ือที่ถูกต้องด้วยอักษร
ตัวบรรจง เชน่ เด็กชายสภุ าพ เรยี บร้อย , นางสาวมารยาท ดีงาม เปน็ ต้น
เลขประจำตัวนกั เรยี น ให้กรอกเลขประจำตวั ของผ้เู รียนที่ระบุในทะเบียนนกั เรยี นของโรงเรยี น
เลขประจำตัวประชาชน ให้กรอกเลขประจำตัวประชาชนของผู้เรียนจำนวน ๑๓ หลัก โดยนำมา
จากเลขในทะเบยี นบ้านของผู้เรยี น เชน่ ๑ ๘๔๙๗ ๐๐๐๒๒ ๒๐ ๗ เปน็ ต้น
เพศ ให้กรอก “ชาย” หรือ “หญงิ ” ตามเพศของผู้เรียนใหต้ รงตามที่ระบุในทะเบยี นนักเรียน
เกิดวนั ท่.ี ....เดอื น................พ.ศ............ ใหก้ รอกเลขวนั ที่ ช่อื เดอื น และเลข พ.ศ. ท่ผี ูเ้ รียนเกิดให้
ถูกต้องตรงตามทร่ี ะบุในทะเบยี นนักเรียน
สัญชาติ ให้กรอกสัญชาติของผู้เรยี นทีร่ ะบุในทะเบยี นนักเรยี น
ศาสนา ให้กรอกชือ่ ศาสนาท่ผี ู้เรยี นนบั ถอื เชน่ พทุ ธ อสิ ลาม และคริสต์
ชื่อ – ชื่อสกุลบิดา , ชื่อ – ชื่อสกุลมารดา ให้กรอกชื่อบิดาและมารดาโดยกำเนิดผู้เรียนพร้อม
นามสกุล และคำนำหน้า ที่ถูกต้องอย่างชัดเจน ตามหลักฐานในทะเบียนนักเรียน กรณีไม่มีชื่อบิดาและ/หรอื ช่ือ
มารดาในทะเบียนนักเรียน ใหข้ ดี เครอ่ื งหมาย “ - ” ห้ามกรอกช่ือบิดาบญุ ธรรมหรือมารดาบุญธรรม หรอื ผู้ที่มิใช่
บดิ า มารดา ผูใ้ ห้กำเนดิ ผเู้ รียน
๒. ผลการเรยี นรายวิชา
การกรอกผลการเรียนรายวิชา จะกรอกครั้งเดียวเมื่อต้องการออกเอกสารทั้งกรณีผู้เรียนจบระดับ
ประถมศกึ ษา (ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๖) หรือขอลาออกจากโรงเรยี น ข้อมูลผลการเรียนทกี่ รอก เป็นข้อมูลปจั จุบันใน
วันจัดทำเอกสารทั้งหมด ในขณะเดียวกันข้อมูลในเอกสารที่มอบให้ผู้เรียนจะต้องสมบูรณ์ครบถ้วน และถูกต้อง
การกรอกขอ้ มูลในช่องตาราง ใหก้ รอกดังนี้
224
รหสั /รายวชิ า ใหก้ รอก “ปกี ารศกึ ษา” ที่เร่ิมเรียนก่อน แลว้ จึงกรอกรหัสและชื่อรายวิชาพื้นฐานท่ี
ผู้เรียนเรียนในแต่ละปี เรียงตามลำดบั ลงมา (กรณีที่ไม่มีรายวิชาเพิ่มเตมิ ให้เว้นว่างไว้) แต่ละรายวชิ าให้กรอกเลข
รหัสก่อนตามด้วยชื่อรายวิชา การกรอกรหัสและรายวิชาต่าง ๆ ให้กรอกเรียงรายวิชาพื้นฐานตามกลุ่มสาระการ
เรียนรตู้ ามดว้ ยรายวชิ าเพิ่มเติมทเี่ รียนในปีนัน้ ๆ และให้กรอกเรยี งตามลำดบั จากสดมภซ์ า้ ยมือไปขวามอื
เวลา (ช่ัวโมง) ให้กรอกจำนวนเวลาเรยี นเป็นชว่ั โมง ตามโครงสร้างหลักสตู รของสถานศกึ ษา
ผลการเรียน ใหก้ รอกผลการเรยี นในสดมภ์ใหต้ รงกับรหัส/รายวิชาน้ัน ๆ ผลการเรียนท่นี ำมากรอก
จะต้องเป็นข้อมูลปจั จบุ นั ในขณะทีจ่ ดั ทำเอกสาร เชน่ รายวชิ าใดทีต่ ดั สินผลการเรียนไมผ่ า่ นและยงั ไมไ่ ดแ้ ก้ไข ให้
กรอกผลการเรยี นเดิม แต่ถา้ ไดซ้ อ่ มเสรมิ จนผา่ นแลว้ ใหก้ รอกผลการเรียนที่ซ่อมเสริม
๓. ผลการประเมินกิจกรรมพฒั นาผู้เรียน
กิจกรรม ให้กรอกปีการศึกษาที่ผู้เรียนปฏิบัติกิจกรรม ตามด้วยชื่อกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนที่ผู้เรียน
ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมในปีนัน้ เรยี งลงมาตามลำดับ โดยเริ่มจากกิจกรรมแนะแนว กจิ กรรมนักเรียน (ลูกเสอื /เนตรนารี/ยุว
กาชาด ฯลฯ ตามด้วยกิจกรรมชุมนุม/ชมรม โดยระบุชื่อของชมุ นุม/ชมรมใหช้ ดั เจน) และกิจกรรมเพื่อสังคมและ
สาธารณประโยชน์ กรณีที่โรงเรียนกำหนดรหัสของกิจกรรมไว้ด้วย ก็สามารถนำมากรอกได้ โดยปฏิบัติ
เชน่ เดยี วกบั การกรอกรหัสรายวิชา
เวลา (ชวั่ โมง) ใหก้ รอกจำนวนเวลาเรียน(ชั่วโมง) ของแต่ละกจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี นตามทส่ี ถานศึกษา
กำหนด และตรงกับชอ่ื กิจกรรมน้นั ๆ
ผลการประเมิน ให้กรอกผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนแต่ละกิจกรรมโดยกรอก “ผ”
สำหรับกิจกรรมที่ได้รับการประเมิน “ผ่าน” และกรอก “มผ” สำหรับกจิ กรรมทีไ่ ดร้ ับการประเมิน “ไม่ผา่ น”
๔. สรปุ ผล/ตัดสิน/อนุมตั ิผลการประเมนิ
ผลการประเมินรายวิชาพื้นฐาน ให้กรอกผลการประเมินรายวิชาพื้นฐาน “ผ่านทุกรายวิชา” ใน
ชอ่ งสรปุ ผลการประเมนิ สำหรับผู้เรยี นทม่ี ผี ลการประเมินรายวิชาพ้ืนฐานผ่านเกณฑ์การจบระดบั ประถมศึกษาของ
สถานศึกษา และกรอก “ผ่าน” ในชอ่ งผลการตัดสนิ สำหรบั ผู้เรียนท่ียังไมจ่ บระดบั ประถมศึกษาใหเ้ วน้ ว่างไว้
ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน ให้กรอกผลการประเมินการอ่าน
คิดวิเคราะห์ และเขียนของชนั้ ปีสดุ ทา้ ย “ดีเยยี่ ม” หรอื “ดี” หรอื “ผ่าน” ในช่องสรุปผลการประเมิน สำหรับ
ผู้เรียนที่มีผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนผ่านเกณฑ์การจบระดับประถมศึกษาของสถานศึกษา
และกรอก “ผ่าน” ในช่องผลการตัดสิน สำหรับผู้เรียนที่ยังไม่จบระดับประถมศึกษาให้
เว้นวา่ งไว้
ผลการประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ให้กรอกผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของชั้นปี
สุดท้าย “ดีเยี่ยม” หรือ “ดี” หรือ “ผ่าน” ในช่องสรุปผลการประเมิน สำหรับผู้เรียนที่มีผลการประเมิน
225
คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ผา่ นเกณฑ์การจบระดับประถมศึกษาของสถานศึกษา และกรอก “ผ่าน” ในชอ่ งผลการ
ตดั สิน สำหรบั ผู้เรยี นที่ยงั ไม่จบระดบั ประถมศึกษาให้เว้นว่างไว้
๗.หมายเหตุ
ใหก้ รอกข้อมลู จำนวนหน่วยน้ำหนกั หรอื จำนวนชวั่ โมงการเทียบโอนผลการเรยี นจากโรงเรียน
ผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ให้กรอกผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน “ผ่าน” ใน
ช่องสรุปผลการประเมิน สำหรับผู้เรียนที่มีผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนผ่านเกณฑ์การจบระดับ
ประถมศึกษาของสถานศึกษา และกรอก “ผ่าน” ในช่องผลการตัดสิน สำหรับผู้เรียนที่ยังไม่จบระดับ
ประถมศึกษาใหเ้ วน้ วา่ งไว้
วันอนุมัติการจบ ให้กรอกเลขวันที่ ชื่อเดือน และเลข พ.ศ. ที่โรงเรียนอนุมัติให้ผู้เรยี นจบ ได้แก่
วันที่ผู้บริหารสถานศึกษาลงนามตัดสินและอนุมัติผลการเรียนในแบบรายงานผู้สำเร็จการศึกษา (ปพ.3) กรณี
ผู้เรยี นออกจากโรงเรียนก่อนจบการศกึ ษาระดบั ประถมศึกษา ใหข้ ดี เคร่อื งหมาย “ - ”
วันออกจากโรงเรียน ให้กรอกเลขวันที่ ชื่อเดือน และเลข พ.ศ. ที่ผู้เรียนออกจากโรงเรียนตาม
