“รถต๊กุ ตุ๊ก” “หมู”
ขับรถตกุ๊ ตุก๊ บรรทุกถา่ น รถขึ้นสะพานขึน้ สะพาน หมู หมู หมู นอ้ งเคยเหน็ หมูหรอื เปลา่ หมูมนั ตวั
เลยชักกระตุก ชักกระตกุ อ้วนไม่เบา ผัดเผ็ดใบกระเพรา
ชักกระตุก ชกั กระตกุ ......... ชักกระตุก ชกั กระตกุ อร่อยดี (ซา้ ) กนิ แลว้ อว้ นพีแข็งแรง
“มดแดง” “ลงิ ”
มดแดงขบแข้งขบขา ขบเสื้อขบผ้า ตุง้ แฉ่งๆ เจย๊ี ก เจยี๊ ก เจีย๊ ก เปน็ เสยี งเรียกของลงิ
มดแดงมนั เต้นระบา เลยหัวขมา ตงุ้ แฉ่งๆ ลงิ มนั ไม่อย่นู ิง่ มันชอบวงิ่ กระโดดไปมา
เจ๊ยี ก เจ๊ียก เจี๊ยก มันร้องเรยี กพวกมนั มา
“นกพริ าบ” ครั้นพอถงึ เวลา ออกเท่ยี วหาผลไมก้ ิน
พรบั พรบึ พรึบ พรึบพรบั ขยับบนิ (ซา้ ) ฝูงนกพริ าบ
ขาวดาและเทา น่ารกั จริงนา “ระบานางช้าง”
บนเวียนวนอยูบ่ นหลงั คา บินไปเกาะตามก่ิง นางช้างตัวหนึ่ง ออกไปเท่ยี วเดนิ
พฤกษา ไซร้ปีกหางกนั อยู่ไปมา (ซา้ ) บนใยแมลงมุม เลน่ จนเพลดิ เพลนิ
แสงแดดจา้ พากนั คนื รงั มันเหน็ เป็นการ สนกุ เหลือใจ
มันจึงร้องเรยี กให้ นางชา้ งอีกตวั หน่งึ ขึน้ มา
“เป็ด” นางช้างสองตวั ........................ฯลฯ
กา๊ บ ก๊าบ ก๊าบ เป็ดอาบน้าในคลอง นางชา้ งสามตวั ........................ฯลฯ
ตาก็จ้องแลมอง เพราะในคลองมหี อยปปู ลา นางช้างสตี่ วั ............................ฯลฯ
“เป็ด” “แมลงเกาะกระต่าย”
ยามเมือ่ เป็ดมนั เดนิ ไป มองแล้วไม่น่าดูเลย มีแมลงตวั หนง่ึ เกาะอยู่บนจมูกกระต่าย มนั จงึ ปัด
จาไวเ้ ถดิ เพอ่ื นเอย๋ เอย๋ จงอย่าเดินให้เหมือนเป็ด มนั จึงปัด แมลงกบ็ นิ หนไี ป
“ชา้ ง” “แมลงวัน แมลงหวี่”
ชา้ ง ชา้ ง ช้าง นอ้ งเคยเหน็ ชา้ งหรือเปลา่ ชา้ งมนั ตัว แมลงวัน แมลงหว่ี แมลงหว่ี แมลงวนั ยงุ ยงุ ยุง
โตไม่เบา จมูกมันยาว เพราะมันตกี นั แมลงวัน แมลงหว่ี
เรียกวา่ งวง สองเคี้ยวใต้งวงเรยี กว่างา มหี ูมีตาหาง
ยาว
“ม้า” “ สุขกนั เถอะเรา”
มา้ วิ่งกรับกรบั เดี๋ยวเดยี วลบั ตาเราไป สขุ กนั เถอะเรา เศรา้ ไปทาไม
ม้าวิง่ เรว็ ไว เร็วทนั ใดควบกรบั กรบั กรับ จับมือกนั ไว้ แล้วยักเอวยักไหล่
มา้ วิ่งเร็วรี่ ดูซิหายไป ม้าวิ่งไวควบกรบั ๆๆ หมุนตัวกลับไป หมุนตัวกลบั มา
อย่ามวั รอชา้ เปลย่ี นคู่มาเร็วไว
“ไก่โตง้ ”
ไก่โต้งขันโอก้ อิ โอ้ก (ซา้ ) “ฟ้าลัน่ ”
ตัวเมยี ไข่ตก กระโตก๊ กระตา๊ ก (ซา้ ) แน่ะดงั ฟ้าลั่น แน่ะดังฟ้าลัน่
ออกไข่สบายใจมาก (ซา้ ) ได้ยินไหม ไดย้ ินไหม
กระโตก๊ กระต๊าก กระต๊าก กระโต๊ก (ซา้ ) เสยี งฝนตกดังเปาะแปะ เสยี งฝนตกดงั เปาะแปะ
เราเปยี กปอน เราเปียกปอน
“ลอ่ งเรือ”
ลอ่ งเรอื ไปตามธารา เหน็ หอยปปู ลา แหวกว่าย “เม่อื ย”
เวยี นวน พวกลกู เสือมากันหลายคน (ซา้ ) เห็น เมือ่ ยไหมจะ๊ น้องจ๋า ต้องทาท่าอยา่ งน้ีอยา่ งนี้
ลูกเสือ ๓..... คนเอาก้นชนกนั ทาแล้วสดชื่นดี (ซา้ ) อยา่ งน้ๆี ๆ สบายใจจงั
“คุณไมร่ ักทาไมไม่บอก” “ออกกาลงั ”
คุณไมร่ กั ทาไมไม่บอก (ปน่ั แปะๆ) มาลวงมาหลอก ออกกาลังด้วยการร้องราทาเพลง
กันเล่นทาไม (เป่ายงิ่ ฉบุ ๆ ) ให้ครน้ื เครงเสียงเพลงบรรเลงจบั ใจ
โอ้คนหลายใจ (อ้อเลาะๆ) ฉนั ทนไม่ไหวแน่ๆ (โอ๊ย ร่ารอ้ งกนั ไปไม่มีหม่นหมองฤทัย
เสียวๆ) แลว้ เราเพลินใจดว้ ยการร้องราทาเพลง
“รอรกั ” “หากว่าเราออกกาลัง”
ก ไก่ มนั อยู่ที่แก้ม ป.ปลา มนั อย่ทู ี่ปาก ต.เตา่ มนั หากวา่ เรากาลังสบาย จงตบมือพลัน (ซา้ ) หาก
อยู่ทตี่ า สว่ น ม.มา้ มนั อยทู่ จ่ี มูก พวกเรากาลังมสี ขุ หมดเรื่องทุกข์
ล.ลงิ มนั อยู่ท่ใี หล่ ข.ใข่มันอยทู่ ี่แขน ร.รกั สิมนั ขาด ใดใดทุกสง่ิ มัวประวงิ อะไรกันเล่า จงตบมือพลัน
แคลน มี ฟ.แฟนไวใ้ นดวงใจ (ผงกหวั กระทบื เท้า สง่ เสียงดัง เปลง่ เสียงไชโย
ลา้ ลา ลา ลา ลา ลา ลา (ซา้ ) ออกทา่ ทาง)
“หวานตา”
หวานตาหวานเพลง เรามาบรรเลงเป็นเพลงฮาวาย
สนกุ จริงหนาไมว่ ่าชายหญิง ระรน่ื ชืน่ ใจในวงฟ้อน
“ฮิปโป”
ฮ๊บิ ฮ๊ิบโป โอโ้ ฮตัวมนั ใหญ่ (ซา้ ) มนั เดนิ อยุ้ อ้าย (ซ้า)
ลาลันลา.......................
“ชุมนุมรอบกองไฟ”
โอ เมอ่ื มีไฟ ไฟ ไฟ ลกุ ขึ้นแดงจ้า พวกเราพร้อม
หน้ากัน คืนวันนมี้ สี ขุ ปลดเปล้ืองทุกข์ รับความ
สาราญ เธอกับฉนั นน้ั มาเลน่ รอบกองไฟ
ไฟมนั ลุกมคี วามรอ้ นไม่อาทรความรอ้ นของไฟ ไฟ
จะลกุ จะร้อนเพียงไหน สขุ ฤทัย
รว่ มวงเฮฮา (ซา้ )
“ความซื่อสตั ย์”
ความซ่อื สตั ย์ เป็นสมบัตขิ องคนดี
หากว่าใครไมม่ ี ชาตนิ ี้เอาดีไม่ได้
มีความรูท้ ว่ มหัว เอาตัวไม่รอดถมไป
คดโกงแลว้ ใคร จะรบั ไวใ้ หร้ ่วมการงาน
“ความเกรงใจ”
ความเกรงใจ เป็นสมบัตขิ องผู้ดี
ลองตรองดูซี ทุกคนก็มหี วั ใจ
เกดิ เป็นคน ถ้าหากไมเ่ กรงใจใคร
คนน้ันไซร้ ไร้คุณธรรมประจาตน
“ลา”
ลาก่อนเพือ่ นทร่ี กั ลาก่อนเพ่ือนทร่ี ัก ลาแล้ว ลากอ่ น เราจะพบกันอกี เราจะพบ
กันอีก ลาก่อน ลาก่อน
“จากกัน”
กอ่ นจะจากกันไป ขอฝากใจไวก้ บั ทกุ ทุกท่าน (ซา้ ) ถึงตวั ไปใจนนั้ ไม่แปรผันและหา่ งไกล แมว้ า่ เราจากกันไมช่ า้
พลนั คงจะพบกนั ใหม่ ขอโชคดีมชี ัยหมดทุกขโ์ รคภยั ตลอดกาล
“ดุจบดิ รมารดา”
รักชาตยิ อมสละแมช้ วี ี รักเกยี รติจงเจตนพ์ ลีชพี ได้ รกั ราชมุ่งภกั ดร์ิ องบาท
รักศาสน์ ราญเศิกไซร้ เพื่อเกื้อพระศาสนา
อันสยามเป็นบ้านเกิดเมืองนอน ดุจบิดรมารดาเปรยี บได้ ยามสขุ สโมสรทกุ เมื่อ
ยามศึกทกุ ข์ยากไรป้ ระหลาดเว้นฤาควร
“สามัคคชี มุ นุม”
พวกเราเหลา่ มาชมุ นุม ต่างภูมใิ จรกั สมคั รสมาน
ลว้ นมิตรจิตชน่ื บาน สราญเริงอยู่ทกุ ผู้ทุกนาม
(สรอ้ ย) อันความกลมเกลยี ว กันเปน็ ใจเดียวประเสริฐศรี
ทุกส่ิงประสงคจ์ งใจ จกั เสรจ็ สมได้ด้วยสามคั คี
กิจใดถา้ ประสงค์มี ร่วมใจภักดีแด่พระจอมสยาม
พร้อมพรบึ ดังมือเดียวยาม ยากเยน็ เหน็ ง่ายบ่หนา่ ยบว่ าง
(สร้อย).............
ทห่ี นกั กจ็ ักเบาคลาย ที่อันตรายขจัดขัดขวาง
ฉลองพระเดชบ่จาง กตเวทิคุณพระกรณุ า
(สรอ้ ย)..............
สามคั คแี หละล้าเลศิ จกั ชูชาติเชิดพระศาสนา
สยามรัฐจกั วัฒนา ปรากฏเกยี รตฟิ งุ้ เฟื่องกระเดอ่ื งแดนดนิ
(สร้อย).............
