The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือหลักกิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารี โรงเรียนสว่างอารมณ์วิทยาคม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by mesa_poolsawat, 2020-06-24 03:29:38

คู่มือหลักกิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารี

คู่มือหลักกิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารี โรงเรียนสว่างอารมณ์วิทยาคม

Keywords: คู่มือหลักกิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารี

ผูกทแยง (Diang Lashing )

ดงึ ตวั เชอื กไม้เสาท้ัง ๒ ตน้ ตามมมุ ตรงขา้ มค่แู รก ( มมุ ทแยง ) ประมาณ ๓ รอบ
พนั หักคอไก่ ( พันรอบเชือกระหวา่ งไมเ้ สา ทงั้ สอง ) สัก ๒ - ๓ รอบ พนั เสรจ็ เอาปลายเชือก
อสะพาน



อุปกรณท์ าตอม่อสะพาน ด้วยไม้พลองหรอื เสาเข็ม
๑. เสายาวพอสมควร จานวน ๖ตน้ ( ใช้พลองฝึก )
๒. เชอื กมนลิ าสาหรบั ผูก ๙ เสน้ ขนาดโตพอสมควร ( ฝกึ ด้วยพลองเช

วธิ ีสร้าง ฝึกดว้ ยไม้พลอง
๑. วางไมพ้ ลอง ๒ อันขนานกันห่างกันประมาณ ๒ ใน ๓ ของความยา
๒. เอาไมพ้ ลองอีก ๒ อนั วางทบั ลงบนไม้พลองคู่แรก ( leg ) ให้ปลาย
๓. เอาเชอื กวดั ความยาวของพลอง ทบเชือกแบง่ เป็น ๘ และ ๑๖ ส่วน
๔. เงือ่ นที่ใชผ้ กู ใช้เงือ่ นผูกกากบาทและผกู ทแยง ( ตรงกลาง )

ประโยชน์ ๒. ทาตอม่อสะพาน เสาธงลอ
๑. ใชต้ อ่ เสาหรอื ไม้ให้ยา

ผกู ตอม่อสะพาน ( Trestle )

ชือกยาว ๓ เมตร )
าว เปน็ เสาตั้ง ( leg )
ยยืน่ ออกไปด้านละ ๑/๖ หรือ ๑/๘
น เลื่อนหัวเสาทง้ั ๒ อัน เข้าหากนั อีกข้างละ ๑/๑๖ เพ่อื ทาใหห้ ัวเสาสอดเขา้ หากนั
อย . ทานั่งรา้ น ทาหอคอย



การเก็บเชอื ก

วธิ อี ่านเข็มทศิ
ส่งิ แรกทค่ี ุณต้องเรียนรู้ให้ชวั ร์ ๆ กอ่ นคือทิศทาง อยา่ พ่ึงบอกว

ตะวันออกและตะวันตก ส่วนทิศเหนือเป็นทิศทีส่ าคญั และมักใช้เป็นหลักในก

ทิศ และเข็มทิศ
ทศิ
ทิศ มี ๔ ทศิ ไดแ้ ก่ ทศิ เหนือ ทศิ ใต้ ทิศตะวันออกและทิศต
๑. ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ อย่รู ะหวา่ ง ทศิ ตะวนั ออกกับทศิ เหน
๒. ทิศตะวนั ออกเฉยี งใต้ อยรู่ ะหวา่ ง ทศิ ตะวันออกกับทศิ ใต้ โดย
๓. ทิศตะวันตกเฉยี งเหนอื อยู่ระหว่าง ทศิ ตะวันตกกบั ทิศเหนือ
๔. ทิศตะวันตกเฉยี งใต้ อย่รู ะหว่าง ทิศตะวนั ตกกับทศิ ใต้ โดยทา

ว่าเกิดมาฉันกร็ ทู้ ิศเหนอื ใต้แลว้ แต่ต้องรู้ใหจ้ รงิ ๆ คอื เหนอื , ใต,้
การหาทุกสิ่งตอ่ ๆ ไปได้

ตะวันตก จากน้ีในระหว่างทิศใหญ่ ทัง้ ๔ ทิศ นี้ยงั มีทศิ ทีค่ วรรู้จักอกี ได้แก่
นือ โดยทามุม ๔๕ องศา กับทศิ ตะวนั ออก
ยทามมุ ๔๕ องศา กบั ทศิ ตะวนั ออก

โดยทามุม ๔๕ องศา กบั ทิศตะวันตก
ามุม ๔๕ องศา กบั ทศิ ตะวันตก

ทศิ ทั้งแปด ห

ทิศเหนอื ห
ทิศตะวันออกเฉยี งเหนือ ห
ทิศตะวันออก ห
ทศิ ตะวนั ออกเฉียงใต้ ห
ทศิ ใต้ ห
ทิศตะวนั ตกเฉยี งใต้ ห
ทิศตะวันตก
ทศิ ตะวันตกเฉียงเหนือ

