The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ลักษณะเด่นข้อมูลความเข้มกัมมันตรังสีและข้อมูลความเข้มสนามแม่เหล็ก ในการประยุกต์ใช้สำรวจธรณีวิทยาของประเทศไทย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by zeath_junior, 2021-10-04 00:12:00

ข้อมูลความเข้มกัมมันตรังสีและความเข้มสนามแม่เหล็กในการสำรวจธรณีวิทยาประเทศไทย

ลักษณะเด่นข้อมูลความเข้มกัมมันตรังสีและข้อมูลความเข้มสนามแม่เหล็ก ในการประยุกต์ใช้สำรวจธรณีวิทยาของประเทศไทย

Keywords: ประเทศไทย,ความเข้มสนามแม่เหล็ก,ความเข้มกัมมันตรังสี,กรม,ทรัพยากรธรณี,กองเทคโนโลยีธรณี

130

5.1.1.4 แนวหนิ ภูเขาไฟวงั โป่ง (Pd) ไพศาลี (Pe) และสระบุรี (Pf)

แนวหินภูเขาไฟวังโป่ง (Pd) ไพศาลี (Pe) และสระบุรี (Pf) วางตัวต่อเน่ืองกัน ทางด้าน
ตะวนั ตกของภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ หรือตามขอบโคราช เป็นหินภเู ขาไฟหน่วย PTrv ประกอบดว้ ยหิน
หินไรโอไลต์ แอนดีไซต์ หินเถ้าภูเขาไฟแสดงการไหล หินกรวดเหล่ียมภูเขาไฟ หินไรโอลิติกทัฟฟ์และหิน
แอนดิซติ กิ ทฟั ฟ์

ลักษณะเด่นความเข้มสนามแม่เหล็ก บริเวณที่มีค่าความผิดปกติความเข้มสนามแม่เหล็ก
ท่ีสลับซับซ้อน ประกอบด้วยท้ังท่ีมีความยาวคลื่นส้ัน และคล่ืนยาวอยู่ด้วยกัน ขนาของความผิดนั้นวางตัว
ด้านตะวนั ตกของท่ีราบสูงโคราช มีความกว่ามากกวา่ 20 กิโลเมตร ซึ่งแนวหินภเู ขาไฟวังโป่ง ไพศาลี และ
สระบุรี ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ อาจตอ้ งมีการประมวลผลข้อมูลในรูปแบบอ่ืน ๆ เพิ่มเติม กอปรกับ
ในบริเวณน้ีการบินสารวจธรณีฟิสิกส์ทางอากาศน้ัน มีระยะห่างระหว่างแนวบิน 2 กิโลเมตร ทาให้ไม่
สามารถจาแนกขอ้ มูลความเขม้ สนามแมเ่ หล็กทเี่ ด่นชดั จากเส้นชน้ั ความเข้มสนามแม่เหลก็ ออกมาได้

ลักษณะเด่นความเข้มกัมมันตรงั สี จากแผนที่เข้มกมั มันตรังสีเทอร์นารี และ แผนท่ีความ
เข้มกัมมันตรังสีรวม ไม่แสดงลักษณะเด่นของแนวหินแกรนิตในบริเวณนี้ อาจเนื่องด้วยข้อจากัดของ
ระยะห่างระหวา่ งแนวบินสารวจ ทาใหไ้ ม่ไดข้ ้อมูลท่มี ีความละเอยี ดมากพอท่ีจะแสดงลกั ษณะเด่นได้

5.1.2 แนวหินภูเขาไฟสระแก้ว (SK)

แนวหินภูเขาไฟสระแก้ว (SK) (รูปท่ี 5-18) จากการสรุปของ (Barr & Charusiri, 2011)
แนวภูเขาไฟสระแก้ว มีเพียงบริเวณเดียว ไดแ้ ก่บริเวณสระแก้ว-จันทบรุ ี แผนท่ีธรณีวิทยาเปน็ หน่วย PS-2
ประกอบด้วยหินทรายเน้ือภูเขาไฟ หินทราย หินดนิ ดาน หินปนู หินเชิร์ต บางแห่งพบหินภเู ขาไฟ และหิน
ฮอรน์ เฟล

ลักษณะเด่นความเข้มสนามแม่เหล็ก บริเวณน้ีเป็นอีกบริเวณที่ค่าผิดปกติความเป็น
แม่เหล็กมีความสลับซับซ้อนเช่นเดียวกัน แต่สามารถแยกจากบริเวณอื่นได้ โดยมีลักษณะเด่นความ
แม่เหล็กเป็นกลุ่ม มีรูปร่างเป็นวงรียาว วางตัวในแนวทิศตะวันตกเฉียงเหนือ-ทิศตะวันออกเฉียงใต้ มีช่วง
คลนื่ ส้ัน และมคี วามยาวคล่นื ประมาณ 2 กิโลเมตร มีคา่ Amplitude สงู กวา่ 100 nT

ลักษณะเด่นความเข้มกัมมันตรังสี จากแผนที่ความเข้มกัมมันตรังสีเทอร์นารีเป็นสีชมพู
อ่อน เมื่อนาเส้นชั้นความเข้มสนามแม่เหล็กซ้อนทับแผนท่ีความเข้มกัมมันตรังสีรวม บริเวณท่ีมีค่าความ
ผิดปกตคิ วามเปน็ แม่เหลก็ เปน็ บรเิ วณท่ีสีน้าเงินของแผนทก่ี มั มันตรังสรี วม

131
กข

คง

รูปที่ 5-16 แผนที่กัมมันตรังสีเทอร์นารี (ก) แผนท่ีธรณีวิทยา (ข) แผนท่ีความเข้มสนามแม่เหล็ก (ค) แผนท่ีเส้นช้ัน
ความเข้มสนามแม่เหล็กซ้อนทับกับแผนที่กัมมันตรังสีรวม (ง) แสดงแนวหินภูเขาไฟตะวนั ตกของเลย ตอนกลางของ
เลย และตะวันออกของเลย

132
กข

คง

รูปที่ 5-17 แผนท่ีกัมมันตรังสีเทอร์นารี (ก) แผนท่ีธรณีวิทยา (ข) แผนท่ีความเข้มสนามแม่เหล็ก (ค) แผนท่ีเส้นช้ัน
ความเขม้ สนามแมเ่ หลก็ ซ้อนทับกบั แผนทก่ี ัมมันตรงั สรี วม (ง) แสดงแนวหนิ ภูเขาไฟวงั โปง่ ไพศาลี และสระบรุ ี

133 ข


คง

รูปที่ 5-18 แผนที่กัมมันตรังสีเทอร์นารี (ก) แผนท่ีธรณีวิทยา (ข) แผนท่ีความเข้มสนามแม่เหล็ก (ค) แผนท่ีเส้นชั้น
ความเข้มสนามแมเ่ หล็กซ้อนทับกบั แผนทก่ี ัมมันตรงั สรี วม (ง) แสดงแนวหนิ ภเู ขาไฟสระแกว้

134

5.2 หนิ ภูเขาไฟถูกปดิ ทับดว้ ยหินปูน

หินภูเขาไฟที่ถูกปิดทับด้วยหินปูน แสดงงลักษณะความเข้มกัมมันตรังสีและความเข้ม
ความเข้มสนามแม่เหล็กเช่นเดียวกับหินภูเขาไฟชนิดเบสิก จากการศึกษาของ Feng, Q., and et.al,
(2008) หินบะซอลต์ท่ีพบตอนเหนือของประเทศไทย พบบางบริเวณอยู่ใต้ช้ันหินปูนอายุเพอร์เมียน ซึ่ง
หินปูนในบริเวณน้ีสะสมตัวบริเวณ seamount หินบะซอลต์ในบริเวณนี้ เป็นหินบะซอลต์ ชนิด
subalkalic basalt และ Potassic trachybasalt.

แผนที่กัมมันตรังสีเทอร์นารีแสดงเป็นสีเขียว เหลือง ซึ่งเป็นลักษณะเด่นอย่างหน่ึงของ
หินปูน ในขณะที่ในบริเวณเดียวกันน้ันแสดงลักษณะของกลุ่ม ค่าผิดปกติ ความเข้มสนามแม่เหล็ก โดยมี
รูปร่างลักษณะเดียวกับหินปูน ยกตัวอย่าง 2 พ้นื ที่ได้แก่ หินปูนบริเวณอาเภอปางมะผ้า (รูปท่ี 5-19) และ
บรเิ วณตะวนั ออก และตอนเหนือของอาเภอเชียงดาว (รูปท่ี 5-20)

กข

คง

รูปที่ 5-19 แผนท่ีกัมมันตรังสีเทอร์นารี (ก) แผนที่ธรณีวทิ ยา (ข) แผนที่ความเข้มสนามแม่เหล็ก (ค) แผนท่ีเส้นช้ัน
ความเข้มสนามแม่เหล็กซอ้ นทับกับแผนท่ีกัมมันตรงั สีรวม (ง) แสดงหินปูนทปี่ ดิ ทบั หนิ ภูเขาไฟบรเวณอาเภอปางมะผา้

135 ข


คง

รูปที่ 5-20 แผนท่ีกัมมันตรังสีเทอร์นารี (ก) แผนที่ธรณีวิทยา (ข) แผนท่ีความเข้มสนามแม่เหล็ก (ค) แผนท่ีเส้นช้ัน
ความเข้มสนามแม่เหล็กซ้อนทับกับแผนที่กมั มันตรังสีรวม (ง) แสดงหนิ ปนู ท่ีปิดทับหินภูเขาไฟบริเวณดา้ นตะวันออก
และตอนเหนอื ของอาเภอเชยี งดาว

136

5.3 หินภูเขาไฟอายุซโี นโซอิก

หินภูเขาไฟอายุซีโนโซอิก น้ันโดยส่วนใหญ่มีความสัมพันธ์กับหน่วย Qbs ยกเว้นบริเวณ
ลพบุรี เป็นหน่วย TV และ Tbs หินภูเขาไฟอายุน้ีเป็นหินบะซอลต์ ที่มีความสัมพันธ์กับแหล่งแร่รัตนชาติ
แยกอธิบาย เป็น 4 บริเวณ ไดแ้ ก่ ภาคเหนอื ภาคกลาง ภาคตะวันออก และ ภาคตะวันออกเฉียงเหนอื

5.3.1 หนิ ภเู ขาไฟภาคเหนือ

หินภูเขาไฟอายุซีโนอิกบริเวณภาคเหนือ เป็นหน่วย Qbs ซึ่งเป็นหินบะซอลต์ Barr and
Charusiri (2011) ไดบ้ รรยายหินบะซอลต์บริเวณภาคเหนือ 8 บริเวณ ได้แก่ เชยี งของ (CK) บ้านชา้ งเค่ียน
(BCK) แมล่ ะมา (ML) แม่งาว (MN) แม่ทา (MT) บา้ นหนองน้าโจ้ (NC) สบปราบ-เกาะคา (SP) และเด่นชัย
(DC) อยา่ งไรกต็ ามหินบะซอลต์บางบรเิ วณมขี นาดเล็กเกินไปจะไมส่ ามารถแสดงลักษณะเด่นของความเข้ม
สนามแมเ่ หล็ก และความเขม้ กัมมันตรงั สไี ด้ กจ็ ะไมน่ ามากล่าวไวใ้ นรายงานนี้

ก) หินบะซอลต์บริเวณอาเภอเชียงของ (CK) อยู่ใกล้กลับแม่น้าโขง พรมแดนระหว่าง
ประเทศไทย และ ลาว ดังนนั้ บริเวณนี้ไม่มขี อ้ มลู การบินสารวจธรณีฟิสกิ สท์ างอากาศ

ข) หินบะซอลต์บริเวณบ้านช้างเค่ียน (BCK) (รูปท่ี 5-21) แผนท่ีธรณีวิทยาเป็นหน่วย
Qbs ซ่ึงเป็นหินบะซอลต์ ลักษณะเด่นความเข้มสนามแม่เหล็ก แสดงค่าผิดปกติเป็นกลุ่ม มีรูปร่างเป็น
เหล่ียม มีความยาวคลื่นส้ัน มีความยาวคล่ืนประมาณ 1 กิโลเมตร มีค่า Amplitude ประมาณ 30 nT
ลักษณะเด่นความเข้มกัมมันตรังสี จากแผนที่กัมมันตรังสีเทอร์นารี แสดงเป็นสีขาว จากแผนที่เส้นชั้น
ความเข้มสนามแม่เหล็กซ้อนแผนท่ีกัมมันตรังสีเทอร์นารี และ แผนท่ีกัมมันตรังสีรวม เป็นรูปร่างแบบ
เดยี วกัน ซงึ่ สามารถแสดงขอบเขตหินบะซอลต์ได้ชดั เจน