เกมลกู เสอื
ว่ิงกระโดดกบ
ใหผ้ เู้ ลน่ วง่ิ ไปดว้ ยการกระโดดกบ คือน่ังลงเคล่อื นไปขา้ งหนา้ ด้วยการพุ่งตวั ไปมือท้ังสองลงถูกพ้นื
ก่อน และชักเท้าทงั้ คู่มาชดิ มอื แลว้ พุ่งตวั ออกไปอีกทาเชน่ น้ีตลอดไป แลว้ ไปอ้อมเครื่องหมายมาแตะคตท่ี ๒
คนท่ี ๒ก็ทาเช่นเดียวกัน จนหมดแถว แถวใดเสร็จก่อนเป็นแถวชนะ
บาครี า
ใหล้ กู เสอื ยืนเป็นรปู แถวตอน แต่ละหม่มู ผี ู้เลน่ เท่า ๆ กัน ให้คนแรกนอนควา่ เหยียดตัวตรง มือวางยัน
พืน้ นว้ิ มือหนั ไปทางหน้า หลังเทา้ ตดิ พ้นื แล้วให้เคลือ่ นไปขา้ งหน้า ด้วยการเดินด้วยมอื ลากเทา้ ท้ังสองซื่งเหยียด
ตึงตลอดเวลา แล้วเคลอ่ื นตวั ไปขา้ งหน้าจนถงึ เครือ่ งหมายกลบั ตัวกลับมาท่ีเดมิ แตะคนต่อไป ซ่ึงจะต้องทา
เช่นเดยี วกัน แถวใดเสร็จกอ่ นแถวนน้ั ชนะ
ลูกบอลลอดอโุ มงค์
ให้ผเู้ ล่นยืนเป็นแถวตอน เป็นหมู่ แตล่ ะหมยู่ นื แยกเท้ากม้ ตัว คนหน้าสดุ ถือลกู บอลอยู่ในมือ เม่ือไดย้ ิน
สญั ญานคนหน้าท่ีถอื ลูกบอลวิ่งไปอ้อมเครื่องหมายแลว้ กลบั มายืนหันหลังใหแ้ ถวแล้วก้มตัวลง กลงิ้ ลูกบอลไป
ใต้หวา่ งขา ส่วนคนอ่ืน ๆ ก็ค่อยกลง้ิ ตอ่ ๆ ไป และคอยกนั ไม่ให้ออกทางช่องเท้าด้านข้าง จนถึงคนสดุ ทา้ ยให้
หยบิ ลูกบอลขึ้นพาว่ิงอ้อมเครื่องหมายทาเชน่ เดยี วกับคนแรก จนถงึ คนสุดท้าย แถวใดเสร็จกอ่ นแถวนน้ั ชนะ
เก็บเชอื ก
ใหล้ ูกเสอื จบั คู่กันเปน็ คู่ ๆ หนั หนา้ เข้าหากัน หาเชอื กให้คลู่ ะ ๑ เมตร (ขนาดด้ายหลอด)แต่ละคู่คาบ
ปลายเชือกไวค้ นละหนงึ่ ปลาย เมอ่ื ผกู้ ากับใหส้ ัญญาณเร่มิ เล่ม ใหแ้ ต่ละค่พู ยายามขยบั ปากโดยพยายามเคี้ยว
เชอื กเก็บเข้าไวใ้ นปากให้เรว็ ที่สดุ ทงั้ สองข้างตอ้ งช่วยกัน คใู่ ดสามารถเก็บเชือกไวใ้ นปากไดเ้ รียบร้อยโดยไม่ต้อง
ใชม้ อื ช่วย และปากเขา้ มาชนกนั ได้กอ่ น คนู่ นั้ ชน
ขี่โป่ง
ให้ลกู เสือยืนเป็นแถวตอน แต่ละตอนมจี านวนลูกเสอื เท่ากัน จากหวั แถวออกไปมีเคร่ืองหมายกลบั ตวั
ห่างจากแถว ๑๐ เมตร ให้แต่ละแถวมีลกู โปง่ แถวละหนง่ึ ใบ ลูกโป่งมีขนาดเท่ากันมีไมเ้ ล็ก ๆ ยาวประมาณ ๒๔
นิ้ว แถวละหนง่ึ อัน พร้อมกับหมวกกระดาษหรือจานแบ ๆ กไ็ ด้ เม่ือผ้กู ากับให้สัญญารเร่ิมเล่น คนหัวแถวของ
ทกุ แถวเอาลกู โป่งมาขโี่ ดยให้ลกู โปง่ อยูต่ รงเข่า ใหเ้ ข่าทัง้ สองหนีบไวใ้ หอ้ ยู่ สวมหมวก มือขวาถือไม้แล้วควงไป
ดว้ ยพรอ้ มกบั รีบควบลูกโปง่ ไป จะใช้มอื ชว่ ยจับลกู โปง่ ไมไ่ ด้ เมือ่ ไปถึงเครื่องหมายสาหรับกลบั แล้ว สง่ ให้คนท่ี
๒ ต่อไป แลว้ ตัวเองไปต่อทา้ ยทาจนหมดทุกคน แถวไหนเสรจ็ ก่อนแถวนน้ั ชนะ
เหยยี บระเบดิ
ให้ลกู เสอื แต่ละคนมีลกู โปง่ คนละหนึง่ ใบ และผูกไว้ที่ขอ้ เทา้ จะเป็นเทา้ ใดก็ได้ เม่ือเร่ิมเล่นให้ลกู เสือทุก
คนกระจายทั่วสนามแต่มเี ขตจากัดหา้ มออกนอกเขต ลูกเสอื แตล่ ะคนพยายาม เหยยี บลูกโปง่ ของคตู่ ่อสู้ให้แตก
คนใดถูกเหยยี บลูกโป่งแตกต้องออกจากการเลน่ คนสดุ ท้ายท่เี หลอื และมลี กู โป่งเปน็ ผู้ชนะ
หนา้ ผากตดิ กัน
ให้ลกู เสือยนื เปน็ คู่ ๆ หนั หน้าเข้าหากัน หากล่องไมข้ ีดมาคู่ละหนงึ่ กลอ่ ง เร่ิมเล่นโดยใหเ้ อากล่องไมข้ ีด
วางบนหนา้ ผากแล้วใชห้ นา้ ผากของทัง้ สองคนเข้ามาชนกัน โดยดนั กลอ่ งไม้ขดี ไวไ้ ม่ใหก้ ล่องไม้ขีดตก เม่ือได้
สัญญาณเร่ิมแขง่ ขนั ให้แต่ละคู่ว่ิงแขง่ กนั ใครถึงทห่ี มายก่อนชนะแตต่ อ้ งไม่ใหก้ ล่องไม้ขีดตก (อาจจะเปลี่ยนมาที่
จมูกหรอื ปลายคางก็ได้) เกมส์น้ีตอ้ งชว่ ยกนั ทัง้ สองคนมฉิ ะน้ันกล่องไม้ขีดจะตก
สวัสดี
จัดใหล้ ูกเสอื ยืนเป็นหมู่ ๆ เป็นแถวตอนมีจานวนหมลู่ ะเทา่ ๆ กนั หันหนา้ ไปทางผู้กากับลกู เสือ เมื่อ
เริ่มเลน่ ใหล้ กู เสือคนท่ี ๑ ของแต่ละหมู่กลบั หลังหนั พบกับลูกเสอื คนท่ี ๒ แลว้ กล่าว
”สวัสดี” ทาความเคารพและจบั มอื เชคแฮนด์กนั ลูกเสอื คนที่ ๒ เมอื่ ทากับลกู เสือคนท่ี ๑ แล้ว กก็ ลับหลงั หนั
มาพบกบั ลูกเสือคนท่ี ๓ ต่อไป แล้วกล่าว“สวสั ดี” ทาไปเชน่ นี้จนหมดแถวของหมู่คนสุดท้ายจะวิ่งไปอยหู่ ัวแถว
แล้วกลบั หลังหันกล่าวสวสั ดกี ับคนท่ี ๑ ทาเช่นเดยี วกนั เร่ือย ๆ ไป จนกระทั่งนายหมู่กลบั มาอยหู่ ัวแถวอย่าง
เดิม ให้น่ังลง หม่ใู ดเสร็จก่อนหมนู่ ้ันชนะ
เคารพและจับมอื
จดั ใหล้ ูกเสอื ยืนเป็นรูปวงกลม หนั หนา้ เข้าหาจุดศูนยก์ ลาง ผูก้ ากับลูกเสือคนใดคนหนึ่งใหเ้ ปน็ “คน
ว่งิ ” ออกนอกวงกลมให้ “คนว่ิง” ว่งิ รอบๆ วงกลม เม่ือต้องการหยุด จงแตะคนใดคนหนึง่ แลว้ วง่ิ เลยไป ส่วน
คนเลน่ ท่ถี กู แตะตอ้ งออกจากวงกลมและวิ่งไปในทางตรงกันขา้ มกับ “คนวิ่ง” เมื่อสวนกันท้งั สองต้องหยุดแลว้
ยมิ้ ทาความเคารพ จับมือเชคแฮนดก์ นั เมอ่ื เสร็จแลว้ ต่างคนต่างก็รีบวิ่งไปตามทางของตนเพ่ือเขา้ แทนที่วา่ ง
หาก “คนวิ่ง”มาถึงก่อน ผทู้ ่ีถูกแตะน้ันตอ้ งกลายเป็น “คนว่งิ ” แทน และวง่ิ คอยแตะเพ่ือแยง่ ทค่ี นอนื่ ต่อไป
หาก “คนว่ิง” แย่งท่ไี ม่ทนั ก็ต้องวง่ิ คอยแตะคนอื่นตอ่ ไป
จาสง่ิ ของ
ให้แตล่ ะหมู่มายืนรวมกนั ต่อหน้าถาดซึง่ มฝี าปดิ อยู่ เปิดผา้ ออกท้ิงไว้ประมาณ ๑ นาที ในถาดน้นั มีของ
เล็ก ๆ ๑๕สง่ิ เชน่ กระดมุ มีดพับ คริบ ลกู นัท เงินเหรียญ ดินสอ เครอื่ งหมายลกู เสือ เชือก เปน็ ตน้ แลว้ ให้
แยกกนั ออกไปเขยี นรายชอ่ื สิ่งของต่าง ๆ เท่าท่ีจาได้ ให้คะแนน .๑ คะแนน สาหรับสง่ิ ของแต่ละส่งิ ทเ่ี ขยี นถูก
ซงึ่ มีอยู่ในถาด และถ้าเขียนส่ิงของทไ่ี ม่มีในถาดจะถกู ติดลบ ๒ คะแนน
คนเรข่ ายของ
ผู้กากับแต่งกายเหมือนคนขายของ เดนิ เขา้ มาในหอ้ งประชุมของลกู เสอื (หรือในสนาม) พรอ้ มกบั มี
กระเปา๋ เดนิ ทางหนง่ึ ใบ แลว้ เขาก็ได้ลากเอกของออกมา ๑๐ ส่งิ หรอื ๑๕ สงิ่ จากกระเปา๋ ใบนนั้ พร้อมทัง้
พรรณนาจากโฆษณาการขายของอยา่ งนา้ ไหลไฟดับ ลูกเสือทั้งหลายทน่ี ั่งดอู ยู่นน้ั พยายามจาและจดสง่ิ ของ
ตา่ ง ๆ ในใบส่งั ซื้อ ใครจดได้ถูกต้องเปน็ ผู้ชนะ
เรอื ดาน้าและเขตทีว่ างทุน่ ระเบิด
ปิดตาผู้เป็นท่นุ ระเบิด แลว้ ให้ยนื เรยี งเป็นแถวหนา้ กระดานไปตามห้อง กางเทา้ ออกให้เท้าชดิ กับเท้า
ของอกี ผ้หู น่ึงทอี่ ยู่ข้าง ๆ (ให้เปน็ เขตท่วี างทุ่นระเบดิ ) หน่วยลาดตระเวน(เรอื ดาน้า) อีกพวกหน่งึ ให้เรยี ง
ตามลาดบั อยู่อกี มมุ หน่งึ ของห้อง เมื่อได้สญั ญาณจากผู้นาในการเลน่ แล้ว คนแรกของหน่วยลาดตระเวน จะ
พยายามลอดไประหวา่ งเท้าของผเู้ ปิดตาโดยไมใ่ ห้เกิดเสยี ง ถา้ หน่วยระเบดิ ทุ่นได้ยิน ก็จะจับตัวเรอื ดานา้ ท่ถี ูก
จบั ได้จะต้องออกจากการเล่น แต่ถา้ เรอื ดาน้าลอดไปไดอ้ ย่างปลอดภยั กจ็ ะส่งสัญญาให้เรือดานา้ ลาอ่นื ๆ ลอด
ทนุ่ ระเบิดต่อไปจนหมดทุกคนสลับกันเป็นทุนระเบดิ และเรือดานา้ พวกใดสามารถลอดไปไดม้ ากพวกนน้ั ชน
เงือ่ นวงกลม
ลูกเสือทุกคนยนื เปน็ วงกลมเอามอื ไวข้ ้างหลัง ใหล้ ูกเสือคนหนึ่งเดนิ ข้างนอกวงกลมแลว้ วางเชือกลงใน
มอื คนใดคนหนึ่ง พลางตะโกนบอกชื่อของเงือ่ นทจี่ ะใช้ผูก เมื่อตะโกนเสร็จแล้ว ก็เริ่มออกวง่ิ อย่างเร็วไปรอบ
วงกลม ถา้ ผทู้ ร่ี ับเชือก ผกู เชอื กได้ถูกต้องเรยี บร้อย กอ่ นท่ีลูกเสอื คนนัน้ จะวิ่งกลับมาถงึ ลูกเสอื ผนู้ ัน้ จะเปน็ ผู้
เดนิ ต่อไปใหม่ ถา้ ผู้น้ันผูกเชอื กไม่ถูกต้องผูร้ บั เชอื กจะต้องกลับมาเป็นคนเดินวาง และคนกอ่ นกจ็ ะยืนแทนที่ผู้
นนั้
เขยง่ เท้าแตะ
เขียนวงกลมให้ใหญพ่ อกบั จานวนลกู เสอื และทาประตเู ข้า แบ่งผเู้ ลน่ ออกเป็น ๒ พวก เท่าๆกนั พวก
หนึง่ เขา้ ไปกระจายกนั อยู่ในวงกลมอีกพวกหน่งึ เข้าแถวเรยี งกันตามลาดับ แต่ใหห้ า่ งจากวงกลม ๕ หลา เมื่อให้
สญั ญาณเริม่ เล่น ให้พวกท่ีอยู่นอกวงกลมคนหน่ึง กระโดดเท้าเดยี วเขา้ ไปในวงกลมทางประตเู ขา้ เมื่อใชเ้ ท้าใด
เปน็ เทา้ กระโดดแลว้ ต้องใช้เท้านั้นตลอดเวลาที่อยู่ในวงกลมจะเปลยี่ นไม่ได้ และไลแ่ ตะอีกหมหู่ นง่ึ ซงึ่ กระจาย
อยูใ่ นวงกลมให้ได้มากที่สุดทจี่ ะมากได้ ส่วนหมู่ท่ีอยู่ในวงกลมจะหนีไปทางไหนก็ได้ โดยใชเ้ ทา้ ได้ทัง้ สองเทา้ แต่
