คู่มือยุวกาชาด_โรงเรียนสว่างอารมณ์วิทยาคม

๑๔๗

เอกสารประกอบการสอน

หลงั จากทน่ี าความรเู้ รือ่ งเงือ่ นต่าง ๆ มาดัดแปลงทาสิ่งต่างๆ ท่ีจาเป็นอันเป็นประโยชน์อย่างย่ิงในการ
อยู่ค่ายพักแรม เช่น เสาธงลอย กางเต็นท์ ทาเพิง ทาตอม่อสะพาน ที่วางคว่าจานชาม ราวตากผ้า แล้วยัง
สามารถนาความรใู้ นเรื่องเง่ือนมาทาอุปกรณ์ในการปฐมพยาบาล ได้แก่ เปลสนาม การพันแผลจากการบาดเจ็บ
ท่ีศีรษะหรือการบาดเจ็บท่ีแขน นอกจากน้ียังสามารถทาชิงช้า ปลอกไม้กวาด สายนกหวีด และอื่นๆ อันจะ
นาไปซึ่งประโยชน์ในการใช้ชวี ิตประจาวนั ได้เปน็ อย่างดี

ค่มู อื ยุวกาชาดโรงเรียนสวา่ งอารมณ์วิทยาคม สงั กัด สานักงานเขตพนื้ ที่การศกึ ษามัธยมศึกษา เขต 42
นายเสวก พันธ์ุอ้น ผอู้ านวยการโรงเรียนสว่างอารมณ์วทิ ยาคม

๑๔๘

ปลอกไมก้ วาดทางมะพรา้ ว

สายนกหวีด

คู่มือยุวกาชาดโรงเรียนสวา่ งอารมณว์ ิทยาคม สงั กดั สานกั งานเขตพ้นื ท่กี ารศึกษามัธยมศึกษา เขต 42
นายเสวก พนั ธอ์ุ น้ ผอู้ านวยการโรงเรยี นสว่างอารมณ์วทิ ยาคม

๑๔๙

อปุ กรณใ์ นการปฐมพยาบาล

คูม่ ือยุวกาชาดโรงเรยี นสวา่ งอารมณ์วิทยาคม สงั กดั สานกั งานเขตพืน้ ที่การศกึ ษามัธยมศึกษา เขต 42
นายเสวก พนั ธุอ์ น้ ผูอ้ านวยการโรงเรยี นสว่างอารมณ์วทิ ยาคม

๑๕๐

กิจกรรมที่ ๑๔

เรอื่ ง การเดนิ ทางสารวจ ช้นั ม. ๓ ภาคเรยี นท่ี ๒ (๒ คาบ)

จุดประสงค์
๑. เดนิ ทางสารวจสิ่งทน่ี า่ สนใจในชมุ ชนตามระยะทางท่ีกาหนดได้
๒. ทารายงานการสารวจได้

เนอื้ หา
๑. การเดินทางสารวจชุมชนเก่ียวกับขนบธรรมเนียมประเพณี การประกอบอาชีพ การสาธารณูปโภค
การสุขาภบิ าล การสาธารณสุข หรอื สิง่ ที่นา่ สนใจอน่ื ๆ ตามระยะทางท่กี าหนด
๒. การทาแบบรายงานการสารวจ และลกั ษณะของการรายงานการสารวจ

กจิ กรรม
๑. พิธีเปดิ การเรยี นการสอน
๒. เพลง – เกม
๓. กิจกรรม
๓.๑ อธิบายนาเรอ่ื ง
๓.๒ แบง่ กลมุ่ ค้นคว้าและเสนอรายงานต่อที่ประชมุ
๓.๓ อภปิ ราย – ซกั ถาม
๓.๔ ครูสรปุ
๔. พธิ ีปิดการเรยี นการสอน

สอ่ื การเรียนการสอน
๑. แผนภมู แิ สดงตารางแบบการรายงาน หรอื ตวั อย่างแผนภูมิแสดงการรายงาน
๒. ตัวอย่างแผนที่ซ่ึงแสดงรายละเอียดต่างๆ เช่น กาหนดทิศเหนือ ถนน ทางรถไฟ บ้าน ลาน้า
สะพาน เป็นตน้

การประเมินผล
๑. การสังเกตความสนใจ การเข้ารว่ มกิจกรรม
๒. ตรวจผลงาน

คู่มือยวุ กาชาดโรงเรยี นสว่างอารมณว์ ทิ ยาคม สังกัด สานกั งานเขตพืน้ ทีก่ ารศึกษามัธยมศึกษา เขต 42
นายเสวก พันธ์อุ ้น ผูอ้ านวยการโรงเรยี นสวา่ งอารมณ์วทิ ยาคม

๑๕๑

เอกสารประกอบการสอน

การเดนิ ทางสารวจชุมชน

ชุมชนหมายถึงกลุ่มคนท่ีอยู่ร่วมกันเป็นสังคมขนาดเล็ก อาศัยอยู่ในอาณาบริเวณเดียวกันและมี
ผลประโยชน์ร่วมกัน

การสารวจชุมชน หมายถึงการศึกษาหาความจริงเกี่ยวกับลักษณะสภาพต่างๆ ในชุมชนเพื่อนาข้อมูล
ได้มาพจิ ารณาวเิ คราะหป์ ญั หาและความตอ้ งการของชุมชน เพือ่ ใชเ้ ป็นพ้ืนฐานในการช่วยเหลือตอ่ ไป

ประโยชน์ของการสารวจชุมชน
๑. ช่วยให้ทราบลักษณะและขอบเขตของปัญหาต่างๆ ที่มีอยู่ในชุมชนว่ามีอะไรบ้างและแต่ละปัญหามี

ผลกระทบอยา่ งไรบา้ ง
๒. เป็นพน้ื ฐานในการศกึ ษาหาสาเหตขุ องแต่ละปญั หาและหาแนวทางในการปรับปรุงแก้ไขอย่างมรี ะบบ
๓. ช่วยให้ทราบถึงสถาบันต่างๆ ที่มีอยู่ในชุมชน เช่น วัด องค์การหรือสมาคมต่างๆ เพื่อนามาใช้ให้เกิด

ประโยชนก์ บั ชมุ ชนมากทีส่ ดุ
๔. ช่วยให้ทราบภาวะทางเศรษฐกิจ สังคม การสาธารณูปโภค การประกอบอาชีพ การสุขาภิบาล

การสาธารณสขุ และอ่ืนๆ ทน่ี า่ สนใจ
๕. ช่วยให้เข้าใจความเชื่อ ทัศนคติ ขนบธรรมเนยี มประเพณี หรือการใช้เวลาว่างของคนในชุมชนว่ามี

ลกั ษณะเชน่ ไร
ประเภทของการสารวจชุมชน อาจแบ่งได้เป็น ๒ ประเภท ตามลักษณะและขอบข่ายของการสารวจ
คอื
๑. การสารวจทั่วไป (General Survey) ไดแ้ ก่ ศึกษาชมุ ชนโดยละเอยี ดทุกด้านทั้งในแง่สภาพภูมศิ าสตร์