“วนั จำหน่าย” ทร่ี ะบใุ นทะเบยี นนกั เรียน
สาเหตทุ ่อี อกจากโรงเรยี น ใหก้ รอก ดงั นี้
ก. กรณจี บการศึกษาระดบั ประถมศึกษา แต่ไม่ได้ออกจากโรงเรยี นใหก้ รอก “ - ”
ข. ผเู้ รยี นทอ่ี อกจากโรงเรียนกรณอี ื่น ๆ ใหก้ รอก “ศกึ ษาตอ่ สถานศึกษาอ่นื ”
๕. ผลการประเมนิ ระดบั ชาติ
ใหก้ รอกผลการทดสอบระดับชาติของสถาบันทดสอบทางการศกึ ษาแหง่ ชาติ (องค์การมหาชน) ท่ี
ผเู้ รยี นเขา้ สอบโดยกรอกชอ่ื รายวชิ า.......คะแนนเตม็ .......คะแนนท่ีได้.........ให้ครบทกุ วิชา
ท่เี ข้าสอบ
๖. คำอธิบายเกณฑ์การประเมินของสถานศกึ ษา
ให้กรอกระดับผลการเรียนหรือรูปแบบการตัดสินที่โรงเรียนใช้ในการตัดสินผลการเรียน รายวิชา
กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น การอ่าน คดิ วิเคราะห์ และเขยี น คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ เช่น
เกณฑก์ ารจบระดับประถมศึกษา
๑) ผู้เรียนต้องเรียนทุกรายวชิ าพืน้ ฐานและมีผลการประเมินระดับ ๑.๐ ขึ้นไป จึงจะถือว่าผ่านการ
ประเมินรายวิชาพ้นื ฐาน
๒) ผู้เรียนต้องมีผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน ได้รับระดับคุณภาพดีเยี่ยม หรือดี
หรอื ผ่าน
๓) ผ้เู รยี นต้องมผี ลการประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ไดร้ ับระดบั คณุ ภาพดีเย่ียม หรือดี หรือผา่ น
๔) ผเู้ รยี นต้องปฏิบัตกิ ิจกรรมพฒั นาผเู้ รียนและมผี ลการประเมินกิจกรรม "ผ" ในทุกกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน
คำอธบิ ายระดบั ผลการเรยี นรายวิชา (กรณโี รงเรียนใหผ้ ลการเรียน เป็น ๘ ระดบั )
226
๔ หมายถึง ดีเยี่ยม ๒ หมายถึง ปานกลาง
๓.๕ หมายถงึ ดีมาก ๑.๕ หมายถึง พอใช้
๓ หมายถงึ ดี ๑ หมายถงึ ผ่านเกณฑ์ขั้นตำ่
๒.๕ หมายถงึ คอ่ นขา้ งดี ๐ หมายถึง ต่ำกว่าเก
227
ระเบยี นแสดงผลการเรียนหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน
ระดับมัธยมศกึ ษาศึกษาตอนต้น (ปพ.๑ : บ)
และคำอธิบายการกรอกระเบยี นแสดงผลการเรียนระเบยี นแสดงผลการเรยี นหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั
ดา้ นหนา้ พน้ื ฐาน ระดับมธั ยมศึกษาศึกษาตอนต้น (ปพ.๑ : บ) ประกอบดว้ ยขอ้ มูลต่อไปนี
ขอ้ มลู โรงเรียนและผเู้ รียน
ดา้ นหลงั ผลการเรียนรายวชิ า
ผลการประเมิน ผลการประเมิน
ระดบั ชาติ กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน
สรุปผล/ตดั สิน/อนมุ ตั ิ
ผลการประเมนิ
คาอธิบายเกณฑก์ ารประเมนิ
ของสถานศกึ ษา
228
229
คำอธบิ ายการกรอกระเบยี นแสดงผลการเรียน ระดับมัธยมศกึ ษาตอนตน้ (ปพ.๑ : บ)
ระเบียนแสดงผลการเรียน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เป็นเอกสารเพื่อแสดงผลการเรียนและรับรองผลการ
เรียนของนักเรียน ให้กรอกด้วยวิธีการเขียนหรือพิมพ์ (พิมพ์ดีดหรือคอมพิวเตอร์) เมื่อเลือกใช้วิธีการใดแล้วให้ใช้
วิธีการนั้นตลอดทั้งแผ่น โดยให้กรอกด้วยหมึกสีดำหรือสีน้ำเงินเท่านั้น ตัวเลขที่ใช้กรอก ให้ใช้ตัวเลขฮินดูอารบิก
ห้ามลบ หรือขูดข้อมูลที่กรอกไปแล้ว กรณีเขียนผิดหรือต้องการเปลี่ยนแปลงข้อมูล ให้ขีดฆ่าข้อความที่เขียนผิด
หรือข้อความที่ต้องการเปลี่ยนแปลง แล้วเขียนข้อความที่ถูกต้องหรือข้อความที่ต้องการไว้ข้างบนและให้นาย
ทะเบียนลงนามกำกับไว้ วธิ ีการกรอกข้อมลู มรี ายละเอยี ดดังตอ่ ไปนี้
๑. ขอ้ มลู โรงเรยี นและผเู้ รียน
โรงเรยี น ให้กรอกช่ือเตม็ ของโรงเรยี นอยา่ งชัดเจน
สังกัด ให้กรอกชื่อหน่วยงานต้นสังกัดของโรงเรียนระดับกรมหรือหน่วยงานจัดการศึกษาตามการปกครองรูปแบบ
พิเศษ เช่น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา สำนักงาน
พระพุทธศาสนาแห่งชาติ สำนักบริหารงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น สำนัก
การศึกษากรงุ เทพมหานคร และสำนกั การศึกษาเมอื งพทั ยา ฯลฯ
ตำบล/แขวง, อำเภอ/เขต, จงั หวัด ให้กรอกชือ่ เตม็ ของสถานที่อันเป็นท่ีตัง้ ของโรงเรยี นอย่างชดั เจน
สำนกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษา ให้โรงเรียนทกุ สงั กัดกรอกชือ่ สำนกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษาทีโ่ รงเรียนตัง้ อยู่
วันเขา้ เรียน ใหก้ รอกเลขวนั ท่ี ชอื่ เดอื น และเลข พ.ศ. ทีโ่ รงเรยี นรบั ผู้เรยี นเขา้ เรยี นตามวันรบั เขา้ ใน
ทะเบยี นนักเรยี น เช่น 12 มนี าคม 2552
โรงเรียนเดิม ให้กรอกชื่อโรงเรียน/สถานศึกษาเดิมของผู้เรียน ตามที่ระบุในหลักฐานการศึกษาของ
ผเู้ รียนที่นำมาใชส้ มคั รเข้าเรยี น
กรณีที่ ๑ กรณีผู้เรียนเข้าโรงเรียนโดยไม่เคยเรียนในสถานศึกษาใดมาก่อน ไม่ต้องกรอกชื่อ
โรงเรียนเดมิ ใหข้ ดี ดว้ ยเคร่ืองหมาย “ – ”
กรณที ่ี ๒ กรณีผู้เรียนเคยศึกษาอยู่ในสถานศึกษาอื่น มาก่อนให้กรอกชื่อสถานศึกษาลำดับ
สุดทา้ ยทผี่ ้เู รยี นลาออก ตามหลักฐานระเบยี นแสดงผลการเรยี น (ปพ.1) ทน่ี ำมาแสดง
กรณที ่ี ๓ ผู้เรียนศึกษาจากต่างรูปแบบ ถ้าศึกษาจากสถานศึกษานอกระบบ ให้กรอกชื่อ
สถานศกึ ษานอกระบบท่ีเรยี น และถา้ ผูเ้ รียนศกึ ษาตามอธั ยาศยั ใหก้ รอก “ศกึ ษาตามอัธยาศัย”
จังหวัด ให้กรอกชื่อจังหวัดที่ตั้งของโรงเรียนเดิม กรณีศึกษาตามอัธยาศัย ให้กรอกชื่อจังหวัดท่ี
ผู้เรียนได้รับการเทียบระดับตามที่ปรากฏในเอกสารการเทียบระดับการศึกษา ส่วนผู้เรียนที่ศึกษาตามอัธยาศัยแต่
ยงั ไม่ไดร้ ับเอกสารเทียบระดบั การศกึ ษาใดๆ ให้กรอกช่อื จงั หวัดทผี่ ้เู รยี นไดล้ งทะเบียนเป็นผู้ศกึ ษาตามอัธยาศัย
ชั้นเรียนสุดท้าย ให้กรอกระดับชั้นเรียนที่ผู้เรียนกำลังเรียนหรือจบการเรียนจากสถานศึกษาเดิม
ตามที่ปรากฏในหลักฐานการศกึ ษาทผ่ี ูเ้ รียนนำมาแสดงเม่ือสมัครเข้าเรียน ดงั น้ี
กรณที ่ี ๑ โรงเรียนเดิมออกเอกสาร เมื่อผู้เรียนจบระดับการศึกษา ให้กรอกระดับชั้นสุดท้าย
ของระดบั การศึกษาน้ัน
230
กรณีที่ ๒ โรงเรียนเดิมออกเอกสารเมื่อผู้เรียนเรียนจบปีการศึกษา (ไม่จบระดับการศึกษา) ให้
กรอกชน้ั ปที ีผ่ เู้ รยี นเรยี นจบปีการศึกษา
กรณีที่ ๓ โรงเรียนเดิมออกเอกสารให้ผู้เรียนที่ออกจากโรงเรียนระหว่างปีการศึกษา ให้กรอก
“กำลงั เรยี นช้ัน...............” (ระบรุ ะดบั ชั้นปีทก่ี ำลงั เรยี นอยู่ ขณะท่ีลาออก)
กรณีท่ี ๔ ผ้เู รยี นทไี่ มม่ ีโรงเรียนเดิม ใหก้ รอก “ – ”