จะออกนอกวงไม่ได้ และถา้ ถูกแตะจะต้องถูกออกนอกวงทันที ถ้าหนอี อกนอกวงกลมทั้งสองเท้าถอื วา่ ตายต้อง
ออกจากการเล่น สว่ นผไู้ ลแ่ ละถ้าเปลี่ยนเท้าหรือออกนอกวงกถ็ ือว่าตาย ต้องออกจากการเล่นเชน่ เดียวกนั ยอม
ให้ใช้มือแตะได้ท้งั สองขา้ ง ฝ่ายไลแ่ ตะต้องเรยี งเขา้ ไปวงกลมคร้ังละคนตามลาดบั จนหมดหากยังแตะได้ไม่หมด
ให้เรมิ่ ต้นใหมจ่ ากคนแรกอีก เมอ่ื แตะหมดแลว้ จงึ เปลี่ยนใหอ้ ีกหมูห่ น่งึ เขา้ ไปในวงกลมบา้ ง
การแพ้ชนะอยู่ทเ่ี วลา พวกใดทีห่ นอี ยู่ไดใ้ นวงกลมนานที่สดุ เป็นฝ่ายชนะ
ว่ิงเปี้ยววงกลม
เขียนวงกลมใหใ้ หญ่ และลากเส้นผ่าศนู ยก์ ลางใหเ้ ลยออกนอกวง แบง่ ผู้เลน่ ออกเปน็ ๒ พวกเท่า ๆ กัน
ใหย้ ืนรอบวงกลมพวกละครึง่ วงหนั หน้าออกนอกวง เรมิ่ เล่มโดยให้ผู้เลน่ คนแรกซ่ึงอยู่ที่เสน้ ของแตล่ ะหมู่ออกวิ่ง
ไปรอบ ๆ วงกลม หนั ด้านซา้ ยให้วงกลม มือถอื ผา้ หรือคธาเม่ือครบรอบใหส้ ง่ ผ้าให้คนที่ ๒ ซ่ึงจะต้องทา
เช่นเดยี วกนั คอื ว่ิงรอบและสง่ ให้คนท่ี ๓ ในขณะที่วิ่งทุกคนตอ้ งอยปู่ ระจาท่ขี องตน
บนน้าบนบก
ใหล้ กู เสือทุกคนยืนเปน็ แถวหรอื วงกลมก็ได้ ทุกคนยนื ห่างกันประมาณ ๑ ฟตุ เม่ือผูก้ ากับบอกวา่ “บน
บก” ทุกคนต้องยืนนิง่ จะไหวตัวหรอื ยอ่ เขา่ เพยงเล็กน้อยไม่ได้ ถ้าผ้กู ากับบอกวา่ “บนน้า” ใหท้ กุ คนกระโดด
ไปขา้ งหน้า หากใครทาผิดหรือทาชา้ เชน่ บอก “บนบก” กลบั ไหวตัว หรือเมื่อบอก “บนนา้ ” กลับยนื นงิ่
เชน่ นีต้ ้องออกจากการเล่น และเมื่อออกไปแลว้ ใหช้ ่วยผ้กู ากับคอยดูคนที่ทาผดิ ต่อไป ผ้ทู ่ีเหลือเป็นคนสดุ ทา้ ย
เปน็ ผู้ชนะ
จบั คขู่ องทา่ น
จดั ผเู้ ลน่ เป็นคู่ ๆ ยืนเป็นวงกลม และทาวงกลมให้ใหญ่ทสี่ ุดเท่าทีจ่ ะใหญไ่ ด้ เสร็จแล้วบอกใหห้ นั หนา้
ไปคนละทางตามส่วนโคง้ ของวงกลม และใหจ้ าคขู่ องตนไว้ให้แมน่ ผูก้ ากบั ยืนกลางวงใหส้ ัญญาณ ทุกคนต้อง
เดินไปตามวงกลมตามจังหวะที่จะบอก ขณะที่เดนิ อาจสัง่ ให้ทาอะไรกไ็ ด้ เชน่ ทกุ ครง้ั ทตี่ กเท้าซา้ ยใหต้ บมือ
ขณะที่เดินอยู่น้นั หากได้ยนิ สัญญาณนกหวีด หรอื บอกว่าจบั คู่ของทา่ น ให้ผู้เลน่ ทุกคนแยกออกจากวงกลม วิ่ง
ไปจบั กบั คู่ของตนแลว้ รบี น่งั ลงทันที ค่ใู ดจับคูห่ รอื น่ังลงได้ช้าท่สี ุด ใหผ้ กู้ ากับจาไว้ และบอกวา่ ถ้าใครทาชา้ ทส่ี ดุ
ครบ๓ ครัง้ จะต้องถูกลงโทษแลว้ ให้เร่มิ เล่นใหม่ การทาโทษนั้น อาจให้แสดงเสียงสัตว์ หรอื อะไรกไ็ ด้
แตะลงิ
แบง่ ผู้เลน่ ออกเป็น ๒ พวกเท่า ๆ กนั เขยี นวงกลมโตพอเหมาะกบั จานวนของผูเ้ ล่า ใหพ้ วกหนง่ึ
กระจายกนั อยู่ภายในวงกลม อกี พวกหนึ่งยืนเข้าแถวเรียงกันตามลาดับ อยนู่ อกวงกลมและห่างจากวงกลม ๑
ฟตุ เรม่ิ เล่นโดยใหผ้ ู้เลน่ นอกวง เรียงกนั เข้าไปในวงกลมครั้งละคน จะเข้าตรงไหนก็ได้ เมื่อเขา้ ไปแล้วต้องเอา
มอื ทง้ั สองเดนิ บนพน้ื ส่ีเท้า และใชเ้ ทา้ แตะคนทอี่ ยู่ในวง ซ่งึ ถ้าออกนอกวงหรือถูกเท้าแตะต้องตายออกจากการ
เลน่ แต่อาจลอ้ ลงิ เล่นได้ โดยเขา้ ไปทางศีรษะและจับบา่ ไวห้ รือกระโดดข้ามไปมา ลงิ ถ้ายกสองมือขึน้ จากพืน้ ถือ
ว่าตายตอ้ งออกจากการเลน่ และตวั ใหมก่ ็เขา้ มาแทนที่
ขีม่ า้ โยนบอล
แบง่ ผูเ้ ลน่ ออกเปน็ ๒ พวก จัดให้เปน็ คมู่ ีขนาดไล่เลีย่ กนั พวกหน่ึงเปน็ ม้า อีกพวกหนึ่งเป็นคนข่ี ใหย้ ืน
เป็นรปู วงกลม ส่วนใครจะเป็นคนข่กี ่อนนัน้ จะทาได้โดยการเส่ยี งหวั -กอ้ ย เรม่ิ เล่นโดยให้คนขีค่ นหนึง่ รับลูกบอล
ใหส้ ง่ ต่อ ๆ ไปตามลาดับจะโยนข้ามไมไ่ ด้ ระวังอย่าให้ลูกบอลตกพน้ื มา้ ต้องพยายามใหค้ นขีร่ บั ลูกบอลพลาด
ด้วยการพยศ เช่น ยอ่ ตัวลงต่าเอียงซ้าย ขาว กระโดด หรือหมุนไปรอบ ๆ แตไ่ ม่ใช่ประสงค์จะใหค้ นขตี่ ก แต่
ต้องการใหค้ นบนหลังรับลกู บอลไม่ได้ หากลูกบอลตกดนิ คนขท่ี กุ คนต้องรีบเปลี่ยนมาเป็นมา้ ใหค้ นเปน็ มา้ ขึ้น
บนหลังสลับกันไป
วิ่งผลดั
ให้ลกู เสอื ยนื เป็นแถวตอน ตามหม่ขู องตน แต่การเล่นน้ีควรจะมีหมูน่ ี้ควรจะมีหมลู่ ะเทา่ ๆ กนั เพอ่ื
เปน็ การแข่งขนั และตดั สนิ แพ้ชนะได้ หา่ งจากหวั แถวออกไปประมาณ ๑๐ หลา มเี ครื่องหมายใหต้ รงกับแถว
ของแตล่ ะหมู่ เมื่อว่งิ เลน่ คนที่หน่งึ วง่ิ ไปทีเ่ ครื่องหมายแลว้ กลับมาแตะคนที่ ๒ ตัวเองไปต่อท้ายคนท่ี ๒ เม่อื ถกู
แตะแล้วกว็ ่ิงไปทีเ่ ครอ่ื งหมายแล้วว่งิ กลับมาแตะคนที่ ๓ ตอ่ ไปคนท่ี ๓ คนแตะแลว้ กท็ าเช่นเดียวกนั แถวไหน
ทาหมดก่อนเปน็ แถวชนะ
วง่ิ กระโดดเทา้ เดยี ว
ให้ผูเ้ ลน่ ว่งิ ไปอ้อมเคร่ืองหมายด้วยการกระโดยเท้าเดียว เมอ่ื ถึงเคร่ืองหมายกลับตัวใหว้ ิ่งกลบั ด้วยการ
เปล่ียนเท้าอีกข้างหน่ึง แถวใดหมดก่อนเป็นแถวชนะ
วิ่งกระโดดสองเทา้
ให้ผูเ้ ล่นว่ิงกระโดดสองเท้าไปออ้ มเคร่ืองหมาย เม่ือถึงเคร่ืองหมายแล้วก็วิ่งกลับมาท่ีเดิมแลว้ แตะคนท่ี
๒เปล่ยี นไป แถวใดทาเสร็จก่อนเปน็ แถวชนะ
เรืออบั ปาง
แบง่ ลูกเสอื ออกเปน็ ๖ หมู่ แตล่ ะหมู่กเ็ ปน็ เรือแต่ละลา ให้นายหมขู่ องแตล่ ะหมเู่ ปน็ กัปตัน เป็นผู้นา
เรอื ใหล้ กู เสอื ทกุ คนหาเชอื กมายาว ๒ หลา เมอื่ เร่มิ เลน่ ให้ลูกเสอื ในหมู่ของแต่ละหมูต่ ่อเชอื กตดิ กนั ดว้ ยเง่ือน
ขดั สมาธิ เมื่อแถวใดเสรจ็ ก่อนนายหมู่กล็ ากเรือของตวั ไปยังจุดหมายปลายทางทก่ี าหนดไว้เปน็ ฝ่ัง หม่ใู ดเสร็จ
กอ่ นและไปถึงถือว่าชนะ
การแข่งขนั ผูกเง่อื น
ลกู เสอื ทุกคนมีเชือก แบ่งออกเปน็ ๒ พวกห่างกนั ประมาณ ๓ หลาเป็นแถวหนา้ กระดานหันหน้าเข้า
หากัน เมื่อผู้กากบั บอกเรมิ่ ให้ทง้ั สองแถววิ่งเขา้ มาหากนั เป็นคู่ ๆ ต่างคนตา่ งกเ็ อาเชือกคลอ้ งซ่งึ กันและกนั
แล้วผกู เง่ือนพริ อด เม่ือใครเสรจ็ ก่อนกร็ ีบดึงคู่ของตนไปยงั แดนตนเม่ือเสร็จแลว้ ให้หยุด ผู้กากบั นบั ดู ฝา่ ยใดผูก
เสร็จและสามารถดึงมาแดนของตนไดม้ าก ฝา่ ยน้นั ชนะ ในการตดั สนิ ผกู้ ากับต้องตรวจดูเงอื่ นดว้ ยว่าถูกหรือผดิ
ตอ้ งใหเ้ งื่อนน้ันถูกดว้ ย
การส่ง-รบั บอล
ให้ลูกเสอื ทุกคนยืนเปน็ แถวตอนตามหมู่ แตล่ ะหมู่ลูกบอลขนาดเทา่ ลูกเทนนสิ หม่ลู ะ ๑ ลูก นายหมู่
ของแตล่ ะหมูเ่ ดินไปข้างหน้าห่างจากแถว ๑๐หลา แล้วหนั หนา้ กลับ นายหมทู่ ุกหมู่ถือลกู บอล เมอื่ เร่ิมเลน่ ให้
นายหมู่ขว้างลูกบอลมาให้คนท่ี ๑ คนท่ี ๑ รบั แลว้ ขว้างไปให้นายหม่แู ล้วตัวเองนงั่ ลง นายหมู่รบั แล้วกข็ ว้าง
ส่งไปให้คนท่ี ๒คนที่ ๒ รับแล้วขวา้ งกลับมาให้นายหมู่ แล้วตวั เองน่ังลง ทาเช่นนีเ้ ร่ือยไปจนกวา่ จะหมด แถวใด
หมดกอ่ นเปน็ แถวชนะ
สง่ ข่าว
ให้ลกู เสือทุกหมูย่ ืนเปน็ แถวตอน แต่ละหมู่มีสมดุ ปกแข็งประมาณ ๓ เลม่ วางซ้อนกันไว้ ใหน้ ายหมไู่ ป
ทาเครื่องหมายห่างจากแถว ๑๐ หลา แล้วกลับมาอยู่ท่เี ดิม นายหมู่เอกสมุดวางบนศีรษะ เม่ือเร่ิมแตล่ ะแถวก็
เอกสมดุ วางบนศรี ษะเช่นเดียวกัน แลว้ เดินไปยงั เคร่ืองหมายโดยไม่ใช้มอื จับ เมอ่ื ถึงเคร่ืองหมายแลว้ เดนิ
กลบั มาทเี่ ดิม สง่ สมดุ ให้คนตอ่ ไป ตวั เองไปตอ่ ท้าย คนต่อไปกท็ าเช่นเดียวกันจนหมด แถวใดหมดก่อนเป็นแถว
ชนะ
สร้างบา้ น
ลูกเสอื ยืนเปน็ แถวตอนตามหมขู่ องตน เมื่อเร่ิมคนทห่ี นึง่ คือนายหมเู่ ดนิ ไปข้างหนา้ ห่างจากแถว
ประมาณ ๑๐หลา แลว้ ไปหยิบสมดุ ปกแขง็ ๓ เล่มวางบนศีรษะ กลับหลังหันเดินกลับพร้อมกับคนท่ี ๒ ของแต่
ละแถวถือลูกบอล (ขนาดเท่าลูกเทนนิส) โยนลูกบอลให้นายหมู่รบั ถ้ารบั ได้ก็รีบกลับมาแถวของตน แลว้ สง่
สมุด ๓ เล่ม ให้คนที่ ๒ ทูนศีรษะเดนิ ต่อไปยังเคร่ืองหมายส่วนลูกบอลคนท่ี ๓ ถือไว้ ตวั คนแรกไปต่อท้าย
เมื่อคนที่ ๒ เดินไปยงั เคร่อื งหมาย ๑๐ หลา แลว้ กลับหลงั หนั พรอ้ มกับคนที่ ๓ โยนลูกบอลใหร้ บั ถ้ารับไดก้ ็เดิน
มายงั คนท่ี ๓ ต่อไปจนหมด แถวใดหมดก่อนแถวนน้ั ชนะ ถ้ารบั บอลไม่ได้ก็ตอ้ งก้มลงเก็บ แล้วเดนิ มายงั แถว
ของตนท่ตี ั้งอยู่
ไลแ่ ตะธรรมดา
ลกู เสอื ลงสนามกาหนดเขตให้ทราบว่า ใครจะออกนอกเขตท่ีกาหนดไวไ้ ม่ได้ เลอื กลูกเสอื คนที่ ๑ ให้
เป็น “คนไล่” เมอ่ื ใหส้ ัญญาณลูกเสอื คนอื่น ๆ ต้องหนี ลกู เสือ “คนไล่” พยายามเร่มิ ไล่แตะถูกตวั หรอื เสอื้ ผ้า
