The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Pang Natthiyaa, 2022-07-27 01:15:48

รายงานความก้าวหน้า

โครงการศกึ ษาผลกระทบสง่ิ แวดล้อมเบือ้ งตน้ อา่ งเกบ็ น้าเหมอื งตะก่ัว บทที่ 3
อนั เน่ืองมาจากพระราชดา้ ริ จังหวัดพทั ลุง การศกึ ษาผลกระทบสิง่ แวดล้อมเบ้อื งต้น

ตารางท่ี 3.7.2-4 จานวนผู้ปว่ ยตามกล่มุ สาเหตุการป่วย 21 กลุม่ โรค โรงพยาบาลตะโหมด ปี พ.ศ.2557 – 25561

จานวนผ้ปู ว่ ย (ราย)

สาเหตุการป่วย (กลุม่ โรค) พ.ศ. พ.ศ. พ.ศ. พ.ศ. พ.ศ. รวม
2558 2559 2560 2561 2562
1. โรคตดิ เชื้อและปรสิต 3,481
2. เนือ้ งอก (รวมมะเรง็ ) 395 3,394 3,548 4,108 4,360 18,891
3. โรคเลอื ดและอวยั วะสรา้ งเลอื ดและความผิดปกติ
281 373 445 510 382 2,108
เกย่ี วกับภูมคิ มุ้ กัน
4. โรคเกยี่ วกบั ต่อมไร้ทอ่ โภชนาการและเมตะบอลซิ ัม 15,480 361 603 786 842 2,873
5. ภาวะแปรปรวนทางจิตและพฤตกิ รรม 2,158
6. โรคระบบประสาท 928 15,755 13,771 16,187 17,791 78,984
7. โรคตารวมสว่ นประกอบของตา 1,093 1,988 1,908 1,986 2,164 10,204
8. โรคหูและปมุ่ กกหู 839 997 1,037 1,307 1,255 5,524
9. โรคระบบไหลเวียนเลือด 12,585 960 1,003 1,140 945 5,141
10. โรคระบบหายใจ 11,404 631 636 785 718 3,609
11. โรคระบบยอ่ ยอาหาร รวมโรคในช่องปาก 8,414 13,203 12,790 14,580 14,175 67,333
12. โรคผิวหนงั และเน้ือเยือ่ ใต้ผวิ หนัง 2,463 11,854 11,485 11,624 11,148 57,515
13. โรคระบบกลา้ มเนือ้ รวมโครงร่างและเน้ือยดึ เสรมิ 8,267 9,948 9,556 10,397 11,269 43,588
14. โรคระบบสบื พนั ธ์รุ ่วมปัสสาวะ 2,371 2,794 2,413 2,761 2,523 12,954
15. ภาวะแทรกในการตงั้ ครรภ์ การคลอด และระยะหลงั 8,465 8,633 10,902 10,671 46,938
614 2,570 4,733 8,041 9,273 26,988
คลอด
16. ภาวะผดิ ปกตขิ องทารกทเี่ กดิ ข้ึนในระยะปริก้าเนิด 45 647 823 1,067 994 4,145

(อายคุ รรภ์ 22 สัปดาห์ขน้ึ ไปจนถึง 7 วันหลงั คลอด) 34 47 53 66 66 277
17. รูปร่างผดิ ปกติแต่ก้าเนิด การพกิ ารจนผดิ รปู แตก่ ้าเนิด
7,653 54 49 47 47 231
และโครโมโซมผิดปกติ
18. อาการ, อาการแสดงและส่ิงผดิ ปกติท่ีพบได้จากการ 78 8,341 7,251 7,131 8,460 38,836
726
ตรวจทางคลนิ กิ และทางห้องปฏิบัติการท่ีไม่สามารถ 3,010 75 87 98 103 441
จา้ แนกโรคในกลมุ่ อ่ืนได้ 82,319 767 868 811 895 4,067
19. การเปน็ พิษและผลท่ตี ามมา 3,363 3,607 4,589 4,255 18,824
20. อบุ ตั ิเหตจุ ากการขนส่งและผลท่ตี ามมา 86,587 79,302 98,924 102,339 4,449,471
21. สาเหตจุ ากภายนอกอ่ืนๆ ท่ที ้าให้ ป่วยหรือตาย

รวม

ทม่ี า : โรงพยาบาลตะโหมด, 2562 (ข้อมลู ณ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2562)

บริษัท เอช ทู โอ คอนซลั ท์ จา้ กดั 3-109 รายงานความก้าวหน้า
บริษัท เอน็ รชิ คอนซัลแตนท์ จา้ กดั (Progress Report)

โครงการศกึ ษาผลกระทบสิง่ แวดลอ้ มเบ้อื งตน้ อา่ งเก็บนา้ เหมืองตะก่ัว บทที่ 3
อนั เน่อื งมาจากพระราชดา้ ริ จังหวดั พัทลงุ การศึกษาผลกระทบสิง่ แวดลอ้ มเบื้องต้น

(2) โรคท่เี ฝา้ ระวังทางระบาดวิทยา

• จังหวัดพัทลุง จากการรวบรวมรายงานระบาดวิทยา รง.506 ของส้านักงานสาธารณสุข
จังหวัดพัทลุง ในปี พ.ศ.2558-2562 พบว่าในปี พ.ศ.2562 มีผู้ป่วยโรคอุจาระร่วงมากที่สุด โดยมีผู้ป่วยจ้านวน
1,177.84 ต่อแสนประชากร รองลงมา คือ โรคไข้หวัดใหญ่ มีผู้ป่วยจ้านวน 250.93 ต่อแสนประชากร และ
โรคไข้เลือดออก มีผู้ป่วยจ้านวน 239.11 ต่อแสนประชากร ตามล้าดับ ดงั แสดงรายละเอียดในตารางที่ 3.7.2-5

• โรงพยาบาลป่าบอน จากการรวบรวมรายงานระบาดวิทยา รง.506 ของโรงพยาบาล
ป่าบอน ในปี พ.ศ.2558-2562 พบว่า ในปี พ.ศ.2562 มีผู้ป่วยโรคอุจาระร่วงมากที่สุด โดยมีอัตราป่วย 1,411.82
ต่อแสนประชากร รองลงมา คือ โรคไข้เดงก่ี มีอัตราป่วย 215.36 ต่อแสนประชากร และโรคไข้ไม่ทราบสาเหตุ
มีอตั ราปว่ ย 191.43 ต่อแสนประชากร ตามล้าดับ ดังแสดงรายละเอียดในตารางที่ 3.7.2-6

• โรงพยาบาลตะโหมด จากการรวบรวมรายงานระบาดวิทยา รง.506 ของ โรงพยาบาล
ตะโหมด ในปี พ.ศ.2559-2562 พบว่า ในปี พ.ศ.2562 มีผู้ป่วยอุจจาระร่วงมากที่สุด โดยมีผู้ป่วยจ้านวน 335 ราย
รองลงมา คือ ไข้เลือดออก มีผู้ป่วยจ้านวน 57 ราย และ ปอดบวม มีผู้ป่วยจ้านวน 43 ราย ตามล้าดับ ดังแสดง
รายละเอียดในตารางท่ี 3.7.2-7

ตารางท่ี 3.7.2-5 โรคท่เี ฝา้ ระวงั ทางระบาดวทิ ยา (รง.506) จงั หวัดพัทลงุ ปี พ.ศ.2558–2562

ลาดับที่ โรค 2558 ปี พ.ศ. (ราย) 2561 2562
1,813.40 2559 2560 1,640.18 1,177.84
1. อจุ จาระรว่ ง 95.74 1,961.52 1,788.84 308.37 250.93
2. โรคไขห้ วัดใหญ่ 104.23 122.98 184.66 120.10 239.11
3. โรคไข้เลอื ดออก 313.46 283.62 207.44 316.20 207.10
4. โรคปอดบวม 96.12 278.43 332.97 87.45 86.88
5. โรคสกุ ใส 223.90 113.18 110.99 126.40 83.83
6. โรคตาแดง 101.53 170.63 181.03 97.95 54.68
7. โรคมือ เทา้ ปาก 83.77 101.65 124.38 63.20 44.77
8. โรคติดตอ่ ทางเพศสัมพนั ธ์ 77.82 69.27 26.11 22.86
9. โรคชคิ นุ กุนยา 0.77 0.19 0.00 32.08 20.96
10. โรคอาหารเปน็ พิษ 42.66 33.82 30.43

ท่ีมา : สา้ นกั งานสาธารณสขุ จังหวดั พัทลุง, 2562 (ขอ้ มูล ณ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2562)

บรษิ ัท เอช ทู โอ คอนซลั ท์ จา้ กัด 3-110 รายงานความกา้ วหน้า
บริษทั เอ็นรชิ คอนซัลแตนท์ จ้ากดั (Progress Report)

โครงการศกึ ษาผลกระทบสง่ิ แวดลอ้ มเบื้องตน้ อา่ งเก็บน้าเหมอื งตะกวั่ บทท่ี 3
อันเน่ืองมาจากพระราชดา้ ริ จังหวดั พทั ลงุ การศกึ ษาผลกระทบส่ิงแวดล้อมเบื้องต้น

ตารางที่ 3.7.2-6 โรคที่เฝา้ ระวังทางระบาดวทิ ยา (รง.506) โรงพยาบาลปา่ บอน ปี พ.ศ.2558–2562

ลาดับท่ี โรค ปี พ.ศ. (อัตราป่วยตอ่ แสนประชากร) 2562
2558 2559 2560 2561
1,411.82
1. โรคอุจจาระรว่ ง 765.73 957.17 646.09 622.16 191.43
119.65
2. โรคไข้ไม่ทราบสาเหตุ 574.30 981.10 813.59 646.09 119.65
215.36
3. โรคไข้เลือดออก 23.93 287.15 23.93 0 71.79
71.79
4. โรคปอดอกั เสบ 71.79 71.79 47.86 119.65
0
5. โรคไขเ้ ดงกี่ 0 71.79 0 23.93 23.93

6. โรคเยอ่ื บตุ าอักเสบ 143.58 95.72 23.93 23.93 0

7. โรคสุกใส 47.86 47.86 0 47.86

8. โรคไข้หวัดใหญ่ 71.79 0 0 47.86

9. โรควัณโรคปอด 0 0 0 47.86

10. โรคฉห่ี นู 23.93 0 23.93 0

ทีม่ า : โรงพยาบาลป่าบอน, 2562 (ขอ้ มลู ณ เดอื นพฤศจิกายน พ.ศ.2562)

ตารางที่ 3.7.2-7 โรคที่เฝ้าระวงั ทางระบาดวิทยา (รง.506) โรงพยาบาลตะโหมด ปี พ.ศ.2559–2562

ลาดับท่ี โรค 2559 ปพี .ศ. (ราย) 2562
2560 2561 335
1. โรคอุจจาระรว่ ง 303 645 505 57
39 46 43
2. โรคไขเ้ ลอื ดออก 164 172 90 34
42 30 18
3. โรคปอดบวม 166 60 55 17
61 62 10
4. โรคสุกใส 29 39 13 7
46 16 6
5. โรคไขห้ วดั ใหญ่ 8 3
--
6. โรคมือ เท้า ปาก 37 --

7. โรคตดิ ตอ่ ทางเพศสัมพนั ธ์ 45

8. โรคตาแดง 31

9. โรควัณโรค -

10. โรคไวรสั ตบั อกั เสบ -

ที่มา : โรงพยาบาลตะโหมด, 2562 (ขอ้ มูล ณ เดือนพฤศจกิ ายน พ.ศ.2562)

บริษัท เอช ทู โอ คอนซลั ท์ จา้ กัด 3-111 รายงานความกา้ วหน้า
บริษัท เอ็นริช คอนซลั แตนท์ จา้ กัด (Progress Report)

โครงการศกึ ษาผลกระทบสิ่งแวดลอ้ มเบือ้ งตน้ อ่างเก็บน้าเหมอื งตะก่วั บทท่ี 3
อนั เน่อื งมาจากพระราชด้าริ จังหวดั พัทลงุ การศกึ ษาผลกระทบส่ิงแวดล้อมเบ้อื งต้น

(3) อัตราการเกิด-อตั ราการตาย

• จังหวัดพัทลุง จากการรวบรวมข้อมูลอัตราการเกิด-อัตราการตาย ของ ส้านักงาน
สาธารณสุขจังหวัดพัทลุง ในปี พ.ศ.2558-2562 พบว่า ปี พ.ศ.2562 มีอัตราการเกิด จ้านวน 6.01 ต่อพันประชากร
ซึ่งลดลงจากปี พ.ศ.2558-2561 ท่ีมีอัตราการเกิด จ้านวน 9.48 6.34 6.48 และ 6.71 ต่อพันประชากร ตามล้าดับ
ส่วนอัตราการตาย พบว่า ปี พ.ศ. 2562 มีอัตราการตาย จ้านวน 3.73 ต่อพันประชากร ซ่ึงลดลงจากปี พ.ศ.2558-
2559 ที่มีอัตราการตาย จ้านวน 6.27 และ 5.45 ตามล้าดับ แต่เพิ่มขึ้นจากปี พ.ศ.2560-2561 ที่มีอัตราการตาย
จ้านวน 2.63 และ 3.25 ต่อพนั ประชากร ตามลา้ ดบั ดังแสดงรายละเอียดในตารางท่ี 3.7.2-8

• โรงพยาบาลปา่ บอน จากการรวบรวมขอ้ มูลอตั ราการเกิด-อัตราการตาย ของโรงพยาบาล
ป่าบอน ในปี พ.ศ.2558-2561 พบว่า ปี พ.ศ.2561 มีอัตราการเกิด 8.55 ต่อพันประชากร ลดลงเม่ือเทียบกับ
ปี พ.ศ. 2559 ท่ีมีอัตราการเกิด 10.78 ต่อพันประชากร แต่เพ่ิมขึ้นจากปี พ.ศ.2558 และ พ.ศ.2560 ท่ีมีอัตราการเกิด
3.56 และ 6.95 ตามลา้ ดับ ส่วนอตั ราการตาย พบว่า ปี พ.ศ.2561 มีอัตราการตาย 3.39 ต่อพันประชากร ซึ่งลดลงจาก
ปี พ.ศ.2559 ที่มีอัตราการตาย 4.03 ต่อพันประชากร แต่เพ่ิมข้ึนจากปี พ.ศ.2558 และ พ.ศ.2560 ท่ีมีอัตราการตาย
2.53 และ 2.36 ตามลา้ ดับ ดังแสดงรายละเอียดในตารางที่ 3.7.2-9

• โรงพยาบาลตะโหมด จากการรวบรวมขอ้ มูลอตั ราการเกิด-อตั ราการตาย ของ โรงพยาบาล
ตะโหมด ในปี พ.ศ.2558-2562 พบว่า ปี พ.ศ.2562 มีอัตราการเกิด จ้านวน 12.32 ต่อพันประชากร ซ่ึงเพิ่มข้ึนจากปี
พ.ศ.2559 ที่มีอัตราการเกิด จ้านวน 12.25 ต่อพันประชากร แต่เพิ่มขึ้นจากปี พ.ศ.2558 และ พ.ศ.2560-2561 ที่มี
อัตราการเกิด จ้านวน 14.93 12.34 และ 12.35 ตามล้าดับ ส่วนอัตราการตาย พบว่า ปี พ.ศ.2562 มีอัตราการตาย
จ้านวน 3.38 คน ซ่ึงมีจ้านวนเท่ากับปี พ.ศ.2560 แต่เพิ่มข้ึนจากปี พ.ศ.2558-2559 ท่ีมีอัตราการตาย จ้านวน 2.03
และ 2.51 ต่อพันประชากร และลดลงจากปี พ.ศ.2561 ที่มีอัตราการตาย จ้านวน 3.46 ต่อพันประชากร ดังแสดง
รายละเอยี ดในตารางท่ี 3.7.2-10

ตารางท่ี 3.7.2-8 อตั ราการเกดิ -อัตราการตาย จังหวัดพัทลุง ปี พ.ศ.2558 – 2562

ลาดบั ที่ รายการ 2558 ปี พ.ศ. (ราย) 2561 2562
2559 2560 6.71 6.01
3.26 3.73
1 อตั ราการเกิด 9.48 6.34 6.48

2 อัตราการตาย 6.27 5.45 2.63

ท่มี า : สา้ นักงานสาธารณสุขจงั หวดั พทั ลุง, 2562 (ข้อมลู ณ เดอื นพฤศจิกายน พ.ศ.2562)

ตารางท่ี 3.7.2-9 อตั ราการเกดิ -อตั ราการตาย โรงพยาบาลป่าบอน ปี พ.ศ.2558 – 2562

ลาดับที่ รายการ 2558 ปี พ.ศ. 2560 2561
2559 8.55
3.39
1 อตั ราการเกดิ 3.56 10.78 6.95

2 อตั ราการตาย 2.53 4.03 2.36

ที่มา : โรงพยาบาลปา่ บอน, 2562 (ข้อมลู ณ เดอื นพฤศจกิ ายน พ.ศ.2562)

บริษทั เอช ทู โอ คอนซลั ท์ จ้ากดั 3-112 รายงานความกา้ วหน้า
บริษัท เอน็ รชิ คอนซลั แตนท์ จ้ากดั (Progress Report)

โครงการศกึ ษาผลกระทบสิง่ แวดลอ้ มเบื้องตน้ อ่างเก็บน้าเหมอื งตะกั่ว บทที่ 3
อันเนอื่ งมาจากพระราชด้าริ จังหวัดพัทลงุ การศกึ ษาผลกระทบสิง่ แวดลอ้ มเบือ้ งตน้

ตารางท่ี 3.7.2-10 อตั ราการเกดิ -อตั ราการตาย โรงพยาบาลตะโหมด ปี พ.ศ.2558 – 2562

ลาดบั ท่ี รายการ 2558 ปี พ.ศ. (คน) 2561 2562
อตั ราการเกดิ 14.93 2559 2560 12.35 12.32
1 3.38
12.25 12.34

2 อัตราการตาย 2.03 2.51 3.38 3.46

ท่มี า : โรงพยาบาลตะโหมด, 2562 (ขอ้ มูล ณ เดอื นพฤศจิกายน พ.ศ.2562)

3.7.2.2 ปญั หาอปุ สรรคและแนวทางการแก้ไข
การสุขภาพอนามัยและการบริการสาธารสุขบางส่วนต้องการเก็บตัวอย่างวิเคราะห์พาหะน้าโรคของด้าน

สาธารณสุขต้องใช้ต้าแหน่งเดี่ยวกับการเก็บตัวอย่างคุณภาพน้าและนิเวศวิทยาทางน้า จึงมีความจ้าเป็นในการขอ
อนุญาตเพื่อเข้าไปท้าการศึกษาหรือวิจัยทางวิชาการในพื้นที่ป่าอนุรักษ์จากกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
รวมถึงขออนุญาตเข้าท้าประโยชน์ในการศึกษาหรือวิจัยทางวิชาการภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ จากกรมป่าไม้
ซง่ึ ขณะนีอ้ ยรู่ ะหว่างดา้ เนินการขออนญุ าตจึงยังไม่สามารถด้าเนินการสา้ รวจภาคสนามได้

3.7.3 การท่องเที่ยว กฬี า แหลง่ นนั ทนาการ และสนุ ทรยี ภาพ

3.7.3.1 ความก้าวหนา้ ของการศกึ ษา

ด้าเนินการรวบรวมข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวในบริเวณพ้ืนท่ีศึกษาโครงการ ในระยะ 5 กิโลเมตร จากขอบเขต
พ้ืนที่ศึกษาโครงการ มีสถานท่ีท่องเที่ยวหลายแห่งและมีสถานท่ีท่ีเป็นธรรมชาติ ภาพแหล่งท่องเที่ยวแสดงดัง
รปู ที่ 3.7.3-1 และจดุ ที่ต้ังของแหล่งทอ่ งเท่ียวแสดงดังรปู ท่ี 3.7.3-2 รายละเอยี ดดงั ตารางที่ 3.7.3-1

จดุ ชมววิ ควนตาคม

นา้ ตกตะโหมด
รปู ท่ี 3.7.3-1 แหลง่ ท่องเทีย่ วบริเวณพนื้ ท่ศี กึ ษาโครงการ

บริษทั เอช ทู โอ คอนซลั ท์ จา้ กดั 3-113 รายงานความกา้ วหน้า
บริษัท เอน็ รชิ คอนซัลแตนท์ จา้ กดั (Progress Report)

โครงการศกึ ษาผลกระทบสง่ิ แวดลอ้ มเบื้องตน้ อ่างเกบ็ นา้ เหมอื งตะก่ัว บทที่ 3
อนั เนอ่ื งมาจากพระราชด้าริ จังหวดั พทั ลุง การศกึ ษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบือ้ งตน้

นา้ ตกลาดเตย
น้าตกโตนสะตอ

ภบู รรทัด
รปู ท่ี 3.7.3-1 แหลง่ ท่องเทย่ี วบริเวณพน้ื ทีศ่ กึ ษาโครงการ (ตอ่ )

บรษิ ทั เอช ทู โอ คอนซลั ท์ จา้ กดั 3-114 รายงานความก้าวหน้า
บริษทั เอน็ ริช คอนซลั แตนท์ จา้ กดั (Progress Report)

โครงการศกึ ษาผลกระทบสงิ่ แวดล้อมเบ้ืองตน้ อา่ งเกบ็ น้าเหมืองตะกว่ั บทท่ี 3
อันเนื่องมาจากพระราชดา้ ริ จังหวดั พัทลุง การศกึ ษาผลกระทบสง่ิ แวดล้อมเบือ้ งตน้

รูปที่ 3.7.3-2 จดุ ทตี่ ้ังแหลง่ ทอ่ งเท่ยี วบริเวณพื้นทศี่ ึกษาโครงการและพืน้ ทใ่ี กล้เคียง

บริษทั เอช ทู โอ คอนซลั ท์ จ้ากดั 3-115 รายงานความกา้ วหน้า
บริษัท เอน็ ริช คอนซัลแตนท์ จา้ กดั (Progress Report)

โครงการศกึ ษาผลกระทบสิง่ แวดลอ้ มเบอื้ งตน้ อา่ งเกบ็ นา้ เหมอื งตะก่วั บทท่ี 3
อนั เนอื่ งมาจากพระราชดา้ ริ จังหวัดพัทลุง การศึกษาผลกระทบสงิ่ แวดลอ้ มเบ้ืองต้น