ชอ่ื ช่ือสกลุ ให้กรอกชือ่ และช่ือสกุลของผเู้ รยี นอย่างชัดเจน พร้อมคำนำหน้าชื่อท่ีถูกต้องด้วยอักษร
ตวั บรรจง เชน่ เดก็ ชายสุภาพ เรยี บรอ้ ย , นางสาวมารยาท ดีงาม เป็นต้น
เลขประจำตวั นักเรียน ใหก้ รอกเลขประจำตวั ของผู้เรยี นท่รี ะบใุ นทะเบยี นนกั เรยี นของโรงเรียน
เลขประจำตัวประชาชน ให้กรอกเลขประจำตัวประชาชนของผู้เรียนจำนวน ๑๓ หลัก โดยนำมา
จากเลขในสำเนาทะเบียนบา้ น(ท.ร.๑๔) ของผู้เรียน เช่น ๑ ๘๔๙๗ ๐๐๐๒๒ ๒๐ ๗ เป็นตน้
เพศ ใหก้ รอก “ชาย” หรือ “หญงิ ” ตามเพศของผูเ้ รียนให้ตรงตามทีร่ ะบใุ นทะเบียนนักเรียน
เกดิ วนั ท่ี.....เดอื น................พ.ศ............ ให้กรอกเลขวนั ท่ี ชอ่ื เดือน และเลข พ.ศ. ท่ีผู้เรียนเกิดให้
ถูกตอ้ งตรงตามท่รี ะบใุ นทะเบียนนักเรียน
สัญชาติ ให้กรอกสญั ชาติของผ้เู รียนท่ีระบุในทะเบียนนักเรียน
ศาสนา ให้กรอกชอ่ื ศาสนาทผี่ ูเ้ รียนนบั ถือ เชน่ พทุ ธ อิสลาม หรือคริสต์ เป็นต้น
ชื่อ – ชื่อสกุลบิดา, ชื่อ – ชื่อสกุลมารดา ให้กรอกชื่อบิดาและมารดาโดยกำเนิดของผู้เรียนพร้อม
นามสกลุ และคำนำหนา้ ท่ถี กู ตอ้ งอยา่ งชัดเจน ตามหลักฐานในทะเบียนนกั เรยี น
กรณีไมม่ ีชื่อบดิ าและ/หรอื ชอื่ มารดาในทะเบียนนักเรยี น ใหข้ ดี เคร่อื งหมาย “ - ” หา้ มกรอกชอ่ื บิดา
บญุ ธรรมหรอื มารดาบุญธรรม หรือผู้ท่ีมิใชบ่ ิดา มารดา ผ้ใู หก้ ำเนิดผู้เรยี น
๒. ผลการเรียนรายวิชา
การกรอกข้อมูลผลการเรียนรายวิชา จะกรอกครั้งเดียวเมื่อต้องการออกเอกสารทั้งกรณีผู้เรียนจบ
ระดบั การศึกษา (ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ ๓) หรอื ขอลาออกจากโรงเรียน ข้อมลู ผลการเรยี นท่กี รอก เปน็ ขอ้ มูลปัจจบุ ันใน
วนั จัดทำเอกสารทั้งหมด ในขณะเดียวกนั ข้อมูลในเอกสารที่มอบให้ผู้เรยี นจะต้องสมบูรณ์ครบถ้วน และถูกต้อง การ
กรอกขอ้ มูลในชอ่ งตาราง ให้กรอกดังนี้
รหัส/รายวิชา ให้กรอก “ปีการศึกษา” และ “ภาคเรียนท่ี” ที่เริ่มเรียนก่อน แล้วจึงกรอกรหัส
รายวิชาพ้ืนฐาน/รายวชิ าเพิ่มเติมที่ผูเ้ รียนเรียนในแต่ละภาคเรียน เรียงตามลำดับลงมา แต่ละรายวิชาให้กรอกเลข
รหัสก่อนแล้วตามด้วยชื่อรายวิชาพื้นฐาน/รายวิชาเพิ่มเติม การกรอกให้กรอกเรียงตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ และ
เรยี งตามลำดับจากสดมภ์ซา้ ยมอื ไปขวามอื
หนว่ ยกติ ใหก้ รอกตัวเลขจำนวนหนว่ ยกิตให้ตรงกบั รายวิชาน้ัน
231
หนว่ ยกิต เป็นหนว่ ยตวั เลขบอกค่าปริมาณภาระงานในการเรยี นแตล่ ะรายวชิ าซ่ึงสะทอ้ นถงึ
ปริมาณของมาตรฐานการเรียนรูแ้ ละกจิ กรรมต่าง ๆ ทผี่ ูเ้ รียนตอ้ งปฏบิ ตั ใิ นแตล่ ะรายวิชา หนว่ ยกิต
คานวณไดจ้ ากการนาจานวนเวลาเรยี นของรายวชิ าหารดว้ ยจานวนเวลา ๔๐ ช่วั โมง (๑ หนว่ ยกิตมีคา่
เท่ากบั ๔๐ชว่ั โมง) ดงั นี้
จานวนหน่วยกิต = จานวนเวลาเรียนของรายวชิ า (นบั เป็นช่วั โมง)
จะต้องเป็นขผ้อลมกาูลรปเรัจียจนุบใันหใ้กนรอขกณผะลทกีา่จรัดเรทียำนเใอนกสสดามรภ์ใเหช้ต่นรงรกาับ๔ยร๐วหิชัชส่ว/าั รโใมาดยงทวีิ่ชตาัดนสั้นินๆผลผลกกาารรเเรรียียนนทแลี่น้ำวมไามก่ผร่าอนก
ถ้ายังไม่ได้แก้ไข ให้กรอกผลการเรียนเดิม แต่ถ้าได้ซ่อมเสรมิ จนผ่านแล้ว ให้กรอกด้วยผลการเรียนที่ซอ่ มเสริมแลว้
หรือรายวิชาใดต้องเรียนซ้ำ ถ้าขณะที่จัดทำเอกสารที่นักเรียนได้เรียนซ้ำแล้ว ก็นำผลการเรียน
ซ้ำมากรอก สำหรบั รายวิชาท่ผี า่ น ใหก้ รอกดว้ ยผลการเรียนทไ่ี ด้ตามปกติ
ผลการเรียนเฉลยี่ รายกลุ่มสาระการเรียนรู้
- หน่วยกิตรวม ให้กรอกจำนวนหน่วยกิตรวมของทุกรายวิชาที่นักเรียนได้เรียนแล้ว โดยจำแนก
การรวมตามกลุ่มสาระการเรียนรู้
- ผลการเรยี นเฉลี่ย ให้กรอกผลการเรียนเฉล่ียของทุกรายวชิ าทีน่ กั เรียนไดเ้ รียนแล้ว โดยจำแนก
การเฉล่ยี เป็นกลุ่มสาระการเรียนรู้
- ผลการเรียนเฉลี่ยตลอดหลักสูตร ให้กรอกผลการเรียนเฉลี่ยของทุกรายวิชาที่นักเรียนได้เรียน
แล้ว โดยรวมเฉลย่ี ทกุ กลุม่ สาระการเรยี นรู้
๓. ผลการประเมินกิจกรรมพฒั นาผู้เรียน
กิจกรรม ให้กรอกปีการศึกษาและภาคเรียนที่ผู้เรียนปฏิบัติกิจกรรม ตามด้วยชื่อกิจกรรมพัฒนา
ผู้เรียนที่ผู้เรียนปฏิบัติกิจกรรมในปีนั้นเรียงลงมาตามลำดับ โดยเริ่มจากกิจกรรมแนะแนว กิจกรรมนักเรียน
(ลูกเสือ/เนตรนารี/ยุวกาชาด ฯลฯ ตามด้วยกิจกรรมชุมนุม/ชมรม โดยระบุชื่อของชุมนุม/ชมรมให้ชัดเจน) และ
กิจกรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณประโยชน์ กรณีท่ีโรงเรยี นกำหนดรหัสของกจิ กรรมไวด้ ้วย ก็สามารถนำมากรอกได้
โดยปฏบิ ัตเิ ช่นเดยี วกับการกรอกรหสั รายวิชา
เวลา ให้กรอกจำนวนเวลาเรียน (ชั่วโมง) ของแต่ละกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามที่สถานศึกษากำหนด
และตรงกบั ช่อื กจิ กรรมนั้น ๆ
ผลการประเมิน ให้กรอกผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนแต่ละกิจกรรมโดยกรอก “ผ”
สำหรบั กจิ กรรมที่ได้รับการประเมนิ “ผา่ น” และกรอก “มผ” สำหรบั กิจกรรมทไ่ี ดร้ ับการประเมนิ “ไม่ผ่าน”
๔. สรปุ ผล/ตดั สนิ /อนุมตั ิผลการประเมิน
จำนวนหน่วยกิตรายวิชาพื้นฐานที่เรียน.........ได้........ ให้กรอกตัวเลขจำนวนหน่วยกิตรวมทุกรายวิชาพื้นฐานที่
เรยี นมาแลว้ กับจำนวนหน่วยกติ รวมของรายวิชาพืน้ ฐานทมี่ ผี ลการประเมนิ ผ่านเกณฑข์ องสถานศึกษา
232
จำนวนหน่วยกิตรายวิชาเพิ่มเติมที่เรียน..........ได้......... ให้กรอกตัวเลขจำนวนหน่วยกิตรวมทุก
รายวิชาเพิ่มเติมที่เรียนมาแล้วกับจำนวนหน่วยกิตรวมของรายวิชาเพิ่มเติมที่มีผลการประเมินผ่านเกณฑ์ของ
สถานศกึ ษา
ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน ให้กรอกผลการประเมินการอ่าน
คิดวิเคราะห์ และเขียนของชั้นปีสุดท้าย “ดีเยี่ยม” หรือ “ดี” หรือ “ผ่าน” ในช่องสรุปผลการประเมิน สำหรับ
ผู้เรียนที่มีผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนผ่านเกณฑ์การจบของสถานศึกษาระดับมัธยมศึกษา
ตอนตน้ และเว้นวา่ งไวส้ ำหรบั ผ้เู รียนท่ียงั ไมจ่ บการศึกษาระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน้
ผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ให้กรอกผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของ
ชั้นปีสุดท้าย “ดีเยี่ยม” หรือ “ดี” หรือ “ผ่าน” ในช่องสรุปผลการประเมิน สำหรับผู้เรียนที่มีผลการประเมิน
คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ผ่านเกณฑ์การจบของสถานศึกษาระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น และเว้นว่างไว้สำหรับผู้เรียน
ที่ยงั ไมจ่ บการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
ผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ให้กรอกผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน “ผ่าน” ใน
ช่องสรุปผลการประเมิน สำหรับผู้เรยี นท่ีมีผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนผ่านเกณฑ์การจบของสถานศึกษา
ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ และเว้นว่างไว้สำหรบั ผู้เรยี นทย่ี งั ไม่จบการศึกษาระดบั มัธยมศกึ ษาตอนต้น
ผลการตัดสนิ ใหก้ รอกผลการตัดสนิ ดังน้ี
ก. กรอก “ผา่ น” เม่อื เกณฑน์ ้นั ไดร้ ับการตัดสินแลว้ ได้ “ผา่ น”
ข. กรอก “ไม่ผ่าน” เมือ่ เกณฑน์ น้ั ไดร้ ับการตดั สินแล้ว ได้ “ไมผ่ า่ น”
ค. เวน้ ว่างไวเ้ มื่อเกณฑน์ นั้ ยังไมม่ กี ารตัดสิน
วันอนุมัติการจบ ให้กรอกเลขวันที่ ชื่อเดือน และเลข พ.ศ. ที่โรงเรียนอนุมัติให้ผู้เรยี นจบ ได้แก่
วันที่ผู้บริหารสถานศึกษาลงนามตัดสินและอนุมัติผลการเรียนในแบบรายงานผู้สำเร็จการศึกษา (ปพ.๓) กรณี
ผู้เรยี นออกจากโรงเรียนก่อนจบระดบั ชน้ั ใหข้ ีดเคร่อื งหมาย “ - ”
วันออกจากโรงเรียน ให้กรอกเลขวันที่ ชื่อเดือน และเลข พ.ศ. ที่ผู้เรียนออกจากโรงเรียนตาม
“วนั จำหนา่ ย” ท่รี ะบุในทะเบียนนกั เรียน
สาเหตุทอี่ อกจากโรงเรยี น ใหก้ รอก ดังน้ี
ก. กรณจี บการศกึ ษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น แต่ไมไ่ ด้ออกจากโรงเรียนให้กรอก “ - ”
ข. ผเู้ รียนท่ีออกจากโรงเรียนในกรณอี นื่ ๆ ให้กรอก “ศกึ ษาต่อสถานศึกษาอื่น”
ค. กรณีผู้เรียนจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และออกจากโรงเรียน ให้กรอก “จบ
การศึกษาภาคบังคับ”
๕. ผลการประเมินระดบั ชาติ
ให้กรอกผลการทดสอบระดับชาติของสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ท่ี
ผเู้ รยี นเขา้ สอบโดยกรอกช่อื รายวชิ า…..คะแนนเตม็ .....คะแนนที่ได.้ ....ใหค้ รบทกุ วชิ าท่เี ขา้ สอบ
233
๖. คำอธบิ ายเกณฑ์การประเมินของสถานศึกษา
ให้กรอกระดับผลการเรียนหรือรูปแบบการตัดสินผลการเรียนที่โรงเรียนใช้ในการตัดสินผลการเรียน
รายวิชาทโ่ี รงเรียนกำหนด ทั้ง ๔ เกณฑ์ คือ
๑. การประเมนิ รายวิชาพน้ื ฐานและการประเมินรายวิชาเพิม่ เติม
๒. การประเมินการอา่ น คดิ วเิ คราะห์ และเขยี น
๓. การประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
๔. การประเมินกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน
สำหรับระดับผลการเรียนอาจกำหนดได้ดงั นี้
๔ หมายถึง ดเี ย่ียม
๓.๕ หมายถงึ ดีมาก
๓ หมายถึง ดี
๒.๕ หมายถึง ค่อนข้างดี
๒ หมายถงึ ปานกลาง
๑.๕ หมายถึง พอใช้
๑ หมายถึง ผ่านเกณฑข์ นั้ ตำ่
๐ หมายถึง ตำ่ กว่าเกณฑ์
๗. หมายเหตุ
ให้กรอกขอ้ มลู จำนวนหนว่ ยกิจการเทยี บโอนผลการเรยี นจากสถานศึกษาเดิม
234
ระเบยี นแสดงผลการเรยี นหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน
ระดับมัธยมศกึ ษาศึกษาตอนปลาย (ปพ.๑ : พ)และคำอธบิ ายการกรอกระเบยี นแสดงผลการเรียน
ระเบียนแสดงผลการเรียนหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน ระดับมธั ยมศกึ ษาศึกษาตอนปลาย (ปพ.๑ : พ)
ประกอบด้วยข้อมลู ตอ่ ไปนี้
ดา้ นหนา้ 3x4 ซม.
ขอ้ มลู โรงเรยี นและผเู้ รยี น
ผลการเรียนรายวชิ า
ดา้ นหลงั ผลการประเมนิ
กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน
ผลการประเมนิ
ระดบั ชาติ สรุปผล/ตดั สิน/อนมุ ตั ิ
ผลการประเมิน
คาอธิบายเกณฑก์ ารประเมิน
ของสถานศกึ ษา
235
236
คำอธิบายการกรอกระเบียนแสดงผลการเรยี น ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย (ปพ.๑ : พ)
ระเบียนแสดงผลการเรยี น ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย (ปพ.๑ : พ) เปน็ เอกสารเพอ่ื แสดงผลการเรียนและ
รับรองผลการเรียนของนักเรียนตามขอ้ มูลที่บันทึก ให้กรอกด้วยวิธีการเขยี นหรือพิมพ์ (พิมพ์ดีดหรือคอมพิวเตอร)์
เมื่อเลือกใช้วิธีการใดแล้วให้ใช้วิธีการนั้นตลอดทั้งแผ่น โดยให้กรอกด้วยหมึกสีดำหรือสีน้ำเงินเท่านั้น ตัวเลขที่ใช้
กรอก ให้ใชต้ วั เลขฮินดูอารบกิ ห้ามลบ หรอื ขดู ขอ้ มูลท่ีกรอกไปแล้ว กรณเี ขยี นผดิ หรอื ต้องการเปล่ียนแปลงข้อมูล
ใหข้ ดี ฆ่าข้อความที่เขียนผดิ หรือข้อความทตี่ ้องการเปล่ียนแปลง แลว้ เขียนขอ้ ความทถ่ี ูกต้องหรือขอ้ ความท่ีต้องการ
ไวข้ า้ งบนและใหน้ ายทะเบยี นลงนามกำกับไว้ วธิ กี ารกรอกขอ้ มลู มีรายละเอียดดงั ตอ่ ไปน้ี
๑. ข้อมูลโรงเรียนและผเู้ รยี น
โรงเรียน ให้กรอกช่ือเต็มของโรงเรียนอย่างชัดเจน
สังกัด ให้กรอกชื่อหน่วยงานต้นสังกัดของโรงเรียนระดับกรมหรือหน่วยงานจัดการศึกษาตามการ
ปกครองรูปแบบพิเศษ เช่น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สำนักบริหารงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน กรมส่งเสริมการปกครอง
ท้องถ่ิน สำนักการศึกษากรงุ เทพมหานคร และสำนกั การศึกษาเมืองพทั ยา ฯลฯ
ตำบล/แขวง, อำเภอ/เขต, จงั หวัด ใหก้ รอกชื่อเตม็ ของสถานที่อันเป็นทตี่ ้งั ของโรงเรียนอยา่ งชดั เจน
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ให้โรงเรียนทุกสังกัดกรอกชื่อสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่โรงเรียน
ต้งั อยู่
วันเข้าเรียน ให้กรอกชื่อเต็มเลขวันที่ ชื่อเดือน และเลข พ.ศ. ที่โรงเรียนรับผู้เรียนเข้าเรียนตามวนั
รบั เขา้ ในทะเบยี นนกั เรยี น เช่น 12 มนี าคม 2552
โรงเรียนเดิม ให้กรอกชื่อโรงเรียนเดิมของผู้เรียน ตามท่ีระบุในหลักฐานการศึกษาของผู้เรียนท่ี
นำมาใช้สมัครเขา้ เรยี น
กรณีท่ี ๑ กรณีผู้เรียนเข้าโรงเรียนโดยไม่เคยเรียนในสถานศึกษาใดมาก่อน ไม่ต้องกรอกช่ือ
โรงเรยี นเดมิ ใหข้ ีดดว้ ยเครื่องหมาย “ – ”
กรณที ี่ ๒ กรณีผู้เรียนเคยศึกษาอยู่ในโรงเรียนอื่น มาก่อนให้กรอกชื่อโรงเรียนลำดับสุดท้ายท่ี
ผเู้ รียนลาออก ตามหลกั ฐานระเบยี นแสดงผลการเรียน (ปพ.๑) ที่นำมาแสดง