ประวัติความเป็นมา โครงสร้างของประชากร (อายุ เพศ อาชีพ) สภาพเศรษฐกิจและสังคม
วฒั นธรรมด้านต่างๆ ภาวะโภชนาการ สขุ ภาพอนามยั สาธารณปู โภค และสิ่งอานวยความสะดวก
ต่างๆ ในชุมชน
๒. การสารวจเฉพาะด้าน (Topital Survey) ได้แก่ การสารวจชุมชนเฉพาะเร่ืองหนึ่งเพียงด้านเดียว
เช่น การสารวจด้านขนบธรรมเนียมประเพณี การประกอบอาชีพ การสาธารณูปโภค การ
สาธารณสุข เปน็ ตน้

วธิ ีสารวจชมุ ชน
ในการสารวจชุมชนยุวกาชาดเลือกใช้เทคนิคต่างๆ เพ่ือให้ได้ข้อมูลตามความต้องการ ซึ่งมีอยู่หลายวิธี
ดงั น้ี

ค่มู ือยุวกาชาดโรงเรียนสวา่ งอารมณว์ ทิ ยาคม สงั กดั สานกั งานเขตพน้ื ที่การศกึ ษามัธยมศึกษา เขต 42
นายเสวก พันธ์อุ ้น ผู้อานวยการโรงเรยี นสวา่ งอารมณ์วทิ ยาคม

๑๕๒

๑. การศึกษาจากเอกสาร เป็นการสารวจจากข้อมูลที่มีอยู่แล้ว ได้แก่ เอกสารของทางราชการซึ่งจะ
ค้นหาได้จาก กานัน ผู้ใหญ่บ้าน นายอาเภอ เป็นต้น จะได้ข้อมูลในเร่ืองประวัติความเป็นมาของ
ชุมชน สภาพภูมิศาสตร์ จานวนประชากร จานวนนักเรียน จานวนครู เป็นต้น วิธีน้ีทาได้ง่าย
เสยี เวลาไมม่ ากรวมทัง้ ประหยัดคา่ ใชจ้ า่ ย

๒. การสังเกต เป็นการสารวจข้อมูลเบ้ืองต้นโดยตรง เป็นการบันทึกสภาวะที่แท้จริงตามเหตุการณ์ท่ี
เกิดขึ้นในสถานการณ์ท่ีเป็นอยู่ตามความเป็นจริง การสังเกตเป็นวิธีการสารวจชุมชนที่ง่ายและ
สะดวกในการปฏิบัติ การสังเกตแบ่งได้เปน็ ๓ ประเภท คือ
๒.๑ การสังเกตแบบง่าย (Simple Observation) คือการมองดูรับฟังและบันทึกเหตุการณ์ท่ี
เกิดข้ึนตามความเป็นจริง โดยไม่มีการควบคุมและมจี ดุ มงุ่ หมายไวแ้ นน่ อน
๒.๒ การสงั เกตอย่างมรี ะบบ (Systematic Observation) วิธีน้จี ะมีแบบแผนข้ันตอน การสังเกต
แบบน้ีจะมีขอบเขตและจุดมุ่งหมายในการสังเกตอยู่ภายใต้การควบคุมของหลักเกณฑ์ต่างๆ
ทีก่ าหนด ได้แก่ เวลา บุคคล สถานที่ คาถาม และสมมตฐิ าน เชน่ การสงั เกตการณ์ใช้
เวลาวา่ งของชาวนาหลงั ฤดูกาลเกบ็ เกยี่ ว
๒.๓ การสังเกตในกลุ่มคนหมู่มาก (Mass Observation) เป็นการสังเกตท่ีรวมเอาวิธีการสังเกต
แบบงา่ ยและการสังเกตอย่างมีระบบเข้ามาประยุกตใ์ ช้ร่วมกัน ซ่ึงการสังเกตในกลุ่มคนหมู่
มากน้ี ขึ้นอยู่กับการสังเกตข้อเท็จจริงของกลุ่มบุคคลกลุ่มหน่ึงที่มีจานวนมากๆ โดยท่ีผู้
สังเกตได้เข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมกับกลุ่มประชากรเป้าหมาย ซึ่งผู้บันทึกทาหน้าที่เป็น
เพยี งคนกลางในการบนั ทึกขอ้ มลู ตามข้อเท็จจริงดว้ ยความเทย่ี งธรรม

อปุ กรณใ์ นการสังเกต ได้แก่
๑. สมุดบันทึก เป็นอุปกรณ์เบื้องต้นที่ช่วยให้ผู้สังเกตได้จดบันทึกข้อมูลและเหตุการณ์ต่างๆ ใน
การสารวจชมุ ชน
๒. รูปถ่าย ใชแ้ สดงรายละเอยี ดของสภาพการณ์ต่างๆ ไดอ้ ย่างชัดเจนและถูกตอ้ งย่งิ ขึน้
๓. แผนที่ ซึ่งจะแสดงให้เห็นความสัมพันธ์ของพ้ืนที่กับสภาพสังคมในชุมชนแก่ผู้สังเกตที่ต้องการ
ทราบรายละเอียดโดยเฉพาะเจาะจง

๓. การสัมภาษณ์ เป็นเคร่ืองมือการสารวจที่เก่าแก่ท่ีสุด ใช้มากท่ีสุด ส่วนใหญ่นิยมใช้เพื่อศึกษา
บคุ คลลกั ษณะทั่วไป ทัศนคติ ความคิดเห็นของบคุ คล การสัมภาษณ์ทาให้ได้ข้อมูลที่เป็นความจริง
มคี วามคลาดเคลอ่ื นน้อยแต่ตอ้ งใช้เวลาในการสัมภาษณ์มาก

๔. การใช้แบบสอบถาม เป็นวิธีการสารวจที่นิยมใช้กันมากอีกวิธีหนึ่งเพราะประหยัดเวลากว่าการ
สารวจโดยการสัมภาษณ์ เป็นวิธีที่เหมาะสมกับประชาชนท่ีอ่านออกเขียนได้แบบสอบถามแบ่งได้
เป็น ๒ แบบ คอื
๔.๑ แบบที่เป็นคาถามแท้ (Questionnaires) ได้แก่ การตั้งคาถามท่ีต้องการไวเ้ ป็น ลาดับต้ังต้น
จนจบ

คมู่ ือยวุ กาชาดโรงเรียนสวา่ งอารมณ์วิทยาคม สงั กัด สานกั งานเขตพืน้ ที่การศกึ ษามัธยมศึกษา เขต 42
นายเสวก พันธอ์ุ ้น ผู้อานวยการโรงเรยี นสวา่ งอารมณว์ ทิ ยาคม