ตารางที่ 3.7.3-1 รายละเอยี ดสถานที่ท่องเท่ยี วพื้นทศี่ กึ ษาโครงการ

ระยะหา่ งจาก

ชอ่ื ท่ีต้งั พื้นที่ศึกษา สภาพปจั จบุ ัน/ความสาคัญ

โครงการ

1. จุดชมวิวควนตา ม.3 ต.ตะโหมด อ.ตะโหมด ภายใน 5 จุ ด ช ม วิ ว ค ว น ต า ค ม มี ลั ก ษ ณ ะ เป็ น เนิ น ค ว น สู ง ร า ว
คม จ.พทั ลงุ กโิ ลเมตร 50 เมตร และมีพื้นที่ตรงกลางโล่ง ไว้ส้าหรับเป็นแหล่งท่องเท่ียว
ส้าหรับชมวิวพระอาทิตย์ข้ึนและตกดินพื้นที่ยืนชมวิวทิวทัศน์ได้
โดยรอบ ท้ังทิศเหนือ ทิศตะวันออก ทิศตะวันตก ทิศใต้ ซึ่งแต่ละ
ทิศล้วนแล้วแต่มีธรรมชาติที่น่าสนใจแตกต่างกัน จึงน่าจะถูกใจ
ส้าหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ พร้อมช่ืนชม
บรรยากาศของทอ้ งทุ่งนาและผนื ป่า

2. น้าตกตะโหมด ในบรเิ วณหนว่ ยพิทกั ษ์สัตว์ ภายใน 5 เดิมช่ือน้าตกลานหม่อมจุ้ยหรือน้าตกหม่อมจุ้ย อยู่ในบริเวณหน่วย
ปา่ ตะโหมด หมู่ 11 ต.ตะ กิโลเมตร พิทักษ์สัตว์ป่าตะโหมด อ.ตะโหมด จ.พัทลุง น้าตกตะโหมด มีชั้นน้าตก
โหมด เตี้ยๆ แต่มีหลายช้ันลดหล่ันลงไปตามธารน้าตกท่ีเต็มไปด้วยโขดหิน
อ.ตะโหมด จ.พัทลงุ บางช้ันก็มแี อ่งน้าตืน้ ๆให้เล่นน้าได้ น้าตกตะโหมดยังมีลานกว้างเหมาะ
แก่การพักผ่อนหย่อนใจ มีอาณาบริเวณที่ร่มร่ืนด้วยไม้นานาพรรณไว้
ให้นักท่องเท่ียวได้ศึกษาพืชพรรณไม้ต่างๆและยังมีสถานท่ีรองรับใน
เร่อื งของการจัดอบรมสัมมนา การเขา้ ค่ายพักแรม

3. น้าตกลาดเตย เขตรกั ษาพันธสุ์ ัตว์ป่าเทอื ก ภายใน 5 น้าตกลาดเตย อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด อยู่
ขาบรรทัดทอ้ งท่ี หมู่ท่ี 4 กิโลเมตร ท่ามกลางผืนป่าเขียวขจีร่มร่ืน มีน้าใสไหลเย็นตลอดทั้งปี สามารถแช่
บ้านโหละ๊ บ้า ต.คลองใหญ่ น้าสองฝ่ังน้าตกและตามแก่งหินต่างๆ ท่ีมีกระแสน้าไหลไม่แรง แล้ว
อ.ตะโหมด จ.พัทลงุ ยังมีพรรณไม้ของป่าดิบช้ืนในภาคใต้ ท่ีแปลกตาพร้อมส่องกล้องดูนก
ป่าประจ้าถนิ่ ท่ีสวยงามอกี หลายชนิด

4. นา้ ตกโตนสะตอ หมทู่ ี่ 1 ต.หนองธง อ.ป่า ภายใน 5 น้าตกโตนสะตอถือเป็นน้าตกท่ีสวยงาม มีน้าใสไหลเย็นตลอดทั้งปี
บอน จ.พัทลุง กโิ ลเมตร เนอ่ื งจากมีพ้ืนท่ีป่าท่ีสมบูรณ์เหมาะสา้ หรับการพกั ผอ่ นแบบค้างคืน
ตง้ั แคมป์ห่าง จากตวั หม่บู า้ นราว 1.5 กิโลเมตร ด้วยผืนป่าที่มีความ
หลากหลาย ตลอดเส้นทาง น้าตกจะมีต้นไคร้ย้อยหรือกระดึ่ง
นางฟ้า ข้ึนปกคลุม มีทั้งต้นขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ท่ีก้าลังออก
ดอกสีชมพู และตัวนา้ ตกมีแอง่ น้าแบ่งเปน็ ชั้นๆ รวม 5 ช้ัน

5. ภูบรรทดั เทือกเขาบรรทัด ต.หนองธง ภายใน 5 ภูบรรทัดหรือเทือกเขาบรรทัดเป็นป่าท่ีอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งต้น
อ.ป่าบอน จ.พัทลงุ กโิ ลเมตร น้าหล่อเล้ียงชีวิตประชาชนในหลายอ้าเภอของจงั หวัดพัทลุง อีกทั้ง
ยังเป็นที่อยู่อาศัยชาวปาซาไกหรือชาวมนั นิ เป็นแหล่งท่องเท่ียงเชิง
อนุรักษ์เขาสามภู กับชมรมท่องเท่ียวเชิงอนุรักษ์ภูบรรทัดหนองธง
ร่วมกบั หน่วยพิทักษ์ป่าทุ่งนารี ตามรอยสมเสร็จในป่าดิบท่ีความสูง
จากระดับน้าทะเลกวา่ 1,100 เมตร เขตรอยตอ่ ตรงั สตลู พทั ลุง

บริษทั เอช ทู โอ คอนซลั ท์ จ้ากัด 3-116 รายงานความกา้ วหน้า
บริษัท เอ็นริช คอนซลั แตนท์ จ้ากดั (Progress Report)

โครงการศกึ ษาผลกระทบส่งิ แวดล้อมเบ้ืองตน้ อา่ งเกบ็ นา้ เหมอื งตะกัว่ บทที่ 3
อันเนอื่ งมาจากพระราชดา้ ริ จังหวัดพัทลุง การศึกษาผลกระทบส่ิงแวดล้อมเบื้องต้น

3.7.3.2 ปญั หาอปุ สรรคและแนวทางการแก้ไข

ไม่พบปญั หาและอปุ สรรคแตอ่ ย่างใด

3.7.3.3 แผนการดาเนนิ งานในขั้นถัดไป

จะด้าเนินการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเพิ่มเติมและการศึกษาส้ารวจสภาพพ้ืนที่และแหล่งท่องเท่ียวที่
สา้ คญั ในพ้ืนทโี่ ครงการ

3.7.4 โบราณคดีและประวัติศาสตร์ (ผเู้ ชยี่ วชาญด้านโบราณคดีและประวัตศิ าสตร์ : นางพชั รี คณุ ะสาร)

3.7.4.1 ความกา้ วหน้าของการศกึ ษา

3.7.4.2 ผลการรวบรวมข้อมูลทุตยิ ภูมิ
จังหวัดพัทลุงมีหลักฐานการอยู่อาศัยของมนุษย์มาต้ังแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ หลักฐานส้าคัญ ได้แก่

เคร่ืองมือหินท่ีพบกระจายท่ัวไปในพื้นที่หลายอ้าเภอ เช่น ขวานหินรูปจงอยู่ปากนก พบบริเวณทุ่งนาใกล้เขาชัยสน
อ้าเภอเขาชยั สน ปจั จบุ ันเก็บรักษาในพิพิธภัณฑ์วัดเขียนบางแก้ว อา้ เภอเขาชัยสน

เม่ือล่วงเข้าสู่สมยั ประวัติศาสตร์ พ้ืนท่ีจังหวัดพัทลงุ ปรากฏชุมชนท่ีนับถือพระพุทธศาสนาแบบมหายาน โดย
รบั วัฒนธรรมอินเดยี ทีผ่ า่ นเขา้ มาทางคาบสมุทรภาคใต้ หลักฐานสา้ คัญ ไดแ้ ก่ พระพิมพด์ ินดบิ รูปพระโพธิสัตว์ที่พบจาก
แหล่งโบราณคดีถ้าเขาอกทะลุ อ้าเภอคูหาสวรรค์ เป็นพระพิมพ์ในศิลปะแบบศรีวิชัย อายุราวพุทธศตวรรษท่ี 12
(https://www.m-culture.go.th/th/article_view.php?nid=11019)

ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ปรากฏชื่อเมืองพัทลุงในเอกสารประวัติศาสตร์ ได้แก่ กฎหมายพระอัยการนาทหารหัว
เมือง พ.ศ.1997 ซึ่งตรงกับรัชสมัยของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ (ครองราชย์ระหว่าง พ.ศ.1991 – 2031) ท่ีระบุว่า
เมอื งพัทลงุ มฐี านะเป็นหวั เมอื งชนั้ ตรขี องกรุงศรอี ยธุ ยา (http://www.phatthalung.go.th/history)

ในสมัยกรุงธนบุรี และรตั นโกสินทร์ เมืองพัทลุงยังคงเป็นหัวเมืองส้าคัญเมืองหนึ่งทางปักษ์ใต้ และได้รับการ
ยกฐานะข้ึนเป็นหัวเมืองชั้นโทในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 แห่งกรุง
รัตนโกสินทร์ (ครองราชย์ระหวา่ ง พ.ศ.2325 – 2352)

ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ (ครองราชย์
ระหว่าง พ.ศ.2412 – 2453) โปรดให้มีการปฏิรูปการปกครองเป็นแบบมณฑลเทศาภิบาลในปี พ.ศ.2437 ส้าหรับหัว
เมืองปักษ์ใต้ โปรดให้ตั้งมณฑลนครศรีธรรมราชในปี พ.ศ.2439 ประกอบด้วยหัวเมืองปักษ์ใต้ โดยมีเมืองพัทลุง
เป็นหน่ึงในหัวเมืองท่ีขึ้นกับมณฑลนครศรีธรรมราช ต่อมาในปี พ.ศ.2476 มีการยกเลิกการปกครองแบบมณฑล
เปลีย่ นเป็นจังหวดั และอา้ เภอ เมืองพทั ลุงจึงมีฐานะเปน็ จงั หวดั พัทลงุ มาจนถงึ ปจั จบุ นั (http://www.phatthalung.go.th/history)

โครงการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบ้ืองต้น อ่างเก็บน้าเหมืองตะก่ัวอันเน่ืองมาจากพระราชด้าริ จังหวัด
พัทลงุ อย่ใู นเขตท้องท่ีบา้ นเหมืองตะก่ัว ต้าบลหนองธง อา้ เภอปา่ บอน

บรษิ ัท เอช ทู โอ คอนซลั ท์ จ้ากัด 3-117 รายงานความกา้ วหน้า
บริษัท เอ็นริช คอนซัลแตนท์ จ้ากัด (Progress Report)

โครงการศกึ ษาผลกระทบสิง่ แวดลอ้ มเบ้อื งตน้ อา่ งเก็บน้าเหมอื งตะกวั่ บทที่ 3
อนั เนอื่ งมาจากพระราชดา้ ริ จังหวดั พัทลงุ การศึกษาผลกระทบสง่ิ แวดล้อมเบื้องต้น

อ้าเภอป่าบอน ต้ังข้ึนเม่ือวันท่ี ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๒๓ เมื่อแรกต้ัง มฐี านะเป็นก่ิงอ้าเภอป่าบอน โดยแยกการ
ปกครองจากอ้าเภอปากพะยูน เดิมมี ๓ ต้าบล คือ ต้าบลปาบอน ต้าบลโคกทราย และต้าบลหนองธง ต่อมา
ยกฐานะเป็นอ้าเภอปาบอน เมื่อวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๓๓ แบงพ้ืนที่เปน ๕ ต้าบล ไดแก ต้าบลทุงนารี ต้าบลหนองธง
ตา้ บลวังใหม่ ตา้ บลปาบอน และตา้ บลโคกทราย (http://www.oic.go.th/INFOCENTER34/3414/)

จากการศึกษาเอกสารต่างๆ ตลอดจนระบบภูมิสารสนเทศของกรมศิลปากร ไม่พบแหล่งโบราณคดี และ
สถานที่ส้าคัญทางประวัติศาสตร์ในเขตพื้นที่ศึกษาตามโครงการฯ และได้ด้าเนินการส่งตรวจสอบโบราณคดีและ
ประวตั ิศาสตรก์ บั ทางศิลปากรสา้ นกั ศิลปากรท่ี 11 จังหวัดสงขลา (อย่รู ะหว่างตรวจสอบขอ้ มูลจากทางกรมศิลปากรท่ี 11)

3.7.4.3 ปัญหาอปุ สรรคและแนวทางการแก้ไข

เน่ืองจากพื้นที่หัวงานและอ่างเก็บน้า มีพ้ืนท่ีอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด ซึ่งซ้อนทับอยู่ในเขตป่า
สงวนแห่งชาติป่าเทือกเขาบรรทัด ป่าเขาจันทร์ ดังนั้นจึงมีความจ้าเป็นในการขออนุญาตเพื่อเข้าไปท้าการศึกษาหรือ
วจิ ัยทางวชิ าการในพ้ืนท่ีป่าอนรุ ักษ์จากกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์ุพืช รวมถึงขออนุญาตเข้าทา้ ประโยชน์ใน
การศึกษาหรือวิจัยทางวิชาการภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ จากกรมป่าไม้ ซึ่งขณะน้ีอยู่ระหว่างด้าเนนิ การขออนุญาต
จงึ ยงั ไม่สามารถดา้ เนินการสา้ รวจภาคสนามได้

3.7.4.4 แผนการดาเนินงานในข้นั ถดั ไป

เมื่อได้อนุญาตจากหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องในการขอเข้าศึกษาวิจัยในพื้นทป่ี ่าอนุรกั ษ์จะด้าเนินการเก็บตัวอย่าง
ข้อมลู ภาคสนามให้ครอบคลมุ พื้นท่โี ครงการฯ ประกอบด้วย

1. ออกส้ารวจภาคสนามในพื้นท่ีโครงการ เพราะอาจพบหลักฐานทางโบราณคดีท่ียังไม่เคยพบ หรือมีการ
บันทึกมาก่อน

2. ประมวลข้อมูลท่ีได้จากการส้ารวจภาคสนาม เพื่อประเมินผลกระทบต่อหลักฐานทางโบราณคดีท่ีอาจพบ
จากการพัฒนาโครงการ และเสนอมาตรการลดผลกระทบต่อไป

บรษิ ทั เอช ทู โอ คอนซลั ท์ จา้ กดั 3-118 รายงานความกา้ วหน้า
บริษทั เอ็นรชิ คอนซัลแตนท์ จา้ กัด (Progress Report)

โครงการศกึ ษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบ้ืองตน้ อา่ งเกบ็ นา้ เหมืองตะกว่ั บทที่ 3
อันเน่อื งมาจากพระราชดา้ ริ จังหวดั พัทลุง การศกึ ษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบอื้ งตน้

3.7.5 การชดเชยทรัพยส์ ิน (ผเู้ ช่ียวชาญดา้ นการชดเชยทรัพยส์ ิน : นายสมพร จลุ สุทธิ)

3.7.5.1 ความกา้ วหน้าของการศกึ ษา
(1) การรวบรวมและทบทวนข้อมลู การศกึ ษา
ที่ปรึกษาได้ด้าเนินการรวบรวมข้อมูลทุติยภูมิ และปฐมภูมิด้านการทดแทน หรือค่าขนย้ายที่ดิน และ

ทรพั ย์สินเพ่ือนา้ ขอ้ มูลมาประกอบในการศึกษาดังน้ี
1) รายงานการศึกษาวางโครงการ (Pre-Feasibility Study) โครงการอ่างเก็บน้าเหมืองตะก่ัว

(อันเน่ืองมาจากพระราชด้าริ) อ้าเภอป่าบอน จังหวัดพัทลุง กลุ่มงานวางโครงการ 3 ส่วนวางโครงการ ส้านักบริหาร
โครงการ มิถุนายน พ.ศ.2552

2) บัญชีมาตรฐานราคาค่าทดแทนสิ่งปลูกสร้าง ประจ้าปี 2556 (ท่ีปรับปรุง) บัญชี 1 และ บัญชี 2
ฝา่ ยบริหารทั่วไป สา้ นักกฎหมายและที่ดิน กรมชลประทาน

3) บญั ชีมาตรฐานก้าหนดค่าร้ือย้ายอาคารบ้านเรือนราษฎรท่ถี ูกเขตชลประทาน ฝ่ายสถาปัตยกรรม
กองออกแบบ กรมชลประทาน ปี 2535 (ปัจจุบันยงั ใช้อยู)่

4) บัญชีรายละเอียดค่าทดแทนต้นไม้และไม้ผลท่ีถูกเขตชลประทาน ปี พ.ศ.2560 จากส้านักกฎหมาย
และทดี่ ิน ส่วนกรรมสิทธท์ิ ่ดี นิ กรมชลประทาน

5) ระเบียบ ขอ้ กา้ หนด กฎเกณฑ์ มติคณะรัฐมนตรี และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเวนคืน ประกอบดว้ ย
1. รัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550
2. พระราชบญั ญัติวา่ ดว้ ยการการเวนคนื อสงั หาริมทรพั ย์ พ.ศ.2562
3. มติคณะรัฐมนตรี เม่ือวันท่ี 22 สิงหาคม 2560 โดยให้ทุกส่วนราชการ และหน่วยงานของรัฐ

ถือเป็นหลักปฏิบัติอยา่ งเครง่ ครดั ว่าในกรณีที่มีความจา้ เปน็ ตอ้ งเวนคืนท่ีดินเพื่อใช้ด้าเนินโครงการต่างๆ ของภาครฐั ให้
พิจารณาก้าหนดราคาการเวนคืนที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (ถ้ามี) ให้ถูกต้อง ตามกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ และมติ
คณะรัฐมนตรีท่ีเกี่ยวข้อง รวมทั้งให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงและราคาตลาดของแต่ละพ้ืนที่ เพ่ือให้เกิดความ
เปน็ ธรรมแกผ่ ถู้ กู เวนคนื อยา่ งแท้จรงิ

4. มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันท่ี 11 กรกฎาคม 2532 (กรณีท่ีดินไม่มีเอกสารสิทธิ์) ในการจัดหา
ทดี่ นิ ของกรมชลประทาน นอกจากจะเข้าก่อสร้างตามโครงการในที่ดินทม่ี ีเอกสารสิทธ์อิ ย่างนอ้ ยเปน็ หนังสือรบั รองการ
ท้าประโยชน์ (นส. ๓) แล้ว ยังจะต้องเขา้ ดา้ เนินการในที่ดินประเภทพื้นที่ปา่ สงวนแห่งชาติ ท่ีดินอุทยานแห่งชาติ และ
ที่ดินสาธารณประโยชน์อย่างอื่น ซ่ึงกรมชลประทานได้ด้าเนินการขออนุญาตใช้ที่ดินดังกล่าวแล้ว แต่เม่ือเข้าส้ารวจ
ด้าเนินการปรากฏข้อเท็จจริงว่าในพ้ืนท่ีท่ีจะเข้าท้าการก่อสร้างมีราษฎรเข้าไปยึดถือครอบครอง อาศัยต้ังบ้านเรือน
และท้ากินในพ้ืนท่ีโดยไมม่ ีเอกสารสทิ ธิ์มาเป็นเวลานานแล้ว ในกรณีนี้อาจเป็นไปได้ว่าราษฎรเหลา่ นั้นมิได้ยื่นเร่ืองราว
ขอออกเอกสารสิทธ์ิในที่ดิน หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ไม่อาจด้าเนินการให้ได้เพราะขัดต่อระเบียบและกฎหมาย
กรมชลประทาน และส่วนราชการที่มีหน้าท่ีเกี่ยวข้องกับท่ีดินไม่สามารถจะให้ราษฎรเหล่าน้ันโยกย้ายออกจากพื้นที่
เขตปฏิบัติการได้หากไม่ได้รับการแก้ไขจะท้าให้กรมชลประทานต้องหยุดชะงักการก่อสร้างโครงการตามแผนงานที่
ก้าหนดไว้

ดังนั้นเพื่อแก้ไขปัญหาและอุปสรรคดังกล่าวข้างต้นให้ด้าเนินการไปได้ด้วยความเรียบร้อย
อันจะท้าให้การก่อสร้างโครงการชลประทานแล้วเสร็จตามแผนงบประมาณท่ีได้รับ อีกทั้งให้เกิดความเป็นธรรมและ

บรษิ ัท เอช ทู โอ คอนซลั ท์ จา้ กดั 3-119 รายงานความกา้ วหน้า
บริษทั เอน็ ริช คอนซัลแตนท์ จา้ กัด (Progress Report)

โครงการศกึ ษาผลกระทบส่งิ แวดล้อมเบื้องตน้ อา่ งเก็บน้าเหมอื งตะกวั่ บทท่ี 3
อันเน่อื งมาจากพระราชดา้ ริ จังหวัดพทั ลุง การศกึ ษาผลกระทบสิ่งแวดลอ้ มเบอื้ งตน้

บรรเทาเยียวยาความเดือดร้อนของราษฎรเจ้าของทรัพย์สิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงได้น้าเรื่องเสนอ
คณะรัฐมนตรี เพ่ือพิจารณาแก้ไขปัญหาโดยการอนุมัติในหลักการเก่ียวกับการจ่ายเงินค่าทดแทนทรัพย์สินต่างๆ
เป็นกรณพี ิเศษ ดงั ตอ่ ไปน้ี

ก. บ้านเรือน สิ่งปลูกสร้าง และต้นไม้ยืนต้น ซ่ึงปลูกสร้างในที่ดินป่าสงวนแห่งชาติอุทยาน
แหง่ ชาติ ที่ดินสาธารณประโยชน์ และหรือท่ีดนิ ที่ไม่มีเอกสารสทิ ธิ์อ่ืนๆ ซึ่งราษฎรได้เข้าครอบครองทา้ ประโยชน์ก่อนที่
กรมชลประทานจะเขา้ ทา้ การกอ่ สรา้ งโครงการ

ข. พืชล้มลุกท่ียังไม่เกี่ยวผล ซ่ึงปลูกอยู่ในท่ีดินที่มีหรือไม่มีเอกสารสิทธ์ิ จะจ่ายค่าทดแทน
เฉพาะที่เสียหายเน่ืองจากก่อสรา้ งชลประทาน โดยไม่สามารถจะเก็บเกยี่ วผลได้ทนั

