๑๐๑
๒. ขอบเขตของการประเมินพัฒนาการ
หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐ได้กาหนดเป้าหมายคุณภาพของเด็กปฐมวัย
เปน็ มาตรฐานคณุ ลักษณะที่พึงประสงค์ ซึ่งถอื เปน็ คุณภาพลกั ษณะที่พึงประสงค์ที่ต้องการใหเ้ กิดข้ึนตัว
เด็กเมื่อจบหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย คุณลักษณะที่ระบุไว้ในมาตรฐานคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ถือ
เป็นส่ิงจาเป็นสาหรับเด็กทุกคน ดังนั้น สถานศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีหน้าที่และความ
รับผิดชอบในการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาเด็กให้มีคุณภาพมาตรฐานที่พึงประสงค์กาหนด ถือเป็น
เครื่องมือสาคัญในการขับเคล่ือนและพัฒนาคุณภาพการศึกษาปฐมวัย แนวคิดดังกล่าวอยู่บนฐาน
ความเชื่อที่ว่าเด็กทุกคนสามารถพัฒนาอย่างมีคุณภาพและเท่าเทียมได้ ขอบเขตของการประเมิน
พัฒนาการประกอบดว้ ย
๒.๑ สิง่ ที่จะประเมนิ
๒.๒ วธิ แี ละเคร่อื งมอื ที่ใช้ในการประเมิน
๒.๓ เกณฑ์การประเมนิ พัฒนาการ
๒.๑ สิ่งท่ีจะประเมิน
๒.๑.๑ การประเมินพัฒนาการสาหรับเด็กอายุ ๓-๖ ปี มเี ปา้ หมายสาคัญคือ มาตรฐาน
คณุ ลักษณะทพี่ ึงประสงค์จานวน ๑๒ ข้อ ดงั น้ี
๑. พฒั นาการด้านรา่ งกาย ประกอบด้วย ๒ มาตรฐาน คอื
มาตรฐานที่ ๑ รา่ งกายเจรญิ เติบโตตามวัยและมสี ขุ นสิ ัยที่ดี
มาตรฐานที่ ๒ กล้ามเน้ือใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กแข็งแรงใช้ได้อย่างคล่องแคล่วและ
ประสานสมั พนั ธ์กนั
๒. พัฒนาการดา้ นอารมณ์ จติ ใจ ประกอบดว้ ย ๓ มาตรฐาน คือ
มาตรฐานที่ ๓ มีสุขภาพจติ ดีและมีความสุข
มาตรฐานท่ี ๔ ชนื่ ชมและแสดงออกทางศลิ ปะ ดนตรี และการเคลอื่ นไหว
มาตรฐานที่ ๕ มคี ุณธรรม จริยธรรม และมีจิตใจทด่ี ีงาม
๓. พัฒนาการดา้ นสังคม ประกอบดว้ ย ๓ มาตรฐาน คือ
มาตรฐานท่ี ๖ มที กั ษะชีวติ และปฏิบตั ิตนตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
มาตรฐานที่ ๗ รักธรรมชาติ ส่ิงแวดล้อม วัฒนธรรม และความเปน็ ไทย
มาตรฐานที่ ๘ อยรู่ ่วมกับผู้อน่ื ได้อย่างมคี วามสุขและปฏิบตั ิตนเป็นสมาชิกท่ีดีของ
สังคมในระบอบประชาธิปไตย อันมพี ระมหากษตั รยิ ์ทรงเป็นประมขุ
๔. พัฒนาการดา้ นสตปิ ญั ญา ประกอบดว้ ย ๔ มาตรฐาน คือ
มาตรฐานท่ี ๙ ใช้ภาษาสอ่ื สารได้เหมาะสมกบั วยั
มาตรฐานท่ี ๑๐ มีความสามารถในการคิดที่เปน็ พืน้ ฐานในการเรียนรู้
มาตรฐานที่ ๑๑ มีจินตนาการและความคดิ สรา้ งสรรค์
มาตรฐานที่ ๑๒ มีเจตคตทิ ีด่ ีต่อการเรียนรู้และมีความสามารถในการแสวงหา
ความรู้ได้เหมาะสมกบั วยั
๑๐๒
๒.๑.๒ ประเมนิ คุณลักษณะตามรปู แบบการสอนมอนเตสซอรีท่ ีส่ ถานศกึ ษากาหนด
- ทกั ษะชวี ติ
- ทักษะสมอง EF ๙ ดา้ น
๒.๑.๓ เปา้ หมายการพฒั นาคุณภาพเดก็ โรงเรียนเทศบาล ๑ (บา้ นเกา่ )
- คณุ ลักษณะตามวยั ท่สี ถานศึกษากาหนด
- ทกั ษะภาษาอังกฤษทสี่ ถานศกึ ษากาหนด
- ทกั ษะภาษาจีนทส่ี ถานศึกษากาหนด
ส่งิ ทีจ่ ะประเมินพัฒนาการของเด็กปฐมวยั แตล่ ะด้าน มีดังน้ี
ด้านร่างกาย ประกอบด้วย การประเมินการมีน้าหนักและส่วนสูงตามเกณฑ์ สุขภาพอนามัย
สุขนิสัยท่ีดี การรู้จักรักษาความปลอดภัย การเคล่ือนไหวและการทรงตัว การเล่นและการออกกาลัง
กาย และการใช้มอื อยา่ งคล่องแคลว่ ประสานสัมพันธก์ ัน
ด้านอารมณ์ จิตใจ ประกอบด้วย การประเมินความสามารถในการแสดงออกทางอารมณ์อย่าง
เหมาะสมกับวัยและสถานการณ์ ความรู้สึกที่ดีต่อตนเองและผู้อ่ืน มีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจผู้อ่ืน ความสนใจ/
ความสามารถ/และมีความสุขในการทางานศิลปะ ดนตรี และการเคล่ือนไหว ความรับผิดชอบในการทางาน ความ
ซื่อสัตย์สุจริตและรู้สึกถูกผิด ความเมตตากรุณา มีน้าใจและช่วยเหลือแบ่งปัน ตลอดจนการประหยัดอดออม และ
พอเพียง
ด้านสังคม ประกอบด้วย การประเมินความมีวินัยในตนเอง การช่วยเหลือตนเองในการปฏิบัติกิจวัตร
ประจาวนั การระวังภัยจากคนแปลกหน้า และสถานการณ์ท่ีเสี่ยงอนั ตราย การดูแลรกั ษาธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม
การมีสัมมาคารวะและมารยาทตามวัฒนธรรมไทย รักษาความเป็นไทย การยอมรับความเหมือนและความแตกต่าง
ระหว่างบุคคล การมีสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อ่ืน การปฏิบัติตนเบ้ืองต้นในการเป็นสมาชิกที่ดีของสังคมในระบอบ
ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเปน็ ประมุข
ด้านสติปัญญา ประกอบด้วย การประเมินความสามารถในการสนทนาโต้ตอบและเล่าเร่ืองให้ผู้อื่น
เข้าใจ ความสามารถในการอ่าน เขียนภาพและสัญลักษณ์ ความสามารถในการคิดแก้ปัญหา คิดเชิงเหตุผล คิดรวบ
ยอด การเล่น/การทางานศิลปะ/การแสดงท่าทาง/เคลื่อนไหวตามจินตนาการและความคิดสรา้ งสรรคข์ องตนเอง การ
มีเจตคตทิ ดี่ ีต่อการเรยี นรู้และความสามารถในการแสวงหาความรู้
ทักษะชีวติ ประกอบด้วย
การประเมินดา้ นความมีวินัยในตนเอง
- รจู้ กั ลาดับ กอ่ น หลงั เก็บอุปกรณ์ของเล่น ของใช้ ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลง
การชว่ ยเหลอื ตนเองและผอู้ ืน่
- รบั ผิดชอบในกจิ วตั รประจาวนั ของตนเอง ส่ือสารบอกความรูส้ ึกความตอ้ งการ
ของตนเอง ดูแลช่วยเหลอื ผู้อืน่
การมจี ิตสาธารณะ
- ดแู ลรกั ษาสิ่งของที่ใชร้ ่วมกนั ดูแลรกั ษาสงิ่ แวดล้อม เสยี สละ มีนา้ ใจ
เอ้ือเฟ้ือเผ่ือแผ่
๑๐๓
การมสี มาธมิ งุ่ มั่นในการทางาน
- การรว่ มกิจกรรมตั้งแต่ตน้ จนจบ การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมถกู ต้องตามขนั้ ตอน
การอดทนรอคอย
ทกั ษะสมอง EF ๙ ดา้ น ประกอบดว้ ย
EF ๑ ความจาเพ่อื นาไปใช้
- จดจาวิธกี ารในการทากจิ กรรมตามขน้ั ตอน
- เชอ่ื มโยงประสบการณเ์ ดิมนามาต่อยอด
EF ๒ การยั้งคดิ ไตรต่ รอง
- คิดไตรต่ รองก่อนทาหรือพูด
- มีความสามารถในการคดิ เชิงเหตผุ ล
EF ๓ ยืดหยุ่นความคดิ
- ยอมรับฟงั ความคิดของผอู้ น่ื
- แกป้ ญั หาไดด้ ้วยวิธกี ารใหม่
EF ๔ ใส่ใจจดจอ่
- มสี มาธิจดจอ่ ในกิจกรรมท่ีทา
- มคี วามกระตอื รือร้นต่อกิจกรรมท่ีทา
EF ๕ ควบคมุ อารมณ์
- ไม่ใช้อารมณ์แก้ปญั หา
- แสดงออกอย่างเหมาะสม
EF ๖ ประเมินตนเอง
- ทบทวนสง่ิ ที่ลงมือทา
- แกไ้ ขปรับปรุงผลจากการกระทาของตนเองให้ดขี น้ึ
EF ๗ ริเริ่มลงมือทา
- คิดริเริม่ ลงมือทาสง่ิ ใหม่
- ตัดสนิ ใจลงมอื ทาด้วยตนเอง
EF ๘ วางแผนจดั ระบบดาเนนิ การ
- จัดลาดบั ความสาคญั กอ่ น - หลัง ของกจิ กรรมท่ที า
- วางแผนการทางานต้งั แตต่ น้ จนจบตามเวลาทก่ี าหนด
EF ๙ มงุ่ เปา้ หมาย
- มคี วามเพียรพยายาม
- มุ่งมัน่ ทางานจนสาเรจ็
๑๐๔
เปา้ หมายการพัฒนาคุณภาพเดก็ โรงเรยี นเทศบาล ๑ (บา้ นเกา่ )
คณุ ลักษณะตามวัย ๓ ขวบ
- สนทนา สอื่ สาร บอกความต้องการของตนเองได้
- เขยี นตามรอยได้
- ท่องแมส่ ูตรคูณแม่ 2-3 ได้
- ไหวส้ วย
คุณลกั ษณะตามวัย ๔ ขวบ
- สนทนา สือ่ สาร บอกความต้องการของตนเองได้
- เขยี นชือ่ เลน่ ได้
- ทอ่ งแมส่ ตู รคูณแม่ 2 - 4 ได้
- เขียนเลขอารบิก 1 - 10 ได้
- ท่องพยัญชนะไทย ก-ฮ ได้
- ไหวส้ วย
คุณลกั ษณะตามวยั ๕ ขวบ
- สนทนา สื่อสาร บอกความต้องการของตนเองได้
- รู้จกั สระเดย่ี ว ไดแ้ ก่ สระอะ สระอา สระอิ สระอี สระอุ สระอู
- ท่องแม่สูตรคณู แม่ 2 - 6 ได้
- เขยี นเลขอารบิก และเลขไทย 1 - 10 ได้
- ท่องพยญั ชนะไทย ก-ฮ ได้
- เขยี นช่ือ-นามสกุลได้
- ไหว้สวย
- ร้องเพลงชาติได้
- สวดมนต์ได้
ทักษะทางภาษาองั กฤษ 3 ขวบ
- กลา่ วทกั ทายสวัสดี-ขอบคณุ
- คาศพั ท์ที่ใช้ในห้องเรยี น ยืนข้นึ นั่งลง
- ร้องเพลง ABC (Alphabet A-Z)
ทกั ษะทางภาษาอังกฤษ 4 ขวบ
- กล่าวทกั ทายสวัสดี-ขอบคุณ
- คาศพั ท์ทีใ่ ช้ในห้องเรียน ยนื ข้นึ นัง่ ลง
- Alphabet A-Z (Phonic การออกเสียง)
- บอกช่ือตวั เอง
- ตวั เลข Number 1-10
๑๐๕
ทกั ษะทางภาษาองั กฤษ 5 ขวบ
- กลา่ วทกั ทายสวัสดี-ขอบคุณ
- คาศพั ท์ท่ใี ช้ในห้องเรียน/ปฏิบัติตามคาส่ัง (ยืนขน้ึ นั่งลง เดนิ วิ่ง กระโดด ดื่มน้า
ห้องน้า)
- ออกเสียงPhonic Alphabet A-Z
- บอกช่อื ตวั เอง
- ท่อง Number 1-10
ทกั ษะทางภาษาจนี 3 ขวบ
- กล่าวทักทาย (你好สวสั ดี,再见ลาก่อน/พบกันใหม)่
- รู้ความหมายของคาศัพท์และปฏิบัติตามได้ (起立ยืนขึ้น,请坐นั่งลง,
喝牛奶 ดื่มนม,吃饭กินข้าว )
- รู้ความหมายคาศพั ท์ (爸爸พอ่ ,妈妈แม)่
- รอ้ งเพลง 1-10
ทักษะทางภาษาจีน 4 ขวบ
- กลา่ วทกั ทาย 你好สวสั ด,ี 再见ลากอ่ น/พบกันใหม่,谢谢ขอบคุณ
- เขา้ ใจความหมายของคาศัพท์และปฏบิ ตั ติ ามได้ (起立ยนื ขึ้น, 请坐น่ังลง,
喝牛奶 ดม่ื นม, 喝水ดมื่ น้า, 吃饭กนิ ขา้ ว
- รู้ความหมายคาศัพท์ 爸爸 พ่อ, 妈妈 แม,่ 我 ฉนั
- ร้องเพลง 1-10
- รจู้ กั ตวั เลข 1-5
ทักษะทางภาษาจีน 5 ขวบ
- กล่าวทกั ทาย (你好สวัสดี,再见ลาก่อน/พบกนั ใหม่,谢谢ขอบคณุ
- เข้าใจความหมายของคาศัพท์และปฏบิ ัตติ ามได้ 起立ยืนขน้ึ ,请坐นั่งลง
喝牛奶 ดม่ื นม,喝水ด่ืมนา้ ,吃饭กินขา้ ว,洗手间หอ้ งนา้
- รคู้ วามหมายคาศัพท์ 爸爸พอ่ ,妈妈แม่,我 ฉัน,你 เธอ
- ร้องเพลง 1-10 และรจู้ ักตัวเลข 1-5