ค) หินบะซอลต์บริเวณอาเภอแม่ทะ (Mt) (รูปท่ี 5-22) แผนท่ีธรณีวิทยาเป็นหน่วย
Qbs ซ่ึงเป็นหินบะซอลต์ ลักษณะเด่นความเข้มสนามแม่เหล็กแสดงค่าผิดปกติเป็นกลุ่ม รูปร่างเหมือนมุม
เมอแรง มีความยาวคลื่นส้ัน มีความยาวคลื่นประมาณ 1 กิโลเมตร มีค่า Amplitude ประมาณ 30 nT
ลักษณะเดน่ ความเข้มกัมมันตรังสี จากแผนท่ีความเข้มกัมมันตรังสีเทอร์นารี แสดงเป็นสีชมเขียวอ่อนปนสี
ขาว แผนท่ีกัมมันตรังสีรวมเป็นสีน้าเงินเข้ม เมื่อแสดงแผนสีเส้นช้ันความเข้มสนามแม่เหล็กซ้อนกับแผนที่
ความเข้มกัมมันตรังสีเทอร์นารี สามารถกาหนดขอบเขตของหินบะซอลต์แยกจากหน่วย PTrv ท่ีอยู่
ขา้ งเคียง ไดด้ ีกวา่ แผนทกี่ ัมมนั ตรังสีรวม

ง) หินบะซอลต์บริเวณอาเภอสบปราบ-เกาะคา (SP) (รูปที่ 5-22) เป็นหินบะซอลต์
หนว่ ย Qbs ลกั ษณะเดน่ ความเขม้ สนามแม่เหล็ก แสดงคา่ ผดิ ปกติเป็นกลุ่ม รูปร่างวงรี มคี วามยาวคลน่ื สัน้
มีค่าความยาวคล่ืนประมาณ 1 กิโลเมตร มีค่า Amplitude ประมาณ 30-40 nT แผนท่ีกัมมันตรังสีเทอร์
นารีแสดงเปน็ สีชมพู ส่วนแผนท่ีกัมมันตรังสีรวมแสดงค่ากัมมนั ตรังสีตา่ ท้ังแผนท่ีเส้นชน้ั ความเข้มสนามแม่เหลก็
ซ้อนทบั กับแผนท่กี มั มันตรงั สีเทอร์นารี และกมั มนั ตรงั สรี วม สามารถกาหนดขอบเขตหนิ หนว่ ยนไ้ี ดเ้ ปน็ อย่างดี

จ) หินบะซอลต์บริเวณอาเภอเด่นชัย (DC) (รูปที่ 5-23) แผนที่ธรณีวิทยาเป็นหน่วย
Qbs เป็นหินบะซอลต์ ลักษณะเด่นความเข้มสนามแม่เหล็ก แสดงค่าผิดปกติเป็นกลุ่ม มีรูปร่างเหมือนค้อน มี
ความยาวคลื่นสั้น มีความยาวคลื่นประมาณ 1 กิโลเมตร มีค่า Amplitude ประมาณ 40 nT ค่าความเข้ม
กัมมนั ตรงั สใี นบริเวณน้ี มีค่าผิดพลาดจากการประมวลผล ทาให้แสดงเป็นแถบในในทิศตะวันออก-ตะวนั ตก

137
กข

คง

รูปที่ 5-21 แผนท่ีธรณีวิทยา (ข) เปรียบเทียบ แผนท่ีกัมมันตรังสีเทอร์นารี (ก) แผนท่ีกัมมันตรังสีเทอร์นารีซ้อนทับ
กับเส้นช้ันความเข้มสนามแม่เหล็ก (ค) แผนที่กัมมันตรังสีรวมซอ้ นทับกับเส้นชั้นความเข้มสนามแม่เหล็ก (ง) แสดง

ลักษณะเดน่ ของหินบะซอลต์ พ้นื ทข่ี นุ ชา้ งเคย่ี น (BCK)

138
กข

MT

SP
คง

รูปที่ 5-22 แผนทธ่ี รณีวิทยา (ข) เปรียบเทียบกบั แผนทกี่ ัมมันตรงั สีเทอร์นารี (ก) แผนท่กี มั มันตรังสเี ทอรน์ ารีซอ้ นทับ

กับเส้นช้ันความเข้มสนามแม่เหล็ก (ค) แผนท่ีกัมมันตรังสีรวมซอ้ นทับกับเส้นชั้นความเข้มสนามแม่เหล็ก (ง) แสดง

ลกั ษณะเดน่ ของหินบะซอลต์ อาเภอแมท่ ะ (MT) และ อาเภอสบปราบ-เกาะคา (SP)

139 ข


คง

รูปที่ 5-23 แผนทีธ่ รณวี ทิ ยา (ข) เปรียบเทียบกบั แผนที่กัมมนั ตรังสเี ทอร์นารี (ก) แผนที่กมั มันตรงั สเี ทอรน์ ารซี อ้ นทับ
กับเส้นชั้นความเข้มสนามแม่เหล็ก (ค) แผนที่กัมมันตรังสีรวมซ้อนทับกับเส้นช้ันความเข้มสนามแม่เหล็ก (ง) แสดง

ลกั ษณะเด่นของหินบะซอลต์ อาเภอเดน่ ชัย (DC)

5.3.1 หนิ ภเู ขาไฟภาคกลาง

Barr and Charusiri (2011) ได้บรรยาย หินภูเขาไฟซีโนโซอิกบริเวณภาคกลางออกเป็น
3 บริเวณ ได้แก่ บ่อพลอย (BP) วิเชียรบรุ ี (WB) และ ลานารายณ์ (LN) เปน็ หนิ บะซอลตใ์ นยุคเทอร์เชยี ร์รี

ก) หินบะซอลต์บ่อพลอย (BP) กฤติยา ปัทมาลัย และ คณะ (2546) ได้ศึกษาลักษณะ
ธรณีวิทยาของหินบะซอลต์ ของบ่อพลอย พบว่าเป็นเนินเขาขนาดเล็กมีขนาดประมาณ 0.5 ตาราง
กิโลเมตร ซง่ึ มขี นาดเล็กเกินว่าที่จะนามาแสดงลักษณะเด่นของข้อมลู จากการบนิ สารวจธรณีฟสิ ิกส์ทางอากาศ

140

ข) หินภูเขาไฟ วิเชียรบุรี (WB) ลานารายณ์ (LN) จากแผนท่ีธรณีวิทยาเป็นหินภูเขา
ไฟหนว่ ย Tv และ Tbs โดย Tv ประกอบด้วยหินไรโอไลต์ Tbs เป็นหินบะซอลต์ แผนทก่ี ัมมนั ตรงั สบี ริเวณ
ท่ีเป็นหินไรโอไลต์ แสดงเป็นสีเข้ม ส่วนบริเวณท่ีเป็นหินบะซอลต์ แสดงเป็นสีม่วงชมพู ท้ังสองบริเวณ
อย่างไรก็ตามเน่ืองจากข้อมูลความเข้มสนามแม่เหล็กในบริเวณนี้เป็นข้อมูลจากการบินสารวจ Survey A
ซึง่ บนิ ท่ีระดับความสงู ถงึ 1524 เมตร ไม่เหมอื นกบั Survey B& C ทีบ่ ินดว้ ยระดบั ความสงู ทตี่ ่ากว่า ดังนน้ั
ขอ้ มลู จากความเขม้ สนามแมเ่ หล็กบรเิ วณน้ี น่าจะเปน็ ขอ้ มลู ที่สะทอ้ นมาจากหนิ อัคนีทอ่ี ยรู่ ะดบั ลกึ มากกว่า
ที่จะเปน็ ของหนิ ภูเขาไฟวเิ ชียรบุรี และ ลานารายณ์

5.3.2 หินภเู ขาไฟภาคตะวนั ออก

หินภูเขาไฟซีโนโซอิกภาคตะวันออก ซ่ึงเป็นแหล่งแร่รัตนชาติ ท่ีสาคัญ (Barr &
Charusiri, 2011) ได้อธิบายหินภูเขาไฟบริเวณนี้ เป็น 5 บริเวณ ได้แก่ ท่าใหม่ (TM) โป่งน้าร้อน (PNR)
สะพานหิน (SH) หนองบอน (NB)และ เกาะกูด (KK) หินภูเขาไฟภาคตะวนั ออกน้ี เป็นหินบะซอลต์ หน่วย
Qbs มีบางส่วนอยู่ชายแดนระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา ซึ่งการบินสารวจมีระยะห่างจากชายแดน
ประมาณ 25 กิโลเมตร ทาให้มีขอ้ มูลเฉพาะหนิ บะซอลตบ์ รเิ วณท่าใหม่ (TM) ที่สามารถนามาศึกษาได้

หินบะซอลต์บริเวณท่าใหม่ (TM) แผนท่ีธรณีวิทยาเป็นน่วย Qbs ซ่ึงเป็นหินบะซอลต์
ลักษณะเด่นความเข้มสนามแม่เหล็ก แสดงค่าผิดปกตเิ ปน็ กลุ่ม รูปร่างเหมือนหยดน้า ชว่ งคลื่นส้ัน มีความ
ยาวคลืน่ ประมาณ 1.5 กิโลเมตร มคี ่า Amplitude ประมาณ 50-150 nT แผนทีเ่ ทอร์นารเี ปน็ สเี ขยี ว แผน
ท่ีกัมมันตรังสีรวมเป็นสีส้ม ซึ่งบริเวณนี้ใกล้กลับบริเวณท่ีเป็นหินแกรนิต ข้อมูลความเข้มกัมมันตรังสี อาจ
ไดร้ ับอทิ ธิพลมาจากหินแกรนติ ทีม่ ีค่ากัมมันตรังสีสูงที่อยใู่ กล้

5.3.3 หนิ ภเู ขาไฟภากตะวันออกเฉยี งเหนอื

หินภูเขาไฟซีโนโซอิกภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยส่วนใหญ่อยู่ทางตอนใต้ของภาค
ตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นหินบะซอลต์ หน่วย Qbs (Barr & Charusiri, 2011) ได้อธิบายไว้ 13 บริเวณ
ได้แก่ นครราชสีมา (NR) ภูพระอังคาร (PPR) เขากระโดง (KKD) เขาพระนมรุ้ง (KP) ไพรบาตร (PB)
สุรินทร์ (SR) แซโอ (SO) ภูเงิน (PN) ภูไฟ (PF) ภูขมติ ร (PKM) ภูขอม (PK) หนองนา้ ข่นุ (NNK) และ น้ายุน (NY)
มีเพียง 3 บริเวณ ได้แก่ หินบะซอลต์นครราชสีมา ภูพระอังคาร และเขาพนมรุ้ง ซ่ึงอยู่ในพื้นที่การบิน
สารวจ Survey B1 ซ่ึงสามารถแสดงลกั ษณะเด่นของข้อมลู ธรณีฟสิ กิ ส์ทางอากาศ

ก) หินบะซอลต์นครราชสีมา (NR) (รูปที่ 5-26 และ รูปที่ 5-27) แผนที่ธรณีวิทยาเปน็
หน่วย Qbs ซึ่งเป็นหินบะซอลต์ ลักษณะเด่นความเข้มสนามแม่เหล็ก แสดงค่าผิดปกติเป็นกลุ่ม มีรูปร่าง
เป็นวงรีขนาดใหญ่ มีช่วงคล่ืนสั้น มีความยาวคลื่นประมาณ 1.5-2 กิโลเมตร มีค่า Amplitude ประมาณ
30-50 nT บริเวณที่เป็นค่าผิดปกติความเข้มสนามแม่เหล็ก แผนที่ความเข้มกัมมันตรังสีเทอร์นารีแสดง
เปน็ 2 สี ได้แก่ สีเขียว และ สีฟ้า/สเี ขียว สว่ นแผนที่กัมมนั ตรงั สรี วมเปน็ สสี ้ม และสมี ว่ งแดง