ค. ท่ีดินที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ท้ังที่อยู่ในเขตหรือนอกเขตสงวนหวงห้ามของทางราชการ
แต่อยู่ในเขตท้าการก่อสร้างการชลประทาน โดยได้ครอบครองและท้าประโยชน์มาก่อนที่กรมชลประทานจะเข้า
ดา้ เนนิ การกอ่ สร้าง

ง. ที่ดินท่ีมีหลักฐาน น.ค. 3 หรือสมาชิกในเขตสหกรณ์ และนิคมสร้างตนเองที่มีสิทธิ์ที่จะ
ได้รับหลักฐาน น.ค. 3 ตามหลักเกณฑ์ในพระราชบัญญตั ิจดั ที่ดนิ เพ่ือการครองชีพ และหนงั สือรบั รองการท้าประโยชน์
แต่หา้ มโอนตามมาตรา12 แห่งพระราชบญั ญัติจดั ทด่ี ินเพ่ือการครองชีพ ซ่ึงทางอ้าเภอไม่สามารถท่ีจะจดทะเบียนสิทธิ
และนิตกิ รรมได้ในขณะน้นั ให้มีสิทธิ์ได้รับเงนิ ค่าชดเชยทีด่ นิ เปน็ กรณพี ิเศษ

5. ประกาศคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ฉบับที่ 44 พ.ศ.2534 เรื่องการแก้ไขเพ่ิมเติม
กฎหมายว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์เนื่องจากคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติพิจารณาเห็นว่าปัจจุบัน
สภาพทางเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไปจนท้าให้ราคาที่ดินและทรัพย์สินเพิ่มสูงข้ึน แต่การก้าหนดราคาเบื้องต้นในการ
เวนคืนอสังหาริมทรัพย์ของพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ.2530 โดยถือเกณฑ์ตามราคา
อสังหาริมทรัพย์ท่ีมีการตีราคาไว้เพื่อประโยชน์แก่การเสียภาษีบ้ารุงท้องที่หรือราคาประเมินทุนทรัพย์เพื่อเรียกเก็บ
ค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมซึ่งข้ึนอยู่กับราคาใดสูงกว่าที่ยึดเป็นเกณฑ์ประเมินราคาค่าทดแทน
อสังหาริมทรัพย์ท่ีจะต้องเวนคืนร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างย่ิงราคาที่มีการซ้ือขายกันตามปกติในท้องตลาด ทั้งนี้เพ่ือให้
เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้ถูกเวนคืนและสังคมต่อไป สาระส้าคัญเก่ียวกับหลักเกณฑ์ที่ใช้ก้าหนดราคาเบื้องต้นของ
อสงั หาริมทรัพย์และจ้านวนเงินคา่ ทดแทนสรุปไดด้ ังนี้

ก. การออกพระราชกฤษฎีกาการก้าหนดเขตที่ดินในบริเวณที่จะเวนคืน หรือมาตรา 6 ใน
พระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคนื อสังหาริมทรัพย์น้ัน ต้องระบุความประสงค์ของการเวนคืน เจ้าหน้าที่เวนคืนก้าหนด
เขตทดี่ นิ ในบรเิ วณท่ีจะเวนคืนเทา่ ที่จ้าเป็น นอกจากน้ียังตอ้ งมีแผนท่ีหรือแผนผังประเมนิ เขตทด่ี นิ ในบรเิ วณท่ีจะเวนคืน
และแสดงเขตที่ดินที่อยู่ในบริเวณที่ประเมินติดไว้ท้ายพระราชกฤษฎีกานั้น แผนที่หรือแผนผังดังกล่าวให้ถือเป็นส่วน
หนึ่งแห่งพระราชกฤษฎีกาซ่ึงพระราชกฤษฎีกานี้ใหใ้ ชบ้ ังคับได้มีกา้ หนด 2 ปี หรอื ตามก้าหนดเวลาทร่ี ะบุไว้ในพระราช
กฤษฎกี าแต่ต้องไม่เกนิ 4 ปี แล้วแตจ่ ะเหน็ ว่าเป็นเพอื่ ทา้ การสา้ รวจทดี่ ินที่จะตอ้ งเวนคนื นน้ั

ข. ผู้มีสิทธ์ไิ ด้รับเงนิ ทดแทน ได้แก่
- เจ้าของหรอื ผู้ครอบครองโดยชอบดว้ ยกฎหมายซึง่ ท่ีดินตอ้ งเวนคืน
- เจ้าของโรงเรือนส่ิงปลูกสร้างอย่างอ่ืนท่ีรื้อถอนไม่ได้ ซึ่งมีอยู่ในท่ี ดินที่ ต้อง

เวนคืนน้ันในวันใชบ้ งั คบั พระราชกฤษฎกี าที่ออกตามมาตรา 6 หรือได้ปลูกสร้างขึ้นภายหลงั โดยไดร้ บั อนุญาตจากเจา้ หนา้ ที่

บรษิ ัท เอช ทู โอ คอนซลั ท์ จา้ กดั 3-120 รายงานความกา้ วหน้า
บริษัท เอ็นรชิ คอนซลั แตนท์ จา้ กัด (Progress Report)

โครงการศกึ ษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องตน้ อ่างเกบ็ นา้ เหมอื งตะก่วั บทท่ี 3
อนั เนื่องมาจากพระราชด้าริ จังหวัดพัทลุง การศึกษาผลกระทบสิง่ แวดล้อมเบ้อื งต้น

- ผู้เช่าที่ดิน โรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่นในท่ีดินท่ีต้องเวนคืนการเช่าน้ันต้องมี
หลักฐานเป็นหนังสือซึ่งได้ท้าไว้ก่อนวันใช้บังคับพระราชกฤษฎีกาท่ีออกตามมาตรา 6 หรือได้ท้าขึ้นภายหลังโดยได้รับ
อนุญาตจากเจ้าหน้าท่ีและการเช่านั้นยงั มิได้ถกู ระงับไปในวันท่ีเจ้าหน้าท่ีหรือผ้ซู ่ึงได้รบั มอบหมายจากเจ้าหน้าที่ได้เข้า
ส้ารวจการครอบครองที่ดิน โรงเรือน หรือสิ่งปลูกสรา้ งดังกล่าว แต่เงินค่าทดแทนในการเช่านี้พึงก้าหนดให้เฉพาะท่ีผู้
เช่าไดเ้ สยี หายจริง โดยเหตุที่ต้องออกจากที่ดิน โรงเรอื นหรือสิง่ ปลูกสร้างดงั กลา่ วกอ่ นสัญญาเชา่ ระงับ

- เจ้าของไมย้ ืนตน้ ท่ีขึน้ อยใู่ นทด่ี นิ ในวันทีใ่ ช้บงั คบั พระราชกฤษฎีกาที่ออกตามมาตรา 6
- เจ้าของโรงเรือนหรือส่ิงปลูกสร้างอย่างอ่นื ท่ีร้ือถอนได้ซง่ึ มีอยู่ในที่ดินที่ตอ้ งเวนคืนน้ัน
ในวันใช้บังคับพระราชกฤษฎกี าที่ออกตามมาตรา 6 แตต่ ้องไม่เป็นผู้ซง่ึ จ้าต้องร้ือถอนโรงเรอื นหรือส่ิงปลูกสร้างดงั กลา่ ว
ไปเมอ่ื ได้รบั แจง้ จากเจ้าของที่ดิน เงินค่าทดแทนตามนี้พึงก้าหนดให้เฉพาะคา่ รือ้ ถอน ค่าขนย้าย และค่าปลูกสร้างใหม่
เท่านน้ั
- บุคคลผู้เสียสิทธิในการใช้ทางวางท่อน้า ท่อระบาย สายไฟฟ้า หรือสิ่งอื่นซ่ึงคล้ายกัน
ผ่านท่ีดินต้องเวนคืนนั้นตามมาตรา 1349 หรือมาตรา 1352 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ในกรณีท่ีบุคคล
เช่นว่านน้ั ไดจ้ า่ ยค่าทดแทนในการใชส้ ทิ ธดิ ังกลา่ วใหแ้ ก่เจา้ หน้าท่ีของทดี่ ินทีต่ ้องเวนคนื แล้ว
- เงินค่าทดแทนท่ีจะให้แก่ผู้มีสิทธิ์ได้รับเงินค่าทดแทนดังกล่าวเพื่อความเป็นธรรมแก่
ผ้ถู ูกเวนคืนและสังคมใหก้ า้ หนดโดยค้านึงถงึ

* ราคาที่ซื้อขายกันตามปกติในท้องตลาดของอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนตามท่ี
เปน็ อยใู่ นวนั ใชบ้ ังคับพระราชกฤษฎกี าที่ออกตามมาตรา 6

* ราคาของอสังหาริมทรัพย์ท่ีมีการตีราคาไว้เพื่อประโยชน์แก่การเสียภาษีบ้ารุง
ท้องที่

* ราคาประเมินทุนทรัพย์เพื่อเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนสิทธิและ
นติ ิกรรม

* สภาพและที่ต้ังของอสังหาริมทรัพย์น้ัน ตลอดจนเหตุและวัตถุประสงค์ของการ
เวนคืน

6. มติคณะรัฐมนตรี เม่ือวันท่ี 22 เมษายน 2539 สมัยรัฐบาลของ ฯลฯ บรรหาร ศิลปะอาชา ได้มี
มติให้แก้ปัญหาผู้เดือดร้อนจากการสร้างเข่ือน โดยมีมติให้จ่ายค่าชดเชยให้กับผู้ครอบครองที่ดินทุกประเภท ทั้งท่ีมี
เอกสารสิทธิ์และไมม่ เี อกสารสทิ ธิ์ และทุกกรณีเขอื่ น โดยยึดหลกั เกณฑ์ตามมติคณะรัฐมนตรี เม่อื วนั ที่ 11 กรกฎาคม 2532

6) แผนท่ีและบัญชีรายช่ือเจ้าของท่ีดินท่ีได้น้าท้าการรังวัดแบ่งแยกที่ดินเพื่อการชลประทาน
โครงการอา่ งเก็บนา้ เหมอื งตะก่วั (อันเนอ่ื งมาจากพระราชด้าริ) ร.ว. ๔๓ ก. 27 กมุ ภาพันธ์ 2558

7) แผนท่ีภูมิประเทศ มาตราส่วน 1 : 50,000 กรมแผนทท่ี หาร ชุด L 7018
8) แผนท่ีภาพถา่ ยดาวเทียม (Google Earth) ปี 2562 (ปลี ่าสดุ )

3.7.5.2 ปัญหาอปุ สรรคและแนวทางการแก้ไข
การศกึ ษาดา้ นการขนยา้ ยที่ดนิ ทดแทน และร้ือย้ายทรัพย์สินในช่วงทีผ่ ่านมาไม่มปี ญั หาและอปุ สรรคแต่อยา่ งใด

บรษิ ทั เอช ทู โอ คอนซลั ท์ จ้ากดั 3-121 รายงานความกา้ วหน้า
บริษทั เอ็นริช คอนซลั แตนท์ จา้ กัด (Progress Report)

โครงการศกึ ษาผลกระทบสงิ่ แวดลอ้ มเบือ้ งตน้ อ่างเก็บน้าเหมอื งตะกว่ั บทที่ 3
อันเนือ่ งมาจากพระราชด้าริ จังหวดั พทั ลุง การศกึ ษาผลกระทบสง่ิ แวดล้อมเบอ้ื งตน้

3.7.5.3 แผนการดาเนินงานในข้ันถัดไป
วางแผนและด้าเนินการสา้ รวจภาคสนามในช่วงเดือน กุมภาพันธ์ 2563 เพ่ือนา้ ข้อมลู ต่างๆ มาวิเคราะห์

และประเมินคา่ ทดแทนทรัพยส์ ินของโครงการ โดยมขี ั้นตอนการดา้ เนนิ การ ประกอบดว้ ย
(1) ก้าหนดขอบเขตพ้ืนที่ และวางแผนการด้าเนนิ งานด้านการทดแทน และร้ือย้ายทรัพยส์ ินในพ้นื ที่

สนามจรงิ ดว้ ยการเปรยี บเทยี บขอบเขตพน้ื ทศี่ ึกษาในแผนท่ีกบั อาณาเขตพน้ื ท่จี รงิ
(2) เก็บรวบรวมข้อมลู ต่างๆ เพิ่มเตมิ จากหน่วยงานของรัฐในบริเวณพ้ืนที่ศึกษา จากการสา้ รวจพ้ืนท่ี

เพือ่ เป็นขอ้ มูลทใ่ี ช้ในการตรวจสอบ อา้ งอิง และน้ามาวิเคราะห์
(3) ส้ารวจพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบ โดยด้าเนินการประสานงานส้ารวจร่วมกับผู้น้าชุมชน เช่น

องค์การบริหารส่วนต้าบล (อบต.) ก้านัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือราษฎรท่ีได้รับผลกระทบจากการพัฒนาโครงการเพื่อเข้า
ส้ารวจพ้ืนที่ สิ่งปลูกสร้างต่างๆ พืชผลและไม้ยืนต้น พร้อมทั้งสัมภาษณ์ผู้ท่ีได้รับผลกระทบด้วยแบบสอบถามความ
คิดเห็นด้านการทดแทนที่ดินและทรัพย์สิน ซึง่ ในช่วงระหว่างวันท่ี 9 - 10 ตุลาคม 2562 ได้ส้ารวจสภาพพ้ืนที่เบ้ืองต้น
บรเิ วณพน้ื ท่ีหวั งาน พ้นื ท่ีอ่างเก็บน้า และพื้นท่ีถนนเข้าหัวงาน ลกั ษณะสภาพพ้ืนท่ีดังรูปท่ี 3.7.5-1

1) การทดแทน หรือคา่ ขนย้ายท่ีดิน
1. ทา้ การส้ารวจที่ดิน การถือครองกรรมสิทธ์ิที่ดิน ในพื้นท่ีองค์ประกอบโครงการต่างๆ ของ

โครงการ เช่น พื้นที่หัวงาน พื้นที่อ่างเกบ็ น้า และพื้นที่ถนนเข้าหัวงาน ซึ่งไดร้ วบรวมข้อมูลจากส้านักชลประทานที่ 16
กรมชลประทาน โดยมีรายละเอียดของข้อมูล เช่น จ้านวนพ้ืนท่ีท้ากินที่ได้รับผลกระทบ จ้านวนแปลงพ้ืนที่ท้ากินท่ี
ได้รับผลกระทบ จ้านวนราย (ครัวเรือน) ที่ไดร้ ับผลกระทบ รายละเอยี ดตา่ งๆ ดงั ตารางท่ี 3.7.5–1 และรปู แผนท่ีแปลง
ที่ดินท้ากนิ ดงั รปู ที่ 3.7.5–2

2. ส้ารวจรายละเอียดการใช้ประโยชน์ที่ดินเพ่ือการทดแทน หรือร้ือย้ายทรัพย์สิน และ
ขอบเขตพ้ืนทใี่ นการทดแทน หรอื ร้ือยา้ ยทรพั ย์สนิ

3. ส้ารวจรายละเอียดเก่ียวกับค่าพัฒนาที่ดิน ราคาซื้อขายท่ีดินตามราคาท้องตลาดท่ัวไป
และราคาท่ีดินท่ีเจ้าของท่ีดินต้องการ หรือราคาค่าทดแทน หรือค่าขนย้ายท่ีดินที่ราษฎรต้องการ (ทัศนคติของราษฎร
จากการท้าแบบสอบถามผู้ทไ่ี ดร้ ับผลกระทบ 100 เปอร์เซน็ ต์) เพ่ือน้ามาประเมินค่าทดแทน หรือคา่ ขนย้ายที่ดิน และ
ทรัพย์สินที่เหมาะสมเพื่อจ่ายค่าทดแทน หรือค่าขนย้ายที่ดินให้กับผู้ท่ีได้รับผลกระทบด้วยความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
ระหวา่ งหนว่ ยงานของรัฐ และราษฎรเจ้าของพืน้ ทท่ี ี่จะตอ้ งโยกย้ายออกจากท่ดี นิ ทา้ กิน

2) การทดแทน หรอื รือ้ ยา้ ยสิง่ ปลูกสร้าง
1. ส้ารวจประเภทสิ่งปลูกสร้างของราษฎรท้ังหมด 100 เปอร์เซ็นต์ ในบริเวณพื้นท่ีหัวงาน

พ้ืนทอี่ า่ งเกบ็ นา้ และพ้ืนทถ่ี นนเขา้ หวั งาน (ถ้ามี) โดยประสานงานกับผ้นู ้าชมุ ชน และหรือราษฎรทไ่ี ด้รบั ผลกระทบ
2. กา้ หนดกลุ่มประเภทสิ่งปลูกสรา้ งต่างๆ ของราษฎร และหน่วยงานของรัฐที่อยู่ในบรเิ วณพื้นท่ี

ศึกษาของโครงการ โดยพิจารณาจากขนาด รูปแบบ และวัสดุก่อสร้างตามลักษณะแบบมาตรฐานการก้าหนดค่าร้ือย้าย
อาคารบ้านเรือนและส่ิงปลูกสร้างของส้านักออกแบบวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม กลุ่มงานออกแบบสถาปัตยกรรม กรม
ชลประทาน และรูปแบบตามบัญชีก้าหนดราคาประเมินทุนทรัพย์โรงเรือนส่ิงปลูกสร้างในการจดทะเบียนสิทธิและ
นิตกิ รรมเกยี่ วกับอสงั หาริมทรัพย์ ในรอบปี พ.ศ. 2563–2566 ของกรมธนารกั ษ์ กระทรวงการคลัง

3. คดั เลือกประเภทสงิ่ ปลูกสรา้ งด้วยการถ่ายรปู นา้ มาถอดแบบและจ้าแนกวัสดกุ ่อสรา้ งเพื่อ
ประเมนิ ราคาส่งิ ปลูกสรา้ งในบริเวณพื้นท่ศี ึกษา

บรษิ ัท เอช ทู โอ คอนซลั ท์ จ้ากดั 3-122 รายงานความก้าวหน้า
บริษทั เอ็นริช คอนซลั แตนท์ จา้ กดั (Progress Report)

โครงการศกึ ษาผลกระทบสงิ่ แวดลอ้ มเบอื้ งตน้ อ่างเก็บนา้ เหมืองตะกั่ว บทท่ี 3
อนั เน่ืองมาจากพระราชด้าริ จังหวดั พทั ลุง การศกึ ษาผลกระทบส่งิ แวดลอ้ มเบือ้ งตน้

รูปท่ี 3.7.5-1 กจิ กรรมการสารวจสภาพพนื้ ที่บริเวณพื้นทห่ี วั งาน พนื้ ที่อา่ งเกบ็ น้า และพน้ื ท่ีถนนเข้าหวั งาน
โครงการอา่ งเก็บนา้ เหมอื งตะก่ัว (อันเนือ่ งมาจากพระราชดาริ) อาเภอป่าบอน จงั หวัดพัทลุง

บริษัท เอช ทู โอ คอนซลั ท์ จ้ากัด 3-123 รายงานความกา้ วหน้า
บริษัท เอ็นรชิ คอนซลั แตนท์ จา้ กัด (Progress Report)

โครงการศกึ ษาผลกระทบส่งิ แวดล้อมเบ้ืองตน้ อ่างเกบ็ น้าเหมืองตะกั่ว บทที่ 3
อันเน่ืองมาจากพระราชดา้ ริ จังหวัดพทั ลงุ การศึกษาผลกระทบสิง่ แวดลอ้ มเบือ้ งต้น

3) การทดแทน หรอื รื้อย้ายพืชผลและไมย้ ืนต้น
1. สา้ รวจชนดิ และแหล่งพื้นท่ีเพาะปลูกพืชผลและไมย้ ืนตน้ ต่างๆ ท่ีมีการเพาะปลกู กันมาก

หรอื พืชเศรษฐกิจหลักในบริเวณพนื้ ท่ีศึกษา โดยพิจารณาจากการใชป้ ระโยชนท์ ดี่ ินเพอื่ การเพาะปลกู
2. ส้ารวจรายละเอียดเกี่ยวกับต้นทุนการปลูกพืชหลัก และมูลค่าราคาพืชผล และไม้ยืนต้น

ตามราคาท่ัวไปในท้องถนิ่
3. ก้าหนดประเภทพืชผลและไม้ยืนต้นที่ต้องทดแทน โดยอาศัยหลักเกณฑ์พิจารณาจ่าย

ค่าทดแทนพืชผล และไม้ยืนต้นเท่านั้น ส่วนธัญพืชและไม้ล้มลุกจะพิจารณาจ่ายเฉพาะกรณีจ้าเป็นต้องใช้พื้นท่ีหรือ
แปลงทดี่ ินอย่างเรง่ ด่วนจนท้าใหไ้ ม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตทันก่อนเริ่มดา้ เนนิ ก่อสรา้ งโครงการ

(4) ส้ารวจสภาพเศรษฐกิจสังคม และความคิดเห็นของครัวเรือนราษฎรท่ีได้รับผลกระทบจากการ
ทดแทน หรือขนย้ายท่ีดินและทรัพย์สินในบริเวณพ้ืนท่ีหัวงาน อ่างเก็บน้า และถนนเข้าหัวงาน ซ่ึงจะด้าเนินการเก็บ
รวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถามกับหัวหน้าครัวเรือนหรอื ตัวแทนครัวเรือนราษฎรที่อาศัยหรือมีท่ีท้ากินและทรัพย์สิน
ได้รบั ผลกระทบจากการพฒั นาโครงการฯ

ทั้งนี้ จะเก็บรวบรวมข้อมูลเก่ียวกับรายละเอียดสภาพเศรษฐกิจและสังคมท่ัวไป การต้ังถิ่นฐาน
รูปแบบการ และค่าทดแทนท่ีต้องการขายให้กับโครงการฯ ราคาซ้ือขายที่ดินตามราคาท้องตลาดท่ัวไป รูปแบบการ
จา่ ยค่าทดแทนทรัพย์สนิ ความคิดเห็นต่อโครงการฯ โดยอาศัยความตอ้ งการของผู้ไดร้ ับผลกระทบและความเหมาะสม
ทางการปฏิบัติเปน็ หลัก

(5) การประเมินผลกระทบ ท้าการประเมินผลกระทบท่ีเกิดข้ึนทั้งทางเศรษฐกิจ-สังคม วัฒนธรรม
และสขุ ภาพจติ ความวติ กกังวล หรือประเมนิ การสูญเสียทรพั ยส์ นิ ของราษฎรของชุมชนและของรัฐ