- เขียนตัวเลขภาษาจนี ตามแบบ 1-10
- บอกชื่อตัวเอง
๑๐๖
๒.๒ วิธกี ารและเครือ่ งมอื ที่ใชใ้ นการประเมนิ พฒั นาการ
การประเมินพัฒนาการเด็กแต่ละครงั้ ควรใชว้ ิธีการประเมนิ อยา่ งหลากหลายเพ่ือให้ได้ข้อมูลที่
สมบรู ณท์ ี่สุด วธิ ีการทีเ่ หมาะสมและนิยมใช้ในการประเมนิ เดก็ ปฐมวัยมีด้วยกันหลายวธิ ี ดงั ตอ่ ไปน้ี
๑. การสังเกตและการบันทึก การสังเกตมอี ยู่ ๒ แบบคือ การสังเกตอย่างมีระบบ ได้แก่ การ
สังเกตอย่างมจุดมุ่งหมายที่แน่นอนตามแผนท่ีวางไว้ และอีกแบบหน่ึงคือ การสังเกตแบบไม่เป็น
ทางการ เป็นการสังเกตในขณะที่เด็กทากิจกรรมประจาวันและเกิดพฤติกรรมท่ีไม่คาดคิดว่าจะเกิดข้ึน
และผู้สอนจดบันทึกไว้การสังเกตเป็นวิธีการที่ผู้สอนใช้ในการศึกษาพัฒนาการของเด็ก เม่ือมีการ
สงั เกตก็ต้องมีการบันทึก ผู้สอนควรทราบว่าจะบันทึกอะไรการบันทึกพฤติกรรมมีความสาคัญอย่างยิ่ง
ที่ต้องทาอย่างสม่าเสมอ เน่ืองจากเด็กเจริญเติบโตและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงต้องนามาบันทึก
เปน็ หลักฐานไว้อยา่ งชดั เจน การสังเกตและการบันทึกพฒั นาการเดก็ สามารถใชแ้ บบง่ายๆคือ
๑.๑ แบบบนั ทึกพฤตกิ รรม ใช้บันทึกเหตุการณเ์ ฉพาะอยา่ งโดยบรรยายพฤติกรรมเด็ก ผู้
บนั ทึกต้องบนั ทึกวนั เดอื น ปเี กดิ ของเดก็ และวัน เดอื น ปี ทที่ าการบันทกึ แตล่ ะครั้ง
๑.๒ การบนั ทึกรายวนั เป็นการบนั ทกึ เหตุการณห์ รือประสบการณ์หรือประสบการณ์ที่
เกิดขนึ้ ในชัน้ เรียนทุกวัน ถา้ หากบนั ทกึ ในรูปแบบของการบรรยายก็มกั จะเนน้ เฉพาะเด็กรายที่ต้องการ
ศกึ ษา ขอ้ ดีของการบนั ทกึ รายวันคือ การชีใ้ ห้เหน็ ความสามารถเฉพาะอย่างของเด็ก จะช่วยกระตนุ้ ให้
ผูส้ อนได้พจิ ารณาปญั หาของเดก็ เปน็ รายบุคคลชว่ ยให้ผู้เชยี วชาญมีข้อมูลมากข้ึนสาหรบั วนิ จิ ฉยั เดก็ ว่า
สมควรจะได้รับคาปรึกษาเพ่ือลดปญั หาและส่งเสริมพฒั นาการของเด็กไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง นอกจากนนั้ ยัง
ช่วยช้ีใหเ้ หน็ ขอ้ เสยี ของการจัดกิจกรรมและประสบการณ์ได้เป็นอย่างดี
๑.๓ แบบสารวจรายการ ช่วยให้สามารถวิเคราะหเ์ ด็กแต่ละคนไดค้ ่อนข้างละเอยี ด
๒. การสนทนา สามารถใช้การสนทนาได้ทั้งเป็นกลุ่มหรือรายบุคคล เพื่อประเมิน
ความสามารถในการแสดงความคดิ เหน็ และพัฒนาการด้านภาษาของเด็กและบันทึกผลการสนทนาลง
ในแบบบันทึกพฤติกรรมหรอื บันทกึ รายวนั
๓. การสัมภาษณ์ ด้วยวิธีพูดคุยกับเด็กเป็นรายบุคคลและควรจัดในสภาวะแวดล้อม
เหมาะสมเพ่อื ไม่ให้เกิดความเครยี ดและวิตกกังวล ผสู้ อนควรใช้คาถามท่เี หมาะสมเปิดโอกาสให้เด็กได้
คิดและตอบอย่างอิสระจะทาให้ผู้สอนสามารถประเมินความสามารถทางสติปัญญาของเด็กแต่ละคน
และค้นพบศกั ยภาพในตวั เด็กได้โดยบันทึกข้อมลู ลงในแบบสัมภาษณ์
การเตรยี มการก่อนการสมั ภาษณ์ ผู้สอนควรปฏิบตั ิ ดงั น้ี
- กาหนดวัตถุประสงค์ของการสมั ภาษณ์
- กาหนดคาพดู /คาถามทีจ่ ะพูดกับเด็ก ควรเป็นคาถามท่เี ด็กสามารถตอบโตห้ ลากหลาย
ไมผ่ ิด/ถูก
การปฏบิ ัติขณะสัมภาษณ์
- ผสู้ อนควรสร้างความค้นุ เคยเป็นกนั เอง
- ผู้สอนควรสร้างสภาพแวดลอ้ มทอี่ บอนุ่ ไมเ่ คร่งเครยี ด
- ผู้สอนควรเปิดโอกาสเวลาให้เดก็ มีโอกาสคดิ และตอบคาถามอย่างอิสระ
- ระยะเวลาสมั ภาษณไ์ ม่ควรเกิน ๑๐-๒๐ นาที
๑๐๗
๔. การรวบรวมผลงานที่แสดงออกถึงความกา้ วหนา้ แตล่ ะดา้ นของเด็กเป็นรายบุคคล โดย
จัดเก็บรวบรวมไว้ในแฟ้มผลงาน (portfolio)ซึ่งเป็นวิธีรวบรวมและจัดระบบข้อมูลต่างๆท่ีเกี่ยวกับตัว
เด็กโดยใช้เคร่ืองมือต่างๆรวบรวมเอาไว้อย่างมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน แสดงการเปล่ียนแปลงของ
พัฒนาการแต่ละด้าน นอกจากน้ียังรวมเคร่ืองมืออ่ืนๆ เช่น แบบสอบถามผู้ปกครอง แบบสังเกต
พฤติกรรม แบบบันทึกสุขภาพอนามัย ฯลฯ เอาไว้ในแฟ้มผลงาน เพอ่ื ผู้สอนจะไดข้ ้อมูลเกย่ี วกับตวั เด็ก
อย่างชัดเจนและถูกต้อง การเก็บผลงานของเด็กจะไม่ถือว่าเป็นการประเมินผลถ้างานแต่ละชิ้นถูก
รวบรวมไว้โดยไม่ได้รับการประเมินจากผู้สอนและไม่มีการนาผลมาปรับปรุงพัฒนาเด็กหรือปรับปรุง
การสอนของผู้สอน ดังน้ันจึงเป็นแต่การสะสมผลงานเท่านั้น เช่นแฟ้มผลงานขีดเขียน งานศิลปะ จะ
เปน็ เพียงแคแ่ ฟม้ ผลงานท่ีไม่มกี ารประเมนิ แฟ้มผลงานนี้จะเป็นเคร่อื งมอื การประเมินต่อเน่ืองเมอ่ื งาน
ท่ีสะสมแต่ละชิ้นถูกใช้ในการบ่งบอกความก้าวหน้า ความต้องการของเด็ก และเป็นการเก็บสะสม
อย่างต่อเน่ืองทีส่ ร้างสรรค์โดยผ้สู อนและเดก็
ผู้สอนสามารถใช้แฟ้มผลงานอย่างมีคุณค่าส่ือสารกับผู้ปกครองเพราะการเก็บผลงานเด็ก
อยา่ งต่อเนื่องและสมา่ เสมอในแฟม้ ผลงานเป็นข้อมูลให้ผู้ปกครองสามารถเปรยี บเทยี บความก้าวหน้าท่ี
ลูกของตนมีเพิ่มข้ึน จากผลงานชิ้นแรกกับช้ินต่อๆมาข้อมูลในแฟ้มผลงานประกอบด้วย ตัวอย่าง
ผลงานการเขียดเขียน การอ่าน และข้อมูลบางประการของเด็กที่ผู้สอนเป็นผู้บันทึก เช่นจานวนเล่ม
ของหนังสือท่ีเด็กอ่าน ความถี่ของการเลือกอ่านที่มุมหนังสือในช่วงเวลาเลือกเสรี การเปล่ียนแปลง
อารมณ์ ทัศนคติ เป็นต้น ข้อมูลเหลา่ น้ีจะสะท้อนภาพของความงอกงามในเด็กแต่ละคนได้ชัดเจนกว่า
การประเมินโดยการให้เกรด ผู้สอนจะต้องชี้แจงให้ผู้ปกครองทราบถึงที่มาของการเลือกชิ้นงานแต่ละ
ชิ้นงานท่ีสะสมในแฟ้มผลงาน เช่น เป็นช้นิ งานที่ดีท่ีสุดในช่วงระยะเวลาท่ีเลือกชิ้นงานน้ัน เป็นชิ้นงาน
ที่แสดงความต่อเนื่องของงานโครงการ ฯลฯ ผู้สอนควรเชิญผู้ปกครองมามีส่วนร่วมในการคัดสรร
ชิน้ งานที่บรรจุลงในแฟม้ ผลงานของเด็ก
๕. การประเมินการเจรญิ เติบโตของเด็ก ตวั ชี้ของการเจริญเตบิ โตในเด็กที่ใชท้ ่วั ๆไป ได้แก่
น้าหนัก สว่ นสงู เส้นรอบศีรษะ ฟัน และการเจริญเตบิ โตของกระดูก แนวทางประเมนิ การเจริญเติบโต
มีดังนี้
๕.๑ การประเมินการเจริญเติบโต โดยการช่ังน้าหนักและวัดส่วนสูงเด็กแล้วนาไป
เปรียบเทียบกับเกณฑ์ปกติในกราฟแสดงน้าหนักตามเกณฑ์อายุกระทรวงสาธารณสุขซ่ึงใช้สาหรับ
ติดตามการเจริญเติบโตโดยรวม วิธีการใชก้ ราฟมขี ัน้ ตอน ดงั นี้
เมื่อช่ังน้าหนักเด็กแล้ว นาน้าหนักมาจุดเครื่องหมายกากบาทลงบนกราฟ และอ่านการ
เจริญเติบโตของเด็ก โดยดูเครื่องหมายกากบาทว่าอยู่ในแถบสีใด อ่านข้อความบนแถบสีนั้น ซ่ึงแบ่ง
ภาวะโภชนาการเป็น ๓ กลุ่มคือ น้าหนักที่อยู่ในเกณฑ์ปกติ น้าหนักมากเกนเกณฑ์ น้าหนักน้อยกว่า
เกณฑ์ ข้อควรระวังสาหรับผู้ปกครองและผู้สอนคือ ควรดูแลน้าหนักเด็กอย่างให้แบ่งเบนออกจาก
เส้นประเมินมิเช่นน้ันเด็กมีโอกาสน้าหนักมากเกินเกณฑ์หรือน้าหนักน้อยกว่าเกณฑ์ได้ข้อควรคานึงใน
การประเมินการเจริญเตบิ โตของเดก็
๑๐๘
-เด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกันในด้านการเจริญเติบโต บางคนรูปร่างอ้วน บางคน
ช่วงครึ่งหลังของขวบปีแรก น้าหนักเด็กจะขึ้นช้า เน่ืองจากห่วงเล่นมากขึ้นและความอยากอาหาร
ลดลงร่างใหญ่ บางคนร่างเล็ก
-ภาวะโภชนาการเปน็ ตัวสาคญั ทเ่ี ก่ียวข้องกบั ขนาดของรูปรา่ ง แตไ่ ม่ใชส่ าเหตุเดียว
-กรรมพันธ์ุ เด็กอาจมรี ูปร่างเหมอื นพ่อแม่คนใดคนหน่งึ ถ้าพอ่ หรือแมเ่ ตี้ย ลูกอาจ
เต้ียและพวกนีอ้ าจมนี า้ หนักต่ากว่าเกณฑเ์ ฉลยี่ ไดแ้ ละมกั จะเปน็ เด็กทที่ านอาหารไดน้ ้อย
๕.๒ การตรวจสุขภาพอนามัย เป็นตัวช้วี ัดคุณภาพของเด็ก โดยพิจารณาความสะอาดส่ิงปกติ
ขอร่างกายที่จะส่งผลต่อการดาเนินชีวิตและการเจริญเติบโตของเด็ก ซึ่งจะประเมินสุขภาพอนามัย ๙
รายการคือ ผมและศีรษะ หูและใบหู มือและเล็บมือ เท้าและเล็บเท้า ปาก ล้ินและฟัน จมูก ตา
ผิวหนังและใบหนา้ และเสือ้ ผา้
๒.๓ เกณฑก์ ารประเมนิ พัฒนาการ
การสร้างเกณฑ์หรือพัฒนาเกณฑ์หรือกาหนดเกณฑ์การประเมินพัฒนาการของเด็กปฐมวัย
ผ้สู อนควรใหค้ วามสนใจในสว่ นทเี่ กีย่ วข้อ ดังนี้
๑. การวางแผนการสังเกตพฤติกรรมของเด็กอย่างเป็นระบบ เช่น จะสังเกตเด็กคนใดบ้างใน
แต่ละวัน กาหนดพฤติกรรมที่สังเกตให้ชัดเจน จัดทาตารางกาหนดการสังเกตเด็กเป็นรายบุคคล ราย
กลุ่ม ผูส้ อนตอ้ งเลอื กสรรพฤติกรรมท่ตี รงกับระดบั พฒั นาการของเด็กคนนน้ั จริงๆ
๒. ในกรณีท่ีห้องเรียนมีนักเรียนจานวนมาก ผู้สอนอาจเลือกสังเกตเฉพาะเด็กที่ทาได้ดีแล้ว
และเดก็ ท่ยี ังทาไมไ่ ด้ สว่ นเด็กปานกลางให้ถือวา่ ทาได้ไปตามกิจกรรม
๓. ผสู้ อนต้องสงั เกตจากพฤตกิ รรม คาพูด การปฏิบัติตามขั้นตอนในระหว่างทางาน/กิจกรรม
และคุณภาพของผลงาน/ช้ินงาน ร่องรอยที่นามาใช้พิจารณาตัดสินผลของการทางานหรือการปฏิบัติ
ตัวอย่างเช่น
๑) เวลาที่ใช้ในการทากิจกรรม/ทางาน ถ้าเด็กไม่ชอบ ไม่ชานาญจะใช้เวลามาก
มีท่าทางอดิ ออด ไม่กลา้ ไมเ่ ต็มใจทางาน
๒) ความต่อเน่ือง ถ้าเด็กยังมีการหยุดชะงัก ลังเล ทางานไม่ต่อเน่ือง แสดงว่าเด็กยัง
ไม่ชานาญหรอื ยังไมพ่ ร้อม
๓) ความสัมพันธ์ ถ้าการทางาน/ปฏิบัตินั้นๆมีความสัมพันธ์ต่อเนื่อง ไม่ราบรื่น
ทา่ ทางมอื และเท้าไมส่ มั พนั ธ์กนั แสดงวา่ เด็กยังไม่ชานาญหรอื ยงั ไม่พร้อม ท่าทีแ่ สดงออกจึงไมส่ งา่ งาม