ข) หินบะซอลต์ภูพระอังคาร (PPA) หินบะซอลต์เขาพนมรุ้ง (KP) แผนที่ธรณีวิทยา
เป็นหน่วย Qbs ซ่ึงประกอบด้วยหินบะซอลต์ ลักษณะเด่นความเข้มสนามแม่เหล็ก แสดงค่าผิดปกติเป็น
กลุ่ม มีรูปร่างเป็นวงกลมขนาดเล็ก มีช่วงคลื่นสั้น มีความยาวคลื่นประมาณ 1.5 กิโลเมตร มีค่า
Amplitude ประมาณ 20-100 nT บริเวณค่าผิดปกตคิ วามเข้มสนามแม่เหล็ก แผนท่ีกมั มนั ตรงั สีเทอร์นารี
เปน็ สชี มพู และแผนทีก่ ัมมันตรังสีรวมเปน็ สีสม้

141
กข

คง

รูปที่ 5-24 แผนท่ีกัมมันตรังสีเทอร์นารี (ก) แผนที่กัมมันตรังสีรวมซ้อนทับกับเส้นช้ันความเข้มสนามแม่เหล็ก(ข)
แผนทีธ่ รณวี ิทยา(ค) แสดงลักษณะเดน่ ของหินภูเขาไฟบริเวณวเิ ชยี รบุรี และ ลานารายณ์

142 ข


คง

รูปที่ 5-25 แผนท่ีกัมมันตรังสีเทอร์นารี (ก) แผนท่ีกัมมันตรังสีรวมซ้อนทับกับเส้นชั้นความเข้มสนามแม่เหล็ก(ข)
แผนทธ่ี รณวี ทิ ยา(ค) แสดงลักษณะเด่นของหนิ บะซอลตท์ ่าใหม่

143

KP
PPA
NR

รูปที่ 5-26 แผนที่กัมมันตรังสีเทอร์นารี (บน) แผนที่ธรณีวิทยา (ล่าง) แสดงลักษณะเด่นของหินบะซอลต์

นครราชสีมา (NR) ภพู ระองั คาร (PPR) และ เขาพระนมร้งุ (KP)

144

รูปที่ 5-27 แผนท่ีกัมมันตรังสีเทอร์นารีซ้อนทับกับเส้นชั้นความเข้มสนามแม่เหล็ก (บน) แผนท่ีกัมมันตรังสีรวม

ซ้อนทับกับเส้นชั้นความเข้มสนามแม่เหล็ก (ล่าง) แสดงลักษณะเด่นของหินบะซอลต์ นครราชสีมา(NR) ภูพระ
อังคาร (PPR) และ เขาพระนมรงุ้ (KP)

145

5.4 หนิ ภูเขาไฟใตช้ ัน้ ตะกอนซโี นโนอกิ

หินภูเขาไฟน้ี ได้แก่หินบะซอลต์ ซ่ึงอยู่ใต้ช้ันตะกอนเทอร์เชียร์รี ช่วงประมาณ ปี พ.ศ.
2537 กองเช้ือเพลิงธรรมชาติ กรมทรัพยากรธรณี ได้ทาการเจาะสารวจถ่านหิน ในพื้นท่ี อาเภอลาดยาว
จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งการสารวจพบช้ันหินบะซอลต์หนา ซ่ึงบริเวณดังกล่าว แสดงค่าผิดปกติความเข้ม
สนามแม่เหล็กในบริเวณที่เป็นหินบะซอลต์ ซ่ึงหินบะซอลต์ในบริเวณนี้ถูกปิดทับโดยช้ันตะกอนปัจจุบัน
สาหรบั ตัวอยา่ งการเจาะสารวจน้ัน จัดเกบ็ ไวโ้ ดยกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน

รูปท่ี 5-28 แผนที่ธรณีวิทยาซ้อนทับกับเส้นช้ันความเข้มสนามแม่เหล็ก แสดง ค่าผิดปกติ ความเข้มสนามแม่เหล็ก
ที่ถูกปดิ ทับดว้ ยชัน้ ตะกอนควอเทอรน์ ารี บรเิ วณอาเภอลาดยาว และอาเภอคลองขลงุ

บทท่ี 6
ลกั ษณะเดน่ ของข้อมลู ความเขม้ สนามแมเ่ หลก็ และข้อมูลความเข้ม

กมั มนั ตรังสกี ับหนิ ชน้ั หรอื หินตะกอน

หินชั้นหรือหินตะกอน ในการศึกษาคร้ังน้ี ได้แก่ หินปนู หินตะกอน กลุ่มหินลาปาง กลุ่ม
หินแก่งกระจาน และ กลุ่มหินโคราช หินตะกอนแสดงลักษณะเด่นข้อมูลความเข้มกัมมันตรังสีชัดเจน
มากกว่าข้อมูลความเข้มสนามแม่เหล็ก หรือหินตะกอนไม่มีค่าผิดปกติความเป็นแม่เหล็ก ในกรณีที่หิน
ตะกอนหน่วยใดมีความสัมพันธ์กับข้อมูลความเข้มสนมแม่เหล็ก จึงนาข้อมูลความเข้มสนามแม่เหล็กมา
อธิบายประกอบ นอกจากนีไ้ ด้เพ่ิมเติมขอ้ มลู ลกั ษณะเดน่ ของหินแปรควอตไซต์ ในบทนี้อีกดว้ ย

6.1 หินชน้ั หรอื หินตะกอน

6.1.1 หินปนู

หนิ ปนู ในประเทศไทยทีพ่ บ ได้แก่ หินปูนยคุ เพอร์เมยี น หนิ ปูนยคุ ออรโ์ ดวเิ ชียน หินปูนใน
กลุ่มหินลาปาง หินปูนเพอร์เมียน และ หินปูนในกลุ่มหินลาปาง ต่างกันในเร่ืองของซากบรรพชีวิน และ
หนิ ปนู ออรโ์ ดวเิ ชยี น มีลกั ษณะเดน่ คอื เปน็ หนิ ปูนเนอ้ื ดนิ (Argillaceous limestone)

ข้อมูลความเข้มกมั มันตรังสี แสดงลักษณะหนิ ปนู ในประเทศไทย 3 ลกั ษณะ เมอื แสดงผล
ในแผนทกี่ ัมมนั ตรังสเี ทอรน์ ารี ดังนี้คอื 1) สีเขยี วสลบั กบั สีเหลือง 2) สชี มพู หรอื สีม่ ่วงน้าเงิน และ 3) สขี าว

6.1.1.1 หนิ ปูนทแ่ี สดงผลสเี ขียวสลบั กับสเี หลอื ง

หินปูนท่ีแสดงผลในแผนที่กัมมันตรังสีเทอร์นารีเป็นสีเขียวสลับเหลือง พบมากที่สุด กับ
หินปูนอายุเพอรเ์ มียน สาหรับบริเวณทแี่ ผนทกี่ ัมมันตรังสเี ทอรน์ ารแี สดงเปน็ สีเหลืองนน้ั มีความสมั พันธ์กบั
เป็นบริเวณที่เทือกเขาหินปูน ส่วนบริเวณที่เป็นสีเขียวเป็นบริเวณดินท่ีเกิดจากการผุพังจากหินปูน หรือ
Terra Rosa

ตัวอย่างหินปูนท่ีแสดงผลในแผนท่ีกัมมันตรังสีลกษณะเช่นนี้ 3 บริเวณได้แก่ บริเวณ
อาเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ อาเภออุ้มผางจังหวัดตาก และ บริเวณอุทยานแห่งชาติเขาสก จังหวัดสุ
ราษฎรธ์ านี

ก) หินปูนบริเวณอาเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ (รูปที่ 6-1) แผนที่ธรณีวิทยาเป็น
หน่วย Png2 (Geology250K.Shp) หมวดหินผาหวด กลุ่มหินงาว วรรณภา จ่าราช (2539) ศึกษาหินปูน
บริเวณเขตรอยตอ่ เชียงดาว-พร้าว ดา้ นตะวันออกของเขา เป็นหินปูนช้ันบาง ๆ แทรกสลับด้วยหินดนิ ดาน
บ้างเล็กน้อย ส่วนทางด้านตะวันตกเป็นหินปูนช้ันหนา เน้ือแน่น มีสีเทา และสีเทาอ่อนเป็นส่วนใหญ่ โดย
แผนท่ีกัมมันตรังสีเทอร์นารี (รูปที่ 6-1) แสดงเป็นสีเหลืองบริเวณขอบ และพื้นท่ีส่วนใหญ่ของหน่วยน้ีเป็น
สีเขยี ว อาจกลา่ วไดว้ า่ บริเวณนีป้ กคลมุ ดว้ ยดนิ ท่เี กิดจากหนิ ปนู เป็นสว่ นใหญ่

147
ข) หินปูนบริเวณตอนใต้ของอาเภออุ้มผาง (รูปที่ 6-2) จังหวัดตาก แผนที่ธรณีวิทยา
เป็นหน่วยหิน Pr (Geology25k.shp) เป็นกลุ่มหินราชบุรี ครรชติ ศิริภักดี และ สมพงษ์ เข็มเหล็ก (2531)
กาหนดให้เป็นหน่วย P3 ประกอบด้วย หินปูนสีเทาเข้ม แสดงช้ันหนา และ ไม่แสดงช้ัน พบฟูซูลินิด โดย
แผนที่กัมมันตรังสีเทอร์นารี แสดงเป็นสีเหลืองสลับกับสีเขียว (รูปที่ 6-3) เป็นแนวยาวในแนวตะวันตก
เฉียงเหนือ-ตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ยังแสดงลักษณะโครงสร้างทางธรณีวิทยา ของการโค้งงอของหิน
อีกด้วย (บรเิ วณลกู ศรช้)ี
ค) หินปูนบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาหินสก จังหวัดสุราษฎร์ธานี (รูปท่ี 6-3) แผนที่
ธรณีวิทยา เป็นหน่วย Pr (Geology25k.shp) กลุ่มหินราชบุรี พิทักษ์ เทียมวงศ์ และ เกชา จาปาทอง
(2549) ได้ศึกษาว่าหินส่วนใหญ่ในบริเวณนี้ เกิดท้ังแบบเป็นชั้น และแบบหนาไม่แสดงช้ัน เน้ือหินมีสีเทา
อ่อนสีเทาดา พบซากบรรพชีวิน ฟูซูลินิด แบรคคิโอพอด ไบรโอซัว ซากปะการังหอยงวงช้าง และ
พลบั พลงึ ทะเล โดยแผนทก่ี มั มันตรังสเี ทอร์นารี แสดงเป็นสเี หลอื งสว่ นใหญ่มีเขียวเป็นจุด ๆ ซ่ึงในบริเวณนี้
น่าจะแสดงลกั ษณะภูมปิ ระเทศแบบ Karst โดยที่บรเิ วณที่เป็น Terra Rosa ครอบคลมุ พน้ื ท่ีไม่กว้าง

รูปที่ 6-1 หินปูนหน่วย Png2 บริเวณดา้ นตะวันออกของอาเภอเชียงดาว ในแผนที่กัมมันตรังสีเทอร์นารีแสดงเป็นสี

เหลอื งและสีเขยี ว

148

รูปที่ 6-2 หินปูนหน่วย Pr บริเวณตอนใต้ของอาเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ในแผนที่กัมมันตรังสีเทอร์นารีแสดงเป็นสี

