The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ลักษณะเด่นข้อมูลความเข้มกัมมันตรังสีและข้อมูลความเข้มสนามแม่เหล็ก ในการประยุกต์ใช้สำรวจธรณีวิทยาของประเทศไทย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by zeath_junior, 2021-10-04 00:12:00

ข้อมูลความเข้มกัมมันตรังสีและความเข้มสนามแม่เหล็กในการสำรวจธรณีวิทยาประเทศไทย

ลักษณะเด่นข้อมูลความเข้มกัมมันตรังสีและข้อมูลความเข้มสนามแม่เหล็ก ในการประยุกต์ใช้สำรวจธรณีวิทยาของประเทศไทย

Keywords: ประเทศไทย,ความเข้มสนามแม่เหล็ก,ความเข้มกัมมันตรังสี,กรม,ทรัพยากรธรณี,กองเทคโนโลยีธรณี

80

Cobbing (2011) อธิบายหินแกรนิตประเทศไทยเป็น 3 บริเวณ ได้แก่ 1) แกรนิต
ภาคเหนือ 2) แกรนิตภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงใต้ และ 3) ภาคใต้ของประเทศไทย หินแกรนิต
ภาคเหนอื

4.1.1 หินแกรนติ ภาคเหนอื

แกรนิตบริเวณภาคเหนือนี้ เป็นหินแกรนิต S-type พบแกรนิตสองแนวได้แก่ แกรนิต
แนวกลางและแกรนิตแนวตะวันออก ซ่ึงแกรนิตแนวกลางในบริเวณนี้ แบ่งย่อยเป็น ขอบตะวันตก ตอน
ลาง และขอบตะวนั ออก และ หินแกรนิตครเี ทรเชยี ส ท่ีแทรกเขา้ มาอีกดว้ ย (Cobbing, 2011)

แผนท่ีกัมมันตรังสีเทอร์นารี แสดงขอบเขตของหินแกรนิตบริเวณภาคเหนือ
เป็นสีเขม้ และแผนทค่ี วามเข้มกัมมันตรังสีรวม (TC) แสดงสมี ว่ งแดง (Magenta) แยกออกอย่างชัดเจน
กับหน่วยหินชนิดอ่ืน ๆ สารับค่าความเข้มสนามแม่เหล็กแสดงให้เห็นค่าความเป็นแม่เหล็ก ของหน่วยหิน
หรอื โครงสรา้ ง แตไ่ มไ่ ดแ้ สดงความสมั พันธอ์ ย่างชัดเจนกบั หินแกรนติ (รูปที่ 4-3)

4.1.1.1 หนิ แกรนติ แนวกลาง

แกรนิตแนวกลาง (Central Belt granite) ครอบคลุมพื้นทีเกือบท้ังหมดของภาคเหนือ
วางตัวแนวแนวยาว ในทิศเหนือ-ใต้ เป็นท่ีทราบกันโดยท่ัวไปว่า หินแกรนิตแนวกลางนี้เป็นหิน S-type
granite หินแกรนิตแนวกลางน้ียาวตอ่ เนื่องไปยังหินแกรนิตในประเทศมาเลเซียอกี ด้วย (Cobbing, 2011)
ได้แบ่งแกรนิตแนวกลางเป็น 3 ส่วน เน่ืองด้วยบริเวณตอนกลางน้ัน หินแกรนิตมีการแปรสภาพสูง โดยมี
แกรนิตที่ไม่มีการแปรสภาพ ทางด้านตะวันออก และตะวันตก ดังน้ันแกรนิตแนวกลาง สามา แบ่งเป็น
1) ตอนกลาง (Migmatite complex หรือ Core complex) 2) ขอบตะวนั ตก และ 3) ขอบตะวนั ออก

1) ตอนกลาง (Migmatite Complex)

ลักษณะเดน่ ของความเขม้ กมั มันตรงั สี และขอ้ มลู ความเขม้ สนามแมเ่ หลก็ ของหินแกรนติ
ตอนกลาง หรือ บริเวณมิกมาไทต์คอมเพล็กซ์น้ัน แตกต่างจากหินแกรนิตในบริเวณอื่น ๆ โดยท่ีแผนที่
ความเข้มกัมมันตรังสีเทอร์นารี แสดงสีอ่อนกว่าหินแกรนิตบริเวณอ่ืน สีที่แสดงมีความไม่สม่าเสมอ ส่วน
แผนที่ความเขม้ กมั มนั ตรังสีรวม (TC) ไม่ไดแ้ สดงสีเข้มทัง้ พ้ืนที่เช่นเดียวกัน และมีค่าความเป็นแม่เหลก็ ใน
บริเวณเดียวกันกับบริเวณท่ีเป็นโซนของมิกมาไทต์คอมเพล็กซ์ ซ่ึงมีความสัมพันธ์กับข้อมูลธรณีวิทยาของ
บริเวณนี้ ที่ประกอบด้วยหินท่ีหลากหลายชนิด ไดแ้ ก่ หินออ่ นโฟลโกไพต์ หินคอร์ตโซเฟลดส์ ปาติกไนส์ ไบ
โอไทต์ไนส์ ชีตส์ และหินมิกมาไทต์ (กรมทรัพยากรธรณี, 2550) พบตามเส้นทางน้าตกแม่กลาง-ดอยอิน
ทนนท์ และเส้นทางฮอด-ออบหลวง นอกจากนี้จากการศึกษาของ Pitfield (1988) ซึ่งได้แบ่งชนิดหินใน
บ ริ เ ว ณ น้ี อ อ ก เ ป็ น 3 แ บ บ ไ ด้ แ ก่ Precursor migmatitic and foliated homogeneous S-ype
granitoid, Main phase batholithic S-type granites and their differentiates Cretaceous-
Tertialry S, I and A-type granitoid

ลักษณะเด่นของความเข้มกัมมันตรังสีและความเข้มนามแม่เหล็ก ตอนกลางน้ี สามารถ
แบ่งตามการลาดับชั้นหินตามการแปรสัณฐาน (Tetonostratigraphic) จากการศึกษาของ Macdonald
et al. (2010) ซ่ึงได้แบ่งลาดับหินตามการแปรสัณฐานเป็น 2 ส่วน ได้แก่ 1) ดอยอินทนนท์คอมเพล็กซ์
และ 2) รอยเล่ือนตามแนวระดบั ซึง่ มีลักษณะเด่นดงั ตอ่ ไปน้ี

81 ข


คง

รูปที่ 4-4 แผนท่ีธรณีวิทยา (ก) แสดงบริเวณดอยอินทนนท์ และดอยสุเทพคอมเพล็กซ์ เปรียบเทียบกับแผนท่ี

กัมมันตรังสีเทอร์นารี (ข) แสดงเป็นสีเข้มตามแนว Detachment fault ล้อมรอบบรเิ วณที่เปน็ สีเขียวด้านใน และ
แผนที่ความเข้มกัมมันตรังสีรวมซ้อนทับกับเส้นชั้นความเข้มสนามแม่เหล็ก (ค) และแผนที่ความเข้มสนามแม่เหล็ก
คงเหลือ (Residual Magnetic) (ง) แสดงให้เห็นถึงการมีการแทรกดันของหินอัคนีในแนวตะวันออกเฉียงเหนือ-

ตะวันตกเฉยี งใต้ เข้ามาบรเิ วณท่เี ป็นคอมเพล็กซ์

82

ดอยอินทนนท์คอมเพล็กซ์ (Doi Inthanon metamorphic core complex )
แบ่งเป็น 2 บรเิ วณ ไดแ้ ก่ ดอยสุเทพ และ ดอยอินทนนท์

ลักษณะเดน่ ของข้อมูลความเข้มกัมมันตรังสีเทอร์นารี ของท้ัง ดอยอินทนนท์คอมเพลก็ ซ์
และ ดอยสุเทพคอมเพล็กซ์ น้ัน(รูปท่ี 4-4) แสดงเป็นสีเขียว ตรงกลางแผนที่ และแสดงเป็นสีม่วงแดง
หรือม่วงน้าเงินเข้ม บริเวณขอบ ซึ่งขอบท่ีมีความเข้มนั้นแสดงแนวเดียวกัน และรูปร่างตามแนว
Detachment Fault (Macdonald et al., 2010) นอกจากนี้แผนท่ีเทอร์นารีบริเวณตอนกลางของหน่วยนี้
แสดงสีไม่สม่าเสมอ แสดงเป็นจุดประของสีแดง หรือสีม่วงน้าเงิน การแสดงผลของบริเวณนี้ตามแผนท่ี
กัมมันตรังสีรวม (TC) บริเวณขอบแสดงผลค่ากัมมันตรังสีสูง (สีม่วงแดง) และแสดงสีเขียว
ซ่ึงมีค่าต่าบริเวณตอนกลางของคอมเพล็กซ์ จากข้อมูลความเข้มกัมมันตรังสี สามารถสันนิษฐานได้ว่า
หินไนส์ ท่มี ีความคงทนสูงน้ัน อยู่บริเวณรอบ ๆ หรือ แนวเดยี วกับ Detachment fault เป็นวงรี โดยด้าน
ใน เชน่ บริเวณใกลย้ อดดอยสเุ ทพ หรือดอยอินทนนท์ ปกคลุมด้วยชั้นตะกอนหนา ๆ ซึง่ มคี วามสมั พนั ธ์กับ
ค่ากมั มนั ตรงั สี สีอ่อนด้านใน

ลักษณะเด่นของข้อมูลความเข้มสนามแม่เหล็ก จากแผนที่ความเข้มสนามแม่เหล็ก
คงเหลือ (Residual Magnetic) (รูปที่ 4-4 ง) แสดงลักษณะเปน็ คู่บวกลบ (สีแดงสีน้าเงิน) มีทั้งขนาดเล็ก
และขนาดใหญ่ วางตัวในแนวทิศตะวันออกเฉยี งเหนือ-ทศิ ตะวันตกเฉยี งใต้

แผนที่ความเข้มกัมมันตรังสีรวม (TC) ซ้อนทับกับเส้นช้ันความเข้มสนามแม่เหล็ก แสดง
ให้เห็นถึงบริเวณที่เป็นคอมเพล็กซ์ ถูกแทรกดันโดยหินอัคนีซึ่งอยู่ท่ีระดับลึกด้านล่าง (ความเข้ม
สนามแม่เหล็กคู่บวก-ลบขนาดใหญ่) และ มีการแทรกดันอีกคร้ังหน่ึง (ความเข้มสนามแม่เหล็กคู่บวก-ลบ
ขนาดเลก็ ) ในทิศตะวนั ออกเฉียงเหนือ-ทิศตะวนั ตกเฉยี งใต้

รอยเลื่อนตามแนวระดับ (Strike-slip fault zone domain) (รูปที่ 4-5) บริเวณท่ีมี
รอยเล่ือนแม่ปิงตัดผ่าน ยกตัวอย่าง 2 บริเวณ ได้แก่ บริเวณจังหวัดตาก ซึ่งอยู่เหนือแนวรอยเล่ือน และ
บรเิ วณอาเภอคลองลาน จังหวัดกาแพงเพชร ซึ่งอยทู่ างตอนใต้ของแนวรอยเลอ่ื น

บรเิ วณจังหวดั ตาก

ลักษณะเด่นข้อมูลความเข้มกัมมันตรังสีบริเวณรอยเล่ือนตามแนวระดับ (Strike-Slip
fault zone domain) บริเวณน้าตกลานสาง ในเขตอาเภอเมือง จังหวัดตาก แผนท่ีกัมมันตรังสีเทอร์นารี
แสดงลักษณะเด่นของไนสบ์ ริเวณนี้ เปน็ แถบสีมว่ งคู่ขนานกบั แถบสีแดงเป็นแนวยาววางตัวในแนวตะวนั ตก
เฉยี งเหนอื -ตะวนั ออกเฉยี งใตข้ อง (ตามลกู ศรช)้ี (รูปท่ี 4-6) แสดงถงึ ลักษณะเดน่ ของหินไนสท์ ีม่ แี บนสีขาว
สลับสีดา โดยแผนท่ีกัมมันตรังสีเทอร์นารีท่ีมีสีม่วง เป็นบริเวณที่หินไนส์เป็นแถบสีดาซ่ึงมีปริมาณ
ไบโอไทต์สูงกว่า แผนท่ีกัมมันตรังสีเทอร์นารีบริเวณแถบท่ีเป็นสีแดงหรือเป็นหินไนส์บริเวณท่ีเป็นแถบสี
ขาว เป็นบริเวณที่หินไนส์ที่มีปริมาณ ไบโอไทต์น้อยกว่า ข้อมูลความเข้มสนามแม่เหล็ก (รูปท่ี 4-6 ค)
แสดงแนวรอยเล่ือนแม่ปิง ซึ่งเม่ือนาเส้นชั้นความเข้มสนามแม่เหล็ก ซ้อนทับกับแผนท่ีกัมมันตรังสีเทอร์
นารี (รูปที่ 4-6 ง) รอยเลื่อนนเี้ กดิ ในแนวเดยี วกบั หนิ ไนส์

83

รูปที่ 4-5 แผนท่ีลาดับชั้นการแปรสัณฐาน(Tetonostratigraphic) ของหินตอนกลาง (Central Belt) บริเวณ
ตะวันตกของประเทศไทย ซึ่งแบ่งเป็น 2 โซน ได้แก่ดอยอินทนนท์คอมเพล็ก และรอยเล่ือนตามแนวระดับ
(Macdonald et al., 2010) เปรียบเทียบกับแผนท่ีกัมมันตรังสีเทอร์นารี (ขวา) แสดงลักษณะเด่นของหินบริเวณ

รอยเลอ่ื นตามแนวระดับ

อาเภอคลองลาน จังหวัดกาแพงเพชร
หินแกรนิต และ ในโซน Complex บริเวณน้ี อยู่ตอนใต้ของแนวรอยเล่ือนแม่ปิง เป็น
หินแกรนิตแนวกลาง ประกอบด้วย 2 บริเวณท่ีเป็น มิกมาไทต์ (Migmatite) ซ่ึงวางตัวอยู่ใกล้กับแนวรอย
เล่ือนแม่ปิงมากกวา่ สว่ น 2) ส่วนที่ไม่ถูกแปรสภาพ
ลักษณะเดน่ ของข้อมูลความเข้มกัมมันตรังสีส่วนท่ีเป็นมิกมาไทต์ แสดงลักษณะคล้ายกับ
ดอยอนิ ทนนท์คอมเพล็กซ์ และ ดอยสุเทพคอมเพล็กซ์ แผนที่กัมมันตรังสีเทอร์นารี (รูปที่ 4-7 ก) บริเวณ
ตรงกลางของส่วนนี้เป็นสีม่วงน้าเงิน และมีสีเขียวเข้ม แปะอยู่รอบทั้งสองด้าน แผนที่กัมมันตรังสีรวม
(รูปท่ี 4-7 ข) แสดงสมี ว่ งแดง บริเวณขอบและสีออ่ นบริเวณตรงกลาง
ลักษณะเด่นของข้อมูลความเข้มกัมมันตรังสีส่วนท่ีไม่ถูกแปรสภาพ แผนที่กัมมันตรังสี
เทอร์นารี บริเวณที่เป็นสีเข้มแยกเป็นสองสี ได้แก่ สีแดงดาทางด้านตะวันตกและสีเขียวดา ทางด้าน
ตะวันออก เป็นบริเวณที่เป็นหินแกรนิตที่ไม่โดนแปรสภาพ 2 เฟสที่แตกต่างกัน แผนที่ความเข้ม
กมั มนั ตรงั สีรวม (TC) นอกจากนแ้ี นวรอยแตกเห็นได้ชัดเจนจากแผนทก่ี มั มันตรงั สรี วม ในแนวเดียวกบั รอย
เล่อื นแมป่ งิ
ลักษณะเด่นความเข้มสนามแม่เหล็ก เกิดเป็นคู่บวก-ลบขนาดเล็กเรียงกันในแนวทิศ
เหนือ-ทิศใต้ ทางด้านตะวันออกและด้านทิศตะวันตก และทิศตะวันออกของหินแกรนิตบริเวณน้ี และมี