๑๕๓

๔.๒ แบบตารางสารวจ (Survey schedule) ได้แก่ การรวบรวมคาถามต่างๆ ท่ีต้องการแล้วท้ัง
ข้อคาถามเหล่าน้ันใส่ลงในตาราง การสารวจแบบน้ียุ่งยากกว่าแบบแรก ผู้สารวจต้องกรอก
คาตอบลงในตาราง เพราะถ้าให้ผู้ตอบกรอกเองอาจผดิ พลาดไดง้ ่าย แบบฟอร์มทั้ง ๒ ชนิดนี้
สามารถใช้คละกันหรือรวมกันได้ ซึ่งบางตอนอาจมีความถามล้วนๆ บางตอนอาจมีตาราง
แทรกบา้ งก็ได้แลว้ แตข่ อ้ มูลท่ตี ้องการ

ในการไปเดินทางสารวจชุมชนของยุวกาชาดน้ัน ผู้บังคับบัญชาและยุวกาชาดควรได้ดาเนินการวางแผน
ร่วมกัน เพื่อกาหนดหัวข้อเร่ืองท่ีจะทาการสารวจ วิธีที่จะใช้ในการสารวจ ระยะเวลาและงบประมาณในการ
สารวจ ถ้าต้องใช้แบบสอบถามในการสารวจควรได้มีการประชุมผู้บังคับบัญชาและสมาชิกยุวกาชาดเพื่อ
ปรึกษาหารือและชว่ ยกันออกแบบสอบถาม ทง้ั นีเ้ พ่ือให้การเดินทางสารวจดาเนินไปด้วยความถูกต้องรวดเรว็ และ
บรรลวุ ัตถุประสงค์ตามจดุ มุ่งหมายที่ตั้งไว้ แต่เนื่องจากยุวกาชาดยังมีประสบการณ์ในเร่ืองเหล่านี้ไมม่ ากนักกับท้ัง
มีเวลาในการเดินทางสารวจนอ้ ยจงึ ควรดาเนนิ การสารวจในขอบเขตของเร่ืองดังต่อไปน้ี

๑. การสารวจเกี่ยวกับขนบธรรมเนียมประเพณี เพ่ือสารวจว่าคนในชุมชนนับถือศาสนาอะไรบ้าง มี
ระเบียบกฎหมายการปกครองอย่างไร มีแนวทางในการประกอบกิจกรรมเก่ียวกับขนบธรรมเนียม
ประเพณีและวัฒนธรรมเหมือนกันหรือแตกต่างกันเพียงใด ความร่วมมือร่วมใจในการประกอบ
กิจกรรมเกี่ยวกับประเพณีของชุมชนมีมากเพียงใด มีการแตกแยกในชุมชน หรือประสานงานกัน
เป็นอย่างดใี นชมุ ชนหรือไม่

๒. การสารวจด้านการประกอบอาชีพ เพื่อสารวจว่าคนในชุมชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพอะไรมีรายได้
จากการประกอบอาชีพทุกคนหรือไม่ และมีการเดินทางไปประกอบอาชีพถิ่นอ่ืนมากน้อยเพียงใด
เปน็ ตน้

๓. การสารวจด้านสาธารณูปโภค เพื่อสารวจดูว่าในชุมชนนั้นมีบริการด้านสาธารณูปโภคเป็นเช่นไร
เชน่ น้าประปา ไฟฟ้า โรงพยาบาล สถานีอนามยั โทรศพั ท์ สวนสาธารณะ เป็นต้น

๔. การสารวจด้านสาธารณสุข เพื่อสารวจดูว่าในชุมชนมีการจัดการในด้านสาธารณสุขถูกหลักหรือไม่
เช่น น้าด่ืมน้าใช้ การกาจัดส่ิงปฏิกูล เช่น อจุ จาระ ขยะมูลฝอยและน้าโสโครก การควบคุมสัตว์
นาโรค เช่น ยุง หนู แมลงวัน การรักษาความสะอาดทพี่ กั และอาหารการกนิ เป็นตน้

ผลจากการเดินทางสารวจชุมชนจะทาให้สมาชิกยุวกาชาดเข้าใจสภาพและปัญหาต่างๆ ในชุมชนได้เป็น
อย่างดีในการสารวจใดๆ ก็ตาม หากสารวจเพียงเพื่อรู้ไว้นั้นนับว่ายังไม่เพียงพอ ควรนาข้อมูลหรือผลจากการ
สารวจไปใช้ให้เป็นประโยชน์โดยการเผยแพร่แก่ผู้ที่สนใจหรือประชาชนในชุมชนได้รับทราบหรือเพื่อให้ผู้มีส่วน
รับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ในชุมชนได้เข้าใจสภาพและภาวการณ์ต่างๆ ซ่ึงจะนาไปใช้ในการวางแผน
พฒั นาชมุ ชน หรอื ดาเนินโครงการตา่ งๆ เพือ่ ช่วยใหช้ มุ ชนนั้นมีความเจริญก้าวหนา้ ตอ่ ไป

การทาแบบรายงานและลักษณะของการรายงานการสารวจ

คู่มอื ยุวกาชาดโรงเรียนสวา่ งอารมณว์ ทิ ยาคม สงั กดั สานกั งานเขตพืน้ ทกี่ ารศกึ ษามัธยมศึกษา เขต 42
นายเสวก พันธ์อุ ้น ผอู้ านวยการโรงเรยี นสว่างอารมณ์วิทยาคม

๑๕๔

การรายงานเป็นขั้นตอนท่ีสาคัญมากการเดินสารวจจะไมบ่ รรลุผลสาเรจ็ ถ้าไม่มีการรายงานเพื่อแจง้ ผลการ
ตรวจ ดังน้ันเมื่อเสร็จสนิ้ การเดินทางแล้วยวุ กาชาดจะต้องกลับมารายงานการเดินทางสารวจโดยเร็วที่สุดเท่าท่ีจะ
ทาได้ เทคนิคการรายงานคอื ให้กะทัดรดั ชดั เจน และไดใ้ จความครบถว้ น

ลักษณะของการรายงานการสารวจอาจแบ่งไดด้ ังต่อไปนี้
๑. การรายงานด้วยปากเปล่า การรายงานด้วยวิธีนี้มีข้อจากัดในเรอื่ งเวลา รูปแบบในการรายงานต้อง

เนน้ เฉพาะประเดน็ สาคญั เท่านัน้ เพ่ือให้ทันเวลาทก่ี าหนด
๒. การรายงานเป็นลายลักษณ์อักษร มีหลายแบบหลายวิธีแล้วแต่จะกาหนด การเขียนรายงานเป็น

ลายลักษณ์อักษรนั้นต้องเขียนให้ครอบคลุมได้ใจความครบถ้วน โดยทั่วไปประกอบด้วย บทนา
เน้อื หา บทสรุปและข้อเสนอแนะ
๓. การรายงานโดยใชแ้ ผนภูมิ ตาราง หรือกราฟ เช่น กราฟเส้นตรง กราฟแท่ง กราฟวงกลม เป็น
ตน้ การรายงานโดยวธิ นี ยี้ ุวกาชาดตอ้ งอธิบายในรายละเอียดใหเ้ ขา้ ใจอยา่ งชัดเจน