(6) การน้าเสนอมาตรการปอ้ งกนั และลดผลกระทบ การเสนอมาตรการที่เหมาะสมประกอบการวาง
แผนการจ่ายค่าทดแทน หรอื คา่ ขนย้ายทด่ี นิ และทรัพยส์ นิ โดยกา้ หนดระยะเวลา หลกั เกณฑ์การจา่ ยคา่ ทดแทนตามข้อ
กฎหมายท่ีเกี่ยวข้องก้าหนดไว้เป็นรูปธรรม และสอดคล้องกับความต้องการของราษฎร และการด้าเนินงานตาม
แผนการทดแทน หรอื ขนยา้ ยที่ดนิ และทรพั ย์สนิ

นอกจากน้ี ยังเสนอแนะแนวทางปฏิบัตทิ ่ีเหมาะสมประกอบกบั วางแผนการจา่ ยค่าทดแทน หรือ
ค่าขนย้ายที่ดิน จ่ายค่าทดแทน หรือค่ารื้อย้ายส่ิงปลูกสร้างพืชผลและไม้ยืนต้น ตลอดจนจัดท้าข้อเสนอแนะเพื่อลด
ผลกระทบต่างๆ เช่น การจัดตั้งองค์กรในรปู แบบคณะกรรมการตา่ งๆ ท่ีเกี่ยวข้องทุกฝา่ ยทงั้ กรมชลประทาน หนว่ ยงาน
ท่ีเกี่ยวขอ้ ง ผู้น้าชมุ ชน และตัวแทนประชาชนหรอื องคก์ รอ่นื ๆ ได้แก่ คณะกรรมการจัดซอ้ื และก้าหนดราคาค่าทดแทน
หรือค่าขนย้ายท่ีดนิ และทรพั ย์สิน คณะอนุกรรมการตรวจสอบทรพั ยส์ นิ และคณะอนกุ รรมการจา่ ยเงนิ ค่าทดแทน หรือ
คา่ ขนยา้ ยทด่ี ินและทรพั ย์สิน (กรณีทด่ี ินไมม่ ีเอกสารสิทธิ์)

บรษิ ัท เอช ทู โอ คอนซลั ท์ จ้ากดั 3-124 รายงานความกา้ วหน้า
บริษทั เอน็ รชิ คอนซัลแตนท์ จา้ กดั (Progress Report)

โครงการศกึ ษาผลกระทบสิ่งแวดลอ้ มเบ้ืองตน้ อา่ งเกบ็ น้าเหมอื งตะกวั่ บทที่ 3
อนั เนอ่ื งมาจากพระราชด้าริ จังหวดั พัทลุง การศกึ ษาผลกระทบส่ิงแวดล้อมเบื้องต้น

ตารางที่ 3.7.5-1 รายชื่อผู้ที่ได้รับผลกระทบในบริเวณพื้นที่หัวงาน พ้ืนที่อ่างเก็บน้า และพ้ืนท่ีถนนเข้าหัวงาน

โครงการอา่ งเกบ็ นา้ เหมืองตะก่ัวอันเนือ่ งมาจากพระราชดาริ จงั หวดั พทั ลุง

จานวน หมายเลข จานวน ชอ่ื -สกุล ท่ีอยู่ อาเภอ จังหวัด จานวนพนื ท่ีทากินท่ีไดร้ ับผลกระทบ
ราย เลขที่ หมทู่ ี่ ชอื่ หมบู่ ้าน ตาบล ไร่ งาน วา2
แปลง แปลง
พนื ที่หัวงานและพนื ที่อ่างเก็บนา
11
22 1 นำงเตีย เหล็มหมำด หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 1 1 34
33
44 นำงเตีย เหล็มหมำด หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 1 1 55
55
66 2 นำยอับดุลเลำะ หมัดอำดัม หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 0 2 91
77
88 นำยอับดุลเลำะ หมัดอำดัม หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 1 0 65
99
10 10 3 นำยสุรพจน์ สิทธิวรกำญจน์ หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 5 3 48
11 18
12 11 นำยสุรพจน์ สิทธิวรกำญจน์ หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 2 1 89
13 12
14 13 4 นำยก่อเส็ม อุดหลี หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 7 0 43
15 14
16 15 นำยก่อเส็ม อุดหลี หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 6 1 18
17 16
18 17 5 นำงอุไร เด็นเพชรหนอ๊ ง หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 1 0 13
19 19
20 96 6 นำยสุรยิ ำ โต๊ะหลงหมำด หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 14 0 28
21 20
22 21 นำยสุรยิ ำ โต๊ะหลงหมำด หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 17 3 4
23 77
24 22 7 นำงสำวฮำลีมะห์ วรงั อำสน์ หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 9 3 20
25 23
26 34 8 นำยเหยะ โต๊ะหลงหมำด หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 12 0 53
27 24
28 60 9 นำงเนตรนภำ ปำนด้ำ หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 3 3 76
29 25
30 98 10 นำยพิน ชูสิงห์ หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 2 1 56
31 26
32 27 11 นำยเปี้ยน นวนเปียน หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 0 3 75
33 28
34 29 12 นำยสงบ อินทะระนก หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 6 1 19
35 30
36 31 13 นำงสุวิไล ศรเี กตุ หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 7 2 18
37 32
38 87 14 นำยกวีวัจน์ สำยสินธุ์ หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 10 0 22
39 88
40 33 นำยกวีวัจน์ สำยสินธุ์ หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 7 2 70
41 35
42 36 15 นำงดะ หมัดอำดัม หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 4 0 31
43 37
44 38 16 นำงประดับ เทพสุข โคกทรำย ป่ำบอน พัทลุง 1 3 49
45 39
46 40 นำงประดับ เทพสุข โคกทรำย ป่ำบอน พัทลุง 4 2 79
47 41
48 51 17 นำยสมมำตร ไหมแก้ว โคกทรำย ป่ำบอน พัทลุง 1 0 58
49 42
50 43 18 นำยสนน่ั สันอี หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 2 2 13

นำยสนนั่ สันอี หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 3 2 79

19 นำงหนบั เสียะ สันอี หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 1 1 1

นำงหนบั เสียะ สันอี หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 1 0 35

20 นำงกันยำ สมเพชร หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 4 1 99

นำงกันยำ สมเพชร หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 8 0 47

21 นำยหมุด หลีอะรญั หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 1 0 0

22 นำยสวัสดิ์ เพชรมณี โคกทรำย ป่ำบอน พัทลุง 4 0 36

23 นำงพนดิ ำ สำรพี หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 0 3 8

24 นำงสะหรอ หนำพระโต๊ะ หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 1 1 98

25 นำงสุมณทำ ศศิลักษณ์ หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 0 3 77

26 นำงหนบั สะ อุดหลี หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 3 0 23

27 นำยกะเดช หลีอะรญั หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 3 3 84

นำยกะเดช หลีอะรญั หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 0 2 2

นำยกะเดช หลีอะรญั หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 3 0 18

28 นำยประจวบ เกลียงจนั ทร์ หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 13 0 72

29 นำยสรศักดิ์ หวัดแท่น แม่ขรี ตะโหมด พัทลุง 5 3 19

30 นำยวีรศักด์ิ เด็นเพชรทนงั หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 0 0 86

31 นำยปรดี ำ อุเส็น หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 0 2 42

32 นำยมำนพ ส่องช่วย ทุ่งนำรี ป่ำบอน พัทลุง 0 3 35

33 นำงอำมนี ะ๊ อุดหลี หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 0 2 55

34 นำงอำรยำ อับดุลเดช หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 0 3 12

35 นำยพัน อินสุวรรณ หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 4 3 71

นำยพัน อินสุวรรณ หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 6 2 45

36 นำงกรกุลย์ บุญเกียรติ หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 8 0 98

37 นำยคำ้ นงึ หนเู พ็ง คลองเฉลิม กุงหรำ พัทลุง 4 1 20

บริษัท เอช ทู โอ คอนซลั ท์ จา้ กดั 3-125 รายงานความก้าวหน้า
บริษัท เอ็นรชิ คอนซัลแตนท์ จ้ากดั (Progress Report)

โครงการศกึ ษาผลกระทบส่ิงแวดล้อมเบอ้ื งตน้ อา่ งเกบ็ น้าเหมอื งตะกัว่ บทที่ 3
อนั เนอ่ื งมาจากพระราชดา้ ริ จังหวัดพัทลงุ การศกึ ษาผลกระทบส่งิ แวดลอ้ มเบอ้ื งต้น

ตารางที่ 3.7.5-1 รายชือ่ ผูท้ ไี่ ดร้ บั ผลกระทบในบริเวณพ้นื ท่หี ัวงาน พื้นท่ีอ่างเก็บนา้ และพนื้ ที่ถนนเข้าหวั งาน

โครงการอา่ งเก็บนา้ เหมืองตะกวั่ อันเน่อื งมาจากพระราชดาริ จงั หวัดพทั ลุง (ต่อ)

จานวน หมายเลข จานวน ชอื่ -สกุล ท่ีอยู่ อาเภอ จังหวัด จานวนพนื ท่ีทากินที่ได้รับผลกระทบ
แปลง ราย เลขท่ี หมทู่ ่ี ชอื่ หมบู่ ้าน ตาบล ไร่ งาน วา2
แปลง พัทลุง
พนื ท่ีหัวงานและพนื ที่อ่างเก็บนา พัทลุง
51 พัทลุง
52 44 38 นำยเจะ๊ ดลเลำะ หล้ำปูเต๊ะ หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 22 76
53 พัทลุง 30 45
54 45 39 นำยย๊ะหยำ กลำง หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 31 4
55 พัทลุง 52 39
56 46 40 นำยจดั ไชยสิงห์ หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 30 35
57 พัทลุง 10 1 91
58 47 41 นำยเกียรติศักด์ิ อินทรสุวรรณ หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 20 34
59 พัทลุง 40 0
60 48 42 นำยชำ้ นำญ กิติเศวตจติ หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 22 75
61 พัทลุง 40 23
62 50 นำยชำ้ นำญ กิติเศวตจติ หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 12 0
63 พัทลุง 10 37
64 53 นำยชำ้ นำญ กิติเศวตจติ หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 12 23
65 พัทลุง 20 45
66 49 43 นำยอำหลี ตละหมดั หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 40 53
67 พัทลุง 63 35
68 52 44 นำยภัทรวุธ จำ้ นง หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 02 16
69 พัทลุง 10 79
70 95 นำยภัทรวุธ จำ้ นง หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 03 93
71 พัทลุง 03 44
72 54 45 นำยโกด สำแหละหมัน หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 02 14
73 พัทลุง 10 57
74 55 46 นำยปรชี ำ หมันหมำด หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 40 8
75 พัทลุง 50 1
76 56 47 นำยยูโส๊ะ รงุ่ สวัสด์ิ หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 42 38
77 พัทลุง 10 88
78 57 48 นำยดลหลี มำกกลำย หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 00 65
79 พัทลุง 20 28
80 86 นำยดลหลี มำกกลำย หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 00 69
81 พัทลุง 21 71
82 58 49 นำงรอบีอ๊ะ สุไลมำน หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 01 53
83 พัทลุง 21 95
84 59 50 นำยเจะ๊ หมัด มูฮมั หมัด หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 42 97
85 พัทลุง 52 7
86 61 51 นำงโรจนำ ไหมละหมัด หนองธง ป่ำบอน สงขลำ 60 33
87 พัทลุง 60 87
88 62 52 นำยหมี พุทธเสน หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 52 91
89 พัทลุง 61 8
90 63 53 นำยเปรมี่ พรหมคง โคกทรำย ป่ำบอน พัทลุง 72 32
91 พัทลุง 60 2
92 64 54 นำงอุบลรตั น์ พรหมคง ทุ่งนำรี ป่ำบอน พัทลุง 43 96
93 พัทลุง 51 29
94 65 55 นำยเหียน หนรู ตั นแ์ ก้ว หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 10 96
95 พัทลุง 40 66
96 66 56 นำยมูฮมั หมัด หมัดโส๊ะ หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 21 29
97 พัทลุง 51 60
98 72 นำยมูฮมั หมัด หมัดโส๊ะ หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 83 68
99 พัทลุง 14 0 61
100 67 57 นำยเลำะ มำกกลำย หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 02 65
101 พัทลุง 02 96
102 68 58 นำงไหวเด๊ำะ มำกกลำย หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 50 7
103 พัทลุง 02 86
104 69 59 นำงสำวเมธินนั ท์ ลิมกลำง หนองธง ป่ำบอน 02 60
105 00 57
71 นำงสำวเมธินนั ท์ ลิมกลำง หนองธง ป่ำบอน 02 45
407 1 1
73 นำงสำวเมธินนั ท์ ลิมกลำง หนองธง ป่ำบอน

70 60 นำยบุญทม หนรู ตั นแ์ ก้ว โคกทรำย ป่ำบอน

74 นำยบุญทม หนรู ตั นแ์ ก้ว โคกทรำย ป่ำบอน

101 นำยบุญทม หนรู ตั นแ์ ก้ว หนองธง ป่ำบอน

75 61 นำยคล้อง หมูชู หนองธง ป่ำบอน

76 62 นำยแคล้ว หมูชู หนองธง ป่ำบอน

78 63 นำยหมดั ตำด เภอเกลียง หนองธง ป่ำบอน

79 64 นำงถ่ิน เรอื งรกั ษ์ หนองธง ป่ำบอน

80 65 นำยฮำม เภอเกลียง โคกทรำย ป่ำบอน

83 นำยฮำม เภอเกลียง ห้วยลึก ควนเนยี ง

81 66 นำงสำวเทวี พรหมจนั ทร์ หนองธง ป่ำบอน

82 67 นำยพรอ้ ม เรอื งรกั ษ์ หนองธง ป่ำบอน

84 68 นำยสุรพงษ์ รกั นยุ้ ฝำละมี ปำกพะยูน

85 69 นำยทศพลธ์ อิมมนต์เพียร หนองธง ป่ำบอน

90 นำยทศพลธ์ อิมมนต์เพียร หนองธง ป่ำบอน

91 นำยทศพลธ์ อิมมนต์เพียร หนองธง ป่ำบอน

89 70 นำงสมศรี ไหมแก้ว โคกทรำย ป่ำบอน

92 71 นำงอุบล เขียวเอียด ทุ่งนำรี ป่ำบอน

93 72 นำยกำรณรงค์ สำยสินธุ์ หนองธง ป่ำบอน

94 73 นำยสนอง ศรเี กตุ หนองธง ป่ำบอน

97 74 นำยเหลำะ มำกกลำย หนองธง ป่ำบอน

99 75 นำยอนชุ ำ มำมะ หนองธง ป่ำบอน

100 76 นำยเส็น หมดุ แห๊ละ หนองธง ป่ำบอน

102 77 นำงสำวฐิติมน สุวรรณจนั ทร์ หนองธง ป่ำบอน

103 นำงสำวฐิติมน สุวรรณจนั ทร์ หนองธง ป่ำบอน

104 78 นำงผ่อง อินมณเฑยี ร หนองธง ป่ำบอน

106 79 นำยอำทิตย์ อุดหลี หนองธง ป่ำบอน

รวมพนื ที่ทากินของราษฎรที่ไดร้ ับผลกระทบในบริเวณพนื ที่หัวงาน และพนื ที่อ่างเก็บนา ทังหมด จานวน 105 แปลง

บรษิ ทั เอช ทู โอ คอนซลั ท์ จ้ากดั 3-126 รายงานความกา้ วหน้า
บริษทั เอ็นรชิ คอนซัลแตนท์ จ้ากดั (Progress Report)

โครงการศกึ ษาผลกระทบสิ่งแวดลอ้ มเบ้อื งตน้ อ่างเก็บน้าเหมืองตะกั่ว บทท่ี 3
อนั เน่อื งมาจากพระราชด้าริ จังหวัดพัทลุง การศึกษาผลกระทบส่งิ แวดลอ้ มเบ้ืองต้น

ตารางท่ี 3.7.5-1 รายชอื่ ผูท้ ไี่ ด้รับผลกระทบในบรเิ วณพืน้ ที่หัวงาน พนื้ ท่ีอ่างเกบ็ นา้ และพื้นท่ีถนนเขา้ หวั งาน

โครงการอ่างเก็บนา้ เหมอื งตะกวั่ อันเนอ่ื งมาจากพระราชดาริ จงั หวัดพทั ลุง (ต่อ)

จานวน หมายเลข จานวน ชอ่ื -สกุล ที่อยู่ อาเภอ จังหวัด จานวนพนื ท่ีทากินท่ีไดร้ ับผลกระทบ
แปลง ราย เลขที่ หมทู่ ่ี ชอื่ หมบู่ ้าน ตาบล ไร่ งาน วา2
แปลง พัทลุง
พนื ท่ีถนนเขา้ หัวงาน พัทลุง
106 พัทลุง
107 1 1 นำยหีม พุทธเสน หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 0 0 20
108 พัทลุง
109 2 2 นำงใหมสุหรี พุทธเสน หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 0 0 22
110 พัทลุง
111 3 3 นำงสำวกิตติมำ พุทธเสน หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 0 0 28
112 พัทลุง
112 4 4 นำยวรศักด์ิ สันหละ หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 0 0 59
114 พัทลุง
115 5 5 นำงมเิ ด๊ำะ มีนำดำโอ๊ะ หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 0 1 97
116 พัทลุง
117 7 นำงมิเด๊ำะ มีนำดำโอ๊ะ หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 0 3 11
118 พัทลุง
119 6 6 นำงอ๊ะ หมดุ งำ หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 0 0 38
120 พัทลุง
121 8 7 นำยดลรอหมำน หมุดงำ หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 0 2 60
122 พัทลุง
123 10 นำยดลรอหมำน หมดุ งำ หนองธง ป่ำบอน พัทลุง 0 0 22
124
125 12 นำยดลรอหมำน หมุดงำ หนองธง ป่ำบอน 012

9 8 นำงสำวกอดีหย๊ะ หมดุ งำ หนองธง ป่ำบอน 0 1 77

11 9 นำงล่ะ หมดุ งำ หนองธง ป่ำบอน 0 1 27

15 นำงล่ะ หมุดงำ หนองธง ป่ำบอน 0 2 69

13 10 นำยยะโก๊ะ แวยูนุ หนองธง ป่ำบอน 0 3 84

14 11 นำยอูเส๊น หมดั อำดัม หนองธง ป่ำบอน 0 3 56

16 12 นำยหล่อเฉด เภอเกลียง หนองธง ป่ำบอน 0 0 86

17 13 นำยนอ้ ม ส่งศรี หนองธง ป่ำบอน 0 1 86

18 14 นำยโกด หวังจกั ร หนองธง ป่ำบอน 0 0 67

19 15 นำยอำหลี ตละหมดั หนองธง ป่ำบอน 0 0 56

20 16 นำงเตีย เหล็มหมำด หนองธง ป่ำบอน 0 2 20

รวมพนื ที่ทากินของราษฎรท่ีได้รับผลกระทบในบริเวณพนื ท่ีถนนเขา้ หัวงาน ทังหมด จานวน 20 แปลง 7 1 87

รวมพนื ที่ทากินของราษฎรท่ีไดร้ ับผลกระทบในบริเวณพนื ท่ีหัวงาน พนื ท่ีอ่างเก็บนา และพนื ที่ถนนเขา้ หัวงาน ทังหมด จานวน 125 แปลง 414 2 88

หมายเหตุ : จ้านวนแปลงที่ดนิ ทา้ กินท่ีได้รบั ผลกระทบ จา้ นวน 125 แปลง ผู้ท่ีได้รับผลกระทบ จ้านวน 93 ราย (หกั รายชอ่ื ซา้ ซ้อนแลว้ )
ท่ีมา : แผนท่ี และบัญชีรายช่อื เจ้าของที่ดนิ ทีไ่ ดน้ า้ ทา้ การรังวดั แบ่งแยกทีด่ นิ เพ่ือการชลประทาน (ร.ว. ๔๓ ก.) 27 กุมภาพันธ์ 2558

บริษทั เอช ทู โอ คอนซลั ท์ จ้ากัด 3-127 รายงานความก้าวหน้า
บริษัท เอ็นรชิ คอนซลั แตนท์ จา้ กดั (Progress Report)

โครงการศกึ ษาผลกระทบสิ่งแวดลอ้ มเบ้อื งตน้ อา่ งเกบ็ นา้ เหมืองตะกวั่ บทที่ 3
อันเน่อื งมาจากพระราชดา้ ริ จังหวดั พัทลงุ การศกึ ษาผลกระทบสง่ิ แวดลอ้ มเบือ้ งต้น

รปู ที่ 3.7.5 -1 แปลงพนื้ ทท่ี ากนิ ของราษฎรทีไ่ ด้รบั ผลกระทบบรเิ วณพื้นทโ่ี ครงการอ่างเกบ็ น้าเหมอื งตะกว่ั
อนั เน่ืองมาจากพระราชดาริ จงั หวัดพทั ลงุ

บรษิ ทั เอช ทู โอ คอนซลั ท์ จา้ กดั 3-128 รายงานความกา้ วหน้า
บริษัท เอ็นริช คอนซลั แตนท์ จ้ากดั (Progress Report)

โครงการศกึ ษาผลกระทบสงิ่ แวดลอ้ มเบือ้ งตน้ อ่างเก็บน้าเหมอื งตะกั่ว บทที่ 3
อันเนื่องมาจากพระราชด้าริ จังหวัดพทั ลุง การศกึ ษาผลกระทบสิ่งแวดลอ้ มเบอ้ื งต้น

รปู ที่ 3.7.5 -1 แปลงพนื้ ทท่ี ากนิ ของราษฎรทไ่ี ด้รับผลกระทบบรเิ วณพื้นท่ีโครงการอา่ งเกบ็ นา้ เหมอื งตะก่วั
อนั เน่อื งมาจากพระราชดาริ จงั หวัดพัทลงุ (ต่อ)

บริษทั เอช ทู โอ คอนซลั ท์ จ้ากดั 3-129 รายงานความกา้ วหน้า
บริษัท เอ็นริช คอนซลั แตนท์ จ้ากดั (Progress Report)

โครงการศกึ ษาผลกระทบสง่ิ แวดล้อมเบื้องต้น อ่างเกบ็ นำ้ เหมืองตะกว่ั บทท่ี 4

อนั เน่อื งมาจากพระราชดำริ จังหวัดพัทลุง การประชาสัมพนั ธ์ มวลชนสัมพนั ธ์ และการมีสว่ นร่วมของประชาชน