๔) ความภูมิใจ ถ้าเด็กยังไม่ชื่นชม ก็จะทางานเพียงให้แล้วเสร็จอย่างรวดเร็ว ไม่มี
ความภมู ิใจในการทางาน ผลงานจึงไม่ประณตี
๑๐๙
๒.๓.๑ ระดบั คุณภาพผลการประเมนิ พัฒนาการเด็ก
การให้ระดับคุณภาพผลการประเมินพัฒนาการของเด็กท้ังในระดับช้ันเรียนและระดับ
สถานศึกษาควรกาหนดในทิศทางหรือรูปแบบเดียวกัน สถานศึกษาสามารถให้ระดับคุณภาพผลการ
ประเมินพัฒนาการของเด็กท่ีสะท้อนมาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ตัวบ่งช้ี สภาพที่พึงประสงค์
หรอื พฤตกิ รรมทีจ่ ะประเมินเป็นระบบตัวเลข เช่น ๑ หรอื ๒ หรือ ๓ หรือเป็นระบบทใี่ ช้คาสาคัญ เช่น
ดี พอดี หรอื ควรสง่ เสริมตามทสี่ ถานศกึ ษากาหนด ตวั อย่างเชน่
ระบบตวั เลข ระบบท่ใี ช้คาสาคญั
๓ ดี
๒
๑ พอใช้
ควรสง่ เสริม
สถานศกึ ษาอาจกาหนดระดับคณุ ภาพของการแสดงออกในพฤติกรรม เปน็ ๓ ระดบั ดังนี้
ระดบั คณุ ภาพ ระบบทีใ่ ชค้ าสาคัญ
๑ หรือ ควรส่งเสริม เด็กมีความลังเล ไม่แน่ใจ ไม่ยอมปฏิบัติกิจกรรม ทั้งนี้ เน่ืองจากเด็กยังไม่พร้อม ยัง
ม่ันใจ และกลัวไม่ปลอดภัย ผู้สอนต้องยั่วยุหรือแสดงให้เห็นเป็นตัวอย่างหรือต้อง
คอยอยใู่ กลๆ้ ค่อยๆให้เด็กทาทีละขนั้ ตอนพร้อมตอ้ งใหก้ าลังใจ
๒ หรือ พอใช้ เด็กแสดงได้เอง แต่ยังไม่คล่อง เด็กกล้าทามากข้ึนผู้สอนกระตุ้นน้อยลง ผู้สอนต้อง
คอยแกไ้ ขในบางครั้งหรือคอยใหก้ าลังใจใหเ้ ด็กฝกึ ปฏิบัตมิ ากข้ึน
๓ หรือ ดี เด็กแสดงได้อย่างชานาญ คล่องแคล่ว และภูมิใจ เด็กจะแสดงได้เองโดย
ไม่ตอ้ งกระตนุ้ มคี วามสัมพันธท์ ี่ดี
ตัวอย่างคาอธบิ ายคุณภาพ
พฒั นาการด้านร่างกาย : สุขภาพอนามัย พฒั นาการดา้ นร่างกาย : กระโดดเทา้ เดียว
ระดบั คณุ ภาพ คาอธิบายคุณภาพ ระดับคุณภาพ คาอธิบายคณุ ภาพ
๑ หรอื ควรส่งเสริม สง่ เสรมิ ความสะอาด ๑หรือควรส่งเสริม ทาได้แตไ่ ม่ถกู ต้อง
๒ หรือ พอใช้ สะอาดพอใช้ ๒ หรอื พอใช้ ทาไดถ้ ูกต้องแต่ไมค่ ล่องแคลว่
๓ หรือ ดี สะอาด ๓ หรือ ดี ทาไดถ้ ูกตอ้ งและคลอ่ งแคล่ว
พัฒนาการดา้ นอารมณ์ : ประหยัด
ระดบั คุณภาพ คาอธบิ ายคุณภาพ
๑ หรอื ควรส่งเสรมิ ใช้สง่ิ ของเครอ่ื งใชเ้ กินความจาเป็น
๒ หรือ พอใช้ ใชส้ ่ิงของเคร่ืองใชอ้ ยา่ งประหยัดเป็นบางครั้ง
๓ หรอื ดี ใชส้ งิ่ ของเครอื่ งใช้อยา่ งประหยดั ตามความจาเปน็ ทกุ คร้ัง
๑๑๐
พัฒนาการด้านสังคม : ปฏิบตั ิตามข้อตกลง
ระดับคณุ ภาพ คาอธิบายคุณภาพ
๑ หรือ ควรสง่ เสรมิ ไม่ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง
๒ หรือ พอใช้ ปฏบิ ตั ติ ามข้อตกลง โดยมผี ูช้ ี้นาหรอื กระตุ้น
๓ หรอื ดี ปฏบิ ัตติ ามข้อตกลงได้ด้วยตนเอง
พฒั นาการดา้ นสติปญั ญา : เขียนช่ือตนเองตามแบบ
ระดับคณุ ภาพ คาอธบิ ายคณุ ภาพ
๑ หรือ ควรส่งเสริม เขียนชอ่ื ตนเองไม่ได้ หรือเขียนเปน็ สัญลกั ษณ์ทไ่ี ม่เปน็ ตัวอักษร
๒ หรือ พอใช้ เขยี นชื่อตนเองได้ มีอักษรบางตัวกลบั หวั กลบั ดา้ นหรือสลบั ท่ี
๓ หรือ ดี เขยี นช่อื เองได้ ตวั อักษรไม่กลับหัว ไม่กลับดา้ นไมส่ ลับท่ี
๒.๓.๒ การสรปุ ผลการประเมนิ พัฒนาการเด็ก
หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐ กาหนดเวลาเรียนสาหรับเด็กปฐมวัยต่อปี
การศึกษาไม่น้อยกว่า ๒๐๐ วัน สถานศึกษาจึงควรบริหารจัดการเวลาที่ได้รับนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ต่อการพัฒนาเด็กอย่างรอบด้านและสมดุล ผู้สอนควรมีเวลาในการพัฒนาเด็กและเติมเต็มศักยภาพ
ของแด็ก เพอื่ ให้การจดั ประสบการณ์การเรียนรู้มปี ระสิทธิภาพ ผ้สู อนต้องตรวจสอบพฤติกรรมท่ีแสดง
พัฒนาการของเด็กต่อเนื่องมีการประเมินซ้าพฤติกรรมน้ันๆอย่างน้อย ๑ ครั้งต่อภาคเรียน เพื่อยืนยัน
ความเชื่อมั่นของผลการประเมินพฤติกรรมน้ันๆ และนาผลไปเป็นข้อมูลในการสรุปการประเมินสภาพ
ท่ีพึงประสงค์ของเด็กในแต่ละสภาพท่ีพึงประสงค์ นาไปสรุปการประเมินตัวบ่งช้ีและมาตรฐาน
คณุ ลกั ษณะทีพ่ ึงประสงคต์ ามลาดับ
อน่ึง การสรุประดับคุณภาพของการประเมินพัฒนาการเด็ก วิธีการทางสถิติท่ีเหมาะสมและ
สะดวกไมย่ ุ่งยากสาหรับผสู้ อน คอื การใช้ฐานนยิ ม (Mode) ในบางคร้งั พฤติกรรม หรือสภาพที่
พึงประสงค์หรือตัวบ่งช้ีนิยมมากว่า ๑ ฐานนิยม ให้อยู่ในดุลยพินิจของสถานศึกษา กล่าวคือ เมื่อมี
ระดับคุณภาพซ้ามากกว่า ๑ ระดับ สถานศึกษาอาจตัดสินสรุปผลการประเมินพัฒนาการบนพื้นฐาน
หลักพัฒนาการและการเตรียมความพร้อม หากเป็นภาคเรียนท่ี ๑ สถานศึกษาควรเลือกตัดสินใจใช้
ฐานนิยมท่ีมีระดับคุณภาพต่ากว่าเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการพัฒนาเด็กให้พร้อมมากขึ้น หากเป็นภาค
เรียนที่ ๒ สถานศึกษาควรเลือกตัดสินใจใช้ฐานนิยมที่มีระดับคุณภาพสูงกว่าเพื่อตัดสินและการส่งต่อ
เดก็ ในระดับชั้นทีส่ งู ขน้ึ
๒.๓.๓ การเลอ่ื นชนั้ อนุบาลและเกณฑ์การจบการศึกษาระดับปฐมวยั
เม่ือสิ้นปีการศึกษา เด็กจะได้รับการเลื่อนชั้นโดยเด็กต้องได้รับการประเมินมาตรฐาน
คุณลักษณะที่พึงประสงค์ท้ัง ๑๒ ข้อ ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย เพ่ือเป็นข้อมูลในการส่งต่อยอด
การพัฒนาให้กับเด็กในระดับสูงขึ้นต่อไป และเน่ืองจากการศึกษาระดับอนุบาลเป็นการจัดการศึกษา
ขนั้ พื้นฐานที่ไมน่ ับเป็นการศกึ ษาภาคบงั คับ จึงไม่มีการกาหนดเกณฑ์การจบช้ันอนบุ าล การเทียบโอน
การเรียน และเกณฑ์การเรียนซ้าช้ัน และหากเด็กมีแนวโน้มว่าจะมีปัญหาต่อการเรียนรู้ในระดับท่ี
๑๑๑
สงู ขึ้น สถานศึกษาอาจต้ังคณะกรรมการเพ่ือพิจารณาปัญหา และประสานกับหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องใน
การให้ความช่วยเหลอื เชน่ เจา้ หน้าท่ีสาธารณสขุ สง่ เสรมิ ตาบล นกั จิตวทิ ยาฯลฯเข้าร่วมดาเนินงานแก้ปญั หาได้
อยา่ งไรกต็ าม ทักษะที่นาไปสู่ความพร้อมในการเรียนรู้ทสี่ ามารถใชเ้ ป็นรอยเชื่อมต่อระหวา่ ง
ชน้ั อนุบาลกบั ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๑ ท่คี วรพจิ ารณามที ักษะดงั น้ี
๑. ทักษะการช่วยเหลือตนเอง ได้แก่ ใช้ห้องน้า ห้องส้วมได้ด้วยตนเอง แต่งกายได้เอง เก็บ
ของเข้าทีเ่ มือ่ เล่นเสรจ็ และชว่ ยทาความสะอาด รู้จกั รอ้ งขอใหช้ ว่ ยเม่ือจาเปน็
๒. ทักษะการใช้กล้ามเนื้อใหญ่ ได้แก่ ว่ิงไดอ้ ยา่ งราบรื่น วง่ิ กา้ วกระโดดได้ กระดว้ ยสองขาพ้น
จากพื้น ถือจบั ขว้าง กระดอนลกู บอลได้
๓. ทักษะการใช้กล้ามเน้ือเล็ก ได้แก่ ใช้มือหยิบจับอุปกรณ์วาดภาพและเขียน วาดภาพคนมี
แขน ขา และส่วนต่างๆของร่างกาย ตัดตามรอยเสน้ และรูปตา่ งๆ เขียนตามแบบอย่างได้
๔. ทักษะภาษาการรู้หนังสือได้แก่ พูดให้ผู้อื่นเข้าใจได้ ฟังและปฏิบัติตามคาช้ีแจงง่ายๆ ฟัง
เร่ืองราวและคาคล้องจองต่างๆอย่างสนใจ เข้าร่วมฟังสนทนาอภิปรายในเรื่องต่างๆ รู้จักผลัดกันพูด
โต้ตอบ เล่าเร่ืองและทบทวนเรื่องราวหรือประสบการณ์ต่างๆ ตามลาดับเหตุการณ์เล่าเร่ืองจาก
หนังสือภาพอย่างเป็นเหตุเป็นผล อ่านหรือจดจาคาบางคาที่มีความหมายต่อตนเอง เขียนชื่อตนเองได้
เขียนคาท่ีมคี วามหมายตอ่ ตนเอง
๕. ทักษะการคิด ได้แก่ แลกเปล่ียนความคิดและให้เหตุผลได้ จดจาภาพและวัสดุท่ีเหมือน
และต่างกันได้ ใช้คาใหม่ๆในการแสดงความคิด ความรู้สึก ถามและตอบคาถามเก่ียวกับเร่ืองท่ีฟัง
เปรยี บเทียบจานวนของวัตถุ ๒ กลมุ่ โดยใช้คา “มากกว่า” “น้อยกวา่ ” “เทา่ กัน” อธิบายเหตุการณ์/
เวลา ตามลาดบั อยา่ งถกู ต้อง รู้จักเช่อื มโยงเวลากับกิจวัตรประจาวนั
๖. ทักษะทางสังคมและอารมณ์ ได้แก่ ปรับตัวตามสภาพการณ์ ใช้คาพูดเพ่ือแก้ไขข้อขัดแย้ง
นั่งได้นาน ๕-๑๐ นาที เพ่ือฟังเร่ืองราวหรือทากิจกรรม ทางานจนสาเร็จ ร่วมมือกับคนอ่ืนและรู้จัก
ผลดั กันเลน่ ควบคุมอารมณ์ตนเองได้เมื่อกังวลหรอื ตื่นเตน้ หยดุ เล่นและทาในสง่ิ ทผี่ ใู้ หญต่ ้องการให้ทา
ได้ ภูมิใจในความสาเร็จของตนเอง
๓. การรายงานผลการประเมินพัฒนาการ
การรายงานผลการประเมินพัฒนาการเป็นการสื่อสารให้พ่อแม่ ผู้ปกครองได้รับทราบ
ความก้าวหน้าในการเรียนรู้ของเด็กซ่ึงสถานศึกษาต้องสรุปผลการประเมินพัฒนาการ และจัดทา
เอกสารรายงานใหผ้ ูป้ กครองทราบเป็นระยะๆ หรืออย่างนอ้ ยภาคเรยี นละ ๑ คร้งั
การรายงานผลการประเมินพัฒนาการสามารถรายงานเป็นระดับคุณภาพที่แตกต่างไปตาม
พฤติกรรมทแ่ี สดงออกถึงพฒั นาการแต่ละด้าน ท่ีสะท้อนมาตรฐานคณุ ลักษณะที่พงึ ประสงค์
ทงั้ ๑๒ ข้อ ตามหลักสตู รการศึกษาปฐมวยั
๓.๑ จดุ มุ่งหมายการรายงานผลการประเมนิ พัฒนาการ
๑) เพื่อให้ผู้เก่ียวข้อง พ่อ แม่ และผู้ปกครองใช้เป็นข้อมูลในการปรับปรุงแก้ไข
สง่ เสริม และพฒั นาการเรียนรู้ของเดก็
๒) เพ่อื ให้ผู้สอนใช้เป็นข้อมลู ในการวางแผนการจัดประสบการณ์การเรยี นรู้
๑๑๒
๓) เพื่อเป็นข้อมูลสาหรับสถานศึกษา เขตพื้นท่ีการศึกษา และหน่วยงานต้นสังกัดใช้
ประกอบในการกาหนดนโยบายวางแผนในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา
๓.๒ ข้อมลู ในการรายงานผลการประเมินพฒั นาการ
๓.๒.๑ ข้อมูลระดับช้ันเรียน ประกอบด้วย เวลาเรียนแบบบันทึกการประเมินพัฒนาการ