84

ความเขม้ สนามแม่เหล็กคู่บวก-ลบขนาดใหญ่ดา้ นตะวันออกเฉยี งเหนอื ของพ้ืนท่ี แสดงให้เห็นว่าหนิ แกรนิต
และมิกมาไทต์ บริเวณน้ไี ม่มคี วามเปน็ แม่เหลก็ แต่มกี ารแทรกดนั ทัง้ จากทางด้านตะวันออกและตะวันตก
และแสดงแนวรอยเล่อื นแนวเดยี วกับความเขม้ กัมมันตรังสี

กข

คง

Mae Ping Fault Mae Ping Fault

รูปที่ 4-6 แผนที่กัมมนั ตรังสีเทอรน์ ารี บริเวณจงั หวัดตาก (ก) แสดงลักษณะ แถบสมี ่วงต่อเน่ืองกันกับแถบสีแดงใน

แนวตะวันตกเฉียงเหนือ-ตะวันออกเฉียงใต้ (ลูกศรชี้) และเป็นบริเวณเดียวกันกับแนวรอยเลื่อนแม่ปิง แสดงให้
เหน็ ชดั แจนจากข้อมูลความเข้มสนามแม่เหล็ก (ค) เสน้ ชน้ั ความเข้มสนามแม่เหล็กซ้อนทบั กับแผนท่ีกัมมันตรังสีรวม

(ข) และ เส้นชนั้ ความเขม้ สนามแมเ่ หลก็ ท่ซี ้อนทับกับแผนที่กัมมันตรงั สีเทอร์นารี (ง) ซึ่งแสดงแนวรอยเลอื่ น (เส้นสี

แดง) ทเี่ กิดในบรเิ วณเดียวกันกับหินไนส์

85 ค
กข

รูปที่ 4-7 แผนที่กัมมันตรังสีเทอร์นารี (ก) และแผนที่กัมมันตรังสีรวม (ข) แยกบริเวณท่ีเป็นมิกมาไทต์ กับริเวณ

หินแกรนิตท่ีไม่เปล่ียนแปลงได้อย่างชัดเจน โดยท่ีเป็นสีดาเข้ม แดง หรือ ท่ีเป็นสีชมพูเข้ม ในแผนท่ีกัมมันตรังสีรวม
เป็นหินแกรนิตที่ไม่เปลี่ยนแปลง (ข) แผนท่ีความเข้มกัมมันตรังสีรวมซ้อนทับด้วยเส้นช้ันความเข้มสนามแม่เหล็ก

คงเหลือ (Residual Magnetic (ง) แสดงให้เห็นมีการแทรกดันของหินอัคนีด้านตะวันออกและตะวันตกของหิน

แนวนี้

2) ขอบตะวนั ตก (Western Marginal Belt)

ลักษณะเด่นความเขม้ กมั มันตรังสีและความเข้มสนามแมเ่ หล็ก หินแกรนิตแนวกลางขอบ
ตะวนั ตก บรเิ วณภาคเหนอื (รปู ท่ี 4-8) แสดงลักษณะเด่นแตกต่างกัน 2 ลกั ษณะ ไดแ้ ก่

ก) บริเวณหินอัคนีมวลไพศาลแม่สะเรียงที่แยกตัวออกมาด้านตะวันตก ในแผนท่ี
กัมมันตรังสีเทอร์นารีแสดงเป็นสีเขียวเข้มเกือบดา และแผนท่ีกัมมันตรังสีรวม (TC) คือบริเวณท่ีแสดงสี
ม่วงแดง นอกจากน้ีข้อมูลความเข้มกัมมันตรังสีแสดงให้เห็นแนวรอยเล่ือนในทิศตะวันตกเฉียงเหนือ-ทิศ
ตะวันออกเฉยี งใตข้ องหนิ แกรนิตในบริเวณนอี้ กี ดว้ ย

ข) บริเวณหินอัคนีด้านตะวันออกของอคั นีมวลไพศาลแม่สะเรียง หรือ ดา้ นตะวนั ตกของ
หินแกรนิตตอนกลาง (มิกมาไทต์คอมเพล็กซ์) ประกอบด้วย พลูตอนห้วยปง แม่แจ่ม แม่ลอก และ แม่ลอง
ซึ่งพบผลึกเฟล์สปาร์ ขนาดใหญ่ (Cobbing, 2011) แผนท่ีความเข้มกัมมันตรังสีเทอร์นารีแสดงเปน็ สีเขียว
อ่อนที่มีสีแดงกระจายเป็นจุด ๆ แผนท่ีความเข้มกัมมันตรังสีรวม (TC) แสดเป็นสีส้ม นอกจากน้ีข้อมูล
ความเขม้ กมั มนั ตรังสีแสดงให้เห็นแนวรอยเล่ือนในทิศตะวันออกเฉียงเหนือ-ทิศตะวันตกเฉยี งใตอ้ กี ดว้ ย ซ่ึง
เป็นทิศตรงข้ามกบั หินอัคนีมวลไพศาลแมส่ ะเรียง

2100000 86 ค ง

400000

ก ขนุ ยวม ข
R

2050000 แมล่ านอ้ ย R

R

2000000 R

สบเ มย
R

R

1950000

ทา่ สองยาง1900000
R

รูปท่ี 4-8 แผนที่กัมมันตรังสีเทอร์นารี (ก) แผนกัมมันตรังสีรวม (ข) แสดงลักษณะหินอัคนีมวลไพศาล และ พลูตอน

โดยพลูตอนด้านตะวันออกของแม่สะเรียง ซง่ึ เป็นดา้ นตะวันตกของพลูตอน แสดงลักษณะ Texture เฉพาะในแผน

ท่ีกัมมันตรังสีเทอร์นารี และเป็นสีม่วงแดงที่จางกว่าพลูตอนด้านตะวนั ออก แผนท่ีความเข้มสนามแม่เหล็ก (ค) และ
แผนท่ีเส้นช้ันความเข้มสนามแม่เหล็กท่ีซ้อนทับกับแผนที่กัมมันตรังสีรวม (ง) แสดง ค่าผิดปกติความเข้ม
สนามแมเ่ หลก็ เกดิ ข้างๆ พลูตอน

ลักษณะเด่นของความเข้มสนามแม่เหล็ก (รูปที่ 4-8ค) แสดงลักษณะ ค่าผิดปกติ ขนาด
เล็ก (short wave length) เม่ือนามาซ้อนทับกับข้อมูลความเข้มกัมมันตรังสีรวม จะพบว่า ค่าผิดปกติ น้ี
แทรกตัวข้างๆ พลูตอน และ หินอคั นีมวลไพศาล แต่ลักษณะเด่นของหน่วยน้ี คือลักษณะของ Texture ท่ี
ปรากฏในแผนที่กัมมันตรังสเี ทอรน์ ารี มากกวา่

3) ขอบตะวันออก (Eastern Marginal Belt)

ลักษณะเดน่ ของค่าความเข้มกัมมันตรงั สี และความเข้มสนามแม่เหล็กของหินหินแกรนิต
แนวกลางขอบตะวันออก ของภาคเหนือ ด้านตะวันออกของโซนคอมเพล็กซ์ วางตัวต้ังแต่เหนือจากเหนือ
จรดใต้ ได้แก่ พลตู อนเชยี งราย ฝาง ขนุ ตาล บา้ นโฮง่ แม่ตน่ื และ พลูตอนลี้ ดังรายละเอยี ดต่อไปน้ี

ก) หินอัคนีมวลไพศาลเชียงรายและฝาง ลักษณะเด่นของความเข้มกัมมันตรังสี และ
ความเข้มสนามแม่เหล็ก ประกอบด้วย หินแกรนิตสองบริเวณ 1) หินแกรนิต บริเวณอาเภอแม่จัน และ
อาเภอเมือง จังหวัดเชียงราย และ หินแกรนิตฝางซึ่งเป็นหินอัคนีมวลไพศาลท่ีมีขนาดยาว วางตัวยาวจาก
อาเภอแม่อายทางตอนเหนือ จรดอาเภอเมืองปานทางด้านใต้ และมีอีกส่วนหน่ึงแยกตัวไปทางจังหวัด
เชยี งราย หนิ แกรนติ บริเวณน้ี มผี ลึกเฟลสปาร์ขนาดใหญ่ (Cobbing, 2011) และ (Pitfield, 1988)

87

2250000 550000 R
600000

ก Rข

แม่จัน

R

2200000 ฝาง RR R
R
RR
2150000 R R

พร้าว พาน

R R
R

R RR
R
R ดอกคาใต้
R

2100000

R เมืองปาน งาว
R
R R
ค R


รูปท่ี 4-9 แผนที่กัมมนั ตรงั สีเทอรน์ ารี (ก) แผนท่กี ัมมันตรังสีรวม (ข) แสดงความต่อเนอ่ื งของพลูตอนเชียงราย ตอน

ใต้ ต้ังแต่อาเภอเมืองปาน ถึงตอนเหนือ อาเภอแม่อาย แผนท่ีความเข้มสนามแม่เหล็ก (ค) และแผนท่ีเส้นชั้นความ
เข้มสนามแม่เหลก็ ซ้อนทับกบั แผนทก่ี มั มันตรังสรี วม แสดงลกั ษณะของหินภเู ขาไฟที่เกิดขึ้นในบริเวณใกล้เคยี ง

88

ลักษณะเด่นของความเข้มกัมมันตรังสี จากแผนที่กัมมันตรังสีเทอร์นารี และ แผนท่ี
กมั มันตรังสีรวม แสดงหินอัคนีมวลไพศาลเชยี งราย เป็นสีเขียวเข้ม และ สมี ่วงแดงเข้ม ตามลาดับ ตอ่ เนื่อง
เป็นแนวยาวในแนวเหนอื ใต้ แผนท่ีกัมมนั ตรงั สเี ทอร์นารี แสดงสีแดงเปน็ จดุ ประ เลก็ ๆ ทางตอนเหนอื

หินอัคนีมวลไพศาลเชียงราย ลักษณะท่ีแสดงในแผนท่ีกัมมันตรังสีเทอร์นารี คล้ายคลึง
กับ หินอัคนีมวลไพศาลแม่สะเรียง ของขอบตะวันตก สอดคล้องกัน Pitfield (1988) ซึ่งให้ข้อคิดเห็นว่า
หนิ อัคนีมวลไฟศาลบริเวณมีลักษณะศลิ าวทิ ยาท่ีคลา้ ยคลึงกัน อยา่ งไรก็ตามหินแกนติ ฝาง ก็แสดงลกั ษณะ
เช่นเดียวกันกับแกรนิตเชียงราย แต่ไม่ได้มีการกล่าวถึง นอกจากนี้แผนท่ีแผนท่ีกัมมันตรังสีเทอร์นารี ทาง
ด้านบนของทั้ง เชียงรายแกรนิต และฝางแกรนิต แสดงให้เห็นเป็นสีน้าเงินเข้ม แยกออกจากแกรนิตทาง
ตอนใต้ได้อยา่ งชัดเจน ยงั ไม่รายงานแยกแกรนติ ในบรเิ วณนี้ออกจากัน

แผนที่ความเข้มสนามแม่เหล็ก (รูปที่ 4-9 ข) และ แผนที่เส้นชั้นสนามแม่เหล็กซ้อนทับ
กับแผนที่กัมมันตรังสีรวม แสดงให้เห็นว่าหินแกรนิตในบริเวณน้ีไม่มีความเป็นแม่เหล็ก แทรกตัวข้ึนมาใน
บรเิ วณหินทีม่ คี วามเป็นแม่เหลก็ ซง่ึ อยู่ทางด้านตะวนั ตกของพลูตอน

ข) ขุนตาลแกรนิต และพลูตอนท่ีต่อเน่ืองมากทางใต้ เช่น ล้ีแกรนิต บ้านโฮ่งแกรนิต แม่
ตื่นแกรนิต เป็นพลูตอนของ หินอัคนีแนวกลางขอบตะวันออก วางตัวอยู่ทางตอนใต้ของหินอัคนีมวล
ไพศาลเชียงราย วางตัวในแนว ตะวันออกเฉียงเหนือ-ตะวันตกเฉียงใต้ เป็นพลูตอนขนาดไม่ใหญ่เท่าฝาง
แกรนิต

ลักษณะเด่นของข้อมูลความเข้มกัมมันตรังสี โดยแผนท่ีกัมมันตรังสีเทอร์นารี (รูปท่ี 4-10 ก)
แสดงขอบเขตของหินแกรนิตเป็นสีเขยี วเขม้ สีแดงเข้ม หรือน้าเงินเข้ม และแผนท่ีกัมมันตรังสีรวม (รปู ท่ี 4-10 ข)
แสดงขอบเขตของหนิ แกรนิตเป็นสมี ว่ งแดงเข้ม นอกจากนีแ้ ผนทกี่ ัมมันตรงั สีแสดงให้เหน็ ทางนา้ ทเี่ กิดจาก
ตะกอนของหนิ แกรนิตในบรเิ วณน้ีอีกดว้ ย

แผนท่คี วามเขม้ สนามแมเ่ หล็ก (รปู ที่ 4-10 ค) และแผนทเ่ี ส้นช้ันความเขม้ สนามแมเ่ หล็ก
ซ้อนทับแผนที่กัมมันตรังสีรวม (รูปที่ 4-10 ง) แสดงให้เห็นค่าผิดปกติความเข้มสนามแม่เหล็กล้อมรอบ
บริเวณท่ีเป็นขุนตาลแกรนิต ซ่ึงเป็นการแสดงลักษณะการแปรสภาพสัมผัสแบบแทนท่ี ซึ่งแสดงลกั ษณะ

ค่าความผิดปกติมีความสัมพนั ธ์กับแร่เหล็ก ส่วนภายในขอบเขตของหินแกรนิต แสดงให้เห็นว่าหินแกรนิต
ในบริเวณนไี้ มม่ คี วามเปน็ แมเ่ หล็ก