บทท่ี 4
การประชาสมั พันธ์ มวลชนสมั พันธ์ และการมีสว่ นร่วมของประชาชน

4.1 วตั ถปุ ระสงค์การประชาสัมพันธ์ มวลชนสัมพนั ธ์ และการมสี ว่ นรว่ มของประชาชน
1) เพอ่ื เผยแพรข่ ้อมลู ขา่ วสารการดำเนนิ งาน และแนวทางการพัฒนาโครงการฯ ใหห้ นว่ ยงานและประชาชน

รับทราบ ตลอดจนสรา้ งความเข้าใจทถี่ กู ตอ้ ง
2) เพ่ือรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินโครงการ รวมท้ังแนวทางการแก้ไขอัน ตลอดจน

แลกเปล่ียนความคิดเห็นระหว่างหนว่ ยงานที่เก่ียวข้อง ประชาชน และกรมชลประทาน เพื่อรับทราบความต้องการใน
พื้นท่ีโครงการฯ ซง่ึ เป็นการสร้างโอกาสการมสี ่วนรว่ มและนำข้อมลู มาประกอบการวเิ คราะห์หาแนวทางแก้ไขปัญหาทมี่ ี
ความสอดคล้องกนั เหมาะสม และเปน็ ท่ียอมรับของประชาชน

3) เพื่อแสดงเจตนารมณ์ที่มุ่งม่ันของกรมชลประทานในการพัฒนาแหล่งน้ำควบคู่กับความใส่ใจต่อ
สิง่ แวดลอ้ มและความเปน็ อย่ขู องประชาชน

4.2 พืน้ ทด่ี ำเนนิ งานและกลมุ่ เป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมายของการจดั การมีส่วนรว่ มของประชาชน ดำเนินการตามแนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชน

และการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมทางสังคม ในกระบวนการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2561
ของสำนกั งานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ ม ซงึ่ จำแนกผู้มสี ว่ นได้เสียจากการพฒั นาโครงการไว้
7 ประเภท ประกอบด้วย

1) ผู้รับผลกระทบ (ผู้ได้ประโยชนแ์ ละผู้เสียประโยชน)์
2) ผทู้ ่รี ับผิดชอบจดั ทำรายงานการประเมนิ ผลกระทบสิ่งแวดลอ้ ม (เจา้ ของโครงการ)
3) ผู้ทท่ี ำหน้าท่พี จิ ารณารายงานการประเมินผลกระทบสงิ่ แวดลอ้ ม
4) หน่วยงานราชการในระดับตา่ งๆ และรัฐวิสาหกิจ ทัง้ สว่ นกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนทอ้ งถิ่น
5) องคก์ รเอกชนด้านสิ่งแวดล้อม องคก์ รพฒั นาเอกชน สถาบันการศึกษาและนักวชิ าการอิสระ
6) สือ่ มวลชน
7) ประชาชนท่วั ไป

4.3 การดำเนนิ งานการประชาสมั พนั ธ์ มวลชนสัมพันธ์ และการมีสว่ นร่วม
การดำเนินงานการประชาสัมพันธ์ มวลชนสัมพันธ์ และการมีส่วนร่วม มีแผนดำเนินการตามกรอบเวลา

การศึกษา 330 วัน ดังแสดงไว้ในตารางที่ 4.3-1 และสรุปกระบวนการส่ิงท่ีนำเข้า (INPUT) และผลได้ (OUTPUT)
ดังรูปท่ี 4.3-1

บรษิ ทั เอช ทู โอ คอนซัลท์ จำกัด 4-1 รายงานความก้าวหน้า
บรษิ ัท เอน็ ริช คอนซัลแตนท์ จำกดั (Progress Report)

โครงการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบือ้ งต้น อา่ งเกบ็ นำ้ เหมอื งตะกวั่ บทที่ 4

อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จงั หวัดพัทลงุ การประชาสัมพันธ์ มวลชนสัมพนั ธ์ และการมีส่วนร่วมของประชาชน

ตารางที่ 4.3 - 1 แผนดำเนนิ การด้านการประชาสัมพันธ์ มวลชนสัมพนั ธ์ และการมีสว่ นร่วมของโครงการ

แผนงาน/กจิ กรรม เดอื น, วัน

1) การศกึ ษาทบทวนลักษณะโครงการ/แผนการดาเนนิ งาน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11
2) การกาหนดกลุ่มเปา้ หมายและพน้ื ทเี่ ป้าหมาย 30 60 90 120 150 180 210 240 270 300 330
3) เข้าพบและประสานหนว่ ยงาน/ผนู้ าชุมชน
4) การจัดประชุมรับฟงั ความคดิ เหน็ IR PR ITR DFR FR

4.1) การประชุมปฐมนเิ ทศโครงการ
4.2) การประชุมกล่มุ ย่อย
4.3) การประชุมปจั ฉมิ นเิ ทศโครงการ
5) การจดั ทารายงานการประชุม/สัมมนา
6) การจัดทาสื่อ/เผยแพร่สอ่ื
6.1) เอกสารประกอบการประชุม/แบบแสดงความคดิ เหน็ 3 คร้ัง
6.2) บอร์ดนทิ รรศการ (3 คร้ัง)
6.3) แผน่ พบั 2 ครั้ง
6.4) จดหมายข่าว 2 ครั้ง
6.5) ข่าวแจกสื่อมวลชน 2 คร้ัง
6.6) บทความทางหนงั สือพมิ พ์ 1 ครั้ง
6.7) บทความเผยแพร่ทางวิทยุ 2 ครั้ง
6.8) จดั ทาวีดทิ ศั น์ 1 ครั้ง
7) จัดทาข้อเสนอแนะ

แผนการส่งรายงาน

หมายเหตุ : บางช่วงเวลา
IR = รายงานเริ่มงาน PR = รายงานความก้าวหน้า ITR = รายงานฉบับกลาง DFR = ร่างรายงานฉบับสุดทา้ ย FR = รายงานฉบับสดุ ท้าย

INPUT กระบวนการ OUTPUT
- ความเปน็ มาและวัตถปุ ระสงคโ์ ครงการ เข้าพบและประสานงานหน่วยงาน ผู้นาชมุ ชน - สภาพปญั หาและความเร่งดว่ นของปญั หา
- แนวทางและขอบเขตการศกึ ษา เดอื นที่ 1 หรือกอ่ น ดั ประชมุ ป มนิเท โครงการ
- ทตี่ งั้ ลกั ษณะโครงการ และพน้ื ทศี่ กึ ษา และความตอ้ งการของประชาชนในพน้ื ท่ี
การประชุมป มนิเทศโครงการ - นโยบายรัฐทมี่ ีผลตอ่ การศกึ ษาโครงการ
- ความเปน็ มาและวัตถปุ ระสงคโ์ ครงการ เดือนท่ี 3 หรอื หลงั สง่ รายงานความกา้ วหนา้ - คาแนะนาในการจดั การมีสว่ นร่วมของประชาชน
- แนวทางและขอบเขตการศกึ ษา
- ทตี่ งั้ ลกั ษณะโครงการ และพน้ื ทศ่ี กึ ษา การประชมุ กลุ่มย่อย - สภาพปญั หาและความเร่งดว่ นของปญั หา
- ผลการทบทวนการศกึ ษาเบอ้ื งตน้ เดอื นท่ี หรอื หลังส่งรายงาน บับกลาง และความตอ้ งการของประชาชนในพน้ื ที่

- ความเปน็ มาและวัตถปุ ระสงคโ์ ครงการ การประชมุ ปจ มิ นเิ ทศโครงการ - ข้อมูลเพอื่ ประกอบการพิจารณาศกึ ษาโครงการ
- แนวทางและขอบเขตการศกึ ษา เดือนท่ี หรอื หลังสง่ ร่างรายงานการวเิ คราะห์ผลกระทบ - คาแนะนาในการทางานของโครงการ
- ทต่ี ง้ั ลกั ษณะโครงการ และพนื้ ทศ่ี กึ ษา
- ผลการทบทวนการศกึ ษาเบอื้ งตน้ ส่ิงแวดลอ้ ม - สภาพปญั หาและความเร่งดว่ นของปญั หา
และความตอ้ งการของประชาชนในพน้ื ที่
- สรุปผลการศกึ ษาโครงการ
- ร่างผลการประเมินผลกระทบสง่ิ แวดลอ้ ม - ข้อมูลเพอ่ื ประกอบการพจิ ารณาศกึ ษาโครงการ
- คาแนะนาในการทางานของโครงการ
มาตรการปอ้ งกนั และแกไ้ ขผลกระทบสงิ่ แวดลอ้ ม
- ความคดิ เหน็ และข้อเสนอแนะตอ่ การประเมินผลกระทบ
มาตรการปอ้ งกนั และแกไ้ ขผลกระทบสงิ่ แวดลอ้ ม

- นาผลการรับฟังความคดิ เห็นไปประกอบการพิจารณา
ปรับปรุงการศกึ ษาผลกระทบสง่ิ แวดลอ้ ม

รปู ท่ี 4.3-1 กระบวนการดำเนินงานประชาสัมพันธ์ มวลชนสัมพนั ธ์ และการมีสว่ นรว่ มของประชาชน

บรษิ ทั เอช ทู โอ คอนซัลท์ จำกัด 4-2 รายงานความกา้ วหน้า
บริษทั เอ็นริช คอนซัลแตนท์ จำกัด (Progress Report)

โครงการศกึ ษาผลกระทบสิง่ แวดล้อมเบอื้ งต้น อา่ งเกบ็ นำ้ เหมอื งตะกว่ั บทท่ี 4

อนั เนือ่ งมาจากพระราชดำริ จังหวดั พัทลงุ การประชาสมั พนั ธ์ มวลชนสัมพันธ์ และการมีส่วนรว่ มของประชาชน

4.4 ความก้าวหนา้ ของการดำเนินงาน

4.4.1 การเขา้ พบและประสานงานหนว่ ยงาน/ผนู้ ำชุมชน
ในการดำเนินงานท่ีผ่านมา คณะกรรมการกำกับการศึกษาและกลุ่มบริษัทท่ีปรึกษา ได้มีการเข้าพบและ

ประสานหน่วยงาน/ผู้นำชุมชนที่เกี่ยวข้องในพื้นท่ี เช่น ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง นายอำเภอป่าบอน นายกองค์การ
บริหารส่วนตำบล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยงานชลประทานในพ้ืนท่ี ได้แก่ สำนักงานชลประทานท่ี 16 โครงการ
ชลประทานพัทลุง ต้ังแต่เริ่มต้นโครงการก่อนการประชุมปฐมนิเทศโครงการ เพื่อแนะนำโครงการและรับฟัง
แนวความคิดในการพัฒนาโครงการ รวมทั้งข้อเสนอแนะในการดำเนินงานด้านการมีส่วนร่วมของประชาช น
และจะประสานงานเปน็ ระยะๆ อย่างต่อเนอื่ งตลอดการศึกษาโครงการ มรี ายละเอียดดังน้ี

1) การเข้าพบผ้ใู หญ่หมทู่ ี่ 1 บ้านเหมืองตะกั่ว ตำบลหนองธง อำเภอป่าบอน
เมื่อวันท่ี 4 กันยายน 2562 กลุ่มบริษัทที่ปรึกษาฯ ประกอบด้วย ผู้จัดการโครงการ ผู้ชำนาญการด้าน

สิ่งแวดล้อม และผู้เชี่ยวชาญด้านการมีส่วนร่วมของประชน ได้เข้าพบนายหมัดยู่นาน หวาเอียด ผู้ใหญ่บ้านหมู่ท่ี 1
บ้านเหมอื งตะก่ัว ตำบลหนองธง อำเภอปา่ บอน ณ ทที่ ำการผ้ใู หญ่บ้าน เพ่ือแนะนำโครงการและรบั ฟงั แนวความคดิ ใน
การพฒั นาโครงการ รวมทัง้ ขอ้ เสนอแนะในการพฒั นาโครงการ ดงั รูปที่ 4.4-1

รปู ที่ 4.4-1 กลุม่ บริษัททีป่ รกึ ษาฯ เข้าพบนายหมัดยนู่ าน หวาเอียด ผู้ใหญ่บา้ นหมู่ที่ 1 ตำบลหนองธง

บริษัท เอช ทู โอ คอนซัลท์ จำกดั 4-3 รายงานความกา้ วหน้า
บรษิ ทั เอน็ รชิ คอนซลั แตนท์ จำกัด (Progress Report)

โครงการศกึ ษาผลกระทบสงิ่ แวดลอ้ มเบ้อื งต้น อ่างเก็บนำ้ เหมืองตะกัว่ บทที่ 4

อนั เน่อื งมาจากพระราชดำริ จงั หวดั พัทลงุ การประชาสัมพันธ์ มวลชนสัมพนั ธ์ และการมสี ่วนรว่ มของประชาชน

2) การเข้าพบ นายภดู ิส ชนะวรรณโณ นายอำเภอปา่ บอน จังหวดั พทั ลงุ
เม่ือวันที่ 1 ตุลาคม 2562 เวลา 14.30 น. นายย่ิงเจริญ คูสกุลรัตน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการมีส่วนร่วมของ

ประชน ไดเ้ ข้าพบนายภูดสิ ชนะวรรณโณ นายอำเภอป่าบอน จังหวดั พทั ลุง เพ่ือแนะนำโครงการ รับฟังแนวความคิด
และขอ้ เสนอแนะในการพฒั นาโครงการตอ่ ไป

3) การเขา้ พบ นายประเจือบ มลยงค์ กำนันตำบลหนองธง อำเภอป่าบอน จงั หวัดพทั ลงุ
เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2562 เวลา 16.00 น. นายยิ่งเจริญ คูสกุลรัตน์ ผู้เช่ียวชาญด้านการมีส่วนร่วมของ

ประชน ได้เข้าพบนายประเจือบ มลยงค์ กำนันตำบลหนองธง อำเภอป่าบอน จังหวัดพัทลุง เพ่ือแนะนำโครงการ
รับฟังแนวความคิดและข้อเสนอแนะในการพัฒนาโครงการต่อไป รวมทั้งส่งหนังสือเชิญกำนัน และผู้ใหญ่บ้านในเขต
ตำบลหนองธง เข้าร่วมประชมุ ปฐมนิเทศโครงการ ในวนั พฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2562 ณ ศาลาประชาคมอำเภอ
ป่าบอน อำเภอปา่ บอน จงั หวดั พทั ลุงดว้ ย

4) การเข้าพบนายเดชา เหลม็ หมาด ประธานกลุม่ รักษ์โตนสะตอ
เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2562 เวลาประมาณ 17.00 น. ผู้เชี่ยวชาญด้านการมีส่วนร่วมของประชน

และผู้ใหญ่บ้านหมู่ท่ี 1 ตำบลหนองธง ได้เข้าพบนายเดชา เหล็มหมาด ประธานกลุ่มรักษ์โตนสะตอ ตำบลหนองธง
อำเภอป่าบอน จังหวัดพัทลุง เพื่อแนะนำโครงการ รับฟังแนวความคิดและข้อเสนอแนะในการพัฒนาโครงการต่อไป
รวมท้ังส่งหนังสือเชิญกลุ่มรักษ์โตนสะตอ และเครือข่าย เข้าร่วมประชุมปฐมนิเทศโครงการ ในวันพฤหัสบดีที่ 10
ตุลาคม พ.ศ. 2562 ณ ศาลาประชาคมอำเภอปา่ บอน อำเภอป่าบอน จังหวัดพัทลุง ดงั รูปที่ 4.4-2

รปู ท่ี 4.4-2 ผเู้ ช่ยี วชาญดา้ นการมีสว่ นรว่ มของประชนเขา้ พบผ้นู ำชุมชน

5) การเขา้ ประชมุ รว่ มกับสำนกั กอ่ สร้างชลประทานขนาดกลางที่ 16
เม่ือวันท่ี 7 ตุลาคม 2562 เวลา 09.30 น. นายเกื้อศักดิ์ ทาทอง ประธานกรรมการฯ นายอัตตาพันธ์

ดิลกโศภณ กรรมการฯ นายกาจวศิ ว์ กล้าหาญ ผู้จดั การโครงการ และนายยิง่ เจรญิ คูสกลุ รัตน์ ผู้เช่ียวชาญด้านการมี
ส่วนร่วมของประชน ได้เข้าประชุมร่วมกับ นายทวีวัฒ น์ สืบสุขมั่นสกุล นา ยช่างชลประทานอาวุโส
สำนักก่อสร้างชลประทานขนาดกลางท่ี 16 ที่สำนกั กอ่ สร้างชลประทานขนาดกลางที่ 16 สงขลา เพอ่ื ชแ้ี จงรายละเอียด
แนวทางการดำเนนิ การศกึ ษาโครงการ และรับฟงั แนวความคดิ ข้อเสนอแนะในการพฒั นาโครงการตอ่ ไป

บริษัท เอช ทู โอ คอนซลั ท์ จำกดั 4-4 รายงานความกา้ วหน้า
บริษทั เอน็ ริช คอนซัลแตนท์ จำกัด (Progress Report)

โครงการศกึ ษาผลกระทบส่ิงแวดล้อมเบือ้ งต้น อา่ งเกบ็ นำ้ เหมอื งตะกว่ั บทท่ี 4

อนั เนอื่ งมาจากพระราชดำริ จังหวัดพัทลุง การประชาสมั พนั ธ์ มวลชนสัมพันธ์ และการมีส่วนร่วมของประชาชน

6) การเข้าประชุมรว่ มกับการประชุมหวั หนา้ สว่ นราชการจงั หวดั พัทลงุ
เม่ือวันท่ี 7 ตุลาคม 2562 เวลา 14.00 น. นายเกื้อศักดิ์ ทาทอง ประธานกรรมการฯ นายอัตตาพันธ์

ดิลกโศภณ กรรมการฯ นายกาจวศิ ว์ กล้าหาญ ผู้จัดการโครงการ และนายยิ่งเจริญ คูสกุลรัตน์ ผู้เชี่ยวชาญดา้ นการมี
ส่วนร่วมของประชน ได้เข้าประชมุ ร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการจังหวดั พัทลุงในการประชุมหัวหน้าส่วนราชการจังหวัด
พัทลุง ที่ศาลากลางจังหวัดพัทลุง เพ่ือชี้แจงรายละเอียด แนวทางการดำเนินการศึกษาโครงการ การจัดประชุม
ปฐมนเิ ทศโครงการ และรบั ฟังแนวความคดิ ข้อเสนอแนะในการพฒั นาโครงการตอ่ ไป ดงั รปู ที่ 4.4-3

รปู ที่ 4.4-3 เข้าพบผ้วู ่าราชการ งั หวดั พัทลุง

4.4.2 การประชมุ สมั มนาครั้งที่ 1 การประชมุ ป มนเิ ท โครงการ
ท่ปี รกึ ษาได้ขออนุมัติจัดประชุมสมั มนาครั้งท่ี 1 (ปฐมนเิ ทศโครงการ) เมอ่ื วันท่ี 12 กันยายน 2562 และไดจ้ ัด

ประชุมไปแล้ว เม่ือวันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม พ.ศ.2562 ณ ศาลาประชาคมอำเภอป่าบอน อำเภอป่าบอน
จังหวัดพัทลงุ มีรายละเอียด ดังนี้ ดังรูปที่ 4.4-4

1) วัตถุประสงค์การประชุมสมั มนาครัง้ ท่ี 1 ป มนิเท โครงการ
(1) เพื่อให้ผู้มีส่วนได้เสียกับโครงการได้รับทราบ ความเป็นมาของโครงการฯ วัตถุประสงค์ พ้ืนที่ศึกษา

รายละเอียดขัน้ ตอนการศกึ ษา และประโยชนท์ ่ีคาดวา่ จะได้รับจากการโครงการฯ
(2) เพ่ือเป็นการส่อื สารระหว่างโครงการกับผมู้ สี ่วนได้เสียในทกุ ภาคสว่ นท่ีเกีย่ วขอ้ งใหเ้ กดิ การรับรู้ขอ้ มูล

ที่จะนำไปส่คู วามเข้าใจที่ถูกตอ้ ง และใหค้ วามรว่ มมือต่อการพัฒนาโครงการ
(3) เพื่อรับฟังและแลกเปล่ียนความคิดเหน็ เกี่ยวกับแนวทางการดำเนินโครงการระหว่างผูม้ ีส่วนได้เสยี ท่ี

เก่ียวข้องกับโครงการกับกรมชลประทานและที่ปรึกษา ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสการมีส่วนร่วมและนำข้อมูลมา
ประกอบการวิเคราะห์หาแนวทางแกไ้ ขปัญหาที่มีความสอดคล้องและเหมาะสม ทั้งทางด้านส่งิ แวดล้อม ความเป็นอยู่
ของประชาชน และความต้องการของผู้มีสว่ นได้เสยี และเป็นท่ียอมรบั ของประชาชนนพืน้ ที่

(4) เพื่อให้เกิดความร่วมมือท่ีดีต่อการทำงานของกรมชลประทาน จากการเปิดเผยข้อมูลท่ีชัดเจน
โปรง่ ใส สามารถตรวจสอบได้ ในการดำเนนิ งานด้านการมีสว่ นรว่ มของประชาชน

บรษิ ทั เอช ทู โอ คอนซัลท์ จำกดั 4-5 รายงานความกา้ วหน้า
บรษิ ัท เอน็ ริช คอนซัลแตนท์ จำกัด (Progress Report)

โครงการศกึ ษาผลกระทบสงิ่ แวดลอ้ มเบอื้ งต้น อ่างเกบ็ นำ้ เหมืองตะกวั่ บทที่ 4

อันเน่ืองมาจากพระราชดำริ จงั หวัดพัทลงุ การประชาสมั พนั ธ์ มวลชนสัมพันธ์ และการมสี ่วนรว่ มของประชาชน

ผู้เขา้ รว่ มประชุมลงทะเบยี น ผ้เู ข้ารว่ มประชมุ ชมบอรด์ นิทรรศการ ผเู้ ข้ารว่ มประชุมชมบอร์ดนิทรรศการ

นายวิรตั น์ รกั พันธ์ นายเกื้อศักด์ิ ทาทอง บรษิ ัทท่ปี รึกษานำเสนอ
รองผูว้ า่ ราชการจังหวัดพัทลุง เปิดการประชุม ผู้แทนกรมชลประทาน กล่าวรายงาน