ตามหน่วยการจัดประสบการณ์ สมุดบันทึกผลการประเมินพัฒนาการประจาชั้น และสมุดรายงานประจาตัวนักเรียน
และสารนทิ ัศนท์ ีส่ ะท้อนการเรยี นรูข้ องเดก็ เป็นข้อมูลสาหรับรายงานใหผ้ ู้มสี ว่ นเก่ยี วข้องได้แก่ ผบู้ ริหารสถานศกึ ษา
ผู้สอน และผู้ปกครอง ได้รับทราบความก้าวหน้า ความสาเร็จในการเรียนรู้ของเด็กเพื่อนาไปในการวางแผนกาหนด
เป้าหมายและวิธีการในการพัฒนาเดก็
๓.๒.๒ ข้อมูลระดับสถานศึกษา ประกอบด้วย ผลการประเมินมาตรฐาน
คุณลักษณะที่พึงประสงค์ทั้ง ๑๒ ข้อตามหลักสูตร เพ่ือใช้เป็นข้อมูลและสารสนเทศในการพัฒนาการ
จัดประสบการณ์การเรียนการสอนและคุณภาพของเด็ก ให้เป็นไปตามมาตรฐานคุณลักษณะที่พึง
ประสงค์และแจ้งให้ผู้ปกครอง และผู้เก่ียวข้องได้รับทราบข้อมูล โดยผู้มีหน้าที่รับผิดชอบแต่ละฝ่าย
นาไปปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาเด็กให้เกิดพัฒนาการอย่างถูกต้อง เหมาะสม รวมทั้งนาไปจัดทา
เอกสารหลกั ฐานแสดงพฒั นาการของผเู้ รียน
๓.๒.๓ ขอ้ มูลระดับเขตพ้นื ท่กี ารศกึ ษา ได้แก่ ผลการประเมินมาตรฐานคุณลักษณะ
ที่พึงประสงค์ทั้ง ๑๒ ข้อ ตามหลักสูตรเป็นรายสถานศึกษา เพื่อเป็นข้อมูลที่ศึกษานิเทศก์/ผู้เกี่ยวข้อง
ใช้วางแผนและดาเนินการพัฒนาคุณภาพการศึกษาปฐมวัยของสถานศึกษาในเขตพ้ืนท่ีการศึกษา
เพอ่ื ใหเ้ กิดการยกระดับคณุ ภาพเด็กและมาตรฐานการศึกษา
๓.๓ ลกั ษณะข้อมลู สาหรบั การรายงานผลการประเมนิ พัฒนาการ
การรายงานผลการประเมินพัฒนาการ สถานศึกษาสามารถเลือกลักษณะข้อมูลสาหรับการ
รายงานได้หลายรูปแบบให้เหมาะสมกับวิธีการรายงานและสอดคล้องกับการให้ระดับผลการประเมิน
พฒั นาการโดยคานึงถึงประสทิ ธิภาพของการรายงานและการนาข้อมลู ไปใชป้ ระโยชนข์ องผู้รายงานแต่
ละฝา่ ยลกั ษณะข้อมลู มรี ูปแบบ ดงั น้ี
๓.๓.๑ รายงานเป็นตัวเลข หรือคาท่ีเป็นตัวแทนระดับคุณภาพพัฒนาการของเด็กที่
เกิดจากการประมวลผล สรปุ ตดั สนิ ข้อมลู ผลการประเมนิ พฒั นาการของเดก็ ได้แก่
- ระดับผลการประเมินพัฒนาการมี ๓ ระดับ คือ ๓ ๒ ๑
- ผลการประเมินคุณภาพ “ดี” “พอใช้” และ “ควรส่งเสรมิ ”
๓.๓.๒ รายงานโดยใช้สถิติ เป็นรายงานจากข้อมูลที่เป็นตัวเลข หรือข้อความให้เป็น
ภาพแผนภูมิหรือเส้นพัฒนาการ ซ่ึงจะแสดงให้เห็นพัฒนาการความก้าวหน้าของเด็กว่าดีขึ้น หรือควร
ได้รับการพัฒนาอย่างไร เมอื่ เวลาเปลี่ยนแปลงไป
๓.๓.๓ รายงานเป็นข้อความ เป็นการบรรยายพฤติกรรมหรือคุณภาพที่ผู้สอนสังเกต
พบ เพ่ือรายงานให้ทราบว่าผู้เกี่ยวข้อง พ่อ แม่ และผู้ปกครองทราบว่าเด็กมีความสามารถ มี
พฤตกิ รรมตามคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ตามหลกั สตู รอยา่ งไร เชน่
- เดก็ รบั ลกู บอลทีก่ ระดอนจากพืน้ ดว้ ยมอื ทง้ั ๒ข้างได้โดยไม่ใชล้ าตวั ชว่ ยและลูกบอลไม่ตกพืน้
- เดก็ แสดงสหี นา้ ท่าทางสนใจ และมีความสุขขณะทางานทุกชว่ งกจิ กรรม
๑๑๓
- เด็กเล่นและทางานคนเดยี วเป็นส่วนใหญ่
- เดก็ จับหนังสอื ไม่กลบั หวั เปิด และทาท่าทางอา่ นหนังสือและเลา่ เร่อื งได้
๓.๔ เป้าหมายของการรายงาน
การดาเนินการจัดการศึกษาปฐมวัย ประกอบด้วย บุคลากรหลายฝ่ายร่วมมือ
ประสานงานกันพัฒนาเด็กทางตรงและทางอ้อม ให้มีพัฒนาการ ทักษะ ความสามารถ คุณธรรม
จริยธรรม ค่านิยมและคุณลักษณะที่พึงประสงค์โดยผู้มีส่วนร่วมเกี่ยวข้องควรได้รับการายงานผลการ
ประเมินพฒั นาการของเด็กเพื่อใชเ้ ป็นข้อมลู ในการดาเนนิ งาน ดังนี้
กลุ่มเปา้ หมาย การใช้ข้อมลู
ผูส้ อน -วางแผนและดาเนินการปรบั ปรุงแกไ้ ขและพฒั นาเด็ก
-ปรับปรุงแก้ไขและพฒั นาการจดั การเรียนรู้
ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา -สง่ เสรมิ พัฒนากระบวนการจัดการเรียนร้รู ะดบั ปฐมวยั ของสถานศึกษา
-รับทราบผลการประเมินพฒั นาการของเด็ก
พ่อ แม่ และผู้ปกครอง -ปรบั ปรงุ แกไ้ ขและพัฒนาการเรียนรขู้ องเด็ก รวมทง้ั การดูแลสุขภาพอนามัยรา่ งกาย
อารมณ์ จิตใจ สังคม และพฤติกรรมต่างๆของเด็ก
คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน -พฒั นาแนวทางการจัดการศึกษาปฐมวัยสถานศึกษา
สานักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษา/ -ยกระดบั และพฒั นาคุณภาพการศึกษาปฐมวยั ของสถานศึกษาในเขตพนื้ ทีก่ ารศึกษา
หน่วยงานตน้ สังกัด นิเทศ กากับ ตดิ ตาม ประเมนิ ผลและให้ความช่วยเหลอื การพฒั นาคณุ ภาพการศึกษา
ปฐมวัยของสถานศกึ ษาในสงั กดั
๓.๕ วิธกี ารรายงานผลการประเมนิ พฒั นาการ
การรายงานผลการประเมินพัฒนาการใหผ้ เู้ กี่ยวข้องรบั ทราบ สามารถดาเนินการ ได้ดงั น้ี
๓.๕.๑ การรายงานผลการประเมินพัฒนาการในดอกสารหลักฐานการศกึ ษา
ข้อมูลจากแบบรายงาน สามารถใช้อ้างองิ ตรวจสอบ และรับรองผลพฒั นาการของเด็ก เชน่
- แบบบันทกึ ผลการประเมนิ พัฒนาการประจาชน้ั
- แฟม้ สะสมงานของเด็กรายบคุ คล
- สมุดรายงานประจาตัวนกั เรียน
- สมุดบันทกึ สขุ ภาพเดก็
ฯลฯ
๓.๕.๒ การรายงานคณุ ภาพการศึกษาปฐมวัยใหผ้ เู้ ก่ยี วข้องทราบ
การรายงานคุณภาพการศึกษาปฐมวยั ให้ผูเ้ ก่ียวขอ้ งทราบสามารถรายงานได้หลายวธิ ีเช่น
- รายงานคุณภาพการศึกษาปฐมวยั ประจาปี
- วารสาร/จุลสารของสถานศึกษา
- จดหมายส่วนตัว
- การใหค้ าปรึกษา
- การใหพ้ บครูท่ปี รกึ ษาหรอื การประชมุ เครือขา่ ยผู้ปกครอง
- การใหข้ ้อมลู ทางอนิ เตอร์เน็ตผ่านเว็ปไซต์ของสถานศึกษา
๑๑๔
การบรหิ ารจดั การหลักสตู ร
การนาหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยสู่การปฏิบัติให้เกิดประสิทธิภาพตามจุดหมายของ หลักสูตร
ผู้เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการหลักสูตรในระบบสถานศึกษา ได้แก่ ผู้บริหาร ผู้สอน พ่อแม่ หรือ
ผู้ปกครอง และชุมชนมบี ทบาทสาคญั ยง่ิ ต่อการพฒั นาคุณภาพของเด็ก
๑. บทบาทผู้บรหิ ารสถานศึกษาปฐมวัย
การจดั การศกึ ษาแกเ่ ดก็ ปฐมวัยในระบบสถานศกึ ษาให้เกิดประสิทธผิ ลสูงสุด
ผ้บู รหิ ารสถานศกึ ษาควรมบี ทบาท ดงั นี้
๑.๑ ศกึ ษาทาความเข้าใจหลกั สูตรการศกึ ษาปฐมวัยและมีวสิ ยั ทศั น์ด้านการจัดการศกึ ษาปฐมวัย
๑.๒ คดั เลือกบุคลากรทที่ างานกบั เดก็ เช่น ผสู้ อน พเ่ี ลยี้ ง อยา่ งเหมาะสม โดย
คานึงถงึ คุณสมบัติหลกั ของบุคลากร ดังน้ี
๑.๒.๑ มีวฒุ ิทางการศกึ ษาด้านการอนุบาลศกึ ษา การศึกษาปฐมวัย หรอื ผา่ น
การอบรมเกี่ยวกับการจัดการศกึ ษาปฐมวยั
๑.๒.๒ มีความรักเด็ก จิตใจดี มีอารมณ์ขนั และใจเย็น ให้ความเปน็ กันเองกับเด็ก
อย่างเสมอภาค
๑.๒.๓ มบี คุ ลิกของความเป็นผู้สอน เขา้ ใจและยอมรับธรรมชาติของเดก็ ตามวยั
๑.๒.๔ พดู จาสภุ าพเรียบรอ้ ย ชดั เจนเป็นแบบอยา่ งได้
๑.๒.๕ มคี วามเป็นระเบียบ สะอาด และร้จู ักประหยดั
๑.๒.๖ มคี วามอดทนขยัน ซอื่ สตั ยใ์ นการปฏบิ ตั งิ านในหนา้ ท่ีและการปฏบิ ัติต่อเด็ก
๑.๒.๗ มอี ารมณ์รว่ มกบั เด็ก ร้จู ักรบั ฟัง พจิ ารณาเรื่องราวปัญหาตา่ งๆ ของเด็ก
และตดั สนิ ปญั หาต่างๆอย่างมีเหตุผลด้วยความเป็นธรรม
๑.๒.๘ มีสขุ ภาพกายและสุขภาพจิตสมบูรณ์
๑.๓ ส่งเสริมการจัดบริการทางการศึกษาใหเ้ ดก็ ไดเ้ ขา้ เรยี นอยา่ งทัว่ ถึง และเสมอ
ภาค และปฏบิ ัตกิ ารรบั เด็กตามเกณฑท์ ี่กาหนด
๑.๔ ส่งเสริมให้ผสู้ อนและผูท้ ี่ปฏบิ ัตงิ านกับเดก็ พัฒนาตนเองมีความรกู้ ้าวหนา้ อยู่เสมอ
๑.๕ เปน็ ผู้นาในการจัดทาหลักสูตรสถานศึกษาโดยรว่ มใหค้ วามเหน็ ชอบ กาหนด
วสิ ยั ทัศน์ และคณุ ลักษณะท่ีพงึ ประสงค์ของเด็กทุกช่วงอายุ
๑.๖ สร้างความรว่ มมือและประสานกบั บุคลากรทุกฝา่ ยในการจัดทาหลักสูตรสถานศึกษา
๑.๗ จัดใหม้ ขี อ้ มูลสารสนเทศเกย่ี วกบั ตัวเดก็ งานวชิ าการหลักสูตร อย่างเป็นระบบ
และมกี ารประชาสมั พนั ธห์ ลักสตู รสถานศึกษา
๑.๘ สนับสนุนการจดั สภาพแวดลอ้ มตลอดจนส่ือ วัสดุ อุปกรณ์ทีเ่ อ้ืออานวยต่อการเรยี นรู้
๑.๙ นเิ ทศ กากบั ติดตามการใชห้ ลกั สูตร โดยจัดให้มรี ะบบนเิ ทศภายในอย่างมรี ะบบ
๑.๑๐ กากับติดตามให้มีการประเมินคุณภาพภายในสถานศึกษาและนาผลจากการ
ประเมินไปใชใ้ นการพัฒนาคุณภาพเด็ก
๑.๑๑ กากับ ติดตาม ให้มีการประเมินการนาหลักสูตรไปใช้ เพื่อนาผลจากการ
ประเมินมาปรับปรุงและพัฒนาสาระของหลักสูตรของสถานศึกษาให้สอดคล้องกับความต้องการของ
เด็ก บรบิ ทสังคมและให้มคี วามทันสมัย
๑๑๕
๒. บทบาทผู้สอนปฐมวัย
การพัฒนาคุณภาพเด็กโดยถือว่าเด็กมีความสาคัญที่สุด กระบวนการจัดการศึกษา
ต้องส่งเสริมให้เด็กสามารถพัฒนาตนตามธรรมชาติ สอดคล้องกับพัฒนาการและเต็มตามศักยภาพ
ดังนั้น ผู้สอนจึงมีบทบาทสาคัญย่ิงที่จะทาให้กระบวนการจัดการเรียนรู้ดังกล่าวบรรลุผลอย่างมี
ประสทิ ธภิ าพ ผู้สอนจงึ ควรมบี ทบาท / หน้าท่ี ดังนี้
๒.๑ บทบาทในฐานะผูเ้ สรมิ สร้างการเรียนรู้
๒.๑.๑ จัดประสบการณ์การเรียนรู้สาหรับเด็กท่ีเด็กกาหนดข้ึนด้วยตัวเด็ก
เองและผูส้ อนกับเด็กร่วมกนั กาหนด โดยเสริมสร้างพัฒนาการเดก็ ใหค้ รอบคลุมทุกดา้ น
๒.๑.๒ ส่งเสริมให้เด็กใช้ข้อมูลแวดล้อม ศักยภาพของตัวเด็ก และหลักทาง
วิชาการในการผลิตกระทา หรอื หาคาตอบในสิ่งทเ่ี ด็กเรียนรอู้ ยา่ งมีเหตผุ ล
๒.๑.๓ กระตุ้นให้เด็กร่วมคิด แก้ปัญหา ค้นคว้าหาคาตอบด้วยตนเองด้วย