ตัวอย่าง : แบบรายงานการเดินทางสารวจ
ช่ือผู้สารวจ............................................................ช้ัน.................... ................................
วัน/เดอื น/ปี ที่ทาการสารวจ..............................................................................................
สถานที่ทที่ าการสารวจ................................................................................. ....................
ตาบล/แขวง......................................................อาเภอ/เขต...............................................
จงั หวัด............................................................................................................ ..............
จานวนสถานที่ทท่ี าการสารวจ............................. แห่ง

คมู่ อื ยวุ กาชาดโรงเรียนสว่างอารมณว์ ิทยาคม สงั กดั สานักงานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษามัธยมศึกษา เขต 42
นายเสวก พันธ์อุ ้น ผ้อู านวยการโรงเรียนสวา่ งอารมณ์วทิ ยาคม

๑๕๕

๕. ตารางแสดงผลการเดินทางสารวจ สาเหตุ ขอ้ เสนอแนะ
ลาดับ สถานทีส่ ารวจ สภาพทพ่ี บขณะสารวจ

ท่ี

๑. คลองยายเพียร ๑. น้าเนา่ เสียมีสดี าและมกี ลน่ิ เหม็น ๑. มีการปล่อยน้าเสีย ๑.จดั ระบบการ

ตอนตลาด ก. ๒. มขี ยะลอยในคลองจานวนมาก จากบ้านเรือนลงใน ถา่ ยเทน้าเสยี

ถงึ หมบู่ ้าน ข. ๓. มีบ้านเรือนร้านค้าตั้งอยู่ริมคลอง คลอง ๒. จัดทท่ี ิง้ ให้

ตลอด ๒. ประชาชนทิ้งขยะ ประชาชน

๔. ยงั ใชเ้ ปน็ ทางสัญจรไปมาได้ ลงคลอง

๒ โรงงานโมห่ ิน ๑. มีฝุ่นสีขาวที่เกิดจากการโม่หินฟุ้ง ๑. มีการโม่หินตลอด ๑. ไมค่ วรอนุญาต
กระจายเป็นบรเิ วณกว้าง วนั ใหต้ งั้ โรงงานโม่
เขานางสาว ๒. บ้านเรอื นสกปรก ๒. ไม่มีการควบคุมฝุ่น หนิ ในเขตชุมชน

๓. สิ่งแวดล้อมท่ั วไป ขาด ความ ที่เกิดจากการโม่ ๒. ติดต้งั เคร่ือง

สวยงาม หิน ควบคุมฝ่นุ

๖. แผนท่สี งั เขป

หมายเหตุ ในการเดนิ ทางสารวจนัน้ อาจเดินทางดว้ ยวิธีใดวธิ หี นึง่ ดังต่อไปน้ี

๑. เดินทางด้วยเทา้ ระยะทางไป – กลบั ไมน่ ้อยกว่า ๑๐ กิโลเมตร หรือ
๒. ทัศนศกึ ษาโดยรถยนต์ไป – กลับ ระยะไมน่ อ้ ยกว่า ๖ ชัว่ โมง หรือ
๓. จดั กิจกรรมสารวจควบคู่กนั ไปกับกิจกรรมการเดินทางไกล และอย่คู ่ายพักแรมเป็นเวลา ๒

วนั ๑ คนื

คมู่ อื ยุวกาชาดโรงเรยี นสวา่ งอารมณ์วิทยาคม สงั กดั สานักงานเขตพื้นทีก่ ารศกึ ษามัธยมศึกษา เขต 42
นายเสวก พนั ธุ์อ้น ผอู้ านวยการโรงเรยี นสวา่ งอารมณ์วทิ ยาคม

๑๕๖

พธิ ีเปิด – ปดิ การเรียนการสอนยุวกาชาด

ก. พิธีเปิดการเรยี นการสอนยวุ กาชาด
๑. เรยี กสมาชิกเขา้ แถวครงึ่ วงกลมหน้าเสาธง
มเี สาธงยุวกาชาดในการน้โี ดยเฉพาะ ๑ เสา แยกจากเสาธงชาติ
ให้ผู้นากลุ่ม หรือรองผู้นากลุ่ม หรือผู้ที่ได้รบั มอบหมายเป็นพิธีกร ยืนที่บริเวณหน้าเสาธงห่างจาก

เสาธงประมาณ ๓ ก้าว ใช้สัญญาณนกหวีด “เรียกทั้งหมด” พร้อมกับทาสัญญาณมือ “แถวคร่ึงวงกลม” ให้
สมาชิกยุวกาชาดเขา้ แถวเป็นรูปครึ่งวงกลม หน่วยแรกอย่ทู างซ้ายมือ และหน่วยสุดท้ายอยู่ทางขวามือของพิธีกร
แต่ละหน่วยยืนห่างกันประมาณ ๑ ก้าว สมาชิกภายในหน่วยห่างกัน ๑ ช่วงศอก หัวหน้าหน่วยอยู่ขวามือ รอง
หัวหน้าหน่วยอยู่ซ้ายสุดในแถวของหน่วย หัวหน้าหน่วยหน่วยแรก และรองหัวหน้าหน่วยสุดท้ายยืนอยู่แนว
เดียวกับพิธกี ร และห่างจากพิธีกรมีระยะเท่ากันผู้นากลุม่ และรองผนู้ ากลุ่ม ท่ีจะทาการสอนเข้าแถวหน้ากระดาน
หลงั เสาธงหนั หน้าไปทางสมาชกิ

๒. ชกั ธงยวุ กาชาดขน้ึ สยู่ อดเสา
พิธีกรส่ังให้ผู้แทนหน่วยบริการ ๒ คน ออกมาชักธงยุวกาชาด โดยยืนอยู่ห่างจากฐานของเสาธง

ประมาณ ๓ กา้ ว ผู้ท่ีอยู่ทางขวามอื สงั่ “ตรง” คนที่อยู่ดา้ นซ้ายมือไปปลดเชือกท่ีเสาธง และทาหน้าท่ีเป็นผู้ชักธง
ใหธ้ งขน้ึ ทางขวามือของผชู้ ัก ขณะที่ธงชักขึ้นเชอื กจะต้องตึงอยูเ่ สมอ

พธิ ีกรสง่ั “เตรียมเชิญธงยุวกาชาดท้ังหมดตรง” ใหส้ มาชิกทกุ คนยืนตรงเคารพธง ยวุ กาชาด โดย
ไมต่ ้องรอ้ งเพลงใดๆ ทั้งส้นิ ใหผ้ ทู้ าหนา้ ทช่ี ักธง ชกั ธงขึ้นทนั ทจี นสุดยอดเสาธง