เหลืองและสเี ขยี ว

6.1.1.1 หนิ ปนู ทแ่ี สดงในแผนที่กัมมันตรังสเี ทอร์นารเี ปน็ สีชมพู
หินปูนที่แสดงในแผนท่ีกัมมันตรังสีเทอร์นารีเป็นสีชมพูน้ัน มีความสัมพันธ์กับหินปูนยุค
ออร์โดวิเชียน ซ่ึงเป็นหินปนู เน้ือดิน การแสดงผลของหินปูนเน้ือดินในแผนที่กัมมันตรังสีเทอร์นารีนั้น เป็น
การผสมสีของสีม่วงแดง ซึ่งเป็นสีที่แสดงถึงปริมาณโพแทสเซียม ดังนั้นลักษณะท่ีแสดงผลของสีน้ัน ไม่
เหมือนกันเลยทีเดียว นอกจากนี้ลักษณะดังกล่าว มีส่วนคล้ายกับหินตะกอนท่ีมีเฟลด์สปาร์เป็น
องค์ประกอบ เช่นหินทรายอาร์โคส หินดินดาน หินโคลน เป็นต้น ในหัวข้อน้ี ยกตัวอย่างหินปูนออร์โดวิ
เชียน สองบริเวณ ได้แก่ บริเวณดา้ นตะวันตกของเขื่อนศรีนครินทร์ จังหวดั กาญจนบุรี และ บริเวณอาเภอ
ทุง่ หว้า จงั หวัดสตูล
ก) หินปูนบริเวณด้านตะวันตกของเขอื่ นศรีนครินทร์ (รูปท่ี 6-5) เป็นหน่วยหิน O กลุ่ม
หินทุ่งสง (Geology25K.shp) ประกอบด้วย หินปูนเน้ือดินและหินปูน สีเทาและสีชมพู หินปูน
เน้ือโดโลไมต์และหินอ่อน แทรกสลับด้วยหินดินดาน เน้ือปูนผสม หินดินดานปนทราย มีซากหอยงวงช้าง
หอยแบรคิโอพอด และไทรโลไบต์ โดยแผนท่ีกัมมันตรังสีเทอร์นารี แสดงเป็นสีม่วง และสีเม่วงน้าเงิน ซ่ึง
แยกจากหินข้างเคยี งไมค่ ่อยชดั เจนเหมอื นหนิ ปูนท่ีแสดงเป็นสเี ขยี วเหลอื ง

149

รูปท่ี 6-3 หินปูนหน่วย Pr บริเวณอุทยานแห่งชาติเขาสก จังหวัดสุราษฏร์ธานี ในแผนที่กัมมันตรังสีเทอร์นารีแสดง

เปน็ สีเหลอื งและสเี ขยี ว บริเวณลูกศรชี้ เป็นบริเวณเขาพบั ผา้

รูปท่ี 6-4 แสดงลักษณะภูเขาหินปูนของกลุมหินราชบรุ ี เป็นภูมิประเทศแบบ karst บริเวณเขาพับผา (พิทักษ์ เทียม
วงศ์ และ เกชา จาปาทอง, 2549)

150

รูปที่ 6-5 หินปูนหน่วย O บริเวณดา้ นตะวันตกของเขื่อนศรีนครินทร์ ในแผนท่ีกัมมันตรังสีเทอร์นารีแสดงเป็นสีม่วง

น้าเงินปนกับสีมว่ งแดง

ข) หินปูนด้านตะวันออกของอาเภอทุ่งหว้า (รูปที่ 6-6) แผนที่ธรณีวิทยาเป็นกลุ่มหิน
หน่วย O (Geology25K) กลุ่มหินทุ่งสง วิโรจน์ แสงศรีจันทร์ (2549) ได้แบ่งหน่วยหินบริเวณน้ี เป็น 2
หน่วยได้แก่ หน่วย O1 เป็นกลุ่มเหินทุ่งสงตอนล่าง ประกอบด้วยหินปนู เนือ้ ดินแทรกสลับกบั หินดินดาน มี
ลักษณะเปน็ เลนส์ และเม็ดหินปนู สีเทาดา สีเทาขาว สีม่วงแดง ช้ันหินบาง มีซากดึกดาบรรพ์จุลภาค และ
หนว่ ย (O2) หนว่ ยทงุ่ สงตอนบน ประกอด้วยหนิ ปนู เน้ือปนดิน สีเทาดา มีหนิ ดินกานแทรกสลับ ชนั้ หนิ บาง
ถึงหนา มีซากดกึ ดาบรรพ์ หวยงวงช้าง หอยตะเกียง หอยเจดยี ์ ไครนอยด์ ปะการัง หร่าย ไทรโลไบต์ และ
ฟองนา้ โดยแผนท่กี ัมมนั รังสเี ทอร์นารแี สดงเป็นสมี ่วง ท้ังน้ไี ม่สามารถแยกหน่วย O1 ออกจากหนว่ ย O2 ได้

6.1.1.2 หินปูนท่แี สดงผลในแผนทเี่ ทอรน์ ารีเป็นสีขาว
หินปูนที่แสดงผลในแผนที่กัมมันตรังสีเทอร์นารีเป็นสีขาว เป็นหินปูนที่มีค่ากัมมันตรังสี
ต่าท้ัง 3 ค่า อย่างไรก็ตาม แผนที่กัมมันตรังสีท่ีเป็นสีขาวนั้น นอกจะมีความสัมพันธ์กับหินปูนแล้ว ก็เป็น
พื้นที่ท่ีมีความสัมพันธ์กับแหล่งน้า อ่างเก็บน้า หรือบริเวณเขื่อน นอกจากนี้ยังมีความสัมพันธ์กับหินอัคนี
ชนิดเบสิก อย่างไรก็ตามถ้ามีความสัมพนั ธก์ ับหินอัคนีชนิดเบสิกน้ัน บริเวณนั้นแสดงความสัมพันธข์ อง ค่า
ผิดปกติ ความเข้มสนามแม่เหล็กอีกด้วย ลักษณะของหินปูนท่ีแสดงในแผนท่ีกัมมันตรังสีเป็นสีขาวนั้น ท่ี
เหน็ เด่นชัด ได้แก่ บริเวณดอยหลวงเชียงดาว
ก) หินปูนบริเวณดอยหลวงเชียงดาว (รูปท่ี 6-7) แผนที่ธรณีวิทยาเป็นกลุ่มหน่วยหิน
Png2 (geology25k.shp) วรรณภา จา่ ราช (2539) สรุปไวว้ ่า หนิ ปนู บริเวณนี้ ส่วนใหญ่มสี ีเทา สีเท่าแกม
ขาว มเี น้ืองแน่นละเอียด เกิดเป็นชั้นหนา วางตวั อยบู่ นหินดนิ ดาน โดยมี หนิ แกรนติ แทรกดนั อยดู่ ้านล่าง

151

รปู ที่ 6-6 หนิ ปนู หนว่ ย O บรเิ วณดา้ นตะวนั ออกของอาเภอทงุ่ หวา้ ในแผนทกี่ มั มนั ตรังสีเทอร์นารแี สดงเป็นสมี ่วงแดง

รปู ท่ี 6-7 หนิ ปูนหน่วย Png2 บรเิ วณดอยหลวงเชียงดาว ในแผนท่ีกัมมันตรังสีเทอรน์ ารีแสดงเป็นสีขาว

6.1.2 กลุ่มหนิ ลาปาง

พล เชาว์ดารง และคณะ (2553) สรุปกลุ่มหินลาปางไว้ 7 หมวด จากล่างข้ึนบนได้แก่
หมวดหนิ พระธาตุ ผาก้าน ฮอ่ งหอย ดอยลอง ผาแดง ก้างปลา และหมวดหินวังชิน้

หมวดหินพระธาตุ และ ผาแดง เป็นหินกรวดมน หินทราย หินทรายแป้ง และหินโคลน
หมวดหินผาก้าน ดอยลอง และก้างปลา ประกอบด้วยหินปูน หมวดหินฮ่องหอยและวังชิ้น ประกอบด้วย
หินโคลน พบหนิ ทรายและหนิ กรวดมนเลก็ น้อย

152

กลุ่มหินลาปางพบแผ่กระจายในพื้นที่ จังหวัดลาปาง แพร่ พะเยา เชียงราย และ ด้าน
ตะวันกของจังหวัดน่ายและอตุ รดติ ถ์

การแสดงผลในแผนท่ีกัมมันตรังสีเทอร์นารี ของกลุ่มหินลาปางนั้น มีความหลากหลาย
และ ไม่โดดเดน่ ขึ้นอยู่กับชนิดหินที่แผ่กระจาย และขนาดท่ีแผ่กระจาย ด้วยหน่วยน้ี ไม่ไม่แผ่กระจายเป็น
บริเวณกว้าง จึงยากท่ีจะกาหนดลักษณะเด่นของความเข้มกัมมันตรังสีกลุ่มหินน้ี อย่างไรก็ตาม ก็ยังมี
ข้อสังเกต ทนี่ ่าสนใจของกลุม่ นี้

ตามแผนท่ีกัมมันตรังสีเทอร์นารี เปรียบเทียบกับแผนท่ีธรณีวทิ ยา (รูปท่ี 6-8) แสดงกลุ่ม
หินลาปาง เปน็ ชัน้ หินโคง้ ประทนุ คว่า และ ช้นั หินโค้งประทันหงาย รว่ มกบั หินตะกอนอายเุ พอร์เมยี น หรือ
หินตะกอนอายุจูแรสสิก มีหินอัคนีแทรกเข้ามาตามแนวรอยเลื่อน ในแนว ตะวันออกเฉียงเหนือ-ตะวันตก
เฉียงใต้ แสดงการวางตัวของช้ันหินตะกอนที่มีความแต่งต่างกัน และมีรูปร่างเดียวกับแผนท่ีธรณีวิทยา
หมวดหินวังชนิ้ (TRwc) ที่ประกอบดว้ ย หินโคลน สีเทาเข้ม แทรกสลบั ดว้ ยทรายบ้าง แสดงชั้นบางถึงหนา
แสดงในแผนท่ีกัมมันตรงั สีเทอร์นารี เป็นสมี ่วงนา้ เงิน แตกตา่ งจากหน่วยหิน ห้วยทาก (Png3) กลมุ่ หินงาว
ซ่ึงประกอบด้วย หินดินดาน และหินโคลน สีเทาดา หินทราย หินปนู เป็นท่ีสังเกตไดว้ ่า หินโคลน มักแสดง
สีม่วงที่มีสีน้าเงิน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงว่าหินโคลนนี้มีปริมาณทอร์เลียมมากกว่า โพแทสเซียมและ ยูเรเนียม
ในขณะท่ีหินดินดาน จะแสดงในแผนทีก่ ัมมนั ตรงั สี เปน็ สีมว่ งแดงมากกว่า

รูปที่ 6-8 แผนท่ีกัมมันตรังสีเทอร์นารี (ซ้าย) เปรียบเทียบกับแผนท่ีธรณีวิทยากลุ่มหินลาปาง บริเวณ อาเภอแม่
เหมาะ อาเภอแมท่ ะ จังหวัดลาปาง

6.1.3 กลมุ่ หนิ แกง่ กระจาน

พล เชาว์ดารง (2553) สรุปกลุ่มหินแก่งกระจาน ซงึ่ ประกอบด้วย หินโคลนปนกรวด หิน
ทราย และหินดนิ ดานเป็นส่วนใหญ่ แบง่ เปน็ 5 หมวดหนิ เรียงลาดบั จากอายมุ ากไปอายนุ ้อย ไดแ้ ก่ หมวด
หินแหลมไม้ไผ่ (Laem Mai Phai Formation) หมวดหินสปลิ เวย์ (Spillway Formation) หมวดหินเกาะ
เฮ (Ko He Formation) หมวดหนิ เขาพระ (Khao Phra Formation) และหมวดหนิ เขาเจ้า (Khao Chao
Formation)

153
หมวดหินแหลมไม้ไผ่ ประกอบด้วยการสลับกันของหินทรายกับหินโคลนในชั้นล่าง และ
มีหินโคลนมากขึ้นเมื่ออยู่ชั้นบน หมวดหินสปิลเวย์ เป็น laminated mudstone มีช้ันบาง ๆ ของหิน
ทรายเกรย์แวคเน้ือละเอียดแทรกสลับอยู่ หมวดหินเกาะเฮ ประกอบส่วน ด้วยหินโคลนปนกรวด หมวด
หินเขาพระ ประกอบด้วย หินดินดาน หินโคลน สีเทาดา เน้ือแน่น หมวดหินเขาเจ้า ประกอบด้วยหิน
ทรายเนือ้ ควอตซ์ หินดินดาน หินทรายแปง้ และ หินโคลน สีเทาอ่อน ถึงเทาเขม้ หนิ ทรายสขี าวถึงนา้ ตาล
แดง บนสุดเปน็ ชนั้ สลับระหวา่ งหินโคลน/ หินดินดาน สีเทา เทาดา กับชั้น บางของหินทราย เนื้อละเอียด
และมีหนิ ปนู สลับด้วย
กลุ่มหินแก่งกระจานนี้ แต่ละหมวดหินมีหินโคลนเป็นองค์ประกอบ ซึ่งเป็นลักษณะเด่น
ท่ีแผนที่กัมมันตรังสีเทอร์นารี (รูปที่ 6-9) แสดงผลเป็นสีม่วงน้าเงิน ทางภาคใต้ โดยหน่วยหินอื่นจะแสดง
เป็นหินอน่ื แยกออกไดอ้ ย่างชัดเจน