หมายถึง อดุ ร
หมายถงึ อีสาน
หมายถงึ บูรพา
หมายถงึ อาคเนย์
หมายถงึ ทักษิณ
หมายถึง หรดี
หมายถงึ ประจิม
หมายถงึ พายัพ

เข็มทิศ
หมายถึงเคร่อื งมอื ชีบ้ อกแนวทิศ ท่มี ีลูกศรเป็นเข็มแมเ่ หล็กเปน็ ตวั ช้เี ร

ในแนวระนาบใหถ้ กู ต้องก่อนมองดูท่หี นา้ ปัดเขม็ ทิศแล้วค่อย ๆ หมุนปรบั ให้ห
แมเ่ หลก็ จะช้ไี ปทางทศิ เหนอื ( ทิศเหนือแม่เหลก็ ) เสมอ เม่ือปรบั เขม็ ตรงกับ
เคร่ืองมือชบ้ี อกทิศทางได้อยา่ งถูกตอ้ ง ซ่ึงลูกเสือสามารถนาเข็มทศิ ไปใชใ้ นก
การสารวจและการเยือนสถานท่ี เปน็ ตน้
เข็มทิศมีหลายชนดิ

เข็มทิศตลับธรรมดา หาแนวท

ราสามารถใช้เข็มทิศได้ โดยวางเข็มทิศบนพ้ืนราบหรือถอื เขม็ ทศิ ให้อยู่
หวั ลกู ศรตรงกับตวั อักษร N ซง่ึ แสดงทิศเหนือ เพราะหวั ลูกศรทาจาก
บทศิ เหนือแล้ว เราจะอ่านทิศตา่ งๆไดจ้ ากหน้าปัดเขม็ ทิศ เข็มทิศจงึ เปน็
กจิ กรรมตา่ งๆได้ เชน่ การเดนิ ทางไกล การสารวจป่า การผจญภัย

เขม็ ทิศแบบตลับ
ทิศเหนอื ไดแ้ ตห่ ามุมอาซมิ ทุ ไม่ไดเ้ ปน็ เข็มทิศแม่เหล็กเล็ก ๆ

เขม็ ทิศแบบ เลนซาติก ฝาตลบั มชี อ่ งเล

เขม็ ทิศแบบ เล็นซาตกิ
ลง็ มีเส้นลวดขึงไว้ตรงกลางช่องฝาเพื่อให้ประกอบการเลง็ ที่หมาย

เขม็ ทิศแบบแฟช่ันมหี ล

เขม็ ทศิ ซลิ วา (Silva) ชนดิ ๓๖๐ องศา เปน็ เขม็ ทิศสาหรบั ลูกเสอื ท่ีทาใน
เพราะสงวนลขิ สิทธ์ิ เปน็ เขม็ ทิศใชท้ าแผนที่ และหาทิศทางเดินไดด้ ว้ ย

เข็มทิศแฟช่ัน
ลากหลายรปู แบบ ผลิตมาเพื่อการคา้ ใชบ้ อกทิศได้

เข็มทิศแบบ ซิลวา
นประเทศสวีเดน ท่วั โลกนิยมใช้มาก แมแ้ ตส่ หรัฐอเมริกาก็สรา้ งเองไม่ได้

วธิ กี ารใช้เข็มทิศแล

๑. เขม็ ทิศซลิ วา

เป็นของประเทศสวีเดน เปน็ เขม็ ทิศทีไ่ ดร้ บั ความนิยมใชใ้ นวงการลูกเสอื
แว่นขยาย เขม็ ทิศชท้ี าง แผน่ ฐานของเขม็ ทิศ เข็มทิศและก้างปลา ตลบั เขม็ ทิศหม

๒. มุมท่ีใชเ้ ขม็ ทิศ
มุมอะซิมุท คอื มุมในแนวราบหรือแนวระดบั ทวี่ ัดจากแนวทางทิศเหน
เช่น ทศิ ทาง ก ทามุมอะซิมุท ๔๕ องศา กับแนวทิศเหนอื
ทิศทาง ข ทามุมอะซมุท ๒๒๕ องศา กับแนวทางทิศเหนือ

ละการหาทศิ

อ สามารถใชง้ านไดง้ ่าย พกพาสะดวกซง่ึ มสี ว่ นประกอบ ดงั น้ี
มนุ บอกองศา สเกลวัดความยาว
นอื ไปตามทางเดนิ ของเข็มนาฬกิ า มคี า่ ไม่เกิน ๓๖๐ องศา