4.1.1.2 แนวตะวันออก

หินแกรนิตแนวตะวนั ออกเปน็ ชนดิ I-type บรเิ วณภาคเหนอื พบสองบริเวณไดแ้ ก่ บรเิ วณ
ทิศเหนือของจังหวัดเชียงราย และตะวันตกของก่ิงอาเภอดอยหลวง อีกบริเวณได้แก่จังหวัดตาก เช่น
หนิ แกรนติ บริเวณจงั หวดั ตาก

ในเขต Sukhothai arc (Cobbing, 2011) ตากแกรนิต เป็นหินอัคนีมวลไพศาลแนว
ตะวนั ออกทีม่ ขี นาดใหญ่ทส่ี ดุ ประกอบดว้ ย ฮอรน์ เบลน ไดออไรต์ ถงึ แกรโนไดออไรต์, ฮอร์นเบลน-ไบโอ
ไทต์ คอวตซ์ มอนโซไนต์ ไมโครแกรนติ และแกรนติ พอไฟรี

89
ตากแกรนิต นอกจากจะเป็นพลตู อน ในเขต Sukhothai arc ท่ีมีขนาดใหญ่ท่ีสดุ แลว้
ยงั แสดงลกั ษณะของขอ้ มลู ความเขม้ กมั มนั ตรงั สี และความเขม้ สนามแมเ่ หลก็ แตกตา่ งจากหินแกรนิต
อ่ืน ๆ ในประเทศไทยอีกดว้ ย โดยในแผนท่ีกมั มนั ตรงั สีเทอรน์ ารี เป็นเขียวเขม้ และ แผนท่ีกมั มนั ตรงั สี
รวมเป็นสมี ว่ งแดงเขม้ ซง่ึ แสดงใหเ้ ห็นวา่ มคี า่ กมั มนั ตรงั สสี งู ในขณะท่ีก็มีความเป็นแมเ่ หลก็ ดว้ ย

กข

คง

รูปท่ี 4-10 แผนที่กัมมันตรังสีเทอร์นารี (ก) แผนที่กัมมันตรังสีรวม (ข) แสดงแนวหินแกรนิตขุนตาล บ้านโฮ่งและ
อาเภอล้ี แผนท่คี วามเข้มสนามแมเ่ หลก็ (ค) และแผนทเ่ี สน้ ชั้นสนามแมเ่ หลก็ ซ้อนทบั กับแผนที่กัมมนั ตรังสีรวม แสดง
ลักษณะ ค่าผิดปกติ ของความเข้มสนามแม่เหล็ก รอบแกรนิตขุนตาล แต่ไม่ปรากฎภายในบริเวณของหินแกรนิตใน
บริเวณนท้ี งั้ หมด

90 ข


คง

รูปท่ี 4-11 แผนท่ีกัมมันตรังสีเทอร์นารี (ก) แผนท่ีกัมมันตรังสีรวม (ข) แสดงขอบเขตของตากแกรนิต เป็นสีเขียว

เข้ม และ เป็นสีม่วงแดงเข้ม ตามลาดับ แผนท่ีความเข้มสนามแม่เหล็ก (ค) และ แผนที่เส้นช้ันสนามแม่เหล็ก
ซ้อนทับกับแผนที่กัมมันตรังสีรวม (ง) แสดง ค่าผดิ ปกติ ความเข้มสนามแม่เหล็ก เป็นแนวเดียวกับข้อมูลความเข้ม
กมั มันตรงั สี รวมทงั้ แนวโครงสร้างดว้ ย

91
จากแผนท่ีความเข้มสนามแม่เหล็ก (รูปท่ี 4-11ค) และ แผนท่ีเส้นช้ันสนามแม่เหล็ก
ซ้อนทับกับแผนที่กัมมันตรังสีรวม (รูปท่ี 4-11ง) แสดงให้เห็นแนวค่าผิดปกติ ความเข้มสนามแม่เหล็กใน
พื้นที่ ซึ่งเป็นบริเวณเดียวกันกับบริเวณที่มีความเข้มกัมมันตรังสีสูง ซึ่งแสดงลักษณะรูปร่างท่ีปรากฎไปใน
ทิศทางเดียวกัน รวมทั้งแนวโครงสร้างในแนวตะวันตกเฉียงเหนือ-ตะวันออกเฉียงใต้ ท่ีเกิดข้ึนอีกด้วย
สนับสนุนข้อมูลที่กล่าวไวว้ ่าบริเวณนี้เป็น I-type แกรนิต และมี ฮอร์นเบลนเป็นองค์ประกอบ ซึ่งจะแสดง
ความเปน็ แม่เหล็ก

4.1.2 ภาคกลางและตะวันออก และบางสว่ นของภาคใต้ ของประเทศไทย

หินแกรนิตบริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ของประเทศไทยถึงจังหวัด
ประจวบครีรีขันธ์ พบแกรนิตทั้ง 3 แนว ได้แก่ แนวตะวันตก แนวกลาง และ แนวตะวันออก
ดังรายละเอียดต่อไปนี้

กข

คง

รูปท่ี 4-12 แผนท่ีกัมมันตรังสีเทอร์นารี (ข) แผนที่กัมมันตรังสีรวม (ค) แผนที่ความเข้มสนามแม่เหล็ก (ง)
เปรยี บเทยี บกบั แผนที่แนวหินแกรนิตบริเวณภาคกลาง ภาคตะวนั ออก และบางส่วนของภาคใตข้ องประเทศไทย (ก)

92

4.1.2.1 แนวตะวันตก (Western belt)

หนิ แกรนติ แนวตะวนั ตก (Western Belt) พบอยดู่ ้านใต้ของ รอยเลอื่ นด่านเจดยี ส์ ามองค์
ติดชายแดนพม่า วางตัวยาว ตั้งแต่จังหวัดกาญจนบุรีถึงจังหวัดภูเก็ต มีอายุครีเทรเชียส ประกอบด้วยทั้ง
แกรนิตชนิด S-type และ I-type (Pitfield, 1988) ซึ่งลักษณะเด่นของบริเวณน้ี ได้แก่ มีธาตุ Ce Ga Nb
Pb Rb Sn Th U W Y Zn และ Zr สงู กว่าหินแกรนิตบริเวณอน่ื ๆ ในประเทศไทย ซงึ่ มีลักษณะเด่นความ
เข้มกัมมันตรังสีและความเข้มสนามแม่เหล็ก แตกต่างกัน 2 บริเวณ ได้แก่ บริเวณอาเภอสวนผ้ึง จังหวัด
ราชบรุ ี และ จงั หวัดประจวบครี ขี นั ธ์

ก) หินแกรนติ บริเวณอาเภอสวนผ้ึง Charusiri and et.al.(1993) และ Cobbing (2011)
กาหนดให้เป็นหินแกรนิตแนวตะวันตก Department of Mineral Resources (2014) กาหนดให้เป็น
หินแกรนิตแนวกลาง สันติ ลีวงศ์เจริญ และ วารุณี ยะถากรรม (2552) ได้ให้ข้อคิดเห็นว่า หินแกรนิต
บริเวณน้ีมีลักษณะใกล้เคียงกับหินแนวตะวันตกมากกว่า ประกอบด้วยหินมัสโคไวต์แกรนิต ไบโอไทต์
แกรนิต และหนิ ไบโอไทต์-มัสโคไวต์แกรนติ

ลักษณะเด่นของความเข้มกัมมันตรังสีของหินแกรนิตบริเวณอาเภอสวนผ้ึง จากแผนที่
กัมมันตรังสีเทอร์นารี (รูปท่ี 4-13ก) แสดงขอบเขตของหินแกรนิตเป็นสีดาเข้ม มีสีแดงเป็นรอยประตาม
ขอบ และแผนท่ีกัมมันตรังสีรวม (รูปที่ 4-13ข) แสดงขอบเขตของหินแกรนิตบริเวณน้ีเป็นสีม่วงแดงเข้ม
สาหรับแผนที่ความเข้มสนามแม่เหล็ก (รูปที่ 4-13ค) แสดงหินแกรนิตเปน็ สีม่วงแดง นอกจากแผนท่ีเส้น
ช้ันความเข้มสนามแม่เหล็กซ้อนทับกับแผนที่กัมมันตรังสีรวม (รูปท่ี 4-13ง) แสดงลักษณะความเข้ม
สนามแม่เหลก็ ของการท่มี ีพลูตอนแทรกดันอยู่ตอนใต้ ของหินแกรนิตสวนผ้ึง

ข) หินแกรนิตจังหวดั ประจวบคีรีขันธ์ หินแกรนิตบริเวณนี้เป็นพลูตอนขนาดเล็ก ๆ เป็น
หนิ ไอโอไทตแ์ กรนติ ทม่ี ผี ลกึ เฟลส์ ปาร์ขนาดใหญ่ ซงึ่ อยู่ในเขตจงั หวดั ประจวบตดิ ชายแดนไทย-พม่า

ลักณะเด่นของความเข้มกัมมันตรังสี จากแผนที่ความเข้มกัมมันตรังสีเทอร์นารี (รูปที่
4-14ก) แสดงเป็นสีเขียวเข้มถึงสีดา มีสีแดงขนาดเล็ก ในบางบริเวณ ส่วนแผนท่ีกัมมันตรังสีรวม (รูปท่ี
4-14ข) แสดงเป็นสีม่วงแดงเข้ม บริเวณนี้เป็นบริเวณท่ีมีค่ากัมมันตรังสีทอเรียมสูงท่ีสุดในประเทศไทย
ส่วนข้อมูลความเข้มสนามแม่เหล็ก แสดงแนวรอยเลื่อนในทิศตะวันออกเฉียงเหนือ-ตะวันตกเฉียงใต้ แต่
แกรนติ ในบริเวณน้ีไมม่ ีความเปน็ แมเ่ หล็ก

93
กข

คง

รูปที่ 4-13 แผนที่กัมมันตรังสีเทอร์นารี (ก) แผนที่กัมมันตรังสีรวม (ข) แสดงขอบเขตของหินแกรนิต อาเภอสวนผ้ึง

จังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นแกรนิตแนวตะวันตก และ หุบกะพงแกรนิต ซึ่งเป็นแกรนิตแนวกลาง แผนท่ีความเข้ม
สนามแม่เหล็ก (ค) และแผนท่ีเส้นชั้นความเข้มสนามแม่เหล็กซ้อนทับกับข้อมูลกัมมันตรังสีรวม (ง) แสดงแนวของ
ดา่ นเจดีย์สามองคต์ อนเหนอื ของพ้ืนที่ และ บรเิ วณทม่ี หี ินอัคนแี ทรกดนั ของแกรนิตทั้งสองบรเิ วณ

94
กข

คง

รูปที่ 4-14 แผนที่กัมมันตรังสีเทอร์นารี (ก) แผนท่ีกัมมันตรังสีรวม (ข) แสดงขอบเขตของหินแกรนิต และตะกอนที่
เกิดจากหินแกรนิต แผนท่ีความเข้มสนามแม่เหล็ก (ข) แผนที่เส้นช้ันความเข้มสนามแม่เหล็กซ้อนกับแผนที่
กัมมนั ตรงั สีรวม (ง) แสดงลักษณะแนวรอยเลื่อน ท่เี กดิ ในแนวตะวนั ออกเฉียงเหนอื -ตะวันตกเฉียงใต้

95

4.1.2.2 แนวกลาง (Central Belt)

หนิ แกรนติ แนวกลาง บริเวณพ้ืนทภ่ี าคกลางและตะวันออก และบางส่วนของภาคใต้ ของ
ประเทศไทย ได้แก่บรเิ วณ ภาคตะวนั ตก ไดแ้ ก่จังหวัดกาญจนบรุ ี และ บริเวณภาคตะวนั ออกไดแ้ ก่ จังหวัด
ชลบุรี และ ระยอง และทางภาคใต้ได้แก่ บรเิ วณหุบกะพง

หินแกรนิตจังหวัดกาญจนบุรี ลักษณะเด่นข้อมูลความเข้มกัมมันตรังสีของหินแกรนิต
หินแกรนิตกาญจนบุรี ซึ่งเป็นหินแกรนิตแนวกลาง ประกอบด้วย หินไบโอไทต์-มัสโคไวต์แกรนิต และมี
ผลึกเฟลด์สปาร์ขนาด 1x4 เซนติเมตร (พงศักด์ิ ศรีพงศ์พันธ์ และ สุชัย สินพูลอนันท์, 2531) จากแผนที่
กัมมันตรังสีเทอร์นารี (รูปที่ 4-15ก) แสดงขอบเขตของหินแกรนิตเป็นสีดาแดง และแผนท่ีกัมมันตรังสี

แสดงขอบเขตของหินแกรนิตเป็นสีม่วงแดง หินแกรนิตบริเวณจังหวัดกาญจนบุรีประกอบด้วย พลูตอน
ขนาดใหญ่ อยู่ทางด้านตะวันตกของอาเภอศรีสวัสด์ิ และ มีพลูตอนขนาดเล็ก ๆ อยู่ทางด้านทิศเหนือ
บริเวณสีสีแดงในแผนที่กัมมันตรังสีเทอร์นารี นี้ แสดงให้เห็นว่าบริเวณนี้มีค่า โพแทสเซียมสูง กว่า
ยูเรเนียม และทอเรียม มีความสัมพันธ์กับแหล่งแร่เฟลสปาร์ จากฐานข้อมูลใบอนุญาตประทานบัตร
จังหวัดกาญจนบุรี (กรมอุตสาหกรรมพ้ืนฐานและการเหมืองแร่, 2019) มีการอนุญาตให้ทาเหมืองแร่
เฟลสปารจ์ านวน 13 แปลง

ลักษณะเด่นความเข้มสนามแม่เหล็ก จากแผนที่ความเข้มสนามแม่เหล็ก (รูปท่ี 4-15ค)

แสดงให้เห็นแนวรอยเลื่อนด่านเจดีย์สามองค์ และแนวหินภูเขาไฟด้านด้านตะวันตกเฉียงเหนือของพ้ืนที่
เมื่อนาแผนท่ีเส้นช้ันความเข้มสนามแม่เหล็กซ้อนทับกับแผนที่กัมมันตรังสีรวมแสดงให้เห็นว่าแกรนิต
บริเวณนี้ไม่มีความเป็นแม่เหล็ก แตม่ ีอะนอมาลีความเข้มสนามแม่เหล็กเกิดข้ึนรอบหินแกรนิตท่ีมีค่าความ
เขม้ กมั มันตรังสสี ูง

หินแกรนิต บริเวณจังหวัด ระยอง-ชลบุรี และบริเวณหุบกะพง หินแกรนิตบริเวณ
จังหวัดระยอง-จังหวัดชลบุรี พบบริเวณภาคตะวันออก และหินแกรนิตบริเวณหุบกะพงอยู่ทางด้าน
ตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศไทย Cobbing (2011) สรุปลักษณะหินแกรนิตในบริเวณนี้เป็นหินแกรนิตที่มี
เฟลดส์ ปาร์ขนาดใหญ่ มลี ักษณะพลูตอนเป็นรูปวงรี และวางตัวอยู่บนตะกอนควอเทอร์นารี ส่วนหุบกะพง
แกรนิต ที่อยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงเทพฯ พบแกรนิตทั้งชนิด s-type และ I-type ถูกการแปร
สภาพ