วิธกี ารศึกษาท่นี าไปสกู่ ารใฝ่รู้ และพัฒนาตนเอง
๒.๑.๔ จัดสภาพแวดล้อมและสร้างบรรยากาศการเรียนท่ีสร้างเสริมให้เด็ก
ทากิจกรรมได้เตม็ ศักยภาพและความแตกต่างของเด็กแต่ละบุคคล
๒.๑.๕ สอดแทรกการอบรมด้านจริยธรรมและค่านิยมท่ีพึงประสงค์ในการ
จดั การเรยี นรู้ และกิจกรรมตา่ งๆอยา่ งสม่าเสมอ
๒.๑.๖ ใช้กจิ กรรมการเลน่ เปน็ ส่อื การเรียนร้สู าหรบั เด็กให้เป็นไปอย่างมปี ระสิทธิภาพ
๒.๑.๗ ใช้ปฏิสัมพันธ์ท่ีดีระหว่างผู้สอนและเด็กในการดาเนินกิจกรรมการ
เรยี นการสอนอย่างสมา่ เสมอ
๒.๑.๘ จัดการประเมินผลการเรียนรู้ท่ีสอดคล้องกับสภาพจริงและนาผล
การประเมนิ มาปรบั ปรงุ พัฒนาคณุ ภาพเดก็ เต็มศกั ยภาพ
๒.๒ บทบาทในฐานะผดู้ ูแลเด็ก
๒.๒.๑ สังเกตและส่งเสริมพัฒนาการเด็กทุกด้านท้ังทางด้านร่างกาย
อารมณ์ จติ ใจ สังคมและ สติปญั ญา
๒.๒.๒ ฝกึ ใหเ้ ดก็ ช่วยเหลือตนเองในชวี ติ ประจาวนั
๒.๒.๓ ฝกึ ให้เด็กมีความเชือ่ มน่ั มคี วามภมู ใิ จในตนเองและกล้าแสดงออก
๒.๒.๔ ฝกึ การเรยี นรหู้ นา้ ท่ี ความมีวนิ ัย และการมีนสิ ยั ที่ดี
๒.๒.๕ จาแนกพฤติกรรมเดก็ และสรา้ งเสรมิ ลักษณะนิสยั และแก้ปญั หาเฉพาะบคุ คล
๒.๒.๖ ประสานความร่วมมือระหวา่ งสถานศึกษา บา้ น และชมุ ชน เพ่ือให้
เดก็ ได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพและมมี าตรฐานคุณลกั ษณะทีพ่ งึ ประสงค์
๒.๓ บทบาทในฐานะนกั พัฒนาเทคโนโลยีการสอน
๒.๓.๑ นานวัตกรรม เทคโนโลยีทางการสอนมาประยกุ ต์ใช้ใหเ้ หมาะสมกับ
สภาพบรบิ ทสังคม ชุมชน และท้องถิน่
๒.๓.๒ ใช้เทคโนโลยีและแหล่งเรียนรู้ในชุมชนในการเสริมสร้างการเรียนรู้ให้แก่เด็ก
๑๑๖
๒.๓.๓ จัดทาวิจัยในช้ันเรียน เพื่อนาไปปรับปรุงพัฒนาหลักสูตร /
กระบวนการเรียนรู้และพฒั นาสอื่ การเรียนรู้
๒.๓.๔ พัฒนาตนเองให้เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ มีคุณลักษณะของผู้ใฝ่รู้มี
วสิ ยั ทศั นแ์ ละทันสมัยทนั เหตกุ ารณใ์ นยุคของข้อมูลข่าวสาร
๒.๔ บทบาทในฐานะผูบ้ รหิ ารหลกั สตู ร
๒.๔.๑ ทาหนา้ ทีว่ างแผนกาหนดหลกั สตู ร หนว่ ยการเรียนรู้ การจดั กิจกรรม
การเรยี นรู้ การประเมินผลการเรยี นรู้
๒.๔.๒ จัดทาแผนการจัดประสบการณ์ท่ีเน้นเดก็ เป็นสาคัญ ให้เด็กมีอิสระ
ในการเรยี นรู้ท้ังกายและใจ เปดิ โอกาสใหเ้ ด็กเลน่ /ทางาน และเรียนรทู้ ้งั รายบคุ คลและเป็นกลมุ่
๒.๔.๓ ประเมินผลการใช้หลักสูตร เพื่อนาผลการประเมินมาปรับปรุง
พฒั นาหลักสูตรให้ทันสมัย สอดคล้องกับความตอ้ งการของ ผู้เรียน ชุมชน และท้องถ่ิน
๓. บทบาทของพอ่ แม่หรอื ผู้ปกครองเดก็ ปฐมวัย
การศึกษาระดับปฐมวัยเป็นการศึกษาที่จัดให้แก่เด็กท่ีผู้สอนและพ่อแม่หรือ
ผูป้ กครองต้องสื่อสารกันตลอดเวลา เพ่ือความเข้าใจตรงกันและพร้อมร่วมมือกันในการจัดการศึกษา
ใหก้ บั เดก็ ดงั นัน้ พอ่ แมห่ รอื ผ้ปู กครองควรมบี ทบาทหนา้ ท่ี ดงั น้ี
๓.๑ มีส่วนรว่ มในการกาหนดแผนพฒั นาสถานศึกษาและใหค้ วามเหน็ ชอบ กาหนด
แผนการเรยี นร้ขู องเด็กรว่ มกับผูส้ อนและเดก็
๓.๒ ส่งเสริมสนับสนุนกจิ กรรมของสถานศึกษา และกิจกรรมการเรียนรู้เพ่ือพัฒนา
เดก็ ตามศักยภาพ
๓.๓ เปน็ เครอื ข่ายการเรยี นรู้ จดั บรรยากาศภายในบ้านให้เอ้อื ต่อการเรยี นรู้
๓.๔ สนับสนนุ ทรัพยากรเพ่ือการศึกษาตามความเหมาะสมและจาเปน็
๓.๕ อบรมเล้ียงดู เอาใจใส่ให้ความรัก ความอบอุ่น ส่งเสริมการเรียนรู้และ
พัฒนาการด้านตา่ ง ๆ ของเดก็
๓.๖ ป้องกนั และแก้ไขปัญหาพฤตกิ รรมที่ไมพ่ ึงประสงคต์ ลอดจนส่งเสรมิ คณุ ลกั ษณะ
ทพี่ งึ ประสงค์ โดยประสานความร่วมมอื กบั ผู้สอน ผูเ้ กีย่ วข้อง
๓.๗ เป็นแบบอย่างที่ดีท้ังในด้านการปฏิบัติตนให้เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ และมี
คณุ ธรรมนาไปสู่การพัฒนาให้เป็นสถาบนั แห่งการเรียนรู้
๓.๘ มีส่วนร่วมในการประเมินผลการเรียนรู้ของเด็กและในการประเมินการจัด
การศกึ ษาของสถานศึกษา
๔. บทบาทของชมุ ชน
การปฏิรูปการศึกษา ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ ได้กาหนดให้
ชุมชนมีบทบาทในการมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา โดยให้มีการประสานความร่วมมือเพ่ือ ร่วมกัน
พฒั นาผู้เรียนตามศักยภาพ ดงั น้ัน ชมุ ชนจงึ มีบทบาทในการจัดการศึกษาปฐมวยั ดงั น้ี
๑๑๗
๔.๑ มีสว่ นร่วมในการบริหารสถานศึกษา ในบทบาทของคณะกรรมการสถานศึกษา
สมาคม / ชมรมผปู้ กครอง
๔.๒ มีส่วนร่วมในการจัดทาแผนพัฒนาสถานศึกษาเพื่อเป็นแนวทางในการ
ดาเนินการของสถานศึกษา
๔.๓ เป็นศูนย์การเรียนรู้ เครือขา่ ยการเรยี นรู้ ให้เด็กได้เรียนรู้และมีประสบการณ์
จากสถานการณ์จรงิ
๔.๔ ให้การสนับสนุนการจดั กจิ กรรมการเรยี นร้ขู องสถานศึกษา
๔.๕ ส่งเสริมให้มีการระดมทรัพยากรเพื่อการศึกษา ตลอดจนวิทยากรภายนอก
และภูมิปัญญาท้องถิ่น เพ่ือเสริมสร้างพัฒนาการของเด็กทุกด้าน รวมทั้งสืบสานจารีตประเพณี
ศลิ ปวฒั นธรรมของทอ้ งถน่ิ และของชาติ
๔.๖ ประสานงานกับองค์กรท้ังภาครัฐและเอกชน เพื่อให้สถานศึกษาเป็นแหล่ง
วทิ ยาการของชมุ ชน และมีส่วนในการพัฒนาชมุ ชนและท้องถนิ่
๔.๗ มีสว่ นรว่ มในการตรวจสอบ และประเมินผลการจัดการศึกษาของสถานศึกษา
ทาหนา้ ท่ีเสนอแนะในการพฒั นาการจดั การศึกษาของสถานศึกษา
การเชอื่ มต่อของการศกึ ษาระดบั ปฐมวัยกับระดับประถมศกึ ษาปีที่ ๑
การเชื่อมต่อของการศึกษาระดับปฐมวัยกับระดับประถมศึกษาปีท่ี ๑ มีความสาคัญอย่างยิ่ง
บุคลากรทุกฝ่ายจะต้องให้ความสนใจต่อการช่วยลดช่องว่างของความไม่เข้าใจในการจัดการศึกษาทั้ง
สองระดับ ซ่ึงจะสง่ ผลต่อการจัดการเรยี นการสอน ตวั เดก็ ครู พ่อแม่ ผู้ปกครอง และบุคลากรทางการ
ศึกษาอื่นๆท้ังระบบ การเช่ือมต่อของการศึกษาระดับปฐมวัยกับระดับประถมศึกษาปีท่ี ๑ จะประสบ
ผลสาเร็จไดต้ ้องดาเนินการดังตอ่ ไปนี้
๑. ผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา
ผู้บริหารสถานศึกษาเป็นบุคคลสาคัญท่ีมีบทบาทเป็นผู้นาในการเช่ือมต่อโดยเฉพาะระหว่าง
หลักสูตรการศึกษาปฐมวัยในช่วงอายุ ๔ – ๖ ปี กับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานในชั้น
ประถมศึกษาปีที่ ๑ โดยตอ้ งศึกษาหลกั สูตรทั้งสองระดับ เพื่อทาความเข้าใจ จัดระบบการบริหารงาน
ดา้ นวิชาการที่จะเอื้อต่อการเชื่อมโยงการศึกษาโดยการจัดกิจกรรมเพื่อเช่ือมต่อการศกึ ษา ดังตัวอย่าง
กิจกรรมต่อไปนี้
๑.๑ จัดประชมครูระดับปฐมวัยและครูระดับประถมศึกษาร่วมกันสร้างรอยเชื่อมต่อของ
หลักสูตรท้ังสองระดับให้เป็นแนวปฏิบัติของสถานศึกษาเพื่อครูท้ังสองระดับจะได้เตรียมการสอนให้
สอดคล้องกบั เด็กวยั น้ี
๑.๒ จัดหารเอกสารด้านหลักสูตรและเอกสารทางวิชาการของท้ังสองระดับมาไว้ให้ครู
และบุคลากรอ่นื ๆได้ศึกษาทาความเขา้ ใจ อย่างสะดวกและเพยี งพอ
๑.๓ จดั กิจกรรมให้ครูทั้งสองระดบั มีโอกาสแลกเปลี่ยนเผยแพรค่ วามรใู้ หมๆ่ ทีไ่ ด้รบั จาก
การอบรม ดงู าน ซง่ึ ไม่ควรจัดให้เฉพาะครใู นระดับเดยี วกันเทา่ น้นั
๑๑๘
๑.๔ จัดเอกสารเผยแพร่ตลอดจนกิจกรรมสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ ระหว่างสถานศึกษา
พ่อแม่ ผปู้ กครองและบคุ ลากรทางการศึกษาอย่างสม่าเสมอ
๑.๕ จัดให้มีการพบปะ หรือการทากิจกรรมร่วมกับพ่อแม่ ผู้ปกครองอย่างสม่าเสมอ
ต่อเนื่อง ในระหว่างที่เด็กอยู่ในระดับปฐมวัย เพื่อพ่อแม่ ผู้ปกครอง จะได้สร้างความเข้าใจและ
สนบั สนนุ การเรียน การสอนของบุตรหลานตนไดอ้ ย่างถูกต้อง
๑.๖ จัดกจิ กรรมใหค้ รูท้ังสองระดบั ได้ทากจิ กรรมร่วมกันกับพ่อแม่ ผปู้ กครองและเด็กใน
บางโอกาส
๑.๗ จัดกิจกรรมปฐมนิเทศพ่อแม่ ผู้ปกครองอย่างน้อย ๒ คร้ัง คือ ก่อนเด็กเข้าเรียน
ระดับปฐมวัยศึกษาและก่อนเด็กจะเล่ือนข้ึนช้ันประถมศึกษาปีที่ ๑ เพื่อให้พ่อแม่ ผู้ปกครองเข้าใจ
การศึกษาทั้งสองระดับและให้ความร่วมมือในการช่วยเด็กให้สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อม
ใหมไ่ ดด้ ี
๒. ครูระดับปฐมวัย
ครูระดับปฐมวัย นอกจากจะต้องศึกษาทาความเข้าใจหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย และจัด
กิจกรรมพัฒนาเด็กของตนแล้ว ควรศึกษาหลักสูตรการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน การจัดการเรียนการสอนใน
ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๑ และสร้างความเข้าใจให้กับพ่อแม่ ผู้ปกครองและบุคลากรอ่ืนๆ รวมท้ัง
ช่วยเหลือเด็กในการปรับตัวก่อนเล่ือนขึ้นช้ันประถมศึกษาปีที่ ๑ โดยครูอาจจัดกิจกรรมดังตัวอย่าง
ตอ่ ไปนี้
๒.๑ เก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับตัวเด็กเป็นรายบุคคลเพ่ือส่งต่อครูชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๑
ซึ่งจะทาให้ครูระดับประถมศึกษาสามารถใช้ข้อมูลน้ันช่วยเหลือเด็กในการปรับตัวเข้ากับการเรียนรู้
ใหมต่ อ่ ไป
๒.๒ พูดคุยกับเด็กถึงประสบการณ์ท่ีดีๆ เกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ในระดับช้ัน
ประถมศึกษาปที ่ี ๑ เพอื่ ให้เดก็ เกิดเจตคติทด่ี ตี อ่ การเรยี นรู้