เมื่อชักธงเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผู้ท่ีอยู่ทางขวามือส่ัง “ขวาหัน” แล้วกลับไปเข้าแถวตามเดิม
ขณะเดยี วกันสมาชิกทกุ คนยังอย่ใู นทา่ ตรง และดาเนินการตามขนั้ ตอนตอ่ ไป

๓. สงบนง่ิ
คู่มอื ยวุ กาชาดโรงเรียนสว่างอารมณว์ ิทยาคม สังกัด สานักงานเขตพื้นทีก่ ารศึกษามัธยมศึกษา เขต 42
นายเสวก พนั ธ์อุ ้น ผู้อานวยการโรงเรียนสวา่ งอารมณ์วิทยาคม

๑๕๗

พธิ ีกรสั่ง “สงบนิ่งเพ่ือระลึกถึง....ปฏบิ ัติ” ถ้าสวมหมวก ใหท้ ุกคนถอดหมวกด้วยมือขวา และใช้มือ
ขวาทับมือซ้ายไว้ข้างหน้า ต่ากว่าระดับเอว ก้มศีรษะเล็กน้อย โดยกิริยาสารวม เป็นเวลา ๑ นาที พิธีกรสั่ง
“พกั ” ทกุ คนสวมหมวก (ถ้ามี)

ถ้าไม่สวมหมวดให้ทุกคนใช้มือขวาทับมือซ้ายไวข้ ้างหน้าต่ากว่าระดับเอวก้มศีรษะเล็กน้อยโดยกิริยา
สารวม เปน็ เวลา ๑ นาที พธิ ีกรสั่ง “พกั ”

การสง่ั สงบนิ่ง อาจส่ังระลึกถงึ ผู้มีพระคณุ ทั่วๆ ไป หรือผู้มพี ระคณุ ตอ่ กจิ การกาชาดและยุวกาชาด

๔. กลา่ วคาปฏิญาณตนยวุ กาชาด
พธิ ีกรส่ัง “ทัง้ หมด ตรง กลา่ วคาปฏญิ าณตน” ห้าทกุ คนกลา่ วคาปฏิญาณตนพร้อมๆ กันดงั นี้
ข้อ ๑ ข้าฯ จะจงรกั ภกั ดตี ่อชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์
ข้อ ๒ ขา้ ฯ จะเปน็ มิตรกับคนทวั่ ไป และจะบาเพ็ญตนให้เปน็ ประโยชน์แกส่ ว่ นรวม
ข้อ ๓ ข้าฯ จะรักษาอนามัยของตนเอง และส่งเสริมอนามัยของผู้อื่น เมื่อกล่าวจบ พิธีกรสั่ง
“พัก”

๕. ตรวจและรายงาน
ให้ผู้นากลุ่ม หรือรองผู้นากลุ่ม หรือครูผู้สอน หรือหัวหน้าหน่วย ทาการตรวจก็ได้ ในกรณีท่ี

หัวหนา้ หน่วยทาหนา้ ที่ตรวจ รองหัวหนา้ หนว่ ยต้องขึน้ มาปฏิบตั หิ น้าทีแ่ ทน
พธิ ีกรส่ัง “ให้ผูน้ ากลมุ่ ครผู สู้ อน ตรวจความสะอาดของสมาชิก – ปฏิบตั ิ” (อาจส่ังให้ตรวจร่างกาย

ทั้งหมดหรือเฉพาะบางส่วน เช่น เล็บมือ ผม ตา ผิวหนัง ฯลฯ) ให้ผู้ที่ได้รับมอบหมายตรงไปยังแถวของสมาชิก
แล้วไปยืนอยู่ตรงหน้าหัวหน้าหน่วย ห่างประมาณ ๓ ก้าว หัวหน้าหน่วยสั่ง “หน่วยสี....ตรง” แล้วก้าวออกมา

คมู่ อื ยุวกาชาดโรงเรยี นสว่างอารมณว์ ทิ ยาคม สงั กดั สานกั งานเขตพืน้ ทกี่ ารศึกษามัธยมศึกษา เขต 42
นายเสวก พันธ์อุ ้น ผ้อู านวยการโรงเรียนสวา่ งอารมณว์ ทิ ยาคม

๑๕๘

ข้างหน้า ๑ ก้าว รายงานว่า “หน่วยสี..... มีสมาชิก.....คน ชาย....คน หญิง....คน (หรือชายท้ังหมด

หรือหญิงท้ังหมด) พร้อมท่ีจะรับการตรวจแล้วค่ะ (ครับ)” แล้วถอยหลังกลับไปเข้าแถวตามเดิมหัวหน้าหน่วยส่ัง

“พัก”

ผตู้ รวจเร่ิมตรวจหวั หน้าหนว่ ยกอ่ น ใหห้ ัวหน้าหน่วยยืนตรงโดยอัตโนมัตขิ ณะท่ีผตู้ รวจกาลงั ตรวจอยู่

ถ้ามีความจาเป็นจะต้องตรวจด้านหลัง ผู้ตรวจส่ัง “หัวหน้าหน่วย กลับหลังหัน” เมื่อตรวจด้านหลังเสร็จแล้ว

ผูต้ รวจส่ังให้กลับหลังหันอีกครั้งหน่ึง ตรวจเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผตู้ รวจเดินไปตรวจสมาชิกคนอน่ื ๆ ไปจนครบ ใน

ลักษณะสืบเท้าไปด้านข้างทางขวามือและหัวหน้าหน่วยจะต้องเดินตามไปข้างๆ ลักษณะเดียวกับผู้ตรวจ โดยอยู่

ด้านซ้ายมือของผู้ตรวจขณะท่ีผู้ตรวจเดินผ่านไปท่ีคนใดให้คนน้ันทาท่าตรงโดยอัตโนมัติ เมื่อผู้ตรวจผ่านไปแล้วก็

ใหผ้ ู้นัน้ พักโดยอตั โนมตั เิ ชน่ เดยี วกัน

ในกรณีท่ีตรวจเฉพาะด้านหน้าของสมาชิก เช่น ตรวจเล็บมือ, ผม เป็นต้น เม่ือผู้ตรวจตรวจถึง

สมาชิกคนสุดท้ายในหน่วยแล้ว ให้หัวหน้าหน่วยเดนิ อ้อมหลังผู้ตรวจแล้วอ้อมหลังแถวหน่วยสีของตนเองกลับเข้า

ท่ีเดมิ

ถ้าหัวหน้าหน่วยเป็นผู้ตรวจ เม่ือได้รับคาสั่ง ให้หัวหน้าหน่วยก้าวออกไปข้างหน้าประมาณ ๓ ก้าว

แลว้ กลบั หลังหัน ขณะเดยี วกันให้รองหัวหนา้ หน่วยวิ่งอ้อมด้านหลงั แถวมาทาหน้าท่ีแทนหัวหน้าหนว่ ย การตรวจ