กรณที ี่ 3 ผู้เรียนศึกษาจากต่างรูปแบบ ถ้าศึกษาจากสถานศึกษานอกระบบ ให้กรอกช่ือ
สถานศึกษานอกระบบท่เี รียน และถา้ ผู้เรียนศกึ ษาตามอัธยาศัย ให้กรอก “ศึกษาตามอธั ยาศยั ”
จังหวัด ให้กรอกชื่อจังหวัดที่ตั้งของโรงเรียนเดิม กรณีศึกษาตามอัธยาศัย ให้กรอกชื่อจังหวัดที่
ผู้เรียนได้รับการเทียบระดับตามที่ปรากฏในเอกสารการเทียบระดับการศึกษา ส่วนผู้เรียนที่ศึกษาตามอัธยาศัยแต่
ยังไม่ไดร้ ับเอกสารเทยี บระดบั การศกึ ษาใดๆ ให้กรอกช่อื จังหวดั ที่ผู้เรยี นไดล้ งทะเบยี นเป็นผศู้ ึกษาตามอัธยาศัย
ชั้นเรียนสุดท้าย ให้กรอกระดับชั้นเรียนที่ผู้เรียนกำลังเรียนหรือจบการเรียนจากโรงเรียนเดิมตามท่ี
ปรากฏในหลักฐานการศึกษาท่ผี ู้เรียนนำมาแสดงเมือ่ สมัครเข้าเรียน ดังนี้
237
กรณที ่ี ๑ โรงเรียนเดิมออกเอกสาร เมื่อผู้เรียนจบระดับการศึกษา ให้กรอกระดับชั้นปีสุดท้าย
ของระดับการศึกษาน้นั
กรณที ี่ ๒ โรงเรียนเดิมออกเอกสารเมื่อผู้เรียนเรียนจบปีการศึกษา (ไม่จบระดับการศึกษา) ให้
กรอกระดบั ชัน้ ปที ่ีผู้เรยี นเรียนจบปีการศกึ ษา
กรณีที่ ๓ โรงเรียนเดิมออกเอกสารให้ผู้เรียนที่ออกจากโรงเรียนระหว่างปีการศึกษา ให้กรอก
“กำลงั เรียนช้ัน...............” (ระบรุ ะดบั ช้ันทกี่ ำลังเรยี นอยู่ ขณะทล่ี าออก)
กรณีท่ี 4 ผเู้ รยี นทีไ่ มม่ ีโรงเรยี นเดิม ใหก้ รอก “ – ”
ช่ือ ช่ือสกลุ ให้กรอกชื่อและชื่อสกลุ ของผเู้ รยี นอย่างชัดเจน พร้อมคำนำหน้าชื่อท่ีถูกต้องด้วยอักษร
ตัวบรรจง เช่น เดก็ ชายสุภาพ เรียบร้อย , นางสาวมารยาท ดงี าม เป็นตน้
เลขประจำตัวนกั เรยี น ให้กรอกเลขประจำตัวของผูเ้ รยี นทีร่ ะบุในทะเบียนนักเรยี นของโรงเรยี น
เลขประจำตัวประชาชน ให้กรอกเลขประจำตัวประชาชนของผู้เรียนจำนวน 13 หลัก โดยนำมา
จากเลขในสำเนาทะเบียนบา้ น (ท.ร.14) ของผู้เรยี น เช่น 1-8497-00022-20-7 เปน็ ตน้
เพศ ใหก้ รอก “ชาย” หรอื “หญงิ ” ตามเพศของผู้เรียนใหต้ รงตามทรี่ ะบุในทะเบียนนักเรยี น
เกดิ วนั ที่.....เดือน................พ.ศ............ ให้กรอกวนั ท่ี ชื่อเดือน และ พ.ศ. ที่ผ้เู รยี นเกิดใหถ้ กู ต้อง
ตรงตามทีร่ ะบุในทะเบียนนกั เรียน
สญั ชาติ ใหก้ รอกสญั ชาตขิ องผูเ้ รียนท่รี ะบุในทะเบียนนักเรยี น
ศาสนา ใหก้ รอกช่อื ศาสนาทีผ่ ู้เรยี นนบั ถอื เชน่ พุทธ อิสลาม หรือครสิ ต์ เป็นตน้
ชื่อ – ชื่อสกุลบิดา, ชื่อ – ชื่อสกุลมารดา ให้กรอกชื่อบิดาและมารดาที่แท้จริงของผู้เรียนพร้อม
นามสกลุ และคำนำหนา้ ท่ถี ูกตอ้ งอย่างชัดเจน ตามหลกั ฐานในทะเบียนนกั เรียน
กรณไี ม่มีชื่อบดิ าและ/หรอื ชอื่ มารดาในทะเบยี นนักเรียน ให้ขดี เคร่อื งหมาย “ - ” หา้ มกรอกช่ือบิดา
บุญธรรมหรอื มารดาบญุ ธรรม หรือผู้ท่ีมิใช่บดิ า มารดา ผูใ้ หก้ ำเนิดผู้เรียน
๒. ผลการเรยี นรายวชิ า
การกรอกข้อมูลในตารางผลการเรียน จะกรอกครั้งเดียวเมื่อต้องการออกเอกสารทั้งกรณีผู้เรียนจบ
ระดับการศึกษา (ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖) หรือย้ายออกจากโรงเรยี น ข้อมูลผลการเรียนที่กรอก เป็นข้อมูลปัจจุบันใน
วนั จัดทำเอกสารท้ังหมด ในขณะเดยี วกนั ข้อมลู ในเอกสารท่ีมอบใหผ้ เู้ รยี นจะต้องสมบูรณ์ครบถว้ น และถูกต้อง การ
กรอกขอ้ มูลในชอ่ งตาราง ใหก้ รอกดังนี้
รหัส/รายวิชา ให้กรอก “ปีการศึกษา” และ “ภาคเรียนท่ี” ที่เริ่มเรียนก่อน แล้วจึงกรอกรหัส
รายวิชาพืน้ ฐาน/รายวิชาเพิม่ เติมทีผ่ ู้เรียนเรียนในแต่ละภาคเรียน เรียงตามลำดับลงมา แต่ละรายวชิ าให้กรอกเลข
รหัสก่อนแล้วตามด้วยชื่อรายวิชาพื้นฐาน/รายวิชาเพิ่มเติม การกรอกให้กรอกเรียงตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ และ
เรยี งตามลำดบั จากสดมภซ์ า้ ยมือไปขวามอื
หนว่ ยกิต ใหก้ รอกตัวเลขจำนวนหนว่ ยกติ ใหต้ รงกบั รายวิชาน้ัน
238
หนว่ ยกิต เป็นหนว่ ยตวั เลขบอกค่าปริมาณภาระงานในการเรียนแต่ละรายวชิ าซ่ึงสะทอ้ นถงึ
ปรมิ าณของมาตรฐานการเรียนรูแ้ ละกิจกรรมตา่ ง ๆ ทผี่ ูเ้ รยี นตอ้ งปฏิบตั ใิ นแตล่ ะรายวชิ า หนว่ ยกติ
คานวณไดจ้ ากการนาจานวนเวลาเรยี นของรายวชิ าหารดว้ ยจานวนเวลา ๔๐ ช่วั โมง (๑ หนว่ ยกติ มีค่า
เท่ากบั ๔๐ช่วั โมง) ดงั นี้
จานวนหนว่ ยกิต = จานวนเวลาเรียนของรายวชิ า (นบั เป็นชว่ั โมง)
ผลการเรียน ให้กรอกผลการเรยี นในสดมภ์ใหต้ ร๔ง๐กบั ชร่วัหโัสม/งรายวชิ าน้นั ๆ ผลการเรยี นทีน่ ำมากรอก
จะตอ้ งเปน็ ข้อมูลปัจจบุ นั ในขณะที่จดั ทำเอกสาร เชน่ รายวชิ าใดทต่ี ดั สนิ ผลการเรียนแลว้ ไมผ่ ่าน ถา้ ยังไม่ได้แกไ้ ข ให้
กรอกผลการเรียนเดมิ แต่ถ้าได้ซ่อมเสรมิ จนผา่ นแล้ว ให้กรอกด้วยผลการเรยี นท่ีซ่อมเสรมิ แล้ว หรอื รายวชิ าใดต้อง
เรียนซ้ำ ถ้าขณะทจี่ ัดทำเอกสารที่นกั เรยี นได้เรยี นซ้ำแลว้ ก็นำผลการเรียนซำ้ มากรอก สำหรบั รายวิชาทีผ่ ่าน ให้
กรอกดว้ ยผลการเรียนทีไ่ ด้ตามปกติ
ผลการเรียนเฉลี่ยรายกลุ่มสาระการเรยี นรู้
- หน่วยกิตรวม ให้กรอกจำนวนหน่วยกิตรวมของทุกรายวิชาที่นักเรียนได้เรียนแล้ว โดยจำแนก
การรวมตามกลุ่มสาระการเรยี นรู้
- ผลการเรยี นเฉลีย่ ให้กรอกผลการเรียนเฉล่ียของทุกรายวชิ าที่นกั เรียนได้เรียนแล้ว โดยจำแนก
การเฉลย่ี เป็นกลุม่ สาระการเรียนรู้
- ผลการเรียนเฉลี่ยตลอดหลักสูตร ให้กรอกผลการเรียนเฉลี่ยของทุกรายวิชาที่นักเรียนได้เรียน
แล้ว โดยรวมเฉลี่ยทกุ กลุ่มสาระการเรยี นรู้
๓. ผลการประเมินกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น
กิจกรรม ให้กรอกปีการศึกษาและภาคเรียนที่ผู้เรียนปฏิบัติกิจกรรม ตามด้วยชื่อกิจกรรมพัฒนา
ผู้เรียนที่ผู้เรียนปฏิบัติกิจกรรมในปีนั้นเรียงลงมาตามลำดับ โดยเริ่มจากกิจกรรมแนะแนว กิจกรรมนักเรียน
(ลูกเสือ/เนตรนารี/ยุวกาชาด ฯลฯ ตามด้วยกิจกรรมชุมนุม/ชมรม โดยระบุชื่อของชุมนุม/ชมรมให้ชัดเจน) และ
กิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ กรณที ่โี รงเรยี นกำหนดรหัสของกจิ กรรมไว้ด้วย ก็สามารถนำมากรอกได้
โดยปฏบิ ัตเิ ช่นเดียวกบั การกรอกรหสั รายวิชา
เวลา ให้กรอกจำนวนเวลาเรียน(ชั่วโมง) ของแต่ละกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามที่สถานศึกษากำหนด
และตรงกับชื่อกจิ กรรมน้นั ๆ
ผลการประเมิน ให้กรอกผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนแต่ละกิจกรรมโดยกรอก “ผ”