ผูร้ ว่ มแสดงความคิดเหน็ ผรู้ ่วมแสดงความคิดเห็น ผรู้ ่วมแสดงความคิดเหน็

ผรู้ ว่ มแสดงความคิดเหน็ ผู้รว่ มแสดงความคิดเหน็ บรรยากาศท่ีประชุม

ผแู้ ทนกรมชลประทานและบริษัทท่ีปรกึ ษา ผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ร่วมถ่ายรูป ผนู้ ำชุมชนร่วมถา่ ยรูป
ตอบข้อคดิ เห็น

รูปท่ี 4.4-4 การประชมุ ป มนิเท โครงการ วนั พฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม 2562 ณ าลาประชาคมอำเภอปา่ บอน

อำเภอป่าบอน งั หวัดพทั ลุง

บริษทั เอช ทู โอ คอนซัลท์ จำกดั 4-6 รายงานความก้าวหน้า
บริษัท เอ็นรชิ คอนซลั แตนท์ จำกัด (Progress Report)

โครงการศึกษาผลกระทบสิง่ แวดล้อมเบื้องตน้ อ่างเก็บน้ำเหมอื งตะกวั่ บทท่ี 4

อันเน่ืองมาจากพระราชดำริ จังหวดั พัทลุง การประชาสัมพันธ์ มวลชนสัมพนั ธ์ และการมีสว่ นร่วมของประชาชน

2) พืน้ ทีเ่ ปา้ หมาย ครอบคลมุ พ้นื ทตี่ ้งั โครงการ และพนื้ ทไ่ี ด้รับผลกระทบท้งั ดา้ นบวกและด้านลบ
3) กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ หน่วยงานราชการระดบั ภูมภิ าค ระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล องค์กรปกครองส่วน
ท้องถิ่น ในเขตตำบลหนองธง อำเภอป่าบอน ตำบลแม่ขรี และตำบลคลองใหญ่ อำเภอตะโหมด จังหวัดพัทลุง
องค์กรพัฒนาเอกชน (NGOs) ที่เกี่ยวข้อง สถาบันการศึกษา ส่ือมวลชน ผู้นำชุมชนและประชาชนท่ีอยู่ในพื้นท่ี
เป้าหมายที่ได้รับผลกระทบจากโครงการฯ
4) การเตรียมการประชุมป มนเิ ท

ภายหลังจากท่ีปรึกษาฯ ได้รับอนุมัติจัดประชุมปฐมนิเทศ เม่ือวันท่ี 12 กันยายน 2562 ท่ีปรึกษาฯ ได้
จดั ส่งหนงั สือเชิญประชมุ ให้กลมุ่ เป้าหมายต่างๆ ผา่ นทางไปรษณยี ์ ผ่านระบบอเี มล์ (Email) ระบบโทรสาร และได้โทร
ติดตาม นอกจากนย้ี ังไดล้ งมาส่งหนงั สือเชิญ และประสานงานกบั ผูน้ ำชุมชน ในพ้นื ท่อี กี ครง้ั สรุปได้ดงั น้ี

(2) การเข้าพบ นายภูดสิ ชนะวรรณโณ นายอำเภอป่าบอน จงั หวัดพทั ลุง
เม่ือวันท่ี 1 ตุลาคม 2562 เวลา 14.30 น. นายยิ่งเจริญ คูสกุลรัตน์ ผู้เช่ียวชาญด้านการมีส่วนร่วม

ของประชน ได้เข้าพบนายอำเภอป่าบอน จังหวัดพัทลุง เพ่ือประสานงานในการเตรียมการประชุมปฐมนิเทศโครงการ
ในวนั พฤหสั บดที ี่ 10 ตุลาคม พ.ศ.2562 ณ ศาลาประชาคมอำเภอป่าบอน อำเภอปา่ บอน จังหวดั พทั ลุง

(2) การเข้าพบ นายประเจอื บ มลยงค์ กำนนั ตำบลหนองธง อำเภอป่าบอน จังหวัดพทั ลงุ
เม่ือวันที่ 1 ตุลาคม 2562 เวลา 16.00 น. นายยิ่งเจริญ คูสกุลรัตน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการมีส่วนร่วม

ของประชน ไดเ้ ข้าพบนายประเจือบ มลยงค์ กำนนั ตำบลหนองธง อำเภอป่าบอน จังหวดั พทั ลุง เพอ่ื แนะนำโครงการ
และส่งหนังสือเชญิ กำนัน และผูใ้ หญบ่ า้ นในเขตตำบลหนองธง เขา้ ร่วมประชมุ ปฐมนเิ ทศโครงการ ในวนั พฤหสั บดที ่ี 10
ตลุ าคม พ.ศ.2562 ณ ศาลาประชาคมอำเภอป่าบอน อำเภอปา่ บอน จังหวดั พัทลงุ ดว้ ย

(3) การเข้าพบนายเดชา เหลม็ หมาด ประธานกลมุ่ รักษโ์ ตนสะตอ
เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2562 เวลาประมาณ 17.00 น. ผู้เช่ียวชาญด้านการมีส่วนร่วมของประชน

และผู้ใหญ่บ้านหมู่ท่ี 1 ตำบลหนองธง ได้เข้าพบนายเดชา เหล็มหมาด ประธานกลุ่มรักษ์โตนสะตอ ตำบลหนองธง
อำเภอป่าบอน จังหวัดพัทลุง เพ่ือแนะนำโครงการ รับฟังแนวความคิดและข้อเสนอแนะในการพัฒนาโครงการต่อไป
รวมท้ังส่งหนังสือเชิญกลุ่มรักษ์โตนสะตอ และเครือข่าย เข้าร่วมประชุมปฐมนิเทศโครงการ ในวันพฤหัสบดีท่ี 10
ตลุ าคม พ.ศ.2562 ณ ศาลาประชาคมอำเภอป่าบอน อำเภอปา่ บอน จังหวดั พทั ลงุ

(4) การเขา้ ประชมุ ร่วมกบั การประชมุ หวั หนา้ ส่วนราชการจังหวดั พัทลงุ
เม่ือวันที่ 7 ตุลาคม 2562 เวลา 14.00 น. นายเก้ือศักดิ์ ทาทอง ประธานกรรมการฯ

นายอัตตาพันธ์ ดิลกโศภณ กรรมการฯ นายกาจวิศว์ กล้าหาญ ผู้จัดการโครงการ และนายยิ่งเจริญ คูสกุลรัตน์
ผูเ้ ชีย่ วชาญดา้ นการมสี ว่ นร่วมของประชน ไดเ้ ข้าประชมุ รว่ มกับหัวหนา้ สว่ นราชการจังหวัดพัทลุงในการประชมุ หัวหน้า
ส่วนราชการจังหวัดพัทลุง ที่ศาลากลางจังหวัดพัทลุง เพ่ือช้ีแจงรายละเอียด แนวทางการดำเนินการศึกษาโครงการ
และการจดั ประชุมปฐมนิเทศโครงการ

5) ผู้เข้าร่วมประชุมป มนิเท
การประชุมรบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของประชาชนและหนว่ ยงานท่ีเกย่ี วข้อง คร้งั ท่ี 1 (การปฐมนิเทศโครงการ)

โครงการศึกษาผลกระทบ สิ่งแวดล้อมเบื้องต้น อ่างเก็บน้ำเหมืองตะก่ัวอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
จงั หวดั พัทลุง ได้ดำเนินการในวนั พฤหัสบดที ี่ 10 ตลุ าคม พ.ศ. 2562 ณ ศาลาประชาคมอำเภอป่าบอน อำเภอปา่ บอน
จังหวดั พทั ลงุ ท่ผี า่ นมา ในการประชุมดงั กล่าวมีผู้เขา้ รว่ มประชุม ทง้ั หมด 182 คน ประกอบด้วย

บริษัท เอช ทู โอ คอนซลั ท์ จำกดั 4-7 รายงานความก้าวหน้า
บรษิ ัท เอ็นริช คอนซัลแตนท์ จำกัด (Progress Report)

โครงการศกึ ษาผลกระทบส่ิงแวดล้อมเบอื้ งต้น อา่ งเก็บน้ำเหมืองตะก่ัว บทที่ 4

อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จงั หวดั พัทลงุ การประชาสัมพนั ธ์ มวลชนสัมพนั ธ์ และการมสี ว่ นรว่ มของประชาชน

(1) หนว่ ยงานราชการในระดบั ตา่ งๆ (หนว่ ยงานส่วนภมู ภิ าค หน่วยงานราชการระดับจังหวดั หน่วยงาน
ราชการระดับอำเภอ หน่วยงานรฐั วิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ ) ตวั แทนหน่วยงานราชการ จำนวน 57 คน

(2) ผู้ไดร้ ับผลกระทบ (ผูเ้ สียผลประโยชน์ และผไู้ ด้รับผลประโยชน)์ จำนวน 103 คน
(3) สถาบันการศึกษา/วจิ ยั /องค์กรพฒั นาเอกชน (NGOs) จำนวน 2 คน
(4) ส่อื มวลชน จำนวน 2 คน
(5) กรรมการ จำนวน 9 คน
(6) ทป่ี รึกษา จำนวน 9 คน
รายละเอยี ดจำนวนผู้เข้าร่วมประชุมดงั ตารางท่ี 4.4.2-1 และรายชื่อผูเ้ ข้าร่วมประชุมแสดงในภาคผนวก ก.1
6) ข้ันตอนการดำเนนิ งาน วธิ กี ารและเทคนิคในการประชมุ (กำหนดการประชมุ ภาคผนวก ก.2)
(1) ข้ันตอนที่ 1 เร่ิมลงทะเบียน เวลาประมาณ 08.30 น เพ่ือรับเอกสารประชุม แผ่นพับ ข้อมูล
รายละเอียดเบื้องต้นของโครงการ และแบบสอบถามความคิดเห็นผู้เข้าร่วมประชุม จากนั้นเข้าสู่พิธีการเปิดประชุม
โดยมีนายเก้ือศักดิ์ ทาทอง ประธานกรรมการฯ ตวั แทนกรมชลประทานเป็นผู้กล่าวรายงาน และนายวริ ัตน์ รักษ์พันธ์
รองผู้วา่ ราชการจงั หวัดพัทลุง ได้รบั มอบหมายจากท่านผวู้ ่าราชการจังหวัดพทั ลุง กลา่ วเปิดการประชมุ
(2) ขั้นตอนท่ี 2 ภายหลังจากพิธีเปิดการประชุมแล้ว ท่ีปรึกษาได้นำเสนอข้อมูลรายละเอียดโครงการ
โดยใช้ power point ข้อมูลที่นำเสนอประกอบด้วยความเป็นมา วัตถุประสงค์ แนวทางและวิธีการศึกษาความ
เหมาะสม การศกึ ษาผลกระทบส่งิ แวดลอ้ มเบอ้ื งต้นของโครงการ และการดำเนนิ การประชาสัมพนั ธ์ และการมสี ่วนร่วม
ของประชาชน
(3) ขั้นตอนท่ี 3 ภายหลังท่ีปรึกษานำเสนอข้อมูลรายละเอียดโครงการเสร็จแล้ว ได้มีการเปิดเวทีเพ่ือ
รบั ฟงั ความคิดเหน็ โดยการซักถาม ข้อเสนอแนะ จากผเู้ ขา้ ร่วมประชุม และมกี ารช้ีแจงจากที่ปรึกษา
(4) ขั้นตอนท่ี 4 ภายหลังจากการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นแล้ว ที่ปรึกษาฯ ได้สรุปข้อคิดเห็นและ
ข้อเสนอแนะเบื้องต้นจากผู้เข้าร่วมประชุม และชี้แจงกิจกรรมท่ีจะดำเนินการต่อไป จากน้ันได้เชิญตัวแทนกรม
ชลประทานกล่าวขอบคุณและกล่าวปิดการประชุมเวลาประมาณ 12.00 น. ภาพบรรยากาศในวันประชุมแสดงใน
ภาคผนวก
(5) ส่ือที่ใช้ในการดำเนินงานประชุม ประกอบด้วย เอกสารประกอบการประชุม แผ่นพับ บอร์ด
นิทรรศการ วิดีทัศน์ และ power point (ภาคผนวก ก.3)
7) สรุปความคดิ เห็นและขอ้ เสนอแนะจากการเปดิ เวทีรับฟังความคิดเห็น
ภายหลังจากท่ีปรกึ ษาไดน้ ำเสนอข้อมูลรายละเอียดโครงการเรียบร้อยแลว้ ได้เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น
จากผู้เข้าร่วมประชุม ซึ่งมีผู้ร่วมแสดงความคิดเห็นในประเด็นต่าง ๆ ทั้งหมด 8 คน (ไม่รวมในส่วนกรรมการและท่ี
ปรกึ ษาฯ ช้แี จง) มีประเดน็ ต่าง ๆ สรุปได้ ดังนี้

บริษัท เอช ทู โอ คอนซลั ท์ จำกดั 4-8 รายงานความก้าวหน้า
บริษทั เอ็นรชิ คอนซลั แตนท์ จำกัด (Progress Report)

โครงการศึกษาผลกระทบสิง่ แวดลอ้ มเบอ้ื งต้น อ่างเก็บน้ำเหมอื งตะก่ัว บทที่ 4

อนั เนือ่ งมาจากพระราชดำริ จงั หวดั พัทลุง การประชาสัมพนั ธ์ มวลชนสัมพนั ธ์ และการมีสว่ นร่วมของประชาชน

ตารางที่ 4.4.2-1 ำนวนผเู้ ข้ารว่ มประชมุ ป มนิเท โครงการ แยกตามหนว่ ยงาน

กลมุ่ เปา้ หมยในการประชมุ ำนวน ราย ร้อยละ
56.59
ผไู้ ดร้ ับผลกระทบ 103 9.89
0.00
ผู้ที่รบั ผดิ ชอบจัดทำรายงาน 18 31.32

หนว่ ยงานที่ทำหนา้ ทพ่ี จิ ารณารายงาน (สผ.) 0 1.10
1.10
หนว่ ยงานราชการในระดบั ตา่ งๆ (หนว่ ยงานสว่ นภูมิภาค หนว่ ยงาน 57 100.00
ราชการระดับจังหวัด หนว่ ยงานราชการระดบั อำเภอ หนว่ ยงาน
รัฐวสิ าหกิจ องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิ่น)

หน่วยงานภาคเอกชน/องค์กรพฒั นาเอกชน/สถาบนั การศกึ ษา 2

ส่อื มวลชน 2

รวมท้งั ส้ิน 182

(1) ประเดน็ ท่ี 1 คุณสาทร สมพงศ์
คุณสาทร สมพงศ์ ได้ให้ข้อคิดเห็นว่า ไม่เห็นด้วยกับโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำเหมืองตะก่ัว โดย

ได้ให้ขอ้ มูลเพ่ิมเติมวา่ ได้เสนอความคิดเห็นเรื่องการจัดการน้ำให้กับหน่วยงานทเ่ี กีย่ วข้องตั้งแต่ปี 2557 และได้มกี าร
ปรกึ ษาหารือกบั หนว่ ยงานท่เี ก่ียวขอ้ งท่ีศาลากลางจังหวดั สตูล เร่อื งการกำหนด TOR เพ่อื กำหนดขอบเขตในการศึกษา
กับความเป็นไปได้ของโครงการ ดังน้ันจึงเห็นด้วยท่ีกรมชลประทานจะได้มีการศึกษาความเหมาะสม ความเป็นไปได้
ของโครงการ กอ่ นที่จะตดั สนิ ใจในการดำเนินงานโครงการตอ่ ไป

นอกจากนี้ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า การดำเนินการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำเหมืองตะกั่ว จะทำให้
ชาวบ้านสูญเสียวิถีชีวิต เสียพื้นที่ป่า (สะตอป่า) เสียสัตว์ป่า (น้ำผ้ึงป่า) อ่างเก็บน้ำมีอายุแค่ 50 ปี แต่ต้นน้ำไม่มีวัน
หมดอายุ การก่อสร้างอ่างเก็บน้ำเป็นการทำลายป่าซึ่งตรงข้ามกับยุทศาสตร์จังหวัดพัทลุงท่ีวางไว้ เร่ืองเพิ่มพื้นท่ีป่า
การมอี า่ งเกบ็ นำ้ อาจเป็นการเปลยี่ นธรรมชาตทิ ำให้เกิดผลกระทบต่อปลา สัตว์นำ้ การสร้างอ่างเกบ็ น้ำเพื่อมาเตมิ นำ้ ใน
ฝายนั้นไม่เป็นความจริง แต่จะทำให้มีการบุรุกพื้นที่ป่ารอบอ่างเพ่ิมข้ึนและทำให้น้ำในลำห้วยแห้งลง จากข้อมูลของ
จังหวัดพัทลุง มีเพียงอำเภอปากพะยนู ท่ีขาดแคลนน้ำ ฝายห้วยยูงส่งน้ำ ประมาณ 4,500 ไร่ และฝายหัวสะตอ ส่งน้ำ
ประมาณ 2,500 ไร่ รวมแล้วประมาณ 7,000 ไร่

ขอ้ ชแี้ งของโครงการ ขอเอกสารที่คณุ สาทร สมพงศ์ นำเสนอในที่ประชมุ ในวนั นี้ เพ่อื มาทำข้อมูล
ประกอบการชี้แจงต่อไปเพราะมีหลายประเด็น

(2) ประเดน็ ที่ 2 คุณเดชา เล็มหมาด ได้ใหค้ วามเห็นวา่
ขอใหผ้ ู้ท่ีมาเก็บข้อมูลหรอื หนว่ ยงานทีเ่ กี่ยวขอ้ งมีความเปน็ กลาง เน่อื งจากท่ผี า่ นมามีการดำเนินการ

โดยไม่แจ้งให้ประชาชนทราบในการที่จะเสนอโครงการหรือประชุมเก่ียวกับโครงการ ดังนั้นเมื่อเร่ิมการศึกษาใหม่แล้ว
จึงอยากใหร้ ว่ มกันเก็บขอ้ มลู เพ่ือให้เกิดความโปร่งใส และไมใ่ หเ้ กิดความขดั แยง้ ในพ้นื ที่

บรษิ ทั เอช ทู โอ คอนซัลท์ จำกดั 4-9 รายงานความก้าวหน้า
บรษิ ทั เอน็ ริช คอนซลั แตนท์ จำกดั (Progress Report)

โครงการศกึ ษาผลกระทบสิง่ แวดลอ้ มเบอื้ งตน้ อ่างเกบ็ นำ้ เหมอื งตะกว่ั บทที่ 4

อันเน่ืองมาจากพระราชดำริ จังหวัดพัทลงุ การประชาสัมพันธ์ มวลชนสัมพันธ์ และการมีสว่ นร่วมของประชาชน

ขอให้มีการศึกษาอ่างเก็บน้ำ จำนวน 3 อ่างในจังหวัดพัทลุง (บริเวณใกล้กับพ้ืนท่ีโครงการ) ที่ได้
ดำเนินการกอ่ สรา้ งไปแลว้ วา่ มีประโยชน์ คุ้มคา่ กับการลงทนุ หรอื ผลกระทบอะไรบ้าง

อยากให้มีการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านสุขภาพ (EHIA) เนื่องจากในปี พ.ศ. 2557
มเี หตุการณ์รนุ แรงเกดิ ขึ้นในพ้นื ที่ ทำใหช้ าวบ้านเกิดความหวาดระแวง

อยากให้มีการศึกษาเกี่ยวกับสตั ว์น้ำในพื้นท่ี ต้ังแต่ปี 2550 ถึงปัจจบุ ัน ว่ามกี ารเปล่ียนแปลงหรือไม่
อย่างไร

ในการศึกษาโครงการครงั้ น้ี ขอใหม้ ีการเปิดเผยขอ้ มูลทกุ อยา่ งกับชาวบา้ นในพืน้ ท่อี ยา่ งทว่ั ถงึ เพ่ือให้
ชาวบ้านเข้าถึงข้อมูลไดง้ า่ ย และเปน็ ขอ้ มูลทีเ่ ช่ือถือได้

อยากให้ศึกษาความเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ที่จะเกิดข้ึนในอนาคต หากมีโครงการเกิดขึ้น และขอให้
ศกึ ษาการจดั การระบบประปาของชุมชนที่มีอยใู่ นระหว่างการก่อสร้างดว้ ย

อยากได้ข้อมูลท่ีชัดเจนเร่ืองพื้นที่ป่าบริเวณท่ีจะสร้างอ่างเก็บน้ำ ขอให้ศึกษาความถูกต้องของการ
ไดม้ าของทีด่ นิ ดว้ ย

อยากให้ศึกษาภาพรวมของจังหวัดพัทลุงว่า มีเหตุผลหรือความจำเป็นอย่างไรท่ีจะมีแผนในการ
กอ่ สร้างอา่ งเก็บน้ำในจงั หวัดพทั ลุง ถงึ 21 แหง่

ในเรื่องการขออนุญาตใชพ้ ้ืนที่เพ่ือการก่อสรา้ งโครงการ อยากให้กรมชลประทานชะลอออกไปก่อน
เนอื่ งจากปัจจุบนั ในพ้นื ทยี่ งั มกี ารขดั แยง้ ของประชาชนอยู่ ขอใหร้ อผลการศกึ ษาผลกระทบกอ่ น