ให้ปฏิบตั ิเหมอื นผ้นู ากลมุ่ , ครผู ู้สอนตรวจทุกประการ

เมื่อตรวจเสร็จแล้ว ผู้ทาหน้าที่หัวหน้าหน่วยกลับเข้าท่ีเดิม ส่ังว่า “หน่วยสี.......ตรง ขอบคุณค่ะ

(ครับ)” และสั่ง “พัก” ครั้นแล้วผู้ทาหน้าที่ตรวจวิ่งไปเข้าแถวหน้ากระดานหน้าพิธีกร ให้คนแรกยืนตรงหน้า

พิธีกร ห่างจากพิธีกรประมาณ ๓ ก้าว ตามลาดับก่อนหลัง คนทางขวาสุดของแถวสั่ง “ท้ังหมด ตรง” แล้ว

รายงานผลการตรวจทีละคนโดยพิธีกรสั่งให้รายงานผลการตรวจ ผู้ท่ีได้รับมอบหมายให้ไปตรวจคนที่อยู่ทางขวา

สุดรายงานก่อน และต่อมาทีละคนๆ จนครบ พิธีกรรับรายงานการตรวจโดยการสืบเท้าไปด้านขวามือให้ตรงกับ

ผู้รายงาน การรายงานต้องก้าวออกไปข้างหน้า ๑ ก้าว ในท่ายืน และรายงานผลการตรวจว่า “ตามที่ได้รับ

มอบหมายให้ไปตรวจสมาชิกหน่วยสี.....ปรากฏว่า......และได้แนะนาให้แก้ไขแล้วค่ะ (ครับ)” หรือ “ตามที่ได้รับ

มอบหมายให้ไปตรวจหน่วยสี.....ปรากฎวา่ เคร่ืองแต่งกายเรียบรอ้ ยดีค่ะ (ครบั )” เม่อื รายงานเสร็จแลว้ ให้ถอยหลัง

กลบั ทีเ่ ดิมก่อน ยืนรอจนกว่าจะรายงานครบทกุ คนแลว้ พิธีกรกลา่ วขอบคุณและสง่ั กลับเข้าที่เดิม คนท่อี ยู่ทางขวา

สดุ ของแถวสง่ั “ขวาหัน” และวง่ิ กลบั เขา้ ท่ีเดมิ

๖. นัดหมายและช้ีแจง

พิธีอธิบายให้สมาชิกทุกคนเข้าใจก่อนที่จะแยกย้ายกันไปตามคาสั่ง (อาจจะมีการเล่นเกมหรือร้อง

เพลงกอ่ นทจี่ ะเข้าเรียนก็ได้ ใหค้ านึงถึงความเหมาะสม)

การชี้แจงในการเข้าเรียนและเลิกเรียนแต่ละครั้ง หรือแต่ละจุด หรือแต่ละฐานนั้นให้สมาชิกทา

ความเคารพต่อผู้สอนทุกคร้ัง โดยปฏิบัติดังน้ี เมื่อไปถึงท่ีเรียนให้สมาชิกทุกคนเข้าแถวหน้ากระดานเป็นหน่วยสี

ซ้อนๆ กันก่ีแถวก็ได้ ขึ้นอยู่กับจานวนหน่วยสีมากหรือน้อยให้หัวหน้าหน่วยแถวแรกยืนตรงกับผู้สอน และห่าง

ค่มู ือยุวกาชาดโรงเรียนสวา่ งอารมณ์วทิ ยาคม สงั กดั สานักงานเขตพืน้ ทีก่ ารศกึ ษามัธยมศึกษา เขต 42
นายเสวก พันธุอ์ น้ ผู้อานวยการโรงเรียนสวา่ งอารมณ์วิทยาคม

๑๕๙

จากผู้สอนประมาณ ๓ กา้ ว เมื่อเขา้ แถวเสรจ็ เรยี บร้อยแลว้ หัวหน้าหน่วยสีแถวแรกเป็นผ้แู ทนสัง่ “ทง้ั หมด ตรง”
(ในกรณีหลายหน่วยสี) และก้าวออกมาข้างหน้า ๑ ก้าว รายงานว่า “สมาชิกท้ังหมดพร้อมที่จะเรียนแล้วค่ะ
(ครบั )” หัวหน้าหนว่ ยถอยกลับเขา้ ทีเ่ ดมิ และสั่ง “พกั ”

หลังจากน้ันก็ดาเนินการสอน เม่ือหมดเวลาแล้วก็เปล่ียนไปเรียนท่ีฐานอื่นต่อไปก่อนไปต้องแสดง
ความขอบคุณต่อผู้สอน โดยทกุ คนเข้าแถวตามเดิมให้เรียบร้อย แล้วผู้แทนคนเดิมส่ัง “ท้ังหมด ตรง” ไมต่ ้องก้าว
ออกมาและพูดว่า “ขอบคณุ ค่ะ (ครับ)” และส่ัง “ขวาหนั ” สมาชิกทุกคนวง่ิ ไปฐานอนื่ ต่อไป

ในกรณีเรียนในห้องเรียน ให้ใช้วิธีการแบบยุวกาชาดคือมีการร้องเพลง “ยินดีที่รู้จัก” หรือ “สวัสดี
ยุวกาชาด” ก่อนการเรียนและเพลง “ขอบคณุ ” เมอ่ื จบชว่ั โมงเรียน

เม่ือชี้แจงเสร็จเรียบร้อยแล้ว พิธีกรส่ัง “ทั้งหมดตรง...แยกแถว” สมาชิกทุกคนทาขวาหันแยกย้าย
ตามคาชแ้ี จงทันที
ข. พธิ ีปิดการเรยี นการสอนยวุ กาชาด ให้ถือปฏบิ ตั ดิ ังน้ี

๑. เรียกสมาชกิ เข้าแถวครึ่งวงกลมหน้าเสาธง ให้ปฏิบตั เิ ช่นเดยี วกบั ขอ้ ก.๑ ทุกประการ
๒. ตรวจความสะอาดเรยี บร้อย และรายงานใหป้ ฏิบตั ิ เช่นเดียวกบั ข้อ ก.๕ ทุกประการ
๓. นดั หมาย และชแี้ จง ใหพ้ ิธกี รนดั หมายและชแ้ี จงเรอื่ งการเรียนการสอนในคราวตอ่ ไป
๔. ชักธงยุวกาชาด ให้ปฏิบตั เิ ชน่ เดียวกนั กับขอ้ ก.๒ ทุกประการ แตเ่ ปน็ การชกั ธง ยวุ กาชาดลง
๕. เลิกแถว พิธีกรสง่ั “เลิกแถว” ทกุ คนทาขวาหัน แยกยา้ ยกันไป
หมายเหตุ ในกรณสี ถานทจี่ ากัด อาจจดั แถวตามความเหมาะสม

คู่มอื ยวุ กาชาดโรงเรยี นสว่างอารมณ์วทิ ยาคม สังกัด สานักงานเขตพน้ื ทีก่ ารศกึ ษามัธยมศึกษา เขต 42
นายเสวก พันธอ์ุ ้น ผอู้ านวยการโรงเรียนสว่างอารมณ์วิทยาคม

๑๖๐

เอกสารอา้ งอิง

กิตพิ ร ยุพนิ วีรสุธกี ุล และคณะ. เงอ่ื นเชอื กลูกเสือสารอง-สามญั . กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพไ์ ทย วั ฒ น า

พานิช, ๒๕๓๒

กรมพลศึกษา. คู่มือการอบรมผนู้ ายวุ กาชาด. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพอ์ กั ษรไทย, ๒๕๓๑

กรมพลศึกษา. คู่มอื ครผู สู้ อนกิจกรรมยวุ กาชาด “วชิ าอนุรกั ษธ์ รรมชาติและสิ่งแวดล้อม”. กรุงเทพมหานคร

: โรงพมิ พอ์ กั ษรไทย, ๒๕๓๐.