ลักษณะเด่นของข้อมูลความเข้มกัมมันตรังสี จากแผนทีกัมมันตรังสีเทอร์นารี พื้นท่ี
ชลบุรีระยอง (รูปที่ 4-16ก) และพื้นท่ีหุบกะพง (รูปที่ 4-13ก) แผนท่ีกัมมันตรังสีเทอร์นารีแสดงเป็นสีดา

เขียวตามขอบเขตของหินแกรนิต รวมทั้งเส้นทางน้าที่มีตะกอนของหินแกรนิตน้ันด้วย แผนท่ีกัมมันตรังสี
รวมแสดงเป็นสีม่วงแดงเข้ม แผนท่ีความเข้มนามแม่เหล็ก บริเวณจังหวัดชลบุรี-ระยอง (รูปท่ี 4-16ค)

บริเวณที่เป็นหินแกรนิตแนวกลาง แสดงบริเวณด้านทิศตะวันตกของแผนที่ ไม่แสดงความเป็นแม่เหล็ก
ในขณะทางด้านตะวนั ออก เตม็ ไปดว้ ย ค่าผิดปกติ ความเขม้ สนามแม่เหล็กท่วี างตัวในแนวตะวนั ออกเฉียง
ใต้-ตะวันตกเฉียงเหนือ ส่วนแผนท่ีเส้นชั้นความเข้มสนามแม่เหล็กซ้อนทับกับแผนที่กัมมันตรังสีรวม
(รูปท่ี 4-16ง) แสดงใหเ้ หน็ อย่างชัดเจนว่าหินแกรนิตอยู่ในบรเิ วณท่ีไมม่ คี วามเปน็ แม่เหล็ก

96
กข

คง

รปู ที่ 4-15 แผนทก่ี ัมมันตรังสีเทอร์นารี (ก) แผนทสี่ กี ัมมนั ตรังสรี วม แสดงขอบเขตของหินแกรนิตทางตอนเหนือและ
ตะวันออกของอาเภอศรีสวัสด์ิ เป็นสีแดงดา ในแผนที่กัมมันตรังสีเทอร์นารี และ เป็นสีม่วงแดงเข้มในแผนท่ี
กัมมันตรังสีรวม แผนที่ความเข้มสนามแม่เหล็ก (ค) และแผนท่ีเส้นช้ันความเข้มสนามแม่เหล็กซ้อนกับแผนท่ี
กัมมันตรังสีรวม (ง) แสดงแนวรอยเลื่อนด่านเจดีย์สามองค์ทางตอนใต้ และแสดงแนวหินภูเขาไฟรอบ ๆ บริเวณท่ี
เป็นขอบเขตของหนิ แกรนติ

97
กข

คง

รูปที่ 4-16 แผนที่กัมมันตรังสีเทอร์นารี (ก) แผนที่กัมมันตรังสีรวม (ข) แสดงขอบเขตของหินแกรนิตบริเวณจังหวัด

ชลบุรี-ระยอง แผนทคี่ วามเขม้ สนามแม่เหลก็ (ค) แผนทเ่ี ส้นช้ันความเข้มสนามแมเ่ หลก็ ซ้อนทับกบั แผนท่กี ัมมันตรังสี
รวม (ง) แสดงให้เห็น ค่าผิดปกติ ความเข้มสนามแม่เหล็กในแนวตะวันออกเฉียงใต้-ตะวันตกเฉียงเหนือ ต่อเนื่อง
จากแนวหนิ แกรนติ ซึง่ ไมม่ ีความเป็นแม่เหลก็

4.1.2.3 แนวตะวันออก (Eastern Belt)
หินแกรนิตแนวตะวันออก ซ่ึงเปน็ หินแกรนิตชนิด I-type ซึ่งพ้ืนที่นี้อยู่ทางตะวันออกของ
จังหวัด ชลบุรี-ระยอง ได้แก่อาเภอบ่อทอง จังหวัดชลบุรี จังหวัดจันทบุรี ปราจีนบุรี สระแก้ว และจังหวัด
ตราด หินแกรนิตบริเวณนี้เป็นหิน ไบโอไทต์-ฮอร์นเบลนแกรนิต กระทิงพลูตอนเป็นพลูตอนขนาดใหญ่
ทีส่ ดุ ในบริเวณนี้ นอกจากน้ียงั มี จนั ทบรุ ีพลตู อน เขาชะเมาพลตู อน (Cobbing, 2011)

98
กข

คง

รูปที่ 4-17 แผนท่ีกัมมันตรังสีเทอร์นารี (ก) แผนท่ีกัมมันตรังสีรวม (ข) แผนท่ีความเข้มสนามแม่เหล็ก (ค) แผนท่ี

เสน้ ชัน้ ความเขม้ สนามแม่เหลก็ ซ้อนทบั กับแผนทกี่ มั มันตรงั สรี วม (ง) พื้นท่ีภาคตะวนั ออก

99

ลักษณะเด่นของความเข้มกัมมันตรังสีของหินแกรนิตบริเวณนี้ จากแผนท่ีกัมมันตรังสี
เทอรน์ ารี (รปู ท่ี 4-17ก) และแผนที่กัมมนั ตรงั สีรวม (รปู ท่ี 4-17ข) แสดงขอบเขตของหินแกรนติ เป็นสีเขยี ว
เข้ม และสีม่วงแดง ตามลาดับ แสดงให้เห็นว่าหินแกรนิตบริเวณน้ีมีค่าความเข้มกัมมันตรังสีสูงท้ังสามค่า
(K U และ Th) แผนท่ีกมั มนั ตรงั สีทงั้ สอง แสดงใหเ้ ห็นว่าแกรนิตบรเิ วณนีม้ ีขนาดเล็ก ๆ วางตวั เรยี งตอ่
กนั ในแนวเหนือ-ใต้

ลกั ษณะเดน่ ความเขม้ สนามแมเ่ หล็ก จากแผนท่ีความเขม้ สนามแมเ่ หล็ก (รปู ที่ 4-17ค)
และแผนท่ีเสน้ ชนั้ ความเขม้ สนามแม่เหล็ก (รูปที่ 4-17ค) แสดงค่าผิดปกติความเขม้ สนามแม่เหล็กท่ีมี
รูปร่างเป็ นแนวยาวในแนวทิศตะวันออกเฉียงใต้-ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และมีคู่ความเข้ม
สนามแมเ่ หลก็ ท่ีมีความสมั พนั ธก์ บั ขอ้ มลู ความเขม้ กมั มนั ตรงั สีรวม ท่ีแทรกตวั ขนึ้ มาในแนวเหนือ-ใต้

4.1.3 ภาคใตข้ องประเทศไทย

หินแกรนิตบริเวณภาคใต้ของประเทศไทย ประกอบด้วยหินแกรนิตท้ังสามแนว ได้แก่
แนวตะวนั ตก แนวกลาง และ แนวตะวนั ออก (รปู ที่ 4-18)

4.1.3.1 แนวตะวนั ตก (Western Belt)

หินแกรนิตแนวตะวันตกบริเวณภาคใต้น้ี ประกอบด้วยหินแกรนิตชนิด S-type และ
I-type อายุครีเทรเชียส แทรกข้ึนมาในชดุ หินตะกอนกลุ่มหินแก่งกระจาน โดยบริเวณเกาะภเู ก็ต-ตะกั่วป่า
พบท่ีเป็นหินแกรนิตท้ังสองชนิด โดยที่ หาดกะตะ บ้านกะตะ อ่าวกะรน เป็นแกรนิตชนิด S-type ส่วน
บรเิ วณอา่ วไนยาง และ เขาประทวิ เปน็ หนิ แกรนิตชนดิ I-type (Cobbing, 2011)

ลักษณะเด่นความเข้มกัมมันตรังสี จากแผนท่ีกัมมันตรังสีเทอร์นารี (รูปท่ี 4-19ก) แสดง
ขอบเขตของหินแกรนิตเป็นสีเขียวเข้ม บนพ้ืนท่ีท่ีมีสีม่วงน้าเงิน และขอบเขตของหินแกรนิตในแผนที่
กัมมันตรังสีรวม (รูปท่ี 4-19ข) แสดงเป็นสีม่วงแดงเข้ม จากแผนท่ีความเข้มกัมมันตรังสีท้ังสองแบบแสดง
ให้เห็นว่าหินแกรนิตบริเวณนี้มีค่ากัมมันตรังสีสูงท้ังสามค่า แทรกตัวเข้ามาในบริเวณแผนท่ีกัมมันตรังสี
เทอร์นารี ทเ่ี ปน็ สีม่วงน้าเงนิ ซ่ึงเปน็ ลกั ษณะเดน่ ของกลมุ่ หินแก่งกระจาน

ส่วนแผนท่คี วามเขม้ สนามแม่เหลก็ (รปู ท่ี 4-19ค) แสดงลกั ษณะค่าผดิ ปกตขิ องความเข้ม
สนามแม่เหล็กคู่ลบสลับกับคู่บวก ในแนวเหนือ-ใต้ บริเวณเกาะภูเก็ต และตอนกลางของพื้นที่ และแผนท่ี
เส้นความเข้มสนามแม่เหลก็ ซ้อนทบั กบั ความเขม้ กมั มันตรงั สรี วม (รปู ที่ 4-19ง) แสดงใหเ้ ห็นสองลักษณะที่
แตกตา่ งกัน ไดแ้ ก่ บริเวณเกาะภูเก็ต ท่ีมีขอบเขตของหินแกรนิตตรงกับบริเวณที่เป็นกัมมันตรังสีสงู และมี
ความเป็นแม่เหล็ก ซ่ึงเป็นการสนับสนุนข้อมูลท่ีว่าบริเวณน้ีเป็นบริเวณท่ีมีหินแกรนิตทั้ง I-type และ S-
type ส่วนอีกลักษณะหน่ึงคือ หินแกรนิตท่ีไม่มี ค่าผิดปกติ ของความเข้มสนามแม่เหล็ก ซ่ึงบริเวณ
ดงั กล่าว นา่ จะพบเฉพาะหนิ แกรนติ ชนิด S-type

100




คง

รูปท่ี 4-18 แผนท่ีแสดงแนวหินแกรนิต (Cobbing, 2011) (ก) เปรียบเทียบกับแผนท่ีกัมมันตรังสีเทอร์นารี (ข)

แผนทกี่ ัมมนั ตรงั สรี วม (ค) และ แผนทค่ี วามเขม้ สนามแมเ่ หลก็ (ง) ภาคใตข้ องประเทศไทย

101
กข

คง

รูปที่ 4-19 แผนที่กัมมันตรังสีเทอร์นารี (ก) แผนที่กัมมันตรังสีรวม (ข) แผนที่ความเข้มสนามแม่เหล็ก (ค) แผนท่ี
เส้นชั้นความเข้มสนามแม่เหล็กซ้อนทับกับแผนท่ีกัมมันตรังสีรวม (ง) พื้นที่หินแกรนิตแนวตะวันตก บริเวณภาคใต้
ของประเทศไทย

102

4.1.3.2 แนวกลาง (Central Belt)

หินแกรนิตแนวกลาง ทางภาคใต้ของประเทศไทย จากจังหวัดนครศรีธรรมราช จนถึง
จังหวัดสตูล ได้แก่ พลูตอน เขาหลวง เขากระจง สตูล สันกลาคีรี ซ่ึงส่วนใหญ่เป็นหินแกรนิตท่ีมีผลึก
โพแทสเซยี มเฟลดส์ ปารข์ นาดใหญ่

แผนที่กัมมันตรังสีเทอร์นารี (รูปท่ี 4-20ก) และ (รูปที่ 4-21ก) แสดงขอบเขตของ
หินแกรนิตเปน็ สีเข้ม มีท้ังที่เป็นสีเขียวเข้ม และ สีแดงเข้ม แต่ไม่เป็นเน้ือเดียวกันเหมือนแกรนิตในบริเวณ
อ่นื ๆ แสดงเส้นทางน้าท่ีเป็นตะกอนของหินแกรนิตโดยรอบพลูตอน แผนท่ีกัมมันตรังสีรวม (รูปท่ี 4-20ข)
และ (รูปท่ี 4-21ข) แสดงขอบเขตของหินแกรนิตเป็นสีม่วงแดง หรือ สีส้ม บางบริเวณพบสีม่วงแดงเฉพาะ
บริเวณตรงขอบนอก บริเวณที่เป็นสีส้ม (สีอ่อน) แยกจากหินบริเวณข้างเคียงได้เน่ืองจากหินบริเวณมีค่า
กัมมันตรังสีต่ามาก แผนที่ความเข้มสนามแม่เหล็ก (รูปที่ 4-20ค) และแผนท่ีเส้นช้ันความเข้ม
สนามแม่เหล็กซ้อนทับกับแผนท่ีกัมมันตรังสีรวม (รูปท่ี 4-20ง) แสดงแนว ค่าผิดปกติ ความเข้ม
สนามแม่เหล็ก คู่บวกสลับกับคู่ลบ เป็นแนวยาวในแนวเหนือ-ใต้ ตอนกลางของพน้ื ท่ี ซึ่งตัดผ่านแนวที่เป็น
หินแกรนิต ทาให้หินแกรนิตในบริเวณน้ีเกิดการแปลสภาพ อย่างไรก็ตามยังไม่พบรายงานว่า มีหิน foliate
granite หรือ gneissic granite เช่นเดียวกบั หนิ แนวกลางของภาคเหนอื

103

550000 600000 650000

1000000 สุราษฎร์ธานี ก ข

R

950000 นครศรีธรรมราช

R

900000

850000 R ตรัง พัทลุง

R

800000 สงขลา
R

750000 สตลู

R



รูปที่ 4-20 แผนท่ีกัมมันตรังสีเทอร์นารี (ก) แผนท่ีกัมมันตรังสีรวม (ข) แผนท่ีความเข้มสนามแม่เหล็ก (ค) แผนที่
เส้นชัน้ ความเขม้ สนามแมเ่ หล็กซอ้ นทบั กบั แผนทกี่ ัมมนั ตรงั สีรวม (ง) พื้นทหี่ ินแกรนติ แนวกลาง บรเิ วณภาคใต้

104
4.1.3.3 แนวตะวนั ออก (Eastern Belt)
หินแกรนิตแนวตะวันออกของภาคใต้ พบใกล้ชายแดนไทย-มาเลเซีย ได้แก่บริเวณ
พลูตอนตันหยง และ บูเก๊ะ ซึ่งเป็นหินแกรนิตชนิด I-type เป็นหินแกรนิตท่ีมีผลึกเฟลด์สปาร์ขนาดใหญ่
(Cobbing, 2011)
แผนท่ีความเข้มกัมมันตรังสีเทอร์นารี (รูปที่ 4-21ก) เป็นสีเขียวเข้ม และแผนที่
กัมมันตรังสีรวม (รูปที่ 4-21ข) เป็นสีม่วงแดงเข้มท้ังพลูตอน ส่วนข้อมูลความเข้มสนามแม่เหล็ก ไม่ได้
แสดงลักษณะ ค่าผิดปกติ ความเข้มสนามแม่เหล็กในบริเวณที่เป็นหินแกรนิต เหมือนกับหินแกรนิตแนว
ตะวันออกในบริเวณอื่น ๆ