ของลูกเสอื คนใดคนหนงึ่ ลูกเสือคนใดถกู แตะต้องกลายเป็นคนไล่ แล้วไลแ่ ตะลกู เสอื อ่นื ๆ ต่อไปทนั ทโี ดยไม่
ตอ้ งใหส้ ญั ญาณอีก เกมสด์ าเนนิ เช่นนีต้ ลอดไปจนกวา่ ผู้กากบั จะบอกให้หยุด
อาจจะเปล่ยี นเปน็ เขย่งเท้าแตะ คือทง้ั คนไลแ่ ละคนหนี ตา่ งไปดว้ ยการกระโดดเท้าเดยี ว แต่ยอมให้เปลยี่ นเทา้
ได้ หรือกระโดดเท้าคูแ่ ตะ เชน่ เดียวกับเขยง่ เท้าแตะ
จบั โซแ่ ตะ
เม่ือปลอ่ ยลูกเสอื ลงสนาม และกาหนดเขตใหแ้ ลว้ ผกู้ ากับลูกเสอื คนหนึ่งเป็น “คนไล่” เม่ือให้สญั ญาณ
ลูกเสือคนอ่ืนต้องวง่ิ หาก “คนไล่” ไล่แตะถูกใคร คนนั้นต้องจบั มือกบั คนไล่ ออกไล่แตะคนอน่ื ต่อไป และถ้า
ใครถูกแตะก็ต้องจบั มือเป็นพวกคนไล่ คลา้ ยสายโซ่ โซจ่ ะยาวข้นึ ทุกที จนทุกคนถกู จบั เป็นสายโซเ่ ดียวกนั จึงจะ
จบเกมส์ ลกู เสือทหี่ นอี อกนอกเขตต้องถือวา่ ถูกแตะ เฉพาะคนหัวและคนท้ายของโซ่เท่านั้นท่ีจะแตะได้ เด็กที่
หนีอาจวิ่งลอดตรงกลางโซ่ได้
ต้อนปลาเขา้ อวน
เลน่ คล้ายกบั จับโซแ่ ตะ แต่เริ่มโดยใหล้ กู เสอื ประมาณ ๘-๑๒ คน จับมือเป็นลูกโซ่ (อวน) ไล่ต้อน
ลูกเสือทีเ่ หลืออยู่ ควรแบ่งลูกเสือออกเป็น ๒ พวก ให้พวกใดพวกหน่ึงเปน็ ผ้ไู ลต่ ้อนกอ่ น โดยกาหนดเวลาให้
เปน็ ๕ นาที พวกใดได้มากกว่าพวกนัน้ ชนะ
เรยี กบอล
ลกู เสือยืนลอ้ มเปน็ วงกลม ทา่ มกลางใหล้ กู เสือผหู้ น่ึงคงยืนถือลกู บอลเม่อื ผู้กลางวงกลมโยนลกู บอลข้ึน
ไป ใหต้ ะโกนเรยี กชื่อผู้เล่นคนใดคนหน่ึงท่ียนื ล้อมวง ลกู เสือทีถ่ ูกเรยี กชื่อต้องรบี ออกไปรบั ลกู บอลก่อนทจี่ ะตก
กระทบพนื้ เป็นครง้ั ที่สอง ถ้ารับลูกบอลได้กจ็ ะไดเ้ ข้าแทนที่เป็นผโู้ ยนลกู บอลคนก่อน ถา้ รับไมไ่ ดก้ ็ต้องกลับเข้า
ไปอย่ใู นวงกลมตามเดมิ เพอื่ รอโอกาสต่อไปทเ่ี ขาเรยี ก
เต้นจบั
ให้ลกู เสอื เข้าแถวเปน็ วงกลม หนั หน้าส่กู ลางวง ลกู เสอื คนหนึ่งเขยง่ รอบวง และแตะผ้เู ล่นคนหนึง่ คน
ใดที่หลงั ผูถ้ กู แตะต้องเขย่งหนี ถา้ ผู้หนีถูกจับต้องออกไปยืนกลางวงรอเข้าทเี่ ดิม เมือ่ ท่เี กดิ ว่างข้ึน ถ้าเขาหนีทนั
เขาก็เขา้ ประจาที่เดมิ
เหยียบเงาแตะ
เกมสน์ ีเ้ ป็นเกมส์ท่สี าหรบั เลน่ ในโอกาสมีแสงแดด เม่ือกาหนดเขตสนามที่จะไมใ่ หเ้ ด็กคนใดออกนอก
เขตแลว้ ผู้กากับลกู เสือเลือกลูกเสือหนงึ่ คนเป็น “คนไล่” คอยไล่เหยยี บเงาลูกเสือคนอ่นื ๆ ใครหนีหรือหลบเงา
ไม่ทนั หรือวิ่งออกนอกเขต ตอ้ งมาเป็นคนไล่แทน แล้วเหยยี บเงาคนอ่ืนต่อไปหากมีลกู เสือหลายคน จะเพ่ิมคน
ไล่ขน้ึ เปน็ สองหรือสามคนก็ได้
ส่งชอ้ นส้อม
ให้แตล่ ะหมู่ยืนเปน็ แถวตอน ให้คนท่ี ๑ หวั แถวยนื บนเสน้ เร่มิ มอื ถือชอ้ นส้อมหนงึ่ อนั ห่างจากคนท่ี ๑
ประมาณ ๑หลา มวี งกลมเขียนดว้ ยชอล์ก(หรือโรยปนู ขาว) มมี นั ฝรัง่ หน่งึ หวั วางอยู่ตรงกลาง ทางดา้ นหน่งึ ของ
หอ้ งหรอื สนาม กม็ วี งกลมอีกวงหนงึ่ ซ่ึงทุก ๆ แถวมีเหมือนกัน เม่อื ผกู้ ากับใหส้ ัญญาณเริม่ เล่น คนท่ี ๑ ของแต่
ละหม่กู า้ วไปยงั วงกลมใกล้ เอาช้อนซอ่ มตกั มันฝรัง่ แลว้ วิ่งพาอ้อมแถวของตัวแล้วพาไปวางไวใ้ นวงกลมที่ไกล
แลว้ กลบั มายงั เส้นเร่มิ ย่นื ช้อนสอ้ มให้คนต่อไป ตวั เองวงิ่ ไปต่อท้ายแถว คนที่ ๒ รับชอ้ นส้อมได้แล้ว รบี ว่งิ ไป
ช้อนมนั ฝร่งั แล้วพาไปอ้อมแถวของตวั ไว้ในวงกลมใกล้ แลว้ ก็ส่งใหค้ นต่อไป ทาสลบั กัน คือวางไว้ใกล้ วางไว้ไกล
แต่ทุกคนตอ้ งอ้อมแถวก่อน หา้ มใช้ ตัวถูกมนั ฝรงั่ ใครทาตกต้องตักมนั ฝรั่ง ณ ท่ีที่ตกน้ันแลว้ เรม่ิ ต่อไป หมู่ไหน
ทาเสร็จก่อนหม่นู น้ั ชนะ
หอ่ ของ
ให้ลูกเสือแต่ละหมู่ยืนเปน็ แถวตอนตามหมู่มีจานวนเทา่ กัน เคร่อื งมือมีกระดาษมนี ้าตาล เชอื ก ปา้ ย
วงกลม อาจใช้ (เสื้อ รองเท้า ถุง หนังสือ ฯลฯ) เท่ากบั จานวนลูกเสอื ในหมู่ สาหรับของมีแต่ละหมจู่ านวนช้นิ
เทา่ กันเม่ือได้ยินคาสงั่ เร่ิม ให้แตล่ ะหมู่รวบรวมของเหล่านั้น แลว้ ใสห่ ่อ ให้เขยี นปา้ ยบอกของเหล่าน้นั ด้วย ทุก
หมทู่ าเหมือนกนั หมด แลว้ นาไปให้ผกู้ ากับ หรอื จะจัดแข่งแบบรเี ลยก์ ็ได้
พวกไหนเสรจ็ ก่อนให้ ๓ จดุ ๒ จดุ ๑ จดุ ตามลาดบั
พวกไหนห่อดีเรียบร้อยให้ ๔ จุด ๓ จดุ ๒ จุด ตามลาดับ
พวกไหนบอกชื่อของถูกตอ้ งให้ ๓ จดุ ๒ จุด ๑ จดุ ตามลาดับ
หมใู่ ดได้แต้มมากหมูน่ ั้นชนะ
เปลี่ยนของ
ให้แตล่ ะหมู่ยืนเขา้ แถวตอนให้มีจานวนเท่า ๆ กัน คนแรกของแตล่ ะหม่อู ยู่ใกล้เสน้ เริม่ ตรงข้ามสนาม
อีกด้านหน่งึ มีหมวกกับผ้าผูกคนลกู เสือวาง อยู่ ตรงหน้าของแต่ละหมู่
เมอ่ื ไดย้ นิ สัญญาณเร่มิ เล่นจากผกู้ ากับ ให้คนแรกของแต่ละแถววิง่ ไปเกบ็ หมวกแล้ววง่ิ มาสง่ ให้คนท่ี ๒ คนท่ี ๒
รับแล้ววงิ่ เอาหมวกไปไว้ท่เี ดิม แลว้ หยิบผ้าผกู คอมาใหค้ นท่ี ๓ คนที่ ๓ รับแล้วเอากลบั ไปไว้ทีเ่ ดมิ เอาหมวกมา
อกี สลบั กันไปจนหมด แถวไหนเสร็จกอ่ นแถวน้ันชนะ
เดินตามเสียงดนตรี
ใหล้ ูกเสือแตล่ ะหมยู่ ืนเปน็ แถวตอน ให้หัวแถวอยู่ทเี่ ส้นเริ่ม มอื ถือผา้ ผูกคนลกู เสอื เม่อื ดนตรเี รมิ่ ลกู เสอื
คนหัวแถวเร่มิ ออกเดิน (ห้ามออกวิ่ง) ไปยังท่หี มายทางด้านหนง่ึ ของห้องหรือสนามแลว้ กลบั มายงั เส้นเริ่มตน้
เมอ่ื ไรกต็ ามถ้าดนตรีหยดุ ทกุ คนก็ต้องหยุดเดนิ ถ้าคนใดผกู้ ากับเหน็ วา่ ไม่หยดุ พรอ้ มกบั ดนตรี ให้ไปเรมิ่ เดินใหม่
เมอื่ คนแรกไปถึงเสน้ เริ่มแล้วก็ส่งผา้ ผูกคอให้คนท่ี ๒ ตอ่ ไป ทาเชน่ นี้เรื่อย ๆ ไป แถวใดเสรจ็ ก่อนแถวนน้ั ชนะ
ถ้าใครวงิ่ ต้องไปเริม่ ใหม่ถอื ว่าผดิ
เดินหมี
ให้แตล่ ะหมู่ยนื เข้าแถวตอน แถวละเทา่ ๆ กัน คนแรกอยบู่ นเส้นเร่ิม เมอ่ื ได้ยนิ คาส่ังจากผกู้ ากับ “ไป”
คนแรกของแตล่ ะแถวก้มตวั ลงใชม้ อื ท้ังสองจบั ทข่ี าด้านนอกทั้งสองให้แนน่ แลว้ เดนิ หรือวิ่งไปยงั ทห่ี มาย อีกดา้ น
หนึ่งของสนาม โดยไมป่ ล่อยมือจากขอ้ เท้า ปากคาบผ้าเช็ดหน้าดว้ ยแลว้ กลับมาที่เดิมทเ่ี ริ่มต้นใหม่ เอก
ผ้าเชด็ หน้าส่งตอ่ ใหค้ นท่ี ๒ ต่อไป คนที่ ๒ ก็ทาเช่นเดียวกนั จนหมดแถว แถวใดหมดก่อนแถวนั้นชนะ
ส่งลกู โปง่
ใหแ้ ต่ละหมู่มีผเู้ ลน่ หมู่ละเท่า ๆ กนั ให้คนแรกยืนบนเส้นเริ่ม มอื ถือลูกโปง่ ที่สบู แล้ว อีกด้านหนงึ่ ของ
ห้องหรอื สนามตรงหนา้ ของแต่ละหมู่มีเกา้ อ้ีหรือส่ิงกีดขวางอย่าง อื่น ไว้สาหรับออ้ ม หรอื ใช้ชอล์กขีดเป็น
เครอ่ื งหมายก็ได้ เม่ือผูก้ ากับให้สญั ญาณ “ไป” คนแรกของแตล่ ะหมู่ใหบ้ ังคบั หรือตบลกู โป่งใหล้ อยไปในอากาศ
แล้วไปอ้อมทีห่ มายทวี่ างไว้ แล้วมาส่งลูกโป่งตอ่ ให้คนท่ี ๒ คนท่ี ๓ ตอ่ ไป แถวไหนหมดก่อนแถวนน้ั ชนะ ทุก
แถวต้องพยายามบังคบั ลูกโปง่ ไปจะโดยลักษณะใดก็ได้
งมเข็มในกองหญ้า
ใหแ้ ตล่ ะหม่เู ขา้ แถวเป็นรปู แถวตอน มีจานวนเท่า ๆ กัน คนแรพยืนอยู่ที่เสน้ ริม ถือเข็มธรรมดาไว้เลม่
หนง่ึ ลาดับของแถวจะยนื เป็นรูป ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖เปน็ รูปแถวตอน ตรงหน้าของแตล่ ะหมู่มีวงกลม เขยี นด้วย
ชอล์กถา้ เป็นในห้อง ถ้าเป็นในสนามโรยด้วยปูนขาวเปน็ วงกลม ในวงกลมนัน้ มีกองหญ้ากองไว้
เมอื่ ได้ยนิ คาสงั่ จากผูก้ ากับใหเ้ ร่ิมเล่น คนท่หี นึ่งวิง่ ไปยังวงกลม แล้วปักเข็มไว้ในกองหญ้าแลว้ วิ่งกลับมาแตะคน
ท่ี ๒ คนท่ี ๒ วิ่งไปหาเขม็ ใหไ้ ด้ แล้วนามาส่งให้คนที่ ๓ คนท่ี ๓ รบั เขม็ แลว้ วงิ่ ไปทก่ี องหญ้าแลว้ ปกั เข็มลงไปใน
กองหญ้าอีก ทาเชน่ นีต้ ลอดไป จนหมดแถว แถวไหนหมดกอ่ น แถวนั้นชนะ
ลอดถา้
ให้ลูกเสอื แต่ละหมยู่ นื เปน็ รปู แถวตอน มจี านวนคนเท่า ๆ กนั ยนื แยกเท้าออกห่างพอผเู้ ล่นลอด
ออกไปได้ เม่ือได้ยินคาสง่ั จากผกู้ ากับให้ไป คนเล่นที่อยู่หลงั สดุ มือถือผ้าผูกคอลกู เสือด้วย ให้คลานลอดชอ่ งขา
จนครบ คนท่ยี ืนอยู่หน้าเมื่อตนเองไปสุดแลว้ ใหก้ ระโดดแยกขาข้างหนา้ แถว แล้วใหส้ ง่ ผ้าเช็ดหน้าไปยงั คน
สดุ ทา้ ยแถว เม่ือคนน้ันไดร้ บั แล้วก็ใหล้ อดชอ่ งขาอย่างคนแรกแลว้ สง่ ผ้าเช็ดหน้า ทาเชน่ น้ไี ปเรอื่ ย ๆ จนกระท่ัง
ได้เข้าอยู่ในรปู เดิม แถวใดทาเสร็จก่อนเปน็ ผูช้ นะทุกคร้ังต้องมกี ารส่งผา้ เชด็ หนา้ หรือผา้ ผูกคอ ถา้ คนสุดท้าย