ขอ้ ชีแ้ งของโครงการ
1. ในการศึกษาท่ีปรึกษาจะดำเนินการตามท่ีสภาวิชาชีพควบคุมในเร่ืองจรรยาบรรณวิชาชีพอยู่
แล้ว การเขียนรายงานจะเป็นไปตามข้อเท็จจริงท่ีเกิดข้ึน ในการศึกษาท่ีปรึกษาพร้อมและยินดีที่จะให้มีประชาชน
มาร่วมศึกษาทุกคร้ังท่ีลงศึกษาสำรวจข้อมูล นอกจากน้ียังสามารถตรวจสอบข้อมูลในรายงานต่างๆ ของที่ปรึกษาได้
ท้ังหมด เพราะที่ปรึกษาไม่ไดม้ สี ่วนได้เสยี ในการก่อสรา้ งโครงการ
2. กรมชลประทานและทป่ี รกึ ษาขอขอบคณุ ประชาชนในพ้ืนที่ท่ีได้ให้โอกาสทมี งานเข้ามาศึกษาและ
ค้นหาความจริงให้กับพี่น้องประชาชน ซ่ึงทีมงานศึกษาจะนำข้อเสนอแนะต่างๆ ของคุณเดชา ไปดำเนินการตามท่ี
เสนอแนะ
3. เรื่องการประปาในระหว่างการก่อสร้างจะยังไม่มีการเปล่ียนแปลงใด แต่ภายหลังก่อสร้างแล้ว
สามารถใช้น้ำในโครงการได้ซึ่งท่ีปรึกษาจะได้มีการศึกษาในเรื่องน้ีเพ่ิมเติมให้ ส่วนเรื่องคุณภาพน้ำ ในการศึกษาครั้งน้ี
จะมกี ารเกบ็ ตัวอยา่ งน้ำเพือ่ ไปวเิ คราะหค์ ุณภาพนำ้ อยแู่ ลว้ จะได้ทราบผลทีแ่ ท้จรงิ ในเร่ืองคุณภาพนำ้
4. ในปัจจุบันการดำเนินการใดๆของกรมชลประทานต้องได้รับการอนุญาตจากเจ้าของพ้ืนท่ีก่อน
จึงจะดำเนินการได้ ไมว่ ่าจะเป้น กรมอุทยานฯ หรอื กรมป่าไม้
5. ในเรื่องจำนวนอ่างต่างๆ ที่มีถึง 21 แห่ง เป็นผลมาจากการศึกษาในระดับแผนลุ่มน้ำ
อ่างเหล่านั้นเป็นอ่างที่มีศักยภาพเท่านั้น ต้องมีการสอบถามความต้องการของประชาชนในพื้นท่ีอีกคร้ังก่อนจะมีการ
ดำเนนิ การก่อสร้าง

บรษิ ทั เอช ทู โอ คอนซัลท์ จำกัด 4-10 รายงานความกา้ วหน้า
บริษัท เอน็ ริช คอนซัลแตนท์ จำกัด (Progress Report)

โครงการศกึ ษาผลกระทบส่ิงแวดลอ้ มเบอ้ื งตน้ อา่ งเกบ็ น้ำเหมอื งตะก่ัว บทท่ี 4

อนั เนอื่ งมาจากพระราชดำริ จังหวัดพัทลงุ การประชาสมั พันธ์ มวลชนสัมพันธ์ และการมีส่วนร่วมของประชาชน

3 ประเด็นที่ 3 คุณสวุ ิทย์ เจะโซะ (ผอ.โรงเรยี นบ้านหนองธง)
ขอให้ทบทวนเรื่อง การขอพระราชทาน (จุดเริ่มต้น) โครงการ เพราะคุณโสภณ กสิวงศ์

ประธานสภาราษฎรจงั หวัดพัทลงุ ไม่ใช่ประชาชนในเขตตำบลหนองธง และโครงการควรมีการศึกษาวิเคราะห์จุดแข็ง
จุดอ่อน หรือ ทำ SWOT Analysis ก่อนท่ีจะมาทำโครงการ

การเข้าร่วมประชุมครั้งน้ี มาตามสิทธิในรัฐธรรมนูญ มาตรา 50 วงเล็บ 8 สิทธิตามหน้าที่ในการที่
สนับสนุน อนุรักษ์ คุ้มครอง และมาตามหนังสือเชิญของกรมชลประทาน และมาเน่ืองจากเป็นผู้ท่ีได้รับผลกระทบ
โดยตรง เพราะฉะนน้ั การถามจึงเป็นสิทธิตามทีไ่ ด้กลา่ วมาแล้ว

น้ำตกโตนสะตอหรือที่ต้ังหัวงานของโครงการอ่างเก็บน้ำเหมืองตะกั่ว ช่วงเดือน มกราคม -
พฤษภาคม จะเป็นสถานที่ท่องเท่ียวท่ีสำคัญของประชาชนในพื้นท่ี เพราะปัจจุบันน้ำตกแม่แตงไม่มีแล้วเน่ืองจากการ
สร้างเข่ือน ดังน้ันถ้าท่านให้ข้อมูลว่าจะสร้างอ่างเก็บน้ำเพ่ือการท่องเที่ยว จึงขอให้ท่านได้ศึกษาสถิตินักท่องเท่ียวของ
เขื่อนป่าบอน และเขอื่ นหวั ชา้ งด้วย รายไดข้ องชมุ ชนเป็นอย่างไร

นอกจากน้ี ปัจจุบันประชาชนบางส่วนได้รับผลกระทบจากอ่างเก็บน้ำคลองหัวช้างมาแล้ว เพราะ
อา่ งเก็บน้ำคลองหัวช้างสร้างเสร็จแล้วปล่อยน้ำแต่ละครง้ั คุณภาพน้ำไมด่ ี ใชง้ านไม่ได้ ในฤดูแล้งชาวบ้านเหมืองตะก่ัว
ต้องใช้น้ำ แล้วถ้าคุณภาพน้ำไม่ดี ชาวบ้านจะยอมรับได้หรือไม่ ปัจจุบันอ่างเก็บน้ำป่าบอนยังมีน้ำไม่เพียงพอท่ีจะให้
ชาวบ้านได้ใช้ ดังนั้นหากแก้ไขให้อ่างเก็บน้ำป่าบอนมีการกักเก็บน้ำให้ชาวบ้านใช้อย่างเพียงพอตามท่ีมีการศึกษาไว้
ก็จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง อยากให้มีการศึกษาถึงผลกระทบจากการสร้างเขื่อนอ่างเก็บน้ำคลองหัวช้าง และอ่างเก็บ
น้ำป่าบอน ดว้ ย

ข้อช้ีแ งของโครงการ ความเป็นมาของโครงการอ้างอิงมาจากเอกสารราชการ ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
ตามท่ีมีข้อมูลอยู่ เช่น หน่วยงาน กปร. ซึ่งมีหนังสือมาให้กรมชลประทานไปศึกษาข้อมูลเพ่ิมเติม อย่างไรก็ตามใน
การศึกษาครั้งนี้จะเป็นการทบทวนความต้องการของพี่น้องประชาชนในพื้นที่อีกคร้ัง ว่ายังมีความต้องการโครงกา ร
หรือไม่ ดังนั้นขอให้ทีมงานได้เข้ามามีโอกาสศึกษาเพ่ือนำข้อมูลต่างๆ ที่แท้จริงในปัจจุบันไปเปิดเผยหรือช้ีแจงต่อ
หน่วยงานท่ีเก่ียวข้องต่อไป ซ่ึงจะมีการศึกษาความเหมาะสมด้านวิศวกรรม ด้านเศรษฐศาสตร์ ด้านสิ่งแวดล้อม
และดา้ นการมสี ว่ นรว่ มของประชาชนควบคู่กันไปดว้ ย

การทำ SWOT Analysis กรมชลประทานจะดำเนินการในการศึกษาในระดับลุ่มน้ำ เพ่ือให้ได้
แผนงาน กอ่ นท่ีจะมาศึกษาโครงการ ซงึ่ ในการศกึ ษาคร้ังนเ้ี ป็นการศึกษาในระดับโครงการ อย่างไรก็ตามการจะอธบิ าย
เรอ่ื งการทำ SWOT Analysis ให้กับประชาชนทว่ั ไปได้เข้าใจเปน็ เร่อื งยาก

4 ประเด็นที่ 4 คุณประสทิ ชยั หนนู วล ไดใ้ ห้ความเหน็ ว่า
เรอ่ื งท่ดี ินในการก่อสร้างอ่างเกบ็ น้ำเหมอื งตะกัว่ จะใช้ทดี่ ินในเขตป่าสงวน ซ่ึงปัจจบุ นั ป่าในประเทศ

ไทยเหลอื น้อย และมีบทเรียนมากมายจากการสร้างเข่ือนแล้วเป็นการทำลายป่า และขอให้ที่ปรึกษาได้ตรวจสอบการ
ถือครองสิทธิ์ที่ดินในพ้ืนท่ีด้วย ว่าเป็นประชาชนในพื้นที่หรือไม่ แล้วการจ่ายค่าชดเชยต่างๆ สามารถดำเนินการตาม
กฎหมายได้หรอื ไม่ ไมอ่ ยากให้เปน็ การหลอกลวงประชาชนในเรื่องน้ี

กรมชลประทานควรมีการศึกษาระดับยุทธศาตร์ (SEA) ก่อนในแต่ละลุ่มน้ำ โดยเฉพาะในภาคใต้
เพราะถ้าเป็นการศกึ ษา IEE แล้วจะเป็นการนำไปส่กู ระบวนการขอใชพ้ น้ื ท่ี

บริษัท เอช ทู โอ คอนซลั ท์ จำกัด 4-11 รายงานความกา้ วหน้า
บรษิ ทั เอ็นริช คอนซลั แตนท์ จำกดั (Progress Report)

โครงการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบอ้ื งต้น อา่ งเกบ็ นำ้ เหมืองตะกั่ว บทท่ี 4

อนั เน่อื งมาจากพระราชดำริ จังหวดั พัทลุง การประชาสัมพนั ธ์ มวลชนสัมพนั ธ์ และการมีสว่ นรว่ มของประชาชน

ขอให้มกี ารทบทวนวา่ โครงการน้ีเปน็ โครงการอันเนือ่ งมาจากพระราชดำริ จริงหรอื ไม่
ขอใหก้ รมชลประทานไปศกึ ษาเรื่องการจดั การนำ้ กอ่ นทจี่ ะมีการกอ่ สร้างอา่ งเกบ็ น้ำ น้ำควรจะอยใู่ น
คลองมีการใช้ประโยชน์ต้งั แตต่ ้นนำ้ จนท้ายน้ำ การสรา้ งอา่ งเก็บนำ้ เปน็ การกีดขวางลำน้ำ ซึง่ จะก่อให้เกดิ ความเสียหาย
หรือเกดิ ผลกระทบตามมา โดยเฉพาะผูท้ ี่อยูท่ า้ ยน้ำ
ขอ้ ช้ีแ งของโครงการ
1. เรอ่ื งการชดเชยทดี่ ิน เราจะพจิ ารณาการซ้อื ขายอยา่ งเปน็ ธรรม
2. ระบบแหล่งน้ำและทิศทางน้ำ อยู่ในการศึกษาคร้ังน้ีอยู่แล้ว ในการศึกษาจะไม่ได้ศึกษาเรื่อง
ความตอ้ งการอย่างเดยี ว แตจ่ ะมีการศกึ ษาผลกระทบด้านท้ายน้ำด้วย เพ่อื รักษาระบบนิเวศ ระดบั น้ำกอ่ นมีอ่างเก็บน้ำ
และหลงั มีอ่างเก็บน้ำปริมาณนำ้ จะมีการเปลีย่ นแปลงเปน็ อย่างไร ซงึ่ ส่วนหนงึ่ ข้ึนอยู่กบั ความต้องการนำ้ ของพน้ื ท่ีในฤดู
แล้งดว้ ย
3. ในส่วนการอ้างชื่อโครงการพระราชดำริ นั้น ในการศึกษาคร้ังน้ีตามเอกสารที่ปรากฏมีหนังสือ
ชดั เจนวา่ มลี ำดบั การดำเนินการอย่างไร
4. ขอให้ที่ปรึกษาไปศึกษาพ้ืนที่รับน้ำกับการสร้างเข่ือนมีผลกระทบต่อปริมาณน้ำหรือไม่ แม้ว่า
ภาคใต้จะมฝี นตกชุก แตช่ ว่ งหน้าแล้งก็ไม่มนี ้ำ
5 ประเด็นท่ี 5 คณุ สมชาย เล็มหมาด (ส.อบต.หนองธง) ไดใ้ ห้ความเหน็ วา่
ปจั จุบนั เศรษฐกิจตกต่ำ อยากให้ผู้ท่ีคดั ค้านไปตรวจสอบความแห้งแล้งหรือความต้องการน้ำของใน
พื้นท่ีตำบลหนองธงทั้งด้านการบริโภค อุปโภค ด้านการเกษตร ซ่ึงในอนาคตยังต้องมีการพัฒนาพ้ืนท่ีต่อไปย่ิงทำให้มี
ความต้องการน้ำมากย่ิงขนึ้ และขอให้ทางทมี การศกึ ษาไปสำรวจความต้องการของประชาชนในพืน้ ทใี่ หค้ รอบคลมุ ดว้ ย
อยา่ สำรวจหรือศกึ ษาด้านส่ิงแวดล้อมเพียงอย่างเดียว
ขอ้ ชีแ้ งของโครงการ
1. ในการศึกษาจะมีทีมสำรวจเศรษฐกิจสังคม ลงไปสำรวจ สอบถามประชาชนในพื้นที่ถึงสภาพ
ปัญหาต่างๆ ทีเ่ กี่ยวข้องโดยเฉพาะเร่ืองความต้องการนำ้
2. ส่วนโครงการอ่างเก็บน้ำป่าบอน ท่ีปรึกษาจะไปตรวจสอบสภาพปัจจุบันที่เกิดข้ึน เพื่อนำมา
ประกอบการศึกษาผลกระทบและเสนอมาตรการปอ้ งกันแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดลอ้ มของโครงการตอ่ ไป
6 ประเด็นท่ี 6 คุณสันติ จติ เกษม ไดใ้ ห้ความเห็นวา่
การมาศึกษาอีกคร้ังเป็นเร่ืองทีดี เน่ืองจากเรื่องน้ีเกิดมา 30 ปีแล้ว ประชาชนท่ีคัดค้านก็อย่าเพิ่งไป
กลา่ วโทษ ขอให้ศึกษาอย่างละเอยี ด ตรงไปตรงมา เพื่อลูกหลานรุ่นต่อไปจะไดไ้ ม่วา่ เราเสียคา่ โง่
ประเด็นท่ี คณุ สนุ สิ า จันทร์ประสิทธิ์ ได้ใหค้ วามเห็นว่า
เป็นเรื่องท่ีดีท่ีกรมชลประทาน มีการเร่ิมศึกษาโครงการใหม่อีกคร้ัง เพ่ือเป็นการทบทวนการศึกษา
โครงการว่าปัจจุบันอ่างเก็บน้ำเหมืองตะก่ัวยังมีความจำเป็นหรือไม่ เพราะระยะเวลาผ่านมาเกือบ 30 ปีแล้ว ขอให้มี
การศึกษาวา่ ชาบา้ นสว่ นไหนได้ประโยชนส์ ่วนไหนเสียประโยชน์ วนั นี้เป็นเรื่องท่นี า่ ยินดที ี่ทางกรมชลประทานและทีมที่
ปรกึ ษามกี ารรับฟงั ความคิดเห็นของประชาชน
อยากเสนอว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ท่ีจะให้มีหน่วยงานที่ 3 (third party) เข้าร่วมในการศึกษาข้อมูล
เพอ่ื ความสบายใจของกลมุ่ ประชาชนมากยง่ิ ขน้ึ รวมทง้ั การให้ชมุ ชนเองเข้ามามีสว่ นร่วมในการศึกษาด้วย ความขัดแย้ง
ทม่ี อี ยกู่ อ็ าจจะคลค่ี ลายลงได้

บรษิ ัท เอช ทู โอ คอนซลั ท์ จำกดั 4-12 รายงานความกา้ วหน้า
บรษิ ัท เอน็ รชิ คอนซลั แตนท์ จำกัด (Progress Report)

โครงการศกึ ษาผลกระทบสิง่ แวดล้อมเบื้องตน้ อ่างเกบ็ น้ำเหมืองตะกว่ั บทที่ 4

อันเน่อื งมาจากพระราชดำริ จังหวัดพัทลงุ การประชาสัมพนั ธ์ มวลชนสัมพนั ธ์ และการมสี ว่ นรว่ มของประชาชน

ข้อช้ีแ งของโครงการ ในเรื่องการเข้าร่วมในการศึกษาข้อมูลของโครงการท่ีปรึกษาขอหารือกับ
คณะกรรมการกอ่ นว่าจะติดขดั ระเบยี บหรอื ข้อจำกดั ท่เี กยี่ วข้องหรอื ไม่

8) ประเด็นที่ 8 คุณบำรงุ คงสมา ผอ.ส่วนการควบคุมและปฏิบัติการไฟปา่ ไดใ้ หค้ วามเหน็ วา่
ในพ้ืนทร่ี บั น้ำท้งั หมด ประมาณ 12,500 ไร่ มกี ารสรา้ งอ่าง 350 ไร่ อยากให้ศกึ ษาพ้ืนทีร่ บั ประโยชน์

ว่ามีก่ีไร่ และอยากให้สรุปเรื่องการปนเป้ือนของสารเคมีเข้าสู่อ่างเก็บน้ำ เพ่ือให้ประชาชนรับทราบถึงความปลอดภัย
ของนำ้ ในอา่ ง หากมีการนำไปใชเ้ พ่อื การอปุ โภคบริโภค

8) สรุปความคิดเห็นและขอ้ เสนอแนะ ากการวเิ คราะหแ์ บบสอบถาม ากผู้เขา้ ร่วมประชมุ
การประชุมดังกล่าว ภายหลังจากการนำเสนอของบริษัทฯ ที่ปรึกษา มีผู้ตอบแบบสอบถามกลับมา

ทั้งหมด 134 คน คิดเป็นร้อยละ 81.71 ของผู้เข้าร่วมประชุมทั้งหมด (ผุ้เข้าร่วมประชุม 164 คน ไม่รวมที่ปรึกษาฯ
และคณะกรรมการฯ) ผลการวเิ คราะห์แบบสอบถามทผ่ี ้เู ข้าร่วมประชมุ ตอบกลับมา สรุปไดด้ ังน้ี

(1) ผู้ที่ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ เป็นเพศชาย ร้อยละ 49.25 เป็นเพศหญิง ร้อยละ 38.81
และไม่ตอบ ร้อยละ 11.49 มีอายุระหว่าง 51-60 ปี ร้อยละ 36.57 รองลงมาอายุ 41-50 ปี รอ้ ยละ 23.88

ผู้ท่ีตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ เป็นประชาชนทั่วไป (ผู้ได้รับผลกระทบ) ร้อยละ 53.73 รองลงมา
สังกัดหน่วยงานราชการ ร้อยละ 23.13 สมาชิกสภาท้องถิ่น ร้อยละ 9.70 และกำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน 6.72 ตามลำดับ
ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกร ร้อยละ 62.79 รองลงมาอาชีพรับราชการ ร้อยละ 25.37 ค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว
คิดเปน็ รอ้ ยละ 5.97 และ รบั จ้างทั่วไป ร้อยละ 2.99 ตามลำดบั

การศึกษา ส่วนใหญ่อยู่ในระดับประถมศึกษา ร้อยละ 29.10 รองลงมา เป็นระดับมัธยมศึกษา
ตอนต้น ปริญญาตรี สูงกวา่ ปริญญาตรี และ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย/ปวช. คิดเป็นรอ้ ยละ 24.63, 16.42, 11.94
และ 11.19 ของผตู้ อบแบบสอบถามท้ังหมด ตามลำดบั

(2) ความคิดเห็นเก่ียวกับเป้าหมายในอนาค ตของโครงการพัฒ นาอ่างเก็บน้ำเหมืองตะกั่ว
อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดพัทลุง ผู้เข้าร่วมประชุมท่ีตอบแบบสอบถามในข้อน้ี ร้อยละ 76.87 ของผู้ท่ีตอบ
แบบสอบถาม เห็นด้วยในระดับมาก ว่าควรมีเป้าหมายเพ่ือการแก้ไขปัญหาน้ำแล้งเพ่ือการเกษตร รองลงมา
เป็นการแก้ไขปัญหาแหล่งน้ำดิบเพ่ือการผลิตประปา การพัฒนาเป็นแหล่งท่องเท่ียว การเพ่ิมพื้นท่ีแหล่งประมงน้ำจืด
ให้กับประชาชน และการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม คิดเป็นร้อยละ 72.39, 70.90, 67.91 และ 41.04 ของผู้ที่ตอบ
แบบสอบถาม ตามลำดบั

(3) ผู้เข้าร่วมประชุมที่ตอบแบบสอบถาม ส่วนใหญ่ ร้อยละ 44.78 ของผู้ตอบแบบสอบถาม ทั้งหมด
ได้รับความรู้และเข้าใจในเน้ือหาของการจัดประชุมในระดับมาก รองลงมา อยู่ในระดับปานกลาง และน้อย คิดเป็น
ร้อยละ 40.30 และ 2.99 ตามลำดับ โดยมผี ทู้ ่ียงั ไมเ่ ข้าใจรอ้ ยละ 0.75 และมผี ทู้ ไี่ มต่ อบคำถามร้อยละ 11.19

ผเู้ ข้ารว่ มประชมุ ทีต่ อบแบบสอบถาม สว่ นใหญ่ รอ้ ยละ 53.73 ใหค้ วามเห็นว่าการประชุมมกี ารเปิด
โอกาสให้ซักถามและแสดงความคิดเห็นได้ในระดับมาก และร้อยละ 19.40 ให้ความเห็นว่าอยู่ในระดับปานกลาง
รอ้ ยละ 21.64 ไม่ตอบแบบสอบถามในขอ้ นี้

สำหรับช่องทางในการให้ข้อมูล ข่าวสารและการประชาสัมพันธ์ของโครงการ ส่วนใหญ่ร้อยละ
22.22 เห็นว่าควรผ่านการจัดประชุม รองลงมาเห็นว่าควรผ่านกำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน ผ่านกลุ่มผู้ใช้น้ำ ผ่านเสียงตามสาย
ของหมบู่ า้ น ผ่านเทศบาล/อบต. และ ผา่ นอำเภอ คิดเปน็ รอ้ ยละ 18.92, 13.81, 11.41, 9.61 และ 9.31 ตามลำดบั

บริษัท เอช ทู โอ คอนซลั ท์ จำกัด 4-13 รายงานความก้าวหน้า
บริษทั เอ็นรชิ คอนซลั แตนท์ จำกดั (Progress Report)

โครงการศกึ ษาผลกระทบส่งิ แวดล้อมเบอ้ื งตน้ อา่ งเก็บน้ำเหมืองตะกัว่ บทที่ 4

อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จงั หวดั พัทลุง การประชาสัมพนั ธ์ มวลชนสัมพนั ธ์ และการมสี ่วนร่วมของประชาชน