มุมแบรงิ่ คือ มมุ ท่ีนแนวราบหรือแนวระดบั ที่วัดจากแนวทางทศิ เ
ดงั ตวั อยา่ งตอ่ ไปนี้

ทิศทาง ก มมุ แบริ่งเทา่ กับเหนือ ๔๕ องศาตะวันออก
ทิศทาง ข มุมแบร่งิ เท่ากบั ใต้ ๔๕ องศา ตะวันออก

เหนอื หรือทิศใต้ไปทางทศิ ตะวนั ตก หรอื ทศิ ตะวนั ออกมีคา่ ไมเ่ กิน ๙๐ องศา

๓.วิธีใช้เขม็ ทิศ
๑.วางเขม็ ทิศบนฝ่ามือหรือบนปกสมุดในแนวระดบั โดยใหเ้ ข็มแมเ่
๒. หมุนกรอบหน้าปดั ของตลับเข็มทิศใหเ้ ลข ๖๐ อยตู่ รงกับปลาย
๓. หมนุ ฐานเขม็ ทิศจนกว่าเข็มแม่เหลก็ สีแดงภายในตลับเขม็ ทิศช
๔. เม่ือลกู ศรชีท้ ศิ ทางไปทางทิศใด กเ็ ดินตามไปทางทิศนั้น ในกา

ภูมิประเทศ แล้วจึงเดินไปยังสงิ่ น้ัน

เหลก็ แกวง่ ไปมาอย่างอิสระ
ยลกู ศรชท้ี ศิ ทาง
ชี้ตรงกบั ตวั อักษร N ทศิ เหนอื บนกรอบหน้าปัด
ารเดนิ ทางไปตามทศิ ทางท่ีลูกศรแดงช้นี ้ัน ใหส้ ังเกตและมองหาจุดเดน่ ใน

กรณีทต่ี อ้ งการหาจุดคา่ ของอะซิมทุ จากตาบลทเ่ี รายืนอยู่ไปยงั ตาบลทีเ่ ราจ
๑. วางเขม็ ทิศฝา่ มือหรือบนสมดุ ปกแข็งในแนวระดับ
๒. หันลกู ศรให้ชี้ทศิ ทางไปยังจดุ หรอื ตาแหนง่ ท่ีเราจะเดินทาง
๓. หมุนกรอบหนา้ ปดั ของเข็มทศิ ไปจนกวา่ ตวั อกั ษร N จะอยู่ตรงปลา
๔. ตวั เลขบนกรอบหนา้ ปัดท่ีอย่ตู รงปลายลกู ศรชี้ทิศทาง คอื คา่ ของ

ข้อควรระวังในการใช้เขม็ ทศิ
๑.จับถือด้วยความระมัดระวงั เพราะหน้าปดั และเขม็ บอบบางอ่อนไ
๒. อยา่ ทาเข็มทศิ ตก เพราะแรงกระทบกระเทือนอาจทาให้เสยี หายได
๓. อย่าอ่านเข็มทิศใกล้ส่งิ ทีเ่ ป็นแมเ่ หล็กหรือวงจรไฟฟา้
๔. อยา่ ใช้เขม็ ิศทีเ่ ปยี กน้า เพราะจะทาใหข้ ้นึ สนิม
๕. อยา่ วางเขม็ ทิศไว้ใกลค้ วามร้อน เพราะจะทาให้เข็มทิศบิดงอได้

การหาทศิ โดยใชเ้ ขม็ ทิศ
ทิศเหนอื เปน็ เพียงทิศหนึ่งของทิศท้ังหลาย ปกตเิ รามกั จะสมมุติทิศเหน

หมายแสดงทศิ แล้ว ยังมตี ัวเลขเพ่มิ จานวนไปตามเขม็ นาฬกิ า เริม่ ๐ ที่ทศิ
บอกองศา ฉะนัน้ ทิศตะวันออกจึงเปน็ ๙๐ องศา ทศิ ใต้ ๑๘๐ องศา ตะ

จะเดินไปข้างหน้า ใหป้ ฎิบัติดงั นี้

ายเข็มแม่เหล็กสีแดง
งมมุ ที่เราต้องการทราบ
ไหวได้งา่ ย
ด้

นือเปน็ จุดเริม่ ตน้ ก็เพื่อความสะดวกที่หนา้ ปดั เข็มทิศ นอกจากจะมีเคร่ือง
ศเหนอื แลว้ หมนุ ตามเข็มนาฬิกากลับไปท่ีทิศเหนือมีเลข ๓๗๐ เป็นตัวเลข
ะวันตก ๒๗๐ องศา เมอ่ื เราหาทิศได้ เรากจ็ ะทราบทิศอน่ื ๆได้ โดยหนั หนา้