กรมพลศกึ ษา. คู่มอื ครผู ู้สอนกิจกรรมยุวกาชาด “วชิ าบาเพญ็ ประโยชน์”. กรงุ เทพมหานคร : โรงพิมพ์

สยามรัฐ, ๒๕๓๐.

กรมพลศกึ ษา. คู่มอื ครูผสู้ อนกจิ กรรมยุวกาชาด “วชิ าการอยู่คา่ ย”. กรงุ เทพมหานคร :โรงพิมพ์ คุรุสภ า

ลาดพร้าว, ๒๕๒๙.

กรมพลศกึ ษา. ระเบียบแถวยุวกาชาด. กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พ์เลฟิ แอนดล์ ิฟเพรส, ๒๕๓๒.

กระทรวงศกึ ษาธิการ. แผนการสอนกิจกรรมลกู เสือ. กรุงเทพมหานคร :โรงพิมพค์ ุรุสภาลาดพร้าว, ๒๕๒๘.

สานักการศกึ ษากรุงเทพมหานคร. คู่มืออบรมนายหมลู่ กู เสือสามญั . กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พ์ สานักการศึกษา,

๒๕๒๙.

สานกั งานคณะกรรมการบริหารลกู เสอื แห่งชาต.ิ คูม่ ือวชิ าพิเศษลกู เสอื สามญั รุ่นใหญ่ “แผนท่แี ละ เ ข็ ม

ทศิ ”. กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พค์ ุรสุ ภาลาดพร้าว, ๒๕๓๐

สภากาชาดไทย, วารสารยุวกาชาด ฉบับพิเศษ. “หลกั สูตรและเนื้อหาวชิ ายวุ กาชาด ระดับ มั ธ ย ม ศึ ก ษ า

ตอนตน้ พุทธศกั ราช ๒๕๒๘”. กรุงเทพมหานคร : ธรรมสารการพิมพ์,

๒๕๒๘.

สมดุล สวุ รรณบล. การเดนิ ทางไกลและแรมคืนของลกู เสอื . กรงุ เทพมหานคร : โรงพิมพ์คุรสุ ภาล า ด พ ร้ า ว ,

๒๕๒๘

คู่มอื ยุวกาชาดโรงเรยี นสวา่ งอารมณว์ ิทยาคม สังกัด สานกั งานเขตพืน้ ที่การศกึ ษามัธยมศึกษา เขต 42
นายเสวก พนั ธุ์อ้น ผอู้ านวยการโรงเรียนสวา่ งอารมณว์ ิทยาคม

๑๖๑

ภาคผนวก

คมู่ ือยวุ กาชาดโรงเรียนสว่างอารมณ์วทิ ยาคม สังกัด สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 42
นายเสวก พนั ธอ์ุ ้น ผูอ้ านวยการโรงเรียนสวา่ งอารมณ์วิทยาคม

๑๖๒

คาสัง่ โรงเรียนสวา่ งอารมณ์วิทยาคม

ท่ี ๐๗๔ / ๒๕๖๓

เร่ือง แต่งตั้งครูปฏิบัติหน้าท่ีผนู้ ากิจกรรมยุวกาชาด ประจาปกี ารศึกษา ๒๕๖๓

------------------------------------------------------------------------------

เพ่ือเป็นการจัดการเรียนการสอนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมยุวกาชดเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและ
สอดคล้องกับแนวทางของการจัดการศึกษาของโรงเรียนให้เป็นไปตามหลักสูตร และระเบียบคณะกรรมการ
บริหารงานยุวกาชาด ของสภากชาดไทย โรงเรียนสว่างอารมณ์วิทยาคมจึงอาศัยอานาจตามคาสั่งสานักงาน
การศึกษาข้ันพื้นฐานที่ ๑/๒๕๔๖ เรื่องการให้ข้าราชการครูปฏิบัติหน้าท่ีท่ีผู้อานวยการศึกษาส่ัง ณ วันท่ี ๗
กรกฎาคม ๒๕๔๖ โรงเรยี นจึงแต่งตั้งคณะกรรมการและเจ้าหน้าท่ดี าเนินกจิ กรรมยวุ กาชาดดงั กลา่ ว ดังต่อไปน้ี

๑. คณะกรรมการอานวยการ ประกอบดว้ ย

๑.๑ นายเสวก พนั ธุอ์ น้ ผู้อานวยการโรงเรียน ประธานกรรมการ

๑.๒ นายสุพล วริ าวรรณ์ รองผู้อานวยการโรงเรียน รองประธานกรรมการ

๑.๓ นางพชั รา เลิศวรกจิ สกุล หัวหนา้ กลุม่ งานวชิ าการ กรรมการ

๑.๔ นายโรจนสั ถ์ สจุ ริต หัวหน้ากล่มุ งานอาคารสถานที่ กรรมการ

๑.๕ นางใกล้รงุ่ จมั ปะโสม หวั หนา้ กลมุ่ งานการเงนิ กรรมการ

๑.๖ นางวรรณา วรพงศไ์ ชย หัวหนา้ กลุม่ งานบคุ คล กรรมการ

๑.๗ นางสาวประนัดดา สงครามศรี หวั หนา้ กลมุ่ งานกิจการนกั เรียน กรรมการ

๑.๘ นายชาตรี อนนั ต์เพ็ขร์ หัวหน้ากลุ่มงานปกครอง กรรมการและเลขานุการ

มีหน้าที่ เปน็ ทป่ี รึกษา กากับ นิเทศ แนะนาเก่ียวกบั การปฏิบัตงิ านของกิจกรรมยวุ กาชาด เพื่อให้การ

บริหารกจิ กรรมยวุ กาชาด มีประสิทธภิ าพเปน็ ไปด้วยความเรยี บรอ้ ยและบังเกดิ ผลดี

๒. คณะกรรมการปฏบิ ัติหนา้ ที่ผนู้ ากิจกรรมยุวกาชาด หวั หนา้
๒.๑ ผู้นากิจกรรมยวุ กาชาดระดับช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี ๑ ประกอบดว้ ย
๒.๑.1. นางพัชรา เลศิ วรกิจสกุล ครชู านาญการพเิ ศษ