กข

คง

รูปที่ 4-21 แผนท่ีกัมมันตรังสีเทอร์นารี (ก) แผนท่ีกัมมันตรังสีรวม (ข) แผนท่ีความเข้มสนามแม่เหล็ก (ค) แผนที่
เส้นช้ันความเข้มสนามแม่เหล็กซ้อนทับกับแผนท่ีกัมมันตรังสีรวม (ง) ของหินแกรนิตแนวกลาง และแนวตะวันออก
บรเิ วณภาคใตส้ ดุ ของประเทศไทย

105

4.1.4 หนิ อคั นีบรเิ วณอ่ืน ๆ

4.1.4.1.1 หนิ แกรนติ เลย
หินแกรนิตพ้ืนท่ีจังหวัดเลย ได้แก่ พื้นท่ีภูสะนาว จังหวัดเลย และ บริเวณอาเภอนาด้วง
จังหวัดเลย แสดงลักษณะเดน่ ความเขม้ สนามแม่เหล็กตา่ งกนั ดังรายละเอยี ดตอ่ ไปน้ี
หินแกรนิตในพ้ืนที่ภูสะนาว จังหวัดเลย เป็นหิน quartz monzonite แกรโนไดออไรต์
(คพท, 2531) หินแกรนิตในบริเวณน้ีแสดงลักษณะความเข้มสนามแม่เหล็ก แสดงขอบเขตเป็นคู่บวกลบ
ขนาดใหญ่ บริเวณที่เป็นสีน้าเงินในแผนที่ความเข้มสนามแม่เหล็ก (รูปท่ี 4-22 ข) และแผนที่กัมมันตรังสี
เทอร์นารีแสดงเป็นสีแดงปนกับสีน้าเงินเข้ม และแผนท่ีกัมมันตรังสีรวมเป็นสีม่วงแดงเข้ม หินแกรนิตบริ
เวณนม้ี ีความเปน็ แม่เหลก็ และมีความเขม้ กัมมันตรังสสี งู

กข

1980000 780000 800000 ง

Rเชยี งคาน ค

1960000

รูปท่ี 4-22 แผนท่ีธรณีวิทยา แสดงขอบเขตของหินแกรนิต (PTrgr) บริเวณภูสะนาว จังหวัดเลย (ก) เปรียบเทียบ

กับแผนท่ีความเข้มสนามแม่เหล็ก (ข) แผนท่ีกัมมันตรังสีเทอร์นารี (ค) แผนท่ีเส้นช้ันควาเข้มสนามแม่เหล็กซ้อนทับ
แผนทกี่ มั มันตรังสรี วม (ง)

106 ข


800000 810000

1950000 ค ง

1940000

รูปท่ี 4-23 แผนท่ีธรณีวิทยา (ก) แสดงขอบเขตของหินแกรนิต (PTrgr) บริเวณอาเภอนาด้วง จังหวัดเลย เปรรียบ

เทียบกับแผนท่ีความเข้มสนามแม่เหล็ก (ข) แผนท่ีกัมมันตรังสีเทอร์นารี แผนที่เส้นช้ันความเข้มสนามแม่เหล็ก
ซ้อนทับกับแผนที่กัมมันตรังสีรวม (ง) แสดงค่าผิดปกติความเข้มสนามแม่เหล็กคู่บวก-คู่ลบในบริเวณดียวกันกับท่ีมี
ค่าความเข้มกมั มันตรงั สีตา่

หินแกรนิตบริเวณ อาเภอนาด้วงจังหวัดเลย แสดงลักษณะเดน่ ความเข้มสนามแม่เหล็กท่ี
โดดเด่นกว่าความเข้มกัมมันตรังสี โดยมีลักษณะความเข้มสนามแม่เหล็ก (รูปที่ 4-23ข) คู่บวก (สีม่วงแดง)

คูล่ บ (สนี า้ เงนิ ) เรียงกนั เปน็ วง มีความสมั พนั ธก์ บั หนิ แกรนิตท่แี ทรกตัวข้ึนมาในระดับลกึ

แผนท่คี วามเขม้ กัมมันตรังสีเทอร์นารี แสดงขอบเขตของหนิ แกรนติ ไมช่ ัดเจน เมอื่ นาแผน
ท่ีความเข้มกัมมันตรังสีรวม ซ้อนทับเส้นชั้นความเข้มสนามแม่เหล็ก บริเวณท่ีมีสีส้มมีความสัมพันธ์กับค่า
ความผดิ ปกติของความเข้มสนามแมเ่ หล็ก

107

4.1.4.1.2 หนิ ไซยีไนต์

หินไซยีไนต์ ตามการแบ่งชนิดหินอัคนี เป็นหินท่ีมีอัลคาไลน์เฟลสปาร์และแร่
ferromagnesian เป็นองค์ประกอบหลัก จากแผนที่ธรณีวิทยา (บริเวณสีแดง) เป็นหินไซยีไนต์
เปรียบเทียบกับแผนที่ความเข้มกัมมันตรังสีรวมเป็นสีม่วงแดง และ ค่าผิดปกติ ความเข้มสนามแม่เหล็ก
ซ้อนทบั บรเิ วณทเ่ี ป็นสีมว่ งแดงในแผนที่ เส้นชั้นความเข้มสนามแม่เหลก็ ซ้อนทบั กบั แผนทกี่ มั มนั ตรังสีเทอร์
นารี ซ่ึงเป็นลกั ษณะเฉพาะของหินไซยไี นต์ ดงั กลา่ วไวข้ า้ งตน้

910000 510000 520000 ก ข
Qt
Qa
Qgy Qc
JKl
900000
Trl
Qc Qt

Qt Pr

890000 Tkb Qt Qt
Jk

คง

รูปท่ี 4-24 แผนท่ีกัมมันตรังสีรวม (ข) แผนท่ีความเข้มสนามแม่เหล็ก (ค) แผนท่ีเส้นช้ันความเข้มสนามแม่เหล็ก

ซ้อนทับกับแผนท่ีเทอร์นารี (ง) เปรียบเทียบกับแผนท่ีธรณีวิทยา แสดงบริเวณที่เป็นหินไซยีไนต์ แผนที่มาตราส่วน

1:50,000 ระวาง 4825 II (บา้ นเหนอื คลอง

บทที่ 5
ลักษณะเด่นของข้อมลู ความเข้มเสนามแม่เหลก็
และขอ้ มลู ความเขม้ กมั มนั ตรังสีกับหินภเู ขาไฟ

ลักษณะเดน่ ของค่าความเข้มสนามแม่เหล็กของหินภูเขาไฟ มีความโดดเดน่ และแตกต่าง
กันมากว่าข้อมูลความเข้มกัมมันตรังสี โดยอธิบายเปรียบเทียบกับบทความเรื่อง “Volcanic Rocks” ซ่ึง
รวบรวมไว้โดย Barr and Charusiri (2011) ใช้ในการการแบ่งกลุ่มของภูเขาไฟและการบรรยายข้อมูล
ของหินภูเขาไฟเพ่ือเปรียบเทียบความสัมพันธก์ ับข้อมูลความความเข้มสนามแม่เหล็ก และข้อมูลความเข้ม
กัมมันตรงั สี

การศึกษาลักษณะเด่นของข้อมูลความเข้มสนามแม่เหล็ก และลักษณะเด่นของข้อมูล
ความเข้มกัมมันตรังสีของหินภูเขา โดยการแสดงผลค่ากัมมันตรังสีในรูปแบบแผนที่เทอร์นารี แผนท่ีความ
เข้มสนามแม่เหล็ก แผนที่ความเข้มกัมมันตรังสีรวม(Total Count) ซ้อนทับกับเส้นชั้นความเข้ม
สนามแม่เหลก็ เปรยี บเทยี บกับแผนที่ธรณวี ทิ ยา

แผนท่ีกัมมันตรังสีเทอร์รี่แสดงผลระบบสี ในระบบ CMY โดยค่าความเข้มกัมมันตรังสี
โพแทสเซียม (K) ให้แสดงผลเป็นสีม่วงแดง ค่ายูเรียมแสดงผลเป็นสีเหลือง (Y) และ ค่ากัมมันตรังสี
ยเู รเนยี ม แสดงผลเปน็ สเี หลอื ง โดยคา่ ตา่ แสดงเปน็ สขี าว และมสี เี ขม้ ข้ึนเมอ่ื มคี า่ สงู ขน้ึ (รปู ที่ 5-1)

แผนที่ความเข้มกัมมันตรังสีรวม(TC) แสดงผลแสดงการแสดงผลโดยใช้ color
table=color.tbl (แสดงผลจากโปรแกรม Geosoft Oasis montaj) (รูปท่ี 5-2) ข้อมูลความเข้ม
สนามแม่เหล็กในการเปรียบเทียบกับหินแกรนิต ใช้ข้อมูลความเข้มสนามแม่เหล็กรวม (Total Field
Magnetic) การแสดงผลใช้ color table=color.tb เชน่ เดียวกบั ขอ้ มลู ความเขม้ กัมมันตรังสีรวม

K

U

TH

รูปท่ี 5-1 ตารางสีแสดงผลแผนที่กัมมันตรังสีเทอร์นารี ค่าโพแทสเซียมกาหนดให้แสดงสีม่วงแดง ค่ายูเรนียม
กาหนดให้แสดงสีเหลือง ค่าทอเรยี มกาหนดใหแ้ สดงสีฟา้

รปู ท่ี 5-2 ตารางสแี สดงผลโดยใช้ color table=color.tbl (แสดงผลจากโปรแกรม Geosoft Oasis montaj)

เส้นช้นั ความเข้มสนามแม่เหล็กแสดงผลโดยการประมวลผลโดยใชเ้ ส้นชั้นท่ีมีระยะห่างท่ี
5 nT จากข้อมูลความเข้มสนามแม่เหล็กรวม (Total Field magnetic) ลักษณะเส้นช้ันความเข้ม
สนามแม่เหล็กที่แตกต่างกัน (ตารางที่ 5-1) น้ันแสดงถึงหินอัคนีที่มีลักษณะแตกต่างกัน เช่นอัคนี

109

แทรกซอน มันแสดงค่าผิดปกติความเข้มสนามแม่เหล็ก เป็นคู่บวก-คู่ลบ ในขณะที่หินภูเขาไฟแสดง
ลักษณะความผิดปกติของความ่เข้มสนามแม่เหล็กเป็นกลุ่ม หินอัคนีแทรกซอนมีช่วงความยากคล่ืนท่ียาว
กวา่ และหนิ ทม่ี คี วามเปน็ เมฟกิ มากกวา่ จะมคี า่ Relief หรอื Amplitude สงู กว่า เป็นต้น

ตารางที่ 5-1 ตารางแสดงคุณสมบตั ขิ องเส้นช้นั ความเข้มสนามแม่เลก็ ทีแ่ ตกตา่ งกนั และตวั อยา่ งของแผนที่ความเข้ม
สนามแม่เหลก็

คณุ สมบัติ ภาคตัดขวาง ตวั อย่างแผนท่ี ภาคตัดขวาง ตวั อยา่ งแผนท่ี

Uniform Zone
คบู่ วก-ลบ กลมุ่

Wavelength Short=สน้ั
ความยาวคลนื่
9 กม.
Long=ยาว

2 กม.

Relief หรือ Strong/high Weak/low
Amplitude สูง ตา่

110

Barr and Charusiri (2011) อธิบายหนิ ภูเขาไฟของประเทศไทยโดยแบ่งออกเปน็ 2 ช่วง
อายไุ ดแ้ ก่ อายพุ าลโี อโซอิกและมโี ซโซอกิ (รปู ที่ 5-3) และอายุซโี นโซอกิ (รปู ที่ 5-4) หินภเู ขาไฟอายพุ าลีโอ

โซอิกและมีโซโซอิก แบ่งเป็น 5 แนว ได้แก่ แนวภูเขาไฟเชียงใหม่ แนวภูเขาไฟลาปาง แนวภูเขาไฟแม่น้า
น่าน แนวภูเขาไฟเพชรบรู ณ์ และ แนวภูเขาไฟสระแกว้ ส่วนภูเขาไฟอายุซโี นโซอกิ เกิดเป็นพื้นท่ีขนาดเลก็
หรือบางบริเวณเป็นแนวเดียวกับหินภูเขาไฟอายุพาลีโอโซอิก และ มีโซโซอิก ยกเว้นด้านตะวันออก หรือ
ตอนใต้ของภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ เป็นหนิ ภเู ขาไฟอายุซโี นโซอกิ

นอกจากน้ียังมีในส่วนของภูเขาไฟท่ีถูกปิดทับด้วยหน่วยหินอื่น ท่ีมีลักษณะเด่นที่ควร
กล่าวไว้ ได้แก่หินภูเขาไฟที่อยู่ใต้หินปูน ซึ่งจะมีลักษณะทางความเข้มกัมมันตรังสี และความเข้ม
สนามแม่เหล็กเช่นเดียวกับหินภูเขาไฟบริเวณอน่ื ๆ และ บริเวณที่หินภูเขาไฟถูกปดิ ทับด้วยตะกอนควอร์
เทอรน์ ารี

5.1 หนิ ภูเขาไฟอายุพาลโี อโซอกิ และมโี ซโซอกิ

หินภูเขาไฟอายุพาลีโอโซอิกและมีโซโซอิก เป็นหินภูเขาไฟอายุเก่า ต้ังแต่ ดีโวเนียน ถึง
เปอร์เมียน ประกอบดว้ ยหินภูเขาไฟ หน่วย Cb PTru DCv Cv หนิภูเขาไฟอายุพาลีโอโซอิกและมีโซโซอิก
แบง่ เป็น 5 แนว แนวภูเขาไฟเชียงใหม่ แนวภูเขาไฟลาปาง แนวภูเขาไฟแมน่ ้าน่าน แนวภูเขาไฟเพชรบูรณ์
และ แนวภูเขาไฟสระแก้ว

5.1.1 แนวหนิ ภูเขาไฟเชียงใหม่ (Chiang Mai Volcanic belt-CM)

แนวหินภูเขาไฟเชยี งใหม่ แบ่งเป็น 7 พ้ืนที่ (ตารางที่ 5-2) ได้แก่ แม่จัน (CMa) เชียงราย

(CMb) เชียงดาวและตอนเหนอื (CMc) พรา้ ว (CMd) วงั เหนอื -เวียงป่าเป่า (CMe) ดอยสะเก็ด (CMf) สนั
กาแพงและลาพูน (CMg) ส่วนใหญ่ประกอบด้วยหินภูเขาไฟชนิดเบสิก ถึง อัลตราเบสิก ประกอบด้วย
หินบะซอลต์ แกรบโบ และ ไพร๊อกซีไนต์