รูปที่ 6-9 แผนที่กัมมันตรังสีเทอร์นารี (ซ้าย) เปรียบเทียบกับแผนท่ีธรณีวิทยากลุ่มหินแก่งกระจาน (สีเทา ในแผนท่ี
ธรณวี ทิ ยา บรเิ วณ ภาคใต้ของประเทศไทย

154

6.1.1 กล่มุ หินโคราช

ก ลุ่ ม หิ น โ ค ร า ช แ บ่ ง ก า ร ล า ดั บ ช้ั น หิ น เ ป็ น 2 บ ริ เ ว ณ ไ ด้ แ ก่ บ ริ เ ว ณ ภ า ค
ตะวันออกเฉียงเหนือ และ บริเวณขอบตะวันตกของที่ราบสูงโคราช

กลุ่มหินโคราช บริเวณภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ นรรัตน์ บุญกันภัย (2554) ไดส้ รุปไวใ้ น
รายงานลาดับช้ันหินของกลุ่มหินโคราชบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มี 7 หมวดหินได้แก่ ภู
กระดงึ พระวหิ าร เสาขรัว ภูพาน โคกกรวด มหาสารคาม และ ภูทอก

หมวดหินภูกระดึง เป็นหนิ ทรายมี หนิ โคลนแทรกสลบั แตกตา่ งกนั ไป 4 แบบ หมวดหนิ
พระวหิ าร โดยสว่ นใหญเ่ ป็นหนิ quartz arenite หมวดหินเสาขรัว มีลักษณะแตกต่างกนั 6 เป็นหนิ ทราย
หินทรายเนื้อปูน หินโคลนที่มีหินทรายแทรกสลับ หมวดหินภูพาน เป็นหินทราย quartz arenite และ
หินทรายปนกรวด หมวดหินโคกกรวด เป็นหินทรายสลับหินโคลน และ หินโคลนเน้ือปูน หมวดหิน
มหาสารคาม แบ่งเป็น 6 ช้ัน ได้แก่ ชั้น แอนไฮไดรต์ เกลือหินชั้นล่าง หินโคลนช้ันล่าง เกลือหินช้ันกลาง
หินโคลนชั้นกลาง และเกลือหินช้ันบน หมวดหินภูทอก แยกออกเป็น 3 หมู่หิน ได้แก่ หมู่หินนาหว้าเปน็
หินโคลน หมู่หินคาตากล้า เป็นหินโคลนมีชน้ั หินทรายแทรกสลับ และ หมู่หินภทู อกน้อย เป็นหินทรายท่ีมี
ช้นั เฉยี งระดบั ขนาดใหญ่

ข้อมูลกัมมันตรังสีในบริเวณน้ี บินห่างที่สุดในประเทศ ประมาณ 5 กิโลเมตร มีค่าความ
เขม้ กมั มันตรงั สี โพแทสเซยี ม ยูเรเนยี ม และ ทอเรยี ม ต่ากวา่ บรเิ วณอน่ื ๆ ของประเทศไทย

กลุ่มหินโคราช บริเวณภาคตะวันตกของท่ีราบสูงโคราช อนุวัชร ตรีโรจนานนท์ (2554)
ได้สรุปไวใ้ นรายงาน ลาดับชั้นหินของกลุ่มหินโคราชบริเวณขอบตะวนั ตกของท่ีราบสูงโคราช ซ่ึงในบริเวณ
น้ี มี 10 หมวดหินได้แก่ ห้วยหินลาด น้าพอง ภูกระดึง พระวิหาร เสาขรัว ภูพาน โคกกรวด มหาสารคาม
เขายา่ ปุก ซงึ่ เทียบได้กบั หมวดหนิ ภูทอก และ ภขู ัด

หมวดหินห้วยหินลาด ประกอบด้วยหินกรวดมนเน้ือปูน หินกรวดมน หินทราย หมวด
หินน้าพอง ประกอบด้วยหินทราย หินดินดาน และหินกรวดมน หมวดหินภูกระดึง ประกอบด้วย
หินดนิ ดาน และหินทรายแปง้ แทรกสลับด้วยหินทราย หมวดหินพระวิหาร ประกอบดว้ ยหินทราย สีขาว
แทรกสลับด้วย หินดินดาน หมวดหินเสาขัว ประกอบด้วยหินดินดาน และหินทรายแป้ง แทรกสลับด้วย
หินทราย หมวดหินภูพาน ประกอบด้วยหินทราย และหินกรวดมน หมวดหินโคกกรวด ประกอบดว้ ยหิน
ทรายแป้ง หินดินดาน สีแดง แทรกสลับด้วยหินทราย หมวดหินมหาสารคาม ประกอบด้วยหินดินดาน
และชั้นเกลือหินมียิปซัมปะปน หมวดหินเขาย่าปุก ประกอบด้วย หินทราย หินทรายแป้ง หินโคลน และ
หินกรวดมน พบชน้ั เฉียงระดับและริ้วรอยคลื่น หมวดหินเขาภูขัด ประกอบดว้ ยหินทราย มีเน้ือหินปนู ปน
มีชัน้ ของหนิ ทรายแป้งและหนิ โคลนสลับอยู่ และพบหนิ กรวดมนพบอยู่ชว่ งลา่ งของลาดับชั้นหนิ

แผนที่กัมมันตรังสี ในบริเวณด้านตะวันตกของจังหวัดพิษณุโลก ในบริเวณนี้ถึงแม้จะบนิ
ด้วยระยะห่าง 2 กิโลเมตร สามารถแสดงลักษณะของกลุ่มหินโคราช เป็นเหล่ียม เช่นเดียวกับแผนท่ี
ธรณีวทิ ยา โดยหมวดหินพระวิหาร โคกกรวด และ เสาขรัว เป็นสีเขียว ในขณะท่ีหมวดหินภูขัด แสดงเป็น
สีม่วง ซ่ึงแสดงถึงหน่วยภูพานมีองค์ประกอบของโพแทสเซียมในหิน มากกว่า หน่วยพระวิหาร โคกกรวด
และ เสาขรัว ในขณะท่ีหมวดหินเขาย่าปุก แสดงเป็นสีเข้ม แสดงขอบแยกจากหินโคราชท่ีพบบริเวณภาค
ตะวันออกเฉียงเหนือ

155

รูปท่ี 6-10 แผนท่ีกัมมันตรังสีเทอร์นารี (ซ้าย) เปรียบเทียบกับแผนท่ีธรณีวิทยากลุ่มหินโคราช บริเวณภาค
ตะวันออกเฉยี งเหนือของประเทศไทย

6.2 หินแปร

หินแปร จาพวกหินไนส์ ได้ยกตัวอย่างไว้รวมกับในบทหินแกรนิต ในหัวข้อน้ียกตัวอย่าง
หนิ ควอตซ์ไซต์ จงั หวัดเลย ซึง่ เป็นเขาลกู โดด อยใู่ นหน่วย PTr โดยแผนท่ีกมั มันตรังสเี ทอร์นารแี สดงเปน็ สี
ฟ้า มีความสัมพันธ์กับค่ากัมมันตรังสีทอเรียม เน่ืองจากเขาลูกโดดลูกน้ี อยู่ในแนวบินสารวจ ทาให้แสดง
ลักษณะเด่นของหินควอตซ์ออกมาได้อย่างชัดเจน เน่ืองจากบริเวณท่ีพบควอตซ์ไซตม์ ักเป็นพ้ืนท่ีขนาดเล็ก
ไม่ผ่านแนวบินสารวจ ถ้ามีการบินสารวจในแนวท่ีละเอียดกว่านี้ โอกาสท่ีสามารถกาหนดตาแหน่ง
หนิ ควอรต์ ไซต์ จากแผนทก่ี ัมมนั ตรังสีเทอรน์ ารี มีความแมน่ ยาสงู ขนึ้

156

รูปที่ 6-11 แผนท่ีกัมมันตรังสีเทอร์นารี (ซา้ ย) เปรียบเทียบกับแผนที่ธรณีวิทยากลุ่มหินโคราช บริเวณ ดา้ นตะวนั ตก
ของขอบโคราช

รูปท่ี 6-12 แสดงตาแหนง่ หินควอตซ์ ซง่ึ อยใู่ นหนว่ ยหนิ PTr ในแผนที่กัมมนั ตรงั สีเทอรน์ ารเี ปน็ จุดสีฟ้า

บทที่ 7
สรุปและขอ้ เสนอแนะ

ลกั ษณะเดน่ ความเข้มกมั มันตรังสี และความเขม้ สนามแม่เหล็ก ในการประยกุ ต์ใช้สารวจ
ธรณีวิทยาประเทศไทย ขึ้นอยูก่ บั องคป์ ระกอบของ โพแทสเซยี ม ยเู รเนยี ม ทอเรยี ม และ ปรมิ าณแรแ่ มกนี
ไทต์ ที่เป็นองคป์ ระกอบของหนิ นน้ั

หินแกรนิตชนิด S-type ในประเทศไทยมีแนวโน้มที่มีความเข้มกัมมันตรังสีสูงท้ังสามค่า
ในขณะที่เป็น I-type แสดงค่าผิดปกติความเข้มสนามแม่เหล็ก หินภูเขาไฟแสดงค่าผิดปกติความเข้ม
สนามแม่เหล็ก ซ่ึงความแตกต่างของค่า Amplitude สามารถแยกความเป็น เบสิก-เฟลสิกออกจากกันได้
นอกจากนีห้ ินภูเขาไฟมีค่าความเข้มกมั มันตรงั สตี ่า

หนิ ปูนมีลกั ษณะเด่น 3 แบบ ไดแ้ ก่ แสดงเปน็ สเี ขยี วเหลอื ง สีขาว และสชี มพู หนิ ตะกอน
มีค่ากัมมันตรังสีต่า ไม่แสดงค่าผิดปกติความเป็นแม่เหล็ก โดยที่หินกลุ่มลาปางแสดงสีม่วงแดงในแผนที่
เทอร์นารี เน่ืองจากมีองค์ประกอบของหินดนิ ดาน กลุ่มหินแก่งกระจาน แผนที่เทอร์นารีแสดงสีม่วงน้าเงิน
เน่ืองจากมีองค์ประกอบของหินโคลน และ กลุ่มหินโคราช แสดงเป็น สีขาว สเี ขียว อ่อน ซ่ึงกลุ่มหินโคราช
เป็นกลุ่มหินที่มีค่ากัมมันตรังสีต่า ลักษณะเด่นของค่าความเข้มกัมมันตรังสี และความเข้มสนามแม่เหล็ก
ของแตล่ ะหน่วยหิน/กลมุ่ หิน สรปุ ได้ ดงั ตารางท่ี 7-1

ตารางท่ี 7-1 ตารางสรุปลกั ษณะเดน่ ความเข้มกัมมันตรังสีและความเขม้ สนามแมเ่ หลก็ ของชนิดหนิ /หน่วยหิน

ลา ชนดิ หนิ /กลมุ่ หิน ชนิด ลกั ษณะเด่นความเข้ม ตัวอย่างสจี ากแผนที่ ลักษณะเด่นความเขม้
ดับ หนิ แกรนิต กัมมันตรงั สี Ternary/TC สนามแมเ่ หล็ก