๒.๑.๒. นางวรรณา วรพงศ์ไชย ครชู านาญการพเิ ศษ ผู้ชว่ ย
ผชู้ ่วย
๒.๑.๓. นางสาวพรทิพย์ จัน่ ผ่อง ครูผชู้ ว่ ย

๒.๒ ผู้นากิจกรรมยุวกาชาดระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ ๒

๒.๒.1. นางวชั รินทร เหมะสถล ครชู านาญการพิเศษ หัวหน้า
๒.๒.2. น.ส.ประนดั ดา สงครามศรี ครูชานาญการ ผชู้ ว่ ย

๒.๓ ผนู้ ากจิ กรรมยุวกาชาดระดับชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๓

๒.๓.1. นางศรสี ุดา อนันตเ์ พช็ ร์ ครูชานาญการพเิ ศษ หัวหน้า
๒.๓..2. นายชาตรี อนนั ตเ์ พช็ ร์ ครูชานาญการพิเศษ ผชู้ ว่ ย

๒.๓.3. น.ส.สรุ ตั น์วดี เนยี มอา่ ครู ค.ศ.1 ผู้ช่วย

มีหน้าที่ เปน็ ทป่ี รึกษา ควบคุม และอบรมสั่งสอนนักเรยี นกิจกรรมยวุ กาชาดให้เป็นไปตามหลกั สตู รของ
กระทรวงศกึ ษาธกิ ารกาหนด ตามวิสยั ทัศน์ หลกั การ จดุ หมาย สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน คุณลกั ษณะอันพึง

ประสงค์ และมาตรฐานการเรยี นรู้

คมู่ อื ยวุ กาชาดโรงเรยี นสวา่ งอารมณ์วทิ ยาคม สงั กดั สานกั งานเขตพื้นทก่ี ารศกึ ษามัธยมศึกษา เขต 42
นายเสวก พนั ธ์อุ ้น ผอู้ านวยการโรงเรยี นสวา่ งอารมณ์วทิ ยาคม

๑๖๓

ขอให้คณะครูและลูกจ้างท่ไี ด้รบั มอบหมายใหป้ ฏิบตั หิ น้าท่ีครูกจิ กรรมยุวกาชาด ปฏิบัติหน้าทีใ่ หเ้ กดิ ความ
เรียบรอ้ ย มปี ระสิทธภิ าพ ดแู ลนกั เรียนอย่างทัว่ ถึงภายใต้ระเบยี บวินัยของโรงเรียน และหลกั สูตรสถานศึกษา เพ่ือ
สร้างพฤติกรรมที่ดี อันจะสง่ ผลดแี ละเกดิ ประโยชน์ตอ่ สถานศึกษาตอ่ ไป

ส่ัง ณ วนั ที่ 10 มถิ นุ ายน พ.ศ. ๒๕๖๓
ลงชอ่ื
(นายเสวก พันธุอ์ น้ )

ผูอ้ านวยการโรงเรยี นสว่างอารมณ์วทิ ยาคม

คูม่ ือยวุ กาชาดโรงเรยี นสวา่ งอารมณ์วิทยาคม สงั กัด สานักงานเขตพน้ื ทกี่ ารศึกษามัธยมศึกษา เขต 42
นายเสวก พนั ธุอ์ น้ ผู้อานวยการโรงเรียนสว่างอารมณ์วทิ ยาคม

๑๖๔

คณะทางานคมู่ อื ยุวกาชาด

ที่ปรกึ ษา

๑. นายเสวก พันธุ์อน้ ผอู้ านวยการโรงเรยี น ประธานที่ปรึกษา
รองประธานท่ีปรึกษา
2. นายสุพล วิราวรรณ์ รองผูอ้ านวยการโรงเรยี น ท่ีปรกึ ษา
ทปี่ รกึ ษา
3. นายโรจนสั ถ์ สจุ ริต หวั หนา้ กลุม่ บรหิ ารงานทั่วไป ทป่ี รึกษา
ทป่ี รึกษา
4. นางพัชรา เลศิ วรกิจสกุล หวั หน้ากลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ ท่ปี รกึ ษา
ที่ปรึกษาและเลขานุการ
5. นางใกลร้ งุ่ จัมปะโสม หวั หน้ากลมุ่ บรหิ ารงานงบประมาณ

6. นายชาตรี อนนั ตเ์ พ็ชร์ หวั หน้ากลุ่มบรหิ ารงานปกครอง

7. นางสาวประนัดดา สงครามศรี หัวหน้ากลุ่มบริหารงานกิจการนักเรยี น

8. นางวรรณา วรพงศไ์ ชย หัวหน้ากลมุ่ บริหารงานบุคคล

คณะทางาน ครูชานาญการพิเศษ หวั หน้า
ผู้นายวุ กาชาดช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๑ ครชู านาญการพเิ ศษ ผู้ชว่ ย
1. นางพัชรา เลิศวรกจิ สกุล ครผู ชู้ ่วย ผชู้ ่วย
2. นางวรรณา วรพงศ์ไชย
๓. นางสาวพรทิพย์ จ่นั ผอ่ ง หวั หนา้
ผู้ชว่ ย
ผูน้ ายวุ กาชาดชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ ๒ ครูชานาญการพเิ ศษ
1. นางวชั รินทร เหมะสถล ครชู านาญการ หวั หนา้
2. น.ส.ประนดั ดา สงครามศรี ผชู้ ว่ ย
ผชู้ ่วย
ผนู้ ายุวกาชาดชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๓ ครูชานาญการพิเศษ
1. นางศรีสุดา อนันต์เพ็ชร์ ครชู านาญการพิเศษ
2. นายชาตรี อนันตเ์ พช็ ร์ ครู ค.ศ.1
3. น.ส.สุรตั นว์ ดี เนยี มอา่

ออกแบบรูปเล่มและปก อนนั ตเ์ พ็ชร์ ครชู านาญการพเิ ศษ หัวหนา้
1. นางศรสี ดุ า วรพงศ์ไชย ครชู านาญการพเิ ศษ ผชู้ ่วย
2. นางวรรณา เนยี มอ่า ครู ค.ศ.1 ผู้ช่วย
3. น.ส.สรุ ัตนว์ ดี

ผู้รวบรวม อนันต์เพช็ ร์ ครูชานาญการพเิ ศษ หวั หนา้
1. นางศรีสุดา วรพงศไ์ ชย ครชู านาญการพเิ ศษ ผู้ช่วย
2. นางวรรณา

คมู่ อื ยุวกาชาดโรงเรียนสวา่ งอารมณ์วทิ ยาคม สังกัด สานักงานเขตพนื้ ท่ีการศึกษามัธยมศึกษา เขต 42
นายเสวก พนั ธอ์ุ ้น ผอู้ านวยการโรงเรียนสว่างอารมณว์ ิทยาคม