ไปทางทศิ เหนือ ข้างหลงั คือทิศใต้ ขวามือคือทศิ ตะวนั ออก ช้ายมอื คือตะวัน

การหาทศิ โดยไมใ่ ชเ้ ขม็ ทิศ

๑. สังเกตดวงอาทิตย์ ในเวลากลางวันให้สงั เกตดวงอาทิตย์ ข้ึน-ต

๒. สงั เกตดวงจันทร์ ในเวลากลางคนื ให้สังเกตดวงจนั ทร์ ดา้ น

๓. สงั เกตลม ใชห้ ญ้าแห้งหรอื ฝนุ่ โยนไปในอากาศ จะท

๔. สงั เกตเถาวัลย์ เถาวัลย์ท่ีพนั ต้นไมจ้ ะชูยอดไปทางทิศตะว

๕. สังเกตตน้ ไม้ เม่ือดวงอาทติ ย์ลบั ขอบฟ้าไปแลว้ ใหเ้ อา

๖. สงั เกตดาว ดาวเคราะหเ์ ป็นดาวพเนจรข้นึ ไมป่ ระจา

นตก

ตก ตามฤดูกาล
นทสี่ ว่างจะหันไปทางทิศตะวนั ตก ด้านเว้าแหว่งจะหนั ไปทางทศิ ตะวนั ตก
ทราบว่าลมพดั มาจากทิศทางใด
วนั ออกเสมอ เราก็จะหาทศิ อืน่ ได้
าแก้มแนบต้นไมด้ ูด้านที่อนุ่ ๆ จะเปน็ ทศิ ตะวันตก
าที่จงึ ไม่นยิ มสังเกตดาวในการหาทิศ

***วิธงี ่ายๆในการใช้เขม็ ทศิ ***
เขม็ ทศิ มี เข็มทิศ อยหู่ ลายแบบ บางแบบใชท้ าบกบั แผนท่ี บางแ
แตว่ ่าในตอนน้จี ะเป็นชนิดมาตรฐานแบบงา่ ย ๆ ลองดูทร่ี ูปนะครบั

มองเห็นลกู ศรแดงกบั ดาไหมครับ เราเรียกมันวา่ เข็มบอกทิศ ในบางแ
จะช้ีไปทขี่ ั้วแม่เหล็กโลกทางเหนือ นคี่ ือพนื้ ฐานอยา่ งแรกท่ีคุณต้องรู้ถ้าคุณไม่ต้องการ
ซึ่งจะมีสเกลอยู่ อาจจะเปน็ ๐ ถงึ ๓๖๐หรอื ๐ ถงึ ๔๐๐ เป็นหน่วยองศาอซิมุส (az
เหนอื ใต้ ออก ตกตามลาดบั ถา้ คุณต้องการที่จะไปทางทิศเหนือ อยากไปในทิศระหว
ทจ่ี ะไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ เม่ือเจอแล้วก็ใหห้ มุนจนทศิ นนั้ ตรงกับลูกศรใหญช่ ้ีทา

แบบก็วางบนฝ่ามือ ไมก่ ็ตดิ ที่หัวแมโ่ ปง้ เข็มทิศ แบบตดิ กบั น้วิ มักใช้กับคนทเ่ี ดินเรว็


แบบของ เข็มทศิ จะเป็นสแี ดงกับสีขาว แตจ่ ุดสาคญั อยู่ที่ว่าลูกศรแดงนั้น
รทีจ่ ะเดนิ ไปทางเหนอื แต่อยากจะไปทิศอน่ื ก็ให้วางเฮ้าซ่ิงของ เขม็ ทิศ บน เขม็ ทศิ
zimuth) หรือบางท่กี ็เรียกวา่ แบริง่ (bearing) จะเหน็ ตวั อักษรแยกทิศ N,S,W,E แทนทิศ
ว่างสองทิศใด ๆ เราก็เรยี กรวมกนั เช่น ตะวันออกเฉียงเหนอื เป็นต้น ดูในภาพ
างเดนิ เสร็จแลว้ ก็วางบนมือ หมุนไปมาจนเขม็ สีแดงช้ีตรงทศิ เหนือ

ซงึ่ ในช่วงนส้ี าคญั มาก ต้องระวงั ไมใ่ ห้ เข็มทศิ เคลอ่ื น แตเ่ ปน็ ตวั เราที่หม
พอสมควรท่ีเดินตรงข้ามเพราะเข็มอยูใ่ นสว่ น ท่ีชเ้ี หนอื ใต้ แต่ว่าเข็มสีแดงชไ้ี ปทางใต