1 แนวกลาง-ขอบ มี 2 แบบ สีเขียวเข้ม/สี ไม่มี
ตะวนั ตก เขียวจุดประแดง

2 แนวกลาง- หนิ แกรนิต ตรงกลางสีออ่ น (สเี ขยี ว) เกดิ บรเิ วณเดยี ว แตเ่ ป็นหนิ อคั นี แต่
Migmatite ขอบสีเขม้ ไ ม่ มี ค ว า ม สั ม พั น ธ์ กั บ ค ว า ม เ ข้ ม
(ภาคเหนอื ) กัมมนั ตรังสี (เปน็ แกรนิตคนละเฟส)
หนิ แกรนิต สแี ดงดา เขียวดา เกิดบริเวณข้างเคียง หรือบริเวณ
3 แนวกลาง (ภาค เดียวกัน แต่ไม่มีความสัมพันธ์กับ
กลาง) ความเข้มกัมมันตรังสี (เป็นแกรนิต
คนละเฟส
4 แนวกลาง-Strike- หนิ แกรนิต แถบสีม่วงน้าเงินสลับ ตามแนวรอยเล่ือน
Slip fault แดง
ไมม่ ี
5 แนวกลางขอบ หนิ แกรนิต สเี ขยี วเขม้
ตะวันออก ไมม่ ี
หนิ แกรนิต สีเขียวเข้ม
6 แนวตะวนั ตก หินแกรนิต สเี ขียวเขม้ เ กิ ด บ ริ เ ว ณ เ ดี ย ว กั บ ค ว า ม เ ข้ ม
กมั มนั ตรังสี
7 แนวตะวันออก หินแกรนิต มที ั้งสีเข้ม และสอี อ่ น คู่บวก-ลบ คล่นื ยาว คา่ Amplitude
สูง
8 เลย หินภูเขาไฟ สขี าว/สีออ่ น เปน็ กลุม่ /50-150 nT

9 แนวหินภูเขาไฟ
เชียงใหม่

158

ลา ชนิดหิน/กล่มุ หนิ ชนิด ลกั ษณะเดน่ ความเข้ม ตวั อย่างสีจากแผนท่ี ลกั ษณะเด่นความเขม้
ดบั กัมมันตรงั สี
10 แนวหินภเู ขาไฟ Ternary/TC สนามแม่เหลก็
หนิ ภูเขาไฟ สเี ข้ม สขี าว
ลาปาง เป็นกลมุ่ เปน็ แนวยาว /20-30 nT
11 แนวหนิ ภูเขาแมน่ ้า
หินภเู ขาไฟ สขี าว เป็นกลมุ่ /50-500 nT
น่าน
12 แนวหินภูเขาไฟ หินภูเขาไฟ สีเข้ม เปน็ กลมุ่ /complex

เพชรบรู ณ์ หนิ ภเู ขาไฟ สีชมพู เปน็ กลุ่ม/>100 nT
13 แนวหินภูเขาไฟ
หนิ ภเู ขาไฟ สขี าว สีชมพู สีฟา้ สี เป็นกลุ่ม /50-150 nT
สระแก้ว เขยี ว
14 หนิ ภเู ขาไฟยุคซีโนโซ หินตะกอน ไมม่ ี
หินตะกอน สีเขียวเหลือง สีม่วงแดง ไมม่ ี
อกิ หินตะกอน และ สขี าว ไม่มี
หินตะกอน สมี ่วงแดง ไม่มี
15 หนิ ปูน
สมี ว่ งนา้ เงนิ
16 กลุม่ หินลาปาง
สี ช ม พู อ่ อ น / สี ข า ว / สี
กลมุ่ หนิ แก่งกระจาน เขียว

17 กลุ่มหนิ โคราช

7.1 ขอ้ เสนอแนะ

1. มีการจัดทาข้อมูลสารสนเทศแยกชนิด หินภูเขาไฟ หินแกรนิต ออกมาต่างห่าง
เพ่ิมเติม เร่ือง อายุ เร่ืองการแบ่งชนิด หรือจัดกลุ่ม ทาให้ง่ายต่อการศึกษาหรือ
เปรียบเทียบ ไดร้ วดเร็วยิง่ ข้นึ

2. มีการศึกษาวัดค่าความเข้มกัมมันตรังสี ความเข้มสนามแม่เหล็ก ในภาคสนาม เพ่ือ
มากาหนดเป็นค่ามาตรฐาน ของหน่วยหินในประเทศไทย ซึ่งสามารถนามาใช้เป็น
ข้อมูลเบื้องต้น ในการศึกษาเร่ือง ธรณีวิทยาส่ิงแวดล้อม ธรณีวิทยาพิบัติภัย แหล่ง
ทรพั ยากร ตลอดจน ดา้ นอนื่ ๆ สง่ิ เชน่ ด้านสขุ ภาพ หรือ ด้านการเกษตร

3. จดั กลุม่ (Working Group) ในการศึกษา หนิ แกรนิต และหินภเู ขาไฟ

เอกสารอ้างองิ

Barr, S. M., & Charusiri, P., 2011, Volcanic rocks. In M. F. Ridd, A. J. Barber & M. J. Crow (Eds.), The
Geology of Thailand: Geological Society of London.

Bell., R. S. ,2017, . A Review of UAS Magnetometers. 2018, from
https://seg.org/Portals/0/SEG/News%20and%20Resources/Near%20Surface/Resources/Drones
_Workshop/5_Review%20of%20UAS%20Magnetometers%20for%20Small%20Unmanned%20
Aerial%20Systems_sUAS_Bell.pdf

Charusiri, P., Clark, A. H., Farrar, E., Archibald, D., & Charusiri, B. ,1993, Granite belts in Thailand:
Evidence from the 40Ar/39Ar geochronological and geological syntheses (Vol. 8).

Chiozzi, P., Pasquale, V., & Verdoya, M. ,1998, . Ground radiometric survey of U, Th and K on the Lipari
Island, Italy. Journal Of Applied Geophysics, 38(3), 209-217.

Cobbing, E. J. ,2011, . Granitic rocks. In M. F. Ridd, A. J. Barber & M. J. Crow (Eds.), The Geology of
Thailand: Geological Society of London.

Dickson, B. L., & Scott, K. M. ,1997, Interpretation of aerial gamma-ray surveys-adding the geochemical
factors. AGSO Journal of Australian Geology and Geophysics, 17(2), 187-200.

DiFrancesco, D. , 2013, The coming of age of gravity gradiometry ASEG Extended Abstracts 2013: 23rd
Geophysical Conference (pp. 1-4): Australian Society of Exploration Geophysicists (ASEG).

Dransfield, M., & Christensen, A. , 2013, Performance of airborne gravity gradiometers. The Leading
Edge, 32(8), 908-922. doi: 10.1190/tle32080908.1

Doucet, A., Gaffney, O.,Haeggman, M., Moberg, F., Pharand-Deschênes, F., Sturle Hauge Simonsen, S.H.
, 2018, Welcome to Anthropocene : Available from
http://www.anthropocene.info/about.php [December, 2018]

Dunning, G. R., Macdonald, A. S., & Barr, S. M. , 1995, Zircon and monazite U-Pb dating of the Doi
Inthanon core complex, northern Thailand: implications for extension within the Indosinian
Orogen. Tectonophysics, 251(1), 197-213. doi: https://doi.org/10.1016/0040-1951(95)00037-2

Feng, Q., Yang, W., Shen, S., Chonglakmani, C., & Malila, K. , 2008, The Permian seamount stratigraphic
sequence in Chiang Mai, North Thailand and its tectogeographic significance. Science in China
Series D: Earth Sciences, 51(12), 1768-1775.

Geosphere Inc, 1990-2007, Magnetometry : Available from
https://www.geosphereinc.com/mag_magnetometry.html [December,2018]

Grasty, R. L. , 1976, The "Field of View" of Gamma-ray Detectors : a Discussion. Geological Survey of
Canada, Paper, 76-1B, 81-82. doi: 10.4095/103613

Gumert, W. , 1998, An historical review of airborne gravity. The Leading Edge, 17(1), 113-116. doi:
10.1190/1.1437808

Gunn, P. J., Minty, B. R. S., & Milligan, P. R. , 1997, The Airborne Gamma-Ray Spectrometric Response
Over Arid Australian Terranes. Paper presented at the Processings of Exploration 97: Forth
Decenial International Conference on Mineral Exploration.

Hammer, S. , 1983, Airborne gravity is here! GEOPHYSICS, 48(2), 213-223. doi: 10.1190/1.1441460
Herbert S, J. a. O. , 1969, Mineral Investigations in Northeastern Thailand U.S.Geological Survey

Professional Paper (Vol. 618, pp. 96).

160

IAEA. , 2013, Advances in Airborne and Ground Geophysical Methods for Uranium Exploration Nuclear
Energy Series Technical Reports No. NF-T-1.5.

International Atomic Energy, A. , 2003, Guidelines for Radioelement Mapping Using Gamma Ray
Spectrometry Data.

Jefferson, T. It's element (Potassium). Retrieved 2007/10/24, from
http://education.jlab.org/itselemental/ele019.html

Macdonald, A. S., Barr, S. M., Miller, B. V., Reynolds, P. H., Rhodes, B. P., & Yokart, B. P-T-t constraints
on the development of the Doi Inthanon metamorphic core complex domain and
implications for the evolution of the western gneiss belt, northern Thailand. Journal of Asian
Earth Sciences, 37(1), 82-104.

Mineral Resources Development project , 1989, Thailand Nationwide Airborne Geophysical Surveys,
Techical Bulletin No.4, Department of Mineral Resources, 12p.

Moussa, M. , 2001, Gamma-ray spectrometry: a new tool for exploring archaeological sites; a case
study from East Sinai, Egypt. Journal Of Applied Geophysics, 48(3), 137-142.

Muffly, G. , 1946, THE AIRBORNE MAGNETOMETER. GEOPHYSICS, 11(3), 321-334. doi:
10.1190/1.1437254

Nabighian, M., Grauch, V., Hansen, R., LaFehr, T., Li, Y., Peirce, J., . . . Ruder, M. , 2005, The historical
development of the magnetic method in exploration. GEOPHYSICS, 70(6), 33ND-61ND. doi:
10.1190/1.2133784

Paterson, G. W. L. , 1997, Airborne Geophysical Methods and Application. Lecture Series 1:
Geologogists.

Pitfield, P. E. J. , 1988, The Geochemistry of the Granites of Thailand South - East Asia Granite Project
Report No. WC/88/6. Bangkok Department of Mineral Resources.

Resources, D. o. M. , 2014, Department of Mineral Resources (pp. 507, Bangkok.
sander, G. W. a. o. , 1980, Report on the high resolution Airborne Magnetometer and Gamma Ray

Spectrometer Survey in Southeast Thailand (pp. 90).
Sukontapongpow, S. , 1997, Recent airborne geophysical surveys of Thailand and their use for

delineation of high mineral potential area Mineral Resources Development Division Report
no.18/1997 (pp. 266).
Thomson, S., Fountain, D., & Watts, T. , 2007, Airborne Geophysics – Evolution and Revolution. Paper
presented at the Fifth Deceennial Internation Conferenece on Mineral Exploration.
W.B.Agocs, & C.E.Curtis, A. B. , 1959, Interpretation Airborne Magnetometger-scintillation counter
Survey in ChiangKhan-Loei, Nakhon Sawan Chachoengsao areas of Thailand.
Weihermann, J. D., Ferreira, F. J. F., Cury, L. F., & da Silveira, C. T. , 2016, Gamma-ray spectrometry of
granitic suites of the Paranaguá Terrane, Southern Brazil. Journal Of Applied Geophysics, 132,
38-52. doi: https://doi.org/10.1016/j.jappgeo.2016.06.017
Wilford, J. R., Wierwirth, P. N., & Craig, M. A. , 1997, Application of Airborne gamma-ray spectrometry
in soil/regolith mapping and applied geomorphology. AGSO Journal of Australian Geology
and Geophysics, 17(2), 201-216.
Wisedsind, W., Worakanok, W., & Rangubpit, W. Discharge of Alluvial Fan in Chao Phraya Basin: An
Exhibition of Airborne Geophysical Data.
กรมทรัพยากรธรณี, 2550, ธรณวี ทิ ยาประเทศไทย (pp. 658 หนา้ ).
กฤตยา ปทั มาลัย, ปานใจ สารพันโชติวทิ ยา และ ประวัติ ต้ังพงษ์, 2546, ธรณวี ิทยาแหล่งแร่รตั นชาตบิ ริเวณอาเภอบอ่
พลอย จงั หวดั กาญจนบุรี (pp. 285). กรุงเทพฯ.