๒.๓ จัดให้เด็กได้มีโอกาสทาความรู้จักกับครูตลอดจนสภาพแวดล้อม บรรยากาศของ
หอ้ งเรียนชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๑ ทง้ั ท่อี ยู่ในสถานศกึ ษาเดียวกันหรอื สถานศกึ ษาอน่ื
๓. ครรู ะดบั ประถมศกึ ษา
ครูระดับประถมศึกษาต้องมีความรู้ ความเข้าใจในพัฒนาการเด็กปฐมวัยและมีเจตคติท่ีดีต่อ
การจัดประสบการณ์ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยเพ่ือนามาเปน็ ข้อมูลในการพัฒนาจดั การเรียนรู้ใน
ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ ของตนให้ต่อเน่อื งกบั การพฒั นาเดก็ ในระดับปฐมวยั ดังตวั อย่าง ต่อไปนี้
๓.๑ จัดกิจกรรมให้เด็ก พ่อแม่ และผปู้ กครอง มีโอกาสได้ทาความรู้จักค้นุ เคยกับครแู ละ
หอ้ งเรยี นช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๑ กอ่ นเปดิ ภาคเรยี น
๑๑๙
๓.๒ จัดสภาพห้องเรียนให้ใกล้เคียงกับห้องเรียนระดับปฐมวัย โดยจัดให้มีมุม
ประสบการณ์ภายในห้องเพื่อให้เด็กได้มีโอกาสทากิจกรรมได้อย่างอิสระเช่น มุมหนังสือ มุมของเล่น
มุมเกมการศกึ ษา เพ่ือชว่ ยใหเ้ ดก็ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ ได้ปรบั ตวั และเรยี นรู้จากการปฏบิ ตั จิ ริง
๓.๓ จดั กิจกรรมร่วมกันกบั เด็กในการสรา้ งข้อตกลงเกีย่ วกับการปฏิบตั ติ น
๓.๔ เผยแพรข่ ่าวสารด้านการเรียนรู้และสรา้ งความสัมพันธ์ที่ดีกับเด็ก พอ่ แม่ ผู้ปกครอง
และชมุ ชน
๔. พอ่ แม่ ผู้ปกครองและบุคลากรทางการศึกษา
พ่อแม่ ผู้ปกครอง และบุคลากรทางการศึกษาต้องทาความเข้าใจหลักสูตรของการศึกษาท้ัง
สองระดับ และเข้าใจว่าถึงแม้เด็กจะอยู่ในระดับประถมศึกษาแล้วแต่เด็กยังต้องการความรกั ความเอา
ใจใส่ การดูแลและการปฏิสัมพันธ์ที่ไม่ได้แตกต่างไปจากระดับปฐมวัย และควรให้ความร่วมมือกับครู
และสถานศึกษาในการช่วยเตรยี มตวั เดก็ เพอ่ื ให้เด็กสามารถปรับตัวได้เร็วยงิ่ ขึ้น
การกากบั ติดตาม ประเมนิ และรายงาน
การจัดสถานศึกษาปฐมวัยมีลักการสาคัญในการให้สังคม ชุมชน มีส่วนร่วมในการจัด
การศึกษาและกระจายอานาจการศึกษาลงไปยังท้องถิ่นโดยตรง โดยเฉพาะสถานศึกษาหรือสถาน
พัฒนาเด็กปฐมวัย ซ่ึงเป็นผู้จัดการศึกษาในระดับน้ี ดังนั้น เพื่อให้ผลผลิตทางการศึกษาปฐมวัยมี
คุณภาพตามมาตรฐานคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์และสอดคล้องกับความต้องการของชุมชนและสังคม
จาเป็นต้องมีระบบการกากับ ติดตาม ประเมินและรายงานท่ีมีประสิทธภิ าพ เพ่อื ให้ทกุ กลุ่มทุกฝ่ายท่ีมี
ส่วนร่วมรับผิดชอบในการจัดการศึกษา เห็นความก้าวหน้า ปัญหา อุปสรรค ตลอดจนการให้ความ
ร่วมมือช่วยเหลือ ส่งเสริม สนับสนุน การวางแผน และดาเนินงานการจัดการศึกษาปฐมวัยให้มี
คุณภาพอยา่ งแท้จรงิ
การกากับ ติดตาม ประเมินและรายงานผลการจัดการศึกษาปฐมวัยเป็นส่วนหนึ่งของ
กระบวนการบริหารการศึกษาและระบบการประกันคุณภาพที่ต้องดาเนินการอย่างต่อเน่ือง เพื่ อ
นาไปสู่การพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาปฐมวัย สร้างความม่ันใจให้ผู้เก่ียวข้อง โดยต้องมี
การดาเนินการท่ีเป็นระบบเครือข่ายครอบคลุมท้ังหน่วยงานภายในและภายนอกตั้งแต่ระดับชาติ เขต
พื้นท่ีทุกระดับละทุกอาชีพ การกากับดูแลประเมินผลต้องมีการรายงานผลจากทุกระดับให้ทุกฝ่าย
รวมทั้งประชาชนท่ัวไปทราบ เพ่ือนาข้อมูลจากรายงานผลมาจัดทาแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของ
สถานศึกษาหรือสถานพัฒนาเดก็ ปฐมวยั ตอ่ ไป
๑๒๐
รายการอ้างอิง
กรมสง่ เสรมิ การปกครองท้องถน่ิ กระทรวงมหาดไทย. แนวการจัดกิจกรรมเตรียมประสบการณต์ ามหลกั สูตร
การศกึ ษาปฐมวัย ของสถานศึกษาสังกัดองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิน่ . กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์
ชมุ นมุ สหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทยจากดั , ๒๕๔๗.
คาแก้ว ไกรสรพงษ.์ การสอนแบบมอนเทสซอรี่. กรุงเทพมหานคร: ซีเอ็ดยูเคชั่น, 2551
คณะกรรมการการศึกษาขัน้ พื้นฐาน, สานกั งาน. คมู่ อื หลกั สตู รการศกึ ษาปฐมวยั พุทธศักราช 2560
สาหรบั เดก็ อายุ 3-6 ปี. เอกสารอัดสาเนา, 2561.
จิรพนั ธ์ พูลพัฒน.์ การสอนแบบมอนเตสซอร่ี จากทฤษฎสี ู่แนวทางนาไปปฎิบัติ. กรุงเทพมหานคร: บรษิ ัท
เดอะมาสเตอร์กรปุ๊ แมเนจเม้นท์, 2554
สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาแห่งชาติ. ตัวบง่ ชีส้ ภาพท่ีพงึ ประสงค์และเกณฑ์การประเมนิ ระดับก่อน
ประถมศกึ ษาตามมาตรฐานการศกึ ษาเพ่ือการประเมินคุณภาพภายนอกระดบั การศึกษาขั้นพื้นฐาน.
เอกสารอดั สาเนา, ๒๕๔๕
สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาเอกชน. คมู่ ือการจดั ประสบการณ์การเรียนรสู้ าหรับเดก็ ปฐมวัย.
กรงุ เทพมหานคร: โรงพมิ พค์ รุ ุสภาลาดพรา้ ว, ๒๕๔๖
สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน. คมู่ ือการประเมินพฒั นาการเด็กปฐมวัย. กรุงเทพมหานคร:
โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพรา้ ว, ๒๕๔๖
สานักงานเลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา. การเรยี นรู้ของเดก็ ปฐมวัยไทย : ตามแนวคดิ มอนเตสซอร่ี.
กรงุ เทพมหานคร, ๒๕๔๖
สานกั วชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา คณะกรรมการการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน, สานกั งาน. คู่มอื การจัดการเรียนรู้
คละชั้นระดับปฐมวัย ในโรงเรียนขนาดเลก็ ตามแนวทางมอนเทสซอรี่. กรงุ เทพมหานคร , ๒๕๕๖
-
คำสัง่ โรงเรียนเทศบำล ๑ (บ้ำนเก่ำ)
ท่ี /๒๕๖4
เร่ือง แต่งตั้งคณะกรรมการบริการหลกั สตู รสถานศึกษาปฐมวัย และงานวชิ าการสถานศึกษา
โรงเรยี นเทศบาล ๑ (บ้านเกา่ )
โรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านเก่า) จัดการศึกษาตามหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย และปรับปรุงหลักสูตร
การศกึ ษาปฐมวัยโรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านเก่า) พุทธศกั ราช ๒๕๖๔ ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช
๒๕๖๐ ดาเนินไปด้วยความเรียบร้อย อาศัยระเบียบ กระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยคณะกรรมการบริการหลักสูตร
และงานวิชาการสถานศึกษา พ.ศ. 2542 ข้อ 5
เพ่ือให้การบริหารหลักสูตรและงานวิชาการ จึงแต่งตั้งคณะกรรมการบริการหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย
และงานวชิ าการโรงเรียนเทศบาล ๑ (บา้ นเก่า) ประกอบด้วย
๑. นายพรเทพ ศรจี ักร์ ผอู้ านวยการสถานศกึ ษา ประธานกรรมการ
๒. นางสาวปวิชญา ใจมาตุ่น รองผู้อานวยการสถานศึกษา รองประธานกรรมการ
๓. นายพิศาล ฟองนว้ิ ครู วิทยฐานะครชู านาญการพิเศษ ปฏิบัติหนา้ ที่
หวั หนา้ ฝา่ ยบรหิ ารงานวิชาการ
๔. นางจนั ทรเ์ พ็ญ สันวงค์ หวั หน้าระดบั ปฐมวยั กรรมการ
๕. นางสพุ ิชญา เขียวเงีย้ ว ครผู สู้ อนปฐมวัย กรรมการ
๖. นางสาวณฐวรรณ สฟี ้า ครผู สู้ อนปฐมวยั กรรมการ
๗. นางสาวสุภาพร อินต๊ะฟอง ครูผู้สอนปฐมวยั กรรมการ
๘. นางสาวฐิติรัตน์ กาบิล ครูผ้สู อนปฐมวยั กรรมการ
๙. นางศศิพร ทาบญุ ครผู ู้สอนปฐมวยั กรรมการ
๑๐.นางสาวพิมพว์ ดี เรืองอยู่ ครผู ู้สอนปฐมวัย กรรมการ
๑๑.นางสาวพรทวิ า มอยนา ครผู สู้ อนปฐมวยั กรรมการ
๑๒. นางวรากุล เสาร์สวุ รรณ์ ครูผสู้ อนปฐมวยั กรรมการ
และเลขานุการ
หน้าที่ 1. วางแผนการดาเนินงานวชิ าการ กาหนดสาระรายละเอียดของหลกั สตู รสถานศกึ ษาและแนวทางการจัด
สดั สว่ นสาระการเรียนร้แู ละกจิ กรรมพัฒนาผู้เรียนของสถานศึกษา ให้สอดคล้องกับหลักสตู รการศึกษา
ข้ันพ้ืนฐาน และหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย สภาพเศรษฐกิจ สังคม ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาของ
ทอ้ งถิ่น
2. จัดทาหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย โรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านเก่า) พุทธศักราช ๒๕๖๔ ตามหลักสูตร
การศกึ ษาปฐมวัย พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐ โดยปรบั ปรุงให้เหมาะสมกบั เดก็ และสภาพท้องถน่ิ
๓. นิเทศ กากับ ติดตาม ให้คาปรึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาหลักสูตร การจัดกระบวนการเรียนรู้ การวัดผล
และประเมนิ ผล และการแนะแนว ให้สอดคล้องและเปน็ ไปตามมาตรฐานหลกั สูตรการศกึ ษาปฐมวัย
๔. ประสานความร่วมมือจากบุคคล หน่วยงาน องคก์ รตา่ งๆและเป็นไปอยา่ งมปี ระสิทธิภาพและมีคณุ ภาพ
๕. ประชาสัมพนั ธห์ ลักสตู ร และการใชห้ ลักสตู รแก่นกั เรยี น ผู้ปกครอง ชุมชนและผ้เู กย่ี วขอ้ ง
๖. สง่ เสรมิ สนบั สนุนการวิจัยเก่ียวกบั การพฒั นาหลกั สตู รและกระบวนการเรยี นรู้
๗. ตดิ ตามผลการเรยี นรขู้ องนักเรยี นเปน็ รายบคุ คล ระดับกลมุ่ สาระการเรียนรใู้ นแตล่ ะปกี ารศึกษา
เพือ่ ปรบั ปรงุ และพฒั นาการดาเนนิ การดา้ นตา่ งๆของสถานศึกษา
/๗. ตดิ ตาม...