ลักษณะเดน่ ความเข้มสนามแม่เหล็กของแนวหินภูเขาไฟเชยี งใหม่ แสดงเป็นกลุ่มของค่า
ผิดปกติความเป็นแม่เหล็ก มีค่า Relief หรือ Amplitude ปานกลาง-สูง มีช่วงคล่ืนส้ัน ขนาดของกลุ่ม
ความผิดปกติความเป็นแม่เหล็กมีขอบเขตกวา้ งกว่าแผนทธี่ รณีวิทยา ดงั รายละเอยี ดตอ่ ไปนี้

ตารางที่ 5-2 คาอธบิ ายแนวหนิ ภูเขาไฟเชียงใหม่ (Barr and Charusiri, 2011)

คาอธบิ ายตวั ยอ่ แผนที่ คาอธบิ ายหิน

CMa แมจ่ นั หินไพรอกซีไนตข์ นาดใหญ่ แสดงการผุพงั เป็นแอมพิโบล

CMb เชยี งราย บะซอลต์ บะซอลต์พอไพรี (หินกรวดเล่ยี ม พบ แอ็คติโนไลต)์

CMc เชยี งดาวและตอนเหนือ -

CMd พรา้ ว หนิ แกบโบร ทม่ี ีโอลิวนี (หินเวอรไ์ ลต)์

CMe วังเหนอื -เวียงปา่ เปา้ หินบะซอลต์ บะซอลต์พอไฟรี หนิ เถ้าภูเขาไฟ (หินกรวดภูเขาไฟ), และไพรอกซีไนต์

CMf ดอยสะเก็ด หินบะซอลต์ บะซอลต์พอไพรี หินเถ้าภูเขาไฟ (หินกรวดภูเขาไฟ), และแกบโบร

CMg สนั กาแพงและลาพูน อะมกิ ดาลอยดอล บะซอลต์ บะซอลต์รูปหมอน เถ้าภูเขาไฟเนอ้ื ดินปนแก้ว หนิ แกบ

โบร

111

รูปที่ 5-3 การกระจายตวั ของหนิ ภเู ขาไฟมหายุคพาลโี อโซอิก (Barr and Charusiri, 2011)

112

รปู ที่ 5-4 การกระจายตวั ของหินภูเขาไฟมหายุคซีโนโซอิก (Barr and Charusiri ,2011)

113

5.1.1.1 พืน้ ที่แม่จัน (Cma)

แนวหินภูเขาไฟแม่จัน (รูปท่ี 5-5) บริเวณพ้ืนที่วงกลมทางทิศตะวันตกของอาเภอแม่จัน
ตามแผนท่ีธรณวี ิทยาเปน็ หน่วย Cb ประกอบดว้ ย หนิ เบสกิ หนิ ควอตซ์แกบโบร และหินพนงั

ลักษณะเด่นความเข้มสนามแม่เหล็ก แสดงค่าความผิดปกติเป็นกลุ่ม รูปร่างของกลุ่ม
ความผิดปกติเป็นรูปทรงกลม มีค่าความยาวคลื่นสั้น ประมาณ 2 กิโลเมตร มีค่า Amplitude ประมาณ
300 nT

ลักษณะเด่นความเข้มกัมมันตรังสี จากแผนที่ความเข้มกัมมันตรังสีเทอร์นารี แสดงสี
เหลือง สีชมพูอ่อน และแผนที่กัมมันตรังสีรวมซ้อนทับกับเส้นช้ันความเข้มสนามแม่เหล็ก แสดงค่าความ
ผดิ ปกตคิ วามเขม้ สนามแม่เหล็ก ในบริเวณท่ีแผนท่ีกัมมันตรังสรี วมแสดงสนี า้ เงนิ เขม้ ซึ่งเปน็ คา่ ตา่

ขอบเขตข้อมูลธรณีวิทยา มีขนาดเล็กกวา่ ขอบเขตของค่าความเข้มสนามแม่เหล็ก ซึ่งหิน
ภูเขาไฟน้ีอาจถกู ปิดทบั ด้วยหนิ ตะกอน

5.1.1.2 พื้นทีเ่ ชยี งราย (CMb)

หินภูเขาไฟแนวพื้นที่เชียงราย (รูปที่ 5-6) บริเวณวงรีสีขาว แผนท่ีธรณีวิทยาเป็นหน่วย
DCv หินบะซอลต์ และหินเถ้าภูเขาไฟ และหน่วย Cb เป็นหินเบสิก หินควอตซ์แกบโบร และหินพนัง ซ่ึง
เกดิ บริเวณขอบของหินตะกอนหนว่ ย SD

ลักษณะเด่นความเข้มสนามแม่เหล็ก แสดงค่าความผิดปกติเป็นกลุ่ม รูปร่างเป็นวงรี
แคบ ๆ ติดกัน 2 แนว มีความยาวคล่ืนส้ัน ประมาณ 1.5-2 กิโลเมตร มีค่า Amplitude ประมาณ 100-
150 nT

ลักษณะเด่นความเข้มกัมมันตรังสี จากแผนที่กัมมันตรังสีเทอร์นารี เป็นสีขาว แผนที่
กมั มนั ตรงั สีรวมเปน็ สีน้าเงิน แสดงให้เห็นว่าหนว่ ยน้ีมคี ่าความเขม้ กมั มันตรังสีตา่ ท้ังสามคา่

5.1.1.3 แนวหินภูเขาไฟเชยี งดาวและตอนเหนอื (CMc) และ พร้าว (CMd)

แนวหินภูเขาไฟเชยี งดาวและตอนเหนือ (CMc) (รูปที่ 5-7) ขอบเขตของแนวหินภูเขาไฟ
นี้อยู่ติดชายแดนประเทศ ซ่ึงไม่มขี อ้ มูลการบินสารวจ

แนวหินภูเขาไฟพร้าว (CMd) (รูปท่ี 5-7) เป็นหินแกบโบรและหินบะซอลต์ (Barr and
Charusiri ,2011) แผนที่ธรณวี ิทยาเป็นหินภูเขาไฟ หน่วย Cb ประกอบดว้ ย หินเบสิก หินควอตซ์แกบโบร
และหินพนัง

ลักษณะเด่นความเข้มสนามแม่เหล็ก แสดงค่าผิดปกติเป็นกลุ่ม รูปร่างวงรี มีความยาว
คลนื่ สั้น มคี วามยาวคล่นื รปะมาณ 2 กิโลเมตร มีค่า Amplitude ประมาณ 100-400 nT

ลักษณะเด่นความเข้มกัมมันตรังสี จากแผนที่ความเขม้ กัมมนั ตรังสีเทอรน์ ารีเปน็ สขี าวอม
ชมพู และแผนที่กัมมันตรังสีรวมเป็นสีน้าเงิน ซึ่งบริเวณความผิดปกติความเข้มสนามแม่เหล็ก ซ้อนทับกับ
บริเวณทค่ี วามเข้มกัมมนั ตรงั สใี นบริเวณนี้ มขี อบเขตใกลเ้ คียงกบั แผนทีธ่ รณวี ทิ ยา

114
บริเวณที่มีค่าความผิดปกติความเข้มสนามแม่เหล็ก ซ้อนทับกับบริเวณแผนที่กัมมนั ตรังสี
เทอร์นารีสีเขยี ว บรเิ วณนั้นเปน็ บรเิ วณท่หี นิ ภเู ขาไฟถกู ปิดทับดว้ ยหนิ ปูน

กข

คง

รูปท่ี 5-5 แผนท่ีกัมมันตรังสีเทอร์นารี (ก) แผนท่ีธรณีวิทยา (ข) แผนท่ีความเข้มสนามแม่เหล็ก (ค) แผนท่ีเส้นช้ัน

ความเขม้ สนามแม่เหล็กซอ้ นทบั กับแผนที่กมั มันตรังสีรวม (ง) แสดงหนิ ภเู ขาไฟพ้ืนท่ีแม่จัน (CMa)

115
ก ขค ง

รูปท่ี 5-6 แผนท่ีกัมมันตรังสีเทอร์นารี (ก) แผนที่ธรณีวิทยา (ข) แผนท่ีความเข้มสนามแม่เหล็ก (ค) แผนท่ีเส้นชั้น

ความเข้มสนามแมเ่ หล็กซ้อนทับกบั แผนท่กี ัมมันตรงั สีรวม (ง) พืน้ ที่เชียงราย (CMb)

ก CMc ข ค ง
CMd

CMf

รูปท่ี 5-7 แผนท่ีกัมมันตรังสีเทอร์นารี (ก) แผนที่ธรณีวิทยา (ข) แผนที่ความเข้มสนามแม่เหล็ก (ค) แผนที่เส้นช้ัน
ความเข้มสนามแม่เหล็กซ้อนทับกับแผนที่กัมมันตรังสีรวม (ง) แสดงหินภูเขาไฟเชียงดาวและตอนเหนือ (CMe)
พืน้ ท่พี รา้ ว (CMd) และดอยสะเกด็ (CMf)

116

5.1.1.4 แนวหนิ ภเู ขาไฟดอยสะเกด็ (CMf)

แนวหินภูเขาไฟดอยสะเก็ด (CMf) (รูปที่ 5-7) เป็นหินบะซอลต์ และแกบโบร (Barr and
Charusiri ,2011) แผนทธี่ รณวี ทิ ยาเป็นหน่วยหนิ Ptrv 4 บรเิ วณขนาดเล็กไม่ต่อเนื่องกันประกอบด้วยหิน
ไรโอไลต์ แอนดีไซต์ หินเถา้ ภูเขาไฟแสดงการไหล หนิ กรวดเหล่ยี มภเู ขาไฟ หินไรโอลติ ิกทฟั ฟแ์ ละหินแอนดิ
ซิติกทฟั ฟ์

ลักษณะเด่นความเข้มสนามแม่เหล็ก แสดงค่าผิดปกติเป็นกลุ่ม รูปร่างเกือบกลมมีขนาด
เล็ก 2 บริเวณ มีความยาวคล่ืนสั้น และมีความยาวคล่ืนประมาณ 1-2 กิโลเมตร มีค่า Amplitude
ประมาณ 50 nT

ลักษณะเด่นข้อมูลความเข้มกัมมันตรังสี จากแผนที่ความเข้มกัมมันตรังสีเทอร์นารีแสดง
สีขาวและสีเหลืองออ่ น และแผนท่ีความเข้มกัมมนั ตรังสีรวมซ้อนทบั เส้นช้นั ความเข้มสนามแม่เหล็ก แสดง
ให้เห็นบรเิ วณท่เี ป็นคา่ ผดิ ปกติความเข้มสนามแม่เหลก็ ซอ้ นทับบริเวณท่เี ป็นสนี า้ เงินหรือเป็นบริเวณท่ีมีค่า
กัมมันตรงั สตี า่

5.1.1.5 แนวหินภเู ขาไฟวังเหนอื -เวียงป่าเป้า (CMe)

แนวหินภูเขาไฟวังเหนือ-เวียงป่าเป่า (CMe) (รูปที่ 5-8) เป็นหินบะซอลต์ ทัพฟ์ และหิน
ไพรอกซีไนต์ (Barr and Charusiri ,2011) แผนที่ธรณีวิทยา เป็นหน่วยหิน CP ซึ่งเป็นหินตะกอน วิทยา
ธรรมดุษฎี และ อภิชาต จีนกูล (2532) ไดศ้ กึ ษาธรณีวทิ ยาพ้นื ที่ ตามระวาง 1:50,000 เป็นหินภเู ขาไฟ ที่มี
การผุพังสงู มาก

ลักษณะเด่นความเข้มสนามแม่เหล็ก แสดงค่าผิดปกติความเข้มสนามแม่เหล็กเป็นกลุ่ม
รูปร่างเป็นส่ีเหล่ียม มีความยาวคลื่นสั้น และมีความยาวคล่ืนประมาณ 1.5-2 กิโลเมตร มีค่า Amplitude
ประมาณ 20-50 nT

ลักษณะเด่นข้อมูลความเข้มกัมมนั ตรังสี จากแผนที่กัมมนั ตรังสเี ทอร์นารี แสดงเป็นสีขาว
มีจุดประเป็นสีฟ้า สีชมพู แต่ก็แสดงขอบเขตของหน่วยน้ีได้อย่างชัดเจน แผนท่ีเส้นช้ันความเข้ม
สนามแม่เหล็กซ้อนทับกับแผนท่ีกัมมันตรังสีรวม แสดงให้เห็นค่าผิดปกติความเข้มสนามแม่เหล็กซ้อนทับ
บริเวณทเ่ี ปน็ สนี า้ เงนิ ของแผนทก่ี ัมมันตรังสีรวม ซ่งึ หนิ ภเู ขาไฟในบริเวณนีป้ รากฏให้เห็นบนพ้ืนผิว ไม่ได้ถูก
ปกคลมุ จากหน่วยอ่นื ๆ

5.1.1.6 แนวหินภูเขาไฟสันกาแพงและลาพนู (CMg)

แนวหินภูเขาไฟสันกาแพงและลาพูน (CMg) (รูปท่ี 5-9) เป็นหิน บะซอลต์ ทัฟฟ์ และ
แกบโบร (Barr and Charusiri, 2011) แผนทธี่ รณีวิทยา ตรงกบั หน่วยหนิ PTrv ประกอบดว้ ยหินไรโอไลต์
แอนดีไซต์ หินเถ้าภูเขาไฟแสดงการไหล หินกรวดเหล่ียมภูเขาไฟ หินไรโอลิติกทัฟฟ์และหินแอนดิซิ
ตกิ ทัฟฟ์

ลักษณะเด่นความเข้มสนามแม่เหล็ก แสดงค่าผิดปกติความเข้มสนามแม่เหล็กเป็นกลุ่ม
รูปร่างเป็นวงรี มีความยาวคลื่นสั้น และมีความยาวคลื่นประมาณ 1-2 กิโลเมตร มีค่า Amplitude
ประมาณ 40 nT

117

ลักษณะเด่นความเข้มกัมมันตรังสี จากแผนที่ความเข้มกัมมันตรังสีเทอร์นารี บริเวณน้ี
แสดงเป็นสีขาวปนสีเหลืองอ่อน และสีชมพู เมื่อนาเส้นชั้นความเข้มสนามแม่เหล็กซ้อนทับแผนท่ี
กัมมันตรังสีรวม บรเิ วณท่ีมีค่าผดิ ปกติความเข้มสนามแม่เหล็ก แสดงสนี ้าเงนิ ในแผนทีค่ วามเขม้ กมั มนั ตรังสี
รวม ดังน้ันสามารถกล่าวได้ว่า หินภูเขาไฟในบริเวณนี้ไม่ถูกปิดทับด้วยหินตะกอนชนิดอ่ืน ๆ ข้อมูลความ
เข้มกมั มันตรงั สีรวมสามารถแสดงขอบเขตของหินภูเขาไฟหน่วยน้ี ได้ดกี วา่ แผนท่ีกัมมันตรังสเี ทอร์นารี