ไม่ได้รบั ผ้า ห้ามลอดมา
ดานา้ ไปองั กฤษ
เข้าแถวเปน็ หมู่ รูปแถวตอน คนอยู่หน้าแตล่ ะพวกถือถุงถ่ัว และก่ึงกลางสนามขึงเชือกให้ต่า ๆ พอผู้
เล่นจะมดุ ขา้ มไปได้เม่ือผู้กากับออกคาสง่ั ให้ “ไป” ใหค้ นแรกของแต่ละหมู่วางถุงถั่วไว้บนศีรษะของตวั แลว้ รีบ
ว่ิงไปขา้ งหนา้ มดุ ใตเ้ ชือกแล้วว่งิ ไป แตะกาแพงหรือด้านหน่งึ ท่ีกาหนดไว้ แล้วกลับมามุดใต้เชือกอีก ในขณะที่
ดาเนนิ การแข่งขนั อย่นู ี้ ห้ามใชม้ อื แตะถงุ ถ่วั ถา้ ใครใช้มือแตะใหไ้ ปเรมิ่ เล่นใหม่ และใครทาถงุ ถวั่ ตกจากศีรษะ
คนน้ันตอ้ งเริ่มวางใหมเ่ มอ่ื คนแรกเสรจ็ แล้วนาถุงถวั่ ไปส่งต่อใหค้ นต่อไป แถวใดเสร็จก่อนเป็นผูช้ นะ
ส่งหนา้
ให้แต่ละแถวมผี ูเ้ ล่นหมู่ละเท่า ๆ กัน เปน็ รปู แถวตอน ให้มีระยะช่วงหา่ งกันคนต่อคน ประมาณ ๑
เมตร ผเู้ ลน่ คนสดุ ท้ายถือผา้ ผูกคนไวใ้ นมอื เมื่อได้ยนิ คาสั่งให้เล่นจากผ้กู ากับ คนสดุ ท้ายของแตล่ ะแถวว่ิงไป
ยืนข้างหน้าแถว แลว้ ส่งผ้าผกู คอมาทางหลัง จนมาถึงคนสุดทา้ ยของแถวอีก คนสุดทา้ ยของแถวเมือ่ ได้รบั ผา้
แล้วกร็ ีบว่ิงไปตอ่ หน้าเช่นคนที่ ๑ ทา การเล่นดาเนินไปเช่นนี้เรือ่ ย ๆ แถวใดทาไดเ้ สรจ็ กอ่ นแถวน้ันชนะ
เลย้ี งพลองแข่ง
ให้แต่ละหมเู่ ขา้ แถวเป็นแถวตอน คนอยู่หนา้ ของแต่ละแถวยืนอยู่บนเส้นเริ่ม ถือไม้พลองยาว ๓ ฟตุ
หรือใช้พลองลูกเสือกไ็ ด้ เมอ่ื ได้ยินคาส่งั จากผู้กากับใหเ้ ร่ิมเล่น คนแรกของแตล่ ะแถวให้ใชน้ ว้ิ มอื หรือฝา่ มือเล้ียง
พลองให้ตงั้ ตรงแล้วเดินไปอ้อมท่หี มาย แลว้ กลับมายังเสน้ เร่มิ สง่ ไมใ้ ห้คนต่อ ๆ ไป ทาเช่นเดียวกนั ถ้าใครทา
พลองล้มหรือถา้ ใช้อีกมือหน่ึงช่วยตอ้ งไปเริ่มใหม่ ณ เสน้ เริ่ม แถวไหนทาเสรจ็ ก่อน เปน็ ผู้ชนะ
ฟุตบอลขนนก
แบ่งลกู เสือออกเปน็ ๒ พวกจะเป็นพวกละก่ีคนก็ได้ แต่ต้องเท่ากัน หาโต๊ะสักหนึ่งตวั เปน็ รูป
สเ่ี หล่ียมผืนผ้า กวา้ ง ๑ เมตร ยาว ๒ เมตร หาขนนกหนึ่งขน เมื่อเร่มิ เลน่ ใหเ้ ลน่ ข้างละ ๑ คน อยูท่ างหัวและ
ท้ายโต๊ะคนละขา้ ง ใช้ขนนกวางตรงกลาง เม่ือได้ยนิ สัญญาณเร่มิ เล่นใหท้ ั้งสองคนพยายามเปา่ ขนนกใหป้ ลิวไป
กับพนื้ โตะ๊ ถา้ ผู้ใดสามารถเป่าขนนกผา่ นเสน้ หลัง คือด้านสุดของหัวและทา้ ยโต๊ะ ผ้นู นั้ ชนะได้ ๑ แต้ม และให้คู่
อ่ืนมาเลน่ ต่อไป เมื่อเสร็จการแขง่ ขนั แล้ว นับจานวนแตม้ ดู ฝา่ ยใดไดแ้ ต้มมากฝา่ ยน้นั ชนะ
ตีคลี
หาเชอื กมาขึงกลางสนามสงู ประมาณเพยี งไหล่ลกู เสอื เปน็ เนต สนามกว้างประมาณ ๔ เมตร ยาว
ประมาณ ๖เมตร แบง่ ลูกเสือออกเป็น ๒ ฝ่าย (ประมาณ ๖-๑๒ ) หาลกู โป่งมา ๑ ลกู เมอ่ื เรมิ่ เลน่ ใหฝ้ า่ ยหนึ่ง
ฝา่ ยใดเปน็ ฝา่ ยไดล้ ูกโป่งก่อน โดยถอื ไวต้ รงกึ่งกลางเนต แล้วเปา่ ใหข้ า้ มเนตไป เม่ือข้ามไปแล้วฝา่ ยตรงข้ามต้อง
พยายามเปา่ ลูกโปง่ ใหข้ า้ มเนตกลบั ถา้ ฝ่ายใดทาลกู โป่งตกพนื้ ฝ่ายนน้ั เสียแตม้ ใชเ้ วลาเล่นประมาณ ๕-๑๐
นาที ฝ่ายใดได้แตม้ มากฝ่ายนั้นชนะ
ว่งิ ผสม
แตล่ ะหม่ยู นื เข้าแถวเปน็ แถวตอน หัวแถวอยทู่ ่เี สน้ เร่ิม คนหัวแถวถือผ้าผกู คอลูกเสอื อยใู่ นมอื ผกู้ ากบั
ให้สญั ญาณเริ่มเลน่ ให้ลูกเสอื ทาอยา่ งหน่ึง ดังต่อไปน้ี วิง่ เดิน วิ่งดว้ ยปลายเทา้ ควบม้า ฯลฯ ไปยังที่หมายหรือ
รมิ สุดของสนาม แล้วกลบั มาพรอ้ มด้วยผา้ สง่ ตอ่ ให้คนที่ ๒ ต่อไป ซ่งึ แต่ละคนไม่ให้ทาซา้ แบบกนั เมื่อคนท่ี ๒
วิง่ ไปสุดสนามแล้วก็วิ่งกลับมาใหค้ นท่ี ๓ ต่อไปอีก หมใู่ ดเสร็จกอ่ นหมนู่ ัน้ ชนะ
เลย้ี งบอลด้วยจาน
ใหล้ กู เสือแต่ละหมูย่ นื เป็นแถวตอน มผี เู้ ลน่ แตล่ ะหมู่เท่ากัน คนเปน็ หวั แถวของแตล่ ะหมู่ถอื จานซ่ึงมี
ลูกบอลวางอยู่ในจานด้วย (ลูกเทนนสิ หรอื ลูกบอลขนาดเท่าลูกเทนนสิ หรือมะนาว) เมื่อผกู้ ากบั บอกเรมิ่ เลน่ ให้
หัวแถวออกวง่ิ หรือเดนิ นาของในมือไปยังสุดห้อง หรือสนามทีก่ าหนดไว้แล้วกลับมายงั เส้นเริ่ม แลว้ ส่งจานกับ
ลูกบอลใหผ้ ู้เลน่ คนต่อไป แต่ละคนก็ทาเชน่ เดยี วกัน ถา้ หากลกู บอลตกในระหวา่ งการเล่น ผู้เลน่ ต้องกลับไปที่
เริม่ เลน่ ใหม่ ณ ทท่ี ่ีลูกบอลตกหมูใ่ ดเสรจ็ กอ่ นหมนู่ ้นั ชน
ระเบดิ ถุง
ให้ลกู เสือยนื เปน็ แถวตอน แต่ละแถวมีผูเ้ ลน่ เท่ากนั คนแรกให้ยืนอยบู่ นเสน้ เรมิ่ ตรงขา้ มของแตล่ ะ
แถว ใหห้ าถงุ กระดาษมาวางไวเ้ ปน็ ห่อ ๆ เทา่ กับจานวนผ้เู ล่น (หรือลูกโป่งก็ได้)
เมื่อผกู้ ากบั ใหส้ ัญญาณเร่มิ เล่น ให้ผเู้ ล่นคนแรกของแถวว่ิงไปยงั ถงุ ของตัวแลว้ หยิบถงุ มาถุงหน่ึงเป้าแลว้ กลับมา
ยังเสน้ เริ่มเลน่ ในระหวา่ งทางกใ็ หร้ ะเบดิ ถุงกระดาษตามวิธีต่าง ๆ เสยี งดังน้ันจะเปน็ สัญญาณสาหรับคนที่ ๒ให้
รีบไปเอาถงุ ใหท้ าเช่นเดียวกับคนแรก ถา้ ถงุ ไม่แตกก็พยายามเดนิ แล้วทาใหแ้ ตก จนไปถึงเสน้ เรม่ิ ซึง่ คนต่อไป
ยืนรออยู่ คนต่อไปจึงเร่มิ ออกวง่ิ แลว้ ดาเนนิ การเล่นใหม่
ผู้เล่นตอ้ งหยบิ คนละ ๑ ถุงเท่าน้นั แถวใดหมดกอ่ นแถวนัน้ ชนะ
ตากผา้
ผกู เชือกไว้ทีส่ นามด้านหน่งึ สูงเพียงเอว ตรงข้ามให้ลูกเสือนั่งเปน็ แถวตอน ที่เส้นเรม่ิ ตรงเท้าของคนเร่มิ
คนท่หี นึง่ มเี สื้อ พร้อมดว้ ยขอหนบี เปน็ เป็นสปริง เมอื่ ผกู้ ากับใหส้ ญั ญาณเรมิ่ เลน่ ให้คนแรกเก็บเอาเสื้อผา้
พร้อมดว้ ยขอหนบี วงิ่ ไปตากผา้ ยังราวทีข่ งึ ไว้ เมื่อเสรจ็ แลว้ ใหว้ ่ิงกลบั มายังพวกของตนเอามือแตะคนต่อไป คนที่
๒ ให้วิ่งไปแลว้ เก็บเสือ้ กับขอหนีบกลับมาทีเ่ ดิมทเ่ี สน้ เริ่ม ให้ทาสลับกันไปเรื่อย ๆ คือ ตากและเกบ็ หมู่ใดเสร็จ
กอ่ น หมู่น้ันชนะ
ปลอ่ ยคนถูกจับ
เลอื กลูกเสือสัก ๔-๕ คนเป็นคนไล่ หากมีลูกเสือเป็นจานวนมากก็ควรมคี นไลใ่ ห้มากข้ึนส่วนลกู เสืออน่ื
ๆ “คนหนี” วง่ิ กระจายไปท่ัว ๆ สนาม เมื่อให้สญั ญาณ พวก “คนไล่” ออกวิ่งไลแ่ ตะคนหนี ลกู เสือคนใดถกู
แตะจะตอ้ งยนื นิง่ อยู่กับท่ี จนกว่าพวกของตนคนหนึ่งคนใด “คนหนี” วง่ิ มาช่วยคอื แตะ จึงจะออกว่ิงต่อไปได้
คนบา้
กระจายผู้เล่นไปท่ัว ๆ สนาม เร่มิ เล่นโดยใหผ้ ู้กากับหรือนายหมู่โยนลกู เทนนิสขึ้นไปในอากาศ ผู้เล่น
ตา่ งแยง่ กนั รบั ใครรบั ลูกได้จับลกู น้นั ยิง่ คนอน่ื ผ้ทู ี่ถกู ยิงให้รีบจบั ลูกน้นั ยิงคนอ่นื ตอ่ ไป ถ้าพลาดใครจะจับลูกยงิ
ใครก็ ไดก้ ารเล่นดาเนนิ เชน่ นี้ตลอดไป
โสมเฝ้าทรัพย์
เขียนวงกลมรัศมี ๒ หลา ลงบนพนื้ ให้ลูกเสือนาลกู เทนนิสหรือเอาผ้า กระดาษ ใบไมม้ ้วนทาให้กลม
ขนาดเทา่ ลกู เทนนสิ วางไว้ในกลางวงกลม จับฉลากใหล้ ูกเสือคนหนึง่ เป็น “โสม” เฝา้ ทรัพย์ยนื อยใู่ นวงกลม
สว่ นผูเ้ ลน่ อ่ืนยืนอย่รู อบ ๆ คอยแย่งลูกบอลเหล่านั้น ในขณะที่แย่งถา้ ใครถกู ”โสม” แตะถกู แย่งลูกบอลหมด ให้
รีบว่งิ ออกไปสูเ่ ส้นซง่ึ อยู่หา่ งจากขมุ ทรัพยป์ ระมาณ ๒๕หลา โดยให้ผ้เู ลน่ อ่นื ยงิ ด้วย ลูกบอลท่ีแยง่ ไดน้ ั้น จะ
หยดุ ยิงต่อเม่ือ “โสม” ว่ิงผา่ นเสน้ นน้ั ไปแลว้ ทุกคนจึงกลบั มาเริม่ เล่นใหม่
คนตาบอด
ใหล้ ูกเสอื ยืนจับมือกนั เป็นวงกลม เลือกลกู เสือคนหน่ึงมายืนกลางวงเอาผา้ ปดิ ตา เรมิ่ เลน่ โดยให้คนจับ
มือในวงกลมนน้ั เคล่ือนทไี่ ปรอบ ๆ จะหยุดก็ตอ่ เมอ่ื คนทถ่ี ูกปิดตานน้ั ตบมือขึน้ ๓ คร้งั แล้วตรงเขา้ ไปจบั คนใด
คนหนึ่งมากลางวง คลาดูตามตัวแล้วทายช่ือ หากทาถกู ผู้นั้นจะตอ้ งถูกปิดตาแลว้ เร่ิมเลน่ ใหม่ หากทายผิดให้ปดิ
ตาอยู่เช่นเดมิ และเล่นตอ่ ไป
มานี่
จดั ใหล้ กู เสอื อยู่ที่ด้านหน่งึ ดา้ นใดของสนาม แลว้ เลือกลูกเสือคนหนึง่ คนใดเปน็ คนไลย่ ืนอย่กุ ลางสนาม
ให้ลูกเสอื “คนไล่” นีร้ ้องขน้ึ “มาน”ี่ ลูกเสือทงั้ หมดตอ้ งวง่ิ ไปสู่สนามอีกด้านหนง่ึ หรือท่เี สน้ ใดเสน้ หน่งึ ทผี่ ู้
กากบั กาหนดให้ โดยมใิ หล้ กู เสอื “คนไล่” แตะ และในขณะเดียวกันลกู เสือ”คนไล่” ต้องพยายามไล่แตะลกู เสือ
อื่น ๆ ใหม้ ากคนทส่ี ดุ ทจ่ี ะมากได้ ลกู เสือทถ่ี ูกแตะจะกีค่ นต้องกลายเปน็ คนไลห่ มด แล้วเรม่ิ ร้องมานี่ เพื่อให้
ลกู เสือทเ่ี หลอื วง่ิ กลับไปส่สู นามอกี ด้านหนงึ่ ลกู เสอื ท่ีถูกแตะก็เขา้ รวมเป็นพวกคนไล่ จนเหลือคนสุดท้า ถือว่า