161

คพท, ฝา่ ยประมวลผลและจัดพิมพ์, 2531, ธรณีวทิ ยาของระวางพื้นท่บี นิ สารวจ AEM จงั หวดั เลย และแผนทธี่ รณีวทิ ยา
มาตราส่วน 1:100, 000 (Geology of Changwat Loei) (pp. 62 หน้า).

ครรชิต ศิริภกั ดี และ สมพงษ์ เขม็ เหลก็ , 2531, ธรณวี ิทยาและแหล่งแร่ระวางบ้านยางแดง (4740 III). Paper
presented at the สรุปผลการประชมุ การสารวจธรณวี ทิ ยา ประจาปี 2531 (20 - 23 ธันวาคม 2531).

นรรตั น์ บญุ กันภัย, 2554, ลาดับชนั้ หนิ ของกลมุ่ หินโคราชบริเวณภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื ตอนบน รายงานวิชาการ
มาตรฐานลาดบั ช้ันหนิ ฉบบั ท่ี 2/2554 (pp. 108 หน้า). กรงุ เทพฯ

นรรัตน์ บุญกันภัย, วีรชัย แพงแกว้ , สมชัย เตรยี มวชิ านนท์, และ รัชนีวรรณ ใจขอ้ , 2558, ลาดับชั้นหินยคุ ออร์โดวิเซียน
บรเิ วณจังหวดั แม่ฮอ่ งสอน เชยี งใหม่ ลาพูน ตาก และกาแพงเพชร. Paper presented at the เอกสาร
ประกอบการประชุมวชิ าการกรมทรพั ยากรธรณี ประจาปี พ.ศ.2558 (8 - 9 กนั ยายน 2558).

นิคม จงึ อยสู่ ขุ และ ธนวุฒิ ศิรินาวนิ , 2525, ศิลาวรรณาและธรณีเคมีของหนิ บะซอลท์ในที่ราบสูงโคราช บริเวณภาค
ตะวันออกเฉยี งเหนอื ของประเทศไทย (Petrology and geochemistry of basalt in Khorat Plateau,
ortheast Thailand) (pp. 88 หน้า).

ปรีชา ศภุ ลักษณ,์ 2519, โครงการสารวจธรณีฟสิ ิคสท์ างอากาศ. ขา่ วสารการธร: Vol. ฉบับที่ 9. ขา่ วสารการธรณี ปที ่ี 21
(pp. 54 - 62).

พงษศ์ กั ด์ิ ศรพี งศพ์ นั ธ์ และ สุชยั สินพลู อนันท์, 2531, ธรณีวิทยาระวางอาเภอศรีสวัสดิแ์ ละระวางบา้ นหนองปรือ
(Geology of Amphoe Si Sawat Sheet and Ban Nong Pru Sheet) (pp. 53 หนา้ ).

พล เชาวด์ ารง, นรรตั น์ บญุ กนั ภัย, สันต์ อศั วพัชระ, บุญเสรฐิ สุขศรบี รู ณ์อาไพ, อนวุ ชั ร ตรีโรจนานนท์, นาโชค เซยี่ ง
เหน็ และ ธนชั วัชรมยั , 2553, ลาดับชน้ั หินของกลุ่มหินลาปาง (Lithostratigraphy of the Lampang
Group). กรงุ เทพฯ: สานกั ธรณีวิทยา กรมทรัพยากรธรณี.

พล เชาว์ดารงค์, 2553, ลาดบั ช้ันหินของกลุ่มหนิ แก่งกระจาน (ปรบั ปรุงใหม)่ รายงานวิชาการมาตรฐานลาดับชน้ั หนิ
ฉบบั ที่ 1/2553 (pp. 172 ). กรงุ เทพฯ

พทิ กั ษ์ เทยี มวงศ์ และ เกชา จาปาทอง, 2549, ธรณวี ทิ ยาระวางอาเภอท้ายเหมอื ง (4625 I) ระวางบ้านเขาหลัก (4626
III) และระวางบา้ นหญา้ ปลอ้ ง (4726 IV) [Geology of Amphoe Tai Muang Sheet (4726 IV), Ban Khao
Lak Sheet (4626 III) and Ban Ya Plong Sheet (4726 IV)] (pp. 73 หน้า).

พสิ ิทธิ์ ธรี ดิลก, 2537, ทรัพยากรหนิ ปูนของประเทศไทย (Limestone resources of Thailand) (pp. หนา้ 1-21).
วรรณภา จ่าราช, 2539, คณุ ภาพของหนิ ปูน อาเภอเชยี งดาว จังหวดั เชียงใหม่ (pp. 57 ). กรงุ เทพฯ.
วิทยา ธรรมดษุ ฎี, & อภชิ าต จีนกลู , 2532, ธรณีวิทยาระวางบา้ นโปง่ นา้ รอ้ นและระวางบา้ นแมห่ อพระ (Geology of

Ban Pong Namron Sheet and Ban Mae Ho Phra Sheet) (pp. 74 หน้า).
วิโรจน์ แสงศรีจันทร์, 2549, ธรณวี ทิ ยาระวางอาเภอท่งุ หวา้ (4923 II) [Geology of Amphoe Thung Wa Sheet

(4923 II)].
วีรชยั แพงแก้ว, วารุณี ยะถากรรม และ สทิ ธนิ นท์ กุลทกั ษยศ, 2557, ลาดบั ช้ันหนิ กลมุ่ หินทงุ่ สง บรเิ วณภาคตะวนั ตก

และภาคใตข้ องประเทศไท. Paper presented at the เอกสารประกอบการประชุมวิชาการกรมทรพั ยากร
ธรณี ประจาปี พ.ศ.2557 : (9 - 10 มนี าคม 2557)
สนั ติ ลวี งศเ์ จริญ และ วารุณี ยะถากรรม, 2552, ธรณวี ิทยาระวางอาเภอสวนผง้ึ (4836 II) ระวางอาเภอบา้ นคา (4835
I) และระวางห้วยแม่ประโดน (4835 II) รายงานวิชาการ ฉบบั ที่ สธว 2/2552 (pp. 89). กรงุ เทพฯ.
อนวุ ชั ร ตรีโรจนานนท์, 2554, ลาดบั ชนั้ หินของกลุ่มหนิ โคราชบริเวณขอบตะวนั ตกของทร่ี าบสูงโคราช รายงานวชิ าการ
มาตรฐานลาดับชน้ั หนิ ฉบับท่ี 3/2554 (pp. 102 หนา้ ). กรุงเทพฯ.



ภาคผนวก (ก)
รายการายงารการแปลความหมาย

2

รายการรายงานการแปลความหมาย

Interpretation Reports for Airborne Geophysical of the Mineral Resources Development Project
Contract No.50/2527

By Kenting Earth Sciences International Limited

No. Volumns Name/Sheet
1I Geologogical/Geophysical Models and Interpretation

2 II Methodology
3 III NF47-15
4 IV NE47-2
5V NE47-3
6 VI NE47-4
7 VII NE47-6
8 VIII NE47-7
9 IX NE47-8
10 X NE47-10
11 XI NE47-11
12 XII NE47-12
13 XIII
14 XIV NE48-9 and NE48-5
15 XV NE48-10 and NE48-6
16 XVI
17 XVII NE47-14
18 XVIII NE47-15
19 XIX NE47-16
20 XX NE48-13
21 XXI NE48-14
22 XXII ND47-2
23 XXIII ND47-3
24 XXIV ND47-4
25 XXV ND48-1
26 XXVI ND48-2
27 XXVII ND48-3
28 XXVIII ND47-6
29 XXIX ND48-13
30 XXX ND47-8
31 XXXI ND48-5
32 XXXII ND48-6
33 XXXIII ND48-7
34 XXXIV ND47-11

ND48-9
ND47-15

No. Volumns 3
35 XXXV
36 XXXVI Name/Sheet
37 XXXVII ND47-16
38 XXXVIII ND48-13
39 XXXIX NC47-3
40 XL NC47-6
41 XLI NC47-7
42 XLII NC47-10
43 XLIII NC47-11
NC47-14
NC47-15

4

ภาคผนวก ข
รายการรายงานแปลความหมายขอ้ มูลธรณฟี สิ กิ สท์ างอากาศ

โดย กรมทรัพยากรธรณี

5

รายการรายงานแปลความหมายขอ้ มลู ธรณีฟิสกิ ส์ทางอากาศ โดย กรมทรัพยากรธรณี

ลาดับที่ ชอื่ ผ้แู ต่ง ปี ชื่อ

1 Satien Sukontapongpow 1997 Recent Airbrne Gephysical Surveys f Thailand and Their
Use fr Delineatin f High Mineral Ptential Area
2 Satien Sukontapongpow 1986
The Prgress f Airbrne Gephysical Surveys (June 1984 -
3 ภาณุ ทองชิตร์ 2534 December 1985)

4 ภาณุ ทองชิตร์ 2537 การแปลความหมายข้อมูลความตา้ นทานไฟฟ้าและความเข้ม
สนามแมเ่ หล็กทางอากาศในพน้ื ที่กบินทร์บุรี
5 ภาณุ ทองชิตร์ 2538
6 ภาณุ ทองชติ ร์ 2538 การแปลความหมายขอ้ มลู ธรณีฟิสกิ สท์ างอากาศ ในพ้ืนทรี่ ะวาง
จงั หวัดเชียงใหม่ (NE 47-6)
7 ภาณุ ทองชติ ร์ 2538
การบนิ สารวจความเขม้ กมั มนั ตรงั สที างอากาศในประเทศไทย
8 ภาณุ ทองชิตร์ 2539
การแปลความหมายขอ้ มลู ธรณีฟิสกิ สท์ างอากาศในพนื้ ทร่ี ะวาง
9 ภาณุ ทองชิตร์ 2540 จังหวัดเชียงใหม่ (NE 47-6)

10 ภาณุ ทองชิตร์ 2540 การแปลความหมายขอ้ มูลธรณีฟิสิกส์ทางอากาศในพ้นื ที่ระวาง
จงั หวัดเชียงใหม่(NE 47 - 6)
11 ภาณุ ทองชติ ร์ 2540
การแปลความหมายข้อมูลธรณีฟิสกิ ส์ทางอากาศในพน้ื ที่ลาปาง
12 ภาณุ ทองชิตร์ 2546 ตอนบน
13 ภาณุ ทองชิตร์ 2554
การแปลความหมายข้อมูลธรณีฟิสิกส์ทางอากาศในพนื้ ที่น่าน - ไชย
14 ภาณุ ทองชิตร์ 2554 บรุ ี

15 ธนา เกียรตวิ งศช์ ยั 2536 การแปลความหมายข้อมูลธรณฟี ิสิกสท์ างอากาศในพื้นที่ระวาง
จงั หวัดเชียงราย (NE 47 - 3)
16 ธนา เกยี รตวิ งศช์ ัย 2538
17 ธนา เกียรติวงศช์ ยั 2538 การแปลความหมายและการประยุกตใ์ ช้ข้อมลู ธรณฟี ิสิกส์ทาง
อากาศ เพือ่ การทาแผนท่ธี รณวี ทิ ยาและการสารวจทรัพยากรธรณี
18 Tana Kiattiwongchai 1992 ในพน้ื ทจี่ งั หวัดแมฮ่ อ่ งสอน
19 Tana Kiattiwongchai 1994
การแปลความหมายข้อมูลธรณฟี ิสิกสท์ างอากาศในพน้ื ท่ีบ้านไร่

การแปลความหมายข้อมลู ธรณฟี ิสกิ ส์ทางอากาศพ้นื ท่ีระวาง 4840
IV, 4841 III, 4841 IV, 4842 III

รายงานการแปลความหมายข้อมูลธรณีฟสิ ิกสท์ างอากาศพ้ืนท่ีของ
หนว่ นสารวจที่ 1 ระวางบา้ นแม่แดดน้อย (4646 I) ระวางบ้านแม่
นาจร (4646 II) และระวางบา้ นผาปูน (4746 II)

การแปลความหมายและการประยุกต์ใชข้ อ้ มลู ธรณีฟสิ กิ ส์ทาง
อากาศ เพ่ือการทาแผนที่ธรณีวทิ ยาและการสารวจทรพั ยากรธรณี
ในพื้นท่ลี าปาง - แพร่