๘. ตรวจสอบ ทบทวน ประเมินมาตรฐานการปฏบิ ัติงานของครแู ละการบรหิ ารหลักสูตรสถานศกึ ษาใน
รอบปที ี่ผา่ นมา แล้วใช้ผลการประเมินเพ่อื วางแผนพัฒนาการปฏิบัติงานของครูและการบรหิ าร
หลกั สตู รในปีการศกึ ษาต่อไป
๙. รายงานผลการปฏบิ ตั ิงานและผลการบรหิ ารหลกั สตู รสถานศึกษา โดยเนน้ ผลการพฒั นาคุณภาพ
เด็กต่อคณะกรรมการสถานศึกษาขนั้ พน้ื ฐานโรงเรียนเทศบาล ๑ (บา้ นเก่า) ผปู้ กครอง ชมุ ชนและ
ผเู้ ก่ยี วขอ้ ง
ทั้งน้ตี ั้งแตว่ นั ท่ี 9 เดือน เมษายน พ.ศ. ๒๕๖4 เป็นตน้ ไป
ส่งั ณ วนั ท่ี ๑๐ เดอื น เมษายน พ.ศ. ๒๕๖3
(นายพรเทพ ศรจี ักร์)
ผอู้ านวยการสถานศึกษา
โรงเรียนเทศบาล ๑ (บา้ นเกา่ )
ประกาศโรงเรียนเทศบาล ๑ (บา้ นเก่า)
เรือ่ ง ให้ใช้หลักสูตรสถานศึกษาปฐมวยั โรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านเก่า) พทุ ธศักราช ๒๕๖๔
ตามหลกั สูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศกั ราช ๒๕๖0
---------------------------------------------------------------------
เพ่ือให้การจัดการศึกษาระดับปฐมวัยสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม
สภาพแวดล้อม สอดคล้องกับประเทศไทย 4.0 โลกในศตวรรษที่ 21 เด็กมีศักยภาพในการแข่งขันและ
ดารงชีวิตอย่างสร้างสรรค์ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ให้เป็นไปหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย
พุทธศักราช ๒๕๖๐ และได้ปรับปรุงหลักสูตรในปีการศึกษา ๒๕๖๔ เพ่ือให้สถานศึกษานาหลักสูตรไปใช้โดย
ปรับปรงุ ใหเ้ หมาะสมกบั เดก็ และสภาพท้องถนิ่
โรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านเก่า) จึงได้ดาเนินการจัดทาหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย และปรับปรุง
หลักสูตรการศึกษาปฐมวยั โรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านเก่า) พทุ ธศักราช ๒๕๖๔ ตามหลักสตู รการศึกษาปฐมวัย
พุทธศักราช ๒๕๖๐ เพ่ือส่งเสริมให้เด็กบรรลุมาตรฐานคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ตามที่หลักสูตรการศึกษา
ปฐมวัยกาหนด โดยคานึงถึงวิสัยทัศน์ จุดเน้น ภูมิปัญญาท้องถ่ิน สภาพบริบท และความต้องการของชุมชน
รวมทง้ั การเปล่ียนแปลงทางสงั คม เศรษฐกิจ สอดคลอ้ งกบั ธรรมชาตแิ ละการเรียนรู้ของเดก็ ปฐมวยั
ทั้งน้ี หลักสูตรดังกล่าวได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพ้ืนฐาน โรงเรียน
เทศบาล ๑ (บ้านเก่า) ในคราวประชุม เมื่อวันท่ี จึงประกาศให้ใช้หลักสูตร
สถานศึกษาปฐมวยั โรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านเก่า) พทุ ธศักราช ๒๕๖๔
ประกาศ ณ วนั ท่ี เดอื น พ.ศ.
(นายวชริ ดวงแสงทอง) (นายพรเทพ ศรจี ักร์)
ประธานคณะกรรมการสถานศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน
ผอู้ านวยการสถานศึกษา
โรงเรยี นเทศบาล ๑ (บา้ นเก่า)
การกาหนดคา่ เป้าหมายตามมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวยั แห่งชาติ
เพอื่ การประกันคณุ ภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา ระดับปฐมวัย โรงเรียนเทศบาล ๑ (บ้านเกา่ )
ปีการศึกษา ๒๕๖๔
รอ้ ยละของ
มาตรฐาน / ตวั บ่งช/้ี ตัวบ่งช้ยี อ่ ย/ รายการพจิ ารณา ค่าเปา้ หมาย
มาตรฐาน/ ระดบั คุณภาพ
ตวั บง่ ชี้/รายการ
พิจารณา
มาตรฐานด้านท่ี ๑ การบรหิ ารจัดการสถานพฒั นาเดก็ ปฐมวยั ๙๐ ระดบั ดีมาก
ตวั บง่ ช้ีที่ ๑.๑ การบริหารจัดการอย่างเปน็ ระบบ ๙๐ ระดบั ดีมาก
ตัวบง่ ชี้ย่อย
๑.๑.๑ บริหารจดั การสถานพฒั นาเด็กปฐมวัยอย่างเปน็ ระบบ ๙๐ ระดับดีมาก
๑.๑.๒ บริหารหลักสูตรสถานพฒั นาเด็กปฐมวยั ๙๐ ระดบั ดีมาก
๑.๑.๓ บริหารจัดการข้อมลู อยา่ งเปน็ ระบบ ๙๐ ระดบั ดีมาก
ตวั บ่งชี้ท่ี ๑.๒ การบริหารจดั การบุคลากรทกุ ประเภทตามหนว่ ยงานทสี่ งั กดั ๙๐ ระดบั ดีมาก
ตวั บ่งชี้ย่อย
๑.๒.๑ บริหารจัดการบุคลากรอย่างเปน็ ระบบ ๙๐ ระดับดมี าก
๑.๒.๒ ผู้บรหิ ารสถานพฒั นาเดก็ ปฐมวัย/หวั หนา้ ระดบั ปฐมวยั /ผ้ดู าเนินกิจการ ๙๐ ระดบั ดมี าก
มีคุณวุฒิ/
คณุ สมบตั ิเหมาะสม และบริหารงานอย่างมปี ระสิทธิภาพ
๑.๒.๓ คร/ู ผ้ดู แู ลเด็กท่ีทาหนา้ ที่หลกั ในการดแู ลและพัฒนาเดก็ ปฐมวยั มีวฒุ ิ ๙๐ ระดับดมี าก
การศึกษา/
คณุ สมบัตเิ หมาะสม
๑.๒.๔ บรหิ ารบคุ ลากรจัดอตั ราสว่ นของครู/ผดู้ แู ลเดก็ อยา่ งเหมาะสมพอเพียง ๙๐ ระดับดมี าก
ตอ่ จานวน
เด็กในแตล่ ะกลุ่มอายุ
ตวั บ่งชท้ี ่ี ๑.๓ การบรหิ ารจัดการสภาพแวดล้อมเพื่อความปลอดภัย ๙๐ ระดบั ดมี าก
ตวั บ่งช้ยี อ่ ย
๑.๓.๑ บริหารจดั การดา้ นสภาพแวดลอ้ มเพอ่ื ความปลอดภัยอยา่ งเป็นระบบ ๙๐ ระดับดมี าก
๙๐ ระดับดีมาก
๑.๓.๒ โครงสรา้ งและตัวอาคารม่นั คง ตงั้ อย่ใู นบรเิ วณและสภาพแวดลอ้ มท่ี
ปลอดภยั ๙๐ ระดบั ดมี าก
๑.๓.๓ จัดการความปลอดภยั ของพนื้ ทีเ่ ล่น/สนามเดก็ เล่น และสภาพแวดลอ้ ม
ภายนอกอาคาร
รอ้ ยละของ
มาตรฐาน / ตวั บ่งชี้/ ตัวบ่งชย้ี ่อย/ รายการพิจารณา ค่าเป้าหมาย ระดบั คุณภาพ
มาตรฐาน/ ระดบั ดมี าก
ระดบั ดมี าก
ตัวบ่งชี/้ รายการ ระดับดีมาก
ระดบั ดีมาก
พิจารณา ระดบั ดีมาก
ระดบั ดมี าก
๑.๓.๔ จดั การสภาพแวดล้อมภายในอาคาร ครภุ ณั ฑ์ อปุ กรณ์ เครือ่ งใชใ้ ห้ ๙๐ ระดับดมี าก
ระดับดีมาก
ปลอดภัย เหมาะสมกับการใช้งานและเพยี งพอ ระดับดมี าก
ระดบั ดีมาก
๑.๓.๕ จัดใหม้ ขี องเล่นท่ีปลอดภัยได้มาตรฐาน มีจานวนเพียงพอ สะอาด ๙๐ ระดับดีมาก
ระดบั ดมี าก
เหมาะสมกับระดับ พัฒนาการของเด็ก ระดบั ดมี าก
ระดบั ดมี าก
๑.๓.๖ ส่งเสริมให้เดก็ ปฐมวยั เดินทางอย่างปลอดภยั ๘๐
๑.๓.๗ จัดใหม้ รี ะบบป้องกนั ภยั จากบคุ คลท้ังภายในและภายนอกสถานพฒั นา ๘๐
เดก็ ปฐมวัย
๑.๓.๘ จดั ให้มรี ะบบรบั เหตฉุ กุ เฉิน ปอ้ งกนั อคั คีภยั /ภัยพิบตั ิตามความเสยี่ งของ ๙๐
พื้นท่ี
ตวั บง่ ชีท้ ่ี ๑.๔ การจดั การเพอื่ ส่งเสริมสขุ ภาพและการเรยี นรู้ ๙๐
ตัวบง่ ชย้ี อ่ ย
๑.๔.๑ มกี ารจดั การเพ่ือสง่ เสรมิ สุขภาพ เฝา้ ระวังการเจริญเตบิ โต ของเด็ก ๘๐
และดูแลการเจ็บป่วยเบอ้ื งตน้
๑.๔.๒ มแี ผนและดาเนินการตรวจสขุ อนามัยประจาวัน ตรวจสุขภาพประจาปี ๙๐
และปอ้ งกนั ควบคุมโรคตดิ ต่อ
๑.๔.๓ อาคารตอ้ งมีพื้นทใ่ี ช้สอยเป็นสดั ส่วนตามกจิ วัตรประจาวันของเด็กที่ ๙๐
เหมาะสมตามช่วงวัย และการใชป้ ระโยชน์
๑.๔.๔ จัดใหม้ พี นื้ ท่ี/มุมประสบการณ์ และแหล่งเรยี นรใู้ นห้องเรียนและนอก ๙๐
ห้องเรียน
๑.๔.๕ จดั บริเวณหอ้ งน้า หอ้ งสว้ ม ท่แี ปรงฟนั /ล้างมือให้เพียงพอ สะอาด ๙๐
ปลอดภัยและเหมาะสมกับการใชง้ านของเด็ก
๑.๔.๖ จัดการระบบสุขาภบิ าลทมี่ ีประสิทธิภาพ ครอบคลมุ สถานที่ปรุง ๙๐
ประกอบอาหารนา้ ดม่ื นา้ ใช้ กาจัดขยะ สงิ่ ปฏิกูล และพาหะนาโรค
๑.๔.๗ จดั อุปกรณภ์ าชนะและเครอ่ื งใชส้ ่วนตัวให้เพียงพอกบั การใช้งานของ ๙๐
เด็กทุกคนและดแู ลความสะอาดและปลอดภัยอยา่ งสม่าเสมอ
ตัวบ่งช้ีท่ี ๑.๕ การสง่ เสริมการมสี ว่ นรว่ มของครอบครวั และชมุ ชน ๙๐
ตวั บง่ ช้ียอ่ ย ๙๐ ระดบั ดมี าก
๑.๕.๑ มีการสอ่ื สารเพื่อสรา้ งความสมั พนั ธแ์ ละความเขา้ ใจอนั ดีระหวา่ งพ่อแม่/
ผู้ปกครองกบั สถานพฒั นาเด็กปฐมวัยเกยี่ วกบั ตวั เดก็ และการดาเนินงานของสถาน ๙๐ ระดับดีมาก
พฒั นาเด็กปฐมวัย ๙๐ ระดบั ดีมาก
๙๐ ระดบั ดีมาก
๑.๕.๒ การจดั กจิ กรรมท่พี ่อแม่/ผูป้ กครอง/ครอบครัว และชุมชน มีสว่ นรว่ ม
๑.๕.๓ ดาเนินงานให้สถานพฒั นาเดก็ ปฐมวัยเป็นแหลง่ เรียนรแู้ ก่ชมุ ชนในเรอื่ ง
การพัฒนาเด็กปฐมวัย
๑.๕.๔ มีคณะกรรมการสถานพัฒนาเด็กปฐมวยั
รอ้ ยละของ
มาตรฐาน / ตัวบ่งช้/ี ตัวบง่ ชย้ี ่อย/ รายการพจิ ารณา ค่าเปา้ หมาย ระดับคณุ ภาพ
ระดับดีมาก
มาตรฐาน/
ตวั บง่ ช/ี้ รายการ
พจิ ารณา
มาตรฐานด้านท่ี ๒ ของครู/ผู้ดูแลเด็กใหก้ ารดูแล และจัดประสบการณก์ ารเรียนรู้ ๙๐
และการเล่นเพ่อื พัฒนาเด็กปฐมวัย
ตวั บ่งช้ที ี่ ๒.๑ การดแู ลและพฒั นาเดก็ อย่างรอบดา้ น ๙๐ ระดับดีมาก
ตวั บง่ ชย้ี ่อย ๙๐ ระดับดมี าก
๙๐ ระดบั ดมี าก
๒.๑.๑ มแี ผนการจดั ประสบการณ์การเรยี นรทู้ สี่ อดคลอ้ งกบั หลักสูตรการศึกษา ๙๐ ระดับดมี าก
ปฐมวยั มีการดาเนนิ งานและประเมินผล ๙๐ ระดับดมี าก
๘๕ ระดบั ดีมาก
๒.๑.๒ จัดพืน้ ที่/มมุ ประสบการณ์การเรียนรู้และการเล่นท่ีเหมาะสมอย่าง ๙๐ ระดบั ดีมาก
หลากหลาย ๙๐ ระดับดีมาก
๙๐ ระดบั ดมี าก
๒.๑.๓ จดั กิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการทกุ ด้านอยา่ งบูรณาการตามธรรมชาตขิ อง ๙๐ ระดบั ดีมาก
เดก็ ทีเ่ รียนรู้ ดว้ ยประสาทสัมผสั ลงมือทา ปฏสิ มั พนั ธ์ และการเลน่ ๙๐ ระดบั ดีมาก
๘๕ ระดับดีมาก
๒.๑.๔ เลอื กใชส้ ื่อ/อุปกรณ์ เทคโนโลยี เครื่องเลน่ และจดั สภาพแวดลอ้ ม ๙๐ ระดบั ดีมาก