เปน็ ผฉู้ ลาดในการหลบเปน็ ผชู้ นะ
ลอดอุโมงค์
ใหล้ ูกเสอื แต่ละหมูย่ นื เปน็ แถวตอน หันหนา้ ไปทางผกู้ ากบั ทางเดยี วกัน ให้ทุกคนยนื แยกเท้าออกมาก
ๆ เม่อื เรม่ิ เลน่ ให้คนสดุ ท้ายของหมู่ คลานลอดใต้หวา่ งขาของลูกเสือซงึ่ อยดู่ า้ นหน้าจนหมดแถว เมื่อหมดแถว
แลว้ กม็ ายนื หน้าของหมลู่ ูกเสอื คนสดุ ท้าตอ่ ไปก็เร่ิมคลานต่อไป จนตลอดแถวอีก เชน่ เดยี วกัน แถวใดหมดก่อน
แถวน้ันหรือหมู่นัน้ ชนะ
ยามจับขโมย
ให้ลูกเสือจบั มือกันเปน็ วงกลม สมมุตเิ ป็นต้นไม้ เลอื กลูกเสือมาหนึ่งคนเอาไว้นอกวงเปน็ ”ขโมย” และ
ผู้กากบั ลกู เสืออีกคนหนงึ่ เปน็ ”ยาม” อย่ภู ายในวงกลมนนั้ และหาหมวกมาใบหนง่ึ วงกลางวง เมอ่ื เร่มิ เลน่ ให้
“ขโมย” ซงึ่ อยขู่ า้ งนอกพยามเข้าทางหน่งึ ทางใด ใตแ้ ขนของป่าซ่งึ ลกู เสือจบั กนั อยู่ แล้วไปขโมยเอาหมวกกลาง
วง “ยาม” ยามซึ่งคอยอยู่พยายามจบั จะจบั ไดต้ ่อเม่ือ”ขโมย” หยิบหมวกเสยี ก่อน ถ้าจับไมไ่ ด้”ขโมย” ก็
พยายามหนีออกนอกวงโดยทางเดยี วกบั ทางท่เี ขา้ มา ถา้ ”ขโมย” ถกู ยามจับไดต้ ้องเปลย่ี นกัน ให้”ยาม” เป็น”
ขโมย” บ้าง เม่ือเหน็ นานพอสมควรอาจเลอื กลูกเสืออ่นื เขา้ มาเล่น เปลย่ี นกันไปในการจับควรเป็นการแตะกนั
เบา ๆ เทา่ นน้ั อย่าใหจ้ บั กันรุนแรง
การแขง่ ขันระหว่างหมู่
ใหล้ ูกเสอื แต่ละหมู่ยืนเปน็ แถวตอน หันหน้าไปทางเดียวกัน โดยให้นายหมูอ่ ยู่หัวแถวจากนายหมู่ตรง
ไปทางหน้าประมาณ ๑๐ หลา มีเครื่องหมายไว้ตรงกบั หมู่ของตน เมื่อเร่มิ เล่นนายหมูว่ ิง่ ไปท่เี ครอื่ งหมายน้นั
แล้วกลบั หลงั หนั ตบมือ คนที่ ๒ เมื่อไดย้ นิ เสียงตบเมืองจะรีบวิ่งไปแลว้ ไปต่อท้าย นายหมู่ตบมืออกี คนท่สี ามวิ่ง
ไปแล้วไปต่อทา้ ย จนครบหมู่ หมู่ใดสามารถวิ่งได้เร็วและเสร็จกอ่ นหม่นู ้ันชนะ
แยง่ ที่
จัดลกู เสือใหย้ นื เป็นวงกลม หันหนา้ เข้าหาจดุ ศูนย์กลาง ให้ลูกเสอื นบั ตามลาดบั และให้จาเบอร์ทีต่ น
นบั ไว้ เลือกลูกเสือคนหนึง่ ยนื กลางวงกลมเพือ่ เรียกเบอร์ ๆ ใดกไ็ ด้ ๒ เบอร์ เช่น ๑-๗ คนเบอร์ ๑ และเบอร์ ๗
ต้องรีบเปลีย่ นที่กนั ในขณะที่ว่งิ เปล่ียนทก่ี นั นี้ ให้ลกู เสอื คนที่เรยี กน้ันว่งิ เข้ายนื แทนท่ี ใครถูกแยง่ ท่ตี อ้ งยืนกลาง
วงกลม เพ่ือเรียกเบอร์อ่ืนและแยง่ ทีเ่ ช่นน้ตี ลอดไป
ดากับน้าเงิน
ใหเ้ ขยี นเสน้ ขนานยาวเส้นละ ๓๐ ฟตุ ห่างกัน ๔๐ ฟุต แบง่ ลูกเสือออกเป็น ๒ พวกเทา่ ๆ กัน ให้ยืน
เข้าแถวหันหน้าเข้าหากันระหว่างกลางของเสน้ ขนาน ยืนห่างกันประมาณ ๘ ฟตุ พวกหนงึ่ สมมุตเิ ป็นฝ่ายสีนา้
เงินและอกี พวกหนงึ่ เปน็ ฝ่ายสีดา ผู้กากบั ยืนอยรู่ ะหว่างกลางของแถวถือกระดาษแข็งยาวประมาณ ๑๐ นิ้ว
ด้านหนึ่งสีดา อกี ด้านหนงึ่ สีน้าเงนิ ผูก้ ากับจะโยนกระดาษแขง็ ขึ้นไปในอากาศ ถ้าสนี า้ เงินหงาย ฝา่ ยนา้ เงิน
จะต้องว่งิ กลบั ไปสแู่ ดนของตน ฝ่ายดาเปน็ ผ้ไู ลจ่ บั ผ้ถู กู จับจะตอ้ งกลับมาอยู่กบั ฝ่ายทีจ่ บั ตนได้ แล้วลงมือเขา้
แถวกนั ใหม่ ฝ่ายใดสามารถทาใหฝ้ ่ายปรปกั ษ์หมดคนลงเป็นฝ่ายชนะ สถานทีเ่ ล่นควรกว้างพอควร
วง่ิ ไลว่ งกลม
ลกู เสือยืนเปน็ วงกลม แล้วนับ ๑ ถงึ ๔ ตามลาดับจนครบคน ผกู้ ากบั จะต้องบอกตวั เลขสมมุติวา่ เลข
๓ คนทน่ี ับ ๓จะต้องกา้ วถอยหลงั ออกมา ๑ กา้ ว แลว้ ว่งิ ไล่กนั โดยเวยี นขวาพยายามจบั คนข้างหน้า คนที่ถูกจบั
ไดจ้ ะต้องออกนอกวง คนท่ีไม่ถูกจับจะต้องว่งิ เข้าสทู่ ่ีเดิม ต่อไปก็ใหผ้ ้กู ากบั เรยี กตวั เลขอ่ืน ๆ ตอ่ ไปทานอง
เดียวกัน ผู้ท่เี หลืออยู่คนสุดท้ายเป็นผู้ชนะ ผ้ทู ว่ี ง่ิ เลยที่ทตี่ นยืนอยู่เดิมกจ็ ะต้องออกนอกวงเช่น เดยี วกัน
ว่งิ แข่งเตะบอล
ให้ลกู เสือแต่ละหมยู่ ืนเป็นแถวตอน หันหน้าส่ฝู าผนงั (หรอื กาแพง) นายหม่ซู ึ่งอยู่หวั แถว ยนื ชิดเสน้ ที่
ขดี ไว้ เป็นแนวเดียวกันและเท่ากัน เม่อื ไดร้ ับสญั ญาณ คนแรกของแต่ละหมูจ่ ะเตะลกู บอล (ขนาดเทา่ ลกู
เทนนิส) ให้กระเดน็ ไปถกู กาแพง แลว้ วิ่งไปเกบ็ ลูกบอลมาท่ีเดมิ ผู้ใดกลับถงึ เส้นกอ่ นจะได้รับ๕ คะแนน ผู้ที่
กลับเขา้ ท่ีแลว้ ต้องไปยืนแถวหลงั ปล่อยให้คนที่ ๒ ของแตล่ ะหมดู่ าเนนิ การต่อไป หมใู่ ดได้คะแนนรวมมากทีส่ ุด
เป็นฝา่ ยชนะ
ทอยวงกลม
ใหเ้ ขียนวงกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางยาว ๑ ฟตุ ห่างจากกาแพงหรือฝาผนงั ประมาณ ๔-๕ฟตุ
กาแพงควรสงู อยา่ งนอ้ ย ๗ ฟุต ใชล้ ูกเทนนสิ เป็นลกู ทอย เร่ิมเลน่ โดยให้ผูเ้ ล่นเรียงกนั ตามลาดับ เข้าโยนลูก
เทนนสิ กระทบฝาผนังกระดอนให้ลงในวงกลม ผ้ซู ่งึ ทาให้ลกู ลงในวงกลมมากที่สุดเปน็ ผชู้ นะ
กระรอกแย่งรัง
แบง่ ลูกเสือออกเปน็ หมู่ ๆ ละ ๓ คน แต่ละหมู่ให้ ๒ คน จบั มือกัน(รัง) ลกู เสืออีกคนหน่ึงเข้าไปยืน
ระหวา่ งกลาง (กระรอก) จัดหมตู่ ่าง ๆ นใ้ี ห้ห่างกันประมาณ ๓ เมตร วางให้เป็นรปู วงกลม กระรอกตัวทไ่ี ม่มรี ัง
ใหม้ ายืนตรงกลางวง เร่ิมเลน่ โดยกระรอกในรังต่างวง่ิ เปล่ียนทร่ี ังกัน ตัวท่ีไม่มรี งั คอยวงิ่ แย่ง ถ้าแยง่ ไดใ้ ห้เข้าไป
อยู่แทน ตวั ที่เขา้ รังไม่ได้ ก็คอบแย่งเข้ารงั ตัว อื่น ต่อไป
สนุ ขั ไล่ห่าน
จัดลูกเสอื ให้ยนื เปน็ รูปวงกลม หนั หน้าเข้าหาจดุ ศนู ย์กลาง จับมอื กัน ใหเ้ ลือกลูกเสอื ออกมาสองคน
คนหนึง่ สมมตุ ิวา่ “สุนขั ” อีกคนหนึง่ เปน็ ผหู้ นี“วิ่งไล่กันรอบ ๆ วงกลม ใหผ้ ูเ้ ลน่ ใหค้ วามชว่ ยเหลือ “หา่ น” คือ
เมอ่ื ห่านจะหนเี ข้าหรือออกในวงกลมให้ยกแขนเปิดทางให้แตถ่ ้าสุนัขจะเขา้ ไปหรอื เมอ่ื เขา้ ไปแล้วจะออกมาไล่
ห่าน ต้องคอยกันไมใ่ หเ้ ขา้ แต่ถา้ สุนัขไล่ทนั “ห่าน” ต้องเปลีย่ นกลบั กันทันที
โยนถงุ ถั่วในวงกลม
ให้ลูกเสือยืนเปน็ วงกลม หันหนา้ สู่กลางวง ทุกคนยนื ถอื ถุงถั่วไว้ เม่ือได้รับสญั ญาณ แตล่ ะคนจะต้อง
โยนถงุ ถัว่ ใหผ้ ้ทู ่ยี นื ทางขวามือพร้อมกบั หนั มารบั จากซา้ ยมือ ทาเช่นนี้วนเวียนไปจนครบรอบหน่ึง หรอื สอง
รอบก็ได้ สาหรบั จะรู้วา่ ถุงถว่ั เดินครบรอบหรือไม่ ควรทาให้ถงุ หนึง่ มสี ตี ่าง ๆ เมอ่ื ครบรอบแล้วจะส่ังให้โยนกลบั
ทางเดิมไปสูท่ างซ้ายอีกก็ได้ เปน็ การฝึกโยนและรบั
แมวกบั หนู
ลกู เสือยนื ลอ้ มวงหนั หน้าสู่กลางวง เลอื กเอาลูกเสือ หา้ คนหรอื หกคนเป็นหนยู ืนอยู่กลางวง เลือก
ลกู เสอื คนหนง่ึ เป็นแมวยนื อยู่กลางวง แมวจะวงิ่ เข้าไปในวงเพอ่ื จับหนู หนจู ะว่งิ ออกนอกวงไม่ได้ หนทู ่ีถูกจบั
ต้องเข้ายนื รว่ มกับผยู้ นื ล้อมวง หนตู วั สดุ ท้ายทถี่ ูกจับให้เปน็ แมวในการเลน่ รอบตอ่ ไป วงกลมควรกว้างพอให้หนู
ได้วง่ิ หลบหลกี แมวได้สะดวก
ดอกไม้กบั ลม
แบง่ ลูกเสอื ออกเป็น ๒ พวกเท่า ๆ กัน แบง่ เขตไว้ ๒ ด้าน สว่ นกลางมีเน้ือท่ีพอสมควรฝ่ายทเี่ ป็นลมยืน
อยู่หลงั เสน้ ในเขตของตน ฝ่ายดอกไมใ้ หเ้ ลือกซ่ือดอกไมช้ นิดหน่ึงชนดิ ใดเป็นความลับ ฝา่ ยดอกไมต้ ัง้ ชื่อดอกไม้
ประจาตัวทุกคน แล้วจะเดนิ เขา้ ไปหาฝ่ายลม ฝา่ ยลมจะเรยี กชือ่ ดอกไมโ้ ดยเดา ๆ ถา้ เรียกชอื่ ดอกไมไ้ หนถูก
ฝา่ ยดอกไมช้ ือ่ นน้ั จะต้องรบี วิง่ กลบั ส่เู ขตตน และฝา่ ยลมจะวิ่งไลจ่ บั ถา้ จบั ได้ฝา่ ยดอกไม้จะต้องเข้าเป็นฝา่ ยลม
การเลน่ ดาเนนิ ใหม่เชน่ เดิมจนกว่าดอกไม้จะถูกจับหมดหรือหมดเวลา
ลกู บอลร้อน
ลกู เสือยนื ลอ้ มวงหันหน้าเข้ากลางวง เว้นระยะหา่ งกนั พอสมควร ใหล้ ูกเสอื อีกคนหนงึ่ คอยอยู่นอกวง
ให้ลูกเสือทย่ี นื ล้อมวงโยนลกู บอลสง่ ใหผ้ ้อู ยู่ข้างเคยี งตน คนนอกวงคอยดักจบั ลูกบอลเมอ่ื ยงั ไมถ่ ึงมือผรู้ ับ ถา้
เขาจับลกู บอลไดท้ นั เขากจ็ ะไดเ้ ขา้ แทนท่ีรับลกู บอล ผู้รบั ลกู บอลน้นั จะออกมาเป็นคนคอยดกั ลกู บอลต่อไป
การโยนลกู บอลผา่ นควรโยนไปทางเดียวกนั จะไปทางขวาหรอื ซา้ ยก็ได้ ไปจนครบรอบควรใช้ลูกบอลโต ๆ
ลิงชงิ บอล
จดั ลูกเสอื ยืนเป็นรปู วงกลม หันหน้าเข้าสู่จุดศนู ย์กลาง เลือกลูกเสือคนหนงึ่ ให้เป็น”ลิง” ยืนตรงกลาง
วงกลม เร่มิ การเล่นโดยผกู้ ากับโยนลกู บอล ให้แก่ลูกเสือคนใดคนหนง่ึ ซง่ึ ยืนอย่รู อบ ๆ วงกลมนนั้ และลกู เสือผู้