540000 560000

กข2120000
Trgr Qff Qt
SD

R

C CP
SD
C C

2100000 C Trgr SD
C
C
C

C

คง

รูปท่ี 5-8 แผนที่กัมมันตรังสีเทอร์นารี (ก) แผนที่ธรณีวิทยา (ข) แผนท่ีความเข้มสนามแม่เหล็ก (ค) แผนที่เส้นช้ัน

ความเขม้ สนามแม่เหลก็ ซ้อนทบั กับแผนทีก่ มั มันตรังสรี วม (ง) แสดงหนิ ภเู ขาไฟวงั เหนอื -เวียงป่าเป้า (CMe)

118

รูปท่ี 5-9 แผนท่ีกัมมันตรังสีเทอร์นารี (ก) แผนที่ธรณีวิทยา (ข) แผนท่ีความเข้มสนามแม่เหล็ก (ค) แผนที่เส้นช้ัน

ความเขม้ สนามแมเ่ หลก็ ซอ้ นทับกบั แผนท่ีกัมมันตรงั สีรวม (ง) แสดงหนิ ภเู ขาไฟสันกาแพงและลาพนู (CMg)

119

5.1.2 แ น ว หิ น ภู เ ข า ไ ฟ ล า ป า ง ( Lampang (or Chiang Khong-Tak-
Rayong) Volcanic belt

แนวหินภูเขาไฟลาปาง (ตารางที่ 5-3) (Barr & Charusiri, 2011) ได้แบ่งเป็น 8 พ้ืนท่ี

ได้แก่ พื้นท่ีเชียงของ (LPa) พะเยา (LPb) น่าน (LPc) ลาปาง-แพร่ (LPd) ตาก (LPe) นครสวรรค์ (LPf)
แม่น้าบางปะกง (LPg) และเกาะช้าง (LPh) หินภูเขาไฟในบริเวณน้ีเป็นหินภูเขาไฟเฟลสิก และกระจายตวั
ในลกั ษณะรูปรา่ งท่เี ปน็ ส่วนโค้งเปน็ แนวยาว ประกอบด้วย หินไรโอไลต์ เป็นส่วนใหญ่

ลักษณะเด่นความเข้มสนามแม่เหล็กของแนวหินภูเขาไฟลาปาง ค่าผิดปกติความเป็น
แมเ่ หล็กของแนวหนิ ภูเขาไฟลาปางแสดงเป็นกลมุ่ มีคา่ Relief หรอื Amplitude ตา่ -ปานกลาง มชี ว่ งคลื่น
สั้น ขนาดของกลุ่มความผิดปกติความเป็นแม่เหล็กมีรูปร่างเป็นแนวยาว มีค่ากัมมันตรังสีสูงกว่าแนวหิน
ภูเขาไฟเชียงใหม่ ดังรายละเอยี ดตอ่ ไปนี้

ตารางท่ี 5-3 คาอธบิ ายแนวหนิ ภเู ขาไฟลาปาง (Barr and Charusiri, 2011)

คาอธบิ ายตวั ยอ่ แผนที่ คาอธบิ ายหิน
หินไรโอไลต์ ไรโอเดไซต์ และหนิ เถา้ ภเู ขาไฟ
LPa เชยี งของ
LPb พะเยา (ปง) หนิ ไรโอไลต์ แอนดไี ซต์ และหินเถ้าภูเขาไฟ (Pyroclastic)
LPc น่าน หนิ ไรโอไลต์ หินเดไซต์ และเถ้าภเู ขาไฟ
LPd ลาปางแพร่ หินไรโอไลต์ แอนดไี ซต์ และเถา้ ภเู ขาไฟ
LPe หินภเู ขาไฟตาก หนิ ไรโอไลต์ และเถา้ ภเู ขาไฟ.
LPf นครสวรรค์ -
LPg แม่นา้ บางปะกง หินไรโอไลต์ หินแอนดไี ซต์
LPh เกาะช้าง

5.1.2.1 แนวหินภเู ขาไฟเชียงของ (LPa)

แนวหินภูเขาไฟเชียงของ (LPa) (รูปที่ 5-10) เป็นหินภูเขาไฟท่ีวางตัวในแนวยาว ในทิศ

ตะวันออกเฉียงเหนือ-ตะวันตกเฉียงใต้ ประกอบด้วยหินไรโอไลต์ ไรโอเดไซต์ และหินเถ้าภูเขาไฟ (Barr
and Charusiri, 2011) แผนที่ธรณีวิทยาเป็นหน่วย PTrv และ Jv ประกอบด้วย หินไรโอไลต์ แอนดีไซต์
หนิ เถา้ ภเู ขาไฟแสดงการไหล หนิ กรวดเหล่ยี มภูเขาไฟ

ลักษณะเดน่ ความเข้มสนามแม่เหล็ก แสดงค่าผิดปกติเป็นกลุ่ม รูปร่างเป็นวงรี วางตัวใน
แนวทิศตะวันออกเฉียงเหนือ-ตะวันตกเฉียงใต้ แบ่งเป็น 2 แนวใหญ่ ซ่ึงขั้นด้วยบริเวณท่ีไม่มีความเป็น
แม่เหลก็ มีความยาวคล่นื สนั้ และมีความยาวคลน่ื ประมาณ 1.5 กิโลเมตร และมีค่า Amplitude ประมาณ
20-70 nT โดยทแี่ นวดา้ นทศิ ตะวันตกมคี า่ Amplitude สงู กวา่

ลักษณะเด่นแผนที่กัมมันตรังสี จากแผนท่ีความเข้มเทอร์นารี แนวด้านทิศตะวันออก
แสดงเป็นสีม่วงน้าเงิน และแนวด้านทิศตะวันออกเป็นสีเขียว และจากแผนที่เส้นชั้นความเข้ม
สนามแม่เหล็กซ้อนทับกับแผนที่กัมมันตรังสีรวม แนวด้านทิศตะวันตกเส้นชั้นความเข้มสนามแม่เหล็ก
ซ้อนทับกับบริเวณท่ีเป็นสีส้มของแผนท่ีกัมมันตรังสีรวม ส่วนบริเวณแนวทิศตะวันนออกบริเวณท่ีมีค่า
ผดิ ปกติความเขม้ สนามแม่เหล็ก แผนทคี่ วามเขม้ กัมมันตรงั สรี วมเป็นสนี ้าเงิน

120 ข


LPa

LPb ง


รูปท่ี 5-10 แผนที่กัมมันตรังสีเทอร์นารี (ก) แผนที่ธรณีวทิ ยา (ข) แผนท่ีความเข้มสนามแม่เหล็ก (ค) แผนท่ีเส้นช้ัน
ความเขม้ สนามแมเ่ หลก็ ซ้อนทบั กบั แผนทก่ี มั มนั ตรังสีรวม (ง) แสดงหินภูเขาไฟเชยี งของ และ พะเยา

121

5.1.2.2 แนวหินภเู ขาไฟพะเยา (LPb)

แนวหินภูเขาไฟพะเยา (LPb) (รูปท่ี 5-10) เป็นหินภูเขาไฟท่ีวางตัวในแนวทิศเหนือ-ใต้
แผนที่ธรณีวิทยาเป็นหน่วย PTrv และ Jv ประกอบด้วยหิน หินไรโอไลต์ แอนดีไซต์ หินเถ้าภูเขาไฟแสดง
การไหล หนิ กรวดเหลย่ี มภเู ขาไฟ

ลักษณะเด่นความเข้มสนามแม่เหล็ก แสดงค่าผิดปกติเป็นกลุ่ม รูปร่างเป็นวงรี หรือเป็น
แนวยาวในแนวทิศเหนือ-ทิศใต้ มีความยาวคลื่นส้ัน มีความยาวคล่ืนประมาณ 1-2 กิโลเมตร มีค่า
Amplitude ประมาณ 30-50 nT

ลักษณะเด่นความเข้มกัมมันตรังสี จากแผนท่ีความเข้มกัมมันตรังสีเทอร์รีเป็นสีม่วงออ่ น
และจากแผนที่เส้นช้ันความเข้มสนามแม่เหล็กซ้อนทับกับแผนท่ีความเข้มกัมมันตรังสีรวม บริเวณท่ีมีค่า
ผดิ ปกติความเข้มสนามแมเ่ หลก็ แผนที่กัมมันตรังสีรวมเป็นสีสม้

5.1.2.3 แนวหนิ ภูเขาไฟนา่ น (LPc)

แนวหินภูเขาไฟน่าน (LPc) (Error! Reference source not found.) เป็นหินไรโอ
ไรต์ และแอนดีไซต์ (Barr and Charusiri, 2011) ตามแผนท่ีธรณวี ิทยา เป็นหนว่ ย Jv ประกอบดว้ ย หนิ ไร
โอไลต์ หนิ ไรโอลิตกิ ทัฟฟ์ และหนิ แอนดซิ ติ กิ ทัฟฟ์ เปน็ แนวยาย รอบหนิ ตะกอนอายุจูแรสสิก

ลักษณะเด่นความเข้มสนามแม่เหล็ก แสดงค่าผิดปกติเป็นกลุ่ม มีรูปร่างเป็นแนวยาว
ขนาดเล็ก มีความยาวคลื่นสัน้ มคี วามยาวคลืน่ ประมาณ 1 กโิ ลเมตร มคี า่ Amplitude ประมาณ 10-20 nT

ลักษณะเด่นความเข้มกัมมันตรังสี จากแผนท่ีความเข้มกัมมันตรังสีเทอร์นารี บริเวณน้ี
เป็นสีน้าเงินเข้ม และจากแผนท่ีเสน้ ชน้ั ความเขม้ สนามแม่เหลก็ ซอ้ นทับกับแผนทก่ี มั มันตรงั สรี วม บรเิ วณที่
มีคา่ ผดิ ปกตคิ วามเปน็ แม่เหล็ก แผนท่กี ัมมนั ตรงั สีรวมมสี ีส้ม และมีรูปทรงเช่นเดยี วกบั คา่ ผิดปกติความเข้ม
สนามแม่เหล็ก

5.1.2.4 แนวหนิ ภเู ขาไฟลาปาง-แพร่ (LPd)

แนวหินภูเขาไฟลาปาง-แพร่ (LPd) (รูปที่ 5-12) วางตัวโค้งไปตามแนวโครงสร้าง โดย
แนวภูเขาไฟลาปาง-แพร่ อยู่แนวตะวันออกเฉียงเหนือ-ตะวันตกเฉียงใต้ แผนท่ีธรณีวิทยาเป็นหินภูเขาไฟ
หนว่ ย PTrv ประกอบด้วยหินไรโอไลต์ แอนดีไซต์ หินทัฟฟ์แสดงการไหล หินกรวดเหลี่ยมภเู ขาไฟ หนิ ไรโอ
ลติ กิ ทฟั ฟแ์ ละหินแอนดซิ ติ กิ ทัฟฟ์

ลักษณะเด่นความเข้มสนามแม่เหล็ก แสดงค่าผิดปกติเป็นกลุ่ม รูปร่างเป็นแนวยาว
วางตวั ในแนวทิศตะวนั ออกเฉยี งเหนือ-ตะวนั ตกเฉยี งใต้ มคี วามยาวคล่ืนสั้น มคี วามยาวคล่ืนประมาณ 1.5-
2.5 กโิ ลเมตร มีค่า Amplitude ประมาณ 30-50 nT

ลักษณะเด่นความเข้มกัมมันตรังสี จากแผนที่กัมมนั ตรังสีเทอร์นารี เป็นสีเข้ม และแผนท่ี
เส้นช้ันความเข้มสนามแม่เหล็กซ้อนทับกับแผนท่ีกัมมันตรังสีรวม ค่าผิดปกติความเข้มสนามแม่เหล็กตรง
กับบรเิ วณท่ีเปน็ สมี ว่ งแดงในแผนที่กัมมันตรงั สรี วม เปน็ แนวยาว เชน่ เดียวข้อมูลความเข้มสนามแม่เหล็ก

122

รูปท่ี 5-11 แผนท่ีกัมมันตรังสีเทอร์นารี (ก) แผนท่ีธรณีวิทยา (ข) แผนท่ีความเข้มสนามแม่เหล็ก (ค) แผนท่ีเส้นช้ัน
ความเขม้ สนามแมเ่ หลก็ ซอ้ นทับกบั แผนท่กี ัมมันตรังสรี วม แสดงแนวหินภเู ขาไฟน่าน

123 ข


LPd

LPe
คง

รูปท่ี 5-12 แผนที่กัมมันตรังสีเทอร์นารี (ก) แผนท่ีธรณีวิทยา (ข) แผนที่ความเข้มสนามแม่เหล็ก (ค) แผนที่เส้นชั้น

ความเข้มสนามแม่เหล็กซอ้ นทับกบั แผนท่กี ัมมนั ตรังสีรวม แสดงแนวหินภูเขาไฟลาปาง-แพร่ (LPd) และ ตาก (LPe)

124

5.1.2.1 ตาก (LPe)

แนวหินภูเขาไฟตาก (LPe) (รูปที่ 5-12) แผนท่ีธรณีวิทยาเป็นหน่วยหิน PTrv ซ่ึงวางตัว
แนวทศิ เหนือ-ทิศใต้ ประกอบดว้ ย หินไรโอไลต์ แอนดีไซต์ หินทัฟฟแ์ สดงการไหล หินกรวดเหลย่ี มภเู ขาไฟ
หินไรโอลิตกิ ทัฟฟแ์ ละหินแอนดซิ ติ ิกทฟั ฟ์

ลักษณะเด่นความเข้มสนามแม่เหล็ก แสดงค่าผิดปกติเป็นกลุ่ม รูปร่างเป็นแนวยาว ใน
แนวทศิ เหนือ-ทิศใต้ มีความยาวคลนื่ สั้น มขี นาดความยาวคลนื่ ประมาณ 1.5-2 กิโลเมตร มีค่า Amplitude
ประมาณ 25-30 nT

ลักษณะเด่นความเข้มกัมมันตรังสี จากแผนที่ความเข้มกัมมันตรังสีเทอร์นารีเป็นสีเขียว
เข้ม บางบริเวณเป็นสีม่วงอ่อน และแผนท่ีเส้นชั้นความเข้มสนามแม่เหล็กซ้อนทับกับแผนท่ีกัมมันตรังสี
รวม คา่ ผิดปกติความเข้มสนามแม่เหลก็ อยู่ในบรเิ วณแผนที่กมั มันตรงั สรี วม ท่เี ป็นสีม่วงแดงและสนี ้าเงนิ

5.1.2.2 แนวหินภเู ขาไฟนครสวรรค์ (LPf)

แนวหินภูเขาไฟนครสวรรค์ (LPf) (รูปที่ 5-13) โดยทางตอนเหนือเป็นหน่วย PTrv
ในขณะทีด่ า้ นใตเ้ ปน็ หน่วย Krh ประกอบดว้ ยหนิ ไรโอไลต์ หนิ ไซยอีไนต์ ขนาดผลกึ ละเอยี ด-ปานกลาง

ลักษณะเด่นความเข้มสนามแม่เหล็ก แสดงค่าผิดปกตเิ ปน็ แนวยาว และเปน็ กลมุ่ ขนาดเล็ก
มีความยาวคลน่ื สัน้ มีขนาดความยาวคลืน่ ประมาณ 1-2.5 กิโลเมตร มีค่า Amplitude ประมาณ 20-40 nT