(4) ความคิดเหน็ เกี่ยวกับ ประโยชนท์ ี่ท้องถ่ิน ชุมชน ประชาชน จะไดร้ บั จากการดำเนนิ โครงการพฒั นา
อ่างเกบ็ น้ำเหมืองตะก่ัวอันเนอ่ื งมาจากพระราชดำริ จงั หวัดพัทลุง ส่วนใหญ่ ร้อยละ 65.67 ของผู้ที่ตอบแบบสอบถาม
ให้ความเห็นว่าจะได้รับประโยชนจ์ ากโครงการ รอ้ ยละ 21.64 ไม่ตอบแบบสอบถามในข้อน้ี ร้อยละ 8.21 ของผู้ท่ีตอบ
แบบสอบถาม เห็นวา่ ไมไ่ ดร้ ับประโยชน์ และร้อยละ 4.48 ยงั ไมม่ ีความเหน็ ในเร่ืองน้ี

กลุ่มที่ให้ความเห็นว่าจะได้รับประโยชน์จากโครงการ ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า เป็นแหล่งน้ำต้นทุน
ให้กับชุมชน ซ่ึงมีความจำเป็นสำหรับการอุปโภค บริโภค การเกษตรและกิจกรรมเสริมอื่นๆ เช่น การประม ง
การทอ่ งเทีย่ ว เศรษฐกจิ ดีขน้ึ และความเป็นอยู่ของชาวบ้านดีข้ึน

กลุ่มที่เห็นว่าจะไม่ได้รับประโยชน์น้ันให้ความเห็นเพ่ิมเติมว่า จะกระทบต่อวิถีชีวิตการพึ่งพาอาศัย
ป่า คุณภาพน้ำทีแ่ ยล่ ง เกิดความขดั แยง้ ในชมุ ชน ไมอ่ ยากให้มกี ารสร้างเข่อื นในหมู่บา้ นเพราะถา้ มกี ารสร้างเขือ่ นทไ่ี หน
ก็มีปัญหาทุกที่ มีแต่พวกนายทุนแหล่งท่ีได้รับประโยชน์ ที่ทำกินเสียหาย ป่าไม้ถูกทำลาย วิถีชีวิตชุมชนเปล่ียน
ที่ท่องเท่ียวเสียหาย ปัญหาในชุมชนตามมามากมาย จากข้อมูลที่นำเสนอยังไม่มีผลประโยชน์ต่อประชาชน และยังมี
ขอ้ มูลการรับทราบข้อมลู ไม่ครบถ้วนตอ้ งคำนึงถึงผลกระทบตอ่ ระบบนเิ วศของธรรมชาตทิ ีจ่ ะเปลีย่ นไปโดยสนิ้ เชงิ

กลมุ่ ท่ียังไมม่ คี วามเห็นในเร่ืองนเ้ี ห็นวา่ ขอ้ มูลยงั ไม่เพยี งพอ และไมไ่ ด้รูจ้ ักพน้ื ที่เท่าทคี่ วร

4.4.3 การประชาสมั พนั ธ์และให้ขอ้ มูลขา่ วสาร ทีผ่ ่านมา
1) เอกสารประกอบการประชมุ
จดั ทำเปน็ เลม่ ขนาด A4 ในการประชุมปฐมนิเทศโครงการ จำนวน 200 ชดุ
2) โปสเตอร์
จัดทำโปสเตอร์ รูปแบบ X Stand Banner ขนาด 80 x 190 เซนติเมตร และ/หรือบอร์ดขนาดฟิวเจอร์

บอรด์ มาตรฐาน ท่มี ีความเหมาะสมกบั ภาพท่ตี อ้ งการสอื่ ในการประชมุ ปฐมนิเทศโครงการ จำนวน 3 ช้ินงาน
3) แผ่นพบั
จัดทำแผน่ พบั เปน็ กระดาษขนาด A4 พบั สาม พมิ พส์ ี จำนวน 200 ชดุ

4.5 แผนการดำเนนิ งานขั้นตอ่ ไป
4.5.1 แผนการประชมุ กลุ่มยอ่ ย

1) วัตถุประสงค์ เพ่ือนำเสนอผลการคัดเลือกแนวทางการพัฒนาโครงการ เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารโครงการ
ให้แก่ผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับรู้รับทราบ พร้อมทั้งรับฟังปัญหา ข้อมูล ความคิดเห็น และข้อเสนอแนะต่อการดำเนินงาน
ศกึ ษาโครงการ

2) ข้อมูล/ข่าวสารท่ีต้องการนำเสนอ สรุปผลการศึกษาโครงการในภาพรวมทั้งหมด ข้อดี ข้อเสีย รวมท้ัง
ขอ้ จำกดั ในการพฒั นาโครงการ รา่ งการประเมินผลกระทบสง่ิ แวดลอ้ ม มาตรการปอ้ งกันและแก้ไข

3) พื้นท่ีเป้าหมาย ครอบคลุมพื้นท่ีได้รับผลกระทบครอบคลุมพ้ืนท่ีเหนือน้ำ พ้ืนที่ท้ายน้ำ พ้ืนท่ีตาม
แนวคลอง พ้นื ท่ชี ลประทาน

4) กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ หน่วยงานราชการระดับอำเภอ ตำบล ท่ีเก่ียวข้อง ผู้นำชุมชนและผู้ท่ีอยู่ในพื้นท่ี
เป้าหมายทไี่ ดร้ ับผลกระทบจากโครงการฯ

บริษทั เอช ทู โอ คอนซัลท์ จำกัด 4-14 รายงานความกา้ วหน้า
บรษิ ัท เอน็ ริช คอนซัลแตนท์ จำกดั (Progress Report)

โครงการศกึ ษาผลกระทบสง่ิ แวดลอ้ มเบื้องตน้ อา่ งเกบ็ นำ้ เหมอื งตะกว่ั บทที่ 4

อันเนอื่ งมาจากพระราชดำริ จงั หวัดพัทลงุ การประชาสมั พันธ์ มวลชนสัมพันธ์ และการมีสว่ นร่วมของประชาชน

5) ขน้ั ตอนการดำเนนิ งาน วิธกี ารและเทคนิค
- ข้นั ตอนท่ี 1 ลงทะเบยี น กล่าวรายงาน กล่าวเปิดการประชมุ
- ขนั้ ตอนที่ 2 นำเสนอข้อมูลตามรายละเอียดขอ้ มูลตามท่ีกล่าวไว้ข้างตน้
- ขั้นตอนที่ 3 รับฟงั ความคดิ เห็นและแลกเปล่ียนขอ้ มูล
- ขั้นตอนท่ี 4 สรุปการประชุมและชีแ้ จงกิจกรรมทจ่ี ะดำเนนิ การตอ่ ไป

6) อุปกรณ์เครื่องมือ/ประเภทของสื่อ สื่อที่ใช้ ได้แก่ เอกสารประกอบการประชุม แบบแสดงความคิดเห็น
บอร์ดนิทรรศการ นิทรรศการ (รูปแบบ X Stand Banner ขนาด 80x180 เซนติเมตร และ/หรือบอร์ดขนาดฟิวเจอร์
บอร์ดมาตรฐาน) สไลดป์ ระกอบคำบรรยาย

7) ระยะเวลาดำเนินการ กำหนดการประชุมหลังตรวจรับรายงานฉบับกลาง (ITR) มีระยะเวลาดำเนินการ
ภายใน 1 วัน

8) สถานทด่ี ำเนนิ การ พิจารณาใชส้ ถานทีใ่ นอำเภอปา่ บอน
9) ผู้รับผิดชอบดำเนินการ ประกอบด้วย ผู้จัดการโครงการ ผู้เช่ียวชาญด้านชลประทาน ผู้ชำนาญการ
ส่ิงแวดล้อม ผู้เช่ียวชาญด้านการประชาสัมพันธ์และการมีส่วนร่วม และผู้เชี่ยวชาญสาขาอ่ืนที่เกี่ยวข้อง รวมท้ัง
นักวิชาการผชู้ ว่ ยและบุคลากรสนับสนนุ
10) ประโยชนท์ ี่คาดว่าจะได้รับ

- ผู้เข้าร่วมประชุมได้รับทราบผลการศึกษาความเหมาะสมและผลกระทบส่ิงแวดล้อมโครงการ
พรอ้ มทง้ั แสดงความคดิ เห็นตอ่ ผลการศกึ ษาของโครงการ

- โครงการนำผลจากการประชุมมาประกอบการพิจารณาปรับปรุงผลการศึกษาให้สมบูรณ์ย่ิงขึ้น
สอดคล้องกบั ความตอ้ งการของประชาชนใหม้ ากทีส่ ดุ บนพื้นฐานขอ้ มลู และการวิเคราะหท์ างวิชาการ

4.5.2 แผนการประชาสมั พนั ธ์
การจัดทำและเผยแพร่ส่ือเพ่ือการประชาสัมพันธ์ มีวัตถุประสงค์เพ่ือเผยแพร่ข่าวสารและข้อมูลการศึกษา

ความเหมาะสมและผลกระทบส่ิงแวดล้อมของโครงการ ตลอดจนสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่หน่วยงานและ
ประชาชนที่สนใจในวงกว้าง และกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมรับรู้ ร่วมคิดและให้ข้อมูล โดยดำเนินการเป็นระยะๆ
อย่างต่อเนือ่ ง และเลือกใชป้ ระเภทสื่อให้เหมาะสม สอดคล้องกับการนำเสนอผลการศึกษาของโครงการ โดยจัดทำสื่อ
ตา่ งๆ ใหก้ รมชลประทานเหน็ ชอบก่อนดำเนนิ การจดั กจิ กรรมการมีสว่ นรว่ มของประชาชน ดงั นี้

1) การผลิตวีดีทัศน์
ความยาวประมาณ 8-12 นาที ดำเนนิ การ 1 คร้ัง นำเสนอในการประชุมปัจฉิมนเิ ทศโครงการ

2) จดหมายข่าว
จดั ทำเป็นกระดาษ ขนาด A4 พมิ พ์สส่ี ี ความยาวประมาณ 1-2 หนา้ เพอ่ื ใหข้ า่ วสารโครงการและจดั สง่ ให้

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น หน่วยงานประชาสัมพันธ์ของกรมชลประทานทั้งในส่วนกลางและส่วนท้องถิ่น สำนักงาน
ประชาสัมพันธ์จังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และสื่อมวลชนท้องถ่ิน รวมท้ังประชาชนในพ้ืนที่
โครงการ เน้อื หาประกอบด้วย ความก้าวหนา้ ของงาน และกิจกรรมการมสี ่วนรว่ มของประชาชน

บริษัท เอช ทู โอ คอนซัลท์ จำกัด 4-15 รายงานความกา้ วหน้า
บรษิ ัท เอน็ รชิ คอนซัลแตนท์ จำกัด (Progress Report)

โครงการศึกษาผลกระทบสิง่ แวดล้อมเบือ้ งต้น อ่างเก็บนำ้ เหมืองตะก่ัว บทที่ 4

อันเน่อื งมาจากพระราชดำริ จังหวัดพัทลงุ การประชาสัมพนั ธ์ มวลชนสัมพันธ์ และการมีสว่ นร่วมของประชาชน

3) ข่าวประชาสมั พนั ธ์แจกสื่อมวลชน
จัดทำเป็นกระดาษ ขนาด A4 พิมพ์ขาวดำหน้าเดียว รวมทั้งในรปู แบบของไฟล์สรุปเนื้อหาท่ีนำเสนอใน

การประชมุ ปฐมนิเทศโครงการ และปัจฉิมนิเทศโครงการ เพ่ือใหส้ ่อื มวลชนนำไปเผยแพร่ในส่อื ของตน
4) บทความประชาสมั พนั ธ์ทางส่ือสงิ่ พิมพ์
บทความทางหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น นำเสนอในรูปบทความส้ันสรุปภาพรวมของโครงการ พร้อมรูป

ประกอบ จำนวน 2 คร้งั คอื ในช่วงหลงั การประชมุ ปฐมนเิ ทศ และหลังการประชุมปจั ฉิมนิเทศ
5) ส่ือวิทยกุ ระจายเสียง
บทความทางวิทยุ นำเสนอในรูปของบทความสั้น 2-10 นาที โดยประชาสัมพันธ์ผ่านเครือข่ายวิทยุชุมชน

ในพืน้ ที่โครงการ 3 ครงั้ คือ ก่อนการประชมุ ปฐมนิเทศ กอ่ นการประชุมกลมุ่ ย่อย และกอ่ นการประชุมปัจฉิมนเิ ทศ
6) การจดั กจิ กรรมส่ือสัญจร
การจัดกิจกรรมส่อื สัญจรแต่ละครั้ง มีสื่อมวลชนรว่ มทุกแขนง ไดแ้ ก่ วิทยุ ส่อื สง่ิ พมิ พ์ โทรทัศน์

บริษทั เอช ทู โอ คอนซัลท์ จำกดั 4-16 รายงานความกา้ วหน้า
บรษิ ัท เอน็ ริช คอนซลั แตนท์ จำกัด (Progress Report)

โครงการศกึ ษาผลกระทบส่ิงแวดล้อมเบือ้ งต้น อ่างเกบ็ น้ำเหมอื งตะกว่ั บทที่ 5
อนั เน่ืองมาจากพระราชดำริ จังหวดั พทั ลงุ แผนการดำเนนิ งานในขัน้ ถัดไป

บทที่ 5

แผนการดำเนนิ งานในขน้ั ถดั ไป

แผนการดำเนนิ งานศึกษาโครงการในข้ันถัดไป มีดงั นี้
(1) การศกึ ษาทบทวนความเหมาะสม มกี ิจกรรมทจ่ี ะดำเนนิ การ ประกอบด้วย

1) การศึกษาทบทวนทางเลือกรูปแบบการพัฒ นาโครงการ การศึกษาทบทวนทางเลือกที่ตั้ง
หัวงานโครงการท่ีเหมาะสม การศึกษาทบทวนขนาดความจุอ่างเก็บน้ำ การศึกษาทบทวนระบบส่งน้ำชลประทาน
ที่เหมาะสม และสรุปองค์ประกอบของโครงการทเี่ หมาะสมเบือ้ งต้น

2) การศกึ ษาและวิเคราะหท์ างด้านวชิ าการสาขาตา่ งๆ เพ่มิ เตมิ
(2) การศึกษาผลกระทบสงิ่ แวดล้อมเบื้องต้น จะเป็นการศึกษาสภาพแวดล้อมปัจจุบนั ของทรัพยากรธรรมชาติและ
สง่ิ แวดลอ้ มในพ้ืนทโี่ ครงการ พรอ้ มทัง้ ทำการสำรวจและเก็บตัวอยา่ งในภาคสนามในส่วนทีไ่ ม่ไดอ้ ยู่ในเขตพน้ื ท่ีป่าสงวน
แห่งชาติ ป่าเทือกเขาบรรทัดแปลงท่ี 1 ตอนท่ี 3 และเขตรักษาพันธ์ุสัตวป์ ่าเขาบรรทัด ได้แก่ การสำรวจการใชท้ ่ีดินในพ้ืนที่
รับประโยชน์ การสำรวจเศรษฐกจิ สงั คม เป็นตน้
(3) การดำเนินงานด้านประชาสัมพันธ์และการมีส่วนรว่ ม ประกอบดว้ ย การจัดทำสื่อประชาสัมพันธโ์ ครงการ ได้แก่
จดหมายข่าวฉบับที่ 1 และการเตรียมการจัดประชุมกลุ่มย่อย คร้ังท่ี 1 ซ่ึงคาดว่าจะจัดขึ้นประมาณเดือนกุมภาพันธ์
พ.ศ. 2563
(4) การจัดทำรายงาน ประกอบด้วย

1) รายงานประจำเดือนมกราคม พ.ศ. 2563
2) รายงานฉบบั กลาง กำหนดสง่ วนั ที่ 14 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2563

บริษัท เอช ทู โอ คอนซลั ท์ จำกดั 5-1 รายงานความก้าวหน้า
บริษทั เอ็นริช คอนซลั แตนท์ จำกดั (Progress Report)

โครงการศึกษาผลกระทบสิง่ แวดล้อมเบือ้ งตน้ อา่ งเก็บนำ้ เหมอื งตะกัว่ ภาคผนวก ก

อันเนอื่ งมาจากพระราชดำริ จงั หวัดพัทลุง การประชาสมั พนั ธ์ มวลชนสมั พนั ธ์ และการมีส่วนร่วมของประชาชน

ภาคผนวก ค
การประชาสมั พนั ธ์ มวลชนสมั พนั ธ์ และการมสี ว่ นร่วม

ค.1 รายช่อื ผู้เข้ารว่ มประชุม

บรษิ ัท เอช ทู โอ คอนซลั ท์ จำกัด ก-1 รายงานความกา้ วหน้า
บริษัท เอน็ รชิ คอนซัลแตนท์ จำกัด (Progress Report)

โครงการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น อ่างเก็บน้ำเหมืองตะกว่ั ภาคผนวก ก

อนั เนื่องมาจากพระราชดำริ จงั หวัดพัทลงุ การประชาสมั พนั ธ์ มวลชนสมั พันธ์ และการมสี ่วนร่วมของประชาชน

บรษิ ัท เอช ทู โอ คอนซลั ท์ จำกัด ก-2 รายงานความก้าวหน้า
บริษัท เอน็ รชิ คอนซัลแตนท์ จำกดั (Progress Report)

โครงการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น อ่างเก็บน้ำเหมืองตะกว่ั ภาคผนวก ก

อนั เนื่องมาจากพระราชดำริ จงั หวัดพัทลงุ การประชาสมั พนั ธ์ มวลชนสมั พันธ์ และการมสี ่วนร่วมของประชาชน

บรษิ ัท เอช ทู โอ คอนซลั ท์ จำกัด ก-3 รายงานความก้าวหน้า
บริษัท เอน็ รชิ คอนซัลแตนท์ จำกดั (Progress Report)

โครงการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น อ่างเก็บน้ำเหมืองตะกว่ั ภาคผนวก ก

อนั เนื่องมาจากพระราชดำริ จงั หวัดพัทลงุ การประชาสมั พนั ธ์ มวลชนสมั พันธ์ และการมสี ่วนร่วมของประชาชน

บรษิ ัท เอช ทู โอ คอนซลั ท์ จำกัด ก-4 รายงานความก้าวหน้า
บริษัท เอน็ รชิ คอนซัลแตนท์ จำกดั (Progress Report)

โครงการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น อ่างเก็บน้ำเหมืองตะกว่ั ภาคผนวก ก

อนั เนื่องมาจากพระราชดำริ จงั หวัดพัทลงุ การประชาสมั พนั ธ์ มวลชนสมั พันธ์ และการมสี ่วนร่วมของประชาชน

บรษิ ัท เอช ทู โอ คอนซลั ท์ จำกัด ก-5 รายงานความก้าวหน้า
บริษัท เอน็ รชิ คอนซัลแตนท์ จำกดั (Progress Report)

โครงการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น อ่างเก็บน้ำเหมืองตะกว่ั ภาคผนวก ก

อนั เนื่องมาจากพระราชดำริ จงั หวัดพัทลงุ การประชาสมั พนั ธ์ มวลชนสมั พันธ์ และการมสี ่วนร่วมของประชาชน

บรษิ ัท เอช ทู โอ คอนซลั ท์ จำกัด ก-6 รายงานความก้าวหน้า
บริษัท เอน็ รชิ คอนซัลแตนท์ จำกดั (Progress Report)

โครงการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น อ่างเก็บน้ำเหมืองตะกว่ั ภาคผนวก ก

อนั เนื่องมาจากพระราชดำริ จงั หวัดพัทลงุ การประชาสมั พนั ธ์ มวลชนสมั พันธ์ และการมสี ่วนร่วมของประชาชน

บรษิ ัท เอช ทู โอ คอนซลั ท์ จำกัด ก-7 รายงานความก้าวหน้า
บริษัท เอน็ รชิ คอนซัลแตนท์ จำกดั (Progress Report)

โครงการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น อ่างเก็บน้ำเหมืองตะกว่ั ภาคผนวก ก

อนั เนื่องมาจากพระราชดำริ จงั หวัดพัทลงุ การประชาสมั พนั ธ์ มวลชนสมั พันธ์ และการมสี ่วนร่วมของประชาชน

บรษิ ัท เอช ทู โอ คอนซลั ท์ จำกัด ก-8 รายงานความก้าวหน้า
บริษัท เอน็ รชิ คอนซัลแตนท์ จำกดั (Progress Report)

โครงการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น อ่างเก็บน้ำเหมืองตะกว่ั ภาคผนวก ก

อนั เนื่องมาจากพระราชดำริ จงั หวัดพัทลงุ การประชาสมั พนั ธ์ มวลชนสมั พันธ์ และการมสี ่วนร่วมของประชาชน

บรษิ ัท เอช ทู โอ คอนซลั ท์ จำกัด ก-9 รายงานความก้าวหน้า
บริษัท เอน็ รชิ คอนซัลแตนท์ จำกดั (Progress Report)

โครงการศกึ ษาผลกระทบสง่ิ แวดลอ้ มเบื้องตน้ อา่ งเก็บนำ้ เหมอื งตะกว่ั ภาคผนวก ก

อันเนอื่ งมาจากพระราชดำริ จังหวดั พัทลงุ การประชาสัมพนั ธ์ มวลชนสมั พันธ์ และการมีส่วนร่วมของประชาชน

บรษิ ัท เอช ทู โอ คอนซัลท์ จำกัด ก-10 รายงานความกา้ วหน้า
บริษัท เอน็ รชิ คอนซลั แตนท์ จำกัด (Progress Report)

โครงการศกึ ษาผลกระทบสง่ิ แวดลอ้ มเบื้องตน้ อา่ งเก็บนำ้ เหมอื งตะกว่ั ภาคผนวก ก

อันเนอื่ งมาจากพระราชดำริ จังหวดั พัทลงุ การประชาสัมพนั ธ์ มวลชนสมั พันธ์ และการมีส่วนร่วมของประชาชน

บรษิ ัท เอช ทู โอ คอนซัลท์ จำกัด ก-11 รายงานความกา้ วหน้า
บริษัท เอน็ รชิ คอนซลั แตนท์ จำกัด (Progress Report)

โครงการศกึ ษาผลกระทบสง่ิ แวดลอ้ มเบื้องตน้ อา่ งเก็บนำ้ เหมอื งตะกว่ั ภาคผนวก ก

อันเนอื่ งมาจากพระราชดำริ จังหวดั พัทลงุ การประชาสัมพนั ธ์ มวลชนสมั พันธ์ และการมีส่วนร่วมของประชาชน

บรษิ ัท เอช ทู โอ คอนซัลท์ จำกัด ก-12 รายงานความกา้ วหน้า
บริษัท เอน็ รชิ คอนซลั แตนท์ จำกัด (Progress Report)


Click to View FlipBook Version