น้นั เมื่อได้รบั ลูกบอลแล้ว ตอ้ งโยนไปใหใ้ ครก็ไดแ้ ตต่ ้องระวังมใิ หล้ ิงแตะลกู บอลได้ หากลงิ แตะถูกลกู บอลคน
สุดท้ายทีโ่ ยนลกู บอล ต้องออกมาเปน็ ลงิ แทน แล้วคอยแตะลูกบอล ซึง่ ลูกเสืออืน่ จะไดโ้ ยนเชน่ เดยี วกัน เกมสน์ ้ี
เป็นการฝกึ การรบั -สง่ บอลให้เป็นอย่างดีอีก
ดึงเข้ากองไฟ
ให้ลกู เสือจบั มือเปน็ วงกลม หนั หน้าเขา้ ในวงกลม ตรงกลางเขียนวงกลมเลก็ ๆ ขนาด
เส้นผา่ ศูนย์กลางยาว ๒ ฟุต วธิ เี ล่นให้ลูกเสอื ตา่ งคนตา่ งดงึ กันเพอื่ ใหเ้ ท้าถูกวงกลม ใครถูกวงกลมต้องออก จน
เหลอื คนสุดท้ายชนะ
สนุ ัขกับกระตา่ ย
ให้ลกู เสอื ยืนหนั หน้าเข้าหากันเป็นคู่ ๆ จับมือกนั ไว้ สมมตุ ิว่าต้นไม้มชี ่องให้ผูเ้ ลน่ ท่ีสมมุตเิ ปน็ กระตา่ ย
ยนื อยู่ ในระหวา่ งช่องต้นไม้ชอ่ งละ ๑ คน ผู้เลน่ ข้างนอกอกี ๒ คน คนหนง่ึ เปน็ กระต่าย อีกคนหนึ่งเปน็ สุนัข
กระตา่ ยท่อี ยนู่ อกต้นไม้ จะว่ิงเข้าสู่ตน้ ไม้ตน้ ใดต้นหนง่ึ กระตา่ ยท่ีถกู ไล่ที่จะตอ้ งวิง่ ไปไลท่ ่ีผู้อ่นื โดยมสี นุ ขั คอยไล่
จับ กระต่ายท่ีถกู จับจะเป็นสุนัขแทน
วิง่ หาอาหาร
ใหล้ กู เสือยนื ลอ้ มเปน็ วงกลมจับแขมกันไว้ หนั หนา้ สู่กลางวง ให้ลูกเสืออีกคนหน่ึงอยูน่ อกวง วิง่ ไปขา้ ง
หลงั ลกู เสือท่ืยนื เอามือแตะแขนทีเ่ กาะกนั อยู่ ผู้ถูกแตะสองคนจะต้องออกวิ่งไปคนละทางรอบวงกลม คนท่ี
แตะแขนเขา้ ยนื แทนที่ คนว่งิ ๒ คนน้นั ผใู้ ดเข้าทีว่ า่ งได้ก่อนคงประจาวงต่อไป ผู้ท่ีเขา้ ไม่ได้ต้องว่งิ แตะแขนผู้อ่ืน
ต่อไป (การว่งิ รอบใหว้ ่งิ ทางขวา)
บอลแสตน
ผู้เลน่ ยนื ลอ้ มรอบลูกเสือที่ถอื ลกู บอล ผู้ถอื ลูกบอลปล่อยลกู บอลตกลงพน้ื แลว้ เรียกชื่อผ้ทู ี่ยนื รอบ
วงกลมคนใดคนหน่ึง ลกู เสือคนใดถกู เรียกช่ือจะต้องวงิ่ ออกมาจบั ลกู บอล พรอ้ มกนั น้ี ลูกเสืออื่น ๆ จะกระจาย
วงออก ผูถ้ ือลูกบอลจะตะโกนออกไปวา่ “แสตน” เม่ือไดย้ นิ เสียงตะโกนเช่นนี้ ทุกคนจะต้องหยดุ อยู่กับที่ ผู้ถือ
ลูกบอลจะขวา้ งลกู บอลไปถูกคนใดคนหนึ่งท่เี ขาต้องการผถู้ ูกขว้างจะรบั ลูกบอลและออกคาส่งั “แสตน” ต่อไป
แลว้ ลงมอื ขวา้ งผู้อ่นื ถ้าลูกบอลพลาด ผ้ขู วา้ งจะต้องไปเก็บมาขว้างต่อไป สถานทเี ล่นควรกวา้ งพอทจ่ี ะหลบลกู
บอลได้ ผู้ขว้างจะตอ้ งม่งุ ขวา้ งทีเ่ ท้าของผู้ท่ียนื อยเุ่ ท่านนั้
ไล่ตีวงกลม
ลูกเสือยืนเป็นวงกลม หนั หน้าเข้าในวง ยืนเอามือไขวห้ ลงั ผู้เลน่ อีกคนหน่งึ ถือทอ่ นไม้เอาท่อนไมว้ างลง
บนมอื ผ้เู ล่นคนหนึ่งคนใดในวงกลม ผู้รบั ไมจ้ ะต้องเอาไม้แตะหลังคนที่อยทู่ างขวาของตน ผ้ถู ูกตี (คนทางขวา)
จะตอ้ งออกวง่ิ รอบวง พร้อมกับผู้ตีจะวง่ิ ไลไ่ ปเรื่อย ๆ ส่วนคนวางไม้จะเขา้ ยืนแทนท่ี ระหว่างวิ่งผ้แู ตะก็จะใช้ไม้
แตะหลังผหู้ นีเรื่อยไป จนผู้หนวี ่ิงเข้าทไี่ ด้ตอ่ ไปผู้ถือไมก้ ็เอาไมว้ างลงบนมอื ผู้อืน่ ต่อไปอกี
ใช้ไมเ้ ลก็ ๆ เบา ๆ การ ไลต่ กี ็ไม่ควรรนุ แรงเกินไป
สุนขั แยง่ หาง
ให้ผเู้ ล่นแบง่ เปน็ หมู่ ๆ แลว้ ใชม้ อื กอดสะเอวคนข้างหนา้ แต่ละแถวควรเทา่ ๆ กนั ให้คนข้างหนา้ เป็น
หวั สุนัข และคนสดุ ทา้ เปน็ หาง วิธีเล่น คนหัวพยายามไปแตะคนหางของแตล่ ะแถว ถา้ ใครถกู แตะแถวนน้ั ก็แพ้
แมวไล่นก
ให้ลูกเสอื ทุกคนเปน็ นก ยกเว้นเลือกคนหนงึ่ เปน็ แมว คนเป็นนกมอื แตะท่ีสะโพก คนเปน็ แมวใหค้ ลาน
เริ่มเล่นโดยให้แมวไล่นก ใครถกู แตะต้องเปลย่ี นเป็นแมวทันที เกมสด์ าเนนิ กันไปเร่ือย ๆ ใครตายกเ็ ปลี่ยนไป
เป็นแมวอกี
ล่าสมบตั ิ
ใหล้ ูกเสือทุกคนออกไปนอกหอ้ ง ผู้กากับเอาเข็มหมุดไปปักหรือวางภายในห้อง ใตม้ ้านง่ั
ปกั ตามผนังห้อง เม่ือไดย้ ินสญั ญาณลกู เสือทุกคนเขา้ มาในห้อง พยายามหาเข็มหมดุ ภาในหอ้ งจากัดเวลาให้
เมือ่ ถึงกาหนดเวลาแล้ว ใครไดม้ ากเป็นผู้ชนะ
แขง่ มา้ ตาบอด
ให้แตล่ ะหมู่จัดหาคนผูกตาหมู่ละ ๑ คน และมีบงั เหียนผูกติดไว้ดว้ ย ซึ่งผู้ถอื บังเหยี นท้ังหมดเปน็ พวก
เดยี วกัน ใกล้ ๆ มุมสนามหรือห้องดา้ นหน่งึ มีผ้เู ล่า ๒ คนเอามือสานกันทาเปน็ สะพาน และอีกมมุ หนงึ่ ดา้ นตรง
ขา้ มกบั สะพาน เป็นตน้ ไมโ้ ดยให้ลกู เสอื ไปยืน ตรงกลางสนามมีลูกโปง่ ๑ ลกู เม่ือไดย้ นิ สญั ญาณเรม่ิ เลน่ จากผู้
กากับ คนขบ่ี ังคับม้า (โดยใช้สายบังเหียนเท่านน้ั )
อา้ ยโมง่
ให้แบ่งลกู เสอื ออกเป็น ๒ พวกเท่า ๆ กนั อยู่คนละขา้ งให้หนั หน้าออก ให้แต่ละพวกจัดหาผ้ามาพันท่ี
หัวรอบ ๆ เหน็ แตต่ าและหนน้ ิดหนอ่ ย เมอื่ ไดย้ นิ คาสั่งจากผู้กากับวา่ “เอา” ให้คนเปน็ อ้ายโมง่ เดินออกไปชา้ ๆ
ใหท้ งั้ สองทีมทาย (โดยผลดั กันทาย) ถ้าฝ่ายใดทายถูกก็ได้แตม้ ๑ แตม้ เม่ือหมดเวลาการแขง่ ขนั แลว้ นับแตม้
ฝา่ ยใดไดแ้ ต้มมากกวา่ ฝ่ายนั้นชนะ
กระตา่ ยเขา้ โพรง
ใหล้ ูกเสือแบ่งออกเปน็ หมู่ ๆ ละ ๔ คน แตล่ ะหมใู่ ห้ ๓ คน เปน็ ผู้จบั มอื กันทาเปน็ โพรง่ รากไม้ และให้
ผู้เลน่ อยู่ในโพรง ๆ ละ ๑ ตัว ซงึ่ เปน็ กระต่ายหนี สุนัขจะเป็นผู้ไล่
เลอื กลูกเสือคนหน่ึงเป็นสนุ ัข อย่ดู า้ นหนึง่ ดา้ นใดของหอ้ งหรือสนาม เม่ือไดย้ นิ คาสงั่ ให้เร่ิมเลน่ ให้กระตา่ ยซงึ่ อยู่
ในโพรงท่ีหิวออกหาอาหารกนิ สุนขั กไ็ ล่จับ ถ้าใครถูกจบั กเ็ ป็นสุนัขแทน
มนุษย์โลกพระอังคาร
แบง่ ลูกเสอื ออกเปน็ ๒ พวกเทา่ กนั เกมสน์ ี้เป็นเกมส์การต่อสขู้ องมนษุ ย์ ๒ เผา่ ในโลกพระอังคาร
พวกแรกคอื พวกผวิ เขยี ว และพวกผวิ แดง แต่การต่อสมู้ ิใชก่ ารตอ่ สแู้ บบใชป้ นื ผาหน้าไม้ หรอื หอก เปน็ การแย่ง
เหยียบเงา ฝา่ ยไหนถูกเหยยี บเงามากกวา่ ฝา่ ยนนั้ แม้ หรืออาจจะเล่นเป็นบคุ คลก็ได้ ใหห้ วั หนา้ ของแต่ละพวก
เลอื กผู้เลน่ ออกมาฝ่ายละคน ใหผ้ ู้เลน่ ทงั้ สองคนยนื ขาเดียวแลว้ ก็ตอ่ สู้กันโดยการแย่งเหยียบเงา ถา้ ฝ่ายถูก
เหยียบ หรอื ลม้ หรือเปลยี่ นเท้าฝา่ ยน้นั แพ้ เมอื่ หมดคแู่ ขง่ ฝา่ ยใดได้แต้มมากฝ่ายนนั้ ชนะ
ย่องจับหมี
เกมนีใ้ ห้ผเู้ ลน่ ทัง้ หมดเป็นหมาปา่ ตามจบั หมี สมมติให้ใครคนหนึง่ เป็นหมี ให้หมีเดนิ นาหนา้ ถา้ หมี
กลับหลงั มามองเมื่อไร ใหผ้ ู้เล่นเป็นหมาน่ังลง ถ้าใครน่ังชา้ ต้องออกจากการเล่น แลว้ การเล่นดาเนินตอ่ ไปเรอื่ ย
ๆ จนเหลือคนสุดทา้ ยเป็นผู้ชน
บอลบ้า
ใช้ในท่กี ว้าง ๆ แต่มเี ขตจากัด โดยการเลน่ ที่ผู้เลน่ ใชบ้ อลขว้างผู้เล่นดว้ ยกนั ใครถูกขวา้ งให้ออกจาก
การเลน่ จนเหลือคนสดุ ทา้ ยเปน็ ผ้ชู นะ
ตีลูกเทนนสิ
แบ่งลกู เสือออกเปน็ ๒ พวก หรอื เล่นระหว่างหมู่ โดยการแบ่งครง่ึ สนามและมเี ขตจากัดเริ่มเล่นโดยให้
ผ้กู ากบั โยนลูกเทนนสิ หรือลกู บอล ข้นึ ไปในอากาศตรงกึง่ กลางสนาม ถา้ ลูกตกลงในแดนฝา่ ยหนงึ่ ฝา่ ยใด ฝ่าย
นั้นตอ้ งเสีย ๑ แตม้ ถา้ ตกฝ่ายใดแล้วฝ่ายนั้นจะต้องตบบอลใหไ้ ปตกยังฝา่ ยตรงกนั ข้ามหรือพยายามเล้ียงลูก
เทนนสิ ไม่ให้ตกได้แลว้ สง่ ข้ามไป ถา้ ฝ่ายใดทาตกฝา่ ยน้ันต้องเสยี แตม้ เม่ือหมดเวลาใครเสียแต้มนอ้ ยเป็นผู้ชนะ
แตะสบั สน
ให้ลูกเสอื ท้ังหมดขา้ แถวเปน็ ๔ แถว แลว้ ใหจ้ ับมอื กันก็จะเกดิ เป็นช่อง ให้วิ่งไดท้ างด้านข้าง ๆ ที่มีชอ่ ง
เพราะลูกเสือหนั หนา้ เป็นรูปวงกลม ถา้ เมื่อไดย้ นิ สญั ญาณเปลี่ยนก็ใหจ้ ับมือกันทางดา้ นข้าง กจ็ ะเกิดเปน็ ทางวง่ิ
ทางด้านหนา้ ใหล้ กู เสือ ๒ คนวิ่งแตะกนั ในชอ่ งท่ีกลา่ วนี้ เม่ือไดย้ นิ สญั ญาณใหเ้ ปล่ียนการจบั มือทางด้านขา้ ง
เป็นทางดา้ นหน้า และด้านหนา้ เป้นดา้ นข้างสลับกนั ไป จะทาใหก้ ารวง่ิ ไลแ่ ตะลาบากย่ิงขึน้ ถ้าใครถูกแตะต้อง
กลบั ไปเป็นผู้ไล่ จนกวา่ จะเปลีย่ นตวั ผูไ้ ล่และผ้หู นี ในการเล่นใหเ้ ปลย่ี นคนเลน่ บอ่ ย ๆ เพอื่ ให้ลูกเสือไดเ้ ล่นทุก
คน
การดีพูดว่า
ให้ลกู เสือเข้าแถวเป็น ๒ แถว หรอื มากกว่าน้กี ็ได้ ถ้าจานวนลูกเสือมีมาก ใหผ้ บู้ ังคบั บญั ชาหรือนายหมู่
เปน็ ผสู้ ่ัง“การดีพดู ว่า” ก่อนทุกครัง้ ถ้าคาท่ีมีการดีพดู ว่า ให้ทกุ คนเตรียมทาตาม ถา้ หากขาดคาว่า “การดี
แล้ว” ถ้าผู้ใดทาผิดให้ออกจากการเล่น เกมส์นกี้ ็จะเริ่มใหม่จนกวา่ จะเหลือคนสดุ ท้าย ดงั ตวั อยา่ งเช่น “การดี