ลักษณะเด่นความเข้มกัมมันตรังสี จากแผนที่ความเข้มกัมมันตรังสีบริเวณนี้แสดงเป็นสี
ขาว มีสีม่วงแดง ปะปน อย่างไรก็ บริเวณแนวสีม่วงแดง น้ันแสดงความสัมพันธ์กับข้อมูลความเข้ม
สนามแม่เหล็กที่มีรูปร่างเป็นแนวยาวเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามในบริเวณน้ี ข้อมูลความเข้มกัมมันตรังสี
และข้อมูลความเข้มสนามแม่เหล็ก ไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบเดียวกันทั้งหมด ท้ังนี้ ในบริเวณน้ี อาจมี
ความสมั พนั ธก์ บั ขอ้ มูลแนวหินภเู ขาไฟแบบอน่ื ๆ ด้วย

5.1.2.3 หินภเู ขาไฟแนวแมน่ ้าบางปะกง (LPg) และแนวเกาะช้าง (LPf)

หินภูเขาไฟแนวแม่น้าบางปะกง (LPg) และแนวเกาะช้าง (LPf) ทั้งสองบริเวณเป็นหน่วย
หิน PTrv ประกอบด้วยหินไรโอไลต์ แอนดีไซต์ หินเถ้าภูเขาไฟแสดงการไหล หินกรวดเหล่ียมภเู ขาไฟ หิน
ไรโอลิตกิ ทัฟฟ์และหินแอนดซิ ิติกทฟั ฟ์

ลักษณะเด่นความเข้มสนามแม่เหล็ก แสดงค่าผิดปกติเป็นแนวยาว วางตัวในแนว
ตะวันออกเฉียงใต้-ตะวันตกเฉียงเหนือ และเป็นกลุ่ม มีความยาวคล่ืนส้ัน มีขนาดความยาวคล่ืนประมาณ
1.5-2 กิโลเมตร มคี ่า Amplitude ประมาณ 40-135 nT

ลักษณะเด่นความเข้มกัมมันตรังสี จากแผนที่กัมมันตรังสีเทอร์นารี ของแนวหินภูเขาไฟ
ท้ังสองบริเวณน้ีแสดงเป็นสีม่วงเข้ม เป็นแนวยาว เช่นเดียวกันกับข้อมูลความเข้มสนามแม่เหล็ก ข้อมูล
ความเข้มสนามแม่เหล็กบริเวณน้ีเต็มไปด้วย ค่าผิดปกติ ความเข้มสนามแม่เหล็กที่มีรูปร่างเป็นแนวยาว
อย่างไรก็ตามแนวภูเขาไฟทั้งสองบริเวณนี้ มีลักษณะเด่นคือมีความเข้มกัมมันตรังสีสูง ทาให้สามารถแยก
ขอ้ มูลความเขม้ สนามแม่เหล็กที่แตกต่างกนั กับหน่วยกมั มันตรงั สีอ่นื ๆ ในบรเิ วณนไ้ี ด้

125 ข


คง

รูปท่ี 5-13 แผนที่กัมมันตรังสีเทอร์นารี (ก) แผนที่ธรณีวิทยา (ข) แผนท่ีความเข้มสนามแม่เหล็ก (ค) แผนที่เส้นช้ัน

ความเข้มสนามแม่เหลก็ ซอ้ นทับกบั แผนท่ีกัมมนั ตรงั สรี วม (ง) แสดงแนวหนิ ภเู ขาไฟนครสวรรค์ (LPf)

126
กข

LPg

LPf
คง

รูปท่ี 5-14 แผนทกี่ ัมมันตรงั สเี ทอร์นารี (ก) แผนทธี่ รณวี ิทยา (ข) แผนทค่ี วามเขม้ สนามแมเ่ หล็ก (ค) แผนท่เี ส้นช้นั

ความเขม้ สนามแมเ่ หลก็ ซอ้ นทับกับแผนทก่ี ัมมันตรงั สรี วม (ง) แสดงแนวหนิ ภูเขาไฟแมน่ า้ บางปะกง (LPg) และ
เกาะช้าง (LPf)

127

5.1.3 แนวหนิ ภเู ขาไฟแมน่ ้าน่าน

แนวหินภูเขาไฟแม่น้าน่าน (รูปที่ 5-15) Barr and Charusiri (2011) แบ่งหินภูเขาไฟ
แม่น้าน่าน เป็น 3 แนว ได้แก่ แนวแม่น้าน่าน (NRa) แนวตะวันตกแม่น้าน่าน (NRb) และอุตรดิตถ์ (NRc)
ทง้ั สามบริเวณนั้น เป็นบริเวณท่มี คี วามตอ่ เน่อื งเป็นแนวยาว

แผนทีธ่ รณีวทิ ยาเป็นหน่วย PTru ประกอบดว้ ยหนิ ไพรอ็ กซิไนต์ หนิ เพอรโิ ดไทต์ หินเซอร์
เพนทไิ นต์ และหนิ ฮอร์นเบลนไดต์

ลักษณะเด่นความเข้มสนามแม่เหล็ก แสดงค่าผิดปกติเป็นกลุ่ม รูปร่างเป็นเป็นวงรี
วางตัวในแนวทิศตะวันออกเฉียงเหนือ-ทิศตะวันตกเฉียงใต้ มีความยาวคลื่นส้ัน มีความยาวคล่ืนประมาณ
2-3 กโิ ลเมตร มีคา่ Amplitude ประมาณ 50-500 nT

ลักษณะเด่นความเข้มกัมมันตรังสี จากแผนท่ีกัมมนั ตรังสีเทอร์นารี แสดงเป็นสีขาว ปนสี
ชมพู แสดงให้เห็นว่าบริเวณน้ีเป็นบริเวณที่มีค่าความเข้มกัมมันตรังสีต่า และแผนที่เส้นช้ันความเข้ม
สนามแม่เหล็กซ้อนทับกับแผนที่กัมมันตรังสีรวม บริเวณที่เป็นค่าผิดปกติความเข้มสนามแม่เหล็กตรงกับ
บรเิ วณท่ีเป็นสนี ้าเงินของแผนท่กี ัมมันตรงั สรี วม บางบริเวณอยใู่ นบริเวณที่เปน็ สีม่วงแดง ดงั น้นั หินภเู ขาไฟ
บรเิ วณนีบ้ างส่วนถกู ปดิ ทับดว้ ยหินชนิดอ่นื

ตารางท่ี 5-4 คาอธบิ ายแนวหินภเู ขาไฟแมน่ า้ น่าน (Barr and Charusiri, 2011)

คาอธบิ ายตวั ยอ่ แผนท่ี คาอธบิ ายหิน

NRa แมน่ ้าน่าน หินเมฟิก และ หินอัลตราเมฟกิ

NRb ตะวนั ออกของแม่น้านา่ น หนิ บะซอลต์ แอนดีไซต์ .

NRc อุตรดิตถ์

5.1.1 แนวหนิ ภเู ขาไฟเพชรบรู ณ์

แนวหินภูเขาไฟเพชรบูรณ์ (Barr & Charusiri, 2011) ไดแ้ บง่ แนวหินภเู ขาไฟแนวนี้ เป็น
7 แนว ได้แก่ ตะวันออกของเลย (Pa) ตอนกลางของเลย (Pb) ตะวันตกของเลย (Pc) พื้นที่วังโป่ง (Pd)
พ้นื ที่ไพศาลี (Pe) พื้นทีส่ ระบุรี (Pf) และ พน้ื ท่สี ระแก้ว (Pg)

แนวหินภูเขาไฟเพชรบูรณ์เป็นแนว ภูเขาไฟท่ีอยู่ระหว่างรอยต่อของแผ่นทวีป พบหิน
อัคนีท่ีมีความหลากหลาย เช่นอัคนีแทรกซอน และและหินภูเขาไฟ ซึ่งหินซ่ึงหินอัคนีแทรกซอน ท่ีเป็น
หนิ แกรนิต ในบรเิ วณน้ี เปน็ หินแกรนติ ชนิด I-type

ตารางที่ 5-5 คาอธบิ ายแนวหนิ ภเู ขาไฟเพชรบรู ณ์ (Barr and Charusiri, 2011)

คาอธบิ ายตวั ยอ่ แผนท่ี คาอธบิ ายหิน
หนิ ไรโอไลต์ และ หินเถ้าภเู ขาไฟ
Pa ตะวันออกของเลย หินบะซอลต์
Pb ตอนกลางของเลย หินแอนดีไซต์ และ ไรโอไลต์
Pc ตะวนั ตกของเลย หนิ บะซอลต์ และแอนดไี ซต์
Pd วังโป่ง ไรโอไลต์ หนิ เถา้ ภูเขาไฟ หินแอนดีไซต์
Pe ไพศาลี
Pf สระบุรี หินไรโอไลต์ หนิ บะซอลต์ แอนดีไซต์ แกบโบร ไพรอกซไี นต์ และ
Pg สระแก้ว ฮอรน์ เบลนไดต์

128
กข

คง

รูปท่ี 5-15 แผนที่กัมมันตรังสีเทอร์นารี (ก) แผนท่ีธรณีวิทยา (ข) แผนที่ความเข้มสนามแม่เหล็ก (ค) แผนท่ีเส้นช้ัน
ความเขม้ สนามแม่เหลก็ ซอ้ นทบั กับแผนทก่ี มั มนั ตรังสรี วม (ง) แสดงแนวหนิ ภูเขาไฟแม่น้าน่าน

129

5.1.1.1 แนวหนิ ภเู ขาไฟตะวนั ออกของจงั หวดั เลย (Pa)

แนวหินภูเขาไฟตะวันออกของจังหวัดเลย (Pa) (รูปที่ 5-16) ตามแผนที่ธรณีวิทยา เป็น
หน่วย PTr ประกอบด้วยหินทราย หินทรายเน้ือภูเขาไฟ หินปูนเนื้อดิน หินไรโอลิติกทัฟฟ์กึ่งแปรสภาพ
หินดินดาน หินปูนเป็นเลนส์ หินเชิร์ตและหินปูนเนื้อไข่ปลา (คพท, 2531) กาหนดให้หน่วยหินบริเวณนี้
เป็นหน่วย PTrvrh ประกอบดว้ ย หนิ ไรโอไลต์ ไรโอรติ กิ ทัฟฟ์ นอกจากนีย้ งั พบหินฮอนเบลนไดต์

ลักษณะเดน่ ความเขม้ สนามแมเ่ หลก็ แสดงคา่ ผดิ ปกตคิ วามเขม้ สนามแม่เหลก็ เป็นบรเิ วณ
กว้าง มีทั้งที่มีความยาวคลื่นยาว และคล่ืนส้ัน มีการวางตัวของค่าผิดปกติในแนวทิศตะวันตกเฉียงเหนือ-
ทิศตะวันออกเฉียงใต้ มีค่า Amplitude ท่ีหลากหลาย บริเวณท่ีมีค่า Amplitude สูงสุดได้แก่บริเวณตอน
ใต้ของพนื้ ที่ มคี า่ Amplitude สูงถงึ 600 nT

ลักษณะเด่นความเข้มกัมมันตรังสี จากแผนท่ีความเข้มกัมมันตรังสีเทอร์นารี
ประกอบด้วยหลายสี ได้แก่ สีม่วง สีเขียว สีน้าเงนิ แตเ่ ป็นสีอ่อน และแผนท่ีกัมมันตรังสีรวมเป็นสีส้มตอน
เหนือ สว่ นตอนใต้เปน็ สนี ้าเงนิ

5.1.1.2 ตอนกลางของจงั หวัดเลย(Pb)

แนวหินภูเขาไฟตอนกลางของจังหวัดเลย (Pb) (รูปท่ี 5-16) แผนที่ธรณีวิทยาเป็นหน่วย
ประกอบด้วย หินบะซอลต์ และหินเถา้ ภเู ขาไฟ

ลักณะเด่นความเข้มสนามแม่เหล็ก แสดงความความผิดปกติความเป็นแม่เหล็กเป็นกลุ่ม
มีรูปร่างเป็นวงรี รูปตัว Y เป็นแนวยาวในทิศเหนือ-ทิศใต้ มีช่วงคล่ืนสั้น มีความยาวคล่ืนประมาณ 0.5-1
กิโลเมตร มคี า่ Amplitude ประมาณ 30-40 nT ค่าความผดิ ปกตแิ นวกลางของเลยแยกจากแนวตะวนั ออก
และแนวตะวนั ตก ด้วยบรเิ วณท่ไี ม่มคี วามเปน็ แมเ่ หลก็

ลักษณะเด่นความเข้มกัมมันตรังสี จากแผนท่ีความเข้มกัมมันตรังสีเทอร์นารี แสดงเป็นสี
ขาว ปนชมพู แต่ไม่สามารถกาหนดขอบเขตได้ชัดเจน อย่างไรก็ตามบริเวณที่มีค่าผิดปกติความเข้ม
สนามแม่เหลก็ บรเิ วณน้นั แผนที่ความเข้มกัมมันตรงั สรี วมเปน็ สีน้าเงิน

5.1.1.3 ตะวนั ตกของจังหวดั เลย (Pc)

แนวหินภูเขาไฟตะวันตกของจังหวัดเลย (Pc) (รูปที่ 5-16) แผนที่ธรณีวิทยา เป็นหน่วย
หิน PTrv ประกอบดว้ ย หินไรโอไลต์ แอนดีไซต์ หินเถ้าภูเขาไฟแสดงการไหล หินกรวดเหล่ียมภเู ขาไฟ หิน
ไรโอลิติกทัฟฟ์และหินแอนดิซิติกทัฟฟ์ (คพท, 2531) กาหนดลักษณะธรณีวิทยา เป็นหน่วย PTrvan
ประกอบด้วยหินแอนดไี ซต์ ไรโอไลต์ ไรโอรติ กิ ทัฟฟ์ และ หนิ เดไซต์

ลักษณะเด่นความเข้มสนามแม่เหล็ก ค่าผิดปกติบริเวณน้ีมีความสลับซับซ้อน ด้วยค่า
ผิดปกตปิ ระกอบดว้ ยค่าผิดปกติความเข้มสนามแม่เหล็กที่มีคลื่นยาว และมีคลื่นส้ันเกิดข้ึนภายในคล่ืนยาว
นั้น ซึ่งคล่ืนยาวนั้นมีค่าความยาวคล่ืนประมาณ 5 กิโลเมตร ส่วนคลื่นสั้นมีความยาวคลื่นประมาณ 1
กิโลเมตร มีค่า Amplitude ประมาณ 50 nT

ลักษณะเด่นความเข้มกัมมันตรังสี จากแผนที่ความเข้มกัมมันตรังสีเทอร์นารีแสดงเป็นสี
ดา และสเี ขียวเขม้ และมีสีท่ีมคี วามเขม้ มากกว่า ตอนกลางและตะวันออกของจงั หวดั เลย


Click to View FlipBook Version