เทคนิคน้เี หมาะสมเม่ือคณุ ไปไหนโดยไม่มีแผนที่ ไมร่ ้ดู ว้ ยว่าอยตู่ รงไหน แ
ไปใหถ้ ูกทิศเท่านั้น ตัวอย่างเช่น ถ้าหลงปา่ ในเทรลเขาใหญ่ ซงึ่ พบกนั บ่อยๆ โดยเฉพ
เข้าปา่ ลึกไปอีก กต็ ัง้ ทิศแลว้ เดนิ ไปตามทิศเปน็ ช่วงๆ อย่างไรก็ตาม วธิ ีนก้ี ็ชว่ ยได้แค่ส
แตถ่ า้ ให้ดีตอ้ งใชค้ วบคกู่ ับแผนท่ีทดี่ ีครับ ถ้าคณุ ตอ้ งไปเดินปา่ ท่ี ๆ แปลกใหมจ่ ริง ๆ
ระหว่างแผนท่ีกบั เข็มทิศ ก็ไมต่ ้องกลัวหลงงา่ ยๆ เลย

มุนเท่านน้ั ปลอ่ ยใหเ้ ข็มช้ที ิศเปน็ อสิ ระ มนั จะหมุนตามไปเอง มมี ือใหม่
ต้ ทาให้เข้าใจผิด
แตร่ วู้ ่ามถี นน สายน้า หรือจุดที่คณุ รวู้ ่า ถ้าไปถึงกจ็ ะไม่หลง เพียงแต่
พาะในเทรล ๖ถ้ารู้ทศิ ยอ่ งรูว้ า่ เดินไปเรือ่ ยๆ จะออกถนน ไมใ่ ช่
ส่วนหนง่ึ อย่างน้อยก็ไม่ทาใหค้ ณุ ๆ เดินวนเปน็ วงกลมล่ะน่า
ๆ ควรจะพกพาแผนที่ของกรมแผนทท่ี หารไปดว้ ย และเมื่อใช้คูก่ นั

การสร้างค่ายและการสขุ าภิบาลในคา่ ย
การอยู่ค่ายพักแรม หมายถงึ การไปพักแรมคืนในสถานทีต่ า่ ง ๆ ที่ไมใ่ ช่บ
แรมของลกู เสือ - เนตรนารี ทุกคนจะตอ้ งรจู้ ักการชว่ ยเหลอื ตนเอง ในทุก ๆ เร่อื งต้องมคี ว
เฉพาะหน้าโดยใชห้ ลักเหตุผลชว่ ยในการตัดสนิ ใจ ทเ่ี หมาะสมสาหรับการตั้งคา่ ยพักแรม
แหลง่ นา้ เสน้ ทางคมนาคมเพ่ือไม่ใหเ้ กดิ ความ ผิดพลาดหรอื ปัญหาตา่ ง ๆ ทจ่ี ะตามมาการเ

การเลอื กสถานที่ต้งั คา่ ยและกางเตน็ ทค์ วรมีลกั ษณะดังนี้
๑. เป็นสถานท่ีกว้างโลง่ พอสาหรับการตง้ั ค่ายและเหมาะสาหรบั ทจ่ี ะจัดกจิ กรรม

ระหวา่ งการอยู่คา่ ย
๒. พืน้ ดินบริเวณที่ตั้งค่ายควรจะเป็นดนิ ปนทราย เปน็ ดนิ ท่ีพนื้ เป็นที่เรยี บ ไม่มนี า้ ขัง
๓. อย่ใู กล้แหล่งน้าสะอาด ปลอดภยั
๔. อยหู่ ่างจากต้นไม้ใหญ่ เพอ่ื ป้องกนั อนั ตรายท่จี ะเกดิ จากกิ่งไม้หลน่ ลงมาทบั
๕. ทศิ ทางของลมเพื่อใช้พิจารณาในการตงั้ เตน็ ท์ท่ีพัก
๖. สามารถหาเชอื้ ไฟ เช่น ฟนื เศษไม้ สาหรบั หงุ ต้มได้สะดวก
๗. การคมนาคมสะดวก ใกล้กบั โรงพยาบาล หรือ อนามัย ใกลก้ ับสถานตารวจ
๘. ตอ้ งไดร้ บั อนุญาตจากเจา้ ของสถานที่ก่อนจะตงั้ ค่ายพกั แรม

บ้านหรอื ที่พกั ของตนเอง เชน่ การไปพักแรมในคา่ ยลูกเสือ ตามปา่ เขาต่าง ๆในการอยู่คา่ ยพกั
วามพยายาม มมี านะและความอดทน มีความเช่อื มัน่ ในตนเองและรูจ้ กั การแก้ไขปญั หา
ม ลกู เสอื - เนตรนารี จะต้องทาการสารวจ คาดคะเนความเหมาะสมของพนื้ ที่
เลือกสถานทีต่ ั้งค่ายและกางเต็นทค์ วรมีลักษณะดังนี้