พูดว่า จบั หู” ลูกเสอื ทกุ คนกต็ ้องจับหู ถ้าหากว่าใครไปจบั ผดิ ก็ต้องออกจากการเล่น หรอื จะกลา่ ววา่ “การดีพดู
ว่า จับปาก” ลูกเสอื ทกุ คนก็ต้องจบั ปาก ถ้าใครจับผดิ กต็ ้องออกจากการเล่น ทาเช่นนเ้ี ร่ือย ๆ ไป จนเหลือคน
สุดทา้ ยเปน็ ผ้ชู นะ
หมาในเขา้ ถา้
เว้นช่องว่างไว้พอประมาณ สมมตุ ิว่าเป็นปากถ้า ใหผ้ กู ตาลูกเสอื ๒ คน สมมตุ ิว่าเป็นพ่อและแม่หมาปา่
ให้ลกู เสอื อีกพวกหนง่ึ เป็นหมาใน เริม่ เล่นใหห้ มาในเข้าไปในถ้าในระยะเวลาจากดั รวม ๓ นาที ใหไ้ ด้ ๕ ตวั ถา้
เขา้ ไปไม่ได้ให้หมาในแพ้ ถ้าเข้าไปเกนิ กวา่ ๕ ตวั หมาป่าแพ้ ในการเข้าต้องเขา้ ไปเร่ือย ๆ การแตะไม่ถือว่า
หมาในแพ้ แต่ต้องจับให้ถูกหมาในจริง ๆ จงึ จะถอื ว่าจบั ได้
ระวงั เชียคาน
ให้ลูกเสือทุกคนกระจายอยใู่ นห้องหรือสนาม โดยให้ทุกคนยืนอยใู่ นวงกลมหรือในบรเิ วณจากัด ให้คน
หน่งึ เป็นเชยี คาน เชียคานหันหลังให้ เมื่อสญั ญาณเรมิ่ เล่นใหท้ ุกคนออกจากบ้าน หรือวงกลมของตวั ให้นายหมู่
เปน็ ผู้ใหส้ ญั ญาณรอ้ งวา่ “ระวังเชยี คาน” ใหเ้ ชยี คานไลแ่ ตะถ้าใครถูกแตะต้องเป็นพวกเชียคานและการเล่น
ดาเนนิ ไปเชน่ น้ีเร่ือย ๆ จนกว่าจะเหลอื ๑ หรือ ๒ คน เปน็ ผ้ชู นะ
๑๐ เง่อื นเชอื ก สามญั รนุ่ ใหญ่
๑. เงือ่ นตะกรดุ เบ็ด ( Cleve Hitch )
ประโยชน์
๑. ใชผ้ กู เชือกกบั เสาหรือหลักเพื่อลา่ มสัตวเ์ ล้ยี งหรือเรือแพเพ่ือปอ้
๒. ใชผ้ กู บันไดเชอื ก บันไดลิง ผกู กระหวัดไม้
๓. ใชใ้ นการผกู แนน่ เชน่ ผูกประกบ ผกู กากบาท
องกนั ไม่ใหป้ มเชือกคลายหลุดควรเอาปลายเชอื กผูกขดั สอดกบั ตวั เชือก ๑ รอบ )
๒. เง่อื นพริ อด ( Reef Knot หรือ Square Knot )
ประโยชน์
๑. ใช้ต่อเชอื ก ๒ เส้น ที่มขี นาดเท่ากนั เหนยี วเทา่ กัน
๒. ใชผ้ ูกชายผา้ พนั แผล ผกู ชายผ้าทาสลิงคลอ้ งคอ
๓. ใช้ผกู มดั หบี ห่อ และวัตถุต่าง ๆ
๔. ผูกเชือกรองเท้า ( ปลายกระตุก ๒ ข้าง ) และผูกโบว์
๕. ใช้ผกู กากบาทญ่ปี ุน่
๖. ใชต้ ่อผา้ เพื่อให้ได้ความยาวตามต้องการเพ่ือช่วยคนที่อยู่ท่สี งู ใน
นยามฉุกเฉนิ ( ต้องเปน็ ผา้ เหนยี ว ๆ )
๓. เงื่อนขัดสมาธิ ( Sheet Bend )
ประโยชน์ของเงอื่ นขดั สมาธิ
๑. ใช้ตอ่ เชือกที่มีขนาดต่างกนั (เสน้ เลก็ เป็นเส้นพนั ขัด)
๒.ใช้ตอ่ เชือกแข็งกับเชอื กอ่อน(เส้นอ่อนเปน็ เสน้ พันขัด
๓.ใชต้ ่อเชอื กท่ีค่อนข้างแข็ง เช่น เถาวลั ย์
๔.ใชต้ อ่ ดา้ ยต่อเส้นไหมทอผา้
๕. ใชผ้ กู เชอื กกับขอหรือบ่วง ( ใชเ้ ชือกเลก็ เป็นเสน้ ผกู
)หรือต่อเชอื กท่ีมีขนาดเดียวกนั กไ็ ด้
ด)
กขดั กบั บ่วงหรือขอ ) เช่น ผูกเชอื กกบั ธงเพ่ือเชิญธงขึ้น - ลง
๔. เง่ือนผกู ร่น หรือ ทบเชอื ก (Sheepshank)
ประโยชน์
๑. ใช้ผูกรน่ เชือกตรงสว่ นท่ชี ารุดเล็กน้อย เพ่ือใหเ้ ชือกมีกาลงั
๒. เปน็ การทบเชือกให้เกิดกาลงั ลากจงู
๓. การร่นเชือกท่ียาวมากๆ ให้ส้นั ตามต้องการ
งเท่าเดิม
๕. เง่อื นกระหวัดไม้ (Two Haft Hitch
ประโยชน์
๑. ใช้ผกู ชว่ั คราวกับห่วง หรือกับรัว่ กับ
๒. แก้ง่าย แตม่ ีประโยชน์
๓.ผกู เชือกสาหรับโหน
h)
บกิ่งไม้
๖. เงื่อนบว่ งสายธนู ( Bowline ) ใชท้ าเป็นบว่ ง
ประโยชน์
๑. ทาบว่ งคล้องกบั เสาหลักหรอื วัตถุ เชน่ ผกู เรอื
๒. ทาบ่วงคลอ้ งเสาหลัก เพื่อผูกล่ามสตั วเ์ ลย้ี ง เช
๓. ใชท้ าบว่ งใหค้ นนงั่ เพื่อหย่อนคนลงสู่ท่ตี ่าหรือ
๔. ใช้คล้องคันธนู เพอ่ื โกง่ คนั ธนู
๕. ใชท้ าบว่ งตอ่ เชือกเพ่ือการลากโยงของหนัก ๆ
๖. ใชผ้ ูกปลายเชอื ก ผกู ถงั ตง้ั ถงั นอน
งทีม่ ีขนาดที่ไม่เลอ่ื นไมร่ ดู
อ แพไวก้ ับหลัก ทาใหเ้ รือ แพข้ึน - ลง ตามนา้ ได้
ชน่ ววั ควาย เพอ่ื ใหส้ ัตว์เดนิ หมนุ ไดร้ อบ ๆ เสาหลัก เชือกจะไม่พนั รดั คอสตั ว์
อดงึ ขน้ึ สู่ที่สูง
หรือทาบว่ งบาศ
๗. เงื่อกผูกร้ัง ( Tarbuck Knot )
ประโยชน์
๑. ใชผ้ ูกสายเตน็ ท์ ยดึ เสาธงกันลม้ ใช้ร้ังตน้
๒. เป็นเง่ือนเล่อื นให้ตึงหรอื หย่อนตามต้องก
นไม้
การได้
๘. เงอื่ นประมง ( Fishirman's Knot )
ประโยชน์
๑. ใชต้ ่อเสน้ ด้ายเลก็ ๆ เชน่ ด้ายเบด็ ต่อเสน้ เอ็น
๒. ใช้ตอ่ เชือก ๒ เส้นที่มขี นาดเดียวกัน
๓. ใช้ผกู คอขวดสาหรบั ถอื หว้ิ
๔. ต่อเชอื กขนาดใหญ่ท่ีลากจงู
๕. ใชต้ อ่ สายไฟฟ้า
๖. ใชผ้ กู เรือแพกับทา่ เรือหรือกับหลกั หรือห่วง
๗. เปน็ เงือ่ นทผี่ กู ง่ายแกง้ า่ ย
๙. เง่ือนผกู ซุง ( A Timber Hitch )
ประโยชน์
๑. ใชผ้ กู วัตถุท่อนยาว ก้อนหิน ตน้ ซุง เสา
๒. ใชผ้ กู ทแยง
๓. ใชผ้ ูกสัตว์ เรอื แพไว้กบั ท่าหรือเสาหรือร
๔. เป็นเชอื กผูกง่ายแก้งา่ ย
เพ่อื การลากโยง
รั้ว ตน้ ไม้
๑๐. เง่ือนเก้าอี้ ( Chair Knot or ireman's Ch
ประโยชน์
เป็นเงอื่ นกภู้ ัยใช้ช่วยคนท่ตี ิดอย่บู นทีส่ งู ไม่สามารถล
ยดึ กนั แนน่ โดยมสี ิ่งของอย่ตู รงกลางภายในบว่ งเพ่อื
hair Knot ) **
ลงทางบนั ไดได้ หรอื ใชช้ ่วยคนขึ้นจากทต่ี า่ ใช้ประโยชน์เช่นเดยี วกับบ่วงสายธนู ๒ ชน้ั
อดงึ ลากสิง่ ของไประหวา่ งจดุ ๒ จดุ
เงือ่ นผกู
๑. ผกู ประกบ ( Sheer Lasning )
๒. ผกู กากบาท ( Square Lashing )
๓. ผกู ทแยง ( Diagonal Lashing )
ผูกประกบ มหี ลายวธิ ี เช่น ผูกประกบ ๒ ประกบ ๓
ผกู ประกบ ๒ ใช้ตอ่ เสาหรอื ไม้ ๒ ท่อนเข้าดว้ ยกนั
วธิ ีผกู เอาไม้ทีจ่ ะตอ่ กนั วางขนานกัน ใหส้ ว่ นท่จี ะผกู วางซ้อนกนั ประมาณ ๑/๔
เอาปลายเชือกพันบดิ เข้ากบั ตัวเชอื ก ( แตง่ งานกนั ) เอาลมิ่ หนาเทา่ เสน้ เชอื กคั่นระหว่างเสาท
จากปลายเสาเข้าใน เรยี งเส้นเชือกให้เรยี บ พันให้เทา่ ความกวา้ งของเสาท้ัง ๒ ตน้ ดังรปู ๒
ดึงรัดให้แนน่ รูป ๓ แลว้ ผกู ดว้ ยตะกรุดเบ็ดบนเสาอีกต้นหนึ่ง ( คนละตน้ กบั อนั ขึ้นต้น ) เหน็บ
ผกู ประกบ ๓ เอาไม้ ๓ ท่อนมาเรียงขนานกัน เร่ิมผูกตะกรูดเบ็ดที่เสาอนั กลางเอา
พันใหม้ ีความกวา้ งเท่าเสาทงั้ ๓ ต้น ( กอ่ นพันอย่าลืมเอาลิ่มขนาดเสน้ เชือกค่นั ระหว่างเสา )
ทีเสาต้นรมิ ต้นใดต้นหน่ึงเกบ็ ซ่อนปลายเชอื ก ให้เรยี บรอ้ ย
กแนน่ (Lashing ) มี ๓ ชนิด ไดแ้ ก่
ของความยาว ( ต่อแล้วเสาจะตรง ) เอาเชือกทจ่ี ะผูกผูกด้วยเงื่อนตะกรุดเบ็ดท่เี สาต้นหนงึ่
ทง้ั สองรปู จัดให้เงื่อนอยู่ใกล้ ๆ ปลายเสาดา้ นทซี่ ้อนกันแลว้ จับตวั เชือกพนั รอบเสาทั้งสอง
เสรจ็ แลว้ พนั สอดเชอื กเข้าระหวา่ งไม้เสาทั้งสองพันหักคอไก่ พันรอบเชอื กที่พนั เสาทั้ง ๒ ตน้
บซ่อนปลายเชือกให้เรียบรอ้ ย
าปลายเชือกแต่งงานกนั กับตวั เชือก แล้วเอาเชือกพนั รอบเสาท้งั ๓ ต้น เรียงเสน้ เชอื กใหเ้ รยี บรอ้ ย
พนั เสรจ็ แลว้ หักคอไกร่ ะหว่างซอกเสาทงั้ ๓ ต้นให้แน่น แลว้ ผกู ลงทา้ ยด้วยเง่ือนตะกรดู เบ็ด
ผกู ก
วธิ ีท่ี ๑ กากบาทแบบ Gilwell และแบบ Thurman
วิธีผูก เอาไม้หรอื เสามาวางซอ้ นกนั เปน็ รูปกากบาท (กางเขน ) เอาเชือกผกู ตะกรดู เบ็ดทเี่ ส
ขวางทางดา้ นขวา ( ซา้ ยก่อนก็ได้ ) ของไม้ตง้ั ดงึ ขน้ึ เหนือไม้อันขวางพันอ้อมไปดา้ นหลังไม้อันต
อนั ต้งั ผา่ นมาทางด้านขวาของไมอ้ นั ตัง้ ดงึ เชือก ข้นึ พาดบนไมอ้ ันขวางทางขวาไม้อนั ต้ังแล้วพ
แลว้ พันวนเร่อื ย ๆ ไปประมาณ ๓ - ๔ รอบ (หรอื เสน้ เชอื กด้านกลังชิดกัน ) จงึ พันหักคอไก่ ๒
กากบาท (Square Lashing )
สาอันตงั้ ใตเ้ สาอนั ขวาง เอาปลายเชือก แตง่ งานกับตวั เชอื ก รปู ๑ เอาเชือกอ้อมใตเ้ สาอัน
ตั้งไปทางซา้ ยของไม้อันตั้ง ดงึ เชือกอ้อมมาทางดา้ นหน้าพนั ลงใต้ไม้อันขวาง ดงึ ออ้ มไปดา้ นหลังไม้
พนั ตั้งต้นใหมเ่ หมือนเรม่ิ แรก ทกุ รอบตอ้ งดึงใหเ้ ชือกตึง เรยี งเสน้ เชอื กให้เรยี บด้วย
๒ - ๓ รอบ แลว้ เอาปลายเชอื กผกู ตะกรุดเบ็ดท่ี ไมอ้ ันขวาง ( คนละอันกับขนึ้ ตน้ ผูก )
ผ
วิธีผูก เอาเชอื กพนั รอบเสาทัง้ ๒ ตน้ ตรงระหวา่ งมุมตรงขา้ มด้วยเง่ือนผกู ซงุ แลว้ ด
( ทุกรอบดึงให้เชือกตึง ) แล้วดึงเชือกพันเปลีย่ นมมุ ตรงข้ามค่ทู ี่ ๒ อีก ๓ รอบ แล้วดึงเชอื กพ
ผกู ตะกรูดเบด็ ทีไมเ้ สาตน้ ใดต้นหนงึ่ เก็บซ่อนปลายเชือกให้เรยี บร้อย
ประโยชน์
๑. ใช้ในงานกอ่ สรา้ ง ๒. ใหผ้ กู เสาหรือไมค้ ้ายัน ป้องกันล้ม ๓. ทาตอม่อ