ภายใน-ภายนอกแหลง่ เรยี นรู้ ท่ีเพยี งพอ เหมาะสม ปลอดภัย ๙๐ ระดับดีมาก
๒.๑.๕ เฝ้าระวงั ติดตามพฒั นาการเด็กรายบคุ คลเปน็ ระยะ เพอ่ื ใช้ผลในการจัด ๙๐ ระดบั ดีมาก
กจิ กรรมพัฒนาเดก็ ทกุ คนให้เต็มตามศักยภาพ
ตวั บง่ ชี้ท่ี ๒.๒ การส่งเสรมิ พัฒนาการด้านร่างกายและดูแลสขุ ภาพ
ตวั บ่งชย้ี อ่ ย
๒.๒.๑ ให้เดก็ อายุ ๖ เดือนข้ึนไป รบั ประทานอาหารท่คี รบถว้ นในปรมิ าณท่ี
เพยี งพอ และส่งเสริมพฤติกรรมการกินท่ีเหมาะสม
๒.๒.๒ จดั กจิ กรรมให้เด็กไดล้ งมือปฏบิ ัติอย่างถูกต้องเหมาะสมในการดูแล
สุขภาพความปลอดภัยในชีวติ ประจาวัน
๒.๒.๓ ตรวจสขุ ภาพอนามัยของเด็กประจาวัน ความสะอาดของร่างกาย ฟัน
และชอ่ งปากเพื่อคัดกรองโรคและการบาดเจบ็
๒.๒.๔ เฝา้ ระวังตดิ ตามการเจรญิ เติบโตของเด็กเป็นรายบุคคล บนั ทึกผลภาวะ
โภชนาการอย่างต่อเนื่อง
๒.๒.๕ จัดให้มีการตรวจสุขภาพรา่ งกาย ฟันและช่องปาก สายตา หู ตาม
กาหนด
ตวั บ่งช้ีที่ ๒.๓ การส่งเสริมพัฒนาการดา้ นสติปัญญา ภาษาและการสือ่ สาร
ตวั บง่ ช้ยี อ่ ย
๒.๓.๑ จดั กิจกรรมสง่ เสริมให้เดก็ ไดส้ งั เกต สัมผัส ลองทา คิดต้งั คาถาม
สืบเสาะหาความรู้ แก้ปญั หา จนิ ตนาการ คิดสร้างสรรค์ โดยยอมรบั ความคิดและ
ผลงานท่ีแตกตา่ งของเด็ก
๒.๓.๒ จดั กิจกรรมและประสบการณ์ทางภาษาทีม่ คี วามหมายต่อเดก็ เพอื่ การ
สือ่ สารอยา่ งหลากหลาย ฝกึ ฟัง พูด ถาม ตอบ เลา่ และสนทนาตามลาดับขัน้ ตอน
พัฒนาการ
มาตรฐาน / ตวั บ่งชี้/ ตัวบง่ ชี้ย่อย/ รายการพจิ ารณา ร้อยละของ ระดบั คณุ ภาพ
คา่ เป้าหมาย ระดบั ดมี าก
๒.๓.๓ จัดกิจกรรมปลูกฝังใหเ้ ดก็ มีนสิ ยั รกั การอา่ นให้เดก็ มีทักษะการดภู าพ มาตรฐาน/
ฟังเรอื่ งราว พดู เลา่ อา่ น วาด/เขยี น เบ้ืองต้น ตามลาดบั พัฒนาการ โดยครู/ ผ้ดู แู ล ตวั บง่ ช้/ี รายการ
เด็ก เป็นตวั อย่างของการพดู และการอ่านที่ถูกต้อง พจิ ารณา
๙๐
๒.๓.๔ จัดให้เด็กมีประสบการณเ์ รียนรเู้ กี่ยวกับตัวเด็ก บุคคล สงิ่ ต่างๆ สถานท่ี ๙๐ ระดับดมี าก
และธรรมชาติรอบตัวดว้ ยวิธกี ารท่เี หมาะสมกบั วัยและพัฒนาการ
๒.๓.๕ จัดกิจกรรมและประสบการณ์ดา้ นคณิตศาสตรแ์ ละวทิ ยาศาสตร์ ๙๐ ระดบั ดีมาก
เบอ้ื งตน้ ตามวัยโดยเด็กเรียนรู้ผ่านประสาทสมั ผสั และลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง
ตวั บง่ ช้ที ่ี ๒.๔ การส่งเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ-สงั คม ปลูกฝงั คุณธรรม ๙๐ ระดับดมี าก
และความเปน็ พลเมืองดี
ตวั บง่ ช้ยี อ่ ย ๙๐ ระดับดีมาก
๒.๔.๑ สร้างความสัมพันธ์ท่ดี แี ละมั่นคง ระหวา่ งผู้ใหญก่ ับเดก็ จัดกจิ กรรม
สร้างเสริมความสมั พันธท์ ่ีดรี ะหวา่ งเดก็ กบั เด็ก และการแกไ้ ขข้อขัดแยง้ อยา่ ง
สร้างสรรค์
๒.๔.๒ จดั กิจกรรมสง่ เสรมิ ใหเ้ ด็กมีความสขุ แจ่มใส รา่ เริง ไดแ้ สดงออกดา้ น ๙๐ ระดบั ดีมาก
อารมณ์ความรูส้ ึกที่ดตี อ่ ตนเอง โดยผ่านการเคล่ือนไหวรา่ งกาย ศลิ ปะ ดนตรี ตาม ๙๐ ระดบั ดีมาก
ความ สนใจและถนัด
๒.๔.๓ จัดกจิ กรรมและประสบการณ์ ปลูกฝังคุณธรรมให้เด็กใฝ่ดี มวี ินยั
ซื่อสตั ย์ รู้จักสทิ ธิ และหนา้ ท่ีรับผิดชอบของพลเมืองดี รักครอบครัว โรงเรยี น ชุมชน
และประเทศชาติ ด้วยวธิ ที ่ีเหมาะสมกับวยั และพฒั นาการ
ตัวบ่งช้ที ี่ ๒.๕ การสง่ เสริมเด็กในระยะเปลีย่ นผา่ นให้ปรับตวั ส่กู ารเช่อื มต่อในขัน้ ๙๐ ระดับดีมาก
ถัดไป
ตวั บ่งชย้ี ่อย ๙๐ ระดับดมี าก
๙๐ ระดบั ดมี าก
๒.๕.๑ จัดกิจกรรมกบั ผู้ปกครองใหเ้ ตรยี มเด็กกอ่ นจากบา้ นเข้าสสู่ ถานพฒั นา
เด็กปฐมวัย/ โรงเรียน และจัดกิจกรรมช่วงปฐมนิเทศใหเ้ ดก็ ค่อยปรับตัวในบรรยากาศ
ท่เี ปน็ มติ ร
๒.๕.๒ จัดกิจกรรมส่งเสริมการปรบั ตัวก่อนเข้ารับการศึกษาในระดบั ท่ีสงู ขึ้นแต่
ละขัน้ จนถึงการเปน็ นกั เรียนระดบั ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๑
มาตรฐาน / ตัวบ่งช้ี/ ตัวบง่ ช้ีย่อย/ รายการพิจารณา ร้อยละของ ระดบั คุณภาพ
มาตรฐานด้านท่ี ๓ คุณภาพของเด็กปฐมวัย ค่าเปา้ หมาย
มาตรฐาน/ ระดบั ดีมาก
ตัวบง่ ช/ี้ รายการ
พจิ ารณา ระดบั ดีมาก
ระดับดมี าก
๙๐ ระดับดีมาก
ระดบั ดีมาก
สำหรับเดก็ อำยุ ๓ ปี - อำยุ ๖ ปี (ก่อนเข้ำประถมศึกษำปี ท่ี ๑) ระดบั ดีมาก
ระดับดีมาก
ตัวบ่งชที้ ี่ ๓.๑ ข เดก็ มกี ารเจรญิ เตบิ โตสมวัยและมสี ขุ นิสัยที่เหมาะสม ๙๐ ระดบั ดมี าก
ระดับดมี าก
ตวั บง่ ช้ยี ่อย ระดบั ดีมาก
ระดับดมี าก
๓.๑.๑ ข เด็กมนี ้าหนกั ตวั เหมาะสมกับวัยและสงู ดสี มส่วน ซ่ึงมบี นั ทกึ เปน็ ๙๐ ระดับดมี าก
ระดบั ดีมาก
รายบุคคล ระดับดีมาก
๓.๑.๒ ข เด็กมสี ุขนิสัยท่ีดีในการดูแลสุขภาพตนเองตามวยั ๙๐ ระดับดมี าก
ระดบั ดีมาก
๓.๑.๓ ข เด็กมสี ุขภาพชอ่ งปากดี ไมม่ ีฟนั ผุ ๙๐ ระดับดมี าก
ระดบั ดีมาก
ตัวบง่ ช้ที ี่ ๓.๒ ข เดก็ มพี ัฒนาการสมวยั ๘๕ ระดับดีมาก
ตวั บง่ ช้ยี อ่ ย
๓.๒.๑ ข เดก็ มีพัฒนาการสมวัยโดยรวม ๕ ดา้ น ๘๕
ตวั บ่งชี้ที่ ๓.๓ ข เด็กมพี ัฒนาการดา้ นการเคลอื่ นไหว ๙๐
ตวั บง่ ชย้ี ่อย
๓.๓.๑ ข เดก็ มีพัฒนาการด้านการใช้กล้ามเน้ือมัดใหญ่ สามารถเคล่ือนไหว ๙๐
และทรงตัวได้ ตามวัย
๓.๓.๒ ข เดก็ มีพฒั นาการด้านการใชก้ ล้ามเนื้อมดั เล็ก และการประสานงาน ๙๐
ระหวา่ งตากับมือ ตามวยั
ตวั บ่งชที้ ่ี ๓.๔ ข เด็กมีพัฒนาการด้านอารมณจ์ ติ ใจ ๙๐
ตวั บ่งชีย้ อ่ ย
๓.๔.๑ ข เด็กแสดงออก รา่ เริง แจ่มใส ร้สู กึ ม่นั คงปลอดภัย แสดงความรสู้ ึกทด่ี ี ๙๐
ตอ่ ตนเองและผู้อื่นได้สมวัย
๓.๔.๒ ข เดก็ มีความสนใจ และรว่ มกจิ กรรมตา่ งๆ อย่างสมวยั ซ่ึงรวมการเลน่ ๙๐
การทา้ งาน ศลิ ปะ ดนตรี กีฬา
๓.๔.๓ ข เด็กสามารถอดทน รอคอย ควบคุมตนเอง ยบั ยัง้ ช่ังใจ ท้าตาม ๙๐
ข้อตกลง คา้ นงึ ถงึ ความรสู้ ึกของผูอ้ ่ืน มีกาลเทศะ ปรบั ตวั เข้ากับสถานการณ์ใหมไ่ ด้
สมวยั
ตวั บง่ ชีท้ ่ี ๓.๕ ข เด็กมีพัฒนาการดา้ นสติปญั ญา เรยี นร้แู ละสร้างสรรค์ ๙๐
ตวั บง่ ชี้ยอ่ ย
๓.๕.๑ ข เด็กบอกเกยี่ วกับตัวเดก็ บคุ คล สถานทีแ่ วดล้อมธรรมชาติ และสงิ่ ๘๕
ต่างๆ รอบตัวเด็กได้สมวยั
๓.๕.๒ ข เด็กมีพนื้ ฐานด้านคณติ ศาสตร์ สามารถสังเกต จา้ แนก และ ๘๕
เปรียบเทยี บ จ้านวน มติ ิ สัมพันธ์ (พนื้ ท่ี/ระยะ) เวลา ได้สมวยั
๓.๕.๓ ข เดก็ สามารถคิดอยา่ งมีเหตผุ ล แก้ปัญหาไดส้ มวัย ๘๕
๓.๕.๔ ข เด็กมีจินตนาการ และความคิดสรา้ งสรรค์ ท่ีแสดงออกได้สมวัย ๙๐
ร้อยละของ
มาตรฐาน / ตัวบ่งช้/ี ตัวบง่ ชีย้ อ่ ย/ รายการพจิ ารณา คา่ เป้าหมาย ระดบั คณุ ภาพ
มาตรฐาน/
ระดับดมี าก
ตัวบง่ ช้/ี รายการ ระดบั ดมี าก
ระดบั ดมี าก
พิจารณา ระดับดมี าก
ระดับดีมาก
๓.๕.๕ ข เดก็ มีความพยายาม มงุ่ มน่ั ต้ังใจ ท้ากิจกรรมใหส้ ้าเร็จสมวยั ๙๐ ระดบั ดมี าก
ระดับดมี าก
ตวั บง่ ช้ีที่ ๓.๖ ข เด็กมพี ัฒนาการด้านภาษาและการสื่อสาร ๙๐
ระดบั ดีมาก
ตวั บ่งช้ีย่อย ระดับดีมาก
ระดบั ดมี าก
๓.๖.๑ ข เดก็ สามารถฟัง พูด จบั ใจความ เล่า สนทนา และสื่อสารไดส้ มวยั ๙๐ ระดับดมี าก
๓.๖.๒ ข เด็กมีทักษะในการดรู ูปภาพ สญั ลกั ษณ์ การใช้หนังสือ รู้จกั ตวั อักษร ๙๐
การคิดเขยี นคา้ และการอา่ นเบื้องตน้ ได้สมวัยและตามลา้ ดับพัฒนาการ
๓.๖.๓ ข เด็กมีทักษะการวาด การขีดเขียนตามลาดับข้ันตอนพฒั นาการสมวยั ๙๐
นา้ ไปส่กู ารขีดเขียนค้าทค่ี ุน้ เคย และสนใจ
๓.๖.๔ ข เด็กมีทักษะในการส่ือสารอย่างเหมาะสมตามวยั โดยใชภ้ าษาไทยเป็น ๙๐
หลกั และมีความคุ้นเคยกบั ภาษาอ่ืนด้วย
ตวั บ่งชท้ี ี่ ๓.๗ ข เดก็ มพี ัฒนาการดา้ นสังคม คุณธรรม มีวนิ ยั และความเปน็ ๙๐
พลเมอื งดี
ตวั บ่งชีย้ อ่ ย
๓.๗.๑ ข เด็กมปี ฏิสมั พันธ์กับผ้อู ืน่ ได้อย่างสมวยั และแสดงออกถึงการยอมรบั ๙๐
ความแตกตา่ งระหวา่ งบุคคล
๓.๗.๒ ข เดก็ มีความเมตตา กรณุ า มีวินัย ซ่ือสัตย์ รับผิดชอบตอ่ ตนเองและ ๙๐
ส่วนรวม และมีค่านยิ มท่ีพงึ ประสงคส์ มวัย
๓.๗.๓ ข เด็กสามารถเล่น และท้างานรว่ มกับผู้อน่ื เป็นกลุ่ม เปน็ ได้ทงั้ ผู้นา้ และ ๙๐
ผ้ตู าม แก้ไขข้อขัดแย้งอยา่ งสร้างสรรค์
๓.๗.๔ ข เดก็ ภาคภูมิใจทเี่ ปน็ สมาชิกท่ดี ีในครอบครวั ชุมชน สถานพัฒนาเดก็ ๙๐
ปฐมวยั และตระหนักถงึ ความเปน็ พลเมอื งดขี องประเทศไทย และภูมภิ าคอาเซียน
การก้าหนดค่าเปา้ หมาย
1. ศกึ ษาข้อมลู เดิม ผลการประเมินต่างๆ ที่ผ่านมา เพอ่ื เป็นขอ้ มลู ฐานในการกา้ หนดคา่ เป้าหมาย
2. มาตรฐานการตัดสินแต่ละระดับ ก้าหนดการตัดสินคุณภาพของมาตรฐาน มี 4 ระดับ เพ่ือให้
สอดคลอ้ งกับการประเมนิ ดังนี้
ระดบั 3 ดมี าก คะแนนเฉลีย่ ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป
ระดบั 2 ดี คะแนนเฉลี่ยร้อยละ ๖๐ – ๗๙.๙๙
ระดับ 1 ผา่ นเกณฑข์ ัน้ ต้น คะแนนเฉลี่ยรอ้ ยละ ๔๐ – ๕๙.๙๙
ระดับ ๐ ตอ้ งปรบั ปรุง คะแนนเฉลย่ี รอ้ ยละ ต้่ากวา่ รอ้ ยละ ๔๐