การประมวลผลขอ้ มูลธรณฟี ิสกิ ส์ทางอากาศทวั่ ประเทศ

การสารวจธรณฟี ิสกิ ส์ทางอากาศและการประมวลผลเพ่มิ
ประสิทธิผลข้อมูลธรณีฟสิ กิ สท์ างอากาศภายใต้การดาเนนิ งานของ
โครงการพัฒนาทรัพยากรธรณี

Thailand Airborne Geophysical Data Processing and
Enhancement on Microcomputer

Airborne Geophysical Data Interpretation of the Uttaradit
- Nan Area General Background and Aeromagnetic
Interpretation

ลาดบั ที่ ชอื่ ผู้แตง่ 6
20 Tana Kiattiwongchai
ปี ช่ือ
21 วลั ลภ วเิ ศษสนิ ธุ์ 1997 Reprt n Semi Detailed Study f Airbrne Gephysical Data
22 วลั ลภ วเิ ศษสินธุ์
23 วลั ลภ วเิ ศษสินธุ์ Interpretatin ver Base Metal Ptential Target Areas in
Chiang Mai
24 วัลลภ วเิ ศษสินธ์ุ 2536 การบนิ สารวจวดั คา่ ความเขม้ สนามแมเ่ หลก็ ไฟฟา้ : วิธกี ารและการ
25 วัลลภ วเิ ศษสินธ์ุ ประยกุ ตใ์ ช้
26 วัลลภ วิเศษสนิ ธุ์ 2537 การประยุกต์ใชข้ ้อมูล HEM เพือ่ วเิ คราะห์ศักยภาพของแหลง่ แร่
27 Wallop Wisedsind เหลก็ ในพนื้ ทศี่ ึกษา : เพชรบูรณ์ พิจิตร ลพบรุ ี นครสวรรค์
2538 การประยุกตใ์ ชข้ ้อมลู ความเข้มสนามแม่เหล็กไฟฟา้ ทางอากาศ เพ่อื
28 Wallop Wisedsind วเิ คราะห์หาศกั ยภาพของแหลง่ แร่เหล็กในพื้นทส่ี ารวจติดตามผล
29 Wallop Wisedsind ทางอากาศ : พนื้ ท่ีเพชรบูรณ์
30 Wallop Wisedsind 2534 การแปลความหมายขอ้ มูลความตา้ นทานไฟฟ้าและความเข้ม
31 Wallop Wisedsind สนามแมเ่ หล็กทางอากาศในพ้ืนท่ีกบินทรบ์ ุรี
32 Wallop Wisedsind 2534 การแปลความหมายขอ้ มลู ธรณฟี ิสิกสท์ างอากาศ พ้ืนท่ี AEM
33 Wallop Wisedsind กบนิ ทรบ์ รุ ี
34 Wallop Wisedsind 2549 การแปลความหมายข้อมูลธรณีฟิสกิ สท์ างอากาศในพืน้ ทีแ่ ปลงที่
35 Wallop Wisedsind 2/2547 (สวุ รรณคหู า) ประจาปี 2547
1994 Airbrne Gephysical Survey Interpretatin f Phetchabun
36 จรนิ ทร์ ตลุ ยาทิตย์ Study Area Changwat Phetchabun Pichit Lpburi and
37 จรินทร์ ตลุ ยาทิตย์ Nakrn Sawan ,Thailand
38 จรนิ ทร์ ตุลยาทิตย์ 1994 Airbrne Gephysical survey Interpretatin f Phrtchabun
Study Area Changwat Phetchabun Pichit Lpburi Thailand
1995 Hem and Vlf - Em Interpretatin ver the Fllw-Up survey
Area Uttaradit - Nan
1996 Applicatin f Frequency Dmain Electrmagnetic Mdeling fr
Cnductive and Nn-Cnductive Bdies
1996 Sme Airbrne Gephysical Characteristics f Gethermal
Prmising Areas in Thailand
2004 Airbrne Gephysical Data Interpertatin fr Mineral Ptential
in Suwan - Nakuha Area Nng Bua Lamphu Prvince
2004 Discharge f Alluvial Fan in Cha Phraya Basin : An Exhibitin
f Airbrne Gephysical Data
2004 Discharge f Alluvial Fan in Cha Phraya Basin : An Exhibitin
f Gephysical Data
2008 Interpretatin f gelgical structures and rck units using
airbrne gephysical data alng the Mae Ping fault zne area
in eastern Thailand
2536 การใช้ข้อมลู ธรณีฟิสกิ ส์ทางอากาศในการทาแผนท่แี ละสารวจ
ทรพั ยากรธรณี
2536 การบนิ สารวจวดั คา่ ความเขม้ กมั มันตรังสี : วิธีการและการ
ประยุกต์ใช้
2536 การประมวลผลและเพมิ่ ประสิทธิผลขอ้ มลู ธรณีฟสิ ิกสท์ างอากาศท่ี
กรมทรัพยากรธรณี (คพท. ระยะท่ี 2)

ลาดับที่ ชื่อผู้แต่ง 7

39 จรินทร์ ตลุ ยาทิตย์ ปี ชื่อ
2536 การแปลความหมายข้อมูลธรณีฟิสิกส์ทางอากาศ บริเวณเทอื กเขาภู
40 จรินทร์ ตลุ ยาทิตย์
สะนาว จังหวัดเลย
41 จรนิ ทร์ ตุลยาทิตย์ 2538 การประยุกตใ์ ช้ข้อมลู กรดิ ระดบั ความสูงภูมปิ ระเทศในการทาแผนที่
42 จรินทร์ ตลุ ยาทิตย์
ธรณีวิทยา : วิธีการและเทคนิดในการสร้างแผนทธ่ี รณีวิทยา-ภูมิ
43 Jarin Tulyatid ประเทศด้วยคอมพิวเตอร์
44 Jarin Tulyatid 2544 การสารวจและแปลความหมายข้อมลู ความเข้มสนามแมเ่ หล็ก
2549 การประยุกตใ์ ช้การสารวจธรณีฟสิ ิกส์ เพอ่ื การศึกษารอยเลือ่ นมี
45 Jarin Tulyatid พลัง : รอยเล่อื นแม่ฮ่องสอน - เมย จงั หวดั แม่ฮอ่ งสอน ตาก
46 Jarin Tulyatid กาแพงเพชร
47 Jarin Tulyatid 2004 Airbrne Gephysical Data and Its applicatin f Surface
Mapping and Land Management
48 Jarin Tulyatid 1992 Airbrne Radimetric Data Interpretatin As An AID t Granitic
49 Jarin Tulyatid Terrain Mapping : A Casse Study fr Hua Hin-Pran Buri
50 Jarin Tulyatid Area, Suth Central Thailand
2001 Applicatin f Airbrne Gephysical Data n the Mapping f
51 Jarin Tulyatid Suture Znes and Metallgenic Prvinces f Thailand
52 พิชยั โอตรวรรณะ 1997 Applicatin f Airbrne Gephysical data t the study f cenezic
53 นวิ ตั ิ บญุ นพ Basin in Central Thailand
54 นิวัติ บญุ นพ 1995 Applicatin f Natinwide Airbrne Gephysical Data in
55 นิวัติ บุญนพ Thailand : A Cmbined Gephysical Data Interpretatin and
GIS Prject
56 Niwat Boonnop 1993 Preliminary Airbrne Gephysical Data Interpretatin Mae
Hng Sn - Pai - Chiang Da Area
1995 Prductin f Natinwide Aermagnetic Analytic Signal Grid f
Thailand
1995 Prductin f Natinwide Aermagnetic Reductin - t - the - Ple
Reductin - t - the - Equatr and Its Derivative Grids f
Thailand
1998 Tectnic Develpment f Central Thailand : New Evidences
frm Airbrne Gephysical Data
2540 การแปลความหมายข้อมลู ธรณฟี ิสิกสท์ างอากาศในพ้ืนทีพ่ นมสาร
คาม (5236 II)
2543 การประมวลผลและเพ่ิมประสิทธิผลขอ้ มูลบินสารวจธรณีฟิสิกส์ทาง
อากาศ เพอื่ การแปลความหมายข้อมลู ฯ และผลิตแผนที่
2549 การประยกุ ตใ์ ช้ข้อมูลธรณีฟิสกิ ส์ทางอากาศ เพ่ือชว่ ยการทาแผนท่ี
ธรณวี ิทยาและการสารวจหาแหลง่ แร่
2543 การประยุกต์ใช้ข้อมลู ธรณฟี ิสิกส์ทางอากาศเพ่ือการกาหนดพน้ื ที่
ศักยภาพทางแรข่ ัน้ ต้น บรเิ วณพื้นที่ตอนบนของอาเภอสวนผง้ื
จงั หวดั ราชบรุ ี
1995 The Natinwide Grids Creatin f Airbrne Radimetric Data f
Thailand

ลาดบั ท่ี ชอ่ื ผ้แู ตง่ 8
57 Niwat Boonnop
58 วนดิ า ระงบั พิศม์ ปี ช่อื
1997 Aermagnetic Data Interpretatin f the lampang - Phrae
59 ไวยพจน์ วรกนก
60 ไวยพจน์ วรกนก Area Thailand
61 ไวยพจน์ วรกนก 2549 รายงานการประมวลผลและแปลความหมายข้อมลู ธรณฟี ิสกิ ส์ทาง

62 ไวยพจน์ วรกนก อากาศ ตามโครงการเรง่ รดั สารวจและประเมินศักยภาพทรัพยากร
63 ไวยพจน์ วรกนก แร่ พ้ืนที่แปลงที่ 2/2548 "วงั ชนิ้ "
64 ไวยพจน์ วรกนก 2530 การแปลความหมายข้อมูลธรณีฟิสิกสท์ างอากาศดา้ นกัมมันตรงั สี
65 ไวยพจน์ วรกนก บรเิ วณ ตาบลห้วยยาง อาเภอทบั สะแก จงั หวดั ประจวบครี ขี นั ธ์
2531 การตรวจสอบผลการบนิ สารวจวดั ค่ากมั มนั ตรังสี บรเิ วณภาค
66 ไวยพจน์ วรกนก ตะวนั ออกของประเทศไทย
67 ไวยพจน์ วรกนก 2531 การตรวจสอบและแปลความหมายขนั้ ตน้ ของการบนิ สารวจ
กัมมนั ตรงั สี ตามโครงการพฒั นาทรัพยากรธรณี พ้ืนที่จังหวัดเลย
68 ไวยพจน์ วรกนก (NE 47 - 12)
2536 การตรวจสอบค่ากมั มันตรังสีภาคพ้ืนดินแผนท่ีมาตราส่วน 1:
250,000 ระวางทะวาย (ND 47 - 6)
2536 การประยกุ ต์ใชข้ ้อมลู กัมมันตรงั สที างอากาศ สาหรับการทาแผนที่
ธรณีวิทยาและการสารวจหาแหลง่ แร่
2536 การแปลความหมายขอ้ มลู กัมมันตรังสีทางอากาศ แผนท่ีมาตรา
สว่ น 1:250,000 ระวางทะวาย (ND 47-6)
2537 การแปลความหมายข้อมลู กัมมนั ตรังสที างอากาศและการติดตาม
ผลภาคพน้ื ดินในพื้นทด่ี ้านตะวันตกของแผนทรี่ ะวางอาเภอบา้ นหม่ี
(ND 47 - 4)
2538 การประยุกต์ใชข้ ้อมูลกัมมันตรงั สีทางอากาศในการปรับปรงุ แผนท่ี
ธรณีวทิ ยาและหาแหลง่ แร่
2546 การกาหนดขอบเขตศกั ยภาพของแร่ตะกวั่ - สังกะสี โดยใช้ข้อมูล
ธรณฟี ิสกิ สท์ างอากาศและข้อมูลธรณีเคมี พื้นที่เขาบอ่ งาม (แผนท่ี
ระวาง 4738 I) อาเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบรุ ี
2546 การประเมินทรัพยากรแร่ในแผนท่ีระวาง ND 47-6 (ทวาย) โดย
ประยกุ ตใ์ ชข้ อ้ มลู กมั มันตรังสที างอากาศ

กรมทรพั ยากรธรณี ถ.พระราม 6 เขตราชเทวี กรงุ เทพฯ 10400
http://www.dmr.go.th


Click to View FlipBook Version