สำหรบั กจิ กรรมท่ไี ด้รับการประเมนิ “ผา่ น” และกรอก “มผ” สำหรับกิจกรรมทไี่ ดร้ บั การประเมิน “ไม่ผา่ น”
239
๔. สรปุ ผล/ตดั สนิ /อนุมัติผลการประเมิน
จำนวนหนว่ ยกิตรายวชิ าพื้นฐานท่ีเรียน.........ได้........ ใหก้ รอกตัวเลขจำนวนหน่วยกิตรวมทุกรายวิชา
พน้ื ฐานที่เรยี นมาแล้วกับจำนวนหน่วยกิตรวมของรายวิชาพน้ื ฐานทมี่ ผี ลการประเมินผา่ นเกณฑ์ของสถานศกึ ษา
จำนวนหน่วยกิตรายวิชาเพิ่มเติมที่เรียน..........ได้......... ให้กรอกตัวเลขจำนวนหน่วยกิตรวมทุก
รายวิชาเพิ่มเติมที่เรียนมาแล้วกับจำนวนหน่วยกิตรวมของรายวิชาเพิ่มเติมที่มีผลการประเมินผ่านเกณฑ์ของ
สถานศกึ ษา
ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน ให้กรอกผลการประเมินการอ่าน
คิดวิเคราะห์ และเขียนของชั้นปีสุดท้าย “ดีเยี่ยม” หรือ “ดี” หรือ “ผ่าน” ในช่องสรุปผลการประเมิน สำหรับ
ผู้เรียนที่มีผลการประเมินการอ่านคิดวิเคราะห์ และเขียนผ่านเกณฑ์การจบของสถานศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอน
ปลาย และเวน้ วา่ งไว้สำหรับผู้เรยี นท่ยี ังไม่จบการศึกษาระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย
ผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ให้กรอกผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของ
ชั้นปีสุดท้าย “ดีเยี่ยม” หรือ “ดี” หรือ “ผ่าน” ในช่องสรุปผลการประเมิน สำหรับผู้เรียนที่มีผลการประเมิน
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ผ่านเกณฑ์การจบของสถานศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และเว้นว่างไว้สำหรับ
ผเู้ รยี นที่ยังไม่จบการศึกษาระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย
ผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ให้กรอกผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน “ผ่าน” ใน
ช่องสรุปผลการประเมิน สำหรับผู้เรยี นที่มีผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนผ่านเกณฑ์การจบของสถานศกึ ษา
ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย และเว้นวา่ งไวส้ ำหรับผเู้ รียนทยี่ ังไมจ่ บการศกึ ษาระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
ผลการตัดสิน ให้กรอกผลการตดั สนิ ดังน้ี
ก. กรอก “ผา่ น” เม่อื เกณฑ์นน้ั ไดร้ ับการตัดสินแลว้ ได้ “ผ่าน”
ข. กรอก “ไมผ่ ่าน” เมอ่ื เกณฑ์นั้นได้รบั การตัดสนิ แลว้ ได้ “ไมผ่ ่าน”
ค. เว้นว่างไว้เมอื่ เกณฑน์ น้ั ยงั ไม่มกี ารตดั สนิ
วันอนุมัติการจบ ให้กรอกเลขวันที่ ชื่อเดือน และเลข พ.ศ. ที่โรงเรียนอนุมัติให้ผู้เรยี นจบ ได้แก่
วันที่ผู้บริหารสถานศึกษาลงนามตัดสินและอนุมัติผลการเรียนในแบบรายงานผู้สำเร็จการศึกษา (ปพ.๓) กรณี
ผูเ้ รยี นออกจากโรงเรียนกอ่ นจบระดบั ชัน้ ให้ขดี เคร่ืองหมาย “ - ”
วันออกจากโรงเรียน ให้กรอกเลขวันที่ ชื่อเดือน และเลข พ.ศ. ที่ผู้เรียนออกจากโรงเรียนตาม
“วนั จำหน่าย” ที่ระบใุ นทะเบียนนักเรียน
สาเหตุที่ออกจากโรงเรียน ใหก้ รอก ดงั นี้
ก. กรณีผู้เรียนจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และออกจากโรงเรียน ให้กรอก “จบ
การศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน”
ข. ผู้เรยี นท่ีออกจากโรงเรยี นในกรณอี น่ื ๆ ใหก้ รอก “ศกึ ษาตอ่ สถานศึกษาอื่น”
240
๕.ผลการประเมินระดบั ชาติ
ให้กรอกผลการทดสอบระดับชาติของสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ที่
ผเู้ รียนเขา้ สอบโดยกรอกชื่อรายวชิ า.....คะแนนเตม็ .....คะแนนทไ่ี ด.้ ....ใหค้ รบทกุ วิชาทีเ่ ข้าสอบ
๖. คำอธบิ ายเกณฑ์การประเมินของสถานศกึ ษา
ให้กรอกระดับผลการเรียนหรือรูปแบบการตัดสินผลการเรียนที่โรงเรียนใช้ในการตัดสินผลการเรียน
รายวชิ า ทโี่ รงเรยี นกำหนด ทั้ง ๔ เกณฑ์ คือ
๑. การประเมนิ รายวิชาพืน้ ฐานและการประเมนิ รายวชิ าเพ่มิ เติม
๒. การประเมินการอ่าน คดิ วิเคราะห์ และเขยี น
๓. การประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
๔. การประเมินกจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น
สำหรบั ระดับผลการเรียนอาจกำหนดไดด้ งั นี้
๔ หมายถงึ ดีเยย่ี ม
๓.๕ หมายถึง ดมี าก
๓ หมายถึง ดี
๒.๕ หมายถงึ ค่อนขา้ งดี
๒ หมายถงึ ปานกลาง
๑.๕ หมายถงึ พอใช้
๑ หมายถงึ ผ่านเกณฑ์ขัน้ ต่ำ
๐ หมายถึง ต่ำกวา่ เกณฑ์
๗. หมายเหตุ
ใหก้ รอกข้อมลู การเทยี บโอนผลการเรียนจากโรงเรียนเดมิ เป็นข้อมูลของโรงเรียนใหม่เปน็ รายวิช
241
ตอนท่ี 2 การประเมินการปฏิบัติตนในการรกั ษาวินัย คณุ ธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ
(30 คะแนน)
รายการประเมนิ คะแนน ประเด็นการตรวจสอบ ร่องรอยเอกสาร
หลกั ฐาน
1. มีความซ่ือสัตย์ สุจริต รักษาประโยชนส์ ่วนรวม 5 1. การปฏิบตั ิงานด้วยความซ่ือสตั ย์ 1.คำส่ังเวร**
ไมอ่ าศยั หรือยนิ ยอมให้ผู้อืน่ ใช้อำนาจและหนา้ ที่ สจุ ริต เที่ยงตรงและเที่ยงธรรม 2.บนั ทึกการอยู่เวร
ของตน เพ่ือแสวงหาประโยชนโ์ ดยพจิ ารณาจาก 2. ได้รบั การยอมรับจากเพื่อนร่วมงาน ยามวันหยดุ และบันทึก
การปฏบิ ัติงานด้วยความซ่ือสัตย์สุจรติ เท่ยี งตรง และผู้บงั คบั บัญชาในดา้ นความซ่ือสัตย์ เวรประจำวัน
และเทย่ี งธรรมไดร้ ับการยอมรบั จากเพื่อนร่วมงาน สจุ ริต 3.กพ.7
และผูบ้ ังคบั บัญชาในด้านความซื่อสตั ยส์ ุจรติ รักษา 3. รักษาผลประโยชนข์ องทางราชการ 4.คำสัง่ เวรประจำวัน
ผลประโยชนข์ องทางราชการไมม่ ผี ลประโยชน์ทับ ไม่มีผลประโยชนท์ บั ซ้อน 5.คำสง่ั 124
ซอ้ น ใชท้ รัพยส์ นิ ของทางราชการอยา่ งคุ้มค่าไมใ่ ช้ 4. ใช้ทรพั ยส์ ินของทางราชการอยา่ ง 6.แบบบันทึกการ
ช่องว่างทางระเบียบและกฎหมายเพ่ือประโยชน์ คมุ้ ค่า จ่ายเงนิ ค่าอุปกรณ์การ
สว่ นตนและผู้อน่ื การรบั อามิสสนิ จ้างจากผูอ้ ่ืน) ไม่ 5. ไมใ่ ชช้ ่องว่างทางระเบยี บและ เรยี น
แสวงหาผลประโยชน์ทเ่ี กดิ กฎหมายเพ่ือประโยชนส์ ว่ นตนและผอู้ ่ืน 7.แบบบนั ทกึ การ
จากชอ่ งว่างทางระเบียบกฎหมายจากผู้ปกครอง (การรบั อามสิ สนิ จา้ งจากผู้อน่ื ) จ่ายเงนิ เยียวยา
และนักเรียนในงานท่ีเกยี่ วกบั บทบาท หน้าท่ี และ 6. ไมแ่ สวงหาผลประโยชน์ท่ีเกดิ จาก 2,000บ.