รูปแบบตัวอยา่ งการตัง้ คา่ ย
รปู แบบการจัดคา่ ยหมูล่ ูกเสือ



รปู แบบเ
เต็น
เต

เตน็ ทแ์ บบตา่ ง ๆ
นท์แบบโดม
ต็นทแ์ บบโครง

เตน็ ท์แบบสาม
เตน็ ท์แบบกระโ

มเหลี่ยม
โจม

เตน็



เต็นท์กระแบะ
เตน็ ทก์

นท์แบบก่ึงถงุ นอน

เตน็ ท์แบบอโุ มงค์

ะ หรือเตน็ ท์ ๕ ชาย
กระแบะ หรอื เต็นท์ ๕ ชาย

การสรา้ งเต็นท์

เต็นทก์ ระแบะ หรือเต็นท์ ๕ ชาย
อปุ กรณ์และสว่ นประกอบ
ในการใช้เตน็ ท์สาหรับอยู่คา่ ยพกั แรม จะใช้เตน็ ท์ ๕ ชาย ซงึ่ เหมาะสาหร
ลูกเสือ – เนตรนารี จานวน ๒ คน ซ่งึ จะใชพ้ นื้ ทใ่ี นการกางเต็นทไ์ ม่มากนักและวิธีกางไมย่
๑. ผา้ เตน็ ท์ ๒ ผนื
๒. เสาเต็นท์ ๒ ชุด ( ๒ เสา ) ชดุ ละ ๓ ทอ่ น ( ๓ ท่อนตอ่ กนั เปน็ ๑ ชุด )
๓. สมอบก ๑๐ ตัว ( หัวท้าย ๒ ตวั ชายด้านล้างดา้ นละ ๓ ตวั ประตหู นา้ ๑ ตวั และ
๔. เชอื กยึดสมอบก ๑๐ เสน้ (เชอื กยาวใช้รงั้ หัวทา้ ยเต็นท์ ๒ เสน้ เชือกส้ันใชย้ ดึ ชายเ

รับ
ยุ่งยาก ส่วนประกอบของเตน็ ท์ ๕ ชาย มีดังน้ี

ะหลงั ๑ ตวั )
เตน็ ท์ ๖ เส้น และประตหู นา้ - หลัง ๒ เส้น )

การกางเต็นท์
การกางเต็นท์ ๕ ชายน้ันมวี ธิ ีการดังตอ่ ไปนี้
๑. ตดิ กระดมุ ทง้ั ๒ผืนเข้าด้วยกัน
๒. ต้งั เสาเต็นท์ท้ัง ๒ เสา
๓. ผกู เชอื กร้งั หวั ท้ายกบั สมอบก
๔. ตอกสมอบกยดึ ชายเต็นท์
การร้ือเตน็ ทท์ ่พี กั แรม
๑. แก้เชอื กท่ีรั้งหัวทา้ ยกับสมอบกออก
๒. ลม้ เสาเต็นทท์ ั้ง ๒ เสาลง
๓. ถอนสมอบกท่ยี ึดชายเตน็ ทแ์ ละท่ีใช้รง้ั หัวท้ายเตน็ ท์
๔. แกะกระดุมเพื่อแยกใหเ้ ตน็ ท์เป็น ๒ ผืน
๕. ทาความสะอาด เก็บพับให้เรียบร้อย
๖. นาผ้าเต็นท์และอุปกรณ์เกบ็ รวมไว้เป็นทีเ่ ดียวกัน



เตน็ ทส์ าเรจ็ รปู

เตน็ ทส์ าเร็จรูปจะมีลักษณะและรูปแบบท่หี ลากหลาย ซ่งึ มวี างจาหน
จงึ ให้ผ้ใู ชพ้ ิจารณาตามวธิ กี ารของเตน็ ท์

น่ายโดยทั่วไปงา่ ยต่อการประกอบและการเกบ็ แตล่ ะแบบจะมรี ปู แบบการประกอบไม่เหมือนกนั

เตน็ ทส์ าเรจ็ รปู ใชเ้ ป็นท่พี ักสาหรับลูกเสอื ทัง้ หมู่ ( ๑ หมู่ )เป็นเต็นท
่ กว่าเตน็ ท์กระแบะ มีนา้ หนกั มากกว่าเตน็ ท์กระแบะสามารถพกพาไปได้สะดวก
ชว่ ยกนั เพียง ๒ คน ก็สามารถกางเต็นท์ได้