ภารกจิ ทต่ี นรบั ผิดชอบ ชอ่ งว่างทางระเบียบกฎหมายจากครู
เกณฑ์การใหค้ ะแนน ผูป้ กครองและนักเรียนในงานที่
1. ปฏบิ ัติไดท้ ัง้ 7 ข้อ และมีหลักฐานทีช่ ัดเจน ได้ เก่ยี วข้องกับบทบาทหน้าท่ีและภารกิจที่
5 คะแนน ตนเองรับผิดชอบ
2. ปฏบิ ัติได้ 6 ข้อ และมีหลักฐานทชี่ ดั เจน ได้ 4 7. ต้องไม่อยู่ระหว่างการถูกกล่าวหา
คะแนน หรือถูกลงโทษทางวนิ ัย
3. ปฏิบัตไิ ด้ 5 ข้อ และมหี ลักฐานทช่ี ัดเจน ได้ 3
คะแนน
4. ปฏบิ ตั ิได้ 4ขอ้ และมีหลักฐานที่ชัดเจน ได้ 2
คะแนน
5. ปฏิบตั ิได้ 3 ขอ้ และมหี ลักฐานทชี่ ัดเจน ได้ 1
คะแนน
242
รายการประเมนิ คะแนน ประเดน็ การตรวจสอบ ร่องรอยเอกสาร
5 หลักฐาน
2. การปฏบิ ตั ิตามระเบียบ กฎหมาย นโยบาย และ 1. การมีความรูแ้ ละปฏิบตั ิตาม
คำส่ังของผูบ้ ังคบั บญั ชา โดยพิจารณาจาก การมี ระเบยี บกฎหมายที่เก่ียวข้องอยา่ ง 1.บันทกึ การอยู่เวร
ความรู้ และปฏบิ ตั ิตามระเบียบกฎหมาย ท่ี เครง่ ครดั ยาม
เกยี่ วข้องอย่างเคร่งครดั ปฏบิ ัตติ ามคำสัง่ หรือ 2. ปฏิบตั ติ ามคำสงั่ ท่ชี อบดว้ ย 2.เวรประจำวนั
นโยบายทชี่ อบดว้ ยกฎหมายอย่างเครง่ ครัดของ กฎหมายของผู้บริหารหรอื หน่วยงาน 3.รายงานการอบรม
ผู้บริหารสถานศกึ ษาหรอื ผู้บริหารการศกึ ษาหรือ ตน้ สังกดั อย่างเคร่งครัด 4.คำส่ังการปฏิบตั ิงาน
หน่วยงานต้นสงั กดั และไม่ใช้ชอ่ งว่าง 3.ปฏิบัติตามนโยบาย จุดเนน้ ของ
ทางระเบยี บ และกฎหมายกลั่นแกล้งผอู้ ื่น สถานศึกษาหรอื หน่วยงานตน้ สังกดั
อย่างเคร่งครัด
เกณฑก์ ารให้คะแนน 4. ไม่ใชช้ ่องวา่ งทางระเบยี บและ
1. ปฏบิ ัติได้ท้งั 5 ขอ้ และมหี ลักฐานที่ชัดเจน ได้ 5 กฎหมายกล่นั แกล้งผูอ้ ื่น
คะแนน 5. ไม่เคยถกู วา่ กลา่ วตักเตือนจาก
2. ปฏบิ ตั ิได้ทงั้ 4ขอ้ และมีหลักฐานที่ชดั เจน ได้ 4 ผบู้ งั คบั บญั ชา
คะแนน
3.ปฏบิ ตั ิไดท้ ้ัง 3 ขอ้ และมีหลักฐานท่ชี ดั เจน ได้ 3
คะแนน
4. ปฏบิ ัตไิ ดท้ ั้ง 2 ข้อ และมีหลกั ฐานทีช่ ดั เจน ได้ 2
คะแนน
5. ปฏบิ ตั ไิ ด้ทง้ั 1 ข้อ และมหี ลกั ฐานทช่ี ัด
ชัดเจนชดั เจน ได้ 1 คะแนน
243
รายการประเมิน คะแนน ประเดน็ การตรวจสอบ รอ่ งรอยเอกสาร
5 หลักฐาน
3. มีความวิรยิ ะ อุตสาหะ ตรงต่อเวลา และอุทศิ 1. มีการพัฒนาตนเองและพัฒนา
เวลาใหแ้ ก่ทางราชการ โดยพิจารณาจาก การ งานอย่างสม่ำเสมอ 1.รายงานการอบรม
พฒั นาตนเองและงานโดยใหห้ ลักการพัฒนาแบบมุง่ 2. พัฒนางานโดยยึดหลกั แบบมุง่ 2.ปพ.5
ผลสัมฤทธมิ์ ีทกั ษะการสอนงาน(Coaching) จน ผลสัมฤทธิ์ 3.แผนการสอน
สามารถเป็นต้นแบบได้ เปน็ ผู้ตรงตอ่ เวลามีความ 3. มที กั ษะการสอนงานที่สามารถ 4.บันทึกการเยี่ยมบ้าน
รับผดิ ชอบตอ่ งานตามบทบาท หนา้ ที่ ภารกิจท่ีได้รับ เปน็ ต้นแบบได้ 5.บนั ทกึ การลงเวลา
มอบหมายรวมถึงผลทเี่ กิดจากการปฏบิ ตั งิ านของตน 4. เปน็ ผู้ตรงตอ่ เวลามีความ ปฏบิ ตั งิ าน
มคี วามพร้อมในการปฏิบตั ิงานตามบทบาทหน้าที่ รบั ผดิ ชอบต่องานตามบทบาทหน้าท่ี 6...
ภารกิจที่ไดร้ ับมอบหมายและอุทศิ เวลาโดยมี ภารกิจท่ไี ดร้ ับมอบหมาย รวมถึงผลที่
จิตสำนึกและความรบั ผิดชอบ เกิดจากการปฏิบัตงิ านของตน
5. มคี วามพรอ้ มในการปฏบิ ัติงาน
เกณฑ์การให้คะแนน ตามบทบาทหน้าทภ่ี ารกิจท่ีได้รบั
มอบหมาย
1. ปฏบิ ัตไิ ด้ทั้ง 6 ข้อ และมีหลักฐานชัดเจนได้ 5 6. อุทศิ เวลาโดยมจี ติ สำนึกและความ
คะแนน รับผดิ ชอบ
2.ปฏิบัตไิ ด้ 5 ข้อ และมหี ลักฐานชัดเจนได้ 4
คะแนน
3.ปฏิบัติได้ 4 ขอ้ และมหี ลักฐานชัดเจนได้ 3
คะแนน
4.ปฏบิ ัตไิ ด้ 3 ข้อ และมหี ลักฐานชดั เจนได้ 2
คะแนน
5. ปฏบิ ัตไิ ด้ 2 ข้อ และมหี ลักฐานชัดเจนได้1
คะแนน
244
รายการประเมนิ คะแนน ประเดน็ การตรวจสอบ รอ่ งรอยเอกสาร
5 หลักฐาน
4.การมีจติ สำนกึ ท่ีดี มุ่งบริการต่อกล่มุ เปา้ หมาย 1. มีพฤติกรรมเชิงบวกในการ
ผ้รู บั การบรกิ ารโดยไมเ่ ลือกปฏบิ ตั ิ โดยพจิ ารณา ใหบ้ รกิ ารกับผ้รู บั บริการ 1.ภาพถ่ายการ
จาก การมีพฤติกรรมเชิงบวกในการให้บรกิ ารกักล่มุ 2. มุ่งมัน่ ในการให้ความรแู้ ละวิธี ให้บรกิ าร
เป้าหมายผูร้ ับบริการ มุ่งม่ันในการให้ความรูแ้ ละวธิ ี ปฏิบตั ิทถ่ี กู ต้องกับผ้รู ับบริการ 2.บนั ทึกการประชุม
ปฏบิ ัตทิ ่ีถูกต้องกับ กลมุ่ เป้าหมายผู้รับบรกิ าร 3. ใหบ้ ริการความรูแ้ ก่ครูและบคุ ลา คณะกรรมการ
ใหบ้ รกิ าร การทางการศึกษาทเี่ กย่ี วข้องกับการ สถานศกึ ษาเพื่อขอใช้
กบั กลุม่ เปา้ หมายผูร้ ับบรกิ ารในประเด็นท่ีเกี่ยวขอ้ ง ปฏิบตั งิ าน การเรยี นการสอนโดยไม่ รร.เปน็ รพ. สนาม
กับการเรียนการสอน โดยไม่เลือกปฏิบตั ิใหบ้ ริการ เลือกปฏบิ ัติ 3.ภาพถ่ายการมอบ
กบั ผ้ปู กครองทุกคนในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการ 4. ให้บรกิ ารกับผปู้ กครองทุกคนใน หน้ากากอนามัยให้
เรียนการสอนของผเู้ รียนในความปกครอง โดยไม่ ประเดน็ ที่เกี่ยวขอ้ งกบั การเรยี นการ นกั เรยี น
เลือกปฏิบัติ ให้ความร่วมมือกบั ประชาชนชมุ ชนใน สอนของผ้เู รียนในความปกครองโดย 4.ภาพการมอบเงนิ
ประเด็นท่เี กยี่ วข้องกับการพัฒนาผเู้ รยี นโดยไม่เลือก ไมเ่ ลือกปฏิบตั ิ โครงการให้ความ
ปฏบิ ัติ 5. ใหค้ วามรว่ มมอื กบั ประชาชน ช่วยเหลือบรรเทาภาระ
เกณฑก์ ารให้คะแนน ชมุ ชนในประเด็นท่ีเก่ยี วขอ้ งกับการ ค่าใชจ้ า่ ยด้าน
1. ปฏบิ ัตไิ ดท้ ้งั 5 ขอ้ และมหี ลกั ฐานชดั เจน พัฒนาผเู้ รียนโดยไมเ่ ลือกปฏิบัติ การศึกษาในชว่ งการ
ได้ 5 คะแนน แพรร่ ะบาดของชว่ งโค
2.ปฏบิ ัติได้ 4 ข้อ และมหี ลักฐานชดั เจน วิด19
ได้ 4 คะแนน ***ทำแฟ้มภาพ
3.ปฏิบตั ิได้ 3 ข้อ และมหี ลักฐานชดั เจน 5.บันทกึ การเย่ยี มบ้าน
ได้ 3 คะแนน 6.ภาพการจดั การเรยี น
4.ปฏบิ ัตไิ ด้ 2 ข้อ และมหี ลักฐานชดั เจน การสอน
ได้ 2 คะแนน 7.ภาพการประชุม
5. ปฏิบตั ิได้ 1 ขอ้ และมหี ลักฐานชดั เจน 8.บนั ทกึ การประชุม
ได1้ คะแนน
245
รายการประเมนิ คะแนน ประเด็นการตรวจสอบ ร่องรอยเอกสาร
5 หลกั ฐาน
5.การรกั ษาคณุ ภาพตามมาตรฐานวิชาชพี และ
จรรยาบรรณวชิ าชพี โดยพจิ ารณาจาก การ 1. เข้าร่วมกิจกรรมของวชิ าชพี หรอื 1.รายงานการอบรม
ปฏบิ ตั งิ านโดยเข้ารว่ มกิจกรรมของวิชาชพี หรอื
องค์กรวิชาชีพเพ่ือพฒั นาความเชี่ยวชาญทางวิชาชพี องค์กรวชิ าชีพเพ่ือพฒั นาความ 2.ภาพถ่ายการอบรม
ของตนเองอยา่ งสม่ำเสมอ ปฏิบตั งิ านโดยให้
คำปรึกษาโดยให้คำปรึกษาหรือชว่ ยเหลอื เชี่ยวชาญทางวิชาชพี ของตนเอง 3.เกยี รติบัตรการ
กลุ่มเป้าหมายผูร้ ับบริการด้วยความเมตตากรณุ า
อยา่ งเตม็ กำลงั ความสามารถและเสมอภาค ปฏิบัติ อยา่ งสม่ำเสมอ อบรม
ตนดว้ ยการดำรงชีวิตตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ
พอเพียง ป้องกนั ความเสย่ี งในการดำเนนิ ชีวติ ภายใต้ 2. ปฏิบัติงานโดยให้คำปรกึ ษาหรอื 4.บันทกึ การเยย่ี มบ้าน
ความรู้และคุณธรรมอันดี ประพฤตติ นเปน็ ผู้นำใน
การอนรุ ักษ์ ศลิ ปวฒั นธรรม ภูมปิ ัญญาท้องถ่ิน และ ช่วยเหลอื ผูร้ บั บรกิ ารด้วยความ 5.สมดุ บญั ชธี นาคาร
สงิ่ แวดลอ้ ม ไม่กระทำตนเปน็ ปฏปิ ักษ์ ตอ่ ความเจรญิ
ทางกาย สตปิ ญั ญา จติ ใจอารมณ์ และสังคมของ เมตตากรุณาอย่างเต็มกำลงั 6.ภาพถ่ายปลูกผกั สวน
กล่มุ เปา้ หมายผรู้ ับบริการบุคลากรทางการศึกษา
และผ้รู ว่ มงาน ความสามารถและเสมอภาพ ครวั
เกณฑก์ ารให้คะแนน
1. ปฏบิ ตั ไิ ด้ท้ัง 6 ขอ้ และมีหลักฐานชดั เจนได้ 5 3. ปฏบิ ตั ิตนดว้ ยการดำรงชวี ติ ตาม 7.กพ.7
คะแนน
2.ปฏบิ ตั ไิ ด้ 5 ข้อ และมหี ลักฐานชดั เจนได้ 4 หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 8.บนั ทึกการประชุม
คะแนน
3.ปฏิบัตไิ ด้ 4 ขอ้ และมีหลักฐานชัดเจนได้ 3 4. ปฏบิ ัตติ ามมาตรฐานวชิ าชพี และ 9.ผลงานนกั เรยี นปลกู
คะแนน
4.ปฏิบตั ิได้ 3 ขอ้ และมีหลักฐานชดั เจนได้ 2 จรรยาบรรณวชิ าชีพ ตน้ ไม้ ทำอาหารข้าว
คะแนน
5. ปฏบิ ตั ไิ ด้ 2 ขอ้ และมีหลักฐานชัดเจนได้ 1 5. ประพฤติตนเป็นผูน้ ำในการ ดอกราย ผลิตน้ำ
คะแนน
อนรุ กั ษ์ศิลปวัฒนธรรมภูมิปัญญา สมนุ ไพร ผลิตสอ่ื จาก
ท้องถน่ิ และสงิ่ แวดลอ้ ม วสั ดุเหลอื ใช้
6. ไมก่ ระทำตนเปน็ ปฏิปักษต์ ่อความ
เจรญิ ทางกาย สติปญั ญา จติ ใจ
อารมณ์และสงั คมของผรู้ บั บริการ
บคุ ลากรทางการศึกษาและผู้ร่วมงาน
246
รายการประเมิน คะแนน ประเด็นการตรวจสอบ ร่องรอยเอกสาร
5 หลักฐาน
6. การรักษาภาพลักษณ์และความสามัคคใี น 1. มภี าพลกั ษณท์ ี่ดีทางด้านศีลธรรม
องคก์ ร ชุมชนและสังคมโดยพจิ ารณาจาก การมี จริยธรรม คุณธรรมและวฒั นธรรมที่ 1.ภาพละหมาด
ภาพลักษณ์ท่ีดที างดา้ นศลี ธรรม จริยธรรมคณุ ธรรม ดี 2.ภาพสวดมนต์
และวฒั นธรรมท่ดี ีเปน็ แบบอย่างทางสังคม เขา้ รว่ ม 2. เป็นแบบอย่างทีด่ ีทางสังคม 3.ภาพไปฉีดวัคซีน
กจิ กรรมที่ส่งเสริมวฒั นธรรมขนบธรรมเนียม 3. เขา้ รว่ มกจิ กรรมท่ีส่งเสรมิ 4.บนั ทกึ การประชุม
ประเพณีอนั ดีงาม ขององค์กรสังคมและสถานศึกษา วฒั นธรรม ขนบธรรมเนยี มประเพณี 5.ภาพปลกู ตน้ ไม้
อยา่ งสมำ่ เสมอ รวมถึงกจิ กรรมด้านส่ิงแวดล้อม อันดีงามขององคก์ ร สังคมและ
และประโยชนส์ าธารณะ ปฏิบตั ติ ่อกลุ่มเปา้ หมาย สถานศึกษาอยา่ งสมำ่ เสมอ รวมถึง
ผรู้ บั บริการเพ่ือนรว่ มงาน และประชาชน อย่างเสมอ กิจกรรมดา้ นสิ่งแวดลอ้ มและ
ภาคเทา่ เทียมกนั ปฏบิ ตั ิตนเพื่อเป็นการเสรมิ สรา้ ง ประโยชน์สาธารณะ
ความสามัคคี ช่วยเหลือเกือ้ กูลในการทำงานหรืออยู่ 4. ปฏิบัติต่อผู้รับบริการเพื่อน
รว่ มกับผูอ้ ่นื รวมทง้ั ปลูกฝังแก่กลมุ่ เป้าหมาย รว่ มงานและประชาชนอย่างเสมอ
ผู้รับบรกิ าร ภาคเท่าเทียมกัน
เกณฑ์การให้คะแนน 5. ปฏบิ ัตติ นเพอ่ื เปน็ การเสริมสรา้ ง
1. ปฏบิ ัตไิ ดท้ ั้ง 5 ข้อ และมหี ลักฐานชดั เจนได้ 5 ความสามคั คชี ่วยเหลอื เก้ือกลู ในการ
คะแนน ทำงานหรืออยรู่ ่วมกบั ผู้อื่น รวมทง้ั
2. ปฏิบัติได้ 4 ข้อ และมีหลักฐานชัดเจนได้4 ปลูกฝังแก่ผู้รบั บรกิ าร
คะแนน
3.ปฏบิ ตั ิได้ 3 ขอ้ และมีหลักฐานชดั เจนได้ 3
คะแนน
4. ปฏิบัตไิ ด้ 2 ขอ้ และมีหลักฐานชัดเจนได้2
คะแนน
5. ปฏบิ ตั ไิ ด้ 1 ข้อ และมีหลักฐานชัดเจนได้ 1
คะแนน
247