ส่วนประกอบของเตน็ ทส์ าเรจ็ รูป มดี งั น้ี
๑. ผ้าเตน็ ท์ ๑ ชุด
๒. เสาเต็นท์ ๒ ชดุ ( ๒ เสา ) ชดุ ละ ๓ ท่อน ( ๓ ท่อนตอ่ กันเป็น ๑ ชดุ หรือ
๓. สมอบก ๑๒ ตวั (ยดึ มมุ พื้น ๔ ตัว ยดึ ชายหลังคา ๖ ตัว หวั ๑ ตวั ทา้ ย ๑
๔. เชือกยดึ สมอบก ๘ เส้น ทุกเสน้ มัดตดิ กับแผ่นเหลก็ สาหรบั ปรับ ความตงึ ห
วิธกี างเตน็ ท์สาเรจ็ รปู ปฏิบัติดังนี้
๑. ยดึ พนื้ ของเต็นทท์ ัง้ ๔ มุมด้วยสมอบก ๔ ตวั
๒. นาเสาชดุ ที่ ๑ (ต่อ ๓ ท่อนเขา้ ด้วยกัน) มาเสียบท่ีรหู ลงั คาเต็นท์ ให้คนที่๑จ
๓. ใหค้ นที่ ๒ ใช้เชอื กยาว ๑ เสน้ ยดึ จากหัวเสา (หรือห่วง) ไปยังสมอบกด้านห
( โดยผกู ดว้ ยเงือ่ นตะกรดุ เบ็ด หรือผูกเง่ือนกระหวัดไม้ ไม่ต้องใช้เงื่อนผรู้ ัง้ เพราะเปน็ แ
กางออกเป็นรปู หน้าจว่ั
๔. ให้คนที่ ๒ เดินออ้ มไปอีกดา้ นหนึ่งตอ่ เสาที่ ๒ เสียบเขา้ รูหลงั คา เตน็ ท์อีกด้า
แลว้ จับเสาไว้ ใหคนที่ ๑ ปลอ่ ยมือจากเสาที่ ๑ แล้วนาเชอื กยาวเส้นท่ี ๒ ยึดจาก
๕. ให้คนท่ี ๒ ปลอ่ ยมอื จากเสาที่ ๒ ได้ เต็นทจ์ ะไม่ล้ม ทงั้ สองคนช่วยกัน
ใชเ้ ชือกยดึ ชายหลงั คาเต็นท์ ( จดุ ท่เี หลอื ) ให้เขา้ กับสมอบกแลว้ ปรบั ความตงึ หย่อนข
บางแบบคล้ายเต็นท์กระแบะ เปน็ ตน้ ใชส้ ะดวกและเบามากแต่บอบบาง

ท์ทมี่ ีขนาดใหญ่
ก พ้นื ท่ีทใ่ี ชก้ างเต็นท์จะมบี รเิ วณกว้างพอสมควร สว่ นวธิ กี างเต็นท์ไมย่ ุง่ ยากมลี ูกเสือ

อ ๑ เสา )
ตัว )

หยอ่ นของเชอื ก ( เชือกส้นั ๖ เส้นใชย้ ดึ ชายหลังคา เชือกยาว ๒ เส้นใชร้ ัง้ หวั ทา้ ยเตน็ ท์ )

จบั ไว้
หน้า
แผ่นปรับความตึงอย่แู ล้ว) แล้วใช้เชือกสั้น ๒ เส้น ยดึ ชายเต็นท์เข้ากับสมอบกให้เต็นท์

านหน่งึ
กหวั เสาที่ ๒ ไปยงั สมอบกด้านหลงั ้

ของเตน็ ทใ์ ห้เรียบร้อยหมายเหตุ เต็นท์ สาเรจ็ รปู มีหลายแบบ มรี ปู ทรงไม่เหมือนกับ

เต็นทอ์ ยา่ งง่าย *

วธิ นี ป้ี ัจจบุ นั สะดวกมาก ทั้งยงั ราคาถกู หาซือ้ งา่ ยใชป้ ระโยชน์ไดด้ ี
สามารถใช้วัสดุอปุ กรณท์ ี่หาได้ในท้องถ่นิ โดยใช้ถุงปยุ๋ หรือเสือ่ เยบ็ ต่อกันใหไ้ ด้เปน็
แต่ส่วนใหญม่ ักจะทาเป็นผืนใหญใ่ ช้เปน็ ที่พกั ของลูกเสือได้ท้ังหมู่

วธิ ีทา
หาไมส้ องทอ่ นมาทาเสา ปักลงในดินใหแ้ น่น แลว้ เอาไม้อีกอันหนึง่ พาดทาเปน็ ขื่อ
การนาวัสดตุ า่ งๆท่หี าไดใ้ นท้องถ่นิ จะงา่ ย สะดวกและประหยดั เพอ่ื เปน็ การส่งเสริมและปฏ
มหาราช ผ้ทู รงเป็นพระประมุขของคณะลูกเสือไทย

ข้อควรระวังในการกางเตน็ ท์
เมื่อต้องการกางเตน็ ทห์ ลายหลังเป็นแนวเดียวกนั ข้ันแรกเล็งให้สมอบกและเส
เสาหลงั และสมอบกตวั หลงั ท้ัง ๔ จดุ อยใู่ นแนวเดียวกันเสาทกุ ตน้ ทีย่ ึดเตน็ ทจ์ ะต้องต้ังฉาก
กันอย่างเป็นระเบียบ ถ้าเตน็ ท์ตึงไปอาจจะขาดได้ หรอื ถ้าหย่อนเกนิ ไปกจ็ ะกนั ฝนไมไ่ ด้ ซ
ใชเ้ งอ่ื นผกู รง้ั เพราะสามารถปรับให้ตึงหย่อนได้ตามต้องการ

นผืนใหญ่ ๆ สามารถใช้แทนผ้าเตน็ ท์ได้ จะให้มีขนาดใหญ่เทา่ ใดก็ไดต้ ามทต่ี ้องการ

อเสร็จแลว้ ใชถ้ ุงทเี่ ยบ็ หรือผ้าใบ พาดกับข่อื นั้น ท่ีปลายทั้งสองขา้ ง ร้งั เชือกกับสมอบก
ฏิบัติตามแนวพระราชดารเิ ศรษฐกิจพอเพยี ง ของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัวภูมิพลอดุลยเดช

สาต้นแรกของทุกเตน็ ท์อยใู่ นแนวเดียวกนั การกางเตน็ ทแ์ ต่ละหลงั ใหเ้ ล็งสมอบกตวั แรก เสาแรก
กกับพนื้ เสมอหลังคาเต็นทจ์ ะตอ้ ง ไม่มีรอยย่น สมอบกด้านข้างของเต็นท์แตล่ ะหลัง จะต้องเรียง
ซงึ่ จะเป็นสาเหตุทาใหน้ า้ ซึมไดง้ ่ายและถ้าหากลมพัดแรง อาจทาใหเ้ ต็นท์ขาดได้ การผกู เตน็ ทค์ วร

การดแู ลรกั ษาเตน็ ท์
การดูแลรักษาเต็นทใ์ ห้มีอายกุ ารใชง้ านทย่ี าวนาน หลายคนอาจจะคดิ ว่าเป็นเรื่องยาก
๑. ฝึกกางเต็นทใ์ ห้ถูกวิธี การทค่ี ุณเรยี นรวู้ ธิ ีการกางเต็นทอ์ ย่างถกู วิธีจะทาให้เต็นท์ขอ

บางช้นิ เกดิ ความเสยี หายได้ เช่น อาจจะใสเ่ สาเต็นท์ผิดอันทาใหเ้ กิดความเสยี หายเวลางอเ
๒. อยา่ เก็บเตน็ ทข์ องคณุ ขณะทีเ่ ปียกถา้ ไม่จาเป็น เพราะอาจจะทาใหเ้ กิดกลน่ิ อบั ได้

แลว้ จึงปดิ ซปิ ใหเ้ รียบร้อย
๓. ไมค่ วรใช้สารเคมีในการทาความสะอาดเต็นท์ เพราะสารเคมเี หล่าน้ีจะทาลายสาร

จะทาใหส้ ารเคลือบหลดุ ออกเช่นกนั
๔. ใช้ผ้าพลาสติกปูรองพ้ืน ผา้ รองพื้นจะใชป้ รู องพน้ื ก่อนกางเต็นท์ ประโยชน์คอื ชว่ ย

เกดิ ความเสียหายได้ และนอกจากน้ียังชว่ ยลดเวลาในการทาความสะอาด เพราะเราเพยี งแ
๕. ใชส้ มอบกปักเตน็ ท์ บางคนอาจคดิ วา่ สมอบกไม่จาเปน็ เพราะเตน็ ท์สามารถทรงตัว

ถ้าชว่ งที่คุณกางเต็นท์มลี มแรงควรจะนาสมั ภาระเขา้ ไปไว้ในเตน็ ท์ แลว้ ปักสมอบกยึดไว้ ซ
๖. ใช้อปุ กรณ์ซอ่ มแซมเตน็ ทถ์ ้าจาเป็น หากเตน็ ท์คณุ เกดิ การเสยี หาย เชน่ ผนังเต็นท์ม

(ลองคิดถึงเสื้อผ้าทข่ี าดดู ถา้ เรายิง่ ดงึ กจ็ ะยงิ่ ขาดมากขึ้น) อุปกรณซ์ ่อมแซมเต็นทส์ ามารถ

การสขุ าภิบาลภายในคา่ ย
หลมุ แหง้ – หลมุ เปยี ก


Click to View FlipBook Version